Tag: ความเร็วสูง
-
ญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัว รถไฟชิงกันเซ็งลาย ‘Hello Kitty’ อันแสนมุ้งมิ้ง ภายในฤดูร้อนนี้!!
ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น และชื่นชอบตัวการ์ตูนสุดน่ารักอย่าง Hello Kitty จาก Sanrio เพราะว่า การ์ตูนดังกล่าวกำลังจะมีรถไฟความเร็วสูง “ชิงกันเซ็ง” เป็นของตัวเอง! บริษัท West Japan Railway ได้ประกาศว่ารถไฟชิงกันเซ็งซีรีส์ 500 ของพวกเขาจะมีตัวการ์ตูนตัวใหม่เข้ามาร่วมด้วย เพื่อเป็นสีสันอันสดใส และเติมความน่ารักมุ้งมิ้งให้กับระบบขนส่งความเร็วสูง โปรเจกต์รถไฟหัวกระสุนใหม่ของบริษัท จึงมาพร้อมกับลวดลาย Hello Kitty สุดน่ารัก ที่จะมาขโมยหัวใจทุกๆ คน รถไฟ Kitty นี้จะวิ่งจากสถานี ชิน-โอซะกะ ในโอซะกะ ไปจนถึงสถานี ฮะกะตะ ในฟุกุโอะกะ ลวดลายและสีสันของขบวนรถไฟจะมาในสีขาวตัดชมพู พร้อมกับลวดลายโบว์และริบบิ้นอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของ Hello Kitty ซึ่งจะสื่อความหมายว่า โบว์และริบบิ้นนี้จะเป็นสิ่งที่ “ผูกมัดและเชื่อมโยงผู้คนไว้ในแต่ละภูมิภาค” ที่ยิ่งไปกว่านั้น หัวขบวน (ตู้ที่ 1 และ 2) จะมีลวดลาย Kitty แบบพิเศษด้วยนะ โดยตู้คนบังคับ (ตู้แรก) จะมีลวดลายพิเศษประจำจังหวัดต่างๆ…
-
เผยวิธีการจับภาพความเร็วสูง 25,000,000 เฟรมต่อวินาที เคล็บลับไม่ได้อยู่ที่กล้อง!?
เคยสงสัยกันไหมว่า เวลาที่เราดูคลิปจับภาพกระสุนหรืออะไรที่มันเร็วๆ นั้นพวกเขาทำได้ยังไง ถ้าตามหลักแล้วเราก็จะพอเดาได้ว่าพวกเขาใช้กล้องความเร็วสูงในการจับภาพ แต่นั่นมันเป็นวิธีสำหรับวัตถุขนาดเล็กเพียงเท่านั้น… เพราะวัตถุใหญ่ๆ อย่างกระสุนรถถังที่การยิงแต่ละครั้งต้องใช้ระยะทางในการเคลื่อนที่ของกระสุนที่ไกลและเร็วมากๆ ฉะนั้นการใช้กล้องความเร็วสูงแล้วหันกล้องตามกระสุนที่พุ่งด้วยความเร็ว 1.5 กิโลเมตรต่อวินาที มันจึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ดูแล้วคงคิดว่าเป็นการหมุนกล้องตามใช่ไหมล่ะ? งั้นลองดูแบบสปีดธรรมดาเป็นไง…นี่แค่ 1 วินาทีนะ แล้วแบบนี้พวกเขาจับภาพกระสุนรถถังที่ไวแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ? ไม่ต้องห่วงไปเพราะทางช่องยูทูปนามว่า Curious Droid ได้มาเฉลยเทคนิคการถ่ายวีดีโอดังกล่าวให้เราได้รู้กันแล้ว… เทคนิคที่ว่านั้น มันเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องหมุนกระจกอัตโนมัติความเร็วสูงผนวกเข้ากับกล้องความเร็วสูง ซึ่งตัวกระจกสามารถหมุนได้ถึง 90 องศาด้วยความเร็วสูงจนสามารถจับภาพได้ที่เร็ว 25,000,000 เฟรมต่อวินาที รูปแบบง่ายๆ ก็จะประมาณนี้ ส่วนถ้าใครคิดว่าเจ้ากระจกสะท้อนความเร็วสูงนี่เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ความจริงแล้วมันไม่ใช่อะไรที่ใหม่เลย โดยมีการใช้กระจกแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่จับภาพการทดลองระเบิดปรมาณูเมื่อปี 1952 นู๊นนน แต่ตอนแรกเจ้าเครื่องนี้มันใหญ่มากๆ ด้วยน้ำหนักถึง 2,000 กิโลกรัม สามารถช่วยให้ถ่ายได้ไวถึง 7,000,000 เฟรมต่อวินาทีแล้ว และจากนั้นก็เกิดการต่อยอดมาเรื่อยๆ จนเป็น 25 ล้านเฟรมในปัจจุบัน โฉมหน้าของเจ้าเครื่องดังกล่าว นอกจากนั้นที่ Ishikawa Oku Laboratory ยังได้พัฒนากล้องที่สามารถจับภาพความเร็วสูงแบบเรียลไทม์ขึ้นมาได้ด้วย…
-
เปิดมิติใหม่แห่งการเดินทาง ด้วยเครื่องบินเจ็ตแห่งอนาคต Skreemr ที่เดินทางด้วยความเร็ว 10,600 กม./ชั่วโมง!!!
ในยุคที่เครื่องบินแบบปกติ กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ตกยุค เหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่างเข็นนวัตกรรมของตนเองออกมา เพื่อทำให้นวัตกรรมเหล่านั้น กลายเป็นมาตรฐานของยุคใหม่ อย่างเช่นเครื่องบินเจ็ต Skreemr ลำนี้ที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์และวิศวกร Ray Mattison และ Charles Bombardier มันสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วประมาณ 10 มัค หรือราว 10,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! โดยเครื่องบินลำนี้จะใช้พลังงานจากไฮโดรเจนและอ็อกซิเจน และจะขึ้นบินโดยใช้แท่นปล่อยตัว (นึกถึงกันดั้มเข้าไว้) นั่นแปลว่า เราสามารถเดินทางจากกรุงเทพไปนิวยอร์คด้วยเวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น!! แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีปัญหาให้แก้ไขและพัฒนากันอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ทำเครื่องบิน และรวมถึงวิธีการที่จะไม่ทำให้ผู้โดยสารเป็นลมจากการเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียง 10 เท่าด้วย ถึงแม้โปรเจคนี้จะยังเป็นแค่คอนเซป แต่เหมียวเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน ลองนึกถึงเมื่อร้อยกว่าปีก่อน มีคนบอกว่าเราจะสามารถบินบนท้องฟ้าได้ คนเหล่านั้นคงโดนด่าว่าบ้าแน่นอน ที่มา Metro
-
มิติใหม่แห่งการเดินทาง SpaceLiner บินจากลอนดอนถึงซิดนี่ย์เพียง 90 นาที!!!
ปกติการเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงเมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย จะใช้เวลาเดินทางถึง 22 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจไม่ต้องทนนั่งนานขนาดนั้นบนเครื่องบินอีกต่อไปแล้ว เพราะเครื่องบิน SpaceLiner ซึ่งเป็นเครื่องบินความเร็วสูง(มาก) ที่พัฒนาโดย German Aerospace Center สามารถบินจากกรุงลอนดอนสู่ซิดนี่ย์ ด้วยเวลาเพียง 90 นาที!!! โดยวิธีการบินของเครื่องบินนี้จะมีสองขั้นตอน คือเครื่องบินจะต้องขึ้นไปพร้อมกับจรวดไฮโดนเจนที่ความสูง 80 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากนั้นก็จะ “ร่อน” ลงมาจากชั้นบรรยากาศด้วยความเร็ว 20 เท่าของความเร็วเสียง แต่ไม่ต้องตื่นเต้นไป เพราะเจ้า SpaceLiner นี่จะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2030 และก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องหาทุนประมาณ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐให้ได้ก่อน ก็รอชมกันต่อไปว่าจะทำจริงได้หรือเปล่า ไม่แน่ มันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้นะ ที่มา Metro