Tag: ช่วยเหลือสัตว์
-
ชาวบ้านต่อสู้กับงูอานาคอนด้ายักษ์ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบที่กำลังจะกลายเป็นอาหารอีกมื้อของมัน
ภาพเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อชาวบ้านในประเทศบราซิลได้สังเกตว่าสุนัขที่พวกเขาเลี้ยงไว้นั้นได้หายตัวไป ชาวบ้านต่างไม่รอช้ารีบกระจายกำลังกันออกตามหาเจ้าตูบทันที ชาวบ้านใช้เวลาไม่นานในการตามตัวสุนัขของพวกเขา ซึ่งทั้งหมดได้ไปเจอเจ้าตูบสีดำบริเวณริมน้ำ โดยที่สภาพของมันเรียกว่าไม่ดีเลย เพราะเจ้าอนาคอนด้าขนาดใหญ่กำลังรัดตัวเพื่อที่เตรียมพร้อมจะปลิดชีพและลากไปกินในน้ำ ชาวบ้านใจกล้า ลงไปลากเจ้างูยักษ์ขึ้นมา หวังว่าสุนัขของพวกเขาจะรอดพ้นจากความตาย เพียงแต่ว่าเมื่อสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่ชาวบ้านรัก ทุกคนจึงตัดสินใจเข้าไปดึงหางเจ้าอนาคอนด้าตัวต้นเหตุขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัว และทุกคนต่างพากันใช้ไม้หรืออุปกรณ์ต่างๆ ฟาดลงไปที่เจ้างูยักษ์หวังให้มันรีบปล่อยสุนัขของพวกเขาออกมา ในตอนแรกทุกคนยังไม่ได้ใช้ไม้ฟาดมัน แต่พวกเขาอยากจะลองเขย่าๆ ให้มันยอมปล่อยด้วยตัวเองดูก่อน ในคลิปเราจะเห็นว่า งูนั้นเริ่มรัดสุนัขไปทั้งตัวแล้วทำให้เราตัดสินจากสายตาได้ว่า สุนัขอาจจะตายแล้วก็ได้ แต่ไม่เลย เพราะหลังจากชาวบ้านจัดการฟาดไม้ลงไปที่ตัวงูจนสุดท้ายมันยอมปล่อย สุนัขตัวดังกล่าวรีบวิ่งออกให้ห่างจากงูตัวแสบอย่างรวดเร็วด้วยสัญชาติญาณของมัน เพื่อให้เจ้างูยักษ์ยอมปล่อย ไม้ถือเป็นตัวช่วยหลักที่ชาวบ้านเลือกใช้เพราะไม่อยากฆ่ามัน ส่วนสุดท้ายแล้ว เจ้างูอนาคอนด้ายักษ์จะมีชะตาชีวิตเป็นอย่างไร ชาวบ้านจะจับมันไปกินไหม หรือว่าพวกเขาตัดสินใจปล่อยมันกลับไป ก็ไม่มีใครทราบและให้คำตอบได้นั่นเอง… ที่มา dailymail
-
หนุ่มฮิปฮอปผู้รักแมว ทุ่มเทเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงสัตว์ และเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้คนผิวสี
เราคิดว่าหลายคนคงยังไม่รู้จักกับกระบวนการ Trap Neuter Return (TNR) ซึ่งเป็นวิธีการช่วยเหลือแมวในรูปแบบหนึ่ง โดยการจับเอาแมวจรจัดมา นำพวกมันไปรักษาและฉีดวัคซีนจนสุขภาพแข็งแรง แล้วถ้าแมวเหมียวเป็นมิตรมากพอก็หาบ้านที่เหมาะสมให้กับมัน แต่ถ้ามันเข้ากับมนุษย์ไม่ได้ก็ปล่อยมันกลับคืนสู่ถิ่นเดิม Sterling Davis มีความเข้าใจถึงกระบวนการนี้และผลประโยชน์ของมันเป็นอย่างดี และเขาก็รู้ด้วยว่าคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจวิธีช่วยเหลือแมวแบบนี้สักเท่าไหร่ เขาก็เลยทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ คอยแนะนำวิธีช่วยเหลือแมวให้กับคนในชุมชน และช่วยพัฒนาภาพลักษณ์ในฐานะคนรักสัตว์ของคนผิวสี Sterling Davis ผู้ได้รับฉายา Trap King Davis เป็นหนุ่มจากประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นดนตรีประเภท Trap ซึ่งดนตรีเป็นประเภทย่อยของแนวฮิปฮอป ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างเศร้าและมืดมน ต่อมาเขาก็ผันมาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือแมวด้วยใจรัก ทั้งยังเชี่ยวชาญวิธีการ TNR ด้วย จึงทำให้คนรอบข้างเรียกเขาว่า Trap King ตามวิธีการช่วยเหลือแมวและแนวดนตรีที่เขาเล่นนั่นเอง เขาเชี่ยวชาญเทคนิค TNR มาก เขาเริ่มต้นการใช้กระบวนการ TNR เนื่องจากในแถบที่เขาอาศัยอยู่นั้นมีแมวจรจัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงอยากช่วยเหลือพวกมันให้ปลอดภัยและหาบ้านถาวรให้มันอยู่เพื่อลดประชากรแมวจรจัดลง ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยเหลือให้พวกแมวเหมียวมีครอบครัวที่อบอุ่นไปในเวลาเดียวกันด้วยนั่นเอง โดยเขาตั้งองค์กรการกุศลที่ชื่อว่า TrapKing Humane Cat Solutions เพื่อช่วยเหลือแมวโดยเฉพาะ เขาอยากให้พวกแมวมีความสุข ทั้งยังอยากให้คนเข้าใจว่าคนดำเองก็ช่วยเหลือสัตว์ได้ อย่างไรก็ตามการที่คนในชุมชนเห็นเขาซึ่งเป็นคนดำออกมาจับแมวใส่กรง…
-
ปฏิบัติการชุบชีวิตเจ้า Luna น้องหมาไซบีเรียนถูกทิ้ง ให้กลับมามีความสดใสอีกครั้ง
ทุกชีวิตต้องการความรัก การดูแลการเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ต้องการให้มีใครอยู่เคียงข้าง และไม่ทิ้งกันในวันที่ลำบาก เรื่องราวต่อไปนี้ถูกเผยแพร่จากผู้ใช้งานเว็บ Imgur ที่ใช้ชื่อว่า BittersweetSymphony บอกเล่าเรื่องราวของเธอกับเจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ที่ชื่อว่า เจ้า Luna เจ้าของเรื่องราวเล่าว่าเขาได้ไปเจอเจ้า Luna ที่ข้างถนน เมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว ตอนนั้นมันดูผอมมากๆ ไม่มีสง่าราศีเหมือนกับหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ทั่วไปและยังขนร่วงทั้งตัวจากอาการของโรคเรื้อน เจ้า Luna เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา เขาบอกว่า “เดิมทีแล้วผมเลี้ยงหมาไว้ 7 ตัว และ 5 ตัวถูกช่วยมาจากข้างถนน แต่ตอนนี้มีมากถึง 25 ตัวแล้ว” ความเมตตาจากมนุษย์ทำให้เจ้า Luna ได้รับความรักอีกครั้ง ชุบชีวิตจากหมาขี้เรื้อนถูกทิ้งข้างถนนให้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง แววตาของมันแฝงไปด้วยความเศร้า รับการรักษาโรคเรื้อนให้กลับมาหายดีซะก่อน สภาพผิวหนังและขนที่ร่วงเกือบทั้งตัว ผิวหนังเริ่มดีขึ้น แววตาก็สดใสขึ้นจากการได้รับความรักจากมนุษย์ ผอมมาก จากการขาดอาหารดีๆ กิน เริ่มเผยความน่ารักแล้ว…
-
เจ้าหมาถูกน้ำกรดสาด แม้มันจะเสียโฉม แต่ “เพื่อนใหม่” ก็เข้ามาช่วยทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ!!
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนใจไม้ไส้ระกำ เอาน้องหมาจับแขวนไว้กลางอากาศแล้วยังเอาน้ำกรดสาดใส่มันอีก น่าสงสัยจริงๆ ว่าจิตใจทำด้วยอะไร เจ้าหมาที่ถูกน้ำกรดสาดนี้ชื่อว่า Charlie คนที่ช่วยเหลือมันไว้เป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ มันถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในสภาพที่มีแผลไหม้จากรดอยู่ทั่วตัว เค้าก็อยู่ของเค้าดีๆ เอาน้ำกรดมาสาดทำไม หงิงๆ พวกเขาไม่กล้าแจ้งตำรวจเนื่องจากลัวว่าคนร้ายจะทำอันตรายให้ตัวเองได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยสุนัขน่าสงสารทิ้งไว้เช่นนี้ ก็เลยติดต่อไปที่ Trio Animal Foundation ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ให้เข้ามาช่วยเหลือมัน หลังจากทางองค์กรนำมันไปรักษาเบื้องต้นแล้ว พวกเขาก็เสนอเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 160,000 บาท) ให้กับใครก็ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ทำร้ายเจ้าหมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย เจ้า Charlie ถูกส่งตัวไปรักษาที่คลินิกสัตว์ Delavan Lakes Vet Clinic ในรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นี่เชี่ยวชาญด้านการรักษาแผลไหม้เป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนัง แต่ก็ยังต้องนำเซลล์ผิวหนังที่ตายออกไปเพื่อให้เซลล์ผิวหนังใหม่เกิดขึ้นมาได้ หลังจากนั้นมันก็ต้องทาครีมรักษาเป็นประจำ และอาบน้ำในน้ำยารักษาแผลด้วย ทั้งยังต้องพันผ้าพันแผลอยู่บ่อยๆ เพราะผิวหนังของมันอ่อนไหวมาก หากถูกแสงแดดก็จะรู้สึกแสบทันที อีกอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงนอกจากแผลทางร่างกายแล้วก็คือแผลทางจิตใจของมันด้วย ทุกครั้งที่มันเห็นสายจูงมันก็จะทำท่าหวาดกลัวทุกครั้งเนื่องจากเคยโดนจับแขวนไว้นั่นเอง หมอบอกให้ทายาบ่อยๆ แล้วจะดีขึ้นเองฮะ พอรักษาแผลไปได้ 2 อาทิตย์…
-
หนุ่มชาวนิวยอร์กอุทิศบ้านของตัวเองเพื่อเป็นสถานรับเลี้ยงแมวกว่า 300 ชีวิต
แม้แมวเหมียวจะเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักที่เยียวยาจิตใจมวลมนุษย์ได้ แต่การดูแลมันหลายตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแมวต้องการความใส่ใจตลอดเวลา ไหนจะต้องเสียค่ายาค่าอาหารให้มันอีก บางครั้งการเลี้ยงแมวหลายตัวจึงไม่ใช่คำตอบสำหรับใครหลายคน ทว่าชายคนนี้ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากในการดูแลน้องเหมียวเลย เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจและกำลังทรัพย์ดูแลพวกมันอย่างดี แถมยังยกบ้านทั้งหลังให้น้องเหมียวไปเลย ที่บ้านของเขาไม่ได้มีแมวเยอะธรรมดานะ มันมีเยอะมว๊ากกก นับแล้วกว่า 300 ตัวแน่ะ! ผมชื่อ Christ Arsenault เจ้าของบ้านแมวแสนอบอุ่นหลังนี้ครับ ชายคนนี้ชื่อว่า Christ Arsenault เขาเป็นชายอายุ 58 ปีที่อาศัยอยู่เกาะลอง ประเทศสหรัฐอเมริกา บ้านของเขาไม่ได้เริ่มต้นจากการเลี้ยงแมวเหมียวจนมันคลอดลูกหลานออกมาเยอะขนาดนี้หรอกนะ เหตุผลที่เขาเริ่มเลี้ยงแมวนั้นซึ้งกินใจกว่านั้นเยอะ จุดเริ่มต้นในการเลี้ยงแมวของเขาเกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ตอนนั้น Eric ลูกชายวัย 24 ปีของเขาเพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เขารู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกชายมาก ตอนนั้นเองเขาก็รู้ข่าวว่ามีคนเจอลูกแมวในตู้รถไฟจำนวนมาก เขาเล่าว่า “มันมีลูกแมวอยู่ในนั้น 30 ตัว แล้วผมเห็นก็รู้เลยว่าพวกมันป่วยอยู่ ถ้าเกิดปล่อยทิ้งเอาไว้พวกมันต้องตายหมดแน่ๆ ผมเลยเอาพวกมันกลับบ้านมาหมดเลย … แมวพวกนี้ทำให้ผมไม่หมกมุ่นกับการตายของลูกชาย” ยอมยกบ้านทั้งหลังให้กับเจ้าเหมียวไป ตอนนี้มันมีกันมากกว่า 300 ตัวแล้ว เขานำพวกมันกลับมารักษาจนหายดี แมวพวกนั้นจึงติดเขาแจเลย พวกแมวได้รับความรักจากเขา…
-
ครอบครัวยอมสละทุกสิ่ง เพื่อดูแลสุนัขจรจัดทั้งหมด 3,000 ตัว ให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดี
ถ้าเกิดคุณเป็นคนรักสัตว์มากๆ แล้วเกิดมีสุนัขตัวหนึ่งบาดเจ็บ คุณพร้อมที่จะสละเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยมันไหม ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมันมีมากถึง 3,000 ตัวละ คุณจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อแลกกับความสุขอันยิ่งใหญ่ของพวกมันไหม คุณอาจจะคิดว่ามันไม่มีหรอกคนที่จะทำแบบนั้น ขนาดคนที่เลี้ยงไว้ 100 หรือ 500 ตัวยังลำบาก จำนวนขนาดนั้นพวกเขาจะดูแลทั่วถึงได้อย่างไร? ถ้าคุณกำลังคิดแบบนัั้นอยู่ละก็ คุณต้องคิดใหม่แล้วเพราะครอบครัวชาวไต้หวันผู้เป็นเจ้าของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Mrs. Hsu’s Sanctuary ที่ก่อตั้งเมื่อ 5 ปีก่อนสามารถทำได้ พูดไปมันอาจจะดูเหมือนง่ายนะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายเลยแถมยังเริ่มยากขึ้นอีกต่างหาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไต้หวันเพิ่งจะมีแบนการการุณยฆาต ทำให้จากเดิมที่สัตว์ในศูนย์ช่วยเหลือมีสุนัขอยู่ในการช่วยเหลือกว่า 3,000 อยู่แล้วนั้น ตอนนี้พวกมันกลับเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะกฎหมายดังกล่าว . อย่างไรก็ตามทางศูนย์ก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด พวกเขายังคงช่วยกันดูแลเจ้าตูบทั้งหมดต่อไปด้วยวิธีต่างๆ นานา ทั้งการทำหมัน และทำวีลแชร์ราคาถูกให้พวกมัน นอกจากนี้แม้ว่าศูนย์นี้จะเริ่มต้นจากการเป็นกิจการของครอบครัว Hsu แต่ใช่ว่าจะมีแต่คนในครอบครัวหรอกนะที่มาดูแลพวกมัน เพราะว่าอาสาสมัครมากมายต่างพาสมัครเข้ามาช่วยเหลือศูนย์แห่งนี้ด้วยจุดประสงค์คล้ายกันคือ พวกเขารักสุนัข ยกตัวอย่างเช่น Angel Wang อาสาสมัครที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมที่ศูนย์แห่งนี้เมื่อ 4 ปีก่อนด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ศูนย์เพื่อดูแลสุนัข…
-
เสือสาวหนีจากป่า สู่ย่านที่อยู่ของมนุษย์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หนูอยากเจอหมอฟัน
เสือเป็นนักล่าตามธรรมชาติ ถ้าหากคุณเจอเสือมานอนอยู่หน้าบ้านล่ะก็คงต้องรู้สึกหวาดผวาเป็นธรรมดา คงคิดว่ามันออกมาล่าตัวเองเป็นอาหารแน่ๆ แต่ที่ไหนได้เจ้าเสือสาวตัวนี้กลับเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเป็นมิตรต่างหาก เสือสาวที่ว่านี้ถูกพบที่หมู่บ้าน Solontsovy เมือง Khabarovsk ประเทศรัสเซีย มันเป็นเสือสายพันธุ์ไซบีเรียที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เต็มที ในตอนนี้มีเหลืออยู่บนโลกเพียงประมาณ 500 ตัวเท่านั้น Galina Tsimarno หญิงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเล่าว่าคนที่พบเสือตัวนี้ก็คือ Alexey Khaideyev เพื่อนบ้านหนุ่มของเธอ เธอเล่าว่า “เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและคุณแม่ในแถบชานเมืองซึ่งอยู่ติดกับป่าและแม่น้ำ วันที่เจอมันเขากำลังจะออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่เปิดประตูบ้านออกไปไม่ได้เนื่องจากมีอะไรบางอย่างขวางประตูอยู่ … พอเขาได้ยินเสียงมันครางเขาก็เลยรีบปิดประตูบ้านให้สนิทแล้วโทรเรียกหน่วยกู้ภัยทันที พวกเขารออยู่ในบ้านทั้งวันจนหน่วยกู้ภัยมาถึงที่นั่น เจ้าเสือเองก็ไม่ขยับไปไหนเลย” เมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงก็พบว่าเจ้าเสือนอนนิ่งอยู่หน้าบ้านของชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง พวกเขาจึงรีบส่งมันไปให้กับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ในหมู่บ้าน Alekseevka เขต Primorsky ทันที หลังจากสัตวแพทย์ตรวจร่างกายเสือตัวนี้แล้วก็พบว่ามันไม่ได้มีบาดแผลทางร่ายกายใดๆ เลย แต่มันมีปัญหาช่องปากร้ายแรงมาก Sergey Aramilev ผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลเสือ Amur Tiger Centre เล่าว่า “มันดูเหนื่อยล้ามาก มันนอนนิ่งๆ จนน่าแปลกใจ เหมือนรอให้เรามาช่วยอย่างนั้นแหละ ถึงจะไม่มีบาดแผลบนร่างกายเลย แต่ว่าปัญหาในช่องปากของมันดูน่าเป็นห่วงและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน” แม่เสือสาวตัวนี้ไม่มีฟันบนเลยสักซี่ แถมยังมีสุขภาพเหงือกด้านล่างไม่ดีอีกต่างหาก คนที่ตรวจมันคาดว่ามันคงจะอ่อนแรงเนื่องจากกินอาหารไม่ค่อยได้นั่นเอง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือมันก็ไม่ได้ง่ายเลย Aramilev อธิบายว่า “สถานการณ์ของมันน่าเป็นห่วงมาก สภาพร่างกายของมันค่อนข้างอ่อนแอ…
-
‘พิกกัสโซ่’ น้องหมูหัวศิลป์ เพียงสะบัดพู่กันไปมา ได้งานออกมาขายเป็นหมื่นๆ
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ไม่ว่าอะไรก็สามารถเป็นไปได้” แต่ว่ามันก็ยากที่จะเชื่อไหม? ถ้าไม่เชื่อ ลองอ่านเรื่องราวของเจ้า ‘พิก’กัสโซ่ หมูนักวาดภาพที่หนัก 204 กิโลกรัม หลังจากที่มันถูกช่วยออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ในแอฟริกาใต้ได้ประมาณ 4 สัปดาห์ มันก็ได้ผันตัวมาเป็นจิตรกรวาดภาพ Joanne Lefson นักต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์ชาวแอฟริกาใต้ได้รับเลี้ยงเจ้าหมูพิกกัสโซ่หลังจากที่ช่วยเหลือมันให้รอดพ้นจากการถูกเชือดในโรงฆ่าสัตว์เมื่อหลายปีก่อน เธอได้พาเจ้าหมูที่เธอช่วยออกมาเลี้ยงที่ฟาร์มของเธอ พร้อมกับมองหาของเล่นที่หลากหลายให้กับมันเพื่อสร้างความสนุกสนาน หนึ่งในของเล่นทั้งหลายนั้นก็มีแปรงพู่กัน ซึ่งเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเจ้าพิกกัสโซ่จนมันไม่สนใจของเล่นชิ้นอื่นเลย Lefson จึงได้ติดสินใจปล่อยให้มันอยู่กับพู่กัน สีอีกนิดหน่อย และผ้าใบสำหรับวาดรูปเพื่อดูปฏิกิริยาของมัน หลังจากนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เจ้าหมูได้เริ่มวาดภาพด้วยพู่กันของมัน เจ้าพิกกัสโซ่นั้นชอบที่จะจุ่มพู่กันกับสีและปัดไปมาบนผ้าใบวาดภาพ มันได้แสดงให้เห็นถึงความรักและความสามารถจนมันได้มีห้องแสดงภาพเป็นของตัวเองในฟาร์มช่วยเหลือสัตว์ที่เป็นบ้านของมัน แต่การที่มีคนต้องการที่จะซื้อภาพวาดแต่ละภาพของมันในราคา $2,000 หรือประมาณ 62,000 บาท ทำให้การวาดภาพของมันเป็นงานที่ยากขึ้นไปอีก เพราะว่ามันไม่ได้วาดภาพตลอดเวลา Lefson กล่าวว่า “ฉันไม่ได้บังคับให้มันวาด มันจะวาดเมื่อตอนที่มันอยากวาดเท่านั้น และพวกเรามักจะจัดตระกร้าปิกนิกที่อัดแน่น เพื่อให้มันได้พักกินสตรอวเบอร์รี่ ฝรั่ง และป็อปคอร์นเคลือบคาราเมลระหว่างที่มันวาดภาพ” สำหรับเจ้าพิกกัสโซ่แล้ว นี่มันสวรรค์สำหรับหมูชัดๆ หมูเป็นสัตว์ที่ขี้สงสัยและช่างสำรวจ การเลี้ยงมันไว้ในสถานที่ปิด พวกมันจึงต้องการอะไรเพิ่มเติม อย่างเช่นของเล่นหรือการเล่นกับมันเพื่อไม่ให้มันเบื่อ…
-
ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?
ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาอยู่ที่ชายหาดซึ่งเป็นถิ่นของสัตว์ทะเล ยังจะมีโอกาสให้เราได้พบกับเจ้าสล็อตสิ่งมีชีวิตแสนเชื่องช้าแต่น่ารักที่หายากแบบนี้ แต่ว่าเจ้าสลอธมันติดอยู่ในซอกหินเลยขึ้นมาเองไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านมาใหญ่เลย ถ้าใครไม่ยอมช่วยเจ้าสัตว์น่าเอ็นดูตัวนี้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ ช่วยตูด้วย ขาตูติดหิน เจ้าสลอธตัวพันธุ์สองนิ้วเท้าที่หายากนี้ถูกพบในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาที่จังหวัด Punta Tigre ประเทศคอสตาริกา ดูเหมือนว่ามันจะถูกพายุพัดตกลงไปในน้ำทะเลเมื่อคืนก่อนหน้านี้ พอน้ำทะเลลดลงแล้วมันก็รอดชีวิตกลับมาได้ แต่ว่าขาของดันเข้าไปติดอยู่ในซอกหินจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีทรายเข้าไปในดวงตาของมันด้วย คลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าสลอธน้อย โชคดีที่มีแขกของบ้านพัก Morgan’s Lodge ผ่านไปเห็นมันเข้าแล้วกลับไปบอกกับเจ้าของบ้านพัก Dirk Morgan ให้ไปช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาเล่าว่า “เรามีบ้านพักอยู่ในแถบที่ไม่ค่อยครึกครื้นนักของประเทศคอสตาริกา เรารู้จากแขกที่พักอยู่ว่ามีลูกสลอธติดอยู่ในหิน ห่างจากบริเวณนั้นประมาณครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) …” รีบๆ ช่วยตูออกไปสักทีเถอะ ฮือ Dirk ยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นมาได้ชั่วโมงเดียวเองและพายุเมื่อคืนก็สงบลงแล้ว เราก็เลยเดินไปดูยังจุดที่แขกบอกแล้วรีบช่วยเจ้าสลอธเอาไว้ก่อนที่มันจะตาย ระหว่างทางเราก็ไล่หมา 2 ตัวที่จะเข้าไปกัดมันด้วย” เจ้าของบ้านพักเล่าต่อว่า “ตอนที่เจอมันก็ตัวเปียกน้ำทะเลโชกเลย แล้วก็มีทรายเข้าไปติดอยู่ในตาของมันด้วย มันดูอ่อนแรงแล้วก็กลัวมาก แต่ก็ยังร้องขอความช่วยเหลือตอนที่เราเข้าไปใกล้ๆ “…
-
เบื้องหลังของการผ่าตัดสมอง เพื่อช่วยชีวิตน้องอุ๋ง Ziggy ยากกว่าสัตว์ชนิดอื่นมากจริงๆ
เมื่อพูดถึงแมวน้ำล่ะก็ หลายคนคงคิดถึงคำว่าอุ๋งๆ ในใจเลยใช่ไหมล่ะ เพราะมันช่างน่ารักน่ากอด ดูแล้วคงจะเป็นสัตว์ที่นุ่มนิ่นน่าเข้าไปเล่นด้วยเสียจริงๆ แต่เพราะมันเป็นสัตว์โลก มันก็เลยเจ็บป่วยเป็นเหมือนกัน วันนี้เรามาดูเจ้าอุ๋งแมวน้ำที่เจ็บป่วยแต่ก็มีมนุษย์ใจดีพยายามรักษามัน ถึงแม้จะแสนยากลำบาก แต่พวกเขาก็ทุ่มเทหาทางช่วยให้มันกลับมาแข็งแรงให้จงได้… ที่อควาเรียมแห่งหนึ่งในเมืองมิสติก รัฐคอนเนคทิคัต ซึ่งมีชื่อว่า Mystic Aquarium มีเจ้าอุ๋งตัวหนึ่งชื่อว่า Ziggy Star อาศัยอยู่ในนั้น เจ้าซิกกี้เป็นแมวน้ำขนที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากชายฝั่งของแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2013 ที่มันได้มาอยู่ที่อความเรียมแห่งนี้ก็เพราะอาการทางประสาทของมันที่ทำให้มันคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ได้ ซึ่งทำให้เกิดความลำบากที่จะใช้ชีวิตในธรรมชาติ แต่ในเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ เจ้า Ziggy ได้มีอาการ “ชัก” ต่อเนื่อง จึงถูกนำตัวไปส่งที่สถาบันสัตว์แพทย์ของมหาวิทยาลัยทัฟส์ เวลานั้นมันแทบไม่มีการตอบสนอง จากนั้นเจ้าอุ๋งจึงถูกนำตัวไปเข้ารับการสแกน MRI ซึ่งทำให้พบว่ามันมีอาการของ “โรคสมองคั่งน้ำ” ที่เกิดจากการที่มีของเหลวเข้าไปอยู่บริเวณด้านในกะโหลกศีรษะ และทำให้สมองเสื่อมลงเรื่อยๆ ในกรณีของเจ้า Ziggy นั้นไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ Ane Uriarte ศัลยแพทย์ทางประสาทของมหาวิทยาลัยทัฟส์ จึงได้ทำการผ่าตัดเจ้าอุ๋งโดยการวางท่อที่เชื่อมตั้งโพรงสมองส่วนที่มีน้ำออกมาสู่บริเวณท้องของมัน เพื่อให้ร่างกายของเจ้าแมวน้ำได้ดูดซับของเหลวมาได้อย่างปลอดภัย การรักษาโดยการผ่าตัดสมองสัตว์นั้นเป็นวิธีปกติสำหรับหมา แมว และมนุษย์ แต่สำหรับแมวน้ำนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากรูปร่างของกะโหลกนั้นแตกต่างออกไป จึงต้องใช้การสแกน MRI เพื่อหาจุดที่จะสามารถเจาะท่อลงไปได้อย่างปลอดภัย Uriarte กล่าวว่ากะโหลกของแมวน้ำนั้นเรียบ กลม…
-
เหมียวนิ้วแหว่งโผล่หน้าบ้านมนุษย์ ทำเนียนร้องขอเข้าบ้าน ที่ไหนได้มันมาขโมยหัวใจนี่หว่า!!
วันนี้จะพาไปรับชมเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนึงที่ดูแล้วน่าสงสาร น่าเอ็นดู แต่กลับมาขโมยหัวใจกันไปซะดื้อๆ แหม…ก็มันน่ารักซะขนาดนั้นนี่นา ว่าแต่เรื่องราวของมันเป็นมายังไง รีบไปชมกันเลยดีกว่า… วันหนึ่งสองสามีภรรยาได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ ที่หน้าประตู พยายามจะขอเข้ามาในบ้าน ยามนั้นเป็นเวลากลางคืนที่หนาวเหน็บ กับสภาพอากาศ -25 องศาใน รัฐออนแทรีโอตะวันออก ประเทศแคนาดา เมื่อเปิดประตูจึงพบแมวน้อยสีขาวสลับเทากำลังหนาวเหน็บร้องหาความอบอุ่น ผู้ใช้เว็บ Reddit ชื่อว่า thejesscat บอกว่า “มันผอมมาก มันเข้ามาขดตัวอยู่ที่เรา เราจึงให้อาหารมัน เพราะมันหายใจแรงเสียจนเรารู้ว่ามันหิวโซ ” จากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มีบางอย่างที่แสนพิเศษ นั่นคืออุ้งเท้าของมันนั่นเอง โดยเท้าขวาหน้าของมันมีรูปทรงที่แปลกประหลาดมากๆ แต่มองไปแล้วดูคล้ายกับตัวละครของ Star Trek ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Spock จากนั้น เจ้าเหมียวก็ได้ชื่อว่า Spock ทันที “เหมือนมันจะมีนิ้วเกินนะ แต่กระดูกมันกองรวมกันไปหมด บางชิ้นก็อยู่ไหนไม่รู้” thejesscat เล่า หลังจากเจ้าเหมียวเข้าบ้านมา ด้านนอกก็มีหิมะตกหนัก คู่สามีภรรยาจึงดีใจที่เจ้าเหมียวเข้าบ้านมาทันเวลา ขณะเดียวกัน เจ้า Spock ก็ขึ้นไปนอนบนตักมนุษย์คู่รักราวกับจะฝากชีวิตไว้ที่พวกเขาเลยทีเดียว จากนั้นไม่กี่วันอากาศก็หนาวขึ้นเป็น -30 องศา รวมทั้งหิมะก็หนาขึ้นด้วย ขณะนั้นเจ้า…
-
แมวน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือ ได้พบกับเหมียวเจ้าของบ้านที่มีหน้าตาคล้ายมันราวกับแฝด
Unagi ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ปลาไหล แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่เราจะมานำเสนอในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปลาไหลแต่อย่างใด เพราะ Unagi เป็นชื่อของลูกแมวน้อยตัวหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาในชีวิต จนมีมนุษย์ใจดีมาพบ และมอบความรักครั้งใหม่ให้กับมัน ย้อนเวลากลับไปในตอนมิถุนายน 2017 เจ้า Unagi เป็นลูกแมวที่อาศัย ณ ศูนย์สัตว์ทดลอง ในจังหวัดยะมะงุชิ ประเทศญี่ปุ่น และมันก็ต้องการความช่วยเหลือ “ฉันเห็นเจ้าเหมียวผ่านเว็บไซต์โดยบังเอิญในขณะที่กำลังทำงานอยู่ ฉันคิดว่าเจ้าเหมียวที่อยู่ในศูนย์สัตว์ทดลองมันดูคล้ายกับ Suzume แมวของฉันไม่มีผิด และมันก็จะอยู่ในสถานที่แห่งนั้นได้อีกเพียงแค่ 1 สัปดาห์” เจ้าของ Suzume กล่าว เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบกำหนดของเจ้าเหมียว เธอเลยใช้เวลาในวันหยุดขับรถออกมาตอนตี 4 ครึ่ง เพื่อเดินทางมายังยะมะงุชิ และช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อย หลังจากที่ได้พบมัน เธอก็ได้นำตัวเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ พอเสร็จสิ้นการดูแลรักษามันก็ถูกพาไปยังบ้านใหม่ ซึ่งในตอนแรกเจ้าเหมียวรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มันได้รับการทดสอบในศูนย์ทดลองสัตว์มาเป็นเวลานาน “Unagi อายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง และมีน้ำหนักเพียง 860 กรัม แต่ก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าตอนที่รับ…
-
พิตบูลถูกคนใจร้ายเอามีดฟันหน้า แล้วยัดใส่กระเป๋าเอาไปทิ้งที่ตึกร้าง โชคดีที่มีคนช่วยไว้ได้
(เนื้อหามีภาพที่รุนแรง) บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นภาพเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือแม้แต่สัตว์ป่า พวกมันล้วนตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของมนุษย์อยู่บ่อยครั้งไป… เจ้าหมาพิตบูลในครั้งนี้ก็เช่นกัน ด้วยสภาพของมันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฟลอริด้าไปเจอเข้า ต้องบอกเลยว่ามันโชคดีมากๆ ถ้าพวกเขาเจอมันช้ากว่านี้เจ้าตูบคงได้จากโลกใบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาตี 1 ของวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2017 ซึ่งเจ้าหน้าที่จากรัฐฟลอริด้ากำลังลาดตระเวนอยู่และบังเอิญได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังร้องไห้ พวกเขาจึงเข้าไปตรวจสอบดูก็พบว่าเสียงนั้นมาจากกระเป๋าเดินทางสีฟ้าใบใหญ่ และเมื่อเปิดออกมาพวกเขาก็ต้องถึงกับช็อค ข้างในเป็นสุนัขพิตบูลที่สภาพอาบไปด้วยเลือด พร้อมกับมีแผลเหมือนถูกฟันบริเวณหน้าของมัน ซึ่งแผลดังกล่าวนั้นลึกมากๆ พวกเขาไม่รอช้ารีบพาเจ้าตูบไปยังโรงพยาบาลสัตว์ทันที . ทีมแพทย์ต่างพากันช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่และเจ้าหน้าที่ก็ตั้งชื่อให้เจ้าตูบว่า Ollie พร้อมกับเป็นกำลังใจให้กับมันเพื่อสู้ต่อ หลังจากการรักษาเสร็จสิ้นทีมแพทย์ต่างพากันชื่นชมเพื่อนสี่ขาว่ามันมีสปิริตแรงกล้า แม้ในสภาพแบบนั้นมันก็ยังไม่ยอมแพ้กระดิกหางรับตลอดเวลา . . หลังจากการรักษาเสร็จทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดระดมทุนเพื่อหาเงินและหาบ้านหลังใหม่ให้กับเจ้า Ollie ผ่านทาง GoFundMe เพียงแค่วันเดียวก็มีคนร่วมระดมทุนแล้วมากกว่า 660,000 บาท สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ยอมแพ้ และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Ollie พวกเขายังคงตามหาตัวการที่ทำร้ายเจ้าตูบต่อไป… อัพเดตล่าสุด หลังจากการรักษาได้สองวัน เจ้า Ollie ก็ทนพิษบาดแผลที่สาหัสไม่ไหว และได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ขอแสดงความเสียใจต่อกสนจากไปของเจ้าตูบผู้โชคร้ายด้วยนะครับ…
-
สถานสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ให้เจอเจ้าของใหม่เร็วๆ ด้วยรูปโปรไฟล์ใหม่ไฉไลกว่าเก่า
เวลาเราเล่นโซเชียลมีเดีย เวลาที่มีใครที่โปรไฟล์หน้าตาดีดีโผล่ขึ้นมา เราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปส่องกันใช่ไหมล่ะ ยิ่งมีรูปหล่อๆ สวยๆ ตรงสเป็กแบบนี้ ก็จะเกิดอาการมือลั่นกดส่งคำขอเพิ่มเพื่อนไปซะโดยปริยาย สถานสงเคราะห์สัตว์ Orange County Animal Services (OCAS) เป็นองค์กรหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์ทั้งหลาย รับเลี้ยงสัตว์มากกว่า 20,000 ตัวในศูนย์พักพิง อีกทั้งจัดหาบ้านให้กับสัตว์ที่มีคนอยากจะรับไปอุปถัมภ์ ทฤษฎีขั้นพื้นฐานที่ว่ารูปโปรไฟล์ดีๆ ก็อาจจะทำให้มีคนสนใจมากขึ้นถูกปรับเอามาใช้ช่วยเหลือเจ้าสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งเหมือนกัน การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีก็อาจจะทำให้พวกสัตว์เหล่านี้ได้บ้านเร็วๆก็เป็นได้ ทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ก็ได้จ้างคุณ Albert Harris ช่างภาพฝีมือดีเข้ามาช่วยถ่ายรูปให้กับสัตว์ที่กำลังรอความช่วยเหลือเหล่านี้ ซึ่งผลตอบรับก็ดีเกินคาด รูปภาพเหล่านี้ถูกใช้เพื่อโปรโมทในการหาบ้านใหม่ให้กับพวกสัตว์ และมันทำให้พวกมันเจอกับเจ้าของใหม่อย่างรวดเร็ว จากสายตาที่หวาดกลัวและซึมเศร้าก็กลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง เทียบรูปก่อนและหลังที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งนี้รับเจ้าสัตว์ที่โดนทอดทิ้งนี้มา จัดการอาบน้ำ แปลงโฉมให้น่ารักสะดุดตา พวกมันดูมีความสุขมากๆ นี่คือชีวิตใหม่หลังจากที่ถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพัง . เจ้าเหมียวโฉมใหม่ โปรไฟล์น่ารักฟรุ้งฟริ้ง . อ่ออ๊อย แมวตัวนี้หน้าดูเศร้าจัง . น่ารักขนาดนี้ทำไมถึงถูกทิ้งนะ? . แจกความสดใส . เห็นเปลี่ยนไปแบบนี้ ใครๆ ก็คงอยากจะรับมันมาเลี้ยงแล้วใช่ไหมล่ะ ที่มา boredpanda
-
ครอบครัวอินเดียช่วยเหลือ “สัตว์ป่ากำพร้า” พร้อมเปลี่ยนบ้านตัวเองกลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือ
เมื่อพูดถึงเหล่าสัตว์ที่กำพร้าพ่อแม่แล้ว นอกจากหมาแมวที่เราสามารถพบได้ปกติ เหล่าสัตว์ป่ามากมายก็ตกอยู่ในสถานะนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากผลของการถูกล่าโดนเหล่านายพรานนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของ Dr. Prakash Amte จึงจัดการเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าทั้งหลายที่กำพร้า Dr. Prakash เล่าว่าเมื่อช่วงต้นปี 70 เขาและภรรยาได้ไปเดินเที่ยวกันในป่าของเขต Gadchiroli ซึ่งเขาได้เจอกับชนพื้นเมืองในเขตนั้นกำลังหิ้วแม่ลิงที่พวกเขาล่ามาได้กลับไปยังหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่าลูกลิงได้เกาะบนศพของแม่และพยายามจะดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เขาใจสลาย เมื่อเป็นอย่างนั้น Dr. Prakash ไม่ยอมที่ให้ชนเผ่าฆ่าลูกลิงแน่ๆ เขาจึงยื่นมือเข้าไปช่วยและขอรับเลี้ยงดูลูกลิงตัวดังกล่าวไว้ แน่นอนว่าเขาเข้าใจดีว่าคนในชนเผ่าไม่ได้ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก แต่พวกเขาทำเพื่อเลี้ยงปากท้อง เขาจึงเสนอข้าวกับเสื้อผ้าเพื่อแลกชีวิตของลูกลิงและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ลูกลิงถูกตั้งชื่อว่า Babli และเลี้ยงดูมานับแต่นั้น ซึ่งลูกลิงก็ดูจะชอบบ้านหลังใหม่ของมันมาก นอกจากนั้นมันยังสามารถเข้ากับทุกคนในบ้านรวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เป็นอย่างดีด้วย จากจุดนี้นั่นเอง Dr. Prakash จึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะเข้าไปช่วยเหล่าสัตว์กำพร้าจากชนเผ่า หรือนักล่าคนอื่นๆ โดยการแนะนำเหล่าชนเผ่าให้อย่าฆ่าตัวลูก เพราะมันไม่คุ้มจะเป็นอาหารหรอก เขาจะเป็นคนนำพวกมันกลับมาเลี้ยงเองเพื่อแลกกับพืชผลและยาเป็นการตอบแทน ไม่นานนักบ้านของเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์กำพร้ามากมายที่เขาเฝ้าเลี้ยงมาแต่พวกมันยังเด็ก ซึ่งมันก็มีตั้งแต่กระรอกตัวน้อยๆ ไปยังหมี เสือดำ รวมถึงงูอินเดียกับจระเข้ก็มีนะ แบบเลี้ยงอยู่ด้วยกันพี่น้องสุดๆ โดยตัว Dr. Prakash บอกว่าเขายินดีรับสัตว์กำพร้าทุกชนิดไม่มีเกี่ยง ล่าสุดได้มีการนับจำนวนสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งมีรวมๆ…
-
ลูกแรคคูนสุดน่ารักสามตัวไม่ยอมห่างจากชายหนุ่ม หลังเขาบังเอิญช่วยพวกมันระหว่างไปตกปลา..
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้นที่มุมหนึ่งของโลก เมื่อ Dominyk Lever ช่างภาพมากฝีมือได้บันทึกเหตุการณ์ที่น่ารักที่สุดตั้งแต่เขาเคยบันทึกมา นั่นก็คือภาพของลูกแรคคูนตัวเล็ก 3 ตัว… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Dominyk เดินทางไปตกปลาที่ Apple Creek รัฐโอไฮโอ ซึ่งขณะที่เขากำลังตกปลาอยู่ เขาก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรบางอย่างมาเกาะแกะที่ขาของเขา ว่ายน้ำป๋อมแป๋มมาแต่ไกล ก้อนขนอะไรเนี่ยมาเกาขายิกๆ พอมองลงไปเขาก็เห็นลูกแรคคูนสามตัวมาเกาะขาอยู่และพวกมันก็น่ารักมาก ไม่นานนักแรคคูนทั้งหมดก็ปืนขึ้นไปบนส่วนต่างๆ ของเขาและเลียหูเบาๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มุ้งมิ้งสุดๆ ระหว่างนั้นเขาก็ตกปลาต่อไป และรอดูท่าทีว่าแม่ของพวกมันจะโผล่ออกมาไหม แต่ว่าเวลาผ่านไปนานสองนานก็ดูเหมือนว่าแม่ของพวกมันจะไม่โผล่มา จนสุดท้ายนักตกปลาคนอื่นก็มาถึงและนำปลาที่ตายแล้วในบริเวณนั้นมาให้ลูกแรคคูนเป็นอาหาร พวกเขาจึงคาดว่าลูกแรคคูนทั้งสามน่าจะกำพร้า และหลงทางมาจากรังของพวกมัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันและสร้างที่พักพิงให้ใหม่ ด้านนักวิชาการก็ออกมายืนยันว่าการช่วยลูกแรคคูนป่าทั้งสามด้วยการสร้างที่พักพิงให้ ถือเป็นเรื่องที่รับได้และไม่ทำให้พวกมันเสียนิสัยแต่อย่างใด เพราะพวกมันได้สูญเสียแม่ไป แต่ว่าก็ไม่ควรเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์ป่า ทำให้การฝึกและเลี้ยงดูเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญถ้าเลี้ยงในบ้านข้าวของอาจจะพังได้ในเวลาไม่กี่วันนั่นเอง… สามารถรับชมคลิปเต็มๆ น่ารักๆ ได้ข้างล่างเลยจ้า ที่มา nationalgeographic
-
สิงโตที่ถูกช่วยจากคณะละครสัตว์ ต้องพบจุดจบอันโหดร้าย จากผู้บุกรุกเขตอนุรักษ์สัตว์…
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเรื่องราวอันน่สสะเทือนขวัญนี้ขึ้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Emoya เมื่อมีผู้บุกรุกเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์และได้ฆ่าเจ้าสิงโต 2 ตัวที่กำลังฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายอยู่ในนั้น จากการรายงานของสำนักข่าว Netwerk 21 บอกว่าคนร้ายได้ตัดหัว ขา และถลกหนังของสิงโตออกไป และทิ้งร่างที่ไร้วิญญาณของพวกมันเอาไว้ จนกระทั่งถูกพบในเช้าวันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2017 สำหรับจุดประสงค์ในการล่าครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด บางทีอาจจะเป็นแค่การล่าเพื่อการแข่งขัน หรือพวกเขาอาจจะต้องการนำกระดูกของมันไปขายสำหรับทำยาก็เป็นได้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Emoya ได้กล่าวว่าตอนนี้พวกเขากำลังสืบตัวผู้กระทำความผิด และเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น “ตอนนี้สภาพจิตใจของพวกเราเริ่มดีขึ้นแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจอย่างมาก เราได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง และกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตามหาตัวคนผิด” เขตรักษาพันธุ์สัตว์ดังกล่าวเขียนโพสต์ของพวกเขาผ่านทางเฟสบุ๊กเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2017 การลักลอบเข้าไปในพื้นที่ช่วยเหลือสัตว์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วอย่างการลักลอบเข้าไปในเขตอนุรักษ์แรดเพื่อลูกแรดสองตัว จนทางศูนย์ต้องปิดตัวลงเนื่องจากกลัวว่าจะถูกโจมตีอีก ตอนนี้สัตว์ป่าในแอฟริกากำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มนักล่าสัตว์อย่างมาก สัตว์ที่บาดเจ็บจากการถูกล่าจะถูกส่งตัวมารักษายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์แห่งนี้ ดังนั้นการการคร่าชีวิตเจ้าสิงโต 2 ตัวนี้จึงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมาก José และ Liso สิงโตทั้งสองที่ถูกฆ่านั้นได้รับการช่วยเหลือมาจากกลุ่มละครสัตว์ผิดกฎหมายในประเทศเปรู และโคลัมเบีย เมื่อปี 2014 โดยหน่วยงาน Animal Defenders International…
-
หญิงสาวช่วยชีวิตแมงมุงนักล่าขนาดเท่าลูกสุนัข แต่ถึงจะเห็นอย่างนี้มันไม่ดุร้ายนะ ขอบอก!!
ปกติแล้วเวลาเราเห็นข่าวการเข้าไปช่วยเหลือสัตว์ เราก็มักจะเห็นการเข้าไปช่วยเหลือสุนัขบ้าง แมวบ้าง หรือไม่ก็เป็นสัตว์ที่ดูไม่ดุร้ายอะไร อาจจะมีงูบ้างนิดหน่อย แต่เราคงยังไม่เคยเห็นศูนย์ช่วยเหลือไหนเข้าไปช่วยชีวิตแมงมุมใช่ไหมล่ะ? Charlotte คือชื่อของแมงมุมสายพันธุ์ Huntsman Spider และยังเป็นแมงมุมนักล่าที่กินแมลงเป็นอาหาร ก่อนหน้านั้นมีบุคคลที่พบและต้องการกำจัดมันทิ้ง แต่ทว่าเจ้าแมงมุมมันได้ถูกช่วยชีวิตไว้ โดยหญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้เป็นเจ้าของศูนย์ช่วยเหลือ Betty’s Barnyard Rescue แน่นอนว่าถ้าใครได้เห็นขนาดของเจ้า Charlotte และเป็นคนกลัวแมงมุมคงไม่แปลกเลยที่เห็นแล้วจะอยากฆ่ามันทันที เพราะมันถือเป็นแมงมุม Huntsman ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่พบมาเลยก็ว่าได้ โดยมันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 5 นิ้ว หรือให้เทียบง่ายๆ ก็ขนาดพอๆ กับลูกหมาปั๊กเลยล่ะ แต่ถึงมันจะเป็นแมงมุมใช่ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายเสมอไป เพราะหญิงสาวได้เล่าเกี่ยวกับเจ้าแมงมุมตัวนี้ว่า “Charlotte เป็นแมงมุมที่น่ารัก สง่างาม และไม่ดุร้าย เช่นเดียวกับแมงมุมทั่วๆ ไปที่พวกมันก็อยากจะทำหน้าที่ปกติของมัน กินแมลงและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้น คนเราเข้าใจผิดเกี่ยวกับแมงมุมไปกันใหญ่แล้ว” ยังไงก็ตามเรื่องราวของ Charlotte ก็ถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็ยังคงดูปกติดีอยู่ และมีชีวิตที่สงบสุขในสวนของศูนย์ซึ่งเรื่องนี้บ่งบอกว่า สัตว์ทุกชนิดก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะพวกมันต้องการแค่ชีวิตที่สงบสุขเท่านั้นเอง สุดท้ายเจ้าของศูนย์ก็บอกว่า “ที่ Betty’s Barnyard Rescue เราต้อนรับสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะตัวเล็กตัวใหญ่ หรือหน้าตาแปลกแค่ไหนก็ตาม” …
-
แม่เม่นถูกรถชนจนบาดเจ็บ แต่ยอมอดทนสู้ เพื่อมีชีวิตดูแลเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะเกิด…
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินประโยคสุดคลาสสิคที่ว่า “หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” กันมาบ้างแล้วแน่นอน และเรื่องของการรับผิดชอบต่อหน้าที่นั้น เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวนี้คงจะอธิบายความหมายของประโยคนี้ได้อย่างชัดเจน เจ้าเม่นเคราะห์ร้ายตัวหนึ่ง มันถูกรถชนบนถนนในประเทศอิสราเอล มันได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แต่ด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของมัน จึงทำให้มันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดเพื่อมีชีวิตรอดต่อไป และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดเมื่อมีคนใจดีมาพบมันเข้า เขาได้นำมันไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ทำไมเจ้าเม่นต้องอดทนเพื่อให้มีชีวิตรอดด้วย?? เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลสัตว์ป่าแห่งหนึ่งใน อิสราเอล ได้ทำการช่วยเหลือเม่นเพศเมียตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน มันถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาลในสภาพที่แย่มาก หลังจากแพทย์ได้ช่วยเหลือมันและเอกซเรย์ก็พบว่ามันกำลังตั้งท้อง และมีลูกเม่นอยู่ในนั้นถึง 5 ตัวด้วยกัน แม่เม่นมีบาดแผลที่บริเวณศรีษะ สัตวแพทย์พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยมันและลูกๆ พวกเขารักษาบาดแผลที่หัวของเม่นเพศเมียตัวนั้นและดูแลมันอย่างดีด้วยน้ำกับที่นอนอันแสนอบอุ่น ถึงแม้ว่ามันจะบาดเจ็บสาหัส แต่ความเป็นแม่จึงทำให้มันยอมแพ้ไม่ได้ มันอดทนต่อบาดแผลที่ได้รับจากอุบัติเหตุเพื่อลูกน้อยที่อยู่ในท้องของมัน ลูกน้อยของมันดูแข็งแรงและน่ารักมากๆ และในที่สุดแม่เม่นท้องแก่กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เมื่อครบกำหนดคลอดมันก็ให้กำเนิดลูกน้อยน่ารักถึง 5 ตัวด้วยกัน เหล่าเม่นน้อยทั้งหมดดูแข็งแรงและน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมาก สัตวแพทย์ผู้ดูแลแม่เม่นและลูกๆ ของมันบอกว่า “ตอนนี้พวกมันดูแข็งแรงอย่างมาก แม่เม่นสามารถให้นมลูกน้อยได้แล้ว เรากำลังดูแลพวกมันทั้งครอบครัวให้แข็งแรงและพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตในป่าได้อีกครั้ง” ลองไปชมความน่ารักของเม่นเพศเมียตัวนี้กับลูกๆ ของมันกันเลย โอโห ต้องนับถือความอดทนของแม่เม่นตัวนี้มากเลยนะเนี่ย ที่แข็งใจเพื่อให้ลูกๆ ของมันได้มีชีวิตรอดและมีโอกาสได้ลืมตามาดูโลก ความอดทนของผู้เป็นแม่นี่สุดยอดจริงๆ เลย…
-
เมื่อ 2 เหมียวที่สูญเสียแม่และเพื่อนไป โคจรมาพบเพื่อเติมเต็ม ในส่วนที่ขาดให้กันและกัน…
นี่คือเรื่องราวของ Dixie (เจ้าเหมียวสีดำ) และ Veeb (แมวส้มแสนน่ารัก) 2 เพื่อนซี้ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ณ ศูนย์พักพิงสัตว์ Complicated Cats Sanctuary ในกลอสเตอร์, สหราชอาณาจักร ซึ่งก่อนที่พวกมันจะได้มารู้จัก และกลายเป็นเพื่อนรักกัน ไม่มีใครเคยรู้หรอกว่าเจ้าเหมียว 2 ตัวนี้ มันเคยเผชิญกับความสูญเสียมาก่อนด้วยนะ ว่าแล้วก็ลองไปฟังเรื่องราวของพวกมันกันเลย สำหรับ Veeb เจ้าเหมียวอายุ 19 ปี ที่ได้เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2008 ในขณะที่ Dixie เหมียววัย 15 ปี ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2001 ก่อนหน้านี้ Dizzie ซึ่งเป็นแม่ของ Veeb ได้จากมันไปตลอดกาลในปี 2012 และ Percy เพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้า Dixie ก็ได้มาตายจากมันไปในปี 2010 โดยหลังจากการสูญเสียในครั้งนั้น ก็ทำให้เจ้าเหมียวทั้งสองได้มาพบกัน และกลายเป็นเพื่อนรักกันไปในที่สุด พวกมันทั้งสอง…
-
พ่อเด็กฟิลิปปินส์ เห็นลูกแอบจิ๊กอาหารออกจากบ้าน ตามไปพบกับภาพแบบที่เห็นนี่ล่ะ…
ปกติแล้วถ้าเกิดมีการขโมยเกิดขึ้น โดยทั่วไปเราก็จะไม่ให้อภัยหัวขโมยคนนั้นอย่างแน่นอน แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้พอรู้ความจริงของสาเหตุการขโมยแล้วเรากลับจะต้องให้อภัยเขาอย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กชายวัย 9 ขวบชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ken Amante เขาชอบที่จะเดินทางออกจากบ้านทุกวันพร้อมกับอาหารมากเป็นพิเศษ และด้วยการที่เขาเป็นคนเงียบๆ เขาจึงไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่เขาไปในทุกวัน พ่อแม่ก็เลยนึกว่าไปเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก นั่นจึงทำให้พ่อของ Ken รู้สึกสงสัยในจุดหมายปลายทางที่ลูกของเขาไป ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าลูกของเขาเป็นเด็กดีแต่เขาก็อยากจะมั่นใจว่าลูกของเขาไม่ได้ไปในสถานที่ไม่ดี เขาจึงเลือกที่จะตามเด็กชายที่แอบหอบกระเป๋าที่เต็มไปด้วยอาหารตามไป ภาพที่เขาเห็นเป็นภาพของเด็กชายที่กำลังให้อาหารสุนัขจรจัดข้างทาง ซึ่งสุนัขบางตัวมีสภาพที่ดูไม่ได้เลยทีเดียว บางตัวซูบผอมเหลือแต่กระดูก บางตัวก็ดูจะเป็นโรคเรื้อน แต่เด็กชายก็ไม่มีท่าทีจะกลัวหรือรังเกียจเลยแถมยังป้อนอาหารพวกมันอย่างตั้งใจ โดยปกติแล้วสุนัขจรจัดจะต้องกลัวการเข้าใกล้มนุษย์และอยู่ให้ห่างมากที่สุด แต่เจ้าหมาพวกนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น พวกมันยอมที่จะเข้าใกล้ Ken และเล่นกับเขา หลังจากเรื่องราวนี้กระจายออกไปผู้คนมากมายก็อยากที่จะช่วยเจ้าหมาพวกนี้ เงินบริจาคจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามา ถึงแม้ว่า Ken จะเป็นเพียงเด็กชายวัย 9 ขวบ แต่เขามีความฝันที่จะเปิดที่พักพิงให้สำหรับสัตว์ ด้วยเงินก้อนนี้จึงทำให้เขาทำความฝันเป็นจริง เขาตั้งชื่อมันว่า The Happy Animals Club แน่นอนว่าสัตว์กลุ่มแรกที่เขาดูแลก็คือเจ้าสุนัขจรจัดทั้งสามตัวนั้นเอง เขาตั้งชื่อให้พวกมันว่า Whitey, Brownie และ Blackie ซึ่งหลังจากนี้เขาก็จะยังคงทำตามความฝันที่จะช่วยพวกสัตว์จรจัดต่อไปแน่นอนว่าที่บ้านของเขาก็สนับสนุนเช่นกัน ก็หวังในอนาคตเมื่อ Ken…
-
ดาราตลกขังตัวเองในกรงกว่า 87 ชั่วโมง ทำไปเพื่อระดมทุน และหาบ้านให้กับเหล่าน้องหมา!!
สำหรับนาย Remi Gaillard แสดงตลกชาวฝรั่งเศส ที่รู้จักกันว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำคลิปแกล้งคนอื่น หรือ มีมุขตลกฮาๆ แบบเรียลๆ มาให้ชาวเน็ตฝรั่งเศสได้ชมกันตลอด เท่านั้นยังไม่พอ Remi ยังเป็นคนที่รักสัตว์มากๆ เลยล่ะ โดยเมื่อช่วงเดือนก่อนเขาได้มีแพลนทำกิจกรรมเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในกรงสุนัขของสถานสงเคราะห์สัตว์ SPA Shelter ในเมือง Monpellier โดยเขากล่าวว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในกรงขังไปเรื่อยๆ จนกว่าสัตว์ทั้ง 300 ตัวที่อยู่ในสถานสงเคราะห์จะถูกรับไปเลี้ยงจนหมด หรือจนกว่าจะมีเงินระดมทุนเข้ามาครบ 2 ล้านบาท ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Remi Gaillard ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเหล่าสัตว์เลี้ยงนะ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้ทำคลิปแกล้งกันขำๆ แต่แฝงไปด้วยความหมาย ที่เขาแต่งตัวเลียนแบบสุนัขออกไปวิ่งไล่ หรือสร้างความก่อกวนให้กับผู้อื่น เพื่อให้ผู้คนตระหนักว่าหากเลี้ยงพวกมันแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เหล่ามะหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ทั้งหลายก็อาจจะไปสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น แบบที่เขากำลังทำอยู่ ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และล่าสุดเขาก็เริ่มแผนการที่วางไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนแล้ว โดยเขาได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในกรงสัตว์ในสถานสงเคราะห์ SPA Shelter จริงๆ ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น การเข้าห้องน้ำ การทานอาหารและน้ำ ทำเหมือนกับตัวเองเป็นสุนัขตัวหนึ่งเลยล่ะ …
-
หนุ่มสาว 2 คนออกไปเดินจับโปเกม่อน จนได้ช่วยชีวิตแฮมสเตอร์จริงๆ กลับมา 27 ตัว!!
นับว่าเป็นอีกเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นจากคนที่เล่นเกม Pokemon Go ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดเหตุกลุ่มโจรที่ใช้เกมส์นี้เพื่อดักชิงทรัพย์ที่สำนักข่าวแมวเหมียวเราเคยนำเสนอไปแล้วตามลิ้งค์นี้ก็ตาม (ข่าวเก่า) แต่เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเมื่อสาว Sara Perez และหนุ่ม Matthew Teague จากเมือง Houston รัฐ Texas ที่ได้ออกเดินทางไปข้างนอกบริเวณสวนใกล้บ้านเพื่อตามจับเจ้าโปเกม่อนในเกมส์ จู่ๆ ทั้งสองก็ได้ยินเสียงประหลาด จึงออกตามหาที่มาของเสียงและได้พบกับกรงขังสัตว์ขนาดเล็กกว่า 27 ชีวิต ที่ดูเหมือนกับว่าถูกนำมาทิ้งไว้ สาว Perez ได้กล่าวว่า “เราเห็นกล่องแปลกๆ วางอยู่บนพื้นแถมยังมีกรงอยู่ข้างใน พอเราเข้าไปดูก็พบกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์ที่ถูกวางทิ้งไว้กลางแดด ไม่มีแม้กระทั่งน้ำและอาหารให้พวกมันอีกด้วย เรายังสังเกตุเห็นลูกหนูแฮมสเตอร์ที่พยายามตะเกียกตะกายออกมาราวกับว่าพวกมันใกล้จะตายแล้วจริงๆ” หลังจากนั้นทั้งสองจึงเริ่มประกาศตามหาเจ้าของจริงๆ เผื่อว่าเค้าจะลืมมันไว้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมา พวกเขาจึงนำมันกลับมาที่บ้านดูแลเอาใจใส่ด้วยการให้น้ำและอาหาร นับว่าเป็นเรื่องดีที่เจ้าหนูน้อยทั้ง 27 ตัวมีชีวิตรอดอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นทั้งสองจึงประกาศหาบ้านให้มันในกลุ่ม Pokemon Go และมีคนอาสานำมันไปเลี้ยงต่อจำนวน 4 ตัว ส่วนเจ้าแฮมสเตอร์ที่เหลือทั้งคู่นำมันไปอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ SPCA ทั้งคู่ได้ออกไปจับโปเกม่อนมาจริงๆ แถมยังช่วยชีวิตเจ้าโปเกม่อนของจริงนี้ตั้ง 27 ชีวิตแน่ะ!! นับว่าเป็นอีกเรื่องราวดีๆ…
-
สาวน้อยวัย 10 ขวบกับความรักที่ยิ่งใหญ่…ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อหาบ้านใหม่ให้กับหมาจรจัดทั้งหลาย
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก เพื่อนๆ หลายคนคงผ่านเรื่องราวมามากมาย ทั้งการเล่นซน การเรียนหนังสือ การไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เป็นต้น ซึ่งตอนเด็กๆ เรามีความฝันที่อยากจะทำนั่นทำนี่มากมาย แต่สุดท้ายบางคนก็ได้ทำ แต่บางคนก็ไม่ได้ทำ เพราะไม่มีการสนับสนุนที่ดี วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้กับเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่มีความใฝ่ฝันแสนยิ่งใหญ่ และตอนนี้เธอก็ได้ทำมันให้สำเร็จไป 1 ก้าวแล้ว Emmy เด็กหญิงวัย 10 ขวบธรรมดาๆ ทั่วไป เธอชื่นชอบที่จะเล่นกับเพื่อนๆ ออกไปชอปปิ้งบ้างเป็นครั้งคราว วาดภาพและประดิษฐ์ของเล่นในยามว่าง แต่เธอเป็นคนที่รักสัตว์เอาซะมากๆ เลยล่ะ ซึ่งความฝันของเธอก็คือช่วยเหลือเหล่าสัตว์จรจัดทั้งหลายบนโลกใบนี้ จนในที่สุดเธอและครอบครัวของเธอก็ได้ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเหล่าสุนัขจรจัดชื่อว่า Emmy’s Hope ขึ้นมา โดยเธอจะไปรับเหล่าน้องหมามาจากสถานสงเคราะห์ต่างๆ แล้วทำการตามหาบ้านใหม่ให้กับพวกมันผ่านทางเว็บไซต์ที่เธอร่วมกันทำกับครอบครัวขึ้นมา ซึ่งล่าสุดเธอได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Laguna Beach และพบกับเจ้าหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Fox เธอก็เลยอยากที่จะช่วยเหลือมันด้วยการนำข้อมูลของมันไปโพสต์ลงหน้าเว็บเพจของเธอเพื่อหาบ้านใหม่ให้กับมัน แต่ด้วยการช่วยเหลือของบริษัท Kleenex ก็ทำให้เจ้า Fox ได้บ้านใหม่สมใจ และนอกจากนี้เจ้าหมาตัวอื่นๆ ที่สถานสงเคราะห์ก็ถูกรับไปเลี้ยงอีกกว่า 40…
-
ชายชาวอินเดียสุดใจบุญ ใช้เงินเก็บทั้งชีวิต ซื้อรถตู้ทำ “รถฉุกเฉิน” ให้กับสัตว์
หลายคนอาจพูดอยู่บ่อยๆ ว่าอยากช่วยเหลือสัตว์อยากไร้หรือจรจัด แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้ เพราะเขาไม่ได้แค่พูดเฉยๆ แต่เขายังลงมือทำด้วย ชายคนนี้มีชื่อว่า Balu เขาเป็นชายธรรมดาๆ ชาวอินเดียคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ มีเพียงจิตใจอันยิ่งใหญ่และพร้อมช่วยเหลือสัตว์โลกเสมอ เขาได้ใช้เงินที่เขาเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ในการซื้อรถตู้คันหนึ่งและเปลี่ยนให้มันเป็นรถฉุกเฉินเพื่อคอยส่งหมาจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วย ไปโรงพยาบาลสัตว์ในเมืองปาลู ประเทศอินเดีย “ตอนแรกผมก็รู้สึกกลัวหมาอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้มันคือชีวิตผมแล้ว ผมไม่สามารถทิ้งมันไปได้ และจะทำอย่างนี้ตลอดไป” นอกจากขับรถฉุกเฉินแล้ว เขายังรับหมาแมวที่บาดเจ็บหรือมีอาการป่วยมาดูแลที่บ้านด้วย เขาทั้งทำแผลและให้ยาพวกมัน จนพวกมันหายดี หลายคนอาจสงสัยว่า เขามีรายได้จากทางไหน เขาเล่าว่า เขามีบริการรับส่งสัตว์เลี้ยงให้กับเจ้าของ โดยมีค่าบริการเพียงกิโลเมตรละ 15 เซนท์หรือราว 5 บาทเท่านั้น ทุกวันนี้เขามีหมาจรจัดอยู่ที่บ้าน 5-6 ตัวเลยทีเดียว เขาบอกว่าบางครั้งสถานดูแลสัตว์มีพื้นที่ไม่พอ เขาจึงรับพวกมันมาอยู่ที่บ้านแทน แม้ว่าเขาจะมีจิตใจที่งดงามขนาดนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชมในสิ่งที่เขาทำ เพราะผู้คนมักมองว่า การช่วยเหลือหมาจรจัดเป็นเรื่องที่ไร้สาระ “ผู้คนส่วนมากก็ชื่นชอบที่สิ่งที่ผมทำนะ แต่มีบางคนก็บอกว่า พวกเขาไม่ชอบที่ผมคอยช่วยเหลือพวกหมาจรจัด” Balu กล่าว ลองไปชมเรื่องราวของเขาแบบเต็มๆ จากคลิปนี้กันเลย …