Tag: คาตานะ
-
ญี่ปุ่นประสบปัญหา “ขาดแคลนช่างตีดาบ” หรือนี่อาจเป็นสัญญานของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป!!?
เมื่อพูดถึงดาบ ดาบญี่ปุ่นอย่างคาตานะหรือโนดาจิ คงจะเป็นชื่อดาบแรกๆ ที่อยู่ในหัวของใครหลายคนอย่างแน่นอน และดาบพวกนี้ก็แทบจะเป็นตัวแทนอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ทว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ดาบก็กลายเป็นเพียงแค่ของตกแต่งหรือวัตถุโบราณเพียงเท่านั้น เพราะปัจจุบันคงไม่มีใครใช้ดาบในการสู้รบอีกต่อไป ซึ่งนี้อาจจะเป็นสัญญานร้ายของวัฒนธรรมดาบญี่ปุ่นหรือเปล่า? ในปี 1998 ญี่ปุ่นได้มีการเปิดเผยตัวเลขของช่างตีดาบที่ลงทะเบียนกับทางรัฐบาล ซึ่งตอนนั้นมีจำนวนอยู่ราวๆ 300 คน แต่ในปัจจุบันนั้นมีจำนวนนักดาบที่ลงทะเบียนเพียงแค่ 188 คนเท่านั้นและจำนวนก็ดูจะลดลงเรื่อยๆ รวมถึงอายุของช่างตีดาบด้วย Tetsuya Tsubouchi หนึ่งในหัวหน้าสมาคมช่างตีดาบของญี่ปุ่นก็ได้บอกว่า ดาบญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นเพียงแค่ดาบเฉยๆ แต่มันยังเป็นจิตวิญญานและวัฒนธรรมหลักของญี่ปุ่นด้วย แต่ในปัจจุบันการจะหาเด็กรุ่นใหม่มาทำต่อมันยากซะเหลือเกิน เขายังบอกอีกว่า การจะมาเป็นช่างตีดาบได้นั้นมันไม่ได้หมายความว่าคุณเปิดดูจากเน็ตแล้วออกไปเหวี่ยงค้อนตี เป้งๆ แล้วก็จะถูกยอมรับเลย เพราะคนอยากเป็นจะต้องไปขอเป็นลูกศิษย์กับช่างตีดาบเสียก่อน แน่นอนว่าลูกศิษย์จะไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากการตีดาบหรอกนะ นอกจากการเป็นลูกศิษย์ก็ยังต้องใช้เวลานาน ซึ่งจะอยู่ในช่วงระยะเวลาฝึกราวๆ 5 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้น จากนั้นก็ต้องไปสอบการเป็นช่างตีดาบอีก ซึ่งใช้เวลานานถึง 8 วัน และถ้าไม่ผ่านก็ต้องรอการทดสอบอีกครั้งในปีหน้า เพราะจะจัดทดสอบแค่ปีละครั้งเท่านั้น… ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะหลังจากการสำเร็จการถูกยอมรับแล้ว ใช่ว่าดาบจะถูกซื้อไปทันทีหลังจากตีเสร็จ มันอาจจะไม่ถูกซื้อเลยก็เป็นได้ นอกจากนั้นการจะเปิดร้านตีดาบเป็นของตัวเองก็ต้องใช้เงินมากถึง 10 ล้านเยน…
-
พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นจัดแสดง คาตานะจากหินแร่ดาวตก ผลงานของ Okayoshi ช่างตีดาบในตำนาน!!
ในหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับเหล่านักดาบ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินว่าในดาบแต่ละเล่มนั้นมีความแตกต่างกันไป ตามฝีมือและวัสดุที่ช่างตีดาบคนนั้นๆ ใส่ลงไปในดาบที่ตัวเองตี และดาบในตำนานส่วนมากนั้น มักจะใส่แร่จากหินดาวตกลงไปอีกด้วย หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องแต่งในหนังสือเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วการตีดาบแบบนี้นั้นเกิดขึ้นจริงๆ และกำลังจัดแสดงอยู่ในใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ Mori Art Museum ที่ตั้งอยู่บนชั้น 53 ของตึก Roppongi Hills ในกรุงโตเกียว กำลังจัดงาน The Universe and Art นิทรรศการศิลปะที่รวบรวมงานศิลป์ต่างๆ ไว้มากมาย นั่นรวมถึงดาบคาตานะที่ตีขึ้นมาจากแร่ของหินดาวตกด้วยล่ะ!! ดาบคาตานะเล่มนี้มีความยาว 68.6 เซนติเมตร หรือราวๆ 27 นิ้วพอดี ถูกตีขึ้นโดยปรมาจารย์ช่างตีดาบเลื่องชื่อ Kunimine Okayoshi ในปี 1898 ที่นอกจากคมดาบจะสวยงามไม่แพ้คาตานะชื่อดังเล่มอื่นๆ ด้วยแล้วนั้น ดาบเล่มนี้ยังถูกตีขึ้นโดยใช้หินแร่จากดาวตกซะด้วย!! ดูคลิปวิดีโอกันได้ที่นี่ ดาบเล่มนี้มีความสวยงามมาก จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตงานศิลปะของศิลปินหลายๆ ท่าน นั่นรวมไปถึง Yoshitaka Amano นักออกแบบตัวละครผู้โด่งดังจากแอนิเมะเรื่อง Gatchaman และซีรี่ส์เกม Final Fantasy ด้วย…
-
ญี่ปุ่นจัดแสดง ดาบต้องคำสาปในตำนาน ‘มุรามาสะ’ รวบรวมมากว่า 20 เล่มจากทั่วประเทศ!!
ในตำนานของทุกๆ ประเทศ แน่นอนว่าจะมีเรื่องราวที่มีความเป็น ‘อาถรรพ์’ และ ‘วิญญาณร้าย’ อยู่ วันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ดำดิ่งลงไปในตำนานของแดนซามูไร เกี่ยวกับดาบคาตานะ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองเจตจำนงแห่งการ ‘ฆ่า’ เพียงเท่านั้น!! คาตานะ หรือดาบซามูไรญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังแฝงไปด้วยประเพณีและวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของประเทศญี่ปุ่น และดาบขึ้นชื่อของแต่ละสำนักตีดาบนั้น มักจะถูกตีขึ้นเพื่อครอบครัวใหญ่ๆ ของชนชั้นสูง หนึ่งในดาบในตำนานของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีชื่อว่า Muramasa ที่ถูกตีขึ้นโดย Muramasa Sengo ที่ได้ชื่อว่าเป็นดาบอาถรรพ์ที่จะกลืนกินผู้ใช้ให้คลั่งไคล้ในการฆ่าและหลั่งเลือดทุกครั้งที่ออกจากฝัก!! ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ Kuwana ในจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่นกำลังจัดแสดงดาบต้องคำสาปเหล่านี้อยู่… ว่ากันว่าช่างตีดาบโดยทั่วไปแล้วจะเน้นไปที่การทำให้ดาบออกมาดูสวยงาม คม และแข็งแกร่งที่สุด แต่ Muramasa เจ้าของสำนักตีดาบแห่งนี้จะใช้เวลาตีดาบทั้งวัน ทุบฆ้อนไปด้วยความปรารถนาแห่งการฆ่าและปลิดชีวิตเป้าหมายใดก็ตามที่ดาบของเขาเข้าถึง!! งานของเขานั้นประณีตมาก จนไปเตะตาของ Tokugawa Ieyasu โชกุนในยุคนั้นเข้าให้ แต่ดาบของมุรามาสะนั้น ก็สร้างบาดแผลให้โชกุนมากมายเหลือเกิน เพราะทั้งพ่อและปู่ของเขาก็ต่างถูกสังหารด้วยคมดาบนี้ และลูกชายคนโตของโชกุนก็ยังถูกบังคับให้ทำฮาราคีรีโดยใช้ดาบเล่มนี้ ตอนที่พ่ายแพ้และถูกจับโดยศัตรู นอกจากนี้ตัวโชกุนเองก็ยังเคยได้รับบาดเจ็บจากคมดาบนี้ด้วย… จากประวัติศาสตร์และความโชคร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเขาและครอบครัว ทำให้เขาประกาศห้ามการพกดาบของช่างตีดาบคนนี้อย่างเด็ดขาด …