Tag: จีน
-
เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวไปเป็น “ทาสเซ็กส์” ถึง 6 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่แล้ว
จากการรายงานระบุว่า เด็กหญิงชาวจีนที่ถูกลักพาตัวไปเป็นทาสเซ็กส์นานถึง 6 ปี วันนี้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว หญิงสาวไม่เผยนามได้รับการช่วยเหลือจากแม่ของเธอเองเมื่อช่วงต้นปี 2018 และเมื่อเร็วๆ นี้เธอก็ได้เปิดเผยว่าเคยให้กำเนิดเด็กที่เกิดจากชายผู้ลักพาตัวเธอและลูกชายของเขา ชายผู้ลักพาตัวนั้นมีชื่อว่า Deng ขณะนี้ได้ถูกจับกุมในข้อหาข่มขืน ขณะเดียวกันลูกชายของ Deng ก็ทำการข่มขืนหญิงคนนี้เช่นกัน หญิงสาวผู้เป็นเหยื่อ เธอหนีออกจากบ้านในเมืองชู่หม่าเตี้ยน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ในปี 2012 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 14 ปีเนื่องจากเธอได้ทะเลาะกับพี่ชาย แต่ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ดำเนินการแจ้งความว่าเธอหายตัวไป เพราะในเวลานั้น Li Ailing ผู้เป็นแม่ก็ต้องจำคุกเนื่องด้วยคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนผู้เป็นพ่อก็ทิ้งครอบครัวไปก่อนหน้านั้นเป็นปีแล้ว หลังจากแม่ถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2016 ทำให้เธอรู้ว่าลูกสาวหายตัวไปถึง 4 ปีแล้ว เธอจึงเริ่มดำเนินการตามหา จากนั้นเธอก็ได้พบสาวน้อยในชุดโทรมๆ เธอรู้ว่านั่นเป็นลูกสาวของเธอแน่ๆ เธอพยายามเตือนคำความจำเธอ แต่ตัวลูกสาวเองกลับบอกว่าจำแม่ของตัวเองไม่ได้ กระทั่ง ฝ่ายแม่เล่าเรื่องลูกที่หายตัวไปให้เธอฟัง พร้อมกับได้มองหน้ากันอย่างใกล้ชิด สุดท้ายหญิงสาวก็เรียก Li ว่า “แม่” อย่างไรก็ตาม เด็กสาวปฏิเสธที่จะกลับบ้าน เธอพูดออกมาเพียงคำว่า “เด็ก” เท่านั้น…
-
ตำรวจออสเตรเลีย พูดเหยียดคนขับรถว่า “กลับจีนไปเลยไป” ทั้งที่ตนเองก็เป็นชาวเอเชีย…
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2018 ได้มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ออกมาบนอินเทอร์เน็ต โดยเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Caleb Strik เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า การเหยียดชนชาติ ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในช่วงเวลาราว 06.30 น. บนถนน Marsden ใกล้กับสี่แยก Pennant Hills ในรัฐนิวเซาต์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่จราจรนายหนึ่งได้เดินเข้ามายังรถยนต์ Toyota Camry คันหนึ่งเพื่อสุ่มตรวจแอลกอฮอล์และถามคนขับรถว่ามาจากไหน ก่อนจะพูดออกมาว่า “กลับจีนไปเลยไป” พร้อมใช้มือผลัก ชมคลิปแรก ชมคลิปที่สอง ชมคลิปที่สาม ตัวของ Strik ผู้ถ่ายคลิปและผู้ที่เห็นเหตุการณ์นั้นให้สัมภาษณ์ว่า เขาตกใจมากที่เห็นการเหยียดแบบนี้ แถมวาจาเหยียดนั้นก็ออกมาจากปากของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นชาวเอเชียด้วยกัน หาใช่ชาวออสเตรเลียไม่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจึงเข้ามาห้ามไม่ให้ Strik นั้นบันทึกวิดีโอ แต่ Strik ก็ตอบกลับไปว่าเขาจะถ่าย เขามีสิทธิ์เพราะเขาเป็นชาวออสเตรเลีย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็หันไปขอความช่วยเหลือจากชายชาวเอเชียอีกคนหนึ่ง เพราะเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเท่าใดนัก ขณะนี้ วิดีโอดังกล่าวกำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งนิวเซาต์เวลส์ …
-
บริษัทจีนเริ่มมาตรการชูแบรนด์ ลงโทษคนใช้ iPhone และให้รางวัลคนใช้ Huawei
กลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลกเลยทีเดียว เมื่อทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ทำการแบนอุปกรณ์ไอทีจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Hauwei และ ZTE จนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเกิดความตึงเครียดขึ้นมา ล่าสุด บริษัทในประเทศจีนเริ่มมีการตอบโต้มาตรการดังกล่าว ด้วยการแบนสินค้าไอทีจากสหรัฐอเมริกาบ้างแล้ว บริษัทแห่งหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ออกมาตรการที่ว่าจะมีการ ให้รางวัล แก่ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือของค่าย Huawei และขณะเดียวกันก็จะมี บทลงโทษ สำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Apple มาตรการดังกล่าวถูกร่างขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังในบริษัท Zhejiang Kangjiesi New Material Technology Co. และถูกเผยแพร่ออกสู่โลกออนไลน์อย่างลับๆ มาตรการสนับสนุน Huawei ของบริษัทได้กล่าวเอาไว้ว่า พนักงานคนใดที่ถือครอง iPhone จะ ไม่มีสิทธิ์ได้รับการเลื่อนขั้น ส่วนพนักงานที่ใช้โทรศัพท์มือถือของ Huawei นั้นจะได้เงินค่าเครื่องกลับคืนในอัตราดังต่อไปนี้ -ผู้บริหารจะได้เงินค่าเครื่องคืน 50 เปอร์เซ็น (หรือครึ่งหนึ่งของราคาเต็ม) -ผู้จัดการจะได้ค่าเครื่องคืน 25 เปอร์เซ็นต์ -พนักงานทั่วไปจะได้ค่าเครื่องคืน 20 เปอร์เซ็นต์ ชมคลิปวิดีโอจาก Vocativ …
-
นักวิทย์ฯ จีนค้นพบวิธีการเปลี่ยน ‘ทองแดง’ เพื่อใช้แทน “ทองคำ” ในแผงวงจร!!
ในวันนี้นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนได้ค้นพบวิธีการเปลี่ยน “ทองแดง” ให้กลายเป็นแร่ใหม่ที่มีคุณสมบัติเกือบเหมือน “ทองคำ” เรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว การวิจัยทดลองครั้งนี้ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสาร Science Advances เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2018 โดยมีทีมนักวิจัยชาวจีนจากสถาบันฟิสิกส์เคมีต้าเหลียน (DICP) ในวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นผู้ดำเนินการ ในรายงานระบุว่า Sun Jian ศาสตราจารย์จาก DICP และคณะผู้ช่วยนั้นสามารถจำลองแร่ธาตุที่มีลักษณะเหมือนทองคำขึ้นได้ด้วยวิธีการยิงแก๊สอาร์กอนที่ร้อนและเต็มไปด้วยประจุไฟฟ้าเข้าใส่ทองแดง วิธีนี้จะทำให้ละอองอนุภาคที่เคลื่อนตัวเร็ว ได้เข้าไปชนกับอะตอมในทองแดงจนแยกออก และเมื่ออะตอมทั้งหมดเย็นลงและควบแน่นอยู่บนพื้นผิว มันก็จะเกิดสสารลักษณะคล้ายเนื้อทรายขึ้นเป็นชั้นบางๆ เม็ดทรายดังกล่าว จะถูกนำไปยังหอเผาไหม้เพื่อใช้มันเป็นตัวทำละลายเปลี่ยนถ่านหินให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ และกระบวนการนี้เองที่พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณสมบัติที่เปรียบเสมือนเงินหรือทองคำ ในด้านการนำกระแสไฟฟ้าได้ดี อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองในครั้งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะผลิตทองคำเพื่อขาย แต่จะมีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรไฟฟ้าที่จำเป็นต้องมี “ทองคำ” เป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ทางทีมวิจัยยังกล่าวอีกว่า สสารใหม่ที่เกิดจากทองแดงนี้ยังมีคุณสมบัติต้านทานความร้อน การสูญเสียโมเลกุล และการกัดกร่อน ได้อีกด้วย ที่มา: sciencemag, scmp via nextshark
-
ภาพหายากของ “เจ็ท ลี” กับลูกสาวสุดสวยทั้ง 2 คน ที่ถ่ายร่วมกับคุณพ่อในวันคริสต์มาส!
ในเทศกาลวันคริสต์มาส ถือว่าเป็นโอกาสดีและวันพิเศษที่ผู้คนจัดงานเลี้ยงฉลองกันเกือบทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นวันที่ทำให้เราได้เห็นภาพบรรยากาศบางอย่างที่เราไม่เคยเห็น อย่างเช่น ภาพตลกต่างๆ ภาพความคิดสร้างสรรค์ของการจัดงานคริสต์มาส หรือแม้แต่ภาพบรรยากาศความอบอุ่นของเหล่าดาราดังที่ร่วมฉลองวันคริสต์มาส เป็นต้น และวันนี้ บนอินตาแกรมของนักแสดงภาพยนตร์บู๊ตัวพ่อจากเมืองจีนอย่าง Jet Li ก็ได้เผยภาพที่หาชมได้ยาก นั่นก็คือภาพของ ลูกสาวทั้ง 2 คน ของเขานั่นเอง น้อยครั้งนักที่คุณพ่อ Jet Li จะมีภาพร่วมกับลูกสาวทั้งสองในขณะที่ทั้งคู่ก็เริ่มโตเป็นสาวสวยกันแล้ว (สังเกตดูสิว่าหากถอดรองเท้าส้นสูงออกก็คงสูงเท่าๆ กับพ่อแล้วนะเนี่ย) คนทางซ้ายคือ Jane Li มีอายุครบ 18 ปีแล้ว ส่วนทางขวาก็คือ Jada Li ลูกสาวคนเล็กที่มีอายุ 16 ปีนั่นเอง Jet Li ในวัย 55 ปี ก็ยังคงมีข่าวคราวการรับบทในภาพยนตร์ให้เราได้ยินกันอยู่ แถมเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของ Disney เสียด้วย นั่นก็คือเรื่อง Mulan (มู่หลาน) ที่คาดว่าจะเข้าฉายปี 2020 โน่นแน่ะ โดยเจ้าตัวได้มีการโพสต์ภาพของลูกสาวตัวเองก่อนหน้านี้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น…
-
เผยภาพตำรวจสาวชาวจีน ดูข้างหลังยังรู้ว่าสวย! หนุ่มๆ ชาวเน็ตตามหาเจอตัวจนได้!!
เรื่องราวของการตามหาวาร์ปหรือตามหาพิกัดของ “สาวสวย” ในชีวิตประจำวันนั้นมีให้เห็นกันทั่วอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น แม่ค้า พนักงานคิดเงิน ครู หรือแม้แต่นักการเมืองสาวสวย ก็มีให้เห็นกันไปบ้างแล้ว วันนี้ชาวเน็ตของประเทศจีนเองก็กำลังฮือฮาไม่น้อยกับภาพที่พวกเขาพบเจอ ภาพดังกล่าวเป็นภาพของหญิงสาวในเครื่องแบบตำรวจ พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มอันแสนน่ารัก ฉะนั้น #เหมียวโลลิ เองก็ย่อมไม่พลาดจะนำเรื่องราวดังกล่าวมาเสนอให้เพื่อนๆ ได้ชม และ “เปิดวาร์ป” ให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปทำความรู้จักกับตำรวจสาวคนนี้ ตำรวจสาวที่ชาวเน็ตจีนตามหา!! หลังจากที่ภาพดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ไม่นาน ก็ทราบว่าตำรวจหญิงคนนี้มีนามว่า Lin Biao โดยในภาพด้านบน เธอกำลังเข้ามาติดต่อที่หน่วยงานอุบัติเหตุฉุกเฉินหลังพาผู้บาดเจ็บมาส่ง Lin Biao เธอเป็นตำรวจในสถานี Taoyuan ซึ่งในย่านนั้นใครๆ ก็รู้ดีว่าเธอเป็นตัวท็อปในเรื่องของรูปโฉมอันงดงามและทรงเสน่ห์ ว่าแต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เราคงต้องไปรับชมกันเอาเองแล้วล่ะนะ!! ในเครื่องแบบไปเลยจ้า ขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกเครื่องแบบ . หุ่นดีไปอี๊กก . สวัสดีค่าา . . . . . . .…
-
เปิดโลกใหม่สายชาบู กับเมนู “ชาบูซุปทุเรียน & มัทฉะ” จากเมืองจีนเจ้าค่าาาา!!
ชาบู กลายเป็นอาหารยอดนิยม เพราะไม่ว่าเราจะเครียด เศร้า หรือสนุกสนาน การจบลงด้วยการนั่งกินชาบูนั้นมันช่วยเยียวยาได้ทุกสิ่งเลยจริงๆ เนื้อสัตว์นุ่มๆ จุ่มลงไปในน้ำจิ้มรสเด็ด ประกอบกับน้ำซุปในหม้อร้อนๆ หอมๆ นี่แหละคือรสชาติแห่งสวรรค์ที่แผ่ซ่านไปทั่วลิ้นยามได้กินชาบู แต่ครั้งนี้ ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ เพราะว่าในประเทศจีนได้ริเริ่มชาบูแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ซึ่งก็คือ ชาบูมัทฉะ และ ชาบูทุเรียน นี่อาจจะเป็นสวรรค์แห่งใหม่ของสายชาบูก็เป็นได้… ในวิดีโอที่เห็นคือ “ภาพจริง” ของสิ่งที่เรียกว่าชาบูมัทฉะและชาบูทุเรียน โดยในหนึ่งหม้อก็จะแบ่งครึ่ง ด้านหนึ่งเป็นน้ำซุปชาเขียวมัทฉะ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นน้ำซุปทุเรียน (ทุเรียนจริงๆ มาทั้งเนื้อทั้งเปลือกเลย) จากคลิปจะเห็นได้ว่ามีการจุ่มวัตถุดิบแปลกๆ เช่น โอริโอ้ ของทอด มันเทศ ลงไปในน้ำซุปมัทฉะ จนกระทั่งน้ำซุปมีความเข้มข้นขึ้นมาแล้วจึงใส่เนื้อสัตว์จุ่มตามลงไป ในส่วนของน้ำซุปทุเรียนนั้นมีส่วนผสมของกะทิและทุเรียน รวมไปถึงเปลือกทุเรียนด้วย แน่นอนว่าในน้ำซุปทุเรียนนี้ก็สามารถจุ่มวัตถุดิบอะไรลงไปก็ได้ หมู ไก่ เนื้อ ตามใจชอบเลยจ้า เมนูชาบูมัทฉะและทุเรียนนี้อยู่ในร้าน Xiang Tian Xia ซึ่งเป็นร้านชาบูชื่อดังของประเทศจีนเลยทีเดียวเชียว ซึ่งจุดเด่นของร้านก็จะเป็นความแปลกประหลาดของเมนูอยู่แล้ว เช่น น้ำซุปสไตล์ของหวานที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เองว่าจะให้เป็นรสชาติอะไร… ก่อนตัดสิน เราน่าจะได้ลิ้มลองสักครั้ง…
-
ช่างตัดผมชาวจีน สร้างผลงานศิลปะสุดเจ๋ง จาก “เศษเส้นผม” ที่กองอยู่กับพื้น
เชื่อว่าทุกท่านที่เคยเข้าใช้บริการร้านตัดผม จะต้องมองเห็นว่าที่พื้นของร้านมักจะมีเศษเส้นผมกองหรือกระจายอยู่เต็มพื้น แน่นอน เพราะมันคือร้านตัดผม ไม่ให้มีเศษผมแล้วจะให้มีเศษอะไรล่ะจริงไหม? สิ่งที่ทุกร้านจะทำก็คือกวาดมันไปกองๆ แล้วนำไปทิ้ง แต่สำหรับร้านตัดผมร้านหนึ่งในประเทศจีนกลับไม่ทำเช่นนั้น ไอ้เจ้ากองเศษเส้นผมที่หล่นอยู่ตามพื้น มันได้ถูกนำกลับมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะสุดเจ๋ง ที่ร้านตัดผม XB Hair Professional salon มณฑลจังฮว่า ประเทศจีน ช่างตัดผมนามว่า Allen Chen ได้กลายเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางหลังจากที่เขาเผยภาพและคลิปวิดีโองานศิลปะจากเส้นผมของเขาลงบนอินเทอร์เน็ต เตียวหุย เล่าปี่ และกวนอู จากสามก๊ก โฉมหน้าของ Allen Chen ศิลปินและช่างตัดผมฝีมือร้ายกาจ Allen Chen เล่าว่าจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานชนิดนี้ก็คือ ปกติแล้วในแต่ละวันเขามักจะมองเห็นเศษผมกองอยู่อย่างมหาศาลเป็นประจำ และเขาก็ต้องนำมันไปทิ้ง เขาก็เลยคิดที่จะนำกองเศษผมนั้นมาวาดเป็นภาพโดยมีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะจากทราย โดยเริ่มจากการวาดเส้นร่างก่อนแล้วค่อยเติมเส้นผมเข้าไปพร้อมปรับเปลี่ยนปริมาณเส้นผมในแต่ละจุดเพื่อทำให้เกิดเงา สิงโต คลิป Venom Titanic ซุนหงอคง หญิงสาว นอกจากนี้ Allen ยังเคยสร้างผลงานการวาดภาพด้วยการตัดผมมาก่อน…
-
ล่าสุด จีนปล่อยตัวอย่างหนัง “ฮีโร่ชุดเกราะ” แต่ชาวเน็ตวิจารณ์มันดูคุ้นตาจังเลย!
ล่าสุดทางจีนได้เผยวิดีโอตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่องใหม่ Armored War God: Monkey King ที่ถึงแม้จะดูแล้วน่าสนุก แต่ก็ดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามเล่าเรื่องราวการเดินทางผจญภัยของราชาวานรอย่าง ซุน หงอคง ในแบบใหม่ที่มีเทคโนโลยีชุดเกราะแบบล้ำยุคมาผสมผสานด้วย Armored War God: Monkey King ชมตัวอย่างของ Armored War God: Monkey King เนื้อเรื่องจะกล่าวถึงตัวละคร ซุน หงอคง ที่ได้เดินทางท่องไปยังสวรรค์และนรกของจักรวาลคู่ขนาน จนสุดท้ายเขาก็พบจักรวาลหนึ่ง ที่ผู้คนของที่นั่นมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอันล้ำหน้า คนเหล่านั้นมีความสามารถในการสร้างชุดเกราะแบบ Iron… เอ้ย แบบล้ำยุคขึ้นมาได้ แถมยังมีเทคโนโลยีการเดินทางข้ามจักรวาลได้อีกด้วย โดยทางทีมงานผู้สร้างกล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ Iron Man, Transformers และ Gundam นั่นเอง ทางทีมงานกล่าว… “เราสามารถสร้างฮีโร่ชุดเกราะขึ้นมาเป็นของจีนได้ ไม่ว่ามันจะยากเย็นขนาดไหน เราจะทำความฝันของเด็กๆ ให้เป็นจริง โดยการทำให้โลกได้ประจักษ์กับสุดยอดชุดเกราะที่ชาวจีนสร้างขึ้นมา” ที่มา: youtube via 9gag
-
สาวที่เคยคิดว่าตัวเอง “อัปลักษณ์” กลายเป็นตัวแทนออสเตรเลีย ก้าวสู่เวที Miss Universe!
อีเวนต์ที่กำลังมาแรงตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการประกวด Miss Universe ในไทยที่ใกล้เข้ามาเต็มที เหล่าผู้เข้าประกวดทั้งหลายต่างก็เริ่มเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกเลยว่าปีนี้ ผู้เข้าประกวดนั้นมีแต่พีคๆ ทั้งนั้นเลยไม่ว่าจะเป็นความสวย ความแซ่บ แต่วันนี้เรามาฟังเรื่องราวของ Miss Australia กันหน่อยดีกว่า เพราะกว่าเธอจะมาถึงวันนี้ได้ เธอเป็นคนที่มองว่าตนเองนั้น “น่าเกลียด” มาก่อน Francesca Hung สาวลูกครึ่ง จีน-ออสเตรเลีย วัย 24 ปี ผู้ชนะการประกวด Miss Australia คนแรกที่ไม่ได้เป็นสาวผมบลอนด์หรือดวงตาสีฟ้า แถมใบหน้าที่เต็มไปด้วย “กระ” ของเธอยังเป็นที่จดจำอีกด้วย พ่อของเธอเป็นชาวจีน ส่วนแม่ของเธอนั้นเป็นลูกครึ่งไอร์แลนด์-ออสเตรเลีย Francesca นั้นจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาศิลปะและสังคมศาสตร์เมื่อปีที่ผ่านมา และกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาการตีพิมพ์ในมหาวิทยาลัยซิดนีย์นั่นเอง Francesca เป็นเด็กสาวที่เติบโตมาในสังคมคนขาว เธอจึงเผยความคับข้องในใจตั้งแต่วัยเด็กออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ เธอเล่าว่า… “ฉันรู้สึกแตกต่าง และค่อนข้างอับอาย เพราะวัฒนธรรมที่ฉันเติบโตขึ้นมา แต่ตอนนี้ฉันก็ได้ยอมรับและปรับตัว ฉันสุขใจที่ตัวเองแตกต่างจากคนอื่น และอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ที่เติบโตขึ้นในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ให้พวกเขาได้มีแรงบันดาลใจ” นอกจากนี้ Francesca…
-
ร้านอาหารนิวยอร์กนำ “ติ่มซำ” มาแปลงเป็นอาหารมะกัน ถูกชาวเน็ตเอเชียจวกยับ!!
อาหารที่มาจากต่างวัฒนธรรม บางครั้งเมื่อรับเข้ามาแล้วก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ต่างจากต้นตำรับ เพื่อให้สามารถรวมกับวัฒนธรรมของตนเองได้ แต่บางทีการปรับเปลี่ยนให้อาหารของวัฒนธรรมอื่นก็อาจสร้างปัญหาตามมาได้เช่นกัน… เช่นเรื่องราวในวันนี้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กถูกวิจารณ์หนัก เนื่องจากนำ “ติ่มซำ” มาดัดแปลงเสียจนกลายเป็นอาหารอเมริกันไปเลย ในร้าน Brooklyn Chop House นั้นมีการเสิร์ฟติ่มซำที่ถูกดัดแปลงให้เป็นอาหารคุ้นลิ้นของชาวอเมริกัน เช่น ขนมจีบชีสเบอร์เกอร์ เกี๊ยวเนื้ออบ และเสี่ยวหลงเปาซุปหัวหอม เป็นต้น ในส่วนของผู้ร่วมก่อตั้งร้านอย่าง Stratis Morfogen ก็อธิบายอย่างง่ายๆ ว่าแรงบันดาลใจในการปรับแต่งสูตรอาหารเหล่านี้ก็คือการทำ “อาหารฟิวชั่น” “ปกติแล้วผมจะชื่นชอบร้านสเต๊กแบบอเมริกันมาก แต่คิดว่าเราไม่ควรทำร้านสเต๊กในสไตล์เดิมๆ” Stratis Morfogen อย่างไรก็ตาม Stratis Morfogen เล่าว่าเมนูติ่มซำที่เสิร์ฟทั้งหมดนี้อิงมาจากอาหารเมนูโปรดของเขาที่ได้ทานจากฝีมือลุง ฉะนั้น เขาจึงนำมาดัดแปลงลงไปในเกี๊ยวและติ่มซำเสียเลย “ถ้าแต่งงานกับอาหารได้ผมก็ทำไปแล้ว ตอนนี้ที่ผมทำก็คือนำอาหารจานโปรดของผมทั้งหมด ยัดลงไปไว้ในแผ่นเกี๊ยวยังไงล่ะ” ขนมจีบชีสเบอร์เกอร์ เกี๊ยวเนื้ออบ เสี่ยวหลงเปาซุปหัวหอม คลิปวิดีโอของร้าน Brooklyn Chop House หลังจากคลิปวิดีโอของร้านนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ด้วยยอดเข้าชมราว 500,000 ครั้ง กลับมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเลยที่เข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์เชิงลบ…
-
เด็กหนุ่มจีนวัย 13 ปี ทำลายสถิติโลก “กระโดดเชือก” ได้เร็วที่สุด 136 ครั้งใน 30 วินาที!!
พูดถึงเรื่องของการ “กระโดดเชือก” กิจกรรมออกกำลังกายที่ไม่ยากไม่ง่าย บางคนก็ทำมันเป็นประจำแต่บางคนก็ยังทำมันไม่คล่องเพราะจังหวะกระโดดยังไม่แม่นยำ ขณะที่พวกเรายังครึ่งๆ กลางๆ อยู่กับการกระโดดเชือก เด็กหนุ่มวัย 13 ปีจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้โชว์ลีลาการกระโดดเชือกที่รวดเร็วและแม่นยำราวกับมาจากคนละโลก Huang Junkai เด็กชายวัย 13 ปีผู้ทำลายสถิติโลกของตนเองด้วยในงาน Double Dutch งานแข่งขันระดับโลก งานดังกล่าวชื่อว่า Double Dutch Contest Shanghai Vol. 5 จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Huang ได้ทำลายสถิติโลกของตนเองลงสำเร็จ เขากระโดดไป 136 ครั้งในเวลาเพียง 30 วินาที เฉลี่ยเขากระโดดไป 9.07 ครั้งต่อวินาที ซึ่งถือว่าเป็นการกระโดดเชือกที่เร็วมากสำหรับมนุษย์ หากอยู่รู้ว่าหนูน้อย Huang ทำได้อย่างไร ชมได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลย Huang กล่าวว่า… “นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่ผมเข้าแข่งขันงาน Double Dutch Contest Shanghai ผมฝึกซ้อมมันทุกๆ วันอังคารและวันศุกร์…
-
ตำรวจจีนบุกรวบ แก๊งผลิต “ถุงยางปลอม” พร้อมของกลางมูลค่าราว 237 ล้านบาท!
งานนี้ต้องเรียกได้ว่า “ก็อปปี้จนได้เรื่อง” จริงๆ เพราะแก๊งชาวจีนถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุผลิตและจำหน่าย ถุงยางอนามัยปลอม รวมเป็นมูลค่า 50 ล้านหยวน (ราว 237 ล้านบาท) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกรวบแก๊งผลิตถุงยางปลอมในเมือง Cangnan โดยยึดได้ของกลางเป็นถุงยางจำนวน 500,000 กล่อง มีทั้งยี่ห้อ Durex, Okamoto และอื่นๆ ภายหลังทราบมาว่าการผลิตนี้ได้ส่งต่อไปจำหน่ายยังโรงแรมต่างๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบอัตโนมัติอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าถุงยางอนามัยปลอมนั้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้ ซึ่งก็ได้บุกจับไปแล้วในโรงงานผลิตหลายแห่งในมณฑลเหอหนานและหูเป่ย จากรายงาน สมาชิกแก๊งที่ถูกจับกุมมีทั้งหมด 17 รายจากหลายๆ โรงงานรวมกัน เจ้าหน้าที่ Zheng Xidan กล่าวว่า “เราเจอโรงงานที่ผู้ต้องสงสัยร่วมมือกันผลิตถุงยางอนามัยปลอมในย่านนอกเมืองของมณฑลเหอหนานและหูเป่ย ซึ่งเป็นสถานที่ที่สกปรกมาก เราพบว่าพวกเขามีการผสมถุงยางอนามัยเข้ากับน้ำมันซิลิโคน ซึ่งถือว่าเป็นการผลิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานการผลิตอย่างแท้จริง” จากการสอบสวนพบว่า ถุงยางอนามัยปลอมเหล่านี้ถูกขายส่งต่อให้พ่อค้าคนกลางในราคาเพียงกล่องละ 4.76 บาท เท่านั้น ขณะที่ราคาขายทอดตลาดอยู่ที่กว่า 90-700 บาทต่อกล่อง ทั้งนี้ทั้งนั้น นาย Chen He ผู้จัดการการผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อ Daxiang ก็ออกมาเตือนถึงการใช้ถุงยางอนามัยปลอมว่า “ปกติแล้วการผลิตถุงยางอนามัยนั้นอยู่ภายใต้หมวดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด…
-
ป้าชาวจีนถือ “ระเบิด” กลับบ้าน เพราะคิดว่าเป็น ‘สากกระเบือ’ เตรียมเอาไปทุบพริกไทย!
ล่าสุดป้าคนหนึ่งได้ไปขุดบริเวณเขตก่อสร้างในหมู่บ้าน แล้วเจอกับวัตถุประหลาดเป็นโลหะทรงยาวมีด้ามจับ เธอจึงเก็บกลับบ้านเพราะที่บ้านกำลังต้องการ “สากกระเบือ” เพื่อตำพริกไทยอยู่พอดี ระเบิด (ที่ป้าคิดว่าเป็นสากกระเบือ) เมื่อวันพุธที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน คุณป้าสกุล Wen ได้ขุดเจอวัตถุประหลาดเป็นโลหะมีด้ามจับ และขนาดของมันก็ใกล้เคียงกับสากกระเบือเอามากๆ เธอตัดสินใจเก็บมันกลับบ้านเพื่อใช้เป็นสากสำหรับตำพริกไทย แต่ขณะที่เธอเดินผ่านผู้คน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อาศัยในหมู่บ้านจึงเห็นว่านั่นไม่ใช่สากกระเบือ แต่เป็น ระเบิด เขาจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ระเบิดโดยด่วน ป้า Wen จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ระเบิดดังกล่าวมีสนิมเกรอะกรัง คาดว่าน่าจะถูกฝังอยู่ใต้ดินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ซ้ำยังกล่าวอีกว่าหากมันถูกจุดชนวนขึ้นมันจะเป็นระเบิดที่อันตรายมาก จากนั้นทีมเจ้าหน้าที่ก็ทำการขุดหลุมขึ้นมาในสนามกว้างๆ หย่อนระเบิดลงไปพร้อมต่อสายจุดชนวน ทั้งหมดนี้เป็นการทดลองว่าระเบิดนั้นยังใช้ได้อยู่หรือไม่ ทีมเจ้าหน้าที่ หลุมทดลองระเบิด พร้อมต่อสายชนวน ทดลองจุดชนวนระเบิด ผลปรากฎว่าเมื่อจุดชนวนแล้วมันระเบิดออกมาจนเกิดเสียงดังลั่น หลุมที่ขุดไว้ก็คละคลุ้งไปด้วยควันสีขาว เจ้าหน้าที่อธิบายว่าระเบิดลูกนี้มีรัศมีทำลาย (ถึงชีวิต) อยู่ที่ 7 เมตร นั่นทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าหากป้า Wen นำไปใช้ตำพริกไทยจริงๆ ป่านนี้ป้าจะเป็นอย่างไรบ้าง… ที่มา:…
-
ชายชาวจีนกิน “ยาแก้หวัด” กว่า 30,000 เม็ดในระยะเวลา 10 ปี เพราะเกิดอาการ ‘เสพติด’
ชายวัย 48 ปีจากนครฉางชา ประเทศจีน กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศเนื่องจากพฤติกรรมทาน ยาแก้หวัด ติดต่อกันมายาวนาน 10 ปี รวมแล้วมากกว่า 30,000 เม็ด เพียงเพราะมีอาการ “เสพติด” ชายสกุล Wang วัย 48 ปีได้เล่าผ่านคลิปวิดีโอบนเว็บไซต์หนึ่งว่า เขาซื้อยาแก้ไข้หวัดมารักษาอาการปวดหัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเขาใช้มันเขาพบว่ามันมีประสิทธิภาพดี จากนั้นเมื่อเขารู้สึกไม่ค่อยดีเพียงเล็กน้อยเขาก็เริ่มคิดที่จะใช้ยานี้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่ปัญหากลับติดอยู่ตรงที่ว่าการจะใช้ยาให้ได้ผลแบบเดิมเขาต้องเพิ่มปริมาณยาให้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเป็น 8 ถึง 12 เม็ดต่อวัน ครอบครัวของ Wang พยายามนำตัวเขาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเสพติด หลังจากการตรวจวินิจฉัย แพทย์กล่าวว่า ยาดังกล่าวมีส่วนผสมของ “คาเฟอีน” หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมันจะให้ผลกับร่างกายคล้ายกับนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์ในสุราเลยทีเดียว ซึ่ง Wang นั้นได้ใช้ยาชนิดนี้มา 10 ปีแล้ว ล่าสุด Wang กล่าวว่าที่ผ่านมาเขาใช้ยาแก้หวัดเพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่ปัจจุบันเขาต้องลดขนาดยาลง และทานยาต้านซึมเศร้าและวิตกกังวลควบคู่ไปด้วยจนกว่าอาการเสพติดจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แพทย์กล่าวว่าสำหรับคนทั่วไปไม่ต้องกังวล คาเฟอีนในยาแก้หวัดนั้นไม่ได้ส่งผลแบบเดียวกับ Wang…
-
เด็กหญิงจีนวัย 10 ขวบ สอนแม่ที่ “สูญเสียความจำ” ให้กลับมาพูดและอ่านได้อีกครั้ง
เด็กหญิงวัย 10 ขวบในเมืองอี๋ปิน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลตัวอย่างเนื่องจากพฤติกรรมแสนกตัญญูที่เธอมีให้กับผู้เป็นแม่ Cai Chengcheng เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ได้ช่วยสอนให้แม่ของเธอสามารถพูด อ่าน และเขียน ได้อีกครั้งหลังป่วยเป็นโรคเลือดออกในสมองเมื่อ 4 ปีก่อน Chen Li ผู้เป็นแม่หลังจากมีอาการเลือดออกในสมองตั้งแต่ลูกสาวของเธอยังมีอายุได้เพียง 6 ขวบ เธอก็เริ่มสูญเสียความทรงจำไปเรื่อยๆ เมื่อลูกสาวตัวน้อยเห็นแม่เป็นแบบนี้ เธอก็ทนไม่ได้ที่จะช่วยเหลือแม่ของเธอให้มีอาการดีขึ้น เวลา 4 ปีที่แม่ของเธอป่วย เธอก็ช่วยสอนแม่ให้พูด อ่าน และเขียนเป็นประจำทุกวัน หนูน้อยกล่าวว่า “เมื่อก่อนแม่เป็นคนสอนหนูให้อ่านหนังสือ ตอนนี้ถึงตาหนูที่จะสอนแม่อ่านหนังสือบ้างแล้ว” หนูน้อย Chengcheng เล่าถึงวันที่เธอเห็นแม่กลับจากโรงพยาบาลว่า “แม่นั่งรถเข็นมา ตาข้างซ้ายของแม่ดูปกติ แต่ตาข้างขวานั้นเหลือกขึ้นราวกับว่ามันมองอะไรไม่เห็นอีกแล้ว แม่จำหนูได้ แต่แม่เรียกชื่อหนูไม่ได้” จากนั้นก็มีแต่หนูน้อยที่จะสามารถดูแลแม่ของเธอได้อย่างเต็มที่ เพราะฝ่ายพ่อของเธอ Cai Yong นั้นต้องออกไปทำงานแทบทั้งวันเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับแม่ ส่วน Cai Ling พี่ชายของเธอก็เริ่มเข้าเรียนมัธยมแล้ว ทำให้มีเวลาว่างไม่มากนัก จึงมีแต่ Chengcheng…
-
คุณครูลงมือบันทึก “รอบประจำเดือน” ของนักเรียนหญิง ช่วยปัญหา ‘วันนั้น’ ของเด็กๆ
ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ทั่วไปอาจจะคอยสอนความรู้เชิงวิชาการให้กับเด็กๆ แต่คุณครูผู้ทุ่มหัวใจให้กับการดูแลเด็กนักเรียนมากๆ จะทำอะไรที่มากกว่านั้น เช่นคุณครูมัธยมในเมืองเวลลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่นอกจากจะสอนเด็กๆ แล้วยังช่วยบันทึกตารางการเป็น “ประจำเดือน” ของนักเรียนหญิง แถมยังต้มน้ำตาลทรายแดงให้ดื่มนักเรียนหญิงดื่มเพื่อบำรุงร่างกายในช่วงที่มีประจำเดือนอีกด้วย Mo Qunli คุณครูวัย 38 ปีชาวจีน ได้ทำการบันทึกตารางการเป็นประจำเดือนของนักเรียนหญิงเพื่อให้นักเรียนของเขาสามารถคาดเดารอบเดือนได้อย่างแม่นยำ ชาวเน็ตส่วนหนึ่งชื่นชมในการกระทำของเขา แต่ส่วนหนึ่งก็คิดเห็นตรงกันข้าม อาจารย์ท่านดังกล่าว กล่าวว่า “บางคนบอกว่าผมเป็นพวกโรคจิต แต่ก็ช่วยไม่ได้เราจะไปบังคับให้ทุกคนมาเข้าใจได้อย่างไร ผมก็เลยไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น” คลิปวิดีโอ . นอกจากนี้ คุณครูท่านนี้ยังมีการนำน้ำตาลทรายแดงมาต้มเพื่อให้นักเรียนหญิงที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดื่มเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งจะได้มีสมาธิในการเรียนหนังสือต่อไป Mo ใช้วิธีบันทึกรอบเดือนของนักเรียนหญิงแต่ละคนลงบนแผ่นกระดาษ และแปะติดไว้บนกระดานไวท์บอร์ด เพื่อให้นักเรียนสามารถเดินมาอ่านกันได้อย่างทั่วถึง และยังทำให้นักเรียนชายเข้าใจว่าควรประพฤติตนอย่างไรต่อนักเรียนหญิงอีกด้วย นักเรียนชายบางคนก็มาช่วยคุณครู Mo ต้มน้ำตาลทรายแดงเอาไว้ให้นักเรียนหญิงได้ดื่ม ต้มน้ำตาลทรายแดง บันทึกรอบเดือนลงกระดาษและแปะไว้ที่ไวท์บอร์ด คุณครู Mo กล่าวว่าการเป็นครูนั้นจะต้องรับบทเป็นพ่อแม่ด้วยในบางครั้ง ดูแลเด็กนักเรียนให้เหมือนกับดูแลลูกของตนเอง แล้วนักเรียนก็จะมองว่าครูคือพ่อและแม่อีกคนของพวกเขา “ฉะนั้น ผมไม่คิดว่าการบันทึกรอบประจำเดือนของเด็กนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม” Mo Qunli…
-
จีนล้ำอีกขั้น สร้าง “ดวงอาทิตย์เทียม” ปล่อยพลังงานร้อนแรงกว่าของจริงถึง 6 เท่า!!
หลังจากข่าวคราวการสร้าง “พระจันทร์เทียม” ของประเทศจีนที่เพิ่งประกาศไปเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้ชาวแดนมังกรกลับมาพร้อมกับข่าวคราวของการสร้าง ดวงอาทิตย์เทียม อีกแล้ว! อ่านข่าวเก่า: จีนสร้าง “พระจันทร์เทียม” ให้แสงสว่าง แทนการใช้กระแสไฟฟ้า เตรียมปล่อยปี 2020 นี้! สถาบันฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์จีนในนครเหอเฝยได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าได้สร้างดวงอาทิตย์จำลองขึ้นมาได้สำเร็จเมื่อวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน 2018 ดวงอาทิตย์จำลองนี้มีชื่อจริงๆ ว่าเตาปฏิกรณ์ Experimental Advanced Superconducting Tokamak (EAST) ซื่งสร้างความร้อนได้สูงถึง 100,000,000 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนระดับนี้ถือว่าสูงกว่าแกนกลางของดวงอาทิตย์จริง (14,900,000 องศาเซลเซียส) ราว 6 เท่าเลยทีเดียว ทางสถาบันฟิสิกส์วิทยาศาสตร์อธิบายถึงจุดประสงค์ของ EAST หรือดวงอาทิตย์เทียมนี้ว่าสร้างขึ้นมาเพื่อ “จำลอง” กระบวนการสร้างพลังงานของดวงอาทิตย์จริง ทางสถาบันยังเชื่ออีกว่าการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาจะช่วยทำให้ค้นพบเคล็ดลับในการสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันบนโลกมนุษย์ แม้ EAST จะมีสร้างความร้อนได้สูงถึง 100 ล้านองศาเซลเซียส แต่ความร้อนระดับนี้ก็เป็นเพียงความร้อนขั้นต่ำที่สุดในการจุดปฏิกิรยานิวเคลียร์ฟิวชันบนโลก อย่างไรก็ตาม ผลงานดวงอาทิตย์จำลองนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวของวิทยาการมนุษย์ เพราะมันอาจกลายเป็นแหล่งสร้างพลังงานบริสุทธิ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อีกด้วย ที่มา: nextshark และ Shanghaiist
-
หนุ่มนักประดิษฐ์ชาวจีนโด่งดังไปทั่ว เพราะประดิษฐ์แต่ “ของไม่มีประโยชน์” …งงล่ะสิ!!?
จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่คนเรานั้นมีไม่จำกัด แต่เราจะใช้มันในการทำอะไรนั่นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ซึ่งหากว่าเราใช้มันอย่างถูกต้อง เราอาจจะได้รับสิ่งดีๆ กลับมา อย่างเช่น Geng Shuai หนุ่มนักประดิษฐ์ชาวจีนวัย 31 ปีคนนี้ ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการอันลึกล้ำ เขาประดิษฐ์อุปกรณ์ออกมามากมายจนกลายเป็นที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว! Geng Shuai มันฟังดูเหมือนจะดีใช่ไหมล่ะ แต่ว่าที่ทำให้เขากลายเป็นที่โด่งดังน่ะ…เป็นเพราะว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขานั้นมัน “ไร้ประโยชน์” ต่างหาก!! ชาวเน็ตถึงกับตั้งฉายาให้เขาว่า The Useless Edison (ล้อเลียน Thomas Edison) เพราะว่าแต่ละสิ่งที่ Geng Shuai ประดิษฐ์ขึ้นมานั้นถึงมันจะมีความครีเอตก็จริง…แต่มันกลับไม่มีประโยชน์ทางการใช้งานเอาเสียเลย!! ถ้าไม่เชื่อก็ลองชมคลิปสิ่งประดิษฐ์ของพี่แกกันได้เลย Geng Shuai เกิดมาในครอบครัวที่เป็นโรงงานผลิตเครื่องสูบในมณฑลเหอเป่ย จากการรายงานทราบว่าเขาไม่ได้เข้ารับการศึกษาตามหลักสูตรอย่างเป็นทางการ แต่เขาก็ได้รับทักษะการประดิษฐ์มาตั้งแต่เด็กและพัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเขามีไอเดียแปลกใหม่อยู่เสมอ อาทิเช่น ชามก๋วยเตี๋ยวป้องกันแผ่นดินไหว เครื่องเสริมแรงดีด หรือหวีที่ทำจากมีดปังตอ เป็นต้น Geng Shuai กล่าวว่า… “ผู้คนมักมองว่าสิ่งประดิษฐ์ของผมมันไร้ประโยชน์ เอาจริงๆ มันมีประโยชน์นะ ประโยชน์ด้านความบันเทิงไงล่ะ แค่ผมรู้สึกสนุกในการสร้างพวกมัน ก็ถือว่ามีประโยชน์แล้ว” …
-
ภาพแปลกตา อาคาร 5 ชั้น “ลอย” อยู่กลางแม่น้ำแยงซี แท้จริงเป็นภัตตาคารลอยน้ำขนาดยักษ์
เราอาจจะเคยเห็นบ้านลอยน้ำหรือสนามฟุตบอลลอยน้ำกันไปแล้ว แต่ อาคารสูง 5 ชั้น มันจะสามารถลอยน้ำได้จริงหรือ? และหลักฐานในวันนี้ก็จะมาตอบคำถามดังกล่าว โดยมีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาบนอินเทอร์เน็ต เป็นคลิปที่ใครเห็นก็ต้องสงสัยว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น คลิปดังกล่าาวเป็นคลิปของอาคาร 5 ชั้นที่ลอยและเคลื่อนตัวอยู่เหนือแม่น้ำแห่งหนึ่งในประเทศจีน ลองไปชมกันเลย อาคาร 5 ชั้นนี้เป็นภัตตาคารลอยน้ำร้านสุดท้ายในแม่น้ำแยงซีย่านนครฉงชิ่ง ในคลิปวิดีโอนั้นภัตตาดังกล่าวกำลังถูกเคลื่อนย้ายไปปักหลักในอีกบริเวณหนึ่ง หลังจากภาครัฐฯ ไม่อนุญาตให้มีร้านอาหารลอยน้ำอีก ภัตตาคารนี้มีชื่อว่า Impression Jangjian กำลังถูกย้ายโดยเรือท้องแบนสองลำ ขณะที่ภัตตาคารแห่งอื่นๆ ถูกย้ายไปหลายเดือนแล้ว ภัตตาคารแห่งนี้ถูกเคลื่อนย้ายเป็นร้านสุดท้ายจึงดูสะดุดตาผู้คน ปกติแล้วชาวเมืองฉงชิ่งก็คุ้นเคยกับภัตตาคารลอยน้ำกันดีอยู่แล้ว แต่พอมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ออกมาบนอินเทอร์เน็ตจึงทำให้มันกลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบ้านเราซึ่งยากนักจะได้เห็นอาคารใหญ่โตแบบนี้มาลอยอยู่เหนือน้ำ จึงดูแปลกตาชอบกลยังไงล่ะ ที่มา: soranews24 และ YouTube/Cool China
-
ลูกค้าหน้าแหก นินทาแคชเชียร์สาวฝรั่งเป็น ‘ภาษาจีน’ โดยไม่รู้เลยว่าเธอเข้าใจมันทุกคำ!
ตามคำพูดที่ว่า “อย่าตัดสินคนที่ภายนอก” นั้นก็ออกจะใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพราะการที่เราตัดสินคนที่ภายนอกหลายครั้งมันอาจนำมาซึ่งความเสียหายแก่ตัวเราเอง อย่างเช่นเรื่องราวของพนักงานคิดเงินในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอระบุตัวว่าเป็น หญิงตะวันตกผิวขาว และได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกลูกค้าชาวจีนว่ากล่าวนินทา “เป็นภาษาจีน” ผ่านเว็บไซต์ Tumblr เธอเล่าว่า… “ฉันเป็นหญิงตะวันตกผิวขาว ฉันพูดภาษาอังกฤษแต่ฉันใช้ภาษาจีนกลางได้คล่องเช่นกัน ถ้าเพียงแค่มองคุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าฉันเองก็พูดภาษาจีนได้ และนั่นทำให้ฉันได้พบกับเหตุการณ์นี้ วันหนึ่งมีคู่รักชาวจีนเดินมาต่อแถวตรงหน้าฉัน จากนั้นฉันก็ถามคำถามต่างๆ กับพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษ เช่น รับถุงพลาสติกไหม? หรือ มีบัตรสะสมแต้มไหม? เป็นต้น ขณะที่ฉันกำลังหยิบของใส่ถุงพลาสติก ฉันได้ยินฝ่ายภรรยาบอกกับสามีของเธอเป็นภาษาจีนว่า ‘บอกนางหน่อยว่าอย่าทำกล้วยช้ำ’ ตอนนั้นฉันก็เงียบ แต่อีกประโยคที่ตามมาก็คือ ‘บอกนังโง่นี่ทีว่าให้เร็วกว่านี้‘ แต่ฉันก็ยังยิ้มให้เธอราวกับว่าฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดคืออะไร” “จากนั้นฝ่ายภรรยาก็วิจารณ์ฉันเป็นภาษาจีนยกใหญ่ เช่นบอกว่าผมของฉันเหมือนกับผู้ชาย (ฉันตัดผมสั้น แต่ก็ไม่ได้สั้นขนาดนั้น) แล้วก็ประชดว่าปู่ของเธอน่าจะตายก่อนที่ฉันจะจัดของใส่ถุงเสร็จอะไรประมาณนี้ จากนั้นเธอก็พูดเป็นภาษาจีนอีกว่า ‘บอกนางด้วยนะว่าอย่าลืมน้ำเปล่า’ จังหวะนี้แหละ ฉันก็ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษเลยว่า ‘I won’t forget the water’ (ฉันไม่ลืมน้ำเปล่าหรอกค่ะ) ความสนุกอยู่ตรงที่ได้เห็นสีหน้าซีดเผือดของเธอ เพราะเธอรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เธอพูดเป็นภาษาจีนฉันสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด เธอเอาแต่ยืนนิ่งอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น ขณะเดียวกันสามีก็พูดเป็นภาษาจีนกับเธอว่า ‘นี่แหละเหตุผลที่ไม่ควรพูดจาไม่ดีต่อหน้าคนอื่น’ จากนั้นพวกเขาก็จ่ายเงิน ส่วนฝ่ายสามีก็กล่าวขอโทษแล้วจากไปปล่อยให้ฉัน…
-
คู่รักจีน “จู๋จี๋” กันอย่างดูดดื่มบนรถไฟ ชาวเน็ตเสียงแตก คู่รักผิด…หรือคนถ่ายผิด!!?
ใครก็รู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสาร รถไฟ เครื่องบิน และยานพาหนะขนส่งมวลชนทุกชนิดถือเป็นพื้นที่สาธารณะ จึงหมายความอีกอย่างว่า ผู้โดยสารนั้นไม่สามารถทำ กิจกรรมส่วนตัว ได้ แต่คู่รักชาวจีนคู่นี้ กลับทำ “กิจกรรมทางเพศ” กับคู่รักของตนขณะโดยสารอยู่บนรถไฟสาธารณะ ต่อหน้าผู้โดยสารคนอื่นๆ อีกจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟในประเทศจีน โดยผู้โดยสารที่นั่งตรงข้ามคู่รักดังกล่าวนั้นได้เก็บภาพพฤติกรรมของคู่รักคู่นี้มาให้ดูกัน ผู้ที่นำภาพมาเผยบนอินเทอร์เน็ตเล่าว่าในช่วงแรก ฝ่ายชายทำท่าทางจะกอดจูบลูบคลำฝ่ายหญิงอยู่แทบตลอดเวลา จนฝ่ายหญิงส่งเสียงออกมาสร้างความอึดอัดใจให้ผู้อื่น กระทั่งผู้โดยสารคนหนึ่งตะโกนออกไปว่า “หิวเหรอ!? ถ้าหิวขนาดนั้นก็ไปทำกันในห้องน้ำสิ” และทั้งคู่ก็หยุด แต่หลังจากหยุดได้ไม่นาน ฝ่ายชายก็เริ่มดึงเสื้อตัวเองมาคลุมด้านข้างของฝ่ายหญิงเอาไว้ (พยายามปิดไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นเห็น) จากนั้นก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ฝ่ายชายมีการโน้มศีรษะลงต่ำไปที่บริเวณหน้าอกของฝ่ายหญิง แล้วก็หมกใบหน้าอยู่อย่างนั้น ทำเอาผู้โดยสารต่างกล่าววาจาต่อว่า บ้างก็เอือมระอาเกินกว่าจะเข้ายุ่ง หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นก็เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่ากันเพียบ เช่น… “หน้าไม่อายเลย” “น่าเกลียดมาก ไม่มีสมองกันหรือไง” “อะไรจะหิวขนาดนั้น” แต่บางคอมเมนต์ก็เข้ามาต่อว่าผู้ที่ถ่ายภาพมาลง เช่น “การแอบถ่ายก็น่าละอายใจเหมือนกันนะ” “นี่กล้าถ่ายรูปน่าเกลียดๆ แบบนี้ได้ยังไง” ที่มา: ck101
-
ครูใหญ่โรงเรียนจีนถูก “ไล่ออก” หลังพบว่าใช้ไฟฟ้าโรงเรียนในการ ‘ปั๊ม’ เงินดิจิทัล
ครูใหญ่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของมณฑลหูหนานประเทศจีนถูกไล่ออกเพราะมีคนจับได้ว่าแอบใช้ไฟฟ้าของโรงเรียนในการสร้างห้อง “ปั๊ม” เงินดิจิทัล Cryptocurrency Lei Hua อาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมต้นในเมืองเฉินโจว ทุ่มเงินกว่า 10,000 หยวน (กว่า 47,000 บาท) ในการซื้ออุปกรณ์สำหรับกอบโกย Cryptocurrency โดยที่เขานั้นไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวทำให้มีค่าใช้จ่ายสำหรับไฟฟ้าสูงขึ้นมาก สูงกระทั่งเขาไม่สามารถจ่ายมันได้ด้วยตัวเอง เขาจึงตัดสินใจย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดมาไว้ที่โรงเรียน โดยจัดวางในห้องควบคุมไฟฟ้า เขาใช้ทั้งไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตของโรงเรียนเพื่อกอบโกยเงินดิจิทัลสกุล Ethereum อย่างต่อเนื่อง การกระทำของครูใหญ่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอและอินเทอร์เน็ตช้าลงจนทำให้เกิดปัญหา ทั้งเด็กนักเรียนทั้งครูผู้สอนต่างพากันบ่นอย่างไม่พอใจ เมื่อมีคนมารายงานปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าให้ครูใหญ่ Hua ฟัง เขาก็กลับปัดความรับผิดชอบโดยการอ้างว่าน่าจะเป็นเพราะอากาศร้อน แต่ภายหลังเสียงการทำงานของเครื่องปั๊มเงินของครูใหญ่ก็ดังจนไม่อาจเก็บซ่อนเอาไว้ได้ กระทั่งถูกค้นพบในที่สุด พอนับมูลค่าความเสียหายรวมของโรงเรียนแล้ว คิดได้เป็นเงิน 14,714 หยวน (เกือบ 70,000 บาท) นั่นทำให้ครูใหญ่ Hua ถูกไล่ออก เพราะประเทศจีนนั้นยังไม่อนุญาตให้ผู้คนมีการข้องเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum จนกว่าทางการจะสามารถแนะแนวการใช้งานที่เหมาะสมได้ ที่มา: nextshark และ Xinhua
-
เมื่อ John Cena VS ชาไข่มุก!! กับการรีวิวเมื่อได้ลิ้มลอง “ชาไข่มุก” เป็นครั้งแรก!!?
ต้องรับเลยว่าขณะนี้กระแสของ ชาไข่มุก นั้นแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ กระทั่งผู้คนถึงกับนำเอาเข้าไข่มุกไปผสมกับอาหารแทบทุกอย่าง เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีของไข่มุกเลยทีเดียว ทว่ากระแสของชาไข่มุกไม่ได้จบลงแค่นี้ มันดังไกลถึงต่างประเทศไปแล้วขณะนี้ หลังจากที่พ่อหนุ่มนักมวยปล้ำกล้ามโตอย่าง John Cena ทำคลิปรีวิวการดื่มชาไข่มุกเป็นครั้งแรก งานนี้ทำเอาชาวเน็ตรวมถึงแฟนๆ ของ John Cena ถึงกับออกตามหาชาไข่มุกกันจ้าละหวั่น ชมคลิปกันเลย ในวิดีโอ John Cena นักมวยปล้ำชื่อดังแห่ง WWE ได้ออกเดินชิมอาหารข้างทางย่านหยินชวน เขตหนิงเซี่ยหุย ประเทศจีน John Cena พูดในคลิปว่า “เมื่อใดที่คุณมาเดินบนถนนย่านนี้ คุณจะได้กลิ่นอาหารรสจัดคละคลุ้งไปหมด แต่คุณจะไม่รู้เลยว่ามันเป็นกลิ่นของอาหารอะไร นอกเสียจากคุณจะต้องไปสั่งมันมากิน” เนื่องจาก John หลงใหลในภาษาจีนและทำการศึกษามายาวนานทำให้เขาสามารถสั่งอาหารต่างๆ เป็นภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว เขาเดินเข้าไปยังร้านข้างถนนร้านหนึ่งแล้วสั่งเนื้อแกะย่าง พร้อมไก่ป๊อป มาชุดหนึ่งในราคาประมาณ 100 บาท จากนั้นเขาก็เริ่มชิมมัน “ไม่เผ็ดเกินไป แต่ก็เผ็ดใช้ได้ มันอร่อยดีนะ…อร่อยมากเลย” – John กล่าว …
-
คุณพ่อเซอร์ไพรส์ สวมชุด T-Rex ไปรับลูกจากโรงเรียน ทั้งเด็กทั้งผู้ปกครองฮาตรึม!
มีเรื่องราวสุดน่ารักน่าหยิกเกิดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งแต่งตัวเป็น ไดโนเสาร์ ไปรับลูกสาวตัวน้อยที่โรงเรียนเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง หนูน้อยวัย 3 ขวบถึงกับหัวเราะร่าออกมาไม่หยุดหย่อน เมื่อเห็นคุณพ่อสวมชุดไดโนเสาร์ T-Rex มารับ คุณพ่อเล่าว่าที่ต้องมาเซอร์ไพรส์ลูกสาวแบบนี้ก็เพราะเป็นรางวัลที่เธอมีพฤติกรรมในโรงเรียนเป็นเด็กดีมาตลอดนั่นเอง เหตุการณ์ดังกล่าวผู้เป็นแม่ได้บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้และก็นำมาแชร์ลงโลกออนไลน์ ทำให้วิดีโอนี้กลายเป็นที่โด่งดังจนมีผู้คนเข้ามากดถูกใจกันถึง 150,000 ครั้งเลยทีเดียว! ชมคลิปกันเลย ในเหตุการณ์ คุณพ่อในชุด T-Rex ต้องเดินฝ่าสายตาของเด็กอนุบาลทั้งโรงเรียนรวมถึงผู้ปกครองคนอื่นๆ ที่ต่างจับจ้องกันอย่างประหลาดใจ รวมถึงผู้รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนเองก็ตกใจที่ได้เห็นเช่นกัน แต่เขาก็ยอมอนุญาตให้คุณพ่อคนนี้เข้ามาเซอร์ไพรส์ลูกในโรงเรียนได้ คุณพ่อได้สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับหลายๆ คนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก และที่สำคัญที่สุด คนที่คุณพ่ออยากให้มีความสุขมากที่สุดก็คือ ลูกสาวตัวน้อยของเขานั่นเอง “ปะป๊า! ปะป๊า!” เสียงหนูน้อยตะโกนเรียนเจ้าได้โนเสาร์ยักษ์ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างปีติของผู้คนโดยรอบ สมใจอย่างที่เธอเคยบอกคุณพ่อเอาไว้ว่าอยากให้มีไดโนเสาร์มารับที่โรงเรียนจริงๆ คุณแม่ของหนูน้อยกล่าวว่า “ลูกของเรารักษาสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีที่โรงเรียน ฉะนั้นพวกเราก็ต้องรักษาสัญญากับเธอเหมือนกัน เป็นการเคารพกันและกันยังไงล่ะ” เป็นครอบครัวที่น่ารักและดูอบอุ่นจริงๆ ขอให้เป็นเด็กแบบนีไปตลอดนะเจ้าหนูน้อย! ที่มา: dailymail, weibo…
-
คุณแม่ชาวจีนกับลูกชายที่ ‘ขยับตัวไม่ได้’ มา 12 ปี วันนี้เขาสามารถ “ยิ้ม” ให้เธอได้อีกครั้ง
เรื่องราวในวันนี้บอกเล่าถึง แม่ลูกชาวจีน คู่หนึ่งที่ฝ่ายลูกชายต้องทุกข์ทรมาณกับอาการอัมพฤกษ์อัมพาตจนขยับตัวและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชายคนดังกล่าวนามว่า Wang Shubao เขาต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของแม่วัย 75 ปีมาตลอดระเวลา 12 ปีที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย Wei Mingying ฝ่ายแม่ก็ดูแลลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเต็มที่ เธอสูญเสียเงินค่ารักษาไปมากมาย รวมทั้งเป็นหนี้สินอีกกว่า 5.7 แสนบาท (120,000 หยวน) บางครั้งฝ่ายแม่เองถึงกับยอมอดอาหารนับเดือนเพราะไม่มีเงินพอซื้ออาหาร กิจวัตรของคุณแม่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาตี 5 ของทุกๆ วัน เธอต้องล้างหน้าลูกชายก่อนอาบน้ำและป้อนข้าว จากนั้นจึงนวดตัวพร้อมจับพลิกเพื่อไม่ให้เกิดอาการล้าเนื่องจากนอนมากเกินไป ความเจ็บป่วยของ Wang เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ขณะที่เขามีอายุได้ 36 ปี เขาประสบอุบัติเหตุทางจราจรในเมืองโซวกวง มณฑลชานตง ส่วนพ่อของเขานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว . . คุณแม่เล่าว่าในช่วงที่ต้องอดอาหารนั้นเธอดื่มเพียงแค่น้ำ นั่นทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปถึง 20 กิโลกรัม ปัจจุบันคุณแม่มีน้ำหนักแค่เพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น แต่แล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านก็เกิดเหตุการณ์ราวกับปาฏิหาริย์ วันนั้นเธอพบว่าลูกชายของเธอสามารถ ยิ้มตอบ ให้กับเธอผู้เป็นแม่ได้ แม้ว่าเขายังขยับตัวไม่ได้ตาม แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าอาการของเขาอาจเริ่มดีขึ้น…
-
บ. จีนโหด ‘โบย’ ลูกน้องด้วยเข็มขัด บังคับดื่มฉี่ หลังลูกน้องทำ “ยอดขาย” ไม่ถึงเป้า
ผู้จัดการ 3 รายในบริษัทแห่งหนึ่งของจีน ถูกควบคุมตัวโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังมีการแจ้งใช้ “เข็มขัด” ฟาดลูกจ้าง บังคับให้ดื่มปัสสาวะและบังคับให้กินแมลง พนักงานผู้เป็นเหยื่อ เป็นลูกจ้างในบริษัทพัฒนาบ้านเรือนแห่งเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน พวกเขาให้การว่าที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะพวกเขาทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้า หลังมีคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเผยออกมาบนอินเทอร์เน็ตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนอย่างรวดเร็ว ชมคลิปวิดีโอ ภายในวิดีโอเผยให้เห็นว่าหัวหน้างานมีการโบยลูกน้องด้วยเข็มขัด ประกอบกับมีการบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มสีเหลืองอีกด้วย ยังมีคำให้การเพิ่มอีกว่านอกจากการลงโทษแบบนี้ยังมีวิธีการอื่นอีกเช่น สั่งให้คุกเข่า กินมัสตาร์ด และสั่งให้โกนผม เป็นต้น มีการพบหลักฐานเป็นข้อความที่ผู้จัดการส่งมาถึงลูกจ้างว่า หากไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายทุกคนจะต้อง “กินแมลงสาบ” คนละ 3 ตัว ขณะนี้ผู้จัดการที่ก่อเหตุ 2 คนซึ่งมีสกุลว่า Guo และ Cai ตามลำดับถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 10 วัน ส่วนอีกคนหนึ่งสกุล Huang ถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 5 วัน มีหลายเสียงที่ถามพนักงานเหล่านี้ว่าทำไมต้องทน ทำไมถึงไม่ยอมลาออกจากบริษัทแบบนี้ หนึ่งในลูกจ้างก็ออกมาตอบว่า “บริษัทนี้ค้างจ่ายเงินเดือนพวกเขามา 2 เดือนแล้ว แถมขู่ว่าถ้าไม่ยอมรับโทษหรือลาออกก็จะถูกตัดเงินเดือนไปเลย” …
-
นักเรียนนายร้อยอากาศจีน ขว้างระเบิดไม่พ้นกำแพง “เด้งกลับ” เกือบระเบิดโดนตัวเอง
ว่ากันว่าการเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะต้องผ่านการฝึกฝนอันหฤโหดเพื่อเฟ้นหานายทหาร/ตำรวจที่แข็งแกร่ง การฝึกโหดขนาดไหนลองไปชมจากตัวอย่างเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอในวันนี้ นักเรียนนายร้อยอากาศของประเทศจีนเกือบระเบิดตัวเองหลัง ขว้างลูกระเบิดไม่พ้นกำแพง ทำให้ระเบิดเด้งกลับมาหาตัวเอง คลิปเหตุการณ์ คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยรายการ China Central Television ของประเทศจีน แสดงให้เห็นว่านักเรียนนายร้อยอากาศคนหนึ่งถูกดึงตัวลงหลุมหลบระเบิดเพียงเสี้ยววินาทีก่อนเกิดระเบิด เหตุเกิด ณ โรงเรียน People’s Liberation Army Air Force Harbin Flight Academy ในเมืองฮาร์บิน เมืองหลวงของมณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน ขณะที่ครูฝึกนามว่า Xu Hao กำลังสอนนักเรียนใหม่ถึงวิธีการขว้างระเบิดมือ ก็เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเมื่อนักเรียนคนหนึ่งไม่ประสงค์ออกนามขว้างระเบิดพลาด เขาขว้างไปชนกับกำแพงและกระดอนกลับมาใกล้ๆ กับบริเวณที่ผู้ขว้างยืนอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้น Hao จึงรีบคว้าตัวนักคนเรียนดังกล่าวลงหลุมหลบระเบิดอย่างรวดเร็วก่อนแรงระเบิดจะปะทุออกมา ครูฝีก Hao บอกว่า “เขาขว้างด้วยองศาของข้อมือที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ลูกระเบิดที่ขว้างออกไปนั้นชนเข้ากับขอบกำแพง” ระเบิดชนิดดังกล่าวมีแรงระเบิดเป็นวงกว้างสามารถก่ออันตรายถึงชีวิตได้ในระยะ 6 เมตรเลยทีเดียว ทางการจึงเชยชมว่าเป็นเพราะ Hao ทั้งคู่ถึงได้รอดจากแรงระเบิดครั้งนี้ได้ เห็นไหมล่ะว่า การฝึกในโรงเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเลย…
-
น้องชิบะอินุโด่งดังไปทั่วจีน เพราะถูก “ประมูล” ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2,400 บาท!!
เจ้าตูบตัวอื่นๆ ที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากความน่ารัก ความฉลาด หรือไม่ก็ความเด๋อๆ ของมันนั่นเอง แต่สำหรับเจ้าหมา ชิบะอินุ ตัวนี้ กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ของจีนอย่างรวดเร็ว เพราะว่ามันถูกประมูลด้วยราคาเริ่มต้นที่ 500 หยวน (ราวๆ 2,400 บาท) เท่านั้นเอง! เจ้าชิบะอายุ 4 ปีตัวนี้มีชื่อว่า Deng Deng เมื่อ 3 ปีที่แล้วมันถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้งไว้ที่สถานรับฝากสัตว์เลี้ยงชื่อว่า Happy Pampering นั่นเอง Xiao Moumou เจ้าของเดิมได้ส่งมามันยังสถานรับฝากสัตว์เลี้ยงดังกล่าวช่วงเดือนตุลาคมปี 2014 แต่ Xiao ก็มาเยี่ยมเจ้า Deng Deng บ่อยครั้งจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 เขาก็ไม่มาอีกเลย ทางสถานรับฝากจึงคิดว่าเจ้าของจะไม่มาหามันอีกแล้ว จึงยื่นเรื่องฟ้องศาลเพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูที่ทางสถานรับฝากได้เตรียมให้กับเจ้า Deng Deng จากเจ้าของเดิมของมัน แต่น่าเสียดายที่ทางศาลไม่สามารถตามหาตัว Xiao ได้พบ ศาลจึงประกาศให้มี การประมูล เจ้าชิบะ Deng Deng ตัวนี้…
-
คลิปรวม ชาวจีนสาย (ไม่) เนียน “แกล้งถูกรถชน” มิติใหม่แห่งการหาเงินในยุคปัจจุบัน…
เศรษฐกิจของทุกวันนี้ใครก็รู้ดีว่ามันไม่คล่องตัวสักเท่าไหร่ เงินทุกบาททุกสตางค์กว่าจะหามาได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลยจริงๆ ฉะนั้น โดยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของแล้ว คนเราจึงมัก ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง โดยไม่ได้คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นคลิปวิดีโอดังต่อไปนี้ ผู้คนจากประเทศจีนจำนวนหนึ่งเลือกใช้วิธีการแกล้งประสบอุบัติเหตุรถชน เพื่อให้ตนได้รับค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลจากคนขับรถนั่นเอง ฟังดูเหมือนเป็นวิธีที่น่าจะใช้ได้ผล ยอมเจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะเรียกเงินเท่าไหร่ก็ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ววิธีหาเงินแบบนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวังเอาไว้นัก วิธีการนี้พึ่งพาความสามารถทาง การแสดง สูงชนิดที่ว่าถ้าเป็นดาราก็คงดังไปแล้ว แถมต้องประกอบกับจังหวะการชนของรถที่ต้องแนบเนียนแต่ต้องไม่ถึงกับเจ็บสาหัสจริงๆ อีกด้วย เพราะถ้าแสดงไม่ดี หรือจังหวะไม่เนียนแล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าภาพมันต้องออกมาเหมือนในคลิปด้านล่างนี้แน่นอน (ดูแย่ แถมไม่ได้เงินอีกด้วย ฮ่าๆ) คลิป สุดยอดนักแสดงเจ้าบทบาทแห่งจีน วิธีการนี้นอกจากบางครั้งจะไม่ได้เงินแล้ว ยังดูไม่ดี แถมอาจเจ็บตัวได้อีกด้วย ฉะนั้น วิธีนี้ไม่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง หันมาหาเงินอย่างสุจริตดีกว่าเนอะ! ที่มา: Gags Tube
-
คนขับแท็กซี่จีน ถูกพักงาน 3 วันหลังตำรวจพบว่า “มาสก์หน้า” ขณะขับรถกลางคืน!?
ในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้เกิดเรื่องราวอันน่าสงสารกับคนขับแท็กซี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาต้องถูกพักงานถึง 3 วัน หลังมีภาพหลุดว่าเขาแอบ มาสก์หน้า ขณะขับรถ!! คนขับแท็กซี่แซ่ เฉิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามหลังภาพการมาสก์หน้าขณะขับรถของเขากลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ เขาได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมแผ่นมาสก์หน้าขณะขับรถแท็กซี่ในยามค่ำคืน คลิปข่าวจากจีน อย่างไรก็ตามบริษัทแท็กซี่ที่เฉินทำงานอยู่ก็มิได้มีข้อบังคับใดที่สามารถเอาผิดหรือลงโทษคนขับแท็กซี่วัย 25 ปีคนนี้ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงสั่งให้เฉินพักงาน 3 วันเท่านั้น ทางฝ่ายของเฉินคนขับแท็กซี่หนุ่มก็เผยว่า ตนก็ตกใจเช่นกันที่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจบนโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้ เขาเริ่มมาสก์หน้าเป็นกิจวัตรก็เพราะว่าการทำงานกะกลางคืนนั้นส่งผลต่อผิวของเขามาก เฉิน คนขับแท็กซี่วัย 25 ปี คนเรามันก็ต้องห่วงสุขภาพผิวกันบ้างสิเนอะ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างเลย! ที่มา: nextshark, Shanghaiist และ 中天新聞CH52
-
หนุ่มจีนโมโห เที่ยวบินถูกยกเลิก “ตบหน้า” กราวด์ชายด้วยโทรศัพท์มือถือ!
ในสนามบิน Qingdao ของประเทศจีน ผู้โดยสารชายคนหนึ่ง ได้ระเบิดอารมณ์ ตบหน้า พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินด้วยโทรศัพท์มือถือ หลังทราบว่าเที่ยวบินของเขาถูกยกเลิก จากรายงานทราบว่า ชายชาวจีนสกุล Wu ได้เกิดอารมณ์โมโห หลังทราบว่าเที่ยวบินของตนถูกยกเลิกไปเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คลิปเหตุการณ์ ตามรายงานของสื่อในท้องถิ่น ทางสายการบินได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและค่าเสียหายให้กับ Wu แล้วในวันก่อนเกิดเหตุ แต่ถึงกระนั้น Wu ก็ยังคงระเบิดอารมณ์ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเอง “ตบหน้า” พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินเพศชายคนหนึ่ง ขณะที่เขาเข้ามาติดต่อที่เคาน์เตอร์ แม้จะถูก Wu ตบหน้าด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่พนักงานชายคนดังกล่าวก็ไม่มีการตอบโต้ จากเหตุการณ์นี้ Wu ก็ถูกคุมตัวไปสอบสวน จนสุดท้ายก็ถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 10 วัน และถูกบันทึกลงบัญชีดำสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจีน ที่มา: nextshark, local media, Netizen Watch และ Shanghaiist
-
หนุ่มเดลิเวอรี่ ถูกยกย่องเป็น “ฮีโร่” หลังจอดรถ แล้วโดดลงคลองไปช่วยเด็กหญิงที่ ‘จมน้ำ’
ชายส่งของชาวจีนคนหนึ่งได้ผ่านไปเห็น เด็กจมน้ำ และรีบเข้าไปช่วยเหลือจนเด็กคนนั้นรอดชีวิต ชาวเน็ตพากันยกย่องเป็น ฮีโร่ ตามประโยคที่เรามักได้ยินกันว่า “ฮีโร่ในชีวิตจริงไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุม” ในวันที่ 13 ตุลาคม 2018 เด็กหญิงชาวจีนวัย 6 ขวบเกิดอุบัติเหตุลื่นและตกลงไปในน้ำขณะกำลังล้างไม้ถูพื้นอยู่ริมลำคลองในเมืองเฉาซิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน คลิปเหตุการณ์ จาก CGTN จากคลิป จะเห็นได้ว่ามีเด็ก 2 คนกำลังล้างอะไรบางอย่างอยู่ริมลำคลอง จากนั้นเด็กคนหนึ่งก็พลัดตกลงไปในน้ำ ขณะเดียวกัน ชายส่งของก็บังเอิญผ่านมาเห็นพอดี เขารีบลงจากรถทันที ชายคนดังกล่าวหยิบของออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาช่วยเด็กหญิงขึ้นมาได้ปลอดภัย เขาก็กลับลงไปในน้ำอีกครั้งเพื่อไปงมหารองเท้าของเด็ก หลังวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็ชื่นชมชายคนนี้ถึงความกล้าหาญของเขา จนเรียกได้ว่าเป็น “ฮีโร่” ในชีวิตจริงเลยทีเดียว ชายคนนี้ภายหลังทราบว่าชื่อนาย He Linfeng อายุ 23 ปี พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ของ Meituan ซึ่งเข้าให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเห็นน้ำกระเพื่อมและตกใจมากเมื่อเห็นว่ามีเด็กกำลังจมน้ำ ผมเห็นว่ารองเท้าเด็กหายไป อีกอย่างตัวผมไหนๆ ก็เปียกแล้วก็เลยตัดสินใจกลับไปหารองเท้าให้เด็กอีกครั้ง” …
-
แอดมินชาวจีน ถูกจำคุก 6 เดือน หลังจับได้ว่าแชร์ “คลิปโป๊” ลงในกลุ่ม WeChat เป็นประจำ
รู้นะว่าหลายคนมีกลุ่มลับทั้งในเฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์ หรือว่าไลน์ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอกหากจะเป็นกลุ่มลับที่สร้างไว้สำหรับแชร์ข้อมูลที่ไม่อยากเผยให้คนนอกได้รับรู้ เว้นเสียแต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นมันจะเป็น “หนัง/คลิปโป๊” เพราะว่าล่าสุดในประเทศจีนได้มีมาตรการควบคุมอย่างจริงจังถึงเรื่องการเผยแพร่คลิปอนาจารลงบนอินเทอร์เน็ต ชายวัย 31 ปีจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ชื่อว่า Luo ผู้เป็นแอดมินกลุ่มลับ “ประมูลของเก่าชายขอบ” ในแอปฯ WeChat ถูกตัดสินจำคุก 6 เดือนหลังพบว่าเป็นผู้เผยแพร่สื่อลามกภายในกลุ่ม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในเวลา 11 วัน มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอลามกถึง 46 คลิปต่อวันเลยทีเดียว Luo ผู้เป็นแอดมินเคยเปลี่ยนชื่อกลุ่มมาหลายครั้งเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้ แต่ครั้งนี้กลับหนีไม่รอด กลุ่มที่มีสมาชิกราว 150 คนนั้นถูกปิดลงและตัวของ Luo เองก็ถูกจับกุมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังการพิจารณาคดีในช่วงเดือนสิงหาคม สัปดาห์นี้ผลการตัดสินก็ออกมาแล้วว่าให้ Luo รับโทษจำคุกถึง 6 เดือน ซึ่งเป็นโทษที่ได้รับการลดหย่อนแล้ว ใครที่มีกลุ่มลับแชร์สื่ออนาจารก็ระวังไว้ให้ดีนะ เดี๋ยวจะซวยเอาได้ ที่มา: nextshark และ Shanghaiist
-
จีนสร้าง “พระจันทร์เทียม” ให้แสงสว่าง แทนการใช้กระแสไฟฟ้า เตรียมปล่อยปี 2020 นี้!
ยามค่ำคืนที่ไร้ซึ่งแสงจากดวงไฟ คงจะมืดมิดสนิทยิ่ง นอกเสียจากจะมี แสงจันทร์ คอยให้ความสว่าง… เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้วางแผนประหยัดกระแสไฟฟ้าในเมืองโดยการสร้าง “พระจันทร์เทียม” เพื่อให้แสงว่างกับผู้คนยามค่ำคืน Wu Chunfeng ประธานบริษัทเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อวกาศแห่งเฉิงตู ได้ประกาศเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่าขณะนี้กำลังวางแผนปล่อยดาวเทียมเรืองแสงออกนอกโลกเพื่อมอบแสงสว่างให้กับเมืองเฉิงตู ดาวเทียมดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในนาม พระจันทร์เทียม ซึ่งมันสามารถให้แสงสว่างได้มากกว่าแสงจากดวงจันทร์จริงถึง 8 เท่า Wu และบริษัทของเขาได้ทำการทดสองพระจันทร์เทียมนี้มาหลายปีแล้ว และขณะนี้ก็กำลังเตรียมตัวปล่อยขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้งานจริงในปี 2020 ขณะเดียวกัน หลายคนก็ออกมาแสดงความกังวลว่าแสงจากพระจันทร์เทียมนี้จะส่งผลกระทบต่อกิจวัตรตามธรรมชาติของเหล่าสรรพสัตว์หรือไม่ นาย Kang Weimin ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจึงออกมาบอกว่าแสงที่ได้จากพระจันทร์เทียมนี้จะให้ความรู้สึกคล้าย “แสงสว่างพลบค่ำ” ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์อย่างแน่นอน พระจันทร์เทียมดังกล่าว จะปล่อยเพื่อให้แสงสว่างแก่เมืองเฉิงตู โดยมีรัศมีความสว่างไปประมาณ 50 ไมล์ ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รอบนอก แต่ถึงอย่างไรกระแสไฟฟ้าก็ยังจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้คนมากกว่าการให้แสงสว่าง ต้องรอดูกันต่อไปว่าโครงการพระจันทร์เทียมนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ และมีผลกระทบอะไรกับผู้คนบ้าง ที่มา: toutiaoabc, People’s Daily และ nextshark
-
จีนสุดล้ำ สร้าง “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ให้ความรู้เยาวชน กลางเวิ้งทะเลทราย
ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทั้งยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์เอามากๆ สำหรับ Mars simulation base หรือ ฐานทัพดาวอังคารจำลอง ของประเทศจีน เพราะสิ่งก่อสร้างดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทั้งสถานีวิจัยและสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว และยังใช้งบประมาณการสร้างมากถึง 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,989 ล้านบาท) อีกด้วย ฐานทัพจำลองดังกล่าวสร้างขึ้นบนพื้นที่ห่างไกลในเวิ้ง ทะเลทรายโกบี โดยภายในจะมีส่วนสำหรับ “พักอาศัย” ที่ออกแบบให้เหมือนกับการใช้ชีวิตบนพื้นผิวดาวอังคารเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ฐานทัพนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ C Space Plan เป็นโครงการสร้างองค์ความรู้ทางอวกาศให้กับเยาวชน ตามวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่มุ่งเน้นพัฒนาเด็กๆ สู่การเป็นนักบินอวกาศรุ่นใหม่ สถานที่แห่งนี้นับเป็นสิ่งก่อสร้างแรกของจีนที่เป็นทั้งสถานที่ให้ความรู้และสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นโลเคชันสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย บรรยากาศและภูมิทัศน์ภายนอกนั้นมีความคล้ายคลึงกับพื้นผิวดาวอังคารมาก เพราะเต็มไปด้วยดินและหินสีแดง ส่ายภายในนั้นออกแบบให้เหมือนกับฐานทัพสำรวจดาวอังคาร และยังมีกิจกรรมจำลองการใช้ชีวิตบนดาวอังคารอีกด้วย ภายในจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนพักอาศัย ส่วนแล็บวิทยาศาสตร์ และห้องวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสการออกสำรวจดวงดาว และต้องสวมชุดอวกาศอีกด้วย ล่าสุดทางการประเทศจีนก็ได้เปิดฐานทัพจำลองนี้ ให้กับสื่อหลายๆ ฝ่ายได้เข้าชมแล้ว…
-
หนุ่มจีน “แกล้งตาย” หวังเอาเงินประกัน ภรรยาเชื่อสนิทใจ ฆ่าตัวตายตามพร้อมลูกๆ …
กลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าเมื่อชายชาวจีนคนหนึ่งได้ “แสร้งว่าเสียชีวิต” เพื่อให้ได้รับเงินประกัน แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักไป ชายชาวจีนวัย 34 ปีนามว่า He ได้แสร้งว่าเสียชีวิตเพื่อรับเงินประกันแต่กลับไม่ได้บอกแผนการครั้งนี้ให้คนในครอบครัวได้ทราบ มีรายงานว่า He ได้ยืมรถยนต์คันหนึ่งมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่ารถที่ He ยืมมานั้นได้พุ่งตรงลงไปยังแม่น้ำในเขตปกครองซินหัว แต่หลังจากทำการค้นหาในแม่น้ำในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครพบร่างของ He เลยแม้แต่คนเดียว ชมคลิปข่าว สุดท้าย Dai ภรรยาวัย 31 ปีของ He กลับเชื่ออย่างหมดใจว่าสามีของตนได้ตายไปแล้ว ด้วยความโศกเศร้าเธอจึงตัดสินใจโยนลูกชายวัย 4 ขวบและลูกสาววัย 3 ขวบลงบ่อน้ำ ก่อนจะกระโดดน้ำ ฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่ Dai จะลงมือปลิดชีวิตของตนเองและลูกๆ ลง เธอได้เขียนข้อความเอาไว้ใน WeChat เธอเล่าว่าครอบครัวของ He นั้นมักมองว่าเธอเป็นหญิงที่ “ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” อีกทั้งฝ่ายญาติของ…
-
หนุ่มจีนเดือด “ทำร้าย” แพทย์หลังปฏิเสธ ‘ผ่าตัดทำคลอด’ ภรรยาให้ทันตามฤกษ์ที่ดูไว้
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย หลังแพทย์ปฏิเสธที่จะทำคลอดก่อนกำหนดให้กับหญิงสาวชาวจีน ทำให้ผู้เป็นสามีของหญิงตั้งครรภ์เข้าจู่โจมนายแพทย์ด้วยอารมณ์โมโห เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาล Peking University First Hospital กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แพทย์ผู้เคราะห์ร้ายนามว่า He ถูกชายสกุล Zheng วัย 46 ปีเข้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากแพทย์ปฏิเสธที่จะผ่าตัดทำคลอดภรรยาของนาย Zheng ตาม “ฤกษ์” ที่ทางครอบครัวกำหนดไว้ นายแพทย์ Zhan แพทย์อีกรายที่ร่วมการทำคลอดก็ออกมาอธิบายบนเว็บไซต์ Weibo ว่า ที่ต้องปล่อยให้คนไข้คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็เพราะเห็นว่าปลอดภัยและ ไม่จำเป็น จะต้องใช้วิธีการผ่าตัด ขณะเดียวกัน นายแพทย์ He ผู้ถูกทำร้ายร่างกายก็มีกระดูกหักหลายจุด หากชมภาพจากกล้องวงจรปิดจะพบว่า Dr. He ถูกชกแต่เตะที่ศีรษะและท้องหลายครั้ง ลองชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 นาย Zheng ผู้ก่อเหตุก็ถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจเนื่องจากคดีทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ ส่วนหญิงวัย 19…
-
พนักงานวงแตก!! เมื่อ “งูหลาม” ตัวโตหล่นจากเพดานลงมากลางวงขณะยืนประชุมกันอยู่
มีเหตุการณ์ชวนผวาเกิดขึ้นในประเทศจีน ขณะที่ทีมพนักงานในธนาคารแห่งหนึ่งกำลังยืนประชุมกันอยู่นั้น จู่ๆ งูหลาม ตัวโตก็ร่วงจากเพดานลงมากลางวงประชุม ทำเอาพนักงานต่างหนีด้วยความหวาดกลัว เหตุการณ์เกิดขึ้นในธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China ณ เมืองนานหนิง เขตปกครองกวางสี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชมคลิปวินาที “งูหลาม” ร่วงจากเพดานลงมากลางวงประชุม จะเห็นได้ว่าเหล่าพนักงานธนาคารกำลังยืนฟังหัวหน้างานอย่างมีสมาธิ ทันใดนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างหล่นลงมากลางวงประชุม ใกล้ๆ กับพนักงานหญิงคนหนึ่ง ปรากฏว่ามันคืองูหลามตัวยาว ทำเอาพนักงานวิ่งหนีกันกระเจิง หลังจากแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาพร้อมกับกรมอนุรักษ์พืชและสัตว์ป่า เมื่อตรวจสอบพบว่า งูหลามตัวนี้หนักเกิน 5 กิโลกรัมซึ่งถือเป็นสัตว์สงวนชั้นหนึ่งที่ต้องการการคุ้มครองอย่างมาก ปัจจุบัน ธนาคารแห่งนี้ก็ยังคงไม่เปิดให้ใช้บริการเนื่องจากยังค้นไม่เจอสาเหตุที่ “งูหลาม” ร่วงลงมาจากเพดานของธนาคาร ที่มา: chinanews และ nextshark
-
เด็กจีนซุกซน “สไลด์” ราวบันไดเลื่อนเล่นในห้างฯ ผู้ใหญ่ไม่ห้าม…ซ้ำยังยืนเชียร์!!
การสนับสนุนเด็กๆ ในพฤติกรรมที่ดีจะทำให้เด็กมีโอกาสกระทำพฤติกรรมนั้นๆ ต่อไป แต่หากชื่นชมหรือสนับสนุนการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร เด็กๆ ก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน คลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์พบว่า เด็ก 3 คนสไลด์ลงมากับราวบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้ใหญ่โดยรอบก็ชื่นชมและส่งเสียงเชียร์ ชมคลิปวิดีโอ ในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงการละเล่นแสนอันตรายของเด็กชายทั้ง 3 คนที่ไถลตัวลงมากับราวบันไดเลื่อนความยาว 20 เมตรในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตะวันตกเฉียงใต้ของนครฉงชิ่ง ขณะเดียวกันก็มีผู้ใหญ่จำนวนมากที่อยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งได้เห็นภาพความอันตรายของเด็กๆ เหล่านี้ แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะห้ามปราม ซ้ำยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอพร้อมชื่นชม ในคลิปจะเห็นได้ผู้ใหญ่ท่ถ่ายวิดีโออยู่ด้านล่างได้เปล่งวาจาชื่นชม โดยหญิงคนหนึ่งพูดออกมาว่า “ว้าว เก่งจังเลย!” . หลังจากคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตต่างก็ว่ากล่าวพฤติกรรมของเด็กทั้งสามคน ที่ไม่สนใจป้ายเตือนซึ่งบอกเอาไว้ว่าบันได้เลื่อนกำลังซ่อมแซม ห้ามใช้ ตัวอย่างคอมเมนต์จากชาวเน็ตในเว็บไซต์ Weibo เช่น… “พวกพ่อแม่นี่ชอบให้ท้ายเด็กจริงๆ ไม่เข้าใจเลยพวกเขาคิดอะไรกันอยู่” “พ่อแม่ก็คงเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กๆ ก่อนนั่นแหละ” “นี่ถ้าสมมติเกิดอุบัติเหตุขึ้น พวกเขาก็คงจะโทษให้เป็นความผิดของห้างฯ ใช่ไหม?” สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำก็คือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ว่าพฤติกรรมใดคือสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมตามกาลเทศะ ที่มา: nextshark และ 头条…
-
หญิงบนรถไฟจีน ‘นั่งที่ของคนอื่น’ แต่กลับปฏิเสธที่จะย้าย พร้อมยัง “สาดน้ำ” ใส่คนถ่าย
ปกติแล้วเมื่อคุณโดยสารไปบนขบวนรถไฟแล้วพบว่าตนเองนั่งในที่นั่งของคนอื่น สิ่งแรกที่น่าจะเลือกทำก็คือลุกออกแล้วหาที่นั่งของตนเองให้เจอ แต่สำหรับเรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีนกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อเธอทราบว่าตนเองนั่งในที่นั่งของคนอื่นเธอกลับ ‘ปฏิเสธ’ ที่จะลุกออกจากที่นั่งนั้น แถมยังมีปฏิกิริยาที่ฉุนเฉียวอีกด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเป็นคลิปวิดีโอเอาไว้ซึ่งได้กลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียลของประเทศจีน รถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าจากเซี่ยงไฮ้ไปมณฑลอานหุย จากวิดีโอ จะเห็นได้ว่าหญิงสาวผิวสีคนหนึ่งกำลังมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ของขบวนรถไฟ สาเหตุนั้นเนื่องมาจากหญิงสาวดังกล่าวได้นั่งในที่นั่งของผู้อื่น ทีแรกเจ้าของที่นั่งได้มาขอด้วยสันติวิธีแต่เธอกลับเงียบไม่ยอมตอบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยจัดการ และได้ขอตรวจสอบตั๋วโดยสารของเธอ แต่เธอก็ยังยืนกรานว่าตนจะไม่ยอมย้ายที่นั่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แถมเธอยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว สั่งห้ามไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นทำการถ่ายวิดีโอ จากวิดีโอจะเห็นได้ว่าเธอมีการ “สาดน้ำ” ใส่ผู้ถือกล้องถ่ายวิดีโอชิ้นนี้อีกด้วย แต่สุดท้ายหญิงสาวในคลิปก็ถูกนำตัวออกจากขบวนรถไฟ และได้กล่าวขอโทษที่ตนเองระเบิดอารมณ์ออกมาภายในรถไฟ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ยอมย้ายที่นั่งนั้นยังไม่เป็นที่ทราบในขณะนี้ ที่มา: South China Morning Post และ nextshark
-
จีนสร้างตึกใหม่สไตล์ล้ำ แต่ชาวเน็ตบอกเหมือน “ไอ้จ้อน” อันโตตั้งอยู่กลางเมือง…
การออกแบบโครงสร้างและรูปลักษณ์ของอาคารของสถาปนิกนั้นก็จะมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่างๆ แตกต่างกันไป นั่นทำให้ตึกรามบ้านช่องแต่ละแห่งจึงมีความสวยงามอันเป็นเอกลัษณ์ที่ต่างกันไปนั่นเอง แต่ตึกสูงแห่งใหม่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ที่เปิดตัวออกมาล่าสุดนั้นถึงแม้ว่าจะมีดีไซน์ล้ำสมัยสวยงามแต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์แง่ลบกันอย่างแพร่หลายเพราะรูปร่างของมันดันไปคล้ายกับ “อวัยวะเพศชาย” เสียนี่ ตึกชื่อว่า Guangxi New Media Center นี้ก่อสร้างเสร็จในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาหลังจากใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 2 ปี แต่เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยกลับกลายเป็นว่า ตึกแห่งนี้เป็นที่ค้านสายตาของชาวเน็ต เนื่องด้วยรูปลักษณ์อันคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศชายอันมหึมาที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินมณฑลกวางสี โดยเฉพาะเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน 2018 ที่มีการจุดพลุยิงออกมาจากยอดตึก Guangxi New Media Center มันยิ่งทำให้ดูคล้ายกับอวัยวะดังกล่าวจนไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้ ชมคลิปการจุดพลุของตึกแห่งนี้… ขณะที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์ถึงรูปลักษณ์ของตึกแห่งนี้กันอย่างสนุกปาก ทางสื่อชุมชนก็ได้ออกมาเผยว่าแรงบันดาลใจของดีไซน์สำหรับตึกแห่งนี้ก็คือ “นาขั้นบันได” ที่สามารถพบเห็นจนเป็นเอกลักษณ์ของมณฑลกวางสีนั่นเอง เปลือกของตัวตึกจึงทำออกมาเป็นขั้นๆ ตั้งแต่ฐานและไล่ระดับขึ้นไปจนถึงส่วนที่เป็นยอดของอาคาร แต่ถึงกระนั้น หลายคนก็ยังคงลบภาพที่ว่า ตึกแห่งนี้มีรูปลักษณ์คล้ายองคชาตไม่ได้อยู่ดี ตึก Guangxi New Media Center และนาขั้นบันได น่าสงสารสถาปนิกผู้ออกแบบจริงๆ ที่ตั้งใจดีไซน์ออกมาแล้วดันทำให้ผู้คนมองเห็นเป็นรูปอย่างอื่นเสียได้… ที่มา: nextshark, twitter และ shanghaiist
-
หมดยุคศัยกรรม! เป็น ‘สาวอึ๋ม’ ได้ง่ายๆ ด้วย “ซิลิโคนคอสเพลย์” หน้า ผม นม มาครบจ้า!!
ต้องยอมรับเลยว่า การคอสเพลย์ กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศต่างก็มีจำนวนผู้แต่งกายตามตัวละครในวรรณกรรมจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น การคอสเพลย์ยังเปิดโอกาสให้ผู้คนได้แต่งกายตามใจชอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยหรือเพศใด ก็สามารถแต่งกายเป็นตัวละครต่างวัยและต่างเพศได้เสมอ เช่น หนุ่มที่อยากแต่งเป็นตัวละครสาว เป็นต้น ปัจจุบันร้านขายของออนไลน์จากประเทศจีนได้จับทางของตัวเองได้ จึงมีการขายสินค้าสำหรับผู้ที่อยากแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครที่ข้ามเพศและข้ามอายุกับตนเอง สินค้านั้นก็คือ หน้ากากและชุดซิลิโคนเสมือนจริง Eyung Crossdressing Store เป็นร้านขายของบน AliExpress ซึ่งสินค้าภายในจะเป็นหน้ากากซิลิโคน (ที่เหมือนคนมากๆ) พร้อมทั้งชุดซิลิโคนครึ่งตัวและเต็มตัวที่สามารถเลือกหน้าอกได้หลายขนาด ลูกค้าสามารถเลือกได้ 3 แบบ ได้แก่ 1) หน้ากากชิ้นเดียว 2) หน้ากากแบบเต็มศีรษะ และ 3) หน้ากากเต็มศีรษะพร้อมด้วยหน้าอก ส่วนราคาก็แตกต่างกันไปตามลักษณะของสินค้า ถ้าเป็นหน้ากากแบบชิ้นเดียว ก็จะเริ่มต้นที่ 98 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 3,200 บาท) แต่ถ้าเป็นชุดซิลิโคนเต็มตัวพร้อมศีรษะก็จะอยู่ที่ราวๆ 21,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นที่จดจำในการแต่งคอสเพลย์เป็นเพศตรงข้ามชนิดที่ว่าแนบเนียนสุดๆ ลองชมตัวอย่างสินค้าต่างๆ จากทางร้านได้เลย . . . นอกจากชุดเพศหญิงแล้วยังมีชุดซิลิโคนโมเดลผู้ชายให้เลือกสรรกันด้วย…
-
โรงเรียนจีนลงโทษ “นักเรียนแอบใช้มือถือ” โดยให้ออกมา ‘ขว้างลงพื้น’ จนกว่าจะแตก…
ภายในโรงเรียนแต่ละแห่งก็จะมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้นักเรียนมีการ ใช้โทรศัพท์มือถือขณะเรียน ที่แตกต่างกันไป โดยบางที่อาจจะตัดคะแนน หรือบางที่ก็อาจจะริบโทรศัพท์ไปเลย แต่สำหรับโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีวิธีการป้องกันและลงโทษนักเรียนที่ถูกจับได้ว่าใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนที่หนักหน่วงและโหดกว่าที่เคยเจอจากที่ไหนๆ เพราะหากนักเรียนคนใดที่ถูกจับได้ว่าแอบใช้มือถือขณะเรียนจะต้องออกมาหน้าห้องแล้ว ปาโทรศัพท์มือถือ เครื่องนั้นลงพื้นด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2018 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์ เป็นคลิปวิดีโอการทำโทษเด็กนักเรียนที่แอบเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเรียน ทำเอาชาวเน็ตต่างวิจารณ์กันกระหน่ำเกี่ยวกับคลิปดังกล่าว ภายในคลิป เป็นภาพเหตุการณ์การลงโทษนักเรียนที่แอบใช้มือถือขณะเรียนของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในหยงเซ่า มณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดยมีการให้นักเรียนที่ถูกจับได้ออกมาปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง คลิปวิดีโอ นักเรียนปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นเพราะถูกจับได้ว่าแอบใช้ในห้องเรียน ตามรายงานจาก The Paper คุณครูในคลิปวิดีโอที่ภายหลังทราบว่าสกุล Xiong บอกว่าเด็กนักเรียนขอขว้างโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองหลังพบว่าตนเองทำผิด แต่ตามรายงานแล้วพบว่าคุณครู Xiong เป็นผู้ที่ “บังคับ” ให้นักเรียนทำแบบนั้น ซึ่งกระทรวงการศึกษาก็ชื่นชมที่คุณครูพยายามรักษากฏโรงเรียน แต่การลงโทษในครั้งนี้มีความรุนแรงเกินไป คุณครู Xiong จึงได้รับโทษโดยการถูกลดเงินเดือน นักเรียนขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง จนกว่าจะเสียหายตามสมควร . นักเรียนอีกคนหนึ่งก็ต้องทำเช่นเดียวกัน . แม้ว่าโรงเรียนดังกล่าวจะมีมาตรการป้องการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเรียนที่เข้มงวด แต่ก็มิได้มีบทลงโทษที่เหมาะสมชัดเจน หลังจากเหตุการณ์นี้ ทางโรงเรียนจึงได้ประกาศว่าจะหาทางจัดการกับปัญหานี้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่วนชาวเน็ตที่พบเห็นเรื่องนี้ก็ต่างวิจารณ์กันไปหลากหลายความเห็น เช่น……
-
ป๊ะป๋า “หุ่นแซ่บ” ชาวสิงคโปร์โชว์กล้ามแน่นๆ พร้อมขอผันตัวเข้าสาย ‘นักแสดง’ ในวัย 52 ปี
คนเราถ้าอยากจะไล่ตามความฝัน แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้ อายุ เข้ามาเป็นอุปสรรคอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ? อย่างเช่น ชายชาวสิงคโปร์นามว่า Chuando Tan หนุ่มคราวพ่อคนนี้ต้องการผันตัวเองเข้าสู่วงการ “นักแสดง” ในวัย 52 ปี เขาจึงได้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อไล่ตามความฝันในการเป็นนักแสดง แม้ว่าป๋าจะมีอายุอานามปาเข้าไปเลขห้าแล้วแต่หน้าตาพี่แกยังดูราวกับหนุ่มวัยรุ่น ยิ่งหุ่นป๋านี่เรียกว่าทั้งหนุ่มทั้งแน่นกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ ไม่รู้ว่าสาวๆ จะให้เปิดโอกาสรับป๊ะป๋าคนนี้ไปไว้ในอ้อมใจบ้างหรือเปล่าน้อ? Chuando Tan ชายชาวสิงคโปร์วัย 52 ปี ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูไม่ต่างไปจากเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัย ทำให้เขากลายเป็นที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว โดย อินสตาแกรม ของเขานั้นมีผู้ติดตาม ณ ปัจจุบันมากถึง 1.1 ล้านคนเลยทีเดียว เมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 2018 ที่ผ่านมา Chuando Tan ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อมองหาโอกาสให้กับตัวเองที่จะได้เป็นนักแสดงอย่างที่หวังเอาไว้ อื้อหืม คุณพี่ขาา ที่จริงแล้วคุณพี่ Chuando Tan เองก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทตัวแทนไว้เรียบร้อยแล้ว เขามีสัญญากับ Hong Kong artiste management agency เป็นบริษัทตัวแทนเดียวกันกับของ Angelababy และ Kiko Mizuhara อีกด้วยแน่ะ ปัจจุบันเขาโด่งดังไปยังหลายๆ…
-
สมาชิกสภาสหรัฐฯ รับได้ที่ชาวจีน “ทานเนื้อสุนัข” เพราะชาวอเมริกันก็ทานกระต่ายเช่นกัน
หลังจากชาวจีน (รวมถึงชาวเอเชียที่ละม้ายคล้ายชาวจีน) ถูกมองในแง่ลบจากสายตาของประเทศตะวันตกเนื่องจากพฤติกรรมการ บริโภคเนื้อสุนัข ของชาวจีนบางส่วน ครั้งนี้ในคลิปวิดีโอรายการ Voice of America China ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ตัวแทนจาก พรรคริพับลิกัน (Republican) ก็กล่าวในการสัมภาษณ์ว่าการทานเนื้อสุนัขเป็นเรื่องรับได้ ถ้ามันอร่อย เพราะชาวอเมริกันเองก็ทานกระต่ายเช่นกัน คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกัน นาย Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกันได้นั่งให้สัมภาษณ์กับรายการ Voice of America (VOA) ของประเทศจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของจีนพอดี เขาจึงมอบคำพูดให้กับผู้ชมว่า… “ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีจอ อย่างที่เห็นกันว่าชาวอเมริกันหลายคนไม่ชอบชาวจีนที่ทานเนื้อสุนัข แต่ผมเองก็อยากให้ชาวจีนรู้เหมือนกันนะว่า ชาวอเมริกันก็ทานเนื้อกระต่าย แถมยังทานสัตว์เล็กชนิดอื่นๆ อีกด้วย ผมไม่เคยตำหนิหากชาวจีนจะทานเนื้อสุนัข คุณอยากทานก็ทานไป ถ้าหากเนื้อมันอร่อย มันก็คือของอร่อยชนิดหนึ่งเท่านั้นแหละ” Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกัน ผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์แสดงสีหน้าหลังจากคำกล่าวของท่านสมาชิกสภา . . จากนั้น Rohrabacher ยังกล่าวว่า เขาและสหรัฐอเมริกาเองก็มองว่าชาวจีนก็เปรียบเสมอประชาชนในประเทศเหมือนกัน…
-
ความเห็นชาวเน็ตกับละคร ‘เลือดข้นคนจาง’ มาแค่ตอนแรก ก็จัดหนักจัดเต็มซะแล้ว!!
จบไปแล้วสำหรับตอนแรกของละครเรื่องใหม่จากค่ายนาดาวบางกอก ‘เลือดข้นคนจาง’ ขอบอกเลยว่า ดุ เด็ด เผ็ด มัน มากๆ จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในทวิตเตอร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ละครเรื่องนี้เปิดเผยให้เห็นถึงวัฒนธรรมของครอบครัวที่เป็นเชื้อสายจีน บางอย่างที่เราไม่รู้ และมันน่าติดตามมากๆ เลยล่ะ สำหรับแฟนๆ ที่ยังค้างคาใจจากตอนแรกกันอยู่ ลองไปอ่านดูกันสักหน่อยว่าในทวิตเตอร์เขามีเรื่องราวอะไรที่นอกเหนือจากในละครมาให้เราอ่านแก้เบื่อ ขณะที่รอคอยตอนใหม่มาคืนนี้กันบ้าง ลองไปชมได้เลยจ้า… จากละครเรื่องนี้ทำให้เราได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมในครอบครัวเชื้อสายจีนได้ดีจริงๆ ความหมายของ ‘กงสี’ อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้อี๊ภัสสร ไม่ได้รับหุ้นบริษัทก็ได้นะ เอาแล่วๆๆๆๆ สรรพนามที่ใช้เรียกญาติของคนเชื้อสายจีน มันคือความเป็นจริง สงสารแม่ T T มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่จะเกิดต่อจากนี้ อาจจะมีนัยอะไรอยู่ก็เป็นได้ ไม่แฟร์เลยจริงๆ #ทีมภัสสร ก็น่าคิดอยู่นะ จบกันปีโป้เชค มันน่าน้อยใจจริงๆ . แต่เอาจริงๆ แล้วเฮียเมธอาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ก็ได้ สรุปมาเป็นประเด็นๆ…
-
มาได้ยังไง?? เด็กหญิงจีนเจอ “ปลาอัลลิเกเตอร์” กัดแผลเหวอะขณะให้อาหารปลาแถวบ้าน
ความอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แม้กระทั่งในสถานที่ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีอะไรก็กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้ อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่เด็กสาวชาวจีนวัย 9 ขวบถูก “ตัวประหลาด” งับเข้าที่มือจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ขณะที่เธอกำลังให้อาหารปลาอยู่ที่บ่อน้ำประดับในละแวกที่อาศัย เมืองหนานหนิง เขตปกครองกวางสี ประเทศจีน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2018 ภาพและคลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ดูแลชุมชนจึงออกตามหา “ตัวประหลาด” ดังกล่าวว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ หลังเกิดเหตุได้ราว 40 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ก็พบสิ่งมีชีวิตที่ทำร้ายเด็กสาวดังกล่าวได้ มันเป็น ปลาสัญชาติอเมริกาใต้ ตัวยาว 1 เมตรและมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม คลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์ ปลาตัวดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเป็น ปลาอัลลิเกเตอร์ (Alligator Gar) ปลานักล่าที่สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ฉายาของปลาชนิดนี้คือ “ฟอสซิลที่ยังหายใจ” ร่างกายของมันมีรูปร่างคล้ายตอร์ปิโด มีเกล็ดซ้อนทับแบบกานอยด์ที่หนาและแข็งราวกับกระดูก พร้อมกับเขี้ยวและฟันที่ทั้งใหญ่และแหลมคม ปลาอัลลิเกเตอร์ ผู้ก่อเหตุ รอยบาดแผลจากการถูกปลาอัลลิเกเตอร์ดังกล่าวกัด…
-
คลิปสัมภาษณ์ ‘สาวๆ ชาวจีน’ เงินหรือนิสัยสำคัญกว่ากันในการ ‘เลือกคู่ครอง’!!
(คำเตือน: เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถเหมารวมถึงประชากรทั้งหมดได้) ชาวจีนรวมถึงชาวเอเชียหลายๆ ประเทศมักถูกมองว่ามีความเป็น วัตถุนิยม ค่อนข้างสูง และยิ่งเมื่อกระแสภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians โด่งดังไปยังนานาประเทศก็ยิ่งตอกย้ำความคิดนี้เข้าไปใหญ่ ทางแชแนลยูทูบ Asian Boss จึงได้ออกไปทำการสำรวจสาวจีนหลายๆ คนถึงสิ่งที่พวกเธอหวังจะได้รับจากชายหนุ่ม เพื่อวัดดูว่าสาวจีนส่วนมากนั้นนิยมในวัตถุมากกว่าบุคคลจริงๆ อย่างที่ชาวโลกมองหรือไม่ คลิปวิดีโอสัมภาษณ์สาวจีนในหัวข้อ “วัตถุนิยม” โดยการถามถึงวิธีการเลือกคู่ครอง คลิปวิดีโอถูกโพสต์เมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2018 คำถามหลักๆ ที่ผู้สัมภาษณ์เข้าไปถามกับสาวๆ ชาวจีนในพื้นที่ คือให้เลือกว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากันหากจะเลือกคู่ครอง ระหว่างเงินและบุคลิก คำตอบจะออกมามีแนวโน้มไปทางไหนเราลองไปชมพร้อมๆ กันเลย… สาวๆ บางคนบอกว่า “เงินคือสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยเวลาเลือกแฟน” บางคนก็บอกว่า “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” ขณะที่บางส่วนก็ตอบว่าสิ่งสำคัญก็คือ ความพยายามและความทะเยอทะยาน เหตุผลก็เพราะว่าบุคคลที่มีสองสิ่งนี้ในจะจบลงด้วยการเป็นคนจนอย่างแน่นอน ส่วนสาวๆ บางกลุ่มก็กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ความมั่นคงทางการเงิน เพราะต่อให้มีเงินมากมายแต่ไม่มั่นคงก็ไม่อาจจะมีความสุขในระยะยาวได้ พอถึงช่วงที่ผู้สัมภาษณ์ถามถึงว่าพ่อแม่ของสาวๆ คิดอย่างไรหากพวกเธอมีแฟนที่ฐานะยากจน คำตอบส่วนใหญ่ก็ออกมาว่า พ่อแม่ของพวกเธอมักไม่ให้การยอมรับชายที่ตกงานหรือว่ายากจน…
-
กระแส “เต้นชัฟเฟิลขึ้นบันได” ระบาดในจีน สาวๆ น้อยใหญ่เต้นกันกระเพื่อม เอ้ย กระหน่ำ!!
ความอัศจรรย์ของ อินเทอร์เน็ต ก็คือมันสามารถแพร่กระจายข้อมูลต่างๆ ไปทั่วโลกได้เพียงระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมนุษย์เราจะมี เทรนด์ หรือกระแสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นปรากฏการณ์ การเต้นชัฟเฟิลขึ้นบันได (Stair Shuffle Dance) ที่ได้กลายเป็นความนิยมกันในหมู่หนุ่มสาวชาวเน็ต ด้วยความเท่ ความเรียบง่าย ที่ต้องอาศัยการฝึกฝน จึงทำให้กระแสนี้มีผู้ทำตามอยู่ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ชาวจีนที่ออกมาเต้นชัฟเฟิลขึ้นบันไดกับเขาเหมือนกัน แต่ที่มันน่าจับตามองก็คือ ชาวจีนที่ออกมาร่วมกระแสนี้ส่วนใหญ่ เป็นผู้หญิง ซึ่งนั่นทำให้กระแสนี้ยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้น การเต้นชัฟเฟิลนั้นจะต้องมีการเขย่าตัวอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น มันก็อาจจะมีอะไร “เด้งๆ” บ้าง (หมายถึงผมเด้งอะไรแบบนี้) และก็ไม่รู้เพราะอะไรชาวจีนที่ออกมาเล่นแชเลนจ์นี้จะต้องเป็นสาวน่ารักๆ เสียส่วนมาก เรียกได้ว่าเป็นงานโชว์ทักษะการเต้น แถมยังได้โชว์หุ่นแซ่บๆ ไปด้วย ส่วนสองสาวตัวน้อยนี้เต้นเก่งและน่ารักมากๆ เลยล่ะ เต้นชัฟเฟิลก็ไม่ใช่ง่ายๆ แถมต้องเต้นขึ้นบันไดด้วย ว่าแล้วก็ไปชมคลิปวิดีโอกันเลย!! ก็ถือว่าเป็นอีกกระแสหรืออีกแชเลนจ์หนึ่งที่เต็มไปด้วยสาวๆ น่ารักๆ แถมเต้นเก่ง อย่างน้อยก็ทำให้โลกนี้ดูสดใสขึ้นล่ะนะ!! ที่มา: facebook
-
แม่ร่ำไห้…ลูกชายวัย 13 ปี “โดดตึกตาย” เพราะเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG!!
เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในประเทศจีน ที่ผู้เป็นแม่ต้องสูญเสียลูกชายวัย 13 ปีไปเนื่องจากเขาทำการกระโดดจากที่สูงจนตกลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นแม่กล่าวโทษว่าเขาทำพฤติกรรมเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG เกม PlayerUnknown’s Battlegrounds หรือ PUBG นั้นเป็นเกมยิงเอาชีวิตรอดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนเล่นเกมในปัจจุบัน รวมถึงเด็กหนุ่มวัย 13 ปีคนนี้ก็ชื่นชอบการเล่นเกมนี้มากเช่นกัน โฆษณาเกม PUBG ในประเทศจีน ตามรายงานกล่าวว่าเด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตนั้นได้กระโดดจากอพาร์ตเมนต์เมื่อราวเวลาตีหนึ่งของวันที่ 30 สิงหาคม 2018 หลังเล่นเกม PUBG บนเครื่อง iPad ฝ่าย Yu Lihua ผู้เป็นแม่ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายตนกระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ชั้น 4 เพราะต้องการรู้ว่าตนจะรอดชีวิตแบบตัวละครในเกมหรือไม่ เด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตทราบภายหลังว่าชื่อ Xi Tianci เจ้าหน้าที่พบร่างศพของเขา 6 ชั่วโมงหลังเสียชีวิต ผลการชันสูตรพบว่า Xi Tianci น่าจะเสียชีวิตทันทีหลังตกลงสู่พื้น ฝ่าย Yu ผู้เป็นแม่ได้แต่ร่ำไห้และกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเกมที่ทำให้ลูกชายของเธอต้องตาย “เกมนั่นแหละที่ทำให้ลูกฉันตาย ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว” เธอกล่าว “เขาคิดถึงเกมนี้ตลอดแม้จะไม่ได้เล่นมันก็ตาม เขาต้องอยากรู้แน่ว่าเขาจะตกลงมาแล้วรอดชีวิตเหมือนในเกมหรือเปล่า” ในเกม PUBG หากตัวละครตกจากที่สูง…
-
เตือนภัย! สาวจีนใช้มือถือ “ถ่ายวิดีโอ” ขณะขับรถ ผลสุดท้ายราว ‘เสียบ’ ทะลุคันรถ…
(คำเตือน: บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหารุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) การขับรถนั้นจำเป็นจะต้องมีสมาธิและสติอยู่กับการควบคุมรถอย่างมาก เพราะหลายครั้งอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นจากการที่ผู้คนไม่ยอมใส่ใจและประมาทในการขับรถนั่นเอง หลายคนมั่นใจในตัวเองว่า เพียงแค่เล่นสมาร์ตโฟนนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรเพราะถึงจะเล่นมือถือแต่ก็มองทางไปด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนจะมีความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อได้ชมเหตุการณ์ตัวอย่างที่จะนำเสนอดังต่อไปนี้ หญิงรายหนึ่งในประเทศจีนได้ฝ่าฝืนคำเตือนยอดฮิตที่ว่า “ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ” เธอใช้มือถือถ่ายวิดีโอไปพร้อมกับการขับรถ ในวิดีโอเธอถ่ายบรรยากาศภายในรถที่มีน้องหมานอนอยู่ด้วยพร้อมเพลงประกอบ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน รถของเธอก็พุ่งไปชนเข้ากับราวกั้นถนน (ราวเหล็กลูกฟูก) อย่างจัง จนราวกั้นนั้น “เสียบ” เขามาในรถจนทะลุท้ายรถเลยทีเดียว คลิปวิดีโอดังกล่าว ขณะที่เธอยังไม่รู้ตัวว่าอีกไม่กี่วินาทีก็จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น รถของเธอพุ่งเข้าไปเสยเข้ากับราวกั้นข้างถนน คาดว่าน่าจะด้วยความเร็วพอประมาณโดยไม่ทันได้เหยียบเบรก จึงทำให้ราวเหล็กเสียบทะลุกระจกหน้ารถเข้ามายังภายในตัวรถและเสียบทะลุกระจกหลังออกไปด้วย สภาพของหญิงสาวดังกล่าวหลังเกิดอุบัติเหตุนั้นเต็มไปด้วยเลือดบริเวณใบหน้า และดูราวกับว่าเธอไม่สามารถขยับร่างกายออกจากรถได้ สภาพหลังเกิดอุบัติเหตุ ดูท่าว่าเธอจะยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้ปกติ ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันในวิดีโอกันพอสมควร เช่น “เธอปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว สงสัยมีคลิปเยอะ” และ “เจ้าหมาเป็นไงบ้างงง?” เป็นต้น หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ที่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถได้เป็นอย่างดี เพราะบางทีเราไม่รู้หรอกว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรมีสติในการขับรถอยู่ตลอดเวลาไงล่ะ ที่มา: facebook1, facebook2 via ck101
-
ภาพเหตุการณ์ “ภูเขาถล่ม” ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในกรุงปักกิ่ง ประชาชนพากันตื่นกลัว
ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก หากไม่ระวังให้ดีมันอาจพรากชีวิตของผู้คนไปได้เลยทีเดียว… ล่าสุดภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่วนหนึ่งได้เกิดถล่มลงมาสู่พื้นถนนซึ่งมีผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่บริเวณเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่ตกตะลึงอยู่กับภาพที่เห็นท่ามกลางเสียงอึกทึกกึกก้องและฝุ่นที่เกิดจากแผ่นดินถล่ม จังหวะดินและหินบนภูเขาถล่มลงสู่พื้นถนน ผู้คนต่างตื่นตระหนกตกใจกลัว ภาพภัยพิบัติแผ่นดินถล่มจากทางอากาศ ชมคลิปวิดีโอดินถล่ม ณ เมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่ผ่านมานั้นต้องประสบกับพายุฝนกระหน่ำอย่างหนัก ซึ่งคาดกันว่ามีส่วนทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในครั้งนี้ มีการบันทึกภาพและเผยแพร่ต่อกันไปอย่างกว้างขวางจนทำให้ประชาชนที่ได้รับชมต่างพากันตื่นกลัวที่จะเข้าใกล้เขตภูเขา เพราะแม้แต่ภูเขาสูงใหญ่ในภาพยังสามารถสั่นคลอนและถล่มลงมาได้ ภาพหลังดินถล่มสงบลง ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายอย่างมาก ฉะนั้น จงเตรียมตัวรับมือกับมันเอาไว้ให้ดี… ที่มา: ck101 และ 千年蠢猪习近平
-
สาวจีนนักประดิษฐ์เอาอีกแล้ว คราวนี้ออกไป “ดักปลา & ย่างไก่” กันนอกออฟฟิศเลยหรา!?
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์มักมีกิจกรรมที่สามารถทำแก้เบื่อได้เสมอ ดูตัวอย่างได้จากพนักงานออฟฟิศสาวชาวจีนนักประดิษฐ์อย่าง Ms. Yeah ที่มีเวลาว่างเป็นไม่ได้จะต้องคิดหาวิธีแต่งหน้าหรือทำอาหารแม้จะอยู่ในที่ทำงานก็ตาม และ วิดีโอล่าสุด ของเธอเรียกได้ว่าพีกมากๆ เพราะคราวนี้ Yeah และเพื่อนๆ ร่วมงานของเธอต้องได้ออกไปปฏิบัติภารกิจกันนอกสำนักงานด้วยล่ะ เรื่องราวเริ่มจากที่ Yeah และเพื่อนๆ กำลังดีใจกับทริปเดินสายเที่ยว (สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย) ที่กำลังจะเกิดขึ้น และแล้วจู่ๆ หัวหน้างานของพวกเธอก็ดับฝันด้วยการไม่อนุญาตให้ไปเที่ยวไกลๆ ให้ไปเที่ยวลำธารใกล้ๆ แต่แถมไก่อีก 2 ตัวเป็นการทดแทน อดไปเที่ยวแต่ได้ไก่มาแทนเนี่ยนะ!!? Ms. Yeah ก็เลยต้องเตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์นี้ (คิดแผนดีๆ ออกแล้ว!!) จากนั้นเธอนำถังน้ำในออฟฟิศมาตัดส่วนของปากออก แล้วประกอบตะแกรงพัดลมเข้าไปกับถัง (เอ…จะทำอะไรกันนะ?) ถึงเวลาที่พวกเขาต้องไปเที่ยวลำธารกันแล้ว เรามารอชมแผนการของ Ms. Yeah กันเถอะ เธอวางถังน้ำที่นำมาด้วยลงไปในน้ำ จากนั้นเธอก็นนำไม้ไผ่มาตัดแล้วผูกเข้าด้วยกัน พร้อมนำกระดานเกมของเพื่อนๆ มาตัดอีกด้วย ผ่าม!!…
-
ชมคลิป “พลังงานลึกลับ” ที่ปรากฏขึ้นบนร่างไร้ชีวิตของชายชาวจีน มันคืออะไรกันแน่!?
โลกเรานั้นเต็มไปด้วยปริศนาและความลึกลับที่ยังอธิบายไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ หลายสิ่งก็เป็นเพียงคำร่ำลือแต่หลายสิ่งก็มีผู้คนเคยพบเห็นกันมาแล้ว เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัตถุ (หรือสิ่งมีชีวิต) ปริศนา ซึ่งมีผู้ถ่ายวิดีโอมาได้ ต้องขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่า ภาพที่ทุกท่านจะได้รับชมต่อไปนี้ อาจก่อให้เกิด ความกลัว ได้ ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในบริเวณริมถนนแห่งหนึ่งของประเทศจีน ที่มีร่างผู้ชายนอนไร้สติอยู่ริมถนน ชายคนนี้ดูเหมือนได้รับบาดเจ็บจนนอนแน่นิ่ง แต่จู่ๆ ก็มีวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตคล้ายควันและเงาสีดำปรากฏขึ้นมาจากตัวของเขา วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตลึกลับนี้ดูเหมือนพยายามเข้ามาสัมผัสร่างกายของชายที่นอนไร้สติ ไม่มีใครทราบว่ามันคืออะไร มาจากไหน และมาเพื่ออะไรกันแน่ ชมคลิปวิดีโอ เมื่อภาพและคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตที่พบเห็นก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างคับคั่ง เช่น… “พระเจ้า มันเหมือนจริงมากๆ” “โอ้ พระเจ้า อ้ากกกก” “มันหิวหรือเปล่า?” “พูดง่ายๆ มันก็คือยมทูต” “นี่อาจจะเป็นหลักฐานการปรากฏตัวของปิศาจ” ไม่มีใครรู้ว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นภาพจริงหรือตัดต่อ สิ่งที่รู้มีเพียงแค่ว่า มันสมจริงมากและชวนขนหัวลุกสุดๆ ที่มา: ck101 และ liveleak
-
เกิดเหตุ ‘ตบตีกัน’ ในห้างประเทศเกาหลีใต้ เพราะนักท่องเที่ยวจีน “แซงคิว” คนอื่น
เหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดเกิดขึ้น ณ ร้านค้าปลอดภาษีในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการต่อสู้ทำร้ายร่างกายระหว่างกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง โดยทราบมาว่าเกิดขึ้นเพราะมีการ “แซงคิว” กันนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 ซึ่งได้มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ ขณะที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในโซนเครื่องสำอางบนชั้น 12 ของห้างปลอดภาษี The Lotte ในย่านอึลจิโร ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ ในช่วงแรกของวิดีโอจะเห็นได้ว่าหญิงสองคนกำลังดึงผมของกันและกันจนล้มลงกับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ หลังจากนั้นชายคนหนึ่ง คาดว่าเป็นสามีของหญิงที่กำลังปะทะ ก็เข้ามากระทืบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวที่ล้มอยู่ “นางคนนี้มารังแกเมียฉันก่อน!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาก่อนที่ฝูงชนจะเข้ามาห้าม “พอแล้ว หยุดตีกันได้แล้ว!” เสียงตะโกนจากผู้คนรอบๆ หลังจากนั้นราว 5 นาที ผู้รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อสัมภาษณ์ หญิงสาวในคลิป ทำให้ทราบว่าหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้ทำการ แทรกตัวเข้าไปแซงคิว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น ภายหลังทราบว่าทั้ง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดความไม่พอใจกับชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก หลายคอมเมนต์กล่าวเป็นทำนองเดียวกันว่า “ทั้ง 3 คนได้สร้างความอับอายให้กับชาวจีน พวกเขาไม่ควรออกไปเที่ยวต่างประเทศ” ฝากเตือนเพื่อนๆ…
-
คู่รักชาวจีน “พิธีหมั้นล่ม” เมื่อฝ่ายชายเดินหนีออกจากงาน เพราะมีอาการกลัวความสูง
ความรักอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่หากอยากรู้ว่าความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นเป็นรักแท้หรือไม่ มันก็ต้องมีการพิสูจน์กันสักหน่อย แต่การพิสูจน์รักแท้มันก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน ล่าสุดวันที่ 15 สิงหาคม พิธีหมั้นของหญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยกับชายหนุ่มคนหนึ่ง จัดขึ้น ณ สะพานกระจกที่ยื่นออกจากริมหน้าผาที่มีความสูงถึง 30 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองซินหมี มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่พิธีหมั้นนี้ก็ต้องล่มไม่เป็นท่า หลังจากฝ่ายชายเดินหนีออกไปเนื่องจากไม่สามารถทำใจเดินเข้ามาหาฝ่ายหญิงที่ยืนอยู่บนสะพานกระจกที่อยู่เหนือเหวลึก 30 เมตรได้ ชมคลิปวิดีโอ Xiao Jing หญิงสาววัย 23 ปีจากตระกูลผู้มีฐานะ ได้จัดพิธีขอหมั้น Xiao Yu คู่รักวัย 23 ปีของตน ด้วยรถสปอร์ตคันงานพร้อมกับเงินอีก 1,000,000 หยวน (4.8 ล้านบาท) แต่ก่อนที่ Xiao Jing จะมอบหัวใจและของหมั้นให้กับ Xiao Yu นั้น Xiao Yu จะต้องผ่านบททดสอบรักแท้ไปเสียก่อน เขาจะต้องเดินขึ้นสะพานกระจกมาแล้วตอบตกลงว่าจะหมั้นกับเธอ “เราคบกัน 3 ปีแล้วนะ…
-
มหาเศรษฐีชาวจีน ใช้เวลาว่างไปกับการ “เดินเก็บขยะ” ในเมืองทุกๆ วันมากว่า 3 ปีแล้ว!!
คนที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยกลายเป็นมหาเศรษฐี เขาคงมีเวลามากพอสำหรับพักผ่อน หรือใช้ชีวิตตามแบบที่เขาต้องการ แล้วหากเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาเหล่านั้นเพื่อทำอะไรกันล่ะ? ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่เรื่องราวของมหาเศรษฐีชาวจีนคนนี้จะทำให้คุณหวนกลับมาคิดใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน… Zhong Congrong นักธุรกิจวัย 52 ปีจากมณฑลฉงชิ่งประเทศจีน ผู้ประสบความสำเร็จจากกิจการของเขาเอง ได้หันมาใช้ชีวิตหลังความสำเร็จด้วยการตระเวน เดินเก็บขยะ บนถนนในเมืองมาเป็นเวลาถึง 3 ปีแล้ว เรื่องราวเริ่มจากการที่เขาได้มาพบกับอดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งที่อุทิศตนเก็บขยะให้บ้านเมืองมากว่า 4 ปีแล้ว เขาจึงประทับใจและร่วมเดินเก็บขยะในเมืองทุกๆ วัน Zhong Congrong วัย 52 ปี ในช่วงแรกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างมาก แต่กลับเป็นในเชิงไม่ดีเท่าใดนัก หลายคนสังสัยว่าทำไมมหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาเก็บขยะ เกรงว่าจะมีเหตุผลอื่นแอบแฝง แต่ Zhong ก็ไม่สนใจและยังคงทำต่อไป จนกระทั่งเรื่องราวเข้าถึงหูของครอบครัวเขา ทีแรกลูกๆ และภรรยาของเขารู้สึกขายหน้ากับสิ่งที่เขาทำอย่างมากถึงกับไม่ยอมไปไหนกับ Zhong ในที่สาธารณะเลยทีเดียว จนกระทั่ง พวกเขาพบว่าบริเวณใกล้บ้านเริ่มสะอาดขึ้นทุกวัน เนื่องจากการกระทำของ Zhong พวกเขาจึงยอมรับพร้อมทั้งชื่นชมและหันมาสนับสนุนเขาด้วย ชมคลิปของ Zhong มหาเศรษฐีเก็บขยะกัน “เราจะทิ้งขยะหรือเก็บขยะมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับระดับการศึกษา วัฒนธรรม อายุ หรือว่าฐานะหรอก” Zhong…
-
สาวนุ่งสั้นถูกชายโรคจิต “แอบมองขา” แถมควัก “ไอ้จ้อน” ออกมาช่วยตัวเองโชว์…
คนเราสมัยนี้ต้องเรียกได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงจริงๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่บางครั้งไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีใครแอบ คิดมิดีมิร้าย กับคุณอยู่ที่ไหนบ้างหรือเปล่า เช่นเหตุการณ์ที่จะนำเสนอให้ได้ชมกันในวันนี้ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่และชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ภาพกล้องวงจรปิดส่งตรงจากประเทศจีนเผยให้เห็นว่าหญิงสาวรูปร่างเซ็กซี่พร้อมเสื้อแขนสั้นรัดรูปและกางเกงขาสั้นนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ทางกลางความเปล่าเปลี่ยวของลานจอดรถหลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน และแล้วกล้องวงจรปิดก็เผยภาพชายที่ไม่ประสงค์ดีซ่อนตัวอยู่หลังรถใกล้ๆ กับหญิงสาว เขาได้แอบมองอย่างไม่เป็นมิตร และสุดท้ายเขาก็ควักอวัยวะเพศของตัวเองออกมาเพื่อสำเร็จความใคร่… ชมคลิปวิดีโอ ภายหลังหญิงสาวในคลิปวิดีโอเล่าว่า ขณะที่เธอคุยโทรศัพท์อยู่นั้นเธอก็ได้ยินเสียงประหลาดๆ นั่นทำให้เธอรู้สึกกลัวและเดินหนีออกมาจากจุดนั้นในที่สุด ชายโรคจิตปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแอบเผยของลับของตนและหันไปทางหญิงสาว แถมยังพยายามเดินมาทางหญิงสาวในขณะที่ตนก็กำลังทำการสำเร็จความใคร่ไปด้วย อย่างไรก็ตามหญิงสาวกล่าวว่า ขณะที่เธอรู้ตัว เธอตัดสินใจที่จะไม่กรีดร้องแต่เธอกลับค่อยๆ หยิบกระเป๋าและเดินหนีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ชายโรคจิตโผล่มาแล้ว เขางัดของลับของเขาออกมา จังหวะนี้หญิงสาวเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าไม่ปลอดภัยแน่ๆ ขณะที่หญิงสาวเดินหนีออกไปแล้ว ชายโรคจิตยังพยายามเดินตามกระทั่งคนแถวนั้นผ่านมาเห็นเขาถึงหลบหนีไป โชคดีที่หญิงสาวคนนี้ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ส่วนเรื่องนี้ทางการก็ได้รับทราบแล้วแต่ยังไม่สามารถตามจับตัวชายในคลิปได้ ได้แต่เพียงเตือนหญิงสาวทุกคนให้ระวังตัวมากขึ้นยามที่ต้องอยู่ลำพังในที่เปลี่ยว หากเป็นไปได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเลยจะดีกว่า ที่มา: ck101
-
คุณลุงชาวจีน กระโดดช่วยหญิงจมน้ำด้วยท่าที “โคตรชิล” พร้อมสูบบุหรี่ไปด้วยอีกต่างหาก!!
ว่ากันว่าต่อให้เป็นงานที่ยากแสนยาก หากเป็นคนที่ทำมันจนชำนาญแล้วก็คงทำมันอีกครั้งได้ง่ายดายราวกับปลอกกล้วย… อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งของอ่าวฮั่นเจียง เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เหตุการณ์เริ่มขึ้นจากการที่หญิงรายหนึ่ง เดินไปยังริมน้ำเพื่อ “ล้างเท้า” โดยมิได้ระมัดระวังทำให้เธอพลาดตกลงไปในน้ำ เนื่องจากที่เธอว่ายน้ำไม่เป็นเธอจึงตะเกียกตะกาย ทำท่าจะจมน้ำเสียให้ได้ ทันใดนั้นเองชายนิรนามคนหนึ่งที่เปลือยท่อนบนและสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นก็รีบกระโดดลงน้ำไปช่วยทันที เขามาแล้วครับ ภาพจากการรายงานข่าวทำให้ผู้ชมประหลาดใจกันอย่างมากก็คือ ชายคนนี้ ไม่ได้แสดงสีหน้าอาการประหม่าหรือตื่นเต้น แต่อย่างใด ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาคาบบุหรี่อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่กระโดดลงน้ำไปจนกระทั่งช่วยชีวิตหญิงจมน้ำขึ้นมาได้ หลังจากช่วยชีวิตหญิงดังกล่าวได้แล้ว เขาก็ยังเลือกที่จะยืนอยู่ในน้ำชิลๆ พลางสูบบุหรี่มวนเดิมต่ออีกด้วย ไม่รู้ว่าชายคนนี้กินอะไรมา ทำไมถึงเท่ได้ขนาดนี้!! บุหรี่คู่กาย แม้แต่ลงน้ำก็ต้องคาบลงไปด้วย เมื่อขึ้นมาแล้วก็ยืนเท่ๆ พลางสูบบุหรี่ต่ออย่างชิลๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจึงพบว่า ชายสุดเท่คนดังกล่าวอดีตเคยเป็น สมาชิกของหน่วยกู้ภัย ที่คอยช่วยเหลือคนที่ประสบภัยในแม่น้ำแยงซีเกียง และแม้ว่าเหตุการณ์นี้เขาจะไม่ได้เป็นหน่วยกู้ภัยแล้ว แต่เขาก็ยังทำหน้าที่กู้ชีพได้อย่างน่าภาคภูมิ (พร้อมขึ้นมายืนสูบบุหรี่อย่างเท่ๆ) จากนั้นฝ่ายหญิงที่ได้รับการช่วยชีวิตก็กล่าวขอบคุณชายคนนี้เป็นการใหญ่… เมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องนี้ ก็เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมสรรเสริญชายสุดเท่คนนี้กันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว เช่น “คุณลุงดูเท่ยิ่งกว่าหนุ่มๆ อีกนะเนี่ย” “เนี่ยแหละ ผู้ชำนาญการของจริงเขาไม่กระโตกกระตากกันหรอก” “บุหรี่ยี่ห้ออะไรทำไมทนน้ำจัง?” และ “บุหรี่บางครั้งเปียกน้ำแล้วก็ยังสูบต่อได้จริงๆ นะ” …
-
ตายายชาวจีน “ผู้พิทักษ์แม่น้ำ” ช่วยเด็กจมน้ำ แถม 30 ปีก่อนยังเคยช่วยพ่อของเด็กไว้อีกด้วย!!
หากใครสักคนมา “ช่วยชีวิต” เราเอาไว้ เราคงจะซาบซึ้งใจอย่างมากเลยทีเดียว แต่เรื่องราวในวันนี้จะทำให้เกิดความซาบซึ้งเสียยิ่งกว่าเมื่อทราบว่าผู้ที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้ เคยช่วยชีวิต “พ่อ” ของเราไว้เช่นกัน เรื่องราวเกิดขึ้นในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน คุณตาวัย 80 ปีคนหนึ่งได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อได้ลงไปช่วยเด็กชาย 8 ขวบที่จมน้ำอยู่ในแม่น้ำ ภายหลังทราบว่าคุณตาคนนี้ เมื่อ 30 ปีก่อนก็เคยช่วยชีวิตพ่อของเด็กชายคนนี้ไว้ด้วยเช่นกัน… ในช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2018 ชายชรานามว่า Xu ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเด็กชายขณะที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำทำท่าว่ากำลังจะจม ทั้งๆ ที่ตนก็กำลังบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่คุณตา Xu ก็ตัดสินใจลงไปในแม่น้ำเพื่อช่วยเหลือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำดังกล่าวโดยมีคุณยายที่เป็นภรรยาคอยช่วยด้วยอีกแรง เมื่อช่วยเด็กชายขึ้นมาแล้วจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทำให้ทราบว่าก่อนหน้าที่จะจมน้ำเด็กคนนี้ได้ออกมาเล่นกับย่าของตนใกล้ๆ แม่น้ำดังกล่าว เมื่อพูดคุยกับคุณย่าของเด็กที่จมน้ำ จึงทำให้ทราบว่าคุณตา Xu ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วเคยช่วยชีวิตลูกชายของตนเอาไว้ และตอนนี้ก็ได้ช่วยชีวิตหลานของตนไว้อีกครั้ง คุณตากล่าวว่า “ตอนผมยังเป็นหนุ่มกว่านี้ ลูกชายของเธอ (พ่อของเด็ก) ก็เคยจมแม่น้ำนี้เช่นกัน และผมก็ลงไปช่วยแบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ผมแก่แล้วกระโดดไม่ไหวแล้วล่ะ”…
-
สาวโทรแจ้งตำรวจ ‘ขโมยขึ้นบ้าน’ ที่ไหนได้เป็นสามีไม่ไปทำงาน แอบมาเล่นเกมที่บ้าน!?
กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต หลังพ่อหนุ่มพยายามจะหลอกเมียว่าไปทำงาน เพื่อที่จะเล่นเกมอยู่ที่บ้าน แต่กลับกลายเป็นว่าเมียลืมของกลับมาที่บ้านคิดว่าขโมยขึ้นบ้านซะงั้น!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มีหญิงสาวรายหนึ่งโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ‘มีขโมยขึ้นบ้าน’!? ตามรายงานระบุเอาไว้ว่า ในช่วงเช้าเธอและสามีได้ออกจากบ้านพร้อมกัน แต่พอออกไปได้สักพัก ฝ่ายหญิงสาวเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองลืมของไว้ที่บ้านเลยกลับไปเอา แต่พอกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเหมือนจะมีใครอยู่ เข้าใจว่าเป็นขโมย ก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาจัดการ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็พบตัวชายคนหนึ่งหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า!! และที่พีคไปกว่านั้นคือ หญิงสาวบอกว่าเธอรู้จักกับชายคนดังกล่าว เพราะเป็น ‘สามี’ ของเธอเอง!? พอได้เห็นตัวหัวขโมยแล้วหญิงสาวถึงกับตะโกนออกมาว่า “เดี๋ยวก่อน!! คุณตำรวจคะนี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ นี่เป็นสามีฉันเอง” ตำรวจก็ตอบว่า “สามีของคุณแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าเหรอครับ?” สรุปก็คือพ่อหนุ่มคนนี้คือสามีของหญิงสาวที่โทรไปแจ้งตำรวจนั่นแหละ เพราะพ่อหนุ่มคนนี้ดันไปหลอกภรรยาว่าจะออกไปทำงาน แต่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ว่าวันนี้จะเล่นเกมอยู่ที่บ้าน พร้อมกับลางานเรียบร้อย แต่กลัวภรรยาด่าเลยต้องทำแบบนั้น พอออกจากบ้านไปพร้อมกับภรรยา พี่แกก็แว้บแอบเข้ามาที่บ้านเพื่อเล่นเกมอย่างสบายอุรา แต่เวรกรรม ภรรยาดันลืมของเอาไว้ที่บ้าน ด้วยความที่กลัวโดนด่าก็เลยหนีเข้าไปแอบที่ตู้เสื้อผ้าอย่างที่เห็น สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่เอาเรื่องกับชายหนุ่ม แต่ดันต้องมาช่วยไกล่เกลี่ยไม่ให้ภรรยาโกรธสามี ปั๊ดโถ่วววว นี่มันใช่งานของตำรวจมั้ยล่ะเนี่ย!? ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ข้างล่างได้เลยจ้า… ที่มา : ladbible
-
ศาลจีนออกมาตรการ “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” เพื่อลดอัตราการหย่าและผลกระทบต่อเด็ก!!
คนเราบางครั้งก็ทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ทันคิด อาจจะเป็นเพราะ อารมณ์ ที่เกิดขึ้นที่ทำให้เราตัดสินใจอะไรที่ผิดพลาด ฉะนั้น การรอให้อารมณ์สงบลงจึงเป็นวิธีที่ดีในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับคู่รักหรือคู่สามีภรรยาก็เช่นกัน ยามที่มีปัญหากันจนเกิดการทะเลาะวิวาทหลายต่อหลายคู่อาจหยุดความสัมพันธ์กันไว้ตรงนั้น แต่บางครั้งการ “หย่าร้าง” ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีเสมอไป วันนี้ศาลประชาชนสูงสุดของประเทศจีน ได้มองเห็นความสำคัญของการหย่าร้างและเพื่อลดอัตราการหย่าร้างของผู้คนในประเทศ จึงเกิดเป็นนโยบาย “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” หรือ Calm down period นั่นเอง มาตรการนี้ถูกร่างโดยศาลสูงสุดของประเทศซึ่งรวมไปถึงจะมีการปฏิรูปทางกฎหมายอีกด้วย มาตรการนี้มีหลักสำคัญก็คือการให้คู่สมรสที่ต้องการยื่นเรื่องหย่าร้างได้เข้าสู่งช่วงเวลา 3 เดือนของการสงบสติอารมณ์ เพื่อให้มีการไตร่ตรองและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจหย่าร้างจริง ภายในระยะเวลา 3 เดือนดังกล่าว ทางศาลจะทำการเก็บข้อมูลสภาวะและสถานการณ์ในครอบครัวของคู่สมรสที่กำลังจะหย่าร้าง และให้คู่สมรสเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา ทั้งคู่จะยังไม่สามารถหย่าร้างกันตามกฎหมายได้จนกว่าจะครบกำหนดเวลา Guo Jie ผู้พิพากษาของศาลประชาชนชั้นกลางกว่าวว่ามาตรการ “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” นี้มุ่งเน้นไปที่คู่สมรสที่มีบุตรที่ยังเด็กเพราะไม่อยากให้เด็กเหล่านั้นพบเจอกับปัญหาทางครอบครัวและจิตใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่พ่อแม่แยกทางและหย่าร้างกันนั่นเอง อย่าคิดว่าการ “หย่า” เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำแล้วจบ ผลกระทบที่มีต่อบุตรซึ่งยังเด็กนั้นสำคัญมาก มันอาจกำหนดว่าเขาจะเติบโตมาเป็นคนอย่างไรได้เลยทีเดียว ที่มา: nextshark และ chinadaily
-
คลิปชายหนุ่มล้อเลียน “ช่างทำเล็บชาวจีน” เพื่อความสนุก แต่ชาวเน็ตมองเป็นการ ‘เหยียด’ ชนชาติ
เรื่องของการเหยียดเพศและชนชาตินั้นยังคงมีให้เห็นกันได้ทั่วไป เนื่องจากบางครั้งผู้ที่ทำการเหยียดก็ไม่ทราบว่าการกระทำของตนคือการ “เหยียด” ผู้อื่น อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่ชายคนหนึ่งทำคลิปวิดีโอขึ้นมาเพื่อ “ล้อเลียน” ช่างทำเล็บหญิงชาวจีน ซึ่งการล้อเลียนในครั้งนี้ทำให้ชาวเน็ตที่เข้ามาชมวิดีโอแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่านี่คือการเหยียด แต่อีกฝ่ายคิดตรงข้าม บททวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @iShineSoBright_ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชายคนหนึ่งกำลังทำท่าทาง “ทำเล็บ” ให้กับภรรยาโดยมีการแสดงล้อเลียนช่างทำเล็บชาวจีนอีกด้วย บนโพสต์ทวิตเตอร์ดังกล่าวมีการเขียนอธิบายภาพว่า “ดูชายคนนี้สิ เขาทำเล็บให้ภรรยาราวกับว่าตัวเขาเป็นช่างทำเล็บชาวจีนเลยล่ะ” https://twitter.com/iShineSoBright_/status/1019975772168126464 วิดีโอความยาวราว 2 นาทีนี้เผยให้เห็นว่าชายในคลิปกำลังพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงชาวจีนตามความคิดของคนส่วนใหญ่ พร้อมกับทำท่านวดขาและทำเล็บให้ภรรยา นอกจากนี้ยังมีการเลียนแบบวิธีการพูดคุย รวมถึงท่าทีอื่นๆ ที่อ้างว่าเป็นสิ่งที่มักจะเจอในช่างทำเล็บสาวชาวจีน ทาสีเล็บ นวดเท้าและพูดคุยไปด้วย มีการทำทีหันไปเมาท์ ทำเอาหญิงในคลิปหัวเราะออกมา หันมาคุยกับลูกค้าด้วยสำเนียงที่ล้อเลียน หญิงในคลิปก็หัวเราะร่า วิดีโอดังกล่าวมียอดเข้าชมถึง 1.24 ล้านครั้ง แถมมีการแชร์ไปกว่า 18,000 ครั้ง หลังจากนั้นจึงทำให้เกิดข้อโต้แย้งระหว่างกลุ่มชาวเน็ตที่มองว่านี่คือการเหยียด เราลองมาดูคอมเมนต์ของชาวเน็ตแต่ละกลุ่มดีกว่าว่า เสียงแตกออกเป็นแบบไหนกันบ้าง… กลุ่มมองว่าเป็นการเหยียด “นี่มันไม่ใช่แล้วมุกตลกแบบนี้มันไม่ตลก ผู้คนมักล้อเลียนชาวเอเชียและชาวละติน บอกไว้เลยว่าคนผิวสีเองก็ไม่มีสิทธิ์ล้อเลียนคนอื่นเขาเหมือนกัน ฉันล่ะเบื่อ” “พวกเขาคงตลกกันมาก…
-
ครอบครัวมีลูกเป็นโหล จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ ‘ลูกชาย’ ได้เป็นคนที่ 12 พอดี!!
ตามความเชื่อเรื่องของการสร้างครอบครัวของคนจีน มักจะอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว เนื่องจากความสำคัญในเรื่องของการสืบเชื้อสายสกุล จากอดีตจนถึงปัจจุบันค่านิยมนี้ก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ความพยายามของครอบครัวหนึ่งที่อยากจะมีลูกชายนั้น ทำให้ถือกำเนิดลูกได้มากถึง 12 คน เพราะด้วยความตั้งใจที่อยากจะมีลูกชายอย่างไม่ลดละ จะหยุดจนกว่าจะได้ลูกชายตามสมปรารถนา เรื่องราวนี้กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมจีน หลังจากที่ทางหนังสือพิมพ์ The Paper ได้เปิดเผยเรื่องราวของพี่สาวทั้ง 11 คนที่อุทิศทั้งชีวิตให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวในครอบครัว เพราะนอกจากจะดูแลเรื่องการแต่งงานให้น้องชายแล้ว เหล่าพี่สาวได้ประเคนเจียดเงินส่วนตัวซื้อเรือนหอให้ เนื่องจากพ่อแม่ป่วยหนักและไม่ได้มีเงินถุงเงินถังช่วยลูกชายแต่งได้ อย่างไรก็ตาม ความใจกว้างของเหล่าพี่สาวนั้นยังคงเป็นปริศนาที่ว่า พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 12 คนได้อย่างไรในขณะที่จีนได้ใช้นโยบายคุมกำเนิดไปแล้ว… สิ่งที่ถูกตีแผ่ออกมานั้น คือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ไม่ได้ตั้งใจจะมีลูกมากขนาดนี้ ต้องการเพียงแค่ลูกชาย และสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นนาย Gao Haozhen น้องชายคนสุดท้องคนที่ 12 โดยที่แม่ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกในช่วงอายุเพียง 20 ปี และมีลูกเพิ่มมาตลอด 27 ปี โดยหวังเพียงแค่อยากจะได้ลูกชาย แน่นอนว่าเรื่องราวความต้องการของพ่อแม่นี้ กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีน ถกเถียงถึงความเหมาะสมต่างๆ นานา และทางพี่สาวใหญ่ Gao Yu ได้ชี้แจงผ่านทางสื่อเอาไว้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ…
-
ลุงชาวจีนบังคับให้เด็กน้อย ‘สละ’ ที่นั่งบนรถบัสให้กับตน ถึงเด็กร้องไห้ ลุงก็ไม่สน!!!
บนยานพาหนะขนส่งสาธารณะย่อมมี ที่นั่งพิเศษ เอาไว้สำหรับบุคคลพิเศษ เช่น คนชรา หญิงตั้งครรภ์ แลคนพิการ เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มีความลำบาก ในประเทศจีนเองก็ไม่ต่างกัน บนรถบัสโดยสารของประเทศจีนเองก็มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางกายเช่นกัน และนั่นก็ได้นำมาซึ่งเรื่องราวในวันนี้ คลิปวิดีโอหนึ่งเผยภาพ ชายสูงวัยคนหนึ่งบนรถบัสในประเทศจีนกำลังพยายามแย่งที่นั่งจากเด็กน้อย ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้ชราภาพขนาดนั้น และเบาะนั่งของเด็กชายก็ไม่ใช่ที่นั่งพิเศษสำหรับคนชราอีกด้วย ชายสูงวัยพยายามนำตัวเข้าไปเบียดเด็กชายที่นั่งอยู่ก่อน พร้อมเสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้โดยสารหญิงบนรถ แม้กระทั่งเด็กชายคนดังกล่าวร้องไห้ออกมา ชายสูงวัยก็ยังไม่หยุด สุดท้ายชายสูงวัยพยายามแทรกตัวลงไปนั่งขณะที่เด็กชายก็ยังคงนั่งอยู่บนเบาะนั่งดังกล่าว พร้อมกับใช้มือจับตัวเด็กชายให้ลุกขึ้นเพื่อสละที่นั่งให้ตนเองอีกด้วย ลุงพยายามแทรกตัวลงไปนั่งแทนที่เด็กชาย จนเด็กชายที่นั่งอยู่ก่อนถึงกับร้องไห้ออกมา คุณลุงมีการใช้มือจับตัวของเด็กชายให้ลุกขึ้น เพื่อที่ตนจะได้นั่ง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตต่างวิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “คุณลุงทำกับเด็กเกินไปจริงๆ ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีความจำเป็นในการนั่งขนาดนั้น” เราลองมาชมคลิปวิดีโอพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… หากคุณลุงไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องนั่งเก้าอี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นการรังแกเด็กได้เลยนะเนี่ย ที่มา: ck101 และ 潘關希
-
รอชมฉากต่อสู้ของ “ดอนนี เยน” กับ “เฉินหลง” ไฮไลท์ของภาพยนตร์ Ip Man 4!!!
หากใครที่ชื่อชอบภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้สไตล์กังฟู เรื่อง Ip Man หรือ ยิปมัน นั้นคงเป็นภาพยนตร์ที่โดนใจอยู่ไม่น้อยเลย ทั้งนี้ภาพยนตร์ยิปมันนั้นก็มีข่าวว่ากำลังจะออกภาค 4 มาให้ได้ชมกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับชมกันในโรงภาพยนตร์ภายในปี 2018 นี้อีกด้วย ที่สำคัญ จุดเด่นสำคัญของภาคต่อนี้ก็คือฉากต่อสู่ของ ดอนนี เยน พร้อมกับตำนานหมัดเมาอย่าง เฉินหลง นั่นเอง เรียกได้วาเอาใจแฟนๆ ภาพยนตร์สไตล์กังฟูจีนกันสุดๆ เลยทีเดียว โพสต์ใน Weibo ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018 ของดอนนี เยนกล่าวว่า พวกเขาเพิ่งปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ Ip Man 4 ฉากในเมืองจีนไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปร่วมงานฉลองปิดกล้องด้วยก็ตาม เนื้อเรื่องของ Ip Man 4 จะถ่ายทอดชีวิตของ Bruce Lee ขณะที่เดินทางไปยังอเมริกาด้วยความหวังที่จะเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัว แต่กลับเกิดความขัดแย้งกับเจ้าถิ่น ท่านอาจารย์ยิปมัน จึงต้องเข้ามาช่วยและทำให้ชาวเมืองเกิดความเคารพ นอกจากนี้เขายังได้ถ่ายทอดวิชา ปูพื้นฐานกังฟูให้กับผู้คนในอเมริกาอีกด้วย และจุดพีคของเรื่องก็คือการที่ตัวเอกอย่างดอนนี เยนได้ต่อสู้กับเฉินหลงผู้ที่รับบทเป็นพี่ชายคนหนึ่งจากไชนาทาวน์อันน่านับถือ ผู้กำกับ Wilson Yip…
-
เผยวินาที ‘ชายแปลกหน้า’ ลักพาตัว ‘เด็กหญิง’ วัย 3 ขวบในจีน สุดท้ายถูกจับ…
ชายคนหนึ่งถูกจับกุมตัว 18 ชั่วโมงหลังจากพบภาพเขาในกล้องวงจรปิด ซึ่งกำลังทำการลักพาตัวเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นรถบนถนนในเมืองกันเซา มณฑลเจียงซีทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 ผู้ต้องสงสัยนามว่า Zhang ถูกพบเห็นในวิดีโอที่ถูกบันทึกมาว่ามีการหลอกล่อให้เด็กหญิงวัย 3 ขวบด้วยอาหารหรือขนมบางอย่าง ทำให้เด็กหญิงเดินเข้าไปหาเขาเพราะอยากได้อาหาร พ่อของเด็กสาวรีบโทรฯ แจ้งตำรวจทันทีที่รู้ว่าลูกสาวของตนหายตัวไป เด็กหญิงถูกหลอกล่อด้วยอาหาร ซึ่งเธอก็ยังมีท่าทางที่ไม่เต็มใจจะไปกับผู้ต้องสงสัย แต่เขากลับอุ้มเธอขึ้นรถของเขาไปเลย เมื่อ Zhang ได้ตัวเด็กสาวแล้ว เขาไม่รอช้า รีบขี่รถจักรยานยนต์ของเขาออกไป หลังจากตวรจสอบจากภาพในกล้องวงจรปิด ผ่านไป 18 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยตามเขาจนพบตัวเขาที่บ้านในช่วงเช้าของวันที่ 7 กรกฎาคม ส่วนเด็กหญิงถูกช่วยเอาไว้ได้อย่างปลอดภัยและไร้ร่องรอยถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวของ Zhang เอาไว้เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ามนุษย์ แต่เจ้าตัวกลัวปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าแค่ต้องการรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูเป็นลูกสาวก็เท่านั้นเอง ขณะนี้การสอบสวนยังคงดำเนินการต่อไป สำหรับพ่อแม่ เรื่องนี้คงเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรปล่อยลูกหลานที่ยังเด็กให้อยู่ตามลำพังและห่างไกลจากสายตา ที่มา: nextshark, dailymail และ NewsChina
-
โจรปล้นร้านขายของในจีน แต่ถูกแคชเชียร์หญิงใจกล้าขู่ตะเพิด แถมวิ่งไล่จนจับตัวได้!!
ณ ร้านขายของชำแห่งหนึ่งในนครหนานจิง ประเทศจีน ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาทำทีจะซื้อของแต่สุดท้ายกลับกลายเป็น การปล้น แต่หญิงที่เป็นพนักงานในร้านกลับตอบโต้อย่างกล้าหาญจนจับตัวโจรคนนี้ได้สำเร็จ คลิปวิดีโอหนึ่งจากกล้องวงจรปิดได้ถูกแชร์ต่อกันจำนวนมากในโลกออนไลน์ ภายในคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งเข้าปล้นร้านขายของชำด้วยอาวุธมีดในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. แต่กลับทำไม่สำเร็จ โจรปล้นร้านขายของชำในนครหนานจิง ประเทศจีน ที่เห็นภายในคลิปวิดีโอชายหนุ่มวัย 22 ปีนามว่า Liu นั้นเดินเข้ามาหน้าเคาน์เตอร์พร้อมสินค้าจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะคว้ามีดพกออกมาขู่พนักงานคิดเงินหญิงว่า “นี่คือการปล้น” พนักงานหญิงคนดังกล่าวทราบภายหลังว่าชื่อ Wang แทนที่เธอจะหลบและยอมทำตามโจรเพื่อความปลอดภัย เธอกลับยืนและต่อปากต่อคำอย่างหนักแน่น เธอขู่กับชายที่กำลังปล้นว่าจะแจ้งตำรวจ . “แกจะไม่ได้เงินไปสักแดง” เธอตะโกนใส่โจรขณะที่เธอเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งกำลังจะโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ลองปล้นดูสิถ้าแกกล้า” Wang เอ่ยปากท้าทายและข่มขู่โจร คำขู่ของ Wang ทำโจร Liu หยุดการปล้นและรีบคว้าสินค้าต่างๆ หนีออกจากร้านไป รวมๆ แล้วมีมูลค่าราว 50 บาทไทย จากนั้น Wang จึงรีบวิ่งตามออกไป ซึ่งโชคดีที่ผู้คนบริเวณนั้นได้ช่วยจับตัว Liu เอาไว้โดยทั้งคู่ตั้งใจจะจับตัวเขาเอาไว้รอให้ตำรวจมาดำเนินคดีต่อไป…
-
เด็กน้อยกระชากผม “คุณยาย” อย่างแรง อยากซื้อของเล่น จนตำรวจต้องมาจัดการ…
ในประเทศจีน ตำรวจ 4 นายต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์เลยทีเดียว เมื่อเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง ทำร้ายร่างกายคุณยายเพื่อให้ซื้อของเล่นชิ้นใหม่ให้กับตน เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนในเมืองชิงหยวน มณฑลกวางตุ้ง เจ้าหนูเริ่มจับผมของคุณยายจนแน่นแล้วดึงอย่างแรง หลังรู้ว่าคุณยายไม่สามารถซื้อของเล่นให้กับตนได้ ทำให้คุณยายอยู่ในสภาพที่ลุกขึ้นยืนไม่ไหวเลยทีเดียว คลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้ ล่าสุดได้กลายเป็นกระแสบนโลกอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว จากคลิปวิดีโอ จะได้ยินเสียงของผู้ที่เป็นยายตะโกนออกมาว่า “ฉันเป็นยายแกนะ! แกจะมาทำอย่างนี้กับยายได้ยังไง?” “ก็ผมอยากซื้อของเล่นอะ!” เด็กน้อยตะโกนตอบพร้อมดึงผมคุณยาย กระทั่งชายคนหนึ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปถามเด็กชายว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ผู้คนละแวกนั้นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยคุณยาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายมาถึง พวกเขาก็พยายามเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยให้ปล่อยมือออกจากผมคุณยาย โดยตำรวจนายหนึ่งกล่าวว่า “มาเร็ว! ไปซื้อของเล่นกันตอนนี้เลย!” ทันทีที่เด็กน้อยปล่อยมือออกจากคุณยาย ผู้คนที่มุงดูอยู่โดยรอบก็วิจารณ์กันระงมว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอาเสียเลย เด็กๆ ควรได้รับการดูแลสั่งสอนไม่ให้ใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหาเช่นนี้ มิฉะนั้น นิสัยแบบนี้อาจติดตัวไปจนโตและอาจเป็นผลเสียต่อตัวของเขาเอง ที่มา: nextshark และ Netizen Watch
-
เคยเห็นยัง!? คำภีร์ “ร่วมรัก” แห่งราชวงศ์ชาง ที่พาจอมยุทธ์ขึ้นสวรรค์มาแล้วนักต่อนัก!!
(คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) มนุษย์ย่อมมีความรักไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม การร่วมเพศ จึงหาใช่สิ่งแปลกประหลาดในอดีตไม่ สมัยก่อนเองก็คงจะไม่แตกต่างจากยุคปัจจุบันยามที่ชายและหญิงเกิดการประลองยุทธ์กันบนเตียง ในดินแดนจีนสมัยโบราณ ชาวจีนจำนวนไม่น้อยพยายามตามหาคำภีร์วิชาลับเพื่อฝึกวิทยายุทธ์ ให้เป็นยอดฝีมือและเลื่องชื่ออยู่ในยุทธภพ แต่เมื่อมาถึง ยุคสมัยราชวงศ์ชาง กลับมีคำภีร์กระบวนท่าอัศจรรย์ที่จะพาชายทั่วยุทธจักรให้ขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับเหล่าอิสตรี นั่นก็คือ “คำภีร์ร่วมรัก 48 กระบวนท่า” นั่นเอง คำภีร์ร่วมรัก 48 กระบวนท่า เป็นตำราคู่มือสอน “กระบวนท่า” ของการร่วมรัก มีทั้งภาพประกอบคำและคำอธิบายอย่างละเอียด ด้านหนึ่งเป็นส่วนของคำอธิบาย อีกด้านหนึ่งเป็นภาพประกอบ ท่านี้ชื่อว่า “ลิงปีนต้นไม้” (ปล. แปลตามภาษาอังกฤษ ที่แปลจากจีนมาอีกที) “บำเพ็ญเซียนเป่า” “เข็มขัดหยก” “จับเสือมือเปล่า” เขาไม่ได้บอกชื่อท่าแฮะ “จอมยุทธ์แสวงหา” “เกษียรวารี” ไม่ทราบชื่อกระบวนท่า “หักเหลี่ยมนารี” “ถลุงลำคอ” …
-
ศาลจีนใช้แอป Tik Tok จัดทำคลิปประจานลูกหนี้ แถมได้ผลจริง จนมีคนยอมมาจ่าย!?
การติดตามทวงหนี้สินที่ควรชำระนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเล่นด้วยแง่ของข้อกฎหมายแล้วก็ตาม คนที่ไม่ยอมจ่าย ยังไงก็ไม่ยอมจ่ายจริงๆ กรณีตัวอย่างจากประเทศจีนนี้ เมื่อศาลสูงได้จัดทำรายชื่อผู้ค้างชำระหนี้สินในปี 2013 มีจำนวนชื่อมากถึง 7 ล้านชื่อด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโปง (ประจาน) ทั้งบุคคลและบริษัทที่ก่อหนี้จนกลายเป็นหนี้สูญ ไม่ยอมจ่ายเสียที จีนเคยใช้วิธีประจานลูกหนี้ ผ่านสื่อสาธารณะมาแล้ว และด้วยความพยายามของศาลสูง ทางด้านศาลท้องถิ่นเมืองหนานหนิง จึงยกระดับให้สามารถเข้าถึงลูกหนี้และมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยการนำแอปยอดฮิตอย่าง Douyin (นอกจีนมีชื่อว่า Tik Tok) มาทำคลิปสั้นๆ ใส่หน้าลูกหนี้เข้าไป พร้อมกับเพลง และแชร์ลงไปในแอป ผลของการใช้แอปดังกล่าว ส่งผลทำให้ลูกหนี้รายหนึ่งโผล่มาจ่ายหนี้มูลค่า 2,600,000 บาท ต่อศาลในวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้เห็นทั้งชื่อ ภาพถ่ายหน้าตรง และเลขประจำตัวประชาชนโผล่ในคลิป… “ผมรู้สึกอายมากๆ เพราะกลัวเพื่อนของผมอาจจะมาเห็นเข้า” ลูกหนี้กล่าวถึงคลิปที่ถูกประจาน อีกทั้งยังเป็นผู้ใช้แอปนี้ด้วย เนื่องจากแอป Douyin นั้นเป็นแอปที่ได้รับความนิยมสูงในจีน มีผู้ใช้กว่า 300 ล้านคนภายในประเทศ ทางศาลจึงเล็งเห็นช่องทางที่จะเข้าถึงตัวลูกหนี้ได้…
-
จีนผลิตต้นแบบ ‘ปืนเลเซอร์’ ไม่เน้นสังหาร แต่เจ็บเจียนตาย ระยะหวังผลเกือบ 1 กิโลเมตร!!
ประเทศมหาอำนาจในทวีปเอเชียอย่างจีน กำลังซุ่มพัฒนาต้นแบบอาวุธชนิดลำแสงที่มีพลังทำลายล้างในระดับหนึ่ง ที่สามารถยิงลำแสงให้ติดไฟใส่เป้าหมายในระยะไกลถึง 1 กิโลเมตรได้ รายงานดังกล่าวนั้น ถูกเปิดเผยมาจากทีมนักวิจัยอาวุธในโปรเจกต์ ‘ปืนไรเฟิลเลเซอร์’ รุ่น ZKZM-500 ถูกจัดให้เป็นอาวุธที่ไม่ทำอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ไม่ควรมองอนุภาคลำแสงด้วยตาเปล่า สามารถจุดประกายไฟบนเสื้อผ้าได้ภายในเวลาเสี้ยววินาที ภาพต้นแบบของ ZKZM-500 “ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นเกินกว่าจะทนไหว” หนึ่งในนักวิจัยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและทดสอบอาวุธต้นแบบจากสถาบัน Xian Institute of Optics และ Chinese Academy of Sciences กล่าวถึงพลังทำลายล้างของมัน ปืนไรเฟิลเลเซอร์ดังกล่าว มีขนาดลำกล้อง 15 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม (เท่ากับปืนไรเฟิล AK-47) และมีระยะหวังผล 800 เมตร สามารถติดตั้งบนรถยนต์ เรือ และเครื่องบินได้ ทั้งนี้แหล่งข่าวอ้างว่า อาวุธชิ้นนี้พร้อมสำหรับการผลิตเพื่อใช้งานแล้ว และหน่วยแรกที่จะได้รับไปประจำการคือ กองกำลังตำรวจแห่งประชาชนจีน เพื่อใช้งานทางด้านปราบปรามก่อการร้าย โดยยกตัวอย่างจากกรณี สถานการณ์ช่วยตัวประกัน ยิงลำแสงผ่านกระจกโดยที่ผู้ร้ายไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดประกายไฟต่อผู้ร้ายใช้เป็นช่วงจังหวะในการจู่โจม…
-
หนุ่มจีนคิดสั้นโดดตึก จนท. เร่งช่วย แต่ชาวบ้าน “คว้าเก้าอี้” นั่งรอชมกันเฉย!?
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา รายงานจาก Xuehua News ในเขตซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน พบว่ามีชายนิรนามคนหนึ่งอยู่บนดาดฟ้าของตึก 11 ชั้นและทำท่าจะกระโดดลงมา แต่ที่สำคัญคือชาวบ้านชาวเมืองละแวกนั้นที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านล่างกลับรีบจับจองที่นั่ง บ้างก็ยืน บ้างก็คว้าเก้าอี้มานั่งรอชมเหตุการณ์กันเสียอย่างนั้น ในคลิปวิดีโอเหตุการณ์ เผยให้เห็นวินาทีที่ชายนิรนามดังกล่าวเดินอยู่บนดาดฟ้าของตึก เขาเดินมาบริเวณขอบตึก มีท่าทีเหมือนกับว่าจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย จากนั้นชาวบ้านที่มุงดูอยู่ด้านล่างก็เริ่มหยิบเก้าอี้สีเขียวๆ มานั่งรอชมเหตุการณ์กัน โดยนั่งดูกันอยู่ราวๆ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ คนที่รอชมคงยืนรอไม่ไหวจนต้องหาที่นั่ง ตากล้องที่ถ่ายคลิปมาให้ดูเองก็นั่งกับเขาด้วย สุดท้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ช่วยชีวิตชายนิรนามได้สำเร็จ และทราบมาว่าภรรยาของเขาเองที่ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะฆ่าตัวตาย จากเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตที่เข้ามารับฟังข่าวและชมคลิปเหตุการณ์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย เช่น… “คนจีนน่าจะชอบที่อยู่ในที่เกิดเหตุและชอบดูอะไรแบบนี้” “เพื่อนฝูงจากถนนเหรอ หรือว่าเพื่อนในแวดวง หรือเพื่อนบ้านกันแน่?” “ต้องเป็นคนแบบไหนถึงมารอดูอะไรแบบนี้ได้? เลือดเย็นกันเกินไปแล้ว” “โอ้ รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามารอดูหนังกันอย่างนั้นแน่ะ” ไม่ช่วยก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ว่านั่งรอดูคนกระโดดตึกฆ่าตัวตายแบบนั้น มันอำมหิตเกินไปหรือเปล่า? ที่มา: nextshark, xuehua และ weibo
-
การตัดสินโทษประหาร ในวันต่อต้านยาเสพติดจีน มีคนร่วมดู 300 ชีวิต แอมเนสตี้ชี้ ‘ป่าเถื่อน’
การเชือดไก่ให้ลิงดู อาจจะเป็นวิธีที่โหดร้ายและรุนแรงเกินไปสำหรับบางคน และในประเทศจีน เรื่องทำนองนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่เสมอกับการตัดสินโทษขั้นสูงสุดของผู้กระทำผิด คือการ ‘ประหารชีวิต’ ต่อหน้าสามัญชนที่ร่วมเป็นสักขีพยาน การตัดสินโทษประหารครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ตามวันเวลาของประเทศจีน ทางเว็บไซต์ hinews ได้ทำการเผยแพร่ภาพการตัดสินโทษประหารของศาลเฉียงซาน ร่วมกับศาลประชาชนกลางไหโขว่ ท่ามกลางประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 300 ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานเป็นนักเรียนส่วนใหญ่ ถูกบังคับให้เข้าร่วมชมตัดสินโทษประหารกลางพื้นที่สาธารณะในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะมาในชุดนักเรียนจริงๆ พร้อมกับประชาชนบางส่วนที่เป็นคนในพื้นที่มณฑลไหหลำ การตัดสินโทษเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจากรัฐบาล เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกที่ตรงกับทุกๆ วันที่ 26 มิถุนยานทุกปี Cai Liqun โดยนักโทษรายแรกคือนาย Cai Liqun วัย 39 ปี ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบค้ายาบ้าและยาเสพติดชนิดใหม่ Magu (มีส่วนผสมระหว่างยาบ้าและคาเฟอีน) โดยที่นาย Cai ลักลอบขนยาผ่านทางไปรษณีย์ หลายครั้งในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายนในปี 2015 Huang Zhengye …
-
Jesse Eisenberg โพสต์วิดีโอเจอมิ้วถูกทิ้ง 3 ตัว ร้องโซเชียลตามหาบ้านให้ !!
อาจจะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยพลังของคนมีชื่อเสียงระดับฮอลลีวูดก็สามารถช่วยทำให้บรรลุจุดประสงค์ได้เป็นอย่างดี ด้วยความต้องการของ Jesse Eisenberg (Now You See Me, The Social Network) ที่พบลูกแมวน้อย 3 ตัวถูกทิ้งไว้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เขาเข้าร่วมงาน Shanghai International Film Festival ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เขาได้พบกับลูกแมวถูกทิ้งไว้ในกล่องข้างถนนแห่งหนึ่ง และด้วยจิตใจอันดีงามของชายวัย 34 ปีผู้นี้ เขาได้ทำการอัดคลิปวิดีโอเพื่อขอความช่วยเหลือให้ผู้คนรับน้องไปเลี้ยงดู “ผมเจอลูกแมวน่ารักทั้ง 3 ตัวบนถนน ถ้าคุณสนใจที่จะรับน้องไปเลี้ยง น้องๆ น่ารักมากเลยนะ ดูเหมือนเป็นแมวที่ผมเลี้ยงในนิวยอร์กเลย กรุณาติดต่อมาหาเรา ถ้าคุณสนใจจะรับไปเลี้ยงจริงๆ กรุณามารับตัวไปภายใน 8 วันหลังจากนี้ น้องๆ ยังมีสุขภาพที่ดีและพร้อมที่จะไปอยู่บ้านใหม่แล้ว” Jesse กล่าวในวิดีโอคลิป คลิปดังกล่าวถูกนำไปโพสต์บน Weibo โดยแฟนคลับเวลาประมาณ 18.35 น. ในวันเสาร์ที่…
-
สาวจีนพิสูจน์ให้เห็น ว่านี่แหละ “การเสริมสวย” กับผลลัพธ์ที่ต้องขยี้ตา 7,987 รอบ!!!
วันนี้เราจะมาพูดเรื่องความสวยความงามกันอีกสักหน่อย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกมันจะสำคัญสำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ หลายคน แต่ดูเหมือนว่าการแต่งเติมเสริมสวยของบางคนนั้นอาจจะดูเกินเหตุไปสักหน่อย… ทำไมถึงใช้คำว่า “เกินเหตุ” ?? นั่นเป็นเพราะว่าสำหรับบางคนการเสริมสวยนั้น ทำเสียจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย! อย่างเช่นสาวที่เราจะนำมายกตัวอย่างให้ดูกันในวันนี้ สืบเนื่องจาก Challenge ยอดฮิตของชาวจีนที่เล่นต่อกันเป็นจำนวนมาก เพียงพูดว่า “ปิดฟิลเตอร์ ปิดความสวย” แล้วพวกเธอก็ค่อยๆ ลบสิ่งเสริมสวยออกทีละหน่อยจนเหลือแต่หน้าสด… สาวสวยคนหนึ่งจึงออกมาเล่นกับ Challenge นี้บ้าง และผลลัพธ์ของมันก็ทำให้ชาวเน็ตและใครก็ตามที่ผ่านมาเห็นต้องอ้าปากค้างชนิดที่ว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง สวยล่ะซี๊~ ก่อนอื่นเลย เธอดึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “สติกเกอร์ยกกระชับหน้าเรียว” ออกก่อน คือเอาออกแล้วโครงหน้าเปลี่ยนเลยอะ มีของแบบนี้อยู่จริงๆ เหรอเนี่ย!!? ถัดมาก็ถอด “ขนตาปลอม” และลบเครื่องสำอางบนใบหน้าออก เอาล่ะ ขณะที่เธอกำลังทำการเปิดเผยหน้าจริงทีละน้อย ตอนนี้ก็มาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ขอให้ทุกท่านกรุณาจำใบหน้าในภาพแรกของเธอไว้ให้ดี แล้วมาดูภาพ “หน้าจริง” ของเธอกัน! 3… . 2… . 1… …
-
พายุกระหน่ำ! จีนเกิดปรากฏการณ์ “ฝนสัตว์ทะเล” ปลาหมึกปลาดาวตกลงมาราวกับฝน
ณ เมืองชิงเต่า ตอนใต้ของมณฑลซานตง ประเทศจีน ได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุที่โหมกระหน่ำ จนกระทั่งต้นไม้หักโค่น ถนนติดขัด น้ำท่วม และทำให้ สัตว์ทะเล ทั้งหลายตกลงมาราวกับเม็ดฝน เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน ตั้งแต่ที่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คนหนึ่งได้โพสต์ภาพว่ามี “ปลาหมึก” ตัวหนึ่งลอยมาติดบริเวณกระจกกันลมของเขา ปลาหมึกลอยลงจากฟ้าราวกับเป็นฝนสัตว์ทะเล แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ปลาหมึกเท่านั้น สิ่งมีชีวิตในทะเลทั้งหลาย เช่น ปลาดาว และกุ้งก็ลอยลงมาด้วยเช่นกัน กุ้งน้อยใหญ่ก็ลอยลงมาติดบนกระจกรถยนต์ เนื่องจากพายุ นอกจากนี้ พายุที่ซัดเข้ามายังเมืองชิงเต่าก็ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเมืองและเส้นทางการเดินรถ จนทำให้การจราจรนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนบางเส้นไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว มีน้ำท่วมขังไปทั่วเมือง เนื่องด้วยพายุลูกนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนนั้นยากลำบากยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบไปทั่วพื้นที่ จากรายงานพายุลูกนี้มีความเร็วที่ 56 กิโลเมตรต่อวินาที และมีระดับความรุนแรงอยู่ที่ ระดับ 12 ตามการวัดของ Beaufort ถือว่าเป็นปรากฏการณ์และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทั้งน่ากลัวและน่าประหลาดใจอย่างมาก ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นสัตว์ทะเลตกลงมาเป็นฝนแบบนี้ ที่มา: thesun, shanghaiist และ nextshark
-
หนุ่มจีนพยายามบังกล้องวงจรปิด ‘เพื่อทำผิดกฎจราจร’ แต่โดนกล้องอีกตัวจับไว้ได้!!
บางครั้งเรื่องที่เราเคยคาดหวังเอาไว้ มันก็ไม่มีทางเป็นจริงได้เสมอไป… เพราะบนโลกใบนี้ยังมีอะไรเกิดขึ้นตั้งมากมายอย่างที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มชาวจีนรายนี้ที่หวังจะทำผิดกฎจราจรด้วยการเอากระเป๋าปิดกล้องวงจรปิด แต่หารู้ไม่ว่ามีกล้องวงจรปิดตัวอื่นอีก งานนี้ขอบอกเลยว่าไม่รอด!! เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ China Xinhua News ได้รายงานว่ามีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้าผิดช่องทาง ตรงทางแยกบนทางหลวงสายหนึ่งในอำเภอเชียงถาน มณฑลหูหนาน ประเทศจีน แต่ทว่าบนทางหลวงนั้นไม่มีที่กลับรถให้ ประจวบกับขับเลยทางแยกมาแค่นิดเดียว เจ้าของรถจึงตัดสินใจที่จะถอยรถกลับไปที่แยกและเปลี่ยนเส้นทาง ดูจากทรงแล้วด้วยความที่พี่แกกลัวว่าจะโดนกล้องวงจรปิดถ่ายเอาไว้ได้ เพราะทำผิดกฎจราจร จึงให้เพื่อนลงจากรถมาเอากระเป๋าบังกล้องวงจรปิดตรงแยกดังกล่าวเอาไว้ แต่ใสเจียเสียใจนะจ๊ะ เพราะว่ากล้องตัวนั้นไม่ใช่กล้องวงจรปิดสำหรับตรวจจับการทำผิดกฎจราจร แต่เป็นกล้องตรวจสอบสภาพอากาศต่างหาก ส่วนกล้องวงจรปิดที่เอาไว้ตรวจจับคนทำผิดกฎจราจรตัวจริง อยู่ห่างออกมาต่างหากล่ะ แถมยังจับภาพการกระทำของพวกเขาได้ทั้งหมด!! สรุปแล้วทั้งคนขับรถและผู้ร่วมกระทำความผิดได้รับการลงโทษโดยการตัดคะแนนใบขับขี่กันไปคนละ 18 คะแนน ลองไปชมคลิปจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ อุตส่าห์พยายามเอากระเป๋าปิดกล้องเอาไว้ ยื่นไม้ยื่นมือซะตะคริวแทบจับ สุดท้ายดันบังกล้องผิดตัวซะได้ ไม่รู้จะสงสารรึฮาดี ฮร่าๆ ที่มา : China Xinhua News
-
เน็ตไอดอลสาวพักไลฟ์สด แต่ “ลืมปิดกล้อง” ทำให้ผู้ชมพบคนน่าสงสัย บุกเข้าห้องของเธอ!!
การไลฟ์สด นับวันยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเน็ตไอดอลหรือคนดังทั้งหลายที่มีผู้รอติดตามจำนวนมาก แค่ออกมาปรากฏกายทำอะไรก็ได้ พูดคุยนิดหน่อย แฟนๆ ก็มีความสุขกันน่าดูชมแล้ว แต่การไลฟ์สดมันก็มีข้อดีของมันเหมือนกันอย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่เน็ตไอดอลสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง ได้ออกมาไลฟ์สดพบปะแฟนๆ ที่รอคอยกันอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต เริ่มการไลฟ์ได้ไม่นาน เธอก็ต้องขอตัวไปรับโทรศัพท์ แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่แน่ใจว่าลืมปิดกล้องหรือว่าตั้งใจเปิดไว้กันแน่ การไลฟ์สดของเธอยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้อยู่หน้ากล้องก็ตาม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ เลิกดูไลฟ์ของเธอเลย กลับกัน ด้วยความที่เธอเปิดกล้องไลฟ์สดทิ้งไว้ ทำให้แฟนๆ ที่จ้องหน้าจออยู่พบว่า หญิงผิวสีคนหนึ่งแอบย่องเข้ามาให้ห้อง ของเน็ตไอดอลคนนี้ หญิงปริศนาแอบเข้ามาพร้อมท่าทางเร่งค้นหาอะไรบางอย่าง ชาวเน็ตเห็นก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ ท่ามกลางความงุนงงของเหล่าแฟนๆ ที่รอดูการไลฟ์สด ชาวเน็คคนหนึ่งก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือเน็ตไอดอลสาว และจับกุมตัวหญิงปริศนาเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นความโชคดีที่เปิดกล้องทิ้งไว้ให้ชาวเน็ตคอยเป็นหูเป็นตา แต่ว่าอย่าเปิดทิ้งไว้จนลืมล่ะ เดี๋ยวจะมีภาพฉาวข่าวหลุดเอาได้นะ… ที่มา: ck101
-
มนุษย์ป้าหัวร้อนอาหารไม่สุก เททิ้ง+ขว้างใส่ พนง. ชาวจีน แถมพูดจาเหยียดต่อไปอีก!!
ถึงจะโมโหหรือโกรธเกรี้ยว การพูดเหยียดคนอื่นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำอยู่ดี เพราะในฐานะของมนุษย์แล้วทุกคนควรจะมีความเท่าเทียมกัน แต่หญิงรุ่นราวคราวป้าคนหนึ่งเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว ณ ร้านอาหารจีนในประเทศอังกฤษ เมื่ออาหารที่ตนสั่งมัน “ไม่สุก” จนกระทั่งต้องเปล่งวาจาเหยียดเชื้อสายออกมาเสียอย่างนั้น เรื่องราวนี้จึงกลายเป็นดราม่าในอินเทอร์เน็ตไปในทันที เหตุการณ์เกิดขึ้น ณ ร้านอาหารจีน Wonderful Chinese ในเมืองเวสต์ยอร์กไชร์ ประเทศอังกฤษ ราวๆ 1 สัปดาห์เห็นจะได้ หญิงไม่ระบุตัวตนได้เกิดโวยวายที่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงินก่อนจะเทอาหารทิ้งและตามด้วยวาจาเหยียด หญิงคนดังกล่าวเทอาหารทิ้งบนเคาน์เตอร์เพราะไม่พอใจที่มันไม่สุก แถมตามด้วยการขว้างปาอาหารใส่พนักงานอีกด้วย พนักงานหญิงเชื้อสายจีนตอบโต้ด้วยการห้ามไม่ให้มาที่นี่อีก พร้อมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และนั่นทำให้หญิงผู้ฉุนเฉียวเกิดหัวร้อนยิ่งกว่าเก่าจนต้องเหยียดออกมาว่า “ฉันน่ะคนเมลแธม ฉันเกิดที่นี่เลย แต่แกน่ะแค่นั่งเรือข้ามมา” แล้วเธอก็ออกจากร้านไป มาดูคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า https://twitter.com/dylanletremy/status/1005149571654340609 อย่างไรก็ตาม ความโมโหและความไม่ระมัดระวังในการใช้วาจา มันอาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ แค่อาหารไม่สุก กลายเป็นเหยียดกันเฉยเลย ที่มา: Dylaaaaan, metro และ nextshark
-
เศรษฐีจีนทุ่มเงิน 1,000 ล้าน สร้างหมู่บ้านให้คนชนบทอยู่ฟรี เพราะ “อยากตอบแทนบ้านเกิด”
ความกตัญญูถือเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมบ้านเรามาอย่างช้านาน ในประประเทศจีนเองค่านิยมในเรื่องของความกตัญญูก็เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนจีนมาตั้งแต่อดีตเช่นเดียวกัน ดังเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ ที่เศรษฐีชาวจีนรายหนึ่งทุ่มเงินมากกว่า 200 ล้านหยวน หรือราวๆ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านแจกให้กับผู้คนในหมู่บ้านชนบท อันเป็นบ้านเกิดของเขา Chen Sheng วัย 54 ปี ตัดสินใจใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างบ้านให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกวนหู มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพราะที่หมู่บ้านแห่งนั้นเป็นหมู่บ้านเกิดของเขา เขาจึงตัดสินใจมอบบ้านสุดหรูให้กับทุกคนในหมู่บ้านแบบฟรีๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณ ภาพโดยรวมของหมู่บ้าน แม้ว่าในช่วงแรกจะมีปัญหาในเรื่องของการโต้แย้งกันว่าใครจะเป็นผู้รับบ้านใหม่ กับการจัดการกับบ้านเก่าอย่างไร รวมถึงชาวบ้านอีกหลายคนก็บอกว่าลูกหลานแต่งงานกันไป ครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ไม่มีพื้นที่พอในการอยู่อาศัย จนทำให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราว แต่สุดท้าย Chen ก็ตัดสินใจสร้างต่อไป และใช้วิธีในการ ‘จับสลาก’ มาเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้บ้านหรือไม่ได้บ้านไป ภาพภายในบ้าน ที่มา : xinhanews, chinaplus
-
ฟาวล์กี่ครั้งก็ยอม~ ชาวเน็ตใจละลาย เมื่อสาวน้อยคนนี้คือ “กรรมการ” งานแข่งบาสในจีน
นอกจากการพักผ่อนที่เพียงพอและเครื่องดื่มชูกำลังแล้ว ก็มี “นวลนางข้างสนาม” เนี่ยแหละ ที่ทำให้เหล่านักกีฬากลับมามีแรงแข่งขันได้อย่างเต็มเหนี่ยว สำหรับหนุ่มๆ แล้วกำลังใจที่ดีคงหนีไม่พ้นสาวๆ น่ารักๆ ที่มานั่งเชียร์กีฬาในละแวกนั้นแน่ๆ แต่กลับกัน ถ้าสาวงามหน้าตาน่ารักกลับมาเป็น กรรมการ ล่ะ จะกลายเป็นว่าตั้งใจเล่นหรือว่าตั้งใจฟาวล์มากขึ้นกันล่ะทีนี้!? ล่าสุดในงานแข่งขันบาสเกตบอล Golden League ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สิ่งที่ทำดึงดูดสายตาคนทั้งสนามและทั้งสเตเดียมหาใช่นักกีฬาฝีมือดีไม่ แต่กลับเป็น กรรมการสาวน้อยน่ารัก นั่นเอง อร๊างง!!~ กรรมการสาวสวยคนนี้ ชื่อว่า Hao Hao เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย Hunan Normal University หลังจากมีคนถ่ายภาพเธอมาเผยแพร่ เธอได้คว้าหัวใจชาวเน็ตกันไปอย่างล้นหลาม นอกจากความสวยกับความน่ารักที่เป็นธรรมชาติของเธอแล้ว เธอยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงในทีม CUBA ในตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ดอีกด้วย!! เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งเก่งเลยนะเนี่ย . เธอเป็นที่เอ็นดูของเหล่าโค้ชบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยละอ่อน จนได้รับการฝึกฝนเพื่อเป็นนักกีฬานับแต่นั้นมา แต่น่าเสียดายที่ส่วนสูงของเธอยังไม่ถึง 168 ซม. ซึ่งโค้ชมองว่าไม่เหมาะกับการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล สมัยเด็ก เธอเป็นเด็กที่เชื่อฟังพ่อแม่อย่างมาก เธอไม่ได้เรียนศิลปะและวรรณกรรมอย่างที่ใจต้องการ แต่เมื่อเธอเริ่มโตเป็นสาวเธอก็สมัครเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลหญิงของโรงเรียน แต่โค้ชกลับปฏิเสธ ถึงกระนั้น Hao…
-
หาาาา!! สาวน้อยบ้องแบ๊วคนนี้เป็น “ประธาน” บริษัทพัฒนาเกมมือถือที่ฮิตสุดๆ ในญี่ปุ่น~
เวลาเซ็งๆ เครียดๆ ไม่รู้จะทำอะไรพวกเราและใครๆ อีกหลายคนก็มักจะต้องหันไปหา เกมโทรศัพท์มือถือ อย่างแน่นอนเลยล่ะ ชาวญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน พวกเขาน่ะชื่นชอบการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกม Azur Lane ที่มีตัวละครเป็นสาวอนิเมะสุดเอ็กซ์ที่ทำหน้าที่เป็น “เรือรบ” ออกมาต่อสู้กันกลางทะเล เกม Azur Lane ดูทรงตัวละครแล้วไม่แปลกใจทำเกมถึงฮิต! ลองมาดู Trailer และ Game play ของเกม Azur Lane กันดีกว่า ไม่ว่าท่านผู้ชมจะชอบหรือไม่ชอบ เปิดตัวมาได้เพียงแค่ 8 เดือน เกมนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ฮิตที่สุดในญี่ปุ่นไปเสียแล้ว แต่ที่ทำให้เกมนี้กลับมีชื่อเสียงขึ้นอีกเป็นสองเท่าก็คือ… ก็คือ!!! “ประธาน“ บริษัทพัฒนาเกมนี้นั่นเอง บริษัท Manjuu ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่รับผิดชอบการพัฒนาเกม Azur Lane และล่าสุดรายการหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นก็ได้เผยให้ชาวโลกได้เห็นโฉมหน้าของประธานบริษัทแห่งนี้… Choyan Lin สาวน้อยชาวจีน ประธานบริษัทพัฒนาเกม Azur Lane คิดไม่ถึงเลยว่าประธานฝ่ายพัฒนาเกม Azur Lane นั้นจะเป็น สาวน้อยหน้าใสสุดบ้องแบ๊ว…
-
นึกว่าโงกุน… ชาวจีนนำ “สับปะรด” ถวายวัด ผ่านไป 3 วันแปลงร่างเป็น “ซูเปอร์ไซย่า” เฉย!?
ตอนเด็กๆ คุณเคยสงสัยไหมว่า น้ำแดงที่พ่อแม่เราใช้บูชาพระหรือศาลพระภูมินั้น เมื่อเวลาผ่านไป ทำไมปริมาณน้ำมันถึงได้ลดลง หรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออกมาดื่มจริงๆ กันนะ!? เหตุการณ์นี้ก็ละม้ายคล้ายคลึงกับความสงสัยในวัยเด็กเหล่านั้นเลยทีเดียว แต่ว่าครั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศจีน และไม่ใช่ถวายบูชาด้วยน้ำแดง แต่กลับเป็น “สับปะรด” ชาวเน็ตสาวจากเมืองจีนที่ใช้ชื่อว่า @爆廢公社 ได้ออกมาโพสต์ภาพ “สับปะรด” ที่เธอและครอบครัวนำไปตั้งเพื่อไหว้บูชาที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากบูชาเรียบร้อยทุกอย่างก็ดูปกติดี จนกระทั่ง เวลาผ่านไปได้ เพียง 3 วัน สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตื่นตระหนกตกใจก็เกิดขึ้น!! เมื่อเธอและครอบครัวกลับไปดูสับปะรดของพวกเขาที่วัดแห่งเดิม พวกเขาก็พบว่า สับปะรดของพวกเขากลายเป็น “ซูเปอร์ไซย่า” ไปเสียแล้ว!!! ผ่ามมม… นึกว่าโงกุนร่างสอง!! ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตผู้มีความรู้เกี่ยวกับพืชออกมาอธิบายเหตุการณ์นี้ว่ามันไม่ได้เป็นซูเปอร์ไซย่าแต่อย่างใด แต่มันเป็นอย่างนี้ต่างหาก… “มันเป็นพืชที่มาจากไร่ บางทีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสับปะรดไม่หมด เขาก็เอามาวางขายให้ผู้คนนำไปบูชา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ มันก็จะมีใบงอกขึ้นมามากขึ้นแบบนี้นั่นแหละ” โถ่ สรุปไม่ได้เป็นซูเปอร์ไซย่าหรอกเหรอ นึกว่าจะได้กินสับปะรดร่างสองซะแล้ว… ก็ถือว่าเป็นสีสันเหมือนกันนะ ที่ได้เจอเรื่องราวที่ทำให้ตื่นเต้นได้แบบนี้ ถึงสับปะรดมันจะแปลงร่างไม่ได้จริงๆ ก็เถอะ… ที่มา: ck101
-
ดังไปทั่วโลก ข่าว ตม.ไทย เปิดทางแก๊งลักพาตัวหญิงสาวกลางสนามบิน เรียกค่าไถ่ 10 ล้าน!!
หนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก กลับกลายมาเป็นสถานที่ก่อเหตุอาชญากรรมได้อย่างไม่น่าเชื่อ สื่อนอกอย่าง Dailymail, The Sun ถึงกับต้องตีข่าวกันเลยล่ะ จากกรณีของข่าวการลักพาตัวหญิงสาวนักธุรกิจชาวจีน ที่ถูกตามประกบรวบตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ และเจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับ นาง จิน ไซ่ เชน วัย 39 ปี ที่เพิ่งเดินทางมาจากฮ่องกงได้ไม่นานนัก เธอถูกตามประกบโดยกลุ่มชาย 4 คน และหญิงอีก 1 คน โดยที่ไม่มีใครสังเกตเลยว่าเธอถูกลากตัวไป… . เพียงไม่นานนักหลังจากกลุ่มลักพาตัวตามประกบ เธอก็ถูกพาเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยมีอีกชายอีก 2 รายกำลังรออยู่ในบริเวณรับกระเป๋าจากสายพาน เมื่อออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิมาได้ แก๊งดังกล่าวได้พาตัวเธอไปกักขังในบ้านพักหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา และเกาะเสม็ด เป็นเวลารวมกว่า 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ในระหว่างที่ถูกกักขัง แก๊งลักพาตัวได้ข่มขู่เรียกค่าไถ่จากนายฮาน…
-
อยากปังต้องใจถึง!! คู่รักยอมจ่ายเงินเป็นล้าน เพื่อจ้างช่างถ่ายพรีฯ ให้ได้ระดับฮอลลีวูด
ในยุคสมัยที่การ ‘อวด’ เป็นสิ่งที่ใครๆ เค้าก็ทำกัน เพื่อให้ชาวบ้านชาวเมืองได้รับรู้วิถีชีวิต ไลฟ์สไตล์ รสนิยม ผ่านรูปถ่ายที่ดูดี มีความแกรนด์ ไม่เป็นแกนแถวบ้าน นั่นจึงทำให้หลายคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ ‘ความสมบูรณ์แบบ’ ความเวอร์วังอลังการนี้มีอยู่จริง และมันก็เกิดขึ้นในวงการรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคู่รักชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโลเคชั่น เสื้อผ้าหน้าผม อุปกรณ์ประกอบฉาก การจัดท่าทางต่างๆ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 12,700 บาท ยันไปถึง 31 ล้านบาท!! Olivia Martin-McGuire หนึ่งในช่างภาพที่อยู่ในแวดวงถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่าธรุกิจการถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ กำลังเติบโตและมาแรงมากๆ และเป็นธุรกิจที่มีความจริงจังสูง ถ้าให้เปรียบเทียบเนื้องานก็อาจจะเป็นงานถ่ายภาพระดับฮอลลีวูดกันเลยทีเดียว “เจ้าสาวจะใส่เดรสที่ดูฟุ่มเฟือยเอามากๆ เพราะจะต้องมีหลากเฉดสี ไม่ใส่ส้นสูงก็รองเท้าผ้าใบหลายต่อหลายคู่ เพื่อวิ่งและเดินไปถ่ายในโลเคชั่นใหม่ๆ หาฉากใหม่ๆ… ในส่วนของเจ้าบ่าวก็จะมาในชุดสูทสุดสง่าเช่นกัน จะมีทีมงาน ช่างภาพ และสไตล์ลิสเดินตามต้อยๆ อย่างไม่ขาดสาย” เธอให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail โลเคชั่นยอดนิยม ก็มักจะเห็นหลายคู่จ้างช่างภาพมาถ่ายเหมือนกัน เธอเผยว่าช่วงที่เคยรับงานนั้นก็มีหลากหลายรสชาติ โดยหนึ่งในโลเคชั่นยอดนิยมสำหรับบ่าวสาวก็คือ…
-
จักรยานที่ถูกทิ้งร้างในประเทศจีน กลับกลายเป็นภาพถ่ายที่ ‘งดงาม’ อย่างไม่คาดคิด
เป็นเวลากว่า 18 เดือนที่ประเทศจีนต้องประสบกับปัญหารถจักรยานสาธารณะเกลื่อนเมือง ในเมื่อที่จอดจักรยานมีไม่เพียงพอ มันก็ต้องถูกนำมาวางขวางทางเดินหรือทางเข้าอาคารต่างๆ ไว้เกลื่อนกลาด ฉะนั้น จึงมีการเก็บกวาดบ้านเมือง โดยการนำจักรยานที่เป็นส่วนเกินเหล่านั้น ไปทิ้งร้างไว้ยังพื้นที่โล่งกว้างสำหรับเก็บจักรยานเหล่านี้ เมื่อมีจักรยานที่ไม่ใช้ถูกนำมาวางรวมกันเป็นจำนวนมาก มันกลับทำให้เกิดภาพที่สวยงามจากระยะไกลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย ภาพจักรยานสาธารณะที่ถูกทิ้งในมณฑลเหอเฝย์ สวยงามในลวดลายคล้ายกระแสน้ำ ส่วนในเมืองหนานหนิง จักรยานเหล่านี้ถูกจอดไว้ในที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย สีน้ำเงินกับลายที่คล้ายระลอกคลื่น ในนครหนานจิง จักรยานสาธารณะนับหมื่นถูกนำมากองรวมกันไว้ที่พื้นที่จอดรถ สีที่ผสมผสานในความยุ่งเหยิงกลับคุมโทนเหลืองแดง Bluegogo จักรยานสาธารณะในกรุงปักกิ่ง ถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จึงถูกนำมารวมกันไว้ที่นี่ จักรยานถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ในสีน้ำเงินสไตล์ Bluegogo ส่วนภาพนี้คือจักรยานที่ถูกทิ้งไว้ในเมือง อู่ฮั่น จักรยานจำนวนมหาศาลทำให้เหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งจักรยาน เซี่ยงไฮ้ เช่นเดียวกับภาพนี้ที่มีจักรยานรายล้อมอยู่ทั่วพื้นดิน เขตทงโจว ในปักกิ่ง จักรยานถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบตามแนวขอบถนน สุดท้าย จักรยานสาธารณะจากหลากหลายบริษัทผู้ให้บริการ ในเซี่ยงไฮ้ สุสานแห่งจักรยานดูเหงา วังเวง และน่ากลัว จักรยานที่ถูกทิ้งร้างอย่างไรค่า กลับมีคุณค่าในเชิงความงามจากภาพถ่าย อย่างไรก็ตาม…
-
สาวจีนแปลงกายตัวเองเป็น ‘โมนาลิซา’ ด้วยการแต่งหน้า เนียนราวออกมาจากภาพวาด!!
การเป็น Makeup Artist นี่มันก็น่าสนุกเหมือนกันเนาะ แทนที่จะเป็นการวาดภาพในกระดาษก็เป็นการสร้างสรรค์มันขึ้นบนใบหน้าของคนแทน Makeup Artist สาวชาวจีนนามว่า เหอ วัย 26 ปีได้โพสต์ผลงานของเธอลงบนเว็บไซต์ Miaopai ที่เธอได้แต่งหน้าของตัวออกมาเป็นผลงานชิ้นเอกของ ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี ที่เรารู้จักกันดี “โมนาลิซา” นั่นเอง เธอโพสต์ออกมาเป็นคลิปวิดีโอวิธีการแต่งหน้าตั้งแต่เริ่มต้นจนจบออกมาเป็นใบหน้าของโมนาลิซา และคลิปวิดีโอดังกล่าวก็กลายเป็นไวรัลด้วยยอดจำนวนผู้ชมกว่า 20 ล้านครั้ง!! โดยความสามารถของเธอไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เธอยังแต่งหน้าของตัวเองเป็นคนดังๆ อีกหลายคน เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ เคท แบลนเชตต์ และ ทิลดา สวินตัน อีกด้วย คลิปวิดีโอการแต่งของศิลปินชาวจีนผู้นี้ นี่คือ “เหอ” Makeup Artist ที่กำลังมีชื่อเสียงกระฉ่อนในโลกอินเทอร์เน็ต เธอมาจากมณฑลฉงชิ่ง และกำลังเป็นบล็อกเกอร์ความงาม ปัจจุบันมีอายุ 26 ปี เธอบอกว่าเธอชื่นชอบการทำศิลปะบนใบหน้ามากที่สุดเลยล่ะ “เมื่อใดที่คุณเห็นว่าใบหน้าคือกระดาษวาดภาพ จินตนาการของคุณก็จะไม่สิ้นสุด” . เริ่มมาแล้ว …
-
หญิงสาวซื้อลูกหมาจากข้างทาง พอมันโตขึ้นมากลายเป็นหมีซะงั้น แต่ก็ยังรักอยู่ดี
สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเตือนคนที่อยากเริ่มเลี้ยงสัตว์ไว้ก็คือ นอกจากต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงดูมันให้ละเอียดแล้ว ตอนซื้อสัตว์เลี้ยงมาก็ควรจะซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ และดูให้มั่นใจด้วยว่ามันเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่ต้องการหรือเปล่า มีคนจำนวนมากที่เอาลูกสัตว์มาเลี้ยงโดยที่คิดว่ามันเป็นหมาหรือแมว แต่เมื่อเลี้ยงมันจนโตแล้วเพิ่งรู้ทีหลังว่ามันเป็นสัตว์อย่างอื่นต่างหาก ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อ 2 ปีก่อนสาวคนหนึ่งชื่อ Su ได้ซื้อลูกหมามาจากข้างทาง ตอนนั้นเธอคิดว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ แล้วเธอก็เอามันมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน โดยตั้งชื่อมันว่า Little Black ลูกหมีดูแล้วลักษณะคล้ายลูกหมาจนหลายคนแยกไม่ออก เมื่อเธอเลี้ยงมันจนตัวโตแล้ว เธอก็เลยเพิ่งรู้ว่ามันไม่ใช่หมาพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์แล้วล่ะ มันเป็นหมีดำชัดๆ เลย แต่เธอยังรักมันเหมือนเดิม เธอก็เลยเลี้ยงมันต่อไป โดยเปลี่ยนอาหารที่ให้มันเป็นผลไม้วันละ 1 ลังแทน จะได้พอต่อความต้องการของเจ้าหมี จนเมื่อเจ้าหมีมีอายุได้ 2 ปี เธอก็บังเอิญได้ไปอ่านใบปลิวแผ่นหนึ่งเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า เธอถึงได้รู้ว่าการเลี้ยงหมีดำนั้นผิดกฎหมาย แล้วมันก็เป็นสัตว์คุ้มครองด้วย เธอก็จะย้ายมันไปอยู่ในที่ที่สมควร เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา Su ก็ติดต่อไปหาตำรวจป่าไม้แห่งเมืองคูณหมิง เพื่อแจ้งให้พวกเขารู้ว่าเธอมีหมีดำอยู่ในครอบครองและอยากส่งตัวมันให้กับพวกเขา ตอนนี้เจ้าหมีดำ Little Black ที่ตัวใหญ่โต น้ำหนักกว่า 200…
-
จีนเปิดใช้ระบบขนส่ง ART ลูกผสมรถไฟและรถเมล์ สร้างง่าย ราคาถูก และใช้พลังงานไฟฟ้า!!
โลกที่พัฒนาก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น การพัฒนาด้านอื่นๆ ตามมาด้วยเช่นกัน อย่างในเรื่องของระบบคมนาคมของประเทศจีนนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อรองรับอนาคตกันแล้ว ระบบขนส่งอัจฉริยะ ART – Autonomous Rail Rapid Transit ลูกผสมระหว่างรถเมล์และรถไฟ ได้เปิดทดลองใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยจะประเมินในรอบแรกเป็นช่วงเวลา 3 เดือนในเมืองจูโจว มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ก่อนหน้านี้ทางบริษัท China Railway Rolling Stock Corp ได้ทำการโปรโมทระบบขนส่งอัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2017 และเปิดตัวไปในช่วงเดือนตุลาคม สำหรับรถโดยสารอัจฉริยะนี้พัฒนาโดยทีมวิจัยของบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive Co Ltd นำจุดเด่นของรถโดยสารและรถไฟมาผสมผสานกัน ให้กลายมาเป็นระบบขนส่งยุคใหม่ สามารถควบคุมการวิ่งตามเส้นปะสีขาวบนท้องถนน ไม่จำเป็นต้องสร้างรางเหล็กแบบเดิม มาพร้อมกับอุปกรณ์การควบคุมทันสมัย ระบบไร้คนขับ ระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถอ่านค่าและวิเคราะห์เส้นทางได้อัตโนมัติ และจะจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง .…
-
อดีตเศรษฐีนีใจบุญ รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต ถูกจับกุมในข้อหาแบล็คเมล์และต่อต้านรัฐ
เรื่องราวของหญิงอดีตเศรษฐีนีใจบุญ ผู้รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต แต่โชคชะตากลับตอบแทนด้วยมะเร็งร้ายกลับมาให้เธอ (ข่าวเก่า) มิหนำซ้ำยังถูกจับกุมและคุมขัง เนื่องจากพฤติกรรมการแบล็คเมล์และขัดขืนต่อคำสั่งราชการ!! ปัจจุบัน Li Lijuan ในวัย 48 ปี อดีตเจ้าของเหมืองแร่เหล็กจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ถูกจับกุมเมื่อช่วงวันเสาร์ในกรุงปักกิ่ง ช่วงระหว่างที่เธอเข้ารับการรักษามะเร็ง โดยได้รับการยืนยันจากนาย Han Wen ผู้เป็นลูกชายแล้ว นาง Li ถูกจับกุมในข้อหาละเมิดคำสั่งจัดการสังคม การบีบบังคับ และข้อหาทางอาชญากรรมอื่นๆ โดยทางเว็บไซต์ The Paper ได้ทำการรายงานเอาไว้พร้อมกับรายละเอียด ที่ทางการทำการอายัดบัญชีธนาคารของเธอ มีเงินอยู่ภายในนั้นมากถึง 20,000,000 หยวน (100,000,000 บาท) และสกุลเงินสหรัฐฯ อีก 20,000 ดอลลาร์ เงินจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากการเปิดรับบริจาคที่ผ่านมาตลอด 21 ปี เพื่อนำมาใช้เป็นทุนในการบริหารจัดการสถานสงเคราะห์ของเธอ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านาง Li เคยทำการแบล็คเมลเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 70,000 หยวน…
-
สองวัยรุ่นสุดจะซน สัปดนปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์หน้าตาเฉย เพื่อนสาวก็ดี๊ดีปิดกล้องให้อีกแหนะ…
พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นในสังคม คือสิ่งที่ควรประพฤติและปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องมาใช้อุปกรณ์อื่นๆ ร่วมกับเรา ทั้งนี้อย่างเช่นในเรื่องง่ายๆ อย่างการทิ้งขยะ เราก็ควรจะทิ้งในที่ที่จัดเอาไว้แล้ว หรือการขึ้นลิฟต์สาธารณะก็ไม่ควรจะทิ้งอะไรเอาไว้เป็นเบื้องหลัง ถ้าคนอื่นมาใช้ต่อก็อาจจะรู้สึกแย่ไปได้ทั้งวัน ล่าสุดนี้ ลิฟต์ในประเทศจีนกลายมาเป็นสถานที่ปิดตายสุดอันตรายไปเสียแล้ว เนื่องจากมีบุคคลนิยมปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์กันบ่อยเสียเหลือเกิน ไม่ทราบว่าอาจจะทนไม่ไหว รีบเข้าลิฟต์ก่อนแทนที่จะรีบเข้าห้องน้ำแทนไม่อาจทราบได้ ภาพที่เห็นดังต่อไปนี้ จะเห็นได้ว่ามีชายสองคนพร้อมกับหญิงอีกหนึ่งราย เดินเข้ามาในลิฟต์ ทันใดนั้นไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลง ก็ถกกางเกงลงและออกอาวุธที่พัฒนามาเป็นชุดตามมุมของตัวเอง… ฝ่ายผู้หญิงเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว เธอก็พยายามปกปิดความสัปดนของทั้งสอง ด้วยการเอามือมาปิดกล้องในลิฟต์ แต่อนิจจาไม่ทันที่จะปิดก็เห็นพฤติกรรมชวนอาเจียนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณจินตนาการไม่ออกว่าการปัสสาวะนั้นส่งผลร้ายแรงแค่ไหน นอกจากจะส่งกลิ่นหอมเหมือนยากันคนแล้ว อาจจะรุนแรงไปถึงขั้นทำให้ลิฟต์เสียกันเลยทีเดียว เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องใช้งานอีกต่างหาก และกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เด็กซนคนหนึ่งปัสสาวะใส่แผงควบคุมลิฟต์แบบไม่ยั้ง ส่งผลทำให้ลิฟต์เสีย ควบคุมไม่ได้ และขังเขาเอาไว้ในนั้นแทน… ที่มา : miaopai, youku, shanghaiist
-
เดี๋ยวพี่เดี๋ยว!? หนุ่มแบกปลาโลมาจากชายหาด เดินกลับบ้านชิลๆ ตำรวจออกตามจับให้วุ่น
ในเวลานี้ที่ประเทศจีนมีคลิปเหตุการณ์อันหนึ่งกำลังกลายเป็นกระแสไปทั่วอินเตอร์เน็ตจีนอยู่ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการโพสต์ลงบน Miaopai เว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอของจีน และได้รับยอดชมกว่าหกล้านครั้ง ในวิดีโอนั้น มีภาพของชายคนหนึ่งกำลังอุ้มปลาโลมาพาดไหล่ที่ชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน และทำให้เจ้าหน้าตำรวจของจีนในต้องออกตามหาชายคนที่ว่าเป็นการเร่งด่วน พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าปลาโลมาที่ว่าได้ถูกพบเกยตื้นอยู่บนชายหาดที่เกาะ Hailing และดูเหมือนจะกำลังจะตาย ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาแบกมันขึ้นหลัง และเอามันขึ้นรถของเขาก่อนจะขับออกไป วิดีโอเหตุการณ์ในครั้งนี้จาก Shanghaiist ชาวเน็ตของประเทศจีนได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ทำแบบนี้ ควรจะโดนลงโทษแบบไหน” หรือ “ถ้าคุณจะสามารถขนาดนั้น ก็ไปขโมยฉลามจากทะเลดีกว่าไหม? ดูซิจะเป็นยังไง? ไม่ต้องมายุ่งกับโลมาก็ได้” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายว่าปลาโลมาจัดเป็นสัตว์คุ้มครองของจีน ไม่ว่ามันจะยังมีชีวิต หรือตายไปแล้ว การกระทำที่ถูกต้องก็น่าจะเป็นการแจ้งเรื่องต่อตำรวจ ไม่ใช่การแบกมันกลับไปเช่นนี้ ทางตำรวจยังกล่าวอีกว่าชายคนนี้จะต้องรับโทษความผิดทางอาญาหากหาตัวพบ และในตอนนี้ได้มีการแถลงการณ์จากฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของจีนว่าจะมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนแล้ว ส่วนจะหาตัวชายคนดังกล่าวพบไหม และโลมาจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด ที่มา bbc, medium
-
ตัวอย่างอันเลวร้าย.. เมื่อคุณแม่ประเคนบาทา เพราะเด็กสาวไม่ยอมให้ลูกของเธอแซงคิว
พ่อแม่และผู้ปกครองคือบุคคลสำคัญในการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ แต่ในบางครั้งมันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เมื่อคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่งได้แสดงกิริยาที่ไม่อาจรับได้ต่อหน้าลูกของเธอ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่เมือง Changsha ประเทศจีน ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นขณะที่โรงเรียนแห่งหนึ่งพาเด็กจำนวนมากไปเข้าต่อคิวเล่นสไลเดอร์ (กระดานลื่น) หลังจากนั้นคุณแม่สวมหมวกแดงคนหนึ่งก็พาลูกชายมา หวังจะให้ลูกของเธอเข้าไปแทรกกลางระหว่างแถวหรือก็คือพยายามให้ลูกของเธอได้แซงคิวนั่นเอง แต่ว่าเด็กหญิงที่ยืนต่อคิวอยู่ปฏิเสธไม่ให้ลูกชายของคุณแม่คนดังกล่าวเข้ามาแซงได้ เด็กหญิงคนนั้นจึงตอบคุณแม่หมวกแดงไปว่า “อย่าแซงคิวสิคะ ทุกๆ คนเขาก็ต่อคิวรอกันทั้งนั้น” ประโยคนั้นสร้างความไม่พอใจต่อคุณแม่คนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ตอนแรกเธอทำเหมือนกับว่าเดินจากไปเฉยๆ แต่จู่ๆ ก็หันกลับมาพุ่งถีบเด็กผู้หญิงจนล้มลงไป พร้อมกับเตะซ้ำอย่างแรง คุณแม่หมวกแดงทั้งถีบ ทั้งเตะซ้ำ หลังจากเหตุการณ์นั้นถึงทราบว่า เด็กผู้หญิงที่โดนถีบอย่างแรงมีชื่อว่า Meng Meng วัย 9 ขวบ ซึ่งตอนนี้ต้องเผชิญกับฝันร้ายเพราะไม่สามารถลืมเหตุการณ์ในวันนั้นได้ แม่ของ Meng Meng ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เธอต้องการให้ผู้หญิงหมวกแดงคนนั้นแสดงตัวออกมา และเข้ามาขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายหลังทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการดำเนินคดี แต่นี่ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก…
-
หมาแก่จงรักภักดี มาส่งเจ้าของที่สถานีรถไฟทุกวัน แล้วนั่งรอจนเขาเดินทางกลับบ้าน
ความซื่อสัตย์ของหมาแก่จากประเทศจีน ทำให้ชาวเน็ตพากันชื่นชมในความจงรักภักดีต่อเจ้าของของมัน คลิปวิดีโอของเจ้าหมาตัวนี้มีคนเข้าชมกว่า 10 ล้านครั้งแล้ว ทำให้มันเป็นที่รู้จักของชาวจีนจำนวนมาก ถ้าคุณมีโอกาสได้ผ่านไปที่สถานีรถไฟ Liziba ในเมือง Yuzhong มณฑล Chongqing ประเทศจีน ก็จะได้เจอหมาแก่สีน้ำตาลชื่อว่า Xiong Xiong นอนอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ มันไม่ได้เป็นหมาจรจัดที่อาศัยอยู่ที่นั่น มันเพียงแค่นั่งรอเจ้าของอยู่เท่านั้น Xiong Xiong เป็นหมาอายุ 15 ปีของนาย Chen มันจะเดินมาส่งเขาขึ้นรถไฟไปทำงานในตอนเช้าทุกวัน พอเจ้าของขึ้นรถไฟไปแล้ว มันก็จะนั่งรออยู่ตรงสถานีรถไฟจนกว่าเจ้าของจะเลิกงานมา แล้วก็จะกลับบ้านไปด้วยกัน คนในพื้นที่เล่าว่า “Xiongxiong จะมาที่สถานีรถไฟประมาณ 7-8 โมงเช้าทุกวันตอนที่เจ้านายของเขาออกไปทำงาน … จากนั้นมันก็จะวนเวียนอยู่แถวสถานีรถไฟ โดยจะรออยู่แถวประตูทางออก B ประมาณสัก 12 ชั่วโมงได้ บางครั้งมันก็นั่งอยู่จนถึง 2 ทุ่ม มันจะรออยู่จนกว่าจะเจอเจ้าของ เมื่อมันเห็นเขาก็จะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ” มันจะรอเจ้าของทุกวัน ไม่หนีไปเที่ยวที่อื่นเลย นอกจากนี้เจ้าหมาจะให้ความสนใจแค่เจ้าของเท่านั้น ถ้าเกิดมีคนแปลกหน้าเข้ามาเล่นกับมัน เจ้าหมาก็จะไม่สนใจเลย แล้วถ้าคนแปลกหน้าเอาอาหารมาให้กิน…
-
เปิดตัวเที่ยวบินธีม Toy Story เอาใจแฟนคลับ แถมสร้างบรรยากาศสนุกๆ ให้ผู้โดยสาร
หากใครเป็นแฟนการ์ตูนชุด Toy Story แล้วล่ะก็ นี่อาจจะทำให้คุณกรี๊ดแบบสุดๆ เลยก็ได้ เพราะนี่คือเครื่องบินที่ถูกตกแต่งเป็นลวดลายตัวละคร Buzz Lightyear เท่านั้นยังไม่พอ ข้างในก็ยังถูกตกแต่งให้มีธีมเดียวกัน ราวกับว่าคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้เลย เครื่องบินที่คุณได้เห็นนี้เป็นเครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines โดยได้เริ่มเที่ยวบินแรกจากเซี่ยงไฮ้ไปยังปักกิ่งเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา การตกแต่งในธีม Toy Story นั้น แทบจะครอบคลุมทั้งลำ ตั้งแต่ด้านนอกตัวเครื่อง เบาะบนที่นั่ง ถาดอาหาร ช่องเก็บของเหนือศีรษะ นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการตกแต่งเครื่องบินให้มีธีมในจีนแผ่นดินใหญ่ ท้ายลำมีนายอำเภอ Woody ด้วยนะ ด้านในตัวเครื่องถูกตกแต่งในธีม Toy Story ตั้งแต่เก้าอี้ยันเพดานเลยทีเดียว . . และก่อนที่คุณจะขึ้นเครื่อง บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินก็ถูกตกแต่งด้วยลวดลาย Toy Story ด้วยนะ ดูจากภายนอกแล้วสวยงามน่ารักมาก ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับผู้โดยสารได้ดีจริงๆ . สำหรับใครที่เป็นแฟนแอนิเมชันเรื่องนี้ก็อดใจรอกันอีกนิดเดียวเท่านั้น เพราะ…
-
เมื่อบุคคลไม่มีเชื้อเอเชีย ใส่กี่เพ้าเคล้าดราม่าไปร่วมงานพรอม ชาวเน็ตติงถึงความเหมาะสม!!
เอกลักษณ์ของชุดประจำเชื้อชาตินั้นยังคงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันว่า ควรจะให้บุคคลเชื้อสายอื่นได้มีโอกาสสวมใส่ได้หรือไม่ หรือในอีกประเด็นหนึ่งก็คือการนำชุดไปใส่ในงานต่างๆ นั้นมีข้อจำกัดอยู่มากน้อยแค่ไหนกัน… อันเนื่องมาจากประเด็นที่ชาวเน็ตต่างชาติกำลังพูดถึงกันอยู่ก็คือ ชุดกี่เพ้า อันเป็นชุดเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจีน มีหญิงรายหนึ่งสวมใส่ชุดนี้ไปร่วมงานพรอม แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากการใส่ชุดกี่เพ้าไปงานพรอมนั้นไม่เหมาะสม และลามไปจนถึงไม่มีเชื้อสาย ‘เอเชีย’ เรื่องมันเกิดขึ้นจาก @daumkeziah ได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอในชุดกี่เพ้าเข้าร่วมงานพรอม มองผิวเผินทั่วไปก็คงจะเป็นชุดสวยๆ ที่ใส่ออกงานอยู่แล้ว แต่ทว่าหลังจากโพสต์ถูกรีทวีตไปเป็นจำนวนมาก ข้อความที่มองกลับในฝั่งตรงข้ามก็มีเยอะเช่นเดียวกัน แบบนี้ไม่โอเค ฉันคงไม่ใส่ชุดประจำชาติเกาหลี ญี่ปุ่น หรือชุดประจำชาติอื่นๆ และฉันเป็นชาวเอเชีย ฉันจะไม่ใส่ชุดประจำชาติไอร์แลนด์ สวีเดน หรือกรีก ด้วยเช่นกัน มันมีประวัติศาสตร์อยู่เบื้องหลังชุดเหล่านี้อยู่นะ เศร้าใจจัง วัฒนธรรมเอเชียไม่ใช่เรื่องสุนทรียะที่คุณจะเอามาใช้ได้ ความตั้งใจของเธอไม่ตรงประเด็น การตัดสินใจอันย่ำแย่นี้เป็นการยึดครองทางวัฒนธรรมและเป็นการสร้างภาพวัฒนธรรมของเราให้คนขาว กรุณาดูรางเหง้าตัวเองด้วย วัฒนธรรมของเราไม่ได้เป็นชุดไปงานพรอมนะ! อย่างไรก็ตามเธอพยายามอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจลบหลู่วัฒนธรรมชาวจีน เพียงแค่ชื่นชมและจะไม่ยอมลบเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด มันก็เป็นแค่ชุด และมันก็สวยมากๆ แม้จะมีใครบอกกล่าวไปแล้ว ว่าเธอไม่ใช่ชาวเอเชีย จะเป็นการดีกว่าที่เธอจะยอมฟังชาวเอเชียแท้ๆ เพราะเธอกำลังบอกว่าชื่นชมวัฒนธรรมของพวกเขาอยู่นะ ชาวเน็ตบางรายก็เข้ามาย้ำอีกรอบว่า เพราะท่าทางของเธอนั่นแหละ… …
-
นักเรียนจีนถูกมีดแทงกว่า 7 คน ผู้ก่อเหตุอ้าง เพราะถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็กเลยเป็นปมฝังใจ
ในขณะที่อเมริกาต้องรับมือกับเหตุกราดยิงในโรงเรียนบ่อยครั้ง ในจีนเองก็เกิดเหตุทำนองเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากการใช้ปืนเป็นมีดแทน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่เมืองมี่จี มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มใช้มีดเข้าทำร้ายร่างกายเด็กๆ ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างเวลา 18.10 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียนแล้วและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เจ้าหน้าที่เผยว่าชายหนุ่มรายนี้แซ่เสี่ยว วัย 28 ปี เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าแรงจูงใจของเขาคือการแก้แค้น เพราะเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนมัธยต้น เขาเคยถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งมาก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน เป็นเด็กผู้หญิง 5 คน และเด็กผู้ชาย 2 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 12 คน โดยเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ไม่มีการระบุเลขอายุที่แน่ชัด คาดว่าอยู่ในระหว่าง 12-15 ปี ในขณะนี้ผู้ลงมือก่อเหตุได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ภาพของผู้ก่อนเหตุในครั้งนี้ขณะถูกควบคุมตัวไปสอบสวน ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นภาพของเด็กนักเรียนที่นอนอยู่บนพื้น โดยมีผู้คนยืนตกตะลึงอยู่รายรอบ …
-
สาวจีนผงะ!! เจอ “หางหนู” โผล่อยู่ในไอติม เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท
หญิงสาวชาวจีนถึงกับช็อค หลังจากพบว่ามีหางหนูโผล่ออกมาจากไอติมไส้ถั่วแดงที่เธอเพิ่งซื้อมาจากร้านค้า!? สื่อท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าหญิงสาวแซ่หยาง จากมณฑลเจียงซู เมืองหวายอัน ได้ออกไปซื้อไอติมแท่งไส้ถั่วแดงที่ร้านค้าเมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอกินเข้าไป 2-3 คำ เธอก็พบว่าในไอติมมีส่วนผสมแปลกๆ นอกจากถั่วแดง ส่วนผสมที่ว่านี้มีลักษณะเป็นแท่งยาวและมีขน เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นหนอนผีเสื้อหรืออะไรสักอย่าง จึงได้เรียกเพื่อนๆ มาช่วยดูและถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อเพื่อนของเธอเห็นวัตถุแปลกปลอมชิ้นนี้ จึงพยายามดึงมันออกจากไอติมแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่หนอนแต่เป็นหางของหนูตัวหนึ่ง แม้ว่านางสาวแซ่หยางจะรู้สึกสะอิดสะเอียนในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมองเห็นโอกาสในไอติมแท่งนั้น เธอกลับไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เธอซื้อไอติมแท่งนั้นมา และนำเอาไปติมแท่งนั้นกลับไปด้วยและเรียกร้องค่าชดเชย ในทีแรกทางร้านได้ยื่นข้อเสนอเป็นไอติมแท่งจำนวนมากให้กับเธอเพื่อเป็นการขอโทษ แต่เมื่อไม่ได้ผลทางร้านจึงพยายามเสนอเงินชดเชยให้กับเธอเป็นจำนวน 800 หยวน (ราวๆ 4 พันบาท) แต่เมื่อไม่ได้ผลอีก เขาเลยเพิ่มเป็น 2,000 หยวน (เกือบ 10,000 บาท) แต่ดูเหมือนหยางจะยังไม่พอใจกับเงินจำนวนดังกล่าว เธอจึงยื่นคำขาดว่าขอเป็นค่าชดเชย 50,000 หยวน (เกือบ 250,000 บาท) ให้สมกับที่เธอได้กินไอติมรสหนูไป แต่ดูเหมือนทางร้านจะไม่ยอมตกลงด้วยจึงต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เป็นที่น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เงินมากขนาดนั้น เพราะหลังจากการไกล่เกลี่ยแล้ว นางสาวแซ่หยางจะได้เงินชดเชยไปเพียง 1,000 หยวน…
-
คุณลุงเบื่อเมียเกินจะทนไหว สร้างเครื่องทำอาหาร ‘ตามใจ’ อยากได้รสแบบไหน ไปสั่งมันนู่น!!
ความจุกจิกจู้จี้ขี้บ่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับชีวิตคู่ เป็นธรรมดาที่ว่าคนสองคนมักจะมีอะไรที่ตะขิดตะขวงใจอยู่เสมอ อีกฝ่ายทำแบบนั้นก็รู้สึกไม่ชอบ พอตัวเองทำแบบนี้อีกฝ่ายก็ไม่พอใจเหมือนกัน ด้วยปัญหาความจู้จี้แบบนี้แหละ ก็เกิดขึ้นกับคุณลุงนักประดิษฐ์ชาวจีนเช่นกัน ที่มักจะบ่นในเรื่องฝีมือการทำอาหาร ต่อให้ทำรสชาติออกมาแบบไหนก็ไม่ถูกใจคุณภรรยาเสียที… คุณลุง เหอชิง ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทแคเทอริงจากนครเซี่ยงไฮ้ ได้ทำการสร้างสรรค์เครื่องผัดกับข้าวอัตโนมัติเครื่องนี้ โดยใช้ระยะเวลาในการผลิตนานถึง 8 ปี จากต้นเหตุที่โดน ‘เมียบ่น’ ว่าไม่อร่อยบ้าง ไม่เค็มบ้าง จืดเกินไป บางทีก็ไม่สุก ในระหว่างการคิดค้นและผลิตเครื่องผัดกับข้าวตัวนี้ เขาก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายรายวัน ไหนจะต้องมาออกแบบ ไหนจะต้องทนเมียบ่นทุกวัน แต่ด้วยความพยายามที่มีเพื่อพาตัวเองให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนห้องครัว เขาก็ทำได้สำเร็จ!! . ซึ่งหลังจากที่เครื่องผัดกับข้าวนี้ออกมาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เมียของเขาก็ไม่เคยบ่นถึงเรื่องฝีมือทำอาหารอีกเลย แถมยังชอบเจ้าเครื่องนี้อีกต่างหาก นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุดของการเป็นพ่อบ้านแล้วล่ะ สำหรับเครื่องผัดกับข้าวนั้น ก็ได้ไปประจำการในงานแสดงมหกรรมเทคโนโลยีนานาชาติที่เซี่ยงไฮ้ด้วย โดยการทำอาหาร 1 จาน จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 นาที และมาพร้อมกับระบบล้างอัตโนมัติในตัว เบื่อเมียบ่น…ให้มันไปบ่นกับเครื่อง คุณลุงเหอชิงกล่าวปิดท้ายกับผู้สื่อข่าวไว้ว่า…
-
อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”
ต่อไปนี้สาวๆ โปรดระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะมาในคราบของ “เพื่อนสนิท” ก็เป็นได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมา ในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล้องวงจรปิดของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้ถ่ายติดภาพคู่หนุ่มสาววัยรุ่นที่กำลังทานอาหารอยู่ภายในร้าน และเผยให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของฝ่ายชาย จากภาพ ฝ่ายชายอาศัยจังหวะฝ่ายหญิงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบนำยาบางอย่างใส่ลงไปในแก้วน้ำของฝ่ายหญิง เมื่อเธอดื่มน้ำจากแก้วดังกล่าว เธอก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง และไม่มีแรงพอที่จะทรงตัวได้เอง . จากนั้น ฝ่ายชายก็ประคองพาตัวฝ่ายหญิงไปยังห้องของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทำการ ล่วงละเมิดทางเพศ ในที่สุด สถานการณ์ล่าสุดรายงานออกมาแล้วว่า ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากการตรวจสอบ พบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าว แซ่กู้ เป็นเพื่อนกับฝ่ายหญิง โดยทั้งสองรู้จักกันบนรถไฟใต้ดินราวหนึ่งปีที่แล้ว . ทั้งนี้ ยังทราบมาอีกว่า ทั้งสองคนเคยไปเที่ยว ทานข้าว และดูคอนเสิร์ตด้วยกันหลายครั้ง และยังมีการจับไม้จับมือกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ฝ่ายชายคิดกับฝ่ายหญิงไกลเกินกว่าเพื่อน เขาจึงตัดสินใจสั่งซื้อยากล่อมประสาทจากอินเทอร์เน็ต เพราะอยากทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและฝ่ายหญิงพัฒนาไปอีกขั้น นี่แหละนะ คนที่เราไว้ใจอาจจะร้ายที่สุดก็ได้! ที่มา: New.qq
-
นายแบบน้อยวัย 4 ขวบ มาอย่างมืออาชีพ แม้จะโดนดักล้มอยู่กลางเวที ต้องฉีกยิ้มแล้วเดินต่อ!!
ความเป็นมืออาชีพนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น้อยคนนักจะมีอยู่ เนื่องจากจะต้องมีประสบการณ์และความชำนาญการทางด้านอาชีพของตนสูง เพื่อพร้อมจะรับทุกปัญหาและทุกสถานการณ์ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ในวงการนางแบบนายแบบก็เช่นเดียวกัน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการเดินแบบกลางเวที ที่มักจะเกิดเหตุบ่อยๆ อย่างเช่น เดินหกล้มหรือเดินสะดุด ทำให้สูญเสียความมั่นใจกลางเวที วิธีที่ดีที่สุดก็คือยืนหยัดเดินต่อจนจบคิวของตน… นายแบบตัวน้อย Zhang Yaoyang วัย 4 ขวบ ซึ่งจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็เกิดขึ้นกับหนูน้อยนายแบบ Zhang Yaoyang วัย 4 ขวบคนนี้ ในระหว่างงานเดินแฟชั่นโชว์ของเด็กในเมืองเซี่ยงไฮ้ และเหตุการณ์นี้ก็ถูกบันทึกไว้ได้และกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์จีนอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่น้อง Zhang จะต้องเดินออกไปกลางเวทีตามทางที่กำหนดไว้ กลับมีเพื่อนายแบบน้อยอีก 2 คนที่กุมมือกันแน่นไม่ยอมปล่อยมาขวางทางเข้าให้ เพราะถูกกำชับมาไว้แบบนั้นว่าห้ามปล่อยมือกันเด็ดขาด . . ด้วยความซื่อของน้องๆ ก็เดินชนกันเข้าอย่างจัง ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมปล่อยมือกัน ส่วนอีกฝ่ายก็ดึงดันจะเดินข้ามไปให้ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ลงไปนอนเทกระจาดกันกลางเวทีเลยทีเดียว . แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ใช่เสียงร้องไห้ แต่เป็นรอยยิ้มอันสดใสของเด็กๆ ที่พร้อมจะเดินแบบต่ออย่างมืออาชีพ แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่น้องก็ไม่แสดงให้เห็นออกมาเลย… …
-
จีนลดปัญหาพวกชอบข้ามถนนผิดกฎหมายด้วยเครื่องยิงสเปรย์ เกินเส้นเมื่อไหร่ โดน!!
ปัญหาการข้ามถนนไม่ดูสัญญานนั้น ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลากหลายประเทศโดยเฉพาะกับจีน แม้ว่ารัฐจะหาทางแก้ยังไง ประชาชนผู้ชอบแหกกฎก็ยังไม่วายที่จะหาทางข้ามถนนแบบไม่ดูรถเช่นเคย มาคราวนี้จีนได้นำเสนอไอเดียใหม่ เพื่อจัดการเหล่านักแหกกฎด้วยเครื่องสเปรย์น้ำใกล้ถนนพร้อมกับสัญญานไฟ ซึ่งเริ่มติดตั้งแล้วในเมืองหวงฉี มณฑลหูเป่ย์ ก่อนหน้านี้จีนได้ลองใช้หลายวิธีมากๆ ทั้งบังคับใส่หมวกสีเขียวเพื่อให้คนอาย ที่กั้นเหมือนสถานีรถไฟ แต่ทุกอย่างล้วนไม่เป็นผลในระยะยาว มาดูกันว่าที่กั้นนี้จะช่วยได้ไหม หลายคนคงสงสัยว่าแล้วเจ้าเครื่องสเปรย์น้ำดังกล่าวนั้น มันจะกันคนที่แหกกฎได้อย่างไรเพราะดูผ่านๆ แล้วมันก็คงไม่ใช่น้ำร้อนหรือน้ำพิเศษอะไรเป็นแค่น้ำธรรมดา ซึ่งถูกอยู่ที่ว่าน้ำจากเครื่องดังกล่าวนั้นเป็นน้ำธรรมดา แต่ความแรงของมันนั้นไม่ธรรมดาตามเลย เพราะแค่คุณก้าวข้ามไปเพียงนิดเดียวขาของเหล่านักแหกกฎก็จะเปียกและสร้างปัญหาตามมาทันที ใครโดนก็ต้องตกใจ และรู้ได้ทันทีว่ายังไม่ได้รับการอนุญาตให้ข้ามถนน ควรรอสัญญานไฟก่อน เราสามารถที่จะสังเกตไฟสัญญานได้ง่ายๆ โดยการมองแสงสีเขียวและแดงที่ฉายผ่านน้ำที่ฉีดออกมา แน่นอนว่ามีคนไม่เชื่อและได้ลองไปถ่ายคลิปเพื่อพิสูจน์ความเจ๋งของเจ้าเครื่องฉีดน้ำมาแล้ว ส่วนผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ดีเยี่ยมสุดๆ แต่ก็เรียกว่าอยู่ในระดับน่าพอใจพอสมควรเลยทีเดียวล่ะ มีคนไปลองโดนมาแล้ว มีป้าท่านหนึ่งในคลิปไม่ยอมฟัง จะแหกกฎเลยโดนเข้าไปเต็มๆ !! ที่มา shanghaiist
-
ชายส่งอาหารทำอนาจาร ‘โชว์ของลับ’ ให้เด็กหญิง 8 ขวบดู ขณะอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง!!
หลายๆ คนอาจเป็นห่วงเวลาที่ต้องปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆ เดินขึ้นลงบันไดหรือบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเอง เพราะกลัวว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุตกลงมาได้ ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะให้เด็กๆ เหล่านั้นใช้ลิฟต์กันจะดีกว่า โดยที่ไม่เคยเอะใจมาก่อนเลยว่าลิฟต์นั้นอาจอันตรายกับเด็กมากกว่าที่เราคิด ตัวอย่างความน่ากลัวของการปล่อยให้เด็กใช้ลิฟต์เพียงลำพังนั้นเกิดขึ้นในอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง เขต Changning นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อเด็กหญิงวัย 8 ขวบอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง ก่อนที่ชายส่งอาหารจะตามเข้ามาพร้อมกับโชว์ของลับให้เธอดู ชายส่งอาหารโชว์ของลับให้เด็กหญิง 8 ขวบดูในลิฟต์ ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 10 เมษายน 2018 เผยให้เห็นการทำอนาจารของชายคนนี้ โดยที่เด็กพยายามหันหน้ามองไปทางอื่น แต่เขาก็จะตามสายตาของเธอไป ตั้งใจจะอวดของลับของตัวเองให้จงได้ เขาพยายามเปลี่ยนมุมไปตามสายตาของเธอ วันต่อมาผู้ดูแลอาคารจึงประกาศถามผู้พักอาศัยทุกคนว่า มีใครบ้างที่ได้สั่งอาหารในช่วงเวลาประมาณ 15.50น.-16.00น. เพื่อจะตามหาชายส่งอาหารคนนั้นมาดำเนินคดี จนกระทั่งวันที่ 12 เมษายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมชายหื่นกามแซ่ Hu คนนั้นได้ในที่สุด โดยเขาให้การสารภาพว่าตนเองคือคนที่เห็นในกล้องวงจรปิด และถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป คลิปที่ถูกถ่ายจากกล้องวงจรปิด (กดเล่นตรงปุ่มมุมซ้ายล่างนะ) <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow:…
-
โรงเรียนสอนขับรถสุดเหี้ยม ใช้มือถือนักเรียนมาตีเส้น ถ้าถอยพลาดก็บอกลาได้เลย…
การจะเปิดโรงเรียนสอนขับรถในปัจจุบันนั้น ถ้าจะสอนแค่ให้ขับเป็นนั้นถือเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แต่ถ้าจะสอนให้นักเรียนมีวินัยและตั้งใจ ถอยรถเข้าออกได้แม่นยำนั้น บางครั้งผู้สอนก็ต้องใช้ไม้แข็งเพื่อสอนพวกเขา เช่นเดียวกันสถาบันสอนขับรถในมณฑลซานตง ประเทศจีน ที่เห็นควรสอนให้นักเรียนมีความตั้งใจและระวังในการขับขี่มากกว่าปกติ พวกเขาจึงคิดค้นเทคนิคการสอนที่จะทำให้เหล่านักเรียนที่มาเรียนต้องระวังมากกว่าเดิมไปตลอดชีวิตขึ้น วิธีดังกล่าวนั้นก็ง่ายแสนง่าย โดนโรงเรียนได้ให้นักเรียนที่มาเรียนใช้โทรศัพท์ของทุกคนมาวางไว้บนเส้นจุดจอดรถ จากนั้นก็ให้นักเรียนทุกคนหัดถอยหลังเข้าที่จอดรถโดยไม่กินเส้นของช่องข้างๆ ถ้าพลาดทีก็เตรียมซื้อเครื่องใหม่กันได้เลย แน่นอนว่าผลลัพธ์ของการล้ำเส้นข้างๆ ก็คือจะทำให้รถทับโทรศัพท์มือถือของตนเองและนักเรียนทุกคนไปในทันที แต่ใครจะคาดคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้สร้างความกดดันให้นักเรียนเท่าที่ควรเลย ดูสนุกกันใหญ่ ลุ้นกันมากๆ ว่าจะมือถือจะโดนทับไหม เพราะจริงๆ แล้วไอเดียการเอาโทรศัพท์มาตีเส้นนั้น มันเป็นไอเดียของนักเรียนทุกคนที่เข้ามาเรียนขับรถยังโรงเรียนดังกล่าว โดยทุกครั้งที่มีนักเรียนคนหนึ่งสอบถอยหลังเข้าช่องจอดรถ นักเรียนคนอื่นก็จะลุ้นกันอย่างสนุกสนาน แต่ถึงจะสนุก แต่ทุกคนนั้นก็ตั้งใจสุดชีวิต เพราะไม่อยากให้มือถือของตนเองพัง ซึ่งทางโรงเรียนสอนขับรถดังกล่าวก็ดีใจและยินดี ที่จะได้เห็นนักเรียนของพวกเขามีความสามารถในการขับขี่และใช้ท้องถนนได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง… อาจจะมีโรงเรียนสอนขับรถแถวๆ นี้ สนใจจะเอาไปใช้บ้างมั้ยเนี่ย!? ที่มา shanghaiist
-
ดีไซเนอร์จีนออกแบบแฟชั่นชุดดำน้ำ ให้มี “ถุงน่อง” ช่วยเพิ่มความอบอุ่นขณะอยู่ใต้น้ำ
แฟชั่นเป็นสิ่งที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสวยงาม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเจ้าคำว่าแฟชั่นนี่เองมันก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะเสื้อผ้าที่เราใส่กันอยู่ทุกวี่ทุกวันหรอกนะ เพราะแม้จะเป็นชุดดำน้ำที่ไม่น่าจะผสมผสานแฟชั่นลงไปได้ ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้เช่นกัน เมื่อราวๆ ปีสองปีก่อนได้มีช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Manabu Koga คิดค้นถุงน่องใต้น้ำขึ้นมา เพื่อให้สาวๆ ได้สวมใส่มันในใต้น้ำแล้วถ่ายออกมาเป็นภาพสวยๆ เพื่อนำไปจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่ายของเขา ต่อมาไอเดียถุงน่องใต้น้ำของช่างภาพชาวญี่ปุ่นก็ได้ถูกดีไซเนอร์ชาวจีนหยิบยืมไปเพื่อดัดแปลงมันให้กลายเป็นถุงน่องสำหรับการดำน้ำจริงๆ ในชื่อแบรนด์ Bestdive และใช้วัสดุแบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย ต่อมา Manabu Koga ก็ได้ไปเจอเข้ากับถุงน่องดำน้ำนี้เข้า เขารู้สึกชื่นชอบสินค้าชิ้นนี้มากจนแชร์มันลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง ถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้ถูกทำมาจากยางและผ้ายืดที่มีความหนา 2 มิลลิเมตร ให้ความยืดหยุ่นและทนทาน เหมาะกับการเคลื่อนไหวเช่นการดำน้ำ และยังให้ความอบอุ่นกับผู้สวมใส่ แฟนๆ บางส่วนของ Manabu Koga มองว่าถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้เป็นเพียงสินค้าก็อปเท่านั้น แต่แฟนๆ บางส่วนกลับมองว่ามันคือสิ่งที่น่าสนใจมาก และยังสนใจในวัสดุที่นำเอามาทำอีกด้วย หากใครสนใจลองไปชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ taobao.com เลย สนนราคาอยู่ที่ 1,490 ต่อ 1 คู่ เมื่อชุดดำน้ำสุดเซ็กซี่และแหวกแนวชิ้นนี้ถูกพูดถึงมากขึ้น ชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา “มันเยี่ยมมากที่เขาใช้วัสดุแบบชุดดำน้ำ” “ฉันชอบความหนาของมันนะ และก็ยังอยากได้ดีไซน์แบบ Koga…
-
ชาวอุยกูร์โอด โดนบังคับโหลดแอปลบรูป “อันตราย” ทุกวันนี้ยังเซ็นเซอร์กันไม่พออีกเหรอ
เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นผู้คนจากกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ซึ่งเป็น ประชากรของเขตปกครองตนเองซินเจียง ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาถูกทางการจีนโดนบังคับให้โหลดแอปพลิเคชันมือถือ Jingwang Weishi แปลตรงๆ ว่าโปรแกรมทำความสะอาดเว็บ หน้าตาของแอปพลิเคชัน Jingwang Weishi โปรแกรม Jingwang Weishi ที่ว่านี้ได้รับการยืนยันจากทีมกองทุนเทคโนโลยีเปิดของ Radio Free Asia แล้วว่า มีการบันทึกข้อมูลโทรศัพท์เช่น หมายเลข IMEI หมายเลขโทรศัพท์ รุ่นของโทรศัพท์ และผู้ผลิตโทรศัพท์เป็นต้น นอกจากนี้มันยังมีการค้นข้อมูลภายในโทรศัพท์เพื่อหาลายนิ้วมือของเจ้าของ ภาพถ่ายในเครื่อง การบันทึกเสียง และวิดีโออีกด้วย Jingwang Weishi จะเปรียบเทียบสิ่งที่พบกับฐานข้อมูลภายในขนาดใหญ่ และถ้าในเครื่องมีไฟล์ที่ถูกระบุว่า “อันตราย” แอปจะส่งข้อความไปยังผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อบอกให้ลบไฟล์ดังกล่าว นักวิจัยกล่าวอีกว่าแอปนี้ยังทำการส่งข้อมูลทุกชิ้นที่พบในมือถือไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก โดยไม่มีการเข้ารหัสใดๆ เลย ภาพกล้องวงจรปิดเหนือเขตปกครองตนเองซินเจียง Jingwang Weishi จะมุ่งเน้นไปที่ไฟล์มัลติมีเดียซึ่งถูกมองว่าเป็นการส่งเสริมลัทธิการก่อการร้าย แต่คนในพื้นที่หลายคนบอกว่าภาพและวิดีโอธรรมดาๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาหรือวัฒนธรรมของพวกเขา บางครั้งก็จะถูกมองว่าเป็นไฟล์ที่อันตรายเช่นเดียวกัน มีข่าวลือว่าชาวอุยกูร์หลายพันคนโดนจับตัวไปในคุกเพื่อการศึกษาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยยังไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรรมใดๆ ด้วยซ้ำ กองกำลังของประเทศที่ประจำการสอดส่องดูแลห้างสรรพสินค้าในซินเจียง เป็นเวลานานแล้วที่จีนได้เพิ่มการเฝ้าระวังทั้งในด้านมนุษย์ และเทคโนโลยีในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยที่ทางรัฐบาลกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับพื้นที่ แห่งนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของชาติ แม้ว่าคนส่วนมากจะกล่าวนี่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนก็ตาม …
-
หนุ่มจีนประชดแฟนตัด ‘หรรมส์’ ของตัวเองทิ้ง น้อยใจที่ถูกต่อว่า ขนาดตัวเล็กไม่โอ่อ่า…
การประชด ถือเป็นวิธีสุดฮิตของเหล่าคู่รักวัยรุ่นมักจะเลือกทำกัน เพราะส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเมื่อทำให้ตัวเองดูน่าสงสารหรือการประชดประชันจะได้รับความสนใจจากคู่ของตน แต่กลับกันแล้ว ถ้าการประชดดังกล่าวมันกลายเป็นความรุนแรงที่ยากจะแก้ไขอย่างเช่นกรณีของนักศึกษาจีนจากเมืองกว่างโจว ที่เขาประชดแฟนสาวหลังมีอะไรกันแล้วแฟนสาวบอกว่าไอ้นั้นของเขามันเล็ก หนุ่มจีนคนดังกล่าวจึงจัดการหั่นปิกาจูของตัวเองทิ้ง เพื่อประชดให้แฟนเห็นว่าถ้าของเขามันเล็กนักก็อย่ามีมันเลยดีกว่า ซึ่งหลังจากตัดปิกาจูออกไป เขาก็เดินออกมานอกหอพักด้วยสภาพเปลือยเปล่าท่อนล่าง พร้อมกับเลือดที่อาบไปทั้งขา อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมีที่มาที่ไปแท้จริงอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ทางวิทยาลัย Guangdong Peizheng College ในกว่างโจว ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุก็ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์เลือดอาบขาของหนุ่มคนนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารช่วงเวลา 14.00 น. ในวันดังกล่าว แต่สาเหตุนั้นไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้นและมันเกิดจากการที่แฟนสาวบอกว่าเขาเล็กจริงไหม ส่วนอาการและวิธีการแก้ไขปัญหานั้น ทางวิทยาลัยได้บอกว่าหนุ่มคนดังกล่าวปลอดภัยดี และสภาพจิตใจของเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ พร้อมกับแนะนำให้พยายามอย่าไปยุ่งกับภาพหรือคลิปอะไรก็ตามที่อาจทำให้เขาไม่สบายใจ แม้ว่าข่าวของเขาจะถูกส่งต่อและพูดถึงกันไปต่างๆ นานาแล้วก็ตาม สุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดเขาหั่นปิกาจูทิ้ง แล้วเกิดทั้งคู่เลิกกันในอนาคตเขาจะรู้สึกเสียใจที่ประชดแฟนเก่าไหมนะ จะแก้ไขก็ไม่ได้แล้วด้วย… ที่มา weibo, shanghaiist
-
เป็นเรื่อง! รูปปั้น ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ ไซส์ยักษ์ในจีนล้มหน้าฟาด หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุ!?
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว หลังจากที่รูปปั้นทองแดงขนาด 19 เมตรของ ‘จิ๋นซีฮ่องเต้‘ จักรพรรดิองค์แรกของประเทศจีนได้ล้มลงมาจากแท่นหินขนาดใหญ่ จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าไปตรวจสอบทันที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นมีพายุลูกใหญ่และลมที่พัดแรงมากพัดผ่านบริเวณรูปปั้นดังกล่าวในมณฑลซานตง จึงส่งผลให้รูปปั้นดังกล่าวล้มลงมาหน้าฟาดลงกับพื้นจนมีสภาพที่ดูไม่ได้ จากภาพ เราจะเห็นว่าหน้าของรูปปั้นบนเป็นแผ่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังเกิดเหตุ คนงานจำนวนมากก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับเครนทันที เพื่อที่จะรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะว่ารูปปั้นดังกล่าวนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นภาพลักษณ์ของเมือง คนงานคนหนึ่งก็ได้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณปิดบังสายตาของประชาชนไม่ได้ คุณจะปิดข่าวยังไง เดี๋ยวนี้ทุกคนมีโทรศัพท์ แถมได้รูปส่งต่อกันไปได้รวดเร็วอีก” เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของผู้นำจีนครั้งล่าสุด นับตั้งแต่รูปปั้นทองคำขนาด 32 เมตรของเหมา เจ๋อตงเมื่อปี 2016 ภาพของรูปปั้นดังกล่าวเมื่อปี 2015 ซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และน่าเกรงขาม สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าการที่รูปปั้นจักรพรรดิองค์แรกล้มลงแบบนี้ จะเป็นลางบอกเหตุอะไรกับจีนหรือเปล่า เพราะด้วยความที่รูปปั้นดังกล่าวนั้นเป็นหน้าเป็นตา และยังเป็นรูปปั้นของคนสำคัญอีก หรือว่ามันเป็นลางบอกว่าจีนกำลังจะมีปัญหาใหญ่เข้ามา? ที่มา shanghaiist, bbc
-
เพื่อนไม่อยากทนทุกข์จากมะเร็ง หนุ่มยินดีขับรถทับ แต่สุดท้ายจบที่ ‘การฆาตกรรม’
ในเบื้องต้นแล้วทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘การุณยฆาต’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวคือการทำให้หนึ่งชีวิตนั้นจากไปอย่างสงบ ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป… ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความยินยอมระหว่าง ผู้รับการการุณยฆาตและผู้ลงมือการุณยฆาต จะต้องมีเอกสารเซ็นยินยอมที่ชัดเจน และจะไม่มีผลทางคดีความใดๆ ในภายหลัง แต่แล้วมันกลับเกิดผิดเพี้ยนไป เมื่อชายหนุ่มชาวจีนถูกเพื่อนป่วยโรคมะเร็ง ขอร้องให้จบชีวิตเธอเสียที เพราะไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว หญิงแซ่ Wu ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในปี 2008 และเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว และได้ขอร้องในเพื่อนชายแซ่ Xu ขับรถทับร่างเธอเสีย เพื่อไม่ให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2017 Xu เองก็ตกลงปลงใจที่จะทำตามคำขอ ซึ่งทางด้านสามีของนาง Wu นั้นก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนชายคนนี้จะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรในภายหลัง… และแล้ววันตัดสินชีวิตก็เกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2017 ภาพจากกล้องภายในรถ เผยให้เห็นว่าเขาขับรถเพื่อเหยียบร่างของนาง Wu กลางถนนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้ว Xu ก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว และกระทำการถอยรถเหยียบซ้ำอีกหนึ่งรอบ …
-
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!! จีนเรืองอำนาจคว้าชัยชนะ และกลายเป็นอันดับ 1 ด้านพลังงานสะอาด
นับตั้งแต่ที่ปัญหาโลกร้อนรุนแรงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกเริ่มหายไป ประเทศชั้นนำมากมายทั่วโลกก็เริ่มตระหนักได้ว่าการผลิตพลังงานในปัจจุบันนั้นสร้างผลเสียให้กับโลกของเรามากขนาดไหนไม่ว่าจะด้วยน้ำมันหรือถ่านหินก็ตาม นั่นจึงส่งผลให้ชาติมากมายหันมาเดินหน้าและใส่ใจในพลังงานธรรมชาติกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากลม น้ำหรือแม้แต่แสงแดดก็ตาม แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้ทำมันเฉยๆ เพราะมันยังคงขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันเช่นเคย ในปี 2017 ที่ผ่านมา จีนถือเป็นประเทศที่นำหน้าในเกมการแข่งขันเรื่องพลังงานสะอาดไปอย่างขาดลอย ซึ่งทาง UN ก็ออกมาบอกว่า เมื่อนับแค่พลังงานสะอาดเท่านั้นมารวมกัน ทั้งโลกนั้นสามารถผลิตพลังงานเพิ่มได้ถึง 157 กิกะวัตต์ในปีเดียว ซึ่งพลังงานสะอาดที่ฮิตมากๆ ในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้นพลังงานแสดงอาทิตย์ เพราะจากตัวเลขข้างต้นนั้น 100 กิกะวัตต์ มาจากพลังงานแสดงอาทิตย์ ส่วนอีก 50 มาจากพลังงานลม ซึ่งเจ้าพลังงานที่ว่านี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้จีนกลายเป็นผู้นำเลยก็ว่าได้ เพราะว่าในปี 2017 มีการลงทุนเกี่ยวกับพลังงานสะอาดจากทุกชาติในโลกรวมกันได้ 279.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 8,750 ล้านบาท แต่จีนได้ลงทุนแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไปมากถึง 126.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3,940 ล้านบาท ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งจากเงินลงทุนในพลังงานทั้งหมดจากทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอนว่า 86.5 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่ลงทุนกับแผงโซลาร์เซลล์นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจีนจะเป็นผู้นำ อเมริกาจะเป็นตาม หรืออินเดียที่ตั้งเป้าจะเป็นผู้ชนะให้ได้ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่ดีต่อโลกแทบทั้งสิ้น เพราะนี่คือการแข่งขันผลิตพลังงานสะอาดที่ปลอดภัยและเป็นมิตร…
-
iPhone ลูกค้าระเบิดไฟลุกหลังนำไป “เปลี่ยนแบตเตอรี่” กับศูนย์ซ่อมเถื่อน
iPhone ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก ทำให้มีทั้งร้านค้าและศูนย์บริการกระจายออกไปในแต่ละที่ จึงวางใจได้ทุกครั้งเวลาที่โทรศัพท์มีปัญหาก็สามารถเอามันไปซ่อมได้ไม่ยาก แต่ทางที่ดีเราควรจะนำมันไปซ่อมกับศูนย์บริการของเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้นอาจต้องโชคร้ายเหมือนหญิงสาวรายนี้ก็เป็นได้ นี่เป็นเรื่องราวที่ถูกโพสต์ลงไปในโลกโซเชียลประเทศจีน เมื่อสาวแซ่ Ren รายหนึ่งนำโทรศัพท์ iPhone ของตัวเองไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ กับร้านที่ประกาศออกมาว่าเป็นศูนย์ตัวแทนบริการหลังการขายอย่างเป็นทางการของบริษัท Apple (ผู้ผลิต iPhone) ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิด ในตอนที่เธอเข้าไปติดต่อขอเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่แล้วหลังจากที่เธอใช้ไปได้ไม่นาน เธอก็พบว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของเธอกลับมามีปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 3 เมษายน 2018 เธอจึงนำมันกลับไปร้านเดิมเพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกครั้ง ในระหว่างที่เธอกำลังนั่งรออยู่ภายในร้านนั้น จู่ๆ โทรศัพท์ของเธอก็เกิดระเบิดขึ้นมา พร้อมไฟลุกวาบอย่างน่ากลัว ทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย อยู่ดีๆ โทรศัพท์ของเธอก็ระเบิด บาดแผลที่เธอได้รับจากการระเบิด สิ่งที่น่าสงสัยอีกอย่างก็คือ ในขณะที่ไฟจากการระเบิดกำลังลุกท่วมโต๊ะอยู่ ทุกคนต่างตกใจหลบออกมาจากบริเวณดังกล่าว แต่กลับมีพนักงานคนหนึ่งที่ดูไม่ทุกข์ร้อนหรือแทบจะไม่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใช้มือดับไฟบนโต๊ะอย่างหน้าตาเฉยราวกับเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พนักงานคนหนึ่งดูใจเย็น ไม่ค่อยมีอาการตกใจใดๆ ภายหลังเหตุการณ์ระเบิดนี้ ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท Apple ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่า ร้านดังกล่าวไม่ใช่ศูนย์ซ่อมที่ได้รับใบอนุญาตจาก…
-
นักศึกษาถูกจวกหนักหลังปลิดชีพผีเสื้อ เพื่อนำปีกมาสร้างผลงาน ‘สัญญะแห่งการเกิดใหม่’
ศิลปะอยู่รอบตัวเรา ความสุนทรีย์เหล่านี้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อสะท้อนเป็นชิ้นงานตามสไตล์ของศิลปินด้วยเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นในมุมมองไหน… แต่แล้วเมื่อการกระทำของนักศึกษาสาวชาวจีน ได้กลายมาเป็นจุดชนวนแห่งความขัดแย้งบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอได้นำปีกของผีเสื้อกว่า 500 ตัวมาใช้เพื่อสร้างผลงานสื่อถึง “การเกิดใหม่” Li Zheng นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิยาลัย Quanzhou Normal University ได้สร้างชุดงานศิลป์จากการใช้ปีกผีเสื้อเป็นวัสดุหลัก จัดเรียงอย่างพิถีพิถันอันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์จบของตัวเอง เธอและเพื่อนได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา ให้สร้างงานศิลปะที่โด่งดังขึ้นมาใหม่ด้วยวัสดุที่แตกต่าง เธอจึงเลือกผลงานของ Vincent Van Gogh แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุแบบไหนเพื่อสร้างงานชิ้นดังกล่าว… ระหว่างที่ทำการค้นคว้าวิจัย Li Zheng ได้พบกับศิลปินที่ใช้ปีกผีเสื้อในงานศิลป์ และในวัฒนธรรมส่วนมาก แมลงตัวเล็กๆ เป็นเหมือนดั่งตัวแทนแห่งการเกิดใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับโปรเจกต์จบของเธอเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเธอจึงทำการรวบรวมผีเสื้อกว่า 500 ตัว ใช้สีสันบนปีกเล็กๆ นำมาร้อยเรียงเป็นภาพชิ้นงานของ Van Gogh รวมไปถึงภาพวาดของตัวเขาเองด้วย . ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานของเธอนั้นดูสวยงามอลังการตามเนื้อผ้า แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับการที่เธอใช้ปีกของผีเสื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ นำมาสร้างงานที่สื่อถึงการเกิดใหม่ Li…
-
ฉุนจัด…เด็กสาวทำโทรศัพท์เพื่อนพัง ถูกเรียกค่าเสียหาย เลยพกเงินมาฟาดหน้า-โยนลงพื้น
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศจีนอยู่ ณ ขณะนี้ กับกรณีคลิปวิดีโอของเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งเอาเงินตบหน้าของเพื่อนที่เป็นผู้ชายแล้วก็โยนใส่หน้า แต่จริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวนั้นมีเบื้องหลังซ่อนอยู่ ตามรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist ได้ระบุเอาไว้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เมืองหวงซาน มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ก่อนหน้านี้ได้มีการทะเลาะกันเพราะเด็กนักเรียนหญิงทำโทรศัพท์ของนักเรียนชายพัง ซึ่งฝ่ายนักเรียนชายก็บอกให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย และด้วยความโมโหนักเรียนหญิงก็นำเงินจำนวนกว่า 6,450 บาท มาให้ แต่แทนที่จะให้ด้วยวิธีธรรมดาๆ กลับเอาเงินฟาดหน้าอย่างรุนแรงไปหลายครั้ง แล้วจบลงด้วยที่การโยนเงินจำนวนดังกล่าวลงพื้น โดยที่ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนนักเรียนมากมายหลายคนยืนรุมล้อมอยู่รอบๆ นักเรียนชาย โดยที่เขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เลยแม้แต่น้อย และจากรายงานล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร… ลองไปชมคลิปวิดีโอกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. ส่วนชาวเน็ตหลายคนที่ได้ทราบเรื่องราวนี้แล้วก็ให้ความเห็นกันมากมาย บ้างก็บอกว่า “เด็กก็คือเด็ก ที่พวกเขาทำแบบนี้ก็เพราะว่าผู้ใหญ่เป็นคนสอนพวกเขานั่นแหละ” บ้างก็ว่า “นี่คือความล้มเหลวของพ่อแม่” บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า “เด็กไปเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน ก่อนหน้านี้ฉันเคยอ่านข่าวเกี่ยวกับคุณแม่ที่หาเงินได้เดือนละ 9,900 บาท แล้วลูกของเธอทำเงินหายก็เลยทำโทษด้วยการตบหน้า แสดงว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะต้องมีเงินเยอะ และเลี้ยงดูลูกด้วยเงินแน่ๆ” แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง…
-
โอ้ว!! “กระดาษทิชชู่” ที่แสนธรรมดา แต่ชายคนนี้กลับก่อให้เกิดแฟชั่นชุดตุ๊กตาบาร์บี้สุดอลังการ
กระดาษทิชชู่ โดยปกติแล้ว เราคงจะใช้มันสำหรับเช็ด ทำความสะอาดสิ่งต่างๆ หากนอกเหนือจากนั้นแล้ว กระดาษทิชชู่ก็มักจะเป็นสิ่งที่คนมองข้าม แต่สำหรับนาย Jian Yang คนนี้ กระดาษทิชชู่กลับกลายเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผลงานการออกแบบของเขา นาย Jian Yang เป็นชายผู้ที่สะสม “ตุ๊กตาบาร์บี้” ไว้มากที่สุด เมื่อเขาเห็นกระดาษทิชชู่ในโรงแรมต่างๆ ที่เขาเข้าพัก เขาจึงนำมันมาประกอบกับเทปกาวสร้างออกมาเป็นแฟชั่นสุดสวยสำหรับตุ๊กตาบาร์บี้ กระดาษทิชชู่มันจะสามารถทำชุดออกมาได้สวยเพียงไหนกันเชียว? เราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 #16…
-
แนะนำละครไตล์ “บุพเพสันนิวาส” ให้กลิ่นอายย้อนยุค ฮาๆ เผื่อเก็บเอาไว้ดูต่อหลังบุพเพจบ
มันจะโด่งดังเป็นกระแสฮิตติดลมบนกันเกินไปแล้วววว สำหรับละครไทยย้อนยุคสุดฮาอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่ แหม…ต้องยอมรับว่าเขาทำออกมาได้ดีจริงๆ เรียกว่าเปิดดูกันแทบจะทุกหนทุกแห่งเลยทีเดียว ด้วยการเล่นใหญ่ของตัวละครแต่ละตัว ที่งัดเอาความสามารถทางการแสดงออกมากันอย่างเต็มที่ ประกอบกับบทพูดและเนื้อเรื่องที่คอยบิ้วให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมอยู่เสมอๆ บุพเพสันนิวาส จึงกลายเป็นละครที่ตรึงใจผู้คนอย่างล้นหลาม แต่ว่างานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราล่ะนะ วันหนึ่ง บุพเพสันนิวาส อันแสนสนุกสนานก็ต้องจบลง เหลือเอาไว้เพียงบรรยากาศแห่งความสนุกสไตล์ย้อนยุคเอาไว้เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ #เหมียวโลลิ แนะนำว่า ให้หาอะไรดูที่มันยังคงได้บรรยากาศที่ละม้ายคล้ายคลึงกับบุพเพสันนิวาสเสียหน่อยจะดีกว่า เพราะว่า ละครไทยและต่างประเทศ มันก็พอมีบ้างที่ให้อารมณ์โรแมนติกคอมเมดี้ย้อนยุคแบบนี้ วันนี้ เราจึงจะขอเสนอ 4 ละครเอเชีย ที่ให้บรรยากาศคล้ายๆ บุพเพสันนิวาส เผื่อจะเก็บเอาไว้ดูหนังบุพเพอวสานไปแล้ว เอาล่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. ทวิภพ (ปีพ.ศ. 2554) ทวิภพ เป็นชื่อหนึ่งในบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของ “ทมยันตี” ซึ่งเรื่องราวก็จะคล้ายๆ กันตรงที่เป็นความรักที่เกิดขึ้นต่างภพ ระหว่างอดีตและปัจจุบัน ในเรื่องจะมีการย้อนเวลา ย้อนยุคกลับไปอยู่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 แถมยังมีเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์มาเกี่ยวข้องอีกด้วย ถึงแม้ว่า เวอร์ชันปี 2554…
-
ซื้อรถไม่ยากอีกต่อไป แค่มี “เงิน+มือถือ” แล้วเดินไปที่ตู้ขาย แค่นี้ก็เรียบร้อย!!
ไม่ว่าจะชาติไหนๆ การจะไปออกรถสักคันหนึ่งนั้น นอกจากเรื่องเงินแล้วเรื่องเอกสารต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องแม่นยำและเตรียมให้พร้อม ซึ่งหลายคนก็คงอาจจะรู้สึกว่ามันยุ่งยากซะเหลือเกิน แต่ปัญหาดังกล่าวกำลังจะหมดไปกับเทคโนโลยีใหม่ Alibaba Group Holding Ltd จับมือกับบริษัทรถชั้นนำอย่าง Ford เปิดตัวระบบซื้อรถแบบใหม่ที่ทำให้คุณสามารถซื้อพาหนะคู่ใจได้ด้วยแค่ปลายนิ้วเท่านั้น!! โดยสองยักษ์ใหญ่ได้ทำการสร้างตู้ขายรถอัตโนมัติขึ้นมาใจกลางเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ซึ่งตัวตู้ขายรถนั้นจะมีโมเดลรถจาก Ford ให้เลือกซื้อถึง 42 แบบ และนั่นยังรวมถึงรถสไตล์ SUV และ Mustang ด้วย สุดยอดไปเลยใช่ไหม ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น นอกจากการซื้อผ่านตู้ได้แล้วคนที่สนใจยังสามารถทดลองขับรถจากตู้โชว์ได้ด้วย แต่แน่นอนว่าใช่ว่าทุกคนจะลองได้ เพราะคุณจะต้องเป็นลูกค้าประจำที่มีคะแนนในการใช้จ่ายอยู่ในเกณฑ์ดีจึงจะสามารถลองได้นั่นเอง กลับมาที่ส่วนของขั้นตอนการซื้อรถกันบ้าง ผู้ที่ต้องการซื้อรถจากตู้ขายรถสามารถทำได้ด้วยการโหลดแอป Tmall หรือ Taobao มา จากนั้นก็ทำการเชื่อมบัญชีของเราเข้ากับแอปดังกล่าว เมื่อคุณต้องการซื้อรถคุณก็แค่สแกนหน้าของคุณลงไปบนแอป จากนั้นเดินทางไปยังตู้ขายรถและสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งหลังจากแน่ใจว่าจะซื้อรถคันนั้นจริงๆ ระบบจะใช้เวลาราว 10 นาที จากนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อย ง่ายสุดๆ ไม่ต้องมีคนมาคอยสั่งคุณให้ทำนั้นทำนี้แม้แต่คนเดียว . ระบบตู้ขายรถ…
-
จีนเปิดตัว “โรงหนังสุดอลังการ” หรูหรา โอ่อ่า เล่นใหญ่เอาใจคอหนังโดยเฉพาะ!!
เมื่อพูดถึงโรงหนัง หลายคนคงคิดว่าโรงหนังในสหรัฐอเมริกาคงจะเป็นโรงหนังที่ใหญ่และหรูหรา แต่ในความจริงแล้วโรงหนังในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่กลับเป็นโรงหนังที่ธรรมดากว่าบ้านเราเสียอีก อย่างไรก็ตาม Virginia Lung นักออกแบบชื่อดังผู้ริเริ่มโครงการโรงหนังสุดอลังการทั่วประเทศจีน และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทีมมัณฑนศิลป์ One Plus Partnership ที่มาพร้อมกับแนวคิดสุดแหวกในการสร้างโรงหนังสุดหรูหรา “พวกเราคิดถึงการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอีกโลก ส่วนหนึ่งที่คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีราวกับเป็นส่วนหนึ่งของมัน จนกระทั่งเรารู้ว่าหนังที่เราดูนั้นคือส่วนหลักและใช้เป็นตัววัดประสบการณ์ที่ดีแก่เราก็จริง แต่โรงหนังก็เป็นอีกส่วนสำคัญเช่นกัน ตอนนั้นไอเดียมากมายจึงระเบิดขึ้น” ด้วยเหตุนี้ Virginia กับทีมจึงเริ่มออกแบบโรงหนังหรูหรามากมายทั่วประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 60 แห่งด้วยกัน โดยโรงหนังแต่ละแห่งก็จะมีดีไซน์ที่แปลกตาและแตกต่างกันไปหมดตามแต่ธีมที่เธอคิดขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เดียวกันคือ “การดูหนังดีที่ดี” นอกจากหนังจะต้องดีแล้ว ตัวโรงหนังและบรรยากาศรอบๆ ก็ต้องดีราวกับอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะด้วย The Shanghai Omnijoi International Cinema โรงหนังขนาด 36,000 ตารางเมตรในเมืองเซี่ยงไฮ้ “โรงหนังที่ดีไม่ใช่แค่สบาย แต่ดีไซน์รอบๆ ต้องดีด้วย เพราะทีมงานที่สร้างหนังขึ้นมานั้น พวกเขาใช้เวลาไปกับมันมากกว่า 1 หรือ 2 ปีต่อหนังหนึ่งเรื่อง ฉะนั้นพวกเราจึงอยากให้คนดูมีความสุขและได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าไปพร้อมกับหนังที่ผู้สร้างรังสรรค์ตั้งใจทำงานดีๆ ออกมาให้เราได้ดูกัน” นอกจากความสวยงามแล้ว…
-
หนุ่มจีนเมาหนัก ปีนขึ้นตึกสูงหวังฆ่าตัวตาย แต่เผลอหลับเลยรอดมาได้
การดื่มแอลกอฮอล์จนเมาอาจเป็นสาเหตุให้คุณประสบอุบัติเหตุหรือทำอะไรไปโดยขาดสติ แล้วยิ่งคุณได้อ่านข่าวต่อไปนี้ล่ะก็คุณจะยิ่งอึ้งกิมกี่เข้าไปใหญ่ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชายหนุ่มรายหนึ่ง นอนหมดสติ งีบหลับอยู่บริเวณดาดฟ้าของตึกที่สูง 29 ชั้น ในเมืองซีอาน ตามรายงานบอกว่าตึกนี้มีความสูงอยู่ที่ 100 เมตร หากชายหนุ่มขยับแม้แต่นิดเดียวนั่นอาจหมายถึงความเป็นความตายของเขาเลยก็ได้ โชคดีที่ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบจนเข้าไปช่วยเหลือ ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าจะขยับหรือพลิกตัวไปทางไหนเลย ทำให้การช่วยเหลือเขาผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากเข้าช่วยเหลือแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายหนุ่มมาสอบถาม จึงทราบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเกี่ยวกับชีวิตซึ่งทำให้สภาพจิตใจไม่มั่นคง เขาเล่าต่อว่าหลังจากที่ดื่มเบียร์ไป 2-3 กระป๋อง เขาก็พยายามหาทางปีนขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกและตั้งใจจะกระโดดลงมา แต่โชคดีที่ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้านั้น เขาเผลอหลับไป ทำให้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ กินเหล้าอย่าให้เหล้ากินเรา มีสติอย่าเกินลิมิตนะทุกคน แล้วก็อย่าขึ้นที่สูงกันด้วย ที่มา medium
-
หมดกันความหรู… เมื่อกระแสไล่ขโมย ‘ตรารถเบนซ์’ เพื่อไปทำกล่องข้าว กำลังมาแรง?!
ปัจจุบันกระแสต่างๆ ในโลกโซเชียลมีอิทธิพลต่อหลายๆ คนเป็นอย่างมาก จนอาจกลายเป็นพฤติกรรมที่ทำตามๆ กันมาโดยไม่สนใจถึงลักษณะความผิดชอบชั่วดี และอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น เช่นเดียวกันกับกระแสที่กำลังมาแรงในประเทศจีน นั่นคือ การถอดตรารถเบนซ์ ตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่ากระแสดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตราสัญลักษณ์บริเวณหน้ารถของตนเองนั้นหายไป ตรารถเบนซ์ สามารถถอดออกได้ด้วยวิธีการง่ายๆ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถยนต์สีขาวมาจอดบริเวณใกล้ๆ ก่อนที่จะลงมาทำอะไรสักอย่างบริเวณหน้ารถเบนซ์ของผู้เสียหาย แล้วก็เดินกลับขึ้นรถขับออกไป ตำรวจเห็นจึงเดินทางไปยังบ้านพักของผู้ต้องสงสัยแซ่ Guō รายนี้ เมื่อเข้าตรวจค้นพบหลักฐานแบบคาหนังคาเขา มีตรารถเบนซ์ที่ถูกขโมยมารวมกันกว่า 10 ชิ้นเลยทีเดียว หลักฐานที่พบในบ้านพักของผู้ต้องหา ชายผู้ต้องหาวัย 25 ปีรับสารภาพว่าตนเองต้องการมียอดไลค์และอยากให้คนเข้ามาติดตามตนเองในแอปฯ Tik Tok (โซเชียลมีเดียที่ไว้สำหรับโพสต์คลิปสั้นๆ) เหมือนกับคลิปหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวก็คือคลิปขโมยตรารถเบนซ์ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที คลิปการขโมยตรารถเบนซ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหตุผลที่กระแสการขโมยตรารถเบนซ์เริ่มเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศจีน เกิดจากการที่ผู้ใช้รายหนึ่งใน Weibo สื่อโซเชียลมีเดียของจีน ทำการโพสต์ภาพของชายคนหนึ่งที่ถอดตรารถเบนซ์มาทำเป็นกล่องข้าว โพสต์ดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีการแชร์ออกไปหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งมีคนเลียนแบบและคิดหาไอเดียที่จะเล่นตลกกับตรารถเบนซ์มากยิ่งขึ้น นำสิ่งเหล่านั้นมาโพสต์ตามๆ…
-
ห้างในจีนเสนอบริการสุดพิเศษ ให้คุณ “เช่าแฟนสาว” ไปเดินชอปด้วยได้เพลินๆ
เดี๋ยวนี้ธุรกิจแบบ Sharing Economy (เป็นแนวคิดสังคมเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน) กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น Uber, Airbnb, Mobike และอีกมากมาย ล่าสุดเราไปเจอรูปแบบธุรกิจแนวๆ นี้มาจากประเทศจีน แต่สิ่งที่คุณจะไปใช้บริการมันไม่ใช้สถานที่หรือยานพาหนะ แต่เป็นคน เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศจีนได้รายงานว่าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ได้เสนอบริการที่ชื่อว่า “Shareable Girlfriends” หรือแฟนสาวแบบแบ่งปัน เพื่อให้เหล่าลูกค้าที่มาชอปคนเดียวไม่ต้องเหงาอีกต่อไป ตามรายงานบอกว่าภายในห้างนั้นได้นำเอาหญิงสาวมายืนเรียงรายกันในชุดสวยงามบนแท่นสีเหลือง โดยที่ด้านหลังของพวกเธอจะมี QR Code ให้ลูกค้าเอามือถือไปสแกนเพื่อ “เช่า” พวกเธอไปเดินเป็นเพื่อน ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงมาก หากคุณพาพวกเธอไปเดินราวๆ 20 นาที ก็มีค่าใช้จ่ายเพียง 1 หยวน หรือราวๆ 5 บาทเท่านั้น แผนการตลอดนี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นครั้งแรก เพราะเมื่อช่วงคริสต์มาสปีก่อน ก็ได้มีห้างสรรพสินค้าในมณฑลไห่หนานจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ชื่อ “Shareable Boyfriends” เพื่อตอบสนองนักชอปสาวขี้เหงาโดยเฉพาะ แต่น่าเสียดายที่บริการสุดแหวกนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร มีการตั้งข้อสังเกตจากชาวจีนในอินเตอร์เน็ตหลายคนมองว่าชายหนุ่มชาวจีนอาจจะรู้สึกเขินอายเกินไปที่จะ “เช่าหญิงสาว” ให้ไปเดินเป็นเพื่อน ทุกวันนี้ธุรกิจแบบ Sharing…
-
เก็บมาเก็บกลับไม่โกง จีนเอาคืนสหรัฐฯ ด้วยการเก็บภาษีนำเข้า มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท!!
ถ้าใครที่ได้ตามข่าวต่างประเทศเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราคงจะได้เห็นว่าจีนและสหรัฐอเมริกานั้นได้มีปากเสียงกันพอสมควร ซึ่งมันเริ่มจากการที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์‘ ได้เก็บภาษีนำเข้าจากจีน และพยายามจะเริ่มสงครามการค้า มาวันนี้จีนก็ไม่น้อยหน้าจัดการเอาคืนสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน โดยเริ่มแผนการเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ด้วยอัตรา 25% ซึ่งตีเป็นมูลค่าได้สูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 9 หมื่นล้านบาท สินค้าจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกจีนเรียกเก็บภาษีนั้นก็จะประกอบไปด้วยสินค้ากว่า 128 รายการโดยมีเนื้อหมูและไวน์เป็นหลัก ซึ่งแม้ว่าจะมีการเอาคืนแบบนี้ ทางจีนก็บอกว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการจะทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่อย่างใด ทว่าจีนก็ไม่สามารถนิ่งเฉยกับเมื่อเศรษฐกิจของชาติได้รับความเสียหายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ดังกล่าวนั้นสร้างความตึงเครียดให้กับกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะทั้งสองล้วนเป็นประเทศมหาอำนาจในเรื่องการค้า แต่ถึงอย่างนั้นด้านนักวิเคราะห์กลับเอนเอียงไปทางจีนเสียมากกว่า พวกเขาได้ให้ความเห็นว่า ถ้าเกิดอยู่ดีๆ จีนหันไปเก็บภาษีนำเข้าจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาเช่นบริษัท Apple งานนี้อาจจะส่งกระทบที่ใหญ่กว่าเดิมก็เป็นได้ เพราะเมื่อเกิดการเก็บภาษีสินค้าเทคโนโลยีแล้ว ทางบริษัทก็จำเป็นจะต้องขึ้นราคาสินค้าตาม เมื่อถึงเวลานั้นวิกฤตใหญ่ก็จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน แต่เราก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่าตัวโดนัลด์ ทรัมป์นั้นก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งพอสมควร ฉะนั้นเราก็คงดูกันต่อไปว่าสงครามการค้านี้จะไปจบลงที่ตรงไหนและมันจะส่งผลอย่างไรกับโลกบ้าง… ที่มา bbc, cnbc
-
หญิงสาวตัดสินใจ ‘แก้ผ้า’ กลางทางเดิน เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรล้วงกระเป๋า
บางครั้งที่เราจำเป็นต้องคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มันอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ปัญหาของเรานั้นหนักกว่าเดิม เหมือนอย่างสิ่งที่หญิงสาวคนนี้ทำลงไปในตอนที่ตัวเองถูกจับได้ว่าเป็นโจรล้วงกระเป๋า นี่คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Shaoyang มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 หญิงสาวคนหนึ่งถูกผู้คนจับได้ว่าเธอล้วงกระเป๋าขโมยของของคนอื่นบริเวณป้ายรถเมล์ เธอจึงตัดสินใจเปลื้องผ้าเหลือแต่ถุงเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนรุมประชาทัณฑ์ การกระทำของเธอนั้นแทนที่จะสามารถทำให้คนอื่นๆ เลิกยุ่งไป มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนเดินผ่านไปมายิ่งสนใจเธอมากกว่าเดิม ผู้คนจำนวนมากจึงยืนล้อมเธอเต็มบริเวณทางเท้า แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่มีท่าทีเขินอายใดๆ เลย กลับแสดงความท้าทายต่อคนรอบข้างที่กล่าวหาเธอ ทำให้บางคนเกิดความไม่พอใจ เข้ามาทำร้ายร่างกายหญิงสาว แม้สิ่งที่เธอทำอาจดูเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยวิธีนี้ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ชายไม่สามารถเข้ามาทำการจับกุมตัวเธอได้ในทันที แล้วสุดท้ายคุณป้าที่ดูแลบริเวณโดยรอบก็เดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับเสื้อผ้าหลายๆ ชิ้นนำมาคลุมปกปิดร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้หญิงอีกสองคนจะพาเธอไปโรงพักในที่สุด . หญิงสาวจึงถูกตั้งข้อหาในคดีกระทำอนาจารกลางที่สาธารณะ และตกเป็นผู้ต้องสงสัยล้วงกระเป๋าขโมยของผู้อื่น คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านการรายงานข่าวท้องถิ่น ที่มา: medium , nextshark
-
พายุทรายถล่มเมืองทางตอนเหนือของจีน จากฟ้าที่สดใสจนตอนนี้ส้มไปทั้งเมือง!!
เมื่อไม่นานมานี้ เมือง Xilin Gol League ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนต้องเจอกับวิกฤตอย่างหนัก หลังพายุทรายบุกเข้าถล่มเปลี่ยนจากเมืองที่สดใสให้กลายเป็นสีส้มไปตลอดทั้งเมือง เมือง Xilin Gol League นั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนามคมที่ผ่านมา โดยเพิ่งจะมีการเผยแพร่สภาพภายในหลังจากถูกพายุขนาดใหญ่เข้าโจมตี เราจะเห็นว่าถนนนั้นจะมองเห็นได้ในระยะที่ไม่ไกลนัก ถ้าเกิดว่ารถที่ขับสวนกันไปมาไม่มีสัญญานไฟ อุบัติเหตุคงจะเกิดได้อย่างไม่ยากเย็น ผลกระทบจากพายุดังกล่าวนั้น นอกจากจะทให้ท้องฟ้าเป็นสีส้มแล้ว ยังทำให้ทัศนวิสัยบนท้องถนนแย่สุๆ แย่ขนาดที่เกือบจะมองไม่เห็นสิ่งต่างๆ ตรงหน้าแล้วนั่นเอง สื่อนอกนั้นได้รายงานว่า พายุทรายลูกดังกล่าวได้กินพื้นที่ของเมืองไปกว่า 1.5 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งนั่นหมายความว่าพายุทรายยังทรงผลไปถึงกรุงปักกิ่งและซินเจียงอุยกูร์ด้วย ชาวเมืองก็ได้แต่หวังว่ากฤตนี้จะผ่านไปได้ในเร็ววัน เพราะนอกจากปัญหาการจราจรแล้ว ปัญหาสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องที่ได้รับจากพายุทรายนี้ . นอกจากท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีแล้ว ทางการยังออกมาแจ้งให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวระวังภัยที่มากับฝุ่นด้วย เพราะว่ามันอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ฉะนั้นชาวบ้านจึงได้รับคำสั่งให้ปิดบ้านเรือนให้มิดชิด เพื่อรอว่าพายุทรายนี้จะผ่านไปในเร็ววันนั่นเอง ที่มา dailymail
-
หนุ่มจืดที่แท้ทรู… ตั้งใจสมัครเข้าเรียนวิทยาลัยหญิงล้วน เพื่อเพิ่มโอกาสหาแฟนให้ตัวเอง!!
ปัญหาของสัดส่วนประชากรที่ไม่เท่ากันระหว่างเพศชายกับหญิง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตัวเลขสัดส่วนของประเทศจีน… ทางสถาบันสังคมศาสตร์จีนเคยทำการสำรวจไว้ในปี 2010 เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ชายโดยเฉลี่ยในหนึ่งมณฑล จะมีอัตราส่วนที่ 130 คน ต่อผู้หญิง 100 คน ซึ่งถ้าหากมองในภาพรวมระดับประเทศ ผู้ชายนับล้านคนจะประสบกับปัญหา ‘มีเมียยาก’ ด้วยเหตุของปัญหาที่กล่าวไปนั้น ว่าที่นักศึกษาหนุ่มวัย 18 ปีรายหนึ่ง (ไม่เปิดเผยนาม) จากเมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ได้ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัย China Women’s University ในกรุงปักกิ่ง โดยไม่เขินอายกับเหตุผลที่เขาเลือกเข้ามาสมัครในวิทยาลัยหญิงล้วนแห่งนี้เลย ในระหว่างรอบคัดเลือกขั้นสุดท้าย เขาตอบเหตุผลอย่างหนักแน่นว่า “ผมมาก็เพื่อที่จะหาแฟนได้ง่ายขึ้น เพราะสถาบันนี้มีผู้หญิงเยอะ ถ้าหากได้รับคัดเลือกเข้าเรียนที่นี่ ปัญหาของการหาคู่ก็จะหมดไป” ‘ผมมาเพื่อหาแฟนครับ’ หลังจากที่วิดีโอคลิปการสอบสัมภาษณ์ของเขาถูกแพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ โดยได้รับอนุญาตจากทางวิทยาลัยแล้ว ก็ทำให้เกิดการถกเถียงถึงจำนวนเพศของประชากรที่ไม่เท่ากันในสังคมจีนอีกครั้ง ส่วนเจ้าตัวก็ยังเผยความรู้สึกว่า การคัดเลือกของวิทยาลัยแห่งนี้มหาโหดมากๆ เพราะทางวิทยาลัยรับผู้ชายเพียงแค่คนเดียวในปีที่แล้ว จากจำนวนรับนักศึกษาหญิงทั้งหมด 1,500 คนต่อปี ซึ่งตามรายงานนั้นเผยว่าเขาผ่านสอบสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามทางครอบครัวของชายหนุ่ม กลับรู้สึกไม่ค่อยยินดีกับการตัดสินใจของเขาเท่าไหร่นัก เนื่องจากคุณพ่อเกรงว่าลูกชายจะเปลี่ยนไป จากสภาพแวดล้อมที่ถูกล้อมรอบเรียงรายไปด้วยผู้หญิง สำหรับวิทยาลัย…
-
ภาพแสนเศร้า เมื่อแม่ม่ายชาวจีนนั่งร่ำไห้หน้าโรงพยาบาล เพราะไม่มีเงินรักษาลูกน้อย
กลายเป็นภาพไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในจีน เมื่อมีคนเก็บภาพของคุณแม่ชาวจีนกับลูกน้อยคนหนึ่งได้ที่หน้าโรงพยาบาล ซึ่งเธอกำลังนั่งคุกเข่าลงและร้องไห้อย่างหนักด้วยเหตุผลที่เธอและลูกถูกบังคับให้ออกมาเพราะไม่มีเงิน คุณแม่คนในรูปนั้นมีชื่อว่า Guo Yinzhen อายุ 45 ปี จากมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งเธอนั้นต้องรับหน้าที่ดูแลลูกน้อยวัย 3 ขวบด้วยตัวคนเดียวเรื่องจากเธอกับสามีได้หย่าร้างกันไปเมื่อหลายปีก่อน . อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะให้กำเนิดลูกน้อยนามว่า Zhenghan นั้น เธอเคยทำงานเป็นพนักงานในโรงงานมาก่อน จนกระทั่งเธอต้องลาคลอดลูกเธอก็ถูกบีบให้ออกมาทันที โดยในช่วงแรกนั้นเธอยังคงได้รับการช่วยเหลือค่ากินค่าอยู่ให้กับตัวเองและลูกน้อยจากครอบครัวของเธอ จนกระทั่งลูกชายของเธอนั้นป่วยเป็นภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง ทำให้เธอจะต้องรีบพาลูกน้อยไปรักษายังโรงพยาบาลทันที แต่โชคไม่เข้าข้างเธอนัก เพราะว่าด้วยความที่เธอยังไม่มีงานทำและยังต้องเอาเงินค่ากินมารักษาลูก ทำให้เงินของเธอหมดอย่างรวดเร็วและเมื่อเธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ทางโรงพยาบาลจึงไม่รับดูแลลูกของเธอต่อนั่นเอง . ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เธอต้องใช้เพื่อรักษาลูกนั้น เธอจำเป็นจะต้องมีเงินจำนวนมากถึง 100,000 หยวน หรือเกือบ 500,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องที่แย่ไปกว่าการรักษาแต่ละครั้งก็คือ เธอและครอบครัวได้ใช้เงินรักษาลูกไปแล้วกว่า 400,000 หยวนหรือราว 2 ล้านบาท แต่ลูกของ Guo ก็ยังไม่หายขาดอยู่ดี จนสุดท้ายเมื่อเงินหมดก็จบลงตามที่ได้กล่าวมา ภาพดังกล่าวนั้นเคยเป็นกระแสไวรัลและถูกถ่ายไว้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 แต่มันกลับมาเป็นที่ถูกถกเถียงในจีนอีกครั้งว่าจริงแล้ว คุณภาพของการให้บริการสุขภาพในจีนนั้นแท้จริงมันแย่ขนาดไหน…
-
จีนวางแผนเนรมิตตึกสูง 700 เมตร คาดจะเป็นตึกที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของโลก หู้วว!!
แม้ว่าจีนจะเป็นหนึ่งในเมืองที่ลือชื่อเรื่องตึกสูง เพราะมีตึกที่สูงเสียดฟ้ามากกว่า 100 ตึก แต่ดูเหมือนคนในประเทศก็ยังจะไม่พอใจและวางแผนจะสร้างตึกที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก อย่างที่เรารู้กันว่าตึก Burj Khalif ในมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น คือตึกที่สูงที่สุดในโลก และยังคงเป็นตึกที่ใครก็ยากจะเทียบได้ เพราะมีความสูงถึง 800 เมตร แต่กลับกันอันดับของตึกหมายเลข 2 ลงไปกลับไม่ห่างชั้นกันมากนัก ไม่ยากและไม่ง่ายเกินกว่าจะทำลายสถิติ ด้วยเหตุนี้ทางจีนก็เลยวางแผนว่าที่ 1 มันยากไป ที่ 2 ดูจะง่ายกว่าพวกเขาก็เลยจะสร้างตึกสูงในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งที่ความสูง 700 เมตร เพื่อพิชิตอันดับ 2 ของตึกที่สูงที่สุดในโลก ภายในตึกนั้นแน่นอนว่าได้ถูกวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และสถาปัตยกรรมระดับสูง นอกจากนั้นภายในจะยังมีศูนย์การค้า ที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ตัวตึกนั้นได้วางแผนไว้ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2024 ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งหมดราว 50,000 ล้านหยวน หรือราว 250,000 ล้านบาทไทย ซึ่งถ้าตึกแล้วเสร็จตามกำหนด ตึกดังกล่าวจะนับว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในจีนด้วย อย่างไรก็ตาม เมืองเซินเจิ้นได้สร้างตึกสูงไปแล้วกว่า 11…
-
ชาวเน็ตแชร์เหตุการณ์ อาจารย์ตบหน้านักเรียน 5 ที เหตุเพราะกระเป๋าเธอแฟชั่นเกินไป
กลายเป็นเรื่องที่กำลังถูกพูดถึงในโซเชียลจีนพอสมควรเลย หลังมีคนแอบถ่ายคลิปที่อาจารย์ชาวจีนท่านหนึ่งกำลังลงไม้ลงมือกับนักเรียนของตัวเองด้วยการตีหน้าหลายครั้ง ด้วยเหตุผลที่ได้ยินแล้วถึงกับต้องตั้งคำถามว่ามันต้องขนาดนี้เลยหรือ? เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่มณฑลซานซี ประเทศจีน ซึ่งภายในคลิปเราจะเห็นอาจารย์หญิงวัยกลางคนท่าหนึ่ง กำลังตบหน้านักเรียนอย่างรุนแรงถึง 5 ครั้งด้วยกันภายในระยะเวลาของคลิป 25 วินาที จากรายงานนั้นพบว่าสาเหตุที่ทำให้อาจารย์คนดังกล่าวตบนักเรียนตัวเองก็เพราะว่า นักเรียนของเธอนั้นนำกระเป๋าที่ดูแฟชั่นเกินไปมาโรงเรียน เธอจึงโมโหและบันดาลโทสะอย่างที่เห็น ด้านอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่เกิดเหตุก็ได้ออกมาบอกว่า อาจารย์ในคลิปนั้นทำเกินกว่าเหตุจริง ทำให้เธอถูกสั่งย้ายทันทีและเธอจะถูกลงทัณฑ์บนในประวัติการทำงานของตัวเธอเองด้วย คลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตก็ยังพากันแสดงความเห็นกันไปต่างๆ นานาว่าการลงโทษดังกล่าวนั้นคือการกระทำทารุณต่อเด็กหรือเปล่า และตั้งข้อสงสัยว่าแค่พกกระเป๋าที่อาจารย์คิดว่าแฟชั่นเกินไปมาโรงเรียน มันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือ เหตุผลทั้งหมดก็เพราะกระเป๋าใช่ไหม? นี่มันบ้าอะไรเนี่ย ทารุณเด็กชัดๆ แต่พี่คนนี้มาแหวก เขาแซวว่าการที่โดนตบหน้าก็ยังดีกว่าถูกยิงล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
‘คิม’ เปลี่ยนไป หลังจีนยืนยันว่าเดินทางมาพูดคุยจริง และจะพบ ‘ทรัมป์’ เป็นรายต่อไป!!
จะเรียกว่าท่านผู้นำเปลี่ยนไปก็ว่าได้ หลังจากที่ ‘คิม จอง อึน‘ ผู้นำเกาหลีเหนือที่นานาชาติต่างพากันมองว่าเขาคือชายผู้กุมอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในมือและไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เริ่มออกเดินสายเจอกับผู้นำชาติต่างๆ เป็นครั้งแรก! แน่นอนว่ามันเป็นครั้งแรกจริงๆ เพราะนับตั้งแต่ที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งในปี 2011 นั้น การเดินทางมาเยือนจีนเพื่อพบกับ ‘สี จิ้นผิง‘ ที่กรุงปักกิ่งจึงถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกของเขา อย่างไรก็ตาม จีนและเกาหลีเหนือนั้นถือเป็นชาติพันธมิตรที่ทำการค้าขายกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งการมาเยือนของเขาในครั้งนี้นั้น สื่อได้รายงานว่าเป็นการเดินทางมาพูดคุยเพื่อแสดงยินดีกับทางจีนที่ร่วมกันสร้างความสัมพันธ์อันดีเรื่อยมา ยังไม่หมดเท่านั้น สื่อยังรายงานอีกว่าระหว่างการพูดคุยนั้น ผู้นำเกาหลียังได้ยืนยันกับผู้นำจีนว่า เกาหลีเหนือจะล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์จริงๆ แต่ว่ามันก็ยังคงมีเงื่อนไขอยู่ คิมจองอึนนั้นบอกว่า “โครงการอาวุธนิวเคลียร์และปัญหาความไม่สงบในน่านน้ำเกาหลีจะจบลงได้ ก็ต่อเมื่อทางเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกามีท่าทีที่ดีต่อเกาหลีเหนือเพื่อช่วยกันส่งเสริมสันติภาพที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเกาหลีเหนือก็หวังว่าการเจรจานี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงไปพร้อมๆ กับความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” การพูดคุยนั้นเป็นไปด้วยดี และทางผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอึน ก็ได้บอกกับทางจีนว่าเขายังคงวางแผนจะพบกับผู้นำเกาหลีใต้ ‘มุน แจ อิน‘ ในช่วงเมษายนนี้ ส่วนด้านสหรัฐอเมริกานั้น ผู้นำเกาหลีเหนือก็บอกว่าเขาวางแผนจะพบกับประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์‘ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนั่นเอง จากเรื่องราวทั้งหมด เราจะเห็นว่าเกาหลีเหนือนั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็คงต้องรอดูกันแล้วว่าในอนาคตชาติมหาอำนาจทั้งหมดที่หันมาพูดคุยกันจะเป็นอย่างไร โลกจะหมุนไปทางไหนนั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ ที่มา bbc,…
-
สาวจีนทำเอาชาวเน็ตต้องงุนงง เพราะเธอ “แต่งหน้า” เป็นดาราดังได้โคตรเหมือน!!
การแต่งหน้า นั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันจะช่วยแต่งเติมดึงเอาความงดงามของหญิงผู้นั้นออกมาให้ได้มากที่สุด แถมยังช่วยปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้อีกด้วย แต่หารู้ไม่ว่า การแต่งหน้า นอกจากจะทำให้คุณสวยขึ้นแล้ว มันยังทำให้คุณกลายเป็นคนดังได้หลายคนเลยทีเดียว! อ้าว งงล่ะสิ… Jiawen Wang คุณจะหายงงทันทีเมื่อคุณได้เห็น หญิงสาววัย 23 ปีนามว่า Jiawen Wang คนนี้ เพราะเธอนั้นมีฝีมือการแต่งหน้าที่เรียกได้ว่าเฉียบจริงๆ เธอสามารถแต่งหน้าตัวเองให้เป็นคนดังของประเทศตะวันตกได้หลายคนทีเดียว เช่น Britney Spears, Beyoncé หรือจะ Taylor Swift ก็ทำมาแล้ว Wang มาจากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เธอทำงานในด้านการแต่งหน้ามาราว 3 ปีแล้ว และเธอก็ทำงานของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หลังจากที่เธอพยายามลองแต่งหน้าตัวเองให้เป็นศิลปินนักร้อง Katy Perry ลงบนโลกอินเทอร์เน็ต เธอกลับพบว่าการตอบรับจากชาวเน็ตนั้นดีอย่างไม่น่าเชื่อ เธอจึงลองแต่งหน้าเป็นศิลปินคนดังคนอื่นๆ ต่อ Katy Perry Leonardo DiCaprio ปัจจุบัน Wang โด่งดังมากในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo…
-
ชีวิตนั้นมีค่า!! เครื่องบินสละน้ำมันกว่า 30 ตัน ลงจอดฉุกเฉิน เพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสาร
ทุกชีวิตล้วนแต่มีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด และสิ่งนั้นสามารถพิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อเครื่องบินลำหนึ่งตัดสินใจสละน้ำมันจำนวนกว่า 30 ตัน เพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสารคนหนึ่งที่เกิดอาการหายใจติดขัด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2018 บนเที่ยวบิน MU578 ของสายการบิน Chinese Eastern Airlines ขณะที่กำลังเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แล้วจู่ๆ ก็มีผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่งเกิดอาการป่วยขึ้นมาอย่างฉับพลัน ลูกเรือบนเครื่องเล่าว่าผู้โดยสารสาววัย 60 ปีคนนี้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่ารู้สึกเจ็บแบบเสียวซ่านไปทั้งตัว และมีอาการหายใจลำบาก ทำให้พนักงานส่งตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวไปนั่งบนชั้นธุรกิจแทน เพื่อให้เธอสามารถลงไปนอนราบได้ จากนั้นลูกเรือจึงทำการประกาศขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีผู้โดยสาร 2 คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อาสาออกมาช่วยดูแลผู้ป่วย ทว่า 3 ชั่วโมงต่อมา เธอคนนั้นก็เริ่มมีอาการกระตุกและบอกว่ามีอาการแข็งเกร็งไปตามกล้ามเนื้อ เมื่อกัปตันบนเครื่องบินรับทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว เขาจึงตัดสินใจจะนำเครื่องลงจอดกลางทางที่สนามบินนานาชาติ Anchorage รัฐอะแลสกา แต่ว่าในตอนนั้นเครื่องบินมีน้ำหนักมากเกินไปสำหรับการลงจอดฉุกเฉิน เพราะมีผู้โดยสารอยู่มากถึง 294 คน ด้วยเหตุนั้นเองลูกเรือจึงทำการสละน้ำมันกว่า 30 ตันทิ้งไปกลางอากาศ เพื่อให้เครื่องสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย พอลงจอดเป็นที่เรียบร้อย…
-
อิหยังวะน่ะ… ภูเขาที่เล็กที่สุดในแดนมังกร ระดับความสูงต่ำกว่า 1 เมตร ดูคล้ายจะเป็นก้อนหิน
อุปสรรคในการปีนป่ายภูเขาของเหล่านักผจญภัยนั้น ถ้าจะให้นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือความสูงที่คุณต้องการจะพิชิต แน่นอนว่าระหว่างทางการปีนไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย จะต้องเตรียมพร้อมทั้งกายและใจเพื่อไปถึงจุดที่สูงที่สุดให้ได้!! แต่จะรู้สึกผิดไหม ถ้าคุณสามารถพิชิตยอดเขาได้ง่ายๆ ที่ประเทศจีน โดยที่ไม่ต้องใช้แรงกายหรือแรงใจใดๆ เพียงแค่ก้าวเดินเพียงแค่ก้าวเดียวคุณก็สามารถพิชิตยอดเขานี้ได้แล้ว ฟังดูง่ายมั้ยเอ่ย!? ผ่างงงงง นี่คือยอดเขาที่สูงไม่ถึง 1 เมตร!! ขอแนะนำให้ท่านได้รู้จัก ‘ยอดเขา Jingshan’ จากโซวกวง ประเทศจีน ยอดเขาเพียงแห่งเดียวในแถบโซวกวง ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำภูมิภาคและกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งหากย้อนกลับไปดูประวัติที่มีมากกว่า 100 ปี พร้อมกับตำแหน่งที่แม่นยำ ขนาดของภูเขาลูกนี้ นี่คือปลายยอดภูเขาที่ถูกทับถมอยู่ลึกใต้พื้นดิน แม้ใครๆ ต่างก็อยากจะรู้ถึงความลึกที่แท้จริงของภูเขาลูกนี้ แต่ทว่าทางการได้ทำการปกป้องรักษาเอาไว้ตามกฎหมาย หากใครจะทำการขุดถือว่ามีความผิด ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีคนลองขุดมาแล้ว ในยุคที่เหมาเจ๋อตุงเรืองอำนาจ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า Jingshan ไม่ใช่ภูเขา มันเป็นเพียงแค่หินก้อนเดียวเท่านั้น… แต่หลังจากที่ทำการขุดลึกลงไปหลายเมตร พวกเขาก็ยอมแพ้เสียก่อน และในปี 1958 ก็มีคนพยายามมาสานต่ออีกครั้งแต่ก็ล้มเหลวเพราะขุดไปไม่ถึงฐานภูเขาเสียที และหินก้อนนี้ก็ยังคงฐานะเป็นภูเขาดั่งเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทางด้านเว็บไซต์ China.org ได้ทำการรายงานไว้ว่า ภูเขา Jingshan นั้นมีระดับความสูงอยู่ที่…
-
ไม่สู้ด้วยอาวุธ แต่สู้ด้วยการค้า!! จีนลั่นจะสู้อเมริกาจนถึงที่สุดในสงครามการค้า
กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว เมื่อล่าสุด Donald Trump ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.9 ล้านล้านบาท ด้วยการให้เหตุผลว่าจีนได้ลงทุนและขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลาช้านานแล้ว กลับกันเมื่อรายงานดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทาง Xi Jinping ประธานาธิบดีจีนก็ออกมาตอบรับกฎหมายดังกล่าวว่า ทางการจีนก็จะไม่ยอมให้สหรัฐฯ มากดขี่ด้วยการเก็บภาษีเป็นเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวอย่างแน่นอน โดยคำแถลงการณ์ดังกล่าวถูกแถลงการณ์ผ่านสถานทูตจีนประจำวอชิงตัน ดีซี ว่า ถ้าสหรัฐต้องการจะเริ่มสงครามการค้า จีนก็ไม่เกรงกลัวและจะสู้จนถึงที่สุดแม้ทางประเทศจะไม่ต้องการแบบนี้ก็ตาม แต่เพื่อป้องกันประโยชน์ของประเทศ จีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการทุกอย่างที่จีนมี การแถลงการณ์ดังกล่าวนั้นเรียกว่าเกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังที่ Donald Trump ลงนามเซ็นสัญญาและประกาศมาตรการที่ว่าออกสู่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้นี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งตัว Donald Trump ได้สั่งการไปยัง Steve Mnuchin ให้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเผยชื่อสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีกว่า 1,300 ราย ส่วนจีนก็เตือนให้ทางสหรัฐฯ คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาให้ดีนั่นเอง สุดท้ายแล้วนักลงทุนในชาติต่างๆ ก็พากันจับตามองในการเดินหมากของสองมหาอำนาจอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ว่ามันจะไปในทิศทางไหน มันก็จะส่งผลเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน… ที่มา express, cnn
-
ชมตัวอย่าง Shiki Oriori เรื่องใหม่ฝีมือ สตูดิโอผู้สร้าง Your Name คราวนี้เนื้อเรื่องเกิดขึ้นที่จีน!?
ต้องขอบอกเลยว่าในปี 2016 นั้นนับได้ว่าเป็นปีทองของเรื่อง Your Name หลับตาฝันถึงชื่อเธอ ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำรายได้ถล่มทลาย แถมยังสร้างความประทับใจให้กับแฟนอนิเมะทั่วโลก หลังจากนั้นอาจารย์ชินไคก็หายหน้าหายตาไป…เพราะกำลังทำโปรเจกต์ใหม่อยู่นั่นเอง จนเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมาโผล่มาสร้างผลงานโปรโมตการท่องเที่ยวให้กับแคนาดา และล่าสุดทางสตูดิโอ CoMix Wave Films จากกรุงโตเกียว ที่เคยร่วมงานกับอาจารย์ชินไค สร้างผลงานเรื่อง Your Name จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก กำลังจะปล่อยผลงานใหม่ในชื่อว่า Shiki Oriori (บทกลอนแห่งฤดูกาล) ให้แฟนอนิเมชั่นได้รับชมกัน ก็อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องก่อนๆ มากมายหลายเรื่องนั้นจะดำเนินเรื่องในประเทศญี่ปุ่น แต่ในครั้งนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทั้งเมืองกว่างโจว, มณฑลหูหนาน, และนครเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ก็ได้มีการร่วมมือกันกับอนิเมชั่นสตูดิโอสัญชาติจีนอย่าง Haoliners ที่เคยมีผลงานในการสร้างอนิเมะชื่อดังมาแล้วมากมายอย่าง To Be Hero, Evil or Live, และ A Centaur’s Life เรื่องราวของ Shiki Oriori นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ซึ่งจะมีตัวละครที่แตกต่างกันออกไป และ 2…
-
ว็อททท!!? สาวจีนหน้างามมาเป็นไวรัล เขมือบสายไหมแบบ ‘โคตรเร็ว’ ทำเอาคนดูถึงกับอึ้ง…
คลิปวิดีโอจากรายการหนึ่งของประเทศจีนได้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว เพียงเพราะว่าการแข่งขัน “กินสายไหม” ในรายการนั้น เผยให้เห็นความเทพของสาวผู้เข้าแข่งขันที่ใครเห็นเป็นต้องอึ้ง วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ต่อกันมาอย่างกว้างขวาง โดยทวิตเตอร์หนึ่งชื่อว่า DestinyDelight ได้นำคลิปวิดีโอนี้มาแชร์ให้ชาวเน็ตได้รับชมกัน Girl crushes a cotton candy eating contest ❤. pic.twitter.com/AiEATAWBQH — DestinyDelight (@DelightDestiny) March 15, 2018 (หากรับชมวิดีโอด้านบนไม่ได้ สามารถเข้ามาชมได้ ที่นี่) ในวิดีโอจะเห็นว่า ชายและหญิงคู่หนึ่ง กำลังแข่งขันกันอยู่ว่าใครจะกินสายไหมได้หมดเร็วกว่ากัน พอเริ่มแข่งขัน ฝ่ายหญิงกลับทำให้ผู้ชมต้องอึ้ง เพราะสกิลการกินสายไหมอย่างรวดเร็วของเธอนั้นมันเทพชัดๆ วิดีโอนี้ถูกตัดมาจากรายการวาไรตี้โชว์ของจีน ชื่อรายการว่า I’m the Winner แรกเริ่มเดิมทีมันถูกแชร์ลงบนเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของประเทศจีน และมียอดจำนวนการเข้าชมถึง 16 ล้านครั้งเลยทีเดียว จากนั้นก็มีคนมาคอมเมนต์กันอย่างสนุกสนาน “ฮ่าๆๆๆๆๆ ชอบเวลาที่เธอทำตัวเป็นกุลสตรีหลังจากที่เธอกินเสร็จจัง” ฝ่ายผู้ชายถึงกับงงเลยล่ะสิ “เธอกินสายไหมราวกับว่าเธอรอเวลานี้มาทั้งชีวิตเลยนะเนี่ย” “ฉันชอบมาก…
-
แม่เจ้าโว้ยยย… สาวใหญ่วัย 51 ปี มีสถานะเป็นคุณแม่แล้ว ยังคงความเซ็กซี่และโกงอายุสุดๆ
หากให้เพื่อนๆ นึกภาพหญิงวัย 51 ปี ทุกท่านจะนึกภาพออกมาอย่างไรกันบ้าง? แน่นอนว่า 51 ปีนั้นไม่ใช่วัยที่จะเรียกได้ว่าหนุ่มสาวได้แล้ว ภาพที่เพื่อนๆ คิดคงห่างไกลจากสาวเซ็กซี่ที่ดูเช้งกระเด๊ะแน่ๆ แต่สำหรับสาวใหญ่วัย 51 ปีคนนี้ รับรองว่าจะต้องทำให้ทุกท่านตกใจอย่างแน่นอน หลังจากที่มีภาพถ่ายกลางหิมะออกมาอวดหุ่นสุดเซี๊ยะ ทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อ้าปากค้างไปตามๆ กัน… ชื่อของเธอก็คือ Liu Yelin เธอเป็นหญิงชาวจีน จากเมืองซินหยาง มณฑลเหอหนาน ที่เคยโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตมาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากหุ่นสุดแซ่บของเธอ!! และในครั้งนี้ เธอก็กลับมาสะกดสายตาชาวเน็ตอีกครั้ง ด้วยภาพชุดสุดเซ็กซี่กลางหิมะขาวโพลน พร้อมเผยถึงเคล็ดลับการดูแลรักษารูปร่างและสุขภาพของเธอให้ทุกคนได้รู้อีกด้วย โอ้วววว อู้วววว เธอเผยเคล็ดลับว่า การออกกำลังกายท่ามกลางความเหน็บหนาว จะช่วยยับยั้งความชราได้ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลง และดูมีออร่าเปล่งปลั่ง Liu Yelin มักจะออกกำลังกายหลายชั่วโมงต่อวันเป็นปกติ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ เมื่อฤดูหนาวมาถึงเธอจะลงไปแหวกว่ายในน้ำเย็นยะเยือก และเล่นโยคะท่ามกลางหิมะ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเธอถึงดูอ่อนกว่าวัยได้ขนาดนี้… อายุ 51 จริงเหรอเนี่ยย!!? . .…
-
พบสารเสพติดในตัวพ่อแม่ลูก แท้จริงแล้วถูกร้านค้าหลอกให้กิน ‘หมาล่าผสมฝิ่น’ เข้าไป
หลายๆ คนคงมีร้านอาหารที่ตัวเองรู้สึกติดใจจนทำให้ต้องกลับไปกินร้านนั้นอยู่บ่อยๆ โดยที่เราอาจไม่เคยสังเกตว่าแท้จริงแล้วความอร่อยของอาหารจานนั้นอาจเป็นผลมาจากสารเสพติด เหมือนอย่างที่ครอบครัวนี้ได้ไปกินมาก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2018 สำนักข่าว China Xinhua News รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอู่สี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะของสามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่ที่น่าแปลกคือสารเสพติดชนิดเดียวกันนั้นกลับมีอยู่ในปัสสาวะของลูกสาวและหลานสาวของพวกเขาด้วย ตำรวจเกิดความสงสัย กับการตรวจพบสารเสพติดครบทั้งพ่อแม่ลูกและหลานสาว นั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัยว่า การมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายนั้นอาจไม่ได้เกิดจากการที่พวกเขาเสพมันเข้าไปด้วยความตั้งใจ ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวดังกล่าวได้ไปกินต้มหมาล่าในร้านอาหารแห่งหนึ่งมา ต้มหมาล่า ใช้เนื้อสัตว์และผักนานาชนิดต้มกับน้ำซุปที่ผสมเครื่องเทศที่จะทำให้รู้สึกเผ็ดชา ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าไปตรวจค้นห้องครัวของร้านอาหารแห่งนั้น แล้วพวกเขาก็ได้พบกับถุงสีน้ำตาลหน้าตาประหลาดอยู่ในหม้อต้มของร้าน จากการสอบถามเจ้าของร้านจึงทำให้ทราบว่า ในหม้อต้มนั้นไม่ได้มีเพียงเครื่องแกงทั่วไป แต่มันยังมี เปลือกฝิ่น ที่อยู่ในถุงดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งเจ้าของร้านอ้างว่าตัวเองทำไปเพราะมีคนบอกว่ามันจะทำให้อาหารมีความหอมมากยิ่งขึ้น โดยเขาได้ซื้อผงเปลือกฝิ่นนี้มาในราคากิโลกรัมละ 100 หยวน หรือประมาณ 500 บาทเท่านั้นเอง ส่วนของเปลือกฝิ่นนั้นถือว่ามีฤทธิ์เป็นสารเสพติด หากรับเข้าไปในปริมาณมากจนเกินไป แน่นอนว่ามันจะทำให้คนคนนั้นเกิดอาการเสพติดขึ้นมาได้ เปลือกฝิ่นมีฤทธิ์เป็นสารเสพติด ไม่ต่างกับตัวยางของมัน เจ้าของร้านจึงถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดี เนื่องจากใช้ฝิ่นมาประกอบอาหารซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน และมีการออกมาตรการปราบปรามเหล่าผู้ประกอบการที่ใช้ฝิ่นผสมในอาหารมาตั้งแต่ปี 2009…
-
พาส่องเส้นทางการเป็นจอมยุทธ กับการฝึกฝน “กังฟู” ของ “วัดเส้าหลิน”
เราอาจเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ “วัดเส้าหลิน” มาจากภาพยนตร์จีนกำลังภายในหลายต่อหลายเรื่อง ที่ว่ากันว่า หากใครได้เข้าไปฝึกวิชาที่วัดเส้าหลินแล้วล่ะก็ จะสามารถใช้วิชาศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า “กังฟู” ได้นั่นเอง ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับวัดเส้าหลินนี้มันไม่ได้มีแค่เพียงในภาพยนตร์หรอกนะ เพราะที่วัดนั้นมีการฝึกวิชากันอย่างจริงจัง โดยส่วนมากก็จะเป็นการฝึกฝนสมาธิ ความกล้า และความอดทน เอาล่ะ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้มาก หากคิดไม่ออกว่าการฝึกวิชาในวัดเส้าหลินเป็นอย่างไรล่ะก็ เราไปชมภาพการฝึกฝนเหล่านั้นกันเลยดีกว่า ว่าจะเหมือนอย่างที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์หรือเปล่า 1. สงบนิ่ง และแข็งแกร่ง 2. นี่เป็นภาพจริง ที่ไม่ได้ตัดเอามาจากภาพยนตร์แต่อย่างใด 3. ความแข็งแกร่งของหมัด 4. ความอดทน สมาธิ และความแข็งแรงของข้อเท้า 5. การฝึกฝนอย่างเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก 6. การรวบรวมสมาธิในท่าต่างๆ 7. การนั่งขัดสมาธินั้นมันธรรมดาเกินไปสำหรับพวกเขา 8. มือ ที่แข็งแรงกระทั่งทุบอิฐให้แตกได้ 9. การฝึกยกน้ำไม่ได้มีแต่ในภาพยนตร์ มันมีจริงๆ 10. ฝึกด้วยท่าที่คนธรรมดาไม่ค่อยทำกัน …
-
หนุ่มทั้งคลาสเซอร์ไพรส์ ‘สาววิศวะ’ เพียงหนึ่งเดียว จัดลิปให้ยกเซ็ท เพราะไม่รู้ว่าชอบสีอะไร
อีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีกับเหลือเกินกับความโชคดีของนักศึกษาสาวรายนี้ ที่ได้มาอยู่ท่ามกลางหมู่ชายชาตรีในแวดวงการเรียนวิศวกรรม ซึ่งถ้าหากให้พูดถึงอัตราส่วนระหว่างชายหญิงแล้ว ก็ห่างกันมากๆ เลยทีเดียวล่ะ!! ท่ามกลางนักศึกษาชายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ Chen Weiqi คือนักศึกษาหญิงเพียงหนึ่งเดียวในชั้นเรียน ในมหาวิทยาลัย South China Technical University เมืองกว่างโจว ประเทศจีน ซึ่งหลังจากคลาสในวันนั้น เหล่านักศึกษาชายก็ได้เรียกให้เธออยู่ต่อ ก่อนที่จะยกเซ็ทลิปสติกแบรนด์ MAC ออกมามอบให้เธอ ใช่แล้วล่ะ… ลิปสติกเกรดดีทั้งกล่อง 12 เฉดสี ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 8,800 บาท!! อันเนื่องมาจากกว่าเหล่าเพื่อนชาย ไม่รู้ว่าเธอนั้นชอบสีอะไรเป็นพิเศษ และต้องการจะเซอร์ไพรส์สาวน้อยเพียงหนึ่งเดียวของคลาส เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ก็เลยจัดแจงซื้อมายกชุด จัดเต็มทุกเฉดสี Chen ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เธอเริ่มสงสัยพฤติกรรมของเพื่อนร่วมชั้นว่ากำลังแอบทำอะไรอยู่ แต่เดาไม่ออกเลยว่าจะเป็นอะไรที่ดีต่อใจขนาดนี้ และด้วยความที่เป็นผู้หญิงเรียนวิศวะคนเดียวในคลาส เธอมักจะเป็นที่สนใจอยู่เสมอ ถึงกับมีมุกแซวกันว่า ไม่ต้องแบกกระเป๋าหรือเปิดฝาขวดน้ำเองเลยเวลามาเรียน เพื่อนสนิทในคลาส อันเป็นหัวโจกของความน่ารักในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายสำหรับเพื่อนชายทั้งหลายที่ไม่อยากจะได้ยิน นั่นก็คือการตอบคำถามที่ว่า…
-
ลุงหัวเสีย…. จอดรถทิ้งขว้างแล้วจะโดนตำรวจยก คว้าค้อนทุบรถตัวเอง ‘ลื้อจะยกไปไม่ได้’
กฎหมายจราจรที่เข้มแข็งจะต้องถูกนำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นให้กับผู้ใดที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย กรณีจากต่างประเทศมีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอยู่ตลอด ตัวอย่างครั้งนี้ก็มาจากประเทศจีน เมื่อชายวัยกลางคนจอดรถในที่ห้ามจอด ถูกล็อคล้อเอาไว้และกำลังจะถูกยก แต่ดันโวยวายเข้าข้างตัวเองสุดทาง… ชายวัย 54 ปี จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารถยนต์ของเขานั้นถูกล็อคล้อเอาไว้ เนื่องจากจอดในที่ห้ามจอด และจะให้เวลา 10 วันเพื่อไปทำการจ่ายค่าปรับเสีย แต่หลังจากที่คุณลุงพยายามไกล่เกลี่ย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยปลดล็อคล้อให้ไม่เป็นผล ถึงวันที่ต้องยกรถไปสถานีตำรวจ คุณลุงก็คว้าค้อนติดมือมาพร้อมกับทุบรถยนต์ของตัวเองทั้งตัวถังและกระจก ก่อนที่จะหลบหนีหายไปในภายหลัง ตำรวจชี้แจงว่า เขาเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวมา 8 ปีแล้ว และการที่มาทำลายทรัพย์สินของตัวเองแบบนี้ เพื่อจะกล่าวเป็นนัยๆ ว่า ‘ใครก็จะเอารถข้าไปไม่ได้’ ภายหลังทำการตรวจสอบประวัติ เจ้าหน้าที่ก็พบว่า คุณลุงรายนี้ทำการฝ่าฝืนกฎจราจรมาหลายครั้ง ค้างค่าปรับกว่า 240 รายการ ทั้งจอดในที่ห้ามจอดและฝ่าไฟแดง รวมๆ แล้วเป็นเวลา 6 ปี ถูกตัดคะแนนใบขับขี่ 766 แต้ม และค้างปรับรวมมูลค่าแล้ว 170,000…
-
ชาวเน็ตจีนอิจฉา… เมื่อสาวแหม่มผมทองชาวยูเครน ตกลงใจแต่งงานหนุ่มจีน ไม่ต้องใช้สินสอด!!
ความแตกต่างทางวัฒนธรรมถือว่าเป็นอะไรที่ต้องปรับตัวกันสุดๆ และในช่วงเวลาปัจจุบันที่เริ่มจะมีแนวคิดใหม่ๆ มาแทนที่แนวคิดเดิม เนื่องจากสภาพสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้กันว่าขนบธรรมเนียมการแต่งงานของชาวเอเชียในบางประเทศนั้น ฝ่ายชายจะต้องมีสินสอดไปแสดงต่อครอบครัวฝ่ายหญิง เพื่อทำการสู่ขอตามประเพณีดั้งเดิม แต่ถ้าหากเป็นชาวต่างชาติล่ะ? จะต้องทำอย่างไร อย่างที่ผ่านมาไม่นาน ชาวเน็ตจีนโดยเฉพาะหนุ่มๆ คงจะเกิดอาการรู้สึกอิจฉาพ่อหนุ่มรายนี้ เพราะว่าพี่แกได้แต่งงานกับสาวแหม่มผมทองคนงาม ชาวยูเครน ซึ่งเรื่องที่อิจฉาก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอเป็นฝรั่ง แต่อิจฉาในเรื่องของการเรียกสินสอด เพราะฝ่ายหญิงไม่เรียกเลยแม้แต่แดงเดียว… เรื่องราวความรักระหว่าง Inesa และ He Pingwei เริ่มต้นในช่วงเดือนมกราคม 2016 เมื่อเธอเริ่มทำงานเป็นล่ามในกรุงปักกิ่งและได้พบกับฝ่ายชายเป็นครั้งแรก เธอตกหลุมรักในสเน่ห์ของ He ในทันทีเนื่องจากเขาเป็นผู้ชายที่ใจดี ส่วนฝ่ายชายก็โดนสเน่ห์ความร่าเริงของฝ่ายหญิงเข้ามัดใจเต็มเปา จนในที่สุดก็ตกหลุมรักและไปเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง และแล้วทั้งสองต่างก็ตกลงปลงใจยกระดับความสัมพันธ์จาก ‘คู่รัก’ ให้กลายมาเป็น ‘คู่ชีวิต’ จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายในเดือนตุลาคม 2017 . แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตจีนที่ได้รับรู้เรื่องราวความรักของทั้งสองต้องตะลึงก็คือ ในงานพิธีหมั้นตามประเพณีจีน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย นั่นเป็นเพราะว่าด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม ทางครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวจึงไม่เรียกร้องค่าสินสอดใดๆ คุณแม่ฝ่ายเจ้าสาวบินมาคุยถึงบ้านฝ่ายชาย …
-
ยลโฉม รถ SUV ที่แพงที่สุดในโลก ภายนอกสุขุม ดุดัน แต่ภายในกลับหรูหรา
สมัยนี้ หากจะซื้อรถยนต์สักคัน ก็ต้องนี่เลย รถ SUV!! รถ SUV ก็คือรถยนต์ทรง 5 ประตูอเนกประสงค์ อธิบายง่ายๆ มันเหมือนกับรถลูกผสมระหว่างรถกระบะกับรถเก๋งนั่นเอง คนส่วนใหญ่มักเลือกรถ SUV เพราะว่ามันสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และราคาไม่สูง ซึ่งสำหรับเศรษฐีที่มีเงินมหาศาล รถ SUV นี้คงจะต้องถูกมองข้ามแน่ๆ เพราะว่าดีไซน์ของมันดูก้ำกึ่งๆ แต่ปัจจุบัน ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน รถ SUV ที่ชื่อว่า Karlmann King คันนี้ต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนให้กลับมาอีกครั้ง เพราะมันเป็นรถ SUV ที่แพงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ส่วนดีไซน์ของมันก็บอกได้เลยว่า สวยงาม ลึกล้ำ และดูแพงสมราคา เพราะมันต้องใช้คนจำนวนถึง 1,800 คนในการออกแบบเจ้ารถคันนี้ ดูแล้วคิดถึงรถของ Batman เลยล่ะ ด้วยเครื่องยนต์ 6.8L V10 จึงทำให้ผลิตกำลังเครื่องได้ราว 360 แรงม้า Karlmann King…
-
แม้ทั่วโลกชอบ แต่จีนไม่ชอบ กับหนังราชาเสือดำเพราะตัวหนังมันดำเกินไป ทั้งคน ทั้งฉาก!!
แม้ว่าหนังเร่ือง Black Panther จะมีกระแสตอบรับที่ดีในหลายๆ ประเทศๆ ทั่วโลกแถมทำเงินไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ แต่กระแสมันกลับไม่ดีอย่างที่ควรเมื่อหนังเริ่มฉายในประเทศจีน… รายงานดังกล่าวนั้นเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์รีวิวหนังหลายสำนักของจีน ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ล้วนให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ตัวหนัง Black Panther มันมีความดำที่มากจนเกินไป ไม่ว่าจะฉากในเรื่องหรือนักแสดงเองก็ตาม ยกตัวอย่างคอมเมนต์จากทางเว็บไซต์ Douban ที่มีมีชาวเน็ตเข้ามารีวิวหนังว่า “บางทีคนจีนคงจะไม่เหมาะกับหนังที่มีแต่คนดำ” และ “หนังมีแต่คนดำเต็มไปหมด แล้วไหนจะโทนหนังที่มีสีมืดๆ อีก มันเล่นเอาทรมานสายตามากๆ สำหรับฉันที่ดูในแบบ 3มิติ” หรือจากเว็บไซต์ Quartz ที่บอกว่า “Black Panther ก็ดำ นักแสดงหลักก็ดำ ฉากส่วนใหญ่ก็ดำ ยิ่งซีนที่วิ่งไล่ตามรถก็ดำ คือตรงไหนก็ดำไปหมดมันเล่นเอาฉันดูแล้วง่วงนอนมาก” ยังไม่หมดเท่านั้น ในเว็บเดียวกันยังมีรีวิวที่เขียนไว้ว่า “ตอนที่ฉันเข้าไปดูหนังซึ่งมันตรงกับฉากที่ตัวละครผิวสีสู้กันอยู่นั้นมันมืดมากๆ มืดซะจนฉันไม่เคยรู้สึกมืดจนหาที่นั่งไม่ได้แบบนี้มาก่อน” ยังไม่หมดเท่านั้น ในเว็บไซต์ Hip-Hop Wired ก็ยังคงมีชาวจีนเข้ามาคอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่า “ขนาดโรงหนังทำให้จอสว่างมากๆ แล้ว หนังก็ยังดูมืดอยู่ดี”…
-
หน้าเหนียวกันไปเลย! สาวจีนนำ ‘กาวดักหนู’ แปะหน้าแฟนหนุ่ม โทษฐานที่เล่นแต่มือถือ
เป็นปัญหายอดฮิตสำหรับหญิงและชายหลายต่อหลายคู่ สำหรับการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สนใจ เพราะเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือเล่นเกม บางครั้ง คนรักกันเมื่ออยู่ด้วยกัน ก็ย่อมต้องการความสนใจ และความเอาใจใส่จากกันและกัน แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่ง กลับไปสนใจสิ่งอื่นมากกว่า มันจึงเป็นปัญหาที่หลายๆ คู่คงจะเข้าใจดี แต่วันนี้ เรามีตัวอย่างเป็นคลิปวิดีโอมาให้ชมกัน ในวิดีโอนี้ แสดงถึงวิธีการที่ฝ่ายหญิงใช้จัดการฝ่ายชาย เมื่อฝ่ายชายไม่สนใจเธอ เพราะเอาแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ เป็นวิธีที่ใช้แล้วมั่นใจได้ระดับหนึ่งเลยว่า ฝ่ายชายคงจะไม่อยากสนใจอย่างอื่นมากกว่าคนรักของตนเองอีกแล้วล่ะ ว่าแต่วิธีที่เธอใช่จะเป็นวิธีอะไร และใช้ได้ดีขนาดไหน ไปรับชมกันตามคลิปวิดีโอด้านล่างนี้กันได้เลย… ภาพวิดีโอนี้ถูกถ่ายที่เจียมูซิ มณฑลเฮย์หลงเจียง ของประเทศจีน เนื้อหาภายในคือ ฝ่ายชายกำลังเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่สนใจฝ่ายหญิงเลยแม้แต่น้อย จากนั้น ฝ่ายหญิงจึงเดินเข้าไปหาฝ่ายชาย พร้อมใช้กล้องถ่ายมายังสิ่งที่เธอถือนั่นก็คือ “กาวดักหนู” และแน่นอน เธอไม่ได้ถือมาเฉยๆ เธอนำกาวดักหนูเข้าไปแปะเข้ากับใบหน้าของฝ่ายชายอย่างจัง พร้อมกดให้แนบแน่น โทษฐานที่ฝ่ายชายไม่สนใจเธอ และเอาแต่สนใจเกมโทรศัพท์ ขึ้นชื่อว่ากาวดักหนู แน่นอนว่ามันต้องมีความเหนียว ชนิดที่ว่ายึดติดหนูไว้ได้อยู่หมัด เมื่อมันถูกแปะลงบนใบหน้า มันจึงยึดแน่นเข้ากับใบหน้า จนดึงออกยาก จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า ฝ่ายชาย ดึงกาวดักหนูออกมาแล้ว แต่กาวจำนวนมากยังติดใบหน้าเขาอยู่ สนใจแต่เกมดีนักใช่มั้ย? ป้าบ…
-
ผู้ดูแลเสือถูกขย้ำคากรง แม้จะเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ผู้พบเห็นได้แต่เฝ้ามองอย่างสลดใจ…
ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธ์ุของนักล่าแล้ว สัญชาตญาณตามธรรมชาตินั้นก็จะยังคงอยู่ ไม่ว่าจะถูกฝึกจนเชื่องแค่ไหนก็ตาม เพราะวันใดวันหนึ่งมนุษย์อาจจะถูกมองว่าเป็นเหยื่ออีกก็เป็นได้… เหตุการณ์อันน่าสลดใจนี้ เกิดขึ้นในสวนสัตว์ฝูโจว ณ นครฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน เมื่อผู้ดูแลและจัดการเสือตัวดังกล่าว เข้าไปทำหน้าที่ของตนตามปกติกับเจ้าเสือที่เขาเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็ก ในครั้งนี้มันกลับมองเขาเป็นเหยื่อและเข้าขย้ำอย่างไม่มีความปรานีใดๆ ชายคนดังกล่าวทราบเพียงแค่แซ่ Wu เผยให้เห็นในสภาพร่างอันไร้วิญญาณกับเสือตัวใหญ่อยู่ภายในกรงเหล็กที่ในอดีตเคยเป็นพื้นที่สำหรับโชว์ละครสัตว์ แต่ปัจจุบันเป็นพื้นที่สำหรับฝึกสอนและออกกำลังกายของเสือ นาย Wu ทำงานให้กับสวนสัตว์แห่งนี้ โดยมีหน้าที่ฝึกเสือให้มีความเชื่องมานานหลายปี เพื่อสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย คลิปวิดีโอที่เห็นนั้น ถูกถ่ายโดยผู้เห็นเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น จะเห็นได้ว่าเสือยืนค้ำร่างของครูฝึกอยู่ ในขณะที่คนอื่นๆ พยายามตะโกนว่า ‘โทรเรียกตำรวจมาเดี๋ยวนี้’ ทางด้านสื่อจีนได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอในเหตุการณ์เดียวกัน ในช่วงจังหวะที่เสือทำการฝังกรงเล็บใส่ผู้ดูแลรายนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ พยายามรักษาระยะห่างของเสือด้วยท่อนไม้ อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์ได้ออกมาชี้แจงว่า เสือตัวดังกล่าวเคยแสดงโชว์นอกสวนสัตว์ในมณฑลอานฮุยมาก่อน โดยในปัจจุบันไม่มีการแสดงต่างแล้ว และสิงโตทุกตัวที่เคยอยู่ในทีมแสดงก็ถูกย้ายออกไปจากสวนสัตว์ แต่ยังคงเหลือเสือที่กำลังรอรับการรับรองเพื่อทำการย้ายไปยังสถานที่เหมาะสมอยู่ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน… ที่มา : dailymail,…
-
คู่หูจีนแต่งเป็นทหารญี่ปุ่น ณ ดินแดนนานกิง ถูกจับเข้าซังเต ในข้อหาย่ำยีความรู้สึกชาวจีน…
การแต่งคอสเพลย์นั้นเป็นงานอดิเรกที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร และผู้คนมากมายก็ทำกัน อย่างไรก็ตามการที่จะทำอะไรสักอย่างนั้น คนเราก็ควรที่จะคำนึงถึงเวลาและสถานที่อยู่เสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวในครั้งนี้เมื่อมีชายสองคน โพสต์รูปของพวกเขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ในเมืองนานกิง และภาพของพวกเขานั้นก็สร้างความแปลกตื่นไปบนโลกโซเชียลของชาวจีนในเวลาหลังจากนั้น พวกเขาคือชายหนุ่มแซ่ตังวัย 25 ปีจากเมืองต้าโจว มณฑลเสฉวน และชายหนุ่มผู้มีชื่อแซ่สง จากเมืองนานจิง ทางตำรวจกล่าวว่า ทั้งสองคนแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่ซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งพกพาดาบ และปืนที่มีการติดมีดปลายปืนไว้ โดยภาพที่ว่าถูกถ่ายขึ้นที่ Zijin Shan ซึ่งเป็นภูเขาที่ประเทศจีนเคยใช้เป็นแนวป้องกันกองทัพญี่ปุ่นเมื่อ 80 ปีก่อน แต่จากการที่รูปที่พวกเขาโพสต์มีการเบลอหน้า ทำให้รูปพวกนั้นอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศได้ ด้วยเหตุผลนี้ทางตำรวจจึงได้ทำการเข้าจับกุมพวกเขาพร้อมด้วยโทษคุมขัง 15 วัน เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นานกิงนั้น รู้จักกันดีในชื่อ การสังหารหมู่นานกิง หรือ การข่มขืนนานกิง (Rape of Nanjing) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาหกสัปดาห์หลังญี่ปุ่นยึดนานกิง อดีตเมืองหลวงของประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 1937 เป็นการสังหารหมู่และการข่มขืนในสงครามครั้งใหญ่ที่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน โดยที่มีการประเมินผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 300,000 คน และมีผู้หญิงราวๆ 20,000-80,000 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจได้ออกมาบอกว่าชายทั้งสองคนนั้น ‘รู้สึกผิด’ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและจะใช้เวลาที่ถูกคุมขังนั้น ‘ไตร่ตรองตัวเอง’…
-
ภาควิชาการแสดงมหาวิทยาลัยจีน ปฏิเสธผู้สมัครที่ผ่านการทำ “ศัลยกรรม” หรือ “แต่งหน้าจัด”
เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วกับการทำศัลยกรรม เพื่อให้ใบหน้าดูดีขึ้นหรือเหตุผลอื่นๆ ด้วยค่านิยมที่เปลี่ยนไปในสังคม รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกต่อไป… แต่ก็ใช่ว่าการทำศัลยกรรมจะเป็นที่ยอมรับในทุกแวดวง เพราะอย่างแวดวงการศึกษาในประเทศจีน กลับเลือกที่จะสั่งห้าม และปฏิเสธรับผู้ที่ทำศัลยกรรมเข้ามาศึกษาภายในสถาบัน Dong Lian คณบดีวิทยาลัยศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ ภายใต้มหาวิทยาลัยซานตง ประเทศจีน กล่าวประกาศอย่างเป็นทางการ ผ่านการประชุมสอบคัดเลือกของวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า… “เราตัดสินใจที่จะสั่งห้ามรับผู้สมัครเรียน ที่ผ่านการทำศัลยกรรมสำหรับการเข้าสอบคัดเลือกเรียนในปีนี้ เพราะอาชีพอย่างนักแสดงหรือพิธีกร ที่จะต้องดึงความสนใจจากผู้ชมนับล้าน หากทำการศัลยกรรมมา แม้จะเล็กน้อยแค่ไหน มันจะส่งผลต่อการแสดงสีหน้าของคุณอย่างเห็นได้ชัด” แม้ว่าคุณสมบัติ ‘ความดูดีจากภายนอก’ จะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับวงการบันเทิง ทางฝ่ายรับสมัครจะทำการปฏิเสธผู้สมัครที่ผ่านการศัลยกรรมมาแล้ว รวมไปถึงการใช้เครื่องสำอางที่มากเกินไป จะทำให้นักแสดงที่ทางวิทยาลัยคาดหวังให้เป็นนั้นด้อยคุณค่าลง “นักศึกษาควรจะยึดมั่นในความสวยตามธรรมชาติ และมุ่งพัฒนาทักษะทางด้านการงานอาชีพของตน เราจะไม่รับนักศึกษาที่แต่งหน้าจัด แม้จะด้วยเหตุผลปกปิดแผลเป็นก็ตาม คุณภาพทางด้านวิชาชีพและความสามารถ คือสิ่งที่สำคัญกว่า” คณบดีกล่าวเสริม ในปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครเข้าเรียนวิทยาลัยการแสดงแห่งนี้กว่า 9,000 ราย โดยจะทำการคัดเลือกเหลือเพียงแค่…
-
Donald Trump เอาอีกแล้ว มาคราวนี้บอกว่า สหรัฐอเมริกาน่าจะมีผู้นำตลอดชั่วอายุขัยบ้างนะ
เมื่อพูดถึงประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบันอย่าง Donald Trump เมื่อไหร่ เราก็มักจะนึกถึงเร่ื่องราวกับคำพูดสุดโต่งของเขาเสมอๆ อย่างเช่น ‘grabbing ’em by the p*ssy’ หรือคำพูดที่บอกว่าปุ่มกดนิวเคลียร์ของเขาเจ๋งกว่าเกาหลีเหนืออะไรทำนองนี้ ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านไปจนเข้าสู่ปีที่ 2 ของการเป็นผู้นำของเขา นิสัยการพูดทีเล่นทีจริงของเขาก็ยังคงไม่จางหายไป ซึ่งล่าสุดเขาได้ออกมาพูดว่าสหรัฐอเมริกาน่าจะเอาอย่าง Xi Jinping ผู้นำประเทศจีนที่กำลังวางแผนจะทำให้วาระการอยู่บนอำนาจไม่มีจำกัดบ้าง และนี่ก็คือคำพูดของ Donald Trump ที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อน “ตอนนี้เขาเป็นประธานาธิบดีตลอดชั่วอายุขัยแล้ว และด้วยความที่เขาเป็นคนสุดยอดเขาจึงสามารถทำมันได้ ซึ่งผมก็คิดว่ามันเจ๋ง บางทีพวกเราน่าจะทำแบบนั้นบางในสักวันหนึ่ง” งานนี้่นักข่าวหลากหลายสำนักก็พากันออกมาแซะกันยกใหญ่ว่า ถ้าเกิด Donald Trump คิดว่าจะทำแบบนั้นจริงๆ ตามแบบผู้นำที่เขามีความสามารถแบบชาติอื่นๆ พี่แกก็คงจะคิดผิดแล้ว เพราะตัวเขาเองไม่ได้เยี่ยมเท่าคนที่เขาอ้างถึงนั่นเอง อย่างไรก็ตามด้านพรรค Republicans ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Donald Trump ก็ได้ออกมาบอกว่า คำพูดดังกล่าวนั้นเป็นแค่คำล้อเล่น และต่อให้มันเป็นจริงก็มีคนมากมายไม่เห็นด้วยหรอก ยิ่งไปกว่านั้นทางพรรคก็บอกว่าตัว Donald Trump เองก็ประกาศจะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2020 แล้วด้วย ฉะนั้นขอให้ทุกอย่าตื่นตระหนกไป…
-
รมว. สาธารณสุขซิมบับเว บ่นอุบ ‘ถุงยางจีน’ มีขนาดเล็กเกินไป คนรุ่นใหม่ใส่ใหญ่กว่านี้!!
ทุกวันนี้มีเรื่องชวนปวดหัวมากมายเสียเหลือเกิน แม้แต่ในเรื่องของขนาดถุงยางก็กลายมาเป็นใหญ่หลวงระดับประเทศได้เช่นกัน เพราะสิ่งที่มีอยู่นั้นมันดันใช้งานจริงไม่ได้นี่สิ!! เว็บไซต์ South China Morning Post รายงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2018 เกี่ยวกับเรื่องของนาย David Parirenyatwa รมว. กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซิมบับเว ได้พูดถึงเรื่อง ‘ถุงยาง’ จากประเทศจีน ระหว่างการโปรโมตแคมเปญป้องกันเชื้อ HIV ในกรุงฮาราเร นาย David Parirenyatwa รมว. กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซิมบับเว “ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้นั้นมีอัตราการติดเชื้อ HIV สูงที่สุด และเรากำลังพยายามโปรโมตการใช้ถุงยางอยู่ด้วย และเยาวชนคนรุ่นใหม่นั้น ก็มีถุงยางขนาดมาตรฐานที่ตัวเองชอบ แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงที่เราไม่ได้ผลิตเอง” “เราใช้วิธีนำเข้าถุงยางมาจากประเทศจีน และเริ่มมีข้อร้องเรียนตีกลับมาว่าถุงยางเหล่านั้นมีขนาดที่เล็กเกินไป” นาย Parirenyatwa กล่าวไว้บางส่วนระหว่างการโปรโมต ซึ่งนอกเหนือจากจะบ่นให้ฟังแล้ว เขาก็ยังแนะนำให้บริษัทเอกชนภายในประเทศ หันมาลงทุนเพื่อผลิตถุงยางเอง แทนที่จะเลือกนำเข้าจากจีนเพียงอย่างเดียว ด้านนาย Zhao Chuan ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตถุงยาง Beijing…
-
33 ภาพจากรายการออกเดตของจีน กับความรู้สึกของผู้ร่วมรายการแบบ ‘ตรงๆ’ ไม่อ้อมค้อม!!
อัตราการมีคู่ครองของประชากรโลกนับวันก็ยิ่งมีน้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว จีบคนอื่นไม่เก่ง มีความเขินอาย เข้ากันไม่ได้ หรือเหตุผลทางด้านหน้าที่การงาน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม รายการหาคู่ก็มีจุดประสงค์เพื่อคนไม่มีคู่และความบันเทิงนี่แหละ!! ครั้งนี้ #เหมียวเลเซอร์ จะขอยกตัวอย่างคำพูดของผู้เข้าร่วมรายการ “If You Are The One” จากประเทศจีน ที่กำลังมองหาโอกาสในการออกเดตและหาคู่ให้ตัวเอง… ซึ่งส่วนมากแล้วชาวเอเชียจะไม่ค่อยมีการพูดความรู้สึกตรงๆ เสียเท่าไหร่นัก แต่กลับกันผู้เข้าร่วมรายการนี้ก็พูดแบบไม่กั๊ก บางรายก็ยิ่งแย่เข้าไปหน่อยเพราะรับมุกกับอีกฝ่ายไม่ทันนี่สิ ฮร่าาา 1. ลูกของคุณจะเป็นของผม (ไม่แน่ใจว่ากำลังพูดแบบไหนอยู่นี่สิ) 2. คุณดูคล้ายจะเป็นแฟนคนต่อไปของหนูนะ หูววววววว… 3. ฉันเป็นผู้หญิงเผ็ชๆ ด้วย 3 เหตุผล หนึ่งคือเข้ากับคนได้ง่ายและร่าเริง สองคือ ชอบอาหารรสเผ็ด ส่วนที่สามคือ มีเรือนร่างอันเร่าร้อน!! 4. เมื่ออีกฝ่ายไม่เข้าใจมุกเสี่ยวเกี้ยวบ่าว “ให้ฉันเป็นแกะน้อยของคุณจะได้มั้ยคะ?” ผมไม่เข้าใจอ่ะ (แป่วววววววว) 5. เมื่อฉันยังเด็ก…
-
ความจริงที่บิดเบือน…เผยความโหดร้ายช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อ้างถึงหญิงเกาหลีทาสกาม
*เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของท่านผู้อ่าน* เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงภัยสงครามโลกนั้น ต่างฝ่ายต่างได้รับความสูญเสียอย่างมหาศาล ทั้งในเรื่องของเสถียรภาพของประเทศ การคลัง รวมไปถึงกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้… ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 โดยกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ทหารจากฝ่ายประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการจับผู้หญิงชาวเกาหลีจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปเป็น ‘นางบำเรอ’ ผู้หญิงชาวเกาหลีเหล่านี้ถูกทหารฝ่ายญี่ปุ่นจับตัวเพื่อนำไปเป็นทาสกาม หรือเรียกในอีกแง่หนึ่งคือนางบำเรอแก่ทหารชาวญี่ปุ่น โดยสื่อเกาหลีรายงานว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้น ถูกบันทึกไว้ในวันที่ 15 กันยายน 1944 ณ หมู่บ้าน Tengchong มณฑลยูนนาน ประเทศจีน รายละเอียดของเหยื่อที่เห็นภายในคลิปวิดีโอนั้น ถูกเหล่านายทหารญี่ปุ่นทำการข่มขืนก่อนจะถูกฆ่า และให้ทหารจีนนำร่างมาเผาภายในหลุมที่ขุดเอาไว้… คลิปวิดีโออันน่าหดหู่นี้ได้รับการเปิดเผยมาจากหน่วยงาน Seoul Metropolitan Government และองค์กร Seoul National University Human Rights ประเทศเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าได้รับการกู้คืนมาจากหน่วยงาน National Archives and Records…
-
จีนประสบปัญหาวัฒนธรรมแปลกที่ให้ “โคโยตี้” มาเต้นให้ความบันเทิงในงานศพ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ครั้งหนึ่งประเทศ “จีน” ได้มีการจัดพิธีศพด้วยความสนุกสนาน โดยการจ้างหญิงสาวนักเต้น “เปลื้องผ้า” มาแสดงในงาน เพราะถือว่าเป็นการส่งวิญญาณสู่สวรรค์ในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ปัจจุบันทางการประเทศจีนเริ่มมีการปราบปรามการจัดพิธีในลักษณะนี้ ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2018 กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศได้ประกาศการรณรงค์ใหม่ขึ้นมาต่อต้าน “การแสดงที่ต่ำช้าและอนาจาร” ในพิธีสมรส งานศพ หรือในงานวัดก็ตาม โดยจะมุ่งเน้นไปที่มณฑลที่รักความบันเทิงอย่าง เหอหนาน อานฮุย เจียงซู และเหอเป่ย สายด่วนหมายเลขใหม่ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้โทรไปรายงานถึงการจัดพิธีศพที่ไม่เหมาะสม ผู้ที่รายงานดังกล่าวจะได้รับเงินรางวัลอีกด้วย การแสดงนักเต้นเปลื้องผ้าในงานศพแบบนี้ เริ่มเป็นที่สนใจตั้งแต่ปี 2006 เมื่อกลุ่มชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆ ของมณฑลเจียงซูได้เชิญชวนให้คณะนักเต้นเปลื้องผ้ามาเข้าร่วมแสดงในงานศพ ในรายงานเล่มหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้กล่าวว่า “นักเต้นบางคนก็จะเข้ามาถอดกางเกงของผู้ชมออก และชวนให้เต้นด้วยกัน ขณะที่บางคนก็แสดงการอาบน้ำกลางแจ้ง หรือเปลือยกายเล่นกับงู” หลังจากที่เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็นข่าวใหญ่ หน่วยงานรัฐในท้องถิ่นก็ทำการปราบปรามและกำจัด พิธีศพที่ “อนาจาร” เหล่านี้ แต่จากนั้นไม่นาน พิธีอนาจารแบบเดิมก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งในปี 2015 หลังจากที่มีภาพของการแสดงในพิธีศพแห่งหนึ่งในย่านชนบทของมณฑลเหอเป่ยหลุดออกไปสู่สายตาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในภาพเป็นหญิงสาวนักเต้น กำลังทำการรูดเสาอยู่บนเวที และเชิญชวนชายที่โศกเศร้ากับงานศพขึ้นไปเต้นด้วยกันและเปลื้องผ้า ขณะเดียวกัน ผู้ชมจำนวนมากที่เข้าร่วมงานนั้นก็รวมไปถึงคนชราและเด็กเล็กด้วย ทั้งนี้ทางกระทรงวัฒนธรรมของจีนเองได้มีการตอบโต้ต่อความบันเทิงลามกนี้ด้วยการออกแผนกำจัด เพราะมองว่ามันคือสิ่งที่ “บั่นทอนบรรยากาศทางสังคม”…
-
เด็กน้อยเล่นพิเรนทร์ฉี่รดในลิฟต์ ก่อนกรรมตามสนอง ไฟช็อต ลิฟต์ค้าง ออกไม่ได้…
ช่วงเวลาของการขึ้นลิฟต์อาจมาพร้อมกับอาการปวดฉี่ที่เข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว จนบางครั้งเราอาจเกิดความคิดว่า “หรือจะฉี่ในลิฟต์ไปเลยดีหว่า?” แต่เหตุการณ์นี้จะเป็นสิ่งที่บอกทุกคนว่าคุณไม่ควรทำอย่างนั้น นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิฟต์แห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2018 ในเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน กล้องวงจรปิดภายในลิฟต์ดังกล่าวสามารถจับภาพของเด็กหนุ่มไม่ทราบชื่อยืนฉี่ใส่ปุ่มกดภายในลิฟต์ด้วยท่าทางสบายใจและดูสนุกสนาน ก่อนที่จะสะบัดให้แห้งแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งยืนฉี่ใส่ปุ่มกดภายในลิฟต์ แต่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะลิฟต์ไม่ยอมเปิดออกในตอนถึงชั้นที่เขาจะลง ปุ่มกดภายในลิฟต์เรืองแสงสลับไปมาราวกับเครื่องจักรที่กำลังรวน เด็กหนุ่มพยายามกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดออกแต่ก็ไม่เป็นผล แล้วจู่ๆ ไฟในลิฟต์ก็ดันมากระพริบแบบถี่ๆ จนกระทั่งดับไปในที่สุด ชัดเลยว่าเด็กคนนี้ดันทำพลาดจนตัวเองต้องติดอยู่ในลิฟต์ไปเสียแล้ว ไม่มีการรายงานว่าเขาติดอยู่ในนั้นนานเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยที่น่าจะแอบเหม็นกลิ่นฉี่หน่อยๆ นะ คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เด็กคนนี้ยืนฉี่และผลที่ตามมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ย้อนกลับไปปี 2015 มีวัยรุ่นคนหนึ่งในเมืองฉางชา ฉี่ใส่ลิฟต์จนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ลิฟต์ใช้การไม่ได้ไปนาน 2 วันเลยทีเดียว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คราวหน้าคราวหลังเวลาปวดฉี่อย่าขึ้นลิฟต์ ให้ขึ้นบันไดแทน ตอนฉี่ระหว่างทางจะได้ไม่เกิดอาการไฟฟ้าลัดวงจรแล้วต้องมาติดอยู่ในลิฟต์เหมือนเด็กคนนี้ ที่มา: medium
-
ภาพถ่ายสวนสนุกของหวาน ที่พอหมดความหวานก็แห้งเหี่ยว ไม่มีวี่แววของผู้คน
พอนึกถึงสวนสนุกแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงนึกถึงผู้คนที่พลุกพล่าน เครื่องเล่นละลานตา กลิ่นขนมหวานที่ลอยมาตามอากาศ หรือภาพของลูกโป่งสวรรค์ที่ลอยไปกับสายลม แต่ถ้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสวนสนุกที่ว่าเป็นสวนสนุกร้างล่ะ ภาพหนังสยองขวัญก็จะเริ่มเข้ามาในสมองทันที หมอกควันที่ปกคลุม หรือตัวตลกเปื้อนเลือดที่เป็นฆาตกร แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว สวนสนุกที่ร้างผู้คนนั้น อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกเราคิด จริงอยู่ว่าความเหงา และความสิ้นหวังที่รับรู้จากเหล่าเครื่องเล่นที่หยุดนิ่งนั้นอาจจะไม่หายไปไหน แต่มันก็สวยงามไปในอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน Stefano Cerio ช่างภาพมืออาชีพชาวอิตาลี ผู้หลงรักใน สวนสนุก เรือสำราญ และรีสอร์ต ได้เดินทางมายังสวนสนุกแห่งหนึ่งในจีน เพื่อที่จะถ่ายภาพสวนสนุก ในรูปแบบที่ไม่ค่อยจะมีใครทำกัน ช่างภาพชาวอิตาเลียนกล่าวว่า “ผมไม่สามารถถ่ายรูปได้เมื่อมีท้องฟ้าที่สดใส ไม่งั้นมันอาจจะดูเหมือนโบรชัวร์วันหยุดธรรมดาๆ” ภาพถ่ายของเขานั้นจะมุ่งเน้นไปที่ภาพโทนสีเทาที่แสดงออกถึงความเศร้าและสิ้นหวังของสวนสนุก และมันก็เป็นโชคดีของเขา ที่ในช่วงที่เขามาที่จีนนั้นท้องฟ้าหม่นหม่องมันเสียทุกวัน “ผมชอบถ่ายภาพที่ ‘ไม่มีคนอยู่ที่นั่น’ ผมเรียกมันว่า ‘ภาพแห่งสิ่งที่ขาดหาย’” สำหรับ Cerio แล้ว การถ่ายภาพของความว่างเปล่านั้น นั้นเป็นส่วนสำคัญของการถ่ายภาพที่ที่เขาไปเยือน ตัวอย่างงานในครั้งนี้ของเขามีอยู่ดังนี้ . . . . . . . . นอกจากภาพในชุด “ความสนุกของจีน”…
-
คุณพ่อชาวจีนทำงานหนัก ถึงขั้นไม่กลับบ้านวันปีใหม่จีน ลูกชายเสียชีวิตช่วงนั้นพอดี…
การเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกๆ เพื่อเรียนให้จบอาจจะเป็นตัวเลือกเดียวที่บางครอบครัวมีอยู่ แต่สำหรับบางครอบครัว การเลือกที่จะทำงานในช่วงวันหยุดนั้นก็ทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต คนงานผู้อพยพชาวจีนผู้ซึ่งเลือกที่จะทำงานในช่วงวันหยุดตรุษจีนเพื่อให้ได้เงินเพิ่มเติมในการส่งเสียค่าเล่าเรียนให้กับลูกชายกล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของเขามากๆ หลังจากที่ลูกชายของเขาเสียชีวิตในช่วงวันหยุดยาวของประเทศจีน “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อลูกของผม” คุณพ่อกล่าว “ถ้าผมรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ผมคงเลือกที่จะกลับมาบ้านเพื่อใช้เวลาร่วมกับเขาในวันตรุษจีน” ลูกชายวัย 13 ปีที่ถูกปล่อยไว้ให้ญาติดูแลได้วิ่งออกไปเล่นด้านนอกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 แต่ไม่ได้กลับบ้านภายในเวลา 3 ทุ่ม ทำให้ทางครอบครัวรู้สึกกังวลจึงช่วยกันออกตามหา สุดท้ายพวกเขาได้พบกับร่างของเด็กชายนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บนถนนข้างๆ รถบรรทุกขยะ เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลในทันทีและได้เสียชีวิตในวันอังคารถัดมา “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมอบให้ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ทั้งสิ่งของทั้งความรู้สึก มันได้หายไปหมดแล้ว” คุณพ่อกล่าว “ความหวังของผมได้พังทลายลงแล้ว” ทางตำรวจก็กำลังสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กชายคนนี้ คาดว่ามาจากการชนแล้วหนี ลูกชายของคนงานผู้นี้เป็นหนึ่งในเด็กจำนวน 60 ล้านที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ญาติดูแลในแถบชนบท ในขณะที่พ่อแม่นั้นเข้าเมืองเพื่อทำงานหาเงินส่งค่าใช้จ่าย ซึ่งการกระทำแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกายต่อเด็กๆ ในแถบชนบทได้ ที่มา Nextshark, Scmp
-
ชมภาพมุมสูงของช่วงเวลารถติดที่แสนงดงามในช่วงเทศกาลในประเทศจีน จะได้กลับมั้ยเนี่ย
เคยสังเกตใช่ไหมครับว่าช่วงเทศกาลทีไร การจราจรติดขัดทุกที มันไม่ได้เป็นเฉพาะประเทศไทยเราหรอกครับ เพราะที่ต่างประเทศก็เป็นเช่นกัน หากว่ากันด้วยเรื่องของรถติดแล้วล่ะก็ ต้องที่นี่เลย นครไหโข่วแห่งประเทศจีน ยามสิ้นสุดช่วงเทศกาลของที่นั่น บนท้องถนนจะมีรถที่กำลังเดินทางกลับบ้านเกิดกันจำนวนแน่นขนัด จนแทบขยับไม่ได้กันเลยทีเดียว บนเกาะไห่หนาน ยามที่สภาพอากาศมีหมอกหนาจนทำให้ไม่สามารถใช้เรือขนส่งรถข้ามไปยังแผ่นดินได้ ยิ่งส่งผลให้การจราจรบนท้องถนนยิ่งติดขัดจนขยับไม่ได้ บนถนนคาดว่ามีผู้คนกว่า 100,000 คน กับรถกว่า 10,000 คันที่ติดอยู่บนเกาะไห่หนาน รอคอยเวลาที่สภาพอากาศจะดีขึ้น มีหมอกน้อยลงจนเรือขนส่งสามารถมาขนย้ายรถและผู้คนกลับไปไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ . . แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์แบบนี้ มันทำให้เกิดภาพอันสวยงาม ภาพทางอากาศที่ถ่ายลงมายังท้องถนนซึ่งเต็มไปด้วยรถจำนวนนับไม่ถ้วน . . เมื่อยามค่ำคืนมาถึง ยิ่งกลับทำให้ภาพการจราจรที่แสนติดขัด ยิ่งดูสวยงาม . ทั้งแสงและสี ทำให้สถานการณ์นี้ เกิดเป็นภาพสวยงามขึ้นมา หรือหากว่าจะหันไปพึ่งการเดินทางทางรถไฟก็มีประชากรแออัดหนาแน่นไม่แพ้กัน ชาวจีนจะต้องพบเจอปัญหานี้ทุกปี ในเวลาที่มีเทศกาลประจำฤดูหรือประจำปี . เห็นอย่างนี้แล้วท้อแท้แทนชาวจีนเลย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมากๆ แล้วต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ ที่มา: Medium
-
ชายหนุ่มลักลอบเข้าไปขโมย “นิ้วโป้ง” ของรูปปั้นทหารโบราณมูลค่ากว่า 140 ล้านบาท!!
ปกติในทุกๆ ปี พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จะมีงานเลี้ยงที่เรียกว่า Ugly Sweater Party เพื่อให้ทุกๆ คนได้มาสนุกสนานกันภายใต้ชุดเสื้อถักเก๋ๆ สไตล์ใครสไตล์มัน แต่แล้วมันก็ได้เกิดเหตุโจรกรรมขึ้นท่ามกลางงานรื่นเริงในปี 2017 ที่ผ่านมา เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2017 ระหว่างที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยง Michael Rohana หนุ่มวัย 24 ปี ก็หาจังหวะแอบเข้าไปในพื้นที่จัดแสดงชั่วคราว รูปปั้นทหารแห่งองค์จักรพรรดิที่หนึ่ง ซึ่งเป็นชุดผลงานศิลปะที่ถูกยืมมาจากประเทศจีน พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะรูปปั้นดินเผาอันเก่าแก่ ภายในพื้นที่จัดแสดงเต็มไปด้วยรูปปั้นนักรบรวมมูลค่ากว่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มทหารที่ถูกปั้นขึ้นมาไว้สำหรับคุ้มครององค์จักรพรรดิคนแรกของจีน Qin Shi Huang (จิ๋นซีฮ่องเต้) หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไป แต่อาจจะเป็นเพราะความชะล่าใจ จึงทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ยังคงป้องกันพื้นที่ที่ถูกปิดเอาไว้ไม่เพียงพอ Michael เลยสามารถแอบเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ลอดผ่านเชือกสีดำที่ถูกผูกเอาไว้กับเสาสองต้นเท่านั้นเอง หลังจากที่เขาเข้าไปในเขตหวงห้าม ชายหนุ่มก็ควักสมาร์ตโฟนขึ้นมาเซลฟี่ภาพของตัวเองที่กำลังโอบไหล่รูปปั้นทหารเอาไว้หนึ่งรูป ก่อนที่เขาจะตัดสินใจขโมยนิ้วโป้งมือด้านซ้ายของรูปปั้นดินเผาชิ้นนั้นกลับบ้าน ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 140 ล้านบาท นิ้วโป้งซ้ายของรูปปั้นที่ชายหนุ่มขโมยไป การโจรกรรมของเขาถูกบันทึกเอาไว้ผ่านกล้องวงจรปิดของทางพิพิธภัณฑ์ พร้อมด้วยหลักฐานอีกชิ้นใน Snapchat (แอปพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์กรูปแบบหนึ่ง)…
-
ชายที่อ้วนที่สุดในมณฑลหูหนาน อยากมีแฟนสักคน หลังลดน้ำหนักได้เกือบ 100 กิโลฯ!?
ว่ากันว่าความรักนั้นสามารถจุดประกายความฝันและสร้างเป้าหมายให้กับมนุษย์ได้ เช่นเดียวกับหนุ่มที่หนักที่สุดในมณฑลหูหนานคนนี้ ซึ่งเขามีน้ำหนักที่มากถึง 170 กิโลกรัม ที่ตัดสินใจอยากจะเปลี่ยนตัวเอง หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Liu Ping ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 เขานั้นได้รับฉายาว่าเป็นคนที่อ้วนที่สุดในมณฑลดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอ้วนมาได้ขนาดนี้นั่นก็เพราะ เขามักจะกินหม่าล่าถ้วยโตพร้อมกับเป๊ปซี่อีกสองขวดและขนมอีกชุดใหญ่เป็นประจำทุกวัน จนสุดท้ายเวลาผ่านไปผลลัพธ์ก็จึงออกมาอย่างที่เห็น จนกระทั่งเมื่อมกราคมปี 2017 เขาได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเข้ารับการผ่าตัดลดน้ำหนัก ซึ่งมันก็ได้ผลดีเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อการผ่าตัดสำเร็จบวกเข้ากับการเปลี่ยนวิธีการกินและออกกำลังขังเขา ทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 75 กิโลกรัมภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี นอกจากนี้เขายังตั้งเป้าหมายไว้อีกว่าในปี 2018 นั้นเขาจะลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายให้ได้อีก 15 กิโลกรัม จากนั้นเขาก็จะมองแฟนสาวสักคนและมอบความรักให้กับเธอ อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะมองว่าที่ Liu Ping นั้นสามารถลดน้ำหนักได้ก็เพราะการผ่าตัด แต่ถ้าเรามองอีกด้านเราก็จะพบว่าเขาไม่ได้ผ่าตัดแล้วหยุดอยู่แค่ตรงนั้น แต่เขายังคงพยายามออกกำลังและเปลี่ยนตัวเองซึ่งถ้าเขาผ่าตัดแล้วหยุดอยู่ที่เดิม ผลที่ออกมามันคงไม่ดีอย่างที่เห็น ยังไงก็เอาใจช่วยให้หาแฟนได้ไวๆ นะ สู้โว้ย!! ที่มา shanghaiist
-
หญิงสาวเคยขโมยสบู่จากร้านนี้เมื่อ 18 ปีก่อน ตอนนี้เธอเอาสบู่มาคืนแล้ว แถมเอามา 100 ก้อน
คุณเคยทำความผิดบางอย่างแล้วเก็บเอามันมาคิดอยู่บ่อยๆ บ้างรึเปล่า ถ้าเคยอาจจะแปลว่าจริงๆ แล้วคุณก็เป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีประมาณหนึ่ง จึงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องที่รู้สึกว่าผิดผ่านเลยไปได้ง่ายๆ นั่นเอง วิธีลบความผิดนั้นออกไปจากใจก็ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณขอโทษจากใจจริงแล้วชดใช้ความผิดนั้นซะ ก็จะรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเลยล่ะ เหมือนกับสาวคนนี้ที่เคยขโมยของจากร้านค้าไป สุดท้ายไม่สบายใจจนต้องเอาของกลับมาคืน 100 เท่า! Qu สาวน้อยที่เคยขโมยสบู่เมื่อครั้งยังเด็ก เมื่อเธอยังอายุ 12 ปีว Qu เคยขโมยสบู่ 1 ก้อนไปจากซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองยี่ฉวน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ความผิดครั้งนั้นกลายเป็นตราบาปในใจของเธอเรื่อยมาก จนตอนนี้อายุ 30 ปีแล้วเธอก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ เธอจึงอยากลบล้างความรู้สึกผิดที่มีมาตลอด 18 ปีนี้ หญิงสาวตัดสินใจเดินทางกลับไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนั้น พร้อมกับนำสบู่แบบเดียวกันกับที่เธอเคยขโมยไปคืนจำนวน 100 ก้อน เพื่อเป็นค่าชดเชยในการโจรกรรมเมื่อเยาว์วัย เธอเล่าเรื่องการขโมยของครั้งนั้นให้เจ้าของร้านฟัง และขอโทษเขาด้วยความจริงใจ หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าของร้านฟังพร้อมทั้งนำสบู่ไปคืนแล้ว เจ้าของร้านก็ยกโทษให้เธอเพราะเห็นแก่ความจริงใจที่เธอมี หญิงสาวเล่าว่า “ความผิดพลาดครั้งนั้นกลายเป็นตราบาปในใจของฉันมาตลอดช่วงชีวิตนี้ เพราะมันคือเรื่องแย่ที่สุดที่ฉันเคยทำมาในชีวิตนี้” เจ้าของร้านประทับใจในเรื่องราวของเธอ เลยนำสบู่ที่เธอเอามาคืนไปแจกจ่ายให้กับคนในบริเวณนั้น นอกจากนี้เจ้าของร้านยังประทับใจในเรื่องราวของเธอ เขาจึงตัดสินใจนำสบู่ที่ได้มาจากเธอไปแจกจ่ายให้กับพนักงานทำความสะอาดในบริเวณใกล้เคียง เพื่อแบ่งปันความดีของเธอให้คนอื่นด้วย ตอนนี้นอกจาก Qu…
-
คาถาชีวิตคู่จาก Donnie Yen ‘เชื่อฟังเมียได้ดีทุกคน เมียแฮปปี้ ชีวิตก็แฮปปี้’
พระเอกภาพยนตร์บู๊แอคชันสไตล์กังฟูที่เรียกได้ว่าโด่งดังมากๆ ในปัจจุบันก็คงจะหนีไม่พ้นชายคนนี้แน่นอน Donnie Yen กับบทบาท Ip Man (ยิปมัน) ปรมาจารย์มวยหย่งชุนที่ติดตาใครหลายๆ คน เรียกว่าเป็นบทแจ้งเกิดเลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงสายบู๊แบบนี้ ชีวิตนอกจอของเขาไม่ใช่การออกไปไล่เตะต่อยชาวบ้านอย่างในภาพยนตร์หรอกนะ เพราะ Donnie Yen นั้น รักภรรยาและลูกๆ มากเลยล่ะ ในโอกาสวันวาเลนไทน์นี้เอง เขาก็ได้ออกมาบอกเคล็ดลับการมีชีวิตคู่ที่แฮปปี้และมีความสุข พร้อมทั้งแสดงความรักที่เขามีให้กับภรรยาของเขา Cecilia Wang และมันก็กลายเป็นตัวอย่างของชีวิตคู่ที่ดีให้ชาวเน็ตได้ชื่นชมกัน ชีวิตจริง Donnie Yen ไม่ได้ชอบเตะต่อย แต่ชอบอยู่กับภรรยาและลูกๆ มากกว่า นอกจากจะเป็นนักแสดงภาพยนตร์แอคชันฝีมือระดับโลกแล้ว ภรรยาของเขายังบอกว่า Donnie Yen เป็นสามีที่ดีมาตลอด 15 ปีเลยทีเดียว และในวันวาเลนไทน์นี้เอง เขาก็ได้ทำให้ชาวเน็ตได้อิจฉาตาร้อนด้วยการโพสต์ข้อความสุดหวานให้กับภรรยาของเขาบนเฟซบุ๊ก มีเนื้อความว่า “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคุณนาย Yen นี่เป็นปีที่ 15 แล้วที่แต่งงานกันมา และจะมีปีต่อไปอีกเรื่อยๆ รู้ไหมว่าคุณเป็นทุกสิ่งที่ชายคนหนึ่งจะสามารถขอพรได้เลย ขอบคุณนะ ที่เข้ามาเป็นคุณนาย Yen ของผม”…
-
เปิดประสบการณ์ใหม่ เมื่อจีนสร้างห้องน้ำบนสะพานลอย รังรองงานนี้มีหวิวๆ บ้างแหละ
เป็นที่รู้กันดีว่าที่ประเทศจีนนั้นถือเป็นศูนย์รวมสิ่งแปลกๆ ทั้งอาหารการกิน การใช้ชีวิตและอื่นๆ อีกมากมายเรียกว่าถ้าไปคือได้เปิดโลกใหม่แน่นอน ล่าสุดได้มีสื่อจีนรายงานว่าเมืองฉงชิ่ง ได้เปิดตัวสถานที่สุดแปลกที่การันตีว่ามันจะจะมอบความรู้สึกใหม่ๆ เวลาถ่ายหนักและเบาให้กับคุณอย่างแน่นอน สถานที่ที่ว่านั่นก็คือห้องน้ำสาธารณะบนสะพานลอยยังไงละ!! อ่านๆ แล้วอาจจะงงว่าทำไมไปสร้างห้องน้ำไว้บนสะพานลอย แต่เชื่อเหอะว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ และมันก็ใช้งานได้จริงด้วย ที่สำคัญคือมันเป็นห้องน้ำรวมด้วยนะ ฉะนั้นใครผ่านไปมาก็ใช้ได้เลยอยู่ข้างบนอากาศเย็นดีด้วย จากรายงานของ ChinaNews ได้ระบุว่า ที่ต้องสร้างห้องน้ำดังกล่าวบนสะพานลอยก็เพราะ ตอนนี้กำลังมีงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเกิดขึ้น และนักท่องเที่ยวจากหลากหลายที่ก็พากันเดินทางมายังงานดังกล่าวกันอย่างคับคั่ง เพียงแต่ว่า ถ้าเกิดพวกเขากำลังข้ามสะพานลอยอยู่แล้วข้าศึกดันบุกมาโจมตีพอดี ห้องน้ำลอยฟ้าแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตัวเลือกหลักที่ช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวชนะข้าศึกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง ส่วนถ้าใครกลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยหรือจะไม่สะอาดก็หายห่วงได้เลย เพราะมีคนคอยทำความสะอาดอยู่เกือบตลอด และห้องน้ำก็ปิดมิดชิด รับรองว่าใครก็แอบดูไม่ได้จะมีก็แต่ลมเท่านั้นที่ทำให้คุณเย็นวาบไปทั้งตัวเวลาสู้ศึกอยู่ ฉะนั้นถ้าใครสนใจอยากจะเปิดประสบการณ์ใหม่บนห้องน้ำสูง ก็เชิญไปเยี่ยมเยือนกันได้เลยที่สะพานลอยเมืองฉงชิ่ง โลกใหม่รอคุณอยู่!! ที่มา shanghaiist
-
โจรจีนปาอิฐพลาด แทนที่จะปาหน้าต่าง กลับโดนหัวเพื่อนโจรสลบเหมือด แบกหนีแทบไม่ทัน
ดูเหมือนว่าเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมานี้โจรในประเทศจีนจะไม่ได้หยุดไปฉลองกันแต่อย่างใด เพราะกล้องวงจรปิดของจีนยังคงจับภาพโจร 2 คนที่กำลังจะงัดแงะเข้าไปขโมยของได้ แต่โจรคนหนึ่งดันพลาดซัดเพื่อนอีกคนซะล้มพับไปเลย ทำให้การปล้นครั้งนี้ล่มไม่เป็นท่า พอเห็นคลิปแล้วก็ไม่รู้จะดีใจที่ไม่เกิดการโจรกรรม หรือสงสารโจร 2 คนนั้นแทนดี เดี๋ยวพวกเราช่วยกันปาอิฐใส่หน้าต่างตามแผนนะ พอแตกแล้วก็เข้าไปเลย คลิปวิดีโอนี้เป็นภาพจากกล้องวรจรปิดบริเวณใกล้กับถนนเส้นหนึ่งในประเทศจีน แต่ก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นกล้องมาจากเมืองไหน เห็นเพียงแต่บริเวณริมทางเดินกว้างและตัวตึกที่อยู่ใกล้กับกล้องเท่านั้น ในตอนแรกโจรทั้งสองคนเดินมาด้วยกันอย่างลับๆ ล่อๆ จากทางมุมซ้ายของกล้องวงจรปิด คาดว่าอาจจะลงมาจากรถทางซ้ายมือ โดยในมือของทั้งคู่มีอิฐอยู่คนละก้อนซึ่งน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ทำลายหน้าต่าง เพื่อเปิดเส้นทางเข้าไปขโมยของนั่นเอง คลิปวิดีโอ ต่อมาโจรคนแรกจึงเดินมาด้านหน้าแล้วปาอิฐเข้าใส่ตัวตึกเพื่อเปิดทางเข้าให้กับตัวเอง พอโจรด้านหลังเห็นแบบนั้นก็คงจะปาอิฐตามเพื่อนบ้าง แต่อาจจะเพราะไม่ได้สื่อสารกันดีพอ เมื่อโจรคนข้างหลังปาอิฐออกไป โจรคนแรกก็เดินเข้ามาบังวิถีเลยโดนอิฐอัดศรีษะเข้าไปเต็มแรงเลย เฮ้ย แกจะเข้ามาบังทำไม หลบป๊ายยยย จากนั้นเขาก็ล้มตัวนอนนิ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ โจรอีกคนหนึ่งเห็นแบบนั้นก็ตื่นตกใจมากรีบเข้าไปเรียกเพื่อนให้ฟื้นสติขึ้นมา โดยพยายามใช้มือพยุงเขาให้ลุกขึ้น แต่เพื่อนของเขาก็สลบไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงทำได้เพียงล้มเลิกความคิดที่จะขโมยของก่อน แล้วลากตัวเพื่อนออกไปจากที่เกิดเหตุให้ไวที่สุด เป็นไรมากป่าววะ ทำใจดีๆ ไว้ ลุกขึ้นมาช่วยกันก่อนสิเฮ้ย อาจจะดูเหมือนว่าโจร 2 คนนี้ช่างซื่อบื้อซะจริง แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าหนึ่งใน 2 คนนั้น…
-
งงทั้งกองร้อย เมื่อมีสาวมาถ่ายรูปกับทหารหนุ่ม นึกว่าเป็นแฟนกัน อ้าวเฮ้ย… นั่นแม่หรอกเหรอ!?
ภาพสาวสวยคนหนึ่งที่ถ่ายรูปเซลฟี่กับทหารหนุ่มนั้นกำลังเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มชาวเน็ตไต้หวัน เพราะดูยังไงก็เหมือนกับคู่รักไม่มีผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอคือแม่ของเขาต่างหาก ชาวเน็ตต่างก็ทำใจเชื่อได้ยากว่าคุณแม่อะไรจะสวยและดูอ่อนเยาว์ขนาดนี้ หลังจากที่ Ye Xinyu ( 葉芯語 ) โพสต์ภาพของตัวเองและลูกชายลงในเฟซบุ๊กแล้ว ก็ได้รับความสนใจจากความเน็ตอย่างล้นหลาม เฉพาะโพสต์หน้าเฟสบุ๊กของเธอมีคนเข้าไปกดไลค์ให้โพสต์ของเธอกว่า 12,000 ครั้ง และแชร์ต่อไปอีกกว่า 100 ครั้งแล้ว นี่ยังไม่นับที่ชาวเน็ตเอาไปเผยแพร่กันต่ออีกนะ โพสต์ของคุณแม่ ในโพสต์เฟซบุ๊กเธอกล่าวถึงหน้าตาที่สวยงามของเธอ ซึ่งเธอเองก็มีความมั่นใจในความสวยเหมือนกัน และอีกส่วนก็กล่าวถึงลูกชายของเธอที่เป็นทหารอยู่ โดยเธออยากให้ทุกคนปฎิบัติต่อลูกของเธอด้วยความเป็นมิตร ลูกชายจะได้เป็นทหารที่ช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างมีความสุข เธอยังบอกในโพสต์ไว้ด้วยว่าลูกชายเธออายุ 20 ปีแล้ว พอเห็นดังนั้นชาวเน็ตเลยลองนั่งนับอายุของเธอดู แล้วคาดว่าเธอน่าจะมีอายุเกือบๆ 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังสวยเช้งอยู่เลย ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นต่างก็ตกตะลึงในรูปลักษณ์ที่ดูเยาว์วัยของสาวคนนี้กันทั้งนั้น นอกจากรูปที่เธออัปกับลูกชายแล้ว รูปอื่นๆ ที่เธออัปโหลดลงในเฟสบุ๊กไม่ว่ารูปไหนก็ดูสวยใสทั้งนั้น ลองไปชมรูปของเธอกันเลย ถึงจะเห็นแบบนี้แต่ไม่ใช่แฟนกันนะ เป็นแม่ลูกต่างหาก ลูกชายเพิ่งเข้ากองทัพไม่นาน เลยเข้ามาให้กำลังใจทุกอาทิตย์ค่ะ รูปโปรไฟล์ของเธอช่างดึงดูดใจชายหนุ่มซะจริง พออยู่ในชุดเสื้อกันหนาวแล้วทำให้เข้าใจผิดง่ายๆ เลยว่าเป็นเด็กนักเรียน ผิวขาวเนียน ตากลมโตมีเสน่ห์ขนาดนี้ หนุ่มที่ไหนจะอดใจไม่มองได้บ้าง ยิ่งแต่งตัวชุดลำลองก็ยิ่งดูวัยรุ่นมากเข้าไปทุกที…
-
ทางการจีนเตือนนักท่องเที่ยว ที่จะไปเที่ยวที่ทวีปแอนตาร์กติกาว่าอย่าเอามือไปจับเพนกวิน
เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนั้น ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศจีนเริ่มขยายเส้นทางออกไปยังที่ต่างๆ มากมายตามมุมต่างๆ ของโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาและยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าทวีปแอนตาร์กติกาไม่พลาดที่จะมีชาวจีนไปเยือนเช่นกัน… ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ทางจีนได้มีการโฆษณาเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนดินแดนน้ำแข็งที่ทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งแน่นอนว่าก็มีคนจีนให้ความสนใจเพียบและพากันไปยกใหญ่ เพียงแต่พอคนไปเยอะปัญหามันก็ตามมา นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ที่ไปเยือนยังดินแดนน้ำแข็งซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ของพวกเขา ล้วนตื่นเต้นที่ได้เจอกับเพนกวินตัวเป็นๆ จึงอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปทักทายและไปจับมัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นการสร้างปัญหาให้กับสัตว์ตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ทางการจีนก็ไม่นิ่งนอนใจแต่อย่างใดพร้อมประกาศกฎใหม่ทันที โดยกฎที่ว่านั้นประกาศให้นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวยังทวีปแอนตาร์กติกาห้ามเก็บอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกลับมา ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด ที่สำคัญห้ามเข้าไปจับหรือรบกวนเพนกวินและรวมถึงสัตว์ตามธรรมชาติอื่นๆ ด้วย จากรายงานของ South China Morning Post นั้นได้บอกไว้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนคนไหนที่ละเมิดกฎดังกล่าว จะถูกแบนห้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกาทันทีเป็นระยะเวลา 3 ปี!! อย่างไรก็ตาม โทษดังกล่าวก็ดูจะไม่รุนแรงสักเท่าไหร่นัก เพราะว่าการไปเที่ยวทริปทำนองนี้บางคนก็เลือกที่จะไปแค่ครั้งเดียวในชีวิต ฉะนั้นทางการอาจจะต้องปรับกฎใหม่ให้มันรุนแรงขึ้นเพื่อช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวนั่นเอง และจากสถิติการท่องเที่ยวของคนจีนที่ไปเยือนทวีปแอนตาร์กติกานั้น นับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปี 2016 นั้น ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังทวีปดังกล่าวจำนวน 4,000 คนและกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีการเชิญชวนดังกล่าว ซึ่งตอนนี้อันดับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนทวีปแอนตาร์กติกานั้น จีนเป็นรองแค่นักท่องเที่ยวของอเมริกา…
-
เทรนด์กินน้ำแข็งหลากสีกำลังเป็นที่นิยมในจีน เสียง กรุบๆ กรับๆ มันก็ฟินแปลกๆ นะเออ
ปัจจุบันในประเทศจีนได้เกิดสิ่งที่กลายเป็นกระแสขึ้นมาโดยไม่คาดคิด กับเทรนด์ใหม่ที่ทั้งเย็นและดูเสียวฟัน นั่นคือการที่เหล่าบล็อกเกอร์หรือเน็ตไอดอลทั้งหลาย ต่างออกมาโพสต์คลิปการเคี้ยวน้ำแข็งหลากสี สิ่งที่ได้รับความนิยมในรูปแบบใหม่นี้มีชื่อเรียกง่ายๆ เลยว่า “การเคี้ยวน้ำแข็ง” โดยเหล่าคนดังในโลกโซเชียลจะใช้เวลาสร้างน้ำแข็งสีๆ ขึ้นมาเอง เพื่อให้มันมีสีสันหรือลักษณะที่โดดเด่นสวยงาม ก่อนที่พวกเขาจะทำการเคี้ยวกรุบกรับต่อหน้ากล้อง สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรกลับกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตจำนวนมาก คลิปการเคี้ยวน้ำแข็งที่ถ่ายเพียงแค่ 10 วินาที สามารถเรียกยอดคนเข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว จากการรายงานของสำนักข่าว CGTN บอกว่า เหตุผลที่มันกลายเป็นที่สนใจของผู้คนก็เพราะ ผู้ชมส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจกับการที่ได้ยินเสียงและเห็นภาพอันน่าประทับใจเหล่านี้ คลิปของเน็ตไอดอลบางคนที่โชว์การเคี้ยวน้ำแข็ง ด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้เน็ตไอดอลหลายๆ คนหารายได้จากการเคี้ยวน้ำแข็งแบบนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น บางคนถึงกับถ่ายคลิปการเคี้ยวน้ำแข็งในทุกๆ วัน แม้ว่าจะเป็นตอนที่อากาศหนาวจัดอยู่ก็ตาม นอกจากจะพูดถึงเรื่องรายได้ของเหล่าเน็ตไอดอลแล้ว กระแสใหม่นี้ยังจะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทผู้ให้บริการการถ่ายทอดสดในจีนอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่าในปี 2018 จะพุ่งสูงถึง 139,000 ล้านบาท สูงขึ้นจากในปี 2016 มากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทผู้ให้บริการทั่วโลกก็คาดว่าจะมีรายได้สูงกว่า 234,000 ล้านบาทเลยทีเดียว Tai zi…
-
หนุ่มจีนเจอกับก้อนเนื้อปริศนาบริเวณทวารหนัก หลังจากที่นั่งอึอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง
หลายๆ คนอาจรู้สึกเพลิดเลินเวลาที่ได้เล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ ขณะที่กำลังพยายามปลดทุกข์ไปอย่างเพลิดเพลิน แต่บางครั้งการที่เราใช้เวลาอยู่อย่างนั้นนานๆ ก็อาจจะเกิดผลเสียที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึงเหมือนกับชายคนนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ 9gag ได้พูดถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่อาศัยอยูทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน กลางดึกคืนหนึ่ง เขาได้ลุกไปเข้าห้องน้ำและพยายามจะเบ่งอึอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงและกำลังเพลิดเพลินไปกับเกมในโทรศัพท์ จู่ๆ ก็มีก้อนเนื้อหลุดออกมาคาอยู่ตรงบริเวณรูทวารของเขา ก้อนเนื้อดังกล่าวมีขนาดใหญ่ มีความยาวถึง 16 เซนติเมตร ด้วยขนาดของมันจึงทำให้หมอต้องผ่าตัดมันออกมา ดอกเตอร์ Su Dan จากโรงพยาบาลอันดับ 6 ในเครือของมหาวิทยาลัย Sun Yat-sen บอกว่า ชายคนนี้ป่วยเป็นโรค Rectal Prrolapse หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไส้ตรงปลิ้น จึงทำให้ก้อนเนื้อส่วนที่ติดอยู่ภายในร่างกายหลุดออกมา เธอบอกว่า “คนไข้มีอาการไส้ตรงปลิ้นมาตั้งแต่ตอนอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งตอนนั้นก้อนเนื้อที่หลุดออกมาสามารถหดกลับไปคืนดังเดิมได้ แต่เขาไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาการจึงแย่ลงไปมากกว่าเดิม” โรคดังกล่าวนั้นมักจะเกิดกับเด็กและคนชรา แต่สำหรับอาการของเขาคนนี้มันกลับยิ่งแย่ลงไปกว่านั้น ซึ่งหมอบอกว่าเป็นเพราะความล่าช้ากว่าที่ก้อนเนื้อจะหลุดออกมา หมอได้ทำการสแกนเพิ่มเติมพบว่า พบว่ามีบาดแผลและรอยเลือดอยู่บริเวณผนังลำไส้ของเขา แต่ถึงอย่างนั้นแพทย์ก็สามารถผ่าเอาก้อนเนื้อทรงลูกบอลออกมาจากทวารหนักของเขาได้สำเร็จ และปัจจุบันเขาก็กำลังรักษาตัวอยู่ ดอกเตอร์ Su…
-
คลิปภรรยาไม่ทันสังเกตว่า “สามีเมาตกรถ” ขณะที่เธอขับ แถมขับเลยออกไปไกลมาก
ตอนเด็กๆ เราอาจจะสงสัยว่าทำไมเวลานั่งรถยนต์ พ่อแม่ถึงชอบบอกให้เราล็อคประตูให้ดีทั้งที่เรานั่งอยู่ข้างในแท้ๆ โดยคำตอบของปัญหาดังกล่าวนั้นก็ง่ายมากๆ นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของเรายังไงละ มิเช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาแบบข่าวนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกวันในมณฑลเจียงซู ซึ่งกล้องวงจรปิดได้จับภาพรถคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วปานกลาง โดยในตอนแรกนั้นมันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรจนกระทั่งอยู่ดีๆ ก็มีชายคนหนึ่งเปิดประตูออกจากรถร่วงลงมานอนอยู่กับพื้นในสภาพไร้สติ ชายคนดังกล่าวได้แต่นอนรอให้ภรรยากลับมารับในสภาพที่ไร้สติ โชคยังดีที่เป็นกลางดึกทำให้ไม่มีรถผ่านไปมา จากนั้นต้องใช้เวลาอีกหลายนาทีกว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวจะทราบว่ามีคนตกลงจากรถและเลี้ยวกลับมารับ จากรายงานของ Suzhou police ก็ทำให้เราได้ทราบว่าชายที่ตกลงมานั้นเป็นสามีที่เพิ่งจะเมาหนักจากงานเลี้ยงฉลอง ส่วนคนที่ขับรถนั้นคือภรรยาของเขา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตัวสามีอยู่ดีๆ ก็เปิดประตูรถออกมานั่นก็เพราะเขาต้องการจะอ้วก เพียงแต่เขาไม่อยากจะอ้วนในรถจึงตั้งใจจะเปิดประตูแค่นิดหน่อย แต่ด้วยความที่เขาเมาหนักมากและรถก็เคลื่อนที่มันจึงเกิดเป็นเหตุการณ์อย่างที่เห็น โชคดีนะที่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่เป็นอะไรมาก บวกกับที่ถนนนั้นไม่มีรถสวนไปมา มิเช่นนั้นรับรองว่าชายคนนี้อาจจะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตก็เป็นได้… ที่มา shanghaiist
-
มนุษย์ลุงชาวจีนจู่ๆ ก็โยนอาหารลงบนพื้นในรถไฟ แล้วก็ขอให้พนักงานทำความสะอาดมาเก็บ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดียของประเทศจีน จนกลายเป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมาก นั่นคือคลิปที่เผยให้เห็นคุณลุงคนหนึ่งทิ้งอาหารของตัวเองลงไปบนพื้น เพียงเพราะต้องการให้พนักงานมาทำความสะอาด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบนขบวนรถไฟในประเทศจีน ขณะที่คุณลุงชาวจีนคนนี้กำลังรับประทานอาหารอยู่ในตู้ห้องอาหาร และได้ถกเถียงกับพนักงานให้บริการบนรถไฟเกี่ยวกับเรื่องการทำความสะอาดพื้นทางเดิน ในตอนแรกนั้นพนักงานเห็นว่ามีอาหารถูกทิ้งเอาไว้บนพื้น เขาจึงถามกับผู้โดยสารว่าใครเป็นคนทำอย่างนี้ ก่อนที่คุณลุงในคลิปจะแสดงตัวบอกว่าตัวเองเป็นคนทำ โดยพูดว่า “ถ้าฉันอยากจะสร้างความสกปรก ฉันก็จะสร้างความสกปรก” พนักงานจึงถามคุณลุงไปว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น คุณลุงตอบกลับมาว่าการทำความสะอาดคือสิ่งที่พนักงานให้บริการต้องมาทำอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงตะโกนออกมาว่า “มาเก็บกวาดสิ!! พวกแกควรมาทำงานของตัวเองได้แล้ว” หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลับเลวร้ายมากกว่าเดิม เพราะลุงคนนี้กลับเอาไข่ทั้งฟองมาแบ่งครึ่งแล้วโยนลงไปบนพื้น จากนั้นก็ตามด้วยอาหารทั้งจานเทลงไปหน้าตาเฉย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตอนที่คุณลุงคนดังกล่าวทิ้งอาหารลงบนพื้น คลิปวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาจึงตามหาจนพบว่าชายคนนี้เป็นใคร และเชื่อว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เดินทางบนรถไฟไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน นอกจากนั้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในรถไฟของประเทศจีน เพราะเมื่อปีก่อนก็เคยมีคลิปวิดีโอหนึ่งที่เผยให้เห็นชายแก่พยายามโปรยขยะไปทั่ว หลังจากที่พนักงานเดินไปบอกให้เขาหยุดทิ้งเม็ดแตงโมลงบนพื้น คลิปเหตุการณ์ที่เคยเกิิดขึ้นเมื่อปี 2017 การรับผิดชอบและคิดถึงส่วนร่วมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มา: medium
-
หนุ่มชนะการแข่งขันด้วยการกินซีกมะนาวกว่า 117 อัน พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 25,000 บาท
ปกติน้อยคนที่จะกินมะนาวแบบเพียวๆ ดูดกินจากซีกของมันโดยตรง เพราะเรารู้ดีว่ามันมีความเปรี้ยวมากขนาดไหน แต่ในประเทศจีนกลับมีการจัดการแข่งขันกินมะนาวซีกขึ้นมา และผู้ชนะของรายการนี้ก็สามารถกินไปได้มากถึง 117 ชิ้นเลยทีเดียว!! การแข่งขันดังกล่าวถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งผู้ชนะในครั้งนี้เป็นชายหนุ่มสุดโหด ผู้สามารถนั่งกินมะนาวซีกไปได้ 117 ชิ้น เห็นตอนแข่งแล้วยังแอบรู้สึกเปรี้ยวปากแทนเลย โฉมหน้าของผู้ชนะในการแข่งขันกินมะนาวซีก ภายหลังการแข่งขัน ผู้ชนะก็ได้พูดถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “ริมฝีปากและลิ้นของผมเต็มไปด้วยบาดแผลพุพอง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกมีความสุขอยู่ดี” อย่างน้อยเขาก็ได้รับเงินรางวัลกว่า 25,000 บาทเป็นของตอบแทนล่ะนะ เขาตั้งใจว่าจะหยุดกินมะนาวไปซักระยะหนึ่งในช่วงตรุษจีนปีนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารรสจัดอย่างมาก ทำให้การกินมะนาวครั้งนี้ก็ไม่สามารถทำให้เขาเลิกกินเปรี้ยวไปได้แต่อย่างใด ภาพบรรยากาศการแข่งขันที่ชวนน้ำลายไหลมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม การกินในลักษณะนี้จะเรียกว่าเป็นการทำร้ายตัวเองก็คงไม่แปลก เพราะปกติแล้วคนเราไม่ควรกินมะนาวเกินหนึ่งลูกต่อวัน เพราะมันมีค่าความเป็นกรดที่สูง ทำให้ฟันของเราอาจถูกกัดเซาะได้ นอกจากนั้นวัยผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภควิตามินซีมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งในมะนาวหนึ่งลูกจะมีมากกว่า 50 มิลลิกรัม นั่นเลยทำให้หลายๆ คนรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของผู้ชนะคนนี้ซะเหลือเกิน ผู้ใช้ Weibo (โซเชียลมีเดียของจีน) รายหนึ่งถึงกับบอกเลยว่า “เขาคงต้องเอาเงินรางวัล 25,000…
-
ตำรวจจีนเริ่มใช้ ‘แว่นตาอัจริยะ’ สามารถระบุตัวตนประชาชน เพื่อเข้าถึงคนร้ายได้ง่ายขึ้น!!
ปัจจุบันเทคโนโลยีของมนุษย์เรานับว่าก้าวหน้ามาไกลมาเลยทีเดียว มีอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งช่วยทำให้ชีวิตของมนุษย์เรานั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในด้านของตำรวจเองก็ไม่แพ้กัน เพราะในยุคนี้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทค ที่ออกมาเพื่อช่วยให้จับผู้ร้ายได้ง่ายขึ้นมาก ลักษณะคล้ายกับที่เคยเห็นผ่านตาในภาพยนตร์ก็คงจะไม่ผิดนัก และอุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ แว่นตาไฮเทค Smartglasses โดยทางตำรวจขนส่งในเมืองเจิ้งโจวของประเทศจีน ได้ลองนำมาใส่แล้วไปประจำการที่สถานีรถไฟ ในช่วงวันตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ามีผู้คนพลุกพล่านที่สุด โดยเจ้าแว่น Smartglasses มีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้สวมใส่นั้นสามารถตรวจจับและระบุตัวตนของผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายได้ทำการสวมแว่นตาดังกล่าว แล้วไปประจำที่ประตูทางออกด้านตะวันออกของสถานี เมื่อพบเจอผู้ต้องสงสัย กล้องที่ติดอยู่กับแว่นตาจะทำการเก็บภาพใบหน้าของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ในสำนักงานใหญ่ จากนั้นระบบจะทำการแสดงข้อมูลที่สำคัญของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นขึ้นมา ประกอบไปด้วย ชื่อ สัญชาติ เพศ และที่อยู่ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งกลับมาปรากฏบนแว่นที่เจ้าหน้าที่สวมใส่อีกครั้ง ทั้งนี้แว่นยังสามารถระบุได้ว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวนั้นกำลังหนีคดีอยู่หรือไม่ อีกทั้งยังระบุโรงแรมหรือที่พักที่บุคคลนั้นๆ กำลังเข้าพัก รวมไปทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ต้องสงสัยอีกด้วย ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นคาดว่ามีประชาชนประมาณ 390 ล้านคน เดินทางโดยรถไฟในช่วงเวลา 40 วัน ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเจิ้งโจวเอง ก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ถึง 7 ราย มีตั้งแต่คดีชนแล้วหนี…
-
หนุ่มเผลอทำ ‘iPhone 8’ ตกไปในส้วม พอจะล้วงขึ้นมาแขนก็ดันติด มันจะซวยอะไรขนาดน๊านน
จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดคุณเผลอทำของมีค่าตกลงไปในส้วมขณะที่คุณกำลังถ่ายหนักหรือเบาอยู่ คุณจะยอมเอื้อมมือไปล้วงมันขึ้นมาไหม หรือคุณจะทำใจปล่อยมันไป? แล้วถ้ามันเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่อย่าง ‘iPhone 8‘ ละ คุณจะทำอย่างไร? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในคืนวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยสื่อท้องถิ่นของจีน lznews.gov.cn ได้รายงานว่า ชายชาวจีนแซ่ Tan ได้เดินทางไปเที่ยวและแวะดื่มกับเพื่อนๆ ที่โรงแรมในเมืองหลิวโจว แต่ว่าในขณะที่หนุ่มแซ่ Tan แวะไปเข้าห้องน้ำเขาได้เผลอทำโทรศัพท์ iPhone 8 ของเขาตกลงไปในส้วมนั่งยอง งานนี้หนุ่มคนดังกล่าวจึงยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้โทรศัพท์ราคาแพงมูลค่ากว่า 8,000 หยวน (ประมาณ 40,000 บาท) ของเขาต้องหายไปแบบนี้ เขารีบเอามือล้วงลงไปเพื่อควานหาโทรศัพท์ของเขาทันที… วินาทีที่หนุ่มชาวจีนกำลังคิดถึงแต่มือถือของเขาอยู่นั้น ไม่นานนักเขาก็ค้นพบว่าแขนทั้งแขนดันติดอยู่กับตัวส้วมและไม่สามารถดึงออกมาได้ จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 20 นาทีในสภาพดังกล่าว โชคยังดีที่แม้จะเป็นกลางดึก แต่ยังคงเป็นกะสุดท้ายของภารโรงที่เข้ามาทำความสะอาดทำให้ชายแซ่ Tan คนนี้ถูกพบตัวและได้รับการช่วยเหลือทันทีจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งแขนของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลทำให้เขาต้องส่งตัวไปทำแผลต่อทันที อย่างไรก็ตามแม้เขาจะถูกช่วยไว้ได้ แต่ iPhone 8 ของเขาดันไม่รอดกลับมาด้วย ซึ่งจากเรื่องราวครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาช่วยฝากเตือนทุกคนผ่านสื่อไว้ว่า ถ้าเกิดใครบังเอิญเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันพยายามอย่าสอดมือลงไปในส้วมเป็นอันขาด…
-
Amazon โฆษณาเสื้อผ้าสไตล์จีน โดยให้เด็กฝรั่งเป็นนายแบบแล้วทำท่าดึงตาให้ตี่
เมื่อเดือนก่อนหลายคนคงจะจำได้เกี่ยวกับปัญหาเหยียดเชื้อชาติของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ Uniqlo ซึ่งกลายเป็นชนวนที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจจนบุกพังร้านกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต และมาวันนี้ทาง Amazon ก็เลยไม่น้อยหน้าขอเอาบ้าง ล่าสุด Amazon ซึ่งเป็นระบบซื้อสินค้าออนไลน์ก็ได้วางขายเสื้อผ้าสไตล์จีนลงบนเว็บ แน่นอนว่าถ้าการขายเสื้อผ้าปกติหรือต่อให้เอานายแบบนางแบบที่ไม่ใช่คนจีนมาใส่ตามปกติมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าพวกเขากลับไม่ทำแบบนั้น Amazon UK ได้ใช้เด็กผิวขาวมาเป็นแบบเสื้อผ้าดังกล่าว พร้อมกับให้หนูน้อยทำท่าดึงตาให้ตี่ ซึ่งการทำท่าทางดังกล่าวนั้นบ่งบอกได้ถึงการล้อเลียนและเหยียดเชื้อชาติมากๆ ซึ่งมันทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว งานนี้ทาง Amazon เห็นท่าไม่ดีจึงรับลบสินค้าดังกล่าวออกจากหน้าร้านค้าทันที แต่การลบออกก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทดังกล่าวจะสำนึกผิดแต่อย่างใด เพราะพวกเขาไม่ได้ออกมากล่าวขอโทษอะไรต่อสื่อเลยแม้แต่น้อย จะเหลือก็แต่ชาวเน็ตที่ได้แต่สงสัยว่าทำไมบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ถึงพลาดได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เสื้อผ้าเด็กดังกล่าวก็ไม่ใช่สินค้าเพียงชิ้นเดียวที่สื่อไปทางการเหยียดเชื้อชาติบนเว็บ Amazon เพราะถ้าเราไปหาดูดีๆ เราจะพบว่ามีสกินค้าในแนวเดียวกันอยู่เพียบเลยละ หนังสือล้อเลียนชาวจีน หนวดปลอมแบบชาวจีน แต่ให้คนผิวขาวมาเป็นแบบ และก็ไม่ได้มีแต่ Amazon หรอกนะที่ล้อเลียนเรื่องตาตี่ของชาวจีน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์มากมายที่พลาดปล่อยให้สินค้าเหยียดเชื้อชาติหลุดออกมาวางขาย ยังไม่หมดเท่านั้น เหล่าคนดังมากมายก็ยังเคยทำท่าตาตี่ล้อเลียนชาวจีนอีกด้วย เช่นภาพของ Miley Cyrus สมัยก่อน หรือจะเป็น Gigi Hadid ที่ทำท่าตาตี่…
-
สตูดิโอหนังจัดประกวดสาวหน้าอกสวย เพื่อที่จะได้รับจ้างแสดงแสตนด์อินบทเปลือย
เนื่องในโอกาสที่เทศกาลฤดูใบไม้ผลิกำลังใกล้เข้ามา นักแสดงตัวแทนก็กำลังขาดตลาด ทำให้สตูดิโอหนังของจีนต้องจัดงานประกวดเพื่อค้นหาหญิงสาวที่ “หน้าอกสวย” และเหมาะสำหรับการแสดงที่สุด สตูดิโอหนังแห่งนี้เป็นศูนย์รวมผู้ผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของจีน จนเป็นที่รู้จักกันในนาม “Chinawood” ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางผืนดินใจกลางมณฑลเจ้อเจียง และล่าสุดก็ได้ทำการสร้างชื่อให้กับสตูดิโออีกครั้งโดยการจัด งานประกวดนางแบบหน้าอกสวย ที่ไม่เคยมีมาก่อน บร๊ะ! . . . . ฮึ่มมม…! . . . . บุคลิกดี… . เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบสับปะรดก็วันนี้แหละ . . หญิงสาวจากกว่า 10 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนได้มาเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ โดยผู้เข้าร่วมประกวดจะถูกประเมินและตัดสินโดยการทำตั้งแต่ทุบลูกโป่งให้แตกด้วยหน้าอกไปจนถึงการเหน็บสมาร์ตโฟนไว้บนร่องอกเลยทีเดียว . . ช่างเป็นมือถือสมาร์ตโฟนที่โชคดีจริงๆ ท้ายที่สุด หญิงสาวคนหนึ่งจากฉงชิ่งก็คว้าชัยชนะไป เธอถูกว่าจ้างให้เป็นนักแสดงตัวแทนสำหรับเผยเรือนร่างหากเหล่านักแสดงหญิงตัวจริงไม่ต้องการเผยหน้าอกของตน โดยในการจ้างงานดังกล่าว เธอสามารถทำเงินได้ 10,000 หยวน (ราว 50,000 บาท) ต่อวัน …
-
สองหนุ่มรวยเกิ๊น อัดคลิปโชว์การเผาเงินให้เห็นกันสดๆ สุดท้ายโดนตำรวจปรับ 5,000 บาท
เราอาจเคยมองว่าการอวดรวยคือการที่คนคนหนึ่งขับรถหรูๆ แต่งเสื้อผ้าแพงๆ หรือคอยเที่ยวแจกเงินให้คนอื่นไปทั่ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วการที่พวกเขาทำอย่างนั้นมันก็อาจไม่ได้หมายถึงการอวดความร่ำรวยเสมอไป แต่สำหรับสิ่งที่หนุ่มชาวจีนสองคนนี้ทำ มันคือพฤติกรรมที่เรียกว่าการอวดรวยอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาเล่นเอาเงินมาเผาโชว์ ซะเหมือนกับเผากระดาษทิชชู่กันอย่างหน้าตาเฉยเลย หนุ่มชาวจีนที่เผาเงินเหมือนเห็นเป็นเศษกระดาษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเดือนมกราคม 2018 ในเขตเทียนฉาง มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ขณะที่หนุ่มๆ ชาวจีนกลุ่มหนึ่งกำลังดื่มฉลองให้กับงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนจนเริ่มเมากันได้ที่ พวกเขาจึงเริ่มเถียงกันว่าใครรวยกว่ากัน หลังจากนั้นการแข่งขันเผาเงินโชว์ก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อชายสองคนได้หยิบเอาแบงก์ 100 หยวน (ประมาณ 500 บาท) ออกมา ก่อนที่จะจุดไฟแช็กเผาเงินกันอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็ได้ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของประเทศจีน คลิปหนุ่มชาวจีนเผาเงินโชว์ เพื่อวัดว่าใครรวยกว่า พวกเขาเผาเงินกันไปหลายต่อหลายใบ ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแค่เศษกระดาษทิชชู่ยังไงยังงั้น และคลิปของพวกเขาก็ได้กลายเป็นกระแสจนทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องยื่นมือเข้ามาตรวจสอบ สุดท้ายแล้ว ชายทั้งสองคนที่เราได้เห็นจากในคลิปก็ต้องเสียค่าปรับให้กับเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ในข้อหาทำลายทรัพย์สินสกุลเงิน ซึ่งดูแล้วก็คงจะไม่ได้กระทบกับสถานะทางการเงินของพวกเขาเลยซักนิด ตอนเผาเงินทีละ 500 บาทก็ยังนั่งหัวเราะกันอยู่เลย แม้ว่าการอวดรวยอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน แต่ที่แน่ๆ คือเวลาจะทำอะไรก็ควรที่จะมีการไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบหรือความมึนเมาเป็นตัวกำหนดจะดีกว่านะ ที่มา: medium
-
หนุ่มจีนสร้างรถถังปลอมขึ้นมาเอง เพิ่งจะทดสอบบนถนนได้แป๊บเดียว ถูกสั่งทำลายและยึดใบขับขี่…
เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยวาดฝันว่าโตมาอยากเป็นเจ้าของยอดพาหนะทางการทหารอย่าง เครื่องบินหรือเรือดำน้ำ กันใช่ไหมละ หรืออย่างน้อยก็อาจจะเป็นแค่ขอรถถังคันเล็กๆ สักคันมาจอดไว้ที่บ้านก็เพียงพอแล้ว หนุ่มจีนคนนี้ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน หนุ่มคนนี้คือนาย Hwang ซึ่งเป็นคนจากเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เขาได้วาดฝันว่าอยากจะมีรถถังสักคัน เขาจึงเริ่มสร้างรถถังขึ้นมาจากเศษซากรถเก่าๆ พร้อมเผยแพร่ภาพที่เขากำลังขับรถถังคันงามไปบนท้องถนนลงบนโลกโซเชียลในกลุ่มเพื่อนของเขา พร้อมบอกว่าเขาใช้เวลา 2 เดือนเพื่อสร้างมันขึ้นมา!! แต่หลังจากใช้เวลากว่า 2 เดือนในการสร้างความภาคภูมิใจของเขาก็ต้องดับลง เมื่อเขาตัดสินใจนำมันออกไปทดสอบบนถนนจริง และบังเอิญเจอเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ!? สื่อจีนได้รายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ว่า เจ้าหน้าที่ได้จับรถถังคันดังกล่าวระหว่างที่กำลังติดไฟแดงไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถามถึงใบอนุญาตของรถและใบขับขี่ของนาย Hwang แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถจะตอบได้เพราะตัวส่วนที่เป็นรถนั้นเขาได้ซื้อมันมาจากร้านขายของเก่านั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้นาย Hwang ต้องถูกยึดใบขับขี่และยึดรถถังคันดังกล่าวพร้อมกับถูกปรับเป็นเงิน 1,750 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8,800 บาทในข้อหาสร้างความวุ่นวายบนท้องถนนและทำให้ตนเองและผู้อื่นอาจจะตกอยู่ในอันตราย ไม่หมดเท่านั้น หลังจากถูกจับถูกปรับและรื้อรถ นาย Hwang ยังถูกพาไปยังสถานีตำรวจพร้อมเข้ารับการอบรมณ์เรื่องขับขี่อย่างปลอดภัยอีกด้วย งานนี้เขาคงจะสำนึกไปอีกยาวเลยทีเดียว หมดกันรถถังในฝัน ที่มา nextshark, weibo
-
หนุ่มชาวจีนหัวใส ลงทุนขโมย ‘ถนนคอนกรีต’ ความยาวกว่า 800 เมตรไปขาย
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เกือบทั้งหมด นั่นจึงทำให้เราต้องคอยเฝ้าระวังดูแลทรัพย์สินต่างๆ เอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกฉกฉวยไปได้โดยไม่รู้ตัว เหมือนอย่างพื้นถนนแห่งหนึ่งในประเทศจีน จากการรายงานข่าวภายในประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 บอกว่าได้มีชายแซ่ Zhu ลงทุนขโมยถนนคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรไปขายซะอย่างนั้น ทำเอาชาวบ้านถึงกับงงไปพักหนึ่งเลยว่าถนนดังกล่าวมันหายไปได้อย่างไร การหายไปของถนนคอนกรีต ในตอนแรกนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของมณฑลเจียงซู เริ่มเกิดความสงสัยว่าถนนคอนกรีตเส้นดังกล่าว จู่ๆ ก็กลายเป็นเส้นทางโล่งๆ ซะอย่างนั้น พวกเขาจึงทำให้การแจ้งไปที่ภาครัฐตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2018 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะพบว่าถนนเส้นนี้ถูกขโมยไปอย่างผิดกฎหมายโดยฝีมือของชายแซ่ Zhu หัวขโมยในครั้งนี้ได้ไปยืมรถตักหินและรถบรรทุกขนาดใหญ่มารื้อเอาพื้นคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรออกไป ก่อนที่จะนำมันไปขายให้กับโรงงานหิน ซึ่งคอนกรีตจำนวนกว่า 500 ตันที่เขาขโมยไปได้ถูกขายไปในราคาแค่ประมาณ 25,000 บาทเท่านั้นเอง นาย Zhu บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าถนนเส้นดังกล่าวยังคงใหม่อยู่ แล้วมันก็ดันมาเปิดใกล้ๆ กับบ้านของเขา ทำให้ตัวเองมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ การโจรกรรมในครั้งนี้ได้กลายเป็นที่กล่าวขวัญของชาวเน็ตในประเทศจีนหลายๆ คน โดยส่วนใหญ่ก็ต่างรู้สึกทึ่งกับไอเดียของโจรหนุ่มคนนี้ “ถ้าผมสามารถเอาถนนความยาว 800…
-
พาชมโรงงานในจีน ผู้ให้กำเนิด “สมาร์ตเซ็กส์ทอย” หุ่นยนต์พูดได้ ล้างจานก็ยังได้
เทคโนโยยีในปัจจุบันมีการพัฒนาที่รวดเร็วเสียจนพวกเราจับตามองกันไม่ทัน โดยเฉพาะเทคโนโยยีด้านการทำหุ่นยนต์หรือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์นั้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้กับภาพหุ่นยนต์ในอุดมคติมากเข้าไปทุกที ล่าสุดทางประเทศจีนก็ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ผสมผสานเข้ากับตุ๊กตายาง เพื่อทำให้พวกเธอสามารถโต้ตอบกับเจ้าของ และเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างได้ด้วย . บริษัท Exdoll ซึ่งมีตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นบริษัททำตุ๊กตายางชั้นนำของจีนที่ผลิตตุ๊กตายางได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า โดยมีราคาเริ่มต้นแค่เพียงตัวละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,500 บาท) เท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัทได้สร้างตุ๊กตายางรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Xiaodie โดยตุ๊กตายางรุ่นใหม่นี้มีความสามารถที่พิเศษกว่ารุ่นเก่าก็คือมันถูกติดตั้งเทคโนโลยีการโต้ตอบกับมนุษย์เข้าไปด้วย ทำให้พวกเธอสามารถคุยกับเจ้าของได้เหมือนกับ Siri โปรแกรมโต้ตอบจากบริษัท Apple เลยก็ไม่ปาน . นอกจากนี้แล้ว Xiaodie ยังมีีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เธอจึงสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมเล่นเพลง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องล้างจานได้ เท่านี้เราก็สามารถสั่งให้มันเปิดโปรแกรมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เองด้วย ทั้งหมดนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 4,000 ดอลลาร์สหัรฐ (ประมาณ 125,000 บาท) อีกทั้งตุ๊กตายางที่แสนสมาร์ตตัวนี้ยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของเราได้ด้วย ผู้ผลิตชี้แจงว่าภายใน 1 ปีหลังจากซื้อเธอไป เธอจะสามารถเลียนแบบสีหน้าท่าทางได้ และจะจดจำเสียงของเจ้าของแล้วมองตามเจ้าของได้ด้วย . Wu Xingliang ผู้อำนวยการด้านการตลาดของบริษัท…
-
นั่งเล่นเกมยาว 20 ชั่วโมง วันต่อมาถึงกับต้องเรียกรถพยาบาล เพราะท่อนล่างขยับไม่ได้แล้ว
ยุคนี้เป็นยุครุ่งเรืองของวงการเกมเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีคนเล่นเกมจำนวนมากทั้งบนโทรศัพท์มือถือและบนเครื่องเล่นประเภทต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้เกมออนไลน์ก็ถูกบรรจุลงเป็นกีฬาแข่งขันซึ่งเรียกว่า eSports ด้วย ในทางกลับกันการที่มีคนเล่นเกมเพิ่มเป็นจำนวนมากก็ทำให้ควบคุมพฤติกรรมการเล่นได้ยากด้วย อย่างปัญหาที่แก้ไม่หายมาตลอดหลายปีนี้ก็คือปัญหาติดเกมนั่นเอง ล่าสุดก็มีชายจีนติดเกมมาก เล่นเกมยิงยาวข้ามวันไม่ยอมลุกไปไหนจนร่างกายท่อนล่างชาไปเลย ชายนิรนามคนดังกล่าวเข้าไปเล่นเกมในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งในแถบ Jiaxing มณฑล Zhejiang เขาเริ่มเล่นเกมตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงเวลาช่วงบ่ายของวันถัดมาเลยทีเดียว ในช่วงบ่ายวันที่ 28 มกราคมขณะที่เขากำลังจะพักจากการเล่นเกมไปเข้าห้องน้ำ เขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายช่วงล่างของเขาชาจนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เขาจึงลุกขึ้นยืนเองไม่ได้ เพื่อนที่เล่นเกมอยู่ข้างๆ กันเห็นดังนั้นจึงเรียกรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือทันที เพื่อนคนหนึ่งของเขาให้สัมภาษณ์ว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียความรู้สึกช่วงล่างไปทั้งหมด เขาขยับขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย พวกเราก็เลยจำเป็นต้องเรียกรถพยาบาลมา” จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าชายที่ใส่เสื้อกันหนาวสีน้ำตาลไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ เขาต้องให้เพื่อนและหน่วยกู้ภัยช่วยพยุงตัวลงไปนอนบนเปล แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ระบุว่าเกมที่เขาเล่นในวันนั้นเป็นเกมอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าปัญหาติดเกมในประเทศจีนนั้นค่อนข้างรุนแรงมากเลยทีเดียว เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีข่าวว่าเด็ก 10 ขวบจากประเทศจีนโอนเงินจำนวน 150,000 หยวน (ประมาณ 743,000 บาท) จากบัญชีของแม่ไปเติมเกมส์ทั้งหมดเลย แม้ว่านั่นจะเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่แม่ของเขาเอาไว้รักษาโรคมะเร็งให้เขาเองก็ตาม (อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ) ทางประเทศจีนเองก็เคยพยายามออกมาแก้ไขปัญหาเด็กติดเกมแล้ว โดยจัดทำค่ายอบรมแบบทหารขึ้น ซึ่งอ้างว่าจะใช้การอบรมทางด้านจิตวิทยาผสมผสานกับการฝึกร่างกายเพื่อให้เด็กเลิกติดเกมให้ได้ ทว่าค่ายอบรมนั้นก็ถูกกระแสตีกลับว่ามีการใช้ความรุนแรงเกินเหตุ เมื่อปี 2017…
-
ลุงรปภ. ผู้คลั่งไคล้อาวุธนิยายจีน ลงทุนสร้างและตีเองกว่า 150 ชิ้น ไม่แคร์ว่าใครจะมองว่าบ้า
ไม่ว่าใครก็ล้วนมีความใฝ่ฝันกันทั้งนั้น เมื่อคนเรามีสิ่งที่ชอบและหลงใหลมากๆ ก็มักจะมีความต้องการที่จะทำบางอย่างให้ตอบสนองกับความชอบของตน โดยบางครั้งก็ไม่สนใจหรอกว่า ใครจะคิดอย่างไรกับเรา เช่นคุณลุงจากแดนมังกรผู้นี้ ผู้ที่มีความหลงใหลงใน “ศาสตราวุธ” โบราณของจีน ขนาดที่ว่าลงทุนลงแรงสร้างมันขึ้นมาเอง ศึกษาเอง และก็ตีเหล็กเอง จนปัจจุบันมีอาวุธสงครามจีนมากกว่า 150 ชิ้นแล้ว คลังแสงเก็บศาสตราวุธของคุณลุงเฉิน ตีขึ้นมาด้วยความหลงใหลในยุทธภพ รายงานจากสำนักข่าว China Xinhua News กล่าวว่าชายผู้นี้เป็นคุณลุงชาวจีนที่ทำอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และชื่อของเขาก็คือ “เฉินชงหลิง” เป็นชาวเมืองเจียวจั้ว มณฑลหูหนาน ประเทศจีน อาวุธต่างๆ ที่คุณลุงเฉินตีขึ้นมานั้นมีต้นแบบมาจากนิยายกำลังภายในของจีน คุณลุงศึกษารูปแบบของอาวุธแต่ละชนิดด้วยตนเอง คุณลุงกล่าวกับ China Xinhua News ว่าอาวุธทั้งหมดนั้นเขาทำขึ้นมาจากความชอบของเขาเอง จึงอาจจะไม่ได้สวยงามมากนัก ถึงอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจตีอาวุธทุกชิ้นขึ้นมาอย่างสุดความสามารถ จากนั้นเขาก็ทำการแสดงกระบวนท่าของอาวุธแต่ละชนิดให้ได้รับชมกัน คุณลุงมีการแสดงเพลงทวน และอาวุธอื่นๆ ให้ได้รับชมกันด้วย ด้วยความที่เขาหลงใหลในยุทธภพแห่งนิยายกำลังภายใน ทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้มองผลงานศาสตราวุธเหล่านี้ ความตั้งใจของเขาก็คืออยากจะสร้างพิพิทภัณฑ์ศาสตราวุธเก็บไว้ให้ลูกหลานและคนอื่นๆ ได้เข้ามาชม สุดท้ายลุงเฉินกล่าวว่า “ใครจะว่าลุงบ้าหรือไร้สาระหรือสิ้นเปลืองเงินก็ไม่เป็นไร แต่ลุงจะทำต่อไป เพราะมันคือความฝันของเรา” ไปรับชมวิดีโอคลังศาสตราวุธและคุณลุงเฉินจ้าวยุทธภพกันเล้ยย… …
-
คุณปู่วัย 88 ปี ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตแม้ต้องโดดเดี่ยว ผันตัวมาเป็นนายแบบนู้ดจนตอนนี้ชีวิตดี๊ดี
เคยคิดไหมว่าถ้าเกิดคุณมีอายุยืนยาวถึง 80 90 ปีจนลูกหลานของคุณล้มหายตายจากไปกันหมด แต่คุณยังต้องอยู่ต่อคุณจะทำยังไง คุณจะหาเป้าหมายให้ตัวเองอย่างไรในช่วงวัยชราแบบนั้น Wang Suzhong วัย 88 ปี จากประเทศมณฑลเสฉวนประเทศจีน คือคุณปู่ที่ต้องอาศัยอยู่อย่างยากลำบากในห้องพักราคา 700 หยวน (ประมาณ 3,400 บาท) เพียงคนเดียวเมื่อปีต้นปี 2012 แต่มาวันนี้ชีวิตของคุณปู่ก็ได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน คุณปู่เล่าว่า เวลาต่อมาในปีเดียวกันนั้นตัวเขาได้ตัดสินใจรับงานเป็นนายแบบให้กับนักศึกษาในวิทยาลัยท้องถิ่น โดยเขาได้ค่าจ้าง 70 หยวนต่อวัน (ประมาณ 340 บาท) สำหรับการเป็นนายแบบปกติ และ 100 หยวน (เกือบ 500 บาท) ต่อการเป็นนายแบบเปลือยในหนึ่งวัน ซึ่งคุณปู่บอกว่าจากที่ต้องรอเงินจากลูกหลานตอนนี้เขาหาเงินอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว นอกจากนี้เขายังเสริมอีกว่า ตั้งแต่ตัวเขามาทำอาชีพนี้ เขาก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้นเพราะว่าเขาได้พูดคุยกับคนมากมายทั้งนักเรียนและอาจารย์ ที่สำคัญทุกคนก็ใจดีกับเขามากๆ บางครั้งพวกเขายังซื้ออาหารมากฝากอีก ฟังแล้วเหมือนชีวิตของคุณปู่ Wang แกจะมีแต่เรื่องดีๆ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ซะทีเดียว เพราะแม้ชีวิตส่วนตัวรวมถึงการเป็นอยู่ของเขาจะดีขึ้น แต่เรื่องครอบครัวกลับไม่เป็นแบบนั้น…
-
หนุ่มยืนรอหน้าสถานีรถไฟนานถึง 3 วัน เพื่อรอคอยคนใจดีมารับน้องหมาไปเลี้ยง
สำหรับหลายๆ คนที่เลี้ยงน้องหมาหรือเจ้าเหมียวนั้น การที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและทิ้งพวกเค้าเอาไว้ที่บ้านคงจะเป็นเรื่องที่ทำใจยากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะคุณอาจจะกังวลในความเป็นอยู่ของพวกมันนั่นเอง และหนุ่มชาวจีนผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน!! ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น ชาวจีนหลายๆ คนได้เดินทางกลับไปยังต่างจังหวัด และคนเลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนไม่น้อยก็เลือกใช้บริการฝากเลี้ยงเพื่อความอุ่นใจยามไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะการที่จะเอาน้องหมาหรือเจ้าเหมียวกลับบ้านไปด้วยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณจ้าวเต๋อเซิ่งเองก็เป็นหนึ่งในคนรักสุนัขที่ต้องเดินทางกลับบ้านในช่วงตรุษจีนเช่นกัน แต่ทว่าตัวเขานั้นไม่มีเงินมากพอที่จะฝากเจ้าหมาไว้กับบริการของทางสถานี ชายหนุ่มตัดสินใจยืนรออยู่หน้าสถานีรถไฟนานถึง 3 วันเพื่อหวังว่าจะมีผู้ใจบุญรับเจ้าตูบของเขาไปดูแลต่อ หลังจากที่ตอนแรกเขาได้นำพวกมันไปปล่อยไว้ที่สวนสาธารณะ แต่ด้วยผูกพันและไม่อาจทำใจได้จึงกลับไปรับมัน และมายืนรอที่หน้าสถานีรถไฟแห่งนี้ “เมื่อคืนผมตัดใจปล่อยพวกมันในเขตชุมชนใกล้บ้าน อากาศก็หนาว ลมก็พัด แต่ตื่นมาอีกวันพวกมันก็ยังอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ข้างนอกมันอันตรายมาก ผมทำใจไม่ได้ เลยกลับมารับพวกมัน” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ คุณจ้าวเต๋อเซิ่งได้เลี้ยงเจ้าตูบทั้งสองมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ด้วยความรู้สึกผูกพันและสงสาร เขาจึงไม่อยากที่จะทิ้งพวกมันไว้ลำพัง และพร้อมที่จะมอบพวกมันให้กับคนที่อยากจะดูแลพวกมันจริงๆ เจ้าหมาน้อยของคุณจ้าวเต๋อเซิ่ง ที่ยืนรอคนใจบุญอยู่หน้าสถานีรถไปพร้อมกับเจ้าของมันมานานกว่า 3 วัน แต่แล้วในที่สุด ความหวังของชายหนุ่มที่จะได้พบคนใจบุญและพร้อมที่จะดูแลเจ้าตูบก็ประสบความสำเร็จ หลังจากมีคนตกลงรับเจ้าตูบไปดูแลในที่สุด ชมเรื่องราวของเจ้าตูบและคุณจ้าวเต๋อเซิ่ง ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา China Xinhua News
-
ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย
พวกเราบางคนอาจเคยรู้กันมาก่อนแล้วว่า ใน ประเทศจีน นั้นจะมีการควบคุมและสั่งห้ามสิ่งต่างๆ เอาไว้หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์ที่จะถูกนำเข้าไปฉาย หรือแม้แต่การสั่งห้ามเครื่องเล่นเกมคอนโซลทุกชนิดมาตลอดจนถึงปี 2014 จากบรรดาข้อห้ามมากมายของพวกเขานั้น ในวันนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาประกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ในประเทศว่า พวกเขาจำเป็นต้องแบน เพลงแรป ไม่ให้มีในโทรทัศน์หรือในวิทยุอีกต่อไป เนื่องจากเนื้อหาของเพลงที่มีความหยาบคายมากเกินไป การประกาศนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ เพราะเพลงแรปในประเทศจีนก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทางการบอกว่า “พวกเราจะทำการสั่งห้ามดาราคนดังที่มีรอยสัก วัฒนธรรมฮิปฮอป (รวมถึงการแรป) และเนื้อหาแปลกๆ ทุกอย่าง ไม่ให้มีการเผยแพร่ในโทรทัศน์หรือวิทยุอีกต่อไป” พวกเขาให้เหตุผลว่า เพลงแรปนั้นมีเนื้อหาที่หยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องการใช้สารเสพติด เนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศและการเหยียดเพศตรงข้าม ข้อห้ามใหม่ทำให้เหล่าแรปเปอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่ว่า ผลงานของตัวเองไม่สามารถถูกเผยแพร่ออกไปทางทีวีหรือวิทยุได้อีกต่อไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ PG One แรปเปอร์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็จะไม่ได้โผล่ออกมาในทีวีให้ทุกคนได้เห็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แรปเปอร์ชื่อดังในจีน PG One ในขณะที่มีการแบนแรปเปอร์ในประเทศของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ยังแบนเพลงป็อปที่มีท่อนแรปใส่เข้าไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่มีการประกาศออกมาว่าจะแบนเหล่าดาราฮิปฮอป แรปเปอร์ต่างประเทศที่นำผลงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกฝั่งหนึ่งมองว่า เนื้อหาที่หยาบคายเป็นเพียงของอ้างของรัฐบาล เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาสั่งห้ามเพราะเนื้อหาของเพลงมีการพูดถึงการต่อต้านความคิดระบบเผด็จการ ทำให้คนใหญ่คนโตของประเทศรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันซักเท่าไหร่ การควบคุมสื่อภายในประเทศจีน…
-
มันไม่ใช่อ่ะ!? หญิงสาวตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่ม หลังพบว่ารถปอร์เช่ของเขาคือ ‘มิเรอร์เกรด AAA’
เพื่อนๆ เคยคิดกันไหมครับว่า ของบางอย่างเราไม่จำเป็นต้องใช้ของแท้ก็ได้ ขอให้มันใช่ได้เหมือนกัน จะของแท้หรือของเลียนแบบมันก็ไม่ต่างกันหรอก แต่เรื่องราววันนี้ ของเลียนแบบ ได้ทำพิษเข้าแล้ว เพราะเมื่อสาวจับได้ว่าหนุ่มคู่เดทของตนใช้ของปลอม จนถึงกับต้องเลิกรากันเลยทีเดียว เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งขับรถ Porsche (บ้านเราเรียก ปอร์เช่) คันงาม รุ่น Cayenne ไปที่งานสังสรรค์แห่งหนึ่ง แล้วด้วยความที่ขับรถยี่ห้อหรูก็ทำให้ชายหนุ่มได้แอ้มสาวกลับมาเสียด้วย เขาและหญิงสาวคบกันได้ราว 2 สัปดาห์ มีเซ็กส์กันบ้างสองสามครั้ง หญิงสาวรู้สึกพอใจที่ได้คบกับหนุ่มไฮโซแบบเขา จึงโพสต์ภาพรถ Porsche สุดหรูของเขาลงอินเทอร์เน็ตเพื่อโอ้อวด . จากนั้นเพื่อนของหญิงสาวจึงได้สังเกตเห็นว่านั่นไม่ใช่รถ Porsche จริงๆ แต่มันคือรถของจีนที่ทำขึ้นมาเพื่อลอกเลียนแบบ Porsche รุ่น Cayenne ที่มีชื่อยี่ห้อว่า Zoyte ต่างหาก เพื่อนของหญิงสาวกล่าวว่า รถยี่ห้อ Zoyte นี้มีราคาประมาณ 740,000 บาทเท่านั้นเอง ในขณะที่รถ Porsche Cayenne ของจริงจะมีราคาถึง 7,400,000 บาท ซึ่งมากกว่าถึง 10 เท่า!…
-
เอาให้หนัก!! เจ้าของตึกใช้ “เครน” ยกรถไปจอดบนหลังคา หลังโดนขวางจนไปทำงานไม่ได้
จากดราม่าดังในประเทศไทย เรามาดูเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในประเทศจีนกันบ้าง หลังมีคนเอารถมาจอดขวางหน้าทางเข้า – ออก ตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง งานนี้เจ้าของตึกเลยเล่นคืนให้หนักซะเลย!! เว็บไซต์ Sina News ได้รายงานว่าช่วงปลายปีก่อน มีหญิงสาวนิรนามได้นำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้หน้าตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองเปิ่นซี ประเทศจีน เจ้าของตึกได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น ว่ามีหญิงนิรนามเอารถคันดังกล่าวมาจอดขวางทางเข้า – ออก ไว้ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยไม่สามารถเดินทางออกไปทำงานได้ ซึ่งหลังจากนั้นชาวบ้านก็พยายามตามหาเจ้าของรถ ทว่าผ่านไปกว่า 38 ชั่วโมงแล้ว ก็ไม่มีเจ้าของรถออกมารับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น งานนี้เจ้าของตึกเลยคิดว่าต้องเอาคืนให้สาสมซะหน่อยแล้ว เจ้าของตึกเลยจัดจ้างเครนมายกรถไปไว้บนตึกซะเลย ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่การจอดรถมั่วๆ แบบนี้ ก็ควรได้รับบทเรียนเช่นกัน หลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Weibo ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็ว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม บ้างก็ชี้แนะว่าควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะดีกว่า แต่ไม่ว่าชาวเน็ตจะว่ายังไง ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่า มันต้องใช้วิธีนี้แหละจัดการกับพวกจอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง ลองไปชมคลิปวิดีโอตอนยกรถไปไว้บนดาดฟ้ากันเลย งานนี้เจ้าของรถก็คงต้องไปจ้างรถเครนมายกลงเองแล้วล่ะ ยุ่งยากหน่อยนะพี่เอ๋ยย ที่มา: Dailymail
-
เครือข่ายหมู่บ้านถ้ำจีน Yaodongs เป็นที่อยู่ของชาวถ้ำกว่า 3,000 คน มาตั้งแต่โบราณกาล
เป็นที่เชื่อกันว่าลึกลงไปใต้ดินของเมือง ซานเหมินเซียะ แห่งมณฑลเหอหนานนั้น เป็นที่อาศัยของผู้คนเกือบ 10,000 ครัวเรือน และหมู่บ้านอีกนับร้อยแห่ง ลักษณะของการสร้างที่อยู่อาศัยใต้ดินโดยแบ่งออกเป็นย่านๆ ตามหมู่บ้านหรือลานกว้างนั้น เป็นภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล โดยหนึ่งหมู่บ้านนั้นสามารถมีผู้อาศัยได้ถึง 3,000 ชีวิต ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้พบเห็นกันในเมืืองซานเหมินเซียะนี่เอง . ปัจจุบัน หน่วยงานของรัฐบาลกำลังพยายามสำรวจไปตามอุโมงค์และสถาปัตยกรรมสุดล้ำที่อยู่ใต้ดินแห่งนี้ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยใต้ดินที่เชื่อมกันเป็นถ้ำและอุงโมงค์แบบนี้ถูกเรียกว่า “Yaodongs” ซึ่งที่แห่งนี้ได้มีผู้คนอาศัยผ่านไปแล้วราว 6 รุ่น หรือมากกว่า 200 ปีด้วยกัน พวกเขาสร้างที่พักอาศัยใต้ดินแบบนี้ก็เพื่อรักษาความอุ่นเมื่ออากาศหนาว และรักษาความเย็นเมื่ออากาศร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Easy Tour China กล่าวว่า “มันมีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ” . พวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าที่จะขุดดินลงมาราว 7 เมตร เพื่อสร้างที่บ้านในถ้ำแบบนี้ ซึ่งผลงานที่พูดได้ว่าดีที่สุดนั้นถูกสร้างอยู่ในหมู่บ้าน Renma และ Miaoshang ในเมือง Shanxian มันเป็นบ้านที่มีสไตล์เรียบง่าย ฝุ่นเขลอะ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบชาวตะวันตกยุคสมัยใหม่ เช่น…
-
โรงเรียนอนุบาลในจีนให้เด็กๆ ได้เรียนอนาโตมีด้วยการผ่าหมูสดๆ ให้เด็กดูเลย
ที่โรงเรียน อนุบาลเหอเป่ย์ ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน ได้มีการสอนให้นักเรียนได้รู้จักเรื่องร่างกายและความเป็นความตายผ่านการผ่าหมูทั้งตัวให้เห็นกันจะๆ ในเมือง Badong County มณฑลเหอเป่ย์ มีเด็กนักเรียนอนุบาลราว 600 คน กำลังรับชมชายชุดขาวใส่หมวกและผู้ช่วยอีก 2 คน กำลังชำแหละหมูตัวโตสดๆ และนำเอาเครื่องในหมูออกมาโชว์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนชี้แจงว่ากิจกรรมดังกล่าวให้ประโยชน์ใน 2 แง่ด้วยกัน ในแง่แรกคือการสร้างบรรยากาศวันตรุษจีนให้กับโรงเรียน ซึ่งเป็นปกติที่วันตรุษจีนจะต้องชำแหละหมูทั้งตัวเพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงฉลอง ส่วนในแง่ที่สองก็คือ เพื่อสอนให้เหล่าเด็กๆ รู้จักกับร่างกายในเชิงอนาโตมี เพื่อเป็นรากฐานในการศึกษาของเด็กๆ ในอนาคต ภาพบรรยากาศในงานจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้ตามคลิปด้านล่างนี้ ชาวเน็ตเองเมื่อเห็นจึงได้ออกมาวิจารณ์ว่าบทเรียนเหล่านี้มันดูจะป่าเถื่อนเกินไปหน่อยสำหรับเด็กอนุบาล ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงออกมากล่าวว่า เด็กๆ จะไม่มีการซึมซับเรื่องการทรมานสัตว์แน่นอน อีกอย่างก็คือก่อนจะมีกิจกรรมนี้ ทางโรงเรียนได้แจ้งพ่อแม่ของเด็กๆ ก่อน และก็ได้รับการอนุญาตแล้ว อันที่จริงแล้ว การชำแหละหมูโชว์เด็กๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในชนบทของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม หมูที่ชำแหละในงานนั้นก็ถูกนำมาทำเป็นอาหารแจกพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงเด็กๆ เนื่องจากเป็นการเลี้ยงฉลองเทศการฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง แต่ละที่ก็มีวิธีการสอนเด็กๆ ที่แตกต่างกันไป แต่การผ่าหมูสดๆ ให้เห็นอย่างนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งผลอย่างไรกับเด็กๆ ก็คงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไปละนะ ที่มา: Medium
-
‘จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่าวัย 76 เข็นหลานชายพิการไปโรงเรียนร่วม 4 ปี ตกวันละ 24 กิโลฯ!!
ในช่วงบั้นปลายชีวิตของคนทั่วไป ช่วงวัยชราของผู้สูงอายุนั้นจะต้องพึ่งพาการดูแลจากลูกหลาน หรือถ้าหากไม่มีใครคอยอยู่ดูแล ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตของตัวเองเท่าที่จะสามารถทำได้… แต่สำหรับคุณย่า Shi Yuying วัย 76 ปี จากเขตกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน กลับต้องใช้แรงกายของตัวเองพาแรงใจเดินไกลถึงวันละ 24 กิโลเมตร!! นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณย่าจะต้องพาหลานชายวัย 9 ขวบ ที่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ ไปส่งถึงโรงเรียนในทุกๆ วัน… นี่คือเส้นทางที่ทั้งสองจะต้องเดินทางผ่านเป็นประจำ โดยที่ Jiang Haowen ผู้เป็นหลานชายของคุณย่านั้น ถูกวินิจฉัยพบว่าประสบกับกลุ่มโรคสมองพิการ (Cerebral Palsy) มาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ อันเป็นกลุ่มอาการของผู้ป่วยเด็กที่มีความพิการอย่างถาวรของสมอง ส่งผลทำให้ไม่สามารถสั่งการร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ที่ร้ายแรงไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ทางพ่อแม่ของเด็กชายต่างแยกทางกันตอนที่เขามีอายุได้เพียง 4 ขวบ ฝั่งแม่ก็ไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่ ส่วนคุณพ่อนั้นก็ต้องออกไปทำงานต่างเมืองเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวตัวเอง แต่ถึงแม้จะประสบกับความทุกข์ยากขนาดไหน คุณย่าเองก็มีพลังความคิดทางด้านบวก เพื่อให้หลานชายที่เธอดูแลอยู่ได้รับการศึกษาที่สมวัย ‘ตราบใดที่ฉันยังมีเรี่ยวแรง, ฉันก็จะทำแบบนี้ต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่ากล่าว ก่อนหน้านั้นคุณย่าใช้วิธีพาหลานซ้อนจักรยานไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน…
-
ช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คน ร่วมสร้างทางรถไฟจนเสร็จ ภายในเวลาเพียง 9 ชั่วโมงเท่านั้น!!
โดยปกติเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในแง่ของการก่อสร้างที่รวดเร็ว เพราะเนื่องจากเป็นประเทศที่ผู้คนค่อนข้างมีวินัย เมื่อลงมือทำอะไรสักอย่างแบบพร้อมเพรียงก็จะเกิดเป็นปรากฏการณ์ให้ชาวโลกได้ฮือฮาในความว่องไวของพวกเขา แต่ความไวเหล่านั้นไม่ได้สงวนไว้แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะที่ประเทศจีนเองก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เช่นเดียวกัน และพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าการสร้างอะไรภายในชั่วข้ามคืน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน เหตุการณ์ที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ของการก่อสร้างในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ที่รวบรวมเอาช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คนและรถขุดอีก 23 คันมาช่วยกันสร้างรางรถไฟให้เสร็จภายในคืนเดียว ตามรายงานของ Xinhua News Agency บอกว่าคนงานทั้งหมดเริ่มงานในคืนวันที่ 19 มกราคม และเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้าของวันที่ 20 มกราคม หน้าที่ของคนงานทั้งหมดคือการเชื่อมรางรถไฟทั้ง 3 สายเข้าด้วยกัน ทั้ง Ganlong Railway, Ganruilong Railway และ Zhanglong Railway และพวกเขายังติดตั้งเสาสัญญาณจราจรพร้อมกับชุดของอุปกรณ์ตรวจสอบการจราจรด้วย แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าพวกเขาสามารถรักษาระดับความเร็วเอาไว้ได้และสื่อสารกันอย่างมีคุณภาพ งานทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องง่ายเลยทีเดียว Zhan Daosong รองผู้จัดการของ China Tiesiju Civil Engineering Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตทางรถไฟรายใหญ่ของประเทศได้กล่าวว่าที่พวกเขาทำงานได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะว่ามีการเตรียมงานมาอย่างดี และคนงานทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 7…
-
เจ้าอ้วนน้อย สุนัขที่ทำหน้าตาออดอ้อน นั่งคอยอาหารจากมนุษย์ในแผงตลาดสดอย่างตั้งใจ!!
กลายเป็นข่าวดังไปทั่วจีนเลยทีเดียว เมื่อสำนักข่าวในจีนได้ไปพบเข้ากับสุนัขนักกินนามว่า ‘เจ้าอ้วนน้อย’ เข้าบริเวณหน้าร้านพะโล้แห่งหนึ่ง โดยความพิเศษของมันคือมันสามารถส่งสายตาออดอ้อนมนุษย์เพื่อของกินได้อย่างเชี่ยวชาญ สื่อของจีนได้สัมภาษณ์กับเจ้าของร้านพะโล้ที่ต้องเจอกับเจ้าตูบนักกินตัวนี้แล้วถามว่า เจ้าสุนัขตัวอ้วนนี้มันเป็นสุนัขของใครแล้วมันมาจากไหน ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นสุนัขของใครมาจากไหน แต่เขาก็คิดว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 4 ปีนั่นเอง ความพิเศษของเจ้าอ้วนน้อยนอกจากการส่งแววตาออดอ้อนแล้ว ชาวบ้านแถวนั้นยังบอกว่ามันยังเรียนรู้วิธีการนั่งที่แปลกไม่เหมือนสุนัขเพื่อเสริมสร้างความน่ารักอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าชาวบ้านก็มักจะแพ้ต่อสายตาและท่าทางของมันจนต้องยอมเอาของกินให้มันกิน ดูสิ ดูมันอ้อน ใครจะสู้สายตาแบบนี้ไหว อร๊ายยย ด้านเจ้าของร้านพะโล้บอกว่าเจ้าตูบนั้นจะมานั่งรอหน้าร้านเขาทุกวัน เพื่อขอกินชิ้นเนื้อแสนอร่อยจากร้านของเขา และถ้าวันไหนเขาไม่ให้ มันก็จะทำหน้าตาออดอ้อนมากกว่าเดิม บางทีทำหน้าเหมือนร้องไห้ก็มี ไม่เพียงแต่ร้านพะโล้ดังกล่าวเท่านั้นที่จะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าอ้วนน้อย แต่ว่าร้านค้าบริเวณนั้นก็โดนโจมตีด้วยความน่ารักเช่นกัน จนตอนนี้ไม่ว่าจะร้านค้าร้านไหนก็จะต้องเปย์อาหารให้กับมันเสียทุกครั้งที่ลูกพี่อ้วนน้อยเดินมานั่งรอเรียกว่าภาพที่น่ารักมากๆ เลยทีเดียว ฮร่าๆ ท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร พร้อมกับเป้าหมายเป็นร้านอาหารตรงหน้า อาหารจะมาแล้ว!! เจ้าของร้านพะโล้พูดถึงเจ้าอ้วนน้อยว่า “เวลาเจ้าอ้วนน้อยหิวเมื่อไหร่ มันก็จะสุ่มไปนั่งรอที่หน้าร้านอาหาร มันจะรอจนกว่าจะได้อาหาร ยิ่งนานเท่าไหร่ สายตาของมันก็จะยิ่งอ้อนเท่านั้น จนสุดท้ายคนในตลาดต้องยอมให้อาหารมันจนได้” ร้านตรงหน้าไม่ให้ ร้านข้างก็คือเป้าหมายต่อไป!! สุดท้ายแล้วแม้ว่าหลังจากนี้เหล่าเจ้าของร้านอาหารจะไม่ยอมให้อาหารเจ้าอ้วนน้อยก็ดูไม่ค่อยจะสนอีกต่อไป เพราะอะไรนะเหรอ? ก็เพราะหลังจากที่มันกลายเป็นข่าวก็เริ่มมีคนแวะเวียนมาชมความน่ารักของมันพร้อมมีอาหารติดไม้ติดมือน่ะสิ ฉะนั้นตอนนี้มันคงอิ่มตลอดทั้งวันเลยละ …
-
สื่อจีนตีข่าว ทางการจีนใช้ปืนใหญ่พ่นน้ำหวังให้อากาศดี แต่จบด้วยตึกมีน้ำแข็งเกาะเพียบ
ถ้าใครที่ติดตามข่าวคราวในประเทศจีนอยู่ คงจะได้ยินผ่านหูกันมาบ้างตอนนี้ประเทศจีนนั้นกำลังประสบกับปัญหาหมอกควันอย่างหนัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นกำลังกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมากนั่นเอง สำนักข่าว Medium.com รายงานว่าด้วยเหตุนี้ ทางการจีนจึงหาทางออกด้วยการใช้รถบรรทุกที่ติดตั้งปืนใหญ่พ่นหมอกขนาดใหญ่ไว้ข้างหลังเพื่อพ่นหมอกตามจุดต่างๆ ในเมือง เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาเรื่องมลพิษจากการถูกตรวจสอบข้อมูลทางอากศ พวกเขายังระบุว่าเมื่อสภาพอากาศดี ข่าวดีๆ ก็จะเกิดขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ แน่นอนว่าทางรัฐบาลก็จะได้หน้าไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้ารถติดตั้งปืนใหญ่หมอกนี้จะใช้งานได้ผลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลในระยะยาว เพราะว่าหมอกดังกล่าวมันช่วยให้อากาศดีขึ้น ประชาชนหายใจสะดวกขึ้นก็จริง แต่ว่ามันกลับส่งผลได้ไม่นานและมีผลแค่ในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น แถมยังทำให้ตึกหลายๆ ตึกมีน้ำแข็งเกาะอยู่เต็มไปหมดอีก และถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวดี แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดยังคงสั่งผลิตเจ้ารถปืนใหญ่หมอกเข้าไปประจำการอีกหลายเมืองด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ เพื่อหลอกการตรวจสอบสภาพอากาศ… การหลอกลวงยังไม่หมดเท่านั้น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซีและมณฑลเหอหนานจับได้ว่าพวกเขาสั่งให้เอาเครื่องยิงหมอกนี้ ไปยิงอัดเครื่องตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อหวังเอาหน้าอีกด้วย สุดท้ายแล้วแม้ทางการจีนจะออกมาโปรยว่าจะนำท้องฟ้าสีครามกลับมาสู่ประเทศจีนอีกครั้ง แต่เจ้ารถปืนใหญ่พ่นหมอกนี้ก็ดูจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรนัก เราก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจีนจะจัดการปัญหาหมอกควันอย่างไรในอนาคต… ก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างตึกฟอกอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งคุณสามารถตามอ่านได้ที่… จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่ ที่มา medium
-
นายตำรวจผู้เสียสละ ยอมปลอมตัวเป็นลูกคนอื่นนานถึง 5 ปีเพื่อให้พวกเขามีความสุข!?
เรื่องราวสุดซึ้งที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศจีน เมื่อตำรวจหนุ่มคนหนึ่งได้เปิดเผยผ่านรายการทีวีว่าจริงๆ แล้วตัวเขาไม่ได้เป็นลูกชายของผู้เป็นพ่อและแม่ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่เขาเป็นคนอื่นและทำไปเพราะเหตุผลบางอย่าง..!? Jiang Jingwei นายตำรวจจากเมืองเซี่ยงไฮ้ คือตัวตนจริงๆ ของชายคนดังกล่าว โดยเขาเล่าว่าเขาได้แสร้งปลอมตัวเป็นลูกชายของครอบครัวสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อช่วยสร้างความสะบายใจให้กับทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายภรรยา เพราะว่าพวกเขายังคงเสียใจกับการจากไปของลูกชายเมื่อ 15 ปีก่อน Jiang เล่าว่าเรื่องมันเริ่มมาจาก Xia Zhanhai และ Liang Qiaoying สองสามีภรรยาได้สูญเสียลูกชายที่ชื่อ Xia Xiaoyu ไปเมื่อปี 2003 ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุในโรงงานที่พวกเขาทำงาน โดยลูกชายนั้นถูกสารพิษมากจนเสียชีวิตในท้ายที่สุด ส่วนผู้เป็นแม่นั้นแม้ไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ก็กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ด้าน Xia Zhanhai ผู้เป็นสามีที่ตอนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากและรู้ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของลูก ก็ได้ตัดสินใจโกหกภรรยาว่าลูกนั้นทนไม่ไหวกับการทำงานที่นี่และขอออกไปทำงานต่างเมือง ซึ่งเขาทำเพื่อรักษากำลังใจของภรรยาให้มีชีวิตต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2010 นาย Xia ได้เห็นดูทีวีและบังเอิญเจอนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนลูกชายของเขา ซึ่งในจังหวะนั้นเขาตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาต้องไปขอความช่วยเหลืิอจากชายคนนั้น และด้วยความช่วยเหลือจากรายการทีวีเขาจึงสามารถติดต่อกับ Jiang หรือก็คือนายตำรวจคนดังกล่าวได้ Jiang เล่าว่าตอนที่นาย Xia…
-
จากภาพ “เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน” ล่าสุดมีคนใจดีมอบเงินเพื่อให้ไปทัศนศึกษาในปักกิ่งด้วย
เมื่อราวๆ เดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ได้มีภาพๆ หนึ่งถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เป็นภาพของเด็กชายชาวจีนที่ชื่อ Wang Fuman วัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในมณฑล Zhaotong เขต Yunnan เขาต้องฝ่าอากาศอันหนาวเย็น -8 องศาเพื่อไปโรงเรียนประถม Zhuanshanbao Primary School ที่อยู่บนเขาที่ห่างจากบ้านไปราวๆ 4.5 กิโลเมตร แต่เนื่องจากอากาศอันหนาวเย็นสุดขั้ว ทำให้เส้นผมของเขาและขนตาของเขามีแต่เกล็ดหิมะเกาะเต็มไปหมด คุณครูจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพของเขาไปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กและกลายเป็นภาพไวรัลที่มีผู้คนแชร์กันออกไปอย่างรวดเร็วจนได้รับฉายา “Ice Boy” จากความโด่งดังของเขาทำให้เด็กชาย Wang ถูกสื่อหลายแห่งเชิญไปสัมภาษณ์ เด็กชาย Wang บอกว่าเมื่อโตขึ้น เขาอยากจะเป็นตำรวจเพื่อจะได้จับคนร้าย และปณิธานในปีใหม่นี้ เขาตั้งใจจะเรียนหนังสือให้มากขึ้นและหาเงินมาเพื่อรักษาคุณยายที่ป่วยของเขา เด็กชาย Wang บอกว่าเขาเองไม่เคยทิ้งบ้านแล้วเดินทางไปไหนเลย เขาอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆ กับน้องสาวและคุณยาย ส่วนแม่ได้ทิ้งครอบครัวไปครอบครัวใหม่ และพ่อต้องไปทำงานในต่างถิ่น จะได้กลับบ้านเพียงปีละครั้งหรือสองเท่านั้น แต่เขาก็หวังว่าสักวันจะได้ไปปักกิ่ง เพราะจะได้รู้ว่าเด็กๆ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือกันยังไง และเพราะความโด่งดังของภาพนั้น มันได้ช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อของเด็กชายได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งและถูกเสนอให้ทำงานใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง แถมทั้งครอบครัวยังได้รับเงินบริจาคกว่า…
-
ชายผู้ถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งขนมหวาน’ ในประเทศจีน ปั้นน้ำตาลได้สวยราวกับตุ๊กตาตั้งโชว์
ขนมเค้กถือเป็นขนมที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยความที่มันมีหลากหลายชนิด และมีรสชาติอร่อยจึงสามารถมัดใจคนจำนวนมากไว้ได้ อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับเค้กก็คือความสวยงาม เพราะมันคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจมาลิ้มลองชิมรสชาตินั่นเอง ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนของเราก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งเค้กอยู่ด้วย ฝีมือดีจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกเชียวนะ ลองไปดูการตกแต่งเค้กของเขากัน Zhou Yi ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล เชฟขนมหวานคนนี้ชื่อว่า Zhou Yi มีฉายาที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีนคือ Sugar King (ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล) เขาสามารถปั้นน้ำตาลฟองดูให้กลายเป็นรูปอะไรก็ได้ และตุ๊กตาน้ำตาลที่เขาปั้นเป็นรูปมนุษย์ก็มีความละเอียดละออจนเราเห็นแล้วคิดว่าเป็นตุ๊กตาเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อเสียงในประเทศจีนมานานแล้ว เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในการตกแต่งเค้ก แต่พอเขาชนะ การแข่งทำเค้กระดับนานาชาติ (International Cake Competition) เมื่อปี 2017 ด้วยรางวัล 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก เขาชอบผสมผสานวัฒนธรรมของประเทศจีนเข้ากับศิลปะโบราณ จึงทำให้ผลงานส่วนหนึ่งของเขาเป็นรูปเลียนแบบบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หรือตัวละครในวรรณกรรมด้วย ผลงานชิ้นหนึ่งที่โด่งดังของเขาก็คือตุ๊กตาน้ำตาลที่ปั้นเป็น Wu Zetian จักรพรรดิณีคนแรกและคนเดียวของประเทศจีน โดยมีรายละเอียดสูงทั้งรูปร่าง เสื้อผ้า หน้า ผม จนไปถึงขนตาเลย ในตอนเด็กเขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการศึกษาศิลปะเฉพาะตัวของจีน การตกแต่งอาหาร และการปั้นรูปแป้ง…
-
จีนเตรียมเปลี่ยนหน้าผาที่เด็กใช้ปีนไปโรงเรียนเป็นที่ท่องเที่ยว หลังได้รับความนิยม
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 สื่อจีนเคยเผยแพร่ภาพของบันไดแห่งหนึ่งในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นบันไดไม้เก่าๆ ที่เด็กจากหมู่บ้านอันห่างไกลไว้ใช้เดินทางไปเรียนหนังสือ และแน่นอนว่าข่าวดังกล่าวก็ได้รับความนิยมสุดๆ เลยทีเดียว งานนี้เมื่อรัฐเล็งเห็นว่า บันไดดังกล่าวมันกลายเป็นกระแสและมีคนพูดถึงมาตลอด ทำไมพวกเขาไม่หยิบมันมาพัฒนาต่อเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดูละ? งานนี้โปรเจกต์บันไดปีนพาชมวิวจึงเริ่มขึ้น!! เดิมทีบันไดดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในชุมชนที่ชื่อ Atule’er ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจำนวน 72 ครัวเรือน โดยคิดเป็นประชากรราว 400 คน ส่วนตัวบันไดนั้นมีความสูงอยู่ที่ 800 เมตร โดยเด็กๆ ที่จะไปเรียนหนังสือจำเป็นจะต้องปืนบันไดดังกล่าว ต่อมาในเดือนพฤษจิกายนปีเดียวกัน ทางรัฐได้จัดการดัดแปลงและพัฒนาบันไดดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ด้วยแผนการที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว รัฐได้ทำแคมเปญเชิญชวนรวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง 4G ไวไฟ และ ตู้ ATM ให้มีใช้กันบริเวณหมู่บ้านแล้วด้วย ส่วนตัวหมู่บ้านก็มีการพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น โรงเรียนก็ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เด็กๆ สามารถเข้าเรียนได้ ซึ่งนั่นทำให้หมู่บ้านเติบโตและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังบันไดดังกล่าวมีมากถึง 100 คนต่อวันเลยล่ะ สุดท้ายแล้ว จากเรื่องราวที่เผยแพร่ในปี 2016 ของกลุ่มนักเรียนที่ไปเรียนอย่างยากลำบาก มาวันนี้พวกเขาไม่ต้องลำบากแบบนั้นอีกต่อไป และความเจริญก้าวหน้าก็มาหาพวกเขาแล้ว ซึ่งทางรัฐก็ตั้งเป้าไว้ว่าที่แห่งนี้จะได้รับความนิยมและทำเงินจากการท่องเที่ยวได้สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน……
-
แนะนำยูทูบเบอร์สาวจีน โชว์ทำอาหารตั้งแต่หาวัตถุดิบยันปรุงเสร็จ โดยไม่พูดซักคำเดียว
เพื่อนๆ เบื่อกันบ้างหรือเปล่าครับกับการดูรายการซักรายการ แล้วผู้ดำเนินรายการก็จะเปิดด้วย “สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วนะครับ กับรายการ… วันนี้เราจะมา…” นึกภาพออกกันเลยใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับยูทูบเบอร์สาวชาวจีนคนนี้เพื่อนๆ จะไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นแน่นอน เพราะว่าเธอมีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะ เธอคนนี้เป็นสาวจีนที่มีชื่อว่า 李子柒 เธออาศัยอยู่ในเมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคลิปวิดีโอในแชแนลยูทูบของเธอก็คือวิดีโอที่นำเสนอวิธีการทำอาหารต่างๆ นาๆ ซึ่งความไม่ธรรมดาของเธอก็คือ วิธีการนำเสนอที่เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคนดูนี่แหละ เพราะตลอดคลิป ไม่ว่าจะคลิปไหนๆ เธอจะไม่พูดแม้แต่คำเดียว! ทำให้คนดูต้องรอลุ้นว่าเธอจะทำอะไรต่อไป และผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอะไรกันแน่ . . ถึงแม้เธอจะไม่พูด แต่บอกเลยว่าแต่ละคลิปวิดีโอของเธอนั้น งานภาพสวยงามสุดๆ อีกทั้งบรรยากาศในคลิปนั้นจะเป็นบรรยากาศของชนบทที่มีแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติที่สวยงาม การนำเสนอของเธอนั้น แตกต่างจากรายการทำอาหารที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ประมาณว่าทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว แล้วก็มีการอธิบายว่าใส่อันนู้นอันนี้เท่าไหร่ แต่เธอนั้นเริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบที่เธอต้องไปเก็บผัก ขุดผัก ให้เห็นกันจะๆ เลยทีเดียว จากนั้นก็จะเป็นวิธีล้างทำความสะอาดวัตถุดิบต่างๆ รวมไปถึงขั้นตอนการปรุงที่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ราวกับว่าเรายืนมองคุณแม่ที่กำลังเตรียมทำอาหารอย่างนั้นแหละ และที่สำคัญเลยก็คือ ยูทูบเบอร์สาวผู้นี้มีรูปโฉมที่เรียกได้ว่า “งดงาม”…
-
ภาพน่ารัก “คุณพ่อผู้ใช้แรงงาน” มานั่งในสถานีรถไฟใต้ดินทุกวัน ใช้ไวไฟฟรีคอลหาลูกเมีย
การที่ต้องอยู่ห่างไกลครอบครัวนั้น สำหรับบางคนเป็นอะไรที่ทำใจได้ยากยิ่ง เนื่องจากความเป็นห่วง ความคิดถึงที่มีให้กับครอบครัวนั้น มันทำให้คนไกลรู้สึกทรมานใจยิ่งนัก ดังนั้นหลายคนที่ต้องออกไปทำงานห่างไกลครอบครัว จึงจำเป็นต้องหาทางติดต่อกับครอบครัวอยู่บ่อยๆ เพื่อลดความคิดถึงและห่วงหา แต่สำหรับบางคนนั้น การติดต่อกลับหาครอบครัวก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ มันอาจจะต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างมาก ดังเช่นแรงงานชาวจีนผู้นี้ที่เขาจะต้องมาที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกๆ วัน เพื่อใช้บริการ “ไวไฟฟรี” ของสถานีในการโทรหาภรรยาและครอบครัว นาย Ge Yuanzheng แรงงานก่อสร้างในเมืองทางจีนตะวันออก ซึ่งอพยพมาจากมณฑลเหอหนาน เขามีรายได้น้อยแถมยังต้องอาศัยอยู่ในหอพักแสนธรรมดากับเพื่อนร่วมงาน เขาจำเป็นต้องประหยัดเงินกระทั่งแม้ไปเที่ยวเขาก็ยังไม่กล้าไปสถานที่ดังๆ เนื่องจากกลัวจะเสียค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป Ge พยายามติดต่อครอบครัวทุกวัน แต่เขาเองก็ยังต้องประหยัดและเก็บออมเงินที่ได้มาแสนยากลำบาก เขาเลยเลือกที่จะใช้บริการดีๆ ของสถานนีรถไฟใต้ดินอย่างอินเทอร์เน็ตไวไฟฟรีนั่นเอง เขาเล่าว่าเขาต้องเดินมาที่สถานีทุกๆ คืนเพื่อใช้สัญญาณไวไฟติดต่อและพูดคุยสนทนากับครอบครัว โดยเมื่อเดือนก่อนก็มีคน ถ่ายรูป ของเขาขณะโทรหาครอบครัวมาโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ครั้งแรกที่ภรรยาของ Ge เห็นภาพดังกล่าวบนอินเทอร์เน็ต เธอรู้สึก ไม่พอใจ ที่มีคนถ่ายรูปเขาที่อุตส่าห์เดินลัดเมืองมาเพื่อแค่โทรบอกรักภรรยา แต่เมื่อ Ge ได้อธิบายว่าเขาไม่เป็นไร ทุกๆ อย่างปกติดี เธอจึงให้กำลังใจเขาแทน เขาและภรรยานั้นมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายของเขาทำงานแล้ว ในขณะที่ลูกสาวของเขานั้นกำลังเล่าเรียนเพื่อที่จะเป็นพยาบาล ค่าส่งเสียเล่าเรียนของลูกสาวนั้นราวๆ…
-
เด็กนักเรียน “เผาการบ้าน” ในจังหวะบ้านตัวเองไฟลุกไหม้ พ่อรู้เข้าเอ็งจะโดนตีไหมเนี่ย!?
ในสมัยที่เป็นเด็ก หลายคนคงรู้สึกว่าชีวิตวัยเรียนนี่มันน่าเบื่อสุดๆ การบ้านก็ไม่รู้จะเยอะไปไหน ไม่อยากจะทำ อยากจะเผาการบ้านทิ้งไปอะไรทำนองนี้ใช่ไหม? และยิ่งถ้าคุณคิดว่ามีแต่เด็กไทยที่คิดแบบนั้น คุณคิดผิด!! เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านหลังหนึ่งในมณฑลเสฉวน แน่นอนว่าในเหตุการณ์นั้นย่อมเต็มไปด้วยความโศกเศร้าจากการสูญเสียบ้านทั้งหลัง แม้ว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บก็ตาม… แต่กลับกัน เด็กชายผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนั้นกลับรู้สึกว่า นี่แหละคือโอกาส นี่แหละคือจังหวะที่เขาจะได้เป็นอิสระจากการทำการบ้าน เด็กชายผู้ไร้เดียงสาจึงอัดคลิปเสียงของเขาพร้อมพูดผ่านกล้องว่า “บ้านเราไฟไหม้…เยี่ยม! ฉันจะได้โยนกระเป๋าเรียนเข้าไปซะ” เราจะเห็นว่าเด็กคนนี้นั้นได้พูดอยู่ระหว่างที่กำลังอัดคลิปไปและมองดูบ้านของเขาถูกเผาต่อหน้าต่อตา ซึ่งเจ้าหนูก็ยืนอยู่ข้างถนนอย่างสบายใจ ถ้าเรามองแบบไม่คิดอะไรเราก็คงจะรู้สึกว่าเด็กก็คือเด็ก แต่กลับกันผู้ใหญ่ชาวเน็ตจีนหลายๆ คนกลับมองว่าเด็กคืออนาคตของชาติ และถ้าเด็กทุกคนมีความคิดแบบนี้มันอาจจะเกิดผลเสียตามมาก็เป็นได้… แต่ถึงอย่างนั้นในอีกฝากของชาวเน็ตก็ยังมีอีกฝั่งที่มองว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลกกว่าที่คิดอยู่ ถ้าไม่เชื่อลองดูตัวอย่างข้างล่างได้ นายคนนี้บอกว่า เด็กชาวจีนมีการบ้านที่เยอะมากๆ ฉะนั้นอย่างน้อยไฟไหม้ครั้งนี้ก็ทำให้เจ้าหนูคนนี้มีความคิดสร้างสรรค์ อย่างน้อยก็ยังมองหาเรื่องดีๆ ได้ แม้บ้านตัวเองจะไฟไหม้อยู่ก็ตาม โอเค ทีนี้เราก็รู้แล้วว่าตัวการคือใคร… ที่มา shanghaiist
-
หมอจีนถูกสั่งสอบ กรณีขอเพิ่มค่ารักษาและบังคับจ่ายเพิ่ม ในระหว่างการทำผ่าตัด…
สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่ามีศัลยแพทย์หญิงชาวจีนถูกสอบสวนหลังจากมีการกล่าวโทษว่า ขณะที่เธอกำลังทำการผ่าตัด เธอขอให้คนไข้จ่ายเงินเพิ่มสำหรับกระบวนการรักษาเพิ่มเติม คนไข้นามว่า Jiang Meng อายุ 20 ปี กำลังเข้ารับการตรวจปากมดลูกโดยแพทย์ของโรงพยายามบาลต้าเหลียน ซึ่งเป็นเมืองท่าในมณฑลเหลียวหนิงในประเทศจีน แพทย์แซ่ Wang ก็ได้แจ้งว่า Jiang นั้นจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ขณะที่การผ่าตัดกำลังดำเนินไป แพทย์ท่านหนึ่งซึ่งไม่แน่ใจว่าใช่ Wang หรือไม่ ก็ได้อ้างว่า Jiang มีปัญหาทางการรักษาบางอย่าง และจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างด่วนที่สุด จากนั้นแพทย์คนดังกล่าวจึงนำแผ่นกระดาษพร้อมคิวอาร์โค้ดมาให้ Jiang เพื่อสแกนรับรองค่าใช้จ่าย และบอกว่าการรักษาเพิ่มเติมนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราวๆ 9 พันบาท เธอตอบตกลงแต่ขณะนั้นเธอมีเงินในบัญชีเพียง 3 พันบาทเธอจึงจ่ายส่วนต่างในภายหลัง เมื่อ Jiang ออกจากโรงพยาบาลมา เธอเกิดรู้สึกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษา เธอจึงเข้าไปสอบถามแพทย์อีกโรงพยาบาลหนึ่ง จึงได้คำตอบว่ากระบวนการรักษาที่เพิ่มเติมมานั้น “ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด” จากนั้นเธอจึงเขียนเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอลงบนสื่อออนไลน์ Weibo จนกระทั่งเรื่องราวถูกส่งไปถึง คณะกรรมการสุขภาพและการวางแผนครอบครัว การสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงเกิดขึ้น ขณะที่ยังไม่ทราบผลของการสืบสวน พนักงานคนหนึ่งในโรงพยาบาลที่ Jiang เข้ารับการรักษาจึงออกมากล่าวกับสื่อ New Culture Daily ว่า “เป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยต้องสแกนคิวอาร์โค้ดสำหรับการรักษาต่างๆ ที่เกิดขึ้น” และยังบอกอีกว่า “มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลายอย่างระหว่างการผ่าตัด และเราก็ไม่สามารถปล่อยคนไข้กลับไปทั้งอย่างนั้นได้หรอก” ที่มา: Scmp
-
จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่
ปัญหามลพิษทางอากาศนั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวจีนในตอนนี้ ซึ่งมันก็ส่งผลให้ประชาชนรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาที่มองข้ามไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ทีมนักวิจัยในมณฑลส่านซีจึงร่วมกันคิดค้นทางออกของปัญหานี้ ทางออกของทีมวิจัยนั่นก็คือการสร้างเครื่องฟอกอากาศเพื่อประชาชนขึ้นมา แต่มันไม่ใช่เรื่องฟอกธรรมดานะ แต่มันคือเครื่องฟอกขนาดใหญ่ยักษ์สูงกว่า 100 เมตร!! Cao Junji หัวหน้าทีมนักวิจัย Institute of Earth Environment จาก Chinese Academy of Sciences ได้บอกว่าพวกเขานั้นต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น และเจ้าเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ยักษ์นี้ก็เปิดตัวมาแล้วตั้งแต่ปี 2016 แถมมันยังได้ผลดีมากๆ อีกด้วย Cao บอกว่าอากาศในรัศมี 10 กิโลเมตรนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเจ้าเครื่องนี้ก็ฟอกอากาศไปแล้วกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมันทำให้ระดับมลพิษในอากาศของเมืองที่เครื่องนี้ตั้งอยู่ลดเหลือเพียงระดับปานกลางแล้ว ในส่วนของการทำงานนั้น Cao ได้อธิบายหลักการง่ายๆ ว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างพื้นที่สีเขียวขึ้นขนาดเท่าครึ่งสนามฟุตบอลล้อมรอหอคอยฟอกอากาศ เพื่อที่จะให้อากาศเสียจากหอคอยส่งผ่านไปยังต้นไม้และพื้นที่สีเขียวรอบๆ จากนั้นก็ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงออกมาเป็นอากาศบริสุทธ์นั่นเอง อย่างไรก็ตามยังมีการตั้งคำถามว่า หอคอยของทีมวิจัยของ Cao นั้นพอที่จะสู้กับปัญหามลพิษทั่วประเทศจีนหรือไม่ Cao เองก็ตอบมากไม่ได้ โดยเขาให้เหตุผลว่าตัวหอคอยยังอยู่ในช่วงการทดสอบ และต้องรอดูผลในระยะยาวของมันเพราะหอคอยเพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อปี 2016 ฉะนั้นระยะเวลาการทดสอบจึงยังไม่นานพอ …
-
แทบร้อง… ลูกสาวใช้เงินแม่ เปย์ให้ไอดอลหนุ่มกว่า 3 ล้านบาท อยากได้เงินคืนก็คงไม่ทันแล้ว
การเปย์ไอดอลที่เราชอบนั้น ถือว่าเป็นการสนับสนุนไอดอลช่องทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเปย์ หรือจะเปย์แบบขำๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าเงินที่เปย์ไปนั้นเป็นเงินที่เราหามาเอง แต่เรื่องนี้ถือว่าตลกไม่ออก เมื่อแม่คนหนึ่งมาพบว่าลูกสาวตัวเองนั้นเปย์ไอดอลชายไปกว่า 3 ล้านบาทด้วยเงินจากบัญชีของแม่เธอ เรื่องมันมีอยู่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจากกรุงปักกิ่งที่รู้แค่ว่าชื่อ Liu นั้นต้องการให้ แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมยอดนิยมนั้นคืนเงินประมาณ 3.3 ล้านบาทที่ลูกสาวของเธอนั้นจ่ายเงินซื้อของในแอปฯ เพื่อเปย์ไอดอลที่เธอชอบ โดยที่เธอนั้นได้แพ้คดีในเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่าน แต่เธอก็ได้ยื่นอุธรณ์ต่อศาลลำดับกลางภาค 3 ในกรุงปักกิ่ง Liu ได้บอกว่า Xiao Ya ลูกสาววัย 16 ปี ของเธอ ใช้ค่าเทอมและบัญชีธนาคารของเธอ ขณะที่เรียนอยู่ในแคนาดา เพื่อซื้อของขวัญให้กับไอดอลในแอปพลิเคชัน Inke แอปไลฟ์สตรีมที่ทำโดย Beijing MeeLive Network Technology โดยของขวัญที่ถูกที่สุดในแอปอย่างดอกไม้นั้นราคา 0.5 บาท และของที่แพงที่สุดก็คือเกาะสวรรค์ซึ่งราคาสูงถึง 16,750 บาท Liu กล่าว “ฉันช็อกไปเลยเมื่อรู้ว่าลูกสาวนั้นจ่ายเงินออนไลน์เป็นล้านๆ แต่ว่าลูกสาวฉันดันพูดว่า “แล้วไงล่ะ? ใครๆ เขาก็ทำกัน ไม่เว้นแม้แต่พ่อของเพื่อนร่วมชั้นหนูเลย” Liu ยังบอกอีกว่าลูกสาวของเธอเป็นพวกเก็บตัวและก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัวในแคนาดา Liu ตัดสินใจฟ้อง Beijing…
-
เรื่องนี้ยกให้เค้า!! 17 แลนด์มาร์กดังจากหลายประเทศ แค่มาประเทศจีนที่เดียวก็โคจรไปได้รอบโลก
การที่เราได้ไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง หากอยากรู้สึกว่าไปถึงที่นั่นจริงๆ เรามักจะต้องไปดูพร้อมทั้งเก็บภาพสถานที่ที่เป็น “Landmark” ของสถานที่เหล่านั้นให้ได้ก่อนใช่มั้ยล่ะ แหม แต่สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ มันก็ช่างเยอะเสียเหลือเกิน ชีวิตนี้จะได้ไปครบหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ประเทศจีนจึงเกิดความคิดที่เอาใจประชาชนขึ้นมา นั่นคือการ ยกแลนด์มาร์กของต่างประเทศมาไว้ที่จีนซะเลยสิ!! โดยมีการก่อสร้างแบบจำลองของสถานที่สำคัญๆ ไว้ในเมืองซูโจว ในประเทศจีนนั่นเอง โอ้โห เล่นใหญ่กันขนาดนี้ อยากเห็นแล้วล่ะสิว่าจะเป็นอย่างไร และมีสถานที่อะไรบ้าง เชิญไปรับชมกันเลยยย… 1. Tower Bridge (ทาวเวอร์บริดจ์), อังกฤษ . 2. Parthenon (วิหารพาร์เธนอน), กรีซ 3. Eiffel (หอไอเฟล), ฝรั่งเศส . 6. Sydney Harbour Bridge (สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์), ออสเตรเลีย 7. Colosseum (โคลอสเซียม), อิตาลี 8. Arc de Triomphe (อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล), ฝรั่งเศส 9. Great Sphinx (มหาสฟิงซ์), อิยีปต์ 10. Moscow Kremlin…
-
มาหลอกกันได้!! ตำรวจจีนสั่งปิดแอปหาคู่ 12 ราย หลอกให้ลูกค้าจ่ายเงินคุยกับ AI
ในยุคออนไลน์แบบนี้การจะหาคนคุยหรือหาคู่ครองนั้นเรียกว่าไม่ยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนั้นมีแอปหาคู่ให้เราได้เลือกใช้มากมาย แถมยังเจาะกลุ่มเป้าหมายประเภทต่างๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งมันก็บูมมากๆ ในประเทศจีน แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้ประกาศปิดให้บริการแอปหาคู่จำนวน 12 แอปในประเทศจีน หลังจากที่พวกเขาตรวจพบว่าแอปหาคู่จำนวนมากเคลมว่าผู้ใช้บริการจะได้คุยกับสาวสวยสุดเซ็กซี่ แต่พอเอาเข้าจริงกลับเป็นระบบ AI ซะอย่างนั้น เอ๊า!? เรื่องนี้ได้รับการยืนยันผ่านสื่อในประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ของจีนได้รับการร้องเรียนเข้ามามากมายว่าแอปหาคู่หลายรายได้อ้างว่าลูกค้าสามารถคุยกับสาวเซ็กซี่ พร้อมสามารถวิดีโอคอลคุยกันได้ด้วย เพียงแค่จ่ายเงินราคา VIP ในราคา 200 หยวน เท่านั้น ทว่าพอจ่ายเงินไปจริงๆ นานเข้าๆ เหล่าลูกค้าก็พบว่าผู้หญิงที่คุยด้วยนั้นเป็นเพียง AI ที่ตอบตามที่ระบบตั้งไว้ นอกจากนี้ถ้าดูแบบวีดิโอคอล เราก็จะได้ดูคลิปที่ระบบตั้งไว้นั้นเอง ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่จากมณฑลกวางตุ้งได้ระบุว่ามีผู้เสียงหายจำนวนมากกว่า 100 คนและคิดค่าเสียหายรวมได้มากกว่า 1 พันล้านหยวนเข้าไปแล้ว (คิดเป็นเงินไทยเกือบ 5 พันล้านบาท) และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วกว่า 600 คน ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่าหนึ่งในแอปที่ถูกสั่งปิดชื่อว่า Moucheng แก๊งต้มตุ๋นที่เป็นเจ้าของ มีบริษัทย่อยอีกมากมายในชื่อที่แตกต่างกันกระจายอยู่ทั่วประเทศจีน และสร้างความเสียหายไปกว่า 340 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยราว 1,700 ล้านบาท ไม่แน่ว่าผู้หญิงที่คุณคุยด้วยอยู่…
-
พ่อค้าเดินทางกว่า 860 กม. เพื่อมาดักทำร้ายหญิงสาว หลังเธอตำหนิที่ร้านที่ส่งของล่าช้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวจากเมืองเจิ้งโจว ในระหว่างที่เธอกำลังยืนรอรับพัสดุที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตอยู่ แต่ทว่าเมื่อพัสดุมาส่งเธอกลับถูกพ่อค้าหนุ่มที่เดินทางมาไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรลงมาทำร้ายอย่างรุนแรง!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า Xiao Li ได้ร้องเรียนพ่อค้าคือนาย Zhang หลังจากเสื้อผ้าที่เธอสั่งนั้นไม่ได้ถูกจัดส่งตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ การทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Zhang ได้โทรศัพท์และส่งข้อความข่มขู่ลูกค้าของเขา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมหญิงสาวได้รับข้อความระบุว่าพัสดุของเธอนั้นได้เดินมาถึงจุดรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว และด้วยความดีใจเธอจึงรีบออกไปรับสินค้า ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดด้านนอกของจุดรับสินค้าในเมืองเจิ้งโจว เผยให้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังยืนรอรับสินค้าของเธอ และเมื่อพ่อค้าหนุ่มมาถึงเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอทันที ชายหนุ่มชกเข้าที่หน้าและหน้าอกของหญิงสาวหลายครั้งจนเธอลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะหนีไป คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายนอกจุดรับสินค้า Xiao Li ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล และระหว่างที่เธอกำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เธอยังได้รับข้อความจากพ่อค้าคนดังกล่าวที่บอกว่าเขายอมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกว่า 860 กิโลเมตรจากเมืองซูโจวเพื่อมาทำร้ายเธอเลยทีเดียว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมา หนุ่มส่งอาหารคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายของลูกค้าสาวในมณฑลไหหลำ เนื่องจากเกรงว่าเธอจะเขียนรีวิวต่อว่าเขาหลังจากที่นำอาหารมาส่งช้า ที่มา medium
-
หนุ่มจีนวาดปลาได้เหมื๊อนเหมือน อย่างกับเสกออกมา แม้แต่แมวยังหลงกลเลย…
ความสามารถของคนเรามันช่างน่าทึ่ง หากคนเราพยายามจะทำอะไรสักอย่างด้วยพรสรรค์บวกกับความพยายามแล้วล่ะก็ ผลงานที่ออกมาก็มักจะออกมาเป็นผลงานชั้นยอดเสมอ เอาล่ะก่อนที่จะอธิบายอะไรไปมากว่านี้ เพื่อนๆ ลองชมภาพข้างล่างนี้แล้วเดาสิว่าของที่อยู่ในภาพคืออะไรกัน มันคืออ่างปลาขนาดเล็กใช่ไหมล่ะ อ่างปลาที่ทำจากการเจาะหินเป็นรูอย่างปราณีต แล้วก็นำน้ำกับปลาใส่ลงไปในนั้น มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าหากว่าเพื่อนๆ คิดแบบนั้นแล้วล่ะก็ คงต้องบอกว่าคิดผิดเสียแล้ว เพราะในรูปข้างบนนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตแม้แต่ตัวเดียวนั่นเอง ถึงจะไม่น่าเชื่อก็ตามแต่ปลาที่อยู่ในอ่างนี้ถูก “วาดขึ้น” ด้วยฝีมือของมนุษย์ ศิลปินหนุ่มชาวจีน Jiāhuī (อ่านว่า เจียฮุย) ผู้ซึ่งเพิ่งจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองซีอาน มณฑลส่านซีได้วาดปลาเหล่านั้นขึ้นมาทีล่ะตัวๆ ด้วยเทคนิคการวาดภาพเรซิ่นสามมิติซึ่งเป็นการวาดภาพลงบนเรซิ่นซ้อนกันเป็นชั้นๆ จนเกิดเป็นรูปร่างสามมิติอย่างที่เห็นนั่นเอง อ่างหินจำนวนมากที่ถูกเตรียมไว้ ศิลปินหนุ่มกับการวาดภาพของเขา การวาดจะทำโดยวาดภาพสองมิติทับกันไปเป็นชั้นๆ ไปเรื่อยๆ การเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย ผลงานที่ออกมานั้นหากมองจากด้านบนแล้วจะแทบแยกความแตกต่างไม่ออกเลยทีเดียว เหมือนมากจนน้องแมวยังหลงกล อ้าว… ไม่ใช่ปลาเหรอ งงอ่ะดิงง เป็นไงล่ะเพื่อนๆ สวยมากจนอยากได้เลยล่ะสิ ที่มา Dwnews
-
ทางการจีนเปิดตัว ‘วีซ่าชั้นสูง’ มุ่งเป้าผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ใครเก่งก็เข้าประเทศง่าย!!
หลายๆ คนทราบดีว่าการขอวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าไปในหลายๆ ประเทศ แต่มาวันนี้ประเทศจีน ได้ดำเนินการนโยบายใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติผู้มีความสามารถทั้งหลาย เดินทางเข้าประเทศของพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น กระทรวงการบริหารงานด้านผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศของจีน พัฒนาระบบที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างแดนสามารถเข้ามาในประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คำว่าผู้เชี่ยวชาญในที่นี้ก็คือ เหล่าผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในประเทศอื่นๆ หรือผู้มีความสามารถเฉพาะทางในเรื่องต่างๆ ประเทศจีนนำระบบจัดอันดับรูปแบบใหม่ของแรงงานในต่างประเทศเมื่อปี 2016 เข้ามาช่วยตัดสินว่าใครคือผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ผู้ชนะรางวัลโนเบล ผู้วิจัยอาวุโส ผู้บริหารในสถาบันการเงิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของสุดยอดผลงาน หรือแม้แต่ดารากับนักกีฬาเองก็ด้วย วิธีการขอวีซ่าเข้าประเทศจีนสำหรับคนเหล่านั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ยื่นเรื่องมาในระบบออนไลน์ หากได้รับอนุมัติปุ๊บ คุณก็จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศที่มีอายุใช้งานได้ 5-10 ปี และสามารถอาศัยอยู่ได้นาน 180 วันต่อหนึ่งครั้งที่เดินทางมา ที่สำคัญคือการขอวีซ่าในรูปแบบนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว วีซ่าของประเทศจีน นโยบายใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนเก่งหรือคนมีความสามารถจากต่างประเทศ ได้เข้ามาช่วยพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม และในอนาคตวิธีนี้ยังอาจช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนแรงงานด้านเทคโนโลยีหรือผู้วิจัยในสาขาต่างๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดใจผู้มีฝีมือจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2017 ประเทศจีนก็ได้สร้างนโยบายที่ทำให้คนที่เรียนจบปริญญาโทจากต่างแดน สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันไปแล้ว แถมยังมีการขยายเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถอาศัยอยู่ในประเทศได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่าง Elon Musk กับ Mark Zuckerberg…
-
พนักงานโรงแรมชื่อดังสุดหรูในประเทศจีนใช้ ‘แปรงขัดส้วม’ มาล้างแก้วต่อ!?
เรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับข้าวของเครื่องใช้ในโรงแรม เพราะคงไม่มีลูกค้าคนไหนจะอยากเข้าพักในห้องที่สกปรก โดยเฉพาะกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพง แต่ในประเทศจีนการให้บริการของโรงแรม 3 แห่งนี้กลับไม่ได้ดีสมราคาเลย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 เว็บไซต์ PearVideo ของประเทศจีนได้เผยคลิปการทำงานของพนักงานทำความสะอาดในโรงแรมชื่อดัง 3 แห่งในเมืองฮาร์บิน ที่มีการทำความสะอาดได้แย่มากๆ ชนิดที่ว่าอาจทำให้คุณรู้สึกขยาดกับการเข้าโรงแรมไปอีกนานเลย เมืองฮาร์บิน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โรงแรมแห่งแรกคือ โรงแรม Kempinski มี 352 ห้องพัก และค่าเข้าพักที่สูงสุดราวๆ 16,000 บาทต่อคืนเลยทีเดียว แต่จากที่นักข่าวได้เข้าไปถ่ายรูปการทำความสะอาดของโรงแรมแห่งนี้ บอกเลยว่ามันเลวร้ายเอามากๆ โรงแรม Kempinski พนักงานทำความสะอาดของที่นี่ใช้แปรงขัดห้องน้ำล้างถ้วยให้กับลูกค้า อีกทั้งยังใช้แปรงเดียวกันนั้นทำความสะอาดโถส้วมให้เห็นกันแบบต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะนำไปวางเก็บที่เดิมและใช้ผ้าขนหนูอาบน้ำมาเช็ดถ้วยให้แห้ง . หลังจากนั้นเราก็จะได้เห็นภาพของพนักงานจุ่มผ้าขนหนูอาบน้ำลงไปในน้ำโถส้วม แล้วค่อยนำมาเช็ดพื้นห้องน้ำ . เมื่อนักข่าวถามเพื่อนร่วมงานในโรงแรม พวกเขาบอกว่าแม่บ้านทุกคนก็ทำเหมือนกันหมด แต่แค่พวกเขาเลือกที่จะไม่บอกให้ใครรู้เท่านั้นเอง พนักงานที่นี่ไม่เปลี่ยนผ้าปูให้ เพราะเห็นว่ามันยังสะอาดดีอยู่ ต่อมาเป็นภาพของโรงแรม…
-
ห้างจีนเสนอบริการใหม่ ให้เช่าแฟนเดินห้าง งานนี้ไม่มีเหงา แถมมีหนุ่มหล่อเดินตาม!!
ล่าสุดที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองไหโข่ว ประเทศจีนก็ได้ออกมานำเสนอสิ่งที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน นั่นก็คือบริการ ‘แฟนเช่า’ สำหรับสาวโสดทั้งหลายที่อยากจะมีผู้ชายมาเดินชอปปิงข้างๆ โดยบริการแฟนเช่าที่ทางห้างสรรพสินค้าได้ออกมานำเสนอถือว่าตอบโจทย์มากกกกก มันช่างโดนใจสาวโสดอย่างเราซะเหลือเกิน บริการแฟนเช่านี้ พูดได้เลยว่าเขาคัดแล้วคัดอีก คัดแบบเน้นๆ เอาหนุ่มตี๋สุดหล่อกระชากใจมาให้สาวๆ ทั้งหลายได้เลือกชมเลือกเช่าไปเดินชอปปิ้งด้วยแบบใสๆ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดตัวบริการแฟนเช่านี้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองไหโข่ว โดยจะให้บริการพิเศษเฉพาะช่วงคริสต์มาสเท่านั้น ผู้ชายทั้ง 6 คนที่จะมาทำหน้าที่เป็นแฟนชั่วคราวให้กับสาวๆ เนี่ย เขามีอัตราค่าเช่าเพียงแค่ 1 หยวน หรือประมาณ 5 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น จะบอกไว้ก่อนนะว่า ผู้ชายที่มาทำงานบริการแฟนเช่าเนี่ย หน้าตาดีทุกคน แต่ไม่ใช่ว่าจะเช่าไปทำอะไรก็ได้นะ เขามีข้อแม้อยู่ว่า จะเช่าผู้ชายเนี่ย สามารถเช่าไปเดินชอปปิงด้วยได้เท่านั้น ห้ามนัดแนะติดต่อเพิ่มเติมเด็ดขาด และที่สำคัญ รับรองได้เลยว่าคุณผู้หญิงจะมีความปลอดภัยแน่นอน เพราะชายหนุ่มเหล่านี้จะไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวใดๆ ทั้งสิ้น (ว้าาาาาาา) ส่วนใครที่กะจะเหมาทั้งวันเลยก็คงจะไม่ได้นะ เพราะว่าเขาจำกัดให้สิทธิ์เพียงแค่ 1 ชั่วโมงต่อคนเท่านั้น ส่วนใครที่สนใจแบบไหน สเป็คไหนก็สามารถไปเลือกหนุ่มๆ ที่รออยู่ในกล่องได้ พอเลือกแล้วก็สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงิน ไปเดินชอปปิ้งกับผู้ชายได้เลย บริการแฟนเช่าได้รับความสนใจจากผู้หญิงหลายร้อยคนที่ได้มาเดินห้างสรรพสินค้าในวันนั้น…
-
โรงแรมบังเอิญได้กำแพงน้ำแข็งสุดสวยมาประดับ เพราะท่อน้ำรั่วแล้วอากาศก็เย๊นนเย็น
ในหน้าหนาวแบบนี้ พวกเราก็หวังจะได้เห็นหิมะหรือถนนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งละลานตา แต่ในเมื่อเราอาศัยอยู่ในแถบเมืองร้อน อย่างดีเราก็คงจะได้เห็นแค่ทะเลหมอกหรือว่าแม่คะนิ้งนี่แหละนะ แต่ว่าโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีนที่ตั้งอยู่ในเขตที่ไม่มีหิมะ กลับมีกำแพงหิมะปกคลุมยาวตั้งแต่ช่วงบนของโรงแรม และยาวลงมาถึงฐานเลยทีเดียว เหมือนมีแค่บริเวณโรมแรมเท่านั้นที่เป็นเขตเมืองหนาว น่าเหลือเชื่อจริงๆ อ้าวเฮ้ย มีน้ำแข็งแบบนี้ได้ยังไง โดยกำแพงน้ำแข็งของโรงแรมนี้ เกิดจากท่อน้ำรั่วจากบริเวณด้านบนของโรงแรม ถึงแม้ว่าปกติจะไม่มีหิมะ แต่อากาศในบริเวณนั้นก็เย็นพอสมควร เมื่อน้ำรั่วลงมาเยอะๆ จึงเยือกแข็งกลายเป็นกำแพงน้ำแข็งขนาดมหึมาแบบนี้ กลายเป็นว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นเขตหน้าหนาวเพียงแห่งเดียวในแถบนั้นไปซะอย่างนั้น คนที่เดินผ่านไปมาก็หยุดดูกันเป็นจำนวนมาก และมีคนเข้าไปเล่นหิมะในนั้นด้วยนะ รู้สึกเป็นเอลซ่ามากเลยค่ะ กำแพงน้ำแข็งนี้ก็ไม่ใช่กำแพงเตี้ยๆ เอาไว้แค่เพียงถ่ายรูปได้บรรยากาศแต่อย่างใด ถ้านับความสูงของกำแพงน้ำแข็งนี้จากยอดลงมาถึงพื้นแล้ว มันมีความสูงกว่า 10 เมตรทีเดียว ดูแล้วยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน ใหญ่เกิ๊น นอกจากกำแพงน้ำแข็งนี้แล้ว ต้นไม้ที่อยู่ใต้โรงแรมนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็งด้วยเช่นกัน เสริมสร้างบรรยากาศหน้าหนาวในเมืองนอกได้ดีสุดๆ ไปเลย บอกได้เลยว่า ความบังเอิญน้ำรั่วครั้งนี้ได้สร้างสีสันให้โรงแรมแบบไม่มีใครซ้ำเลยล่ะ ต้นไม้ยังแข็งไปด้วยเลย บรู๊ววว คลิปวิดีโอรายงานข่าวจาก China Xinhua News เห็นแล้วอย่าได้ลอกเลียนแบบเชียวนะ ถ้าทำในประเทศไทย คงไม่ได้กำแพงน้ำแข็งหรอก ที่มา: China Xinhua…
-
โมเมนต์เมื่อเปิดขวดน้ำในมองโกเลีย ที่อุณภูมิติดลบ 20 องศา กลายเป็นน้ำแข็งในชั่วพริบตา
ในช่วงนี้อากาศของประเทศไทยลดต่ำลง จนหลายๆ คนต้องหาเสื้อกันหนาวอุ่นๆ มาใส่ไว้หลายๆ ชั้น แต่เพื่อนรู้ไหมว่าความหนาวของไทยนั้น มันยังเทียบไม่ได้กับที่มองโกเลียเลยสักนิด ทำไมนะเหรอ?? ก็เพราะว่าไม่นานมานี้ ได้มีคลิปวิดีโอยืนยันความหนาวเย็นแบบสุดขีดของทางเหนือของประเทศจีน ที่แค่เปิดขวดน้ำดื่มก็เกิดปรากฏการณ์สุดน่าทึ่งที่เรียกว่า ‘Supercooling’ เชื่อเลยว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องชอบอากาศหนาวๆ จนต้องหอบข้าวหอบของขึ้นมาสัมผัสลมหนาวบนดอยสูง แต่สำหรับชาวจีนทางเหนือแล้ว พวกเขาไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ก็ได้พบกับความหนาวเย็นสุดขั้วที่มาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน คลิปวิดีโอนี้กำลังแสดงให้เห็นถึงชายชาวจีนคนหนึ่งที่กำลังจะเปิดขวดน้ำดื่ม ซึ่งอาจเป็นเพราะอุณหภูมิที่ติดลบกว่า 20 องศาเซลเซียส จึงทำให้น้ำในขวดที่เขาถืออยู่นั้นกลายเป็นน้ำแข็งในทันตา อย่างกับมีเอลซ่ามาเสกเวทมนตร์ยังไงอย่างงั้น คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายที่เมืองฮูลัน บูเออร์ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน ในวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าความหนาวเย็นในมองโกเลียนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะแม่แต่น้ำที่เป็นของเหลว ยังสามารถตกผลึกแข็งโป๊กได้ในทันตา เห็นแบบนี้แล้ว ก็ค่อยรู้สึกอุ่นขึ้นมาหน่อย ที่มา dailymail
-
จีนดำเนินการสร้าง ‘ถนนหลวงแห่งพลังงาน’ ช่วยผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาล
ภาพของการก่อสร้างถนนแห่งอนาคตในประเทศจีนที่ถูกเผยแพร่จากสื่อท้องถิ่น กลายเป็นที่ฮือฮากันอย่างมากหลังจากที่ทางการจีนเตรียมใช้ถนนแห่งนี้ช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงแดด และมีแผนเตรียมเปิดใช้ในสิ้นปี 2017 ทางหลวงแห่งนี้เป็นถนนโซล่าเซลล์แห่งแรกในประเทศจีน ซึ่งเริ่มก่อสร้างในเมืองจี่หนาน มณฑลชานตง จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ถนนแห่งนี้จะเป็นทางด่วนขนาด 2 เลนและมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร ทางหลวงแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นถนนโซล่าเซลล์เท่านั้น แต่มันยังสามารถชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านได้อีกด้วย นอกจากนี้อีกหนึ่งความพิเศษของทางหลวงเส้นนี้ก็คือ มันสามารถเพิ่มอุณหภูมิได้ ซึ่งจะทำให้ไม่มีหิมะเกาะที่ถนน เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทางหลวงพลังงานแสงอาทิตย์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากแผงโซล่าเซลล์ชนิดพิเศษ มันจะเชื่อมต่อไปยังระบบไฟฟ้าของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน ทางหลวงแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น มันถูกก่อสร้างภายใต้การดำเนินการของบริษัทพัฒนาระบบคมนาคม Qilu Transportation Development Group โดยในชั้นแรกนั้นจะถูกปูด้วยคอนกรีตซึ่งมีความทนทานเหมือนกับยางมะตอย ส่วนขั้นที่ 2 จะเป็นชั้นของแผงโซล่าเซลล์ที่จะเป็นแหล่งสร้างพลังงาน และชั้นสุดท้ายจะเป็นฉนวนซึ่งทำหน้าที่กั้นระหว่างแผ่นโซล่าเซลล์กับพื้นดิน ขั้นตอนการสร้างถนนพลังงานแสงอาทิตย์ แห่งแรกของประเทศจีน จากการรายงานของสื่อต่างประเทศตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้รับเหมาได้ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไปแล้วกว่า 660 ตารางเมตร และคาดว่าถนนแห่งนี้จะพร้อมเปิดให้ใช้งานในช่วงสิ้นปีนี้ ถนนพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของโลกนั้นตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Tourouvre-au-Perche ประเทศฝรั่งเศส มีขนาดยาวทั้งสิ้น 1 กิโลเมตร ประกอบด้วยแผงโซล่าเซลล์ถึง…
-
คุณตำรวจชาวจีนยอมทนหนาว ถอดเสื้อตัวเองห่มเจ้าหนูน้อยที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันแสนน่าประทับใจจริงๆ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของคุณตำรวจท่านหนึ่งจากเมืองชูเซียน มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ที่ได้เสียสละเสื้อของเขาให้กับเด็กทารกที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะท่ามกลางอากาศอันแสนหนาวเหน็บ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่านายตำรวจท่านนี้คือคุณ Wu Yu โดยเขาได้รับแจ้งว่าพบเด็กทารกคนหนึ่งถูกทิ้งไว้กลางสวนสาธารณะในเมืองชูเซียน เจ้าหน้าที่ Wu Yu กับเด็กทารกที่เขาช่วยชีวิตไว้ หลังจากที่ถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ Wu พบเด็กน้อยคนดังกล่าวกำลังนอนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิที่ติดลบทำให้ริมฝีปากของเด็กน้อยที่นอนขดอยู่ในผ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่ Wu ตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออกเพื่อคลุมเจ้าหนูน้อยไว้ พร้อมกับพาตัวเจ้าหนูน้อยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เขาวิ่งฝ่าอากาศหนาวโดยที่ไม่ได้สวมเสื้อ และคอยอุ้มเจ้าหนูน้อยไว้ในอ้อมกอดตลอดเวลาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา เมื่อถึงโรงพยาบาลเด็กน้อยได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามหาพ่อแม่ของเจ้าหนูน้อยอยู่… ถึงแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีรายงานอาการของเจ้าหนูน้อยรายนี้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาการทอดทิ้งเด็กนั้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว หรือปัญหาทางด้านเศรษฐกิจด้วย ที่มา nextshark
-
หนุ่มลงทุนบินไปไกลกว่า 1,000 กิโลฯ เพื่อเจอกับสาวที่จีบออนไลน์ ดั๊นได้กินยำบาทาแทนซะงั้น
ในปัจจุบัน การนัดเดตออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมทั่วโลก หลังจากคุยกันถูกคอแล้วก็อาจนัดเจอกันเพื่อสานความสัมพันธ์กันต่อไป เหมือนอย่างหนุ่มชาวจีนคนนี้ที่ลงทุนเดินทางไปไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร หวังจะได้เจอกับสาวที่เขานัดเอาไว้ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยซักนิดเดียว ชายแซ่ Liu คนนี้อาศัยอยู่เขตใจกลางประเทศจีน แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพบเธอคนนั้น ในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 เขานั่งเครื่องบินเดินทางไปเมือง Fuyuan มณฑลยูนนาน ด้วยระยะทางกว่า 1,142 กิโลเมตร แต่สิ่งที่รออยู่กลับไม่ใช่สาวแซ่ Duan ที่เขาเฝ้าคุยผ่านโลกออนไลน์ เพราะคนที่ต้องการเจอเขาจริงๆ กลับกลายเป็นสามีของหญิงสาวคนนั้นแทน สามีของเธอพร้อมเพื่อนอีก 4 คนรุมทำร้าย Liu ในที่สาธารณะ ผูกเขาไว้กับต้นไม้และทุบตีด้วยแส้และเข็มขัดหนัง เนื่องจากโมโหที่จับได้ว่าภรรยาตัวเองนอกใจไปคุยกับ Liu ในโลกออนไลน์ แม้จะมีผู้คนเห็นเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่แทนที่จะเข้ามาช่วยพวกเขากลับหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้และโพสต์ลงในโลกโซเชียล และจากคลิปก็ไม่เห็นหญิงสาวแซ่ Duan อยู่บริเวณนั้นเลย คลิปสามีและเพื่อนอีก 4 คนรุมตีชู้รักออนไลน์ของภรรยาตัวเอง . แม้ว่าการใช้กำลังจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงกลายเป็นบทเรียนให้กับ Liu…
-
นักท่องเที่ยวฉุนปึ๊ด โดนหลอกขายตั๋วนิทรรศการผีเสื้อปลอม ผู้จัดงานลั่น ‘ปลอมก็เกาะได้เหมือนกัน’
เราอาจเคยเห็นนิทรรศการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เช่นเดียวกันกับในประเทศจีนที่ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการผีเสื้อ โดยในโฆษณายืนยันเลยว่าจะมีผีเสื้อจำนวนมากเกาะอยู่บนมือและไหล่คุณอย่างแน่นอน นิทรรศการดังกล่าวมีชื่อว่า Dinosaur and Butterfly จัดขึ้นในสวนสาธารณะ Yubai บนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งทางสวนสาธารณะดังกล่าวได้ประกาศออกไปในแอป WeChat ว่า “จะมีผีเสื้อเป็นหมื่นๆ ตัวมารวมกันในพื้นที่โล่งกว้าง และจะไปเกาะอยู่บนนิ้วและไหล่ของผู้ที่มาเยี่ยมชม” จากโฆษณา ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากซื้อบัตรราคาประมาณ 73 บาท เพื่อเข้าชมงานดังกล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่รออยู่ด้านในมันไม่ได้เหมือนกับที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ ภายในงานคือการจัดแสดง “ผีเสื้อพลาสติก” หลากหลายสีสัน ไม่มีผีเสื้อจริงเลยแม้แต่ตัวเดียว หงายเงิบกันเลยทีนี้ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเดินทางมาไกลกว่า 100 กิโล เพื่อมาเจอกับการหลอกลวงในครั้งนี้ สำนักข่าว BBC นำเสนอเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2017 โดยทางบริษัท Yulin Beishang Exhibition Service ออกมายืนยันว่านี่ไม่ใช่ของปลอมหรือการหลอกลวงแต่อย่างใด “ผีเสื้อพลาสติกก็สามารถมาเกาะบนนิ้วเราได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” ส่วนพนักงานของสวนสาธารณะก็บอกว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ จนกระทั่งได้ไปเห็นด้วยตัวเองในวันจัดงาน และจัดการเคลียร์ทุกอย่างออกไปหมดแล้ว ซึ่งพวกเขาตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีก…
-
ตีแผ่ชีวิตการเป็น “เน็ตไอดอลจีน” ที่ไม่ได้สวยงาม หรือสะดวกสบายอย่างที่ฝัน
ในยุคที่ผู้คนสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ต ก็มีอาชีพหนึ่งกำเนิดมาพร้อมกับสังคมออนไลน์ด้วย นั่นก็คือเน็ตไอดอลนั่นเอง พวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ และหารายได้จากเงินสนับสนุนจากผู้ติดตาม หรือจากสปอนเซอร์ หากเรามองจากมุมมองคนนอกแล้ว เน็ตไอดอลดูเป็นอาชีพที่ชิวสุดๆ เพียงแค่นั่งเปิดกล้องคุยกับแฟนคลับ ไลฟ์สตรีมตอนไปร้านขนมชื่อดัง หรือนำเสนอสินค้า ก็ได้เงินอยู่บ้านสบายๆ แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว คงไม่มีใครรู้หรอกพวกเขาทำงานกันยังไงกันบ้าง เน็ตไอดอลจีนคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Fan จึงได้ออกมาเปิดเผยชีวิตเน็ตไอดอลของเธอเป็นตัวอย่างหนึ่งให้เรารู้ โดยตัวเธอเองถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ดูได้จากยอดผู้ติดตามของเธอที่มีมากถึงเกือบ 400,000 คน เธอเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วการเป็นเน็ตไอดอลไม่ได้สบายเลยสักนิด เธอต้องทำให้ตัวเองสวยอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องโกหกเรื่องอายุด้วย โดยเธอบอกแฟนๆ ว่ามีอายุเพียง 23 ปี แต่เธอไม่เคยเปิดเผยอายุจริงหรือชื่อจริงเลย “อายุ หน้าตา และรูปร่าง เป็นสามสิ่งสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเน็ตไอดอลหญิง” เธอยังเคยไปทำศัลยกรรมมาแล้ว เพื่อรักษาฐานแฟนคลับของเธอ เธอจำเป็นต้องทำงานหนักประมาณวันละ 10 ชั่วโมง ทั้งใช้เวลาแต่งสวย พูดคุยกับแฟนๆ ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอมาลงเพจ และตอบกลับคอมเมนต์ของแฟนคลับ โดยปกติแล้วเธอจะตื่น 9 โมงเช้า เพื่อใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงนั่งแต่งหน้าทำผม จากนั้นเธอจึงใช้เวลาอีกประมาณ 6…
-
ไม่มีเงินสดไม่เป็นไร เพราะที่นี่คือไชน่า ดินแดนที่มาพร้อมกับการบริจาคเงินผ่าน ‘QR Code’
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชอบทำบุญทำทานล่ะก็ บริการที่เรานำมาฝากต่อไปนี้อาจจะตอบสนองเหล่าอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้ใจบุญที่ไม่มีเศษเงินได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว!! เพราะที่ประเทศจีนคุณสามารถบริจาคเงินให้กับเหล่าขอทานผ่านการแสกน QR Code ได้แล้ว สื่อท้องถิ่นของจีนได้รายงานเรื่องราวของเหล่าขอทานยุค 4.0 จากมณฑลซานตง ที่กำลังนั่งขอทานอยู่ในย่านท่องเที่ยวและป้ายรับเงินบริจาคจากทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Wechat Wallet, Alipay หรือแอพต่างๆ ที่สามารถจ่ายเงินผ่าน QR Code ได้ ชายขอทานคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถ้องถิ่นว่า อันที่จริงแล้วตัวเขาเองนั้นไม่ได้เป็นคนที่ QR Code นี้ขึ้นมาเอง แต่ทางครอบครัวและลูกๆ เป็นคนจัดการให้ แต่ดูเหมือนว่าการจ่ายเงินผ่าน QR Code นั้นจะมีอะไรที่นอกเหนือจากการบริจาคเงินธรรมดาๆ แต่ทางบริษัทด้านการตลาดดิจิตอลอย่าง China Channel ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขอทานชาวจีนนั้นได้รับเงินจากบริษัทในท้องถิ่นให้ติด QR Code ดังกล่าว และหลังจากที่ลูกค้าบริจาคเงินให้ขอทานผ่าน QR Code ทางบริษัทก็จะทำการเก็บข้อมูล และจำหน่ายให้กับบริษัทอื่นๆ เพื่อใช้ในการปล่อยโฆษณาสินค้าให้กับลูกค้า โดยเหล่าขอทานนั้นจะได้ค่าจ้างจากการสแกน QR Code ของลูกค้าประมาณ 0.7 ถึง 1.5 หยวนต่อครั้ง (ประมาณ 3.5 ถึง…
-
จากกรณี “แอร์จีนกินอาหารเหลือ” กลายเป็นดราม่ายกใหญ่ว่าไม่ปฏิบัติตามกฎมาตรฐาน
กฎระเบียบเป็นข้อควรปฏิบัติที่ถูกกำหนดไว้ในสังคมแต่ละแห่ง แตกต่างกันออกไป ข้อบังคับเหล่านี้มีไว้ให้ทุกคนปฏิบัติตาม เพื่อทำให้เกิดมาตรฐานที่ทัดเทียมกันทุกคน แต่ในความเป็นจริงนั้น ทุกคนไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกันอย่างเคร่งครัด อาจมีบ้างที่ละเลยกฎเหล่านี้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย คงไม่เป็นอะไร หากแต่กฎนั้นเป็นสิ่งที่เด็ดขาด หากกระทำผิดกฎแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม อย่างไรก็ต้องถูกลงโทษเสมอ แอร์โฮสเตสจีนคนหนึ่งที่ทำงานกับสายการบิน Urumqi Air หลังจากที่เธอเก็บจานอาหารจากผู้โดยสารมาแล้ว ไม่ทราบว่าเธอรู้สึกเสียดายหรือว่าหิวมากกันแน่ เธอจึงตักอาหารที่เหลืออยู่กิน โดยมีเพื่อนคนหนึ่งถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ ภาพเธอขณะกินอาหารเหลือของผู้โดยสาร ดูๆ แล้วเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เมื่อคลิปนี้ถูกโพสต์บน Weibo ซึ่งเปรียบเสมือนทวิตเตอร์บ้านเรา เธอจึงโดนสั่งพักงานเนื่องจากละเมิดกฎของทางสายการบิน เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาในหมู่ชาวเน็ตจีนพอสมควรเนื่องจากพวกเขาคิดว่าเธอไม่ควรโดนโทษหนักขนาดนั้น และแม้ว่าเธอจะทำผิดกฎจริงๆ แต่ไม่มีชาวเน็ตคนไหนกล่าวว่าหรือซ้ำเติมแอร์โฮสเตสคนนี้เลย ชาวเน็ตกลับโจมตีคนที่นำคลิปวิดีโอนี้มาโพสต์เสียมากกว่า เพราะว่าทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแอร์โฮสเตสสาว วิดีโอตอนเธอกินอาหารเหลือจากผู้โดยสาร ที่มา: shanghaiist
-
นายทหารจีนยอดฮีโร่ใช้มือเปล่าแงะกระจกรถ เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน นี่แหละฮีโร่ตัวจริง!!
ฮีโร่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นไม่จำเป็นต้องมาจากอวกาศ มีพลังพิเศษ หรือใส่ชุดเกราะสุดล้ำแต่อย่างใด ขอแค่คุณมีจิตใจที่ดีพร้อมจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ เท่านี้คุณก็จะสามารถเป็นฮีโร่ได้แล้ว เช่นเดียวกับนายทหารจีนนามว่า Ma Jun-dong วัย 26 ปีคนนี้ ซึ่งเขาได้เอาตัวเอาเข้าไปเสี่ยงและช่วยเหลือชาวบ้านสองคนที่ติดอยู่ในรถให้หนีรอดออกมาอย่างปลอดภัยด้วยมือเปล่า!? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เมื่อรถยนต์คันหนึ่งได้เกิดเหตุชนและพลิกคว่ำพร้อมกับมีน้ำมันรั่วไหลออกมาซึ่งอาจจะเกิดเหตุร้ายเมื่อไหร่ก็ได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภายในรถคันดังกล่าวยังมีคนสองคนติดอยู่ข้างใน ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้ ซึ่งในขณะที่ผู้คนต่างพากันมุงดู และไม่รู้จะทำยังไง นาย Ma Jun-dong ก็ได้วิ่งเข้าไปช่วยทันทีด้วยการทุบกระจกของรถด้วยก้อนหิน พร้อมใช้มือเปล่าๆ ของเขาแหวกกระจกออกโดยไม่สนว่ามือของเขาจะเป็นอะไรหรือไม่ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยคนข้างในออกมา ซึ่งหลังจากที่แหวกกระจกได้ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ได้ตัดสินใจเข้าไปร่วมวงและพาผู้บาดเจ็บออกมา ส่วนตัว Ma Jun-dong นั้นก็พยายามอดทนต่อแผลกระจกบาดที่เขาได้รับจากการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน สุดท้ายความพยายามของเขาก็ประสบผล ทุกคนช่วยกันพาผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากรถได้สำเร็จและปลอดภัย . . ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไป คนมากมายก็ต่างพากันชื่นชมเขาว่าเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน ส่วนด้านสาวๆ ก็บอกว่าอยากจะแต่งงานกับเขาเหลือเกิน อย่างไรก็ตามเราก็ต้องขอบคุณความเป็นฮีโร่ของนายทหารหนุ่มคนนี้จริงๆ ถ้าดูแบบคลิปเราจะเห็นชัดๆ เลยว่าเขานั้นกล้าหาญขนาดไหน ที่มา nextshark
-
เมื่อเจ้าของอพาร์ทเมนต์ในจีนไม่ยอมขายตึกเพื่อสร้างถนน ก็ต้องสร้างถนนรูปร่างแปลกๆ เพื่อชาวเมือง
ในการออกแบบผังเมือง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการออกแบบเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างสะดวกสบายที่สุด แต่ทว่าในบางครั้งก็ต้องเจอกับปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องด้านภูมิศาสตร์ หรือความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ที่ทางตอนเหนือของมณฑลฮาร์บิน ประเทศจีน ปัญหาทางด้านการจราจรที่หนักหน่วง ทำให้ต้องมีการปรับผังเมืองใหม่เพื่อการสร้างถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการคมนาคม โดยได้สร้างเป็นถนนสิบเลนเพื่อให้ชาวเมืองได้ใช้งาน แต่ทว่านักออกแบบผังเมืองก็ต้องพบกับโจทย์ใหญ่กับอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่ที่เจ้าของตึกนั้นปฎิเสธที่จะขายที่ดินเพื่อสร้างถนน และไม่ว่ายังไงก็ตามก็จะไม่ขาย ไม่ยอมย้าย ไม่ยอมทุบตึกด้วย ซึ่งนักออกแบบผังเมืองก็ต้องหาทางออกด้วยการออกแบบแผนใหม่ ในเมื่อเขาไม่ยอมขายก็ต้องสร้างตามที่มีนี่แหละ การสร้างถนนก็ต้องออกมาแบบสภาพนี้… ดูแปลกๆ นะว่าไหม ต้องสร้างอ้อมกันแบบนี้เลย ในการสร้างถนนในครั้งนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ ในอนาคตก็ต้องมาลุ้นว่าเจ้าของตึกแห่งนี้จะยอมใจอ่อนยอมขายเพื่อให้ชาวเมืองได้ใช้ประโยชน์หรือเปล่า ที่มา shanghaiist
-
นักประดิษฐ์จีนออกไอเดียแก้ปัญหาหมอกควัน ให้คน 15 ล้านคนใช้พัดยักษ์พัดพร้อมกัน
ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เป็นสิ่งที่ยังคงแก้ไขไม่ได้มาจนถึงในปัจจุบัน เนื่องจากการสร้างมลพิษจำนวนมากที่ยังคงมีอยู่ภายในประเทศ และนั่นจึงทำให้ชาวจีนคนหนึ่งคิดวิธีขจัดหมอกควันออกไปจากเมือง โดยการใช้พัดขนาดใหญ่สร้างแรงลมไล่มลพิษออกไป นี่เป็นความคิดของชาวจีนแซ่ Du คนหนึ่ง เขาได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรไอเดียสุดบรรเจิดนี้กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญามาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 ไอเดียของหนุ่มชาวจีน ในการใช้พัดยักษ์ขับไล่หมอกควัน ด้วยแรงจากคน 15 ล้านคน ไอเดียของเขาก็คือการให้คน 15 ล้านคนใช้พัดอันใหญ่สร้างแรงลมพร้อมๆ กัน ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไล่หมอกควันออกไปจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งเขาบอกว่ามลพิษจะหายไปจากเมืองภายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เจ้าของไอเดียเรียกวิธีการนี้ว่าเป็นการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติ และวิธีการดังกล่าวก็ใช้เวลาในการค้นคว้าและวิจัยมานานกว่า 7 ปีเลยทีเดียว ปัจจัยหลักของสิ่งที่เขาคิดก็คือ “ประหยัดค่าใช้จ่าย” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซึ่งนี่ก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ เขาได้แนะนำให้รัฐบาลเตรียมพื้นที่เก็บอุปกรณ์พัดขนาดใหญ่นี้เอาไว้ในที่สาธารณะ รวมถึงให้ช่วยกันกระตุ้นประชาชนคนอื่นๆ ให้ออกมาทำตามไอเดียของเขาในช่วงที่ว่างพร้อมๆ กัน อย่างเช่นตอนพักเที่ยง หรือตอนเลิกเรียน เขาได้บอกกับเว็บข่าว Thepaper.cn ว่า “ผมเชื่อว่ามันต้องทำได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าผมจะใช้เวลาและพลังงานในการค้นคว้าวิจัยที่ไม่มากเท่าไหร่ก็ตาม” และนี่ไม่ใช่ไอเดียแรกของเขาที่คิดค้นขึ้นมาแก้ปัญหาหมอกควัน เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคม 2016 เขาก็เคยยื่นคำร้องจดสิทธิบัตรวิธีการแก้ปัญหาไปมากถึง 6 วิธี แต่ถึงอย่างนั้นวิธีทั้งหมด…
-
คุณครูอนุบาลในจีนถูกจับกุม หลังพบว่าเด็กมีร่องรอยถูกทารุณ และการคุกคามทางเพศ
เกิดเป็นเรื่องอื้อฉาวและน่าสะเทือนใจอย่างมาก สำหรับเหล่าผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลซึ่งได้มีรายงานจากสื่อของประเทศจีนว่า มีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กขณะที่อยู่ในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นประเด็นเมื่อผู้ปกครองของเด็กอนุบาลของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเฉาหยาง กรุงปักกิ่งได้พบว่าลูกของตัวเองมีรอยเข็มหลายจุดตามตัวทั้งต้นขา สะโพก เมื่อสอบถามเด็กๆ แล้วก็ได้ทราบว่าหลังอาหารกลางวันคุณครูประจำชั้นจะเอายาให้กินทุกวัน จากนั้นก็จะหลับไป ซึ่งทำให้ผู้ปกครองตั้งข้อสงสัยว่าเด็กๆ ได้ถูกทารุณกรรมหรือล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ ผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลูกวัย 3 ขวบของเขาบอกว่าที่โรงเรียนมีกิจกรรมการตรวจร่างกาย โดยที่เด็กๆ ทุกคนต้องถอดเสื้อผ้าแล้วมีคุณหมอแก่ๆ 2 คนถอดเสื้อผ้ามาตรวจร่างกายด้วย และคุณครูก็บอกไว้ว่า อย่าไปบอกใครเพราะว่าคุณครูติดกล้องตามเด็กๆ ไปแล้ว ถ้าใครฟ้องพ่อแม่ครูจะรู้ทันที . และจากข้อมูลเบื้องต้นทำให้เหล่าผู้ปกครองเกิดอาการไม่พอใจและได้ไปประท้วงหน้าโรงเรียนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาเพื่อให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งพูดความจริงทั้งหมด อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานการศึกษาเข้ามาตรวจสอบอีกด้วย โดยจะเก็บหลักฐานและนำวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ . หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจก็ได้จับกุมหญิงสาววัย 22 ปีที่ชื่อว่า Liu ครูโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เพื่อสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทางโรงเรียนยังสั่งพักงานคุณครู 3 คนเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองที่วางใจให้กับโรงเรียนอนุบาล โดยที่ไม่คิดเลยว่าบุตรหลานของพวกเขาจะต้องมาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ ที่มา board.postjung,shanghaiist
-
ละ..ล้ำ!! พริตตี้มอเตอร์โชว์กับ “ชุดโชว์นมอินเซปชั่น” ครอบนมจริงไว้ ไม่โป๊แต่ก็ดูวาบหวิวสุดๆ
แม้จะเป็นการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ตั้งแต่ปี 2014 แถมยังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่ามันดูโป๊ ดูอนาจารสุดๆ แต่ในความจริงของชุดสุดวาบหวิวที่ดาราสาว Pan Chunchun ใส่นั้นมันกลับเจ๋งกว่าที่คิด!! พอจะดูออกไหมว่าของจริงหรือเปล่า แน่นอนว่าเมื่อคนปกติดูชุดของเธอผ่านๆ เราก็จะคิดว่านี่เราต้องเผยเนื้อหนังกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ต้องเปิดเต้ากันสุดๆ แล้วปิดแค่ตรงหัวเท่านั้นเหรอ ทว่าความจริงชุดที่เธอใส่มันกลับเป็นชุดโชว์นมแบบอินเซปชั่นที่ส่วนเต้าเป็นชุดทั้งหมดไม่ใช่นมของเธอจริงๆ งงเด้!? ภาพนี้จะยิ่งเห็นชัดว่าหน้าอกกับสีผิวจะแตกต่างกันมากๆ . อย่าโดนหลอกนะ ทาสนมทั้งหลาย เพราะนมที่เราเห็นเป็นส่วนของนมปลอมที่ทำออกมาได้เนียนและตูมกว่าปกติมากๆ และก็ไม่แปลกที่เราจะมองว่ามันอนาจารเพราะมันเหมือนซะขนาดนั้น ยิ่งช่วงนั้นความหื่นกระหายหรืออะไรก็แล้วแต่บังตาอยู่จนไม่ทันคิด ยังไงก็ต้องมองว่านี่มันนมจริงโว้ย แต่ถึงแม้ตอนนี้เราจะรู้แล้วว่านมของ Pan Chunchun ในงานดังกล่าวเป็นของปลอม มันก็ยังถือว่าตัวชุดทำงานได้ประสบความสำเร็จจริงไหม? เพราะมันสามารถดึงดูดสายตาของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สะท้อนแสงไหมล่ะ ทองแต่ไกล ชุดนมปลอมทำงานได้สำเร็จแล้วล่ะ ยังไงก็ตามเรื่องจะเหมาะสมหรือเปล่าอันนี้เราไม่ขอออกความคิดเห็น แต่ชุดมันประสบความสำเร็จในหน้าที่มันไหม อันนี้บอกเลยว่าสุดๆ ถ้าคุณยังไม่เชื่อในความสำเร็จของเต้าอินเซปชั่น คลิปนี้ยืนยันได้ว่ามันได้ผลตอบรับดีจริงๆ ที่มา 時空召喚 Summon spatial,sina,
-
อาลีบาบาขอโชว์ความเหนือ ด้วยการจัดส่งสินค้าโดยใช้ “โดรน” เร็วดั่งจรวดเหนือน่านน้ำจีน
ในยุคสมัยนี้ไม่ว่าทำอะไรก็ต้องรวดเร็วว่องไวเหมือนจรวด เพราะตลาดการค้าในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมากๆ ชัยชนะจึงตกเป็นของคนที่สามารถย่นเวลาให้ได้มากที่สุดนั้นเอง ด้วยเหตุนี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบาจึงเกิดไอเดียสุดล้ำที่จะมาบริการความรวดเร็วให้กับลูกค้าทุกๆ ท่าน ปกติเร็วเรามักจะเห็นการขนส่งสินค้าโดยใช้รถยนต์ จักรยานยนต์หรือเครื่องบิน แต่อาลีบาบาขอโชว์เหนือด้วยการใช้ “โดรน” บรรทุกพัสดุเพื่อบินเหนือน้ำ โดรน 3 ลำ บรรจุหีบห่อพัสดุจำนวน 6 กล่อง โดยมีน้ำหนักรวมประมาณ 12 กิโลกรัม บินจากเมืองฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน ไปยังเกาะเหมยโจว ในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดรนเหล่านี้สามารถฝ่าลมแรงไปได้อย่างสบายๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 9 นาทีในการเดินทาง 5 กิโลเมตร และโดรนแต่ละตัวสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม โดรนส่งพัสดุนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัทพาร์ทเนอร์รับจัดส่งของ Cainiao Network ของอาลีบาบาซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Taobao Zeng Jinmei เจ้าของร้านออนไลน์บนเกาะเหมยโจว กล่าวว่าบริการจัดส่งพัสดุแบบโดรนนี้ จะต้องบูมสุดๆ ในอนาคตข้างหน้าแน่ๆ เพราะว่ามันย่นเวลาการจัดส่งได้ถึงครึ่งหนึ่งและยังประหยัดค่าขนส่งอีกด้วย โดยทางบริษัมอาลีบาบาก็ได้เตรียมโดรนเหล่านี้เพื่อต้อนรับเทศกาลชอปปิงที่ชื่อว่า “Singles ‘Day” ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะใช้โดรนจัดส่งผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นอีก เช่น อาหารสดและเวชภัณฑ์ในอนาคต…
-
ตำรวจจับกุม “แมวเหมียว” จากใต้ท้องรถ เจ้าตัวไม่ยอมสารภาพ คาดแอบหาที่อุ่นๆ นอน
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในประเทศจีน หลังจากที่เจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่งได้แอบย่องเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถคันที่จอดอยู่บริเวณริมทางเท้าในประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกตัวมายังที่เกิดเหตุเพื่อทำการจับกุมเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ทันทีหลังจากที่เจ้าของรถได้ยินเสียงร้องของมันดังออกมาจากรถหลังจากที่เขากำลังจะสตาร์ทเครื่อง แต่ดูเหมือนว่าพี่เหมียวของเราจะไม่ยอมออกมาดีๆ งานนี้เลยต้องใช้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และช่างซ่อมรถกันเลยทีเดียว!! และหลังจากที่ใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมกันอยู่นาน ในที่สุดเจ้าเหมียวน้อยเจ้าปัญหาก็ยอมออกมาโดยละมุนละม่อน และเมื่อถามถึงจุดประสงค์ในครั้งนี้ เจ้าเหมียวน้อยของเราได้แต่ส่ายหัวและร้องเหมียวๆ อย่างเดียว จนเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่านี่คือการปฏิเสธหรือว่ามันอยากกินข้าวกันแน่!! อย่างไรก็ตามได้มีการคาดการณ์ว่าเนื่องจากขณะนี้ในประเทศจีนกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว และในหลายๆ พื้นที่กำลังประสบปัญหากับอุณหภูมิที่ลดต่ำลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างมากและรวมถึงพวกแมวจรจัดเองด้วย และการที่เจ้าเหมียวจรจัดตัวนี้เข้าไปแอบในท้องรถนั้นก็เพราะว่ามันอาจจะต้องการหาที่อุ่นๆ นั่นเอง ฮั่นแน่!! ในที่สุดก็ยอมออกมาแล้วสินะ แต่นอกจากเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ยังมีเพื่อนๆ ของมันอีกจำนวนมากเลยเช่นกันที่ได้เข้าไปแอบอยู่ตามส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นในล้อ หรือแม้แต่ในท่อไอเสียเหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ แหม่…เนียนเลยนะ!! ออกมานะเจ้าเหมียว!! มองไรพวก ไม่ได้เข้ามาขโมยอะไรซักหน่อย แค่อยากหาที่อุ่นๆ เท่านั้นเอง!? และในช่วงใกล้หน้าหนาวแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะเคยเจอเหล่าน้องแมวหรือสัตว์ตัวเล็กๆ ที่แอบมาใช้ใต้ท้องรถยนต์ของเราเป็นที่หลบหนาว ดังนั้นแล้วก่อนที่จะออกรถลองเช็คดูดีๆ ก่อนล่ะ ที่มา China Xinhua News
-
ความน่ารักของคนในครอบครัว เมื่อพ่อลูกถ่ายรูปคู่กันในสถานที่เดิมทุกปีมานานถึง 35 ปี
เป็นเรื่องปกติที่เราจะชอบถ่ายรูปเวลาได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่จะให้ไปเที่ยวที่เดิมและถ่ายรูปมุมเดิมทุกปีเหมือนกับครอบครัวนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติแน่นอน ครอบครัวนี้นำโดยคุณพ่อชาวจีนที่ชื่อว่า Hua Yunqing ทุกปีพวกเขาจะพากันไปเที่ยวที่ทะเลสาบ Taying ในเมืองจั่นเจียง ทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน นอกจากเขาจะไปที่เดิมทุกปีแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของทริปนี้คือเขาและลูกสาวที่ชื่อ Huahua จะต้องถ่ายรูปด้วยกันในมุมเดิมทุกครั้งที่ไปอีกด้วย ภาพแรกเกิดขึ้นในปี 1980 ตอนที่ลูกสาวอายุเพียงแค่ 1 ขวบ เพราะแบบนั้นเองจึงทำให้พวกเขามีรูปถ่ายเก็บเอาไว้ในแต่ละปี ตั้งแต่ตอนที่ลูกสาวอายุ 1 ขวบ รวมแล้วพวกเขาได้รูปถ่ายออกมา 34 รูปจากช่วงเวลา 35 ปีที่ผ่านมา เพราะว่าในปี 1998 ลูกสาวติดธุระทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวกับครอบครัวได้ น่าเสียดายจริงๆ เลย เกือบจะครบทุกปีอยู่แล้วเชียว การถ่ายรูปดำเนินต่อไปทุกปี ทุกครั้งที่ไปเที่ยว จากภาพขาวดำก็เริ่มกลายเป็นภาพสี ช่วงเวลาที่ผ่านไปทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้จากรูปของพวกเขา สิ่งแวดล้อมโดยรอบที่ไม่เหมือนเดิม อายุที่เพิ่มขึ้นของเขาทั้งสอง โดยเฉพาะลูกสาวที่ตอนแรกยังเป็นแค่เด็กแบเบาะ โตขึ้นเข้าโรงเรียน จนสุดท้ายเธอก็ได้มีครอบครัวเป็นของตัวเองและมีลูกสาวถึง 2 คน . …
-
เปิดตำนาน ‘Ching Shih’ จากโสเภณีสู่กัปตันโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์…!!
หากพูดถึงตำแหน่งเจ้าราชาเจ้าสลัดแล้วละก็…บางคนอาจจะยกมอบตำแหน่งนี้ให้แจ็ค สแปร์โร่ว์ หรือไม่ก็พ่อหนุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่ บอกเลยว่าทุกคนที่กล่าวมานั้นนับว่ายังอ่อนด๋อยนัก หากมาเทียบกับโจรสลัดหญิงชาวจีนผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์โลก ‘Ching Shih’ หญิงสาวผู้ไต่เต้าจากโสเภณีสู่การเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล Ching Shih หญิงสาวผู้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัดตั้งแต่วัย 22 ปี!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1785 ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในเขตมณฑลกวางตุ้ง เธอเติบโตมาในครอบครัวยากจน และต้องดิ้นรนต่อสู้ปากกัดตีนถีบเพื่อเอาชนะความแร้งแค้น ครั้นเมื่อเธอเริ่มโตเป็นสาวเป็นแซ่ ด้วยระดับการศึกษาที่ไม่ได้มากมายอะไร ทำให้เธอต้องหันไปประกอบอาชีพเป็นโสเภณีเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว… แต่ใครเล่าจะรู้ว่านี่คือจุดกำเนิดของโจรสลัดหญิงผู้ยิ่งใหญ่ มาดาม Ching Shih ที่ปรากฎในเรื่อง Pirates of the Caribbean จากการประกอบอาชีพเป็นโสเภณี ทำให้เธอได้แต่งงานกับ Zheng Yi ชายผู้เป็นกัปตันเรือของกองโจรสลัดธงแดง ทว่าต่อมาในปี 1807 ได้เกิดภัยพิบัติสึนามิครั้งใหญ่ขึ้น จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้สามีผู้เป็นกัปตันโจรสลัดของเธอเสียชีวิตลง หลังจากนั้น Ching Shih ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้ากองโจรสลัดแทนสามีของเธอที่เสียชีวิตไป แม้เธอจะเป็นสตรีเพศในยุคที่ประเทศจีนยังไม่เปิดกว้างเรื่องความเสมอภาคทางเพศ แต่ด้วยความเด็ดขาดก็ทำให้ลูกเรือไม่มีใครกล้าขัดขืนคำสั่งเธอ อีกทั้งยังมีการออกคำสั่งด้วยว่าจะไม่มีหญิงสาวคนใดถูกกระทำอย่างเลวร้ายจากลูกเรือของเธอ เธอสั่งให้มีการปล่อยตัวนักโทษหญิงจำนวนมากโดยไม่มีการลงโทษ และหากลูกเรือชายคนใดต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิง…
-
ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน
สมัยนี้เส้นทางการคมนาคมได้มีการพัฒนาเพื่อทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย และหากเป็นประเทศที่เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำอย่างประเทศจีน นอกจากความสะดวกสบายที่ได้มาแล้ว พวกเขายังเพิ่มเติมความยิ่งใหญ่อลังกาลให้สมกับการเป็นประเทศชั้นนำของโลกอีกด้วย วันนี้ #เหมียวตะปู จะมาชวนเพื่อนๆ ไปเจอกับสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศจีน มีความยาวมากถึง 55 กิโลเมตรเลยทีเดียว!! สะพานแห่งนี้มีชื่อว่าสะพาน ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ตามชื่อเมืองที่เชื่อมหากัน สะพานแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2009 จนแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ สิ่งก่อสร้างอันสวยงามและยิ่งใหญ่ต้องใช้เหล็กกว่า 420,000 ตัน เทียบเท่ากับการสร้างหอไอเฟลได้มากถึง 60 แห่ง และต้องเสียเงินไปมากกว่า 500,000 ล้านบาท ความยาวที่ถึงกับมองไม่เห็นปลายทางอีกฝั่งเลย นอกจากนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สะพานข้ามทะเล เพราะระหว่าทางพวกเขาได้สร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแวะจอดพักรถกัน อีกทั้งยังมีอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดประกอบเป็นส่วนหนึ่งของสะพานอีกด้วย อุโมงค์ดังกล่าวมีความลึกอยู่ใต้ผิวน้ำไป 40 เมตรและยาวถึง 6.7 กิโลเมตร จุดพักรถที่เหมือนกับเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางทะเลเลยก็ว่าได้ อีกไม่นานเกินรอมันก็จะเปิดให้ผู้คนได้เข้าไปโลดแล่นกันแล้ว สะพานอันยิ่งใหญ่อลังการนี้ตั้งอยู่บนทะเลทางตอนใต้ของปนะเทศจีน เพื่อเชื่อมระหว่าง 3 เมืองใหญ่ได้แก่…
-
ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำสิ่งที่ดีให้แก่สังคม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อ Sun Zhiwen ได้ติดป้ายประกาศไว้หน้าร้านว่า “อาหารเช้าฟรีสำหรับคนกวาดถนน ทหาร และคนแก่ที่อายุมากกว่า 70 ปี” คนกวาดถนนสามารถเข้ามากินอาหารเช้ากันได้แบบฟรีๆ ร้าน Loving Heart Tofu นี้ตั้งอยู่ในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2015 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี เขาได้แจกจ่ายอาหารเช้าให้กับผู้คนไปมากกว่า 20,000 ถ้วยเลยทีเดียว เขาได้ให้เหตุผลว่า “คนกวาดถนนต้องเจอกับภาระหนักเอามากๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่พวกเขาต้องตื่นแต่เช้าและไม่ได้กินอะไรจนถึงเที่ยง ผมจึงหวังที่จะมอบอาหารเหล่านี้ให้พวกเขาได้กินกันในตอนพักระหว่างงาน” เจ้าของร้านที่ทำให้หลายๆ คนได้อิ่มทั้งกายและใจ ส่วนสำคัญที่ทำให้เขาแจกอาหารฟรีเป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กเขาต้องโตมากในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาตลอดจนเขาสามารถมีวันนี้ได้ จึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆ นี้ไปให้ผู้อื่นด้วย “ผมเป็นเพียงคนทำธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ไม่จำเป็นว่ารายได้จะมากน้อยแค่ไหน ผมเพียงให้ทุกๆ คนได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่ผมเคยได้รับมาตลอด” เขากล่าว เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เกินกำลังตัวเอง เพื่อช่วยผู้อื่นให้ได้มากที่สุด ในอนาคตชายคนนี้ตั้งใจว่าอยากเพิ่มสาขาออกไปอีกหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความสุขให้ผู้คนได้มากยิ่งขึ้น…
-
คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ
อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาเพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรจะต้องสังเกตและระวังภัยรอบข้างอยู่เสมอ เหมือนกับคุณพ่อชาวจีนคนนี้ เมื่อในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิดในประเทศจีนได้จับภาพโจรพยายามลักพาตัวเด็กผู้หญิงวัยแบเบาะ ก่อนที่พ่อของเด็กคนนั้นจะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยจนทำให้โจรต้องรีบหนีออกไปในที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในเมือง Fujin มณฑลเฮย์หลงเจียง ในขณะที่คุณพ่อและเด็กน้อยกำลังเลือกสินค้ากันอยู่ได้มีผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวเอาฮู้ดคลุมหัวทำตัวมีพิรุธอยู่ด้านหลังของทั้งสอง คนขายในร้านได้เข้ามาเตือนคุณพ่อเอาไว้แล้วว่าให้ระวังชายคนนี้ และดูแลลูกสาวของตนเองไว้ให้ดี ยืนมองมาอย่างมีพิรุธ คนขายของจึงได้เดินเข้าไปเตือน หลังจากนั้นเมื่อพ่อลูกเดินออกจากบริเวณหน้าร้านไป ชายคนดังกล่าวก็เดินตามไปด้วยและพยายามฉุดกระชากแขนของสาวน้อยให้หลุดออกจากมือของผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณพ่อจึงกุมมือลูกสาวเอาไว้แน่นก่อนที่จะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยชองโจรหนุ่มอย่างแรง ทำให้เขาต้องยอมแพ้ปล่อยมือเด็กและรีบหนีไป เมื่อพ่อลูกออกจากร้านไปชายคนนี้ก็รีบเดินตามทั้งสองไปในทันที พยายามที่จะกระชากลูกสาวออกไปอย่างแรง คุณพ่อที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วรีบปกป้องลูกสาว จนทำให้โจรหนุ่มรีบหนีไป คลิปคุณพ่อปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัว ต่อมาได้มีการสอบถามพ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์จึงทำให้รู้ว่าชายสวมฮู้ดคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 หรือ 4 วันก่อน โดยพยายามที่จะกระชากเด็กสาวออกมาจากแม่ของเธอ นอกจากนั้นคนขายก็บอกอีกว่าชายคนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีอาการป่วยทางจิต คนขายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเชื่อว่าชายสวมฮู้ดมีอาการป่วยทางจิต อย่างไรก็ตามตำรวจประจำเมือง Fujin บอกว่าไม่เคยได้ยินว่ามีคนแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้มาก่อนและย้ำกับชาวบ้านทุกคนว่า “หากมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน” กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามร้านต่างๆ ช่วยระวังภัยเราได้เพียงส่วนเดียว สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนๆ กันคือการระวังตัวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ได้…
-
เผยภาพของ ‘ทางแยกมหามึน’ จากประเทศจีน ดูจากภาพแล้วจะเข้า จะออกยังไง!?
ทางแยกสุดมึนในมลฑลเหอเป่ย์จากทางตอนเหนือของประเทศจีนแห่งนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเมารถสักเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องจราจรที่มีหลายช่องแถมยังดูวกวนน่าสับสนอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าหากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่แล้วล่ะก็ต้องเกิดอาการปวดหัวบ้างแน่ๆ และนอกจากทางแยกที่จะดูงงๆ แล้ว ถนนสายนี้ยังไม่มีป้ายกำกับอีกด้วยว่าช่องไหนเป็นทางเข้า หรือว่าช่องไหนเป็นทางออก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสถนนที่มีความซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ถนนสายนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงนิทรรศการของเมืองจางเจี๋ยโกวใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้ทางเทศบาลของเมืองเองได้มีการปรับปรุงถนนเส้นนี้ แต่ว่าหลังจากการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วกลับสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีเส้นสีขาวที่ทำไว้เพื่อแบ่งช่องทางการจราจรแบบดูงงๆ แล้ว ถนนเส้นนี้ยังไม่มีไฟสัญญาณจราจรอีกด้วย ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองจางเจี๋ยโกวได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ถนนสายดังกล่าวยังทำการปรับปรุงไม่เสร็จ พร้อมทั้งได้บอกให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ และขอให้ขับรถตามช่องจราจรที่ได้มีการกำหนดไว้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้งานถนนคนอื่นๆ ชาวเน็ตท่านหนึ่งจึงได้ทำแผนผังเพื่ออธิบายการใช้งานของถนนเส้นนี้ พร้อมทั้งทำลูกศรแสดงเส้นทางเข้าออกของรถยนต์เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมยังบอกเส้นทางของรถสาธารณะและทางเดินเท้าด้วยลูกศรสีขาวอีกด้วย และหลังจากที่ภาพของถนนเส้นนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก jiege1123 “คนแก่ที่ใช้ถนนเส้นนี้จะต้องปวดหัวแน่ๆ ” nejoujeshe “เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดเป็นช่วงที่จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวล่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่งงกันใช่ไหม??” Fisherman53 “นักออกแบบทำให้งงสุดๆ ต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างแหละ” ลองจินตนาการดูว่าคุณเพิ่งหัดขับรถวันแรก แล้วเผลอหลุดเข้ามาในถนนเส้นนี้ดูสิ!! อืม… เหงื่อแตกแน่นอน ที่มา dailymail
-
ใจคอไม่ดีเลย.. กับทางเดินกระจกใส ที่มีระบบสร้าง ‘รอยร้าวปลอมๆ’ เมื่อคุณเดินไปเหยียบมัน
เวลาที่เราเห็นกระจกแตกหรือกระจกร้าวเราก็คงจะกลัวว่ามันจะบาดมือทำให้เกิดแผลเอาได้ แต่ถ้าเราต้องไปยืนอยู่บนพื้นกระจกที่มีความสูงเหนือพื้นจนอาจทำให้เราตกไปตายได้เหมือนกับชายคนนี้ละ ตอนที่มันเกิดรอยร้าวขึ้นมามันจะทำให้รู้สึกหวาดเสียวขนาดไหนกัน? เมื่อนักท่องเที่ยวหนุ่มคนหนึ่งได้ไปเจอกับพื้นทางเดินทำมาจากกระจกในประเทศจีนอยู่สูงเหนือพื้นกว่า 1,000 เมตร ที่เมื่อเขาเหยียมลงไปปุ๊บก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว ปฏิกิริยาของนักท่องเที่ยวหนุ่มเมื่อเหยียบลงไปแล้วเกิดรอยร้าว ทางเดินที่เห็นกันในคลิปนั้นอยู่ที่ประเทศจีน ยื่นออกมาจากด้านข้างของภูเขา Taihang แหล่งธรรมชาติอันสวยงามในมณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งรอยแตกที่เกิดนั้นเป็นเพียงแค่ของปลอมที่มีเอาไว้แกล้งผู้คนเท่านั้นเอง ด้านล่างจะมีจอภาพติดตั้งเอาไว้เมื่อมีคนเดินไปเหยียบก็จะเห็นเป็นรอยและเสียงเหมือนกระจกกำลังแตก ทำให้นักท่องเที่ยวหน้าใหม่ต้องรู้สึกหวาดเสียวเพราะกลัวที่จะตกไปกลายเป็นผีไร้ญาติ เป็นใครก็กลัวถ้ามันจะน่าหวาดเสียวขนาดนี้ แล้วใครมันจะไปดูออกละว่าเป็นจอภาพ แม้จะเข้าใจกันได้ว่าการทำแบบนี้ก็เพื่อเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยว แต่หลายคนก็บอกว่ามันอาจทำให้บางคนต้องหัวใจวายตายไปได้เลย ภายหลังผู้บริหารการท่องเที่ยวของภูเขาลูกนี้ได้ออกมากล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะเอาเจ้ารอยแตกปลอมๆ นี้ออกหรอกนะ ก่อนหน้านี้ที่ภูเขา Yuntai Mountain ในมณฑลเหอนานก็เคยมีรอยแตกอยู่บนสะพานกระจกเหมือนกัน แต่พวกเขาทำเพื่อทดสอบความแข็งแรงเฉยๆ ไม่รู้ว่าแกล้งกันแรงขนาดนี้จะช่วยดึงดูดหรือไล่นักท่องเที่ยวกันแน่นะ ถ้าใครกลัวความสูงก็อย่าคิดจะไปเที่ยวที่นี่เชียว ที่มา: shanghaiist
-
พ่อบ้านตัวจริง!! หนุ่มยอมใส่ส้นสูง ‘สีชมพู’ ของแฟน เพียงเพราะเธอบอกว่าเจ็บเท้า
การดูแลและให้ความสะดวกสบายกับภรรยา ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่หนุ่มๆ ควรจะทำให้กับคนรู้ใจของคุณ (ไม่เชื่อก็ลองขัดใจดูสิ เดี๋ยวรู้เรื่อง!!) และวันนี้เราก็มีภาพน่ารักๆ ของหนุ่มชาวจีนท่านหนึ่ง ที่ดูแลคู่รักของเขาเป็นอย่างดีจนทำเอาหลายๆ คนอิจฉาเลยทีเดียว… นี่เป็นภาพของชายหนุ่มที่ยอมแลกรองเท้าของเขากับแฟนสาว หลังจากที่เธอมีอาการเจ็บเท้า กลายเป็นภาพที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ และนี่คือภาพของพ่อหนุ่มคนนี้ แหม่… น่ารักเชียวนะเนี่ย!! ภาพดังกล่าวถูกถ่ายจากโรงพยาบาล Xinqiao ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในระหว่างที่เจ้าของภาพถ่ายดังกล่าวมาถึงที่ชั้น 4 ของโรงพยาบาลดังกล่าว เขาก็สังเกตเห็นคู่รักทั้งสองกำลังรอพบแพทย์อยู่ คุณ Xie เล่าว่าระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งรออยู่นั้น ฝ่ายหญิงก็มีอาการปวดเท้าและรู้สึกอึดอัด จากนั้นทั้งสองจึงแลกรองเท้ากันใส่ แบบที่เห็นในภาพ “รองเท้าส้นสูงนั่นเป็นสีชมพู มันจึงทำให้เห็นได้ชัดมากๆ เวลาที่ผู้ชายใส่ และถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะขอให้เปลี่ยนรองเท้าคืน หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกสบายแล้ว แต่ฝ่ายชายกลับปฏิเสธ มันช่างเป็นเรื่องที่โรแมนติกจริงๆ เลย” คุณ Xie กล่าว หลายๆ คนได้เข้ามาชื่นชมชายหนุ่มผู้นี้ และเพื่อนของคุณ Xie บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอได้เอาภาพดังกล่าวให้แฟนหนุ่มของเธอดู และบอกให้เขาดูชายคนนี้เป็นตัวอย่าง!! แหม่… เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย แต่ถ้าหากว่าแฟนสาวของคุณเท้าเล็กเกินไปล่ะก็ แนะนำว่าให้ถือเอาดีกว่านะ เพราะถ้าส้นสูงของเธอเกิดหักหรือขยายขึ้นมา ความดีที่คุณทำมาอาจจะกลายเป็นศูนย์ก็ได้…
-
ศิลปินชาวจีนสร้างผลงาน ‘หญิงสาวในท่วงท่าอันงดงาม’ ด้วยเทคนิคการปั้นแบบยุโรปสมัยก่อน
รูปปั้นมากมายที่เราเคยได้เห็นกัน นอกจากที่จะสื่อถึงความแปลกใหม่ และไอเดียที่สร้างสรรค์ของศิลปินแล้ว บางทีก็อาจมีความสวยงามที่ดึงดูดสายตาของทุกคนได้ เหมือนกับงานของเธอคนนี้ ศิลปินชาวจีนที่มีชื่อว่า Luo Li Rong ได้สร้างผลงานรูปปั้นทองแดง แกะสลักขนาดเท่าตัวคน สื่อถึงความสง่างามที่มีอยู่ในรูปร่างของมนุษย์ การทำงานที่พิถีพิถันของเธอ ออกมาเป็นผลงานที่สวยงาม แม้จะยังไม่เสร็จ แต่แค่นี้ก็ดูสมจริงแล้ว โดยจะมีลักษณะของผู้หญิงในที่อยู่ในท่วงท่าต่างๆ และมีความพลิ้วไหวในส่วนของผมและเสื้อผ้า ทำให้ดูเหมือนว่ารูปปั้นกำลังยืนรับสายลมที่พัดมาอย่างแผ่วเบา จะเห็นได้ว่าผลงานของเธอเต็มไปด้วยรายละเอียด เกิดจากความประณีตในทุกพื้นผิวที่เธอแกะสลักลงไป เพื่อให้มีความสมจริงและแสดงออกถึงองค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์อื่นๆ เช่น ก้อนเมฆ หรือหยดน้ำฝน ท่ายืนแบบนี้ ดูมีความเป็นไทยนิดๆ เหมือนกันนะ หยดน้ำฝน ที่ทำออกมาได้ลงตัวกับรูปปั้น ผิวคล้ำแต่ก็ยังดูดี ทั้งหมดที่เราได้เห็นเกิดจากฝีมือที่เธอได้เรียนรู้มาจากวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ในปักกิ่ง และนำเทคนิคที่นิยมใช้ในช่วงฟื้นฟูศิลปะของยุโรป และสไตล์บารอกมาผสมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นผลงานร่วมสมัยเหล่านี้ขึ้นมา ท่วงท่าอันสง่างามและพลิ้วไหว . . ลักษณะที่ทำออกมาได้เหมือนกับว่า รูปปั้นกำลังเดินอยู่บนท้องถนนจริงๆ สายลมที่พัดเข้ามา เหมือนกับยืนอยู่บนหน้าผา การเปลือยที่ดูไม่โป๊ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสวยงามที่ต้องการจะสื่อ .…
-
หื๊มมม ภาพวันเปิดขาย iPhone 8 ในจีน ร้านเอาแผงมากั้นทำช่องต่อคิว แต่ไม่มีใครมาต่อคิวเล๊ย!?
เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลก ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ คือ iPhone 8 iPhone 8 Plus และ iPhone X นวัตกรรมที่สุดเจ๋งที่มาเพิ่มนั้นก็ทำให้มีผู้คนจากทั่วโลกสนใจและอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ได้มีการวางจำหน่ายใน 23 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 ประเทศจีนก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการวางจำหน่ายเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครดูตื่นเต้นกันซักเท่าไหร่น่ะสิ บรรยากาศการล้อมรั้วตั้งเป็นแถว รอรับคนที่มาเข้าคิว . ภาพบรรยากาศร้านในการขายวันแรก ที่ศูนย์ Apple ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหางโจว ได้มีการว่าจ้างยามรักษาความปลอดภัยถึง 30-40 คน พร้อมกับตั้งแผงกั้นเป็นเขาวงกตบริเวณหน้าศูนย์ เพื่อรองรับกับฝูงชนที่จะแห่แหนเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เหมือนกับการวางจำหน่าย iPhone…
-
จีนเปิดตัวรถไฟหัวกระสุนเร็วที่สุดในโลก ‘Fuxing’ วิ่งไวราวเดอะแฟลชด้วยความเร็ว 400 กม./ชม.!!
นับว่ารถไฟหัวกระสุนหรือรถไฟความเร็วสูงในปัจจุบันนั้น มีมากมายหลากหลายชนิดหลากหลายรุ่นและความเร็วก็แตกต่างกันสุดๆ ในหลายประเทศก็มีเยอะจนเป็นเรื่องธรรมดากันไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดเข็นรุ่นใหม่ออกมาสักที… ล่าสุดทางการจีนได้เปิดตัวรถไฟหัวกระสุนรุ่น ‘Fuxing‘ ซึ่งเป็นรถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่ล่าสุดของประเทศ โดยจะเป็นรถไฟสาย ‘ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้’ นั่นเอง ตัวรถไฟรุ่นนี้จะมีความเร็วปกติอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทว่าความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้จะอยู่ที่ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่าไวสุดๆ แว๊บเดียวข้ามจังหวัดได้เลยล่ะ ซึ่งรถไฟสายนี้จะใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง 49 นาที ในการเดินทางไปมาทั้งสองเมือง ตอนนี้ก็กลายเป็นรถไฟที่ไวที่สุดในโลกไปแล้ว ชาวจีนต่างพากันตื่นเต้น มาถ่ายเซลฟี่กับรถไฟกันสักหน่อย มากันทั้งครอบครัว เด็กน้อยก็มา เห็นไหม ในงานเปิดตัวก็มีเจ้าหน้าที่ยืนคู่กับขบวนด้วยนะ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่สาวๆ หนุ่มๆ ก็มากันครบ!! นอกจากตัวรถไฟรุ่น Fuxing นั้นจะมีดีไซน์ที่สวยงามและความเร็วที่สูงมากแล้ว รถไฟขบวนดังกล่าวยังโดดเด่นในเรื่องของเสียงที่เงียบมากๆ รวมถึงความนิ่งสุดๆ นิ่งจริงๆ นะ ไม่เชื่อดูสิ นักท่องเที่ยวเดินอย่างสบายใจ เพราะไม่มีการสั่นสะเทือนใดๆ รับประกันความนุ่มนวล ด้านความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วง เพราะรถไฟรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีเซ็นเซอร์ตรวจจับรางรถไฟแบบเรียลไทม์ถึง…
-
สื่อญี่ปุ่นเผย โครงการรถไฟฟ้าสร้างโดยจีนในเวียดนาม ด้อยคุณภาพ ล่าช้าแถมทำงบบาน!!
เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาทางสื่อต่างประเทศอย่าง Nikkei Asian Review ได้รายงานว่าทางรถไฟฟ้ายกระดับแห่งแรกในกรุงฮานอยที่จะมีการเปิดทดลองใช้ในเดือนกันยายนนี้ถูกเลื่อนออกไป หลังจากมีปัญหาในการก่อสร้างกับบริษัทรับเหมาจากจีน เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทางการเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า โครงการดังกล่าวจะไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าทางการจีนจะจ่ายเงินสนับสนุน(ODA) มูลค่า 250 ล้านเหรียญตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกในเมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งมีแผนในการสร้างเริ่มต้นที่ปี 2008 และแล้วเสร็จในปี 2013 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 552 ล้านเหรียญโดยมีการกู้เงินจากรัฐบาลจีน 419 ล้านเหรียญ และบานปลายเป็น 868 ล้านเหรียญในปี 2011 โดยโปรเจกต์ดังกล่าวประสบปัญหาต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเบิกกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลจีนที่มีความซับซ้อนทำให้การก่อสร้างล่าช้า ปัญหาวัสดุด้อยคุณภาพ และความผิดพลาดของแรงงานที่ไม่ได้รับการฝึกฝน ซึ่งตอนนี้ทางเวียดนามได้ประสานไปทางสถานฑูตจีนเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าว Nikkei Asian Review ได้เผยว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงฮานอยนี้เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกันไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติในกรุงฮานอย โรงเหล็กมูลค่า 360 ล้านเหรียญสหรัฐในเมืองท้ายเงวียน รวมถึงโครงการบำบัดขยะและอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ความเชื่อมันของบริษัทรับเหมาต่อจีนในเวียดนามนั้นลดลง และปัจจุบันมีโครงการใหญ่ๆ ถึง 17 โครงการที่ต้องถูกพิจารณาใหม่โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม…
-
หน้าผา ‘Chan Da Ya’ ในจีนที่จะปล่อยไข่ออกมาทุกๆ 30 ปี เฮ่ยยยมันเป็นไปได้ไง!?
บ่อยครั้งที่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมักจะสร้างความประหลาดใจให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของแสงเหนือ หรือปรากฏการณ์สุริยุปราคา และเรื่องราวที่เรานำมาฝากวันนี้เองก็น่าทึ่งไม่แพ้ปรากฏการณ์เหล่านี้เช่นกัน นั่นก็คือหน้าผาที่สามารถออกไข่ได้นั่นเอง!! หน้าผา Chan Da Ya หน้าผามหัศจรรย์จากประเทศจีนแห่งนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก เพราะมันสามารถออกไข่ได้ทุกๆ 30 ปี หน้าผา Chan Da Ya และไข่ของมัน หน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต Qiannan Buyi และ Miao Autonomous ของมณฑลกุ้ยโจว หน้าผา Chan Da Ya หรอืที่รู้จักกันในชื่อหน้าผาไข่สร้างความน่าประหลาดใจให้กับนักธรณีวิทยามานาหลายศตวรรษแล้ว ลักษณะของหน้าผาแห่งนี้มีความสูง 2 เมตรและกว้าง 19 เมตร บริเวณพื้นผิวของมันเต็มไปด้วยการกัดเซาะมากมายและหินกลมๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับไข่ เมื่อเวลาผ่านไป ธรรมชาติจะกัดเซาะหน้าผาไปเรื่อยๆ จนทำให้หินกลมเหล่านั้นหลุดออกมาในที่สุด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Gulu บอกว่าก้อนหินเหล่านั้นจะใช้เวลาประมาณ 30 ปี จึงจะหล่นลงมา ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ นักธรณีมากมายได้เดินทางมายังหุบเขาที่ห่างไกลแห่งนี้เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการออกไข่ของหน้าผา พวกเขาพบว่าภูเขา Gandeng โดยส่วนมากแล้วมีลักษณะเป็นตะกอนที่ทับถมกัน และหินที่นี่ส่วนมากเป็นหินปูน ซึ่งถูกกัดกร่อนได้ง่าย ไข่เหล่านี้ถูกสร้างมาจากหินที่แข็ง ซึ่งแต่ละก้อนอาจจะใช้เวลาในการสร้างที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ผ่านหินเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครที่สามรถอธิบายได้ว่าชั้นหินปูนที่ก่อตัวมาตั้งยุคแคมเบรียนสามรถคงอยู่มาได้ถึง 500…
-
สัตวแพทย์เถื่อนชาวจีน เปิดซุ้มในตลาดรับตัดเส้นเสียงน้องหมา เพื่อไม่ให้พวกมันเห่า
การเห่าของน้องหมานั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะน้องหมาทุกตัวย่อมเห่าอยู่แล้ว จะเห่ามากเห่าน้อยก็ว่ากันไป แต่การเห่านี้บางครั้งก็อาจทำให้ใครบางคนรู้สึกไม่พอใจกันสักเท่าไหร่ หลายบ้านอาจใช้วิธีการนำตะกร้อมาครอบปาก ทำให้พวกมันไม่สามารถเห่าได้ แต่นั่นก็จะทำให้น้องหมามีอาการเครียดและหงุดหงิดได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ในประเทศจีนใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วกว่านั้น เมื่อมีคลิปวิดีโอถ่ายภาพการทำงานของชายคนหนึ่ง ที่ใช้วิธีการตัดเส้นเสียงของพวกมัน ทำให้ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกเลย ด้วยราคาเพียงแค่ 200 หรือ 500 บาทเท่านั้นเอง ต่อมามีการเผยแพร่ออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Qingbaijiang มณฑลเสฉวน ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบหาความเป็นมาของชายคนดังกล่าว ทำให้รู้ว่าเขาคนนั้นมีชื่อว่า Zeng แต่สิ่งสำคัญก็คือ เขาและผู้ช่วยอีกคนไม่มีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทางการ เพราะกระบวนการผ่าตัดนี้ต้องมีการใช้ยาชา อีกทั้งการง้างปากและใช้อุปกรณ์ตัดเส้นเสียงของพวกมันอีก นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้น้องหมาเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก คลิปวิดีโอการตัดเส้นเสียงสุนัข ของสัตวแพทย์เถื่อน เรื่องของสถานที่เองก็เช่นกัน เพราะพวกเขาเล่นตั้งโต๊ะซะกลางตลาดดอกไม้ กลางวันแสกๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของผู้คนพลุกพล่าน แต่เป็นเรื่องของเชื้อโรคที่อาจทำให้สุนัขที่เข้ารับการผ่าตัดติดเชื้อได้ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เขาคนนี้จะใช้อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่เพียงชุดเดียว ในกการตัดเส้นเสียงให้กับสุนัขทุกตัว ทำให้พวกมันติดเชื้อกันง่ายมากกว่าเดิมเสียอีก แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มองว่า วิธีการนี้เป็นความโหดร้ายหรือป่าเถื่อน ในขณะที่หญิงสาวเจ้าของหมาพุดเดิ้ลคนหนึ่งบอกว่า เธอเพียงต้องการทำให้มันไม่เห่าเท่านั้น โดยวิธีการดังกล่าวเขาบอกว่า เป็นสิ่งที่ชายคนนี้ได้เรียนรู้มาจากตอนที่ทำงานอยู่ในร้านสัตว์เลี้ยงเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอุปกรณ์ของเขาทั้งหมด และกำลังอยู่ในช่วงสืบสวนกันต่อไป คาดว่าอย่างน้อยจะต้องโดนข้อหาการดำเนินงานที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอน…
-
จีนผุด QR Code ยักษ์ในมณฑลเหอเป่ย์ ให้สแกนข้อมูลระหว่างบิน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว
ปัจจุบันเรียกได้ว่าเทคโนโลยีนั้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนจะต้องมีการข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน!! และเมื่อไม่นานมานี้หมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศจีนได้ผุดไอเดียเจ๋งๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของพวกเขา โดยการสร้างคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ไว้กลางหมู่บ้าน!! และนี่คือคิวอาร์โค้ดที่ว่านั้น พื้นที่ด้านของของหมู๋บ้าน Xinlinshui ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับนครเป่าติ้งในมณฑลเหอเป่ย์ ได้เปลี่ยนต้นไม้กว่า 130,000 ต้นให้กลายเป็นคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถหยิบโทรศัพท์มาสแกนได้ ระหว่างที่กำลังบินผ่านไปยังเมืองหลวง โดยคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจะลิ้งค์ไปที่หน้าแอพลิเคชั่น WeChat ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการจะสแกนได้นั้นคุณอาจจะต้องใช้ความสามารถหน่อยล่ะนะ ฮ่าๆ อื่ม… เป็นไอเดียที่เจ๋งดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่เปิดกูเกิลแมพแล้วสแกนเอาน่าจะง่ายกว่านะเหมียว!! ที่มา shanghaiist
-
ผู้โดยสารโวยหนัก กัปตันทำเครื่องดีเลย์ ’15 ชั่วโมง’ เพราะหยิบพาสปอร์ตมาผิดเล่ม..!?
สำหรับการเดินทางไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามแต่ ถ้ามีปัญหาขัดข้องจนถึงกับต้องดีเลย์เพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมง ก็อาจส่งผลต่อแผนการเดินทางทั้งหมดของเราอย่างรุนแรง… และเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นจนได้กับสายการบิน Hainan Airlines โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุขัดข้องกับเที่ยวบิน เฉิงตู – ลอสแองเจลิส จนถึงกับต้องดีเลย์ออกไปอีกกว่า 15 ชั่วโมง..!! เรียกได้ว่าในวันนั้นที่สนามบินเฉิงตูได้เกิดเรื่องวุ่นวายมากที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ หลังจากสายการบินประกาศดีเลย์เที่ยวบินดังกล่าวออกไปอีก 15 ชั่วโมงเต็ม (รอครึ่งวันกันเลยทีเดียว) ทันทีที่สนามบินประกาศออกมา ความวุ่นวายเล็กๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้โดยสารถามไถ่ถึงสาเหตุที่ทำให้เที่ยวบินดีเลย์… ซึ่งตอนแรกทางสายการบินก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของบริษัทเอง แต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจาก คุณกัปตันหยิบพาสปอร์ตมาผิดเล่ม!? โดยอ้างว่าได้ยินมาจากการที่พนักงานสายการบินที่มีป้ายชื่อติด กำลังคุยกันถึงสาเหตุของปัญหาในครั้งนี้ จากกรณีนี้ทางสายการบินก็ยินดีที่จะชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้โดยสารทั้งหมด 150 คน ไม่ว่าจะเป็นค่าจองที่พัก ค่าตั๋ว หรือค่าเสียเวลา โดยสายการบินจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งหมดจำนวนคนละ 500 หยวน (2,500 บาท) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากรณีนี้จะเกี่ยวกับโชคไม่เข้าข้างรึเปล่า แต่ก่อนหน้านี้ Hainan Airlines เคยติดอันดับ 1 ใน 10 สายการบินที่มีการจัดการกับไฟลท์ดีเลย์ได้แย่ที่สุดในโลกด้วย…
-
ภาพการเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจของคุณตา “เขี้ยวเหล็ก” ผู้เสพติดการกินแก้วมานานกว่า 32 ปี
พวกเราทุกคนมีความชอบในเรื่องของอาหารการกินที่แตกต่างกันไป บางคนชอบกินปลา ชอบผัก หรือว่าชอบเนื้อก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าชอบกินแก้วอย่างคุณตาคนนี้คงไม่ใช่จะได้เห็นกันง่ายๆ คุณตาคนดังกล่าวมีชื่อว่า Liu Zundun วัย 71 ปี ผู้มีงานอดิเรกและความสามารถที่แปลกประหลาด เพราะเขาชื่นชอบในการกินแก้วมานานกว่า 32 ปีแล้ว มีภาพแสดงให้เห็นเขาหยิบแก้วน้ำขึ้นมา กัดเข้าปาก เคี้ยวดังกรุ๊บๆ เหมือนกับมันเป็นอาหารที่คนเรากินได้ทั่วไป ก่อนที่จะกลืนน้ำตามลงไป โดยไม่มีอาการอะไรเลย และถึงแม้ว่าตัวเขาจะชื่นชอบสิ่งนี้ โดยเฉพาะการกินแก้วเบียร์ ทว่าเขากลับไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังดื่มด่ำและเมามายไปกับพิษของสุรา ตัวเขาก็จะนั่งเคี้ยวแก้วไปแบบสบายใจ ความสามารถพิเศษของเขานี่เองที่ทำให้เวลาไปไหนมาไหน ผู้คนก็จะขอให้เขาช่วยแสดงให้ดูจนกลายเป็นความเคยชิน ถึงขนาดที่ว่าผู้อยู่อาศัยในเมืองเดียวกันกับเขา บอกว่าเขาจะถูกขอแสดงให้ดูในทุกงานแต่งเลยทีเดียว งั่มๆๆ แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้คงจะไม่แปลกหากเขาจะมีอาการป่วยที่ท้องหรือลำคออยู่บ้าง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความผิดปกติเหล่านั้นเลย เขาบอกว่าสิ่งเดียวที่แปลกไปในตัวเองคือฟันซี่หนึ่งที่แข็งแรงกว่าซี่อื่น ทั้งที่ควรจะอ่อนแอไปตามอายุ และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “เขี้ยวเหล็ก” ทั้งหมดนี้อาจเป็นไปได้ว่านี่คืออาการที่เรียกว่า Pica ซึ่งทำให้มีนิสัยชอบกินในสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เหมือนกับกรณีของเด็กออทิสติกชาวอังกฤษวัย 4 ขวบชอบกินพลาสติก และแรงงานในอินเดียที่ชอบกินทราย ใช้ฟันกัดซะแหว่งเลย …
-
บริษัทจีนเปิดตัว ‘บริการเช่าตุ๊กตายาง’ พร้อมเลือกสเปคสาวๆ ได้ พาไปนอนจับมือคลายเหงา!!
เราคงต้องยอมรับกันจริงๆ แล้วแหละ ว่าเทรนด์ตุ๊กตายางเป็นอะไรที่มาแรงมากๆ ไม่ว่าจะด้านนวัตกรรมฟังก์ชั่นที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จนล่าสุดมีบริษัทจีนเปิดตัวแอพฯ ให้เช่าไปนอนกอดกันได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส แอพฯ ดังกล่าวใช้ชื่อว่า ‘Touch’ (น่าสัมผัสมากจ๊ะ) และเพิ่งจะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนไปเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2017 ตัวอย่างคอสตูมของสาวๆ ตุ๊กตายาง มีตั้งแต่นักเรียน พยาบาล สาวห้าว หรือวันเดอร์วูแมนก็มี บริษัท Touch ตั้งอยู่ในเมืองฟู๋เจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน โดยในช่วงแรกบริษัทจะเปิดให้บริการเฉพาะในเมืองเซี่ยงไฮ้ก่อน และเมื่อผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ บริษัทก็จะขยายบริการให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ตามลำดับ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าตุ๊กตายางต่อ 1 วัน ก็จะประกอบไปด้วย… ค่ามัดจำตัวน้องนางจำนวน 8,000 หยวน (ราว 40,000 บาท) และค่าบริการอีกจำนวน 298 หยวน/วัน (ราว 1,500 บาท) ไม่ต้องกลัวว่าจะได้สัมผัส ‘จิมมี่’ โดยมีคราบสกปรกของผู้เช่าเก่าติดอยู่ เพราะบริษัทเคลมว่าจะมีการเปลี่ยนอวัยวะส่วนนั้นใหม่ทุกครั้งก่อนให้บริการ บริษัทเปิดตัว 5 สาวตุ๊กตาเซ็กส์ดอลที่ถอดแบบมาจากหญิงสาวรูปงามของประเทศ…
-
14 เรื่องน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้คุณมองดินแดนมังกรแห่งนี้ เปลี่ยนไปจากเดิม…
หากใครได้ติดตามข่าวเศรษฐกิจโลกบ้าง ก็พอจะทราบได้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศจีนกำลังมาแรงสุดๆ อย่างน้อยก็เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกเดินทางไปจับจ่ายใช้เงินกันทั่วโลก ด้วยความที่ ‘จีน’ เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลเอามากๆ จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย และทั้งหมดนี้คือ 14 สิ่งน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้เราเข้าใจในวัฒนธรรมของประเทศนี้มากยิ่งขึ้น 1. มีเมนูเปิบพิศดารเยอะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นความยูนีคอย่างหนึ่งเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็น… หมา แมว เต่า จระเข้ กิ้งก่า กิ้งกือ แมลงป่อง แมลงสาบ หรือแม้แต่กรณีเนื้อคนก็เคยมีออกข่าวให้เห็นมาแล้ว!! 2. เด็กๆ ที่จีนจะมีกางเกงแบบเปิดก้น เป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่เราจะได้เห็นบ่อยๆ หากลองไปเยือนประเทศจีนดูซักครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็กน้อยวัย 2 – 3 ขวบ มักจะสวมใส่กางเกงแบบเปิดก้น สาเหตุก็เพราะเวลาที่เด็กอยากจะขับถ่ายตรงไหนก็ถ่ายได้เลยไม่ต้องวิ่งหากระโถน 3. จีนมีรถไฟความเร็วสูงไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก มีเส้นทางสายหนึ่งในจีนที่ให้บริการรถไฟความเร็วสูง (350 กม./ชั่วโมง) จุดประสงค์ก็เพื่อกระจายระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงถิ่นฐานทุรกันดาร อีกทั้งในปี 2010 จีนยังเคยทำสถิติความเร็วรถไฟได้สูงถึง 486 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว 4. ตัดผมกันข้างทางเป็นเรื่องธรรมดา ในสังคมที่ทุกคนต้องรีบเร่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง…
-
ภาพยนตร์ชีวิตจริงของ “หญิงทาสบำเรอกาม” แก่ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก คุณควรได้รับชม…
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศจีนหลังการบุกเข้ามาของทหารญี่ปุ่น ครั้งนี้เราจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘Thirty Two’ ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกบังคับให้กลายเป็นทาสทางเพศแก่ทหารญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปชมตัวอย่างกันก่อนเลย จุดเริ่มต้นของการสร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ก็คือ ในปี 2012 ผู้กำกับได้ถ่ายทำสารคดีสั้นเกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงผู้รอดชีวิตจากการเป็นทาสบำเรอกาม โดยใช้ชื่อเรื่องว่า ‘Thirty Two’ (จำนวนหญิงสาวที่รอดมาชีวิตมาได้) กระทั่งต่อมาในอีก 2 ปีให้หลัง ผู้กำกับกัวเคอ ได้นำประเด็นนี้มาเล่าใหม่อีกครั้ง ทว่าจำนวนผู้รอดชีวิตกลับเหลือเพียงแค่ 22 คน จึงกลายมาเป็นชื่อภาพยนตร์ที่เพิ่งเข้าฉายในจีนไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งด้านตัวนักแสดงหรือแม้แต่ผู้กำกับเอง ก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าสารคดีเรื่องนี้จะมีเสียงตอบรับที่ดีจนทำรายได้เปิดตัวสูงสุดอยู่ที่ 10 ล้านหยวน (ประมาณ 50 ล้านบาท) และพุ่งขึ้นสูงถึง 100 ล้านหยวน ภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยความตั้งใจแรกสุดผู้กำกับต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราวโหดร้ายในอดีต และตีแผ่ประสบการณ์อันเลวร้ายของชาวจีนที่ได้เจอมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรุ่นหลังนั่นเอง แต่ก่อนที่โปรเจคสารคดีเรื่องนี้จะสำเร็จ ก็ต้องประสบปัญหาการเงินอยู่ไม่น้อย…
-
บริษัทในจีนผลิตตัวต่อ ที่ทำให้คุณสามารถสร้าง “ซ่อง” เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ
ตัวต่อถือว่าเป็นหนึ่งในของเล่นยอดนิยมสำหรับเด็กๆ ด้วยรูปแบบที่หลากลาย สามารถต่อได้ทั้งตามรูปแบบที่กำหนด หรือจะต่อตามจินตนาการของตนเองก็ได้ แต่อย่าคิดว่าตัวต่อทุกรุ่นจะเหมาะสมกับเด็กๆ เพราะล่าสุด บริษัทในจีนได้ปล่อยชุดตัวต่อแบบผู้หญ้ายผู้ใหญ่ออกมา จะเป็นยังไง เราลองไปชมกัน เจ้าตัวต่อสไตล์เลโก้ตัวนี้ผลิตโดยบริษัท Xingbao พวกเขาได้ร่วมมือกับแฟนๆ ตัวต่อเลโก้สายฮาร์ดคอร์เพื่อออกแบบตัวต่อชุดใหม่ ที่อาจทำให้แฟนๆ เลโก้ที่มีศีลธรรมอันดีดีงามต้องกุมขมับนั่นก็คือ ชุดตัวต่อ “ซ่องสไตล์จีนโบราณ” ชุดตัวต่อดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของของเล่นชุด “ท้องถนนจีนโบราณ” ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปในอดีต ราวกลับหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจีนโบราณ พร้อมคำพูดคุ้นหูว่า “เสี่ยวเอ้อ! จัดนางโลมให้ข้าซักคนซิ” แน่นอน ด้วยความที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเลโก้ ตัวต่อชุดนี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งปลูกสร้างให้คุณต่อเท่านั้น ตัวต่อที่เป็นมนุษย์ก็มีให้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหนุ่มกลัดมัน หรือ สาวขายบริการแสนยั่วยวน (ทุกตัวยังมีเสื้อผ้าใส่นะ ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะเล่นไม่ได้) ตอนนี้ตัวต่อชุดดังกล่าวมีขายในชื่อว่า “สวนหน้าบ้าน Yihong” บนเว็บไซต์ Brick Fanatics โดยตอนแรกพวกเขาตั้งชื่อมันว่า “ซ่องโสเภณี Yihong” ซึ่งทางผู้จัดจำหน่ายคงคิดได้ว่ามันฮาร์ดคอร์เกินไป เลยเปลี่ยนชื่อเป็นเป็นสวนหน้าบ้านแทน ที่ประหลาดอีกอย่างคือแม้ทางผู้ผลิตจะบอกว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่ แต่ในรายละเอียดของมันกลับเขียนว่า มีไว้เพื่อการศึกษา แถมเหมาะกับด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป สงสัยอีกไม่นานเราคงได้เห็นตัวต่อชุดนี้ในโรงเรียนอนุบาลแน่นอน ก็ถือว่าเป็นไอเดียแปลกๆ ที่ดันมีขายจริงๆ แฟนๆ ที่ชอบสะสมเลโก้แปลกๆ ก็ลองหาซื้อไปต่อกันได้นะฮะ แต่ซื้อแล้วอย่าลืมเก็บให้พ้นมือเด็กล่ะ เดี๋ยวจะได้ตอบคำถามกันวุ่นวายอีก ฮาาาา…
-
ครอบครัวยอมใช้ชีวิตใน “ห้องน้ำสาธารณะ” พื้นที่ 4 ตร.ม. เพื่อหวังให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ
ที่อยู่อาศัยของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันไป บางคนก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่ บางคนก็อยู่คอนโด หรือก็อาจมีที่อาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าหลังเล็กๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เหมือนกับครอบครัวนี้ พ่อแม่ลูกได้อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองหวังจะให้ได้รับชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อย่างทิ้งลูกชายอาศัยอยู่บ้านเกิดตามลำพัง เธอสองคนเลือกงานทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะว่าจะทำให้ลูกไม่ต้องจ่ายค่าเทอมสำหรับโรงเรียนในมณฑลกวางตุ้ง ทว่าพวกเธอจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ในที่ทำงาน นั่นก็คือห้องน้ำสาธารณะนั่นเอง เพราะไม่อย่างนั้นลูกของเธอจะไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลในเมืองที่พวกเธอทำงานอยู่ได้ เนื่องจากว่าเป็นผู้อพยพกันทั้งหมด แน่นอนว่าบ้านหลังใหม่นี้จะต้องไม่มีความสะดวกสบายอย่างที่ทุกคนพอเห็นภาพกันได้แน่นอน ทางเดินเข้าไปห้องน้ำดังกล่าวจะเป็นเพียงช่องเล็กๆ คั่นกลางระหว่างร้านค้ากับป้ายบิลบอร์ด เล็กขนาดที่คิดภาพไม่ออกเลยว่าคนอ้วนจะผ่านยังไง และเมื่อคุณเดินผ่านเข้าไปก็จะได้เห็นกับห้องเล็กๆ ขนาด 2×2 เมตรนั่นแหละคือบ้านของพวกเขา ห้องน้ำสาธารณะที่แสนสะอาดจากความรับผิดชอบของสามีภรรยา Liao Xiaoming กับ Wang Xuanna แลกมากับรายได้รวมประมาณ 15,000 บาทพร้อมกับห้องพักที่เล็กเอามากๆ มีชั้นลอยไว้สำหรับนอนและการพักผ่อนหย่อนใจ ด้านล่างไว้สำหรับการกินหรือทำอาหารต่างๆ เป็นชีวิตที่แสนลำบากของครอบครัว โชคยังดีที่สามารถใช้ห้องน้ำคนพิการในการทำธุระส่วนตัวกันได้ เงินเดือนของพวกเขาไม่เพียงพอสำหรับเช่าห้องธรรมดาทั่วไปเพื่อเลี้ยงลูกเลยด้วยซ้ำ และสามีก็ยังบอกอีกว่าถ้าไม่ใช่เพราะการศึกษาของลูก พวกเขาจะกลับไปใช้ชีวิตที่สุขสบายที่บ้านเกิดก็ยังได้ รายได้ก็ดีกว่าที่พักอาศัยก็สบายกว่า แต่ Wang ผู้เป็นภรรยาผู้มองโลกในแง่ดีก็บอกว่า “ความสุขไม่ใช่เรื่องเงิน แต่คือครอบครัวที่แสนอบอุ่นเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ลูกชายของฉันเองก็เป็นเด็กดี” สิ่งที่เธอต้องการเพียงอย่างเดียวคือให้ลูกจบการศึกษา มีการมีงานที่ดีทำ แค่นั้นเธอและสามีก็จะหมดห่วงกันได้ …
-
โรงน้ำชากับเส้นทางสุด “หฤโหด” บนยอดเขาหัวซาน ที่คุณต้องลงแรงขึ้นไปด้วยตัวเอง
หลายคนเวลาปีนเขาหรือขัยรถขึ้นดอยก็มักจะแวะจิบชากาแฟ สูดบรรยากาศอันแสนสดชื่นแบบสบายๆ แต่ถ้าหากว่ากลับกันบ้างเมื่อคุณต้องลงทุนลงแรงปีนขึ้นเขาไปเพื่อการกินชาเพียงถ้วยเดียว เพราะว่าร้านน้ำชาที่ประเทศจีนนั้นมีความไม่ธรรมดา ตรงที่ดันไปตั้งร้านอยู่บนยอดเขาอันสูงชัน โดยใช้พื้นที่ของวัดลัทธิเต๋าในสมัยก่อน อันห้อมล้อมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ หากว่าคุณต้องการจะไปจิบชาที่โรงน้ำชาแห่งยอดเขาหัวซาน มันจะไม่เป็นเรื่องง่ายเหมือนที่เราเจอกันทั่วไป อย่างที่บอกว่าที่ตั้งไปอยู่ซะสูงขนาดนั้น คุณก็ต้องออกแรงปีนขึ้นไปด้วยความยากลำบาก อย่าลืมว่ามีความเสี่ยงว่าอาจตกลงไปกลางทางก็ได้อีกนะ ในตอนแรกคุณก็จะได้ชมบรรยากาศโดยรอบอยู่ในกระเช้าลอยฟ้าที่จะพาคุณไปปล่อยเอาไว้ หลังจากนั้นที่เหลือคุณก็ต้องหาทางไปต่อกันเอง แต่เขาก็ยังมีอุปกรณ์ช่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซ่เหล็กเส้นไม่ใหญ่มากบวกกับไม้แผ่นเล็กๆ แถมรูเอาไว้สำหรับให้เท้าเหยียบ ถ้ากลัวความสูงก็คงไม่ได้ลิ้มลองรสน้ำชาแล้วล่ะ… และถ้าโชคยังเข้าข้างคุณอยู่ในที่สุดคุณก็จะได้มาเดินขึ้นบันไดซักที แต่หากคิดว่ามันชิลล์ละก็ บอกเลยว่าไม่เพราะบันไดที่ว่านี้มีความลาดชันมากที่สุดในโลก แต่ไม่ต้องกลัวเพราะยังมีราวจับไว้ช่วยพยุงตัวอยู่ แต่ก็ยังหวาดเสียวอยู่ดี… ราวจับหรือเชือกฟาง ซะเล็กเชียว สุดทางก็จะได้พบกับร้านน้ำชาแล้ว จงดื่มด่ำความสำเร็จไปกับชาสักถ้วยอย่างเต็มที่ เพราะว่าเมื่อคุณดื่มเสร็จแล้วก็ต้องรีบเดินลงกันซะหน่อย ไม่งั้นมีหวังฟ้าจะมืดเอาซะก่อนแล้วมันจะลำบาก หากใครอยากที่จะลดน้ำหนัก ออกกำลังกายได้แบบครบวงจรแล้วละก็ ขอแนะนำให้ได้ไปลองดื่มชาร้านนี้กันได้ที่เมืองหัวยิน ประเทศจีนเลย แต่อย่าลืมไปกันแต่เช้าด้วยนะเดี๋ยวไม่มีเวลาเพราะกว่าจะไปถึงร้านอาจปิดไปซะก่อน ที่มา: ranker
-
รวม 18 ข้อความบนเสื้อผ้า ที่เอ่อ…นั่นแหละ พวกคุณรู้กันใช่มั้ยว่า มันหมายถึงอะไรบ้าง?
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเรานอกจากจะมีลวดลายกันแล้ว สมัยนี้ก็ยังนิยมเป็นประโยคคำพูด คำคมต่างๆ เมื่อนำมาใส่แล้วก็จะเหมือนการแสดงจุดยืนดูดีไปอีกแบบ เหมือนกับที่เราจะได้เห็นในภาพเหล่านี้ เมื่อได้มีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า shanghaiobserved ตั้งใจรวมภาพถ่ายประสบการณ์ตลกๆ น่ารักๆ ของการใช้ชีวิตอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และเป็นเรื่องราวที่ทุกคนสามารถเข้าใจและเข้าถึงมันกันได้ และนี่ก็เป็นคอลเลคชั่นหนึ่งของเขา ในเรื่องของเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่มาพร้อมกับข้อความที่ชวนให้คุณคิดว่า นี่คนที่ใส่อยู่เขาจะได้อ่านและเข้าใจกับความหมายของมันกันบ้างมั้ยนะ? การตกแต่งเสื้อที่น่ารักกับข้อความเหมือนไปคนละทางกันเลยนะ อย่าใส่หมวกใบนี้บ่อยนะครับ เกรงว่าจะไม่ถึงวัยชรา ชีวิตมันก็คงจะแย่จริงๆ น่ะแหละ ถ้าเกิดว่าป่าวประกาศขนาดนี้ จะมีการเข้าไปถามว่า ‘เท่าไหร่’ เราควรจะทำดีกับใครต้องแยกให้ออกนะ นั่นน่ะสิ เขาเป็นใครกัน? พื้นหลังซะอย่างกับ VISA เขาจะต้องกลายเป็นคนที่ใช่ของใครสักคนแน่นอน ต้องรอ 20 ก่อนนะหนู… เป็นเสื้อคู่ที่ดูดีมีระดับ Just Do It คุณยายเป็นงี้แล้วคุณตาจะไม่หน้ามืดหรอ A B C D E…
-
เอาอีกแล้ว… จากหลอกจับหน้าอก ครั้งนี้หนุ่มจีนตีเนียนใช้หน้าซุกแทน อ้างเป็นแคมเปญบริจาค
จะเป็นยังไงถ้าหากว่ามีคนแปลกหน้า เข้ามาขอซุกหน้าอกของเรา เพื่อเป็นการบริจาคเงินให้กับการกุศล? จนเรื่องแบบนี้ก็กลายมาเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์ บนโลกออนไลน์ของประเทศจีน เมื่อบล๊อคเกอร์หนุ่มคนหนึ่งได้อัพคลิปวิดีโอวีรกรรมแผลงๆ ของเขาลงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ตระเวนออกไปทั่วเมือง พร้อมกับขอเอาหน้าซุกไปที่หน้าอกของสาวๆ และบอกพวกเธอว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการบริจาคเงินเพื่อการกุศล โดยจะนับเป็นจำนวนเงินบริจาคจากที่พวเธอยอมให้เขาเอาหน้าถูที่หน้าอกแล้ว ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้อ้างว่านี้คือหนึ่งในเคมเปญการระดมทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม โดยทุกๆ ครั้งที่เขาเอาหน้าถูหน้าอกผู้หญิงเป็นเวลา 5 วินาที เขาก็จะมอบเงินให้กับสภากาชาดของประเทศจีนเป็นจำนวน 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาทต่อครั้ง หญิงสาวที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จะต้องยอมโดนเอาหน้าถูกับหน้าอกนานถึง 5 วินาที อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ว่าถูกว่าจ้างมาหรือไม่ แต่ทว่ายังไม่มีการยืนยันจากสภากาชาดเกี่ยวกับเงินบริจาคก้อนดังกล่าวด้วย ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอ ที่เผยให้เห็นการกระทำอันไม่เหมาะสมของหนุ่มคนนี้ หนุ่มวัย 26 ปีผู้นี้ รู้จักกันในโลกออนไลน์ในชื่อว่า Xu โดยก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำคลิปวิดีโอในลักษณะคล้ายๆ กันมาแล้ว โดยในครั้งนั้นเขาได้ตระเวนออกไปในที่สาธารณะ เพื่อแสดงมายากลเพื่อหลอกจับหน้าอกของสาวๆ จากเหตุในครั้งนั้นทำให้เขาถูกจับขังเป็นเวลา 14 วัน และหลังจากที่พ้นการดำเนินคดี ชายหนุ่มได้ออกมากล่าวขอโทษพร้อมกับบอกว่าเขารู้สึกผิด ที่ไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงและไม่ได้ขออนุญาตเสียก่อน… แต่จากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist…
-
ทหารจีนกับอินเดียปะทะเดือดแถบชายแดนเทือกเขาหิมาลัย ด้วยการ “ปาหินใส่กัน” !??
ถ้าหากใครติดตามข่าวต่างประเทศกันอย่างต่อเนื่อง คงจะทราบข่าวเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนและอินเดียในบริเวณชายแดนใกล้กับเทือกเขาหิมาลัย ล่าสุดได้มีข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก เมื่อทหารของสองชาติได้ปะทะกันอย่างดุเดือด โดยมีก้อนหินเป็นอาวุธ!! จากการรายงานของสำนักข่าว Indian defense official รายงานว่าทหารจีนนั้นได้พยายามที่จะเข้ามาในเขตแดนของดังกล่าวจึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย จนเกิดสงครามลูกหินแบบย่อมๆ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นใกล้ๆ กับทะเลสาบ Pangong ซึ่งเป็นหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง Ladakh ประเทศอินเดีย “มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้น มีการขว้างปาก้อนหินมาจากทหารฝ่ายจีน แต่อย่างไรก็ตามไม่นานสถานะการณ์ดังกล่าวก็ถูกควบคุมไว้ได้” นายทหารท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว การกระทบกันครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ในระหว่างที่ทหารทั้งสองฝั่งกำลังฝึกซ้อมอยู่ใกล้ๆ กับฐานที่มั่นของตนเอง และนี่คือตำแหน่งของทะเลสาบดังกล่าว พื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ในรัฐชัมมูและกัศมีร์ของประเทศอินเดีย ซึ่งติดห่างจากชายแดนของประเทศจีนและอินเดียประมาณ 3,500 กิโลเมตร หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐกล่าวว่าการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ชาติที่ชายแดนนั้นเป็นหนึ่งของเส้นควบคุมแท้จริงหรือพรมแดงระหว่างสองประเทศนั่นเอง “เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงหน้าร้อน แต่ไม่มีการใช้อาวุธในการจ่อสู้กันแต่อย่างใด” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับผู้สื่อข่าว AFP การเผชิญหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีข้อพิพาทกันระหว่างจีนและอินเดียเกี่ยวกับพื้นที่ชายแดนบริเวณทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาหิมาลัยเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ “การใช้หินเป็นอาวุธนั้นดูเหมือนจะเป็นการพิพาทกันที่แปลกไปจากทุกครั้ง นี่อาจจะเป็ความพยายามในการกระตุ้นและเพิ่มความตึงเครียดโดยที่ไม่ใช้อาวุธก็ได้” เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมระหว่างนายทหารระดับสูงที่ดูแลขอบเขตชายแดนจากทั้งสองประเทศ และได้มีการหยิบประเด็นนี้มาพูดในที่ประชุมด้วย แต่อย่างไรก็ตามจากการรายงานของ The Express ทั้งสองฝ่ายยังคงยึดตามสนธิสัญญาเดิมและยังคงมีการฝึกกันต่อไป นอกจากนี้ทางสำนักข่าว The…