Tag: ชายฝั่ง
-
ชาวประมงทำการผ่าท้องปลา พบ ‘เศษซากอารยธรรม’ จากมนุษย์ มีทั้งพลาสติก หวี และไฟแช็ก
ในทุกวันนี้ธรรมชาติถูกมนุษย์ทำลายแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญของทางด้านตัวเมืองเขตที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังกัดกินพื้นที่ของสัตว์และผืนป่าอย่างช้าๆ ยังไม่รวมไปถึงปัญหาทางด้านมลพิษและขยะที่ตามมาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากผืนดินแล้ว ผืนน้ำทางธรรมชาติก็กำลังถูกรุกรานอย่างหนัก แม้จะมีการสร้างแคมเปญรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติมากแค่ไหน แต่จิตสำนึกของผู้คนก็ยังไม่พัฒนาไปตามกระแสโลกอยู่ดี… *ภาพภายในเนื้อหาอาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้* อย่างในกรณีของภาพฟุตเทจจากชาวประมงรายหนึ่ง จากชายฝั่งของประเทศคอสตาริกา ที่ได้ทำการจับปลาอีโต้มอญขึ้นเรือมา (ชื่อท้องถิ่น Mahi-Mahi) และสังเกตเห็นว่าอาการของปลานั้นดูไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงทำการผ่าเพื่อดูท้องข้างในของมัน หน้าตาของปลาอีโต้มอญ (Dolphinfish หรือ Mahi-Mahi) และสิ่งที่เขาเห็นอยู่ภายในท้องของปลาตัวนี้ กลับกลายเป็นเศษขยะจากฝีมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษฝาขวดพลาสติก เศษชิ้นส่วนถ้วยพลาสติก หวี ไฟแช็ก และเศษพลาสติกเล็กๆ น้อยๆ อีกหลากหลายชิ้น ด้วยจำนวนขยะภายในท้องของปลาที่มากขนาดนี้ จึงเป็นเหตุทำให้ระบบร่างกายของปลามีความบกพร่อง และด้วยเหตุที่ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของชาวประมงบนเกาะ ก็ยิ่งส่งผลทำให้นักอนุรักษ์ต้องเร่งทำการรณรงค์เป็นการด่วน คลิปการผ่าท้องปลาตัวดังกล่าว เผยให้เห็นถึงเศษขยะที่ถูกทิ้งลงในทะเลกลับกลายเป็นอาหารคร่าชีวิตปลา ทางด้าน Erick Ross นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้อธิบายไว้ว่า ปลามักจะมีความสับสนระหว่างอาหารที่พวกมันกินได้กับชิ้นส่วนพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ก่อนที่จะทำการกลืนกินเข้าไปในร่างกาย “ชิ้นส่วนพลาสติกเหล่านี้จะไม่ได้รับการย่อยสลายภายในท้องของปลา และจะทำการขัดขวางการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้พวกมันไม่สามารถกินอาหารได้อีก…
-
ประหลาดใจกันทั้งหมู่บ้าน เมื่อท่อขนาดมหึมายาวกว่า 400 เมตรลอยมาเกยฝั่งเกาะอังกฤษ!!
เวลาไปเที่ยวทะเลในบางครั้งเราอาจต้องเจอกับเศษขยะหรือมีสิ่งของลอยตามน้ำมาเกยฝั่งอยู่ คุณก็คงจะคิดว่ามันดูสกปรกและไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย แต่เจ้าสิ่งที่ต้องเห็นในครั้งนี้จะไม่ได้เกิดความคิดแบบนั้นขึ้นมาก่อนเลย หากแต่จะคิดกันว่านี่มันคืออะไรกันเนี่ย? เพราะสิ่งที่มาเกยตื้นบนชายฝั่งประเทศอังกฤษนั้น เป็นท่อพลาสติกขนาดยักษ์ที่ลอยตามน้ำมา ด้วยขนาดกว้าง 2 เมตรกว่าและยาวกว่า 450 เมตร ขนาดที่ว่าไปนั้นคือขนาดที่ใหญ่ที่สุดของท่อทั้ง 4 ที่ลอยมาใกล้กับชายฝั่งระหว่างสองหมู่บ้านในมณฑล Norfolk และท่อที่มีขนาดที่เล็กที่สุดนั้นจะอยู่ที่ความยาวประมาณ 200 เมตรซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะอยู่ดี . หากว่าเริ่มสงสัยกันบ้างแล้วว่าท่อเหล่านี้นั้นมันมาจากไหน มันก็คือท่อที่หลุดมาจากตอนลากไปสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศแอลจีเรีย และชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกผลิดขึ้นโดยโรงงานในนอร์เวย์ โดยทั้งหมดที่หลุดมานั้นมีอยู่ทั้งสิ้น 12 ท่อด้วยกันหากแต่ว่าอีก 8 ส่วนได้รับการดูแลและควบคุมเอาไว้บริเวณนอกชายฝั่งเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีหรือสารพิษเพราะว่า ทั้งหมดออกมาจากโรงงานโดยปราศจากความอันตรายและยังไม่ได้ถูกใช้งานแต่อย่างใด นอกเสียจากจะไปเดินเล่นบนนั้นแล้วตกลงมาซะเอง ท้ายที่สุดแล้วท่อเหล่านี้จะถูกกู้คืนเพื่อส่งไปยังจุดซ่อมแซมนอกชายฝั่ง เพื่อเตรียมพร้อมส่งกลับไปให้กับโรงงานนผู้ผลิต ดังนั้นจึงต้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้าไปวุ่นวายบริเวณนั้นเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ . ถึงแม้จะดูไร้ข้อกังวลแต่ก็ยังคงเป็นที่น่าตกใจ ท่อขนาดยักษ์ลอยน้ำมาขนาดนั้น ถ้าใครได้เห็นก็คงต้องช็อคเวลาที่มันใกล้เราเข้ามาเรื่อยๆ แล้วล่ะนะ ที่มา: dailymail
-
ฝูงกุ้งเคยนับล้าน ถูกพัดเข้าสู่ชายฝั่งจนกลายเป็นสีแดงฉาน สร้างความตื่นตาให้กับผู้ที่ได้พบเห็น
หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าภาพทะเลสีแดงที่เราได้นำมาชมในครั้งนี้ คืออะไร ดูไกลๆ คงจะคิดว่ามันเป็นทะเลสีเลือด แต่ความจริงแล้ว ถ้ามองดีๆ มันคือฝูงกุ้งเคยนับล้านตัวที่ถูกน้ำทะเลพัดเข้ามาสู่ฝั่งนั่นเอง ซึ่งกุ้งเคยเหล่านี้ เป็นเคยพันธุ์ Munida gregaria เป็นกุ้งที่มีขนาดเล็กเท่ากับคลิปหนีบกระดาษ ดังนั้นมันจึงถูกเรียกอีกชื่อว่า ‘ล็อบสเตอร์จิ๋ว’ 0.0 มันเยอะมากจริงๆ และภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายขึ้นมาโดย Paul Van Kampen ชาวนิวซีแลนด์ ที่กำลังปั่นจักรยานไปตามทางเลียบชายหาด แล้วบังเอิญพบว่าน้ำทะเลที่หาดโอตาโก้ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้กลายเป็นสีแดงราวกับเลือดยังไงละเหมียว พวกนกนางนวลพากันมากินกุ้งบุฟเฟ่ต์ ที่ขึ้นมาตายเกยตื้นอยู่บนฝั่ง และดูเหมือนพวกมันจะชอบกุ้งเคยมากๆ เลย ฝูงกุ้งเคยจำนวนมากถูกพัดเข้ามาในฝั่ง ทำให้น้ำทะเลในบริเวณนั้นดูแปลกออกไป เพราะมันมีสีเดงสดใสแบบนี้ยังไงละ… นอกจากนี้ Paul ยังได้บอกกับสื่ออีกว่า ‘ส่วนใหญ่กุ้งเคยที่ถูกพัดเข้ามาในฝั่ง มันตายและเริ่มเน่าแล้ว ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นในบริเวณนั้นมากๆ แต่อีกไม่นานเขาคิดว่าน้ำคงจะพัดมันไปสู่อ่าวอื่น’ เรียกได้ว่ามันเป็นภาพที่สวยงาม และไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ เลยนะเนี่ย ที่มา : dailymail
-
หนุ่มนักดำน้ำตกใจเห็นฉลามเข้าใกล้ ใช้ฉมวกแทงจนตาย แต่ชาวเน็ตหลายคนไม่เห็นด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่ได้สร้างความสลดใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก สำหรับคลิปวีดีโอของ 2 หนุ่มนักดำน้ำชาวออสซี่ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางฝูงฉลามคอปเปอร์นอกชายฝั่งควีนส์แลนด์ ซึ่งในขณะที่ทั้งคู่กำลังว่ายน้ำอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้มีฉลามตัวหนึ่งได้ว่ายน้ำเข้ามาใกล้พวกเข้าเรื่อยๆ เมื่อพวกเขารู้ตัวว่ามันว่ายน้ำเข้ามาใกล้จนเกินไป จึงทำให้ชายหนึ่งในนั้นตกใจกลัวสุดขีด และเขาก็ได้ใช้ฉมวกอันคมกริบที่อยู่ในมือ แทงเข้าไปในลำตัวของเจ้าฉลามผู้โชคร้ายทันที เจ้าฉลามคอปเปอร์ถูกแทงเข้าที่ลำตัวอย่างจัง มันกำลังหยุดชะงัก และดูเหมือนมันได้ขาดใจตาย ก่อนที่ตัวของมันจะจมดิ่งลงสู่ท้องทะเล ทางด้านชาวเน็ตที่ได้รับชมคลิปวีดีโอดังกล่าว ต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งชาวเน็ตฝ่ายที่ไม่พอใจกับการกระทำที่ไม่ยั้งคิดยั้งทำของหนุ่มนักดำน้ำได้แสดงความเห็นว่า ‘เขาตั้งใจฆ่ามันชัดๆ เพราะดูยังไงฉลามตัวนี้ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเข้ามาทำร้ายพวกเขาเลย มันแค่อยากรู้อยากเห็น เลยว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ เท่านั้น’ บ้างก็บอกว่า ‘ในท้องทะเลเป็นพื้นที่ของพวกสัตว์น้ำอย่างฉลาม มนุษย์ต่างหากที่รุกล้ำพื้นที่ของพวกมัน แถมยังไปฆ่ามันอีก’ ในขณะที่ชาวเน็ตอีกฝ่ายหนึ่งกลับเห็นว่า ‘การที่หนุ่มคนนี้ได้ตัดสินใจแทงฉลามตัวนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะมันคือการป้องกันตัว’ เราลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย ที่มา : mirror