Tag: ซาบซึ้ง
-
ชายจรจัดช่วยหมาที่ถูกทิ้งกลางถนน เพราะไม่อยากให้มันไม่มีบ้านอยู่เหมือนเขา
คนหัวอกเดียวกันเข้าใจความรู้สึกและความลำบากที่ต้องเจอดีที่สุด ชายไร้บ้านที่ไม่มีบ้านอยู่รู้ดีว่ามันลำบากขนาดไหน เขาก็ไม่อยากให้เจ้าหมาที่โดนทิ้งต้องกลายเป็นหมาจรจัด เลยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อหาบ้านให้กับมัน เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ขณะที่ Angel Janes ขับรถกลับบ้านที่เมืองซอลต์เลค รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็เห็นคนไร้บ้านคนหนึ่งยืนชูป้ายขอเงินช่วยเหลือหรือของานทำอยู่ เธอก็เลยเอาบุหรี่ไปแบ่งให้เขา ตอนที่เธอเข้าไปใกล้ๆ เขา เธอก็เห็นเขาเอาผ้าห่มคลุมตัวให้หมาชิวาว่าตัวหนึ่งแทนที่จะเอาคลุมกันหนาวให้ตัวเอง เธอก็เลยรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับมันมากกว่าตัวเอง แล้วก็เริ่มถามไถ่เรื่องราวของเจ้าหมาจากเขา ชายไร้บ้านแนะนำตัวว่าชื่อ Ron เขาเจอเจ้าหมาเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง มีผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถแล้วทิ้งมันเอาไว้กลางถนน เขากลัวว่ามันจะได้รับอันตรายก็เลยวิ่งไปช่วยมันออกมา สิ่งเดียวที่เขาอยากขอร้องเธอในตอนนี้ก็คือ ให้เธอช่วยหาบ้านให้กับมัน เพราะเขาคิดว่ามันสิ่งที่ควรทำและไม่อยากให้มันอยู่เป็นคนไร้บ้านเหมือนกับตัวเอง Janes รู้สึกประทับใจในการกระทำของ Ron มาก แต่เธอเองก็ไม่รู้จะไปหาให้มันได้ที่ไหน เธอก็เลยโพสต์เรื่องของมันลงบนเฟซบุ๊ก แล้วเพื่อนของเธอก็แชร์โพสต์ต่อไปอีก มีคนแชร์โพสต์ของเธอไปในเพจคนรักสัตว์ Kathleen Dallmann ซึ่งอาศัยอยู่แถวนั้นพอดีเห็นเข้าก็เลยรีบออกมารับตัวมันหลังจาก Janes โพสต์ได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เธอยินดีจะช่วยดูแลมันจนกว่าจะมีคนยอมรับเลี้ยงเจ้าหมา แถมเธอยังให้เงิน Ron อีก 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท)…
-
‘ลูกชาย’ ถึงกับปาดน้ำตา เมื่อพ่อนำรูปของเขาและ ‘แฟนหนุ่ม’ อวดคนอื่นๆ อย่างภูมิใจ
แม้ในปัจจุบันสังคมของเราจะเปิดกว้างในเรื่องของเพศทางเลือกมากยิ่งขึ้น แต่การที่คนในครอบครัวโดยเฉพาะคนเป็นพ่อจะยอมรับกับสิ่งที่ลูกเป็นได้นั้น ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ ครอบครัว ถึงอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่กับครอบครัวนี้อย่างแน่นอน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2018 ลูกชายของครอบครัวดังกล่าวได้โพสต์ภาพลงในทวิตเตอร์ เผยให้เห็นคนเป็นพ่อที่สามารถยอมรับเขาได้อย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะเป็น “เกย์” ก็ตาม คุณพ่อ Louis Sr. และลูกชายที่เป็นเกย์ ลูกชายและแฟนหนุ่มของเขา คุณพ่อที่ชื่อว่า Louis Sr. นั้นทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาเป็นคนที่สนิทกับลูกค้าที่เข้ามากินอาหารในร้านมากๆ จนทำให้ลูกค้าหลายๆ คนถามถึงลูกชายสุดที่รักของเขา เกี่ยวกับการที่ลูกเป็นเกย์และมีแฟนหนุ่มที่ชื่อว่า Christian เมื่อถูกถามอย่างนั้น แทนที่เขาจะเกิดความไม่พอใจหรือรู้สึกไม่ดี เขากลับส่งข้อความไปหาลูกชาย บอกให้ส่งรูปของตัวเองกับแฟนหนุ่มมาให้พ่อหน่อย เพื่อที่เขาจะสามารถนำไปอวดคนอื่นๆ ได้ แชทที่พ่อทักมาขอรูปของเขาและแฟนหนุ่มไปอวดเพื่อน การกระทำเล็กๆ ของคุณพ่อ ทำให้ลูกชายรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าพ่อจะนำความรักของเขาและแฟนหนุ่มไปแชร์ให้คนอื่นๆ รับรู้แบบนี้ Louis Jr. ลูกชายของพ่อที่ยอมรับในเพศของเขา บอกกับทางสำนักข่าว BuzzFeed ว่า “พ่อไม่ได้แค่ยอมรับที่เราทั้งสองคนเป็นเกย์ แต่เขายังให้การยอมรับกับความรักของเราทั้งสองคนอีกด้วย”…
-
คุณพ่อออกมาขับแท็กซี่ ตามหาลูกสาวที่หายไปกว่า 24 ปี จนกระทั่งได้เจอในที่สุด!!
คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนล้วนแล้วแต่รักและต้องการจะอยู่กับลูกๆ ของตัวเอง แต่ความโชคร้ายในบางครั้งอาจกลายเป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าแสนเจ็บปวดหัวใจ เช่นเดียวกับคุณพ่อชาวจีนที่ต้องพลัดพรากจากลูกสาวของตัวเองไปตั้งแต่เมื่อ 24 ปีก่อน คุณพ่อคนนี้มีชื่อว่า Wang Mingqing อาศัยอยู่ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน พร้อมกับภรรยาและลูกสาว จนกระทั่งในวันที่ 8 มกราคม 1994 ขณะที่เขาและภรรยากำลังเร่ขายผลไม้อยู่ตรงถนน เขาก็พบว่าลูกสาวตัวน้อยวัย 3 ขวบหายตัวไปท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากเสียแล้ว คุณพ่อแซ่ Wang ผู้ตามหาลูกสาวมานานกว่า 24 ปี เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางในการตามหาลูก ทั้งติดต่อไปยังสถานีตำรวจให้ช่วยตามหา ปิดป้ายประกาศคนหายตามสถานที่ต่างๆ ออกค้นหาตามสถานรับเลี้ยงเด็กและโรงพยาบาล แม้เขาจะพยายามมากถึงขนาดนั้น ก็ไม่อาจมองเห็นความหวังที่จะได้เจอลูกสาวเลย ทำป้ายจำนวนมาก แปะตามสถานที่ต่างๆ . แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามตามหาลูกสาวต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2015 เขาตัดสินใจมาประกอบอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ให้กับบริษัท Didi Chuxing เพื่อหวังที่จะได้เจอลูกสาวอีกครั้ง ในระหว่างการขับแท็กซี่ของเขา Wang จะถามผู้โดยสารทุกคนอยู่ตลอดว่าเคยเห็นลูกสาวตัวเองบ้างมั้ย? และเขาก็จะเอาการ์ดข้อมูลต่างๆ มอบให้กับผู้โดยสารทุกคน ขอให้คนเหล่านั้นช่วยแชร์ลงในแอปฯ WeChat …
-
คุณยายใจสลายกับการจากไปของสุนัขเพื่อนรัก จนกระทั่งได้อ่านจดหมายสุดซึ้งจากมัน
เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสัจธรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะรู้แบบนั้นแต่เราก็ไม่สามารถทำใจได้ง่ายๆ กับการจากไปของคนใกล้ตัวอยู่ดี คุณตากับคุณยายของ Ashley Bowerman ที่เพิ่งเสียเจ้าหมา Tucker ที่อยู่ด้วยกันมานานไป ก็ยังคงทำใจกับการจากไปของมันไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีข้อความจากเจ้าหมาไว้คอยปลอบประโลมใจ เจ้า Tucker เข้ามาอยู่กับคุณตาคุณยายตั้งแต่มันยังเป็นสุนัขตัวเล็กๆ อยู่เลย มันอยู่กับพวกเขาทุกวันและเป็นส่วนหนึ่งในทุกช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา จนเมื่อไม่นานมานี้มันก็จากไปด้วยวัย 12 ปี ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วบ้าง แต่คุณตากับคุณยายก็ไม่อาจทำใจกับการจากไปของเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาร่วม 10 ปีได้เลย พวกเขาก็เลยเอารูปเจ้าหมาและของเล่นของมันมาวางไว้มุมหนึ่งของบ้าน เพื่อเป็นการระลึกถึงมันตลอดเวลาเหมือนกับมันเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว อย่างไรก็ตามสำหรับคุณยายแล้ว นี่เป็นการสูญเสียที่ทำให้เธอรู้สึกใจสลาย เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรจนกระทั่งไปเจอจดหมายฉบับหนึ่งที่เจ้าหมาเขียนถึงเธอเข้า ในจดหมายมีใจความว่า “ผมอยากให้แม่รู้ว่า แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นลูกหมาตัวเล็กจนถึงตอนที่เราจำเป็นต้องจากกัน แม่ก็ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ตอนนี้ผมได้อยู่ในที่ที่สวยงามและไร้ซึ่งความเจ็บปวดใดๆ แล้ว ผมจะคอยเฝ้ามองดูแม่เหมือนที่ผมทำตลอดมา อยู่ตรงมุมที่หน้าต่างของผม ขอให้แม่มีชีวิตที่สุขสบายนะครับ จาก Tuckie” อันที่จริงแล้วเจ้าหมาไม่ได้เป็นคนเขียนจดหมายหรอก คุณตาเป็นคนเขียนโดยนึกถึงความรู้สึกของมันต่างหาก เขาเขียนมันไว้ตอนช่วงคริสต์มาสปี 2017 เพราะเห็นว่าเจ้าหมาคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก และเขาก็อยากจะมอบมันให้กับคุณยาย ถึงแม้จดหมายจะไม่ได้มาจากเจ้าหมาจริงๆ…
-
หนุ่มจีนขอแฟนสาวป่วย ‘ลูคีเมีย’ แต่งงาน แสดงถึงความรักที่ยังคงอยู่ตราบจนวินาทีสุดท้าย
ความรักคือสิ่งที่สวยงามและไม่มีอะไรจะสามารถพรากสิ่งนี้ออกไปจากใจของเราได้ เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ที่แม้เขาจะรู้ดีว่าแฟนสาวของตัวเองอาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่นาน แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเธอไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต กลายเป็นเรื่องราวอันแสนประทับใจที่ทำให้ใครต่อใครถึงกับต้องยิ้มทั้งน้ำตา หนุ่มชาวจีนคนนี้มีชื่อว่า Chen Junyi เขาคบกับแฟนสาว Xu Yuting มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี แต่ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีความสุขอยู่กับการสร้างช่วงเวลาอันแสนน่าจดจำด้วยกันนั้น วันหนึ่งกลับพบว่าหญิงสาวอาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนหนุ่มเป็นอย่างมาก เรื่องราวอันน่าเศร้านี่เริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2017 เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่า Yuting ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (โรคลูคีเมีย) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอพร้อมจะจากโลกนี้ไปได้ทุกเมื่อ และเธอก็จำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเขต Yanjiao มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน แพทย์ยังบอกกับเธออีกว่าค่ารักษาเยียวยาอาการป่วยของเธอนั้นสูงถึง 1.5 ล้านหยวน หรือประมาณ 7.4 ล้านบาทเลยทีเดียว จึงทำให้เธอรู้สึกกังวลกับเงินค่ารักษาที่แพงมาก เมื่อแฟนหนุ่มทราบถึงอาการป่วยของเธอ เขาก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับเวลาอันน้อยนิดที่เธอมีเหลืออยู่ Junyi จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำ เพื่อมาดูแลแฟนสาวของตัวเองไม่ห่างไปไหน ไม่ใช่เพียงแค่การยอมสละเวลาและหน้าที่การงานของตัวเอง แต่เขายังยอมขายของมีค่าของตัวเองไปเกือบทั้งหมดเพื่อนำเงินมาช่วยค่ารักษาของเธออีกด้วย และถึงแม้ว่ามันจะยังคงไม่มากพอ แต่เขาและเธอก็ต่างไม่ยอมแพ้ต่อช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้ แต่แล้วอาการของหญิงสาวก็ทรุดตัวลงจนน่าเป็นห่วง และนั่นจึงทำให้แฟนหนุ่มทำในสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเขาจะไม่จากเธอไปไหน ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์…
-
คุณพ่อคุณแม่ปั่นจักรยานไกลกว่า 16,000 กิโลเมตร เพื่อไปเชียร์ลูกแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
พ่อแม่ล้วนแล้วแต่ต้องการที่จะไปดูลูกๆ เวลาที่เขาแข่งกีฬา โดยเฉพาะเมื่อลูกของเราคือนักกีฬาทีมชาติในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนเป็นผู้ปกครองรู้สึกอยากที่จะไปอยู่ดูความสำเร็จของลูกด้วยตาของตัวเอง เช่นเดียวกันกับพ่อแม่คู่นี้ พวกเขามีชื่อว่า Guido Huwiller วัย 55 ปี และภรรยา Rita Ruttimann วัย 57 ปี พ่อและแม่เลี้ยงของนักกีฬาสกีฟรีสไตล์ตัวแทนจาสวิตเซอร์แลนด์ Mischa Gasser ทั้งสองคนนั้นตัดสินใจจะไปเชียร์ลูกของตัวเองในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ด้วยการปั่นจักรยานจากเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปยังประเทศเกาหลีใต้ ในระยะเวลาราวๆ 1 ปี Guido และ Rita ตัดสินใจปั่นจักรยานไปเชียร์ลูกชายในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 นักสกี Mischa ตัวแทนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สามีภรรยาคู่นี้เริ่มออกปั่นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 เพื่อหวังที่จะได้ไปถึงการแข่งขันในปีถัดไปได้อย่างตรงเวลา พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องปั่นเกือบทุกวันตลอดระยะเวลาการเดินทาง ทั้งสองฝ่าฟันอุปสรรคเส้นทางอันแสนหฤโหด เดินทางผ่านมากกว่า 20 ประเทศด้วยระยะทางมากกว่า 16,000 กิโลเมตร จนกระทั่งมาถึงที่งานการแข่งขันได้ทันเวลาในที่สุด ทั้งสองบันทึกเรื่องราวการเดินทางเอาไว้ในอินสตาแกรม Guido ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดพิธีกรรมอำลาสุนัขตำรวจที่ป่วยหนักอย่างสุดซึ้ง ทำเอาน้ำตาซึม
สำหรับตำรวจแล้วสุนัขตำรวจก็เปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่พนักงานทั่วไป มันเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี และยังเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย เวลาที่จะบอกลากันจึงต้องทำเหมือนกับตำรวจคนหนึ่งจะพ้นจากหน้าที่เลยทีเดียว สุนัขตำรวจ Pajti เริ่มปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2013 มันประจำการอยู่ที่เมือง Lonoke รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อไม่นานมานี้มันป่วยหนักมากจนจำเป็นต้องปลดมันออกจากหน้าที่ ทางตำรวจจึงจัดงานอำลาให้มันอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ สุนัขตำรวจแสนรู้ Pajti สัตวแพทย์ตรวจพบว่า Pajti เป็นโรค Osteosarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิกหนึ่ง มะเร็งที่ว่านี้แพร่กระจายไปทั่วตัวของมันอย่างรวดเร็วจนร่างกายของมันอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด นายอำเภอ John Staley จึงตัดสินใจปลดมันออกจากหน้าที่เสีย มันจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่อาการของมันก็แย่กว่าที่พวกเขาคิด พอดูอาการแล้วสัตวแพทย์ถึงกับแนะนำให้พวกเขาการุณยฆาตมันเสีย มันจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน เจ้าหน้าที่ Brooks Grabill คู่หูของเจ้าสุนัขตำรวจฟังแล้วก็ใจหายอย่างช่วยไม่ได้ Brooks Grabil คู่หูของสุนัขตำรวจที่ป่วย เจ้าหน้าที่ Rob Ruble เพื่อนของ Grabil บอกว่า “ในฐานะที่เขาเป็นคนดูแลมัน ก็จำเป็นต้องอยู่กับมันตลอด 24 ชั่วโมงเลย ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องรู้สึกผูกพันกันอย่างมาก” เขายังบอกอีกว่า “มันเหมือนกับเรากำลังเสียเพื่อนซี้ไปสักคนหนึ่ง คงจะเป็นแบบนั้นแหละ พวกเขากำลังจะเสียเพื่อนที่สนิทที่สุดคนหนึ่งไป” เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมายืนส่งมันอย่างสมศักดิ์ศรี…
-
หนูและเจ้าตูบเป็นเพื่อนซี้ พอเจ้าหนูตายจากไป เจ้าหมาก็ยังไปเยี่ยมหลุมศพเป็นประจำ
สายสัมพันธ์ของเพื่อนนั้นมีคุณค่ามากจนยากจะหาอะไรเปรียบได้ แม้ว่าเพื่อนจะจากเราไปแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันก็ยังคงอยู่ในความทรงจำเราเสมอ เจ้าตูบตัวนี้ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเพื่อนสนิทของมันก็เพิ่งตายจากไปเช่นกัน สุนัขสีดำตัวนี้ชื่อว่า Barlow มันอาศัยอยู่ที่สถานพักพิงสัตว์อย่างเหงาหงอยเพราะไม่มีครอบครัว เจ้าหมาทำได้เพียงแค่รอวันที่จะตายจากโลกนี้ไปอย่าเงียบๆ อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว้ ทว่าสาวน้อย Liza McKenzie และครอบครัวของเธอได้เข้ามาทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป พวกเขารับเลี้ยงมันเอาไว้และมอบความอบอุ่นให้กับมันอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เจ้าหมารู้สึกอุ่นใจเป็นอย่างมากเมื่อได้อยู่กับครอบครัวนี้ ในที่สุดมันก็มีบ้านเป็นของตัวเองและรู้สึกมีความสุขกับชีวิตนี้เสียที ได้บ้านใหม่แล้วฮะ ชีวิตดี๊ดี เจ้าตูบไม่ใช่สมาชิกใหม่เพียงคนเดียวของบ้านนี้ คุณครูที่สอนสาวน้อยอยู่เลี้ยงหนูอยู่ตัวหนึ่งและมันก็ให้กำเนิดลูกคอกใหม่ออกมา แต่คุณครูไม่สามารถดูแลพวกมันทั้งหมดได้ สาวน้อยก็เลยรับลูกหนูมาดูแล 3 ตัวด้วยความเต็มใจ เธอตั้งชื่อมันว่า Chippy, Dewey และ Mud Truck แต่เจ้า Chippy เป็นหนูที่มีความพิเศษมากที่สุดในกลุ่ม เพราะมันเกิดมาเป็นหนูไร้ขนอยู่ตัวเดียว ลูกเยอะค่ะ ดูแลเองคงไม่ไหว ช่วยแบ่งไปหน่อยนะ ในตอนแรกสาวน้อยก็กลัวว่าหนูทั้งสามจะเข้ากับ Barlow ได้ดีรึเปล่า เพราะหนูน่าจะกลัวเจ้าตูบที่ตัวใหญ่กว่า แต่พอเธอให้พวกมันเจอกันเป็นครั้งแรก ก็ต้องแปลกใจกับความพิเศษของเจ้าหนูไร้ขนอีกครั้งหนึ่ง เธอเล่าว่า “แม้ว่า Dewey…
-
จากโพสต์รับซื้อ “คีย์บอร์ด” ไปสู่เรื่องราวให้กำลังใจสุดซึ้ง ของชายหนุ่มผู้ไม่ย่อท้อ
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Manakit Thawlom ได้โพสต์ข้อความลงไปในเพจ ExtremePC Market 2 เพื่อขอรับซื้อคีย์บอร์ดเพื่อนำมาใช้ในการทำงานของตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจสำหรับโพสต์ของชายคนนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องการซื้อคีย์บอร์ดมือสองจากคนอื่นๆ แต่เขายังพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัวเองที่ทำให้เขาต้องใช้ปากกาในการจิ้มปุ่มคีย์บอร์ด และเรื่องราวของชายคนนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างรู้สึกซาบซึ้งไปตามๆ กัน ชายผู้มีความพิการและเป็นคนที่โพสต์รับซื้อคีย์บอร์ดมือสอง เขาคนนี้รถพลิกคว่ำมาตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ตอนพ.ศ. 2539 จนทำให้หมอนรองกระดูกต้นคอหักทับเส้นประสาท จนทำให้ตั้งแต่คอลงมาไม่มีแรงและความรู้สึกใดๆ หลังจากนั้นเขาได้ทำกายภาพกับทางโรงพยาบาลนานเกือบปี จนกระทั่งแขนเริ่มมีแรงพอจะขยับได้บ้าง และทางโรงพยาบาลก็ได้ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือบริเวณมือของเขา แม่ต้องคอยดูแลเขาในทุกๆ ด้าน แน่นอนว่าความพิการของเขาทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พ่อแม่และน้องสาวจึงต้องคอยดูแลเขาอยู่เสมอ โรงเรียนผู้พิการก็ไม่รับเขาเข้าเรียนเพราะอวัยวะที่ใช้ได้จริงๆ มีแค่หัวกับคอเท่านั้นเอง เขาจึงเรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านหนังสือที่น้องยืมมาให้อ่าน หลังจากนั้นเขาก็ได้เจอกับผู้ใจดีที่บริจาคคอมพิวเตอร์มาให้ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงแค่ Windows 3.1 เรียกว่าเป็นยุคแรกๆ ที่เริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์เลยจริงๆ ครอบครัวที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน ผ่านไป 10 ปี เขาก็เริ่มที่จะหาอะไรทำผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น…
-
หญิงสาวป่วยมะเร็งวัย 27 ปีเขียนจดหมายล้ำค่า บอกเล่าบทเรียนของชีวิต ก่อนเธอจะจากไป…
ช่วงอายุ 20-30 ปี คงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนหนังสือ เริ่มต้นงานที่ตนเองสนใจ ไต่เต้าตำแหน่งในสายงาน ออกไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิต หรือสังสรรค์กับหมู่เพื่อน ซึ่งในวัยนี้เราจะทำอะไรก็ได้ที่ใจนึกเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมากในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว การที่เราอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความว่าเรายังเหลือเวลาในชีวิตอีกมาก มีคนหลายคนที่ต้องจากโลกนี้ไปทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ Holly Butcher เองก็เป็นคนหนึ่งในนั้นเช่นกัน เธอจึงอยากบอกให้ทุกคนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม Holly Butcher Butcher เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เธอป่วยเป็นโรค Ewing’s sacroma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งที่มักพบในคนอายุน้อย เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เธอก็เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิต และเตรียมพร้อมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เธอจึงได้เขียนบทเรียนในชีวิตที่เธอได้เรียนรู็ โพสต์ลงในเฟสบุ๊กของเธอ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจให้หลายๆ คนได้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตน จะได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น โดยมีใจความบางส่วนดังนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนหยุดกังวลกับเรื่องยิบย่อยในชีวิต และคิดให้ได้ว่าเราทุกคนล้วนมีจุดจบเหมือนกันหมด ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีค่า ถ้ามองข้ามเรื่องแย่ๆ ในชีวิตไป” “ในเวลาที่คุณชอบบ่นถึงเรื่องเล็กๆ…
-
หนุ่มบอกเลิกแฟนสาว หลังประสบอุบัติเหตุจนอาจต้องตัดขา แต่ก็ถูกสาวเซอร์ไพรส์กลับ!!
หากว่าแฟนของคุณเกิดอุบัติเหตุและกลายเป็นคนพิการแล้วละก็ คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความลำบากใจ ต่อความสัมพันธ์ในอนาคต จนบางครั้ง พวกเขาตัดสินใจที่จะเลิกรากัน เพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นภาระกับใคร เหมือนกับชายจีนคนนี้ที่กำลังจะแต่งงาน ก็บังเอิญประสบอุบัติเหตุจนต้องพิการเช่นกัน เมื่อเขาทราบก็ตัดสินใจเลิกกับแฟนสาวทันทีเพราะไม่อยากเป็นภาระให้เธอ แต่แฟนสาวรักเขามากและได้พิสูจน์แล้วว่าเธอคือคู่ชีวิตของเขา คู่รักชาวจีนคู่นี้วางแผนที่จะแต่งงานกันในปี 2018 ที่จะถึงนี้ แต่ฝ่ายชายนั้นโชคไม่ดีประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ทางคุณหมอก็บอกกับเขาว่าจำเป็นต้องตัดขาของเขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต เขาจึงต้องกลายเป็นคนพิการ เขารู้ตัวดีว่าหากแต่งงานกับแฟนสาวแล้ว เธอจะต้องลำบากในการดูแลเขาแน่ๆ ด้วยความที่เขาไม่อยากให้แฟนต้องลำบากกับเขาด้วย เขาจึงได้บอกเลิกเธอเสียเลย แต่ทางฝ่ายหญิงนั้นยังรักฝ่ายชายอยู่ เธอไม่เก็บเอาเรื่องที่เขาต้องตัดขาทิ้งมาคิดมาก เธอจึงจะยังคบกับเขาต่อไป แต่เธอไม่ได้วางแผนขอคืนดีกับเขาหรอกนะ เธออยากเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกับเขาเลย เธอเตรียมการกับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะให้พวกเขาเข้าไปเล่นดนตรีสร้างบรรยากาศให้กับเธอ และให้เพื่อนคนอื่นๆ เข้าไปให้กำลังใจเธอพร้อมทั้งเป็นพยานรักให้ด้วย เมื่อคนอื่นๆ เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของเจ้าบ่าวแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาทันที เขาคงนึกไม่ถึงว่าแฟนสาวจะยังไม่ทิ้งเขาไป แม้ว่าเธอจะต้องลำบากมาดูแลเขาเมื่อใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็ตาม หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจึงเดินเข้ามาในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมทั้งถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ ท่าทีของเธอนั้นดูประหม่าและหวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว จากนั้นเธอจึงขอเจ้าบ่าวแต่งงานทั้งน้ำตา เธอบอกกับเขาว่า “ถ้าเกิดคุณยอมรับฉันเป็นเจ้าสาวแล้วละก็ โปรดรับดอกไม้ช่อนี้ไว้เป็นคำตอบตกลงด้วยเถอะ” ทางด้านฝ่ายชายเอง เห็นถึงความรักที่มั่นคงของฝ่ายหญิงขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่มีทางปฏิเสธหรอก เขาจึงรับช่อดอกไม้จากเธอด้วยความเต็มใจ แล้วจึงตอบเธอไปว่า “ผมจะทำทุกวิธีให้ตัวเองหายโดยเร็ว และจะคอยจับมือและฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่” คลิปวิดีโอตอนเจ้าสาวเข้าไปขอแต่งงานกับเจ้าบ่าว ได้เห็นความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันแล้ว…
-
สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศเซอร์ไพรส์ลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนพวกเขา
สถานีโทรทัศน์ FOX5 ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นช่องที่มีชื่อเสียงสำหรับคนท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่การนำเสนอข่าวสารบ้านเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หนึ่งในช่วงโปรดของใครหลายๆ คนก็คือ ช่วง Surprise Squad โดยทีมงานจะออกไปหาคนภายในเมืองเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น ทีมงานได้ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับหลายๆ คนมาตลอด และในเทปหนึ่งที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 เป็นตอนที่ทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Albertsons เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเมื่อเจออย่างนี้เข้าไปแต่ละคนแสดงอาการออกมาอย่างไรกันบ้าง พี่น้องสองคนที่อยู่ในวัยชราทั้งคู่ คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ทางทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด หญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้หน้าจะดูมึนๆ งงๆ ในตอนแรก แต่เธอก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรายการ คุณยายคนนี้ถึงกับบอกว่า “นี่เป็นวันที่ฉันโชคดีมากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันเล่นเครื่อง Keno ได้รางวัลมาราวๆ 1,300 บาท” แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าชอปปิงเองอีกด้วย นี่คือลูกค้าประจำที่มาใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ปี 1964 เรียกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงของร้านมาโดยตลอด เธอจึงไม่แปลกที่ได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ทหารผ่านศึกผู้ช่วยดูแลสุนัขที่กำลังป่วยด้วยเงินของตัวเอง เธอบอกว่า นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของเธอที่มาใช้จ่ายในครั้งนี้ แต่ทางรายการคือคนใจดีที่เข้ามาช่วยชีวิตของเธอและน้องหมาเอาไว้ และคนที่ซาบซึ้งที่สุดสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็คือ Larry ทหารผ่านศึกผู้เคยรับใช้ชาติไปลุยในสงครามเวียดนามมาก่อน นอกจากนั้นเมื่อ 16…
-
เหมียวแก่วัย 16 อาศัยในศูนย์นานกว่า 210 วัน จนเกิดเป็นเรื่องราวและได้พบกับอิสระเสียที
ทุกคนต้องการบ้าน ต้องการความอบอุ่นจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ต้องการเพียงแค่ที่ที่หนึ่งกับคนคนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างเราไปจนวันสุดท้าย เจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน การรอคอยอันยาวนานจนเหมือนกับว่ามันคงไม่ได้รับไออุ่นอย่างที่ฝันไว้ก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียว Kozal วัย 16 ปี เจ้าของเก่าของมันมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่สามารถเลี้ยงมันต่อได้ จึงพามาฝากไว้ที่สถาบันคุ้มครองน้องแมวในเขตซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เพื่อรอให้เจ้าของคนใหม่พามันกลับไปเลี้ยงดู แต่มันคงไม่มีความสุขเท่าไหร่กับการต้องย้ายจากบ้านมาอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ มันจึงพยายามจะหนีออกไปอยู่เสมอ คอยเอาเท้าหน้าเล็กๆ ถูกับกระจกเหมือนว่าจะพังออกมาให้ได้เลย เมื่อรู้ว่ามันไม่สามารถพังออกมาเองได้ ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือรอให้มีคนมารับมันไปเลี้ยง แต่ทว่ากลับไม่มีใครมุ่งความสนใจมาที่มันเลย ทุกคนที่เข้ามาเดินไปหาและรับเลี้ยงแมวตัวอื่นๆ ไปอยู่เสมอ ความน่าสงสารของเจ้าเหมียวชรา (เทียบกับคนอายุประมาณ 80 ปี) ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องราวของเจ้าเหมียว หวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้มีคนเข้ามาช่วยมันออกไปจากกำแพงกระจก พวกเขาต่างพูดถึงความน่ารักน่าชังของมัน แม้มันจะแก่และป่วยเป็นโรคไขข้ออยู่เล็กน้อย แต่ก็เป็นเจ้าเหมียวที่สนุกสนานได้อยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการก็คือบ้านที่แท้จริงและคนที่จะคอยมอบความรักความเอาใจใส่ให้กับมันเท่านั้นเอง เรื่องที่น่าเศร้าของเจ้าเหมียวคือ ยังคงไม่มีใครมารับมันไปเลี้ยงเลย เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ยังคงโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเล็กๆ เพียงลำพังอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาผ่านไป 210 วันนับจากวันที่มันมาอยู่ที่สถาบัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2017 จู่ๆ ก็มีคู่รักที่เดินเข้ามาหา Kozal และพวกเธอได้อ้าแขนรับมันกลับไปเลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของบ้านอันอบอุ่น ในที่สุดความฝันของเจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว…
-
หนุ่มเล่นเกมต่อคำออนไลน์เป็นเพื่อนให้กับคุณยายวัย 86 มาเป็นปี ในที่สุดก็ได้พบกัน!!
หลายๆ คนอาจมองว่าสังคมออนไลน์เต็มไปด้วยเรื่องราวแย่ๆ ความเกลียดชัง หรือการต่อว่าผู้อื่น แต่เพื่อนรักต่างวัยสองคนนี้ได้ทำให้เราเห็นว่ามันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ในเมื่อพวกเขาเองก็ได้เริ่มเป็นเพื่อนกันจากการเล่นเกมออนไลน์ ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากถึง 64 ปีและยังอยู่กันคนละที่อีกด้วย โดย Spencer เด็กหนุ่มวัย 22 ปีจากนครนิวยอร์ก ได้รู้จักกับ Roz คุณยายวัย 86 ปีที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า ผ่านเกมออนไลน์ต่อคำศัพท์ที่ชื่อว่า Words With Friends Spencer และ Roz สองเพื่อนรักที่สร้างมิตรภาพต่างวัยจากการเล่นเกมออนไลน์ เด็กหนุ่มได้เล่นเกมเป็นเพื่อนคุณยายมานานกว่า 1 ปี และได้เล่นเกมไปด้วยกันมากกว่า 300 ครั้ง จนทำให้ทั้งคู่สนิทกันจนเปรียบได้กับเพื่อนที่รักกันมาก ในวันที่ 2 ธันวาคม 2017 Spencer จึงได้เดินทางไปหาคุณยายที่บ้านพักคนชรา และนั่นก็คือการเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ โพสต์ของ Spencer ที่บอกเล่าถึงการได้รู้จักกันครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน และการได้เจอกันครั้งแรกในปีนี้ เด็กหนุ่มได้โพสต์ในอินสตาแกรมด้วยว่า พวกเขาเล่นเกมกันมามากกว่า 300 ครั้งแล้ว…
-
พี่สาวประกาศตามหา ‘รถบรรทุกของเล่น’ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับน้องชายพิการอีกครั้ง
เทศกาลคริสต์มาส คือวันที่หลายๆ คนจะได้รับของขวัญจากคนในครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกดีใจและมีความสุข ซึ่งเป็นเหตุผลให้ผู้ปกครองหลายๆ คนพยายามตามหาของขวัญสุดพิเศษมามอบให้ในวันนั้น เช่นเดียวกับ Cassie Gretschel หญิงสาวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้พยายามตามหาของขวัญให้กับน้องชายของเธอ เธอได้พูดเรื่องราวของน้องชายเธอเอาไว้ใน Reddit ว่า “น้องชายของฉันชื่อ Max เขาได้รับความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่ 5 ขวบ จนตอนนี้เขาอายุ 25 แล้ว สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเยียวยาเขาได้และเป็นของขวัญที่เขาได้รับในวันคริสต์มาสทุกๆ ปีก็คือ ของเล่นรถกระบะตำรวจสีน้ำเงินที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2000” Max วัย 25 ปีผู้มีความผิดปกติทางจิตและร่างกาย ครอบครัวนี้ได้ให้ของเล่นดังกล่าวกับ Max ในวันคริสต์มาสมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่ของเล่นชิ้นนี้เลิกผลิตไปเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงทำให้ในปี 2017 นี้พวกเธอไม่อาจหาซื้อได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อปีก่อนๆ เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกบอกเล่าในโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 เธอได้ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตในการตามหาของขวัญชิ้นนี้ และนั่นก็ทำให้เราได้รู้เลยว่าทุกคนพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันจริงๆ ชาวเน็ตคนนี้ช่วยหาร้านที่ขายของเล่นชิ้นนั้นให้กับเธอ พร้อมทั้งอาสาที่จะจัดส่งจากประเทศฝรั่งเศสไปให้ด้วยตัวเอง ส่วนคนนี้ได้ไปเจอและซื้อมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะส่งของเล่นไปให้เธอแบบฟรีๆ…
-
เจ้าสาวอ่านคำสาบานสุดซึ้งต่อหน้า “ภรรยาเก่าของสามี” ว่าจะดูแลลูกชายของเธอเป็นอย่างดี
หลายคนอาจมองว่าการแต่งงานที่มีภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวมาร่วมงานด้วย เป็นสิ่งที่น่ากระอักกระอ่วนใจ ยิ่งถ้าทั้งสองคนมีลูกด้วยกันมาก่อนแล้วมันก็ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม แต่จากคำพูดของเจ้าสาวคนนี้ก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 ในเว็บไซต์ InspireMore ได้มีการพูดถึงงานแต่งงานของ Katie Hild กับเจ้าบ่าวของเธอ Jeremy ในช่วงการกล่าวคำสาบานของเจ้าสาว เธอก็ได้พูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องซาบซึ้งอย่างมากจนไม่อาจหยุดน้ำตาเอาไว้ได้เลย ในงานแต่งครั้งนี้ได้มี Casey ภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวที่มาพร้อมกับคนรักใหม่ชื่อว่า Tyler และแขกคนสำคัญในงานนี้ก็คือ Landon ลูกชายของ Jeremy และ Casey ภรรยาเก่าของเขา การรวมตัวกันของคนทั้ง 5 เป็นสิ่งที่อาจทำให้บางคนรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง แต่เจ้าสาว Katie ก็ได้ทำให้งานแต่งงานในครั้งนี้เป็นงานแต่งที่น่าจดจำอย่างมากจากคำกล่าวปฏิญาณในความรักของเธอที่ไม่ได้มีให้กับแค่เจ้าบ่าว แต่เธอได้สาบานตนกับทั้ง Casey , Tyler และเด็กน้อย Landon เธอได้ขอให้คนทั้งสามยืนขึ้นและพูดว่า “การเป็นผู้ปกครองร่วมกันคือการแบ่งปันหน้าที่ในการดูแลเด็ก ฉันไม่ต้องการสาบานตนกับแค่ Jeremy เพียงคนเดียว แต่ฉันต้องการสาบานกับทั้ง Casey , Tyler และ Landon…
-
20 ภาพและเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของ ‘แม่’ ผู้เป็นมากกว่าคนให้กำเนิด
แม่คือผู้ให้กำเนิดและมอบความรักให้กับเราเป็นคนแรกของชีวิต สิ่งที่แม่ทุกคนต้องการคือรอยยิ้มแห่งความสุขของลูกๆ ที่เธอพร้อมจะเสียสละทำทุกวิถีทางให้ออกมาเป็นอย่างนั้น นั่นคือความรักอันแสนบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ความสุขของลูกที่ได้รับมากจากแม่ของเราเรียกว่าไม่อาจหาสิ่งใดมาเปรียบได้เลย เพื่อไม่ให้เราลืมความรู้สึกนั้นไป #เหมียวตะปู จึงได้นำภาพและเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของคนเป็นแม่มาชวนให้ทุกคนย้อนกลับไปคิดถึงความรักของพวกเธอกัน แม่ที่ยอมเสียสละบางสิ่งในชีวิตเพื่อลูก เธอคนนี้ยอมลาออกจากงานที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่เพื่อมาดูแลลูกน้อยของตัวเอง จนกระทั่งเด็กโตขึ้นมาจนเริ่มดูแลตัวเองได้ อีกทั้งเธอยังได้รับแรงบันดาลใจจากลูกของตัวเองในการเป็นผู้ประกอบการและสอนเด็กๆ เกี่ยวกับการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แม้ลูกทั้งสามคนนี้จะเติบโตในประเทศอเมริกา แต่คุณแม่ก็พยายามปลูกฝังไม่ให้เด็กๆ ลืมบ้านเกิดของตัวเอง บ้านเกิดของครอบครัวนี้อยู่ในประเทศเอลซัลวาดอร์ แต่พวกเธอและลูกๆ ได้มาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังส่งเด็กๆ ให้ได้ไปเรียนภาษาสเปน บางครั้งคุณยายของทั้ง 3 ก็จะทำอาหารพื้นเมืองจากที่ประเทศบ้านเกิดและพาทุกคนกลับไปเที่ยวในประเทศนั้นเสมอหากมีโอกาส คุณแม่ท่านนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของนิกายลูเทอแรน นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ความอบอุ่นของเธอคือการมอบความรักให้กับลูกๆ ของตัวเองอย่างเปี่ยมล้น แม้ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่บุตรบุญธรรมก็ตาม โดยมีลูกสาวสองคนเป็นแอฟริกัน-อเมริกัน และลูกสาวอีกหนึ่งคนจากประเทศจีน นี่คือครอบครัวที่มีแม่สองคน กับลูกชายอีกสองคนที่พวกเขาได้มอบความรักให้กันและกันอยู่เสมอ ชีวิตของทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยความสุขและความรักที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาแทนที่ได้เลย คุณแม่ผู้เลี้ยงดูและสั่งสอนเด็กๆ ของเธอด้วยความรัก การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่ยากลำบากและต้องเจอกับความท้าทายหลายอย่าง แต่คุณแม่คนนี้ก็ยังคงดูแลและเลี้ยงดูพวกเขาให้โตขึ้นมาได้อย่างมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับการได้ใช้เวลาร่วมกัน แม่ของเด็กจำนวนมาก เธอมีลูกคนแรกเมื่อ 16 ปีก่อน ไปๆ มาๆ เธอก็ได้กลายเป็นคุณแม่ของลูกๆ ถึง 8…
-
คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ของขวัญสุดล้ำค่า ที่ช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นเป็นกอง
ตอนเรายังเป็นเด็ก เวลาที่ได้กล่องของขวัญอะไรมาเราจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและลุ้นว่าด้านในจะเป็นอะไร ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแค่ตอนวัยเด็กเท่านั้น เพราะต่อให้อายุมากขึ้นขนาดไหนเหตุการณ์นั้นก็อาจหวนกลับมาได้เสมอ เช่นเดียวกับคุณยายคนนี้ มีคลิปวิดีโอของคุณยายนิรนามท่านหนึ่งโพสต์ลงในยูทูบ เผยให้เห็นความน่ารักและความซาบซึ้งในตอนที่เธอกำลังลุ้นกับของขวัญวันคริสต์มาส และรู้สึกเซอร์ไพรส์มากเมื่อรู้ว่าด้านในเป็นอะไร ค่อยๆ ถือนะครับคุณยาย คลิปนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า Long Nguyen และใต้วิดีโอก็มีคำอธิบายสั้นๆ ไว้ว่า “ของขวัญคริสต์มาสให้แม่” ตอนแรกที่คุณยายได้รับกล่อง แกก็บอกว่ารู้สึกมันหนักๆ จึงนำมาวางไว้บนตักแล้วค่อยเปิดฝากล่องขึ้นมา ซึ่งเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ภายในแล้ว มันก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจและดีใจเอามากๆ ด้านในคือน้องเหมียวตัวสีดำสุดน่ารักที่กระเด้งออกมาสร้างรอยยิ้มให้กับคุณยาย เธอดีใจมากจนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมาและโอบกอดเจ้าเหมียวเอาไว้ด้วยความรัก สิ่งที่เธอทำสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่เห็นได้อย่างง่ายดาย ยินดีต้อนรับเจ้าเหมียวที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว คุณยายตั้ลล๊ากกก คลิปเซอรไพรส์คุณยายด้วยของขวัญที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ด้วยความน่ารักของเธอและเจ้าเหมียว จึงทำให้ในยูทูบมีคนเข้าดูมากกว่า 1.2 ล้านคน ยอดไลค์กว่า 50,000 ครั้ง และคอมเม้นต์อีกกว่า 3,700 ข้อความ แสดงให้เห็นว่าคลิปนี้สร้างความสุขและความซาบซึ้งให้กับคนอื่นๆ มากขนาดไหน ทุกคอมเม้นต์ต่างรู้สึกซาบซึ้งกับการแสดงออกของคุณยาย จนบางคนถึงกับร้องไห้เลยก็มี ความสุขสามารถทำให้เราย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งจริงๆ สินะเนี่ย ที่มา: inspiremore
-
เจ้าเหมียวที่ชอบแต่ “อาหารในถุง” ใส่จานมาไม่เคยสนใจ เพราะจะเอาไปให้ลูกน้อยได้กิน
เวลาที่เราตั้งใจจะให้อาหารแมวหรือหมาจรจัดตามถนน เราคงจะเทไว้ให้ที่พื้นหรือไม่ก็มีถาดอะไรซักอย่างมารองอาหารให้กับมัน แต่เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้กับแมวตัวนี้ เพราะแมวจรจัดที่ชื่อว่า Dong Suk ในประเทศเกาหลีใต้ จะแตะเฉพาะอาหารที่ใส่ถุงพลาสติกเอาไว้เท่านั้น โดยจะมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยเอาอาหารมาให้มันทุกวันเป็นประจำ เมื่อนำอาหารมาให้มันก็จะคาบไปที่อื่น และมันจะไม่ได้กินตรงนั้นทันที แต่จะคาบอาหารเดินหายไปที่อื่นแทนสร้างความแปลกใจอย่างมาก เธอบอกว่า “ฉันให้อาหารแมวมา 5 ปี แต่เจ้าเหมียวตัวนี้กลับต่างออกไป เพราะถ้าเป็นแมวตัวอื่นจะกินแต่ที่ใส่จานมา ไม่แตะแบบที่ใส่ถุงมาเลย” ถ้าไม่ใส่ถุงแต่ใส่จานมาล่ะก็ มันจะไม่แตะเลย การที่มันเดินหายไปทุกครั้งก็ทำให้เธอสงสัยว่ามันหายไปไหนกันแน่ เธอจึงแอบตามไปดูมัน ภาพที่เห็นคือมันคาบถุงอาหารไปหยุดอยู่ในที่แห่งหนึ่งจนกระทั่งมีลูกแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา ที่แท้มันต้องการเอามาแบ่งให้ลูกน้อยของมันนี่เอง เจ้า Dong Suk ก็แบ่งอาหารให้กับลูกแมวตัวน้อยได้กินอย่างเอร็ดอร่อยขณะที่มันนั่งดูอยู่ใกล้ๆ ภายหลังจึงทราบว่าก่อนหน้านี้มันได้ให้กำเนิดลูกออกมา 5 ตัวและตัวที่เห็นนี้เป็นเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่ ต้องนอนอยู่ข้างถนนอย่างหนาวเหน็บ มีเพียงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของทั้งคู่ ความน่ารักและความห่วงใยของคุณแม่เหมียวตัวนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นต้องซาบซึ้งไปกับมัน คนที่มาให้อาหารมันทุกวันจึงตัดสินใจพามันและลูกกลับไปอยู่ด้วยในบ้านที่แสนอบอุ่น บ้านใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หลังจากนั้นเมื่อเรื่องราวของมันได้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดีย ก็ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในความเป็นแม่ของมันอย่างมาก และต่างก็รู้สึกยินดีที่ในที่สุดมันก็ได้มีบ้านที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข คลิปวิดีโอความน่ารักของแม่เหมียว Dong Suk …
-
เรื่องราวอบอุ่นของ ‘เจ้าเหมียวคูจัง’ ยังจำเสียงเจ้าของเก่าได้ แม้ไม่เจอกันมานาน 2 ปี
บางคนอาจเคยได้ยินมาก่อนว่า แมวไม่ได้มีความรู้สึกผูกพัน เหมือนอย่างที่หมามีให้กับเจ้าของที่ดูแลมันมา และก่อนหน้านี้ก็เคยมีประโยคที่ว่า “ช่วงเวลา 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน เจ้าเหมียวสามารถลืมได้ใน 3 วัน” จนเมื่อได้มีงานวิจัยออกมาบอกว่าแท้จริงแล้ว เจ้าเหมียวทั้งหลายมันสามารถจำเสียงเจ้าของของมันได้ ทำให้ Kalkan ผู้ผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง นำตัวอย่างการทดลองดังกล่าว มานำเสนอในรูปแบบของหนังสั้นสารคดี ที่น่าประทับใจนี้ โดยเป็นเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Kuro กับ Ono ชายวัย 63 ปีเจ้าของคนเก่าของมัน ซึ่งทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานถึง 2 ปีแล้ว อย่างนี้เจ้าแมวมันจะยังจำเสียงเขาได้อยู่มั้ยนะ? ผม Kuro หรือเจ้าของเก่าเรียกว่า คูจัง วัย 10 ปีครับป๋ม คุณ Ono เจ้าของที่ไม่ได้เจอมันมานาน 2 ปี เหตุผลที่ทำให้ชายคนนี้ต้องยกเจ้าเหมียวให้กับคนอื่น ก็เพราะว่าเขาต้องเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงคิดถึงเจ้าเหมียวที่เขาเรียกว่า คูจัง ตัวนี้มาก เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่มีร่วมกันมากมายตั้งแต่ในตอนที่มันยังเป็นลูกแมวตัวเท่าฝ่ามือ นี่เจ้ามนุษย์มาถ่ายทำอะไรกันละเนี่ย จนเมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องอัดเสียงส่งไปให้มันได้ฟัง เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา กลัวว่าเจ้าเหมียวจะจำเสียงเจ้าของเก่าอย่างเขาไม่ได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญเองก็บอกว่า…
-
เรื่องราวรักแท้ที่เกิดขึ้นจริงบนเรือ ‘ไททานิค’ แม้แต่ความตาย ก็ไม่อาจแยกพวกเขาจากกันได้
หนังเรื่อง Titanic คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน เพราะความรักของแจ็คกับโรสมันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน ขนาดที่ว่าตายแทนกันได้เลย แต่ว่าทั้งคู่ก็เป็นเพียงตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวความรักอันสุดแสนประทับใจแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นจริงไปซะทีเดียว วันนี้ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับความรักอันน่าจดจำ ของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไม่อาจพรากกันได้ แม้ว่าความตายจะรอพวกเขาอยู่ก็ตาม “เราอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เธอไปไหน ฉันก็จะไปด้วย” เป็นประโยคที่ Rosalie Ida Strauss พูดกับสามีของเธอ Isidor Strauss ในวันสุดท้ายของชีวิตพวกเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันตั้งแต่อายุเพียง 20 กว่าๆ มีลูกด้วยกันถึง 7 คน โดยสามีนั้นทำงานเป็นนักธุรกิจ และต้องเดินทางออกไปทำงานทั้งในอเมริกา หรือแม้แต่ข้ามไปยุโรป ทว่าทั้งสองก็แทบจะไม่ได้แยกห่างจากกันเลย เพราะภรรยาจะเดินทางไปด้วยกับเขาอยู่เสมอ เรียกได้ว่าติดกันเป็นปาท่องโก๋เลย หรือถ้าหากว่าจำเป็นต้องอยู่ห่างกันจริงๆ ก็จะใช้วิธีการส่งจดหมายพูดคุยกันอยู่ตลอด ชีวิตคู่ของทั้งสองที่แต่งงานกันมา 40 ปี ฟังดูเหมือนจะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากคู่อื่นเท่าไหร่นัก ทว่าสิ่งพิเศษในความรักของทั้งคู่ได้เกิดขึ้นในฉากสุดท้ายของชีวิต ในปี 1912 ทั้งคู่ออกเดินทางหนีหนาวไปที่ยุโรป ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่แหลม Martin ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส จนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้านในนิวยอร์ก…
-
เด็กมะกันวัย 6 ขวบ เขียนจดหมายถึงโอบามา เพื่อขอให้ ‘เด็กชายซีเรีย’ มาอยู่ด้วยที่บ้าน
เมื่อไม่นานมานี้ เราคงเคยเห็นภาพจากสถานการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย และภาพที่สะเทือนใจเราหลายๆ ก็คงจะเป็นภาพ เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่นั่งรออยู่ในโรงพยาบาล ด้วยสภาพคลุกฝุ่น และมีเลือดไหลอาบแก้ม เด็กชาย Alex วัย 6 ขวบ จากนิวยอร์ก ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เห็นภาพอันน่าหดหู่นั้น แต่สิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำเพื่อเด็กชายชาวซีเรียนั้น ทำให้เราถึงกับซาบซึ้ง เพราะ เขาได้เขียนจดหมายถึง Obama เพื่อให้เด็กชาวซีเรียคนนั้นมาอยู่กับเขา และจดหมายฉบับนี้ก็ถูกเผยแพร่โดยทำเนียบขาว Obama เองก็ได้เขียนไว้ใน Facebook ว่า “จดหมายฉบับนี้มาจาก เด็กชายที่ไม่เหยีดหยาม ไม่สงสัย และไม่กลัวอะไรเลย” ทำให้วิดีโอนี้ถูกแชร์มากกว่า 60,000 ครั้ง ในจดหมายของ Alex มีใจความว่า… “ถึงประธานาธิบดี Obama ยังจำเด็กชาวซีเรีย ที่นั่งอยู่ในโรงพยาบาลได้ไหมครับ? ให้เขามาอยู่กับเราได้ไหมครับ…เราจะรอต้อนรับด้วยดอกไม้ และลูกโป่ง มาเป็นครอบครัวเดียวกัน มาเป็นน้องชายของผมนะ” Obama ได้อ่านจดหมายของ Alex ในการประชุมสุดยอดสหประชาชาติว่าด้วยวิกฤตผู้ลี้ภัยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากนั้นทางทำเนียบขาวก็ได้ส่งเจ้าหน้ามาบันทึกเสียงของ Alex ถึงบ้านของเขา Obama ยังได้เขียนไว้ด้วยว่า ‘เราทุกคน ก็ควรจะเป็นเหมือน Alex นะ’ ‘ลองจินตนาการดู…
-
‘ลูกหมี’ ถูกนำมาขายในตลาดสัตว์ป่าลาว โชคดีได้กลุ่มไบค์เกอร์ ช่วยไถ่ชีวิตมันส่งศูนย์ดูแล…
หนึ่งชีวิตก็มีค่า เพราะสัตว์ป่าก็มีหัวใจ อย่าทำร้ายพวกเขาเลยถ้าไม่รักก็หลีกไป #เหมียวขาสั้น เคยได้ยินบุคคลคนคนหนึ่งพูดเอาไว้ ซึ่งมันก็จริงที่สุดแล้ว… เจ้า “เวียงจันทร์” หรือลิตเติลมิซซี่ (Little Missy) เป็นลูกหมีสายพันธุ์หมีหมา (Sun Bear) ซึ่งถูกพลัดพรากจากแม่ของมัน และถูกนำมาขายในตลาดลักลอบค้าสัตว์ป่าในประเทศลาว มันถูกซื้อไปเลี้ยงเสมือนสัตว์เลี้ยงภายในบ้านโดยคนในท้องถิ่น แต่แน่นอนล่ะ เราไม่สามารถคาดหวังให้สัตว์ป่าเชื่อฟังเหมือนกับสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้น ด้วยความผิดหวังที่มันไม่เชื่อฟัง เจ้าของเจ้าเวียงจันทร์จึงตัดสินใจนำมันออกไปขายทิ้ง… ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประเทศลาว ระบุว่า “เนื่องจากการเลี้ยงดูเจ้าเวียงจันทร์นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้เจ้าของตัดสินใจจะขายต่อให้แก่กลุ่มนักธุรกิจชาวจีน” (ถ้าขายไปนี่ไม่รอดแน่ๆ -*-) Michelle Walhout-Tanneau ผู้กำกับการศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประเทศลาว กล่าวว่า “คนในท้องถิ่นทราบว่าในตลาดมืดนั้นหมีหมามีมูลค่าสูง เนื่องจากสามารถนำไปบริโภคและทำเป็นยารักษาโรคได้” อย่างไรก็ตาม นับเป็นโชคดีของเจ้าเวียงจันทร์ ที่ความช่วยเหลือได้เข้ามาหามันก่อนจะถูกนำกลับไปขายอีกครั้ง มันถูกช่วยเหลือโดย กลุ่มนักบิดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้มาท่องเที่ยวที่แขวงไชยบุรี อันเป็นบริเวณที่กระฉ่อนในเรื่องตลาดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ นักบิดกลุ่มนี้ได้บังเอิญมาพบกับเจ้าของเจ้าเวียงจันทร์ และเมื่อพวกเขาทราบเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาจึงได้ร่วมกันช่วยให้เจ้าเวียงจันทร์หลุดพ้นจากชะตากรรมอันโหดร้าย Walhout-Tanneau กล่าวว่า “นักบิดกลุ่มนี้รู้จักศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า พวกเขาจึงหว่านล้อมให้เจ้าของส่งตัวหมีให้กับพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะได้พามันไปเขตป่าสงวนที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ดีกว่าปล่อยให้ชะตากรรมของมันต้องตกอยู่กับกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน” …
-
น่ายกย่อง… พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด ควักเงินตัวเอง ซื้อของกินให้ ‘คนไร้บ้าน’ ผู้หิวโหย
การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทน #เหมียวขาสั้น คนนึงแหละที่เชื่อแบบนั้น เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่เมือง San Antonio รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา นาง Michelle Resendez มารดาของนาย Matthew ได้โพสต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “เหตุการณ์ที่คนเป็นแม่ต้องประทับใจ” เพื่อให้โลกได้รับรู้และร่วมชื่นชมต่อการกระทำของลูกชายเธอ แม่ของเขาบรรยายว่าในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ลูกของเธอทำงานอยู่ ก็มีชายไร้บ้านเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเงินจำนวนครึ่งเซนต์ เข้ามาถามเขาว่ามีอะไรในเมนูที่เขาพอจะซื้อได้ไหม (แค่นั้นคงไม่พอซื้ออะไรหรอกลุง TT) ด้วยความสงสาร Matthew ถามชายคนนั้นกลับไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ คุณอยากจะกินอะไรล่ะ” ชายไร้บ้านจึงตอบกับเขาว่า “อะไรก็ได้ทั้งแหละ ที่จะช่วยบรรเทาความหิวโหยของเขาได้” สิ่งที่ Matthew ทำต่อมา เรียกได้ว่าน่าซาบซึ้งใจสุดๆ เขาควักบัตรเดบิทขึ้นมา และซื้ออาหารให้ชายแก่อย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ยื่นใบเสร็จให้ พร้อมกับบอกให้เขาไปนั่งพักและทำตัวตามสบาย เหตุการณ์อันน่าประทับใจยังไม่จบเพียงเท่านั้น ด้วยความบังเอิญ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเห็นเหตุการณ์อันน่าประทับใจทั้งหมด เธอจึงเขียนไปถึงเจ้านายของ Matthew เพื่อชื่นชมต่อการกระทำของเขา และยังไม่พอ… เธอยังตบทิปแก่เขาอย่างงดงามอีกด้วย!! เหตุการณ์นี้จึงทำให้แม่ของเขาภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีลูกชายที่จิตใจกว้างขวางแบบนี้ สิ่งที่ Matthew ทำนั้น เป็นสิ่งที่ทำออกมาจากใจโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนขอให้ทุกคนจงยืนหยัดต่อการทำความดีต่อไป…
-
Taylor Swift ปฏิเสธเงินค่าตัว 70 ล้านบาทของเศรษฐี แต่เธอกลับไปร้องเพลง ‘ฟรี’ ให้ลูกของเพื่อน
เรียกได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวสุดฮอตอย่าง Taylor Swift แน่นอน เพราะนอกจากเธอจะสวย เก่ง และรวยมากแล้ว Taylor Swift ถือเป็นนักร้องตัวอย่าง ที่มักจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ และคนทั่วโลกได้เห็นเสมอ และในครั้งนี้ เธอก็ได้สร้างเรื่องราวสุดประทับใจอีกเช่นเคย โดยการปฏิเสธเงินค่าตัวถึง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 70 ล้านบาท ที่มหาเศรษฐีจ้างวานเธอให้ไปร้องเพลงในงานแต่งงานของเขา ในเวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า การปฏิเสธของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เหล่าแฟนๆ และคนทั้งโลก ยิ่งหลงรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม เพราะในวันเดียวกันนั้น นักร้องสาวสุดฮอตวัย 25 ปี ได้เลือกไปเข้าร่วมพิธีรับศีลของ ‘Leo’ ลูกชายเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะลืมตาดูโลก แถมยังไปช่วยร้องเพลงให้พวกเขาแบบฟรีๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า ‘เงิน’ ไม่สามารถซื้อ Taylor Swift ได้จริงๆ เหมียวนี่ต้องขอชื่นชมเธอจากใจเลยฮะ เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นภาพนี้ จะต้องซาบซึ้งไปตามๆ กันแน่นอน…