Tag: จิ้งจอก
-
หนุ่มนึกว่าช่วยลูกสุนัขไว้ 5 ตัว ที่แท้มันคือลูกจิ้งจอก รีบเอาไปคืนแม่แทบไม่ทัน
หนุ่ม Craig Mcgettrick เป็นคนเก็บขยะที่ทำงานอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาใช้ชีวิตทุกวันตามปกติ และไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งจะได้ช่วยสัตว์จนกระทั่งวันนี้ แถมมันยังวุ่นวายกว่าที่ควรจะเป็นด้วย ครั้งนี้ในขณะที่ Mcgettrick กำลังจัดการกับขยะที่กองอยู่ตรงหน้า พอเขายกที่นอนอันหนึ่งขึ้นมา เขาก็เจอลูกหมา 5 ตัวอยู่ตรงนั้น แต่ในบริเวณนั้นไม่มีแม่ของมันอยู่เลย เขาก็เลยคิดว่าลูกหมาคงถูกทิ้งไว้ Mchettrick เจอลูกหมา 5 ตัวถูกทิ้งไว้ เขาก็เลยเอาลูกหมาทั้งหมดไปฝากไว้กับศูนย์พักพิงสัตว์ Freshfields Animal Rescue ที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน แล้วก็โพสต์รูปของมันลงบนเฟซบุ๊กเพื่อเล่าเรื่องที่เขาเจอวันนี้ให้ชาวเน็ตฟัง ชาวเน็ตคนหนึ่งที่เห็นรูปได้ส่งรูปนั้นต่อไปให้ National Fox Welfare Society ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลสุนัขจิ้งจอกดู ผู้ก่อตั้งองค์กร Martin Hemmington เห็นแล้วก็รู้ทันทีเลยว่านั่นไม่ใช่ลูกหมา แต่เป็นลูกหมาจิ้งจอกต่างหาก เขาเลยพาพวกมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Freshfields Animal Rescue แต่จริงๆ แล้วพวกมันไม่ใช่ลูกหมา แต่เป็นลูกสุนัขจิ้งจอก แม้ว่าสุนัขจิ้งจอกจะมีขนสีส้ม แต่ตอนมันยังเด็กก็จะมีขนสีน้ำตาลแบบนี้นี่แหละ แล้วมันก็ดูเหมือนกับลูกหมามาก คนทั่วไปก็เลยมักจะเข้าใจผิดว่าลูกสุนัขจิ้งจอกเป็นลูกหมา กว่าจะรู้ว่ามันเป็นจิ้งจอกก็ตอนมันโตแล้ว ปกติแล้วสุนัขจิ้งจอกจะทิ้งลูกตัวเล็กไว้ในถ้ำของมันแล้วออกไปหาอาหารข้างนอก ในกรณีนี้แม่สุนัขจิ้งจอกคงจะใช้พื้นที่ใต้ที่นอนเป็นถ้ำสำหรับลูกของมัน แล้วก็ทิ้งลูกออกไปหาอาหารตามแถบนั้น พวกมันคล้ายกันมาก คนก็เลยมักจะสับสนว่าลูกจิ้งจอกเป็นลูกหมา…
-
หญิงสาวเลี้ยงจิ้งจอกด้วย ‘อาหารมังสาวิรัติ’ ชาวเน็ตเตือนไม่ฟัง บานปลายสู่การฟ้องร้อง!!
กำลังเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีที่บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอกับการให้จิ้งจอกเฟนเน็ก สัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอทานมังสวิรัติไปด้วย แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นด้วย เพราะมันผิดวิสัยของจิ้งจอกเฟนเน็กโดยธรรมชาติที่เป็นสัตว์กินเนื้อ แม้จะมีคนมาคัดค้านมากมายแต่เธอก็ไม่สนใจ พร้อมออกมาโต้ตอบจนบานปลายไปสู่การแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์… Sonia Sae บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติ กับเจ้า Jumanji จิ้งจอกเฟนเน็กที่เธอเลี้ยงมา และให้มันกินมันสวิรัติมาตลอดหลายปี โดยให้เหตุผลว่าสัตว์ทุกสปีชีส์ล้วนเท่าเทียมกัน ทำให้ชาวเน็ตคนหนึ่งชื่อว่า Alice Natanya Moore ออกมาโพสต์เตือนถึงการกระทำของบล็อกเกอร์สาวว่า สิ่งที่เธอทำน่ะ ไม่ถูกต้อง!! เพราะจิ้งจอกเฟนเน็กเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยกรดอะมิโนจำพวก Taurine ที่ได้มาจากการย่อยอาหารแมวแบบมังสวิรัติที่ Sonia เอาให้มันกินได้ และธรรมชาติของจิ้งจอกเฟนเน็ก จะกินอาหารที่มีโปรตีนสูงที่ได้มาจากแมลงต่างๆ อย่างเช่น แมลงสาบ ไส้เดือน หนอนนก หนู ไข่ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารจำพวกพืชผักอีกส่วนน้อย ที่มันสามารถขุดขึ้นมาได้จากดิน ส่วนนี่คือสภาพแรกตอนที่ Sonia รับเจ้า Jumanji มาเลี้ยงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านไปสภาพของมันก็ดูไม่สู้ดีนัก Alice พยายามที่จะอธิบายให้ Sonia ฟังว่าไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองกินมังสวิรัติ…
-
เผยโฉมจิ้งจอกดำอำพัน ความงดงามหายากที่เพิ่งถูกค้นพบเป็นครั้งที่สองในรอบหลายสิบปี!!
อีกหนึ่งการค้นพบสุดมหัศจรรย์ของมนุษยชาติ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบจิ้งจอกสีดำผสมอำพัน จิ้งจอกสุดแปลกที่มีลักษณะไม่เหมือนกับจิ้งจอกทั่วไป และยังเป็นการพบเห็นจิ้งจอกลักษณะนี้เป็นครั้งที่สองในรอบหลายสิบปีอีกด้วย Ilya Kudryashov และ Anna Yeliseeva สองเจ้าหน้าที่เล่าว่า พวกเขากำลังออกลาดตระเวณในพื้นที่อนุรักษ์ Kronotsky Nature Reserve ในประเทศรัสเซีย ซึ่งที่นั่นเขาได้เจอกับสัตว์หน้าตาแปลกๆ ที่พวกเขาไม่คุ้นเคยแถมอยู่ห่างจากฐานปฎิบัติการณ์แค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น สีของมันช่างสวยงามจริงๆ Alexander Nikanorov นักสัตววิทยาที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวบอกว่าจิ้งจอกตัวดังกล่าวเพิ่งจะเป็นตัวที่สองที่ถูกค้นพบในรอบหลายสิบปี และมันก็หายากมากๆ ในพื้นที่ที่เขาทำงานอยู่ โดยเขายังบอกอีกว่าในเขตดังกล่าวไม่ค่อยมีจิ้งจอกที่มีสีขนกลายพันธ์ุให้เห็นบ่อยๆ เขายังบอกอีกว่าจิ้งจอกตัวดังกล่าวน่าจะเป็นการข้ามสายพันธ์ของจิ้งจอกแดงและจิ้งจอกเงิน ซึ่งเมื่อมันรวมกันก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น . นอกจากนี้เจ้าหน้ายังได้ติดตั้งกล้องกับดัก ซึ่งไว้จับภาพของเหล่าสัตว์ต่างๆ ในพื้นที่เพื่อให้ช่วยให้พวกเขาสามารถศึกษาพวกมันได้โดยไม่ไปรบกวนโดยตรง โดยภาพที่ถ่ายมาได้เป็นภาพของจิ้งจอกตัวดังกล่าว ซึ่งเป็นเพศเมียได้เจอกับจิ้งจอกอีกตัวที่เป็นเพศผู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็คาดว่าพวกมันอาจจะสร้างครอบครัวด้วยกันก็ได้… . และถ้าใครที่อยากจะดูเจ้าจิ้งจอกตัวนี้แบบเคลื่อนไหว ทีมงานก็ได้บันทึกภาพมาให้เราดูเช่นกัน ที่มา siberiantimes
-
“ขอพลังจงสถิตย์อยู่กับท่าน” ลูกเทพรีเทิร์น!? หญิงสาวผู้พาซากสุนัขจิ้งจอกไปด้วยทุกที่
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นผู้คนที่รักสัตว์ พาเหล่าน้องหมาหรือน้องแมวออกไปนอกบ้านพร้อมกับพวกเขาด้วย แต่ในช่วงเมื่อประมาณปีที่ผ่านมา นอกจากเหล่าสัตว์เลี้ยงแล้ว ชาวสยามประเทศอย่างพวกเรายังนิยมพกวัตถุมงคลที่เรียกว่า “ลูกเทพ” ติดตัวออกบ้านด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นกระแสดังอยู่ช่วงหนึ่ง และบางครั้งในดินแดนอีกซีกหนึ่งของโลก เจ้าวัตถุมงคลนี้ก็อาจจะมาในรูปแบบของสัตว์สตาฟ เหมือนกับเจ้า Baby Jesus ของหญิงสาวจากประเทศอังกฤษรายนี้ก็ได้ เจ้า Baby Jesus คือหมาป่าตัวน้อยที่ถูกรถชนในระหว่างที่มันกำลังจะข้ามถนน แต่โชคดีที่ร่างกายของมันไม่ได้รับความเสียหายมาก เพื่อนของคุณ Foxcroft จึงได้นำมันไปสตาฟและมอบให้เธอเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เมื่อไหร่ก็ตามที่เธออกไปนอกบ้าน หรือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ คุณ Foxcorft ก็มักจะนำเจ้า Baby Jesus ตามไปกับเธอด้วย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกสตาฟนั้นไม่ใช้ความสัมพันธ์แบบพึ่งพิงเพื่อโชคลาภ แต่เป็นความผูกพันที่เธอมีให้กับมันมากกว่า “ฉันได้เจ้า Baby Jesus มาเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เขาคือสิ่งมหัศจรรย์ในวันคริสต์มาสและเป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากเพื่อนฉัน ฉันพยายามที่จะทำหน้าที่เหมือนกับแม่ของมัน เพราะเขาเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพบกันครั้งแรกของเธอกับเจ้า Baby Jesus นอกจากการจะพาเจ้าจิ้งจอกน้อยเที่ยวไปทุกที่กับเธอแล้ว หญิงสาวยังได้ทำชุดต่างๆ สำหรับเจ้า Baby Jesus ของเธอด้วย และบ่อยครั้งที่เธอมักจะโดนคนอื่นๆ ถามเกี่ยวกับเจ้าตัวเล็กของเธอ “ฉันพาเขาไปด้วยทุกที่ มันอาจจะดูแปลกๆ นะ และผู้คนก็มักจะถามฉันเกี่ยวกับเจ้า Baby…
-
ภาพถ่ายจิ้งจอกผ่านม่านหมอกฤดูหนาว ความสวยงามของมันช่างดูสง่างามชวนให้หลงใหลยิ่งนัก
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้ มักจะมีความงามแฝงเอาไว้ในตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ มนุษย์ หรือแม้กระทั่งสัตว์ต่างๆ ซึ่งความสวยงามที่ว่านี้ แต่ใครจะไปคิดว่าสัตว์ที่ดูเป็นอันตรายอย่างสุนัขจิ้งจอก จะทำให้ช่างภาพคนหนึ่งหลงรักหัวปักหัวปำตั้งแต่ครั้งแรกเห็น และช่างภาพคนนั้นก็ใช้เวลาหลายต่อหลายปี เพื่อจะถ่ายภาพจิ้งจอกให้คนทั้งโลกได้เห็นความสง่างามที่อยู่ในตัวของมัน Roeselien Raimond ช่างภาพพรสวรรค์สูงชาวฮอลแลนด์ เป็นที่รู้จักจากการถ่ายภาพนิ่งของจิ้งจอกนานาชนิด โดยเธอเล่าว่าเธอได้มีโอกาสเห็นจิ้งจอกครั้งแรกเมื่อปี 2010 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ตกหลุมรักความน่ารักของจิ้งจอกเข้าอย่างเต็มเปา เธอจึงใช้เวลาตลอด 7 ปีที่ผ่านมาเข้าไปในป่าเพื่อจะตามถ่ายภาพจิ้งจอก ซึ่งก็มีบางวันที่ต้องเจอสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยจนไม่สามารถเก็บภาพมาได้ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าวันนี้มันจะไปที่ไหนบ้าง ทำให้การหาตัวของมันค่อนข้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก “คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเมื่อไหร่ที่มันจะแสดงตัวออกมาให้เราได้เห็น และถ้าคุณคิดว่าคุณรู้จักมันจริงแล้วล่ะก็ อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็เป็นได้นะ” Roeselien กล่าว ในช่วงเวลา 7 ปีที่เธอตามถ่ายจิ้งจอก เธอบอกว่าไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่จะรู้สึกเบื่อ เพราะว่าจิ้งจอกแต่ละตัวก็จะมีบุคลิกนิสัยเป็นของตัวเอง ซึ่งบางตัวก็มีจุดเด่นจนบางทีก็อาจจะทำให้รู้สึกประหลาดใจได้เหมือนกัน “จิ้งจอกบางตัวค่อนข้างจะขี้อายและชอบอยู่อย่างสันโดษ บางตัวก็ค่อนข้างจะโดดเด่นและมีความมั่นใจในตัวเองสูง และบางตัวก็อาจจะเป็นนักล่ากระต่ายชั้นยอด ขณะเดียวกันบางตัวก็เป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน” และด้วยเหตุผลต่างๆ ข้างต้นเธอจึงได้ถ่ายภาพจิ้งจอกมาให้เราได้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่หาดูได้ยากของมัน ซึ่งมันจะสง่างามอย่างที่เธอว่าไว้หรือไม่ก็ต้องลองตามไปดูกันด้วยสายตาตัวเอง… . . . . . . . . . .…
-
สาวพบจิ้งจอกแปลกหน้าเข้ามาแย่งที่นอนนายท่านเหมียวของตัวเองเฉยเลย งงดิฮะ!?
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ในทุกวัน มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามรถจะรู้มาก่อนได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องราวของสาวอังกฤษคนนี้ Meloney Blaze อายุ 47 ปี สาวชาวเมือง Pett Wood ทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเล่าความฮาที่เกิดขึ้นในบ้านของเธอ โดยที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อน เธอเล่าว่า เธอตื่นมาเวลาประมาณ ตี 4 เพื่อเปิดหน้าต่างให้เจ้าจอร์จ แมวของเธอให้ออกไปเดินเล่นแล้วกลับไปนอนต่อจนถึง 6 โมงเช้า แต่เมื่อเธอตื่นมาอีกครั้งก็ต้องพบสิ่งที่น่าประหลาดใจอยู่ภายในห้องครัวของเธอ “ฉันคิดว่าเจ้าหูโตนั่นไม่ใช่หูของแมวแน่นอน” Meloney กล่าว เจ้าสิ่งนั้นมีหูใหญ่ๆ มันกำลังนอนอยู่บนที่นอนของเจ้าจอร์จแมวของเธอ ซึ่งเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อยที่เจ้าจอร์จมีหูที่ใหญ่ขนาดนี้ พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ต้องจ๊ะเอ๋กับเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีน้ำตาลกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนที่นอนแมวของเธอ เธอตกใจเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบๆ ก็ได้เห็นกับเจ้าของที่นอนกำลังมองด้วยความไม่พอใจที่มีเจ้าหน้าขนมาแย่งที่นอนของมัน เจ้าเหมียวรีบฟ้องเจ้านายของมันทันทีด้วยการทำทีเป็นกระโดดไปที่หน้าต่างแล้วเดินเข้ามาที่เตียงนอนอีกรอบเหมือนจะบอกว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้น่ะมันเข้ามาแบบนี้นะ และเธอยังบอกอีกว่าเจ้าจอร์จดูโกรธมากๆ ที่มีเจ้าหน้าขนบังอาจมาแย่งที่นอนสุดหวงของมัน เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็นอนดูมันอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ว่าเธอจะปล่อยให้เจ้าสัตว์ป่าตัวนี้อยู่ในบ้านไม่ได้เนื่องจากว่าไม่รู้ลักษณะนิสัยของมันที่แท้จริงและเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อเจ้าจอร์จแมวของเธอด้วย เจ้าจิ้งจอกมีกลิ่นที่เหม็นเล็กน้อย มันปล่อยกลิ่นไว้ทั่วห้อง เธอจึงต้องตัดสินใจเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้มันออกไปดีๆ โดยใช้อาหารล่อให้มันออกไป โดยมีเจ้าเหมียวยืนคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง “มันเป็นจิ้กจอกที่ดูเท่มาก แต่มันก็น่ากลัว เราจึงต้องให้มันออกไป และฉันคิดว่ามันน่าจะนอนอยู่บนโซฟาอีกด้วย ฉันคิดว่าคงถึงเวลาทำความสะอาดครั้งใหญ่แล้วล่ะ”…
-
โมเม้นท์แบบดิสนีย์…เมื่อเจ้าเหมียวกับจิ้งจอกมาป๊ะกัน แต่เจอแป๊บเดียวก็วิ่งหนีหายจ้อย
ในช่วงเช้าของวันหนึ่งที่ประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่ามันเป็นวันเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันคือช่วงเวลาที่ดีในการนอนหลับ และนี่คือคลิปวิดีโอน่ารักๆ ที่ถูกบันทึกเอาไว้นานมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2015 โดย Dan Bull…จากคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพการเผชิญหน้าระหว่าง เจ้าสุนัขจิ้งจอกกับแมวเหมียวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับเป็นโมเม้นท์ที่แสนประทับใจอย่างบอกไม่ถูก ในขณะที่จิ้งจอกน้อยกำลังตื่นจากการนอนหลับอยู่บริเวณประตูหลังบ้าน มันก็พยายามที่จะเดินออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวอย่างเงียบๆ แต่แล้วสิ่งมีชีวิต 4 ขาหน้าตาแปลกๆ ดูๆ แล้วน่าจะเป็นแมวเหมียวที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ก็ได้สังเกตเห็นเจ้าจิ้งจอกที่อยู่นอกประตูเข้า และนั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นความน่ารักระหว่างการพบหน้ากันของสัตว์ทั้งสอง พวกมันจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ และสุดท้ายเจ้าจิ้งจอกก็เป็นฝ่ายวิ่งหนีหายไปเฉย ทิ้งให้น้องเหมียวต้องอยู่แบบงงๆ ไปชั่วขณะ ทางด้าน Dan ได้ออกมาเผยว่า “สุนัขจิ้งจอกกำลังนอนกลับอยู่ที่ประตูหลังบ้าน มันมักจะออกหากินในเวลากลางคืน และจะวิ่งหนีอย่างรวดเร็วหากพบว่าคุณอยู่ใกล้ๆ มัน แต่สำหรับเจ้าจิ้งจอกตัวนี้กลับไม่กลัวอะไรเลย” ในการปรากฏตัวของเจ้าจิ้งจอกดูเหมือนว่ามันดูมีความสุขมาก ที่ได้มาโปรยเสน่ห์ของมันให้ Jimmy และ Sammy แมวแสนรักของ Dan ได้เห็น แต่เจอแป๊บเดียวก็วิ่งหนีหายจ้อยไปซะละ เอ…แล้วแบบนี้จะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหมนะ เห้ย!! โมเม้นท์แบบนี้นี่มันคุ้นๆ เหมือนออกมาจากการ์ตูนดิสนีย์เลยเธอววววว์ ถ้าอยากดูก็เพียงแค่คลิกที่วิดีโอเลยจ้า…
-
15 ภาพหมาจิ้งจอกหน้าพริ้ม ที่ต้องการสอนสัจธรรมแก่มนุษย์ ผลงานจากช่างภาพสุดสร้างสรรค์!!
การได้ชมภาพของเหล่าสัตว์ป่าตัวเล็กๆ น่ารัก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดของเราได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และแม้สุนัขจิ้งจอกจะเป็นสัตว์ที่ตัวไม่เล็กสักเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าเล็กกว่าช้างและแรดล่ะกันนะ… บางครั้งเราอาจจะเห็นแต่พวกมันในแง่มุมที่ดุร้ายและเป็นนักล่า แต่บางครั้งการได้เห็นภาพในมุมน่ารักๆ ของพวกมันก็ทำให้เราได้ข้อคิดบางอย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตขึ้นมาบ้าง แต่ความน่ารักของมันจะทำให้คุณค้นพบความสัจธรรมบางอย่างแน่นอน!! ภาพถ่ายของเหล่าจิ้งจอกตัวน้อย ผลงานของช่างภาพชาวดัตช์ คุณ Roeselien Raimond ที่สื่อให้เห็นถึงการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เจ้าตัวนี้กำลังบอกให้เรารู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากภายใน ไม่ใช่ภายนอก บางอย่างไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา แต่อาจสัมผัสได้ด้วยใจ การได้ทำให้สิ่งที่คุณชอบคือเสรีภาพ ความชอบในสิ่งที่ทำคือความสุข… โปรดจำไว้ว่าคุณไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ความสุขคือส่วนหนึ่งของชีวิต หัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก คือหัวใจที่บริสุทธิ์ รอยยิ้มคือเส้นโค้งที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นเส้นตรง ถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง คุณจะพบสิ่งสวยงามในทุกๆ ที่ บางครั้งคุณอาจจะชนะ แต่บางครั้งคุณก็ต้องเรียนรู้ด้วย ภาพคือบทกวีที่ไม่มีตัวอักษร อย่าตัดสินทุกเรื่องด้วยตัวตนของคุณ ให้ความพ่ายแพ้ เป็นโอกาสในการเรียนรู้ คุณไม่ได้ล้มเหลวหรอก แต่คุณแค่ค้นพบวิธีการที่ทำไม่ได้แค่นั้นเอง เราไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ตามที่เราเห็น แต่เราเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็นอยู่…
-
จิ้งจอกบุกฆ่าเพนกวิน 8 ตัว ภายในชั่วค่ำคืน เนื่องจากพนักงานสวนสัตว์ละเลยต่อหน้าที่…
เมื่อไปเที่ยวสวนสัตว์เราจะเห็นรูปปั้นสัตว์ต่างๆ เต็มไปหมด…นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราอยู่เห็น แต่สิ่งที่เราอยากดูคือสัตว์ตัวเป็นๆ มากกว่า ล่าสุดเมื่อนักท่องเที่ยวไปยังส่วนสัตว์ Chessington World of Adventures กลับไม่เห็นเพนกวินเลย ทางพนักงานอ้างว่าพวกมันถูกสุนัขจิ้งจอกบุกเข้ามาฆ่าตายไปถึง 8 ตัว เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่มีอีกแหล่งข่าวหนึ่งบอกว่าสาเหตุที่เพนกวินต้องตาย เป็นเพราะทางสวนสัตว์ดูแลพวกมันอย่างผิดวิธี แต่พวกเขาเลือกที่จะปิดข่าวนี้เอาไว้แทน ด้วยเหตุนี้ หลายๆ สื่อ เชื่อว่าข้ออ้างที่ว่าเพนกวินถูกสุนัขจิ้งจอกฆ่าตายนั้นเป็นเรื่องโกหก และไม่ควรเอาข้ออ้างนี้มาใช้กับนักท่องเที่ยวเพื่อปกปิดความผิดตัวเอง แต่หลักฐานสำคัญคือกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่า ในเวลากลางคืนนั้นพนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้เดินสำรวจตามที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามในกล้องวงจรปิดนั้นมีการโจมตีจากสุนัขจิ้งจอกจริง โดยเพนกวินตัวผู้พยายามจะปกป้องลูกๆ ไว้ แต่น่าเศร้าที่พวกมันไม่สามารถสู้แรงของสุนัขจิ้งจอกได้ จึงถูกฆ่าตายเกือบทั้งหมด มีเหลือรอดเพียงแค่ตัวเดียวแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่คลิปได้ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไป มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย บางคนบอกว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพนกวินถูกหมาจิ้งจอกฆ่าก็จริง แต่นั่นเกิดจากการละเลยหน้าที่ของพนักงานสวนสัตว์ และพยายามจะปกปิดและโกหกนักท่องเที่ยวอีก ขณะเดียวกัน Lisa Britton ผู้ช่วยผู้จัดการสวนสัตว์ Chessington World of Adventures ออกมาบอกว่า “มันเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง ที่ต้องประกาศว่าเพนกวินทั้ง 8…
-
ครอบครัวมนุษย์เข้าช่วยเหลือจิ้งจอก ออกมาจากฟาร์มขนสัตว์ จนกลายมาเป็นหมาบ้านๆ!!
พบกับเรื่องราวเปลี่ยนชีวิตของเจ้า Jay จิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงมาในฟาร์มเพื่อนำขนไปทำเสื้อผ้า มันถูกช่วยไว้โดยครอบครัวแสนใจดีครอบครัวหนึ่ง ทว่าหลังจากช่วยเหลือมันแล้ว พวกเขากลับเป็นห่วงในคุณภาพชีวิตตามธรรมชาติที่เปลี่ยนไป จึงจัดการนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเสียเลย!! ทว่าหลังจากที่เลี้ยงดูเจ้า Jay ไปได้ไม่นาน พวกเขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะเหงาก็ได้ ทีนี้พวกเขาจึงเดินทางไปรับเลี้ยงดูสุนัขมาอีกตัวชื่อว่าเจ้า Saimon และนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มันก็กลายเป็นเพื่อนรักและเข้าขากันสุดๆ เลยล่ะ อ่านกันมาขนาดนี้แล้วก็ฟังแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมละ งั้นเราลองมาดูภาพความน่ารักของเจ้า Jay เลยกันดีกว่า นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Jay และ Saimon ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมด แรกเริ่มเจ้า Jay เป็นสุนัขจิ้งจอกอายุ 2 ขวบ เพศเมีย ซึ่งพวกเขาได้ไปช่วยเหลือมันออกมาจากฟารม์ขนสัตว์ ส่วนสาเหตุที่ครอบครัวดังกล่าวเลือกจะเลี้ยงมันเพราะ คุณภรรยาทำงานอยู่ที่บ้าน จึงมีเวลาที่จะเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่คุณภรรยาเท่านั้น คุณสามีก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับเจ้า Jay เช่นกัน แน่นอนว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีสุดๆ เลยล่ะ มันชอบที่จะนอนกับพ่อแม่ของมันมากๆ บางครั้งก็จะแอบนอนอยู่ในผ้าห่ม แถมทุกวันหยุด ก็จะมีการเฉลิมฉลองด้วยกันในครอบครัวด้วย ฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ 2017…
-
สุนัขจิ้งจอกถูกยิง ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่ม และมันก็กอดเขาไม่ยอมปล่อยเลย…
มิตรภาพสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา และกับทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้และเจ้าสุนัขจิ้งจอก…. เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งได้พบเจอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังบาดเจ็บอยู่ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ Dan Martin อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่า That Wildlife Rescue Guy หลังจากนั้นไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็มาถึงยังที่เกิดเหตุ Dan ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอก พยายามที่จะเรียกความเชื่อใจจากมัน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่มันจะยอมให้เขาเข้าถึงตัว “ผมค่อยๆ เดินเข้าหามันอย่างช้าๆ พร้อมกับพยายามใช้คำพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมัน ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าที่ผมมาที่นี่เพื่ออะไร จากนั้นผมก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ พันรอบลำตัวของมัน” Dan เล่า เขาตั้งชื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกว่า Basil แต่เนื่องจากว่ามีปัญหาในการเดินทาง จึงทำให้เขาไม่สามารถพามันไปหาสัตวแพทย์ได้ในขณะนั้น จึงตัดสินใจที่จะพามันกลับไปดูแลที่บ้านก่อนเพื่อมั่นใจว่ามันจะปลอดภัยจากสัตว์ป่าตัวอื่นๆ เช้าวันต่อมาเจ้า Basil ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแววตาที่ร่าเริงและสดใสยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนคนใหม่ ที่เพิ่งช่วยชีวิตมันมา “มันเป็นหมาที่ขี้อ้อนมากๆ คอยอยู่ใกล้ๆ ผมไม่ห่างเลยล่ะ” Dan เล่า Dan ขับรถพาเจ้า Basil ไปที่คลีนิครักษาสัตว์ และอยู่เป็นเพื่อนมันตลอด ขณะที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยกันเจ้า…
-
มารู้จักกับเจ้า Freya หมาจิ้งจอกผู้เลอโฉม เจ้าขนส้มกลางป่าในประเทศโปแลนด์!!
Iza Łysoń วัย 19 ปี ช่างภาพที่ชื่นชอบหมาเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังเป็นนักศึกษาวิชาชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย Jagiellonian University ในเมือง Cracow ประเทศโปแลนด์อีกด้วย Iza นั้นใช้ชีวิตอยู่กับการถ่ายภาพมาเป็นเวลามากกว่า 8 ปี และหลังจากที่ผลงานการถ่ายภาพของเธอถูกเผยแพร่โดย National Geographic Poland คุณ Roxanne เจ้าของสุนัขจิ้งจอก Freya ก็ติดต่อเข้ามาหาเธอเพื่อขอให้ถ่ายภาพให้กับมัน หลังจากเริ่มงานด้วยกันไปได้ไม่นาน Iza ก็เริ่มตกหลุมรักเจ้า Freya และเธอก็ชื่นชอบการถ่ายภาพมันมาก เพราะมันดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองกำลังถ่ายแบบอยู่ โดยมันจะหันหน้าสู้กล้อง และโพสต์ท่าทางที่ทำให้ตัวเองออกมาดูดีที่สุด แต่ส่วนที่ยากที่สุดก็คือท่านอน เพราะทำอย่างไรมันก็ไม่ยอมนอนซักที ทำให้เราต้องล้มเลิกไปในช่วงแรก พอมาถึงช่วงที่สิงก็พบว่าคุณ Roxanne ได้สอนให้เจ้า Freya นอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลาที่จะต้องถ่ายเธอก็จะมาสั่งให้มันนอน และทุกอย่างก็จะง่ายดาย Iza จะต้องเดินทางไปเกือบครึ่งประเทศเพื่อถ่ายภาพเจ้า Freya กับวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป และเธอก็คิดว่ามันเป็นงานที่ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย… . .…
-
พาเที่ยวหมูบ้าน “จิ้งจอกสุดน่ารัก” ในบรรยากาศหิมะปกคลุม พร้อมกับขนปุยนุ่มๆ ของมัน!!
นี่คือการเดินทางของนักเดินทางที่ชื่อว่า Natasha Puente วัย 29 จากประเทศเม็กซิโก ตอนนี้เธอกำลังท่องเที่ยวทั่วเอเชียพร้อมกับถ่ายภาพสิ่งที่เธอได้พบเจอมาแล้วนำมาบอกเล่าให้เราฟัง ซึ่งสิ่งที่เธอไปเจอมาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ เดิมทีแล้วเธอเป็นคนที่ชื่นชอบสุนัขจิ้งจอกเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีรอยสักของมันด้วย และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอได้มีโอกาสไปที่โตเกียวเพื่อสอบ TESOL จึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมหมูบ้านจิ้งจอกอันโด่งดังด้วย การเดินทางของเธอเริ่มจากขึ้นรถไฟชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปลงที่สถานีชิโรอิชิในเมืองมิยางิ เมื่อไปถึง เธอก็ขึ้นแท็กซี่ต่อจากการถามคนแถวนั้น ซึ่งมาถึงจุดนี้ เธอบอกว่ามีความประทับใจในคนญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถามทาง ขอความช่วยเหลืออะไร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ พอขึ้นแท็กซี่แล้ว คนขับก็ได้โชว์อัลบั้มรูปภาพหมู่บ้านจิ้งจอกให้เธอดูระหว่างทาง ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม โดยการเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที การจะเข้าไปในหมู่บ้านได้ต้องเสียค่าผ่านทางประมาณ 300 บาท พร้อมทั้งจะมีคนแนะนำวิธีเข้าหาเหล่าจิ้งจอกเป็นภาษาอังกฤษ เช่นถ้าเวลาเข้าใกล้ พยายามทำให้ตัวเองดูน่าเกรงขามไว้ อย่านั่งลง เพราะอาจจะถูกกัดได้ และอย่าวางสิ่งของไปเรื่อยเปื่อย เพราะจิ้งจอกมักจะฉี่ใส่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามแตะหรือจับพวกมัน และนี่ก็คือภาพและคลิปที่เธอได้ไปเจอมา เป็นช่วงเวลาที่น่ารักมากๆ . . . . . . .…
-
แตกต่างเหมือนกัน… มิตรภาพระหว่าง ‘หมาล่าเนื้อ’ และ ‘จิ้งจอก’ ก็มาเป็นเพื่อนกันได้!!
คุณเชื่อไหมว่าบางครั้งแล้ว มิตรภาพระหว่างสัตว์ ในชีวิตจริง บางทีก็ดูน่ารักเหลือเชื่อยิ่งกว่ามิตรภาพในการ์ตูนหรือนวนิยายอีกนะ…. นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Tinni สุนัขล่าเนื้อและเจ้า Sniffer สุนัขจิ้งจอกป่า ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ ถึงพวกมันจะแตกต่างกันไม่ว่าจะสายพันธ์ วิถีชีวิตหรือรูปร่าง แต่พวกมันก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ พวกมันออกไปวิ่งเล่นด้วยกันในป่า หยอกล้อและหาอาหารด้วยกัน แม้ว่าคนไทยอย่างเราๆ จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับสุนัขจิ้งจอกเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศนั้นพวกมันถือเป็นสัตว์ที่นิยมนำมาฆ่าเพื่อเอาขนไปทำเป็นเครื่องนุ่งห่มอย่างมาก การที่เราได้เห็นจิ้งจอกอย่างเจ้า Sniffer ออกมาวิ่งเล่นแบบนี้ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย มิตรภาพระหว่าง Tinni และ Sniffer เริ่มเป็นที่สังเกตของชาวบ้าน จนนาย Torgeir Berge ต้องหยิบกล้องออกไปตามถ่ายชีวิตประจำวันมันเลย จากนั้นนาย Berge ก็นำรูปของพวกมันมาลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับข้อความว่า “สุนัขจิ้งจอกมีพฤติกรรมและอุปนิสัยที่เหมืนกับสุนัขทั่วๆ ไปแหละครับ” “มันทำให้ผมน้ำตาไหลเพราะความเจ็บปวดอันบริสุทธิ์ เมื่อผมคิดว่ายังมีสุนัขจิ้งจอกอย่าง Sniffers อีกเป็นล้านตัว ถูกจับล็อคในกรงตลอดชีวิตพวกมัน” ถือเป็นโชคดีมากๆ ของเจ้า Sniffer และ Tinni ที่มีบ้านเป็นป่าใหญ่ สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามใจพวกมันตลอดเวลาและทุกฤดูกาล ถึงจะมีคนตามถ่ายรูป แต่พวกมันก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ และยังวิ่งเล่นกันต่อไป …
-
เผยโฉมคู่ซี้สี่ขา เป็นหมาทั้งคู่ ตัวนึง ‘หมาจิ้งจอก’ อีกตัว ‘หมาบ้าน’ แต่ก็ไปกันได้!!!
ความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์สัตว์นั้น ก็สามารถชี้ให้เห็นได้ชัดแล้วว่าพวกมันไม่น่าจะมาอยู่รวมกันได้ แต่เดี๋ยวนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพรหมลิขิตหรืออะไรก็แล้วแต่ เจ้าสุนัขสองตัวนี้ก็ได้มาเจอกันและกลายมาเป็นเพื่อนซี้สี่ขากระหน่ำความน่ารักไปทั่วโซเชียลเลย เจ้าสุนัขจิ้งจอกหน้าหวาน Juniper โคจรมาเจอกับเจ้า Moose สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างออสเตรเลียนเชเพิร์ดกับอลาสกัน มาลามิวท์ ทั้งคู่มาเจอกันได้ตั้งแต่ตอนที่เจ้า Juniper ได้รับการช่วยเหลือตอนที่มีอายุได้เพียง 5 เดือน และเจ้า Moose ผู้เป็นเจ้าบ้านก็เข้ามาแสดงความห่วงใยและพร้อมเป็นเพื่อนกับมันทันที ทั้งคู่มีความน่ารักเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่จะเป็นอย่างที่ #เหมียวเลเซอร์ ขี้โม้ไว้มั้ย เอาล่ะ ให้สิ่งที่คุณเห็นเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน อิอิ . . . . . . . . . . . . หูยยยยยย คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันซินะเนี่ย ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้ล่ะ เอาเป็นว่าไปติดตามกันต่อได้ในอินสตาแกรม juniperfoxx และ boyfriendmoose กันได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : thechive
-
เรื่องราวชีวิต “สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก” ที่ต้องขุดหลุมอยู่ พร้อมทั้งปลูกสวนสุดงดงามไว้ด้วย!!
สุนัจจิ้งจอกในวัยเด็กไม่ได้เหมือนอย่างที่เราคิดเท่าไหร่ มันมีรูปร่างเหมือนสุนัขทั่วไป ร่างกายยังไม่ได้เป็นสีส้ม และยังมีความน่ารักอยู่ในตัวสูง เหมือนอย่างสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในอาร์กติก อลาสก้าแห่งนี้ นอกจากมันจะมีความน่ารักแล้ว มันยังเป็นคนสวนที่ดีอีกด้วย โดยที่มันจะขุดหลุมไว้เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากผู้ล่าหรือเอาไว้อยู่อาศัยเพื่อความอบอุ่น และนอกจากนั้นการขุดหลุมของมันยังเป็นการช่วยให้พื้นที่เหล่านั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ อีกด้วย Brian Person นักชีววิทยาสัตว์ป่าแห่ง North Slope Borough ในเมือง Barrow, Alaska อธิบายว่าที่แห่งนี้มีลูกจิ้งจอกกว่า 16 ตัว ที่อาศัยอยู่ในถ้ำที่มันขุดขึ้นมาเอง โดยสิ่งที่อยู่ในนั้นก็เต็มไปด้วยฉี่ อึ และซากสัตว์ที่มันล่ามาได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็คือปุ๋ยอย่างดีนี่เอง สิ่งนี้จึงทำให้มีพืชเล็กๆ พร้อมทั้งดอกไม้ป่าสีเหลืองขึ้นมาเหนือถ้ำของพวกมัน เติมแต่งให้ที่ดินที่ไม่เคยมีอะไรขึ้นเลย ได้เกิดความงดงาม เจ้าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้ไม่ได้สร้างความงดงามให้เท่านั้น มันยังทำให้สิ่งแวดล้อมในละแวกนั้นดูอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสัตว์กินพืชในช่วงหน้าร้อนจะได้มีอะไรกิน เรียกได้ว่าเป็นวัฏจักรของธรรมชาติที่งดงามจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้จะสามารถทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้อีกมากมาย ที่มา nationalgeographic
-
เมื่อ “ชีตาห์” ในฐานะนักล่า ต้องหนี “จิ้งจอก” ตัวเล็กกว่า เล่นซะไม่เหลือความโหดเลย!!
เมื่อกล่าวถึง “เสือชีตาห์” หลายๆ คนคงจะรู้จักกันดีไม่น้อยไปกว่าเสือชนิดอื่นๆ ซึ่งนอกจากมันจะมีรูปร่างที่สง่างาม และมีเสน่ห์แล้ว เสือชีตาห์ยังจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสัตว์บกที่วิ่งเร็วมากกกกกกอีกด้วย ในทุกๆ ครั้งที่มันออกหาอาหารอันโอชะ เสือชีตาห์จะสามารถวิ่งด้วยความเร็วสุดยอด และจับเหยื่อมาได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ความเร็วของมันจะสามารถจับเหยื่อได้เสมอไปนะ เพราะบางทีก็มีพลาดได้เหมือนกัน ดูอย่างกรณีของเจ้าชีตาห์ตัวนี้สิ…ถึงเราจะมองว่าความเร็วและขนาดของมัน ต้องจัดการกับเจ้าจิ้งจอกที่ตัวเล็กกว่าได้แน่ๆ แต่สุดท้ายคดีกลับพลิกซะอย่างนั้น เพราะมันกลับเป็นฝ่ายวิ่งหนีจิ้งจอกแทน… ภาพที่คุณกำลังได้รับชมกันอยู่นี้ ถูกถ่ายขึ้นมาโดย Jose Alescano ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ขณะเห็นชีตาห์ตัวหนึ่งกำลังไล่เจ้าจิ้งจอกหูค้างคาว ในเขตอนุรักษ์แห่งชาติมาไซมารา ประเทศเคนยา จากภาพเราจะเห็นได้ว่า การไล่ล่าของชีตาห์นั้นดุเดือดซะเหลือเกิน ขณะนั้นเอง…ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เพราะเจ้าจิ้งจอกกลับฮึดสู้ขึ้นมาซะอย่างนั้น งานนี้เล่นเอาชีต้าห์คิดไม่ถึงว่าจิ้งจอกมันเอาจริงเว้ยเฮ้ยยยย จากที่เป็นผู้ล่า ณ จุดจุดนี้ กลับต้องเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ล่าซะอย่างนั้น เฮ้อ…หมดกัน ความโหดที่เคยสั่งสมมา วิ่งหนีไม่เป็นท่าเลยนะนั่น โถๆๆๆๆ เรียกได้ว่าเป็นคราวซวยของชีต้าห์เลยนะเนี่ย ฮร่าๆ นานๆ ทีจะได้เห็นเสือชีตาห์วิ่งหนีเหยื่อ ตามนั้นนน สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย…
-
ตามถ่าย “ใบหน้าของจิ้งจอก” ที่พิสูจน์ว่าแต่ละตัว มีหน้าตาและนิสัยที่ต่างกันจริงๆ!!!
ในช่วงยุค 60 นั้น Jane Goodall ได้ทำการตั้งชื่อให้กับเหล่าลิงชิมแปนซีที่อาศัยอยู่ในป่าแทนที่จะให้หมายเลขแก่พวกมัน เธอคิดว่าลิงแต่ละตัวก็สมควรได้รับชื่อ เพราะมันมีนิสัยที่แตกต่างกันไป โดยอ้างอิงจากนิสัยและเอกลักษณ์ของพวกมัน ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่าทำให้วงการวิทยาศาสตร์เปลี่ยนไปมาก… “เมื่อคุณเผชิญกับสุนัขจิ้งจอก คุณจะเผชิญกับนิสัยของมัน” หลายปีหลังจากนั้น ช่างภาพชื่อว่า Roeselien Raimond ได้ทำการตามถ่ายภาพของสุนัขจิ้งจอกแล้วค้นพบว่าพวกมันนั้นมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างเหมือนกัน อย่างแมวหรือหมาก็จะมีความแตกต่างนี้อยู่ เรียกได้ว่าเป็นนิสัยของแต่ละตัว บางตัวก็ดูทึ่มๆ บางตัวก็ฉลาด จิ้งจอกหลายตัวก็มีหลายหน้า และแต่ละหน้าก็ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอย่างอย่างมาก และนี่คือผลงานภาพที่เธอถ่ายมาเพื่ออธิบายลักษณะนิสัยของสุนัขจิ้งจอกทั้ง 12 ตัว Beaten Fox จิ้งจอกตัวนี้ดูเหมือนไมค์ ไทสันในบรรดาจิ้งจอกตัวอื่น หน้าตาดูผ่านประสบการณ์การต่อสู้มามาก มีรอยแผลเป็นบนหน้า แต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันมีความลับอะไรอยู่ มันอาจจะเคยเจอประสบการณ์ที่เลวร้าย โดนทำร้ายมามาก ไร้ซึ่งคนรัก จนบางทีก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวคนเดียว คติประจำใจ — ชีวิตมันโหดร้าย Modest Fox ด้วยความมันถ่อมตัว มันอาจจะไม่รู้มันหน้าหล่อแค่ไหน เหมือนกับว่าเป็นหนุ่มที่ขี้เกรงใจ ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง และไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงเท่าไหร่ และชอบอยู่เงียบๆ คติประจำใจ – สักวันหนึ่งจะเป็นวันของเรา Hyper Fox…
-
ชม 25 ภาพความน่ารักของ “จิ้งจอกทะเลทราย” แห่งเนเธอร์แลนด์ ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
หากคุณเป็นคนอินดี้ ที่ไม่ได้ชื่นชอบสัตว์ทั่วๆ ไปแบบหมาหรือแมวธรรมดาๆ แต่ชอบอะไรที่แตกต่างออกไปล่ะก็ ขอให้คุณตั้งใจอ่านเนื้อหาต่อไปนี้ให้ดีๆ เพราะเราจะพาคุณไปชมความน่ารักของ “จิ้งจอกทะเลทราย” กันล่ะ ภาพและเรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาให้คุณดูในวันนี้เป็นเรื่องราวของช่างภาพที่ชื่อว่านาย Laurens De Haas เขาได้พยายามค้นหาความน่ารักอันแปลกใหม่ ด้วยการเดินทางไปยังส่วนที่เป็นทะเลทรายของประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่เมื่อปี 2012 แต่หลังจากที่เขาศึกษาธรรมชาติและสัตว์ที่นั่นได้ไม่นาน เขาก็ได้เจอเขากับความสวยงามที่แท้จริง เป็นกลุ่มสุนัขจิ้งจอกใกล้กับชายฝั่งที่มีการประกาศห้ามล่าพวกมัน ทำให้เหล่าจิ้งจอกทะเลทรายไม่ค่อยจะกลัวกับมนุษย์สักเท่าไหร่ เนื่องจากพวกมันไม่กลัวมนุษย์ ทำให้นาย Laurens เข้าไปถ่ายภาพของพวกมันได้แบบใกล้ชิดสุดๆ จึงเห็นพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของพวกมัน ที่คนทั่วไปอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ทั้งนี้เจ้าจิ้งจอกทะเลทรายจากเนเธอร์แลนด์สายพันธุ์นี้เป็นคนละสายพันธุ์กับเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์ ที่เรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตากันนะ เพราะเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์จะมีขนาดเล็กกว่าและหูกางมากกว่า นั่นก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นผู้ถูกล่ามากกว่า จึงต้องมีหูที่ดีไว้คอยฟังเสียงนักล่ายังไงล่ะ เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบความน่ารักของจิ้งจอกทะเลทรายและฝีมือการถ่ายภาพของนาย Laurens…
-
21 ความน่ารักของ “สุนัขจิ้งจอก” จะทำให้คุณรู้ว่าพวกมัน ก็มีมุมฟรุ้งฟริ้งเหมือนกันนะ….
หลายคนเป็นคนรักสุนัข #เหมียวสามสี ก็เช่นกัน เพราะสุนัขมันเป็นสัตว์ที่พูดรู้เรื่องที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะสายพันธุ์อะไร ถ้าเราเลี้ยงมันอย่างดี ก็สามารถทำให้มันกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักได้ แต่มีสุนัขอยู่ชนิดหนึ่งที่คนไม่เลี้ยงกันเลยนั่นก็คือสุนัขจิ้งจอกนั่นเอง สุนัขจิ้งจอกความจริงแล้วมันเป็นสัตว์ป่าที่น่ารักตัวหนึ่งเลย ทั้งขนปุย ตัวสีส้ม แถมมีหางที่ยาวสวยอีกด้วย วันนี้ก็เลยเอาภาพความน่ารักของมันมาฝาก เผื่อว่าคุณอาจจะหลงรักมันโดยไม่รู้ตัวได้ 1. เหงยยยย 2. ชะแว้บบบบ 3. หน้าหล่อไหมล่ะ 4. แฮปปี้ 5. งั่มๆๆ หางอาหย่อย 6. แผล่บ 7. ตาสีฟ้าสวยยย 8. เล่นน้ำมาเหรอจ๊ะ 9. เล่นไรกันนน 10. หนูไปด้วยยย 11. zzZZZ 12. ทำไยอ่ะ 13. กินได้ป่ะ …
-
ภารกิจช่วยชีวิต “ลูกสุนัขจิ้งจอก” ที่ติดอยู่ในท่อ ตอนที่มันได้พบแม่อีกครั้งช่างประทับใจ!!
คุณแม่สุนัขจิ้งจอกอยู่กับลูกอย่างมีความสุข จนกระทั่งลูกของมันเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในท่อ และมันก็ไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้เลย เพราะท่อที่มันตกลงไปลึกพอสมควร เหตุการนี้เกิดขึ้นที่ East Sussex ประเทศอังกฤษ จนสุดท้ายหน่วยช่วยชีวิตจาก Wildlife Rescue & Ambulance Service ก็มาถึง พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการช่วยชีวิตมันขึ้นมาจากท่อ เนื่องจากท่อมีความซับซ้อน ทำให้ลูกสุนัขจิ้งจอกเดินไปเรื่อย ทางทีมช่วยชีวิตจึงต้องใช้มือถือเป็นกล้องในการสอดส่องลงไปในท่อ แล้วก็พบเจอจนได้ แต่ก็ไม่สามารถเอื้อมถึง ส่วนแม่สุนัขจิ้งจอกก็ได้แต่มองคนที่กำลังช่วยลูกของมัน เราไปชมคลิปการช่วยชีวิตลูกสุนัขจิ้งจอกนี้กันเลย ที่มา lifebuzz
-
มิตรภาพ 4 ขาสุดน่ารัก!! เมื่อหมาจิ้งจอกตกหลุมรักกับหมาธรรมดาทั่วไป
เมื่อหลายเดือนก่อน เหมียวเคยแนะนำสุนัขจิ้งจอกที่ชื่อว่าเจ้า “จูปีเตอร์” เป็นสุนัขจิ้งจอกที่รับมาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็ก จนตอนนี้มันก็โตเป็นสุนัขจิ้งจอกที๋โตเต็มวัย มีขนสีส้มสวยงาม หลังจากที่เป็นเซเล็ปใน Instagram มาสักพัก ตอนนี้มันก็ได้เพื่อนใหม่เป็นสุนัขบ้านธรรมดาที่ชื่อว่าเจ้า “มูส” ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมออสเตรเลียนเชพเพิร์ด และดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวนี้จะเป็นผู้พิทักษ์ของจูปีเตอร์ด้วย ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันเลย พวกมันทำอะไรด้วยกันตลอด กินด้วยกัน นอนด้วยกัน และเจ้าจูปีเตอร์ก็เหมือนสาวน้อยที่กำลังตกหลุมรักเจ้ามูสอยู่ด้วย คู้จิ้นไปอีกกกก จูปีเตอร์จะอยู่กับมูสตลอดเวลา และพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจจากเจ้ามูสอยู่เสมอ เจสสิก้า แม่ของเด็กทั้งสองเล่าว่าในตอนที่เอาจูปีเตอร์เข้ามาในบ้านใหม่ๆ ตอนนั้นมันอายุได้ 5 สัปดาห์เอง เจ้ามูสก็เหมือนเป็นพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ สุนัขจิ้งจอกมักจะแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการนั่งทับหรือเอาก้นไปชน และทุกคนที่เจสสิก้าเห็นทั้งสอง เจ้ามูสก็มักจะอยู่ในท่านอนแล้วให้จูปีเตอร์นั่งทับตลอดเลย ถือเป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักมากๆ ของมิตรภาพ 4 ขา ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หรือว่านี่จะเป็น Zootopia ในชีวิตจริง!! ที่มา boredpanda
-
ชมเรื่องราวสุดประทับใจของคุณลุง ‘Gibbons’ ชายผู้รักสัตว์ และเจ้าสุนัขจิ้งจอกคู่หูของเขา
เรียกได้ว่ามิตรภาพของคนและสัตว์นั้นเป็นอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ มิตรภาพไม่ได้มีเพียงแค่ระหว่างคนกับคนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ด้วย และไม่ว่ามันจะเกิดกับอะไร มิตรภาพจะกลายเป็นสิ่งที่สวยงามอยู่เสมอ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวดีๆ ของมิตรภาพระหว่างคุณลุงและเหล่าสุนัขจิ้งจอกที่สุดแสนจะน่ารัก แถมยังเป็นเซเลปของชาวเมืองอีกต่างหาก คุณลุง Patsy Gibbons อาศัยอยู่ในเมือง County Kilkenny ประเทศไอร์แลนด์ ได้รับฉายาว่า Mr. Fox เพราะเขามีเพื่อนคู่ใจเป็นเหล่าสุนัขจิ้งจอกแสนน่ารัก 2 ตัวด้วยกัน คือเจ้า Grainne และ Minnie ซึ่งคุณลุง Gibbons ได้ทำการเก็บมันมาเลี้ยงในขณะที่มันยังเป็นทารกอยู่ ซึ่งในตอนนั้นมันป่วยและมีร่างกายที่ค่อยจะแข็งแรงสักเท่าไหร่ พอรักษาพวกมันเสร็จแล้วคุณลุง Gibbons ก็ปล่อยพวกมันไป แต่เจ้าจิ้งจอกทั้งสองตัวนั้น กลับไม่ยอมไปและเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคุณลุงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขากลายเป็นที่รู้จักกันในเมืองอย่างรวดเร็ว ทั้งเด็กๆ และชาวเมืองต่างให้ความสนใจในความน่ารักของเจ้า Grainne กับ Minnie และความงดงามของมิตรภาพของทั้งสามคน จนถึงขั้นที่ว่าโรงเรียนประจำเมืองถึงกับเชิญให้คุณลุงและเหล่าเพื่อนซี้ของเขา ให้ไปที่โรงเรียนเพื่อให้เด็กๆ ได้ชื่นชมความน่ารักของเหล่าสุนัขจิ้งจอกและฟังเรื่องราวของพวกมันโดยคุณลุง Gibbons มีผู้คนมากมายต่างก็เข้ามาสอบถามถึงเคล็ดลับในการเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกจากคุณลุง แต่เขาก็บอกกลับไปว่า “ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะ ผมยังคงเรียนรู้พวกมันไปแบบวันต่อวัน แต่ผมก็ยินดีที่จะมอบความรู้ทั้งหมดที่ผมมีให้กับทุกคน” นอกจากนี้คุณลุง…
-
ภาพอันงดงามของ “สุนัขจิ้งจอก” สัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยความรักซึ่งกันและกัน
ในช่วงวันวาเลนไทน์แบบนี้เหมียวก็อยากจะเอาความรักมาฝากทุกๆ ท่าน แต่เพื่อไม่ให้คนโสดเจ็บปวด เราก็เลยเอาภาพอันงดงามที่เห็นแล้วก็ยิ้มตามไปกับความรักของสัตว์ป่าชนิดหนึ่งนั่นก็คือ “สุนัขจิ้งจอก” นั่นเอง ช่างภาพชื่อว่า Roeselien Raimond เขาได้เข้าไปในป่าแล้วเก็บภาพความงดงามของเหล่าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังพลอดรักหลายคู่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ารักและงดงามมากๆ ซึ่งอาจจะทำลายภาพลักษณ์ที่หลายคนชอบคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่เจ้าเล่ห์ Roeselien เล่าว่าเขาไม่ทราบมาก่อนว่ามีสัตว์ชนิดไหนบ้างที่แสดงความรักให้กันและกันเหมือนอย่างสุนัขจิ้งจอก แต่ก็ไม่ใช่จุดประสงค์หลัก จริงๆแล้วเขาต้องการจะให้เราเห็นถึงความรักของเหล่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้ที่ทรงคุณค่า อย่างที่บอกว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นตัวแทนของความเจ้าเล่ห์ ไม่ซื่อสัตย์ โหดร้าย ถือเป็นภาพลักษณ์ของนักฆ่าเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเขาได้ลองมาติดตามชีวิตพวกมันแล้ว ความเชื่อนั้นก็เปลี่ยนไปทันทีเลย เพราะความรักที่มันมีให้กันนั่นเอง ภาพถ่ายของเขานั้นสวยงามมากจริงๆ ไปติดตามผลงานได้ที่ Facebook | 500px ที่มา boredpanda
-
พบกับเจ้า “จูปีเตอร์” สุนักจิ้งจอกสุดน่ารัก ที่มีนิสัยเหมือนสัตว์เลี้ยงทุกประการ!!
ปกติแล้วเราไม่ค่อยได้เห็นคนนำสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์เลี้ยงกันนัก เพราะว่าสัตว์ป่ามันจะมีนิสัยที่ดุร้ายกว่า และมีความเป็นนักล่ามากกว่าสัตว์เลี้ยงหมาแมวทั่วไปที่เราเคยเห็นกัน แต่วันนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ความพิเศษของมันก็คือมันไม่มีความเป็นสัตว์ป่าอยู่เลย มันเหมือนสุนัขบ้านๆ ธรรมดาที่มีขนสีส้ม หน้าตาแหลมๆ เท่านั้น ความน่ารักเรียกได้ว่าจัดเต็ม เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า “จูปีเตอร์” เจ้าของได้เล่าว่าเธอเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันยังเด็ก แต่การเลี้ยงจิ้งจอกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันดื้อมาก ชอบส่งเสียง และมีกลิ่นที่เหม็น แต่เธอก็สามารถจัดการได้ ปกติแล้วเธอจะพามันไปด้วยทุกที่ จนมันเริ่มชินกับการนั่งรถเที่ยวแล้ว อีกทั้งยังคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าด้วย และมันชอบเล่นวิ่งไล่จับเป็นที่สุด สงสัยมันคงคิดว่าเหมือนได้ล่าเหยื่อล่ะมั้ง ดูเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ยิ้มตลอดเวลา น่ารักเนอะ แถมยังเป็นเซเลป มีอินสตาแกรมของตัวเองด้วย Instagram มันก็น่ารักนะ แต่เราก็ไม่ค่อยจะกล้าเลี้ยงเท่าไหร่ เพราะสัญชาตญาณมันแรงมาก ถ้ามันไปกินไก่บ้านใครเข้านี่เป็นเรื่องเลย ที่มา boredpanda
-
2 เหมียวได้เจอเพื่อนมาเยือนจากในป่า “สุนัขจิ้งจอก” โชว์ท่วงท่าที่งดงามหาดูได้ยาก!!
โดยปกติแล้ว สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขตของตนเป็นอย่างมาก แต่วันนี้เหมียวจะพามาชมสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่ถูกบล็อกเกอร์ชื่อว่า Dan Bull ถ่ายได้ในสวนหลังบ้านของเขาเอง เมื่อได้มองมันใกล้ๆแล้ว ก็ได้เห็นถึงความงดงามในตัวมัน ในตอนแรกนั้นสุนัขจิ้งจอกตัวนี้กำลังหลับอยู่ จู่ๆแล้วเจ้าเหมียวสองตัวที่เขาเลี้ยงไว้ก็ไปทำให้มันตื่น แต่แทนที่มันจะวิ่งหนีไป มันกลับจ้องเข้ามาในบ้าน มองแมวและกล้องด้วยสายตาสงสัย เหมือนกับว่าสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ตัวจริงๆ แต่เป็น CG ที่ทางดิสนีย์ทำขึ้นมาเลย สุนัขจิ้งจอกในประเทศอังกฤษนั้นถูกจัดให้อยู่ในสัตว์ประเภทรบกวนผู้คน เพราะมันชอบมากินไก่ กระต่าย หรือสัตว์ต่างๆที่คนเลี้ยงไว้ในฟาร์ม (อย่างที่เราเคยได้ยินจากนิทานเด็กเลี้ยงแกะนั่นแหละ) และหลังจากนั้นก็มีการล่าจิ้งจอกเกิดขึ้นเพื่อการกีฬา จนในที่สุดปี 2005 การล่าจิ้งจอกก็ถูกแบนออกไป เมืองที่ Dan Bull อยู่คือเมือง Worcestershire ซึ่งแต่เดิมแล้วการล่าจิ้งจอกที่นี่ถือเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ครั้งนี้ เขาเลือกที่จะจ้องมองความงดงามของมันอยู่ในบ้าน และปล่อยให้มันได้เลือกเองว่าจะทำอะไร ที่มา Dan Bull
-
ศิลปินได้นำเอา “รูปปั้นเซรามิคสัตว์” ไปซ่อนไปทั่วลอนดอน ใครหาเจอเอากลับบ้านได้เลย!!
Hanna-Kaarina ศิลปินนักออกแบบ เธอได้ทำการนำเอารุปปั้นเซรามิคกว่า 60 ตัว เป็นรูปสุนัขจิ้งจอก และอีก 61 ตัวเป็นรูปกระต่าย ไปวางไว้ทั่วเมืองในตอนเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วม เพื่อรอว่าใครสักคนจะมาพบมัน และเก็บพวกมันไป “Wild in the City” คือการติดตั้งสิ่งแวดล้อมเข้าในในเมือง กำลังเป็นโปรเจกต์ที่เธอกำลังศึกษาและทำการทดลองเพื่อทำให้เห็นว่าคนเราได้สนใจสิ่งแวดล้อมในตัวเมืองมากแค่ไหน ซึ่งการนำเอารูปปั้นเซรามิคเหล่านี้ไปตั้งไว็ก็เพื่อที่จะดูว่าผู้คนเขาจะมองเห็นหรือไม่ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้สนใจมันเลยก็ได้ ศิลปินท่านนี้ต้องการจะปลุกจิตสำนึกทุกคนให้หันมาสนใจสิ่งแวดล้อมในทุกๆวัน และกระตุ้นความสามารถตอบสนองกับศิลปะ มนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม โดยที่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกันหมด และทุกคนรวมถึงสัตว์ ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้เมืองและสิ่งแวดล้อมเดียวกันด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการก็คือให้คนได้มาพูดคุยและถกเถียงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เธอกล่าวในฐานะคนที่เคยทำงานในด้านสถาปนิกมาก่อนว่าเธอจะรู้สึกดีมากถ้าได้เห็นกลุ่มคนได้มาพูดคุย และหาทางแก้ไข่ปัญหาไปด้วยกัน ถึงแม้ว่าโปรเจกร์สุนัขจิ้งจอกและกระต่ายของเธอจะจบลง แต่เธอก็ได้เก็บภาพส่วนหนึ่งไว้ก่อนหน้านี้แล้วตอนที่เธอได้นำไปติดตั้ง และหวังว่าคนที่พบเจอพวกมันจะถ่ายรูปแล้วพามันไปอยู่ในที่ที่ดีๆ แล้วก็โพสต์รูปของพวกมันให้คนอื่นได้เห็นบ้าง ที่มา boredpanda
-
เพนกวิน 14 ตัวในสวนสัตว์ ถูกฆาตกรรมโหดโดยหมาจิ้งจอกที่แอบเข้ามา!!!
เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่สวนสัตว์ Melbourne ในประเทศ Australia หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาในสวนสัตว์ตอนเช้า แล้วพบว่าเพนกวิน 14 ตัวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม จนเป็นที่ตื่นตระหนกไปทั้งสวนสัตว์ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ คือหมาจิ้งจอกทีอาศัยอยู่บริเวณรอบๆสวนสัตว์ โดยกล้องวงวจรปิด สามารถจับภาพหมาป่าที่แอบย่องเข้ามาได้เป็นหลักฐาน โชคดี เพนกวินอีก 15 ตัวไม่ได้รับอันตรายจากการบุกทำร้ายครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ก็ย้ายเพนกวินเหล่านี้ ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าเดิมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หมาจิ้งจอกมีแนวโน้มที่จะกลับมาอีกครั้ง และคราวนี้อาจพาเพื่อนมาด้วย เนื่องจากมันคิดว่านี่คือแหล่งอาหารใหม่ของมัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านจิ้งจอก เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้จิ้งจอกเข้ามาในสวนสัตว์ได้อีก ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า จริงๆแล้วหมาจิ้งจอกก็อาศัยอยู่ทั่วไปในเมือง Melbourne แต่ด้วยวิถีชีวิตของมัน ทำให้หลายคนไม่ตระหนักถึงการมีอยู่ของพวกมัน น่าสงสารน้องเพนกวินจัง ขนาดอยู่ในสวนสัตว์ที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว ยังไม่วายโดนทำร้ายได้ หวังว่าหลังจากนี้ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขี้นอีกนะเหมียว ที่มา The Guardian
-
รวม 15 ผลิตภัณฑ์สำหรับคนรัก “สุนัขจิ้งจอก” ที่อยากได้มาครอบครอง!!
“สุนัขจิ้งจอก” ถือเป็นสัตว์ที่น่าหลงไหลเป็นอย่างมาก ด้วยรูปร่างที่งดงามของมันทำให้บางทีคนอย่างเราก็หลงเสน่ห์มันเข้าให้ ซึ่งเราก็คงจะเห็นได้บ่อยตามภายยนตร์ต่างๆ วันนี้เหมียวก็เลยมาเอาใจคนรักสุนัขจิ้งจอกด้วยสินนค้าสุดแสนน่ารักที่ทำออกมาเพื่อคนรักมันโดยเฉพาะ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย ที่คั่นหนังสือ แหวน ถุงมือแบบประกบกัน เสื้อฮูดสำหรับเด็ก กระเป๋าตัง แหวนจิ้งจอกสามส่วน กระถางต้นไม้ เสื้อไหมพรม ถุงมือ ของตกแต่งบ้าน กางเกงใน เลกกิ้ง เสื้อ จัดเต็มกับเสื้อจิ้งจอก ต่างหูน่ารักๆ เป็นไงล่ะ เห็นแล้วยั่วกิเลสเลยใช่มั้ย เหมียวเห็นแล้วอยากได้ทั้งหมดเลยยยย ที่มา boredpanda
-
เผยภาพสุนัขจิ้งจอกสีดำพันธุ์หายากในประเทศอังกฤษ ที่ไม่อาจพบเห็นกันได้บ่อยๆ ซักเท่าไหร่!!
นับว่าเป็นเรื่องที่บังเอิญมากๆ สำหรับ Robert Fuller ที่ได้สังเกตว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ภายในบริเวณบ้านของเขา ซึ่งพอสังเกตดูให้ดีๆ ก็พบว่าเป็นสุนัขจิ้งจอก แถมยังเป็นตัวที่หายากมากๆ เลย เพราะว่ามันมีขนเป็นสีดำ!! ซึ่งโดยปกติแล้วสุนัขจิ้งจอกทั่วไปเมื่อโตเต็มวัยแล้วจะผลัดขนเป็นสีน้ำตาลหรือเฉดสีส้ม จะมีสุนัขจิ้งจอกจำนวนน้อยมากๆ ที่ยังคงมีขนสีดำ และด้วยข้อบกพร่องทางด้านพันธุกรรมจึงทำให้พวกมันเป็นสุนัขจิ้งจอกที่หายากมากๆ และมีอัตราการโดนล่าสูงกว่าสุนัขจิ้งจอกทั่วไป เนื่องจากพบเห็นได้น้อยและนำขนของพวกมันมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตามในอดีตของประเทศอังกฤษในช่วงยุคกลางนั้น สุนัขจิ้งจอกสีดำถือว่าเป็นลางร้ายเช่นเดียวกับแมวสีดำที่เป็นความเชื่อในยุคปัจจุบันนั่นเอง จะว่าไปมันก็น่ารักเหมือนกันเนอะ ที่มา : unilad