Tag: ชน

ในนครโซชี ประเทศรัสเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์คันหนึ่งพุ่งถลาขึ้นมาบนทางเท้าริมถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บอีก 5 รายด้วยกัน ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว Daily Mail ชายผู้เสียชีวิตเป็น ผู้สูงอายุวัย 63 ปีซึ่งเสียชีวิตทันที ณ จุดเกิดเหตุ ขณะเดียวกันผู้บาดเจ็บที่เป็นหญิง 2 คนอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน คนขับรถคันที่ก่ออุบัติเหตุยังชนเข้ากับรถอีกคันหนึ่งหลังชนผู้คนเดินเท้าเรียบร้อยแล้ว และภายในรถซึ่งประกอบไปด้วยคุณแม่และเด็ก แต่ไม่พบว่าได้รับบาดเจ็บใดๆ   รถพุ่งมาด้วยความเร็วสูง และตรงมายังทางเดินเท้าริมถนนที่มีผู้คนเดินอยู่   ภายหลังทราบว่าคนขับคือนาย Sergy Antonyan วัย 23 ปีที่กำลังปีนออกทางหน้าต่างเพื่อหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่ายังไม่มีสิ่งที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการก่อการร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานกับสื่อว่าคนขับได้เผลอหลับขณะขับรถ ทำให้พวงมาลัยเลี้ยวรถพุ่งมายังทางเท้าและชนเข้ากับผู้คนซึ่งเดินทางบนทางเท้านั้น     เมื่อสอบสวนคนขับรถที่ก่อเหตุดังกล่าว ได้ความว่าเขาจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ เขาเพียงรู้สึกว่าง่วงนอนมาก ก่อนหน้านี้เขารับงานเป็นคนขับรถแท็กซี่ซึ่ง ทำงานติดต่อกันโดยไม่ได้นอนหลับมา 2 วันแล้ว   คลิปวิดีโอด้านล่างมีภาพความรุนแรงควรใช้วิจารณญาณในการรับชม    จากวิดีโอจะเห็นได้ว่ารถคันดังกล่าวขับตัดข้ามทางเดินรถก่อนที่จะชนเข้าทางด้านหลังของผู้คนเดินเท้าที่กำลังเดินอยู่บนทางเดิน และชนประกบเข้ากับรถยนต์อีกคันจนเกิดโศกนาฎกรรมในที่สุด     ไม่มีคำเตือนใดๆ นอกจาก “ง่วงไม่ขับ”…

ต่างคนต่างมีความเชื่อเป็นของตัวเอง แต่สิ่งที่สำคัญคือเราต้องมีสติรับรู้ถึงความเป็นจริง และไม่ควรพาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายโดยที่ไม่จำเป็นเหมือนอย่างที่คุณแม่คนนี้ได้ทำ เมื่อเธอต้องการจะแสดงให้ลูกๆ ของเธอเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อของตัวเอง วันที่ 26 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ Oddity Central ได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนในเขต Gwinnett รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา เมื่อคุณแม่วัย 25 ปีที่ชื่อ Bakari Warren ตัดสินใจขับรถพาลูกน้อยทั้งสองคนของเธอพุ่งเข้าชนกับเสาคอนกรีตบริเวณสี่แยก   ภาพตอนที่รถวิ่งเข้าไปชนอย่างจัง   เจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดจึงรีบเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุในทันที พร้อมกับสอบถามถึงเหตุผลที่เธอขับเปลี่ยนเลนเข้าไปชนเสาคอนกรีตข้างทางอย่างจัง แล้ว Bakari ก็บอกกับตำรวจทุกคนว่า เธอขับรถพุ่งชนเสาเพราะต้องการจะแสดงให้ลูกๆ เห็นว่าพระเจ้ามีอยู่จริง และพระองค์จะปกป้องเราถ้าหากเรามีความเชื่อแบบนั้น คำให้การของเธออาจดูเหมือนคำแก้ตัวที่ไม่น่าเกิดขึ้นจริง แต่ลูกๆ ทั้งสองอายุ 5 ขวบและ 7 ขวบที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังก็ยืนยันว่า นั่นเป็นเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้แม่ของพวกเขาขับรถไปชน   Bakari คุณแม่ที่ขับรถพาลูกน้อยสองคนพุ่งชนเสาคอนกรีต   ลูกคนหนึ่งของเธอบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “นั่นคือเหตุผลของแม่จริงๆ เพราะเธอตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปหาเสาเอง ในตอนนั้นเธอปิดตาพร้อมกับพูดอะไรสักอย่าง บลาๆๆ และสิ้นสุดด้วยคำว่า ‘ฉันรักพระเจ้า’” โชคดีที่คุณแม่บอกให้เด็กๆ รัดเข็มขัดเอาไว้ก่อนตั้งแต่แรกจึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด…

อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะพบเห็นกันได้บ่อยนัก ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันแอบทำให้เสียดายสิ่งที่กระจัดกระจายออยู่อีกด้วย จะไม่ให้เสียดายได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่ระเนระนาดอยู่เต็มถนนในรัฐอาร์คันซอ ประเทศอเมริกา ทั้งหมดนั้นก็คือพิซซ่าแช่แข็งนับร้อยๆ ถาด     เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม รถบรรทุกที่ขนพิซซ่าแช่แข็งเอาไว้มากมายได้เกิดอุบัติเหตุจนทำเอาซะพิซซ่าในนั้นกระจัดกระจายออกมาเกลื่อนพื้นถนนไปหมด โดยทั้งหมดเป็นพิซซ่าที่มาจากร้าน Digiorno และ Tombstone     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็ทำให้การจราจรติดขัดไม่พอ แต่ยังต้องให้คนมากำจัดและทำความสะอาดพวกมันให้หายไปอย่างน่าเสียดาย โดยที่ไม่มีโอกาสได้ลงไปอยู่ในท้องใครเลย     กรมการขนส่งของรัฐได้ออกมาพูดอีกว่า “มันเต็มไปด้วยพิซซ่าแช่แข็งมากมายที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มถนน นี่มันเป็นโศกนาฏกรรมของพิซซ่าเหล่านั้น”   .   ลาก่อนเหล่าพิซซ่า ไม่ทันได้เข้าปากเราเจ้าก็ต้องจากโลกไปเสียแล้วช่างน่าเศร้าเสียจริง   ที่มา: buzzfeed

ใครที่กำลังกินข้าวอยู่หรือกำลังจะไปกินข้าว หรือกำลังนั่งทานอะไรอยู่หน้าคอมหรือหน้าโทรศัพท์มือถือ ขอให้ท่านวางของสิ่งนั้นลงก่อน เพราะข่าวนี้อาจทำให้อาหารของเท่าเสียรสชาติได้ (หรือทำให้อร่อยขึ้นกันแน่ ฮาา) เหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจเกิดขึ้นที่เมือง Toowoomba ในรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย เมื่อรถสิบแปดล้อที่บรรทุกของเสียหนัก 27 ตันมาเต็มลำรถ ต้องเบรกกะทันหันเนื่องจากมีรถคันหนึ่งพยายามพุ่งออกมา และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สิ่งปฏิกูลเหล่าเหล่าทะลักออกมาและกระจายออกมาเต็มถนน…     นี่คือสภาพของรถที่พุ่งออกมาตัดหน้า อาการบาดเจ็บทางร่างกายหรือความเสียหายทางคงไม่มี แต่อาการบาดเจ็บทางจิตใจคงฝังลึกไปอีกนาน   อวสานอาหารทุกมื้อ…   ใครอยากเห็นว่าคลิปเหตุการณ์เป็นอย่างไร ชมคลิปด้านล่างนี้ได้เลยนะฮะ ไม่อยากนึกสภาพและกลิ่นของรถคันที่ถูกอุนจิ “ทับ” ใส่เลยจริงๆ ล้างอาจจะยากไป แนะนำให้ซื้อใหม่น่าจะง่ายกว่า ฮาาาา ที่มา Buzzfeed

สำหรับคนที่เคยใช้รถใช้ถนนนั้น เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์การถูกตัดหน้าโดยสิ่งมีชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว เต่า งู หรืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละคนก็ตอบสนองต่อเหตุการณ์แตกต่างกันไป บางคนอาจหักหลบ บางคนอาจเบรก บางคนอาจตัดสินใจพุ่งชน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง   และยิ่งถ้าคุณขับรถแพงๆ ระดับสิบล้านอย่างยี่ห้อ Ferrari แล้วบังเอิญมีสุนัขตัวหนึ่งเดินตัดหน้า คุณจะทำอย่างไร? จะพุ่งชนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง!? หรือว่าจะหักหลบเพื่อช่วยชีวิตเจ้าหมาน้อย!? สำหรับคนขับเฟอร์รารี่สองคนนี้ เขาได้เลือกแล้ว และสิ่งที่เขาเลือก ก็กลายเป็นเสียงชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ตในทันที     เรื่องราวเกิดขึ้นบนท้องถนนในเมืองลี่เจียง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตามข่าวและผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ขณะที่รถหรูเฟอร์รารี่สองคันซึ่งจดทะเบียนจากเซี่ยงไฮ้กำลังขับอยู่นั้น ก็มีสุนัขน้อยตัวหนึ่งโชคร้ายเดินตัดหน้า เจ้าของเฟอร์รารี่มีทั้งสองมีเวลาเพียงชั่ววินาทีเท่านั้นที่จะตัดสินใจ ชนไปเลย หรือหักหลบมัน แต่เขาคิดว่าอย่างหลังน่าจะดีกว่า อย่างน้อยมันก็รอดตายได้ จึงหักหลบในทันที ทำให้รถทั้งสองคันพุ่งชนที่กั้นบนถนน จนรถเสียหายยับเยิน   . .   ซึ่งมีการประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรถและทรัพย์สินของทางการแล้ว มีมูลค่ากว่า 2 ล้านหยวนหรือราว 10 ล้านบาทเลยทีเดียว .   ที่น่าเศร้าคือ แม้จะมีความพยายามในการหักหลบ เจ้าหมาตัวนั้นก็ตายในอุบัติเหตุอยู่ดี อย่างไรก็ตามเจ้าของเฟอร์รารี่ก็ยังได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ต…

ที่ Omo Valley ทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย มีคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แม้กระทั่งแฟชั่นต่างๆ ก็ต้องเป็นสิ่งของจากธรรมชาติทั้งสิ้น ทั้งการตกแต่งผมและใบหน้า พวกเขาคือชนเผ่า Surma และ Mursi นำต้นไม้ต่างๆ มาทำเป็นสีเพื่อแต่งแต้มลงบนใบหน้าให้ออกมาสวยงามและแตกต่างกันออกไป Hans Silvester ช่างภาพชาวเยอรมัน ก็ได้ไปเก็บภาพเหล่านี้มาเพื่อให้เราได้เห็นความงามของมนุษย์และธรรมชาติที่อยู่ด้วยกัน เมื่อตอนที่เขาได้เข้าไปเยือนเป็นครั้งแรกนั้น เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นแฟชั่นการแต่งตัวที่เป็นของดั้งเดิมในที่แห่งนี้ เขาเลยตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมต่างๆ เราไปชมภาพของเขากันเลย   . . . . . . . .   ที่มา sobadsogood

ชีวิตเรานี้มันไม่มีอะไรที่สามารถคาดเดาได้เลย ในช่วงที่เราลำบากสุดๆ บางครั้งก็จะมีเรื่องราวร้ายๆ มาทำให้มันเลวร้ายกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้ยิ่งเป็นตัวที่ทำให้เราทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น เหมือนอย่างเรื่องราวนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อหนุ่มขับรถเก๋งอยู่ดีๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนที่ท้ายรถเขาอย่างจัง เป็นใครก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา   Sayd Omar Morales เจ้าของรถยนต์คันนี้กำลังขับรถอยู่ จู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งเข้าชนท้ายรถของเขาจนยุบ   และเมื่อเขาได้เห็นสภาพรถที่ถูกชน ก็โกรธขึ้นมา เพราะว่าไม่ใช่ความผิดของเขาเลย   แต่แล้วเขาก็ได้พบอะไรบางอย่าง และรู้ความจริงว่ามอเตอร์ไซค์ที่ล้มอยู่นั้นกำลังจะเอาข้าวไปให้ครอบครัวของเขา หลังจากสอบถามก็พบว่าเขาเป็นชาวประมงยากจนคนหนึ่ง และข้าวเหล่านี้ก็คือทุกอย่างสำหรับครอบครัว   และเมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ Morales ก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร พร้อมมอบเงินให้ชายชาวประมงไปซื้อข้าวคืนมา   จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เขาถึงกับหลั่งน้ำตา และเรื่องราวนี้ก็ถูกแชร์ไปอย่างมากในเฟซบุ๊กของเขา สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์ยังคงมีจิตใจที่ดีงาม พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ที่มา lifebuzz

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมื่อรถไฟคันหนึ่งกำลังพุ่งเข้าไปชนรถบรรทุกที่กำลังติดอยู่ตรงรางรถไฟ ทำให้คนขับรถไฟนั้นต้องรีบทำอะไรบางอย่าง     แต่ในตอนที่เกิดเหตุนั้น คนขับรถไฟ Mateusz Szymanski คุมสติแล้วทำการช่วยผู้โดยสายทุกคนเท่าที่จะทำได้ เขามีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนรถไฟจะพุ่งชนวิ่งไปบอกทุกคนในโบกี้ให้ทำการหาที่ยึด เผื่อว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลย   โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่รถไฟและรถบรรทุกก็ได้รับความเสียหายจากแรงกระแทก Mateusz คนขับรถไฟเล่าว่าเขาดึงสัญญาณเตือนแล้วก็รีบวิ่งไปบอกผู้โดยสารทุกคน ซึ่งตอนนั้นรถไฟวิ่งด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเมือง Wagrowiec สู่ Poznan ที่มา mirror

หลายคนคงทราบถึงอันตรายของการเล่นมือถือขณะขับรถอยู่ ซึ่งการขับรถนั้นต้องใช้สมาธิอย่างสูง ดังนั้นเราจะได้เห็นการณ์รงค์ทั้งง่วงไม่ขับ เมาไม่ขับ และตอนนี้มีการห้ามเล่นมือถือด้วย แต่คนมันจะเล่น อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้วล่ะ เหมือนอย่างหญิงสาว Christal McGee วัย 18 ปี ขณะที่เธอกำลังขับรถกลับจากที่ทำงานพร้อมกับเพื่อน ก็ได้นึกอยากจะเล่น Snapchat ซึ่งเป็นแอพฯโซเชียลที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ความต้องการของเธอก็คือการเซลฟี่ตอนขับรถอยู่ แต่ด้วยความที่เธอขับรถเร็วมาก และอยากจะอวดความเร็ว เพราะแอพฯ Snapchat มันจับความเร็วได้ ทำให้เธอขับเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนไปชนเข้ากับรถแท็กซี่ Uber อย่างจัง ซึ่งผู้ขับคือ Wentworth Maynard   รถของ McGee ชนเข้ากับรถของ Maynard ด้วยความเร็ว 107 ไมล์ต่อชั่วโมง   โชคยังดีที่เธอและเพื่อนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หัวของเธอแตกเพราะว่าไปชนกับของแข็ง และเพื่อนมีบาดแผลนิดหน่อย แต่สำหรับคนขับแท็กซี่ เขาได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 5 สัปดาห์   นอกจากนี้อุบัติเหตุยังมีผลกระทบต่อสมองของเขา ทำให้ต้องนั่งวีลแชร์ อีกทั้งยังทำให้สูญเสียความทรงจำ และมีปัญหาทางด้านการสื่อสารด้วย อุบัติเหตุครั้งนี้คงเป็นบทเรียนให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจากการประมาทครั้งนี้     ที่มา Washington Post

เรียกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ สำหรับประเทศจีนแห่งนี้ ไม่ว่าเรื่องราวจะน่าทึ่ง น่าถอนหายใจขนาดไหน พลเมืองชาวจีนก็พร้อมจะเนรมิตรให้เป็นจริง ล่าสุดมีคุณยายชาวจีนคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ข้างถนน ทันใดนั้นเองเธอก็ถูกรถของเล่นชนเข้าอย่างจัง…ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ รถของเล่นจริงๆ ซึ่งรถคันนั้นถูกเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบังคับอยู่     ทันทีที่เธอถูกรถชน เธอก็โทรเรียกรถพยาบาลทันที พร้อมจับ “รถของเล่น” คันดังกล่าวไว้ ราวกับพยายามไม่ให้หนีไปไหน จากนั้นเธอก็ถกเถียงกับแม่ของเด็กว่า เป็นความผิดของใครกันแน่ และพยายามเรียกค่าเสียหาย ซึ่งเมื่อคลิปเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์แบบฮาๆ กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เด็กคนนี้ขับรถบนทางเดินแถมไม่มีใบขับขี่อีก ต้องโดนดีแน่ๆ” “สงสัยคุณยายอยากได้ค่าทำขวัญเป็นลูกอม”   ลองไปชมวีดีโอกันดีกว่า   หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นการเนียนให้รถชนของคุณยายหรือเปล่า เพราะปัจจุบัน มีอัตราการตั้งใจพุ่งให้รถชนเพื่อเรียกค่าเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศจีน       แบบนี้ก็มีด้วย ประเทศจีนนี่มาเหนือความคาดหมายตลอด แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ลองแสดงความเห็นเข้ามานะเหมียว ที่มา Shanghaiist

จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลยล่ะ ยิ่งปัจจุบันนี้นวัตกรรมโดรนก็ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการถ่ายภาพ ถ่ายหนัง ถ่ายละคร ซึ้งก็ล้วนแล้วแต่เกิดประโยชน์ดีๆ ทั้งนั้น แต่ล่าสุดนี้ทางสำนักข่าว Metro ประเทศอังกฤษได้รายงานว่า เกือบเกิดเหตุเครื่องบินพุ่งชนโดรน เหนือน่านฟ้ากรุงลอนดอน หลังเครื่องบินกำลังจะลงจอด เคราะห์ดีที่ฉิวเฉียดไปราวๆ 20 เมตรเท่านั้น   เครื่องบินเกือบพุ่งชนโดรน   เที่ยวบิน Embraer 170 ขับเหนือน่านฟ้าลอนดอนราวๆ 600 เมตร ขณะที่บรรทุกผู้โดยสารกว่า 70 ชีวิต ซึ่งถ้าเครื่องบินชนเข้ากับโดรน อาจทำให้เกิดปัญหาขัดข้องได้ โฆษกของทาง UK Airprox Board ก็ได้ออกมากล่าวว่า ‘ขณะที่เครื่องบินกำลังเตรียมลงจอด และบินอยู่เหนือแม่น้ำเธมส์ราวๆ 600 เมตร ก็มีรายงานจากเฮลิคอปเตอร์แถบนั้นว่าให้ระวังวัตถุประหลาดคล้ายบอลลูนที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้า’   โดรนรบกวนการบิน   ‘…ซึ่งตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันเป็นลูกโป่ง หรืออะไรซักอย่าง แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นหุ่นโดรน โดยผ่านเข้ามาทางด้านซ้ายของเครื่องบิน ห่างไปเพียงราวๆ 20 เมตรเท่านั้น จนผู้โดยสารก็สามารถสังเกตเห็นได้’ โฆษกกล่าว สำหรับตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุตัวเจ้าของหุ่นโดรนได้ แต่กระนั้นทาง UK Airprox Board ก็ได้แจ้งดำเนินคดีเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

ถือเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญกันไปทั้งโลกเมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อนการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมา 14 ปีแล้ว นี่คือภาพสายรุ้งที่งดงามที่ปรากฏขึ้นเหนือตึก World Trade Center โดยที่ภาพนี้ถ่ายโดย Ben Sturner วัย 39 ปี เขาเป็นผู้อยู่อาศัยในย่าน Queens และเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Leverage Agency ในแมนฮัตตัน เขาถ่ายภาพสายรุ้งนี้ได้ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีก่อนที่จะไปทำงาน เขากล่าวกับ The Oregonian ว่า “ผมโชคดีที่มีอพาร์ตเม้นต์ที่มีระเบียง ในตอนเช้าผมก็เลยออกไปตรงนั้นและเห็นสายรุ้งเช้า ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือยังไง แต่มันคือวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ 9/11”   ที่มา  oregonlive