Tag: คืนชีพ
-
นักวิทย์ “เก็บสมองหมู” ให้มีชีวิต โดยไม่มีร่างกายได้สำเร็จ หรือนี่อาจต่อยอดสู่มนุษย์ได้!?
เคยดูหนังที่มีการเปลี่ยนสมองกันไหม? เคยคิดหรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนเราสามารถย้ายสมองของเราไปอยู่ในร่างใหม่ได้จะเป็นอย่างไร… เชื่อไหมล่ะว่าในเวลานี้ คนเราสามารถผ่านสิ่งสำคัญในการย้ายสมองมาได้ข้อหนึ่งแล้ว เพราะในตอนนี้ เราสามารถรักษาสมองหมูไว้นอกร่างกายได้แล้ว!! นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยเยลอ้างว่าได้พัฒนาเทคนิคที่ช่วยรักษาเนื้อเยื่อสมองของสุกรเป็นระยะเวลานานหลังจากการตัดหัว แม้ดูเหมือนว่าสมองจะไม่ได้รู้สึกตัวอยู่ แต่เทคนิคใหม่นี้ก็อาจจะนำไปสู่การรักษาในรูปแบบใหม่ก็เป็นได้ โดยพวกเขาบอกว่าสามารถทำการรักษาสมองของหมูให้มีชีวิตอยู่นอกร่างกายได้ถึง 36 ชั่วโมง นักวิจัยที่กล่าวว่าพวกเขาทำการทดลองกับหมูกว่า 100 ตัวที่ได้รับมาจากโรงเชือด และอ้างว่าสามารถฟื้นฟูสมองของหมูที่ตายไปแล้วตราบใดที่ยังไม่นานกว่าสี่ชั่วโมง โดยใช้เทคนิคที่ชื่อ BrainEx ที่ฟื้นการไหลเวียนโลหิตในเนื้อเยื่อสมอง และทำให้มันกลับมามีชีวิต… อย่างน้อยๆ ก็ในทางกายภาพ ที่ต้องบอกว่าการคืนชีพนั้นเป็นเพียงทางกายภาพ ก็เพราะว่าสมองของหมูที่ได้มานั้นไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงกิจกรรมในแง่ของคลื่นสมอง คือว่าง่ายๆ ว่าสมองนั้นไม่ได้รู้สึกตัวอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามนักวิจัยสามารถตรวจสอบได้ว่าเซลล์กว่าพันล้านเซลล์ในสมองนั้น ยังอยู่ในภาพที่ดี เพียงแต่เนื้อเยื่อสมองที่ดี ไม่ได้หมายความว่าสักวันหมูจะรู้สึกตัวขึ้นมา หมูตัวที่ว่านี้มีสภาพคล้ายผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ และกลายเป็นเจ้าชายนิทราไป จนทำให้ในตอนนี้ยังมีหลายๆ ฝ่ายที่ไม่มั่นใจว่าการทดลองในครั้งนี้ควรจะถือว่าหมูตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่จริงหรือไม่ Steve Hyman จากสถาบันในเคมบริดจ์ให้ความเห็นกับการทดลองครั้งนี้ว่าว่า “สมองเหล่านี้อาจได้รับความเสียหาย แต่ถ้าเซลล์ยังมีชีวิตอยู่ มันก็นับได้ว่าเป็นอวัยวะที่ยังมีชีวิต คล้ายๆ กับการรักษาไตนั่นล่ะ” แต่เมื่อถามว่าการทดลองในครั้งนี้จะสามารถเอาไปใช้ในการรักษามนุษย์ได้หรือไม่ เป็นไปได้ไหมว่าคนเราจะเปลี่ยนร่างกายทั้งตัวโดยเหลือแค่เพียงสมอง และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ Hyman ก็ตอบมาว่า “มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” อย่างน้อยก็จากสิ่งที่คนเราพบในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เรายังคงตั้งความหวังกันได้…
-
นักวิทย์ฯ เผยเราสามารถช่วยให้คนตาย “ฟื้น” ขึ้นมาได้ หากทำในช่วงเวลาที่ถูกต้อง…
ความตาย เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ก็ไม่อยากจะต้องพบเจอทั้งนั้น เพราะเมื่อใดที่คนเราพบเจอกับ “ความตาย” นั่นหมายถึงว่า เราต้องสิ้นสุดการใช้ชีวิตบนโลกนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่กลัวความตายมากๆ เรามีข่าวดีมาฝาก นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาทดลองแล้วพบว่า หลังจากที่มนุษย์สิ้นสุดลมหายใจไปแล้วนั้น ระบบสมองของมนุษย์ยังทำงานต่อได้อีกราว “ห้านาที” ฉะนั้น มันจึงหมายถึงว่า คนตาย มีโอกาสถูกช่วยให้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ กลุ่มนักประสาทวิทยาได้เฝ้าสังเกตสัญญาณไฟฟ้าในสมองของคน 9 คน ในช่วงเวลาที่เขาตายลง พบว่าเซลล์ต่างๆ เองก็เริ่มตายลง เมื่อไม่มีการสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยง เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว พวกเขาจึงใช้พลังงานทดแทนเลือดเติมเข้าไป ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เซลล์และระบบต่างๆ ของร่างกายนั้นยังคงทำงานต่อได้ในระยะเวลาหนึ่งหลังหัวใจหยุดเต้น ผลคือมันทำให้เซลล์ประสาทมีพลังงานหล่อเลี้ยงอย่าเหลือล้น แต่หลังจากนั้นมันก็จะนิ่งเงียบและไม่มีปฏิกิริยาใดๆ อย่างถาวร ซึ่งอาการนิ่งเงียบนี้ ถือเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต และทางกลุ่มผู้ทดลองเองก็พบว่ามันเป็นช่วงเดียวที่สามารถช่วยให้ผู้ตายฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งได้ หัวหน้าผู้วิจัย Dr. Jens Dreier จาก วิทยาลัยการแพทย์ชาริเต้ กล่าวว่า “หลังจากที่ไม่มีเลือดหมุนเวียน มันจะเกิดการกลับขั้ว ซึ่งทำให้สูญเสียพลังงานเคมีไฟฟ้าในเซลสมองไป ทำให้เกิดภาวะเป็นพิษในร่างกาย จนกระทั่งตายในที่สุด แต่ที่สำคัญก็คือ มันสามารถย้อนกลับได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราให้พลังงานคืนแก่ร่างกายผู้ตายตอนไหน” สรุปก็คือ ขณะที่คนเราสิ้นชีวิตลง…
-
ชายหนุ่มตัดสินใจ นำร่างของภรรยาเข้ารับการ “แช่แข็ง” เพื่อหวังได้เห็นเธออีกครั้ง
“เธอยังไม่ตาย ตอนนี้ภรรยาของผมเธอแค่พักผ่อนอยู่เท่านั้น” คุณ Gui Junmin หนุ่มชาวจีนวัย 49 ปีที่ตัดสินใจนำร่างไร้วิญญาณของภรรยาเก็บไว้ในเครื่องแช่แข็งเพื่อรอให้เทคโนโลยีการรักษาก้าวหน้ากว่านี้ ร่างของคุณ Zhan Wenlia ภรรยาวัยเดียวกันของคุณ Gui ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ถูกแช่แข็งไว้ในไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิต่ำถึง -196 องศาเซลเซียส คุณ Gui บอกกับสำนักข่าว Xinhua News ว่าเขายังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียภรรยาและไม่อยากเห็นเธอต้องจากเขาไป “ผมไม่อยากเห็นเธอจากไปพร้อมกับเปลวไฟ ผมคิดว่าตอนนี้เธอกำลังไปพักผ่อนที่ไหนซักที่” ชายหนุ่มบอกกับนักข่าว คุณ Zhan ถูกแช่แข็งด้วยวิธีการ cryogenically เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท Yinfeng Biological Group คุณ Gui บอกว่าภรรยาเขาได้ยินยอมเข้ารับการแช่แข็งเพื่อเก็บรักษาร่างกายก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Yinfeng จึงเดินทางมารอรับร่างของเธอที่โรงพยาบาล และหลังจากที่แพทย์ได้ยืนยันว่าเธอเสียชีวิตเมื่อประมาณตี 4 ของวันที่ 8 พฤษภาคม พวกเขาก็เริ่มต้นขั้นตอนการแช่แข็งโดยทันดี ภายใน 2 นาทีหลังจากที่จัดการเรื่องทางกฎหมายเสร็จ บริษัทได้ทำการฉีดยาต้านการแข็งตัวของเลือดและสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปในร่างกายของคุณ Zhan จากนั้นเกลือ น้ำ และน้ำแข็งก็ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของเธอ เพื่อช่วยให้ร่างกายเธอเย็นลง เธอถูกสวมเครื่องช่วยหายใจกับเครื่องปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยให้เลือดมีการไหลเวียนและป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดออกซิเจน หลังจากนั้นอีก 13 นาทีร่างของคุณ Zhan จึงถูกย้ายไปที่ห้องแลปของบริษัท Yinfeng เพื่อเข้ากระบวนการแช่แข็งและฉีดสารเคมีเข้าไปแทนเลือดเพื่อรักษาอวัยวะต่างๆ…
-
เจ้าหมาฮัสกี้ พยายามปลุก “ร่างไร้วิญญาณ” ของเพื่อนมันให้ตื่น หลังถูกรถชนกลางถนน…
หลายคนที่เลี้ยงสุนัข จะรู้ดีว่ามันเป็นสัตว์ที่ภักดีต่อเจ้านายมากขนาดไหน แม้กระทั่งเวลาที่พวกมันเห็นเจ้านายกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พวกมันก็จะรีบเข้ามาปกป้องเราทันที เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันถูกนำมาเสนอบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง… และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอที่จะมายืนยันให้มนุษย์ทั้งหลายได้เห็นว่า “สุนัข” นอกจากจะภักดี และคอยปกป้องเจ้านายแล้ว มันก็ปฏิบัติเช่นนี้กับเพื่อนสุนัขตัวอื่นๆ เหมือนกันนะ วันที่ 19 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจของเจ้าหมาพันธุ์ฮัสกี้ตัวหนึ่ง ที่ได้ยืนเฝ้าดูเพื่อนของมันอยู่ไม่ห่าง หลังจากที่เพื่อนของมันถูกรถชน สำหรับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง ทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง ในประเทศจีน ซึ่งจากคลิปปรากฏให้เห็นว่า… หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เจ้าหมาฮัสดี้ตัวสีขาวก็ได้ยืนเฝ้าเพื่อนของมันอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง พร้อมกับมีท่าทีเสียใจอย่างหนัก และได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา นอกจากนี้ มันยังพยายามที่จะปลุกเพื่อนหมาสีน้ำตาลที่นอนนิ่งไร้ล้มหายใจอยู่บนถนนให้ตื่น ท่ามกลางรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาอยู่เต็มท้องถนน ขณะที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้เลย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หญิงชุดดำที่อ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัขก็ได้วิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และพยายามปลุกให้เจ้าหมาตื่น พร้อมกับได้พาเจ้าหมาตัวนั้นอกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวทันที โดยภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่าหญิงรายดังกล่าวเป็นเจ้าของสุนัขผู้โชคร้ายนั่นเอง ตามรายงานข่าวไม่ได้บอกว่า เธอจัดการอย่างไรกับศพของสุนัข หรือตำรวจสามารถติดตามตัวคนชนได้หรือไม่ แต่คลิปที่เป็นไวรัลมียอดวิวกว่า 2.5 ล้านครั้ง คงเป็นเครื่องการันตีความเห็นอกเห็นใจของชาวเน็ต และคนนับล้านก็ได้รับชมความซื่อสัตย์และรักเพื่อนของเจ้าตัวขาวได้เป็นอย่างดี… ที่มา : ladbible, dailymail
-
35 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของฆาตกรสุดโหด Jason Voorhees แห่งศุกร์ 13 ฝันหวาน!!
ไม่รู้ว่าคนแถวนี้ได้ชมหรือได้ยินผ่านๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์สยองขวัญที่เคยดังกระฉ่อนไปทั่วโลกกับความโหดของฆาตกรที่คืนชีพมาจากก้นบึง คว้ามีดสปาต้าด้ามยาว พร้อมกับหน้ากากฮอกกี้ที่เป็นเอกลักษณ์เด่น ไล่ฟัน ไล่ฆ่าผู้คนทั่วแคมป์ด้วยความแค้น ใช่แล้วบุคคลที่ว่านั้นก็คือพ่อ Jason Voorhees จากเรื่อง ศุกร์ 13 ฝันหวานนั่นเอง!! ค.ศ. 1980 – Friday the 13th ศุกร์ 13 ฝันหวาน ภาคแรก จะว่าไปแล้วเนี่ยภาพยนตร์ของพี่แกก็ออกมาหลายภาคมาก ตั้งแต่เริ่มต้นตำหรับความสยองสุดโหด ในปีค.ศ. 1980 ในชื่อเรื่อง Friday the 13th นั้นก็มีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ เราจะเห็นได้ว่าเอกลักษณ์ของพี่แกก็ยังคงเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ค.ศ. 1981 – Friday the 13th: Part 2 ศุกร์ 13 ฝันหวานภาค 2 ว่าด้วยเรื่องของภาคต่อที่มีเยอะมากมาย ประมาณ 11…