Tag: จับปู
-
เสี่ยงตายรายได้งาม “นักจับปูอลาสก้า” อาชีพอันตรายที่สุดในโลก ออกรอบเดียวได้หลักล้าน!!
ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาการเงินติดขัด หรือรู้สึกว่างานที่ทำมันช่างได้ค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอาชีพจับปูที่มีรายได้ดีสุดๆ สื่อหลายสำนักต่างเคยลงเรื่องราวของอาชีพนักจับปูอลาสก้ามาให้เราเห็นผ่านตากันบ้างแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายสูงมาก แต่ก็แลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงจนน่าตกใจเช่นกัน อาชีพจับปูอลาสก้านั้นจะสามารถทำได้เฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม – มกราคม ของทุกปีเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปี และในช่วงที่สภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปีนี้เอง จะเป็นช่วงที่เหล่าปูอลาสก้าทั้งหลายเดินทางมาวางไข่ใต้ท้องทะเลลึกกัน ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสทองเดียวของพวกเขาในการล่าพวกมันมาขาย ส่วนใหญ่แล้วการเดินเรือหนึ่งครั้งจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 2 – 4 อาทิตย์/ปี เท่านั้น พวกเขาจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้ว ท่ามกลางมหาสมุทรที่มีคลื่นซัดกระหน่ำ The Bureau of Labor Statistics ได้จัดอันดับให้งานจับปูอลาสก้า เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดติดอันดับต้นๆ มีการเก็บค่าเฉลี่ยและพบว่าในทุกๆ รอบของการเดินทางไปจับปู จะต้องมีลูกเรือเสียชีวิต 1 คนเป็นอย่างน้อย ลูกเรือทุกคนจะต้องทำงานอย่างหนักเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแข่งขันกับเวลาในการจับปูอลาสก้า ทว่านั่นเป็นสาเหตุทำให้คนงานส่วนใหญ่ขาดสติในการทำงาน และเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย หรือไม่ก็เสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นเกิน ด้วยกฎหมายการออกล่าที่จำกัดระยะเวลา ทำให้พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลา ทว่าด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่าอาชีพอื่นๆ ทำให้คนจับปูเป็นอาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า 50,000 –…
-
“นักจับปูอลาสก้า” อาชีพที่มาพร้อมกับความเสี่ยงในทะเลสุดอันตรายแต่รายได้มหาศาล!!
สุดยอดความอร่อยที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับในมวลปูต้องยกให้กับ “ปูอลาสก้า” แล้วล่ะ เนื้อเยอะและแน่นสุดจะบรรยาย แต่มาพร้อมกับราคาที่แพงเอาเรื่องเลยล่ะ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นปูที่หายากและจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแสนไกล กว่าจะจับมาได้ซักตัว นอกจากจะหายากแล้ว เหล่าชาวประมงผู้ที่ออกไปตามหาปูอลาสก้านั้นจะต้องพบกับความเสี่ยงในชีวิตตลอดเวลาที่ออกจากฝั่ง ซึ่งในทะเล Bering Sea ได้ชื่อว่าเป็นทะเลที่โหดที่สุด เพราะจะต้องพบกับกระแสน้ำอันโหดร้ายและสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และช่วงเวลาที่ปูจะออกมานั้นมีเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น สำหรับปูที่ถูกจับตามองจากชาวประมงมากที่สุดก็คือ King Crab และ Opilio Crab เมื่อมีระยะเวลาอันจำกัด กัปตันเรือก็จะต้องตัดสินใจที่จะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจับปูแต่ละชนิดด้วย ชีวิตบนเรือจะต้องพบกับความเสี่ยงทุกเมื่อ จะนอนก็นอนไม่ได้ เพราะเรือสั่นตลอดเวลา ไหนจะต้องเจอกับพายุและคลื่นยักษ์อีก หนทางที่จะไปนั้นอาจจะคว้าน้ำเหลวอีกก็เป็นได้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีปูอยู่ตรงนั้นรึเปล่า ต่อให้เสี่ยงแค่ไหน สิ่งที่คอยดึงดูดชาวประมงผู้แน่วแน่กับการตามหาปูอลาสก้านั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ “รายได้” อันมหาศาล ถ้าหากว่าสามารถจับปูได้เยอะ พอกลับขึ้นฝั่งแล้วก็จะกลายเป็นเศรษฐีทันทีเลยล่ะ เพราะราคาของปูอลาสก้านั้นสูงมากๆ เมื่อไปถึงบริเวณที่คาดว่าจะมีปูอยู่เยอะๆ แล้ว พวกเขาก็จะทำการหย่อนกรงจับปูลงไป และจะรอให้ปูเข้ามาอยู่ในกรงเป็นเวลาประมาณ 5-12 วัน จากนั้นก็จะย้ายไปบริเวณอื่น บางทีอาจจะได้เยอะ และบางทีอาจจะได้น้อย คอยยกขึ้นมาตรวจเป็นระยะๆ ถ้าหากว่ายกขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรเลย ก็ถึงเวลาที่จะต้องย้ายจุดวางกรงแล้วล่ะ ปูทุกตัวจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกก่อน ตัวไหนที่ได้ขนาดก็จะถูกเก็บไว้ภายในคลังท้องเรือ ตัวไหนที่ไม่ได้ขนาดก็จะถูกส่งกลับไปสู่ท้องทะเล…