Tag: คุณครู
-
แม่โพสต์ทวิตเตอร์ ลูกชายทำข้อสอบแบบ “คิดนอกกรอบ” คุณครูใจดีให้คะแนนด้วย!!?
การเป็นคุณครูนั้นบางที่ก็ต้องมีความยืดหยุ่น มีความเปิดใจและเข้าใจเด็ก บางครั้งการเข้มงวดและยึดติดจนเกินไปก็อาจจะไม่ใช่ผลดี ดูเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง คุณครูคณิตศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่นได้ยอมรับว่าเด็กคนหนึ่งตอบถูกและได้คะแนนถึงแม้ว่า เด็กคนนั้นจะไม่ทำตามโจทย์ที่ให้มาก็ตาม Tomoko Takagawa คุณแม่ของเด็กคนดังกล่าวได้โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ @darkmatter_tomo ว่าลูกชายคนเล็กชั้น ป.1 ของเธอได้ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ที่มาพร้อมภาพสีสันน่ารักได้ถูกต้อง โจทย์ข้อที่ 1 มีเป็ดว่ายน้ำอยู่ในบ่อ 4 ตัว และที่กำลังวิ่งมาที่บ่ออีก 1 ตัว ส่วนข้อที่ 2 มีโหลปลาทองอยู่ 2 โหล โหลแรกมีปลาอยู่ 1 ตัว โหลที่สองมีปลาอยู่ 2 ตัว ซึ่งทั้งสองโหลกำลังถูกเทรวมกันในตู้ปลา และคำถามก็คือ “มีเป็ดรวมกันทั้งหมดกี่ตัวและมีปลารวมกันทั้งหมดกี่ตัว?” ถึงตรงนี้เราคงจะตอบกันโดยแทบไม่ต้องคิดว่า เป็ด 5 ตัว และปลา 3 ตัว แต่เจ้าหนูกลับตอบว่า มีเป็ดอยู่ 6 ตัวและมีปลาอยู่ 4 ตัว… ทุกท่านคงคิดว่ามันผิดแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ? แต่เจ้าหนูกลับได้รับคะแนนสำหรับคำตอบเหล่านี้ เพราะว่าเขาได้มีการ วาดรูป เป็ดอีกตัวเพิ่มเข้าไป แถมวาดปลาเพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวด้วยเช่นกัน…
-
ผู้ปกครองเดือด! ครูทำโทษตัดผมลูกสาวแหว่งจนไม่น่าดู นี่หรือทรงผมที่โรงเรียนต้องการ!!?
ปกติแล้ว ทางโรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะมีกฎเรื่องของเครื่องแบบนักเรียนรวมไปถึง “ทรงผม” ของนักเรียนด้วย ซึ่งหากว่านักเรียนคนใดไม่ปฏิบัติตามก็อาจจะถูกทำโทษด้วยวิธีต่างๆ ได้ ใครเคยพบเจอมาก็คงรู้ดีว่าบางครั้งหากนักเรียนไว้ผมผิดระเบียบ ครูและอาจารย์ก็จะนำตัวเด็กนักเรียนไปทำโทษด้วยการ กล้อนผมหรืออาจจะตัดผมให้เลยก็เป็นได้ ซึ่งถ้าการลงโทษครั้งนั้นทำให้เด็กถูกระเบียบก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ครั้งนี้ จากโพสต์ของทางเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ได้เผยภาพนักเรียนหญิงที่ถูกคุณครูทำโทษด้วยการตัดผมท้ายทอยออก ทว่าการทำโทษครั้งนี้ดูจะเกินเหตุไปหน่อย . . . เมื่อพบว่า ผมของเด็กหญิงคนนี้ถูกคุณครูตัดเสียจนแหว่งจนดูไม่เรียบร้อย และดูเกินเหตุไปกว่าการทำให้เด็กนักเรียนมีทรงผมที่ถูกระเบียบ ทางผู้ปกครองเองก็ไม่พอใจอย่างมากหวั่นใจว่าเด็กจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีฝังใจ ถึงแม้ในโพสต์ต้นฉบับทางผู้ปกครองของนักเรียนหญิงที่ถูกก้อนผมแจ้งว่าได้ไปเจรจากับทางโรงเรียนและคุณครูมาเรียบร้อย และก็ได้รับคำขอโทษมาแล้ว แต่ชาวเน็ตที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ต่างก็หัวเสียกันเป็นจำนวนมาก . บ้างก็ว่าคุณครูทำเกินเหตุ ผู้ปกครองและเด็กควรได้รับมากกว่าคำขอโทษ บ้างก็ว่าทรงผมนั้นไม่ได้กำหนดผลการเรียนของเด็ก บ้างก็ว่าเด็กหญิงคนนี้ดูไม่น่าเป็นเด็กเกเรทำไมคุณครูถึงไม่เจรจาดีๆ ก่อน ในขณะเดียวกัน บางคนก็เห็นต่างว่า ทรงผมนั้นไม่ได้เกี่ยวกับผลการเรียน เพียงแต่ว่าการลงโทษในครั้งนี้ถือเป็นการสอนให้เด็กรู้จักอยู่ในกฎระเบียบในสังคม ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอยู่เสมอ สำหรับเรื่องทรงผมนักเรียน อยากรู้เหมือนกันนะว่า ผู้อ่านทุกท่านคิดอย่างไรกันบ้าง? ที่มา: เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return via kapook
-
แม่ร้องทุกข์ ครูโรงเรียนดังตีลูกขาเป็นแผลแตก เหตุเพราะ ‘ใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ’!?
เรื่องของการลงโทษการทำผิดกฎระเบียบในโรงเรียนนั้น กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมบ้านเรา ณ ขณะนี้ ว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่ หรือรุนแรงเกินไปหรือไม่ การลงโทษแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของใคร ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลายๆ กรณี และเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้เองก็เช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Natthaphong Tansiri ได้ทำการโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ไทยรัฐ แจ้งข่าว-คลิป บอกเล่าเรื่องราวของเด็กนักเรียนที่สวมถุงเท้าผิดกฎจนเป็นเหตุให้ถูกลงโทษ ในโพสต์ผู้ปกครองของเด็กเล่าว่า “ฝ่ายปกครองของโรงเรียนทำโทษนักเรียนที่ทำผิดกฎ ใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ อยากถามครูว่าตีเพื่อสั่งสอน หรือเอาอารมณ์ของครูเป็นที่ตั้ง ถึงได้ตีแตกขนาดนี้ ตีน่ะตีได้ไม่ว่าหรอก แต่แตกขนาดนี้เกินกว่าเหตุรึเปล่าคะ?” เรื่องราวต่อไปนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 861 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 145 ครั้งเลยทีเดียว แต่ละคนก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็เห็นด้วยกับการกระทำของครู “แต่ก่อนผมยิ่งถูกตีหนักกว่านี้แค่นี้จิ๊บๆ ถ้าไม่ตีเด็กไม่รู้จำหรอก” “5555 ดูเหตุที่ตีก่อน ดูอายุที่โดนด้วย คนโพสไม่ระบุ ตอนผม ม.3 โดนหนักกว่านี้อีก ผิดคือผิด แม่บอก” บ้างก็บอกว่าคุณครูทำเกินกว่าเหตุ “เกินเหตุแล้ว…
-
คุณครูผู้น่ารัก นั่งทำอาหารเช้าหน้าห้องเรียน มอบให้กับนักเรียนที่ไม่มีอาหารพกติดตัวมา…
เรื่องราวเล็กๆ อันน่าประทับใจของคุณครูชาวต่างชาติ ที่มักจะมองในจุดที่ขาดสำหรับนักเรียนอยู่เสมอ อย่างในเรื่องของมื้ออาหารสำคัญที่สุดของวัน นาย Johnston คุณครูวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียน Clear Springs High School รัฐเท็กซัส ต้องการให้ลูกศิษย์ของเขาสามารถสอบผ่านโครงการ AP English ให้ได้ เขาจึงมอบอาหารตอนเช้าด้วยแซนด์วิชแยมเนยถั่ว คุณครูนำโต๊ะมาตั้งกลางโถงทางเดิน และมอบแซนด์วิชให้กับลูกศิษย์ที่ไม่ได้พก หรือลืมนำอาหารเช้าติดตัวมาในวันสำคัญเช่นนี้ Hannah ลูกศิษย์ผู้เก็บภาพอันน่าประทับใจของคุณครูเอาไว้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า… “คุณครู Johnston มักจะคอยให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ในเช้าวันนั้นเขาทำแซนด์วิชให้นักเรียนในตอนเช้าก่อนเข้าสอบ และผลการสอบในครั้งนี้จะสามารถนำไปเป็นหน่วยกิตสำหรับเข้าเรียนในระดับวิทยาลัยได้ แถมการสอบก็กินเวลานานและน่าเบื่ออีกต่างหาก …ก่อนที่จะเริ่มสอบตอน 7 โมงเช้า คุณครูก็ตั้งโต๊ะและเก้าอี้ มีขนมปังทั้งหมด 3 ชนิด เนยถั่วสูตรธรรมชาติ และแยมองุ่น แน่นอนว่าเขาล้างมือมาก่อนทำแซนด์วิชให้นักเรียนด้วย เขาตั้งใจทำให้นักเรียนก่อนเข้าห้องสอบจริงๆ แถมอาหารที่เขาทำก็มีสารอาหารและพลังงานเพียงพอที่จะช่วยให้ทำข้อสอบได้อย่างเต็มที่ …ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าบุคลากรทางการศึกษาจะใส่ใจกับลูกศิษย์ได้มากขนาดนี้ และบ่อยครั้งก็มักจะถูกมองข้ามไป ฉันรู้สึกยินดีกับคุณครู…
-
เมื่อเด็กชายออทิสติก นำเครื่องอัดเสียงใส่กระเป๋าไปโรงเรียน ทำให้ครูถูกไล่ออกถึง 2 คน!!
เรื่องราวของเด็กชาย Camden Davis วัย 12 ปี จากรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ผู้เข้าเรียนในโรงเรียน Hope Academy ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยสถานศึกษาแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับสอนนักเรียนผู้ที่มีความต้องการเป็นพิเศษ จากคำโปรโมทหน้าเว็บไซต์ของโรงเรียนกล่าวถึง “การให้กำลังใจ ความสัมพันธ์เชิงบวก และจดจำความสำเร็จของนักเรียน” Camden Davis วัย 12 ปี โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ Hope Academy Camden เป็นเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกอย่างหนัก และ Milissa ผู้เป็นแม่ของเขาก็ได้พาเข้าเรียนที่ Hope Academy แห่งนี้โดยหวังว่าทางโรงเรียนจะช่วยสนับสนุนและเข้าใจสิ่งแวดล้อม ที่จะผลักดันให้ลูกชายสามารถเรียนรู้ในทางของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาแห่งความเครียดในตัว Camden หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน และนั่นทำให้เธอรู้ได้ว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแล้วแน่ๆ โดยปกติแล้วลูกชายจะมีความสุขและสดใสอยู่เสมอ จนช่วงหลังลูกชายเริ่มมีความฉุนเฉียวและปัสสาวะบนเตียงอยู่บ่อยครั้ง คุณแม่พยายามติดต่อไปยังทางผู้บริหารของโรงเรียน แต่กลับไร้วี่แววใดๆ ในวันหนึ่ง คุณแม่ตัดสินใจที่จะแอบใส่เครื่องบันทึกเสียงไว้ในกระเป๋าของลูกชาย เพื่อที่จะค้นหาต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายรู้สึกไม่สบายใจ อย่างที่เขาไม่สามารถระบายออกมาเองได้ แล้วก็ได้พบกับความจริงที่ว่า…
-
ครูสั่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ นักเรียนเลยพกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาเลย!!
ลูกเล่นตุกติกของกลโกงข้อสอบนั้น มีทุกยุคทุกสมัยเสียจริง ตั้งแต่วิธีการจดโน้ตเล็กๆ เก็บในกระดาษใบน้อย การบอกข้อที่ถูกต้องผ่านโค้ดลับต่างๆ สารพัดวิธีที่คนอยากจะโกงข้อสอบนั้นสุดจะคิดได้… ยิ่งในสมัยนี้ เทคโนโลยีทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และการมาของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้ ก็ไม่แปลกที่จะถูกสั่งห้ามใช้ ห้ามพกเข้าห้องสอบไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการโกง อีกหนึ่งเหตุผลที่มักจะใช้อ้างก็คือ ใช้โทรศัพท์เพื่อฟังเพลงระหว่างทำข้อสอบ Eric Saueracker คุณครูชาวแคนาดาท่านนี้ ก็รู้ในความต้องการของนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะแอบใช้หาคำตอบกันหรือเปล่า ก็เลยสั่งห้ามไม่ให้พกเข้าห้องสอบ เพื่อให้การสอบวิชาฟิสิกส์นั้นเป็นไปตามที่หวังไว้ แต่แล้วนักเรียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดใจกับวิถีโบราณ เพราะดันนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าห้องสอบแทนนี่สิ! ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ นำ แผงกั้นมาวางไว้หน้าตัวเองเพื่อกันคนอื่นลอกคำตอบ แต่หมอนี่ดันใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเปิดเพลงของ Kanye West อัลบั้ม The College Dropout ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบเลย ฮร่าาาา ทางด้านนาย Eric คุณครูผู้สอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในระหว่างการทำข้อสอบมิดเทอมของวิชาฟิสิกส์ คำตอบในข้อสอบมีในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นก็ต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ…. ผมพูดติดตลกไปว่า สามารถนำเครื่องเล่นเทปหรือซีดีเข้ามาได้ หากอยากจะฟังเพลง แล้วก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่านำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาได้รึเปล่า?” “ผมก็คิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ เจ้านี่มันหัวหมอชะมัดผมก็บอกไปว่าโอเคไม่มีปัญหา แล้วเขาก็เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาจริงๆ ลากสายยาว…
-
ครูโพสต์บ่น ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารัก สปอยล์ลูกซะเละ’ แถมแฉโรงเรียน ไม่มีใยดีใดๆ กับครูเลย…
ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา จะมีการวางระบบทางสังคมพื้นฐานมาเป็นอย่างดี แต่ทว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมเสื่อมตามเช่นกัน… อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่สำหรับปัญหาของระบบการศึกษานั้นเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นทุกวัน เมื่อคุณครูท่านหนึ่งจากรัฐเท็กซัส ได้ทำการโพสต์เพื่อระบายความในใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าหดหู่ที่กำลังเกิดขึ้นในโรงเรียนของเธอ Julie Marburger Julie Marburger คุณครูสอนระดับชั้นเกรด 6 (ป.6) ของโรงเรียน Cedar Creek Intermediate School ได้หมดความอดทนในวิชาชีพของตัวเอง หลังจากที่ทำงานในฝันงานนี้มานับสิบปี… “มันคือความฝันของฉัน ตั้งแต่จำความได้ว่าอยากจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง และตอนในใจของฉันแหลกสลายหลังจากที่ไม่ได้รับแยแสใดๆ ใน 2 ปีที่ผ่านมา” พ่อแม่ไม่ให้ความเคารพคุณครู และเด็กๆ ก็แย่ยิ่งกว่า ผู้บริหารโรงเรียนก็เอาใจผู้ปกครอง นั่นจึงทำให้เธอไม่อาจปฏิบัติตามวิชาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่อ ‘สอนเด็ก’ ได้ เธอลาออกจากการสอน และได้แสดงให้เห็นว่าทำไมเธอถึงหมดกำลังใจที่จะเป็นครู เนื่องจากความบกพร่องของผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และการสนับสนุนของภาครัฐ… โพสต์ดังกล่าวของเธอถูกแชร์ไปกว่า 400,000 ครั้งในโลกออนไลน์ พร้อมกับได้รับความเห็นใจจากเพื่อนร่วมวิชาชีพครูที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน Julie เชื่อว่าครูท่านอื่นเริ่มลาออกตามๆ กัน เพราะวิกฤตในระบบการศึกษาที่กำลังเสื่อมลง…
-
สองมาตรฐานมีจริงหรือ… เมื่อคุณครูหญิง เป็นผู้คุกคามทางเพศนักเรียน กระแสบอกให้ผ่อนปรน
ในต่างประเทศมักจะมีข่าวฉาวเกิดขึ้นระหว่างนักเรียนและคุณครูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอัตราส่วนระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเป็นผู้กระทำนั้นอาจไม่เท่ากันอย่างที่เป็นข่าวใหญ่โต… แต่สำหรับในคดีความที่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายคุณครูผู้หญิงกับนักเรียนชาย กระแสสังคมกลับมีทีท่าแสดงออกต่อผู้กระทำความผิดแตกต่างจากฝ่ายชายมากน้อยแค่ไหน? Stephanie Peterson อย่างเช่นในกรณีของนาง Stephanie Peterson (ข่าวเก่า) ชาวเน็ตต่างออกมาให้ความคิดเห็นในเชิงตลกอย่างเช่น “เราควรจะปล่อยเด็กชายผู้โชคร้ายรายนี้นะ เพราะกำลังเข้ารับผ่าตัดข้อมือจากการใช้งานอย่างหนัก” และข้อความอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เป็นที่น่าตกใจ เมื่อกระแสสังคมที่แสดงทัศนคติต่อกรณีแบบนี้ มองว่าไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรหากมีความสัมพันธ์ล่วงเกินกับคุณครูสาวที่มีความดึงดูดทางเพศสูง จากผลการศึกษาในปี 2013 พบว่าผู้หญิงเป็นผู้ลงมือกระทำล่วงเกินทางเพศเด็ก ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ คิดเป็นอัตราส่วน 19% โดยใช้ผลประโยชน์จากความเชื่อใจของเหยื่อ “ผู้กระทำการล่วงเกินทางเพศที่เป็นผู้หญิงมักถูกมองข้ามจากการรับรู้ของคนในสังคม เนื่องจากสังคมไม่คิดว่าผู้หญิงจะสามารถเป็นผู้กระทำความผิดได้เช่นเดียวกับผู้ชาย” ผลสรุปจากการศึกษากล่าวทิ้งท้าย… Alexandria Vera คุณครูภาษาอังกฤษถูกตัดสินจำคุก 10 ปี จากการคลุกคลีกับศิษย์วัย 13 ปี ความสองมาตรฐานจะเกิดขึ้นทั้นที เมื่อพบว่าคุณครูผู้หญิงใช้ตำแหน่งหน้าที่ล่วงเกินเด็ก แตกต่างจากผู้ชายที่ถูกเปิดเผยจากการกระทำเดียวกัน ผู้คนส่วนมากมักจะรู้สึกรังเกียจและโกรธชังเหล่าเฒ่าหัวงูเพศชาย ไม่ว่าจะมีอายุในช่วงไหนก็ตาม ที่ถูกจับได้ว่าล่วงเกินเด็ก แต่เมื่อสลับเพศของผู้กระทำความผิด ผู้คนบางส่วนกลับมองว่านักเรียนไม่ได้ตกเป็นเหยื่อแต่อย่างใด Haeli Way คุณครูจากรัฐเท็กซัสถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังมีเรื่องอื้อฉาวกับนักเรียนวัย…
-
สุดประทับใจ นักเรียนกว่า 1,700 คน ทำพิธีเต้น Haka เพื่อส่งคุณครูอันเป็นที่รักครั้งสุดท้าย
นักเรียนกว่า 1,700 คน เข้าร่วมพิธีศพของอาจารย์สุดที่รัก Dawson Tahana Tamatea ที่เสียชีวิตในวัย 55 ปี ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันขณะที่กำลังหลับอยู่ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมปี 2015 คุณครู Dawson เป็นที่รักของนักเรียนเป็นอย่างมาก เขาเริ่มต้นการสอนในโรงเรียนไฮสคูล Palmerston North Boy’s มาตั้งแต่ปี 1986 แถมยังเป็นคนสอนวิชา Te Reo Maori ซึ่งเป็นภาษาทางการดั้งเดิมของชาวเผ่าเมารี ที่เป็นบรรพบุรุษของชาวนิวซีแลนด์ และหลักสูตรที่เขาสอนก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของโรงเรียนมาตลอด 29 ปี อย่างที่รู้กันดีว่าการเต้น Haka หรือ ฮาคา เป็นกิจกรรมการเรียกขวัญและกำลังใจก่อนออกไปรบของชาวเผ่าเมารีโบราณ ซึ่งในประเทศนิวซีแลนด์การกระทำ Haka นั้นเราสามารถเห็นได้จากทีมรักบี้ หรือกีฬาต่างๆ ที่เขาจะเต้นเพื่อปลุกใจก่อนลงสนาม และครั้งนี้นักเรียนชายทั้งโรงเรียนกว่า 1,700 คนที่มาร่วมงาน ร่วมกันเต้น Haka เพื่อส่งคุณครู Dawson…
-
ครูสาววัย 26 ปี ถูกจับฐานส่งภาพนู้ดให้ลูกศิษย์ พร้อมเลี้ยงต้อยด้วยสมุนไพรมหัศจรรย์…
เป็นเรื่องเป็นราวที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ไม่น้อยเลย เมื่อกล่าวถึงคุณครูผู้มีหน้าที่บ่มเพาะสั่งสอนนักเรียนให้มีความรู้ตามระบบการศึกษา แต่ทว่าในกรณีนี้กลับเลยเถิดไปไกลกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก… เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ Fox News และ Dailymail ได้รายงานข่าวการจับกุมตัวคุณครูสาว Stephanie Peterson วัย 26 ปี ในเมือง New Smyrna Beach รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา Stephanie Peterson วัย 26 ปี อดีตคุณครูสอนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมต้น โดยที่ต้นเหตุของเบาะแสของการเข้าจับกุมนั้น เริ่มต้นมาจากที่ลูกศิษย์ชั้นเกรด 8 (เทียบเท่าชั้น ม.2) ได้สารภาพกับพ่อแม่ว่าคุณครูสาวรายนี้จะแวะมารับที่บ้านช่วงเวลา 23.00 น. เป็นประจำ และจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบส่วนตัวร่วมชั่วโมง ก่อนจะส่งกลับบ้านในช่วงเวลา 01.00 น. หรือ 02.00 น. และนอกเหนือจากนั้น เธอก็ได้ส่งรูปภาพนู้ดของเธอเองให้กับลูกศิษย์ พร้อมกับจะส่งกัญชาให้เขาได้นำไปใช้เสพอีกด้วย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงเอาไว้ว่า คุณครูวิทยาศาสตร์สาวรายนี้เริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017…
-
อจ. ท้า นร. ถ้าคนรีทวีต 6,700 ครั้ง จะเปลี่ยนข้อสอบฟิสิกส์เป็นเกม Fortnite ดั๊นทำได้จริง!!
เมื่อรับปากอะไรไว้แล้ว สัญญาก็ต้องเป็นสัญญาแม้สิ่งที่รับปากกับสิ่งที่ต้องทำจะสวนทางกันสุดๆ ก็ตาม!! Mike McCray อาจารย์สอนวิชาฟิสิกส์โรงเรียนมัธยม Tippecanoe ในรัฐโอไฮโอได้บอกเล่าเรื่องราวสุดเงิบของเขา หลังจากที่เขาได้รับปากพนันกับนักเรียนของตัวเอง “พวกเขาให้ผมเลือกเลขอะไรก็ได้ ในตอนแรกผมได้เลือกเลข 11.235 แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลขเต็มหน่วย ผมจึงเลือกใหม่เป็น 6,700 ซึ่งนักเรียนก็ได้บอกกับผมว่า เขาทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ของตัว ถ้าเขาสามารถให้คนมารีทวีตได้ 6,700 คน เขาขอให้ผมออกข้อสอบเป็นเกม Fortnite และผมก็ตอบตกลงรับคำท้านั้น” Mike McCray บอกว่าจริงๆ แล้วตัวเขานั้นไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ จึงไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่จะออกมามันจะเป็นไปในทิศทางไหน และตัวเขาก็สอนฟิสิกส์เพียงอย่างเดียว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกม Fortnite ที่นักเรียนพูดถึงเลยสักอย่าง จนกระทั่งผลที่ออกมาก็เล่นเอาตัวอาจารย์ต้องอึ้ง เพราะว่ามีคนรีทวีตข้อความของนักเรียนผู้ท้าชิงถึง 30,000 ครั้ง งานนี้ตัวอาจารย์ Mike ก็ตัดสินใจที่จะทำตามสัญญา แต่ขอเวลาอีกไม่นานเพื่อไปศึกษาและออกข้อสอบเกี่ยวเกมดังกล่าวนั่นเอง อาจารย์คงต้องออกข้อสอบว่า ยิงอย่างไรให้กระสุนมันไปตกโดนตัวศัตรูพอดี หรือไม่ก็สร้างฐานอย่างไรให้มีองศาที่พอดี อาจารย์ได้เล่าปิดท้ายว่า “เอาจริงๆ นะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวิดีโอเกมเลย และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเด็กๆ พูดเรื่องอะไรแล้วจะให้ผมออกสอบเป็นอะไร…
-
เพราะขาดแคลน… คุณครูต้องใช้ ‘ชอล์ก’ วาด Microsoft Word สอนนักเรียนบนกระดาน
เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ได้มีการโพสต์ภาพไวรัลที่กำลังกลายเป็นประเด็นที่หลายๆ คนพูดถึงในต่างประเทศ กับภาพของการเรียนการสอนวิชา ICT (Information and Communications Technology) ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศกานา Owura Kwadwo คุณครูผู้สอน ได้ทำการวาดภาพจำลองหน้าตาของโปรแกรม Microsoft Word ลงบนกระดานดำด้วยชอล์ก เพื่อสอนวิชาเทคโนโลยีให้กับเด็กโดยที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่อยู่ในชนบท นักเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเกษตรกร โรงเรียนขาดอุปกรณ์การเรียนพิ้นฐานหลายๆ อย่าง แต่คุณครูทุกท่านก็หาวิธีที่จะดัดแปลงสื่อการสอนให้เด็กๆ เสมอ ภาพที่คุณครูบรรจงวาดภาพหน้าต่างของโปรแกรม Microsoft Word ให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงส่วนประกอบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน แสดงให้เห็นความตั้งใจที่จะสอนให้นักเรียนได้รู้ ถึงแม้ว่าจะขาดเครื่องมือสำคัญก็ตาม คุณครู Owura กล่าวว่า “คุณครูทุกคนมีวิธีการนำเสนอเรื่องราวของแต่ละคน และนี่ก็คือวิธีการสอนของผม ผมทำให้นักเรียนเข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังสอน อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาได้เห็นว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร” หลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ออกไปทางเฟซบุ๊ก ก็มีคำถามมากมายว่า “นี่มันปี 2018 แล้ว ทำไมที่โรงเรียนยังไม่มีคอมพิวเตอร์” นาย Owura ตอบว่า “ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกำลังพยายามที่จะพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้กับครูและนักเรียน ขนาดเมืองใหญ่ๆ ยังเกิดขึ้นได้ช้า ส่วนโรงเรียนในชนบทก็น่าจะมาช้ากว่านั้น” …
-
โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า
ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…
-
ครูสาวโรงเรียนคาธอลิกถูกไล่ออก หลังแต่งงานกับเพศเดียวกัน อ้างขัดหลักความเชื่อ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีคนเปิดรับและให้การสนับสนุนกลุ่ม LGBT หรือก็คือกลุ่มผู้มีความหลากหมายทางเพศมากขึ้น จึงมีหลายประเทศอนุญาตให้คนกลุ่มนี้แต่งงานกันได้แล้ว ที่รัฐไมอามีประเทศสหรัฐอเมริกาก็ให้กลุ่มรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา แต่พอครูสาวในรัฐนั้นแต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกัน เธอก็ถูกทางโรงเรียนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ทันที โดยอ้างว่าขัดต่อความเชื่อของคาธอลิก อดีตครูสาว Jocelyn Morffi สาว Jocelyn Morffi อาศัยอยู่ในรัฐไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอสอนหนังสือให้นักเรียนเกรด 1 (เทียบเท่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1) ในโรงเรียนคาธอลิก Saints Peter and Paul Catholic School มา 7 ปีแล้ว เธอเป็นคุณครูที่มีความสามารถและมีจิตใจดี เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รัก Natasha Hass ที่หาด Florida Keys ในรัฐฟลอริด้า ทั้งคู่มีความสุขกันมาก แต่เมื่อเธอกลับมาทำงานทางโรงเรียนก็ไล่เธอออกโดยไม่บอกเหตุผล เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รักไปเมื่อไม่นานนี้ เธอจึงโพสต์เล่าเรื่องราวลงในโซเชียลมีเดียว่า “เมื่อสุดสัปดาห์นี้ฉันเพิ่งแต่งงานกับคู่ชีวิตไป แต่โชคร้ายที่การแต่งงานครั้งนี้ทำให้ฉันถูกไล่ออก ในสายตาของพวกเขาฉันเลือกคู่ชีวิตที่ไม่ตรงตามความเชื่อของคาธอลิก …” โพสต์ของครูสาวหลังจากเธอโดนไล่ออก นอกจากตัวเธอเองแล้ว ผู้ปกครองหลายคนก็ได้รับจดหมายแจ้งข่าวจากทางโรงเรียนถึงการไล่ครูสาวออกเช่นกัน ผู้ปกครองส่วนมากรู้สึกไม่พอใจเลยกับการตัดสินใจของทางโรงเรียน เพราะในจดหมายไม่ได้แจ้งเหตุผลที่หนักแน่นพอให้ไล่เธอออก ในจดหมายมีใจความว่า…
-
ดราม่าหนัก!! คุณครูโรงเรียนที่ญี่ปุ่นใช้กรรไกรตัดผมนักเรียนกว่า 44 คนเพราะยาวเกินไป
สำหรับโรงเรียนบางโรงเรียน ก็อาจจะมีกฎระเบียบในเรื่องของการแต่งกายรวมถึงทรงผม ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นเรื่องของทรงผมถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องคุณครูที่สั่งให้ย้อมผมเป็นสีดำในประเทศนี้ และเรื่องของทรงผมก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีคุณครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตัดผมให้แก่นักเรียนที่มีความยาวของเส้นผมเกินกว่าที่ระเบียบกำหนดไว้ถึง 44 คน ในระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา!! ตามรายงานกล่าวเอาไว้ว่า คุณครูที่กระทำการดังกล่าวคือคุณครู 6 คน ของโรงเรียนมัธยม Mizuhashi จังหวัดโทะยะมะ ที่ใช้กรรไกรตัดผมเด็กนักเรียนกว่า 44 คนที่มีผมยาวเกินไปและแสดงให้เห็นถึงการต่อต้านระเบียบวินัยเรื่องการแต่งกายของโรงเรียน ซึ่งการตัดผมในลักษณะนี้ ทางโรงเรียนกล่าวเอาไว้ว่าได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2017 และกระทำมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยทางโรงเรียนจะมีการตรวจเช็กระเบียบการแต่งกายรวมถึงเรื่องทรงผมในทุกๆ เดือน และนักเรียนที่ดูมีเส้นผมยาวเกินกว่าที่กำหนดจะได้รับคำเตือนให้ไปตัดผม แต่ถ้ายังไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นหน้าที่ของคุณครูในการตัดผมให้แก่นักเรียนเหล่านี้ ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคุณครูคนไหนที่ผ่านการฝึกตัดผมมาแล้วบ้าง แต่ทางสื่อก็ได้สันนิษฐานว่า ทรงผมที่นักเรียนได้รับอาจจะไม่ใช่ทรงผมที่พวกเขาถูกใจที่สุด แต่อาจจะเป็นทรงผมที่ตัดเพื่อให้สั้นพอที่จะไม่ผิดระเบียบของโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ทางโรงเรียนก็ได้อ้างว่า พวกเขาได้รับการอนุญาตจากนักเรียนก่อนที่จะมีการตัดผมเกิดขึ้น แต่ทางสื่อของประเทศญี่ปุ่นก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เด็กๆ จะสามารถพูดอะไรได้หากคนที่มีอำนาจเหนือกว่าพวกเขาอย่างคุณครู เดินตรงมาหาพร้อมกับมีกรรไกรอยู่ในมือ ต่อมาทาง Yasuhiro Nakada คุณครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวก็ได้ออกมาให้คำแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น จากนี้ไปเราจะมีทีมผู้บริหารคอยตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก” เมื่อข่าวนี้ได้แพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นจำนวนมากออกมาวิพากษ์วิจารย์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนแห่งนี้อย่าง “นี่เป็นเรื่องจริงๆ เหรอ นี่เรายังอยู่ในยุคเก่าอยู่ใช่ไหมเนี่ย จุดประสงค์ของกฎข้อนี้คืออะไรกัน?” “คุณครู…
-
คุณครูก๊อปปี้ทรงผมของนักเรียนหญิง เพราะว่ามันช่างน่าร้ากกกกกก ซะเหลือเกิน
เรื่องราวน่ารักๆ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ กลายเป็นกระแสไวรัลยอดฮิตในทวิตเตอร์ที่มีผู้รีทวีตกว่า 43,000 ครั้ง มียอดกดชื่นชอบกว่า 148,000 ครั้ง เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนประถมศึกษา Lakeview ในชูการ์แลนด์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาภาพของคุณครูสาวที่ทำผมทรงเดียวกับนักเรียนหญิงธรรมดาๆ นี้กลับกลายเป็นภาพสุดประทับใจให้แอบอมยิ้มตามกับความน่ารักนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @JArdoin_814 ทวีตว่า “คุณครูคนนี้ นางสาว Bishop จากโรงเรียน Lakeview แห่งเมืองชูการ์แลนด์ เธอชอบทรงผมของนักเรียนหญิงของเธอคนหนึ่งมากๆ แต่ไม่มีใครคิดว่าเธอจะชอบถึงขนาดไปทำทรงผมเหมือนนักเรียน พอทำมาแล้วก็เหมือนกันเป๊ะ น่ารักสุดๆ” Leigha Bishop คุณครูผู้อยู่ในภาพบอกว่า เธอชอบผมเปียของนักเรียนตัวน้อยของเธอมากๆ แต่นักเรียนของเธอไม่คิดว่าคุณครูจะชอบถึงขนาดก๊อปปี้ทรงผมของเธอมาแบบเป๊ะๆ “เด็กน้อยไม่เชื่อว่าฉันอยากจะทำมันจริงๆ แต่พอเธอกกลับบ้านเธอก็บอกให้กับแม่ของเธออย่างภูมิใจว่าคุณครูนั้นชอบทรงผมสุดเท่ของเธอ” Leigha กล่าว ความน่ารักของภาพนี้ถูกโฟกัสไปที่รอยยิ้มอันสดใสของเด็กน้อยที่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจสุดๆ มันเป็นอีกหนึ่งความฝันของเด็กน้อยที่จะถูกคุณครูชื่นชม และคิดว่าใครหลายๆ คนคงจะเคยอยากให้คุณครูรักเราแบบนี้ คุณครูสาวกล่าวขอบคุณเจ้าของทวิตเตอร์ เธอไม่คิดว่าเรื่องราวเล็กๆ นี้จะเป็นที่ชื่นชอบของคนในทวิตเตอร์มากขนาดนี้ นอกจากยังมีคอมเมนต์อีมากมายที่กล่าวชื่นชมว่าคุณครูช่วยเติมเต็มให้เด็กหญิงได้มีความสุขผ่านยิ้มน่ารักๆ ของเธอ ที่มา distractify
-
เด็ก 7 ขวบ เอาชนะโรคออทิสติกได้ด้วยโยคะ แถมยังยึดเป็นอาชีพทำเงินได้กว่า 5 แสนบาท
สำหรับในวัยเด็กของใครหลายคนนั้น ก็คงจะเป็นวัยที่เรากำลังเล่นซนกับเพื่อนๆ อยู่อย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดถึงอะไรในวันข้างหน้า แต่ว่ามีเด็กวัยเพียง 7 ขวบคนหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วๆ ไป เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ก็คือการเล่นโยคะ และกิจกรรมที่เขาทำอยู่นี้ก็ทำให้เขาสามารถเอาชนะโรคออทิสติกของตัวเองมาได้ และที่สำคัญคือเขามีความเชี่ยวชาญ ถึงขั้นเป็นคุณครูสอนโยคะที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศจีนเลยทีเดียว โดยชื่อของเด็กคนเก่งคนนี้ก็คือ Sun Chuyang จากเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยเขาได้เริ่มรู้จักกับการเล่นโยคะมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน และก็ทำมันเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2017 เขาก็มีความเชี่ยวชาญจนถึงขั้นได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการ ในการเป็นครูโยคะมืออาชีพเลยทีเดียว ซึ่งในงานของเขานั้น ก็จะมีหน้าที่สอนโยคะให้กับเด็กคนอื่นๆ ในคลาสเรียนที่ในปัจจุบัน เขาได้ฝึกสอนให้แก่นักเรียนแล้วมากกว่า 100 คน และสามารถทำรายได้ให้กับเขาไปแล้วกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเขาเลย เพราะว่าในตอนที่ Sun มีอายุ 2 ขวบนั้น เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคออทิสติก จนทำให้แม่ของเขาต้องออกจากงานเพื่อจะใช้เวลามาดูแลเขา และช่วยให้เขาสามารถเอาชนะโรคที่เกิดขึ้นนี้ได้ ซึ่งในที่สุดแล้ว คุณแม่คนเก่งก็แนะนำให้เขารู้จักกับการเล่นโยคะ แล้วก็พบว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้เป็นอย่างดี ทว่าในช่วงแรกๆ นั้นคุณครูที่สอนโยคะให้กับ Sun…
-
คุณครูอาสารู้สึกผูกพันกับนักเรียนเจ้าปัญหา หลังหมดสัญญาสอน ก็รับเขาเป็นลูกบุญธรรม…
คุณครูและนักเรียนเป็นความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีความผูกพันกันมาก เพราะคุณครูหลายคนมักจะเอ็นดูลูกศิษย์เหมือนเป็นลูกแท้ๆ และนักเรียนเองก็รู้สึกว่าคุณครูเป็นผู้มีพระคุณของเขาเช่นกัน แต่คงมีครูน้อยคนนักที่จะมีสายใยลึกซึ้งกับลูกศิษย์ อย่างคุณครูสาว Chelsea Haley เธอรู้สึกถูกชะตากับนักเรียนที่ดูแลอยู่มากๆ ถึงขนาดที่ว่ารับเขามาเป็นลูกบุญธรรมเลยล่ะ… คุณครูสาว Chelsea Hailey และ Jerome Robinson นักเรียนเจ้าปัญหาของเธอ Haley เป็นคุณครูขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Teach For America ซึ่งจะส่งอาสาสมัครไปตามโรงเรียนที่มีค่าจ้างต่ำ เพื่อช่วยเหลือด้านการสอนในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน เธอถูกส่งมาสอนที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงแบตันรูซ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับนักเรียนเจ้าปัญหาชั้นเกรด 4 (เทียบเท่าป. 4) เป็นครั้งแรก และเขาก็คือหนุ่มน้อย Jerome Robinson Robinson เป็นนักเรียนที่มีปัญหามาก เขาไม่ตั้งใจเรียนและยังเคยถูกพักการเรียนด้วย ปัญหาของเขาน่าจะเกิดจากการที่ครอบครัวของเขายากจน และเพิ่งเสียคนในครอบครัวไปไม่นาน ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ที่บ้านกับตา ยาย คุณแม่ และน้องชาย Jace เธอเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Teach For America สอนหนังสือโดยไม่แสวงหาผลกำไร Haley เข้าร่วมโครงการในปี 2013…
-
ครูสอนคณิตฯ สุดฮอต ร้อนแรงจนความหนาวก็ทำอะไรพี่แกไม่ได้ ชาวเน็ตตกหลุมรักระนาว!!
การเรียนในห้องเรียนนั้นค่อนข้างน่าเบื่อ จึงต้องอาศัยคุณครูมาช่วยทำให้เด็กสนใจการเรียนมากขึ้น แต่นอกจากเทคนิคการสอนที่สนุกสนานแล้ว ถ้าได้ครูหน้าตาดีมาสอน วิชานั้นจะดูน่าเรียนขึ้นเยอะเลย ถ้าใครคิดแบบนี้เหมือนกันน่าจะอยากมาเรียนกับคุณครู Robert Ligtvoet คุณครูรูปหล่อหุ่นเฟิร์มคนนี้จะมาทำให้ชั้นเรียนของคุณเร่าร้อนจนคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว ครูหนุ่มวัย 28 ปีคนนี้นอกจากจะรับงานสอนหนังสือแล้วเขายังทำงานเป็นนายแบบอีกด้วย นอกจากนี้ยังรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจเลย เวลาเข้าไปส่องรูปในอินสตาแกรมของเขาจึงมีแต่รูปน่าดูน่าชมทั้งน๊านนน พอครูคนนี้เข้ามาสอนทีไรต้องแย่งกันยกมือตอบตลอด คุณครูเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว และก็เป็นคนรักธรรมชาติด้วย หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีอีก ดูเหมือนว่าครูจะชอบสัตว์น้ำเป็นพิเศษนะ เราก็ชอบ มองแล้วเพลินตาจริงๆ อิอิ หูยภาพใต้ผิวน้ำน่าดูมาก รู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจ นอกจากจะรักสัตว์แล้วคุณครูก็ชอบท่องเที่ยวแล้วถ่ายรูปมาฝากด้วย เห็นความงดงามแบบนี้ก็เคลิ้มเลย ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนคุณครูก็จะเอาสูทคู่ใจติดไปด้วยเสมอ มันทำให้เขาดูเร่าร้อนในทุกสภาพอากาศ ปกติไม่ชอบผู้ชายใส่สูทเท่าไหร่นะ แต่คนนี้ยอมยกใจให้ไปเล้ย เอ้ะ คุณครูใส่สูทเป็นชุดนอนเหรอ ทำไมตื่นเช้ามาเป็นชุดนี้เลย บางอารมณ์ครูก็อยากเป็นเงือกเซ็กซี่ดูบ้าง ซี้ดดด คุณครูไม่ได้หุ่นดีอย่างเดียวนะ ยังแข็งแรงมากด้วย ปกป้องเราได้ทุกสถานการณ์แน่นอน ถ้าซานตาคลอสใส่สูทก็คงจะหน้าตาเป็นแบบนี้แหละ หน้าหล่อไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวววว ทำไมคุณครูตกผู้ชายล่ะ คุณครูชอบผู้ชายรึเปล่า!?…
-
เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ เมื่อครูฝึกสอนช่วยให้นักเรียนขี้อาย ค้นพบตัวเองและมีความกล้ามากขึ้น
กลายเป็นเรื่องราวให้ชาวเน็ตได้อบอุ่นหัวใจกันเลยทีเดียว หลังจากที่ครูฝึกสอนชาวมาเลเซียผู้หนึ่ง ได้ช่วยให้นักเรียนคนหนึ่งของเธอ ได้พบกับโลกใบใหม่หลังจากที่เขาเป็นคนขี้อายเอามากๆ คุณ Amymistika ได้เล่าเรื่องราวของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้รับควานิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีคนรีทวีตมากกว่า 67,000 ครั้ง ครูฝึกสอนสาวเล่าว่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอ และ Yip Kah Shzen นักเรียนขี้อายจากโรงเรียนที่เธอฝึกสอนนานกว่า 4 เดือนว่า “ในตอนแรกฉันได้ฝึกสอนนักเรียนห้องคิง ซึ่งฉันจำพวกเขาได้ไม่หมดหรอก และเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เงียบกว่านักเรียนคนอื่นมาก” คุณครูฝึกสอนเล่าผ่านทวิตเตอร์ของเธอ คุณครูฝึกสอน เริ่มให้นักเรียนในห้องของเธอแนะนำตัวทีละคน และ Kah Shzen ก็ทำให้เธอแปลกใจอย่างมาก หลังจากที่เขาไม่กล้าที่จะแนะนำตัว และเอาแต่ก้มมองที่พื้น และถึงแม้ว่าคุณครูฝึกสอนจะพยายามแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ยังไม่ยอมแนะนำตัว จนทำให้คุณครูต้องถามชื่อของเขาจากเพื่อนร่วมชั้นแทน และเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเข้ามาสอนในชั้นเรียน คุณครูสาวก็จะพบว่า Kah Shzen นั้นเอาแต่นั่งเงียบๆ และจ้องไปที่โต๊ะของเขา คุณครูฝึกสอนได้ย้ายเด็กหนุ่มมานั่งหน้าชั้น เพื่อที่เธอจะได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนคณิตศาสตร์ Kah Shzen ลืมนำเครื่องคิดเลขและหนังสือเรียนมา แต่เมื่อถูกคุณครูถามเขาก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดเหมือนเดิม “เขาเอาแต่จ้องโต๊ะ และอาจารย์คนอื่นก็ไม่สนใจเขาเลย เพราะเขาไม่พูดกับใคร” เพื่อนรวมโต๊ะของเด็กชายบอกกับคุณครู ครู Amy คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องหากจะไม่สนใจเขาเหมือนคุณครูท่านอื่นๆ…
-
คุณครูผู้ไม่มีนิ้วมือ อุทิศตนด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อสอนให้กับเด็กที่ยังเรียนอยู่ไม่ไปไหน…
การที่ใครสักคนอุทิศตัวเองเพื่อช่วยเหลือและมอบโอกาสในการศึกษาให้กับผู้อื่นโดยที่ไม่คำนึงถึงความยากลำบากและไม่หวังผลตอบแทนนั้นช่างเป็นเรื่องที่ประเสริฐอย่างยิ่ง บุคคลนั้นก็คือ Chen Haiping คุณครูจากโรงเรียนชนบทวัย 51 ปี ในมณฑลซานซี ประเทศจีนทางตอนเหนือ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นบุคคลตัวอย่างบนเว็บไซต์อาลีบาบาของประเทศจีนจากการทุ่มเทให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ แม้ว่าเขาจะเกิดมาโดยไร้นิ้วมือและนิ้วเท้าก็ตาม เรื่องราวของเขานั้นเริ่มต้นเมื่อเขาได้พบกับครูใหญ่ของโรงเรียนหมู่บ้านลิ่วเจียซาน ในปี 1990 ซึ่งในช่วงเวลานั้นทางโรงเรียนก็กำลังขาดแคลนครู จึงได้จ้างเขามาทำงานแทน Chen กล่าวว่า “ตอนนั้นผมอายุ 23 หลังจากที่ผมเรียนจบมาก็ไม่มีใครจ้างผมเลย งานนี้ทำให้ผมได้รับเงิน 50 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 250 บาท) ซึ่งผมก็พอใจอย่างมาก” แต่อย่างไรก็ตาม งานที่เขาทำอยู่นั้นค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากความพิการของเขา การเขียนกระดานดำด้วยชอล์คจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับเขา บางทีก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากเสี้ยนตำ และชอล์คก็มักจะหลุดจากมือเขาอยู่บ่อยๆ แต่ความลำบากนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้จากการให้ความรู้และการศึกษาแก่เด็กๆ เขาจึงก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่เขาพบเจอ เขาต้องตื่นแต่เช้าและต้องเดินทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อมาศึกษาวิธีการสอนจากครูคนอื่น ก่อนที่เขาจะกลับไปสอนเด็กๆ ของเขาที่โรงเรียน โรงเรียนที่เขาสอนอยู่นั้นตั้งอยู่บนเขาในเมืองหลิ่วหลิน ทางตะวันตกของมณฑลซานซี รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “โรงเรียนผี” ซึ่งแตกต่างกันมากเทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นมีเด็กนักเรียนจำนวนกว่าร้อยคน แต่ตอนนี้เหลือนักเรียนเพียง 6 คนเท่านั้นที่มาเรียนทุกวัน รวมกับ…
-
ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!
สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…
-
50% จอมดุ 50% ปั่นหัว รวมๆ แล้วเป็นเสน่ห์ของครูบาอาจารย์ ช่วยทำให้จดจำช่วงดีๆ ในโรงเรียนได้
เมื่อวันครูที่ผ่านมา นั้นเราเขียนถึงประสบการณ์โหดมันฮาเกี่ยวคุณครู ซึ่งจากในข่าวเก่าจะเห็นว่าคุณครูนั้นก็มีประสบการณ์โหด มัน ฮา ไม่แพ้นักเรียนเลยล่ะ ซึ่งมาคราวนี้เป็นทีคุณครูจากต่างชาติที่ทำอะไรประหลาดๆ เจ๋งๆ ที่ชาวเน็ตช่วยกันแชร์มาให้เราได้ชมกัน ไปรับชมกันเล้ย 1. เมื่อคุณครูของคุณ ต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครลอกข้อสอบแน่นอน 2. เช่นกันกับข้อแรก คุณครูคนนี้ก็กันคนลอกกันเช่นกัน 3. นักเรียนคนหนึ่งนั้นได้ F มาและครูบอกให้ไปเจอหลังเลิกเรียน เด็กคนนั้นเครียดมาก พอไปหาครูเพื่อถามว่าเขาทำไรผิด ครูก็ได้เปลี่ยน F เป็น A และก็บอกแบบกวนๆ ว่าเธอกวนทีนครู ครูเลยอยากให้เธอเจอดีดูบ้าง และนักเรียนคนนั้นก็ไม่เชื่อครูคนนี้อีกทั้งปีเลย 4. คุณครูที่ถึงขั้นเอาโลงศพมาที่ห้องเรียน เพราะว่าคะแนนนักเรียนที่ออกมามันต่ำจนแทบจะทำเขาหยุดหายใจเลย ฮ่าๆ 5. มีนักเรียนคนหนึ่งโดดเรียนเพื่อไปสตรีมเกม และมีคนไปฟ้องอาจารย์ อาจารย์เลยเปิดสตรีมของเด็กคนนั้นให้ทั้งคาบได้ดูเลย ฮ่าๆ 6. นักเรียน: *กรอกตา* อาจารย์: กรอกตาไปเรื่อยๆ นะ เผื่อเธอจะเจอสมองที่นั่นบ้าง 7. คุณครูให้น้องเค้าซ้อมทั้งที่ไม่มีขลุ่ย แสดงว่าครูคิดว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ใช่มั้ยครับบบ…
-
ร่วมรำลึกถึงคุณครูกับแฮชแท็ก #คุณครูครับ รวมประสบการณ์โหดมันฮาจากชาวทวิตเตอร์
เค้าว่าชีวิตช่วงการเรียนหนังสือ เป็นช่วงที่จะแฮปปี้ สนุก โหด มัน ฮา ที่สุดเท่าที่เราจะสามารถพบเจอได้ในชีวิตของเราแล้ว ไม่ว่าเราจะโดดเรียน เจอดุด่า เจอเรียกไปหน้าเสาธง และอีกมากมาย มันก็ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ที่ให้ประสบการณ์พิเศษๆ แก่เรา เมื่อเราผ่านช่วงนั้นมาแล้วก็ยังคิดถึงเวลานั้นเสมอ และในวันที่ 16 มกราคม 2561 นี่เองก็เป็นวันครูแห่งชาติของประเทศไทยเรา ชาวเน็ตหลายๆ คนก็มีประสบการณ์ความทรงจำ โหด มัน ฮา เกี่ยวช่วงเวลาที่เรายังเรียนอยู่ และพวกเค้าก็ได้แชร์ประสบการณ์เหล่านั้นให้เพื่อนๆ คนอื่นได้รับชมกัน โดยแต่ละคนนั้นจะมีวีรกรรมแบบไหนกันบ้างไปชมกันเล้ย เอ้า! นักเรียนโป๊ะแตกกันไปเลย “เล่นกับไฟ ก็จะถูกเผา” โดยอาจารย์ฝรั่ง คุณครูทำหนูนกกลางวงครูทั้งหลายเลยนะคะ เจ็บแต่มันคือเรื่องจริงงง ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างของคุณครูที่นักเรียนจะรักนะ ฮ่าๆ ถ้าเผลอเรียกฉายาต่อหน้าครูล่ะก็ มีเรื่อง! มันก็จะฮาร์ดคอร์ใส่หน่อยๆ เรื่องนี้เหมียวจะไม่ยุ่งแน่ๆ ดีนะครับที่ครูยังมาได้ถึงโรงเรียน ฮ่าๆ เปรียบเหมือนหนังเรื่อง Edge…
-
อาจารย์สายโหด ปลุกนักเรียนขี้เซาด้วยโมเดล ‘ปืนพลาสติก’ ที่เหมือนจริงเกิ๊น!!
อาจารย์แต่ละท่านจะมีวิธีการกระตุ้นนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจให้รางวัลสำหรับคนที่ตั้งใจเรียน หรือบางคนอาจใช้เรื่องเล่าสนุกๆ ทำให้นักเรียนรู้สึกสนใจ แต่สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่นคนนี้กลับมีวิธีการที่ต่างออกไปนิดหน่อย เพราะเขาใช้ปืนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ ภาพเหตุการณ์นี้ถูกถ่ายและโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @komathematicsR ในวันที่ 13 ธันวาคม 2017 เมื่อครูสอนภาษาอังกฤษของเขาควักปืนพกขึ้นมาหวังจะให้นักเรียนตื่นตัวและตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสะดุ้งโหยงกันไปทั้งห้อง จากมุมกล้องทำให้เราเห็นเหมือนกับว่า คุณครูถือปืนจ่อหัวนักเรียน แต่ความเป็นจริงเขาแค่ถือขึ้นมายืนอยู่หน้าห้องแค่นั้น ไม่ได้ไปจ่อหัวใครแต่อย่างใด ก่อนหน้านั้นคุณครูพูดว่า “เวลานี้นักเรียนคงจะง่วงกันหมดแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้สอน นี่เป็นหน้าที่ของผมที่จะช่วยให้ทุกคนมีสมาธิกับการเรียน” แล้วจู่ๆ เขาก็ควักปืนออกมาจากกระเป๋าพร้อมทั้งยืดแขนออกไปเหมือนเล็งขู่ใครซักคน วิธีการนี้ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิตั้งใจเรียนขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าปืนที่ครูหยิบขึ้นมานั้นเป็นเพียงแค่ปืนโมเดลพลาสติกสุดสมจริง ที่ไม่ได้บรรจุกระสุนเอาไว้เท่านั้นเอง อย่าเพิ่งหลับนะจ๊ะเด็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปืนปลอม แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดี นักเรียนคนที่ถ่ายภาพเอาไว้เล่าว่า มันช่วยให้ทุกคนหายจากอาการง่วงนอนแล้วตั้งใจเรียนกันต่อไปได้ แม้บทเรียนในตอนนั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม และวิธีการนี้อาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของใครบางคน แต่อย่างน้อยนักเรียนคนนี้คงเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์ของเขาทำมากจริงๆ เขาพูดว่า “อาจารย์คนนี้เป็นคนตลก เขาไม่ได้พยายามคุกคามพวกเรา แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในวิธีฮาๆ ที่ช่วยทำให้เรามีสมาธิกับการเรียน ผมรักครูคนนี้เพราะเขาทำให้เราสนุกอยู่เสมอ” นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวอยู่เสมอ ลองคิดว่าถ้าเราเป็นนักเรียนอยู่ในห้องนั้น มีหวังเราคงช็อกไปก่อนที่ครูจะเฉลยว่าเป็นของปลอมแน่เลย ที่มา: rocketnews24 , nextshark
-
คุณครูแอบเปิดกระเป๋าเด็กอนุบาล พบว่าเธอพกเจ้าแมวมาโรงเรียนตั้งสองตัว!?
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนรักสัตว์ล่ะก็ คุณอาจจะเคยมีช่วงเวลาที่น่าจดจำเกี่ยวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณในวัยเด็กอย่างแน่นอน และเชื่อแน่ๆ ว่าหนึ่งในวีรกรรมตอนเด็กของคุณก็คือการแอบพกน้องหมาน้องแมวใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วยนั่นเอง เรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าหนูน้อยคนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณครู Anna Kate Hood คุณครูจากโรงเรียนอนุบาล Heard Elementary รัฐจอร์เจีย หลังจากที่เธอได้ทำการตรวจค้นกระเป๋าใบสีชมพูน่ารักของหนูน้อยคนหนึ่ง และพบบางอย่างนอกเหนือจากหนังสือเรียน!! ในวันเปิดเทอมเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คุณครูสาวก็ต้องสะดุดกับกระเป๋าใบสีชมพูสดของสาวน้อยคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่ามันจะหนักกว่ากระเป๋าของเพื่อนๆ ของเธอ คุณครู Anna ตัดสินใจเปิดกระเป๋าของหนูน้อยเพื่อตรวจดูข้างใน และทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ด้านใน… โอ้โห!! มีแมวน้อย 2 ตัวซ่อนอยู่!! ครูสาวได้ถ่ายภาพดังกล่าวพร้อมกับอัปข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เขาบอกให้ฉันเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งบางอย่าง แต่เช้านี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะเปิดกระเป๋ามาเจอลูกแมวน้อย นักเรียนของฉันบอกว่าเธออยากเอาอาหารให้กับมัน และคอยดูแลมันใต้โต๊ะหลังจากที่เธอเรียนเสร็จ” ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณครูสาว เรื่องราวของหนูน้อยและเจ้าเหมียวทั้งสองได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนร่วมแชร์ภาพดังกล่าวมากกว่า 15,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 3,000 คอมเมนต์ นอกจากนี้ก็ยังมีคุณครูอนุบาลอีกท่าน ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวสุดน่ารักของลูกศิษย์เธอ หลังจากที่เด็กน้อยได้แอบนำโหลปลาทองใส่กระเป๋ามาโรงเรียนด้วย พร้อมกับบอกคุณครูว่าถ้าไม่ให้เลี้ยงไว้ที่ห้องเจ้าปลาทองต้องตายแน่ๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีคอมเมนต์น่ารักๆ จากชาวเน็ตอีกจำนวนมาก อย่างเช่นหนุ่มคนนี้ก็ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์การแอบเก็บเจ้าเหมียวใส่กระเป๋ามาเลี้ยงที่บ้านด้วยเช่นกัน ส่วนชาวเน็ตรายนี้ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเขาเองก็เคยแอบเอาเจ้าเหมียวไปโชว์ที่ห้องเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะถูกแม่ห้ามก็ตาม!! และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีเรื่องราวน่ารักๆ…
-
ซี้ด!! คุณครูโดนตำรวจรวบ หลังโดนนักเรียนแอบถ่ายคลิป ตอนกำลังเสพโคเคนในห้องเรียน
ว่ากันว่าคุณครูคือพ่อแม่คนที่ 3 สำหรับเด็กๆ ทั้งหลาย เพราะว่าเด็กๆ เมื่อถึงวัยเข้าเรียนพวกเขาก็ต้องใช้เวลาที่โรงเรียนไปมากกว่าวันละหลายชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นคุณครูจึงเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมเด็กๆ ให้สามารถโตมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นคนดีในสังคม แต่ว่ามีคุณครูคนหนึ่งที่ได้แสดงตัวอย่างที่ไม่ดีต่อหน้าเด็กๆ เพราะเธอดันไปสูบยาเสพติดในโรงเรียนซะอย่างงั้น เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา Samantha Cox คุณครูภาษาอังกฤษในโรงเรียน Lake Central High School รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกจับกุมตัวขณะที่เธอนั้นสูบโคเคนในห้องเรียน โดยมีหลักฐานคือภาพวิดีโอของนักเรียนชื่อว่า Will Rogers ที่ได้แอบถ่ายเธอขณะกำลังสูดอย่างได้อารมณ์ “คุณครูอยู่ที่มุมห้อง และหลบอยู่หลังเก้าอี้ตัวหนึ่ง ในมือของเธอมีหนังสือที่เหมือนจะมีโคเคนอยู่ข้างใน หลังจากนั้นเธอก็ใช้หลอดสูดจากหนังสือเล่มนั้น” Rogers เด็กนักเรียนผู้กล้าหาญให้สัมภาษณ์ หลังจากเด็กๆ ได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวของคุณครู พวกเขาก็ได้แจ้งต่อครูใหญ่ว่า คุณครู Cox ใช้ยาเสพติดในโรงเรียน ครูใหญ่จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจในเวลาต่อมา เมื่อตำรวจมาถึง พวกเขาก็ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นตามหายาเสพติดที่ว่า และก็พบถุงใบหนึ่งที่ปิดอย่างมิดชิดและยังพบฟอยล์ กับกระดาษมวนคล้ายกับหลอดสำหรับดูดในห้องเรียนของเธอ ซึ่งตำรวจก็รู้ในทันทีว่าสิ่งเหล่านี้คืออุปกรณ์สำหรับเสพยาผ่านทางรูจมูก Cox ได้ให้รับการสารภาพอย่างรวดเร็วและยินยอมมอบกุญแจรถแก่ตำรวจแต่โดยดี เพื่อหาสารเสพติดอื่นเพิ่มเติม และเมื่อไปค้นที่รถของเธอก็พบสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการสูบยาอีกคือ บ้องแก้วสองอัน และหลอดสำหรับสูดอีกสองอัน ในภายหลัง เธอสารภาพว่าเธอซื้อโคเคนมาในราคา…
-
Musharaf Asghar เด็กหนุ่มที่เลิกพูดติดอ่างได้ ด้วยวิธีการสอนของคุณครูผู้ทุ่มเท
เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ทาง Educating Yorkshire ซึ่งเป็นรายการทีวีเกี่ยวกับชีวิตครูและนักเรียนจาก Stammer School ได้นำเสนอเรื่องราวสุดซึ้งของ Musharaf Asghar ชายหนุ่มที่ดูภายนอกอาจจะเหมือนคนธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาได้พูดออกมา คุณจะรู้ว่าความจริงแล้ว Musharaf เป็นคนติดอ่าง สำหรับ Musharaf จาก Dewsbury, West Yorkshire ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ที่มีอาการติดอ่างมาตั้งแต่วัยเด็ก ส่งผลทำให้ต้องพูดติดๆ ขัดๆ และถูกเพื่อนล้อมาโดยตลอดเพียงเพราะเปล่งเสียงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ Musharaf ได้เข้าไปขอคำแนะนำจากคุณครู Burton เรื่องการเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ GCSE เพื่อยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัย และนั่นก็ทำให้ Burton รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากซะเหลือเกิน จนกระทั่งเขามีโอกาสได้ดูภาพยนตร์ “The King’s Speech” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “พระเจ้าจอร์จที่ 6” แห่งจักรภพอังกฤษ ที่มีอาการพูดติดอ่าง และกลายเป็นปมปัญหาใหญ่ในเรื่อง แต่สุดท้ายความพยายามก็สามารถทำให้พระองค์เอาชนะอาการติดอ่างได้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Burton ได้ตัดสินใจที่จะช่วย…
-
เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว
เด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ต้องประสบปัญหาโดนทารุณหรือใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน ทำให้ต้องเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในถุงขยะ ไม่มีข้าวกินจนถึงกับต้องแอบเก็บอาหารในโรงเรียนกลับบ้านไปเพื่อเอาไว้ประทังชีวิตตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัญหาของเด็กยากไร้ในประเทศอังกฤษได้กระจายตัวออกไปในวงกว้างอย่างน่าเป็นห่วง ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งจึงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับเด็กเหล่านั้น เช่นเดียวกับ Helen Slack ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม Twickenham ที่ได้คิดแนวทางการช่วยเหลือลูกศิษย์ในหลายๆ เรื่อง Helen ครูใหญ่ผู้พยายามช่วยเหลือลูกศิษย์ของเธอจากปัญหาความยากจน เธอได้สร้างนโยบายให้เด็กๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาสามารถเข้ามากินอาหารได้ฟรีในครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเรียน และในวันศุกร์ทางโรงเรียนก็จะห่ออาหารเอาไว้ให้สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารประทังชีวิตในช่วงวันหยุด ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน การออกไปทัศนศึกษา หรืออุปกรณ์ดนตรีและกีฬา ทุกอย่างล้วนเป็นความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งสิ้น Helen บอกว่า “โปรเจกต์ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 3,400,000 บาทต่อปี หากโปรเจกต์นี้ดำเนินไปถึงปี 2020 แต่ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วยเหลือให้ปัญหาครอบครัวยากไร้ให้หมดไป” ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลอังกฤษกลับทำการตัดงบประมาณที่ใช้สำหรับช่วยเหลือในด้านการศึกษาลงไปกว่า 13,000 บาทต่อเด็กนักเรียนหนึ่งคน ทำให้งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากไร้ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 ผู้นำโรงเรียนกว่า 7 แห่งจึงได้ทำการเข้าพูดคุยกับเลขานุการกระทรวงการศึกษา Angela Raynor เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดงบประมาณและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังไม่มีการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพูดคุยของพวกเขา …
-
รวมภาพเหล่าคุณครูสุดเจ๋ง ที่ควรจะได้รับรางวัล ‘ครูดีเด่น’ ถ้าได้เรียนด้วยสักครั้งคงจะมีความสุขน่าดู
คุณครูคือผู้ให้ความรู้ในวิชาต่างๆ ในโรงเรียน โดยปกติแล้วเราก็จะเห็นครูในลุคที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็มีคุณครูไม่น้อยเลยที่คิดนอกกรอบจนกลายมาเป็นคุณครูสุดจ๊าบประจำโรงเรียน ซึ่งเราก็หวังว่าอยากให้มีคุณครูแบบนี้อยู่ทั่วโลกเพื่อที่การเรียนหนังสือสำหรับเด็กๆ จะได้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมภาพของคุณครูสุดคูลจากทั่วทุกมุมโลกที่อาจทำให้คุณยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่ว่าไหมมาลองพิสูจน์กันเลย คุณครูช่วยเหล่าเด็กๆ ที่กำพร้าด้วยการก่อตั้งชมรม “สุภาพบุรุษ” เพื่อให้เรียนรู้การจับมือ การสร้าง Eye Contact คุณครูศิลปะที่พิสูจน์แล้วว่าศิลปะเกิดขึ้นได้ทุกที่ ภาพคุณครูสุดฮาในสมุดภาพประจำปีของโรงเรียน ถ่ายกันทุกปีเลยทีเดียวจนเป็นธรรมเนียมไปเลย ครูสอนคณิตตีลังกาเอามือยืนแทนเท้าเพื่อสาธิตจำนวนเลขที่กลับกัน คุณครูคนนี้ใส่ชุดเดิมมาถ่ายรูปกว่า 40 ปี วินเทจจริงๆ ลุง เมื่อโรงเรียนเปลี่ยนเวลาคาบแรกจาก 9 โมงมาเป็น 7 โมงคุณครูคนนี้เลยใส่ชุดนี้ประท้วงซะเลย ครูคนนี้สาธิตการสวมถุงเท้าเพราะว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สอนเด็กๆ เรื่องวิธีการใช้ถุงยางอนามัย นักเรียน: ช่วยรับปลาโลมาตัวนี้แทนคำตอบที่ผิดไปด้วยเถอะ คุณครู: เพราะว่าปลาโลมาแสนน่ารักตัวนี้ทำให้ทุกคนได้คะแนนเพิ่ม 4 คะแนน เมื่อคุณครูสุดแนวแต่งตัวเหมือนซีรีส์เรื่อง Magnum Pi มาถ่ายรูป คุณครูที่ส่งจดหมายถึงผู้ปกครองโดยบอกว่าการบ้านนั้นไม่มีประโยชน์ รูปที่น่าจะเท่ที่สุดในสมุดรวมภาพประจำปี …
-
“โตแล้วจะทำอะไรก็ได้!!” ครูหัวร้อนโวยวาย หลังโดนนักเรียนจับได้ ว่าแอบดูหนังโป๊ในโรงเรียน
เรื่องราวสุดเงิบ เมื่อชาวเน็ตเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่เล่าถึงครูคนหนึ่งออกมาโวยวายเกี่ยวกับการถูกนักเรียนจับได้ ว่าเขากำลังแอบดูหนังโป๊อยู่ในห้องพักครู งานนี้เลยกลายเป็นกระแสโต้เถียงกันยกใหญ่ ซึ่งทาง The Chive ได้รายงานว่าอาจารย์คนนี้ถูกนักเรียนคนหนึ่งแอบย่องเข้าไปในห้องพักครู ระหว่างที่เขากำลังนั่งดูหนังโป๊อย่างสบายใจ เมื่ออาจารย์รู้ตัวว่ามีคนแอบเห็น เขาจึงเข้ามาโวยวายนักเรียนคนดังกล่าวในห้องอย่างถึงพริกถึงขิง เขากล่าวว่า เขานั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้ ส่วนนักเรียนก็ไม่ควรเข้าไปจุ้นจ้านในห้องพักอาจารย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการโวยของเขาอาจทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่หรืออาจารย์ที่ไม่ได้เรื่องเลย แต่มันกลับมีเรื่องราวอะไรที่มากกว่านั้น คุณชายคนดังกล่าวระบุว่าเพราะเรื่องราวจริงๆ ทั้งหมด มันเริ่มจากนักเรียนคนดังกล่าวมักจะแอบเข้าไปในห้องพักครู แล้วดูว่าอาจารย์คนนี้แอบทำอะไรอยู่ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลนั้นมาแบล็คเมล์เขาเพื่อแลกเกรด โดยตัวอาจารย์ก็บอกว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เพราะมันเป็นครั้งที่ 5 แล้ว!! แต่ยังไงก็ตามการที่เขาแอบดูหนังโป๊ในโรงเรียนก็ยังเป็นเรื่องที่ผิดอยู่ดี เพราะการที่ตัวเขาเองเป็นอาจารย์นั้น จะต้องทำให้ตัวให้เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง มีความน่าคารพเชื่อถือและไม่ใช้อารมณ์เป็นหลักยิ่งปัจจุบันสื่อโซเชียลก็มีผลกับชีวิตมากๆ เลย ลองชมคลิปที่ตัวอาจารย์ออกมาพูดหน่อยเป็นไง ชาวเน็ตที่ได้รับชมต่างก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าคุณครูทำไม่เหมาะสมทั้งการดูหนังโป๊ หรือมาตามด่านักเรียนรุนแรงไป ขณะที่บางคนก็บอกว่านักเรียนเองก็ทำไม่ถูกเช่นกัน นอกจากนั้นล่าสุดโรงเรียนออกมาบอกว่าได้ทำการไล่อาจารย์คนดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่คลิปนี้จะถูกปล่อยออกมาซะอีก ยังไงก้ตามหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนให้กับสังคมได้เห็นแง่คิดของทั้งการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่คุณครูหรือนักเรียนก็ตาม และคาดหวังว่าเราคงจะไม่ได้เห็นข่าวทำนองนี้ในเมืองไทยเลยนะ ไปสาวต่อที่บ้านก็แล้วกันนะคุณครู… ที่มา thechive
-
นักเรียนระดมเงินให้คุณครูผู้ทุ่มเทสอนตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาตัวของเขาและภรรยา
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Walter Erickson อาจารย์ผู้ทุ่มเทให้กับการสอนอย่างเต็มเวลาและผันตัวมาเป็นอาจารย์ช่วยสอนหลังจากเกษียณอายุเป็นเวลามานานกว่า 25 ปี ชายวัย 80 ปีผู้เป็นที่รักของนักเรียนจากโรงเรียน Champlin Park High School ถึงแม้ว่าเขาจะถึงวัยเกษียณอายุไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ในทุกๆ วันเขาก็ยังคงทำหน้าที่สอนหนังสืออย่างเต็มที่เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว คุณ Erickson นั้นรักในการสอนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาต้องการเงินจากค่าจ้างในการสอนนั้นไปเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาภรรยาของเขา และเมื่อ Kelsy Breiter และ Katie Blodgett นักเรียนของเขาทั้ง 2 คนทราบเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงพยายามหาทางที่จะช่วยคุณครูของพวกเขา ทั้งสองได้ระดมทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตอนแรกพวกเขาตั้งเป้าของยอดบริจาคไว้ที่ 500 เหรียญหรือประมาณ 16,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 9 วันยอดบริจาคกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 14,000 เหรียญหรือประมาณ 460,000 บาทเลยทีเดียว . การระดมทุนได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณครูวัย 80 ปีได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย “มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก เขาเป็นครูช่วยสอนที่สนิทกับพวกเรา เขารักในสิ่งที่เขาทำและการสอนของเขานั้นก็ทำให้เราสนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้นด้วย” Katie กล่าว ส่วนทางด้านคุณ Erickson นั้นก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่นักเรียนทั้งสองและคนอื่นๆ ได้ทำให้เขา “ผมบอกเรื่องนี้กับภรรยาผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอดีใจมากและรู้สึกชื่นชมพวกเด็กๆ จริงๆ “ คุณครูวัย 80…
-
เปิดวาร์ป 10 สุดยอดคุณครูดีงาม ที่จะทำให้เราอยากกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง!!
บางครั้งการตั้งใจเรียนอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คน เพราะนอกจากการขาดแรงบันดาลใจแล้ว ความยากของบางวิชานั้นก็ชวนให้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ซะเหลือเกิน และนอกจากสภาพแวดล้มในห้องแล้ว คุณครูเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจเรียนของพวกเราได้ และวันนี้เราก็ได้นำภาพของ 10 คุณครูจากเว็บ Bright Side ที่จะทำให้เราอยากกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหนึ่งมาฝากกัน แต่ละคนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 10. Dejinay หนึ่งในคุณครูสาวที่รักในการดูแลสุขภาพ ถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหุ่นของเธอนั้นช่างเป๊ะจริงๆ นอกจากนี้เธอยังมีความตั้งใจในการสอน โดยการตกแต่งห้องเรียนเพื่อทำให้เด็กๆ มีความสนใจในการเรียนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 9. Nicholas Ferroni อาจารย์ผู้ใจดีที่มีความตั้งใจอย่าแน่วแน่ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนหลายๆ คน “เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมมีความฝันที่อยากจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ นักปรัชญา และนักจิตวิทยา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากเป็นครู” Nicholas กล่าว 8. Michael Bonner คุณ Bonner เติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน เขาจึงเข้าใจถึงความสำคัญของเงินทุนสำหรับการศึกษาเป็นอย่างดี และจากความพยายามของเขาและเหล่านักเรียนจึงทำให้ทางโรงเรียนได้รับเงินสนับสนุนจาก Ellen DeGeneres พิธีกรชื่อดังมากกว่า 800,000 บาทเลยทีเดียว 7. Patrice Brown คุณครูอีกท่านที่มีหุ่นเป๊ะ และนอกจากนี้เธอยังเป็นคุณครูที่ใจดีและรักเด็กนักเรียนของเธอ แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ปกครองท่านอื่นๆ อีกด้วย 6. Vin Wick นอกจากจะเป็นนายแบบแล้ว…
-
นักเรียนญี่ปุ่นถีบ-กระชากคอเสื้ออาจารย์ หลังโดนยึดแท็บเลต กลายเป็นประเด็นร้อนแรง!!
สำหรับโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นหลายๆ แห่งแล่ว พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแอบงีบหลับหรือการกลั่นแกล้งกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคลิปวิดีโอความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายฟุกุโอะกะ ถึงได้กำลังเป็นกระแสอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนนี้อนุญาตให้นักเรียนใช้แท็บเล็ตเพื่อช่วยในการเรียนรู้ แต่มีเด็กคนหนึ่งกลับใช้มันเปิดหนังดูในห้องซึ่งเป็นสิ่งที่ออกจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เมื่ออาจารย์วัย 23 ปีที่กำลังทำการสอนอยู่เห็นเข้าจึงได้ตักเตือนเด็กคนนั้นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อคำเตือนของเขาใช้ไม่ได้ผล ก็เลยยึดเอาแท็บเล็ตของเด็กคนนั้นมาแทน สิ่งที่เขาทำลงไปสร้างความไม่พอใจให้เด็กหนุ่มคนนั้นอย่างมาก เขาจึงเดินเข้าไปหาคุณครูเพื่อหวังจะเอาแท็บเล็ตคืนมา แต่อาจารย์คนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรและยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกโมโหมากยิ่งกว่าเดิม ถึงขนาดที่ว่าเขาถีบไปที่หลังครูคนนั้นถึง 4 ครั้งด้วยความแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นกลับนั่งหัวราะและให้กำลังใจกับสิ่งที่เขาได้ทำ ปล่อยลูกถีบใส่อาจารย์ขณะที่คนอื่นๆ ก็นั่งหัวเราะกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อครู และอาจจะชกต่อยไปแล้วถ้าหากว่าอาจารย์คนนั้นไม่ได้ส่งเสียงร้องประท้วงออกมาซะก่อน กระชากคอเสื้อจนอาจารย์ต้องส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะถูกต่อย คลิปวิดีโอนักเรียนถีบอาจารย์ คลิปดังกล่าวมียอดวิวรวมกันกว่า 1.2 ล้านครั้งทั้งในญี่ปุ่นเองและจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ถึงแม้ชื่อคลิปจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เชื่อว่าชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษานี้ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นนี้โรงเรียนเลือกที่จะไม่แจ้งความกับตำรวจ เพราะเห็นว่าครูคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายอะไร แต่การตัดสินใจของโรงเรียนและคลิปที่เผยแพร่ออกมาก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตอย่างมาก “เป็นความผิดของเด็กลงมือและนักเรียนคนอื่นที่นั่งหัวเราะอยู่ ทางโรงเรียนควรรายงานเรื่องนี้ให้กับตำรวจ” “ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นคงจะเป็นยากูซ่า” “นี่ไม่ควรที่จะรายงานตำรวจหรอ? นักเรียนมัธยมควรได้เข้าใจว่าความรุนแรงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ปล่อยให้เด็กถูกจับไปเลย!!” “ลืมเรื่องที่ตำรวจจะมาจับเด็กคนนี้ไปเลย เพราะแม้แต่นักเรียนคนอื่นที่ไม่ลงมือทำอะไรก็สมควรถูกต่อว่าเหมือนกัน มันหมดยุคสมัยที่ลูกศิษย์จะเคารพอาจารย์ไปนานแล้ว” …
-
จัดไปครับ…ครูบอกสามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าสอบได้ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น ‘นิ้ว’ หรือ ‘ฟุต’!!
ในบางวิชาที่จะต้องเจอกับสูตรตัวเลขเยอะๆ ชนิดที่ว่าเรียนซ้ำซัก 3 ปีก็คงจะจำไม่หมด ปัจจุบันผู้สอนทั้งหลายก็จะใจดีอนุญาตให้นักเรียนสามารถนำกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ จดข้อมูลบางส่วนเข้าห้องสอบได้ เช่นเดียวกับอาจารย์หนุ่มชื่อว่า Reb Beatty ที่ยอมให้นักเรียนในวิชาบัญชีการเงินของเขาสามารถนำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 นิ้วเข้าไปในห้องสอบได้ แต่เมื่อถึงวันสอบเขาก็ต้องพบว่าเขาได้ลืมสิ่งสำคัญไปซะแล้ว เมื่อนักเรียนชายคนหนึ่งของเขาชื่อ Elijah Bowen ได้นำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 ฟุตมาในวันสอบด้วย! นั่นมันมากกว่า 10 เท่าที่ควรจะเป็นในความคิดของเขาเลย โต๊ะยังไม่ใหญ่เท่าโน๊ตของไอ้หนุ่มนี่เลย เหตุผลที่นักเรียนคนนั้นทำอย่างนี้ก็เพราะว่าในตอนที่อาจารย์บอกให้นำโน้ตเข้าได้ พูดเพียงว่า “สามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าห้องสอบได้นะ” แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าใช่หน่วยวัดเท่ากับเท่าไหร่ ขนาดของกระดาษโน้ตอันมหึมาทำเอาอาจารย์หนุ่มต้องถึงกับกุมขมับ หลังจากนั้นก็รีบไปค้นหาแบบข้อมูลการเรียนการสอนที่แจกให้นักเรียนในต้นเทอมและพบว่าเขาไม่ได้เขียนบอกหน่วยวัดเอาไว้เลย เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงทำให้นักเรียนสุดแสบสามารถใช้โน้ตนั้นได้โดยไม่ผิดกฎ สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนภายในห้องโดยเฉพาะกับเจ้าหนุ่มคนนั้น นี่คือหน้าตาของอาจารย์หนุ่มกับลูกๆ ที่น่าร๊ากกก ครูคนนี้ได้สอนวิชานี้ในวิทยาลัย Anne Arundel รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกามานานหลายปีและอนุญาตให้เด็กสามารถนำโน้ตเข้าห้องสอบได้เสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็นนักเรียนมีความคิดเป็นของตัวเอง มีจินตนาการกล้าคิดนอกกรอบ และเขาก็บอกว่า “ผมชมเชยให้กับคนที่สามารถรับรู้ปัญหาที่มีอยู่ซ้ำๆ นี้ได้ และมีความกล้าที่จะทำสิ่งนั้นออกมาตรงๆ” นับว่าเป็นบทเรียนให้กับความรอบคอบของคุณครูทั้งหลายเลยนะ เพราะจุดเล็กจุดน้อยอาจตามมาด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คิดไว้เลยก็ได้ ที่มา: buzzfeed
-
สุดยอดคุณครูใช้เวลากว่า 70 ชั่วโมง สร้างห้องเรียนสไตล์ ‘ฮอกวอตส์’ เพื่อลูกศิษย์ของเขา
ในตอนที่เรายังเป็นเด็ก การที่ต้องไปโรงเรียน เจอกับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ในทุกๆ วันที่ดูแล้วไม่มีอะไรโดดเด่นดึงดูดใจ อาจทำให้รู้สึกเบื่อและไม่มีกำลังใจที่จะเรียนอยู่บ้าง เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ Kyle Hubler ครูโรงเรียนมัธยมต้น Evergreen ประเทศอเมริกา ลงทุนลงแรงสร้างห้องเรียนที่จะช่วยให้ลูกศิษย์ของเขา สามารถสนุกไปกับการเรียนได้มากยิ่งขึ้น ส่วนตัวของเขาเองเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของนิยายและภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะเขาคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นตัวช่วยที่ทำให้เขาผ่านอุปสรรคต่างๆ และกลายเป็นคนที่มีเพื่อนมากมาย เข้าสังคมได้ดีอย่างในปัจจุบัน ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอตส์ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวที่เขาได้อ่านไป ก็กลายมาเป็นหลักปรัชญาสำคัญในการใช้ชีวิตของเขาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการอยู่ร่วมกันกับนักเรียนและเพื่อนของเขาก็สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนหน้านี้เขาเคยนำเรื่องราวในแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ไปประยุกต์กับการสอนมาก่อนบ้างแล้ว จึงทำให้เกิดไอเดียที่จะทำในสิ่งที่มันยิ่งใหญ่มากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าตนเองได้ย้ายห้องสอน เขาจึงตัดสินใจเนรมิตรห้องเรียนใหม่ของตัวเอง ให้กลายเป็นฮอกวอตส์ขนาดย่อม ซึ่งต้องใช้เวลามากถึง 70 ชั่วโมง หมวกคัดสรรก็มี มาดูสิว่านักเรียนจะได้อยู่บ้านไหน สิ่งของต่างๆ มากมายที่ใช้ในการตกแต่งห้องเรียนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นของสะสมที่เอามาจากบ้าน และอีกส่วนหนึ่งคือของที่เขาหาซื้อตามร้านค้าด้วยเงินของตัวเองทั้งหมด ซึ่งเพื่อประหยัดงบประมาณ บางชิ้นจึงเป็นของมือสองที่เขาหาซื้อได้ตามรถเปิดท้ายขายของ หรือจากเพจเฟซบุ๊ค สมเป็นโต๊ะอาจารย์ของฮอกวอตส์เลยจริงๆ . จนเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เหล่านักเรียนที่ได้เข้ามาเจอกับสภาพห้องรูปแบบใหม่นี้ก็ถึงกับต้องตะลึงงันอ้าปากค้างกันไปเลย ก่อนที่จะเริ่มวิ่งเล่นดูโน่นดูนี่กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจอย่างมาก…
-
คุณตาวัย 97 ปี ทำงานเป็นครูมาทั้งชีวิต ในที่สุดก็ได้ทำงานในฝัน ได้เป็นนักดับเพลิงซักที
โตขึ้นอยากเป็นอะไร หรืออยากทำงานอะไร ? คือคำถามที่แทบทุกคนจะต้องเคยเจอเมื่อยังเป็นเด็ก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างอาจทำให้ไม่สามารถเป็นไปอย่างที่เราต้องการ หรือเปลี่ยนความคิดจากในตอนแรกไป แต่สำหรับคุณตาคนนี้นั้นยังคงจดจำความใฝ่ฝันในวัยเด็กของตัวเองได้มาโดยตลอด คุณตา Bill Grun วัย 97 ปี ประกอบอาชีพครูมาตลอดช่วงชีวิตการทำงาน และในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการเติมเต็มสิ่งที่เขาต้องการมาโดยตลอด นั่นก็คือการได้เป็นนักดับเพลิง… เมื่อสถานีดับเพลิงแห่งเมือง Doylestown รัฐเพนซิลเวเนีย ได้ทำการฉลองครบรอบวันเกิดในวันที่ 26 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา ด้วยการให้คุณตาได้สวมบทบาทเป็นนักดับเพลิงออกปฏิบัติหน้าที่แบบหนึ่งวันเต็มๆ ซึ่งเมื่อ Bill ได้ออกมาเห็นรถดับเพลิงจอดอยู่หน้าบ้านเขา ก็ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ ตื่นเต้น และมีความสุขอย่างมากกับการได้รับของขวัญวันเกิดสุดแสนวิเศษนี้ ถึงแม้ว่าในวันนั้นไม่ได้มีการออกไปผจญเพลิงใดๆ แต่การที่ได้นั่งรถดับเพลิงไปรอบๆ เมือง นั่นก็ทำให้เขารู้สึกขอบคุณกับประสบการณ์ในครั้งนี้ และคิดว่านี่คือการได้รับของขวัญที่วิเศษที่สุด หากใครที่ยังมีความฝันก็อย่าเพิ่งหยุดฝันกันไปนะครับ เพราะโอกาสมันสามารถมาหาเราได้ทุกเวลา อย่างคุณตาที่ถึงจะมาช้าแต่ยังไงซะก็ยังดีกว่าไม่มาแหละเนาะ ที่มา: littlethings
-
3 โรงเรียนในอเมริกา รื้อฟื้นการลงโทษแบบ “ตีเด็ก” กลับมาใช้ หวังลดพฤติกรรมก้าวร้าว
หลายๆ คนอาจเคยผ่านมาในยุคของการทำโทษที่โรงเรียน อย่างการยืนคาบไม้บรรทัดหน้าห้อง หรือการถูกหักคะแนน และสิ่งที่ถูกยกเลิกไปแล้วในหลายๆ ที่อย่างการตีเด็ก ซึ่งเราต่างก็จดจำความเจ็บในเวลานั้นได้กันบ้าง ถึงแม้จะได้มีการยกเลิกไปแล้วแต่ก็ได้มีโรงเรียน 3 แห่งในรัฐ Texas ประเทศอเมริกา ได้นำการลงโทษทางร่างกายหรือการตีเด็กนั้นกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งนั่นก็คือโรงเรียนในเครือของ Three Rivers Schools District ที่เปิดสอนตั้งแต่เด็กอายุ 4 ถึง 18 ปี นโยบายนี้จะลงโทษโดยการตีด้วยไม้พายขนาดเล็กกับเด็กที่ไม่เชื่อฟัง และจะตีเพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งพฤติกรรมที่ผิด เมื่อผู้ปกครองนำลูกมาเข้าเรียนก็จะสามารถเลือกได้ว่าให้ลูกได้รับการลงโทษแบบนี้หรือไม่ การลงโทษนั้นเพื่อที่จะให้เด็กได้อยู่ในกรอบของการเชื่อฟัง ซึ่งโรงเรียนบอกได้เลยว่าการที่ลงโทษด้วยไม้พายเพียงแค่นั้นถือว่าน้อยไปสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทั้งในโรงเรียนและการใช้ชีวิตในภายภาคหน้า Andrew Amaro ผู้ประสานงานด้านพฤติกรรมของโรงเรียน คิดว่าจากประสบการณ์นั้นมันจะเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ เขาได้พูดว่า “ผมสามารถรับรู้ได้ในทันที ถ้าหากผมมีปัญหากับครู มีพฤติกรรมหยาบคาย หรือฝ่าฝืนกฎ ผมก็จะถูกผู้อำนวยการตี” Mary Springs ผู้ดูแลอิสระของนักเรียนของโรงเรียนทั้ง 3 แห่งนี้ก็ได้กล่าวเสริมว่า “เราลองดูที่จำนวนข้อเรียกร้องในเรื่องระเบียบวินัยที่เกิดขึ้นเทียบกับปีก่อน และจำนวนที่ต้องลงโทษด้วยการตี ซึ่งหากมันทำให้ข้อเรียกร้องในเรื่องนั้นมันลดลงได้ นั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดี” การลงโทษทางร่างกายได้ถูกนิยามเอาไว้โดย สมาคมนักจิตวิทยาโรงเรียนแห่งชาติ ว่า “คือการเจตนาลงโทษให้เกิดความเจ็บปวดหรือความไม่สะดวกสบายทางกายให้กับนักเรียน ตั้งใจให้เด็กได้รับประสบการณ์ความเจ็บผ่านทางร่างกาย…
-
คุณครูคิดวิธีลงโทษนักเรียนชายทะเลาะวิวาท ให้ยืนกอด-ผลัดกันหอมแก้ม ดูสิว่าจะดีกันไหม!?
แน่นอนว่าเด็กนักเรียนวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ชายคงจะต้องเคยผ่านช่วงทะเลาะวิวาทกันภายในโรงเรียน ซึ่งหากถูกจับได้ก็จะต้องยอมรับการลงโทษจากทางโรงเรียน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของพฤติกรรมเด็กคนนั้นๆ เอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปการลงโทษเด็กๆ ด้วยความรุนแรงนั้นก็ดูจะไม่เป็นที่ยอมรับและถูกตั้งข้อสงสัยอย่างมากจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่งทางคุณครูเองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนการลงโทษให้ดูเบาๆ ลงไปบ้างแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีอีกหนึ่งการลงโทษที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ เมื่อคุณครูได้ลงโทษเด็กนักเรียนสองคนหลังจากที่ทั้งคู่ทะเลาะวิวาทกัน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปของนักเรียนสองคนที่กำลังยืนกอดกันอย่าน่ารักพร้อมกับทั้งหอมแก้มกันอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตามเนื้อหาระบุว่าเด็กชายทั้งสองถูกคุณครูสั่งลงโทษหลังจากที่พวกเขาทะเลาะวิวาทกัน เมื่อสงบศึกจึงถูกนำมาลงโทษด้วยวิธีแปลกใหม่นี้นั่นเอง และนี่คือคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าชมกว่า 2 ครั้งแล้ว ทางสำนักข่าวเดลินิวส์รายงานว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560 ในระหว่างพิธีไหว้ครูของทางโรงเรียน เด็กนักเรียนทั้งสองได้เล่นซุกซนจนทำไปสู่การทะเลาะกันในที่สุด ทางคุณครูผู้ดูแลเห็นดังนั้นจึงได้สั่งทำโทษโดยการมให้ทั้งคู่กอดและหอมแก้มในกรอบสี่เหลี่ยม เพื่อเป็นการแสดงความรักแก่กันแทนการลงโทษด้วยการตีหรือวิธีอื่น และจากในคลิปจะเห็นว่าเด็กทั้งสองหัวเราะ ดูมีความสุขมากกว่าจะรู้สึกแย่กับการถูกลงโทษแบบนั้น แท้จริงแล้วพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนกันและแค่ผิดใจกันเล็กน้อยก็ได้นะ… หลังจากนั้นชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก บางคนนั้นเห็นด้วยกับการกระทำของคุณครูพร้อมทั้งบอกว่านี่เป็นการแก้ปัญหาที่ดีมาก หรือบางคนถึงกับแอบจิ้นกันเลยทีเดียว และนี่คือความเห็นบางส่วนจากชาวเน็ตหลังจากได้ชมคลิปวิดีโอดังกล่าว . . . ส่วนบางคนก็เห็นด้วยกับการลงโทษของคุณครู แต่ก็หลายๆ คนก็แอบสงสัยเหมือนกับชาวเน็ตท่านี้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ?? แล้วเพื่อนๆ…
-
ชาวเน็ตรุมสาปส่ง เมื่อเห็นคลิปวิดีโอที่คุณครูใช้วิธีสุดโหด จัดการกับเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้
การลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้วยังเป็นผลเสียกับตัวเด็กอีกด้วย บางครั้งการทุบตีพวกเขาอย่างรุนแรงแทนที่จะทำให้พฤติกรรมดีขึ้น อาจจะกลายเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้พวกเขาแทน และเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศจีนได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ การลงโทษนักเรียนอย่างโหดร้ายทารุณอย่างมาก เมื่อคุณครูได้ทำการลากเด็กไปกับพื้น หลังจากที่เธอไม่ยอมเข้าห้องเรียน คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากการรายงานของเว็บไซต์ Peoples Daily ภายในคลิปเผยให้เห็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศ Huachen ที่มลฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยหลังจากที่เด็กน้อยร้องไห้งอแงไม่ยอมเข้าห้องเรียน คุณครูประจำชั้นของเธอจึงได้ใช้วิธีการที่รุนแรงในการพาตัวสาวน้อยกลับเข้าห้องเรียน โดยเขาจับที่ผมของเด็กน้อยและลากเธอไปกับพื้น สร้างความสลดใจให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์อย่างมาก และนี่คือคลิปวิดีโอดังกล่าว เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เธอเอาแต่ร้องว่า “หนูอยากกลับบ้าน” ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ตะโกนถามครูสาวว่า “คุณทำอย่างนั้นกับเธอไม่ได้นะ” และได้คำตอบกลับจากคุณครูว่า “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ เธอเป็นลูกสาวฉันทำไมจะทำไม่ได้” ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้ออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า สาวน้อยได้ออกไปทานข้าวเที่ยงกับแม่ของเธอด้านนอก แต่เมื่อถึงเวลาเรียนเธอกลับไม่อยากเข้าห้องเรียนและร้องไห้อยู่นาน จนทำให้คุณแม่ต้องจัดการกับลูกสาวตามที่เราได้เห็นในคลิปวีดีโอ หลังจากนั้นชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของคุณแม่ท่านนี้อย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและบอกว่าการกระทำของเธอนั้นไม่เหมาะสม หลังจากนั้นสาวน้อยถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลและไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆ และทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมนี้ อา.. โชคดีจริงๆ นะเนี่ยที่เด็กน้อยไม่เป็นอะไร แต่ #เหมียวเวจจี้ คิดว่าคุณครูน่าจะมีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้นะ ที่มา dailymail
-
ชม 20 สุดยอดเรื่องราวของครูบาอาจารย์แห่งศตวรรษ แบบนี้จะไม่ให้นักเรียนรักได้ไง~
สมัยเราเป็นเด็กๆ ทุกคนต้องเคยผ่านประสบการณ์ได้เรียนกับคุณครูผู้มีไม้เรียวเป็นอาวุธประจำโรงเรียนกันมาแล้วใช่มั้ยล่ะ ซึ่งเราก็ไม่ปฎิเสธหรอกนะ ว่าวิธีการเหล่านั้นช่วยทำให้เราเป็นเด็กดีได้อีกทางหนึ่ง แต่ถึงจะยังไม่ใช่วันครู วันนี้เราก็จะขอพาไปชมภาพวีรกรรมน่ารักๆ ของครูบาอาจารย์จากรอบโลกกันบ้าง ก็เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป การเรียนการสอนแบบเดิมอาจจะไม่เหมาะกับบางที่ หรือบางวัฒนธรรมก็มีรูปแบบการสอนหนังสือแตกต่างกันไป และพวกเขาเหล่านี้คงจะทำให้นักเรียนหลงรักได้มากๆ เลย เด็กชาวอิหร่านป่วยเป็นมะเร็ง แต่คุณครูประจำชั้นก็มาเยี่ยม พร้อมโทรศัพท์คอยทบทวนบทเรียนที่หนูพลาดไปให้ในทุกๆ วัน ภาพของคุณครูผู้เจอกับนักเรียนของเขาอีกครั้ง หลังเกิดเหตุพายุทอร์นาโดถล่มที่รัฐโอคลาโฮมา อาจารย์ผู้มาโรงเรียนในชุดนอน เพื่อประท้วงการสอบ 7 โมงเช้า (รักตายเลยแบบนี้) อาจารย์คนนี้เป็นเกย์ หลังจากที่เขาได้ยินนักเรียนพูดว่า ‘ดีใจมากเลยที่รัฐนี้เกย์แต่งงานไม่ได้ มันทำให้ฉันกลัวเหมือนเห็นตัวตลก’ อาจารย์เลยแต่งเป็นตัวตลกซะเลย คุณครูผู้จับได้ว่านักเรียนสาวแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ อีก 5 นาทีเดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะ… อาจารย์ผู้ปลุกนักเรียนด้วยการปรบมือ (เดี๋ยวๆ พ่อหนุ่มก็เนียนเลยนะเฮ้ย ฮ่าๆๆ) เมื่ออาจารย์ฟิสิกส์พยายามจะอธิบายเรื่องของเหลวให้นักเรียนเข้าใจ ของเหลว คือสิ่งที่เปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่มันอยู่ นั่นไง.. แมวเป็นของเหลว อาจารย์ผู้สัญญาว่า ถ้าทั้งห้องสอบได้ A เขาจะแต่งตัวเป็นสคูบี้ดู พร้อมเอาแชมเปญมาฉลอง (และก็ได้ทำจริงๆ)…
-
ซึ้งใจชาวเน็ต “บุรุษพยาบาล” ร้องเพลงให้อดีตครูที่เคยสอนเขามาจากใจ เป็นครั้งสุดท้าย….
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่เล่นเอาชาวเน็ตทั่วโลกน้ำตาซึมไปตามๆ กัน กับคลิปวิดีโอของหนุ่มฮอสพิซ (ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย) ที่กำลังยืนร้องเพลงอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ดูแลอดีตครูที่เคยสอนเขามา ซึ่งในอดีตคุณยาย Mary Adkins Redmond เป็นครูสอนร้องเพลงให้กับเด็กๆ มาแล้วมากมายหลายพันคนตลอดชั่วชีวิตของเธอ และพ่อหนุ่ม Joshua Woodard ก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่สมัยที่เขาอายุ 9 ขวบ พวกเขาโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ วันหนึ่งทั้งคู่ก็ได้มาพบกันอีกครั้งที่ศูนย์พยาบาลออสตินเบิร์ก ซึ่งทันทีที่ Joshua เห็นคุณยายเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เธอคือครูที่เคยพร่ำสอนจนทำให้เขามีทักษะการร้องเพลงที่ไพเราะมาจนถึงทุกวันนี้ หากแต่ว่าการพบกันในครั้งนี้อาจจะกลายเป็นครั้งสุดท้าย เพราะด้วยสังขารของคุณยายที่เริ่มร่วงโรย เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ Joshua จึงตอบแทนคุณครูด้วยการร้องเพลง ‘How Great Thou Art’ ให้เธอฟัง ‘เขาเป็นผู้ดูแลคนป่วยระยะสุดท้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ คุณแม่เคยสอนเขาร้องเพลงตั้งแต่เด็ก และครั้งนี้เขาก็ขอตอบแทนคุณครูด้วยการร้องเพลง เพื่อให้คุณแม่ได้เห็นถึงผลงานความสำเร็จของเธอที่เคยสร้างมา’ Marti ลูกสาวผู้บันทึกเหตุการณ์โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิดีโอการขับร้องของลูกศิษย์ ที่เรารู้สึกได้ว่าเขาร้องมันออกมาจากใจจริงๆ สุดท้ายแล้ว คุณยายผู้ที่ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่เธอรับรู้สิ่งที่เขาส่งให้ตลอดเวลาของเพลง จนพูดออกมาว่า “Beautiful” คงเป็นเครื่องยืนยันถึงสิ่งที่เธอรับรู้เป็นอย่างดี และสิ่งที่เขาตั้งใจทำ…
-
รู้จักกับครูสุดคูล ยืนทักทายเด็กๆ หน้าชั้นเรียน ‘แปะมือ’ ท่าไม่ซ้ำกันแม้แต่คนเดียว!?
การเป็นคุณครูที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะนอกจากจะต้องสอนหนังสือแล้วยังจะต้องแสดงถึงความรักความห่วงใยแก่เด็กๆ ด้วย แต่สำหรับคุณครูคนนี้แล้ว ต้องขอบอกเลยว่าการกระทำของเขาจะทำให้นักเรียนทุกคนหลงรักจนหมดหัวใจอย่างแน่นอน ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณครูสุดคูล Barry White, Jr. ที่จะทำการทักทายเด็กๆ ด้วยการแปะมือกับนักเรียนทุกคนในท่าที่แตกต่างกันออกไป ก่อนเข้าชั้นเรียนในทุกๆ วัน Barry White เป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษชั้นประถม 5 ของโรงเรียน Ashley Park PreK-8 School ในเมือง Charlotte รัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนเข้าชั้นเรียนในทุกๆ วัน เขาจะมายืนรอหน้าชั้นเรียนพร้อมกับทำการทักทายนักเรียนทุกคนด้วยท่าแปะมือที่ไม่ซ้ำกันกับนักเรียนแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีท่าประจำเป็นของตัวเอง “พวกเขาทุกคนจะรู้ท่าของตัวเองดี เด็กๆ จะมายืนต่อแถวกันหน้าชั้นเรียน จากนั้นก็จะทำการทักทายยามเช้า ก่อนที่จะเข้าห้องเรียนไปเรียนหนังสือต่อ ผมจะเป็นคนเริ่มก่อนจากนั้นพวกเขาก็จะทำท่าทางของตัวเอง” “ซึ่งการทำแบบนี้มันช่วยสร้างความตื่นเต้น และทำให้เด็กๆ มีความพร้อมในการเรียนมากยิ่งขึ้น” คุณครู White กล่าว เด็กนักเรียนจะเป็นคนคิดท่าทางการทักทายขึ้นมาเอง เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองของแต่ละคน “ทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากการเช็คแฮนด์ทักทายกับเด็กชั้นประถม 4 เมื่อปีก่อน เธอจะมารอผมทุกๆ…
-
ไม่ขำ!! คุณครูญี่ปุ่นขู่จะเขียนชื่อนักเรียนลงบนสมุด “Death Note” สร้างความหวาดกลัวให้เด็กๆ
เมื่อกล่าวถึงการ์ตูนเรื่อง ‘Death Note’ แล้ว คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน เพราะเป็นการ์ตูนแนวสืบสวนที่มีเนื้อหาน่าติดตาม และสิ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึงกันมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือสมุด Death Note สมุดมรณะที่ตัวเอกของเรื่องใช้เป็นอุปกรณ์ในการสังหารคน เพียงแค่เขียนชื่อพร้อมกับระบุรายละเอียดการตายก็จะทำให้คนที่ถูกเขียนชื่อลงไปเสียชีวิตในทันที จนทำให้มีการนำเรื่องนี้ไปใช้ในเหตุการณ์จริงในทางที่ผิดกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่าคุณครูวัย 30 ปี จากโรงเรียนในจังหวัด Fukushima ได้ออกมากล่าวคำขอโทษต่อสื่อ หลังทำการขู่นักเรียนของตัวเองว่าจะเขียนชื่อของเขาลงไปในสมุด Death Note จากรายงานของเว็บไซต์ The Fukushima Minyu Shimbun เมื่อวันที่ 12 เดือนมกราคมที่ผ่านมา เล่าว่าคุณครูได้ทำการแสดงให้นักเรียนชั้นประถม 4 คนดูว่าตนเองนั้นมีแอพฯ Death Note อยู่ในแท็บเล็ต พร้อมพูดกับนักเรียนว่า “ฉันจะเขียนชื่อของพวกเธอทั้งหมดลงไปบน Death Note นี้” ตามรายงานไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่คุณครูท่านนี้ใช้ในการลงโทษเด็กๆ แต่เมื่อทางโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการจัดแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณครูแสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวขอโทษในที่ประชุม และทางผู้ปกครองเองก็ได้กล่าวว่าวิธีการเตือนเด็กๆ ของคุณครูนั้นมัน ‘ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง’ เพราะเป็นการสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ …
-
หนูน้อยวัย 5 ขวบเป็นโรคผมร่วง ถูกครูบังคับให้ถอดวิกผมออก เพราะผิดกฎโรงเรียน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยเรื่องราวของ Apryl Corbett หนูน้อยวัย 5 ขวบ ที่เป็นโรค อาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Areata alopcia) ถูกคุณครูที่โรงเรียน Broad Oak Community Primary ในเซนต์เฮเลนส์ ประเทศอังกฤษ บังคับให้ถอดวิกผม ด้วยสาเหตุที่ว่าเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงเรียน และอาจจะเป็นอันตรายต่อเพื่อร่วมชั้นได้ ทางด้าน Lianne Corbett ผู้เป็นแม่ เมื่อได้ทราบเรื่องราวของลูกสาว เธอก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ได้ซื้อวิกผมให้กับลูกสาว หนูน้อย Apryl ก็เริ่มถูกเยาะเย้ย และถูกรังแก เพราะว่าเธอหัวล้าน “ฉันรู้สึกโกรธในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเขากำลังพยายามจะบอกว่า Apryl น่าจะมีความสุขมากกว่าถ้าหากถอดวิกออก แต่เมื่อมาถึงบ้านเธอกลับเศร้า เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นผมของเธอ และเธอก็ชอบที่จะใส่วิกผมมากกว่า” ผู้เป็นแม่กล่าว สำหรับ Areata alopcia เป็นโรคอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะมีลักษณะการร่วงเป็นวงกลมเดียว หรือหลายวงกลม จะเกิดได้จากความเครียด…
-
รวม 13 คุณครูผู้น่ารัก กับวีรกรรมอันแสนจะเฟี้ยวฟ้าวของพวกเขา ที่ทำให้นักเรียนยิ้มร่า
สมัยที่เราเป็นนักเรียนวัยหัวเกรียนตอนเด็กๆ เราคงจำได้แต่ภาพของคุณครูผู้มาพร้อมกับไม้คู่ใจ ที่พร้อมจะกำราบเด็กดื้อทุกคนให้อยู่ในโอวาท เพื่อหวังจะให้พวกเราได้เติบโตมาเป็น ‘คนดี’ ของสังคม แต่คราวนี้เราจะพาไปชมวีรกรรมอันเฟี้ยวฟ้าว ของเหล่าคุณครูจากฝั่งตะวันตกกันบ้าง ในอีกซีกโลกที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันออกไป การเรียนการสอนและการวางตัวก็จะต่างกันไปด้วย งานนี้แต่ละคนเรียกได้ว่ามีวิธีจัดการกับนักเรียนได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว 1. นักเรียนหลับในห้องเรียน ครูคนนี้เลยหยุดสอน แต่เปลี่ยนจากการปลุกนักเรียน เป็นแอบมัดเชือกรองเท้าสองข้างให้ติดกันแทนซะเลย แสบมาก 2. นี่ก็อีกราย หงอยหลับในวิชาคณิต คุณครูเลยมานั่งจ้องหน้าแทนซะเลย ถ้าสะดุ้งตื่นมาเจอคงมีเงิบกันบ้างละงานนี้ 3. ครูคนนี้เค้ากลัวนักเรียนไม่เชื่อ ว่าเค้ามีปากที่ใหญ่จริงๆ แบบนี้ต้องโชว์ของดีให้เด็กมันดูซะหน่อยแล้ว!! 4. อาจารย์บอกว่ามีคะแนนพิเศษให้สำหรับคนที่สามารถวาดกราฟตามสมการที่ให้มาได้ ผลปรากฏว่าได้รูปอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ แอบเกรียนนะเนี่ย 5. ครูเขียนไว้ในกระดาษสอบ “ผมแก่เกินกว่าที่จะมานั่งอ่านอะไรนี่ละ อยากได้เกรดไรว่ามา?” 6. ภาพถ่ายคุณครูในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เห็นแล้วอยากจะเข้าไปถามจริงๆ ว่าครูผู้ชายทั้งหลาย ท่านเล่นอะไรกันครับ? ฮ่าๆๆ 7. โดนครูยึดมือถือ ตอนไปเอาคืน เปิดมาเจอรูปหน้าจอเป็นแบบนี้แทนซะงั้น!? 8. อาจารย์ส่งเมล์มาบอกว่านี่คือเฉลยข้อสอบไฟนอล พอคลิกเข้าไปเท่านั้นแหละ…เด้งไปยูทูปเฉยเลย…
-
คุณครูคะ!! รู้จักกับ ‘Pietro Boselli’ ครูสอนวิชาคณิตฯ ดีกรีเผ็ชมาก ระดับพริก 10 เม็ด
เมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บเหมียวได้นำเสนอเรื่องราวของ ครูสาวสุดแซ่บ ให้กับเพื่อนๆ ได้เห็นกันไปแล้ว แต่สำหรับวันนี้จะขอพาไปชมฝั่งชายกันบ้าง ขอบอกเลยว่าแซ่บไม่แพ้กันเลยทีเดียว!! Pietro Boselli หนุ่มชาวอิตาลีวัย 27 ปี เป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่มหาวิทยาลัย University College London ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง Negrar รัฐ Verona ประเทศอิตาลี จากการที่นักเหล่าศึกษาของเขาได้ทำการแอบถ่ายรูปและโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ก็ทำให้อาจารย์ท่านนี้กลายเป็นผู้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่ฮ็อตที่สุดในโลกไปโดยปริยาย ก็เพราะหน้าตาที่หล่อเหลา และหุ่นสุดแซ่บ ที่ไม่ว่าจะสาวแท้หรือสาวเทียมได้เห็นแล้วต่างก็ต้องหลงรักกันอย่างแน่นอน เท่านั้นยังไม่พอหากตามไปส่องอินสตาแกรมของเขาแล้วจะพบว่า อาจารย์ท่านนี้ยังมีงานอดิเรกเป็นนายแบบอีกด้วย และรูปแต่ละรูปนั้นขอบอกเลยว่าเหมาพริกขี้หนูทั้งสวนมาก็ยังไม่เผ็ดเท่า ฮร่า อาจารย์ Boselli นั้นจบปริญญาโทจากคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิชาช่างกล จากมหาวิทยาลัย University College London เขามักจะบอกใครต่อใครอยู่เสมอว่าเขาอยากจะเป็นนายแบบ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกเส้นทางทางวิชาการแทน และด้วยความที่เขากำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ อาจารย์เองก็ได้ออกมาพูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกละอายใจอยู่เหมือนกันนะ กลัวว่าผู้คนในแวดวงวิชาการจะมองผมในแง่ที่ไม่ดี” ย้อนกลับไปในอดีต เมื่ออายุได้ 7 ขวบ Boselli…
-
นักเรียนโชว์ซึ้ง แอบเซอไพรส์ครูด้วย ‘รองเท้าผ้าใบ’ ที่ครูอยากได้มาตั้งแต่ 12 ขวบ..!!
สำหรับนักกีฬาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ โค้ช บุคคลที่เปรียบดั่งคุณครูทั้งใน และนอกสนามการแข่งขัน เพราะไม่ว่าผลจะแพ้ หรือ ชนะ ผู้เป็นโค้ชจะคอยอบรมสั่งสอนและอยู่เคียงข้างเราเสมอ เช่นเดียวกับคุณครูสอนพละ ชาวอเมริกันคนนี้ เขาเป็นมากกว่าครูสอนวิชาพละทั่วๆไปให้แก่นักเรียน แต่เขายังคอยเป็นที่ปรึกษา เป็นสะพานคอยเชื่อมความสัมพันธ์ ให้แก่นักเรียนทุกคน และคงไม่มีอะไรที่จะซาบซึ้งไปกว่าการตอบแทนคุณครูที่แสนดีคนนี้ซักครั้ง.. เรื่องราวเกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยม Lubbock Coronado แห่งรัฐเท็กซัส คุณครู Thomas Walser เขาเป็นทั้งครูสอนพละ และโค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลประจำโรงเรียน สำหรับนักกีฬาโรเรียนทุกคน เขาเปรียบได้ดั่งพ่อคนที่สอง ที่มักจะสร้างบรรยากาศการฝึกซ้อมที่ดี และคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่แล้วเรื่องราวดังคลิปต่อไปนี้ก็ได้เกิดขึ้น.. (หากคลิปไม่แสดง คลิกชมได้ที่นี่) Its good to give back to the man who’s always been by my side.?? @CoachWalser pic.twitter.com/W4Sb5tMPim — Hector Montez (@Augustine__09) September…
-
นักเรียนกว่า 400 คน ร่วมกันมาร้องเพลงให้กับ ‘คุณครู’ ที่ตัดใจยอมแพ้ให้กับโรคมะเร็ง!!
ว่ากันว่าการรักษาโรคนั้นไม่ได้มีแค่การใช้ยา หรือเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่การเยียวยาจิตใจเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยรกษาอาการป่วยได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นโรคร้ายแรงที่รักษาได้ยาก การรักษาสภาพของจิตใจเองก็เป็นอะไรที่สำคัญเหมือนกันนะ และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวสุดประทับใจของคุณครูที่ตัดใจยอมแพ้ให้กับโรคมะเร็งร้ายไปแล้ว นักเรียนและคุณครูในโรงเรียนคนอื่นๆ กว่า 400 คน ก็เลยตัดสินใจที่จะออกมาร้องเพลงเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเขาที่หน้าบ้านซะเลย คุณ Ben Ellis เป็นคุณครูสอนอยู่ที่โรงเรียน Christ Presbyterian Academy ในเมือง Nashville รัฐ Tennessee มาตั้งแต่ปี 2008 และเมื่อปีที่ผ่านมาเขาเพิ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งร้าย และเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองเขาก็ตัดสินใจที่จะยอมแพ้ ยกเลิกการรักษาไป และเมื่อคุณ Nate Morrow คุณครูใหญ่ของโรงเรียน Christ Presbyterian ได้ให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed News ว่า เมื่อผู้บริหารของโรงเรียน ท่านประธาน Parker Atman ได้ทราบข่าวนี้ เขาก็รีบไปประกาศเสียงตามสายและพูดว่า “เราจะไปร้องเพลงให้คุณครู Ellis กัน” คุณ Morrow ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คุณครู Ellis นั้นมักจะไปร้องเพลงขอบคุณพระเจ้าร่วมกับนักเรียนอยู่บ่อยๆ “เขาบอกว่าในช่วงเวลาเหล่านั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ…
-
สรุปประเด็นเหตุการณ์ ‘คุณครูปาแก้ว’ ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ!! (อัพเดท 14 กันยายน)
หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวสาร หรือหน้านิวส์ฟีดเฟซบุ๊คในวันนี้ คงจะได้เห็นเรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกคุณครูปาแก้วน้ำใส่อย่างรุนแรงจนทำให้ปากเบี้ยวกันไปบ้างแล้ว… บางคนก็สงสัยว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมถึงมีคนแชร์กันมากมาย เดี๋ยว #เหมียวหง่าว จะมาสรุปเหตุการณ์ให้เพื่อนๆ อ่านกันเป็นข้อๆ ก็แล้วกันนะ ภาพถ่ายของน้อง ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ 1. เหตุการณ์เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 8 สิงหาคม ขณะที่ น.ส. นฤดี จอดสัน (น้องทราย) นักเรียนชั้นม. 5 ได้เข้าแถวเรียนวิชาพละศึกษา แต่แถวที่น้องได้ต่ออยู่นั้นมีแดดส่อง ก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อหลบแดด แต่พอคุณครูมาเห็นเข้าก็เลยปาแก้วเซรามิคเข้าใส่โดนที่กกหูข้างซ้ายของน้อง 2. ในตอนแรกน้องทรายเล่าว่าไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มรู้สึกว่าขยับใบหน้าด้านซ้ายไม่ได้เลย เวลายิ้มตาซ้ายไม่สามารถหลับได้สนิท และปากด้านซ้ายก็ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน 3. ต่อมาคุณแม่ของน้องก็ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหนองบุณมาก ซึ่งคุณหมอเองก็วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาท หรือกระดูกแตกทับเส้นประสาทกันแน่ ภาพของอาการบวมและดวงตา ใช้ภาพของน้องแบบไม่เซ็นเซอร์เพื่อให้เห็นอาการได้อย่างชัดเจน ตามที่น้องลงภาพไว้ 4. ทางคุณหมอก็เลยส่งตัวน้องทรายไปที่โรงพยาบาลมหาราช และหมอที่โรงพยาบาลมหาราชก็ได้บอกว่าตอนนี้ไม่มียารักษา ต้องให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพตัวเอง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน 5. และตอนนี้…
-
คุณครู ป.2 กับแนวคิดใหม่ ‘ไม่สั่งการบ้าน’ เพราะเห็นว่า การใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนสำคัญกว่า
สิ่งหนึ่งที่นักเรียนหลายๆ คนขยาดกันซะเหลือเกินในตอนที่เป็นเด็กๆ คงหนีไม่พ้นเจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘การบ้าน’ จะไม่ให้เบื่อก็คงแปลก เพราะหลังจากที่นั่งเรียนกันอย่างหนักทั้งวันแล้ว คงไม่มีใครอยากจะกลับบ้านไปแล้วต้องมาหมกมุ่นกับเรื่องเรียนอีกแน่ๆ และเชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ สมัยใหม่หลายๆ คนก็อาจไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นัก ที่ต้องเห็นลูกน้อยวัยกำลังซน ต้องมานั่งทำการบ้านอย่างเคร่งเครียด แทนที่จะได้ใช้เวลาไปกับการเล่นอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆ ให้เหมาะสมตามวัย และนี่คือวิธีการของคุณครูประจำชั้น ป.2 จากโรงเรียนแห่งหนึ่งรัฐเท็กซัส ที่ต้องการจะลองวิธีการใหม่ๆ นั่นก็คือการ ‘ไม่สั่งการบ้าน’ และนี่คือจดหมายประกาศเกี่ยวกับนโยบายการสั่งการบ้านจากครูสาว Brandy Young โดยมีใจความสำคัญดังนี้… “ถึง ผู้ปกครองทุกท่าน หลังจากการทำวิจัยอย่างหนักในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดิฉันขออนุญาติทดลองอะไรใหม่ๆ นั่นก็คือการกำหนดให้นักเรียนจะมีการบ้านก็ต่อเมื่อ พวกเขาทำงานชิ้นนั้นไม่เสร็จภายในชั่วโมงเรียน และจะไม่มีการสั่งงานนอกเหนือจากนี้ เนื่องจากเคยมีงานวิจัยที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการบ้านไม่ได้ช่วยพัฒนาศักยภาพของนักเรียน ในทางกลับกันดิฉันขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองช่วยทำในสิ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จของนักเรียน นั่นก็คือ การทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัว อ่านหนังสือด้วยกัน ออกไปเล่นข้างนอก และพาบุตรหลานของท่านเข้านอนแต่หัวค่ำ จาก Brandy Young“ และวิธีการของคุณครูคนนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ปกครองทั้งหลาย มีการแชร์ต่อกันไปมากถึง 70,000 ครั้ง จากเหล่าผู้ปกครองที่เบื่อหน่ายกับการสั่งให้ลูกทำการบ้าน แทนที่จะได้ใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน “นักเรียนทุกคนต่างเล่าเรียนกันมาหนักมากพอแล้วในหนึ่งวัน เมื่อถึงตอนที่พวกเขากลับบ้าน มันก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้เรียนรู้อะไรอย่างอื่นบ้าง ฉันพยายามพัฒนาศักยภาพโดยรวมทั้งหมดของนักเรียนค่ะ”…
-
“น้องไอซ์” เด็กนักเรียน ป.1 กับพรสวรรค์ในการวาดภาพ คุณครูอยากให้ทุกคนส่งเสริม
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ แต่สำหรับ เด็กชายนัทธกรณ์ ศรีพะลาน อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านโนนเดื่อ จังหวัดอุดรธานี คนนี้ บอกเลยว่าเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ของจริงเลยละ เพราะเด็กคนนี้มีความจำดี แถมยังมีความสามารถในด้านการวาดภาพอย่างเต็มเปี่ยม จนทำให้ คุณใบหม่อน ผู้เป็นคุณครูของน้องไอซ์ทึ่งในความสามารถสุดพิเศษเหล่านี้ และอดไม่ได้ที่จะนำเรื่องราวดีๆ มาแชร์ผ่านเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า Piyamon Jaem และนี่คือโฉมหน้าของ น้องไอซ์ เด็กชายนัทธกรณ์ ศรีพะลาน คนเก่งนั่นเอง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางคุณครูใบม่อน ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวน่าทึ่งของลูกศิษย์ว่า น้องไอซ์นั้นสามารถวาดภาพกินรี แค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวได้อย่างงดงาม อีกทั้งยังจำพุทธประวัติเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำอีกด้วย และไม่เพียงแต่ภาพของกินรีเท่านั้น เพราะน้องไอซ์ยังสามารถวาดภาพเทพเจ้าทางฮินดูอย่างพระแม่อุมา, แม่ลักษมี เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย รวมไปถึงภาพพระพุทธเจ้า ก็สามารถวาดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แถมยังเก็บรายละเอียดได้ทุกเม็ด นอกจากนี้เธอยังเผยอีกว่า หากน้องไอซ์ไม่ได้รับการสนับสนุนในเวลาที่เหมาะสม ไอซ์จะกลายเป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง แทนที่จะมีโอกาสเป็นศิลปินใหญ่อย่างที่เขาน่าจะทำได้ไม่ยาก และหลังจากที่คุณครูใบหม่อน ได้นำเรื่องราวของน้องไอซ์ ไปแชร์ลงไปเฟสบุ๊คส่วนตัว ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาชื่นชมความสามารถของน้องกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแชร์เรื่องราวออกไปถึง 3,734…
-
15 ภาพคุณครูสุดเจ๋งจากทั่วโลก ที่ทุ่มเทให้กับการสอนสุดๆ จนต้องขอยกนิ้วให้เลย!!
เมื่อตอนเด็กๆ ภาพของคุณครูในความคิดของหลายๆ คน จะต้องเป็นผู้ที่มาพร้อมกับความโหด ใส่แว่นตาหนาๆ ถือไม้เรียวกันใช่ไหมละ แต่ความจริงแล้วมีคุณครูอีกตั้งมากมาย ที่ทั้งน่ารัก ไม่ดุ แถมยังชอบสร้างบรรยากาศสุดฮา และทุ่มเทในการสอนสุดๆ เหมือนดังเช่น 15 คุณครูจากทั่วโลกเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็นคุณครูตัวอย่างที่ทุ่มเทให้กับการสอนเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะสามารถรับมือกับเหล่าเด็กนักเรียนสุดแสบได้แล้ว พวกเขายังชอบหาวิธีสนุกๆ มาใช้ในการสอนเพื่อให้เด็กได้ผ่อนคลาย และไม่เครียดระหว่างเรียนอีกด้วย นี่คือภาพน่ารักๆ ของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ขออาสาอุ้มลูกของนักศึกษา ขณะที่เด็กกำลังร้องไห้กลางชั้นเรียน เพื่อปลอบโยนเด็กน้อยจนหยุดร้องไห้ พร้อมกับสอนหนังสือไปด้วย (อ่านเรื่องราวได้ที่นี่) สโลแกนบนเสื้อเตือนใจให้นักศึกษาตั้งใจเรียน ‘ทุกอย่างที่ผมพูดจะออกสอบนะ’ เอิ่มมม ท่ายืนของของคุณครูคนนี้ ทำเอาลูกศิษย์ถึงกับเงิบไปเลย ครูสุดติสท์ แต่งตัวเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ แซวหนักมากเลย ‘เวลาผ่านไปแล้ว แล้วเธอล่ะ จะสอบผ่านมั้ย?’ เมื่อคุณครูฟิสิกส์อธิบายคุณสมบัติของของเหลว ครูสอนศิลปะ ใช้ชอล์กสร้างผลงานศิลปะสุดเจ๋งบนกระดานดำ เพื่อทำให้นักเรียนสนใจ และเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อได้ เมื่อไม่มีไม้บรรทัด คุณครูก็เลยนำเก้าอี้มาใช้วาดรูปสามเหลี่ยมซะเลย ทุ่มเทเพื่อการสอนมากจริงๆ ครูที่เคยบอกนักเรียนไว้ว่า…
-
คุณครูวาดภาพพวกนี้ ลงบนกระดานก่อนเริ่มคลาสทุกวัน เพื่อเริ่มต้น ‘วันใหม่อันสดใส’ ให้นักเรียน
หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญของการเรียนการสอนนั้น หลายๆ คนก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคือกระดานนั่นเอง และหลายๆ ครั้ง คุณครูก็ต้องวาดภาพประกอบการเรียนการสอนด้วย เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นของเหล่านักเรียนตัวน้อย ล่าสุดคุณครูที่เป็นผู้ใช้ Imgur รายหนึ่งก็ได้โพสต์ภาพที่เขาใช้วาดเพื่อเป็นสื่อการสอนให้กับนักเรียนของเขา ‘ทุกๆ วัน ผมใช้เวลา 5-10 นาทีเพื่อวาดภาพก่อนเริ่มคลาส บางครั้งก็เป็นสื่อการสอน บางครั้งก็เป็นงานศิลป์อาร์ทๆ และบางครั้งก็เป็นการทิ้งท้ายให้เหล่านักเรีนได้คิดอะไรดีๆ’ เขาเขียนอธิบายไว้ในโพสต์ หลักๆ แล้วเขาต้องการให้เหล่านักเรียนเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส และที่สำคัญเพื่อที่จะได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา สำหรับภาพนี้น่าจะเป็นความติสต์ของเขามากกว่า ปลูกปัญญาให้กับนักเรียน . ทุกๆ สิ่งย่อมเกิดขึ้นและเสื่อมไปในที่สุด แต่สุดท้ายแล้วเราก็เป็นเพียงสิ่งเล็กๆ เท่านั้น แต่เรื่องเล็กๆ บางครั้งก็ยิ่งใหญ่ได้ . บินไปซะเลย -*- . . แหม๊ เป็นแฟนสตาร์ วอร์สซะด้วย สงสัยพึ่งดูมา ฮ่าๆๆ . เรียนเกี่ยวกับอียิปต์รึเปล่า!? เรียนเรื่องเกี่ยวกับสิทธิสตรีแน่นอน สื่อการสอนวิชาประวัติศาสตร์ …
-
คุณครูให้เด็กๆ ป.1 วาดภาพลงในชุดเดรสเธอ เก็บเป็นความทรงจำสุดประทับใจ หลังจบการศึกษา
คุณอาจจะบันทึกความทรงจำดีๆ ลงในสมุด หรือรูปภาพ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนมีวิธีเก็บความทรงจำในรูปแบบที่ต่างกันออกไป เหมือนดังเช่น Sha’Ree Castlebury คุณครูสาว จากรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เธอก็มีวิธีการบันทึกความทรงจำในรูปแบบของตัวเองเช่นกัน ซึ่งมันก็ได้สร้างความประทับใจให้กับตัวเธอเอง รวมไปถึงผู้ที่กำลังจะได้ฟังเรื่องราวของคุณครูสาวคนนี้ด้วย Sha’Ree เป็นคุณครูสอนเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งในทุกๆ ปี เธอมักจะมีวิธีการบันทึกความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับเธอและลูกศิษย์ ก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบ และเลื่อนชั้น ในปีที่แล้ว Sha’Ree เลือกสร้างความทรงจำกับเด็กๆ โดยให้พวกเขาเขียนความรู้สึกลงสมุดบันทึก แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ยังเจ๋งพอ และต้องการทำในสิ่งที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ในที่สุดเธอก็ได้ปิ๊งไปเดียสุดแจ่ม ในการให้เด็กๆ วาดภาพและเขียนข้อความ ลงบนชุดกระโปรงสีขาวของเธอซะเลย และแน่นอนว่าเด็กๆ ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองออกมาได้ดีเลยทีเดียว ชุดกระโปรงสีชาว ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ และผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ดูแล้วรู้สึกตื้นตันใจแทนคุณครูที่สุด นอกจากนี้ยังมีคำพูดจากเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่ทำเอาคุณครู Sha’Ree ซึ้งใจสุดๆ ก็คือ “ครูจะใส่ชุดนี้ออกไปข้างนอก…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ งานแถลงข่าวคดี ‘ครูอึ๊บเด็ก’ ถามว่าต้องจัดเต็มขนาดนี้เลยหรือ!?
ถ่อวววววววว อะไรจะอลังการงานสร้างขนาดน้านนนน (อันนี้ไม่ใช่เฉพาะ #จ่าสิบเหมียว ที่คิดแบบนี้นะเนี่ย ชาวเน็ตเขาก็คิดเหมือนกันล่ะ) ก็เรียกว่าเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมสุดๆ ในขณะนี้ เกี่ยวกับกรณีที่คุณครูที่ดันไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน… โดยทางเฟซบุ๊คเพจของ Gthai movie เกย์เว้ยเฮ้ย ได้แชร์รูปภาพของบรรยากาศในงานแถลงข่าว แต่ที่ชาวเน็ตบอกว่ามันน่าสังเกตก็คือ ทำไมดูแบบพร้อมจัดเต็มกันมาก อาจคิดว่าคุณครูท่านนี้เป็นผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่อาจต้องเรียกหน่วย Avenger มาปราบกันเลยทีเดียว จัดเต็มกันแบบสุดๆ งานแถลงข่าวคุณครู เอาเป็นว่างานนี้ชาวเน็ตก็เกิดความสงสัยกันเล็กน้อยล่ะว่า เอ…นี่ต้องแถลงข่าวกันอลังการขนาดนี้ด้วยเหรอ?? โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ๆ มีส่วนร่วมเนี่ย มาคนสองคนก็พอแล้วมั้ง เพราะในภาพนี่อย่างกะยกกันมาทั้ง สน. เหมารวม สน. ข้างๆ มาด้วยอย่างนั้นแหละ (ความเห็นชาวเน็ตจริงๆนะ #จ่าสิบเหมียว ไม่เกี่ยว) ท็อปคอมเม้นต์เลยจ้า…อุ่ยยยย วาระแห่งชาติสิคุ๊ณณณณณ แหม่!!! จินตนาการไปถึงแผงปลาสลิดบางบ่อนะคุณผู้ชม โพสต์จากต้นฉบับ อัพเดทเพิ่มเติม: ล่าสุดมีการชี้แจงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอยู่ใน สน. นั้น ว่าที่จริงแล้วเหตุการณ์ไม่ได้เหมือนที่เห็นกันตามภาพนะเออ รบกวนชาวเน็ตมาฟังกันหน่อยยย ^^ แหมมม เรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีการแถลงข่าว แถลงอะไรกันบ้างสิคุณ…
-
นักเรียนหญิงเซอร์ไพรส์คุณครูด้วยการ ‘ทำขนมเค้ก’ ไปมอบให้ หลังจากที่เข้าเรียนสายทุกวัน!!
ในช่วงชีวิตวัยเรียนเพื่อนๆ หลายคนคงเคยรับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องกันมาก่อน ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ต้องมีความรับผิดชอบสูงมากกว่าคนอื่นๆ ในชั้นเรียน และอาจทำให้ส่งผลต่อการเรียนไม่มากก็น้อย อย่างเช่นเด็กสาว Jenny Hudak วัย 17 ปี ที่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าชั้นในโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ใน Miami เธอเข้าเรียนสายในวิชาแคลคูลัสในตอนบ่ายทุกๆ วัน ในปีการศึกษาที่ผ่านมา แต่ที่เธอเข้าเรียนสายนั้นไม่เป็นเพราะว่าเธอขี้เกียจ หรือเป็นเด็กมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเธอมีหน้าที่เป็นหัวหน้าชั้น และต้องรับหน้าที่ในการออกแบบและจัดทำหนังสือรุ่นให้กับเพื่อนๆ แต่อาจารย์ที่สอนวิชาแคลคูลัสก็ไม่เคยต่อว่าเธอแม้แต่น้อย เพราะเขาเข้าใจว่าเหตุใดเธอถึงเข้าเรียนสาย Jenny ก็เลยต้องการที่จะแสดงความขอบคุณต่อคุณครูของเธอด้วยการเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เธอได้นำเค้กไปมอบให้กับคุณครูในวันสุดท้ายของการเรียนการสอนที่ห้องพักครู… พร้อมกับเขียนประโยคบนหน้าเค้กว่า “ขอโทษที่หนูเข้าเรียนสายในวิชาของอาจารย์ทุกวันนะคะ” คุณครูของเธอก็รู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างมาก Jenny ยังเล่าให้ฟังอีกว่า คุณครูสอนวิชาแคลคูลัสนั้นเป็นคุณครูที่เป็นที่รักของนักเรียนทุกๆ คน ทั้งฉัน และนักเรียนคนอื่นๆก็ด้วย แหม่ สำหรับใครที่รู้สึกอยากจะตอบแทนคุณครูอันเป็นที่รักในชั้นเรียนของตัวเองก็ลองเอาวิธีเซอร์ไพรส์เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไปใช้กันดูนะ รับรองว่าจะช่วยให้พวกเขามีความสุขไม่มากก็น้อยเลยล่ะ ^^ ที่มา : buzzfeed
-
คุณครูร้องไห้เสียใจ เพราะแมวที่เลี้ยงไว้ 16 ปีตายลง เด็กๆเห็นแล้วสงสาร หาเหมียวใหม่มาปลอบใจซะเลย!!!
สำหรับเรื่องราวสุดน่ารักนี้ก็เกิดขึ้นในโรงเรียนไฮสคูลแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา Joshua High School ที่เหล่านักเรียนได้แอบรวมตัวกันลับๆ เพื่อนทำการเซอร์ไพร้ซ์คุณครูของพวกเธอ Tonya Andrew คุณครูผู้รักแมวเหมียว มีอาการเศร้าเสียใจอย่างมากเพราะเจ้า Blondie แมวของเธอที่อยู่ด้วยกันมากว่า 16 ปีเต็มพึ่งเสียชีวิตไปหมาดๆ เหล่านักเรียนพอเห็นเธอร้องไห้คิดถึงแมวเลยคิดแผนการขึ้นมาเพื่อให้คุณครูของเธอกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เย็นวันนั้นพวกเธอเลยไปรับลูกแมวมาเลี้ยง 2 ตัว พร้อมเตรียมช่อดอกไม้สำหรับไปปลอบขวัญคุณครูสุดที่รักล่ะ!!! ก็อย่างที่เราพอนึกภาพออก คุณครูของเราแฮปปี้สุดๆ ‘ตอนแรกพวกเธอนำลูกแมวเข้ามาในห้อง ฉันนึกว่าแค่เอามาให้เล่นด้วย แต่ที่จริงแล้วเด็กๆ นำลูกแมวทั้งสองตัวมาให้กับฉันล่ะ ฉันดีใจสุดๆ ไปเลย’ คุณครูกล่าว ด้านเด็กๆ ก็พูดว่า ‘เธอบอกกับเราเมื่อวานแหละว่ายังไงก็จะหาแมวตัวใหม่มาเลี้ยง แต่เรานำหน้าเธอไปก้าวหนึ่งแล้วล่ะ’ บรรยากาศชื่นมื่นมากๆ มาชมวิดีโอเหตุการณ์กันได้ที่นี่เลย We surprised our teacher with kittens because her cat passed away yesterday pic.twitter.com/ozzwCJTVmj — Rachel Hanhart (@ace040913)…
-
ทำไมโหดกันอย่างนี้!? กลุ่มนักเรียนจีนดักทำร้ายร่างกายอาจาร์ย เพียงเพราะโดนต่อว่าในห้องเรียน!?
ถือเป็นเรื่องราวชวนอึ้งไปเลย สำหรับกรณีของกลุ่มเด็กนักเรียนชาวจีน ที่แค้นอาจารย์ผู้สอนเพียงเพราะถูกตำหนิในห้องเรียน เลยพากันยกพวกไปดักทำร้ายร่างกายเขาซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของ 2 เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมจากโรงเรียน มัธยมเป่าจี๊ ในมณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่กำลังรุมทำร้ายร่างกายคุณครูภายในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตามรายงานบอกว่านักเรียนทั้ง 2 คนได้เข้าทำร้ายร่างกายคุณครูสอนวิชาดนตรี ทั้งต่อยและเตะอย่างรุนแรง ในระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พบเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าไปห้ามปราม แต่เด็กนักเรียนพยายามกันไม่ให้พวกเขาเข้าไปได้ จึงแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปส่งให้ตำรวจท้องถิ่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุและนำตัวคุณครูส่งโรงพยาบาลทันที และโทรเรียกให้พ่อแม่ของเด็กๆ มารับตัวพวกเขากลับบ้านหลังจากที่ได้ตำหนิและสั่งสอนทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเด็กๆ ถูกคุณครูตำหนิในชั้นเรียนจนเกิดความแค้นส่วนตัว และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เด็กนักเรียนทั้งสองกลับไม่ได้ถูกลงโทษร้านแรงอะไร มีเพียงการกล่าวตักเตือนเท่านั้น ส่วนคุณครูเมื่อทำการรักษาพยาบาลเสร็จก็กลับมาทำงานตามปกติ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะนักเรียน ที่คุณครูเขาตำหนิหรือตักเตือนก็เพราะว่าพวกเขาพายามสอนให้เราเป็นคนดีนั่นเอง หากไม่มีคุณครู ไม่มีกฎระเบียบ นักเรียนจะเติบโตไปเป็นคนที่มีระเบียบวินัยได้ยังไงล่ะจริงไหม? ที่มา shanghaiist
-
คนหรือลูกนิมิต!? โลกออนไลน์แชร์ภาพคุณครูสาว ติดสติ๊กเกอร์วาเลนไทน์รอบตัวอย่างกับลูกนิมิต
เมื่อถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ทีไร สิ่งที่เหล่าวัยรุ่นจะต้องทำเลยก็คือ การหาซื้อแผงสติ๊กเกอร์รูปหัวใจน่ารักๆ มาติดตามปกคอเสื้อให้กับเพื่อนๆ หรือคนที่เราคิดว่าน่ารัก (หรือกำลังจีบอยู่นั่นเอง) และยิ่งใครได้สติ๊กเกอร์เยอะๆ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคนๆ นั้นป็อปปูล่าร์ขนาดไหน แต่บางครั้งการติดสติ๊กเกอร์มากไปมันก็ไม่ได้ดีเสมอไปนะ อย่างเช่นคุณครูรายนี้ที่มีนักเรียนแห่กันเอาสติ๊กเกอร์มาติดตามเนื้อตามตัวของเธอ ประหนึ่งเป็นลูกนิมิตก็มิปาน!! เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของคุณครูสาว จากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ดำ เกิง’ ได้แชร์ภาพคุณครูจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ตามร่างกายเต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีชมพูและลูกอมอีกมากมายจนพะรุงพะรังเต็มไปหมด หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมาพากันเข้ามาแซวคุณครูรายนี้กันยกใหญ่ทีเดียว อีกทั้งยังมีหลายๆ คนแนะนำว่าคุณครูเองควรจะบอกกับนักเรียนว่าเรื่องไหนเหมาะสมเรื่องไหนไม่เหมาะสม ในขณะที่คุณ Nana Siriwan ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเด็กๆ มักจะติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจให้แก่คุณครูทุกๆ ปีเป็นเรื่องปกติ แถมยังมีการประกวดว่าคุณครูคนไหนได้ดาวเยอะที่สุดเพื่อชิงของรางวัลอีกด้วย เห็นคุณครูแล้ว#เหมียวฟิ้นเหนื่อยใจแทนเวลาจะแกะออกเลย ที่มา ดำ เกิง’
-
เมื่อผมสอนวิชาประวัติศาสตร์…คุณครูเผยภาพสมุดของนักเรียน อธิบายประวัติศาสตร์ได้เข้าใจง่ายม๊าก!!
หากจะพูดถึงวิชาที่น่าเบื่อ ที่ไม่ว่าใครได้เรียนก็หลับกันเป็นแถว เห็นจะหนีไม่พ้นวิชาประวัติศาสตร์ละนะ เพราะมีรายละเอียดที่เยอะมากกก ใครทำอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน แถมยังเป็นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว การจะให้มานั่งท่องจำ อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย และด้วยความยากของวิชานี้เอง ทำให้เด็กๆ ต้องการวิธีในการจดจำ เช่นการจดโน๊ตเล็กๆ ไว้ในกระดาษ การใช้ปากกาไฮไลท์เพิ่มสีสัน หรือแม้แต่การวาดรูปก็ช่วยให้เนื้อหาในตำรานั้นน่าจดจำได้เหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เมื่อไม่นานมานี้เหมียวได้ไปเจอเข้ากับภาพชุดหนึ่งจากเฟซบุ๊กของคุณ Chonlapoom Banharn ซึ่งเป็นคุณครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนสาธิตมศว. ปทุมวัน เป็นภาพสมุดวิชาเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่จดได้ละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมกับวาดภาพน่ารักๆ ประกอบไปด้วย ทำให้วิชาที่น่าเบื่อ กลายเป็นวิชาที่ง่ายต่อการเข้าใจมาก . . . . . . . . . . . . . . . . . ทั้งนี้คุณครูยังได้บอกผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า อยากให้มีสำนักพิมพ์สักแห่งจ้างนักเรียนคนนี้ไปวาดรูปให้เหลือเกิน…
-
รวมเหล่าคุณครูสาวๆสุดน่ารักจากทั่วประเทศ เห็นแล้วอยากกลับไปเรียนอีกครั้งเลย <3
ปกติถ้าเราพูดถึงคุณครูผู้หญิง ภาพในหัวของเราอาจเป็นคุณครูวัยกลางคนท่าทางดุๆ ที่เห็นแล้วมีแต่ความเคารถยำเกรงโดยไม่มีจิตอกุศลอย่างใด เหมียวก็ได้แต่สงสัยว่า คุณครูวัยสาวสวยหมวยเอ็กส์ มันหายไปไหนหมด เรียนมาสิบกว่าปีแทบไม่เคยเจอเลย แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมคุณครูสุดสวยน่ารักจากทั่วประเทศ ที่เพื่อนๆเห็นแล้ว จะลืมภาพคุณครูวัยกลางคนไปเลยล่ะ จะน่ารักขนาดไหน ไปชมกันเลย ทำไมตอนเหมียวเรียน ถึงไม่เจอครูแบบนี้บ้างน้าา ว่าแล้วไปซื้อใบสมัครเรียนใหม่อีกรอบก่อน เผื่อได้เจอครูสาวๆสวยๆแบบนี้บ้าง รับรองว่าจะตั้งใจเรียน ไม่เฉไฉไปไหนแน่นอนฮ๊าฟฟ ที่มา สมาคมครูหน้าตาดี แห่งประเทศไทย
-
โมเม้นท์สุดประทับใจ เมื่อเหล่านักเรียนถูกเชิญมาเล่าเรื่องคุณครูในดวงใจ แต่ไม่รู้ว่าคุณครูรอเซอร์ไพรส์อยู่!!!
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนแล้วแต่เคยผ่านช่วงชีวิตในวัยเด็กกันมาทั้งนั้น และแน่นอนวัยเด็กของทุกคนก็มีคุณครูสุดแสบในดวงใจ ที่มีผลพลิกผลันชีวิต ให้เราได้กลายมาเป็นตัวเรา อย่างที่เราเป็น ในทุกๆ วันนี้ และรายการนี้ก็ได้เชิญให้เหล่าอดีตเด็กตัวแสบ มาพูดคุยถึงคุณครูในดวงใจสมัยเด็กๆ แต่แน่นอนว่ากลางการสัมภาษณ์ จะมีการเซอร์ไพรส์พวกเขาอย่างจั๋งหนับ โดยให้คุณครูในดวงใจ โผล่ออกมากลางงาน แบบที่พวกเขาไม่คาดคิดเลยล่ะ แต่ละคนก็พูดถึงความประทับใจของตนไปตามปกติ ถึงความประทับใจ และเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยความปลาบปลื้มยินดี จะว่าไปแล้วก็คิดถึงคุณครูมากๆ เลยครับ แต่สุดท้ายใครจะรู้ว่าเหล่าคุณครู ก็ได้โผล่มาเซอร์ไพรส์พวกเขากลางรายการเลยล่ะ!!! เหตุการณ์ต่อไปคงเดาไม่ยาก โมเม้นท์สุดประทับใจนี่เข้ามาเต็มๆ เลยทีเดียว มาชมคลิปกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ เหมียวก็เชื่อว่าหลายๆ คนล้วนแต่มีคุณครูในดวงใจกันอย่างแน่นอน แล้วถ้าเพื่อนๆ เจอเหตุการณ์แบบในคลิปนี้ล่ะ จะยิ้มออกกันไหมหนอออ ^^ ที่มา: Distractify
-
มันส์เหลือเกิน!! “ครูโซ่” ครูคณิตที่สอนนักเรียนด้วยเพลงแดนซ์ ที่มันส์สุดๆใน 3 โลก!!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของครูโซ่ ยอดหทัย รีศรีคำ มาบ้างแล้วนะ ด้วยคลิปการเรียนการสอนอันลือลั่น ที่เปิดเพลงแดนซ์ในห้องเรียน ประหนึ่งเป็นดีเจเปิดแผ่น พร้อมกับสอนหนังสือไปด้วย ทำเอานักเรียนถึงกับนั่งไม่ติดโต๊ะ อยากจะลุกขึ้นเต้นตามเลยทีเดียว ล่าสุดเหมียวไปเจอคลิปเด็ดๆจากครูโซ่มาอีกแล้วล่ะ โดยคลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านแชแนลยูทูบ ClipYouOK เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เป็นคลิปในระหว่างที่ครูโซ่กำลังเฉลยการบ้านกับเด็กนักเรียน แต่พอเห็นว่าเด็กๆเริ่มไม่สนใจ คุณครูก็เลยเปิดเพลงแดนซ์มันส์ๆ ปลุกเด็กๆ ขึ้นมาจากความเหงาหงอย จากนั้นก็อธิบายข้อสอบไปด้วย โอ้โห นี่มันสุดยอดคุณครูดีเจแห่งยุคเลยนะเนี๊ยะ ชมคลิปการสอนแบบมันส์ๆได้ที่ด้านล่างเลย มีลูกล่อลูกชน และเทคนิคเด็ดๆ แบบนี้ รับรองนักเรียนไม่เบื่อแน่นอน โจ้วๆๆ!! ที่มา ClipYouOK
-
อ่าเฮื้อออออ!! สื่อจีนเผยภาพคุณครูประถมสุดน่ารัก ไม่เป็นอันเรียนกันแล้วทีนี้
เมื่อวันก่อนแอดเหมียวเพิ่งจะนำเสนอเรื่องราวของคุณครูสาวเกาหลีสุดน่ารักไปนี่เอง ดูเหมือนว่าล่าสุดแดนมังกรจะไม่ยอมน้อยหน้าล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ก็ได้ออกมารายงานว่า ที่จีนมีคุณครูสุดน่ารักไม่แพ้กันเลย คุณครูชาวจีนที่เหมียวพูดถึงนี่้ เธอมีชื่อว่าคุณครู ถังติงติง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้ ชาวเน็ตจึงนำรูปของเธอมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ในจีน ทำเอาชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรักเธอไปตามๆกัน และนอกจากเป็นครูแล้ว เธอยังเป็นคนรักสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายด้วยนะ แหม่ อะไรมันจะดีขนาดนี้ >< ว๊ากกก ไปจีน ไปจีน ไปจีน!! ที่มา ck101
-
และนี่คือจดหมาย ‘ลาโรงเรียน’ จากเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ ที่ใครอ่านแล้วต้องเผลอยิ้มแน่ๆ
มีเรื่องราวน่ารักๆในแวดวงการศึกษาไทยมาอีกแล้ว เมื่อล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพในเฟซบุ๊คกลุ่ม ชมรมครู ค.ศ.1 แห่งประเทศไทย ถึงจดหมายลาของเด็กนักเรียน ที่เขียนออกมาได้อย่างจริงใจเป็นที่สุด เนื้อความคร่าวๆก็คือ…. เด็กจำเป็นต้องลาเพื่อไปดูแลยายป่วย จนกว่าป้าจะกลับมาจากต่างประเทศ จึงกลับมาเรียนอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้น่ารักก็ลองอ่านดูสิครับ . อย่างไรก็ตาม กลับมีคอมเมนท์ออกมาถึงความ เหมาะสม vs ไม่เหมาะสม ในจดหมายลาฉบับนี้ ตัวอย่างเช่น… – ภาษาดูซื่อและจริงใจมากเลยค่ะ แต่ไม่ถูกแบบแผน – เด็กก็คือเด็กครับอาจารย์ ฝึกบ่อยๆเดียวก็ดีเองครับ ยังดีที่ยังเขียนมาบอกให้รู้สื่อสารได้ใจความครับ – ในความเป็นจริงของชีวิตเด็กซื่อใสบริสุทธิ์ ดีแล้วที่เขียนเป็นบทความมา ถ้าสมมุติไปว่าเด็กเขียนไม่มีรูปแบบ เด็กจะไม่เขียนอีกเลย …ความคิดเห็นส่วนตัวครับ – 555 ภาษาหนอ ภาษาไทยมันยากไปใช่ไหม ลูกถึงเขียนผิดเขียนถูก แฟนเว็บเหมียวล่ะครับ อ่านจดหมายของเด็กนักเรียนคนนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง คิดว่าน่ารักดี หรือไม่เหมาะสมไปหน่อย คอมเมนท์กันมาได้จ๊ะ ที่มา: Ruangrote Glinhom