Tag: ฆาตกร
-
วินาทีสุดระทึก เมื่อตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ มือยังเต็มไปด้วยเลือด!!
คลิปวิดีโอสุดระทึกเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ เลือดยังติดมือของเขาอยู่เลย!! เป็นคลิปเหตุการณ์ฟุตเทจ ที่ถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะจับกุมผู้ต้องหาที่เพิ่งจะก่อคดีฆาตกรรมมาหมาดๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Derby ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีความได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แค่คลิปวิดีโอการจับกุมเพิ่งจะถูกนำมาเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ Richard Edge ได้จับกุมนาย Martin McDermott หลังจากที่เขาเพิ่งจะลงมือฆาตกรรมนาย Leslie Salmon วัย 44 ปี มาหมาดๆ ในสภาพที่เลือดยังติดอยู่เต็มมือของเขาอยู่เลย หลังจากที่หาตัวคนร้ายพบเจ้าหน้าที่ได้ทำการหยิบปืนช็อตไฟฟ้าขึ้นมาและตะโกนใส่ผู้ร้ายว่า “อย่าขยับ หากขยับผมจะใช้ปืนไฟฟ้ายิงคุณ!!” “หันไป แล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆ เดินต่อไป เอามือวางไว้บนโรงเก็บของ อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ อย่าแสดงท่าทางคุกคามต่อผมหรือคนอื่น ไม่งั้นผมจะยิงคุณด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ได้ยินมั้ย?” เจ้าหน้าที่กล่าวกับฆาตกร ในที่สุดฆาตกรก็ถูกจับกุม และส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ Derby อย่างลุล่วงไปด้วยดี เจ้าหน้าที่ Edge เล่าถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวว่าเขาได้รับแจ้งมาว่ามีคนถูกแทงในโฮสเทล เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าเหยื่อถูกแทงจนเลือดอาบเต็มไปหมด จึงได้ทำการโทรแจ้งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เพื่อทำการรักษาเหยื่อก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการ หลังจากที่ถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้บอกกับฆาตกรว่า ‘นาย…
-
ช่างภาพจับ “ฆาตกรและผู้สูญเสีย” มา ‘ถ่ายรูปร่วมกัน’ หลังให้อภัย เป็นคุณจะทำได้ไหม???
คุณจะยอมให้อภัยกับฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวคุณหรือไม่ หากได้เปิดใจคุยกับเขา?? สำหรับพวกเราแม้แต่กับคนที่มีความคิดขัดแย้งกับเรา เราก็คงไม่อยากที่จะถ่ายรูปร่วมด้วยแล้ว คนบางคนที่เคยมีปากเสียงกับเรา การจะให้อภัยคนๆ นั้นยังทำได้ยาก หากถามว่าจะให้อภัย “ฆาตกร” ที่ฆ่าคนรักของเราได้หรือไม่ คำตอบคงมีแนวโน้มออกมาทางเดียวกันว่า “ไม่ได้” อย่างแน่นอน (ซ้าย) François Sinzikiramuka – ผู้กระทำผิด (ขวา) Christophe Karorero – ผู้รอดชีวิต ผู้กระทำผิด: “เพราะผมพี่ชายเขาถึงต้องตาย” ผู้รอดชีวิต: “ผมได้รับการขออโหสิจากใจจริง อีกอย่าง ความแค้นจะทำให้เราเสียตัวตน การให้อภัยจะทำให้เราได้ตัวตนกลับคืนมา” แต่ชุดภาพถ่ายล่าสุดของ Pieter Hugo ช่างภาพชาวแอฟริกาใต้ ที่ได้เดินทางไปเก็บภาพของผู้คนในประเทศรวันดาเป็นเวลาครบ 20 ปีหลังสงครามล้างเผ่าพันธุ์รวันดาที่มีผู้คนถูกเข่นฆ่าราวหนึ่งล้านคน โปรเจกต์ของเขาครั้งนี้ก็คือการนำ ฆาตกร และ ผู้สูญเสีย มาพูดคุย ให้อภัย และถ่ายรูปอยู่เคียงข้างกัน ราวกับว่าพวกเขาได้รับคำสอนจากพุทธศาสนาเฉกเช่นประเทศไทยอย่างไรอย่างนั้น… (ซ้าย) Jean Pierre Karenzi – ผู้กระทำผิด (ขวา)…
-
พ่อแม่ปล่อยให้ลูก ‘เสียชีวิต’ ทั้งๆ ที่ช่วยเหลือได้ เพราะความเชื่อทางศาสนาผ่านเฟซบุ๊ก
เรื่องของ ‘ความเชื่อ’ เป็นเรื่องส่วนบุคคล และมันสามารถส่งผลกระทบของชีวิตเราได้มากมายเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่พ่อแม่ยอมปล่อยให้ลูกวัย 10 เดือนเสียชีวิตจากการขาดสารอาหาร และน้ำ เพราะความเชื่อทางศาสนาของตนเอง!! เรื่องมีอยู่ว่านาย Seth Welch และภรรยา Tatiana Fusari ทั้งสองคนอายุ 27 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Solon Township เขต Kent County รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานระบุว่าทั้งคู่เป็นคนที่เคร่งครัดในหลักคำสอนของศาสนาคริสต์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งพวกเขาติดตามผ่านเฟซบุ๊ก และนั่นเองเป็นเหตุที่ทำให้ลูกของพวกเขาต้องเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้หนูน้อย Mary ลูกสาววัย 10 เดือนของพวกเขามีอาการป่วย แทนที่ทั้งคู่จะพาไปหาหมอ แต่กลับไม่ทำอย่างนั้น ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าร่างกายของหนู Mary นั้นซูบผอมลง แต่ก็ไม่ยอมพาลูกไปรักษา เพราะกลัวว่าจะมีการติดต่อหน่วยงานคุ้มครองเด็ก นอกจากนี้ทั้งคู่ยังไม่ยอมรับและไม่เชื่อมั่นในการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน สุดท้าย Mary ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมสองสามีภรรยาในข้อหาทารุณกรรมเด็กจนถึงแก่ความตาย ภาพของหนูน้อย Mary ก่อนหน้านี้ฝ่ายสามีได้ทำการโพสต์เฟซบุ๊กในวันที่ลูกของตัวเองตายว่า…
-
นักโทษแฝดสลับตัวกัน ให้อีกคนที่กำลังจะ “ถูกประหาร” ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง
ราวกับพล็อตหนัง เมื่อฝาแฝดคู่หนึ่งที่ต้องโทษจำคุก ล่าสุดแฝดคนหนึ่งถูกตัดสินประหารในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ทั้งคู่จึงสลับตัวกันเพื่อให้แฝดอีกคนได้ออกมาสูดอากาศนอกแดนประหารก่อนตาย… David Moore และ Carey Dean Moore พี่น้องฝาแฝดในวัย 60 ปีเท่ากัน มีการสลับตัวกันบ่อยครั้งขณะถูกขังภายในทัณฑสถานของรัฐเนแบรสกา หลังจากทั้งคู่ถูกขังมานานกว่า 30 ปี และในปีนี้ David จะต้องเห็น Carey จากไปด้วยการประหารชีวิต เนื่องจากได้ก่อคดีฆาตกรรมสังหารคนขับแท็กซี่ 2 รายในปี 1979 แฝดทั้งสองจึงขออนุญาตพบปะพูดคุยกัน อ้างว่าคุยเรื่องครอบครัวทางบ้าน และได้ทำการสลับเสื้อผ้าและงานในเรือนจำ เพื่อให้ Carey ได้ออกนอกแดนประหารไปสูดอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้การประหารกำลังจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 แต่ชาวเมืองในละแวกไม่ต้องการให้มีการประหารชีวิตเกิดขึ้นภายในเมือง มีเพียงครอบครัวของคนขับแท็กซีที่เป็นเหยื่อการฆาตกรรมเมื่อ 30 ปีที่แล้วเท่านั้นที่ต้องการให้ชายผู้พรากชีวิตสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ที่มา: ladbible, thesun และ journalstar
-
นักโทษบังเอิญฆ่าตัวตายในห้องขัง เพราะพยายาม “สำเร็จความใคร่” ด้วยสายไฟฟ้า
ชายผู้เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นหญิงสาว 5 ราย ถูกพบเสียชึวิตในห้องขังพร้อมพบสายไฟฟ้าบริเวณอวัยวะเพศและหัวนม Egidius Schiffer หรือมีฉายาว่า Aachen Strangler นั้นถูกเชื่อว่าบังเอิญฆ่าตัวเองตายขณะที่ใช้สายไฟฟ้าในการ “ช่วยตัวเอง” ให้สำเร็จความใคร่ในเรือนจำ Bochum ประเทศเยอรมนี ร่างศพของเขาถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018 ในสภาพที่มีสายไฟฟ้าจากโคมไฟแปะติดเอาไว้กับหลายๆ ส่วนบนร่างกายของเขา ขณะที่เต้าเสียบถูกเสียบอยู่ในปลั๊กไฟ Egidius Schiffer Schiffer ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ก่อนหน้านี้เขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อเพศหญิง 5 รายเมื่อปี 1983 ถึง 1990 และถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีให้หลังจากการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของเขา เพราะในปี 2008 เจ้าหน้าที่ได้รับ DNA ของเขามาจากการที่เขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีลักขโมยเศษเหล็ก จึงทำให้โยงกลับไปยังการฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านี้ได้ เหยื่อ 5 รายของเขาเป็นเพศหญิงทั้งหมด และมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี และเขาก็ยังได้ทำการข่มขืนเหยื่อ 3 รายจากทั้งหมดด้วย …
-
ตำรวจรัสเซียบุกจับตัวหนุ่มฆาตกรกินคน หลังพบว่าฆ่าหญิงสาวและควักหัวใจมากิน!?
เหตุการณ์สุดสยองขวัญ หลังเจ้าหน้าบุกเข้าจับตัว Alexey Yastrebov ชายวัย 35 ปี ที่เมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย หลังเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยว่าเขาคือฆาตกรกินคน ผู้เสียชีวิตนั้นมีชื่อว่า Ekaterina Nikiforova คุณแม่ลูกสองวัย 27 ปี ซึ่งเธอถูกฆาตกรแทงที่ท้องและเฉือนที่ลำคอจนเสียชีวิต จากนั้นก็ตัดปอดและหัวใจของเธออกมาเพื่อต้มกิน โฉมหน้าของผู้เสียชีวิต แต่ที่หนักกว่าคือ ตัวฆาตกรไม่ได้หนีไปไหน แต่เขาได้โทรติดต่อกับเจ้าของห้องเช่าและบอกให้เธอเรียกตำรวจมาพร้อมบอกว่าเขาอยู่ข้างๆ กับศพที่เต็มไปด้วยเลือด เจ้าหน้าที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่า ตอนที่ทุกคนไปถึงพวกเขาก็พบกับ Alexey ที่รออยู่แล้ว โดยเขารับสารภาพว่าเขาเป็นคนทำทั้งหมด และก่อนหน้านั้นเขาก็พยายามจะฆ่าตัวตายแล้วแต่มันไม่สำเร็จ Zhanna Avdeeva เจ้าของห้องเช่าเล่าว่า ตอนที่เธอมาถึงเธอก็เจอฆาตกรคนดังกล่าวรออยู่ ซึ่งข้างๆ เป็นศพของผู้เสียชีวิตที่มีสภาพถูกเปิดอกออกอย่างโหดร้ายและเป็นภาพที่เธอก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะมองซ้ำ นอกจากนี้เธอยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด เธอวางแผนจะให้นักบวชมาปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วย ด้าน Evgeny Avdeev พี่ชายของเจ้าของห้องพักก็บอกว่า Alexey นั้นเป็นเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเขาคิดภาพไม่ออกเลยว่าเพื่อนของเขาจะทำอะไรที่โหดร้ายแบบนี้ได้ ซึ่งเขายังเสริมว่าตอนที่รู้เรื่องขนแขนของเขาลุกไปทั้งตัวเลยทีเดียวและนอกจากนี้เขายังคาดว่าเพื่อนของเขาและผู้เสียชีวิตอาจจะมีอาการมึนเมาและมีปากเสียงกันก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงหาคำตอบของแรงจูงใจต่อไป พร้อมตรวจสอบว่าฆาตกรคนดังกล่าวและผู้ตายมีอาการมึนเมาหรือเสพยาหรือไม่นั่นเอง…
-
ฆาตรกรอำมหิต…แทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต โดยให้เหตุผลเพียงเพราะว่า ‘ชื่นชอบการฆ่า’
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดอำมหิต ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการแทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต แล้วให้เหตุผลที่ทำว่า เขานั้นเพราะ “ชื่นชอบการฆ่า” Shea Heeley วัย 19 ปี ได้หลอกล่อหญิงสาว วัย 16 ปี นามว่า Leonne Weeks ไปในที่ลับตาคนในย่าน Dinnington ใน South Yorkshire ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแทงเธอ 28 ครั้งโดยไม่มีเหตุผล ในเดือนมกราคม 2017 Heeley ได้รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าจริงซึ่งเขาต้องถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 24 ปีครึ่ง ศาล Sheffield Crown ได้รับข้อมูลมาว่า Heeley ได้พยายามตีสนิทกับเหยื่อ หรือสาว Leonne มาร่วมปี ก่อนที่จะทำการฆ่า และจงใจตีสนิทเธอเพื่อสนองความพึงพอใจของตนที่ “ชื่นชอบการฆ่า” ทางศาลยังทราบด้วยว่าหลังจากที่ Heeley ถูกจับกุม เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจิตเวชว่า “ผมชอบสิ่งที่ผมทำลงไปนะ ก็แค่ฆ่าเอง ผมน่ะชอบการฆ่า“ ผู้พิพากษา Paul Watson กล่าวว่า…
-
นักจิตวิทยาใช้เวลา 3 ปี หา ‘โรคจิต’ ในหนังกว่า 400 เรื่อง ที่เหมือนจริงมากที่สุด!!
คำว่า “โรคจิต” หากว่าอธิบายอย่างง่ายๆ ก็คือคนที่มีพฤติกรรมและจิตใจที่ผิดปกติ ส่วนมากจะสังเกตเห็นได้ว่า คนโรคจิตจะจิตใจเย็นชา ชอบใช้ความรุนแรง และมักจะหาความสุขให้ตัวเองในวิธีแปลกๆ การสังเกตคนโรคจิตจะแบ่งได้เป็นสองประเภท ก็คือผู้ที่เป็นโรคจิตที่เห็นได้ชัดเจน (Classic) กับผู้ที่เป็นโรคจิตแบบไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic) ซึ่งบางครั้งอาการโรคจิตก็สังเกตได้ยากเนื่องจาก อาการสามารถถูกกลบฝังไว้ได้ ภายใต้พฤติกรรมที่ดูปกติ ทั้งนี้ในปี 2014 ก็ได้มีนักจิตวิทยาชาวเบลเยี่ยมท่าหนึ่งนามว่า Samuel Leistedt ต้องการจะค้นหาภาพยนตร์ที่ภายในเรื่องมีตัวละครโรคจิตที่เสมือนจริงที่สุด Leistedt จึงรวบรวมพรรคพวก 10 คนมาช่วยกันดูภาพยนตร์จำนวน 400 เรื่อง ซึ่งใช้เวลาไปกว่า 3 ปีด้วยกัน ภาพยนตร์ที่เขาเลือกดูจะอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1915 จนถึง 2010 ซึ่งหลังจากที่พวกเขาชมภาพยนตร์ทั้ง 400 เรื่องเสร็จเรียบร้อย ทำให้พบตัวละครที่มีความเป็นโรคจิต 126 ตัว และผลลัพธ์ที่พวกเขาค้นพบครั้งนี้หากเรียงตามความสมจริงของอาการโรคจิต จะพบว่า… อันดับที่ 6 นับทศวรรษ ภาพยนตร์ฆาตกรนักเชือดทั้งหลายได้แสดงออกถึงการเป็นโรคจิตที่ ไม่สมจริงสุดๆ ภาพยนตร์อย่างเช่นเรื่อง A Nightmare on Elm Street และ Friday the…
-
ฆาตกรหลบหนีตำรวจได้นานเป็นสิบๆ ปี แถมระหว่างนั้นก็ติดต่อมาเยาะเย้ยตำรวจอยู่เรื่อยๆ
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1990 พนักงานธนาคารในฟลอริด้า Beverly McGowan ตัดสินใจหาเพื่อนร่วมห้องด้วยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจห้องว่างในบ้านของเธอ หนึ่งในผู้ที่ติดต่อมาคือผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Alice ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นลูกจ้างของบริษัท IBM จากประเทศอังกฤษ Alice ยังบอกด้วยว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Numerology ศาสตร์การศึกษาความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างตัวเลขกับเหตุการณ์ในชีวิตคน ในตอนนั้น Beverly รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเพื่อนร่วมห้องผู้น่าสนใจคนนี้มาก อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่ย้ายเข้า เรื่องราวก็ดำเนินไปแบบไม่ค่อยจะดีนัก เพราะแม้ Alice จะเสนอการทำนายอนาคตให้ Beverly แต่ Beverly กลับรู้สึกแปลกๆ เพราะ Alice นั้นต้องการทั้งใบขับขี่ หนังสือเดินทาง และแม้แต่บัตรประกันสังคมของเธอในการทำนาย แน่นอนว่าการร้องขอแบบนี้ย่อมทำให้คนที่ได้ฟังต้องระวังตัวกันทั้งนั้น แต่เพราะ Beverly อยากจะสร้างความไว้วางใจระหว่างเธอกับเพื่อนร่วมห้อง เธอจึงตัดสินใจที่จะให้ข้อมูลเหล่านั้นกับ Alice แต่นั่นก็กลายเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเธอไปแทน สามวันต่อมา ได้มีการพบซากศพที่ถูกแยกชิ้นส่วนอย่างน่าสยดสยอง บริเวณริมแม่ในเขต St. Lucie County รัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นร่างของ Beverly ที่ถูกตัดเอามือ ศีรษะ…
-
ไม่อยากให้ทุกข์ใจ…คุณพ่อพาลูกสาวไปเยี่ยมหลุมศพพี่ชาย ที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ภาพสุดสะเทือนใจของผู้เป็นพ่อที่พาลูกสาววัย 4 ของเขามายังหลุมที่เธอไม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าหนูน้อยคงได้แต่ตั้งข้อสงสัยว่าพ่อพาเธอมายังที่ใด และหลุมศพที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าคือหลุมศพของใคร… ภาพของผู้เป็นพ่อที่ตัดสินใจจะบอกความจริงแก่หนูน้อยที่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องราวอันโหดร้ายในอดีต Ralph Bulger คือชายผู้อยู่ในภาพดังกล่าว โดยภาพนี้ได้ถูกบันทึกที่สุสานแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยเขาได้พาลูกสาวคนเล็กวัย 4 ขวบมายังหลุมศพของพี่ชาย James Bulger ที่หากยังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะมีอายุครบ 25 ปี แน่นอนว่าหนูน้อยวัย 4 ขวบ และ James นั้นไม่เคยพบกัน เพราะเขานั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1993 เมื่อตอนที่เขาอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น ส่วนสาเหตุการตายของ James นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่โหดที่สุดคดีหนึ่งในเกาะอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเมื่อตอนที่เขาอายุ 2 ขวบ ขณะเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้า เขาได้ถูกเด็กชายวัย 10 ขวบสองคน Jon Venables และ Robert Thompson ลักพาตัวและ 2 วันต่อมาก็ถูกพบเป็นศพบริเวณรางรถไฟ (คดีดังกล่าวทำให้ Jon และ Robert ถือเป็นฆาตกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ) …
-
คุณแม่เดือด เมื่อ ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายตนเอง หันมาหัวเราะเย้ยใส่ ขณะที่อยู่ในศาล…
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Elizabeth Marie Wren ผู้เป็นแม่ของเด็กชายสองคนที่ถูกฆาตกรรม ได้ถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีของรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเธอเกิดอาการโมโหรุนแรง และพุ่งตัวเข้าไปยังผู้ต้องหาที่เชื่อว่าเป็นผู้ร้ายในคดี Maurice ‘Reece‘ Gordon อายุ 16 ปี และ Larry Ordway อายุ 14 ปี ทั้งคู่เป็นบุตรชายของ Elizabeth ร่างของพวกเขาทั้งสองถูกพบในบ้านร้างแห่งหนึ่ง โดยสภาพศพนั้นถูกเผาจนไหม้เกรียม จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Brice Rhodes ชายวัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ก็ได้เข้ารับการพิจารณาคดี พร้อมกันกับ Elizabeth ที่เข้าร่วมรับฟังอย่างสงบ . จากนั้นราว 20 นาที ขณะที่ผู้ต้องหากำลังถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีนั้น ตามรายงานบอกว่า เขาหันหน้ากลับมามองที่ Elizabeth พร้อมทั้ง “หัวเราะ” ออกมา ทำให้หญิงสาวพุ่งตัวเข้าหา Rhodes…
-
สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…
ปกติแล้ว ฆาตกรเวลาลงมือฆ่าคนเสร็จ พวกเขามักจะทำลายหลักฐานด้วยกรนำศพไปถ่วงน้ำบ้าง เผาทิ้งบ้าง แต่สำหรับเขาคนนี้เลือกที่จะบดศพให้เละละเอียด นี่คือสารคดีเรื่องราวของ Robert Pickton วัย 49 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ในประเทศแคนาดา ที่ลงมือฆ่าหญิงขายบริการกว่า 49 ราย ร่างของหญิงขายบริการเหล่านั้นถูกบดจนเละก่อนจะนำไปให้หมูในฟาร์มกินและบางส่วนขายให้กับลูกค้า ซึ่งบางคนเป็นตำรวจท้องถิ่น ในที่สุดเขาจึงถูกจับในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ปัจจุบันเขาอายุ 68 ปี และยังคงอยู่ในคุกที่รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา อย่างไรก็ตามได้มีการเผยแพร่ตอนใหม่ของสารคดี Voice of A Serial Killer ที่ออกอากาศผ่านช่อง British network CBS Reality ในสหราชอาณาจักรเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากการตรวจสอบ รวมทั้งคำสารภาพของ Pickton ที่เล่าให้เพื่อนร่วมห้องขังฟัง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องขังคนนั้นคือสายลับจาก Royal Canadian Mounted เขาจึงพูดกับเพื่อนคนนั้นว่าเป้าหมายของเขาคือต้องการสังหารผู้หญิง 50 ราย… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 ตอนที่ Pickton ถูกจับ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอข้าวของของผู้หญิงหลายรายที่หายไปในฟาร์มของเขา หลังจากที่ถูกจับกุม ตำรวจพบร่องรอย DNA ของผู้หญิงที่หายไป…
-
ฆาตกรในคราบเทวดา… บุรุษพยาบาลชาวเยอรมัน ถูกจับกุมหลังฆ่าคนไข้ไปกว่า 97 คน!!
บุรุษพยาบาล ฉายาว่า “เทวดาแห่งความตาย” มีความผิดข้อหาฆาตกรรมโดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และต่อมาจึงพบอีกว่า เขาได้ก่อเหตุฆาตกรรมไปแล้วถึง 97 ศพ พยาบาลฆาตกรรายนี้มีชื่อว่า Niels Hoegel ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน ได้ถูกตัดสินคดีว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเหยื่อ 2 ราย และพยายามฆ่าอีก 2 ราย และล่าสุดผู้ฟ้องร้องกล่าวว่าเมื่อหลายปีก่อน Niels ได้ฆ่าคนไป 97 คน จากทั้ง 2 โรงพยาบาลที่เขาเคยอยู่ โดยแห่งแรกก็คือ โรงพยาบาลใน Oldenburg ตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปี 2002 และแห่งที่สองก็คือคลินิกที่ Delmenhorst ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปี 2005 จากการสอบสวน Niels ในปี 2015 เขาให้การว่า ที่คลินิกใน Delmenhorst เขาจงใจทำให้ผู้ป่วยประมาณ 90 คนมีภาวะหัวใจล้มเหลว เนื่องจากเขาชื่นชอบในการพยายามทำให้ผู้ป่วย “ฟื้นจากความตาย” และเขายังให้การเพิ่มว่าเขาได้ทำการฆาตกรรมมาตลอดในช่วงที่ทำงานใน Oldenburg หลังจากได้รับคำสารภาพจาก Niels ผู้สืบสวนจึงทำการทดสอบสารพิษของผู้ป่วยที่เสียชีวิตในช่วงที่ Niels ทำงานในโรงพยาบาล และทำให้พบความผิดของเขาเพิ่มมากขึ้น ผู้ฟ้องร้องนามว่า Martin…
-
หนุ่มมะกันยิ้มร่า หลังถูกจับเพราะฆาตกรรมแม่ตัวเอง ด้วยการใช้มีดแทงเข้าที่คอของเธอ
ภาพของผู้ต้องหาหนุ่มที่กำลังยิ้มหลังจากที่เขาเพิ่งฆ่าแม่แท้ๆ ของตัวเอง ด้วยการใช้มีดแทงคอของเธอหลายครั้งจนเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อนาย Justin Jay Paul หนุ่มวัย 22 ปีได้ลงมือฆ่าแม่ของเขาในบ้านที่เมือง Westland รัฐมิชิแกนเมื่อเช้าวันพุธที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ แต่ทว่าหลังจากที่หนีไปได้ไม่นานฆาตกรหนุ่มก็ถูกจับได้สำเร็จ เขาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าที่ขา 1 นัดก่อนที่จะพาตัวเข้าห้องขัง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมกับบอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ฆาตกรรมครั้งนี้ พ่อของชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าลูกชายของเขามีอาการไบโพล่าและโรคสมาธิสั้น และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยมีปัญหากับแม่มาก่อนเลย คุณ Jeanette Paul ผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้านที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทางครอบครัวพบร่างของคุณ Jeanette Paul อยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านทุกห้องเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย ก่อนที่พวกเขาจะพบ Justin ในเมือง Livonia ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 24 กิโลเมตร ในตอนแรกชายหนุ่มพยายามวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะถูกยิงเข้าที่ขา 1 นัด และนำตัวส่งโรงพยาบาล ตำรวจที่พบ Justin บอกว่าพบมีด 1 ด้ามอยู่ในกระเป๋าของเขา ขณะนี้ชายหนุ่มกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี และเตรียมที่จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 มกราคม ที่มา dailymail
-
สาวๆ ควรรู้!! วิธีที่ฆาตกรต่อเนื่องใช้เลือกเหยื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
การฆาตกรรมต่อเนื่องอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ทำให้หลายๆ คนต้องขวัญผวาและไม่กล้าที่จะออกไปไหนกลางค่ำกลางคืนคนเดียวแน่ๆ และถึงแม้ว่าในบ้านเรานั้น ข่าวคราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมต่อเนื่องนั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่การรู้เกี่ยวกับการเลือกเหยื่อของอาชญากรเหล่านี้ก็อาจจะช่วยให้คุณระวังตัวได้มากยิ่งขึ้น จากบทความในเว็บไซต์ต่างประเทศได้ระบุว่าเหล่าฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะเลือกเหยื่อจากลักษณะทางกายภาพอย่างเช่นเพศ เชื้อชาติ อายุ หรือความแข็งแรงของเหยื่อ นอกจากนี้พวกเขามักจะเลือกคนที่มีลักษณะเข้ากับอาชีพหรือการดำเนินชีวิตของพวกเขา มีการเปิดเผยข้อมูลในสหรัฐอเมริกาว่ามีผู้หญิงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ที่ตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งพวกเธอนั้นตกเป็นเหยื่อมากกว่าผู้ชายถึง 10 ต่อหนึ่งเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเหล่าเด็กผู้ชาย ผู้อพยพ และแรงงานชายก็มีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน นอกจากนี้ในกลุ่มของเด็กผู้หญิง และสาววัยรุ่นก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเหล่าฆาตกรต่อเนื่องอีกด้วย “พวกฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะไม่สามารถโน้มน้าวใจ หรือใช้แรงจัดการกับเหล่าผู้ใหญ่ได้ดังนั้นพวกเขาจึงมักที่จะพุ่งเป้ามาที่เด็กๆ ส่วนเหล่าอาชญากรที่เป็นวัยรุ่นนั้นก็มักจะไม่เลือกเหยื่อที่เป็นสาวๆ สูงวัย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะหลอกล่อพวกเธอได้นั่นเอง” ข้อความจากบทความ Killing for sport: Inside the minds of serial killers ของ Pat Brown จากหนังสือ The encyclopedia of serial killers ของ Michael Newton เผยว่านักจิตวิทยาและนักกฎหมายมีความเห็นเหมือนกันคือเหล่าฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะมีพฤติกรรมในการเลือกเหยื่อเหมือนกับนักล่า ซึ่งพวกมันจะเลือกเหยื่อที่อ่อนแอและไม่ค่อยระวังตัวเหมือนลูกแกะหลงฝูงนั่นเอง ที่มา serialkillersvictimschoosing
-
18 เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง กับวีรกรรมอันโหดร้ายที่เปิดเผยให้โลกได้รับรู้
การฆาตรกรรมเป็นอีกหนึ่งการกระทำที่ดูร้ายแรงสำหรับมนุษย์ การฆ่าชีวิตคนๆ หนึ่งนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าด้วยรูปแบบหรือวิธีใดก็ตาม ฆาตกรมักจะมีจุดจบคือการถูกตัดสินจำคุกหรือประหารชีวิต ตามข้อหาและระดับความรุนแรงที่พวกเขาได้ทำไป ซึ่งในประวัติศาสตร์แล้วจำนวนเหล่าฆาตรกรนั้นมีมากมายหลายคน แต่ก็มีฆาตกรจำนวนหนึ่งที่ต้องจำรึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าพวกเขาเป็นฆาตรกรที่โหดเหี้ยมที่สุด ยกตัวอย่างเช่น 18 คนนี้ 1. Jeffrey Dahmer หรือที่เรียกกันว่า Milwaukee Cannibal ผู้ต้องหาคดีฆ่าชาย 17 ราย ข่มขืน และกินเนื้อมนุษย์ เขามีความผิดปกติทางบุคลิกภาพหลายอย่างจนขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งความโรคจิต เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หลังจากที่เขาได้เข้าไปอยู่ในคุกก็ถูกเหล่านักโทษรุมทำร้ายจนเสียชีวิต 2. The Zodiac Killer ฆาตรกรนิรนามที่สังหารประชากรชาวรัฐแคลิฟอร์เนียและเนวาดากว่า 37 ราย ฆาตรกรได้ส่งรหัสลับไปให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความซับซ้อนในการตามหา มีหลายคนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ 3. Luis Garavito ฉายา The Beast สารภาพว่าเขาฆ่าเด็กชายอายุ 6 ถึง 16 ปีจำนวน 147 คนในระยะเวลา 7 ปีที่โคลอมเบีย ซึ่งตำรวจคาดว่าเขาน่าจะฆ่าคนมากกว่า 300 คนจากการสารภาพระบุแผนที่จุดซ่อนศพที่เขาทยอยให้ปากคำออกมาเรื่อยๆ 4.…
-
หนุ่มใหญ่รัสเซีย ชวนสาวมาทานข้าวที่บ้าน ก่อนจับมัดและลงมือกัดใบหู-กินเนื้อเธอสดๆ
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย หลังจากที่นาย Anatoliy Ezhkov วัย 41 ปี ได้กัดเข้าที่ใบหู จมูก และปลายนิ้วของคู่เดทของเขา หลังจากที่ชวนเธอมาทานอาหารเย็นที่บ้าน ตามรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา บอกว่านาย Anatoliy ได้เชิญคุณ Irina Gonchar พยาบาลสาววัย 41 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายในครั้งนี้มาที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาหลังจากที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ นาย Anatoliy Ezhkov ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจากที่ให้เธอดื่มเหล้าจนเมาได้ที่แล้ว ชายคนดังกล่าวได้จับเธอมัดและเริ่มใช้ฟันของเขากัดลงไปบนเนื้อของเธอ มีการคาดการณ์ว่าชายวัย 45 ปีคนดังกล่าวอาจจะอยู่ในอาการเมาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ Anatoliy ใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงในการกัดส่วนใบหู จมูก ปลายนิ้ว และเนื้อส่วนหลังของเธอด้วยฟันของเขา แต่โชคดีที่หญิงสาวคนดังกล่าวถูกช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา หลังจากที่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอและโทรแจ้งตำรวจ ภาพต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม . . . . . หญิงสาวถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้ๆ เพื่อทำการรักษาทันที ส่วนทางด้านญาติของเธอก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า…
-
17 คดีฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะไขคดีได้!!
การฆ่าคนถือว่าเป็นการกระทำที่นอกจากผิด ศีลธรรม จริยธรรมแล้ว ยังผิดกฎหมายในแทบจะทุกประเทศบนโลกนี้ด้วย ซึ่งการเอาผิดคนที่เป็นฆาตกรก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันอย่างละเอียด บางคดีจึงต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ เลยทีเดียว แต่นี่คือ 17 อันดับคดีฆาตกรรมที่บางคดีต้องใช้เวลาในการไขคดีเป็นทศวรรษเลยทีเดียว ไปดูกันว่าจะมีความน่ากลัวและใช้เวลานานแค่ไหน 1. John List เขาฆ่าครอบครัวของเขาในปี 1971 และได้หายตัวไป หลังจากนั้นในปี 1989 มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดูรายการ America’s Most Wanted แล้วก็พบว่าเพื่อนบ้านของเธอที่ชื่อ Robert Clark ได้มีลักษณะท่าทางที่เหมือนกับ List เธอจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและปรากฎว่า ใช่คนเดียวกันเขาจึงถูกจับกุมในปี 1990 ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี : 19 ปี 2. การตายของ Roy Mccaleb Roy McCaleb ถูกพบเป็นศพอยู่ที่บ้านของเขาที่ Houston จากการถูกยิงในปี 1985 โดยภรรยาของเขา Carolyn Sue Krizan-Wilson ได้ให้การว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้านและใช้ปืนยิงสามีของเธอ ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดลงได้จนในปี 2013 เธอก็ได้สารภาพว่าเธอเป็นผู้ลงมือยิงสามีของเธอเอง ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี: 28 ปี 3. การตายของเจ้าหน้าที่ Richard…
-
หนังฆาตกรรมสยองขวัญ The Poughkeepsie Tapes ที่ไม่อาจฉายในโรงได้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว…
ในแต่ละปีมักจะมีหนังสยองขวัญออกมาสร้างความหลอนให้เราได้อย่างไม่หวาดไม่หวั่น ไม่ว่าจะผีไทย ผีฝรั่ง ผีจีน หรือแม้แต่ผีเล่นหัว!? ทว่าวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ The Pughkeepsie Tapes ผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับ John Erick Dowdle จากปี 2007 ที่น่ากลัวซะจนถูกแบนห้ามเผยแพร่สู่ที่สาธารณะมานานนับ 10 ปี!! ลองไปชมตัวอย่างกันก่อนเลย.. หลังจากที่ได้ชมตัวอย่างหนังแล้ว แม้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่เราก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันว่า ภาพยนตร์ชุดนี้เป็นหนังสยองขวัญถ่ายทำเชิงสารคดี ที่มีความคล้ายคลึงกับ The Blair Witch Project (สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย) โดยทั้งหมดจะเป็นเรื่องราวของตำรวจในนิวยอร์ก ที่ได้ค้นพบเทปวิดีโอบันทึกลับกว่า 800 ม้วนของฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาในวิดีโอจะเผยให้เห็นถึงเรื่องราวของเหยื่อแต่ละคนก่อนจะถูกล่อลวงมาฆาตกรรมอย่างโหดร้ายทารุณ นอกจากนั้นทางผู้กำกับเองก็ได้ชี้แจงว่าเรื่องราวในภาพยนตร์ทั้งหมดอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นที่ Poughkeepsie ในช่วงปี 1996 – 1998 ซึ่งเป็นช่วงที่มีเหตุฆาตกรรมและการลักพาตัวหญิงสาวทั้งหมด 8 คน ก่อนจะสืบทราบว่าเป็นฝีมือของ Kendall Francois ฆาตกรโรคจิตที่ลวงเหยื่อมาทารุณกรรมอย่างโหดร้าย ทว่าในที่สุดเจ้าตัวก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตไปเมื่อปี…
-
นักเขียนใช้เวลา 26 ปี สืบหาตัวตนที่แท้จริงของ Jack The Ripper ฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนโลก…
Jack The Ripper เป็นคนที่มักจะถูกนำไปอ้างชื่อในคดีฆาตกรรม รวมทั้งหนังสืบสวน สอบสวน หรือแม้แต่ในการ์ตูนโคนันเองก็เคยปรากฏชื่อนี้เหมือนกัน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า Jack The Ripper เป็นใครกันแน่? แล้วทำไมถึงต้องมีการกล่าวอ้างชื่อของเขาบ่อยขนาดนี้? Jack The Ripper เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมานับครั้งไม่ถ้วนในประเทศอังกฤษ แต่กลับไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้เลย และยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ David Bullock ผู้เป็นนักเขียน จึงได้เริ่มค้นคว้าเรื่องของ Jack the Ripper เมื่อ 26 ปีที่แล้ว และค้นพบว่าชายที่ชื่อ Thomas Cutbush นั้น เข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มากที่สุด ผู้เขียนได้เข้าถึงข้อมูลของ Cutbush จากโรงพยาบาลจิตเวช Broadmoor จนทำให้เขาค้นพบแผนการฝังศพของครอบครัวหนึ่งในสุสาน Nunhead Cemetery ซึ่งเชื่อว่า Cutbush ยังใช้ที่นั่นเป็นที่พักอาศัยด้วย Thomas Cutbush ในหนังสือ “The Man Who Would Be Jack” Bullock เขียนไว้ว่า “คนมักจะคิดว่าเขาเสียชีวิตใน Broadmoor…
-
ฆาตกรต่อเนื่องผู้สังหารเหยื่อ 7 ราย รับสารภาพต่อศาลสูง และจะรับโทษจำคุก 360 ปี!!
สำหรับคดีร้ายแรงอย่างการฆ่าคนนั้น ส่วนใหญ่จะผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษสูงสุดคือ ‘ประหารชีวิต’ แต่สำหรับกรณีดังกล่าว บางประเทศก็ได้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว จึงกลายเป็นว่าโทษสูงสุดถูกแปรเปลี่ยนให้กลายมาเป็นการถูกจำคุกตลอดชีวิตแทน และหากผู้หาก่อคดีร้ายแรงต่อเนื่องหลายคดีก็ต้องรับโทษตามจำนวนของคดีที่ก่อเอาไว้ อย่างเช่นคดีสะเทือนขวัญของฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปถึง 7 คน เป็นเหตุให้ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 360 ปี William Devin Howel วัย 47 ปี จากเมือง New Britain รัฐ Connecticut ได้รับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีภายในศาลสูงแห่งเมือง New Britain ว่าเขาได้ลงมือฆาตกรรมเหยื่อมากถึง 6 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยก่อคดีฆาตกรรมเหยื่อรายหนึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว นั่นก็คือ Nilsa Arizmendi และถูกตัดสินความผิดร่วมกับการก่อเหตุที่เกิดขึ้นอีกรวมทั้งสิ้น 7 ราย Howell เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ Connecticut เท่าที่เคยเกิดขึ้นมา โดยที่ไม่นับรวมกับเหตุการณ์สังหารหมู่ในโรงเรียนประถม Sandy Hook ณ เมือง Newtown เมื่อปี 2012 ทั้งนี้ศพของเหยื่อทั้ง 7 ราย ถูกฝังอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งบนถนน Hartford หมายเลข…
-
ฆาตกรต่อเนื่อง ปรบมือยั่วยุครอบครัวเหยื่อ ไร้สีหน้าสำนึกผิด หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 71 ปี
กลายเป็นที่วิพากย์วิจารย์บนโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของฆาตกรต่อเนื่องวัย 20 ปี ที่กำลังยิ้มโดยไม่มีความรู้สึกผิดและละอายใจ เมื่อเขาถูกศาลตัดสินโทษจำคุกนาน 71 ปี จากการกระทำฆาตกรรมเหยื่อมาแล้วหลายราย รวมถึงการฆ่าข่มขืนเหยื่อรายล่าสุด Cameron Wilson ฆาตกรโหดได้กล่าวประโยคออกมาเสียงดัง หลังจากที่เขาได้รับพิจาณาโทษว่า “อย่างน้อย ผมก็ยังมีชีวิตอยู่” โดยชายคนดังกล่าวถูกตัดสินว่ามีกระทำความผิดโดยเป็นการฆาตกรรม 5 ครั้ง ข่มขืน 1 ครั้ง และพยายามฆ่าอีก 3 ครั้ง หน้าตาที่ไร้ความรู้สึกผิดของ Cameron Wilson และนี่คือภาพของชายผู้นี้ หลังจากที่เขาทราบผลตัดสินคดีความ ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล ชายหนุ่มก็ไม่ได้แสดงสีหน้าเศร้าโศกหรือรู้สึกผิดแต่อย่างใด แถมเขายังยิ้มและหัวเราะตลอดการรับฟังข้อกล่าวหาอีกด้วย โดยเหยื่อรายสุดท้ายของนาย Wilson นั้นก็คือ Lekita Moore สาวน้อยวัย 18 ปี ที่ถูกฆาตกรโหดรายนี้ข่มขืนและกระหน่ำแทงซ้ำถึง 98 ครั้ง นอกจากนี้เขายังสารภาพรายชื่อของเหยื่อคนอื่นๆ ที่ลงมือฆาตกรรมอีกด้วย หลังจากที่มีการอ่านรายละเอียดโทษของฆาตกรหนุ่มเสร็จเป็นที่เรียบร้อย Wilson ก็ยืนยิ้มพร้อมกับตบมือประชดประชัน สร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวของเหยื่ออย่างมาก หลังจากออกมาด้านนอกศาล หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ตะโกนด่าเขาด้วยความโกรธว่า “ไอ้ฆาตกร แกน่าจะไปอยู่ในนรกซะมากกว่า”…
-
บทสัมภาษณ์ความรู้สึกของ “นักโทษประหาร” ในชั่วโมงสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่
หลายคงคิดว่าช่วงเวลาที่เราจะต้องตายจากโลกนี้ไปนั้นไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่ แต่ทว่านั่นก็ไม่แน่เสมอไปเพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งจะรู้ได้ก่อนว่าวันไหนที่พวกเขาต้องพบเจอกับความตายโดยแท้จริง คนเหล่านั้นคือนักโทษประหารที่ทำคดีร้ายแรงเอาไว้ อย่างเช่นการพรากชีวิตผู้อื่นไปหรือก็คือการเป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านั้นก็จะถูกแจ้งให้รู้ว่าจะต้องถูกฆ่าเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้นในวันไหน ไม่มีทางเลือกใดให้สำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องเจอ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าในช่วงเวลาที่ต้องก้าวข้ามประตูไปสู่ความตาย คนเหล่านั้นจะคิดอะไรกันอยู่และจะแสดงออกมากันอย่างไร จนเมื่อได้มีการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนหนึ่งชื่อว่า Mark Asay ที่ทำความผิดในข้อหาฆาตกรรมชายผิวดำ 2 คน แรงจูงใจมาจากการเหยียดเชื้อชาติ โดยชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่จะถูกประหารก็ได้มีการพูดคุยกับเขาเล็กน้อย การฆาตกรรมของเขานั้นเกิดขึ้นเมื่อได้ยิงชายคนแรกที่มีชื่อว่า Robert Booker เพียงเพราะเรื่องความต่างของเชื้อชาติ หลังจากนั้นก็ให้ Robert McDowell ลูกครึ่งที่เป็นเหยื่ออีกคนทำการสำเร็จความใครjให้กับตัวเองด้วยปาก ก่อนจะฆ่าชายคนนั้นเมื่อรู้ว่าจริงๆ แล้วนั่นเป็นผู้ชายที่แต่งเป็นผู้หญิง คลิปวิดีโอข่าวการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนดังกล่าว เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในปี 1987 จนมาถึงวันที่เขาจะต้องถูกประหารก็ได้ให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเอาไว้ว่า “ผมไม่เคยคิดว่าคนผิวขาวอยู่เหนือกว่าคนอื่น ผมยังคงมีเพื่อนที่เป็นเชื้อชาติอื่นอยู่อีก” อีกทั้งรอยสักสวัสดิกะที่แสดงถึงการแบ่งแยกและเหยียดหยาม เขาก็อธิบายว่าสักเพราะให้สามารถอยู่ในคุกได้ ตอนที่ถูกจับในวัย 19 ปี ประโยคสุดท้ายที่เขาได้พูดทั้งน้ำตาก็คือ “ผมเพียงแค่ต้องการที่จะขอโทษและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของผมเอง” ชายคนนี้เป็นคนผิวขาวคนแรกที่ถูกประหารเพราะว่าฆ่าคนผิวสีในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา การประหารจะให้เขากินน้ำค็อกเทลที่มียาพิษผสมเอาไว้ ตัวยาที่ถูกผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวมีฤทธิ์ในการระงับความรู้สึกที่เปรียบได้กับยาชา ถูกนำมาใช้เพื่อการประหารเป็นครั้งแรก และได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลของยาไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง และทางผู้ผลิตรู้สึกไม่พอใจกับเหตุผลที่นำตัวยาไปใช้ พี่ชายของผู้ตายที่ตกเป็นเหยื่อคนแรกได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการตายของน้องเอาไว้ว่า “อะไรคือเหตุผล? เพียงเพราะเรื่องสีผิวของน้องผมเหรอ? มันไม่มีเหตุผลใดเลยให้เขาต้องทำกับน้องผมอย่างนั้น…
-
เปิดเรื่องราวสยอง ของ “ฆาตกรต่อเนื่องบัลติมอร์” ที่ฆ่าคนแล้วทำเป็นเนื้อบาร์บีคิวตามข้างถนน
คดีฆาตกรรมต่อเนื่องนั้นอาจไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในบ้านเรา และในต่างประเทศเองนั้นก็ไม่ได้มีมากกว่ากันไปซักเท่าไหร่ แต่ว่าความสยองไม่ได้หยุดเพียงแค่ว่าฆาตกรได้คร่าชีวิตของคนไปมากมาย เพราะหลังจากที่เหยื่อกลายเป็นศพแล้วยังต้องพบเจออะไรที่มันมากกว่านั้นอีก มาลองฟังเรื่องราวการพรากชีวิตคนอื่นจากคำกล่าวที่ทิ้งไว้ของผู้ลงมือที่ชื่อว่า Joseph Roy Methany ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้วภายในคุกที่ตนถูกคุมขังในรัฐแมริแลนด์ ประเทศอเมริกา การเสียชีวิตภายในห้องขังของตนเองนั้น ในตอนนี้ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนหาสาเหตุอยู่ แต่ว่านั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องที่เราจะมาเล่ากัน แต่เป็นเรื่องของสาเหตุที่เขาจะต้องถูกจับที่เกิดขึ้นอย่างสยดสยอง เขาถูกตัดสินว่าเป็นฆาตกรที่ได้คร่าชีวิตผู้หญิงสองคนได้แก่ Kathy Spicer และ Cathy Ann Magaziner แต่นั่นยังไม่รวมกับเรื่องที่เจ้าตัวสารภาพออกมาเองว่าได้ฆ่าไปมากกว่านั้นหากแต่ไม่ได้รับการตัดสินใดๆ จากเจ้าหน้าที่ โดยการสารภาพที่เกิดขึ้นภายในคุกนั้นเขาได้พูดว่า จุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมต่อเนื่องนั้นเกิดจากที่ภรรยาของตนติดยาเสพติดจนหนีออกไปทิ้งลูกวัย 6 ขวบเอาไว้ให้เขา หลังจากเรื่องนั้นเขาเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมชายไร้บ้านสองคนที่ใต้สะพาน แต่ก็พ้นผิดเมื่อหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพาเขาเข้าคุกได้ สถานที่ที่เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรแต่หลักฐานไม่เพียงพอ จนเมื่อปี 1994 เขาได้พบเข้ากับหนึ่งในเหยื่อสาวที่ชื่อว่า Magaziner ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งก่อนที่จะล่อลวงเธอไปยังบ้านของเขาที่เป็นเพียงรถพ่วงหลังจอดอยู่ในบริเวณพื้นที่จัดเก็บของบริษัททำแผ่นไม้ซึ่งเป็นที่ทำงานของเขา ด้วยหนทางที่เปลี่ยวและเป็นทางตันที่ต้องใช้กุญแจที่เขามีอยู่เปิดออกเท่านั้น มันจึงไม่ยากเลยที่จะทำการฆาตกรรมหญิงสาวหลังจากที่ทั้งคู่ได้มีอะไรกัน จึงนำสายไฟมารัดคอเธอและนำไปฝังในหลุมที่ไม่ลึกมาก สถานที่ทำงานของเขาและที่เกิดเหตุฆาตกรรมหญิงสาว ภายหลังมีการพบศีรษะของหญิงสาวคนนั้นจากการค้นบ้านของเขาอีกด้วย จนเมื่อตำรวจถามหาแรงจูงใจของการลงมือ เขาก็พูดได้เหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งที่เขาต้องการ พูดจาตะกุกตะกัก ก่อนที่จะบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตัวเขาเองก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นเดียวกัน การสารภาพไม่ได้จบแค่นั้นเมื่อเขาได้พูดต่ออีกว่า เขาได้ทำการหั่นศพของเหยื่อสาวทั้งสองก่อนที่จะนำมันไปขายตามข้างถนนโดยผสมกับเนื้อหมูและทำแซนด์วิชขายให้กับคนผ่านไปมา เสริมอีกว่ารสชาติของเนื้อมนุษย์นั้นมีความเหมือนกับเนื้อหมูจนแยกไม่ออกกันเลยละ…
-
หญิงสาวถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมสามี หลังนกแก้วที่เลี้ยงเอาไว้ พูดตามว่า ‘อย่ายิงนะ…’
นับว่าเป็นอีกหนึ่งการไขปริศนาคดีฆาตกรรม ที่กำลังกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกในเวลานี้ หลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ โดยสืบจากประโยคของนกแก้วที่พูดว่า ‘อย่ายิงนะ..’ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015 Martin Duram สามีของ Glenna Duram ถูกยิงเสียชีวิต ทว่าด้วยหลักฐานอะไรต่างๆ ทำให้ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย Martin Duram และ Glenna Duram ดูเหมือนว่าคดีความทุกอย่างจะจบลงอย่างง่ายดาย นกแก้วที่เป็นสัตว์เลี้ยงของสามีผู้เสียชีวิต ได้ถูกนำไปเลี้ยงต่อโดย Christina Keller (ภรรยาเก่า) ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้า Bud ได้ย้ายมาอยู่กับ Keller เธอก็สังเกตเห็นพฤติกรรมที่แปลกออกไปบางอย่าง นั่นก็คือการที่มันชอบพูดคำว่า ‘อย่ายิงนะ..’ นกแก้ว Bud ผู้ไขคดี ประโยคสั้นๆ ที่ออกมาจากปากของนกแก้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกลับมารื้อฟื้นคดีความนี้ใหม่หมดอีกครั้ง โดยญาติฝั่งผู้ตายเชื่อว่าประโยคคำพูดนั้น เป็นประโยคสุดท้ายที่ออกจากปากของผู้ตาย Lilian Duram มารดาของผู้ตายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันคิดว่าตอนเหตุการณ์เกิดเจ้านกแก้วคงอยู่ตรงนั้น เธออาจลืมไปว่านกแก้วมักจะจดจำทุกอย่างรอบตัว แม้กระทั่งคำพูดโดยที่พวกมันไม่สนแม้แต่ความหมาย ครอบครัวเราเจ็บปวดมากตลอดเวลา 2 ปี…
-
‘อลิซาเบธ บาโธรี่’ ฆาตกรหญิงสุดโหดสังหารมานับไม่ถ้วน เพียงเพื่อต้องการอาบเลือด!?
นี่คือเรื่องราวที่โหดสัสของ ‘อลิซาเบธ บาโธรี่’ ฆาตกรสาวอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์โลก จากฮังการี ต้องย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้น… เธอเติบโตมาในตระกูล ‘บาโธรี่’ ซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวย และมีอำนาจล้นฟ้า พวกเขาปกครองแคว้นทรานซิลเวเนียมาหลายชั่วรุ่น เป็นธรรมดาที่ชนชั้นปกครองมักจะสืบสกุลภายในครอบครัวเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ผู้สืบสกุลอย่าง อลิซาเบธ เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางจิตใจ อลิซาเบธ บาโธรี่ เธอเกิดมาพร้อมกับอาการปวดหัวเรื้อรังตลอดชั่วชีวิตของเธอ มีการบันทึกเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งตอนที่เธอรู้สึกปวดหัวขั้นรุนแรง เธอทนไม่ไหวจึงกัดเนื้อตรงไหล่ของพยาบาลสาวหลุดออกมา และเธอก็ได้ค้นพบว่าเสียงกรีดร้องอันโหยหวน คือสิ่งที่ทำให้เธอหายจากอาการป่วยได้! วันหนึ่งขณะที่สาวใช้กำลังสางผมให้เธอ อาจจะด้วยความประหม่า หรือสัพเพร่า ทำให้เส้นผมของเธอหลุดออกมาเป็นกระจุก ด้วยความโมโหเธอจึงหยิบเชิงเทียนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กระหน่ำฟาดเข้าไปยังศรีษะของสาวใช้จนเสียชีวิต มีเลือดกระเด็นติดอยู่เต็มร่างกายเธอ และเมื่อเช็ดออกเธอกลับรู้สึกว่าเลือดสดๆ ทำให้ผิวหนังของเธอดูอ่อนเยาว์ลง จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น เธอเชื่อว่าเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์ทำให้เธอเป็นอมตะ หลังจากที่ได้สัมผัสกลิ่นคาวเลือดอันหอมหวลเป็นครั้งแรก เธอได้สั่งให้มีการรวบรวมสาวบริสุทธิ์จากทั่วทั้งดินแดน โดยอ้างว่าเป็นการรับสมัครคนให้เข้ามาทำงานในวังร่วมกับเธอ หญิงสาวกว่า 600 ชีวิตต่างรู้สึกยินดี และปลาบปลื้มที่จะได้เข้าไปรับใช้เธอในวัง โดยไม่ทันได้รู้ว่าตัวเองจะถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ทุกคนถูกคั้นเลือดออกมาสดๆ บ้างก็ถูกเหล็กร้อนเผาลำคอ และบ้างก็ถูกเธอใช้มือล้วงเข้าไปในปาก แล้วฉีกร่างออกเป็นสองซีกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งหมดที่เธอทำไปก็เพียงแค่ต้องการเลือดจากสาวบริสุทธิ์ มาใช้อาบประโลมผิวของเธอให้ดูอ่อนเยาว์เสมอ…
-
หญิงกลายเป็นเพื่อนฆาตกรผู้สังหารพ่อของเธอเมื่อ 36 ปีก่อน และเขาก็อยากชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป….
การเป็นเพื่อนกับฆาตกรฆ่าคนไม่ใช่เรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป ยิ่งเป็นฆาตกรที่เคยพรากชีวิตคนสำคัญในครอบครัวไป มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ญาติผู้สูญเสียจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฆาตกร แต่นั่นไม่ใช่กับเธอคนนี้ เพราะเธอสามารถให้อภัยและกลายเป็นเพื่อนฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอได้ หญิงคนนี้มีชื่อว่า Margot Van Sluytsman วัย 55 ปี จากเมืองโทรอนโต ปัจจุบันเธอเปิดสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในแคนาดา จู่ๆ วันหนึ่งก็มีบุรุษปริศนาบริจาคเงินเข้าบริษัทของเธอ ทันทีที่เธอเห็นชื่อผู้บริจาคเธอก็จำได้ในทันที เพราะชื่อนั้นคือชื่อของฆาตกรผู้สังหารพ่อของเธอ เมื่อ 36 ปีก่อน Theodore พ่อของ Margot ในวัย 40 ปี ได้ออกเดินทางไปยังร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่เขาทำงานอยู่ เพื่อเตรียมของสำหรับเทศกาลลดราคาที่กำลังจะมาถึง เขาบอกกับลูกสาวว่าเขาจะกลับมาในอีกไม่กี่ชั่วโมง แต่สุดท้าย เขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย… เย็นวันนั้นเอง ตำรวจได้แจ้งกับครอบครัว Van Sluytsman ว่า มีโจรก่อเหตุปล้นร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายดังกล่าว และ Theodore ถูกหนึ่งในแก๊งโจรยิงเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Margot และครอบครัวเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เธอบอกว่าได้ตอนที่ได้ยินข่าว เหมือนเธอกำลังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่นเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นาน Glen Flett ฆาตกรที่สังหารพ่อของ Margot และแก๊งโจรอีกสองคนก็ถูกจับ เขาถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนอีกสองคนก็โดนโทษหนักไม่ต่างกัน…
-
รู้จัก Belle Gunness ฆาตกรต่อเนื่องสุดโหด ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตฆ่าคนรอบกายไปกว่า 40 คน!!!
เราอาจคิดว่าเพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเมตตา แต่รู้หรือไม่ ในประวัติศาสตร์โลก เคยมีฆาตกรหญิงสุดโหดอยู่คนหนึ่ง ที่ตลอดชีวิตของเธอ ฆ่าคนที่อยู่รอบๆ กายไปนับ 40 คน เธอคนนั้นเป็นใครกัน ไปทำความรู้จักกับเธอกันเลยดีกว่า Belle Gunness เกิดเมื่อปี 1859 ที่เมือง Selbu, Norway ต่อมา Belle เดินทางมายังเมือง Chicago และเธอก็ได้แต่งงานกับชายคนหนึ่งชื่อว่า Mads Ditlev Anton Sorenson เธอมีลูกกับเขาทั้งหมด 4 คน โชคร้าย 2 คนเสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก และต่อมาตัว Sorenson ก็เสียชีวิตในปี 1900 ที่น่าแปลกคือ ตอนนั้นสามีของเธอทำประกันชีวิตไว้หลายบริษัทมาก และเธอก็ไปเรียกร้องเอาเงินประกันทันทีหลังจากที่งานศพของสามีเธอเสร็จสิ้น ในปี 1902 Belle ได้แต่งงานกับ Peter Gunness หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ลูกติดของ Peter ก็ตายอย่างไรสาเหตุ และ Peter เองก็เสียชีวิตในอีกสองสามเดือนต่อมา Belle…
-
‘Kanae Kijima’ ฆาตกรหญิงชื่อดังแห่งญี่ปุ่น ฉายา ‘แม่ม่ายดำแห่งยุคอินเตอร์เน็ต’!!
ปกติแล้วถ้าชวนให้คิดถึงเรื่องฆาตกร เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกถึงภาพชายหนุ่มผู้มีความผิดปกติทางจิต มีท่าทางดูน่ากลัว มาพร้อมกับนัยน์ตาที่ดูโหดร้ายสุดๆ แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับฆาตกรหญิงชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัย เธอได้รับฉายาว่าเป็น ‘แม่ม่ายดำแห่งยุคอินเตอร์เน็ต’ ผู้พรากชีวิตชายหนุ่มมาแล้วหลายต่อหลายคน!! คานาเอะ คิจิมะ เรื่องราวทั้งหมดของเธอนั้นค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว สาเหตุที่เธอได้รับฉายาแม่ม่ายดำ เพราะเธอมักจะหลอกเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายวัยกลางคน และมีฐานะที่ค่อนข้างดีจากเว็บไซต์หาคู่ โดยเธอจะทำทีว่าชวนเหยื่อมาค้างที่บ้านก่อนจะทำการหลอกลวงเอาเงิน และฆาตกรรมอย่างโหดร้าย พร้อมทั้งอำพรางรูปคดีให้ดูเหมือนว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยส่วนใหญ่เธอจะใช้วิธีลวงให้เหยื่อสูดดมควันพิษจากการเผาไหม้ หลังจากที่เธอแอบวางยานอนหลับ และนั่นก็ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการฆ่าตัวตายซะมากกว่า (เป็นวิธีฆ่าตัวตายยอดนิยมของคนญี่ปุ่นในช่วงนั้น) ภาพของเธอจากหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในญี่ปุ่น ในโปรไฟล์ของเธอตามเว็บไซต์หาคู่ เธอมักจะสร้างภาพให้ตัวเองเป็นผู้หญิงไฮโซ มีรสนิยมที่ค่อนข้างใช้เงินสูง และมักจะประกาศว่าตัวเธอเองอยากเป็นเจ้าสาวของคนดีๆ ซักคน ทว่าเรื่องราวทั้งหมดเริ่มเป็นที่สงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อมีคนตรวจสอบพบว่ามีชายสองคนที่รู้จักเธอ และทั้งคู่ต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พบหลักฐานชี้ชัดว่า เธอมีความผิดข้อหาฉ้อโกงติดตัวอยู่ก่อนแล้ว และมีชายอีก 4 คนที่เกี่ยวข้องกับเธอ พร้อมทั้งหายตัวไปอย่างลึกลับเหมือนกัน ต่อมาเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมหลักฐาน โดยศาลได้พิจารณาว่าเธอฆ่าคนไปเพียงเพื่อต้องการทรัพย์สิน และเธอก็พร้อมที่จะฆ่าแฟนหนุ่มทุกคนหลังจากที่เขาไม่สามารถหาเงินให้เธอใช้แล้วได้ โดยมีประโยคหนึ่งที่เธอได้ให้การไว้ในชั้นศาล ซึ่งมันสามารถสะท้อนความเป็นตัวตน และเหตุจูงใจในการกระทำของเธอได้เป็นอย่างดี ‘ฉันมีชีวิตที่หรูหรามาตั้งแต่เด็ก และฉันก็รับไม่ได้ถ้าหากว่าชีวิตจะตกต่ำลง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันก็คือการหาใครซักคน ที่สามารถช่วยเหลือฉันเรื่องเงินได้’ คำกล่าวของเธอในชั้นศาล 13…
-
อะไรที่ทำให้เด็กชายวัย 14 ปีถูกจับข้อหาฆาตกรรม หลังก่อเหตุยิงแม่-น้องชายคาเตียงนอน…
ถ้าดูจากภาพด้านบนใครจะเชื่อว่าครอบครัวนี้เพิ่งผ่านเหตุการณ์ฆ่าล้างครอบครัวสุดสะเทือนขวัญมา และที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าคือเหตุการณ์สุดสะเทือนนั้นคือลูกชายคนโตที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกลางนั้นเอง!! เรื่องราวเกิดขึ้นที่รัฐเพนซิลเวอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทางตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆาตกรรมในครอบครัวหนึ่ง เมื่อพวกเขาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ ดาน่า เรมาเลย์ วัย 46 ปี และเด็กชาย คาเล็บ เรมาเลย์ วัย 8 ปี ฆาตกรคือ เจคอบ เรมาเลย์ วัย 14 ลูกชายและพี่ชายแท้ๆ ของเหยื่อทั้งสอง… โดยในช่วงเช้าของวันนั้น เจคอบได้แอบหยิบปืนที่ซ่อนอยู่ในห้องครัวออกมา จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ห้องนอนของแม่ที่กำลังหลับอยู่ จากนั้นก็จ่อยิงในระยะ “ประชิดมากๆ” จนดาน่าเสียชีวิตในทันที จากนั้นเขาก็เดินไปยังห้องนอนของน้องชาย และจ่อยิงในลักษณะเดียวกัน เมื่อก่อเหตุเสร็จเขาก็โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งว่าพ่อของเขา เดวิด เรมาเลย์ ได้ทิ้งปืนไว้ในห้อง และอยู่ดีๆ ปืนก็ลั่นขึ้นมาเองจนแม่และน้องเสียชีวิต ซึ่งเมื่อตำรวจถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ติดต่อไปยังเดวิด และพบว่าเขายังอยู่ในที่ทำงานขณะเกิดเหตุ ดังนั้นตำรวจเชื่อว่านี่เป็นความพยายามป้ายความผิดไปให้พ่อของเจคอบ ยิ่งไปกว่านั้นตำรวจเชื่อว่าหากเดวิดอยู่บ้านในขณะนั้น ก็ต้องกลายเป็นเหยื่อฆาตกรรมอีกคน ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนถึงสาเหตุว่าทำไมเจคอบถึงก่อเหตุดังกล่าว และจะมีการประเมินทางจิตวิทยาและจิตเวชในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งพวกเขาสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจาก “ความแตกต่างบางอย่าง” ระหว่างเขากับคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามทางตำรวจรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและน้องชายเป็นไปด้วยดีมากๆ…
-
9 เหตุการณ์สังหารโหด เผยสาเหตุที่ทำ ก็เพราะเลียนแบบจากในหนังมา!!??
เวลาที่เรารับชมภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างจะรุนแรง ส่อเสียด หรือดูโหดร้าย ทางผู้ผลิตก็มักจะเขียนคำเตือนออกมาอยู่เสมอว่า ทั้งหมดเป็นแค่การแสดงนะ อย่าได้ทำเลียนแบบเป็นอันขาด และสำหรับบางคนยิ่งห้าม มันก็เหมือนยิ่งยุ ไม่รู้ว่าพวกเค้าคิดอะไรอยู่ หรืออาจจะอินกับบทบาทในหนังมากเกินไป เลยก่อเหตุอาชญกรรม ตามแบบในหนังซะเลย…แบบนี้ผู้กำกับหนังมาเห็นคงกุมขมับแย่ (ตรูอุตส่าห์เขียนห้ามไว้แล้วแท้ๆ) Scream Thierry Jaradin หนุ่มขับรถขนส่งผู้โดดเดี่ยววัย 24 ปี ได้ก่อเหตุฆาตกรรมสาววัยรุ่นอายุ 15 ปี Alisson Cambier ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อปี 2001 แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อพ่อหนุ่มชวนสาววัยรุ่นคนนี้มาค้างที่บ้าน แต่เธอกลับปฏิเสธ Thierry จึงหาหน้ากากผีมาใส่ พร้อมกับเอามีดไปแทงสาวมากกว่า 30 ครั้ง หลังจากก่อเหตุ เจ้าตัวก็เข้ามอบตัวกับทางตำรวจทันที อีกทั้งยังให้คำสารภาพว่า การกระทำทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากหนังผีเรื่อง ‘Scream’ ทุกขั้นตอน Fight Club เมื่อปี 2009 กองตำรวจประจำเมืองนิวยอร์ค ได้รับแจ้งเหตุว่าพบระเบิดทำมือ เกิดระเบิดขึ้นมาตามจุดต่างๆในนิวยอร์ค เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวน ก็พบว่าเป็นฝีมือของ Kyle Shaw หนุ่มวัย 17 ปี…
-
เปิดเรื่องราว Mary Cotton ฆาตกรต่อเนื่องสาวคนแรกของอังกฤษ จนถูกนำไปทำเป็นหนัง
เราคงเคยได้ยินคำว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง” กันมาจนชินหู แต่ไม่มีใครเคยรู้ว่าคำนี้เกิดมาได้ยังไง และใครคือฆาตกรต่อเนื่องคนแรกกันแน่? หากคุณสงสัยเหมือนกับ #เหมียวฟิ้น ล่ะก็ วันนี้เราจะขอชวนทุกๆ คนมาเปิดเรื่องจริงชวนขนลุกที่เคยเกิดขึ้นเมื่อราวๆ 150 ปีที่แล้วกัน นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวอังกฤษยุควิคตอเรียเมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว ที่ชื่อว่า Mary Ann Cotton เธอเป็นทั้งหญิงสาว เป็นภรรยา เป็นแม่คน และเป็นฆาตกรเลือดเย็นเช่นกัน จากการศึกษาเรื่องราวของเธอที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าในระหว่างปี 1860 ถึงปี 1872 เธอได้ฆ่าสามีของตัวเองไป 3 คน และลูกๆ อีกกว่า 11 คน จนกลายเป็นที่โจษจันของคนทั่วสหราชอาณาจักรว่าเธอคือฆาตกรต่อเนื่อง ตามการจดบันทึกบอกว่านาง Mary Cotton ได้ใช้สารหนูในการวางยากับเหยื่อของเธอทุกๆ คน ซึ่งทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสียอย่างรุนแรง ร่างกายขาดน้ำและเสียชีวิตในที่สุด เพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจว่าพวกเขาตายเพราะอาการป่วยไข้แทนที่จะเป็นการฆาตกรรม นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตจากน้ำมือของเธอจริงๆ แล้วน่าจะสูงถึง 21 คนด้วยซ้ำ Ian Smyth Herdman นักวิจัยที่ใช้เวลาในการศึกษาเรื่องราวของเธอนานกว่า 30…
-
ย้อนรอย ตำนาน ‘Bloody Bender’ แกงค์ฆาตกรต่อเนื่อง กลุ่มแรกของอเมริกา!!!
สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นปริศนาคาใจคนทั่วไปอย่างเราๆ ที่มีต่อข่าวคราวเหตุการฆาตกรรม ก็คงเป็นคำถามที่ว่า “จิตใจเค้าทำด้วยอะไร ถึงฆ่าคนทั้งคนได้ลงคอ?” แน่นอนละว่าการจะตัดสินใจปลิดชีพใครซักคน มันไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่ไม่ใช่กับกลุ่มพี่น้อง ‘Bloody Bender’ แกงค์ฆาตกรต่อเนื่องที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังจนกลายเป็นที่อกสั่นขวัญผวาไปทั่วเมืองในยุค 1870s ว่าแล้วก็เพื่อไม่ให้เสียเวลา ตามไปดูกันเลย… แกงค์นี้ประกอบไปด้วย John, Elvira, Kate และ John Jr. พวกเขาทั้ง 4 ร่วมกันก่อตั้งโรงแรม และร้านขายของชำในเมือง Labette County รัฐแคนซัส ช่วงปี 1871 – 1873 ในช่วงเวลานั้นเองที่เจ้าหน้าที่คาดว่า พวกเขาทั้งสี่ได้ร่วมกันฆาตกรรมแขกที่เข้ามาพัก มีผู้บริสุทธิ์หลายสิบราย ที่จู่ๆก็หายตัวไปหลังเข้าพักโรงแรมแห่งนี้ ส่วนวิธีการนั้น เชื่อกันว่า พวกเขาจะเชื้อเชิญให้แขกผู้มีเกียรติได้นั่งเก้าอี้ตัวเด่น ซึ่งพวกเขาจะแอบวางกับดักไว้อยู่เหนือหัวเก้าอี้ตัวนั้น หลังจากที่เหยื่อเผลอ John จะแอบเอาค้อนมาทุบหัวผู้บริสุทธิ์ให้หมดสติ คนอื่นๆจะทำหน้าที่หั่นส่วนหัวออก หรือตัดคอ ก่อนที่จะทิ้งร่างกายของเหยื่อลงไปในหลุมลึก ที่มองเห็นเพียงแค่ความมืดมิดเท่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องเล่าที่น่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อทางการได้สืบประวัติแล้วก็พบว่าจริงๆแล้ว ‘John…
-
ตลกไม่ตลก!! สหรัฐฯ วุ่นหนัก พบคนแต่งชุดตัวตลกออกทำร้าย ปล้นทรัพย์ผู้คนยามค่ำคืน
ตัวตลก (Clown) ที่เรามักจะเห็นกันตามงานเทศกาลหรือสวยสนุกในต่างประเทศ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นตัวตลกผู้ให้ความสนุกสนาน แต่หน้าตาของมันก็ไม่ได้ทำให้เราอยากเข้าใกล้มันซะเลย และนอกจากจะไม่น่าเข้าใกล้แล้ว เครื่องแบบตัวตลกยังเป็นสิ่งที่ตำรวจในสหรัฐออกมาสั่งห้ามไม่ให้ใส่ด้วย เพราะเนื่องจากมีคนแต่งตัวแบบนี้เพื่อใช้ก่อเรื่องไม่ดีเข้าจนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนจริงอันไหนเล่น เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ Keetapong Namwat GS ชาวไทยที่ไปศึกษาต่อในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนถึงชาวไทยที่อยู่ที่นั่นว่า ในขณะนี้ได้มีกลุ่มคนสวมใส่ชุดตัวตลกออกมาทำร้ายร่างกายผู้คนและชิงทรัพย์ในยามค่ำคืน ล่าสุดมีรายงานว่าโรงเรียนหลายแห่งในอเมริกาได้มีการสั่งห้ามไม่ให้ใส่ชุดตัวตลกกันแล้ว จึงมีการส่งต่อข่าวสารกันในหมู่ชาวไทยที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาให้ตื่นตัวถึงเรื่องนี้ ว่าพยายามอย่ากลับบ้านดึก ใส่หูฟังเดิน หรือเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางคืน ส่วนหนึ่งที่มีผู้คนแต่งตัวเป็นตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนเพราะว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันฮาโลวีน แต่ในบางแห่งจะเริ่มเล่นกันตั้งแต่ต้นเดือน ทำให้มีตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากมีผู้อาศัยจังหวะนี้ในการก่อเรื่องจึงไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนแกล้งและคนไหนทำจริงๆ หากชาวไทยคนไหนพบเจอหรือมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแผนกฉุกเฉินได้ที่ +1 (866) 283-9090 หรือสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน แผนกฉุกเฉิน ได้ที่ +1 (202) 944-3600 หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกมากมายเข้ามากแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยหลายความเป็นเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นหรือได้ยินข่าวคราวของตัวตลกฆาตกรมาบ้าง Ruetat Wannarat “อินเดียน่าเกิดได้สักพักแล้ว รู้สึกกฎหมายรัฐจะอนุญาตให้ทำการป้องกันตัวเบื้องต้นจากบุคคลเหล่านี้” Rinrada Sriharuethai…
-
15 คำพูดสุดท้ายจากปากของ ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ เพื่อรู้ว่าในใจของพวกเขาคิดอะไร!!??
เราอาจไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสาเหตุใดถึงก่อให้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมต่างๆ ขึ้นมา หลายๆ คนอาจคิดว่าเหล่าฆาตกรต่อเนื่อง มักจะมีปัจจัยหรือสาเหตุในการก่อเหตุที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง บางคนอาจจะดูปกติทั่วไปเมื่อมาอยู่ในสังคม และในขณะที่บางคนก็อาจจะดูผิดปกติชอบเก็บตัวและชอบวางตัวอยู่นอกกรอบของสังคม แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราไปดูคำพูดที่ออกจากปากของเหล่าฆาตกรต่อเนื่องที่เคยเป็นคดีดังในอดีตกันเลยดีกว่า เผื่อว่าจะช่วยให้เราได้เรียนรู้และเข้าถึงจิตใจของพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น… 1.“ผมเกิดมาคู่กับปีศาจ” – H.H.Holmes ในช่วงปี 1893 ที่รัฐชิคาโก Holmes ได้ทำให้บ้านตัวเองเป็นเหมือนศูนย์รวมของการฆาตกรรมขึ้น โดยทำทีว่าเป็นเหมือนเกสเฮาส์ทั่วไป แต่เขาได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่า 200 คน!!! 2. “ผมไม่เชื่อในพระเจ้า มนุษย์ หรือปีศาจ อะไรทั้งนั้น ผมเกลียดเผ่าพันธุ์มนุษย์ รวมถึงตัวผมเองด้วย” – Gary Ridgway ชายผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักฆ่าแห่ง Green River ประจำรัฐยูทาห์ ในช่วงยุค 80s – 90s เขาได้สังหารผู้บริสุทธิ์ไปมากถึง 48 คน แต่กลับให้การสารภาพกับศาลว่าจำนวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่านี้ถึง 2 เท่า!!! 3. “ขอให้เมียและลูกๆ ของเธอถูกข่มขืนอย่างหนักทางทวารนั่นแหละ!!!” – Aileen Wuronos…
-
‘Jennifer Pan’ เด็กสาวเรียนเก่ง เป็นความหวังของครอบครัว แต่จ้างคนสังหารพ่อแม่ตัวเอง!?
การเลี้ยงดูของพ่อแม่นั้น นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมและนิสัยของลูก แม้จะเกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม พ่อแม่ให้ความรัก ใส่ใจ ดูแลเป็นอย่างดี ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา ยิ่งหากพ่อแม่ยัดเยียดในสิ่งที่ลูกๆ ไม่ต้องการ ยิ่งจะเกิดปัญหาตามมา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงออกมาว่าชอบหรือไม่ชอบในสิ่งที่พ่อแม่จัดเตรียมไว้ให้ บางคนอาจจะยอมทำตามความต้องการของพ่อแม่ก็จริง แต่เราไม่รู้เลยว่า ภายในนั้น เขาหรือเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และนี่คือเรื่องราวของ Jennifer Pan หญิงสาวที่จ้างวานคนมาฆ่าพ่อแม่ตัวเอง Jennifer Pan พ่อแม่ของ Jennifer เดิมนั้นอยู่ที่เวียดนาม แต่พวกเขาได้อพยพมายัง Toronto เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ต่อมาพวกเขาก็มีลูก 2 คนคือ Jennifer และน้องชายของเธอ ครอบครัวของเธอค่อนข้างเคร่งกับลูกๆ มากในทุกเรื่อง Jennifer ถูกบังคับให้เรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เมื่อขึ้นชั้นประถมเธอต้องเล่นไอซ์สเก็ต วันไหนซ้อมหนักๆ กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน เวลาไปโรงเรียนพ่อแม่ก็จะไปรับไปส่ง แถมยังไปเฝ้าเวลาเธอทำกิจกรรมด้วย เธอถูกห้ามไม่ให้ไปปาร์ตี้ ไม่ให้มีแฟนจนกว่าจะจบมหาวิทยาลัย สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกกดดันและเครียดจนเริ่มกรีดข้อมือตัวเอง พ่อแม่ของ Jennifer Pan โดยปกติแล้ว Jennifer เป็นเด็กที่เรียนเก่ง ร่าเริง เข้ากับเพื่อนๆ ได้ดี และเป็นคนมั่นใจในตัวเอง จนไม่มีใครคาดคิดว่า เธอจะกลายเป็นคนที่จะฆ่าพ่อแม่ตัวเองได้…
-
สื่อต่างชาติพาชมบ้าน Omar Mateen ฆาตกรผู้ก่อเหตุกราดยิง 50 ศพ ในไนท์คลับเมืองออร์แลนโด
เชื่อว่่าตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ Omar Mateen ชายสุดเหี้ยม ที่ก่อเหตุกราดยิงในคลับแห่งหนึ่งในเมืองโอแลนโด้ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย และบาดเจ็บอีก 50 ราย ล่าสุดทางกรมตำรวจอนุญาตให้สำนักข่าวเดลีเมล์ เข้าไปถ่าย “บ้าน” ของนาย Omar Mateen ออกมา หลายคนอาจอยากเห็นว่าภาพ ภายในบ้านของฆาตกรโหด จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และเหมือนกับคนทั่วไปหรือไม่ นาย Omar Mateen อาศัยอยู่ที่ห้อง 107 ของ Woodland Condominium ในเมือง Fort Pierce นับตั้งแต่เขาหย่ากับภรรยาคนแรก . นี่คือห้องนั่งเล่นของเขา ดูธรรมดาไม่ต่างอะไรจากบ้านทั่วๆ ไป ห้องนอนใหญ่ค่อนข้างรก มีผ้าคลุมเตียงสีแดง พร้อมกับลูกโป่งและขวดน้ำหอม ห้องนอนลูกชายของ Mateen ตกแต่งด้วยธีมสตาร์วอร์ และมีกระเป๋านินจาเต่าวางไว้ ห้องครัว บริเวณตู้เย็นมีภาพของลูกชายติดอยู่เต็มไปหมด ห้องนั่งเล่นมีดาบอะไรซักอย่างวางอยู่ มุมออกกำลังกาย…
-
ออร์แฟนชัดๆ!! รวม 10 เด็กนรกที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ ใครก็ไม่ควรเข้าใกล้!!
หลายคนมักบอกว่าเด็กเป็นเหมือนผ้าขาวที่ยังไม่ผ่านการลงสี พวกเขานั้นไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เหนือสิ่งอื่นใด แต่เรื่องจริงเป็นแบบนั้นจริงหรือ? พวกเขาไม่มีความอันตรายใดๆ จริงหรือ? งั้นเพื่อนๆ ลองไปชม 10 เด็กที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์เหล่านี้ดู รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องสยดสยองไปกับพฤติกรรมของพวกเขาอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย (ยิ้มอ่อน อิอิ) 10. Michael Carneal วัย 14 ปี Michael Carneal นำปืนลูกซองมาโรงเรียน โดยหลอกพ่อแม่ว่าจะนำไปจัดแสดงงานศิลปะ ซึ่งเขาบรรจุกระสุนไปเต็มอัตรา จากนั้นเขาก็กราดยิงไปที่เพื่อนนักเรียนผู้โชคร้าย ในการโจมตีครั้งนั้น มีเด็กหญิงเสียชีวิตทันที 3 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย จากนั้นเขาก็หันปืนเข้าจ่อตัวเองแล้วบอกว่า “ฆ่าผมที ไม่อยากเชื่อว่าผมทำสิ่งเหล่านี้ลงไป” หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับกุมและนำไปสืบสวน เขาถูกวิเคราะห์ว่ามีอาการทางจิตอย่างหนัก และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 9. Mary Bell วัย 11 ปี Marruy Bell เป็นเด็กมีปัญหาที่เติบโตมาในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง ตอนที่เธออายุได้ 11…
-
ชาวลอนดอนผวา ฆาตกรต่อเนื่องออกอาละวาดไล่ฆ่า “แมว” กว่า 50 ตัว และสัตว์อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน!?!
เกิดเหตุสะเทือนขวัญในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง “แมว” กว่า 50 ตัวและสัตว์อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน จนเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน ไม่กล้าปล่อยสัตว์เลี้ยงของตนออกจากบ้าน ฆาตกรโหดคนนี้ถูกตั้งชื่อว่า “Croydon” ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่า เขาเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมแมวกว่า 50 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก กระต่าย และลูกหมาอีกหลายตัว ในเขตลอนดอนใต้ ทาง RSPCA กล่าวว่า แมวส่วนมากจะถูกรถชนจนเสียชีวิต จากนั้นจะถูกตัดหัวหรือหางไป ซึ่งทางชุดสอบสวนคิดว่า นั่นคือสิ่งที่ฆาตกรตั้งใจตัดไปเพื่อเป็น “รางวัล” ให้กับตัวเอง “เราได้ส่งซากศพของแมวบางส่วนไปให้ชันสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดูว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แมวเหล่านี้เสียชีวิต ซึ่งส่วนมากพบว่า ร่างกายของพวกเขาเสียชีวิตเนื่องจากการปะทะเข้ากับแรงอะไรบางอย่าง ซึ่งเราคาดว่าเป็นรถยนต์ และเรายังพบอีกว่า ส่วนที่ถูกตัดนั้น ถูกทำด้วยน้ำมือของมนุษย์” ตอนนี้ตำรวจและทีมงานกำลังพยายามสืบอยู่ว่า ใครเป็นคนก่อเหตุดังกล่าว และล่าสุดทางองค์กร PETA ได้ประกาศมอบเงินรางวัล 5,000 ปอนด์ หรือราว 250,000 บาท ให้กับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมฆาตกรดังกล่าวได้ อื้อหือ น่ากลัวจริงๆ…
-
รวม 12 คำพูดสุดท้ายของเหล่าฆาตกร ก่อนจะถูกประหารชีวิต พวกเขาจะพูดอะไรกันนะ
มันเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดของเหล่าฆาตกรโรคจิต และยิ่งยากขึ้นไปอีกในการหาสาเหตุว่าทำไมเขาต้องฆ่าเหยื่อเหล่านั้น พวกเขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่? หรือว่าไม่รู้สึกอะไรเลย? วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปดู 12 คำพูดสุดท้ายของเหล่าฆาตกรโหดในอดีต ก่อนที่พวกเขาจะถูกประหารชีวิต จะน่ากลัวขนาดไหน ไปชมกันเลย Peter Kurten หรือ แวมไพร์แห่งดุสเซลดอร์ฟ เขาถูกจับในข้อหาฆาตกรรมและทารุณกรรมทางเพศเหยื่อนับ 10 ราย และเขาถูกตัดสินให้ประหารด้วยเครื่องกิโยติน ก่อนจะทำการประหาร เขาคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า “ถามหน่อยสิ พอถูกตัดหัวแล้ว ฉันจะยังได้ยินเสียงอยู่รึเปล่า ถ้าได้ยินเสียงเลือดพุ่งออกจากลำคอตัวเอง มันคงจะเป็นความสุขที่สุดก่อนตายเลยล่ะ” Aileen Wuornos เธอก่อคดีอาชญากรรมด้วยการฆ่าเหยื่อ 7 ราย ก่อนจะถูกศาลตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการฉีดยา ก่อนตายเธอพูดว่า “ฉันกำลังจะตาย แต่ฉันจะกลับมา เหมือนหนังเรื่อง Independence Day พร้อมกับพระเยซู วันที่ 6 กรกฎา มากับยานลำใหญ่ ฉันจะกลับมาแน่!” James French เขาฆ่าเพื่อนร่วมห้องขังของเขาสองคนทิ้ง ดังนั้นเขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตทันทีเดียวการช็อตไฟฟ้า ก่อนตายเขาพูดว่า…
-
ตำรวจช็อค หลังพบชิ้นส่วน “จิมิ” ของมนุษย์ 21 ชิ้น แช่แข็งอยู่ในบ้านของชายวัย 63 ปี!!!
โลกเรานั้นมีเรื่องประหลาดอยู่มากมายจริงๆ จนบางทีเหมียวก็แอบคิดเหมือนกันว่า มันประหลาดเกินไปหรือเปล่า อย่างเช่นเรื่องราวที่เหมียวนำให้ชมวันนี้ รับรองว่ามันประหลาดจนเพื่อนๆต้องอึ้งแน่นอน!! นาย Peter Frederiksen วัย 63 ปี จากประเทศแอฟริกาใต้ ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากตำรวจได้รับแจ้งจากภรรยาของเขา Anna Matseliso Molise ว่าเธอถูกเขาวางยาแล้วตัดชิ้นส่วน “จิมิ” ของเธอไป เมื่อตำรวจเข้ามาค้นบ้านของ Peter พวกเขาพบชิ้นส่วน “จิมิ” ของมนุษย์ถึง 21 ชิ้นในบ้านของเขา โดยคาดว่าเหยื่อเป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณ Lesotho นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์การผ่าตัด และยานอนหลับมากมาย ไม่มีการยืนยันว่าเหล่า “จิมิ” นั้นถูกตัดมาขณะที่เหยื่อยังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตแล้ว แต่นับว่าคดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนขวัญต่อชาวบ้านจริงๆ โดยทางโฆษกของตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า นาย Peter เริ่มสะสมชิ้นส่วน “จิมิ” ตั้งแต่เมื่อปี 2010 และก็สะสมต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งโดนจับกุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะสะสมไปทำอะไรเนี่ย แลกของกินในเซเว่นก็ไม่ได้ ยังไงก็ตามแต่ ขอให้เขาได้รับโทษทัณฑ์อย่างเหมาะสมละกันนะเหมียวว ที่มา metro
-
35 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของฆาตกรสุดโหด Jason Voorhees แห่งศุกร์ 13 ฝันหวาน!!
ไม่รู้ว่าคนแถวนี้ได้ชมหรือได้ยินผ่านๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์สยองขวัญที่เคยดังกระฉ่อนไปทั่วโลกกับความโหดของฆาตกรที่คืนชีพมาจากก้นบึง คว้ามีดสปาต้าด้ามยาว พร้อมกับหน้ากากฮอกกี้ที่เป็นเอกลักษณ์เด่น ไล่ฟัน ไล่ฆ่าผู้คนทั่วแคมป์ด้วยความแค้น ใช่แล้วบุคคลที่ว่านั้นก็คือพ่อ Jason Voorhees จากเรื่อง ศุกร์ 13 ฝันหวานนั่นเอง!! ค.ศ. 1980 – Friday the 13th ศุกร์ 13 ฝันหวาน ภาคแรก จะว่าไปแล้วเนี่ยภาพยนตร์ของพี่แกก็ออกมาหลายภาคมาก ตั้งแต่เริ่มต้นตำหรับความสยองสุดโหด ในปีค.ศ. 1980 ในชื่อเรื่อง Friday the 13th นั้นก็มีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ เราจะเห็นได้ว่าเอกลักษณ์ของพี่แกก็ยังคงเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ค.ศ. 1981 – Friday the 13th: Part 2 ศุกร์ 13 ฝันหวานภาค 2 ว่าด้วยเรื่องของภาคต่อที่มีเยอะมากมาย ประมาณ 11…
-
คุณพ่อสะบั้นอารมณ์ ชกหน้าฆาตกรฆ่าลูกสาววัย 3 ขวบต่อหน้าศาล!!
ความเศร้าและความโกรธแค้นที่สูญเสียลูกสาววัยเพียงสามขวบไป ทำให้คุณพ่อคนนี้พุ่งเข้าไปชกฆาตกรที่ฆ่าลูกสาวเขาที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาจะอยู่ในศาลก็ตาม ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อ Dwayne Smith พุ่งเข้าไปชกหน้านาย Clifford Thomas ขณะที่กำลังรับคำตัดสินอยู่หน้าคณะลูกขุน Jasmine Gordon อดีตภรรยาของ Dwayne Smith และ Clifford Thomas แฟนใหม่ของเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในเหตุฆาตกรรม Jamila Smith เด็กสาววัย 3 ปี เมื่อความวุ่นวายเกิดขึ้น Dwayne Smith ก็ถูกนำออกจากห้องพิพากษาทันที แต่ศาลก็ไม่ได้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่อย่างใด ไปชมคลิปกันเลย สุดท้าย Gordon ถูกตัดสินจำคุก 15 ปีจากข้อหาฆาตกรรม และอีก 14-25 ปี จากข้อหาทำร้ายผู้เยาว์ ส่วนสามีใหม่ของเธอ Thomas ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ที่มา Metro