Tag: คุก
-
นักโทษบังเอิญฆ่าตัวตายในห้องขัง เพราะพยายาม “สำเร็จความใคร่” ด้วยสายไฟฟ้า
ชายผู้เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นหญิงสาว 5 ราย ถูกพบเสียชึวิตในห้องขังพร้อมพบสายไฟฟ้าบริเวณอวัยวะเพศและหัวนม Egidius Schiffer หรือมีฉายาว่า Aachen Strangler นั้นถูกเชื่อว่าบังเอิญฆ่าตัวเองตายขณะที่ใช้สายไฟฟ้าในการ “ช่วยตัวเอง” ให้สำเร็จความใคร่ในเรือนจำ Bochum ประเทศเยอรมนี ร่างศพของเขาถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018 ในสภาพที่มีสายไฟฟ้าจากโคมไฟแปะติดเอาไว้กับหลายๆ ส่วนบนร่างกายของเขา ขณะที่เต้าเสียบถูกเสียบอยู่ในปลั๊กไฟ Egidius Schiffer Schiffer ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ก่อนหน้านี้เขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อเพศหญิง 5 รายเมื่อปี 1983 ถึง 1990 และถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีให้หลังจากการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของเขา เพราะในปี 2008 เจ้าหน้าที่ได้รับ DNA ของเขามาจากการที่เขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีลักขโมยเศษเหล็ก จึงทำให้โยงกลับไปยังการฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านี้ได้ เหยื่อ 5 รายของเขาเป็นเพศหญิงทั้งหมด และมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี และเขาก็ยังได้ทำการข่มขืนเหยื่อ 3 รายจากทั้งหมดด้วย …
-
10 ภาพของวิถี ‘คนคุก’ กับเรือนจำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้หลงผิดในนิยามที่ต่างกัน
อาชญากรเลือกกระทำความผิดที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อถูกจับได้จะต้องนำตัวไปปรับทัศนคติตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็จะได้รับการปล่อยตัวออกมาสู่สังคมอีกครั้ง ในช่วงเวลาระหว่างการใช้ชีวิตในเรือนจำของแต่ละประเทศนั้นจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากแต่ละท้องที่จะนิยามและให้การดูแลสวัสดิการตามกำลังที่มี บวกกับแนวคิดที่ยังคงตีกรอบเอาไว้ตามความเหมาะสม… เรือนจำ Aranjuez ประเทศสเปน เรือนจำ Aranjuez ยอมให้พ่อแม่และเด็กอยู่ด้วยกัน ในช่วงที่หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของจองจำ พร้อมกับการตกแต่งห้องขังให้บรรยากาศครอบครัว มีเนอร์เซอรี่ และสนามเด็กเล่น เพื่อไม่ให้เด็กรับรู้ได้ว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำในขณะที่พ่อแม่ถูกขัง เรือนจำ Luzira ประเทศยูกันดา ผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งนี้จะมีหน้าที่รับผิดชอบจำนวนมาก ทั้งการดูแลกลุ่มของตัวผู้ต้องขังเอง แบ่งออกเป็นหน่วยช่วยกันรับผิดชอบ การปลูกพืชผักและเก็บเกี่ยวมาทำอาหาร พร้อมกับแจกจ่ายให้กับทุกคนภายในเรือนจำ พร้อมทั้งสอนทักษะวิชาชีพอย่างช่างไม้ให้ เมื่อพ้นโทษไปแล้วอัตราการกระทำผิดซ้ำของที่นี่มีเพียง 30% เท่านั้น เมื่อเทียบกับอังกฤษ 46% และสหรัฐฯ 76% เรือนจำ Bastøy ประเทศนอร์เวย์ เรือนจำแห่งนี้เป็นเรือนจำขนาดใหญ่แต่เข้มงวดน้อย อันเป็นสถานที่จองจำฆาตกรและพวกข่มขืน ตั้งอยู่บนเกาะ Bastøy ในชื่อเดียวกันและกินพื้นที่บนเกาะทั้งหมด มีเพียงส่วนชายหาดทางตอนเหนือของเกาะที่เปิดให้ประชาชนคนทั่วไปเข้ามาได้ เรือนจำเปรียบได้เสมือนชุมชนขนาดเล็ก มีอาคาร 80 หลัง ถนนพื้นที่ชายหาด ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม สนามฟุตบอล พื้นที่เพาะปลูกและป่า…
-
การทดลองวิปริตจากสแตนฟอร์ด ให้อาสาสมัครมาเล่นคุกจำลอง หลงอำนาจจนเกินขอบเขต!!
จากทดลองในอดีตสุดโด่งดังของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ถูกกล่าวขานว่าเป็นการทดลองทางจิตวิทยาที่รุนแรงเกินควบคุมได้ เนื่องจากผู้เข้าร่วมทดลองเกิดอาการ ‘อิน’ ขั้นรุนแรง การทดลองดังกล่าวนั้นเป็นการทดสอบแนวคิดทางด้าน อำนาจ การควบคุม และความสมานฉันท์ โดยเป็นการทดลองของนาย Philip Zimbardo ซึ่งเขาเปิดเผยว่าการทดลองทั้งหมดเป็น ‘การแสดง’ แทบทั้งสิ้น การทดลองคุกจำลองของนาย Zimbardo นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือเรื่องแต่งมานานหลายปี เนื่องจากการทดลองดังกล่าวนั้นกลายมาเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุม การทดลองได้นำอาสาสมัคร 24 คน มาจองจำไว้ในคุกจำลองชั้นใต้ดินของอาคารภาควิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อาสาสมัครทั้งหมดได้รับการประเมินสภาพจิตใจมาก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อไม่ให้ผู้มีปัญหาทางจิตหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงและเล่นยามาเข้าร่วม และพวกเขาเหล่านั้นก็ถูกแบ่งฝ่ายให้เป็นนักโทษและผู้คุมขัง ฝ่ายนักโทษก็ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนักโทษจริงๆ ผู้คุมขังปลดทรัพย์สินของฝ่ายนักโทษทั้งหมด และจัดแจงหมายเลขนักโทษให้แต่ละคน นำตัวไปคุมขังไว้ในห้องตลอดทั้งวัน จากการเปิดเผยในเอกสารการทดลอง ฝ่ายผู้คุมขังนั้นได้รับชี้แจงว่า อนุญาตกระทำการใดๆ ก็ตาม ที่มีความจำเป็นเพื่อรักษากฎระเบียบภายในคุก ตลอดการทดลองคุกจำลอง ทั้งสองกลุ่มต่างเข้าถึงบทบาทของตัวเอง ‘มาก’ จนเกินไป ผู้คุมเริ่มกลั่นแกล้ง ทำร้าย ทุบตี ไม่ใยดีฝ่ายนักโทษ และนักโทษก็เริ่มมีอาการบ้าคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่อยู่ภายใต้ความกดดันจากผู้คุม …
-
อภินิหารคนคุกพิชิตแมว…ฝึกเหมียวให้ลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ในคุก อะไรจะเก่งปานนั้น!?
ระบบการรักษาความปลอดภัยภายในคุกนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว เนื่องจากทุกอย่างที่ดูผิดปกวิสัย อาจจะก่อให้เกิดเหตุร้ายแรงตามมาได้ หนึ่งในปัญหาของคุกระดับสากลโลกก็คือ การลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ภายในคุก แต่ก็คงไม่มีประเทศไหนเหมือนคอสตาริกา เพราะล่าสุดต้องเจอกับกรณีใช้ ‘แมว’ เป็นตัวกลางในการลักลอบขนส่งโทรศัพท์เข้ามาในคุก! เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 เมษายน 2018 กระทรวงยุติธรรมประเทศคอสตาริกา ได้เผยแพร่วิดีโดคลิปของการดักจับแมว ในระหว่างที่มันกำลังจะแอบเข้าไปในคุก La Reforma ในจังหวัดอาลาคูเอลา โดยเจ้าแมวตัวนี้ มีห่อลักษณะแปลกๆ ถูกติดเทปไว้บริเวณหน้าท้องและคล้องไว้ที่คอของมัน ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่แกะหีบห่อออกจากเจ้าเหมียวได้ เปิดดูข้างในห่อก็พบว่าเป็น โทรศัพท์มือถือ พร้อมที่ชาร์จแบตฯ แบตฯ สำรอง และหูฟัง… ทางด้านกระทรวงยุติธรรมไม่ได้เปิดเผยว่าเจ้าแมวตัวนี้ ถูกจับได้ที่บริเวณไหน ที่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นห่อแปลกๆ ได้อย่างไร แต่กล่าวไว้ว่ามันคือ ‘แมวที่ถูกฝึกมา’ เป็นตัวที่สอง หลังจากที่จับตัวแรกไปได้ก่อนหน้านี้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็เคยมีการใช้นกพิราบ บินมาส่งโคเคน 14 กรัม และกัญชา 14 กรัม ให้กับนักโทษภายในคุก และเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการจับกุมนกพิราบตัวนั้นได้เสียก่อน……
-
เพื่อนไม่อยากทนทุกข์จากมะเร็ง หนุ่มยินดีขับรถทับ แต่สุดท้ายจบที่ ‘การฆาตกรรม’
ในเบื้องต้นแล้วทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘การุณยฆาต’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวคือการทำให้หนึ่งชีวิตนั้นจากไปอย่างสงบ ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป… ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความยินยอมระหว่าง ผู้รับการการุณยฆาตและผู้ลงมือการุณยฆาต จะต้องมีเอกสารเซ็นยินยอมที่ชัดเจน และจะไม่มีผลทางคดีความใดๆ ในภายหลัง แต่แล้วมันกลับเกิดผิดเพี้ยนไป เมื่อชายหนุ่มชาวจีนถูกเพื่อนป่วยโรคมะเร็ง ขอร้องให้จบชีวิตเธอเสียที เพราะไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว หญิงแซ่ Wu ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในปี 2008 และเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว และได้ขอร้องในเพื่อนชายแซ่ Xu ขับรถทับร่างเธอเสีย เพื่อไม่ให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2017 Xu เองก็ตกลงปลงใจที่จะทำตามคำขอ ซึ่งทางด้านสามีของนาง Wu นั้นก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนชายคนนี้จะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรในภายหลัง… และแล้ววันตัดสินชีวิตก็เกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2017 ภาพจากกล้องภายในรถ เผยให้เห็นว่าเขาขับรถเพื่อเหยียบร่างของนาง Wu กลางถนนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้ว Xu ก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว และกระทำการถอยรถเหยียบซ้ำอีกหนึ่งรอบ …
-
ประเทศกรีนแลนด์เตรียมเปิดตัวเรือนจำสุดหรู ประดุจรีสอร์ต พร้อมให้บริการปี 2019
ถ้าพูดถึงเรือนจำที่เอาไว้ขังนักโทษโดยปกติทั่วไปเราคงคิดว่าน่าจะมีสภาพที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ ภายในอาจจะสกปรกหรือให้ความรู้สึกอึดอัดเป็นแน่แท้ แต่เรือนจำที่เราจะนำมาให้คุณได้ดูในวันนี้ จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับคุกที่ว่ามันต้องสกปรก ต้องออกแบบธรรมดาๆ ไปเลย เพราะนี่คือ “Ny Anstalt” เรือนจำที่มีมนุษยธรรมที่มีการออกเหมือนกับรีสอร์ตสุดหรูหรา ที่กำลังจะเปิดให้บริการภายในประเทศกรีนแลนด์ ในปี 2019 เรือนจำ Ny Anstalt นี้เป็นผลงานที่ได้มาจากการแข่งขันออกแบบเรือนจำแบบใหม่ที่จะตั้งอยู่ในมหานคร Nuuk ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศกรีนแลนด์ ที่นี่มีห้องขังทั้งหมด 76 ห้องแบ่งเป็นห้องขังแบบปิด 40 และห้องขังแบบเปิดอีก 36 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีเนื้อที่ 12 ตารางเมตร แม้ว่าพื้นที่แต่ละห้องจะดูเล็ก แต่นักโทษก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวสวยๆ ของภูเขา Sermitsiaq ที่อยู่ล้อมรอบเรือนจำนี้ได้ และใน Ny Anstalt ยังมีพื้นที่ให้นักโทษได้มานั่งพบปะสมาคมรวมถึงห้องครัว ศูนย์การกีฬา ห้องสมุดและโบสถ์ให้ได้ใช้บริการกันอีกด้วยอีกด้วย จุดประสงค์ของการออกแบบเรือนจำหรูหราหลังนี้ เพราะนักโทษจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเวลาที่พ้นโทษและได้กลับเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และที่พิเศษคือนักโทษของเรือนจำนี้สามารถที่จะเข้าไปในเมืองเพื่อทำงานหาเงินได้ แต่ต้องกลับมาเรือนจำทุกๆ เย็น ลักษณะเด่นของเรือนจำนี้คือการที่ใช้กระจกมาเป็นวัสดุในการก่อสร้าง นักโทษที่มาถึงจะได้มองเห็นเข้ามาในตัวของเรือนจำได้ เพื่อช่วยอาการบอบช้ำทางจิตใจ โครงการนี้กินพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8,000 ตารางเมตร ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์การขาดแคลนเรือนจำแบบปิด ซึ่งทำให้ต้องส่งนักโทษอันตรายไปอยู่ที่ Herstedvester ประเทศเดนมาร์ก…
-
13 อาวุธโคตรโหดกระโดดฟันของจริง กับสิ่งประดิษฐ์ด้วยมือนักโทษ ส่งตรงมาจากในคุก!!
คุก คงไม่ใช่สถานที่ที่ทุกคนอยากไปแน่นอน เพราะที่นั่น มีไว้สำหรับการกักขังนักโทษที่กระทำการผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ตั้งแต่ลักทรัพย์ไปจนถึงฆาตกรรม แน่นอนในคุกไม่ใช่สถานที่พักผ่อนแสนสบายแบบโรงแรม แต่เป็นห้องสี่เหลี่ยมพร้อมลูกกรงที่ใช้ควบคุมอิสรภาพของนักโทษไว้ในกำมือ ในบรรดาเหล่านักโทษเองก็จะอยู่กันเหมือนเป็นสังคมหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีคนบางคนหรือบางกลุ่มมีอิทธิพลมากกว่าคนอื่นๆ และบางครั้งกลุ่มที่มีอิทธิพลก็มีการทำร้ายร่างกายนักโทษด้วยกันเอง ดังนั้นนักโทษในคุกแต่ละคนจึงมีการหาอาวุธมาใช้ป้องกันตนเอง วันนี้ เราจึงขอนำเสนอ อาวุธต่างๆ จากในคุก ที่เหล่านักโทษนำมาใช้เพื่อป้องกันตัว และใช้เพื่อทำร้ายคนอื่น จะมีอาวุธอะไรบ้าง และจะน่ากลัวขนาดไหน ไปชมกันเลย… 1. ปืนทำมือ ในเดือนพฤษภาคม 1984 นักโทษสองรายได้หนีออกจากห้องคุมขังได้ โดยการจับเจ้าหน้าที่รักษาการไว้เป็นตัวประกันได้ ปืนนี้ประกอบไปด้วย ตะกั่วที่ได้จากจากแผงผ้าม่าน หัวไม้ขีดไฟ แบตเตอรี่ AA และเศษหลอดไฟที่แตก ปืนนี้ใช้ได้จริง เพราะพวกเขา ยิงมัน 2-3 นัดเข้าที่กระจกกันกระสุนเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีออกไป 2. มีดพกจากไม้กางเขน อาวุธชิ้นนี้ยึดมาได้จากนักโทษชาวเยอรมันเมื่อปี 1994 ที่คุก Wolfenbüttel ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นักโทษจะเหลาไม้เป็นรูปไม้กางเขน แต่สำหรับนักโทษคนนี้เขาได้ประกอบเอาใบมีดเข้าไปซ่อนบริเวณด้านล่างของไม้กางเขนด้วย ซึ่งการใช้ก็คือเลื่อนเปิดไม้กางเขนออก และปิดเมื่อไม่ได้ใช้ 3. ปืนซิป…
-
เนเธอร์แลนด์สั่งปิดคุกกว่า 32 แห่ง เหตุอัตราอาชญากรรมต่ำ จำนวนนักโทษก็น้อยตาม…
ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในโลกยังคงมีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นทุกวัน แต่ประเทศฝั่งยุโปรกลับมีปัญหาน้อยลงเรื่อยๆ อย่างเช่นประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ล่าสุดประสบปัญหาประเทศสงบเกินไปจนคุกเหลือที่ว่างเยอะเกินไป… นับตั้งแต่ปี 2009 คุกกว่า 27 แห่งทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ต้องถูกสั่งปิดตัวลง แถมด้วยอีก 5 แห่งที่ถูกสั่งปิดไปเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา โดยมีเหตุผลเดียวกันคือ อัตราการก่ออาชญากรรมมีน้อย ทำให้จำนวนนักโทษก็มีน้อยเช่นกัน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 17 ล้านคน แต่กลับมีจำนวนนักโทษเพียงแค่ 11,600 คนจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยที่น้อยมาก ทำให้ประเทศเนเธอร์แลนด์กลายเป็นหนึ่งประเทศที่มีอัตราการจำคุกที่น้อยที่สุดในยุโรป แม้ในช่วงเดือนกันยายนปี 2016 ทางเนเธอร์แลนด์พยายามแก้ปัญหา ‘คุกว่าง’ ด้วยการโอนนักโทษชาวนอร์เวย์จำนวน 240 ราย มายังเรือนจำ Norgerhaven ทางตอนเหนือของเมืองอัมสเตอร์ดัม รวมไปถึงการเปิดให้ห้องขังในเรือนจำของตนให้กับประเทศอื่นๆ ด้วย ส่วนเหตุผลที่ทำให้อัตราการก่อคดีต่างๆ ลดลงต่ำนั่นก็เพราะในปี 2004 และ 2005 ทางรัฐบาลได้ปราบปรามและปิดกั้นปัญหายาเสพติดที่นำเข้ามาสู่ประเทศอย่างจริงจัง อย่างการลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศผ่านเส้นทางสนามบิน และไม่ได้ทำการจับกุมยาเสพติดชนิดเบาที่ใช้ภายในบ้าน แต่กลับกัน พวกเขาใช้วิธีการฟื้นฟูคนที่มีปัญหาดังกล่าวมากกว่าการคุมขัง ด้วยการติดเครื่องติดตามตัวไว้กับอาชญากรที่มีโทษไม่ร้ายแรงมากนัก อย่างเช่นพวกคดีลักเล็กขโมยน้อยเป็นต้น ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้เหล่าอาชญากรสามารถมีชีวิตปกติและกลับไปทำงานได้…
-
เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!
หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008) โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…
-
เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย
คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้ ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…
-
เด็กสาววัย 11 ปี ที่ต้องอาศัยอยู่ในคุกกับแม่ที่เป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ ไปตลอดชีวิต
คนที่ทำผิดย่อมต้องได้รับการลงโทษ เป็นแนวคิดตามหลักจริยธรรมทั่วไปในสังคมและในแง่ของกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นนักโทษที่ถูกจับแล้วจึงต้องรับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่พวกเขาก่อไว้ เช่น โดนปรับ โดนยึดทรัพย์สิน ต้องจำคุก หรือแม้แต่ถูกประหารชีวิต ทว่าถ้าคนบริสุทธิ์รอบตัวของนักโทษ อย่างคนรักหรือสมาชิกในครอบครัวต้องติดร่างแหของการลงโทษนี้ไปด้วย มันยุติธรรมดีแล้วหรือ หากพวกเขาต้องลำบากเพราะขาดคนสำคัญในชีวิตไป จะมีวิธีช่วยเหลือคนเหล่านี้หรือไม่ แล้วช่วยเหลืออย่างไร เรามาลองติดตามดูตัวอย่างของปัญหาดังกล่าวกันดีกว่า ฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul ในคุกประจำจังหวัดนานกาฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน มีนักโทษหญิงอยู่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul เธอติดคุกเนื่องจากเธอและสมาชิกในครอบครัวร่วมทำการล่อลวงชายจำนวน 27 คนมาฆ่าเพื่อปล้นเอาทรัพย์สิน สมาชิกในครอบครัวทุกคนถูกตัดสินให้ได้รับโทษประหาร แต่ Gul ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ถูกลดโทษลงให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวในคุก และตั้งชื่อว่า Meena Shirin Gul และลูกสาวของเธอ Meena คุกในอัฟกานิสถานนั้นอนุญาตให้บุตรอาศัยอยู่กับบิดามารดาได้จนบุตรมีอายุ 18 ปี Meena จึงเติบโตมาในคุกแห่งนี้ตลอดช่วงชีวิต 11 ปีของเธอ นอกจากเธอแล้วยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในคุก เด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้แตกต่างจากเด็กข้างนอกแต่อย่างใด พวกเขามีความไร้เดียงสา และสดใสสมวัยอย่างที่ควรจะเป็น Meena เองก็มีความสนใจเหมือนกับเด็กผู้หญิงนอกคุก เธอชอบเล่นตุ๊กตา ชอบพูดถึงเพื่อนสนิทวัยเดียวกัน (เด็กสาวคนอื่นในคุก)…
-
พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ
การถูกจองจำอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปรารถนาซึ่งความไร้อิสรภาพนี้อาจจะทำให้คนที่ถูกจองจำเกิดอาการเครียดและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพูดถึงเรือนจำทุกคนก็คงจะนึกถึงสภาพของห้องขังที่ชำรุด เก่า สกปรก และสภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเรือนจำที่จะมานำเสนอในวันนี้มันหรูหราซะยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวซะอีก เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพภายนอกเป็นโรงแรมรีสอร์ทสุดหรู ตกแต่งไปด้วยต้นมะกอกอายุ 600 ปี และสวนปาล์มที่รายล้อมไปทั่วเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 52 ไร่ มกุฏราชกุมารโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ทรงได้ออกกวาดล้างจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจรัง ซึ่งผู้ต้องหาล้วนแต่เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และยังมีเจ้าชายอีก 11 พระองค์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย พระองค์ทรงจัดการอย่างเด็ดขาดและไม่เว้นแต่พระญาติเพื่อเป็นการล้มล้างการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรมที่สุด ทางการซาอุดิอาระเบียเพิ่งจะมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำการบันทึกภาพและเก็บข้อมูลโดยสำนักข่าว BBC เท่านั้นและได้มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในอาคารก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของผู้เข้าพักโรงแรมกับส่วนที่เป็นแต่ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แห่งนี้ก็มีครบทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ห้องอาหารขนาดใหญ่ อาหารที่มีมากมายคอยให้บริการ บาร์เครื่องดื่ม ล็อบบี้ ห้องพัก คลิปวิดีโอภายในโรงแรม โรงแรมแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่อย่างใดก็ตามก็ยังไร้ซึ่งอิสรภาพอยู่ดี…
-
คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”
สารเสพติดต่างๆ ก็จะมีฤทธิ์ร้ายแรงแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพหลอน หรือสั่งการให้สมองทำงานได้ช้าหรือเร็วขึ้น แน่นอนว่าผลกระทบของมันที่หากว่าใช้ไปอย่างไม่เหมาะสมหรือมากจนเกินไป สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นได้มากกว่าที่เราคาดคิด เมื่อได้มีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายในเรือนจำ Forest Bank ในแกรนด์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นนักโทษชายสองคนคลานสี่ขาตะโกนใส่กันและกัดกันเหมือนหมาสองตัวที่ต่อสู้กัน ทั้งสองคนถูกฤทธิ์ยาที่มีชื่อว่ายาซอมบี้ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ และสภาพของพวกเขานั้นเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าปิดหน้ากับปลอกคอผ้าที่เอาไว้ให้ชายอีกสองคนคอยควบคุมเอาไว้เวลาที่สู้กัน ระบบการสังเคราะห์กัญชาที่สร้างแรงกดดันให้กับเรือนจำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักโทษหลายร้อยคนที่เสพยาเสพติด นำไปสู่การทำร้ายร่างกายและนำส่งโรงพยาบาล คลิปวิดีโอการต่อสู้กันเยี่ยงสุนัขของนักโทษทั้งสอง ท่าทีของทั้งสองคนที่โดนบังคับเอาไว้เปรียบได้กับสุนัขอย่างมาก เพราะมีการแนะนำตัวชื่อสายพันธุ์ของพวกเขาก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ เมื่อกล้องซูมเข้าไปก็มีท่าทีจะพุ่งใส่กล้อง เหมือนสัตว์ที่บ้าคลั่ง มีการขู่คำราม แต่ทว่าจากการสังเกตจะมีให้เห็นการแต่งกายของชายชุดดำสองคนที่คอยควบคุมเอาไว้ เสื้อผ้าในชุดลำลอง อีกทั้งยังมีโน๊ตบุ๊กและขวดโหลเมล็ดกาแฟ จึงทำให้ไม่แน่ใจได้ว่าแท้จริงแล้วสถานที่นั้นอยู่ไหนกันแน่ และในคลิปชายคนหนึ่งก็ได้บอกกลับกล้องอีกว่า “เรากำหนดให้หนึ่งในสัตว์สองตัวนี้ต้องมีเลือดออก นั่นหมายความว่าผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดจะเป็นผู้ชนะ” จากประโยคแสดงถึงการกลั่นแกล้ง และความหละหลวมของการดูแลเรือนจำดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่มีให้เห็นในทุกวัน ด้วยจำนวนของผู้คุมที่มีกันไม่เพียงพอที่จะจัดการปัญหา และนักโทษติดยาก็มีอยู่มาก ทำให้ต้องมีหลายคนที่ร่างกายทรุดตัวลงเพราะเสพมากจนเกินไป เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมทั้งสิ้น เรือนจำแห่งนี้จัดอยู่ในกลุ่มบี มีผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การดูแลเกือบ 1,500 คน และบริหารจัดการโดยบริษัทเอกชน Sodexo การบริหารจัดการเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในความเรียบร้อยนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นนักโทษแต่พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์ได้รับทุกอย่างเทียบเท่ากับมนุษย์ รวมถึงความปลอดภัยที่พึงมีด้วย …
-
ฆาตกรต่อเนื่อง ปรบมือยั่วยุครอบครัวเหยื่อ ไร้สีหน้าสำนึกผิด หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 71 ปี
กลายเป็นที่วิพากย์วิจารย์บนโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของฆาตกรต่อเนื่องวัย 20 ปี ที่กำลังยิ้มโดยไม่มีความรู้สึกผิดและละอายใจ เมื่อเขาถูกศาลตัดสินโทษจำคุกนาน 71 ปี จากการกระทำฆาตกรรมเหยื่อมาแล้วหลายราย รวมถึงการฆ่าข่มขืนเหยื่อรายล่าสุด Cameron Wilson ฆาตกรโหดได้กล่าวประโยคออกมาเสียงดัง หลังจากที่เขาได้รับพิจาณาโทษว่า “อย่างน้อย ผมก็ยังมีชีวิตอยู่” โดยชายคนดังกล่าวถูกตัดสินว่ามีกระทำความผิดโดยเป็นการฆาตกรรม 5 ครั้ง ข่มขืน 1 ครั้ง และพยายามฆ่าอีก 3 ครั้ง หน้าตาที่ไร้ความรู้สึกผิดของ Cameron Wilson และนี่คือภาพของชายผู้นี้ หลังจากที่เขาทราบผลตัดสินคดีความ ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล ชายหนุ่มก็ไม่ได้แสดงสีหน้าเศร้าโศกหรือรู้สึกผิดแต่อย่างใด แถมเขายังยิ้มและหัวเราะตลอดการรับฟังข้อกล่าวหาอีกด้วย โดยเหยื่อรายสุดท้ายของนาย Wilson นั้นก็คือ Lekita Moore สาวน้อยวัย 18 ปี ที่ถูกฆาตกรโหดรายนี้ข่มขืนและกระหน่ำแทงซ้ำถึง 98 ครั้ง นอกจากนี้เขายังสารภาพรายชื่อของเหยื่อคนอื่นๆ ที่ลงมือฆาตกรรมอีกด้วย หลังจากที่มีการอ่านรายละเอียดโทษของฆาตกรหนุ่มเสร็จเป็นที่เรียบร้อย Wilson ก็ยืนยิ้มพร้อมกับตบมือประชดประชัน สร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวของเหยื่ออย่างมาก หลังจากออกมาด้านนอกศาล หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ตะโกนด่าเขาด้วยความโกรธว่า “ไอ้ฆาตกร แกน่าจะไปอยู่ในนรกซะมากกว่า”…
-
เปิดวาร์ปสาวน้อย Momoka Kurita วัย 13 ปี ที่ถูกเชิญออกจากโรงเรียนเพราะเป็นเรซควีน
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอประเด็นดราม่าเกี่ยวกับสาวน้อยวัย 13 ปี กับการรับงานพิเศษเป็นเรซควีนที่โด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลในญี่ปุ่นมาแล้ว (ดราม่าหนูน้อยเรซควีน) แต่คราวนี้เราไม่ได้มีประเด็นดราม่าอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่าเราจะพาไปดูชีวิตหลังจากที่ Momoka Kurita เลือกที่จะออกจากโรงเรียนและหันมาเอาจริงเอาจังด้านการเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์อย่างเต็มตัว เรียกได้ว่าสาวน้อยคนนี้อนาคตไกลแน่น๊อนน..!! ด้วยต่อมความอยากรู้อยากเห็นมันทำงาน พวกเราแก๊งเหมียวเลยแอบเข้าไปส่องในไอจีของน้อง แล้วได้พบว่าจริงๆ แล้วน้องมีความสามารถหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นเล่นดนตรี…. ถ่ายแบบแฟชั่นร่วมกับนางแบบรุ่นพี่ในวงการ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าวัยรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีงานเดินแบบให้ชุดแฟชั่นชั้นนำอีกมากมาย แม้ว่ากระแสสังคมหลายฝ่ายอาจมองว่าอายุเธอยังเด็กเกินไป ที่จะมาเดินบนเส้นทางแห่งโลกมายา ทว่าสาวน้อยและครอบครัวเชื่อมั่นว่าเธอสามารถทำได้ ประสบการณ์จากช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอได้พิสูจน์ให้รุ่นพี่หลายคนในวงการเห็นแล้วว่า เธอไม่ได้มีดีแค่ความน่ารักอย่างเดียวนะ บนรันเวย์เธอก็สวมบทบาทเป็นนางแบบที่มีแววตาดูจริงจัง และมีความเป็นมืออาชีพสูงพอตัว ถึงแม้ว่าฉากหน้าเธออาจจะโตกว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่ฉากหลังครอบครัวเธอเล่าว่า เธอก็ยังเป็นลูกสาวที่ทำตัวเป็นเด็กเหมือนคนอื่นๆ อยู่เสมอ สำหรับแฟนๆ สามารถไปติดตามน้อง Momoka Kurita ได้ที่อินสตาแกรม @kurimomo330 ถึงตัวจะเป็นเด็กแต่มีความสามารถเป็นผู้ใหญ่ แบบนี้อนาคตไปไกลแน่นอนจ้า ที่มา: Instagram
-
เหล่านักโทษยื่นเรียกร้องให้สามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าเรือนจำได้ เพื่อบำบัดความเครียด…
มีนักโทษในเรือนจำ HM Prison Lowdham Grange ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งแคมเปญให้นักโทษสามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าไปใช้ในเรือนจำได้!? จากการให้สัมภาษณ์ของนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำ HM ที่เป็นผู้ก่อตั้งเคมเปญชื่อว่านาย กล่าวว่า Jack Swarez “เหล่าตุ๊กตายางจะช่วยในเรื่องของพฤติกรรมของเหล่านักโทษ เพราะพวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้” นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ทางรัฐบาลจะไม่ต้องรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นกับแคมเปญนี้ เพราะเหล่านักโทษจะใช้เงินของตัวเองในการซื้อมันมาเข้ามาใช้ในเรือนจำเอง” นาย Swarez เล่าว่าถึงการทำแคมเปญนี้ขึ้นมาว่า “ปัญหาก็คือในเรือนจำของเรานั้นเต็มไปด้วยชายหนุ่มกลัดมัน และทุกๆ ครั้งที่พวกเขาจะปลดปล่อยความใคร่ของตัวเองก็มีเพียงมือข้างที่ถนัดเท่านั้น” “ซึ่งการอาศัยอยู่ในที่เรือนจำแห่งนี้ย่อมอาจทำให้นักโทษมีความเครียดสูง ฉะนั้นการหากิจกรรมลดความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” “ผมมีแรงบันดาลใจหลังจากได้ชมสารคดีที่ออกอากาศทางช่าง Channel 4 เป็นเรื่องราวของชายที่อาศัยอยู่ร่วมกับตุ๊กตายาง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความเครียดเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งมีสีหน้าที่มีแต่ความสุขอีกต่างหาก” “นอกเหนือไปกว่านี้การสูบลมเข้าไปในตุ๊กตายาง ย่อมทำให้หล่านักโทษที่ผ่านการสูบบุหรี่มาอย่างจัดเจน ได้รับการบริหารปอดอีกด้วย” “เหล่าผู้ต้องหาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับคู่หูตุ๊กตายางของตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญความเครียดมาทั้งวัน อันจะช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายและมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น” แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง? ก็ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
คอนเซ็ปต์ ‘คุกเรือขนาดยักษ์’ จากปานามา แม้แต่พี่ไมเคิลก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะแหก!!
สำหรับแฟนๆ ซีรีส์ชื่อดังอย่างเรื่อง Prison Break ก็จะรู้กันดีว่าเหล่าชาวแก๊งของตัวละครเอกอย่าง ไมเคิล สโกฟิลด์ มีความสามารถในการแหกคุกที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่สำหรับคุกที่ทางสถาปนิกชาวปานามาได้ออกแบบมานั้น ต้องขอบอกเลยว่าแม้จะเป็น ไมเคิล และทีมงาน ก็คงหนีออกมาไม่ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน Panama Papers Jail เรือขนาดยักษ์ที่มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่คล้ายแผงโซลาร์เซลล์นี้ แท้จริงแล้วเป็นห้องขังนับ 1,000 ห้อง ที่มีต้นแบบมาจาก ‘คุกลอยฟ้า’ ที่ Tyrion Lannister ถูกนำไปขังไว้ในเรื่อง Game of Thrones เป็นการออกแบบโดยสถานปนิคของปานามาที่ออกแบบมาเพื่อขังนักโทษมากกว่า 3,300 คน แต่ถึงอย่างนั้นแบบแปลนนี้ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะเชื่อว่าที่ทำแบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อหลบเลี่ยงภาษี ประเทศปานามานั้นเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการเป็นสรวงสวรรค์ของการเลี่ยงภาษี และการฟอกเงิน แล้วบริษัท Panama Papers นี้เองก็เป็นคนช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั่วโลกมาเปิดบริษัทที่ปานามา แน่นอนว่าแบบแปลนโครงสร้างที่ดูเว่อร์วังอลังการแบบนี้ไม่ว่าใครต่างก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่างแน่ แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปต์เท่านั้น ส่วนจะทำการก่อสร้างขึ้นมาใช้งานจริงๆ หรือไม่นั้นก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป… . . . …
-
ทัวร์ภายใน “เรือนจำ” ที่ปิดตัวของเนเธอร์แลนด์ วันนี้ถูกเปลี่ยนเป็นบ้านผู้ลี้ภัยแล้ว…
ก่อนหน้านี้เราคงได้เห็นข่าวคราวเรื่องของเรือนจำ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ต้องถูกปิดตัวลงไปหลายแห่งอันเนื่องมาจากอัตราการก่อเหตุอาชญกรรมของชาวเมืองที่นั่น ลดลงอย่างน่าใจหาย และปัจจุบันสถานที่เรือนจำเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้เป็นบ้านพักสำหรับผู้ลี้ภัย พวกเขายินดีต้อนรับคนจากทุกเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย อิรัก หรือลิเบีย ที่ต้องการจะหลบหนีสงคราม และเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ เราตามไปดูกันเลยว่าปัจจุบันเรือนจำเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ในปี 2015 เนเธอร์แลนด์คาดว่ามีผู้ลี้ภัยเข้ามามากถึง 60,000 คน นี่คือตัวอย่างของเรือนจำจากเมือง Haarlem ที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่พักอาศัยของผู้ลี้ภัย ทางรัฐบาลได้จัดแบ่งโซนไว้ชัดเจนสำหรับชายหญิง เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ‘ความปลอดภัยของพวกเขา เป็นเหมือนภารกิจหนึ่งของเรา ประเทศเราอาจใหม่สำหรับพวกเขา และนั่นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องคอยดูแลทุกคน’ Menno Schot ผู้ดูแลเรือนจำกล่าว อ้างอิงจากสื่อ AP ผู้ลี้ภัยหลายคนบอกว่าชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร และการอยู่อาศัย ประตูที่เหล็กที่เคยใช้คุมขังนักโทษ ตอนนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นประตูที่มอบความปลอดภัยให้ผู้ลี้ภัยทุกคน ‘ผมไม่รู้สึกว่าเราอยู่ในคุกเลยแม้แต่น้อย เพราะที่นี่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากกว่าบ้านเกิดเราซะอีก’ ผู้ลี้ภัยวัย 16 ปี คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ผู้ลี้ภัยหลายคนยังเป็นวัยรุ่น บ้างก็อพยพมากับครอบครัว บ้างก็ต้องหลบหนีมาตัวคนเดียว อย่างเช่น Shazia Lutfi สาววัย 19 จากอัฟกานิสถานคนนี้ …
-
รัฐบาลออสเตรเลีย จะจ่ายโบนัสให้เรือนจำหญิง หากดูแลนักโทษดี จนไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก
การส่งผู้ต้องหาไปอยู่ในเรือนจำนั้นถือเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมเพื่อขัดเกลาให้บุคคลเหล่านั้นกลับออกมาเป็นคนที่มีคุณภาพอีกครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบวนการที่ว่านี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆ คน ยังคงมีคนหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำแล้วทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลของออสเตรเลียจึงได้ออกนโยบายใหม่ โดยการจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับเรือนจำแห่งหนึ่งที่สามารถดูแลหรือบำบัดนักโทษให้กลับมาอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่ทำผิดอีก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว RT บอกว่านี่เป็นโครงการนำร่องในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย จะใช้กับเรือนจำหญิง 1 ใน 3 ของเรือนจำเอกชนที่ดำเนินการโดยบริษัท Sodexo การจ่ายโบนัสให้กับเรือนจำนั้น มีเงื่อนไขอยู่ว่า เหล่านักโทษหญิงจะต้องพ้นโทษออกไปใช้ชีวิตตามปกติและไม่ก่ออาชญากรรมอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี หากทำได้ทางเรือนจำก็จะได้รับโบนัสเป็นจำนวนเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 392,400 บาท จากสถิติภายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้น พบว่านักโทษหญิงกว่า 34% เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วจะกลับไปทำผิดซ้ำๆ อีก เพราะกลับไปอยู่ในสังคมแบบเดิม ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและความรุนแรง ทางภาครัฐจึงพยายามมองหาวิธีการแก้ไขแบบใหม่ ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่าหากทำแบบนี้แล้วจะเป็นการช่วยเหลือนักโทษให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เรือนจำใส่ใจกับนักโทษของพวกเขามากขึ้น หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ #เหมียวฟิ้น ได้เคยรายงานเกี่ยวกับเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ ที่มักไม่ใช้วิธีการลงโทษผู้ต้องหานานๆ แต่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลให้เรือนจำของพวกเขามีจำนวนนักโทษที่ลดน้อยลง จนต้องปิดเรือนจำไปกว่า 19 แห่ง (อ่านข่าวเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ได้ที่นี่เลย)…
-
เนเธอร์แลนด์ประสบวิกฤติหนัก ‘ขาดแคลนนักโทษ’ ถึงขั้นต้องยุบเรือนจำกว่า 19 แห่ง
ในขณะที่ประเทศฟิลิปินส์เพิ่งจะประสบปัญหานักโทษล้นคุกไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ทีผ่านมา จนต้องของบจากรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ขณะเดียวกันที่เนเธอร์แลนด์กลับประสบปัญหาที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็อยากจะให้เกิด นั่นคือ “ขาดแคลนนักโทษ” เว็บไซต์ BBC ของต่างประเทศได้รายงานว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือนจำกว่า 19 แห่งต้องปิดตัวลง และยังมีอีกหลายแห่งที่เตรียมตัวปิดในปีถัดๆ ไป เนื่องจากมีนักโทษไม่เพียงพอให้กักขัง นับตั้งแต่เมื่อปี 2005 นักโทษในเนเธอร์แลนด์มีจำนวนราวๆ 14,468 คน แต่พอถึงปี 2015 จำนวนกลับลดลงอย่างมากเหลือเพียง 8,245 คนเท่านั้น เมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรทั้งหมด เหลือเพียงแค่ 57:100,000 คนเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดของโลกประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เหตุที่เนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยมีนักโทษหรือการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนอย่างในประเทศอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหน่วยงานยุติธรรมและราชทัณฑ์ของเนเธอร์แลนด์ออกมาให้ความเห็นว่า เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดและปรับปรุงเป็นรายบุคคล แทนที่จะลงโทษอย่างเดียว ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้ว ประเทศเนเธอร์แลนด์เองมักไม่ลงโทษผู้ต้องหาด้วยการจำคุกเป็นเวลานานๆ อย่างเดียว แต่จะลงโทษด้วยวิธีอื่น เช่นติดเครื่องส่งสัญญาณที่ผู้ต้องหา เพื่อดูพฤติกรรม หรือให้ทำงานเพื่อสังคม และบำบัดอาการทางจิต ความโกรธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจส่งผลให้เกิดการทำผิดซ้ำขึ้นอีก นอกจากนี้ทางเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ยังมีวิธีการดูแลผู้ต้องหาในแบบที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ด้วย เพราะพวกเขาจะปรับให้ภายในเรือนจำมีความผ่อนคลาย มีห้องสมุด…
-
ผู้ต้องหาทำการสังหารสุนัขตำรวจอย่างโหดเหี้ยม ถูกศาลตัดสินจำคุก 45 ปี!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่าการที่เราจะไปรับหน้าที่เป็นตำรวจนั้น จะต้องพบกับความเสี่ยงที่อาจต้องแลกด้วยชีวิตในการทำงานเพื่อปกป้องเหล่าราษฎรในพื้นที่แต่ละพื้นที่ที่เราต้องรับผิดชอบ ด้วยคำกล่าวนี้ ‘การตายในหน้าที่’ ก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ขณะที่ออกไปทำหน้าที่ และแน่นอนว่าเหล่าสุนัขตำรวจทั้งหลายเองก็มีความเสี่ยงนี้ด้วยเช่นกัน ทุกวันนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 100 นายที่ตายในหน้าที่และส่วนใหญ่แล้วยังคงรอคอยความยุติธรรมอยู่ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่สุนัขตำรวจจากสถานีตำรวจ Canton Police Department ที่ถูกสังหารขณะออกไปทำหน้าที่ และในที่สุดก็ได้รับความยุติธรรมอย่างที่สมควรได้รับซักที เรื่องมีอยู่ว่า เจ้า Jethro สุนัขตำรวจจากสถานีตำรวจ Canton Police Department ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคู่หูของมัน ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ Ryan Davis หลังจากที่ได้รับรายงานว่ามีมีเหตุปล้นร้านขายของชำ พอไปถึงสถานที่เกิดเหตุเจ้า Jethro ก็ตรงดิ่งเข้าไปยังตัวของผู้ร้ายทันที แต่โชคร้ายที่นาย Kelonte Barefield ผู้ต้องหาได้ทำการเอาปืนจ่อเข้าที่ขมับของเจ้า Jethro และยิงไปเป็นจำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่ Ryan รีบพามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์เพื่อรักษาให้มันมีชีวิตรอด แต่เพราะสมองของมันได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงทำให้แพทย์ไม่สามารถที่จะช่วยให้มันมีชีวิตต่อไปได้ แม้จะพยายามจนถึงที่สุดแล้วก็ตาม เจ้าหน้าที่ Ryan ได้เล่าถึงเรื่องราวของเจ้า Jethro ว่ามันได้เข้าร่วมกับกองกำลังตำรวจตั้งแต่อายุได้ 8 เดือน โดยถูกฝึกมาจากศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ…
-
ชายอเมริกัน ‘เบื่อเมีย’ ขับรถไปปล้นธนาคาร ให้ตำรวจจับ บอกขอติดคุกดีกว่าอยู่บ้าน!!?
คงไม่มีใครในโลกรู้สึกดีกับคำว่า “คุก” หรือ “เรือนจำ” หรอกนะ เพราะมันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยากไปอยู่ เป็นสถานที่ที่สงวนไว้สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนที่อยากจะเข้าไปอยู่ในนั้นแบบจับใจเลยทีเดียว… เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Washingtonpost เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของนาย Lawrence John Ripple ชายชาวอะเมริกันจากรัฐแคนซัส วัย 70 ปี เขาตัดสินใจที่จะปล้นธนาคาร โดยอ้างว่าเขาทำไปเพื่อที่จะได้หนีเมียไปติดคุก!? ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยนาย Ripple ได้เข้าไปปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว แต่เขาไม่ได้พยายามหนีหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ เลย ต่อมาในวันพุธที่ 5 ตุลาคม เขาได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ Leavenworth ในรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นสถานที่เจ้าตัวบอกว่าอยากไปตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนาย Ripple มักมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเขาทะเลาะกับภรรยาเรื่องไดร์เป่าผมที่เสีย เธอจึงบอกให้เขาซ่อมมัน แต่ข้อโต้เถียงระหว่างพวกเขาก็รุนแรงขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง จนเขาทนไม่ไหว ตะโกนใส่ภรรยาไปว่า “ไปติดคุกยังดีกว่าอยู่ที่บ้านอีก!!” และดูเหมือนว่านาย Ripple จะเป็นคนรักษาสัญญาเสียด้วย เพราะหลังจากที่ลั่นวาจาไป เขาก็ขับรถตรงไปยังธนาคารทันที…
-
นางแบบเพลย์บอยที่ ‘แอบถ่าย’ ภาพคนอื่นไปโพสต์วิจารณ์ ล่าสุดโดนจำคุกแล้ว 6 เดือน!!!
ถ้าใครได้ติดตามข่าวในต่างประเทศก็คงคุ้นกับข่าวนี้เป็นอย่างดี เมื่องนางแบบสาวจากนิตยสารเพลย์บอยอันโด่งดังชื่อว่า Dani Mathers ได้มีข่าวในแง่ลบ เมื่อเธอได้ถ่ายภาพในยิมแห่งหนึ่ง ซึ่งภาพที่เธอถ่ายนั้นเธอตั้งใจให้ไปติดหญิงสาวสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังเปลือย พร้อมกับข้อความเชิงชี้นำให้ทุกคนได้ดูถูก หลังจากนั้นโซเชียลก็ไม่พอใจกับการที่เธอแสดงพฤติกรรมแบบนี้ เพราะว่าเป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่นอีกทั้งยังเป็นการแอบถ่ายอีกด้วย จึงทำให้เธอได้รับคำวิจารณ์อย่างมากมาย หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปได้สักพัก ตอนนี้ก็ได้มีบทลงโทษออกมาแล้ว จากที่ตำรวจได้ทำการออกตามหาผู้เสียหายอย่างจริงจังจนได้พบเจอกับเธอ ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยชื่อเหยื่อได้แต่นั่นก็ทำให้นางแบบสาวต้องรับผิด และกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ศาลตัดสินให้เธอมีโทษจำคุกเป็นเวลาทั้งหมด 6 เดือน แต่รายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งการลงโทษครั้งนี้ทางการทำให้เพื่อเป็นตัวอย่างว่าการทำบุคคลอื่นเกิดความเดือดร้อนจากแอบถ่ายรูปคนอื่นแล้วแชร์มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับบ้านเราบ่อยครั้ง ซึ่งจากที่เห็นกันมาก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่มนุษย์กล้องของเราจะถูกลงโทษเลย ครั้งหนึ่งที่มีคนเคยแอบถ่ายชายที่รองเท้าขาดแล้วหาว่าเขาซ่อนกล้อง ทำให้ชีวิตเขาแย่ยิ่งกว่าเดิม ได้รับเสียงก่นด่าจากสังคมมากมาย ส่วนผู้ทำก็ลอยนวล เรื่องราวที่เคยเป็นประเด็นในไทยเมื่อนานมาแล้ว… หรือจะเป็นกรณีที่แอบถ่ายสาวในบีทีเอส ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้เสียหาย ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้เป็นเยี่ยงอย่าง เราก็คงต้องติดตามประเด็นนี้กันต่อไป ที่มา inquisitr
-
ไปส่องกันว่านักโทษใน ‘เรือนจำญี่ปุ่น’ กินอะไร ผ่านร้านอาหารเรือนจำ ที่คุณก็ลองกินได้…
เมื่อคนเรากระทำความผิด เราก็จะถูกนำตัวเข้าสู่งกระบวนทางกฎหมายและส่งไปยังเรือนจำ ที่นั่นคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบไร้อิสระ แทบไม่มีความสะดวกสบาย แถมยังต้องกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้อีกด้วย แต่หากว่าคุณเป็นคนดีที่ใช้ชีวิตแบบสุจริต แล้วดันอยากลองชิมอาหารแบบในเรือนจำ คุณเองก็สามารถหากินได้นะ แม้จะไม่เคยเข้าคุกเข้าตารางมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมร้านอาหาร Prison Cafeteria ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ความแหวกแนวของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ตรงที่พวเขาจะนำเอาส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเดียวกับที่ใช้ทำอาหารให้กับนักโทษในเรือนจำมาทำเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าได้กินกัน อย่างเช่นเมนู้ที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้ เป็น Set A ราคา 800 เยน (ประมาณ 270 บาท) จะประกอบไปด้วยซุปมิโซะ ปลาแม็คเคอเรลทอด หัวไชเท้าสไลส์ ฮารุซาเมะ (บะหมี่สลัด) ข้าวเปล่า ส่วน Set B ประกอบไปด้วยซุปมิโซะ มันเทศจีน ผัดผักญี่ปุ่น ปลาแม็คเคอเรลทอด ข้าวเปล่า แม้จะเป็นอาหารของผู้ต้องขัง แต่ทางญี่ปุ่นเองก็คำนึงถึงเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน . . . . หากใครอยากจะลองชิมอาหารแบบเรือนจำสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็ ตามไปได้ที่ร้าน Prison Cafeteria (หรือ Kangoku…
-
10 อันดับเรือนจำที่ขึ้นชื่อว่า มีความโหดร้ายมากที่สุดในโลก และไทยก็ติดอันดับเช่นกัน
ขึ้นชื่อว่าคุกนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่แน่นอน แต่เมื่อทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมายและเมื่อเข้าไปอยู่ในคุก คุณไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง อาจจะต้องเจอกับความเจ็บปวด หรือบางคนอาจได้เจอกับมิตรภาพดีๆ ในคุกก็ได้ ซึ่งเรือนจำในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป จำได้ไหมว่าเราเคยพาไปทัวร์เรือนจำนอร์เวย์ เรือนจำ Norway ได้ชื่อว่า ‘คุกที่สบายสุดในโลก’ แต่แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ได้ผลดีมาก!!! แต่คราวนี้ลองไปดูเรือนจำที่ทางเว็บไซต์ TheRichest จัดอันดับว่าโหดร้ายมากที่สุดในโลก มาดูกันว่าข้อมูลที่เว็บต่างชาติเว็บนี้จัดอันดับ มีเรือนจำที่ไหนติดมาบ้าง 10. เรือนจำบางขวาง ประเทศไทย ติดเข้ามาในอันดับสุดท้ายของลิสต์นี้ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมากพอสมควร ต้นฉบับให้เหตุผลว่า เรือนจำที่นี่มีทั้งการกระทำรุนแรงต่อนักโทษ ความเป็นอยู่ที่แออัด ถึงกับยกให้เป็นหนึ่งในคุกที่ Hardcore แห่งหนึ่งของโลกใบนี้เลย 9. เรือนจำ Rikers Island นิวยอร์ก เป็นคุกที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ความรุนแรงกับนักโทษ และเคยมีประวัตินักโทษเสียชีวิตจากความรุนแรงนี้มาแล้ว 8. เรือนจำ San Quentin ก่อตั้งเมื่อปี 1852 ซึ่งเป็นคุกที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นที่รู้กันว่ามีปัญหาความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2006 มีการจลาจลเกิดขึ้น เพราะนักโทษพยายามแหกคุก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 ราย และเสียชีวิตอีก 2…
-
ช่างภาพไปสำรวจ ‘Rummu’ เรือนจำที่วันนี้จมอยู่ใต้น้ำ แต่กลับดูลึกลับและน่าค้นหา
พูดถึงคุกแล้วคงไม่มีอยากไปซักเท่าไร ถ้าไม่มีธุระจริงๆ น่ะนะ แต่มีคุกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากไปซักครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่านักดำน้ำทั้งหลายแล้ว คุกแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สุดยอดของพวกเค้าเลยละ คุกที่ว่านี้คือ Rummu ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Tallinn ประมาณ 40 กิโลเมตร ใกล้กับฐานทัพ Ämari NATO ของเอสโตเนีย ในอดีตนั้นใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นศัตรูกับกองกำลังโซเวียต และมีข่าวคราวของการบังคับใช้งานนักโทษในเหมืองอย่างหนัก จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากทีเดยว Rummu สร้างขึ้นปีค.ศ. 1930 ต่อมาเอสโตเนียได้รับอิสรภาพคืน คุกแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้ร้าง และเมื่อเวลาผ่านไปรวมถึงการทำเหมืองหิน พื้นที่ก็เปลี่ยนแปลงทำให้น้ำก็ได้ท่วมคุกแห่งนี้เฉกเช่นสภาพที่เห็นกันอยู่นี้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีป้ายเขียนเตือนว่า “อันตราย ห้ามลงเล่นน้ำ” แต่เมื่อเข้าไปจะสังเกตเห็นว่า ที่นี่เต็มไปด้วยนักดำน้ำนับสิบชีวิตเลยทีเดียว แน่นอนว่ายังคงมีรั้วหนาม หอคอยควบคุมนักโทษ และสภาพที่เกือบจะใกล้เคียงสภาพเดิมโดยรอบ . แน่นอนว่าบางจุดกลายเป็นแหล่งกระโดดน้ำวัดใจ ของคนที่ชอบอะไรเสี่ยงๆ . น้ำที่นี่ลึกประมาณ 13 เมตร แต่นักดำนักส่วนใหญ่จะดำลงไปแค่ประมาณ 6-9 เมตรเท่านั้น ด้านล่างเต็มไปด้วยต้นไม้ วัชพืช และแสงน้อยทำให้เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น ไม่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคนเสียชีวิตที่นี่ และนั่นไม่ใช่รายแรกแน่นอน แต่ถึงรู้ว่าเสี่ยงแค่ไหน…
-
เปิดชีวิต ‘นักโทษเกือบสี่พัน’ ในคุกฟิลิปปินส์ ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับนักโทษเพียง 800 คน
เรือนจำหรือคุก เป็นแหล่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเข้าไปอยู่แน่นอน เพราะนอกจากไม่มีอิสรภาพแล้ว เรายังไม่รู้ด้วยว่า อยู่ในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง วันนี้ก็เลยจะพาชมสภาพคุกแห่งหนึ่ง ที่เห็นแล้วเราถึงกับหดหู่ไปตามๆ กัน…. และนี่คือสภาพนักโทษที่ต้องอยู่กันอย่างแออัดที่เรือนจำ Quezon City อยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยนักโทษมีจำนวนมากถึง 3,600 คน แต่ต้องมาอยู่รวมกันในห้องที่สร้างขึ้นเพื่อคน 800 คนเท่านั้น นักโทษ 3600 คนอยู่รวมกันในเรือนจำที่สร้างขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อน พวกเค้าจะสลับกันนอนที่สนามบาสเกตบอล ตามขั้นบันได ใต้เตียง หรือบางทีก็นำผ้าห่มมาผูกเป็นเปลนอน แต่ทำไงก็ยังแออัดอยู่ดี ที่สำคัญเวลานอน พวกเค้าไม่สามารถยืดแขน ยืดขาได้อย่างเต็มที่ด้วย แค่ขบับนิดเดียวก็ไปชนกับคนอื่นแล้ว นอกจากที่นอนแล้ว ด้านอาหารการกินก็ไม่เพียงพอด้วย รายงานจากบางแห่งบอกว่า บางทีก็มีซากแมลงในอาหารอีกต่างหาก แต่พวกเค้าก็ต้องทนกับสภาพแบบนี้เพื่อความอยู่รอด นักโทษนอนเบียดกันบนพื้นในเรือนจำ Quezon City Raymund Narag อดีตนักโทษที่เคยติดคุกนาน 7 ปี ด้วยข้อหาฆาตกรรม (ซึ่งเขาอ้างว่าไม่ได้ทำ) ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘เสรีภาพและความตายในคุก’ โดยภายในหนังสือเล่มนี้ เขาได้เขียนเล่าประสบการณ์ตลอดที่อยู่ในคุกราวกับว่ากำลังเผชิญกับความตายทุกๆ นาที กิจวัตรประจำวันของพวกนักโทษก็คือ ออกกำลังกาย…
-
ต้อนรับกลับคุก!! คอนเฟิร์ม “ทีแบ็ก, ซีโน้ต, ซูเคร่” จะกลับมาใน “Prison Break” ภาคใหม่
เมื่อหลายเดือนก่อนเราคงได้ทราบข่าวกันมาแล้วว่าทาง Fox จะนำเอาซีรีส์แหกคุกชื่อดังอย่าง “Prison Break” กลับมาทำใหม่อีกรอบ เพื่อให้แฟนๆได้หายคิดถึง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อหลายปีมาแล้วกับทั้ง 4 ซีซั่น และอีก 1 หนังภาคแยก ซีรีส์นีก็ได้จบไปอย่างสวยงามและทำให้คนพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในตอนนั้นคิดว่าไม่น่าจะมีภาคต่อแล้วล่ะ เพราะมันจบได้ดีแล้ว ซึ่งตอนประกาศที่งาน TCC นั้นเราก็ได้รู้แล้วว่าจะได้นักแสดงคนเดิมอย่าง Wentworth Miller, Dominic Purcell, Sarah Wayne Callies และ Robert Knepper กลับมาเป็นสกอฟิลด์, ลินคอล์น, ซาร่า และตอนนี้ก็ได้ประกาศนักแสดงเพิ่มอีก 3 คน ทำเอาสาวกกรี๊ดลั่นเลย นั่นก็คือ “ทีแบ็ก, ซีโน้ต, ซูเคร่” สหายร่วมคุกจะกลับมาในภาคนี้อีกด้วยนะเออ โดยทำเป็นแบบ 10 ตอนจบ เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับซีซั่นที่ผ่านมา แถมยังมีการสืบสวนแล้วพบว่าสกอฟิลด์ยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย?? ซีรีส์จะฉายทางช่อง Fox ในช่วง 2016 -2017 นี้ ติดตามกันให้ดีๆล่ะ ที่มา ibtimes
-
ชาวเน็ตเดือด หลังหนุ่มออสซี่ 3 คน รอดคุกคดี ‘ข่มขืน’ ไกล่เกลี่ยจ่ายเงินให้เหยื่อ 1 ล้านบาท!!
คดีข่มขื่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากสำหรับทุกคน มันเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยของเราเองก็มีข่าวคราวที่ไม่ดีแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และเป็นที่พูดถึงในเรื่องของบทลงโทษของผู้ก่อคดี ที่ควรได้รับอย่างสาสมกับการกระทำอันชั่วร้ายนี้ เช่นเดียวกันกับที่ต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ผู้กระทำความผิดคือ 3 หนุ่มชาวออสเตรเลีย ทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวสาววัยรุ่นชาวนอร์เวย์ อายุ 17 ปี ภายในบาร์แห่งหนึ่งในประเทศโครเอเชีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 ที่ผ่านมา โดยรับสารภาพข้อกล่าวหาแต่โดยดี Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif ชาวออสเตรเลียที่ข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย หนุ่มออสซี่วัย 20 ต้นๆ สามทั้ง 3 ราย ประกอบไปด้วย Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif เพิ่งเดินทางถึง Melbourne หลังจากที่ต่อสู้ในคดีข่มขืนหญิงสาววัยรุ่นในประเทศโครเอเชีย Dylan Djohan หนึ่งในผู้กระทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย โดยหลังจากเกิดเรื่อง ทางตำรวจโครเอเชียก็ได้ทำการยึดหนังสือเดินทางของทั้งสามคนเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว และได้ทำการยื่นคดีให้กับศาลตัดสินความผิด…
-
ใช่แน่นะ? เหมียวพาไปชม “ฮอลเดน” คุกในนอร์เวย์ หรูหราประหนึ่งอยู่คอนโดเมืองไทย!?
ถือเป็นหลักสากลของโลก ที่ใครๆ ก็รู้กันว่าเมื่อเราทำผิด จะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับหรือจำคุก แต่หากเป็นที่ประเทศนอร์เวย์แล้วล่ะก็ คุณอาจจะอยากเข้าไปนอนในคุกแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรผิดเลยก็ได้นะ เพราะที่นั่นเขาอยู่กินสบายมากประหนึ่งอยู่คอนโดสุดหรูเลยทีเดียว วันนี้เหมียวจะพาไปทัวร์เรือนจำฮอลเดน ที่ตั้งอยู่กลางป่าในประเทศนอร์เวย์กัน เรือนจำแห่งนี้สามารถรองรับนักโทษได้มากถึง 250 คน กว่าครึ่งของนักโทษได้ก่อคดีร้ายแรง เช่นฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน ในขณะที่บางส่วนมีความผิดฐานค้ายาเสพติด แต่ที่เรือนจำฮอลเดนพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพวกเขาให้กลายเป็นคนดีพร้อมกลับสู่สังคม โดยการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมือนกับการอยู่บ้านและมีธรรมชาติรายล้อม ซึ่งสภาพวะแวดล้อมแบบนี้สามารถเอื้อต่อการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้มาก แต่กลับไม่มีนักโทษคนไหนที่คิดจะหลบหนีออกไปเลย จากภาพต่างๆ จะเห็นได้ว่าภายในเรือนจำนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวี ตู้เย็น โต๊ะ เก้าอี้ หนังสือให้อ่าน แถมห้องนอนกับห้องน้ำก็ดูหรูหราเหมือนกับคอนโดที่หลายๆ คนอาศัยอยู่เลย นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่น ห้องดนตรี ห้องสำหรับสวดมนต์ ห้องคอมพิวเตอร์และอีกมากมายให้เหล่านักโทษได้ผ่อนคลายกัน ส่วนทางด้านผู้คุมเรือนจำเองก็มีท่าทีผ่อนคลาย มีการพูดคุยกับนักโทษหรือแม้กระทั่งลงมากินข้าวด้วยก็ยังมี แน่นอนว่าความหรูหราและความสะดวกสบายนั้นจะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเรือนจำแห่งนี้สบายเกินกว่าโทษที่พวกเขาได้ทำไว้ แต่ที่แห่งนี้มีความเชื่อกันว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักโทษ จะได้ผลดีกว่าการลงโทษพวกเขา อีกทั้งยังช่วยหางานให้พวกเขาทำหลังจากที่ออกจาเรือนจำแห่งนี้ไปแล้วด้วย …
-
โครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัข จับคู่นักโทษกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน!!
ว่ากันว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ประโยคนี้ก็ยังคงมีความหมายแบบนั้นอยู่เสมอ แต่ทว่าบางทีมนุษย์เองก็กลายมาเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดของสุนัขเมื่อทอดทิ้งพวกมันไป มนุษย์อาจจะไม่รู้สึกซักเท่าไหร่ แต่มันทำร้ายจิตใจของสุนัขที่รักมนุษย์อย่างรุนแรง และด้วยเหตุนี้เองทีม Canine CellMates ได้จัดโครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัขขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่ไร้ค่าและรู้สึกโดนทอดทิ้งทั้งของตัวนักโทษเอง และสุนัขที่โดนเจ้าของทิ้งและอยู่ในระหว่างรอเจ้าของใหม่ โดยจับคู่ให้มาเจอกัน และอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยโครงการนี้จะช่วยทำให้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งได้ทำการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และได้รับการฝึกฝนเพื่อพร้อมที่จะไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในอนาคต นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุนัขแล้ว อีกด้านหนึ่งก็มีประโยชน์ต่อตัวนักโทษเองด้วย ส่งผลทำให้สุขภาพจิตที่ดีขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า เมื่อได้รับความรักและความเชื่อใจจากสุนัขเหล่านี้ ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปในเชิงบวก หนึ่งในนักโทษก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ความผูกพันระหว่างตัวผมกับเจ้า Fred, เรามาจากคนละที่ เจ้า Fred มาจากที่มันกำลังจะถูกฆ่า และผมก็มาจากสถานที่ที่เลวร้าย ถ้าเจ้า Fred มีโอกาสได้ไปอยู่บ้านใหม่และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ มันก็ทำให้ผมอยากจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ผมอยู่ด้วยเช่นกัน’ ที่มา : unilad, CNN
-
ปอท. คุ้มเข้มการกระทำผิดออนไลน์ ทั้งโพสต์ ไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ แบบไม่คิดอาจติดคุก!!
เดี๋ยวนี้การจะกระทำอะไรในโลกออนไลน์ หรือในสื่อโซลเชียลต่างๆ ก็ได้เริ่มมีการออกนอกลู่นอกทางกันไปมากขึ้น เพราะด้วยความอิสระที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ การปั้นเรื่องราว ปลุกปั่นต่างๆ สามารถทำได้โดยง่าย หลอกให้ผู้อื่นเชื่อ ไหนจะในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นที่อิสระเต็มที่ ล่าสุดนี้ทาง พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) ก็ได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของกฏหมายและพรบ. คอมพิวเตอร์ โดยเน้นย้ำว่า หมดการอ้างวลียอดฮิตติดลมบน ‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’ ซึ่งถ้าหากว่าทำผิดมา จับกลับ ไม่โกง 100% ทั้งนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้เผย 10 พฤติกรรมเสี่ยงคุกในโลกออนไลน์ไว้ทั้ง 10 ประการดังนี้ 1. การอัพโหลดรูปภาพลามกอนาจารทุกรูปแบบ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ตั้งตัวตนปล่อยข่าวลือ ปล่อยข่าวที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. การตัดต่อภาพบุคคลอื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนำมาโพสต์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ…
-
เมื่อเหล่าวายร้ายของ Gotham ถูกจับเข้าซังเต ถูกสลัดคราบมหาวายร้ายไปจดหมดสิ้นเลย!!
ทั้งในฉบับการ์ตูนและภาพยนตร์ของซีรีย์แบทแมนนั้น เหล่ามหาวายร้ายที่ออกมาอาละวาดในเมืองแต่ละตัวก็ใช่ว่ายอมถูกจับกุมกันได้ง่ายๆ กว่าจะจบสิ้นเรื่องราวต่างๆ ก็ทำให้เราลุ้นไปตามๆ กัน และเมื่อไหร่หนอที่เมือง Gotham จะมีความสงบสุข ก็ต่อเมื่อเหล่ามหาวายร้ายโดนจับนั่นเอง!! ภาพวาดของศิลปินนามว่า Phil Cho ได้ถูกเผยแพร่ออกมาแล้ว เมื่อเหล่าวายร้ายที่ออกอาละวาดใน Gotham ถูกจับและใส่ชุดนักโทษสีส้มมาทำประวัติเข้าซังเต เผยทั้งชื่อจริงและฉายาด้วย งานนี้ก็ดูเหมือนว่าจะสงบสุขแล้วล่ะมั้งนะ ฮ่าฮ่า Harley Quinn Two-Face Mr. Freeze The Riddler The Penguin Scarecrow Poison Ivy Catwoman Killer Croc Deadshot Head of the Demon Demon’s Daughter …
-
แออัดขั้นสุด!! ชมภาพเบื้องหลังความหดหู่ของคุกในประเทศบราซิล
หากจะพูดถึงสถานที่ที่ทรมานที่สุดสำหรับมนุษย์แล้วล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นสถานที่ที่ชื่อว่า “คุก” ล่ะนะ เพราะมันมีไว้เพื่อจองจำบุคคลผู้กระทำความผิดนั่นเอง แน่นอนว่าความสะดวกสบายคงไม่เท่ากับการใช้ชีวิตแบบปกติแน่นอน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุกบางแห่งนั้น มันแย่กว่าที่ภาพในหัวของเราจินตนาการไว้เสียอีก เพราะเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เว็บไซต์ Ck101 ได้เปิดเผยภาพชุดหนึ่งของช่างภาพที่ชื่อว่านาย Giuseppe Bizzarr ที่ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายภาพภายในคุกของบราซิล จากภาพจะเห็นได้ว่านักโทษส่วนใหญ่ต้องนอนแออัดกันบนพื้นที่สกปรก และแทบจะไม่มีพื้นที่ว่างให้แบ่งกันนอนได้เลย แถมมาตรฐานสุขอนามัยยังต่ำอีกด้วย เหมียวก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครที่ได้เข้าไปเยือนบรรยากาศแบบนั้นล่ะนะ เห็นแล้วน่าสงสารมากเลยนะเนี๊ยะ ได้แต่หวังว่าพี่ๆจะสำนึกและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีนะจ๊ะ ที่มา ck101 , clipmass
-
พาชมบรรยากาศห้องขังรวมภายในคุกอเมริกา แออัดยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก!!
นับวันอัตราการเกิดอาชญากรรมก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้จำนวนห้องขังนักโทษนั้นมีไม่เพียงพอเสียแล้ว จากที่ต้องแยกขังเดี่ยว ก็เลยต้องทำมารวมกันในห้องขังรวมเช่นนี้ นักโทษภายในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีหลากหลายเชื้อชาติ แต่ส่วนมากจะเป็นชาวลาตินอเมริกัน และข้อหาที่หลายคนถูกจับนั้นก็เนื่องมาจากการพัวพันกับยาเสพติด อาจจะดูสบายๆ หน่อย แต่รับรองว่าคงไม่มีใครอยากเข้าไปใช้ชีวิตแบบนี้ในฐานะนักโทษอย่างแน่นอน!! ที่มา : vdoobv