Tag: ความเหมาะสม
-
เหมาะสมหรือไม่ ความเห็นของชาวต่างประเทศต่อหนังสือเพศศึกษาเด็กที่มีภาพสมจริง
The Amazing True Story of How Babies Are Made (เรื่องจริงที่น่าทึ่งของการให้กำเนิดเด็ก) เป็นหนังสือภาพผลงานของ Fiona Katauskas นักวาดการ์ตูนชาวออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการวางขายอยู่ใน Kmart ในฐานะหนังสือ “สำหรับเด็ก” หนังสือภาพเล่มที่ว่านั้นได้กลายเป็นกระแสใหญ่โตในโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Auburn 2144 ได้ออกมาให้ความเห็นว่าหนังสือเล่มที่ว่านั้นไม่เหมาะสมสำหรับการขายในฐานะหนังสือสำหรับเด็กเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาพที่มีความสมจริงเป็นอย่างมาก และการใช้คำของหนังสือ Auburn 2144 กล่าวว่า “โอเคคค… ใครก็ได้บอกทีว่าทำไมหนังสือแบบนี้ถึงไปขายอยู่ใน Kmart ออสเตรเลีย ในฐานะหนังสือเด็กได้ ดูที่ภาพกับการใช้คำสิ” ในหนังสือนั้น มีการวาดภาพการร่วมเพศของหนุ่มสาวอย่างชัดเจน และมีการบรรยายด้วยการใช้คำที่ค่อนข้างจะตรง แม้ไม่มีการใช้คำหยาบ แต่ก็ใกล้เคียงกับความเป็นหนังสือสำหรับการเรียนการสอนเสียมากกว่าการเป็นหนังสือภาพอยู่มาก การใช้คำในหนังสือนั้นมีทั้งการใช้คำว่า “เซ็กส์” “Penis” (องคชาต) “Vagina” (ช่องคลอด) อีกทั้งยังมีการบรรยายการร่วมเพศอย่างชัดเจนทั้งการแข็งตัว และการเปียกแฉะ ชาวเน็ตที่ต่างประเทศนั้นให้ความเห็นกับหนังสือเล่มนี้ แยกออกเป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ คือเหล่าคนที่สนับสนุนหนังสือที่มีเนื้อหาตรงตัวและถูกต้องตามความเป็นจริง แม้เป็นหนังสือเด็กก็ตาม และฝั่งที่คิดว่าหนังสือเล่มที่ว่านี้ อาจจะเร็วเกินไปสำหรับเด็กๆ…
-
คุณครูให้การบ้าน ‘3 ข้อดีและข้อเสียของทาส’ กับเด็กป. 4 และคำตอบที่ได้กลับไปทำเอาจุก…
แม้ว่าจะมีลักษณะรูปร่างที่แสดงความเป็นคนไม่ต่างกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราในอดีต เคยมีการแบ่งชนชั้นวรรณะจนเกิดกลุ่มคนที่มีชื่อว่า ‘ทาส’ ขึ้นมา โดยกลุ่มคนประเภทนี้จะเป็นคนที่ถูกสังคมมองว่าเป็นผู้คนที่ต่ำต้อยกว่า หรือด้อยกว่าในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามระบบนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้วในประเทศส่วนใหญ่ของโลกปัจจุบัน ซึ่งก็แน่นอนว่าในแต่ละโรงเรียนก็ต้องมีการเรียนวิชาประวัติศาสตร์หรือสังคม เพื่อศึกษาความเป็นมาในอดีตของแต่ละประเทศ ทว่าก็มีคำถามอยู่ข้อหนึ่งที่ได้กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะคำถามที่ว่านั้นดันไปถามถึงข้อดีของ ‘ระบบทาส’ และยิ่งไปกว่านั้นคำตอบของเด็กป.4 ที่ตอบคำถามข้อนี้ก็ได้ทำเอาทุกคนอึ้งไปตามๆ กันเลยทีเดียว หน้าตาของการบ้านเจ้าปัญหา เรื่องที่ว่านี้ได้รับการเปิดเผยจาก Trameka Brown-Berry ชาวรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐเมริกาเมื่อว้นที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยเธอได้โพสต์ภาพการบ้านของ Jerome ลูกชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของเธอ ซึ่งในการบ้านที่ลูกของเธอที่ได้รับมานั้นเป็นคำถามที่ถามถึงข้อดี-ข้อเสียของระบบทาส เธอจึงได้ต้องแคปชั่นถามชาวเน็ตว่า “มีใครพบความน่ารังเกียจในการบ้านของเด็กชั้น ป.4 นี้ไหม” และนั่นก็ทำให้มีผู้แชร์ภาพของเธอออกไปนับพันเลยทีเดียว โดยในการบ้านดังกล่าว Jerome เด็กนักเรียนวัย ป. 4 ได้ตอบคำถามที่ถามถึงข้อดีการของระบบทาสไปว่า “ผมรู้สึกว่าระบบทาสมันไม่มีข้อดีใดๆ เลยผมเลยขอไม่ตอบคำถามนี้” และในตอนท้ายที่สุดของการบ้านเขาก็ได้เขียนเพิ่มเติมเอาไว้ว่า “ผมภูมิใจในการการมาเป็นคนผิวสี เพราะว่าพวกเราทั้งมีความแข็งแรงและกล้าหาญ” ซึ่งคำตอบของเด็กคนนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมากมายเลยทีเดียว Jerome เด็กนักเรียนชั้นป.4 และในเวลาต่อมาโรงเรียน Redeemer Lutheran Church and School ซึ่งเป็นโรงเรียนของเด็กคนดังกล่าวก็ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนี้กับสื่อท้องถิ่นชื่ออย่าง…
-
อาจารย์มหาวิทยาลัยโอซาก้าลั่นวาจา เจ้าชายในสโนว์ไวท์เป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ
เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับแอนิเมชั่นของ ดิสนีย์ เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา มาบ้าง ซึ่งฉากเด่นที่ทุกคนอาจจดจำได้ดี คงจะเป็นฉากที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกเธอให้ตื่นจากนิทรานั่นเอง ฉากจูบนี้ทำเอาหลายคนเคลิ้มกับความโรแมนติกที่เจ้าชายมีต่อเจ้าหญิงจนฟินจิกหมอน แต่ศาสตราจารย์ Kazue Muta กลับเห็นต่างออกไป เธอมีความคิดเห็นว่านั่นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเลย Kazue Muta เป็นศาสตราจารย์หญิงใน มหาวิทยาลัยโอซาก้า เธอมีเชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์และเพศสภาพศึกษา เธอทราบข่าวที่มีชายคนหนึ่งแอบไปจูบหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่บนรถไฟ ในจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นกังวลเกี่ยวกับการกระทำในทำนองนี้ เธอจึงอยากสะกิดใจชาวเน็ตว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอจึงได้ทวีตเปรียบเปรยว่าเจ้าชายในเรื่องเจ้าหญิงนิทราและสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนั้น กระทำการคุกคามทางเพศโดยจูบเจ้าหญิงที่หลับอยู่ “หากพิจารณาเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเจ้าหญิงนิทรากันดีๆ แล้ว ‘การปลุกเจ้าหญิงให้ตื่นด้วยจุมพิต’ นั้นเป็นการคุกคามทางเพศกับคนไม่ได้สติ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำลายฝันนะ แต่ต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเทพนิยายพวกนี้สนับสนุนให้คนทำผิด” ทวีตของเธอนั้นได้จุดประเด็นเรื่องศีลธรรมและความถูกต้อง เกี่ยวกับการจูบคนที่หลับอยู่ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยกับเธอและคนที่เห็นต่างด้วยเช่นกัน “ในกรณีนี้น่าจะเป็นการช่วยเหลือมากกว่าการคุกคามทางเพศนะ” “เธอพูดถูก อยู่ๆ เราจะไปไล่จูบคนที่หลับอยู่ได้ไง เจ้าหญิงก็แค่บังเอิญตื่นมาเถอะ” “จะเอาตรรกะทั่วไป ไปใช้กับเทพนิยายไม่ได้หรอก” “จากมุมมองของผมที่เป็นทนาย ถ้าสโนว์ไวท์ไม่ฟ้องร้อง เจ้าชายก็ไม่ผิด” แม้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อย่างน้อยศาสตราจารย์…