Tag: ชายไร้บ้าน
-
จากชายไร้บ้านผู้ร้องเพลงแลกกับ ‘อาหาร’ กลายมาเป็นแรปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีชายไร้บ้านคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน ที่หน้าอกของเขามีป้ายกระดาษแข็งที่เขียนว่า ‘จะร้องเพลงเพื่ออาหาร’ ชายไร้บ้านผู้นี้ชื่อว่า Byon Artrell McCullough เขาออกมาร้องเพลงบนทางเท้าที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน และเขาก็เห็นได้ว่าไม่มีใครสนใจเขาเลยจนกระทั่งมีผู้หญิงสองคนได้เดินผ่านเข้ามา เขาเริ่มร้องเพลงขึ้นมาและผู้คนที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มชะงักและหยุดมองเขา โดยเขาได้ร้องเพลง All of Me ของ John Legend ด้วยเสียงสุดไพเราะคล้ายกับต้นฉบับจริงๆ ระหว่างที่ร้องเพลงก็เริ่มมีคนมามุงดูและถ่ายคลิปวิดีโอ เมื่อเขาร้องเพลงจบ ก็มีหลายคนนำอาหารมาให้เขาและแบ่งปันเงินเล็กน้อยให้ เขาจึงเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายมาเป็นแรปเปอร์ในทุกวันนี้ . คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายไว้ได้มีการเผยแพร่บนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 และมันก็โด่งดังจนกลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้ชมมากกว่า 16 ล้านวิวในปัจจุบัน อีกทั้งยังกลายเป็นที่กล่าวถึงในสื่อต่างๆ ตอนนี้ชายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นก็ได้หันมาเอาดีทางด้านการเป็นแรปเปอร์ในชื่อ Know Cash เขาได้ใช้ช่องทางนี้เพื่อจุดประกายความคิดให้ทุกคนมองคนไร้บ้านในทางที่ดียิ่งขึ้น “ถ้าคุณมีความสามารถ คุณควรพยายามช่วยตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วค่อยกระจายความช่วยเหลือนั้นเผื่อแผ่ไปยังผู้อื่น คนจรจัดก็คือคนเช่นกัน ควรหยุดตัดสินคนจรจัดในทางไม่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากช่วยเหลือด้วยเงิน ก็ขอให้สนับสนุนเขาด้วยสิ่งอื่นๆ” Byon กล่าว…
-
ชายจรจัดเข้ามาขอเงินเจ้าของร้านกาแฟ เธอจึงจ้างเขา ให้มาทำงานที่ร้านแทนซะเลย…
เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 ที่ผ่านมา มีชายจรจัดคนหนึ่งที่ชื่อว่า Marcus ได้เดินเข้าไปภายในร้านกาแฟในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในขณะที่ได้เดินเข้าไปภายในร้าน เขาก็ได้พบกับ Cesia Abigail ผู้เป็นเจ้าของร้าน และนั่นจึงทำให้เขาได้เดินเข้าไปขอเงินเธอ ในตอนนั้น Cesia ได้เพียงแต่คิดว่าถ้าหากเธอได้ให้เงินแก่ชายคนนี้ไป เขาอาจจะมาขอเงินเธออีกในภายหลัง ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้เงินแก่เขา แต่กลับทำในบางสิ่งบางอย่างแทน… Cesia ได้ถาม Marcus ว่า ทำไมคุณถึงไม่ทำงาน? คุณก็รู้ว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ หรอกใช่ไหม? ทางด้านชายคนดังกล่าวก็ได้ตอบกลับเธอไปว่า เขาพยายามหางานทำมาหลายที่แล้ว แต่เพราะเคยมีประวัติที่ไม่ดีมาก่อน ทำให้ไม่มีใครอยากจ้างเขาทำงาน นอกจากนี้ เขายังได้บอกอีกว่า ในทุกๆ วันเขามักจะมีความหวังอยู่เสมอ แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้ง เขาคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะรับเขาเข้าทำงาน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องกลายมาเป็นคนจรจัด เมื่อได้ฟังเรื่องราวของชายคนดังกล่าว Cesia จึงถามเขากลับว่า คุณอยากทำงานไหม? ฉันมีงานให้คุณทำ และนั่นก็ทำให้ Marcus รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าจะมีคนจ้างเขาทำงาน ซึ่งทาง Marcus…
-
Chris Gordon จากอดีตชายไร้บ้าน สู่การเป็น ราชาแห่งวงการ ‘สวิงกิ้ง’ ของอังกฤษ!!
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในประเทศแถบตะวันตกหลายๆประเทศ ต้องเผชิญกับปัญหาประชากรตกงาน และนำพาชีวิตพวกเขาไปสู่การเป็นคนไร้บ้าน ไร้ที่อยู่อาศัย (Homeless) และบ่อยครั้งที่มักจะมีเรื่องราวการต่อสู้ดิ้นรนของพวกเขา ที่ต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะได้กลับมามีชีวิตดั่งที่เคยเป็น แต่เชื่อเถอะว่าในบรรดาคนไร้บ้านที่ผลิกผันตัวเองมาจนได้ดิบได้ดี ไม่มีใครจะพีคไปกว่าพ่อหนุ่ม Chris Reynold Gordon จากประเทศอังกฤษคนนี้อีกแล้ว เพราะถึงแม้อดีตเขาจะไม่มีที่อยู่อาศัย ตกทุกข์ได้ยาก แต่ปัจจุบันเขาคือ…ราชาตัวพ่อแห่งวงการ ‘สวิงกิ้ง’!! (อิจฉาไหมล่ะ) ในอดีตหนุ่ม Chris เขาเคยมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักวิ่งโอลิมปิค แม้จะทุ่มซ้อมอย่างหนัก แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บจากกีฬ่า ทำให้เขาต้องล้มเลิกความฝันทิ้งไปโดยปริยาย ต่อมาชีวิตของเขาก็เหมือนกับคนปกติทั่วไป เขาได้ทำงานอยู่ในวงการไฟแนนซ์ เขาซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่แล้ว… ด้วยเหตุผลบางอย่างจากพิษเศรษฐกิจ ทำให้เขาต้องสูญเสียมรดกบ้านหลังเดียวที่มีอยู่ และได้กลายเป็นสภาพเป็นคนไร้บ้าน จนถึงกับต้องพยายามฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนต่อมาเขาต้องย้ายไปขออาศัยอยู่กับคุณยาย ทางช่วยสุดท้ายในชีวิต และกำลังนั่งครุ่นคิดถึงชีวิตที่ล้มเหลว เขานั่งคิดอยู่เพลินๆว่า ‘ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้เขาและแฟนเก่า คงกำลังสนุกกับปาร์ตี้สวิงกิ้งกันอยู่แน่ๆ’ ทันใดนั้นเค้าก็ปิ๊งไอเดียออกทันที ด้วยการอ่านเกมส์การตลาดของอดีตไฟแนนซ์หนุ่ม ทำให้เค้าคิดได้ว่า ปาร์ตี้สวิงกิ้งที่มีอยู่ทุกวันนี้ มันยังไม่เจ๋งพอ และเขาก็รู้วิธีที่จะทำให้มันออกมาเป็นธุรกิจที่ดีกว่าที่คนอื่นๆทำได้ …
-
‘ชายไร้บ้าน’ ประกาศขอให้ช่วย ‘สุนัขเพื่อนรัก’ ที่ถูกจับตัวไป เพราะมันคือสิ่งมีค่าสุดในชีวิต
ไม่ว่าจะยากดีมีจน เมื่อได้เลี้ยงสัตว์แล้ว ก็จะมีความผูกพันและเกิดเป็นมิตรภาพที่ไม่มีเงื่อนไข สำหรับบางคน สัตว์เลี้ยงอาจไม่ใช่แค่เพื่อน แต่มันอาจเป็นโลกทั้งใบของเขาเลยก็ได้ Patrick เป็นคนไร้บ้านที่เลี้ยงสุนัขเอาไว้ตัวหนึ่งชื่อ Franklin แต่แล้วทั้งคู่ก็ถูกจับในข้อหาบุกรุกในสถานที่ต้องห้าม (น่าจะเป็นเพราะการเข้าไปหาที่นอนในสถานที่หลังเวลาปิดทำการ) ทำให้ต้องแยกจากกัน เพียงวันเดียว Patrick ก็ถูกปล่อยตัวออกมา แต่สำหรับ Franklin ไม่ได้ถูกปล่อยตัว หากอยากได้คืนต้องมาไถ่ด้วยเงินประมาณ 4,000 บาท แน่นอนว่า คนไร้บ้านไม่มีเงินจำนวนนี้แน่ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ Patrick พยายามช่วยสุนัขออกมา ด้วยการเขียนป้ายประกาศขอความช่วยเหลือว่า “สุนัขผมถูกจับไปขัง ช่วยผมด้วย” คุณ Wilma Price ซึ่งเป็นคนรักสัตว์และเป็นเจ้าของสถานดูแล MrKs Halfway House บังเอิญผ่านไปเจอป้ายนี้เข้า เธอรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเป็นการช่วยเหลือ เพราะรู้สึกถึงความรักที่เขามีให้หมาจรจัดตัวนี้ จึงตัดสินใจช่วยเขาทันที ทำให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง… แต่ Price ไม่ได้หยุดแค่นี้ เธอยังนำเรื่องราวของ Patrick และ Franklin ไปเผยแพร่ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือพวกเขา เพื่อไม่ให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันอีก คลิปวิดีโอขณะที่นำ Franklin กลับไปหาเจ้าของ เรื่องราวที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ค เพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือเขา เผื่อจะทำให้สามารถตั้งต้นชีวิตใหม่ และดูแลหมาของเขาต่อไปได้อีก… ต่อให้ลำบากแค่ไหน หากมีเพื่อนแท้ข้างกายไว้สักคน ก็เหมือนมีทุกอย่างแล้ว…
-
ชายเร่ร่อนล้มเลิกความคิด ‘ฆ่าตัวตาย’ หลังคุณแม่ลูกหนึ่งชวนคุย และซื้อโดนัทให้กิน…
ก็อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าโลกของเราตอนนี้กำลังเกิดเหตุวุ่นวายอย่างหนัก จิตใจของมนุษย์เราเริ่มที่จะตกต่ำลงในทุกๆ วัน ทั้งเรื่องของความเห็นแก่ตัวในสังคมที่เร่งรีบ การก่อการร้ายในประเทศทางแถบยุโรปที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้วในสังคมก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้…. และนี่คือคุณ Casey คุณแม่วัยรุ่นมือใหม่ และลูกตัวน้อยของเธอ อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ออกไปข้างนอกบ้าน และก็ได้พบกับชายไร้บ้านคนหนึ่งกำลังหาเศษเงินอยู่ตามทางเดิน และเรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นเพราะทั้งคู่ได้เดินมาเข้าร้าน Dunkin Donuts ร้านเดียวกันและเขาก็นำเงินที่หามาได้นั้น หาซื้ออะไรซักอย่างทาน… เธอก็เลยตัดสินใจที่จะไปชวนเขาพูดคุยด้วย และก็รู้สึกว่าบางทีตัวเองอาจจะพูดมากเกินไปจนทำให้เขารำคาญ “ฉันเข้าไปชวนเขาคุย แล้วก็คุยๆ อยู่อย่างนั้น โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเลย แม้ว่าเขาไม่ค่อยอยากจะพูดด้วยซักเท่าไหร่” Casey เล่า หลังจากนั้นเธอก็ชวนเขาไปนั่งที่โต๊ะด้วยกันแล้วซื้อโดนัทให้เขา รอบนี้ดูเหมือนว่าเขาเริ่มที่จะเปิดใจยอมคุยกับเธอขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ เพราะเขาเริ่มจะเล่าเรื่องของตัวเอง และบอกชื่อของตัวเองว่า Chris ชายไร้บ้านเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองถึงเรื่องท่าทีของผู้คนที่มีต่อเขา เพราะว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะปัญหาชีวิตที่รุมเร้า เพราะการจากไปของแม่ที่เลี้ยงดูเขามาเพียงลำพัง จึงทำให้เขาเริ่มติดยาและสูญเสียทุกอย่าง Casey เล่าว่าเธอใช้เวลาคุยกับเขานานเป็นชั่วโมง และก่อนจากกันชายไร้บ้านได้มอบกระดาษยับๆ ที่เขียนข้อความมาให้กับเธอ ในกระดาษเขียนไว้ว่า “จริงๆ แล้ววันนี้ผมตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะคุณทำให้ผมตัดสินใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป ขอบคุณนะครับ…
-
ศาลสูงอิตาลีสั่งปล่อยตัวชายไร้บ้านที่ขโมยอาหาร เพราะเขาทำไปเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น…
ไม่รู้ว่าจะเป็นการกระตุ้นการโจรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในประเทศรึเปล่า แต่ล่าสุดถ้าคุณไปยังประเทศอิตาลีและขโมยอาหารล่ะก็ คุณจะได้รับละเว้นการดำเนินคดีทันที หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าคุณไม่มีจะกินจริงๆ !!? เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมือง Genoa ชื่อว่า Roman Ostriakov ถูกจับเพราะขโมยชีสและไส้กรอก มูลค่าราวๆ 4 ยูโร หรือ 160 บาท เพราะว่าเขาหิวมากและไม่มีอะไรจะกิน แต่ก่อนที่เขาจะออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาถูกควบคุมตัวไว้โดยพนักงานทันที Ostriakov นั้น พื้นเพไม่ใช่คนอิตาลี แต่เป็นคนยูเครน หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาถูกสั่งขัง 6 เดือนเต็ม และต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 100 ยูโร หรือ 4,000 บาทด้วยกัน หลังจากที่ศาลสั่งลงโทษ ทางอัยการรัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยื่นอุทรณ์ในคดีดังกล่าว อย่างหนึ่งเพราะการโจรกรรมไม่ได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์เพราะเขาถูกควบคุมตัวได้ก่อน หลังจากนั้นศาลสูงอิตาลีก็เพิกถอนคำตัดสินของศาลที่สั่งขังและปรับเขา หนึ่งในเหตุผลที่ศาลสูงยกเลิกโทษของเขาก็เพราะว่า ปริมาณของที่เขาขโมยมานั้นมีจำนวนน้อยนิดมาก แสดงให้เห็นว่าเขาพยายามนำมารับประทานเพื่อประทังชีวิตไว้เท่านั้น… อันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในอนาคตหลายๆ คนอาจจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการขโมยของรึเปล่า แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคิดถึงในแง่ของมนุษยธรรมแล้วล่ะก็ เขาก็เพียงต้องการอาหารไว้ประทังชีวิตเพียงเท่านั้นไม่ใช่หรือ……
-
อดีตชายไร้บ้านต่อสู้จนรวย แต่ก็ยังไม่ลืมเพื่อนร่วมชะตากรรม วางแผนซื้อรถบัส 300 คัน ให้เป็นที่พักพิง!!!
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจของ Simon Rowe ชายคนหนึ่งที่ประเทศออสเตรเลีย เขาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักในปี 1993 จนทำให้ไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยทีเดียว และสิ่งเดียวที่เขามีไว้นอนตอนกลางคืนก็คือรถเพียงคันเดียวที่เขามีเท่านั้น… วันเวลาผ่านไปอย่างกับเรื่องโกหก 20 ปีต่อมา Rowe ก็ไม่ได้เป็นคนไร้บ้านอีกต่อไป ตอนนี้เขามีบ้าน มีฐานะดี แต่ก็ไม่เคยจะลืมเรื่องราวที่เขาพบเจอมา เลยคิดหาวิธีการที่จะช่วยเหลือเหล่าผู้ไร้บ้านของประเทศออสเตรเลีย บ้านเกิดของเขา ทีนี้เขาก็เกิดปิ๊งไอเดียในการซื้อรสบัสขึ้นมา แล้วตั้งชื่อว่า Sleep Bus เพื่อให้เหล่าผู้ไร้บ้านได้นอนพักยามค่ำคืน ตามแผนการของเขานั้น เขาหวังว่าจะสามารถซื้อรถบัสเพื่อให้เป็นที่พักพิงต่อเหล่าคนไร้บ้านในออสเตรเลีย เป็นจำนวนทั้งหมด 300 คันด้วยกัน ซึ่งจำนวนประชากรคนไร้บ้านทั้งหมดมีจำนวนอยู่ราวๆ 105,000 คน และกว่า 6,000 คน ไม่มีที่ซุกหัวนอน กราฟคนไร้บ้านในออสเตรเลีย เขาเลยเข้าไประดมทุนในเว็บไซต์ GoFundMe ซึ่งได้รับเงินบริจาคจากรอบโลกเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่สามารถซื้อรถบัสได้อย่างเพียงพอเท่านั้น แต่เกือบครอบคลุมค่าโครงการของเขาทั้งหมดเลยล่ะ ตามหลักการแล้วรถบัสคันนึงจะสามารถนอนได้ 22 คนด้วยกัน มีระบบรักษาความปลอดภัย ล็อคเกอร์ของแต่ละคน ห้องน้ำ 2 ห้อง และที่พักสำหรับสัตว์เลี้ยงจำนวน 8 ที่ด้วยกัน เรียกได้ว่าปลอดภัยพอสมควรเลยล่ะ…