Tag: ชายหนุ่ม
-
หนุ่มโดนบอกเลิก หลังมอบเงินกว่า 200,000 บาท ให้แฟนสาวไป ‘ทำนม’ เป็นของขวัญวันเกิด
ความรักและการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนอาจเป็นเรื่องยาก แต่ที่ยากกว่าคือการรักษาความสัมพันธ์นั้นเอาไว้ให้นาน เพราะบางครั้งสิ่งที่เราทำไปด้วยความหวังดีก็อาจกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับอีกฝ่าย เช่นเดียวกันกับการกระทำของชายคนนี้ เขาคนนั้นมีชื่อว่า Erik วัย 32 ปี ชายผู้อาศัยอยู่ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาคือหนึ่งในผู้ร่วมรายการ Back With The Ex เพื่อหวังที่จะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าของเขา Lauren Erik ชายผู้ต้องการกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ทั้งสองให้สัมภาษณ์กับทางรายการว่าเลิกรากันมาแล้วถึง 6 ครั้งด้วยกัน โดย Lauren บอกว่า “ฉันรัก Erik มากและรักเขามาตลอด ฉันพยายามจะคิดว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” Lauren ได้พูดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เธอมองว่าอีกฝ่ายยังคงมีความคิดแบบเด็กๆ แถมยังเป็นเหมือนกับการบังคับควบคุมเธออีกต่างหาก นั่นคือตอนที่ Erik มอบของขวัญวันเกิดให้กับเธอ Lauren แฟนเก่าของ Erik เธอเล่าว่า “มีอยู่ปีหนึ่ง เขามอบของขวัญวันเกิดให้กับฉันเป็นซองจดหมายที่ข้างในมีเช็คเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท พร้อมกับโบรชัวร์การศัลยกรรมเสริมเต้านม” ของขวัญวันเกิดชิ้นนั้นทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่โอเค ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทั้งคู่ไม่เคยคุยเกี่ยวกับเรื่องการเสริมเต้านมมาก่อนเลย ตัวเธอจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและอาจคิดว่าเขากำลังดูถูกเธออยู่ ก่อนที่จะตัดสินใจบอกเลิกเขาไป ขณะเดียวกัน ฝ่ายชายมองว่าของขวัญดังกล่าวก็ดีอยู่แล้วและคิดว่าเธอมองมันในแง่ลบมากจนเกินไป…
-
วันวานยังหวานอยู่.. เมื่อชายหนุ่มนำรูปสุดคลาสสิกมาปะติดปะต่อกับความจริงในปัจจุบัน
ช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโตของเราคงจะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ ที่เราสามารถย้อนกลับไปหามันได้ทุกครั้งที่นึกถึงหรือมีโอกาสเห็นภาพต่างๆ ที่เคยบันทึกเก็บเอาไว้ แต่สำหรับนักศึกษาหนุ่ม Sam Joyce เขากลับมีไอเดียที่ช่วยให้เขาสามารถย้อนกลับไปดูอดีตได้ชัดเจนมากกว่าเดิม หนุ่มวัย 22 ปีคนนี้ได้นำรูปภาพเก่าเก็บภายในบ้านของครอบครัวมาปะติดปะต่อกับความเป็นจริงในปัจจุบัน ทำให้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และความทรงจำในวัยเด็กของเขาและแม่ Sam ช่างภาพหนุ่มและคุณพ่อ คุณแม่ของเขา การนำอดีตมาปะติดปะต่อให้เข้ากับปัจจุบัน โดยในภาพคือตอนงานเฉลิมฉลองวัน May Day ในปี 2004 ที่จัดขึ้นในสถานที่เดียวกัน นี่เป็นโปรเจกต์ของเขาที่กำลังศึกษาอยู่เอกศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัย Northamton ประเทศอังกฤษ โดยเขากลับไปรื้อเอารูปเก่าๆ ของตัวเองและครอบครัว ซึ่งบางภาพนั้นมีอายุมากกว่า 40 ปี ก่อนที่จะนำมันมาประกอบเข้ากับสถานที่เดิมที่เคยถ่ายภาพนั้นเอาไว้ ภายในเมือง Woodford บ้านเกิดของเขาและแม่ ผลงานของเขาจึงเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนเขายังตัวเล็กๆ รวมถึงคุณแม่ที่อาศัยมาตั้งแต่เกิดเช่นเดียวกัน เมืองแห่งนี้เลยกลายเป็นความทรงจำอันมีค่าของเขาและครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต แม่ของเขาในสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก . การเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่นที่เราเห็นภายในภาพ มีทั้งบางอย่างที่เปลี่ยนไปและยังคงเดิม แต่สำหรับ Sam แล้วเมืองนี้แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยในสายตาของเขา แม่ของเขาที่กำลังนั่งอยู่บนรถคันแรกของเธอ…
-
ทหารผ่านศึกผู้สูญเสียแขนขาจากสงคราม บอกภรรยาให้ทิ้งเขาไป แต่เธอยินดีที่จะอยู่ดูแลเขา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 2012 การสู้รบที่ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้ชีวิตของ Travis Mills นายทหารหนุ่มจากกองทัพสหรัฐต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนั้น นายทหารหนุ่มบังเอิญเหยียบโดนกับระเบิด อาวุธร้ายจากฝ่ายข้าศึกทำให้แขนและขาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งวันหลังจากเหตุสะเทือนใจ Kelsey ภรรยาของเขาได้เซ็นยินยอมให้แพทย์ตัดแขนและขาของสามีเธอเพื่อยื้อชีวิตเขาไว้ การสูญเสียอวัยวะจากสงคราม ทำให้เขามองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า Travis ไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบชีวิตครอบครัวได้อย่างไร ในเมื่อร่างกายที่เคยแข็งแรงของเขา ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว การขอร้องให้ภรรยาพาลูกน้อยวัยแบเบาะ ทิ้งเขาไปดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่นายทหารหนุ่มผู้นี้คิดออก แต่เมื่อเขาบอกความคิดนี้ให้กับภรรยา เธอกลับเลือกที่จะยอมอยู่ข้างๆ เขา “คุณควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ผมไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว” นายทหารผ่านศึกพูดกับภรรยาของเขา “ใช่ ฉันก็คิดอยู่ แต่เป็นเรื่องที่จอดรถสำหรับผู้พิการนะ” ฝ่ายหญิงแกล้งหยอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเขาไปไหนเลย กำลังใจจากคนในคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งทำให้นายทหารผ่านศึกผู้นี้มีกกำลังใจที่จะสู้ต่อ แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดนั่นก็คือความรักจากภรรยาและลูกสาวของเขานั่นเอง “เมื่อผมมองมาที่ภรรยาและลูกสาวของผม ผมคิดกับตัวเองว่า เมื่อพวกเขายอมที่จะอยู่ข้างผมแล้ว ผมจะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งเดียวที่มีค่ามากที่สุดสำหรับภรรยาของผม” หลังจากที่เริ่มทำกายภาพบำบัด และติดตั้งแขนขาเทียม Travis ก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้เป็นไปไม่ได้ เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับอวัยวะใหม่ “ผมหัดเดิน ขับรถ และฝึกทำทุกๆ อย่างที่พอทำได้ “ การฝึกฝนผ่านไปเรื่อยๆ…
-
มาอีกคน… มนุษย์ผู้อ้างตัวมาจากปี 8973 เล่าเรื่องราวให้ฟังถึงโลกอนาคต พร้อมภาพหลักฐาน!?
ในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากระแสการการเดินทางข้ามเวลานั้นจะค่อนข้างได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ ที่มักจะออกมาอ้างว่าพวกเขาน่ะมาจากโลกอดีตนะจ๊ะ พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เราสามารถหาอ่านได้ในหนังสือประวัติศาสตร์ให้ฟัง แต่ทว่าสำหรับหนุ่มกลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป หลังจากที่เขาได้อัดคลิปวิดีโออธิบายว่าตัวเขานั้นเดินทางมาจากโลกอนาคต พร้อมกับเล่าเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 8973 ในฟังอีกด้วย William Taylor เริ่มต้นแนะนำตัวเขา พร้อมกับอ้างว่าขณะนี้เขากำลังทำงานในฐานะหน่วยข่าวกรองให้กับรัฐบาลอังกฤษ และตัวเขาจำเป็นต้องออกมาเปิดเผยความจริงบางอย่างให้ทุกคนรู้ “ในโลกอนาคตนั้นจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากๆ ซึ่งมันสามารถเค้นความลับของคุณได้ มีการวางแผนที่จะใช้เจ้าสิ่งนี้กับประชาชน พวกเขาอาจจะตามหาผมหลังจากที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ แต่ผมยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อบอกความจริงกับคุณเพื่อหวังว่าบางอย่างจะเปลี่ยนแปลง” ชายหนุ่มกล่าว นอกจากนี้เขายังได้เตือนชาวโลกปัจจุบันตาดำๆ ที่ยังทำตัวตามสบายโดยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองอีกว่า “พวกแกน่ะกำลังถูกปรากฏการณ์ Mandela Effect ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ และคิดว่าการเดินทางข้ามเวลาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อันที่จริงแล้ว การเดินทางข้ามมิติเวลานั้นถูกคิดค้นสำเร็จมาตั้งแต่เมื่อปี 1981 แล้ว และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเครื่องมือที่ไม่เพียงแค่เดินทางข้ามเวลาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เราเดินทางไปยังจักวาลต่างๆ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนได้อีกด้วย” และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เขายังอ้างอีกว่าตัวเองเคยเดินทางไปยังปี 3000 มาแล้ว ซึ่งในอนาคตข้างหน้านั้นมนุษย์เราจะอาศัยอยู่ใต้น้ำ ส่วนในปี 8973 นั้นโลกเราจะเต็มไปด้วยหมอกควัน และมนุษย์เราจะใช้การเดินทางบนอากาศแทน “ในปี 8973 นั้น รัฐบาลอังกฤษมีความคิดว่ามนุษย์และเครื่องจักรสามารถรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้” ชายหนุ่มกล่าว และสำหรับใครที่อยากฟังเรื่องราวของโลกจากปี 8973 แบบเต็มๆ…
-
ชายหนุ่มที่เปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงได้เหมือนมาก ถึงขนาดประกวดสาวงามจนเข้ารอบสุดท้าย
กลายเป็นเรื่องฮือฮาสำหรับกองประกวด Miss Virtual Kazakhstan หลังจากที่พวกเขาพบว่าผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรายหนึ่ง ไม่ใช่หญิงสาวแต่หลายเป็นหนุ่มวัย 22 ปีไปได้ซะนี่!! จุดเริ่มต้นของการเข้าประกวดนางงานของ Eli Diaghilev นายแแบบหนุ่มวัย 22 ปีชาวคาซัคสถานรายนี้ เกิดขึ้นจากความคิดของเขาที่ว่าปัจจุบันความงามแบบผู้หญิงสมัยก่อนนั้นค่อนข้างหาได้ยาก เพียงแค่แต่งหน้าทำผม และหาแอปแต่งรูปดีๆ แค่นี้ก็ทำให้พวกเธอสวยได้แล้ว ซึ่งผู้ชายเองก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน Diaghilev จึงตัดสินใจที่จะแปลงโฉมตัวเองให้กลายเป็น Arina Aliyeva เพื่อเข้าประกวดนางงานในครั้งนี้ Diaghilev เริ่มโพสต์ภาพของเขาในชื่อของ Arina Aliyeva ลงบนโลกออนไลน์ เขาเฝ้ารอดูกระแสตอบรับจากชาวเน็ตที่มีต่อความงามของนางแบบสาวที่เขาปลอมตัว และดูเหมือนว่าการแปลงโฉมของชายหนุ่มครั้งนี้จะได้ผลเกินคาด เมื่อเขาสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการประกวด Miss Virtual Kazakhstan ได้ แต่ทว่าหลังจากที่มีการประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้าย Diaghilev ก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นความจริงว่า ตัวเขาเองนั้นเป็นผู้ชายที่ปลอมตัวมา ชายหนุ่มอธิบายถึงที่มาของการเข้าประกวดครั้งนี้ว่า สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้าประกวดนั่นก็คือ มันเป็นวิธีที่จะทำหญิงสาวสามารถเผยความงามของพวกเธอออกมาได้ และเขาหวังว่าเรื่องราวของเขาเองจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย “ผมรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้เห็นปฏิกิริยาของผู้คนในคาซัคสถานและได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ คน ผมไม่ได้ตังใจจะหลอกลวงผู้คน แต่ผมอยากทำให้พวกเขารู้ว่าความสวยงามพื้นฐานนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เป็นธรรมชาติและสิ่งที่พวกเขาเป็นต่างหาก” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ แน่นอนว่าหลังจากที่ชายหนุ่มได้สารภาพว่าจริงๆ แล้วเขาคือผู้ชายที่ปลอมตัวมา ทางกองประกวดก็ได้ตัดชื่อของเขาออกและนำผู้เข้าประกวดคนอื่นเข้ามาแทนในตำแหน่งของเขา และการเข้าร่วมการประกวดของเขาครั้งนี้ก็อาจจะทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งข้อสงสัยกันว่า ความสวยงามที่แท้จริงของผู้หญิงคือตรงไหนกันแน่? ที่มา odditycentral
-
หนุ่มทดลองหลับวันละประมาณ 4 ชั่วโมง ตามเหล่าอัจฉริยะ ด้วยการนอนแบบ Polyphasic!!
พวกเราส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า เราควรจะต้องนอนหลับให้ได้อย่างต่ำ 6-8 ชั่วโมงเพื่อการพักผ่อนที่เพียงพอ แต่เราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนว่าอัจฉริยะหลายๆ คนที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น Leonardo Da Vinci หรือ Nikola Tesla นั้นใช้เวลาในการนอนต่อวันแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้หนุ่มนักเขียนในเว็บไซต์ Bright Side ตัดสินใจลองนอนหลับเหมือนอย่างอัจฉริยะเหล่านั้นดูบ้าง เพื่อต้องการทราบว่าสุดท้ายแล้วมันจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายและสมองมากขนาดไหน Da Vinci หนึ่งในอัจฉริยะที่บอกว่าตนเองนอนแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน การนอนหลับของเหล่าอัจฉริยะนั้นถูกเรียกว่าการนอนหลับแบบ Polyphasic หรือการแบ่งให้ตัวเองนอนหลายๆ ครั้งต่อวัน ชายหนุ่มจึงแบ่งเวลาการนอนของตัวเองเป็น 3 ครั้ง นั่นคือการนอนตอนกลางคืนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ตี 1 ครึ่ง ถึงตี 5 ครึ่ง จากนั้นก็จะนอนพัก 25 นาทีตอนช่วงหลังอาหารกลางวัน และหลังจากการทำงานกลับมาบ้าน ชายหนุ่มเริ่มต้นแผนการนอนหลับของตัวเอง โดยเขาจำเป็นต้องพกที่อุดหูและผ้าปิดตาไปทำงานด้วย เพื่อใช้ในการบังคับให้ตัวเองนอนหลับตอนหลังกินข้าวกลางวันไป ซึ่งเขาก็เคยถูกเตือนมาแล้วว่าการวางแผนในครั้งนี้จะทำให้เขาต้องตกอยู่ใน “ภาวะซอมบี้” ซัก 2…
-
หนุ่มเปิดแชมเปญราคาล้านกว่าบาท เตรียมฉลอง แต่ดั๊นนนนตกแตกซะก่อน อดเบย T T
แชมเปญ เครื่องดื่มที่มักจะถูกนำมาใช้ในการเฉลิมฉลองอยู่บ่อยครั้ง อย่างที่เราเคยเห็นกันในการแข่งจักรยานทางไกล หรือการแข่งรถสูตร 1 นั่นเอง และอย่างที่เราพอจะทราบกันดีว่า ราคาของเจ้าเครื่องดื่มแห่งชัยชนะและการเฉลิมฉลองนี้ก็ไม่ได้มีราคาถูกๆ เลย บางขวดอาจมีราคาสูงถึง 1.3 ล้านบาทเลยก็ได้!! เพราะฉะนั้นล่ะก็ ถ้าคุณเกิดทำมันตกแตกอาจจะเกิดอาการเหวอ แบบหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ นี่คือที่มาของคำว่า “ลาบคว่ำ” คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 14 วินาทีเผยให้เห็นหายนะของหนุ่มชุดสูท ที่กำลังจะเปิดแชมเปญราคาเกือบล้านเพื่อฉลองในผับดังแห่งหนึ่ง ผู้คนมากมายต่างจับจ้องไปที่เขาพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเป็นสักขีพยานในจังหวะที่ฟองของเจ้าแชมเปญขวดนี้โพยพุ่งออกมา สาวๆ หลายคนที่กำลังรอคอยจะได้ชิมเครื่องดื่มราคาแพงขวดนี้ต่างพากันส่งเสียงเชียร์ดังก้องยิ่งกว่าตอนที่พวกเธอเจอดาราหนุ่มในดวงใจ แต่ทว่า…. เอาล่ะน้าาา ผมจะเปิดแล้วนะสาวๆ !! งานนนี้ไม่รู้ว่าพ่อหนุ่มหน้ามนคนมีหนวดของเราแก่มากเกินไป หรือว่าเพิ่งเคยเปิดแชมเปญขวดใหญ่เป็นครั้งแรก เขากลับทำความฝันความหวังของแฟนคลับที่ตั้งตารอมากว่า 10 วิหล่นลงกับพื้นซะนี่ เจ้าจุกก๊อกที่อุดปากขวดแชมเปญดูเหมือนจะไม่เป็นใจกับชายหนุ่ม เขาพยายามงัดและดึงอยู่นาน จนในที่สุด… ของเหลวในขวดที่มีราคาล้านกว่าบาทก็หล่นลงกระทบกับพื้นร้านตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทึ้งให้พี่เคราดกของเราได้แต่อ้าปากค้าง 1… 2… โพล๊ะ!! ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับชายคนนี้ และนี่อาจจะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำสำหรับเขาไม่น้อย ไปชมวินาทีแห่งความหายนะได้กันที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา indy100
-
เรื่องราวของ Luke Eilers ชายผู้ไม่ “ชิ๊กวิ่ว” มาเป็นเวลากว่า 400 วัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง!!
คำนิยามสำหรับการช่วยตัวเองนั้นอาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นชกท้อง ซ้อมน้องชาย ชักว่าว หรือปั๊ดว๊อง ก็ตาม แต่อย่างหนึ่งที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลยนั่นก็คือคุณจะต้องเคยหาความสุขด้วยตัวเองอย่างน้อยๆ สักอาทิตย์ละครั้งแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้การหาความสุขจากการช่วยตัวเองนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาเลือก เพราะ Luke Eilers ได้หย่าขาดจากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมานานกว่า 400 วันแล้ว!! กระแสการงดช่วยตัวเองนี้กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ตของต่างประเทศ หลังจากที่มีการเผยผลจากงานวิจัยจากประเทศจีนที่ระบุว่า การละเว้นจากการฆ่าอสุจินั้นจะสามารถช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายให้คุณได้มากถึง 45 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว คุณ Luke Eilers ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ โดยเขาไดให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้ตัวเขาเองก็เป็นคนที่เสพติดหนังโป๊มากที่สุดคนหนึ่ง แต่เขาได้ตัดสินใจเลิกเพราะว่ามันทำให้เขารู้สึกแย่และและไม่มีแรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต “มันเหมือนกับว่าผมได้รับแรงกระตุ้น ความมั่นใจ และเรี่ยวแรงมากขึ้น หลังจากที่หยุดมานานกว่า 400 วัน มีหลายๆ คนคอยให้กำลังใจและช่วยผมสำหรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต” Luke Eilers ให้สัมภาษณ์ บทสัมภาษณ์ของ Luke แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะหยุดช่วยตัวเองและดูหนังผู้ใหญ่แล้ว Luke ก็ยังคงมีเซ็กส์ตามปรกติ พร้อมกับบอกว่าการถึงจุดสุดยอดกับคู่รักนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามีสุขภาพดี และนอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่าการงดช่วยตัวเองนั้นมันยังทำให้เขาทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รักได้นานขึ้นอีกด้วย และตอนนี้เขากำลังเขียนเขียนเรื่องราวดีๆ เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่กำลังเสพติดหนังโป๊ มีภาวะซึมเศร้า หรือหมกมุ่นกับเรื่องเพศอยู่ ตอนนี้กิจกรรมงดตำมีผู้สนใจติดตามมากว่า 285,000 คนแล้ว และมีผู้คนอีกมากมายที่เข้ามาแบ่งปันเกี่ยวกับประสบการณ์การงดช่วยตัวเอง ถ้าหากคุณสนใจล่ะก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ NoFap ได้เลย……
-
ของขวัญอันหวานขม… ชายบริสุทธิ์ผู้ติดคุก 23 ปี กับอิสระภาพอันหนาวเหน็บในโลกแห่งความจริง
หลังจากต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังนานกว่า 23 ปีจากความผิดที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อ เมื่อเดือนเมษายน 2017 ที่ผ่านมาคุณ Roberto Almodovar ก็ได้มีโอกาสออกมาพบอิสรภาพและได้กอดลูกสาวของเขาอีกครั้งหลังจากมีการพิจารณาคดีความใหม่จากความพยายามของครอบครัว พบกับเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของชายหนุ่มที่ตกเป็นแพะรับบาปนานมากกว่า 20 ปี และชีวิตหลังหลังจากได้รับอิสรภาพของเขา… จุดเริ่มต้น ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1994 หลังจากที่ Roberto เรียนเสร็จ เขากลับมาที่บ้านคุณป้า ระหว่างทางเขาและแฟนสาวของเขาเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและเสียงดังมาก โชคร้ายที่การทะเลาะกับแฟนสาวในวันนั้นทำให้ชีวิตของ Roberto ต้องเปลี่ยนไปตลอดการ เพราะในเวลาเดียวกันดันมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นเหตุให้ชาย 2 คนที่นั่งอยู่หัวมุมถนนเสียชีวิตทันที พยานผู้เห็นเหตุการณ์ 2 คนอ้างว่าเป็นฝีมือของ Roberto ชายหนุ่มถูกศาลตัดสินว่าเป็นคนฆ่าชายทั้งสองคน ชายหนุ่มถูกส่งตัวเข้าห้องขังเนื่องจากตอนนั้นไม่มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาเลย Roberto ตกเป็นหนึ่งในเหยื่อของเจ้าหน้าที่ Reynaldo Guevara ตำรวจจอมฉาวที่เกี่ยวข้องกับการรับสินบน มีผู้ต้องหามากมายที่ต้องเข้าไปอยู่ในห้องขังทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำความผิดจากฝีมือของตำรวจผู้นี้ ทางครอบครัวต้องทำแทบทุกวิถีทางเพื่อสู้คดีและทวงความยุติธรรมให้กับ Roberto ค่าใช้จ่ายในการสู้คดีถือเป็นเรื่องใหญ่ คุณป้าของเขาต้องนำบ้านเข้าจำนองเพื่อช่วยเหลือหลานชาย การเรียกร้องความยุติธรรมนั้นกินเวลานานแต่ในที่สุด Roberto ก็ได้ออกมาพบกับอิสรภาพอีกครั้ง แต่ทว่าเวลา 23 ปีในห้องขังทำให้ตัวเขาเปลี่ยนไป… ของขวัญอันหวานขม……
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
งานสตรีทอาร์ตสุดเจ๋ง หากวันเวลาผ่านไปเปลือกนอกก็จะค่อยๆ ย่อยสลายจนเห็นเนื้อแท้!!
อันที่จริงแล้วมนุษย์เรานั้นไม่อาจจะจะหนีความเป็นจริงข้อหนึ่งของธรรมชาติได้เลยนั่นก็คือความตายนั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อหมดลมหายใจแล้วแม้แต่ร่างกายหรือผิวพรรณที่เคยสวยงามก็ล้วนแล้วแต่ย่อยสลายกลายเป็นเถ้าถ่านเช่นกัน และหลักแห่งธรรมชาตินี้ก็กลายเป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์หลักของงานศิลปะจากฝีมือของศิลปินหนุ่มนามว่า NemO’s ที่ได้สร้างสรรค์งานสตรีทอาร์ตสวยๆ พร้อมกับเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามเหล่านั้น ภาพวาดรูปคนอันมีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินหนุ่มที่วาดลงบนแผนกระดาษ ถูกนำไปปกปิดเอาไว้บนผลงานภาพวาดของเขา ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปภาพความสวยงามของผลงานที่อยู่บนกระดาษเหล่านั้นก็จะหลุดลอกออกไป และเผยให้เห็นโครงกระดูกของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ใต้นั้น “เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนจะมองเห็นผลงานที่แตกต่างกันออกไป จนในที่สุดมันก็เผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ” ศิลปินหนุ่มกล่าว และนี่คือผลงานบางส่วนจากศิลปินท่านนี้ . . . . . “มันเป็นผลงานจากฝีมือของศิลปิน ผมพยายามที่จะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างผลงานที่ตอบสนองต่อความรับรู้ของผู้ชม” ศิลปินหนุ่มกล่าว ที่มา sobadsogood
-
หนุ่มออสซี่ตั้งกล้องถ่ายผี แต่กลับเจอผีผ้าห่ม ระหว่าง “แฟนสาว” กับ “ลูกของตัวเอง” แทน!!
ไม่รู้ว่าจะให้คำนิยามอารมณ์ความรู้สึกของเหตุการณ์ต่อไปนี้อย่างไรดี หลังจากที่หนุ่มออสซีผู้หนึ่งที่เชื่อว่าบ้านของเขานั้นมีมวลสารพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ และได้ตั้งกล้องถ่ายวิญญาณเอาไว้ในห้องเพื่อตรวจดูความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้าน แต่ทว่าแทนที่จะได้เห็นผี งานนนี้พ่อหนุ่มของเราดั๊นได้เห็นกิจกรรมเข้าจังหวะ ระหว่างแฟนสาวคนใหม่กับลูกชายของเขาแทนซะนี่!! วันหนึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มของเราลืมปิดกล้องที่เขาตั้งไว้เพื่อถ่ายภาพของสิ่งเร้นลับในบ้าน ชายหนุ่มก็ได้พบภาพของแฟนสาวคนใหม่วัย 28 ปีของเขา กำลังเล่นจ้ำจี้กับลูกชายวัย 16 ปีของเขาอยู่ หญิงสาวคนดังกล่าวคบหากับหนุ่มออสซี่ผู้นี้มานานกว่า 11 ปีแล้ว และเธอเองก็เป็นแม่เลี้ยงของเจ้าหนูน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 9 ขวบ ชายหนุ่มตัดสินใจฟ้องร้องเธอหลังจากที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุทำให้เธอถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนข้อหาพรากผู้เยาว์ ผู้พิพากษา David Porter ได้ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ต้องหาสาวรู้จักกับหนุ่มน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาเด็กๆ แล้ว แต่เธอเริ่มเข้ามาอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อปี 2012 นอกจากนี้ผู้พิพากษายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 หลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เข้าไปในห้องนอนของหนุ่มน้อยเพื่อพูดคุยเรื่องการเรียนขับรถ ก่อนที่จะเลยเถิดไปถึงการขับอย่างอื่นแทน จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เธอให้การสารภาพว่าเธอแอบมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหนุ่มน้อยผู้นี้มากว่า 3 ครั้งแล้ว และนอกจากนี้ เธอยังรับสารภาพอีกว่ารู้สึกละอายใจและเสียใจกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย… ที่มา elitereaders
-
หนุ่มมาเลเซียเครียดหนัก สอบใบขับขี่ไม่ผ่าน สุดท้ายแขวนคออยู่ใต้ต้นมังคุด
ในบ้านเราอาจมองว่าการสอบใบขับขี่ไม่ผ่านไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไว้ค่อยหาเวลาไปสอบใหม่ก็ได้ แต่ในบางประเทศและสำหรับบางคนอาจไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะอย่างในประเทศมาเลเซียก็มีคนที่เครียดจากการสอบใบขับขี่ไม่ผ่านจนถึงกับฆ่าตัวตายมาแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มวัย 21 ปีได้ไปเข้ารับการสอบใบขับขี่ในเมือง Kuantan ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 และผลที่ออกมาก็คือเขาสอบไม่ผ่าน การสอบไม่ผ่านของเขาทำให้เขาหายตัวไปนับตั้งแต่วันนั้น แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่รู้เลยว่าชายคนนี้หายไปไหน จนกระทั่งผ่านไป 6 วัน ในวันที่ 23 พฤศจิกายน จึงได้มีคนพบร่างของเขาแขวนคอตายอยู่ใต้ต้นมังคุดภายในสวนผลไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเขาไปโรงพยาบาล Tengku Ampuan Afzan เพื่อรับการชันสูตรศพต่อไป การฆ่าตัวตายเพราะสอบใบขับขี่ไม่ผ่านได้กลายเป็นกระแสกับชาวเน็ตจำนวนมาก โดยพวกเขาได้พูดถึงความเครียดที่ชายคนนี้น่าจะต้องเจอ กับค่าใช้จ่ายที่แพงแสนแพงของการสอบใบขับขี่ในแต่ละครั้ง “เดี๋ยวนี้สอบใบขับขี่แต่ละที่ต้องเสียเงินตั้ง 1,200 ริงกิตมาเลเซีย (หรือเกือบ 9,600 บาท) ก็ไม่แปลกที่เขาจะต้องรู้สึกเครียดและกดดัน” “การใช้ชีวิตของคนเราเป็นสิ่งที่ยากลำบากเอามากๆ การไม่มีเงินที่มากพออาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนบางคน รู้สึกเสียใจกับเขามากจริงๆ เขาเพิ่งอายุ 21 เอง” “บางคนเขาก็มีเงินติดตัวแค่ 5 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 39 บาท) เท่านั้นเองนะ”…
-
หนุ่มทนความหิวตอนดึกไม่ไหว เข้าไปทำอาหารในร้านเอง หลังจากที่พนักงานมัวแต่หลับ
บางครั้งอาการหิวตอนดึกอาจจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เจ้าความหิวนี้คงไม่เป็นมิตรกับเราแน่ ถ้าหากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป็นต้องอยู่ดึกๆ ไม่ว่าจะเป็นปั่นงานที่ค้าง หรือนั่งดูซีรีส์เกาหลี และส่วนมากแล้วสิ่งที่พวกเรามักจะเลือกทำกันนั่นก็คือการออกไปหาอะไรมาเติมเต็มกระเพาะอาหารนั่นเอง และหนุ่มชาวอเมริกันผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกความหิวเล่นงานกลางดึก เขาจึงตัดสินที่จะออกไปหาอะไรกิน Alex Bowen ชายหนุ่มนอนดึก ได้เข้าไปใช้บริการในร้านอาหารแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Waffle House แต่หลังจากที่เขาไปถึงร้านก็พบว่าพนักงานของทางร้านได้เผลอหลับไป ชายหนุ่มเลยตัดสินใจยืมครัวของร้านเพื่อทำอาหารมื้อดึกประทังความหิวมันซะเองเลย Alex Bowen ได้เข้าไปในส่วนครัวของร้าน และจัดการทำอาหารด้วยตัวเอง นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้อัปภาพของตัวเองในขณะที่อยู่ในส่วนครัวของร้านลงบนเฟซบุ๊ก พร้อมกับข้อความว่า “นอนไม่หลับ ฉันว่าฉันไป waffle house ดีกว่า เดาสินี่อะไร พนักงานในกะกำลังหลับอยู่” ชายหนุ่มได้หยิบขนมปังในร้านออกมา และนอกจากนี้เขายังลงมือทอดเบคอนพร้อมกับทำแซนด์วิชด้วยตัวเองอีกด้วย ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ ในวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มได้กลับไปจ่าค่าอาหารเป็นเงินจำนวน 5 เหรียญ ภาพและข้อความบนหน้าเฟซบุ๊กของคุณ Alex Bowen แต่อย่างไรก็ตามทางด้านร้าน Waffle House เองก็ได้ออกมากล่าวว่า อันที่จริงแล้วลูกค้านั้นไม่ควรที่จะเข้าไปในพื้นที่หลังร้าน เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย ที่มา mirror
-
หนุ่มซื้อของผ่านเน็ต บอก “ขอโซ่คล้องกระเป๋ายาวๆ” ร้านบอกงั้นเอารุ่นใหม่ไปเลยครับ!!
ในยุคสมัยที่การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องที่ง๊ายง่าย การใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราๆ นั้นก็ดูเหมือนว่าจะง่ายตามไปด้วยเลยทีเดียว และหนึ่งสิ่งที่ชาวเน็ตแบบเราๆ ชอบทำกันนั่นก็คือการซื้อของออนไลน์นั่นเอง แต่ทว่าสำหรับหลายๆ คนที่เคยซื้อของผ่านเว็บก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่า คุณอาจจะต้องเผื่อใจเอาไว้นิดหน่อย เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณเข้าใจกับคำอธิบายสินค้านั้นก็อาจจะไม่ตรงกันก็ได้!! เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งนามว่าคุณ Fluk Solo ได้แบ่งปันประสบการณ์ฮาๆ เกี่ยวกับการซื้อของผ่านโลกออนไลน์ของเขา หลังจากที่เขาสั่งสายโซ่คล้องกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าในปี 2018 ไป แต่ทว่าสิ่งที่ได้นั้นกลับเป็นสายโซ่คอลเลกชันใหม่จากปี 3018 เลยทีเดียว!! และนี่คือสายโซ่คล้องกระเป๋าที่ว่า อืม…. คุณ Fluk Solo ได้เล่าเรื่องราวความฮานี้ผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า ตัวเขาเองนั้นได้ทำการซื้อกระเป๋าสตางค์ใบใหม่จากทางเพจหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้ของแล้วเขากลับรู้สึกว่าสายคล้องเส้นเดิมนั้นมันสั้นไปหน่อย จึงได้สอบถามไปยังเพจเดิมเพื่อขอซื้อโซ่คล้องกระเป๋าเส้นใหม่ และจากนั้นสิ่งที่ได้ก็อย่างที่พวกเราเห็นๆ กันนั่นล่ะฮะ!! ข้อความการสนทนาระหว่างคุณ Fluk Solo กับร้านขายกระเป๋าออนไลน์ “ฝากเตือน เมื่อผมสั่งซื้อกระเป๋าใบนึงในเพจเพจนึง ซึ่งได้ซื้อกระเป๋า แต่ก็ได้ถึงบ้านนะครับ ผมก็ได้เช็กของ ก็ครบหมด แต่พอมาใส่ สายมันเป็นสั้นๆ เลยสั่งซื้อของในเพจใหม่ บอกกับในเพจว่า ผม: มีสายที่ยาวสุดไหมครับ เพจ: มีตัวท็อปอยู่ครับ เป็นเทรนด์ใหม่ กำลังจะมาในปี 2018 นี้ครับ ผม: เปิดขายยังครับ เพจ: ก็เปิดขายครับ แต่มันยาวกว่าอันเดิมนิดเดียว ผม: ครับผม…
-
ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์
แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…
-
คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?
ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟนเพราะผู้หลักผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่เราเองก็มีเช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยหรือส่งรูปภาพหากันได้ง่ายยิ่งขึ้น และบางครั้งก็อาจมีการส่งหาคนผิดบ้างเหมือนกับคุณแม่คนนี้ที่ส่งรูปหาผิดคนแค่ครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ของ Liam McDonald หนุ่มวัย 24 ปีที่อยู่ในเมืองดันดี ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อมือถือของเขาแจ้งเตือนว่าคุณแม่ได้ส่งรูปมาให้ผ่านแอพฯ WhatsApp แต่เขากลับไม่กล้าเปิดขึ้นมาเพราะคุณแม่ดันส่งข้อความทิ้งท้ายว่า “ขอโทษที คิดว่าพ่อ (ฮา)” คุณแม่ส่งมาให้ตั้ง 3 ภาพ แถมติดรูปหัวใจมาให้ด้วย แต่ดันผิดแชท ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตรงข้อความที่ 3 เธอดันใส่อิโมจิรูปหัวใจมาให้อีก รูปแบบของข้อความแบบนี้ทำเอาลูกชายไม่กล้าเปิดเลย เพราะไม่แน่ว่ามันอาจเป็นรูปแบบส่วนตัวๆ ของพวกเขาก็ได้ จากนั้นเขาจึงได้นำภาพการแจ้งเตือนนี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พร้อมกับคำพูดที่ว่า “เช็ดเขร้ ผมไม่กล้าเปิดมันขึ้นมาเลย” โพสต์ของชายหนุ่มที่ยังคงคาใจกับรูปที่แม่ของเขาส่งมา เรื่องราวนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันสงสัยไปพร้อมๆ กับเขาจนมีการรีทวีตไปมากกว่า 25,000 ครั้ง กดไลก์อีกกว่า 85,000 ครั้ง และได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด ซึ่งเกือบทั้งหมดต้องการให้เขาเปิดดูรูปนั้นซะสงสัยเรื่องนี้คงไปกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของใครหลายๆ คนเข้าแล้วสินะ “โถ่วจารย์ จะมาปล่อยให้พวกเราคาใจแบบนี้ไม่ได้นะ” อย่างคนนี้ก็ถึงกับตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อให้ได้รู้ทันทีเวลาที่ Liam เข้ามาอัพเดทเรื่องราวนี้…
-
หนุ่มยอมแต่งเป็นเมียตัวเองออกไปปาร์ตี้วันฮาโลวีน ไม่มีผีไหนน่ากลัวกว่าเมียแล้วจ้า!!
ในช่วงวันฮาโลวีนที่ผ่านมาเราอาจจะได้เห็นการแต่งชุดฮาโลวีนของหลายๆ คนที่ต่างขนมาประชันความแปลกกันอย่างมากมาย แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีชุดไหนจะแฟนตาซีไปกว่าชุดของพ่อหนุ่ม Jamie McEwan คนนี้แน่ๆ เพราะว่างานนี้พี่แกเล่นคอสเพลย์เป็นแฟนสาวสุดที่รักซะเองเลย!! Jamie McEwan นั้นก็เหมือนกับคนอื่นๆ เขาได้ออกไปฉลองวันฮาโลวีนกับ Hollie Morrison คู่หมั้นสาววัย 25 ปีของเขา พร้อมกับแต่งตัวเหมือนเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า และนี่คือชุดของพ่อหนุ่มคนนี้ในคืนวันฮาโลวีนที่ผ่านมา ผ่าง!! ส่วนนี่คือ Hollie คู่หมั้นสาวของเขา อืม… เหมือนกันจริงๆ เลยนะเนี่ย ชายหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์ว่าไอเดียสุดแหวกนี้เป็นฝีมือของแฟนสาวของเขา และเกิดขึ้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังมองหาชุดเพื่อออกไปฉลองวันฮาโลวีนในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา “มันเป็นไอเดียของ Hollie ระหว่างที่ผมกำลังหาชุดที่จะออกไปปาร์ตี้ เธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับวิคผมที่สีคล้ายกับสีผมของเธอ แล้วผมก็พูดกับเธอเบาๆ ฉันต้องใส่มันใช่ไหม??” ชายหนุ่มกล่าว และแล้วหลังจากนั้นไม่นานหนุ่ม Jamie ของเราก็ถูกคู่หมั้นสาวของเราจับแปลงโฉมให้เหมือนกับฝาแฝดของเธอเลยทีเดียว และนอกจากความเหมือนแบบแกะกันมาแล้ว ชายหนุ่มของเรายังแอบโพสต์ท่าเลียนแบบแฟนสาวของเขาอีกด้วย เอาซะเนียนเลยนะพ่อหนุ่ม!! . ยังถือว่าโชคดีที่วันนั้นแฟนสาวของคุณ Jamie ไม่เลือกใส่กางเกงเลคกิ้งไม่งั้นคงจะเข้าห้องน้ำลำบากกว่านี้แน่ๆ ฮ่าๆ ทั้งสองมีแผนที่จะแต่งงานกันในช่วงเดือนเมษายนปี 2020 และไม่แน่งานนี้คุณ Jamie อาจจะกำลังวางแผนที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าสาวของเขาอีกครั้งก็เป็นได้ “ในงานเลี้ยงเรามักจะชอบแต่งตัวเหมือนๆ กันอยู่บ่อยๆ ดังไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย ที่มา ladbible
-
การทดลองของหนุ่มรัสเซียปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังเหมือนอาศัยอยู่ในยุคกลางปี 1100
การใช้ชีวิตของเราในยุคนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง จนเราคิดภาพกันแทบไม่ออกแล้วว่าหากต้องไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในป่าโดยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้มันจะให้ความรู้สึกอย่างไร จนกระทั่งได้มีการทดลองเกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย เมื่อหนุ่มวัย 24 ปีที่ชื่อว่า Pavel Sapozhnikov ปลีกวิเวกเข้าไปใช้ชีวิตในป่าด้วยตัวคนเดียวนานถึง 8 เดือน บ้านไม้ที่ไม่มีรั้วคือที่อยู่อาศัยของชายคนนี้ตลอดการทดลอง โปรเจกต์ดังกล่าวมีชื่อว่า Project Hero จากไอเดียของ Alexei Ovcharenko ซึ่งการทดลองในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานบริหารงานอีเว้นท์ที่มีชื่อว่า Ratobor เป็นบริษัทที่จัดอีเว้นท์หรือโปรเจกต์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามารับประสบการณ์แบบย้อนยุค นำผ้ามาพันไว้เพื่อให้สามารถผ่านคืนอันหนาวเหน็บไปได้ ทั้งสองคนนี้ได้ทำการปรึกษากันนานเป็นปีจนกระทั่งกลายเป็นการทดลองชิ้นนี้ มีเป้าหมายเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและจิตใจที่จะแสดงออกมาผ่านบุคลิกภาพ และต้องการทราบว่าการได้รับแรงสนับสนุนจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบันมีความสำคัญขนาดไหน เพื่อให้การทดลองเห็นผลลัพธ์มากที่สุด พวกเขาจึงเลือกช่วงเวลาในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2013 ถึงพฤษภาคมปี 2014 เพื่อให้ Pavel ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมอันยากลำบากและความท้าทายในการเอาชีวิตรอด เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังกลางป่าในบ้านไม้และมีฟาร์มหลังเล็กๆ บ่อน้ำ โรงเก็บฟาง โรงเก็บอาหาร และห้องน้ำที่แยกออกมาให้ใช้ในการดำรงชีพ พร้อมกับเครื่องมือที่มีอยู่ในศตวรรษที่ 10 เท่านั้น การทดลองนี้จะอนุญาตให้ชายหนุ่มออกมานอกเขตบ้านได้ก็ต่อเมื่อออกไปล่าสัตว์หรือตกปลามาเป็นอาหารเท่านั้น ไม่สามารถออกบ้านไปเพื่อเหตุผลอื่นได้ ฟาร์มที่เขาสามารถเลี้ยงไก่ไว้กินหรือให้พวกมันออกไข่ การรักษาสภาพของบ้านเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นเขายังถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับใครยกเว้นผู้สังเกตการณ์ที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาผ่านกระดาษโน้ตเดือนละหนึ่งครั้ง…
-
ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว
การช่วยเหลือเราสามารถลงมือทำได้ในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับชายคนนี้ที่เขาเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ มากกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Warren Padgette กำลังขับรถกลับบ้านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวอชิงตัน เขาได้สังเกตเห็นว่ารถคันข้างหน้าเหมือนกับหักเลี้ยวหลบอะไรบางอย่างบนถนน หนุ่มอเมริกันที่ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองไม่คาดคิด ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามเพ่งมองดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเขาก็ได้เห็นเจ้าไก่ในสภาพอิดโรยที่คาดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังจะพามันไปโรงเชือด แทนที่เขาจะขับหลบและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาตัดสินใจจอดรถและลงไปอุ้มมันขึ้นมาขณะที่เจ้าไก่หันมองและกระพริบตาให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอุ้มมันไปไว้ตรงเบาะหลังพามันกลับบ้านไปด้วยกัน เขาไม่สามารถปล่อยมันผ่านไปได้เขาจึงรีบลงไปอุ้มมันขึ้นมาทันที เขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Lucky เพราะมันเป็นเจ้าไก่ที่โชคดีรอดมาจาการถูกเชือดได้ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมันก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ตอนนั้นแค่จะยืนด้วยขาของตัวเองมันก็ทำไม่ได้เพราะหน้าอกมีน้ำหนักมากกว่าปกติจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาให้โตเร็วเกินไปเพื่อทำให้ได้เนื้อเยอะๆ ร่างกายของมันผ่านการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ไม่สามารถยืนได้เอง ชายหนุ่มรีบรักษาพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่มันอย่างเต็มที่ สร้างบ้านเล็กๆ เอาไว้ให้ที่สวนหลังบ้านและไปหาลูกเจี๊ยบมาอยู่ด้วยเพื่อให้เจ้าไก่ได้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง รวมถึงแพะที่เขาหามาเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ให้กับมัน ขั้นแรกอาบน้ำให้มันสดชื่นขึ้น บ้านหลังเล็กที่มันจะได้อยู่อย่างเป็นสุขนับจากนี้ไป ด้วยความรักความเอาใจใส่จนทำให้ตอนนี้เจ้า Lucky ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาไปแล้ว มันจะชอบมาเกาะอยู่ที่ไหล่หรือเดินตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาอยู่เสมอ กลายเป็นเพื่อนซี้ที่จะไม่ทิ้งกัน Warren บอกว่า “เจ้า Lucky เข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่ผมเคยเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ จนตอนนี้เวลาที่ผมเห็นรถบรรทุกที่กำลังพาไก่มากมายไปโรงเชือด ผมรู้สึกต้องการช่วยพวกมันทุกตัวเลยจริงๆ ” คลิปเรื่องราวของเจ้าไก่ Lucky…
-
หนุ่มเข้าใจผิดคิดว่าแมวคนอื่นเป็นแมวของตัวเอง เลยลักพาตัวกลับบ้าน แถมวางยามันซะด้วย!!
ทั่วทุกอาณาบริเวณบนโลกใบนี้คลอบคลุมไปด้วยสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า “แมว” และเราก็ต้องยอมรับเลยนะว่าถึงแมวจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ถึงกระนั้นแมวบางตัวก็ยังคงมีลักษณะที่เหมือนหรือคล้ายกันจนทำให้มนุษย์เข้าใจผิดมาแล้ว เหมือนดังเช่นเรื่องราวของหนุ่มชาวนิวซีแลนด์คนหนึ่ง ที่เข้าใจผิดคิดว่าแมวของเพื่อนบ้านเป็นแมวแสนรักของตัวเอง งานนี้เขาเลยลักพาตัวของมันกลับบ้าน แถมยังวางยาให้มันอีกด้วย โอ้ว!! มนุษย์ทำไรของเอ็งเนี่ยยย ทางด้าน Clarke Gayford ผู้จัดรายการทีวีซึ่งเป็นเพื่อนของหนุ่มรายดังกล่าว ก็ได้ออกมาเผยถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวสุดฮาเกี่ยวกับเพื่อนของเขาลงบนทวิตเตอร์โดยระบุว่า… “เขาได้บอกแพทย์ว่าเจ้าเหมียวทำตัวแปลกๆ ดังนั้น จึงได้นำตัวของมันไปหาสัตว์แพทย์ ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ให้ยาคลายความวิตกกังวลกับมัน แถมยังแนะนำให้ขังมันไว้ในห้องเป็นเวลานาน 5 วัน เพื่อให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม…เพื่อนของผมลักพาตัวแมวและวางยามัน” . และแล้วก็มาถึงจุดพีคของเรื่องจนได้ เพราะ 5 วันต่อมาเพื่อนของ Clarke ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้รู้ความจริงแมวที่เขาขังเอาไว้นั้นไม่ใช่แมวของตัวเอง เพราะจู่ๆ เจ้าเหมียวแสนรักตัวจริงของเขาได้ปรากฏตัวขึ้นในภายหลัง (ที่มีสีค่อนข้างคล้ายกัน) ซึ่งในตอนนั้นเขามีแต่ความคิดเดิมๆ วนอยู่ในหัวว่าเขาได้วางยาและขังแมวของคนอื่นเอาไว้ และเมื่อได้เห็นแมวของตัวเอง เขาก็รู้ว่ามันแตกต่างกันกับแมวของเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามทางเพื่อนบ้านก็ได้ส่งข้อความมาหาเพื่อนของ Clarke เพื่อแจ้งให้เขาได้ทราบว่าการกินยาคลายความวิตกกังวลนั้นไม่ได้ส่งผลอันตรายใดๆ แก่เจ้าเหมียว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่อาจจะทำให้เจ้าของแมวหลายๆ คนรู้จักใส่ใจ และเริ่มให้ความสำคัญของแมวตัวเองมากขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นหากคุณไม่สังเกตหรือจดจำจุดเด่นของแมวอย่างขึ้นใจ คุณอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าแมวคนอื่นเหมือนแมวของตัวเองก็เป็นได้ ที่มา : boredpanda, dailymail
-
หนุ่มจงใจปล่อยเชื้อ HIV ใส่คู่นอนที่เจอกันผ่าน “แอปหาคู่” ถึง 4 คน แถมส่งข้อความเยาะเย้ย
ทุกคนคงรู้จักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง HIV กันอยู่แล้ว และนั่นจึงทำให้ถุงยางมีประโยชน์มากกว่าการคุมกำเนิดเพราะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวนี้ได้อีกด้วย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เองก็ต้องระวังไม่ให้ใครได้รับโรคร้ายนี้ไปด้วย ตรงข้ามกับชายหนุ่มชื่อ Daryll Rowe ที่ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวของช่างตัดผมวัย 26 ปีคนนี้เริ่มขึ้นเมื่อเขาได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยติดเชื้อ HIV ในเดือนเมษายน 2015 ที่เมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ หลังจากนั้นเขาจึงกินยาต้านเพื่อไม่ให้ไวรัสเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ต่อมาเขาก็ย้ายไปเมือง Brighton ประเทศอังกฤษ และเนื่องจากเขาไม่มีที่ไหนที่พอจะสามารถพักพิงได้ จึงใช้แอปฯหาคู่ชื่อ Grindr ตามหาการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน โดยเขาจะพูดคุยกับคนในแอปฯ ก่อนที่จะไปหาพวกเขาเหล่านั้นที่บ้านและมีอะไรกัน เพื่อที่เขาจะสามารถแพร่ไวรัสที่ตัวเองเป็นอยู่ไปให้กับคนอื่นๆ ได้ วิธีการของเขาก็คือหลอกให้ทุกคนตายใจว่าเขาไม่ได้ป่วย HIV และปฏิเสธที่จะใช้ถุงยาง หรือถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมเขาก็จะใส่แล้วค่อยฉีกถุงในตอนที่กำลังร่วมเพศกันอยู่ ถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะกินยาต้านแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลิกกินเพื่อให้คนอื่นๆ มีโอกาสที่ติดเชื้อจากเขาไปได้มากขึ้น หลังจากนั้นเมื่อแยกย้ายกันไปเขาก็จะโทรหรือส่งข้อความไปเยาะเย้ยให้กับผู้โชคร้ายเหล่านั้นอย่างเช่น “ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมีไข้ เพราะว่าผมสอดใส่เข้าไปในตัวคุณและผมเป็น HIV อุ๊บส์!” หรือ ”ตอนนั้นผมฉีกถุงยางโดยที่คุณไม่รู้ เพราะคุณเป็นคนที่โง่มาก” อัยการ Caroline Carberry ได้เล่าว่า ชายคนนี้ได้ทำพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 จนถึงธันวาคม 2016…
-
หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา
เราอาจเคยได้ยินโจรหลบหนีหรือนักโทษแหกคุกด้วยวิธีที่เหลือเชื่ออย่างการใช้ช้อนขุดอุโมงค์หรือโดดลงทะเลทำนองนั้น แต่บอกเลยว่าชายคนนี้มีวิธีที่น่าหวาดเสียวมากกว่านั้นเยอะ เรื่องเกิดขึ้นในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มนิรนามท่านหนึ่งกำลังปีนสายโทรศัพท์เพื่อหลบหนีออกจากโรงแรม เพียงเพราะว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง!? ระยะห่างยังพอไหว แต่ความสูงขนาดนี้ก็ยังกล้าอยู่อีกนะ ด้วยความสูงเกือบ 60 เมตรหรือประมาณตึก 19 ชั้นของสายโทรศัพท์ที่เขาปีนอยู่ทำให้คนเดินผ่านไปมาต้องหยุดดูและรู้สึกหวาดเสียวไปตามๆ กัน เพราะถ้าเกิดพลาดตกลงมารับรองว่าเขาไม่รอดแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหนทางที่จะปีนข้ามไปยังอีกตึกหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ห่างตัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น คือถ้าแตะโดนปุ๊บก็จะช็อตปั๊บ ซี้แหงแก๋ในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สายโทรศัพท์เส้นไม่ใหญ่มาก ชายคนนี้จึงต้องพยายามรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้และส่ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง ทำเอาซะผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ จังหวะไปติดอยู่ระว่างสายสองเส้น ผู้ชมข้างล่างนี่กรี๊ดกันสนั่น และในที่สุดเขาก็สามารถข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาช่วยให้เขาเข้าตึกไปได้อย่างปลอดภัยก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมตัวเขาไปที่สถานี ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงโรงแรมที่เขาเข้าไปพักหรือค่าที่พักที่เขาต้องจ่าย แต่ถึงกับต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้เดาว่าราคามันคงจะไม่ใช่น้อยๆ หรอกเนาะ เมื่อคลิปวิดีโอการหลบหนีครั้งนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อ Weibo ของจีน ทำให้มีผู้ชมมากกว่า 7.4 ล้านคนและมีคอมเม้นท์ฮาๆ อันหนึ่งบอกว่า “ไอ้หนุ่มนี่คิดว่าถ่ายหนังแอ็คชั่นอยู่หรือไง?” คลิปวิดีโอไอ้หนุ่ม ‘สไปเดอร์แมน’ ผู้หลบหนีค่าโรงแรม อย่างน้อยเรื่องนี้ก็จบลงได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้งไม่มีใครต้องบาดเจ็บอะไร เพื่อนๆ เวลาไปพักที่ไหนก็อย่าลืมถามราคาค่าห้องโรงแรมก่อนด้วยนะ ที่มา: aol
-
นักท่องเที่ยวจีน เต้นท่าลิงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเสือ โดยไม่สนป้ายเตือนของสวนสัตว์
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยคลิปวีดีโอของหนุ่มนักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่ง ที่ได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยการพยายามเต้นยั่วยุอารมณ์เสือที่อยู่ในภายในกรง โดยไม่สนป้ายเตือนเลยแม้แต่น้อย จากการรายงานระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้น ณ สวนสัตว์ท้องถิ่นในเมืองกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน จากภาพจะเห็นได้ว่าชายคนดังกล่าวได้พยายามเรียกร้องความสนใจจากเสือ ด้วยการเต้นท่าทางที่ดูคล้ายลิง และดูเหมือนว่าการกระทำของเขาจะส่งผลให้บรรดาเสือที่อยู่ในกรงรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก หืมมมม!! ลุงทำอะไรเนี่ย เอิ่ม!! อย่างไรก็ตามทางสวนสัตว์ได้ติดป้ายเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “ห้ามยุแหย่สัตว์ดุร้าย” เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่ถึงกระนั้นชายคนดังกล่าวกลับไม่สนใจ และยังคงกระโดดโลดเต้นไปมาท่ามกลางบรรดานักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่มาดูเจ้าเสือ ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายๆ คนต่างก็พาเอือมระอากับพฤติกรรมที่แสนบ้าบอของชายรายนี้ ว่าแล้วก็มารับชมคลิปวีดีโอกันได้เลย ที่มา : shanghaiist
-
ความเมาเป็นเหตุ…ชายหนุ่มสักรูปแฟนเปลือยอกไว้ที่กลางหลัง ก่อนที่จะเลิกกันไม่กี่วันต่อมา
เวลาที่คนเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป บางครั้งเราอาจจะเมาและทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ทันยั้งคิดกันก่อน และผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เลย อย่างเช่นสิ่งที่ชายหนุ่มชื่อว่า Malakye Brooks ทำลงไป เมื่อเขาตัดสินใจสักรูปแฟนสาวของตัวเอง ลงไปบนแผ่นหลัง ก่อนที่จะมาเสียใจในตอนท้าย เพราะไม่กี่วันทั้งคู่ก็เลิกกันซะแล้ว จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ การพักผ่อนในช่วงวันหยุดของเขา บนเกาะอีบีซา และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับแฟนสาวคนนี้ที่กำลังไปปาร์ตี้กับเพื่อนอยู่เหมือนกัน จนกระทั่งมีคืนหนึ่งที่ทั้งคู่พบกัน พวกเขาได้ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ก่อนที่จะตัดสินใจกันว่า เขาต้องการที่จะสักรูปอะไรสักอย่างที่เห็นแล้วจะทำให้คิดถึงความทรงจำครั้งนี้ได้ เมื่อเขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะสักลายไหนดี แฟนสาวจึงแนะนำให้สักรูปของเธอที่กำลังเปลือยหน้าอกอยู่ และเมื่อถึงร้านก็ได้ยื่นรูปของเธอให้กับช่าง หญิงสาวจ่ายค่าสักให้เป็นจำนวนเงินเกือบ 20,000 บาท ก่อนที่จะละเลงหมึกลงบนผิวหนังของเขานานร่วม 4 ชั่วโมง หลังจากที่สักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ได้ไปดื่มกันต่อในคลับที่มีชื่อว่า Hi และเขาก็ได้นั่งถอดเสื้ออยู่ตรงบาร์ ทำให้ทั้งพนักงานและคนเดินผ่านไปมาต่างให้ความสนใจ และเข้ามาบีบนมบนรอยสักเล่นกัน เขาพูดว่า “นับตั้งแต่นั้นมาทำให้ทุกคนต่างมองมาที่หลังของผม ด้วยสายตาที่คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกหรือไม่ผมก็คงเป็นตัวประหลาดไปแล้ว ผมเพิ่งไปเที่ยวเมืองเบนิดอร์มมา มีเด็กคนหนึ่งเดินอยู่บนชายหาดและหันไปบอกกับแม่ว่า ‘ดูนั่นสิแม่! นม!’ “ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เขาและแฟนสาวก็ได้เลิกราและแยกทางกันไป คงไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะเสียใจกับรอยสักมากแค่ไหน เพราะมันคงจะอธิบายได้ยากมากจริงๆ อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เราสามารถลบรอยสักได้แล้ว แต่แน่นอนว่ามันจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม และต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดกับค่าใช้จ่ายที่มากกว่าตอนสักลงไปอีกต่างหาก แหม..น่าสงสารเขานะครับ…
-
ชายหนุ่มเจอปัญหาชีวิตรุมเร้า โพสต์ระดมทุนขอเงินช่วยค่ารักษาพยาบาลจากชาวเน็ต
บางครั้งการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครบางคน เพราะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงหรือระยะทางที่ไกล ดังนั้นจึงทำให้บางครั้งคุณอาจจะต้องเลือกระหว่างการรักษาพยาบาลที่ดีหรือการยอมอดทนต่อไป คุณ Conan Soranno ช่างภาพหนุ่มจากลอสแอนเจลิส ได้โพสต์ระบายถึงเรื่องคุณภาพชีวิตของตัวเอง หลังจากที่ต้องเลือกระหว่างการรักษาพยาบาลกับการกลายเป็นคนไร้บ้าน คุณ Conan Soranno อธิบายความยากลำบากและคุณภาพชีวิตที่แย่ของเขาผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว “นี่มันเป็นอาทิตย์ที่แย่จริงๆ แต่ก็ยังมีเรื่องที่แย่กว่านั้นอีก นั่นก็คือเรื่องความพยายามของใครบางคนที่อยากจะมีชีวิตรอด ซึ่งนั่นก็คือผมนี่แหละ ผมต้องขายรถเพื่อจ่ายค่าเช่าบ้าน และยังต้องเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 20 สิงหาที่ผ่านมาหลังจากการอ้วกเป็นเลือดอีก แต่โชคไม่ค่อยดีเลยเพราะผมไม่มีเงินที่จะไปหาหมอ แถมยังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องอีก ดังนั้นผมจึงต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะไปโรงบาล หรือยอมเป็นคนไร้บ้าน “ จากนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือในเว็บไซต์ระดมทุนอย่าง YouCaring ชายหนุ่มประกาศขอเงินช่วยเหลือในโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “ช่วยชีวิต Conan” และตอนนี้มีผู้ร่วมบริจากเงินแล้วกว่า 2,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 60,000 บาท ชายหนุ่มเขียนเล่าเรื่องราวของเขาในเว็บไซต์ระดมทุนว่า “เรารู้ว่าการมีชีวิตอยู่นั้นต้องใช้เงินและมันก็ค่อนข้างแพงด้วย ผมอยากให้ทุกคนช่วยเหลือผม ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะกล่าวคำขอบคุณพวกคุณทุกๆ คนที่ช่วยเหลือผม มันอาจจะดูเหมือนเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป แต่ผมเดือดร้อนจริงๆ และเมื่อหายดีแล้วผมตัดสินใจว่าจะทำงานเพื่อตอบแทนสังคมโดยการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กๆ “ ชายหนุ่มตั้งเป้าหมายในการรับบริจาคครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 600 ดอลล่าร์พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า “ถ้าหากผมขายรถได้ผมจะได้เงินอีก 600 ดอลล่าร์ซึ่งพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ จริงๆ แล้วผมไม่อยากรบกวนพวกคุณเลยแต่มันจำเป็นจริงๆ และเงินจำนวนนี้ก็มีความหมายกับผมมาก” ที่มา independent
-
ชายหนุ่มฮีโร่ปีนขึ้นไปบนคานเหล็กสูง 6 เมตร เพื่อช่วยสาวที่กำลังพยายามจะฆ่าตัวตาย
เรื่องราวอันน่าชื่นชมของชายหนุ่มที่ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังพยายามจะฆ่าตัวตาย ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองแมนแฮตตัน โดยการกระโดดลงมาจากคานเหล็กสูง 6 เมตร หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งได้ทำการปีนขึ้นไปบนคานในชานชาลาของสถานี Broadway-Lafayette เมื่อเวลาประมาณ 3 โมงครึ่งของวันเสาร์ที่ผ่านมา ชายหนุ่มผลเมืองดีคนดังกล่าวได้ปีนไปตามคานดังกล่าวเพื่อช่วยเกลี้ยกล่อมเธอ ในขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บางคนได้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ นาง Witness Michal Klein วัย 38 ปีจากเมือง Hoboken รัฐนิวเจอร์ซี่ ผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวในระหว่างที่เธอกำลังจะเดินทางไปยังร้านอาหารได้โพสต์ภาพของทั้งคู่ลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “มันน่าหวาดเสียวมากๆ เลยทีเดียว ถ้าหากมีใครบางคนกำลังร้องไห้หรือขยับตัวเพียงนิดเดียวก็อาจจะเกิดเรื่องเศร้าได้เลย “ และที่ชายหนุ่มพลเมืองดี กำลังพยายามเกลี้ยกล่อมหญิงสาวที่คิดสั้น นอกจากนี้คุณ Klein ยังเล่าถึงผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวอีกว่า “ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นปีนขึ้นไปด้านบน และพยายามจะฆ่าตัวตาย และหลังจากนั้นพอ่หนุ่มคนนี้ก็ปีนขึ้นไปเพื่อเกลี้ยกล่อมเธอ จากนั้นก็มีใครบางคนโทรแจ้งตำรวจ และไม่นานพวกเขาก็มาถึงพร้อมกับทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อช่วยเหลือเธอ” จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ในที่สุดเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเธอออกมาได้อย่างปลอดภัย “ฉันไม่นึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครกล้าปีนขึ้นไปบนนั้นไหม ชายคนนั้นต้องมีความกล้าและต้องระวังเอามากๆ เลย” Klein ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของ New York Daily News ที่มา dailymail
-
เมื่อหนุ่มไร้บ้าน ได้เจอกับช่างซ่อมหลังคาผู้ใจดี มอบโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองอีกครั้ง…
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ช่างซ่อมหลังคากลุ่มหนึ่งได้พบกับชายไรบ้าน ที่บังเอิญผ่านมาระหว่างที่พวกเขากำลังทำงานกันอยู่ คุณ JayJay Murray หนึ่งในช่างซ่อมหลังคาที่ได้พบกับ John ชายไร้บ้านคนดังกล่าว เขาได้เชียนเล่าเรื่องราวของหนุ่มจรจัดป่านทางเฟซบุ๊ก “เราซื้อชาให้เขาในตอนเช้า และวันรุ่งขึ้นเราก็บอกให้เขามาช่วยพวกเราทำงาน” ชายหนุ่มกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนหน้าที่เหล่าช่างซ่อมหลังคาจากบริษัท Empire UPVC & Roofing Specialists จะมายังไซต์งานของพวกเขา John ก็ได้อาศัยหลับนอนบนม้านั่งใกล้ๆ กับบริเวณนั้น “เขาเพิ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก และจากนั้นก็ทำไม่หยุดเลย ผมไม่เคยเห็นใครที่มีความสุขกับการทำงานขนาดนี้มาก่อนเลย เราให้เบอร์เกอร์เป็นอาหารกลางวันแก่เขา” คุณ Jay กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของเขา John กำลังพักทานอาหารกลางวัน ก่อนที่จะเริ่มงานต่อ John ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างขยันขันแข็งและตั้งใจ ชายไร้บ้านบอกว่าในแต่ละสัปดาห์เขาใช้เงินประมาณ 15 ปอนด์หรือประมาณ 640 บาทเท่านั้น แต่เหล่าช่างกลับให้ค่าตอบแทนเขามากถึง 70 ปอนด์หรือประมาณ 3,000 บาทเลยทีเดียว พร้อมกับบอก John ว่าเขาสามารถมาทำงานที่นี่ได้อีก “ความตั้งใจของคุณจะทำให้พระเจ้ามองเห็น ตั้งใจต่อไป John ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่มีใครทำงานอย่างขยันแล้วยังต้องมาอาศัยอยู่ข้างถนนหรอก” บางส่วนจากข้อความบนเฟซบุ๊กของคุณ Jay John รู้สึกขอบคุณพวกเขาอย่างมาก “ขอบคุณมากเพื่อน…
-
ชายวัย 58 ปี ผู้ใช้ชีวิตกับลูกสาวตุ๊กตายางทั้ง 7 เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย หลังหย่ากับภรรยา…
เรื่องราวของชายหนุ่มชาวจีนวัย 58 ปี จากมลฑล Guizhou ผู้รักครอบครัวและยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลลูกๆ ของเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยที่คุณลุงมีลูกทั้งหมด 8 คนด้วยกัน ซึ่งลูกชายคนโตของนั้นอายุ 18 ปี ส่วนลูกสาวอีก 7 คนที่เหลือนั้นกลับกลายเป็น ‘ตุ๊กตายาง’ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ภรรยาของคุณ Li Che (นามสมมุติ) ได้ทิ้งเขาและลูกชายไป หลังจากที่ทั้งสองหย่าร้างกัน ชายหนุ่มต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายเพียงลำพัง และถึงแม้ว่าจะพยายามตามหารักครั้งใหม่กี่ครั้ง คุณลุงก็กลับต้องพบกับความผิดหวังตลอด ชายวัย 58 ปีกล่าว่าเขาไม่เคยพบกับความรักอีกเลยหลังจากที่ภรรยาหนีไป เพราะผู้หญิงที่เขาพบนั้นล้วนแล้วแต่ไว้ใจไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณลุงจึงเริ่มมองหาบางอย่างที่จะคลายความเหงาของเขาได้ และตุ๊กตาก็กลายเป็นสิ่งที่เขาเลือกสำหรับช่วยให้หายเหงา แต่ว่าการเป็นเจ้าของตุ๊กตาของคุณ Li นั้นไม่เหมือนกับหนุ่มเหงาทั่วๆ ไป คุณลุงไม่เคยใช้มันเพื่อสนองความต้องการทางเพศ แต่กลับดูแลเหล่าตุ๊กตาราวกับว่าพวกมันเป็นลูกสาวของเขา ชายแก่ซื้อตุ๊กตาตัวแรกมาเมื่อปี 2014 หลังจากที่ Yang Yang ผู้เป็นลูกชายต้องย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนประจำ และตั้งชื่อให้กับเธอว่า Xiao Xue ซึ่งมีความหมายว่า ‘เจ้าหิมะน้อย’ เขาดูแลตุ๊กตาตัวนั้นอย่างดี ทั้งพามันอาบน้ำ หวีผม และพานั่งรถออกไปด้านนอกด้วยบ่อยๆ และแล้วความหลงใหลในตุ๊กตายางของเขาก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น คุณ Li…
-
ชายหนุ่มวัย 57 ปี ผู้ที่สามารถเอาชนะหมีกริซลี่ตัวบักเอ๊ก ได้ด้วยการชกหมัดเดียว!?
หากใครเคยคิดว่าการที่เราจะปราบสัตว์ป่าดุร้ายด้วยมือเปล่านั้นมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ในหนัง หรือการ์ตูนเท่านั้น ลืมสิ่งที่เคยคิดไปซะเมื่อต้องเจอกับหนุ่มวัย 57 ปี ผู้ที่เคลมว่าเขาสามารถเอาชนะเจ้าหมีได้ด้วยการใช้มือเปล่าเท่านั้น!!! ขอพาคุณไปรู้จักกับ Randall Warnock ชายผู้นั้นคือ Randall Warnock ชาวแคนาดา เขาเล่าว่าได้ออกเรือไปยืดเส้นยืดสายบนเกาะ Brown ไม่ไกลจากบ้านของเขานัก ระหว่างที่กำลังเดินเล่นเลียบชายฝั่งอยู่นั่น จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงดัง “แกร๊บ” มาจากทางด้านหลัง และต้องตกใจเมื่อหันไปเจอกับเจ้าหมีกริซลี่ตัวใหญ่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ เจ้าสัตว์ป่าสี่ขาได้พุ่งเข้ามาล็อกเข่าขวาของเขาไว้ เขาจึงตัดสินใจหยิบมีดออกมา แต่เมื่อต้องเขย่าเอาเจ้าหมีออกจึงทำให้มีดหลุดมือไปซะอย่างนั้น ทันใดนั้นจึงได้ต่อยเข้าไปที่จมูกของเจ้าหมีเพื่อพยายามหนีออกจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงของมัน เขาได้เล่าต่อว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เจ้าหมีถอยกลับไปยืนสองขาตั้งหลักมองมาที่ขาของเขา หัวของมันโน้มไปมาเหมือนพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจหยิบกิ่งไม้ตั้งใจโยนใส่หัวเจ้าสัตว์ป่า แต่ก็วืดหลุดมือไปตกอยู่ระหว่างเขาและมัน โชคดีที่ในที่สุดเจ้าหมีนั้นก็ได้วิ่งหนีกลับเข้าพุ่มไม้ไป เมื่อเขากลับไปที่เรือจึงโทรขอความช่วยเหลือกับยามชายฝั่ง หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงมีคนมาพบและพาไปโรงพยาบาล เจ้าหมีได้ฝากแผลไว้ที่เข่าของเขาซึ่งต้องเย็บถึง 30 เข็มเพราะดันไปโดนเข้ากับเส้นประสาทด้วย มือถือเจ้ากรรมก็ดันตกอยู่ที่เกาะในขณะที่ต่อสู้กัน แต่เขาก็บอกว่าจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว ใครจะยอมเสี่ยงที่จะเจอหมีกริซลี่เข้าทำร้ายอีกละ ถึงอย่างไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เขาได้เป็น ชายผู้ปราบหมีด้วยมือเดียว สุดเท่ห์ไปแล้ว กลายเป็นแฟนคลับหลายๆ คนรู้จักเขาจากข่าวนี้เพียบทีเดียวล่ะ!! ที่มา: ladbible
-
แก๊งวัยรุ่นหัวเราะเยาะเย้ย ชายพิการที่กำลังจมน้ำ และปล่อยให้เขาจมน้ำตาย ไปต่อหน้าต่อตา…
เจ้าหน้าที่ในรัฐ Florida เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าหดหู่ เมื่อมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 14 ถึง 16 ปี ที่กำลังอัดวิดีโอและหัวเราะชายหนุ่มพิการวัย 32 ปีที่กำลังจมน้ำ โดยที่ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ เลยแม้แต่น้อย คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในช่วงเที่ยงของวันที่ 9 กรกฏาคม 2017 ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเผยให้เห็นภาพวินาทีแห่งชีวิตของคุณ Jamel Dunn ที่กำลังตะเกียกตะกายและขอความช่วยเหลือ จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังยืนเยาะเย้ยเขาอยู่ ถึงแม้ว่าคุณ Dunn จะพยายามร้องขอความช่วยเหลือมากแค่ไหน พวกเด็กๆ ก็ยังคงไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเขา จนในที่สุดชายหนุ่มพิการก็ต้องพบกับความตาย หลังจากนั้น 3 วันร่างของชายหนุ่มก็ถูกกู้ออกมาจากบ่อน้ำแห่งนั้น ทางด้านตำรวจได้อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว่า พวกเด็กๆ ได้เตือนชายคนดังกล่าวแล้วว่าไม่ควรลงไปในบ่อน้ำนั้น “พวกเด็กๆ ที่กำลังนั่งสูบบุหรี่และกัญชากันอยู่บริเวณนั้น เห็นชายคนนี้เดินลงไปในบ่อน้ำด้วยตัวเอง พวกวัยรุ่นได้บอกเขาแล้วว่าห้ามลงไป” คุณ Yvonne Martinez โฆษกจากสถานีตำรวจ Cocoa Police กล่าว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเห็นชายหนุ่มกำลังจมน้ำต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจเลย “เมื่อชายหนุ่มเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกเด็กๆ ก็เริ่มหัวเราะเยาะเขา ไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจ พวกเขาเอาแต่หัวเราะและปล่อยให้ชายคนนั้นจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา” คุณ Martinez กล่าว “ออกมาจากน้ำ ไม่อย่างนั้นคุณจะตายนะ!! ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว และอีกคนก็ตะโกนว่า…
-
ชายหนุ่มรอดตายอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่ “หัวใจหยุดเต้น” ไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง
เรื่องราวปาฏิหาริย์ของชายหนุ่มจาก North Carolina ที่กลับมามีชีวิตใหม่อีกครัง หลังจากที่หัวใจหยุดเต้นไปนานถึง 30 นาที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่คุณ John Ogburn วัย 36 ปี กำลังนั่งทำงานของเขาและจู่ๆ ก็เกิดอาการหมดสติไประหว่างนั้น แต่ชายหนุ่มกลับรอดมาได้เพราะความพยายามของเจ้าหน้าที่ “ถ้าพวกเขาไม่สามารถช่วยผมไว้ได้ทันเวลา ผมคงต้องจากโลกนี้ไปแล้วแน่ๆ” คุณ Ogburn กล่าว คุณพ่อวัย 36 ปีจำเหตุการณ์รอดชีวิตแบบปาฏิหาริย์ของเขาไม่ได้ แต่หนึ่งในพนักงานของร้าน Panera นาง April Bradley เห็นคุณ Ogburn ล้มลงไปกับพื้นในระหว่างที่กำลังทำงาน จากนั้นเธอจึงตัดสินใจโทรแจ้ง 911 หญิงสาวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “วันนั้นสีหน้าของเขาแย่มาก หน้าของเขาเป็นสีม่วงเข้ม มันดูน่ากลัวมากๆ ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และเป็นโชคดีของคุณ John ที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่เคยฝึกการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อน เจ้าหน้าที่ Guiler ได้เริ่มปั๊มหัวใจให้กับชายหนุ่มในระหว่างที่รอแพทย์ แต่หลังจากผ่านไป 20 นาที อาการของผู้ป่วยก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังจากที่หลายๆ คนพยายามช่วยชีวิตเขาอยู่นานและทำ CPR มากกว่า 200 ครั้ง…
-
สาวๆ ผู้หิวโหยร่วมกันตามหา ชายหล่อล่ำก้ามปูตัวสูงปรี๊ด จนถึงขั้นได้ฉายาว่าหนุ่มต้นไม้!!
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสชาวเน็ตทางฝั่งตะวันตกที่เป็นเรื่องฮือฮากันมากสำหรับสาวๆ ผู้หิวกระหาย หลังจากได้มีทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @vickto_willy ได้ทวีตภาพของชายหนุ่มกล้ามปูตัวสูงใหญ่คนหนึ่งจนเธอตั้งชื่อให้เขาว่าพ่อหนุ่มต้นไม้!! ซึ่งหลังจากที่ภาพดังกล่าวได้ถูกโพสต์ได้ไม่นาน ผู้คนก็ต่างกันรีทวีตเกี่ยวกับชายคนดังกล่าวกันยกใหญ่ จนเป็นคอมเม้นตลกๆ มากมายเช่น เธอคนนี้ได้ปลดปล่อยสัญชาติญานดิบออกมาว่า “ลองคิดดูว่าหรรมส์ของเขาจะใหญ่ขนาดไหนกัน” ยังไม่หมดแค่นั้น เธอยังบอกอีกว่า “ฉันยอมให้เขาเอาหรรมส์อันทรงพลัง มาทำร้ายจิมของฉันได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนจนครบ 7 วันเลย” และก็ปิดท้ายภาพของพ่อหนุ่มคนนี้ที่ตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง… แต่จนแล้วจนรอดคิดเหรอว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะหนีรอดสายตาของเหล่านักสืบโคนันแห่งโลกอินเตอร์เน็ต ที่แม้แต่ FBI ยังต้องยอมแพ้ได้!! พ่อหนุ่มต้นไม้คนนี้มีชื่อจริงว่า Danny Jones เป็นนักเพาะกาย ทว่าแม้คนจะรู้ชื่อจริงของเขาแล้ว แต่ชาวเน็ตยังคงชอบชื่อฉายาพ่อหนุ่มต้นไม้กันเสียเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเรียกเขาด้วยชื่อนั้นต่อไป เอาเป็นว่าเราลองมาดูภาพอื่นๆ ของพ่อหนุ่มต้นไม้ ไอแอมกรูทคนนี้กันกว่า ว่าจะเผ็ดร้อนแค่ไหนกัน… ร่างกายพี่จะเพอร์เฟ็คไปไหน สูง หล่อ กล้ามแน่น อื้อหือออ เด็กๆ ยังต้องเงยหน้าดูราวกับกำลังมองต้นไม้ต้นใหญ่ ยิ่งพอเขาล้มลงนอน ก็ดูเหมือนเตียงธรรมดาจะเอาเขาไม่อยู่ ดูสิขาเลยมานิดหนึ่งแหน่ะ ทว่าข้อดีก็มีนะ เพราะเขาสามารถเปลี่ยนหลอดไฟได้โดยที่ไม่ต้องใช้บันไดเลย ตัวใหญ่แบบนี้ ไซส์ของกินก็ต้องใหญ่ตาม…
-
หนุ่มวัย 34 ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ หลังแอบบุกเข้าบ้านคนอื่น เพียงเพื่อขโมย “ไก่ทอด+วอดก้า”
โดยปกติแล้ว หากมีขโมยลักลอบเข้ามาในบ้านของเรา สิ่งที่จะหายไปก็คือเงินทอง รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่มีมูลค่านับพันนับหมื่นใช่ไหมละ แต่สำหรับหัวขโมยที่ชื่อว่า Ronald Gregory Wesly วัย 34 ปีคนนี้ กลับทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป เพราะแทนที่เขาจะขโมยของ แต่กลับขโมยอาหารซะอย่างนั้น!! เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า หลังจากที่ Samantha O’Neal หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า ได้เดินทางออกไปทำงาน นาย Ronald Wesly ก็ได้แอบบุกเข้าไปในบ้านของเธอทันที และเมื่อเข้าไปในบ้านได้สำเร็จ เขาก็เดินไปยังตู้เย็น และได้พบกับไก่ตัวหนึ่ง งานนี้หนุ่มรายดังกล่าวจึงได้ตัดสินใจนำไก่ไปทอด พร้อมกับขโมยวอดก้าเพื่อมาดื่มคู่กับไก่อย่างชิวๆ อีกด้วย น่าเศร้าที่ความสุขของเขาเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน Samantha ก็กลับมาที่บ้านพร้อมกับน้องสาว ซึ่งเธอก็ได้สังเกตเห็นควันจากในบ้านที่นาย Ronald ทำอาหาร นั่นทำให้เธอรีบโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่จาก Alachua County Sheriff’s Office เดินทางมาถึง นาย Ronald ก็ถูกจับกุมตัว…
-
ชายหนุ่มขับรถทั่วนิวซีแลนด์ 8,000 กิโลเมตร เพื่อเก็บภาพที่จะบอกไงดี คือมันสวยมากอ่ะ!!
Jacob Laukaitis ชายหนุ่มผู้หลงรักการเดินทาง ได้ออกท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะได้นำสถานที่ต่างๆ ที่เคยไป มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราว พร้อมกับบันทึกภาพสุดประทับใจเหล่านั้นเก็บเอาไว้ และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาก็ได้มีโอกาสออกไปเที่ยวชมสถานที่อันงดงามหลายแห่งด้วยกัน แถมยังได้ยินผู้คนเล่าอีกว่า นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยความอยากรู้ จึงทำให้ Jacob ได้ตัดสินใจ ออกเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศนิวซีแลนด์ซะเลย พร้อมกับได้มาเล่าประสบการณ์ในการผจญภัยครั้งนี้ให้เราได้ฟังอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยว่า ประเทศนี้จะสามารถทำให้เขาประทับใจได้มากขนาดไหน ก่อนออกผจญภัย Jacob ได้เล่าว่า เขาได้บินไปยังโอ๊คแลนด์ เพื่อซื้อรถยนต์ Mazda SUV ปี 1996 จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทั่วนิวซีแลนด์ “ผมรู้ว่าประเทศนี้ต้องสวยงามแน่ๆ แต่ก็ไม่เคยคาดหวังว่าโลกนี้จริงๆ เป็นอย่างไร” สถานที่แรกที่ไปคือ จุดที่เหนือที่สุดของนิวซีแลนด์ จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทางใต้ และไม่กี่วันต่อมา ผมก็ได้เดินทางไปยังภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศ (ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำ ประตูดำแห่งมอร์ดอร์ ในภาพยนตร์เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ นั่นเอง) เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็ได้เดินทางไปยัง Tongariro Crossing…
-
ชายหุ่นล่ำบึกใส่เดรส “กระชากเวอร์จิ้น” อีกราย ผลลัพธ์ที่ออกคือฆ่ากันตายได้เลยนะ เอื้อก!!
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูเซ็กซี่ ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องของรูปร่าง และหน้าตาเท่านั้น แต่แฟชั่นเสื้อผ้าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำให้สาวๆ ทั้งหลายเซ็กซี่ขึ้นได้เหมือนกัน และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทในประเทศญี่ปุ่น ได้ปล่อยเสื้อถักไหมพรมที่ชื่อว่า Virgin Killer ออกมา โดยชุดจะมีลักษณะเป็นเดรสถักสั้น โชว์แผ่นหลังสุดวาบวิว หากได้ลองใส่แล้วจะสามารถจุดประกายความเซ็กซี่ในตัวคุณขึ้นมาทันที นี่คือหน้าตาของชุดเดรสกระชากเวอร์จิ้น ที่บอกได้คำเดียวเลยว่าเซ็กซี่ฝุดๆ . ด้วยความที่เป็นชุดแฟชั่นที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น จึงทำให้ชุดดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แถมยังทำให้นางแบบ รวมถึงไอดอลสาวสุดเซ็กซี่หลายๆ คน พากันมาอวดโฉมความเอ็กซ์ของรูปร่างหลังได้ใส่ชุดเดรสตัวนี้ งานนี้หนุ่มๆ ทั้งหลายถึงกับน้ำลายไหลเยิ้มกันเลยใช่ไหมละ ฮร่าๆ เพื่อนๆ ลองจินตนาการดูนะว่า ถ้าหากเปลี่ยนจากสาวสวยสุดเซ็กซี่มาเป็นชายหนุ่มหุ่นลำบึก ในชุดเดรสกระชากเวอร์จิ้นที่โชว์แผ่นหลังสุดวาบหวิว มันจะออกมาเป็นอย่างไร!? งานนี้ Zayan Kazi ชายหนุ่มนักคอสเพลย์ที่มีหุ่นสุดล่ำบึก ก็จะขอมาลองใส่ชุดสุดหวาบหวิวนี้ดูสักครั้ง บอกเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะต้องทำให้คุณอึ้ง ทึ่ง และอ้าปากค้างอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็เชิญรับชมได้เลย… โอ้ววววววววว เซ็กซี่พอไหมละ…หืมมม!! . . โชว์แผ่นหลังเก๋ๆ อะแกรรรร .…
-
พบกับหนุ่มชาวรัสเซียที่ได้ฉายา “Harry Potter” เพราะหน้าเหมือนแดเนียล จนนึกว่าฝาแฝด
หลายครั้งที่เราได้นำเสนอภาพของคนธรรมดาๆ ที่มีใบหน้าเหมือนกับเหล่าเซเลปคนดัง และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมีหน้าตาคล้ายกันเป๊ะๆ บางคนก็เหมือนที่รูปปาก โครงหน้า หรือดวงตา แต่สำหรับ Nicholas ชายหนุ่มจากเมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซียคนนี้ กลับมีใบหน้าคล้ายกับนักแสดงชื่อดังจากอังกฤษเอามากๆ เพราะเพียงแค่คุณได้มองไปที่ใบหน้าของเขา ก็รู้ทันทีแบบไม่ต้องสืบเลยว่า หนุ่มคนนี้หน้าตาเหมือนใคร…!? ใช่แล้ว!! เขามีหน้าตาเหมือนกับนักแสดงหนุ่ม Daniel Radcliffe ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาท Harry Potter นั่นเอง ด้วยความที่มีใบหน้าเหมือนกับนักแสดงหนุ่ม จึงทำให้เขาได้กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ว่าแต่จะเหมือนมากหรือเหมือนน้อยขนาดไหนนั้น เห็นทีเพื่อนๆ ต้องลองตัดสินด้วยตาตัวเองดูแล้วละ แน่นอนว่าเขากลายมาเป็นเน็ตไอดอลแบบเบาๆ หลังจากมีคนเห็นว่าเขาก็คล้ายพ่อแดเนียลเหมือนกัน แถมเจ้าตัวยังสายตาสั้น ต้องใส่แว่นเช่นกันอีก เอาล่ะ… ตัดสินด้วยตาตัวเองแล้วตอบมาว่าเหมือนหรือไม่!? ส่วนตัวแล้ว #เหมียวขี้อ้อน คิดว่าหนุ่มคนนี้มีความเหมือน Harry Potter เป็นอย่างมาก เพราะเห็นตอนแรกก็ถึงขั้นตกใจในความคล้ายแล้ว แต่น่าเสียดายที่ขาดแผลเป็นไป ไม่อย่างนั้นก็คงจะเหมือนเป๊ะ 100% แน่ๆ ฮร่าๆ ที่มา : acidcow
-
ชายหนุ่มแชร์ประสบการณ์ เลิก ‘เหล้า’ และ ‘กาแฟ’ ได้ 2 ปี และตอนนี้ ชีวิตเขาดีขึ้นสุดๆ !!
ทั้งการดื่มเหล้าและดื่มกาแฟนั้นสามารถทำให้คุณเกิดอาการ ‘ติด’ ได้ ถึงหลายๆ คนจะไม่เชื่อ และไม่ค่อยอยากที่จะยอมรับก็ตาม… Tobias Van Schneider คือคนที่สามารถเอาชนะความอยากนั้นได้สำเร็จ เพราะเป็นเวลากว่า 25 เดือนเต็มแล้ว โดยที่เขาใช้ชีวิตมาโดยไม่มีทั้งกาแฟหรือเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เขาคือชายเยอรมันที่ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ก ซึ่งตอนนี้กำลังทำงานอยู่กับ Spotify อยู่ และวันนี้เขาจะมาบอกเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงหลังจากเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตกันล่ะ Tobias Van Schneider ‘ก่อนอื่นเลยผมเหลือเงินเก็บมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราวๆ 1,000 เหรียญต่อเดือนเลยทีเดียว (35,000 บาท!!)’ ‘แต่สิ่งที่หายไปก็คือการเข้าสังคม เพราะการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นคือกิจกรรมทางสังคมที่ดีเลยล่ะ’ Tobias เล่า เพราะหลายๆ ครั้งเขาต้องพยายามอธิบายให้เพื่อนๆ ของเขาได้เข้าใจกันว่าเขาไม่ดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ และทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการ ‘ปฏิเสธ’ ทุกๆ คำขอที่เพื่อนๆ ส่งมาถึงเขา หนึ่งในสิ่งที่เรียนรู้ได้มาจากการเลิกเหล้าก็คือ ‘คนเมาน่ะชอบเข้าสังคมแบบซุบซิบนินทา’ ข่าวคราวซุบซิบนินทานั้นมักจะเป็นเรื่องที่ตลกขบขันเฉพาะในวงเหล้าเท่านั้น ‘ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้ชอบเที่ยวมากมายเท่าไหร่ ยิ่งหยุดดื่มยิ่งกลายเป็นไม่เที่ยวเลย ผมค่อนข้างแปลกใจเหมือนกันว่ากิจกรรมทางสังคมของวงเหล้าก็ค่อยๆ หายไปเหมือนกัน ก็ต้องยอมรับล่ะว่าในหลายๆ ครั้งคำว่ามิตรภาพนั้น เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมการสังสรรค์จริง’ เขาเล่าต่อ…
-
หนุ่มยัดความเกรียนของตัวเอง ร่วมเฟรมในภาพคนดัง ทั้งเทเลอร์ เซลีนา และอีกบานตะไท
ในขณะที่คุณคิดว่าการตัดต่อภาพเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และต้องใช้ความอดทนสูง แต่หนุ่มนามว่า Average Rob จากเบลเยี่ยมคนนี้ กลับมองว่าการต่อภาพมันเป็นเรื่องที่สนุกดีนะ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดสร้างสรรค์ โดยการตัดต่อรูปของตัวเองไปใส่ร่วมเฟรมกับเหล่าเซเลปคนดัง และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นว่าจากรูปสวยๆ ก็กลายเป็นฮาขึ้นมาทันที อ้อ!! และต้องขอชมอีกเรื่องหนึ่งคือ เขาสามารถตัดต่อภาพได้เนียน และดูกลมกลืนไปกับภาพต้นฉบับมากๆ เลยละ เอาเป็นว่าลองมาชมผลงานของหนุ่มคนนี้กันเลยดีกว่า เมื่อเทเลอร์ สวิฟ เล่นแล้วไม่ยอมเก็บ ก็เดินเข้าไปเหยียบอย่างจังเลยสิ เมื่อเขา และเซเลนา กินอาหารเม็กซิกันเข้าไป พากันท้องเสียเลยไหววมั้ยย มีลา คูนิส ทำไมชอบแกล้งแบบนี้ละ Eminem ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นจริงๆ เมื่อได้พบ Kanye เขาเข้ามากอดฉันจากด้านหลัง รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้แหะ งานเพลงต่อไปของเทย์เลอร์จะพูดถึงผู้ชายคนไหนน้า เราจะผ่านความเจ็บปวดในครั้งนี้ไปด้วยกัน เธอมันร้ายจริงๆ ยัยเด็กบ้า นี่อาจจะเป็นวิธีการทักทายแบบใหม่ เมื่อได้เจอสไปเดอร์แมน นี่มันเป็นการแย่งซีนกันชัดๆ เมื่อสองสาวเทเลอร์ และคาร์ลี่…
-
เรื่องราวของ Steve Ludwin ชายผู้เสพติดการฉีดพิษงูเข้ากระแสเลือดมากว่า 30 ปีเต็ม!?
โลกของเราใบนี้ก็มีเรื่องแปลกๆ มากมาย แต่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว อยากจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับนักดนตรีคนหนึ่ง Steve Ludwin ในวัย 49 ปี ที่ต้องบอกตรงๆ ว่าเขาดูหนุ่มเกินอายุของเขามากๆ และเรื่องที่แปลกที่สุดก็คือเขาได้ทำการฉีดพิษงูเข้าร่างของตัวเองมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีเต็มแล้ว!!!? ‘ขณะที่คนอื่นๆ เสียเงินเสียทองไปกับการออกกำลังกายในยิม ผมอยู่บ้าน ฉีดพิษงูเข้าร่าง เพื่อเป็นการบริหารระบบภูมิคุ้มกันของผม’ Steve กล่าว จากคำบอกเล่าของเขา เขาจะรู้สึกสดชื่นมากๆ หลายชั่วโมงหลังฉีดพิษงูเข้าไป แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เขาฉีดพิษงูเข้าร่างนะ นอกจากนี้เขายังให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันตัวเองจากการโดนงูกัดด้วย!? จากสถิติของ World Health Organisation ในแต่ละปีมีคนตายหรือพิการเพราะพิษงูกว่า 100,000 คนจากทั่วโลก ซึ่งการรักษาแบบเดียวในปัจจุบันก็คือการสกัดยาแก้พิษจากเลือดม้า แต่บางครั้งก็มีปัญหาในการปรับตัวเข้าสู่กระแสเลือดของมนุษย์เช่นกัน การฉีดพิษงูของหนุ่มใหญ่คนนี้ก็ไม่ได้ทำด้วยตัวเองนะจ๊ะ อยู่ในความดูแลของทางบริษัท VenomAB แห่งประเทศเดนมาร์ก ที่กำลังคิดค้นยาแก้พิษงูที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และถ้าสามารถทำโปรเจ็คต์นี้ได้ แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์มากมายต่อมนุษยชาติเลยทีเดียว แต่เขาก็เตือนว่าการกระทำนี้มีความอันตรายสูงมาก ไม่ควรลอกเลียนแบบนะจ๊ะ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเขาค่อนข้างมีภูมิคุ้มกันต่อพิษที่ดีเลยล่ะ ในที่พักของเขามีงูพิษอยู่ด้วยทั้งหมด 18 ตัว รวมไปถึงสัตว์เลื้อยคลานอีกหลายประเทศ และแมวเหมียวอีกหนึ่งตัว… ‘ความคลั่งไคล้ในงูของผมเริ่มขึ้นเมื่อผมอายุได้ 10…
-
แอคติ้งต้องมา!! ชายหนุ่มกับการตามถ่ายภาพ 21 สถานที่จริงในฉากภาพยนตร์โปรดหลายเรื่อง
แน่นอนว่าตั้งแต่เกิดมาหลายๆ คนคงได้ดูภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง แต่จะมีซักกี่เรื่องที่เป็นเรื่องโปรดของเรา และด้วยความชอบเหล่านั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอยากจะไปเจอเหล่านักแสดงตัวจริงๆ หรือสถานที่ถ่ายทำจริงๆ ไม่งั้นคงไม่มีทัวร์ท่องเที่ยวตามภาพยนตร์หรือซีรีย์หรอกใช่มั้ยล่ะ? วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีเรื่องราวของ Phil Grishayev ชายหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีหนังเรื่องโปรดเหมือนทุกๆ คน แต่เขาลองเดินทางไปยังสถานที่จริงที่ใช้ถ่ายทำและถ่ายรูปเก็บกลับมาเปรียบเทียบซะเลย เราลองมาดูแต่ละที่ๆ เขาไปมาดีกว่า จากเรื่อง Back to the Future Ghostbusters Audrey Hepburn ที่ Paramount Studios Fight Club Blade Runner Grease The Usual Suspects Back to the Future The Mask Michael Jackson – Thriller …
-
หนุ่มใจดี ช่วยกระรอกน้อยตกตึก 4 ชั้น และสุดท้ายก็… ตกเป็นทาสมันตั้งแต่วันนั้น!!
เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากของเจ้ากระรอกน้อยที่ชื่อว่า TinTin จากการที่ต้องใช้ชีวิตระหกระเหินตั้งแต่เด็กเพราะมันถูกแม่ของมันทิ้ง แถมยังเคราะห์ร้ายตกลงมาจากตึกสูง 4 ชั้นซะอีก แต่โชคดีที่ไปได้ Decan Andersen ช่วยเหลือเอาไว้ พอทราบว่าเจ้ากระรอกน้อยถูกครอบครัวของมันทิ้งไปเสียแล้ว หนุ่มใจดีของเราก็เลยตัดสินใจเลี้ยงดูมันแทนซะเลย เริ่มด้วยการพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการตกจากที่สูง… ที่น่ารักกว่านั้นก็คือ เขาเลี้ยงแมวอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และพอเลี้ยงกระรอกด้วย ทั้งสองดันเข้ากันได้ดีซะงั้น เจ้าเหมียว CoCo ของ Decan Andersen ก็เหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ของเจ้ากระรอกน้อยถูกทิ้ง ตั้งแต่แรกเจอมันก็ได้ทำการปลอบประโลมเจ้ากระรอก ทั้งเลีย ทั้งคลอเคลีย แถมนอนกกเพื่อให้ความอบอุ่นจนกระรอกน้อยเผลอหลับภายในเวลาไม่นานนัก… (จะหักมุมมากถ้ากล่อมให้หลับแล้วกินเนี่ยเจ้าเหมียว ฮร่าาา) และหลังจากหายเป็นปกติ Decan ก็สังเกตได้ว่าเจ้า TinTin นั้น อยู่กับคนจนชินเกินกว่าที่จะปล่อยกลับสู่ธรรมชาติไปเสียแล้ว Decan ได้เขียนไว้ในเว็บไซต์ของ TinTin ว่า ในประเทศเดนมาร์กที่เขาอาศัยอยู่นั้น มันเป็นเรื่องผิดกฎหมายที่จะเลี้ยงเจ้า TinTin ไว้ เพราะถือว่ากระรอกสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์สงวน แต่กระนั้นเขาก็ได้รับอนุญาตจากทาง Danish Wildlife Preservation ให้สามารถเลี้ยงมันไว้ได้เป็นกรณีพิเศษล่ะ มีอินสตาแกรมเป็นของตัวเองด้วยนะเนี่ย!!! วิดีโอที่โพสต์โดย Decan Andersen (@tintin_the_squirrel) เมื่อ…
-
นี่คือ Man Dog งานอดิเรกสุดแปลกของชาวอังกฤษกว่า 10,000 คน แต่งตัวและทำท่าเลียนแบบมะหมา!!
ขอถามคำถามหน่อยว่า กิจกรรมยามว่าง หรืองานอดิเรกที่คุณผู้ชายชอบ ส่วนใหญ่คุณทำอะไรกันบ้าง? เชื่อว่าคำตอบที่ได้มาก็คงจะเป็น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง หรือแต่งรถ อะไรทำนองนี้ แต่สำหรับหนุ่มๆ จากประเทศอังกฤษกว่า 10,000 คน เขาชอบทำกิจกรรมยามว่างที่แปลก และไม่เหมือนใครนั่นก็คือ การพากันแต่งตัวเป็นน้องหมา จนถูกเรียกว่าเป็น Man Dog หรือ มนุษย์หมา นั่นเอง และนอกจากจะแต่งตัวให้เหมือนน้องหมาแล้ว พวกเขายังทำท่าทางเลียนแบบให้เหมือนกับเป็นเจ้าตูบจริงๆ อีกด้วย สำหรับชุดที่ใช้ในนำมาแต่งตัวเป็นสุนัขนั้น เป็นชุดที่มีลักษณะแนบเนื้อ มีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีหน้ากากรูปสุนัขที่ใส่แล้วก็ดูเหมือนสุนัขที่สุดเลย ส่วนนี่เป็นภาพของ Tom หนึ่งในหนุ่มๆ Man Dog ที่ชื่นชอบการแต่งเป็นน้องหมาพันธุ์ดัลเมเชียนเป็นชีวิตจิตใจ โดยเขาแต่งมานานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว จนทำให้เขาเริ่มกลายเป็นที่รู้จักในชื่อว่า Mr Puppy UK นั่นเอง Kye หนุ่มวัย 28 ปี…
-
ภารกิจสุดฮา ให้ชายหนุ่ม 4 คนที่ ‘ขาดความมั่นใจ’ มาถ่ายรูปแฟชั่น ให้ได้หุ่นแบบเหล่าไอดอลพวกเขา!!?
ไม่ว่าใครก็อยากจะมีร่างกายที่ดูดี โดยเฉพาะเหล่าหนุ่มๆ แล้วล่ะก็ การมีกล้ามเป็นมัดๆ รวมถึงไขมันในร่างกายปริมาณที่น้อยนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หลายๆ คนล้วนปรารถนา แต่กระนั้นไม่ใช่ว่าทุกๆ คนจะมีร่างกายได้แบบเหล่านายแบบ นางแบบ หรือเหล่านักกีฬา เพราะว่าอย่างหนึ่งก็คือไลฟ์สไตล์ของเราที่แตกต่างกัน แต่วันนี้ 4 หนุุ่มอาสาสมัครของเราก็มีภารกิจ ถ่ายภาพของตัวเองให้ออกมาเหมือนกับเหล่านายแบบไอดอลของพวกเขาล่ะ Zach ที่เขินอายเวลาต้องถอดเสื้อ เพราะอ้วนเกินไป และ Ned ที่กลัวว่าแผลเป็นของเขาจะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจ Keith หนุ่มที่ร่างกายของเขากล้ามเนื้อขึ้นยาก แต่กลับสะสมไขมันไว้เพียบ และ Eugene ที่เติบโตขึ้นมาในสังคมที่เขาโดนแกล้ง และด่าทอว่าน่าเกลียดอยู่ตลอดเวลา ภารกิจคือถ่ายภาพให้พวกเขาออกมาฮอทเหมือนไอดอลของพวกเขา ทั้ง John Krasinski หนุ่มหล่อเข้มจาก Men’sHealth เซ็กซี่สุดๆ เหมือน Justin Bieber ล่ำบึ๊กประดุจ Channing Tatum และสำหรับ Ned ยากหน่อยนึง เพราะไอดอลของเขาเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์นักกีฬาระดับโลกอย่าง Cristiano Ronaldo!!! แล้วความเป็นไปไม่ได้ก็ค่อยๆ ถูกทำลายลงด้วยฝีมือทีมงานคุณภาพ ทะด๊าาาาา!! …
-
หนุ่มโดนตำรวจรวบ หลังอัดคลิปสอนเจ้าตูบทำท่า ‘เชิดชูนาซี’ เวลาได้ฟังคลิปของฮิตเลอร์
สำหรับบ้านเราแล้วเรื่องนี้อาจจะดูไม่รุนแรงมากนัก (ถ้าใครยังจำกันได้มีหนุ่มคะนองคนหนึ่งอัดคลิปพร้อมข้อความ ‘เชิดชูนาซี’ ขึ้นมาจนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลด้วยนะ -*-) แต่ถ้ากล่าวถึงในส่วนของโลกตะวันตกแล้วล่ะก็ เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ เพราะถือเป็นค่านิยมที่ผิด รุนแรง และโหดร้ายสุดๆ ก็อย่างที่เรารู้ๆ กันว่านาซีภายใต้การนำของฮิตเลอร์นั้นฆ่าคนอย่างโหดร้ายไปหลายล้านคนเลยทีเดียว!!! ซึ่งล่าสุดก็มีเรื่องราวของ Markus Meechan หนุ่มวัย 28 ปีแห่ง Coatbridge, North Lanarkshire ที่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ เพราะปล่อยคลิปวิดีโอการสอนสุนัขพันธุ์ปั๊กของเขาให้ชูมือทำสัญลักษณ์เชิดชูฮิตเลอร์เวลาได้ดูคลิปการพูดสุนทรพจน์ของเขา เจ้าหมาปั๊กจะทำท่าทางสัญลักษณ์เชิดชูนาซีทันทีถ้าได้ยินคำว่า ‘Sieg Heil’ หรือ “ชัยชนะ จงเจริญ” หนักไปกว่านั้น คลิปวิดีโอนี้ (แน่นอนว่าถูกลบไปแล้ว) เจ้าตูบได้แสดงความดีอกดีใจสุดๆ ด้วยล่ะเมื่อได้ยินคำว่า ‘Gas the Jews’ หรือ ‘รมแก๊สชาวยิวซะ’ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ตลกเลย -*- และนี่ก็ไม่ใช่คลิปแรกที่เขาได้ทำการบันทึกไว้ ยังมีอีกหลายคลิปที่มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้ด้วย… สุนัขพันธุ์ปั๊กตัวนี้เป็นของแฟนสาวของเขา Suzanne ในวัย 28 ปีเช่นกัน ทางด้านสารวัตร David Cockburn ผู้ดำเนินการการจับกุมได้กล่าวว่า ‘การจับกุมชายคนนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังโลกออนไลน์ว่าการทำคลิปแบบนี้น่ะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แถมคลิปนี้ยังถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก และมีผู้รับชมไปแล้วกว่า 1 ล้านราย’ ‘แถมลักษณะของข้อความที่ต้องการจะสื่อผ่านคลิปนี้นั้นยังรุนแรง…
-
เรื่องราวของชายหนุ่มที่เบื่อชีวิต ลาออกจากการเป็นตัวเอง และกลายไปเป็น ‘แพะภูเขา’ (จริงๆ) ซะเลย!!!
แน่นอนว่าในชีวิตหลายๆ คนก็ต้องเจอกับอะไรแย่ๆ มากมายไม่เว้นแต่ละวัน บางครั้งก็อาจทำให้เราเหนื่อ เราท้อ จนอยากลาออกจากการเป็นตัวเองก็มี เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ Thomas Thwaites ที่ใช้เวลาในช่วงวันหยุดของเขาลาออกจากการเป็นตัวเองโดยสิ้นเชิง แล้วไปเป็นแพะภูเขาซะเลย!!! ฟังดูอาจจะไม่เข้าท่าเข้าทางและไม่สามารถเป็นไปได้ แต่ Thomas ทำเรื่องนี้จริงๆ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากศูนย์ชีวการแพทย์ลอนดอน Wellcome Trust ที่วิจัยอย่างจริงจังและสร้างอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนให้เขาเป็นแพะอย่างสมบูรณ์แบบ!!! เพราะการจะเป็นแพะ ไม่ได้เป็นแพะแค่กายเท่านั้น ต้องเป็นแพะทางจิตใจอีกด้วย!!! นี่คือพ่อหนุ่ม Thomas Thwaites ของเรา เขาเป็นนักออกแบบ มีผลงานการันตีจนได้ไปพูดในเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง TED Talk และล่าสุดเขาก็อยากจะลาออกจากการเป็นตัวเองบ้า่ง เพราะเหนื่อยเหลือเกิน ตอนแรกเขามีไอเดียที่จะเป็นช้างล่ะ แต่มันก็ออกจะลำบากไปหน่อยเพราะด้วยน้ำหนักตัว การเป็นแพะภูเขาหรือสัตว์สี่เท้าที่ตัวเล็กๆ กว่านั้นก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เขาได้ทำการวิจัยและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจิตวิทยา ความเข้าใจ และการเป็นแพะอย่างแท้จริงมานานพอสมควร ก่อนที่จะให้ทีมวิจัยของ University College London ช่วยให้เขากลายเป็นแพะได้อย่างแท้จริง (ในด้านจิตใจ) โดยใช้ทั้งกระบวนการทางจิตวิทยาและเทคโนโลยีต่างๆ ช่วยปิดระบบความคิดแบบมนุษย์ของเขา แต่ก็ยังไม่มีเทคโนโลยีไหนที่ทำเรื่องนั้นได้จริงๆ (ณ ตอนนี้) เลยให้ทีมวิจัยช่วยเปลี่ยนร่างกายของเขาให้มีลักษณะแบบแพะภูเขาแทน พ่อหนุ่มของเรากับทีมนักวิจัย ทั้งการมีรูปร่างลักษณะแบบแพะภูเขาเป๊ะๆ…
-
ชายหนุ่มพากันเข้าร้านเสริมสวยต่อขนตา เพื่อดูปฎิกิริยาของคนรอบข้างแน่นอนว่าขำกร๊ากกันระนาว!!
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ‘ขนตา’ เป็นส่วนสำคัญสำหรับผู้หญิงที่ต้องทำให้มีความยาวและโค้งงอ เพื่อให้ดูเป๊ะและปัง ก่อนออกจากบ้าน กลับกัน สำหรับผู้ชายแล้วแทบจะไม่ต้องสนใจอะไรมันเลย และจะเป็นอย่างไรเมื่อผู้ชายได้ลองทำการต่อขนตาดูบ้าง เค้าจะหล่อขึ้นมั้ยนะ ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลย ชายหนุ่มสองคนจากเว็บ Buzzfeed ได้ทำการทดลองในการต่อขนตาเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าตัวเอง และดูปฏิกิริยาของคนรอบข้าง พวกเขาจึงไปเข้าร้านเสริมสวยเพื่อต่อขนตาให้ยาวและดูหนาขึ้น ซึ่งการต่อขนตานี้จะอยู่ได้นานถึง 6-8 สัปดาห์เลยทีเดียว!! และผลที่ออกมาก็ดูแตกต่างจากตอนแรกซะเหลือเกิน 5555+ จากพี่ชายหน้าโหดก็กลายเป็นขุ่นแม่ไปซะงั้น พี่หนุ่มตี๋ของเราก็ดูเทยไปอีก ฮร่า ทำให้เหล่าคนรอบข้างต่างก็หัวเราะขำกลิ้งกันระนาว (โดยเฉพาะพี่แว่นข้างหลังนี่ถึงกับจ้องแช่ซะนานเชียว 555+) ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ กันได้เลย… เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ ใครจะไปคิดกันล่ะว่าเปลี่ยนแค่ขนตา จะทำให้ลุคเปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้ 555+ ที่มา : buzzfeedvideo, lifebuzz
-
หนุ่มออสซี่สุดขำ…ทำชาวเน็ตฮาลั่นโซเชียล หลังเห็นภาพขณะกำลังพยายามจับโซฟายัดเข้ารถเก๋ง
เรียกได้ว่าเป็นภาพที่กำลังถูกแชร์ไปทั่วโลกโซเชียลในตอนนี้เลยก็ว่าได้นะเนี่ย สำหรับเรื่องราวของหนุ่มวัยรุ่น ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียคนนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าอะไรเป็นต้นเหตุในการดลจิตดลใจให้เขา ได้ทำในสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึง ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่าหนุ่มฮิปสเตอร์รายนี้ กำลังนำโซฟาขนาดใหญ่ยักษ์ ยัดเข้าใส่ประตูรถตอนท้ายของรถเก๋ง ด้วยท่าทางจริงจังมาก เหมือนในภาพนี่แหละ… หนุ่มรายนี้พยายามแล้วพยายามอีกที่จะยัดโซฟา เข้ารถของตัวเอง แต่โซฟาเจ้ากรรมก็ไม่มีทางที่จะเข้าไปได้เลย แหมๆๆ นี่โซฟานะ แล้วนี่ก็รถเก๋งด้วย แถมโซฟายังใหญ่กว่าประตูรถขนาดนี้ จะยัดเข้าไปได้ยังไงละพ่อคู๊ณณณณ ด้วยท่าทีที่แปลก จึงทำให้บรรดาผู้ที่พบเห็น ได้ทำการแชะภาพของเขาแล้วนำในลงในโลกโซเชียลซะเลย งานนี้บอกเลยว่าเรียกเสียงฮาได้ไม่น้อยเลยละ นอกจากนี้ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเม้นต์ใต้ภาพกันอย่างมากมาย บ้างก็ว่า ถ้าเขาลองพยายามยัดเข้าฝากระโปรงด้านหลังจะง่ายกว่าไหม ส่วนอีกรายก็อธิบายต่อว่า บางทีเขาอาจจะคิดว่าด้านในกว้างกว่าด้านนอกก็ได้นะ ที่มา : dailymail
-
ชาวเน็ตแชร์ภาพชายหนุ่มให้อาหารแมวจรบนหลังคา…นำไปสู่ประเด็นดราม่ากันซะงั้น!?
อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าเหล่าสัตว์จรจัดทั้งหลายจะมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ไร้ความอบอุ่น ไร้ที่พึ่งพิง ไม่มีอะไรการันตีความปลอดภัยในชีวิตของพวกมันได้เลย อีกทั้งยังถูกผู้คนที่เดินผ่านไปมารังเกียจ เพราะสภาพหน้าตาของพวกมันไม่ได้น่ารักน่าชังเหมือนสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้าน วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวจรจัดมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน เรื่องมีอยู่ว่า คุณ Panjapoom Sitthikongsak ได้โพสท์รูปภาพลงในกลุ่ม ทาสแมว เป็นภาพของชายคนหนึ่ง กำลังให้อาหารเหล่าเหมียวน้อยอยู่บนหลังคา แค่นี้ก็สุขใจแล้ววววว . Posted by Panjapoom Sitthikongsak on Friday, March 25, 2016 พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน แต่ทำสิ่งดีๆได้ไม่น้อยไปกว่ากันนะครับ แมวบนหลังคาแถวบ้าน ห้องพี่เขาอยู่ติดกับหลังคาพอดี ผมอยู่ชั้น 5 เห็นพอดี เขายืนคุยกับพวกเด็กๆว่า “อร่อยมั้ย” น่ารักดีครับ ความสุขเล็กๆที่หาได้จากนอกหน้าต่าง :)” นอกจากนี้คุณ Panjapoom Sitthikongsak ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าแม่แมวตัวสีน้ำตาลในภาพ แต่ก่อนเป็นแมวมีเจ้าของ แต่พอเจ้าของเดิมย้ายออกไปก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่ พร้อมกับลูกน้อย 3 ตัว (อีกตัวป่วยอยู่กำลังอยู่ในช่วงรักษาตัว)…
-
ฮีโร่หนุ่ม ช่วยชีวิตเด็กหญิงให้รอดจากคลื่นยักษ์กลางทะเล ก่อนจะถูกคลื่นพัดกระแทกหินจนเสียชีวิต
การเข้าไปช่วยชีวิตผู้อื่นให้รอดพ้นจากอันตราย มันช่างเป็นเรื่องราวที่น่ายินที่สุด แต่เมื่อผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือกลับต้องมาเสียชีวิตเสียเอง มันก็กลายเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าขึ้นมาทันที ดังกรณีของ Ryan Martin นักบัญชีหนุ่มวัย 30 ปี จากควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียคนนี้ เขาได้กลายเป็นฮีโร่ไปในทันที หลังจากที่ได้ช่วยชีวิตเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ให้รอดพ้นจากคลื่นยักษ์กลางทะเล จนเด็กหญิงคนดังกล่าวปลอดภัย โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า Ryan Martin และครอบครัว รวมถึงแฟนสาวของเขา ได้เดินทางมาพักผ่อนที่แหลม Fingal Head ซึ่งในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น เมื่อมีเด็กหญิงวัยเพียง 7 ขวบ และครอบครัวของเธอ ถูกคลื่นยักษ์พัดออกห่างจากชายฝั่ง ในขณะที่กำลังเล่นเซิร์ฟบอร์ด งานนี้ Ryan และหนุ่มฮีโร่วัย 21 ปีอีกคนก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงทันที ทางด้านหน่วยกู้ภัยชายฝั่ง ก็รีบนำเรือยางออกไปช่วยเหลือเช่นกัน หลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง …
-
เรื่องราวของหนุ่มใหญ่ ผู้เสียพรหมจรรย์ครั้งแรกเมื่ออายุ 44 ปี โดยใช้ ‘กระปู๋ชีวจักรกล’ ของเขา!!!
ก่อนอื่นก่อนใด #จ่าสิบเหมียว ก็ขอแสดงความยินดีกับหนุ่มลายครามของเราด้วยนะจ๊ะ ในที่สุดก็ได้ทำตามความฝันที่รอคอยมาเสียทีเนาะ ฮ่าๆๆๆ Mohammad Abad ชายวัย 44 ปีที่ตอนเด็กโดนรถชนจนบาดเจ็บและลากไปกับถนนอีกกว่า 500 เมตรด้วยกัน ตอนเขาอายุได้เพียง 6 ขวบเท่านั้น ทำให้เขาสูญเสียของรักของหวงไปตั้งแต่วัยเด็ก ตอนนั้นมีเพียงหลอดเนื้อหนังเท่านั้นที่ทำหน้าที่เป็นกระปู๋เทียมให้กับเขา… จนกระทั่งในปี 2012 ที่ผ่านมา เขาก็เปลี่ยนไอเท็มคู่ใจและมาใช้ ‘กระปู๋ชีวจักรกล’ แน่นอนว่าทำให้มันสามารถทำงานได้ดีเทียบเท่าของเดิมเลยทีเดียว (ตามหลักการน่ะนะ -*-) และตอนนี้เขาก็เสียซิงไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยวัย 44 ปีนี่แหละ ส่วนผู้ที่มาพรากพรหมจรรย์ของเขา คือ Charlotte สาววัย 35 ปีที่ทำงานเป็นนักขับเคลื่อนเสรีภาพทางเพศ ที่ได้อ่านเรื่องราวของ Mo และตัดสินใจติดต่อเขา และอาสาเป็นประสบการณ์แรกของหนุ่มใหญ่คนนี้ ตอนนี้ Mo หนุ่มใหญ่ของเราทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ล่ะ และเขาดีใจมากๆ เพราะรอโมเม้นต์นี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปีเลยทีเดียว!!! Mohammad Abad กระปู๋ชีวจักรกลของเขาต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดานะเออ เพราะเหล่าศัลยแพทย์แห่ง University…
-
Austin Shifflett หนุ่มอ้วนหนักกว่า 100 กิโล สามารถเปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็น ‘เทพบุตรสุดหล่อ’!!
การลดน้ำหนัก แม้ว่าไม่ได้ทำกันง่ายๆ แต่ถ้าหากใครที่มีความพยายามในการลดน้ำหนักแล้ว เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้จะต้องคุ้มเกินคุ้มแน่นอน ก็เหมือนกับ Austin Shifflett หนุ่มชาวอเมริกันคนนี้… จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีทั้งหุ่น และหน้าตาดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากคุณได้รับชมภาพ 10 เดือนก่อนหน้านี้ของเขาที่มีน้ำหนักสูงถึง 110 กิโลกรัม คุณจะต้องตะลึงจนตาค้างแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย… ขุ่นพระ!! นี่คนคนเดียวกันจริงๆ หรือนี่ แตกต่างแบบสุดๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละว่า ภาพชายอ้วน และผอมที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้ เขาคือคนๆ เดียวกัน . สิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ขนาดนี้ เขาทำอย่างไร แน่นอนว่าการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เขากลับมาดูดีเหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆ ยังไงละ . เพื่อนๆ หลายคนอาจจะใช้เวลานานเป็นปีๆ กว่าจะสามารถลดน้ำหนัก และมีรูปร่างตามที่ตัวเองต้องการได้ แต่กับ Austin Shifflett เขาใช้เวลาในการลดน้ำหนักเพียง 10 เดือนเท่านั้น สุดยอดไปเลย!! …
-
หนุ่มสุดเพี้ยน จู่ๆ ก็เปลือยล่อนจ้อน ลงไปทำท่าวิดพื้นอยู่ข้างถนน สร้างความมึนงงให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
ความเพี้ยนของคน มักจะมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เหมือนดังเช่นกรณีของหนุ่มวัยกลางคนรายหนึ่ง จู่ๆ ก็เกิดความคิดเพี้ยนๆ ลงไปทำบางสิ่งบางอย่างอยู่กลางถนน งานนี้เล่นเอาผู้คนงงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆ กัน โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในฮ่องกง ซึ่งเผยให้เห็นภาพของชายวัยประมาณ 40 กว่า ได้ถอดเสื้อผ้าแล้วไปทำท่าวิดพื้นอยู่ข้างถนน จากนั้นเขาก็ทำท่าค้างนิ่งไว้พักหนึ่ง ก่อนวิ่งกลับไปใส่เสื้อ แล้วทำเหมือนเช็คภาพจากกล้องที่ตั้งเอาไว้ เรียกได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความงงงวย ให้กับผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นอย่างมากเลยละ ก็ดูสิ…เล่นเปลือยล่อนจ้อนขนาดนี้ ใครไม่อึ้งก็ให้มันรู้ไป นอกจากนี้ก็ได้มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ชายคนดังกล่าวอาจกำลังเลียนแบบ ผลงานของศิลปินชาวจีนนามว่า Ou Zhihang ผู้เป็นที่รู้จักในผลงานแก้ผ้าทำท่าวิดพื้นตามสถานที่สำคัญในแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่บางรายก็เดาว่า เขาอาจจะเป็น Ou Zhihang ตัวจริงก็ได้นะ ที่มา : mirror
-
ชม “การแต่งหน้า” สุดเทพ เปลี่ยน “ชายหนุ่ม” ให้เป็น “หญิงสาว” ได้ในพริบตา!!
เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินคำกล่าวของสาวๆว่า “การแต่งหน้าสามารถเปลี่ยนให้ทุกคนเป็นคนสวยได้” ตอนแรก #เหมียวอ๊อดโด้ก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหรหรอก จนกระทั่งไปเจอภาพเหล่านี้บนทวิตเตอร์ของคุณ 牛鹿 ❤ ❤ มา เหมียวนี่ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะนอกจากจะเปลี่ยนหญิงสาวหน้าตาธรรมดา ให้เป็นสาวสวยได้แล้ว พวกเขายังสามารถเปลี่ยนชายฉกรรจ์หน้าเถื่อน ให้กลายเป็นหญิงสาวได้ด้วย ไปชมกันเลย!!! เฮ่ยยยยยยยยยยย มันทำได้ขนาดนี้เลยเรอะ!!! นี่คืออุปกรณ์ทั้งหมด นี่คือวิธีแต่งตา ละเอียดเชียว อื้อหือออ ออกมาสวยจนเหมียวต้องตะลึงจริงๆ เหมียวว่าโลกเราชักจะอยู่ยากขึ้นไปทุกวันละ ทีหลังจะจีบใคร คงต้องขอให้ล้างหน้าออกก่อนแน่นอน ไม่งั้นอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ ฮาา ที่มา 牛鹿 ❤ ❤
-
หนุ่มมะกันไอเดียบรรเจิด ให้เพื่อนช่วย ‘ตัดแต่งขน’ เป็นรูปต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยการกุศล
หากคุณต้องถูกคนรอบข้างหัวเราะเยาะ เนื่องจากสภาพร่างกายของคุณเต็มไปด้วยขน คุณจะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าคุณคงจะรู้สึกแย่ และอับอายเช่นเดียวกับ Mike Wolfe หนุ่มวัย 35 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองนัมปา รัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกาคนนี้อย่างแน่นอน สภาพร่างกายของ Mike เต็มไปด้วยขนจำนวนมาก ซึ่งเขาต้องทนอยู่กับการถูกหัวเราะเยาะมานานหลายปี แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการกำจัดขนที่อยู่บนร่างกายให้กลายเป็นผลงานศิลปะชั้นยอด เขาได้ให้เพื่อนสนิทที่มีอาชีพเป็นนักออกแบบกราฟิกนามว่า Tyler Harding มาช่วยตัดแต่งขนบริเวณหลัง โดยเริ่มจากรูปธงชาติสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญไม่เพียงแต่พวกเขาจะทำการตัดแต่งขน เพื่อให้เกิดเป็นผลงานศิลปะรูปทรงต่างๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังช่วยกันหาเงินช่วยการกุศล โดยการทำปฏิทินปีใหม่ขายเล่มละ 20 ดอลลาร์อีกด้วย สุดยอดไปเลยลวกเพี่ย!! ที่มา : ebaumsworld
-
ชายตุ้ยนุ้ยที่ขี่คอเพื่อนในคอนเสิร์ต จนโดนล้อไปทั่วโลก ตอนนี้ผอมแล้วนะ!!
เมื่อช่วงปี 2014 มีการแชร์ภาพๆหนึ่งไปทั่วอินเตอร์เน็ต โดยภาพดังกล่าวเป็นของชายร่างใหญ่คนหนึ่ง กำลังถอดเสื้อและขี่คอเพื่อนในงานคอนเสิร์ตอยู่ ซึ่งชายที่อยู่ในภาพคือ Paul Moore วัย 26 ปีนั่นเอง ภาพนี้ถูกแชร์ไปกว่าหลายพันครั้งและมีคนมาคอมเมนต์นับหมื่นเลยทีเดียว ซึ่งคอมเมนต์ส่วนมาก ก็จะเป็นการล้อเลียนในความอ้วนของ Paul เสียส่วนใหญ่ เมื่อ Paul ได้เห็นคอมเมนต์เหล่านั้นแล้ว เขารู้สึกแย่มากจนแทบไม่อยากออกไปไหนเลย ลองนึกว่าภาพคนหมื่นๆล้อเลียนรูปร่างของคุณสิ คุณจะรู้สึกอย่างไร หลังจากเหตุการณ์นั้นเอง Paul ก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาไม่อยากโดนล้ออีกต่อไป เขาจึงเริ่มเข้ายิม และออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เขาลดน้ำหนักตัวเองไปได้ถึง 44 กิโลกรัม จากชายตุ้ยนุ้ยในงานคอนเสิร์ต ตอนนี้เขาได้กลายเป็นหนุ่มหล่อหุ่นดีไปซะแล้ว! เขาเล่าว่าตัวเขานั้นถูกล้อว่าเป็น “ไอ้อ้วน” มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่เขาไม่เคยตระหนักเลยว่า เขาอ้วนขนาดไหน จนกระทั่งเขาได้เห็นรูปภาพนั้น เขาจึงรู้ในทันทีว่า เขาต้องเปลี่ยนแปลง และตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้ว จากหนุ่มที่ชื่นชอบอาหารฟาสต์ฟู๊ด ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มสุขภาพดี ที่ทำอาหารทานเองประจำ และเลิกดื่มกินของที่ไม่มีประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขามีแผนที่จะไปร่วมงานคอนเสิร์ตที่เดิมอีกครั้ง และครั้งนี้เขามั่นใจเลยว่า จะไม่มีใครถ่ายรูปเขาไปล้อเลียนอีกต่อไปแล้ว…
-
ชมความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่ม หลังจากเลิกยาเสพติดภายในหนึ่งปี
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ยาเสพติดถือว่าเป็นสารอันตรายอย่างหนึ่งที่มอมเมาสังคมมนุษย์มาเนิ่นนาน แม้จะมีการจับกุมและรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจำนวนของผู้ที่ใช้ยาเสพติด จะไม่ได้น้อยลงเลย แน่นอน ยาเสพติดไม่ได้ให้ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแต่อย่าง ในทางกลับกัน มันยังให้โทษมากมาย และบางครั้งอาจหมายถึงชีวิตของผู้เสพ ใครที่สามารถเลิกได้ก่อนก็ถือว่าโชคดีไป แต่ใครที่เลิกไม่ได้ ก็ต้องทนอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปชม ความเปลี่ยนแปลงของชายคนหนึ่งหลังจากเลิกใช้ยาเสพติดได้หนึ่งปี เขาจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Ryan Harder เขาเริ่มใช่ยาเสพติดครั้งแรกเมื่อตอนอายุได้ 14 ปี และเขาเริ่มเสพยาไอซ์เมื่อตอนอายุ 18 ปี ตลอดระยะเวลาที่เขาเสพยา เขาเคยถูกตำรวจจับถึง 5 ครั้ง จนกระทั่งเมื่อปีก่อน เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ว่าจะต้องเลิกยาให้ได้ ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง ในที่สุดเขาก็สามารถเลิกยาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และนี่คือความเปลี่ยนแปลงของเขาหลังจากเลิกยามาได้ปีกว่าๆ ว้าว จากชายหนุ่มที่ใต้ตาหมองคล้ำ และมีรอยย่นอยู่เต็มใบหน้า กลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาสดใส และดูมีชีวิตชีวิตเป็นอย่างมาก นี่สินะที่เค้าเรียกว่าเลิกยาเปลี่ยนชีวิต เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่คิดจะลอง ก็อย่าลองเลยนะ มันไม่มีอะไรดีหรอก ส่วนใครที่ยังเสพอยู่และอยากเลิก เหมียวขอเป็นกำลังใจให้นะฮะ…
-
9 หนุ่มเซเลปคนดัง ที่ถูกจัดอับดับให้เป็น ‘ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2015’ มีใครบ้างมาลุ้นกัน!!
ณ จุดจุดนี้ ต้องขอเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับ 9 เซเลปหนุ่มคนดัง ที่ขึ้นแท่นได้เป็นหนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2015 ซึ่งการจัดอันดับในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยทางเว็บไซต์ People เว็บไซต์ที่ชอบจัดอันดับหนุ่มหล่อที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก มาให้สาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายได้กรี๊ดสลบกันอยู่เป็นประจำ และในปี 2015 นี้ ใครจะได้ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มหล่อที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2015 กันบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กันเลย 1.David Beckham 2.Sam Heughan 3.Jussie Smollett 4.Charlie Hunnam 5.Justin Timberlake 6.Reid Scott 7.Idris Elba 8.Justin Theroux 9.Jake Gyllenhaal ถึงจะมีแต่รุ่นเด๊อะ แต่ความหล่อ และความเซ็กซี่นั้น บอกเลยว่าแต่ละคนมาเต็มกันจริงๆ ที่มา : girlsallaround, allwomenstalk
-
กรี๊ดเลย!! 22 ภาพ ‘หนุ่มผมยาวมัดจุก’ ที่สาวๆ เห็นแล้วต้องเทใจให้ แต่ละคนหล่อทะลุองศากันจริงๆ
สาวๆ คนไหนที่ไม่ชอบหนุ่มผมยาว เพราะอาจจะดูเซอร์เกินไป หรือดูรุงรังละก็ บางทีถ้าหากว่าคุณได้ชื่นชมภาพเหล่านี้ คุณภาพจะเปลี่ยนใจมาหลงรักพ่อหนุ่มผมยาวเข้าอย่างจังก็เป็นได้ และทั้งหมดนี้ก็คือภาพของผู้ชายผมยาว ที่มากับทรงผมมัดจุกสุดเท่ ที่สาวๆ เห็นแล้วอาจจะมีอาการใจสั่นระริก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงแต่พ่อหนุ่มผมยาวสุดหล่อ งานนี้บอกเลยว่าแต่ละคนเป๊ะปังเว่อร์วังมากจริงๆ ป้าดดดด!! เห็นแล้วใจสั่นระริกเลย หนุ่มผมยาวนอกจากจะดูเท่แล้ว รอยยิ้มยังมัดใจสาวๆ อีกด้วยนะเนี่ย เชื่อว่าสาวๆ หลายคนที่ได้เห็นภาพของหนุ่มๆ เหล่านี้ อาจจะต้องละลายลงไปกับพื้น เพราะความหล่อ รอยยิ้มกระชากใจสาวฝุดๆ เซอร์ๆ แบบนี้แหละ สาวๆ เค้าชอบละ แถมยังดูสะอาดสะอ้านด้วยนะ หล่อจนต้องยอมใจ อื้อหือออออ ขอตัวไปเช็ดเลือดกำเดาแปบ เฟอร์เฟคที่สุด โอ๊ยตายยยย ใครแพ้ทางผู้ชายรักสัตว์บ้าง เอาใจไปเลย เห็นผู้ชายมัดจุกทีไร ใจเต้นรัวทุกที อิอิ!! ณ…
-
เหมียวพาชมแฟชั่น “แหวกๆ” ของนายแบบบนแคทวอล์คแห่งปี 2015 – 2016
แม้ว่าเรื่องฟชั่นจะดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวหนุ่มๆ ไปสักหน่อย แต่เหมียวขอบอกเลยว่าคุณไม่ควรมองข้ามมันเด็ดขาดนะ เพราะมันช่วยให้คุณดูโดดเด่นกว่าหนุ่มๆ คนอื่น เผลอๆ อาจไปสะดุดตาของสาวๆ ก็เป็นได้ วันนี้เหมียวเลยจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพแฟชั่นเดินแบบของหนุ่มๆ สุดแหวกแนวในปี 2015-2016 กัน บางอันอาจจะดูล้ำหลุดโลกไปสักหน่อย แต่อาจลองนำมาปรับใช้กับตัวเองแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นไอเท็มสุดคูลสำหรับคุณเลยก็ได้นะ Walter Van Beirendonck – Fall 2015 Menswear Anissa Aouar Gas Mask Fashion – Aitor Throup’s Henrik Vibskov Menswear Spring Summer 2015 BA Collection ‘Algabal’ by Marius Janusauskas Thom Browne’s …
-
ชายหนุ่มซื้อภาพจากร้านขายของเก่าด้วยเงินราวๆ 70 บาท แต่กลับทำให้เขาเป็นเศรษฐีร้อยล้านชั่วข้ามคืน!!!
แบบนี้ก็เรียกได้ว่าดีกว่าถูกหวยเสียอีกนะเนี่ย Randy Guijarro เดินเข้าไปในร้านขายของเก่า ขายของมือสองธรรมดาๆ แต่นั่น เขาไม่รู้หรอกว่าจะทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีข้ามคืน!!! ด้วยการจ่ายเงิน 2 เหรียญ หรือราวๆ 70 บาท เขาได้ซื้อภาพเก่าๆ ภาพหนึ่งที่เขาคิดว่ามันเจ๋งดีมาเก็บไว้ ใครจะไปนึกว่ามันจะทำให้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน ภาพนี้แหละที่เขาซื้อมา ตอนแรกดูๆ ไปก็งงว่ามันจะไปแพงอะไรได้ยังไง!!? แต่ที่จริงแล้วภาพนี้เป็นภาพของจอมคนแดนเถื่อนในตำนาน Billy the Kid!!! เป็นภาพของเขาและแกงค์โจรชื่อกระฉ่อนทีมงานของเขา The Regulators ที่กำลังเล่นกีฬากันอยู่แบบชิลๆ พอนำไปให้เหล่านักประวัติศาสตร์ตรวจดูและประเมินราคาก็ตีมูลค่าได้ถึง 5,000,000 เหรียญเลยทีเดียว หรือถ้าตีค่าเป็นเงินไทยก็ราวๆ 170 กว่าล้านบาทเท่านั้นเองแหละ จากเงินแค่ 70 บาท…ลงทุนอะไรคงไม่ได้มากขนาดนี้หรอกว่ามั้ย -*- อื้อหือออ ใครจะไปนึกล่ะเนาะว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น รวยขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียวสำหรับชายหนุ่มคนนี้ ว่าแล้วเหมียวก็ขอไปดูร้านของเก่าสักหน่อยแล้วกัน… ที่มา: Viralnova
-
ชายหนุ่มออกไปเล่นโต้คลื่นเหมือนเคย แต่คราวนี้ดันเจอะ ‘วาฬตัวใหญ่’ แบบบังเอิญมาก!!
ถ้าหากเราไปเล่น หรือทำกิจกรรมในทะเลล่ะก็ มีโอกาสสูงเลยล่ะที่เราจะเจอกับความมหัศจรรย์แบบนี้ ที่กำลังจะออกไปโต้คลื่นด้วยกระดาน กระนั้นกล้องของเขาก็สามารถบันทึกภาพบางอย่างไว้ได้ ไม่ธรรมดาเลย สิ่งที่ชายหนุ่มเจอตอนที่เขาไปโต้คลื่นเล่นแถวโคโลราโด้ คือปลาวาฬ California Gray Whale ตัวใหญ่ ที่บังเอิญผ่านมาแถวนั้นพอดี ออกไปโต้คลื่นตามปกติ เอ๊ะ ใต้น้ำนั่น นั่นมัน!!!!? ปลาวาฬนี่นา มีชอตโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำด้วยล่ะ มาชมคลิปวิดีโอการพบกับเจ้าวาฬโดยบังเอิญได้ที่นี่เลย เค้าก็ยังกล้าว่ายเข้าไปใกล้ๆ เนาะ เหมียวนี่นับถือเลย เป็นเหมียวนะ เจอกลางทะเลแบบนี้ คงเผ่นให้ป่าราบก่อนละ >< ดีไม่ดีมันอมเอาจะทำไงเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นนะจ๊ะ พ่อวาฬใจดี อิอิ ที่มา: Viralnova
-
งานอดิเรกสุดแปลก หนุ่มออสซี่ผู้นิยมการจับเหล่าฉลาม เพียงไม่กี่ปีเขาจับได้มาแล้วกว่า 200 ตัว!!!
คงไม่มีคนสติดีคนไหนที่จะไม่กลัวฉลาม กระนั้น ก็ยังมีบางคนที่เรียกได้ว่า หลงไหลและคลั่งไคล้ในฉลามเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นต้องไปจับเป็นงานอดิเรกเลยทีเดียว Max Muggeridge หนุ่มชาวออสเตรเลีย ที่มีเทคนิคเจ๋งๆ ซึ่งทำให้เขาสามารถจับฉลามได้มากมาย ฟังดูอาจจะไม่น่าเชื่อ แต่เป็นเรื่องจริง!!! ชายหนุ่มคนนี้นี่แหละที่ชอบจับเหล่าฉลาม แถบชายฝั่งของ New South Wales ประเทศออสเตรเลียเป็นอย่างยิ่ง บางตัวก็มีน้ำหนักมากถึง 360 กิโลกรัมเลยล่ะ เขาค่อนข้างว่ายน้ำเก่งเลยทีเดียว เพราะอาชีพส่วนตัวก็คือยามชายฝั่งอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจับฉลามได้มากกว่า 200 ตัวแล้วล่ะ และแน่นอนยังไม่มีแผนที่จะหยุดจับในเร็วๆ นี้ กว่าจะลากขึ้นฝั่งมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายฉลามทุกๆ ตัว เขาก็ปล่อยกลับสงสู่ทะเล เขาเคยจับได้แม้กระทั่งฉลามหัวฆ้อน ซึ่งแน่นอนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่มันจะว่ายมาใกล้ชายหาด จะว่าไปแล้วอายุเขาก็ 20 นิดๆ เองด้วยนะเนี่ย ไม่แน่นะเขาอาจสร้างสถิติเป็นชายที่จับฉลามได้มากที่สุดในโลกก็เป็นได้ สู้ต่อไปนะชายหนุ่ม!!! ที่มา: Viralnova
-
ขอเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับ 18 หนุ่มหล่อมาดเข้ม มาพร้อมกับเหมียวคู่ใจ ทำเอาสาวๆ ฟินกันเป็นแถว
ในวันนี้เหมียวจะขอมาเอาใจสาวน้อยสาวใหญ่ โดยการพาไปชมภาพของหนุ่มหล่อมาดเข้ม ที่ไม่ได้พกแต่ความหล่อมาเพียงแต่อย่างเดียว แต่พวกเขายังมาพร้อมกับเจ้าเหมียวแสนน่ารักที่ดูติดเจ้านายเป็นที่สุดอีกด้วย งานทำเอาสาวๆ หลายคนเป็นต้องอิจฉาตาร้อนเจ้าเหมียวเหล่านี้แน่ๆ เอาละหากใครที่พร้อมแล้ว ขอเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับชายหนุ่มรูปงาม พร้อมกับเจ้าเหมียวคู่ใจกันหน่อยเร็วววววว กรี๊ดดดด อยากจะซบที่ไหล่เธอบ้างจัง ดูเป็นหนุ่มอบอุ่น รักสัตว์ โอ๊ยยย สาวๆ คนไหนไม่หลงรักก็บ้าแล้ว แหม!! เห็นแล้วอิจฉาเพื่อนเหมียวจริงๆ มีชายหนุ่มมาจุ๊บถึงที่ ขอสบตากันแปบ มากอดเค้าบ้างจิ เชื่อว่าสาวๆ ที่ได้เห็นภาพนี้ต้องกรี๊ดสลบแน่ๆ ก็ดูสิน่ารักทั้งคนทั้งแมวเลยนะเนี่ย เซลฟี่ทั้งที ยิ้มหน่อยสิเจ้าเหมียว ดูจากหน้าก็รู้ ว่าฟินแค่ไหน ดูเป็นผู้ชายอบอุ๊นอบอุ่น ใครหล่อกว่ากัน สาวๆ มาช่วยกันตัดสินหน่อยสิ น่าอิจฉาเจ้าเหมียวแทนสาวๆ จริงๆ ขี้อ้อนเหมือนกันนะเรา งานนี้สาวๆ ที่แพ้ทางให้กับผู้ชายรักสัตว์ จะต้องระทวยกันเป็นแถวแน่ๆ ก็ดูสิ…น่ารักทั้งคนทั้งแมวแบบนี้ ไม่หลงรักก็บ้าแล้ว อิอิ!! ที่มา : buzzfeed
-
กรี๊ดสลบ!! 11 ภาพชายหนุ่มสุดแซ่บ ที่รักการเข้าครัวเป็นที่สุด ทำเอาสาวๆ ต้องหลงเสน่ห์กันเป็นแถว
หนุ่มหล่อสมัยนี้ เรียกได้ว่าไม่ได้มีดีแค่หล่อ เท่ อย่างเดียวนะจ๊ะ เพราะบางคนนอกจากจะหล่อลากกระชากใจสาวๆ แล้ว พวกเขายังชอบเข้าครัวอีกต่างหาก และทั้งหมดนี้คือ ภาพของชายหนุ่มมาดเท่ ที่จะขอมาจับตะหลิวเข้าครัวกันซะหน่อย งานนี้ทำเอาสาวๆ ที่ได้เห็นจะต้องหลงเสน่ห์พ่อครัวหนุ่มกันเป็นแถวแน่ๆ นั่นแน่!! รู้นะว่าอดใจไม่ไหวกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปชมภาพพร้อมๆ กันเลย ณ จุดจุดนี้เชื่อว่าสาวๆ หลายคน คงอิจฉาเจ้าหมาตัวนี้แน่นอน อย่าสบตาเชียวละ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะตกหลุมรักเขาก็เป็นได้ ซิคแพคมาเต็มจริงๆ ถ้ามีหนุ่มหล่อแบบนี้มาทำอาหารให้กินทุกวันก็ดีสิ โอ๊ยยยพ่อคุณจะหล่อล่ำไปไหนเนี่ย อยากจะกินโดนัทขึ้นมาทันที มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ >< ขอชิ้นนึงได้มั้ย อิอิ!! ป้าด!! ขอซับเลือดกำเดาแปบ เห็นแล้วมันฟินจริงๆ ลากันไปด้วยภาพนี้ละกัน…. โอ๊ยยย แต่ละคนแซบถึงใจจริงๆ งานนี้ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย ต้องเลือดกำเดาไหลกันเป็นแถวแน่ๆ ก็ดูสิมีภาพหนุ่มๆ มาให้ดูถึงที่แบบนี้ ไม่ฟินก็บ้าแล้ว >< ที่มา : girlsallaround
-
หนุ่มห้าวโชว์ฉี่รดศาลพระพรหม พร้อมโยนพระพรหมทิ้ง อ้างเป็นแฟนเพจฟักโกส!?!?
เกิดเหตุดราม่าเป็นอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังมีคลิปการดูหมิ่นศาลพระพรหมของหนุ่มห้าวที่อ้างว่าตนเองเป็นแฟนเพจฟักโกสหลุดออกมา ในคลิปเป็นภาพของชายคนหนึ่งอยู่ในสภาพมึนเมา พูดจาท้าทายและดูหมิ่นศาลพระพรหม พร้อมทั้งยืนฉี่ใส่ และโยนตัวรูปเคารพของพระพรหมออกไปจากศาล เรียกได้ว่าสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ที่ศรัทธาเป็นอย่างมาก ไปชมคลิปกันเลย ทางเพจฟักโกสเองเมื่อได้เห็นคลิปดังกล่าว ก็ออกมาชี้แจงว่า เพจของตนนั้นไม่ได้สนับสนุนให้ทำแบบนี้ เนื่องจากเป็นการล้อเลียนสิ่งที่เป็นความชื่อทางศาสนาของผู้อื่น เหมียวว่าแบบนี้มันออกจะเกินไปนิดหนึ่ง เราสามารถพิสูจน์เรื่องลี้ลับหลายๆอย่างได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปทำให้คนอีกฝ่ายไม่พอใจเลย แล้วเพื่อนๆละคิดอย่างไร ลองเสนอกันเข้ามานะ ที่มา เสียงขลุ่ย แห่งท้องทุ่ง, FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย
-
สาวญี่ปุ่นแห่โพสต์ภาพขาอ่อนสวยๆ ลงบนทวิตเตอร์ งานนี้ทำเอาหนุ่มๆ ตาลุกวาวกันเป็นแถว!!
งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้เลือดกำเดาไหลกันเป็นแถวแน่ๆ เพราะทางเว็บไซต์ Kai-You ของญี่ปุ่น ระบุว่า ในตอนนี้สาวญี่ปุ่นกำลังฮิตแห่โพสต์ภาพขาอ่อนสวยๆ ของตัวเองลงในทวิตเตอร์ จนเกิดเป็นแฮชแท็กที่ดึงดูดใจชายหนุ่ม ให้พากันเข้ามาชมเรียวขาเนียนๆ ของพวกเธอกันเพียบเลยละ!! โดยจุดเริ่มต้นของเทรนด์โชว์ขาอ่อนนี้ คาดว่ามาจากสาวๆ เซเลปคนดัง ที่มักจะโพสต์ภาพเรียวขาสวยๆ ของพวกเธอ จากนั้นก็มีคนแห่ทำตามกันเพียบ จนเกิดเป็นเทรนด์สุดฮิตนี้ขึ้นมายังไงละเหมียว นอกจากนี้สาว ๆ คอสเพลย์ ที่ชอบถ่ายภาพสวยๆ ของพวกเธออยู่แล้ว ก็พากันโพสต์ภาพเรียวขาสวยๆ โชว์ในทวิตเตอร์ในแบบที่ไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว โอ้ววว งานนี้ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งหลายได้น้ำลายไหลกันเป็นแถวแน่นอน ที่มา : kai-you, kapook
-
คุณพ่อลูกสี่เงิบ ถูกเมียไล่ตะเพิดออกจากบ้าน หลังจากสักรูป ‘กระปู๋’ กว่า 6 นิ้วครึ่งที่ต้นขา!!!
เพื่อนๆ ว่าสมควรโดนกันมั้ยล่ะเมี๊ยววว >< และแน่นอนเขาคงได้รับตำแหน่งผัวที่น่ารำคาญที่สุดในโลกไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว เมื่อชายหนุ่มวัย 34 ได้ทำการสักลาย ‘กระปู๋’ ขนาดถึง 6 นิ้วครึ่ง ไว้ที่ขาอ่อนของตัวเอง!!! ไม่รู้ไปคิดชั่ววูบอีท่าไหน และผลน่ะเหรอ โดนเมียไล่ตะเพิดออกบ้านตามระเบียบสิครัช -*- Stuart Valentino ชายหนุ่มวัย 34 ปี แถมมีลูกแล้ว 4 คน ‘แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่โง่ที่สุดที่ผมเคยทำมาในชีวิต เช้าวันนั้นหลังจากผมไปสักมา ภรรยาของผมตะโกนลั่นบ้าน ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแน่นอน ตอนนี้เธอไล่ตะเพิดผมออกจาบ้านแล้วล่ะ…’ คุณพ่อลูก 4 กล่าว ‘แถมพอไปสอบถามช่างสักแล้ว ต้องใช้เงินกว่า 1,000 ปอนด์เลยล่ะ ในการลบรอยสักนี้ แทนที่ครอบครัวจะได้นำเงินนี้ไปใช้พักผ่อนในวันหยุด หรือทำอะไรต่อมิอะไร มันน่าเสียดายจริงๆ ‘ เขากล่าวเสริม แถมตอนนี้ยังเข้าขั้นประกาศบอกขอหย่ากับเขาเลยทีเดียว…งอกแล้วล่ะคุณพ่อ ภาพแบบซูมเข้าไปอีก ตอนนี้ภรรยาของเขาได้ไล่เขาออกจากบ้าน ไม่ให้พบเจอลูกๆ และแผนการเดินทางไปเที่ยวก็ต้องถูกยกเลิก เพราะว่าเวลาไปเที่ยว เขาก็จะใส่กางเกงขาสั้น และแน่นอนไม่มีทางที่จะไม่เห็นมัน!!! แต่กระนั้นก่อนหน้านี้วีรกรรมของเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่ย่อยๆ หลังจากโพสต์คลิปหลายคลิปลงยูทูป เกี่ยวกับการแกล้งขำๆ คนในครอบครัวและภรรยา…
-
นี่ก็เกินไป๊!!! ชาวเน็ตรุมจวก หนุ่มโพสต์เฟซบุ๊ค ‘อยากขับรถยนต์กวาดนักปั่น’
งานนี้เหมียวขอไม่ยุ่งละกัน >< แต่ที่ดูๆ ก็เหมือนตำหนิอ่ะแหละ แต่อาจจะมีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินไป เมื่อสองหนุ่มได้ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ตำหนินักปั่นทั้งหลายในกิจกรรม Bike for mom ซึ่งจัดทั่วประเทศในครั้งนี้ โดยหนุ่มคนดังกล่าวได้ใช้ข้อความว่า “…ถ้ามีเงินซักแสนล้าน กูอยากขับไล่เหยียบพวก Bike For Mom มาก กวาดกันจะๆ ให้มันล้มระเนระนาด แล้วตะโกนดังๆ ว่า สไตรค์” พร้อมติดทั้งแฮชแทก ว่า#มารยาทการใช้ถนนแย่มาก # bikeformom ภาพโพสต์ แน่นอนว่าจากการกระทำนี้ ชาวเน็ตก็ได้กระหน่ำเขาด้วยคอมเม้นต์ต่างๆ นานา เพราะว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ภาษาของเขา ที่รุนแรงเกินไป เชิงไม่ให้เกียรติกิจกรรมนี้ ซึ่งชายหนุ่มก็ได้มาชี้แจงภายหลังว่า… การโพสต์ตอบกลับของเขา แน่นอนเลยทีเดียวว่าเขาได้ใช้ถ้อยคำและภาษาที่ค่อนข้างรุนแรงไป แต่อีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความหงุดหงิดของเขา ที่มีต่อมารยาทของเหล่านักปั่นผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาฟิวส์ขาดออกมาโพสต์ข้อความแบบนี้…เออ มันน่าคิดเนาะ เหมียวก็ขอฝากถึงผู้ดูแลกิจกรรมปั่นเพื่อแม่กันหน่อยนะจ๊ะ ว่าอย่างน้อยๆ ก็ขอให้ดูแลเหล่านักปั่นให้ทำตามกฎจราจร และไม่รบกวนการใช้รถใช้ถนนของท่านอื่นๆ และที่สำคัญตัวนักปั่นเองก็ทำตามกฎที่ตั้งไว้ และปั่นในส่วนของพื้นที่ๆ จัดไว้ให้อย่างเคร่งครัดกันด้วยนะจ๊ะ ^^ ที่มา: Truestory , teenee
-
ชายหนุ่มเสียนิ้วข้างหนึ่งไปในอุบัติเหตุ เขาจึงทำนิ้ว USB ขึ้นมาแทน!!!
เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอในชีวิตของเรา อาจเป็นเรื่องดี หรืออาจเป็นเรื่องไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมืออย่างไร แม้บางครั้งเป็นเรื่องเลวร้ายแบบสุดขีด หากเราสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นเรื่องดีๆได้ ชีวิตเราก็ไม่ได้แย่เกินไปใช่มั้ยล่ะ อย่างเช่นชายหนุ่มคนนี้ เขาชื่อว่า Jerry Jalava เขาเสียนิ้วข้างหนึ่งไปในอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ ระหว่างที่เขาทำการรักษาในโรงพยาบาล หมอก็แนะนำให้เขาใส่นิ้วปลอม แต่เขาคิดว่านิ้วปลอมธรรมดาๆมันไม่เจ๋งเอาซะเลย เขาจึงพยายามมองหาหนทางอื่น ด้วยความที่เขาเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ เขาจึงนำฮาร์ดไดรฟ์ USB ใส่ลงไปในนิ้วปลอมของเขา แรกๆคนอื่นก็แอบตกใจเหมือนกัน แต่หลังๆพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นการประยุกต์ที่เจ๋งดีนะ เพราะ Jerry สามารถถอดนิ้วออกมาเซฟรูป เซฟข้อมูลได้เลย เจ๋งดีแฮะ นี่แหละ ขอแค่เรามองโลกในแง่ดี เรื่องร้ายๆก็กลายเป็นเรื่องเจ๋งๆได้ ใช่มั้ยละเพื่อนๆ ที่มา Diagonal View
-
ชายหนุ่มถ่ายวิดีโอกับนกอีมู แต่จู่ๆ นกเจ้ากรรมก็เกิดอยาก ‘ซั่ม’ เขาซะงั้น!!?
เหมียวจะสงสารหรือฮาดี แต่ที่แน่ๆ เพื่อนแกรักแกมากจริงๆ นะไอ้หนุ่ม -*- เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหนุ่มทั้งสองลองไปเล่นกับนกอีมูในป่า แต่แล้วเจ้านกอีมูก็ดันเกิดอยากจะ ‘ซะปั๊ดด๊ะแฮ๊ป’ กับเพื่อนของเขาซะงั้น ทำเอาฮาเงิบกันไปเลยล่ะ มาแล้วคู่กรณีทั้งสองของเรา…นอนอ่อยเลยเรอะ!!? ขอนะตัวเอง….รับรองไม่เจ็บสักนิ๊ดดดด จุ๊บุ๊ และที่สำคัญคือเพื่อนของเขาก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ถ่ายไปหัวเราะไปอยู่นั่นแหละ -*- ลองมาชมคลิปกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลยเมี๊ยววววว คือเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวจริงๆ แต่จบงานนี้ขอตบเกรียนแกสักป๊าบนะ!!! ที่มา: Distractify
-
พาไปชม 10 ภาพแห่งความประทับใจ ที่ทำให้รู้ว่าโลกของเรายังมีเรื่องราวดีๆ ซ่อนอยู่มากมาย
เราอาจจะเคยเห็นภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกเรามาเยอะแล้ว แต่ความจริงบนโลกของเรายังมีเหตุการณ์ และเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจซ่อนอยู่มากมาย และในครั้งนี้เราจึงได้นำ 10 ภาพแห่งความประทับใจของพวกมนุษย์ ที่จะทำให้ทุกคนยิ้มตามแน่นอน ถ้าอย่างนั้นเรามาชมกันเลยดีกว่าจ้า 1.เมื่อชายหนุ่มเห็นคุณยายกำลังถือถุง และจูงเจ้าสุนัข เขาจึงรีบไปช่วยเธอถือของทันที 2.ใครบางคนนำดอกไม้ในขวดแก้ว มาวางไว้ให้คนอื่นโดยที่ไม่มีเหตุผล 3.ในวันที่อากาศร้อนจัด มีคู่รักนักปั่นจักรยานคู่หนึ่งกำลังป้อนน้ำให้เจ้าหมีโคอาลา 4.เจ้าหน้าที่ตำรวจใจดีจากเมืองนิวยอร์กคนนี้ ซื้อรองเท้าใหม่ให้ชายไร้บ้านใส่ 5.แม้ว่าจะไม่มีวันได้เห็นหน้ากัน แต่คนรักหนังสือนิรนาม ก็ได้ซ่อนเเผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทักทาย คนรักจากหนังสืออีกคน 6.ในวันที่ฝนตกหนัก ชายหนุ่มคนนี้ได้เข้าไปกางร่มให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถเข็น 7.แม้พวกเขาจะพูดคนละภาษาหรือคนละชาติ แต่ทหารจากตะวันตกก็ยังช่วยสาวมุสลิมขึ้นมาจากน้ำ 8.ชายใจดีคนหนึ่งจากแคนาดา จ่ายค่ากาแฟฟรีให้คนอื่นกว่า 28,863 บาท ในร้าน Tim Horton 9.ภาพของเหล่าทหารกำลังนอนเพื่อทำสะพานช่วยชาวบ้านให้ข้ามแม่น้ำ ในเหตุการณ์น้ำท่วม 10.พนักงานไปรษณีย์กำลังตระเวนแจกขนม Swedish Fish ฟรี ให้แต่ละบ้านผ่านกล่องไปรษณีย์ เห็นไหมล่ะว่าบนโลกของเรายังมีเรื่องราวดีๆ มากมายเกิดขึ้นทุกวัน หากใครชอบเรื่องราวสุดประทับใจเหล่านี้…