Tag: ชีวะประวัติ
-
เรื่องราวของ Blind Tom ชายผู้เกิดเป็นทาส สู่นักเปียโนที่มีค่าจ้างสูงที่สุดในยุคศตวรรษที่ 19
ชีวิตของคนเรามักเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และบางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่ว่าอาจจะยิ่งใหญ่จนเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็เป็นได้ ดั่งเช่นเรื่องราวของชายคนนี้ ‘Blind Tom’ หรือ Thomas Wiggins ชายผู้เกิดเป็นทาส สู่หนทางการเป็นนักเปียโน “Blind Tom” (อันนี้คือฉายาใช่มั้ย ชื่อจริงๆ เขาคือ Thomas Wiggins ใช่ไหม) เป็นนักดนตรีที่เกิดมาเป็นทาสในปี 1850 ในรัฐจอร์เจีย เขาเป็นอัจฉริยะที่อยู่ร่วมในสมัยของ Liszt กับ Rubinstein สุดยอดนักดนตรีทั้งสอง แต่เขากลับไม่สามารถรับรู้ได้ถึงทั้งชื่อเสียง สีผิว หรือแม้แต่ความสำเร็จของเขาเลยแม้แต่อย่างเดียว สิ่งที่เขาสามารถรับรู้นั้นมีเพียงแค่บทเพลงของเขาเท่านั้น เขาอาจทิ้งบทเพลงไว้น้อยมาก แต่ Thomas Wiggins คนนี้ก็เป็นหนึ่งในสุดยอดของสุดยอดแห่งศตวรรษที่ 19 เขาคือชายปริศนาผู้ได้เล่นดนตรีต่อหน้าประธานาธิบดี James Buchanan ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 15 ในธรรมเนียบขาวมาแล้ว ตอนที่ Thomas เกิด เขาถูกขายให้นายพล James Neil Bethune ผู้เป็นทนายจากจอร์เจีย และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในทันที เด็กชายคนนี้ตาบอดและมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด เขาสนใจในเสียง พิสมัยในเสียงเพลง และต้องการที่จะแยกแยะมันให้เข้าใจ เขาสามารถแยกเสียงสัตว์อย่างแม่นยำและสามารถจำบทสนทนาที่ยาวถึงสิบนาทีได้ จากแหล่งที่มาบางส่วน เมื่อ Thomas จับเปียโนเป็นครั้งแรกเขาสามารถเล่นเพลงที่เขาเคยได้ฟังจากลูกสาวของ Bethune…
-
ชีวิตของ Elon Musk จากเด็กถูกแกล้งในโรงเรียน สู่ “โทนี่ สตาร์ค” ในโลกความเป็นจริง
Elon Musk ชายผู้ก้าวเข้าสู่วงการเทคโนโลยีอย่างยิ่งใหญ่ และกลายเป็นมหาเศรษฐีที่ลงทุนและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Hyperloop คนนี้ ถ้าเรามองดูดีๆ แล้วเราก็จะรู้สึกว่า นายคนนี้นี่แหละ “โทนี่ สตาร์ค” ตัวจริง!! แต่เชื่อไหมว่าชีวิตในวัยเด็กของชายคนนี้กลับไม่ได้เริ่มต้นอย่างสวยงามนัก เพราะเขามีประวัติการถูกกลั้นแกล้งมากมายเลยทีเดียวล่ะ… Elon เกิดในวัน 28 มิถุนายน 1971 ที่ประเทศแอฟฟริกาใต้ ซึ่งในวัยเด็กพ่อของเขาเคยบอกว่าเขาจะกลายเป็นนักคิดค้นที่เก่งกาจในอนาคต นอกจากนั้นชีวิตของเขายังใช้ไปกับการอ่านหนังสือในห้องสมุดเสียส่วนใหญ่ แทนที่จะไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ในช่วง 1979 Elon และพี่ชาย Kimbal ได้ย้ายไปอยู่กับพ่อของเขาหลังแม่และพ่อเลิกลาจากกันไป ชีวิตในวัยกำลังโตก็ดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย และแววการเป็นนักธุรกิจเขาก็เริ่มเฉิดฉาย เมื่อเขาสามารถขายเกมที่ชื่อว่า Blastar ให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเกมเขาคิดค้นขึ้นมาเมื่อปี 1983 และขายไปได้ในราคาราว 16,000 บาท ทว่าในช่วงที่เขาอยู่ในโรงเรียนก็มีการใช้ชีวิตที่ลำบากพอสมควร เพราะเขามักจะถูกกลั่นแกล้งอยู่เรื่อยๆ ถึงขั้นเคยตกบันไดจนสลบเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ สู้จนจบการศึกษาได้ในที่สุด และได้เขาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยควีนส์ หลังจากย้ายมาอยู่กับแม่ของเขา แต่ว่าเขาไม่ได้จบมหาลัยดังกล่าว เพราะเขาเรียนแค่สองปีก็ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย…
-
เปิดประวัติแฟ้มภาพหายาก ชีวประวัติของ ‘ปูติน’ ตั้งแต่เด็กยันโต หน้าไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย
เวลาพูดถึงเหล่าผู้นำชั้นนำของโลก เราก็มักจะถึงผู้นำกันอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น อย่างท่านผู้นำคิม ทรัมป์ หรือไม่ก็โอบาม่าเป็นต้น อ๊ะ ลืมลุงตู่ไปได้ยังไงกันนะ…ยังไงก็ตาม บนโลกนี้ก็ยังมีผู้นำอีกคนหนึ่งที่เทพไม่แพ้คนอื่นๆ เขาคนนั้นก็คือ Vladimir Putin นั่นเอง อย่างที่เรารู้กันว่า Vladimir Putin นั้นเป็นยอดผู้นำของหนึ่งในประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซีย และแน่นอนว่าเขาคนนี้ก็เป็นผู้นำที่ครองตำแหน่งมานานมากๆ เรียกว่าเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2000 จนตอนนี้ก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่ไปไหน แต่เราเคยสงสัยกันไหมว่า เขาต้องได้รับการเลี้ยงดูแบบไหน ถึงโตมาเป็นยอดผู้นำระดับโลกที่ใครๆ ก็ยอมรับแบบนี้ได้ แล้วตอนเด็กเขาจะมีหน้าตาแบบไหนกัน? Vladimir เกิดที่เมืองโซเวียต เมื่อปี 1952 ซึ่งในตอนนี้ได้กลายเป็นเมือง Saint Petersburg เรียบร้อยแล้ว… ท่านผู้นำในวัยเด็กกับแม่ของเขา เอาเรื่องแต่เด็ก ภาพถ่ายหมู่สมัยอยู่ในโรงเรียน หน้าเขาเอาเรื่องแต่เด็กเลยนะ แน่นอนว่าทรงผมก็คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในวัยเด็กเขาเติมโตมาในสภาวะครอบครัวที่ยากจน และตัวเมืองที่เขาอยู่ก็กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พอเขาโตขึ้นมาหน่อยเขาก็ได้เข้าร่วมกับแก๊งวัยรุ่นท้องถิ่นจนเป็นเด็กที่เกเรมาก ในภายหลังเขาถูกตราหน้าว่าเป็นตัวปัญหาของชุมชนและโรงเรียนโดยคุณครูของเขาเอง แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมให้มันเป้นแบบนั้นไปตลอด เขาได้เดินเส้นทางสังเวียนนักสู้หลังจากเข้าฝึกซ้อมชกมวยและศิลปะการต่อสู้อื่นๆ คุณครูที่คอยกล่าวว่าเขาอยู่เสมอๆ จนท่านผู้นำหันมาเอาดีด้านต่อยตีซะเลย จนสุดท้ายก็เรียนจนจบ ภาพนี้เป็นภาพของเขาในช่วงวัยรุ่นที่ได้เต้นรำกับสาวๆ…
-
Sylvester Stallone ชายผู้เคยตกอับ ขนาดที่ขายสุนัขตัวโปรดในราคาแค่ 25 เหรียญเท่านั้น
ก่อนจะมาเป็น Sylvester Stallone ได้อย่างทุกวันนี้ กว่าจะมาเป็นร็อคกี้ที่ทุกคนรู้จัก รู้หรือไม่ว่าเขาเคยตกอับมากถึงขนาดที่ต้องยอมขายสุนัขตัวโปรดให้กับคนอื่นเพื่อที่จะได้มีข้าวกินเลยทีเดียว เรื่องนี้มันเกิดขึ้นในช่วงที่เขายังไม่ได้เข้าวงการ เขาเป็นแค่ชายทั่วไปที่เดินอยู่บนท้องถนนเร่ร่อนไปทั่วกับสุนัขของเขาในมหานครนิวยอร์ค ถึงแม้ว่าเขารักสุนัขของเขามากเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อถึงจุดที่ตกอับที่สุด เขาก็จำเป็นจะต้องขายสุนัขของเขา ให้กับชายแปลกหน้าในบาร์คนหนึ่งด้วยราคาเพียง 25 เหรียญเท่านั้น (ราวๆ 860 บาท) เพื่อแลกกับเงินไปซื้ออาหารประทังชีวิต เขาจมกับความเสียใจในการตัดสินใจนั้น แต่ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นได้ไม่นาน เขาได้มีโอกาสดูเทปบันทึกการชกมวยของ Mohammed Ali และ Chuck Wepner ซึ่งมันจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวเขา นั่นทำให้เขาลุกขึ้นมาเขียนบทภาพยนตร์ แถมยังรวมเดียวเสร็จในเวลา 20 ชั่วโมงอีกด้วย โดยเรื่องที่เขาเขียนก็คือ Rocky นั่นเอง Sylvester ได้นำบทที่เขาเขียนจนเสร็จไปเสนอกับค่ายภาพยนตร์ และทางค่ายก็ดูเหมือนจะชอบและสนใจมากๆ ถึงกับเสนอเงินให้กับค่าบทถึง 150,000 เหรียญ (ราวๆ 5 ล้านบาท) เพื่อนำไปสร้างจริง แต่เขายื่นเงื่อนไขที่ทำให้ค่ายหนังคิดหนักก็คือ เขาจะต้องเล่นเป็นตัวเอกของเรื่องที่เขียนขึ้นมานี้เอง แน่นอนว่าทางค่ายย่อมปฏิเสธในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดูไม่มีมาดพระเอก และหน้าตาตลกเกินไป แต่พวกเขายังไม่ตัดใจจากบทหรอกนะ เพราะพวกเขายังคงเสนอซื้อบทในราคาที่สูงขึ้นจนถึง 350,000…
-
เตรียมพบกับ Christian Bale ในหนังชีวประวัติของ Enzo Ferrari ผู้ก่อตั้งแบรนด์รถหรูชื่อดัง!!
เรียกได้ว่ากลายเป็นนักแสดงเนื้อหอมที่ได้รับบทดีๆอยางไม่ขาดสาย กับพระเอกหนุ่มอัศวินรัตติกาล Christian Bale กับบทบาทผู้ก่อตั้งแบรดน์รถหรูชื่อดัง Enzo Ferrari ในหนังชีวประวัติเรื่อง Ferrari โดยโปรเจคนี้พัฒนาโดยผู้กำกับชื่อดังผู้เคยส่งหนังเข้าชิงออสก้าถึงสี่ครั้งอย่าง Michael Mann (Public Enemies, Collateral) โดยตอนนี้เขากำลังหาทุน และวางแผนที่จะเริ่มถ่ายทำปีหน้า Enzo Ferrari เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1898 และเสียชีวิตวันที่ 14 สิงหาคม 1988 ตลอดทั้งชีวิต เขาทุ่มเทพัฒนาและออกแบบรถสปอร์ตหรูๆมากมาย รวมถึงรถบรรทุกด้วย เขาเป็นผู้สร้างแบรนด์ Ferrari ขึ้นมา และตอนหลังก็ถูกบริษัท Fiat Automobiles ซื้อไป และพัฒนาต่อยอมจนเป็น Ferrari ที่เรารู้จักในทุกวันนี้ ปัจจุบันบริษัท Ferrari มีมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2012 แบรนด์ Ferrari ถูกจัดอันดับให้เป็นเแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โอ้โห น่าดูมากๆ เหมียวนี้แฟน Christian Bale ตัวยงเลย รับรองไม่พลาดแน่นอน อิอิ ที่มา comingsoon