Tag: จับโจร
-
โจรปล้นร้านขายของในจีน แต่ถูกแคชเชียร์หญิงใจกล้าขู่ตะเพิด แถมวิ่งไล่จนจับตัวได้!!
ณ ร้านขายของชำแห่งหนึ่งในนครหนานจิง ประเทศจีน ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาทำทีจะซื้อของแต่สุดท้ายกลับกลายเป็น การปล้น แต่หญิงที่เป็นพนักงานในร้านกลับตอบโต้อย่างกล้าหาญจนจับตัวโจรคนนี้ได้สำเร็จ คลิปวิดีโอหนึ่งจากกล้องวงจรปิดได้ถูกแชร์ต่อกันจำนวนมากในโลกออนไลน์ ภายในคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งเข้าปล้นร้านขายของชำด้วยอาวุธมีดในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. แต่กลับทำไม่สำเร็จ โจรปล้นร้านขายของชำในนครหนานจิง ประเทศจีน ที่เห็นภายในคลิปวิดีโอชายหนุ่มวัย 22 ปีนามว่า Liu นั้นเดินเข้ามาหน้าเคาน์เตอร์พร้อมสินค้าจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะคว้ามีดพกออกมาขู่พนักงานคิดเงินหญิงว่า “นี่คือการปล้น” พนักงานหญิงคนดังกล่าวทราบภายหลังว่าชื่อ Wang แทนที่เธอจะหลบและยอมทำตามโจรเพื่อความปลอดภัย เธอกลับยืนและต่อปากต่อคำอย่างหนักแน่น เธอขู่กับชายที่กำลังปล้นว่าจะแจ้งตำรวจ . “แกจะไม่ได้เงินไปสักแดง” เธอตะโกนใส่โจรขณะที่เธอเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งกำลังจะโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ลองปล้นดูสิถ้าแกกล้า” Wang เอ่ยปากท้าทายและข่มขู่โจร คำขู่ของ Wang ทำโจร Liu หยุดการปล้นและรีบคว้าสินค้าต่างๆ หนีออกจากร้านไป รวมๆ แล้วมีมูลค่าราว 50 บาทไทย จากนั้น Wang จึงรีบวิ่งตามออกไป ซึ่งโชคดีที่ผู้คนบริเวณนั้นได้ช่วยจับตัว Liu เอาไว้โดยทั้งคู่ตั้งใจจะจับตัวเขาเอาไว้รอให้ตำรวจมาดำเนินคดีต่อไป…
-
25 ภาพสเก็ตช์คนร้ายของตำหนวด ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถนำไปจับคนร้ายได้จริงๆ
การสเก็ตช์ภาพหน้าคนร้ายนั้นเป็นวิธีการสืบหาตัวผู้ต้องสงสัยที่นิยมและใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในหลายๆ ประเทศทั่วโลก แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้ว ความแม่นยำของภาพสเก็ตช์ที่สามารถนำไปสู้ตัวผู้ต้องสงสัยได้นั้น มันน้อยมากๆ จากรายงานของนักวิจัยชาวอังกฤษ Charlie Frowd บอกว่า วิธีการสเก็ตช์ภาพนั้นมีความแม่นยำในการจับตัวผู้ต้องสงสัยเพียง 9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่ามันเป็นการยากที่คนเราจะสามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้อย่างละเอียด เรารู้ว่าใครหน้าตาเป็นอย่างไร แต่หากว่าให้บอกเป็นส่วนๆ เช่น จมูก ปาก หรือตาก็อาจจะทำให้นึกไม่ออกนัก ดังนั้น ฝึมือของผู้สเก็ตช์ภาพจึงมีบทบาทสำคัญ เอาล่ะ ไปชมฝีมือการสเก็ตช์ภาพสุดเฟล ทั้ง 25 ภาพกันเลยดีกว่า แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมภาพสเก็ตช์มันถึงใช้จับโจรได้ยากเหลือเกิน… 1. คนนี้น่าจะมาจากยุค 70 2. การ์ตูนล้อเลียนหรือเปล่าเนี่ย!? 3. ดวงตากลมโตดีแท้หนอ 4. เหมือนสุดๆ ไปเลยล่ะ (ประชด) 5. โอ้โห แยกไม่ออกเลยทีเดียว 6. การ์ตูนล้อเลียนมาอีกแล้วเหรอ!? 7. ทรงผมเหมือนหลุดมาจากอนิเมะ 8. คนนี้น่าจะโดนคดียกทัพเอเลี่ยนบุกโลก…
-
ตำรวจจีนเริ่มใช้ ‘แว่นตาอัจริยะ’ สามารถระบุตัวตนประชาชน เพื่อเข้าถึงคนร้ายได้ง่ายขึ้น!!
ปัจจุบันเทคโนโลยีของมนุษย์เรานับว่าก้าวหน้ามาไกลมาเลยทีเดียว มีอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งช่วยทำให้ชีวิตของมนุษย์เรานั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในด้านของตำรวจเองก็ไม่แพ้กัน เพราะในยุคนี้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทค ที่ออกมาเพื่อช่วยให้จับผู้ร้ายได้ง่ายขึ้นมาก ลักษณะคล้ายกับที่เคยเห็นผ่านตาในภาพยนตร์ก็คงจะไม่ผิดนัก และอุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ แว่นตาไฮเทค Smartglasses โดยทางตำรวจขนส่งในเมืองเจิ้งโจวของประเทศจีน ได้ลองนำมาใส่แล้วไปประจำการที่สถานีรถไฟ ในช่วงวันตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ามีผู้คนพลุกพล่านที่สุด โดยเจ้าแว่น Smartglasses มีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้สวมใส่นั้นสามารถตรวจจับและระบุตัวตนของผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายได้ทำการสวมแว่นตาดังกล่าว แล้วไปประจำที่ประตูทางออกด้านตะวันออกของสถานี เมื่อพบเจอผู้ต้องสงสัย กล้องที่ติดอยู่กับแว่นตาจะทำการเก็บภาพใบหน้าของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ในสำนักงานใหญ่ จากนั้นระบบจะทำการแสดงข้อมูลที่สำคัญของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นขึ้นมา ประกอบไปด้วย ชื่อ สัญชาติ เพศ และที่อยู่ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งกลับมาปรากฏบนแว่นที่เจ้าหน้าที่สวมใส่อีกครั้ง ทั้งนี้แว่นยังสามารถระบุได้ว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวนั้นกำลังหนีคดีอยู่หรือไม่ อีกทั้งยังระบุโรงแรมหรือที่พักที่บุคคลนั้นๆ กำลังเข้าพัก รวมไปทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ต้องสงสัยอีกด้วย ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นคาดว่ามีประชาชนประมาณ 390 ล้านคน เดินทางโดยรถไฟในช่วงเวลา 40 วัน ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเจิ้งโจวเอง ก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ถึง 7 ราย มีตั้งแต่คดีชนแล้วหนี…
-
ตำรวจใช้กลยุทธ์จาก Simpson ดักจับคนร้ายที่ต้องการตัว แต่ที่เด็ดกว่าคือมันสำเร็จ!?
ใครจะคาดคิดว่ามุกตลกหลอกเด็กแบบ ทำทีว่าจะมีการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่สำนักงานตำรวจเพื่อหลอกให้โจรมารับของขวัญ จากการ์ตูนเรื่อง Simpsons จะมีคนเอามาใช้จริงๆ แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่าคือมันดันสำเร็จซะด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมือง South Yorkshire โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ทางการกำลังตามตัวได้กว่า 21 คนได้สำเร็จด้วยวิธีสุดจะเหนือความคาดหมาย… เจ้าหน้าที่ได้เรียกคดีนี้ว่า Operation Holly โดยพวกเขาได้ทำการ์ดอวยพรกับชื่อบริษัทมอบของขวัญแบบปลอมๆ ขึ้นมา พร้อมส่งการ์ดและของขวัญไปยังคนร้ายทั้ง 21 คน ซึ่งภายในการ์ดก็เขียนไว้ว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสจากบริษัท Herald Hampers โดยทางบริษัทจะส่งแชมเปญสุดหรู ขนมและของขวัญอื่นๆ อีกเพียบไปให้ในเร็ววัน แน่นอนว่าเมื่อเหล่าคนร้ายได้รับการ์ดแสดงความยินพร้อมบอกว่าของขวัญจะมาในเร็ววัน พวกคนเขาก็ไม่พลาดที่จะอยู่ติดกับบ้านเพื่อรอแชมเปญสุดหรูจากบริษัท Herald Hampers แต่แล้วเมื่อถึงวันที่ของจะมาส่ง พวกเขากับต้องเซอร์ไพรส์ กริ่งที่มากดหน้าบ้านของเหล่าคนร้าย แทนที่จะเป็นพนักงานส่งของ แต่มันดันโป๊ะแตกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปซะได้ งานนี้เหล่าคนร้ายทั้ง 21 คนที่เคยก่อคดีมากมาย ทั้งทำร้ายร่างกาย ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เมาแล้วขับและอื่นๆ อีกเพียบ งานนี้ชาวเน็ตที่ได้อ่านข่าว ก็บอกว่าคดีแบบนี้มันช่างคุ้นเคยและคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะได้แนวคิดมาจากการ์ตูนเรื่อง Simpson ในตอน ‘Lisa the Sceptic‘ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Springfield ได้คิดแผนตกโจรด้วยการมอบของรางวัลใหญ่แก่ผู้ที่มางานเป็นเรือมอเตอร์ ซึ่งสุดท้ายคนร้ายก็มาจริงๆ…
-
คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?
ตามที่เราหลายคนเข้าใจคือ เราสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่เป็นการป้องกันตัว เหมือนกับ Carl Sinclair ที่เข้าใจแบบนั้น จึงได้ทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถในบ้าน แต่สุดท้ายเขากลับถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย!? ในวันที่เกิดเหตุนั้น Carl เห็นคนร้ายกำลังจะเข้ามาขโมยรถของเขาที่จอดไว้ ขณะนั้นภรรยาและลูกๆ สามคนกำลังนอนอยู่ในบ้าน ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน เขาจึงคว้าค้อนวิ่งออกไปข้างนอก ปะทะกับโจร ก่อนจะกดหัวเขาไว้กับพื้น จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่จะจับคนโจรไปดำเนินคดี กลับจับ Carl ในข้อหาทำร้ายร่างกายซะงั้น เมื่อไปขึ้นศาล คณะลูกขุนได้ทำการพิจารณาคดีเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแล้วตัดสินให้เขามีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปทันที แน่นอนว่า Carl ไม่เข้าใจกับการตัดสินในครั้งนี้ และเขามองว่าระบบความยุติธรรมช่างเป็นอะไรที่ตลกสิ้นดี “ผมไม่ใช่คนร้าย แต่ชีวิตผมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ ผมเป็นพ่อ เป็นสามีธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครรัวที่คอยปกป้องครอบครัวที่ผมรัก” แม้จะพยายามบอกเหตุผลให้ศาลฟังยังไงก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือน ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น ภรรยาและลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่หารายได้ให้ครอบครัวใช้จ่ายในด้านต่างๆ นั่นทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน แม้ว่าปัจจุบันจะออกจากคุกแล้ว แต่ Carl ยังเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า “อะไรคือความยุติธรรม? ผมสู้กับโจรที่จะเข้าขโมยและจับเขาไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่ได้รับโทษกลับเป็นผม” “ที่สำคัญคนร้ายที่พยายามจะเข้ามาในบ้านของผมนั้น ถูกจำคุกเพียง 8 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้…
-
เจ้าโจรโดนจับจากการช่วยเหลือของตำรวจหญิงเกษียณวัย 90 ปี ถึงจะแก่แต่ยังฟิตปั๋งอยู่นะจ๊ะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นตำรวจแล้ว เมื่อคุณตัดสินใจเริ่มอาชีพนี้ จะไม่สามารถเลิกเป็นได้ เพราะแม้คุณจะเกษียณไปแล้ว แต่สัญชาตญาณการเป็นตำรวจก็ยังคงมีอยู่ในตัวเสมอ เหมือนกับ Barbara McArthur อดีตตำรวจหญิงวัยเกษียณ ที่แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยตำรวจจับผู้ร้าย Jonathan Tawse วัย 28 ปีได้อย่างเหลือเชื่อ Barbara เริ่มทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่ออายุ 25 ปี และผลงานล่าสุดคือการจัดการกับ Tawse ได้อย่างอยู่หมัด สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก เหตุการนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Tawse ได้มาเสนอทำความสะอาดกระจกบ้านให้ Barbara โดยคิดราคา 200 บาท แต่พอทำไปสักพัก เขาก็อ้างว่าได้ทำการซ่อมแซมรอยร้าวบนประตูให้ด้วย จึงคิดราคาเพิ่มอีก 2,000 บาท ซึ่งเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการหลอกลวง แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องทำเหมือนไม่รู้ว่าโดนหลอก ก่อนจากไป Tawse ได้ให้ใบปลิวกับเจ้าของบ้าน และบอกว่าเธอว่าจะกลับมาทำให้อีก หากมีอะไรต้องวซ่อมเรียกเขาได้เลย และใบปลิวใบนั้นที่ Barbara เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อมัดตัวเขา ต่อมา Barbara ได้เข้าพบตำรวจและแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Tawse และพ่อของเขา Michael วัย 51 ปีว่าทั้งคู่เป็นนักต้มตุ๋น …
-
ตำรวจเปิดประตูรถอัดใส่ขโมย จนนอนล้มไปกองกับพื้น… ชาวเน็ตสงสัย ต้องทำขนาดนี้เลย?
หน้าที่ของตำรวจคือจับโจร แต่วิธีการจับโจรนั้นก็มีหลากวิธีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่กรณีนี้เมื่อตำรวจไล่จับโจรด้วยการเปิดประตูรถใส่จนทำให้โจรล้มลงไปนอนกับพื้น ทั้งๆ ที่ก็มีวิธีการจัดการอีกหลากหลายทาง? Jake Nedd วัย 31 ปี ได่ก่อเหตุขโมยของจากรถ Range Rover สีดำที่จอดอยู่ข้างทางบนถนน Dawes ทางตะวันตกของลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพการกระทำดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ในวิดีโอคลิปจะเห็นคนร้ายเดินเข้าไปดุ้มๆ มองๆ ตรงกระจกรถก่อนจะมาเปิดท้ายรถแล้วก็พยายามขโมยข้าวของ อีกทั้งยังไปขโมยของที่อยู่ในทางด้านหน้ารถด้วย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลากลางวันแสกๆ เลย พอขโมยของสมใจเขาก็ปั่นจักรยานเพื่อหลบหนี แต่ยังไม่ทันไรตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุซะก่อน ทำให้ Nedd พยายามปั่นหนีไปอีกทาง แต่ก็ถูกตำตรวจตามขนาบข้าง ในจังหวะนั้นเอง ตำรวจก็เปิดประตูรถใส่คนร้ายจนทำให้เข้าล้มลงไป ตำรวจจึงลงไปรวบตัวทันที… ซึ่งภายในเวลาต่อมาศาลก็ตัดสินให้ Nedd จำคุกเป็นระยะเวลา 7 เดือน แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบแค่นั้น เมื่อ Berns หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่จับคนร้ายออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “คนร้ายในคลิปพยายามจะหลบหนี แต่ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อีกคนที่ขับรถรถเก่งมาก จนทำให้ผมจับคนร้ายได้” หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วย โดยโต้กลับว่า “มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ทำแบบนี้อาจทำให้เขาตายได้เลยนะถ้าเกิดหัวกระแทกพื้นขึ้นมา” ขณะเดียวกัน Sebastian Swire ก็ออกมาเขียนว่า “มันเหมาะสมแล้วหรอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาอวดผลงานผ่านสื่อออนไลน์แบบนี้?” อย่างไรก็ตาม งานนี้มีชาวเน็ตไม่น้อยที่ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่ Berns…
-
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม!! คุณตำรวจแปลงกายเป็นหญิง แต่งตัวสุดฟรุ้งฟริ้ง เพื่อดักจับโจรตามป้ายรถเมล์
ในช่วงนี้โลกอินเทอร์เน็ตได้มีการแชร์ภาพๆ หนึ่ง ที่เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนอาจจะเห็นกันมาบ้างแล้ว โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง เอ้ย!! เจ้าหน้าที่ตำรวจชายท่านหนึ่ง… ที่ได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง เพื่อหลอกจับพวกโจรที่ชอบดักจี้ตามป้ายรถเมล์ งานนี้เรียกได้ว่าพวกโจรโดนสับขาหลอกเต็มๆ เลยล่ะ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวไทยได้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวหนุ่มวัย 17-18 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ หลังจากที่ได้ออกจี้ปล้นผู้คนตามป้ายรถเมล์ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเอเวอรี่มอลล์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ชิงทรัพท์ที่หน้าศาลหลักเมืองนนทบุรีขึ้น และในวันที่ 9 ก็ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ที่ปากซอยรัตนาธิเบศร์ จากนั้นในวันที่ 10 ก็ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ขึ้นอีกครั้ง โดยเกิดที่หน้าห้างเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เหยื่อที่ถูกชิงทรัพย์นั้นส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สั่งการให้ ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ผบ.หมู่.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง เพื่อดักจับโจรชิงทรัพท์ตามสถานที่ต่างๆ ซะเลย…
-
คาวบอยมาเอง!! หนุ่มช่วยจับโจรขโมยจักรยาน ด้วยการขี่ม้าไล่ตาม แล้วคล้องด้วยบ่วงเชือก
ถ้าใครเคยดูหนังคาวบอย จะต้องเคยเห็นภาพพระเอกขี่ม้าตัวเก่ง ไล่จับผู้ร้ายด้วยการขว้างบ่วงเชือกไปคล้องไว้ จนตัวร้ายหนีไปไหนไม่ได้ แต่เชื่อหรือไม่ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคาวบอยคนหนึ่งช่วยจับโจรขโมยจักรยาน ด้วยวิธีการเหมือนในหนังเด๊ะ!! เรื่องราวเกิดขึ้นที่หน้าห้างวอลมาร์ทแห่งหนึ่ง ในรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อโจรหนุ่ม Victorino Arellano-Sanchez วัย 23 ปีตัดสินใจขโมยจักรยานเสือภูเขาของผู้หญิงคนหนึ่งที่จอดอยู่หน้าห้าง โชคดีจังหวะที่โจรคนนี้กำลังจะควบจักรยานหนีไป Robert Borba อดีตนักแสดงบังคับม้าวัย 28 ปี ที่ย้ายมาทำสวนปศุสัตว์ในโอเรก้อน ได้ยินเสียงกรีดร้องของเจ้าของจักรยานพอดี โชคดีที่เขาพา Long John เจ้าม้าคู่ใจพร้อมกับเชือกมาด้วย เขาจึงตัดสินใจควบม้าไล่ตามโจรคนนั้นทันที โชคดีซ้ำสอง โจรกระจอกคนนี้ ดันไม่เคยขี่จักรยานมีเกียร์มาก่อน เขาจึงงงงวยกับการปรับเกียร์เป็นอย่างมาก ทำให้ Borba สามารถตามไปได้ทัน เจ้าโจรเห็นดังนั้นจึงทิ้งจักรยาน และเตรียมวิ่งหนี ทันใดนั้นเอง Borba ก็ใช้เชือกที่นำมาเหวี่ยงไปจับโจรไว้ เชือกมัดเข้าที่ขาของโจรคนนั้นพอดี เมื่อเห็นว่าโจรหนีไปไหนไม่รอดแล้ว Borba จึงจับโจรไปมัดไว้ที่ลานจอดรถ เพื่อรอให้ตำรวจมารับตัวไป Borba เล่าว่า ก่อนหน้าที่เขาจะมาเลี้ยงสัตว์อยู่ที่โอเรกอน เค้าเคยทำงานเป็นนักแสดงบังคับม้ามาก่อน…