Tag: ช่วยชีวิต
-
การสวมบทบาทของ Christian Bale กลายเป็น ‘ช่วยชีวิต’ ผู้กำกับจากโรคหัวใจกำเริบ
หากใครเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Batman Begins, American Psycho หรือ The Machinist คงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้จักกับ Christian Bale ดาราชายผู้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับบทบาทที่ได้รับ Christian Bale นอกจากเขาจะเป็นนักแสดงที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองอย่างหนักเพื่อบทบาทแล้ว ล่าสุด ยังได้ช่วยชีวิตผู้กำกับภาพยนตร์จากโรคหัวใจเอาไว้ได้อีกด้วย! Christian Bale ในบท Bruce Wayne ทั้งนี้เมื่อเขาต้องมารับบทอดีตรองประธานาธิบดี Dick Cheney ในเรื่อง Vice เขาจำเป็นต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองแถมยังต้องศึกษาสิ่งที่เกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจอีกด้วย เพราะว่าตัวละครที่ Bale รับบทแสดงนั้นป่วยด้วยโรคหัวใจ และเพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาให้ได้ถึงที่สุด และการกระทำของเขาก็ส่งผลถึงผู้กำกับของเรื่อง Vice อย่าง Adam McKay Chistian Bale ในบท Dick Cheney Adam McKay ผู้กำกับภาพยนตร์วัย 50 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจเมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2018 เขากล่าวว่าหากไม่ได้พบและพูดคุยกับ Christian Bale เขาคงต้องจบชีวิตลงเป็นแน่ McKay เล่าว่าหลังจากที่พวกเขาถ่ายทำภาพยนตร์กันเสร็จเขาก็เผยกับทีมงานว่าเขาเป็นโรคหัวใจ แต่แล้วเขาก็นึกถึงฉากการถ่ายทำเกี่ยวกับโรคหัวใจของ Christian Bale เขาจึงวิ่งไปทานยาและมุ่งไปโรงพยาบาล แพทย์บอกว่าโชคดีที่เขาทานยาแอสไพรินกันเอาไว้ทัน…
-
เจ้าบ่าวใจสลาย จัดงานแต่งกับแฟนสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่เธอจากไปก่อนงานเริ่ม
เรื่องราวความรักที่รู้ทั้งรู้ว่าอย่างไรมันก็ต้องถึงจุดจบ และมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจากไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปแม้ว่าเส้นทางความรักของเขาจะมีความผิดหวังรออยู่ที่ปลายทางก็ตาม… Yang Feng หนุ่มชาวจีนวัย 27 ปี ตัดสินใจจัดงานแต่งงานกับคู่หมั้น Xiao Hui ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะเรื้อรัง ในโรงพยาบาลที่เธอรักษาตัวอยู่ในเมืองเจิ่งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน สาเหตุที่นาย Yang ตัดสินใจจัดงานแต่งขึ้นมาก็เพราะว่าอาการของ Xiao ย่ำแย่ลงมาก เขาจึงอยากจะทำให้สิ่งที่เธอหวังมาตลอดคือการแต่งงานเกิดขึ้นอย่างที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้ โดยกำหนดวันแต่งเอาไว้เป็นวันที่ 12 สิงหาคม 2561 แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะ Xiao ได้เสียชีวิตจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบในเวลา 17.20 น. ของวันงาน ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวเมื่อรู้เรื่องราวดังกล่าวแล้วก็พยายามที่จะทำให้งานแต่งนั้นดำเนินต่อไปท่ามกลางผู้สื่อข่าวและแขกมากมายที่มาร่วมงาน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “งานแต่งงานนี้ผมไม่สามารถจัดมันต่อไปได้อีกแล้ว ขอให้ทุกคนออกไปด้วยครับ” เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่นาย Yang เป็นคนส่งของ แล้วไปส่งที่บ้านของเธอ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันตั้งแต่ตอนนั้นและตัดสินใจเดตกัน ทางด้าน Xiao เองก็บอกฝ่ายชายไว้ก่อนแล้วว่าเธอกำลังป่วย แต่เขาเองก็ยืนยันที่จะสานต่อความสัมพันธ์ต่อไป “ผมรู้ว่าเธอป่วยตั้งแต่แรก…
-
คุณลุงชาวจีน กระโดดช่วยหญิงจมน้ำด้วยท่าที “โคตรชิล” พร้อมสูบบุหรี่ไปด้วยอีกต่างหาก!!
ว่ากันว่าต่อให้เป็นงานที่ยากแสนยาก หากเป็นคนที่ทำมันจนชำนาญแล้วก็คงทำมันอีกครั้งได้ง่ายดายราวกับปลอกกล้วย… อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งของอ่าวฮั่นเจียง เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เหตุการณ์เริ่มขึ้นจากการที่หญิงรายหนึ่ง เดินไปยังริมน้ำเพื่อ “ล้างเท้า” โดยมิได้ระมัดระวังทำให้เธอพลาดตกลงไปในน้ำ เนื่องจากที่เธอว่ายน้ำไม่เป็นเธอจึงตะเกียกตะกาย ทำท่าจะจมน้ำเสียให้ได้ ทันใดนั้นเองชายนิรนามคนหนึ่งที่เปลือยท่อนบนและสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นก็รีบกระโดดลงน้ำไปช่วยทันที เขามาแล้วครับ ภาพจากการรายงานข่าวทำให้ผู้ชมประหลาดใจกันอย่างมากก็คือ ชายคนนี้ ไม่ได้แสดงสีหน้าอาการประหม่าหรือตื่นเต้น แต่อย่างใด ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาคาบบุหรี่อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่กระโดดลงน้ำไปจนกระทั่งช่วยชีวิตหญิงจมน้ำขึ้นมาได้ หลังจากช่วยชีวิตหญิงดังกล่าวได้แล้ว เขาก็ยังเลือกที่จะยืนอยู่ในน้ำชิลๆ พลางสูบบุหรี่มวนเดิมต่ออีกด้วย ไม่รู้ว่าชายคนนี้กินอะไรมา ทำไมถึงเท่ได้ขนาดนี้!! บุหรี่คู่กาย แม้แต่ลงน้ำก็ต้องคาบลงไปด้วย เมื่อขึ้นมาแล้วก็ยืนเท่ๆ พลางสูบบุหรี่ต่ออย่างชิลๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจึงพบว่า ชายสุดเท่คนดังกล่าวอดีตเคยเป็น สมาชิกของหน่วยกู้ภัย ที่คอยช่วยเหลือคนที่ประสบภัยในแม่น้ำแยงซีเกียง และแม้ว่าเหตุการณ์นี้เขาจะไม่ได้เป็นหน่วยกู้ภัยแล้ว แต่เขาก็ยังทำหน้าที่กู้ชีพได้อย่างน่าภาคภูมิ (พร้อมขึ้นมายืนสูบบุหรี่อย่างเท่ๆ) จากนั้นฝ่ายหญิงที่ได้รับการช่วยชีวิตก็กล่าวขอบคุณชายคนนี้เป็นการใหญ่… เมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องนี้ ก็เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมสรรเสริญชายสุดเท่คนนี้กันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว เช่น “คุณลุงดูเท่ยิ่งกว่าหนุ่มๆ อีกนะเนี่ย” “เนี่ยแหละ ผู้ชำนาญการของจริงเขาไม่กระโตกกระตากกันหรอก” “บุหรี่ยี่ห้ออะไรทำไมทนน้ำจัง?” และ “บุหรี่บางครั้งเปียกน้ำแล้วก็ยังสูบต่อได้จริงๆ นะ” …
-
ตายายชาวจีน “ผู้พิทักษ์แม่น้ำ” ช่วยเด็กจมน้ำ แถม 30 ปีก่อนยังเคยช่วยพ่อของเด็กไว้อีกด้วย!!
หากใครสักคนมา “ช่วยชีวิต” เราเอาไว้ เราคงจะซาบซึ้งใจอย่างมากเลยทีเดียว แต่เรื่องราวในวันนี้จะทำให้เกิดความซาบซึ้งเสียยิ่งกว่าเมื่อทราบว่าผู้ที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้ เคยช่วยชีวิต “พ่อ” ของเราไว้เช่นกัน เรื่องราวเกิดขึ้นในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน คุณตาวัย 80 ปีคนหนึ่งได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อได้ลงไปช่วยเด็กชาย 8 ขวบที่จมน้ำอยู่ในแม่น้ำ ภายหลังทราบว่าคุณตาคนนี้ เมื่อ 30 ปีก่อนก็เคยช่วยชีวิตพ่อของเด็กชายคนนี้ไว้ด้วยเช่นกัน… ในช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2018 ชายชรานามว่า Xu ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเด็กชายขณะที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำทำท่าว่ากำลังจะจม ทั้งๆ ที่ตนก็กำลังบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่คุณตา Xu ก็ตัดสินใจลงไปในแม่น้ำเพื่อช่วยเหลือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำดังกล่าวโดยมีคุณยายที่เป็นภรรยาคอยช่วยด้วยอีกแรง เมื่อช่วยเด็กชายขึ้นมาแล้วจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทำให้ทราบว่าก่อนหน้าที่จะจมน้ำเด็กคนนี้ได้ออกมาเล่นกับย่าของตนใกล้ๆ แม่น้ำดังกล่าว เมื่อพูดคุยกับคุณย่าของเด็กที่จมน้ำ จึงทำให้ทราบว่าคุณตา Xu ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วเคยช่วยชีวิตลูกชายของตนเอาไว้ และตอนนี้ก็ได้ช่วยชีวิตหลานของตนไว้อีกครั้ง คุณตากล่าวว่า “ตอนผมยังเป็นหนุ่มกว่านี้ ลูกชายของเธอ (พ่อของเด็ก) ก็เคยจมแม่น้ำนี้เช่นกัน และผมก็ลงไปช่วยแบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ผมแก่แล้วกระโดดไม่ไหวแล้วล่ะ”…
-
เมื่อ “ข้อความ” แสนน่ารำคาญของแม่ กลับกลายเป็นสิ่งที่ “ช่วยชีวิต” ลูกน้อยของเธอจากอุบัติเหตุ
บางครั้งความจู้จี้ขี้บ่นของคนเราก็เกิดขึ้นเพราะความเป็นห่วง ที่ต้องจู้จี้จุกจิกก็เพราะว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคนที่เรารักนั่นเอง และแล้วเหตุการณ์ในวันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความจู้จี้จุกจิก ของคุณแม่นามว่า Rebecca Tafaro Boyer ผู้ที่เป็นนางพยาบาลจากเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ที่ได้ช่วยชีวิตลูกน้อยของเธอเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ Rebecca เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “สามีของฉัน David ได้ขับรถพาลูกน้อยเดินทางไปด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแล้วหญิงคนหนึ่งที่ขับรถสวนมาก็เลี้ยวตัดหน้า ทำให้ David ชนกับด้านหน้าของรถเธอเข้า” Rebecca เล่าต่อว่าหญิงที่ขับรถตัดหน้าสามีของเธอนั้นไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่มีประกันอุบัติเหตุ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สามแล้วที่หญิงคนนั้นฝ่าฝืนขับขี่รถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต Rebecca ผู้ที่หลายๆ คนเรียกว่า “นังจู้จี้” อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ David กระดูกนิ้วเท้าหัก 3 นิ้วและต้องห้ามเดินลงน้ำหนักที่เท้าขวาเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ แต่ลูกน้อยของพวกเขา William กลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังนอนหลับปุ๋ยอีกต่างหาก และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะความจู้จี้ของ Rebecca ผู้เป็นแม่นั่นแหละ… Rebecca กล่าวกับสามีก่อนพาลูกน้อยเดินทางว่า “ดีแล้วๆ แต่ว่าตัวล็อกตรงหน้าอกยังไม่สูงพอและไม่แน่นพอนะ คุณควรหนีบตัวหนีบให้สูงประมาณหัวนมเลย” “เมื่อตอนที่ฉันแยกกับลูกครั้งแรก ฉันจะสั่งให้สามีส่งรูปเจ้าตัวน้อยมาให้ดูทุกๆ ชั่วโมงเลยล่ะ อยากรู้ว่าเมื่อเขาไม่ได้อยู่กับฉัน เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง”…
-
สาวเล่าประสบการณ์ ‘ขับรถตกหน้าผา’ สูงเท่าตึก 25 ชั้น รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์!!
เรื่องราวของหญิงสาวที่ขับรถตกจากหน้าผาสูงกว่า 76.2 เมตร หรือประมาณตึก 25 ชั้น แต่กลับรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์!! เรื่องมีอยู่ว่า Angela Hernandez สาวจากเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังเพลิดเพลินไปกับการขับรถไปบนถนนทางหลวงแคลิฟอร์เนียสายที่ 1 ใกล้ๆ กับ ชายฝั่งบิ๊กเซอร์ (ว่ากันว่าเป็นถนนที่มีวิวสวยที่สุดในโลก) แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถ ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองเธอจึงหักพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว จนทำให้รถพุ่งตกหน้าผาไป “ฉันจำตอนที่ร่วงลงไปข้างล่างไม่ได้เท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่บอกว่าฉันตกลงไปข้างล่างลึกประมาณ 76 เมตร แต่สิ่งที่ฉันพอจะจำได้คือหลังจากที่ฟื้นขึ้นมามือของฉันเต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นฉันยังคงอยู่ในรถ” “ที่ขาของฉันเหมือนมีน้ำไหลออกมา ฉันเจ็บที่หัว และกระจกรถก็ยังคงปิดอยู่” Angela เล่า น้ำค่อยๆ ไหลเข้ามาในรถ พอได้สติเธอก็เริ่มหาอุปกรณ์ทุบกระจกเพื่อหาทางออกจากรถไปให้ได้ หลังจากที่ออกมาจากรถได้เธอก็ว่ายน้ำเข้าฝั่ง และเธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเอาตัวเองให้รอดอย่างไรดี จากนั้นไม่นานครอบครัวของ Angela ก็โทรแจ้งตำรวจเพราะเธอหายตัวไป และไม่ยอมกลับมาสักที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการค้นหาตลอดทั้งเส้นทางหลวงสายที่ 1 “จากนั้นไม่กี่วันต่อมาฉันก็เริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันเบลอไปหมด ฉันเดินไปตามชายหาดเพื่อหาคนช่วยเหลือ…
-
เด็กสาวป่วยเป็นโรคสมองพิการ ช่วยเหลือน้องชายให้รอดจากการจมน้ำได้อย่างปาฏิหาริย์
ใครเล่าจะคิดว่าเด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ต้องตัวติดกับเก้าอี้รถเข็นอยู่ตลอดเวลา จะกลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยชีวิตน้องชายของตัวเองจากการจมน้ำ!? Lexie Comeau-Drisdelle เด็กสาววัย 9 ขวบ เธอคือผู้โชคร้ายที่เกิดมาพร้อมกับ ‘โรคสมองพิการ’ เธอไม่สามารถเดินได้ หรือแม้แต่พูดได้ แต่เธอก็หาวิธีที่สามารถช่วยเหลือน้องชายให้รอดพ้นจากการจมน้ำในสระว่ายน้ำที่บ้านได้ ในวันหนึ่งของช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ทุกคนในครอบครัวกำลังวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับ Lexie Leeland น้องชายคนเล็กก็วิ่งเล่นไปตามประสาเด็กวัยกำลังซน โดยมีคุณย่าคอยดูอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ แต่แล้วเมื่อคุณย่าเผลอเจ้าหนู Leeland ก็เดินตรงเข้าไปที่ประตูหลังบ้านซึ่งมีสระว่ายน้ำอยู่ และเขาเองก็ไม่เคยฝึกว่ายน้ำมาก่อนด้วย Lexie เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ แม้ว่าเธอจะเดินไม่ได้ หรือไม่สามารถพูดได้ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เธอได้ตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตน้องชายของตัวเองด้วยการ ‘กรีดร้อง’ ออกมา จากเสียงร้องของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านหยุดการกระทำที่กำลังทำอยู่ และรีบวิ่งมาหา Lexie ทันที ก่อนที่เธอจะพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดชี้ไปที่ประตูหลังบ้าน “แม่ของฉันเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็เลยรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าต่างพบว่า Leeland เดินไปอยู่ที่ขอบสระแล้ว ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมากเลยวิ่งเข้าไปเอาตัวเขาออกมา” Kelly Jackson คุณแม่ของ Lexie เล่า “ในตอนนั้นฉันกลัวมาก เราคิดว่ามันคงจะจบลงไม่สวยแบบนี้ หากไม่ได้การช่วยเหลือของ…
-
Elon เผยคลิปแรก ‘แคปซูลช่วยชีวิต’ อยู่ในขั้นทดสอบ และจะจัดส่งไปถึงไทยเย็นนี้!!
หลังจากที่เราได้เห็นภาพการออกแบบแคปซูลขนาดเล็กของทีม SpaceX กันไปแล้ว ยังเป็นเพียงต้นแบบที่ดัดแปลงเบื้องต้น (ข่าวเก่า) โดยล่าสุดนี้ Elon Musk เจ้าเดิมได้เปิดเผยคลิปแรกของ ‘แคปซูล’ สำหรับปฏิบัติการช่วยชีวิตหมูป่า ณ ถ้ำหลวง ออกมาแล้ว!! https://twitter.com/elonmusk/status/1016029967270928384 . หลังจากที่เขาได้รับข้อมูลมาจากหน้างานประเทศไทยแล้ว ทางทีมออกแบบจึงได้ปรึกษาหารือกัน จากข้อมูลที่ได้รับมานั้นทราบว่าทางแคบและเล็ก พวกเขาจึงทำการออกแบบแคปซูลขนาด ‘เล็ก’ สำหรับเด็ก ได้ใช้ท่อลำเลียงออกซิเจนเหลวจากจรวด Falcon มาใช้งาน น้ำหนักของแคปซูลนี้มีขนาดเบาพอที่จะใช้นักดำน้ำเพียง 2 คนในการลำเลียงได้ และมีขนาดเล็กพอที่จะลำเลียงขนส่งผ่านช่องแคบภายในถ้ำหลวง https://twitter.com/elonmusk/status/1016060413476143104 . pic.twitter.com/D1umiFDr1t — Elon Musk (@elonmusk) July 8, 2018 ต่อมา Elon Musk ได้ทวีตเพิ่มเติมว่า ‘แคปซูล’ ที่ว่านี้ จะส่งไปถึงประเทศไทยในช่วงเย็นของวันนี้ อาจจะได้ใช้ประโยชน์หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของหน้างาน แต่อย่างน้อยๆ ก็เผื่อเอาไว้ได้ใช้…
-
ระทึกชีวิตนักดับเพลิง ยื่นตัวออกไปนอกหน้าต่างรอรับ ‘หญิงโดดตึก’ คว้าตัวได้หวุดหวิด!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีบุคคลพยายามพรากชีวิตตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยและนักดับเพลิงทั้งหลาย ต้องออกมาช่วยรักษาชีวิตหลงทางให้รอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่สำหรับบางงานนั้น ชีวิตของเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงทั้งการช่วยเหลือที่อาจจะไม่สำเร็จ หรือแม้แต่กระทั่งต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้ จากภาพที่เห็นเป็นภาพของนักดับเพลิงจากประเทศลัตเวีย ทราบนามว่าเป็นนาย Tomass Jaunzems เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนดังกล่าว เดินทางมาถึงอาคารที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงรายหนึ่งจะกระโดดตึกลงมาจากชั้น 4 ช่วงจังหวะที่เขาไปไม่ทันถึงตัวหญิงสาว จึงตัดสินใจยื่นตัวดักรอรับผ่านหน้าต่างชั้นล่าง พร้อมกับเพื่อนเจ้าหน้าที่คอยยึดขาคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที หญิงคนดังกล่าวตัดสินใจกระโดดลงมา และนาย Jaunzems ก็สามารถคว้าตัวหญิงสาวระหว่างร่วงลงพื้นได้หวุดหวิด พร้อมกับนำตัวกลับเข้าสู่อาคารได้อย่างปลอดภัย ภายหลังเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นเอาไว้ว่า “ผมได้รับคำสั่งให้มารอที่ชั้น 3 หากเกิดอะไรขึ้นมา เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องคว้าตัวเธอเอาไว้ให้ได้” คลิปช่วงวินาทีระทึก เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถคว้าตัวหญิงสาวได้อย่างหวุดหวิด ทางด้านหน่วยดับเพลิง VUGD ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านเฟสบุ๊กว่า “ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลต้องสงสัยกำลังจะกระโดดออกจากหน้าต่างชั้น 4 เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรู้ว่าหากพยายามเข้าไปถึงตัวเธอ เธอจะกระโดดลงมาทันที… ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมตัวรอรับอยู่ด้านล่าง อีกหนึ่งทีมจึงไปดักรอที่หน้าต่างเพิ่มเติม พร้อมกับอีกทีมที่กำลังเตรียมเข้าให้ความช่วยเหลือจากบนหลังคา ในที่สุดเธอตัดสินใจกระโดดลงมาและเราก็สามารถช่วยเหลือได้สำเร็จ” ที่มา: skaties,…
-
สองนักบินใช้เงินที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิต เพื่อช่วยเหล่าเหลือเหล่าผู้อพยพในทะเล
เมื่อพูดถึงเรื่องของ ‘เงินเก็บ’ หลายๆ คนคงจะมีเอาไว้เพื่อปรนเปรอความสุขให้กับตัวเองในอนาคต… แต่สำหรับนักบินชาวฝรั่งเศสสองคนนี้ เขากลับนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีไปใช้กับการช่วยเหลือผู้อื่น และนี่คือเรื่องราวของ Jose Benavente และ Benoit Micolon สองนักบินที่ใช้เงินเก็บของตัวเองทั้งหมดเป็นมูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท ซื้อเครื่องบิน 1 ลำ เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล จากรายงานขององค์กร United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) จากปี 2016 มีผู้คนมากกว่า 66 ล้านคนพลัดถิ่นของตัวเอง ในจำนวนนั้นมี 22.5 ล้านคนเป็นผู้อพยพ และอีก 40.3 ล้านคนเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศ และอีก 2.8 ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัย การเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเส้นทางการอพยพที่เป็นที่นิยม และแน่นอนว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย จากรายงานในปี 2017 มีผู้อพยพมากกว่า 3,139 รายสูญหายไป เพราะหลงทางจากการข้ามทะเลอันแสนกว้างใหญ่ และในปีล่าสุดยังผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งปีก็มีรายงานผู้สูญหายไปแล้วมากกว่า 600…
-
สื่อนอกเผย คุณพ่อของเด็กที่ห้อยริมระเบียง มัวแต่เล่น ‘โปเกม่อน โก’ อยู่ข้างนอก…
กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงสัปดาห์นี้เลยก็ว่าได้ กับเหตุการณ์ฮีโร่ตัวจริงที่ปีนขึ้นตึกเพื่อไปช่วยชีวิตเด็กชาย จนกระทั่งส่งผลทำให้เขาได้รับสัญชาติ เป็นพลเมืองแห่งฝรั่งเศส พร้อมได้รับหน้าที่การงานเป็นการตอบแทน… อย่างไรก็ตาม ยังคงเกิดความแคลงใจว่า เหตุใดเด็กถึงถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังจนเกิดอันตรายเช่นนี้ได้ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของเด็ก กำลังทำอะไรอยู่? ฮีโร่ Mamoudou Gassama วัย 22 ปี เข้าพบประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ทางด้านอัยการฝรั่งเศส Francois Molins ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ BFM TV ว่า พ่อของเด็กชายวัย 4 ขวบรายนี้ ออกไปชอปปิงข้างนอก และปล่อยให้เด็กชายอยู่บ้านเพียงลำพัง ในส่วนของผู้เป็นแม่นั้น ได้เดินทางออกจากปารีสเพื่อไปเยี่ยมญาติบนเกาะเรอูนียง และหน้าที่ดูแลลูกก็ตกเป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ… ซึ่งการกลับมายังอพาร์ทเมนท์ของผู้เป็นพ่อต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากเขามัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน เปิดเกมโปเกม่อน โก เล่นไปด้วย ในขณะที่เดินกลับมาและเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทั้งนี้อัยการได้พิจารณาความผิดของผู้เป็นพ่อ ด้วยโทษจำคุก 2 ปี ฐานละเลยหน้าที่ของผู้ปกครอง จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเด็ก และจะตัดสินคดีความดังกล่าวในเดือนกันยายน…
-
เพราะเป็นเด็กต้องช่วย!! หนุ่มปีนไต่ตึกสูง 4 ชั้น ไม่หวั่นตัวเองร่วง จนนายกเทศมนตรีชื่นชม
การจะเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงนั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวให้ดูดีมีเอกลักษณ์ ไม่ต้องสวมผ้าคลุมไว้บนบ่า เพราะถ้าหากมัวแต่แต่งตัวอาจจะช่วยชีวิตคนไม่ทันก็เป็นได้!! ใครจะรู้ล่ะว่า ช่วงวินาทีชีวิตของคนที่ตกอยู่ในอันตรายนั้นจะสามารถยื้อเวลาได้นานแค่ไหน… เพราะฉะนั้นแล้วหากใครคนหนึ่งกล้าหาญชาญชัย พร้อมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อช่วยอีกหนึ่งชีวิต ก็ต้องลงมือทันทีไม่ต้องคิดอะไรอื่น เหตุเกิดขึ้นในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ณ บริเวณแฟลตขนาด 4 ชั้น ปรากฎเป็นภาพของเด็กชายวัย 4 ขวบ กำลังห้อยตัวลงมาจากระเบียง โดยที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรมว่าเด็กชายจะทนได้อีกนานแค่ไหน . แต่แล้วฮีโร่ในชีวิตจริง ทราบนามว่า Mamoudou Gassama ชาวมาลี ใช้วิชาตัวเบาของตนปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว!! จนกระทั่งสามารถคว้าตัวเด็กชายมาได้สำเร็จ และรอดปลอดภัยทั้งคู่ ท่ามกลางเสียงเชียร์จากประชาชนด้านล่างที่เห็นเหตุการณ์ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางด้าน Anne Hidalgo นายกเทศมนตรีปารีส ได้กล่าวยกย่องและทำการขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวด้วย Un grand bravo à Mamoudou Gassama pour son acte de bravoure qui a permis…
-
หนุ่มนักดับเพลิง ฝ่าเข้าไปในบ้านที่ไฟไหม้ เพื่อช่วยเจ้าหมาน้อยออกมา
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในบ้านหลังหนึ่งที่รัฐแคลิฟอร์เนีย บ้านหลังนั้นมีควันดำโขมง ถ้ามีใครอยู่ในนั้นคงเป็นอันตรายต่อชีวิต คนในบ้านหลังนั้นหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่เจ้าหมาอีก 2 ตัวยังติดอยู่ในบ้านอยู่เลย ถ้าไม่ได้พี่นักดับเพลิงใจกล้าคนนี้เรื่องคงจบด้วยการสูญเสียเจ้าหมา 2 ตัวนี้ไป หลังจากรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้แล้ว นักดับเพลิงจาก San Diego Fire-Rescue Department ก็รีบเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว พวกเขาเห็นว่าคนในบ้านออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว แต่คนที่ออกมาก็บอกว่าสุนัขของตัวเองยังออกมาไม่ได้เลย ขณะที่พูดคุยกัน ไฟไหม้ก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนักดับเพลิงเห็นแบบนั้นเขาก็รู้ว่าพวกหมาคงมีอากาศหายใจไม่มากแล้ว เขาเลยตัดสินใจวิ่งฝ่าควันไฟเข้าไปโดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกันตัวใดๆ โชคดีที่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจเขาก็กลับออกมาพร้อมกับเจ้าหมาทั้ง 2 ตัว พวกมันยังปลอดภัยดี แต่ก็คงไม่เป็นแบบนั้นถ้าไม่ได้นักดับเพลิงช่วยไว้ แม้ว่าการช่วยเหลือในเหตุเพลิงไหม้จะเป็นหน้าที่ของนักดับเพลิงอยู่แล้ว แต่ความใจกล้าที่ตัดสินใจเข้าไปช่วยหมาที่เดือดร้อนทันทีก็เป็นสิ่งที่น่านับถือเป็นอย่างมาก ครอบครัวของเจ้าหมาก็ซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเขาเช่นกัน ที่มา: the dodo, Fox 5 San Diego
-
นักศึกษาใช้ทักษะ ‘วิศวะ’ สร้างอุปกรณ์แพทย์ ช่วยชีวิตผู้ป่วยเบาหวาน กลางเวหาได้สำเร็จ!!
สำหรับผู้มีโรคประจำตัวมักจะรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่ต้องขึ้นเครื่อง ซึ่งในกรณีนี้มักจะต้องนำยาประจำตัวติดมาด้วย หากลืมหรือไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเข้าเกท คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ หากเที่ยวบินนั้นมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพโดยสารมาด้วย อาจจะช่วยให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานรายนี้ กลับผิดคาดไปจากที่คิด เพราะคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้คือ “นักศึกษาวิศวะ” Karttikeya Mangalam อาจจะฟังดูแล้วเกิดอาการงง เหตุเกิดในระหว่างเที่ยวบินจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สู่เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย Karttikeya Mangalam นักศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากสถาบัน IIT Kanpur กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหลังจากเสร็จสิ้นโปรแกรมแลกเปลี่ยนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาพบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถามหาผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ เนื่องจากหนึ่งในผู้โดยสารนาม Thomas วัย 30 ปี ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 กำลังเกิดอาการกำเริบ เนื่องจากขาดอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจาก Thomas ลืมเครื่องฉีดอินซูลินไว้ในถาด ระหว่างผ่านเข้าเกทตรวจสอบความปลอดภัยที่สนามบินนานาชาติเชเรเมเตียโว ซึ่งเขารับอินซูลินเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 ชั่วโมงที่แล้ว จนระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติทำให้เขาเริ่มหน้ามืด Karttikeya เขียนบอกเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น… แม้จะมีนายแพทย์โดยสารมาด้วย และเขาก็ประสบกับโรคเบาหวานเช่นกัน เขามีอุปกรณ์รักษาติดตัวมาแต่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Thomas เพราะปริมาณและส่วนประกอบของสารเคมีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เข็มฉีดอินซูลินของ…
-
หนุ่มนิรนามเห็นกวางจะจมน้ำ เลยโดดลงทะเลสาบไปช่วยมันโดยไม่ลังเล
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา มีคนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ในเขต Montgomery County รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเห็นกวางตัวหนึ่งอยู่ในทะเลสาบใกล้ๆ แต่มันหาทางขึ้นไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้มันอาจจมน้ำตาย เจ้าหน้าที่รีบรุดไปช่วยมันตรงจุดที่ได้รับแจ้ง แต่เมื่อพวกเขาไปถึง ก็เห็นชายคนหนึ่งที่ชื่อ Patrick อยู่ในน้ำกับเจ้ากวางแล้ว เขาโดดลงไปช่วยมันก่อนทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลประโยชน์ใดๆ เลย ชายคนนั้นใช้ห่วงยางช่วยชีวิตประคองตัวเจ้ากวางไว้ แล้วเขาก็ว่ายน้ำพาเจ้ากวางไปที่ขอบทะเลสาบเพื่อที่จะพามันขึ้นไปยังพื้นหญ้าที่ปลอดภัยอีกครั้ง เขาต้องว่ายเลียบขอบทะเลสาบไปทั้งๆ ที่แบกเจ้ากวางอยู่เพราะที่กั้นรอบๆ นั้นสูงเกินกว่าที่จะปีนขึ้นมาได้ กว่าจะถึงตรงบันไดขึ้นลงทะเลสาบก็นานพอสมควรเลย เมื่อเขามาถึงตรงบันไดขึ้นลง เจ้าหน้าที่ที่รออยู่กับอุ้มเจ้ากวางกลับมาอยู่บนสนามหญ้าอย่างปลอดภัย แล้วเขาก็ได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไปแชร์ในโซเชียลมีเดียด้วย พอกวางตัวนั้นขึ้นมาบนฝั่ง มันก็ดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แค่จะยืนยังยืนไม่ค่อยอยู่เลย แต่อย่างน้อยมันก็มั่นใจได้แล้วว่าตัวเองรอดพ้นจากอันตรายมาได้แล้วล่ะ มีรายงานมาว่ากวางตัวนั้นนอนพักอยู่ตรงที่เดิมนาน 4 ชั่วโมงก่อนจะตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งกลับเข้าไปในป่าซึ่งเป็นถิ่นของตัวเองอย่างปลอดภัย แม้จะไม่ใช่การกระทำที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่ชายคนนี้ก็ยอมเอาตัวเองเสี่ยงภัยไปช่วยมัน แถมยังไม่บอกชื่อเต็มของตัวเองเพราะไม่อยากได้ชื่อเสียงจากการช่วยเหลือสัตว์ด้วย อย่างไรก็ตามชาวเน็ตและเจ้าหน้าที่ก็ชื่นชมเขาอย่างมาก เพราะคนจิตใจดีแบบนี้หากันไม่ได้ง่ายๆ หรอก ที่มา: the dodo
-
มิ้วน้อยที่ถูกทอดทิ้ง อ่อนแอจนไม่มีใครคิดว่ามันจะรอด แต่มันก็สู้จนรอดมาได้
ลูกแมวที่อ่อนแอมากตัวหนึ่งถูกพบในเมืองเวสโควินา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มันดูย่ำแย่มากจนดูไม่น่าจะรอดชีวิตจนโตได้ แต่มันก็ทำให้ทุกคนรู้แล้วว่าทุกคนคิดผิด อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Friends for Life Rescue Network เจอลูกแมวตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง คาดว่าแม่ของมันน่าจะทิ้งมันไปแล้ว มิ้วน้อยดูไร้ชีวิตชีวา มีเห็บหมัดเต็มตัว มีอุณหภูมิตัวต่ำ ขาดสารอาหาร ติดเชื้อทางเดินหายใจ ดูแล้วอาการย่ำแย่จนอาสาสมัครเองยังรู้สึกเป็นห่วง คนในกลุ่มช่วยเหลือดูแลมันทุกทางเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ปล่อยให้เจ้าเหมียวพักผ่อน ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจของตัวมันเองเท่านั้นว่าจะรอดรึเปล่า แต่ในวันต่อมามิ้วน้อยก็รอดชีวิตแล้วกลับมายืนได้อีกครั้ง มันทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่ามันเองก็สู้สุดตัวเหมือนกัน อาสาสมัครก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า Xena ตามเจ้าหญิงนักรบ พออาการเริ่มดีขึ้น Xena ก็กินอาหารเองได้ มันกินอาหารเยอะจนกลับมาดูแข็งแรง แล้วมันก็เรียนรู้การใช้ห้องน้ำแมวเองโดยไม่ต้องให้คนสอนด้วย จากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปอยู่ในบ้านของคนดูแล เจ้ามิ้วจะได้มีคนคอยเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง แล้วก็ป้อนข้าวป้อนยา ให้อาหารเสริมมัน Roxy Alatzar คนที่รับมันมาดูแลบอกว่า “แค่วันที่ 2 มันก็กัดฉันแรงๆ ได้แล้ว ฉันภูมิใจที่มันแข็งแรงได้ขนาดนี้” ใช้เวลาเพียงแค่ 5 วันเท่านั้นมิ้วน้อยก็เปลี่ยนจากแมวที่อ่อนแอ กลายเป็นลูกแมวที่ร่าเริงสดใสสมวัย ไม่น่าเชื่อเลยว่าภายในเวลาสั้นๆ…
-
รวมทวีต “เรื่องเล่าจากคุณหมอ” ผ่านทวิตเตอร์ ทั้งสุขและเศร้าอยากเล่าให้ทุกคนได้ฟัง
ขณะนี้มีเทรนด์ในทวิตเตอร์ เป็นแฮชแท็ก #ShareAStoryInOneTweet ที่ให้ชาวทวิตเตอร์ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวน่าประทับใจสั้นๆ เพียงโพสต์เดียวเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องราวของเหล่า “บุคลากรแพทย์” ที่หลายคนคิดว่าแพทย์เป็นอาชีพที่น่าอิจฉา ทั้งมีรายได้สูงและได้รับความเคารพจากผู้คนในสังคม แต่รู้หรือไม่ ชีวิตของพวกเขาก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ที่มีทั้งความทุกข์ ความสุข ความเศร้า ลองมาดูกันว่า เรื่องเล่าจากคุณหมอ ที่น้อยคนจะได้รับรู้ มันจะซึ้ง เศร้า และน่าประทับใจขนาดไหน… ผมเห็นเด็กๆ ต้องตายจากโรคหัดทุกวันในเคนยา ผมได้เห็นคุณแม่คนหนึ่งกระเตงลูกของเธอมาไกลเกือบ 50 กม. เพื่อรับวัคซีนยา ส่วนในประเทศโลกที่หนึ่ง พ่อแม่ที่ไม่พาลูกมาฉีดวัคซีนนี่โคตรเห็นแก่ตัวเลย ครั้งหนึ่ง ผมทำคลอดหนูน้อยน้ำหนัก 450 กรัมคนหนึ่งออกมา หลายคนบอกว่าเธอไม่น่ารอด เพราะเธอตัวเล็กเกินไป และเธอก็มักจะหยุดหายใจอยู่เสมอ ผมจึงใช้เวลาอยู่กับเธอ 2 คืนเต็มๆ นวดลงไปบริเวณหน้าอกเพื่อให้ปอดเธอได้หายใจ ผู้แนะนำบอกว่าสิ่งที่ผมทำมันเปล่าประโยชน์ แต่ปัจจุบันนี้เธอเป็นสาวน้อยวัย 6 ขวบที่กำลังจะออกแสดงบัลเลต์เป็นครั้งแรก ในช่วงแรกๆ ที่โรคเอดส์ระบาดหนัก นางพยาบาลมักเลี่ยงที่จะเข้าไปหาผู้ป่วย ผมในฐานะหมอฝึกงาน ขณะนั้นผมไม่ได้อยู่ในชั่วโมงทำงานด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังเข้าไปหาพวกเขา ผมใช้เพจเจอร์และโทรศัพท์โทรหาพ่อแม่พี่น้องของผู้ป่วย จากนั้นก็นั่งจับมือพวกเขาเอาไว้ และติดต่อให้พวกเขาได้คุยกับลูกๆ พวกเขาจะต้องไม่ตายอย่างโดดเดี่ยว คุณถูกรถชนต่อหน้าฉัน…
-
มิ้วน้อยถูกช่วยจากรูต้นไม้ รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด ได้พบความรักจากน้องสาวตัวใหม่
มิ้วน้อยตัวหนึ่งถูกพบอยู่ในโพรงต้นไม้ ทุกคนคิดว่ามันคงตายไปแล้ว แต่มันยังรอดชีวิตกลับมาได้ แถมได้พบกับน้องสาวตัวใหม่ที่จะใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไปด้วย มิ้วน้อย Rowan กับพี่น้องของมันอีก 3 ตัวถูกเจออยู่ในโพรงต้นไม้ อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือแมว Purrfect Pets Cat Adoptions ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เลยช่วยพวกมันเอาไว้ มิ้วน้อย Rowan ตอนที่พวกเขาเจอมิ้วน้อย Rowan ก็นอนแน่นิ่งแล้วก็ตัวเย็นชืดด้วย อาสาสมัครพากันถอดใจคิดว่ามันจะไม่รอดชีวิตแล้ว แต่ก็มีคนสังเกตเห็นว่ามันยังหายใจอยู่ พวกเขาก็เลยรีบช่วยชีวิตมัน อาสาสมัครทั้งเอาอาหารเสริมและนมให้มันดื่ม โดยหวังว่าน้ำตาลในกระแสเลือดของมันจะสูงขึ้นจนมิ้วน้อยมีเรี่ยวแรงมากขึ้น หลังจากดูแลมันอย่างใกล้ชิดอยู่หลายชั่วโมง เจ้าเหมียวก็กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมแล้ว Holly หญิงที่รับไว้ดูแลชั่วคราวเล่าว่า “ฉันยังแปลกใจเลย มันตัวเล็กแค่ครึ่งเดียวของพี่น้องตัวอื่น แต่มันก็รอดมาได้ ขณะที่พี่น้องของมันกินข้าวเองได้แล้ว มันก็ยังต้องการแม่อยู่ ฉันก็เลยพามันไปอยู่กับแม่แมวที่บ้านของฉัน เพราะมันมีลูกวัยเดียวกันกับเจ้ามิ้วเลย” Rowan ถูกส่งไปอยู่ในบ้านของ Holly เพื่อให้แม่แมวเลี้ยงดูมัน แม่แมวเองมีลูกของตัวเองหลายตัวแล้ว แต่มันก็เลี้ยงดู Rowan เหมือนเป็นลูกของตัวเอง แล้วก็ยังรับดูแล Pippy มิ้วน้อยกำพร้าที่เจอในสนามบินด้วย เมื่อมีแม่แมวและ Holly ช่วยกันดูแล…
-
‘แม่ต้องปกป้องลูกให้ได้’ แม่พอสซัมช่วยเหลือลูกน้อย ให้รอดพ้นจากคมเขี้ยวอสรพิษ
ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่แล้ว ย่อมรักลูกและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุข แม่พอสซัม (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 4 เท้า ลักษณะเหมือนหนูตัวโต) ตัวนี้ก็เหมือนกัน มันเข้าไปปกป้องลูกน้อยจากงูเหลือมโดยไม่เกรงกลัวอันตราย จนลูกของมันรอดมาได้อย่างปลอดภัย ภาพถ่ายการต่อสู้ของแม่พอสซัมเพื่อช่วยลูกของมัน ได้ถ่ายไว้โดยหญิง Christine Birch Williams เธอรู้ว่ามีงูเหลือมตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสวนหลังบ้านของเธอ และวันหนึ่งเธอก็บังเอิญผ่านมาเห็นมันกำลังจะกินลูกพอสซัมเป็นอาหาร แต่แม่ของมันก็เข้ามาช่วยเอาไว้ได้พอดี เจ้างูเหลือมจับลูกพอสซัมเอาไว้ได้ มันใช้ลำตัวรัดไว้แน่นเพื่อจะกินเป็นอาหาร แต่แม่พอสซัมตามมาช่วยลูกไว้ได้ทัน มันพยายามแกะหางของงูที่รัดของลูกตัวเองออก พอเห็นว่างูเหลือมไม่ยอมปล่อย มันก็กัดเจ้างูไปหลายแผลเลย สุดท้ายงูเหลือมตัวนั้นก็ยอมแพ้ต่อแม่พอสซัม แล้วปล่อยลูกพอสซัมให้เป็นอิสระ แม่ของมันก็เลยพาลูกขี่หลังหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นลูกอยู่ในอันตรายแม่พอสซัมก็สู้กับงูเหลือมไม่ยอมถอย มันทั้งใช้แรงแกะแล้วก็ใช้ฟันกัดเพื่อให้ลูกรักหลุดพ้นจากการถูกงูกินได้ แล้วหนีไปได้อย่างปลอดภัยทั้งแม่และลูก เป็นภาพความรักของแม่ที่น่าประทับใจจริงๆ ภาพนี้ถูกแชร์ลงในอินเตอร์เน็ตและได้รับการแชร์ต่อไปถึง 1,700 ครั้ง ชาวเน็ตต่างก็ชื่นชมความรักของแม่พอสซัมที่มีให้กับลูกจนยอมเสี่ยงอันตรายไปช่วยขนาดนี้ และอีกส่วนหนึ่งคิดว่าเธอควรจะเข้าไปช่วยลูกพอสซัมไว้ สำหรับ Williams แล้วเธอบอกว่าเธอเลือกที่จะถ่ายภาพเอาไว้โดยไม่เข้าไปช่วย เพราะคิดว่ามันเป็นวิถีทางธรรมชาติ เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว Stuart McKenzie ชายที่ทำอาชีพจับงูก็เสริมอีกว่า “ถ้าเป็นผมก็ไม่รู้จะเข้าไปช่วยดีไหมเหมือนกัน จริงอยู่ว่ามันอาจจะใจร้ายไปหน่อยที่เอาแต่นั่งดู แต่งูตัวนั้นก็พยายามอย่างหนักเพื่อหาอาหารเหมือนกัน” ที่มา: Daily Mail
-
สาวช่วยชีวิตลิงให้รอดจากความตาย แต่กลับโดนแจ้งจับ ชาวเน็ตโยงถึงกรณีล่าเสือดำ?!
ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้เกิดเรื่องราวที่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งแชร์เรื่องราวดีเกี่ยวกับการที่เธอเข้าไปช่วยเหลือลิง 2 ตัวให้รอดตาย แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินคดี เฟซบุ๊ก พีระบุญ เจริญวัย โพสต์สิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2018 สรุปคร่าวๆ ได้ใจความว่า หญิงสาวคนดังกล่าวเจ้าของเฟซบุ๊ก ลักขณา ชลานนท์ไพศาล ได้ทำการช่วยลิงเอาไว้ 2 ตัวมาจากวัดที่นครปฐม และที่ระยอง ในตอนที่พวกมันตกอยู่ในสภาพปางตาย ทั้งถูกทำร้าย ถูกหมากัด สารพัดอย่าง หญิงสาวที่ช่วยชีวิตลิงเอาไว้ . ตัวหนึ่งเป็นลิงที่มีดวงตาบอด ส่วนอีกตัวเป็นลิงแก่ ซึ่งดูแล้วทั้งสองจำเป็นต้องการคนคอยดูแล นั่นจึงทำให้เธอพาพวกมันกลับมาเลี้ยงดูอุ้มชูจนเริ่มกลับมาแข็งแรงและเกิดความผูกพันกันขึ้นในที่สุด แต่จู่ๆ กลับมีคนแจ้งไปยังกรมป่าไม้ให้เข้ามายึดลิงทั้งสองตัวและดำเนินคดีกับสาวผู้ช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้ ด้วยข้อหามีสัตว์ป่าไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เธอต้องโดนถูกประกันตัวไปในวงเงิน 60,000 บาท และถ้าฟ้องศาลเสร็จสิ้นยังจะต้องเสียค่าปรับอีก 40,000 บาท โพสต์ที่เข้ามาแชร์เรื่องราวนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการโยงไปถึงการใช้กฎหมายกับกรณีหนุ่มไฮโซล่าเสือดำ ที่ยังคงเป็นกระแสมาจนถึงปัจจุบัน หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่าทำไมแนวทางการใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ในทั้ง 2 กรณีมันถึงได้ต่างกันนัก …
-
เจ้าหมาโกลเด้นน้ำตาไหลพราก หลังถูกช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่ต้องไปเป็นก้อนเนื้อในจีน
นอกจากหมาจรจัดซึ่งไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีหมาอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งรอความช่วยเหลือจากมนุษย์อยู่ พวกมันก็คือหมาที่อยู่ในตลาดค้าเนื้อสุนัขนั่นเอง หมาที่ในตลาดค้าเนื้อสุนัขจะถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารให้กับคนที่รับประทานเนื้อหมา แต่โชคดที่มีสุนัขส่วนหนึ่งถูกช่วยเอาไว้ ทำให้พวกมันได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างสุนัขทั่วไป เจ้าหมาโกลเด้นตัวนี้เป็นหนึ่งในสุนัขที่กลุ่มคนรักสัตว์ในประเทศจีนช่วยเหลือออกมาจากตลาดค้าเนื้อสัตว์ได้ โดยกลุ่มคนรักสัตว์หลายสิบคนช่วยกันรวบรวมเงินได้เป็นจำนวน 14,450 หยวน (ประมาณ 71,000 บาท) แล้วเอาเงินไปซื้อตัวสุนัขในตลาดออกมา หมากว่า 20 ตัวและเจ้าโกลเด้นจึงได้รอดพ้นจากการเป็นอาหาร มาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Sanhe Animal Protection Centre ที่อบอุ่นในเมืองคูนหมิง มณฑลยูนนาน หมาโกลเด้นตัวนี้เป็นตัวที่แสดงความซาบซึ้งใจได้ชัดเจนมากที่สุดเลย มันร้องไห้ออกมาเมื่อได้รู้ว่าตัวเองรอดจากการถูกฆ่าแล้ว จากนั้นมันก็กระโดดโลดเต้นเล่นกับคนที่มาช่วยมัน ตอนนี้คลิปวิดีโอของมันกำลังเป็นกระแสไวรัลในประเทศจีน สุนัขหลายตัวที่ถูกช่วยออกมา คาดว่าพวกมันน่าจะถูกพ่อค้าเนื้อสัตว์จับตัวมันไป บางตัวยังมีปลอกคอติดตัวอยู่เลย ซึ่งแปลว่าพวกมันเคยเป็นสัตว์เลี้ยงของใครสักคนหนึ่งและถูกพาไปขายโดยไม่เต็มใจ อย่างไรก็ตามตอนนี้มันได้มาอยู่ในความดูแลของกลุ่มคนรักสัตว์และศูนย์พักพิงแล้ว สุนัขทุกตัวจะได้รับการตรวจร่างกายและรักษาโรคใดๆ ก็ตามที่เป็นอยู่ จากนั้นพวกมันจะได้อยู่ในศูนย์พักพิงจนกว่าจะมีคนใจดีมารับเลี้ยงและเปลี่ยนชีวิตของพวกมันให้มีแต่ความสุขไปตลอดกาล ดูคลิปวิดีโอ คลิกที่นี่ ที่มา: Lad Bible, Unilad, Daily Mail
-
ตำรวจอเมริการอดชีวิตจากการโดนแก๊งลากไปฆ่าในป่า เพราะสุนัขเข้ามาช่วยไว้ทัน
ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องสวมผ้าคลุมเสมอไป พวกเขาอาจจะเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแค่ช่วยเหลือใครบางคนหรือทำในสิ่งที่ถูกต้อง และในบางครั้งฮีโร่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ ในระหว่างการลาดตระเวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ Todd Frazier จากลองบีช กรมตำรวจมิสซิสซิปปี อเมริกา ได้พบกับคนที่ดูเหมือนจะหมดสติอยู่ในรถ เมื่อเขาไปดูว่าคนขับเป็นอะไรเขาก็ถูกดึงความสนใจโดยชายอีกชายสองคนที่เดินเข้ามาหา ก่อนที่จะรู้ตัวว่ามันเป็นกับดักที่วางไว้โดยแก๊งท้องถิ่น พวกเขาจัดการใช้กำลังล็อกตัวเจ้าหน้าที่ Todd และลากเขาเข้าไปในป่าโดยวางแผนที่จะกรีดคอของเขา โชคดีที่เจ้าหน้าที่ผู้โดนโจมตีนั้นพกอุปกรณ์บนเข็มขัด ซึ่งทำให้เขาสามารถเปิดกรงของ Lucas สุนัขตำรวจที่อยู่ห่างออกไปได้ ราวกับมันรู้ว่าคู่หูกำลังตกอยูในอันตราย ทันทีที่กรงเปิดออก Lucas ก็พุ่งออกจากกรงเพื่อวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ Todd ทันที “มันรู้ว่าผมตกอยู่ในอันตราย ผมได้ยินมันวิ่งมา ผมอาจจะมองไม่เห็นอะไรเพราะเลือดเข้าตาอยู่ แต่ผมได้ยินมันใกล้เข้ามา มันขู่และเห่าราวกับเป็นหมาป่าไม่มีผิด… ในตอนนั้นเองผมก็คิดในใจว่า เดี๋ยว Lucas จะจัดการพวกแกเอง” เจ้าหน้าที่ Todd เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาพบเจอ “ลูคัสกระโดดออกจากรถและไล่กัดทั้งสามคนจนพวกเขาวิ่งหนีไป มันเป็นวีรบุรุษของผมเลย” Lucas ประสบความสำเร็จในการปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่ Todd แม้ว่าต้องแลกกับบาดแผลบนตัวของพวกเขาก็ตาม Lucas มีแผลเอ็นฉีกขาด และฟันหลุดไปสองสามซี่ ส่วนเจ้าหน้าที่ Todd นั่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งสองถูกส่งแยกไปยังโรงพยาบาลของคน และของสัตว์ Lucas…
-
หมาไส้กรอกตัวน้อยพบ “ทารก” ถูกทิ้งในท่อระบายน้ำ จึงทำให้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน
ใครกันนะที่บอกว่าว่าเจ้าตูบเป็นได้แค่เพื่อนยามเหงาเท่านั้น วันนี้ เจ้าตูบตัวหนึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นนักสำรวจตัวน้อยที่สามารถช่วยเหลือชีวิตมนุษย์คนๆ หนึ่งเอาไว้ได้เลยทีเดียว Charmaine Keevy วัย 63 ปีต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้า Georgie หมาไส้กรอกของเธอ ส่งเสียงเห่าและพาเธอไปพบกับทารกถูกทิ้งอยู่ ในเมืองพอร์ตเอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ มองไกลๆ คุณ Keevy คิดว่าเจ้าตูบของเธอเห่าแมวที่นอนส่งเสียงร้องอยู่ แต่พอลองเข้าไปมองดูใกล้ๆ กลับพบว่าเป็นเด็กทารกเพศหญิงถูกทิ้งเอาไว้และกำลังนอนร้องไห้อยู่ภายในท่อระบายน้ำ เธอจึงรีบโบกรถที่ผ่านไปมาแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งได้ความช่วยเหลือจากคุณ Cornie Viljoen ที่จอดรถเพื่อช่วยกันนำทารกออกมาจากท่อระบายน้ำ คุณ Viljoen ในวัย 60 ปีเป็นผู้ที่มุดเขาไปในท่อระบายน้ำที่ลึกราว 2 เมตร เพ่ื่อนำตัวทารกออกมา และนั่นทำให้เขาตกใจมากเพราะว่าบริเวณรอบๆ ตัวเด็กมีฝูงมดแดงล้อมอยู่เต็มไปหมด . Viljoen กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ช่างใจไม้ไส้ระกำทำกับเด็กทารกได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ดีใจนะที่เราสามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้” เมื่อนำตัวเด็กทารกส่งเข้าโรงพยาบาล แพทย์จึงพบว่าเธอมีอาการตัวเย็นเกินปกติ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลังจากนั้นแพทย์ก็ตั้งชื่อให้กับเด็กสาวคนนี้ว่า Grace April คุณ Keevey กล่าวว่า…
-
แมวเหมียวร้องปลุกคนในบ้านแต่เช้าตรู่ ตามให้ไปช่วยชีวิตคุณพ่อที่กำลังหัวใจวาย
แมวไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่บุกตะลุยไปช่วยคนแบบสุนัขได้ เพียงแค่มันยอมอยู่ใกล้ๆ เพื่อคลายความเหงาและแบ่งปันความรักให้กับ เราก็คิดว่ามันทำดีมากพอแล้ว ทว่าเจ้าเหมียวตัวนี้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองเหนือกว่าที่มนุษย์คิด แมวเหมียว Shotzie เป็นแมวแก่อายุ 11 ปีที่อาศัยอยู่กับครอบครัว Miller มันค่อนข้างจะมีชีวิตที่สันโดษ คนที่มันสนิทด้วยมีเพียงคุณแม่ Tammy และพ่อเลี้ยง Kirk เท่านั้น แมวเหมียวแก่ Shotzie Brandy ลูกสาวของครอบครัวยังบอกเลยว่ามันจะซ่อนตัวทุกครั้งที่มีแขกมาเยี่ยมบ้าน หรือแม้แต่เวลาไม่มีแขก พอมันอยู่ใกล้เธอหรือน้องสาวมันก็จะทำท่าทางระแวงหรือขู่ใส่ด้วย ทว่าเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมามันก็ได้สร้างวีรกรรมที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมเลย มันได้ช่วยชีวิตของพ่อเลี้ยงเอาไว้จากโรคร้ายที่คุกคามเขา เจ้าแมวชอบอยู่กับพ่อเลี้ยงและแม่มาก เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2018 Brandy เล่าว่า “พ่อเลี้ยงตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวออกบ้านไปทำงานตอนตี 4 … ฉันคิดว่าเขาคงเพิ่งให้อาหารเจ้าเหมียว และกำลังจะออกจากบ้านไป แต่โรคหัวใจเขาก็กำเริบอย่างรุนแรงแล้วล้มพับลงไป เจ้า Shotzie ก็เลยวิ่งไปที่ห้องนอน กระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วใช้อุ้งเท้าปลุกแม่ พร้อมทั้งร้องและขู่เสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนแม่ตื่นขึ้น” Tammy เห็นท่าทีที่แปลกไปของเจ้าเหมียวก็รู้เลยว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นแน่ พอเธอออกไปดูที่ห้องนั่งเล่นก็เจอ Kirk นอนหมดสติอยู่…
-
ตำราหนาช่วยชีวิตได้… นักเรียนโชว์ ‘คัมภีร์หยุดกระสุน’ ช่วยชีวิต เพราะที่นี่บราซิลไง!!
เป็นที่รู้กันดีว่าเหล่าหนังสือเรียนและตำราต่างๆ จะอัดแน่นไปด้วยจำนวนหน้าของความรู้ที่เราจะต้องเรียน จนทำให้บางครั้งยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบเรียน รีบอัดความรู้ใหม่ๆ จนทำให้ถูกมองข้ามไป… แต่ใครเล่าจะรู้ถึงประโยชน์ของตำราหนาๆ เหล่านี้ เมื่อมันสามารถช่วยชีวิตนักเรียนรายหนึ่ง ให้รอดพ้นจากวิถีกระสุนที่จะเข้าไปฝังในร่างกายได้!! นักเรียนผู้ไม่เปิดเผยนามจากประเทศบราซิล ได้ทำการเปิดเผยภาพของตำราเรียนของตน ในสภาพที่ยับยู่ยี่ถูกแหวกเป็นวิถีกลางกระดาษ ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุที่เขากำลังเดินท่ามกลางจัตุรัสอันวุ่นวายกลางเมือง และเกิดเหตุเสียงปืนดังขึ้นในช่วงเวลานั้น เมื่อทุกคนได้ยินเสียงปืนต่างแตกตื่นแยกกันไปคนละทิศทาง และนักเรียนรายนี้ก็เช่นเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระสุนได้วิ่งตรงมาหาตัวเขาเรียบร้อยแล้ว ภายหลังเขาเพิ่งมารู้ตัวว่ามีกระสุนฝังอยู่ในตำราเรียน ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะกลางหน้ากระดาษ หลายหน้าได้รับความเสียหาย แต่แลกมาด้วยความปลอดภัยของชีวิต เขากล่าวกับนักข่าวไว้ว่า “เมื่อพวกมือปืนมาถึง ลั่นไกเข้าไปในบริเวณร้านขายเนื้อ และเดินเข้ามาใกล้ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับยิงปืนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็มีชายผิวเข้มพร้อมปืน .38 ยิงปืนออกมาจากหัวมุมหนึ่งที่น่าจะเข้ากระเป๋าผมจังๆ” มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวสามราย และมีผู้บาดเจ็บอีกเจ็ดราย โดยเป็นหนึ่งในสามของเหตุการณ์ยิงปืนในคืนเดียวกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าทั้งสามเหตุการณ์นี้ มีผู้ลงมือเป็นคนกลุ่มเดียวกัน และยังไม่สามารถทำการจับกุมตัวได้ ประโยชน์ของตำราหนาๆ อาจจะช่วยชีวิตคุณในการสอบ และปกป้องเราจากกระสุนปืนได้นะเออ!! ที่มา : ladbible
-
เจ้าม้าน้อยได้รับการช่วยเหลือจาก ‘โรงฆ่าสัตว์’ เลยจุ๊บทุกคนเป็นการตอบแทน
หลายคนคงไม่ทราบว่าในแต่ละปี มีม้ากว่า 100,000 ตัวที่ไม่มีใครต้องการ สุดท้ายพวกมันก็เลยถูกส่งไปให้โรงฆ่าสัตว์แล้วจบชีวิตลงที่นั่น เพื่อที่จะช่วยเหลือม้าเหล่านี้สาว Kaby Wegge ก็เลยร่วมกับคนจำนวนหนึ่งก่อตั้ง Sycamore Tree Ranch ฟาร์มที่จะเป็นบ้านหลังใหม่ให้กับสัตว์ยากไร้ทั้งหลาย แล้วเธอก็ได้ประมูลเจ้าม้า Caleb และแม่ของมันมาจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้พวกมันด้วย ม้าน้อย Caleb และแม่ของมัน Wegge เล่าว่า “หลังจากช่วยเจ้า Caleb มาแล้วมันก็ต้องพักฟื้นตัวเพราะมันป่วยอยู่ ถ้าให้พูดล่ะก็ม้าหรือลาที่ถูกช่วยมาจากโรงฆ่าสัตว์มักจะป่วยแทบทุกตัวเลย” Caleb เป็นม้าอายุเพียง 7 เดือนเท่านั้น พอมันมาอยู่ที่ฟาร์มนี้ก็ต้องใช้เวลาอยู่ในเขตกักกันเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อรักษาโรคเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะมีสุขภาพแข็งแรง มันจึงไม่ได้วิ่งเล่นเลย หลังจากมันหายดีแล้วได้วิ่งเล่นกับแม่ในฟา์รมเป็นครั้งแรก มันก็รีบวิ่งไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว เจ้าม้าก็ดูตื่นเต้นและมีความสุขมากเลยทีเดียว ท่าทีของ Caleb ยังแสดงให้เห็นด้วยว่ามันเป็นม้าที่ชอบเข้าสังคมมาก มันจะเข้าไปจุ๊บสัตว์ทุกตัวที่เข้าไปใกล้มัน ราวกับอยากทำความรู้จักและมอบความรักให้ เจ้าแมว Rose เองก็เป็นหนึ่งในเพื่อนใหม่ของมันเช่นกัน เจ้าเหมียวเกิดและเติบโตมาในฟาร์มแห่งนี้ ทว่าพี่น้องคอกเดียวกันของมันตายจากไปหมดเลย เจ้าเหมียวก็เลยมีเพื่อนเป็นสัตว์อื่นๆ แล้วมันก็ดูจะชอบพวกม้าเป็นพิเศษด้วย พอเจอหน้ากันก็รู้สึกถูกชะตา เป็นเพื่อนกันทันที มาให้จุ๊บ แสงความรักหน่อยมา …
-
สุนัขแก่เสียสละชีวิตตัวเอง ต่อสู้กับหมีดำเพื่อปกป้องครอบครัวให้ปลอดภัย
หมาเป็นสัตว์ที่กตัญญูรู้คุณ ความรักที่มันมีให้กับครอบครัวและเจ้าของของมันยากจะหาคำจำกัดความมาอธิบายได้ อาจจะพูดให้เห็นชัดเจนได้ว่ายอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องพวกเขาเลย เจ้าหมา Pete เป็นตัวอย่างที่ดีของความเสียสละเพื่อเจ้าของ แม้ว่ามันจะแก่มาก แต่ก็ยังเข้าสู้กับหมีดำเพื่อถ่วงเวลาให้ครอบครัวหนีไปได้ Pete หมานักสู้ เจ้า Pete เป็นสุนัขพันธุ์อิงลิชเซ็ทเทอร์อายุ 14 ปีที่อาศัยอยู่กับ Stephen Parisi และ Cathi Henn ในเขตกรีนวู้ดเลค เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เจ้าของของมันก็เปิดบริษัทดูแลสัตว์เลี้ยงขื่อว่า Me & My Shadow Pet Sitting ด้วย มันเลยเจอหมาตัวอื่นบ่อยๆ ทำให้มันไม่เหงาเลย ก่อนหน้าที่มันจะมาอยู่กับพวกเขา มันเคยเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่อยู่ในรัฐโอไฮโอมาก่อน แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้มันไม่สามารถล่าสัตว์ได้อีกต่อไป จึงมาใช้ชีวิตช่วงแก่อยู่ที่นี่ เจ้าของของมันเปิดบริษัทดูแลสัตว์เลี้ยง Me & My Shadow Pet Sitting เลยเจอเพื่อหมาทุกวัน มันอยู่กับเจ้านายใหม่อย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2018 Stephen ก็พาพวกสุนัขไปเดินเล่นบนภูเขาตามปกติ แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ระหว่างที่พวกเธอกำลังเดินเล่นอยู่นั่นเอง ก็มีหมีดำตัวหนึ่งโผล่มาจากป่าพอดี…
-
หญิงใจงาม ยอมให้เจ้าวัวอยู่กับหมาในบ้านตั้งแต่เด็ก ปล่อยจนลืมตัวว่าเคยเป็นวัวมาก่อน!?
ว่ากันว่าสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูในตอนเด็ก มีผลต่อการเจริญเติบโตและความคิดอย่างมาก เพราะเด็กจะซึมซับความรู้ใหม่ๆ เข้ามาเป็นทัศนคติให้ตัวเอง จึงไม่แปลกที่เจ้าวัวตัวนี้ซึ่งเติบโตมากับสุนัขจำนวนมาก จะมีท่าทางเหมือนกับหมาไม่มีผิดเลย มันชอบเข้ามาอยู่ในบ้านกับเจ้าของ แล้วก็นอนเล่นกับพวกสุนัขเหมือนกับพวกมันเป็นสัตว์พันธุ์เดียวกันด้วย อะแฮ่ม เค้าชื่อ Harveigh เป็นหมาตัวสุดท้องของบ้านหลังนี้ เจ้าวัวตัวที่ว่านี้ชื่อว่า Harveigh ซึ่งเป็นชื่อที่เจ้าของ Tammy และ Ren Cantons ตั้งให้หลังที่พวกเขาช่วยชีวิตมันมา ในตอนแรกเจ้าวัวถูกแม่ทิ้งทั้งที่พึ่งคลอดออกมาได้ไม่กี่ชั่วโมง โชคดีที่คู่รักวัยชราไปเจอเข้าเลยช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำจนช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ทัน และที่บ้านของพวกเขาก็มีวัวและสุนัขเยอะอยู่แล้ว การจะเก็บมันไปเลี้ยงเพิ่มสักตัวจึงไม่เป็นภาระอะไรเลย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่เคยเลี้ยงวัวเด็กมาก่อนก็ตาม แม่ไม่รักไม่เป็นไร มาอยู่บ้านยายก็ได้ ด้วยความที่เจ้าวัวยังเด็กอยู่ เธอก็เลยเลี้ยงมันเอาไว้ในบ้านที่มีอากาศอบอุ่นร่วมกับสุนัขอีก 8 ตัว ถึงแม้จะเป็นสัตว์ที่แตกต่างกัน แต่เจ้าวัวก็วิ่งเล่นกับสุนัขอย่างสนุกสนานราวกับตนเองเป็นหนึ่งในพวกมันเลย แถมมันยังสนิทกับสุนัขพันธุ์พิทบูลที่ชื่อ Sealy เป็นพิเศษด้วย ไม่ว่า Harveigh จะวิ่งเล่นไปส่วนไหนของบ้าน Sealy ก็จะคอยตามไปดูแลอยู่ไม่ห่าง เหมือนกับว่ามันช่วยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับคุณยายเลย อย่างไรก็ตาม Tammy คิดว่าที่มันสนิทกันดีขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะพวกหมาคิดว่าเจ้าวัวเป็นสุนัขตัวใหญ่ ส่วนเจ้าวัวน้อยก็น่าจะคิดว่าตัวเองเป็นสุนัขเหมือนกับเพื่อนๆ ตัวอื่น มีหมาน้องใหม่มาเพิ่ม เราต้องดูแลให้ดีไม่ให้ขาดตกบกพร่อง พอเจ้าวัวอายุได้…
-
นักปีนเขายอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง ช่วยเหลือเจ้าหมา 2 ตัว ที่ติดอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
คนที่รักสัตว์จริงๆ จะไม่ห่วงแต่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเท่านั้น พวกเขาจะเป็นห่วงสัตว์ทุกตัวที่ได้พบเห็นนั่นแหละ และก็พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้พวกมันเท่าที่จะทำได้ นาย Scott Pilling ชายจากประเทศอังกฤษวัย 39 ปีก็มีน้ำใจพร้อมจะช่วยเหลือสัตว์เช่นกัน แม้ว่าสัตว์เหล่านั้นจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนแปลกหน้า และเขาต้องเสี่ยงอันตรายก็ตาม ดังนั้นเมื่อเขาเห็นประกาศขอความช่วยเหลือให้ตามหาสุนัขที่หายไปบนเฟซบุ๊ก เขาจึงรีบออกเดินทางไปยังภูเขาหิมะด้วยความเป็นห่วงเจ้าหมาทันที ประกาศเจ้า Lilah หาย ประกาศเจ้า Cash หาย ประกาศนี้ลงไว้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 แล้ว แต่เขาเพิ่งจะเห็นมันเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งหมายความว่าเจ้าหมาที่หายไป 2 ตัวนั้นติดอยู่บนภูเขาหิมะมา 2 วันแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าพวกมันยังมีชีวิตรอดอยู่ในสภาพอากาศย่ำแย่แบบนั้นหรือไม่ แต่เขาก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังภูเขา Helvellyn ในเขตเลคของประเทศอังกฤษซึ่งห่างไกลจากบ้านของตัวเองทันที เขาเดินทางไกลมาถึงภูเขาหิมะเพื่อช่วยเจ้าหมาโดยเฉพาะ เมื่อเขาและอาสาสมัครจำนวนหนึ่งไปถึงบริเวณภูเขาหิมะ พวกเขาก็เริ่มทำการสำรวจพื้นที่ในทันที โดยเลือกสำรวจจุดที่อันตรายที่สุดซึ่งมีความสูงถึง 3,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล (ประมาณ 900 เมตร) ก่อนเพราะคิดว่าทีมค้นหาคงยังไม่ได้เข้าไปดูบริเวณนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะพบเจ้าสุนัขทั้ง 2 ตัวอยู่ด้วยกันบนยอดเขาในแถบนั้นนั่นเอง เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมรู้ว่าทางด้านตะวันออกของภูเขาที่อันตรายที่สุดน่าจะยังไม่มีใครเข้าไปค้นหา…
-
สองหนุ่มคนเก็บขยะ พบกับ “สายตาอ้อนวอน” ในถังขยะ เลยชุบชีวิตให้มันอีกครั้ง
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2018 เมื่อคนเก็บขยะทั้งสอง Tommy Gewitzke และ Ed Bolton บังเอิญไปเจอเข้ากับสายตาสุดน่ารักที่ส่งมาให้ในตอนที่พวกเขากำลังทำงานอยู่ในเมือง Aylesbury ประเทศอังกฤษ ทั้งคู่ไม่ได้เจอเข้ากับตัวสกังก์หรือว่าแรคคูนอย่างที่คนทั่วไปเจอ เพราะวันนี้พวกเขาได้เจอกับแฮมสเตอร์ตัวจิ๋ววิ่งไปมาในถังขยะใบนั้น พวกเขาจึงไม่รอช้ารีบคว้าเจ้าตัวน้อยขึ้นมาในทันที เจ้าตัวจิ๋วที่คนเก็บขยะทั้งสองบังเอิญไปเจอในถังขยะ ทั้งสองถามตามบ้านต่างๆ ในละแวกนั้นเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของแฮมสเตอร์ตัวนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่พบ พวกเขาจึงพามันกลับไปที่สำนักงาน Megan Williams พนักงานฝ่ายการตลาดของสภาเขต Aylesbury Vale บอกว่า “สำหรับฉัน นี่คือครั้งแรกที่มีคนเจอสัตว์เลี้ยงในถังขยะ พวกเขารู้สึกยิ่งกว่าตกใจเสียอีก” ชายหนุ่มทั้งสองคนตัดสินใจตั้งชื่อมันว่า Dusty ก่อนที่จะพามันไปอยู่ในบ้านพักชั่วคราวที่ Pets At Home ร้านสัตว์เลี้ยงภายในเมือง คนเก็บขยะผู้ช่วยชีวิตเจ้าหนูเอาไว้ จากนั้นทุกคนก็ช่วยกันตามหาเจ้าของของมัน แล้วในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอกับครอบครัวที่แท้จริงของเจ้าแฮมสเตอร์ตัวนี้ที่อธิบายว่า พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่ามันตายแล้ว จึงส่งมันไปสู่สุคติโดยการห่อแล้วทิ้งไว้ในถังขยะ แต่ความจริงแล้วเจ้าตัวน้อยมันแค่จำศีลเหมือนอย่างแฮมสเตอร์ป่าทั่วไปเท่านั้นเอง องค์กรคุ้มครองสัตว์ RSPCA เคยอธิบายไว้ว่าแฮมสเตอร์ป่าจะจำศีลในช่วงฤดูหนาว โดยพวกมันจะหลับไปเป็นเวลานานและจะตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ มันจะทำอย่างนี้ต่อเมื่ออุณหภูมิในบ้านลดลง แต่ถ้าให้มันอยู่ที่อุ่นๆ หรือนำมันมาวางไว้บนฝ่ามือรับอุณหภูมิร่างกายของเรา ก็จะทำให้มันตื่นขึ้นจากการจำศีล ในที่สุดมันก็ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวเดิม…
-
แฟนเก่าหึงโหด แทงยับ 32 ที จนเจอกู้ภัยใจงาม กับคำพูดแผ่วเบาที่เปลี่ยนทั้งชีวิตเธอ
Melissa Dohme หญิงสาวผู้โชคร้ายที่ต้องเจอกันเหตุร้ายที่เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล เมื่อเธอถูกแฟนเก่าใช้มีดแทงเข้าที่ร่างกายถึง 32 ครั้ง หลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกันเพราะเธออยากจะขอเลิก แต่เชื่อไหม เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้ Melissa ต้องเกือบตาย ทว่าก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ได้เจอกับชีวิตใหม่ เพราะในตอนที่เธอถูกแทงใกล้ตายนั้น Cameron Hill ชายจากหน่วยกู้ภัยก็ได้เข้ามาช่วยชีวิตเธอ สภาพของ Melissa Dohme หลังได้รับการช่วยชีวิต ในวินาทีนั้นทั้งคู่ไม่รู้หรอกว่าในอนาคตพวกเขาจะกลายเป็นคู่ชีวิตกัน เพราะ Melissa ก็อยู่ในสภาพใกล้ตาย ส่วน Cameron ก็ตั้งใจทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้นับจากวันนั้นทั้งคู่รู้สึกว่าแม้จะไม่เคยคุยกันเลย แต่กลับมีความรู้สึกว่าจะได้เจอกันอีกแน่ๆ ในอนาคต Melissa ใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานานหลายเดือนจนเวลาผ่านไป 10 เดือน โชคชะตาก็พาคนสองคนมาเจอกันอีกครั้ง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังพูดถึงสิ่งที่เธอต้องเจอและผ่านมาให้กับผู้คนฟัง เธอสังเกตเห็น Cameron ในฝูงชนที่มาฟังเธอนั่นเอง แต่โชคก็เล่นตลก เพราะในคืนนั้นแม้ทั้งคู่จะรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกันในงาน แต่พวกเขากลับไม่มีจังหวะที่จะได้คุยกัน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา Cameron ก็มีโอกาสที่จะสามารถติดต่อ Melissa ซึ่งเขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดไป เขารีบติดต่อเธอและชวนเธอไปออกเดตทันที นับจากนั้นทั้งคู่ก็ตัดสินใจเป็นแฟนกันและคบกันเรื่อยมาเป็นระยะเวลากว่า…
-
คุณลุงคนขับรถได้ช่วยชีวิตเจ้ากวางน้อย เพราะดันไปสังเกตเห็นความผิดปกติบนกองหิมะ
บางคนอาจไม่ชอบการที่เราเป็นคนช่างสังเกตและช่างสงสัย แต่บางเวลา ไอ้การช่างสงสัยและช่างสังเกตนี่แหละที่ทำให้ชีวิตของคนบางคนหรือว่าสัตว์บางตัวสามารถรอดตายได้เลยทีเดียวเชียวล่ะ อย่างเช่นเรื่องราวของคุณลุง Wayne Rowley คนนี้ที่ดั๊นนนนสังเกตไปเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติที่เนินหิมะ และเมื่อลุงแกเข้าไปดูก็พบว่ามีหนึ่งชีวิตติดอยู่ข้างใน คุณลุง Wayne เป็นคนขับรถบรรทุกของบริษัทเกี่ยวกับไม้ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 คุณลุง Wayne ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่ดูเหมือนติดอยู่ภายในกองหิมะข้างทาง เขาขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็กำลังคิดว่าที่เขาเห็นเมื่อครู่มันคืออะไร จากนั้นเขาจึงหยุด “ฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่” คุณลุงกล่าว “ฉันคิดว่าฉันน่าจะกลับไปดูอีกทีให้แน่ใจ” และเมื่อคุณลงกลับมาที่กองหิมะ สิ่งที่เขาเห็นก็คือ “ขา” ของสัตว์ที่ติดอยู่ในหิมะนั่นเอง ในสภาพแบบนี้ เจ้าสัตว์ตัวดังกล่าวคงมีชีวิตได้อีกไม่นาน แต่คุณลุง Wayne ก็ยังคงกล้าๆ กลัวๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูให้แน่ใจ “มันคือลูกกวางมูสที่นอนหงายเก๋งอยู่” คุณลุงกล่าว “ฉันลงไปดูว่ามันยังมีชีวิตอยู่ไหม และมันก็หันกลับมามองที่ฉันด้วยล่ะ” ในเมื่อนึกได้ว่ามีเวลาช่วยเจ้ากวางมูสตัวนี้น้อยลงเรื่อยๆ คุณลุงจึงพยายามหาวิธีช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ “ฉันไม่สามารถปล่อยมันไว้อย่างนี้ได้” เขากล่าว “ฉันคิดว่าฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้มันรอดออกมาให้ได้” จากนั้นคุณลุง Wayne จึงหยิบพลั่วอันเล็กๆ ออกมาจากรถบรรทุกเพื่อขุดหิมะ คุณลุงบอกว่าเขาได้ใช้พลั่วขุดไปที่รอบๆ…
-
วีรกรรมของ ‘Pete’ น้องหมาใจกล้า ที่แลกชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเจ้านายให้ปลอดภัยจากหมี!!
เรื่องราวของเจ้า Pete น้องหมาผู้กล้าหาญ ที่ยอมแลกชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องครอบครัวของมันจากหมีผู้ดุร้าย ในระหว่างที่สุนัขตัวอื่นๆ และเจ้านายของมันกำลังอยู่บนเขา วีรกรรมของเจ้า Pete ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์โดยคุณ Cathi หลังจากที่มันช่วยให้สุนัขตัวอื่นๆ ปลอดภัยจากสัตว์ป่าดุร้าย ในป่าลึกของรัฐนิวยอร์ก “วันนี้เราได้สูญเสียผู้กล้าของเรา เจ้า Pete หลังจากมันพบกับหมีเข้าโดยบังเอิญระหว่างทางเดินป่าของพวกเราเมื่อเช้านี้ สุนัขตัวอื่นๆ ของเราไม่ได้กลิ่นของเจ้าหมีตัวนั้นเลยเนื่องจากในตอนเช้ามีฝนตกลงมา แต่เจ้า Pete กลับรับรู้ได้ถึงอันตราย มันกระโจนเข้าหาเจ้าหมีและช่วยถ่วงเวลาให้พวกเราจน ฉันสามารถพาสุนัขตัวอื่นๆ เข้าไปหลบยังที่ปลอดภัยได้ ฉันกลับไปที่จุดเดิมอีกครั้งหลังจากที่แน่ใจว่าเจ้าหมีได้จากไปแล้ว แต่กลับพบว่า Pete ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก” ข้อความจากอินสตราแกรม Mmspets ที่เล่าถึงวีรกรรมของเจ้าตูบ นอกจากนี้ในอินสตราแกรมดังกล่าวยังเล่าอีกว่า พวกเขาได้พาเจ้าตูบกลับลงมาที่ล่างเขาอย่างเร่งด่วน และรีบพามันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล “ผลการเอ็กซเรย์ระบุว่าเจ้าตูบมีอาการบาดเจ็บสาหัสบริเวณกระดูกสันหลัง หากเขารอด เขาจะไม่มีโอกาสกลับมาเดินได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะทำการผ่าตัดก็ตาม ” ทางครอบครัวตัดสินใจให้เจ้า Pete จากโลกนี้ไปอย่างสงบในตอนบ่าย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการจากลาที่เจ็บปวด แต่ทางครอบครัวจำเป็นต้องทำเพื่อไม่ให้มันทรมาน “โชคดี Pete นายไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมาพวกเราใช้เวลาร่วมกันด้วยความรัก ขอให้แสงไฟนำทางและดูแลนายตลอดไป” ข้อความจากเจ้านายของ Pete เรื่องราวของเจ้า Pete กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ มีชาวเน็ตจำนวนมากที่ส่งข้อความร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณ Cathi…
-
คุณตาคุณยายช่วยชีวิตสุนัขพิตบูล มันเลยตอบแทนช่วยชีวิตพวกเขาคืน ด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น!!
การรับอุปถัมภ์สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ นอกจากจะทำให้เจ้าสัตว์เหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว มันยังช่วยให้เราคลายเหงาเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ทว่าบางทีการรับสัตว์มาเลี้ยงก็อาจจะได้อะไรมากกว่านั้น เหมือนกับตายายคู่นี้ ที่ช่วยชีวิตของหมาตัวหนึ่งออกมาจากสถานสงเคราะห์ แต่ใครจะไปรู้ว่าในที่สุดแล้วเจ้าหมาที่ว่านี้ก็ตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการทำให้สุขภาพของพวกเขาดีขึ้น!!! Jingles หมาพันธุ์พิตบูลผู้น่าสงสาร เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่เมื่อ เมื่อ Anne กับ Vic Tenaglia ผู้เฒ่าสองคนจากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจจะรับเลี้ยงหมาตัวหนึ่งจากสถานสงเคราะห์ที่มีชื่อว่า Brandywine Valley SPCA โดยหมาตัวที่พวกเขาเลือกนั้นก็คือ หมาพันธุ์พิตบูลวัย 2 ปีชื่อว่า Jingles ที่ได้รับการช่วยเหลือมาโดยสถานสงเคราะห์ระหว่างที่มันกำลังต่อสู้กับหมาตัวอื่นๆ ถึง 11 ตัวเลยทีเดียว ในตอนที่มาอยู่ใหม่ ยังมีรูปร่างผอมแห้งอยู่เลย ในขณะที่เจ้า Jingles อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนั้นมันดูไม่มีความสุขนัก ด้วยเหตุที่มาจากการประสบการณ์ในอดีตที่มันเคยเผชิญมา ซึ่งมันทั้งผอมแห้งแรงน้อย มีบาดแผลต่างๆ ตามตัว รวมถึงมีอาการวิตกกังวลให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยจะสังเกตได้จากที่มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางตัวเองบ่อยๆ และด้วยชื่อเสียงของหมาพันธุ์พิตบูลที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ในตอนแรก Anne ก็ยังลังเลที่จะรับมันมาเลี้ยง ทว่าก็ด้วยภาพอันแสนน่าสงสารของมันก็ได้ทำให้เธอใจอ่อนในที่สุด เพราะเธอรู้ว่าไม่สามารถทิ้งเจ้าหมาตัวนี้ให้อยู่ที่สถานสงเคราะห์ได้ลงคอ อยู่กับเจ้าของใหม่ ใจดีจัง ถึงแม้ว่าการได้มาอยู่กับครอบครัวใหม่จะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งในชีวิตของมัน แต่ก็ด้วยเจ็บปวดอันความโหดร้ายในอดีตที่ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ ทำให้มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สามารถสื่อถึงความกังวลของมันได้ คู่ตายายคู่นี้จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือหมาตัวนี้ และสิ่งที่พวกเขาเลือกที่จะใช้ก็คือการพามันไปเดินเล่นนั่นเอง…
-
น้องหมาตำรวจยอมปกป้องเจ้าหน้าที่ด้วยชีวิต ถูกมีดแทงกว่า 30 เซนฯ รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์
วีระกรรมอันกล้าหาญของเจ้า Fin สุนัขตำรวจพันธ์ุเยอรมันเชพเพิร์ดที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือคู่หูของมันอย่างเจ้าหน้าที่ Dave Wardell นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2016 จากฝีมือของเยาวชนคนหนึ่งที่เข้ามาทำร้ายพวกเขาด้วยมีด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์โจรกรรมในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Hertfordshire ประเทศอังกฤษ และเมื่อไปถึงพวกเขาก็พบกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กหนุ่มวัย 16 ปี เจ้าหน้าที่พยายามบอกให้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวหยุดอยู่กับที่ แต่เขากลับปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ Wardell ตัดสินใจปล่อยเจ้า Fin เพื่อจับกุมเด็กหนุ่ม เจ้าตูบเข้ากัดที่ขาของคนร้ายในขณะที่เขากำลังจะปีนรั้วหนี แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเด็กหนุ่มคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธมีดของเขาแทงเข้าไปที่เจ้าตูบ จากการรายงานของสำนักข่าวต่างปประเทศระบุว่า Fin ถูกแทงด้วยมีดล่าสัตว์ตรงส่วนหัวและหน้าอกลึกถึง 30 เซนติเมตร มันถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทีมแพทย์สามารถยื้อชีวิตของมันไว้ได้ทัน ทีมสัตวแพทย์พยายามอย่างสุดความสามาถเพื่อยื้อชีวิตของเจ้าหมา พวกเขาเร่งลงมือผ่าตัดและให้ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บปวดแก่มัน เป็นโชคดีของเจ้าตูบที่มีดเล่มดังกล่าวเฉียดหัวใจของมันไปเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น มันพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพร้อมกับเครื่องช่วยหายใจเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่จะเริ่มออกทำกายภาพบำบัดและกลับมาแข็งแรงอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาปี 2017 “้เขาช่วยชีวิตผมไว้ด้วยความกล้าหาญ ในระหว่างการรักษา หมอต้องโกนขนตรงบริเวณแผลออกก่อนที่จะทำการผ่าตัดแผลที่ใหญ่นั่น” เจ้าหน้าที่ Wardell พูดถึงเจ้าตูบของเขา บาดแผลของเจ้าตูบ หลังจากที่เข้าต่อสู้กับคนร้าย . ภาพของเจ้า Fin และเจ้าหน้าที่ Wardell ที่กลับมาปฏิบัติภารกิจด้วยกันอีกครั้ง ส่วนเด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และสัตว์ เขาถูกศาลตัดสินความผิดเมื่อเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมา…
-
แม้จะตัวเล็กแต่ใจสู้ยิ่งใหญ่ เจ้ามิ้วน้อยเกิดมาไม่สมบูรณ์แต่ก็สู้ตายจนรอด ตอนนี้เหรอ อ้วนตั้บ!!
ถ้าลูกแมวเกิดมาตัวเล็กมากนั่นหมายความว่ามันมีร่างกายที่อ่อนแอมากเช่นกัน หลายครั้งที่มีลูกแมวตัวเล็กเกิดออกมาหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอมันก็จะตายเอาง่ายๆ แต่ถึงจะตัวเล็กถ้าใจสู้ไม่ถอยเหมือนน้องเหมียวตัวนี้ก็หายห่วง สาว Joan Bowell อาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศกรีซ เธอรักแมวมากจึงมักจะให้ความช่วยเหลือแมวจรจัดอยู่เสมอ เจ้าแมวจิ๋ว Chili ตอนเจอครั้งแรกนั้นตามันติดเชื้อจนลืมตาไม่ขึ้นเลย วันหนึ่งขณะที่เธอให้อาหารแมวที่บ้านอยู่ เธอก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ใกล้ๆ แต่เธอก็ไม่เห็นแม่แมวหรือลูกแมวที่ไหนเลย ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงตัดสินใจเดินออกตามหาต้นตอของเสียงดู เมื่อเธอเดินเข้าไปในป่าไผ่ใกล้บ้านก็พบกับลูกแมวมอมแมม 2 ตัว ตัวแรกนั้นขาดใจตายไปแล้วแต่โชคดีที่อีกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้มันจะติดเชื้อและมีเห็บหมัดเต็มตัว เธอคิดว่าแม่แมวคงทิ้งมันไปแล้วเลยรีบเอามันกลับไปรักษาที่บ้านทันที หนูกินนมไม่ไหว ป้อนหน่อย เธอตั้งชื่อเจ้าแมวน้อยว่า Chili หลังจากที่ให้ยาและล้างตัวให้มันอย่างทะนุถนอม เธอก็รีบป้อนนมให้มันทันที เพราะดูแล้วคงไม่มีอาหารตกถึงท้องมันมาหลายวันแน่ๆ จากนั้นเธอจึงรีบนำมันไปไว้ในที่อุ่นๆ เพื่อให้อุณภูมิร่างกายที่เย็นเจี๊ยบของมันมันกลับสู่ปกติ แม้ร่างกายมันดูจะไม่สู้เท่าไหร่แต่เจ้าเหมียวก็ยังฮึดสู้จนรอดพ้นคืนนั้นมาได้ ผมเคยถูกทิ้งให้ท้องว่างอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่ตาย หลังจากที่มันดูแข็งแรงขึ้นบ้างแล้ว Joan ก็เลยพามันไปอยู่กับ Kaneli และ Vanilla แมวที่เธอเก็บมาอีก 2 ตัว โดยเธอหวังว่าพวกมันจะทำหน้าที่เป็นพี่สาวให้กับเจ้าแมวน้อยและมอบความอบอุ่นให้มันได้ เหมียวน้อยน่าสงสาร มาให้พี่กอดนี่มา เธอเล่าว่า “พี่สาวของมันจะให้คอยนอนอยู่ใกล้ๆ ให้ความอบอุ่นทางกายกับมัน…
-
ม้าใหญ่ล้มป่วย ใช้คนช่วยก็แล้วใช้รถลากก็แล้วก็ยังลุกยืนไม่ไหว โชคดีเพื่อนม้าเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
ม้าสายพันธุ์ Shire ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ เป็นม้าที่มีขนาดตัวใหญ่มากจนใช้ลากของได้เลย แต่ด้วยความที่มันมีน้ำหนักตัวมาก หากว่ามันนอนล้มพับอยู่เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้อวัยวะทำงานล้มเหลวจนตายได้ เจ้า Beatrice ม้าจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองบาธ เขตซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ ก็ล้มป่วยเช่นกัน เจ้าของพยายามช่วยให้มันยืนขึ้นยังไงก็ทำไม่สำเร็จสักที ในขณะที่พวกเขาถอดใจจะช่วยมันแล้วม้าเพื่อนซี้ของมันกลับช่วยให้มันยืนขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้า Beatrice ที่นอนป่วยอยู่ Donald MacIntyre และภรรยาของเขา Jane Lipington เป็นเจ้าของของ Beatrice พวกเขาเจอมันนอนล้มพับอยู่เนื่องจากมันปวดช่วงท้องมากจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่หากปล่อยมันนอนอยู่อย่างนั้นคงไม่ดีแน่ พวกเขาและคนงานในฟาร์ม 4 คนจึงใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงพยายามพยุงม้าใหญ่ที่หนักกว่า 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) ให้มันยืนขึ้นให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะใช้รถแทร็คเตอร์ลากมันให้ยืนขึ้นมาก็แล้ว เจ้าม้าก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่ดี คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้คลิก ที่นี่) เมื่อดูจากอัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดของมันที่พุ่งสูงจนเกือบถึงขีดอันตรายแล้ว พวกเขาจึงเริ่มทำใจว่าคงไม่สามารถช่วยมันได้แล้วล่ะ แล้วก็เริ่มโทรแจ้งสัตว์แพทย์ให้เตรียมจัดการกับมันทันที ตอนนั้นเองคนงานก็นึกขึ้นได้ว่าต้องปล่อยเจ้า Beau ที่อยู่ในคอกข้างๆ ให้มันออกไปวิ่งเล่นด้วย เขาจึงเปิดประตูคอกให้มัน แต่มันไม่ได้วิ่งออกไปข้างนอกฟาร์มแต่อย่างใด มันกลับวิ่งเข้าไปที่หน้าคอกของ…
-
พยาบาลโดนตะโกนด่า เพราะรถฉุกเฉินขวางทางคันอื่น ขณะที่เธอกำลังช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่
สำหรับคนที่ทำงานช่วยชีวิตคน ความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยย่อมมาก่อนเป็นอันดับแรก บางครั้งพวกเขาจำเป็นต้องฝ่าฝืนกฎจราจรเพื่อไปช่วยชีวิตคนเอาไว้ให้ทัน จึงมีบ้างที่จะมีคนไม่พอใจพวกเขา แต่หากมองในมุมของผู้ช่วยชีวิตแล้ว พวกเขาต้องลงแรงอย่างมากเพื่อที่จะช่วยชีวิตคนเอาไว้ให้ได้ แม้ว่าบางครั้งการกระทำฉุกเฉินของพวกเขาจะไปขัดประโยชน์ใครเข้า ก็อยากให้เข้าใจเอาไว้ด้วยว่าพวกเขาทำไปเพราะความจำเป็นทั้งนั้น Katie Tudor นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์หญิง Katie Tudor ทำงานอยู่กับ West Midlands Ambulance Service ซึ่งเป็นบริการรถพยาบาลในเขต West Midlands ประเทศอังกฤษ เธอเป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ซึ่งมีหน้าที่ออกไปช่วยชีวิตผู้ป่วยกับรถพยาบาล เธอจึงเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาเธอก็ออกไปช่วยชีวิตผู้ป่วยคนหนึ่ง เขาหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว รถพยาบาลจึงรีบมายังจุดเกิดเหตุและทำการจอดฉุกเฉินทันที ส่วน Katie ก็ไม่รอช้ารีบลงไปปั๊มหัวใจผู้ป่วยเช่นกัน แต่ระหว่างที่เธอกำลังทำการช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่ คนที่อยู่ข้างในเหตุการณ์กลับตะโกนใส่เธอด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด เพราะพวกเธอจอดรถพยาบาลขวางที่จอดรถของเขาอยู่ ทวีตของ Katie แต่ทีมของเธอก็ยังคงทำงานกันต่อไป เมื่อปั้มหัวใจผู้ป่วยและทำการพยาบาลเบื้องต้นแล้ว พวกเธอก็รีบส่งผู้ป่วยไปยัง Royal Stoke University Hospital ที่อยู่ใกล้เคียงทันที เมื่อเธอกลับจากการช่วยชีวิตผู้ป่วยแล้ว เธอจึงระบายอารมณ์ลงบนทวิตเตอร์ว่า “อย่ามาตะโกนโวยวายเรื่องที่ฉันขวางทางจอดรถ ตอนที่ฉันพยายาช่วยชีวิตผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นอยู่ได้ไหม พวกเราพยายามกันมากเพื่อที่จะช่วยชีวิตคนนะ แล้วมันก็คงจะดีมากถ้าไม่มีคนอารมณ์ร้อนมาอยู่ข้างๆ “ คนที่ทำงานของเธอเองก็ให้สัมภาษณ์ว่า…
-
โดรนช่วยชีวิต 2 วัยรุ่นลอยคอกลางทะเล ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่าเรือกู้ชีพอีก!!
เทคโนโลยีในปัจจุบัน นับว่ามีความก้าวหน้าไปอย่างมาก จนหลายคนอาจะเริ่มเกิดความรู้สึกว่าวันหนึ่งมนุษย์เราจะต้องถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ จนกลายเป็นว่ามนุษย์เราอาจจะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์ที่กำลังจะเสนอนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ดีเลยว่า “เทคโนโลยี” นั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์แน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่า “โดรน” ในประเทศออสเตรเลียได้เข้าไปช่วยชีวิตเด็กหนุ่ม 2 คนจนรอดตายมาแล้ว รายงานจาก BBC พบว่า ที่ชายฝั่งเลนน็อกซ์เฮด รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีคนสังเกตเห็นเด็กหนุ่ม 2 คน ติดอยู่นอกชายฝั่งราวๆ 700 เมตร ผู้ดูแลความปลอดภัยของชายฝั่งจึงบังคับ “โดรน” ที่ตนกำลังฝึกใช้อยู่ ให้ออกไปนอกชายฝั่งเพื่อค้นหาและช่วยเหลือเด็กหนุ่มดังกล่าว เด็กหนุ่มทั้งสอง อายุ 15 ปี และ 17 ปี ถูกพบว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต เขาจึงบังคับโดรนให้นำเบาะชูชีพไปส่งให้เด็กหนุ่มทั้งสองคน ทั้งคู่จึงได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย John Barilaro รองรัฐมนตรีแห่งนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า “ไม่เคยมีการนำอุปกรณ์ชูชีพติดกับโดรนเพื่อไปช่วยคนมาก่อนเลย” Jai Sheridan หัวหน้าผู้ดูแลความปลอดภัยได้ให้สัมภาษณ์กับ The Sydney Morning Herald ว่า “วันนี้ เจ้าโดรนได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว มันเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่แสนวิเศษและยังบินได้ด้วย”…
-
Kabang เจ้าหมาฮีโร่ ช่วยชีวิตเด็ก 2 คนจากจักรยานยนต์พุ่งชน จนต้องเสียโฉมไป
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิตของมันเพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กน้อย 2 คนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชน เด็กน้อย 2 คนปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทว่าเจ้า Kabang น้องหมาซุปเปอร์ฮีโร่ของเรากลับต้องสูญเสียปากส่วนบนของมันไป เจ้า Kabang ฮีโร่ตัวน้อยผู้ช่วยชีวิตเด็กหญิง 2 คน จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าเจ้าตูบได้กระโดดเข้าช่วยเหลือเจ้านายน้อยวัย 9 ขวบและ 3 ขวบของมันที่กำลังจะถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชน Kabang ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ในเมือง Zamboanga ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Davis ที่สหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมปี 2012 หลังจากที่ได้รับการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาจากหลายๆ ฝ่าย เจ้าตูบเข้ารับการรักษาตัวนานถึง 7 เดือน และนอกจากการสูญเสียปากส่วนบนแล้วทางทีมแพทย์ยังพบว่า Kabang มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของมะเร็งอีกด้วย นั่นจึงทำให้การผ่าตัดของมันล่าช้าออกไป เจ้าตูบจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดนานกว่า 6 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาแผลที่ปาก ถึงแม้ว่าจะถูกเลื่อนออกไปมากว่า 1 ปี แต่การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทีมแพทย์ได้วางแผนการผ่าตัดศัลยกรรมไว้ 2 ขั้นตอน ในส่วนแรกจะเป็นส่วนของงานทางด้านทันตกรรมโดยจะทำการรักษารากฟันและส่วนที่เหลืออยู่ ในขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการรักษากับส่วนเนื้อที่สัมผัสกับอากาศเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การผ่าตัดศัลยกรรมของ…
-
วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่ มันถามฉันว่า… “เอาตรูไปเลี้ยงที่บ้านได้ไหม!??”
ย้อนเวลากลับไปในเดือนกันยายน หลายคนอาจจะกำลังมีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันมีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น กำลังต้องการขอความช่วยเหลือจากมนุษย์… ในวันนั้นมีชายคนหนึ่งเดินเข้าป่าไปเที่ยว ขณะกำลังเดินริมแม่น้ำ จู่ๆ เขาก็เห็นลูกแมวน้อยร่วงลงมาจากสะพานเข้าไปอยู่ในพุ่มไม้ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดูมันทันที โชคดีที่เจ้าแมวน้อยสามารถรอดชีวิตมาได้ ดังนั้นเขาจึงดึงตัวของมันออกมา และวางมันลงบนพื้น…เจ้าเหมียวมันไม่สามารถขยับขาหลังของมันได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้ว่ามันบาดเจ็บ และถ้าไม่รักษามันอาจจะพิการได้ “มาที่บ้านของฉัน” เขาพูดกับมันเบาๆ ในขณะที่เจ้าเหมียวมีท่าทางกลัว ดังนั้น เขาจึงใช้มือตบหลังของมันเบาๆ และนั่นก็ทำให้เจ้าแมวน้อยเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เจ้าแมวน้อยเข้ามาอยู่ภายใต้ความดูแลของมนุษย์ใจดีคนนี้ ซึ่งเขาก็ได้พามันไปพบแพทย์ และเลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Nene อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่เจ้า Nene ก็ยังคงรู้สึกกลัว และร่างกายของมันก็อ่อนแอมาก แมวเจ้าถิ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้เดินเข้ามาหามัน เพื่อเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน ในวันรุ่งขึ้นชายใจดีได้ข่าวว่า เกิดน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำที่พบลูกแมว ชายคนนั้นก็รู้สึกดีใจที่สามารถนำลูกแมวออกมา ณ จุดนั้นได้ และทำให้มันรอดตาย วันที่ 3 หลังจากที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ เจ้าเหมียวเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น และแน่นอนว่าในวันต่อๆ ไป…
-
คลิปอุบัติเหตุรถบัสหลุดโค้งตกลงไปในลำธารเย็นจัด โชคดีที่มีรถเครนจอดอยู่ข้างๆ เลยช่วยได้ทัน
นานมาแล้วยังเคยมีคำพูดมา “ไม่ว่าใครก็เป็นวีรบุรุษได้” ไม่แน่ว่าคำพูดนี้อาจจะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดของเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมก็เป็นได้ เรื่องราวมันเกิดขึ้นในตอนที่รถประจำทางในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงสู ชนเข้ากับรถอีกคันและพุ่งลงลำธารเย็นจัดไปเมื่อช่วงปีใหม่ของปี 2018 รถบัสเสียหลักและพุ่งลงแม่น้ำหลังจากชนเขากับรถอีกคันหนึ่ง คนขับรถเครนที่อยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์การเข้าจึงได้ถึงข้ามถนนไปดูสถานการณ์ เราอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่คนๆ นี้ล่ะคือฮีโร่ของเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากที่เห็นรถบัสพร้อมผู้โดยสารพุ่งลงแม่น้ำไปเขาก็รีบวิ่งกลับมาเพื่อขึ้นรถเครนของเขา คนขับรถเครนที่ตัดสินใจว่าการกลับขึ้นมาที่รถจะสามารถช่วยผู้โดยสารได้เร็วกว่าการดึงขึ้นมาทีล่ะคนด้วยมือหรือเชือก ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วเขาขับรถเครนข้ามไปยังฝั่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะหย่อนส่วนตะขอของตัวเครนลงไปในแม่น้ำ และดึงผู้โดยสารทั้ง 4 คนออกมาจากแม่น้ำได้สำเร็จ รถคันใหญ่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการข้ามฟากกว่าปกติตามไปด้วย ส่วนการกะความยาวของเครนก็ต้องใช้เวลาอยู่บ้างเช่นกัน . ถ้าไปดูกันในวีดีโอต้นฉบับโดยช่อง Shanghaiist เราจะเห็นกันเลยว่าคนขับรถเครนใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเลยจริงๆ ที่มา Medium
-
น้องเหมียวจรจัดตัวปุ้มปุ้ย ช่วยชีวิตเด็กน้อยที่ถูกทิ้งไว้ กลายเป็นวีรบุรุษขวัญใจผู้คนชั่วข้ามคืน
แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ ทำให้เข้าใจได้ยากนัก แต่ว่ามันก็เป็นเพื่อนที่ดีตัวหนึ่งของมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าหากเกิดสถานการณ์คับขันละก็ เจ้าแมวอาจจะสามารถช่วยเหลือคุณได้นะ เหมือนกับเจ้าแมวจรจัดตัวหนึ่งในรัสเซียที่ได้ผ่านไปช่วยชีวิตเด็กทารกเอาไว้ ตอนนี้มันจึงกลายเป็นฮีโร่ในชุมชนแถบนั้นไปเลย แมวเหมียว Masha แมวตัวนี้มีชื่อว่า Masha มันเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในแถบชุมชนย่านหนึ่งในประเทศรัสเซีย แม้ว่ามันจะเป็นแมวจรจัด แต่ด้วยความน่ารักและความเป็นมิตรของมัน ทำให้คนในแถบนั้นมักจะเอ็นดูและดูแลมันเสมอ ในวันที่หนาวเหน็บวันหนึ่ง ขณะที่มันเดินอยู่ในพื้นที่ของมันตามปกติ มันบังเอิญไปพบเด็กทารกอายุเพียง 3 เดือนถูกทิ้งไว้ในกล่องกระดาษ มันคงรู้สึกเป็นห่วงว่าเด็กทารกจะหนาวตายเสียก่อน มันจึงกระโดดเข้าไปในกล่อง และใช้ตัวเองเป็นผ้าห่มให้กับทารกคนนั้น แต่มันก็คงจะรู้ดีว่าแค่นี้คงไม่พอจะช่วยชีวิตทารกคนนี้ไว้ได้ มันจึงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เผื่อมีคนเดินผ่านไปมาในเวลานั้น จะได้เข้ามาช่วยนำทารกคนนี้ไปในที่ปลอดภัยนั่นเอง Irina Lavrova กับเจ้า Masha โชคดีที่ตอนนั้น Irina Lavrova หญิงวัย 68 ปีที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเดินออกมาทิ้งขยะพอดี พอเธอได้ยินเสียงของเจ้า Masha จึงเดินตามไปหามันดู เพราะปกติแล้วมันจะต้องเดินผ่านบ้านของเธอทุกวัน แต่วันนี้เธอยังไม่เห็นมันเลย เธอบอกกับสำนักข่าวว่า “Masha เป็นแมวที่เชื่องและเป็นมิตรมาก ปกติมันจะผ่านมาที่บ้านของฉันทุกวัน พอฉันได้ยินเสียงร้องของมัน ก็เลยรีบออกไปดูเผื่อว่ามันอาจจะได้รับบาดเจ็บ” พอเธอเดินมาถึงต้นเสียงก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่คิดว่าจะเจอเด็กทารกถูกทิ้งไว้กลางอากาศหนาวเหน็บแบบนี้ เธออธิบายภาพตอนเจอว่า…
-
ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย
ในเมือง Udaipur รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ชาวบ้านแถวนั้นบังเอิญไปเจอลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน พวกเขาจึงพยายามช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้และรีบติดต่อกลุ่ม Animal Aid ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง กลุ่มสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวจึงได้โพสต์วิดีโอการช่วยเหลือครั้งนี้เอาไว้ในยูทูบ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ทำให้เราได้เห็นการช่วยเหลือเจ้าหมาทั้งสามตั้งแต่ต้นจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันสามารถรอดชีวิตมาได้หรือไม่ ลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ชาวบ้านที่พบเห็นพยายามช่วยชีวิตพวกมัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องงัดบ่อน้ำมันดังกล่าวออกมาทั้งแถบ ความพยายามอย่างยากลำบาก เพื่อให้เจ้าหมาปลอดภัยมากที่สุด ปากล่างของน้องหมาตัวหนึ่งติดอยู่กับบ่อน้ำมัน ทำให้การจะช่วยมันออกมายิ่งยากมากกว่าเดิม เมื่อชาวบ้านสามารถดึงพวกมันออกมาได้แล้ว พวกเขาได้ส่งต่อให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลต่อ พวกเขาจำเป็นต้องให้น้ำดับกระหายน้องหมาผ่านเข็มฉีดยา และใช้พวกน้ำมันพืชในการทำให้เศษน้ำมันที่ติดตัวอยู่อ่อนลง พวกเขาทำอย่างนั้นอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อละลายความเหนียว จนกระทั่งสามารถล้างน้ำมันที่ติดตัวพวกมันออกมาได้มากพอสมควรแล้ว เจ้าหมาทั้งสามอยู่ในสภาพอิดโรย น้ำมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องอาบน้ำเจ้าหมาด้วยสบู่ นวดอยู่นานถึง 3 วัน สภาพร่างกายของมันยังคงย่ำแย่ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่ แต่ด้วยความรักและพลังใจของพวกมัน ก็สามารถช่วยให้กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้เจอแม่ด้วย…
-
เจ้ากวางมูสตัวน้อย กลับมาเยี่ยมมนุษย์ผู้ช่วยชีวิตมันทุกวัน จนเกิดเป็นความผูกพันธ์ฉันเพื่อน…
นี่เป็นเรื่องราวความประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับกวางมูส เปิดเผยโดย Erikas Plucas ผ่านเว็บไซต์ The Dodo เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Erikas ได้เล่าเรื่องสุดน่ารักนี้ว่าเขาได้พบกับลูกกวางตัวหนึ่ง อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ท่าทางของมันดูหิวโหย เนื้อตัวมอมแมม ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะเดินไปไหนต่อไหนได้ เขาสันนิษฐานว่าแม่ของมันอาจจะถูกนักล่าสัตว์ยิงไปแล้ว เจ้ากวางน้อยเลยต้องหนีตายเพื่อมาหาคนที่สามารถช่วยมันได้ และมันก็โชคดีที่ได้มาเจอกับเขา หนุ่มใจดีคนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องช่วยเหลือกวางอย่างไร จึงได้สอบถามเพื่อนๆ ถึงวิธีการช่วยเหลือ แต่เพื่อนๆ ก็ตอบเพียงว่าเขาไม่ควรช่วยมันเพราะว่ามันอาจจะทำอันตรายกับเขาได้ ทว่าเขาก็ไม่ได้ฟังคำเตือนจากเพื่อน และยังเรียกสัตวแพทย์ให้มาดูอาการมันโดยด่วน แต่เนื่องจากว่าสัตวแพทย์ไม่สามารถเดินทางมาช่วยได้ทันที ต้องรอวันรุ่งขึ้น ในขณะที่รอคอยการช่วยเหลือ เขาก็นำใบไม้และนมมาให้เจ้ากวางเพื่อประทังชีวิต เมื่อเจ้ากวางได้รับการช่วยเหลือ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก อาการของมันต้องมีคนดูแลทุกๆ 4 ชั่วโมง มันร้องไห้อย่างหนักแต่ก็มี Erikas คอยปลอบใจอยู่ไม่ห่างและจะไม่ทิ้งมันไปไหน มันดูหวาดกลัวทุกสิ่ง ยกเว้นเขา เจ้ากวางถูกตั้งชื่อว่า Emma หลังจากการรักษาอาการของมันก็ดีขึ้นตามลำดับ และเมื่อถึงเวลาที่มันแข็งแรงพอที่จะเดินเข้าป่าไปใช้ชีวิตตามลำพังได้แล้ว ก่อนจะไป ชายหนุ่มก็ได้สอนวิธีการเอาตัวรอดและสอนวิธีการหาอาหารให้มันได้อยู่รอดปลอดภัย ในตอนแรกมันดูหวาดกลัวที่จะต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียว แต่มันก็สามารถขจัดความกลัวและออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้อย่างปกติตามวิถีของสัตว์ป่าทั่วไป …
-
Selena ร่ำไห้กลางงาน Billboard พร้อมยกรางวัล “ผู้หญิงแห่งปี” แก่เพื่อนผู้เสียสละไตให้เธอ
Selena Gomez จัดได้ว่าเป็นนักร้องสาวสุดฮอตขวัญใจแฟนเพลงทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และล่าสุดเธอก็ได้ทำให้บรรดาแฟนๆ รู้สึกประทับใจอีกครั้ง เมื่อ Selena เพิ่งจะได้รับรางวัล “ผู้หญิงแห่งปี” Woman of the year จากนิตยสาร Billboard แต่ทว่าเธอกลับเต็มใจที่จะมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับ Frankia Raisa เพื่อนสาวแสนดีของเธอนั่นเอง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Selena Gomez ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมากลางงาน Billboard ในนครลอสแอนเจลิส เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา ขณะที่เธอได้ออกมาเผยความในใจเกี่ยวกับเพื่อนที่ดีที่สุดอย่าง Francia Raisa ผู้ยอมเสียสละไตข้างหนึ่งให้กับ Selena หลังจากที่ได้ประสบปัญหาสุขภาพด้วยโรค Lupus หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง จนทำให้เธอต้องพักงานชั่วคราว และต้องอยู่ในระหว่างการรักษาตัวให้ดีขึ้น ทางด้าน Selena นักร้องสาววัย 25 ปีก็ได้ออกมาเผยความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า “ฉันคิดว่า Francia ควรจะได้รับรางวัลนี้ เธอช่วยชีวิตฉันเอาไว้…
-
หนุ่มดาวน์ซินโดรมกลายเป็นฮีโร่ หลังกระโดดลงไปช่วยคนกำลังจะจมน้ำอย่างไม่ลังเล
คุณจะกล้าเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนหรือไม่? เราเชื่อนะว่าหลายๆ คนคงอาจจะไม่กล้าเขาไปหรอก นั่นอาจเป็นเพราะมีเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง ที่ทำให้เราไม่อาจจะเสี่ยงชีวิตเข้าไป เพราะสุดท้ายตัวเราอาจจะเป็นคนที่ซวยเสียเอง แต่สำหรับ Valerio Catoia หนุ่มดาวน์ซินโดรมรายนี้ เขากลับไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำเช่นไรหากเห็นผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย และเขาก็ได้รับการทดสอบเป็นที่เรียบร้อย แถมยังได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขานั้นคือวีรบุรุษตัวจริง ย้อนกลับไปตอนที่ Valerio อายุได้เพียง 3 ขวบ ครอบครัวได้ส่งให้เขาเข้าเรียนว่ายน้ำ เพื่อเป็นการช่วยสร้างความแข็งแรงและความอดทน และนั่นก็ทำให้เขาได้กลายเป็นสุดยอดนักว่ายน้ำ ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสำหรับผู้เป็นดาวน์ซินโดรม ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมเพื่อช่วยเหลือผู้คนจมน้ำในทะเลอีกด้วย กระทั่งในวันหนึ่งขณะที่ Valerio ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ชายหาดแห่งหนึ่งในอิตาลีกับพ่อและพี่สาว ในขณะนั้นครอบครัวของเขาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงสองคนที่มีอายุราวๆ 10 และ 14 ปีกำลังจะจมน้ำ และพยายามที่จะกลับขึ้นฝั่ง เมื่อได้ยินดังนั้น Valerio และพ่อของเขาก็ไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปหาเด็กผู้หญิง 2 คนทันที ซึ่งเขาก็ได้ใช้ทักษะการว่ายน้ำทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ให้รอดพ้นจากอันตราย และแน่นอนว่าเขาสามารถทำมันได้สำเร็จ และภายหลังจากที่เรื่องราวของ Valerio ได้ถูกนำไปเผยแพร่ออนไลน์ เขาก็ได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลายคนก็ได้เข้ามายกย่องในความกล้าหาญของเขา และการกระทำที่กล้าหาญนี้ก็ได้ส่งผลให้…
-
Sparky แมวอ้วนที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงในโรงพยาบาลสัตว์ คอยช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นมานับไม่ถ้วน
จะมีแมวสักกี่ตัวที่ไม่ได้เกิดมาเพืี่อสัตว์เลี้ยง แต่กลับเกิดมาพร้อมกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่คอยช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นๆ บ้างไหมนะ? แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ… แต่ Sparky เจ้าเหมียวอ้วนจากโรงพยาบาลสัตว์ในฟิลาเดลเฟีย มลรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวนี้สามารถทำในสิ่งที่เรากำลังพูดถึงให้มันเป็นไปได้แล้ว และนี่คือโฉมหน้าของคุณ Sparky แมวที่นอกจากจะจิตใจดีแล้ว ยังหน้าตาดีด้วยนะเออ สำหรับ Sparky มันได้เข้ามารับการรักษาที่ The Cat Doctor ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2009 ในขณะที่มันยังเป็นลูกเหมียวตัวน้อยๆ “ปีต่อมาเจ้าของได้เอาเจ้าเหมียวมาฝากไว้กับเรา และเขาก็ไม่เคยกลับมาหามันอีกเลย” Cherie เจ้าหน้าที่ The Cat Doctor กล่าว อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ตั้งใจที่จะเก็บเจ้า Sparky เอาไว้ จนแน่ใจว่าเจ้าของของมันจะไม่กลับมาอีกแล้ว ดังนั้น Sparky จึงได้กลายเป็นแมวน้อยไร้เจ้าของที่ต้องอาศัยอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และมันก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลาถึง 2 ปี จนในที่สุดก็มีสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลคนหนึ่ง ได้ตัดสินใจรับ Sparky ไปเลี้ยง แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเจ้าเหมียวก็ได้แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวออกมามากขึ้น ด้วยเหตุนี้ มันจึงถูกส่งตัวกลับมายังสถานที่เดิม และไม่น่าเชื่อเลยว่าทันทีที่ Sparky…
-
ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนที่อยู่กินบนต้นไม้นานถึง 3 ปีโดยไม่ลงมาเลย ซึ่งพอเกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันโอเวอร์ แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นต้นมะพร้าวอีกด้วย!? Gilbert Sanchez ชายชาวฟิลิปปินส์วัย 47 ปี จากเมือง La Paz คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเขาได้หนีจากการใช้ชีวิตบนพื้นดินขึ้นไปบนอยู่บนต้นมะพร้าวตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็นับได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลงมาเหยียบพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนสุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจจะพาเขาลงมาจากที่ตรงนั้น… เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก Gilbert ที่หนีออกจากบ้านหลังจากถูกทุบเข้าที่หัวอย่างรุนแรงระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัว มันส่งผลให้เขาเกิดอาการจิตหลอนจนคิดว่าถ้าเขายังอยู่บนพื้นต่อไปก็จะมีคนมาตามฆ่าเขา เมื่อความคิดดังกล่าวมันฝังลึกอยู่ในหัวและจิตใจของเขา เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นมะพร้าว พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะไม่ลงมาอีกเลยต่อให้ใครจะมากล่อมหรือจะโดนแมลงและสภาพอากาศที่รุนแรงโจมตีก็ตาม ในด้านอาหารการเป็นอยู่ของเขา ก็จะได้รับการส่งเสบียงผ่านเชือกที่ห้อยลงมา ซึ่งตัวแม่ของเขาจะเป็นคนส่งให้เสมอๆ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม เพราะเธอได้ลองกล่อมเขาหลากหลายทางแล้วจดสุดท้ายก็ต้องยินยอมและทำแบบนี้เรื่อยมา Aldrin Sanchez น้องชายของ Gilbert เล่าว่า เขาเคยพยายามเรียกให้พี่ชายลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ มีครั้งหนึ่งเขาบอกให้พี่ชายลงมาแต่ตัวพี่กลับบอกให้เขาไปไกลๆ เพราะถ้าลงไปเขาจะถูกฆ่า ด้านลูกๆ สองคนของ Gilbert ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตก็ได้รับการดูแลจากตาและยายของพวกเขา แต่น่าเศร้าที่ครอบครัวไม่สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนได้เพราะหัวหน้าครอบครัวก็ดันติดอยู่บนต้นไม้ ที่แปลกกว่าคือทุกคนใน La Paz รับรู้ถึงเรื่องราวของ Gilbert Sanchez…
-
คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์
สัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของที่เราครอบครองเท่านั้น แต่พวกมันคือส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่มันต้องหายไปจากชีวิตนั่นคงเป็นสิ่งที่เราทำใจกันไม่ได้แน่นอน แต่ในบางครั้ง เราอาจได้รับความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึง จนทำให้เราได้พบกับพวกมันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อในกลุ่มเฟซบุ๊กสำหรับนักปีนเขาที่ชื่อว่า 14ers มีโพสต์หนึ่งเขียนบอกว่าได้ยินเสียงน้องหมาร้องไห้อยู่บนภูเขา Bross . เมื่อหญิงสาวชื่อ Trinity Smith เห็นข้อความนั้นก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มภารกิจปีนขึ้นไปบนเขาดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือมัน และเธอก็พบว่าเธอได้ยินเสียงนั้นจริงๆ แต่ในเวลานั้นฟ้าก็เริ่มมืดทำให้การเดินอยู่ข้างบนอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจลงจากเขามาและพาแฟนหนุ่มของเธอ Sean Nichols กลับขึ้นไปบนเขาลูกนั้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น . เมื่อไปถึงทั้งสองก็พยายามร้องเรียกหาน้องหมานานหลายชั่วโมงถึงแม้ว่าเจ้าหมาจะหยุดส่งเสียงแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ จนกระทั่งได้ยินเสียงของมันเห่าออกมาเบาๆ ก็ได้ไปเจอมันเข้าในที่สุด จากจุดที่มันอยู่คาดว่ามันน่าจะลื่นตกลงไปจากตรงโขดหินทำให้ต้องลงไปนอนเจ็บอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่รอช้ารีบพามันไปร้านสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นำอาหารมาให้มันกิน เพราะมันอยู่ในสภาพอิดโรยเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ได้แจ้งข่าวไปยังเจ้าของของมัน เมื่อ Larry Osborne เจ้าของหมาตัวดังกล่าวได้มาเจอมันอีกครั้ง เขารู้สึกตื้นตันและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหามันมาตลอด 6 สัปดาห์ที่มันหายตัวไป . Larry ได้ขอบคุณคู่รักทั้งสองที่พาสุนัขของเขากลับมา ต่อมาเขาได้พามันไปหาสัตวแพทย์และเขาพบว่ามันเหลือน้ำหนักเพียง 11 กิโลกรัมจากตอนแรก 38 กิโลกรัม และมันต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอจากการขาดน้ำและสารอาหาร ร่างกายที่ซูบผอมจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ…
-
เจ้าเหมียวเกาะใต้ท้องรถไกล 10 กิโล จนต้องให้อู่ช่วยชีวิต ไม่พอ.. มันยึดอู่ซ่อมรถไปเรียบร้อย!!
ต้องให้มนุษย์เข้าช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาเลยจริงๆ สำหรับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แมวเหมียว” เพราะจากที่ผ่านๆ มา เราจะเห็นได้มีเรื่องราวเกี่บวกับการช่วยชีวิตแมวเกิดขึ้นมากมาย และจุดจบสุดท้ายของทุกเรื่องก็คือ พวกมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเจ้านายคนใหม่ แถมยังมีชีวิตที่ดี๊ดีจนใครๆ ต่างก็อิจฉา บางตัวก็สถาปนาขึ้นเป็นใหญ่และเข้ายึดครองทุกพื้นที่ในบ้าน หรือนี่จะเป็นแผนการยึดครองโลกกันนะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแมวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรานี่เอง โดยพิกัดอยู่ที่ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ P.W.T Shop ในจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อมีเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งที่ไม่รู้ว่าไปทำท่าไหนถึงได้เข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถได้ งานนี้คนที่ต้องลำบากมนุษย์นี่แหละที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ… วันที่ 6 ตุลาคม 2560 ทางแพนเพจเฟซบุ๊ก P.W.T Shop จำหน่ายยาง ราคาหน้าโกดัง ปลีก/ส่ง ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอภารกิจช่วยชีวิตแมวน้อยตัวหนึ่งที่ดันโชคร้าย… เพราะตัวของมันดันไปติดอยู่ใต้ท้องรถที่วิ่งมาในระยะทาง 10 กิโลเมตรแต่โชคดีที่ทางเจ้าของรถยนต์ได้เลี้ยวรถเข้ามายังร้านดังกล่าว เลยทำให้พวกเขาได้มีโอกาสช่วยชีวิตของมันยังไงล่ะ “ทางเราไม่ทราบข้อมูลชัดเจนว่ามันมาจากที่ไหน แต่เจ้าของรถคันที่เลี้ยวเข้ามาที่ร้านรู้ตัวว่าแมวอยู่ใต้ท้องรถตอนรถจอดอยู่ที่ศาลายา” คุณปอมเจ้าของร้านกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้ทราบว่ามีเจ้าเหมียวน้อยติดมาด้วย นั่นจึงทำให้เจ้าของรถได้เลี้ยวรถเข้ามายังร้านของคุณปอม นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจช่วยชีวิตแมวน้อย พวกเขาพยายามช่วยให้มันออกมา เห็นแววตานั่นไหม ดูท่าทางกำลังสับสนว่ามนุษย์กำลังทำอะไรกันนะ หลังจากที่เกลี้ยกล่อมกันอยู่สักพัก ท้ายที่สุดเจ้าเหมียวก็สามารถออกมาจากใต้ท้องรถได้ พร้อมกับวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนแทบจับภาพไม่ทันเลยทีเดียว ทางด้านคุณปอมได้ออกมาเผยว่า ในตอนนี้เจ้าเหมียวได้อาศัยอยู่กับเขาเป็นที่เรียบร้อย…
-
15 คนธรรมดาๆ ที่แสนกล้าหาญในเหตุกราดยิง Las Vegas ที่ทำให้รู้ว่าโลกเรายังไม่ขาดคนดี…
เมื่อช่วงวันสองวันก่อนหลายคนคงได้ข่าวว่ามีเหตุการณ์สุดสลดได้เกิดขึ้นที่เมืองลาสเวกัส เมื่อมีคนกราดยิงใส่ผู้คนที่มางานคอนเสิร์ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 59 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากลูกหลงอีกราวๆ 500 ราย จนกลายเป็นข่าวที่ช็อคไปทั้งโลก ในช่วงเวลาชุลมุนดังกล่าวนั้นล้วนมีความรู้สึกมากมายของผู้คนถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเศร้า เสียใจ สับสน วุ่นวายหรือจะเป็นความกลัวที่ต้องเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ตาม แต่ทว่าในเหตุการณ์นั้นยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ถูกความรู้สึกดังกล่าวเข้าครอบงำ แต่พวกเขากลับดึงความกล้าและสัญชาตญาณการเอาตัวรอดมาช่วยตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อให้พวกเขาได้ปลอดภัยก่อนตัวเอง คนเหล่านี้จะถือว่าเป็นฮีโร่เลยก็ว่าได้ และเรื่องราวของพวกเขาก็ไม่ควรจะหยุดอยู่แค่ตรงนั้น ผู้คนควรจะได้รู้ว่าพวกเขากล้าหาญมากแค่ไหน 1. Jonathan Smith ชายวัย 30 ปี ช่วยชีวิตคนราวๆ 30 คนในเหตุการณ์นั้น ก่อนที่สุดท้ายเขาจะถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณคอ มิฉะนั้นเขาอาจจะช่วยนำทางให้คนอื่นๆ หนีได้มากกว่านั้นอีก โชคดีที่เขารอดชีวิตและนี่คือภาพของเขาตอนอยู่ในโรงพยาบาล 2. คุณ Jabroni บอกว่านี่คือภาพของคุณพ่อของเขา Jack Beaton หลังจากที่คุณพ่อเอาตัวเองบังกระสุนให้กับผู้เป็นภรรยา (แม่ของเขา) เพื่อปกป้องเธอจากกระสุน จนเขาเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาของเขาปลอดภัย เชื่อเลยว่าเธอคงจะรู้ว่า Jack รักเธอมากเพียงใด… 3. ชาวเน็ตที่ใช้ชื่อว่า tynation ออกมาขอบคุณคนในรูปว่านายคนนี้คือฮีโร่ของเขา เพราะชายคนดังกล่าวเอาตัวเข้าไปบังให้กับน้องสาวของ tynation ซึ่งถ้าไม่มีนายคนนี้น้องสาวของเขาอาจจะไม่รอดแล้วก็เป็นได้ 4. Sonny Melton…
-
วีรกรรมของนายแพทย์ผู้สร้างโรคระบาดปลอมๆ ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนจากกองทัพนาซี
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพนาซีได้สร้างค่ายกักกันชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอันแสนโหดเหี้ยมขึ้นมาทั่วยุโรป จนมีผู้เสียชีวิตนับล้านคนจากค่ายกักกันเหล่านั้น แต่ท่ามกลางความโหดร้ายที่เกิดขึ้นโลกได้รู้จักฮีโร่ผู้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ ชินด์เลอร์ นายทหารนาซีผู้แอบช่วยชาวยิวนับพันให้รอดชีวิตจากค่ายกักกัน หรือ ชิอุเนะ ซุงิฮะระ เจ้าหน้าที่กงศุลญี่ปุ่นผู้ออกวีซ่าช่วยชาวยิวหลายพันคนให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของนาซี และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับนายแพทย์อีกท่านที่ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการสร้างโรคระบาดปลอมๆ ขึ้นมา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า คุณหมอคนนี้มีชื่อว่า ยูจีน ลาซอฟสกี้ เขาเป็นนายทหารเสนารักษ์ประจำกองทัพโปแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาและเพื่อนทหารเสนารักษ์อีกคนชื่อว่า สแตนิสลอว์ มาตูเลวิช ค้นพบว่าหากพวกเขาฉีดแบคทีเรียที่ตายแล้วเข้าไปในตัวคนไข้ คนไข้จะมีผลเลือดเหมือนคนเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ โดยตอนแรกเขาใช้วัคซีนนั้นกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อยากกลับเข้าไปทำงานในแคมป์นรกของพวกนาซี ซึ่งเมื่อกองทัพนาซีได้ทำการตรวจเลือดของเพื่อนคนดังกล่าว เขาก็ถูกสั่งห้ามไม่เข้าให้มาทำงานในแคมป์อีกต่อไปเพราะหวั่นเกรงว่านำโรคระบาดไปแพร่สู่แรงงานและทหารคนอื่นๆ หลังจากนั้นเขาก็ฉีดวัคซีนโรคปลอมให้กับคนไข้ทุกคนที่เข้ามารักษากับเขา ทำให้พวกเขาไม่ต้องกลับเข้าไปในค่ายนรก ซึ่งสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับกองทัพนาซีเป็นอย่างมาก จนเมื่อจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” เพิ่มสูงขึ้น ทางกองทัพนาซีก็สั่งปิดเมืองดังกล่าวทันทีทำให้ชาวเมืองไม่ต้องไปค่ายกักกันหรือเข้าแคมป์ทำงานอีก และกองทัพนาซีก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเมืองดังกล่าวอีกด้วย แม้ภายหลังกองทัพนาซีจะส่งทีมแพทย์เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ด้วยฝีมือการแสดงละครอันแสนแนบเนียนของคุณหมอทำให้แผนการนี้สามารถดำเนินไปได้เรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังฝ่าฝืนคำสั่งของกองทัพนาซีที่ห้ามให้ความช่วยเหลือแก่ชาวยิว ด้วยการทำการรักษาชาวยิวที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เขาเกือบตายหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความดีที่เขาทำ ทำให้มีคนคอยช่วยเหลือเขาโดยตลอดแม้กระทั่งทหารนาซีเองก็ตาม ว่ากันว่าเขาสามารถช่วยชีวิตชาวยิวได้มากกว่า 6,000 คนในช่วงที่มีการสู้รบ หลังสงครามจบลงเขาได้อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต…
-
เจ้าหน้าที่เร่งช่วย “แมว” ติดบนเสาไฟ ชาวเน็ตหวั่นเป็นอันตราย แต่สุดท้ายกลับหักมุมขั้นสุด
กลายเป็นคลิปวีดีโอที่เรียกเสียงฮาให้กับบรรดาชาวเน็ตในขณะนี้เป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าเหมียวตัวหนึ่งขึ้นไปติดแหง่กอยู่บนเสาไฟ ทำเอามนุษย์ต้องรีบเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน ซึ่งก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ คอยภาวนาให้พวกเขาช่วยมันได้สำเร็จ และขอให้มันปลอดภัย… เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2560 ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Cats page for catlovers from all around the world ได้เผยคลิปวีดีโอวินาทีชีวิตของเจ้าเหมียวน่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าไปทำท่าไหนถึงขึ้นไปติดอยู่บนเสาไฟที่สูงมากๆ ได้ งานนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลทหารในแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่บังเอิญเห็นเข้า ก็รีบแจ้งทางศูนย์พักพิงสัตว์ให้มาช่วยเหลือมันทันที เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาก็ได้ใช้รถกระเช้าขึ้นไปยังเสาไฟ เพื่อช่วยเหลือแมวน้อยผู้เคราะห์ร้าย ภาพถ่ายจากกล้องที่สามารถจับใบหน้าของเจ้าเหมียวเอาไว้ได้ ขณะมนุษย์กำลังพยายามช่วยมัน ซึ่งหน้าตาก็ดูงงๆ และเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็นำถุงผ้าขนาดใหญ่ออกมา เพื่อที่จะนำตัวเจ้าเหมียวออกมาจากบริเวณเสา เรื่องราวมันเหมือนกำลังจะจบอย่างแฮปปี้ เพราะเราเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคอยลุ้น และเป็นห่วงเจ้าเหมียวมากๆ ว่ามนุษย์จะช่วยมันได้หรือไม่ แต่…อย่าเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็นเพียงไม่กี่นาที เพราะถ้าคุณได้ดูตอนสุดท้าย บอกเลยว่าจุดจบหักมุมขั้นสุด คือไม่รู้จะอธิบายยังไง เล่นเอาผู้ชมอึ้งไปเลยนะเอง มนุษย์ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชิวิต สุดท้ายเป็นไงละ…หยิ่งๆ อย่างเราไม่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะข้าลงเองได้ว้อยยยยยยยย…
-
พลังสามัคคี!! ชาวเท็กซัสจับมือกันเป็น “โซ่มนุษย์” เพื่อช่วยเหลือรถยนต์ที่ติดอยู่กลางน้ำ
ในขณะนี้ทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ยังคงมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ออกมาอยู่เรื่อยๆ โดยล่าสุดทาง Boredpanda ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอสุดประทับใจที่กำลังกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ ณ ขณะนี้ จากคลิปดังกล่าว ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของชาวเท็กซัสที่กำลังจับมือกันเป็น “โซ่มนุษย์” เพื่อช่วยเหลือรถยนต์คันหนึ่งที่ติดอยู่กลางน้ำ จากรายงานระบุว่า บนถนนสายหนึ่งในเมืองฮิวสตัน มีรถยนต์คันหนึ่งติดอยู่กลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ด้วยเหตุนี้ ชายฉกรรจ์ที่อยู่บริเวณนั้น จึงชวยกันจับมือเป็นโซ่มนุษย์ เพื่อเข้าช่วยเหลือชายชราคนหนึ่งที่ติดอยู่รถคันดังกล่าว จนสามารถนำเขาออกมาจากรถได้สำเร็จ ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น “ประเทศกำลังได้เห็นสิ่งที่ผู้คนได้ทำในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิใจในอเมริกา”, “ฉันรักผู้คน 99% คือมนุษย์ที่ดีเมื่อพวกเขาได้รับโอกาส” ลองมารับชมคลิปวีดีโอวินาทีช่วยชีวิตกันได้เลย ที่มา : boredpanda, Mr.MrsEdwardMata
-
หนุ่มไม่แคร์คำเตือน ต่อให้เฮอร์ริเคนอยู่ตรงหน้า เขาก็จะฝ่ามันเพื่อช่วยสุนัขออกมาให้ได้!!
แม้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน Harvey ที่เกิดขึ้นไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมาจะรุนแรงมากแค่ไหน แต่ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีอยู่ เมื่อชายคนหนึ่งตัดสินใจช่วยสุนัขสองตัวตามคำร้องขอ… Connor นักศึกษาวัย 22 ปี ผู้ที่มีทำงานอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ได้ตัดสินใจฝ่าเข้าไปในพายุดังกล่าวเพื่อช่วยสุนัขสองตัวตามคำร้องขอให้ช่วยบนโซเชี่ยล ถึงแม้จะมีคนเตือนถึงความรุนแรงของมันก็ตาม เขาก็ไม่สนและจะเข้าไป!! มุ่งหน้าสู่ที่เกิดเหตุ เขาใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงเพื่อฝ่าฝันพายุเข้าไป เขาได้เล่ากับ Thedodo ว่า “ตอนนั้นผมคิดว่า ถ้าผมไม่ทำก็คงไม่มีใครทำ ฉะนั้นทำไมจะปฏิเสธล่ะ แล้วผมก็กระโดดขึ้นรถทันที” จากนั้นชายหนุ่มก็ขับรถของเขาออกจากออสติน เท็กซัสและมุ่งหน้าไปยังสถานที่คนร้องขอเข้ามา ชายหนุ่มกระโดดขึ้นรถและมุ่งหน้าไปทันที ฟิ้ววว… สุดท้ายเขาก็เข้าไปช่วยสุนัขสองตัวชื่อว่า Thelma และ Hercules ออกมาได้สำเร็จและนำพวกมันกลับมาอย่างปลอดภัย ซึ่งตอนนี้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ก็ต่างยกย่องเขาเป็นฮีโร่กันไปเรียบร้อย แน่นอนว่าผลงานของเขาเรียกว่าน่าพอใจเลยทีเดียว ดีจริงๆ นะเจ้าตูบที่ได้คนดีๆ แบบนี้มาช่วยชีวิตไว้ นอกจากพ่อหนุ่ม Connor จะแฮปปี้แล้ว เจ้าของมันก็ต้องแฮปปี้แน่นอน อีกตัวก็ดูจะป่วยอยู่ด้วยนะเนี่ย แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้ทั้งคู่ปลอดภัยแล้วนะ!! ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไม…
-
ตำรวจหนุ่มอินเดียเสี่ยงชีวิต ถือระเบิดแล้ววิ่งให้ห่างจากโรงเรียน ช่วยเด็กๆ ได้กว่า 400!!
เหตุการณ์สุดระทึก เมื่อตำรวจหนุ่มคนหนึ่งยอมสละตัวเองวิ่งไปหยิบระเบิดที่ตกใกล้ๆ โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมถือมันวิ่งออกไปให้ห่างจากโรงเรียนเพื่อช่วยชีวิตนักเรียนหลายกว่า 400 ชีวิต!! คลิปเหตุการณ์โชว์ให้เห็นถึงความกล้าของ Abhishek Patel หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจของอินเดีย กำลังถือระเบิดขนาด 20 ปอนด์ วิ่งหน้าตั้งเพื่อออกให้ห่างจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐมัธยประเทศ จากนั้นก็โยนระเบิดดังกล่าวทิ้งลงแม่น้ำไป Abhishek ได้ให้สัมภาษณ์ของสำนักข่าวท้องถิ่นได้ว่า “ใกล้ๆ นั้นมีนักเรียนกว่า 400 คน และเมื่อระเบิดถูกเจอบริเวณนั้นอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นผมก็อยากจะเอามันออกไปให้ไกลมากที่สุดจากชุมชน เพราะถ้ามันระเบิดมันสามารถสร้างความเสียหายเป็นรัศมีถึง 500 เมตร” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังเล่าอีกว่านี้มันเป็นครั้งแรกของที่ได้เจอกับระเบิด ฉะนั้นเขาก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องรับมือยังไง แต่เขาก็ยอมที่จะเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนอื่นๆ เขาบอกปิดท้ายว่า “ผมรู้นะว่ามันเสี่ยง แต่มันคือหน้าที่ของผมที่ต้องช่วยคนบริสุทธิ์ ยิ่งตรงนั้นมีเด็กๆ อยู่มากมายผมยิ่งต้องช่วยพวกเขา เพราะเด็กๆ เป็นอนาคตของชาติ” สภาพของระเบิดดังกล่าว สุดท้ายแล้วหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึงและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทางด้านหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของรัฐมัธยประเทศก็ได้มอบรางวัลให้แก่ Abhishek เป็นเงินจำนวนราวๆ 26,000 บาท เพื่อตอบแทนในความกล้าหาญของเขา… เจ้าหน้าที่กำลังเสริม มาตรวจเช็คระเบิดดังกล่าว ที่มา ladbible
-
วินาทีชีวิต!! นักข่าวสาวตัดสินใจช่วยชีวิตชายที่กำลังจะจมน้ำ ระหว่างการรายงานสด
เหตุการณ์น่าประทับใจครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการรายงานสถาณการณ์น้ำท่วมของนักข่าวท่านหนึ่ง และระหว่างการรายงานสด เธอได้เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ระหว่างที่คุณ Brandi Smith ผู้ประกาศข่าวสาวของสถานีโทรทัศน์ KHOU II กำลังรายงานข่าวอยู่บนทางวงแหวนแห่งหนึ่งในเมือง Houston เธอได้เหลือไปเห็นผู้ประสบภัยคนหนึ่งที่ติดอยู่ในรถบรรทุกของเขาและกำลังจะจมไปพร้อมกับมัน ทันใดนั้นผู้ประกาศข่าวตัดสินใจเรียกขอความช่วยเหลือชายคนขับรถบรรทุกทันที!! คุณ Brandi ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีชายคนหนึ่งติดอยู่ในรถบรรทุกที่กำลังจะจมน้ำ “ตรงนี้มีรถบรรทุกคันหนึ่งกำลังจะจมน้ำ คุณสามารถลงไปช่วยพวกเขาได้ไหม รถคันนี้จมอยู่ในน้ำลึกกว่า 3 เมตร” เธออธิบายกับเจ้าหน้าที่พร้อมกับชี้จุดที่เธอเห็นรถคันดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาพร้อมกับเรือชูชีพจึงได้เคลื่อนรถเข้าไปใกล้ๆ ที่จุดเกิดเหตุ “นี่คือที่เดียวกันกับจุดที่เราเจอรถบรรทุกคันหนึ่งจมลงไปเมื่อปีก่อน แต่น่าเศร้าที่เราไม่สามารถช่วยชีวิตชายคนนั้นได้” เจ้าหน้าที่กล่าว ไปชมวินาทีการช่วยชีวิตของชายผู้นี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… จากนั้นนายตำรวจทั้งสองจึงเริ่มจัดแจงอุปกรณ์ช่วยชีวิตและเคลื่อนเรือชูชีพเข้าไปใกล้รถของเขา ส่วนทางด้านนักข่าวสาวก็ยังคงคอยตะโกนให้กำลังใจชายหนุ่มอยู่ที่ด้านบนของถนน การช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยชีวิตชายในรถบรรทุกออกมาได้สำเร็จ และพาตัวเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย วินาทีที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือชายคนดังกล่าว ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์เฉียดตายของเขากับนักข่าวสาวว่า “เยี่ยมมาก เยี่ยมมากจริงๆ ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา “ผมต้องขอบคุณจริงๆ ที่พวกคุณอยู่ตรงนี้และสามารถช่วยผมได้ทันเวลา ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ” และหลังจากที่รอดชีวิตมาได้ ชายหนุ่มก็โผเข้ากอดนักข่าวสาวผู้ช่วยชีวิตเขาด้วยความดีใจ ช่างเป็นเรื่องราวที่น่าดีใจจริงๆ นะเนี่ย โชคดีของชายคนนี้จริงๆ เลย ที่มา dailymail
-
คู่รักสังเกตเห็นเจ้าตูบที่โผล่หัวออกมาจากดินด้วยสภาพบาดเจ็บ ทั้งคู่จึงตัดสินใจรับเลี้ยงมัน!!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน Łukasz Muniowski ชายชาวโปแลนด์และแฟนสาว ได้บังเอิญไปเจอกับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่อยู่ในอุโมงค์ดินข้างทาง ระหว่างที่เขากำลังปั่นจักรยานในย่านชนบท เขาก็เลยตัดสินใจลงไปเช็คดู… ในจังหวะที่เขากำลังเข้าไปใกล้มันนั้น เขาก็พบว่าเจ้าตูบวิ่งหนีด้วยท่าทางแปลกๆ เขาจึงรู้ได้ทันทีว่ามันบาดเจ็บ แต่เจ้าตูบก็ยังไม่ยอมให้จับแต่อย่างใด มันวิ่งไปหลบหลังก้อนหินด้วยท่าทีที่กลัวคนมากๆ Łukasz พยายามยื่นมือเข้าไปให้มันดมและคุ้นเคย จนสุดท้ายมันก็ยอมที่จะเข้าและวางอุ้งเท้าลงบนมือของเขา และเมื่อเขาเห็นแบบนั้นจึงจัดการอุ้มมันออกมาพร้อมพาส่งไปคลินิคใกล้ๆ ทันที ฉันจะช่วยแกเองนะเจ้าตูบ ไม่ต้องห่วงนะ เดี่ยวแกก็จะหายดีแล้วนะ จากการวินิจฉัยก็พบว่า มันถูกชนมานานกว่า 3-4 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่มันยังรอดชีวิต ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันต่อ พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า Bobby เชื่อเหอะ ว่าหลังจากนี้มันจะต้องกลายเป็นสุนัขที่แฮปปี้มากแน่ๆ สุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน มันก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากคู่รัก จากชีวิตที่ต้องทนบาดเจ็บอยู่ข้างทาง ตอนนี้มันก็กลายเป็นสุนัขที่มีความสุขมากๆ ตัวหนึ่งเลยล่ะ ดีใจด้วยนะเจ้า Bobby ที่ได้เจอเจ้าของใหม่ที่รักแกจริงๆ แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยนะ มีบ้าน มีที่นอนนุ่มๆ และก็มีเจ้านายที่ไปไหนไปกัน เย้!! ที่มา boredpanda
-
เด็กชายรู้สึก “หิวน้ำตลอดเวลา” จนพบว่าเป็นโรคเกี่ยวกับไตที่เจอได้ในคนอายุ 80 เท่านั้น
เรื่องราวสุดช็อค เมื่อวันหนึ่งครอบครัวของ Zach Tiereny วัย 6 ขวบ ได้สังเกตเห็นว่าอยู่ดีๆ ลูกของพวกเขาก็มีอาการแปลกๆ ไปจากเคย เพราะอยู่ดีๆ เด็กชายก็กระหายน้ำตลอดเวลา และเขาก็หยุดดื่มมันไม่ได้เลย… Michelle ผู้เป็นแม่ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Manchester Evening News ว่า “ฉันที่เป็นพยาบาลอยู่แล้ว ก็พอจะสังเกตได้ว่าการที่ลูกมีอาการดังกล่าวมันต้องไม่ปกติและไม่ดีแน่ๆ ฉันจึงพาเขาไปส่งที่โรงพยาบาลทันที” “เหตุการณ์ที่ว่านี้มันเกิดขึ้นกลางดึกของวันหนึ่ง เมื่อฉันไปพบว่า Zach กำลังดื่มน้ำจากก๊อกน้ำ นอกจากนั้นเขาก็มีร่างกายที่ไม่โตเท่าเพื่อนๆ ปกติด้วย” จากนั้นคุณแม่ก็ยังเล่าถึงความรู้สึกที่ลูกของเธอพูดออกมาอีกว่า “ในคืนเดียวกันฉันรู้สึกได้เลยว่า อาการป่วยที่เราไม่รู้จักนั้นมันน่ากลัวขนาดไหน เพราะมันทำให้เราคิดไม่ตกจริงๆ แต่แล้วลูกของฉันก็พูดขึ้นมาว่า เขารู้สึกเหมือนว่าไตของเขาแปลกๆ เหมือนมันเป็นของคนอื่น” หลังจากไปพบแพทย์เราก็พบว่าไตของ Zach มีปัญหาจริงๆ เขาป่วยเป็นโรค Renal Dysplasia หรือก็คือไตมีความผิดปกติบริเวณเนื้อเยื่อนั่นเอง ซึ่งมันทำให้ไตของเขาทำงานเพียงแค่ 25% เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องขอรับบริจากไตเพื่อเปลี่ยนโดยด่วนนั่นเอง ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ อาการของเขานั้นหายากมาก เพราะโดยปกติแล้วโรคนี้จะไม่ค่อยจะพบในคนที่มีอายุต่ำกว่า 80 เท่าไหร่นัก และเมื่อครอบครัวทราบอย่างนั้นพวกเขาก็เปิดระดมทุนเพื่อช่วยเด็กชายทันที เวลาผ่านไปครอบครัวของ…
-
ทหารหน่วยรถถังผู้เป็น “ฮีโร่” สกัดรถคาร์บอมที่พุ่งเข้ามา ช่วยชีวิตพลเมืองได้นับร้อย!!
เหตุการณ์สุดระทึกที่เพิ่งเกิดมาไม่นานนี้ในประเทศอียิปต์ ที่บอกเลยว่าต้องขอบคุณทหารหน่วยรถถังจริงๆ ไม่งั้นงานนี้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่แน่ๆ เพราะผลที่เกิดจากแรงระเบิดของคาร์บอร์มนั้นมันโหดสุดๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นบริเวณทางตอนเหนือของเมือง Sinai ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองกำลังทหารกำลังคุ้มกันผู้คนที่กำลังลี้ภัย แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีรถแปลกๆ ขับตรงเข้ามาที่ขบวนรถของประชาชนด้วยความเร็วสูง โชคดีที่นายทหารที่ประจำการอยู่บนรถถังสังเกตเห็น จึงรีบขี่รถถังตรงเข้าไปสกัดและทับรถคันดังกล่าวทันที จากนั้นทหารที่อยู่รถถังคันดังกล่าวก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่ารถน่าสงสัยคันนั้นเป็นคาร์บอร์ม เขารีบบอกประชาชนให้หนีออกจากตรงนั้นทันที และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากที่ผู้คนต่างพากันหนีออกจากจุดเกิดเหตุไม่นาน รถคันดังกล่าวก็ระเบิดขึ้นทันทีอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างแม้จะถูกหยุดก่อนถึงขบวนรถคันอื่นก็ตาม งานนี้ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันหลุดเข้าไปจะเป็นยังไง… ด้านโฆษกของกองทัพก็ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า พวกเขาต้องขอบคุณนายทหารทั้งหมดที่ประจำการอยู่บนรถถังคันดังกล่าวมากๆ เพราะการกระทำครั้งนี้ทำให้พวกเขาช่วยชีวิตประชาชนและนายทหารคนอื่นๆ ได้มากกว่า 50 คนเลยทีเดียว นอกจากนั้นด้านกองทัพยังบอกว่า พวกเขาจะเพิ่มกองกำลังป้องกันบ้านเมืองให้มากขึ้น เพื่อต่อสู้กับกองกำลัง ISIS ที่ยังก่อความวุ่นวายไม่จบสิ้น และพวกเขาจะต้องมั่นใจประชาชนของพวกจะต้องปลอดภัย สุดท้ายแล้ว ต้องขอบคุณเหล่าฮีโร่ทหารกล้า ที่ช่วยชีวิตทุกคนไว้นั่นเอง สุดยอดจริงๆ ที่มา dailymail
-
เด็กชายวัย 9 ขวบ ช่วยชีวิตแม่จาก “โรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด” จากความรู้ที่ได้รับจากในโรงเรียน
การศึกษา ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเราได้มีการเรียนรู้ ไม่ใช่แต่เพียงแค่เราจะได้วิชาติดตัวมาเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริงได้อีกด้วย เหมือนดังเช่นเรื่องราวของ Camdyn Smith เด็กชายวัยเพียง 9 ขวบ จากโรงเรียนประถม Evergreen Elementary ใน Sedro-Woolley รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เขาได้เรียนรู้ในเรื่องของอาการ และความรุนแรงเกี่ยวกับโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และอาการเจ็บหน้าอก จากคุณครูที่โรงเรียน และถ้าหากใครมีอาการคล้ายกับโรคดังกล่าวจะต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะถือเป็นสภาวะเร่งด่วน ซึ่งภายหลังจากที่ได้กลับจากโรงเรียน Camdyn ก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้เป็นแม่ เพราะในขณะนั้นเธอมักจะบ่นว่าเจ็บหน้าอก และหายใจลำบาก นั่นทำให้เขารู้ว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วละ “ผมบอกเธอว่า เธอควรจะไปโรงพยาบาล แต่แม่ก็ยังยืนยันที่จะไม่ไป และบอกว่าเธอยังสบายดี เธอเพียงแค่ต้องการที่จะนอนพักผ่อน แต่สุดท้ายผมก็ยังพยายามบอกให้เธอรู้ว่า เธอจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล” Camdyn กล่าว แม้แม่จะพยายามปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ลูกชายก็รบเร้าว่าจะต้องพาไปโรงพยาบาลให้ได้ งานนี้แม่ก็เลยต้องยอมทำตามคำขอของลูกชาย แม้ในใจจะไม่ค่อยอยากจะไปโรงพยาบาลสักเท่าไร… หลังจากที่ได้รับการรบเร้าจากลูกชาย ทางด้าน Kimberly Smith ผู้เป็นแม่ ก็ได้ตัดสินใจไปหาหมอตามนั้น และเมื่อเธอได้รับการตรวจเช็คร่างกาย…
-
เจ้ากวางป่ากลับมาเยี่ยมมนุษย์ ที่เคยช่วยชีวิตมันเอาไว้ แถมพาลูกแฝดมาอวดโฉมด้วย…
ถ้าหากว่าเราได้เจอเรื่องราวดีๆ ที่น่าจดจำในสถานที่แห่งหนึ่ง เชื่อว่าหากย้อนกลับไปได้ คุณคงอยากจะกลับไปเยือนสถานที่แห่งนั้นอีกสักครั้ง เหมือนดังเช่น เจ้ากวางตัวนี้ ที่ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก แถมคราวนี้ยังได้พาลูกๆ ของมันมาด้วย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ทางเจ้าหน้าที่ของ Northern Lights Wildlife Society (NLWS) จากประเทศแคนาดา ได้ทำการช่วยชีวิตลูกกวาง 2 ตัวเอาไว้ เนื่องจากแม่ของมันถูกรถชนตาย โดยพวกเขาได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่า Ping และ Pong แต่เคราะห์ร้ายที่กวางน้อย Pong ได้ตายจากไปในเวลาต่อมา ทำให้เหลือลูกกวางเพียงแค่เจ้า Ping เพียงตัวเดียว แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแลมันเป็นอย่างดี เพื่อรอวันที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตในป่าอีกครั้ง วันเวลาผ่านไป จากกวางน้อยผู้น่าสงสาร ก็ได้เติบโตขึ้นเป็นกวางที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เห็นว่าเจ้า Ping คงจะสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ดังนั้น จึงทำให้พวกเขาได้ส่งมันกลับคืนสู่ป่าดังเดิม ต่อมาในปี 2012 ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พบว่า เจ้า Ping ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันเอาไว้ตอนเด็กอีกครั้ง แต่รอบนี้มันไม่ได้กลับมาเพียงตัวเดียว…
-
ลูกช้างถูกรถชนบาดเจ็บสาหัส โขลงช้างพยายามช่วยกันประคอง แต่ไม่อาจช่วยชีวิตไว้ได้…
วินาที่อันแสนเศร้าของโขลงช้าง ที่พยายามจะช่วยเหลือสมาชิกตัวน้อยที่ถูกรถชนอย่างรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส คลิปวิดีโอดังล่าวถูกบันทึกจากอุทยานแห่งชาติ Hwange ในประเทศซิมบับเว ภายในคลิปเผยให้เห็นถึงความพยายามของช้างสองเชือกที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อและแม่ของเจ้าตัวน้อย กำลังยื้อชีวิตลูกของพวกมันที่กำลังล้มลุกคลุกคลานและทรมานด้วยความเจ็บปวดอยู่ คุณ Heidi Haas ผู้บันทึกคลิปวิดีโอดังกล่าวเล่าว่า “ฉันตกใจมาก เมื่อเห็นเจ้าช้างตัวน้อยถูกชนด้วยความเร็วสูง หลังจากนั้นโขลงช้างหลายตัวก็ได้เข้ามาช่วยเจ้าตัวเล็ก ฉันคิดว่าหลังและขาของมันน่าจะหัก” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ถูกเรียกมายังที่เกิดเหตุ แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนั้นทำให้ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเข้าไปช่วยชีวิตลูกช้างได้ แต่แล้วก็เป็นที่น่าเสียดายเมื่อทุกอย่างนั้นสายเกินไปเสียแล้ว “โขลงช้างไม่ต้องการให้ใครเข้าไปใกล้เจ้าลูกช้าง พวกมันกำลังพยายามกันอย่างมาก และหวังว่าจะเกิดปฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าตัวเล็ก ฉันไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจริงๆ ฉันอยากให้ผู้ที่เข้ามาเที่ยว ควรมีความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และหวังว่าคงจะไม่มีการสังเวยชีวิตที่สวยงามแบบนี้อีก” คุณ Haas กล่าว โขลงช้างพยายามที่จะยื้อชีวิตเจ้าตัวน้อยของพวกมันไว้ และดูเหมือนความพยายามของพวกมันจะประสบผลสำเร็จ เจ้าลูกช้างกำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ แต่แล้วมันก็กลับล้มลงกับพื้นอีกครั้ง วินาทีการยื้อชีวิตลูกช้าง… ถึงแม้พวกจะเป็นสัตว์ป่า แต่การที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป ก็คงเสียใจไม่แพ้กับมนุษย์อย่างพวกเราหรอก ที่มา dailymail
-
เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือสุนัขกว่า 149 ชีวิต ออกมาจากฟาร์มเนื้อสุนัข ได้อย่างปลอดภัย…
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสื่อของประเทศเกาหลีใต้เข้ามามีอิทธิพลต่อวัยรุ่นบ้านเรามากขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงสืบทอดมาอย่างยาวนานเช่นกันก็คือ การรับประทานเนื้อสุนัข สุนัขกว่า 149 ชีวิต จะถูกฆ่าเพื่อแล่เอาไปเนื้อไปส่งขายตามร้านค้าต่างๆ ก่อนที่พวกมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเมนูอาหาร และนี่คือภารกิจของ Humane Society International กับการเข้าไปช่วยชีวิตพวกมันทั้งหมด เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่องค์กร HSI พยายามที่จะช่วยเหลือสุนัขให้รอดพ้นจากการถูกนำไปทำเป็นอาหารในเกาหลีใต้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยเจ้าของฟาร์มได้ทำเรื่องขอย้ายสุนัขทั้งหมด ก่อนจะเปลี่ยนไปทำเกษตรกรรมแทน สุนัขกว่า 149 ชีวิตส่วนหนึ่งจะได้บินไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อไปถึงพวกมันจะถูกส่งตัวไปตามศูนย์พักพิงต่างๆ เพื่อรอรับการอุปการะอีกทีหนึ่ง ทว่าสำหรับลูกสุนัขที่ยังขึ้นเครื่องบินไม่ได้ พวกมันจะถูกส่งตัวไปยังศูนย์พักพิงต่างๆ ในเกาหลีใต้ เป็นภาพที่น่าเศร้ามาก เพราะสุนัขส่วนใหญ่ได้แต่อาศัยอยู่ในกรงขังมาตลอดชีวิต และหลายๆ ชีวิตต้องป่วยติดเชื้อจากสภาพเป็นอยู่ที่ไม่ถูกหลักอนามัย “สภาพของพวกมันน่าสงสารมากๆ ครับ พวกมันผอมโซ หิวโหย ดวงตาเศร้าสร้อย พวกมันกลัวแม้แต่จะมองหน้าเราด้วยซ้ำ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า สำหรับประเทศเกาหลีใต้ นับว่าที่นี่เป็นฟาร์มสุนัขแห่งที่ 9 ที่ถูกปิดตัวลงไปนับตั้งแต่ปี 2014 Nara…
-
ประทับใจ!! อดีตทหารออกบินไปทั่วอเมริกา เพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัดมากกว่า 700 ตัว
แม้ในทุกๆ วันเราอาจจะได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีอยู่บ่อยๆ แต่ต้องยอมรับเลยว่าความจริงแล้วยังมีเรื่องราวดีๆ และน่าชื่นชมมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในทุกๆ วันเช่นกัน เหมือนดั่งเช่น เรื่องราวของอดีตทหารผ่านศึกคนนี้ ที่เดินทางไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยชีวิตสัตว์มากกว่า 700 ตัว โห…สุดยอด!! Paul Steklenski อดีตทหารขับรถถังวัย 45 ปี จากเมือง Schwenksville รัฐเพนซิลเวเนีย ยอมควักเงินในกระเป๋าตัวเองจำนวน $65,000 (ราวๆ 2,100,000 บาท) ในการซื้อเครื่องบินเพื่อออกเดินทางช่วยเหลือสุนัขจรจัดทั่วอเมริกา โดยก่อนหน้าที่จะมีเครื่องบินบรรทุกสัตว์ส่วนตัว Paul จะเช่าเครื่องบินจากรัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อบินไปยังรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อนจะนำสัตว์ที่ช่วยเหลือไปยังพื้นที่ในนิวยอร์ก โดยในปี 2013 เข้าได้เรียนและฝึกฝนการบินเป็นกิจกรรมอดิเรก และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาก็มีความรู้สึกที่อยากจะช่วยเหล่าสัตว์จรจัดด้วย และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำการสอบใบอนุญาตขับเครื่องบิน สำหรับ Paul แล้ว เรียกได้ว่าเขาได้สร้างเรื่องราวสุดประทับใจจนทำให้ผู้คนโดยเฉพาะคนรักสัตว์ ซาบซึ้งในน้ำใจของไปตามๆ กัน โดยเขาได้ใช้ใบอนุญาตการบินที่ได้ผ่านการฝึกฝนมา เพื่อนำไปช่วยชีวิตสัตว์ผู้น่าสงสารได้มากมาย ในเดือนพฤษภาคมปี 2015 เขาได้จัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Flying Fur…
-
เจ้าสุนัขคอร์กี้เห่าเตือนมนุษย์ เพื่อให้รับรู้ถึงภัยอันตราย ก่อนเสี้ยววินาทีกิ่งไม้ยักษ์หล่นลงมา!!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าสุนัขนั้นสามารถถูกฝึก เพื่อให้เป็นสุนัขช่วยเหลือมนษย์ได้ในหลากหลายทาง และอย่างหนึ่งที่สุนัขมักจะถูกฝึกให้ช่วยก็คือการฟังเสียงนั่นเอง ซึ่งมันเป็นประโยชน์และช่วยชีวิตคนได้มากมายเลยล่ะ เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน Peggy Keating หญิงรายหนึ่งที่เธอไม่รู้มาก่อนว่า เธอจะสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะเจ้า Pippa สุนัขตัวโปรดของเธอ เจ้า Pippa นั้นเป็นสุนัขพันธุ์คอร์กี้ตัวเล็กน่ารักของน้องสาว Peggy ซึ่งตัวเธอก็ชอบในความน่ารักของมันมากๆ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ออกไปเดินเล่นข้างนอก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!! ในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังอยู่ยืนใต้ต้นไม้ และเจ้า Pippa เหมือนจะได้ยินเสียงกิ่งไม้ที่ค่อยๆ แตกออกและกำลังจะหักลงมา มันจึงส่งเสียงเห่าเสียงดังอย่างสุดแรงเกิด เพื่อเตือนให้ Peggy รู้ว่าภัยอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว… โชคดีที่เหมือนตัว Peggy จะรู้สึกได้ถึงการเห่าของเจ้าตูบและขยับตัวไปนิดหน่อย เพียงไม่นานนักกิ่งไม้ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาใกล้ๆ กับจุดเดิมที่เธอยืน เรียกได้ว่าตอนนั้นเธอถึงกับอึ้งไปเลยล่ะ!! เธอยังให้สัมภาษณ์กับทาง Thedodo ว่า “ฉันต้องขอบคุณ Pippa จริงๆ ที่ช่วยชีวิตของฉันให้พ้นจากภัยอันตราย ถ้ามันไม่เห่าเตือนฉันในตอนนั้น ฉันก็คงโดนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ตกใส่เต็มๆ แล้วล่ะ” Pegger ได้บอกปิดท้ายว่า จากเดิมที่เจ้า Pippa เป็นสุนัขตัวโปรดอยู่แล้ว พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ทำให้เธอรักมันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก และต้องขอบคุณความสามารถในการได้ยินของมัน ที่แม้จะไม่ได้ฝึกมาก็ตาม……
-
ชายหนุ่มรอดตายอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่ “หัวใจหยุดเต้น” ไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง
เรื่องราวปาฏิหาริย์ของชายหนุ่มจาก North Carolina ที่กลับมามีชีวิตใหม่อีกครัง หลังจากที่หัวใจหยุดเต้นไปนานถึง 30 นาที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่คุณ John Ogburn วัย 36 ปี กำลังนั่งทำงานของเขาและจู่ๆ ก็เกิดอาการหมดสติไประหว่างนั้น แต่ชายหนุ่มกลับรอดมาได้เพราะความพยายามของเจ้าหน้าที่ “ถ้าพวกเขาไม่สามารถช่วยผมไว้ได้ทันเวลา ผมคงต้องจากโลกนี้ไปแล้วแน่ๆ” คุณ Ogburn กล่าว คุณพ่อวัย 36 ปีจำเหตุการณ์รอดชีวิตแบบปาฏิหาริย์ของเขาไม่ได้ แต่หนึ่งในพนักงานของร้าน Panera นาง April Bradley เห็นคุณ Ogburn ล้มลงไปกับพื้นในระหว่างที่กำลังทำงาน จากนั้นเธอจึงตัดสินใจโทรแจ้ง 911 หญิงสาวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “วันนั้นสีหน้าของเขาแย่มาก หน้าของเขาเป็นสีม่วงเข้ม มันดูน่ากลัวมากๆ ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และเป็นโชคดีของคุณ John ที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่เคยฝึกการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อน เจ้าหน้าที่ Guiler ได้เริ่มปั๊มหัวใจให้กับชายหนุ่มในระหว่างที่รอแพทย์ แต่หลังจากผ่านไป 20 นาที อาการของผู้ป่วยก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังจากที่หลายๆ คนพยายามช่วยชีวิตเขาอยู่นานและทำ CPR มากกว่า 200 ครั้ง…
-
พนักงานวัย 16 กลายเป็นฮีโร่ ช่วยกู้ชีพชายชราให้รอดชีวิต หลังเข้าทำงานได้เพียงสองวัน!!
เมื่อคุณได้เข้าทำงานที่ไหนสักแห่ง สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับก็คือประสบการณ์ เงินเดือน การฝึกฝนความสามารถให้กับตัวเอง คงไม่มีใครคาดหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตคนแน่ๆ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2017 สำนักข่าวท้องถิ่น local12 ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยวีรกรรมอันน่ายกย่องของ Austin Goddard หนุ่มน้อยวัย 16 ปี ที่ได้ช่วยเหลือชายชราด้วยการทำ CPR จนรอดตาย ตามรายงานบอกว่านาย Austin เพิ่งเริ่มทำงานที่ร้านอาหารที่ชื่อว่า Skyline Chili ได้เพียง 2 วันเท่านั้น โดยในวันที่เกิดเหตุ ก็มีลูกค้าชายชรารายหนึ่งหมดสติล้มพับไปกับโต๊ะระหว่างกินอาหาร โดยที่ไม่มีใครทำการกู้ชีพหรือทำ CPR เป็นเลย “ในช่วงจังหวะนั้นผมกำลังถูโต๊ะ เช็ดจาน แล้วก็เอาพวกเครื่องเงินเก็บเข้าที่เข้าทางของมันอยู่ครับ” หนุ่มน้อย Austin เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งโชคดีที่ Austin มีความรู้ทางด้านนี้มาบ้าง เลยรีบเข้าไปแล้วทำ CPR อย่างเร่งด่วน “ผมแค่วางมือลงบนหน้าอกของเขา ให้ข้อศอกตั้งฉากเพื่อให้มั่นใจว่ามีแรงกดมากพอ แล้วกดลงไป” ภายหลังจากการปฏิบัติการกู้ชีพของเขาแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามารับลูกค้ารายนี้ไปยังโรงพยาบาล ถือว่าการทำ CPR เบื้องต้นช่วยรักษาชีวิตของลูกค้ารายนี้ได้ชั่วขณะเลย ไม่กี่วันต่อมาได้มีญาติๆ…
-
เจ้าเหมียวช่วยเพื่อนบ้านให้รอดชีวิต หลังไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ…
คนที่เลี้ยงแมวมักจะรู้ว่า แมวนั้นมีเซนส์บางอย่างที่มนุษย์ไม่มีหรือจะเรียกว่าสัมผัสที่หกก็ได้ เช่นเวลาเจ้าของป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ก็มีแมวนี่แหละที่มักจะรับรู้ได้ก่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความผูกพันระหว่างเจ้าของกับแมว เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่ใช้ความสามารถพิเศษในด้านการได้ยินทำการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน จนทำให้เธอรอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2017 ได้มีการเผยแพร่เกี่ยวกับความกล้าหาญของเจ้าเหมียว Bandit ที่อาศัยอยู่กับ Fran Swayz ในเมือง Cleburne รัฐเท็กซัส Fran ได้รับเลี้ยง Bandit จากศูนย์พักพิงเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ปัจจุบันเธอและแมวอาศัยอยู่ในชุมชนผู้อาวุโส Buena Vista Senior Community ปกติแมวอาจจะไม่ค่อยชอบเดินเล่นเหมือนสุนัขสักเท่าไหร่ แต่สำหรับ Bandit แล้ว มันรักการเดินเล่น มันจึงชอบเดินไปกับเจ้าของในทุกๆ เย็น Mary Baker เพื่อนบ้านที่ร้องขอความช่วยเหลือ จนเมื่อเย็นวันหนึ่งลูกสาวของ Fran ได้แวะเข้ามาเยี่ยม เจ้าเหมียวก็ขอให้พวกเขาพาเดินเล่นเป็นรอบที่สอง ซึ่งผิดปกติไปจากเดิมมากๆ เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ถึงอย่างนั้น Fran ก็ปล่อยน้องเหมียวออกมา แต่ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วร้องเมี๊ยวๆ ส่งเสียงดังตลอด เจ้าของและลูกสาวจึงวิ่งตามมันไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วพวกเขาก็พบกับ Mary Baker…
-
การมอบชีวิตใหม่ให้กับเจ้าหมู จากโรคเรื้อนผิวแห้งกรัง สู่หมูสุขภาพดีสดใสได้อีกครั้ง
หลายครั้งที่สัตว์มักจะถูกทิ้งให้อยู่ในสถาพใกล้ตายหรือทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการทิ้งแบบจงใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่นเดียวกับเจ้า Cherry Blossom น้องหมูที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในสภาพย่ำแย่มากๆ Cherry Blossom เป็นหมูที่ถูกทอดทิ้งจากสถานรับเลี้ยงเนื่องจากมันป่วยเป็นโรคเรื้อนชนิดหนึ่ง จนมีสภาพที่แย่ลงอย่างหนัก และไม่มีใครสนใจหรืออยากจะเข้าใกล้มันเลย ทว่า Jen Sale ผู้ก่อตั้ง Sale Ranch Sanctuary กลับไม่ได้คิดแบบนั้น เธอกลับยินดีและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเจ้า Cherry Blossom ทันทีหลังจากรู้ถึงข่าวคราวของมันพร้อมบอกว่ามันต้องได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่งั้นมันจะตายอย่างแน่นอน เวลาผ่านไปกว่าสองเดือน สภาพของเจ้าหมูเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทางด้าน Jen ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้มันได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง จากผิวหนังที่เป็นเรื้อน เริ่มได้รับการรักษาและดีขึ้นตามลำดับ เวลาผ่านไป สภาพของ Cherry Blossom ตอนนี้ก็เหมือนหมูปกติแล้ว แม้จะยังมีบางส่วนที่ไม่หายดีก็ตาม ทั้ง Cherry Blossom และ Jen ต่างก็มีความสุข ใครจะเชื่อจากหมูใกล้ตาย ตอนนี้มันกลายเป็นหมูที่มีความสุขสุดๆ ที่มา boredpanda
-
หนุ่มนั่งชิลบนเรือเจอ “นก” ลอยมากับน้ำ คิดว่าช่วยไม่ทันแล้ว… แต่คุณพระมันยังรอดอยู่!!
เป็นเหตุการณ์อันน่าแปลกใจที่เกิดขึ้นกับ Massimo Barberi หนุ่มอิตาลีผู้ชื่นชอบการพายเรือคายัค เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งเจ้าตัวได้ออกไปพายเรือเล่นที่บริเวณทะเลสาบ Comabbio ทางตอนเหนือของอิตาลี และเขาก็ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ลอยมากับน้ำ “หลังจากที่ผมพายเรือเข้าไปดู ก็เห็นว่ามันเป็นนกที่จมมากับน้ำ และผมก็คิดว่าร่างกายมันคงไม่รอดอีกแล้ว” Massimo เล่า เมื่อเจ้าตัวอุ้มมันขึ้นมาจากน้ำ เขาก็พบว่ามันยังไม่ตาย!! สังเกตได้จากจะงอยปากที่พยายามชูขึ้นเพื่อหาอากาศหายใจ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะแง่หนึ่งเขาก็กลัวว่าการช่วยเหลือนกจะทำให้อาการมันแย่ลงกว่าเดิม แต่อีกแง่หนึ่งถ้าหากเขาไม่รีบช่วยมัน มันก็อาจจะตายได้เช่นกัน และเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจที่จะนำมันกลับเข้าฝั่ง “ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นนกเหยี่ยวแดง แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการรีบช่วยชีวิตมัน และผมก็ดีใจมากๆ ที่สามารถทำให้มันกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง” เจ้าของเรื่องเล่า ทันทีที่มาถึงฝั่งเขารีบโทรติดต่อเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รีบหาผ้ามาซับน้ำให้ร่างกายแห้ง และเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าเจ้านกก็เริ่มที่จะสำลักน้ำออกมา จากเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำทำให้คลีนิครักษาสัตว์หลายๆ แห่งในเมืองปิดให้บริการ แต่ด้วยความเป็นห่วงทำให้พ่อหนุ่มตัดสินใจที่จะนำเจ้านกกลับไปดูแลที่บ้าน เช้าวันต่อมาพ่อหนุ่มได้พานกผู้เคราะห์ร้าย ไปตรวจสุขภาพกับเพื่อนผู้เป็นสัตวแพทย์ ทว่าหลังจากเปิดกล่องออกมาพวกเขาก็ต้องได้เห็นภาพที่ชวนให้รู้สึกชื่นใจสุดๆ เป็นภาพของใบหน้าและสายตาอันสดใสของนกที่ได้รับการช่วยเหลือมา จากการช่วยเหลือของพ่อหนุ่มเพียงชั่วข้ามคืนเจ้านกก็กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม และพร้อมจะโบยบินสู่อิสระภาพอีกครั้ง “เช้าวันต่อมาผมพามันไปหาหมอ ทันที่เปิดกล่องออกมามันก็ส่งสายตามาเหมือนพยายามจะขอบคุณ จากนั้นมันก็บินลอยหายไปบนฟ้า เราดีใจมากที่เห็นมันบินได้อีกครั้ง” Massimo เล่า ดูสายตาจากนกน้อยแล้ว…
-
จะสงสารหรือฮาดี!? หนุ่มเล่าประสบการณ์ช่วยกระรอก 4 ตัว ที่หางพันกันจนไปไหนไม่ได้…
Andrew Day ชายหนุ่มวัย 41 ปี จากเมือง Bangor ในสหรัฐอเมริกา ได้บังเอิญไปสังกตเจอเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่างบนทางเดิน ซึ่งเหมือนมีก้อนขนอะไรบางอย่างกำลังขยับขยุกขยิกไปมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จึงผมว่าก้อนขนที่ว่าดันเป็นกระรอก 4 ตัว ที่มันกำลังประสบปัญหาหางพันกัน ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ซะงั้น!!? เขาได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 เขาได้ไปเจอเข้ากับกระรอกสี่ตัวระหว่างเดินไปบ้านพ่อของเขา ซึ่งหางของพวกมันดูเหมือนจะพันกันแกะไม่ออก ยิ่งตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้ พวกมันก็ทำท่าจะหนีท่าเดียว แต่ด้วยความที่พวกมันหางติดกันทำให้การวิ่งของพวกมันที่พยายามจะไปคนละทาง ก็กลายเป็นการดึงกันเองไปซะอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ “ตอนแรกผมก็แค่อยากจะบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อไว้ดูเฉยๆ เพราะมันแปลกจนต้องอุทานว่า มันเกิดเxี้ยไรกันเนี่ย “ ตัวคลิปของเขามีความยาวเพียงแค่ 28 วินาที เท่านั้น เพราะเขาให้เหตุผลว่าหลังจากที่เขาถ่ายคลิปไปได้ซักพัก เขาก็สังเกตุเห็นแมวอยู่ใกล้ๆ จึงต้องรีบจัดการไล่แมวตัวนั้นไปไกลๆ ก่อน เพราะกระรอกทั้งสี่ติดกันแบบนี้ มันคงเป็นเหยื่อชั้นดีให้กับนักล่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาและพ่อของเขาจึงช่วยเจ้ากระรอกทั้ง 4 ให้ปลอดภัยจากนักล่าก่อน และหาจัดการหางของพวกมัน พวกเขาตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของเมือง แต่ว่าในวันนั้นดันเป็นวันอาทิตย์ซึ่งศูนย์ปิดทำการนั่นเอง พวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อไปทางสถานีตำรวจ ซึ่งบอกว่าจะส่งคนมาช่วยจัดการให้แต่ต้องรอสักชั่วโมงหนึ่งนะ ด้วยเหตุนี้ Andrew จึงต้องนั่งเฝ้าดูพวกมัน เขาบอกว่าระหว่างที่รอเจ้ากระรอกทั้ง 4…
-
สาวน้อยแสนใจดี… ช่วยชีวิตม้าน้ำให้รอดจากการเกยตื้น จนเกือบแห้งตายอยู่ริมชายหาด!!
เรื่องมันเริ่มจากเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเล่นกองทรายอยู่ริมหาด Indian Shores ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่เธอได้เจอกับเหล่าฝูงนกนางนวลที่บังเอิญคาบบางอย่างมา แล้วทำตกใกล้ๆ บริเวณที่แม่หนูคนดังกล่าวกำลังเล่นทรายอยู่ สิ่งนกนางนวลคาบมามีสีส้ม เด็กสาวจึงคิดว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นขนมชีโตสแน่ๆ แต่พอไปดูใกล้ๆ ชีโตสที่เธอคิดกลับกลายเป็นม้าน้ำตัวเล็กสีส้มซะงั้น เด็กสาวใจดีจึงไม่รอช้า รีบนำม้าน้ำตัวน้อยใส่ถังทรายของเธอทันทีพร้อมกับเติมน้ำเข้าไปเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ จากนั้นแม่หนูคนดังกล่าวก็นำม้าน้ำที่เธอช่วยชีวิตไปให้คุณแม่ของเธอดู และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจช่วยชีวิตมันโดยการพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือ Clearwater Marine Aquarium ทางทีมช่วยเหลือจึงจัดการนำเจ้าม้าน้ำผู้รอดชีวิตใส่ไว้ในตู้กระจกเพื่อให้มันได้พักฟื้นร่างกายอย่างปลอดภัย และแน่นอนว่าเจ้าม้าน้ำก็ได้ชื่อว่า “ชีโตส” จากแม่หนูผู้ช่วยชีวิตนั่นเอง ทางด้านทีมกู้ภัยก็ได้พูดถึงเจ้าชีโตสว่า มันน่าจะเป็นม้าน้ำเพศเมียสายพันธุ์ Lined Seahorse และมันก็โชคดีมากๆ ที่รอดมาจากเหล่านกนางนวลได้ แถมเหตุการณ์รอดชีวิตของมันก็เกิดถูกที่ถูกเวลามากๆ ถ้าหนูน้อยผู้ช่วยชีวิตไม่อยู่ใกล้ๆ มันคงจะตายไปแล้วล่ะ หลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าชีโตสถูกช่วยชีวิตและมาถึงศูนย์ก็นับเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ดูแลมันอย่างใกล้ชิด ขนาดที่ว่าทีมงานได้ติดตั้งกล้องไว้เพื่อถ่ายทอดสด และให้คนได้ดูความเคลื่อนไหวมันตลอดเวลาเลยทีเดียว . สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานคิดว่าเจ้าชีโตสหายดีแล้วจนพร้อมจะกลับบ้าน พวกเขาก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อพามันกลับสู่ธรรมชาติเสียที แม้ในตอนแรกเจ้าชีโตสดูทำท่าจะไม่อยากจากเหล่าคนที่ดูแลมันมา แต่สุดท้ายธรรมชาติก็เรียกหาและมันก็ว่ายจากไป แต่แม้ตัวมันจะจากไปแล้วความทรงจำดีๆ ของมันก็จะยังคงอยู่ในใจของทีมงานและสาวน้อยผู้ช่วยชีวิตตลอดเสมอ… โชคดีนะเจ้าม้ชีโตส อย่าพลาดโดนนกจับไปอีกล่ะ ที่มา:thedodo
-
องค์กรช่วยเหลือสัตว์สหรัฐฯ ปิดฟาร์มเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้กว่า 7 แห่ง เพื่อชีวิตใหม่ของเจ้าตูบ!!
รู้หรือไม่ ในเกาหลีใต้มีฟาร์มสุนัขที่ใช้กินเป็นอาหารมากกว่า 17,000 แห่ง ซึ่งทุกปีจะมีประชากรสุนัขมากกว่า 2,500,000 ตัวที่ถูกนำไปเป็นอาหารให้คนได้กิน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรช่วยเหลือสุนัขมากมายต่างต่อสู้เพื่อปิดฟาร์มเหล่านั้น ซึ่งล่าสุด Humane Society International (HSI) องค์กรช่วยเหลือเหล่าสุนัขของทางฝั่งอเมริกาก็ได้ประสบความสำเร็จในการปิดตัวฟาร์มเนื้อสุนัขไป 7 แห่งในประเทศเกาหลีใต้ แต่พวกเขาบอกว่าฟาร์มที่ 7 ที่พวกเขาไปปิดนั้น ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่พวกเขาเคยเห็นมาเลย ณ ฟาร์มในเมืองโกยาง สุนัข 55 ตัวถูกขังไว้ในกรงเหล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดมิดชิดไม่มีแสงแดดและอากาศถ่ายเท Adam Parascandola ผอ. ขององค์กรปกป้องสัตว์บอกว่า “ผมแทบจะหยุดหายใจในตอนที่พวกเราเดินเข้าไปในฟาร์มที่มืดสนิทเป็นครั้งแรก กลิ่นแอมโมเนียที่รุนแรง เสียงเห่าของเหล่าสุนัขที่มีแต่เสียง ไม่สามารถมองเห็นหน้าของพวกมันได้ชัดเจน” มีสุนัขสองตัวที่คาดว่าน่าจะมาจากเจ้าของเก่าที่ตัดสินใจขายมันให้กับฟาร์มแห่งนี้ ส่วนอีกตัวเป็นสุนัขที่มีปลอกคอไฟฟ้ารัดแน่นอยู่ที่คอของมัน ซึ่งมันน่าจะอยู่ได้ไม่นานแน่ๆ เพราะมันเริ่มที่จะพยายามแกะปลอกคออกและขูดเข้าไปถึงเนื้อของมันเองแล้ว ส่วนสาเหตุที่ฟาร์มแห่งนี้ถูกสั่งปิดตัวลง ก็เพราะว่าเจ้าของที่เป็นคู่สามีภรรยามีอายุราวๆ 70 ปีแล้วทั้งคู่ พวกเขาอยากจะเลิกกิจการนี้แต่ไม่รู้จะจัดการยังไง พวกเขาก็เลยร้องขอให้ทาง HSI เข้ามารับพวกสุนัขในฟาร์มไปเพื่อให้พวกมันได้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าตอนนี้ และทาง HSI ก็ตอบตกลงยินดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือสุนัขในฟาร์มทั้งหมด Adam…
-
ขะ…แข็งแกร่ง!! หนุ่มชิลีรอดตายจากการถูกยิง เพราะมีสมาร์ทโฟนจีนบังกระสุนไว้
เป็นอีกครั้งที่สมาร์ทโฟนสัญชาติจีน Huawei สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ด้วยการปกป้องชีวิตจาก ‘กระสุนปืน’ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ชายหนุ่มชาวชิลีรายหนึ่งกำลังเดินออกมาจากธนาคารในเมือง Santiago ประเทศชิลี หลังจากเข้าไปถอนเงินมูลค่ากว่า 160,000 บาทออกมากับคุณลุงของเขา จากนั้นทั้งคู่ก็ไปแวะดื่มกาแฟกันก่อนที่จะถูกแก๊งมิจฉาชีพ 3 คนเข้ามาปล้นเงินอย่างอุกอาจ ชายหนุ่มพยายามที่จะต่อสู้ขัดขืนแต่ถูกคนร้ายคนหนึ่งใช้ปืนยิงเข้าใส่บริเวณลำตัว แต่โชคดีที่กระสุนพุ่งไปโดนใส่โทรศัพท์ Huawei รุ่น Honor 5X และหยุดอยู่แค่นั้น ทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อมาไม่นานแก๊งมิจฉาชีพ 2 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ส่วนอีกคนยังคงลอยนวลอยู่พร้อมกับเงินที่ชิงไปจากคุณลุงและชายหนุ่ม มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีก่อนในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อนักธุรกิจรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่หน้าอกในระยะที่ใกล้มาก จากการถูกปล้นโดยอาชญากรบริเวณนอกบ้านของเขาในเมือง Capetown แต่กลับรอดมาได้เพราะโทรศัพท์ Huawei P8 Lite ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา++ ด้วยการตลาดอันแยบยลของ Huawei จึงได้มอบโทรศัพท์เครื่องใหม่ รุ่นใหม่ล่าสุด Huawei P9 Lite ให้กับนักธุรกิจคนดังกล่าวไปแบบฟรีๆ และคาดว่าชายหนุ่มชาวชิลีก็อาจจะได้รับโทรศัพท์เครื่องใหม่เป็นการเยียวยาด้วยเช่นเดียวกัน ขะ แข็งแกร่งอะไรเบอร์นั้น!! ที่มา : shanghaiist
-
เจ้าหน้าที่กู้ภัย รุดเข้าช่วยแม่แมวและลูกน้อยอีก 4 ตัว หลังติดอยู่ในท่อลึกเกือบ 20 เมตร
เมื่อหน่วยกู้ภัย Hope for Paws ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับแจ้งว่ามีแมวเหมียวติดอยู่ในท่อระบายน้ำเป็นเวลานาน นั่นจึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่รีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงยังสถานที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนั้นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเพียงลำพัง แต่มันยังอยู่กับลูกน้อยของมันถึง 4 ตัวอีกด้วย แทบจะมองไม่เห็นเจ้าเหมียว เพราะท่อนั่นแคบและก็อยู่ลึกมากด้วย จากการรายงานระบุว่า แม่แมวตัวดังกล่าวได้ติดอยู่ภายในท่อที่ยาวถึง 60 ฟุต (เกือบ 20 เมตร) พร้อมกับลูกๆ ของมัน โดยในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือพวกมันได้ทันที เนื่องจากมันอยู่ในท่อที่ลึกมาก ดังนั้น พวกเขาจึงได้กลับไปยังศูนย์กู้ภัย เพื่อที่จะได้นำอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยเหลือพวกมัน “เราตระหนักดีว่าการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าเหมียว จะต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว” เจ้าหน้าที่กล่าว จากนั้นไม่นาน ภารกิจช่วยชีวิตครอบครัวเหมียวก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่ และในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับครอบครัวของเจ้าเหมียวที่ติดอยู่ในท่อ หลังจากที่พบเจ้าเหมียวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็รีบนำตัวของพวกมันออกมา โดยเริ่มจากการนำแม่แมวออกมาก่อน ตามด้วยลูกๆ ของมัน การช่วยลูกแมวน้อยค่อนข้างจะดำเนินการไปได้ยาก เนื่องจากพวกมันไม่สามารถเดินได้ และมีขนาดตัวที่เล็กมากนั่นเอง แม้ในตอนแรกแม่แมวจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามทำให้มันสงบลงได้ ด้วยความพยายามของทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงทำให้พวกเขาสามารถช่วยชีวิตแมวน้อยๆ…
-
ชายหนุ่มยอมมุดถ้ำแคบๆ ชื้นแฉะ เพียงต้องการช่วย “ลูกสุนัขจรจัด” ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสุนัข Hope for Paws เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการตามหาและช่วยสุนัขจรจัด แม้ว่าสุนัขทุกตัวไม่ใช่ว่าจะยอมให้ช่วยเหลือง่ายๆ แต่เขาก็มักจะมีวิธีเด็ดๆ ในการช่วยพวกมันเสมอ มีอยู่วันหนึ่ง Eldad และคณะ ได้ไปเจอเข้ากับสุนัขจรจัดเพศเมีย 3 ตัว และพยายามจะช่วยเหลือพวกมัน แต่ด้วยความที่พวกมันหวาดกลัวผู้คน มันจึงไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว แต่โชคดีหน่อยตรงบริเวณที่พวกมันอยู่ จะมีหญิงสาวสองคนที่ทำงานแถวนั้น ซึ่งคอยให้อาหารพวกมันมาตลอด 2 ปี และพวกเธอก็เป็นตัวเชื่อมให้ทีมงานของเขาช่วยพวกมันได้ Hagar เล่าถึงความยากในการช่วยเหลือพวกมันว่า “ถ้าคุณเข้าไปใกล้พวกมันเมื่อไหร่ พวกมันก็จะวิ่งข้ามทางรถไฟและหายไปทันที” แต่แล้ววันหนึ่งพวกเธอก็ส่งข่าวบอกพวกเขาว่า สุนัขตัวหนึ่งได้คลอดลูกจำนวนหนึ่ง<ตัวเมียได้คลอดลูกครอกใหม่ และหนีไปซ่อนตัวอยู่บริเวณถ้ำเล็กๆ ใกล้กับจุดที่มันอยู่ในตอนแรก ซึ่งหญิงสาวได้นั่งเฝ้าและคอยสังเกตุถึงจำนวนของลูกสุนัขที่คลอดออกมานานกว่า 6 ชั่วโมง จนได้รู้ว่ามีลูกหมาอยู่ทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน จากนั้นไม่นานนัก Eldad และคณะก็ได้เดินทางมาถึง เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือลูกสุนัขและแม่ของมันจากถ้ำแห่งนั้น เพื่อให้ได้ไปอยู่ในที่ๆ ดีกว่า หลังจากที่เขาเจอเข้ากับลูกหมาพร้อมกับสังเกตสีและรูปร่างของพวกมัน เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันน่าจะเป็นลูกของสุนัขจรจัดตัวผู้ที่ชื่อว่า Tank ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่แถวนั้นเช่นกัน ซึ่งตัวนี้พวกเขาก็ได้ช่วยเหลือมันไปเมื่อหลายเดือนก่อน เขาหลอกล่อพวกมันด้วยของกิน ด้วยความที่ลูกสุนัขยังพึ่งเกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ พวกมันจึงยังไม่มีความกลัวกับมนุษย์มากนัก แต่มันก็ระมัดระวังตัวพอสมควรเลยทีเดียว ในตอนที่เขานำอาหารไปให้พวกมัน จากนั่นไม่นาน เขาก็จับตัวลูกหมาตัวแรกได้เรียบร้อย…
-
ชายหนุ่มเสี่ยงชีวิต ไปช่วยหมาที่ลอยตุ๊บป่องในทะเลสาบ จนเกิดเป็นมิตรภาพสุดประทับใจ…
การเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าเจ้าตูบพวกนี้มันก็เหมือนการมีลูกคนหนึ่ง พวกมันไม่ค่อยจะเชื่อฟังอะไรเท่าไหร่หรอก บางทีก็วิ่งไปอยู่กลางถนนเพียงเพราะต้องการจะวิ่งตามลูกบอลก็มี มันเลยยากที่จะทำให้พวกมันปลอดภัยตลอดเวลา Lisa DeLong หญิงสาวชาวแคนาดาคนหนึ่งก็ประสบปัญหานั่นเช่นกัน เมื่อเธอกำลังไปเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบในนครแฮลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา ไม่รู้มันคิดอะไร อยู่ดีๆ เจ้าตูบของเธอ Nellie ก็วิ่งพรวดพราดออกไปว่ายไปอยู่กลางทะเลสาบซะงั้น แถมพอว่ายออกไปไกลกว่าที่ตัวเองจะกลับไหว ก็ทำท่าว่าจะจมอีกด้วย เธอตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินผ่านมา ชายคนนั้นสังเกตุเห็นเจ้าตูบและสีหน้าของ Lisa เขารู้ได้ทันทีว่าต้องไปช่วยเจ้าหมาของเธอ แม้เธอจะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม เขาบอกกับเธอว่าไม่ต้องห่วง เขาจะช่วยมันเอง จากนั้นเขาก็ว่ายน้ำออกไปเพื่อช่วยพาเจ้าตูบกลับเข้าฝั่งอีกครั้ง เขาต้องว่ายออกไปไกลราวๆ 300 เมตรเลยทีเดียวเพื่อพามันกลับมา โฉมหน้าของเจ้า Nellie ต้นเหตุของเรื่อง แต่แล้วเมื่อเขาไปถึงตัวเจ้าตูบ เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเจ้าตูบคาบลูกบอลไว้ไม่ปล่อยเลย และมันก็ดูจะภูมิใจมากๆ ที่เก็บลูกบอลกลางน้ำนี่ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่ฝั่ง Lisa ขอบคุณชายแปลกหน้ายกใหญ่ที่ช่วยสุนัขของเธอ หลังจากพูดคุยกันได้สักพักเธอก็รู้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้มีชื่อว่า Adam Parker ก่อนจากเขาได้จูบกับเจ้า Nellie เพื่อเป็นการบอกลา และได้ถ่ายรูปกับ Lisa เป็นที่ระลึก ถ่ายรูปก่อนจากสักหน่อย แต่ดูทั้งสองจะลืม Nellie เรียบร้อย ส่วนเจ้า Nellie…
-
กระดาษโน้ตจากคนแปลกหน้า ที่ทำให้รู้ว่ามีแมวน้อย 3 ตัวติดใต้ท้องรถ และต้องการความช่วยเหลือ
ในขณะที่คุณกำลังรู้สึกแย่ วันนี้เราจะขอนำเสนอเรื่องราวสุดประทับใจเกี่ยวกับเจ้าเหมียว ที่เชื่อว่าอย่างน้อยมันอาจจะทำให้คุณยิ้ม และมีความสุขได้บ้าง และนี่คือภาพภารกิจการช่วยชีวิตของ 3 ลูกแมวตัวน้อยๆ ที่หลบอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งทาง Nur Izzah Zabidi จากประเทศมาเลเซีย ได้นำเรื่องราวการช่วยชีวิตพวกมันมาโพสต์ลงใน Facebook โดยเผยว่า “หลังจากที่แม่ของเธอได้กลับไปที่รถ ก็ได้พบกับโน้ตแจ้งเตือนแผ่นหนึ่ง… ซึ่งภายในโน้ตแผ่นนั้น ได้เขียนข้อความทิ้งไว้ว่า “เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเสียงของลูกแมวตัวน้อยๆ อยู่ข้างใต้รถของคุณ ขอความกรุณาช่วยตรวจสอบก่อนที่คุณจะสตาร์ทรถด้วย ขอบคุณมาก” ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ของ Nur Izzah จึงได้โทรเรียกพนักงานดับเพลิง เพื่อให้มาช่วยค้นหาเจ้าเหมียวทันที แต่ในขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นนักเรียน 2-3 คนได้ผ่านมาทางนั้นพอดี และนั่นก็ทำให้พวกเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเธอ ด้วยความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มพลเมืองดี พวกก็เขาสามารถนำลูกแมวน้อย 3 ตัวที่ติดอยู่ใต้ท้องรถออกมาได้ ซึ่งเจ้าแมวน้อยทั้ง 3 ตัว คาดว่าจะมีอายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ด้วย นอกจากจะรอดชีวิตราวกับปาฏิหาริย์แล้ว เจ้าเหมียวน้อยทั้ง 3 ยังโชคดีสุดๆ เพราะมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ และครอบครัวใหม่ของมันทันที…
-
ผู้คนนับร้อย ร่วมให้กำลังใจส่ง “เจ้าเต่า” กลับท้องทะเล หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี!!
เรามักจะได้เห็นข่าวคราวของสัตว์ทะเล หรือสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่เผลอเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บขึ้น บางครั้งพวกมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และย่อมเป็นหน้าที่ของมนุษย์ซึ่งต้องใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตพวกมัน… นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก Poppy เจ้าเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายที่ถูกไปพบอยู่ในคลองของโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดเดาว่ามันน่าจะติดอยู่ในนั้นเป็นเวลานานพอสมควรสังเกตุได้จากเพรียงที่เกาะอยู่บนตัวมัน ด้วยเหตุนี้อาสาสมัครจาก Loggerhead Marinelife Center ในรัฐฟลอริดาก็รีบเข้าช่วยชีวิตมันทันที และนำมันกลับมารักษาที่ศูนย์ดูแลนั่นเอง จากการตรวจสอบพบว่ามันขาดสารอาหารจำนวนมาก อาสาสมัครจึงให้สารอาหารต่างๆ ที่มันขาดไป อย่างเช่น วิตามิน ธาตุเหล็ก ยาปฏิชีวนะ และให้มันแช่อยู่ในน้ำสะอาดเป็นเวลานานถึง 2 วันเต็มๆ เพื่อให้เพลียงและคราบต่างๆ บนตัวมันหลุดออก หลังจากนั้นถึงย้ายมาไปไว้ในสระน้ำเค็ม นับตั้งแต่นั้นมันก็ได้รับการดูแลจากอาสาสมัครมาตลอดจนร่างกายกลับมาแข็งแรง ทำให้ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ อาสาสมัครเตรียมนำมันกลับสู่ทะเลที่ๆ มันจากมาแล้ว พวกเขาไม่ได้ปล่อยมันเพียงลำพังเท่านั้น แต่แจ้งกับประชาชนในละแวกด้วยว่า จะทำการปล่อยเจ้าเต่าคืนสู่ท้องทะเล และเรื่องที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อมีผู้คนกว่า 500 คน แห่มาร่วมให้กำลังในมันในการกลับไปใช้ชีวิตในท้องทะเลดังเดิม เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถเข็นพาเจ้าเต่าเดินผ่านผู้คนที่ส่งเสียงเชียร์ แถมวันนั้นอากาศยังเป็นใจท้องฟ้าแจ่มใสอีกต่างหาก ผู้คนต่างพากันมาดูและร่วมให้กำลังใจเจ้า Poppy กันเต็มไปหมด ถึงขนาดมีคนใส่ชุดเต่ามาเลยนะ …
-
ช่วงเวลาแห่งความน่ารัก… นักดับเพลิงเข้าช่วยชีวิต “หมูอู๊ดๆ” นับร้อยตัว จากโรงนาที่ไฟไหม้!!
กลายเป็นข่าวสุดมุ้งมิ้ง เมื่อทางเว็บไซต์เดอะซัน ได้เผยแพร่คลิปของเหล่านักดับเพลิงเข้าไปช่วยเจ้าหมูกว่า 150 ตัว ออกจากโรงนาซึ่งกำลังมีไฟลุกไหม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Chernaya Rechka ประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้รับเหตุแจ้งไฟไหม้ที่โรงนาแห่งหนึ่ง พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านอกจากจะเป็นโรงนาแล้ว มันยังเป็นเล้าหมูที่มีหมูจำนวนมากด้วย งานนี้ก็ต้องเกิดภารกิจช่วยชีวิตสุดน่ารักขึ้นมาแล้ว!! ภาพของนักดับเพลิงที่เรียงแถวลำเลียงหมูออกมาและส่งต่อให้กันไปเรื่อยๆ ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ก็พยามช่วยกันดับเพลิงให้สำเร็จ ยังดีที่ผลกระทบของไฟไหม้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับตึกเพียงหลังเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่ดูจะมีความสุขนะที่ช่วยพวกมันได้ ค่อยๆ ทยอยพากันออกมาตัวสองตัว ตามคำบอกเล่าของเจ้าของฟาร์มบอกว่ามีหมูและลูกหมูมากถึงราวๆ 200 ตัว ซึ่งถูกเลี้ยงดูอยู่ในโรงนา และกว่าจะช่วยพวกลูกหมูออกมาได้ทั้งหมดนั้นต้องใช้นักดับเพลิงมากถึง 26 คนเลยทีเดียวล่ะ และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โซเชียลมีเดีย ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมาย ตัวอย่างเช่น “ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา แต่อดที่จะชื่นชมพวกเขาไม่ได้อยู่ดี” และยังมีคนบอกว่า “ขอบคุณจริงๆ เหล่าผู้กล้า” ฮุยเลฮุ่ยยยยย พวกหมูก็ยอมให้อุ้มแต่โดยดี เหมือนรู้ว่ามันจะปลอดภัยแน่ๆ ถ้าไม่ดิ้น ฮ่าาาาา ดูสภาพของพวกมันสิเปื้อนไปหมดเลย แถมยังมีแม่หมูอีกตะหาก ค่อยๆ อุ้มมันออกมาส่งต่อไปเป็นทอดๆ เอ่อ หมูตัวนั้นมันลายสีดำ…
-
“ร็อตไวเลอร์” สวมบทฮีโร่ เปิดประตูที่ล็อคไว้ ให้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตของ “เจ้านายหมดสติ” ไว้ได้!!
โดยปกติแล้วเราจะคิดว่าหมาพันธุ์ ‘ร็อตไวเลอร์’ นั้นเป็นหมาที่มีแต่ความดุ โหด จนทำให้หลายๆ ประเทศมีการออกกฎหมายสั่งห้ามไม่ให้นำเข้าไปเลี้ยงเลยทีเดียว!! แต่ถ้าหากได้อ่านเรื่องราวของเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวนี้แล้ว ขอบอกเลยว่าความคิดของเพื่อนๆ อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้… เรื่องมีอยู่ว่าเจ้า Megan สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ได้ทำการช่วยชีวิตเจ้าของของมันด้วยการพยายามเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเจ้าของของมันที่หมดสติไปเพราะเกิดอาการเลือดออกที่อวัยวะภายในร่างกาย “ไม่มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย…เจ้า Megan มันช่วยชีวิตของฉัน” เจ้าของวัย 32 ปี กล่าว “ด้วยการเปิดประตูที่ล็อคอยู่ให้เจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยเหลือฉันได้ หากไม่มีมัน เรื่องราวอาจจบลงไม่สวยแบบนี้ก็เป็นได้” โดยก่อนหน้าที่คุณ Gregory จะหมดสติไปนั้นเขาได้ทำการโทรแจ้งไปที่เบอร์ 999 ก่อนแล้ว ซึ่งอาการหมดสตินี้เป็นเพราะเสียเลือดจากอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร วันก่อนเธอได้ไปทำการส่องกล้องตรวจนิ่วในตับอ่อนที่โรงพยาบาล และก็พบว่าระหว่างการส่องกล้องตรวจนั้นก็ทำให้เกิดแผลฉีกขาดในลำไส้ ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยาบาลไม่สามารถเข้าไปในบ้านเพื่อทำการช่วยเหลือคุณ Gregory ได้เนื่องจากว่าประตูล็อคอยู่ หลังจากที่พยายามอยู่นานก็พบว่าจู่ๆ ประตูก็เปิดออกเอง และพบว่าเจ้า Megan สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ของเขาพยายามที่จะเลื่อนลูกบิดประตูขึ้นลงจนสามารถเปิดประตูได้ในที่สุด ขณะที่เข้าไปในบ้านก็พบว่าเจ้า Megan และหมาอีกสองตัวกำลังเลียหน้าคุณ Gregory เพื่อปลุกเขาจากอาการหมดสติ คุณ Gregory ได้ทำการส่งข้อความไปหาคู่รักของเขา คุณ Sean Nicholls วัย…
-
สุนัขจิ้งจอกถูกยิง ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่ม และมันก็กอดเขาไม่ยอมปล่อยเลย…
มิตรภาพสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา และกับทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้และเจ้าสุนัขจิ้งจอก…. เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งได้พบเจอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังบาดเจ็บอยู่ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ Dan Martin อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่า That Wildlife Rescue Guy หลังจากนั้นไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็มาถึงยังที่เกิดเหตุ Dan ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอก พยายามที่จะเรียกความเชื่อใจจากมัน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่มันจะยอมให้เขาเข้าถึงตัว “ผมค่อยๆ เดินเข้าหามันอย่างช้าๆ พร้อมกับพยายามใช้คำพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมัน ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าที่ผมมาที่นี่เพื่ออะไร จากนั้นผมก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ พันรอบลำตัวของมัน” Dan เล่า เขาตั้งชื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกว่า Basil แต่เนื่องจากว่ามีปัญหาในการเดินทาง จึงทำให้เขาไม่สามารถพามันไปหาสัตวแพทย์ได้ในขณะนั้น จึงตัดสินใจที่จะพามันกลับไปดูแลที่บ้านก่อนเพื่อมั่นใจว่ามันจะปลอดภัยจากสัตว์ป่าตัวอื่นๆ เช้าวันต่อมาเจ้า Basil ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแววตาที่ร่าเริงและสดใสยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนคนใหม่ ที่เพิ่งช่วยชีวิตมันมา “มันเป็นหมาที่ขี้อ้อนมากๆ คอยอยู่ใกล้ๆ ผมไม่ห่างเลยล่ะ” Dan เล่า Dan ขับรถพาเจ้า Basil ไปที่คลีนิครักษาสัตว์ และอยู่เป็นเพื่อนมันตลอด ขณะที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยกันเจ้า…
-
หนุ่มสละรถ Tesla ราคา 3 ล้าน ช่วยชีวิตคนขับที่หมดสติ Elon ปลื้มช่วยค่าซ่อมให้ทั้งหมด!!
เจ้าของรถ Tesla โมเดล S ผู้ถูกขนานนามว่าเป็นฮีโร่ ได้เสียสละรถของเขาเพื่อช่วยเหลือคนขับรถอีกคนที่ไม่ได้สติ… Manfred Kick เจ้าของรถ Tesla S ผู้ช่วยชีวิตคนขับที่หมดสติกลางท้องถนน Manfred Kick ชายวัย 41 ปี กำลังขับรถยี่ห้อ Tesla โมเดล S ของเขาอยู่บนทางด่วนใกล้ๆ กับเมือง Munich ประเทศเยอรมนี แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นสิ่งผิดปกติเมื่อรถยี่ห้อ Volkswagen Passat เกิดเสียหลักเลี้ยวเข้าชนรั้วอยู่หลายครั้ง พอมองดูดีๆ แล้วก็พบว่าคนขับได้หมดสติไปแล้ว นาย Manfred จึงได้ตัดสินใจทำสิ่งที่กล้าหาญเพื่อช่วยชีวิตคนขับ Volkswagen ในทันที ด้วยการขับรถไปจอดขวางหน้ารถคันดังกล่าวพร้อมกับดึงเบรคมือเพื่อหยุดรถของเขาเอาไว้ จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาถึงก็พบว่าคนขับรถ Volkswagen นั้นหมดสติเพราะเกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ก่อนจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทำให้ชายคนดังกล่าวรอดชีวิต การกระทำในครั้งนี้ของนาย Manfred ได้รับการกล่าวชื่นชมไปทั่วประเทศเยอรมัน ข่าวหลายสำนักต่างก็ยกย่องให้เขาเป็นฮีโร่ เพราะเขายอมเสียสละทรัพย์สินส่วนตัวโดยที่ไม่เสียดายแม้แต่น้อยเพื่อช่วยเหลือชีวิตของคนแปลกหน้า (ตามรายงานของสำนักข่าวบอกเอาไว้ว่าค่าเสียหายของรถทั้งสองคันโดยรวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า…
-
หญิงสาวช่วยเหลือ ลูกแมวน้อยทำหน้าจะร้องไห้ และเอามาให้แม่แมวตัวใหม่รับไปดูแลแทน..
ปกติแล้วสัตว์โลกทั้งหลาย เมื่อพวกมันได้กลายเป็นแม่คนแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะคอยดูแล ประคบประหงมลูกตัวน้อยอย่างดี แต่สำหรับพวก ‘แมวเหมียว’ เนี่ยสิ บางทีพวกมันก็เลือกที่จะทิ้งลูกของตัวเองจากไปอย่างดื้อๆ โดยไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาอีกเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ‘Hannah Shaw’ หญิงสาวที่ได้เข้าไปช่วยเหลือลูกแมวตัวน้อย ที่ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ หลังจากที่มันได้ออกมาลืมตาดูโลก แต่กลับพบว่า แม่สุดที่รักไม่อยู่เคียงข้างมันอีกแล้ว… นี่คือเจ้า ‘Small Fry’ ดูแววตาของมันซะก่อนสิ เห็นแล้วรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก เริ่มแรก Hannah ไปเจอเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ช่วงที่มันอายุได้เพียงแค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น แถมยังมีน้ำหนักตัวเหลือแค่ 170 กรัม เรียกได้ว่าผอมแห้งติดกระดูกสุดๆ เธอจึงนำตัวมันไปเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่ ‘Human Rescue Alliance’ ในรัฐวอชิงตันดีซี ก่อนที่เธอจะนำเจ้าแมวน้อย และพี่น้องของมัน ย้ายมาอยู่กับเธอในบ้านหลังใหม่ เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่า เจ้า ‘Small Fry’ ต้องต่อสู้กับโรคไข้หวัด อาการผิดปกติของหัวใจ และโรคโลหิตจาง “ภาพเอ็กซ์เรย์ของหมอได้ทำให้เราเห็นว่า ท้องของมันเต็มไปด้วยอากาศจากการขาดอาหาร คุณหมอจึงให้ธาตุเหล็ก วิตามินB12 และยาบำรุงร่างกายต่างๆให้มัน”…
-
ชายวัย 64 รอดตายจากอากาศหนาวเหน็บ เพราะ “เจ้าหมา” นอนทับให้ความอบอุ่นตลอดเวลา
เมื่อถามว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณคือใคร หลายคนอาจจะตอบว่า “สุนัข” เพราะนอกจากมันจะเป็นเพื่อนเล่นของเราได้ตลอดเวลาแล้ว น้องหมายังเป็นสัตว์ที่กล้าหาญชาญชัย และสามารถปกป้องเราได้จากอันตรายอีกด้วย และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าน้องหมาเป็นเพื่อนที่ดีมากขนาดไหน ดังนั้น เราจึงได้นำเรื่องราวสุดประทับใจของมันมาฝากอีกเรื่องหนึ่ง นี่คือภาพของ Kelsey น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และ Bob เจ้านายแสนรักของมัน ทั้งคู่ดูรักกันมากๆ เลย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ทางเว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยว่า ในวันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมากคุณ Bob (นามสมมุติ) ในวัย 64 ปี จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เกิดอุบัติเหตุขณะที่เขาได้ตัดสินใจเดินออกไปนอกบ้าน เพื่อไปเอาฝืนมาเติมในเตาผิง ซึ่งในขณะนั้นเขาสวมเพียงแค่กางเกงขายาว เสื้อธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง และรองเท้าแตะเพียงเท่านั้น ในระหว่างที่กำลังเดินไปหยิบฝืน เขาก็เกิดลื่นล้ม และไม่สามารถขยับตัวได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Bob ต้องส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าเพื่อนบ้านของเขากลับอยู่ไกลออกไปถึง 4 ไมล์ อีกทั้งยังไม่มีอยู่รอบๆ บริเวณนั้นเลย แต่ก็โชคดีที่เขายังมีเจ้า Kelsey วัย…
-
เจ้าหมาฮีโร่ ช่วยชีวิตเจ้านายตาบอดจากไฟไหม้บ้าน ด้วยการติดต่อเจ้าหน้าที่ และดึงตัวออกจากบ้าน!!
สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการมองเห็น หรือมีความบกพร่องทางด้านร่างกายซึ่งอาจส่งผลไปสู่การใช้ชีวิตประจำวันที่ยากลำบาก การใช้ ‘สุนัขนำทาง’ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะมันจะคอยทำหน้าที่เป็นเพื่อนรักช่วยดูแลเราในยามยาก หรือแม้แต่ในยามเหงา ก็มีเจ้าหมาเนี่ยแหละ ที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 สำนักข่าว Metro ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับ ‘สุนัขนำทาง’ ได้ที่ช่วยเหลือเจ้านายตาบอด จากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน ซึ่งถือว่าเป็นอีกวีรกรรมที่น่ายกย่อง และควรค่าแก่การจดจำ (อยากให้แมวที่บ้านเป็นงี้บ้างจัง) ‘Yolanda’ มะหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ ผู้เป็นฮีโร่ในครั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ ปกติแล้วเจ้า ‘Yolanda’ จะอาศัยอยู่กับเจ้าของ ซึ่งเป็นหญิงชราวัย 60 ปี ผู้มีความบกพร่องในการมองเห็น ทว่า จู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้น ในที่อยู่อาศัยของทั้งสองชีวิต ด้วยความแสนรู้ของมัน มันจึงรีบทำการติดต่อสายด่วนฉุกเฉิน ‘911’ ผ่านโทรศัพท์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้พิการโดยเฉพาะ สิ่งที่อันตรายพอๆ กับเพลิงไฟ ก็คือกลุ่มควัน ที่ลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้เธอหมดสติลงอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความแสนรู้ของมัน มันจึงรีบดึงตัวเธอออกมาจากจุดเกิดเหตุ มาในที่ปลอดภัย และรอรับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมา …
-
นักโทษกอดหมาเป็นครั้งสุดท้าย หลังทั้งสองช่วยเยียวยา “หัวใจอันบอบช้ำ” ซึ่งกันและกัน
ทุกวันนี้มีหมาจำนวนมากที่ไม่เป็นที่ต้องการของมนุษย์ พวกมันไม่เคยได้รับความรัก ไม่เคยมีบ้านดีๆ หลายๆ ถูกทารุนกรรมต่างๆ นาๆ จากเจ้าของเก่าหรือหลายครั้งพวกมันก็ถูกนำมาทิ้งให้ใช้ชีวิตตามท้องถนน จนสุดท้ายพวกมันก็ไม่กล้าเข้าใกล้มนุษย์อีกต่อไป เมื่อเห็นดังนั้น กลุ่มคนที่รักสัตว์กลุ่มหนึ่งจึงตั้งโครงการที่จะช่วยเจ้าหมาเหล่านี้ขึ้นมาในชื่อว่า Castaways โดยพวกเขาจะช่วยฝึกเจ้าหมาที่ไม่เป็นที่ต้องการเหล่านี้ ให้กลายเป็นหมาที่มีประโยชน์ เช่น หมานำทางคนตาบอด หมาสำหรับบำบัดเด็กออทิสติก หรืออื่นๆ อีกมากมาย และผู้ที่จะเป็นครูฝึกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเหล่านักโทษที่อยู่ในคุกนั่นเอง ขึ้นชื่อว่านักโทษแล้ว พวกเขามักไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ไม่ว่าไปที่ไหนก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกไร้ประโยชน์ที่ไม่ควรมีที่ยืนบนโลกนี้ ดังนั้นทางโครงการจึงเชื่อว่า การนำคนที่ไม่เป็นที่ต้องการมาอยู่ใกล้กัน พวกเขาจะช่วยเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ ให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง ตลอดเวลาหลายสัปดาห์ พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน คอยเยียวยาความเจ็บปวดให้แก่กัน ก่อเกิดเป็นความผูกพันที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ และเมื่อเจ้าหมาเหล่านี้หายดีและสามารถเข้าสังคมได้ตามปกติแล้ว ก็ถึงเวลาที่มันจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง พวกเขาต่างโผกอดเข้าหากัน เพื่อเป็นการร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตเจ้าหมาเท่านั้น แต่ยังทำให้เหล่านักโทษได้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง อย่างน้อยพวกเขาก็ได้รู้ว่า พวกเขาสามารถเปลี่ยนชีวิตเจ้าหมาตัวหนึ่งให้กับไปใช้ชีวิตปกติในสังคมได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถปลอบประโลมหัวใจอันเปล่าเปลี่ยวของกลุ่มคนที่ไม่เป็นที่ต้องการในสังคมเหล่านี้แล้ว…. ที่มา Saving Castaways
-
เหมียวน้อยถูกทิ้งใกล้ตาย ถูกสาวป่วยเป็นมะเร็งช่วยไว้ ต่างก็ช่วยเติมความสุขให้กันและกัน!!
เรื่องราวของหญิงสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็งและได้ทำการต่อสู้กับมันมายาวนานกว่า 7 ปี ได้ทำการช่วยเหลือด้วยการรับเจ้าเหมียวกำพร้าแม่ตัวน้อยมาเลี้ยงไว้ และทั้งคู่ต่างก็ช่วยเหลือกันด้วยการมอบความสุขให้แก่กัน มารู้จักกับเจ้าเหมียว Kesha “มันเป็นแมวที่ถูกช่วยเหลือมา แม่และพี่น้องของมันได้ทำการทิ้งพวกมันไปแล้ว และฉันก็กลายมาเป็นคุณแม่จำเป็นของมัน” คุณ Laramie Evans กล่าว (จะเรียกให้ถูกก็คือเป็นทาสรับใช้ดีกว่านะ ฮร่า) “ฉันเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง และทำการต่อสู้กับมันด้วยการทำคีโมมามากกว่า 6 ครั้งแล้ว และเจ้า Kesha นั้นก็เป็นตัวช่วยเยียวยารักษาใจของฉันได้เป็นอย่าดีเลยล่ะ และอะไรหลายๆ อย่างก็เหมือนจะไปได้สวยเลยทีเดียว” เธอเล่าเสริม เจ้าเหมียวสามสีตัวน้อยถูกพบเจอใกล้ๆ กับคลินิคของคุณ Laramie (เธอทำงานเป็นนางพยาบาล) ในสภาพที่ใกล้ตายแต่เจตนารมย์ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อของมันนั้นช่างกล้าแข็งซะเหลือเกิน คุณ Laramie ได้ทำการดูแลรักษามันจนกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็กลายเป็นทาสที่ซื่อสัตย์คอยปรนนิบัติรับใช้มันเป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับเจ้าเหมียว Kesha คุณ Laramie เองก็เป็นนักสู้ที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยเช่นกัน เธอต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมานานกว่า 7 ปีด้วย หลายๆ ครั้งเธอยอมรับว่าก็ท้อบ้าง แต่ตอนนี้เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้เหมือนเธอกำลังมีเป้าหมายในชีวิตใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เจ้า Kesha…
-
เจ้าเหมียวขี้เหร่ถูกเมินเฉยตลอดมา จนกระทั่งเจอกับเด็กหญิงใจบุญ มันจึงได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง…
ตั้งแต่จำความได้ เจ้าเหมียวตัวนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีตลอดมา ทุกๆ วันมันใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หลายๆ ครั้งมันถูกเจ้าเหมียวเจ้าถิ่นหรือแม้กระทั่งสัตว์อื่นๆ รังแก จนปากมันมีสภาพแหว่งและมันก็สูญเสียหูข้างหนึ่งไปจากชีวิตข้างถนนนี้เอง และด้วยสภาพอันน่าอเน็จอนาจนี้เอง ทำให้ไม่ว่าใครที่เห็นมัน ต่างรู้สึกรังเกียจและไม่อยากเข้าใกล้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้ส่งเด็กหญิงคนหนึ่งมาเปลี่ยนชีวิตของมัน… เด็กหญิงคนนั้นเจอมันโดยบังเอิญขณะที่กำลังคุ้ยขยะอยู่ข้างถนน อาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือความตั้งใจก็ไม่ทราบ ทันทีที่เธอสภาพอันน่าสงสารของเจ้าเหมียวตัวนี้ เธอรู้สึกทันทีว่าเธอต้องช่วยเหลืออะไรมันซักอย่าง เธออุ้มเจ้าเหมียวที่น่าสงสารตัวนี้กลับบ้านไปด้วย เมื่อเธอถึงบ้านเธอพยายามอ้อนวอนให้พ่อของเธอพามันไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา สุดท้ายพ่อของเธอทนคำรบเร้าไม่ไหว และพามันไปยังคลีนิกสัตว์แห่งหนึ่งใกล้ๆ บ้าน ที่คลีนิกแห่งนั้น มันค่อยๆ ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง รวมทั้งได้รับการผ่าตัดรักษาปากและหู และส่วนอื่น อาการของมันค่อยๆ ดีขึ้น ตอนนี้มันได้มีชีวิตใหม่อีกครั้งแล้ว นี่คือเด็กหญิงที่ช่วยชีวิตมันออกมาจากกองขยะ มันถูกตั้งชื่อว่า Gülümser แปลว่า “หญิงสาวที่ยิ้มตลอดเวลา” ยังไงก็ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะเจ้าเหมียว 🙂 ที่มา: shareably, Boredpanda
-
BenBen เหมียวเศร้าที่สุดในโลก ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้ใบหน้าของมันมีแต่รอยยิ้ม!!
การเกิดเป็นลูกแมวจรจัด และต้องเริ่มใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบใหญ่เพียงลำพัง มันช่างยากลำบากสำหรับ BenBen เจ้าเหมียวจรจัดผู้น่าสงสารตัวนี้ซะเหลือเกิน เพราะนอกจากจะต้องเผชิญชะตากรรมอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายแล้ว มันยังไม่มีแม่ หรือเจ้าของมาคอยปกป้องหากต้องเจอกับอันตรายรอบด้าน ซึ่งครั้งหนึ่ง มันเคยถูกสัตว์ใหญ่ทำร้าย จนทำให้กระดูกสันหลัง รวมทั้งใบหูของมัน เป็นแผลลึก แต่อย่างน้อย เจ้าเหมียวก็โชคดีที่ทางศูนย์พักพิงสัตว์สัตว์เข้ามาช่วยเหลือไว้ทัน จนทำให้มันรอดตาย และได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจ้าคนใหม่ที่พร้อมจะรับมันไปดูแลสักที ในตอนแรกอาการของมันไม่ค่อยดีเลย อีกทั้งผิวหนังที่เป็นส่วนเกินบนใบหน้าของมัน ยังส่งผลให้เจ้าเหมียวมีหน้าตาที่เศร้าสร้อย และเหงาหงอยเป็นอย่างมาก เจ้าเหมียวนี่น่าสงสารกำลังรอคอยใครบางคนมารับมันไปเลี้ยง และเราก็หวังว่ามันจะสมหวังในเร็ววัน จนในที่สุด วันแห่งความโชคดีก็มาถึง เพราะหลังจากที่หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในแผนกฉุกเฉินของคลินิก ได้ยินเรื่องราวของเจ้า BenBen เหมียวหน้าเศร้าผู้น่าสงสาร เธอก็ตัดสินใจที่จะรับอุปการะมันทันที ก็อ้อนขนาดนี้ ใครจะปล่อยให้เผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพังละ เมื่อเจ้าเหมียว ได้เข้ามาอาศัยในบ้านหลังใหม่ ชีวิตของมันก็ดีขึ้น แต่มันก็จะต้องเข้ารับการรักษาอยู่เสมอ เพื่อให้อาการบาดเจ็บหายดี เพราะก่อนหน้าที่ BenBen ยังอยู่ในศูนย์พักพิง มันไม่อยากจะกิน หรือดื่มอะไรเลย แม้แต่เคลื่อนไหวตัวก็ยังไม่อยากทำ เพราะมันรู้ตัวว่ากำลังจะตายในไม่ช้า แต่หลังจากที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านอันแสนอบอุ่น เจ้าเหมียวก็เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง แม้ว่าต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักก็ตาม…
-
“Bubbles” ปลาทองทนทรมานอยู่กับเนื้องอกบนหัว ในที่สุดก็ได้รับการผ่าตัด จนหายดีแล้ว
Bubbles เป็นชื่อปลาทองตัวน้อย ที่ได้กลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่อย่างมีความสุข หลังจากที่ทางทีมแพทย์ช่วยกันผ่าตัดเนื้องอกบนหัวของมันออกได้สำเร็จ จนทำให้มันสามารถรอดชีวิตมาได้ ดีใจด้วยนะเจ้าปลา… ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ทางเฟสบุ๊คที่ชื่อ Lort Smith Animal Hospital ได้เผยภาพของ Bubbles ปลาทองอายุ 9 ปี ที่ต้องทนทุกข์ทนมานอยู่กับการมีเนื้องอกขนาดใหญ่โผล่ออกมาบริเวณหัว จึงทำให้มันว่ายน้ำค่อนข้างลำบาก อีกทั้งยังทำให้มันไม่สามารถกินอาหารได้ตามปกติ ด้วยเหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของจึงได้นำเจ้าปลาทองแสนรัก ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ Lort Smith ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งหลังจากที่ได้เห็นอาการของเจ้า Bubbles ทางแพทย์ก็ได้เผยว่า เจ้าปลาทองจะต้องได้รับการผ่าตัด การน้ำปลาออกมาจากน้ำเป็นเวลานานๆ กว่าจะทำการผ่าตัดเสร็จมันไม่ใช่ง่ายที่ง่ายเลย โดยในตอนแรก ทางแพทย์ได้ให้ยาชากับมัน แล้วนำท่อออกซิเจนสอดเข้าไปในปาก เพื่อช่วยให้มันหายใจ จากนั้นก็ได้ลงมือผ่าตัดนำเนื้องอกชิ้นโตออกไปจากหัวของเจ้า Bubbles เมื่อการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี จนทำให้ในตอนนี้เนื้องอกที่อยู่บนหัวของ Bubbles ได้หลุดออกมาแล้ว หลังจากที่ได้รับการผ่าตัด และรักษาตัวจนหายดี เจ้าปลาทองน้อยก็กลับมาชีวิตที่สดใส และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากกกกก ต้องขอขอบคุณทางแพทย์มากจริงๆ…
-
15 อดีตหมาจรจัดร่วมถือป้ายเล่าเรื่องซึ้งๆ ว่าพวกมัน ‘เปลี่ยนชีวิต’ คนรับเลี้ยงให้ดีขึ้นได้!!
ในต่างประเทศนั้น มีการใช้สัตว์เลี้ยงบำบัดและบรรเทาอาการผู้ป่วยในหลายๆ อาการ ทั้งโรคซึมเศร้า เยียวยาจิตใจเหล่าทหารผ่านศึก หรือแม้กระทั่งการฆ่าตัวตายก็ตาม… และนี่ก็คือภาพน่ารักๆ ของ 15 เจ้าตูบ ที่คาบป้ายบอกรายละเอียดว่านอกจากเจ้านายได้ช่วยรับเลี้ยงพวกมันมาจากข้างถนนและมอบชีวิตใหม่ให้แล้ว ในทางกลับกัน พวกมันก็ยังช่วยเยียวยาจิตใจผู้รับมาเลี้ยงด้วย โครงการนี้คือโครงการ Leverage Love ที่จัดขึ้นในอินสตาแกรม เพื่อแสดงให้ผู้คนได้เห็นว่าการรับเลี้ยงสัตว์นั้นได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ลองมาชมความน่ารักของพวกมันกันเลย ตัวซ้ายช่วยให้เจ้านายหายจากอาการซึมเศร้า ตัวขวาให้เธอมีงานอดิเรกทำเสียดีคือการฝึกมะหมานั่นเอง เป็นความสดใสในวันแย่ๆ ของมะม๊า เจ้าตูบสามขาที่ชอบไปปีนเขาด้วย ทำให้ตระหนักได้ว่าแม้เส้นทางจะสูงชันแค่ไหน เราก็ต้องทำให้ได้!! พ่อและแม่ให้บ้านกับผม พวกเขาไม่รู้หรอกว่าจะรักผมได้มากขนาดนี้ พวกเขามอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับพวกผม แต่ผมก็มอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับพวกเขาเช่นกัน… ผมทำให้แม่หัวเราะได้ เมื่อไม่มีสิ่งไหนทำให้เธอหัวเราะได้ ผมช่วยมะม๊าให้เรียนรู้ที่จะเปิดใจ และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ผมช่วยแม่จากอาการโรคลมชัก ผมทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อเกิดอาการนั้นด้วยการคอยอยู่เคียงข้างเสมอ เจ้านายตัดสินใจช่วยผมจากท้องถนน ผมเลยช่วยเธอให้หายจากอาการเศร้าด้วยรอยยิ้มเปิ่นๆ และการแกว่งหางดุ๊กดิ๊กแบบนี้!! ผมช่วยเจ้าหนูไม่ให้กลัวปีศาจที่อยู่ใต้เตียงในตอนกลางคืน ผมช่วยเจ้านายจากการพยายามฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้ง ด้วยการให้ความหวังใหม่ในการอยากมีชีวิตอยู่ให้กับเธอ!! เจ้านายเป็นมะเร็ง เจ้าตูบตัวนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีในวันแย่ๆ…
-
เกือบไปแล้ว!!! พี่เลี้ยงเด็กสวมบทฮีโร่ช่วยสองหนูน้อยได้ทัน จากเหตุแก๊สระเบิดในบ้าน
พ่อแม่ยุคใหม่ที่ต่างคนต่างต้องออกไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ไม่สามารถที่จะปล่อยให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้าเพียงคนเดียวได้เหมือนในอดีต การว่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะครอบครัวในสังคมแถบตะวันตก อาชีพพี่เลี้ยงเด็ก ถือว่าเป็นอีกอาชีพที่ได้รับความนิยมสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นหน้าที่ของพ่อ-แม่ ที่จะต้องคัดสรรคนที่ดีที่สุด เพื่อดูแลคนที่เรารักมากที่สุดเช่นกัน เช่นเดียวกับครอบครัวของคุณแม่ Anne-Marie Faiola และลูกตัวน้อยของทั้งสอง ทุกๆ วันเธอและสามีต้องออกไปทำงาน จึงจำเป็นที่จะต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อดูแลลูกน้อยวัยก่อนเข้าเรียน ทุกๆ วันเป็นไปตามปกติ เด็กน้อยทั้งสองมีความสุข พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ได้มีพฤติกรรมที่รุนแรงต่อเด็ก แต่แล้วเย็นวันหนึ่งคุณแม่ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงเด็ก เล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆ บ่ายวันนั้นเอง หนูน้อย Lilly และพี่ชาย Jamisen วัย 4 ขวบ กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องนอนของตัวเองอย่างเพลิดเพลิน แต่แล้วจู่ๆ พี่เลี้ยงเด็กที่กำลังทำธุระอยู่ข้างบนบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นมาจากชั้นใต้ดินดัง ตู้มม!!! กลางห้องเล่นของเล่น ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะเด็กน้อยทั้งสองมักจะอยู่ห้องนี้เป็นประจำ ก่อนที่จะกลับเข้าห้องนอน พี่เลี้ยงจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยทั้งสองออกมาจากห้องนอน ก่อนที่ห้องทั้งหมดจะเต็มไปด้วยแก๊ส ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กวัยแรกเกิดอย่างมาก หลังจากนั้นพี่เลี้ยงจึงรีบโทรบอกคุณแม่ ทั้งคู่รีบกลับมาที่บ้านก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คงไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆ ถังแก๊สที่ตั้งอยู่มาตั้งนานจะรั่วจากชั้นใต้ดิน จนเจอกับความร้อนและระเบิดทะลุพื้นห้องของเล่น โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครเป็นอะไร และต้องขอบคุณพี่เลี้ยงเด็กที่มีสติ…
-
นักเรียนนิวซีแลนด์ ไปเรียนสาย กับเหตุผล ‘ช่วยคนจมน้ำมา’ จนได้รับการยกย่อง!!
หลายๆ คนตอนที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา เชื่อว่าต้องเคยเบื่อกับการเข้าเรียนตอนเช้ามากแน่ๆ ก็แหงล่ะ ต้องตื่นเช้า แถมยังต้องรีบทำนู่นนี่นั่นให้เสร็จเพื่อที่จะไปเข้าเรียนให้ทันเวลา วันไหนที่เข้าสายละก็..เตรียมหาข้ออ้างได้เลย แต่สำหรับ 2 หนุ่มจากการรายงานข่าวของ OneNews พวกพี่แกน่ะโคตรหล่อขอบอกเลย เพราะถึงแม้ว่าจะไปเข้าเรียนสาย แต่ที่ช้าน่ะไม่ใช่เพราะทำตัวเกเรนะครับ แต่เป็นฮีโร่ไปช่วยชีวิตคนจมน้ำมาต่างหากล่ะ!! เป็นเรื่องราวของสองหนุ่มผู้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน Angus Pauley (ขวา) และ Jeremy (ซ้าย) ในเช้าวันหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นวันปกติที่แสนจะน่าเบื่อ สำหรับหนุ่ม Angus กับการที่เค้าต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน แถมวันนี้คุณแม่กลับติดธุระไปส่งไม่ได้ ทีนี้พี่แกก็เลยต้องเดินไปโรงเรียนด้วยตัวเอง พอเดินไปเรื่อยๆ จนมาเจอสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง ที่ปกติก็ใช้มันเป็นทางผ่านในทุกๆ วันนั่นแหละ แต่วันนี้มันไม่ปกติเหมือนเดิม เพราะหนุ่ม Angus สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังทำท่าทางผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางน้ำ ดูทีท่าเหมือนไม่ค่อยโอเค จุดเกิดเหตุ เห็นได้ว่าเป็นแม่น้ำขนาดกว้าง แถมน้ำยังไหลเชี่ยวอีกด้วย หนุ่ม Angus เลยตัดสินใจเข้าไปถาม “คุณโอเคมั้ยครับ?” และถึงแม้คำตอบของเธอจะเป็นประโยคสั้นห้วน “ใครก็ได้ช่วยเรียกแม่มาช่วยที”…
-
อ่ะเราไม่โกง!! มนุษย์ช่วยดูแลแม่แมวจรจัด มันเลยตอบแทนด้วยลูกๆ 8 ตัวซะเลย
จริงๆ แล้ว หากได้สัมผัส ใกล้ชิด หรือช่วยเหลือเจ้าเหมียว บางทีมันอาจจะมอบสิ่งดีๆ กลับมาให้คุณก็ได้นะ ดูอย่างเธอคนนี้ ที่ได้เข้าไปให้อาหารแมวจร 2 พี่น้องจากข้างถนน และมอบชีวิตใหม่ที่มีความสุขให้กับมัน จนกระทั่งวันหนึ่ง มันก็ตอบแทนเธอโดยการให้กำเนิดลูกแมวน้อยแสนน่ารักถึง 8 ตัวซะเลย โอ้วววว เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้คงจะสนุก และไม่เหงาอีกต่อไปแน่นอน ฮร่าๆ และนี่ก็คือโฉมหน้าของ 2 แม่แมวเร่ร่อนที่ถูกช่วยเหลือ พร้อมกับลูกๆ ของมันอีก 8 ตัว โดยด้านซ้ายเป็นแม่แมวลายเทามีชื่อว่า Artemis ส่วนด้านขวาเป็นแม่แมวขนสีดำที่ชื่อ Apollo ก่อนหน้าที่จะเป็นครอบครัวเหมียวแสนอบอุ่น พวกมันได้ทำท่าเข้ามาขออาหารจากมนุษย์ใจดี ซึ่งหลังจากที่เธอได้ให้อาหารมันสักพัก พวกมันก็ทำท่าทำทางเหมือนจากจะให้เธอได้ดูอะไรสักอย่าง เธอเดินตามไป แล้วพบว่า… สองแมวพี่น้องก็ตัดสินใจพาเธอไปพบกับลูกๆ ของพวกมันที่หน้าระเบียง ซึ่งหลังจากที่ได้พบกับบรรดาลูกแมว เธอก็ได้ทำการย้ายพวกมันให้เข้าไปอยู่ในบ้าน และแน่นอนว่าในมือของเธอก็เต็มไปด้วยลูกแมวตัวน้อยๆ ถึง 8 ตัว เจ้าแมวตัวน้อยเหล่านี้มีอายุประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น และนี่คือเจ้าแมวน้อยที่ชื่อ Reese, Salem, Stella…
-
สัตว์แพทย์ช่วยชีวิตเจ้าปลาทอง ที่เผลอกลืนก้อนหินขนาดใหญ่ จนเข้าไปติดอยู่ในลำคอ
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ รายงานการช่วยชีวิตของ Conquer เจ้าปลาทองตัวน้อย ที่สัตว์แพทย์กำลังช่วยกันรักษาชีวิตของมัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มันได้เผลอกลืนก้อนกินก้อนใหญ่เข้าไป จนทำให้เข้าไปติดในลำคอซะอย่างนั้นเลย… Emma Marsh วัย 21 ปี จากกรุงบริสเบน ผู้เป็นเจ้าของรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเธอเห็นเจ้าปลาทองแสนรักกำลังดิ้นรน และขาดอากาศหายใจ หลังจากที่มันได้กลืนก้อนหินเข้าไป และเริ่มสำลักจนเข้าไปติดอยู่ในลำคอ ดังนั้น เธอจึงรีบนำตัวของเจ้า Conquer ไปพบสัตว์แพทย์ทันที ทางแพทย์ได้ทำการช่วยเหลือมัน โดยการหยอดยาสลบเพื่อให้มันหลับ และจับตัวของเจ้าปลาทองไว้ จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆ ใช้คีมคีบก้อนหินอีกมา ด้าน Emma McMillan สัตว์แพทย์ ได้เผยว่า “เธอรู้สึกประหลาดใจที่เจ้า Conquer กลืนหินลงไป เพราะโดยปกแล้วปลาทองจะไม่กลืนสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าปากของมัน อย่างก้อนหินก้อนนี้แน่นอน” “Conquer หนักแค่ 13 กรัม และยาวเพียง 5 เซนติเมตร ส่วนก้อนหินยาวเกือบ 1…
-
ไบค์เกอร์หนุ่ม เจอลูกแมวถูกทิ้งอยู่กลางถนน ใช่แล้วครับ… เขาโดนกับดักเข้าให้แล้ว!!!
หลายๆครั้งที่เรื่องราวดีๆอย่างการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น เด็กน้อยช่วยผู้ใหญ่ คนต่างชาติช่วยเหลือกัน หรือแม้แต่ คนช่วยเหลือสัตว์โลกตัวน้อย ก็มักจะทำให้เรารู้สึกดีอยู่เสมอจริงมั้ย? และเรื่องราวดีๆครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อหนุ่มนักซิ่งและผองเพื่อนของเขา กำลังควบรถมอเตอร์ไซค์สุดเท่ไปเที่ยวยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่จู่ๆเขาก็ต้องหยุดมันกลางทาง และทำสิ่งอื่นแทนที่ทรงคุณค่ามากกว่านั้น… เพราะสิ่งที่เขาเจอก็คือ ลูกแมวตัวน้อยที่กำลังรู้สึกตื่นกลัว และมีบาดแผลเล็กน้อยตามร่างกาย กำลังวิ่งพล่านอยู่กลางถนนที่แสนจะวุ่นวาย และถ้ายังปล่อยให้เจ้าลูกแมววิ่งหาทางเอาชีวิตรอดแบบนี้ มีหวัง.. คงโดนรถชนเละแน่ๆ เขาและเพื่อนนักซิ่งไม่รอช้า ตัดสินใจที่จะจอดรถและเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวน้อยทันที เพราะงานนี้ถ้าไม่ใช่เขา ก็คงไม่รู้ว่ามันจะมีโอกาสรอดชีวิตจากถนนเส้นนี้หรือไม่ แต่ตอนแรกทั้งคู่ก็ยังเกิดความสับสนว่า เราควรจะปล่อยมันไว้ที่ข้างทางแบบนี้ หรือควรจะรับเลี้ยงมันไว้ดี? และสุดท้ายเขาก็ได้ตัดสินใจว่า ขอรับอุปการะเจ้าเหมียวน้อยไว้เองดีกว่า… “แมวเป็นจุดอ่อนของผม ผมทิ้งมันไว้แบบนี้ไม่ได้หรอกนะ!!” Desmond Shephard หนุ่มนักขับกล่าว เหตุการณ์ในตอนนั้นราวกับว่าเป็นพรหมลิขิตที่ให้ทั้งสองได้มาเจอกัน ครั้งแรกสุดที่หนุ่มนักขับพาเจ้าแมวน้อยมาที่บ้าน มันก็พยายามไต่แข้งไต่ขา เหมือนกำลังพยายามเรียกร้องความสนใจ และถามว่า “ช่วยเป็นมนุษย์ผู้ดูแลและอยู่กับหนูไปตลอดเลยได้มั้ย?” Shephard นักซิ่งใจบุญ ก็ได้ดูแลมันอย่างดีราวกับว่าเป็นลูกน้อยในไส้ของตน เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่า เจ้าแมวได้เลือกบ้านของมันแล้ว และทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งสอง.. สุดท้ายแล้วเจ้าเหมียวตัวน้อยก็ค่อยๆกลับมามีสุขภาพแข็งแรงดังเดิม แถมยังได้ความสุขกลับมาอย่างท่วมท้น งานนี้เจ้าเหมียวสบายตัวแล้ว… เราไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด จากกล้องที่ติดอยู่กับหมวกกันน็อคของหนุ่มนักขับกันบ้างดีกว่า.. …
-
เอ็งเข้าไปยังไง!? นักดับเพลิงช่วยกันตัดท่อเหล็ก ช่วยแมวเหมียวที่ติดอยู่ข้างในให้ปลอดภัย
‘การช่วยเหลือ’ เป็นหนทางในการสร้างความสุขได้ดีที่สุดเลยล่ะ เพราะนอกจากว่าผู้ช่วยเหลือจะได้รับความอิ่มเอมใจแล้ว เหล่าผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวของการช่วยเหลือนั้นเองก็ได้รู้สึกซาบซึ้งและอิ่มเอมไปกับความสุขนั้นด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยที่เข้าไปติดอยู่ในท่อเล็กๆ ไม่สามารถออกมาด้วยตัวเองได้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นมันต้องตายอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายมันก็รอดเพราะนักผจญเพลิงสามารถเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน เหล่านักผจญเพลิง Redding ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อยหลังจากที่พวกเขาพบว่ามันเข้าไปติดอยู่ในท่อเก่าๆ ที่เขรอะไปด้วยสนิม “ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปติดอยู่ข้างในนั้นได้ยังไง” คุณ John Clark หนึ่งในเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงของ Redding Fire Department กล่าว มีคนแจ้งเข้ามาว่าได้ยินเสียงแปลกๆ ร้องออกมาจากที่ไหนซักแห่ง ก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่และพวกเขาก็มาตรวจดูที่เกิดเหตุ ก็พบว่าเป็นเสียงร้องของเจ้าเหมียวร้องด้วยความเจ็บปวด ออกมาจากท่อเล็กๆ ที่อยู่ในสวนหลังบ้าน พวกเขาก็เลยตัดสินใจที่จะตัดส่วนท่อที่เจ้าเหมียวเข้าไปติดออกมา แล้วก็พามายังสถานีดับเพลิงเพราะว่าที่นี่มีอุปกรณ์พร้อมสำหรับการช่วยเหลือเจ้าเหมียวมากกว่า พอมาถึงพวกเขาก็ลงมือใช้ที่ตัดท่อค่อยๆ ตัดอยู่นานกว่า 3 นาทีด้วยกัน จนในที่สุดก็สามารถช่วยเจ้าเหมียวออกมาได้อย่างปลอดภัย ในตอนแรกนั้นสภาพของมันดูโทรมมาก เหล่าเจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็คิดว่ามันน่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่จริงๆ แล้วมันปลอดภัยดี และที่เปื้อนนั้นก็เป็นเพียงแค่ขี้สนิมเท่านั้น ทีมงานนักผจญเพลิงที่ช่วยเหลือเจ้าเหมียวออกมาก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า ‘Rustine’ ขณะเดียวกันภรรยาของคุณ Anderson หนึ่งในทีมงาน ก็ได้ตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า Piper เพราะดูจะเหมาะกว่า…
-
เด็กน้อยช่วยเหมียวจากข้างถนน ต่อมาเขาเป็นมะเร็ง… เจ้าเหมียวก็ให้กำลังใจไม่ห่าง!!
เรื่องราวของหนุ่มน้อยที่และเจ้าเหมียวเพื่อนรัก ที่เขาช่วยเหลือมันมาจากข้างถนน และเมื่อเขาป่วยเจ้าเหมียวก็ตอบแทนด้วยการอยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจให้แทบจะตลอดเวลา นี่คือเจ้าเหมียว Ginja Ninja และเหนุ่มน้อย Paeton เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้ถูกพบในระหว่างทางกลับบ้านของเจ้าหนุ่มน้อย Paeton มันเดินเข้ามาเพื่อขออาหาร “มันถูกทิ้งให้อยู่ข้างถนน รูปร่างของมันในตอนนั้นทั้งผอมโซ และสกปรก มันก็ผ่านมาแล้วเกือบ 4 ปี ที่ลูกชายของฉันพามันมาอยู่ที่บ้านนี้ และเขาก็รบเร้าให้พวกเรารับเลี้ยงมัน” คุณ Mel Morrow แม่ของหนุ่มน้อย Paeton เล่า “ดูสิฮะแม่ มันสกปรก แล้วก็หิวมากๆ เลยด้วย เราต้องช่วยเหลือมัน แล้วก็ดูแลมันด้วยนะ” หนุ่มน้อย Paeton บอกกับแม่ ซึ่งตอนนั้นที่บ้าานของเขาก็เลี้ยงเจ้าเหมียวไว้หลายตัวอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจที่จะดูแลมันจนกว่าจะหาบ้านให้กับมัน แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแผนเลี้ยงไว้ซะเอง ฮร่า “พวกเราพามันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ในเช้าวันต่อมา และคุณหมอบอกว่ามันไม่มีไมโครชิปอยู่ (แสดงว่าไม่มีเจ้าของ) พวกเขาก็เลยแนะนำให้พามันไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ แต่พวกเราเลือกที่จะพามันกลับมาที่บ้าน และแนะนำให้มันรู้จักกับเจ้าเหมียวตัวอื่นๆ” คุณแม่กล่าว แต่เรื่องราวยังไม่ได้จบลงแค่นั้น… หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เจ้าเหมียว Ginja…
-
รู้จักลุงเฉินซี “ฮีโร่แห่งสะพานนานกิง” ช่วยชีวิตผู้คน จากการฆ่าตัวตายมาแล้วกว่า 300 คน
“สะพานนานกิง” สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีในเมืองนานกิงถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2006 มีผู้มาก่อเหตุฆ่าตัวตายกว่า 2,000 คน จนทำให้หน่วยงานของทางการต้องให้ความสนใจกับปัญหานี้เลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา จำนวนของผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ หากไม่มีชายคนหนึ่งที่ทุ่มเทชีวิตของตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้กำลังคิดสั้น ให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป เราไปติดตามเรื่องราวของเขากันเลยดีกว่า คุณลุงคนนี้มีชื่อว่า “เฉินซี” เขาได้รับฉายาว่าเป็น “เทพบุตรแห่งนานกิง” เพราะเขาได้ช่วยชีวิตคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายบนสะพานแห่งนี้ไปหลายร้อยคน จุดเริ่มต้นย้อนไปในปี 2003 เขาเดินทางไปทำงานในเมืองนานกิงและได้พบกับชายแก่คนหนึ่ง ซึ่งชายแก่คนนั้นได้มอบคำแนะนำดีๆ ให้กับเขามากมาย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชายแก่คนดังกล่าวได้ทะเลาะกับลูกชายเรื่องมรดก จนสุดท้ายชายแก่คนนั้นตรอมใจ ไม่ยอมกินอาหาร และเสียชีวิตไปหลังจากนั้นไม่นาน ตอนนั้นเขาคิดว่า ถ้าเขาเข้าไปถามไถ่และพูดคุยกับชายแก่คนนั้น บางทีเขาอาจไม่ตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เขาจึงตั้งใจช่วยชีวิตผู้อื่นให้ได้มากที่สุด นับตั้งแต่นั้นมา ทุกๆ วันหยุด เขาจะขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตนเองมายังสะพานนานกิงแห่งนี้ จากนั้นเขาก็จะเดินลาดตระเวนบนสะพาน หากเขาพบใครที่กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจะเข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจเพื่อให้พวกเขามีแรงสู้ต่อไปในชีวิต ซึ่งตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เขาได้ช่วยชีวิตคนไปแล้วกว่า 300 ชีวิต อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่อยากรับน้ำใจนี้จากเขา บางครั้งเขาก็ถูกคนที่เขาเข้าไปช่วย…
-
เมื่อลูกหมาตัวน้อยถูกฝังทั้งเป็น แต่ตำรวจคนหนึ่ง ได้เข้าไปช่วยชีวิตมันไว้ทันเวลา…!!!
สำหรับคนที่รักสัตว์ คงจินตนาการตามกันไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะ ว่าคนที่ชอบทำร้ายหรือทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่ไม่มีทางสู้ จะต้องมีจิตใจที่โหดเหี้ยมและเย็นชาขนาดไหน และนี่คือเรื่องราวของลูกหมาตัวน้อย ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย แต่กลับถูกเอามาฝังทั้งเป็นซะงั้น T^T แต่ในเรื่องร้ายๆ ก็มักจะมีเรื่องราวดีๆ อีกแง่มุมหนึ่งให้เราได้สัมผัสกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ เมื่อทีมตำรวจในเมือง Williston รัฐฟลอริด้า ได้รับแจ้งว่ามีคนได้ยินเสียงร้องครวญครางของหมาน้อย ในบริเวณป่าแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้าออกไปปฏิบัติตามหน้าที่ทันที.. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามตามหาแหล่งที่มาของเสียงร้องครวญครางดังกล่าว จนได้เจอกับกองดินที่ดูเหมือนมีคนมาขุดและฝังเอาไว้ และช็อคสุดๆ เมื่อพวกเขาพบว่าเสียงมาจากลูกหมาตัวน้อย ที่ถูกฝังทั้งเป็นลงในกองดินลึกลงไปกว่าครึ่งฟุต และถูกปล่อยทิ้งไว้ให้จมในกองดินอย่างไร้เยื่อใย หลังจากนั้นพวกเขาก็นำมันไปส่งโรงพยาบาลสัตว์เล็กทันที เมื่อคุณหมอวินิจฉัยแล้วพบว่า เจ้าหมาน้อยตัวนี้ยังเด็กอยู่มาก เพราะมันเพิ่งจะมีอายุได้เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น!! ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสัตวแพทย์ ก็ต้องช็อคสุดๆ ถึงความโหดเหี้ยมของใครซักคน ที่พยายามฝังเจ้าหมาน้อยผู้ไร้เดียงสาให้ตายทั้งเป็น เป็นโชคดีของเจ้าหมาน้อย Tucker (เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งชื่อให้) ที่มีคนไปพบมันเข้าและถูกช่วยชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า ที่จะให้อาหาร ให้นม และฟื้นฟูสุขภาพของมันให้กลับมาแข็งแรงดั่งเดิมได้อีกครั้ง สุดท้ายเจ้า Tucker ก็ถูกรับไปเลี้ยงไว้โดยเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์คนหนึ่ง ผู้ที่พร้อมจะดูแล และให้ความรักกับมันได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นมันก็ได้อาศัยอยู่กับบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก…
-
คุณลุงสละเวลาลงไปช่วยเหมียวจรจัดจนต้องตกไฟลท์ แต่กลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขารอดชีวิต!?
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดสะเทือนใจเกี่ยวกับวินาทีแห่งความเป็นความตายของคนๆ หนึ่ง และกลายเป็นว่าฮีโร่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่งที่ช่วยชีวิตคุณลุงของนักเปียโนไว้ราวกับปาฏิหาริย์!!! Yuriko Morota นักเปียโนหญิงชาวญี่ปุ่นได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับคุณลุงของเธอและเจ้าเหมียวจรจัดลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องราวขณะที่คุณลุงของเธอกำลังจะไปขึ้นเครื่องเพื่อบินไปเจรจาเกี่ยวกับธุรกิจตอนปี 1985 เขาได้เจอเจ้าเหมียวจรจัดระหว่างทาง ด้วยความที่เขาเป็นคนรักแมวอยู่แล้ว เขาเลยหยุดไม่ได้ที่จะลงไปช่วยเจ้าเหมียว โดยการนำมันกลับไปดูแลและให้อาหารที่บ้าน ถึงจะตกเครื่องบินไปก็ไม่สลักสำคัญอะไร… หลายๆ คนอาจจะรู้สึกโกรธจัดถ้าต้องตกเครื่องเพราะเรื่องนี้ แต่กลายเป็นว่าคุณลุงของเธอกลับเป็นคนที่โชคดีมากๆ ซะงั้น… ใจความที่เธอเขียนเล่าเรื่องก็ประมาณว่า ’31 ปีที่แล้ว คุณลุงกำลังจะไปขึ้นเครื่องเพื่อบินไปเจรจาธุรกิจของเขา เขาหยุดข้างทางเพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อยจรจัดตัวหนึ่ง กลายเป็นว่าไฟลท์นั้นของ JAL ได้เกิดเหตุการณ์เครื่องยนต์ขัดข้องและตก เขารู้สึกโชคดีอย่างมาก เขาตั้งชื่อแมวตัวนั้นว่า Nikko และคุณลุงก็ดูแลมันตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเขา…’ เครื่องบินเกิดเหตุขัดข้องเพราะการซ่อมแซมตรงส่วนหางที่ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดการระเบิดตรงส่วนนั้น กัปตันพยายามประคองเครื่องได้ราวๆ 32 นาทีก็ตกลงที่จังหวัดกุมมะ ใกล้ๆ กับภูเขา Osutaka ในส่วนของไฟลท์นั้นเป็นของ Japan Airlines ไฟลท์ 123 ที่ตกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ปี 1985 และกลายเป็นว่ามันคือหนึ่งในอุบัติเหตุทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ มีผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 524 รายเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น… ภาพเหตุการณ์สลดในครั้งนั้น…
-
พลเมืองดีช่วยผู้หญิง (และหมาตัวหนึ่ง) จากรถจมน้ำ ถ้ามาช้ากว่านี้สักนาที พวกเค้าคงไม่รอด..
ทุกๆ ครั้งที่เราได้เห็นเรื่องราวดีๆ ของเพื่อนมนุษย์ที่ถึงแม้จะไม่รู้จักกัน แต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายไปได้ เรื่องราวเหล่านี้มักจะทำให้เรารู้สึกดีใจเสมอ ทำให้เราได้กลับมาย้อนคิดว่า ถึงแม้ปัจจุบันโลกจะเต็มไปด้วยความวุ่นวายขนาดไหน ก็ยังคงมีคนดีๆ เหลืออยู่…. เช่นเดียวกันกับเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองแบตันรูช เมืองหลวงของรัฐลุยเซียนา ที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง จนชาวเมืองต่างต้องรีบอพยพกันออกมาอย่างเร่งด่วน และเหตุการณ์สุดระทึกก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ หญิงสาวคนหนึ่งติดอยู่ในรถไม่สามารถออกมาเองได้ และรถก็กำลังจะค่อยๆ จมน้ำอย่างรวดเร็ว….. แต่โชคยังช่วยที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ผู้เป็นดุจดั่งฮีโร่ของเธอรีบเข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลา เราไปชมคลิปเหตุการณ์การช่วยเหลือครั้งนี้กันเลย ถ้าช้ากว่านี้เพียงไม่กี่วินาที อาจทำให้เธอและหมาน้อยที่ติดอยู่ในรถไม่รอดแน่ๆ นับว่าเป็นความโชคดีที่สุดของทั้งสองชีวิตที่สามารถรอดพ้นมาจากวินาทีเฉียดเป็นเฉียดตายครั้งนี้มาได้ ส่วนคนที่เข้าไปช่วยเหลือก็พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า ฮีโร่ที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ ไม่ต้องใส่ผ้าคลุม ไม่ต้องมีอำนาจล้นฟ้า แต่อาจเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นี่สิฮีโร่ในชีวิตจริง ที่พวกเราสามารถเป็นกันได้ทุกคน!! ที่มา: Youtube
-
เจ้าหมาจรจัด “ไม่ยอมให้คนช่วยชีวิต” เพราะอยากให้คนช่วย ‘ลูก’ ที่มันซ่อนเอาไว้ด้วย!!!
วันนี้จะพาไปรู้จักกับเจ้า Petunia หมาจรจัดที่อยู่ตัวเดียวมาตลอด มันเดินไปที่สวนสาธารณะบ้างเพราะว่าบางทีมีคนใจดีเอาอาหารให้กับมัน แต่ส่วนมากมันก็จะอยู่เป็นที่ จนกระทั่งองค์กร Hope for Paws จากลอสแองเจิลลิสได้รู้ข่าว จึงได้รุดมาหามันเพื่อที่จะช่วยเหลือมันให้ไปอยู่ที่ที่สบายกว่านี้ แต่แล้วมันก็เกิดกลัวขึ้นมา แล้ววิ่งไปหลบอยู่ที่ใต้รถกระบะ Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งได้เล่าว่ามันพยายามหนีอย่างมาก รู้สึกถึงความกังวลของมันได้เลย จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถจับขาของมันไว้ได้ . ถึงแม้ว่าจะดูโหดร้ายไปซักหน่อยกับการทำแบบนี้ แต่พวกเขาหวังดีเพราะอยากให้มันได้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ มันยังมีอาการกลัวอยู่ แต่มันก็ไม่หนีแล้ว เพราะว่ารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น หลังจากมันได้รับการดูแลอย่างดีในมือของคนช่วยชีวิต แต่มันก็ยังรู้สึกกังวลจนทุกคนดูออก สิ่งที่พวกเขาเดาก็คือ… มันเป็นอาการของแม่ห่วงลูก เธอมีลูกอยู่ใกล้ๆ แถวนี้แน่ๆ พวกเขาออกตามหาลูกมัน จนสุดท้ายก็เจอลูกของมันที่นอนอยู่ใต้พุ่มไม้ . ลูกของมันอายุเพียง 3 วันเท่านั้น ทางสถานรับเลี้ยงตั้งชื่อให้ว่า Petals แล้วก็พาตัวไปพร้อมกับแม่ของมัน ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้า Petunia จะสบายใจมากยิ่งขึ้น ทาง Hagar ผู้ดูแลยังกังวลว่าบางทีมันอาจจะซ่อนลูกไว้ที่อื่นด้วย ก็เลยทำการค้นหาโดยลองให้ Petunia นำทางไปตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่พบอะไร เพราะทุกครั้งที่วิ่งไป มันก็กลับไปยังที่ที่เจ้า Petals อยู่เสมอ ตอนนี้ชีวิตของทั้งคู่ก็มีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นอย่างมากในบ้านหลังใหม่ ถือเป็นอีกเรื่องราวดีๆ…
-
ปัญหาเกี่ยวกับ ‘ระบบประสาท’ ทำให้เจ๋าเหมียวเอ๋อๆ ไม่ค่อยปกติ แต่มันก็น่ารักได้อีก
Neuro Dan เป็นเจ้าเหมียวที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท นั่นทำให้ชีวิตของมันนั้นยากลำบากกว่าแมวตัวอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรมันก็มักจะทำหน้าตาเหมือนกับว่า ยิ้มอยู่ตลอดเวลา มันถูกทิ้งให้พบกับชีวิตที่ย่ำแย่ แต่โชคดีที่ทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Misfit Critter Farm & Sanctuary ได้ช่วยเหลือมันไว้ได้ แต่พวกเขาก็เป็นห่วงกับอนาคตของมันเป็นอย่างมาก เพราะว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เจ้าเหมียว Dan มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ที่ส่งผลให้กระดูกสันหลังของมันเคลื่อนมาอยู่ข้างหน้า แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้มันใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าได้ มันอาจจะทำหน้าตา และมีท่าทางแปลกๆ แต่มันก็พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้า Dan ก็ชอบที่จะเล่นของเล่นอยู่ดี โดยเฉพาะอะไรที่เป็นขนๆ เนี่ยชอบนักล่ะ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์พยายามอย่างหนักเพื่อหาบ้านให้กับมัน นั่นเพราะว่ามันเป็นเหมียวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ เจ้าทาสคนใหม่ของเจ้า Dan เป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆ เขาช่วยฝึกให้มันเดินจนทำให้มันสามารถช่วยตัวเองได้บ้างแล้ว เท่านั้นยังไม่พอผู้คนรอบๆ ข้างของเจ้าทาสเองก็มีแต่คนที่รักแมวทั้งนั้นเลย ต้องขอบอกเลยว่าถึงแม้ชีวิตมันจะเกิดมาไม่ได้สมบูรณ์พร้อมไปซะทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นแมวเหมียวที่มีชีวิตดีมากที่สุดในโลกเลยทีเดียวล่ะ ทาสของเจ้า Dan เคยพามันไปหาหมอ และคุณหมอก็บอกว่ามันไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานเกิน…
-
คู่สามีภรรยายอมงัดแงะ ‘รถยนต์’ ของตัวเองไปครึ่งคัน เพื่อช่วยชีวิตเหมียวน้อยที่ติดอยู่ข้างใน!!
ว่ากันด้วยเรื่องของเทคโนโลยีของมนุษย์และสัตว์โลกนั้นมักจะไปด้วยกันได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ มีหลายๆ ครั้งที่เหล่าเทคโนโลยีนั้นสร้างปัญหาให้กับพวกมัน จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เจ้าเหมียวน้อยอายุ 6 สัปดาห์ได้เข้าไปติดอยู่ในรถครอบครัวของครอบครัวหนึ่ง และมันก็ออกมาไม่ได้ รถคันนี้เป็นของคุณ Denise Williford-Neal และสามี ที่อาศัยอยู่ในเมือง Vero Beach รัฐฟลอริด้า เป็นรถที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพวกเขาเอง แต่หลังจากที่พบว่ามีเจ้าเหมียวน้อยเข้าไปติดอยู่ข้างใน และออกมาไม่ได้ พวกขาก็เลือกที่จะแงะรถและช่วยมันออกมาอย่างไม่คิดเลยทีเดียว เธอรีบโทรหาช่างจากร้านซ่อมรถ Spada’s Total Auto Repair ในทันที และพวกเขาก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุอย่างเร็วไว ช่างทั้งสองคนก็คือคุณ Ron และ Valerie ก็เช็คดูและพบว่าเจ้าเหมียวน้อยมันอยู่ในส่วนที่ยากแก่การแงะออกมา การจะช่วยมันได้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นนั่นก็คือต้องตัดแผงควบคุมเข้าไป ซึ่งจะทำให้รถคันนี้ เอิ่ม เรียกง่ายๆ ว่าพังไปในทันที แต่คุณ Densie และสามีก็ยังยืนยันที่จะช่วยชีวิตเจ้าเหมียวน้อย และยอมเสียรถสุดที่รักไป ช่างทั้งสองจึงลงมืออย่างไม่รีรอ เพราะเกรงว่าเจ้าเหมียวน้อยจะหิวจนตายซะก่อน พวกเขาค่อยๆ ตัดส่วนแผงควบคุมเข้าไปทีละนิดๆ อย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าอุปกรณ์จะสร้างความหวาดกลัว และทำอันตรายกับเจ้าเหมียวน้อย จนในที่สุดก็ช่วยมันออกมาได้ โดยใช้เวลารวมทั้งหมด 1…
-
ชายเร่ร่อนล้มเลิกความคิด ‘ฆ่าตัวตาย’ หลังคุณแม่ลูกหนึ่งชวนคุย และซื้อโดนัทให้กิน…
ก็อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าโลกของเราตอนนี้กำลังเกิดเหตุวุ่นวายอย่างหนัก จิตใจของมนุษย์เราเริ่มที่จะตกต่ำลงในทุกๆ วัน ทั้งเรื่องของความเห็นแก่ตัวในสังคมที่เร่งรีบ การก่อการร้ายในประเทศทางแถบยุโรปที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้วในสังคมก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้…. และนี่คือคุณ Casey คุณแม่วัยรุ่นมือใหม่ และลูกตัวน้อยของเธอ อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ออกไปข้างนอกบ้าน และก็ได้พบกับชายไร้บ้านคนหนึ่งกำลังหาเศษเงินอยู่ตามทางเดิน และเรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นเพราะทั้งคู่ได้เดินมาเข้าร้าน Dunkin Donuts ร้านเดียวกันและเขาก็นำเงินที่หามาได้นั้น หาซื้ออะไรซักอย่างทาน… เธอก็เลยตัดสินใจที่จะไปชวนเขาพูดคุยด้วย และก็รู้สึกว่าบางทีตัวเองอาจจะพูดมากเกินไปจนทำให้เขารำคาญ “ฉันเข้าไปชวนเขาคุย แล้วก็คุยๆ อยู่อย่างนั้น โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเลย แม้ว่าเขาไม่ค่อยอยากจะพูดด้วยซักเท่าไหร่” Casey เล่า หลังจากนั้นเธอก็ชวนเขาไปนั่งที่โต๊ะด้วยกันแล้วซื้อโดนัทให้เขา รอบนี้ดูเหมือนว่าเขาเริ่มที่จะเปิดใจยอมคุยกับเธอขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ เพราะเขาเริ่มจะเล่าเรื่องของตัวเอง และบอกชื่อของตัวเองว่า Chris ชายไร้บ้านเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองถึงเรื่องท่าทีของผู้คนที่มีต่อเขา เพราะว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะปัญหาชีวิตที่รุมเร้า เพราะการจากไปของแม่ที่เลี้ยงดูเขามาเพียงลำพัง จึงทำให้เขาเริ่มติดยาและสูญเสียทุกอย่าง Casey เล่าว่าเธอใช้เวลาคุยกับเขานานเป็นชั่วโมง และก่อนจากกันชายไร้บ้านได้มอบกระดาษยับๆ ที่เขียนข้อความมาให้กับเธอ ในกระดาษเขียนไว้ว่า “จริงๆ แล้ววันนี้ผมตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะคุณทำให้ผมตัดสินใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป ขอบคุณนะครับ…
-
น้ำใจเพื่อนมนุษย์!! ชาวบ้านยืนจับมือกัน ช่วยหญิงสาวที่ติดอยู่ในรถ ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว
เนื่องจากช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วมเฉียบพลันขึ้นที่เมืองเอลลีคอตต์ซิตี รัฐแมรีแลนด์ ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ทำให้ประชาชนและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ผู้คนต่างพากันตั้งตัวรับมือไม่ทัน และนี่คือภาพเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอุทกภัยที่เกิดขึ้น เป็นภาพของของประชาชนที่จับมือต่อกันเป็นทอดๆ ยืนต้านกระแสน้ำท่วมที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากบนท้องถนน เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ติดอยู่ในรถ ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ขึ้นโดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sara Arditti เธอบอกว่า “สามีของเธอได้อยู่ในเหตุการณ์นี้ ในขณะที่น้ำไหลทะลักเขาและคนอื่นๆ ได้พยายามช่วยเหลือหญิงสาวที่ติดอยู่ในรถออกมา” โชคดีที่ช่วยเหลือหญิงสาวออกมาได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ มาดูคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกัน เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นอุทกภัยครั้งรุนแรง มีรายงานพบผู้เสียชีวิต 2 คน ติดอยู่ภายในรถที่ถูกน้ำท่วม อาคารบ้านเรือน ธุรกิจห้างร้านต่างได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดต้องใช้เวลานานในการซ่อมแซมฟื้นฟู ที่มา mirror , Sara Arditti
-
ตำรวจทุบกระจกรถเพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบ หลังถูกทิ้งในรถที่จอดกลางแดดนานหลายชั่วโมง!!
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Metro ได้ทำการเผยคลิปวีดีโอของน้องหมาผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หลังถูกเจ้านายทิ้งไว้ภายในรถที่จอดอยู่ท่ามกลางแดดร้อนจัด แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะเมื่อพลเมืองดีได้ผ่านมาเห็น ก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วย ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พวกเขาก็ตัดสินใจทุบกระรถ เพื่อนำตัวของน้องหมาออกมาทันที เพราะได้สังเกตเห็นว่ามันมีท่าทางที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก และคงอ่อนเพลียจากอุณหภูมิที่ร้อนจัดภายในรถ ในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถช่วยชีวิตของมันได้สำเร็จ และรีบดึงตัวของมันออกมาจากรถคันดังกล่าวทันที เมื่อเรื่องราวของเจ้าหมาผู้โชคร้ายตัวนี้ ได้ถูกนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ บรรดาชาวเน็ตต่างก็เข้ามาวิพากษ์ถึงการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบของผู้เป็นเจ้าของสุนัขกันเป็นจำนวนมาก ภาพของน้องหมาในขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวน้องหมาออกมาจากรถ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่บีบใจคนรักน้องหมาเป็นอย่างมาก เพราะท่าทางของมันดูอ่อนเพลีย และน่าสงสารเหลือเกิน ชมคลิปไม่ได้ คลิกที่นี่ โชคดีจริงๆ ที่มีคนผ่านมาเห็นซะก่อน ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าน้องหมาจะต้องทนทุกข์ทรมาน กับสภาพอากาศที่ร้อนระอุภายในรถได้อีกไม่นาน และคงจะขาดใจตายในที่สุด ที่มา : metro
-
‘Bingo’ แมวที่เกือบหนาวตาย แต่คนใจดีช่วยไว้ และโลกออนไลน์ก็ช่วยหาบ้านใหม่ให้!!
เราคงเคยได้ยินข่าวที่ว่า มีสัตว์มากมายล้มตายด้วยสภาพอากาศที่หนาวจัด ยิ่งสัตว์ที่ไม่มีใครดูแล มันคงลำบากน่าดูกับกับเผชิญกับอากาศที่หนาวจัด เช่นเดียวกับ Bingo แมวน้อยที่เกือบตาย เพราะอากาศที่เย็นจัด แต่มันโชคดีที่รับการช่วยเหลือไว้ทัน!! Bingo ถูกคนที่พบมัน นำตัวมารักษาในตอนดึกคืนหนึ่ง ในขณะที่มันคัดจมูกอย่างรุนแรง และดูเหมือนว่ามันใกล้จะตายแล้ว ตาทั้งสองข้างของมันติดเชื้อ ทำให้มันไม่สามารถมองเห็นได้ เจ้าหน้าที่ให้ยาปฏิชีวนะชนิดรุนแรงกับมัน และให้มันอยู่ในกรงพิเศษ พร้อมกับขวดน้ำร้อน เพื่อช่วยให้หายจากอาการคัดจมูก หลังจากที่เรื่องของ Bingo ถูกแชร์ลงใน Facebook มีคนจำนวนมากให้การสนับสนุนการช่วยเหลือ เพื่อต้องการให้แมวน้อยตัวนี้หายเป็นปกติ หลังจากนั้นประมาณ 5 วัน มันเริ่มส่งสัญญาณว่ามีอาการดีขึ้น ทุกคนต่างดีใจและโล่งอก หลังจากนั้นมันได้บ้านที่อบอุ่น ทุกคนที่นั่นก็รักมันมากด้วย เจ้า Bingo ก็สู้อย่างเต็มที่เช่นกัน… และนี่คือวินาทีเฉียดตายของ Bingo ที่ครั้งแรกใครๆก็นึกว่ามันไม่รอดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ช่วยมันอย่างเต็มที่จนหายเป็นปกติอีกครั้ง โชคดีแล้วที่รอดมา โตขึ้นมาหนูห้ามดื้อ ห้ามซนนะจ๊ะ ^^ ที่มา boredpanda, kittenscapetown
-
กลุ่มผู้ต้องหารวมพลัง “แหกคุก” ออกมาช่วยชีวิตผู้คุมขัง ที่กำลังหมดสติอยู่ !!!
คำว่า ผู้ต้องหา อาจจะฟังดูแล้วคนที่ถูกเรียกนั้น ทำความผิดอย่างรุนแรง ถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี แต่ใครจะรู้ว่ามีเรื่องราวดีๆที่ กลุ่มผู้ต้องหา กลุ่มหนึ่งที่ได้ทำเรื่องอันน่าประทับใจขึ้นในครั้งนี้ เรื่องราวดีๆนี่เกิดขึ้นที่ Parker County Jail เมื่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเกิดหมดสติกระทันหัน และในระหว่างนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่คนอื่นอยู่เลย นอกจากผู้ต้องหาที่ถูกคุมขัง จึงทำให้กลุ่มผู้ต้องหารวมตัวกันแหกคุกเพื่อออกมาช่วยเจ้าหน้าที่คนนั้น จะเห็นได้ว่า หลังจากออกมาได้แล้ว มีการเข้าไปตรวจสอบร่างกายของเจ้าหน้าที่คุมขัง รวมถึงตะโกนให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างนอกเข้ามา พวกเขาส่งเสียงดังลั่น เนื่องจากตรงนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ชั้นบนลงมา เจ้าหน้าที่ Ryan Speegle ผู้ที่มาถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกได้เล่าว่าเขามีกุญแจ เขามีปืน พร้อมกับเห็นผู้ต้องหาหลุดออกมา มันช่างเป็นเหตุการณ์ที่ตัดสินใจยากว่าจะทำอะไรก่อนดี ก่อนอื่นเรามาชมคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น… (นาทีที่ 0.50) โดยผู้ต้องหาคนหนึ่งชื่อว่า Nick Kelton ให้สัมภาษณ์ว่า “จู่ๆเขาก็ล้มไปแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาจจะทำให้ตายได้เลย” อีกทั้งเขายังเล่าว่า พวกเขากลัวตำรวจที่เข้ามาพร้อมกับเอาปืนจ่อ เพราะตำรวจคิดว่าพวกเขาแหกคุกเพื่อจะหนีออกไปข้างนอก สำหรับเจ้าหน้าที่ที่หมดสติไปนั้น ตอนนี้อาการปลอดภัยดี อาทิตย์หน้าสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้เราไม่มองคนอื่นเพียงแค่ภายนอก แม้จะเป็นผู้ต้องหาที่โดนคดี…
-
ลูกฮิปโป เผชิญหน้ากับสิงโตนักล่า ปกป้องผู้เป็นแม่ที่นอนป่วย ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ!!
สัตว์ ก็มีสัญชาตญาณปกป้องคนที่มันรักจากการโดนทำร้ายเหมือนกับมนุษย์เช่นกัน ดูอย่างเรื่องราวของลูกสิงโตยอดกตัญญูตัวนี้สิ มันกำลังยืนปกป้องร่างของผู้เป็นแม่ที่นอนป่วย ณ ริมแม่น้ำซาบี อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ในแอฟริกาใต้อยู่ แม้ว่าในขณะนั้น จะมีเจ้าสิงโตนักล่าตัวหนึ่ง กำลังย่องเข้ามาใกล้ๆ หมายจะกินแม่ของมัน แต่ลูกฮิปโปใจกล้ากลับวิ่งขู่สิงโตตัวนั้นทันที โดยที่ไม่มีท่าทางเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย จนสิงโตค่อยๆ เดินห่างออกไปทันที มันคงจะรักแม่ของมันมากๆ เลยละ หลังจากที่เจ้าลูกฮิปโปได้ไล่สิงโตให้ออกห่างจากแม่ของมัน มันก็เดินกลับไปยังที่ที่แม่นอนอยู่ แต่เจ้าสิงโตนักล่าก็ไม่ยอมถอยไปง่ายๆ เดินกลับไปหมายจะกินฮิปโปน้อย แต่ดีที่มันไหวตัวทัน รีบหันหน้าเข้าขู่สิงโตทันที จนมันยอมถอยออกไปในที่สุด ด้านผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ได้ออกมาเผยว่า แม้ว่าแม่ฮิปโปจะไม่มีแรงลุกขึ้นมาปกป้องลูก เพราะสาเหตุจากการขาดอาหาร แต่ลูกของมันก็ลุกขึ้นมาปกป้องแม่ของมันแทน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากๆ เลยทีเดียว (ชมคลิปกันเลยดีกว่า หากชมไม่ได้ คลิกที่นี่) อย่างไรก็ตาม ผู้ถ่ายคลิปบอกว่าถึงแม้มันจะรอดชีวิตจากการเป็นเหยื่อของสิงโตครั้งนี้ แต่ก็ไม่สามารถรอดจากการป่วยได้ และทั้งสองก็เสียชีวิตจากการอดอาหารในอีก 2 วันให้หลัง ถึงมันจะเศร้า แต่ก็เป็นตามความเป็นไปของธรรมชาติล่ะนะ…. ที่มา : dailymail
-
มีความฮา!! คนใจบุญรีบนำแมวน้อยใกล้ตายไปหาหมอ ดันพบว่ามันเป็นเพียง “ตุ๊กตาหมา”
ด้วยความที่คุณเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจเมตตา รักสัตว์ แน่นอนว่าหากคุณเห็นพวกมันกำลังตกที่นั่งลำบาก และอาจกำลังใกล้ตาย คุณจะต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที ถึงแม้ว่าความหวังอาจจะริบหรี่ แต่ก็ต้องรีบช่วยชีวิตให้ถึงที่สุด เหมือนดังเช่นเรื่องราวมนุษย์ผู้มีจิตใจดีคนหนึ่ง ที่จู่ๆ ก็บังเอิญไปเจอเจ้าเหมียวบนเกาะเกิร์นซีย์ ในสหราชอาณาจักร โดยเจ้าแมวน้อยตัวนี้อยู่ในกล่องเล็กๆ ใบหนึ่ง ในสภาพที่น่าเวทนา และเหมือนใกล้ตาย เพราะเป็นคนดีมีน้ำใจ งานนี้เขาจึงรีบส่งตัวเจ้าแมวเหมียวไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ GSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือทันที โอ้วววว ช่างเป็นพลเมืองดีอะไรขนาดนี้ ด้าน Steve Byrne ผู้จัดการของมูลนิธิดังกล่าว ก็ได้นำกล่องที่มีผู้หวังดีอ้างว่า มีแมวใกล้ตายอยู่ในนั้นไปตรวจสอบ และนั่นก็ทำให้เขาเริ่มประหลาดใจ เพราะตัวของเจ้าเหมียวเต็มไปด้วยโคลน “ผู้ที่ได้นำแมวมาหาเจ้าหน้าที่ มีอาการกังวล และโศกเศร้ามาก เพราะเจ้าแมวนอนแน่นิ่งอยู่ในกล่องที่มีผ้าห่มคลุมไว้“ Steve กล่าว และหลังจากที่ได้นำกล่องไปตรวจสอบเสร็จ เขาก็พบว่าเจ้าแมวเหมียวที่พลเมืองนำมาส่งนั้น ความจริงแล้วมันคือ “หุ่นมือ” รูปน้องหมา!! โอ้วววว พลิกล็อคซะอย่างนั้น เมื่อ Steve ได้นำเรื่องสุดฮานี้ไปบอกเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กลับไม่มีใครเชื่อเขาเลย แต่สุดท้ายพวกเขาก็เริ่มมองออก และเห็นว่าที่แท้มันก็แค่น้องหมาปลอมดีๆ ตัวหนึ่งนี่เอง โอ๊ยยยย…
-
ภารกิจช่วยหมาไซบีเรียน โดนขังกรง-ล่าม นำไปสู่การช่วยแมว 13 ชีวิต อย่างไม่น่าเชื่อ!!
เมื่อเห็นสัตว์ร่วมโลกต้องเผชิญกับชะตากรรมที่แสนลำบาก เป็นคุณจะรีบเข้าไปช่วยเหลือมันหรือไม่? และถ้าหากคุณได้เข้าไปช่วยเหลือพวกมัน ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงเป็นคนที่มีจิตใจดีงามเหมือนดังเช่น Cassandra Clark … หญิงสาวผู้มีใจเมตตา ที่กำลังพาน้องหมาของตัวเองไปเดินเล่น แต่แล้วจู่เธอก็ได้ยินเสียงร้องของเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ตัวหนึ่ง ที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงบริเวณหน้าระเบียงของบ้านหลังหนึ่ง ในแดลลัส รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครั้งแรกที่ได้เห็นน้องหมา เธอก็ยังคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเธอได้เห็นมันอีกครั้ง เธอก็พบกับความผิดปกติบางอย่างเข้า… น้องหมาผู้น่าสงสาร ถูกจับมาสวมตระกร้อครอบปากที่ทำจากโลหะ มิหนำซ้ำยังถูกขังอยู่ในกรงเล็กๆ บนระเบียงหน้าบ้านเพียงลำพังท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ภาพที่น่าเวทนาของน้องหมา ทำให้ Cassandra อดสงสารมันไม่ได้ จนในที่สุดเธอก็โทรไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แต่น่าเศร้าที่พวกเขาบอกว่าไม่สามารถไปช่วยมันได้ภายใน 24 ชั่วโมง ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจ โพสต์ภาพพร้อมกับข้อความเกี่ยวกับน้องหมาลงในเฟสบุ๊คทันที หลังจากที่โพสต์ภาพไปได้ไม่นาน พลังของโซเซียลก็บังเกิด เพราะบรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันแชร์เรื่องราวของน้องหมาไปกว่า 1,000 ครั้ง แถมยังมีองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Dallas Animal Services พร้อมยืนมือเข้ามาช่วยเหลือมันอีกด้วย เมื่อองค์กรช่วยเหลือสัตว์…
-
‘ลูกหมี’ ถูกนำมาขายในตลาดสัตว์ป่าลาว โชคดีได้กลุ่มไบค์เกอร์ ช่วยไถ่ชีวิตมันส่งศูนย์ดูแล…
หนึ่งชีวิตก็มีค่า เพราะสัตว์ป่าก็มีหัวใจ อย่าทำร้ายพวกเขาเลยถ้าไม่รักก็หลีกไป #เหมียวขาสั้น เคยได้ยินบุคคลคนคนหนึ่งพูดเอาไว้ ซึ่งมันก็จริงที่สุดแล้ว… เจ้า “เวียงจันทร์” หรือลิตเติลมิซซี่ (Little Missy) เป็นลูกหมีสายพันธุ์หมีหมา (Sun Bear) ซึ่งถูกพลัดพรากจากแม่ของมัน และถูกนำมาขายในตลาดลักลอบค้าสัตว์ป่าในประเทศลาว มันถูกซื้อไปเลี้ยงเสมือนสัตว์เลี้ยงภายในบ้านโดยคนในท้องถิ่น แต่แน่นอนล่ะ เราไม่สามารถคาดหวังให้สัตว์ป่าเชื่อฟังเหมือนกับสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้น ด้วยความผิดหวังที่มันไม่เชื่อฟัง เจ้าของเจ้าเวียงจันทร์จึงตัดสินใจนำมันออกไปขายทิ้ง… ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประเทศลาว ระบุว่า “เนื่องจากการเลี้ยงดูเจ้าเวียงจันทร์นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้เจ้าของตัดสินใจจะขายต่อให้แก่กลุ่มนักธุรกิจชาวจีน” (ถ้าขายไปนี่ไม่รอดแน่ๆ -*-) Michelle Walhout-Tanneau ผู้กำกับการศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประเทศลาว กล่าวว่า “คนในท้องถิ่นทราบว่าในตลาดมืดนั้นหมีหมามีมูลค่าสูง เนื่องจากสามารถนำไปบริโภคและทำเป็นยารักษาโรคได้” อย่างไรก็ตาม นับเป็นโชคดีของเจ้าเวียงจันทร์ ที่ความช่วยเหลือได้เข้ามาหามันก่อนจะถูกนำกลับไปขายอีกครั้ง มันถูกช่วยเหลือโดย กลุ่มนักบิดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้มาท่องเที่ยวที่แขวงไชยบุรี อันเป็นบริเวณที่กระฉ่อนในเรื่องตลาดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ นักบิดกลุ่มนี้ได้บังเอิญมาพบกับเจ้าของเจ้าเวียงจันทร์ และเมื่อพวกเขาทราบเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาจึงได้ร่วมกันช่วยให้เจ้าเวียงจันทร์หลุดพ้นจากชะตากรรมอันโหดร้าย Walhout-Tanneau กล่าวว่า “นักบิดกลุ่มนี้รู้จักศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า พวกเขาจึงหว่านล้อมให้เจ้าของส่งตัวหมีให้กับพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะได้พามันไปเขตป่าสงวนที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ดีกว่าปล่อยให้ชะตากรรมของมันต้องตกอยู่กับกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน” …
-
Archer น้องหมาถูกล่ามโซ่ทิ้งไว้ในบ้านน้ำท่วม ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที…!!
เพื่อนๆ ลองคิดดูสิว่า วันใดวันหนึ่งหากเราได้ช่วยชีวิตของน้องหมาไม่ว่าจะจากเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม เหมียวขี้อ้อนเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้สึกตื้นตันใจ ที่ครั้งหนึ่งเราได้ช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ ถึง 1 ชีวิตแน่นอน ถ้าอย่างนั้นนายอำเภอ Troy Nehls ก็คงจะรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน เพราะเขาพร้อมกับนักข่าวจาก KPRC และนักข่าว NBC ได้ช่วยเหลือชีวิตน้องหมาตัวหนึ่งให้รอดพ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วม ที่รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไงละเหมียว โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองฮูสตัน ในรัฐเทกซัส ต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงทำให้บ้านเรือนบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบตาม และที่สำคัญมันยังเดือดร้อนไปถึงสัตว์ 4 ขาอย่างน้องหมาด้วยนะ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 ทางเว็บไซต์ Huffingtonpost มีรายงานว่า น้องหมาผู้โชคร้ายตัวนี้มีชื่อว่า Archer มันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมบอร์เดอร์ คอลลี่ วัย 2 ขวบ ที่ถูกล่ามโซ่ทิ้งไว้ในบ้านระหว่างเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม โถๆๆ น่าสงสารจัง แต่ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะเมื่อนายอำเภอ พร้อมกับนักข่าวได้เห็นเข้า พวกเขาจึงรีบเข้าช่วยเหลือ…
-
เรื่องราวของ Bretagne สุนัขกู้ภัยในเหตุการณ์ 9/11 ตัวสุดท้าย ได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว…
นี่คือเรื่องราวของเจ้า Bretagne สุนัขสานพันธุ์โกลเดน รีฟเวอร์ อายุ 16 ปี เป็นที่รู้จักกันในสุนัขตัวสุดท้ายที่ยังอยู่หลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าสลด 9/11 ย้อนกลับไปในปี 2001 ในตอนนั้นเจ้า Bretagne อายุได้เพียง 2 ขวบ เจ้าของคือ Denise Corliss ซึ่งทั้งคู่ได้เข้าหน่วย “กราวด์ ซีโร่” ด้วยกัน หลังจากปฏิบัติหน้าที่ช่วยชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 แล้ว มันก็ยังไปช่วยผู้คนที่ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน แต่โชคไม่ดีที่ร่างกายของมันไม่แข็งแรงนัก ทำให้ร่างกายของมันทนความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว จนสุดท้ายเจ้าของก็ตัดสินใจ…. ทำการุณยฆาต ในคลิปนักผจญเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าแถวตามถนนเพื่อที่จะรอ Bretagne ในฐานะฮีโร่ที่ช่วยประเทศไว้ ก่อนที่มันจะเข้าไปพบกับหมอเพื่อกับการดูแลก่อนทำการุณยฆาต อีกทั้งวางแผนพร้อมกับใช้ธงของสหรัฐฯคลุมโลงศพมันไว้ พร้อมทั้งน้ำตาของคนที่มาร่วมงาน Bretagne เกษียณอายุตอน 10 ขวบ แต่มันก็ยังทำงานช่วยเหลือสุนัขน้องหใม่ที่เข้ามาฝึก อีกทั้งยังไปช่วยเด็กๆ อ่านหนังสือที่โรงเรียนประถมอีกด้วย ถือเป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วรู้สึกใจหาย ถึงแม้ว่าเราไม่ได้มีความใกล้ชิดหรือรู้จัก แต่ก็รับรู้ได้เลยว่าคนอเมริกันรักและเคารพ Bretagne มากแค่ไหน ที่มา distractify
-
สัตวแพทย์อังกฤษ พิชิตภารกิจช่วยชีวิตปลาทอง ผ่าตัดเนื้องอกยักษ์ออกจากตัวของมันได้สำเร็จ
นี่คือเจ้า Nemo ปลาทองตัวน้อยอายุ 5 ปี จากประเทศอังกฤษ ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนปลาทองทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแปลกและไม่เหมือนปลาทองตัวอื่นๆ ก็คือ มันมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่โผล่ออกมาบริเวณหัวและไหล่แบบนี้… เจ้าปลาน้อยน่าสงสารจริงๆ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Buzzfeed ได้เผยว่า Roy Hands ผู้เป็นเจ้าของ ได้พาเจ้า Nemo ตัวน้อย เดินทางไปหาสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้าทำการผ่าตัดเนื้องอกขนาดใหญ่ออกจากตัวของมัน Roy Hands ผู้เป็นเจ้าของได้กล่าวว่า เขาเห็นก้อนเนื้องอกบนหลังของมันเติบโต และขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องรีบนำมันมารักษา โดยทางสัตวแพทย์ชาวอังกฤษ ได้พยายามช่วยเหลือเจ้า Nemo อย่างเต็มที่ พวกเขาได้ทำการผ่าตัดก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ออกจากตัวของมัน โดยใช้เวลาไปกว่า 45 นาที เนื่องจากเนื้องอกดังกล่าวค่อนข้างมีความซับซ้อน และในที่สุดทางทีมสัตวแพทย์ ก็สามารถผ่าตัดเนื้องอกก้อนยักษ์ของจากตัวของเจ้า Nemo ได้สำเร็จ ยินดีด้วยน้า…
-
เลี้ยงเค้าเถอะ!! ช่วยชีวิตเจ้าแรคคูนน้อยจนหายดีพร้อมกลับสู่ป่า แต่มันดันขออยู่ต่อไปเรื่อยๆ (-*-)!!
สัตว์ป่านั้นมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง พวกมันสามารถเอาชีวิตรอดได้อยู่ในป่าด้วยตัวของพวกมันเอง แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งวันใด ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็จะทำให้โอกาสมีชีวิตรอดที่น้อยลงไป อย่างเจ้าแรคคูนน้อย Loki ที่ Kat Wagg กับสามีของเธอพบมันเข้าในสภาพที่ย่ำแย่มากๆ ทั้งมีอาการขาดน้ำ ติดเชื้อ และมีบาดแผลที่สาหัส พวกเขาไม่อาจปล่อยให้มันอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปได้ เพราะมันไม่รอดแน่ๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป ช่วยเยียวยารักษาทั้งร่างกายและจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ คอยเลี้ยงดูและเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา โดยหวังว่าซักวันหนึ่งมันพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตในป่าแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง จนเมื่อเจ้า Loki โตพอที่จะใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาก็ปล่อยให้มันมีอิสระในการเลือกทางเดินชีวิตของมันเอง อยากจะไปก็ไปตอนไหนก็ได้ แต่ผลสุดท้ายคือมันเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ มันไม่มีทีท่าทีจะหนีหรือตีตัวออกห่างจากครอบครัวที่เลี้ยงดูเลย ‘ส่วนใหญ่แล้วสัตว์ป่ามักจะทำตามสัญชาตญาณของมันเอง เมื่อมันโตขึ้นก็จะออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวของมันเอง แต่สำหรับ Loki แล้วกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าเราจะพยายามชักจูงให้มันกลับไปในป่าแค่ไหนก็ตาม’ . เจ้า Loki มีความสุขมากในระหว่างที่ใช้ชีวิตในแบบสัตว์เลี้ยงจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมัน ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น อันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนจากวัคซีน . ถึงแม้ว่าชีวิตของ Loki จะเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น ถ้าหากว่าวันนั้นมันไม่ได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้…
-
เหมียวขอแนะนำเทคนิค 3 ข้อ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รอดจากการจมน้ำได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!!
เมื่อพูดถึงการว่ายน้ำ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังว่ายน้ำไม่เป็น เพราะฉะนั้นจึงทำให้เกิดอาการกลัวเมื่ออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำต่างๆ เพราะถ้าหากพลัดตกลงไปนี่โอกาสรอดมีน้อยมากเลยทีเดียว ยิ่งเป็นที่น้ำลึกๆ ด้วยแล้วยิ่งอันตราย วันนี้ #เหมียวหง่าว มีวิธีการง่ายๆ ในการป้องกันการจมน้ำสำหรับเพื่อนๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็นมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ตั้งสติไว้ให้ดี หากเกิดอาการตกใจ จะทำให้สติของเราเตลิดเปิดเปิงจนทำให้ใช้แรงไปอย่างสิ้นเปลืองจนหมด จนไม่สามารถประคองตัวเข้าหาฝั่งได้ 2. ใช้ทักษะในการลอยตัวเหนือน้ำ หลังจากที่ตั้งสติดีแล้วต่อไปก็มาถึงวิธีการในการพยุงตัวให้ลอยอยู่เหนือน้ำ โดยร่างกายของเราจะมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่ท้องน้อย ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยก็จะทำให้เราจม แต่การยกมือขึ้นหรือกางแขนกางขาออกไปจะทำให้เราลอยตัวอยู่เหนือน้ำได้ และอีกส่วนที่ทำให้ร่างกายของเราลอยน้ำได้ก็คืออากาศที่อยู่ภายในปอดของเรายังไงล่ะ หลังจากที่จัดท่าทางได้แล้วก็อย่าลืมสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่จังหวะที่หายใจออกอากาศที่อยู่ในปอดก็จะลดลงจนทำให้รับน้ำหนักของร่างกายไม่ไหวและจมลงไป เพราะฉะนั้นจะต้องกะจังหวะตอนหายใจให้ดีด้วย 3. ถอดเสื้อผ้าที่สามารถดูดซับน้ำได้ดีและโยนสัมภาระที่มีน้ำหนักเยอะทิ้งไปก่อน เพราะสิ่งของพวกนี้จะถ่วงน้ำหนักของเพื่อนๆ ให้มากขึ้น และทำให้ขยับตัวลำบาก โดยเฉพาะเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ แต่ถ้าเป็นผ้ายืดธรรมดาๆ ก็ไม่เป็นไร ส่วนรองเท้านั้นถ้าเป็นประเภทรองเท้าบูธหรือรองเท้าหนังก็จะทำให้มีน้ำหนักมากจนทำให้เป็นภาระได้ เพราะฉะนั้นถอดออกดีกว่า แต่ถ้าเป็นพวกรองเท้าแตะ หรือรองเท้าวิ่งที่มีโฟมหรือฟองน้ำเป็นส่วนประกอบก็ไม่จำเป็นต้องถอด เพราะมันจะช่วยให้ลอยน้ำได้ #เหมียวหง่าว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ เป็นอย่างยิ่งเลยนะจ๊ะ แต่ทางที่ดีถ้าไม่มีอุปกรณ์ชูชีพก็ควรหลีกเลี่ยงในจุดที่มีน้ำลึกดีกว่าเนอะ ^^ เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
-
อดีตทหารฮีโร่ผู้สูญเสียใบหน้าช่วยเหลือหญิงสาวให้รอดพ้นไฟฟ้าช็อต ได้รับปลูกถ่ายใบหน้าใหม่แล้ว
การช่วยเหลือชีวิตเพื่อมนุษย์ด้วยกันนับว่าเป็นสิ่งที่ควรให้ความยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ดั่งเช่นเรื่องราวของอดีตทหาร Mitch Hunter ผู้เป็นฮีโร่ในชีวิตจริง ย้อนไปเมื่อปีค.ศ. 2011 เขาอยู่ในเหตุการณ์รถยนต์ชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูง 10,000 โวลต์ โดยมีหญิงสาวอีกคนโดยสารมาด้วย เขาจึงทำการผลักหญิงสาวออกไปเพื่อให้พ้นจากภัยอันตราย จนกระทั่งตัวเขาเองถูกไฟฟ้าช็อตนานเกือบ 5 นาที ส่งผลทำให้ได้รับความเสียหายบริเวณขาและใบหน้า Mitch ไม่อาจรับกับสภาพที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขาได้ เพราะเกรงว่าลูกชายจะรู้สึกกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ จึงได้ตัดสินใจทำการปลูกถ่ายใบหน้าใหม่ทั้งหมด โดยที่เคสของเขานั้นถือว่าเป็นเคสแรกของโลกที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้า หลังจากที่ผ่านกระบวนการปลูกถ่ายใบหน้าหลายขั้นตอน มาอย่างยาวนานถึง 5 ปี เขาสามารถยิ้มได้อีกครั้ง ในสภาพอายุ 35 ปี โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อเอาไว้ว่า ‘ผมยังรู้สึกดีเหมือนกับตอนที่มีอายุ 21 ปี ราวกับว่าอดีตที่ผ่านมานั้นทำให้ผมแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าหากว่าไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ผมก็คงไม่ได้เป็นผมอย่างที่เป็นทุกวันนี้’ ที่มา : dailymail, theladbible
-
ฮีโร่หนุ่ม ช่วยชีวิตเด็กหญิงให้รอดจากคลื่นยักษ์กลางทะเล ก่อนจะถูกคลื่นพัดกระแทกหินจนเสียชีวิต
การเข้าไปช่วยชีวิตผู้อื่นให้รอดพ้นจากอันตราย มันช่างเป็นเรื่องราวที่น่ายินที่สุด แต่เมื่อผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือกลับต้องมาเสียชีวิตเสียเอง มันก็กลายเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าขึ้นมาทันที ดังกรณีของ Ryan Martin นักบัญชีหนุ่มวัย 30 ปี จากควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียคนนี้ เขาได้กลายเป็นฮีโร่ไปในทันที หลังจากที่ได้ช่วยชีวิตเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ให้รอดพ้นจากคลื่นยักษ์กลางทะเล จนเด็กหญิงคนดังกล่าวปลอดภัย โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า Ryan Martin และครอบครัว รวมถึงแฟนสาวของเขา ได้เดินทางมาพักผ่อนที่แหลม Fingal Head ซึ่งในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น เมื่อมีเด็กหญิงวัยเพียง 7 ขวบ และครอบครัวของเธอ ถูกคลื่นยักษ์พัดออกห่างจากชายฝั่ง ในขณะที่กำลังเล่นเซิร์ฟบอร์ด งานนี้ Ryan และหนุ่มฮีโร่วัย 21 ปีอีกคนก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงทันที ทางด้านหน่วยกู้ภัยชายฝั่ง ก็รีบนำเรือยางออกไปช่วยเหลือเช่นกัน หลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง …
-
ชายแก่วัย 71 ช่วยชีวิต ‘เจ้าเพนกวิ้น’ มันเลยว่ายน้ำ 8,000 กิโล เพื่อกลับมาหาเขาทุกปี!!
ที่ประเทศบราซิล เป็นเรื่องต้องห้ามที่คุณจะเลี้ยงสัตว์ป่าได้เพราะว่ามันผิดกฎหมาย แต่ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนดไว้ยังไง เจ้าเพนกวิ้นที่ชื่อว่า Dindim ตัวนี้ก็พร้อมที่จะกลายเป็นเพื่อนกับมนุษย์คนหนึ่งที่เคยช่วยชีวิตมันไว้ตั้งแต่ปี 2011 Joao Pereira de Souza อดีตช่างปูนและชาวประมงวัย 71 ปี ได้พบเจอกับเจ้า Dindim เพนกวิ้นสายพันธุ์มาเจลลันอเมริกาใต้ซึ่งตอนนั้นทั้งตัวของมันเต็วไปด้วยคราบน้ำมันและใกล้ตาย เขาก็เลยตัดสินใจพามันไปรักษา ดูแลมันจนกลับมามีสุขภาพที่ดี เขาพบว่าเจ้าเพนกวิ้นไม่อาจจะไปจากเขาเลย แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ แต่ไม่น่าเชื่อว่าในปีต่อมา เจ้า Dimdim ก็ได้ว่ายน้ำกลับมาหาเขาอีกครั้ง และทำแบบนี้ในปีต่อๆ ไปเรื่อยมา เขาให้สัมภาษณ์กับ Globo TV ว่า “ผมรักเพนกวิ้นเหมือนลูกคนหนึ่ง และผมก็เชื่อว่ามันก็รักผมด้วย คนอื่นจับตัวมันไม่ได้นะ อาจจะโดนจิกเอาได้ และมันก็ชอบมานอนที่ตักผม ให้ผมอาบน้ำให้ ให้ผมป้อนอาหารและอุ้มด้วย” “ใครๆต่างก็พูดว่ามันไม่กลับมาหรอก แต่หารู้ไม่ว่ามันกลับมาให้ผมตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเลย” ในตอนแรกมันอยู่กับเขานาน 11 เดือน แล้วมันก็จากไป แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลับมาหาเขาในทุกๆปี โดยการว่ายน้ำกว่า 8,000 กิโลเมตร . .…
-
หนูน้อยฮีโร่วัย 10 ขวบ เสียสละชีวิตช่วยเหลือเด็ก 2 คน ให้รอดตายจากอุบัติเหตุถูกรถทับ
นี่ถือเป็นเรื่องราวที่ชวนสลดใจและทำให้รู้สึกชื่นชมในเวลาเดียวกับ สำหรับเรื่องราวของหนูน้อยชาวสหรัฐคนหนึ่ง ที่ยอมเสียสละตัวเอง ช่วยเหลือเด็กๆ อีกสองคนให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Independent ได้เปิดเผยเรื่องราวความกล้าหาญของหนูน้อย Kiera Larsen วัย 10 ขวบ ในเมืองซาดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามรายงานบอกว่าในขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นกับเด็กๆ อีก 2 คน อายุ 1 ขวบ และ 2 ขวบ ในละแวกบ้านของเธอ จู่ๆ กลับมีรถ SUV เมอร์ซิเดส เบ๊นซ์ที่จอดอยู่บนเนินค่อยๆ ไหลลงมาทางพวกเธอ Kiera จึงตัดสินใจผลักเด็กๆ ทั้ง 2 คนออกไปให้พ้นทาง ทำให้เธอโดนรถชนไปเต็มๆ จากอุบัติเหตุทำให้ร่างของ Kiera ถูกอัดเข้ากับรั้วจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เมื่อเรื่องราวของเธอกลายเป็นข่าวโด่งดัง ผู้คนในละแวกนั้นต่างก็ยกย่องให้เธอกลายเป็นฮีโร่แถมยังแสดงความอาลัยต่อการจากไปของเธออีกด้วย ทางด้านนาง Alissa Jenkins คุณแม่ของเด็กๆ…
-
คุณป้าวัย 50 กระโดดน้ำช่วยชีวิตเด็ก แต่หลังเกิดเหตุก็เดินหายไป แม้แต่คำขอบคุณก็ยังไม่ทันได้กล่าว!!
การทำดี โดยที่ไม่หวังสิ่งใดๆ ตอบแทน ถือเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรปฏิบัติ เพราะนอกจากคุณจะได้รับคำยกย่องแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในสังคมอีกด้วย เหมือนกับเรื่องราวของคุณป้าวัย 50 ที่ทางสักนักข่าวต่างประเทศได้นำมาเผยในครั้งนี้ เรียกได้ว่ามันช่างน่าประทับใจมากจริงๆ เพราะคุณป้าแก ยอมเปียกปอนกระโดดลงน้ำเพื่อลงไปช่วยเหลือชีวิตเด็กยังไงละ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Shanghaiist ได้รายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า มีเด็กชายวัย 8 ขวบรายหนึ่ง กำลังเล่นโรลเลอร์สเกตอยู่ในเมืองต้าหยุน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน แต่จู่ๆ เด็กน้อยก็เกิดพลัดตกน้ำไปซะอย่างนั้น งานนี้เมื่อคุณป้าวัย 50 ที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงรีบจะกระโดดลงไปช่วยเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย แล้วพาเขากลับขึ้นฝั่ง พร้อมกำชับคนบนฝั่งดูแลเด็กอีกด้วย หลังจากพาตัวเด็กขึ้นฝั่งแล้ว ยังไม่มีใครได้เอ่ยคำขอบคุณ คุณป้าก็ว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งอีกฝั่งหนึ่งแล้ว จากนั้นเธอก็เดินกลับบ้านไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อภาพของคุณป้าถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็พากันยกย่องถึงความดีของเธอ ว่าเธอนั้นเป็นคนดีที่แท้จริง แม้แต่มีสื่อมาขอสัมภาษณ์ คุณป้ายังขอปฏิเสธ บอกเพียงแต่ว่า มันเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยที่คนคนหนึ่งควรพึงกระทำเท่านั้น ที่มา : shanghaiist
-
คุณแม่วัยสาวซื้ออาหารเช้าให้คนไร้บ้านทาน และนั่นคือกำลังใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ…
หลายคนบอกว่า การทำดีเป็นเรื่องยาก แต่ที่จริงแล้วการทำดีไม่ใช่เรื่องยากเลย และความดีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนเลยก็เป็นได้ อย่างเช่นสิ่งที่คุณแม่วัยสาวชื่อว่า Casey คนนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ไปซื้ออาหารเช้าที่ร้าน Dunkin’ Donuts และเธอสังเกตเห็นมีชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าร้าน ท่าทางของเขาดูอ่อนแรงและสิ้นหวัง เธอซื้ออาหารและเครื่องดื่ม และตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับชายไร้บ้านคนนั้น เขาชื่อว่า Christ เขาเล่าว่า เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีปัญหา เขาไม่เคยเจอหน้าพ่อมาก่อน และพอแม่ของเขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เขาได้หันไปใช้ยาเสพติดจนชีวิตพังอย่างปัจจุบัน เขายังเล่าว่าชีวิตการเป็นคนไร้บ้านนั้นยากลำบากมากๆ ผู้คนจำนวนมากโหดร้ายต่อเขา เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน Casey บอกว่าบทสนทนาระหว่างเขากับเธอนั้น เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก และเมื่อถึงเวลาที่ Casey ต้องไป Christ ได้เขียนอะไรบางอย่างบนเศษกระดาษ และยื่นใส่มือของเธอพร้อมขอโทษที่ลายมือเขาไม่สวยเท่าไหร่ และเขาก็เดินจากไป เมื่อเธอเดินขึ้นรถและเปิดกระดาษนั้นออกมาดู ในนั้นเขียนไว้ว่า “ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายวันนี้ แต่เพราะคุณ ผมไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ขอบคุณมาก คุณช่างเป็นคนที่งดงามจริงๆ” ด้วยความใจดีของเธอ เธอได้ช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไปโดยบังเอิญ น่าประทับใจจริงๆ เลยเนอะเพื่อนๆ บางครั้งแค่น้ำใจและคำพูดเล็กๆ น้อยๆ เราก็อาจช่วยชีวิตใครคนหนึ่งได้แล้ว…
-
หัวหน้าแผนก Apple Watch เผย ผู้คนมากมายอีเมล์มาขอบคุณทุกวัน เพราะผลิตภัณฑ์ได้ช่วยชีวิตพวกเขา!!!
สำหรับ Apple Watch จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตอะไรมากนักของทาง Apple ไม่เหมือนเรือธงอย่าง iPhone แต่กระนั้นก็มีเรื่องราวดีๆ ของมันอยู่เหมือนกัน COO ของ Apple อย่าง Jeff Williams ที่พึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาเมื่อเดือนที่แล้ว และรับผิดชอบในส่วนของการดูแล Apple Watch โดยตรงได้ออกมาเผยถึงข้อมูลที่ทำให้เขาต้องขนลุกซู่เวลานั่งอ่านอีเมล์ทุกๆ เช้า Apple COO Jeff Williams Jeff ได้ให้สัมภาษณ์กับ Conversations on Health Care ถึงเรื่องที่ว่าทุกๆ วัน ผู้คนมากมายจะส่งอีเมล์มาที่บริษัท และกล่าวขอบคุณเป็นการใหญ่ พร้อมเล่าเรื่องราวที่ว่า Apple Watch นั้น เปลี่ยนชีวิตพวกเขายังไง ช่วยพวกเขาลดน้ำหนัก หรือแม้กระทั่งช่วยชีวิตพวกเขาไว้อย่างหวุดหวิด!!! ‘โดยเฉพาะระบบ Heart rate sensor ที่ตรวจกับการเต้นของหัวใจของ Apple Watch นี่แหละ มีจดหมายหลายฉบับเลยล่ะจากแพทย์ที่ได้เล่าว่า คนไข้ของเขาตรวจพบสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ถูกพบได้โดย Apple Watch และรีบมาหาเขา…
-
ชมเหตุการณ์น่ารักๆ ของเจ้าลา หลังจากถูกช่วยชีวิต มันถึงกับ “ยิ้มแก้มปริ” ออกมาอย่างเห็นได้ชัด!!
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาในเมือง Kilorglin ประเทศไอร์แลนด์ ได้มีลาตัวหนึ่งเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในแม่น้ำ ทำให้มันเกือบจะจมน้ำ ผู้เห็นเหตุการณ์คือ Suzanne Gibbons ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์นี้ไว้และแชร์โพสต์ไปยัง ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ Heaven Animal Rescue (AHAR) เพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่ Mike Fleming ซึ่งเป็นสมาชิกคลับแข่งเรือพายใน Killorglin ได้มายังที่เกิดเหตุพร้อมกับเรือของเขา Gibblings ให้สัมภาษณ์ว่า “เขาคือทางเลือกสุดท้ายที่ฉันนึกถึง ฉันจึงโทรไปหาเขาเพื่อขอยืมเรือ” “ฉันรู้ทันทีเลยว่าเขาต้องมาอย่างทันทีเพื่อมาช่วยเจ้าลาตัวนี้ให้ได้” (Gibblings ว่ายน้ำไม่เป็น) สุดท้ายเจ้าลาก็ถูกช่วยไว้ได้ด้วยเชือกที่ลากมันขึ้นฝั่ง มันก็ได้ทำบางสิ่งที่ทุกคนเห็นแล้วยิ้มตาม เพราะมันยิ้มออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ มีขยิบตาด้วยนะ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า Mike หลังจากเช็ดตัวจนแห้งเรียบร้อย มันก็ได้กินอาหารจนอิ่ม หลังจากนั้นสัตวแพทย์ก็มาตรวจดูอาการของเจ้า Mike ก่อนให้ยาปฏิชีวะป้องกันการเป็นปอดบวม นอกจากนั้นยังพบของเหลวอีกนิดหน่อยในปอดของมัน แต่หมอว่ามันจะดีขึ้น ไม่ต้องห่วงไป แล้วหลังจากนั้นมันก็กลับไปหาเจ้านายอันเป็นที่รัก ส่วนสาเหตุที่มันมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะลมพัดประตูคอกจนมันเปิดออก มันเลยนึกซนอยากออกมา ที่มา boredpanda
-
เจ้าแมวน้อยเกือบแข็งตายอยู่ใต้กองหิมะ แต่โชคดีที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะมีคนมาช่วยไว้ทัน
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ถ้าหากได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวจัดเป็นเวลานาน มันต้องเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานมากแน่ๆ ใช่ไหมละ ก็เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าแมวน้อยน่าสงสารตัวนี้ ที่เกือบจะนอนหนาวตายอยู่ใต้กองหิมะไปซะแล้ว แต่โชคดีที่มันรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่ครอบครัวของ Branden Bigham ได้พบมัน และสามารถช่วยชีวิตของมันได้ทันเวลายังไงละ Branden ได้พาลูกๆ ของเขาออกไปเล่นหิมะในเช้าวันขอบคุณพระเจ้า แต่แล้วจู่ๆ ลูกชายของเขาก็บังเอิญไปเห็นเจ้าแมวน้อยตัวนี้ นอนแข็งตัวจมอยู่ใต้กองหิมะ งานนี้พวกเขาจึงไม่รอช้า รีบพามันกลับไปให้ความอบอุ่นบริเวณเตาผิง และดูแลรักษาให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิม Branden พยายามช่วยเหลือมันโดยการปั๊มหัวใจให้มัน จนในที่สุดก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าเหมียวน้อยได้สำเร็จ เฮ้อ…โล่งอกไปที โถๆ เจ้าแมวน้อยที่น่าสงสารเกือบแข็งตายอยู่ในกองหิมะซะแล้ว ลองไปชมคลิปวินาทีการช่วยชีวิตของเจ้าแมวน้อยกัน หลังจากที่พวกเขาสามารถช่วยชีวิตมันได้สำเร็จ เจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว Branden ไปในทันที อีกทั้งพวกเขายังได้ตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า ‘Lazarus’ อีกด้วย เอ็งโชคดีมากๆ เลยนะเจ้าเหมียวน้อย ^^ ที่มา : boredpanda
-
รักเธอสุดหัวใจ!! น้องหมาเดินทางไกลกว่า 300 กิโลเมตร เพื่อกลับไปหาหญิงผู้ช่วยชีวิตมัน
การบอกความรู้สึกของสัตว์นั้นไม่มีคำพูดใดๆ เพราะมันพูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ แต่ก็สามารถสื่อออกมาให้มนุษย์รับรู้ได้ผ่านจากท่าทางและการกระทำของมัน เพื่อเป็นการบอกว่าฉันคิดกับเธออย่างไร อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าสุนัขสีดำที่ชื่อว่าเจ้า Shavi จากประเทศรัสเซียตัวนี้ ก่อนหน้านั้นมันต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เป็นสุนัขจรจัดที่ต้องทนหนาวและทนหิวไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมันก็ถูกรถชนและถูกทิ้งไว้ในสภาพใกล้จะสิ้นชีวา โชคดีที่มีพลเมืองดีพามันไปรับการรักษาได้ทันเวลา ก่อนที่ร่างกายอันบอบช้ำจะถูกอากาศหนาวคร่าชีวิต หลังจากนั้นก็ได้ทำการประกาศหาเจ้าของใหม่เพื่อนำมันไปเลี้ยง และแล้วโชคชะตาก็ได้นำพามันมาพบกับ Nina Baranovskaya หญิงผู้เป็นแม่พระที่ตอบรับเลี้ยง Shavi เพียงผู้เดียว Nina ได้พาเจ้า Shavi กลับมาพักอาศัยอยู่ที่แฟลตเล็กๆ ใน Rostov-on-Don เธอช่วยทำกายภาพบำบัดให้ ช่วยให้มันกลับมาเดินได้อีกครั้ง และสอนให้เรียนรู้คำสั่งพื้นฐานต่างๆ ปลอบใจยามได้ยินเสียงรถยนต์ ให้กำลังใจและดูแลเมื่อมันต้องได้รับการผ่าตัดจนหายดีในที่สุด แต่เนื่องจากแฟลตของเธอเล็กเกินไป อีกทั้งมีสุนัข 2 ตัว และแมวอีก 3 ตัว อยู่ภายใต้การดูแลของเธออยู่แล้ว Nina จึงจำเป็นที่จะต้องหาเจ้าของใหม่ ซึ่งก็มีเพียงเพื่อนเธอคนเดียวที่ยอมตกลง แถมยังอยู่ห่างไกลกว่า 300 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี…
-
พ่อแบกถังออกหาซื้อออกซิเจน ยื้อชีวิตลูกน้อย แต่ร้านไม่ยอมเติมเพราะอยากให้ซื้อถังใหม่!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ต หลังจากมีคุณพ่อออกมาตัดพ้อตำหนิร้านขายยา ที่ไม่ยอมขายออกซิเจนให้ เนื่องจากอยากให้ซื้อถังใหม่ โดยเจ้าของเฟสบุ๊ค บุญธรรม ชะดานิน ได้ออกมาแชร์เรื่องราวว่า ลูกของตนป่วยต้องใช้ออกซิเจนช่วยในการหายใจ และวันนั้นออกซิเจนเกิดหมด จึงต้องออกไปเติม แต่โชคร้ายร้านที่ซื้อถังมาไม่เปิด จึงต้องออกไปหาร้านอื่น เมื่อไปถึงร้านขายยาร้านหนึ่งแถวศิริราช ร้านกลับปฏิเสธไม่ยอมขายออกซิเจนให้ แม้เขาจะอ้อนวอนขนาดไหนก็ไม่ยอมขาย และบอกว่าถ้าอยากซื้อต้องซื้อถังใหม่ซึ่งมีราคา 4-5 พันบาท โชคดีเขาสามารถยืมถังออกซิเจนมาจากโรงพยาบาลตากสินจึงสามารถช่วยชีวิตลูกของตนเองไว้ได้ทัน พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมร้านขายยานั้นถึงไม่ยอมขายให้เขา ทั้งๆที่ไปที่อื่นเขาก็ยอมเติมให้ เมื่อชาวเน็ตเห็นข้อความดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย อาจเป็นเหตุผลทางด้านธุรกิจ ทำให้ร้านไม่ขายออกซิเจนให้ แต่เหมียวว่าเรื่องชีวิตคน บางทีก็อลุ่มอล่วยซักนิดก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียว ที่มา บุญธรรม ชะดานิน
-
ชมภาพโมเม้นต์แสนมุ้งมิ้งของ “คางคกอ้วน” ที่กำลังไปช่วยหนูที่กำลังจะจมน้ำ
บอกก่อนเลยว่าภาพเหล่านี้อาจจะสะเทือนใจคนที่กลัวสัตว์พวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณลองเปิดใจมองมัน อาจจะเห็นอีกด้านหนึ่งที่น่ารักของมันก็เป็นได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่เหมือนเรื่องราวที่น่ารักเหมือนกับสัตว์ตัวอื่น เมื่อช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Azam Husain จากบริษัท Barcroft Media India เขาบังเอิญไปเจออะไรบางอย่างลอยมากับน้ำในสระ เมื่อเพ่งดูแล้วก็พบว่าเป็นหนูที่กำลังพยายามตะเกียดตะกายตัวเองให้พ้นเหนือน้ำ พยายามคว้าสิ่งต่างๆไว้ แต่ก็ไม่สำเสร็จ จนกระทั่งฮีโร่ตัวหนึ่งโผล่มา.. ด้วยจิตวิญญาณของช่างภาพ เขาได้ถ่ายภาพที่หาดูได้ยากของคางคกตัวหนึ่ง ที่ว่ายน้ำลงไปช่วยเจ้าหนูตัวนี้ให้รอดจากการจมน้ำ พร้อวกับให้เกาะหลังลอยน้ำไปเรื่อยๆ เมื่อคางคกไปถึง หนูก็ปีนขึ้นหลังคางคกอย่างรวดเร็ว แล้วก็เกาะแน่นเลย ภารกิจช่วยชีวิตถือว่าสำเร็จลุลวง (คางคกบอก “อ๊ากกก จิ้มตา”) จนสุดท้าย หนูก็เกาะคางคกจนถึงฝั่ง และก็รอดชีวิตมาได้ เขายังบอกอีกว่าหลังจากที่หนูถึงฝั่งแล้ว มันก็วิ่งเข้าไปในพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว แล้วคางคกก็ว่ายน้ำเล่นต่อ ถือเป็นเรื่องราวที่นา่รักของสัตว์ต่างๆในธรรมชาติที่ยังมีความเมตตาต่อกัน ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักหรือจะเป็นคนละชนิดก็ตาม ที่มา boredpanda
-
เมื่อปลาไหลตัวน้อยป่วยซุกตัวอยู่แต่ในโขดหิน นักประดาน้ำเลยเอายาลงไปให้กิน เพื่อหวังรักษาให้หาย
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าประทับใจมากจริงๆ สำหรับคลิปวีดีโอของชายนักประดาน้ำชาวอิตาลีคนหนึ่ง ที่ได้ลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลลึก แต่บังเอิญเขาดันไปเจอเจ้าปลาไหลที่ดูเหมือนกำลังนอนป่วย งานนี้จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจทำในบางสิ่งบางอย่าง… ซึ่งในขณะที่ชายนักประดาน้ำได้พบเจอกับเจ้าปลาไหลตัวน้อยนั้น เขาก็ได้สังเกตดู จนในที่สุดเขาก็พบว่าเจ้าปลาไหลตัวนี้มันกำลังนอนป่วยอยู่ ดังนั้นเขาจึงนำปลาตัวเล็กๆ ผสมด้วยยา แล้วค่อยๆ ล่อให้เจ้าปลาไหลออกมาจากที่หลบซ่อน และได้กินยาของเขานั่นเอง กว่าที่เจ้าปลาไหลจะยอมออกมาจากที่หลบซ่อนนั้น หนุ่มนักประดาน้ำคนนี้ต้องใช้ความใจเย็น และอดทนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และที่สำคัญขอบอกเลยว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนี้ในตอนที่พบเจอมันครั้งแรกเพียงเท่านั้น เพราะเขาได้กลับลงไปทำเช่นเดิมซ้ำๆ ทุกวัน เพื่อหวังว่ามันจะหายดีและออกจากที่ซ่อนตัวไปยังไงละ เรียกได้ว่าโมเม้นท์มิตรภาพแสนอบอุ่นหัวใจนี้ ทำเอาคนที่ได้เห็นต่างก็ซึ้งใจในความมีน้ำใจ และใจบุญของหนุ่มนักประดาน้ำ อีกทั้งยังทำให้เราเห็นว่าแม้มันจะเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่มันก็ไม่ได้ถูกละเลย และถูกมองข้ามแม้แต่น้อย ที่มา : mirror
-
เกิดขึ้นจริงแล้ว!!! เมื่อ Siri โปรแกมอัจฉริยะจาก Apple สามารถช่วยคนที่ติดอยู่ในห้องน้ำได้!!!
นับตั้งแต่ Apple เปิดตัวโปรแกรมสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ Siri ใน iPhone 4s หรือ iOS 5 เมื่อ 4 ปีก่อน มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนของ Apple จากทั่วโลกได้ เพราะ Siri ถือว่าเป็นโปรแกรมสั่งงานด้วยเสียงที่สามารถตอบสนองได้อย่างทันทีโปรแกรมแรกๆที่เปิดให้คนทั่วไปได้ใช้งานกัน แต่ในความตื่นเต้นเหล่านั้น หลายคนยังตั้งข้อสงสัยว่า มันสามารถใช้งานใน “ชีวิตจริงๆ” ได้หรือ? หรือมันเป็นเพียงแค่ลูกเล่นสนุกๆที่ทำให้เหล่าสาวก Apple ได้นำมาอวดกันเท่านั้น? แต่ดูเหมือนว่า Siri ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่หลายคนคิด เพราะล็อกอิน หมาพันธุ์ปั๊ก จากเว็บไซต์พันทิป ได้ออกมาตั้งกระทู้เล่าว่า เขาสามารถรอดตายการจากติดอยู่ในห้องน้ำ เนื่องจากมีโปรแกรม Siri อยู่!!! เขาเล่าว่า เมื่อวันก่อน เขาได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำในอพาร์ทเมนต์ของตนเอง โชคร้ายประตูห้องน้ำเกิดเสียขึ้นมา ทำให้เขาไม่สามารถออกมาจากห้องน้ำได้ โชคดี เขาชาร์ตโทรศัพท์ iPhone ไว้ใกล้ๆกับประตูห้องน้ำด้านนอก เขาจึงตะโกนให้ Siri ช่วยโทรหาแฟนเขา จนแฟนเขาติดต่อเจ้าของอพาร์ทเมนต์ให้มาช่วยเขาออกไปจากห้องน้ำได้อย่างปลอดภัย …
-
เด็กสาววัย 12 ถูกสิงโต 3 ตัวช่วยชีวิตไว้ หลังจากถูกลักพาตัวและบังคับแต่งงาน
ในอีกมุมหนึ่งจองโลก ผู้หญิงชาวเอธิโอเปียมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก พวกเธอต้องอยู่กับความกังวลตลอดชีวิต เนื่องจากมันจะมีกลุ่มคนมาลักพาตัว ข่มขืน และบังคับพวกเธอให้แต่งงาน ได้มีสถิติบอกไว้ว่าการแต่งงานของหญิงสาวชาวเอธิโอเปีย 70% เกิดจากวิธีนี้ทั้งสิ้น เป็นความจริงที่น่าเศร้า และมันก็เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 12 ปีคนนี้ด้วย เธอได้ถูกลักพาตัวไปและบังคับให้แต่งงาน แต่แล้วเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์นักล่า.. ฟังดูอาจจะเชื่อยากไปหน่อย แต่มันเกิดขึ้นจริง เมื่อมีกลุ่มสิงโต 3 ตัว ได้เฝ้าดูเธออยู่ตลอดวัน ก่อนที่จะถูกช่วยไว้ โดยสิงโตทั้ง 3 ได้เห็นเธอถูกทำร้าย พวกมันก็เลยเข้าไปจู่โจมผู้ชายเหล่านั้น และไล่เขาออกไป ตำรวจได้กล่าวกับสำนักข่าว NBC ว่า “พวกมันปกป้องเธอจนกว่าพวกเราจะเข้าไปพบ และหลังจากนั้นมันก็ทิ้งเธอไว้ พร้อมกับเดินกลับเข้าป่าไป” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ป่า Stuart Williams ได้ออกมาบอกว่า การที่สิงโตไม่ได้ทำอะไรเธอนั้นก็เพราะว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ ถ้าจะให้อธิบายก็คือเสียงร้องของหญิงสาวนั้นเหมือนกับเสียงของลูกสิงโตที่กำลังร้อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสิงโตไม่ได้ทำร้ายเธอ หลังจากเหตุการณ์นี้ทางตำรวจก็ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คนจาก 7 คนไว้ได้ ที่มา viralnova, NBC
-
เรื่องราวน่าประทับใจของกลุ่ม “นักดับเพลิง” ที่พยายามเต็มที่ในการช่วยม้าที่ติดอยู่ในสระ
สัตว์ทุกชนิดมันก็ต้องการอิสระกันทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าบางทีมันก็คุ้นเคยกับการอยู่ร่วมกับคนมานาน จนบางครั้งมันอาจจะนึกคึกอยากหนีออกมาจากบ้านบ้าง แต่ด้วยความที่ไม่เคยออกไปที่ไหนเลย อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เมื่อเจ้าม้าสองตัวที่ชื่อว่า เอลวิส และ อัลฟี่ ตัดสินใจที่จะเล่นอะไรสนุกๆ ด้วยการหนีจากทุ่งหญ้าที่เคยอยู่ จนเจ้าของตามหาข้ามคืน และไม่รู้ว่าพวกมันต้องเจอกับอะไรบ้าง แล้วแต่ในตอนเช้า ก็ได้พบตัวมันอยู่ในสระน้ำอันเก่า เจ้าอัลฟี่ก็พยายามที่จะตะกายขึ้นมาจากสระ แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากตัวมันใหญ่เกินไป อีกทั้งสระเก่าอันนี้ยังไม่มีบันไดให้มันเหยียบด้วย ดังนั้นมันจึงติดอย่างสมบูรณ์ จึงต้องโทรเรียกศูนย์บริการช่วยชีวิตและดับเพลิงในเมือง Dorset เพื่อมาช่วยมันออกจากสระนี้ โดยเริ่มจากการดูดน้ำออกไปก่อน เพื่อที่จะช่วยชีวิตได้สะดวกขึ้น ในระหว่างที่เจ้าเอลวิสกำลังสงบ เจ้าหน้าที่ก็ได้ดึงร่างของอัลฟี่ขึ้นมาจากน้ำก่อน ดูท่าทางอ่อนเพลียมาก ก่อนอื่น เจ้าหน้าที่ต้องลากมันไปไว้ที่ที่ปลอดภัยก่อน แล้วก็มาถึงตัวปัญหาตัวสุดท้าย เจ้าเอลวิส ด้วยความที่มันสงบ เจ้าหน้าที่เลยช่วยมันมาได้อย่างสบาย ไม่เหมือนเพื่อนของมันตัวเมื่อกี๊ และแล้วอัลฟี่ก็พร้อมที่จะไปเจอเพื่อนอีกครั้ง และนี่คือเจ้าของม้าทั้งสอง Roisin Talbot งานนี้ต้องขอบคุณกลุ่มนักดับเพลิงกลุ่มนี้จริงๆที่ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยม้าแสนซนทั้ง 2 ตัวนี้ สัตวแพทย์ได้เช็คอาการของม้าแล้ว พบว่าทั้งสองมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่ทุกอย่างโอเคดีแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงกันนะ อิอิ…
-
กลุ่มคนใจดีพา “ลูกค้างคาว” ที่พลาดหลงไปวางไว้ แม่ได้ยินเสียงร้องของมันจึงมารับกลับ
การพลัดพรากหรือหลงทางกับทางบ้าน ถือเป็นสิ่งที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างมากๆ เพราะเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคน ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเต็มที่ เหมือนอย่างลูกค้างคาวตัวนี้ กลุ่มช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งหนึ่งที่ประเทศสิงคโปร์ชื่อว่า Animal Concerns Research and Education Society หรือ ACRES ได้ไปพบกับลูกค้างคาวที่กำลังรอขอความช่วยเหลืออยู่ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาบ้านของมันได้ยังไง เลยตัดสินใจที่จะพามันมาว่าในที่โล่งๆ เผื่อว่าเสียงร้องของมัน จะทำให้ผู้เป็นแม่ได้ยินแล้วก็กลับมารับมันได้ แต่พอรอไปได้สักพัก แม่ค้างคาวก็บินมาหาลูกอย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้สังเกตการณ์ได้เขียนบรรยายกว่าแม่ค้างคาวใช้เวลาประมาณ 2 นาทีก่อนจะมาอุ้มลูกแล้วพาบินกลับไปยังรังของตัวเอง เราไปชมความประทับใจการการช่วยชีวิตนี้กันเลยดีกว่า ความจริงแล้วค้างคาวก็เป็นสัตว์ที่น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย อาจจะติดภาพของแบทแมนมากเกินไปก็ได้ อิอิ ที่มา distractify
-
แมวน้อยแรกเกิดติดในซอกหินกว่า 48 ชั่วโมง ผู้คนเร่งช่วยจนรอด อาบน้ำแล้วน่ารักมาก!!
วัยเด็กยังเป็นวัยที่อ่อนประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ก็มักจะลองผิดลองถูกด้วยวิธีต่างๆ จนบางทีมันก็พลาดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เหมือนอย่างแมวน้อยตัวนี้ที่อายุเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ได้มีนักดับเพลิงจากเมือง Johnston ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าบอกเขาต้องใช้เครื่องถ่างขนาดใหญ่ เพื่อช่วยชีวิตมันออกมาจากหิน คาดว่ามันติดอยู่ในนี้มา 2 วันแล้ว โชคดีที่ได้คนแถวนั้นได้ยินเสียงมันร้องไห้ จึงโทรขอความช่วยเหลือ หลังจากช่วยชีวิตมันได้แล้ว ก็พบว่ามันขาดน้ำเป็นอย่างมาก และตามตัวก็เต็มไปด้วยเห็บหมัด ผู้ช่วยชีวิตก็เลยรีบพามันไปอาบน้ำ และตั้งชื่อมันว่า Stunner และเรื่องราวนี้ก็จบลงอย่างสวยงาม เพราะสุดท้ายก็มีครอบครัวใจดีมารับมันไปเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย น่ารักไหมล่ะ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจ แสดงให้เห็นถึงความมีเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่างแมวน้อยตัวนี้ ถ้าน่ารักยังไม่พอ ไปฟังเสียงมันร้องเหมียวๆกัน Check this little guy out! Johnston Animal Control was able to save this kitten after he got stuck between two construction boulders for…
-
เจ้ากระรอกตัวนี้ถูกช่วยชีวิตไว้หลังพายุเฮอร์ริเคน จากนั้นก็กลายเป็นสมาชิกครอบครัวสุดน่ารัก!!
เจ้ากระรอกตัวนี้มีชื่อว่า “จิลล์” จากเมือง Louisiana และตอนนี้มันก็ได้กลายมาเป็นสมาชิกครอบครัวสุดแสนน่ารัก หลังจากถูกช่วยชีวิตจากการตกจากรังระหว่างที่มีเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนพัด แล้วตอนนี้มันก็กลายเป็นเซเล็ปในอินสตาแกรมเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว เจ้าของเจ้ากระรอกได้บอกว่า เจ้าจิลล์มีกรงของมันอยู่ แต่ถ้าอยู่มันเขาจะปล่อยให้มันได้วิ่งตามสบาย อีกทั้งมันยังถูกฝึกให้ใช้ถังขยะและห้องน้ำ เราไปดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า อยากติดตามความน่ารักของมัน ก็ตามไปได้เลยที่ Instagram ที่มา thedodo
-
นักสำรวจพบลูกหมาถูกทิ้งไว้กลางทางระหว่างถ่ายทำสารคดี ตัดสินใจพามันร่วมเดินทางด้วย!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจของ Cedar Wright และ Alex Honnold นักสำรวจจาก National Geographic ที่ได้ออกเดินทางสำรวจและถ่ายทำสารคดีในบริเวณทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา ซึ่งในระหว่างเขาก็ได้พบกับลูกหมาตัวน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง โดยที่เขาได้พบกับเจ้าหมาน้อยหลบอยู่ในยางรถเก่าๆ ถ้าหากว่าปล่อยให้มันอยู่แบบนั้นต่อไป มันไม่อาจรอดชีวิตในวันต่อไปแน่ เพราะว่าสภาพแวดล้อมไม่มีอะไรเลย เขาจึงตัดสินใจนำมันมาร่วมเดินทางไปด้วย ในระหว่างการเดินทางถ่ายทำสารคดี เขาก็ได้ให้น้ำและอาหารกับมัน จนกระทั่งตามติดแบบว่าไปไหนก็ไปด้วยกัน ราวกับว่าสนิทกันโดยที่ไม่รู้ตัว นอกจากนี้เขายังทำที่นอนเฉพาะกิจให้กับมันด้วย ทำมาจากกล่องเบียร์เก่าๆ พอให้มันมีพื้นที่อันอบอุ่น และตั้งชื่อให้กับมันว่าเจ้า Sufferpup หลังจากที่การถ่ายทำสารคดีสิ้นสุดแล้ว เจ้า Sufferpup ก็ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวหนึ่งจากรัฐ Colorado เติบโตเป็นสุนัขที่น่ารักและร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ คุณ Cedar Wright ก็ยังคงแวะไปเยี่ยมเยียนเจ้า Sufferpup เป็นประจำ และอุ้มมันเหมือนกับที่เจอกันครั้งแรกอยู่เหมือนเดิม ที่มา : lifebuzz
-
มิตรภาพ…หนูน้อยจมน้ำไม่ได้สติ โชคดีเจ้าตูบวิ่งไปเรียกคนมาช่วยได้ทันเวลา!!!
ว่ากันว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ คำพูดผ่านการพิสูจน์มาแล้วตลอดหลายช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเขารักและพยายามอบมิตรภาพที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์เสมอมา อย่างเช่นเจ้าหมา Hachiko ยืนรอเจ้าของถึง 14 ปี โดยไม่รู้ว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว และวันนี้อีกครั้งกับมิตรภาพที่หาไม่ได้จากสัตว์ชนิดอื่นๆ เมื่อเจ้าตูบเพื่อนรักกลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตให้แก่เด็กน้อยคนหนึ่ง นี่คือ Alexander และผู้ช่วยชีวิตของเขา Leala วันหนึ่งขณะที่ครอบครัวของเขาไปเที่ยวบ้านเพื่อน Alexander ได้ลงไปเล่นน้ำ โชคร้าย ด้วยเหตุอันใดก็ไม่ทราบ เขาจมน้ำและหมดสติไป Leala เห็นดังนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง มันจึงวิ่งไปเรียกพ่อของ Alexander มา และเขาก็ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปโรงพยาบาลทันที เมือถึงโรงพยาบาล Alexander อยู่ในขั้นโคม่าอย่างมาก หมอบอกให้ครอบครัวทำใจไว้ เขาอาจไม่ได้กลับบ้านอีกเลย หรือต่อให้เขาสามารถออกโรงพยาบาลได้ สมองเขาก็ต้องได้รับความเสียหายจากการจมน้ำอย่างแน่นอน แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น อาการของ Alexander ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 48 ชั่วโมง เขาก็สามารถหายใจเองได้ คุณหมอบอกว่า นี่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก บางทีเราอาจต้องยกความดีความชอบให้ Leala เพราะถ้าไม่มีมัน Alexander อาจถูกพบช้ากว่านี้ ต้องขอบคุณมันจริงๆ สุดยอดเลยเนอะ…
-
นักบินยอมทำเครื่องดีเลย์และเสียค่าน้ำมันกว่า 3 แสนบาท เพื่อช่วยสุนัขที่ติดอยู่ในตู้เก็บของ!!
เรื่องราวสุดน่าประทับในนี้เกิดขึ้นเมื่อสายการบิน Air Canada เมื่อนักบินคนหนึ่งได้ตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตเล็กๆ ให้รอดจากความตาย แต่ต้องแลกมาด้วยเงินค่าน้ำมันกว่า 300,000 บาท อีกทั้งยังต้องทำให้เครื่องลงจอดดีเลย์ด้วย จากรายงานข่าวของ City News ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกวัย 7 ขวบตัวนี้ชื่อว่า “ซิมบ้า” มันติดอยู่ในห้องเก็บของในเครื่องบินของ Air Canada ที่กำลังเดินทางจากเมือง Tel Aviv ไปสู้โตรอนโต้ อเมริกา ซึ่งการเดินทางนี้ต้องข้ามมหาสมุทรแอดแลนติก ซึ่งหลังจากนักบินทราบว่ามาหมาติดอยู่ เขาก็คิดได้ว่าอุณหภูมิในห้องเก็บของจะลดลงอย่างรวดเร็วและอาจทำให้สุนัขตายได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเส้นทางการบินด่วน แล้วไปลงจอดชั่วครามที่สนามบินในแฟรงเฟิร์ท ประเทศเยอรมนี เพื่อที่จะช่วยชีวิตมันไว้ ผู้เชี่ยวชาญทางการบิน Phyl Durby ได้บอกกับสำนักข่าว City News ว่านักบินคนนี้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะสุนัขพันธุ์นี้ไม่สามารถทนการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ และจะทำให้มันตายได้ Durby ยังบอกอีกว่าในฐานะนักบินแล้ว เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตทุกชีวิตบนเครื่องบิน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนก็ตาม โดยการช่วยชีวิตสุนัขต้องนี้ ทางสายการบินต้องเสียค่าน้ำมันไปถึง 300,000 บาท และค่าลงจอดฉุกเฉินอีก แถมยังทำเครื่องบินดีเลย์ไปนานกว่า 75 นาที แต่ถึงแม่ว่าเครื่องจะดีเลย์ไปมากก็ตาม ผู้โดยสารกว่า…
-
เสือตัวนี้ถูกช่วยมาจากคณะละครสัตว์ และตอนนี้มันกำลังจะได้เหยียบหญ้าเป็นครั้งแรก!!
หลายคนมองว่าการแสดงละครสัตว์นั้นอาจเป็นสิ่งที่ดีงาม สัตว์หลายตัวคงได้อยู่ดีกินดี ถูกเลี้ยงอย่างถนุถนอน ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ถูกไปเสียหมด ด้านดีๆแบบนี้ก็อาจจะมีบ้าง แต่บางแห่งก็ใช้การทำร้ายสัตว์เพื่อสั่งสอนมันก็มี มูลนิธิ Black Jaguar-White Tiger Foundation แห่งเม็กซิโกได้ทำการช่วยชีวิตเสือตัวหนึ่งมาจากคณะละครสัตว์ มันมีชื่อว่า Tianxia เมื่อตอนอยู่คณะ มันอาจจะไม่ค่อยได้เห็นโลกภายนอกเท่าไหร่ และนี่คือคลิปที่มันได้พบกับหญ้าเป็นครั้งแรก ดูแล้วน่ารักจนเรายิ้มตามเลย My son Tianxia’s first minutes with us after being rescued from the circus. He never stepped on grass before… Los primeros minutos de mi hijo #tianxia con nosotros tras ser rescatado del circo. Nunca había pisado césped antes……
-
เธอบินตรงกว่าหมื่นกิโล เพื่อมารับ “หมาจรจัดที่เคยช่วยชีวิตเธอ” พร้อมกับลูกน้อยของมัน!!
โดยปกติแล้ว หน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับ Georgia Bradley นักศึกษามหาลัย Plymouth University ได้เจอกับทริปที่เคยวาดฝันแต่กลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเธอได้อยู่ลำพังที่ชายหาด แล้วก็มีชายแปลกหน้าสองคนเดินเข้ามาถามว่าจะไปดื่มด้วยกันไหม หลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามทำร้ายเธอเมื่อเธอปฏิเสธ แต่แล้วก็ได้มีสุนัขจรจัดตัวหนึ่งเขามาช่วยเธอไว้ พร้อมกับทำให้ชายสองคนนั้นหลัวและหนีไป แต่เมื่อเธอกลับมาที่อังกฤษแล้ว เธอก็หยุดคิดถึงเจ้าหมาตัวนั้นไม่ได้ “ฉันพยายามที่จะหาตั๋วเครื่องบินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันกลัวว่าถ้ากลับไปแล้วจะไม่ได้เจอกับเจ้าเป็ปเปอร์(ชื่อหมาตัวนั้น)อีกครั้ง” “แต่พอฉันได้เจอมัน มันเป็นความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความยินดีเป้นอย่างยิ่ง” เธอกล่าวกับสำนักข่าว Daily Mail เธอต้องเดินทางในหลากหลายเส้นทาง รวมแล้วก็เกือบ 1 หมื่นกิโล อีกทั้งยังต้องเสียเงินอีกมากมาย เพื่อนำเจ้าเป็ปเปอร์กับไปดูแลเพื่อขอบคุณ แต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้เธอประหลาดใน เมื่อ 1 อาทิตย์หลังจากมันได้มาอยู่ที่บ้าน มันก็ได้คลอดลูกถึง 6 ตัวด้วยกัน ที่มา boredpanda
-
ชมคลิปวินาทีที่ไลฟ์การ์ดสายตาดี ว่ายน้ำไป “ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ” ได้ทันเวลา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หาดบอนไดในประเทศออสเตรเลีย เด็กหญิงคนหนึ่งออกไปเล่นน้ำตามปกติ แล้วจู่ๆคลื่นก็พัดเธอออกไปไกลเรื่อยๆจนเธอไม่สามารถว่ายกลับมาได้ เธอพยายามร้องให้คนช่วยเหลือจนกระทั่งไลฟ์การ์ดได้มองเห็นเธอ ด้วยความที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี ไลฟ์การ์ดได้คล้าเอากระดานโต้คลื่นว่ายลงไปในทะเล พร้อมกับช่วยเธอไว้ได้อย่างทันท่วงที เขาได้ดึงเธอขึ้นมาให้พักอยู่บนบอร์ดก่อนพาเธอกลับไปหาแม่ ถ้าเราได้ดูคลิปคงจะเห็นว่าไลฟ์การ์ดที่ชื่อว่าเทอร์รี่คนนี้พยายามที่จะกลั้นน้ำตาของเขาไว้ เพราะทำไมหรือ!??? …เรื่องสุดซึ้งมันเป็นแบบนี้ครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้เสียลูกชายของเขาไปขณะที่ทำคลอด ลูกชายของเขาเกิดขาดออกซิเจนเนื่องจากติดอยู่ในช่องคลอด จนทำให้เสียชีวิต เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขามาทำอาชีพไลฟ์การ์ดเพื่อช่วยชีวิตผู้คนนั่นเอง เราไปชมภาพเหตุการณ์ในวันนั้นกันเลยดีกว่า ที่มา littlethings
-
วินาทีเฉียดตาย!! ตำรวจพยายามช่วยชีวิตชายรายหนึ่งให้รอดพ้นจากรถไฟพุ่งชน!!
เวลาที่จะต้องขับรถผ่านทางรถไฟนั้น ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อมีสัญญาณเตือนว่ารถไฟกำลังจะผ่านมาก็ควรที่จะหยุดรอ และหลายครั้งที่มีคนคิดว่าตัวเองข้ามทัน แต่นั่นคือความประมาทที่อันตรายถึงชีวิต!! อุทาหรณ์สำหรับผู้ที่คิดจะขับรถข้ามทางรถไฟในเวลาที่รถไฟกำลังจะแล่นผ่าน โชคดีสำหรับชายรายนี้ที่คุณตำรวจสามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการสูญเสียเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้ ที่มา : thechive
-
10 ภาพอันแสนอบอุ่นที่เราจะได้เห็น “น้ำใจ” ของมนุษย์ที่คอยช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ
บางที เราก็อยากตื่นขึ้นมาเพื่อพบเจอแต่สิ่งดีๆ เพราะจะทำให้วันทั้งวันของคุณป็นวันที่สดใส การที่จะทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีสำหรับคุณก็ต้องเริ่มที่ตัวเอง และสิ่งรอบๆตัวด้วย บางทีพลังเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องหาที่ไหนไกลเลย เหมียวเชื่อว่าการได้เห็นคนคนหนึ่งทำเรื่องดีๆ ก็ถือเป็นแรงผลักดันให้เราได้แล้ว วันนี้เหมียวจึงมีภาพเคลื่อนไหวของเหล่ามนุษย์ผู้มีจิตใจเมตตาต่อสัตว์ พวกเขาได้ช่วยเหล่าพวกมันไม่ว่าจะเป็นสัตว์ตัวเล้กหรือตัวใหญ่ ดูแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกเลย 1. ช่วยเป็ดน้อยวิ่งกลับไปหาแม่ 2. เอาบันไดให้แล้วรีบเผ่นนน 3. ช่วยเป็ดออกจากตาข่าย 4. ช่วยเสือแบบเผ่นป่าราบ 5. เข้าไปอยู่ในนั้นได้ไงเนี่ย 6. สุดยอดมากเลยคุณพี่ 7. ทุกคนเป็นกำลังใจให้ 8. คงต้องลดความอ้วนแล้วสินะ 9. เกือบโดนทิ้งไว้กลางทางซะแล้ว 10. แม่จ๋าาาาาา หวังว่าภาพเหล่านี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกดีได้นะจ๊ะ อิอิ ที่มา boredpanda
-
เจ้าหมาสุดฉลาด เจอ “โลมาเกยตื้น” จนสุดท้ายช่วยชีวิตมันได้ทัน
สุนัขถือเป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่าฉลาดที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันสามารถฝึกให้ทำอะไรต่างๆได้ง่ายกว่าสัตว์ชนิด แต่นอกเหนือจาการฝึกแล้ว มันยังมีความไวต่อความรู้สึกที่ดีอีกด้วย เหมือนอย่างสุนัขของ ริช วิลคอก ตัวนี้ที่มีชื่อว่า ลีอา มันจะติดตามเขาไปทุกๆที่ที่เขาไป วันหนึ่งริชได้ออกไปตกปลาที่ริมหาดแห่งหนึ่งในเมืองเวลส์ แต่แล้วเจ้าลีอาก็เกิดค้นพบบางสิ่งที่ชายหาด มันจึงเห่าเรียกริชให้ไปดู และเขาก็พบว่าสิ่งนั้นก็คือ ลูกโลมาตัวหนึ่งที่กำลังเกยตื้นอยู่ เจ้าโลมาตัวนั้นกำลังขาดน้ำ ริชจึงทำการดันมันให้กลับคืนสู่ท้องทะเล เราไปดูคลิปการช่วยชีวิตนี้กันเลย ที่มา elitereaders
-
น้องหมาผู้โชคร้าย หัวติดอยู่กับซอกล้อรถยนต์เก่า ใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการช่วยชีวิต!!
ใครจะไปคิดล่ะว่าล้อรถยนต์เก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จะก่อให้เกิดอันตรายกับสุนัขได้ โดยที่คุณ Jessica Arnold นั้นเป็นผู้ที่ให้อาหารกับเจ้าพิตบูลจรจัดตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Jimma เป็นประจำ จะมาทักทายกันสองครั้งต่อวัน แต่แล้ววันหนึ่งคุณ Jessica Arnold ก็พบเจ้า Jimma ในสภาพที่หัวติดเข้าไปในล้อรถยนต์เก่าโดยที่ไม่ทราบสาเหตุว่ามันเข้าไปอยู่แบบนั้นได้อย่างไร จึงรีบนำตัวไปขอความช่วยเหลือที่สถานีดับเพลิงเป็นการด่วน เจ้าหน้าที่ต้องใช้สบู่และน้ำมันพืชเพื่อหล่อลื่นไม่ให้เกิดการเสียดสีที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้า Jimma จากนั้นก็นำเครื่องมือมาผ่าล้อรถยนต์เพื่อนำเจ้า Jimma ออกมา การช่วยเหลือนั้นต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะเจ้า Jimma นั้นเกิดอาการกลัวเป็นอย่างมาก ค่อยๆ ตัดและค่อยๆ พักเป็นระยะๆ และแล้วในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถนำล้อรถยนต์ออกจากร่างของเจ้า Jimma ได้อย่างปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ที่มา : lifebuzz
-
การช่วยชีวิตฉลามเกยตื้นผู้เหนื่อยล้า ให้กลับไปสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย!!
ด้วยภาพลักษณ์ของฉลามขาวที่เป็นสัตว์นักล่าที่น่ากลัวในท้องทะเล จึงทำให้หลายคนกลัวจนไม่อยากจะเข้าใกล้ เพราะเกรงว่าจะโดนทำร้ายได้ ไม่ว่ามันจะอยู่แบบไหนก็ตาม แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ใต้น้ำเพียงใด อยู่ผิดที่ผิดทางก็อาจจะทำให้ไม่อาจมีชีวิตรอดกลับมาได้ อย่างเช่นเจ้าฉลามขาวตัวนี้ที่พยายามจะจับนกนางนวลบริเวณริมชายหาด ทำให้เจ้าฉลามขาวผู้โชคร้ายต้องอยู่ในสภาพเกยตื้น เปรียบได้เหมือนกับคนใกล้จะสิ้นใจแล้ว ผู้คนแถวนั้นก็รีบนำน้ำมารดตัวมันเพื่อให้มีชีวิตรอด และได้นำเชือกมารัดตัวมันไว้ เพื่อพามันกลับบ้าน หลังจากที่พาเจ้าฉลามลงสู่ทะเลได้แล้ว แต่มันก็ไม่อาจสามารถว่ายน้ำเองได้ เนื่องจากเหนื่อยล้ากับการเกยตื้นบนบน พวกเขาก็เลยพามันว่ายน้ำไปเรื่อยๆ ไปจนถึงบริเวรน้ำลึกได้อย่างปลอดภัย ที่มา : thechive