Tag: ช่วยเหลือ
-
เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวไปเป็น “ทาสเซ็กส์” ถึง 6 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่แล้ว
จากการรายงานระบุว่า เด็กหญิงชาวจีนที่ถูกลักพาตัวไปเป็นทาสเซ็กส์นานถึง 6 ปี วันนี้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว หญิงสาวไม่เผยนามได้รับการช่วยเหลือจากแม่ของเธอเองเมื่อช่วงต้นปี 2018 และเมื่อเร็วๆ นี้เธอก็ได้เปิดเผยว่าเคยให้กำเนิดเด็กที่เกิดจากชายผู้ลักพาตัวเธอและลูกชายของเขา ชายผู้ลักพาตัวนั้นมีชื่อว่า Deng ขณะนี้ได้ถูกจับกุมในข้อหาข่มขืน ขณะเดียวกันลูกชายของ Deng ก็ทำการข่มขืนหญิงคนนี้เช่นกัน หญิงสาวผู้เป็นเหยื่อ เธอหนีออกจากบ้านในเมืองชู่หม่าเตี้ยน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ในปี 2012 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 14 ปีเนื่องจากเธอได้ทะเลาะกับพี่ชาย แต่ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ดำเนินการแจ้งความว่าเธอหายตัวไป เพราะในเวลานั้น Li Ailing ผู้เป็นแม่ก็ต้องจำคุกเนื่องด้วยคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนผู้เป็นพ่อก็ทิ้งครอบครัวไปก่อนหน้านั้นเป็นปีแล้ว หลังจากแม่ถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2016 ทำให้เธอรู้ว่าลูกสาวหายตัวไปถึง 4 ปีแล้ว เธอจึงเริ่มดำเนินการตามหา จากนั้นเธอก็ได้พบสาวน้อยในชุดโทรมๆ เธอรู้ว่านั่นเป็นลูกสาวของเธอแน่ๆ เธอพยายามเตือนคำความจำเธอ แต่ตัวลูกสาวเองกลับบอกว่าจำแม่ของตัวเองไม่ได้ กระทั่ง ฝ่ายแม่เล่าเรื่องลูกที่หายตัวไปให้เธอฟัง พร้อมกับได้มองหน้ากันอย่างใกล้ชิด สุดท้ายหญิงสาวก็เรียก Li ว่า “แม่” อย่างไรก็ตาม เด็กสาวปฏิเสธที่จะกลับบ้าน เธอพูดออกมาเพียงคำว่า “เด็ก” เท่านั้น…
-
เศรษฐีอินเดีย จ่ายค่าพิธีสมรสให้หญิงสาวทุกคนที่ “กำพร้าพ่อ” ถือเป็นการช่วยเหลือสังคม
เศรษฐีแห่งวงการค้าเพชรในอินเดียวได้จัดงานประจำปีขึ้นเพื่อมอบเงินช่วยเหลือหญิงสาวกำพร้าพ่อแม่ที่กำลังจะแต่งงาน Mahesh Savani เจ้าของ PP Savani Group ได้จ่ายค่าจัดงานสมรสให้กับคู่รักมากว่า 3,000 คู่แล้วเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา และปีนี้ เขาก็ได้ทุ่มเงินช่วยเหลือหญิงสาวกำพร้าอีก 261 ราย เข้าพิธีวิวาห์อย่างสมเกียรติที่มีนาย Vijay Rupani มุขมนตรีของรัฐคุชราตมาเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้งานดังกล่าวยังมีการถ่ายทอดสดลงบนเว็บไซต์ Youtube อีกด้วย ชมคลิปวิดีโอ Mahesh Savani และคู่บ่าวสาว Mahesh Savani โดยในงานคู่บ่าวสาวทุกคู่จะได้รับของขวัญพิเศษเป็นของใช้ภายในบ้านที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ นอกจากนี้ทุกคู่ยังได้รับการประกันชีวิตเป็นจำนวนเงิน 200,000 รูปี (ประมาณ 92,500 บาท) ในการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ Mahesh กล่าวว่าสิ่งที่เขาทำมันเปรียบเสมือนความรับผิดชอบต่อสังคมที่ต้องช่วยเหลือหญิงสาวกำพร้าที่ไม่มีเงินพอจะสามารถจัดงานสมรส ตามธรรมเนียมของประเทศอินเดียแล้ว ผู้เป็นพ่อจะต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างในพิธีสมรสของลูกสาว นั่นหมายถึงว่า หากพ่อของหญิงสาวโสดคนใดเสียชีวิตหรือยากจนมาก หญิงสาวก็มีโอกาสแต่งงานน้อย เพราะพิธีแต่งงานในประเทศอินเดียนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง เพราะครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวจะถูกคาดหวังให้มอบเงินและของกำนัลคล้ายเงินสินสอดให้ฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นปริมาณมาก บรรยากาศในงาน Mahesh…
-
แอร์ฯ สาวฟิลิปปินส์ อาสา “ให้นม” กับลูกน้อยของผู้โดยสาร เพราะแม่น้องนมหมด
สำหรับอาชีพ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นอกจากจะทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในห้องโดยสารแล้ว ยังต้องมีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีอีกด้วย ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นของผู้โดยสารหรือของพวกเขาเอง อย่างเช่น แอร์โฮสเตสสาวจากสายการบิน Philippine Airlines คนนี้ที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาของผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งซึ่งไม่มีน้ำนมให้ทารกน้อยของเธอ แอร์โฮสเตสสาววัยจึงเข้าไปให้นมตัวเองกับทารกที่กำลังร้องไห้เสียงดังเพราะความหิว Patrisha Organo พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสาววัย 24 ปี ได้รับหน้าที่ดูแลเที่ยวบินภายในประเทศฟิลิปปินส์ และระหว่างอยู่บนเครื่อง เธอก็ต้องพบกับเด็กทารกที่ร้องงอแงจนสร้างความรบกวนให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ เธอจึงเดินเข้าไปถามผู้เป็นแม่ของเด็กคนดังกล่าวว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ คุณแม่น้ำนมหมด ขณะที่เจ้าหนูน้อยก็กำลังโหยหิวอย่างเต็มที่พอดี Patrisha ก็เลยเสนอตัวเข้าช่วยเหลือโดยการให้นมของเธอเองกับเด็กคนดังกล่าว เธอกล่าวว่า “ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องให้นมของฉันเองกับเด็กคนนี้ เพราะฉันเองก็มีลูกและกำลังให้นมอยู่เหมือนกัน ฉะนั้น มันควรเป็นฉันนี่แหละที่จะให้ความช่วยเหลือได้” Patrisha Organo วัย 24 ปี จากกรุงมะนิลา กับหนูน้อยบนเครื่องบิน Patrisha ยังเล่าต่ออีกว่า “ทันทีที่เจ้าหนูน้อยเริ่มดูดนมฉัน ฉันเห็นได้ถึงความโล่งใจในดวงตาของผู้เป็นแม่ และไม่นานนักเจ้าหนูก็ผล็อยหลับไป” เธออธิบายเพิ่มเติมว่าเธอเข้าใจความรู้สึกอัดอั้นตันใจในสถานการณ์นี้ดี เพราะเธอเองก็เพิ่งมีลูกสาววัย 9 เดือนชื่อว่า Jade เช่นกัน เธอจึงรับรู้ถึงความเครียดนี้ดี ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ายกย่องอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับความช่วยเหลือที่แอร์โฮสเตสสาวคนนี้มีให้กับผู้โดยสาร ที่มา: ladbible, metro และ mirror
-
หนุ่มเดลิเวอรี่ ถูกยกย่องเป็น “ฮีโร่” หลังจอดรถ แล้วโดดลงคลองไปช่วยเด็กหญิงที่ ‘จมน้ำ’
ชายส่งของชาวจีนคนหนึ่งได้ผ่านไปเห็น เด็กจมน้ำ และรีบเข้าไปช่วยเหลือจนเด็กคนนั้นรอดชีวิต ชาวเน็ตพากันยกย่องเป็น ฮีโร่ ตามประโยคที่เรามักได้ยินกันว่า “ฮีโร่ในชีวิตจริงไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุม” ในวันที่ 13 ตุลาคม 2018 เด็กหญิงชาวจีนวัย 6 ขวบเกิดอุบัติเหตุลื่นและตกลงไปในน้ำขณะกำลังล้างไม้ถูพื้นอยู่ริมลำคลองในเมืองเฉาซิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน คลิปเหตุการณ์ จาก CGTN จากคลิป จะเห็นได้ว่ามีเด็ก 2 คนกำลังล้างอะไรบางอย่างอยู่ริมลำคลอง จากนั้นเด็กคนหนึ่งก็พลัดตกลงไปในน้ำ ขณะเดียวกัน ชายส่งของก็บังเอิญผ่านมาเห็นพอดี เขารีบลงจากรถทันที ชายคนดังกล่าวหยิบของออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาช่วยเด็กหญิงขึ้นมาได้ปลอดภัย เขาก็กลับลงไปในน้ำอีกครั้งเพื่อไปงมหารองเท้าของเด็ก หลังวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็ชื่นชมชายคนนี้ถึงความกล้าหาญของเขา จนเรียกได้ว่าเป็น “ฮีโร่” ในชีวิตจริงเลยทีเดียว ชายคนนี้ภายหลังทราบว่าชื่อนาย He Linfeng อายุ 23 ปี พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ของ Meituan ซึ่งเข้าให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเห็นน้ำกระเพื่อมและตกใจมากเมื่อเห็นว่ามีเด็กกำลังจมน้ำ ผมเห็นว่ารองเท้าเด็กหายไป อีกอย่างตัวผมไหนๆ ก็เปียกแล้วก็เลยตัดสินใจกลับไปหารองเท้าให้เด็กอีกครั้ง” …
-
พบกับคุณหมออารมณ์ดี ชวนเหล่าคนไข้เต้นทุกครั้งที่รักษา เพื่อสร้างความสุขให้กับพวกเขา!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘หมอ’ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่เรียกได้ว่าต้องทำงานกับ ‘ความเครียด’ แทบจะตลอดเวลา เพราะพวกเขามีชีวิตของเหล่าคนไข้เป็นเดิมพัน และหลายๆ ครั้งพวกเขาก็ทำมากกว่า ‘การรักษาทางกาย’ ให้กับผู้ป่วย ด้วยการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับพวกเขา นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจของ Tony Adkins คุณหมออารมณ์ดี วัย 42 ปี จากเขต Orange County รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มักจะมาสร้างความสนุกสนานให้กับเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงในโรงพยาบาลเด็ก ในทุกๆ ครั้งที่ทำการรักษาเด็กๆ เขามักจะเต้นด้วยความสนุกสนาน รวมไปถึงชวนเหล่าเด็กๆ เต้นด้วย ราวกับว่าการเต้นเหล่านั้นเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาของเขา จนถึงกับขนาดที่ว่าได้รับฉายาให้เป็น ‘Dancing Doc‘ หรือ ‘คุณหมอนักเต้น’ เลยทีเดียว!! คุณหมอเล่าว่าที่ทำแบบนี้เพราะตนต้องการที่จะ ‘อยากรักษาความสนุกในวัยเด็กของเหล่าผู้ป่วยของเขาเอาไว้ ก็เลยตัดสินใจที่จะเต้นเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข’ “การเต้นกับผู้ป่วยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ จากการที่พวกเขาเข้ามารักษาตัวที่นี่” “ผมต้องการที่จะเก็บรักษาช่วงเวลาอันสำคัญของเด็กๆ เอาไว้ เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงวัยแห่งความเป็นเด็กของพวกเขาเองก็ค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ เช่นกัน มันไม่สามารถกดหยุดเหมือนกับในหนังได้”…
-
ไบก์เกอร์หนุ่มถูกยกให้เป็นฮีโร่ หลังขับชน ‘หัวขโมย’ ที่พยายามปล้นต่อหน้าต่อตา!!
เรื่องราวสุดระทึกเมื่อชายหนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่งเจอเหตุการณ์ ‘ผู้ร้าย’ ชิงทรัพย์ต่อหน้าต่อตา แต่ด้วยการตัดสินใจอันรวดเร็วทำให้เขาสามารถช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนแห่งหนึ่งในเขต Alexandra ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้ Anton Damhui ชายผู้ขี่มอเตอร์ไซค์พบเห็นชายหนึ่งพยายามที่จะปล้นกระเป๋าจากรถคันสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ พอดี หัวขโมยสามารถกระชากกระเป๋าออกมาได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกนาย Anton ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์เข้ามาชน และเบียดไม่ให้ลุกขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามหัวขโมยลุกขึ้นมาได้และพยายามวิ่งหนีต่อไป Anton ก็พยายามกลับรถตามไปและโบกมือให้ช่วยจับหัวขโมยคนนั้น จนในที่สุดหัวขโมยก็ยอมแพ้ และโยนกระเป๋าที่ชิงมาได้ทิ้งไว้บนถนนและวิ่งหนีไป… Anton ได้นำคลิปวินาทีสุดระทึกไปอัปโหลดลงเว็บไซต์ยูทูบพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า “ผมกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน และเห็นชายคนหนึ่งกำลังลงมือปล้นอย่างอุกอาจ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันครับ” ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกอัปโหลดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา และตอนนี้มีผู้ให้ความสนใจมากมายจนตอนนี้ยอดวิวพุ่งขึ้นไปสูงถึง 33,000 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ชื่นชมในการกระทำอันกล้าหาญของเขา “ขอขอบคุณในการช่วยเหลือของคุณ ที่ต่อสู้กับการก่อเหตุอาชญากรรม” “เป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมมาก รู้สึกดีนะที่ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะช่วยเหลือเมื่อเราพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ขอบคุณมากค่ะ” “ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แทนที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ…
-
เด็กชายเศร้า ‘ขึ้นรถบัสผิดคัน’ เด็กแปลกหน้า 3 คน ช่วยเรียกแท็กซี่/จ่ายเงินให้กลับถึงบ้าน!!
หากย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ‘การไปโรงเรียนวันแรก’ นั้นถือเป็นอะไรที่เราไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน ทั้งเพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ต่างๆ ที่เราจะได้รับ มันช่างน่าตื่นเต้นซะจริงๆ เช่นเดียวกันกับเด็กชายวัย 11 ขวบ ที่ดันขึ้น ‘รถบัส’ ขากลับบ้านผิดคัน ในวันเปิดเทอมวันแรกของการเรียนชั้นเกรด 7 หรือเทียบเท่ากับ ม.1 ของบ้านเรา ปรากฏว่ารถบัสที่เขาขึ้นมานั้นขับออกไปจากเมือง Liverpool บ้านของเขา ด้วยเหตุนี้เองเด็กชาย จึงทำอะไรไม่ถูก ตกอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ และตื่นตระหนก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับบ้านได้อย่างไร และแล้วเด็กหนุ่มวัย 17 ปี Tom O’Brien ที่เรียนอยู่ชั้นเกรด 11 (ม.5) และ เด็กชายจากชั้นเกรด 7 อีกสองคน คือ Harry Campbell และ Dylan Robson ก็สังเกตเห็นถึงความกังวลใจของเด็กชายแปลกหน้า ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เลยเสนอความช่วยเหลือให้ Tom O’Brien วัย 17 ปี เรียนอยู่ชั้นเกรด 11…
-
2 คุณครู ตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ เพื่อช่วยชีวิตพ่อของลูกศิษย์ ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต
เรื่องราวสุดประทับใจ คุณครูตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคุณพ่อของลูกศิษย์ที่ป่วยเป็นโรคไตและเกือบเอาชีวิตไม่รอด คุณ Neil Emmott ป่วยเป็นโรคถุงน้ำในไตมาตั้งแต่ปี 2001 ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาตั้งแต่นั้น แต่ภายหลังไตของเขาก็เกิดเสื่อมสภาพลงในปี 2016 ครอบครัวพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะหาคนบริจาคไตให้ เพราะเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้ครอบครัวและภรรยาของเขาไม่สามารถบริจาคให้ได้ นั่นหมายความว่า คุณหมอจะต้องทำการฟอกไตให้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหาคนบริจาคไตที่เหมาะกับเขาได้ และแล้วโชคฃะตาก็เป็นใจให้กับ Neil และครอบครัว เมื่อ Allison Malouf คุณครูประจำชั้นของ Mackenzie Emmott ผู้เป็นลูกสาวได้รู้ข่าวเกี่ยวกับพ่อของเธอ จึงตัดสินใจที่จะมอบไตของตัวเองให้กับเขา ด้วยความที่สามีของคุณ Allison นั้นเคยบริจาคไตข้างหนึ่งไปเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้เธอรับรู้ว่าชีวิตที่ไม่มีไตอีกข้างนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะบริจาคไต “เมื่อคุณเป็นคุณครู คุณจะมีความรู้สึกว่าลูกศิษย์ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ลูกสาวของพวกเขาก็เปรียบเสมือนลูกสาวของเราด้วย ฉันไม่อยากเห็นเธอใช้ชีวิตต่อไปโดยที่ไม่มีพ่อ…พระเจ้ามอบไตมาให้เราถึง 2 ข้าง แต่เราจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ เพียงข้างเดียวเท่านั้น” คุณครู Allison กล่าว อย่างไรก็ตามการบริจาคไตของคุณครู Allison (คนกลาง) ก็ถูกปฏิเสธ เพราะเธอมีเลือดคนละกรุ๊ปกับคุณพ่อ Neil ขณะเดียวกันก็มีคุณครูอีกท่านหนึ่ง…
-
หนุ่มถ่าย MV เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ช่วยดูแลรักษาโรคมะเร็งมาโดยตลอด
เรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ต้องการจะแสดงความขอบคุณกับเจ้าหน้าที่พยาบาลและคุณหมอ ที่คอยดูแลเขามาตลอดการรักษาโรคมะเร็ง ก็เลยชวนพวกเขามาถ่าย MV เพลงเพื่อบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองซะเลย นาย Davion M. Hollywood หนุ่มวัย 17 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาใช้เวลานานกว่า 5 เดือนในโรงพยาบาล Children’s Medical Center ในเมือง Dallas รัฐเท็กซัส จากความประทับใจของการดูแลของเหล่าเจ้าหน้าที่ Davion ก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอทุกช่วงเวลาเก็บไว้ในโทรศัพท์ของเขา หลังจากที่การรักษาเสร็จสิ้น และเขาต้องออกจากโรงพยาบาลไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติ Davion ก็เลยนำคลิปวิดีโอเหล่านั้นมาตัดต่อทำเป็นมิวสิกวิดีโอ เพื่อแสดงถึงความขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ดูแลมาเป็นอย่างดี จนช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ ของชีวิตมาได้ รวมไปถึงขอให้เจ้าหน้าที่เต้นแล้วก็ร้องเพลงแบบลิปซิงก์ เป็นเพลง Count On Me ของ Bruno Mars ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากที่วิดีโอดังกล่าวเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทางโรงพยาบาลก็นำคลิปไปแชร์ลงโซเชียล ICYMI: our patient, Davion, created this…
-
หนุ่มโพสต์ตัดพ้อ หวังดี ‘ช่วยปิดกระโปรงรถแท็กซี่’ แต่โดนหาว่า ‘เสือก’ ซะงั้น!?
บางครั้งการจะทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น อาจจะต้องดูกันสักนิดนึง ต้องดูก่อนว่าอีกฝ่ายเค้าเต็มใจที่จะให้ช่วยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะถูกหาว่า ‘ยุ่งเรื่องของคนอื่น’ ไปซะได้ เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งชื่อ Supod Mongkonkoon โพสต์เล่าเรื่องราวว่าตัวเขาช่วยปิดฝากระโปรงท้ายให้กับแท็กซี่คันหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วกลับโดนด่าว่า ‘เสือก’ ซะงั้น!? ลองไปอ่านโพสต์ต้นฉบับแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าว่า “เสือก” เหรอ??? ผมเห็นพี่แท็กซี่ลืมปิดกระโปรงหลังรถ ผมเลยจอดบีบแตรเรียกแล้วปิดให้ (อาจจะปิดแรงไป) พอมาจอดด้านข้างรถ พี่แท็กซี่เปิดกระจกมาหน้าตาพี่แกไม่พอใจผมอย่างมาก ผมก็บอกดีๆ นะว่าพี่ครับลืมปิดกระโปรงหลังผมเลยปิดให้นะ แต่พี่แท็กซี่ก็เหมือนไม่รับฟังจะติจะว่าผมอย่างเดียว โมโหโวยวาย ต่อหน้าผู้โดยสาร แถมทิ้งท้ายด่าผม “เสือก” ผมนี่ถึงกับงง ผมเลยคิด “เห่ย นี่ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าเสือกหรอ?” นี่ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่า??? ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ไปโกรธหรือโมโหใครมา แต่ผมให้เกียรติช่วยพี่ พี่จะไม่ให้เกียรติผมไม่เป็นไร แต่พี่ก็ควรให้เกียรติผู้โดยสารที่มากับพี่ด้วยนะครับ (ถ้าผมช่วยพี่แล้วทำให้ทรัพย์สินพี่เสียหายผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ) @แยกอโศก 09.00 น.” คลิปเหตุการณ์ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 5,200…
-
ชมโปรเจ็กต์ “It Happens” ภาพถ่ายทรงพลังรณรงค์ให้ผู้คนเลิกพฤติกรรม ‘คุกคามทางเพศ’
ปัญหาหนึ่งของสังคมที่เปรียบเสมือนโรคร้ายรุนแรงและรักษาไม่หายขาดก็คือ การคุกคามทางเพศ มันเป็นโรคที่ไม่เคยเลือกว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และกับใครบนโลกใบนี้ แต่มัน “เกิดขึ้น” ราวกับไม่มีทางควบคุมได้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็มีเพียงการรณรงค์ให้ผู้คนหยุดพฤติกรรมที่ส่อไปในทางคุกคามทางเพศเท่านั้น ช่างภาพหญิงสาวนามว่า Yana Mazurkevich จึงสร้างผลงานภาพออกมารณรงค์และเตือนสติ Yana Mazurkevich โปรเจกต์ของ Yana มีชื่อว่า “It Happens” มันเป็นเซ็ตภาพซึ่งสื่อให้เห็นว่าโรคร้ายที่ชื่อว่า “การคุกคามทางเพศ” (Sexual Assault) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่เราอาจไม่ทันระวังตัว แต่ละภาพของเซ็ต “It Happens” นั้นจะมีชื่อภาพที่ต่อจากคำว่า “It Happens” เสมอ เราไปชมภาพเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลยดีกว่า It Happens Suddenly: มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน It Happens Unexpectedly: มันเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด It Happens Unwillingly: มันเกิดขึ้นได้แม้เราไม่ต้องการ It Happens With Anyone:…
-
พลเมืองดีไต้หวัน ช่วยเหลือคนที่ “รถเสียขยับไม่ได้” ด้วยการ “อุ้ม” มันไปยังร้านซ่อม…
ซูเปอร์ฮีโร่น่ะไม่ได้มีแค่ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น มนุษย์อย่างเราก็อาจกลายเป็นฮีโร่ได้โดยไม่ต้องมีพลังพิเศษใดๆ ขอเพียงแค่ใช้ความสามารถที่มีในการ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ก็พอแล้ว ล่าสุดในไต้หวัน แค่เพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้น ก็สามารถสร้างคนธรรมดาให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหารถจักรยานยนต์เสีย… หลายคนคงเคยประสบปัญหารถดับกลางถนน เช่นเดียวกับเจ้าของเรื่องรายนี้ที่จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของเขาก็ดับขณะขับขี่อยู่บนทางจักรยานยนต์ โดยไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากน้ำมันหมดหรืออะไรกันแน่ แต่เมื่อเข็นไปสักพักมันก็สตาร์ตติดแต่กลับดูเหมือนว่าจะเกิดความเสียหายเกิดขึ้นเล็กน้อยทำให้ล้อหลังของรถนั้นล็อกไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ในขณะที่กำลังงุนงงอยู่กับวิธีแก้ไขปัญหา ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสนอความช่วยเหลือ ในเมื่อมันขี่ไม่ได้ แถมยังเข็นต่อไปไม่ได้อีก ชายกำยำล่ำสันผู้ปรากฏกายมาราวกับฮีโร่จึงตัดสินใจ ยกมันขึ้นมา ทั้งคันเลย… ขี่ไม่ได้ เข็นไม่ได้ ก็คงต้อง “ถือ” มันไปเท่านั้นแหละนะ อึ้บบ!! ชายคนนี้ยกรถจักรยานยนต์ทั้งคันขึ้นราวกับว่าอุ้มลูกหมา แถมเขายังเดินต่อไปอีกกว่า 100 เมตร จนกระทั่งถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ชมคลิปวิดีโอของฮีโร่หนุ่มคนนี้กัน! ชาวเน็ตที่เข้ามาชมวิดีโอต่างพากันชื่นชมและยกย่องให้ชายหนุ่มคนนี้เป็น “เดอะฮัลค์แห่งไต้หวัน” เลยทีเดียวเชียวล่ะ ที่มา: 陳韋丞 via ck101
-
คุณแม่ซื้อรถให้ ‘คุณครู’ ของลูกสาว หลังรู้ว่าเธอต้องนั่งรถหลายต่อไปสอนทุกวัน!!
หากคุณได้รับการช่วยเหลือจากใครสักคน ย่อมต้องการที่จะตอบแทนคนผู้นั้นเป็นเรื่องธรรมดา… เช่นเดียวกันกับ CEO คนนี้ ที่อยากจะแสดงความขอบคุณต่อ ‘คุณครู’ ของลูกสาว หลังจากที่สืบทราบว่าคุณครูคนนี้จะต้องเดินทางขึ้นรถบัสหลายต่อเหลือเกินจนกว่าจะไปถึงที่ทำงานเพื่อสอนหนังสือให้กับลูกของเธอ ก็เลยตัดสินใจซื้อรถใหม่ป้ายแดงมอบเป็นของขวัญให้กับคุณครูซะเลย!! Courtney Adeleye CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท The Mane Choice เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ได้ตัดสินใจช่วยเหลือคุณครูของลูกสาว หลังได้รู้จากสามีว่าเธอต้องเดินทางไปทำงานอย่างยากลำบาก เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ เผยให้เห็นถึงวินาทีสุดประทับใจเมื่อคุณครูได้เห็นรถคันใหม่ของตน “เอาจริงเหรอเนี่ย? คุณให้ฉันจริงๆ เหรอ? โอ้พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย” คุณครูกล่าว หลังได้เห็นรถใหม่ “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย คุณเองก็คงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร” คุณครูกล่าวกับ Adeleye และสามี ที่นำรถยี่ห้อฟอร์ดโฟกัส มูลค่ากว่า 18,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (600,000 บาท) มามอบให้ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ลงโซเชียลพร้อมกับแคปชั่นว่า “เธอสมควรได้รับมัน เธอเป็นคนที่น่ารัก และคุณจะต้องอยากเจอเธออย่างแน่นอน!!” Adeleye เล่าว่า “เมื่อสามีของฉันบอกว่า คุณครูที่สอนลูกสาวของเราหลายปีมานี้ ต้องขึ้นรถบัสหลายต่อมากเพื่อเดินทางไปสอนหนังสือในทุกๆ…
-
หนุ่มฮีโร่ กระโดดเข้าไปในรถขณะเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือ ‘คนชัก’ ไม่ให้ประสบอุบัติเหตุ!!
บางครั้งสถานการณ์ร้ายๆ ก็สร้าง ‘ฮีโร่’ ขึ้นมาได้… เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่มีพลเมืองดีวิ่งออกจากรถของตัวเอง แล้วก็กระโดดเข้าไปในรถคันหนึ่งที่กำลังขับออกนอกเส้นทางและสามารถช่วยระงับเหตุร้ายเอาไว้ได้ทัน!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Dixon รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นาย Randy Thompson วัย 39 ได้กลายเป็นฮีโร่หลังช่วยคนขับรถที่จู่ๆ ก็เป็นโรคลมชักขณะขับรถอย่างกะทันหัน Randy เล่าว่าเขาเห็นรถคันหนึ่งขับมาท่าทางแปลกๆ ที่แยกไฟแดงหนึ่ง เพราะจู่ๆ รถคันดังกล่าวก็พุ่งออกมาอีกฝั่งของถนน เขารีบวิ่งลงมาจากรถของตัวเอง แล้ววิ่งเข้าไปทางฝั่งตรงข้ามคนขับ ก่อนที่จะรู้ว่าคนขับรถกำลังเป็นโรคลมชักอยู่ “เขากำลังเอามือกุมไปที่หน้าอกของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี รถคันนั้นอยู่ห่างจากผมไม่ไกลนัก ก็เลยตัดสินใจจอดรถของตัวเองแล้วก็กระโดดออกมา ผมกลัวว่าคนอื่นจะได้รับอันตรายเลยคิดอย่างเดียวว่าจะต้องช่วยเหลือให้ได้” Randy เล่า Randy จึงตัดสินใจกระโดดเข้าไปทางหน้าต่างราวกับว่าเป็นฉากแอคชันของหนังสายลับ แล้วก็หยุดรถเอาไว้ได้ในที่สุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมาสมทบในภายหลัง และทำให้ชายที่เป็นโรคลมชักปลอดภัย คลิปเหตุการณ์นี้ถูกนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้คนเข้ามาชื่นชมในการกระทำของเขามากมาย “พ่อหนุ่มคนนี้กระโดดเข้าไปในหน้าต่างของรถที่กำลังเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้า มันเจ๋งชะมัดยาดเลย!!” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว “โลกของเราต้องการคนแบบเขาเพิ่มอีก” ชาวเน็ตอีกคนหนึ่งกล่าว ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Man heroically…
-
ยูทูบเบอร์ญี่ปุ่น มอบเงิน “1 ล้านเยน” ให้ชายชราไร้บ้าน กลายเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ
ยูทูบเบอร์จากญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้ชื่อแชแนลว่า ラファエル ได้เผยวิดีโอที่ตัวเขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนเพื่อค้นหา คนชรา และมอบความช่วยเหลือเท่าที่เขาสามารถช่วยเหลือได้ ล่าสุดในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้ไปพบกับชายชราไร้บ้านในชุดซอมซ่อคนหนึ่งเข้า เขาอยากทราบว่าสิ่งที่ชายชรคนนี้ต้องการซื้อมากที่สุดคืออะไรเมื่อมีเงิน 1 ล้านเยน เขาจึงมอบเงินจำนวน 1 ล้านเยน (ประมาณ 3 แสนบาท) ให้กับชายชราดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะใช้เงินซื้ออะไรก็ได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มมอบเงินให้กับชายชรา ชายชราก็ถามกลับด้วยความกังวลว่า “ฉันควรได้รับเงินนี้เหรอ ตำรวจจะไม่จับฉันใช่ไหม?” ยูทูบเบอร์หนุ่มจึงยืนกรานอีกครั้งว่าไม่เป็นไรจริงๆ ทันทีที่ได้รับเงินมา คุณลุงรีบไปยังห้างที่ใกล้ที่สุด ซื้อเสื้อผ้า อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นคุณลุงเดินเข้าโรงแรมเพื่อพัก อาบน้ำ และแต่งตัวเสียใหม่ ต่อมาคุณลุงจึงเดินไปตามถนน หาซื้อเสื้อผ้าราคาย่อมเยาแบรนด์ต่างๆ เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มเข้ามาถามว่า ทำไปออกมาซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ถูกๆ? ทำไมถึงไม่ซื้อในห้าง? คุณลุงจึงตอบว่า “กลัวเงินที่เหลือมันจะเหลือน้อยเกินไป อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด” สรุปแล้วคุณลุงใช้เงินในวันนี้ไปเพียง 20,000 เยน หรือราวๆ 6,000 บาทเท่านั้น ยูทูบเบอร์หนุ่มถามคุณลุงอีกว่า ต้องการซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า? คุณลุงยิ้มแล้วตอบว่า “อยากร้องคาราโอเกะ…
-
เจ้าบ่าวกลายเป็นฮีโร่ หลังหยุดพิธีแต่งงานกลางคันเพื่อไปช่วยชีวิต ‘เด็กจมน้ำ’!!
งานแต่งงาน ถือเป็นงานสำคัญที่อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต และช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ทุกคนย่อมต้องการที่จะทำให้มันสมบูรณ์แบบ ราบรื่น และประทับใจไม่รู้ลืมด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก แต่สำหรับงานแต่งงานของเจ้าบ่าว Zac Edwards วัย 37 ปี กับเจ้าสาว Cindy Edwards วัย 32 ปี คู่นี้แล้วขอบอกเลยว่ามันน่าจดจำเพราะเจ้าบ่าวจู่ๆ ก็กลายเป็นฮีโร่ไปซะงั้น!? เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่ว่าที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูปกันอย่างออกรสออกชาติ จู่ๆ ก็มีเด็กวัยรุ่นประสบเหตุจมน้ำ เขาถูกคลื่นพัดออกไปห่างจากชายฝั่งราวๆ 50 เมตร เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าบ่าวจึงรีบถอดเสื้อแล้วคว้าบอร์ดกู้ชีพว่ายน้ำออกไปช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าว ก่อนที่จะช่วยชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายได้สำเร็จ!! Zac เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “Cindy กับผมกำลังถ่ายรูปกันบนหาด จู่ๆ ก็มีผู้หญิงตะโกนว่ามีวัยรุ่นกำลังจมน้ำ!! ผมมองหน้าเขาไม่ชัดเพราะเขาอยู่ห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 50 เมตร ผมจึงถอดเสื้อออก และวิ่งไปคว้าบอร์ดกู้ชีพก่อนจะวิ่งลงน้ำไป” “ผมบอกให้เด็กๆ วิ่งกลับขึ้นไปบนหาด จากนั้นก็ว่ายไปจนถึงตัวของเด็กคนนั้น เขาบอกกับผมว่า ‘ผมหายใจไม่ได้’ ก็เลยพยายามอุ้มให้ศีรษะของเขาลอยอยู่เหนือน้ำ แล้วก็ให้เขาเกาะที่บอร์ดกู้ชีพก่อนจะค่อยๆ ว่ายกลับเข้าฝั่ง” “แต่กางเกงที่ผมใส่มาด้วยนั้นมันทำให้ยากต่อการเตะขา ผมเริ่มหมดแรง แต่แล้วเจ็ตสกีกู้ชีพก็ขับเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน”…
-
พนักงานร้านให้โอกาส “หนุ่มออทิสติก” ได้ช่วยจัดของอย่างใจเย็น ชาวเน็ตช่วยระดมทุนการศึกษา!!
คนที่ป่วยด้วยกลุ่มโรคออทิสติก มักจะถูกกีดกันทางสังคม และมองว่าเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ไม่อาจทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วไป ในบางครั้งเราอาจจะต้องมองกลับอีกมุมหนึ่ง หากว่าลองหยิบยื่นโอกาสให้กับพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้ง ตัวอย่างจาก Jordan Taylor พนักงานร้านขายของ Rouses Markets รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ในขณะที่เขากำลังช่วยลูกค้าหนุ่มออทิสติก สอนงานจัดของขึ้นชั้นสินค้าแม้จะเป็นงานง่ายๆ แต่ก็ยากพอสมควรสำหรับเขาด้วย Jack Ryan คือหนุ่มออทิสติกคนดังกล่าว หลังจากที่เข้ามาในร้านและยืนดู Jordan กำลังสต๊อกสินค้าเข้าตู้แช่ แทนที่จะถูกเมิน เขากลับหยิบยื่นโอกาสดีๆ ด้วยการให้มาช่วยงาน พร้อมกับสอนงานให้อย่างใจเย็น ทุกขั้นตอนที่ดูง่ายๆ แต่ยากสำหรับ Jack ชายหนุ่มพยายามขึ้นชั้นสินค้าให้ตรงกับที่จัดไว้ โดยมีนาย Jordan คอยส่งของให้อยู่ตลอด จนเสร็จงานทั้งหมดโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที Delaney Edwards Alwosaibi พี่สาวของ Jack กล่าวว่า “เราต่างรู้กันดีว่ากลุ่มผู้ประสบออทิสติกนั้นยากที่จะปฏิบัติตัวข้างนอก อย่างการออกไปร้านขายของชำจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายกันเลยล่ะ… และชายคนนี้ก็ยอมเสียสละเวลาของตัวเอง ยอมให้ Jack ช่วยและเรียนรู้งานของเขากว่า 30 นาที…
-
ชายไร้บ้านที่ตำรวจช่วย ‘โกนหนวด’ ให้ไปสัมภาษณ์งาน สุดท้ายได้งานเรียบร้อยแล้ว!!
เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นช่วยสร้างความรู้สึกอิ่มเอมใจของเราได้เป็นอย่างดี… ดังเช่นเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อชายไร้บ้านคนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ เพราะเขาต้องเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน แต่กลับกลายเป็นว่าระหว่างโกนหนวดมีดโกนของเขาดันเสียขึ้นมาซะงั้น!? อ่านข่าวเก่า :“คุณตำรวจ” ช่วยแปลงโฉม “ชายไร้บ้าน” ให้ดูดีอีกครั้ง ก่อนที่เขามีนัดสัมภาษณ์งาน!! นาย Phillip หรือที่รู้จักกันในชื่อ Phil ได้รับมีดโกนหนวดมาจากพนักงานร้านแมคโดนัลด์สาขาที่ไปสมัครงานมา และเขาก็บอกว่าให้มาสัมภาษณ์งานในวันจันทร์ที่ผ่านมาพร้อมบอกว่าให้โกนหนวดซะนะ แต่แล้วเมื่อเจ้าตัวมาลองโกนหนวดที่ปั๊มน้ำมันดูก็พบว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน เพราะมีดโกนอันนั้นมันเสียซะแล้ว ประจวบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Tony เดินผ่านมาพอดี ก็เลยอาสาโกนหนวดให้เขา ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมีคนถ่ายเอาไว้ได้ และมันถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์สร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย และล่าสุดจากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ Phil ได้ผ่านการสัมภาษณ์งานและกลายเป็นพนักงานร้านแมคโดนัลด์เต็มตัวแล้ว!! เขาเดินทางไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ Tony ด้วยตัวเอง “ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่ง และภายหลังก็มาทราบว่าเขาชื่อว่า Phil กำลังพยายามโกนหนวดของตัวเองด้วยมีดโกนของเขา” “ผมเลยเดินลงไปจากรถแล้วก็ถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม? เพราะผมรู้ว่ามีดโกนหนวดอันนั้นมันพังแล้วแน่นอน ก็เลยอยากจะซ่อมให้เขา และพบว่ามันมีนอตตัวหนึ่งหายไปจริงๆ ด้วย” เจ้าหน้าที่ Tony เล่า…
-
เด็กสาวฟิลิปปินส์ที่มี “แฝดอีกคน” เติบโตอยู่ในร่างกาย เธอกำลังจะผ่าตัดในไทยเร็วๆ นี้
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์นามว่า Veronica Cominguez เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีจากเมืองอีลีกันที่มีแฝดน้องสาวเติบโตขึ้น “ภายในลำตัว” ของเธอ บริเวณช่วงอกของ Veronica นั้นจะพบว่ามีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายแขน มือ และนิ้ว งอกออกมา ซึ่งเป็นร่างของแฝดน้องสาวของเธอที่มีการพัฒนาการผิดปกติ และก็ทำให้ Veronica นั้นต้องการความช่วยเหลือ Veronica Cominguez วัย 14 ที่มีแฝดน้องเติบโตอยู่ในร่างกาย ส่วนแขนที่งอกออกมานั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง Veronica ต้องอาบน้ำทำความสะอาด “แฝดน้อง” ของเธอเสมอ รวมถึงคอยตัดเล็บนิ้วมือให้เธอด้วยเช่นกัน ปัจจุบันผู้คนในท้องที่ได้ทำการระดมทุนเพื่อให้ Veronica เดินทางมาเข้ารับการผ่าตัดนำแฝดของเธอออกที่ ประเทศไทย เธอกล่าวว่า “ตอนหนูยังเป็นเด็กฉันคิดว่ามันเป็นเท้าที่งอกออกมา แต่นานๆ เข้ามันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันหนักขึ้นและทำให้หนูเคลื่อนไหวตัวได้ลำบาก มันมักจะแกว่งไปมาเสมอ และทำให้เสื้อผ้าของหนูเปียกอยู่แทบตลอด” Flora Cominguez ผู้เป็นแม่ของ Veronica ก็เล่าว่าในครอบครัวของเธอเองก็มีประวัติการออกลูกเป็นแฝดอยู่บ้าง และเล่าว่าขณะที่เธอตั้งครรภ์ ถึงเธอไม่ได้เข้าไปพบแพทย์เธอก็รู้ดีว่าเธอต้องคลอดฝาแฝดออกมาแน่นอน เธอจึงตั้งชื่อให้กับลูกทั้งสองคน Flora กล่าวว่าสะดือของ Veronica จะเปียกอยู่เสมอเนื่องจากของเหลวที่ไหลออกมาจากบริเวณ “ฝาแฝด”…
-
10 ประโยคช่วยเหลือ “คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย” พูดอย่างไรให้ถูก ให้พวกเขาอยากมีชีวิตต่อ
ปัจจุบันโรคภัยที่มาแบบเงียบๆ แต่แฝงความอันตรายเอาไว้คือ โรคทางจิต เพราะเราไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเหมือนกันโรคทางกายที่เพียงปวดศีรษะหรือปวดท้องก็ไปพบแพทย์ได้ แต่อาการทางจิต บางครั้งคนเราไม่รู้ว่าแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติหรือเข้าข่ายมีอาการทางจิต ประกอบกับบางคนก็กลัวว่าสังคมจะไม่ยอมรับหากเข้าพบจิตแพทย์ จึงทำให้ผู้ที่มีเพียง “อาการทางจิต” หลายคนอาจพัฒนาจนเป็น “โรคทางจิต” ได้ ปัจจุบัน โรคทางจิตที่แพร่หลายและค่อนข้างใกล้ตัวผู้คนกว่าโรคอื่นก็คือ โรคซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง รวมทั้งอาจเกิดจากการประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการเซื่องซึม เบื่อหน่าย ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยชอบหรือเคยทำได้ กินน้อยหรือมากผิดปกติ นอนไม่หลับ รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง ซึ่งหากอาการรุนแรงก็จะเกิดความคิดอยาก ฆ่าตัวตาย ขึ้นมาด้วย อาการซึมเศร้า โรคซึมเศร้า และความคิดที่จะฆ่าตัวตายที่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตนเองหรือคนใกล้ชิด ฉะนั้นหากใครที่ต้องรับมือกับคนที่กำลังอยาก “ฆ่าตัวตาย” ก็ควรรู้วิธีช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้สักนิดก็ยังดี วันนี้เราจึงขอเสนอ 10 ประโยคที่ควรพูด กับคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ให้พวกเขาได้คิดดีๆ อีกครั้ง 1. “ดีใจนะที่คุณบอกฉันว่าคุณกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย” (หรือประโยคที่ความหมายใกล้เคียง) แทนที่จะพูดด้วยอารมณ์รุนแรงหรือพูดแบบไม่ใส่ใจ หันมาพูดกับเขาอย่างเปิดใจและยอมรับความคิดของเขาดีกว่า 2. “ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นคุณต้องเจ็บปวดแบบนี้” ประโยคทำนองนี้นอกจากจะแสดงความใส่ใจแล้วยังช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกคลายเหงาได้ด้วย อย่าพยายามปฏิเสธความคิดของเขาหรือทำให้ความเจ็บปวดของเขาดูเล็กน้อย เช่น “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” หรือ “อย่าลืมว่าคุณมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”…
-
สรุปดราม่า เน็ตไอดอลลาวอัดคลิปจวกคนบริจาค ‘เสื้อผ้าขาด’ ทำบาปมากกว่าทำบุญ
จากเหตุการณ์เขื่อนแตกที่ประเทศลาว ทั้งที่อยู่อาศัย และชีวิตของผู้คนชาวลาวได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง หลายๆ ภาคส่วนทั้งในประเทศลาวเองและต่างประเทศอย่างเช่นประเทศไทย จึงได้ส่งความช่วยเหลือไปให้มากมาย ทั้งอาหารและเครื่องนุ่งห่ม แต่ล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเมื่อ ‘เน็ตไอดอลชาวลาว’ คนหนึ่งได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอแสดงความไม่พอใจกับเสื้อผ้าบริจาคเหล่านั้นเพราะว่ามัน ‘ขาด’ จนใส่ไม่ได้ ลองไปชมคลิปวิดีโอกันก่อนที่ข้างล่างนี้ครับ โดยเน็ตไอดอลได้กล่าวว่า “ฝากแจ้งเตือนไปถึงคนบริจาคหน่อย บริจาคไม่คิดหน้าคิดหลัง อยากจะให้อะไรก็ให้เหรอ?” “ช่วยเช็กกันหน่อยนะ ทำบุญนะไม่ใช่ทำบาป” “เอาเสื้อผ้ามาบริจาค แต่เอาเสื้อผ้าขาดๆ มาให้ เป็นฉัน ฉันก็ไม่ใส่หรอก” “ดูสิดูนี่ ใครจะใส่ ใครจะใส่!? เป็นคุณ คุณจะใส่ได้ไหม? ขอถามหน่อย” “ฝากเตือนไปหน่อยนะ ถ้าจะให้ก็ให้ที่มันดีๆ หน่อย” พอได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้วชาวเน็ตไทยมากมายต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็อธิบายว่า “แล้วทำไมเขาไม่คิดว่ามันขาดเพราะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาเอาไปเพราะน้ำใจ ถ้าเป็นผมก็เอาไปทำผ้าขี้ริ้วแทน ถ้ากางเกงตัวนั้นผมเป็นเจ้าของ จะเสียใจมาก ถ้ามันอยู่ในสภาพดีแต่อาจขาดจากการคัดกรอง ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ 555” บางคนก็บอกว่าพอเห็นคลิปนี้แล้วไม่น่าช่วยเลย “เขารีบๆหาไปบริจาค…
-
ธารแห่งน้ำใจไทย-ลาว แห่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนเซเปียน ไม่ทิ้งกันยามทุกข์ยาก…
จากเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือ สปป.ลาวแตก ในช่วงกลางดึกของวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา มวลน้ำปริมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลทะลัก เอ่อล้นเข้าสู่พื้นที่บ้านเรือนประชาชน ส่งผลให้พี่น้องชาวลาวกว่า 6,000 ชีวิตได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดแคลนน้ำและอาหาร และชาวบ้านบางส่วนยังคงติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน และเกาะพื้นที่หลบภัยต่างๆ . จนกระทั่งในวันที่ 24 กรกฎาคม ทางการสปป.ลาว ได้ลงพื้นที่ทำการช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมไปถึงประเทศไทยเองที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากทางการลาวได้มอบความช่วยเหลือของกรณีถ้ำหลวงที่ผ่านมา วิกฤตในครั้งนี้หลายหน่วยงานในไทย จึงร่วมระดมความช่วยเหลือพี่น้องชาวลาวเช่นเดียวกัน ทั้งในเรื่องของเงินสนับสนุน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างๆ . วันที่ 25 กรกฎาคม ทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิ มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก31) และชมรมดำน้ำโคราช จำนวนกว่า 30 ชีวิต แบ่งออกเป็นทีมกู้ภัยเฉพาะกิจ ได้เดินทางไปยังสปป.ลาว ผ่านทางด่านชายแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี พร้อมกับชุดอุปกรณกู้ภัย เรือยนต์ ชุดประดาน้ำ เพื่อสนับสนุนดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับทางการลาว .…
-
สาววัย 18 เขียน ‘ข้อความให้กำลังใจ’ แปะไว้ที่ฆ่าตัวตายยอดฮิต เพื่อช่วยชีวิตพวกเขา!!
เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงทางตัน หรือเจอปัญหาหนักๆ จนทำให้เกิดการท้อแท้ หลายๆ คนก็มีวิธีในการจัดการกับตัวเองในช่วงนั้นที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็เลือกที่จะสู้ต่อไป บางคนก็อาจจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ก็มีบางคนที่เลือกจะยอมแพ้ทุกอย่าง แล้วจบชีวิตของตัวเองลงไปซะอย่างนั้น แน่นอนว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับสาววัย 18 ปี คนนี้ ที่พยายามทำอย่างสุดความสามารถเพื่อให้กำลังใจ โดยหวังว่าจะทำให้คนที่คิดฆ่าตัวตายเปลี่ยนใจกลับมาสู้ต่อและมีชีวิตอยู่ต่อไป Paige Hunter เด็กสาววัย 18 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย East Durham College ที่ใช้เวลาว่างเขียนโน้ตให้กำลังใจนำไปแปะที่สะพาน Wearmouth Bridge ที่เมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าวัยรุ่นนิยมไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายกันที่นั่นอยู่บ่อยครั้ง “ฉันรู้ว่าเธอเหนื่อย ฉันรู้ว่าทั้งร่างกาย และความรู้สึกของเธอกำลังจะถูกดูดออกไป แต่คุณจะต้องสู้ต่อไปนะ” หนึ่งในข้อความบนกระดาษโน้ตของ Paige เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากมีคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตายได้มาอ่าน ก็อาจจะทำให้เปลี่ยนใจและสามารถช่วยชีวิตคนเหล่านั้นได้เพียงสักคนหนึ่งก็ยังดี “ฉันจะไม่บอกเธอหรอกนะว่ามันจะง่ายน่ะ แต่มันจะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน” “มันจะต้องดีขึ้นกว่านี้ อดทนเข้าไว้นะ” อีกหนึ่งประโยคที่เขียนลงในโน้ต จากการทำเป็นงานอดิเรกของเธอ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสนใจและมอบรางวัลเกียรติยศให้กับเธอ ในฐานะที่เป็นคนให้ความช่วยเหลือและสร้างความดีให้กับสังคม และสนับสนุนให้เธอทำความดีแบบนี้ต่อไป “ผมคิดว่ามันสำคัญมากเลยนะ ที่เราจะชื่นชมในการกระทำของหนู Paige…
-
หนุ่มพาหมาบาดเจ็บ ‘แบกขึ้นหลัง’ ปั่นจักรยานไปหาหมอ จนมันได้พบกับบ้านหลังใหม่!!
นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้หลายๆ คนรู้สึกอบอุ่นหัวใจในวันที่ฟ้ามืดมัว… เมื่อชายหนุ่มนักปั่นจักรยานคนหนึ่ง บังเอิญไปเห็นเจ้าหมาถูกรถชนบาดเจ็บอยู่ เขาก็เลยแบกมันขึ้นหลังแล้วปั่นพาไปหาหมอ ก่อนที่เจ้าหมาตัวนั้นจะได้บ้านใหม่ที่มันจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ตลอดไป… นาย Jarrett Little ได้ออกไปปั่นจักรยานที่ชานเมืองโคลัมบัส รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปั่นไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะนั่งพักกันที่ข้างถนน แต่แล้วจู่ๆ เจ้าหมาตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ กับที่พวกเขาพักอยู่ พร้อมกับเดินขากะเผลก นอกจากนี้ที่ขาของมันยังมีเลือดไหลอีกด้วย พวกเขาตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่า Columbo เป็นชื่อของเมืองที่พบเจอกับมันนั่นเอง Jarrett ก็เลยตัดสินใจจะพามันไปหาหมอในเมืองด้วยการ ‘แบกมันขึ้นหลัง’ พอปั่นไปถึงในเมืองกลุ่มนักปั่นก็พยายามตามหาคลินิกสัตว์ แต่พวกเขาก็ได้พบกับ Andrea Shaw ซึ่งเธออาสาพามันกลับไปที่บ้านเพื่อทำการรักษาเอง Andrea พาเจ้า Columbo ไปตรวจที่คลินิกสัตว์ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าสามารถพามันกลับไปที่บ้านที่อยู่ในรัฐเมน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการรักษาอาการกระดูกหักของมันให้เรียบร้อย ก่อนที่จะนั่งรถเป็นระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตรจากรัฐจอร์เจียไปยังรัฐเมน โดยองค์กรการกุศล Grateful Doggies . และตอนนี้เจ้า Columbo ก็ได้ช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกันกับครอบครัวของของ…
-
เรื่องราวของตำรวจที่ “ผูกเชือกรองเท้า” ให้เด็กน้อย กลายเป็นความประทับใจของชาวเน็ต
ในเมือง Tukwila ชานเมืองของรัฐวอชิงตัน ดี.ซี. เองก็มีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้นเช่นกัน เมื่อมีภาพที่ตำรวจนายหนึ่งก้มลงผูกเชือกรองเท้าให้เด็กน้อยถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ต ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันรู้สึกอบอุ่นหัวใจกันถ้วนหน้า ในภาพจะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่สวมชุดเครื่องแบบเต็มยศ นั่งคุกเข่าก้มตัวโดยมือทั้งสองข้างก็กำลังผูกเชือกรองเท้าให้กับเด็กหนุ่มตัวน้อย แล้วเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ ทั้งสองคนในภาพมีความสัมพันธ์กันหรือไม่? อย่างไร? เราคงต้องไปฟังเหตุการณ์เต็มๆ กันจากเฟซบุ๊กเพจ Tukwila Police Department แล้วล่ะ… ภาพนายตำรวจผูกเชือกรองเท้าให้เด็กน้อย โพสต์เล่าเหตุการณ์จากทางเฟซบุ๊ก Tukwila Police Department เนื้อหาในโพสต์มีใจความว่า: “จ่าสุภาพ และเจ้าหน้าที่ขี้อาย (ขอไม่เปิดเผยชื่อจริงนะ เพราะพวกเขาขี้อายมาก) ได้เดินตรวจตราอยู่ที่บริเวณ Cascade View Park เมื่อวานตอนบ่ายๆ (วันที่ 13 กรกฎาคม) แล้วพวกเขาก็พบกับเด็กน้อยคนนี้วิ่งสวนเข้ามาโดยสวมเพียงถุงเท้าที่ฉีกขาดและสกปรก แถมเท้าของเขายังมีเลือดออกเนื่องจากมีรอยแผลเหมือนถูกบาดบริเวณเท้าของเขา จ่าสุภาพจึงทำความสะอาดและแปะแผลให้ด้วยอุปกรณ์ทำแผลที่ติดตัวมา เมื่อถามเจ้าหนูว่ารองเท้าหายไปไหน เจ้าหนูจึงตอบว่าเขาไม่มีรองเท้าเลยสักคู่ เพราะรองเท้าที่เขามีนั้นมันเล็กเกินไปกว่าที่เขาจะสวมใส่ได้ จากนั้นจ่าสุภาพจึงรีบวิ่งไปหาซื้อรองเท้าคู่ใหม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ขี้อายชวนเจ้าหนูคุยเพื่อรอให้เขากลับมา เมื่อจ่าสุภาพกลับมาเขาไม่ได้มาพร้อมกับรองเท้าคู่ใหม่เท่านั้น เขายังพกไอศกรีมมาอีกด้วย! เขาช่วยเจ้าหนูผูกเชือกรองเท้าคู่ใหม่ และแล้วพวกเขาทั้ง 3 คนก็ถือไอศกรีมคนละแท่งแล้วกินไปพร้อมกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะจากกันไปด้วยรอยยิ้ม” หลังจากภาพและเรื่องราวถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความปลื้มปริ่มกันเพียบ! “ขอบคุณนะที่ทำดีกับเจ้าหนู”…
-
คุณหมอตัดสินใจจบชีวิตลง…เพราะอดีตอันขมขื่น มันส่งผลมาถึงปัจจุบัน
บาดแผลในใจที่ถูกกระทำรุนแรงในวัยเด็ก มันสามารถส่งผลต่อใจจิตของคนแม้เวลาจะล่วงเลยมานานนับ 50 ปีแล้วก็ตาม… และนี่คือเรื่องราวของคุณหมอ Stuart Kidd ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่จากประสบการณ์อันขมขื่นในวัยเด็กที่ตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด ก็ทำให้เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงในวัย 60 ปี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อวัย 60 ปี ที่เพิ่งเกษียณตัวเองจากการทำงานอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมาแล้วมากมายในเขต Blue Mountains นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นในวัยเด็กในรายการ You Can’t Ask That ที่จะออกฉายทางช่อง ABC แต่หลังจากถ่ายทำเสร็จ เพียงสองเดือนก่อนที่รายการจะนำเรื่องราวของเขามาเผยแพร่คุณหมอ Kidd ก็ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงอย่างน่าเศร้า ทางด้านภรรยาของคุณหมอ คุณ Janet ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองว่า ‘คุณหมอ Kidd รู้สึกพอใจมากกับเนื้อหาในรายการดังกล่าว ซึ่งเขาได้มีโอกาสรับชมมันก่อนที่จะเสียชีวิต’ ในการถ่ายทำคุณหมอ Kidd ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนเด็กๆ เขาถูกผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 30-40 ปี และเด็กผู้ชายที่มีอายุมากกว่าก่อเหตุทารุณกรรมทางเพศ “ผมเคยถูกข่มขืนโดยผู้ชายที่มีอายุมากกว่าผม 30-40 ปี จากนั้นก็ถูกกระทำโดยเด็กชายที่มีอายุมากกว่าที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อน” “ผมยังเด็กอยู่มาก…
-
เปิดจดหมายฉบับแรก…จาก ‘เด็กๆ และโค้ช’ กับความในใจที่อยากบอกกับคนที่อยู่ข้างนอก
หลังจากที่ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เริ่มขึ้นก็ผ่านมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว จากการอัปเดตล่าสุดก็พบตัวทั้ง 13 คนแล้วและถือเป็นข่าวดีที่พวกเขายังปลอดภัยอยู่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะพาทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำให้ได้ และล่าสุดทางด้านเพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ก็ได้เปิดเผยจดหมายที่เขียนโดยทั้ง 13 คน เป็นข้อความที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคนที่อยู่นอกถ้ำบ้าง โพสต์ดังกล่าวมีแคปชั่นว่า “ข้อความจากทีมหมูป่าและโค้ช ฝากทีมนักดำน้ำต่างชาติ ออกมาจากเนินนมสาว เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ไม่ต้องเป็นห่วง แข็งแรงทุกคน ออกไปอยากกินอาหารหลายอย่าง ออกไปอยากกลับบ้านเลย คุณครูอย่าให้งานเยอะ ส่วนทีมซีลและหมอภาคย์ ที่ดูแลน้องๆอยู่ สบายดีทุกคน” จะเป็นอย่างไรลองไปอ่านพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… น้องต้น “พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสบายดี ฝากบอกพี่ยอดเตรียมตัวพาไปกินไก่ทอด รักนะครับ” โค้ชเอก “ถึงผู้ปกครองเด็กๆ ทุกคน ตอนนี้เด็กๆ สบายดีกันครับ มีพี่ๆ ทีมงานดูแลเป็นอย่างดี ผมขอสัญญาว่า จะดูแลเด็กๆ ให้ดีที่สุด…
-
หนุ่มโดนนำรูปไปแอบอ้าง แจ้งข่าวปลอม-เปิดรับบริจาคช่วย ‘ถ้ำหลวง’ ทั้งที่ตัวจริงอยู่บ้าน!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ผู้คนทั่วประเทศ และทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกันอยู่ ณ ขณะนี้ กับการช่วยเหลือเด็กทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงเชียงราย ทุกคนต่างส่งความเป็นห่วงและกำลังใจไปให้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาให้ได้ แต่แล้วกลับมีคนที่ฉกฉวยโอกาสจากเหตุการณ์นี้ในการสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง ดังเช่นเรื่องราวต่อไปนี้… เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ Chubbynan ได้โพสต์เรื่องราวว่าเพื่อนของตนเองถูกนำรูปไปแอบอ้างเปิดแอคเคาท์ทวิตเตอร์ และที่สำคัญมีคอนกดฟอลโลวเยอะมาก แถมยังเอาแอคเคาท์นั้นไปเปิดรับบริจาคด้วย!! เนื้อหาในโพสต์เต็มๆ ว่า “ฝากแชร์ด้วยนะงับคือเพื่อนแนนไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ เพื่อนไม่ได้อยู่ #ถ้ำหลวง เพื่อนไม่ได้ทำงานอยู่นั่นแต่เขาแอบอ้างเอารูปเพื่อนไปใช้ ที่สำคัญคนฟอลเยอะมาก ที่สำคัญกว่านั้นคือไปเปิดรับบริจาค ทำแบบนี้ไม่ได้!!!!” มีคนกดติดตามมากกว่า 27,300 คน โพสต์รายงานสถานการณ์ทุกอย่างแบบเรียลไทม์ ราวกับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริงๆ แถมยังขอรับบริจาคด้วย!! เจ้าของภาพจริงๆ ออกมาโพสต์ชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ถ้ำหลวง และไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 680 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 6,000 ครั้งเลยทีเดียว!! ทางด้านเจ้าของภาพถึงกับสมัครทวิตเตอร์เข้ามาเพื่อชี้แจงแถลงไข ปรากฏว่าตัวจริงนั่งกินแกงหอยอยู่ที่บ้าน ชาวเน็ตหลายคนต่างเข้ามาแสดงความเห็นกันไปต่างๆ นานา บางคนก็สงสัยว่าคนที่ทำไปนั้นต้องการอะไร!? …
-
ช่วยเท่าที่จะทำได้… อีกหนึ่งน้ำใจจากร้านซักผ้า ‘ซักฟรีครบวงจร’ ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ถ้ำหลวง!!
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของประชาชนชาวไทย สิ่งที่เราจะได้เห็นเพื่อให้ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้ก็คือ ‘น้ำใจ’ จากคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งในช่วงเวลานี้จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ถ้ำหลวง ต่างเป็นที่สนใจและมีการหยิบยื่นความช่วยเหลืออย่างไม่ขาดสาย เช่นเดียวกันกับเรื่องของอุปกรณ์ อาหารการกินแล้ว ในเรื่องของความสะอาดก็ไม่ควรมองข้าม ดั่งเช่นคุณ Pream Rawinmart Luelert ได้ทำการประกาศผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวรับซักผ้าให้กับเจ้าหน้าที่โดยที่ไม่คิดเงินเลยแม้แต่บาทเดียว… “รับซักผ้าค่ะให้เจ้าหน้าที่ทำงาน ซัก อบ หอมๆๆ ให้เลยค่ะ ถ้าจะให้ช่วยเรียกได้เลยค่ะ 081-3516636 #ทำให้ฟรีค่ะ ไม่คิดเงิน ซัก อบ แห้ง ค่ะ #ช่วยในสิ่งที่ตัวเองถนัด“ จากโพสต์ดังกล่าวในช่วงเช้าของวันที่ 28 มิถุนายน การกระจายข่าวทางโลกออนไลน์ ทำให้เธอได้รับการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ในเวลาประมาณ 18.00 น. พร้อมกับอัปเดตว่าจะมีการติดต่อกลับมาในช่วงเวลาดึก เธอกล่าวว่าจะกี่โมงก็ติดต่อมาได้เลย พร้อมเดินทางรับส่งเสมอ และในช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 29 มิถุนายน เสื้อผ้าลอตแรกของเจ้าหน้าที่ก็มาถึงร้านซักรีดเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนอกเหนือจากนี้ก็มีผู้คนติดต่อเข้ามาเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ แต่ต้องขอปฏิเสธไว้ก่อน และขอขอบคุณทุกความปรารถนาดีจากทุกส่วน “ลอตแรกได้มาไม่เยอะค่ะ เพราะการสื่อสาร…
-
ทหารสหรัฐฯ ถึงถ้ำหลวง ยุติการค้นหาชั่วคราว ฝนตกหนัก-น้ำท่วมสูง ทีมฟิลิปปินส์ติดต่อไทยไม่ได้…
การเข้าค้นหาและช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชรวมทั้งหมด 13 ชีวิต ณ ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว โดยมีการยื่นความช่วยเหลือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย รวมไปถึงหน่วยงานจากต่างประเทศด้วย . ทั้งนี้จากเฟสบุ๊กของคุณ Siraphop Srakaew โพสต์เมื่อเวลา 06.59 น. กล่าวว่า “03.14น. ทหารสหรัฐฯ เข้ามาดูพื้นที่ในถ้ำหลวง เข้ามาดู พูดคุยด้านล่างไม่ถึง 5นาที เดินขึ้นไปบนถ้ำไม่ถึง 10 นาที เดินลงมา พร้อมน้ำที่ไหลทะลักลงมาอย่างน่าใจหาย..!!!” . และทางเฟสบุ๊ก FM91 Trafficpro ข่าวจราจร สวพ. FM91 กล่าวว่า “ยุติการค้นหาชั่วคราว !! ฝนตกหนักติดกันหลายชั่วโมงน้ำท่วมสูง จนท.ถอนกำลังขึ้นที่สูง เมื่อเวลา 05.00 น.ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนาน 5 ชั่วโมง…
-
ภาพแทนคำพูด นักดับเพลิงผู้เหนื่อยล้ากับเด็กสาวที่เพิ่ง ‘ถูกช่วยชีวิต’ จากอุบัติเหตุ
การทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการกระทำที่สมควรได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือเรื่องราวของคุณลุงนักผจญเพลิง ที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเด็กสาวตัวน้อยและครอบครัวจากอุบัติเหตุ และบังเอิญมีเพื่อนร่วมงานถ่ายภาพเอาไว้จนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล คุณลุง Chris Blazek จากเมือง Cahattanooga รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุไฟไหม้รถยนต์คันหนึ่ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขาเพิ่งจะดับไฟที่ลุกไหม้บ้านหลังหนึ่งไป เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งประสบอุบัติเหตุใกล้ๆ กับทางด่วน ผู้โดยสารภายในรถประกอบด้วยหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง และลูกเล็กๆ 3 คนของเธอ ซึ่งทั้งหมดยังติดอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จากข้อมูลทำให้คุณลุง Chris รู้สึกใจสลาย เพราะคุณลุง Chris เองก็เป็นคุณพ่อที่มีลูก 4 คน และเขาไม่ต้องการให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ จึงรีบเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และนี่คือเรื่องราวในวันเกิดเหตุที่เขาเล่าผ่านทางเฟซบุ๊ก “คุณแม่ควบคุมสติไม่ได้ เพราะเธอได้รับการบาดเจ็บที่หลัง เด็กๆ น่าจะมีอายุอยู่ที่ราวๆ 7 ขวบ จนถึง 4 เดือน เด็กหญิงสองคนที่โตแล้วปลอดภัยดี แต่คนเล็กสุดร้องไห้ไม่หยุด ผมก็เลยพาเธอออกจากรถมาและรีบตรวจหาอาการบาดเจ็บในร่างกาย โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงเธอก็ซบลงที่ไหล่ของผม” “หลังจากที่เราควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้แล้ว ผมก็ตัดสินใจนั่งพักสักหน่อยกับเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง และเธอก็หลับปุ๋ยเลยทีเดียว” …
-
สาวซึมหนักร้องไห้ 19 วันติดกัน จากเหตุเสียคุณพ่อไป เพื่อนๆ จึงยอมเสี่ยงช่วยดึงกลับมา…
บุคคลที่ประสบกับความเศร้าหนักๆ อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พวกเขาบางคนสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตบางส่วนไป แม้แต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตก็ไม่อาจกลับมาทำได้เหมือนเดิม บางรายถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายได้เลย… โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหากมีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต พวกเขาจะรู้สึกว่าปมปัญหาต่างๆ ถูกขมวดเอาไว้แน่นและพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง หากไม่ได้รับการคลายความตึงที่ถูกต้อง อาจทำให้เรื่องบานปลายได้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มาช่วยในจุดนี้ได้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตามที Sheila O’Malley Sheila O’Malley คือหนึ่งในบุคคลที่ประสบกับสภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก หลังจากที่เธอสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รัก จนทำให้ชีวิตเสียศูนย์จนไม่อาจกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคงเหมือนเช่นเคย “ในปีหลังจากที่เสียคุณพ่อไปนั้นเลวร้ายมาก ฉันจำอะไรแทบไม่ได้เลย ฉันย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเมนต์ใหม่ แต่ไม่สามารถแกะกล่องของที่แพ็คมาได้ เป็นเวลาหลายเดือน รู้สึกละอายใจที่ทำไม่ได้ แค่แกะกล่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้? ก็แค่เปิดกล่องออกมาแค่นั้นเอง และมันเป็นช่วงเวลาที่ร้องไห้ติดต่อกัน 19 วันเต็ม” “เพื่อนที่ชื่อ David ที่รู้จักตั้งแต่ ม.ปลาย รู้ว่าฉันกำลังแย่และเขาไม่รู้จะช่วยยังไง เขาบอกได้แค่ มีคนรักเธอนะ พวกเราต้องการเธอ ฉันก็รู้สึกแค่ ไม่สำคัญอะไร แต่ขอบใจนะ เขาจึงอยากจะลองเสี่ยงสักครั้ง มันอาจจะทำให้แย่ยิ่งกว่าเก่าก็ได้ เพราะฉันอาจจะอาละวาดสติแตกขึ้นมา” “ฉันอาจจะรู้สึกถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่เขายอมที่จะเสี่ยง…
-
คุณพ่อช่วยเปิดประตูให้ ‘หญิงแปลกหน้า’ เธอตอบแทนด้วยความใจดีที่หาที่ไหนไม่ได้!!
บางครั้งการทำอะไรบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ จะถูกยกย่องให้กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของคนอื่น และได้รับการตอบแทน… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณพ่อ Rob Edwards ที่เดินทางไปทำธุระที่ธนาคาร ในวันนั้นเป็นวันที่ลูกชายของเขาเรียนจบไฮสคูลพอดี ในระหว่างที่เดินเข้าเข้าไปในธนาคารอย่างภาคภูมิใจในวันที่พิเศษ เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านหลัง แน่นอนว่าปกติทั่วไปแล้วใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องเปิดประตูให้ แต่คุณพ่อกลับเปิดประตูให้อย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกว่า “เข้าไปก่อนได้เลยคร๊าบบบบ วันนี้ลูกชายของผมเรียนจบ ก็เลยจะทำอะไรให้มันช้าลงหน่อย เพื่อลิ้มรสความสุขนี้ให้นานๆ หน่อย” มีการพูดคุยกันเกิดขึ้นต่อจากนั้นเล็กน้อย แต่การคุยนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำธุระในธนาคาร หลังจากที่คุณพ่อ Rob ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาพบบางสิ่งบางอย่างอยู่ใต้โต๊ะใกล้ๆ กับแขนของเขา เป็นกระดาษเขียนว่า “ยินดีด้วยนะ ฉันดีใจกับคุณมากจริงๆ” เพื่อใหม่เขียนบอกเขาแบบนั้น พร้อมกับเงินอีกจำนวน 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,600 บาท พอทราบดังนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปหน้าธนาคารเพื่อตามหาเธอ และก็พบว่าเธออยู่อีกฟากของที่จอดรถ คุณพ่อตะโกนบอกว่า “ผมรับมันไว้ไม่ได้!” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า “เวลาคุณพูดถึงลูกชายของคุณ คุณดูเปล่งประกายมาก คุณอยากจะมอบความสุขให้กับเขา ฉันเองก็อยากจะให้ความสุขกับเขาเช่นกัน” …
-
สังเวยอีกศพให้กับความมักง่ายของมนุษย์…’เต่าตนุ’ ต้องตายเพราะกินพลาสติกเข้าไป
การทิ้งขยะเรี่ยราดถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกของเรามาอย่างช้านาน หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันไม่เป็นไร แค่ชิ้นสองชิ้นก็คงไม่เกิดอะไรขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าสุดท้ายแล้วมันส่งผลต่อ ‘ธรรมชาติ’ มากมาย โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตร่วมโลกของเรา ที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและกินมันเข้าไป ดังเช่นเรื่องราวของเจ้า ‘เต่าตนุ’ ตัวนี้ ที่เจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่รอด…. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ก ReReef ได้แชร์เรื่องราวการช่วยเหลือเต่าตนุตัวหนึ่ง ที่เข้ามาเกยตื้นบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตของมันอย่างสุดความสามารถเป็นเวลา 2 วันเต็มๆ พยายามป้อนยา และอาหารเหลว แต่สุดท้ายเจ้าเต่าก็ไม่รอด มันสิ้นใจไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน หลังจากที่เจ้าเต่าตนุเสียชีวิตแล้ว ทีมสัตวแพทย์ของศูนย์วิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้ทำการชันสูตรผ่าซากเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของมัน พบว่าภายในกระเพาะอาหารพบขยะพลาสติกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพลาสติกขนาดเล็ก เช่น หนังยาง เชือกฟาก เชือกไนลอน ถุงพลาสติก เศษพลาสติก และเศษเครื่องมือประมง สรุปสาเหตุได้ว่า เต่าตนุตัวนี้เสียชีวิตเพราะกินขยะพลาสติก ทำให้ไม่อยากอาหาร ร่างกายจึงมีโปรตีนต่ำ มีน้ำไหลออกช่องว่างลำตัว เพราะการดึงน้ำโดยโปรตีนในเลือดล้มเหลว…
-
คุณลุงน้ำใจงาม ป่วยเป็นอัมพฤษ์นอนติดเตียง อาสามอบ ‘ดวงตา’ ให้กับสาวตาบอด
เรื่องราวสุดประทับใจของคุณลุงผู้มีจิตใจเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ตัดสินใจมอบดวงตาของตัวเอง 1 ข้างให้กับสาวตาบอด ที่ถูกสามีทิ้งให้เลี้ยงลูกอยู่คนเดียว เรื่องราวชีวิตของนางสาวสุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือ ยุ้ย วัย 26 ปี ชาวจังหวัดบุรีรมย์ ที่ชีวิตของเธอต้องพลิกผันกลายเป็นผู้พิการหลังจากที่ทำงานในโรงงาน แล้วประสบอุบติเหตุโดนฝุ่นสนิมเข้าตาจนตาบอดเมื่อปี 2554 สามีที่ควรจะดูแลเธอกับลูก ได้หนีไปบวชและติดต่อไม่ได้เลยตั้งแต่นั้น ทำให้คุณยุ้ยต้องดูแลลูกของตัวเองเพียงลำพัง โดยมีคุณแม่ของเธอให้การช่วยเหลือ แต่ขณะเดียวกันคุณแม่ก็แก่ชรามากแล้ว อีกทั้งฐานะก็ยากจนจึงทำให้ชีวิตของเธอลำบากมาก หลังจากที่เรื่องราวต่อไปนี้ได้ถูกแชร์ไปมากมายในโลกออนไลน์ ก็มีชายคนหนึ่ง เป็นคุณลุงวัย 59 ปี ชื่อว่า นายพายัพ รอดเมือง ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ จากการประสบอุบัติเหตุมาแล้วหลายปี คุณลุงต้องนอนติดเตียงอยู่ตลอด จนเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่จากความช่วยเหลือให้คำแนะนำจากแพทย์ก็ทำให้คุณลุงปลงได้ ต่อมาผู้สื่อข่าวของเวิร์กพอยท์ได้ประสานให้คุณยุ้ย และคุณลุง ได้พูดคุยกันผ่านวิดีโอคอล คุณลุงก็บอกกับคุณยุ้ยว่า “ลุงตั้งใจบริจาคให้อยู่แล้ว จะได้เอาไว้ไปดูแลพ่อ-แม่ และลูก” ทางด้านคุณยุ้ยก็ถามกลับทั้งน้ำตาว่า “ลุงเสียทั้งการเดินได้ แล้วจะมาสูญเสียดวงตาอีก ลุงทำใจได้แล้วจริงๆ เหรอคะ?” คุณลุงก็ตอบว่า “ได้” …
-
สองนักบินใช้เงินที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิต เพื่อช่วยเหล่าเหลือเหล่าผู้อพยพในทะเล
เมื่อพูดถึงเรื่องของ ‘เงินเก็บ’ หลายๆ คนคงจะมีเอาไว้เพื่อปรนเปรอความสุขให้กับตัวเองในอนาคต… แต่สำหรับนักบินชาวฝรั่งเศสสองคนนี้ เขากลับนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีไปใช้กับการช่วยเหลือผู้อื่น และนี่คือเรื่องราวของ Jose Benavente และ Benoit Micolon สองนักบินที่ใช้เงินเก็บของตัวเองทั้งหมดเป็นมูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท ซื้อเครื่องบิน 1 ลำ เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล จากรายงานขององค์กร United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) จากปี 2016 มีผู้คนมากกว่า 66 ล้านคนพลัดถิ่นของตัวเอง ในจำนวนนั้นมี 22.5 ล้านคนเป็นผู้อพยพ และอีก 40.3 ล้านคนเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศ และอีก 2.8 ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัย การเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเส้นทางการอพยพที่เป็นที่นิยม และแน่นอนว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย จากรายงานในปี 2017 มีผู้อพยพมากกว่า 3,139 รายสูญหายไป เพราะหลงทางจากการข้ามทะเลอันแสนกว้างใหญ่ และในปีล่าสุดยังผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งปีก็มีรายงานผู้สูญหายไปแล้วมากกว่า 600…
-
หนุ่มเห็นคนทำร้ายผู้หญิง เลย “กระโดดเฮดบัตลอยฟ้าใส่” อย่างกับซูเปอร์แมน
บางครั้ง ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษ หรือผ้าคลุมหลากสีสัน… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของพลเมืองดีรายหนึ่งกระโดดเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวผู้ถูกทำร้ายร่างกายโดยแฟนหนุ่มของตัวเอง แน่นอนว่าโดยทั่วไปการที่ผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายโดยผู้ชาย แล้วมีการอ้างขึ้นมาว่า ‘เรื่องของผัวเมีย ใครอย่างยุ่ง’ ก็จะทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะหลีกเลี่ยง ไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์สักเท่าไหร่ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Ladbible รายงานว่ามีการบันทึกภาพกล้องวงจรปิดเผยให้เหตุการณ์ที่น่าหดหู่เกิดขึ้นกรุงอิสตันบูลประเทศตุรกี เนื่องจากว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายภรรยาของตัวเอง ฝ่ายหญิงร้องไห้ และส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งมีซูเปอร์ฮีโร่รายหนึ่งพุ่งเข้ามาช่วยเหลือราวกับว่าเป็น ‘ซูเปอร์แมน’ ใช่แล้วล่ะเพื่อนๆ อ่านไม่ผิดหรอก ก็เพราะว่าพี่แกเล่นกระโดดพุ่งเข้ามาทำการ ‘เฮดบัต’ ใส่ผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายผู้หญิง ราวกับว่าเป็นซูเปอร์แมนบินเข้ามายังไงยังงั้นเลย!! ตามรายงานระบุว่าคู่สามีที่หย่ากันไปแล้ว กำลังเดินออกมาจากการเข้าไปรับฟังการตัดสินคดีที่ศาลยุติธรรมในกรุงอิสตันบูล แต่หลังจากที่เดินออกมาก็มีปากเสียงกันเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการลงไม้ลงมือ สุดท้ายตามรายงานระบุว่าฝ่ายชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : dailymail, ladbible
-
ความช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าผู้ใจดี ปลอบเด็กสาวที่กำลังดื้อจนสงบ โซเชียลแห่ชื่นชม!!
บางครั้งการเดินทางไปไหนมาไหนกับลูก ก็ถือเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่น้อย ยิ่งเป็นการเดินทางบนเครื่องบินยิ่งแล้วใหญ่ การที่ลูกร้องเสียงดังหรือดื้อซน ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้โดยไม่ยาก แต่จากไฟลท์บินไปยังเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา Wesley Thomas ได้เดินทางไปกับครอบครัว พร้อมกับหลานสาวตัวน้อย 1 คน ที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะทำตัวดื้อรั้น และแน่นอนว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งกับพ่อแม่ และเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ครอบครัวของ Wesly พยายามที่จะปลอบหลานสาวจอมวุ่น เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นมา ทุกคนต่างก็รู้สึกว่า ‘เป็นเรื่องแล้ว’ กลับกลายเป็นว่าเขาลุกขึ้นมาเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้ซะอย่างงั้น!? “เธอชอบวาดภาพมั้ย?” เขาถามพร้อมกับเอาแท็ปเล็ตออกมาจากกระเป๋าจากนั้นก็พูดต่อว่า “ผมมีลูกสาว 4 คน และผมเข้าใจปัญหาแบบนี้ดี” . หลังจากนั้นหลานสาวตัวน้อยก็เริ่มเงียบ และวาดภาพในแท็ปเล็ตของคนแปลกหน้าอย่างสนุกสนาน ใบหน้าของเขาตอนที่มองไปยังหลานสาวตัวน้อยของ Wesley เป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เขานำเรื่องราวนี้ไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ และพบว่ามีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดหัวใจถึง 373,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 94,000 ครั้งเลยทีเดียว…
-
หนุ่มลองใจ ‘คนไร้บ้าน’ ทำกระเป๋าเงินตก เขาเก็บมาคืน แถมเอาเงินที่ให้ไปซื้ออาหารแจกคนอื่น!!
หนุ่มถ่ายคลิปลองใจ แกล้งทำกระเป๋าเงินตกต่อหน้าคนไร้บ้าน และผลที่ได้คือเรื่องราวน่าประทับใจ… ชายไร้บ้านเก็บกระเป๋าเงินขึ้นและนำมันไปคืนให้กับ Waqas Shah ที่เป็นยูทูบเบอร์ ในกระเป๋ามีเงินอยู่ทั้งหมด 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 160,000 บาท “เฮ้นาย! นายทำกระเป๋าเงินตกน่ะ ตกอยู่ตรงนั้น” ชายโฮมเลสเรียก Waqas พร้อมกับชี้นิ้วไปที่จุดเกิดเหตุ “คุณเป็นคนไร้บ้านใช่มั้ยครับ? คุณเอาเงินมาคืนให้ผม” Waqas ตอบกลับไป “การนำมันมาคืนมันก็ถูกแล้วนี่ ผมไม่ขโมยของใครหรอกนะ” ชายโฮมเลสกล่าว “การที่คุณนำมันมาคืนให้ผม ผมจะตอบแทนคุณก็แล้วกัน คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่เอามันมาคืนให้ผมนะครับ” Waqas กล่าว เรื่องราวความประทับใจยังไม่จบอยู่เท่านี้ หลังจากที่ Waqas เดินจากไป กล้องยังคงจับอยู่ที่ชายโฮมเลส ปรากฏว่าเขานำเงินที่ได้เป็นของตอบแทนไปซื้ออาหาร แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับโฮมเลสคนอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น Waqas เดินตามชายโฮมเลสไปอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ชายโฮมเลสก็ตอบกลับมาว่า “การให้เป็นสิ่งที่เราควรทำ หากเราให้ไปเท่าไหร่…
-
ชื่นชมน้ำใจ “คนขับรถเมล์” อุ้มหญิงชราขึ้นรถ พาไปนั่ง พอถึงป้ายก็อุ้มลงไปส่งอีก
ผู้สูงอายุ ย่อมต้องการการดูแลและความช่วยเหลือมากกว่าคนทั่วไป เราจึงมักจะเห็นว่ามีคนคอยช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น ตอนที่ต้องข้ามถนน หรือแม้แต่ตอนที่ต้องขึ้นรถเมล์เหมือนอย่างในเหตุการณ์นี้ การช่วยเหลือเล็กๆ อันแสนอบอุ่นหัวใจดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ด้วยกล้องวงจรปิดของรถเมล์ ที่เมือง Zunyi ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 เมื่อคนขับรถตัดสินใจลงไปช่วยอุ้มหญิงชราขึ้นมา คนขับรถเห็นหญิงชรากำลังจะเดินขึ้นมาบนรถ มันคงเป็นเรื่องยากหากจะให้หญิงชราคนดังกล่าวเดินขึ้นมาบนรถด้วยตัวเอง และอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ คนขับรถสาวจึงลงไปแบกเธอพาขึ้นรถมา พร้อมกับหาที่นั่งให้พร้อมสรรพ เธออาสาลงไปช่วยแบกหญิงชราขึ้นมาเอง หลังจากนั้น เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงชราจะต้องลงไป คนขับรถก็เดินไปช่วยแบกเธอขึ้นหลังอีกรอบพาเธอลงไปด้านล่าง สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารทุกๆ คน รวมถึงคนในโลกโซเชียลที่ได้ชมเหตุการณ์นี้ พอถึงที่หมาย เธอก็ช่วยอุ้มหญิงชราลงไปอีกรอบ . แม้นี่อาจดูเหมือนเป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แต่มันกลับสามารถเติมเต็มความประทับใจและความอบอุ่นหัวใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมากจริงๆ คลิปจากกล้องวงจรปิดของเหตุการณ์ดังกล่าว การช่วยเหลือนั้นไม่ได้สำคัญที่ว่าต้องช่วยเหลือเยอะหรือน้อยมากเพียงใด ขอแค่เราได้ลงมือทำในสิ่งนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงจะคุ้มค่ามากกว่าที่เราเคยคาดคิดเอาไว้อย่างแน่นอน ที่มา: cgtn
-
ถนนเป็นหลุมบ่อ รัฐบาลไม่ยื่นมือ ชาวบ้านทนรอไม่ไหว พระ-เณรลงมาซ่อมถนนด้วยตัวเอง!!
เรามักจะได้เจอปัญหาถนนหนทางเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และทุกคนเข้าใจกันดีว่ามันเป็นถนนหลวง เพราะฉะนั้นภาครัฐจึงควรเป็นคนเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่หลายๆ ครั้ง สิ่งที่ตามมาคือภาครัฐไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย โดยอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้เข้ามามองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว หรือมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาอื่นๆ ที่สำคัญกว่าไปตามลำดับ ชาวบ้านจึงอาจต้องแก้ปัญหากันด้วยตัวเองเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ ปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อที่เกิดขึ้นในจังหวัดสุพรรณบุรี . ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2018 เฟซบุ๊ก Nuttawut Wongsuwan ได้โพสต์ภาพ “#ถนนพระทำ” บนเส้นทางระหว่างหมู่บ้านหนองสลัดได บ้านหนองเสาธง ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เผยสภาพถนนที่มีหลุมบ่ออยู่เป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าถนนในลักษณะนี้ ย่อมเป็นปัญหาต่อการขับขี่ . เจ้าของโพสต์อธิบายว่าชาวบ้านรอคอย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่รออยู่นานก็กลับไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดช่วยเหลือสักที นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้พระสงฆ์และเณรของวัดท้องถิ่น ตัดสินใจเป็นอาสาสมัครเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านทุกคน . . จากภาพเราจะเห็นว่าเจ้าอาวาสวัดนำพระเณรจำนวนมาก เข้ามาช่วยกันขนอิฐหินปูนทราย ผสมแล้วก็เทกลบหลุมบ่อเหล่านั้นเอาไว้ โดยที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่ามองไปทางไหนก็มีแต่หลุมแต่บ่ออยู่เต็มถนนไปหมด . . …
-
หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ สวมชุดฮีโร่ตามดูแลแมวจรจัดทุกตัวที่เจอ ใจใหญ่เหมือนฮีโร่จริงๆ
ซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนต์ที่ต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อกอบกู้โลก เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายได้ออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น หนุ่มน้อย Shon Griffin ก็อยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกัน และทุกวันนี้เขาก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริงไปแล้ว ถึงจะไม่ได้สู้กับผู้ร้ายที่ไหนเลย แต่เขาก็เป็นเด็กที่ได้ช่วยแมวจรจัดมากมายไม่ให้อดตาย Shon Griffin ซูเปอร์ฮีโร่วัย 6 ขวบของแมวจรจัด Shon Griffin เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในประเทศฟิลาเดลเฟีย เขาเริ่มต้นช่วยเหลือแมวจรจัดตั้งแต่ยังอายุได้ 3 ขวบ คนที่มอบแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือแมวก็คือป้าของเขา Kris และ Kia ผู้เป็นป้าของหนุ่ม Shon เป็นคนดูแลกลุ่มช่วยเหลือแมว Kolony Kats ที่ตระเวนให้อาหารแมวจรจัดในชุมชนกว่า 50 ตัว แล้วก็ช่วยทำหมันพวกมันเพื่อควบคุมประชากรแมวจรจัดด้วย เขาเริ่มช่วยเหลือแมวจรจัดตั้งแต่ 3 ขวบ ถึง Shon จะเป็นคนที่รักแมวอยู่แล้ว แต่ตอนแรกป้าทั้ง 2 ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะชวนเขาไปช่วยแมวด้วยดีรึเปล่า เพราะแมวจรจัดบางตัวก็ไม่เป็นมิตร พวกมันอาจจะทำให้หนุ่มน้อยขี้กลัวมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับแมว ทว่าเมื่อเด็กหนุ่มได้เข้ามาช่วยทำงานครั้งแรก Kris และ Kia ก็เห็นเลยว่าเขามีความรักให้พวกแมวอย่างเปี่ยมล้น เขาไม่กลัวแมวจรจัดเลย ยิ่งไปกว่านั้นแมวจรจัดก็ดูจะเข้าหาเด็กหนุ่มมากเป็นพิเศษด้วย เขาเข้าไปเล่นกับเจ้าแมวที่ชื่อ Bug ได้ตั้งแต่ครั้งแรก มันเข้ามาเล่นกับหนุ่มน้อยเองเลย…
-
เต่าใหญ่กระดองแตก กลับมายิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง หลังรู้ว่าตัวเองปลอดภัย
ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเต่าตัวหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนกระดองของมันแตกเป็นชิ้นๆ อาสาสมัครเลยรีบพามันไปรักษาก่อนจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ เต่าตัวที่ว่าก็คือเจ้า Humpty ซึ่งมีอายุเกือบ 40 ปีแล้ว มันแอบหนีเที่ยวออกมาจากบ้านของเจ้าของ แต่ระหว่างทางก็ดันมาเจอเจ้าตูบวิ่งไล่ซะงั้น ด้วยความตกใจมันก็เลยพลัดตกลงมาจากกำแพงที่สูงถึง 3 เมตรเลยทีเดียว เมื่อหลังของมันกระแทกพื้นก็เป็นเหตุให้กระดองของมันแตกร้าวแบบนี้ พออาสาสมัครจากหน่วยดูแลสัตว์ประจำรัฐซานดิเอโกรู้เรื่องแล้ว พวกเขาก็รีบเข้ามายังจุดที่ได้รับแจ้ง แล้วพาตัวมันไปรักษาอย่างเร็วที่สุด Dan DeSousa ผู้อำนวยการของหน่วยบอกว่า “เรารักษาเต่าบกกับเต่าทะเลมาก็เยอะแล้ว แต่ไม่เคยเห็นบาดแผลที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย ยังไงเราก็จะพยายามรักษาให้กระดองมันสมานกันให้เร็วที่สุด” มันถูกส่งต่อไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานเพื่อเข้ารับการผ่าตัดต่อ ผู้เชี่ยวชาญค่อยๆ บรรจงขยับกระดองแต่ละแผ่นให้เข้าที่ เพราะกระดองบางแผ่นก็โดนกระแทกทำให้มันไม่อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น จากนั้นเธอก็ใช้น็อตเป็นตัวยึดบนกระดอง แล้วเอาเชือกมาผูกไว้ให้แน่นหนาเพื่อไม่ให้กระดองเคลื่อนอีก และยังฉีดสารที่ช่วยเร่งการฟื้นฟูไว้ตามร่องกระดองที่แตกด้วย คนที่ผ่าตัดมันอธิบายว่าการรักษาให้กระดองของมันกลับมาเชื่อมกันเหมือนเดิมใช้เวลายาวนาน แต่ก็สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้แน่นอน ที่มันทำอยู่ก็เหมือนกับการใส่เฝือก หลังผ่าตัดแล้วก็รอให้มันฟื้นตัวตามธรรมชาติเท่านั้นเอง ทางหน่วยงานยังได้ประกาศหาเจ้าของให้มารับเต่าตัวนี้คืนไปด้วย มีชายคนหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่พอเขารู้ว่าค่าผ่าตัดของมันมีค่ากว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 125,000 บาท) เขาก็ไม่รับมันกลับไปเลย เจ้าหน้าที่ก็เลยไม่แน่ใจว่าเขาเป็นเจ้าของจริงๆ หรือแค่อ้างตัวมารับเต่าไปเลี้ยง…
-
คนขับรถสิบล้อร่วมใจ จอดเรียงกันใต้สะพาน 13 คัน หวังจะช่วยชีวิตชายคิดสั้นเพียง 1 คน
เมื่อช่วงวันที่ 24 เมษายน 2018 เวลาประมาณ 01.00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ในบริเวณย่าน Oak Park รัฐมิชิแกน มีการประกาศเตือนภัยจากตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากมีชายรายหนึ่งกำลังยืนอยู่ปลายสะพาน พร้อมที่จะกระโดดลงมาบนทางด่วน… เมื่อมีการประกาศออกไปแล้ว ทางกลุ่มคนขับรถสิบล้อกลุ่มหนึ่งก็ได้ขับรถของตน รุดมายังที่เกิดเหตุในทันที พร้อมกับการจอดรถเรียงกันเป็นแถวเคียงข้างตลอดทั้งสองฝั่งถนนเป็นจำนวน 13 คัน โดยคาดคะเนถึงทุกจุดที่ชายคนดังกล่าวเลือกที่จะกระโดดลงมา Sgt. Jason Brockdorff จากสถานีตำรวจ Huntington Woods Police Department กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ตำรวจและคนขับรถสิบล้อถูกฝึกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือจำนวนของคนขับรถสิบล้อที่มาช่วยในเหตุการณ์ครั้งนี้ “การซักซ้อมถูกนำมาใช้งานจริงหากมีผู้ประสงค์จะกระโดดฆ่าตัวตาย พวกเราพยายามใช้วิธีแบบนี้ทุกครั้ง เพื่อลดระยะห่างความสูงจากด้านบนลงมาสู่ด้านล่าง ถ้าหากพวกเขากระโดดลงมา” Brockdorff กล่าวถึงวิธีการรับมือต่อเหตุฉุกเฉิน . สถานการณ์ความตึงเครียดลากยาวประมาณ 4 ชั่วโมงไปจนถึงช่วงเช้าตรู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อรถสิบล้อมาจอดเรียงกันใต้สะพานแล้ว ตำรวจจึงมีเวลามากพอที่จะเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าวได้มากขึ้น …
-
หนูน้อย ป.5 ร่ำไห้ หมดสิทธิ์เรียนต่อ เพราะแม่ไม่แจ้งเกิด ไหนจะต้องดูแลยายพิการอีก!!
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดเศร้าที่ต้องการความช่วยเหลือ เมื่อมีชาวเน็ตนามว่าคุณ Yuwatida Thomrongnisakron ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงเด็กหญิง 11 ขวบที่ตอนนี้อาศัยอยู่กับย่าที่พิการ กำลังร่ำไห้พร้อมขอความช่วยเหลือ ภาพดังกล่าวนั้นถูกโพสต์ลงบนโซเชียลเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อความของคุณ Yuwatida ก็ได้ระบุว่า “หนูอยากเรียนต่อค่ะ…. เด็กคนนี้ไม่มีใบเกิดไม่สามารถจะเรียนหนังสือต่อได้” หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นป.5 แต่ว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะเรียนต่อได้ เพราะว่าเธอเป็นเด็กที่เกิดมาแล้วไม่ได้รับการแจ้งเกิดโดยมารดาของเธอ ทำให้หนูน้อยคนนี้จึงไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักที่ทางโรงเรียนต้องการเพื่อใช้ในการเรียนต่อ ด้านคุณ Yuwatida จึงขออาสาเป็นกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือหนูน้อยคนดังกล่าว โดยเธอได้ร้องขอคำแนะนำจากชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาให้แก่น้องคนนี้ เพราะเธอไม่ต้องการให้หนูน้อยที่แสนกตัญญูต้องหมดโอกาสเพียงเพราะเธอเกิดมาโดยผู้ปกครองที่ไม่รับผิดชอบ หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 12/2 ม.2 ต.เนินเพิ่ม ต.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเธออยู่กับย่าที่พิการเพียงแค่สองคน และผลการเรียนก็ไม่ได้แย่เลย ออกจะเป็นคนขยันเสียด้วยซ้ำ เพราะล่าสุดเธอมีผลการเรียนอยู่ในอันดับที่ 6 ของห้องเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือและคำแนะนำมากมายจากชาวเน็ต คุณ Yuwatida ก็ได้ออกมาอัปเดตเพิ่มเติมแล้วว่า หนูน้อยนั้นสามารถเรียนต่อและเข้าสอบ Onet ได้ตามปกติด้วยการใช้รหัส G ซึ่งเป็นรหัสที่สามารถสุ่มตัวเลข 13 หลักขึ้นมาเพื่อการศึกษาได้…
-
หมาขาเจ็บน่าสงสารตกลงไปในร่องลึก ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือจนมนุษย์ได้ยินเข้า
เจ้า Felix เป็นหมาจรจัดตัวหนึ่งในประเทศอินเดีย ขาของมันบาดเจ็บก็เลยทำให้เดินได้ไม่สะดวก แล้วก็เป็นโชคร้ายของมันที่พลาดท่าตกลงไปในร่องลึกระหว่างทางเดิน ทำให้มันไม่สามารถขึ้นมาเองได้เพราะเจ็บขาอยู่ เมื่อหมดหนทางจะช่วยตัวเองแล้ว มันก็เลยร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตรงนั้นด้วยความโหยหวน โดยหวังว่าจะมีคนผ่านมาแถวนั้นแล้วมาช่วยมันเข้าแม้ฟ้าจะมืดจนไม่น่าจะมีใครผ่านมาแล้วก็ตาม Felix ผู้น่าสงสาร ขาก็เจ็บ แถมยังตกลงไปในร่องอีก ถือเป็นโชคดีของมันที่มีคนผ่านไปแถวนั้นพอดี พอเขาได้ยินเสียงมันขอความช่วยเหลือ เขาก็ติดต่อไปที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited ให้เข้าไปช่วยมัน เมื่อทราบสถานการณ์แล้วอาสาสมัครก็รีบไปยังพื้นที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนที่พวกเขามาถึงเจ้าหมายังคงร้องโหยหวนไม่หยุดเลย ท่าทางมันจะเจ็บมากจริงๆ พวกเขาก็ไม่รอช้าเอาผ้าห่มคลุมตัวเจ้าหมาแล้วอุ้มไปหาหมอเลย เสียงร้องขอความช่วยเหลือของมันฟังดูโหยหวนและเจ็บปวด อาสาสมัครเลยรีบพามันไปหาหมอโดยไว โดยเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วอุ้มไปอย่างนิ่มนวล เมื่อมันมาถึงคลินิกสัตว์ของกลุ่มช่วยเหลือแล้ว สัตวแพทย์ก็รีบรักษาขาที่บาดเจ็บของมันก่อนเลย มันจะได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ขาของมันมีแผลใหญ่มาก พวกเขาต้องเย็บแผลให้มันเพื่อให้แผลสมานกันดี ถึงกระบวนการรักษาจะเจ็บปวดไปบ้าง แต่ Felix ก็ดูมีความสุขมากขึ้นหลังจากสัตวแพทย์เย็บแผลทั้งหมดให้มันแล้ว เชื่อมือหมอนะเจ้าตูบ เดี๋ยวก็หายแล้ว เพี้ยงๆ มันใช้เวลาพักฟื้นตัวกับอาสาสมัครที่นั่นอยู่ 2 อาทิตย์ ระหว่างช่วงเวลานั้นมันทำให้อาสาสมัครทุกคนได้รู้ว่ามันเป็นหมาที่นิสัยน่ารักมาก ถึงจะเป็นหมาจรจัดแต่มันก็เริ่มไว้ใจคนที่ทำดีกับมัน พอหายดีก็สนิทกับพี่อาสาสมัครแล้ว จากตอนแรกที่มันเป็นหมาขี้กลัวซึ่งร้องโหยหวนด้วยความทรมาน ตอนนี้มันกลายเป็นหมานิสัยดีที่เห่าอย่างมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้กับคนที่มันไว้ใจ แถมยังยิ้มแย้มตลอดเวลาด้วย แค่มองหน้ามันก็ทำให้คนที่เจอมีความสุขแล้ว…
-
ผู้คนเจอหงส์ดำ ก่อนจะรู้ว่าที่แท้มันไม่ใช่หงส์ดำโดยธรรมชาติ แต่โดนเคลือบสีมา
หงส์ส่วนใหญ่ที่เรารู้จักกันจะมีขนสีขาว แต่ก็ยังมีหงส์ที่มีสีดำโดยธรรมชาติด้วยเช่นกัน ตอนที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ได้รับรายงานว่าเจอ ‘หงส์ดำ’ ท่าทางประหลาด พวกเขาก็เลยคิดว่าหงส์ตัวนั้นป่วย แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ป่วยเลย เมื่อ RSPCA ออกไปช่วยเหลือหงส์ดำที่ทะเลสาบในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาก็พบว่ามันสบายดี แต่เจ้าหงส์ตัวนี้เป็น ‘หงส์ขาว’ ที่ตัวกลายเป็นสีดำหมดต่างหาก เจ้าหงส์ขาวขนกลายเป็นสีดำหมดเลย Lynsey Cale ผู้ช่วยสัตว์ป่าบอกว่า “เราได้ช่วยสัตว์ปีกที่ขนสกปรกจากสารปนเปื้อนจำพวกน้ำมันประกอบอาหาร หรือน้ำมันรถมามาก แต่เจ้าตัวนี้เป็นสัตว์ที่เปื้อนน้ำมันหนักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอเลย” ตัวของเจ้าห่านมีสีดำตั้งแต่หัวจรดท้ายตัว มันเปื้อนเยอะมากจนสัตวแพทย์กังวลว่ามันอาจจะซึมซับน้ำมันเข้าไปข้างในร่างกายด้วยก็ได้ พวกเขาก็เลยรีบทำการอาบน้ำขัดตัวให้มันกลับมาขาวสะอาดโดยไม่รอช้า แต่กว่ามันจะตัวสะอาดก็เล่นเอาคนช่วยเหนื่อยกันเลยทีเดียว อาบน้ำแล้ว แต่สียังไม่หลุดเลย ติดแน่นอะไรขนาดน๊าน หลังจากมนุษย์ช่วยกันขัดสีฉวีวรรณมันอยู่นาน ในที่สุดมันก็กลับมาขาวสะอาดแล้ว! หลังจากอาบน้ำให้มันซ้ำแล้วซ้ำอีก เจ้าหงส์ก็กลับมามีสีขาวสะอาดตามธรรมชาติเหมือนเดิม ถึงอาสาสมัครที่ช่วยมันจะเหนื่อยแต่ก็โล่งใจที่เห็นตัวของมันกลับมาสะอาดอีกครั้ง พอมันปลอดภัยจากน้ำมันที่ปนเปื้อนบนขนแล้ว อาสาสมัครก็พามันกลับไปปล่อยลงทะเลสาบที่มันจากมา หวังว่ามันจะไม่ไปเปื้อนน้ำมันกลับมาอีกนะ อาบน้ำแล้วสบายตัวจุง ขอบใจนะมนุษย์ บ๊ายบาย ที่มา: the dodo
-
ชายหนุ่มใจบุญผู้ช่วยแมวจรจัดในชุมชน จนผู้คนขนานนามให้ว่า ‘คานธีแห่งเมืองโบกอร์’
เมื่อก่อนเมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซียเคยเป็นเมืองที่มีปัญหาเรื่องแมวจรจัด เพราะพวกมันถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ไม่มีใครรับดูแลพวกมันเลย แมวในแถบนั้นก็เลยอยู่อย่างอดๆ อยากๆ บางตัวก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นหลักแหล่งด้วยซ้ำ จนกระทั่ง Uli Sharbinie ชายที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นตัดสินใจเริ่มช่วยเหลือแมว จากการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในตอนแรก ก็นำเขาไปสู่การช่วยเหลือแมวแทบทุกตัวในชุมชน จนพวกมันมีบ้านที่อบอุ่นอาศัยอยู่อย่างมีความสุข Uli Sharbinie ผู้ชายที่รักแมวยิ่งกว่าอะไร Uli เป็นคนที่รักแมวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณปู่ของเขาก็รักแมวแล้วเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงเป็นประจำ เขาเลยรักแมวมาตั้งแต่ยังเด็ก จุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือแมวของเขานั้นเริ่มขึ้นเมื่อเขาเจอแมวตัวหนึ่งถูกรถชน ด้วยความเป็นห่วงเขาก็เลยขับรถเกือบ 3 ชั่วโมงเพื่อพามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็ควักเงินจ่ายค่ารักษาที่แพงหูฉี่ให้กับเจ้าแมว เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความเป็นห่วงมัน เขายังต้องยืมเงินบางส่วนมาจากเพื่อนมาจ่ายให้ค่ารักษาด้วย จากนั้นมาเขาก็เริ่มดูแลแมวจรจัดตัวอื่นเพื่อไม่ให้มันต้องพบเจอชะตากรรมที่โหดร้ายเหมือนเจ้าเหมียวตัวนี้ เขาเก็บเจ้าแมวที่ถูกรถชนมาไว้ที่บ้าน แล้วเริ่มดูแลแมวเท่าที่เขาจะทำได้ โดยการเอาข้าวไปเทไว้ให้แมวจรจัดกินเป็นประจำ และถ้ามีแมวตัวไหนที่ป่วย เขาก็รักษาพวกมันเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยเงินที่มีจำกัดเขาก็รักษาพวกมันได้ทีละตัวเท่านั้น ทุกครั้งที่เขาช่วยเหลือแมว เขาก็จะโพสต์บอกเล่าเรื่องราวการช่วยเหลือของเขาลงบนโซเชียลมีเดียด้วย เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นช่วยเหลือแมวเหมือนกันเขา จนกระทั่งปี 2014 Kristen in California ก็ได้เห็นเรื่องราวการช่วยเหลือแมวของเขา เธอประทับใจในน้ำใจและความทุ่มเทที่เขามีให้กับแมวทุกตัว เธอก็เลยเริ่มติดต่อพูดคุยกับเขา ยิ่งเธอรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น เธอก็ยิ่งอยากช่วยเหลือเขาและแมวพวกนั้น เธอก็เลยติดต่อเพื่อนที่รู้จักกันอีก 3…
-
Justin Bieber ต่อยชายเมายา เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกบีบคอในงานเทศกาลดนตรี
Coachella Valley Music and Arts Festival หรือเรียกง่ายๆ ว่า Coachella Party คือเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่อลังการในสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13-22 เมษายน 2018 ในเขต Empire Polo Club รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา งาน Coachella Party จัดขึ้นทุกปีในช่วงสงกรานต์บ้านเรา ในปีนี้ งานเทศกาลดังกล่าวยังคงเต็มไปด้วยเหล่าวัยรุ่นและศิลปินคนดังจำนวนมากที่เข้ามาร่วมสนุกกันภายในงาน หนึ่งในนั้นคือนักร้องหนุ่มผู้มีชื่อเสียง Justin Bieber ชายที่สาวๆ หลายคนหมายปอง แต่ในงานนี้เขาไม่ได้แค่มาร่วมสนุกไปกับเสียงดนตรีเพียงอย่างเดียว เพราะเขายังได้โชว์ความเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลือหญิงสาวเอาไว้ด้วย Justin Bieber นักร้องหนุ่มขวัญใจมหาชน สำนักข่าว TMZ รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2018 Justin และดาราหนุ่ม Patrick Schwarzenneger ได้เข้างานมาพร้อมกับเพื่อนๆ ของพวกเขา พบปะเหล่าแฟนคลับและเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง…
-
เด็กหญิงวัย 5 ขวบจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ช่วยเหลือ ‘ทหารผ่านศึก’ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม!!
บางครั้งเหล่าทหารหาญทั้งหลายแม้ภายนอกพวกเขาจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในก็มีมุมอ่อนแอเฉกเช่นเดียวกัน… และนี่เองก็เป็นสิ่งที่ เด็กหญิงวัย 5 ขวบครึ่ง ที่ถูกเรียกว่า Tempy Pattinson จากเมือง Darlington ประเทศอังกฤษ มองเห็นภายในตัวของเหล่าชายชาติทหารและเธอก็เลือกที่จะไม่มองข้ามไปและตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขา Tempy ได้เข้าร่วมกับองค์กร Help for Heroes เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ็บป่วยจากการรับใช้กองทัพของประเทศอังกฤษ โดยทางองค์กรมีการจัดกิจกรรมช่วยเหลือมากมาย มีครั้งหนึ่งที่ Tempy ไปลงสมัครแข่งว่ายน้ำ 100 เมตร หรือการลงแข่งขันไตรกีฬาเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Facing It Together ที่ Tempy และทีมงานจะติดต่อไปยังทหารผ่านศึกเพื่อให้มานั่งคุยกันต่อหน้าและเธอก็จะบอกว่าพวกเขาน่ะคือฮีโร่ตัวจริง เพื่อเติมเต็มความหมายในชีวิตที่ขาดหายไปให้กับเหล่าทหารหาญอีกครั้งหนึ่ง นายทหาร Simon Brown วัย 38 ปี เคยรับใช้กองทัพมานานกว่า 13 ปี ก่อนจะได้รับบาดเจ็บหนักจากการไปประจำการที่อิรักเมื่อปี 2006 ในวันเกิดเหตุที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป Simon ได้ออกไปทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารจำนวน 7 คนที่ถูกจับตัวไป และเขาสามารถช่วยเหลือมาได้ถึง 6…
-
ตำรวจช่วยลูกสุนัขผอมโซจากห้องที่ถูกล็อก ด้วยความรักเลยพามันกลับไปดูแลที่บ้าน
ในที่เกิดเหตุโจรกรรมนั้น ตำรวจไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอให้พวกเขาเจออยู่บ้าง บางทีอาจจะได้หลักฐานมัดตัวคนร้าย หรืออาจจะยังมีคนร้ายหลบซ่อนอยู่ก็ได้ แต่สิ่งที่ตำรวจจากเมืองนิวคาสเซิล รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเจอในอพาร์ตเมนต์ที่ถูกโจรกรรมแห่งหนึ่งกลับไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนร้ายเลย มันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสลดใจมากกว่าเหตุกรณ์ไหนๆ พวกเขาเจอลูกหมาผอมโซตัวหนึ่งอยู่ในห้องที่คนร้ายล็อกทิ้งเอาไว้ เจ้าหมาถูกขังไว้ในห้องปิดตายจนผอมแห้ง ลูกหมาตัวนั้นมีสภาพผอมโซมาก มันผอมจนเราสามารถเห็นโครงกระดูกของมันได้ชัดเจนเลย พอมันเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาช่วย มันก็ส่ายหางด้วยความดีใจแม้จะแทบไม่มีแรงเหลือเลย จากนั้นตำรวจก็รีบติดต่อหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Lawrence County Humane Society ให้พวกเขามาเอาตัวมันไปรักษาโดยด่วน ไม่อย่างงั้นมันอาจจะไม่รอดก็ได้ ตำรวจที่เจอมันเลยรีบติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ให้มาดูแลมัน พวกเขาตั้งชื่อเจ้าหมาว่า Miranda การที่มันไม่ได้กินอะไรมานานทำให้เจ้าหมาผอม แถมยังทำให้อวัยวะภายในของมันทำงานได้ไม่ดีด้วย ดูอาการแล้วน่าเป็นห่วงว่ามันจะไม่รอดจริงๆ แต่อาสาสมัครก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาให้ข้าวและอาหารเสริมกับมันเท่าที่จะทำได้และหวังว่ามันจะอาการดีขึ้น มันอ่อนแอจนดูไม่น่าจะรอด แต่ก็โชคดีรอดชีวิตมาได้ โชคดีที่เจ้าหมารอดมาได้ ไม่นานมันก็กลับมามีน้ำมีนวลอีกครั้งหนึ่ง ทำให้อาสาสมัครและตำรวจโล่งใจมากเลยที่มันไม่ได้อยู่ในขีดอันตรายอีกต่อไป พอมันหายดีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็เลยโพสต์เล่าเรื่องราวของมันบนโซเชียลมีเดียให้ชาวเน็ตได้รับรู้ ชาวเน็ตที่ได้อ่านเรื่องของมันต่างก็รู้สึกสงสารและส่งข้อความให้กำลังใจ ขนม และของเล่นมาให้มันที่ศูนย์พักพิงด้วย แถมยังมีคนอยากรับเลี้ยงมันมากมาย Miranda ก็เลยกลายเป็นขวัญใจของชาวเน็ต แล้วอาสาสมัครทำริสแบนด์ที่มีข้อความว่า ‘Miranda Strong‘ เพื่อออกขายเอาเงินมาสนับสนุนดูแลเจ้าหมา รวมทั้งสัตว์ตัวอื่นๆ ด้วย ชาวเน็ตที่รู้เรื่องมันต่างก็ส่งกำลังใจและสิ่งของมาให้กับเจ้าหมา กลุ่มที่ดูแลมันตัดสินใจยกมันให้ Mark…
-
‘คนขับรถบัสประจำโรงเรียน’ ช่วยถักผมเปียให้เด็กสาวทุกเช้า หลังรู้ว่าแม่ของเธอเสียไป
บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็เกิดขึ้นด้วยการช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า… เช่นเดียวกันกับเด็กสาวรายหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไป ทำให้ทุกเช้าเวลาไปเรียนผมของเธอมักจะยุ่งเหยิงและไม่เป็นทรงเพราะพ่อของเขาไม่รู้วิธีในการจัดการกับผม แต่จากการช่วยเหลือของพนักงานขับรถบัสประจำทาง ที่ถักเปียผมให้เธอทุกวัน หลังจากที่รับรู้ว่าแม่ของเธอเพิ่งสูญเสียไป กลายเป็นเรื่องที่น่าประทับใจไม่ว่าใครต่างก็ต้องน้ำตาตกไปตามๆ กัน เด็กสาว Isabella Pieri วัย 11 ปี เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปจากการป่วยเป็นโรคร้ายที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ ทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับคุณพ่อเพียงสองคนเท่านั้น และจากการที่คุณพ่อเป็นผู้ชายและต้องทำงานหาเงินอย่างหนัก จึงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับผมของลูกดี เขาก็เลยตัดสินใจพาลูกสาวไปตัดผมจนสั้นเหมือนกับว่าเป็นเด็กผู้ชาย และเมื่อเธอไว้ผมจนกลับมายาวอีกครั้ง ก็ตั้งใจว่าจะดูแลมันด้วยตัวเอง แต่มันก็ยังดูเก้ๆ กังๆ จนในที่สุดคุณ Tracy Dean พนักงานขับรถบัสประจำโรงเรียนก็อาสาให้การช่วยเหลือเปียผมให้กับเธอ Tracy เล่าว่าในวันแรกสาวน้อย Isabella ใช้เวลารวบรวมความกล้าอยู่นานกว่าจะเดินเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือกับเธอ เพราะหลายๆ ครั้ง Tracy มักจะช่วยเด็กผู้หญิงคนอื่นเปียผมอยู่บ่อยครั้ง และตอนนี้ในทุกๆ เช้า Tracy ก็จะมาเปียผมให้กับหนูน้อย Isabella ทุกวันก่อนไปโรงเรียน เธอให้สัมภาษณ์กับช่อง KSL-TV ว่า “ฉันทำกับเด็กๆ ทุกคนเหมือนกับเป็นลูกสาวของตัวเองก็เพราะว่า เมื่อ…
-
เฮีย Robert สลัดเกราะทิ้ง ออกไปพบกับเด็กชายป่วยหนัก สานฝันน้องให้เป็นจริง…
การจะได้พบกับผู้มีชื่อเสียงระดับโลกไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเท่าไหร่นัก การที่แฟนคลับจะได้เจอดาราแต่ละที จะต้องฝ่าฝูงชนแฟนคลับด้วยกันเองไม่พอ พอเข้าใกล้ก็จะถูกการ์ดหรือพนักงานรักษาความปลอดภัยขวางทางอีก แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเฮีย Robert Downey Jr. ที่ประสบความสำเร็จจากบท Iron Man อย่างท่วมท้น มีบุคลิกกวนโอ้ยดูเท่สมตัวตนแล้ว เฮียแกก็ยังให้ความใส่ใจแฟนคลับทุกระดับ แม้ว่าการกระทำเหล่านั้นจะเป็นเพียงสิ่งที่เล็กน้อยก็ตาม… เมื่อเด็กชาย Aaron Hunter ผู้ประสบกับอาการ ROHHAD (Rapid-Onset Obesity with Hypothalamic Dysfunction) ความผิดปกติหายากที่จะเกิดในอัตราเพียง 100 คนบนโลก อันก่อให้เกิดปัญหาทางด้านน้ำหนักและส่งผลกระทบต่อการหายใจ และยังไม่มีหนทางในการรักษาให้หายขาดได้ และความชื่นชอบในตัว Iron Man ทำให้เขาอยากจะเจอกับตัวจริงสักครั้งในชีวิต ด้วยการสร้างแคมเปญ #AaronNeedsIronMan ผ่านทวิตเตอร์ ด้วยใจความเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่ว่า ‘อยากจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ดั่งเช่น Robert’ หลังจากที่กระแสถูกกระพือปีกสยายไปตามสายลม ในปี 2017 ทีมอเวนเจอร์ก็ได้เข้าถึงตัวน้องและให้กำลังใจผ่าน FaceTime ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเฮีย Robert กลับให้น้องมากกว่าที่ทั้งทีมอเวนเจอร์เคยให้ โดยเมื่อวันที่…
-
ลูกช้างน้อยขาติดซอกหิน อาสาสมัครเลยช่วยมันขึ้นมา ทำให้แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ในเย็นวันหนึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ Amboseli National Park ซึ่งอยู่ในประเทศเคนย่า กำลังขับรถตรวจตราพื้นที่ทุ่งหญ้าอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากทางสระน้ำเป็นระยะ ก็เลยมั่นใจว่ามีสัตว์กำลังรอให้พวกเขาช่วยอยู่แน่ๆ เมื่อเข้าไปใกล้สระน้ำก็เห็นว่ามีลูกช้างตัวหนึ่งอยู่ในนั้น มันขยับไปไหนไม่ได้เพราะว่าขาติดอยู่ในช่องหินด้านล่าง แถมแม่ช้างก็ช่วยมันออกมาเองไม่ได้ด้วย ข้างล่างมีช้างน้อยติดอยู่ ทุกคนมาช่วยกันเร็ว เจ้าหน้าที่เลยติดต่อไปหาหน่วยกู้ภัยของอุทยานเพื่อให้พวกเขาออกมาช่วยลูกช้าง ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางมา เจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยลูกช้างขึ้นมาด้วย แต่พอพยายามเข้าไปช่วยลูกช้าง แม่ช้างที่แอบเฝ้ามองอยู่ข้างทางก็เดินออกมาไล่พวกเขา ทำให้ไม่สามารถช่วยลูกช้างออกมาได้ ฮึบออกแรงอีกนิดนะ จะขึ้นมาได้แล้ว โชคดีที่ตอนหน่วยกู้ภัยมาถึงแม่ช้างก็หายไปไหนไม่รู้ซะแล้ว พวกเขาก็เลยช่วยลูกช้างได้อย่างเต็มที่ แล้วพามันขึ้นมาจากสระน้ำได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนลูกช้างจะไม่ได้ติดอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้ดูเหนื่อยล้าเลย เจ้าหน้าที่ก็เลยไม่ได้พามันไปรักษาต่อ แต่พามันขึ้นรถแล้วขับตระเวนตามหาแม่ของมัน ดูเหมือนจะสบายดีนะ งั้นขึ้นรถไปตามหาแม่กันเลยดีกว่า ดีที่แม่ช้างไม่ได้เดินออกไปไกลมาก ขับรถวนอยู่ไม่นานก็เจอแม่ช้างแล้ว ตอนที่พวกเขาเจอมันก็เห็นมันกำลังชูงวงขึ้นสูงเพื่อตามกลิ่นของลูกช้างอยู่เหมือนกัน เจอแม่ช้างแล้ว! พอแม่ช้างรู้ว่าลูกอยู่ทางที่รถวิ่งมา มันก็เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าลูกปลอดภัยดีมันก็เดินพาลูกช้างกลับไปยังถิ่นของมัน ก่อนจะไปก็ไม่ลืมหันมาร้องแปร๊นเสียงดังเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ด้วย ถึงการช่วยลูกช้างจากบ่อน้ำจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ไปเจอมันเข้าลูกช้างอาจจะติดอยู่นานจนเป็นอันตรายก็ได้ แถมแม่ช้างที่ไม่สามารถช่วยลูกมันเองได้คงจะร้อนใจน่าดู เรื่องที่พวกเขาทำจึงเป็นเรื่องน่ายกย่องมาก ดีใจจังเลยที่แม่กับลูกได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ช่วยมันเอาไว้ก็รู้สึกดีใจไปกับมันด้วยที่แม่และลูกได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่สักแค่ไหน พวกเขาก็ยินดีจะช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวเสมอ เพราะพวกเขาอยากให้สัตว์ทุกตัวที่นี่อยู่อย่างมีความสุขยังไงล่ะ…
-
พลังโซเชียล จากภาพครูวาดโปรแกรม MS Word ‘บนกระดาน’ ได้รับคอมฯ จริงๆ แล้ว!!
เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีภาพของคุณครูท่านหนึ่งจากประเทศกานา ที่กำลังสอนวิชา ICT (Information and Communications Technology) ในโรงเรียนไฮสคูล Betenase M/A Junior ที่ตั้งอยู่ในเมือง Selyedomase แต่เนื่องจากความขาดแคลน คุณครู Owura Kwadwo จึงต้องวาดภาพจำลองโปรแกรม Microsoft Word ลงบนกระดานดำด้วยชอล์ก เพื่อสอนวิธีการใช้งานโปรแกรมดังกล่าวให้กับนักเรียนแทนที่จะได้สอนด้วยคอมพิวเตอร์ ภาพดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก จนในที่สุดก็มีคนใจดีบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อเครื่องมือจำเป็นอย่าง ‘คอมพิวเตอร์’ ให้กับทางโรงเรียน โดยเฉพาะคุณ Rebecca Enonchong ที่เป็นนักแสดงตลกชื่อดังในประเทศกาน่า ได้ทำการทวีตแท็กไปยังทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ MicrosoftAfica ถึงเรื่องราวของโรงรเรียนที่ Owura สอน พร้อมแคปชั่นว่า “เฮ้ MicrosoftAfrica ชายคนนี้เขาสอนโปรแกรม MS Word บนกระดานดำ ฉันมั่นใจได้เลยว่าคุณสามารถมอบอุปกรณ์ให้กับเขาได้” และแล้วการทำของเธอก็เป็นผล เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา พวกเขาได้รับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เอี่ยมถึง 5 เครื่อง และแลปท็อป 1 เครื่อง พร้อมถึงหนังสือ ICT อีกมากมายหลายเล่ม .…
-
เด็กสาวตัวน้อย พยายาม ‘เพิ่มน้ำหนัก’ ของตัวเอง เพื่อที่จะช่วยชีวิตพ่อของเธอ
ความรักและความห่วงใยที่มีให้กันจะนำมาซึ่งการช่วยเหลือที่แสนอบอุ่นหัวใจ เหมือนอย่างความรักของพ่อลูกคู่นี้ เมื่อเด็กสาวตัวน้อยมีความตั้งใจ พยายามเพิ่มน้ำหนักของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตพ่อของเธอ นี่เป็นเรื่องราวของคุณพ่อชาวจีนที่ชื่อว่า Luo Changming ผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว AML ตั้งแต่ปี 2016 จนทำให้เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่า 985,000 บาท ในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด คุณพ่อผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง วันเวลาผ่านไป จู่ๆ อาการของเขาก็กลับมากำเริบอีกครั้งในช่วงต้นปี 2018 จนทำให้แพทย์บอกกับเขาว่า ความหวังเดียวที่จะสามารถรักษาอาการของเขาได้คือ การปลูกถ่ายไขกระดูกจากคนในครอบครัว แต่โชคร้ายที่พ่อและแม่ของเขาอายุมากเกินไป ส่วนน้องสาวก็พบว่ามีความไม่เข้ากันของไขกระดูก นั่นจึงทำให้ไม่สามารถปลูกถ่ายจากคนเหล่านั้นได้ เขายังคงรอความหวังในการปลูกถ่ายไขกระดูก ความหวังเดียวของเขาจึงตกไปอยู่ที่ลูกสาวตัวน้อยวัย 11 ปีที่มีชื่อว่า Zhenzhen แต่ทว่าเธอนั้นมีน้ำหนักเพียง 29 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ แพทย์บอกว่าเธอไม่สามารถปลูกถ่ายไขกระดูกได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อจะช่วยชีวิตพ่อของเธอ เด็กสาวตัดสินใจกินเข้าไปเยอะๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักของตัวเอง Luo Xiaolan แม่ของเด็กสาวเล่าว่า “ฉันบอกกับเธอว่า ‘ตอนนี้ลูกคือคนเดียวที่จะช่วยพ่อได้ ลูกอยากช่วยพ่อมั้ย?’ แล้วลูกสาวฉันก็ตอบกลับมาอย่างหนักแน่นว่า ‘อยากสิคะ หนูไม่กลัวอยู่แล้ว’”…
-
หญิงสาวกลายเป็นฮีโร่ หลังใช้มีด ‘แทงคอ’ สามี ที่สำลักเนื้อบาร์บีคิวจนรอดอย่างปาฏิหาริย์!!
‘อุบัติเหตุ’ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หลายๆ ครั้งก็อาจทำให้เป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียได้เลยทีเดียว… เช่นเดียวกันกับนาย Izak Bester วัย 50 ปี ชาวนิวซีแลนด์ ที่กำลังนั่งทานปาร์ตี้บาร์บีคิวกับแฟนสาวอย่างมีความสุขบนชายหาด Waimarama Beach ที่ตั้งอยู่ในอ่าว Hawke แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น Izak เกิดสำลักเนื้อบาร์บีคิว เพื่อนๆ ของเขาพยายามช่วยเหลือเขาด้วยวิธีเฮมลิก แมนูเวอร์ (เป็นวิธีการช่วยเหลือคนสำลักอาหารด้วยการกอดจากด้านหลัง แล้วใช้สันมือกระแทกบริเวณกระบังลมเพื่อให้อาหารกระเด็นหลุดออกมา) แต่ก็ไม่เป็นผล เขาหมดสติไป ปากของเขาเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีฟ้า สีม่วง หลังจากนั้นก็กลายเป็นสีดำ แฟนสาวของเขา Sarah Glass ที่มีอาชีพเป็นผู้ช่วยทำคลอด ก็รู้ทันทีว่าเวลาของเขาใกล้หมดลงแล้ว คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่ Sarah กำลังจะทำต่อไปนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก แต่นั่นก็ช่วยชีวิตของ Izak จนรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ เธอตัดสินใจหยิบมีดทำครัวขึ้นมา แล้วก็หาจุดที่อาหารติดอยู่ ก่อนที่จะแทงลงไปที่บริเวณลำคอ!? เพื่อเปิดช่องให้อากาศเข้าไปผ่านทางหลอดลม แม้อาจจะดูน่ากลัว แต่สิ่งที่ Sarah ทำนั้นเป็นเรื่องที่ส่งผลดีมากกว่าส่งผลร้ายกับ Izak จากนั้นเพื่อนๆ ก็หาถังออกซิเจนเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในระบบการหายใจของเขา…
-
แมวเหมียวพยาบาล ถูกสั่งให้ออกจากคลินิก สัตวแพทย์กับชาวเน็ตเลยเข้าช่วย
วันนี้มีเรื่องของแมวตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในคลินิกมาฝากกัน มันถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หาที่อยู่ใหม่เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นพาหะนำโรค คนที่คลินิกและชาวเน็ตก็เลยรวมตัวกันเพื่อต่อต้านคำสั่งนี้ มันจะได้อยู่ที่คลินิกที่มันรักเหมือนบ้านตามเดิม Honey เหมียวพยาบาลดามใจผู้ป่วย เจ้าเหมียวตัวเอกของเรื่องชื่อว่า Honey ตอนแรกมันก็เป็นแมวที่ถูกเก็บมารักษาในคลินิก Ringsjöns Veterinärklinik ในประเทศสวีเดนเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ เจ้าแมวผอมโทรมมากจนดูน่าเป็นห่วง แต่ก็ได้สัตวแพทย์ในคลินิกพยายามช่วยเอาไว้จนหายดี หลังจากที่มันแข็งแรงแล้ว มันคงไม่อยากเป็นผู้รับอย่างเดียวก็เลยเป็นฝ่ายแบ่งปันความรักให้กับสัตว์และคนที่มายังคลินิกบ้าง ตอนแรก Honey ถูกคนในคลินิกช่วยไว้ พอหายดีก็เป็นฝ่ายช่วยคนอื่นบ้าง Lucie Havelka สัตวแพทย์ที่ทำงานในคลินิกนั้นเล่าว่า “ตอนแรกมันก็เป็นผู้ป่วยนี่แหละ แต่หลังจากนั้นเราก็สังเกตได้ว่ามันเริ่มเป็นคนดูแลผู้ป่วยอื่นไปแทนแล้ว” มันจะมอบไออุ่นจากร่างกายให้กับสัตว์ทุกตัวที่ต้องการกำลังใจ มอบความรักให้กับลูกแมว เธอยังบอกอีกว่า Honey สามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าสัตว์ตัวไหนต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเกิดมีสัตว์ตัวไหนต้องการมันก็จะเข้าไปช่วยทันที แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันก็จะไม่ไปรบกวนผู้ป่วยเลย ถ้าเข้าไปใกล้ไม่ได้ก็จะให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ไม่ต้องรอให้บอกก็เข้าไปช่วยเอง มันทำตัวเหมือนกับหมอที่คอยรักษาสภาพจิตใจให้กับคนที่มาพึ่งพาคลินิก และสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นทำให้ที่แห่งนั้นรู้สึกเหมือนกับเป็นบ้านที่เปี่ยมด้วยความรักได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็ยังเข้าไปกอดเจ้าของที่เดือดร้อนใจเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงเพื่อให้พวกเขาสบายใจมากขึ้นด้วย เรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดทีเดียว ให้ความรักกับสัตว์ทุกชนิด สัตว์ต่างสายพันธุ์ก็สบายใจเมื่อได้อยู่กับเจ้าเหมียว หมอที่ทำงานอยู่ที่คลินิกยังออกปากบอกเองเลยว่า เจ้าเหมียวเองก็เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่คลินิกเหมือนกับพวกเขา…
-
ชาวเน็ตแชร์เรื่องราว “ทำผิดกฎ” เพื่อช่วยผู้อื่น สะท้อนสิ่งที่ถูกมองว่า “ผิด”
เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานถึงเรื่องที่ว่าพวกเรานั้นควรที่จะทำผิดกฎเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกหรือไม่ แน่นอนว่าความเห็นในเรื่องแบบนี้นั้นย่อมแบ่งเป็นสองฝั่งสองฝ่าย ฝ่ายที่บอกว่ากฎหมายนั้นจำเป็นต้องผ่อนผันกันบ้าง และฝั่งที่บอกว่าไม่ว่าอย่างไรกฎก็ต้องเป็นกฎ ไม่อย่างนั้นสังคมก็ไม่สงบสุขกันเสียที อะไรผิดอะไรถูกนั้นมันเป็นเรื่องที่พิสูจน์กันยาก เพราะแต่ล่ะคนก็มีความคิดต่อสิ่งต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน จะไปบอกว่าอะไรเป็นสีขาวหรือดำไปเลยนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเท่าไหร่นัก เหมือนดั่งเช่นเรื่องราวต่อไปนี้ของเหล่านที่แหกกฎ เพื่อช่วยเหลือใครสักคน ส่วนเรื่องที่ว่ามันเป็นเรื่องผิดหรือถูกนั้น คงต้องให้พวกเพื่อนๆ ตัดสินกันเอาเอง ProbablyStoned0x1A4 เล่าว่า… ตอนที่ผมทำงานอยู่ที่ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ผมปล่อยให้ชายไร้บ้านหยิบอาหารสุนัขไปจากร้านได้เลยเพราะผมไม่อยากให้สุนัขของเขาหิวตาย ตอนที่หมดกะของผมในวันนั้น ผมก็บังเอิญไปเห็นชายคนนั้นนั่งกินอาหารสุนัขอยู่กับสุนัขของเขาในลานจอดรถ ผมแทบจะร้องไห้อยู่ตรงนั้นเลย npanth เล่าว่า… ผมเคยทำงานอยู่ในร้านขายอะไหล่รถในช่วงที่มหาวิทยาลัยหยุดฤดูร้อน มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าร้านมาพร้อมแบตเตอรี่รถยนต์ที่พังไปแล้ว เธอแลดูเป็นทุกข์มาก เธอบอกว่าเธอต้องค้างค่าเช่าเพื่อซื้อแบตเตอรี่ เพราะไม่มีแบตเตอรี่ เธอก็ไม่มีรถ ไม่มีงาน เธอถามขอซื้อแบตเตอรี่ที่ถูกที่สุด วันนั้นผมคิดเงินเธอค่าแบตเตอรี่ที่ถูกที่สุดราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1,500 บาท) แต่หยิบแบตเตอรี่อย่างดี ราคา 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 9,400 บาท) ให้แก่เธอ TinCanCynic เล่าว่า… ผมสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อมอบเวลาอยู่บ้าน 2 เดือนให้แก่ลูกน้องของผมหลังจากที่ลูกชายเขาเกิด ลูกของเขาอ่อนแอมากและอาจจะจากไปได้ทุกเมื่อ ลูกน้องของผมไม่มีวันลาเหลืออยู่แล้วแต่พวกเราอยากให้เขาได้อยู่กับลูกให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้…
-
มิ้วน้อยกำพร้า ทั้งตัวเล็กและอ่อนแอ แต่ได้กำลังใจเลยสู้จนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
แมวจรจัดมีชีวิตที่ยากลำบาก บางครั้งมันก็โชคร้ายสูญเสียครอบครัวไปทั้งหมด ทำให้ต้องลำบากอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของมันจะแย่เสียหมด อาจจะมีเรื่องดีๆ รออยู่ข้างหน้าก็ได้ เหมือนลูกแมว Mety แมวตัวจิ๋วที่สูญเสียพี่น้องไปหมดเลย ทำให้มันต้องอยู่ตัวคนเดียว ด้วยความที่เพิ่งเกิดมาไม่นาน มันก็เลยดูแลตัวเองไม่ได้จึงคาดเดาได้ว่าหากมันเป็นแบบนี้ต่อไปต้องตายแน่ๆ แต่สวรรค์ก็ยังไม่ทอดทิ้ง ส่งหญิงใจดีมาช่วยชีวิตมันไว้ มิ้วจิ๋ว Mety ตัวนิดเดียวเอง เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้วสาว Melinda Blain บังเอิญไปพบเจ้า Mety กับพี่น้องของมันเข้า แต่พี่น้องของมันตายไปหมดแล้ว แม่เหมียวก็หายไปไหนไม่รู้ มีมันตัวเดียวเท่านั้นที่กระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดอยู่ เธอไม่สามารถปล่อยให้มันตายอยู่ข้างถนนได้ สาวก็เลยเก็บเอามันมาดูแล และขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Rescuing Animals in Need (RAIN) เพื่อให้พวกเขาช่วยดูแลมันอีกแรงหนึ่ง น่าสงสารจังเลย พี่น้องก็ตายหมด แม่ก็ไม่อยู่ แถมยังร่างกายอ่อนแออีก ตอนที่เธอเจอมันครั้งแรก แม้ว่ามันจะอายุ 1 สัปดาห์แล้ว แต่มันกลับตัวเล็กจิ๋ว มีน้ำหนักตัวเพียง 100 กรัมซึ่งเทียบเท่ากับลูกแมวที่เกิดใหม่ได้ 1 วันเท่านั้น เธอเล่าว่า “Mety ขาดสารอาหารมาก อาจจะเป็นเพราะมันเสียพี่น้องจนเหลือตัวคนเดียวด้วย ก็เลยทำให้มันดูเงียบเหงา…
-
เพื่อนแท้ไม่ทิ้งกัน พิตบูลล์ยืนกรานไม่ไปบ้านใหม่ หากไม่มีเจ้าชิวาวาไปด้วย
คำพูดที่ว่าเพื่อนแท้ไม่ทิ้งกันอาจจะหาดูกันไม่ได้บ่อยนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีให้เห็นเลยซะทีเดียว แม้แต่เจ้าสุนัขเองก็ยังสนิทสนมจนไม่ยอมทิ้งไปไหนตลอดชีวิตเลย เจ้าสุนัขคู่นี้ก็คือ Merril สุนัขพันธุ์พิตบูลล์ และ Taco สุนัขแก่พันธุ์ชิวาว่า ทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือพร้อมกันจากกลุ่มช่วยเหลือสุนัข Rocket Dog Rescue ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา Rocket Dog Rescue กลุ่มช่วยเหลือสุนัขตกทุกข์ได้ยาก แม้ว่าจะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าของของมันเป็นใครแล้วหายไปอยู่ที่ไหน แต่อาสาสมัครก็รู้ดีว่าเจ้าสุนัข 2 ตัวนี้ผูกพันกันมากชนิดที่ว่าแยกออกจากกันไม่ได้เลย ถ้าเมื่อไหร่มันต้องออกห่างจากกัน แต่ละฝ่ายก็จะร้องและเห่าไม่หยุดจนกว่าจะได้กลับมาเจอหน้ากันนั่นแหละ Merril กับ Taco เพื่อนซี้ปึ๊ก ตัวติดกันเป็นตังเมเลย แม้แต่ตอนที่เจ้า Merril ติดเชื้อในระบบปัสสาวะจนต้องเข้ารับการรักษาอย่างหนัก พวกมันทั้งคู่ก็ยังคงร้องโวยวายที่เจ้าพิตบูลล์ถูกแยกไว้อีกห้องเพื่อพักฟื้นตัว จนสุดท้ายอาสาสมัครก็ต้องยอมให้พวกมันทั้ง 2 ตัวได้เข้าไปอยู่ด้วยกันถึงจะสงบลงได้ ต้องแยกจากเพื่อนพักนึงนะ จะได้ฟื้นตัวไวๆ จะมาแยกเราแบบนี้ไม่ได้ ปล่อยให้เค้าเอาข้าวไปให้เพื่อนเดี๋ยวนี้ เราจะอยู่ด้วยกัน แบบนี้แหละสบายใจกว่า หายไวแน่นอน ตั้งแต่พวกมันมาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสุนัข ทั้งคู่ก็ทำให้อาสาสมัครทุกคนรู้แล้วว่าพวกมันรักกันมากแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้ แต่เรื่องนี้เองก็ทำให้อาสาสมัครเป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าถ้าตัวใดตัวหนึ่งมีคนรับไปอยู่บ้านแล้ว พวกมันจะแยกห่างจากกันไปมีชีวิตของตัวเองได้หรือเปล่า…
-
มนุษย์เข้าไปปลดปล่อยเจ้าตูบแก่ตาบอด ที่ถูกมัดไว้ใต้ที่เก็บของเก่า พร้อมหาบ้านใหม่ให้
ปัญหาหมาจรจัดที่ไม่มีคนดูแลยังคงเป็นปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยิ่งถ้าเป็นหมาแก่แล้วยิ่งหาบ้านยากมากกว่าหมาจรจัดเด็กเสียอีก การที่เจ้าหมาแก่ตาบอดมีคนรับเลี้ยงเอาไว้จึงเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์ในชีวิตมัน เจ้า Duncan เป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลล์อายุ 12 ปีที่อาศัยอยู่ในที่เก็บของเก่า มันดูอ่อนล้าและหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ถือเป็นโชคดีของมันที่มีสมาชิกขององค์กรช่วยเหลือสุนัข Hope for Paws ไปเห็นมันเข้าก็เลยติดต่อให้คนเข้าไปช่วยเหลือมัน Duncan หมาแก่ตาบอดที่นอนซมอยู่ในที่เก็บของเก่า ผู้ช่วยเหลือรีบไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง แล้วก็เจอมันนอนอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ใต้ตู้ใบใหญ่ สภาพของมันมอมแมม ตาบอดสนิท และหิวโซอย่างเห็นได้ชัด ทีมช่วยเหลือก็เลยเอาอาหารและน้ำป้อนให้มันกินก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงพยายามช่วยมันออกมาจากใต้ตู้ใบนั้นเพื่อพามันไปรักษากับสัตวแพทย์ กินข้าวกินน้ำก่อนนะ จะได้หายหิว เจ้าหมาไม่ยอมขยับไปไหนสักนิด ก็เลยต้องใช้เชือกจูงช่วย แล้วค่อยๆ ดึงจนมันยอมลุกเดินออกมาเอง พอเจ้าหมาลุกออกมาจากรูเล็กๆ นั้นแล้วผู้ช่วยเหลือถึงเห็นว่าที่จริงเจ้าหมามันมีเชือกคล้องคออยู่ ซึ่งหมายความว่ามีคนเคยมัดเจ้าหมาไว้ที่นี่แล้วดูแลมันมาก่อน แต่ตอนนี้กลับทิ้งมันไปแล้ว ปล่อยให้มันอยู่อย่างตายอดตายอยากที่นี่เพียงลำพัง หญิงที่ช่วยมันเห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสารมันมากขึ้นกว่าเดิมอีก ก็เลยตัดเชือกเส้นนั้นทิ้งเพื่อปลดปล่อยมันเป็นอิสระ แล้วอุ้มมันขึ้นรถไปให้หมอรักษาร่างกาย เจ้าหมาก็แก่แล้วแถมไม่มีแรงด้วยก็เชื่องยอมให้หญิงสาวอุ้มไปแต่โดยดี เอาล่ะ ไปหาหมอกันนะจะได้ไปรักษาตัว แล้วได้อาบน้ำด้วย . จากการตรวจของสัตวแพทย์แล้วพบว่าเจ้า Duncan เป็นโรคผิวหนัง มีแผลตามตัว มีเนื้องอกอีก 2 ก้อน…
-
นักปีนเขายอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง ช่วยเหลือเจ้าหมา 2 ตัว ที่ติดอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
คนที่รักสัตว์จริงๆ จะไม่ห่วงแต่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเท่านั้น พวกเขาจะเป็นห่วงสัตว์ทุกตัวที่ได้พบเห็นนั่นแหละ และก็พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้พวกมันเท่าที่จะทำได้ นาย Scott Pilling ชายจากประเทศอังกฤษวัย 39 ปีก็มีน้ำใจพร้อมจะช่วยเหลือสัตว์เช่นกัน แม้ว่าสัตว์เหล่านั้นจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนแปลกหน้า และเขาต้องเสี่ยงอันตรายก็ตาม ดังนั้นเมื่อเขาเห็นประกาศขอความช่วยเหลือให้ตามหาสุนัขที่หายไปบนเฟซบุ๊ก เขาจึงรีบออกเดินทางไปยังภูเขาหิมะด้วยความเป็นห่วงเจ้าหมาทันที ประกาศเจ้า Lilah หาย ประกาศเจ้า Cash หาย ประกาศนี้ลงไว้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 แล้ว แต่เขาเพิ่งจะเห็นมันเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งหมายความว่าเจ้าหมาที่หายไป 2 ตัวนั้นติดอยู่บนภูเขาหิมะมา 2 วันแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าพวกมันยังมีชีวิตรอดอยู่ในสภาพอากาศย่ำแย่แบบนั้นหรือไม่ แต่เขาก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังภูเขา Helvellyn ในเขตเลคของประเทศอังกฤษซึ่งห่างไกลจากบ้านของตัวเองทันที เขาเดินทางไกลมาถึงภูเขาหิมะเพื่อช่วยเจ้าหมาโดยเฉพาะ เมื่อเขาและอาสาสมัครจำนวนหนึ่งไปถึงบริเวณภูเขาหิมะ พวกเขาก็เริ่มทำการสำรวจพื้นที่ในทันที โดยเลือกสำรวจจุดที่อันตรายที่สุดซึ่งมีความสูงถึง 3,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล (ประมาณ 900 เมตร) ก่อนเพราะคิดว่าทีมค้นหาคงยังไม่ได้เข้าไปดูบริเวณนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะพบเจ้าสุนัขทั้ง 2 ตัวอยู่ด้วยกันบนยอดเขาในแถบนั้นนั่นเอง เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมรู้ว่าทางด้านตะวันออกของภูเขาที่อันตรายที่สุดน่าจะยังไม่มีใครเข้าไปค้นหา…
-
ลูกหมีน้อยไร้แม่ ได้รับการช่วยเหลือ หลังแม่ถูกคนตัดไม้พรากชีวิตขณะจำศีล
สัตว์ก็เหมือนกับคนเรา พวกมันมีครอบครัวมีพ่อแม่ที่มันรัก ไม่ว่าใครก็อยากจะอยู่กับพ่อแม่ไปจนแก่ตายกันทั้งนั้นแหละ แต่บางครั้งก็มีคนมาพรากสิ่งเหล่านั้นจากเราไปราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง ลูกหมีน้อยตัวนี้หลับจำศีลอยู่กับแม่ในโพรงของมัน แต่ชีวิตแสนสงบของมันก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่เข้ามาพรากแม่ของมันซึ่งกำลังหลับอยู่ ทำให้มันต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย แม่หายไปไหน พาเค้ามาที่นี่ทำไม เจ้าหมี 2 แม่ลูกนี้จำศีลอยู่ด้วยกันในโพรงไม้ ทว่าคนตัดไม้ก็บังเอิญไปรบกวนการพักผ่อนของพวกมันเข้า แม่หมีก็เลยออกมาปกป้องลูกของมัน แต่ก็ถูกคนตัดไม้ยิงเสียชีวิต อาจจะเป็นเพราะความสงสารและความรู้สึกผิด คนตัดไม้ก็เลยเอาลูกหมีกำพร้าใส่ถุงพลาสติกแล้วเอามันไปส่งให้กับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าเพื่อให้พวกเขาดูแลมันแทน มาตรวจอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมปล่อยเค้ากลับไปสักที พอทางศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าได้รับตัวเจ้าหมีมา พวกเขาก็รีบนำมันไปตรวจร่างกายทันที โชคดีที่เจ้าหมีนั้นสุขภาพแข็งแรงสมวัย แต่มันก็คงลำบากเพราะขาดแม่ซึ่งเป็นเหมือนเสาหลักของชีวิตไป เจ้าหน้าที่ในศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าตั้งใจจะดูแลเจ้าหมีไปสักระยะหนึ่ง พอมันแข็งแรงและเติบโตมากพอแล้ว ก็จะส่งมันกลับไปสู่ธรรมชาติตามเดิม หมีดำอย่างแม่และลูกหมีคู่นี้เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาว แต่ในปัจจุบันพวกมันเหลือจำนวนอยู่น้อยเต็มทีแล้ว ตอนนี้พวกมันมีชื่ออยู่ใน บัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (Red List of the International Union for Conservation of Nature) ซึ่งแปลว่าพวกมันใกล้สูญพันธุ์แล้วนั่นเอง ในประเทศรัสเซียที่มีหมีดำอยู่มากนั้น พบว่ามีลูกหมีดำกำพร้าเพิ่มขึ้นถึงปีละ 20-40 ตัวเลย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วงมาก หากว่าไม่มีแม่หมีแล้วโอกาสอยู่รอดของลูกหมีก็จะลดน้อยลงไปด้วย เรื่องการอนุรักษณ์หมีดำจึงเป็นอีกเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญก่อนมันจะสูญพันธุ์ไป ให้เราอยู่กับครอบครัวเถอะ อย่าฆ่าพ่อแม่เราเลย…
-
นักเรียนเห็นครูเศร้าที่ต้องเสียหมาไป จึงเขียนจดหมายปลอบใจเพื่อชีวิตที่ต้องเดินต่อไป…
การที่ต้องลาจากกับสิ่งที่ตัวเองรักนั้น ไม่ว่าจะกับใครก็เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากทั้งนั้น ไม่ว่าสิ่งที่จากไปนั้นจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ตามที เวลามันพังไป ตายไป หรือหายไปก็ล้วนแต่ทิ้งที่ว่างไว้ในจิตใจของเราทั้งสิ้น ความเศร้าที่เรารู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ต้องเดินต่อไปในสักวัน Lucie Dunne ก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องสูญเสียบางสิ่งที่เธอรักไปเช่นกัน Lucie นั้นอาศัยอยู่กับคุณแม่ของเธอ Gemma ผู้เป็นคุณครูระดับประถมศึกษา และ Charlie สุนัข โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 18 เดือน ในเมือง กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ มี.ค. 12, 2017 เวลา 3:05pm PDT โชคร้ายที่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Charlie สุนัขประจำบ้านก็จากพวกเธอไปด้วยโรคร้าย “เราพบก้อนเนื้อก้อนใหญ่ที่อกของมัน เราเลยพามันไปหาสัตว์แพทย์ กว่าที่เราจะรู้ตัว มันก็จำเป็นต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะโรคมะเร็ง และเนื้องอกขนาดใหญ่ที่กดเข้าไปในหัวใจของมัน สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยให้มันไปสบาย” โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ ม.ค. 20, 2018 เวลา 10:46am…
-
พนักงาน American Airline ช่วยชีวิตเด็กหญิง 2 ราย ให้รอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์
ทุกๆ วันการค้ามนุษย์นั้นถือเป็นเรื่องที่ยังคงเกิดขึ้นทุกๆ วัน และสนามบินก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่กลุ่มค้ามนุษย์มักจะเลือกใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปไหนมาไหน แต่ล่าสุดต้องขอบคุณ Denice Miracle พนักงานขายตั๋วของสายการบิน American Airline ที่สามารถจับพิรุธของขบวนการค้ามนุษย์ได้ทันท่วงที เพราะเธอนั้นสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เด็กวัยรุ่นตัวเล็กๆ สองคน ต้องการซื้อตั๋วขึ้นเครื่องบินเองโดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วย แต่เหตุผลใหญ่ๆ ที่ทำให้ตัว Denice รู้ตัวว่าเด็กทั้งสองนั้นตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ก็เพราะ ตั๋วที่เด็กสองคนซื้อนั้นมันเป็นตั๋วระดับเฟิร์สคลาส แถมยังเป็นตั๋วเที่ยวเดียวอีกด้วย ที่สำคัญบัตรเครดิตที่ใช้ก็ยังเป็นบัตรที่ขโมยมาอีก และยิ่งกว่านั้นเด็กทั้งสองยังมองหน้าหลังตลอดเวลาแสดงถึงพิรุธเป็นอย่างมาก ในวินาทีนั้นเธอได้ตัดสินใจใช้สัญชาตญาณของตัวเองไม่ขายตั๋วให้หนูน้อยทั้งสอง จากนั้นเธอก็เรียกเจ้าหน้าที่มารวบตัวทันที ซึ่งพวกเขาก็ได้รู้ความจริงว่าวัยรุ่นทั้งสองนั้นได้รับข้อความผ่านอินสตาแกรมจากที่ชื่อ Drey ว่า ถ้าพวกเขาบินไปที่นิวยอร์ก ทั้งคู่จะได้รับเงินจำนวนมหาศาลเป็นการตอบแทนและยังจะได้ร่วมเล่นกับ MV ของ The Weekend ด้าน Todd Sanderson เจ้าหน้าที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวบอกว่า เขาจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ค้ามนุษย์เกิดขึ้นแน่ๆ เขาจึงส่งวัยรุ่นทั้งสองกลับบ้านด้วยตนเอง เพราะถ้าเขาปล่อยให้ทั้งสองกลับเอง พวกเขาอาจจะตัดสินใจเดินทางไปตามเส้นทางเดิมและตกเป็นเหยื่อของพวกค้ามนุษย์อีกก็ได้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ 6 เดือนก่อน ซึ่งข่าวนั้นไม่ถูกเปิดเผยก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ส่วนตัวอินสตแกรมที่ชื่อ Drey ก็ได้ลบออกไปแล้วทำให้พวกเขาไม่สามารถตามตัวคนร้ายได้อีกต่อไป สุดท้ายแล้วก็ต้องขอบคุณทั้ง…
-
หนุ่มเจอ “แม่แมว” กลางถนน สังหรณ์ว่าต้องมีลูกน้อย ออกตามหาเป็นชั่วโมงจนเจอ…
เมื่อสามเดือนก่อนในลาสเวลกัส Duff พนักงานช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของกลุ่ม Trap-Neuter-Return ได้พบเจอเจ้าเหมียวตัวหนึ่งเดินร่อนเร่อยู่บนถนนภายในเมือง แต่เมื่อเขาพามันไปยังคลินิก ทำให้ทราบว่าเจ้าเหมียวที่เขาช่วยมานั้นยังมีลูกน้อยอีกหลายตัว เมื่อเขาทราบอย่างนั้นแล้ว เขาจึงพาคนไปยังจุดที่เขาพบเจ้าแมวตัวนี้ เพื่อช่วยกันสำรวจหาลูกแมวน้อยทั้งหลาย Duff และผู้ช่วยคนอื่นๆ ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมกลับหากยังค้นหาลูกแมวไม่พบ หลังจากค้นหาเป็นเวลานับชั่วโมง พวกเขาก็ได้พบเหล่าลูกแมวซ่อนตัวอยู่ใต้กองไม้ในสวนของเพื่อนบ้าน จากนั้นพวกเขาก็พาลูกแมวเหมียวมาพบกับแม่ของมัน พร้อมหาบ้านหลังใหม่ให้พวกมันไปอยู่ กระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนถึง ตี 3 สุดท้ายพวกมันก็ถูกรับเลี้ยงโดย Ellen Richter จากสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง พวกเขาตั้งชื่อเหมียวตัวแม่ว่า Portia และลูกแมวทั้งสามตัวว่า Persia, Palma, และ Paris เมื่อ Ellen ได้รับการติดต่อมาว่ามีแมวแม่ลูกกำลังรอคอยความช่วยเหลือให้รับไปเลี้ยง เธอจึงไม่รอช้า ขออาสารับมาเลี้ยง เวลาผ่านไปหลายคืนกว่าที่เธอจะดูแลเหล่าแมวเหมียวพวกนี้จนแข็งแรงและเชื่อใจเธอได้ ลูกแมวตัวหนึ่งต้องจากไปเนื่องจากเหตุทางพันธุกรรม แต่อีกสองตัวที่เหลือก็เติบโตเป็นปกติ ส่วนคุณแม่ Portia ในช่วงแรกนั้นเขินอาย มักจะเข้าไปหลบหลังตู้ แต่เธอก็อนุญาตให้ Ellen เลี้ยงลูกของเธอได้นะ …
-
หญิงตามประกบโจรขโมยกระเป๋า พากลับมาส่งคืนเจ้าของ และเลี้ยงกาแฟปรับชีวิตที่หลงทาง…
เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Tess Aboughoushe ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ที่เพิ่งถูกชิงกระเป๋าสตางค์ไป เธอจึงไล่ตามโจรที่ฉกชิงกระเป๋าสตางค์นั้นไปในตรอกซอกซอยแห่งหนึ่งในเมืองเอ็ดมันตัน รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา สุดท้ายเธอพบว่าคนร้ายกำลังซ่อนตัวอยู่หลังถังขยะ แต่สิ่งที่เธอทำหลังจากพบตัวคนร้าย กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นคือการให้โอกาสกลับตัวกลับใจ เหตุการณ์เริ่มขึ้นหลังจากที่ Tess เพิ่งเสร็จธุระจากการเข้ารักษากระดูกสันหลังในช่วงกลางวันของวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเรื่องเกิดขึ้นใกล้ๆ เธอเล่าว่า “ฉันกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ ขณะที่ฉันกำลังข้ามถนนนั่นเองฉันก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า ‘หยุดนะ เจ้าหัวขโมย มันเอากระเป๋าสตางค์ของฉันไปแล้ว’ มันเหมือนกับในหนังเลย หญิงคนนั้นกรีดร้อง หัวขโมยก็เริ่มวิ่งหนี ฉันไม่ได้คิดอะไรมากนักนอกจากวิ่งตามชายหัวขโมยคนนั้นไป” Tess ไล่ตามชายคนดังกล่าวไปราวสองช่วงตึกก่อนที่จะถึงมุมและหันไปเห็นว่าชายคนนั้นกำลังยืนก้มหน้าเหมือนกับกำลังกลัวอยู่ใกล้ๆ กับอาคารจอดรถ ใบหน้าของเขาเป็นมีรอยข่วนเป็นเส้นๆ ภายใต้ศีรษะที่โกนจนเหี้ยนเตียน ทำให้จิตใจของ Tess สั่นเครือด้วยความเวทนา มือข้างหนึ่งของชายดังกล่าวจกกระเป๋าอยู่ ทำให้ Tess กลัวว่าเขาจะมีมีด แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย เขากลับโค้งตัวลงในเสื้อคลุมของเขาและก็ร้องไห้ Tess เล่าต่อว่า “เขาออกมาจากหลังถังขยะนั่น และพยายามพูดจาอย่างไมตรีว่า ‘นี่เป็นกระเป๋าสตางค์ของหญิงคนนั้น ผมไม่อยากทำแบบนี้อีกแล้ว รับไปซะสิ’ จากนั้นฉันก็รับกระเป๋าสตางค์นั้นไว้ และหญิงผู้เสียหายก็มาถึงพอดี ฉันจึงคืนกระเป๋าสตางค์ให้กับเธอ ชายคนนั้นก็อยู่ด้วย…
-
ชายหนุ่มเดินเท้าเกือบ 18 กิโลเมตรไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานเห็นใจก็เลยรวมเงินซื้อรถให้
ถ้าเราเป็นคนดีและมีความพยายามสูง คนรอบตัวก็จะรักและปฏิบัติดีกับเรา ในเวลาที่เรากำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ว่าใครก็อยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หนุ่ม Trenton Lewis เองก็เหมือนกัน เขาเป็นพนักงานที่มีความขยันหมั่นเพียร มาทำงานตรงเวลาทุกวันไม่เคยสาย แถมยังขยันอีกด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานรู้ความจริงที่น่าตกใจว่าเขาเดินเท้ามาทำงานตั้งไกลทุกวัน ทุกคนก็เลยช่วยเหลือเขาโดยการซื้อรถยนต์ให้ Trenton Lewis คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้ทุ่มเทให้กับงาน Lewis เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในเมืองลิตเติลร็อก รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นพนักงานเตรียมสินค้าให้กับบริษัท UPS (United Parcel Service) ซึ่งเป็นบริษัทส่งของที่มีชื่อเสียง ทว่าที่ทำงานของเขาอยู่ห่างจากที่พักถึง 11 ไมล์ (ประมาณเกือบ 18 กิโลเมตร) และเขาก็ไม่มีรถยนต์ใช้เสียด้วย เขาจึงต้องเดินเท้าจากที่บ้านไปที่ทำงานตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน เพื่อไปเข้างานให้ทันตอนตี 4 ที่เขาทุ่มเทให้กับงานมากถึงขนาดนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวนั่นเอง เขาจึงต้องขยันทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกสาวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนร่วมงาน Kenneth Bryant Patricia และ Kenneth Bryant เพื่อนร่วมงานของเขารู้เรื่องที่เขาเดินมาทำงานเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ด้วยความที่เห็นว่า Lewis เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานและเป็นที่รักของทุกคน พวกเขาก็เลยอยากเซอร์ไพรส์เขาด้วยการรวบรวมเงินจากเพื่อนร่วมงานแล้วซื้อรถมือสองให้เขาสักคัน …
-
สองหนุ่มพี่น้อง เจ้าของกิจการ ‘ขนย้ายของ’ ฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หลุดพ้นการถูกกดขี่
เรื่องราวน่าประทับใจที่จะนำมาเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองพี่น้องชายหนุ่มที่ทำอาชีพรับจ้างขนของแถมยังคอยช่วยเหลือผู้คน ราวกับว่าพวกเขา เป็น “ฮีโร่” กันเลยทีเดียว ในรัฐแคลิฟอร์เนียปี 1997 สองพี่น้อง Aaron Steed และ Evan ได้ก่อตั้งกิจการ “ขนย้ายของ” ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เนื่องจากในขณะนั้นทั้งคู่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ทำให้พวกเขาต้องพบเจอปัญหาในการหางานเสริมที่มีเวลาตรงกับตารางเวลาที่แน่นขนัดของพวกเขา แต่พวกเขายังคงต้องการเงินที่จะมาส่งตัวเองเรียน ทำให้วันหนึ่งหลังจากที่พวกเขาถูกจ้างโดยพ่อของเพื่อนให้ไปช่วยขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน พวกเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งกิจการขนย้ายของโดยใช้ชื่อว่า “Meathead Movers” กิจการของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นบริษัทขนย้ายของที่ใหญ่ที่สุดในแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่คอยช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงภายในครอบครัวอีกด้วย หลังจากที่ Aaron กับ Evan ก่อตั้งกิจการได้ไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาที่บริษัทจำนวนหนึ่ง ผู้ติดต่อเผยว่าพวกเขาถูกกดขี่และทำร้ายภายในบ้าน ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ไม่มีเงินแถมยังแทบจะไม่มีหวังที่จะออกจากสภาวการณ์ที่ถูกกดขี่เช่นนั้น แต่สองพี่น้องคู่นี้คิดว่าอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือคนพวกนั้นให้ได้ หากว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือให้สามารถหลบหนีออกจากสถานการณ์ความรุนแรงภายในบ้านได้ล่ะก็ สองพี่น้องก็จะช่วยเหลือโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน และไม่มีคำถามใดๆ ทั้งนั้น “ตั้งแต่นั้นมา พวกเราก็ให้การบริการแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับเหยื่อของความรุนแรงภายในบ้าน” Evan กล่าว สองพี่น้องนึกได้ถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่ติดต่อเข้ามาเมื่อหลายปีก่อน เธอเล่าว่าเธอถูกทำร้ายโดยคนรักเก่าของเธอแทบจะทุกวัน และยังถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายลูกสาวและหลานของเธออีกด้วย จากนั้นบริษัท Meathead ก็เข้ามาช่วย พวกเข้าเข้ามานำตัวหญิงสาวพร้อมลูกสาวและหลานของเธอหนีออกจากบ้านหลังเดิม เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังเตรียมที่นอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นให้กับที่พักแห่งใหม่สำหรับหญิงสาวและเด็กๆ แถมยังเอาดอกไม้ใส่กระถางมาให้เป็นของขวัญต้อนรับเข้าสู่บ้านใหม่อีกด้วย จากนั้นชื่อเสียงของพวกเขาได้แพร่กระจายออกไป และหนุ่มๆ ในบริษัทก็เข้ามาทำหน้าที่ตามคำปฏิญาณที่ตั้งใจเอาไว้…
-
หนุ่มช่วยเหลือนกนางนวล แต่ดันโดนกัดหน้าเป็นการตอบแทน มีแต่คนหลงรัก
ว่ากันว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณออกไปเดินในชายหาด พร้อมกับขนมหรือไอศกรีมล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณมักจะเจอเลยนั่นก็คือ เจ้านกนางนวลสุดเกรียนที่จะมาคอยแย่งขนมของคุณนั่นเอง!! และด้วยพฤติกรรมความป่วนของเจ้านกเหล่านี้เอง บางครั้งเมื่อพวกมันถูกช่วยเหลือ เราจึงได้เห็นภาพฮาๆ แบบคลิปวิดีโอของชาวนิวซีแลนด์ผู้นี้ คลิปวิดีโอที่ถูกอัปโหลดลงในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพของคุณ Robert Tahau ที่ได้ช่วยชีวิตนกนางนวลตัวหนึ่ง หลังจากที่เขาพบมันบาดเจ็บอยู่กลางถนน เจ้านกตัวดังกล่าวมีอาการบาดเจ็บที่ปีก คุณ Robert จึงทำการช่วยเหลือมันโดยใช้เสื้อยืดของเขาห่อมันไว้ และนำขึ้นมาบนรถ ชายหนุ่มได้แบ่งบันเรื่องราวการช่วยชีวิตเจ้านกตัวนี้บนเฟซบุ๊กของเขา แต่ทว่าในระหว่างที่กำลังแนะนำตัวและพูดคุย เจ้านกนางนวลตัวนี้กลับจิกหน้าของชายหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง ทำเอาชาวเน็ตเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตกลงเจ้านกตัวนี้กำลังขอบคุณ หรือว่ากำลังโมโหที่ถูกช่วยเหลืออยู่กันแน่!? คลิปวิดีโอของคุณ Robert Tahau และเจ้านกนางนวลที่เขาช่วยชีวิตเอาไว้ คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว คุณ Robert ให้สัมภาษณ์ว่าในวันนั้นเขาพยายามจะพาเจ้านกนางนวลไปพบสัตวแพทย์ แต่ก็ไม่ทันเวลา เขาจึงใส่มันเอาไว้ในกล่องและเอาอาหารให้กับมัน “ผมตั้งใจว่าจะส่งมันกลับไปที่ Whakatane เมื่อผมไปถึงที่นั่น แต่ในวันนั้นผมพยายามจะพามันไปรักษา แต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลย ผมจึงเอามันใส่ไว้ในกล่องและหาอาหารมาให้มัน แต่เมื่อผมกลับมาดูมันในตอนเช้า เจ้านกนางนวลก็จากโลกนี้ไปเสียแล้ว” ชายหนุ่มกล่าว เจ้านกนางนวลตจอมซ่าและคุณ Robert น่าเศร้าที่เจ้านกนางนวลบาดเจ็บตัวนี้ไม่สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ คุณ Robert จึงจัดการฝังมันเอาไว้…
-
เจ้าหมาถูกน้ำกรดสาด แม้มันจะเสียโฉม แต่ “เพื่อนใหม่” ก็เข้ามาช่วยทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ!!
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนใจไม้ไส้ระกำ เอาน้องหมาจับแขวนไว้กลางอากาศแล้วยังเอาน้ำกรดสาดใส่มันอีก น่าสงสัยจริงๆ ว่าจิตใจทำด้วยอะไร เจ้าหมาที่ถูกน้ำกรดสาดนี้ชื่อว่า Charlie คนที่ช่วยเหลือมันไว้เป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ มันถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในสภาพที่มีแผลไหม้จากรดอยู่ทั่วตัว เค้าก็อยู่ของเค้าดีๆ เอาน้ำกรดมาสาดทำไม หงิงๆ พวกเขาไม่กล้าแจ้งตำรวจเนื่องจากลัวว่าคนร้ายจะทำอันตรายให้ตัวเองได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยสุนัขน่าสงสารทิ้งไว้เช่นนี้ ก็เลยติดต่อไปที่ Trio Animal Foundation ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ให้เข้ามาช่วยเหลือมัน หลังจากทางองค์กรนำมันไปรักษาเบื้องต้นแล้ว พวกเขาก็เสนอเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 160,000 บาท) ให้กับใครก็ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ทำร้ายเจ้าหมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย เจ้า Charlie ถูกส่งตัวไปรักษาที่คลินิกสัตว์ Delavan Lakes Vet Clinic ในรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นี่เชี่ยวชาญด้านการรักษาแผลไหม้เป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนัง แต่ก็ยังต้องนำเซลล์ผิวหนังที่ตายออกไปเพื่อให้เซลล์ผิวหนังใหม่เกิดขึ้นมาได้ หลังจากนั้นมันก็ต้องทาครีมรักษาเป็นประจำ และอาบน้ำในน้ำยารักษาแผลด้วย ทั้งยังต้องพันผ้าพันแผลอยู่บ่อยๆ เพราะผิวหนังของมันอ่อนไหวมาก หากถูกแสงแดดก็จะรู้สึกแสบทันที อีกอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงนอกจากแผลทางร่างกายแล้วก็คือแผลทางจิตใจของมันด้วย ทุกครั้งที่มันเห็นสายจูงมันก็จะทำท่าหวาดกลัวทุกครั้งเนื่องจากเคยโดนจับแขวนไว้นั่นเอง หมอบอกให้ทายาบ่อยๆ แล้วจะดีขึ้นเองฮะ พอรักษาแผลไปได้ 2 อาทิตย์…
-
เสือสาวหนีจากป่า สู่ย่านที่อยู่ของมนุษย์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หนูอยากเจอหมอฟัน
เสือเป็นนักล่าตามธรรมชาติ ถ้าหากคุณเจอเสือมานอนอยู่หน้าบ้านล่ะก็คงต้องรู้สึกหวาดผวาเป็นธรรมดา คงคิดว่ามันออกมาล่าตัวเองเป็นอาหารแน่ๆ แต่ที่ไหนได้เจ้าเสือสาวตัวนี้กลับเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเป็นมิตรต่างหาก เสือสาวที่ว่านี้ถูกพบที่หมู่บ้าน Solontsovy เมือง Khabarovsk ประเทศรัสเซีย มันเป็นเสือสายพันธุ์ไซบีเรียที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เต็มที ในตอนนี้มีเหลืออยู่บนโลกเพียงประมาณ 500 ตัวเท่านั้น Galina Tsimarno หญิงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเล่าว่าคนที่พบเสือตัวนี้ก็คือ Alexey Khaideyev เพื่อนบ้านหนุ่มของเธอ เธอเล่าว่า “เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและคุณแม่ในแถบชานเมืองซึ่งอยู่ติดกับป่าและแม่น้ำ วันที่เจอมันเขากำลังจะออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่เปิดประตูบ้านออกไปไม่ได้เนื่องจากมีอะไรบางอย่างขวางประตูอยู่ … พอเขาได้ยินเสียงมันครางเขาก็เลยรีบปิดประตูบ้านให้สนิทแล้วโทรเรียกหน่วยกู้ภัยทันที พวกเขารออยู่ในบ้านทั้งวันจนหน่วยกู้ภัยมาถึงที่นั่น เจ้าเสือเองก็ไม่ขยับไปไหนเลย” เมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงก็พบว่าเจ้าเสือนอนนิ่งอยู่หน้าบ้านของชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง พวกเขาจึงรีบส่งมันไปให้กับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ในหมู่บ้าน Alekseevka เขต Primorsky ทันที หลังจากสัตวแพทย์ตรวจร่างกายเสือตัวนี้แล้วก็พบว่ามันไม่ได้มีบาดแผลทางร่ายกายใดๆ เลย แต่มันมีปัญหาช่องปากร้ายแรงมาก Sergey Aramilev ผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลเสือ Amur Tiger Centre เล่าว่า “มันดูเหนื่อยล้ามาก มันนอนนิ่งๆ จนน่าแปลกใจ เหมือนรอให้เรามาช่วยอย่างนั้นแหละ ถึงจะไม่มีบาดแผลบนร่างกายเลย แต่ว่าปัญหาในช่องปากของมันดูน่าเป็นห่วงและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน” แม่เสือสาวตัวนี้ไม่มีฟันบนเลยสักซี่ แถมยังมีสุขภาพเหงือกด้านล่างไม่ดีอีกต่างหาก คนที่ตรวจมันคาดว่ามันคงจะอ่อนแรงเนื่องจากกินอาหารไม่ค่อยได้นั่นเอง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือมันก็ไม่ได้ง่ายเลย Aramilev อธิบายว่า “สถานการณ์ของมันน่าเป็นห่วงมาก สภาพร่างกายของมันค่อนข้างอ่อนแอ…
-
ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?
ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาอยู่ที่ชายหาดซึ่งเป็นถิ่นของสัตว์ทะเล ยังจะมีโอกาสให้เราได้พบกับเจ้าสล็อตสิ่งมีชีวิตแสนเชื่องช้าแต่น่ารักที่หายากแบบนี้ แต่ว่าเจ้าสลอธมันติดอยู่ในซอกหินเลยขึ้นมาเองไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านมาใหญ่เลย ถ้าใครไม่ยอมช่วยเจ้าสัตว์น่าเอ็นดูตัวนี้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ ช่วยตูด้วย ขาตูติดหิน เจ้าสลอธตัวพันธุ์สองนิ้วเท้าที่หายากนี้ถูกพบในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาที่จังหวัด Punta Tigre ประเทศคอสตาริกา ดูเหมือนว่ามันจะถูกพายุพัดตกลงไปในน้ำทะเลเมื่อคืนก่อนหน้านี้ พอน้ำทะเลลดลงแล้วมันก็รอดชีวิตกลับมาได้ แต่ว่าขาของดันเข้าไปติดอยู่ในซอกหินจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีทรายเข้าไปในดวงตาของมันด้วย คลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าสลอธน้อย โชคดีที่มีแขกของบ้านพัก Morgan’s Lodge ผ่านไปเห็นมันเข้าแล้วกลับไปบอกกับเจ้าของบ้านพัก Dirk Morgan ให้ไปช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาเล่าว่า “เรามีบ้านพักอยู่ในแถบที่ไม่ค่อยครึกครื้นนักของประเทศคอสตาริกา เรารู้จากแขกที่พักอยู่ว่ามีลูกสลอธติดอยู่ในหิน ห่างจากบริเวณนั้นประมาณครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) …” รีบๆ ช่วยตูออกไปสักทีเถอะ ฮือ Dirk ยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นมาได้ชั่วโมงเดียวเองและพายุเมื่อคืนก็สงบลงแล้ว เราก็เลยเดินไปดูยังจุดที่แขกบอกแล้วรีบช่วยเจ้าสลอธเอาไว้ก่อนที่มันจะตาย ระหว่างทางเราก็ไล่หมา 2 ตัวที่จะเข้าไปกัดมันด้วย” เจ้าของบ้านพักเล่าต่อว่า “ตอนที่เจอมันก็ตัวเปียกน้ำทะเลโชกเลย แล้วก็มีทรายเข้าไปติดอยู่ในตาของมันด้วย มันดูอ่อนแรงแล้วก็กลัวมาก แต่ก็ยังร้องขอความช่วยเหลือตอนที่เราเข้าไปใกล้ๆ “…
-
ผู้เล่นในโลกเกมเสมือน ต่างทำได้เพียงแค่ยืนมองดูผู้เล่นที่เป็นลมชัก นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น…
ปัจจุบันนี้สื่อบันเทิงในด้านเกมนั้น มีการพัฒนาไปไกลมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่หลากหลายบริษัทพัฒนาเกมต่างให้ความสนใจ และลงทุนพัฒนาออกมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นกระแสคลื่นลูกใหม่ที่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงไปอีกขั้น แต่ทว่าในโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงนั้นยังมีความแตกต่างกันอยู่ เพราะว่าถึงแม้ผู้เล่นจะมีตัวตนในโลกเสมือน แต่ก็ไม่อาจมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในโลกแห่งความเป็นจริง… ซึ่งในกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับผู้เล่นในเกม VRChat โลกเสมือนออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นสวมแว่น VR มาเจอกัน พร้อมกับรองรับระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย ยูทูบเบอร์ Rogue Shadow VR ภาพเหตุการณ์อันน่าหดหู่นี้ถูกบันทึกโดยยูทูบเบอร์นามว่า Rogue Shadow VR โดยที่เขาได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเอาไว้ว่า… เขาและผู้เล่นคนอื่นๆ กำลังสนุกสนานกับสภาพแวดล้อมภายในเกมอยู่ จู่ๆ ก็มีผู้เล่นรายหนึ่งลักษณะเป็นตัวหุ่นยนต์สีดำแดง นอนลงไปกองกับพื้นและเริ่มมีอาการชักกระตุก โดยในตอนแรกนั้นยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดของเกมหรือเป็นการจงใจของผู้เล่น ที่มักจะมีการทำอะไรแผลงๆ ภายในเกมกันเป็นประจำ และหลังจากที่ไตร่ตรองกันดีๆ แล้ว จึงทำให้รู้ได้ว่าผู้เล่นรายนี้ไม่ได้แกล้ง แต่เขาประสบกับอาการลมชักจริงๆ และตัวละครในเกมก็แสดงอาการออกมาตามตัวเขาด้วย ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถตอบสนองกับคำถามของผู้เล่นอื่นๆ ได้เลย แถมยังมีอาการหายใจติดขัดในระหว่างที่กำลังอยู่ในโลกเสมือน (และในโลกแห่งความเป็นจริง) “มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ที่ได้เห็นผู้คนต่างมาร่วมแสดงความห่วงใยต่อใครบางคนที่พวกเขาไม่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเราไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย…” “เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาอยู่บนส่วนไหนของโลกใบนี้…
-
ประทับใจไม่รู้ลืม… “โป๊ปฟรานซิส” ทรงสั่งหยุดขบวนรถกลางคัน เพื่อลงมาดูตำรวจที่ตกจากหลังม้า
เกิดเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ขบวนเสด็จพระสันตะปาปากำลังเคลื่อนตัวเพื่อพบปะประชาชนในเมือง Iquique ประเทศชีลี จู่ๆ ม้าของเจ้าหน้าที่อารักขาเกิดคลุ้มคลั่งเสียการควบคุมจนทำให้ตกลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่อารักขาพระองค์ในขบวนต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน รวมไปถึงรถพระที่นั่งของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเองก็ถึงกับเสียหลักไปเล็กน้อย แต่แทนที่จะขับต่อไป สมเด็จพระสันตะปาปากลับรับสั่งให้คนขับหยุดรถ และทรงดำเนินลงมาเช็กดูอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว พระองค์ทรงก้มลงไปสอบถามอาการของเจ้าหน้าที่หญิงด้วยความเป็นห่วง และอยู่รอจนรถพยาบาลมาถึง ก่อนที่จะดำเนินกลับไปประทับที่รถพระที่นั่ง แล้วทำการทักทายประชาชนต่อไป…. จากรายงานของสำนักข่าว DailyMirror โชคดีที่เจ้าหน้าที่หญิงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไรมากนัก คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวอัปโหลดโดยสำนักข่าว BBC ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย เมื่อชาวเน็ตได้ชมคลิปวีดิโออันสุดแสนจะประทับใจนี้ ต่างก็แสดงความคิดเห็นชื่นชมสมเด็จพระสันตะปาปาในความมีพระทัยของพระองค์… คุณ Elizabeth Ford ให้ความเห็นว่า : “หลายๆ ครั้งที่บุคคลสาธารณะสร้างความหวังให้กับปวงประชา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสนั้นเปรียบเสมือนแสงไฟส่องทาง ในยามมืดมิด” คุณ Mark Doyle ให้ความเห็นว่า : “ฉันไม่ได้เป็นคนนับถือศาสนานะ แต่การกระทำของพระองค์นั้นช่างน่านับถือยิ่งนัก” คุณ Ian Yeh ให้ความเห็นว่า : “ในฐานะที่เป็นคนไม่นับถือศาสนา ฉันรู้สึกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นคนที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ทั้งความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์…
-
มิ้วน้อยผู้ช่วยงานร้านเสริมสวย พอแกร่งกล้าก็สบโอกาสยึดร้าน ทำงานตลอด 4 ปีไม่มีหยุด!!
ในการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราอาจต้องการใครซักคนเข้ามาแบ่งเบาภาระหน้าที่การดูแลลูกค้าหรือการบริหารร้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับร้านเสริมสวยแห่งนี้ เพราะสิ่งที่เข้ามาช่วยเหลือเจ้าของร้านไม่ใช่คนแต่กลับเป็นน้องเหมียวสุดน่ารักซะอย่างนั้น นี่คือเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Betty ซึ่งเมื่อ 7 ปีก่อนมันมีอายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์แต่กลับถูกทิ้งเอาไว้ข้างทาง ก่อนที่มันจะได้ไปเจอกับช่างเสริมสวยในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่มีชื่อว่า Chris Guglielmi เหมียวน้อยจอมซน Betty สวัสดีงับ ความน่ารักของมันทำให้หญิงสาวถึงกับใจละลาย Chris ตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็นและรีบพาเจ้าเหมียวไปรักษาตัวที่คลินิกสัตว์ในทันที หลังจากที่เจ้าเหมียวหายดี มันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวคนสำคัญของเธอ หลังจากนั้นในปี 2013 หญิงสาวได้เปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเองชื่อร้านว่า Babar Hair และร้านนี้ก็ได้กลายเป็นที่ทำงานของเธอและเจ้าเหมียว พนักงานคนนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับผม Betty จะมาที่ร้านกับเธอทุกๆ วัน และมันไม่ได้แค่มาเดินเล่นไปมาเฉยๆ แต่มันจะคอยบริการลูกค้าด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอ ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้านจะได้เจอกับบริการหนุนตักของเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะมันจะคอยมองหาว่าตักของลูกค้าคนไหนว่างอยู่ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาและหนุนนอนอยู่บนนั้น สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้เห็น แง่ะ พอขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วรู้สึกง๊วงงงง่วง ไม่ไหวละ หลับดีกว่า แถมโชว์ท่ายากเป็นกรณีพิเศษ จงอย่าให้ตักของเจ้าว่างเชียวละเจ้ามนุษย์ …
-
วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่ มันถามฉันว่า… “เอาตรูไปเลี้ยงที่บ้านได้ไหม!??”
ย้อนเวลากลับไปในเดือนกันยายน หลายคนอาจจะกำลังมีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันมีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น กำลังต้องการขอความช่วยเหลือจากมนุษย์… ในวันนั้นมีชายคนหนึ่งเดินเข้าป่าไปเที่ยว ขณะกำลังเดินริมแม่น้ำ จู่ๆ เขาก็เห็นลูกแมวน้อยร่วงลงมาจากสะพานเข้าไปอยู่ในพุ่มไม้ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดูมันทันที โชคดีที่เจ้าแมวน้อยสามารถรอดชีวิตมาได้ ดังนั้นเขาจึงดึงตัวของมันออกมา และวางมันลงบนพื้น…เจ้าเหมียวมันไม่สามารถขยับขาหลังของมันได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้ว่ามันบาดเจ็บ และถ้าไม่รักษามันอาจจะพิการได้ “มาที่บ้านของฉัน” เขาพูดกับมันเบาๆ ในขณะที่เจ้าเหมียวมีท่าทางกลัว ดังนั้น เขาจึงใช้มือตบหลังของมันเบาๆ และนั่นก็ทำให้เจ้าแมวน้อยเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เจ้าแมวน้อยเข้ามาอยู่ภายใต้ความดูแลของมนุษย์ใจดีคนนี้ ซึ่งเขาก็ได้พามันไปพบแพทย์ และเลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Nene อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่เจ้า Nene ก็ยังคงรู้สึกกลัว และร่างกายของมันก็อ่อนแอมาก แมวเจ้าถิ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้เดินเข้ามาหามัน เพื่อเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน ในวันรุ่งขึ้นชายใจดีได้ข่าวว่า เกิดน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำที่พบลูกแมว ชายคนนั้นก็รู้สึกดีใจที่สามารถนำลูกแมวออกมา ณ จุดนั้นได้ และทำให้มันรอดตาย วันที่ 3 หลังจากที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ เจ้าเหมียวเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น และแน่นอนว่าในวันต่อๆ ไป…
-
รู้จักกับ ‘Chen Si’ หนุ่มชาวจีนผู้ช่วยชีวิตคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายร้อยชีวิต
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เป็นของชายชาวจีนท่านหนึ่งนามว่าคุณ Chen Si เขาได้ช่วยเหลือคนที่คิดสั้นและกำลังจะฆ่าตัวตายมากกว่า 330 คน ชื่อของชายคนดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากที่เกิดกระแสดราม่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง Logan Paul (อ่านข่าวเก่า Logan Paul ออกมาขอโทษชาวเน็ตญี่ปุ่น หลังหัวเราะ ‘ศพ’ ที่ตัวเองบังเอิญไปเจอในป่า) ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ชายชาวจีนผู้นี้ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุดของเขาออกเดินสำรวจในบริเวณสะพาน Nanjing Yangtze หนึ่งในจุดฆ่าตัวตายยอดนิยมแห่งหนึ่งของโลก เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนที่กำลังจะคิดสั้น ในปี 2006 คุณ Chen ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่าเขาได้เดินมองหาผู้คนที่กำลังหมดหวัง หรือคนที่กำลังได้รับความกดดันจากชีวิตอย่างมาก ก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกับพวกเขา คุณ Chen ใช้เวลาในการพูดคุยกับพวกเขาพร้อมกับโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือในบางครั้งถ้าหากจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกเขา ชายผู้นี้ก็เคยทำมาแล้ว!! “บ่อยครั้งที่ต้องมีการเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ผมเคยช่วยคนที่กำลังจะกระโดดสะพานและดึงพวกเขากลับมา บางครั้งผมก็ช่วยไว้ได้ทัน แต่บางครั้งผมก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาไว้ได้” คุณ Chen ให้สัมภาษณ์ คุณ Shi Xiqing หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่เขากำลังจะฆ่าตัวตายเนื่องจากปัญหาหนี้สินและค่ารักษาพยาบาลของลูกสาว ชายหนุ่มเล่าว่าในทุกๆ สัปดาห์คุณ Chen จะโทรมาพูดคุยกับเขาและช่วยพูดคุยกับเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกของปัญหาและช่วยให้เขาผ่านมันมาได้ เรื่องราวอันน่ายกย่องของหนุ่มชาวจีนผู้นี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Angel of Nanjing ในปี 2015 และสามารถกวาดรางวัลจากเทศกาลหนังได้อย่างล้นหลาม ชมเรื่องราวของเขาผ่านตัวอย่างหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่เลย… ที่มา ladbible
-
นักดับเพลิงรับทารกแรกเกิดมาเลี้ยง หลังจากเขาช่วยชีวิตเธอกับแม่เอาไว้ได้ทันเวลา…
หากจะกล่าวถึงซุปเปอร์ฮีโร่ หลายคนก็อาจจะนึกถึงเรื่องราวของเหล่าผู้คนที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ แต่สำหรับในชีวิตจริงแล้ว บนโลกนี้อาจจะไม่มีเหล่าบุคคลที่มีพลังดังกล่าว แต่พวกเราก็มีซูเปอร์ฮีโร่ที่คอยปกป้องชีวิตของพวกเรา นั่นก็คือเหล่า ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หมอ พยาบาล รวมไปจนถึงนักดับเพลิง… และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีนักดับเพลิงคนหนึ่งที่ไม่เพียงแต่มีหน้าที่ ดับไฟเพียงเท่านั้น เพราะว่าเขาได้ช่วยชีวิตของหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเอาไว้ได้ และที่สำคัญคือเขายังรับเด็กที่เกิดจากการช่วยเหลือของเขาไว้เป็นลูกบุญธรรมอีกด้วย ในวันที่ 14 พฤศจิกายนปี 2011 นักดับเพลิงชื่อว่า Marc Hadden จากรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้าทำคลอดให้แก่หญิงซิงเกิ้ลมัมคนหนึ่ง จากการที่เธอโทรแจ้งเข้าหมายเลขฉุกเฉินด้วยอาการเจ็บท้องใกล้คลอด และเรื่องราวทั้งหมดก็คงจะจบที่การให้ความช่วยเหลือในครั้งนั้น แต่เรื่องสุดมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเมื่อ Marc ได้อุ้มเด็กทารกที่เพิ่งเกิดจากการช่วยเหลือครั้งนั้นกลับบ้าน หลังจากเธอเพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงแค่ 2 วัน โดยแม่ผู้ให้กำเนิดได้มอบเด็กคนนี้ให้แก่เขา เพราะเธอบอกว่าไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้มีชีวิตที่ดีได้ “เธอดิ้นแรงมากตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมได้มีโอกาสทำคลอดให้ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ ที่ได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากเด็กหญิงผู้น่ารักคนนี้” Marc กล่าว สำหรับ Marc นั้นได้มีครอบครัวที่น่ารักกับ Beth ภรรยาของเขาพร้อมกับลูกอีกสองคนอยู่แล้ว ซึ่งลูกๆ ของเขาก็มีชื่อว่า Will อายุ 15 ปี และ…
-
เจ้าหมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายในเนปาล ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แล้ว
ถือเป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเจ้าหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายของประเทศเนปาล ที่ได้รับการช่วยเหลือและได้พบกับชีวิตใหม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของ World Animal Protection และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเนปาลได้เข้าช่วยเหลือพวกมัน เจ้า Rangila หมีเพศผู้วัย 19 ปีและคู่หูของมันเจ้า Sridevi หมีเพศเมียวัย 17 ปีที่ถูกเจ้านายของมันขายให้กับคณะการแสดงสัตว์ และถูกใช้เป็นหมีเต้นระบำ เจ้าหมีทั้งสองถูกช่วยเหลือจากเมือง Iharbari ประเทศเนปาลจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ หมีทั้งสองตัวดูทุกข์ทรมานกับสภาพที่พวกมันเป็นอยู่มาก ปรกติแล้วพวกหมีเต้นระบำนั้นจะถูกพรากจากพ่อแม่ของพวกมันตั้งแต่เล็กๆ เพื่อนำมาฝึกสำหรับการแสดง โดยคณะละครจะใช้เหล็กร้อนๆ เจ้าที่จมูกของพวกมันเพื่อร้อยเชือกสำหรับควบคุมการฝึก และบังคับให้พวกมันเต้น เจ้า Rangila และ Sridevi น้องหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายในประเทศเนปาล “พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ ที่หมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายถูกช่วยได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเราใช้เวลาในการติดตามการมาหลายปี การทำงานและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ช่วยให้เราหยุดประเพณีที่ผิดกฎหมายนี้ได้” คุณ Manoj Gautam เจ้าหน้าที่จากสถาบัน Jane Goodall กล่าว ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถาบันคุ้มครองสัตว์ป่าโลกคุณ Neil D’Cruze ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ ที่เห็นสัตว์ป่าเหล่านี้ถูกทรมานเพื่อความสนุกของมนุษย์ ผมหวังว่าเจ้าหมีทั้งสองตัวคงจะมีความสุขหลังจากที่เราได้ช่วยเหลือพวกมัน” การกวาดล้างความบันเทิงจากสัตว์ป่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่เหล่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้พยายามยุติความโหดร้ายเหล่านี้ในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรีซ ตุรกี หรืออินเดีย โดยจัดการควบคุมประเทศต้นทางการล่าอย่างปากีสถานนั่นเอง ที่มา ladbible
-
น้องหงส์หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยพามันกลับไปให้ถึงบ้าน
เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นลงในเดือนธันวาคมแบบนี้ ทำให้สัตว์บางชนิดต้องย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว เพื่อหาสถานที่ที่เหมาะกับพวกมันมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหงส์อยู่ตัวหนึ่งที่เลือกสถานที่ได้ไม่เก่งเอาซะเลย เจ้าหงส์ตัวนี้หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร จนมาโผล่ที่ทะเลสาบ Finskoye บนเทือกเขาอัลไต ประเทศรัสเซีย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความหนาวเย็นอย่างมาก จนผิวน้ำจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง เจ้าหงส์ที่หลงฝูงมาซะไกล . แน่นอนว่าในอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียส แถมน้ำก็ยังกลายเป็นน้ำแข็งไปซะหมดแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเจ้าหงส์ซักเท่าไหร่ มันจึงป้วนเปี้ยนไปมาอย่างไร้ความหวัง โดดเดี่ยวเดียวดาย แถมยังถูกเหล่าสุนัขเจ้าถิ่นไล่อีกต่างหาก ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร โชคดีของมัน เมื่อพนักงานดับเพลิงในละแวกนั้นผ่านมาเจอเข้า จึงช่วยมันเอาไว้และตั้งชื่อให้มันว่า Lev (ในภาษารัสเซียแปลว่าสิงโต) ถึงแม้ว่ามันจะพยายามหนีในตอนแรกเพราะตื่นคน แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถจับมันได้สำเร็จ กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำการช่วยเหลือมันเอาไว้ . . . หลังจากนั้น พวกเขาจึงส่งมันให้กับเจ้าหน้าที่เขตสงวนธรรมชาติ Saylyugem ผู้ที่คอยพาเหล่าสัตว์ปีกหลงทางกลับไปหาเพื่อนๆ ของมันในสถานที่ที่เหมาะสม เมื่อพามันข้ามเทือกเขาอัลไตไปแล้ว วันที่ 22 ธันวาคม 2017 มันจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเหล่าหงส์จำนวนกว่า 350 ตัว ในทะเลสาบ Svetloe ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ และในพื้นที่ดังกล่าวมีการเพิ่มขึ้นของประชากรหงส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี…
-
สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศเซอร์ไพรส์ลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนพวกเขา
สถานีโทรทัศน์ FOX5 ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นช่องที่มีชื่อเสียงสำหรับคนท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่การนำเสนอข่าวสารบ้านเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หนึ่งในช่วงโปรดของใครหลายๆ คนก็คือ ช่วง Surprise Squad โดยทีมงานจะออกไปหาคนภายในเมืองเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น ทีมงานได้ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับหลายๆ คนมาตลอด และในเทปหนึ่งที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 เป็นตอนที่ทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Albertsons เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเมื่อเจออย่างนี้เข้าไปแต่ละคนแสดงอาการออกมาอย่างไรกันบ้าง พี่น้องสองคนที่อยู่ในวัยชราทั้งคู่ คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ทางทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด หญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้หน้าจะดูมึนๆ งงๆ ในตอนแรก แต่เธอก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรายการ คุณยายคนนี้ถึงกับบอกว่า “นี่เป็นวันที่ฉันโชคดีมากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันเล่นเครื่อง Keno ได้รางวัลมาราวๆ 1,300 บาท” แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าชอปปิงเองอีกด้วย นี่คือลูกค้าประจำที่มาใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ปี 1964 เรียกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงของร้านมาโดยตลอด เธอจึงไม่แปลกที่ได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ทหารผ่านศึกผู้ช่วยดูแลสุนัขที่กำลังป่วยด้วยเงินของตัวเอง เธอบอกว่า นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของเธอที่มาใช้จ่ายในครั้งนี้ แต่ทางรายการคือคนใจดีที่เข้ามาช่วยชีวิตของเธอและน้องหมาเอาไว้ และคนที่ซาบซึ้งที่สุดสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็คือ Larry ทหารผ่านศึกผู้เคยรับใช้ชาติไปลุยในสงครามเวียดนามมาก่อน นอกจากนั้นเมื่อ 16…
-
พบกับ Roo ลูกหมาที่มีชีวิตรอดออกมาจาก ‘โรงงานผลิตลูกสุนัข’ และได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง!!
ใครหลายคนอาจจะเคยไปเดินตลาด แล้วก็พบลูกหมาน่ารักๆ วางขายอยู่ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความน่ารักน่าหยิกที่แตกต่างกันออกไป ทว่ารู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วลูกหมาเหล่านั้นอาจจะมาจากสถานที่ที่เรียกว่า ‘โรงงานผลิตลูกสุนัข’ ก็เป็นไปได้ โรงงานผลิตลูกสุนัขเป็นสถานที่เพาะพันธุ์สุนัขโดยไม่มีการวางแผน ไม่มีการคัดเลือกสายพันธุ์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของสัตว์ต่างก็ไร้ซึ่งความสะอาด หรือถูกสุขอนามัยแม้แต่น้อย สัตว์ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานจากความสกปรก และอัดแน่นอยู่ในกรงที่บางกรงต้องอัดกันเข้าไปอยู่ถึง 3-4 ตัว ดูความน่ารักของเจ้า Roo ซะก่อน สภาพของหมาแต่ละตัวที่อยู่ที่นี่มักจะมีสภาพที่ไม่ค่อยดีนักจากสภาพความเป็นอยู่ดังกล่าว ซึ่ง Roo ก็เป็นหมาอีกตัวเช่นกันที่อยู่ที่นี่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้มันก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากโรงงานผลิตสุนัขในประเทศฮ่องกง และตอนนี้เหมือนกับว่ามันได้มีชีวิตใหม่แล้ว Roo ถูกช่วยเหลือหมาตอนที่ยังเป็นหมาน้อยอยู่ และในขณะที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา หูข้างซ้ายของมันติดเชื้ออย่างรุนแรง สัตวแพทย์จึงจำเป็นต้องตัดหูซ้ายของมันออก เพื่อป้องกันเชื้อจะลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้ฟันของมันก็หายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ซี่เดียว หน้าตาสดใสแตกต่างจากในอดีตเยอะ ทว่าในตอนนี้เจ้าหมาน้อยน่าสงสารตัวนี้ ได้มีผู้ใจดีรับไปเลี้ยงที่ดูแลมันเป็นอย่างดี แต่ด้วยลักษณะของมันที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เจ้าของใหม่ของมัน มักจะโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมระหว่างเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันเสมอๆ ในเวลาไม่นาน เจ้า Roo ก็ได้เป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ โดยในตอนนี้อินสตาแกรมของเจ้า Roo มีผู้ติดตามแล้วกว่าหมื่นคน ซึ่งหากอยากรู้ว่าหมาน้อยตัวนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร ก็ตามไปดูกันดีกว่า ด้วยในอดีตมันได้รับประสบการณ์ที่โหดร้าย ทำให้สุขภาพของมันไม่ค่อยดีนัก …
-
‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง
เมื่อปี 2011 ได้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นในจังหวัดฟุกุชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเขตหวงห้าม ไร้คนอยู่อาศัย เนื่องมาจากอันตรายของกัมมันตรังสีที่กระจายออกมา แม้ว่าชาวบ้านในละแวกนั้นจะสามารถอพยพออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่สัตว์จำนวนมากกลับถูกทิ้งเอาไว้ในสถานที่แห่งนั้น ไม่มีใครเข้าไปดูแล ยกเว้นชายคนนี้ที่ยอมฝ่ากัมมันตรังสีเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมัน โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง นี่คือ Naoto Matsumura มนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตกัมมันตรังสีที่ชื่อว่า 12.5-mile ในจังหวัดฟุกุชิม่า ในตอนแรกที่เขากลับมา ก็เพื่อจะมาหาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่เขาพบว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ต้องการการดูแลเช่นเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจดูแลสัตว์ทุกตัวที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ทั้งหมด ชายวัย 55 ปีคนนี้รู้ดีว่า การอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมันอันตรายมากขนาดไหน แต่เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นซักเท่าไหร่ เขาไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานราว 30-40 ปี และคิดว่าถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเราจะไปสนใจเรื่องนั้นทำไมให้มากมาย เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2011 และยังคงสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด ตอนกลับมาเขาได้เจอวัวเป็นพันๆ ตัว ที่ถูกขังและตายอยู่ในโรงนาหลายแห่ง สัตว์หลายๆ ตัวที่ถูกเจ้าของเก่ามัดเอาไว้ เขาก็เป็นคนมอบอิสระให้กับมัน รวมถึงการให้อาหารกับสัตว์ทุกชนิด และถึงแม้รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความตั้งใจของชายคนนี้ไว้ได้ เขาอาศัยและดูแลสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา…
-
เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!
ห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าหลายๆ แห่งเลือกที่จะทิ้งอาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไป เพราะคิดว่าพวกเขาไม่ควรขายต่อไป จนทำให้เกิดปัญหาขยะอาหารจำนวนหลายล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี รวมทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนอีกด้วย แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ และเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ นั่นจึงทำให้ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นคิดวิธีการแก้ปัญหาขึ้นมา 1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตมาให้มนุษย์ทั่วโลก ถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายขึ้นมาใหม่ ห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้าทิ้งอาหารที่ยังสามารถนำมากินได้หรือว่าใกล้หมดอายุเด็ดขาด แต่ให้นำอาหารเหล่านั้นมาบริจาคให้กับธนาคารอาหาร หรือใช้ไปทำปุ๋ยหมักแทน เพื่อช่วยลดจำนวนขยะอาหารที่มีอยู่ให้ลดลง กฎหมายดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษถูกปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 129,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากที่มันจะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่สามารถลดจำนวนขยะจำพวกอาหารได้มากที่สุดในโลกแล้ว การแก้ไขนี้ยังเป็นประโยชน์กับคนยากไร้ให้ได้มีอะไรกินกัน เพราะปัญหาคนจนไม่มีข้าวกินก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ จากสถิติในปี 2016 มีคนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความหิวโหย ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ Intermache ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสก็ได้ช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยพวกเขาจะเปิดขายอาหาร ผักผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนได้รับความนิยมจากหลายๆ คนทั่วโลก ภายในเดือนเดียวก็มีผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากถึง 13 ล้านคน แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่มันยังคงกินได้ตามปกติ และนอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสตั้งใจว่าจะพัฒนาการแก้ปัญหาต่อไปเรื่อยๆ…
-
เจ้าหน้าที่ดัดเสียงเพื่อช่วยให้น้องแมวสงบจิตสงบใจ ไม่ให้มันกลัวจนวิ่งขึ้นถนนไป
ตอนที่เราเล่นกับเด็ก หลายๆ คนอาจใช้วิธีการดัดเสียงเพื่อช่วยให้เด็กน้อยกล้าเข้าหาคุณมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับนายตำรวจคนนี้ที่ใช้วิธีเดียวกันในการเข้าไปช่วยเหลือเจ้าแมวน้อยออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ McGuire จากสถานีตำรวจ Henrico รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังตรวจตราความปลอดภัยอยู่บนท้องถนนจนไปเจอเจ้าเหมียวตัวน้อยวิ่งเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง ถนนที่นายตำรวจ McGuire ได้เจอกับเจ้าเหมียวน้อยผู้หลงทาง ตำรวจหนุ่มไม่รอช้ารีบจอดและหยุดรถข้างหลังเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าเหมียวถูกเฉี่ยวชน จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปตามหาเจ้าเหมียวน้อยในพงหญ้าอย่างช้าๆ พอเจอตัวปุ๊บ เขาก็ค่อยๆ แหวกพงหญ้าอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้ลูกแมวตื่นกลัวจนวิ่งหนีออกไปกลางถนน จากนั้นจึงอุ้มมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม แต่ด้วยความหวาดกลัวของเจ้าเหมียวมันเลยกัดเข้าไปที่มือของนายตำรวจอย่างจัง เขาทำทุกอย่างด้วยความนุ่มนวล จนได้พบกับเจ้าเหมียวที่ซ่อนกายอยู่ใต้พงหญ้า เขาพยายามอดทนกับความเจ็บปวดและพามันกลับไปที่รถ ก่อนที่จะนำผ้าขนหนูผืนเล็กมาห่อหุ้มตัวมันเอาไว้ พร้อมกับดัดเสียงปลอบมันด้วยความเอ็นดูว่า “ไม่เป็นไรแล้วเจ้าหนู ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจนาย ไม่เป็นไรแล้ว..” เสียงสองของนายตำรวจช่วยลดความตื่นกลัวของเจ้าเหมียวลงได้ จากนั้นเขาจึงพามันไปที่ศูนย์คุ้มครองสัตว์ของเมือง เพื่อให้ลูกแมวได้รับการรักษาและตามหาบ้านหลังใหม่ให้มันต่อไป และหลังจากที่คลิปการช่วยเหลือของตำรวจหนุ่มถูกโพสต์ลงไปในเพจเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจ ชาวเน็ตหลายคนต่างรู้สึกชื่นชอบในความน่ารักของเขาคนนี้ ภาพเหตุการณ์ถูกถ่ายโดยกล้องที่ติดอยู่กับเครื่องแบบตำรวจ ความเห็นของชาวเน็ตส่งถึงตำรวจผู้ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เธอคนนี้รู้สึกชื่นชมให้กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาเมื่อเจอกับเจ้าเหมียว เห็นได้ถึงความแตกต่างในน้ำเสียงเวลาที่ตำรวจพูดกับประชาชน และในตอนที่เขาพูดกับเจ้าเหมียว…
-
20 ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ‘ฮีโร่’ มีอยู่ทุกที่บนโลกใบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณก็ได้!!
การช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำในสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของเรา เราอาจเรียกคนที่ทำสิ่งเหล่านั้นว่า ฮีโร่ และหลายๆ คนเชื่อว่าพวกเขามีอยู่แค่ในจินตนาการที่พบเห็นได้ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น หากแต่ว่าความเป็นจริงแล้ว คนกลุ่มนั้นอาจสามารถพบเห็นได้ทั่วไป นี่คือภาพที่จะพิสูจน์ความจริงว่า ฮีโร่มีอยู่รอบๆ ตัวเราทุกคน ไปดูกันเลยว่าพวกเขาได้ทำอะไรเอาไว้บ้าง ฮีโร่ผู้สามารถตอบสนองกับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว คนคนนี้ช่วยเตือนให้ทุกคนทราบว่า จงอย่าเสียเงินไปให้กับอาหารที่ไม่อร่อยเลย ความสามารถที่เหนือชั้น จนทำให้คนรอบข้างเลิกสนใจกีฬาและหันมาดูเขาแทน หากใครชอบการเซอร์ไพรส์ ก็ขอแนะนำให้มาใช้บริการตู้กดนี้ เพราะไม่ว่าคุณจะกดเลขอะไรไป ขนมที่ได้ไม่ก็ไม่ตรงกับหมายเลขที่คุณเลือกหรอก ถ้าอยากเล่น Playstation 4 จริงๆ ก็ควรมีทีวีคุณภาพสูงเอาไว้ด้วย ส่งร้อนตรงเวลา ส่งช้ารับฟรี และชายคนนี้ก็คงทำให้ร้านของเขาไม่ต้องขาดทุน คิดไม่ออกเลยว่า เขาทำได้อย่างไร มันคงเป็นพลังพิเศษอย่างหนึ่งแน่นอน ชายผู้สามารถพาสุนัขทุกตัวของเขาเดินทางไปได้ทุกที่พร้อมๆ กัน ซูเปอร์ด็อก ที่คอยรักษาแก้วเบียร์ของเจ้านายเอาไว้เท่าชีวิต มือมืดที่หยิบยื่นการช่วยเหลือมาให้ในยามยาก อยากเห็นตอนที่เรียงขึ้นไปจริงๆ ก่อนใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ อย่าลืมตรวจสอบกระดาษชำระให้ดีๆ เมื่อแฟนสาวอยากขี่คอถ่ายรูป คุณลุงบิ๊กไบก์เองก็อยากได้ท่าเดียวกัน …
-
แค่การจ่ายค่ากาแฟให้กับคนที่ไม่รู้จักกัน แต่กลับสามารถช่วยต่อพลังชีวิตให้กับอีกคนได้
บางคนอาจคิดว่าการทำความดีเล็กๆ น้อยๆ คงไม่สามารถช่วยอะไรใครได้มากนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว นั่นอาจเป็นแรงใจที่ทำให้คนๆ สามารถใช้ชีวิตต่อไป ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ ที่เขาได้รับจากเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2017 คนคนหนึ่งตั้งใจให้วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต และก่อนที่จะฆ่าตัวตายเขาได้ขับรถไปใช้บริการร้านไดรฟ์ทรูชื่อว่า Tim Hortons ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เขาได้สั่งซื้อกาแฟและมัฟฟินของทางร้าน จากนั้นพอขับต่อไปยังช่องชำระเงิน พนักงานร้านกลับบอกเขาว่า “ชายนิสัยดีคนหนึ่งจ่ายค่ากาแฟให้คุณทั้งหมดแล้ว และเขาฝากมาบอกว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ” ในตอนนั้นเขารู้ทันทีเลยว่าชายคนดังกล่าวก็คือคนที่ขับรถ SUV อยู่ด้านหน้าเขานี่เอง เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมชายคนนั้นถึงยอมซื้อกาแฟให้คนแปลกหน้า ทำไมต้องเป็นเรา? แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันที่ฉันกำลังจะฆ่าตัวตายด้วย? ฉันรู้สึกนี้คือสัญญาณบางอย่างที่บอกกับฉันในวันนี้อย่างแน่นอน” จากนั้นความคิดก็เปลี่ยนไป เขาขับรถกลับบ้านพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เปลี่ยนแผนทุกอย่างในวันนั้นและเลือกจะทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น เมื่อถึงบ้านแทนที่จะฆ่าตัวตาย เขากลับเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านยกของลงจากรถ และนั่นทำให้เขารับรู้ได้ถึงคุณค่าของชีวิตและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข ร้านไดรฟ์ทรู Tim Hortons เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกบอกเล่าผ่านจดหมายที่ทางสำนักข่าว Pickering News Advertiser ได้รับมา ก่อนที่พวกเขาจะนำมันออกเผยแพร่ให้กับสาธารณะ จนทำให้ชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตคนคนนั้นเอาไว้ปรากฏตัวขึ้นมา Glen Oliver…
-
เจ้าของแมวเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทำให้ใครคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยหาบ้านใหม่ให้แก่มัน
สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความรักการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าของ แน่นอนว่าสัตว์เหล่านั้นย่อมมอบความซื่อสัตย์ ความไว้ใจให้แก่ผู้ดูแลมันอย่างสุดหัวใจ แต่สัตว์เหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ในวันที่เจ้าของที่คอยเอาใจใส่สัตว์เหล่านี้เกิดเสียชีวิตอย่างกะทันหัน… ทุกๆ คนในละแวกบ้านของ Charlie Beehler รู้ซึ้งถึงความรักที่ Charlie มีต่อแมวของเขา แต่ความโชคร้ายที่เขาได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากการโดนคนเมาขับรถชนเมื่อต้นปี ทำให้แมวทั้งสองตัวของเขาไม่มีคนดูแลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านต่างเป็นห่วงว่าชีวิตของเจ้าเหมียวจะเป็นอย่างไรในยามที่ไม่มีเจ้าของผู้เป็นที่รัก แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีคนคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแมวที่น่าสงสารทั้งสองตัวนี้ “เป็นความโชคร้ายของครอบครัวนี้จริงๆ หลังจากที่ Charlie ถูกรถชนเสียชีวิตไม่นาน ภรรยาของเขาก็มาตรอมใจเสียชีวิตไปอีกคนหนึ่ง” Jennifer Andersch ทำงานที่มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นรัฐที่ Charlie อาศัยอยู่เล่าให้ฟัง Jennifer ย้ายมาจากรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากที่เธอเกษียณอายุเมื่อ 2-3 ปีก่อนและในตอนนี้เธอก็ทำงานร่วมกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในเมืองนิวเจอร์ซีย์ และเมื่อเธอได้ยินเรื่องดังกล่าว เธอก็รู้ในทันทีว่าเธอต้องเข้าไปช่วยเหลือแมวของครอบครัวนี้ โดยเธอได้สร้างเพจในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Save Charlie’s Angels เพื่อตามหาบ้านใหม่ให้กับแมวทั้ง 2 ตัวที่ชื่อว่า WooWoo กับ Smokey โดยเธอสันนิษฐานว่าทั้งคู่น่าจะมีอายุราวๆ 4-6 ปี แต่ว่ามีแมวตัวหนึ่งที่ดูจะกลัวคนแปลกหน้า นั่นจึงเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งสำหรับการหาบ้านที่เหมาะสมให้กับมัน “ในทุกๆ วันมีคนแชร์เรื่องราวของแมวทั้งสองตัวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่พวกเขาทำนั้นได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการหาครอบครัวให้แก่เจ้าขนปุยสองตัวนี้” Jennifer เขียนในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว …
-
หนุ่มโดนเจ้าเหมียวจรจัดสองตัวหลอกล่อ สุดท้ายก็โดนของ ต้องเก็บกลับไปดูแลในที่สุด
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างบากลำบากสักหน่อย ถ้าหากสองลูกแมวตัวน้อยๆ ต้องซ่อนตัวอยู่ใต้ทางเดินบนถนนเพียงลำพังเป็นเวลานานกว่า 1 ปี แต่ถึงกระนั้นโชคชะตาก็ยังไม่ใจร้ายกับพวกมันมากนัก เพราะสุดท้ายก็มีมนุษย์ใจดีเข้ามาให้ความช่วยเหลือจนพวกมันปลอดภัย อีกทั้งพวกมันก็พร้อมที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เช่น ได้รู้จักความไว้วางใจและความรัก ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้ ผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อ TDX ได้พบกับแมวสองพี่น้องอายุเพียงแค่ 5 สัปดาห์ ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวใต้สะพานแห่งหนึ่ง และมันก็มีท่าทางที่กลัวมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด นั่นจึงทำให้ทางอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือแมว Cat Cuddle Cafe Brisbane ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลียได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมวางกับดักไว้ในพื้นที่บริเวณที่เจ้าเหมียวอยู่ และไม่น่าเชื่อเลยว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ พวกเขาจะสามารถจับลูกแมวได้ แต่อย่างไรก็ตามทางอาสมัครก็ยังกังวลว่าลูกแมวจะทำเสียงขู่และทำท่าทางไม่พอใจใส่ผู้ที่ช่วยชีวิตของพวกมันเอาไว้ แม้ว่าในตอนแรกลูกแมวอาจจะไม่ยอมเข้าใกล้มนุษย์ เนื่องจากพวกมันไม่เคยได้สัมผัสและใกล้ชนิดกับมนุษย์มาก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ แต่นับจากนี้ไปทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้ว “เราต้องคอยดูแลเอาใส่ใจพวกมันให้ดีที่สุด และต้องมอบความรักให้มันอย่างเต็มที่ อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับมัน” ชายใจดีกล่าว หลังจากที่ได้รับการดูแลและใกล้ชิดมนุษย์มากขึ้น ลูกแมวน้อยก็เริ่มชินและนั่นก็ทำให้มันไม่รู้สึกกลัวมนุษย์อีกต่อไป ดูเหมือนว่ากลิ่นอายของความรักเริ่มโชยมาแล้ว การมอบความรักให้มันในทุกๆ วัน เช่น การกอดอาจจะช่วยทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกอบอุ่น และยอมรับมนุษย์มากยิ่งขึ้น…
-
ตำรวจโคตรฮีโร่ดึงรถตู้ด้วย ‘มือเปล่า’ เพื่อไม่ให้รถตกสะพานและช่วยชีวิตคนข้างในเอาไว้ได้!!
ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นฮีโร่ผู้เสียสละช่วยเหลือคนอื่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราจะแสดงสิ่งนั้นออกมาหรือไม่เท่านั้นเอง เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่ได้แสดงความเป็นฮีโร่ออกมาจนสามารถช่วยให้คนคนหนึ่งรอดพ้นจากความตายมาได้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานข่าวของสุดยอดตำรวจที่ใช้แรงแขนของเขาดึงรถเอาไว้นานกว่า 15 นาที เพื่อไม่ให้รถคันนั้นตกลงไปจากสะพาน และช่วยให้คนขับที่ติดอยู่ด้านในรอดชีวิตมาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง ใช้แรงแขนของตัวเองดึงรถเอาไว้ไม่ให้ตกลงไป นี่เป็นเรื่องราวของ Martin Willis ตำรวจทางหลวงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกลาดตระเวนในเส้นทางที่เขาได้รับมอบหมาย จนกระทั่งไปเห็นรถคันหนึ่งที่อยู่ในสภาพจะตกลงมาจากสะพานถนนสาย A1(M) ที่อยู่ใกล้ๆ กับเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ เขาจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนขับรถบรรทุกที่เห็นเหตุการณ์ตะโกนบอกกับเขาว่า ในรถที่กำลังจะตกลงไปนั้นมีคนติดอยู่ด้านใน เมื่อได้ยินอย่างนั้น Martin จึงรีบเข้าไปดึงรถคันนั้นเอาไว้ในทันที เพื่อรักษาบาลานซ์เอาไว้ไม่ให้มันตกลงไปถนนด้านล่าง เพราะจากที่เขาดูแล้ว เชื่อว่าหากรถตกลงไป คนขับคงต้องตายอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ Martin Willis ฮีโร่ของเหตุการณ์นี้ เขาได้ตะโกนคุยกับคนขับที่ติดอยู่ด้านในว่า “พวกเราจะพยายามเข้าไปช่วยคุณให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่าขยับตัวเด็ดขาดเลย” และเขาก็ได้ยินเสียงคนขับตอบกลับมา เขาสูญเสียพละกำลังไปมากของไปกับการดึงรถค้างเอาไว้นานกว่า 15 นาที จนกระทั่งหน่วยกู้ภัย West Yorkshire ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ …
-
“กอล์ฟฟี่” ช่างตัดผมจิตอาสา ตระเวนตัดผมให้คนแก่และคนพิการมานานกว่า 8 ปี
เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวสุดประทับใจจากต่างประเทศ เกี่ยวกับช่างตัดผมใจบุญที่ได้พากันออกมาตัดผมฟรีเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านกันมาบ้างแล้ว และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยของเราก็มีช่างทำผมใจบุญแบบนี้เช่นเดียวกัน และเขาคนนั้นก็คือ คุณกอล์ฟฟี่ ฤชวีพัฒน์ จิราวัฒน์มงคล ช่างตัดผมแห่งร้านชิควันแอนด์โอนลี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตหนุ่มผู้เคยผิดหวังจากความรักจนชีวิตแทบพัง ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นช่างทำผมใจบุญออกเดินทางช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย คนพิการ และคนยากไร้ทั่วประเทศ เมื่อเอ่ยถึงนางฟ้า หลายคนคงจะจินตนาการเป็นภาพของหญิงสาวแสนสวย ที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งร่างกายและจิตใจ แต่สำหรับคุณกอล์ฟฟี่แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีรูปกายภายนอกเหมือนที่กล่าวมา แต่จิตใจภายในของเขานั้นงดงามหาที่เปรียบไม่ได้เลย กอล์ฟฟี่ เป็นช่างตัดผมที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในหัวหิน ซึ่งก็ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่ภายหลังจากที่เลิกงานเขาก็ได้ใช้เวลาที่มีออกเดินทางไปตัดผมฟรีให้กับคนแก่ ผู้พิการ รวมถึงคนยากไร้ โดยเริ่มจากชุมชนเล็กๆ ไปจนถึงต่างจังหวัด ทางด้านคุณกอล์ฟฟี่ก็ได้ออกมาเผยถึงแรงบันดาลใจ ที่ได้ออกตระเวนไปตัดผมให้ผู้คนตามที่ต่างๆ ว่า “จุดเริ่มต้นในการทำจิตอาสาคือ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเราในกลุ่มเพราะอยากให้ไปตัดผมให้แม่ ซึ่งแม่ของผู้หญิงคนนั้นไม่ค่อยสบายอยู่ในบ้าน ศีรษะของเธอช้ำเลือดช้ำหนองเต็มไปหมด ตัวกอล์ฟเองก็ตัดผมให้แกไปเรื่อยๆ จนเกือบจะเสร็จแล้ว ปรากฏว่าคุณยายท่านนี้น้ำตาไหล ลูกสาวของแกก็ตอบว่า ‘คุณแม่ไม่ได้เจ็บหรอกค่ะ แต่คุณแม่คงรับรู้ได้ว่ามีคนมาตัดผมให้โดยไม่รังเกียจสภาพที่เป็นอยู่’ ก็เลยทำให้เราถึงบางอ้อว่า จริงๆ แล้วการทำบุญหรือการทำความดีไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไปเราสามารถใช้ความรู้ใช้วิชาชีพของเราที่เรามีติดตัวเรา สามารถเอาออกมาทำความดีได้ โดยไม่ต้องลงทุนทำอะไรเลย” …
-
คุณครูพ่อหม้ายไม่มีเงินพอซื้อของขวัญให้ลูกชาย นักเรียนเลยรวบรวมเงินซื้อให้ซะเลย
การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่อง มันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนและความเป็นมนุษย์ในตัวเรา โดยปกติแล้วความช่วยเหลือมักจะมาจากผู้ที่มีวัยวุฒิหรือคุณวุฒิมากกว่า แต่จริงๆ แล้วใครๆ ก็สามารถยื่นมือให้ความช่วยเหลือคนอื่นได้ เหมือนเรื่องของ Nathan Neidigk ผู้เป็นครูสอนวิชาแคลคูลัสเบื้องต้น และวิชาเตรียมตัวสู่แคลคูลัสระดับมหาวิทยาลัย ณ โรงเรียน Volcano Vista High School ในเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อตอนคลอดลูก เขาจึงต้องเลี้ยงดูลูกชายวัย 3 ขวบที่ชื่อ Mikey เพียงลำพัง นอกจากนี้ลูกชายของเขาก็เป็นโรคลูคีเมียอยู่ด้วย Nathan เคยบอกให้นักเรียนในชั้นเรียนแคลคูลัสของเขาฟังว่าเขาคงไม่มีเงินซื้อของขวัญให้ลูกชายมากนัก เพราะการรักษาโรคลูคิเมียต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เมื่อได้ยินดังนั้น นักเรียนทุกคนจึงตัดสินใจรวมเงินกันเพื่อซื้อของขวัญให้กับลูกชายของเขา เนื่องจากเขาเป็นครูที่รักและเคารพของทุกคนในชั้น ไม่กี่วันต่อมา เหล่านักเรียนก็ได้เซอร์ไพรซ์คุณครูคนดังกล่าวด้วยการถือของขวัญกล่องใหญ่เข้ามา และบอกเขาว่านี่คือของขวัญที่พวกเขาทุกคนรวบรวมเงินซื้อมาเพื่อลูกชายของคุณครู แน่นอนว่าเมื่อเห็นดังนั้น คุณครูก็รู้สึกตกใจและซาบซึ้งใจไปพร้อมๆ กัน เขาตัดสินใจเปิดกล่องของขวัญดังกล่าวทันที เขารู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าของขวัญข้างในคือเครื่องเล่นเกมส์ Nintendo Switch พร้อมแผ่นเกมส์ เขาบอกว่ามันจะช่วยให้ลูกชายกับเขาได้ฆ่าเวลาด้วยกันตอนที่ต้องเข้ารับการรักษาได้อย่างดี นอกจากนี้นักเรียนของเขายังพยายามช่วยหาค่ารักษาพยาบาลให้ Mikey ผ่านทางเพจรับบริจาค GoFundMe อีกทางหนึ่งด้วย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านักเรียนเหล่านี้มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือคนที่ลำบากจริงๆ แม้ตนเองจะยังไม่อยู่ในวัยทำงานหาเงินก็ตาม Mikey ลูกชายของคุณครู คลิปตอนเขาได้รับของขวัญในห้องเรียน …
-
หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!
ในหลายๆ ครั้ง การทำความดีหรือการช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นคำขอบคุณหรือของตอบแทนบางอย่าง เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับ หัวปลา… (ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก) เป็นการขอบคุณที่เขาได้ช่วยเหลือคนถึง 4 คนให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุมาได้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Shanghaiist ได้รายงานว่า ขณะที่ Liu Xinting ชายหนุ่มชาวจีนวัย 42 ปี กำลังขับรถกลับเมืองหางโจว ประเทศจีน หลังจากที่เขาได้ออกไปกินหัวปลากับเพื่อนมา ในระหว่างทางนั้นเขาก็ได้เจอกับอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกลางถนน อุบัติเหตุที่ถูกถ่ายไว้จากกล้องหน้ารถของ Liu รถบรรทุกเล็กสีน้ำเงินได้ชนเข้ากับท้ายรถของรถยนต์คันสีแดงขณะที่กำลังทำการเปลี่ยนเลน จนทำให้รถสีแดงคันดังกล่าวเสียการควบคุมและเลี้ยวโค้งหักตัดถนนพุ่งหายเข้าไปในป่า ก่อนที่จะไปลอยอยู่ในทะเลสาบ Qiandao Liu ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่รอช้ารีบลงไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถคันนั้นทันที ในตอนนั้นรถคันดังกล่าวลอยห่างออกไปจากบริเวณฝั่งประมาณ 20 เมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของฮีโร่หนุ่มคนนี้เลย โชคดีที่กระจกรถได้เปิดเอาไว้ ทำให้ Liu สามารถช่วยคนที่ติดอยู่ด้านในทั้ง 4 คนก่อนที่รถจะจมลงไปได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนท้องรวมอยู่ด้วย Liu ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ถึง 4 คน บาดแผลเล็กน้อยที่เขาได้รับจากการทำความดีในครั้งนี้ . เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ในเวลานั้นผมไม่มีเวลาที่จะคิด…
-
นศ. สัตวแพทย์ ช่วยชีวิตเจ้ามิ้วน้อยเอาไว้ ยิ่งนานวันก็ยิ่งทำให้มนุษย์หลงรัก
Smush เป็นแมวเพศเมียตัวเล็กๆ ที่ถูกพบอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง มันเป็นแมวพิเศษที่เกิดมาไม่เหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่นั่นก็ไม่มีอะไรสามารถที่จะมาหยุดความน่ารักของมันได้เลย และนี่คือ Smush แมวน้อยน่ารักที่พร้อมจะมาสะกดจิตสะกดใจให้พวกทาสหลงใหลแล้ว ย้อนเวลากลับไปในตอนที่มีคนพบเจ้า Smush อยู่ข้างถนน มันถูกนำตัวไปยัง University of Florida College of Veterinary Medicine ในเกนส์วิลล์, รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าเหมียวเกิดมาพร้อมกับอาการผิดปกติเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่กำเนิด อีกทั้ง มันยังมีภาวะติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง และไม่สามารถกินอาหารได้เลย แต่โชคดีที่อย่างน้อยก็มีนักศึกษาสัตวแพทย์คนหนึ่งได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกับเต็มใจที่จะรับมันไปดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะช่วยให้มันรอดชีวิต และผู้ที่มารับหน้าที่ดูแลเจ้าเหมียวตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็มก็คือ นักศึกษาแพทย์นามว่า Lindsey เธอเป็นผู้ที่ยอมอดหลับอดนอนในเวลาตอนกลางคืน เพื่อตื่นขึ้นมาให้อาหาร ดูแล และมอบความรักให้แก่เจ้า Smush แมวน้อยต้องได้รับการอาบน้ำ เนื่องจากเนื้อตัวของมันเต็มไปด้วยกลากเกลื้อน ตั้งแต่ที่รับแมวตัวนี้มาดูแล Lindsey ก็มักจะพามันไปไหนมาไหนด้วยทุกๆ ที่…
-
คุณตำรวจและช่างภาพ ช่วยทำให้ความฝันของเหล่าเด็กน้อยผู้ป่วยกลายเป็นความจริง
เด็กทุกคนย่อมมีความฝัน แต่ในบางครั้งมันก็ยากที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ป่วยมีความผิดปกติในเรื่องของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะก้าวไปถึงความฝัน แต่ช่างภาพสาว Carrie Lewis ไม่ต้องการให้เด็กเหล่านั้นคิดแบบนี้ เธอจึงทำให้พวกเขาได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากยิ่งขึ้น Carrie คือหนึ่งในช่างภาพของกลุ่ม Glass Crown Photography เธอได้ทำโปรเจกต์การถ่ายภาพที่มีให้กับเด็กพิเศษจำนวน 3 คนให้พวกเขาได้กลายเป็นตำรวจอย่างที่ฝันเอาไว้ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเด็กๆ ในวันฮัลโลวีน 2017 รอยยิ้มของหนึ่งในเด็กพิเศษที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ พวกเขาได้รับประสบการณ์การนั่งในรถตำรวจของจริง ตำรวจประจำเมืองได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ เธอเล่าว่าในตอนแรกที่เธอได้ประกาศโปรเจกต์นี้ออกไป ก็มีหลายครอบครัวติดต่อมาให้เธอ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ทำให้เธอช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กพิเศษได้แค่ 3 คนนี้เท่านั้น ความตื่นเต้นและดีใจที่แสดงออกมาให้เห็น เมื่อความฝันกลายเป็นความจริง แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความพิการ แต่ก็มีคนอีกมากที่พร้อมช่วยเหลือพวกเขา ช่างภาพสาวขอให้ตำรวจประจำเมือง Rapid City รัฐเซาท์ดาโคต้า สหรัฐอเมริกา ได้มาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ เหล่านี้ และผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ดีเกินคาด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเสื้อผ้า รถตำรวจ และหลายๆ อย่างเพื่อให้เด็กน้อยได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากที่สุด…
-
เจ้าอ้วนเอ้ย!! แรคคูนตัวแสบตัวติดท่อระบายน้ำข้างทาง เดือดร้อนคุณตำรวจต้องมาลากตัว!!
แน่นอนว่าความอ้วนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของพวกมนุษย์อย่างเราๆ และเช่นเดียวกันสำหรับพวกสัตว์นั้นสภาวะน้ำหนักเกินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน เจ้าแรคคูนจอมตุ้ยนุ้ยตัวหนึ่ง ได้สูญเสียความเป็นสัตว์จอมพลิ้วของมันไปทันทีหลังจากที่ขี้ปุ๋ม เอ๊ย!! พุงของพี่แกนั้นดั๊นติดกับทางออกท่อระบายน้ำ งานนี้เลยเดือดร้อนถึงพี่ๆ ตำรวจต้องลงมือช่วยกันยกใหญ่เลยทีเดียว ออกม๊ายได๊!! เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ Zion Police รัฐอิลลินอยส์ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีท่านหนึ่ง ที่บังเอิญสังเกตเห็นเจ้าแรคคูนตัวอ้วนตัวนี้กำลังพยายามที่จะออกจากท่อระบายน้ำ เจ้าตัวน้อยพยายามอยู่นานแต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากท่อระบายน้ำได้ และติดอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึง “มันดูเหมือนคนที่กินเยอะๆ และพยายามที่จะออกจากท่อระบายน้ำนั่น” เจ้าหน้าที่ตำรวจเล่า ในวันนั้นถ้าหากไม่มีพลเมืองดีโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่ะก็งานนี้เจ้าแรคคูนมีหวังได้ติดอยู่ที่ท่อระบายน้ำนี้ไปอีกนานแน่ๆ ช่าวด้วยครับบบบ ฮือออ เจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเจ้าตัวเล็ก แต่… ก็ยังออกไม่ได้อยู่ดี ฮือออ หลังจากที่พยายามอยู่นาน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยเทศบาลของเมือง เพื่อทำการยกฝาท่อระบายน้ำออกและช่วยเจ้าตัวเล็กออกมาได้สำเร็จ “พวกเราสามารถช่วยมันออกมาได้สำเร็จ และมันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย” เจ้าหน้าที่กล่าว แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เชื่อแน่ๆ ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เจ้าตัวอ้วนคงจะคิดถึงเรื่องการลดน้ำหนักมากขึ้นแน่ๆ ฮ่าๆ ที่มา thedodo
-
ของจริง!! หมาน้อยใจกล้าวิ่งเข้าไปกัดโจร เพื่อช่วยหญิงสาวให้รอดจากการถูกปล้น
ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาหลักฐานอีกต่อไปว่า “สุนัข” เป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นฮีโร่ที่แท้ทรูมากขนาดไหน เพราะคลิปวิดีโอพร้อมเรื่องราวที่เราได้นำมาเสนอในครั้งนี้ มันเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า…เจ้าหมานี่แหละเป็นสัตว์ที่กล้าหาญที่สุด หลังจากที่มันได้พยายามเข้าช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งจากการถูกโจรปล้น เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ณ เมืองพอดกอรีตซา ประเทศมอนเตเนโกร ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าบุกปล้นหญิงรายหนึ่งบนท้องถนน แต่ทว่าเขากลับทำไม่สำเร็จ เพราะจู่ๆ ก็มีสุดยอดฮีโร่ 4 ขาได้เข้ามาขัดขวางเอาไว้ จากการรายงานระบุว่า คนร้ายดังกล่าวเป็นชายสวมเสื้อเหลืองที่ได้เดินตามเหยื่อผู้หญิงไปตามท้องถนน และในขณะที่เขากำลังจะพยายามเข้าไปขโมยกระเป๋าของเธอ เจ้าหมาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านหลังก็รีบวิ่งเข้ามาจู่โจมเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือหญิงให้รอดพ้นจากการถูกปล้นทันที ในคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของเจ้าหมา กำลังกระโดดเข้าไปกัดที่ก้นของโจร และนั้นก็ทำให้เขาต้องรีบเผ่นหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต มารับชมคลิปวิดีโอกันเลยจ้า สำหรับคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Podgoricki Vremeplov ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองพอดกอรีตซา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาชาวเน็ตได้พากันเข้ามาชื่นชมเจ้าหมาฮีโร่ตัวนี้กันอย่างมากมาย พร้อมกันนี้พวกเขายังเรียกมันว่าเป็น “Hero of the day” อีกด้วย ที่มา : metro
-
ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร
ค้างคาวเป็นสัตว์ที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นมันทั่วไปตามท้องถนน และหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ดูน่ากลัวคอยดูดเลือดมนุษย์ แต่ความน่ารักของเจ้าค้างคาวตัวนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดนั้นไปในทันที เจ้าค้างคาวที่มีชื่อว่า Miss Alicia ตัวนี้ได้ถูกช่วยเหลือจากคนที่ขับรถไปชนมันเข้า ในตอนกลางคืนที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เจ้าค้างคาวตัวน้อยมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างมาก ก่อนที่มันจะได้รับการรักษาจาก Denise Wade นักอนุรักษ์ค้างคาวและเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Batzilla The Bat ความน่ารักของมันก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก หลังจากที่นักอนุรักษ์ได้โพสต์วิดีโอลงไปในเพจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2017 ทำให้มีผู้เข้าชมกว่า 242,000 ครั้งและชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า 4,800 คน เคี้ยวงุบงับๆ ซะน่ารักเชียว นี่แหละเขาถึงได้มีเพลงชื่อว่า “ค้างคาวกินกล้วย” คลิปการกินกล้วยของเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วที่ได้รับการช่วยเหลือ ความคิดเห็นของชาวเน็ตที่ชื่นชอบในความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าค้างคาว เธอคนนี้คิดว่ามันน่ารักมากจริงๆ จนถึงขนาดว่าอยากรับมันมาเลี้ยงเลย ชาวเน็ตคนนี้เป็นห่วงว่าเจ้าค้างคาวน้อยจะสำลักออกมา และเธอบอกอีกว่าเธอเองก็ชื่นชอบค้างคาวเหมือนกัน เวลาที่ได้เห็นพวกมันห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ ส่วนเธอคนนี้ก็รู้สึกขอบคุณคนโพสต์ที่ทำให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในชีวิต Denise ดูแลมันจนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติและได้ปล่อยมันกลับไปถิ่นที่อยู่อาศัยหลังจากนั้น หวังว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่ดีไม่ต้องมาเจออุบัติเหตุแบบครั้งนี้อีกแล้วนะ และก็ไม่ได้มีแค่เจ้าค้างคาวตัวนี้ที่ได้รับการดูแลจากเธอ…
-
ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!
ขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่บนถนนไฮเวย์ก็อาจได้เห็นรถคันอื่นๆ ที่วิ่งไปทางเดียวกับเราหรือคนที่พยายามข้ามถนนกันอย่างยากลำบากเพราะรถแต่ละคันขับกันเร็วเสียเหลือเกิน แต่ชายคนนี้กลับได้เจอกับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ควรมาอยู่บนถนนใหญ่ นั่นก็คือน้องเหมียวผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Masz Masuri เขากำลังขับรถพาลูกชายไปเที่ยวสวนสนุก Danga Bay ในประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ระหว่างทางที่เขากำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารนอนอยู่กลางถนน น้องเหมียวผู้น่าสงสารไม่สามารถออกไปจากถนนนี้ได้ด้วยตัวเอง บนถนนใหญ่ที่ขับกันด้วยความเร็วจนทำให้เขาไม่สามารถจอดกะทันหันได้ ชายหนุ่มจึงไปกลับรถมาหาเจ้าเหมียวอีกครั้ง ก่อนที่จะลงรถไปอุ้มมันขึ้นมาและรีบพาไปหาสัตวแพทย์ ไม่ต้องกลัวนะเจ้าเหมียว ฮีโร่มาช่วยแล้ววว คลิปการช่วยเหลือแมวในครั้งนี้ที่ชายหนุ่มโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก เจ้าเหมียววัย 1 ขวบตัวนี้มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา อุ้งเท้า และหน้าอกเล็กน้อยจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ได้เจอหมอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ Masz ตั้งชื่อให้มันว่า Danga Bay ชื่อเดียวกันกับสวนสนุกที่เขาจะพาลูกไป และชายคนนี้ก็ไม่ได้เพียงแค่ช่วยมันให้รอดจากอันตรายบนท้องถนนเพราะเขายังช่วยประกาศหาบ้านให้กับมันอีกด้วย เป็นโชคดีของเจ้าเหมียวที่ได้เจอกับเขาผู้เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับน้องแมวในประเทศมาเลเซียที่ชื่อว่า Kitty Konnexion Community เขาจึงโพสต์คลิปและเรื่องราวของมันลงไป เป็นโชคดีของเอ็งจริงๆ ที่ได้เขาคนนี้มาช่วย พร้อมกับยังหาบ้านให้อีกต่างหาก จนกระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม 2017…
-
เมื่อ The Sims 4 เชิญชวนชาวซิมส์ตกแต่งสัตว์เลี้ยงเพื่อการกุศล และนี่คือความฮาที่เกิดขึ้น…
หลายคนคงตั้งตารอคอยเกมแห่งยุคสมัย ที่มีมานานตั้งแต่เรายังเด็กอย่าง The Sims ซึ่งเมื่อเรามองย้อนไปตั้งแต่ภาคแรก ก็ได้เห็นการพัฒนาต่างๆ จนมีความสนุกมากยิ่งขึ้น สมจริงมากยิ่งขึ้น ทำให้ฐานแฟนคลับแพร่กระจายออกไปมาก และล่าสุดนี้ก็ได้มีการประกาศเปิดตัว The Sims 4 ที่มาในเวอร์ชั่นใหม่เอาใจชาวซิมส์ผู้รักสัตว์โดยเฉพาะด้วย The Sims 4 Cats & Dogs นั่นเอง สำหรับ The Sims 4 Cats & Dogs จะแตกต่างจากตัวเสริมสัตว์เลี้ยงของภาคก่อนๆ ตรงที่ในภาคนี้ผู้เล่นสามารถสร้างและออกแบบสัตว์เลี้ยงที่ต้องการได้เองตามใจชอบ เช่น สามารถเลือกสายพันธุ์ได้ รวมไปถึงการเลือกลวดลาย เสื้อผ้า เครื่องประดับ และนิสัยให้กับมัน ซึ่งการได้ร่วมออกแบบสัตว์เลี้ยงในครั้งนี้ ยังถือเป็นการช่วยหาคนมาร่วมบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลสำหรับน้องหมาน้องแมวอีกด้วย เรียกได้ว่าคุณจะได้รับทั้งความสุขและได้บุญไปเต็มๆ เลย อย่างไรก็ตาม ชาวซิมส์จำนวนมากก็ได้พากันมาออกแบบสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งในตอนแรกก็มีผลงานน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์ออกมามากมาย แต่ไม่รู้ทำไมช่วงหลังๆ สภาพของพวกมันถึงได้ออกมาดูเพี้ยนๆ พิกล จากน่ารักก็กลายเป็นฮาขึ้นมาซะงั้น หรือนี่อาจจะเป็นความคิดสุดสร้างสรรค์ของพวกเขากันนะ …
-
หนุ่มได้ยินเสียงแมวร้อง ตามไปดูใต้ท้องรถ แต่ถูกกัดที่เท้าเฉย…นี่เรามาช่วยนายนะ!!
ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังทำงานอยู่ในที่จอดรถ จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงร้องเมี๊ยวๆ งานนี้เลยทำให้เขาต้องเดินไปตามเสียงๆ นั้น จนในที่สุดเขาก็พบที่มาของเสียงเล็กๆ ที่ดังออกมาจากใต้ท้องรถ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ทว่าสิ่งอยู่ในภายในนั้นมันกลับย้อนมาทำร้ายเขาซะเอง เพราะจู่ๆ เขาก็ถูกอะไรบางอย่างมากัดที่เท้าเฉยเลย “เขาเดินตามเสียงที่ได้ยิน จนกระทั่งได้พบว่าเสียงนั้นดังออกมาจากใต้ท้องรถ และนั่นก็ทำให้มันก็เริ่มโจมทีเท้าของเขา” ผู้ใช้ YouurutitOut กล่าว ใช่!! นั่นคือเสียงร้องของแมวเหมียวตัวน้อยตัวนี้นี่เอง ภายหลังจากที่รู้ว่าเจ้าเหมียวติดอยู่ใต้ท้องรถ ชายคนดังกล่าวก็ได้พยายามช่วยเหลือมันออกมา พร้อมกับนำมันกลับไปดูแลที่บ้านของเขาทันที แมวน้อยได้ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของมนุษย์ที่ช่วยเหลือมัน ดูท่าทางแล้วจะสบายไม่น้อยเลยนะเนี่ย พวกเขาดูแลมันเป็นอย่างดี พร้อมเอาอาหารและน้ำให้กันกันอย่างเต็มอิ่ม ด้วยความรักและได้รับการดูแลเอาใจใส่จากมนุษย์ นั่นทำให้แมวน้อยได้เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเผยความน่ารักออกมาให้เห็นทีละนิด ในตอนนี้มันอยู่ในที่ที่แสนสบาย แถมยังชอบอยู่ใกล้กับมนุษย์อีกด้วย มันตามพวกเขาไปทุกๆ ที่ของบ้านเลย (นึกถึงภาพตอนแรกที่ไปกัดเท้าเขาสิ เอิบ!!) ดูเหมือนแผนโจมตีเท้าในครั้งนั้นจะสำเร็จ เพราะในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นแมวบ้านที่ได้รับความรักอย่างไม่มีสิ้นสุดจากมนุษย์ เย้ๆ “เจ้าเหมียวอายุเกือบ 3 เดือนแล้ว มันมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส และมีเสน่ห์มากๆ แถมยังขี้เล่นด้วยนะ” ผู้ใช้ YouCutitOut…
-
แมวน้อยซุกซน วิ่งเล่นจนหัวไปติดอยู่ใน “ล้อรถ” สัตวแพทย์เร่งช่วยกันวุ่นวาย…
นอกจากโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นของลูกแมวตัวน้อย ที่พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตในโลกอันแสนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่น และวัตถุแปลกประหลาดมากมาย เพื่อให้พวกมันได้ทำการออกสำรวจ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเหมียวตัวน้อยชื่อ Cookie กลับได้พบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เลยทำให้มันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อไม่นานมานี้ Cookie ลูกแมววัยเพียง 4 เดือน ได้ออกมาเล่นอยู่ภายในโรงจอดรถของครอบครัว จนได้พบกับล้อรถยนต์สำรองที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ในนั้น และนั่นก็ทำให้มันเริ่มเกิดความสนใจในสิ่งที่พบเจอทันที เจ้าเหมียวได้เข้าไปตรวจสอบวัตถุประหลาดที่มันไม่เคยพบเห็นอย่างละเอียด แถมยังตัดสินใจเอาหัวมุดเข้าไปบริเวณรูตรงกลางของล้อรถ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และในที่สุดปัญหาก็เกิดขึ้นกับเจ้า Cookie จนได้ เพราะหัวของมันดันไปติดที่รูตรงกลางของล้อรถยนต์จนได้ งานนี้ทำให้มันถึงกับตกใจเพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรหัวก็ไม่สามารถหลุดออกจากล้อรถได้เลย ทางด้านผู้เป็นเจ้าของก็พยายามตามหาแมวแสนรักที่หายตัวไป จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถค้นหาตัวของมันพบ พร้อมกับรีบนำตัว Cookie ไปยังคลินิกสัตวแพทย์ Pieper Memorial Middletown ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ ทันที “เรารู้ว่ามีแมวติดอยู่ในล้อรถยนต์ แต่เราไม่รู้ว่ามันเข้าไปติดได้อย่างไร ล้อมีขนาดใหญ่แค่ไหน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้พร้อมกับถือยางรถยนต์ขนาดใหญ่มาด้วย และเมื่อได้เห็นหัวของเจ้าเหมียวติดอยู่ที่ยาง ฉันก็ได้บอกพวกเขาว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ได้เจ็บปวด เพราะหัวของมันก็แค่ติดอยู่ในล้อรถเท่านั้น” Jesse Ferguson ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว …
-
ฮีโร่ตำรวจนิวเจอร์ซีย์ ช่วยคนสำลักอาหารได้ทันเวลา สมกับเป็นคนของประชาชน
แน่นอนว่าหน้าที่ของตำรวจที่ทุกๆ คนคือการพิทักษ์สันติราษฏร์ เพียงแค่เราเห็นคนในเครื่องแบบตำรวจยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยแล้ว เช่นเดียวกันกับที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดเหตุด่วนเหตุร้ายกับหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังทานอาหารแต่กลับเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา คุณตำรวจ Dennis Palaia กำลังสนุกกับวันหยุดกับลูกชายของเขาที่ Buffalo Wild Wings ใน Rockaway Township และเขาก็สังเกตเห็นความปกติของหนุ่มโต๊ะข้างๆ เขาก็ไม่ลังเลที่จะรีบวิ่งไปหาชายโต๊ะข้างๆ ที่กำลังแสดงอาการว่าเขาหายใจไม่ออก เมื่อคุณตำรวจตระหนักว่าชายคนนั้นกำลังสำลัก เขาจึงเริ่มต้นการช่วยเหลือแบบ Heimlich Maneuver ทันที Palaia รวบแขนทั้งสองของเขาไว้ที่เอวชายคนนั้น และกระแทกให้อาหารที่อุดตันนั้นหลุดออกมา ไม่นานนักสถานการณ์ก็คลี่คลาย ชายคนนั้นสามารถหายใจได้ และเปลี่ยนจากสีหน้าแดงๆ หายใจติดๆ ขัด เป็นหายใจได้โล่งเหมือนปกติ หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ทางกรมตำรวจนิวเจอร์ซีย์ก็ได้แถลงชื่นชมนายตำรวจคนดังกล่าวว่า “ตำรวจของพวกเราทุกคนถูกสอนให้ระมัดระวังสิ่งที่ไม่คาดคิดเสมอ และ Dennis Palaia จากหน่วยลาดตระเวนยุทธวิธีกองร้อย ‘B’ ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า บทเรียนเหล่านั้นสำคัญอย่างไร ทั้งตอนที่เขาปฏิบัติหน้าที่หรืออยู่นอกเวลาราชการ” คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดของร้าน นับเป็นเรื่องดีๆ…
-
นักศึกษาแพทย์ติดอยู่ในลิฟท์นาน 1 ชั่วโมง เลยทำบันทึกฮาๆ ของการเอาชีวิตรอดภายในนั้น
การติดอยู่ในลิฟท์นับเป็นประสบการณ์ที่แสนเลวร้ายสำหรับใครหลายๆ คน เพราะมันเป็นช่วงชั่วโมงที่เต็มไปด้วยความระทึก ความกดดัน และต้องเสี่ยงอยู่ในอันตรายทุกวินาที แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มันคงทำให้หลายคนรู้สึกวิตกกังวล และทำตัวไม่ถูก แต่สำหรับ Joseph หนุ่มนักศึกษาแพทย์รายนี้ เขากลับใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ขณะติดในลิฟท์ตลอดเวลานาน 60 นาที บันทึกเรื่องราวสุดฮาของการเอาชีวิตรอดอยู่ในนั้น และเมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามาชื่นชมในความกล้าหาญของเขากันยกใหญ่ เพราะเขาได้ทำในสิ่งที่สามารถทำให้ตัวเองรอดมาจากสถานการณ์นั้นได้มาอย่างชิลๆ และนี่คือบันทึกสุดฮาของเขาล่ะ ในระหว่างที่ติดอยู่ในลิฟท์ วันที่ 1 นาทีที่ 10: นรกมันรู้สึกแบบนี้จริงเหรอ วันที่ 1 นาทีที่ 15: ถ้ามีคนอื่นอยู่ที่นี่กับผม ผมคงกินเนื้อของพวกเขาไปแล้ว วันที่ 1 นาทีที่ 20: เริ่มต้นหาทางออกทางเพดาน วันที่ 1 นาทีที่ 25: ผมกำลังจะตัดแขนของตัวเองด้วยมีดพกพา ซึ่งมันไม่ได้ติดกับอะไรหรอก แค่คิดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้ วันที่ 1 นาทีที่ 28: ผมตั้งชื่อแล็ปท็อปว่าวิลสัน …
-
Pippa น้องหมาที่ชอบการรับจดหมาย จนไปรษณีย์ต้องแอบเขียนให้เองในวันที่ไม่มีส่ง
การเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีของเจ้านายอย่างเดียวมันอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะปัจจุบันบรรดาน้องหมาทั้งหลายได้หันมาทำหน้าที่รอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ เพื่อนำไปส่งให้ถึงมือของเจ้านายแล้วนะ และนี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของ Pippa น้องหมาพันธุ์โกลเด้นที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับ Martin Studer บุรุษไปรษณีย์เป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะว่าเขามักจะมาส่งจดหมายที่บ้านเจ้านาย Pippa เป็นประจำทุกวันยังไงล่ะ นอกจากนี้ Martin ยังได้โพสต์รูปภาพของ Pippa พร้อมแชร์เรื่องราวของมันให้ผู้คนได้อ่านลงบนเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเจ้าหมาตัวนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในรายการโปรดของเขาไปซะแล้ว Pippa มักจะมารอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ในทุกๆ วัน เพราะเมื่อเห็น Martin มันก็จะรีบวิ่งเข้ามาทักทาย พร้อมกับรอคอยจดหมายที่จะได้รับ จนกระทั่งในวันที่ไม่มีจดหมายมาส่งให้เจ้านาย นั่นทำให้ Pippa ต้องนั่งรอเก้อทั้งวันอย่างน่าสงสาร ด้วยเหตุนี้ทำให้ Martin ได้ตัดสินใจทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง เพราะเขาเองก็ไม่อยากเห็นมันรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นเขาเลยต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมามอบให้กับมัน พร้อมเขียนข้อความลงในใบแจ้งการจัดส่งพัสดุว่า “จดหมายสำหรับ Pippa ♡♡” “Pippa ได้ออกมานั่งรอรับจดหมายในทุกๆ วัน แต่บางครั้งก็ไม่มีจดหมายสำหรับเจ้านายของมัน นั่นทำให้ผมต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมาแทน” Martin เขียนไว้ในเฟซบุ๊กของเขา ที่สำคัญเขายังได้ออกมาเผยอีกว่า การที่ได้มาพบกับเจ้า Pippa…
-
เหล่าแมวเหมียวผู้น่าสงสาร โดนไฟไหม้จนคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่โชคดีที่มีนางฟ้าเข้ามาช่วยไว้
นี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนรักแมวรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจเหล่าเหมียวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเหล่าเหมียวผู้โชคร้ายถูกไฟไหม้จนทำให้มันมีสภาพที่ย่ำแย่และเหมือนใกล้ตาย แต่โชคดีที่อย่างน้อยมันก็สามารถรอดชีวิตมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเหล่านางฟ้า… เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Lovemoew ได้นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวสองคนที่ออกไปตามหาแมวแสนรักของพวกเธอ หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในระหว่างที่กำลังค้นหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้พบกับเจ้าเหมียว 2 ตัวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์อันแสนเลวร้ายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ และแน่นอน สองนางฟ้าก็รู้ว่าจะต้องช่วยชีวิตพวกมัน เมื่อบ้านของ Brandi Ann ถูกทำลายล้างจากไฟป่า เธอกับ Steph Gediman ผู้เป็นแฟนสาวก็ได้พากันออกไปตามหา Apu เจ้าเหมียวแสนรักที่ได้หายตัวไป “เราได้กลับมาที่บ้านในตอนเช้าหลังจากที่เกิดไฟไหม้ขึ้น เรามองหาแมวของเรา แต่ก็ไม่พบมันเลย ไฟได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น ในขณะที่เรากำลังตามหาเจ้าเหมียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากถนน ฉันหันไปรอบๆ จนได้รู้ว่ามีแมวตัวหนึ่งได้เดินออกมาจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ และกำลังต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นสภาพใบหน้าของเจ้าเหมียวถูกไฟไหม้จนแทบจำเค้าโครงเดิมไม่ได้เลย ฉันรู้ว่าฉันต้องช่วยเหลือแมวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ ซึ่งเราก็ได้นำตัวของมันไปรักษายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใน Rohnert Park” Steph กล่าว ในวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็เดินกลับไปยังพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้เพื่อตามหา Apu…
-
หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย
การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากบางครั้งเราก็ไม่ต้องการที่จะได้รับอะไรตอบแทน เพราะว่าเราเจตนาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าโลกนี้หากทำความดีย่อมได้รับการตอบแทน ในเดือนมกราคมปี 2017 หญิงสาวนายหน้าค้าบ้านคนหนึ่งชื่อว่า ShelbyLynn Alexander กำลังติดไฟแดงอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐ North Carolina และเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่กับหมาของเขาที่ข้างถนน โดยเขาได้ถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ผมจ่ายคืนแน่ในวันข้างหน้า” เธอได้สังเกตเห็นว่าสภาพเสื้อผ้าของเขามอมแมมอย่างมาก แถมยังไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอเทียบกับอากาศในตอนนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเสียสละผ้าห่มให้แก่หมาของเขา เธอรู้ในตอนนั้นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีและเธอต้องลงจากรถไปช่วยเหลือเขาแล้ว “ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาและบอกว่า ปกติฉันจะให้แต่อาหารแทนที่จะเป็นเงิน แต่ในคราวนี้ฉันยื่นแบงค์ดอลล่าให้เขาสามใบพร้อมด้วยนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฉัน หากว่าเขาต้องการที่สำหรับอยู่อาศัย” ShelbyLynn ให้สัมภาษณ์ เธอยังบอกอีกว่าเขาทำหน้าเขินอายเล็กน้อยในตอนที่กำลังรับเงินจากเธอ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไร้บ้านจริงๆ หรือว่าเป็นคนที่กำลังดวงตกอยู่กันแน่ แต่เธอก็ได้อวยพรให้เขาโชคดีก่อนที่จะขับรถออกไป หลายเดือนต่อมา นายหน้าสาวคนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าคนหนึ่งให้หาบ้านให้หน่อย เธอจึงนัดพบเขาในวันถัดมา เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อเธอไปถึงจุดที่นัดพบกับลูกค้าคนนั้นก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอจำหมาตัวนี้ได้ว่าเป็นของชายไร้บ้านเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ว่าคราวนี้หมาตัวนี้กลับมีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์และดูมีความสุข ทันใดนั้นเจ้าของหมาตัวนี้ก็ลงมาจากรถกระบะคันใหม่เอี่ยม ซึ่งได้สร้างความเซอไพรส์แก่เธอมากเพราะว่าชายคนดังกล่าวดูราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เธอเคยให้ความช่วยเหลือ โดยในครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้านและมีใบหน้าที่สดใส นายหน้าสาวคนนี้ได้สารภาพว่าตอนแรกที่เจอเขา เธอคิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพที่แต่งตัวโทรมๆ เพื่อมาขอเงินจากคนอื่นแต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยทีเดียว “ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าภรรยาเก่าของเขาเอาทุกอย่างที่เป็นของเขาไปและหนีไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขาไม่อยากได้เงินหรอกเขาแค่อยากได้ความช่วยเหลือ” “เขามีอาชีพเป็นวิศวกร และในตอนนี้เขาก็มีงานใหม่ รถใหม่ และกำลังมองหาบ้านใหม่ นอกจากนั้นเขาต้องการตอบแทนความหวังดีของฉันด้วยการอุดหนุนบ้านที่ฉันเป็นนายหน้าให้ เขาใช้คืนเหมือนอย่างที่เขียนตอนแรกจริงๆ ” แล้วเขาก็คืนแบงค์ดอลล่าร์สามใบให้เธอพร้อมกับนามบัตรของเธอเองเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ…
-
นักกีฬายอมเสียโอกาสชนะ เพื่อช่วยแบกเพื่อนที่เจ็บขา ให้วิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน..
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ดีๆ ที่ซึ้งกินใจชาวเน็ตไปทั่วโลก จากงานแข่งขันกีฬาประจำปีที่ Sugar House Park รัฐยูทาห์ โดยเว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า สองเพื่อนซี้จากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน Sean Rausch และ Blake Lewis ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาในครั้งนี้ การแข่งขันวิ่งเดี่ยวระยะ 3 ไมล์ (ราว 4.8 กิโลฯ) ได้เป็นไปอย่างราบรื่นปกติ จนกระทั่งเมื่อถึงระยะ 200 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย อาการเจ็บที่ต้นขาก็ทำเอาพ่อหนุ่ม Blake Lewis ล้มไปกองกับพื้นอย่างดื้อๆ “ในช่วง 300 เมตรสุดท้าย จู่ๆ ผมก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้นขามากๆ จากนั้นพอวิ่งไปได้อีกซักระยะผมก็รู้สึกเหมือนกระดูกเคลื่อน และมันก็เจ็บมากจนผมวิ่งต่อไม่ไหว ต้องนอนกองกับพื้นอยู่ตรงนั้นเลยละครับ” Blake เล่า แต่ในเรื่องร้ายๆ ยังมีเรื่องดี เมื่อเพื่อนซี้ Sean Rausch ตัดสินใจที่จะทิ้งตำแหน่งแชมป์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักที่เคยลำบากด้วยกันมา… หนุ่ม Rausch เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั่วโลกต่างพูดถึง หลังจากที่มีการแพร่ภาพของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศอาร์มีเนีย โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอภาพของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสาร ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพียงเพื่อใช้มันเป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร..!? สภาพของน้องหมีที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่คับแคบ และนั่งดูลูกค้ารับประทานอาหาร มุมจากโต๊ะอาหารของลูกค้า จะเห็นได้ว่าหมีสีน้ำตาลถูกขังไว้อย่างน่าสงสาร และพยายามเรียกร้องขอความช่วยเหลือ แม้ว่า ‘อาร์มีเนีย’ จะเป็นประเทศที่มีประเพณีการจับหมีเพื่อเลี้ยงดูมาอย่างช้านาน ทว่าการจับหมีสีน้ำตาลออกมาจากแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ และนำมันมาใช้หาผลประโยชน์เช่นนี้ ก็ถูกหลายองค์กรทั่วโลกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่ม IAR จากอังกฤษ ได้ประกาศลดจำนวนหมีที่ถูกนำมาขังในประเทศอาร์มีเนียให้ได้มากที่สุด… “บางตัวถูกขังอยู่ในนั้นมาเกือบทั้งชีวิต ประทังชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารเหลือจนพวกมันมีสภาพร่างกายผอมซูบ” “อีกทั้งพวกมันยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่ไม่มีการระบาย และเหม็นอับ หลายๆ ตัวพยายามหาวิธีปีนหนีออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ” Alan Knight หัวหน้าองค์กร IAR เล่า ซึ่งตอนนี้ทางองค์กรกำลังวางแผนและระดมเงินทุน หวังปลดปล่อยอิสรภาพให้พี่หมีกว่า 80 ชีวิตทั่วทั้งอาร์มีเนีย การจะช่วยเหลือหมีตัวหนึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายรวมแล้วสูงถึง 4,000 ยูโร (ราว 150,000 บาท) ไม่ว่าจะค่าขนส่ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่อยู่พักฟื้น…
-
Daphne คุณยายผู้อุทิศชีวิตช่วย ‘ช้างแอฟริกา’ มาตลอด 40 ปี สานต่อเจตนารมย์ของสามีที่เสียไป
เป็นเวลากว่าหลายปีที่สองสามีภรรยาได้ทำงานเป็นทีมร่วมทุกข์ร่วมสุขเพื่อดูแลเหล่าสัตว์ป่าในประเทศแอฟริกา อีกทั้งยังรณรงค์สร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นว่าการล่าช้างเพื่อเอางานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในปี 1977 หลังจากที่คู่รักได้ย้ายมาอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Nairobi สามีของ ด็อกเตอร์ Dame Daphne Sheldrick ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงสืบสานเจตนารมย์ของผู้เป็นสามีต่อไปด้วยการก่อตั้งมูลนิธิที่มีชื่อว่า David Sheldrick Wildlife Trust ขึ้นมา ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ช่วยดูแลเหล่าลูกช้างป่ากำพร้าแม่ทั้งหลาย จนพวกมันเติบโตสามารถดูแลตัวเองได้จึงจะปล่อยกลับไปสู่ป่าตามเดิม เจ้าลูกช้างบางตัวก็ต้องสูญเสียแม่ของตัวเองเพราะเหยียบกับดัก บางตัวก็ตกลงไปในบ่อน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกฆ่าเพียงเพื่อเอางาไปขายเท่านั้น หากไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์เหล่าลูกช้างตัวน้อยๆ กำพร้าแม่ก็จะต้องตาย เพราะอาหารของพวกมันในช่วง 2 ปี แรกก็คือน้ำนมจากแม่ และต้องใช้เวลาอีก 2 ปีสำหรับการหย่านม และคุณ Daphne ก็เป็นคนแรกที่สามารถคิดค้นและผลิตน้ำนมสูตรเฉพาะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกช้างป่าได้สำเร็จ ซึ่งส่วนประกอบของมันประกอบไปด้วยไขมันในผัก และน้ำมันมะพร้าว ลูกช้างมากมายถูกส่งมายังสถานสงเคราะห์ DSWT (David Sheldrick Wildlife Trust) จากหลากหลายที่ทั่วประเทศแอฟริกา และพวกมันก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วยความรักและความอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ในสถานที่แห่งนี้ เมื่อเหล่าลูกช้างเติบโตและแข็งแรงดี พวกมันก็จะถูกส่งต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo National Park…
-
หนุ่มพบเจ้าอีกัวน่ากลางทะเล 7 กิโลห่างจากฝั่ง เลยพามันขึ้นเรือกลับไปส่งที่เกาะ
เรื่องราวของ Steve หนุ่มนักพายเรือคายัค ที่ล่องเรือออกนอกฝั่งไกลออกไปหลายกิโลฯ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นตัวประหลาดบางอย่าง 4 ขามีลักษณะสีเขียวๆ ใช่แล้ว..!! มันคืออีกัวน่านั่นเอง “มันเป็นอะไรที่บ้ามากเลยครับ ผมล่องเรือมาก็มาก เห็นอีกัวน่าว่ายน้ำตามชายหาดมาก็เยอะ แต่ยังไม่เคยเห็นเจ้าตัวไหนปีกกล้าขาแข็งมาไกลกลางทะเลได้ขนาดนี้มาก่อน” Steve เล่า เอ๊ะ!! นั่นตัวอะไรหว่า….? Steve เล่าว่า ขณะที่เขากำลังล่องเรืออยู่เพลินๆ เขาก็สังเกตเห็นเจ้าอีกัวน่าน้อยสีเขียวมาตะเกียกตะกายบริเวณท้ายเรือ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันต้องการจะไปไหนกันแน่ “เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกัวน่าอยากเดินทางไปที่ไหน ผมเคยดูในสารคดี…. บางทีพวกมันก็ว่ายน้ำจากชายฝั่งสหรัฐฯ ไปโผล่ที่ประเทศคิวบานู้นเลยก็มี” แต่ดูเหมือนว่าทันทีที่เพื่อนเขียวตัวน้อยเห็น Steve มันก็รีบตะเกียกตะกายไต่ขึ้นมาบนเรือ หวังจะเข้ามาทักทายเจ้าของเรือซักหน่อย ทั้งคู่ได้ใช้เวลาดื่มด่ำช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นด้วยกัน เรียกได้ว่าถ้าเป็นชายหนุ่มกับหญิงสาวก็คงมีฉากพลอดรักเกิดขึ้น และทันทีที่เรือแล่นเข้าใกล้ชายฝั่ง เจ้าอีกัวน่าก็ดูเหมือนจะค้นพบจุดหมายใหม่ มันหันหน้ามาบอกลาแล้วกระโดดลงน้ำไปได้อย่างหน้าตาเฉย และแน่นอนว่างานนี้ถูกอกถูกใจชาวเน็ตสุดๆ กับเรื่องราวมิตรภาพข้ามสายพันธุ์ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ “ตัวอย่างดีๆ ที่ว่าเราควรจะปฏิบัติต่อสัตว์โลกอย่างไร” บ้างก็ว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ รู้สึกดีมากจริงๆ พี่สตีฟ และนี่ก็เป็นวิดีโอเรื่องราวทั้งหมดของเขาสตีฟ และน้องเขียวอีกัวน่า… ที่มา:…
-
ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!
สิ่งมีชีวิตเมื่อแรกเกิดมักจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือทุกๆ อย่าง รวมถึงในกรณีนี้ ที่มีแม่ม้ามาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เพราะว่าลูกที่มันเพิ่งคลอดเมื่อคืนหายไปไหนไม่รู้?? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Sao Gabriel do Oeste ประเทศบราซิล เมื่อมีม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Boneca ได้วิ่งรอบทุ่งเลี้ยงสัตว์อย่างผิดปกติ ทำให้เจ้าของมันเริ่มสังเกตว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ เจ้า Boneca วิ่งวุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ อย่างนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เมื่อเจ้าของฟาร์มสังเกตดีๆ ก็พบว่า ท้องที่โย้จากการตั้งครรภ์ของเจ้า Boneca ยุบลงไปแล้ว แสดงว่ามันต้องออกลูกมาแล้วแน่ๆ ว่าแต่ลูกของมันหายไปไหนกันล่ะ? เฮ้ย นี่มันรังมดนี่หว่า พวกเขาจึงระดมคนออกตามหาลูกม้าตัวนี้ว่ามันหายไปไหน ตอนแรกเขาคิดว่าอาจถูกคนขโมยไปแล้ว เพราะถ้ามันตายก็ต้องมีศพอยู่แถวๆ นั้น หลังจากตามหาอยู่พักใหญ่ๆ หนึ่งในทีมค้นหาได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังมาจากใต้พื้นดิน ตอนแรกพวกเขานึกว่าหูฟาด เพราะอะไรมันจะไปอยู่ใต้ดินได้ แต่เมื่อลองฟังดีๆ นั่นมันเสียงลูกม้านี่หว่า พวกเขาจึงพยายามหาต้นเสียงว่ามาจากตรงไหน ในที่สุดพวกเขาก็เจอว่าต้นเสียงมาจากที่ไหน ปรากฎเจ้าม้าน้อยดั๊นตกไปในรังมดขนาดใหญ่ซะอย่างนั้น แหม ก็ว่าหายไปไหน มาช่วยแล้ววววว พวกเขาได้ทำการขยายปากหลุมเพื่อช่วยเจ้าม้าน้อยขึ้นมา และในที่สุดมันก็ได้โผล่ขึ้นมาเจอแม่อีกครั้ง แหม มาถ่ายรูปด้วยกันก่อน แชะ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ช่วยกันขุดลูกม้าขึ้นมา…
-
เมื่อ ‘เจ้าหมึกยักษ์’ จำใบหน้าของคนที่ช่วยมันไว้ได้ วันรุ่งขึ้นมันจึงกลับมาขอบคุณพวกเธอ
แทบทุกคนจะรู้จักสัตว์ที่มีชื่อว่า หมึกยักษ์ กันอยู่ก่อนแล้ว แต่เคยรู้มั้ยว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีความสามารถพิเศษในการจดจำใบหน้าของคนได้ด้วย!! ในปี 2010 ได้มีการทดลองให้ผู้ชายคนหนึ่งไปแหย่มันเล่นเบาๆ และอีกคนหนึ่งไปคอยให้อาหารพวกมัน พอผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้าหมึกยักษ์สามารถจดจำได้ว่าใครเป็นใคร ทำให้มันหนีชายคนแรกและว่ายน้ำเข้าหาชายคนที่สองเท่านั้น หากคุณยังไม่เชื่อว่าพวกมันสามารถจำหน้าเราได้จริงๆ ก็ต้องลองมาดูเหตุการณ์นี้ เมื่อผู้ใช้ยูทูปชื่อว่า Helena ได้โพสต์คลิปบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจที่มีให้กับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งเอาไว้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2014 เธอได้เผยแพร่วิดีโอโดยเล่าว่า “ฉันและเพื่อนได้ไปเที่ยวทะเลแดงในมหาสมุทรอินเดียช่วงวันหยุด ขณะที่เดินเล่นริมชายหาดกันตามลำพังก็เจอกับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งมานอนเกยฝั่งอยู่” พวกเธอไม่แน่ใจว่ามันตายแล้วหรือยัง เลยดันมันลงน้ำเผื่อว่าอาการจะดีขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีมันก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งก่อนจะว่ายจากไป บ๊ายบายนะเจ้าหมึก ในวันต่อมาพวกเธอมาเดินเล่นชายหาดแห่งนี้อีกครั้งและเห็นว่ามีบางอย่างว่ายเข้ามาหาพวกเธอ พอดูดีๆ ทำให้รู้ว่ามันคือเจ้าหมึกยักษ์ตัวเดิมนี่เอง “ฉันรู้เลยว่ามันจำพวกเราได้เพราะมันพยายามเข้ามาแตะตัวฉันและเพื่อน เราเดินไปไหนมันก็จะว่ายตามไปด้วย อยู่กับเรานานกว่าชั่วโมงนึงเลย” เธอได้บอกเอาไว้ในคลิป ไม่ยอมไปไหน อยากจะอยู่กับคนที่ช่วยมันไว้อย่างเดียวเลย คลิปเจ้าหมึกว่ายน้ำกลับมาขอบคุณผู้ช่วยชีวิต พวกเธอเชื่อว่ามันว่ายกลับมาเพื่อขอบคุณที่ได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้แน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่ามันจะฉลาดขนาดนี้ สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Kurt และตั้งใจที่จะไม่กินหมึกยักษ์อีกต่อไป ทำตัวน่ารักซะขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่เธอคงจะกินเพื่อนๆ มันไม่ลงละนะ ก็น่ารักซะขนาดนี้ ใครจะไปใจจืดใจดำกินพวกมันได้ลงคอ…
-
ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว
การช่วยเหลือเราสามารถลงมือทำได้ในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับชายคนนี้ที่เขาเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ มากกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Warren Padgette กำลังขับรถกลับบ้านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวอชิงตัน เขาได้สังเกตเห็นว่ารถคันข้างหน้าเหมือนกับหักเลี้ยวหลบอะไรบางอย่างบนถนน หนุ่มอเมริกันที่ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองไม่คาดคิด ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามเพ่งมองดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเขาก็ได้เห็นเจ้าไก่ในสภาพอิดโรยที่คาดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังจะพามันไปโรงเชือด แทนที่เขาจะขับหลบและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาตัดสินใจจอดรถและลงไปอุ้มมันขึ้นมาขณะที่เจ้าไก่หันมองและกระพริบตาให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอุ้มมันไปไว้ตรงเบาะหลังพามันกลับบ้านไปด้วยกัน เขาไม่สามารถปล่อยมันผ่านไปได้เขาจึงรีบลงไปอุ้มมันขึ้นมาทันที เขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Lucky เพราะมันเป็นเจ้าไก่ที่โชคดีรอดมาจาการถูกเชือดได้ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมันก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ตอนนั้นแค่จะยืนด้วยขาของตัวเองมันก็ทำไม่ได้เพราะหน้าอกมีน้ำหนักมากกว่าปกติจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาให้โตเร็วเกินไปเพื่อทำให้ได้เนื้อเยอะๆ ร่างกายของมันผ่านการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ไม่สามารถยืนได้เอง ชายหนุ่มรีบรักษาพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่มันอย่างเต็มที่ สร้างบ้านเล็กๆ เอาไว้ให้ที่สวนหลังบ้านและไปหาลูกเจี๊ยบมาอยู่ด้วยเพื่อให้เจ้าไก่ได้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง รวมถึงแพะที่เขาหามาเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ให้กับมัน ขั้นแรกอาบน้ำให้มันสดชื่นขึ้น บ้านหลังเล็กที่มันจะได้อยู่อย่างเป็นสุขนับจากนี้ไป ด้วยความรักความเอาใจใส่จนทำให้ตอนนี้เจ้า Lucky ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาไปแล้ว มันจะชอบมาเกาะอยู่ที่ไหล่หรือเดินตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาอยู่เสมอ กลายเป็นเพื่อนซี้ที่จะไม่ทิ้งกัน Warren บอกว่า “เจ้า Lucky เข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่ผมเคยเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ จนตอนนี้เวลาที่ผมเห็นรถบรรทุกที่กำลังพาไก่มากมายไปโรงเชือด ผมรู้สึกต้องการช่วยพวกมันทุกตัวเลยจริงๆ ” คลิปเรื่องราวของเจ้าไก่ Lucky…
-
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เตรียมฝึก ‘อีกา’ คาบบุหรี่ เพื่อแก้ปัญหาก้นบุหรี่เกลื่อนเมือง
สิงห์อมควันบางคนเวลาที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วก็ทิ้งก้นลงบนพื้นจนเป็นความเคยชิน จนทำให้มองไปทางไหนก็จะมีแต่ก้นบุหรี่เกลื่อนพื้นเต็มไปหมดเช่นเดียวกับเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่พวกเขาได้หาแนวทางการแก้ปัญหานี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้นักออกแบบ Ruben van der Vleuten และ Bob Spikman ได้คิดค้นหุ่นยนต์เก็บก้นบุหรี่ออกมาให้ได้เห็น แต่สุดท้ายโปรเจคท์นี้ก็ต้องสลายไปเพราะไม่สามารถตั้งโปรแกรมให้มันหลบคนเดินผ่านไปมาได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมและได้ไอเดียใหม่ออกมาโดยการใช้สัตว์ที่เราเห็นได้ทั่วไปในเมืองอย่างนกกระจอกหรือนกพิราบ แต่พวกมันก็ติดที่มีสติปัญญาที่น้อยทำให้ฝึกยาก จนกระทั่งเขาไปเจอกับสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่มีความฉลาดเอามากๆ นั่นก็คือ อีกา อีกาถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่มีความฉลาดมากที่สุดในโลก พวกมันสามารถเรียนรู้จากการสังเกตหรือวางแผนใช้เครื่องมือได้และยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไปอีกต่างหาก ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับงานนี้ นอกจากนั้นตัวช่วยของพวกเขาที่ทำให้แผนออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดก็คือเครื่องมือที่มีชื่อว่า Crow Box จากความคิดของ Joshua Klein เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ฝึกอีกาให้ไปคาบเงินมาแลกกับอาหาร เพราะฉะนั้นเพียงแค่เปลี่ยนจากเงินให้กลายเป็นก้นบุหรี่แทนเท่านี้ก็เรียบร้อย จากนั้นทั้งสามก็ได้เริ่มฝึกอีกาไปตาม 4 ขั้นตอนที่ Joshua ได้คิดเอาไว้ ขั้นตอนแรกคือทำให้พวกมันเห็นว่ามีอาหารและก้นบุหรี่วางอยู่บนถาดในเครื่องมือเพื่อให้มันจดจำความเชื่อมโยงของทั้งสองสิ่ง ขั้นตอนต่อมาคือปล่อยอาหารลงมาจากเครื่องทุกครั้งที่อีกาบินกลับมาเพื่อให้มันรู้ว่าอุปกรณ์นี้เอาอาหารมาให้มันได้ ขั้นตอนที่สามคือวางก้นบุหรี่ทิ้งไว้บนถาดเครื่องมือเพียงอย่างเดียว เมื่อพวกมันไม่เห็นว่ามีอาหารอยู่มันก็จะเริ่มโวยวายก่อนที่จะดันก้นบุหรี่ลงไปในเครื่องทำให้อาหารหล่นลงมาและพวกมันก็จะเริ่มเข้าใจได้ ขั้นตอนสุดท้ายจะให้คนมายืนสูบและทิ้งก้นบุหรี่เอาไว้ใกล้ๆ กับเครื่องมือ เหล่าอีกาทั้งหลายที่ผ่านการเรียนรู้มาทั้งหมดก็จะมาหยิบก้นบุหรี่มาแลกอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้พวกมันก็พร้อมออกไปเก็บก้นบุหรี่จากด้านนอกกลับมาได้แล้ว ถึงแม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมใช้งานได้จริงแต่ก็มีคำถามที่ว่าแล้วการให้อีกาไปคาบก้นบุหรี่จะไม่ส่งผลเสียกับสุขภาพของพวกมันหรือ? คำถามนั้นผู้คิดค้นได้ให้คำตอบไว้ว่า “อีกาจะคาบแค่ส่วนปลายๆ ทำให้มีโอกาสเกิดผลกระทบน้อยที่สุดรวมถึงการควบคุมจำนวนอีกาในแต่ละจุดที่จะนำเครื่องมือไปตั้งไว้ให้มีจำนวนไม่มาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกผมจะยังคงศึกษาเรื่องผลกระทบกันต่อไปเพราะหากพบผลเสียที่เกิดขึ้นกับพวกมัน เราจะเปลี่ยนวิธีทันที”…
-
หมีน้อยตกน้ำป๋อมแป๋ม โชคดีเจอมนุษย์รัสเซีย พายเรือผ่านมาช่วยไว้ได้ทัน..!!
อีกเรื่องราวน่ารักๆ จากฝั่งรัสเซีย ที่จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า… บ้านเมืองเค้าก็ไม่ได้มีแต่เรื่องโหดสัสอย่างเดียวนะ!! โดยเมื่อช่วงเดือนก่อน Ruslan Lukanin หนุ่มนักตกปลาชาวมอสโคว และเพื่อนซี้ของเขา ได้ออกไปล่องเรือตกปลาที่บริเวณกลางแม่น้ำแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งชิลรอปลากินเหยื่อ จู่ๆ ก็ไปเจอหมีน้อยที่ไม่มีใครรู้ว่ามาอยู่กลางแม่น้ำได้ยังไง!? ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าลูกหมีตัวน้อยดูท่าทางยังไม่แข็งแรงพอที่จะว่ายน้ำได้ พวกเขาเห็นทีท่าเริ่มไม่ค่อยดีจึงรีบช่วยกันพยุงมันขึ้นมาบนเรือ ด้วยสภาพที่ดูอิดโรยของทั้งคู่จึงใช้ตาข่ายช่วยกันพยุงมันขึ้นมาจนสำเร็จ “ใจเย็นๆ นะเจ้าหมีน้อย เอ็งนอนพักตรงนี้ก่อนนะ ตอนนี้เอ็งปลอดภัยแล้วไม่ต้องห่วงๆ” Ruslan กล่าวในคลิปวิดีโอ “เฮ้ย.. แล้วแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไม่กัดเรา” เพื่อนอีกคนเอ่ยถาม “ไม่หรอกน่า มันก็แค่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดแค่นั้นเอง มันไม่ได้ตั้งใจมาทำร้ายเราหรอก” Ruslan ตอบกลับ หลังจากช่วยกันพยุงตัวมันขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ต้องล้มเลิกทริปตกปลาแต่เปลี่ยนเป็นพาเจ้าหมีไปหาเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์แทน “เราช่วยมันขึ้นมาจากนั้นก็พามันขึ้นฝั่ง เราคิดว่ามันน่าจะพลัดพรากจากแม่ของมันมาเพราะดูมันยังเด็กอยู่มากๆ ถือว่าโชคดีนะที่เราผ่านไปเจอพอดี เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าหมีน้อยอาจจมน้ำตายได้เลย” Ruslan ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น และนี่คือคลิปวิดีโอวินาทีสุดซาบซึ้ง ที่เจ้าหมีได้รับการช่วยเหลือจากชาวรัสเซียใจดี ที่มา: insipremore
-
ทีมช่วยเหลือใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ช่วยเหลือวาฬเพชฌฆาตที่ติดอยู่บนโขดหินได้สำเร็จ!!
ภาพจากกล้องของทีมช่วยเหลือ เผยให้เห็นถึงวินาทีที่พวกเขากำลังช่วยชีวิตเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งที่กำลังติดอยู่บนโขดหนึ่ง ในชายหาด Hartley Bay ในช่วงเช้าวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคมปีท่าผ่านมา ทีมวิจัยวาฬเพชฌฆาตในพื้นในชายฝั่ง British Columbia ได้ยินเสียงดังประหลาดดังมาจากโขดหินใกล้ๆ และเมื่อเข้าไปสำรวจดูพวกเขาก็พบว่าเจ้าวาฬเพชฌฆาตหนักราวๆ 4-5 ตันตัวหนึ่งกำลังนอนเกยติ้นอยู่บนโขดหินนั้น เจ้าวาฬที่กำลังติดอยู่ในโขดหิน ทีมสำรวจคาดว่าสาเหตุที่เจ้าวาฬเพศเมียตัวดังกล่าวขึ้นมาติดอยู่บนโขดหินนั้น อาจเป็นเพราะมันเข้าไปว่าอยู่ใกล้ๆ กับเรือล่าแมวน้ำก็เป็นได้ และจากนั้นพวกเขาได้ทำการขอความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์ และทันใดนั้นคุณ Hermann Meuter นักวิจัยวาฬและผู้ก่อตั้ง Cetacean Lab มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ทะเล พร้อมกับอาสาสมัครก็มาถึงที่โขดหินนั้น เขาและทีมช่วยเหลือได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ใช้เจ้าวาฬขาดน้ำและเป็นอันตราย และรอจนกว่าน้ำระดับน้ำจะสูงขึ้นจนมันสามารถว่ายออกจากโขดหินนั้นไปได้เอง “ในตอนแรกเจ้าวาฬเพศเมียตัวนั้นดูเครียดมาก เธอหายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย” คุณ Hermann กล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าวาฬก็เริ่มมีอาการเครียดมากขึ้น ทางทีมช่วยเหลือจึงจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุด “ในตอนแรกมีแค่ผมและวาฬตัวนั้น ตลอด 2 ชั่วโมงแรกผมพยายามทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและไม่เครียด” ชายหนุ่มกล่าว ตลอดระยะเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือได้นำผ้ามาคลุมเจ้าวาฬ และใช้สายยางพร้อมกับถังตักน้ำรดลงที่ตัวมันเพื่อให้ความชุมชื้นและรอจนกว่าน้ำจะขึ้นอีกครั้ง และแล้วความพยายามของพวกเขาก็เป็นผลสำเร็จ เมื่อระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น เจ้าวาฬก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากโขดหินได้ที่ละนิด ทีละนิด จนในที่สุดมันก็สามารถกลับสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย ชมการช่วยเหลือเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา inspiremore
-
อุทาหรณ์!! เจ้ามนุษย์คิดลองของ เจอเหมียวเอาจริง จนต้องเปิดบ้านรับไปเลี้ยงในที่สุด
ใครที่คิดจะลองของกับแก๊งค์แมวเหมียว เราขอบอกเลยว่านี่คืออุทาหรณ์ที่จะทำให้คุณสะพรึงกับพลังอำนาจของพวกมัน เมี๊ยววว~ สงสัยจะเป็นจริงดั่งสุภาษิตโบราณที่ว่า “คุณไม่ได้เลือกแมว… แต่แมวจะเลือกคุณ!!” เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตคนหนึ่งคิดริอาจลองดี และได้รับบทเรียนไปในที่สุด ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ ทุกอย่างเงียบสงัดและมืดสนิท ไร้ซึ่งวี่แววใดๆ ของสิ่งมีชีวิตที่อาจจะคืบคลานเข้ามายังบริเวณบ้านของชาวเน็ตหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า PotatoWasteland เสี้ยววินาทีจังหวะที่เขาจะก้าวขาขวาขึ้นรถ เขาก็เหลือบไปสังเกตเห็นกล่องลังกระดาษปริศนาที่จู่ๆ ก็มาปรากฎอยู่ใกล้ๆ กับตัวเขา พร้อมกับแสงจากแววตาที่สะท้อนออกมาจากความมืดมิดออกมาราวกับว่าเป็นดวงตาของอสูรกายบางอย่างที่แฝงตัวอยู่ “ผมไม่เคยเจอแมวไหนขี้อ้อนขนาดนี้มาก่อน… ผมยอมแพ้ให้กับมันเลยครับ” เจ้าของเรื่องเล่า เขารู้ดีว่าถ้าในตอนนั้นตัวเองไม่ช่วยดูแลแมวเหมียวให้รอดพ้นจากค่ำคืนอันหนาวเหน็บ ในอนาคตเขาอาจจะต้องพบเจอกับชะตาชีวิตที่แสนยากลำบากราวกับถูกพระเจ้าลงโทษ “เช้าวันต่อมาผมพาเจ้าเหมียวไปที่ศูนย์พักพิงเผื่อว่ามันอาจจะเป็นแมวใครซักคนที่หลงมา และก็พบว่าเธอเป็นแมวจรจัด ผมจึงขอเธอมาเลี้ยงไว้ ผมคิดว่าจะตั้งชื่อให้มันว่า…. เจ้าบิสกิต” ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวจะมีพลังวิเศษสามารถเอาชนะใจพ่อหนุ่มคนนี้ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาถึงกับยอมเก็บเงินค่าเหล้าค่าเบียร์ที่แพลนว่าจะออกไปปาร์ตี้หาเต๊าะสาวกับเพื่อนๆ และนำมาใช้เป็นค่าอาหารรวมถึงค่ารักษาพยาบาลแทน และดูเหมือนว่าเจ้าบิสกิตจะรู้หน้าที่ของตัวเองดีมาก เพราะหลังจากได้รับการอุปการะแล้ว… มันก็ไม่ทำอะไรอีกเลยนอกจากนอน กิน นอน กิน นอน และก็กิน แป่ววว ถือเป็นอีกเรื่องน่ารักๆ ที่กำลังเป็นที่ซุบซิบกันในวงการแมวโลกละกันเนาะ พวกมะนุ๊ดนี่ใจอ่อนจริงจริ๊งง!! ที่มา: Lovemeow
-
พ่อพระของเหล่าสุนัข ผู้ช่วยเหลือพวกมันมาแล้วกว่า 700 ตัว ตลอดระยะเวลา 8 ปี
สุนัขจรจัดสามารถพบเห็นได้ทั่วไปและยังคงมีอยู่ในทุกประเทศซึ่งน้อยครั้งที่จะเห็นว่าพวกมันได้รับการช่วยเหลือหรือถูกเก็บไปเลี้ยง เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลที่พามันกลับไปด้วยไม่ได้กันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มชาวจีนชื่อ Zhou Yusong ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเจิ้งโจว และเปรียบได้กับ “พ่อพระของเหล่าสุนัข” คอยช่วยเหลือพาพวกมันกลับไปดูแลตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ด้วยระยะเวลาอันยาวนานหากลองนับดูพบว่าเขาได้ช่วยน้องหมาจรจัดไปมากกว่า 700 ตัวแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าถ้าเดินไปในเมืองที่เขาอาศัยอยู่เราคงจะแทบไม่เห็นพวกมันมาอยู่ตามท้องถนนแน่ๆ เห็นอาหารละมากันไวเลยนะ จุดเริ่มต้นมาจากในปี 2008 ที่เขาไปเจอน้องหมานอนบาดเจ็บคล้ายกับถูกรถชนอยู่ข้างถนนโดยไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย ยกเว้นชายคนนี้ที่รีบพามันไปโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที ในตอนนั้นเขามีเพียงอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ จึงคิดว่าถ้าจะพามันกลับไปอยู่ด้วยคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เลยตัดสินใจพามันไปไว้ที่สถานรับเลี้ยงดูสุนัขแทน แต่เมื่อไปถึงเขาก็รู้สึกตกใจกับจำนวนที่ของหมาจรจัดที่มีอยู่แล้วเยอะมาก จากนั้นมาเขาจะบริจาคเงินให้กับสถานรับเลี้ยงดูเป็นเงินประมาณ 1,000 บาททุกเดือนสำหรับค่าอาหารและค่ารักษาของเหล่าสุนัข ตัวไหนไม่อิ่มก็กินเข้าไปเยอะๆ ได้เลย แต่เขาก็คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันยังไม่เพียงพอจึงไปชวนเพื่อนคนหนึ่งลงทุนเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือสุนัขจรจัดขึ้นมาเอง จากงบประมาณกว่า 4 ล้านบาทสิ่งที่เขาต้องการก็กลายเป็นจริง ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำฮวงโห หลังจากนั้นเขาก็ลาออกจากงานเพื่อให้สามารถมาดูแลเหล่าสุนัขได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงปัจจุบันเขาไม่หยุดพักเลยแม้แต่วันเดียว ระยะเวลาเกือบ 3,000 วันที่เขาต้องดูแลน้องหมาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยหรือท้อถอยกับสิ่งที่ได้ทำอยู่เลย นอกจากนั้นเขายังประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการทำทุกอย่างด้วยเองเช่นซ่อมกรงหรืองานทำความสะอาดทุกอย่าง ลงงานทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ชายผู้ทำงานหนักคนนี้แม้ว่าจะมีสิ่งที่ต้องให้ทำเยอะแค่ไหนแต่เขาก็จะหาเวลาสำหรับการอยู่ร่วมกันระหว่างตัวเองกับเหล่าสุนัข เล่นกับพวกมันหรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็จะลูบหัวมันเบาๆ เพื่อสื่อให้น้องหมารู้ว่าเขารักพวกมันมากขนาดไหน งานหนักเพียงใด เขาก็ไม่ลืมที่จะให้ความรักกับพวกมัน …
-
ซานฟรานซิสโกสั่งหยุดรถไฟทุกขบวนในเมือง เพื่อช่วยเหลือ “เจ้าหมา” ที่พลัดตกลงไปในรางรถไฟ
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560 เว็บไซต์ The Dodo มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันพุธ (27 กันยายน 2560) ที่ผ่านมา ผู้ใช้รถใช้ถนนรวมถึงผู้ที่ต้องเดินทางโดยรถไฟของสถานี BART ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องประสบกับความล่าช้าในระหว่างการเดินทาง หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจหยุดรถไฟทุกขบวนทั่วเมือง เพื่อช่วยชีวิตเจ้าหมาตัวหนึ่งที่ดันพลัดตกลงไปในราง จากการรายงานระบุว่าหลังเวลา 8 โมงเช้า ทางด้านบัญชีทวิตเตอร์ของสถานี BART ก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวดังกล่าวที่กำลังสร้างความปั่นป่วนใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Coliseum ในโอกแลนด์ โดยในขณะนั้นไม่มีใครรู้ว่าเจ้าสุนัขตัวนี้ได้อยู่บริเวณรางรถไฟ แถมมันก็ไม่ยอมไหนอีกด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ในขณะที่อีกหลายๆ คนก็ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงความปลอดภัยของเจ้าหมา พร้อมโพสต์ภาพถ่ายของมันผ่านทางทวิตเตอร์กันอย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม ทางสถานี BART ก็มั่นใจว่าบรรดาผู้โดยสารที่อยู่ในเหตุการณ์ จะพยายามช่วยกันจับสุนัขตัวดังกล่าวให้ขึ้นมาจากรางรถไฟได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ก็ตาม สุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยเหลือเจ้าหมาขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ส่งตัวมันไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Oakland Animal Services…
-
เรื่องราวของเจ้าพิตบูล ที่ชื่นชอบแมวเหมียวสุดๆ จนสุดท้ายฝันที่ได้ครอบครองแมวก็เป็นจริง
เมื่อพูดถึง “พิตบูล” หลายคนอาจจะจินตนาการว่ามันเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย เพราะจากที่ผ่านๆ มาเรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์นี้ทำร้ายผู้คนถึงขั้นเสียชีวิตมาแล้ว แต่จะไปเหมารวมพิตบูลทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยก็มีเจ้าพิตบูลบางตัว ที่มีนิสัยน่ารัก และอ่อนโยน แถมยังหลงใหลสัตว์ต่างสายพันธุ์อย่างแมวเหมียวมากๆ อีกด้วย พิตบูลที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่าเจ้า Ozzy เจ้าหมาพิตบูลที่ชื่นชอบเจ้าเหมียวที่สุด ซึ่งหลังจากที่ผ่านมาหลายปี มันก็ได้สิ่งที่ต้องการอยู่เสมอนั่นคือ มีลูกแมวน้อยที่รักมัน และมันก็ได้เลียตัวของเจ้าเหมียวสมใจอยากสักที สำหรับ Ozzy มันได้อยู่ภายใต้ความดูแลของครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยครอบครัวประกอบไปด้วยลูกๆ 3 คน ผู้ใหญ่ 2 คน และเจ้าแมวชื่อ Norm เป็นเวลาหลายปีเหลือเกินที่เจ้า Ozzy ได้ตกหลุมรัก Norm เจ้าเหมียวน้อยสุดคิ้วท์ ที่ในตอนแรกมันแทบจะไม่สนใจ Ozzy เลย ซึ่งเจ้าหมาก็พยายามที่จะเอาชนะใจแมวน้อยให้ได้เวลาจะใช้เวลานานหลายวันก็ตาม นอกจาก Norm แล้ว เจ้าหมา Ozzy ยังชื่นชอบลูกชายวัย 5 ขวบของ Jennifer Lajeniss…
-
ชาวเน็ตชื่นชม เจ้าบ่าวสวมบทฮีโร่ กระโดดช่วยเด็กจมน้ำทั้งชุดสูท ในวันแต่งงานของเขาเอง
อุบัติเหตุคือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยที่เราไม่อาจรู้มาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เหมือนกับที่เด็กน้อยคนหนึ่งต้องเจอกับอุบัติเหตุที่อาจพรากชีวิตของเขาไป แต่โชคดีที่มีฮีโร่หนุ่มเข้ามาช่วยไว้ทัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองคิตเชเนอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูปหลังจบพิธีแต่งงานไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ระหว่างนั้นก็มีเด็กตกลงไปในบ่อน้ำใกล้ๆ Clayton Cook ผู้เป็นเจ้าบ่าวและผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก จึงรีบลงไปช่วยในทันที ขณะที่เจ้าสาว Brittany ยังคงงงอยู่ว่าเขาลงไปในน้ำทำไม ฝ่ายชายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนั้นเด็กน้อยหัวจมลงไปในน้ำแล้ว และพยายามตะเกียกตะกายอย่างหนัก โชคดีที่เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จึงทำให้ผมสามารถอุ้มเขาขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย” หลังจากนั้นเด็กน้อยก็ได้กลับไปพร้อมกับพี่ชายที่มารับและไม่ได้พูดอะไรกับทั้งคู่เลย ต่อมาทั้งสองก็ได้พูดคุยกับเด็กอีกสองคน โดยพวกเขาบอกว่ากำลังเล่นกับเด็กคนนั้นอยู่ จนเผลอผลักตกน้ำไป ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นความไม่ตั้งใจหรือกลั่นแกล้งกันแน่ สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างได้ถูกจับภาพไว้ จากฝีมือของตากล้องที่มาถ่ายรูปแต่งงานให้กับพวกเขา Darren Hatt และได้ทำการเผยแพร่สู่โลกโซเชียล ทำให้ฮีโร่หนุ่มของเรื่องได้รับคำชมจากชาวเน็ตมากมาย และมีการแชร์ต่อกันไปอย่างล้นหลาม โพสต์เล่าเรื่องราวของเขา ที่มีคนแชร์ไปเกือบพันครั้งในตอนนี้… ภรรยาของเขายังบอกอีกว่า เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเลย เพราะสิ่งที่เขาได้ทำคือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอดอยู่แล้ว นับว่าเธอเป็นเจ้าสาวที่โชคดีไม่น้อยเลยจริงๆ สิ่งที่ชายคนนี้ได้ทำนอกจากจะเป็นการช่วยให้เด็กน้อยมีชีวิตรอดแล้ว เขายังถือว่าเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจที่ดี ที่จะทำให้ทุกคนช่วยเหลือกัน และทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ที่มา: theloop
-
ผู้กล้าหนุ่มพบแมวหลงติดอยู่กลางบึง แถมส่งสายตาอ้อนแบบนี้ จะอดใจไม่ช่วยได้ยังไง…
เฮอร์ริเคน Harvey ได้สร้างความเสียหายเอาไว้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ในเท็กซัส แต่ยังกระจายไปถึงรัฐลุยเซียนาอีกด้วย ที่ถึงแม้ว่าจะลดลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ก็ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมไม่ต่างกัน เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Randall Kolb คนของกลุ่มที่คอยช่วยเหลือแมวทั้งหลาย ได้รับแจ้งจากบ้านพักสำหรับสัตว์ที่ชื่อ CARA ว่า นักส่องนกท่านหนึ่งพบเห็นแมวติดอยู่กลางบึง และต้องการให้เขาไปช่วย เมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงหยิบเครื่องมือต่างๆ ทีจำเป็นและรีบออกไปพร้อมกับภรรยาของเขา ด้วยความรวดเร็ว เพราะเป็นห่วงว่าแมวตัวนั้นจะเป็นอะไรไปซะก่อน ในเมื่อหากลองสันนิษฐานดู แมวตัวนี้ต้องติดอยู่ตรงนั้นมาอย่างต่ำ 4 วัน จากปัญหาฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วม หรือไม่แน่ว่ามันอาจมากกว่านั้นก็ได้ เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าว เขาและ Judy ภรรยา ก็พยายามตามหาเจ้าเหมียว จากรูปที่ถูกถ่ายโดยนักส่องนกคนนั้น พวกเขาพยายามเรียกหามัน จนผ่านไปไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา แต่ถึงแม้ว่ามันจะส่งเสียงร้องให้ได้ยินแล้ว แต่ด้วยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย ที่รายล้อมไปด้วยน้ำเต็มไปหมด จึงทำให้ยากต่อการรับรู้ว่า เสียงของมันดังมาจากทางไหนกันแน่ เขาจึงตัดสินใจควักเอากล้องส่องทางไกลมาเป็นตัวช่วย และในที่สุดก็พบเจ้าเหมียว ที่ยืนอยู่บนตอไม้ ขยับไปไหนไม่ได้เพราะว่าที่ตรงนั้นสูงเหนือน้ำเพียงแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น พวกเขาไม่มีเรืออะไรเลยที่จะสามารถพายข้ามไปได้ Randall จึงตัดสินใจเดินลุยน้ำไปหามัน พร้อมกับท่อนไม้ที่ใช้ในการทรงตัว และป้องกันอันตรายจากงูหรือจระเข้ที่อาจโผล่มา และตอนที่เดินลงไป เขาก็รู้ได้เลยว่าน้ำลึกมาก…
-
ชายหนุ่มไปกินข้าวหน้าเป็ดเฉยๆ ดั๊นเจอ “ห่าน” ที่ร้านเตรียมเชือด ได้ไถ่ชีวิตมาเลี้ยงซะเลย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่สุดแสนจะประทับใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหมาแมวจรจัดจากศูนย์พักพิง ให้กลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้งในบ้านหลังใหม่ และในครั้งนี้ก็ถึงคิวของ “เจ้าห่าน” ตัวหนึ่ง ที่สุดแสนจะโชคดี หลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือก่อนที่จะถูกส่งไปเชือด เพื่อเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ ทางด้านคุณ Manuschai Jenkittiwattana ผู้ที่ได้ช่วยเหลือห่านตัวนี้ ได้ออกมาแชร์ภาพพร้อมเรื่องราวของมันในเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า.. ในวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังนั่งรับประทานข้าวหน้าเป็ดในร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องของห่านดังขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เขารีบวางช้อน แล้วเดินออกไปดูบริเวณข้างร้านทันที และสิ่งที่เขาได้พบก็คือ เจ้าห่านที่อยู่ในกรงตัวนี้… ภายหลังจากที่พบเจ้าห่าน คุณ Manuschai ก็ได้เข้าไปสอบถามเจ้าของร้าน และพบว่า เจ้าห่านตัวนี้กำลังจะถูกนำไปเชือดขาย “ผมจะเข้าไปลูบหัวมัน เพื่อเช็คดูว่ามันดุไหม ซึ่งมันก็ขู่ฟ่อๆ ใส่ทันที จึงทำให้ผมไม่ได้ช่วยมัน(ในตอนแรก) แต่ด้วยความคาใจเลยทำให้ผมต้องขับรถกลับมาดูอีกครั้ง และพบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกมัดขาเอาไว้ พอเข้าไปถามพนักงานในร้านอาหารว่ามันจิกกัดไหม เขาก็ตอบกลับมาว่ามันกัด แต่ผมก็ยังอยากจะช่วยมัน และยอมเจ็บ เลยตัดสินใจดึงเชือกเข้ามา แล้วค่อยๆ ลูบหัวจากด้านหลัง ซึ่งมันก็ไม่ได้จิกกัดผม แถมยังให้ผมลูบหัว…
-
19 ภาพแสดงให้เห็นความดีงามในตัวมนุษย์ ที่แม้โลกมันจะโหดร้าย แต่ก็ยังคงสวยงาม
โลกของเราอาจไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเสมอไป อย่างที่เราได้เห็นในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติ และข่าวของโศกนาฏกรรมที่มีอยู่ทุกวัน บางคนอาจกำลังคิดว่า โลกเรามันช่างโหดร้าย และทุกอย่างก็น่ากลัวเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อยากให้คุณลืมว่า ภายใต้สิ่งแย่ๆ เหล่านั้น ก็ยังคงมีความประทับใจอีกมากที่ซ่อนอยู่ ช่วยตอกย้ำให้เข้าใจว่า การมีชีวิตอยู่บนที่แห่งนี้ มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความหดหู่ไปซะทีเดียว ภาพของพวกเขาเหล่านี้ จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปพร้อมรอยยิ้ม ชายแก่คนหนึ่งกำลังตัดหญ้าอยู่ก่อนที่โรคหัวใจจะกำเริบ และได้นักผจญเพลิงเหล่านี้เข้ามาช่วยไว้ทัน อีกทั้งพวกเขายังช่วยให้งานของชายคนนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี ตำรวจหนุ่มคนนี้ลงแรงทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเฮอร์ริเคน Harvey ในเท็กซัส โดยที่เขาไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งสลบไปเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายชั่วโมง ป้ายเตือนในแอฟริกาใต้ ช่วยให้คนพิการสามารถมีที่จอด ไม่มีใครกล้ามาแย่งที่พวกเขาอีก ช่างตัดผมชื่อว่า Mark Bustos ใช้เวลาในวันหยุดของเขา มาตัดผมให้กับคนไร้บ้านทั้งหลายแบบฟรีๆ เป็นพนักงานที่ใส่ใจกับงานตัวเองมากๆ เมื่อเขาได้นำกล่องเครื่องดื่มในร้านมาเรียงต่อกันเป็นรูปตุ๊กตาหิมะ สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้อย่างดี ในช่วงคริสมาสต์ เธอคนนี้ใช้เวลา 3 ปีไปกับการทำงานในบ้านพักสำหรับน้องหมา และดูแลเจ้าตัวนี้มานานถึง 6 เดือน ก่อนที่เธอจะได้งานใหม่ แต่ต้องบอกว่าเธอทำงานที่นี่ได้ดีมากแน่ๆ เพราะเมื่อเธอกลับมาหลังจากหายไป 3 สัปดาห์ เจ้าสุนัขก็ดีใจออกนอกหน้าซะขนาดนี้เลย …
-
นักเรียนมัธยมพากันแปะ “โพสต์อิทให้กำลังใจ” ไปทั่วโรงเรียน หลังเกิดเหตุเด็กฆ่าตัวตาย
การฆ่าตัวตายอาจเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเราก็คงไม่อยากให้มีใครต้องจากไปโดยที่ยังไม่ได้เตรียมใจเอาไว้หรอก เหมือนกับโรงเรียนมัธยม Walnut Hills ในสหรัฐอเมริกา ที่มีเด็กในโรงเรียนเพิ่งฆ่าตัวตายไปในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งโรงเรียนต่างเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะหดหู่กันไปซะหมด เพราะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก นักเรียนจึงมีชมรมชื่อว่า Be Happy ขึ้นมา ไล่แปะกระดาษโพสต์อิทไปทั่วโรงเรียน เพื่อให้กำลังใจทุกคนและเป็นการรำลึกถึงผู้ที่จากไป ล็อกเกอร์ของเด็กที่ตายไป นักเรียนที่เดินผ่านไปมาช่วยกันแปะโพสต์อิทเพื่อรำลึกถึงเขาคนนั้น มีการตกแต่งล็อกเกอร์ไปในบางส่วน ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยนักเรียนคนหนึ่ง และนำมาโพสต์ไว้ในโซเชียลมีเดีย เหตุผลที่ภาพเหล่านี้ออกจะเบลอๆ หน่อย เพราะว่าเขาถ่ายเอาไว้ขณะที่กำลังเดินไปเรียน โพสต์อิทยังคงมีแปะอยู่ในทุกที่ . Walnut(ชื่อโรงเรียน) ยังคงต้องการคุณ จงเข้มแข็งเข้าไว้ จากโพสต์ของเขาก็เกิดเป็นกระแสชาวเน็ตมากมาย เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงการกระทำดังกล่าวนี้ “นี่คงเป็นเรื่องที่สายเกินไปหน่อยว่ามั้ย? เพราะหากว่าคนในโรงเรียนสนับสนุนกันอย่างนี้ตั้งแต่แรก เขาคนนั้นอาจยังมีชีวิตอยู่ก็ได้” “การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นนี้ ฉันหวังว่าคำพูดเหล่านี้ที่คุณมอบให้กันและกัน จะช่วยให้ใครคนหนึ่งพบกับวันที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าการจากไปของเขาช่วยให้เกิดผลกระทบที่ดีได้ยาก แต่ก็จงคิดในแง่บวกกันเข้าไว้นะ!!” “เรื่องราวนี้เป็นการให้กำลังใจที่ดีมาก ในตอนที่ฉันอายุเท่าคุณ ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวฉันเองหดหู่และปลีกตัวออกมาจากสังคม ไม่มีใครพูดอะไรหรือแม้แต้รับรู้ได้เลย และฉันก็เคยเป็นเด็กที่คิดว่าตัวเองแย่และแตกต่างกับคนอื่นมาก่อน สู้ต่อไปนะ พวกคุณทำในสิ่งที่ยอดเยียมมากๆ แล้ว”…
-
เจ้าหมาที่ถูกขังในห้องใต้ดิน ตอนนี้มีหนุ่มหล่อมารับไปเลี้ยง แถมยังพาออกผจญภัยด้วย
สุนัขหลายตัวเกิดมาโชคดีที่ได้อาศัยอยู่กับเจ้าของที่รัก และเมตตามันอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันสุนัขบางตัวต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกรังแก และถูกคุมขังเป็นเวลานานหลายปี Penni เป็นชื่อของเจ้าหมาตัวหนึ่ง ที่ได้รับความทุกข์ทรมานทั้งทางกาย และทางใจ หลังจากที่มันถูกคุมขังอยู่ในห้องใต้ดินมาตลอดครึ่งชีวิตที่เหลือ มิหนำซ้ำเจ้าหมายังถูกเจ้าของเดิมทำทารุณกรรมทุกวัน จนร่างกายของมันบอบช้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตที่ดำมืดก็พบกับความสดใส เมื่อ Penni ได้พบกับ Blaine DeLuca เจ้า Penni ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสัตว์ และก็เป็นโชคดีของมันเหลือเกินที่ DeLuca กำลังมองหาสุนัขหนึ่งเพื่อเอามาเป็นเพื่อนคู่ใจ และเมื่อเขาได้เห็นเจ้าหมา DeLuca ก็พร้อมที่จะรับเลี้ยงมันทันที แต่ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยสัตว์ก็ได้เตือนเขาว่า เจ้า Penni ขี้กลัวเป็นอย่างมาก และอาจจะต้องใช้เวลานานในการรักษาจิตใจของมัน ทว่าเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะเมื่อเจ้าหมา เห็น DeLuca มันก็เข้าไปเลียเขา และเข้าไปนั่งบนตักของเขา ซึ่งก็ทำให้ DeLuca รู้ทันทีว่าเจ้า Penni ได้เป็นสุนัขของเขาแล้ว DeLuca รู้ดีว่าสุนัขตัวใหม่ของเขาได้พบเจออะไรมาบ้างในอดีต ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกแย่ตาม แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ และทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะให้เจ้าหมามีความสุข นอกจากนี้…
-
ร้านอาหารทำพิซซ่า 200 ถาด แจกเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังเกิดเหตุระเบิดรถไฟในกรุงลอนดอน..!!
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2017 ได้เกิดเหตุระเบิดในรถไฟใต้ดินที่กรุงลอนดอน ณ สถานีพาร์สันน์ ทำให้มีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในท้องที่ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าทั้งหมดน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ต้องใช้รถดับเพลิงฉุกเฉินถึง 6 คัน และเฮลิคอปเตอร์ประจำการอีก 1 ลำ ในเหตุการณ์ร้ายๆ ก็มักจะมีเรื่องดีๆ แฝงอยู่เสมอ… เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก Teo Catino เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน Il Pagliaccio ที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้อาสาทำพิซซ่ากว่า 200 ถาด แจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานฟรี เจ้าตัวนำน้ำดื่มและพิซซ่าทั้งหมดที่ทำมาเดินแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้น Teo Catino ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมและครอบครัวอาศัยอยู่ในย่านนี้มานานกว่า 25 ปีแล้ว ทุกๆ วันภรรยาและลูกของผมต้องเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายนี้ แต่วันนี้กลับเกิดเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น ผมก็อยากจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทุกคนตามกำลังที่เราพอจะทำได้” นอกจากจะใจดีแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนยังชมเป็นเสียงเดียวกันว่า.. พิซซ่าของ Teo อร่อยจริง!! ลำพังจะเดินแจกอย่างเดียวก็กลัวจะไม่ทัน พนักงานของร้านก็ช่วยกันไถสเก็ตบอร์ดแจกพิซซ่าให้เจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน …
-
Bigglesworth กระต่ายไร้ขนกับเอกลักษณ์ความน่ารัก กลายเป็นดาวเด่นโซเชียลไปซะแล้ว!!
ภาพของ Mr. Bigglesworth เจ้ากระต่ายไร้ขนแสนน่ารักตัวนี้ กำลังกลายเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ฮอตที่สุดในโลกอินเตอร์เน็ต ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ นั่นอาจเป็นเพราะความน่ารักที่ไม่เหมือนใคร เลยทำให้เจ้ากระต่ายได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แถมยังดูเหมือนแมวไร้ขนของ Dr. Evil จากภาพยนตร์เรื่อง Austin Powers อีกด้วย วันที่ 29 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพน่ารักๆ ของ Mr. Bigglesworth กระต่ายพันธุ์เร็กซ์วัยเพียง 2 เดือน ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกับกระต่ายทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่าง ก็คงเป็นเพราะว่าเจ้า Bigglesworth เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หาได้ยากมากๆ จึงทำให้มันกลายเป็นกระต่ายไร้ขนนั่นเอง ด้วยความที่ไม่เหมือนใครเลยทำให้เจ้า Bigglesworth ได้กลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นบนโลกอินสตาแกรม โดยในตอนนี้มีคนเข้าไปติดตามมันมากกว่า 14,000 คนแล้วจ้า (ถ้าอยากสนับสนุนน้องเพื่อนๆ ก็ไปฟอลโล่ในไอจี loafy_mrbigglesworth ได้เลย) ทางด้าน Cassandra Hall คุณแม่ลูกสองและนักออกแบบกราฟฟิก วัย 40 ปี…
-
2 แม่แมวจอมวางแผน ลงทุนเดินมาขออาหารกับมนุษย์ ก่อนจะพาไปพบลูกๆ อีก 8 ตัว!!
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับคนรักแมว เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้พบกับแมวจรจัด 2 ตัว หลังจากที่มันทั้งคู่ได้เข้ามาหาเธอเพื่อขออาหาร และเมื่อได้กินจนอิ่มแล้ว แมวทั้ง 2 ก็ได้ตัดสินใจที่จะพาหญิงคนดังกล่าวไปพบกับบางสิ่งบางอย่าง และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก ใช่แล้ว!! เจ้าเหมียวได้พามนุษย์ใจดีไปกับพบลูกๆ ของมัน ซึ่งมีทั้งหมดถึง 8 ตัว!! พบกับแม่เหมียว Artemis (ซ้าย) และแม่เหมียว Apollo (ขวา) สองแมวจอมวางแผนกับลูกๆ ของพวกมัน ครอบครัว Thoa, Thi และ Trram Bui จาก Lilo the Husky ได้พาเจ้าเหมียวทั้ง 10 มาพักอาศัยอยู่ภายในบ้านของพวกเขา เจ้าเหมียวทั้งสองคงได้วางแผนกันเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะที่ลงทุนเดินเข้ามาขออาหาร ก็เพื่ออยากจะบอกให้มนุษย์ได้รู้ว่าพวกมันมีลูก และอยากจะให้มนุษย์ช่วยย้ายลูกน้อยของพวกมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ร้ายนักนะ!! สุดท้ายครอบครัว Bui ก็ใจอ่อนยอมรับครอบครัวเหมียวเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเธอจนได้ โดยเธอได้ออกมากล่าวว่า “มือของฉันเต็มไปด้วยลูกแมวถึง 6 ตัว ดังนั้น ฉันจึงต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพื่อพาพวกมันกลับมาทั้งหมด”…
-
Alba หมูน้อยที่ถูกช่วยเหลือออกมาจากห้องปฏิบัติการ ตอนนี้ชีวิตมีความสุขมากจนน่าอิจฉา
นี่คือบันทึกของลูกหมูอายุ 4 เดือนตัวหนึ่งที่มาจากห้องปฏิบัติการ มันเคยได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณหลังของมันเคยถูกเผาจนเกรียม และมีการทิ้งรอยเผาไหม้ไว้มากถึง 18 จุด และก็ต้องขอบคุณมนุษย์ใจดีที่ได้เข้าช่วยเหลือชีวิตมันเอาไว้ และส่งมันไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ เพื่อให้มันได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับเพื่อนสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกัน นอกจากจะได้มีชีวิตใหม่แล้ว เจ้าหมูน้อยยังได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า Alba อีกด้วย “เจ้าหมูถูกนำตัวเข้าห้องทดสอบเป็นเวลานานถึง 8 สัปดาห์” Caitlin Cimini ผู้ก่อตั้ง Rancho Relaxo มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ที่เจ้า Alba ได้อาศัยอยู่ในปัจจุบันกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางคุณ Caitlin ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Alba ว่ามันมาจากที่ไหน “ถ้าคุณต้องการนำสัตว์มาจากห้องปฏิบัติการ คุณต้องไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับห้องทดลองนั้นๆ” Caitlin กล่าว “ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไรเลย” เจ้า Alba เป็นหมูน้อยที่โชคดีที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา เพราะสัตว์ส่วนใหญ่มักจะถูกฆ่าตายภายหลังจากที่ถูกนำตัวไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ ซึ่งทาง Caitlin ได้ออกมาบอกว่า จริงๆ แล้วมีหมูสองตัวที่ถูกทดสอบร่วมกับ Alba แต่พวกมันกลับถูกฆ่าหลังเสร็จสิ้นการทดสอบ …
-
ชายใจดีช่วยชีวิตนกฮัมมิ่งเบิร์ด ให้รอดพ้นจากใยกับดัก ก่อนจะเป็นอาหารของแมงมุม!!
บนโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่มากมาย และพวกเราซึ่งอยู่ในฐานะมนุษย์ ก็จะต้องช่วยกันดูแล และปกป้องสัตว์ตัวน้อยๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันกำลังได้รับอันตราย และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอนำเสนอเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจ เมื่อเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวหนึ่งต้องการความช่วยหลังจากที่มันดันไปติดกับแมงมุม งานนี้เลยทำให้ Steve Hill ชายผู้ใจดีไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยชีวิตมันทันที ในช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ เมือง Lilburn ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา Steve ได้เดินออกไปข้างนอกบ้าน และจู่ๆ เขาก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างเข้า ใช่!! นั่นคือเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกแขวนอยู่กลางอากาศ นั่นทำให้ Steve ได้รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ มันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมมันถึงดูนิ่ง และไม่ขยับตัวเลย พอเขาได้เข้าไปใกล้มัน ก็เห็นว่าเจ้านกตัวดังกล่าวได้ติดกับแมงมุมเข้าซะแล้ว ด้วยเหตุนี้ Steve จึงรีบเข้าช่วยเหลือมันอย่างรวดเร็ว โดยนำร่างของเจ้านกน้อยออกมาจากกับดักของแมงมุม ร่างกายของเจ้านกฮัมมิงเบิร์ดถูกปกคลุมไปด้วยใยแมงมุมเหนียวๆ ที่แมงมุมทิ้งไว้สำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และทำให้มันไม่สามารถบินได้ งานนี้เลยทำให้ Steve ได้นำตัวของมันเข้าไปในบ้าน เพื่อทำความสะอาด เขาได้นำเจ้านกน้อยไปยังอ่างล้างจน และค่อยๆ…
-
ด้วยรักของพี่ ที่แม้จะ “พิการไม่มีปลายแขน” ก็พยายามปลอบประโลม ไม่ให้น้องร้องไห้…
ความรักในครอบครัวที่มีให้กันทำให้ทุกคนจะคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอในยามที่มีปัญหา เหมือนกับเด็กสองคนนี้ที่ถึงแม้ว่าคนพี่จะไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์พร้อมแต่ด้วยความที่โตกว่า เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือน้องของเขาอย่างเต็มที่ คลิปวิดีโอของเด็กน้อยที่เกิดมาพิการไม่มีแขนท่อนล่าง กำลังช่วยปลอบประโลมน้องชายทารกของตัวเองที่นอนอยู่ข้างๆ กัน โดยพยายามนำจุกหลอกให้เขาได้ดูดไว้ส่งคืนให้ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนแรกนั้นทั้งคู่ก็ยังคงดูสนุกสนานร่าเริงอยู่บนเตียง จนเมื่อจุกปลอมที่ดูดอยู่ได้หลุดออกจากปากของทารกและทำให้เขาเริ่มร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่โชคดีที่พี่ชายของเขาที่อยู่ข้างๆ ได้เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ทั้งหมดให้คลี่คลายลงในที่สุด พี่ชายที่โตกว่าไม่มากและไม่มีปลายแขนหรือมืออย่างคนปกติทั่วไป หมุนตัวไปหาทารกน้อยและใช้แขนขวาเล็กๆ กับคางของเขาดันให้สามารถจับเจ้าจุกหลอกนั้นขึ้นมาได้ และพยายามขยับตัวเข้าไปใกล้น้องของเขาที่กำลังร้องไห้ พร้อมกับดันเจ้าจุกนั้นเข้าไปในปากอย่างนิ่มนวล และทำให้ทารกผู้น้องสงบลงได้ในที่สุด คลิปวิดีโอความรักของพี่ที่มีให้กับน้องชาย และภาพความน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง Jabriya ประเทศคูเวต ก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมและทำให้ผู้คนเข้ามารับชมความน่าเอ็นดูของทั้งคู่กับพฤติกรรมที่ชวนอมยิ้มของคนเป็นพี่ที่มีให้กับน้อง ทำให้มียอดวิวมากกว่า 150,000 วิวเลยทีเดียว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย อย่างเช่น “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองด้วยนะ” หรือ “พวกเขาน่ารักมากจริงๆ” แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าภาพที่ได้เห็นนี้ทำให้รู้สึกอย่างไรกันบ้าง คอมเม้นท์กันไว้ได้เลยนะ ที่มา: dailymail , shnshoona_almzyoona
-
“คลื่นเหงาสาวข้างหอ” เขียนข้อความขออาหาร หนุ่มชั้นล่างถามกลับ แต่ดั๊นไม่ใช่เรื่องข้าว
สำหรับใครที่เคยผ่านช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยมา คงจะเข้าใจถึงความยากลำบากในการขยับร่างกายออกไปจากหอกันเป็นอย่างดี และหลายๆ คนก็คงจะต้องคุ้ยเคยกับคำว่า “ฝากซื้อหน่อย” และดูเหมือนว่า Em สาวมหาลัยเท็กซัสคนนี้ก็ไม่ต่างจากพวกเราหลายๆ คนสักเท่าไหร่ เมื่อเธอและเพื่อนร่วมห้องของเธอ ตัดสินใจขอความช่วยเหลือฝากซื้อข้าวจากผู้คนที่ผ่านไปมา ด้วยการส่งสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรต่างๆ ประมาณว่า “ช่วยซื้อข้าวให้ฉันหน่อย” ออกมาทางหน้าต่างของห้องเธอ!! และนี่คือข้อความของเธอ “ซื้อข้าวมาส่งหน่อยจร้าา” และแล้วก็ดูเหมือนว่าจะมีคนเห็นข้อความของเธอ ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจึงส่งป้ายตอบกลับมาว่า “อยากได้ข้าวอะไรล่ะ??” และแล้วฝ่ายสาวก็ตอบกลับไปว่า “อะไรก็ได้ ตอนนี้เราอ้วนแล้ว!!” แล้วเธออ้วนแค่ไหนล่ะ?? และจากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนไป จากเรื่องข้าวก็กลายเป็นเรื่องอื่นเฉ๊ย!? ไหนล่ะข้าว โถ่พ่อหนุ่ม!! และหลังจากนั้น Em จึงตัดสินใจแชร์เรื่องฮาๆ นี้ลงบนทวิตเตอร์ของเธอ และดูเหมือนว่าชาวเน็ตหลายๆ คนจะชอบเรื่องราวน่ารักๆ นี้เช่นกัน โดยมีโพสต์ดังกล่าวถูกรีทวีตมากถึง 93,000 ครั้งและมีผู้ถูกใจอีกกว่า 3 แสนคนเลยทีเดียว แต่ก็มีชาวเน็ตขี้สงสัยบางคน ก็ถามกลับหญิงสาวว่าพวกเขาเห็นข้อความนั้นได้อย่างไรกันน่ะ?? แต่ทางฝ่ายเจ้าของโพสต์ก็ออกมาอธิบายว่า พวกเธอถ่ายภาพพวกนี้จากถนนด้านล่างต่างหากล่ะ แถมตอนนี้พวกเธอก็ยังไม่ได้ข้าวอีกด้วย!! อืม……
-
ชายหนุ่มเท็กซัสช่วยสัตว์กว่า 70 ชีวิตในช่วงพายุเข้า ที่ไม่ได้มีแค่หมาแมว แต่มีหมูจรด้วย
พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงให้กับรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะภัยน้ำท่วมอันแสนรุนแรง ที่ส่งผลต่อยอดทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมายที่ไม่เพียงกระทบกับมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่มันรวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในละแวกนั้น เดือดร้อนชายคนหนึ่งต้องยื่นมือเข้าไปช่วยสัตว์ทั้งหลายในเมืองฮุสตัน เพราะว่าพวกมันไม่สามารถหนีออกมาจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง และเขาก็ได้บอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย . ทหารหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Josiah Meherg ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก หลังจากแชร์รูปที่เขาได้ช่วยสัตว์เลี้ยงมากมายกว่า 70 ตัวในช่วงที่เกิดภัยพิบัติขึ้น มียอดไลค์สูงกว่า 2 แสนเข้าไปแล้ว เขาเล่าว่าเขาต้องการทำให้ผู้คนสบายใจว่าสัตว์ที่ถูกทิ้งอยู่เบื้องหลังจะได้รับการช่วยเหลือออกไป และการได้เห็นหลายๆ คนรู้สึกสบายใจ ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น หลังจากที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงหลายๆ ตัวได้ทันเวลา สัตว์ที่ถูกช่วยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ . เขาและทีมงานประมาณ 12 คน ถือว่าเป็นทีมช่วยเหลือกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ยื่นมือเข้ามา แม้ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และฝนที่ตกหนักจนพวกเขาตัวเปียกเป็นวันๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ สัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือส่วนมากจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชิซุ เยอรมันเชฟเฟิร์ด และพิตบูล อย่างไรก็ตาม เขาก็พบแมวบ้างเล็กน้อยระหว่างทาง รวมทั้งหมูด้วย เจ้าหมูอู๊ดๆ . เขายังบอกอีกว่า “หลายคนอาจไม่อยากทิ้งบ้านของตนเองไปไหน เพราะกลัวว่าข้าวของที่พวกเขาหามาจะเสียหายหรือถูกขโมยไป แต่ทันทีที่พวกเขาออกมา แล้วเห็นปริมาณของน้ำ พวกเขาก็เปลี่ยนใจในทันที หลายคนที่เฝ้าอยู่ที่บ้านแล้วเราเพิ่งไปช่วยมาไม่มีใครตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวเลย แสดงให้เห็นว่าชาวเท็กซัสอย่างพวกเรานั้นเข้มแข็งขนาดไหน” . …
-
บริษัทเตียงญี่ปุ่นผุดไอเดีย นำผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาต มาถ่ายโฆษณาแฝงแนวคิดสุดล้ำลึก..!!
นับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นประกาศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว เราก็ได้เห็นเทรนด์ต่างๆ ที่หันมาเอาใจผู้สูงอายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งงานโฆษณา หรือการบริการรูปแบบแปลกใหม่ต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด Bedridden ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตเตียงนอน ที่หันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาให้มีการเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมมากยิ่งขึ้น โดยคราวนี้พวกเขาได้นำผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาตมาถ่ายแบบ แถมสะท้อนแนวคิดไว้อย่างลึกซึ้ง โดยทีมงานจากบริษัท Mizuki ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการความพร้อมด้านการดูแลผู้สูงอายุ ได้ผุดไอเดียที่จะนำผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาต ให้มาถ่ายแบบและเฉิดฉายในวงการโฆษณาอีกครั้ง หลายคนอาจมองว่าเป็นการหาผลประโยชน์จากผู้สูงอายุ แต่เปล่าเลย… เพราะโปรเจกต์ Bedridden Silver Screen Debut Project ได้ยืนยันว่า โปรเจกต์นี้จะช่วยทำให้สังคมตระหนักถึงการเป็นอยู่ของผู้สูงอายุมากขึ้น และอีกทั้งยังเป็นการทำให้ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาตได้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง เบื้องหลังการถ่ายทำก็จะมีทีมงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และป้ายตัวหนังสือก็เป็นการถือเอาจริงๆ เพื่อให้ได้มุมมองแบบ 3 มิติด้วย จากการทดลองถ่ายทำโฆษณาครั้งแรก พวกเขาก็พบว่าผู้สูงอายุต่างรู้สึกยินดีและปลาบปลื้ม ที่ได้เห็นตัวเองเป็นส่วนร่วมในการทำงาน แต่ก่อนที่ทีมงานจะนำภาพโฆษณาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ พวกเขาก็ได้นำภาพถ่ายทั้งหมดส่งไปให้เจ้าตัวและครอบครัวเพื่อทำการตัดสินใจก่อน และเมื่อพวกเขายินดีแล้วทีมงานก็จะนำภาพโฆษณาไปติดไว้ตามศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ และนี่ก็คือภาพโฆษณาที่ถูกเผยแพ่รออกไปทั่วประเทศ นับว่าเป็นอีกโปรเจกต์ดีๆ แถมยังมีเรื่องน่ารักๆ มาให้เราชมอีกด้วย ที่มา: Rocketnews24
-
เด็กน้อยหลงทางหลังพายุกระหน่ำ เดินถือขวดนมอยู่คนเดียว พลเมืองดีอาสาไปส่งถึงที่..!!
นับตั้งแต่เกิดเหตุพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วี่ถล่มรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องซึ้งๆ การสูญเสียแบบเศร้าๆ หรือแม้แต่เรื่องน่ารักๆ และคราวนี้เป็นเรื่องราวของหนูน้อยวัยแบเบาะที่พลัดหลงกับครอบครัวหลังพายุถล่ม แต่ด้วยพลังของชาวเน็ตในท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถช่วยส่งคืนครอบครัวไว้ได้อย่างปลอดภัย เมื่อ Renz Michael สังเกตเห็นเด็กน้อยหลงทางมาคนเดียว นี่ช่วงที่ Renz Michael กำลังขนย้ายข้าวของเพื่อลี้ภัย เขาก็สังเกตเห็นเด็กน้อยวัยแบเบาะคนหนึ่งที่เดินมาพร้อมกับถือขวดนมอยู่ในมือ จากนั้นเจ้าตัวจึงถามว่า.. “จะไปไหนเอ่ย..??” ชายหนุ่มก็ได้รับคำตอบว่า เด็กน้อยออกมาเดินเล่นและพ่อแม่ของเขาก็อยู่แถวนี้เช่นกัน ซึ่งจากนั้นหนุ่มจึงอาสาพาหนูน้อยไปหาคุณพ่อของเธอ เพราะกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ หลังจากที่เดินมาส่งถึงประตูหน้าบ้าน ก็ยังโชคดีที่มีพ่อแม่ของเด็กน้อยรออยู่ที่นี่จริงๆ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเจ้าตัวได้นำมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว และมีชาวเน็ตแชร์ต่อไปอีกมากกว่า 5,000 ครั้ง จากเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนถล่ม เราก็ได้เห็นแล้วว่ามีเรื่องราวปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และล่าสุดกรมอุตุฯ ก็ได้รายงานว่าตอนนี้น้ำได้ท่วมบ้านเรือนสูงถึง 76 ซม. แล้ว ในขณะเดียวกันทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือหน่วยกู้ภัย ต่างก็ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ย่อท้อ เพราะกลุ่ม Coast Guard ได้รายงานว่า… หลังเกิดภัยพิบัติเพียงชั่วโมงเดียวมีชาวเมืองโทรมาขอความช่วยเหลือมากกว่า 1,000 สาย…
-
เรื่องราวของคุณแม่ชาวเท็กซัส ผู้สละชีวิตตัวเอง เพื่อช่วยไม่ให้ลูกจมน้ำ
มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายท่ามกลางสถานการณ์พายุที่ซัดกระหน่ำ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่อาจทำให้เราน้ำตาไหลออกมาได้โดยไม่รู้ตัว เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของคุณแม่ Collette Sulcer วัย 41 ปี ผู้ยอมสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยลูกน้อยของเธอให้อยู่รอดปลอดภัย… คุณแม่ Collette Sulcer และ Jordyn ลูกสาววัย 3 ขวบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา คุณแม่และลูกน้อยทั้งสองคนได้ขับรถลี้ภัยน้ำท่วมออกมาจากบริเวณย่าน Beaumont ในรัฐเท็กซัส ช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ทว่าด้วยกระแสน้ำที่แรงเกินไป ทำให้รถของเธอติดอยู่กลางถนนและไม่สามารถหนีออกไปไหนได้ และก่อนที่รถจะถูกพัดคุณแม่ก็ได้โอบกอดลูกน้อยไว้ไม่ให้จมน้ำ หลังจากที่รถถูกกระแสน้ำพัดอย่างแรง คุณแม่ก็ได้พยายามอุ้มลูกน้อยของเธอให้ศีรษะอยู่เหนือน้ำไว้ ก่อนจะพยายามเดินฝ่าน้ำไปหาที่หลบภัย แต่น่าเศร้าที่กระแสน้ำพัดแรงเกินไป พวกเขาทั้งคู่ถูกพัดออกไปไกลจากจุดเดิมถึงประมาณ 800 เมตร และเมื่อทีมกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือก็พบว่า พวกเขาทั้งสองอยู่ในสภาพที่กำลังลอย พยายามไม่ให้ลูกน้อยจมน้ำ Carol Riley หัวหน้าทีมกู้ภัยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่ทีมพวกเขาไปถึงก็พบว่าคุณแม่ได้พยายามอุ้มไม่ให้ลูกน้อยจมน้ำ ทว่าทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับภาวะตัวเย็นเกิน (hypothermia) ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทีมแพทย์ก็ได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยื้อชีวิตคุณแม่ไว้ แต่กลับไม่สำเร็จ… คุณแม่เสียชีวิตลงจากนั้นไม่นาน…
-
คุณพ่อพาลูกเพื่อนบ้านล่อง “แพดเดิลบอร์ด” สู่ที่ปลอดภัย ก่อนจะกลับมาช่วยครอบครัวตัวเอง…
กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่มีคุณพ่อชาวฝรั่งเศสวัย 42 ปีคนหนึ่ง ได้ออกมาใช้ ‘แพดเดิลบอร์ด’ ในการช่วยคนถึง 4 คน โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องของ Alexandre Jourde พ่อบ้านชาวฝรั่งเศส ที่ใช้แพดเดิลบอร์ดช่วยเหลือครอบครัวตัวเอง และเพื่อนบ้านจนโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ เชร๊ดด…พี่เท่อย่างกะบอยแบนด์ เดิมทีคุณพ่ออาศัยอยู่กับครอบครัวทั้ง 4 ชีวิต ประกอบไปด้วย ศรีภรรยา และคุณลูกอีกน่ารักทั้ง 2 คน ทว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคน เขาก็รู้ทันทีว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่ต้องการความช่วยเหลือมากกว่า และด้วยสภาพบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมเอ่อล้น คุณพ่อจึงอาสาออกมาพายแพดเดิลบอร์ดช่วยเหลือ Ethan Colman หนุ่มน้อยวัย 4 ขวบ จนกลายเป็นภาพโด่งดังไปทั่วออนไลน์ ภาพที่ช่วยให้เรารู้สึกว่า ความรักในเพื่อนมนุษย์นั้นยังมีอยู่ คุณพ่อเล่าว่าในช่วงที่พายุโหมกระหน่ำ เขาและครอบครัวกำลังเตรียมตัวจะลี้ภัยไปยังศูนย์พักพิง ทว่าระหว่างนั้นได้มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือ โดยพวกเขาไม่มีพาหนะที่จะสามารถพาลูกชายไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้ ทันทีที่ Jourde รู้เข้า เขาก็ไม่ได้มีท่าทียึกยักหรือเล่นตัว หากแต่เขารีบนำแพดเดิลบอร์ดคู่ใจและไม้พายพาเด็กหนุ่มไปส่งยังที่ปลอดภัยทันที เมื่อพาลูกของเพื่อนบ้านไปส่งยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว เขาก็รอให้ครอบครัวของเพื่อนบ้านมารับเจ้าหนู Ethan จากนั้นเขาจึงกลับมารับลูกน้อยทั้ง 2…
-
ประทับใจ!! เหล่าอาสาสมัครไม่ทอดทิ้งน้องแมว ตามช่วยเหลือให้พ้นภัย จากพายุเฮอร์ริฮาร์วีย์
อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ที่ถล่มหลายพื้นที่ตามแนวชายฝั่งของรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก อีกทั้งยังทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และถูกตัดขาดจากไฟฟ้า และนอกจากมนุษย์จะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้แล้ว สัตว์เลี้ยงทั้งหลายแหล่ อาทิเช่น สุนัข หรือแมว ก็ได้รับความลำบากเช่นเดียวกัน โดยบางตัวก็ถูกทอดทิ้ง เนื่องจากเจ้าของเดิมไม่สามารถพาอพยพไปด้วยได้ ในขณะที่อีกหลายๆ ตัวก็ถูกล่ามติดกับต้นไม้เอาไว้ก็มี… อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่ได้ถูกทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดายเป็นเวลานาน เพราะอย่างน้อยก็มีเหล่าอาสาสมัครใจดี ที่ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือชีวิตพวกมันที่ติดอยู่ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเอาไว้ จากการรายงายโดยเว็บไซต์ต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 ในระหว่างที่อาสาสมัครกำลังเข้าช่วยเหลือเหล่าสัตว์ถูกทิ้ง พวกเขาก็ได้พบกับเจ้าเหมียว 6 ตัวในเมืองฮิวสตัน พร้อมกับได้ส่งตัวของมันไปยังศูนย์พักพิงทันที และนี่ก็เป็นภาพของชาวเท็กซัสหลายคนที่กำลังช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงถูกทอดทิ้ง เพื่อให้มันได้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ในขณะที่ลูกแมว 6 ตัว ที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น มันปลอดภัยดีแล้ว และเราก็หวังว่ามันจะได้กลับมาพบกับครอบครัวอีกครั้ง เราดีใจจริงๆ ที่พวกเอ็งรอดชีวิตมาได้ ขณะเดียวกัน ทางองค์กรช่วยเหลือท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น SPCA of Texas และ Austin Pets…
-
เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ใจดี เปลี่ยนร้านให้กลายเป็นสถานที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
เหตุการณ์น้ำท่วม ถือเป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างหนัก ทำให้ผู้คนถึงขั้นเสียชีวิต และไร้ที่อยู่อาศัย… เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า นครฮุสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่จากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ และเกิดฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่บริเวณดังกล่าว เหตุการณ์นี้ ส่งผลให้ผู้คนกว่า 400 คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมไร้ที่อยู่อาศัย และนั่นจึงทำให้ Jim McIngvale หรือที่รู้จักในชื่อ “Mattress Mack” ผู้เป็นเจ้าของร้าน Gallery Furniture ในฮุสตัน ได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที จากการายงานระบุว่า Jim เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ได้เปลี่ยนร้านของตัวเอง ให้กลายเป็นสถานที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้กับผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ทางด้านบริษัท Gallery Furniture ใน North Freeway และ Gallery Furniture ใน Grand Parkway ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า… “เรามีอาหาร เตียง และห้องน้ำที่สะอาดสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ และสัตว์เลี้ยงของคุณก็จะได้รับการดูแลจากเราเป็นอย่างดี”…
-
นักศึกษาสัตวแพทย์ ร่วมกันถ่ายนู้ดกับสัตว์ ระดมทุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง
การขอทุน หรือระดมทุนธรรมดาๆ มันอาจไม่สามารถหาได้เงินเพียงพอต่อความต้องการ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักศึกษาสัตวแพทย์ จากมหาวิทยาลัย James Cook ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จำนวน 70 คน ที่จะเรียนจบในปี 2018 นี้… เกิดปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการเปลื้องผ้า “ถ่ายนู้ด” กับสัตว์ เพื่อทำปฏิทินขาย ทั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ในขณะส่วนที่เหลือจะนำไปจัดงานเลี้ยงตอนสำเร็จการศึกษา . ทางด้าน Chelsea Crake สัตวแพทย์ผู้จัดงานได้ออกมาเผยว่า “มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้มีส่วนร่วมในการถ่ายปฏิทินนี้ นักศึกษาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย James Cook ได้ถ่ายนู้ดเพื่อทำปฏิทินขายมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว เนื่องจากพวกเขา อยากหารายได้ไปบริจาคให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง และหาเงินจัดงานเลี้ยงตอนเรียนจบ… นี่เป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดความเครียดในภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยของเรา และเราจะได้มารวมตัวกันเพื่อหารายได้ ในระหว่างการถ่ายภาพมันเป็นช่วงเวลาที่ตลกมาก แม้ในตอนแรกอาจจะดูเกร็งๆ และตื่นเต้น แต่หลังจากนั้นทุกคนก็รู้สึกสบายใจ และสนุกกับสิ่งที่ได้ทำ” สำหรับโครงการเปลื้องผ้าถ่ายนู้ดเพื่อการกุศล ได้รับการสนับสนุนจากคลินิกสัตวแพทย์หลายแห่งทั่วออสเตรเลีย โดยการทำปฏิทินดังกล่าวเป็นโครงการที่ดำเนินมาเป็นเวลายาวนานในมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่นกัน …
-
สาวพบเหมียวน้อยน่าสงสาร ตัดสินใจช่วยและรับมาเลี้ยง ผ่านไป 5 ปีนี่คนละตัวเร๊อะ!?
เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ถูกพบอยู่ข้างถนน สภาพของมันในตอนนั้นเรียกได้ว่าแทบจะดูไม่ได้เลย ทั้งมีหนอนชอนไช ขนหลุดร่วง และรูปร่างซูบผอม แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด…. ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 คุณ Kathleen และเพื่อนๆ ได้เดินผ่านตึกแห่งหนึ่ง แต่แล้วก็ได้พบกับเจ้าเหมียวที่ดูท่าทางน่าสงสาร ซึ่งเธอก็ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมันเพราะสภาพของมันดูน่าสงสารมาก Kathleen และเพื่อนๆ ได้พาเจ้าเหมียวกลับไปที่บ้าน ซึ่งที่บ้านของเธอนั้นไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนเลยแม้แต่น้อย แต่ Kathleen ก็อยากที่จะให้โอกาสกับเจ้าเหมียวเพื่อให้มันได้มีสถานที่ที่เรียกว่าบ้านอยู่ “หลังจากที่ได้เห็นมัน แม่ของฉันก็พูดขึ้นมาว่าเราจะต้องหาบ้านใหม่ให้กับมัน แต่ก่อนอื่นต้องทำการอาบน้ำมันก่อน แล้วค่อยพามันไปหาหมอ” Kathleen เล่า คุณหมอทำการให้ยาปฏิชีวนะกับมันเพื่อรักษาแผลติดเชื้อจากการถูกหนอนชอนไช เวลาผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ “มันดูซึมลงไปมากเลยล่ะ จนบางครั้งฉันก็คิดว่ามันไม่น่าจะรอดแล้ว” จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเจ้าเหมียวก็กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง!! “มันเริ่มวิ่งเล่นไปทั่วอย่างสนุกสนาน แถมยังเข้ากันได้ดีกับเจ้าหมา 3 ตัวที่บ้านของฉันอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ” Kathleen เล่า จากที่ตอนแรกแม่ของ Kathleen บอกเอาไว้ว่าเราจะต้องหาบ้านใหม่ให้กับมัน แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจ และยอมให้เลี้ยงมันไว้ พวกเขาตั้งชื่อมันว่าเจ้า Drizzy และมันก็กลายเป็นแมวเหมียวตัวแรกของครอบครัวนี้ด้วย “พวกเราทุกคนรักมันมากเลยล่ะ”…
-
เจ้าหมาลี้ภัยพายุในเท็กซัส พร้อมหิ้วถุงอาหารดูอุ้ยอ้ายน่ารัก ถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่..!!
ท่ามกลางพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วี่ ที่โถมกระหน่ำเข้าใส่บ้านเมืองในรัฐเท็กซัส ได้มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทั้งเรื่องราวการช่วยเหลือกันซึ้งๆ ของเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก หรือจะเป็นเรื่องน่ารักๆ แบบเจ้าตูบตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Otis สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ดที่กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วรัฐเท็กซัส เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งมันก็หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย นี่คือเจ้า Otis เรื่องราวทั้งหมดมันมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้เจ้า Otis เป็นสุนัขเพื่อนรักของหนูน้อยวัย 5 ขวบ Segovia ทว่าหลังจากที่เกิดเหตุพายุเฮอร์ริเคนถล่ม จู่ๆ เจ้าตูบก็หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาพยายามจะตามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ Salvador Segovia ให้สัมภาษณ์ว่า “จู่ๆ มันก็หายไปจากบ้านในคืนที่พายุพัดกระหน่ำ พออีกวันเราพยายามตะโกนตามหามันแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่เจอ…” เจ้าตูบ Otis กับหนูน้อย แต่เจ้าหมาไม่ได้หายไปไหนไกล เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีชาวเน็ตโพสต์ภาพของเจ้า Otis คาบถุงอาหารเดินเตงๆ ไปทั่วเมือง ซึ่งหลังจากที่ชาวเน็ตได้โพสต์ภาพดังกล่าว ก็มีชาวเมืองแชร์ต่อออกไปอีกมากกว่า 6,000 ครั้ง จนทำให้เจ้าของสามารถตามตัวมันเจอได้ในท้ายที่สุด “ตอนนี้เจ้า Otis กลายเป็นคนดังไปซะแล้ว มันไปแดรี่ควีนได้ แถมมันยังไปสั่งเบอร์เกอร์กินเองได้ด้วยนะ และมันยังเป็นสุนัขตัวเดียวในเมืองที่สามารถไปนอนเล่นหน้าที่ว่าการได้ มันกลายเป็นหมาดังไปแล้วค่ะ” …
-
เจ้าหน้าที่สวนนก เนรมิต ‘รองเท้าบูท’ ให้ฟลามิงโกน้อย จะได้ออกมาเดินเล่นรับแดดบ้าง…
นี่คือ “Squish” ลูกนกฟลามิงโก ที่อาศัยอยู่ในสวนนก Jurong Bird Park ประเทศสิงคโปร์ ที่ในตอนนี้มันสามารถเรียกรอยยิ้มให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้มันสวมรองเท้าบูทสีน้ำเงินมาเดินเล่นภายในสวน สำหรับเจ้า Squish มันเป็นลูกนกฟลามิงโก ที่ถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่ที่มันยังเป็นเบบี๋อยู่ในไข่ แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดีที่มีคนมาพบเห็นเข้า และนำมันไปฟักที่ศูนย์เพาะพันธุ์ในสวนนก Jurong อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มันได้ออกมาลืมตาดูโลก ทางเจ้าหน้าที่ดูแลก็ได้เนรมิตรองเท้าบูทคู่เล็กๆ ให้มันใส่ เพื่อป้องกันจากผิวคอนกรีต ที่อาจจะส่งผลกระทบให้เท้าของมันติดเชื่อ เนื่องจากเท้าของเจ้า Squish มีขนาดเล็ก และบอบบางมาก ทางด้าน Gerard Wan เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลภายในสวนนกแห่งนี้ก็ได้ออกมาเผยว่า ในตอนนี้มันยังไม่สามารถเดินบนคอนกรีตด้วยเท้าเปล่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเดินเป็นประจำทุกวันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้า Squish ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยให้มันได้ออกกำลังกาย และเปิดรับแสงแดดเข้าร่างกายด้วย “เมื่อเท้าของมันเริ่มโอเค เราจะส่งมันกลับเข้าฝูง และหวังว่ามันจะสามารถอยู่ร่วมกับฝูงได้” Gerard กล่าว และนี่ก็เป็นภาพของเจ้า Squish ขณะสวมรองเท้าคู่จิ๋วเดินเล่นอยู่ภายในสวนสัตว์ เรียกได้ว่ามันเป็นภาพของนกฟลามิงโกที่น่ารักที่สุดที่เราเคยเห็นมาเลยล่ะ… ว่ามั้ยเอ่ย? …
-
หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ได้กำลังใจต่อสู้กับโรคร้าย จากเจ้านกน้อยที่คอยบินมาเยี่ยมทุกวัน…
ความรักความผูกพันที่เกิดขึ้นนั้นอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดจากคนในครอบครัวเสมอไป แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เราได้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอีกด้วย และหากเป็นไปได้ด้วยดี ก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรียกได้ว่าจะตัดก็ตัดกันไม่ขาดเลย อย่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน แต่กลับเกิดขึ้นระหว่างคนกับนกต่างหากล่ะ… มันเริ่มจากความบังเอิญที่คุณแม่ลูกหนึ่งอย่าง Dina Theissen ได้พบกับนกสายพันธุ์บลูเจย์ นอนอยู่ข้างต้นไม้บริเวณหน้าบ้านของเธอในตอนที่มันอายุเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มันถูกตั้งชื่อว่า Gracie ซึ่งเธอกับสามีและลูกสาวของเธอได้นำมันมาเลี้ยงไว้ชั่วคราว เพราะไม่พบแม่ของมันและต้องการที่จะให้มันได้กลับคืนสู่ป่าตามธรรมชาติอีกครั้ง โดยให้มันได้เติบโตและฟื้นฟูร่างกายบริเวณชานบ้านของเธอ มันจึงเติบโตท่ามกลางธรรมชาติ ที่สามารถทำให้มันปรับตัวกลับคืนสู่ป่าได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้เรียนรู้วิธีอาหารด้วยตัวเอง และเริ่มที่จะรู้ได้แล้วว่าการเป็นนกนั้นมันต้องทำอย่างไรบ้าง หลังจากนั้น 4 สัปดาห์ทางครอบครัวก็ได้พยายามปล่อยเจ้านกน้อยกลับคืนสู่ป่า แต่มันก็ไม่ยอมไปไหนและบินกลับมาหาพวกเขา จนเมื่อผ่านไปอีกอาทิตย์ครึ่ง มันก็เริ่มมีความกล้าที่จะบินออกไปบนต้นไม้ หันมองโลกกว้างอันสวยงามรอบตัว จนในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปมันก็ได้กลับคืนสู่ป่า ถึงแม้ว่ามันจะยังคงกลับมาหาในทุกๆ วัน เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลานานราวสองปีครึ่ง ที่มันมักจะแวะมาเล่นอยู่บ้านพวกเขาทุกวัน หรือบางครั้งก็มาแค่ส่งเสียงร้อง มาใช้เวลาอยู่ร่วมกันเพียงแค่นาทีสองนาทีบ้าง เพราะมันเป็นนกที่แสวงหาการเรียนรู้และกระตือรือร้น ที่จะบินไปทั่วธรรมชาติอันกว้างใหญ่ แต่สุดท้ายเมื่อข่าวร้ายเกิดขึ้นกับบ้านนี้ มันก็ได้แวะมาอยู่นานมากขึ้น ข่าวร้ายที่ว่านั้นก็คือ Dina ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ซึ่งนับว่าเป็นความโชคร้ายของเธอ…
-
เด็กน้อยวัย 5 ขวบแต่งชุดเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ที่พร้อมจะมาช่วยเหลือบรรดา “แมวจรจัด”
นับเป็นอีกหนึ่งราวที่ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจมากจริงๆ เมื่อเด็กน้อยวัย 5 ขวบคนหนึ่งที่มีจิตใจเมตตาได้เข้าช่วยเหลือบรรดาเหมียวจรจัดตั้งแต่ที่เขายังอายุได้เพียง 3 ขวบ งานนี้บอกเลยว่า ซุปเปอร์แมน แบทแมน หรือสไปเดอร์แมนยังต้องชิดซ้าย Kris และ Kia จากฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย สองคู่รักที่มักจะเข้าช่วยเหลือสัตว์มาเป็นเวลานานหลายปี โดยปัจจุบันพวกเขาสามารถช่วยเหลือเจ้าเหมียวมาได้มากกว่า 45 ตัวแล้ว โหว…สุดยอดดด!! “สองปีที่ผ่านมา เราให้อาหาร และน้ำแก่พวกมันวันละสองครั้ง และนั่นก็ทำให้ Shon หลายชายของเราเริ่มที่จะแสดงความสนใจที่จะเข้ามาช่วยดูแลเจ้าเหมียว ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 3 ขวบ” Kris กล่าว เจ้าเหมียวจรจัดเหล่านี้ มักจะไม่ชอบให้ Kris และ Kia ไปสัมผัสพวกมัน แต่ทันทีที่เห็น Shon พวกมันก็มักจะเข้ามาหาเขาอยู่เสมอ “Shon เป็นคนใจดี และอ่อนโยนมาก แมวส่วนใหญ่ที่เราดูแลมักจะมีนิสัยที่ดุร้าย เพราะพวกมันเคยเป็นแมวจรจัดที่ไม่ใช่แมวบ้านมาก่อน โดยเฉพาะเจ้า Bug และ Lady พวกมันจะไม่ยอมให้เราสัมผัสตัวเลย แต่กลับ Shon พวกมันกลับชอบเข้ามาหาเขา”…
-
รู้จักกับ ‘Tova Saul’ หญิงใจบุญผู้เป็นแม่พระของเหมียวจรจัด แห่งกรุงเยรูซาเลม
นับตั้งแต่ปี 1980 ที่คุณป้า Tova Saul ได้ย้ายจากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา มาอาศัยอยู่ที่กรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล เธอก็ได้เลือกที่จะสละชีวิตทั้งหมดเพื่อดูแลเจ้าเหมียวจรจัดทั้งหลาย เป็นประจำทุกวันที่เธอจะเดินทางไปทั่วเมืองเก่า พร้อมถุงอาหารแมวเพื่อหล่อเลี้ยงมิ้วน้อยทุกชีวิต และพาตัวที่มีอาการบาดเจ็บไปรักษา จนเธอได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ปิดทองหลังพระให้แมวเหมียวแห่งกรุงเยรูซาเลม’ Toval Saul ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่น และหนาวเย็นในระดับที่พอดี ทำให้คาดว่าปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้มีแมวเหมียวจรจัดอาศัยอยู่มากกว่า 100,000 ตัว และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลอิสราเอลเคยออกนโยบายควบคุมประชากรแมวเหมียวจรจัด แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ทว่าคุณป้า Tova Saul เชื่อว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดต้องเริ่มต้นจากความรัก นับเป็นเวลานานหลายสิบปีที่เธอทุ่มเททั้งชีวิต และเวลาส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือแมวจรจัด จนปัจจุบันเธอมีแมวเหมียวอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันมากกว่า 600 ตัวเข้าให้แล้ว “ฉันทนไม่ได้หรอกค่ะ ที่ต้องเห็นพวกมันมีชีวิตอย่างยากลำบาก บ้างก็ต้องดิ้นรนหาอาหารวันต่อวัน บ้างก็ต้องถูกรถชนตาย บ้างก็ป่วยตาย บ้างก็ถูกมนุษย์รังแก และฉันก็ทนอยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน…” Tova ให้สัมภาษณ์ เป็นประจำทุกวันที่คุณป้าและองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ต้องออกเดินทางไปตามเมืองเพื่อทำหมันให้แก่แมวเหมียวทั้งหลายเพื่อควบคุมประชากร โดยทั่วไปผู้คนอาจคิดว่าแมวเหมียวสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทว่าคุณป้า Tova เชื่อว่ายังไงพวกมันก็ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์อยู่ดี ไม่ว่าจะด้วยเรื่องการถูกรังแก เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ…
-
กัปตันเรือหนุ่มใจบุญ เห็นแมวถูกโยนลงจากสะพานกลางแม่น้ำ รีบขับเรือไปช่วยได้หวุดหวิด..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าแมวเหมียวผู้อาภัพ ที่ถูกมนุษย์ใจบาปจับมันโยนลงแม่น้ำต่อหน้าต่อตา แต่ก็ยังโชคดีที่มีกัปตันเรือคนหนึ่งเห็นเข้า ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยชีวิตมันได้ทันการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม เว็บไซต์ Huffingtonpost ได้รายงานเรื่องราววีรกรรมคุณงามความดีของกัปตัน Jordan Smith ที่สามารถช่วยชีวิตแมวเหมียวที่กำลังจมน้ำได้ทันเวลา Jordan Smith และเจ้าเหมียวผู้โชคร้าย โดยในวันเกิดเหตุนั้นเจ้าตัวเล่าว่า ตอนที่เขากำลังทำกิจกรรมอยู่บริเวณท่าเรือของตน เขาก็สังเกตเห็นวัตถุสีดำบางอย่างถูกโยนออกนอกรถ ก่อนจะตกลงสู่แม่น้ำใต้สะพาน “ตอนแรกผมคิดว่าเป็นคนมือบอนเอาขยะมาโยนทิ้งทั่วไปนั่นแหละครับ แต่พอสังเกตดูดีๆ ผมก็เริ่มเห็นว่ามันขยับได้ จากนั้นก็เลยเอากล้องส่องทางไกลมาส่องดู ปรากฎว่าเป็นเจ้าเหมียวสีดำกำลังจะจมน้ำตาย” บริเวณจุดเกิดเหตุ ทันทีที่ทราบว่าเป็นแมวผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกมนุษย์ใจบาปเอามาโยนทิ้ง กัปตันเรือจึงรีบออกเรือมุ่งตรงไปช่วยเหลือแมวเหมียวทันที “ทันทีที่ไปถึงสายตามันตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดมาก ผมเลยเอาตาข่ายตักมันขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นก็หาพามาเช็ดตัวและตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Miracle หลังจากนี้ไปผมจะขอดูแลมันเอง และจะไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับมันอีก” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามสืบหาตัวคนร้ายที่โยนเจ้า Miracle แต่พวกเขากลับไม่พบเบาะแสใดๆ เลย ถึงกระนั้นทางกัปตันเรือก็ให้สัญญาว่า จะขอดูแลเจ้าเหมียวตัวนี้ให้ดีที่สุด “แต่ปัญหาใหญ่ที่ Miracle กำลังจะเจอก็คือ.. มันต้องปรับตัวเข้ากับเจ้าตูบที่บ้านผมให้ได้ และผมเชื่อว่ามันต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่ๆ” ใครนะช่างใจร้าย… ทำกับแมวเหมียวแบบนี้ได้ลงคอ ที่มา:…
-
แมวน้อยน่าสงสารถูกทิ้งไว้ในกล่อง ตกใจคนมาช่วย วิ่งไปติดในรถจนต้องตามช่วยอีกรอบ!!
เราคงจะเคยได้เห็นน้องหมาน้องแมวถูกทิ้งไว้ตามข้างทางกันบ้าง ทำให้เรารู้สึกสงสารและเอ็นดูอยากช่วยเหลือให้มันได้อยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ แต่การช่วยเหลือมันในครั้งนั้นกลับต่อยอดไปสู่อย่างอื่นที่ตามมาในภายหลังจนเป็นเรื่องราวในครั้งนี้ เมื่อผู้ประสงค์ดีได้เจอเจ้าเหมียวจำนวนถึง 5 ตัวที่มีอายุเพียง 8 สัปดาห์ถูกทิ้งให้อยู่ในกล่องข้างถนน จึงตัดสินใจจะพาพวกมันไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ใกล้ๆ ทันใดนั้นเองก็มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งโดดออกไปจากกล่องด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก ด้วยความสับสนของมันจึงได้มุดเข้าไปใต้ท้องรถที่จอดอยู่และไม่ยอมออกมา จนต้องไปตามให้คนจากสถานสงเคราะห์ที่กำลังจะไปให้มาช่วยมันออกมาซะก่อน จนกระทั่งลูกแมวตัวน้อยได้เข้าไปติดอยู่ในช่องแคบๆ บริเวณเครื่องยนต์เอาซะแล้ว เมื่อไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปได้ และไม่สามารถที่จะยกรถขึ้นมาเพราะกลัวว่าจะบี้มันเอาซะก่อนเพราะว่าช่องที่ไปติดอยู่นั้นก็พอดีกับขนาดตัวซะเหลือเกิน อีกทั้งยังกลัวว่ามันจะวิ่งออกไปกลางถนน พวกเขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงให้เข้ามาช่วยอีกแรง นักดับเพลิงนั้นได้ยกรถขึ้นอย่างระมัดระวังแต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเจ้าเหมียวออกมาได้ ซึ่งทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องถอดล้อรถยนต์ออกมาล้อนึงเสียก่อน จนสุดท้ายก็สามารถเอามันออกมาได้สำเร็จ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าลูกแมวยังคงมีอาการตกใจเล็กน้อย และเต็มไปด้วยฝุ่นที่เกิดจากการที่มันไปติดอยู่ข้างใน ในที่สุดมันก็ได้กลับมาอยู่กับพี่น้องทั้งสี่ตัวของมันเสียที และเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ก็ได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า Astra ตามชื่อยี่ห้อรถตามที่มันไปติดอยู่ข้างใต้ และพี่น้องของมันเองก็มีชื่อเป็นยี่ห้อรถด้วยกันทั้งหมด จากเหตุการณ์นี้ก็คงต้องขอขอบคุณเหล่าคนที่มาช่วยเหลือเจ้าเหมียวกันอย่างเต็มที่รวมถึงเจ้าของรถยนต์คันนั้นอีกด้วย ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกเหมียวตัวน้อยนี้อาจเป็นอะไรมากกว่านี้ไปแล้วก็ได้นะ ที่มา: thedodo
-
เจ้าหมาผู้น่าสงสาร “ขนยาวรุงรัง” หนักกว่า 2 กิโล จนดูไม่ออกเลยว่ามันคือพันธุ์อะไร
คนที่รักสัตว์จะตั้งใจเลี้ยงพวกมันอย่างทะนุถนอมคอยดูแลเอาใจใส่พวกมันอย่างเต็มที่ จนบางทีแทบจะเปรียบได้กับลูกแท้ๆ ของเราเลยทีเดียว แต่สำหรับเจ้าสุนัขตัวนี้แล้วนั้นมันไม่ได้รับประสบการณ์เหล่านั้นมาเลยจนกระทั่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้น เมื่อองค์กรพิทักษ์สัตว์หรือที่เรียกกันว่า RSPCA นั้นได้ไปพบกับเจ้าหมาตัวหนึ่งในสวนหลังบ้านของเจ้าของที่แสนโหดร้ายของมันที่เมืองฮัดเดอร์ฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ในสภาพขนยาวรกรุงรังปิดหูปิดตาซะจนมันวิ่งวนไปวนมาเป็นวงกลมอยู่อย่างนั้น เจ้าหมาน้อย Missy นั้นจึงได้ถูกช่วยเหลือในทันทีโดยในตอนแรกนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันคือสุนัขสายพันธุ์อะไรกันแน่ ส่วนหนึ่งเพราะด้วยขนที่ยาวมากไม่เป็นระเบียบเป็นปมพันกันไปพันกันมา เขาจึงนำมันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ทันทีและต้องใช้ชุดกรรไกรตัดขนมากถึงสามชุดกว่าจะตัดขนของมันออกมาได้หมด ซึ่งมีน้ำหนักมากถึงกว่า 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว อีกทั้งก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันก็คือหมาพันธุ์ชิสุ และยังได้พบปลอกคอของมันที่ฝังอยู่ใต้ขนของมันอีกด้วย จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าหมาน้อยนั้น ศาลจึงได้ตัดสินโทษว่าเจ้าของคนเก่าของมันมีความผิดฐานสร้างความทุกข์ทรมานให้กับสัตว์โดยไม่จำเป็น และถูกสั่งห้ามเลี้ยงสัตว์ไปตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้มีน้องหมาตัวไหนต้องตกเป็นเหยื่ออีก หลังจากนั้นเจ้าสุนัขก็ได้อยู่กับองค์กรที่ช่วยมันไว้ไปอีกเป็นเดือนก่อนที่จะได้บ้านใหม่พร้อมกับเจ้าของที่รักสุนัขอย่างคู่รัก Jeff Noad และ Christine Morris ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองคนได้เคยรับเลี้ยงสุนัขจากที่นี่ไปแล้วตัวหนึ่งชื่อว่า Poppy และนั่นก็ทำให้สมาชิกใหม่ในบ้านสามารถมีความสุขที่มีเพื่อนเล่นเป็นสุนัขเหมือนกัน แม้ว่าตอนแรกจะดูไม่คุ้นเคย แต่มันก็สามารถปรับตัวและกระโดดโลดเต้นไปกับครอบครัวใหม่ของมันได้ในเวลาไม่นาน “มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกเรา” คือคำพูดของเจ้าของใหม่มันและก็หวังพวกเขาจะเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับ Missy ด้วยเช่นเดียวกัน หากตอนนี้ใครที่มีเพื่อนๆ สัตว์เลี้ยงก็อย่าลืมดูแลพวกมันกันด้วยนะ ที่มา: dailymail
-
หนุ่มหล่อใจพระ ยอมหยุดรถกลางถนนไฮเวย์ เพื่อลงไปช่วยชีวิตเจ้ามิ้วน้อยกลางถนน!!
คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของหนุ่มหล่อหน้าใส ผู้มีหัวใจงดงามดั่งพระเอกละครช่อง 3 เมื่อเจ้าตัวยอมเสี่ยงชีวิตหยุดรถไว้กลางถนน เพื่อลงไปช่วยชีวิตลูกแมวตัวน้อยกัน… ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับ Tucker Fisher และเจ้าเหมียว Ivy เรื่องมันมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พ่อหนุ่ม Tucker Fisher ได้ขับรถไปบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ I-81 และจู่ๆ เจ้าตัวก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างกลางถนน “ตอนนั้นผมกำลังจะเลี้ยวรถลงจากทางด่วน จู่ๆ ก็สังเกตอะไรเล็กๆ เหมือนพยายามจะดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่กลางถนน” Tucker เล่า ยิ่งขยับรถใกล้เข้าไปมากเท่าไหร่ ภาพของสัตว์สี่ขาตัวน้อยที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด ก็ปรากฎเข้ามาในสายตาของเขาชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ทันทีที่รู้ว่าเป็นลูกแมวน้อย เขาก็รีบหยุดรถไว้กลางถนนเพื่อป้องกันไม่ให้รถคันอื่นๆ ขับผ่าน จากนั้นจึงรีบวิ่งลงไปช่วยแมวน้อยที่ติดอยู่กลางถนน “ผมเหลือบไปมองกระจกหลังไม่มีรถตามมา ผมก็เลยจอดทันทีเลยครับ เพื่อที่จะได้บล็อคทางไม่ให้รถคันอื่นขับผ่าน จากนั้นผมก็อุ้มมันขึ้นมาบนรถ และเรื่องราวมิตรภาพของเราก็ได้เกิดขึ้น” เขาพาเธอไปพบสัตวแพทย์ พาไปอาบน้ำ พร้อมทั้งดูแลเจ้า Ivy อย่างดีไม่ให้คลาดสายตา เวลาผ่านไปไม่นานทั้งมนุษย์ และ Ivy ก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของกันและกัน พุงของมันเริ่มย้วยยานมากขึ้น…
-
3 ตูบพี่น้องตัวจิ๋ว แม้ว่าน้องเล็กสุดจะไม่ได้ยินเสียง แต่ยังไงพวกเราก็จะไม่ทิ้งกัน…
เรื่องราวของ 3 พี่น้องตัวจิ๋วที่ต้องเผชิญชะตากรรมชีวิต เตร็ดเตร่เร่ร่อนดูแลกันและกันมาโดยตลอด จนในที่สุดพวกมันก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นี่คือ Bo Daisy และ Luke พวกมันทั้งสามต้องอยู่ข้างถนนมาก่อนที่จะถูกส่งตัวมายังศูนย์พักพิง ย้อนกลับไปในช่วงที่มันเพิ่งอายุได้ 6 เดือน พวกมันทั้งสามไม่สามารถแม้แต่จะเดินให้เป็นเส้นตรงได้ แต่ด้วยความเชื่อเหลือจากเจ้าหน้าที่ พวกมันก็ได้รับที่อยู่อาศัย จนเมืื่อพวกมันโตขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็สังเกตเห็นว่า น้องเล็กสุด (Luke) มีอาการหูหนวกไม่ได้ยินเสียง และไม่สามารถห่าเปล่งเสียงออกมาได้ ภายใต้การดูแลของ Mr. Bones and Co ศูนย์ช่วยเหลือสุนัขประจำเมืองนิวยอร์ก ได้นำตัวพวกมันไปรักษากับสัตวแพทย์ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นให้ แต่ดูเหมือนว่าใน 3 พี่น้องกลุ่มนี้ เจ้าน้องเล็กสุดจะเรียนรู้อะไรต่างๆ ได้ช้ากว่าพี่ๆ เมื่อสัตวแพทย์วินิจฉัยและพบว่าเจ้า Luke มีอาการหูหนวก และไม่สามารถส่งเสียงได้ พวกเขาก็พยายามที่จะดูแลมันอย่างใกล้ชิดมาเสมอ แต่สิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือเรื่องราวของการดูแลกันและกัน “พวกมันดูแลกันและกันไม่เคยห่างเลยค่ะ ส่วนพวกพี่ๆ ก็ไม่คิดจะทิ้งน้องเหมือนกัน ไม่ว่าจะวิ่งเล่น นอนหลับ…
-
วินาทีสุดซึ้ง ทหารอเมริกันโอบกอด “เด็กน้อยชาวอิรัก” เพื่อปลอบโยนหลังเพิ่งเสียพ่อแม่ไป
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดตามข่าวคราวสงครามในอิรักมานานมากแล้ว แต่ท่ามกลางไฟสงครามก็มีเรื่องราวซึ้งๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเด็กน้อยชาวอิรัก และทหารอเมริกัน ภาพที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นภาพของทหารอเมริกันกำลังกอดเด็กน้อยชาวอิรัก ที่เพิ่งผ่าตัดเอากระสุนออกจากหัวได้อย่างสำเร็จ ภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อออกไปทั่วโลก มีคนเข้ามาให้คำชมเชยแก่นายทหารคนในภาพมากมาย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น ย้อนกลับไปในช่วงที่ไฟสงครามยังปะทุอยู่ ครอบครัวของเด็กสาวตัวน้อยถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายปลิดชีพ รวมทั้งตัวเธอเองก็ถูกยิงเข้าที่ศรีษะด้วยเช่นกัน ระหว่างการผ่าตัดเอากระสุนออกจากกระโหลก มีเพียงจ่าสิบเอก John Gebhardt ผู้ที่ช่วยเหลือหญิงสาวตัวน้อยมาจากสมรภูมิรบเท่านั้น ที่จะสามารถปลอมประโลมให้เธอหยุดร้องไห้ได้ ตลอดเวลาการรักษาตัวจ่าสิบเอก John ไม่คิดจะทิ้งหนูน้อยไว้ให้ห่างกาย ถึงแม้ว่าเขาทั้งสองจะไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน แต่ด้วยหัวอกของความเป็นมนุษย์ก็ทำให้นายจ่าพอตระหนักได้ว่า ตนควรช่วยเหลือเด็กสาวผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้ถึงที่สุด ทุกวันนี้เด็กสาวคนในภาพได้หายจากอาการบาดเจ็บ และกลับไปอยู่อาศัยกับคุณลุงในประเทศอิรักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางด้านของจ่าสิบเอกก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวของตัวเองในครั้งนี้อย่างถ่อมตนว่า “อันที่จริงผมได้รับคำชมที่มากเกินไป ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคนอื่นๆ ก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน และภาพนั่นก็เป็นแค่ภาพสะท้อนเศษเสี้ยวของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสงครามก็เท่านั้น” “หัวอกของประชาชนทุกคนไม่มีใครอยากอยู่ในสงครามหรอก และผมก็เชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่เราควรจะช่วยกันทำให้โลกนี้มันน่าอยู่ยิ่งขึ้น” จ่าสิบเอกกล่าวปิดท้าย ถ้าเพื่อนมนุษย์ไม่รักกันเอง แล้วใครจะมารักเราละเนาะ ที่มา: TheChive
-
ร้านอาหารในออสเตรเลีย “เก็บภาษีลูกค้าผู้ชาย” เพิ่ม 18% เพื่อนำเงินมาบริจาคให้องค์กรช่วยเหลือผู้หญิง
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ร้านอาหารมังสวิรัติ Handsome Her ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เรียกเก็บภาษีลูกค้าที่เป็นผู้ชายเพิ่ม 18% ทั้งนี้ เพื่อที่จะนำเงินที่ได้มาสมทบทุนองค์กรช่วยเหลือผู้หญิง ซึ่งภายหลังจากที่ร้านอาหารแห่งนี้ได้ออกกฎใหม่ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่าเทียมกัน ก็มีการถกเถียงกันบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทางด้าน Alex O’Brien นักสตรีนิยม เจ้าของร้านอาหารดังกล่าวได้ออกมาเผยว่า “ฉันต้องการให้ผู้คนนึกถึงเรื่องนี้ เพราะเราได้ขัดแย้งกันมาหลายทศวรรษแล้ว เรากำลังนำมันไปสู่ระดับแนวหน้าของจิตใจผู้คน ฉันอยากทำให้ผู้ชายหยุด และตั้งคำถามถึงสิทธิพิเศษของพวกเขา… หนึ่งในเพื่อนของฉันที่ทำงานในองค์กรการกุศลด้านสวัสดิการของผู้หญิง กำลังพูดถึงช่องว่างในการจ่ายเงิน และฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี ดังนั้นเราจึงตัดสินใจว่าในหนึ่งสัปดาห์ของแต่ละเดือน เราจะคิดค่าภาษีลูกค้าผู้ชาย 18% เพื่อนำเงินที่ได้ไปบริจาค” ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับวิธีการของร้านอาหารแห่งนี้ เพราะมีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนได้ออกมาแสดงความเห็นถึงความไม่เสมอภาคว่า “อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็บอกให้โลกรู้ว่าพวกเขารังเกียจผู้ชายมากแค่ไหน” ในขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าวได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้เราให้ความสำคัญกับการรับรู้และการถกเถียงกันในเรื่องของการเลือกปฏิบัติต่อผู้ชาย แต่เราก็ต้องให้ความเท่าเทียมกันกับผู้ชายด้วย” อย่างไรก็ตาม Alex O’Brien ก็ได้ออกมาโต้เถียงว่า ผู้ชายที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านของเธอ ก็ยอมรับในกฎนี้ดี อีกทั้งยังมีชายรายหนึ่งได้บริจาคเงินจำนวน 50 เหรียญ (1,600…
-
เจ้าเหมียวรับลูกแมวจรจัด ที่ถูกช่วยเหลือจากไฟป่า มาเป็นลูกบุญธรรม ดูสิ…กอดกันกลมเชียว!!
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2017 เกิดเหตุป่าขึ้นที่รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา จนเกือบจะทำให้เจ้าเหมียวจรจัดกว่า 18 ตัวเอาชีวิตไม่รอด แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยังโชคดี ที่ได้รับการช่วยเหลือจากหญิงรายหนึ่งที่ได้เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเธอก็ได้พบกับบรรดาแมวเหมียวที่ถูกกักขังเอาไว้ และนั่นก็ทำให้เธอได้นำตัวพวกมันไปยัง TinyKittens องค์กรช่วยเหลือสัตว์ใน Langley รัฐบริติชโคลัมเบีย ภายหลังจากที่ถูกย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ก็ได้สังเกตเห็นว่า มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งแสดงสัญชาตญาณความเป็นพ่อต่อบรรดาลูกแมวน้อยตัวอื่นๆ ออกมา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ จนทำให้ทุกคนเห็นแล้วยิ้มตามไปด้วย “Elliott เป็นหนึ่งในแมวจรจัดที่อพยพมาจากเหตุการณ์ไฟป่า เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และมันทำให้เรารู้สึกประหลาดใจจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากสำหรับเจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่ง ที่โตมาในสภาวะแวดล้อมตามธรรมชาติ แต่มันกลับแสดงความรัก และพร้อมที่จะดูแลลูกแมวตัวน้อยเหล่านี้” เจ้าหน้าที่กล่าว Elliott อ่อนโยนต่อลูกแมวน้อยเป็นอย่างมาก เห็นภาพของพวกมันแล้วทำให้หัวใจอบอุ่นเหลือเกิน บรรดาลูกแมวน้อยกำพร้าที่ไม่มีแม่ ตอนนี้ได้ Elliott เข้ามาดูแลแล้ว ดูสิ…กอดกันกลมเชียว เจ้าเหมียวน้อยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และถ้าหากพวกมันแข็งแรง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้พวกมันได้เข้าไปอยู่ในความดูแลของคนใจดีที่พร้อมจะมารับไปเลี้ยง ขอให้วันข้างหน้าพวกมันได้พบกับผู้ใหญ่ใจดี และได้อยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น ชีวิตน้อยๆ ของพวกมันจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในสภาพสัตว์ไร้เจ้าของอีกต่อไป…
-
เจ้าสุนัขใช้ชีวิตอย่างทุลักทุเลข้างถนน จนในที่สุด พลเมืองดีก็มาตามหาและช่วยเหลือมัน…
เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้า ‘Fox’ สุนัขจรจัด ที่ต้องมีชีวิตระหกระเหินไปตามข้างทาง และมันไม่เคยรู้เลยว่าเมื่อไหร่มันจะได้สัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่า… ‘ความรัก’ โชคดีที่ศูนย์พักพิงสุนัข Hope For Paws ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนพบเห็นสุนัขเนื้อตัวมอมแมมน่าจะหลงทางมาในอาณาเขตของเมืองลอส แองเจลิส ทันทีที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ออกตามหาตัวมันทันที โชคดีที่พวกเขาเห็นมันแอบซ่อนตัวอยู่บริเวณพุ่มหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเอาของกินไปล่อมันออกมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งคนเข้าไปล้อเจ้าสุนัข เพื่อทำให้มันรู้สึกว่าตนเองปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้นำตาข่ายมาล้อมไว้ (ป้องกันอุบัติเหตุจากรถชน) “ดูเหมือนว่ามันจะหิวมากๆ เพราะทันทีที่มันได้กลิ่นอาหารมันดูจะสนใจสุดๆ แถมยังส่ายหางไปมาอีกด้วย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า ตอนแรกทุกคนก็คิดว่าเจ้า Fox เป็นสุนัขจรจัดที่หลงทางมา ทว่าเมื่อลองดูที่ปลอกคอพวกเขาก็พบเบอร์โทรเจ้าของบ้านอยู่ จากนั้นเรื่องราวทั้งหมดจึงจบลงด้วยดี “Fox มีนิสัยเสียมากๆ ค่ะ มันชอบหนีออกจากบ้านไปวิ่งเล่นข้างนอก บางทีมันก็หายไปเป็นวันเลย เราคงต้องจัดการไม่ให้มันหนีไปได้อีกแล้ว” – เจ้าของเล่า เมื่อกลับมาได้ก็ต้องจัดการอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยซะก่อน ส่วนนี่ก็พี่น้องของเจ้า Fox ที่มันหนีออกมา อันที่จริงแล้วครอบครัวเลี้ยงดูมันอย่างดีเลยล่ะ ทว่ามันกลับมีนิสัยซนและชอบหนีเที่ยวนั่นเอง…
-
น่ารักที่สุด!! หนูน้อยวัย 8 ขวบ หาเงินช่วยเหลือเพื่อนพิการ เพื่อซื้อรถเข็นคันใหม่ให้กับเขา
นี่คือเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของมิตรภาพดีๆ ระหว่างเด็กน้อยวัย 8 ขวบ ที่อยากจะระดมทุนซื้อรถเข็นคันใหม่ให้กับเพื่อนพิการของเขา หลังจากที่ป่วยเป็นอัมพาตเพราะเนื้องอกขนาดใหญ่บนกระดูกสันหลัง Paul Burnett และ Kamden Houshan เป็นเพื่อนที่ดีที่ดีสุดของกันและกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาลที่โรงเรียนประถม Pomerado Elementary School พวกเขามักจะชอบไปกิน McDonald’s และไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะด้วยกันอยู่เสมอ สำหรับ Kamden เด็กชายวัย 8 ขวบจาก Poway รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเกิดมาพร้อมกับเนื้องอกขนาดใหญ่บนกระดูกสันหลัง จนทำให้กลายเป็นอัมพาตบริเวณช่วงขา และทำให้เดินไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงต้องอาศัยรถเข็นคนพิการในการเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆ และเมื่อ Paul Burnett ผู้เป็นเพื่อนรักได้สังเกตเห็นว่ารถเข็นของ Kamden มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับเขา แถมเวลาเข้าออกประตู และใช้ห้องน้ำก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้ตัดสินใจทำในบางสิ่งบางอย่างที่หลายๆ คนคิดไม่ถึง “รถเข็นของเขาพังหลายต่อหลายครั้ง และเขาก็มักจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะมันหนักมาก และที่แย่ไปกว่านั้นคือ มันใหญ่เกินไปสำหรับเขา แถมยังไม่พอดีกับขนาดของประตูอีกด้วย” Paul กล่าว หลังจากเรียนจบชั้น…
-
เจ้าหมานักสู้พิการขาหลัง พยายามลากตัวเองมาไกลหลายกิโลฯ เพื่อมาขอความช่วยเหลือ..
“ภาพแรกที่เราเห็นมันคือ… มันคลานเข้ามาด้วยขาหน้าอย่างน่าสงสาร พร้อมกับสายตาที่กำลังบอกเราว่ามันต้องการความช่วยเหลือจริงๆ” นั่นคือประสบการณ์แรกพบระหว่างเจ้าสุนัขผู้พิการ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือช้างทางตอนเหนือของประเทศบอตสวานา ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ Susanne Vogel ได้พบกับสุนัขผู้อาภัพ ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าสุนัขตัวนี้ จะต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาอะไรมาบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นคือ หัวใจนักสู้ผู้ไม่ย่อท้อของมัน ครั้งแรกที่ Susanne ได้มองเข้าไปในสายตาของสุนัข เธอก็ทราบทันทีว่าต้องรีบช่วยเหลือมันอย่างเร่งด่วน หลังจากนั้น Susanne ก็ได้ดูแลเจ้าสุนัขอย่างดี เธอพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการ อีกทั้งเธอยังพามันไปที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับมันด้วย และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทกันอย่างรวดเร็ว “สิ่งหนึ่งที่พวกเราทุกคนสงสัยก็คือ… มันสามารถเดินทางมาที่ค่ายแห่งนี้ได้ด้วยตัวเอง ทั้งที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่กักกัน ภายนอกแคมป์เราเต็มไปด้วยสัตว์ป่าอันตรายมากมาย แต่มันก็สามารถเดินทางมาถึงที่นี่ได้สุดยอดไปเลย” Susanne เล่า ถึงก่อนหน้าจะต้องเผชิญอุปสรรคด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้มันก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว และท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาอาการขาหลังของมันได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่า พวกเขาสามารถเป็นโลกทั้งใบของมันได้ เพียงแค่มอบความรักและความเอาใจใส่ให้มัน ซึ่งทุกวันนี้เจ้าสุนัขพิการก็ยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัวหลังใหม่อย่างมีความสุข จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง… เห็นดวงตาน้องหมาตอนแรกแล้วเศร้าตามเลย ที่มา: TheDodo
-
หญิงสาวเปลี่ยน “หมาพิทบูลสุดเศร้า” มาเป็นหมาที่มีความสุขที่สุด สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ทำตาม…
Charlie เป็นชื่อของน้องหมาสายพันธุ์พิทบูล ที่ก่อนหน้านี้มันเคยอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์เพียงลำพัง หลายคนก็คงจะรู้ว่าพิทบูลบางตัวมีนิสัยดุร้าย พวกเขาเลยไม่อยากเสี่ยงให้มันไปอยู่ร่วมกับตัวอื่นและอาจจะเกิดเหตุรุนแรงกันได้ แต่แล้วมันก็ได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวคนหนึ่ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตที่เคยเศร้าของมัน กลับมามีความสุขอีกครั้ง ภายหลังจากที่น้องสาวของ Meriah Jae ได้รับเจ้าหมาตัวนี้มาเลี้ยง เธอก็ได้นำเรื่องราวของมันมาแชร์ลงในทวิตเตอร์ ซึ่งเธอได้เผยว่า ในตอนที่เจ้า Charlie อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์มันไม่มีใครสนใจเลย จึงทำให้มันหดหู่ และกลายเป็นสุนัขแสนเศร้า… แต่น้องสาวของเธอ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เธอสามารถเปลี่ยนแปลง ทำให้มันกลับมาแฮปปี้และสดใสอีกครั้งได้ หลังจากที่ได้หญิงสาวใจดีมาเป็นผู้ดูแล ชีวิตของมันก็ดูสดใสขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับภาพก่อนหน้านี้ ซึ่งมันมีหน้าตาที่เศร้าสร้อยมากๆ เมื่อข้อความและภาพของเจ้าหมา ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์กันมากถึง 345,000 คน พร้อมกับรีทวิตมากกว่า 133,000 ครั้งเลยทีเดียว เป็นไงล่ะ เปลี่ยนไปเยอะเลยไหม… เธอบอกว่ามันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ ตัวหนึ่งเลยละ รอยยิ้มบนใบหน้า แสดงให้เห็นว่า Charlie กำลังมีความสุขที่สุด นอกจากนี้ เรื่องราวของเจ้าหมายังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่อยากจะรับสุนัขจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงบ้าง และพวกเขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเจ้าหมาน้อยเหล่านี้ให้มีความสุขกว่าที่เคยเป็น ดูเจ้าหมาที่เคยมีรูปร่างผอมแห้งตัวนี้สิ หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ…
-
“ลูกแทสมาเนียน เดวิล” หลงรักผู้ดูแลมัน ทำหน้ามุ้งมิ้งแถมเกาะติดไม่ยอมห่าง น่าร๊ากกกกกกกก!!
หากตอนเป็นเด็กคุณเคยรับชมการ์ตูนเรื่อง Looney Tunes เชื่อว่าหลายคนคงจะจำเจ้า Taz (Tasmanian Devil) ตัวละครหน้าดุมีเขี้ยวที่เน้นมุกตลกร้าย กวนๆ ชวนหัวเสียที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนดูได้มากมายอย่างแน่นอน แต่สำหรับเจ้าแทสมาเนียน เดวิล ในโลกของความเป็นจริงนั้น บอกเลยว่ามีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากในการ์ตูนอย่างสิ้นเชิง แต่ในเรื่องนิสัยกลับมีลักษณะที่คล้ายกันซะอย่างนั้น แทสมาเนียน เดวิล ถือเป็นหนึ่งในสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียปัจจุบัน และความดุร้ายของมันก็ทำให้มนุษย์ไม่อยากที่จะเข้าใกล้ หรือพบเจอมันสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่กับ Tim Faulkner เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานการตลาดของ Australian Reptile Park เพราะเขากลับเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้ามาดูแลชีวิตของเจ้าสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์ตัวน้อยๆ อย่างลูกแทสมาเนียน เดวิล ตัวนี้… และเมื่อไม่นานมานี้ ในเฟสบุ๊คของ Tim ก็ได้เผยคลิปวีดีโอน่ารักๆ ในชีวิตประจำวันของลูกแทสมาเนียน เดวิล ขณะกำลังเล่นอยู่กับเขาอย่างสนุกสนาน ซึ่งก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามากดไลค์ให้กับความน่ารักของเจ้าสัตว์ตัวนี้กันอย่างมากมาย เขาเป็นคนที่รักสัตว์อย่างมาก โดยเฉพาะสัตว์ตัวน้อยๆ ซึ่งเขามักจะออกมาวิ่งเล่นกับมันด้วยท่าทางที่ดูอบอุ่น และมันก็มักจะติดตามเขาไปทุกๆ แห่งอีกด้วย ดูเหมือนมันจะชอบการถูกเกาพุงเป็นพิเศษนะ!! เรามาชมคลิปความน่ารักของเจ้าแทสเมเนียนเดวิลกันเลยดีกว่า แล้วคุณจะหลงรักมันแน่นอน แม้มันจะดูน่ารัก แต่มันก็เป็นนักล่าและมีนิสัยดุร้าย…
-
ตำรวจสาวได้พบกับฮีโร่ ผู้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธออีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานถึง 20 ปี
นี่คือเรื่องราวของ Sally Zheng หญิงสาวที่ไม่เคยได้รับความสุขจากครอบครัวของตัวเองเลย โดยเมื่อตอนที่เธออายุ 14 ปี ในเวลานั้นเรียกได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเธอต้องทนอยู่กับผู้เป็นพ่อแม่ที่ชอบทำร้ายเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Ralph Torres เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีจิตใจเมตตา ที่ได้พา Sally ออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น และพาเธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานสงเคราะห์ โดยที่ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทั้งสองเริ่มขาดการติดต่อกัน ซึ่งภายหลังจากที่ Sally จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับวิทยาลัย เธอก็ปรารถนาที่จะได้เห็นหน้าของผู้ที่เคยช่วยชีวิตของเธออีกครั้ง ในตอนนี้ Sally ได้เข้ามาทำงานในกรมตำรวจนครนิวยอร์ก โดยมี Ralph เป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น และด้วยความหวังว่าจะได้เจอกับ Ralph อีกครั้ง ซึ่งภายหลังจากที่เธอได้งานแล้ว เธอก็ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ว่ารู้จักเจ้าหน้าที่ Ralph Torres หรือไม่ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดเลย Sally พยายามติดต่อไปหา Ralph ซึ่งก็เป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้พบกัน และในวันที่ 25…
-
เจ้าโกลเด้นจากจีน ถูกจนท. ยิงกว่า 50 ครั้งในสนามบิน ได้รับการรักษาและพร้อมกลับบ้านแล้ว!!
ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสดราม่าถูกพูดถึงไปทั่วโลกโซเชียลจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Er Mao ที่วิ่งเตลิดลงไปในรันเวย์เสียก่อน ในขณะที่กำลังจะโหลดลงออกจากเครื่อง ทว่าด้วยกฎข้อบังคับของสนามบิน หลังจากที่เจ้าโกลเด้นฯ หลุดออกไปในรันเวย์ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องหยุดการเคลื่อนไหวของมันด้วยการยิงปืนยางใส่มัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2017 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าตูบได้รับอาการบาดเจ็บและต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน Zuo Wei เจ้าของหนุ่มเล่าว่า “ผมเข้าใจว่ามันดีใจมากตอนที่เราเจอกันครั้งแรก หลังจากไม่ได้เจอกันมานาน ถึงแม้จะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นแต่ผมก็จะขอดูแลมันให้ดีที่สุด” กระสุนยางหลายสิบนัดฝังอยู่ในชั้นผิวหนังของเจ้าตูบ และทำให้ทีมแพทย์ต้องรีบผ่าตัดช่วยเหลือมันอย่างเร่งด่วน ก่อนหน้านี้ Zuo Wei เคยอาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่หลังจากเรียนจบเจ้าตัวก็ได้ย้ายมาทำงานให้กับบริษัทในเมืองอู่ฮั่นในฐานะวิศวกร และด้วยความคิดถึงทำให้สองเดือนต่อมา เจ้าตัวตัดสินใจที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินให้เจ้าตูบเดินทางมาอาศัยอยู่กับเขา ทว่าเหตุการณ์ยุ่งเหยิงก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น สัตวแพทย์ได้เอ็กซ์เรย์และพบว่า มีกระสุนยางฝังในร่างมันมากกว่า 50 เม็ด สำหรับ Zuo Wei แล้วเขาคงไม่มีทางที่จะลืม วินาทีสุดช็อคที่เกิดขึ้นกับเจ้าตูบได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักษาเจ้าตูบ ถึงแม้ว่ามันจะต้องสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้างก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าสายการบินจะไม่ชดเชยค่าเสียหายใดๆ เลย…
-
เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือสุนัขกว่า 149 ชีวิต ออกมาจากฟาร์มเนื้อสุนัข ได้อย่างปลอดภัย…
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสื่อของประเทศเกาหลีใต้เข้ามามีอิทธิพลต่อวัยรุ่นบ้านเรามากขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงสืบทอดมาอย่างยาวนานเช่นกันก็คือ การรับประทานเนื้อสุนัข สุนัขกว่า 149 ชีวิต จะถูกฆ่าเพื่อแล่เอาไปเนื้อไปส่งขายตามร้านค้าต่างๆ ก่อนที่พวกมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเมนูอาหาร และนี่คือภารกิจของ Humane Society International กับการเข้าไปช่วยชีวิตพวกมันทั้งหมด เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่องค์กร HSI พยายามที่จะช่วยเหลือสุนัขให้รอดพ้นจากการถูกนำไปทำเป็นอาหารในเกาหลีใต้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยเจ้าของฟาร์มได้ทำเรื่องขอย้ายสุนัขทั้งหมด ก่อนจะเปลี่ยนไปทำเกษตรกรรมแทน สุนัขกว่า 149 ชีวิตส่วนหนึ่งจะได้บินไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อไปถึงพวกมันจะถูกส่งตัวไปตามศูนย์พักพิงต่างๆ เพื่อรอรับการอุปการะอีกทีหนึ่ง ทว่าสำหรับลูกสุนัขที่ยังขึ้นเครื่องบินไม่ได้ พวกมันจะถูกส่งตัวไปยังศูนย์พักพิงต่างๆ ในเกาหลีใต้ เป็นภาพที่น่าเศร้ามาก เพราะสุนัขส่วนใหญ่ได้แต่อาศัยอยู่ในกรงขังมาตลอดชีวิต และหลายๆ ชีวิตต้องป่วยติดเชื้อจากสภาพเป็นอยู่ที่ไม่ถูกหลักอนามัย “สภาพของพวกมันน่าสงสารมากๆ ครับ พวกมันผอมโซ หิวโหย ดวงตาเศร้าสร้อย พวกมันกลัวแม้แต่จะมองหน้าเราด้วยซ้ำ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า สำหรับประเทศเกาหลีใต้ นับว่าที่นี่เป็นฟาร์มสุนัขแห่งที่ 9 ที่ถูกปิดตัวลงไปนับตั้งแต่ปี 2014 Nara…
-
ตูบโกลเด้นกลายเป็นฮีโร่ หลังเข้าช่วย “ลูกกวางน้อย” ที่กำลังจะจมน้ำ จนพาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่จะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย เมื่อ Storm น้องหมาพันธุ์โกลเด้นสีขาวตัวนี้ ได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่ หลังจากที่มันได้กระโดดลงไปช่วยลูกกวางน้อยที่กำลังจะจมน้ำ สำหรับเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ขณะที่เจ้า Storm ได้เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Port Jefferson Harbor ในนิวยอร์ก ซึ่งขณะที่มันออกไปเดินเล่นกับเจ้านายที่ริมหาดอยู่นั้น จู่ๆ เจ้าหมาก็ได้เห็นลูกกวางน้อยตัวหนึ่งกำลังจมน้ำอยู่กลางทะเล และนั่นก็ทำให้มันไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนต่างสายพันธุ์ทันที ทางด้าน Mark Freeley ผู้เป็นเจ้าของก็ได้คอยเฝ้าดูเจ้าหมาในขณะที่มันว่ายน้ำออกไปช่วยลูกกวาง และหลังจากนั้นมันก็คาบคอเจ้ากวาง พร้อมกับสามารถพามันขึ้นฝั่งได้สำเร็จ โชคดีนะเนี่ยเจ้ากวางที่สามารถรอดชีวิตมาได้ และนี่คือคลิปวีดีโอวินาทีขณะที่เจ้าหมาได้กระโดดลงไปช่วยลูกกวางน้อยที่กำลังจมน้ำ เมื่อสามารถช่วยลูกกวางน้อยขึ้นมายังฝั่งได้สำเร็จ ทาง Mark เจ้าของสุนัขก็ได้ติดต่อไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Strong Island Animal Rescue League เพื่อขอความช่วยเหลือ และเมื่อ Frankie Floridia และ Erica Kutzing เจ้าหน้าที่มูลนิธิมาถึง พวกเขาก็พบว่าเจ้ากวางน้อยเกิดอาการหงุดหงิดและได้วิ่งกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง งานนี้เลยทำให้…
-
แบบนี้ก็มีเหรอ? ศูนย์พักพิงแมวเหมียวในบรู๊คลิน ใช้ ‘หนู’ เป็นคุณแม่ดูแลลูกแมวแทน..!!
เป็นธรรมดาที่เราอาจจะถูกปลูกฝังคอนเซ็ปต์ไว้ในหัวว่า แมวมักจะไม่ถูกกับหนูเสมอเหมือนอย่างที่เราเห็นในหนังทอมแอนด์เจอร์รี่ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะ… เพราะที่ Brooklyn Cat Cafe ศูนย์พักพิงแมวเหมียวได้เลือกใช้หนู มาทำหน้าที่เป็นคุณแม่จำเป็นคอยดูแลเจ้ามิ้วน้อยทั้งหลาย ลูกแมวทุกตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาที่นี่ จะถูกดูแลรักษาอาการบาดเจ็บขั้นต้นโดยเจ้าหนู Remy และ Emile สำหรับหนูทั่วไปเมื่อพวกมันเจอแมวเหมียว สิ่งแรกมันอาจจะคิดถึงสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ทว่าสำหรับหนูเพื่อนซี้ทั้งสองตัวนี้พวกมันกลับเลือกที่จะทำในสิ่งตรงกันข้าม “พวกมันน่ารักมากๆ เลยล่ะ แมวเหมียวทุกตัวที่ยังอายุไม่ถึง 8 สัปดาห์จะถูกส่งตัวมาที่นี่ และก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหนูทั้งสองที่จะคอยดูแลน้องๆ ต่างสายพันธุ์” Levin เล่า ก่อนหน้านี้เจ้าหนูทั้ง 2 ชีวิต ก็เคยได้รับการช่วยเหลือมาก่อน และนี่อาจเป็นสิ่งดีๆ ที่มันอยากจะส่งต่อให้คนอื่นได้รับ เรียกได้ว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ หนูตัวจิ๋วทั้งสองได้คอยดูแลช่วยเหลือลูกมิ้วให้ผ่านพ้นช่วง 8 สัปดาห์แรกไปได้มากกว่า 15 ชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอยกล่อมน้องเข้านอน คอยป้อนอาหารให้น้อง คอยดูแลความสะอาดบนร่างกายน้อง หรือแม้กระทั่งปกป้องน้องจากอันตรายต่างๆ แม้ว่าขนาดตัวจะต่างกัน และสายพันธุ์อาจจะทำให้เราอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เจ้าหนูทั้งสองตัวนี้ได้ก้าวข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นไปแล้วล่ะ “เราไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพหนูอ้วน คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยลูกแมว และไม่น่าเชื่อว่าหางของมันจะเป็นของเล่นที่น้องๆ ชอบกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้”…
-
เจ้าหน้าที่ตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้กับ ‘ครอบครัวไร้บ้าน’ เพราะอยากให้เด็กๆ มีอนาคตที่ดี
บนโลกของเรานั้นมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นทุกวัน และการได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้หัวใจของเรารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย….เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ ย้อนกลับไปในปี 2015 เมื่อคุณ Tierra Gray และลูกชายอีกสองคนถูกขับไล่ออกจากอพาร์ตเม้นท์ ทำให้ชีวิตของครอบครัวนี้ถึงกับไปไม่เป็น เธอจึงตัดสินใจพาลูกๆ ไปยังที่ทำการอำเภอ Butler County เพื่อหาที่ซุกหัวนอน “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า พระเจ้า…ฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้ฉันควรจะทำอะไรก่อนดี ลูกๆ ฉันจะต้องนอนในห้องพักของผู้ต้องหาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกกี่คืนกัน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้น มันเป็นอะไรที่ทำใจยอมรับได้ยากมากๆ เลยล่ะ” คุณ Tierra เล่า สิ่งที่คุณ Tierra กังวลมีอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการถูกพรากลูกๆ ไป เพราะสถานะตอนนี้เธอเป็นเหมือนคนไร้บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนฟ้ายังมีตา เพราะจู่ๆ เจ้าหน้าที่ Brian Bussell ได้เข้ามาเสนอความช่วยเหลือให้กับเธอ โดยเขาให้เหตุผลว่าเด็กๆ ไม่ควรจะต้องมาเจอกับประสบการณ์แบบนี้ “พวกเขาควรจะได้นอนในบ้าน บนเตียงอุ่นๆ ไม่ใช่หน้าห้องขัง หรือใต้สะพาน” เจ้าหน้าที่ Bussell กล่าว “เขาบอกว่าจะช่วยเรา และช่วยหาทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับเรา มันทำให้ฉันร้องไห้เลยล่ะ…
-
อดีตผู้ต้องหาสละโอกาสตัวเอง ไม่ไปสัมภาษณ์งาน ขอลงกลางทางเพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ
การหางานทำหลังจากที่ผ่านชีวิตในเรือนจำมานั้น ดูเหมือนจะอะไรที่ยากมากๆ แต่สำหรับอดีตผู้ต้องหาผู้นี้เขากลับเลือกโดยไม่ลังเลเลยที่จะเสียสละโอกาสในการได้งาน เพื่อไปช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แทน พบกับเรื่องราวที่น่าประทับใจของคุณ Aaron Tucker จากเมืองบริดจ์พอร์ต รัฐคอนเนตทิคัต ที่บอกให้รถโดยสารประจำทางจอด เพื่อลงไปช่วยชีวิตผู้คนในอุบัติเหตุรถคว่ำ ระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปสัมภาษณ์งาน หลังจากที่ช่วยเหยื่อผู้ประสบภัยออกจากที่เกิดเหตุ ชายหนุ่มวัย 32 ปีได้สละเสื้อของเขาเพื่อห้ามเลือดให้กับผู้บาดเจ็บ ทำให้เขาต้องพลาดโอกาสในการสัมภาษณ์งานของร้านอาหาร Dinosaur Bar-B-Que ไป แต่หลังจากที่เรื่องของชายหนุ่มถูกเผยแพร่ไปแล้ว ก็มีผู้ร่วมบริจาคเงินให้กับเขาผ่านทางเว็บไซต์ GoFundMe จำนวนมากเพื่อเป็นการตอบแทนความเสียสละ ที่ยอมละทิ้งการสัมภาษณ์งานในวันนั้นเพื่อช่วยชีวิตคน ตามการรายงานของสำนักข่าว New York Daily News บอกว่า เขาตื่นตั้งแต่ตอนตี 5 เพื่อเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน และระหว่างที่รถบัสกำลังแล่นไปบนถนน เขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งคว่ำอยู่และมีควันออกมา เขาจึงตัดสินใจบอกให้รถบัสหยุดและลงไปช่วยผู้บาดเจ็บ หลังจากที่ลงไปช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บแล้ว ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยที่พลาดการสัมภาษณ์งาน “ตอนนั้นสิ่งที่ผุดขึ้นมาบนหัวผมคือ ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ดังนั้นผมจึงตัดสินใจลงไปช่วยเขา” คุณ Tucker เคยได้รับโทษจำคุกนาน 22 เดือนและกำลังมองหางานใหม่เพื่อดูแลครอบครัวเขา และจากการกระทำของชายหนุ่มท่านนี้ ก็ได้รับการยกย่องอย่างมากจากทั้งทางโลกออนไลน์และผู้คนในพื้นที่ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ Robert Yost กล่าวว่า “การกระทำของเขาแสดงให้ทุกๆ คนเห็นถึงความกล้าในการช่วยเหลือผู้อื่น ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสังคม” …
-
คลิปขำๆ ‘Guiding Hands’ ไอเทมที่คอยช่วยคนติดมือถือ ใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล…
หากใครเคยดูรายการ CONAN ของช่อง TBS จะรู้ว่ารายการชอบนำเสนออะไรที่แปลกๆ ฮาๆ รวมทั้งการประชดประชันที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนดูเสมอ อย่างคลิปนี้ที่นำเสนอเรื่อง Guiding Hands ซึ่งเป็นไอเทมพิเศษที่จะคอยช่วยเหลือคนที่ติดโทรศัพท์มากๆ ทำให้คุณสามารถเล่นโทรศัพท์แบบไร้กังวลได้ทุกที่ทุกเวลา ก็อย่างที่เราเคยเห็นแหละ บางคนชอบเดินเล่นโทรศัพท์โดยไม่สนใจว่าจะเดินชนกับใครหรือสิ่งกีดขวางอะไรบ้าง แล้วสุดท้ายพอเดินชนปุ๊บ โทรศัพท์หลุดมือตกแตกยังไม่พอ อาจถูกคนที่เดินชนเอาเรื่องด้วย แต่ถ้าใช้บริการ Guiding Hands คุณจะไม่เจอปัญหาเหล่านี้ เพราะมันจะคอยปกป้องคุณจากสิ่งกีดขวางทั้งหมด ให้คุณเล่นโทรศัพท์แบบไม่มีชะงัก อยากเล่นก็เล่นไป ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ Guiding Hands เอง เวลาคนติดโทรศัพท์มากๆ เนี่ย จะมีความรู้สึกอยากเล่นโทรศัพท์ตลอด แม้จะว่ามีธุระอย่างอื่นที่สำคัญหรือจำเป็นมากแค่ไหน ก็ขอให้จิ้มๆ หน้าจอไว้ก่อน ต้องขับรถแต่อยากเล่นโทรศัพท์ด้วย ไม่เป็นไร Guiding Hands ช่วยได้ เป็นบริการที่น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ แต่มันไม่ได้มีจริงๆ หรอก ทางรายการทำขึ้นมาขำๆ เท่านั้นเอง แล้วถ้ามีจริงๆ ล่ะ เพื่อนๆ อยากใช้บริการ Guiding Hands มั้ยเอ่ย? ก่อนหน้านี้ทางรายการ CONAN ก็เคยทำคลิปล้อเลียนที่คล้ายๆ…
-
สุนัขพิทบูลกลายเป็นฮีโร่ หลังพยายามช่วยเหลือเด็กน้อย ให้รอดพ้นจากการถูกงูกัด!!
หลายคนมองว่าเจ้าตูบพิทบูล เป็นปีศาจสังหาร เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินข่าวอันน่าสลดเกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้มามากมาย อย่างการขย้ำเจ้าของจนถึงขั้นเสียชีวิต… แต่ในบางครั้ง เจ้าหมาพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มีแต่ด้านโหดๆ เสมอไป เพราะมันก็มีด้านดีๆ เหมือนกันนะ ดูอย่างเจ้า Hurley สุนัขพันธุ์พิทบูลตัวนี้ ที่ได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่ หลังสามารถช่วยชีวิตเด็กน้อยจากการถูกงูกัดได้ เรื่องราวของเจ้าตูบแสนรักถูกเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊คของ Stacie Rae English น้องสาวของ Shelby ผู้เป็นเจ้าของ Hurley และภายในเวลาไม่นาน เรื่องราวของมันก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีคนเข้ามาไลค์มากกว่า 53,000 ครั้ง และกดแชร์มากถึง 13,000 คนเลยทีเดียว โดยที่เธอเล่าว่า เจ้าหมาได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่หลังจากที่มันสามารถช่วยชีวิตเด็กน้อย ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายให้รอดชีวิตจากงูพิษมาได้ แม้ว่าตัวของมันเองจะถูกงูกัดก็ตาม และนี่คือเรื่องราวที่ทางเจ้าของได้นำออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ฟังแล้วก็รู้สึกขอบคุณเจ้า Hurley มากจริงๆ … “พี่ชายของฉันกับเจ้าหมา กำลังเดินอยู่แถวละแวกบ้านในตอนเย็น แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กดังมา และนั่นก็ทำให้เจ้า Hurley รีบวิ่งยังสถานที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว มันก็เห็นว่าเด็กกำลังจะถูกงูพิษกัด ด้วยเหตุนี้ เจ้าหมาจึงรีบเข้าไปฆ่างูตัวนั้น…
-
จากหมาที่ถูกล้อมรอบด้วยลูกกรง 8 ปี ได้บ้านใหม่ แถมสร้าง “อาณาจักรตุ๊กตา” เต็มไปหมด!!
ลึกๆ แล้วถึงแม้ว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถบอกความรู้สึกในใจของมัน ผ่านออกมาเป็นคำพูดให้เราเข้าใจได้ แต่เราเชื่อว่าคงไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวไหนที่อยากให้ตัวเองถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าสงสาร เฉกเช่นเดียวกับอดีตอันโหดร้ายที่เจ้า Jojo เคยประสบพบเจอมา ก่อนหน้านี้มันถูกเจ้าของเก่าผู้มีจิตใจโหดร้ายขังมันไว้แต่ในกรงนานกว่า 8 ปี และตลอดทั้งชีวิตมันไม่เคยได้สัมผัสคำว่าอิสระภาพเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งหนึ่ง Jojo เคยถูกเจ้าของเอากรรไกรมาตัดหูของมันจนกลายเป็นแผล และขังลืมมันไว้ในความมืดมิด หลังจากที่มันอายุได้เพียงแค่ 7 เดือน เจ้าของคนเก่าก็นำมันไปขังไว้ในกรงมาโดยตลอด จนผ่านมาแล้ว 8 ปี Jojo ก็ไม่เคยได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกเลยซักครั้ง “ตอนที่เราเข้าไปช่วยเหลือ ไม่มีแม้แต่อาหาร น้ำดื่ม ผ้าห่ม ไม่มีอะไรเลยมีแค่พื้นแข็งๆ และกรงสี่เหลี่ยมเท่านั้น” เจ้าหน้าที่เล่า โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ และพวกเขาก็พร้อมที่ฟื้นฟูสภาพจิตใจของมันอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่พามันไปรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ จนหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว Jojo ก็ได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Kevin และ Leann ทุกวันนี้ Jojo อายุ 10 ปีแล้ว และมันก็ได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับครอบครัวที่รักและต้องการจะช่วยเหลือมันจริงๆ มันรู้จักที่จะกลับมายิ้มแย้มทำตัวร่าเริง ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ละแวกบ้าน …
-
โฉมหน้า 6 มหาเศรษฐี ที่บริจาคเงินให้การกุศล เพราะรวยไปก็ไลฟ์บอย ช่วยสังคมดีกว่า!!
เคยลองจินตนาการกันเล่นๆ มั้ยว่า? ถ้าวันหนึ่งจู่ๆ เรากลายเป็นเศรษฐีพันล้านชื่อดังระดับโลกขึ้นมา เราจะเอาเงินทั้งหมดนั้นไปทำอะไรบ้าง? แต่สำหรับเศรษฐีระดับโลกทั้ง 6 คนนี้ เชื่อว่าพวกเขาน่าจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำไปหมดแล้ว เลยนำเงินที่หามาได้บริจาคให้กับการกุศลเป็นจำนวนมาก และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเศรษฐีที่รวยไปก็ไลฟ์บอย หันมาช่วยสังคมบ้างอะไรบ้างดีกว่า!! Bill Gates – 28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากพูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ก็ต้องมีรายชื่อของชายคนนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ จากการรายงานพบว่าเขายอมบริจาค 95% ของรายได้ตัวเองให้แก่มูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation ถ้าตีเป็นตัวเลขกลมๆ จาก 95% ของรายได้ที่เขาบริจาคไป ก็จะได้ตัวเลขทั้งหมดเท่ากับ 28 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา หรือราวๆ 955 พันล้านบาทนั่นเอง Warren Buffet – 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ชายผู้รวยเป็นอันดับ 3 ของโลก ก่อนหน้านี้เขาเคยบริจาคเงินกว่า 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับมูลนิธิของ Bill Gates อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะบริจาครายได้ 99%…
-
สุดยอดฮีโร่!! หนุ่มจีนกระโดดลงจากรถไฟแบบไม่คิดชีวิต เพื่อช่วยหญิงชราจนถูกทับขาขาด
การข้ามทางรถไฟ ถือเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุที่หูตาไม่ดี พวกเขาอาจไม่ได้ยินเสียงเตือน หรือไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณไฟ เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชรารายนี้ เธอเกือบได้รับอันตรายจากการข้ามรางรถไฟ แต่โชคดีที่รอดมาได้เพราะมีฮีโร่หนุ่มมาช่วยเอาไว้ได้ทัน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ในบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2017 Xu Qiankai หนุ่มวัย 29 ปี หนึ่งในผู้ควบคุมรถไฟกำลังขับรถไฟอยู่ในเส้นทางชานเมืองฉงชิ่ง โดยในขณะนั้น เขาได้เห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังเดินข้ามทางรถไฟ ด้วยเหตุนี้เขาต้องรีบดึงเบรกฉุกเฉินและส่งเสียงแตรเตือน แต่แทนที่หญิงรายนั้นจะรู้ตัว เธอกลับยังยืนนิ่งอยู่บนรางรถไฟ ทางด้าน Xu หลังจากที่เขาเห็นว่าเธอไม่ขยับตัว และกำลังจะถูกรถไฟพุ่งเข้าบดขยี้ร่าง จึงทำให้เขารีบกระโดดลงจากรถไฟ พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาเธอ และผลักเธอให้พ้นออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แม้ว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือหญิงรายดังกล่าวได้ทันเวลา แต่ตัวเขาเองกลับเคราะห์ร้ายถูกรถไฟทับบริเวณขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน อย่างไรก็ตาม นาย Xu สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มาได้ แต่ก็น่าเศร้าก็คือ เขาต้องถูกแพทย์ตัดขาด้านขวาออกหลังจากที่ถูกรถไฟบดขยี้ “ถึงแม้ว่าผมจะสูญเสียขาไป แต่ผมก็สามารถช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งเอาไว้ได้…
-
สื่อนอกลงข่าว สาวไทยถูกช่วยจาก “ซ่องเกาหลีใต้” หลังแอบส่งโน้ต ให้พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต
เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงจะพอได้ยินข่าวเกี่ยวกับสาวไทยที่ถูกหลอก และถูกบังคับให้ไปขายบริการที่ประเทศเกาหลีใต้กันมาบ้างแล้ว และล่าสุดวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 มีรายงานจากทางเว็บไซต์ Allkpop ว่า ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม เวลาประมาณตี 4.20 น. ที่ผ่านมา หญิงไทยรายหนึ่งได้เดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่เธอถูกบังคับให้ไปขายบริการ จากการรายงานระบุว่า หญิงไทยรายนี้ได้ทำการส่งกระดาษโน้ตให้กับแคชเชียร์สาวในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี และภาษาไทยว่า “ช่วยแจ้งตำรวจให้ที ฉันโดนจับอยู่ชั้น 4 ของตึก” ทางด้านแคชเชียร์สาวก็ได้ตอบเธอกลับว่า คุณต้องการให้ฉันโทร 112 (บริการฉุกเฉิน) หรือไม่? แต่ทางสาวไทยรายดังกล่าวกลับปฏิเสธ เพราะในขณะนั้นมีผู้ชายที่มีท่าทางที่น่าสงสัยอยู่กับเธอหลายคน ด้วยเหตุนี้ ทางแคชเชียร์สาวเลยแอบถามเบอร์โทรสะสมแต้มของซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นเธอก็ได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ก็พยายามตามหาหญิงรายดังกล่าวรอบๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่การค้นหาดำเนินไปอย่างยากลำบาก เพราะรายละเอียดที่เธอบอกในกระดาษโน้ตมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่สาวไทยได้ทิ้งเอาไว้ในโน้ต ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามันตรงกับเบอร์โทรศัพท์ของนายลี ซึ่งเขาเคยถูกจับตาเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับสถานขายบริการ “Kiss Room” นอกจากนี้ บนเฟสบุ๊คของผู้เป็นเพื่อนของหญิงที่มาขอความช่วยเหลือ…
-
อดีตทหารผ่านศึก บริจาคที่ดินส่วนตัวมูลค่า 77 ล้านบาท มอบให้องค์กรกุศลเพื่อช่วยสังคม!!
อีกเรื่องราวคุณงามความดีของนายทหารผู้ผ่านศึกสงคราม ที่ได้บริจาคพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองหลังเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อมอบให้แก่องค์กรการกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์… Stephen Florentz อดีตทหารผ่านศึกที่เคยผ่านสมรภูมิรบในเวียดนาม ในฐานะแพทย์สนามที่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจบจากสงครามเขาก็ได้ย้ายมาทำหน้าที่เป็นแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในชุมชน Stephen Florentz ช่วงบั้นปลายชีวิตเขาได้มอบพินัยกรรม ทำการบริจาคที่ดินทั้งหมดให้กับองค์กร Central Oklahoma Habitat for Humanity “ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเรื่องเดียวที่เค้าใส่ใจมากที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่เขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่โอคลาโฮมา และมีบ้านเป็นของตัวเอง” Mike Bourland เพื่อนคนสนิทเล่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นที่พักสำหรับกลุ่มคนไร้บ้าน และคนที่ต้องการความช่วยเหลือต่างๆ เจ้าตัวได้ทำการติดต่อกับ Ann Felton CEO ผู้ดูแลองค์กรดังกล่าว ทว่าไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาได้ทำการมอบพื้นที่ทั้งหมดให้กับองค์กรไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน คุณลุงสตีเฟ่นได้ลาจากโลกไปอย่างสงบ จนเมื่อมีการเปิดพินัยกรรมถึงได้รู้ว่า คุณลุงได้มอบโฉนดที่ดินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 77 ล้านบาท) “พวกเราไม่แปลกใจเลยที่เขาบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับมูลนิธิ เพราะนี่คือภาพสะท้อนตัวตนของความเป็น Stephen Florentz อย่างแท้จริง… เขาเป็นทั้งผู้ให้ และผู้ที่คอยหวังดีกับเพื่อนมนุษย์เสมอ” T. Sheri…
-
สุนัขถูกขังลืมไว้ในโรงฆ่าสัตว์ ขนแห้งแข็งเต็มไปด้วยโคลน ถูกช่วยเหลือจนหล่อขึ้นเป็นกอง!!
นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์การช่วยเหลือสุนัขผู้ตกทุกข์ได้ยากที่นาย Adam Parascandola จะต้องจดจำวินาทีที่เขาได้เห็นภาพมันครั้งแรกไปตลอดชีวิต… เจ้า Camo เป็นหนึ่งในสุนัขผู้โชคร้ายที่ต้องมาอยู่ในฟาร์มเนื้อสุนัขแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของเจ้า Camo แต่หลังจากที่เจ้าของฟาร์มเนื้อสุนัขที่ทำมานานกว่า 20 ปี คิดที่จะล้มเลิกการขายเนื้อสุนัขให้กับโรงฆ่าสัตว์ไป แต่ไม่สามารถพาน้องหมาที่อยู่ภายในฟาร์มหาที่อยู่ที่เหมาะสมได้ องค์กร Humane Society of the United States ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือพวกมันเป็นการด่วน มันถูกขังไว้ในกรงที่มีสภาพสกปรก เต็มไปด้วยโคลน และไม่มีการทำความสะอาดมานานหลายปี มันถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ถึงขนาดที่ขนของมันเต็มไปด้วยโคลนจับตัวกันเป็นกระจุก และนี่คือสภาพเมื่อเจ้าหน้าที่จาก Humane Society International ได้เข้าไปช่วยเหลือมัน ช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ดูเหมือนว่าเจ้า Camo จะฝังใจจากความทรงจำร้ายๆ มันจึงส่งเสียงขู่ใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ตัวมัน แต่สำหรับ Parascandola เขารู้สึกว่า… เจ้าสุนัขผู้โชคร้ายตัวนี้ต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเค้า และเค้าตัดสินใจที่จะรับมันมาดูแลแทน “มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เหมือนว่ามันก็แอบเกร็งๆ เพราะมันถูกมนุษย์ทำร้ายมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ได้อุ้มมันแล้วมันก็ไม่ขู่ และเหมือนมันจะรู้ว่าเรามาเพื่อช่วยเหลือ” น่าเศร้าสำหรับสุนัขจรจัดในเกาหลีใต้…
-
สุดประทับใจ… หญิงคนกวาดขยะ เสียสละอาหารเช้าของตัวเอง เพื่อมอบให้ขอทานได้กิน
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนเราก็มักจะเห็นขอทานอยู่เสมอจนกลายเป็นความเคยชิน และเพราะความเคยชินนี้แหละทำให้หลายคนไม่ให้ความสำคัญกับขอทาน เราอาจช่วยคนขอทานได้ไม่มาก แต่หากเราให้ความสนใจพวกเขาสักนิด อาจจะมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอจะช่วยพวกเขาได้บ้าง… อย่างเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน เมื่อหญิงกวาดขยะคนหนึ่งยอมเสียสละนำอาหารเช้าของตัวเอง เพื่อมอบให้กับขอทานที่ตาบอด ไม่เพียงแต่เอาอาหารให้เท่านั้น แต่เธอยังแกะเปลือกไข่แล้วป้อนให้เขาอีกด้วย… ด้วยความซาบซึ้ง ชายขอทานจึงแสดงความขอบคุณด้วยการคุกเข่าแล้วก้มลงกราบที่เท้าของหญิงกวาดขยะ สร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ต่อมาภาพความประทับใจดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ทำให้มีคนจำนวนมากชื่อชมหญิงกวาดขยะ บางคนบอกว่า “คนที่มีจิตใจดี มักจะทำความดีเช่นนี้โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็น” ก่อนหน้านี้ก็มีการเผยแพร่คลิป ที่ชายคนหนึ่งเดินกางร่มให้คนตาบอด จนได้รับการชื่นชมอย่างแพร่หลายเช่นกัน มันอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นจุดเล็กๆ ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่มันก็คือสิ่งที่สังคมอยากให้เกิดวันละหลายๆ ครั้ง และไม่ใช่แค่คนกวาดขยะเท่านั้น แต่มันคือหน้าที่ที่เราทุกคนควรจะดูแลซึ่งกันและกันเช่นนี้ ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจรับอุปการะเด็ก 8 ขวบ ผู้เคราะห์ร้ายจากคดีทำร้ายร่างกาย ที่เขาต้องตามจับ!!
อีกเรื่องราวของนายตำรวจผู้ใจบุญ Jody Thompson จากเมือง Poteau ในรัฐโอคลาโฮม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กลายเป็นความประทับใจให้ชาวเน็ตส่งต่อกันไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้ Jody ได้รับแจ้งเกี่ยวกับคดีทารุณกรรมเด็ก เมื่อเขาไปถึงยังที่เกิดเหตุเขาก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่า นั่นจะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาได้ช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งออกมาจากความโหดร้าย และได้พบกับลูกชายของเขาเองในอนาคต Jody Thompson ทันทีที่เขาเห็นเด็กหนุ่มผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เขาก็รู้ตัวทันทีว่าต้องช่วยเหลือเด็กคนนี้อย่างสุดความสามารถ และจะไม่ปล่อยให้เด็กหนุ่มต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน “สภาพแรกที่ผมไปเห็นคือเขาถูกมัดมือมัดเท้าและถูกขังไว้ในถังขยะ พวกเขาไม่ให้อาหารเด็กหนุ่มเลยสภาพของเขาดูอิดโรยมากและร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ” นายตำรวจเล่า หลังจากสิ้นสุดเรื่องคดีความ ทั้ง Jody และภรรยาของเขาก็พยายามทำทุกวิถีทางตามกฎหมาย เพื่อยื่นเรื่องขอรับอุปการะ John Thompson เด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญกับชีวิตในวัยเด็กอันแสนโหดร้าย “เขาเป็นเหมือนลูกสุดที่รักของเราอีกคนหนึ่ง เขามีความหมายกับครอบครัวเรามาก และเราก็ยินดีที่จะทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมและรู้จักที่จะส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้สังคมต่อไป” ภรรยาเล่า เมื่อนักข่าวเดินทางไปถามถึงผลการเรียน และพฤติกรรมของหนุ่มน้อย John Thompson ทางโรงเรียนก็ได้ชี้แจงว่า เด็กน้อยคนนี้เป็นคนที่ขยันตั้งใจเรียน มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีสมาธิตั้งใจเรียนดีมาก “เขาเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผมเลยครับ และเขาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้ได้…” John พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อพ่อบุญธรรม เพราะเด็กไม่สมควรที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย และพวกเขาก็สมควรที่จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเช่นกัน ที่มา:…
-
Eva นางแบบชุดชั้นในผู้เข้าใจความสำคัญของชีวิต มอบเงินจากการถ่ายแบบเพื่อการกุศล
ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมแพ้ เธอต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เธอเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิต และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำประโยชน์เพื่อมอบให้กับผู้อื่น เรื่องราวของ Eva McGauley สาวน้อยวัย 19 ปีที่สามารถกลับมามีชีวิตปกติและได้ทำตามความฝันของเธออีกโดยการทำกิจกรรมเพื่อการกุศล!! Eva McGauley สามน้อยผู้หนึ่งที่ฝันอยากจะมีชีวิตที่แสนสวยงามและมีความสุขแบบคนอื่นๆ แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าใจความต้องการของเธอ ในปี 2015 เมื่ออายุได้ 17 ปี หญิงสาวก็ได้รับข่าวร้ายโดยแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก จากนั้นไม่นานสาวน้อยจากนิวซีแลนด์ ต้องเข้ารับการรักษาโดยการฉายแสงและเคมีบำบัด แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อเธอได้ทราบข่าวว่าการวินิจฉัยนั้นมีความผิดพลาด อันที่จริงแล้วมะเร็งโพรงจมูกของเธอนั้นเป็นแค่เนื้องอกเท่านั้น.. หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายมาได้และเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของชีวิต หญิงสาวเริ่มที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น จากสถิติทำให้เธอพบว่าในประเทศของเธอนั้นมีการทารุณทางเพศอย่างมาก เด็กหญิงหนึ่งในสามและเด็กผู้ชายหนึ่งในเจ็ดคนถูกคุกคามทางเพศตั้งแต่อายุไม่ถึง 16 ปี Eva จึงตัดสินใจที่จะหาเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ถูกคุกคามทางเพศเหล่านั้น ในเดือนกรกฏาคมปี 2016 เธอเริ่มลงมือหาเงินสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งหนึ่งในเมือง Auckland ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กและสตรี จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนสนใจที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอ บริษัทชุดชั้นใน Lonely ได้เสนอให้สาวน้อยมาถ่ายแบบชุดชั้นในกับพวกเขา และยืนยันจะมอบรายได้ทั้งหมดจากการจำหนายชุดชั้นในคอลเลคชั่นชั่นดังกล่าวให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมด และแทบไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ยอดการจำหน่ายพุ่งสูงถึง 30,000 ยูโรหรือประมาณ 1,000,000 บาทแล้ว!!…
-
ลูกหมาถูกทิ้งจากหน้าต่างรถ เข้ามาเติมเต็มความสุขให้แม่สุนัขที่ใจสลายหลังเสียลูกตัวเองไป
เมื่อ Blossom สุนัขจากศูนย์พักพิงได้สูญเสียลูกน้อยที่เพิ่งเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกในช่วงกลางเดือนมิถุนายนไป ก็ทำให้มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยทาง Maggie Escriva เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงได้ออกมาเผยว่า เจ้า Blossom กลายเป็นสุนัขที่บ้าคลั่ง และเธอก็ไม่สามารถปลอบใจมันได้ แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เพราะจู่ๆ ก็มีลูกสุนัขถูกทิ้ง 6 ตัวเข้ามาในชีวิตของมัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Blossom กลับมาสดใสอีกครั้ง Maggie จากศูนย์พักพิง Westie & Scottie Rescue Houston ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับลูกสุนัขทั้ง 8 ตัวที่ถูกโยนออกจากหน้าต่างรถบรรทุก แต่น่าเศร้าที่ลูกสุนัข 2 ตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหว จนทำให้มันต้องเสียชีวิตไป โชคดีที่ลูกสุนัขอีก 6 ตัวสามารถรอดชีวิตมาได้ แต่ถึงกระนั้นร่างกายของพวกมันก็ยังคงอ่อนแอมาก Maggie ไม่แน่ใจว่า Blossom จะยอมรับพวกเขาหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ลองตัดสินใจที่จะให้มันพบเจอกับลูกสุนัขตัวน้อยทั้ง 6 ดู และแน่นอนมันได้ผล!! Maggie เผยว่า “Blossom มองไปที่ลูกสุนัข…
-
แม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนสุดของปี แต่ก็ยังมีคนทิ้งหมาไว้ในรถ ตำรวจเร่งช่วยเกือบไม่รอด
หลายครั้งที่เราได้เห็นข่าวของสัตว์เลี้ยงอย่างหมา แมว หรือเด็กตัวเล็กๆ เสียชีวิตจากการถูกทิ้งให้อยู่ในรถเพียงลำพัง เพราะบางครั้งเราอาจจะคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก แต่จริงๆ แล้วหารู้ไม่ว่าอุณหภูมิของรถที่จอดทิ้งไว้นั้น จะยิ่งสะสมความร้อนมากขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมยังสามารถคร่าชีวิตสุนัขได้ง่ายอีกด้วย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า สุนัขตัวหนึ่งกำลังทุกข์ทรมานอยู่ในรถ หลังจากที่เจ้าของได้จอดรถทิ้งไว้ตรงบริเวณที่จอดรถในมณฑล Suffolk ประเทศอังกฤษ เขาปล่อยให้มันอยู่เพียงลำพัง จนทำให้เจ้าหมาเกือบตาย แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดีที่มีคนมาเห็น และถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน โดยในวันนั้นเรียกได้ว่ามันหนึ่งในวันที่อากาศร้อนที่สุดในอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Suffolk ได้ออกมากล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากประชาชนว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ชั้นล่างของที่จอดรถ และมีสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งอยู่ในนั้น หน้าต่างรถทั้งหมดถูกปิดสนิท มันไม่ได้กินน้ำ และถูกขังอยู่ในรถด้วยอุณหภูมิสูงเกือบ 30 องศาเซลเซียส… เจ้าหมาอยู่ในรถเป็นเวลานาน แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันอยู่ในนั้น และได้รับความช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ซึ่งทางเราก็พร้อมทำการตรวจสอบ จากนั้นเราก็ได้ทุบหน้าต่างรถ เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้เจ้าหมาออกมาจากรถได้” หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยชีวิตของน้องหมาได้สำเร็จ พวกเขาก็พบว่ามันพยายามดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจ แถมมันยังมีปัญญาในเรื่องการเดินอีกด้วย ไม่นานหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยลูกสุนัขออกมาจากรถ พวกเขาก็ได้พบกับเจ้าของ ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของน้องหมาผู้เคราะห์ร้ายได้อ้างว่า พวกเขาไม่ได้จะไปทำธุระนานๆ เลย แต่ตั๋วที่จอดรถ ซึ่งอยู่บนรถของพวกเขากลับแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องออกไปทำธุระนานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม…
-
รู้จักกับ “กามู” ไก่ยักษ์ใจกตัญญู มักจะวิ่งมาหามนุษย์ที่เคยช่วยไว้ทุกครั้ง น่ารักเกิ๊นนน.. ><
ปกติแล้วถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่มีจิตใจกตัญญูรู้บุญคุณคน เรามักจะนึกถึงสุนัขซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่น่าเชื่อว่าแม่ไก่กระต๊ากๆ ก็มีจิตใจกตัญญูเหมือนกัน เมื่อ 6 เดือนก่อน สองไก่เพื่อนซี้ ‘กามู’ และ ‘ซาร์ต’ (แหม่..ชื่อตามนักปรัชญาเลยนะ) ถูกทิ้งไว้ในกล่องไม้หน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Lighthouse Farm Sanctuary แห่งรัฐโอเรกอน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ตัวไหนกามู ตัวไหนซาร์ต ก็ต้องเดากันเองล่ะงานนี้ ไม่มีใครทราบว่าก่อนหน้านี้สองนักปรัชญากุ๊กไก่ต้องเผชิญชะตากรรมมาแบบไหน แต่หลังจากที่มันได้ย้ายมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้พวกเขาก็มั่นใจดีว่า Peter และ Gwen Jakubisin สองผู้ก่อตั้งองค์กรจะช่วยทำให้ชีวิตมันดีขึ้นอีกครั้ง สำหรับเจ้า ‘ซาร์ต’ มันอาจจะเป็นไก่ที่มีนิสัยเงียบขรึม ไม่ชอบเข้าสังคม แต่สำหรับเจ้า ‘กามู’ มันชื่นชอบที่จะได้สัมผัสไออุ่นจากการกอดของมนุษย์ผู้ช่วยเหลือมันอยู่เสมอ ไม่ว่า Peter จะอยู่ไหนเมื่อส่งเสียงเรียก กามูก็จะรีบวิ่งมาหาทันที “เจ้ากามูมีนิสัยที่แตกต่างออกไป ราวกับว่ามันได้เลือกให้ Peter เป็นคนดูแลมัน ทุกวันมันจะรอเขากลับบ้านอยู่ที่หน้าฟาร์ม และเมื่อไหร่ที่เขามาถึงมันก็จะวิ่งไปกอดเสมอ” Gwen เล่า คงไม่ใช่เรื่องบ่อยที่เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของคนกับไก่ ในแบบที่ไม่มีเรื่องของเมนูอาหารเข้ามาเกี่ยวข้อง…
-
นักดับเพลิงช่วยเหลือลูกหมา ที่ถูกมัดติดอยู่ในบ้านไฟไหม้ เจ้าของถูกดำเนินคดีทารุณฯ สัตว์!!
เรื่องราววินาทีชีวิตของเจ้าหมาน้อยที่ติดอยู่ในบ้านไฟไหม้ แต่ก็ถูกช่วยออกมาได้อย่างหวุดหวิด… เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าจากสถานีดับเพลิง Lompoc Fire Department ที่ได้รับแจ้งมาว่ามีบ้านหลังหนึ่งกำลังถูกไฟลุกไหม้ในรัฐแคลิฟอเนียร์ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้พบกับเจ้าของบ้านคือนาย Edward Vantassel กำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง และเขาก็รีบเข้ามาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าลูกหมาของเขายังติดอยู่ในบ้าน พอได้ทราบดังนั้นแล้วเจ้าหน้าที่ก็จึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าลูกหมา แต่จากการสำรวจแล้วก็พบว่าเจ้าหมาน้อยมันถูกล่ามเอาไว้ติดกับเสา และดูเหมือนว่าไม่ได้ถูกเลี้ยงดูให้เป็นสัตว์เลี้ยง แต่เป็นนักโทษซะมากกว่า เจ้าหมาถูกผูกไว้ด้วยแถบยางรัดที่แขนและขา แถมที่ปากของมันยังถูกครอบไว้ด้วยตะกร้อครอบปากอีกด้วย พอช่วยเหลือออกมาได้เจ้าหน้าที่ก็รีบตัดยางที่มัดแขนขา และตะกร้อครอบปากออก แล้วก็นำน้ำมาให้มันดื่ม . จากนั้นพวกเขาก็พามันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ เจ้าหมาถูกตั้งชื่อว่า Pooh และจากการช่วยเหลือของสัตวแพทย์ทำให้มันหายกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ทั้งจากอาการอ่อนแอที่สูดควันเข้าไป และจากบาดแผลที่ถูกทารุณกรรม และตอนนี้เจ้า Pooh ก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านอุปถัมป์เพื่อรักษาตัว และถ้ามันแข็งแรงดีแล้วก็จะถูกประกาศหาบ้านใหม่ต่อไป… ส่วนนาย Vantassel เจ้าของคนก่อน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ซึ่งตอนนี้ก็ถูกฝากขังเอาไว้ที่สถานีตำรวจและคาดว่าจะมีค่าประกันตัวสูงถึง 3 ล้านบาทเลยทีเดียว ที่มา : thedodo
-
เจ้าหมาน้อยถูกแม่ตัวเองทับ จนส่วนหลังพิการใช้งานไม่ได้ ตอนนี้ได้รับบ้านใหม่อันอบอุ่นแล้ว!!
เจ้า Connor เป็นหมาวัย 8 สัปดาห์ หลังจากที่ครอบครัวของเจ้าของสังเกตเห็นว่ามันไม่สามารถใช้ขาหลังได้ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถดูแลมันได้ ก็เลยตัดสินใจที่จะหาบ้านหลังใหม่ที่พร้อมดูแลให้กับมัน พวกเขาได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Gateway Pet Guardians ที่อยู่ในรัฐอิลลินอยส์ และทางศูนย์ช่วยเหลือก็ตอบรับด้วยความยินดี ในตอนแรกเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือคิดว่าเจ้า Connor ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ชื่อว่า ‘Swimmer Puppy’ ที่ทำให้ขาหลังของมันหยุดการพัฒนาและอ่อนแอลงจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเจ้าโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดให้กลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่งเหมือนกับเจ้าหมาทั่วๆ ไป เจ้าหน้าที่ก็เลยเริ่มลงมือรักษามัน ทั้งจับมันไปเดินในน้ำ และใช้วีลแชร์ในการช่วยให้มันเดิน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีอาการที่ดีขึ้นแต่อย่างใด แม้จะผ่านไปแล้วหลายเดือนก็ตาม พวกเขาจึงตัดสินใจพามันไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาที่ Veterinary Specialty Services และจากการตรวจสอบก็พบว่าจริงๆ แล้วเจ้า Connor ไม่ได้ป่วยเป็น Swimmer Puppy แต่ดูเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังตั้งแต่ตอนที่มันยังเป็นทารกอยู่ต่างหาก อาจจะเป็นเพราะถูกแม่ของมันนอนทับตัวจนกระดูกสันหลังหัก และทำให้มันไม่สามารถเดินได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “หลังจากที่เรารู้ถึงอาการป่วยที่ถูกต้อง ก็แน่ใจแล้วว่ามันไม่สามารถกลับมาเดินได้แบบปกติเหมือนกับหมาทั่วๆ ไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราจะสามารถให้การรักษาและดูแลมันได้อย่างถูกต้อง” คุณ Jen Upton เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือ Gateway Pet Guardians กล่าว และตอนนี้เจ้า Connor…
-
ภารกิจช่วย ‘จิงโจ้น้อย’ ที่แม่ของมันถูกคนใจร้ายชนแล้วหนี ถูกทิ้งเดียวดายในกระเป๋าหน้าท้อง!!
เจ้าจิงโจ้แม่ลูกอ่อนถูกคนใจร้ายขับรถชนแล้วหนีไป ก่อนที่มีพลเมืองดีมาเห็นพร้อมกับโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ Melanie Fraser หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Macedon Ranges Wildlife Network และ Wildlife Victoria ในประเทศออสเตรเลียมาถึงก็พบว่าแม่จิงโจ้ได้จากไปเรียบร้อยแล้ว แต่ลูกของมันยังมีชีวิตอยู่!! และค่อยๆ คลานออกจากกระเป๋าหน้าท้องของแม่ ลูกจิงโจ้กำพร้าแม่ที่คุณ Fraser ตั้งชื่อเอาไว้ว่าเจ้า Dawson ได้ถูกช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว “หากเราทิ้งมันไว้ที่นั่น ทั้งมด และสภาพแวดล้อมรอบตัว อาจจะฆ่ามันได้อย่างรวดเร็ว” เธอเล่า คุณ Fraser ไม่รอช้ารีบหยิบผ้าขนหนูหนาๆ มาห่อตัวมันไว้ แล้วก็อุ้มมันไปส่งยังศูนย์พักฟื้น จนในที่สุดมันก็ได้มาอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ Christine Gilmore ที่ประจำการอยู่ที่นั่น คุณ Glimore ได้ทำการป้อนอาหาร ทำความสะอาดร่างกาย และมอบความอบอุ่นให้กับเจ้า Dawson เป็นอย่างดี “ตอนนี้ฉันกลายเป็นแม่คนใหม่ของมันแล้วล่ะ” คุณ Glimore กล่าว ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นก็พบว่ามันมีอายุเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น นอกจากนี้คุณ Gilmore ยังจับเจ้า Dawson ไปจับคู่กับเจ้าทารกจิงโจ้อีกตัวที่มีชื่อว่า Nelson ที่แม่ของมันเองก็ถูกรถชนจนเสียชีวิตเช่นเดียวกัน เพื่อให้พวกมันสองตัวมอบความอบอุ่นให้แก่กัน…
-
25 ภาพเปรียบเทียบเหล่าสัตว์ ในช่วงก่อนและหลังรับเลี้ยง ชีวิตที่เปี่ยมสุขจนอ้วนตั้บ!!
การที่เหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายถูกพาตัวมาไว้ที่สถานสงเคราะห์ ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้พวกมันเจ็บปวดหัวใจ เพราะต้องอยู่แต่ในกรงขัง รอคอยวันเวลาที่จะได้ออกไปอย่างโดดเดี่ยว บางตัวก็อาจจะเคยถูกทำร้ายมาก่อน บางตัวก็อาจจะเคยเป็นสัตว์จรจัด บางตัวก็เคยได้รับความอบอุ่นมาก่อน แต่พอได้มาอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นชิน และไม่ได้รับความอบอุ่นเหมือนอย่างที่เคยก็ย่อมทำให้ดูเศร้าสร้อยเหงาหงอยเป็นธรรมดา และสิ่งที่จะช่วยปลดปล่อยพวกมันจากความเศร้านี้ได้ ก็คือการได้รับความรักความอบอุ่นนั่นเอง สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพความแตกต่างระหว่าง ตอนที่เหล่าสัตว์เลี้ยงอยู่ในสถานสงเคราะห์ และหลังรับพวกมันมาเลี้ยง จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. จะไม่มีความเศร้าอีกต่อไปแล้ว 2. จากเจ้ามิ้วน้อยเนื้อตัวสกปรกกลายเป็นแมวอ้วนรักสะอาดขึ้นมาเชียวนะ 3. เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป!! 4. จากเจ้าเหมียวขี้กลัว กลายเป็นเหมียวนักกอดซะงั้น!? 5. ความรักนี่มันช่างมีพลังยิ่งใหญ่ซะจริงๆ 6. สีหน้าของความสุขกับการได้เล่นบนสนามหญ้า 7. ถึงหน้าจะเศร้าแต่ตอนนี้พี่มีบ้านอยู่แล้วนะ 8. จากหมาจรจัดกลายเป็นหมาอ้วนน่าฟัดเชียว 9. อัพเกรดเตียงนอนเป็นขั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว 10. อ้วนพลุ้ยเชียวนะแก!! 11. สภาพความแตกต่างก่อนไปยิมกับหลังไปยิมรึเปล่า?? 12.…
-
นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลใช้งานแต่งงานของตัวเอง ‘ระดมทุน’ จากแขกเพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัด
แทนที่จะจัดงานแบบหรูหราอู้ฟู่ เชิญผู้คนมากมายมาร่วมสังสรรค์ แสดงความยินดีในวันที่น่าจดจำอย่าง ‘วันแต่งงาน’ คู่รักนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลกับแฟนสาวกับตัดสินใจจัดงานแต่งงานเพื่อเรี่ยไรเงินจากแขกไปบริจาคให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์แทน Logan Ryan ผู้เล่นตำแหน่ง Conerback จากทีม Tennessee Titans และคู่หมั้น Ashley Bragg ได้ทำการจัดงานแต่งงานกันบนเกาะ Caribbean ที่อยู่ในประเทศ St. Lucia แต่ข้อเสียของงานแต่งงานอย่างหนึ่งก็คือการที่พวกเขาจะต้องบินจากบ้านที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาไปยังเกาะ Caribbean ทำให้เจ้าหมาทั้งสองตัวของพวกเขาไม่สามารถไปร่วมงานได้ “พวกเรารู้ว่าสถานที่จัดงานแต่งงานของเรามันยอดเยี่ยมมาก แต่มันมีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าเราไม่สามารถพาเจ้าหมาทั้งสองตัว Nala และ Leonardo ไปร่วมงานได้” Ashley เล่า งานแต่งงานถูกจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน งานแต่งงานจัดขึ้นที่รีสอร์ทมีคู่บ่าวสาว ลูกสาว Avery และแขกอีกทั้งหมด 8 คน ในวันที่สองของงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวได้เดินทางเข้าไปในเมือง Soufrière เพื่อถ่ายภาพสวีทหวานแหวว และที่นั่นเองพวกเขาก็ได้พบกับเหล่าหมาจรจัดมากมาย “พวกเราตัดสินใจที่จะอยู่เล่นกับพวกมัน” Ashley เล่า นั่นทำให้พวกเขารู้ว่าเจ้าหมาเหล่านั้นมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน ทำให้คู่บ่าวสาวตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพวกมันเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากว่าทั้งคู่เป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว…
-
ทีมแพทย์บราซิลทดลองใช้ ‘หนังปลาทิลาเพีย’ เพื่อรักษาแผลไฟไหม้ ให้ได้ผลที่ดีกว่า!!
เนื่องจากว่าประเทศบราซิลนั้นเป็นประเทศที่มีความขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ทีมแพทย์จึงได้หันมาทำการทดลองใช้ ‘หนังปลาทิลาเพีย’ (หรือหนังปลานิล) มารักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้ แทนที่การใช้ครีมและยาทาชนิดต่างๆ แผลไฟไหม้ในระดับที่ 2 และ 3 เป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆ จนบางครั้งก็อาจทำให้ถึงตายได้หากได้รับบาดแผลทั่วร่างกาย โดยปกติแล้วการใช้เนื้อเยื่อจำลองในการรักษาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับสถาบันทางการแพทย์ José Frota ที่ตั้งอยู่ในเมือง Fortaleza ประเทศบราซิล เหล่าคุณหมอสามารถใช้ได้แต่ครีมรักษาแผลไฟไหม้ และผ้าพันแผลที่ต้องหมั่นเปลี่ยนเป็นประจำ เป็นวิธีการรักษาที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เข้ารับการรักษาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองทางทีมแพทย์จึงหาวิธีอื่นในการรักษาแทน อย่างเช่น หนังปลาทิลาเพียที่ฆ่าเชื้อแล้ว เพราะเพิ่งทราบถึงผลการศึกษาที่น่าตกใจ!? “มันเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก เพราะในหนังปลาทิลาเพียนั้นมีคอลลาเจนโปรตีนแบบที่ 1 และแบบที่ 3 อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันจำเป็นมากในการทำให้เกิดแผลเป็น และคอลลาเจน 2 ตัวที่กล่าวมานี้มีอยู่ในหนังของปลาทิลาเพียมากกว่าในผิวหนังของมนุษย์และสัตว์อื่นๆ เสียอีก” Dr. Edmar Maciel ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแผลไฟไหม้จากสถาบันกล่าว ซึ่งปลาทิลาเพียเป็นปลาที่สามารถหาได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำในประเทศบราซิล แถมยังมีการทำฟาร์มปลาชนิดนี้อีกมากมาย ถือว่าเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและเหมาะที่จะนำมาทดลองการรักษา และที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือเจ้าหนังปลลาทิลาเพียที่ฆ่าเชื้อแล้ว สามารถปิดทิ้งไว้จนแผลกลายเป็นแผลเป็น แต่บางเคสที่แผลร้ายแรงมากก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนหนังปลา แต่ไม่บ่อยเท่ากับการใช้ผ้าพันแผลและครีมแบบเดิม…
-
ศิลปินถ่ายภาพ ‘สัตว์ป่า’ ที่ถูกช่วยเหลือมาจากตลาดมืด คุณค่าของชีวิตที่ไม่อาจค้าขายได้…
มีสัตว์ป่ามากมายที่ถูกล่าไปขายในตลาดมืด แน่นอนว่าหลายๆ ชนิดก็เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความคุ้มครองเพราะเหลือจำนวนอยู่ไม่มากแล้ว หลังจากที่ถูกซื้อไปแล้วพวกมันก็อาจจะถูกนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง แปรรูปเป็นยาต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละพื้นที่ บ้างก็ตัดชิ้นส่วนอวัยวะเอาไปทำเป็นของสะสมเป็นต้น ทำเหมือนกับว่าพวกมันเป็นเพียงแค่สิ่งของ Natasha Wilson ช่างภาพจากลอสแองเจลลิสจึงได้คิดค้นไอเดีย สร้างผลงานการถ่ายภาพเหล่าสัตว์ป่าที่ถูกช่วยเหลือมาจาก ‘ตลาดมืด’ เพื่อสื่อให้เห็นถึงความงดงามของพวกมัน อีกทั้งยังมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือพวกมันให้มีชีวิตรอดต่อไป ในสถานที่หลบภัยที่ทางศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า Animal Tracks ในรัฐ California สร้างขึ้นมา ความงามของนางแบบและเหล่าสัตว์ป่า ที่อยู่อาศัยของพวกมันก็คือธรรมชาติ แต่มนุษย์ใจร้ายได้พรากมันออกมาจากบ้านเกิด . . ช่างงดงามและน่าทะนุถนอมจริงๆ . สัตว์ป่าเองก็คือชีวิตหนึ่งชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาแลกเปลี่ยนกันเหมือนกับของใช้ . เป็นชีวิตที่มีความงดงาม . . . . . . . . เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมผลงานของช่างภาพเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม deanastacia ได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : designyoutrust
-
สาวตัดสินใจกลับรถบนทางด่วน ยอมโดนตำรวจแจกใบสั่ง ก็เพื่อช่วยเจ้ามิ้วน้อยให้รอด!!
ในเช้าวันหนึ่งคุณ Christina Hamlett ได้ขับรถไปบนถนนทางด่วนหมายเลขที่ 288 ในรัฐ Virginia จู่ๆ ก็ได้พบเข้ากับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนด้วยความกลัว แน่นอนว่าเธอไม่ยอมปล่อยให้มันนอนเสี่ยงอันตรายอยู่อย่างนั้น จึงตัดสินใจจอดรถและลงไปให้ความช่วยเหลือ บนถนนที่มีรถพลุกพล่าน เจ้ามิ้วน้อยนอนขดตัวเป็นวงกลมมีท่าทีดูหวาดกลัวกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว Christina จึงตัดสินใจกลับรถ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่ห้ามกลับรถ จนได้รับใบสั่งมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่หรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ต้องการที่สุดก็คือความปลอดภัยของเจ้าเหมียว “ฉันวกรถกลับมาอย่างช้าๆ และระมัดระวัง พอเข้าไปตรวจเช็คที่เจ้าเหมียวแล้วก็พบว่ามันปลอดภัยดี ฉันคิดว่ามันน่าจะถูกโยนลงมาจากรถ เพราะที่ศีรษะของมันได้รับบาดเจ็บ” Christina เล่า เธอรับอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูห่อตัวมัน และก็พบว่ามันดูสบายใจขึ้นมามาก เพราะรู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว มันถูกตั้งชื่อว่าเจ้า Lucky ด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัครในศูนย์ช่วยเหลือ St. Francis Humane Association เจ้าเหมียวก็ได้รับการรักษาตัว ในคืนที่พามาไว้ที่บ้านเจ้า Lucky ก็กอดคุณ Christina ไม่ปล่อยเลยแถมยังหายใจเป็นเสียงกรนดังลั่นราวกับเปิดเครื่องดูดฝุ่นยังไงยังงั้น ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์ ตั้งแต่ที่เจ้า Lucky ถูกช่วยเหลือมาจากทางด่วน และมันก็หายดีแล้วล่ะ! “มันเข้ากันกับเราได้ดีมาก และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือก็ช่วยดูแลมันเป็นอย่างดี” Christina เล่า เจ้า…
-
เจ้าของตกใจปล่อยให้หมาไปวิ่งเล่น แต่ดันหายไปทั้งคืน ออกตามหาจนไปเจอติดอยู่ในท่อ!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Ziggy หมาน้อยแสนซน ชื่นชอบการไปวิ่งเล่นในฟาร์มของเจ้าของอยู่เป็นประจำ แต่มาวันหนึ่ง จู่ๆ มันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย… ในตอนแรกเจ้าของของเจ้า Ziggy ก็ยังไม่เป็นห่วงมันเท่าไหร่เพราะคิดว่ามันอาจจะออกไปวิ่งเล่นเหมือนอย่างเคย แต่ทว่าเจ้าหมาพันธุ์ Patterdale วัย 10 ขวบ ก็ไม่ยอมกลับมาที่บ้านซักที จนเจ้าของเริ่มเป็นห่วงและออกตามหา “ฉันเป็นห่วงมันมากๆ เพราะทุกครั้งที่ออกไปเล่นมันก็มักจะกลับมาที่บ้านได้เองเสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมกลับมา” คุณ Lauren Flintoft เจ้าของของเจ้า Ziggy เล่า “สามีของฉันต้องออกไปตะโกนเรียกชื่อมันตลอดทั้งคืน สุดท้ายก็ได้ยินเสียงเห่าขอความช่วยเหลือจากมัน และก็พบว่ามันไปติดอยู่ในท่อน้ำทิ้งที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน” คุณ Lauren รีบติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ช่วยเหลือ RSPCA ในทันที และพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่บ้านอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องทำการเช็คผังท่อระบายน้ำ เพื่อเช็คดูว่าเจ้า Ziggy อยู่ตรงไหน และจะได้ขุดลงไปช่วยมันได้ถูกจุด หลังจากการขุดดินลงไปลึกพอสมควร เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเจ้า Ziggy ออกมาได้สำเร็จ หลังจากที่มันต้องติดอยู่ในท่อระบายน้ำใต้ดินเป็นเวลานานกว่า 19 ชั่วโมง!! โชคดีที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และดูเหมือนว่ามันยังคงรู้สึกตื่นเต้นจากการผจญภัยอันแสนสนุกไม่หายเลย ฮร่าๆ …
-
สาวรับเจ้ากิ้งก่ายักษ์ไร้บ้านมาเลี้ยง และมอบความอบอุ่นให้มัน ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…
Sarah Crow จากรัฐมิชิแกนประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการช่วยเหลือเจ้ากิ้งก่ายักษ์ตัวเบ้อเริ่ม และเลี้ยงมันให้เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก เจ้า Winston กิ้งก่ายักษ์ที่ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวมาตลอดเพราะการถูกกลั่นแกล้งและทำร้ายโดยมนุษย์ หลังจากที่คุณ Sarah จะได้ยินเรื่องราวของมัน เธอจึงตัดสินใจรับมันมาดูแลและมอบความรักความอบอุ่นให้อย่างที่เจ้า Winston ไม่เคยได้รับมาก่อน เจ้า Winston เป็นกิ้งก่ายักษ์สายพันธุ์ Argentine Tegu ที่มีน้ำหนักมากถึง 6.8 กิโลกรัมและยาว 1.2 เมตร เจ้า Winston ชอบไต่ขึ้นมากอดตัวของ Sarah และเลียหน้าเธอด้วยความรัก “มันอาจไม่น่ารักเหมือนเจ้าหมาและเจ้าเหมียว แต่ความขี้เล่นซุกซนของมันก็ไม่แพ้กันเลยทีเดียว” Sarah เล่า “มันเป็นสัตว์ที่น่ารักมากแถมยังขี้อ้อนสุดๆ ทุกครั้งที่ฉันนั่งใกล้ๆ กับมัน มันก็จะเดินขึ้นมาบนตักและนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงเลยล่ะ” เธอเล่าเสริม . ก่อนหน้านี้เจ้า Winston ต้องพบเจอกับเรื่องราวร้ายๆ มาก่อน มันถูกเจ้าของคนเก่าจับยัดใส่กล่องแล้วเอาไปทิ้งไว้ จากนั้นก็ถูกรับไปดูแลโดยสวนสัตว์ Great Lakes Zoological Society ที่ตั้งอยู่ในเมือง Ann Arbour รัฐมิชิแกน หลังจากที่สวนสัตว์ได้ปิดตัวลงไปทำให้มันจำต้องกลายเป็นกิ้งก่าไร้บ้านไปพักใหญ่ จนในที่สุดก็ถูกคุณ Sarah…
-
อดีตนายพราน ถึงกับเลิกล่าสัตว์มาแล้ว 10 ปี หลังรับเลี้ยงกวาง และมันเข้ามาเปลี่ยนชีวิต
Aladino Montes ชายชาวสเปนวัย 53 ปี ซึ่งทั้งช่วงชีวิตของเขาที่เติบโตมาในแคว้นอัสตูเรีย ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวในแถบชนบท เขาได้ทำการเดินป่าล่าสัตว์มาแล้วนับไม่ถ้วน จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ทว่าชีวิตการเป็นนักล่าสัตว์ของเขาก็ต้องสิ้นสุดลง หลังจากที่เขาได้พบกับลูกกวางตัวน้อยเจ้า Bambi จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 ปีได้แล้ว ที่เจ้าตัวไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีกเลย “ถ้าจะให้ผมกลับไปล่าสัตว์แบบนั้นอีกครั้ง ผมขอยอมตายดีกว่า” Aladino กล่าว เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน วันหนึ่ง Aladino ได้ขับรถจี๊พคู่ใจของเขาไปตามเส้นทางหุบเขาในหมู่บ้าน กระทั่งเจ้าตัวได้หันไปเห็นภาพของวัวสองตัว กำลังยืนอยู่กับลูกกวาง และนั่นก็ทำให้เค้ารู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยเห็นภาพวัวอาศัยอยู่กับกวางมาก่อน ด้วยความสงสัยเขาจึงย่องเข้าไปดู ก็ได้พบว่าลูกกวางน้อยตัวน้อยประสบอุบัติเหตุ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากนั้น Aladino ได้รีบนำตัวเจ้ากวางน้อยกลับมาที่บ้าน แล้วจัดการก่อไฟเตรียมย่าง เอ๊ย เตรียมการเพื่อช่วยรักษาบาดแผลของมันให้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อ Bambi หายจากอาการบาดเจ็บ แทนที่มันจะวิ่งหนีเข้าสู่ผืนป่า มันกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่กับ Aladino และครอบครัวของเขา ช่วงเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัว จนทุกวันนี้เจ้า Bambi ก็ได้กลายเป็นกวางสาวน้อยโตเต็มวัย…
-
สภาเมืองพอร์ตแลนด์ แก้ปัญหา “ขอทาน” ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เรียกได้ว่าปัญหาของกลุ่มคนไร้บ้าน เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานในหลายๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก (บ้านเราก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน) ไม่ว่าจะจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาทางชีวิตของแต่ละคน ทว่าล่าสุดสภาเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ริเริ่มนโยบายที่จะช่วยเหลือกลุ่มคนที่เขาให้คำนิยามว่าเป็น ‘Beggers’ (นิยามนี้รวมทั้งคนไร้บ้านและขอทาน) ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เทศบาลเมืองพอร์ตแลนด์ เคยออกกฎหมายห้ามเดินเร่ขอทานตามถนนมาก่อนแล้ว โดยอ้างว่าอาจเป็นภัยต่อสาธารณะ รวมทั้งมีการรณรงค์ให้คนเลิกให้เงินขอทาน แต่ทว่าข้อห้ามและรณรงค์ดังกล่าวประสบกับความล้มเหลว ทางสภาเมืองจึงได้ออกนโยบายใหม่ ด้วยการจัดหน่วยรถออกลาดตระเวนไปหากลุ่มคนขอทานทั้งหลาย พร้อมทั้งเสนองานทำความสะอาดสวนสาธารณะและงานแรงงานทั่วไป โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 10.68 เหรียญต่อชั่วโมง หรือราว 365 บาทต่อชั่วโมง Jon Jennings นายกเทศมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เพราะเราเป็นเมืองที่พร้อมจะช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา หากแต่บางทีคนเราต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตกันบ้าง” แน่นอนว่าจากนโยบายดังกล่าวช่วยเสริมสร้างอาชีพและโอกาส สำหรับการเริ่มต้นชีวิตครั้งใหม่ของกลุ่มคนขอทานและคนไร้บ้านได้จริง เพราะจากผลสำรวจค่าเฉลี่ยเงินบริจาคที่พวกเขาเคยได้รับ อยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญต่อวันเท่านั้น ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนนโยบายจากการตระเวนจับ แต่เปลี่ยนเป็นตระเวนหาและมอบหมายงานให้พวกเขาทำ โดยก่อนหน้านี้มีหลายๆ รัฐที่เริ่มโครงการนี้เช่นที่ San Jose, California และ Chicago และจากรายงานพบว่าเมืองที่ประสบความสำเร็จจากการหันมาใช้นโยบายนี้มากที่สุด ก็คือเมือง Albuquerque…
-
แม่เหมียวท้องแก่ถูกช่วยเหลือมาไว้ที่ศูนย์ เพียงไม่นานก็แยกร่างตัวน้อย ออกมาตั้งครึ่งโหล!!
เจ้าแม่เหมียวท้องแก่ถูกพบขณะกำลังเดินหาอะไรกินอยู่ที่กองขยะหลังร้านอาหารแห่งหนึ่ง มนุษย์ผู้ใจดีก็เลยมอบอาหารให้กับมันก่อนที่จะรู้ว่ามันเป็นเหมียวที่มีความเฟรนด์ลี่มากๆ และพอมันเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็พบว่าเจ้าเหมียวมีหัวแม่โป้งเท้าข้างหนึ่งที่ใหญ่กว่าปกติมาก และท้องของมันก็ยังป่องอีกต่างหาก อีกไม่นานมันคงคลอดลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกอย่างแน่นอน ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Blossom ด้วยเหตุนี้เองผู้ใจดีก็เลยตัดสินใจพามันมาไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Mt. Pleasant Animal Shelter ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง Hanover รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งมันน่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมากกว่า ณ ที่แห่งนี้ “เราคิดว่าเจ้า Blossom นั้นเคยมีบ้านอยู่มาก่อน เพราะมันน่ารักมาก แถมยังมีอัธยาศัยดีสุดๆ มันน่าจะมีอายุราวๆ 9 เดือน แต่กลับมีน้ำหนักไม่ถึง 2.7 กิโลกรัมเลยด้วยซ้ำ” คุณ Leslie Davis เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือกล่าว หลังจากไม่กี่ชั่วโมงที่เจ้า Blossom ถูกพามาที่ศูนย์ช่วยเหลือมันก็คลอดลูกน้อยออกมาทั้งหมดถึง 6 ตัวด้วยกัน และน่าแปลกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเจ้าหน้าที่พบว่าลูกๆ ของเจ้า Blossom แต่ละตัวมีนิ้วเท้าที่เกินมา 1 นิ้วหมดทุกตัวเลย “มีสองตัวที่เกิดมาแล้วตัวเล็กมากๆ เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จึงตัดสินใจพาพวกมันกลับไปที่บ้านด้วยเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิต และเพิ่มโอกาสให้พวกมันมีชีวิตรอด” คุณ Leslie เล่า แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะหลังจากที่ทำการคลอดแล้วเจ้า…
-
นักเปียโนผู้หลงรักแมวสุดหัวใจ รับพวกมันมาเลี้ยงปุ๊บ ก็ปั้นให้เป็นแฟนเพลงตัวยงให้หมด!!
เวลาที่เราเห็นแมวน่าสงสาร เราก็มักจะรู้สึกอยากจะเลี้ยงดูมัน แต่บางครั้งมันก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างทำให้เราไม่สามารถช่วยเหลือมันได้ ทำได้แค่ภาวนาให้คนใจดีมารับมันมาเลี้ยง แต่สำหรับนักเปียโนคนนี้ เขาไม่ลังเลเลยกับการรับเลี้ยงแมวมาสักตัว โดยเฉพาะแมวที่ได้รับบาดเจ็บหรือถูกทิ้งอยู่ข้างถนน Sarper Duman อาศัยอยู่ในเมือง Istanbul ประเทศตุรกี ซึ่งเราเคยกล่าวถึงเรื่องราวของเขากับเจ้าเหมียวนักเปียโนไปแล้วในบทความ เจ้าเหมียว Pianist เซเลปแมวมีผู้ติดตามมากมาย เพราะฝีมือในการเล่นเปียโน ดังที่กล่าวไปแล้วว่านาย Duman นอกจากจะมีความรักให้กับดนตรีแล้ว เขาก็ยังรักเหล่าแมวเหมียวเอาซะมากๆ เลยล่ะ เขามักจะช่วยเหลือแมวที่อยู่ข้างถนน นำกลับมาเลี้ยงที่บ้านจนพวกมันมีสุขภาพที่ดี จนตอนนี้ก็มีมากถึง 9 ตัวแล้วล่ะ!! “ผมมักจะฝึกเล่นเปียโนอยู่ที่บ้านอยู่เป็นประจำ และเมื่อผมเดินไปนั่งที่หน้าเปียโนเจ้าเหมียวทุกตัวก็จะเดินมาหาและนอนฟังเพลงที่ผมเล่นอย่างสบายใจเฉิบ” Duman เล่า แถมยังชอบมานั่งบนเปียโนตอนที่ยังไม่ได้เล่นอีกต่างหาก (ดูจะชื่นชอบในเสียงดนตรีเอาซะมากๆ เลยนะเจ้าเหมียว) นาย Duman มักจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมียวทุกตัวเรากับเป็นราชาและราชินีเลยล่ะ “พวกมันทำให้ผมรู้สึกสงบ และมีความสุข และผมก็รู้สึกขอบคุณพวกมันมากๆ” Duman กล่าว เจ้าเหมียวตัวหนึ่งของ Duman สูญเสียการมองเห็นไป และงานอดิเรกของมันก็คือการออกมานั่งบริเวณนอกหน้าต่างคอยฟังเสียงนกร้อง ซึ่งเขาก็จะมานั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับร้องเพลงให้มันฟังด้วย …
-
คุณพ่อระดมทุนค่าอาหารกลางวัน มอบให้โรงเรียนที่ขาดแคลน ชาวเน็ตร่วมบริจาคให้เกือบล้าน!!
ปัญหาความขาดแคลนอาหารกลางวัน เป็นหนึ่งในปัญหาที่โรงเรียนหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบอยู่ การขาดเงินทุนในการสนับสนุนค่าอาหารกลางวัน อาจทำให้พวกเด็กๆ นั้นต้องทนอยู่กับความหิวโหย แต่คุณพ่อท่านหนึ่งได้เล็งเห็นปัญหานี้และเริ่มลงมือที่จะช่วยเหลือพวกเด็กๆ ด้วยการประกาศรับบริจาคจากผู้คนในโลกอินเตอร์เน็ต พบกับเรื่องราวการให้ที่ยิ่งใหญ่ของคุณ Jeffery Lew จากเมือง Seattle คุณ Jeffery Lew ต้องการที่จะมอบเงินเพื่อสมทบทุนให้กับค่าอาหารกลางวัลของโรงเรียนลูกชายเป็นจำนวนเงินประมาณ 3 พันกว่าบาท ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นที่จะขอความช่วยเหลือโดยการระดมทุนผ่านทางเว็บไซต์ GoFundMe หลังจากผ่านไป 10 วันแทบไม่น่าเชื่อว่ามีผู้ให้ความสนใจและร่วมสนับสนุนเงินช่วยเหลือคุณพ่อกว่า 850,000 บาท ซึ่งหลังจากนั้นคุณ Jeffery จึงได้นำเงินจำนวนหนึ่งมอบให้กับโรงเรียน Seattle Public Schools ของลูกชายเขา และส่วนทีเหลืออีกประมาณ 700,000 บาท ก็นำไปมอบให้กับโรงเรียนอื่นๆ อีกหลายแห่งในรัฐวอชิงตัน “มันเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่กลับได้รับการช่วยเหลืออย่างมาก ผมทึ่งมากับการร่วมมือของผู้คนจากอินเตอร์เน็ต” คุณ Lew บอกกับสำนักข่าว CBS News “บางทีเราอาจจะร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองคนอื่นๆ ในการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันของเด็กๆ” คุณพ่อผู้ใจบุญกล่าวเสริม ซึ่งทางโรงเรียน Seattle Public ก็ได้ออกมาขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ Lew โดยกล่าวไว้ว่า “ทางโรงเรียนรู้สึกขอบคุณสำหรับเรื่องดังกล่าวอย่างมาก ในฐานะที่เป็นพลเมืองด้วยกันเราสัญญาว่าจะทำหน้าที่ของพวกเรานั่นก็คือการมอบความรู้ให้กับเด็กๆ ในชุมชนให้ดีที่สุดเช่นกัน”…
-
ตำรวจมาเลเซียค้นกระเป๋าต้องสงสัย พบเต่าจากมาดากัสการ์ยัดไว้ข้างในกว่า 300 ตัว!?
กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศมาเลเซียได้ตรวจพบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ พอเปิดดูแล้วต้องตกใจเพราะข้างในนั้นมีเต่าเป็นๆ กว่า 330 ตัวเลยทีเดียว!! แต่จากการตรวจสอบป้ายแท็กที่ติดมากับกระเป๋าได้เขียนเอาไว้ว่ากระเป๋าเดินทางเหล่านี้บรรจุหินอยู่ แต่ด้วยความเอะใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้น และก็กลายเป็นโชคดีของเจ้าเต่าเหล่านี้ที่รอดมาจากการนำไปขายในตลาดค้าสัตว์ป่าได้ เจ้าเต่าราเดียตาหรือเต่ารัศมีดารามากกว่า 325 ตัว และเต่ายูนิฟอราอีก 5 ตัวถูกจับมาจากประเทศมาดากัสการ์ ซึ่งเต่าทั้งสองชนิดนี้ ล้วนเป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ภายใต้การดูแลของทางการมาดากัสการ์ เพราะฉะนั้นการขนย้ายหรือการแลกเปลี่ยนพวกมันย่อมเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย . . และถ้าหากเจ้าเต่าเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้าไปยังประเทศมาเลเซียได้สำเร็จ พวกมันจะถูกนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยง และอีกส่วนหนึ่งจะถูกฆ่าและนำไปทำเป็นอาหารหรือยาพื้นบ้าน จากสถิติของ National Geographic พบว่าเฉพาะในทวีปเอเชียกว่า 75% ของสายพันธุ์เต่าบึงและเต่าทะเลอยู่ในบันชีรายชื่อที่ถูกคุกคามอย่างหนัก แน่นอนว่าเจ้าเต่าทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือมานี้จะถูกส่งคืนสู่ธรรมชาติในประเทศมาดากัสการ์ เพื่อให้พวกมันได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป ถือเป็นโชคดีของพวกเอ็งแล้วล่ะนะเจ้าเต่า ต้องจากบ้านจากเมืองมาไกล ในที่สุดก็จะได้กลับบ้านซักที T T ที่มา : thedodo
-
เหมียวน้อยดีใจ มีนักปั่นหนุ่มหล่อมาช่วยชีวิต ตอบแทนด้วยการจุ๊บแก้มซะเลย มั๊วะ!!
สำหรับเหตุการณ์นี้ครั้งนี้อาจจะทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกอิจฉาเจ้าเหมียวตาร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเลยก็ว่าได้ ก็แหม.. เล่นมีนักปั่นหนุ่มสุดหล่อมาเอาไปซบอกแบบนี้ ใครล่ะจะไม่อิจฉา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหนุ่มนักปั่นชาวบราซิล Viitor Fonseca ในวันที่เจ้าตัวได้ออกไปปั่นจักรยานออกกำลังกาย เขาก็หันไปสังเกตเห็นเจ้าเหมียวตัวน้อยที่รอคอยการช่วยเหลืออยู่ Viitor Fonseca แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเจ้าตัวไม่ได้พกกระเป๋า หรืออุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือลูกแมวใดๆ ติดตัวไปเลย (ก็แหงล่ะ ไปออกกำลังกายนี่) ในขณะที่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกได้ว่า เจ้าเหมียวที่นอนอยู่ข้างถนนตัวนั้นมันกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เขาจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมา และพยุงเจ้าเหมียวน้อยไว้ในชุดนักปั่นของเขาเอง ลองไปชมคลิปตัวเต็มกันสิ น่าร๊ากกซะไม่มี สงสัยว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะเป็นเหยื่อที่เจ้าเหมียวแอบเพ่งเล็งมานานแล้วก็ว่าได้นะ เพราะหลังจากที่พ่อหนุ่มได้อุ้มมันเอามาไว้ในชุดนักปั่นแล้ว เจ้าเหมียวก็ออกอาการดีใจดี๊ด๊าไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากในคลิปเราจะเห็นเจ้าเหมียวเอาแต่จุ๊บ และพยายามใช้ลิ้นเลียบริเวณใต้คางของพ่อหนุ่มใจดี คงจะรู้สึกเดียมๆ จักกะจี้ไม่เบาเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ ล่าสุดพ่อหนุ่มก็ได้ออกมาอัพเดทกับ The Dodo ว่าได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวไว้ดูแลอย่างดี และพร้อมจะประกาศหาบ้านให้มัน เมื่อถึงวันที่มันพร้อม ดูท่าทางจะถูกอกถูกใจไอ้เหมียวมันมากเลยนะเนี่ย จุ๊บเอาๆ ที่มา: TheDodo
-
“B.B.” สุนัขที่ถูกขังไว้ใต้ดินมาตลอดชีวิต กับการได้สัมผัสชีวิตอิสระบนพื้นโลกเป็นครั้งแรก!!
สำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งหลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่พวกมันต้องการมากที่สุดก็คือความรัก และการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ทว่ากับเจ้า B.B. สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลตัวจิ๋ว ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายลูกแกะ กลับมีชีวิตที่น่าสงสาร เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามันไม่เคยได้สัมผัสโลกภายนอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตลอดเวลาที่ผ่านมามันถูกเจ้าของใจร้าย ขังมันไว้กับกรงในชั้นใต้ดินมาโดยตลอด ทีมช่วยเหลือคาดว่า เจ้าของเดิมน่าจะใช้มันสำหรับการเพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายเท่านั้น เพราะมันมีขนาดตัวที่เล็กเกินกว่าปกติ ‘มันตัวเล็กมาก สภาพจิตใจก็ทรุดโทรมมากที่สุด เพราะตลอดชีวิตมันถูกขังอยู่แต่ในกรงมาโดยตลอด’ เจ้าหน้าที่เล่า ทว่าตอนนี้ B.B. ถูกนำตัวมายังโรงพยาบาลสัตว์ Cabarrus และได้รับการอุปการะจากพนักงานสาว Brenda Tortoreo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ‘ในช่วงแรกที่มันย้ายมาอยู่กับฉัน มันขี้กลัวมาก เอาแต่หลบตัวเองอยู่ในมุม และไม่ยอมให้ฉันเล่นกับมันเลยแม้แต่น้อย’ เจ้าของคนใหม่เล่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพจิตใจ และพฤติกรรมความขี้เล่นซุกซน ตามธรรมชาติของสุนัขก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง ‘ตอนแรกมันไม่ยอมวิ่งเลยค่ะ เอาแต่เดินวนไปวนมาอย่างเดียว ฉันคิดว่ามันคงไม่รู้ตัวว่าควรจะทำอย่างไรดี’ มันไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ทำให้ช่วงแรกมันอาจจะรู้สึกสับสนบ้างเล็กน้อย ‘ตอนที่เราพามันออกไปเดินเล่นครั้งแรก มันมีท่าทีค่อนข้างจะตื่นกลัวมาก ดูเหมือนมันจะไม่เคยสัมผัสกลิ่นหญ้า แสงอาทิตย์ และการได้วิ่งเล่นกับเพื่อนตูบด้วยกันมาก่อน’…
-
เรือนจำจากแอริโซนาผุดไอเดีย บำบัดจิตใจนักโทษ ให้เป็นพี่เลี้ยงน้องๆ ในศูนย์พักพิง…
สำหรับผู้ต้องหาที่ทำความผิดตามกฎหมายและต้องเข้าไปชดใช้ความผิดในเรือนจำนั้น การบำบัดจิตใจและการฟื้นฟูความประพฤติถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้พวกเขากลับมาอยู่ร่วมกับสังคมได้อีกครั้ง และที่เรือนจำแห่งหนึ่งจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ได้ผุดไอเดียจับมือร่วมกับศูนย์ช่วยเหลือพักพิงสัตว์เลี้ยง ในการพานักโทษไปบำบัดฟื้นฟูจิตใจ โดยให้พวกเขากลายเป็นพี่เลี้ยงแทนซะเลย ‘โครงการนี้จะช่วยฟื้นฟูทั้งจิตใจของนักโทษ และสัตว์เลี้ยงที่ส่วนใหญ่มักจะถูกเจ้าของทิ้งมา ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี สำหรับปัญหาการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจพวกเขาทั้งหลาย’ เจ้าหน้าที่ William Sibole ให้สัมภาษณ์ ตัวอย่างนักโทษสาวคดียาเสพติด ที่ตอนนี้มีเพื่อนสุนัขคอยอยู่เคียงข้าง สัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิงทุกตัวจะได้รับการตรวจสุขภาพ เมื่อพวกมันแข็งแรงดี เจ้าหน้าที่ก็จะพาทั้งนักโทษ และสัตว์เลี้ยง มาใช้เวลาร่วมกัน สำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เมื่อสภาพร่างกาย และจิตใจของพวกมันพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศหาบ้านให้พวกมันต่อไป Aubrey Herrera นักโทษคดียาเสพติดและความรุนแรง วัย 31 ปี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการที่เธอได้เข้าร่วมว่า ‘ระหว่างพวกเรา และสัตว์เลี้ยงทุกตัวต่างเข้าใจกันดี พวกมันทุกคนถูกสังคมทอดทิ้ง ถูกเลี้ยงดูอยู่ในกรง และไม่มีซึ่งอิสระจนกว่าจะได้เจอบ้านหลังใหม่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามาที่นี่ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องของตัวเราเอง และทำให้เราหันมาสนใจที่จะมอบความรัก และความอบอุ่นให้พวกมันแทน’ Herrera กับการฝึกสุนัขของเธอ อีกแง่หนึ่งมันช่วยทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าในตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง…
-
เรื่องราวของ “Atlas” เหมียวนักผจญภัย ที่กลายเป็นพี่เลี้ยง คอยสอนเหมียวจรจัดรุ่นน้อง
อีกเรื่องราวน่ารักๆ ที่จะทำให้ใจเราพองโตได้ทั้งวัน เป็นเรื่องราวของเหมียวนักผจญภัย ซึ่งจับพลัดจับผลูกลายมาเป็นครูพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำเหมียวรุ่นน้องจรจัดที่เข้ามาอยู่ใหม่ เกี่ยวกับการเอาตัวรอดและการใช้ชีวิตแบบแมวๆ ไปซะงั้น ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับเจ้า “Atlas” กันก่อน มันอาศัยอยู่กับเจ้าของบนเกาะฮาวาย และมีนิสัยชอบการผจญภัยมากที่สุด ในวัยเด็กมันก็เคยเป็นแมวจรจัดมาก่อนเหมือนกัน จนได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัวผู้ใจบุญ ‘เราต่างมีนิสัยที่ชอบการผจญภัยกับธรรมชาติเหมือนกัน เรียกได้ว่าทั่วทั้งเกาะฮาวายเราทั้งคู่ไปมาหมดแล้วค่ะ’ เจ้าของเล่าประสบการณ์ พวกเขามักจะพามันออกไปผจญภัยด้วยเสมอ ดูเหมือนว่ามันก็จะรักการผจญภัยมากเช่นกัน เพราะพอได้ออกนอกบ้าน มันก็จะออกสำรวจไปทั่วเลยล่ะ ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวของ Christie ผู้ดูแลแมวนักผจญภัย ไม่ได้มีความคิดที่จะรับอุปการะแมวเพิ่มอีกเพราะเกรงว่าจะเลี้ยงไม่ไหว จนกระทั่งคืนวันหนึ่งมีพายุฝนตกหนัก เธอได้ยินเสียงแมวเด็กร้องออกมาจากหน้าบ้าน เธอจึงเปิดประตูไปพบกับลูกแมวสีดำตัวจิ๋ว ถึงเธอไม่รู้ว่ามันพลัดหลงมาจากไหน แต่ที่แน่ๆ มันต้องการความช่วยเหลือแน่นอน ในช่วงแรกเจ้า Atlas ดูเหมือนจะหวงถิ่นเล็กน้อย แต่ด้วยความที่มันเข้าใจหัวอกของแมวจรจัดดี มันจึงเปิดใจรับรักน้องชายคนใหม่ Nell ในเวลาไม่นานนัก เมื่อทั้งคู่เริ่มสนิท ก็ถึงเวลาที่จะได้ออกไปผจญภัยร่วมกันซักที แต่ดูเหมือนน้องใหม่อาจจะยังทำตัวไม่ค่อยถูกนะ งานนี้เหมียวรุ่นพี่เลยรับหน้าที่ คอยสอนวิชาการผจญภัยแบบแมวๆ ให้แก่เหมียวรุ่นน้องซะเลย จนทั้งคู่กลายเป็นคู่หูเหมียวนักผจญภัยในเวลาไม่นานนัก พูดได้ว่า.. ไปไหนไปกัน!!…
-
หนุ่มถูกแมวสะกดจิตกลางถนน ถึงกับต้องจอดรถ ลงไปรับมาเลี้ยงดูบูชาอย่างดี!!
เป็นเรื่องเล่าจากทางบ้าน ที่นำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ Lovemeow โดยหนุ่มชาวสิงคโปร์ Masz Masuri ชายผู้ถูกแมวเหมียวสะกดจิตด้วยสายตาออดอ้อนเพียงครั้งเดียว (โอ้วววววว แมวพลังจิต!!) พ่อหนุ่มได้เล่าว่าในวันนั้น เขาได้ขับรถไปกับลูกชายเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Danga Bay (สวนสนุกในมาเลเซีย) จากนั้นเค้าก็เหลือบไปเห็นแมวเหมียวสีขาวนอนขดตัวอยู่บนเกาะกลางถนน ภาพจากกล้องหน้ารถ ดูสายตามันสิคุณผู้โช๊มมมมมมม ด้วยอิทธิฤทธิ์พลังวิเศษของแมวเหมียว มันส่งสายตาออดอ้อนมายังคุณพ่อ ถึงกับทำให้เขาใจอ่อน และรีบวนรถกลับมาอีกครั้ง เพื่อจอดรับแมวเหมียวที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากกลางถนน เมื่อสืบทราบมาก็พบว่า พ่อหนุ่มคนดังกล่าวเป็นคนที่รักแมวมาก เขาเป็นเจ้าของเพจ Kitty Konnexion Community ซึ่งเป็นเพจที่คอยให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงแมวเหมียวอีกด้วย วินาทีที่คุณพ่ออดใจไม่ไหวที่จะต้องลงไปรับมันมาดูแล คลิปวิดีโอที่คุณลูกถ่ายไว้ได้ พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Danga Bay (น่าจะประมาณว่าตั้งใจจะไปเที่ยว แต่ได้แมวเหมียวมาแทน) ชายผู้ใจดีพามันไปตรวจสุขภาพ และเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ต้อนรับมันเป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว ดูสายตาอันบ๊องแบ๊วของมันใครซะก่อน มองมนุษย์แค่ทีเดียวก็ใจอ่อนได้เลย ชะแว๊บๆ!! เป็นอีกครั้งที่มนุษย์ถูกเจ้าเหมียวสะกดจิต และทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องลำบากอยู่ข้างถนนแล้วล่ะเนอะ!! ที่มา: Lovemeow
-
เหล่าสัตว์เลี้ยงจรจัดชื่นใจ เมื่อผู้คนรวมตัวช่วยกันทำที่นอนนุ่มๆ บรรจงถักร้อยด้วยหัวใจ…
เป็นอีกเหตุการณ์ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกว่า… บนโลกที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยการแข่งขัน และความวุ่นวายแห่งนี้ ยังมีเรื่องราวดีๆ อยู่เหมือนกัน เว็บไซต์ TheDodo ได้รายงานเรื่องราวของกลุ่ม Pillow For Paws กลุ่มสมัชชาชาวบ้านแห่งเมืองนิวยอร์ก ที่จัดตั้งขึ้นโดย Jennifer Halpern โดยมีจุดประสงค์หลักก็เพื่อเย็บหมอน และของเล่นอื่นๆ ให้เหล่าสัตว์เลี้ยงจรจัดทั้งหลาย พี่เหมียวก็มีฟูกนอนนุ่มๆ กับเค้าแล้วเหมือนกันนะ โดยพวกเขาเชื่อว่า ในศูนย์พักพิงสัตว์ที่เต็มไปด้วยเสียงร้อง และความวุ่นวาย จะสงบลงได้ด้วยสิ่งของเหล่านี้ ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ที่มีเวลาว่าง ที่อยากจะเย็บที่นอนทำมือ ผ้าห่ม หรือแม้แต่ของเล่นน่ารักๆ ให้สัตว์จรจัดทั้งหลาย ไม่ใช่แค่หมาแมวเท่านั้น ดูอย่างเจ้ากระต่ายน้อยก็มีของเล่นแฮนด์เมดเป็นของตัวเองเหมือนกัน Jennifer เล่าว่าเธอได้ไอเดียมาจากช่วงปี 2011 เป็นช่วงที่เธอเห็นโฆษณารณรงค์ให้ผู้คนช่วยกันทำกรงเลี้ยงสัตว์แบบใหม่ขึ้นมา เธอจึงคิดได้ว่า มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากสัตว์จรจัดในศูนย์พักพิง จะได้รับสิ่งดีๆ จากน้ำมือมนุษย์ด้วยเช่นกัน ‘นอกจากจะทำให้พวกมันดูน่ารักแล้ว ยังทำให้พวกมันได้หลับนอนได้อย่างนุ่มสบายด้วยค่ะ’ เจ้าของไอเดียเล่า เธอเชื่อว่าการทำให้พวกมันดูน่ารักขึ้น จะช่วยทำให้คนที่เข้ามารับอุปการะสัตว์จรจัด เกิดความรู้สึกใจอ่อนได้มากขึ้น …
-
พิตบูลสองสหาย ร่วมกันช่วยดูแลเหล่าแมวเหมียวตาบอดทั้งสาม ให้กลับมาร่าเริงอีกครั้ง!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Alfie และ เจ้า Frankie พิตบูลสองตัวที่เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย และตอนนี้พวกมันก็ทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คเพื่อดูแลแมวเหมียวตาบอด 3 ตัว เจ้า Alfie และ Frankie ได้พบกับเจ้าเหมียว Helen วัย 7 ปี เจ้า Bruce และ เจ้า Willis ทั้งสองตัวเป็นเหมียวน้อยวัย 10 สัปดาห์ หลังจากที่ทั้งสามตัวถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Faithful Friends Society ซึ่งเจ้าเหมียวทั้งสามตัวนั้นล้วนแล้วแต่ป่วยเป็นโรคที่ทำให้ทางสัตวแพทย์ต้องตัดสินใจผ่าตัดเอาดวงตาออกไป เพื่อรักษาชีวิตของพวกมันไว้ แน่นอนว่าสำหรับเจ้าเหมียวทั้งสามตัวแล้ว การใช้ชีวิตอยู่ในโลกอันมืดมิดย่อมเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว จึงทำให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครคนหนึ่งตัดสินใจที่จะพาพวกมันกลับไปดูแลที่บ้าน และนั่นเองก็ทำให้แมวเหมียวทั้งสามตัวได้พบกับพี่เลี้ยงสุดแสนใจดีอย่างเจ้า Alfie และ Frankie เจ้าเหมียวสามตัวเข้ากันได้ดีกับพิตบูลพี่เลี้ยงทั้ง 2 ตัวอย่างรวดเร็ว!! เจ้า Frankie และ Alfie ให้การดูแลเอาใจใส่เจ้าเหมียวตาบอดทั้งสามตัวเป็นอย่างดี ทั้งนอนกอดมอบความอบอุ่น…
-
เหยี่ยวพิการเกิดมาบินไม่ได้ แต่จิตใจเปี่ยมด้วยความรัก ทำหน้าที่ดูแลเหล่าลูกนกกำพร้า
ย้อนกลับไปในปี 2007 เจ้าเหยี่ยวที่บินไม่ได้ถูกพามาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Pacific Wildlife Care ที่ตั้งอยู่ใน Morro Bay รัฐแคลิฟอร์เนีย และเจ้าหน้าที่ก็ตั้งชื่อให้กมันว่า Fiona “มันถูกพามาที่ Pacific Wildlife Care แห่งนี้ เพราะได้รับบาดเจ็บที่บริเวณปีก แต่พอเราได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่าเจ้าเหยี่ยวตัวนี้เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางร่างกาย ที่ทำให้มันไม่สามารถบินได้” คุณ Kelly Vandenheuvel เจ้าหน้าที่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าเล่า วันเวลาผ่านไปที่มันได้อาศัยอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ PWC ในกรงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยราวเกาะ และบันได เพื่อให้มันสามารถขึ้นไปอยู่ที่สูงๆ หรือไต่ไปตรงไหนก็ได้ตามที่มันต้องการ ในวันหนึ่งคุณ Kelly ได้พบเข้ากับไข่ปริศนา 2-3 ใบตกอยู่ใกล้ๆ กับกรงของเจ้า Fiona เธอก็เลยหยิบมาใส่ในกล่องที่บรรจุไปด้วยกองฟางแล้วเอาไปไว้ในกรงของเจ้า Fiona โดยหวังว่าจะให้มันนั่งกกไข่ทั้งสองใบนี้ และดูเหมือนว่ามันจะชอบเอาซะมากๆ ด้วย แต่จนแล้วจนรอดไข่ก็ยังไม่ฟักออกมาซักที คุณ Kelly ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนเอาไข่ออกแล้วนำลูกไก่กำพร้าแม่มาไว้แทน เพื่อหวังให้เจ้า Fiona คอยดูแลมันแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเหยี่ยวก็ตาม และก็พบว่าเจ้า Fiona นั้นคอยดูแลลูกไก่เป็นอย่างดีทั้งป้อนอาหารให้ และคอยให้ความอบอุ่น…
-
เจ้าเหมียวแก่วัย 13 ปี ถูกเจ้าของเดิมทิ้ง ตอนนี้ได้บ้านใหม่อันแสนอบอุ่นและทาสผู้จงรักภักดี
เมื่อเจ้า Fred อายุได้ 13 ปี ครอบครัวทาสของมันก็ได้ย้ายไปอยู่ที่แคนาดา แต่กลายเป็นว่าพวกเขาตัดสินใจที่จะไม่พามันไปอยู่ด้วย แต่แทนที่จะประกาศหาบ้านใหม่ให้กับมัน พวกเขากลับทำเรื่องที่แย่ลงไป “ครอบครัวนี้พามันมายังคลินิคและขอให้ทำการุณยฆาตมัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้อยากทำแบบนั้นเพราะเขาเห็นใจเจ้าเหมียว จึงได้ติดต่อมาหาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ” คุณ Piper Wood ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Hand in Paw เล่า เธอรับมันมาและประกาศหาบ้านให้กับมัน จนในที่สุดก็มีคนใจดีติดต่อเข้ามา “พอได้พบกับเจ้า Fred ฉันก็ตกหลุมรักมันในทันที มันรู้สึกเหมือนกับว่า ‘ขอให้ฉันเป็นคนรับมันไปดูแลต่อได้ไหม?’” คุณ Shaw ที่เป็นคนติดต่อมาขอรับเลี้ยงเจ้า Fred เล่า หลังจากที่พาเจ้า Fred มาอยู่ที่บ้าน Shaw ก็ตกหลุมรักมันมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน “มันมักจะทำเสียงน่ารักๆ เวลากินหรือดื่มน้ำ แถมยังชอบเอาหัวมาถูที่แขนของฉันอีก และขี้อ้อนเป็นพิเศษเมื่ออยากได้อกไรซักอย่าง” วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน จนตอนนี้เจ้า Fred ก็มีอายุได้ 14 ปีแล้วล่ะ และความน่ารักของมันก็ยังคงเหมือนเดิมไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด…
-
เจ้าหน้าที่พบก้อนดินแปลกๆ เหมือนหายใจได้ สุดท้ายได้ช่วยชีวิต “เม่น” ที่โดนดินเกาะจนแข็ง!?
ขอบอกเลยว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นภาพนี้ก็คงจะคิดว่ามันคือก้อนดินธรรมดาๆ ก้อนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะก้อนที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี่มันคือ ‘เม่น’ ที่ใกล้จะกลายเป็นศพเม่นเต็มทีแล้ว!! แต่โชคดีที่มีคนไปพบมันเข้า ทำให้สามารถช่วยเหลือได้ทันเวลา เจ้าเม่นน้อยผู้แสนโชคร้ายนี้ ถูกช่วยเหลือโดยโรงพยาบาลสัตว์ป่า Brent Lodge Wildlife Hospital หลังจากจากที่มันพยายามป้องกันตัวจากสุนัข จนตัวเปื้อนเปรอะไปด้วยโคลน แต่หลังจากรอดชีวิต เวลาที่เวลาผ่านไปโคลนก็แข็งตัวทำให้เจ้าเม่นติดอยู่ท่านั้นขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ “ในตอนแรกที่เราไปเจอมันก็คิดว่ามันเป็นก้อนดินธรรมดาๆ ก้อนหนึ่ง แต่พอสังเกตดูดีๆ ก็พบว่ามันสามารถหายใจได้ด้วย ก็เลยรีบพามาที่โรงพยาบาลโดยด่วน” เจ้าหน้าที่เล่า หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยเจ้าเม่นน้อยก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะนอกเหนือจากนี้มันก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไรที่น่าเป็นห่วง “พวกเราได้ล้างโคลนที่แข็งติดกับตัวของมันออกเรียบร้อยแล้ว และก็คิดว่าน่าจะปล่อยให้มันอยู่เงียบๆ ตัวเดียวซัก 1 คืน เพื่อรอดูอาการ” เจ้าหน้าที่เล่า อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ก็จะพามันกลับไปสู่ธรรมชาติบ้านเกิดของมัน… งานนี้ต้องขอบคุณคนที่ช่วย เพราะโคลนแข็งนั้นมันหนักหนาเกินไปสำหรับตัวของเจ้าเม่นที่จะคลายออกมาเองได้ และถ้าไม่ได้รับการล้างออกอย่างถูกต้อง มันก็จะติดในนั้นจนขาดอาหารตายไปในที่สุด คราวหน้าก็อย่าเผลอเรอไปติดในโคลนแบบนี้อีกล่ะ เม่นเอ๊ยยยยยยย!! ที่มา : thedodo
-
เหมียวซึ้งใจมนุษย์พามาอยู่บ้าน ไม่รู้จะตอบแทนยังไง จ้องหน้าสะกดจิตคนที่ช่วยก็แล้วกัน!!
สำหรับเรื่องราวการช่วยเหลือแมวที่เรามักเอามานำเสนอนั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าแมวเหมียวชอบจะตอบแทนด้วยความน่ารัก หรือความเกรียนแบบว่ายึดบ้านเฉยเลย แต่สำหรับเรื่องราวของเจ้าเหมียว Wilbur ดูเหมือนว่ามันจะไม่อยากยึดบ้านเท่าไหร่ แต่สงสัยว่ามันจะซึ้งใจจนไม่รู้จะตอบแทนยังไง เลยนั่งจ้องหน้าทาสมนุษย์มันทั้งวันทั้งคืนซะเลย จ้อง!! ‘ฉันรับเจ้า Wilbur มาจากข้างถนน มันทานอาหาร และวิ่งเล่นกับเหมียวตัวอื่นอย่างปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ… เผลอทีไรมันก็จะมายืนจ้องหน้าฉันแบบนี้ตลอด’ เจ้าของบ้านเล่า แม้ว่าเธอจะหนีมาอีกห้อง มันก็ยังตามมาจ้องหน้าอยู่ ตอนเธอทำงานเจ้า Wilbur ก็มักจะเข้ามานั่งจ้องหน้าใกล้ๆ ‘ทุกวันนี้เจ้า Wilbur มักจะมารอหน้าประตูบ้านเสมอ เมื่อไหร่ที่ฉันกลับบ้านมันก็จะเดินเข้ามาจ้องหน้าทันที มันไม่ร้อง ไม่อะไรเลย แค่จ้องหน้าเท่านั้น’ เจ้าของบ้านเล่าเสริม แม้แต่ตอนจะนอนหลับ เจ้า Wilbur ก็ยังบุกเข้ามาจ้องหน้าเธอถึงในห้อง ทุกเช้าวันใหม่ก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน Wilbur ก็จะมานั่งจ้องแบบนี้ เมื่อไหร่ที่เธอดูทีวี เจ้า Wilbur จะหันมาดูหน้าเธอแทน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร อยู่ส่วนไหนของบ้าน หรือยุ่งอยู่มากขนาดไหน ก็จะมีเจ้าเหมียวมานั่งจ้องหน้าแบบนี้เสมอ …
-
หนูน้อยล็อคตัวเองไว้ในรถ นักดับเพลิงเร่งช่วยเหลือ แต่ดันหัวเราะชอบใจซะงั้น!?
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยทั้งความน่ารัก และความใสสื่อไร้เดียงสาของหนูน้อยวัย 14 เดือน Brandon Emery เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อคุณแม่ Kristy Green และหนูน้อยตั้งใจจะมาช็อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขณะกำลังจะจอดรถกุญแจดันตกพื้น.. ตอนที่คุณแม่กำลังจะก้มเก็บ หนูน้อยก็ดันเล่นซนเผลอกดล็อคตัวเองไว้ในรถซะงั้น งานนี้ถึงกับต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาทั้ง 5 ต่างก็พยายามงัดหน้าต่างรถออกมาอย่างสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนหนูน้อยจะคิดว่าเค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่รึเปล่า? ในวินาทีเร่งด่วน เจ้าตัวกลับหัวเราะยิ้มแย้มชอบใจเฉ๊ยย!! โชคดีที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเหลือหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย ‘ตอนแรกฉันตกใจมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะช่วยลูกออกมายังไงดี จนมีชาวบ้านมาช่วยกันโทรแจ้งเจ้าหน้าที่’ คุณแม่เล่า โฉมหน้าทีมนักดับเพลิงที่มาช่วยเหลือจาก Bude Community Fire Station เมือง Cornwall ประเทศอังกฤษ ‘ตอนแรกฉันตื่นกลัวมาก แต่พอเห็นว่า Brandon ยิ้มแย้มหัวเราะชอบใจ มันก็ทำให้ความเครียดทุกอย่างหายไปทันที’ คุณแม่เล่าเสริม อีกทั้งคุณแม่ยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอจะไม่ปล่อยให้ลูกน้อยถูกขังอยู่ในรถคนเดียวอีกแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะดูชอบใจมากก็ตาม แหม๊…หัวเราะชอบใจซะน่ารักเลย >< ที่มา: Boredpanda
-
คณลุงวัย 76 ปี ใช้เวลากว่า 24 ปี ช่วยเหลือแมวจรจัด เพื่อให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ใครจะเชื่อว่าชายคนหนึ่งจะมอบความรักและดูแลแมวจรจัดตลอด 24ปี… Willie Ortiz คุณลุงวัย 76 ปี ชาวเปอร์โตริโกคนนี้ เขาได้มาอาศัยอยู่ในเมืองฮาร์ตฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาพบกับปัญหาแมวจรจัดที่มีมากในเมืองแห่งนี้ และชาวเมืองก็ดูจะไม่ชอบพวกมันสักเท่าไหร่ คุณลุงแกบอกกับ thedodo ว่า “ผมเห็นแมวจรจัดจำนวนมากที่ถูกผู้คนรังเกียจ พยามจะไล่มันไปหรือเตะมันในบางครั้ง” มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า เขานี่แหละจะต้องเป็นคนเข้าไปช่วยพวกมัน ซึ่งเขาก็ตระหนักดีว่าตัวเขาเองไม่สามารถจะรับเลี้ยงพวกมันได้ทั้งหมด เขาจึงเริ่มจากวิธีง่ายๆ ด้วยการให้อาหารมันพร้อมกับพาพวกมันไปฉีดสเปรย์ป้องกันให้พวกมันด้วย และถ้าแมวป่วยเขาก็จะดูแลพวกมันอย่างเต็มที่และพามันบางตัวกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ซึ่งเขาทำแบบนี้เป็นประจำมานานถึง 24 ปี แล้ว Willie บอกว่า “พวกมันต้องการความช่วยเหลือ ผมต้องมั่นใจว่าพวกมันทุกตัวจะมีอาหารกินและมีสุขภาพที่ดี” จนถึงตอนนี้คุณลุง Willie ดูแลแมวครอบคลุมถึง 68 ตัวใน 16 อาณาเขตด้วยกัน โดย Kathleen Schlentz เพื่อนของลุงแกได้อธิบายว่า อาณาเขตของพวกมันก็จะอยู่แตกต่างกันไปทั้งจุดทิ้งขยะ หัวมุมถนน ตรอก หรือตึกร้างเป็นต้น Kathleen อธิบายเพิ่มเติมว่า “อาณาเขตของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่อยู่ที่เดิมตลอดเวลา และแมวบางตัวก็อาจจะถูกรถชนตายหรือบางครั้งก็อาจจะไม่รอดจากภัยหนาว” …
-
เรื่องราวสุดรันทดของสุนัขเกรย์ฮาวด์ ที่ต้องนอนกินในจานข้าว เพราะอดอยากมานาน…
เรื่องราวสุดเศร้าของสุนัขเกรย์ฮาวด์กว่า 64 ชีวิต ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าสงสาร หลังจากที่ชายผู้เป็นทั้งหัวหน้าครอบครัวและผู้เจ้าของพวกมันได้เสียชีวิตไป ทำให้ทางครอบครัวไม่สามารถที่จะหาเงินมาจุนเจือเป็นค่าอาหารให้พวกมันได้ ทำให้พวกมันต้องอยู่อย่างอดอยาก ผอมแห้ง และไม่มีแรงแม้แต่จะยืนกินข้าว แต่กว่าที่เรื่องราวดังกล่าวจะไปถึงองค์กร GreyHound Rescue South Africa สุนัขหลายตัวได้เสียชีวิตไประหว่างรอการช่วยเหลือ ทำให้ตอนนี้เหลือพวกมันเพียงแค่ 16 ชีวิตเท่านั้น ‘ที่แอฟริกาสุนัขเกรย์ฮาวด์จะถูกเลี้ยงเพื่อนำมาล่าสัตว์ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายห้ามใช้สุนัขในการล่าสัตว์แล้วก็ตาม แต่วิธีการนี้ก็ยังเป็นที่ได้รับความนิยมอยู่’ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือเล่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลพวกมัน พวกเขาก็พบว่าร่างกายของสุนัขเต็มไปด้วยบาดแผลที่ถูกมนุษย์ทำร้าย เชื่อว่าก่อนหน้านี้เจ้านายคนเก่าต้องเลี้ยงดูพวกมันอย่างโหดร้ายทารุณ ‘มีหมาตัวหนึ่งมันหิวโซมาหลายวัน มันไม่มีแรงแม้แต่จะยืนกินข้าวด้วยตัวเอง มันถึงกับต้องล้มนอนลงในถ้วยอาหาร’ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเล่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขทั้งหมดมาดูแลไว้ที่ศูนย์พักพิง พวกเขาช่วยปฐมพยาบาล ให้อาหาร และฟื้นฟูให้พวกมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ตอนนี้พวกมันหลายตัวเริ่มกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงดังเดิม และพร้อมที่จะได้รับการอุปการะจากครอบครัวใหม่แล้ว ‘ถึงแม้พวกมันจะถูกฝึกให้ล่าสัตว์มาก่อน แต่พวกมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด มันเป็นสุนัขที่พร้อมจะซื่อสัตย์ และรักผู้ที่ดูแลมันอย่างดี’ เจ้าหน้าที่กล่าวปิดท้าย น่าสงสารมากเลยต้องอดอาหารจาก 64 ตัว เหลือชีวิตรอดเพียงแค่ 16 ตัวเอง ฮือๆๆ…
-
เด็กวัย 13 ขวบ เดินเท้าไกลกว่า 3 กิโลฯ เพื่อช่วยเหลือลูกสุนัขที่กำลังจะตาย…
อีกเรื่องราวการช่วยเหลือน้องหมาที่กำลังจะตาย จากเด็กชายวัย 13 ขวบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Delft หนึ่งในชุมชนที่ยากจนที่สุดในแอฟริกาใต้ เมื่อวันหนึ่งเด็กชายชาวแอฟริกา ได้ไปเห็นเจ้าสุนัขตัวน้อยที่อดอาหารมานานหลายวัน และกำลังจะตายในไม่ช้า แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้ออาหารให้ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการช่วยเหลือครั้งนี้ไว้ได้ เด็กชายคนดังกล่าวไปพบเจ้าหมาน้อยตัวนี้ที่ Tin Can Town ครั้งแรกที่เขาไปเจอมัน เขาพบว่าเจ้าตูบมีอาการท้องเสีย ขับถ่ายออกมาเป็นเลือด เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาจากข้างทาง และออกตามหาการช่วยเหลือ ‘มันผอมมาก และมันกำลังจะตายครับ พวกพี่ต้องช่วยเหลือมันนะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีเงินก็ตาม’ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงสัตว์เล่าถึงคำพูดของเด็กชายคนนั้น หลังจากนั้นเจ้าตูบก็ได้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ‘เราบอกกับเด็กน้อยคนนั้นว่า เราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือมันนะ และเราก็จะพยายามหาบ้านหลังใหม่ให้มันด้วย’ เจ้าหน้าที่เล่า เจ้าสุนัขถูกตั้งชื่อให้ว่า Nanuk และสัตวแพทย์ก็ตรวจพบว่ามันเป็นโรคพาร์โวไวรัส (ลำไส้อักเสบ) ในระยะแรกเจ้าตูบไม่สามารถกินอะไรได้เลย พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้มันกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง แม้กระทั่งพามันไปเล่นกับน้องเหมียวที่ถูกช่วยเหลือมาเหมือนกัน และดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผลซะด้วยสิ ‘ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เราพาเจ้าเหมียวตัวน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนมัน เจ้า Nanuk ก็ดูร่าเริงขึ้นทันตาเห็น’ เจ้าหน้าที่เล่าเสริม ข่าวดีก็คือ.. ตอนนี้มันหายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายแล้ว…
-
เรื่องราวซึ้งๆ ของเจ้า “หอมฟุ้ง” จากสุนัขซอมบี้ผอมกะหร่อง กลายเป็นหมาขนฟูสุดน่ารัก
อีกเรื่องราวซึ้งๆ เกี่ยวกับการช่วยเหลือน้องหมาจรจัดข้างถนน ที่มีร่างกายผอมสูบขนร่วงราวกับซอมบี้ จนเวลาผ่านไปมันก็ได้กลายมาเป็นสุนัขขนฟูน่ารัก ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือพลังของความรัก โดยทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของคุณ jin leng ที่นำมาเล่าสู่กันฟังผ่านเว็บไซต์พันทิพย์ เราลองไปติดตามชมเรื่องราวของเจ้าหอมฟุ้งกันเลยดีกว่า เจ้าของกระทู้ได้เล่าว่าระหว่างทางที่กำลังจะไปเยี่ยมน้องออย เขาก็ได้พบกับเจ้าสุนัขผอมกร่องตัวนี้อยู่ข้างทาง ดูเหมือนมันจะหิวโซเอามากๆ ซะด้วยสิ หลังจากนั้นเขาก็ได้ทราบว่า เจ้าของเดิมของมันได้ย้ายบ้านไปแล้ว และอีกไม่นานมันอาจจะถูกกำจัดทิ้ง เขาเลยอาสารับมันมาเลี้ยงเองซะเลย พวกเขาได้พาเจ้าหอมฟุ้งกลับมาดูแลอย่างดี ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่เชื่อสายตาว่าสุนัขขี้เรื้อนแบบนี้ จะกลับมาน่ารักเหมือนเดิมได้หรือไม่ ตลอดช่วงเวลาที่มันได้ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ พวกเขาก็คอยเลี้ยงดูมันอย่างดี เรื่องอาหารการกินไม่ให้มีบกพร่อง ในระยะนี้มันดูอวบขึ้นมาบ้างแล้วนะ แถมหน้าตาก็ยังดูสดใสขึ้นมากด้วย ดูเจ้าหอมฟุ้งสิ ร่าเริงขึ้นเยอะ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเท่าไหร่เลยน๊าา และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา… แทบไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้มันไม่มีกลิ่นตัว ไม่ต้องเผชิญกับโรคร้าย และได้กลับมาเป็นสุนัขที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขจริงๆ แถมยังกลายเป็นสุนัขขี้อ้อน ขี้เอาใจสุดๆ บางวันเจ้าหอมฟุ้งก็มาเที่ยวที่บ้านพักคนชรา นับว่าเป็นสีสันของที่นี่เลยแหละ บางทีก็แอบสวมบทบาทเป็นสุนัขที่ช่วยรักษาบำบัดจิตใจของคนชราได้ด้วยนะ และทุกวันนี้เจ้าหอมฟุ้ง ก็ยังอยู่ดีกินดีมีชีวิตที่ดีกับบ้านหลังใหม่ของมัน ดูรอยยิ้มที่มันฝากมาให้ทุกคนสิ น่ารักมั้ยล่ะ…
-
ชมวินาทีชีวิต นักดับเพลิงเกาหลีใต้ช่วยชีวิตคนฆ่าตัวตาย โหนตัวลงมาถีบอย่างกับนินจา!!
ขอพาทุกท่านเข้าสู่ช่วงสกู๊ปพิเศษ… รายการวินาทีชีวิต ที่จะพาทุกท่านไปลุ้นระทึกกับภารกิจช่วยชีวิตของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากเกาหลีใต้ในครั้งนี้ โดยผู้สื่อข่าวจากเกาหลีใต้ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวกำลังคิดจะกระโดดตึก และถึงแม้ว่าจะให้ญาติเข้ามาพยายามไกล่เกลี่ยแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล งานนี้นักดับเพลิงหนุ่มผู้กล้า ต้องแอบปีนขึ้นมาจากห้องด้านบนอย่างช้าๆ เขาค่อยๆ โหนตัวเองลงมาจากระเบียง ไม่มีสลิง ไม่มีตัวแสดงแทน นี่มันช็อตเสี่ยงตายชัดๆ!! ชั่วพริบตาเดียว เจ้าหน้าที่ได้โหนตัวเองลงมา พร้อมกับเอาเท้าถีบไปที่หญิงสาวเข้าอย่างจัง ก่อนที่จะกระโดดทิ้งตัวลงไปที่ระเบียง พี่เค้าทำเซียนเหมือนเรียนมาเลย ถ้าใครอยากชมวิดีโอเหตุการณ์เต็มก็ตามนี้เลย แต่เชื่อเถอะ..ว่าเราเล่าไปหมดแล้ว ฮ่าๆ ด้วยปัญหาชีวิต และอะไรหลายๆ อย่างอาจจะทำให้เธอคิดสั้น ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะ ที่มา: Allkpop
-
เหล่าแมวเหมียวผลัดกันมาเคาะบ้านหญิงสาว เพื่อขอความช่วยเหลือ และเธอก็ช่วยพวกมันไว้ทุกตัว!!
เรื่องมีอยู่ว่ามีเจ้าเหมียวมากหน้าหลายตาโผล่มาที่หน้าบ้านของหญิงสาวคนหนึ่ง เพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วเธอก็ช่วยมันไว้ทุกตัว ทุกอย่างมันเริ่มต้นที่เจ้า Sophia เจ้าเหมียวตัวสีดำสวมชุดทักซิโด้ตัวน้อย ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของครอบครัวของเธอตั้งแต่ช่วยเดือนเมษายน ปี 2013 “ในตอนนั้นมันเป็นแมวจรจัดที่ถูกทิ้งไว้ มีอายุเพียงแค่ 3 วัน” คุณ Maria Delk เล่า เจ้าแมวเหมียวกำพร้าแม่ตัวน้อยยังคงมีสายสะดือติดอยู่กับตัวในตอนที่ครอบครัวของคุณ Maria ได้พบเจอกับมัน หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการรักษาพยาบาลมันให้กลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้งหนึ่ง เจ้าเหมียวตัวน้อยได้สัมผัสกับความอบอุ่นและความรักที่แท้จริง หลังจากที่รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงอีกเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมีเหล่าแมวเหมียวแวะเวียนมาที่บ้านของพวกเขาอยู่บ่อยๆ ราวกับว่ากลายเป็นสวรรค์ของเหล่าแมวเหมียวไร้บ้านเลยล่ะ เหมือนกับว่ามีแมวเหมียวตัวหนึ่งที่ผ่านมาบ้านหลังนี้แล้วถูกช่วยไว้ ได้น้ำได้อาหารทาน พอมันออกไปข้างนอกก็ไปบอกพรรคพวกของมันว่าที่นี่มีอาหารนะ มีน้ำนะ แล้วก็พากันแห่ไปที่นั่น “มีแมวแปลกหน้ามากกว่า 15 ตัวที่แวะเวียนมาที่หน้าบ้าน ฉันได้ตั้งชื่อให้กับพวกมันไปบ้างแล้วเป็นบางตัว แต่บางตัวก็ยังไม่ได้ตั้งให้” คุณ Maria เล่า แมวที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแมวจรจัดไม่เช่นนั้นก็เป็นแมวที่หลงมา และก็มีแมวเป็นจำนวนมากที่มาที่บ้านของคุณ Maria แล้วมีอาการบาดเจ็บหรือต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งเธอก็ช่วยเหลือมันทุกตัว และด้วยเหตุนี้เองด้วยความรักความอบอุ่นของเธอที่มีต่อเหล่าแมวเหมียวนั้นก็กลายเป็นเรื่องราวที่เหล่าแมวเหมียวพากันไปบอกต่อๆ จนทำให้มีแมวเหมียวมากมายเดินทางแวะเวียนมาที่บ้านของเธอ และหนึ่งในแมวเหมียวที่มาเที่ยวที่หน้าบ้านของคุณ Maria ชื่อว่าเจ้า Bob…
-
เศรษฐีหนุ่มยอมทิ้งความสุขสบาย เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือสุนัขจากตลาดขายเนื้อในแถบเอเชีย
Mark Ching หนุ่มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนกับคนทั่วไป เขาจะใช้เวลาว่างเพื่อช่วยเหลือเหล่าสุนัขที่ถูกทำร้าย และหาบ้านใหม่ให้กับพวกมัน หลังจากที่เขาได้ยินเรื่องราวของความน่ากลัวว่ามีประเพณีการขายเนื้อสุนัขในประเทศจีน จึงทำให้เขาตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหล่ามะหมาให้รอดพ้นจากการถูกฆ่า ชีวิตของนาย Mark ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2015 เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของเทศกาลประจำปีของชาวจีนชื่อว่า Yulin Dog Meat Festival ที่จะนำสุนัขมาเชือดแล้วก็ขายกันเป็นหมื่นๆ ตัว จึงได้ทำการตัดสินใจที่จะตีตั๋วบินจากนคร Los Angeles ไปสู่ประเทศจีน และทำการช่วยชีวิตของเหล่ามะหมาผู้มีชะตากรรมโชคร้ายออกมาให้ได้มากที่สุด “ทริปแรกของผมเป็นช่วงหลังจบงานเทศกาล Yulin เมื่อวันที่ 1 กันยายน เมื่อผมเดินทางไปถึงเมืองจีน ผมเห็นสิ่งที่พวกเขาทำ ผมรู้ดีว่าที่นี่เค้าทานเนื้อสุนัขกัน แต่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าก่อนที่จะฆ่าพวกมันเพื่อเอาเนื้อมาทานนั้นได้มีการทารุณกรรมพวกมันด้วย ผมว่ามันไม่ถูกต้อง” Mark กล่าว จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียอย่างเช่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม เยี่ยมชมตลาดซื้อขายเนื้อสุนัขและโรงฆ่าสัตว์ พร้อมกับเริ่มดำเนินการช่วยเหลือพวกมัน ตอนแรกเขาตั้งใจไว้ว่าจะช่วยเจ้าหมาที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อนำเนื้อไปขายกว่า 249 ตัว ใน 4 ทริปแรกที่เขาเดินทางมาที่นี่ แต่ท้ายที่สุดก็พบว่าพวกมันได้ถูกฆ่าไปจนเกือบหมด…
-
เจ้าหมาที่ถูกล่ามโซ่มาตลอดชีวิต กับอิสรภาพชีวิตใหม่ที่ถูกปลดปล่อย โดยมนุษย์ผู้ใจดี!!
เรื่องราวชีวิตอันน่าหดหู่ของเจ้าหมาที่ถูกโซ่ล่ามคอมาอย่างยาวนาน จนขนบริเวณคอของมันถูกย้อมไปด้วยสีของเหล็กเพราะถูกเสียดสี หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญขับรถผ่านมาเห็นเจ้าหมาที่ชื่อว่า Violet พร้อมกับเพื่อนๆ ของมันอีก 5 ตัว ที่ถูกล่ามเอาไว้แบบเดียวกันในบ้านหลังหนึ่ง “จากภาพก็สามารถคาดเดาได้ว่าพวกมันน่าจะถูกล่ามแบบนี้มาตั้งแต่เกิด” Angela Stell ผู้อำนวยการขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ NMDOG เล่า บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ในแถบ Miguel County รัฐ New Mexico ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในพื้นที่นี้การล่ามสุนัขทิ้งไว้โดยที่ไม่มีเจ้าของคอยดูแล ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย คุณ Angela จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Animal Welfare Coalition of Northeastern New Mexico ที่อยู่ในรัฐ New Mexico และสำนักงานนายอำเภอ เพื่อเรียกร้องอิสระภาพให้กับเจ้าหมา “ฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีคนอยู่ในบ้านหลังนี้หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมาเหล่านี้ถูกทิ้งขว้างให้อยู่อย่างน่าอดสู” คุณ Angela เล่า เธอสามารถช่วยเหลือเหล่าหมาที่ถูกล่ามออกมาได้ทั้งหมด และรีบพามันไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เจ้า Violet นั้นดูเหมือนจะมีอาการหนักกว่าเพื่อนผิวหนังของมันเป็นแปลและถูกแมลงวันเข้ามาวางไข่จนเกิดอาการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงทำการรักษาด้วยการขูดเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออก และตอนนี้อาการของมันก็ดีขึ้นมากแล้ว “มันเป็นหมาที่ขี้กลัวมากๆ ถ้าหากว่าเราขยับมือ หรือร่างกาย…
-
คู่รักจากนิวเจอร์ซีย์ สร้างบ้านพักให้น้องหมาใกล้ตาย เพื่อมอบความสุขตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ
บ่อยครั้งเรามักจะเห็นภาพของสุนัขจรจัดที่ป่วยใกล้ตาย เดินเร่ร่อนอยู่บนถนน คิดแล้วมันช่างเป็นภาพที่สะเทือนใจซะเหลือเกิน ซึ่งเจ้าหมาเหล่านี้อาจจะเคยมีเจ้าของมาก่อน แต่กลับโชคร้ายที่ต้องมาถูกทิ้งให้เผชิญอยู่ในโลกใบใหญ่เพียงลำพัง และไม่มีผู้คนสนใจ แต่ถึงกระนั้น ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสรัฐอเมริกา กลับมีสถานที่แห่งหนึ่ง ที่บอกเลยว่าทั้งอบอุ่น และเต็มไปด้วยความรัก ซึ่งมันสร้างขึ้นมาสำหรับบรรดาสุนัขจรจัดแก่ๆ ที่ใกล้ตายโดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Michelle และ Jeff Allen สองคู่รักจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ คู่นี้ ได้สร้างบ้านพัก Monkey’s House ที่มีขนาดกว่า 6 เอเคอร์ ให้แก่สุนัขที่ใกล้ตาย โดยพวกเขาได้รับสุนัขเหล่านี้มาจากศูนย์พักพิงสัตว์ พร้อมกับทำหน้าที่ดูแลพวกมันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สถานที่ดังกล่าวมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับเจ้าหมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเตียง โซฟา รวมถึงอาหารอีกด้วย “นี่ถือเป็นสถานที่สุดท้ายของพวกเขา” Michelle ผู้ก่อตั้ง Monkey’s House กล่าว “ฉันอยากจะให้พวกมันได้นอนอยู่บนเตียง และโซฟา เราต้องการทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” …
-
เจ้าหมาผู้น่าสงสาร มีกระสุนฝังอยู่ในตัวกว่า 20 เม็ด ตำรวจเชื่อว่าเป็นฝีมือเพื่อนบ้าน!!
เจ้า Jackson หมาพันธุ์ English Mastiff ที่มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม ถูกเพื่อนบ้านขี้ยาใช้ปืนบีบีกันยิงเข้าที่ลำตัวจนสร้างบาดแผลมากมาย แถมกระสุนบางลูกยังคงฝังอยู่ในร่างกายของมันอีกต่างหาก ในตอนแรกที่คุณ Hayden Howard จากเมือง Seymour รัฐ Indiana ได้พบกับมันตอนแรกก็คิดว่าเป็นแผลจากการถูกแมลงกัด นาย Tim Woodward เพื่อนบ้านของเธอ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง และคาดว่านั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดบาดแผลบนตัวของเจ้า Jackson “บนร่างกายของมันมีแต่รอยแผลเต็มไปหมด ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นแผลจากการถูกแมลงกัด แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น” คุณ Hayden เล่า เธอพามันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที และพอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ทำการโกนขนในบริเวณที่เป็นแผลออก พบว่ามีลูกกระสุนบีบีกันมากกว่า 20 ลูกฝังอยู่ในตัวของมัน และอีก กว่า 20 รอยแผล จากการตรวจค้นในบ้านของนาย Tim เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสารเสพติดมากมายหลายชนิดทั้งกัญชา และเมทแอมเฟตามีน นอกจากนี้ยังมีปืนบีบีกันอยู่ด้วย แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกเพิ่มข้อหาทารุณกรรมสัตว์ในการตัดสินโทษของเขาด้วย และตอนนี้เจ้า Jackson ก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยการดูแลของคุณ Jayden กับลูกชายแล้ว เชื่อว่าต่อจากนี้ไปมันคงจะได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยไร้การกลั่นแกล้งจากคนใจร้ายแล้วล่ะ …
-
หนุ่มออสซี่ใจงาม ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อช่วยชีวิตสุนัขทุกตัวบนโลกนี้!!
Ryan Anderson เป็นชื่อของชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย แต่ถ้าหากคุณได้ลองอ่านเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักเขาอย่างแน่นอน สำหรับ Ryan แล้ว เขาเป็นคนที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานที่ทำอยู่ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ว่างๆ Ryan ก็จะกลายไปเป็นอาสาสมัครที่ลงไปปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือสุนัขทุกตัวในโลกใบนี้ “ในทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมจะกลายมาเป็นอาสาสมัคร เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือสัตว์ ซึ่งในตอนนี้ผมได้รับหน้าที่เป็นผู้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือสุนัขผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งได้ทำบทความการศึกษา ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมให้เจ้าของรับผิดชอบสุนัขของตนเองด้วย” Ryan กล่าว ความรัก และความหลงใหลในการช่วยสุนัขที่ตกทุกข์ได้ยางของ Ryan ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาออกไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัว เพื่อถ่ายรูปกับสุนัขพันธุ์ต่างๆ ทั่วโลก และนั่นก็ทำให้เขาได้เห็นว่าชีวิตความเป็นอยู่ของสุนัขที่มีเจ้าของ และสุนัขจรจัดมันต่างกันโดยสิ้นเชิง… ดังนั้น จึงทำให้เขา และเพื่อนสนิท ได้ติดสินใจที่จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เจ้าของสุนัขรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยประกาศตามหาบ้านให้กับเจ้าหมาจรจัดผ่านสื่อออนไลน์ และนั่นก็ทำให้โครงการ ‘Aussie Dog Guy’ ก็ได้ถูกสร้างขึ้น หลังจากที่ได้ก่อตั้งโครงการดังกล่าว Ryan ก็ได้เริ่มออกเดินทางไปยังหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็ทำให้เขาได้พบกับสุนัขมากมายหลายสายพันธุ์ อีกทั้งเขายังได้สอนผู้คนเกี่ยวกับความสำคัญในการช่วยชีวิตน้องหมาลงบนอินสตาแกรม Aussie Dog…
-
Rocket แมวน้อยที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่ความน่ารักของมัน ทำให้มนุษย์หลงรักเต็มเปา
Rocket เจ้าเหมียวน้อยที่มีความน่ารักเหมือนกับแมวทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ ก็คือ มันเป็นแมวที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่นั่นกลับไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของมันเลยสักนิด เพราะเมื่อน้องเหมียว Rocket อายุได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ มันก็พร้อมเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับการเดินสองขาเหมือนแมวตัวอื่นๆ ว้าววววว!! สุดยอดเลยเจ้าเหมียว สำหรับ Rocket มันเป็นลูกแมวจรตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ก็ทำให้มันได้พบกับ Mareen (เจ้านายคนใหม่ในอนาคต) จากกรุงเบอร์ลิน และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มสนใจในตัวของมันทันที “เจ้าเหมียวเกิดมาพร้อมกับขาหน้าเพียงสองขาเท่านั้น ในวันแรกที่ฉันเห็นมัน เจ้าเหมียวมีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แถมมันยังขี้อายมากๆ เพราะในขณะที่ฉันเดินไปหามัน เจ้าเหมียวก็รีบหลบฉันทันที” Mareen กล่าว และในทุกๆ วัน Mareen ก็มักจะแอบไปหามันอยู่เสมอ พร้อมกับนำอาหารไปให้เจ้าเหมียว เนื่องจากเธอกำลังพยายามที่จะเข้าไปทำความคุ้นเคยกับมัน และเมื่อนานวันเข้า Mareen ก็สามารถเข้าไปจับตัวของมันได้แบบง่ายๆ แถมยังพามันกลับบ้านอีกด้วย ในตอนแรกแมวน้อยแสนน่ารัก รู้สึกประหลาดใจกับสถานที่แห่งใหม่ แต่กลังจากที่ Mareen พยายามเข้าไปใกล้ชิด และคุยกับมัน ก็ทำให้เจ้าเหมียวเริ่มไว้ใจเธอมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นแมวที่มีเพียงสองขา…
-
เจ้าหมาฮัสกี้ พยายามปลุก “ร่างไร้วิญญาณ” ของเพื่อนมันให้ตื่น หลังถูกรถชนกลางถนน…
หลายคนที่เลี้ยงสุนัข จะรู้ดีว่ามันเป็นสัตว์ที่ภักดีต่อเจ้านายมากขนาดไหน แม้กระทั่งเวลาที่พวกมันเห็นเจ้านายกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พวกมันก็จะรีบเข้ามาปกป้องเราทันที เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันถูกนำมาเสนอบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง… และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอที่จะมายืนยันให้มนุษย์ทั้งหลายได้เห็นว่า “สุนัข” นอกจากจะภักดี และคอยปกป้องเจ้านายแล้ว มันก็ปฏิบัติเช่นนี้กับเพื่อนสุนัขตัวอื่นๆ เหมือนกันนะ วันที่ 19 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจของเจ้าหมาพันธุ์ฮัสกี้ตัวหนึ่ง ที่ได้ยืนเฝ้าดูเพื่อนของมันอยู่ไม่ห่าง หลังจากที่เพื่อนของมันถูกรถชน สำหรับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง ทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง ในประเทศจีน ซึ่งจากคลิปปรากฏให้เห็นว่า… หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เจ้าหมาฮัสดี้ตัวสีขาวก็ได้ยืนเฝ้าเพื่อนของมันอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง พร้อมกับมีท่าทีเสียใจอย่างหนัก และได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา นอกจากนี้ มันยังพยายามที่จะปลุกเพื่อนหมาสีน้ำตาลที่นอนนิ่งไร้ล้มหายใจอยู่บนถนนให้ตื่น ท่ามกลางรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาอยู่เต็มท้องถนน ขณะที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้เลย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หญิงชุดดำที่อ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัขก็ได้วิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และพยายามปลุกให้เจ้าหมาตื่น พร้อมกับได้พาเจ้าหมาตัวนั้นอกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวทันที โดยภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่าหญิงรายดังกล่าวเป็นเจ้าของสุนัขผู้โชคร้ายนั่นเอง ตามรายงานข่าวไม่ได้บอกว่า เธอจัดการอย่างไรกับศพของสุนัข หรือตำรวจสามารถติดตามตัวคนชนได้หรือไม่ แต่คลิปที่เป็นไวรัลมียอดวิวกว่า 2.5 ล้านครั้ง คงเป็นเครื่องการันตีความเห็นอกเห็นใจของชาวเน็ต และคนนับล้านก็ได้รับชมความซื่อสัตย์และรักเพื่อนของเจ้าตัวขาวได้เป็นอย่างดี… ที่มา : ladbible, dailymail
-
เมื่อหนุ่มหล่อ ‘คนขับรถบรรทุก’ เจอเจ้าเหมียวนอนอยู่กลางถนน ซิ่งไปด้วยกันซะเลยงานนี้!!
เรื่องราวความน่ารักระหว่างคนขับรถบรรทุกที่บังเอิญพบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยโดยบังเอิญ เขาเห็นมันกำลังนอนรอความช่วยเหลืออยู่กลางถนน ขณะที่คุณ Matt คนขับรถบรรทุก กำลังขับรถอย่างชิลๆ จู่ๆ ก็พบเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่บนถนน “ผมเจอเจ้าเหมียวกำลังนอนอยู่กลางถนนที่มีรถพลุกพล่าน ผมก็เลยตัดสินใจจอดรถและช่วยเหลือมัน” “มันค่อยๆ คลานมาจากพุ่มไม้ที่ข้างถนน ดูเหมือนว่ามันจะเกิดที่นั่น แต่ด้วยเหตุการณ์อะไรบางอย่าง จึงทำให้แม่ของมันหนีออกจากรังไป และคาบลูกตัวอื่นๆ ไปด้วย แต่ดันทิ้งเจ้าตัวนี้เอาไว้” ในวันต่อมาคุณ Matt ก็ตัดสินใจพาเจ้าเหมียวไปหาหมอ ลำตัวของมันมีแต่เห็บหมัดอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจัดการออกไปได้โดยไม่มีปัญหา “ขณะกลับจากการไปหาหมอ เจ้าเหมียวก็หลับมาตลอดทางพร้อมกับหายใจเป็นเสียงกรน ดังราวกับหัวเครื่องจักรรถไฟเลยทีเดียว และผมก็ไม่กล้าเปิดวิทยุซะด้วย เพราะกลัวว่าจะรบกวนมัน” ดีแล้วที่หลับ เพราะถ้ามันตื่นก็จะกวนแบบนี้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับเลี้ยงมันไว้หรอกนะ เนื่องจากตัวเองก็ก็เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์ และไม่มีประสบการณ์เลี้ยงแมวเลย แต่ก็ได้ส่งต่อให้กับคนที่พร้อมดูแลเป็นที่เรียบร้อย “เนื่องจากว่าผมป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ จึงต้องทำการหาบ้านใหม่ให้กับเจ้าเหมียว และตอนนี้มันก็ได้บ้านหลังใหม่พร้อมกับทาสคนใหม่ และเพื่อนๆ แมวเหมียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่นั่นเองมันก็คงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างแน่นอน” คุณ Matt เล่า ถือว่าเป็นโชคดีของเอ็งแล้วล่ะนะเจ้าเหมียว ขอให้ใช้ชีวิตใหม่อยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุขล่ะ ^^…
-
ศูนย์พักพิงสัตว์ จัดงานพรอมให้เหล่าหมา พร้อมแต่งตัวน่ารักๆ เพื่อจะได้มีคนรับไปเลี้ยง
สุนัขแก่ๆ ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง ส่วนใหญ่มักจะถูกมองข้าม และไม่มีใครอยากจะรับมันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว นั่นอาจจะมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น มันอายุเยอะแล้ว หรือมันอาจไม่น่ารักเหมือนสุนัขในวัยเด็ก ด้วยเหตุนี้นี่เอง ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิง และกลุ่มคนรักสัตว์ในฟลอริดา จึงได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมสุดพิเศษ เพื่อช่วยให้เจ้าหมาที่ไร้ผู้คนมาสนใจ ได้อาศัยอยู่ในบ้านที่อบอุ่นเหมือนกับหมาตัวอื่นบ้าง และนี่ก็คือภาพของบรรดาสุนัขจรจัดในศูนย์พักพิง ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับมาแต่งตัวในชุดแสนน่ารัก เพื่อมาร่วม “งานพรอมสำหรับสุนัข” ที่จัดขึ้น ณ The Dog House of Safety Harbor ซึ่งเป็นองค์ช่วยเหลือสุนัขนั่นเอง น้องหมาหลายสิบตัวได้รับเชิญมายังงานพรอม โดยจะมีตั้งแต่อายุ 5 ปี ไปจนถึง 15 ปีเลยทีเดียว “สุนัขหลายพันตัวจำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดู บ่อยครั้งที่สุนัขอายุเยอะถูกมองข้ามจากผู้คนที่มายังศูนย์พักพิง ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เป็นคนที่มีฐานะ… ดังนั้น เราจึงอยากจะเห็นเจ้าหมาเหล่านี้ได้เข้าไปอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น และมีครอบครัวที่รักมันอย่างแท้จริง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยหาบ้านให้พวกมันแล้ว ยังเป็นการช่วยให้สุนัขแก่ๆ เหล่านี้ ได้รับการยอมรับอีกด้วย” Terry Meeks หนึ่งในผู้ก่อตั้งช่วยเหลือสุนัขกล่าว …
-
เรื่องราวของ “Duke” สุนัขผู้ถูกทอดทิ้ง เฝ้ารอใครซักคนมาช่วยบนโซฟาตัวเดิมทุกวัน
อีกเรื่องราวดีๆ ของการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้า Duke ต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง ถึงทำให้มันเอาแต่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมทุกวัน เพื่อรอให้ใครซักคนเข้ามาช่วยเหลือ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัส เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งได้สังเกตเห็นว่ามันมาอาศัยอยู่แถวนี้ได้สักพักแล้ว ด้วยความสงสัยเขาจึงโพสต์ภาพ และประกาศหาเจ้าของให้มัน ภาพของเจ้า Duke ที่ชาวเน็ตถ่ายมาได้ ทันทีที่ Leslie Ysuhuaylas อาสาสมัครจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เห็นโพสต์ดังกล่าว เขาก็รีบเดินทางมาหามันทันที ‘ตอนแรกที่ฉันไปเจอมันน่าสงสารมาก มันผอมติดกระดูก เหมือนไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน และฉันคิดว่ามันต้องเจอเรื่องร้ายมาเยอะมากพอสมควร’ Leslie บอก จากนั้นเธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที คุณหมอตรวจร่างกายและพบว่า มันเป็นสุนัขที่ถูกฝึกสำหรับการต่อสู้มาโดยเฉพาะ ‘ดวงตาของมันดูโศกเศร้ามาก ตอนแรกมันเหมือนจะตื่นกลัว และไม่กล้าไว้ใจใครเลย’ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าความรักจากมนุษย์ผู้มีเมตตา จะช่วยเยียวยารักษาจิตใจของมันได้ และทุกวันนี้มันก็ยังอาศัยอยู่กับ Leslie ตอนนี้มันมีบ้านอยู่ มีอาหารกินอิ่ม และมีคนคอยมอบความรักให้ มันคงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว มันต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะมากแน่ๆ นัยตาถึงได้ดูเศร้าเหลือเกิน ที่มา: Boredpanda
-
แม่เหมียวพาลูกๆ หลบภัยหนาวในถังขยะ หอบฟางทำรังเพื่อให้ความอบอุ่นและอยู่รอด!!
เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเจ้าแม่เหมียวจรจัดก็เลยตัดสินใจคาบลูกๆ ของมันไปไว้ในถังขยะขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความอบอุ่นและเอาชีวิตรอด จนในที่สุดคู่รักคู่หนึ่งก็มาพบเจอเข้า แบบนี้ไม่ช่วยไว้ไม่ได้ซะแล้ว!! คุณ Linda ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Care Council ในเมือง Binghamton รัฐนิวยอร์ค ได้ทำการช่วยเหลือบรรดาเหล่าแมวจรจัดมานานหลายปีแล้ว และเหล่าแมวเหมียวที่เธอช่วยเหลือมาทุกวันนี้ต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาพวกเขาได้ทราบข่าวมีมีแม่แมวตัวหนึ่งมาคลอดลูกอยู่ในสวนหลังบ้านของพวกเขา จึงตัดสินใจที่จะทำการช่วยเหลือพวกมัน ด้วยอากาศที่หนาวเย็นติดลบ 1 องศาในช่วงตอนเช้า และตอนกลางคืน ทำให้เราเป็นห่วงว่าพวกมันจะไม่ปลอดภัย พอตามเจ้าแม่แมวไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามันนำลูกๆ ของมันไปซ่อนอยู่ในถังขยะสีขาว พร้อมกับฟางแห้งที่มันเป็นคนคาบมาสร้างเป็นรังเพื่อสร้างความอบอุ่น คู่รักก็เลยนำฝามาปิดซักเล็กน้อยเพื่อช่วยให้พวกมันอุ่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากนั้นประมาณ 30 นาทีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจาก Cat Catching Crew ก็มาถึง พวกเขาจึงพาพวกมันไปไว้ที่ที่ปลอดภัย พอไปถึงที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Care Council บ้านของคู่รักแล้วก็พบว่าตัวแม่นั้นไม่ยอมป้อนนมให้ลูกเลย มัวแต่กระโดดไปมาในบ้านหลังใหม่ด้วยความกลัว คู่รักจึงต้องป้อนอาหารให้ลูกของมันก่อน จากนั้นผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง เจ้าแม่เหมียวจึงใจเย็นลงและกลับมาป้อนนมลูกของมัน พวกเขาตั้งชื่อให้กับเจ้าแม่เหมียวว่า Marshmallow และลูกๆ ของมันอีกสองตัวว่าเจ้า Spot และเจ้า…
-
คู่รักรอรับลูกที่หน้าโรงเรียน จู่ๆ ก็พบ ‘ทารกเพียงพอน’ แอบอยู่ใต้กระโปรงรถหลายตัวเลย!!
คู่รักในรัฐ Washington กำลังนั่งชิลๆ อยู่ในรถ เพื่อรอรับลูกๆ ที่โรงเรียนอยู่ จู่ๆ ก็ไปเจอเข้ากับลูกของตัว ‘เพียงพอน’ กำลังส่งเสียงร้องเสียงดังในส่วนเครื่องยนต์ของรถ กลายเป็นว่าเจ้าแม่เพียงพอนพันธุ์หางสั้นมาคลอดลูกในส่วนเครื่องยนต์รถของพวกเขา แล้วพอสตาร์ทรถออกไปรับลูกตัวแม่ของมันก็ตกใจคาบลูกตัวหนึ่งวิ่งหนีหายออกไปในสนามหญ้าหน้าบ้านและไม่เจออีกเลย ทิ้งลูกอีก 4 ตัวเอาไว้อย่างช่วยไม่ได้ คู่รักตัดสินใจเปิดฝากระโปรงรถออกมา และก็พบว่ามีลูกเพียงพอนนอนอยู่ในนั้นถึง 4 ตัว และมีตัวหนึ่งที่มีขนาดตัวเล็กกว่าตัวอื่นๆ จากนั้นพวกเขาก็รีบติดต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าที่ศูนย์ Squirrel Refuge เพื่อขอความช่วยเหลือ และในที่สุดพวกมันก็มาถึงมือของเจ้าหน้าที่ และคุณ Jasmine Fletcher Glaze ผู้ให้การช่วยเหลือเหล่าทารกเพียงพอนทั้ง 4 ตัวนี้ก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “มันสุดยอดมากๆ พวกมันยังมีอายุยังไม่กี่วันเท่านั้น แต่ละตัวก็มีน้ำหนักไม่ถึง 10 กรัมด้วยซ้ำ” แต่ละตัวจะต้องได้รับการป้อนอาหารอย่างสม่ำเสมอทุกๆ สองชั่วโมง จนในที่สุดพวกมันก็ปลอดภัยดีและค่อยๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตาของพวกมันเปิดออกมาและสามารถทานอาหารเองได้บ้างแล้ว นอกจากนี้คุณ Jasmine ยังเล่าอีกว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลยที่สัตว์ป่าอย่างกระรอก หรือเพียงพอน จะเข้าไปทำรังในส่วนเครื่องยนต์รถ พร้อมกับให้คำแนะนำสำหรับชาวเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ…
-
เจ้าเหมียวขี้กลัว ไม่มีใครอยากรับไปเลี้ยง เล่นตัวอยู่นานสุดท้ายก็ใจอ่อน ได้บ้านหลังใหม่เสียที!!
เจ้าเหมียวที่ไม่มีใครสนใจและต้องการรับมันไปเลี้ยง ต้องใช้เวลานานหลายปีในสถานสงเคราะห์สัตว์ จนหญิงสาวคนหนึ่งได้มองเห็นความน่ารักของมัน และตัดสินใจพามันไปอยู่ด้วยในที่สุด ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Ayame “ในอดีตมันเคยเป็นแมวจรจัดอาศัยอยู่ข้างถนนในเมืองนิวยอร์คซิตี้มาก่อน ภายหลังถูกจับไปส่งให้กับสถานสงเคราะห์สัตว์และกำลังจะถูกการุณยฆาต แต่ก็มีองค์กรช่วยเหลือมันออกมาได้” ทาสของเจ้า Ayame เล่า เจ้า Ayame กลายเป็นแมวที่มีนิสัยขี้กลัว และมันต้องอาศัยอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์เพื่อรอคนมารับไปเลี้ยงนานถึง 3 ปี เลยทีเดียว จนเมื่อวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายนปี 2016 ที่ผ่านมา มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาที่สถานสงเคราะห์สัตว์ และบอกว่าต้องการจะรับเลี้ยง ‘แมวขี้กลัว’ และเจ้าหน้าที่ก็เลยตัดสินใจที่จะพาเธอไปพบกับเจ้า Ayame และเธอก็ตอบตกลงรับเลี้ยงมันในทันที เธอตั้งชื่อมันว่า Ayame เป็นชื่อเรียกของดอกไอริสเป็นภาษาญี่ปุ่น ในวันแรกที่ไปถึงบ้านเจ้า Ayame ก็รีบวิ่งเข้าไปซ่อนตัวที่ใต้เตียงและไม่ยอมออกมาจากตรงนั้นเลย 5 วันผ่านไปหลังจากที่รับมันมาเลี้ยง เจ้า Ayame ก็เริ่มรับรู้ได้แล้วว่าบ้านหลังใหม่นั้นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันค่อยๆ เดินออกมาจากใต้เตียง แล้วก็ทานอาหารที่หญิงสาวเตรียมเอาไว้ให้ “มันค่อยๆ ออกมาช้าๆ เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่เกิดอันตรายขึ้นกับมัน” หญิงสาวเล่า …
-
หนุ่มพบ ‘ลูกหมี’ สภาพร่อแร่ขณะเดินป่า เสี่ยงชีวิตตัวเองเข้าช่วยเหลือ จนมันรอดชีวิต!!
โดยปกติแล้วเราก็จะรู้กันดีว่า ‘หมี’ เป็นสัตว์กินเนื้อที่มีความดุร้าย หากใครได้เห็นมัน แน่นอนว่าต้องเผ่นเอาไว้ก่อน เพราะหากไม่หนี หรือเข้าไปใกล้มันย่อมเกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่สำหรับนาย Corey Hancock ที่เป็นช่างภาพชาวอเมริกันแล้ว กลับไม่ทำแบบนั้น ขณะที่เขากำลังออกไปเดินป่าแถวๆ รัฐ Oregon ก็ได้พบกับเจ้าลูกหมีตัวหนึ่งนอนอยู่ สภาพของมันนั้นดูร่อแร่ใกล้ตาย “มันนอนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับไปไหนเลย ตอนแรกผมคิดว่ามันคงไม่รอดซะแล้ว ปากของมันซีดมาก ตาทั้งสองข้างของมันเบิกโพลง เนื้อตัวของมันเปียกชุ่มเพราะฝน แต่พอสังเกตดูที่ท้องของมันดีๆ แล้วก็พบว่ามันยังหายใจอยู่” “ผมจึงคิดขึ้นมาในใจว่าจะให้ทิ้งมันเอาไว้ให้ตายอยู่ที่นี้งั้นเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก ผมจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาและวิ่งไปที่รถอย่างรวดเร็ว ขณะที่วิ่งไปนั้นก็ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา” “มันเป็นการเสี่ยงชีวิตมากๆ ที่ทำแบบนี้ เพราะแม่หมี อาจจะอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณนี้ และอาจจะเข้ามาทำร้ายผม เพราะพยายามเอาลูกของมันไป” คุณ Corey เล่า แต่พอมาถึงที่รถแล้วกลับพบว่าเจ้าหมีน้อยหยุดหายใจไป เขาจึงเริ่มทำการผายปอด และมันก็กลับมาหายใจอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็รีบพาไปยังคลีนิครักษาสัตว์ที่ใกล้ที่สุด และก็สามารถช่วยเหลือชีวิตของมันเอาไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตามจากกฎหมายของรัฐ Oregon แล้วยการช่วยเหลือหมีนั้นถือว่าผิดกฎหมาย นาย Corey จะต้องถูกปรับเป็นมูลค่ากว่า 200,000 บาท…
-
พนักงานเสิร์ฟช่วยป้อนข้าวให้ลูกค้าผู้พิการ แบ่งเบาภาระของสามีเธอ ให้ได้ทานอาหารร่วมกัน
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ เมื่อชาวเน็ตคนหนึ่งได้ไปนั่งทางอาหารในร้านอาหารที่เมือง Springfield และก็ได้เห็นเข้ากับเหตุการณ์ที่พนักงานเสิร์ฟกำลังช่วยป้อนอาหารให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Keisha Dotson ได้ทำการถ่ายภาพของพนักงานเสิร์ฟ Joe Thomas วัย 43 ปี จากร้าน IHOP ที่ตั้งอยู่ในเมือง Springfield รัฐ Illinois ขณะกำลังป้อนอาหารให้กับหญิงสาวผู้พิการคนหนึ่ง จากนั้นเธอก็นำไปโพสต์ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์คพร้อมกับแคปชั่นเล่าเรื่องราวว่า “วันนี้ฉันได้พบเจอกับเหตุการณ์สุดประทับใจ จากพนักงานเสิร์ฟของร้าน IHOP…. ขณะที่คู่สามีภรรยาชายแก่และหญิงสาวผู้พิการกำลังนั่งทางอาหารอยู่ จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามานั่งลงที่โต๊ะนั้น และเสนอตัวเพื่อช่วยป้อนอาหารให้กับหญิงพิการ เพื่อให้สามีได้พักไปทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจมากๆ” และมันก็กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ มีคนกดไลค์มากกว่า 10,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 5,000 ครั้งเลยทีเดียว นาย Joe เล่าว่าผู้หญิงคนดังกล่าวนั้นป่วยเป็นโรค Huntington ที่จะทำให้การพัฒนาการทางร่างกายล้มเหลว เป็นสาเหตุที่เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่กำลังทานอาหารอยู่สามีของเธอก็จะต้องลุกเดินขึ้นมาเพื่อป้อนอาหารให้กับเธอบ่อยครั้งด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่เห็นดังนั้นนาย Joe ก็อยากที่จะให้พวกเขาได้ทานอาหารอย่างมีความสุขด้วยกัน “ผมมักจะเห็นเขาหยุดกิน แล้วก็ลุกขึ้นไปป้อนอาหารให้กับภรรยา และผมก็รู้สึกว่า ‘มันจะต้องแย่แน่ๆ ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง’ ทำไมเราไม่เดินเข้าไปช่วยป้อนอาหารให้เธอ…
-
สุนัขผู้กลัวทุกสิ่งอย่างในชีวิต จนกระทั่งได้น้องชายตัวน้อย มาช่วยคอยโอ๋คอยปลอบ…
เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้า Jasper อดีตสุนัขที่เคยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ข้างถนน จนกระทั่งวันหนึ่งมีมนุษย์ใจดีมาอุปการะมารับมันไปเลี้ยง ทว่าอาการวิตกกังวลจากสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับมันยังคงติดอยู่ราวกับเป็นโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง นี่คือเจ้า Jasper สุนัขผู้กลัวทุกสิ่งอย่างในชีวิต หลากหลายวิธีการที่เจ้านายเคยทดลองใช้กับมัน แต่ผลก็ปรากฏมาให้เห็นว่ามันไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย เขาจึงคิดได้ว่าบางทีถ้าเจ้า Jasper มีน้องชายตัวเล็กมาอยู่เป็นเพื่อนซี้ ชีวิตของมันอาจจะกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับ Ernie พิตบูลน้อยวัยใส ที่เพิ่งเกิดมาได้เพียงไม่กี่เดือน ‘ตอนแรกเจ้า Jasper ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยไว้วางใจ Ernie ซักเท่าไหร่ ซึ่งทั้งสองตัวมีนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้ว เจ้า Ernie เป็นน้องที่ขี้เล่น ไร้ความกลัว และร่าเริงอยู่เสมอ’ Rachel Billings เจ้านายหนุ่มกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านไปดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเริ่มเข้ากันได้ดีขึ้น กระทั่งจนถึงวันที่ Jasper อายุได้ 6 ขวบ พวกเขาก็เริ่มเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับมัน มันเริ่มกลับมามีนิสัยร่าเริง ชอบออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน และไม่ลืมที่จะชวนน้องชาย Ernie ออกไปเล่นด้วยเสมอ เรียกได้ว่าตอนนี้มี Jasper ที่ไหน…
-
เรื่องราวของเจ้าลาผู้ถูกใช้งานเกือบสิ้นชีวา แต่ยังไม่สิ้นบุญเพราะมีคนมาช่วยเหลือได้ทัน…
เราทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า ลา เป็นสัตว์ที่ใกล้เคียงกับม้า แต่ด้วยความฉลาดของมันที่มีน้อยกว่า เลยทำให้มันถูกนำมาใช้แรงงานตั้งแต่สมัยอดีตกาล การนำสัตว์มาช่วยเบาแรงก็ถือเป็นเรื่องดีอยู่หรอก แต่ยกเว้นในกรณีที่สัตว์ตัวนั้นถูกใช้งานอย่างหนักจนเกือบตาย อย่างเช่นกรณีของเจ้าลา จากประเทศสเปนตัวนี้ ภาพที่ถูกแชร์ต่อไปทั่วโซเชียล เจ้าลาผู้ลากเกวียนอย่างหนัก จนร่างกายทนไม่ไหวล้มพับลงไปต่อหน้าเจ้าของ จากเหตุการณ์อันน่าสงสารที่เกิดขึ้นกับเจ้าลา ทำให้มีพลเมืองดีคนหนึ่งรีบแจ้งเรื่องราวนี้ไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ที่ประจำอยู่ในประเทศสเปน ‘เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่เรายังได้เห็นมนุษย์ ใช้แรงงานสัตว์อย่างหนัก และไม่มีการดูแลพวกมันให้ดีพอตามที่ควรจะเป็น และถือเป็นหน้าที่ของเรา ที่จะช่วยทำให้ปัญหานี้หมดไป’ Veronica Sanchez จากองค์กรดังกล่าวให้สัมภาษณ์ ภาพของลาผู้อาภัพ และเจ้าของเก่าของมัน ถึงแม้ว่าองค์กรช่วยเหลือสัตว์จะยื่นเรื่องนี้ไปยังกรมตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลปัญหาในส่วนนี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ทำให้มีการเริ่มต้นที่จะสร้างแคมเปญด้วยตนเองบนเว็บไซต์ Change.Org ซึ่งหลังจากผ่านไปเพียง 13 ชั่วโมง ก็มีชาวเน็ตมากกว่า 12,000 คน เข้ามาร่วมลงชื่อสนับสนุน โดยแคมเปญนี้เป็นการเรียกร้องให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เข้ามาช่วยเหลือลาผู้โชคร้าย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ทีมช่วยเหลือจากภาครัฐก็ได้เข้ามาดูอาการเจ้าลาตัวดังกล่าว พวกเขาวินิจฉัยและพบว่ามันต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร่งด่วน เนื่องจากเจ้าลาต้องอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร ติดเชื้อตรงบริเวณกีบเท้า และมีแผลบนลำตัวมากมาย ที่เกิดจากการใช้แรงงานอย่างหนักหน่วง …
-
รู้จักกับ ‘Benny’ เจ้าเหมียวคุณพ่อจำเป็น ที่คอยดูแลอุปถัมภ์ลูกแมวจรจัดทั้งหลาย…
เป็นอีกเรื่องราวสุดแสนจะน่ารักของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ สำหรับเจ้าเหมียวส่วนใหญ่พวกมันมักจะมีความสุขเวลาได้กินอาหารดีๆ หรือได้นอนชิลๆ แต่สำหรับเจ้าเหมียว Benny ความสุขของมันนั้นแตกต่างออกไป มันรู้สึกสุขใจทุกครั้งที่ได้ทำหน้าที่คุณพ่อจำเป็น คอยดูแลลูกแมวตัวน้อยที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอ… นี่คือเจ้า Benny เดิมทีเจ้าเบนนี่ ก็เคยเป็นแมวจรจัดที่ต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือ และเฝ้ารอวันที่จะมีมนุษย์ใจบุญมารับมันไปเลี้ยง แน่นนอนว่ามันย่อมเข้าใจความทุกข์ยากของการเป็นแมวไร้บ้านได้ดี ไม่แพ้แมวจรจัดตัวอื่นๆ ทุกวันนี้มันอาศัยอยู่กับ Ellen Carozza ทาสแมวผู้ใจบุญ บ่อยครั้งที่เธอมักจะรับอุปการะลูกแมวที่เกิดมาพร้อมอาการผิดปกติ หรือตัวที่ตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ลำบากจริงๆ และก็เป็นหน้าที่ของเบนนี่ ที่จะคอยช่วยทาสมนุษย์ดูแลลูกแมวที่ช่วยเหลือมา ไม่ว่าแมวจรจัดตัวนั้นจะมีเนื้อตัวสกปรกมอมแมม หรือมีอาการป่วยรุนแรงขนาดไหนก็แล้วแต่ Benny มักจะสวมบทบาทเป็นคุณพ่อยามจำเป็น คอยดูแลเหมียวรุ่นน้องทุกตัวให้มีความสุขเหมือนกับที่มันเคยได้รับมา ‘ทุกครั้งที่เรานำแมวจรจัดที่ต้องการความช่วยเหลือมาไว้ที่บ้าน เจ้าเบนนี่จะดูตื่นเต้น และมีความสุขมากที่สุด มันเป็นทั้งคุณพ่อ และเพื่อนเล่น เหมือนกับว่ามันพยายามจะส่งต่อความรู้สึกดีๆ ที่มันเคยได้รับมาจากเราเลยค่ะ’ Ellen เล่า บางทีมันก็จะกอดแมวน้อยแบบนี้ น่ารักมั้ยล่ะ ‘เหมียวทุกตัวที่เราช่วยเหลือส่วนใหญ่จะเป็นเหมียวที่ต้องการๆ ดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งศูนย์ช่วยเหลือบางแห่งก็ไม่อยากจะดูแลพวกมัน จึงเป็นหน้าที่ของฉัน และเจ้าเบนนี่ที่จะช่วยกันดูแลให้พวกมันกลับมามีชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง’ Ellen เล่าเสริม ทุกครั้งที่มีลูกแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้าน เบนนี่ก็มักจะมอบพรให้เป็นขวัญกำลังใจ…
-
6 ยอดวีรสตรีผู้กล้าหาญ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับบทบาทเบื้องหลังที่ถูกจารึกและเชิดชู
หลายๆ คนอาจมองว่าผู้หญิงในอดีตคงไม่ได้มีสิทธิ และเสรีภาพเท่าเทียมกับผู้ชายสักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้หญิงจำนวนมากที่ได้ทำงานร่วมกับผู้ชาย ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และนั่นก็ทำให้พวกเธอกลายเป็นที่ยอมรับ และถูกจารึกชื่อเอาไว้จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆ ได้ศึกษา และในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ 6 ยอดสตรีผู้กล้าหาญในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ต่างๆ ในช่วงสงครามโลก บอกเลยว่าแต่ละคนทั้งเก่ง และฉลาดไม่แพ้ผู้ชายเลยละ 1.Marion Pritchard (1920-2016) Marion Pritchard เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ที่ได้เข้าช่วยเหลือ และปกป้องชาวยิวกว่า 150 คนในระหว่างที่เกิดสงคราม และในปี 1944 ชาวนาซีและชาวดัตช์สามคนได้เข้ามาตรวจสอบที่ของเธอในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ซึ่งเธอได้ช่วยครอบครัวชาวยิวหลบหนีจากการจับกุม แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ถูกพบ ต่อมาผู้ที่ได้ทำงานร่วมกับชาวดัตช์ก็ได้กลับมาที่บ้านของเธออีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเธอจะต้องซ่อนชาวยิวเอาไว้ และจะต้องจับพวกเขากลับไปให้ได้ แต่ทว่า Marion กลับคว้าปืนของชาวดัตช์ออกมา และยิงไปที่พวกเขาทันที หลังจากที่จบสงคราม Marion ก็ได้ใช้ชีวิตที่เหลือของเธออยู่กับครอบครัวจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต 2.Nancy Wake (1912-2011) Nancy Wake วีรสตรีของสงครามโลกครั้งที่สองชาวออสเตรเลีย ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสายลับหญิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอเคยบอกใน Nancy Wake’s…
-
น้องหมาหัวใจยิ่งใหญ่ รีบพาเจ้าของไปช่วยนกน้อยที่หมดสติ จนทำให้มันรอดชีวิตมาได้
Diamond เป็นชื่อของเจ้าหมาพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ ที่อาศัยอยู่กับ Gunnar Kr Sigurjónsson ผู้เป็นเจ้าของในไอซ์แลนด์ แม้ว่ามันจะเป็นสุนัขที่มีความคล่องแคล่วว่องไว ฉลาด และน่ารักเหมือนกับสุนัขตัวอื่นๆ ที่คุณเคยเห็นมา แต่ต้องบอกเลยว่า เจ้า Diamond ตัวนี้ เป็นน้องหมาฮีโร่ ที่มีหัวใจยิ่งใหญ่มากๆ เลยละ แล้วคุณจะต้องรู้สึกประทับใจแน่นอน ที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องราวน่ารักๆ ของมัน ^^ วันหนึ่งในขณะที่ Diamond ใช้ชีวิตอย่างชิวๆ อยู่ในบ้าน มันก็ดันไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านนอก และนั่นก็ทำให้เจ้าหมารู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก โดยในขณะนั้น Gunnar ก็กำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน จนในที่สุดเจ้าหมาก็เดินกลับเข้ามาหาเขา และดูเหมือนมันพยายามที่จะพาเขาไปดูบางสิ่ง นั่นทำให้ Gunnar ต้องเดินตามมันไปจนในที่สุด “ตอนที่ผมไม่ยอมตามมันออกมา มันก็เริ่มเห่าดังขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดผมก็ยอมตามมันไป” Gunnar กล่าว เจ้า Diamond รีบวิ่งนำพ่อของมันตรงไปยังระเบียง นั่นทำให้เขาเห็นนกตัวน้อยๆ ที่นอนนิ่งๆ อยู่กับเพื่อน “ตอนแรกผมคิดว่านกตายแล้ว ผมก็เลยเรียก Diamond กลับเข้าบ้าน…
-
Raisin เจ้าเหมียวที่ได้รับการช่วยเหลือ และแล้วก็อัพเลเวล ทำหน้าที่ตอบแทนคุณ…
เรื่องราวชีวิตของ Raisin เจ้าเหมียวไร้ขนแสนน่ารัก ที่ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น จนทำให้มันกลายเป็นแมวที่มีชีวิตสดใสอย่างที่มันควรจะเป็นในทุกๆ วัน สำหรับเจ้า Raisin เป็นแมวสายพันธุ์ Sphynx ที่ก่อนหน้านี้ดวงตาของมันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง แต่โชคที่ทางโรงพยาบาลสัตว์แพทย์ AVS ในเครือของ Gainesville (FL) Stephanie Lantry ได้เข้าช่วยรักษาบาดแผลที่ดวงตาของมัน และด้วยความทุ่มเทของบรรดานักศึกษาสัตว์แพทย์ที่ได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียวอย่างเต็มที่ จนในที่สุดก็ทำให้มันมีโอกาสได้เห็นโลกที่สดใสมาจนถึงทุกวันนี้ ทางด้าน Stephanie สัตว์แพทย์ที่คลินิกการแพทย์ของ Gulf Gate ในซาราโซตา รัฐฟลอริดา ได้พบเจ้า Raisin เป็นครั้งแรก ก็ทำให้เธอตกหลุมรักมันทันที พร้อมยังอาสาที่จะรับมันกลับไปดูแลที่บ้านอีกด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Raisin ก็ได้พบกับครอบครัวใหม่ และอยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุข และที่สำคัญดูเหมือนว่ามันจะติดแม่ของมันมากๆ เลยละ ซึ่งเธอก็ได้มามันมาทำงานด้วยทุกวัน “Raisin ชอบที่จะได้พบกับสัตว์ตัวอื่นๆ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีคนเอาสัตว์มารักษาที่คลินิก มันก็จะเข้าไปทักทายพวกเขา และช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายมากขึ้น คลินิกแห่งนี้เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเจ้า Raisin และมันก็ชอบทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับมากๆ” Stephanie กล่าว นอกจากนี้…
-
วินาทีนักเรียนหนุ่มฮีโร่ ช่วยเพื่อนสำลักอาหารจนเกือบตาย ระหว่างกินข้าวที่โรงเรียน!?
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวการช่วยชีวิตของกลุ่มเพื่อน ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้ และแน่นอนว่าสำนักข่าวเหมียวของเรา ก็ไม่พลาดที่เอามานำเสนอเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนลาครอส เซ็นทรัล จากรัฐวิสคอนสิน ประเทศสหรัฐฯ ในขณะนั้นเป็นเวลาพักทานอาหารเที่ยงของนักเรียนมัธยม ทุกอย่างดูปกติเรียบร้อยดี จนกระทั่งจู่ๆ วิล โอลสัน หนึ่งในผู้ร่วมโต๊ะอาหารเกิดอาการสำลักขึ้นมา ตอนแรกเพื่อนๆ ก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งหนุ่มวิล เริ่มสำลักรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนๆ คิดว่านี่คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วแน่ๆ ‘ตอนแรกผมคิดว่ามันล้อเล่นด้วยซ้ำ สักแปปสีหน้ามันเริ่มเปลี่ยน อาการมันเริ่มไม่ปกติ ผมเลยมั่นใจว่ามันไม่ได้แกล้ง และถ้าไม่รีบช่วยเพื่อนซี้เราอาจตายได้เลย’ เอียน บราวน์ กล่าว ทันทีที่เอียน บราวน์ เพื่อนซี้ประจำแก๊งสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ชักจะไม่ปกติ เขาจึงรีบลุกไปหาวิล และใช้วิธี ‘เฮมลิก แมนนูเวอร์ (Heimlich Maneuver)’ ช่วยปฐมพยาบาลให้เศษอาหารที่ติดอยู่ในหลอดลมหลุดออกมาให้ได้ เอียน บราวน์ ใช้วิธียืนอยู่ข้างหลัง ใช้มือกอดรัดให้แน่นบริเวณใต้หน้าอกเหนือกระบังลม จากนั้นก็กระแทกมือซ้ำๆ เพื่อทำให้อาหารที่ิดอยู่ในหลอลมหลุดออกมา ‘ผมอาจจะตายไปจริงๆ…
-
กระดาษโน้ตจากคนแปลกหน้า ที่ทำให้รู้ว่ามีแมวน้อย 3 ตัวติดใต้ท้องรถ และต้องการความช่วยเหลือ
ในขณะที่คุณกำลังรู้สึกแย่ วันนี้เราจะขอนำเสนอเรื่องราวสุดประทับใจเกี่ยวกับเจ้าเหมียว ที่เชื่อว่าอย่างน้อยมันอาจจะทำให้คุณยิ้ม และมีความสุขได้บ้าง และนี่คือภาพภารกิจการช่วยชีวิตของ 3 ลูกแมวตัวน้อยๆ ที่หลบอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งทาง Nur Izzah Zabidi จากประเทศมาเลเซีย ได้นำเรื่องราวการช่วยชีวิตพวกมันมาโพสต์ลงใน Facebook โดยเผยว่า “หลังจากที่แม่ของเธอได้กลับไปที่รถ ก็ได้พบกับโน้ตแจ้งเตือนแผ่นหนึ่ง… ซึ่งภายในโน้ตแผ่นนั้น ได้เขียนข้อความทิ้งไว้ว่า “เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเสียงของลูกแมวตัวน้อยๆ อยู่ข้างใต้รถของคุณ ขอความกรุณาช่วยตรวจสอบก่อนที่คุณจะสตาร์ทรถด้วย ขอบคุณมาก” ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ของ Nur Izzah จึงได้โทรเรียกพนักงานดับเพลิง เพื่อให้มาช่วยค้นหาเจ้าเหมียวทันที แต่ในขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นนักเรียน 2-3 คนได้ผ่านมาทางนั้นพอดี และนั่นก็ทำให้พวกเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเธอ ด้วยความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มพลเมืองดี พวกก็เขาสามารถนำลูกแมวน้อย 3 ตัวที่ติดอยู่ใต้ท้องรถออกมาได้ ซึ่งเจ้าแมวน้อยทั้ง 3 ตัว คาดว่าจะมีอายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ด้วย นอกจากจะรอดชีวิตราวกับปาฏิหาริย์แล้ว เจ้าเหมียวน้อยทั้ง 3 ยังโชคดีสุดๆ เพราะมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ และครอบครัวใหม่ของมันทันที…
-
หนูน้อย 6 ขวบจากชิคาโก ที่ต้องการของขวัญวันเกิดใดๆ นอกจากได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน…
สำหรับเด็กๆ ส่วนใหญ่แล้ว วันเกิดก็เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษที่พวกเขาจะได้รับของขวัญชิ้นโปรด หรือได้จัดปาร์ตี้สนุกๆ กับเพื่อนๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีตอนโต แต่สำหรับหนูน้อยวัย 6 ขวบ จากชิคาโก Armani Crews เธอต้องการของขวัญวันเกิดที่แตกต่างออกไป ของขวัญที่เธอต้องการไม่ใช่ของเล่น หรือของสะสมน่ารักๆ แต่มันคือการได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน จากน้ำใจที่แท้จริงของตัวเธอเอง เธอชักชวนให้เพื่อนทุกคนเปลี่ยนจากการส่งของขวัญวันเกิด ให้มาช่วยกันทำแซนวิชคนละไม้คนละมือ เพื่อนำไปแจกให้กับคนไร้บ้าน หลังจากที่เธอได้โพสต์ความต้องการของเธอลงบนเฟซบุ๊ก ชาวเน็ต และเพื่อนบ้านต่างก็ร่วมแรงร่วมใจส่งของใช้จำเป็นมาให้ บ้างก็ส่งเป็นเงินบริจาค เพื่อที่เธอจะได้นำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน เธอเกิดไอเดียที่จะช่วยสังคมดีๆ แบบนี้ทันที หลังจากที่วันหนึ่งเธอเห็นน้องชายของเธอนำอาหารไปให้กับคนไร้บ้าน และเมื่อวันเกิดของเธอมาถึง หนูน้อย Armani ก็ได้สวมมงกุฏประจำตำแหน่งแบบน่ารักๆ พร้อมทั้งพาครอบครัวไปตั้งโต๊ะแจกจ่ายน้ำดื่ม เสื้อผ้า และของใช้ยามจำเป็นอื่นๆ ให้กับคนไร้บ้านในเมืองที่เธออาศัยอยู่ งานนี้มีคนไร้บ้านมากกว่า 125 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเธอ พวกเขาต่างรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของหนูน้อยอย่างที่สุด เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เราได้เห็นเด็กน้อยลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อสังคม โลกนี้น่าอยู่ขึ้นไปอีกเย๊อะ ที่มา: Viralnova
-
แม่วัวพลัดตกลงไปในหน้าผาสูง เจ้าหน้าที่เร่งระดมพลช่วยเหลือ จนมันรอดตายมาได้…
นี่คือภาพขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตแม่วัวโชคร้ายตัวหนึ่ง ที่ดันเดินตกลงไปในหน้าผาสูงกว่า 100 ฟุต (30 เมตร) หลังเดินแยกออกจากกลุ่มของมันที่อาศัยอยู่บริเวณ Polzeath ในคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ แต่โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน จนทำให้มันรอดชีวิตมาได้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า แม่วัวสีขาวตัวนี้ถูกพบในหมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ Polzeath Coastguard และกองทัพเรือกู้ภัยจาก Padstow Lifeboat ได้รับแจ้งว่ามีวัวพันธุ์ White Park ที่พบได้ยากต้องการความช่วยเหลือ นั่นทำให้พวกเขาได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที แต่ทว่า ในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่อาจยังไม่สามารถช่วยเหลือมันได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำกำลังเพิ่มขึ้น อีกทั้งท้องฟ้าก็เริ่มมืดมิด ดังนั้น จึงเป็นการยากที่จะให้ความช่วยเหลือมัน ซึ่งพวกเขาต้องรอจนกว่าจะเป็นช่วงเช้าอีกวันหนึ่งจึงจะสามารถช่วยชีวิตแม่วัวตัวนี้ได้ วันรุ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง และพวกเขาก็ต้องโล่งใจ หลังพบว่าแม่วัวยังคงติดอยู่กับโขดหินตรงที่เดิม และพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่มันไม่ถูกกระแสน้ำพัดลงไปน้ำ หรือจมน้ำตาย หลังจากที่เห็นว่าแม่วัวยังคงปลอดภัย พวกเขาก็พยายามเข้าช่วยเหลือมัน…
-
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย รีบเข้าช่วยเหลือลูกแมวน้อยพร้อมกับพ่อ ให้รอดพ้นจากท่อระบายน้ำ
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ซึ่งตรงกับวัน St. Patrick’s (เทศกาลแห่งการระลึกถึงเซนต์แพทริก นักบุญคนสำคัญแห่งไอร์แลนด์) ของทุกๆ ปี หน่วยกู้ภัยจาก Naples Cat Alliance (ใน Naples Florida) ได้เข้าให้การช่วยเหลือลูกแมวน้อย 5 ตัวที่ติดอยู่ในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ จนทำให้พวกมันสามารถรอดชีวิตมาได้ และแข็งแรงขึ้นในทุกๆ วัน จากการรายงานระบุว่า ทันทีที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางไปถึง พวกเขาก็รีบเข้าให้การช่วยเหลือบรรดาลูกแมวน้อยทันที จนในที่สุดก็สามารถนำพวกมันขึ้นมาจากท่อละบายน้ำทีตัวได้อย่างปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แต่คาดหวังว่าจะเห็นแม่ของพวกมันมาด้วย แต่ทว่าพวกเขากลับเห็นแมวจรตัวผู้ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพ่อของพวกมันแทน “พวกเราได้จับพ่อแมวขึ้นมา มันเป็นแมวสีส้มที่มีขนาดใหญ่” หนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกล่าว แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะไม่เจอแม่ของเจ้าเหมียวตัวน้อย แต่พวกเขาก็ยังคงหวังว่าจะได้พบกับมัน ซึ่งหลังจากที่ให้การช่วยเหลือลูกแมวน้อยขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาก็ได้นำตัวของบรรดาแมวเหมียวกลับไปดูแล ทางเจ้าหน้าที่จาก Naples Cat Alliance ได้ให้นมแก่พวกมันทุกๆ สองชั่วโมง จากแมวน้อยผู้อ่อนแอ ตอนนี้มันแข็งแรงขึ้นทุกวันแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหมาประจำศูนย์ที่ชื่อว่า Bitsy…
-
หนุ่มหลงผิดปล้นแท็กซี่ แต่ลุงคนขับพาเขาเลี้ยงข้าวแทน จนโจรกลับใจไปมอบตัว…
บางครั้งคนที่ทำผิดก็ไม่ไช่คนที่ไม่ดีเสมอไป บางครั้งพวกเขาอาจจะตัดสินใจไปโดยพลการโดยที่ยังใตร่ตรองได้ไม่ถี่ถ้วนก็เป็นได้ หากได้รับกำลังใจ หรือคำพูดดีๆ ก็อาจทำให้พวกเขารู้สำนึก และกลับตัวกลับใจได้ทัน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 19 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ คนขับรถแท็กซี่วัย 66 ปี ก็ทำการจอดรถที่ข้างถนนเพื่อรอรับลูกค้าตามปกติ เมื่อช่วงเวลา 1.00 น. ชายหนุ่มวัย 25 ก็เดินเข้ามาในรถ แต่ก่อนที่คุณลุงแท็กซี่จะถามถึงจุดหมายปลายทาง เขาก็ถูกล็อคคอจากด้านหลังอย่างรุนแรง “มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด” ผู้โดยสารหนุ่มกล่าว ขณะที่เอามือล็อคคอของคุณลุงคนขับรถแท็กซี่อยู่ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์น่ากลัวแบบนี้แต่คุณลุงกลับใจเย็น พร้อมกับตอบไปอย่างใจเย็นว่า “นายยังเด็กอยู่เลยนะ นายต้องทบทวนสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ให้ดีกว่านี้” ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คำพูดของคุณลุงก็ทำให้ชายหนุ่มผู้เกือบกลายเป็นอาชญากรฉุกคิดขึ้นมาได้ จากนั้นคุณลุงก็ทำเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ด้วยการขับรถพาชายหนุ่มไปทานอาหารที่ร้านอาหารแบบสายพานด้วยกัน หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่ได้พูดคุยอะไรกันบ้าง แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง ช่วงเวลา 2.00 ของวันเดียวกัน ชายหนุ่มก็ได้เดินไปที่สถานีตำรวจใกล้ๆ เพื่อทำการมอบตัว เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะรู้ว่าในอีกไม่นานที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีการใช้รถยนต์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยระบบ AI และคงจะไม่มีแท็กซี่ผู้ใจดีแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว… ที่มา : sankei,…
-
Snuffy อดีตแมวจรไม่มีดั้งผู้น่ารัก หลุดพ้นจากความบอบช้ำ มีชีวิตแฮปปี้ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน มีชาวสะมาเรียคนหนึ่ง ได้พบกับเจ้าลูกแมวจรจัดตัวเล็กๆ ซึ่งเขาก็ได้พามันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่น และทันทีที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เห็นมัน พวกเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าเจ้าแมวตัวนี้มันมีความพิเศษกว่าแมวตัวอื่นๆ นะ สำหรับเจ้าเหมียวที่เราได้กล่าวถึงนั่นก็คือ Snuffy แมวน้อยที่เกิดมาไม่มีสะพานจมูก หรือกระดูกตรงบริเวณจมูก ส่งผลให้มันต้องเปล่งเสียง จาม และกรนทางจมูก แต่ถึงแม้ว่าจะเกิดมามีลักษณะที่ผิดปกติ อย่างน้อยเจ้า Snuffy ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน ที่สำคัญหากคุณได้รู้จักกับเจ้าเหมียวตัวนี้ เราเชื่อว่าคุณจะต้องตกหลุมรักมันจนถอนตัวไม่ขึ้นอย่างแน่นอน “เจ้าเหมียวถูกพบเมื่อตอนที่มันยังเป็นลูกแมวตัวเล็กๆ และมันก็ถูกนำตัวเข้าไปดูแลในศูนย์พักพิงสัตว์ Humane Society of Greater Rochester” Elle Burton กล่าว ในขณะที่เจ้าเหมียวอยู่ ณ ศูนย์พักพิง ไม่มีคนใจดีคนไหนผ่านมารับมันไปเลี้ยงเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อ Elle ได้พบมันเธอก็เห็นว่าเจ้าเหมียวมีหน้าตาที่ประหลาดมาก “เรากำลังมองหาลูกแมวอยู่พอดี จนในที่สุดเราก็ได้พบมัน” Elle กล่าว เมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ของมัน พวกเขาก็รู้ทันทีว่าเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ ต้องการคนที่จะมาดูแลเอาใจใส่มัน และถึงแม้ว่ามันจะดูแตกต่างไปจากแมวตัวอื่นๆ แต่มันก็น่ารักมากๆ เลยละ ในช่วง…
-
หนุ่มช่วยเหลือแมวเหมียวที่ถูกแช่แข็ง และรับมาเลี้ยงเอง จนกลายเป็นแมวแสนน่ารัก!!
เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและเจ้าเหมียวที่พบกันโดยบังเอิญบนถนน ในวันที่สภาพอากาศหนาวจัดและเจ้าเหมียวกำลังจะตายลงเพราะถูกแช่แข็ง ขณะที่รถคันอื่นๆ ขับผ่านไปโดยไม่สนใจ แต่เขากลับตัดสินใจที่จะลงไปช่วยมัน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาชายหนุ่มชื่อว่า Slava กำลังขับรถไปบนถนนท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด อุณหภูมิติดลบ 18 องศา แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างรูปร่างเหมือนก้อนหินที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งวางอยู่ที่ข้างถนน “ผมคิดว่ามันจะต้องเป็นสัตว์แน่ๆ และในสภาพอากาศแบบนี้มันจะต้องถูกแช่แข็งจนตายอย่างแน่นอน” คุณ Slava เล่า ทั้งๆ ที่มีรถผ่านไปมามากมายแต่ไม่มีใครจอดช่วยเหลือเลยซักราย และเขาก็รู้ได้เลยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด!! “อากาศหนาวมากๆ ผมก็เลยหยิบมันขึ้นมาแล้วก็ใช้ผ้าขนหนูห่มให้กับมัน จากนั้นก็อุ้มกลับมาที่รถพร้อมกับเปิดฮีตเตอร์ในรถเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับมัน” Slava เล่า พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Nika นาย Slava ขับรถพาเจ้าเหมียวไปที่บ้านของพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เองเขาก็ได้โทรบอกให้พ่อเตรียมเตียงอุ่นๆ ผ้าห่มหลายผืน และฮีตเตอร์ไว้ให้เจ้าเหมียวเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวได้รับความอบอุ่นเพียงพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปหาคุณหมอเพื่อเช็คดูอาการแล้วล่ะ พอถึงมือคุณหมอก็ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด และก็พบว่าเจ้าเหมียวมีอายุประมาณ 6 เดือน หางของมันถูกหิมะกัดอย่างรุนแรง ซึ่งคุณหมอจำเป็นที่จะต้องตัดออก หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้า Nika ก็กลับมาร่างกายแข็งแรงอีกครั้ง…