Tag: ฆาตกรรม
-
เจ้าบ่าวหึงโหด แทงเจ้าสาวดับกลางวิวาห์ เชื่อแอบเป็นชู้กับ “เพื่อนและพ่อ” ของตนเอง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2018 มีรายงานออกมาว่าในเมืองบูร์ซา ประเทศตุรกี ได้เกิดเหตุการณ์สุดแสนน่าสลดใจ เมื่อเจ้าบ่าวหนุ่มลงมือฆาตกรรมเจ้าสาวของตนเองอย่างโหดเหี้ยมในพิธีวิวาห์ของทั้งคู่ นาย Metehan Yurdoglu หนุ่มวัย 22 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม Gullu Yurdoglu หญิงสาววัย 21 ปีซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง เนื่องจากเชื่อว่าเธอคนนี้มีพฤติกรรมนอกใจไปสุงสิงกับ เพื่อนและพ่อ ของเขา ทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งช่วงหลังฝ่ายชายก็พบว่าฝ่ายหญิงมีพฤติกรรมนอกใจ ประกอบกับการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้งด้วยเหตุที่ว่าทางบ้านของฝ่ายหญิงไม่อนุญาตให้เธอแต่งงาน จากรายงานทราบว่า Gullu ฝ่ายหญิงเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของฝ่ายชายเพียง 4 เดือนเท่านั้น Metehan ก็เชื่อว่าฝ่ายหญิงแอบคบหากับเพื่อนของเขา เขาจึงเข้าไปคุยกับพ่อตนเองเพื่อบอกให้ไล่ Gullu ออกจากบ้าน แต่สิ่งที่ได้รับจากพ่อก็คือ “แกก็ออกไปแทนสิ” หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินข้อมูลจากเพื่อนชายของตนว่า Gullu นั้นแอบมีเพศสัมพันธ์กับพ่อของของ Metehan เอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงหนีออกจากบ้านและพยายาม ฆ่าตัวตาย แต่พ่อของ Metehan พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเขาเอาไว้ จากนั้นเขาก็เริ่มคิดได้ว่า ไม่ใครก็ใครระหว่างเขาและ Gullu จะต้องตาย…
-
แม่ชาวมะกัน ยิงลูกบุญธรรมชาวจีน 4 คนรวม 34 นัด “ดับเรียบ” สุดท้ายยิงตัวตายตาม
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2018 ในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าสลด เมื่อแม่ใช้ปืนยิงลูกบุญธรรมชาวจีนของตัวเองจนเสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวเองตายตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานวินิจฉัยทางการแพทย์ David Zimmerman กล่าวว่าพบร่างของ Kaileigh Lin เด็กสาววัย 17 ปีนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำกับรอยกระสุนปืนอีก 13 จุดบนร่างกาย ณ บ้านของเธอในโคลัมเบีย ส่วนลูกสาวคนรอง Lia Lin วัย 15 ปีถูกพบร่างบนเตียงนอนด้วยแผลถูกปืนยิงอีก 9 แผล ส่วน Bo และ Meigan Li วัย 14 ปีทั้งคู่ ถูกพบเป็นศพบนเตียงนอนของตัวเองพร้อมรอยถูกยิง 4 และ 8 จุดบนร่างกายตามลำดับ สุดท้าย Cynthia Collier ผู้เป็นแม่ก็เสียชีวิตลงด้วยการใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะของตัวเอง ส่วน Andy Ogles เทศมนตรีของเคาน์ตีมัวรี ก็กล่าวเกี่ยวกับผลกระทบต่อชุมชมจากเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่เด็กๆ 4 คนจะถูกดึงเข้าสู่เหตุการณ์ความรุนแรงแบบนี้ เราไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เราจะเรียนรู้จากมัน…
-
หนุ่มทวิตเตอร์ “เล่นเกมสังหารหมู่” มีเป้าหมายเป็นผู้หญิง 10 คนในสถานีโตเกียว…
กลายเป็นเรื่องชวนหวาดผวา หลังชายคนหนึ่งที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Ryuuta (ริวตะ) โพสต์ประกาศว่าจะ “สังหาร” ผู้หญิง 10 คนในบริเวณสถานีรถไฟโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า ริวตะกับภารกิจลดประชากรงานสุดท้าย ได้โพสต์ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2018 ว่าเขาจะทำการเล่น “เกมสังหาร” โดยเขาจะทำการสุ่มฆ่าผู้หญิง 10 คนในบริเวณสถานีรถไฟโตเกียว ทวิตเตอร์ของ ริวตะ โพสต์บนทวิตเตอร์ของเขา เขียนว่า “ผมผิดหวังกับชีวิตมากๆ และผมคิดว่าผมคงต้องจบชีวิตตัวเองลงด้วยในเกมนี้ สถานที่คือสถานีรถไฟโตเกียว ตั้งแต่วันนี้ถึงวันมะรืน แต่ผมจะไม่บอกเวลา ผมจะเดินผ่านผู้คนและสุ่มฆ่า หากมีคนตายครบ 10 คนเมื่อไหร่ ผมเองก็จะตายตามไปด้วย เป้าหมายที่ผมอยากแก้แค้นมากที่สุดคือ ผู้หญิง ยังไงก็ช่วยระวังตัวเอาไว้หน่อยก็แล้วกันนะชาวโตเกียวทุกคน” โพสต์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว กระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ จึงนำกำลังมาเฝ้าระวังอยู่ ณ บริเวณสถานีรถไฟโตเกียวเป็นจำนวนมาก ภายหลังพบว่าบนทวิตเตอร์ของเขานั้นมีการเขียนอธิบายเอาไว้ว่า “เป้าหมายของผมก็คือการแก้แค้นสังคมและแก้แค้นผู้หญิง“ ทำให้คาดว่านี่อาจเป็นส่วนแรงจูงใจในการคิดก่ออาชญากรรมของริวตะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นมีเพียงความหวาดผวาของชาวโตเกียวเท่านั้นที่ยังคงแผ่กระจายอยู่ทั่วสถานีรถไฟ กระทั่งชาวเน็ตบนทวิตเตอร์เริ่มคิดและถกเถียงกันว่านี่อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งหรืออาจจะเป็นการไหวตัวทันของคนร้ายที่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเฝ้าระวัง ล่าสุด ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทั้งฝ่ายของริวตะและเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หญิงสาวชาวโตเกียวที่ย่านสถานีต่างก็ยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว…
-
ตำรวจจับชายญี่ปุ่น “หั่นศพ” แม่ตนเองทิ้งทั่วเมือง สารภาพไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ไม่มีเงินทำศพ
เมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมานี้ได้เกิดเหตุการณ์น่าขนลุกขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อชาวเมืองในอำเภอโออามิชาราซาโตะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่นพบเจอ ร่างศพที่ถูกหั่น กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง และในวันนี้ (26 พฤศจิกายน) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนถึงเหตุดังกล่าว ก็พบว่า ชายวัย 37 ปี เป็นคนก่อเรื่องนี้ทั้งหมด เขาได้ “หั่นศพ” แม่ของตนเองแล้วนำชิ้นส่วนร่างกายไปทิ้งไว้ยังสถานที่ต่างๆ ทั่วอำเภอ ผู้ต้องหา (มีผ้าคลุมศีรษะ) . เบื้องต้นเจ้าตัวสารภาพว่า เป็นคนทำเรื่องดังกล่าวทั้งหมด แต่ไม่ได้เป็นฆาตกร เขากล่าวว่าตื่นเช้าขึ้นมาพบว่าแม่ของตนนั้นเสียชีวิตอยู่แล้ว แต่เขา “ไม่มีเงิน” มากพอจะทำศพ ก็เลยยต้องตัดสินใจหั่นแล้วนำไปทิ้ง ถึงจุดนี้ ทำให้เราต้องฉุกคิดเรื่องค่าครองชีพในประเทศญี่ปุ่นที่สูงลิบ แม้กระทั่งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำพิธีส่งวิญญาณตามความเชื่อ ทั้งนี้ไม่อาจสรุปได้ว่าคำพูดของผู้ต้องหารายนี้เป็นจริงหรือไม่จริง เพียงแต่มันทำให้เกิดคำถามตามมว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับงานศพในญี่ปุ่นนั้นแพงขนาดที่ทำให้คนๆ หนึ่งยอมกลายเป็นฆาตกรหั่นศพเชียวหรือ? บางแหล่งข้อมูลระบุว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการทำพิธีศพของญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ราวๆ 1-3 ล้านเยน หากคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300,000-900,000 บาท . อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของมารดาผู้ต้องหา และไม่ว่าคำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์น่าสลดใจเรื่องหนึ่งอย่างปฏิเสธไม่ได้ …
-
หญิงชาวอินโดถูกตัดสิน “ประหาร” ในซาอุฯ เพราะฆ่านายจ้างที่พยายาม ‘ข่มขืน’ เธอ
ชาวอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาได้เกิดความไม่พอใจกับทางประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างมาก หลังหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยไม่มีการแจ้งรัฐบาลอินโดฯ Tuti Tursilawati ผู้ใช้แรงงานหญิงชาวอินโดนีเซียที่อพยพเข้ามายังประเทศซาอุดีอาระเบียได้ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2011 ด้วยคดีฆาตกรรมนายจ้างของตน แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังไม่ได้รับโทษ กระทั่งวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เธอถูกประหารชีวิตเป็นที่เรียบร้อยในเมืองอัฏฏออิฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย Tuti Tursilawati การตัดสินคดีในครั้งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ชาวอินโดนีเซียอย่างยิ่ง Joko Widodo นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งข่าวการประหารชีวิต Tuti Tursilawati ให้ทางการอินโดนีเซียได้ทราบ ประกอบกับการให้ปากคำของ Tuti ที่กล่าวว่าเป็นการกระทำเพื่อ ป้องกันตนเอง หลังจากถูกนายจ้างของเธอลวนลามและคุกคามทางเพศ ยิ่งทำให้ชาวอินโดนีเซียยิ่งไม่พอใจ ภายหลังทราบว่า ทางซาอุดีอาระเบียไม่สนใจเรื่องของการร้องขอสิทธิมนุษยชนและสิทธิการรักษาชีวิตของตน (ผู้กระทำผิด) สุดท้าย นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียจึงได้พยายามร่างข้อตกลงจริงจังกับประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ทางการประเทศซาอุดีอาระเบียมีกาประหารชีวิตชาวอินโดนีเซียโดยไม่มีการแจ้งกลับมายังประเทศบ้านเกิด ที่มา: migrantcare, nextshark และ Daily Mail
-
สาวเล่า ‘วินาทีชีวิต’ หลังเดินกลับหอพักถูก ‘ชายแปลกหน้า’ เดินตามมาติดๆ ดีที่ไหวตัวทัน!!
บางครั้งการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายนี้มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเสมอไป เรื่องราวของ Alexa หญิงสาวชาวนิวยอร์กวัย 30 ปี ที่ถูกชายแปลกหน้าเดินตามเข้ามาถึง ‘หอพัก’ ในมหาวิทยาลัย University Heights เธอโพสต์เล่าเหตุการณ์วินาทีชีวิตของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “หลังจากลงมาจาก Uber เวลาประมาณตี 3.50 น. ก็เดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของหอพักตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าตอนนี้ ‘เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว’” เหตุการณ์ตอนที่ Alexa กำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก The following footage is me walking up into my building. You’ll notice a man walk behind me moments later. I did not see or hear him. pic.twitter.com/oxCtNvcstN…
-
ย้อนรอยคดีดัง ‘มรดกเลือด’ ที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’
อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจากละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’ นั้นมีเค้าโครงที่สร้างมาจากเรื่องจริง แถมยังคาดว่าน่าจะเป็นคดีที่โด่งดังมากๆ เลยทีเดียว จากการแลกเปลี่ยนความเห็นกันในทวิตเตอร์ของเหล่าชาวเน็ต ก็ทำให้พอจะเดาได้ว่าเป็นคดีอะไร ทีมงานเหมียวของเราก็เลยไปรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ มาสรุปให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกัน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมละคร จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… คดีดังกล่าวได้รับสมญานามว่าเป็นคดี ‘มรดกเลือด’ มีผู้คนที่ต้องเสียชีวิตมากมายนับสิบรายเลยทีเดียว ก่อนอื่นต้องมาทราบถึงแผนผังตัวละครกันก่อนนะครับ ตัวละครประกอบไปด้วย แม่, สามีเก่าของแม่, พี่ชายคนโตที่เป็นลูกของสามีเก่าของแม่, สามีใหม่ของแม่, และลูกกับสามีใหม่อีก 9 คนด้วยกัน แบ่งเป็น ชาย 3 คน และหญิง 6 คน แต่เดิมทีนั้นผู้เป็นแม่เป็นเพียงแม่ค้าขายผัก แต่ภายหลังได้พลิกผันตัวเองจนกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีมูลค่านับหมื่นๆ ล้าน แต่ทว่ามรดกเหล่านั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นคดีฆาตกรรมของคนในตระกูลครั้งแล้วครั้งเล่าในเวลาต่อมา จนถึงขนาดที่ว่าเมื่อมีข่าวการเสียชีวิตของคนในตระกูลนี้เกิดขึ้นแล้ว ต้องมีการพูดถึงกันขึ้นมาว่า ‘ใครจะเป็นศพต่อไป!?’ เลยทีเดียว โดยที่ศพแรกนั้นเริ่มมาจากผู้เป็นสามีใหม่ของคุณแม่ ถูกลอบยิงเสียชีวิตในปี 2509 ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นสันนิษฐานว่าเป็นการขัดผลประโยชน์กิจการส่วนตัวของสามีใหม่เอง แต่อย่างไรก็ตามวันเวลาผ่านไปจนกระทั่งปี 2522 ขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังเดินทางกลับจากศาล ก็ถูกลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัสจนทำให้กลายเป็นอัมพาต…
-
วินาทีสุดระทึก เมื่อตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ มือยังเต็มไปด้วยเลือด!!
คลิปวิดีโอสุดระทึกเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ เลือดยังติดมือของเขาอยู่เลย!! เป็นคลิปเหตุการณ์ฟุตเทจ ที่ถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะจับกุมผู้ต้องหาที่เพิ่งจะก่อคดีฆาตกรรมมาหมาดๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Derby ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีความได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แค่คลิปวิดีโอการจับกุมเพิ่งจะถูกนำมาเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ Richard Edge ได้จับกุมนาย Martin McDermott หลังจากที่เขาเพิ่งจะลงมือฆาตกรรมนาย Leslie Salmon วัย 44 ปี มาหมาดๆ ในสภาพที่เลือดยังติดอยู่เต็มมือของเขาอยู่เลย หลังจากที่หาตัวคนร้ายพบเจ้าหน้าที่ได้ทำการหยิบปืนช็อตไฟฟ้าขึ้นมาและตะโกนใส่ผู้ร้ายว่า “อย่าขยับ หากขยับผมจะใช้ปืนไฟฟ้ายิงคุณ!!” “หันไป แล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆ เดินต่อไป เอามือวางไว้บนโรงเก็บของ อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ อย่าแสดงท่าทางคุกคามต่อผมหรือคนอื่น ไม่งั้นผมจะยิงคุณด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ได้ยินมั้ย?” เจ้าหน้าที่กล่าวกับฆาตกร ในที่สุดฆาตกรก็ถูกจับกุม และส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ Derby อย่างลุล่วงไปด้วยดี เจ้าหน้าที่ Edge เล่าถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวว่าเขาได้รับแจ้งมาว่ามีคนถูกแทงในโฮสเทล เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าเหยื่อถูกแทงจนเลือดอาบเต็มไปหมด จึงได้ทำการโทรแจ้งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เพื่อทำการรักษาเหยื่อก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการ หลังจากที่ถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้บอกกับฆาตกรว่า ‘นาย…
-
พยานเผย ได้ยินเสียง ‘เคาะประตู’ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดห้องเข้าไปยิงชายผิวสี!!
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงยิงชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์เพราะเข้าห้องผิด และคิดว่าห้องนั้นเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนในบ้านเราให้ความสนใจ แน่นอนว่าหลายๆ คนเข้าใจว่าเหตุเกิดเพราะการเข้าใจผิด แต่ล่าสุดจากการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คดีนี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การเอาไว้ในตอนแรกก็เป็นได้… จากเหตุการณ์ฆาตกรรมชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 6 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง Amber Guyger ใช้อาวุธปืนยิงนาย Botham Jean เสียชีวิต เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่เข้ามาขโมยของในห้องของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วห้องนั้นเป็นห้องของนาย Jean เอง ซ้าย Botham Jean (ผู้เสียชีวิต) ขวา Amber Guyer (ผู้ก่อเหตุ) จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 ระบุเอาไว้ว่า มีพยานรายหนึ่งให้ปากคำกับนาย Lee Merrit ทนายของครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า “ได้ยินเสียงเคาะประตู และตะโกนว่า ให้ฉันข้าไป!! ให้ฉันเข้าไป!!” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา ซึ่งคำให้การของพยานในครั้งนี้ขัดกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ที่อ้างว่า ‘ประตูถูกเปิดแง้มเอาไว้อยู่’ …
-
หนึ่งในฆาตกร ‘เยาวชน’ คดี “จุนโกะ” เมื่อ 30 ปีก่อน ถูกจับกุมอีกครั้ง จากข้อหาพยายามฆ่า
ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน มีคดีฆาตกรรมอันน่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เด็กนักเรียนชาย 4 คน ได้วางแผนหลอกล่อเหยื่อมา “ข่มขืนและฆ่า” โดยเหยื่อก็คือ จุนโกะ ฟุรุตะ เด็กนักเรียนหญิง ม.ปลาย วัยรุ่นชายวัย 15 ปี นามว่า โนบุฮารุ จึงได้วางแผนกับเพื่อนเพื่อหลอกล่อจุนโกะมายังบ้านของตน จากนั้นจึงข่มขืน ทรมาน และฆ่าในที่สุด หลังตำรวจจับกุมตัวพวกของโนบุฮารุได้ ซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็น “เยาวชน” ศาลจึงผ่อนผันโทษตามข้อกฎหมายของเยาวชน โดยให้โนบุฮารุถูกตัดสินจำคุกเพียง 5-9 ปีเท่านั้น จุนโกะ ฟุรุโตะ เหยื่อฆาตกรรมเมื่อปี 1988 เวลาผ่านไปสามทศวรรษนับจาก “คดีฆาตกรรมจุนโกะ” เหล่าเยาวชนที่เป็นผู้ร้ายในคดีเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่อาศัยร่วมกับสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น… แต่ล่าสุดวันที่ 9 กันยายน 2018 มีรายงานว่าชายวัย 45 ปีนามว่า ชินจิ มินาโตะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเนื่องจากทุบตีและใช้มีดแทงเพื่อนร่วมงานวัย 32 ปี ขณะทั้งคู่มีการทะเลาะวิวาทในจังหวัดไซตามะ ขณะที่เหยื่อวัย 32 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มินาโตะผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า…
-
อาจารย์หมอคบชู้ ลงมือฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง แต่โชคร้ายลูกสาวถูกลูกหลงไปด้วย!?
นี่คือเรื่องราวของคดีการฆาตกรรมของวิสัญญีแพทย์และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ได้วางแผนฆาตกรรมภรรยาเพราะตัวเองเป็นชู้กับลูกศิษย์ แต่โชคร้ายลูกสาวของตัวเองดันรับเคราะห์จากเหตุดังกล่าวไปด้วย นาย Khaw Kim-Sun ชาวมาเลเซียวัย 53 ปี เป็นวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาล Prince of Wales ในฮ่องกง และศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัย Chinese University of Hongkong เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาวางแผนฆาตกรรมภรรยา Wong Siew-fung วัย 47 ปี และลูกสาว Khaw Li-ling วัย 16 ปี ด้วยแก๊สอันตรายบรรจุไว้ในลูกบอลโยคะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2015 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน ล่าสุดศาลได้เริ่มทำการพิจารณาคดีและตัดสินคดีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อัยการ Andrew Bruce SC เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้กับศาลว่า ย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุ นาย Khaw ได้ทำการก่อตั้งโปรเจกต์วิจัยขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการนำแก๊สอันตรายอย่างคาร์บอนมอนอกไซด์มาใช้ในการลงมือฆาตกรรม โดยมีผู้ช่วยงานวิจัยเป็นนักศึกษาสาว ที่เขามีความสัมพันธ์ลับด้วยอยู่ เป็นผู้ร่วมสมคบคิดด้วย …
-
นักโทษแฝดสลับตัวกัน ให้อีกคนที่กำลังจะ “ถูกประหาร” ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง
ราวกับพล็อตหนัง เมื่อฝาแฝดคู่หนึ่งที่ต้องโทษจำคุก ล่าสุดแฝดคนหนึ่งถูกตัดสินประหารในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ทั้งคู่จึงสลับตัวกันเพื่อให้แฝดอีกคนได้ออกมาสูดอากาศนอกแดนประหารก่อนตาย… David Moore และ Carey Dean Moore พี่น้องฝาแฝดในวัย 60 ปีเท่ากัน มีการสลับตัวกันบ่อยครั้งขณะถูกขังภายในทัณฑสถานของรัฐเนแบรสกา หลังจากทั้งคู่ถูกขังมานานกว่า 30 ปี และในปีนี้ David จะต้องเห็น Carey จากไปด้วยการประหารชีวิต เนื่องจากได้ก่อคดีฆาตกรรมสังหารคนขับแท็กซี่ 2 รายในปี 1979 แฝดทั้งสองจึงขออนุญาตพบปะพูดคุยกัน อ้างว่าคุยเรื่องครอบครัวทางบ้าน และได้ทำการสลับเสื้อผ้าและงานในเรือนจำ เพื่อให้ Carey ได้ออกนอกแดนประหารไปสูดอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้การประหารกำลังจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 แต่ชาวเมืองในละแวกไม่ต้องการให้มีการประหารชีวิตเกิดขึ้นภายในเมือง มีเพียงครอบครัวของคนขับแท็กซีที่เป็นเหยื่อการฆาตกรรมเมื่อ 30 ปีที่แล้วเท่านั้นที่ต้องการให้ชายผู้พรากชีวิตสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ที่มา: ladbible, thesun และ journalstar
-
เปิดประวัติความเก่งของ “เชอรี ธิติมา” นักธุรกิจสาวไฟแรง ที่จบชีวิตลงอย่างน่าใจหาย
คดีของเชอรี ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี นักธุรกิจหญิงชื่อดังกรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาเกียรติ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถูกพบเป็นศพภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านซอยประดิษฐ์มนูธรรม… ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายถูกตีด้วยของแข็งบริเวณขมับขวา นอนฟุบอยู่กับขอบเตียง ในวันที่ 30 กรกฎาคม ภายหลังพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด คือ โก้ นายอัศยา ชัยภา อายุ 30 ปี พนักงานในเครือบริษัทเดียวกัน ทำหน้าที่ดูแลด้านบัญชีและทรัพย์สินและคบหากับผู้ตาย ทั้งคู่เปิดห้องพักอยู่ด้วยกันประมาณ 1 เดือน แต่ในคืนวันที่ 26 กรกฎาคม มีคนพบว่าทั้งคู่เข้าห้องด้วยกัน แต่ในวันที่ 27 กรกฎาคม มีเพียงโก้เท่านั้นที่ออกมาจากห้อง… ทั้งนี้จากการเปิดเผยประวัตจากทางเว็บไซต์ไบร์ททีวี ทราบมาว่าเชอรี ธิติมา เรียนจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จากนั้นจึงบินไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเริ่มธุรกิจร้านอาหารไทยที่เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน ด้วยวัยเพียง 23 ปี…
-
สามสาวพี่น้อง ลงมือสังหารพ่อมาเฟีย เหตุแค้นถูกกดขี่ทารุณ กระทำชำเรานานนับปี!!
เรื่องราวของสามสาวพี่น้องวัยรุ่นถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จากการก่อเหตุใช้มีดแทงมาเฟียผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ด้วยแรงจูงใจจากการถูกทรมานทั้งกายและวาจามานานนับปี Kristina Khachaturyan พี่สาวคนโตวัย 19 ปี พร้อมกับ Angelina วัย 18 ปี และ Maria วัย 17 ปี ถูกนำตัวไปขังอยู่ในคุกภายในกรุงมอสโก หลังสังหารนาย Mikhail Khachaturyan วัย 57 ปี ผู้เป็นพ่อ Kristina (ซ้าย) Angelina (กลาง) Maria (ขวา) เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าสามสาวพี่น้องสารภาพว่าลงมือร่วมกันฆาตกรรมผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ถูกทารุณมาอย่างยาวนาน อีกทั้งผู้เป็นพ่อมีอาการเสพติดเฮโรอีนและมักจะลงมือทำร้ายพวกเธอมาโดยตลอด ซึ่งข้อหาดังกล่าวจะทำให้สามพี่น้องถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 – 15 ปี Mikhail Khachaturyan ผู้เป็นพ่อ พี่สาวคนโต Kristina กล่าวว่า “พวกเราเกลียดเขามากๆ และอยากจะให้บางสิ่งเกิดขึ้น ไม่ว่าทำให้เขาหายไปหรือไม่รู้จักเขา เราเพียงแค่อยากให้เขาไปพ้นๆ จากชีวิตและไม่หวนกลับมาอีก”…
-
คลิปเสียง ‘น้องหญิง’ ก่อนโดดรถดับปริศนา ฝั่ง ‘เป็ด’ ไม่เป็นนกต่อ-เชื่อผู้ชายเป็นคนดี
จากเหตุการณ์แชตของ ‘น้องหญิง’ ที่เปิดเผยว่านั่งรถไปกับชายแปลกหน้า ไม่รู้ว่าจะพาตนไปไหนหลังจากการไปเที่ยวกลางคืน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งยังถูกลวนลามด้วยการลูบขา ข้อความที่ส่งมามีเพียงแต่บ่งบอกถึงความหวาดกลัว… จนกระทั่งน้องหญิงเสียชีวิตปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม ซึ่งจากคำให้การของ นายสุรพล ดาราคำ (อ๊อฟ) ชายผู้ขับรถไปส่งอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงรถไปเอง แต่ผลชันสูตรชี้ว่าถูกตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย… ในวันที่ 29 กรกฎาคม ทางญาติของน้องหญิง น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช อายุ 19 ปี ได้ทำการเผยแพร่คลิปเสียงการพูดคุยระหว่างรุ่นพี่และน้องหญิง ตลอดการสนทนาจะถามอยู่ตลอดว่าน้องหญิงอยู่ที่ไหน และน้องหญิงก็เล่าให้ฟังอย่างชัดเจนว่าถูกลวนลาม น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือ เป็ด คือเพื่อนที่รับน้องหญิงไปเที่ยวด้วย และฝากน้องหญิงกลับกับนายสุรพล รุ่นพี่กล่าวว่าเป็ดสามารถเอาตัวรอดได้ แต่สำหรับน้องหญิงไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากเป็นคนอ่อนต่อโลก ซึ่งได้พูดคุยกันไว้ว่าให้หญิงนั่งแท็กซี่กลับมา และเป็ดยืนยันว่าจะส่งหญิงขึ้นแท็กซี่พากลับไปหารุ่นพี่ที่หอ จนในคลิปเสียงนี้คือเสียงสุดท้ายของน้องหญิงที่กล่าวว่า “หนูกลัว” ก่อนจะถูกตัดสายและเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ด้านนายสุบิน ยาวิราช อายุ 41 ปี ผู้เป็นพ่อของน้องหญิงและทางครอบครัวไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุหรือน้องหญิงจะกระโดดลงมาเอง อีกทั้งพฤติกรรมของเป็ด…
-
นักโทษบังเอิญฆ่าตัวตายในห้องขัง เพราะพยายาม “สำเร็จความใคร่” ด้วยสายไฟฟ้า
ชายผู้เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นหญิงสาว 5 ราย ถูกพบเสียชึวิตในห้องขังพร้อมพบสายไฟฟ้าบริเวณอวัยวะเพศและหัวนม Egidius Schiffer หรือมีฉายาว่า Aachen Strangler นั้นถูกเชื่อว่าบังเอิญฆ่าตัวเองตายขณะที่ใช้สายไฟฟ้าในการ “ช่วยตัวเอง” ให้สำเร็จความใคร่ในเรือนจำ Bochum ประเทศเยอรมนี ร่างศพของเขาถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018 ในสภาพที่มีสายไฟฟ้าจากโคมไฟแปะติดเอาไว้กับหลายๆ ส่วนบนร่างกายของเขา ขณะที่เต้าเสียบถูกเสียบอยู่ในปลั๊กไฟ Egidius Schiffer Schiffer ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ก่อนหน้านี้เขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อเพศหญิง 5 รายเมื่อปี 1983 ถึง 1990 และถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีให้หลังจากการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของเขา เพราะในปี 2008 เจ้าหน้าที่ได้รับ DNA ของเขามาจากการที่เขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีลักขโมยเศษเหล็ก จึงทำให้โยงกลับไปยังการฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านี้ได้ เหยื่อ 5 รายของเขาเป็นเพศหญิงทั้งหมด และมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี และเขาก็ยังได้ทำการข่มขืนเหยื่อ 3 รายจากทั้งหมดด้วย …
-
สาวฟิลิปปินส์ถูก “วิญญาณน้องชาย” ที่ถูกฆ่าเข้าสิง เพื่อบอกว่า ‘ใครคือฆาตกร’ ???
ปกติแล้วเมื่อเกิดการฆาตกรรมปริศนาขึ้น การตามจับตัวฆาตกรคงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของเจ้าหน้าที่สืบสวน แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนว่า “ผู้ตาย” จะเป็นคนมาเฉลยเองเลยว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร ไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่จากเหตุการณ์นี้เราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่ตายจากไปแล้วกลับมามีบทบาทอีกครั้งในฐานะวิญญาณที่มาเข้าสิงผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ Abigail Magtalas สาวน้อยวัย 16 ปีอ้างว่าถูกวิญญาณน้องชายที่ถูกฆาตกรรมเข้าสิงร่างจึงมีพฤติกรรมประหลาดพร้อมกับมีคำพูดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมดังกล่าว น้องชายของเธอถูกฆาตกรรมเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ที่ผ่านมา ภายในจังหวัดนูเวบาเอซีฮา ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วน Abigail บอกว่าเธอถูกน้องชายเขาสิงเพื่อบอกว่าเขาถูกทรมานอยู่หลายชั่วโมงจนตาย คลิปวิดีโอการถูกเข้าสิงที่บันทึกมาได้ ภายในวิดีโอ Abigail นั้นร้องไห้อย่างหนักและพยายามนึกและเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตน้องชายของเธอก่อนที่จะเสียชีวิต “พวกเขาทรมานผม เขาตีและยิงผม 7 ครั้ง พวกเขาเป็นแก๊งอันธพาล ฟังผมอีกครั้งนะ ผมถูกฆ่า” Abigail พูดออกมาภายในคลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนึกจึงกล่าวว่า Marvin น้องชายของ Abigail นั้นมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพย์ติด และเสียชีวิตเนื่องจากถูกลูกหลงขณะที่มีการยิงปะทะกันระหว่าง 2 แก๊ง อย่างไรก็ตาม Abigail นั้นสามารถเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะการยิงปืนปะทะกันได้ถูกต้อง แถมเล่าเรื่องขณะที่น้องชายถูกลักพาตัวไปทรมานได้อีกด้วย “ผมพยายามขอร้องไม่ให้พวกเขาฆ่าผม…
-
จับกุมอดีตพยาบาล ลอบวางยาผู้ป่วยสูงวัยเสียชีวิต คาดลงมือหวังผลไม่ต่ำกว่า 20 ราย!!
คดีสะเทือนขวัญในครั้งเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2016 เมื่อมีผู้ป่วยสูงอายุ 2 ราย เสียชีวิตอยู่บนเตียงชั้น 4 ในโรงพยาบาล Oguchi จังหวัดโยโกฮาม่า ในวันที่ไล่เลี่ยกัน พร้อมกับหลักฐานความผิดปกติในถุงน้ำเกลือของผู้ป่วย โดยคาดว่าเป็นการลงมือฆาตกรรม แต่ไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ (ข่าวเก่า) ล่าสุดนี้ทางเว็บไซต์ Asahi Shimbun ได้ทำการรายงานความคืบหน้าของคดีดังกล่าว หน่วยงานตำรวจจังหวัดคานางาวะ ได้ทำการจับกุมนาง Ayumi Kuboki อดีตนางพยาบาลวัย 31 ปี ในวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา Ayumi Kuboki อดีตนางพยาบาล ผู้ต้องสงสัยลงมือก่อเหตุฆาตกรรม ในข้อหาต้องสงสัยลงมือฆาตกรรมผู้ป่วยสูงวัย 2 ราย ได้แก่นาย Sozo Nishikawa วัย 88 ปี และนาย Nobuo Yamaki วัย 88 ปี ด้วยวิธีการเจือนปนยาฆ่าเชื้อผสมในถุงน้ำเกลือ …
-
ยายวัย 92 ปี ใช้อาวุธปืนฆ่าลูกชายของตัวเอง เพราะถูกบังคับให้ไปอยู่บ้านพักคนชรา
Anna Mae Blessing คุณยายวัย 92 ปี อาศัยอยู่ใน Fountain Hills รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้อาวุธปืนยิงลูกชายของตัวเองจนเสียชีวิต หลังจากที่เขาพยายามจะส่งตัวเธอไปยังบ้านพักคนชรา ตามรายงานระบุว่าคุณยายได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับนาย Thomas ลูกชายวัย 72 ปี และภรรยาของเขาวัย 57 ปีในคอนโดแห่งหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว แต่ทว่านาย Thomas ได้บอกกับแม่ว่าเขาต้องการที่จะส่งเธอไปยังบ้านพักคนชรา และนั่นเองก็ทำให้เรื่องราวร้ายแรงเกิดขึ้นภายหลัง คุณยายได้ใช้เวลาครุ่นคิดถึงแผนการเป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะตัดสินใจนำปืนพกที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่ปี 1970 มาซ่อนไว้ที่กระเป๋าเสื้อของตน เธอค่อยๆ เดินตามลูกชายเข้าไปที่ห้องนอนแล้วก็ก่อเหตุยิงในช่วงเช้าของวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกกระสุนพุ่งเข้าไปที่ใบหน้า และลำคอของลูกชาย เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต นอกจากนี้รายงานยังระบุเอาไว้ว่าหลังจากที่ยิงลูกชายไปแล้ว คุณยายก็เล็งปืนไปที่ภรรยาของเขา แต่โชคดีที่ปืนมันหลุดออกจากมือไปซะก่อนที่จะได้ยิง ทำให้ภรรยาของผู้เสียชีวิตสามารถวิ่งหนีออกมาจากห้องและโทรแจ้งตำรวจได้ทันเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็พบตัวคุณยายกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนอนที่ก่อเหตุฆาตกรรม ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทำการขนย้ายศพของผู้เสียชีวิตออกจากห้องจู่ๆ คุณยายก็พูดออกมาว่า “แกจะเอาชีวิตของฉันไป ฉันก็เลยต้องเอาชีวิตของแกไปด้วย” จากนั้นคุณยายก็แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่าเธอต้องการที่จะฆ่าตัวตาย ถึงจะสาสมกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป แต่อย่างไรก็ตามเธอถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปและเข้ารายงานตัวต่อศาล คุณยาย…
-
พี่ชายโมโหจัด! ยัวะที่น้องสาว “เข้าห้องน้ำนานเกินไป” คว้ามีดแทงไม่ยั้ง 53 แผล ดับสนิท…
ชายหนุ่มนามว่า Gavin Henderson อายุ 27 ปีเกิดยัวะขึ้นมาหลังพบว่าน้องสาวของตนเข้าห้องน้ำในบ้าน “นานจนเกินไป” จึงคว้ามีดแทงจนเสียชีวิต ผู้เคราะห์ร้ายคือ Keaira Henderson วัย 15 ปีน้องสาวแท้ๆ ของนาย Gavin ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเข้าห้องน้ำนานจนเกินไป จึงถูกมีดแทงด้วยฝีมือพี่ชายรวม 53 แผลจนเสียชีวิต หลังสืบประวัติของ Gavin พบว่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ในรัฐจอร์เจียกับแม่และน้องสาวหลังจากเพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำในรัฐฟลอริดาเมื่อปี 2017 เจ้าหน้าที่ให้การกับศาลว่าก่อนหน้านี้นาย Gavin เคยถืออาวุธมีดเตรียมทำร้ายร่างกายน้องสาวมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ทางครอบครัวก็สามารถกล่อมให้เขาใจเย็นลงได้โดยไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในวันเกิดเหตุ นาย Gavin ต้องการใช้ห้องน้ำในช่วงเวลาราวบ่ายสามโมง แต่น้องสาวของเขา Keaira ยังคงอยู่ในห้องน้ำ ขณะนั้นถึงแม้น้องสาววัย 12 ปีอีกคนหนึ่งจะอยู่ในบ้านด้วยเช่นกัน แต่ฝ่ายผู้เป็นแม่นั้นออกไปทำงานในตัวเมือง จึงทำให้เขาตัดสินใจคว้าอาวุธมีดล่าสัตว์ยาว 10 นิ้วแทงน้องสาวจนสาหัส จากนั้นเขาก็วิ่งตาม Keaira ขณะที่เธอวิ่งหนีไปนอกบ้านเพื่อเคาะประตูห้องรอบข้างขอความช่วยเหลือแล้วแทงอย่างไม่ยั้งจนน้องสาววัย 15 ของเขาสิ้นใจ ส่วนน้องสาวคนเล็กที่ตกใจกลัวอยู่นั้นก็พยายามติดต่อแม่ให้ได้ เมื่อฝ่ายแม่รู้เรื่องจึงรีบกลับมาทันทีพร้อมแจ้งตำรวจ เมื่อน้องสาวคนเล็กเปิดประตูมาเห็น เขาบอกกับเธอว่า…
-
เบื้องหลังฆาตกรคลั่ง ไล่แทงเหยื่อบนชิงคันเซ็น เคยถูกรังแกกลั่นแกล้ง ส่งผลถึงจิตใจ
เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เมื่อมีชายรายหนึ่งเลือกก่อเหตุฆาตกรรมในสถานที่ปิดบนรถไฟหัวกระสุน ทำร้ายเหยื่อแบบไม่เลือกหน้า ไล่ล่าใช้อาวุธมีคมทำร้ายแบบสุ่ม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา Ichiro Kojima ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือนาย Ichiro Kojima ชายว่างงานวัย 22 ปี เลือกลงมือในเวลาประมาณ 21.50 น. บนรถไฟขบวน Nozomi หมายเลข 265 ตู้ที่ 12 เดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังสถานีชินโอซาก้า ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 880 คน พร้อมกับพกวัตถุมีคมหลากหลายชนิด จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดคานางาวะ นาย Kojima ลงมือแทงเหยื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเป็นรายแรง ก่อนที่จะไล่แทงหญิงอีกรายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง โดยเหยื่อทั้ง 2 รายอยู่ในวัย 20 ปี และนาย Kojima ก็ลงมือแทงนาย Kotaro Umeda ชายวัย 38 ปี ผู้ที่พยายามจะหยุดฆาตกรรายนี้ …
-
ถึงกับช็อก สามีเจอ ‘กระดูก’ หลังบ้าน นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม ที่มีภรรยาเป็นฆาตกร!?
บางครั้งในพื้นที่หลังบ้านของเราอาจจะมีสิ่งของแปลกๆ ฝังอยู่ใต้ดิน โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็เป็นได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งของใช้ภายในบ้านทั่วไป อย่างเช่น แก้ว ถ้วย ชาม เป็นต้น หรือดวงดีหน่อยก็อาจจะเป็นสมบัติ อย่างแหวน เงิน ทอง แต่สำหรับชายคนนี้ เขาบังเอิญเจอสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้น…มันคือ ‘โครงกระดูก’ ของมนุษย์นั่นเอง แล้วเรื่องราวมันยิ่งพีคกว่านั้นอีก เพราะมันเป็นศพของสามีคนแรกของภรรยาของเขา ที่ถูกฆ่าด้วยการเอาขวานจามหัวโดยฝีมือของเธอ!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Luzion เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตไซบีเรีย สามีได้บังเอิญพบกับโครงกระดูกถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง และโครงกระดูกนั้นเป็นของ ‘สามีคนแรกของภรรยาของตน’ และสิ่งที่ทำให้หลอนยิ่งกว่านั้นคือสามีคนดังกล่าวถูกฆาตกรรมโดยภรรยาของเขานั่นเอง!! ชายผู้เป็นเจ้าของกระดูกถูกฆาตกรรมเมื่อตอนอายุได้ 52 ปี ตามรายงานระบุว่าในวันเกิดเหตุเขาเมากลับมาที่บ้านและทำร้ายภรรยา ก่อนที่จะถูกเธอเอาขวานจามเข้าที่หัว และหั่นร่างเป็นชิ้นๆ เอาไปฝังที่สวนมันฝรั่งหลังบ้าน และเวลาที่มีคนถามว่าสามีของเธอหายไปไหน เธอก็ตอบไปว่าเขาออกไปทำงานแล้วก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเลย หลังจากที่พบกระดูก ภรรยาวัย 60 ปี ได้บอกกับเขาว่า “ไม่ต้องกังวล นี่เป็นกระดูกของสามีคนแรกของฉันเอง เราจะฝังมันไว้อีกครั้ง ลืมๆ มันไปซะ และอย่าไปบอกตำรวจล่ะ” แต่เขาไม่ทำแบบนั้น สามีคนที่สองตัดสินใจแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็เริ่มทำการสอบสวนภรรยา…
-
ลูกสาวถูกฆาตกรรม คนร้ายยังลอยนวล พบพิรุธของพ่อเพียงครั้งเดียว ปิดฉากคดีเกือบ 10 ปี…
เรื่องราวอันน่าสลดใจภายในสถาบันครอบครัวที่ได้ชื่อว่าน่าไว้ใจมากที่สุด และควรจะเป็นที่ที่มอบความรักและความอบอุ่น กลับกลายมาเป็นนรกภายในจิตใจของผู้เป็นลูก… คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของ Shafilea Iftikhar Ahmed วัย 17 ปี ชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เธอหายตัวไปจากบ้านเมื่อเดือนกันยายนปี 2003 และถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ริมแม่น้ำ Kent มณฑล Cumbria ในปี 2004 Shafilea Iftikhar Ahmed หายตัวไปเมื่อปี 2003 และถูกพบอีกครั้งในปี 2004 ในสภาพร่างไร้วิญญาณ โดยเบื้องลึกแล้วเธอเริ่มถูกกดขี่จากพ่อแม่ในช่วงที่ก่อนจะหายตัวไป จนกระทั่งเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ คุณครูที่โรงเรียนจึงทำการแจ้งตำรวจ ถึงขั้นสื่อใหญ่ช่วยกันปลุกระดมให้ผู้คนช่วยกันออกตามหาเธอทั่วทั้งประเทศ ภาพของเจ้าหน้าที่กำลังทำการชันสูตรศพที่พบข้างแม่น้ำ Kent ในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ศพของเธอถูกพบอยู่ริมแม่น้ำ Kent ในมณฑล Cumbria ห่างจากเมือง Warrington ที่บ้านของเธอตั้งอยู่ 110 กิโลเมตร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพและพบว่าเป็นการจงใจซ่อนศพ สร้อยคอและแหวนเพชรที่หลงเหลืออยู่ถูกระบุถึงตัวผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่เนื่องจากสภาพศพที่แทบไม่หลงเหลือแล้ว จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ …
-
ลอนดอนระส่ำ เด็กหนุ่ม 3 คนถูกยิงกลางวันแสกๆ ปีนี้ดับ 62 คน แต่คนร้ายยังลอยนวล!?
กรุงลอนดอนที่หลายคนเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก หารู้ไม่ว่า เพียงครึ่งปีแรกของปี 2018 กลับมีเหยื่อผู้เสียชีวิตจากการฆาตกรรมรวม 62 รายแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อบ่ายของวันที่อาทิตย์ที่ผ่านมา (6 พฤษภาคม 2018) มีรายงานว่าหนุ่มน้อยวัย 13 ปีถูกอาวุธปืน “ยิงเข้าที่ศีรษะ” ในช่วงเวลากลางวันแสกๆ บริเวณตอนเหนือในเขตลอนดอนตะวันตก ส่วนเด็กหนุ่มอีกรายวัย 15 ปีเองก็ถูกพบว่าบาดเจ็บจากการถูกยิงบนถนนเส้นเดียวกันในเขตแฮร์โรว์ของกรุงลอนดอน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบสวนว่าทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เด็กหนุ่มทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองรายไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจนถึงชีวิต แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมาเด็กหนุ่มวัย 17 ปีอีกรายหนึ่งกลับถูกยิง เสียชีวิตกลางกรุงลอนดอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เด็กหนุ่มคนแรก (วัย 13 ปี) มีอาการบาดเจ็บสาหัสจาก “กระสุนลูกปราย” ที่ได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ไว้ที่บริเวณศีรษะของเขา คนขายของผู้ที่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์ได้กล่าวว่า “เด็กหนุ่มช่างโชคดีที่รอดมาได้” เพราะเขาเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ถูกยิงเขาที่บริเวณด้านหลังของศีรษะ เขายังเล่าอีกว่าเขาเห็นผู้คนมุงดูชายผิวดำคนหนึ่งที่นอนฟุบอยู่กับพื้น “เขาก้มหน้าเข้าหาพื้น ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของเขาเลย เห็นแค่เพียงว่าเสื้อยืดสีขาวของเขานั้น เต็มไปด้วยรอยเลือด ฉันนั่งลงอย่างใจเย็น และรอจนกว่าทีมแพทย์จะมารับตัวเขาไป” . …
-
เจ้าหน้าที่พบศพ ‘หนุ่มผิวเผือก’ ชิ้นส่วนร่างกายหายไป คาดถูกนำไปใช้ใน ‘พิธีมนตร์ดำ’
เด็กหนุ่มผิวเผือกถูกพบกลายเป็นศพฝังอยู่ใต้ดินในประเทศมาลาวี ชิ้นส่วนของร่างกายบางส่วนของเขาหายไป ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเขาไว้ได้ถึง 11 ราย ศพของนาย McDonald Masambuka วัย 22 ปี ถูกพบฝังอยู่ใต้ดิน ทางใต้ของประเทศมาลาวี ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังหายตัวไปก่อนหน้านี้นานหลายสัปดาห์ เขาเป็นหนึ่งในคนผิวเผือกที่ตกเป็นหนึ่งเหยื่อการถูกฆาตกรรมจากทั้งหมด 22 คน ในรอบ 4 ปีล่าสุดของประเทศมาลาวี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าการตายของพวกเขาเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยเชื่อว่าชิ้นส่วนของคนผิวเผือกสามารถนำไปใช้ทำเป็นยาเวทมนตร์ได้ กลุ่มคนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยมีทั้งบาทหลวง ตำรวจ และคนปรุงยามืออาชีพ ซึ่งประชาชนของประเทศมาลาวีเองก็ออกมารณรงค์ให้ทำการประหารชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ คุณพ่อ Thomas Muhosha นักบวชนิกายคาทอลิก หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกันรัฐบาลของประเทศมาลาวี ได้ประกาศยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ล่าสุดก็กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง นาย Peter Mutharika ประธานาธิบดีของประเทศมาลาวี ที่รับปากว่าจะนำเรื่องของการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีกครั้ง ทางด้านองค์กรช่วยเหลือเหล่าบุคคลผิวเผือกหรือ Association of People with Albinism ที่ดูแลเหล่าคนผิวเผือกมากกว่า…
-
ระยะเผาขน… เจ้าบ่าวนั่งกลางงานแต่ง ถูกยิงไม่ทันได้ตั้งตัว แขกเหรื่อยัง ‘งง’ ว่าเกิดอะไรขึ้น!?
*เนื้อหาดังต่อไปนี้มีความรุนแรง โปรดระมัดระวังในการอ่านและรับชม* ท่ามกลางงานบุญงานเฉลิมฉลองต่างๆ คงจะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อย่างเช่นในงานแต่งที่ประเทศอินเดียครั้งนี้ แทนที่จะมีความสุขทั้งเจ้าบ่าวและแขกผู้ร่วมงาน กลับกลายเป็นความป่าเถื่อนในทันที เจ้าบ่าวป้ายแดง Sunnil Verma วัย 25 ปี กำลังอยู่ในพิธีเฉลิมฉลองในรัฐอุตตรประเทศ อินเดีย ท่ามกลางวงของแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง แต่แล้วหนึ่งในมือปืนที่แฝงตัวมาก็ควักปืนยิงเจ้าบ่าวกลางหน้าอกอย่างไม่ลังเล และไม่มีใครสังเกตเห็นเลย… วิดีโอระทึกขวัญนี้ถูกบันทึกไว้โดยช่างภาพในงานแต่ง เผยให้เห็นชายสวมใส่เสื้อสีแสด ทำการขึ้นลำและหันปากกระบอกปืนยิงมาที่เจ้าบ่าว ทางด้านเจ้าบ่าวทำได้เพียงแค่มองไปยังจุดกำเนิดวิถีกระสุน ก่อนที่จะกำหน้าอกของตนเอาไว้ เนื่องจากถูกยิงเข้าอย่างจังในระยะเผาขน อย่างไรก็ตามมือปืนผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้ และเจ้าบ่าวนั้นไม่อาจทนพิษบาดแผลได้ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนและตามตัวมือปืนมารับโทษให้ได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือตั้งใจฆาตกรรมกันแน่… คลิปภายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา : expressdigest, dailymail
-
ฆาตกรฆ่าข่มขืนลอยนวลกว่า 40 ปี ตำรวจไม่ปล่อยเข้ากลีบเมฆ งมเข็มในมหาสมุทรปิดฉากคดี!!
เป็นเวลานานร่วม 40 ปี หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญที่ชื่อว่า “Golden State Killer” ที่แผ่ขยายความน่ากลัวไปทั่วบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการข่มขืนผู้หญิงเป็นจำนวนมาก และลงมือฆ่าเหยื่อไม่ต่ำกว่า 12 ราย และเมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น ทางการได้ประกาศปิดคดีสะเทือนขวัญที่ยาวนานหลายสิบปี ด้วยการจับกุมนาย Joseph James DeAngelo วัย 72 ปี ด้วยโทษประหารชีวิต หลังจากพบเบาะแสการตรวจดีเอ็นเอ… การจับกุมนาย DeAngelo นั้นกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นการปิดฉากคดีอาชญากรรมที่กินระยะเวลายาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จุดเริ่มต้นของความโหดร้ายแผ่ขยายไปทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ช่วงปี 1970 ไปจนถึงปี 1980 ทำให้หลายครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวรวมไปถึงชุมชนผู้อาศัยในรัฐเช่นกัน หลังจากนั้นอาชญากรก็หยุดก่อเหตุ และหายตัวเข้ากลีบเมฆไป ทิ้งไว้เพียงแค่เบาะแสเล็กน้อยที่ยากต่อการสืบสวน Joseph James DeAngelo ในวัย 72 ปี และแล้วร่องรอยชิ้นเล็กๆ ก็กลับย้อนมาสู่นาย DeAngelo อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้อาศัยอยู่ในเมือง…
-
ชวนดู “The Push” เรียลลิตี้ที่ตั้งคำถามว่าเราจะสามารถฆ่าคนได้ไหม หากสถานการณ์บังคับ?
คนทุกคนมีจิตใต้สำนึกรับรู้ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร รู้ว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อน ใจเย็น มีเมตตา มีความเห็นแก่ตัว มีความเยือกเย็น หรือมีความวู่วาม แต่เชื่อเราหรือไม่ว่าคุณแทบจะไม่มีวันได้เจอกับตัวตนจริงๆ ของตัวเองจนกว่าจะถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ลำบากต่อการตัดสินใจ เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้กด Netflix เล่นๆ ไปเจอเข้ากับเรียลลิตี้โชว์ขนาดสั้นรายการหนึ่งที่มีชื่อว่า The Push (แรงผลักดัน) ของ Derren Brown ที่เป็นการตั้งคำถามขึ้นมาว่าคนคนหนึ่งจะสามารถฆาตกรรมคนอีกคนหนึ่งได้ไหม หากพวกเขาถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องลงมือ? ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า Derren Brown นั้นเป็นนักอ่านใจและนักมายากลชาวอังกฤษ ที่โด่งดังมาจากการทำรายการทีวีเกี่ยวกับการทดลองทางสังคมและการใช้จิตวิทยาเพื่อหลอกล่อผู้คนในแบบต่างๆ ซึ่งเขาทำรายการแนวๆ นี้มาแล้วมากมาย จนล่าสุดคือ The Push นี่เอง ในเรียลลิตี้โชว์นี้จะคัดเลือกเอาคนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้ามา 1 คน ซึ่งในรายการได้เลือกเอา Chris Kingston มาเป็นเหยื่อทดลอง โดยให้เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในงานการกุศลงานหนึ่ง ซึ่งเขามีหน้าที่คอยดูแลเทคแคร์ Bernie เศรษฐีกระเป๋าหนักคนหนึ่งที่จะมอบเงินก้อนโตให้แก่มูลนิธิ Chris Kingston ชายผู้ตกอยู่ท่ามกลางหน้าม้าทั้งมวล ก่อนการการทดลองทางสังคมจะเริ่มขึ้น ทางรายการได้พาเราย้อนกลับไปดูในขั้นตอนการคัดเลือกผู้เข้าร่วมรายการ โดยมีการนำเอาวิธีที่ชื่อว่า “การบีบบังคับทางสังคม” เข้ามาช่วยคัดเลือกคน สถานการณ์ที่ใช้ในการคัดเลือกคือทางทีมงานจะส่งหน้าม้า 3 คนเข้าไปนั่งในห้องแล้วทำแบบสอบถาม…
-
พ่อมีความสัมพันธ์กับลูกสาวจนตั้งท้อง ตัดสินใจฆ่าลูกชาย ลูกสาว แล้วฆ่าตัวตายตาม
สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณพ่อ Steven Pladl วัย 42 ปี มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ Katie Fusco วัย 20 ปี ลูกสาวในไส้ของตัวเองที่พลัดพรากจากกันไปจนเธอท้อง ทำให้ทั้งคู่ถูกจับในข้อหาร่วมประเวณีกันในครอบครัวตัวเอง (Incest) ต่อมานาย Steven จะถูกประกันตัวออกมาในภายหลังด้วยวงเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 31 ล้านบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องเลิกติดต่อกับ Katie โดยเด็ดขาด และให้ส่ง Bennett ลูกชายวัย 7 เดือนที่เกิดมาจากเธอไปให้แม่ของ Steven เลี้ยงดู (อ่านข่าวเก่าได้ ที่นี่) สำนักข่าว BBC รายงานว่านาย Steven Pladl ได้ลงมือฆ่า Katie และพ่อบุญธรรมของเธอ ก่อนที่จะฆ่าลูกชายที่เกิดจาก Katie ในภายหลัง สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านแม่แท้ๆ ของนาย Steven Pladl โดยเธอเป็นฝ่ายโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐนอร์ธแคโรไลนาด้วยตัวเอง เธอบอกว่านาย Steven โทรมาสารภาพกับเธอว่าเขาได้ลงมือฆ่า Katie Pladl และ Anthony Fusco วัย…
-
เพื่อนไม่อยากทนทุกข์จากมะเร็ง หนุ่มยินดีขับรถทับ แต่สุดท้ายจบที่ ‘การฆาตกรรม’
ในเบื้องต้นแล้วทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘การุณยฆาต’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวคือการทำให้หนึ่งชีวิตนั้นจากไปอย่างสงบ ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป… ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความยินยอมระหว่าง ผู้รับการการุณยฆาตและผู้ลงมือการุณยฆาต จะต้องมีเอกสารเซ็นยินยอมที่ชัดเจน และจะไม่มีผลทางคดีความใดๆ ในภายหลัง แต่แล้วมันกลับเกิดผิดเพี้ยนไป เมื่อชายหนุ่มชาวจีนถูกเพื่อนป่วยโรคมะเร็ง ขอร้องให้จบชีวิตเธอเสียที เพราะไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว หญิงแซ่ Wu ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในปี 2008 และเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว และได้ขอร้องในเพื่อนชายแซ่ Xu ขับรถทับร่างเธอเสีย เพื่อไม่ให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2017 Xu เองก็ตกลงปลงใจที่จะทำตามคำขอ ซึ่งทางด้านสามีของนาง Wu นั้นก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนชายคนนี้จะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรในภายหลัง… และแล้ววันตัดสินชีวิตก็เกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2017 ภาพจากกล้องภายในรถ เผยให้เห็นว่าเขาขับรถเพื่อเหยียบร่างของนาง Wu กลางถนนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้ว Xu ก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว และกระทำการถอยรถเหยียบซ้ำอีกหนึ่งรอบ …
-
รู้จักกับ Dexter ในชีวิตจริง…ฆาตรกรต่อเนื่อง 100 ศพ ที่ลงมือฆ่าเฉพาะ ‘คนไม่ดี’
‘เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่ลงมือสังหารเฉพาะคนไม่ดี’ อาจจะเป็นพล็อตหนังหรือละครที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ที่ดังๆ ก็อย่างเช่น Dexter ที่เรียกว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในต่างประเทศรวมไปถึงบ้านเราด้วย จากในซีรีส์แม้เราจะรู้ว่าเรื่องที่ตัวเอกนั้นทำมันผิด แต่สถานการณ์ต่างๆ มันก็บีบคั้นให้เราลุ้นเอาใจช่วยไปกับการลงมือของเขา แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก Dexter ในชีวิตจริง ฆาตรกรต่อเนื่องที่ลงมือฆ่าคนเลวเป็นส่วนใหญ่ เขาผู้นี้มีนามว่า Pedro Rodrigues Filho ชาวบราซิล ที่ถูกจับกุมในข้อหาฆาตรกรรม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่านาย Pedro ฆ่าหั่นศพคนมาแล้วมากกว่า 71 ราย แต่พี่แกกล่าวอ้างว่าจริงๆ แล้วมีไม่ต่ำกว่า 100 ราย Pedro เกิดมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่บริเวณกระโหลก เพราะพ่อของเขาทำร้ายร่างกายของแม่อย่างรุนแรงขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ ทำให้ผลของการกระแทกนั้นโดนตัวของเขาที่อยู่ในท้องแม่ด้วย ในวัย 13 ปี เขาเกือบจะลงมือฆ่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มหันมาเสพติดการสังหารผู้คน เหยื่อรายแรกของ Pedro คือ Minas Gerais รองนายกเทศมนตรีของเมือง Alfenas แต่การฆาตรกรรมในครั้งนี้มีสาเหตุ เพราะรองเทศมนตรีดันไปไล่พ่อของเขาออกจากงาน พร้อมกับอ้างว่าที่ไล่ออกเพราะไปขโมยอาหารจากห้องครัวของโรงเรียน เท่านั้นยังไม่พอ เขาตามไปสังหารคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่แอบขโมยอาหารในโรงเรียนจริงๆ ณ…
-
เด็กชายวัย 14 ทำปืนลั่นใส่แฟนสาววัย 16 เสียชีวิต ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หนีไป
เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ทางสถานีตำรวจภูธรบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ที่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 9 ตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ร้อยตำรวจเอก ประทีป อินแก้ว รองสารวัตรหน่วยสืบสวน จึงได้รุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานงานทีมพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตของนางสาวจันทร์เพ็ญ แก้วไพฑูรย์ วัย 16 ปี ซึ่งมีร่องรอยการถูกยิงเข้าที่ขมับด้านซ้าย และทะลุออกทางท้ายทอยด้วยอาวุธอาวุธปืนลูกโม่ .38 ผู้ต้องสงสัยเป็นเด็กชายวัย 14 ปี ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากทางพันตำรวจเอก สุนทร ภิราษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ภูธรบ้านแยงกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นทั้งสองคนอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัด และเด็กชายวัย 14 ปีออกมาบอกกับญาติว่าตนได้ทำปืนลั่นใส่แฟนสาว และขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุไป ในขณะนี้ศพของผู้เสียชีวิตได้ถูกส่งไปยังฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อทำการชันสูติศพอย่างละเอียด ก่อนที่ส่งคืนให้ญาติๆ นำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ส่วนผู้ต้องสงสัยนั้นทางคุณพ่อของเด็กชายได้รับปากกับทางตำรวจแล้วว่าจะพาลูกชายมาเข้ามอบตัวกับทางตำรวจให้ได้ภายในสามวัน ที่มา workpointnews, amarintv
-
ฆาตรกรอำมหิต…แทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต โดยให้เหตุผลเพียงเพราะว่า ‘ชื่นชอบการฆ่า’
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดอำมหิต ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการแทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต แล้วให้เหตุผลที่ทำว่า เขานั้นเพราะ “ชื่นชอบการฆ่า” Shea Heeley วัย 19 ปี ได้หลอกล่อหญิงสาว วัย 16 ปี นามว่า Leonne Weeks ไปในที่ลับตาคนในย่าน Dinnington ใน South Yorkshire ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแทงเธอ 28 ครั้งโดยไม่มีเหตุผล ในเดือนมกราคม 2017 Heeley ได้รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าจริงซึ่งเขาต้องถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 24 ปีครึ่ง ศาล Sheffield Crown ได้รับข้อมูลมาว่า Heeley ได้พยายามตีสนิทกับเหยื่อ หรือสาว Leonne มาร่วมปี ก่อนที่จะทำการฆ่า และจงใจตีสนิทเธอเพื่อสนองความพึงพอใจของตนที่ “ชื่นชอบการฆ่า” ทางศาลยังทราบด้วยว่าหลังจากที่ Heeley ถูกจับกุม เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจิตเวชว่า “ผมชอบสิ่งที่ผมทำลงไปนะ ก็แค่ฆ่าเอง ผมน่ะชอบการฆ่า“ ผู้พิพากษา Paul Watson กล่าวว่า…
-
คดีสุดอลม่าน เมื่อนักโทษถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ความจำเลือนลางจำการก่อเหตุไม่ได้…
ในการตัดสินคดีความร้ายแรงต่างๆ นั้น ผู้ต้องหาจะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าได้กระทำการอันใดลงไป และหลังจากศาลได้ทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะทำการพิพากษาโทษแก่ผู้ก่อคดีตามสมควร ซึ่งในคดีความของนาย Vernon Madison วัย 67 ปี กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาถูกพิพากษารับโทษประหารชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน และจะถูกประหารในปี 2016 แต่ด้วยเหตุที่เขาถูกลบความจำจากอาการช็อกหลายต่อหลายครั้ง ทางทนายความจึงขอเลื่อนวันประหารชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้!? Vernon Madison นาย Madison จะได้รับการประหารในเดือนพฤษภาคม 2016 จากการก่อคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1985 ภายหลังไม่นานก่อนที่สำนวนคดีจะถูกสรุป ทนายความของเขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไว้ว่า… ลูกความของเขาประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการช็อกหลายครั้ง ส่งผลทำให้ระบบประสาทเสียหาย และจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับอาชญากรรมในครั้งนั้น ภาพของนาย Madison ในปี 1985 ศาลจึงทำการเลื่อนการประหารออกไป เนื่องจากสภาพจิตใจของนักโทษนั้นยังไม่สามารถประหารได้ จนกว่าตัวนักโทษจะมีความเข้าใจในบทลงโทษ และเหตุผลที่พวกเขาต้องได้รับโทษ และหลังจากนั้นการประหารนาย Madison ก็ประสบกับโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกตลอด 2 ปี ที่ถูกตัดสิน โดยครั้งแรกที่นาย Madison มีอาการช็อกนั้นเกิดขึ้นในปี 2015…
-
นักโทษประหารชีวิตรอดตาย เพราะเจ้าหน้าที่หา ‘เส้นเลือด’ ไม่เจอ จ่อโดนฟ้องทารุณกรรม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐแอละแบมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำเป็นต้องปล่อยนักโทษประหารชีวิตรายหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถเจาะแขนและขาของเขาเพื่อฉีดยาประหารชีวิตได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018 นาย Doyle Lee Hamm ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตจากคดีฆาตกรรมและปล้นทรัพย์นาย Patrick Cunningham พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อปี 1987 การประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าวจำเป็นต้องถูกยกเลิก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาเส้นเลือดที่บริเวณแขนและขาของชายหนุ่มเพื่อฉีดยาประหารได้ หลังจากการยกเลิกการประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าว Bernard Harcourt ทนายความของผู้ต้องหาได้ฟ้องข้อหาทรมานนักโทษรายนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะที่ร่างกายของผู้ต้องหามากถึง 12 ครั้ง ซึ่งรวมไปถึงการเจาะกระเพาะปัสสาวะของเขาด้วย “เห็นได้ชัดว่ามีการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องหา ซึ่งเข้าข่ายการทรมาน” Harcourt อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกความของเขา นอกจากนี้ทางฝ่ายทนายของผู้ต้องหายังได้กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะกระเพาะปัสสาวะของผู้ต้องขัง หลังจากที่เขามีอาการปัสสาวะเป็นเลือด “พวกเขาอาจจะเจาะโดนหลอดเลือดแดงของลูกความผม เพราะมันมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบรอยแผลอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ข้อเท้า น่อง และตามจุดต่างๆ ของร่างกาย” ทนายความกล่าว ทนายความของนาย Hamm ยังกล่าวต่ออีกว่าลูกความของเขาทรมานอย่างมากในระหว่างการประหารชีวิต พร้อมกับบอกว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่หาหลอดเลือดของเขาไม่เจอนั้น ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้นาย Hamm ได้เข้ารับการักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และการักษาดังกล่าวนั้นทำให้หลอดเลือดของเขาถูกทำลาย โดยกฎหมายแล้ว นักโทษจะได้รับความคุ้มครองต่อการทารุณและการลงโทษที่โหดร้ายเกินกว่าเหตุ ซึ่งในกรณีดังกล่าวศาลจะทำการพิจารณาต่อไปว่าเป็นการทารุณหรือไม่ ในส่วนของศาสพิพากษาสูงสุดของสหรัฐฯ มีคำสั่งให้หยุดการฉีดยาประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าว พร้อมกับได้รับการยินยอมจากผู้พิพากษาถึง 3 คนด้วยกัน …
-
ตำรวจพบซากเท้าของมนุษย์ ลอยมาเกยที่ชายหาด คาดอาจเกี่ยวคดีฆาตกรรม
เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจแคนาดาได้พบกับคดีสยองขวัญของซากเท้ามนุษย์ที่ลอยมาเกยที่ชายหาดของรัฐบริติชโคลัมเบียประเทศแคนาดา ซากเท้าที่มีกระดูกหน้าแข้งและน่องติดมาด้วยถูกสวมใส่อยู่ในถุงเท้าสีเขาและรองเท้าวิ่งสีดำถูกพบโดย Mike Jones ชายวัย 56 ปี ขณะที่เขากำลังพาสุนัขไปเดินเล่นที่บริเวณชายหาดของเกาะแวนคูเวอร์ Jones ได้อธิบายเหตุการณ์ว่า “ตอนที่ผมพาสุนัขไปเดินเล่นอยู่ จู่ๆ มันก็เหมือนจะได้กลิ่นอะไรสักอย่าง มันเริ่มดมๆ หาอะไรสักอย่าง ผมจึงหยุดดูว่ามันเจออะไร ผมเห็นกระดูกและก็สังเกตได้ว่ามันอยู่ในติดกับรองเท้า” ซากเท้าที่คุณ Jones ได้เจอถือว่าเป็นกระดูกชิ้นที่ 13 ที่มีการพบเจอบนเกาะนี้ตั้งแต่ปี 2007 และตำรวจก็เชื่อว่าสามารถระบุตัวได้ว่าชิ้นส่วนข้อเท้านี้มันเคยเป็นของใครมาก่อน จากการระบุตัวโดยใช้ DNA ตำรวจก็สามารถระบุได้ว่าข้อเท้านี้เป็นของ Stanley Okumoto ชายวัย 79 ปีที่อาศัยอยู่ในเขต Kitsap รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2017 และหลังจากที่เขาหายตัวไป เจ้าหน้าที่ก็ได้พบอวัยวะบางส่วนแถวๆ Neah Bay ซึ่งห่างจากจุดที่พบรถของเขาจอดอยู่มาประมาณหนึ่งไมล์ (ราวๆ 1.6 กิโลเมตร) ในเดือนพฤศจิกายน 2017 Mark Nichols อัยการสูงสุดของเขต Clallam ก็ได้กล่าวว่าไม่พบผู้ต้องสงสัยและไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของคุณ Okumoto ได้ …
-
ฆาตกรหลบหนีตำรวจได้นานเป็นสิบๆ ปี แถมระหว่างนั้นก็ติดต่อมาเยาะเย้ยตำรวจอยู่เรื่อยๆ
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1990 พนักงานธนาคารในฟลอริด้า Beverly McGowan ตัดสินใจหาเพื่อนร่วมห้องด้วยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจห้องว่างในบ้านของเธอ หนึ่งในผู้ที่ติดต่อมาคือผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Alice ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นลูกจ้างของบริษัท IBM จากประเทศอังกฤษ Alice ยังบอกด้วยว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Numerology ศาสตร์การศึกษาความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างตัวเลขกับเหตุการณ์ในชีวิตคน ในตอนนั้น Beverly รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเพื่อนร่วมห้องผู้น่าสนใจคนนี้มาก อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่ย้ายเข้า เรื่องราวก็ดำเนินไปแบบไม่ค่อยจะดีนัก เพราะแม้ Alice จะเสนอการทำนายอนาคตให้ Beverly แต่ Beverly กลับรู้สึกแปลกๆ เพราะ Alice นั้นต้องการทั้งใบขับขี่ หนังสือเดินทาง และแม้แต่บัตรประกันสังคมของเธอในการทำนาย แน่นอนว่าการร้องขอแบบนี้ย่อมทำให้คนที่ได้ฟังต้องระวังตัวกันทั้งนั้น แต่เพราะ Beverly อยากจะสร้างความไว้วางใจระหว่างเธอกับเพื่อนร่วมห้อง เธอจึงตัดสินใจที่จะให้ข้อมูลเหล่านั้นกับ Alice แต่นั่นก็กลายเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเธอไปแทน สามวันต่อมา ได้มีการพบซากศพที่ถูกแยกชิ้นส่วนอย่างน่าสยดสยอง บริเวณริมแม่ในเขต St. Lucie County รัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นร่างของ Beverly ที่ถูกตัดเอามือ ศีรษะ…
-
สามีลงมือสังหารภรรยาตัวเอง หลังจากพบความลับว่าเธอยุ่งเกี่ยวกับวงการสื่อลามก
ความลับบางอย่างของคนใกล้ตัวอาจเป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกรับไม่ได้ และยิ่งถ้าเรารู้ด้วยตัวเองแล้ว มันก็อาจจะยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าเดิม ซึ่งความคิดดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ชายคนนี้คิด เมื่อวันหนึ่งเขาได้รู้ความลับของภรรยาที่ทำให้เขารู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก ชายคนนั้นมีชื่อว่า William Jeff West วัย 44 ปี ที่อาศัยอยู่กับภรรยา Kat West และลูกสาวตัวน้อยในรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2018 เขาถูกจับในข้อหาฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง สามีภรรยา William และ Kat เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเขาค้นพบว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นแค่แม่บ้านที่คอยอยู่บ้านเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังเป็นหนึ่งในสมาชิกเว็บไซต์ผู้ใหญ่อีกด้วย ซึ่งเธอไม่ได้เป็นคนเข้าไปดูเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่เธอทำคือการให้ผู้ชมคนอื่นๆ จ่ายเงินให้กับเธอ แล้วเธอจะส่งภาพนู้ดของตัวเองกลับไปให้ เธอใช้ชื่อในโลกโซเชียลว่า Kitty Kat West และเธอหาเงินจากการทำอย่างนั้นในเว็บไซต์เท่านั้น แต่เธอยังมีบัญชีทวิตเตอร์และอินสตาแกรมที่ใช้สำหรับการกระตุ้นตัณหาของเหล่าหนุ่มๆ ภายใต้ลักษณะของเธอที่มีความคล้ายคลึงกับดาราดังในสมัยก่อน Marilyn Monroe แต่แล้วเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2018 เพื่อนบ้านคนหนึ่งของครอบครัวนี้กำลังจะออกไปทำงานและได้บังเอิญไปเจอเข้ากับร่างอันไร้วิญญาณของ Kat นอนคว่ำอยู่กับฝั่งตรงข้ามถนนหน้าบ้านตัวเอง ใส่เสื้อผ้าครบ มีโทรศัพท์อยู่กับตัว และมีขวดเหล้า Absinthe ที่ว่างเปล่าอยู่ใกล้ๆ…
-
ตำรวจรัสเซียเหนือชั้น จัดฉากฆาตกรรมครอบครัวของวัยรุ่นที่จ้างมือปืนมา หวังฮุบมรดก!!
หนุ่มวัย 22 ปี ถูกหลอกล่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เชื่อว่าเขาได้ทำสัญญาว่าจ้างนักฆ่ามาให้มาปลิดชีพพ่อแม่และน้องสาววัย 10 ปีของตน เพื่อจะฮุบสมบัติของครอบครัวให้สำเร็จ ทีมนักสืบสืบจนพบแผนการฮุบสมบัติโดยการคิดจะสังหารคนทั้งครอบครัวของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาสวมบทบาทเป็นนักฆ่ารับจ้างในนครโซชีของรัสเซีย ขณะที่หนุ่มน้อยติดต่อทำสัญญากับนักฆ่า เขายังได้ออกคำสั่งการกับนักฆ่าดังกล่าวถึงวิธีและสถานที่ที่ครอบครัวของเขาจะต้องถูกฆ่า อีกทั้งยังมีการวาดแผนผังของสถานที่ รวมไปถึงระบุจุดที่มีกล้องวงจรปิดและวิธีการหลีกเลี่ยงสุนัขเฝ้ายามอีกด้วย เมื่อเขาและนักฆ่าตกลงกันถึงรายละเอียดและค่าจ้างเสร็จแล้ว หนุ่มน้อยบอกว่าต้องการจะเห็นภาพหลักฐานการตายของครอบครัวของเขา ทางตำรวจจึงจัดฉากให้พ่อและแม่ของเขาแกล้งตายพร้อมถ่ายรูปของพวกเขาที่มีร่องรอยการถูกแทงด้วยมีดจนเลือดไหลออกมาจำนวนมาก . ทางฝ่ายนักฆ่าจึงได้ทำการนัดหมายชายหนุ่มเพื่อจะนำภาพถ่ายการฆาตกรรมไปให้ดู ถึงกระนั้น ไม่มีรูปถ่ายการตายของน้องสาวเขา และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนหลอกล่อของตำรวจครั้งนี้ด้วยหรือไม่ แต่หลังจากที่หนุ่มน้อยได้เห็นภาพยืนยันการเสียชีวิต เขาก็มีสีหน้าที่มีความสุขขึ้นมา พร้อมทั้งยินดีที่จะจ่ายค่าจ้างกว่า 1.6 ล้านบาทให้กับคนที่เขาเชื่อว่าเป็นนักฆ่ารับจ้าง เขาตั้งใจว่าไม่นานสมบัติทุกอย่างก็จะตกมาเป็นของเขา แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อตำรวจพร้อมอาวุธเข้ามาควบคุมตัวเขาไว้ เขาจึงรีบรับสารภาพ โดยตำรวจจากคราสโนดาร์กล่าวว่าเด็กคนนี้เคยวางแผนฆาตกรรมครอบครัวตนเองมาแล้วถึงสองครั้ง “เขาต้องการจะกำจัดพ่อแม่ของเขา เนื่องจากพ่อแม่ไม่ยอมให้เงินแก่เขา” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว . . เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวอีกว่า “เขาเคยพยายามกำจัดญาติพี่น้องของเขาสองครั้ง เขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาวิธีการฆาตกรรม เขาเคยใส่ยาพิษลงในกาต้มน้ำ แต่พ่อของเขากลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จากนั้นเด็กคนนี้ก็ทำให้เทอร์มอมิเตอร์ในรถแตกเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาได้รับสารปรอทจากไอระเหยของมัน” ในการสอบสวน เด็กหนุ่มกล่าวว่า “ผมวางแผนนี้มาหลายเดือน ผมทนไม่ไหวกับพวกเขาแล้ว เขาไม่เคยเข้าใจผมเลย จากนั้นผมก็ตัดสินใจจ้างนักฆ่า” เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “พ่อแม่ของเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ลงคอ”…
-
มือปืนรัสเซียตะโกน ‘อัลลอหุ อักบัร’ ก่อนจะกราดยิงรอบโบสถ์บาดเจ็บ 5 เสียชีวิต 5 ราย
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดการสังหารหมู่ ณ บริเวณโบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานบูชาของชาวคริสเตียนออร์ทอดอกซ์ ในเมือง Kizlyar ของสาธารณรัฐ จวนพิลที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศรัสเซีย โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย พร้อมทั้งประชาชนอีก 5 รายได้รับความบาดเจ็บ นักบวชในโบสถ์กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุขณะที่ใช้อาวุธปืนกราดยิงได้ตะโกนออกมาว่า “อัลลอหุ อักบัร” ที่แปลว่า “พระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด” ผู้ก่อเหตุถูกระบุตัวว่าเป็นชายวัย 22 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อ้างอิงจากคณะกรรมการสืบสวนทำให้ทราบว่า ชายผู้ก่อนเหตุได้เสียชีวิตลงแล้ว เขาถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อตรวจสอบศพของชายผู้เหตุ ทำให้พบปืนล่าสัตว์ กระสุนปืน และมีด ทางกระทรวงราชการภายในภูมิภาคกล่าวว่า “ชายนิรนามได้ก่อเหตุกราดยิงด้วยปืนล่าสัตว์บริเวณเมือง Kizlyar ทำให้มีหญิง 4 รายบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ” ขณะที่หญิงคนที่ 5 เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาล Russian News Agencies กล่าวว่าการกราดยิงได้เกิดขึ้นขณะที่สมาชิกในโบสถ์กำลังประกอบพิธีเฉลิมฉลอง Maslenitsa ซึ่งเป็นวันหยุดวันสุดท้ายก่อนจะเข้าวันเทศกาลมหาพรต มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ…
-
ไทม์ไลน์อดีตนักเรียนใจเหี้ยม บุกยิงกราดในโรงเรียนฟลอริดา เสียชีวิต 17 บาดเจ็บอีก 50 ราย…
เกิดเหตุน่าสลดเมื่ออดีตนักเรียนหนุ่มพกอาวุธปืนและระเบิดควัน บุกเข้าไปในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 หลังจากหน่วย SWAT เข้าควบคุมเหตุการณ์ได้แล้ว ผลประเมินความเสียหายมีผู้เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บอีก 50 คน เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 14.25 น. โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย นักเรียนในโรงเรียนได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น นักเรียนจึงเดินออกจากห้องเรียนไปยังจุดรวมตัวตามที่ได้ฝึกซ้อมมา แต่กลับพบว่ามีคนเข้ามากราดยิงปืนในทางเดิน และไล่เข้าไปยิงนักเรียนในห้องเรียนอื่นๆ นักเรียนบางส่วนเข้ามาหลบภัยในห้องเรียน นักเรียนบางส่วนถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือก็วิ่งหนีกันแบบไม่คิดชีวิต นักเรียนกลุ่มหนึ่งเข้ามาซ่อนตัวภายในห้องเรียน บางคนก็เข้าไปซ่อนตัวในตู้ และอีกส่วนหนึ่งก็วิ่งหนีออกไปนอกโรงเรียนได้ทันเวลา แต่พวกเขาก็ยังได้ยินเสียงยิงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนตื่นกลัวอย่างมาก นักเรียนจำนวนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนเริ่มติดต่อกับภายนอกผ่านทางการโทรศัพท์และทางโซเชียลมีเดียเพื่อให้ตนเองรู้สึกสบายใจ บ้างก็โพสต์ในทวิตเตอร์ และอีกส่วนก็ส่งข้อความคุยกับทางบ้านของตัวเอง นักเรียนอีกส่วนหนึ่งวิ่งหนีออกไปข้างนอกโรงเรียนได้ นักเรียนส่วนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนพยายามติดต่อโลกภายนอกผ่านทางโซเชียลมีเดีย นักเรียนคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ในห้องเรียนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้ จะเห็นได้ว่านักเรียนต่างก็หวาดกลัวจึงหมอบลงต่ำเพื่อหลบผู้ก่อเหตุร้าย แต่ก็ยังคงมีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบอยู่ตลอดเวลา คลิปวิดีโอจากนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียน (หากชมคลิปวิดีโอไม่ได้ คลิกที่นี่) JUST IN…
-
นักล่าสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ขณะกำลังออกล่าสิงโตในแอฟริกา
กีฬาล่าสัตว์นั้นเป็นกีฬาที่แพร่หลายในทวีปยุโรปที่ให้เหล่านักล่าได้ใช้อาวุธปืนเพื่อล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นรางวัล แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักล่าเหล่านี้กลับกลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2018 ในขณะที่นักล่าสัตว์ชาวโครเอเชีย Pero Jelinic วัย 75 ได้ฆ่าสิงโตไปแล้ว 1 ตัวและกำลังเล็งปืนไปที่สิงโตอีกตัว ก็ได้มีกระสุนปริศนายิงใส่เขาจนได้รับบาดเจ็บ เขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ แต่โชคไม่ดีที่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา Slavko Pernar เพื่อนนักล่าของ Pero กล่าวว่าเพื่อนของเขาเป็นนักล่าที่หลงใหลในการล่าสัตว์มากๆ เขาได้เดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อล่าสิงโตเป็นรางวัลเสริมบารมีของเขา และเขายังเป็นเจ้าของโรงแรมที่เปลี่ยนโรงแรมของเขาให้กลายเป็นที่เก็บรางวัลเพื่อเติมเต็มความฝันในชีวิตเขาด้วย Pernar กล่าวว่า “Pero นั้นชอบล่าทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ เขามักจะเดินทางไปยังที่ต่างๆ รอบโลกเพื่อทำตามความฝันของเขาโดยการล่าสัตว์ แต่โชคไม่ดีที่เขาเสียชีวิตขณะทำสิ่งที่เขารักมากที่สุด ห้องทำงานของเขาเต็มไปด้วยรางวัลที่เขาล่ามาได้ทั้งหมดในประเทศโครเอเชียและในทวีปยุโรป” สถานที่เกิดเหตุที่ Pero ถูกยิงเสียชีวิตนั้นได้เปิดเป็นสถานที่สำหรับการล่าเพื่อกีฬาโดยเฉพาะ และมีสิงโตไว้ให้นักล่าได้ล่ากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่ประณามของสังคมเนื่องจากกีฬานี้เป็นกีฬาที่รุนแรงและถูกมองว่าเป็นการทารุณกรรม Dr. Gideon Engelbrecht เจ้าของสถานที่แห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นในขณะที่เกิดเหตุ เขากล่าวว่า “ผมอยู่ที่ห้องผ่าตัดในขณะที่ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผมได้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล นี่คือคำตอบทั้งหมดที่ผมสามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะคดีนี้ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนอยู่” การเป็นเจ้าของสถานที่ที่เปิดให้ล่าสัตว์นั้นถูกกฎหมายและทำรายได้ดีในแอฟริกาใต้ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากสิงโตที่ถูกล่านั้นถูกจับมาจากธรรมชาติและนำมาให้นักล่าได้ล่ากันในสถานที่ปิดที่มันไม่สามารถหนีได้ ในช่วงพฤษจิกายน 2015 องค์กร…
-
ลูกชายตำรวจหลั่งน้ำตา หลังถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบ
Joshua Richards หนุ่มอเมริกันวัย 21 ปี ได้ถูกจับกุมข้อหาฆ่าลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบของตัวเอง Brentley Gore โดยคดีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสื่อท้องถิ่นเพราะว่าผู้ต้องหานั้นเป็นลูกชายของ Josh Richards สารวัดใหญ่ประจำรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 28 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้ตั้งข้อหากับ Joshua ว่าเขาลงมือสังหารลูกเลี้ยงของเขาด้วยการเอาเข็มขัดรัดที่คอเพื่อให้หนูน้อย Brentley จนหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด ด้วยผลจากอาการหลอนจากการเสพกัญชา ต่อมาในวันอังคารที่ 30 มกราคม นาย Joshua ก็ได้ถูกพาตัวไปที่ศาลเพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยตัว Joshua นั้นร้องไห้ตลอดการพิจารณาคดี เขายอมสารภาพว่าจริงๆ แล้วลูกของเขาไม่ได้ถูกเขารัดคอแต่อย่างใด เพียงแต่มันเป็นอุบัติเหตุที่เขาเผลอทำให้ลูกตกลงมาหัวกระแทกจนเสียชีวิต ซึ่งมันเกิดขึ้นระหว่างที่ภรรยานอนหลับอยู่อีกห้อง Joshua บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าลูกเลี้ยงเลย เพราะเขากับภรรยาผู้เป็นแม่ของเด็กชาย Brentley ก็เพิ่งจะแต่งงานกันและเธอกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองนั่นเอง โดยเมื่อฟังจากคำสารภาพดังกล่าวพร้อมกับค้นหาหลักฐานตำรวจก็พบว่า นาย Joshua ไม่ได้มีท่าทีจะเกลียดหนูน้อย Brentley แต่อย่างใด แถมภาพหลายภาพทั้งคู่ก็ดูมีความสุขและสนิทสนมกันมากๆ…
-
ผู้หญิงนับร้อยเผยแพร่ภาพนู้ดเพื่อต่อต้านฆาตกร เพราะภาพนู้ดไม่ใช่เหตุผลในการถูกใครฆ่า
จากเหตุการณ์ฆ่าข่มขืนหญิงสาวชาวรัสเซียวัย 19 ปี Tatiana Strakhova ทำให้เกิดการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของผู้หญิงที่ได้รับการกระทำรุนแรงทั้งทางกายและทางเพศ ย้อนความกลับไปที่กรณีของ Tatiana Strakhova ผู้กระทำรุนแรงครั้งนี้คืออดีตคนรักของเธอ วัย 19 ปี ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาได้รัดคอเธอและแทงเธอด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต จากนั้นเขาจึงข่มขืนศพและฆ่าตัวตายตาม เหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้กลับทวีความสลดใจขึ้นไปอีกเมื่อชาวเน็ตเสนอความเห็นว่า ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า Tatiana ได้ทำการยั่วอารมณ์ของคู่รักเธอด้วยรูปภาพที่เธอโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต จนทำให้เกิดการประท้วงเรื่องดังกล่าว โดยการที่หญิงสาวชาวรัสเซียนับร้อยรวมใจกันเผยแพร่ “รูปถ่ายเปลือยกาย” ของตัวเอง อิงจาก Moscow Times การประท้วงครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า การโพสต์รูปภาพเปลือยกายนั้นไม่ใช่เหตุผลในการกระทำการข่มขืนหรือฆ่า หญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า Julia ได้ออกมาแสดงความรู้สึกไม่พอใจกับความเห็นที่ว่า Tatiana นั้นยั่วยวนคู่รักด้วยรูปภาพของเธอ Julia กล่าวว่า “ฉันรู้สึกกลุ้มใจมากกับการที่ รอยสัก และสีผม ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกิดไร้ศีลธรรมขึ้นมาได้อีก นี่ปี 2018 แล้ว มันใช่เหรอที่ฆาตกรจะถูกยอมรับเพราะฆ่าคนที่โพสต์ภาพเปลือยลง Instagram ของตัวเอง” Katya Obukhova จากเยคาเตรินบุร์ก โพสต์ภาพด้านบนและเขียนว่า “อะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ถูกเรียกว่า ‘พวกขายตัว’…
-
หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…
ในบางครั้งเราอาจรู้สึกเหมือนกับถูกครอบงำด้วยความคิดด้านลบ จนเกิดความรู้สึกสับสนในตัวเองและมีปัญหาต้องการตัดสินใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เหมือนอย่างชายชาวรัสเซียคนนี้ที่ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่โหดร้าย เพราะว่าจมไปกับด้านมืดของจิตใจตัวเอง นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจของฆาตกรหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาอาศัยอยู่กับแฟนเก่าของเขา Tatiana Strakhova ก่อนที่จะฆาตกรรม ข่มขืนศพของเธอ และเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พ่อแม่ของเขาและเธอฟัง จากนั้นจึงฆ่าตัวตายตามไป Tatiana และ Artyom วัย 19 ปี ผู้เคยคบหาเป็นแฟนกันมาก่อน เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ Artyom หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Bauman เลิกคบกับแฟนสาวของเขา Tatiana สาวหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติมอสโก แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงแชร์ห้องเช่าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็มีแฟนใหม่เป็นหนุ่มจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชื่อว่า Igor ความอึดอัดที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานะที่เปลี่ยนไป Artyom จะถูกปฏิเสธเสมอเวลาที่เขาชวนเธอไปดื่มด้วยกัน แถมยังต้องทนเห็นแฟนเก่าของตัวเองจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกรำคาญและโมโหอย่างมาก จนไม่อาจเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธออย่างมาก มันจึงกลายเป็นแรงขับให้เขาทำสิ่งที่โหดร้ายลงไปในวันหนึ่ง ตอนที่หญิงสาวกลับมาที่ห้องเช่า เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ ต่อยเข้าไปที่หน้าของเธออย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยเธอไปอีกหลายครั้ง ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ Tatiana บอกให้เขาลุกออกไป…
-
หญิงชราชาวเกาหลีใต้ถูกเพื่อนของลูกฆาตกรรม คนร้ายสารภาพ “ผู้จ้างวาน” คือลูกของเหยื่อเอง
ในตอนนี้ประเทศเกาหลีใต้เกิดเหตุน่าสลดใจ จนชาวเน็ตต่างหยิบประเด็นนี้มาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ โดยชายคนหนึ่งได้ว่าจ้างเพื่อนของเขาให้ไปฆ่าแม่วัยแก่ของตัวเอง และยังไม่ยอมรับผิด ยืนกรานว่าตัวเองนั้นบริสุทธิ์ด้วย หลังจากที่ตำรวจจากจังหวัด Gyeongnam สืบสวนคดีหญิงชราถูกฆาตกรรมในบ้านพักของตนเอง เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจจึงได้เบาะแสและเข้าจับกุมชายไม่ระบุนาม 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย เหตุฆาตรกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 เวลา 2.40 น. คนร้ายได้บุกเข้าไปในบ้านของหญิงแก่ และใช้อาวุธไม่มีคมทุบตีเธอจนถึงแก่ความตาย จากนั้นเขาจึงหนีออกจากที่เกิดเหตุไป จากนั้นลูกชายของหญิงแก่จึงโทรเรียกตำรวจ แล้วแจ้งว่าแม่ของตนเองถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ตำรวจจึงทราบเรื่องแล้วออกสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทันที ห้องนอนของหญิงชราที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต การสืบสวนหาตัวคนร้ายกินเวลายาวนานเกือบ 1 เดือน แต่จากการตรวจดูกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น ในที่สุดตำรวจก็จับตัวคนร้ายได้เสียที เบื้องต้นนั้นคนร้ายให้ปากคำว่าตนเองกระทำการคนเดียว แต่เมื่อถูกสอบสวนหนักเข้าจึงหลุดปากออกมาว่าตัวเองได้รับการจ้างวานจากลูกชายของหญิงชราผู้เคราะห์ร้ายให้ฆ่าเธอทิ้งต่างหาก เพราะเธอป่วยเป็นโรคจิตเภทและต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ลูกชายจจึงมองว่าแม่เป็นภาระ เขาให้ข้อมูลถึงเหตุจูงใจในการฆ่าหญิงแก่ของลูกชายว่า “ลูกชายมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะต้องคอยจ่ายค่ารักษาแม่ของเขา เขาจึงคิดที่จะฆ่าเธอโดยทำให้ดูเหมือนเธอโดนรถชนหรือถูกไฟคลอกตาย” ตำรวจควบคุมตัวลูกชายไปยังโรงพัก ตำรวจพบหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีของตัวลูกชายเข้าสู่บัญชีของเพื่อนเขาอยู่หลายครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นค่าจ้างในการฆ่าแม่ของตัวเอง โดยจำนวนที่เขาโอนให้ทั้งหมดเป็นเงิน 12 ล้านวอน (ประมาณ 350,000 บาท) จากนั้นก็สืบพบอีกว่าลูกชายโอนบ้านที่แม่ของตัวเองอยู่เป็นชื่อของเขาเอง ในขณะที่เธอพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วย…
-
‘ให้ทุกอย่างมันจบในวันนี้’ ย้อนดูโศกนาฏกรรม ลูกวัย 15 และเพื่อนวัย 12 วางแผนฆ่าพ่อเลี้ยง
เมื่อพูดถึงคดีฆาตกรรมในประวัติศาสตร์ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Colt Lundy และ Paul Gingerich มาบ้าง เพราะพวกเขาเป็นเด็กที่กลายเป็นฆาตกรขณะที่มีอายุเพียง 15 และ 12 ปีเท่านั้น การก่อเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ Lundy ต้องติดคุกนานถึง 25 ปี และถูกคุมประพฤติอีก 5 ปี ด้วยข้อหาฆ่า Phillip Danner ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเขาเมื่อปี 2010 ส่วน Gingerich และคนดูต้นทาง Chase Williams วัย 12 ปี ถูกขังสถานพินิจเด็กและเยาวชน หลังทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าพ่อเลี้ยงของ Lundy เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนเกือบทั่วโลก ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เด็กอายุแค่นี้ลงมือฆ่าคนได้ และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? และต่อไปนี้คือลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องนี้ Phillip Danner วันที่ 20 เมษายน ปี 2010 Danner วัย 49 ปี ถูกฆาตกรรมในบ้านของเขาที่ Doswell Boulevard เมืองครอมเวลล์ วันที่ 21…
-
ชมตัวอย่าง ‘Alias Grace’ จากคดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญปี 1843 สู่ซีรีส์แนวสืบสวนจาก Netflix
สำหรับใครที่กำลังมองหาซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนซักเรื่องสำหรับเพลิดเพลินในช่วงวันหยุดล่ะก็ วันนี้เรามีซีรีส์ Alias Grace ซีรีส์ที่สร้างจากนวนิยายของ Margaret Atwood ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของฆาตกรในปี 1843 ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของคดีฆาตกรรมที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนชาวแคนาดาวัย 78 ปีผู้นี้ เหตุเกิดขึ้นทางตอนเหนือของประเทศแคนาดาเมื่อเดือนกรกฎาคมในศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ฆาตกร 2 รายได้บุกปล้นฆ่าชายหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องของเขา ฆาตกรโหดทั้งสองคือ James McDermott อดีตทหารหนุ่มวัย 20 ปีและ Grace Marks คนงานสาววัย 19 ปี ทั้งสองทำงานให้กับครอบครัวของ Thomas Kinnear ก่อนที่จะลองมือฆ่าเขาและภรรยาอย่างโหดเหี้ยม หลังจากที่ทั้งสองถูกจับกุมตัวได้ McDermott ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ทาง Marks นั้นได้รับการตัดสินจำคุกตลอดชีวิตแทน ถึงแม้ว่าจะสามารถจับตัวฆาตกรได้แล้ว แต่ทว่าเรื่องราวเกี่ยวกับฆาตกรสาวนั้นกลับทำให้นักเขียนวัย 72 ปีสนใจ และนำมาเป็นแรงบันดาลใจในเขียนนวนิยายเรื่อง Alias Grace ที่ตีพิมพ์ในปี 1996 McDermott และ Marks 2 ฆาตกรที่ลงมือสังหาร Thomas Kinnear และภรรยาของเขาในปี 1843 เรื่องราวของ Grace Marks ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในการฆ่านายจ้างของเธอคือโครงเรื่องหลักของซีรีส์เรื่องนี้ โดยเนื้อหาในซีรีส์นั้นจะพูดถึงจิตแพทย์รายหนึ่งที่ต้องพิสูจน์ว่าฆาตกรสาวของเรามีความผิดปรกติทางจิตหรือไม่ และมีเรื่องราวอะไรที่ทำให้ Grace Marks กลายเป็นฆาตกรโหด…
-
ฆาตกรสาววัย 18 ปี แก้แค้นให้แฟนหนุ่มพร้อมบอกกับเหยื่อว่า ‘ไว้ไปเจอกันในนรก’
เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เกิดเหตุฆาตกรรมอันแสนโหดร้ายขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี จากแก๊งใหญ่ที่ชื่อว่า MS-13 ทำการทรมานและลงมือฆ่าหญิงสาววัย 15 ปี เพื่อแก้แค้นให้กับแฟนหนุ่มของตัวเอง ฆาตกรสาวคนนี้มีชื่อว่า Venus Romeo Iraheta เธอถูกยื่นเรื่องต่อศาล Fairfax ในวันที่ 8 มกราคม 2018 ในข้อหาฆาตกรรมสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Damaris Reyes Rivas Venus ฆาตกรสาวสุดโหด สมาชิกแก๊ง MS-13 (ย่อมาจาก Mara Salvatrucha) Damaris เหยื่อของการฆาตกรรมในครั้งนี้ เธอให้การสารภาพว่าทำการฆ่าเด็กสาวคนนั้นจริงๆ เพราะเธอเชื่อว่า Damaris ล่อลวง Christian Sosa Rivas หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS-13 แฟนหนุ่มของ Venus จนต้องพบกับความตาย หญิงสาวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังแบบชิลๆ…
-
เด็กสาวสวยวัย 19 ปี รับงานพิเศษจากเว็บไซต์ พอไปทำงาน กลับถูกฆาตกรรม!?
ในปัจจุบันนักเรียน นักศึกษาหลายๆ คน ไม่ได้เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว พวกเขาเลือกที่จะหางานพิเศษทำไปด้วย เพื่อหารายรับเพิ่มเติม หรือเพื่อเพิ่มประสบการณ์การทำงาน และยิ่งถ้าหน้าตาดี ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้หางานง่ายด้วย อย่างไรก็ตามเวลานักเรียน นักศึกษาจะหางานอะไรสักอย่างทำควบคู่ไปกับการเรียน เราควรจะตรวจสอบดูให้ดีว่างานที่ทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ ทำแล้วปลอดภัยหรือเปล่า เพราะงานบางอย่างนั้นก็อาจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อล่อลวงเยาวชนไปสู่ภัยอันตรายก็เป็นได้ เหยื่อสาว Kristina Prikhodko Kristina Prikhodko เองก็เป็นนักเรียนชาวรัสเซียคนหนึ่งที่ต้องการหาเงินเพิ่มเช่นกัน เธอเป็นเด็กสาวที่มีหน้าตาสะสวย และมักจะโพสต์รูปถ่ายเชิงเซ็กซี่ลงในโซเชี่ยลมีเดียเป็นประจำ แม้คุณพ่อของเธอจะเป็นห่วงว่าภาพเหล่านี้ดูไม่เหมาะสม เธอก็ยังโพสต์ภาพอยู่ดี เธอเห็นโฆษณาชิ้นหนึ่ง ที่ประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงในบ้านส่วนตัว โดยรายละเอียดนั้นระบุว่าต้องการสาวๆ ที่มีรูปร่างสวยงามในการทำงานนี้ เธอจึงสมัครงานนี้ไป ในวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ พอเธอเลิกเรียนแล้ว เธอจึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อสัมภาษณ์งาน แต่หลังจากที่เธอออกจากบ้านไปสัมภาษณ์งานแล้ว เธอก็ขาดการติดต่อไป และไม่ได้กลับไปที่บ้านอีก . พอพ่อของเธอเห็นว่าคืนนั้นเธอไม่ได้กลับไปที่บ้าน จึงรีบแจ้งตำรวจว่าลูกสาวหายตัวไปทันที ตำรวจก็รับเรื่องไว้และช่วยส่งคนออกไปค้นหาเธอในเวลาต่อมา สองวันต่อมา ทีมค้นหาของตำรวจและอาสาสมัคร ก็พบว่าเธอเสียชีวิตอยู่ใกล้กับบริเวณชายหาด River Ob ในเมือง Novosibirsk ประเทศรัสเซีย จากการตรวจสอบดูแล้ว เด็กสาวมีร่องรอยของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนจะเสียชีวิต ตำรวจจึงได้สืบสอบหาข้อมูล แล้วระบุตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายหนุ่มอายุ…
-
หนุ่มหลอกสาวคู่เดตไปแทง 88 ครั้ง หลังโดนหัวเราะเยาะเย้ย เมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่นักธุรกิจ!!
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Dailymail ได้นำเสนอข่าวพบร่างนักสกีสาวชาวรัสเซียถูกแทงเสียชีวิตอยู่ภายในรถ Mini Cooper ของเธอเอง เหตุเกิดที่หมู่บ้าน Ust mana แถบไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย หลังจากที่ได้พบร่างของ Irina Kozlova นักสกีสาววัย 34 ปี ทางตำรวจได้ทำการสืบสวนคดีนี้อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งหลักฐานสามารถบ่งชี้ตัวคนร้ายที่เป็นผู้ลงมือฆาตกรรมเธอ นั่นก็คือนาย Evgeny Markov เขาได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจว่าเขาเป็นผู้ลงมือฆ่าเธอด้วยตัวของเขาเอง สาเหตุเนื่องมาจากบันดาลโทสะ… Irina Kozlova ผู้เสียชีวิต เขาเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับ Irina ผู้เสียชีวิตว่า เขาได้รู้จักกับเธอมาสักพักหนึ่งแล้วและได้ทำการพูดคุยเพื่อที่จะสานสัมพันธ์ ทั้งคู่ตกลงไปเดตกันโดยที่ผู้เสียชีวิตทราบเพียงว่านาย Evgeny เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังประสบความสำเร็จ นาย Evgeny ผู้ลงมือฆ่า แต่ทว่าความจริงนั้นเขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจ เขาคือคนล้างรถในคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็ได้บอกกับทางตำรวจต่อว่า เขาตัดสินใจพูดความจริงนี้กับเธอในขณะที่กำลังออกเดตกัน โดยความจริงที่เขาได้พูดต่อหน้าเธอนั้น ทำให้นักสกีสาวหัวเราะเยาะเย้ยเขาอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เก็บอาการไว้ แต่ภายในใจนั้นโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงได้ชวนเธอออกไปขับรถเล่น โดยให้เธอได้ปิดตาเอาไว้…
-
สาวแท้งลูกลงมือฆาตกรรมว่าที่คุณแม่ท้องแก่ แล้วผ่าลูกในท้องของเธอเอาไปเป็นของตัวเอง!!!
การตั้งครรภ์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดสำหรับผู้หญิง เพราะว่าเป็นการให้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตให้ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก และเธอจะได้รับโอกาสในการเป็นแม่คน ซึ่งเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นคดีหนึ่งในประเทศบราซิล เมื่อมีสาวท้องแก่ใกล้คลอดถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น แล้วถูกคนฆ่าผ่าท้องเอาลูกของเธอออกไป แล้วอ้างว่าเป็นลูกของตัวเองซะอย่างงั้น Gabrielle สายน้อยวัย 18 ปีก่อนจะตั้งครรภ์ เหตุการณ์นี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่เมือง Uberlandia ประเทศบราซิล สาวท้องแก่ชื่อว่า Gabrielle Barcelos Silva ได้รับการติดต่อจากคนคนหนึ่ง โดยเธอคนนั้นบอกว่าจะบริจาคเสื้อผ้าเด็กให้แก่ลูกของเธอ แต่เธอต้องมารับเองที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านหลังนั้น คนร้ายก็ได้นำกาแฟผสมยากล่อมประสาทมาให้ Gabrielle รับประทานหลังจากที่ยากล่อมประสาทเริ่มออกฤทธิ์ คนร้ายก็ได้รัดคอเธอจนเสียชีวิต จากนั้นก็ได้ใช้มีดผ่าท้องเพื่อนำลูกของเธอออกมา Gabrielle เหยื่อของการฆาตกรรมอันเหี้ยมโหด และเพื่อความแนบเนียนฆาตกรวัย 38 ปีก็ได้ต่อโทรศัพท์ไปยังเลขหมายฉุกเฉิน โดยเธออ้างว่าเธอได้คลอดลูกอยู่ริมถนนแห่งหนึ่งในเมืองนั้น และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ด้วยความเชี่ยวชาญของหมอ จึงได้เห็นความพิรุธต่างๆ ในตัวของฆาตกรคนนี้ จึงได้โทรแจ้งตำรวจ และในภายหลังคนร้ายคนนี้ก็ได้ยอมรับว่าเธอเป็นผู้ก่อเหตุสุดสยองดังกล่าว โดยศพของ Gabrielle ถูกพบโดยลูกชายวัย 14 ปีของฆาตกร ที่พบศพของเธอม้วนอยู่ในผ้าห่มในสภาพสุดอเนจอนาถเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะสามารถทนดูได้ เธอมักจะถ่ายรูปคู่กับลูกในท้องของเธอเสมอ ซึ่งก่อนหน้าที่…
-
คุณตาเสียชีวิตหลังมีคนได้ยินเสียง “ดอกไม้ไฟ” กว่า 200 ครั้งในบ้าน ตำรวจคาดเป็นฆาตกรรม
สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานเหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ วันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นชายสูงอายุ 1 รายและภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่บ้านของนาย Tony Nicholls ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีดอกไม้ไฟระเบิดภายในบ้านเกือบ 200 ครั้ง ซึ่งในขณะนั้นนาย Tony และภรรยากำลังอาศัยอยู่ในบ้าน แรงระเบิดทำให้เขามีแผลไฟไหม้อย่างรุนแรงและได้รับการสูดดมควันไฟเข้าไปจนอยู่ในอาการโคม่า เขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในละแวกนั้นทันที แต่อาการของเขาหนักมาก 5 วันหลังจากนั้นเขาก็เสียชีวิตลง ส่วนภรรยาของเขาได้กระโดดหนีออกทางหน้าต่าง ซึ่งเธอก็ได้รับบาดเจ็บ แขนและขาร้าว และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ West Midlands ได้เข้ามาสืบสวนเรื่องนี้ทันที โดยที่สันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นการวางแผนฆาตกรรมและลอบวางเพลิง สารวัตร Paul Joyce ฝ่ายสืบสวนกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ได้เสียชีวิตลง และทางครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไปหนึ่งคน การเสียชีวิตของเขาในครั้งนี้ ทางเราคาดว่าเป็นเหตุการณ์วางแผนฆาตกรรม ซึ่งเราต้องทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบหาจากพยานหลักฐาน รวมถึงกล้องวงจรปิดตามถนนเพื่อหาผู้ต้องสงสัยที่ทำการก่อคดีอุกอาจเช่นนี้ และยังมีรายงานอีกว่าเหตุการณ์สุดสลดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการยื่นคำร้องให้เขียนกฎหมายห้ามขายดอกไม้ไฟและห้ามใช้ดอกไม้ไฟในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีผู้โหวตเห็นด้วยกว่า 37,000 คน และเมื่อรายชื่อถึง 100,000…
-
17 คดีฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะไขคดีได้!!
การฆ่าคนถือว่าเป็นการกระทำที่นอกจากผิด ศีลธรรม จริยธรรมแล้ว ยังผิดกฎหมายในแทบจะทุกประเทศบนโลกนี้ด้วย ซึ่งการเอาผิดคนที่เป็นฆาตกรก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันอย่างละเอียด บางคดีจึงต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ เลยทีเดียว แต่นี่คือ 17 อันดับคดีฆาตกรรมที่บางคดีต้องใช้เวลาในการไขคดีเป็นทศวรรษเลยทีเดียว ไปดูกันว่าจะมีความน่ากลัวและใช้เวลานานแค่ไหน 1. John List เขาฆ่าครอบครัวของเขาในปี 1971 และได้หายตัวไป หลังจากนั้นในปี 1989 มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดูรายการ America’s Most Wanted แล้วก็พบว่าเพื่อนบ้านของเธอที่ชื่อ Robert Clark ได้มีลักษณะท่าทางที่เหมือนกับ List เธอจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและปรากฎว่า ใช่คนเดียวกันเขาจึงถูกจับกุมในปี 1990 ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี : 19 ปี 2. การตายของ Roy Mccaleb Roy McCaleb ถูกพบเป็นศพอยู่ที่บ้านของเขาที่ Houston จากการถูกยิงในปี 1985 โดยภรรยาของเขา Carolyn Sue Krizan-Wilson ได้ให้การว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้านและใช้ปืนยิงสามีของเธอ ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดลงได้จนในปี 2013 เธอก็ได้สารภาพว่าเธอเป็นผู้ลงมือยิงสามีของเธอเอง ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี: 28 ปี 3. การตายของเจ้าหน้าที่ Richard…
-
18 คดีฆาตกรรมอันแสนน่ากลัวในอดีต ที่คุณอาจไม่คิดว่า มนุษย์จะโหดร้ายได้เพียงนี้!?
การฆ่าคนมีให้เห็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งบางทีอาจจะมาจากความเกลียดชังหรืออาจจะมาจากความผิดปกติทางจิตใจก็ตามแต่ และนี่คือ 18 คดีฆาตกรรมในอดีตที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา ลองไปดูกันดีกว่าว่าจะมีความโหดร้ายอย่างไร Amelia Dyer ฆาตกรที่ชอบฆ่าเด็ก Dyer ฆาตกรผู้ที่ชอบฆ่าเด็กเป็นชีวิตจิตใจโดยเธอจะใช้เงินจ่ายให้กับสถานสงเคราะห์ต่างๆ ที่มีเด็กกำพร้า เพื่อนำเด็กเหล่านั้นมาฆ่าและไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอฆ่าเด็กไปทั้งหมดกี่คน แต่ประมาณการณ์กันว่าน่าจะมีถึง 400 ชีวิตเลยทีเดียว โดยเธอถูกประหารชีวิตในปี 1896 คดีระเบิดโรงเรียนในปี 1927 Andrew Kehoe ชายชาวมิชิแกนได้ทำเรื่องสะเทือนขวัญขึ้นกับโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อเขาได้วางระเบิดที่เหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่โรงเรียน หลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้ปืนไรเฟิลระดมยิงต่ออีกชุดหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นคดีระเบิดโรงเรียนแห่งแรกในประเทศอเมริกา คดีฆาตกรรม William Desmond Taylor Taylor ผู้มีอาชีพเป็นผู้กำกับหนังถูกพบเป็นศพจากกการโดนยิง ซึ่งคดีนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือแต่ หลักฐานทั้งหมดได้ชี้ไปยัง Mary Miles Minter อดีตนักแสดงและคนรักเก่าของเขา Dr. Oliver Haugh ผู้ฆ่าครอบครัวด้วยการเผาบ้าน Oliver ฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเขาทั้งหมดด้วยการขังทั้งหมดไว้ในบ้านและจุดไฟเผา อีกทั้งเขายังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้หญิงมาแล้วหลายศพ รัฐโอไฮโอจึงตัดสินเขาด้วยการการประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าในปี 1905 ศพ 12 ศพที่ Cleveland…
-
ตำรวจอึ้งหลังชายไต้หวันเข้ามอบตัว พร้อมกับถุงขยะบรรจุศพลูกสาวที่เคยพลั้งมือฆ่าเมื่อ 12 ปีก่อน
วันที่ 20 ตุลาคม 2017 สำนักข่าวเดลีเมลได้เปิดเผยเรื่องราวชวนช็อกที่เกิดขึ้น ณ เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อชายวัย 43 ปีรายหนึ่งได้เดินเข้าไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมถือถุงขยะมาด้วย 1 ใบ ซึ่งเขาได้อ้างว่า ในถุงขยะใบนั้นมีศพของลูกสาววัยเพียง 1 เดือน ที่เคยพลั้งมือฆ่าไปเมื่อ 12 ปีก่อน เหตุเพราะรู้สึกโมโหที่ลูกไม่ยอมหยุดร้องไห้ขณะเอานมให้ดื่ม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตซานมิน เมืองเกาสง ได้ออกมาเผยว่าพวกเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อชายที่ชื่อหลิน วัย 43 ปีรายนี้ เดินถือถุงศพเข้ามาสารภาพในสิ่งที่เคยทำไว้เมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตามนายหลินได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากที่เขาพลั้งมือตีลูกสาวจนตาย ในเวลานั้นเขารู้สึกตกใจ และทำอะไรไม่ถูก เขาจึงนำร่างของเธอไปยัดใส่ในถุงขยะ และแอบซ่อนเอาไว้ใต้เตียงนอน นอกจากนี้เขายังโกหกภรรยาวัย 38 ปี อีกว่าผู้เป็นย่าได้มารับเอาลูกไปเลี้ยงแล้ว ซึ่งเขาก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ และไม่สามารถที่จะหาทางนำตัวลูกสาวกลับมาได้เลย จากการรายงานระบุว่า อีก 2 ปีต่อมา นายหลินและภรรยาของเขาก็ได้มีลูกสาวด้วยกันอีกครั้ง โดยเขาได้ปล่อยให้ลูกนอนอยู่บนเตียงที่เคยซ่อนศพที่เน่าเปื่อยของลูกคนแรกเอาไว้นานถึง…
-
โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ
บางครั้งคำว่า “เอาออกนิดเดียว” ของเราและช่างตัดผมนั้นมักจะไม่เท่ากัน และบางครั้งคุณอาจจะเกิดอาการเขินนิดหน่อยหลังจากที่ออกมาจากร้านตัดผม แต่ถึงแม้ว่าช่างจะตัดได้ขัดใจแค่ไหน ก็คงไม่มีใครที่จะโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับช่างตัดผมเหมือนหนุ่มรัสเซียคนนี้แน่ ภาพจากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดบนถนนสายหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงมอสโคได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Pavel Luzyanin ได้ใช้อาวุธแทงเข้าที่หน้าอกของคุณ Dastan Adkhamov ช่างตัดผมวัย 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังจากที่เขาเพิ่งใช้บริการช่างตัดผมผู้โชคร้ายไปหมาดๆ นาย Pavel Luzyanin ลูกค้าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่แทงหน้าอกเหยื่อถึง 3 ครั้ง นาย Luzyanin ได้เดินหนีไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเห็นว่าคุณ Adkhamov นั้นยังมีลมหายใจอยู่ ชายหนุ่มจึงได้กลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง โดยการใช้เหล็กเสียบบาบีคิวแทงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่สุด จากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ช่างตัดผมผู้นี้เป็นชาวอุซเบกิสถาน ที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และเริ่มต้นอาชีพช่างตัดผมของเขาที่เมืองนี้ และนี่คือวินาทีที่คุณ Adkhamov ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นาย Luzyanin ได้มาใช้บริการตัดผมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนแรกหลังจากที่กลับออกจากร้านตัดผมไป เขามีความสุขกับผมทรงใหม่อย่างมาก แต่ในวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านตัดผมหลังจากที่เขาถูกเพื่อนบอกว่าผมทรงใหม่นั้นเหมือนกับนักโทษเลย Luzyanin บอกกับเพื่อนของเขาว่าเขาไม่สามารถทนต่อคำเยาะเย้ยได้ และจะกลับไปหาช่างตัดผมคนนั้น ถึงแม้ว่าคุณ Adkhamov จะยอมแก้ไขทรงผมให้ใหม่ แต่ชายหนุ่มกลับไล่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิต Luzyanin ถูกจับกุมตัวได้ไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุ…
-
นักเขียนใช้เวลา 26 ปี สืบหาตัวตนที่แท้จริงของ Jack The Ripper ฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนโลก…
Jack The Ripper เป็นคนที่มักจะถูกนำไปอ้างชื่อในคดีฆาตกรรม รวมทั้งหนังสืบสวน สอบสวน หรือแม้แต่ในการ์ตูนโคนันเองก็เคยปรากฏชื่อนี้เหมือนกัน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า Jack The Ripper เป็นใครกันแน่? แล้วทำไมถึงต้องมีการกล่าวอ้างชื่อของเขาบ่อยขนาดนี้? Jack The Ripper เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมานับครั้งไม่ถ้วนในประเทศอังกฤษ แต่กลับไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้เลย และยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ David Bullock ผู้เป็นนักเขียน จึงได้เริ่มค้นคว้าเรื่องของ Jack the Ripper เมื่อ 26 ปีที่แล้ว และค้นพบว่าชายที่ชื่อ Thomas Cutbush นั้น เข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มากที่สุด ผู้เขียนได้เข้าถึงข้อมูลของ Cutbush จากโรงพยาบาลจิตเวช Broadmoor จนทำให้เขาค้นพบแผนการฝังศพของครอบครัวหนึ่งในสุสาน Nunhead Cemetery ซึ่งเชื่อว่า Cutbush ยังใช้ที่นั่นเป็นที่พักอาศัยด้วย Thomas Cutbush ในหนังสือ “The Man Who Would Be Jack” Bullock เขียนไว้ว่า “คนมักจะคิดว่าเขาเสียชีวิตใน Broadmoor…
-
มือปืนโหดพาเด็กออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือกระหน่ำยิงเหยื่อจนเสียชีวิต
เรื่องราวเกิดขึ้นในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองมาราไกโบ ประเทศเวเนซุเอล่า เมื่อชายหนุ่มนิรนามสวมหมวกและปกปิดหน้าตาผู้นี้ เดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะดึงแขนสาวน้อยที่กำลังเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุออกไป และลงมือกระหน่ำยังเป้าหมาย โดยมือปืนพุ่งเป้าไปที่นาย Climaco Segundo Uriana หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี และลงมือยิงไปทั้งสิ้น 4 นัดด้วยกัน หลังจากที่เหยื่อล้มลงกับพื้น ผู้คนในร้านต่างตื่นตกใจกันอย่างมาก ฆาตกรอาศัยจังหวะดังกล่าวหลบออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพอันน่าสยดสยองของมือปืนคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาในร้านกาแฟ เพื่อจัดการเหยื่อของเขา แต่บังเอิญมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ภายในร้านด้วย เขาจึงตัดสินใจดึงตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อน จากนั้นก็กระหน่ำยิงไปที่เหยื่อถึง 4 นัด ก่อนที่จะหลบนีไปอย่างไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจับกุมมือปืนคนดังกล่าว แต่ทางตำรวจท้องถิ่นสันนิฐานว่านาย Uriana อาจมีส่วนเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของประเทศ ที่มา dailymail
-
เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ลั่นไกใส่ท้ายทอยคุณแม่ขณะนอนหลับ เหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องหมา
เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น เมื่อชายหนุ่มวัย 19 ปีได้เกิดความโมโห คว้าอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะของแม่ตัวเองในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ หลังจากที่เธอไม่ยอมให้เขาเลี้ยงลูกหมา!! เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นาย Andrew Wilson ถูกรวบตัวและตั้งข้อหาฆาตกรรมหลังจากที่เขาใช้อาวุธปืนทำร้ายคุณ Lisa Marie Wilson หญิงสาววัย 51 ปีผู้เป็นแม่แท้ๆ ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กวัยรุ่นคนดังกล่าวเป็นคนโทรแจ้งตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อประมาณ 7 โมงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มในการกับตำรวจว่าเขากลับมาถึงบ้านในตอนเช้าและพบแม่ของตัวเองถูกฆาตกรรมภายในบ้าน จากนั้นตำรวจรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบกับร่างของคุณ Lisa Marie Wilson นอนแน่นิ่งอยู่ภายในห้องของเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าหญิงวัย 51 ปีถูกยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะ 1 นัด คุณ Charles Buckland นักสืบจากสถานีตำรวจ Ingham กล่าวว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านของพวกเขาเลยนอกจากเด็กหนุ่มและแม่ของเขา นักสืบ Buckland กล่าวว่า คุณ Lisa Marie Wilson ได้บอกให้ลูกของเธอดูแลและพาเจ้าหมาที่พวกเขาเพิ่งพบในบ้านของพ่อเด็กหนุ่มในเมือง Dansville เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาให้ดี เด็กหนุ่มให้การสารภาพว่าหลังจากในคืนที่ก่อเหตุเขาได้นำปืน .22 แม็กนั่มจากตู้เก็บของออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องและยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะคุณแม่ ก่อนที่จะขับรถออกไปเพื่อทำลายอาวุธปืน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของคุณตำรวจไปได้ …
-
คนงานเหมืองทองในบราซิลบุกรุนผืนป่า และสังหารชนเผ่าพื้นเมืองอย่างโหดเหี้ยม!!
แม้เราจะเติบโตกันในยุคสมัยที่เจริญแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าในโลกใบนี้ยังมีชนเผ่าพื้นเมืองอีกมากมาย ที่ยังไม่เจริญตามยุคสมัยหรือเข้าถึงเทคโนยีและยังรักษาแนวทางของพวกเขาไว้ ชนเผ่าอะเมซอนที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบลาซิลก็เช่นกัน พวกเขาเป็นชนเผ่าที่ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก แต่ทว่าจุดที่พวกเขาอยู่นั้นมันกลับเป็นจุดที่มีแร่ธาตุต่างๆ อยู่นั้นรวมถึงทองด้วย จึงทำให้มีนายทุนเลือกที่จะส่งคนเข้าไปทำเหมืองบริเวณดังกล่าว แต่ว่าเรื่องสุดโหดเหี่ยมก็เกิดขึ้น เมื่อคนเหมืองสองคนถูกจับได้โทษฐานฆ่าหั่นศพชนเผ่าพื้นเมืองดังกล่าวถึง 20 คน ซึ่งพวกเขาได้ทำลายหลักฐานโดยการเอาศพไปทิ้งลงแม่น้ำนั่นเอง จากรายงานบอกว่า สถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ Vale do Javari ซึ่งเป็นที่ดินพื้นเมืองอันเก่าแก่ โดยอยู่ห่างจากเมืองมาเนาส์ราวๆ ของประเทศบลาซิล 1200 กิโลเมตร คนงานเหมืองทั้งสองที่ถูกจับ ได้บอกถึงสาเหตที่ต้องฆ่าชนเผ่าว่า ถ้าไม่ฆ่าชนเผ่าพวกเขาก็จะถูกฆ่า ฉะนั้นจึงต้องลงมือทันที และจากรายงานที่บอกว่ามีผู้ตาย 20 คนนั้น จริงๆ แล้วก็ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็คาดว่าอยู่ราวๆ 19 ถึง 21 คน… อย่างไรก็ตามเรื่องราวในครั้งนี้นั้นถูกประนามโดยองค์กร Survival International และพวกเขายังบอกอีกว่า การฆาตกรรมครั้งนี้เกิดมาเป็นเดือนๆ แล้ว แต่พึ่งจะถูกเปิดเผยไม่นานนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความไม่ใส่ใจของรัฐบาล ที่มา metro
-
10 อันดับการฆ่าสุดโหด ที่จะทำให้คุณขวัญผวา ขนลุกขนพองและนอนไม่หลับเลยทีเดียว
บางครั้ง เรื่องราวผีๆ หรือเรื่องเร้นลับก็อาจไม่น่ากลัวเท่ากับเรื่องของการฆาตกรรมโหด เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ตำนานแต่มันคือเรื่องจริงๆ ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว และเผลอๆ บางครั้งมันก็อยู่แถวๆ บ้านคุณนั่นเอง!! และสำหรับใครที่ชื่นชอบเรื่องราวหลอนๆ ล่ะก็ บอกไว้ก่อนเลยว่าท่านจะไม่ผิดหวังกับเรื่องราวที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่นอน อ่า… ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็ไปชมกันเลยย แต่!! ถ้าอยากได้อารมณ์ล่ะก็ลองอ่านแบบโทนเสียงพี่ป๋องดูนะ ฮ่าๆ 10. Carl Panzram ฆาตกรโหดผู้นี้ให้สารภาพว่าเขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อไปมากกว่า 21 ราย พร้อมกับข่มขืนเด็กและผู้ชายไปอีกกว่า 1,000 คน หนึ่งในการฆ่าที่โหดร้ายที่สุดของเขาก็คือ เมื่อปี 1920 เขาได้ฆ่าลูกจ้างชายทั้ง 6 คนด้วยปืนจากนั้นก็โยนพวกเขาให้จระเข้กิน 9. Christopher Porco ในปี 2004 พ่อของ Porco ถูกพบอยู่ในสภาพนอนจมกองเลือดของตัวเองในบ้าน และถัดจากนั้นไม่ไกลเจ้าหน้าที่ก็พบแม่ของเขานอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียง พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยขวาน ซึ่งสาเหตุนั้นมาจาการแก้แค้นของ Porco ที่ถูกพ่อแม่ตำหนิเรื่องปลอมแปลงลายเซ็นต์เพื่อกู้เงินและซื้อรถคันใหม่ 8. Paul Bernardo และ Karla Homolka ฐานะที่ร่ำรวยและบุคลิกที่ดูดี ก็ไม่อาจจะแยกระหว่างคนดีและฆาตกรได้ ทั้งสองคนได้ทำการฆ่าข่มขืนหญิงสาวไปถึง 3 คน รวมถึงน้องสาวตัวน้อยของ Homolka ด้วย…
-
‘เปรตเดินดินกินเนื้อคน’ หนังโหดยุค 80 ที่สมจริง จนผู้กำกับถูกตั้งข้อหาฆ่านักแสดงจริงๆ!?
ถ้าหากพูดถึงหนังสยองขวัญที่มีความเหมือนจริงสุดๆ เรื่องหนึ่งคงจะต้องยกให้เรื่อง Cannibal Holocaust กันเลยทีเดียว อ่า… งงใช่ไหมล่ะว่ามันคือเรื่องอะไร ถ้าบอกว่าเรื่อง ‘เปรตเดินดินกินเนื้อคน’ ละก็พวกคุณจะต้องร้องอ๋อกันแน่ๆ หนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญจากยุค 80 ที่เต็มไปด้วยความสยดสยองเล่าถึงเรื่องราวของ Dr.Harold Monroe (รับบทโดย Robert Kerman) ที่ออกเดินทางตามหาการหายตัวไปของกลุ่มนักศึกษาที่มาถ่ายทำสารคดีในป่าแถบอเมริกาใต้ เขาได้ค้นพบม้วนเทปวีดีโอที่ของนักถ่ายทำสารคดีทั้ง 4 ที่บันทึกเรื่องราวการเดินทางอันแสนวิปริต พฤติกรรมของชนเผ่ากินคนอันโหดเหี้ยมในตำนาน และด้วยความเหมื๊อนเหมือนของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้หลายๆ คนถึงกับเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนังนั้นเป็นเรื่องจริง และหนักข้อจนถึงกับมีการลือกันว่าผู้กำกับได้ลงมือฆ่านักแสดงชายของเรื่องนี้จริงๆ เลยนะเออ!! นอกจากตำนานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความโหดและความสมจริงแล้ว ทางด้านผู้กำกับชาวอิตาเลี่ยนอย่าง Ruggero Deodato เองก็เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาอนาจารและฆาตกรรมทันทีหลังจากการฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ภาพบางส่วนจากหนัง โดยนักนักวิจารณ์หลายคนได้ให้ความเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง และคิดว่า Deodato นั้นได้ฆ่านักแสดงของเขาจริงๆ อย่างน้อยหนึ่งคน แต่ทางผู้กำกับก็ได้ออกมาแสดงถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองทันที พร้อมกับพานักแสดงทุกคนในเรื่องมาปรากฎตัวต่อหน้าศาล ในวันพิจารณาคดี พร้อมกับยืนยันว่าเขาใช้เทคนิคพิเศษในการถ่ายทำ และกรูไม่ได้ฆ่าคนแม้แต่คนเดียวเลยจ้า Ruggero Deodato ผู้กำกับหนังในตำนานเรื่องนี้ นอกจากนี้หนึ่งในนักแสดงของเรื่องยังให้สัมภาษณ์อีกว่า ผู้กำกับอย่าง Ruggero Deodato นั้นเป็นคนที่อ่อนโยน…
-
คุณแม่ลงมือฆ่าชายวัยรุ่น เพื่อทำการแก้แค้นให้กับลูกสาววัย 6 ขวบ ที่ถูกข่มขืน…
เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อนาง Connie Serbu หญิงสาวจากรัฐฟลอริดา ต้องตกเป็นผู้ต้อหาคดีฆาตกรรม หลังจากที่ลงมือสังหารชายหนุ่มที่เคยก่อคดีข่มขืนลูกสาวของเธอด้วยตัวเอง คุณตำรวจเจ้าของคดีสะเทือนขวัญนี้กล่าวว่า หญิงคนดังกล่าวได้ทำการล่อลวง Xavier Sierra เด็กหนุ่มวัย 18 เข้าไปในป่าแห่งหนึ่งในเมืองเนเปิลส์ และทำการปลิดชีวิตเขาด้วยปืน นาง Connie Serbu (ซ้าย) และ Xavier Sierra (ขวา) เด็กหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่จัดการกับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว นาง Serbu ได้โทรเรียกตำรวจมายังที่เกิดเหตุ และบอกกับตำรวจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด “ ‘ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาข่มขืนลูกสาวฉัน ฉันไม่สน เขาทำลูกสาวฉัน’ เธอบอกผมทุกอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมมาถึง” นายตำรวจเจ้าของคดีกล่าว เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปี 2016 ตำรวจพบศพของนาย Sierra อยู่ในที่เกิดเหตุ และถัดจากจุดที่พบศพแรกพวกเขายังพบร่างของนาย John Vargas น้องชายวัย 29 ปีของนาง Serbu อีกด้วย โดยจากข้อมูลบอกว่านาง Serbu และนาย Vargas น้องชายของเธอได้ร่วมกันฆ่าเด็กหนุมคนดังกล่าวหลังจากที่เธอทราบว่าลูกสาวถูกชายคนดังกล่าวข่มขืนมาเป็นเวลานาน ผู้เป็นแม่ได้ส่งข้อความหานาย Sierra เพื่อให้มาสร้างเตียงสองชั้นให้ที่บ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะพาเด็กหนุ่มเข้าไปในป่าแล้วใช้อาวุธปืนสังหารเขา แต่ทางเหยื่อขัดขืนจึงป็นเหตุให้น้องชายของเธอถูกยิงเข้าที่ท้องและเสียชีวิตในที่สุด ถึงแม้ว่าลูกสาวจะขอร้องแม่ของเธอไม่ให้ทำการตามล่าตัวเขา แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ผู้เป็นแม่ยังคงตั้งใจจะแก้แค้นให้กับลูกสาวของเธอ จนเป็นเหตุสะเทือนขวัญในที่สุด…
-
สาวเชียร์ลีดเดอร์ถูกจับกุม หลังจากพบ “เด็กทารกแรกเกิด” ถูกฝังในสวนหลังบ้านของเธอ!?
คดีฆาตกรรมนั้นมีให้เห็นตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง ทั้งเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ โดยที่โทษทางกฎหมายนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับคดีนี้ก็ถือเป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดกับทารกแรกเกิดในขณะที่ผู้ต้องหาเป็นเพียงสาววัยรุ่นเท่านั้นเอง Brooke Skylar Richardson สาวเชียร์ลีดเดอร์วัย 18 ปีถูกจับข้อหาฆาตกรรมโดยประมาท หลังจากที่พบศพทารกถูกฝังในสวนหลังบ้าน เมื่อตรวจสอบพบว่าทารกยังคงมีชีวิตอยู่ในตอนที่เกิดมา เธอถูกจับที่รัฐ Ohio ประเทศอเมริกา ในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลักฐานได้ชี้ให้เห็นว่าเด็กนั้นรอดชีวิตในวันที่เกิดมา ไม่ได้เป็นเด็กที่ตายตอนคลอดออกมาแต่อย่างใด แพทย์ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเด็กมีชีวิตอยู่ช่วงเวลาก่อนที่จะถูกฝัง ซึ่งปัจจุบันตำรวจยังคงรอการรายงานถึงสาเหตุการตายของเด็กจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามการสันนิษฐานอย่างเป็นทางการคือเด็กถูกฝังทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนั่นจะทำให้เธอมีความผิดทันที หญิงสาวผู้ต้องหาก็ยืนยันว่าเธอไม่ได้ฝังทารกในตอนที่ยังมีชีวิต และได้บอกกับ David Fornshell อัยการเขตวอร์เรน ว่าเด็กได้ตายในวันที่ 7 พฤษภาคม ก่อนหน้าที่จะฝังอย่างแน่นอน Charles Rittgers ทนายของเธอก็ได้บอกอีกว่า Brooke นั้นเป็นเด็กที่ดี ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม เธอจบมัธยมมาเพียงไม่กี่เดือนและกำลังจะศึกษาต่อในมหาลัย อีกทั้งเธอยังคอยช่วยเหลือเด็กพิการและทำงานที่ YMCA กับเหล่าเด็กๆ อีกด้วย โดยตอนนี้ผู้ต้องหาได้ถูกประกันตัวออกมาด้วยเงินประมาณ 500,000 บาท และหลังจากการสู้คดี หากเธอถูกตัดสินว่าผิดจริงก็จะมีโทษถูกจำคุกเป็นระยะเวลาตั้งแต่…
-
ชมตัวอย่างแรกของ ‘Jigsaw’ สานตำนานสยองขวัญ ตัด/ต่อ/ตาย พุ่งทะยานสู่ภาค 8
สำหรับคอหนังโหด คงจะคุ้นเคยกับหนังสยองขวัญภาคต่ออย่าง Saw กันเป็นอย่างดี หลายๆ คนคงจะจดจำภาพความซาดิสเลือดสาดในหนังกันได้แน่ๆ และถ้าหากใครที่เป็นสาวกหนังเรื่องนี้คงจะทราบข่าวของภาคใหม่ในชื่อ Jigsaw (Saw : Legacy) ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้แล้ว สำหรับ Jigsaw หรือ Saw : Legacy หนังภาค 8 ต่อจาก Saw 3D : The Final Chapter ที่เข้าฉายเมื่อปี 2010 ซึ่งในภาคล่าสุดนี้เป็นผลงานการกำกับจากพี่น้องฝาแฝดอย่าง Peter Spierig และ Michael Spierig ที่เคยฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์เรื่อง Predestination เมื่อปี 2014 Saw : Legacy กลับมาเผยเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่เรียกตัวเองว่า Jigsaw โดยจะทำการฆาตกรรมเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมด้วยสารพัดวิธีการพิสดาร และให้พวกเขาต้องดิ้นรนจากเกมมรณะที่คิดขึ้นมาให้ได้ (อีกแล้ว) เหยื่อผู้โชคร้ายที่ถูกจับมาเล่นเกมและต้องมีชีวิตรอดออกไปให้ได้!! หน้ากากแก้มแดงที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กำลังกลับมาทำให้คุณขนหัวลุกอีกครั้ง เห็นแค่นี้ก็หวาดเสียวแล้วใช่ไหมล่ะ!? ไปชมตัวอย่างเต็มๆ ในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ภาพยนตร์เรื่อง Saw: Legacy มีแผนเข้าฉายในอเมริกาในวันที่ 27…
-
หนุ่มวัย 26 ถูกศาลตัดสินจำคุก 16 ปี ในข้อหาหลอกล่อและฆาตกรรม ‘แมว’ มากถึง 21 ตัว
วันที่ 16 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า Robert Roy Farmer ชายวัย 26 ปี ได้รับการพิพากษาจากศาลรับโทษจำคุก 16 ปี หลังจากที่เขาได้ฆ่าแมวไปมากถึง 21 ตัว และทำทารุณกรรมทางเพศซากแมวอีก 1 ตัว ในบริเวณเมืองแซนโฮเซ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานระบุว่า มีแมวหลายตัวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2015 โดยนาย Robert จะทำการหลอกล่อเหยื่อให้ออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะลงมือฆ่าอย่างไร้ความปราณี นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ขณะที่นาย Robert กำลังไล่จับแมววัย 17 ปี และในวันต่อมาทางเจ้าหน้าที่ก็พบซากแมว ซึ่งเป็นแมวตัวเดียวกันที่นาย Robert ไล่จับในคลิปวีดีโอ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามจับตัวนาย Robert หลังตรวจค้นพบอุปกรณ์หลายอย่างในรถที่เขาได้ใช้ฆ่าแมว ไม่ว่าจะเป็น ซากแมวตาย ถุงมือ และมีด ส่วนเจ้าเหมียวที่สามารถรถพ้นจากเงื้อมมือของฆาตกรคนดังกล่าวได้…
-
ศาลสั่งจำคุกเหยื่อข่มขืน 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่เธอแท้งลูกในท้องโดยไม่รู้ตัว!?
กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ประเทศเอกวาดอร์เป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมกับหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน และเธอถูกศาสสั่งจำคุก 30 ปีหลังจากที่เธอแท้งลูกออกมา!? Evelyn Beatriz Hernandez Cruz หญิงสาวชาวเอกวาดอร์วัย 19 ปีถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม โดยทางอัยการกล่าวว่า เธอนั้นไม่ต้องการเด็กและโยนเขาทิ้งไว้ในชักโครกหลังจากที่เด็กน้อยคลอดออกมา ทารกที่ออกมานั้นมีอายุครรภ์เพียงแค่ 32 สัปดาห์เท่านั้น หญิงสาวถูกข่มขืนมานานหลายเดือนก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ โดยเธอนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองตั้งท้องและกำลังจะคลอดลูก ส่วนการที่เด็กหลุดออกมานั้นเกิดจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ของเธอ เธอถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 ปี เนื่องจากการแท้งลูกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และลูกในครรภ์นั้นก็เกิดมาจากการข่มขืน แต่อย่างไรก็ตามทางอัยการยังคงยืนยันว่าเธอนั้นมีเจตนาที่จะฆ่าเด็กทารก และตอนนี้ทนายความของ Hernandez กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันพุธที่จะถึงนี้ต่อไป ประเทศเอกวาดอร์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าการทำแท้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือกรณีใดๆ ก็ตามต่างก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยกฎหมายดังกล่าวถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินจำคุกเพราะการทำแท้งจำนวนมาก อย่างเช่นในปี 2011 มีหญิงสาวคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกนานถึง 40 ปีจากข้อหานี้ หลังจากที่เธอเกิดปวดท้องกระทันหันและแท้งลูกที่บ้านของตัวเอง สำนักข่าว Mirror รายงานว่าการตัดสินคดีความของ Hernandez นั้นขาดการพิจารณาในหลายๆ ด้านและไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่าเธอจงใจทำแท้ง ทางด้านองค์การสหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายข้อนี้ โดยทางด้านคุณ Erika Guevara-Rosas ผู้อำนวยการของ…
-
ชาวต่างชาติตั้งฉายาเกาะเต่า “Murder Island” จากเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 7 รายในรอบ 3 ปี
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมวัย 30 ปีที่เกาะเต่าออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ และมีผู้สนใจเกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวถึง 7 รายแล้วที่ต้องจบชีวิตบนเกาะแห่งนี้ และล่าสุดทางสื่อต่างประเทศก็ได้รวบรวม 6 คดีการเสียชีวิตบนเกาะเต่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยในบางคดีนั้นยังไม่ทราบถึงตัวจริงของฆาตรกร และเป็นอย่างที่รู้กันว่าในทุกคดีนั้น ได้รับความสนใจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก Hannah Witheridge และ David Miller คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 และได้รับความสนใจจากสำนักข่าวแทบจะทุกสำนักในบ้านเรานั่นก็คือคดีของคุณ Hannah Witheridge หญิงสาววัย 23 ปี และคุณ David Miller ชายวัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายระหว่างที่ออกมาเดินในด้านนอกโรงแรม ในวันที่ 15 กันยายน 2014 จากการชันสูตรศพพบว่าทั้งคู่ถูกทำร้ายที่ศีรษะจนเสียชีวิตและนอกจากนี้คุณ Witheridge ยังมีร่องรอยการถูกข่มขืนอีกด้วย Luke Miller คดีต่อมาคือนาย Luke Miller ช่างก่อสร้างจากประเทศอังกฤษ ที่ถูกพบศพในสระว่ายน้ำเมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2016…
-
สื่อต่างชาติรายงาน พบสาวเบลเยียมเสียชีวิต เหลือเพียงครึ่งตัวที่ “เกาะเต่า” อีกแล้ว!!
เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นในบ้านเราอีกครั้ง เมื่อทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่ามีการพบศพของหญิงสาวผู้หนึ่งบนเกาะเต่า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งในประเทศไทย นาง Elise Dallemange ถูกพบศพเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาในป่าแห่งหนึ่งบนเกาะ อวัยวะบางส่วนของศพถูกสัตว์ป่ากินเหลือเพียงครึ่งตัวเท่านั้น ตามรายงานข่าวระบุว่าเธอคือผู้เสียชีวิตรายที่ 7 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยทางตำรวจออกมายืนยันว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย แต่อย่างไรก็ตามแม่ของเธอคุณ Michele กลับไม่เชื่อตามข้อสันนิษฐานของตำรวจ เธอบอกว่า “ฉันไม่เชื่อตามที่ตำรวจบอกเรา ฉันคิดว่าคำอธิบายของพวกเขานั้นไม่ถูกต้อง และฉันเกรงว่าจะต้องมีคนอื่นเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาวฉัน” นอจากนี้แม่ของคุณหญิงสาวผู้เสียชีวิตวัย 30 ปี ยังบอกอีกว่าการตายของลูกเธออาจไม่ได้ความสนใจหากไม่มีการเรียกร้องจากเธอ และตอนนี้เธอยังไม่ได้รับผลการชันสูตรของลูกสาวแต่อย่างใดด้วย ก่อนหน้านี้นาง Elise เคยเข้าร่วมลัทธิ Sathya Sai Baba และอาศัยร่วมกับผู้หนึ่งที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ ที่เกาะพพงัน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 17 เมษานที่ผ่านมาเธอได้เตรียมเดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศเบลเยี่ยม จากบันทึกการโทรของผู้ตายแสดงให้เห็นว่าเธอได้ติดต่อกับแม่ของเธอผ่านสไกป์เมื่อวันที่ 17 เมษายน ก่อนที่จะออกจากเกาะพะงันเมื่อวันที่ 19 เมษายน แต่ไม่มีใครทราบว่าทำไมหญิงสาวถึงเดินทางไปที่เกาะเต่า!? แม่ของผู้ตายบอกว่าเธอใช้ชื่อปลอมเพื่อเข้าพักในบังกะโลแห่งหนึ่งใกล้กับท่าเรือแม่หาด ในเกาะเต่า ก่อนที่ตามแผนการเดินทางนั้น เธอจะเดินทางผ่านเรือโดยสารไปที่จังหวัดชุมพร และเดินทางเข้ากรุงเทพ แต่จู่ๆ บ้านพักที่เธออยู่ก็กลับเกิดไฟใหม่อย่างไม่ทราบสาเหตุ หญิงสาวจึงได้ย้ายไปอยู่ที่พักอีกแห่งใกล้กับหาดตะโหนด…
-
สรุปคดีสะเทือนโลก แฟนสาวส่งข้อความ ยุยงหนุ่มให้ “ฆ่าตัวตาย” หวังให้คนสงสารเธอ..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญไปทั่วทั้งโลก เมื่อล่าสุดวันที่ 7 มิถุนายน 2017 สำนักข่าว AP ได้รายงานเรื่องของกรณีวัยรุ่นสาวชาวอเมริกัน Michelle Carter ผู้ยุยงแฟนหนุ่ม Conrad Ray ให้ฆ่าตัวตายผ่านการส่งข้อความ เรื่องราวจากการสอบสวนพบว่าหญิงสาวได้พยายามยุยงให้แฟนหนุ่มฆ่าตัวตาย ผ่านข้อความมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งในวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2014 แฟนหนุ่มของเธอได้รมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ตัวเอง ด้วยการเปิดเครื่องปั้มน้ำและสอดท่อไอเสียอัดเข้าไปในรถยนต์ ในช่วงจังหวะหนึ่งที่เขารู้สึกกลัวกับการฆ่าตัวตาย แฟนสาวก็ส่งข้อความยุยงให้เขากลับเข้าไปในรถเพื่อทำให้สำเร็จ จนในที่สุดแล้วเขาก็เสียชีวิต… โดยคดีนี้ได้มีการสืบสวนมาอย่างยาวนาน มีทั้งการค้นประวัติการแชทกัน วิเคราะห์ข้อความที่ส่งให้กันเพื่อให้ทราบเจตนาที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย ผู้ต้องหา Michelle Carter และแฟนหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย Conrad Ray Marie Claire Flynn อัยการได้ชี้แจงว่า “ผู้ต้องหาพยายามยุยงให้ชายหนุ่มฆ่าตัวตาย โดยให้เหตุผลเพียงเพื่อต้องการให้คนมาสงสารเธอ จากหลักฐานทั้งหมดเราพบว่า ในวันที่แฟนหนุ่มเข้าไปรมก๊าซพิษในรถ หญิงสาวไม่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปกครองของแฟนหนุ่มเลย แต่สิ่งที่เธอทำกลับตรงกันข้าม..” โดยข้อความส่วนหนึ่งที่เปิดเผยจากหลักฐานในวันที่เกิดเหตุระบุว่า “เธอต้องทำให้ได้นะ Conrad ยิ่งเธอพยายามฝืนเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งพบกับความสุขมากเท่านั้น สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่เปิดเครื่องนั่น ทำตัวตามสบายทำใจให้สงบ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอเฝ้าหามาตลอด…
-
รู้จัก “จิม โจนส์” เจ้าลัทธิสุดสยอง ผู้เคยหลอกให้คน 900 คนฆ่าตัวตายพร้อมๆ กัน!!
ตลอดระยะเวลากว่า 5,000 ปีของประวัติศาสตร์มนุษย์ มีศาสนาและลัทธิต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายๆ ศาสนาก็สร้างคุณประโยชน์ให้กับมวลมนุษยชาติ แต่ก็มีบางศาสนาที่นำผู้ศรัทธาไปพบกับโศกนาฏกรรมอันน่าสยอดสยอง อย่างเช่นลัทธิสุดสยอง “Peoples Temple หรือ วิหารแห่งปวงชน” ที่เคยหลอกให้ผู้ศรัทธากว่า 900 คนฆ่าตัวตายพร้อมๆ กัน จนกลายเป็นข่าวสุดสะเทือนใจไปทั่วโลก จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ดังกล่าวต้องย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1931 “จิม โจนส์” เด็กชายชาวรัฐอินเดียแอน่าถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวอันอบอุ่นครับครัวหนึ่ง ในสมัยเด็กเขาชอบอ่านงานเขียนของนักปรัชญายุคเก่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานของ คาร์ล มาส์ก หรือ เซอร์โทมัส มอร์ โดยเฉพาะเรื่อง “ยูโทเปีย” หรือ “ดินแดนในอุดมคติ” ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน และความเชื่อนี้เอง ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งกับพ่อของตนเองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่พ่อของเขาเป็นสมาชิกของกลุ่ม “คู คลักซ์ แคลน (Ku Klux Klan)” กลุ่มเหยียดสีผิวชื่อดัง โดยครั้งหนึ่ง จิม พาเพื่อนผิวสีมาที่บ้าน แต่พ่อของเขากลับไม่อนุญาตให้เพื่อนผิวสีคนนนั้นเข้าไปภายในบ้าน ทำให้เขาเกิดความรู้สึก…
-
คุณแม่ลูกสามถูกหมาพันธุ์ African Mastiff อันเป็นที่รักของตัวเอง รุมกัดจนถึงขั้นเสียชีวิต
หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในรัฐ North Carolina ถูกพบว่ากลายเป็นศพอยู่ในบ้านของตัวเองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยฝีมือของเจ้าหมาอันเป็นที่รักของตัวเอง Jane Egle คุณแม่ลูกสาม วัย 59 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตชุมชน Buncombe County หลังได้รับโทรศัพท์แจ้งมาที่เบอร์ 911 ตอนประมาณ 23 น. มีการเอ่ยถึงหมาดุร้าย เจ้าหน้าที่ได้ให้การว่าเจ้าหมาพันธุ์ Boerboel หรือที่รู้จักกันในชื่อ South African Mastiff ไม่ยอมให้หน่วยช่วยเหลือเข้าไปในบ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับชายป่า Bent Creek Forest จากข้อมูล Egle นั้นเป็นคนเพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์ Boerboel เมื่อทีมช่วยเหลือไปถึงจุดเกิดเหตุเธอถูกพบในสภาพที่นอนไม่ได้สติพร้อมกับมีรอยแผลจากการถูกสัตว์กัดอยู่เต็มลำตัว แต่เหล่าหมา Boerboel ที่อยู่ในบริเวณบ้านมีท่าทีที่ดุร้ายมากๆ และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในบ้านจึงต้องจำใจปลิดชีวิตของพวกมันเพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือกับเธอ แต่พอเข้าไปถึงก็พบว่าเธอได้เสียชีวิต หลังจากที่ได้ตรวจสอบบริเวณบ้านก็พบว่ายังมีลูกหมาพันธุ์ Boerboel อีก 6 ตัว และ Great Pyrenee อีก 1 ตัว ส่วนเรื่องของสาเหตุการเสียชีวิตก็กำลังอยู่ในขั้นตอนชันสูตร และอีกไม่นานคงได้ทราบผลอย่างแน่นอน ส่วนเจ้าหมา Boerboel อีก…
-
บาทหลวงผู้แอนตี้ “การทำแท้ง” และตราหน้าผู้ทำแท้งเป็นฆาตรกร ไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!!
ปัญหาเรื่องการทำแท้งนั้น เป็นปัญหาที่หลายๆ สังคมต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศของเราหรือต่างประเทศก็ตาม แน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่แต่ละสังคมเองก็มีวิธีในการจัดการที่แตกต่างกันออกไป… บ้างก็สนับสนุนให้การทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของคนที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตที่เกิดมา (เด็กอาจเกิดมาพร้อมกับโรคที่ร้ายแรง หรือฝ่ายแม่ตั้งท้องโดยการถูกข่มขืน) บ้างก็ต่อต้านเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมนุษยธรรม เนื่องจากแคทดั๊มบ์ตั้งเป้าจะนำเสนอเรื่องราวให้ครบทุกแง่มุม คราวก่อนเคยลงเรื่องผู้สนับสนุนการทำแท้ง คราวนี้เราจึงพามาดูในอีกแง่มุมหนึ่งบ้าง… แต่สำหรับนาย Jeff Durbin บาทหลวงวัย 38 ปีจาก คณะบาทหลวง Red Door Ministry จากรัฐ Arizona มีความเชื่อว่าการทำแท้งนั้นเป็นสิ่งที่แย่กว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเสียอีก!! นอกจากนี้เขายังได้ทำการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยกเลิกการทำแท้งขึ้นมาชื่อว่า Babies are murdered here.com ขึ้นมาด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลได้ติดสินให้ผู้หญิงมีสิทธิที่จะทำแท้งลูกได้ เขาจึงแสดงออกมาเป็นการประท้วง Durbin กล่าวว่า “พวกเราตัดสินให้การทำแท้งนั้นคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน” เขาเชื่อว่าผู้หญิงที่ทำการยกเลิกการตั้งครรภ์ควรถูกลงโทษสถานเดียวกันกับนักโทษคดีฆาตกรรม เขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นแม่ที่ฆ่าทารกที่อยู่ในครรภ์ หรือแม่ที่ฆ่าลูกวัย 5 ขวบของตัวเองด้วยการกดน้ำ ก็ควรได้รับข้อหาฆาตรกรรมเช่นเดียวกัน ชีวิตต้องแลกมาด้วยชีวิต!!” นอกจากนี้เขายังทำการรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งด้วยการนำป้ายและเดินขบวน แล้วก็ยังใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ความคิดของเขาให้ชาวโลกได้รับรู้อีกด้วย “พวกเราจะสอนบุตรหลานของเราให้ทำในสิ่งที่ยุติธรรม…
-
หนุ่มเม็กซิกัน แต่งงานกับสาวอเมริกัน เพื่อกรีนการ์ด แล้วสังหารเธอ โดยมีภรรยาตัวจริงช่วย…
สหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นดินแดนที่หลายๆ คนอยากเข้าไปแสวงหาความสำเร็จและความก้าวหน้าในชีวิต และมีชาวสหรัฐฯ หลายคน ได้ให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติเหล่านี้ เพื่อให้ได้กรีนการ์ดมาง่ายๆ อย่างเช่นหญิงสาวคนนี้ ที่เธอแต่งงานกับชาวเม็กซิโกคนหนึ่งเพื่อให้เขาได้กรีนการ์ด แต่สุดท้าย ชายชาวเม็กซิโกคนนั้นเอง ก็รวมมือกับภรรยาเก่า ฆาตกรรมเธออย่างโหดเหี้ยม แม้ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาร่างพบ หญิงสาวผู้โชคร้ายคนนั้นมีชื่อว่า Cecelia Bravo Cabrera เธอได้แต่งงานกับหนุ่มชาวเม็กซิกัน Francisco Valdivia เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้จะทำให้ Valdivia ได้กรีนการ์ดอย่างถูกกฎหมายมาใช้งาน ภายหลังเธอจึงทราบว่า Valdivia เคยแต่งงานมาแล้วเมื่อปี 2007 กับหญิงที่ชื่อว่า Rosalina Lopez ไม่แน่ใจว่าเธอทราบเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่ แต่ไม่ว่าเธอจะพอใจหรือไม่ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะ Lopez และ Valdivia ได้ร่วมกันข่มขู่เธอเพื่อไม่ให้เธอฟ้องหย่า จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จู่ๆ Cecelia Cabrera ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครทราบว่าเธอหายไปไหน ทางตำรวจก็ได้พยายามตามหาเธอ หลายเดือนผ่านไป หลักฐานที่พวกเขารวบรวมได้บ่งชี้ว่า เธอถูกฆาตกรรมโดย Valdivia และ Lopez ทางตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแรงจูงใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของทั้งสามอย่างแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำกันขนาดนี้ได้ น่ากลัวจริงๆ T_T…
-
กล้องวงจรปิดจับภาพสาวออสซี่ วางยาพิษในกาแฟของเพื่อนสาว เพียงเพราะเธอเลิกกับแฟน!?
นี่เป็นเรื่องราวการฆาตกรรมที่อ่านแล้วชวนสะพรึงมากกว่าที่เราเคยได้เห็นจากในการ์ตูนโคนันหรือนิยายสืบสวนสอบสวนเลยก็ว่าได้… เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เว็บไซต์ Mirror ได้นำเสนอเรื่องราวของ Jessica Wongso วัย 27 ปีหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ได้ทำการฆาตกรรมเพื่อนสนิทสาว ด้วยการวางยาพิษลงในกาแฟของเธออย่างเยือกเย็น เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านกล้องวงจรปิดภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ Jessica Wongso และเพื่อนสาว Wayan Mirna Salihin ไปนั่งดื่มกัน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็น Jessica กำลังเทไซยาไนด์ลงไปในถ้วยกาแฟของ Mirna ในช่วงที่เธอเผลอ จากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มมีอาการทุรนทุรายก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตไป ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่ จากการสืบสวนพบว่าทั้ง Jessica และ Mirna เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนในชั้นเดียวกัน ซึ่ง Jessica ได้ให้เหตุผลที่เธอลงมือฆ่าเพื่อนสาวเพราะว่า Mirna เลิกกับแฟนหนุ่ม แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากเธอก่อน เมื่อศาลพิจารณาหลักฐานต่างๆ แล้ว จึงตัดสินให้ Jessica มีความผิดฐานฆาตกรรมผู้อื่นโดยเจตนา ในระหว่างการพิจารณาคดี ด้านอัยการได้กล่าวว่า “การกระทำของจำเลยเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก เพราะมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตเพื่อนของตัวเอง มันเป็นการกระทำที่ทารุณเพราะยาพิษไซยาไนด์ได้คร่าชีวิตของเหยื่อ Wayan Mirna Salihin มันไม่ได้ฆ่าเธอในทันทีแต่ค่อยๆ ทรมาณเธอ”…
-
ปริศนาฆาตกรรมในโรงพยาบาลญี่ปุ่น คนไข้ได้รับสารแปลกปลอมในถุงน้ำเกลือ ยังหาคนร้ายไม่ได้..!!
กลายมาเป็นข่าวที่สะเทือนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อคุณตาวัย 88 ปีท่านหนึ่ง ถูกพบเสียชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาลเอกชนในเมืองโยะโกะฮะมะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่าน ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต เพราะมันไม่ใช่การเสียชีวิตทั่วไปตามอายุขัย แต่พบว่าเป็นการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล!! จากการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นแล้วพบว่า มีสารแปลกปลอมปนเปื้อนอยู่ในถุงน้ำเกลือของคุณตา ซึ่งสารประเภทที่ว่าก็คือ สารซักฟอก ซึ่งจัดอยู่ในสารลดแรงตึงผิว โดยตามปกติแล้วในถึงน้ำเกลือจะไม่มีสารชนิดนี้อยู่แน่นอน พยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 กันยายน ช่วงเวลา 22.00 น. เมื่อย้อนเหตุการณ์กลับไปช่วงก่อนที่คุณตาจะเสียชีวิต พยาบาลได้เปลี่ยนถุงน้ำเกลือครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 กันยายน เวลาประมาณ 22.00 น. ต่อมา… จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันถัดมา เสียงเตือนอัตราการเต้นของหัวใจต่ำก็ดังขึ้น พยาบาลจึงรีบขึ้นมาดูอาการ แต่กลับพบว่าคุณตาเสียชีวิตแล้ว ประเภทของสารที่ถูกพบปนเปื้อนอยู่ในถุงน้ำเกลือ จากเหตุการณ์ข้างต้น ยังไม่สามารถสรุปตัวคนร้ายได้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ไม่มีกล้องวงจรปิด อีกทั้งโรงพยาบาลปิดทำการในเวลา 21.00 น. บุคคลภายนอกจึงไม่สามารถเข้ามาได้ (เปลี่ยนถุงน้ำเกลือในช่วงเวลา 22.00 น.)…
-
เปิดจดหมายคนร้ายสังหารหมู่คนพิการในญี่ปุ่น เพื่อช่วยเศรษฐกิจ-ปกป้องโลกจากสงคราม!??
ช่วงนี้หลายๆคนคงได้ทราบข่าวโศกนาฏกรรมสุดสลดที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้ว เรื่องราวของนายซะโตะชิ อุเอะมะสึ วัย 26 ปี ผู้ที่ก่อเหตุบุกเข้าไปโจมตีใช้มีดไล่แทงผู้พิการจนเสียชีวิตกว่า 19 คน และบาดเจ็บสาหัสอีกกว่า 25 คน ที่สถานดูแลคนพิการในเมืองซะงะมิฮาระ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะก่อนหน้านี้เขาได้เขียนจดหมายไปให้ประธานสภาผู้แทนราษฏรเป็นระยะเวลานานกว่า 5 เดือนก่อนที่จะลงมือทำ เนื้อหามีการระบุถึงแผนการอย่างชัดเจนพร้อมเสนอข้อตกลงให้เป็นที่รับทราบ แต่อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะกล้าทำให้โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นจริงๆ นายซะโตะชิ อุเอะมะสึ สถานที่เกิดเหตุ สำหรับเนื้อหาจดหมายที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ก็ต้องขอขอบหยิบยกที่ทางเพจ ‘นี่ห้องโชว์ไก่’ ได้แปลเอาไว้ซึ่งมีข้อความที่ครบถ้วนสมบูรณ์กว่า และต่อไปก็สำหรับคนที่เข้าจากมือถือ ซึ่งอาจจะไม่เห็นโพสต์ด้านบน.. . . จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าหลังจากที่เขาเขียนจดหมายนี้ส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎรถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งทางการมีการตอบรับด้วยการส่งเขาเข้ารักษาในโรงพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช หลังจากนั้น เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ เขามีอาการดีขึ้นจึงถูกปล่อยตัวมา แต่กลับมาก่อเหตุที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะลงมือทำจริงๆ คล้ายคลึงกับจดหมายที่เขาได้เขียนแผนการนี้เอาไว้นั่นเอง พอได้เห็นข้อความในจดหมายแล้วก็ถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเลยทีเดียว… ขอร่วมแสดงความเสียใจให้แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้อีกด้วย งานนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฏหมายของญี่ปุ่นเค้าล่ะ ที่มา: Facebook นี่ห้องโชว์ไก่
-
ย้อนร้อย 7 คดีสังหารโหดแบบสะเทือนใจ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น..!!
หากพูดถึงประเทศญีปุ่นแล้ว เราอาจนึกถึงชาติที่เต็มไปด้วยความเจริญในทุกๆ ด้าน และคนญี่ปุ่นเองก็ค่อนข้างจะมีระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก ทำให้ประเทศนี้ถือว่าเป็นดินแดนในฝันของใครหลายๆ คน แต่แน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีด้านมืดของตนเองทั้งนั้น อย่างในประเทศญี่ปุ่น ความมีระเบียบวินัยของพวกเขา ก็ทำให้ชาวเกิดความเครียดสะสม จนเราได้ข่าวคดีสะเทือนขวัญจากประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุมือมีดบุกแทงคนในบ้านพักคนชราและคนพิการ จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 19 ราย และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปย้อนรอย 7 คดีสังหารโหดแบบสะเทือนใจ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในดินแเนประเทศญี่ปุ่น มีคดีอะไรบ้าง เราไปติดตามกันเลยดีกว่า 1.คดีเชือดคอที่ซาเซโบ (เด็กหญิงคนที่สองจากซ้ายมือ สวมเสื้อเขียนว่า “NEVADA”) เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2004 เมื่อเด็กหญิงนัทสึมิ ซึจิ อายุ 12 ปี ได้ใช้คัตเตอร์ปาดคอเพื่อนร่วมชั้นของเธอจนเสียชีวิตคาที่ สาเหตุเพราะว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนั้น ชอบตำหนิเธอว่า “อ้วน” เกินไป ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ หลังจากที่เธอปาดคอเพื่อนแล้ว ใบหน้าของเธอกลับเรียบเฉยราวกับเพิ่งฆ่ามดตัวเล็กๆ…
-
สื่อนอกเผยคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า เป็นการดำเนินการที่ไร้ประสิทธิภาพ!!
หนึ่งในคดีที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก หลังจากที่มีสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้เดินทางมาเที่ยวที่เกาะเต่าของประเทศไทย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าพวกเขาถูกฆาตกรรม ณ บริเวณชายหาด จนตำรวจสืบสวนไปสู่การจับกุมแรงงานชาวพม่าสองราย ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2557 คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า Hannah Witheridge วัย 23 ปี และ David Miller วัย 24 ปี ฝ่ายหญิงถูกพบในสภาพถูกข่มขืน และฝ่ายชายถูกทำร้ายร่างกายและนำร่างไปทิ้งในทะเล โดยจากการตรวจสอบ DNA ของฝ่ายนิติเวชนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่งและที่แย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือกล่าวหาผู้ต้องหาชาวพม่าสองคนให้ยอมรับผิดทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันเลย ทั้งนี้ว่ากันว่าการสืบสวนของตำรวจเพื่อหาข้อเท็จจริงนั้น ทำการจับกุมแรงงานชาวพม่าสองรายมาทำการทรมานจนกว่าจะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำความผิดฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ทางด้าน Laura Witheridge ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจากการกระทำเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยไม่ต่างไปจากกับดักอันแสนอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ‘ตั้งแต่ที่เราเสีย Hannah ไป ยังมีการตายที่น่าสงสัยเกิดขึ้นในเกาะเต่าอีกมาก คุณอาจจะไม่รู้หรอก ยังมีนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ตกเป็นเหยื่อด้วย และทุกๆ ครั้งมักจะถูกสรุปให้เป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ก็อุบัติเหตุ’ ทั้งนี้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่ปักใจเชื่อว่าสองแรงงานชาวพม่าที่ถูกจับมานั้นเป็นผู้กระทำความผิด และทางเจ้าหน้าที่เองก็ปฏิเสธว่าการดำเนินคดีต่างๆ…
-
สามีปลอมการตายของตัวเอง เพื่อหาทางหนีทีไล่มาจับอดีตภรรยาผู้จ้างวานมือปืนสังหารตน!!
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นได้จริง ฟังๆ ดูแล้วมันน่าจะเป็นพล็อตของภาพยนตร์อาชญกรรมหรือไม่ก็ซีรีย์ซะมากกว่า แต่อยากจะบอกว่ามันมีมาแล้วหลายกรณี ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน Brad Sutherland วัย 31 ปี ได้ทำการปลอมแปลงการตายของตัวเอง เพื่อหลักเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายของมือปืนที่อดีตภรรยาของตนจ้างวานมาเพื่อสังหารเขา โดบที่ฝั่งอดีตภรรยา Laura Buckingham วัย 29 ปี ได้จ้างมือปืนให้ค่าหัวสามีตนเองเป็นมูลค่า 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 105,241 บาท) เพื่อกำจัดเขาออกไปจากชีวิต Brad Sutherland วัย 31 ปี ถ้าหากว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ Brad จะต้องเสียชีวิตในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นมือปืนก็ได้นำรูปถ่ายมาเป็นหลักฐานว่างานสังหารของเขานั้นสำเร็จเรียบร้อยแล้ว Laura Buckingham อดีตภรรยาวัย 29 ปี ผู้จ้างวานมือปืนสังหารสามีตนเอง เธอปักใจเชื่อเต็มๆ และจ่ายเงินรางวัลค่าหัวในส่วนที่เหลือทั้งหมด แต่หารู้ไม่ว่ามือปืนที่จ้างมานั้นเป็นเจ้าหน้าที่แฝงตัวมาจากสำนักงานสืบสวน Tennessee ทำการช่วยเหลือ Brad ปลอมแปลงการตายของเขา…
-
โปรเจ็คต์สุดสยอง ‘Murder Map’ ที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการฆาตกรรมแบบต่างๆ ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา!!!
เรียกได้ว่าเป้นโปรเจ็คต์ที่ค่อนข้างน่ากลัวและสยองเลยทีเดียว จาก Peter Stubley ที่จะแสดงอัตราการตาย และการตายแบบวิธีไหนในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ให้ดูกันเป็นแบบแผนที่ Google Map ที่เราใช้กันในทุกวันนี้เลยทีเดียว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการตายและฆาตกรรมนั้นก็ได้รวบรวมจากแฟ้มสะสมคดีของ Metropolitan Police , Crown Prosecution Service, การรายงานของสื่อ และที่สำคัญก็คือบันทึกคดีฆาตกรรมจากชั้นศาล ไม่ว่าจะเป็นการถูกฆาตกรรมโดยใช้มีด ปืน ระเบิด วางยาพิษ หรือแม้แต่การทุบตี เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ แผนที่ฆาตกรรม โดยข้อมูลที่ใส่ลงไปอยู่ในแผนที่นี้เก็บมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 หรือช่วงฆาตกรต่อเนื่อง Jack the Ripper ออกอาละวาดนั่นแหละ จนถึงช่วงราวๆ ปี 2008 ที่ผ่านมา Peter Stubley ได้กล่าวว่า ‘สำหรับโปรเจ็คนี้ผมใช้เวลาทำนานมาก มันไม่ใช่ไอเดียอะไรที่ใหม่หรอกแต่มันไม่เคยมีใครทำมาก่อนต่างหาก และนอกจากนี้ผมก็คิดว่าการฆาตกรรมนั้นแสดงให้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างในสังคมสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้มีดแบบผิดกฎหมาย การไร้ที่อยู่อาศัย การใช้ยาและเมาสุรา’ ตัวอย่างแผนที่การตายโดยระเบิด การเสียชีวิตโดยถูกมีดแทง เสียชีวิตแบบถูกทำร้าย เช่นการถูกต่อยตี การเสียชีวิตแบบไม่ทราบประเภท…
-
สืบจากภาพ!! คุณแม่ผู้สูญเสียลูกสาวขอให้ช่างภาพตัดต่อวิญญาณลูกให้ ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม
เราต่างก็รู้กันดีว่าการสูญเสียคนที่เรารักไปนั้น มันเจ็บปวดมากแค่ไหน และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น โดยในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่สูญเสียลูกสาวไป ก็เลยขอให้ทางช่างภาพช่วยจัดฉากภาพถ่ายในป่าช้าสถานที่ฝังร่างลูกสาวของเธอ พร้อมกับตัดต่อภาพวิญญาณของลูกสาวเข้าไปด้วยเพื่อเป็นการระลึกถึง แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด Jeanie Ditty คุณแม่วัย 23 ปี กับสามี Zachary Earl Keefer วัย 32 ปี จากรัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมและทำร้ายร่างกายเด็ก นั่นก็คือ Macy Grace ลูกสาววัย 2 ขวบของเธอเอง!! เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่า Macy Grace นั้นถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ด้วยสภาพร่างกายที่ถูกทำร้ายมาอย่างหนัก และเธอก็เสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วัน จนมารู้ภายหลังว่า Ditty ผู้เป็นแม่นั้นได้ทำการว่าจ้าง Sunny Jo เพื่อถ่ายภาพชุดดังกล่าว แต่กลับบอกเล่าเหตุการณ์การเสียลูกสาวไปในคนละทิศทางที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าลูกของเธอเสียชีวิตจากการสำลักกล้วย ทางด้าน Sunny Jo ช่างภาพผู้ถูกว่าจ้างได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ผมรู้สึกแย่ที่ดันเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในสถาณการณ์แบบนี้…
-
สลดใจ ตำรวจมะกันจับกุมคุณพ่อลงมือฆาตกรรมลูกชาย เหตุเพราะเป็นเกย์!?
เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านาย Shehada Issa วัย 69 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาฆาตกรรมนาย Amir ลูกชายวัย 29 ปีของตัวเอง เหตุเพราะลูกชายมีรสนิยมทางเพศไม่เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป ตามรายงานบอกว่านาย Issa ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงลอสแองเจลิสจับกุมในที่บ้านพักของเขาโดยมีร่างของลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่นอกบ้าน นอกจากนี้ยังพบร่างของแฟนสาวที่เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บเพราะถูกมีดแทงนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในบ้านด้วย นาย Issa ให้การกับตำรวจว่า เขายิงลูกชายที่นอกบ้านจริง โดยที่ฝ่ายลูกชายไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ป้องกันตัวใดๆ เลย โดยอ้างว่าเขาทำไปหลังจากที่เห็นภรรยาของลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน แต่ทางด้านสำนักงานอัยการเขต Los Angeles County ได้กล่าวว่าก่อนหน้านี้นาย Issa ได้เคยข่มขู่ว่าจะฆ่าลูกชายของตัวเองเพราะเขาเป็นเกย์ นาย Issa ยังอ้างอีกว่าลูกชายของเขาได้พยายามใช้มีดกับเขาด้วย แต่หลังจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ กลับไม่พบมีดแม้แต่เล่มเดียว ซึ่งโศกนาฏกรรมทั้งหมดนี้อาจจะมีเบื้องหลังอย่างอื่นรวมอยู่ด้วย เพราะนาย Issa อ้างว่าลูกชายเป็นเกย์ แต่เจ้าตัวกลับมีแฟนเป็นผู้หญิง ทำให้น่าจะมีปมอะไรซักอย่างที่มากกว่าการเป็นเกย์เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้จะมีการพิจารณาคดีของนาย Issa…
-
นักท่องเที่ยวสยอง พบรองเท้าเน่าๆ พร้อม “ซากกระดูก” ที่ชายหาดในแคนาดา!?
มันคงจะเป็นเรื่องสยองมาก หากคุณกำลังเดินเล่นอยู่ตามชายหาดอย่างสบายอารมณ์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่จู่ๆ กลับเจอรองเท้าพร้อมซากกระดูกลอยมาเกยอยู่ที่ชายหาด… เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่า นาง Charlotte Stephens และครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา แต่ก็ต้องขนลุกสุดขีดเมื่อสามีของเธอพบเข้ากับรองเท้าออกกำลังกายเน่าๆ พร้อมกับซากกระดูกภายในรองเท้าลอยมาเกยตื้นที่ชายหาด พวกเขาจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว และพบว่านี่เป็นรองเท้าข้างที่ 16 แล้วที่มีการค้นพบตั้งแต่เมื่อปี 2015 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบหาว่ารองเท้าและซากกระดูกที่พบนั้นเป็นของใคร ตามรายงานบอกว่าหน่วยงานชันสูตรศพได้มีการเข้ามาพิสูจน์ซากกระดูก และพบว่านั่นคือกระดูกของมนุษย์จริงๆ โดยคาดกันว่ารองเท้าข้างนี้น่าจะเป็นของผู้ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2013 ถึงธันวาคมปี 2015 แม้จะยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่เชื่อกันว่านี่อาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย เป็นเหมียว ถ้าเจอรองเท้าลอยมาแบบนี้ ขอเป็นลมดีกว่าจ้า สยอง ที่มา mirror
-
17 พฤติกรรมของเจ้าเหมียว ที่กำลังวางแผน ‘ฆาตกรรม’ ลับๆ อยู่อย่างแน่นอน!!!
เชื่อได้เลยล่ะว่า หลายๆ คนที่เลี้ยงแมวกันนั้น เคยเกิดความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจ้องเราอยู่ แน่นอนพอหันกลับไปดูก็ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าเหมียวนี่เอง…นี่มันวางแผนฆาตกรรมเราอยู่รึเปล่า!!? วันนี้เหมียวเลยนำกรณีศึกษา 17 ภาพของเจ้าเหมียวที่กำลังวางแผน ‘ฆาตกรรม’ ผ่านสายตาของพวกมันอยู่แน่นอน จะมีลักษณะไหนบ้าง มาสังเกตกันไว้นะเมี๊ยวววว มนุษย์ เหมียวมีไรจะให้แหละ… มานี่มะ… ขอให้ทิ่มปากตาย!!! เจ้าตูบ แกไม่รอดแน่ หึหึ แกจะต้องชดใช้!!! เข้ามาสิ เหมียวมีอะไรจะให้ ต้มยำ หรือปิ้งซะเลยก็ดี เจ้าพวกมนุษย์เนี่ย!!! อย่าเข้ามานะ เหมียวจะเจี๋ยนโชว์เลย มุมนี้เหมาะแก่การลอบสังหารอย่างยิ่ง แกโชคดีหรอก ที่มีกระจกกั้นระหว่างเราอ่ะ!!! แกตายยยยย!!! เห็นนิ่งๆ ผมนี่ขอวิ่งก่อนเลยครัชชชช เจ้าตูบ แกเป็นรายต่อไป!!! ชิวเข้าไป แกไม่รู้หรอก จุดจบใกล้มาถึงแล้ว ขย้ำเลยดีมั้ยนะ…
-
16 ภาพแมวเหมียวจอมวายร้าย ที่พยายามบอกให้รู้ว่า มันกำลังคิดวางแผน ‘ฆ่า’ คุณอยู่ก็เป็นได้
‘แมว’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มักแสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างหลากหลาย ซึ่งในบางครั้งเราอาจจะเห็นมันอารมณ์ดี ทำตัวน่ารัก บางครั้งก็ดูนิ่งๆ หยิ่งๆ และบางครั้งก็ทำท่าทางเหมือนฆาตกรโรคจิต ที่ดูแล้วน่ากลัว และไม่น่าเข้าใกล้ที่สุด ก็เหมือนกับภาพของพวกแมวเหล่านี้ ที่แม้แต่เหมียวก็มิอาจทราบได้ว่า พวกมันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะบางตัวก็ทำท่าทางน่ากลัว และจ้องมองมาที่เหยื่อในสายตาที่อาฆาตเหลือเกิน หรือถ้ามองในแง่ดี บางทีพวกมันอาจจะกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ก็เป็นได้ อุ๊ยตาย!! นางมีมีดอยู่ในมือ ช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร มีการแอบนั่งมองพวกมนุษย์อยู่ใกล้ๆ ในใจเอ็งคิดอะไรอยู่เจ้าเหมียว ข้าจะแย่งชุดเอ็งมาใส่ให้ได้เจ้าหมา หน้าตาร้ายกาจแบบนี้มันกำลังคิดแผนการอะไรของมันอยู่นะ อย่าให้ข้าได้ออกไปนะ เอ็งเสร็จแน่มนุษย์ มันกำลังคิดแผนยึดครองโลกอยู่แน่ๆ แม้แต่ตุ๊กตาข้าก็ไม่เว้น ท่าทางโหดซะเหลือเกิน อย่าให้ข้าได้เข้าไปได้นะ แกเสร็จแน่ บางทีแมวก็น่ากลัวเหมือนกันนะ ความร้ายกาจมีอยู่ในตัวแมวอย่างเต็มเปี่ยม ลากันไปด้วยภาพนี้ หากบ้านใครที่เลี้ยงแมว แล้วมันกำลังทำหน้าตาโหดแบบนี้ ขอเตือนเลยนะว่าอย่าเพิ่งเข้าไปใกล้มันละ มิเช่นนั้นคุณอาจจะตกเป็นเหยื่อของแมวเหมียวโดยที่ไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ ที่มา : buzzfeed
-
ชาวเน็ตช็อค หนุ่มจีนก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาว แถมโพสต์ภาพโชว์ลงในโลกออนไลน์
เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลกวางสีประเทศจีน ได้จับตัวคนร้ายที่ฆ่าแฟนสาวของตัวเองได้ หลังคนร้ายโพสต์รูปศพของแฟนลงในแอพ WeChat เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่าคนร้ายนามสกุลฉิน ได้ก่อคดีฆาตกรรมแฟนสาวของตนเองเมื่อวันที่ 5-6 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็ได้โพสต์รูปศพแฟนสาวลงในโลกออนไลน์ พร้อมกับข้อความว่า “ยกโทษให้กับความรักที่เห็นแก่ตัวของผมด้วยนะ” แต่เนื่องจากมีชาวเน็ตจำนวนมากเห็นภาพของเขาในโลกออนไลน์ จึงส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามสืบ จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับกุมตัว จากการสอบสวนพบว่าสาเหตุทีนายฉินลงมือก่อเหตุนั้นเป็นเพราะว่าเกิดการทะเลาะกับแฟนสาวอย่างหนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเมื่อปี 2557 ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาแล้ว โดยเป็นเหตุการณ์ของวัยรุ่นวัย 17 ปี ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงใบหน้าของหญิงสาวรายหนึ่งจากนั้นจึงปล้นทรัพย์สินของเธอไป และโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวลงในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน ที่มา shanghaiist
-
สะเทือนขวัญ ตำรวจชาวออสเตรียพบศพผู้อพยพ 71 ราย ในรถบรรทุกสินค้าข้างทาง
กลายเป็นข่าวสุดสะเทือนขวัญของออสเตรียมไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของออสเตรียได้พบรถบรรทุกคันต้องสงสัยคันหนึ่ง จอดทิ้งไว้บริเวณไหล่ทางใกล้กับเมืองปาร์นดอร์ฟ ทางตะวันออกของประเทศออสเตรีย ที่เชื่อมไปยังประเทศฮังการี จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถบรรทุกสินค้าแช่แข็งจากบริษัทของฮังการี โดยมีหยดเลือดไหลออกมาจากภายใน แถมยังส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่ว และเมื่อตรวจสอบดูภายในก็พบว่ามีศพอยู่มากถึง 20-50 ศพ มีการคาดการณ์กันว่าอาจเป็นศพของผู้อพยพเข้าเมือง เพราะช่วงนี้ยุโรปกำลังประสบกับปัญหาที่ผู้อพยพลักลอบหนีเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่าพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 71 ศพ เป็นผู้ชาย 59 ศพ หญิง 8 ศพ และเด็กอีก 4 ศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 1-2 วัน โดยก่อนหน้านี้มีการรายงานว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่นิยมใช้ลักลอบขนผู้อพยพข้ามแดนและมีการจับได้อยู่บ่อยครั้ง ที่มา dailymail , bbc , kapook
-
พ่อเลี้ยงใจโหด จับลูกเลี้ยงวัยสามขวบโยนลงน้ำ จนกระทั่งเธอจมน้ำเสียชีวิต!!!
บางครั้งมนุษย์ก็สามารถทำเรื่องโหดร้ายต่อกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งกับเด็กตัวเล็กๆ อย่างเช่นเรื่องที่เหมียวนำมาเล่าวันนี้ เรียกได้ว่าสลดหดหู่สุดๆ เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่เมือง Morelia ในรัฐ Michoacan ประเทศ Mexico โดยมีกล้องจับภาพชายคนหนึ่งวัยกลางคน กำลังโยนลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบลงสระว่ายน้ำ โดยเมื่อเธอตกลงไปในน้ำ เธอก็ตะเกียดตะกายพยายามขึ้นมา ชายคนนั้นก็จะจับเธอโยนลงไปในสระว่ายน้ำอีกครั้ง ตอนนั้นแม่ของเด็กกำลังนอนหลับอยู่ หลังจากเธอถูกโยนลงสระว่ายน้ำหลายต่อหลายรอบ ในที่สุดเธอก็จมน้ำ แม้ว่าชายคนนั้นจะโยนห่วงยางลงไปให้ แต่เธอก็เหนื่อยเกินจะคว้าห่วงเอาไว้ได้ ข่าวรายงานว่าหลังจากเธอถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการ ในที่สุดชายคนดังกล่าวก็ถูกจับกุมด้วยข้อหาฆาตกรรม ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย น่ากลัวมากๆเลย ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำเด็กอายุ 3 ขวบได้ลงคอ หวังว่าเขาจะได้รับโทษที่สาสมกับสิ่งที่เขาทำลงไปใน ที่มา metro
-
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อคุณตาวัย 91 ออกมายอมรับว่าฆ่าคนไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว!!!
นี่ล่ะหนอที่เขาว่า หนีตำรวจได้ หนีกฏหมายได้ หนีคนเอาผิดได้ แต่สุดท้ายแล้วก็หนีความรู้สึกผิดในใจตนไม่ได้ เมื่อชายแก่วัยกว่า 91 ปีได้มาสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นคนฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อ 70 ปีที่แล้ว โดยตอนนั้นเขาได้ใช้ปืนพกรัสเซีย จากสงครามโลกครั้งที่ 1 ยิงผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเป็นโสเภณีอยู่หน้าไนท์คลับ เหตุจากการที่เขาคิดว่าเธอคิดจะเชิดเงินของเขาไปฟรีๆ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ Blue Lagoon Club บนถนน Carnaby และแน่นอนถ้าเรื่องแดงตอนนั้นโทษของเขาก็คงเป็นประหารชีวิตโดยไม่ต้องสงสัย ตอนนี้คุณตาฆาตกรอายุ 91 ปีและกำลังรักษาตัวจากโรคมะเร็ง และแน่นอนเขาต้องการเคลียร์เรื่องนี้ที่ค้างคาใจและตามหลอกหลอนเขามาตลอดชีวิต คุณตาทหารผ่านศึกไม่สามารถจำชื่อของเหยื่อที่เขาฆ่าได้ ตำรวจจาก Scotland Yard ก็เลยบินไปหาเขาและนำภาพของเหยื่อฆาตกรรมในตอนนั้นและละแวกนั้นให้เขาดู คาดว่าจะเป็นสาวอายุ 26 ปี ชื่อ Margaret Cook ซึ่งตอนนั้นเธอเป็นนักเต้นของคลับแห่งนี้ ในปี 1946 เธอถูกยิงเสียชีวิตที่ทางแคบๆ ใกล้ทางเข้าคลับ ซึ่งตอนนั้นตำรวจเบนเป้าไปสงสัยกรรมกรแถบนั้น แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครเป็นแพะถูกจับเพื่อให้จบคดี และแน่นอนตอนนี้คดีได้ข้อยุติแล้ว ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!! ที่มา: Metro