Tag: จดหมาย
-
ประธานาธิบดี George H. W. Bush ใช้นามแฝงแอบ ‘ชุบเลี้ยง’ เด็กคนหนึ่งมานานถึง 10 ปี
ตัวแทนจากสำนักงานของ George H.W. Bush อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเผยว่า Bush นั้นมีการส่งเงินและจดหมายติดต่อกันเด็กชายชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมาตั้งแต่ปี 2002 George H.W. Bush (ซ้าย) และ Timothy (ขวา) George H.W. Bush นั้นได้ชุบเลี้ยงเด็กชายชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งนามว่า Timothy เขาส่งจดหมายไปให้กับเด็กชายคนนี้ครั้งแรกในวันที่ 22 มกราคม 2002 โดยใช้นามแฝงว่า “George Walker” โดย Bush เริ่มคิดที่จะสนับสนุนเด็กชายคนนี้เพราะ เมื่อปี 2001 เขาได้พบกับองค์การไม่แสวงหากำไร Compassion International ที่ใช้โบสถ์ท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น Bush จึงพบว่าเด็กที่ชื่อว่า Timothy นี้มีความน่าเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ชีวิต แต่ Bush ก็ไม่สามารถส่งเงินหรือของให้กับเด็กคนนี้โดยตรงได้ เขาจึงคิดนามแฝงขึ้นมาตั้งแต่นั้น Bush ส่งของให้กับ Timothy หลายอย่าง เช่น ดินสอสี กระดาษวาดเขียน และอุปกรณ์วาดเขียน เพราะเขาเห็นว่าในข้อมูลส่วนตัว Timothy…
-
หนูน้อย 7 ขวบส่งจดหมายถึงพ่อ ‘บนสวรรค์’ และบุรุษไปรษณีย์ก็ตอบกลับมาแบบน่าร้าก!
ความสัมพันธ์ระหว่างลูกและพ่อแม่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ แม้ผู้เป็นพ่อต้องจากไป ลูกน้อยก็ยังคงคิดถึงและอยากพบเจออยู่เสมอ และความสัมพันธ์อันแนบแน่นดังกล่าว มันก็มักจะนำมาซึ่งความน่ารักและอบอุ่นใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเรื่องต่อไปนี้… คุณแม่ชาวอังกฤษนามว่า Teri Copland ได้โพสต์เล่าเรื่องราวน่าประทับใจลง เฟซบุ๊ก เมื่อลูกชายวัย 7 ขวบของเธอได้เขียนจดหมายฝากให้บุรุษไปรษณีย์นำส่งถึงคุณพ่อที่อยู่บนสวรรค์ และแล้วบุรุษไปรษณีย์ก็ตอบกลับมาทำเอาทั้ง Teri และหนูน้อยต่างเซอร์ไพรส์กันจนหุบยิ้มไม่ได้เลยล่ะ Teri เล่าว่า “เมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาลูกชายของฉันเขียนการ์ดวันเกิดใบนี้และส่งไปรษณีย์ถึงพ่อของเขาบนสวรรค์ และแล้ววันนี้เจ้าตัวน้อยก็ได้รับการตอบกลับจากบุรุษไปรษณีย์ ฉันไม่อาจบอกได้เลยว่าหนูน้อยตื้นตันขนาดไหนที่เขาได้รู้ว่าคุณพ่อของเขาได้รับการ์ดใบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องทุ่มเททำอะไรแบบนี้ก็ได้ คุณแค่มองข้ามมันไปก็ได้จริงไหม แต่นี่คือความใส่ใจที่มอบสิ่งงดงามน่ารักแบบนี้ให้กับเด็กชายที่คุณเองก็ไม่รู้จักมาก่อน ขอบคุณ Royal Mail ที่เติมเต็มความเชื่อมั่นในมนุษย์อีกครั้ง และการกระทำครั้งนี้มันกลายเป็นเหมือนโลกทั้งใบของหนูน้อยเลยล่ะ” หน้าซองจดหมาย หนูน้อยเขียนว่า… “ถึงคุณบุรุษไปรษณีย์ กรุณาส่งการ์ดอวยพรใบนี้ไปส่งที่สวรรค์ให้กับพ่อผมในวันเกิดของท่านทีได้ไหม ขอบคุณครับ” ทาง Royal Mail ก็ตอบกลับมาว่า “ถึงเจส… ขณะที่เรากำลังนำจดหมายของเธอไปส่ง เราก็พบหลายสิ่งที่น่ากังวล เราจึงใช้โอกาสนี้ติดต่อเธอเพื่อบอกเล่าว่าเราต้องเจออะไรบ้างกว่าจะส่งจดหมายให้พ่อเธอที่สวรรค์ได้สำเร็จ มันเป็นภารกิจที่ยาก เราต้องหลบหลีกทั้งดาวฤกษ์และวัตถุอวกาศทั้งหลายระหว่างทางไปยังสวรรค์ แต่อย่างไรก็ตาม มั่นใจได้เลยว่าจดหมายสำคัญของเธอได้ถูกส่งถึงมือของผู้เป็นพ่อแล้ว เป้าหมายหลักของ Royal Mail ก็คือพัสดุของลูกค้าจะต้องถูกส่งอย่างปลอดภัย เรารู้ว่าจดหมายของเธอสำคัญกับเธอขนาดไหน…
-
ผู้อาศัยใหม่เจอ “จดหมายเตือน” ให้ระวังข้าวของให้ดี ‘คนรายได้น้อย’ จะย้ายเข้ามา…
เหตุการณ์เกิดขึ้นกับผู้อาศัยรายใหม่ของบ้านหลังหนึ่งในนิวซีแลนด์ ที่จู่ๆ ก็มีจดหมายจากเพื่อนบ้านมาสอดเอาไว้ในกล่องรับจดหมาย จดหมายเขียนด้วยลายมือมีใจความว่าอีกไม่นานบ้านข้างๆ จะกลายเป็นบ้านของรัฐฯ ที่เปิดให้เช่าในราคาถูก หมายถึงอีกไม่นานจะมีผู้มีรายได้น้อยเขามาอาศัย ให้ “ระวังเอาไว้ จับตาดูทุกสิ่งที่น่าสงสัย” “กรุณาระวังเอาไว้ ผู้ที่จะย้ายเข้ามาอาศัยข้างๆ บ้านคุณคงจะเป็นคนที่มีรายได้น้อย หรือไม่ก็เป็นผู้ที่กรมจัดหางานส่งมา” ข้อความในจดหมายเขียนเอาไว้ “คาดว่าน่าจะราว 2-3 สัปดาห์ก็จะมีผู้อาศัยใหม่เข้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแล้วดูน่าสงสัย โปรดระมัดระวังเอาไว้ให้ดี” ข้อความในจดหมายกล่าว “หากมีข้าวของสูญหาย หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบนถนนสายนี้ กรุณาแจ้งตำรวจและดำเนินการประชุมตรวจตราบ้านใกล้เรือนเคียง” ข้อความกล่าวพร้อมจบด้วยการลงชื่อ “เพื่อนบ้านที่ปรารถนาดี” จดหมายดังกล่าวจั่วหัวกระดาษว่า “เรียนผู้เข้าอาศัย” อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนเกิดความไม่พอใจอย่างมาก “นี่มันเป็นการเหยียดกันชัดๆ เอาจริงๆ ทุกคนต้อนรับผู้อาศัยใหม่กันทั้งนั้น บ้านไหนกันแน่นะที่กล้าส่งจดหมายแบบนี้ไป?” ผู้อาศัยรายหนึ่งกล่าวกับ Stuff NZ. ส่วนอีกรายก็นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กว่าเป็นจดหมายที่ “น่ารังเกียจและน่ากลัว” จริงๆ “ฉันรังเกียจและผวากับการกระทำของคนคนนี้มาก! นี่ขนาดยังไม่รู้เลยนะว่าใครจะเข้ามาอาศัยกันแน่ก็ด่วนตัดสินเขาไปเสียแล้ว แถมเอาไปบอกให้คนอื่นระวังตัวอีก เด็กรุ่นใหม่ๆ จะติดความคิดแบบนี้ไปหรือเปล่าเนี่ย?” สุดท้ายโฆษกของกรมสิทธิมนุษยชนได้ออกมากล่าวแล้วว่าจดหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นการ เหยียดชนชั้น ของมนุษย์ “เป็นเรื่องเศร้าที่ยังมีผู้คนซึ่งตัดสินผู้อื่นจากพื้นฐานของรายได้ หรือพื้นฐานที่ว่าเขาได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลหรือไม่” เขากล่าว …
-
เปิดจดหมายฉบับแรก…จาก ‘เด็กๆ และโค้ช’ กับความในใจที่อยากบอกกับคนที่อยู่ข้างนอก
หลังจากที่ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เริ่มขึ้นก็ผ่านมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว จากการอัปเดตล่าสุดก็พบตัวทั้ง 13 คนแล้วและถือเป็นข่าวดีที่พวกเขายังปลอดภัยอยู่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะพาทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำให้ได้ และล่าสุดทางด้านเพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ก็ได้เปิดเผยจดหมายที่เขียนโดยทั้ง 13 คน เป็นข้อความที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคนที่อยู่นอกถ้ำบ้าง โพสต์ดังกล่าวมีแคปชั่นว่า “ข้อความจากทีมหมูป่าและโค้ช ฝากทีมนักดำน้ำต่างชาติ ออกมาจากเนินนมสาว เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ไม่ต้องเป็นห่วง แข็งแรงทุกคน ออกไปอยากกินอาหารหลายอย่าง ออกไปอยากกลับบ้านเลย คุณครูอย่าให้งานเยอะ ส่วนทีมซีลและหมอภาคย์ ที่ดูแลน้องๆอยู่ สบายดีทุกคน” จะเป็นอย่างไรลองไปอ่านพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… น้องต้น “พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสบายดี ฝากบอกพี่ยอดเตรียมตัวพาไปกินไก่ทอด รักนะครับ” โค้ชเอก “ถึงผู้ปกครองเด็กๆ ทุกคน ตอนนี้เด็กๆ สบายดีกันครับ มีพี่ๆ ทีมงานดูแลเป็นอย่างดี ผมขอสัญญาว่า จะดูแลเด็กๆ ให้ดีที่สุด…
-
หมาขนฟูถูกทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง พร้อมกับจดหมายแสนเศร้าจากเจ้าของเก่า
หลังจากที่หยุดเนื่องในโอกาสวันรำลึกผู้อุทิศตนในสงคราม (Memorial Day) ศูนย์พักพิง Harris County Animal Shelter ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และก็ต้องเจองานตั้งแต่เช้าตรู่เลย ตอนที่เจ้าหน้าที่มาถึงศูนย์พักพิงในตอนเช้า พวกเขาก็เจอกล่องใบหนึ่งวางไว้ในที่จอดรถ พอเปิดดูก็เจอหมาพุดเดิ้ลชื่อ Lee กับจดหมายอีกหนึ่งฉบับ มันถูกเอามาทิ้งไว้ถึงศูนย์พักพิง จดหมายเขียนไว้ว่า “ได้โปรดช่วยดูแลหมาของผมด้วย มันเป็นหมาที่ดี แต่ผมไม่มีเงินดูแลมัน มันชื่อว่า Lee มันว่านอนสอนง่าย ถึงจะเห่าบ้างแต่ก็ไม่เคยกัดใครเลย ได้โปรดอย่าการุณยฆาตมันนะ ผมรักมันมากจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมมีเงินไม่มากพอจะเลี้ยงมัน แล้วก็ขอโทษที่ไม่ได้ตัดขนมันก่อน ผมขอร้อง ช่วยหาบ้านให้มันด้วย” ใจความของจดหมายนั้นชัดเจนมากว่าเจ้าของรักมันมาก แต่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลมัน ถึงอาสาสมัครจะไม่อยากให้เจ้าของทิ้งสัตว์เลี้ยง แต่พวกเขาก็เข้าใจในจุดนี้ดี Kerry McKeel ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เจอเจ้าหมาคิดว่า พายุฮาร์วีย์ที่เข้าโจมตีจนบ้านเรือนเสียหายเมื่อเร็วๆ นี้อาจเป็นสาเหตุให้หลายครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงิน หรือต้องย้ายไปที่อยู่ใหม่ที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ช่วงนี้ก็เลยมีสัตว์ถูกทิ้งมากเป็นพิเศษ เมื่อ Lee เข้ามาในศูนย์พักพิงแล้ว พวกเขาก็จัดการตัดขนให้มันเป็นอันดับแรก เพราะเนื้อตัวมันสกปรกมาก พอตัดขนเสร็จแล้วก็หล่อเชียว หลังจากเจ้าหมาเคยชินกับศูนย์พักพิงแล้ว Lee เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา มันเป็นหมาที่ร่าเริงมากตัวหนึ่ง มันมีความมั่นใจ…
-
หมาอ้อนอยากเดินเล่นต่ออีก และเจ้าของก็มารู้ทีหลังว่ามันเป็นการเดินเล่นครั้งสุดท้าย
ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอน เราไม่มีวันรู้เลยว่าชีวิตจะจบลงวันไหน เราจึงควรทำดีกับคนที่เรารักให้มากที่สุด พอถึงเวลาต้องจากกันจะได้รู้สึกว่าเราทำดีกับเขาที่สุดแล้ว Li Yi (李怡) มีหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Pudding มันอายุได้ 15 ปีแล้ว พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในเมือง Kaohsiung ในไต้หวัน เจ้าหมาเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาท แต่ก็ยังดูสุขภาพดีอยู่หญิงสาวเลยไม่ได้คิดอะไรมาก นี่คือเจ้า Pudding มันเป็นหมาของ Li Yi ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในไต้หวัน เมื่อไม่นานมานี้เธอพามันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ แต่พอถึงเวลาต้องกลับบ้าน ครั้งนี้มันกลับไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ ทำท่าทีว่าอยากจะเดินเล่นรับลมต่อ ซึ่งปกติแล้วมันไม่เป็นแบบนี้ 2 วันต่อมาอาการป่วยของเจ้าหมาก็เข้าจู่โจมอย่างฉับพลัน ทำให้ Li Yi ต้องเสียเพื่อนที่เธอรักที่สุดไปอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วเธอก็คิดได้ว่าที่มันอยากเดินเล่นนานๆ เพราะมันรู้ตัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เดินเล่นอีกแล้ว ด้วยความรักและคิดถึงเจ้า Pudding หญิงสาวก็เลยทำคลิปวิดีโออันหนึ่งให้มัน ซึงเนื้อหาในวิดีโอนั้นเป็นการบอกความในใจจากเธอถึงเจ้าหมา ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องซึ้งกันทั้งนั้น เธอเขียนข้อความในวิดีโอว่า “ฉันขอโทษนะ แกคงรู้อยู่แล้วว่านั่นเป็นการเดินเล่นครั้งสุดท้าย แกก็เลยอยากสูดอากาศให้นานที่สุด แล้วไม่อยากกลับบ้าน…พอกลับมาถึงบ้านแกก็ไม่ขยับอีกเลย” “แกรอฉันกลับไปหาที่บ้านตั้งนาน แต่ฉันก็กลับไปไม่ทันเวลา แกยังลืมตารอฉันจนวินาทีสุดท้าย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการจากกันของเราจะเป็นแบบนี้…วันก่อนเราเพิ่งจะวิดีโอคอลด้วยกันเอง…
-
สาวเจอหมาแก่หน้าบ้าน พร้อมโน้ตจากเจ้านายเก่า ที่ขอให้รับเลี้ยงมัน
แม้จะมีองค์กรมากมายที่พร้อมอ้าแขนรับดูแลสุนัขที่ครอบครัวจะทิ้ง แต่ก็ยังคงมีเจ้าของสัตว์อีกมากที่ยังเอาสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองไม่ต้องการไปทิ้งไว้ตามที่สาธารณะ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับคนในชุมชนและสัตว์เลี้ยงอย่างยิ่ง เมื่อไม่นานมานี้ก็มีหมาแก่ตัวหนึ่งถูกเอาไปทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของหญิงในพื้นที่ โดยที่เจ้าของเก่าเขียนจดหมายเกี่ยวกับมันทิ้งเอาไว้ให้ด้วย ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า “ถึงใครก็ตามที่ได้อ่าน เจ้านี่ชื่อว่า Reese มันเป็นหมาที่ไม่ชอบเด็ก แต่ชอบที่จะอยู่ในที่สงบๆ โปรดช่วยรับมันไว้ดูแลด้วย ฉันเองก็รักมันมาก แต่ไม่มีเวลาให้มันเลย… มันชอบทานอาหารอ่อน แล้วก็ชอบทานอาหารปรุงด้วย แต่เวลามันกินมันอาจจะอ้วกได้ มันชอบเวลาที่มีคนอยู่กับมันแล้วก็มอบความรักให้ ถ้าให้เลือกฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ฉันมีลูกอยู่แล้ว 4 คนเลยไม่มีเวลาให้มัน ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยดูแลมันนะ… จากแม่ของมัน” ถึงหญิงที่เจอมันจะเอ็นดู Reese ที่ถูกทิ้งตอนอายุ 13 ปีแล้ว แต่เธอเองก็มีหมาที่บ้านอยู่แล้ว 3 ตัว จะให้รับมันมาดูแลเพิ่มก็คงไม่ไหว เธอเลยเอาเรื่องของมันไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊กเพื่อหาคนรับเลี้ยงมันแทน รวมทั้งแท็กไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Royal Animal Refuge ที่อยู่ในพื้นที่ด้วย กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ค่อนข้างหัวเสียที่เจอเจ้าของไม่มีความรับผิดชอบเอาหมาไปปล่อยทิ้งไว้อีก แต่พวกเขาก็ส่งคนมาช่วยมันด้วยความเป็นห่วง โดยพามันไปอยู่กับ Robyn Klein ซึ่งเป็นอาสาสมัครของพวกเขาก่อน ระหว่างนี้ก็จะรีบหาเจ้าของใหม่ให้มัน แต่ Suzy Reeves แม่ของ Klein ตกหลุมรักกับมันเข้าซะก่อน เมื่อเธอได้เจอ Reese เธอก็คิดว่าเธอต้องรับเลี้ยงมันเอาไว้ให้ได้…
-
ลูกค้าคอมเพลนไม่อยากให้ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ เข้าร้าน ผู้บริหารโต้กลับ ‘อย่ามาที่นี่อีก’
โดยปกติทั่วไปตามห้างร้านหรือบริษัทต่างๆ มักจะมีกล่องรับความคิดเห็นจากลูกค้าวางไว้เสมอ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อยากให้ผู้เข้ามาใช้บริการได้ออกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงการบริการที่ดียิ่งขึ้น ในบางครั้งก็เป็นคำติชมที่เกี่ยวข้องกับทางร้านโดยตรง แต่บางครั้งก็เป็นการติชมเพื่อเอาความรู้สึกส่วนตัวของลูกค้า หวังจะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตนไม่ชอบนอกเหนือจากการบริการของทางร้าน กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Yuto_yumi_ ผู้ทำงานอยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่ง และได้เห็นจดหมายตอบกลับจากฝ่ายบริหาร ที่มีต่อข้อเสนอแนะของลูกค้าเกี่ยวกับ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ หรือ LGBT ซึ่งข้อความตอบกลับแทบจะไม่น่าเชื่อว่าจะตอบลูกค้าที่ทางบริษัทเคารพได้ถึงขนาดนี้ รายละเอียดของลูกค้าที่แจ้งเข้ามา มีใจความคร่าวๆ ว่า “อย่าให้พวกกลุ่มรักร่วมเพศเข้ามาในร้าน ระยะหลังๆ ฉันเข้ามาที่นี่บ่อยเพราะมีสินค้าราคาถูกและหลากหลาย แต่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เจอ อย่างเมื่อวานมาที่ร้านก็เห็นคู่เกย์เดินจับมือกันออกมาจากลานจอดรถชั้น 1… ปัจจุบันคนพวกนี้ยิ่งมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ ห้างร้านไม่คิดจะจัดการกับคนเหล่านี้สักหน่อยเหรอ? เห็นมามากพอแล้ว ถ้าไม่จัดการอะไรก็จะไม่มาที่นี่อีก แล้วจะแฉบนอินเทอร์เน็ตให้ด้วย” จากคำคอมเพลนดังกล่าวนั้น ถือว่าดูรุนแรงพอสมควร อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้านค้าได้ หากมีคนเห็นพ้องคล้อยตามคำขู่ แต่ทว่าผู้บริหารกลับไม่คิดแบบนั้น…เพราะจดหมายจากสำนักงานใหญ่ชี้แจงชัดเจนว่า “จากข้อสรุปทั้งหมดทางบริษัทขอชี้แจงว่า “กรุณาอย่ามาที่ร้านแห่งนี้อีก” บริษัทของเราไม่ได้คำนึงว่าลูกค้าจะมีรสนิยมรักร่วมเพศหรือไม่ แต่ทุกคนคือลูกค้าของเรา และลูกค้าทุกคนมีความสำคัญ แต่ถ้าหากดูถูกผู้อื่นแล้ว เราจึงไม่อาจต้อนรับท่านได้อีก เพราะฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามาที่ร้านของเราอีก และที่สำคัญพนักงานของเราบางส่วนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มรักร่วมเพศ และเราไม่มีนโยบายไล่ออกจากกรณีนี้ หากท่านมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ ทางบริษัทไม่ได้ตั้งใจจะโต้แย้งท่าน… เพียงแค่ขอร้องว่าอย่าแสดงวาจาหรือกระทำการเหยียบย่ำผู้อื่นต่อหน้ากันแบบนี้ จึงขอความกรุณามาเพียงเท่านี้” …
-
ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ “จดหมายปฏิเสธรับเข้าทำงาน” สุดละมุน แถมมีของขวัญปลอบใจให้…
การเอาใจใส่ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามนับว่าเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะมองเห็น ยิ่งเป็นเรื่องของบริษัทที่กำลังมองหาคนมาร่วมงานด้วย แต่ต้องตอบปฏิเสธกลับไป เนื่องจากเหตุผลร้อยแปด มักจะจบสั้นๆ เพียงแค่บอกว่าไม่รับ หรือไม่ติดต่อกลับเลย… สำหรับบริษัท Kagome บริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับมะเขือเทศ (ซอสมะเขือเทศและน้ำมะเขือเทศ) กลับมีวิธีการปฏิเสธผู้มาสมัครงานที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง และดูน่ารักซะด้วยสิ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @tutuanna888 ออกมาเปิดเผยว่า ได้รับการตอบกลับจากบริษัท Kagome โดยที่ไม่ได้มาในรูปแบบของอีเมล แต่บริษัทส่งกล่องพร้อมกับโน้ตข้อความภายในกล่อง และของขวัญปลอบใจมาให้แทน!! โน้ตดังกล่าวมีใจความดังต่อไปนี้… “พวกเราอยากจะขอขอบคุณอย่างจริงใจ สำหรับการมาสมัครร่วมงานกับบริษัท Kagome พวกเรารู้สึกซาบซึ้งในความสนใจของท่านที่มีต่อเราในฐานะพนักงานคนหนึ่ง และสำหรับเวลาที่ใช้ไปกับการกรอกแบบฟอร์มสมัครงานและเตรียมความพร้อมของเรซูเม่ เพื่อเป็นตัวแทนความขอบคุณ เราจึงขอส่งผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาให้ท่านโดยเฉพาะ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะคิดถึงบริษัท Kagome ในทางที่ดีต่อไปในอนาคตภายภาคหน้า” ภายในชุดกล่องแห่งความห่วงใยนี้ ประกอบไปด้วยจดหมายแสดงความขอบคุณ ที่มาพร้อมกับไก่ปรุงรสมะเขือเทศ และขวดน้ำมะเขือเทศ 100% ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหมด และยังมีข้อความเล็กๆ ที่เขียนติดบนกล่องไว้ว่า… “ของเหล่านี้ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากนัก แต่ขอให้มีความสุขกับสิ่งเหล่านี้พร้อมครอบครัว เพื่อน หรือคนที่คุณรัก” โดยก่อนหน้าที่จะได้รับกล่องนี้…
-
แฟนสาว Avicii เผยความรู้สึก ‘ปวดกายจนถึงขั้วหัวใจ’ หลังการจากไปของ Tim Bergling
ข่าวคราวความสูญเสียของบุคคลผู้มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชื่อดังชาวสวีเดน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2018 ในประเทศโอมาน แฟนเพลงและเพื่อนร่วมวงการต่างร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อไม่นานมานี้ทางครอบครัวก็ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก่สื่อต่างๆ ไปแล้ว และล่าสุดนี้ก็เป็นคราวของแฟนสาวของ Tim ผู้ซึ่งเก็บงำความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเธอกับเขามาเป็นระยะเวลานาน จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา Tereza Kačerová ไม่มีใครรู้เลยว่า Tim นั้นมีสถานะทางความสัมพันธ์อย่างไรกับใครบ้าง ซึ่งหลายๆ คนก็เชื่อว่าเขาโสดในตลอดช่วงเวลาที่ยังมีลมหายใจ แต่ความจริงแล้วเขาคบกับนางแบบสาวชาวเช็ก Tereza Kačerová ผู้เป็นแม่ลูก 1 และเขาก็ยอมรับลูกชายของเธอเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ด้วย Tereza Kačerová และลูกชาย Luka Kačerová โพสต์ภาพข้อความจดหมายเปิดผนึกต่อ Tim ผ่านอินสตาแกรมของเธอ ซึ่งเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่ปิดซ่อนจากสาธารณะมายาวนาน เนื่องจากไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของเขา และทั้งคู่วางแผนจะมีลูกด้วยกัน แต่ท้ายที่สุด Tim ก็จากโลกนี้ไปเสียก่อน… ใจความคร่าวๆ จากโพสต์อินสตาแกรมมีดังต่อไปนี้… …
-
ครอบครัว Tim Bergling ‘Avicii’ เผยสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเขาไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไปแล้ว…
เรื่องราวน่าเศร้ากับการจากไปของดีเจชื่อดังระดับโลก Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชาวสวีเดนวัย 28 ปี ที่ถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณในระหว่างทริปพักผ่อนของเขาในเมืองมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อช่วงวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา Avicii ได้ประกาศหยุดทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2016 เนื่องจากประสบกับปัญหาสุขภาพร่างกายเรื้อรัง อีกทั้งยังมีสัญญานความปวดร้าวภายในจิตใจเกิดขึ้นด้วย Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชื่อดังชาวสวีเดน เสียชีวิตในวัย 28 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน ทางสำนักข่าวและสื่อทางด้านบันเทิงต่างคาดเดาไปถึงกรณีทางด้านอาชญากรรม การลอบสังหาร และการฆ่าตัวตาย ในวันที่ 26 เมษายน 2018 ทางด้านครอบครัวของ Tim Bergling ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก่สาธารณะ โดยที่โฆษกไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ โดยมีใจความดังต่อไปนี้… ภาพของ Avicii พร้อมคุณแม่ Anki Liden และคุณพ่อ Klas Bergling ระหว่างออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในสวีเดน ‘ทิมผู้เป็นที่รักของเรานั้น คือผู้แสวงหา ศิลปินผู้มีจิตวิญญาณอันบอบบาง…
-
คุณยายใจสลายกับการจากไปของสุนัขเพื่อนรัก จนกระทั่งได้อ่านจดหมายสุดซึ้งจากมัน
เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสัจธรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะรู้แบบนั้นแต่เราก็ไม่สามารถทำใจได้ง่ายๆ กับการจากไปของคนใกล้ตัวอยู่ดี คุณตากับคุณยายของ Ashley Bowerman ที่เพิ่งเสียเจ้าหมา Tucker ที่อยู่ด้วยกันมานานไป ก็ยังคงทำใจกับการจากไปของมันไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีข้อความจากเจ้าหมาไว้คอยปลอบประโลมใจ เจ้า Tucker เข้ามาอยู่กับคุณตาคุณยายตั้งแต่มันยังเป็นสุนัขตัวเล็กๆ อยู่เลย มันอยู่กับพวกเขาทุกวันและเป็นส่วนหนึ่งในทุกช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา จนเมื่อไม่นานมานี้มันก็จากไปด้วยวัย 12 ปี ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วบ้าง แต่คุณตากับคุณยายก็ไม่อาจทำใจกับการจากไปของเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาร่วม 10 ปีได้เลย พวกเขาก็เลยเอารูปเจ้าหมาและของเล่นของมันมาวางไว้มุมหนึ่งของบ้าน เพื่อเป็นการระลึกถึงมันตลอดเวลาเหมือนกับมันเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว อย่างไรก็ตามสำหรับคุณยายแล้ว นี่เป็นการสูญเสียที่ทำให้เธอรู้สึกใจสลาย เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรจนกระทั่งไปเจอจดหมายฉบับหนึ่งที่เจ้าหมาเขียนถึงเธอเข้า ในจดหมายมีใจความว่า “ผมอยากให้แม่รู้ว่า แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นลูกหมาตัวเล็กจนถึงตอนที่เราจำเป็นต้องจากกัน แม่ก็ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ตอนนี้ผมได้อยู่ในที่ที่สวยงามและไร้ซึ่งความเจ็บปวดใดๆ แล้ว ผมจะคอยเฝ้ามองดูแม่เหมือนที่ผมทำตลอดมา อยู่ตรงมุมที่หน้าต่างของผม ขอให้แม่มีชีวิตที่สุขสบายนะครับ จาก Tuckie” อันที่จริงแล้วเจ้าหมาไม่ได้เป็นคนเขียนจดหมายหรอก คุณตาเป็นคนเขียนโดยนึกถึงความรู้สึกของมันต่างหาก เขาเขียนมันไว้ตอนช่วงคริสต์มาสปี 2017 เพราะเห็นว่าเจ้าหมาคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก และเขาก็อยากจะมอบมันให้กับคุณยาย ถึงแม้จดหมายจะไม่ได้มาจากเจ้าหมาจริงๆ…
-
‘Bridegroom’s Oak’ ต้นไม้แห่งความโรแมนติก มีอายุกว่า 500 ปี ช่วยสื่อรักมานานร่วมศตวรรษ
ความเชื่อตามท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมานั้น ก็ล้วนแล้วแต่ตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา แต่มักจะมีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นร่วมกันก็คือ ความเชื่อในเรื่องของความรัก กับการกระทำบางอย่าง ในบางสถานที่ จุดประสงค์ก็เพื่อให้รักนั้นสมบูรณ์แบบที่สุด ในบทความนี้ #เหมียวเลเซอร์ จะพาบินไปสู่ประเทศเยอรมนี เพื่อพาท่านไปรู้จักกับต้นไม้ Bridegroom’s Oak มีอายุประมาณ 500 ปี คอยทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง รับสารจากผู้แสวงหาความรักจากทั่วทุกมุมโลก!! ตำแหน่งที่ตั้งของต้น Bridegroom’s Oak นั้น อยู่ในบริเวณเมือง Eutin ประเทศเยอรมนี ซึ่งในปัจจุบันมีที่อยู่ตามไปรษณีย์เป็นของตัวเองแล้ว และมักจะได้รับจดหมายราวๆ 40 ฉบับต่อวันเลยล่ะ ในยุคเทคโนโลยีเฟื่องฟู มีแอปพลิเคชั่นหาคู่และบริการที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นมากมาย การส่งจดหมายบอกรักโรแมนติกแบบดั้งเดิมคงจะยากที่จะได้เจอกับความรัก แต่สำหรับวิธีนี้ก็ยังมีเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากแบบอื่นๆ รอคอยให้ปาฏิหาริย์ทำหน้าที่ของมัน และยังคงได้รับความนิยมแม้จะเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลแล้ว “มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกวิเศษ และโรแมนติกเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้ บนโลกอินเทอร์เน็ต ความจริงและชุดคำถามจะจับคู่คนไว้ด้วยกัน แต่สำหรับต้นไม้ต้นนี้ มันคือความบังเอิญที่สวยงาม ราวกับพรหมลิขิต” Karl-Heinz Martens บุรุษไปรษณีย์วัย 72 ปี กล่าวกับสำนักข่าว BBC…
-
นักเรียนเห็นครูเศร้าที่ต้องเสียหมาไป จึงเขียนจดหมายปลอบใจเพื่อชีวิตที่ต้องเดินต่อไป…
การที่ต้องลาจากกับสิ่งที่ตัวเองรักนั้น ไม่ว่าจะกับใครก็เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากทั้งนั้น ไม่ว่าสิ่งที่จากไปนั้นจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ตามที เวลามันพังไป ตายไป หรือหายไปก็ล้วนแต่ทิ้งที่ว่างไว้ในจิตใจของเราทั้งสิ้น ความเศร้าที่เรารู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ต้องเดินต่อไปในสักวัน Lucie Dunne ก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องสูญเสียบางสิ่งที่เธอรักไปเช่นกัน Lucie นั้นอาศัยอยู่กับคุณแม่ของเธอ Gemma ผู้เป็นคุณครูระดับประถมศึกษา และ Charlie สุนัข โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 18 เดือน ในเมือง กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ มี.ค. 12, 2017 เวลา 3:05pm PDT โชคร้ายที่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Charlie สุนัขประจำบ้านก็จากพวกเธอไปด้วยโรคร้าย “เราพบก้อนเนื้อก้อนใหญ่ที่อกของมัน เราเลยพามันไปหาสัตว์แพทย์ กว่าที่เราจะรู้ตัว มันก็จำเป็นต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะโรคมะเร็ง และเนื้องอกขนาดใหญ่ที่กดเข้าไปในหัวใจของมัน สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยให้มันไปสบาย” โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ ม.ค. 20, 2018 เวลา 10:46am…
-
ผู้เชี่ยวชาญร่วมไขรหัสลับ ของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 จดหมาย 4 ฉบับต้องใช้เวลาร่วม 6 เดือน
เป็นเวลากว่า 500 ปีมาแล้วที่จดหมาย 4 ฉบับของ พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนและหนึ่งในผู้บัญชาการทหารของเขา กอนซาโล เฟร์นันเดซ เดอ กอร์โดบา ได้ทำให้นักประวัติศาสตร์ถึงกับงงงัน เนื่องจากในจดหมายมีการใช้ “รหัสลับ” ที่มีความเฉพาะ และอักษรมากกว่า 200 ตัว ที่ใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร ซึ่งยังไม่มีใครสามารถถอดความเนื้อหาในจดหมายได้กระทั่งทุกวันนี้ แต่สุดท้าย หน่วยสืบราชการลับของสเปนก็ได้ไขปัญหารหัสลับนี้ให้กระจ่างได้ และได้เผยถึงเนื้อหาภายในจดหมายว่ามีการตอบโต้สนทนากันระหว่างผู้สูงศักดิ์สองคน จดหมายนี้อยู่ในยุคสงครามเนเปิลส์ในอิตาลี ช่วง 1-2 ปีแรกของปี 1500 ขณะที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส กำลังต่อสู้กับพระเจ้าเฟร์นันโดและ สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล เพื่อแย่งชิงการปกครองทางใต้ของอิตาลี Jesús Ansón Soro เลขาธิการของพิพิธภัณฑ์กองทัพ Toledo ซึ่งเป็นที่จัดเก็บจดหมายทั้ง 4 ฉบับ ได้กล่าวว่า “ในสถานการณ์สมัยนั้น ช่วงสงครามเนเปิลส์ที่ส่งผลกระทบหลักๆ กับฝรั่งเศสและสเปน รวมไปถึงจักรวรรดิเยอรมัน รัฐสันตะปาปา จักรวรรดิออตโตมัน และนครรัฐอิตาลี มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการรักษาความลับยามติดต่อสื่อสารเรื่องกลยุทธ์การรบและเรื่องการกบฏ เพราะเพียงแค่ละเลยในบางจุดก็อาจทำให้เสียกลยุทธ์ได้” กอร์โดบามีฉายาว่ากัปตันผู้ยิ่งใหญ่ที่นำทัพสเปนให้เคลื่อนไหว ดังนั้น เขาและพระราชาจึงมีการติดต่อกันบ่อยครั้ง…
-
มาดูสิ่งที่เจ้าหมา พยายามจะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่มันคิดกับ ‘แมวเหมียว’ กันเถอะ
เจ้าตูบหรือน้องหมาที่เราเลี้ยง หากมันต้องการจะสื่อสารกับเรา มันอาจจะบอกเราได้ด้วยสีหน้า แววตา และท่าทาง เช่น มันส่ายหาง กระโดดโลดเต้น หรือเข้ามาคลอเคลีย เราจะรู้ได้ทันที่ว่ามันกำลังสนุก แต่บางทีเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เจ้าหมาคิดและรู้สึกกับสิ่งอื่นอย่างไรบ้าง อย่างเช่น เมื่อเราเลี้ยงหมาและแมวด้วยกัน มันจะชอบกันไหมน้อ หรือว่ามันเกลียดกัน มันคิดต่อกันยังไงเราไม่อาจรู้ได้เลย แต่วันนี้ Janet Eve Josselyn สถาปนิกผู้ที่เลี้ยงเจ้าตูบเจ้าเหมียวจนรู้ไส้รู้พุง จึงได้ออกมาแสดงให้เห็นว่า เจ้าตูบมีความในใจเกี่ยวกับเจ้าแมวยังไง โดยสวมบทบาทเป็นเจ้าตูบที่เขียนจดหมายถึงเจ้าของของมันบอกเล่าความในใจที่มันมีต่อเจ้าเหมียวให้เราได้อ่านกัน ไปดูกันเลยว่าเจ้าตูบคิดอะไรอยู่กันนะ… เรียน ผู้ให้อาหารที่น่ารัก ฉันรักเธอนะ โดยเฉพาะเมื่อเธอให้อาหารฉัน แต่สิ่งที่ฉันไม่ชอบคือเจ้าแมว เพราะมันไม่มีสติสตัง ฉันเคยบอกเธอเรื่องนี้แล้วแต่ฉันจะมาถามอีกทีว่า เธอเคยสงสัยไหมว่า เจ้าแมวมันเป็นอะไรของมัน? ฉันไม่ได้หมายถึงว่าทำไมมันไม่วิ่งไล่งับลูกบอล หรือไม่มีเพื่อนฝูงนะ ฉันหมายถึงมันเป็นอะไรถึงตั้งใจนอนได้เป็นชั่วโมงๆ มันขึ้เกียจหรือเปล่า บางทีมันก็มองฟ้าไปเรื่อยๆ หรือว่ามันเป็นโรคจิตกันนะ เธอต้องสงสัยแน่เลยว่าในหัวเล็กๆ ขนปุยๆ ของเจ้าแมว ยังมีสมองที่ทำงานได้อยู่หรือเปล่า อีกอย่างก็คือ ทำไมเจ้าแมวมันกินข้าวนานเหลือเกิน ให้ตายเถอะ ชามเล็กแค่นั้นฉันกินหมดได้ในไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่เจ้าเหมียวกลับเคี้ยวช้าๆ ในแต่ละคำจนฉันคิดว่าฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มันเลียของเปียกๆ ราวกับมันกำลังเลียไอติมอยู่อย่างนั้นแหละ…
-
ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ
ในการอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคู่รักก็ตาม เราควรจะต้องตกลงกับผู้ร่วมอาศัยว่าจะต้องมีกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังจนแตกหักกันได้ สาว Kath Rose นั้นแต่งงานกับสามีมา 8 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้สามีของเธอเขียนจดหมายถึงเธอฉบับหนึ่งเนื่องจากทนพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของเธอไม่ไหวแล้ว โดยในจดหมายระบุกฎการใช้ห้องน้ำที่เขาอยากให้เธอทำตาม 7 ข้อด้วยกัน จดหมายของสามีถึงภรรยา เนื้อหาในจดหมายของเขากล่าวถึงการรักษาความสะอาดในห้องน้ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น เขาอยากให้เธอปิดฝายาสีฟันหลังใช้ อยากให้เธอเอาขยะออกไปทิ้ง และอยากให้เธอกดชักโครกทุกครั้งด้วย นอกจานั้นก็เป็นเรื่องของสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอใช้ร่วมกับเขา และทิ้งท้ายไว้ว่าเขารักเธอนะแต่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ห้องน้ำทีเถอะ เธอบอกถึงความคิดเห็นที่มีต่อจดหมายฉบับนี้ว่า “นี่น่าจะเป็นการเขียนเตือนในแบบของเขาเฉยๆ แต่มันก็เป็นการเขียนเตือนครั้งแรกจากสามีของฉัน ฉันหวังว่ามันจะเป็นการเตือนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้รับ … เขาชี้ให้ฉันเห็นแล้วว่ากฎระเบียบการใช้ห้องน้ำร่วมกันนั้นสำคัญมากแค่ไหน และยังทำให้ฉันรู้ด้วยว่าการเตือนกันตรงๆ นั้นก็สำคัญด้วย การใช้ห้องน้ำร่วมกันของเราอาจจะบ่งบอกก็ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นอย่างไร” Zarife Hardy ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนมารยาทแห่งประเทศออสเตรเลียเองก็บอกเช่นกัน ว่าการใช้ห้องน้ำร่วมกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกัน เธอกล่าวถึงกฎการอยู่ร่วมกันข้อหนึ่งว่า “ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คุณควรจะรักษาความสะอาดและไม่ทิ้งข้าวของไว้ระเกะระกะ ยิ่งเมื่อตอนคุณใช้ห้องน้ำแล้วโปรดอย่าทำให้ห้องน้ำสกปรกไม่ว่าจะเป็นการใช้ส้วมหรืออ่างล้างหน้าก็ตาม” เธอย้ำอีกว่าไม่มีใครอยากเข้ามาใช้ห้องที่สกปรกต่อหรอก จดหมายฉบับนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลและจุดประเด็นสนทนาในหมู่ชาวเน็ตเอง แม้ว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะรู้สึกตลกกับจดหมายฉบับนี้แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนไม่พอใจที่สามีของ Rose เขียนจดหมายเช่นนี้ ทำไมไม่พูดกันตรงๆ เขาขี้ขลาดมาก ถ้าฉันได้รับจดหมายแบบนี้ฉันคงโกรธมากแน่ๆ ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็เห็นใจและเข้าข้างฝั่งสามีที่เขียนจดหมายขึ้นมา…
-
‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้
เมื่อพูดถึงธรรมเนียมการปฏิบัติในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านตามภัคตาคารต่างๆ จะต้องมีการให้ทิปกับพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะถือเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยในงานบริการ บวกกับทิปเหล่านี้จะถูกนับรวมเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินทิปขั้นต่ำก็ขึ้นอยู่กับภัคตาคารจะเป็นผู้กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดอยู่ที่ 15-20% ของราคาอาหารในมื้อนั้นๆ กระดาษโน้ตคำขอโทษ 1 แผ่นจากตัวแทนของกลุ่มเด็กหญิง แต่ทว่าเมื่อกลุ่มเด็กหญิง 4 คน อายุประมาณ 13 ปี กลุ่มหนึ่งในเมือง Los Angeles กลับให้ทิปบริกรในจำนวนเพียงแค่ 3.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 104 บาท) จากมูลค่าราคาอาหารที่สั่งไปเกือบ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 บาท) ถึงแม้จะได้รับคำขอบคุณจากกลุ่มเด็กหญิงแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้ แถมยังทำให้รู้สึกหัวเสียอีกต่างหาก แต่เขากลับมารู้ในภายหลังว่า พวกเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้กับเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอเพิ่งจะเคยออกมาทานอาหารด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และไม่รู้ถึงธรรมเนียมการให้ทิป ใจความของการขอโทษรวมกันเป็น 2 หน้ากระดาษ Seminole ชายผู้ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ Imgur ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตคำขอโทษจากกลุ่มเด็กหญิง โดยได้รับภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ด้วยใจความดังต่อไปนี้… …
-
‘ถ้าหนูจากไป แม่คงกลับมา’ จดหมายจากลูกสาวผู้ป่วยมะเร็ง ฝากถึงพ่อให้หยุดการรักษาเธอ
โรคมะเร็งเป็นโรคที่รุนแรงและยากที่จะเยียวยาได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะหาเงินมาจ่ายตลอดการรักษาได้ เด็กหญิงวัย 7 ขวบนามว่า Zhang Jiaye ที่อาศัยอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเจียมูซิ มณฑลเฮย์หลงเจียง จีนตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่ปี 2016 และกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เธอได้เขียนจดหมายสุดเศร้า ขอร้องให้หยุดการรักษาโรคมะเร็งของเธอ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นสูงเกินกว่าที่พ่อของเธอจะจ่ายไหว ซึ่งพ่อของเธอมีหนี้สินกว่า 590,000 หยวน หรือราวๆ 2,900,000 บาท จากการรักษาถึง 18 ครั้ง ซ้ำแม่ยังทิ้งเธอไปในเดือนกรกฎาคมปี 2017 และติดต่อไม่ได้อีกเลย จดหมายที่เขียนโดย Zhang มีเนื้อหาว่า “พ่อ หนูเห็นพ่อร้องไห้วันนี้ หนูรู้ว่าพ่อเสียเงินไปมากกับค่ารักษาของหนูจนพ่อเงินหมด ส่วนแม่ก็ทิ้งพ่อไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหนู ถ้าหนูจากไป แม่คงจะกลับมา และพ่อก็จะมีความสุขอีกครั้งเหมือนเมื่อก่อน หนูไม่อยากรักษาอีกแล้ว กลับบ้านกันนะ” พ่อของเธอกล่าวหลังจากที่หมอวินิจฉัยลูกสาวของเขาว่าเป็นโรคลูคิเมียว่า “ผมรู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าได้ถล่มลงมา” หลังจากนั้นจดหมายของ Zhang ฉบับนี้ก็ได้มีการเผยแพร่ไปบนอินเตอร์เน็ตจนทำให้ชาวเน็ตหลั่งไหลกันเข้ามาบริจาคเงินให้เป็นค่ารักษาพยาบาลของเธอเป็นจำนวนกว่า 600,000 หยวน หรือประมาณ 3,000,000 บาท …
-
หญิงสาวป่วยมะเร็งวัย 27 ปีเขียนจดหมายล้ำค่า บอกเล่าบทเรียนของชีวิต ก่อนเธอจะจากไป…
ช่วงอายุ 20-30 ปี คงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนหนังสือ เริ่มต้นงานที่ตนเองสนใจ ไต่เต้าตำแหน่งในสายงาน ออกไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิต หรือสังสรรค์กับหมู่เพื่อน ซึ่งในวัยนี้เราจะทำอะไรก็ได้ที่ใจนึกเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมากในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว การที่เราอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความว่าเรายังเหลือเวลาในชีวิตอีกมาก มีคนหลายคนที่ต้องจากโลกนี้ไปทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ Holly Butcher เองก็เป็นคนหนึ่งในนั้นเช่นกัน เธอจึงอยากบอกให้ทุกคนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม Holly Butcher Butcher เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เธอป่วยเป็นโรค Ewing’s sacroma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งที่มักพบในคนอายุน้อย เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เธอก็เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิต และเตรียมพร้อมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เธอจึงได้เขียนบทเรียนในชีวิตที่เธอได้เรียนรู็ โพสต์ลงในเฟสบุ๊กของเธอ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจให้หลายๆ คนได้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตน จะได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น โดยมีใจความบางส่วนดังนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนหยุดกังวลกับเรื่องยิบย่อยในชีวิต และคิดให้ได้ว่าเราทุกคนล้วนมีจุดจบเหมือนกันหมด ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีค่า ถ้ามองข้ามเรื่องแย่ๆ ในชีวิตไป” “ในเวลาที่คุณชอบบ่นถึงเรื่องเล็กๆ…
-
คุณยายวัย 83 เขียนจดหมายถึงเพื่อน เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต และควรค่าแก่การอ่าน…
ชีวิตคือการแข่งขัน แข่งกันเลื่อนตำแหน่ง แข่งกันมีรูปร่างที่ดี แข่งกันประกวดนู่นประกวดนี่ มันคือการแสวงหาแบบไม่สิ้นสุด เราไม่มีเวลามาให้เสียซักนาที บางทีสิ่งที่ต้องการก็ไม่ยอมมา หรือบางทีก็มาเวลาที่สายไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอจดหมายที่เขียนจากผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 82 ปี ส่งถึงเพื่อนของเธอ ซึ่งในจดหมายนี้เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ซึ่งเราอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน “ถึง เบอร์ธา ฉันอ่านมากขึ้นและปัดฝุ่นน้อยลง ฉันนั่งในสนามและชื่นชมทิวทัศน์โดยที่ไม่เข้าไปยุ่งกับพืชพันธุ์ในสวน ฉันใช้เวลาร่วมกับครอบครัวกับเพื่อนมากขึ้น และทำงานน้อยลง เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ชีวิตควรเป็นรูปแบบของประสบการณ์ในการลิ้มลองไม่ใช่การอดทน ฉันกำลังพยายามที่จะจดจำช่วงเวลานี้และหวงแหนพวกเขาให้มากๆ ฉันไม่ได้ ‘ประหยัด’ อะไร เราใช้เครื่องครัวเซรามิกต่างๆ สำหรับทุกเหตุการณ์พิเศษ เช่นการลดน้ำหนักหรือดอก Amaryllis บาน ฉันสวมเสื้อคลุมดีๆ ไปตลาด ทฤษฎีของฉันคือหากฉันดูร่ำรวย ฉันสามารถจ่ายเงิน 28.49 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 918 บาท) เพื่อซื้อกระเป๋าใบเล็กๆ จากร้านขายของชำได้ ฉันไม่ได้ประหยัดน้ำหอมสำหรับงานเลี้ยงที่พิเศษ แต่ใส่มันเหมือนคนขายในร้านคอมหรือเทลเลอร์ที่ธนาคาร “สักวัน”และ”หนึ่งในวันเหล่านี้” กำลังสูญเสียการจับใจความประโยคของฉัน ถ้ามีอะไรที่มันคุ้มค่าที่จะได้เห็นได้ยินหรือได้ทำ ฉันอยากที่จะเห็น ได้ยินและทำมันเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ จะทำอะไรกันหากพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะไม่มีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับมัน ฉันคิดว่าพวกเขาจะเรียกครอบครัวและเพื่อนสนิทมา พวกเขาอาจจะเรียกเพื่อนเก่าบางคนเพื่อขอโทษและแก้ไข้…
-
เด็กน้อยเขียนจดหมายสุดเศร้าถึง “ลุงซานต้า” จนชาวเน็ตถึงกับหดหู่ แต่ก็มาฮาแตกตอนท้าย!!
ปกติแล้วเวลาเราให้เด็กตัวเล็กๆ อายุราวๆ 5-6 ขวบเขียนจดหมายอะไรสักอย่าง เรามักจะได้คำตอบสุดไร้เดียงสาและใสสะอาดจากพวกเขา แต่เคยคิดไหมว่าปัจจุบันความคิดของเด็กอายุเท่านั้น มันได้เลยไปไกลกว่าที่เราคาดเสียแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตนามว่า Sarah McCammon NPR ได้โพสต์ภาพจดหมายของลูกชายวัย 6 ขวบของเธอ ซึ่งเป็นจดหมายเขียนถึงซานตาคลอสในคาบเรียนของเขา โดยปกติเราคงคิดว่ามันไม่มีอะไรก็แค่จนหมายถึงซานตาคลอส แต่จริงๆ มันมีอะไรมากกว่านั้น เพราะเนื้อหาภายในมันกลับสิ้นหวังสุดๆ ราวกับให้คนที่ผ่านชีวิตมาเยอะแยะเขียนเลยล่ะ และนี่ก็คือเนื้อหาภายในจดหมายดังกล่าว “ถึงซานตาคลอส ซานต้า จดหมายฉบับนี้มันไม่มีอะไรหรอก เพราะผมเขียนใช้แค่ในคาบเรียนเท่านั้น ผมรู้ว่ารายชื่อเด็กเกเรของคุณมันว่างเปล่า รายชื่อเด็กดีที่คุณจะให้ของขวัญก็ว่างเช่นกัน และแน่นอนว่าชีวิตคุณก็ว่างเปล่า (เพราะซานต้าไม่มีอยู่จริง) คุณไม่ได้รับรู้ปัญหาอะไรในชีวิตผมเลยสักนิด เอาเป็นว่าลาก่อน ด้วยรัก ผมไม่บอกชื่อผมกับคุณหรอก” งงเลยใช่ไหมว่านี่คือจดหมายที่เด็ก 6 ขวบจริงๆ อย่างนั้นเหรอ แล้วเราก็คงสงสัยกันใช่ไหมว่าเด็ก 6 ขวบจะต้องมาเจอปัญหาหนักหนาอะไรกัน หลังจากเห็นโพสต์นี้ครั้งแรก ชาวเน็ตต่างพากันแชร์ด้วยความหดหู่ใจ เพราะเนื้่อความของจดหมายบ่งบอกถึงความเศร้า ความว่างเปล่า และปัญหาภายในจิตใจของเด็กน้อยคนนี้ ที่ทุกๆ คนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สุดท้ายคำเฉลยก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนถึงกับโล่งใจ เพราะภายหลังแม่ของเขาก็ได้ออกมาเฉลยว่าไอ้เจ้า ‘ปัญหา’ ที่ว่านั่นก็แค่เขาทะเลาะกับพี่ชายเท่านั้นเอง …
-
ผอ.โรงเรียนส่งจดหมายถึงผู้ปกครอง เพื่อให้พวกเขาเข้าใจลูกๆ แม้จะได้คะแนนสอบเท่าไหร่ก็ตาม
หลายๆ คนที่เป็นหนึ่งในแก๊งเด็กหลังห้องคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับกระดาษซองขาวๆ ที่จ่าหน้าซองเป็นชื่อของคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกลับมาถึงบ้านพร้อมกับเห็นเจ้ากระดาษซองนี้อยู่บนโต๊ะกินข้างล่ะก็… ไม่อยากจะนึกภาพต่อจากนั้นเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ แต่บางครั้งจดหมายจากทางโรงเรียนนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเสมอไปหรอก อย่างเช่นจดหมายของโรงเรียนมัธยมจากประเทศสิงคโปร์ที่ส่งถึงผู้ปกครองนักเรียนทุกคนก่อนที่การสอบจะเริ่มต้นขึ้น!! ชาวเน็ตรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า saraboulos ได้โพสต์ภาพของจดหมายฉบับดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งข้อความในจดหมายดังกล่าวนั้นได้บอกกับผู้ปกครองให้เข้าใจในตัวลูกๆ ของพวกเขา พร้อมกับบอกว่าพวกเด็กๆ อาจจะทำบางอย่างได้ดีมากกว่าการสอบ และในโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่อาชีพหมอ ทนาย และวิศวกรเท่านั้น “แด่เหล่าผู้ปกครองที่รัก… การสอบของลูกๆ คุณจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลกับคะแนนสอบของพวกเด็กๆ แต่ได้โปรดจำไว้ว่าในบรรดานักเรียนที่สอบเหล่านี้ บางคนอาจเป็นศิลปินที่ไม่จำเป็นต้องเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์ หรือบางคนที่อยากจะเป็นนักลงทุนนั้นก็อาจะไม่ต้องสนใจในวิชาประวัติศาสตร์หรือวรรณกรรม เรามีเด็กบางคนที่เป็นนักดนตรีที่คะแนนวิชาเคมีไม่ได้จำเป็นอะไรกับชีวิต เรามีเด็กบางคนที่เป็นนักกีฬาที่ความแข็งแกร่งทางร่างกายสำคัญกว่าคะแนนวิชาฟิสิกส์ ถ้าหากว่าพวกเขาทำคะแนนในวิชาต่างๆ เหล่านี้ได้ดีนั้นก็เป็นเรื่องที่เยี่ยม แต่ถ้าหากว่าพวกเขาทำได้ไม่ดีล่ะก็ อย่าพรากความมั่นใจและความภูมิใจของพวกเขาไป และบอกลูกๆ ว่ามันก็แค่การสอบไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต เราอยากให้พวกคุณบอกเขาว่าไม่ว่าพวกเขาจะได้กี่คะแนนคุณก็ยังคงรักพวกเขาและจะไม่ตัดสินพวกเขาจากคะแนนสอบ ได้โปรดบอกกับพวกเขาแบบนี้ อย่าให้คะแนนสอบมาทำลายความฝันและความสามารถของพวกเขา ได้โปรดอย่าคิดว่ามีแต่หมอกับวิศวกรเท่านั้น ที่จะมีความสุขบนโลกใบนี้ได้” ข้อความบางส่วนจากจดหมายของทางโรงเรียน และนี่คือจดหมายฉบับนั้น ข้อความจากจดหมายเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายๆ คนควรพูดปลอบใจพวกเด็กๆ เวลาที่พวกเขาทำเรื่องบางเรื่องไม่ได้ และอย่างที่ทางโรงเรียนบอกไม่ได้มีแค่บางอาชีพเท่านั้นที่จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ที่มา inspiremore
-
Pippa น้องหมาที่ชอบการรับจดหมาย จนไปรษณีย์ต้องแอบเขียนให้เองในวันที่ไม่มีส่ง
การเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีของเจ้านายอย่างเดียวมันอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะปัจจุบันบรรดาน้องหมาทั้งหลายได้หันมาทำหน้าที่รอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ เพื่อนำไปส่งให้ถึงมือของเจ้านายแล้วนะ และนี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของ Pippa น้องหมาพันธุ์โกลเด้นที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับ Martin Studer บุรุษไปรษณีย์เป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะว่าเขามักจะมาส่งจดหมายที่บ้านเจ้านาย Pippa เป็นประจำทุกวันยังไงล่ะ นอกจากนี้ Martin ยังได้โพสต์รูปภาพของ Pippa พร้อมแชร์เรื่องราวของมันให้ผู้คนได้อ่านลงบนเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเจ้าหมาตัวนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในรายการโปรดของเขาไปซะแล้ว Pippa มักจะมารอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ในทุกๆ วัน เพราะเมื่อเห็น Martin มันก็จะรีบวิ่งเข้ามาทักทาย พร้อมกับรอคอยจดหมายที่จะได้รับ จนกระทั่งในวันที่ไม่มีจดหมายมาส่งให้เจ้านาย นั่นทำให้ Pippa ต้องนั่งรอเก้อทั้งวันอย่างน่าสงสาร ด้วยเหตุนี้ทำให้ Martin ได้ตัดสินใจทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง เพราะเขาเองก็ไม่อยากเห็นมันรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นเขาเลยต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมามอบให้กับมัน พร้อมเขียนข้อความลงในใบแจ้งการจัดส่งพัสดุว่า “จดหมายสำหรับ Pippa ♡♡” “Pippa ได้ออกมานั่งรอรับจดหมายในทุกๆ วัน แต่บางครั้งก็ไม่มีจดหมายสำหรับเจ้านายของมัน นั่นทำให้ผมต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมาแทน” Martin เขียนไว้ในเฟซบุ๊กของเขา ที่สำคัญเขายังได้ออกมาเผยอีกว่า การที่ได้มาพบกับเจ้า Pippa…
-
จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…
ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะพบเจอแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ที่จะต้องมีการจากลาเสมอ แน่นอนว่าการจากลาย่อมเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ในความเศร้านั้น ก็ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ เรื่องราวสุดซึ้งนี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาจาก Hannah Summers หญิงสาวในรัฐ Indiana ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้บอกว่าแม่ของเธอ Peggy ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งที่ไตขั้นที่ 4 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา นี่คือรูปถ่ายของเธอกับแม่ในช่วงที่ป่วย Hannah ได้บอกว่าแม่ของเธอเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกและดูเหมือนว่าแม่ของเธอรู้ว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิตเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ลูกๆ ของเธอ โดยในจดหมายที่ Peggy ทิ้งไว้ให้นั้นเต็มไปด้วยข้อความที่แสดงถึงความรักที่มากล้นที่เธอมีต่อ Hannah รวมถึงคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่างๆ จดหมายฉบับสุดท้ายจากแม่ถึงลูกสาว “ถึง Hannah ลูกรัก ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แสดงว่าการผ่าตัดเป็นไปไม่ดีนัก แม่ต้องขอโทษลูกด้วย แม่ได้พยายามจะทำให้ดีที่สุดแล้วที่จะเอาชนะโรคร้ายนี้ แต่แม่เดาว่าพระเจ้าคงต้องมีสิ่งอื่นที่อยากจะให้แม่ทำมากกว่า จงตั้งสติให้ดี สิ่งร้ายๆ มักเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งเราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันไม่ว่ามันจะทำให้เราเจ็บปวดสักเท่าไหร่” “แม่อยากให้ลูกมีความสุขและใช้สิ่งที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับลูก ในอนาคตลูกจะต้องเป็นพยาบาลที่แสนวิเศษเหมือนกับที่ลูกเป็นลูกที่แสนวิเศษสำหรับแม่ พยายามตั้งใจเรียนเข้าไว้และไม่ต้องกังวลเรื่องงานมากนัก” “จงใช้ความอดทนกับพ่อของลูกเพราะนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเขาและเขาอาจต้องการเวลาที่เยียวยาสักหน่อย ลูกและพ่อของลูกต้องต้องหัดพึ่งพาคนอื่นบ้างรวมถึงพูดคุยกันให้เยอะขึ้น ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองคนถนัดนักแต่จงพยายายามและอย่ายอมแพ้ จำเอาไว้ว่าลูกมีผู้คนมากมายที่รักลูกอยู่ฉะนั้นลูกควรไปพูดคุยกับพวกเขาให้บ่อยขึ้น” “ใช้สัญชาตญาณของลูกในการทำสิ่งต่างๆ เช่นอย่าไปไหนคนเดียวและอย่าลืมที่จะเอาชุดปฐมพยาบาลไว้ในรถของลูกในช่วงฤดูหนาว พยายามห่างจากปาร์ตี้เข้าไว้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องดี พวกหนุ่มๆ ก็เหมือนกัน พวกเขาอาจไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด…
-
หญิงสาวเขียนจดหมายใส่ขวดเอาไปลอยทะเล… 30 ปีผ่านไป มันกลับมาหาเธอแบบไม่น่าเชื่อ
คนสมัยก่อนมักจะเขียนข้อความสำคัญ อย่างเช่น ข้อความช่วยเหลือ การค้นพบสิ่งใหม่ๆ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วใส่ขวดก่อนจะเอาไปลอยน้ำ หวังจะให้ข้อความไปถึงบุคคลตามเป้าหมาย แต่หญิงสาวจากเซาท์แคโรไลนาคนนี้กลับมีประสบการณ์ในการลอยข้อความใส่ขวดที่แปลกออกไป เพราะหลังนำจดหมายไปลอยทะเลแล้ว มันดันกลับมาหาเธอในอีก 30 ปีต่อมา ย้อนกลับไปเมื่อ Miranda Chavez อายุเพียง 8 ขวบ เธอได้ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดกับพ่อแม่ที่ชายหาด Edisto Beach ในเซาท์แคโรไลนา ขณะที่เด็กหญิงเดินเล่นตามชายฝั่ง เธอก็นึกสนุกขึ้นมา จึงได้เขียนจดหมายใส่ขวด ก่อนจะนำไปลอยทะเล แต่ Chavez จำได้ว่าคุณแม่ให้เขียนวันที่ลงไปด้วย เผื่อจะมีคนเจอในภายหลัง ดังนั้นเธอจึงระบุวันที่วันนั้นเอาไว้ด้วยคือ วันที่ 26 กันยายน ปี 1988… เธอลอยมันไปโดยไม่รู้ว่าใครจะพบมัน หรือจะมีใครเจอมันหรือเปล่า จนกระทั่งเกือบ 30 ปีต่อมา ขณะที่ Linda Humphries และสามี David กำลังเดินทางไปที่เกาะ Sapelo นอกชายฝั่งจอร์เจีย เพื่อทำความสะอาดขยะและเศษซากต่างๆ หลังจากเกิดพายุเฮอริเคนเออร์ม่า ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังทำความสะอาด พวกเขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็นขวดที่มีจดหมายอยู่ข้างใน แม้จดหมายเปียกไปบ้าง…
-
หญิงสาวรู้ความจริงว่าเธอและแม่ของเธอมีพ่อคนเดียวกัน จากจดหมายที่แม่เขียนทิ้งไว้
การข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญ และบางครั้งปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอย่างเช่นคนในครอบครัวของคุณ และที่หนักว่านั้นอาจจะมาจากฝีมือของคนที่เรียกตัวเองว่า “พ่อ” ด้วยซ้ำไป เหมือนกับเรื่องราวของหญิงสาวผู้นี้ Jodi Cahill หญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 38 ปี ได้ทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจของแม่เธอ หลังจากที่เธอได้รับจดหมายจากคุณแม่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน และรู้ความจริงว่าเธอกับแม่ของเธอนั้นมีพ่อคนเดียวกัน!! “แม่บอกฉันว่า ‘มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องบอกเธอว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือใคร อันที่จริงแล้วเธอกับฉันมีพ่อคนเดียวกัน’” หญิงสาวกล่าว Jodi พบว่าแม่ของเธอนั้นถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและใช้กำลังเมื่อตอนที่แม่ของเธอยังอายุน้อยๆ จากจดหมายที่แม่ของเธอเขียนไว้ “Jodi เธอกับแม่มีพ่อคนเดียวกัน เมื่อตอนที่แม่เด็กๆ แม่ถูกพ่อแท้ๆ ทารุณและทำร้ายร่างกายทุกรูปแบบ คืนหนึ่งแม่ถูกข่มขืนและจากนั้นก็ตั้งครรภ์ แม่ไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย” บางส่วนจากเนื้อหาในจดหมายของแม่ที่เขียนถึง Jodi จากจดหมายดังกล่าวทำให้ Jodi เข้าใจถึงความรู้สึกของแม่เธอ และสิ่งที่แม่ทำกับเธอไม่ดีตอนเด็ก พร้อมกับทิ้งเธอไว้กับคุณยายของเธอ “ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความผิดปรกติทางใจมาตลอด และตอนนั้นฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำกับฉันเลย ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกแย่มากๆ ทุกครั้งที่มองมาที่ฉัน และตอนนี้ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้แม่ของ Jodi ยังได้เขียนเล่าถึงความเจ็บปวดของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธออีกว่า “เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตพอ ลูกอาจจะคิดว่าแม่บ้า แต่สิ่งที่แม่เป็นอยู่นั้นเค้าเรียกว่าอาการป่วยทางจิตหรือ Post Traumatic Stress ตอนนี้แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะในเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นก็ยังคงมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ นั่นก็คือลูกนั่นเอง Jodi”…
-
จดหมายลึกลับในศตวรรษที่ 17 เขียนโดยแม่ชีที่ถูกปีศาจครอบงำ เพิ่งได้รับการถอดรหัสบางส่วน…
Maria Crocifissa della Concezione หรือเรียกสั้นๆ ว่า Maria เธอเป็นแม่ชีในศตวรรษที่ 17 โดยมีตำนานเล่าว่าเธอถูก Lucifer จอมมารแห่งนรกเข้าครอบงำ และในปี 1676 เธอก็ได้เขียนจดหมายลึกลับฉบับหนึ่งเอาไว้ที่สำนักนางชี Palma di Montechiaro จดหมายลึกลับที่ซาตานใช้ร่างของเธอเขียนเอาไว้ ไม่มีใครสามารถไขปริศนาได้จนกระทั่ง 341 ปีต่อมา กลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอิตาลี ก็ได้ทำการถอดรหัสคำแปลที่อยู่บนจดหมายออกมาได้ โดยใช้โปรแกรมถอดรหัสที่ได้ค้นพบบนเว็บไซต์สายมืด และได้พบว่าข้อความที่ปรากฏบนในจดหมายเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะมันได้อธิบายถึงพระเจ้า และพระเยซูว่าเป็น “ตัวถ่วง” สำหรับ Maria เธอได้เข้ามาอยู่ในสำนักนางชีเมื่อตอนที่อายุ 15 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า Isabella Tomasi โดยเช้าวันหนึ่งในปี 1676 เธอได้เผยว่า… เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อความลึกลับที่ถูกเขียนลงบนจดหมาย โดยเธอได้บอกน้องสาวของเธอว่า เธอกำลังถูกซาตานครอบงำ และบอกให้เธอเขียนข้อความเหล่านี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายปี ข้อความที่อยู่ในจดหมายก็ยังคงเป็นปริศนา และยังไม่มีแม่ชีคนไหนสามารถแปลข้อความลึกลับที่ Maria เขียนลงบนจดหมายได้เลย และเราก็ต้องขอขอบคุณทีมงานจากศูนย์วิทยาศาสตร์ Ludum ในคาตาเนีย ประเทศอิตาลี…
-
เปิดจดหมาย “รักต้องห้าม” ของทหารหนุ่ม 2 นาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามและพร้อมจะเบ่งบานได้ทุกๆ ที่ แม้แต่ควันปืนจากสงครามเองก็ไม่อาจจะขัดขวางสิ่งที่สวยงามนี้ได้ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการค้นพบจดหมายของนายทหารหนุ่มท่าหนึ่งนามว่า Gilbert Bradley ที่เขียนโต้ตอบกับคู่รักของเขาโดยใช้ลายเซ็นต์ว่า G ซึ่งภายหลังมีการสืบจนทราบว่าตัวอักษรดังกล่าวนั้นหมายถึงชายที่ชื่อว่า Gordon และทหารหนุ่มผู้นี้กำลังตกหลุมรักเพศเดียวกันอยู่ โดยจดหมายดังกล่าวถูกนำมาเปิดเผยหลังจากที่ Bradley เสียชีวิตไปเมื่อปี 2008 จากข้อมูลที่ปรากฎบอกว่า Bradley นั้นไม่ได้ต้องการที่จะเป็นทหารตั้งแต่แรก เขาแกล้งป่วยเป็นโรคลมชักเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นทหาร แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ในปี 1939 เขาถูกส่งตัวไปประจำอยู่ที่ Park Hall Camp ในเมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนหน้าที่เขาจะถูกส่งไปประจำการในพื้นที่ดังกล่าว ในปี 1938 เขาและนาย Gordon Bowsher ได้พบรักกันก่อนแล้วหลังจากที่ทั้งสองไปท่องเที่ยวในวันหยุดด้วยกัน ฝ่าย Bowsher นั้นมาจากครอบครัวนักธุรกิจ โดยพ่อของเขาได้เปิดบริษัทขนส่งและเป็นเจ้าของไร่ชา ในช่วงสงคราม Bowsher ได้เข้ารับการฝึกทหารและถูกส่งไปประจำการทั่วประเทศ สาเหตุที่พวกเขาต้องสื่อสารกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ก็เพราะว่า ณ เวลานั้นการรักร่วมเพศถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และถ้าหากมีการสืบทราบว่าชายในกองทัพมีพฤติกรรมดังกล่าวอาจมีโทษสูงถึงขั้นถูกยิงเป้าเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ความรักของพวกเขาจบลงแบบที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ เพราะในระหว่างการรบ Bradley ถูกส่งตัวไปยังสก๊อตแลนด์ และที่นั่นเขาได้พบรักกับนายทหารหนุ่มคนอื่นอีก 2 คน ชายหนุ่มเขียนเล่าถึงความรักครั้งใหม่ของเขาให้คุณ Bowsher…
-
ผู้หญิงคนหนึ่งส่งจดหมายเชิญ Obama ให้มางานแต่งของเธอ โดยไม่คิดว่าเขาจะตอบด้วย!!
การที่เราได้รับจดหมายตอบกลับจากผู้นำโลกอย่างอดีตประธานาธิบดี Barack Obama มันคงจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจไม่น้อย เหมือนดังเช่นหญิงรายหนึ่ง ที่ได้ส่งจดหมายไปหา Barack และ Michelle Obama เพื่อเชิญให้ทั้งคู่มาร่วมงานแต่งงานของเธอ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า วันหนึ่งเธอจะได้รับการตอบกลับจากเขาด้วย โอ้วววว!! ตื่นเต้นแทนจริงๆ สำหรับ Liz Whitlow เป็นคุณแม่จากซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอคือผู้ที่ได้ส่งจดหมายงานแต่งงานของตัวเองไปหา Barack และ Michelle ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเมื่อเร็วๆ นี้ Liz ก็เพิ่งจะได้รับการตอบจดหมายกลับจาก Obamas ซึ่งทาง Brooke Allen ผู้เป็นลูกสาว ก็ได้ขอออกมาเผยเรื่องราวสุดประทับใจที่แม่ของเธอได้รับในครั้งนี้ลงในทวิตเตอร์ว่า… “แม่ของฉันได้ส่งจดหมายเชิญ Obamas ให้มาร่วมงานแต่งงานของเธอ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะตอบกลับมาด้วย” และนี่คือภาพจดหมายที่ Obamas ได้ตอบกลับมาหาแม่ของเธอ พร้อมกับมีลายเซ็นของเขา และ Michelle Obama เซ็นกำกับในตอนท้ายอีกด้วย สำหรับจดหมายดังกล่าวได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า “ขอแสดงความยินดีกับงานแต่งงานของคุณ เราหวังว่าการแต่งงานของคุณจะเต็มไปด้วยความสุข…
-
บ้านเลขที่ 1234 สุดซวย ถูกกระหน่ำใช้เป็นที่อยู่ปลอม ถูกตัดน้ำตัดไฟ และกองจดหมายขยะเพียบ!?
มันเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะได้รับอีเมล์ขยะ หรือสแปมเมล์ในอีเมล์ทุกๆ วัน จนบางทีก็แอบทำให้รู้สึกรำคาญว่าจะส่งมาทำไมเยอะแยะ แต่ทั้งนี้เราก็ยังมีวิธีที่จะกำจัดอีเมล์ขยะเหล่านั้นได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่กดลบออกไป เท่านี้มันก็หายไปแล้ว แต่สำหรับสถานที่แห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้คนกลับต้องมาเจอกับความซวยขั้นสุด เพราะพวกเขาได้รับจดหมายขยะของจริงในทุกๆ วันซะอย่างนั้น โอ้ววว…เห็นแล้วลำบากใจแทนจริงๆ วันที่ 28 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Vice ได้รายงานว่า อาคารบ้านเลขที่ 1234 AB ซึ่งภายหลังถูกเปลี่ยนเป็น 123 (ด้วยเหตุผลส่วนตัว) ได้รับจดหมายขยะมากที่สุดในประเทศเนเธอแลนด์ ทั้งนี้จึงได้มีการออกตรวจสอบว่าที่อยู่ดังกล่าวมีจริงหรือไม่ ซึ่งภายหลังจากที่ได้ทำการค้นหา ก็พบว่าสถานที่ดังกล่าวมีอยู่จริง โดยตั้งอยู่ในจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ยังได้มีการค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้คนที่อาศัยอยู่สถานที่แห่งนั้น เพื่อสอบถามว่าการที่ได้รับสแปมเมล์มากที่สุดในประเทศ ส่งผลต่ออย่างไรต่อการใช้ชีวิตของพวกเขาบ้าง และนี่คือคำตอบ… Fransen คือคนแรกที่ทางเว็บไซต์ Vice ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ ซึ่งเขาก็ได้ออกมาเผยถึงเรื่องราวที่น่าสนใจว่า… ประมาณครึ่งปีหลังในปี 2009 หลังจากที่ได้ย้ายมาที่ 1234 AB, 123 โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตของเขาถูกตัดสัญญาณ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน บ้านของเขาก็ถูกตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น…
-
ทำเป็นเล่นไป!! ไปรษณีย์แคนาดา “ถูกอีกาคุกคาม” จนถึงขั้นต้องหยุดทำงานเลยทีเดียว
อุปสรรคอย่างหนึ่งที่บุรุษไปรณีย์มักจะเจอคือการต้องไปส่งจดหมายหรือของในบ้านที่มีสุนัขดุ ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้งๆ ก็เห่าอยู่นั่นแหละ จนถึงขั้นเป็นคู่ปรับที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมด้วยกันได้เลย แต่ใครจะคิดละว่านอกจากสุนัขแล้ว นกก็เป็นอุปสรรคในการทำงานของบุรุษไปรณีย์เหมือนกันนะ ร้ายแรงถึงขั้นต้องหยุดงานกันเลยทีเดียว อีกาตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Canuck มันเป็นอุปสรรคหลักของไปรษณีย์ในย่านตะวันออกของเมือง Vancouver ประเทศแคนาดาเลยล่ะ ทำเอาเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ จนกว่าเจ้าอีกาจะหายไปจากตรงนั้นเสียก่อนถึงจะกลับมาทำงานส่งจดหมายต่อได้!? ส่วนความร้ายกาจของมันก็มีทั้งจิกกัด ขโมยของที่มีความแวววาวอย่างเช่น ‘มีด’ ที่ขโมยมาจากจุดเกิดเหตุคดี นอกจากนั้นก็ชอบมาก่อกวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อีก นี่เอ็งจะร้ายกาจเกินกว่าจะเป็นนกแล้วนะ!! สิ่งที่สามารถระบุตัวเจ้าอีกานี้ได้ก็คือ แท็กสีแดงที่ติดกับขาของมัน ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นต่างก็ติดตลกกับการติดแท็กของมันก็ด้วยนิสัยที่ก้าวร้าวจนต้องติดเครื่องติดตามตัว ฮร่าาา Darcia Kmet โฆษกของไปรษณีย์แคนาดาบอกว่า “พนักงานของเขาถูกโจมตีจากอีกา จนได้รับบาดเจ็บในขณะที่พยายามไปส่งจดหมายในละแวกถิ่นที่อยู่อาศัยใน Vancouver” เจ้าอีกา Canuck กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ล่าสุดมีบ้าน 3 หลังที่ไม่ได้รับจดหมาย เพราะมันอยู่ในเขตที่เจ้าอีกาครองอยู่ และไม่ปลอดภัยสำหรับพนักงานของเรา” โฆษกบอก เขาบอกอีกว่า “ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ถ้าเจ้าอีกาไม่อยู่หรือมีความปลอดภัยเมื่อไหร่ บ้านทั้ง 3 หลังก็จะได้รับจดหมายครับ” และด้วยความร้ายแสนจะแสนของเจ้าอีกา มันก็มีเพจเป็นของตัวเองด้วยนะในชื่อ Canuck and I ที่สร้างขึ้นโดย Shawn Bergman ผู้เล่าถึงการผจญภัยของอีกาตัวนี้…
-
เผยข้อความสุดท้าย จากคู่รักที่ติดอยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ Grenfell Tower ณ เวสท์ลอนดอน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นข่าวเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารสูง 24 ชั้นในกรุงลอนดอน และตอนนี้ก็มีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 คนแล้ว หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกโซเชียลตอนนี้ คือเรื่องราวของคู่รัก Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในอาคาร ทว่าก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ส่งข้อความอำลาคุณแม่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ทีมข่าว Dailymail จึงได้เดินทางไปสัมภาษณ์ญาติคนสนิทของทั้งคู่ และญาติๆ ของทั้งคู่ได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ทีมงานได้ฟังดังนี้… “เป็นช่วงเวลากลางดึก ในขณะที่เรากำลังนอนหลับสนิทอยู่เราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา พวกเขาทั้งคู่ดูมีน้ำเสียงที่ตื่นกลัวเอามากๆ ทั้งคู่โทรมาเล่าให้เราฟังว่า ตอนนี้มีไฟไหม้ภายในอาคารที่พวกเขาอาศัยอยู่ และทั้งคู่ก็อาศัยอยู่บนชั้นที่ 23” น่าเศร้าที่ทั้งสองคนเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในตึกนี้ได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เท่านั้น คุณพ่อของ Gottardi เล่าเสริมว่า “จากนั้นเราก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา… และมันก็เป็นสิ่งติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ Gottardi โทรกลับมาเพื่อที่จะบอกเราว่า มีควันไฟเต็มไปทั่วทั้งตึกและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถออกมาได้ เขาอยู่กับเราจนวินาทีสุดท้าย เป็นเวลาประมาณ ตี 4 ได้ จนลูกชายบอกเราไฟกำลังลามมาถึงหน้าห้องของเขาทุกอย่างดูจะแย่ลงไปอีก จากนั้นสัญญาณก็ตัดไปและเราก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย” ทางด้านผู้ปกครองของแฟนสาว Trevisan ได้เล่าว่า “ลูกสาวโทรมาหาพวกเราตอนประมาณตี…
-
เปิดจดหมาย “แชนนิ่ง เททั่ม” เขียนถึงลูกสาว เผยความรักของพ่อบ้านหนุ่มสุดฮ็อต!!
สำหรับสาวๆ ที่เป็นคอหนังคงไม่มีใครไม่รู้จักกับพระเอกหนุ่มหล่อมาดเข้มตลอดกาลอย่าง Channing Tatum ไม่ว่าจะบทบาทตั้งแต่สมัยเรื่อง Step Up จนล่าสุดที่จำได้ก็.. Magic Mike คงไม่ต้องบอกนะว่าแซ่บขนาดไหน ล่าสุดเมื่อ Cosmopolitan ได้เชิญให้นักแสดงหนุ่มเขียนจดหมายถึงลูกสาวของตัวเอง ในฐานะบทบาทการเป็นคุณพ่อประจำครอบครัว เรียกได้ว่าเราจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเขา ในแบบที่สาวๆ ต้องอยากได้มาเป็นพ่อของลูกแน่นอน!! เนื้อหาจดหมายจากคุณพ่อแชนนิ่ง ถึงลูกสาว ‘ผมพยายามที่จะเขียนอะไรสักอย่าง ที่ช่วยให้เธอเข้าใจเรื่องของผู้ชาย เซ็กส์ และการใช้ชีวิตคู่ ตอนนี้ผมก็คิดได้ว่า ผมไม่อยากให้เธอมัวแต่ไปหาคำตอบให้กับชีวิตแค่เรื่องภายนอก ผมหวังแค่ว่าเธอกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่สำคัญว่าผู้ชายคนนั้นจะอยากให้เธอเป็นยังไง และนั่นคือทั้งหมดที่ผมอยากจะบอกลูกสาวในวันที่เธอโตขึ้น ผมไม่ต้องการให้อะไรมาทำให้ตัวตนลูกต้องสูญเสียไป และไม่ว่าเธอจะอยากทำอะไร ผมก็อยากให้เธอทำมันอย่างเต็มที่เสมอ’ พระเอกสุดหล่อกับบทบาทการเป็นพ่อบ้านที่ดี @jennaldewan I’m not sure if this woman is my Rainbow or my pot of gold but I’m lucky…
-
กระดาษโน้ตจากคนแปลกหน้า ที่ทำให้รู้ว่ามีแมวน้อย 3 ตัวติดใต้ท้องรถ และต้องการความช่วยเหลือ
ในขณะที่คุณกำลังรู้สึกแย่ วันนี้เราจะขอนำเสนอเรื่องราวสุดประทับใจเกี่ยวกับเจ้าเหมียว ที่เชื่อว่าอย่างน้อยมันอาจจะทำให้คุณยิ้ม และมีความสุขได้บ้าง และนี่คือภาพภารกิจการช่วยชีวิตของ 3 ลูกแมวตัวน้อยๆ ที่หลบอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งทาง Nur Izzah Zabidi จากประเทศมาเลเซีย ได้นำเรื่องราวการช่วยชีวิตพวกมันมาโพสต์ลงใน Facebook โดยเผยว่า “หลังจากที่แม่ของเธอได้กลับไปที่รถ ก็ได้พบกับโน้ตแจ้งเตือนแผ่นหนึ่ง… ซึ่งภายในโน้ตแผ่นนั้น ได้เขียนข้อความทิ้งไว้ว่า “เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเสียงของลูกแมวตัวน้อยๆ อยู่ข้างใต้รถของคุณ ขอความกรุณาช่วยตรวจสอบก่อนที่คุณจะสตาร์ทรถด้วย ขอบคุณมาก” ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ของ Nur Izzah จึงได้โทรเรียกพนักงานดับเพลิง เพื่อให้มาช่วยค้นหาเจ้าเหมียวทันที แต่ในขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นนักเรียน 2-3 คนได้ผ่านมาทางนั้นพอดี และนั่นก็ทำให้พวกเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเธอ ด้วยความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มพลเมืองดี พวกก็เขาสามารถนำลูกแมวน้อย 3 ตัวที่ติดอยู่ใต้ท้องรถออกมาได้ ซึ่งเจ้าแมวน้อยทั้ง 3 ตัว คาดว่าจะมีอายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ด้วย นอกจากจะรอดชีวิตราวกับปาฏิหาริย์แล้ว เจ้าเหมียวน้อยทั้ง 3 ยังโชคดีสุดๆ เพราะมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ และครอบครัวใหม่ของมันทันที…
-
หนุ่มเขียนจดหมายให้แฟนสาวร่วม 3 ปี แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่านั่นคือ “การขอแต่งงาน”
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2560 ทางสักนักข่าวเดลีเมล์ได้นำเสนอเรื่องราวอันสุดแสนจะโรแมนติกของ Timothy ชายหนุ่มผู้ที่แอบเขียนจดหมายขอแต่งงานแบบเนียนๆ ให้กับแฟนสาวมาเป็นเวลานากว่า 3 ปี แต่ทาง Candice ผู้เป็นแฟนสาวกลับไม่เคยรู้เลยว่านั่นคือ “จดหมายขอแต่งงาน” สำหรับ Timothy และ Candice พวกเขาเคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากนั้นในปี 2013 ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจที่จะคบหาดูใจกัน และนั่นก็ทำให้ฝ่ายแฟนหนุ่มเริ่มเขียนจดหมายขอแต่งงานให้กับเธอ หลังจากที่ได้เริ่มออกเดทกันเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น เป็นเวลานานกว่า 3 ปี ที่ Tim ได้เขียนจดหมายรักให้กับ Candice กว่า 14 ฉบับ โดยเขาจะเริ่มต้นด้วยการเขียนตัวอักษรลับๆ ตัวใหญ่เอาไว้ที่จุดเริ่มต้นของจดหมายทุกฉบับอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อนำมารวมกันแล้วจะสะกดเป็นคำว่า “คุณจะแต่งงานกับผมไหม” แต่ทว่าทางฝ่ายแฟนสาวกลับไม่ได้สังเกต หรือเอะใจเลยสักนิด จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่ได้พากันไปท่องเที่ยวที่ Hamilton Island ฝ่ายชายก็ได้เริ่มเปิดเผยถึงเรื่องตัวอักษรลับ ที่เขาแอบเขียนใส่ไว้ในจุดเริ่มต้นของจดหมายทุกๆ ฉบับ “เมื่อฉันได้ตื่นนอนในตอนเช้าของวันที่…
-
หญิงสาวสุดเนียน ขอให้ Ed Sheeran เซ็นรับรองจดหมาย เพื่อจะได้ไปโรงเรียนสายวันถัดไป
คุณเคยมีประสบการณ์ไปโรงเรียนสายเพราะว่าคืนก่อนหน้านั้นต้องไปติดตามผลงานของศิลปินที่ชอบหรือเปล่า แม้จะบอกว่าการเรียนสำคัญ แต่การติ่งก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกัน ซึ่งเหตุผลดังกล่าวจะขอวิงวอนให้อาจารย์เข้าใจก็คงเป็นไปไม่ได้ ล่าสุด หญิงสาวชาวอังกฤษเกิดหัวหมอ ได้เขียนจดหมายลาแล้วแอบเนียนให้ศิลปินคนโปรดของเธอเซ็น เพื่อที่เธอจะได้ไม่โดนลงโทษ หากไปโรงเรียนสายในวันถัดไป เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Sucy เธอได้ไปชมคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดของเธอ Ed Sheeran ซึ่งกว่าคอนเสิร์ตจะจบจบก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ด้วยความที่เกรงว่าอีกวันหนึ่งจะไปโรงเรียนสาย ระหว่าง Ed กำลังแจกลายเซ็นหลังคอนเสิร์ตเลิกนั้นเอง เธอจึงแอบนำหนังสือรับรองที่เธอพิมพ์เองมาให้ Ed เซ็นให้เพื่อให้เธอสามารถนำไปอ้างกับโรงเรียนได้ว่าเธอไปโรงเรียนสายเพราะอะไร ใจความจดหมายเขียนว่า “เรียนอาจารย์ของ Suzy “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ Suzy ต้องขาดเรียน หรือไปโรงเรียนสาย หรือคุยเรื่องราวเกี่ยวกับผมทั้งวัน กรุณาให้อภัยเธอด้วย เพราะว่าผมสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดยังไงล่ะ ด้วยความเคารพ Ed Sheeran ปล. จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรหรอก เดี๋ยวผมก็ทำอีกแน่นอน” เหตุการณ์การเซ็นรับรองให้แฟนคลับ อะไรจะง่ายดายขนาดนี้ ฮร่า (คลิป) ไม่มีรายงานว่าเธอได้นำจดหมายดังกล่าวไปใช้จริงๆ หรือไม่ แต่ดูแล้วอาจารย์ไม่น่าจะรับเป็นข้ออ้างได้นะฮาาาา…
-
ลูกสาวเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ภายหลังครอบครัวค้นพบ “จดหมายอำลา” สุดซึ้ง ในห้องของเธอ!?
‘Athena Orchard’ คือสาววัย 13 ปี เธอมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ทว่าวันหนึ่งเมื่อธันวาคม ปี 2013 จู่ๆ เธอก็เป็นลมสลบไปในห้องครัวของเธอเอง จนกระทั่งคุณหมอได้วินิจฉัยและพบว่า เธอป่วยเป็นมะเร็งกระดูก… ตลอดระยะเวลาการรักษา Athena ได้ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ แต่ทว่าท้ายที่สุดเธอก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ และทำให้เธอต้องจากโลกนี้ไปในเวลาต่อมา Athena Orchard วันหนึ่งหลังเธอจากไป ครอบครัวได้เข้าไปเก็บของในห้องเธออีกครั้ง และพวกเขาได้พบกับจดหมายอันยาวเหยียดที่เธอทิ้งไว้แบบ จากความยาวของจดหมาย เธอคงเขียนโดยใช้เวลานานมากทีเดียว จดหมายส่งท้ายนั้น มีเนื้อหาใจความดังนี้… ‘ความสุขอยู่ที่ตัวเรา บางทีนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่มันคือเรื่องราวของชีวิตจริง เพราะจุดมุ่งหมายของชีวิต คือชีวิตที่มีจุดมุ่งหมาย ความแตกต่างระหว่างความธรรมดา และความพิเศษ คือความสุขนั่นเอง แต่ความสุขเป็นเพียงแค่หนทาง แต่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของทั้งหมด ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งอย่างที่ปรากฏขึ้น จงมีความสุข อยู่อย่างอิสระ และเป็นวัยรุ่นไปตลอดกาล เธออาจรู้จักชื่อฉัน แต่เธอไม่รู้เรื่องราวของฉัน เธออาจรู้ว่าฉันเคยทำอะไรมาบ้าง แต่เธอไม่รู้ว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความรักเป็นเหมือนกระจก มันอาจจะดูโปร่งใสและสวยงาม แต่มันก็แตกได้อย่างง่ายดาย ความรักนั้นช่างแปลกนัก บางทีชีวิตก็ดูแปลกประหลาด ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ไปตลอด และผู้คนย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา…
-
จดหมายสุดท้ายของหญิงสาว… ตัดสินใจจบชีวิต เพราะถูกกลั่นแกล้ง-ข่มขืนอย่างโหดร้าย
Cassidy Trevan เป็นชื่อของหญิงสาววัย 15 ปี จากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องมาเจอกับเรื่องราวอันแสนเลวร้ายในชีวิต หลังจากที่ถูกคนใจร้ายรังแก และข่มขืนในตอนที่เธออายุได้เพียง 13 ปีเท่านั้น เหตุนี้จึงทำให้เธอได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง จนนำมาสู่เรื่องราวอันแสนเศร้าที่ทำให้หลายคนถึงกับใจสลาย วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเรื่องราวของ Cassidy มาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันโศกเศร้า และเสียใจไปตามๆ กันที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาจบชีวิตลงเพราะความโหดร้ายของมนุษย์ จากการรายงานระบุว่า ก่อนที่ Cassidy จะเสียชีวิต เธอได้เขียนจดหมายลาตาย เพื่อเป็นคำเตือนให้กับนักเรียนคนอื่นๆ ที่โรงเรียนของเธอ โดยมีข้อความดังต่อไปนี้… “ฉันชื่อ Cassidy Trevan และฉันถูกข่มขืน ฉันเป็นนักเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฉันถูกนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่โรงเรียนเดียวกันข่มขืน จุดประสงค์ที่ฉันเขียนจดหมายขึ้นมาก็เพราะฉันอยากจะออกมาเตือนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น (รวมถึงผู้ปกครองด้วย) เพราะฉันกลัวว่าพวกเขาอาจจะทำกับนักเรียนคนอื่นๆ เหมือนที่ทำกับฉัน… สำหรับคนที่ข่มขืน กลั่นแกล้งฉัน และทำให้ฉันถูกข่มขืน ฉันไม่ได้ต้องการที่จะแก้แค้น แต่เพียงแค่อยากจะออกมาเตือนนักเรียนในโรงเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 7-12 ปี เพราะฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับใครอีก หลังจากที่เกิดเรื่องฉันเลยอยากออกมาเตือน…
-
สาวน้อยป่วย ‘โรคสมองอักเสบ’ เริ่มหายดีเรื่อยๆ เพราะมีคนส่ง ‘จดหมายกำลังใจ’ มาให้ทุกวัน!!
หนูน้อย Mylee Sue วัย 3 ขวบ อาศัยอยู่ในเมือง Longview รัฐ Texas เธอความทรมานจากอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง สาวน้อยและครอบครัวต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หนูน้อย Mylee ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคสมองอักเสบจากเหตุแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ซึ่งมันส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายสมองของตัวเอง ในบางครั้งเธอก็ต้องทรมานจากอาการชัก ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างปกติ และไม่สามารถจำอะไรได้เลยแม้แต่ครอบครัวของเธอก็ตาม “ในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญนั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ” คุณ Susan Ross คุณแม่ของหนูน้อย Mylee กล่าว “พวกเราต้องทำการทบทวนความจำให้กับเธอ เพื่อให้เธอสามารถเดินได้ และการพูดของเธอ อาการชักของเธอนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ากลัว และเธอก็ยังลืมว่าฉันเป็นแม่ของเธอด้วยในบางครั้ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่มากๆ เธอต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา” คุณแม่กล่าวเสริม แต่สิ่งที่ทำให้หนู Mylee ยิ้มและมีความสุขได้ในทุกๆ วัน ก็คือการได้เห็นจดหมายคริสต์มาสต์ที่ส่งมาที่บ้านของเธอ เรื่องมันเริ่มมากจากที่คุณแม่ Susan Ross ได้ขอร้องให้เพื่อนๆ และครอบครัวช่วยส่งจดหมายคริสต์มาสต์มาให้กับหนูน้อย Mylee และในตอนนี้ทุกๆ วัน หนูน้อย…
-
ช่างภาพพบ จดหมายในซากลูกโป่ง เขียนส่งถึงพ่อบนสวรรค์ ตามหาตัวเด็กชายเพื่อสานฝันให้…
กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจชาวโซเชียลเป็นอย่างมากเมื่อเว็บไซต์ DailyMail ได้แชร์ภาพของจดหมายวันคริสต์มาสต์ที่เขียนโดยเด็กชายคนหนึ่งเขียนถึงคุณพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วติดอยู่กับซากลูกโป่งที่ตกอยู่บริเวณสนามหญ้าในเมือง Dunfermline ประเทศสก็อตแลนด์ เนื้อหาในจดหมายได้อธิบายถึงความคิดถึงที่มีต่อคุณพ่อของเขา และเล่าให้คุณพ่อที่อยู่บนสวรรค์ฟังว่าเขาได้ถูกพาไปยังศูนย์อุปการะเพราะว่าคุณแม่ของเขาป่วย เด็กหนุ่มบอกว่าในวันคริสต์มาสต์นี้เขาหวังอยากจะให้คุณพ่อที่อยู่บนสวรรค์ได้อ่านจดหมายนี้ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าเขาต้องการชุดแข่งของทีมฟุตบอลชื่อดังอย่าง Real Madrid เนื้อหาในจดหมายเขียนไว้ว่า… “สวัสดีครับพ่อ ผมแค่อยากจะเขียนจดหมายมาบอกคุณพ่อว่าผมคิดถึงพ่อมาก และต้องการที่จะบอกข่าว ผมแน่ใจว่าพ่อรู้แล่วว่าตอนนี้ผมต้องเข้ามาอยู่ที่ศูนย์อุปการะ เพราะว่าแม่ป่วย และหูของผมก็รู้สึกเจ็บตั้งแต่วันจันทร์แล้ว แต่พรุ่งนี้เราก็จะออกจากที่นี่แล้วล่ะ ผมคิดถึงโรงเรียนและคุณพ่อมากๆ ผมรู้ว่าคุณพ่อขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้ว แต่คุณพ่อปลอดภัยดีรึเปล่า? โอ้ ก่อนที่ผมจะไป อยากจะบอกความฝันของผมในวันคริสต์มากให้พ่อฟัง ความฝันของผมก็คืออยากให้คุณพ่อเขียนจดหมายตอบกลับมา จะเอามาวางไว้ที่ใต้หมอนของผมก็ได้นะ และนี่คือของขวัญวันคริสต์มาสต์ที่ผมอยากได้ : รองเท้าสตั๊ดรุ่น Astro, โกลขนาดเล็ก (สำหรับเล่นฟุตบอล), ลูกฟุตบอลของพรีมียร์ลีคปีล่าสุด, เสื้อแข่งของ Real Madrid ลาก่อนครับพ่อ ผมรักพ่อนะ” จดหมายนี้ถูกพบโดยคุณ Mr McColl ช่างภาพวัย 30 ปี บริเวณสนามหญ้าในโรงแรม 4 ดาว Balmule House ที่อยู่ในเมือง Dunfermline…
-
ช่างค้นพบ ‘จดหมาย’ ของภรรยาที่จากไป 40 ปีในบ้านเก่า จึงดั้นด้นนำไปมอบให้กับสามีของเธอ!!
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเขียนไดอารี่ หรือบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ จะรู้กันดีว่าเมื่อเวลาผ่านไปพอเราได้กลับมาอ่านมันอีกครั้งความทรงจำต่างๆ ที่เราเคยผ่านมาจะไหลผ่านเข้ามาผ่านตัวหนังสือสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนี้ที่มักจะเขียนจดหมายบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ แต่เสียดายที่เธอไม่ได้มีโอกาสอ่านมันได้อีกเพราะเธอได้เสียชีวิตไปและไม่มีใครทราบถึงมันเลยแม้แต่คนเดียว แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปนานกว่า 50 ปี จดหมายนี้ก็ถูกพบเจอและส่งมันไปให้กับสามีเธอรักที่สุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปติดตามชมกันได้เลย… เมื่อฤดูใบไม้ผลิในปี 2014 คุณ John Murray และทีมช่างของเขาได้ทำการรีโนเวทบ้านหลังหนึ่งในเมือง Phoenix รัฐ Arizona ที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 1950 และก็ได้บังเอิญพบกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องแปลกใจ จากการลอกแผ่นฉนวนกันความร้อนออกจากกำแพงพวกเขาก็ได้พบกับ รูปถ่ายครอบครัวเก่าๆ และกระดาษที่เขียนด้วยลายมือที่ดูสละสลวย คุณ John และนายช่างในทีมได้เล่าให้ฟังว่า “พวกเราผ่านการทำงานซ่อมแซมและรีโนเวทบ้านมาเป็นร้อยๆ หลัง แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน” จากการสำรวจดูแล้วก็พบว่าจดหมายบันทึกเหตุการณ์นี้ถูกเขียนขึ้นโดยคุณ Betty Klug ในปี 1966 ณ ตอนนั้นเธอมีอายุ 33 ปี เธอไม่เคยบอกใครเรื่องนี้เลยแม้แต่สามีอันเป็นที่รักอย่างคุณ Bruce ก็ตาม …
-
น่ารักได้อีก.. เกมเมอร์รุ่นจิ๋วชั้น ป.5 เขียนจดหมายจีบสาว ‘เธอเปรียบดั่งโปเกม่อนของฉัน’ !!?
รักครั้งแรกมักจะเกิดขึ้นในวัยเด็ก และอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับคนไกลตัวที่ไหน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพื่อนผู้หญิงที่ต้องเรียนอยู่ในห้องเดียวกันนั่นแหละ แล้วเพื่อนๆยังจำความรู้สึกตกหลุมรักครั้งแรกในวัยเยาว์ได้อยู่มั้ย? ถ้าเราชอบใครก็คงอยากจะเข้าไปแกล้ง หรือเนียนตีซี้อยู่ใกล้ๆบ่อยๆ แต่ถึงแม้ผู้ใหญ่จะมองว่า ความรักแบบเด็กๆมันเป็นเรื่องไร้สาระ เราขอบอกเลยว่าไม่เสมอไป เพราะอย่างน้อยพ่อหนุ่มชั้น ป.5 คนนี้ เค้าก็โรแมนติคมากที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้แล้วล่ะ… เรื่องราวมันมีอยู่ว่าคุณลุงคนหนึ่งเป็นผู้ใช้งาน Reddit ได้โพสต์ผ่านยูเซอร์ dreichert87 เป็นภาพกระดาษโน๊ตน่ารักๆที่หลานสาวของเขาได้รับมาจากหนุ่มน้อยที่แอบตกหลุมรักเธออยู่ห่างๆ ที่โรงเรียน เชื่อว่าหลายคนต้องมีปัญหากับการอ่านลายมือของเด็กแน่ๆ แต่ไม่ต้องห่วง ข้อความในจดหมายน้อยมีดังนี้ “ถึง Abby ดวงตาของเธอทำให้ฉันคิดถึงฟากฟ้ายามเย็น หัวใจของผมมันแตกสลายเป็นเสี่ยงๆเมื่อได้พบกับคุณ คุณช่างเติมเต็มให้ผม ราวกับว่าผมได้สะสมโปเกม่อนครบทุกตัว ผมชอบเหลือเกินเวลาที่คุณเล่นเกมส์ Zelda ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมองว่ามันแปลก และดูน่าตลกก็ตาม และถ้าหากคุณก็ชอบผม มันคงกลายเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้” อยากจะรู้เหลือเกินว่าหนุ่มน้อยคนนี้ ไปเรียนรู้เอาสำบัดสำนวนหล่อๆจากไหนมาจีบสาว เพื่อนๆลองสังเกตุดูในจดหมายสิ แม้แต่ส่วนหัวของตัว ‘I’ ยังถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปหัวใจแทนทั้งหมด เรื่องราวน่ารักๆในครั้งนี้ถูกอกถูกใจชาวเน็ตซะเหลือเกิน นอกจากจะได้เห็นความโรแมนติคของเด็กน้อยแล้ว เชื่อว่ามันยังชวนให้หลายๆคนคิดย้อนไปถึงช่วงเวลาของตัวเองในวัยเด็กบ้างใช่มั้ยล่ะ… “ยิ่งกว่าได้รวบรวมโปเกม่อน สาวน้อยคนนั้นต้องพิเศษมากแน่ๆ” “ทำให้ฉันคิดถึงความรักในวัยเด็กเลย ตอนนั้นฉันได้โน๊ตที่เขียนว่า ผมรักคุณมากกว่าที่ Mr.Krabs รักเงินซะอีก จำได้ว่าตอนนั้นเพื่อนๆผู้หญิงต่างอิจฉาไปตามๆกัน…
-
คุณแม่พบข้อความสุดท้าย ของลูกชายผู้จากไป เผยความรักที่เขามี ยังคงอยู่กับพ่อแม่ไปตลอดกาล
สิ่งที่เด็กๆ ทุกคนควรได้รับ นั่นก็คือการได้ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้สัมผัสกับสิ่งที่สามารถช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้กับพวกเขา เช่นเดียวกันกับ Leland Shoemake หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ ที่ดูเป็นปกติเหมือนคนอื่นๆ เขาชอบที่จะเล่นซุกซนในสนามเด็กเล่นกับเพื่อน ถึงแม้ว่าจะกลับบ้านมาด้วยเนื้อตัวมอมแมมแทบจะทุกวันก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ก็ดันเกิดขึ้น เพราะหนูน้อย Leland ดันติดเชื้ออะมีบา Balamuthia mandrillaris ซึ่งทำให้สมอง และไขสันหลังของเขาติดเชื้อ และในที่สุดเขาก็จากไปอย่างสงบ.. เมื่อปีที่แล้ว จู่ๆหนูน้อย Leland ก็บอกกับพ่อแม่ของเขาว่า รู้สึกปวดหัวสุดๆ และหลังจากพาไปหาหมอมาแล้วหลายครั้ง สุดท้ายก็พบว่า หนูน้อยติดเชื้ออะมีบา Balamuthia mandrillaris ซึ่งจากรายงานตั้งแต่ปี 1993 มีผู้ติดเชื้อชนิดนี้เพียง 70 คนเท่านั้น จากการติดเชื้อทำให้ร่างกายของหนูน้อยทรุดลงเรื่อยๆ เขาต่อสู้กับอาการนี้อย่างสุดความสามารถ ก่อนที่เขาจะจากไปในวันที่ 25 กันยายน 2015 “เรายังรับความจริงไม่ได้ กับการที่เขาต้องจากเราไป เราคิดถึงเขามาก วันนี้ฉันต้องไปเอาป้ายหลุมศพของเขา มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก ฉันยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้ และก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไปหากไม่มีเขา” คุณแม่กล่าว …
-
เมื่อหนูน้อยร้อนเงิน เขียนจดหมายน่ารักทวงเงิน ‘นางฟ้าฟันน้ำนม’ เมื่อไรจะเอามาให้สักที!!!
ตอนเด็กๆใครเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับ นางฟ้าฟันน้ำนม บ้าง ถ้าหากฟันน้ำหนุมซี่ใดก็ตามของเราหลุด ให้นำฟันซี่นั้นเก็บไว้ใต้หมอน เช้าวันรุ่งขึ้นฟันซี่นั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นเงินแทน พอโตมาถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วก็คือพ่อแม่ของเราเนี่ยแหละ ที่คอยแอบเปลี่ยนฟันของเราให้กลายเป็นเงิน… แต่สำหรับหนูน้อยคนนี้ #เหมียวบ็อบ ก็ไม่รู้ว่าไปร้อนเงินจากไหนมา หรือนางฟ้าฟันน้ำนมแอบเนียนเบี้ยวตังหนูน้อยรึเปล่า ถึงได้ต้องลงมือเขียนจดหมายให้ซะเลย จดหมายฉบับนี้ถูกแชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊ค Life of Dad เป็นจดหมายที่ถูกเขียนขึ้นโดยลายมือของเด็กคนหนึ่ง เมื่อเราอ่านแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า เด็กน้อยคนนี้ต้องร้อนเงินมากแน่ๆ “ถึงนางฟ้าฟันน้ำนม ฟันหนูหลุดไปตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม แต่นี่มันวันที่ 12 พฤศจิกายนแล้วนะ!!! ฟันหนูหลุดไปกับพิซซ่า แถมวันนี้หนูยังต้องเสียทั้งสองอย่างไป คุณติดหนี้ฉันอยู่ $1 ดอลล่าร์ ไม่ได้อยากใจร้ายหรอกนะ แต่ฉันต้องใช้เงินจริงๆ” โถ่ววๆๆ น่าสงสารซะจริง สงสัยนางฟ้าฟันน้ำนมตัวนี้จะไม่รู้ตัวซะแล้วล่ะมั้ง ว่าเป็นเวลานานมากกว่า 3 อาทิตย์ที่เด็กน้อยคนนี้รอคอย พี่แกก็ยังไม่เอาเงินมาให้สักที จนถึงขั้นต้องเขียนจดหมายทวงกันแบบนี้ งานนี้เรียกเสียงฮาให้ชาวเน็ตได้อย่างดีเยี่ยม กลายเป็นว่าชาวเน็ตทั้งหลายต่างให้คำแนะนำ และวิธีการที่หนูน้อยจะได้มาซึ่งเงินที่ค้างอยู่จากภูตฟันน้ำนม “เธอต้องอธิบายให้เข้าใจด้วย ว่าถ้าเธอเสียฟันไปกับพิซซ่า ภูตฟันน้ำนมคงไม่เข้าใจเธอหรอก เพราะพวกเขาต้องเก็บฟันไว้เป็นจำนวนมาก”…
-
อย่างกับหนังรัก.. สาวเป็นลมในรถไฟ ตื่นมาพร้อม ‘กระดาษโน้ต’ จากชายที่ช่วย ประกาศหาเขาผ่านเน็ต!!
เป็นอีกเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นบนเกาะอังกฤษ ของหญิงสาวผู้เป็นโค้ชออกกำลังกาย แต่ระหว่างการเดินทาง ดันเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับเธอ เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ขอบอกเลยว่า ได้กลิ่นอายหนังรักโรแมนติค ชวนให้ลุ้นกันสุดๆ Ellie Farnfield โค้ชฟิตเนสสาววัย 27 ปี ชาวอังกฤษ วันหนึ่งเธอกำลังเดินทางไปสอนฟิตเนส ในตัวเมืองลอนดอน ด้วยรถไฟ หลังจากที่รถไฟได้เคลื่อนขบวนมาถึงสถานีผลายทาง จู่ๆเธอก็เป็นลมชักหมดสติลงในขบวนรถไฟนั้น พอตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองได้อยู่ที่โรงพยาบาลซะแล้ว เธอไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย ไม่รู้ตัวว่าเพราะเหตุใดเธอถึงหมดสติ แล้วมาโผล่ที่โรงพยาบาล แต่แล้วเธอก็ดันเหลือไปเห็บกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่ง วางอยู่ข้างๆเตียงพยาบาลของเธอ… “ถึงคุณผู้หญิงคนสวย ผมหวังว่าตอนที่คุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ คุณคงรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว จู่ๆคุณก็ชักและเป็นลมหมดสติไป แต่หัวของคุณไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใด มีแต่ขาของคุณที่ผมดันเผลอเดินไปเหยียบใส่ ก่อนจะเห็นว่าคุณนอนกองอยู่บนพื้น ผมขอโทษด้วยนะ และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่สามารถอยู่เฝ้าอาการคุณได้ แต่นี่คือกาแฟที่อาจช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง และเงินอีกจำนวน £10 เพื่อเป็นค่ารถแท็กซี่เดินทางกลับบ้านของคุณ ขอโทษอีกครั้งที่ผมไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้มากกว่านี้ หวังว่าคุณคงไม่อาศัยอยู่ไกลเกินไปหรอกนะ ผมได้ติดต่อเพื่อนและญาติจากโทรศัพท์ของคุณให้แล้ว หวังว่าคุณคงจะมีความสุขและหายป่วยไวๆนะครับ รักจาก ทอม” หลังจากที่เธอได้อ่านจดหมายจบ น้ำตาเธอแทบไหลพร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีว่า “พ่อเทพบุตรทอมที่ช่วยเหลือฉันเป็นใครกันแน่นะ?” เธอไม่รู้ว่าจะตามหาหนุ่มที่ชื่อทอมนี้ได้อย่างไร เธอจึงตัดสินใจที่จะโพสต์มันลงเฟซบุ๊ค ถึงแม้ว่าเรื่องราวของเธอจะกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต…
-
รักครั้งแรกหัวใจก็แตกสลาย!! เด็กสาว ป.5 เขียนจดหมายปฏิเสธหนุ่มที่มาชอบ ทั้งสงสารทั้งฮา…
ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านเหตุการณ์ รู้สึกตกหลุมรักใครซักคนเข้าอย่างจัง กันมาแล้วทั้งนั้นแหละ #เหมียวบ็อบ เองก็ด้วย และส่วนใหญ่ผลก็มักจะปรากฏออกมาว่า ได้หอบแห้วกลับไปกินพร้อมน้ำตาอยู่ตัวคนเดียวทู๊กกที และถ้าหากเราย้อนกลับไปในสมัยที่เรายังเป็นเด็กประถมกันอยู่ เพื่อนๆ ยังจำหน้าของสาวน้อยหรือหนุ่มน้อย เพื่อนร่วมชั้นที่เราแอบชอบตอนนั้นได้อยู่รึเปล่า? พอนึกไปถึงความรักแบบวัยเด็กแล้วมันก็อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้ซักที ใครๆ ก็เคยผ่านมากันทั้งนั้นแหละหน่าาา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นเรื่องราวน่ารักๆที่เกิดขึ้นในห้องเรียนเกรด 5 (ประถม 5) ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อหนุ่มน้อยที่ชื่อว่า Noah แอบชอบสาวน้อย Zoe อย่างหัวปักหัวปำ (เด็กอยู่เลยนะเนี่ย) และแน่นอนว่าสมัยที่เรายังเป็นเด็ก ถ้าเราชอบใคร ก็มักจะแอบทำเนียนไปเล่น ทำทีว่าไปแกล้ง คนๆ นั้นเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่าย แต่วิธีนี้ของหนุ่ม Noah กลับเจ๊งไม่เป็นท่า!!! เพราะเช้าวันหนึ่งเมื่อหนุ่มน้อยมาโรงเรียนตามปกติ เขาก็ต้องพบกับจดหมายแทงใจดำ ที่ไม่รู้ว่าสาวน้อย Zoe ใจร้ายมาจากไหน ใยถึงปฏิเสธรักจากหนุ่มน้อยได้ลงคอ เนื้อหาจดหมายสุดใจร้าย ที่ทำให้หนุ่มน้อยต้องรู้สึกอกหักเป็นครั้งแรก มีดังนี้: “นี่คือกฎและข้อบังคับที่เธอต้องทำตาม!! จาก Zoe ถึง Noah 1 . ห้ามแตะไหล่ฉันเด็ดขาด 2.…
-
สองนักออกแบบกราฟิกติดต่อกันด้วยโปสการ์ด ‘ภาษากราฟิก’ จนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกัน…
เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันแค่ไหน แต่เราก็สามารถติดต่อกันได้ง่ายๆ ผ่านเครื่องมือสื่อสารที่มีให้เลือกมากมาย แต่ก็มีอีกหลายคนที่ติดต่อกันโดยการเขียนจดหมายหากัน และแน่นอนว่ามันต้องมีความล่าช้าเป็นธรรมดา Giorgia Lupi และ Stefanie Posavec เป็นนักออกแบบกราฟิกที่เคยได้รับรางการออกแบบข้อมูล มาแล้วทั้งคู่ ซึ่งแม้ว่าทั้งคู่อยู่ในคาบมหาสมุทรแอตแลนติกเหมือนกัน แต่กลับอยู่คนละประเทศ พวกเขาก็ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ ในฐานะเป็นเป็นนักออกแบบกราฟฟิก ทั้งคู่จึงติดต่อกันด้วยการส่งโปสการ์ดให้กันภายใต้โปรเจค ‘Dear Data’ ซึ่งไม่ใช่โปสการ์ดธรรมดาอย่างที่เราเคยเห็นแน่นอน แต่มันเป็นโปสการ์ดกราฟิกที่วาดด้วยมือล้วนๆ ช่วงสัปดาห์ที่ 1 เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่พวกเขาส่งโปสการ์ดให้กันทุกสัปดาห์ โดยข้อมูลในโปสการ์ดนั้น ล้วนเป็นข้อมูลชีวิตของพวกเขา จากนั้นก็นำข้อมูลนั้นมาวาดเป็นรูปกราฟิก จากนั้นก็เอาโปสการ์ดไปใส่ตู้ไปรษณีย์ที่เรียกแตกต่างกัน โดยในประเทศอังกฤษจะเป็น Postbox (สำหรับ Stefanie) และในอเมริกาก็จะเป็น Mailbox (สำหรับ Giorgia) และกว่าจะมีถึงมืออีกฝ่ายนั้น ก็อาจมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย เพราะต้องเดินทางข้ามมหาสมุทร ซึ่งเป็นช่องทางการส่งที่ช้ามากๆ ทั้งคู่ได้ส่งโปสการ์ดหากันเป็นเวลา 52 สัปดาห์ ด้วยโปสการ์ดที่มีความแตกต่างกัน และพวกเค้าก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แม้ว่าจะเคยเจอกันแค่ 2 ครั้งก็ตาม . . ช่วงสัปดาห์ที่ 5 .…
-
คู่รักตัวน้อยวัย 10 ขวบ เขียนจดหมายห่วงใยซึ่งกันและกัน หวานจนผู้ใหญ่อิจฉา!!
รักในวัยเด็กนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของวัยกำลังโต ไม่มีความจริงจัง และยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย แต่หารู้ไม่ว่าเด็กบางคนนั้นอาจจะจริงจังกับเรื่องนี้แล้วก็เป็นได้ #เหมียวเลเซอร์ ยังอิจฉากับคู่รักตัวน้อยวัย 10 ขวบคู่นี้เลย!! พบกับ Cole และ Sherri คู่รักวัย 10 ขวบ จากรัฐเทกซัส ที่คบกันมานานร่วมปีแล้ว Nicole Rodriguez ผู้เป็นแม่ของ Sherri เปิดเผยว่าทั้งคู่เริ่มคบหาดูใจกันเป็นแฟนตั้งแต่ช่วงเกรด 4 (ป. 4) เมื่อ Cole รู้สึกเริ่มตกหลุมรักลูกสาวเธอ จนกระทั่งตอนนี้ทั้งสองขึ้นเกรด 5 (ป.5) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็ผ่านมาได้ 1 ปีพอดี ‘เขาเล่นกีฬาเบสบอล ส่วนเธอก็เล่นกีฬาฟุตบอล และเมื่อมีใครที่ต้องลงแข่งขัน อีกฝ่ายก็จะตามไปเชียร์ติดขอบสนามทุกครั้ง และพวกเรามักจะไปดินเนอร์ร่วมกันเป็นครอบครัว ทั้งสองคนไม่เคยไปออกเดทกันเพียงลำพังเลยแม้แต่ครั้งเดียว’ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ Sherri เข้าแข่งขันฟุตบอลจนได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้เข่าหน้า และต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษา ทางด้าน Brandi Lanclos คุณแม่ของ Cole ก็ได้เข้าร่วมเชียร์พร้อมกับลูกชายตอนที่ Sherri…
-
ชาวเน็ตอเมริกันกดแชร์ ประธานาธิบดีโอบาม่า ตอบกลับเด็กสาว 8 ขวบที่เขียนจดหมายแนะนำเขา…
จากเด็กน้อยวัย 8 ขวบ ที่มีชื่อว่า Lily เด็กสาวจากครอบครัวทหาร ที่เห็นว่าประเทศที่เธออาศัยอยู่กำลังประสบปัญหามากมาย และอยากจะสร้างความเชื่อมั่นขึ้นอีกครั้ง เธอจึงส่งคำแนะนำสุดครีเอทของเธอเป็นจดหมายไปให้ประธานาธิบดี Barack Obama เองซะเลย และนี่คือเรื่องราวที่เปิดเผยโดยเว็บไซต์ HuffingtonPost เราไปดูเนื้อหาในจดหมายกันเลย ว่าสาวน้อยวัย 8 ขวบ คนนี้เธอจะมีคำแนะนำสุดเก๋ ฝากไปถึงประธานาธิบดีไว้อย่างไรบ้าง… “ถึงท่านประธานาธิบดี หนูคิดว่าประเทศนี้กำลังต้องการความกล้าหาญอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยปัญหาจากไวรัสซิก้า หรือสงครามที่เกิดขึ้น หนูอยากให้คุณลุงช่วยทำอะไรสนุกๆ ได้มั้ยคะ? เช่น ใส่เสื้อมัดย้อมกับกางเกงขาสั้นไปในงานสำคัญบ้าง หนูอยากให้ลุงไปเล่นสกีที่แคริบเบียน พาครอบครัวไปดิสนี่ย์เวิลด์ ทำอะไรสนุกๆ และให้คุณลุงกล่าวคำอะไรซักอย่างที่ช่วยให้ทุกคนใจเย็นขึ้น คุณลุงอาจจะไม่รู้ว่าหนูเป็นห่วงบ้านเมืองมากแค่ไหน” แถมเด็กสาวตัวน้อยยังเขียนลงท้ายอีกด้วยว่า “หนูขอแสดงความยินดีกับการได้ดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของคุณลุงด้วยค่ะ หนูเกือบลืมเขียนไปเลยว่าหนูเป็นแฟนตัวยงของคุณลุง พ่อของหนูทำงานให้กับกองทัพอากาศ และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจให้หนูมีความอยากจะเป็นประธานาธิบดีบ้าง ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วอาชีพในฝันของหนูคือศัลยแพทย์ด้านหัวใจและหลอดเลือด เราจะพัฒนาประเทศไปด้วยกัน!” ถึงจะเป็นเด็กน้อยส่งมาให้ ประธานาธิบดีผู้นี้ก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะตอบกลับแต่อย่างใด… “ถึง Lilly ขอบคุณสำหรับจดหมายน่ารักๆ และคำแนะนำ เธอดูเป็นเด็กที่เก่งมากๆ และฉันจะบอกให้ว่ามีความกล้าหาญอยู่มากมายในตัวเธอ ที่จะช่วยทำให้ประเทศเราแข็งแกร่งได้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าภรรยาและลูกสาวจะคิดยังไงถ้าฉันใส่เสื้อมัดย้อมตามที่เธอแนะนำ แต่อย่างน้อยฉันรู้ว่าหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ…
-
เปิดจดหมายคนร้ายสังหารหมู่คนพิการในญี่ปุ่น เพื่อช่วยเศรษฐกิจ-ปกป้องโลกจากสงคราม!??
ช่วงนี้หลายๆคนคงได้ทราบข่าวโศกนาฏกรรมสุดสลดที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้ว เรื่องราวของนายซะโตะชิ อุเอะมะสึ วัย 26 ปี ผู้ที่ก่อเหตุบุกเข้าไปโจมตีใช้มีดไล่แทงผู้พิการจนเสียชีวิตกว่า 19 คน และบาดเจ็บสาหัสอีกกว่า 25 คน ที่สถานดูแลคนพิการในเมืองซะงะมิฮาระ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะก่อนหน้านี้เขาได้เขียนจดหมายไปให้ประธานสภาผู้แทนราษฏรเป็นระยะเวลานานกว่า 5 เดือนก่อนที่จะลงมือทำ เนื้อหามีการระบุถึงแผนการอย่างชัดเจนพร้อมเสนอข้อตกลงให้เป็นที่รับทราบ แต่อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะกล้าทำให้โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นจริงๆ นายซะโตะชิ อุเอะมะสึ สถานที่เกิดเหตุ สำหรับเนื้อหาจดหมายที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ก็ต้องขอขอบหยิบยกที่ทางเพจ ‘นี่ห้องโชว์ไก่’ ได้แปลเอาไว้ซึ่งมีข้อความที่ครบถ้วนสมบูรณ์กว่า และต่อไปก็สำหรับคนที่เข้าจากมือถือ ซึ่งอาจจะไม่เห็นโพสต์ด้านบน.. . . จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าหลังจากที่เขาเขียนจดหมายนี้ส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎรถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งทางการมีการตอบรับด้วยการส่งเขาเข้ารักษาในโรงพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช หลังจากนั้น เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ เขามีอาการดีขึ้นจึงถูกปล่อยตัวมา แต่กลับมาก่อเหตุที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะลงมือทำจริงๆ คล้ายคลึงกับจดหมายที่เขาได้เขียนแผนการนี้เอาไว้นั่นเอง พอได้เห็นข้อความในจดหมายแล้วก็ถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเลยทีเดียว… ขอร่วมแสดงความเสียใจให้แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้อีกด้วย งานนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฏหมายของญี่ปุ่นเค้าล่ะ ที่มา: Facebook นี่ห้องโชว์ไก่
-
นานจนลืมไปแล้ว!! คุณยายวัย 64 ปี เพิ่งจะได้รับโปสการ์ดที่ส่งมาเมื่อ 55 ปีก่อน
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวการส่งจดหมายหรือพัสดุอันเชื่องช้าของไปรษณีย์ไทย แต่รับรองว่าเมื่อท่านได้อ่านข่าวนี้ ความนานของไปรษณีย์ไทยนั้นต้องเรียกว่าเด็กๆ ไปเลย เพราะจดหมายฉบับนี้ใช้เวลาในการส่ง 55 ปี กว่าจะถึงที่หมาย!! เรื่องราวเกิดขึ้นในเมือง Llandudno ประเทศ Wales เมื่อวันหนึ่ง คุณยาย Yvonne วัย 64 ปี ได้รับโปสการ์ดจากไปรษณีย์ ซึ่งบนโปสการ์ดนั้นจ่าหน้าถึง คุณ B.H. Morgan ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือโปสการ์ดฉบับนี้ ส่งมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1960 หรือเมื่อ 55 ปีก่อน!! เธอเล่าว่า “จดหมายนี้ส่งมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันดูเก่าดีนะ ฉันลองดูที่แสตมป์ มันดูเหมือนแสตมป์รุ่นเก่ามากๆ แต่ฉันไม่ได้ใส่แว่น ฉันเลยไม่แน่ใจ พอสามีของฉันมาช่วยดู เขาบอกว่า ชัดเลย โปสการ์ดนี้ส่งมาตั้งแต่เมื่อ 55 ปีก่อน!!” โปสการ์ดดังกล่าวถูกส่งมาจากลูกพี่ลูกน้องของคุณ B.H. Morgan ที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน โดยใจความบรรยายถึงชีวิตของเขาในช่วงนั้น พร้อมๆ กับบ่นว่าอากาศไม่ดีเท่าไหร่ Yvonne กล่าวว่า เธอเพิ่งย้ายมาบ้านหลังนี้เมื่อสามปีก่อน โปสการ์ดฉบับนี้คงส่งมาให้เจ้าของบ้านคนเก่า ซึ่งเธอหวังว่าแถวนี้ยังจะมีญาติของ …
-
สาวน้อยเขียนจดหมายถึงตัวเองใน 10 ปีข้างหน้า… แต่น่าเสียดาย เธอไม่มีโอกาสได้อ่านมัน
คงมีใครหลายๆ คนที่ใช้วิธีการย้ำเตือนความจำของตัวเองด้วยการเขียนบันทึกความทรงจำไว้ในรูปแบบของจดหมายถึงตัวเองในอนาคต ซึ่งหากเราได้เปิดอ่านในอนาคตย่อมทำให้เราหวนคิดถึงวันเก่าๆ พร้อมทั้งได้รับรู้ถึงความรู้สึก และความตั้งใจในวันที่เขียนได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสาวน้อย Taylor Smith ที่เขียนจดหมายถึงตัวเองไว้ในอีกสิบปีข้างหน้า…แต่เธอกลับไม่มีโอกาสได้เปิดอ่านมัน จึงทำให้ครอบครัวของเธอได้สานต่อเจตนารมย์ของเธอด้วยการหยิบจดหมายนั้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตอันสุดแสนจะสนุกของเธอให้กับพวกเราได้ทราบกัน สาวน้อย Taylor Smith อาศัยอยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่นในเมือง Johnso City รัฐ Tennessee เธอเป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส และใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขร่วมกับครอบครัวของเธอพร้อมกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน แต่โชคร้ายยิ่งนักที่เธอต้องมาด่วนจากไปด้วยวัยเพียง 12 ปี จากการติดเชื้อของโรคปอดบวม หลังจากที่สาวน้อย Taylor ได้จากไป ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ต่างก็เสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่พวกเขากำลังทำการเก็บข้าวเก็บของในห้องนอนของ Taylor ก็ได้พบกับจดหมายที่สาวน้อยได้เขียนถึงตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีโอกาสได้อ่านมันอีกแล้ว… โดยระบุวันเปิดผนึกจดหมายนี้ไว้ในวันที่ 13 เดือน เมษายน ปี 2023 ซึ่งเธอเสียชีวิตไปในวันที่ 5 เดือนมกราคม ปี 2014 ครอบครัวของสาวน้อย Taylor…
-
ผีหลอก!! ลูกชายได้รับอีเมลจากคุณพ่อ หลังจากที่เสียชีวิตไปนานแล้วกว่า 2 ปี
อ่านจากการจั่วหัวข่าวแล้ว อาจจะทำให้คิดไปว่ามันเกิดขึ้นได้จริงๆ เร๊อะ? โลกแห่งความจริงนะ เฮ้ย!! ไม่ใช่หนังผี แบบว่าคนที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้วจะกลายมาเป็นผีสิงส่งอีเมลมาได้ยังไงกัน มันจะต้องเกิดขึ้นจากคนนี่แหละ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง โดยเป็นเรื่องราวของลูกชายคนหนึ่งที่ได้นำอีเมลฉบับดังกล่าวมาโพสต์ในสังคมออนไลน์ Reddit โดยเขาได้รับอีเมลนี้จากเว็บไซต์ FutureMe เป็นผู้ให้บริการส่งอีเมลแบบกำหนดวันและเวลาส่งในอนาคตได้ โดยเนื้อหาข้างในนั้นพ่อของเขาเป็นผู้เขียนในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เนื้อหาบางส่วนภายในอีเมลมีใจความว่า ‘สวัสดีลูกชาย, พ่อกำลังคุยกับเอ็งส่งตรงมาจากหลุมศพเลยนะ พ่อพูดตลอดว่าพ่อจะกลับมาหลอกหลอนเอ็ง’ ‘เอาล่ะ, เมื่อถึงเวลาที่เอ็งได้อ่านข้อความนี้ พ่อก็คงจากไปแล้ว พ่อหวังว่าเอ็งจะสามารถจัดการชีวิตตัวเองได้โดยที่ไม่ชายแก่ๆ คนนี้ แล้วก็ช่วยแม่ของเอ็งด้วย’ ‘พ่อมีความมั่นใจในตัวเอ็งเป็นอย่างยิ่งว่าจะดูแลแม่ได้ดีเท่ากับที่พ่อเคยทำนะ’ ‘สิ่งแรกที่พ่ออยากจะพูดมากที่สุดก็คืออยากให้รู้ว่าพ่อภูมิใจในตัวเอ็งมากขนาดไหน’ สำหรับความรู้สึกของลูกชายที่ได้รับก็คือ ‘เขาบอกผมว่าเขาภูมิใจในตัวผมมากกับการที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งหัวหน้างานรักษาความปลอดภัยชายแดน และความรักที่เขามีให้กับผม, รู้สึกดีที่ได้รับอีเมลฉบับนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว’ อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อแต่อย่างใด แต่ก็ถือว่าเป็นความห่วงใยที่คุณพ่ออยากจะบอกให้ลูกชายได้รับรู้ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปนั่นเอง ที่มา : dailymail, theladbible
-
จดหมายน้องสาว ฉะพี่เละเทะเพราะแอบกินอาหารจนหมด พี่เอาไปโพสต์จนชาวเน็ตมาร่วมฮาตรึม!!!
ถ่อวววววว #จ่าสิบเหมียว เป็นคุณแม่แล้วมาเห็นจดหมายฉบับนี้นะ คงหัวเราะตายก่อนแน่เลย ฮ่าๆๆ เมื่อน้องสาวเขียนจดหมายต่อว่าพี่สาวของเธอเกี่ยวกับการขโมยอาหารที่อยู่ในตู้เย็น ความฮาแบบฉบับครอบครัวเลยเกิดขึ้น!!! Louisa พี่สาว และคู่กรณีของน้องสาวเธอได้โพสต์เรื่องราวฮาๆ เมื่อน้องสาวของเธอเขียนจดหมายต่อว่าเธออย่างหนัก เรื่องแอบขโมยกินอาหารที่อยู่ในตู้เย็น ทำเอาเพื่อนๆ ของเธอฮาแตกกันเลยทีเดียว โพสต์ของ Louisa ส่วนนี่คือเนื้อความใจจดหมาย ‘ถึงพี่สาวผู้อวนฉุของฉัน Louisa ฉันเกลียดพี่สุดๆ เพราะพี่ชอบแอบกินอาหารของเราจนหมด แถมยังชอบปฏิเสธหน้าตายด้วยว่าไม่ได้กิน ทั้งๆ ที่พี่เป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องครัว เจ้าพี่แม่วัวอ้วนเอ้ย!!! นั่นเป็นเหตุผลที่ดีเลยล่ะว่าทำไมพี่ไม่มีเพื่อน เพราะพี่ชอบขโมยอาหารของเพื่อนๆ กิน เจ้าพี่อ้วนโง่เอ้ย!!! เพราะกินเยอะแบบนี้แหละตูดพี่เลยใหญ่บานเบอะเป็นฮิปโป เพราะกินทุกสิ่งอย่างที่มีอยู่ตรงหน้าไงล่ะ ฉันหวังว่าจะไม่มีใครมาแต่งงานกับพี่นะ เพราะกลัวว่าพี่จะไปกินครอบครัวของพวกเขาจนหมด แต่ฉันก็พร้อมจะให้อภัยและเรียกพี่ว่าพี่สาวของฉันอีกครั้งถ้าพี่เลิกกินอาหารของเราจนหมดเสียที!!! ลาก่อนพี่สาวที่แสนน่าเกลียด ส่วนตอนนี้ฉันก็ยังเกลียดพี่เข้าไส้เหมือนเดิม!!!’ เอิ่มมมม เอายังไงดี แน่นอนว่าเกลียดไม่ลงแน่เลยล่ะ เป็น #จ่าสิบเหมียว นี่คงฮาลั่นห้องอ่ะ เอิ๊กๆๆ พี่นะพี่ วันหลังก็กินเหลือให้น้องมันกินมั่งนะ ผอมแย่หมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ที่มา: Metro, Louisa
-
เปิดจดหมายจากคุณครู เขียนให้เด็ก ป.3 ทุกคนก่อนสอบ ซึ้งจนคุณแม่นำไปแชร์ลงเน็ต…
สำหรับการสอบวัดผลทั้งประเทศนั้น แน่นอนว่านักเรียน-นักศึกษา ในเกือบทุกๆ ประเทศย่อมเคยผ่านกันมาก่อน แถมบางครั้งโรงเรียนก็จริงจังซะมากจนกลายเป็นสงครามการแข่งขันกันระหว่างโรงเรียนเลยทีเดียว และผลกรรมเหล่านั้นก็ตกมาที่เด็กๆ เพื่อการแข่งขันด้านชื่อเสียงนี้ ตามปกติแล้วเด็กๆ ก็ตั้งใจสุดความสามารถของเค้าแหละ แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็ล้วนต้องการกำลังใจกันใช่มั้ยล่ะ โดยเฉพาะจากครู จากอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาให้กับพวกเขา ที่รู้จักพวกเขาดีกว่าใครๆ เรื่องนี้ก็เช่นกัน เกี่ยวกับเจ้าหนูน้อย Rylan ลูกของ Abby Martin ที่ร้องไห้กลับมาจากโรงเรียน พอแม่ถาม เขาก็บอกว่าเพราะจดหมายของคุณครูก่อนการสอบวัดผล ISEP ที่เขาได้รับ… มาถึงจุดนี้เพื่อนๆ อาจจะมองครูผิดไป ฮ่าๆๆ แต่ลองมาดูจดหมายของคุณครูกันก่อนนะจ๊ะ!!! จดหมายจากคุณครูที่มอบให้สำหรับการสอบที่จะเข้ามา… ถึงนักเรียนที่รักทุกคน… อาทิย์หน้า ทุกๆ คนก็ต้องสอบ ISEP กันแล้ว สำหรับวิชาคณิตศาสตร์และการอ่าน และอีกสองอาทิตย์หลังจากนั้นทุกคนก็จะได้รู้คะแนนสอบ ครูเข้าใจว่าทุกคนตั้งใจเป็นอย่างมากกับการสอบนี้ แต่ก็มีเรื่องสำคัญมากๆ ที่นักเรียนทุกๆ คนจะต้องรู้ตระหนักไว้เสมอ และสำคัญกว่าการสอบเสียอีก การสอบ ISEP และการอ่านนี้ ไม่ได้วัดผลไปเสียหมดในทุกๆ ด้าน ที่พวกเธออาจจะทำได้ดีหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น คนที่ออกข้อสอบนี้ไม่รู้จักพวกเธอเหมือนที่ครูและครอบครัวของเธอรู้จัก พวกคนออกข้อสอบน่ะไม่รู้ว่าพวกเธอบางคนพูดได้ถึง 2 ภาษา หรือว่าร้องเพลงได้ไพเราะขนาดไหน หรือวาดภาพสวยงามปานใด…
-
จดหมายที่ Alan Rickman เขียนลาฉบับสุดท้ายให้กับ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” และ “เจ.เค. โรว์ลิ่ง”
การจากไปของนักแสดงชาวอังกฤษ Alan Rickman ผู้เป็นข้าวของตัวละครมากมาย แต่ที่คนคงจำได้ไม่ลืมก็คงจะเป็นศาสตราจารย์ เซเวอรัส สเนป สุดโหด แต่จิตใจอ่อนโยนและน่าเคารพ Alan Rickman จากไปด้วยโรคมะเร็งในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 69 ปี ซึ่งเมื่อข่าวของเขาได้ถูกประกาศออกไป ก็ได้มีนักแสดงมากมายร่วมไว้อาลัยให้กับเขาผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีการแชร์จดหมายฉบับสุดท้ายที่เขาได้เขียนไว้เมื่อตอนที่ “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต Part 2” ได้จบลงในปี 2011 ซึ่งเป็นจดหมายที่มีเนื้อหาแสนอบอุ่น ถึงแม้จะกลับมาอ่านอีกครั้งก็ยังรู้สึกได้ จดหมายฉบับดังกล่าวได้เขียนไว้ว่า “Empire Magazine 26 เมษายน 2011 ผมเพิ่งกลับจากห้องอัดเสียงซึ่งเป็นที่ที่ผมจะพูดในฐานะตัวละครเซเวอรัส สเนปเป็นครั้งสุดท้าย บนจอภาพทำให้ผมหวนนึกถึงภาพของแดเนียล(แฮร์รี่) รูเพิร์ต(รอน) และเอ็มม่า(เฮอร์ไมโอนี่) เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่พวกเขาอายุได้ 12 ปี ตอนนี้ผมก็เพิ่งกลับจากนิวยอร์ค และระหว่างที่ผมอยู่ที่นั่น ผมเห็นแดเนียลทั้งร้องทั้งเต้นได้อย่างเก่งกาจบนเวทีบรอดเวย์ ราวกับชีวิตมันผ่านไปไวแค่กระพริบตาเท่านั้นเอง เด็กๆ เหล่านั้นได้กลายเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่ตอนได้รับโทรศัพท์จากเจ.เค. โรว์ลิ่งแล้ว และยังมีคำที่ชักชวนผมว่าบทบาทของสเนปนั้นมันมีอะไรมากกว่าชายที่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า(ใส่เสื้อตัวเดียวกันทั้งเรื่อง) ซึ่งตอนที่คุยกันนั้นหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์…
-
และนี่ก็คือ ‘จดหมายสุดโรแมนติก’ ที่คู่รักอยู่คนละประเทศ คอยส่งถึงกันเพื่อให้ความหวานยังคงเดิม
สำหรับคนที่มีแฟนแล้ว คงเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากๆ กับการที่ต้องจากคนรักไปไกลแสนไกล จนบางทีแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย จะคุยกันแต่ละทีก็ต้องวิดีโอคอลหรือไม่ก็แชทคุยกัน แต่สำหรับกราฟฟิคดีไซเนอร์ชื่อว่า Mikki Miller เธออาศัยอยู่ที่มินนิสโซต้า, อเมริกา เธอได้ทำวิธีกระชับความสัมพันธ์สุดโรแมนติกขึ้นมา ถึงแฟนของเธอที่ชื่อว่า Tyson Noël ที่อยู่ในแคนาดา และในระหว่างที่เธอไปหาเขาในช่วงปีใหม่ เธอก็ได้แอบทำจดหมายบางอย่างไปเซอร์ไพรส์เขาด้วยล่ะ มันเป็นธรรมดาสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เวลากลับจากที่ทำงานมาเหนื่อยๆ เราก็ต้องการที่คนที่มากอดเรา มาคอยพูดคุยกับเรา แต่สำหรับคู่นี้มันเป็นไปได้ยากมากๆ เธอก็เลยทำให้กระเป๋าใบนี้กับแฟนหนุ่มไป เมื่อเปิดออก ก็จะเห็นซองจดหมายมากมายที่เธอซ่อนไว้ ซึ่งแต่ละซองก็จะมีข้อความเขียนไว้อยู่ แต่ละซองนั้นจะเขียนให้แฟนเขอเปิดออกเมื่อรู้สึกอะไรบางอย่าง เช่น “เปิดเมื่อรู้สึกเหงา” “เปิดเมื่อรู้สึกอยากได้อะไรหวาน” “เปิดเมื่อโกรธฉันอยู่” เห็นแล้วอิจฉาคู่นี้เลยจริงๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็สามารถหาวิธีที่ทำให้เหมือนอยู่ด้วยกันตลอดเวลาได้ ใครมีแฟนแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะ ที่มา boredpanda
-
หนูน้อยเขียนจดหมายสุดเศร้าถึงลุงซานต้า ช่วยตามหา “สุนัขตาบอด” ที่เธอเลี้ยงไว้
หนูน้อยวัย 7 ขวบชื่อว่า Isla Kerr ในปีนี้ไม่ใช่คริสต์มาสที่มีความสุขเหมือนอย่างปีก่อนๆที่ผ่านมา เพราะสุนัขพันธุ์บอสตันเทอเรียร์วัย 3 ขวบ ของเธอที่ชื่อว่า Dolly ได้หายไปจากบ้าน และเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เจ้า Dolly เป็นสุนัขตาบอดที่ต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง ตอนเจอครั้งสุดท้ายคือเธอและแม่พา Dolly ไปซื้อของ และได้ผูกมันไว้นอกร้าน หลังจากนั้นก็เข้าไปซื้อของเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น พอออกมาก็พบว่าสุนัขหายไปแล้ว และคาดว่าน่าจะถูกขโมยไป ท่ามกลางความโศกเศร้า หนูน้อย Isla ยังเห็นความหวังเล็กๆอยู่ นั่นก็คือช่วงเทศกาลคริสต์มาส เธอหวังว่าลุงซานต้าจะช่วยเธอได้ เธอบอกกับแม่ว่า ซานต้าสามารถทำได้ทุกอย่าง ดังนั้นเธอจึงเขียนจดหมายบอกเล่าความรู้สึกเพื่อบอกลุงซานต้าให้ช่วยหาเจ้า Dolly นี่คือหนู Isla กับจดหมายที่เธอเขียนให้ลุงซานต้าช่วยหาเจ้า Dolly แม่ก็ช่วยติดป้ายประกาศในละแวกบ้านให้ช่วยหาอีกด้วย เผื่อว่าจะมีใครเจอมันบ้าง 5 วันต่อมา Isla และแม่ก็ได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งเล่าว่าได้พบเจอกับเจ้า Dolly เดินงงๆ อยู่ในสวนกลางเมือง เขาจึงรีบพาเจ้า Dolly กลับมาทันที และแล้วเธอกับ Dolly ก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับหนู Isla…
-
ชมคลิปเจ้าตูบแสนรู้ นอกจากจะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านได้แล้ว มันยังรับส่งจดหมายได้อีกด้วย!!
โดยปกติแล้ว เราจะเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อนยามเหงา เป็นคู่หูกับเรา หรือตอนเราไม่อยู่ มันก็สามารถเฝ้าบ้านให้กับเราได้ด้วย แต่วันนี้เหมียวไปเจอกับสุนัขตัวหนึ่งที่เป็นได้มากกว่านั้น เพราะมันสามารถรับส่งจดหมายให้เจ้านายด้วย เจ้าโกลเดน รีทรีฟเวอร์วัย 13 ปีตัวนี้อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ชื่อว่า Vitomir ในทุกๆครั้งที่มีบุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมาย มันก็จะรับรู้ถึงหน้าที่ของมันเอง มันจะมาคาบจดหมายของเจ้านายแล้วเอาไปให้เขาในบ้าน ซึ่งรางวัลที่มันได้รับก็คือขนมคุ้กกี้ อีกทั้งมันยังสามารถคาบรองเท้ามาให้เจ้านาย เพียงพูดคำว่า “ไปเดินเล่นกัน” และมันก็สามารถคาบร่มมาให้เจ้าของได้ด้วย ในวันที่ฝนตกแล้วลืมเอาร่มมา เราไปดูคลิปสุดน่ารักนี้กันเลยดีกว่า ที่มา Everyday Fun Stuff
-
ทำเนียบขาวส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้หนูน้อยครบ 1 ขวบ แต่ดันส่งคำยินดีเป็น 101 ปี!?
เรื่องราวอันแสนน่ารักและชวนหงายเงิบกับครอบครัว Shosted ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่ครอบครัวนี้มีธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อกันมาก็คือเมื่อถึงวันครบรอบวันเกิดของคนในครอบครัว ก็จะต้องขอคำอวยพรวันเกิดจากทำเนียบขาว ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นวันเกิดของเจ้าหนู Benjamin ที่กำลังจะครบรอบ 1 ขวบในสัปดาห์หน้าแล้ว เมื่อได้รับคำอวบพรจากทำเนียบขาวเป็นที่เรียบร้อย เปิดอ่านก็พบสิ่งที่ชวนเงิบก็คือ ‘ถึง Benjamin สุขสัตน์วันเกิดครบรอบ 101 ปี!’ เป็นคำอวยพรอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แถมยังมีลายเซ็นต์อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี Barack Obama ซะด้วย และที่ทำให้การ์ดอวยพรวันเกิดนี้พิเศษขึ้นไปอีกก็คือมันเป็นลายเซ็นต์ของประธานาธิบดีจริงๆ ไม่ใช่ลายเซ็นต์ดิจิตอล ทั้งนี้ทางครอบครัวก็ได้แต่สงสัยว่าที่เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะสลับกับจดหมายฉบับอื่นรึเปล่า? แต่อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวก็รู้สึกดีที่ได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดจากทำเนียบขาวเป็นอย่างดี กลายเป็นเรื่องฮาและเงิบที่สร้างรอยยิ้มให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี เหมียวก็ขอสุขสัตน์วันเกิดครบรอบ 101 ปี เอ้ย!! 1 ขวบของหนูน้อย Benjamin ด้วยนะจ๊ะ ทำให้เหมียวนึกถึงเพลงจดหมายผิดซองเลย ฮ่าฮ่า ที่มา : thechive
-
คำว่าแม่นั้นยิ่งใหญ่…ตำรวจค้นตัวผู้ร้ายติดยา พบจดหมายสุดซึ้งจากแม่ เล่นเอาน้ำตาไหลเลย
หลายๆครั้งลูกๆรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่แม่ทำไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่หากลองมานึกดีๆ หากจะมีใครคนหนึ่ง ที่พร้อมจะให้อภัยเราทุกครั้ง ไม่ว่าเราจะทำความผิดขนาดไหน คนๆนั้นจะเป็นใครไปได้นอกจากแม่ของเรานั่นเอง อย่างเช่นเรื่องราวของนางจ้อยและนายเด่นนี้ แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าลูกจะทำผิดขนาดไหน แม่ก็พร้อมจะให้อภัยและเป็นห่วงอยู่เสมอ นี่คือจดหมายที่ตำรวจค้นเจอในตัวของนายเด่น หลังจากถูกจับในข้อหาขโมยรถ ซึ่งเป็นจดหมายของแม่จ้อยเขียนถึง นายเด่น เนื้อความในจดหมายเล่นทำเอาเราๆน้ำตาซึมเลยทีเดียว เพราะเธอบอกว่า เธอพร้อมจะให้อภัยเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร “แม่รักเด่นนะ เด่นรักแม่ไหม แม่รักลูกนะ จงเลิกยาเสียเถิดลูก แม่จะรอวันที่หนูเลิกยา ก่อนที่แม่จะตาย แม่ขอให้หนูเด่นของแม่ร่าเริง เล่นกับแม่ กอดแม่บ้าง แม่รักลูกนะเด่น จากแม่จ้อยที่ถูกลืม” ในรายงานกล่าวว่า นายเด่นเคยมีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายมารดาของตน จนนางจ้อยทนไม่ไหว ต้องแจ้งให้ตำรวจมาช่วยระงับสติอารมณ์ แต่นางจ้อยก็ไม่ได้แจ้งข้อหาต่อลูกชายของตนเองแต่อย่างใด แต่สุดท้ายนายเด่นก็ถูกจับ ในข้อหาขโมยรถนั่นเอง เห็นแบบนี้แล้ว อย่าลืมกลับบ้านไปแสดงความรักต่อคุณของตนเองกันบ้างนะเหมียว เกิดวันหนึ่งท่านไม่อยู่แล้ว จะมาเสียใจตอนนั้นก็ไม่ทันแล้วนะจ๊ะ ที่มา Kamon Yamutai
-
และนี่คือจดหมาย ‘ลาโรงเรียน’ จากเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ ที่ใครอ่านแล้วต้องเผลอยิ้มแน่ๆ
มีเรื่องราวน่ารักๆในแวดวงการศึกษาไทยมาอีกแล้ว เมื่อล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพในเฟซบุ๊คกลุ่ม ชมรมครู ค.ศ.1 แห่งประเทศไทย ถึงจดหมายลาของเด็กนักเรียน ที่เขียนออกมาได้อย่างจริงใจเป็นที่สุด เนื้อความคร่าวๆก็คือ…. เด็กจำเป็นต้องลาเพื่อไปดูแลยายป่วย จนกว่าป้าจะกลับมาจากต่างประเทศ จึงกลับมาเรียนอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้น่ารักก็ลองอ่านดูสิครับ . อย่างไรก็ตาม กลับมีคอมเมนท์ออกมาถึงความ เหมาะสม vs ไม่เหมาะสม ในจดหมายลาฉบับนี้ ตัวอย่างเช่น… – ภาษาดูซื่อและจริงใจมากเลยค่ะ แต่ไม่ถูกแบบแผน – เด็กก็คือเด็กครับอาจารย์ ฝึกบ่อยๆเดียวก็ดีเองครับ ยังดีที่ยังเขียนมาบอกให้รู้สื่อสารได้ใจความครับ – ในความเป็นจริงของชีวิตเด็กซื่อใสบริสุทธิ์ ดีแล้วที่เขียนเป็นบทความมา ถ้าสมมุติไปว่าเด็กเขียนไม่มีรูปแบบ เด็กจะไม่เขียนอีกเลย …ความคิดเห็นส่วนตัวครับ – 555 ภาษาหนอ ภาษาไทยมันยากไปใช่ไหม ลูกถึงเขียนผิดเขียนถูก แฟนเว็บเหมียวล่ะครับ อ่านจดหมายของเด็กนักเรียนคนนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง คิดว่าน่ารักดี หรือไม่เหมาะสมไปหน่อย คอมเมนท์กันมาได้จ๊ะ ที่มา: Ruangrote Glinhom
-
พาไปชม 10 ภาพแห่งความประทับใจ ที่ทำให้รู้ว่าโลกของเรายังมีเรื่องราวดีๆ ซ่อนอยู่มากมาย
เราอาจจะเคยเห็นภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกเรามาเยอะแล้ว แต่ความจริงบนโลกของเรายังมีเหตุการณ์ และเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจซ่อนอยู่มากมาย และในครั้งนี้เราจึงได้นำ 10 ภาพแห่งความประทับใจของพวกมนุษย์ ที่จะทำให้ทุกคนยิ้มตามแน่นอน ถ้าอย่างนั้นเรามาชมกันเลยดีกว่าจ้า 1.เมื่อชายหนุ่มเห็นคุณยายกำลังถือถุง และจูงเจ้าสุนัข เขาจึงรีบไปช่วยเธอถือของทันที 2.ใครบางคนนำดอกไม้ในขวดแก้ว มาวางไว้ให้คนอื่นโดยที่ไม่มีเหตุผล 3.ในวันที่อากาศร้อนจัด มีคู่รักนักปั่นจักรยานคู่หนึ่งกำลังป้อนน้ำให้เจ้าหมีโคอาลา 4.เจ้าหน้าที่ตำรวจใจดีจากเมืองนิวยอร์กคนนี้ ซื้อรองเท้าใหม่ให้ชายไร้บ้านใส่ 5.แม้ว่าจะไม่มีวันได้เห็นหน้ากัน แต่คนรักหนังสือนิรนาม ก็ได้ซ่อนเเผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทักทาย คนรักจากหนังสืออีกคน 6.ในวันที่ฝนตกหนัก ชายหนุ่มคนนี้ได้เข้าไปกางร่มให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถเข็น 7.แม้พวกเขาจะพูดคนละภาษาหรือคนละชาติ แต่ทหารจากตะวันตกก็ยังช่วยสาวมุสลิมขึ้นมาจากน้ำ 8.ชายใจดีคนหนึ่งจากแคนาดา จ่ายค่ากาแฟฟรีให้คนอื่นกว่า 28,863 บาท ในร้าน Tim Horton 9.ภาพของเหล่าทหารกำลังนอนเพื่อทำสะพานช่วยชาวบ้านให้ข้ามแม่น้ำ ในเหตุการณ์น้ำท่วม 10.พนักงานไปรษณีย์กำลังตระเวนแจกขนม Swedish Fish ฟรี ให้แต่ละบ้านผ่านกล่องไปรษณีย์ เห็นไหมล่ะว่าบนโลกของเรายังมีเรื่องราวดีๆ มากมายเกิดขึ้นทุกวัน หากใครชอบเรื่องราวสุดประทับใจเหล่านี้…
-
แรงไปไหม? จดหมายรักฉบับฮาร์ดคอร์ จากพี่ ป.5 จีบน้อง ป.4 ไม่รับรักมีต่อย!
สมัยเด็กๆเหมียวเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยตกหลุมรักเพื่อนร่วมชั้นหรือรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนเดียวกันใช่ไหมล่ะ และการจะสื่อความในใจไปให้คนที่เราแอบชอบนั้นวิธีที่ฮิตที่สุดก็คงไม่หนีไม่พ้น ‘จดหมายรัก’ ที่ส่งข้อความมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งไปให้ ในปัจจุบันจดหมายรักก็ยังได้รับความนิยมอยู่นะ แต่จดหมายรักของเด็กประถมสมัยนี้มันช่างดูฮาร์ดคอร์เสียนี่กระไร เพราะล่าสุดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับจดหมายรักจากทวิตเตอร์ @fanchan_2012 เป็นภาพจดหมายรักของเด็ก ป.5 ที่ส่งไปจีบน้อง ป.4 พร้อมกับข้อความว่า “อีห่าา เด็กผญ ป.5 มาจีบน้องกูที่อยู่ ป.4 หนูเอาเวลาไปตั้งใจเรียนก่อนมั้ยยยยย 555555 #กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียว” จะเป็นยังไงนั้นเราลองมาดูกัน “น้องเกลียดพี่ใช่ป่ะ บอกพี่มาเลย เกลียดก็บอกว่าเกลียด รักก็บอกว่ารัก น้องอย่าให้พี่อารมณ์เสียได้ป่ะ พี่ขอร้องน้องบอกพี่มาเหอะ พี่ว่าน้องเกลียดพี่ ดูดิเมื่อตอนเที่ยงน้องไม่ออกมาคุยกับพี่เลย ตอบพี่ด้วยนะ ไม่ตอบตามขึ้นไปถึงอะ” นอกจากนี้ยังมีข้อความอื่นๆด้วยนะ ลองไปดูกันเลย แหม่เด็กๆสมัยนี้เขาจีบกันโหดดีเนอะ ไม่รู้ว่าจริงหรือเล่นกันแน่ ยังไงฝากผู้ปกครองกวดขันลูกๆของตัวเองด้วยนะจ๊ะ ที่มา @fanchan_2012