Tag: ช่วยเหลือสังคม
-
นักศึกษาเคมบริดจ์ ร่วมใจ “เปลือยกาย” ถ่ายภาพลงปฏิทิน ระดมเงินบริจาคให้กับสังคม
สำหรับนักศึกษาที่ได้ชื่อว่าเป็น ปัญญาชน ย่อมไม่เอนอ่อนไปตามคำตัดสินของสังคม การกระทำเช่น “การเปิดร่างกายบางส่วน” บางครั้งก็อาจมีเหตุผลเพียงพอในการกระทำเช่นนั้น ใช่ว่าจะเป็นการกระทำไร้ความคิดเสมอไป อย่างเช่น นักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่ได้ร่วมใจกันเผยเรือนร่าง เปลื้องผ้าถ่ายภาพลงปฏิทินในโครงการ Cambridge Blues เพื่อจำหน่ายระดมทุน “ช่วยเหลือสังคม” โดยเหล่านักศึกษาที่ร่วมการถ่ายภาพในครั้งนี้ก็จะเป็นเหล่านักกีฬาของมหาวิทยาลัย เช่น นักกีฬาเนตบอล ว่ายน้ำ สกี ลาครอส ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล เป็นต้น โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดย สมาคมการกุศลแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge Raising and Giving) โดยตรง และไม่ได้มีเสียงคัดค้านใดๆ จากทางมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น กลับมีคำชื่นชมเสียอีก สถานที่ถ่ายภาพเปลือยชุดนี้ ก็คือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายๆ แห่งในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ไม่ว่าจะเป็น สะพานคณิตศาสตร์ (Mathematical Bridge), สวนพฤกษศาสตร์, และอาคารสมาคมสหภาพเคมบริดจ์ (Cambridge Union Society) ที่เป็นชมรมโต้วาทีที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย แม้ว่าการลุกขึ้นเปลื้องผ้าแล้วถ่ายแบบเช่นนี้จะเป็นสิ่งใหม่สำหรับเหล่านักศึกษา แต่พวกเขาเองก็เต็มใจและยอมรับมันเนื่องจากคิดว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ แถมยังได้ช่วยนำเงินไปบริจาคช่วยเหลือสังคมอีกด้วย Joanna Moest…
-
เด็กชายจากค่ายลี้ภัย ที่ไม่รู้แม้กระทั่งอายุตัวเอง อยากอุทิศตนทั้งชีวิต เพื่อช่วยเหลือสังคม
ครั้งหนึ่งของการได้เกิดมาบนโลกนี้ เราก็คงอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า แล้วความคุ้มค่าของเพื่อนๆ คืออะไรกันบ้าง? บางคนอาจบอกว่า ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่บางคนคือการได้ทำในสิ่งที่คนอื่นชอบมากกว่า Peter Ter ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จริงๆ แล้วเขาอายุเท่าไร แต่เขาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาคำตอบในเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่เรื่องที่เขาสนใจคือ การทำตัวให้เป็นประโยชน์เพื่อสังคมมากกว่า Peter เกิดในครอบครัวเกษตรกรเลี้ยงวัวในซูดาน เขาเติบโตมากับสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุด เมื่อเขาโตขึ้นเป็นหนุ่มก็ถูกพรากจากพ่อแม่ และถูกส่งตัวไปอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเคนยา ผู้แทนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้พบกับ Peter ในค่ายผู้ลี้ภัยในปี 2001 พวกเขาจึงได้คาดเดาอายุของชายหนุ่มจากความสูงของเขา และคาดว่าเขาน่าจะเกิดในปี 1980 นั่นเท่ากับว่า Peter อายุ 36 ปี ตอนเป็นเด็ก Peter มีความมุ่งมั่นสูงมาก เขาพยายามเรียนรู้ที่จะอ่านและเขียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง… เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมเกิดมาในที่ที่ไม่ดินสอหรือปากกาเลย แต่ผมต้องการที่จะเป็นใครสักคนที่มีตัวตนมากกว่านี้ และผมรู้ว่าภาษาอังกฤษจะช่วยให้ผมเป็นเช่นนั้นได้ ผมไม่อยากเป็นเหมือนในอดีตอีกแล้ว” ในค่ายลี้ภัยที่เขาอยู่นั้น มีบริเวณกว้างใหญ่ มีผู้คนมากมาย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคืออาหารการกิน ดังนั้นการที่จะมีอุปกรณ์การเรียนที่จะช่วยให้เขาฝึกฝนภาษาอังกฤษนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่เขาก็ยังไม่ยอม เขาได้ฝึกเขียนบนพื้นทรายแทนกระดาษ วันแล้ววันเล่า จากคำก็พัฒนาขึ้นเป็นประโยค ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ “วันหนึ่ง มีผู้ใหญ่เข้ามาเยี่ยมเราในค่าย และเฝ้าดูผมเขียนบนทราย…