Tag: ซาอุดิอาระเบีย
-
เจ้าอูฐต้องถูกตัดออกจากการประกวด ‘อูฐสวย’ เพราะถูกตรวจพบว่า ‘ฉีดโบท็อกซ์’!?
ทุกๆ ปีที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะมีการจัดงานเทศกาลประจำปีของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลราซิซ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย งานเทศกาลประจำปีนี้จัดขึ้นถึง 28 วัน มีกิจกรรมการเฉลิมฉลองต่างๆ รวมไปถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีแต่คนตั้งตามอง นั่นก็คือ ‘การประกวดอูฐสวย’ ที่มีรางวัลเป็นเงินสดมูลค่าสูงถึง 1.8 พันล้านบาท!!! ด้วยเงินรางวัลที่สูงล่อตาล่อใจเหล่าเจ้าของอูฐทั้งหลาย ทำให้เจ้าของอูฐส่งสัตว์เลี้ยงแสนรักเข้าสู่การประกวด แต่ทางกองประกวดก็ต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเฟ้นหาอูฐที่มีความสวยงามตามธรรมชาติแบบไร้ที่ติ กฎข้อหนึ่งของการนำอูฐเข้าประกวดนี้ระบุไว้ว่า ห้ามโดน ตัดแต่ง ย้อม ดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของอูฐโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในการประกวดทันที ซึ่งในปีนี้มีเจ้าของอูฐ 12 รายถูกตัดสิทธิ์เพราะพบว่ามีการฉีดโบท็อกให้กับอูฐที่เข้าประกวด นอกจากความสวยงามของอูฐแล้วยังมีการประกวดอูฐฉลาด ศิลปะแต่งทรงผมอูฐและภาพถ่ายอูฐยอดเยี่ยม กิจกรรมเหล่านี้ถูกจัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูอูฐที่เป็นสัตว์ประจำชาติของซาอุดิอาระเบีย . . . งานเทศกาลประจำปีนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมายทั้งมหรสพ การดื่มชิมนมอูฐ ชมสิ่งทอ ท้องฟ้าจำลอง เป็นอีกงานหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งคาดกันว่าจะมีประชากรเกือบ 300,000 คนที่เข้ามาร่วมงานเทศกาลประจำปีนี้ ที่มา dailymail
-
เจ้าหน้าที่ตำรวซาอุฯ จับกุม ‘ผู้เกี่ยวข้อง’ ที่ไปร่วมงานแต่งงานคู่รักเกย์ ใครต้องสงสัยจับหมด!!
ในยุคปัจจุบันเรื่องของความหลากหลายทางเพศนั้นถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่บนโลกจะให้การยอมรับ เพราะบางพื้นที่ก็มีแนวคิดและความเชื่อที่ปฏิเสธรักร่วมเพศอย่างสิ้นเชิง…. เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2018 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการแต่งงานของคู่รักเกย์คู่หนึ่ง หลังจากการสืบข้อมูลพบว่างานแต่งงานเล็กๆ นี้ถูกจัดขึ้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย คลิปวิดีโอที่กลายเป็นประเด็น ในคลิปวิดีโอแสดงเหตุการณ์ขณะที่ชายสองคนเดินเคียงข้างกันไปตามพรมแดง ชายคนหนึ่งสวมผ้าคลุมของเจ้าสาวและมีเพื่อนชายคอยพ่นสเปรย์สายรุ้งเพิ่มความสวยงามให้ทางด้านหลัง หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้ออกไปก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวมุสลิมผู้ที่เคร่งครัดในศาสนามากๆ เพราะว่าการแต่งงานกับเพศเดียวกันนั้นถือว่าผิดกฏร้ายแรงของศาสนาอิสลาม ยิ่งไปกว่านั้นงานแต่งงานของคู่เกย์นี้ยังถูกจัดขึ้นในนครเมกกะ นครอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ของชาวมุสลิมอีกด้วย ชาวมุสลิมต่างโกรธแค้นและต่อว่าคู่รักเกย์ถึงการจัดงานแต่งงานอย่างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่เสื่อมทราม พวกเขาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ และต้องการให้ลงโทษความผิดฐานรักร่วมเพศนี้ถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว “มีชายคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าผู้คนที่เข้าร่วมงานต่างก็ตกใจหลังเห็นคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาในงานพิธีและพบว่าทั้งคู่เป็นผู้ชาย แถมมีอีกคนสวมชุดเจ้าสาวอีกด้วย!!” เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ทางตำรวจได้ทำการสืบหาข้อมูลจากคลิปวิดีโอต้นทางที่อัพลงบนทวิตเตอร์ และประกาศว่า ผู้ใดที่เข้าร่วมและมีส่วนรู้เห็นกับงานแต่งงานในครั้งนี้ต้องถูกจับกุมทุกคนและจะถูกฟ้องร้องตามกฎหมายซาอุดิอาระเบีย เรื่องการรักร่วมเพศยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับในประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่ปี 2013 ที่ชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาในประเทศซาอุดิอาระเบียก็เริ่มมีการแสดงออกในการรักเพศเดียวกันเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นที่คัดค้านสายตาของประชาชนชาวซาอุดิอาระเบียที่เคร่งครัดและยึดมั่นในศาสนา ที่มา dailymail
-
นักฟุตบอลทีมเยาวชนซาอุฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังทำท่า “แด็ป” กลางสนาม
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในประเทศซาอุดิอารเบีย หลังจากที่นักกีฬาฟุตบอลรายหนึ่งได้ทำท่าดีใจด้วย ท่า “แด๊ป” ระหว่างการแข่งขันเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์โดย Dawri Plus ผู้สื่อข่าวกีฬาชาวซาอุดีอาระเบีย ที่กำลังทำท่าดังกล่าว พร้อมกับเสียงของผู้บรรยายที่บอกว่า “ไม่ ไม่ ไม่” แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเสียงดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับการทำท่าของนักเตะคนดังกล่าวหรือไม่ นักเตะชุดเยาว์ชนซาอุ ที่กำลังทำท่าแด๊ป หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีชาวซาอุฯ หลายคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าว บางคนบอกว่า “คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดกำลังต่อต้านท่านี้ คุณเป็นนักเตะอาชีพแล้วทำไมยังทำท่านี้อยู่” ส่วนบางคนก็พยายามติดแฮชแท็กไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ การทำท่าดังกล่าวในประเทศซาอุฯ นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเข้มงวดจากทางการโดย ก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้กับนาย Abdallah Al Shaharani นักร้องชื่อดังที่ถูกสอบปากคำหลังจากทำท่าแด๊ปในงานคอนเสิร์ต (อ่านข่าวเก่า นักร้องหนุ่มในซาอุถูกสอบปากคำ เพราะแค่ดันไปทำท่า Dab บนเวทีคอนเสิร์ตซะงั้น!!) ทางคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดของซาอุ ได้ติดประกาศเตือนเกี่ยวกับการทำท่าทางดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า “เด็กและผู้คนในสังคมที่ทำท่านี้ มักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อันตราย” ท่าแด๊ปเริ่มได้รับความนิยมมาจากกลุ่มฮิปฮอปในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประมาณช่วงปี 2010 ก่อนที่จะได้รับความนิยมไปทั่วโลกหลังจากที่นักกีฬาดังๆ ในวงการต่างๆ นำไปใช้เป็นท่าฉลองการทำคะแนน ไม่ว่าจะเป็นนักบาสชื่อดังอย่างเลบรอน เจมส์ หรือนักฟุตบอลชื่อดังอย่างปอล ปอกบา แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของท่านี้ …
-
พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ
การถูกจองจำอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปรารถนาซึ่งความไร้อิสรภาพนี้อาจจะทำให้คนที่ถูกจองจำเกิดอาการเครียดและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพูดถึงเรือนจำทุกคนก็คงจะนึกถึงสภาพของห้องขังที่ชำรุด เก่า สกปรก และสภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเรือนจำที่จะมานำเสนอในวันนี้มันหรูหราซะยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวซะอีก เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพภายนอกเป็นโรงแรมรีสอร์ทสุดหรู ตกแต่งไปด้วยต้นมะกอกอายุ 600 ปี และสวนปาล์มที่รายล้อมไปทั่วเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 52 ไร่ มกุฏราชกุมารโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ทรงได้ออกกวาดล้างจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจรัง ซึ่งผู้ต้องหาล้วนแต่เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และยังมีเจ้าชายอีก 11 พระองค์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย พระองค์ทรงจัดการอย่างเด็ดขาดและไม่เว้นแต่พระญาติเพื่อเป็นการล้มล้างการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรมที่สุด ทางการซาอุดิอาระเบียเพิ่งจะมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำการบันทึกภาพและเก็บข้อมูลโดยสำนักข่าว BBC เท่านั้นและได้มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในอาคารก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของผู้เข้าพักโรงแรมกับส่วนที่เป็นแต่ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แห่งนี้ก็มีครบทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ห้องอาหารขนาดใหญ่ อาหารที่มีมากมายคอยให้บริการ บาร์เครื่องดื่ม ล็อบบี้ ห้องพัก คลิปวิดีโอภายในโรงแรม โรงแรมแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่อย่างใดก็ตามก็ยังไร้ซึ่งอิสรภาพอยู่ดี…
-
รู้หรือไม่ว่า 8 สิ่งเหล่านี้ สำหรับผู้หญิงในประเทศซาอุฯ ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด!!
บางคนอาจทราบกันบ้างแล้วว่าประเทศซาอุดิอาระเบียห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถแต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวออกมาแล้วว่ากษัตริย์ Salman ได้ทรงอนุมัติให้ผู้หญิงสามารถทำสิ่งนี้ได้แล้ว สร้างความยินดีให้กับทั้งคนในประเทศและทั่วโลก อย่างไรก็ตามผู้หญิงของประเทศนี้ยังคงต้องใช้ชีวิตภายใต้ “ระบบการปกครองโดยเพศชาย” อยู่ ซึ่งทำให้คนที่เป็นสามี ลูกชาย หรือพ่อพวกเธอเป็นคนควบคุมอิสระต่างๆ เกือบทุกเรื่องในชีวิต ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึง 8 ข้อห้ามที่ผู้หญิงในประเทศนี้ไม่สามารถตัดสินใจลงมือทำได้ด้วยตัวเอง มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรกันบ้าง การแต่งงาน การแต่งงานของพวกเธอต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น หากต้องการจะแต่งงานกับชาวต่างชาติก็จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงกิจการภายในประเทศ ที่สำคัญคือการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้เป็นชาวมุสลิมแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เปิดบัญชีธนาคารเป็นของตัวเอง เนื่องจากประเทศนี้มีเพียงไม่กี่อาชีพที่ผู้หญิงสามารถทำได้โดยไม่ต้องให้ผู้ชายอนุญาตก่อนอย่างเช่น งานผู้ช่วยร้านค้าหรือการขายของในตลาดนัด จึงทำให้พวกเธอไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารเป็นของตัวเองได้โดยไม่ได้รับอนุญาต การแบ่งสัดส่วนอย่างเท่าเทียม ตามกฎหมายแล้วผู้หญิงจะมีสิทธิ์เท่ากับครึ่งหนึ่งของผู้ชาย และนั่นจึงทำให้พวกเธอได้รับมรดกเพียงแค่ครึ่งเดียวของที่พี่น้องผู้ชายเธอได้รับ แสดงให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน การเดินทาง พาสปอร์ตและบัตรประจำตัวของผู้หญิงจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลฝ่ายชายของเธอซะก่อนถึงจะสามารถมีได้ และไม่อนุญาตให้พวกเธอออกจากบ้านไปเพียงลำพัง การแต่งกายตามที่ตัวเองต้องการ การแต่งตัวเพื่อความสวยงามเป็นสิ่งผิดกฎหมายประเทศนี้ผู้หญิงต้องใส่ชุดอาบายา (Abaya) เพื่อปกปิดร่างกายเวลาที่ออกมาข้างนอกเท่านั้น แต่ปัจจุบันเรื่องของสีสัน การตกแต่ง และรูปแบบของผ้าคลุมศีรษะสำหรับชุดดังกล่าวก็เริ่มปล่อยให้มีความหลากหลายมากขึ้นแล้ว การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชาย การพูดคุยหรือใช้เวลาร่วมกันชายคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวจะมีช่วงเวลาที่จำกัด ในที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือมหาวิทยาลัยก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งสำหรับการมานั่งเป็นครอบครัว อีกส่วนแบ่งไว้ให้สำหรับผู้ชายเท่านั้น การรักษาทางการแแพทย์ที่สำคัญต่อชีวิต ทั้งกระบวนการหรือการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตของผู้หญิงจะต้องมีลายเซ็นของผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กันก่อน ถึงจะสามารถเริ่มการรักษาได้…
-
กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียทรงอนุญาตให้เพศหญิงสามารถทำ “ใบขับขี่” เป็นครั้งแรกใบประวัติศาสตร์
ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติอาหรับ เมื่อล่าสุดกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียได้ทรงมองเห็นถึงปัญหาเรื่องสิทธิของผู้หญิง และทรงเปลี่ยนแปลงกฏหมายใหม่เพื่อให้พวกเธอมีสิทธิมากขึ้น… สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน พระมหากษัตริย์ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชาติเมื่อวันอังคารที่ 26 ที่ผ่านมาว่า จะมีการอนุญาติให้ผู้หญิงในประเทศสามารถมีใบขับขี่ได้แล้ว หลังจากที่กีดกันเพศหญิงในสิทธิต่างๆ มาเป็นเวลานาน โดยใบขับขี่ดังกล่าวจะมีผลเหมือนกับผู้ชายทุกประการ… พระราชกฤษฎีกาที่ประกาศออกมานั้น ยังรวมถึงการสั่งให้จัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย การเงิน รวมถึงแรงงานและการพัฒนาสังคม โดยพวกเขาจะได้รับมอบหมายให้ศึกษาพร้อมจัดเตรียมคำสั่งภายใน 30 วันและเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการดำเนินการตามคำสั่งภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2561 Latifa Shaalan หญิงสาวผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกสภา Shura Council ของประเทศซาอุดิอาระเบียได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Al Arabiya ว่า “นี่ถือเป็นชัยชนะในรอบหลายปีของผู้หญิง เพราะเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่พวกเราหญิงสาวชาวซาอุฯ สู้กันมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่แค่ปีสองปี แต่เป็นสิบๆ ปี โดยทุกครั้งที่เราถามเรื่องเหล่านี้ไป เราก็จะถูกตอบกลับมาว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่สมควร” ด้านเลขาธิการสหประชาชาติ Antonio Guterres ก็ออกมาบอกว่า เขายินดีมากกับก้าวสำคัญของประเทศซาอุดิอาระเบียที่พร้อมจะเดินไปข้างหน้า เพราะนี่เป็นความคิดที่ดีมากๆ Ghada Ghunaim นักเขียนชาวซาอุได้บอกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี่้จะส่งผลสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องสำนึกไว้ก่อนเลยว่าประชากรผู้หญิงที่มีการศึกษานั้นเริ่มสูงเทียบเท่ากับผู้ชายแล้วด้วย… ประเทศอื่นๆ เขาเริ่มก้าวไปแล้ว แล้วเราล่ะไปข้างหน้าหรือกลับหลังกัน… ที่มา alarabiya
-
นักร้องหนุ่มในซาอุถูกสอบปากคำ เพราะแค่ดันไปทำท่า Dab บนเวทีคอนเสิร์ตซะงั้น!!
บางคนอาจจะพอทราบกันว่าในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นจะเข้มงวดในเรื่องของกฎระเบียบเป็นอย่างมากว่าอะไรที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ เช่น จูบกันในที่สาธารณะที่จะทำให้คุณต้องโดนจับ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ไม่เหมาะสม หรือแต่งตัวผิดระเบียบเองก็เช่นกัน แต่ที่น้อยคนจริงๆ จะรู้ว่าแค่เราทำท่า Dab ก็ถือว่าผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน หากใครสงสัยว่ามันคืออะไรก็คือการเอาแขนข้างหนึ่งเหยียดตรงไปด้านข้าง อีกข้างก็จะงอข้อศอกปลายนิ้วชี้ไปทางเดียวกัน เหมือนกับรูปด้านล่าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ Abdallah Al Shaharani ดาราและนักร้องของประเทศดันไปทำท่านี้ในงาน Taif Festival จึงได้ไปกระตุ้นสายตาของเจ้าหน้าที่เข้าทำให้พวกเขาไม่แฮปปี้กันซักเท่าไหร่ หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมการทำท่านี้ถึงได้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนั่นก็เพราะว่า การทำท่าทางดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการพูดถึงกัญชา ซึ่งนับเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศแถบตะวันออกกลาง และการแสดงออกบนเวทีนั้นยิ่งเหมือนเป็นการชี้นำผู้อื่นให้ไปในทางที่ไม่ดี คลิปวิดีโอการทำท่า Dab บนเวทีของเขา ถ้าดูในคลิปจะเห็นได้ว่ามันเป็นเพียงระยะสั้นๆ ที่เกิดจากการเสียงเชียร์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามนักร้องหนุ่มคนนี้ก็ได้ออกมาขอโทษผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวและอยากให้ทุกคนยอมรับกับคำขอโทษของเขา นั่นจึงทำให้มีบางส่วนที่สนับสนุนเขาและอยากให้พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แนวคิดที่ว่าท่าดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดนั้นเริ่มต้นเมื่อปีที่ผ่านมา ในตอนที่มีสองสาวไนจีเรียถ่ายภาพตัวเองกำลังทำท่านั้นขณะที่กำลังทำการแสวงบุญอยู่ในนครเมกกะ ในขณะที่บางคนก็ชื่นชมกับรูปภาพ แต่คนที่เหลือนั้นเรียกพวกเธอว่าเป็นนางมารร้าย หรือคนนอกศาสนา นั่นก็ถือว่าเป็นการตีความหรือความเชื่อที่แตกต่างกันไป เวลาเราไปที่ต่างๆ ก็คงต้องศึกษาเอาไว้ซะหน่อย ไม่งั้นโดนตำรวจรวบขึ้นมาคงจะลำบากแย่ ที่มา: ladbible
-
รัชทายาทซาอุฯ เตรียมออกกฎให้ผู้หญิงใส่บิกินี่ได้ บนชายหาดใหม่ที่กำลังจะสร้างในเร็วๆ นี้
เป็นที่รู้กันดีว่าผู้หญิงซาอุดิอาระเบียนั้นจะต้องปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแต่งกายที่ต้องปกปิดเรือนร่างอย่างมิดชิด ชุดว่ายน้ำนะเหรอ ลืมไปได้เลย แต่ตอนนี้รัชทายาทองค์ใหม่ของซาอุดิอาระเบียได้เตรียมประกาศคลายความเคร่งเครียดของกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งกายของผู้หญิงบนชายหาดใหม่ที่กำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ องค์รัชทายาท Mohammed bin Salman กล่าวว่า กฎหมายที่กำลังจะนำมาบังคับใช้นี้ มีผลทำให้ผู้หญิงสามารถสวมใส่บิกินี่บนชายหาดแทนชุดอาบายะห์ได้ ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนเดรส แต่กฎหมายดังกล่าวนี้มีผลเฉพาะโครงการ Red Sea เท่านั้น ซึ่งมีแพลนที่จะสร้างขึ้นในเร็วๆ นี้ ทางบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทางของทุนมั่งคั่งของซาอุได้กล่าวว่า “โครงการ Red Sea จะถูกสร้างขึ้นเป็นรีสอร์ทที่หรูหรา โดยจะตั้งอยู่ตามเกาะต่างๆ ของลากูน ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม” โครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2019 และคาดหวังไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการกว่าล้านคนในระยะเวลา 20 ปี หลังเปิดบริการ อย่างไรก็ตาม กว่าจะชายหาดดังกล่าวจะเปิดให้เข้าไปใช้บริการ ต้องรอจนถึงปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทั้งการสร้างกฎหมายใหม่นี้ก็เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและจะนำมาซึ่งการท่องเที่ยวอันหรูหราในยุคสมัยใหม่ และเพื่อนำซาอุดีอาระเบียไปสู่แผนที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศด้วย นอกจากนี้โครงการยังมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค เนื่องจากต้องการลดเศรษฐกิจที่พึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นซาอุดิอาระเบียยังคงรักษากฎหมายอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับสิทธิสตรีรวมทั้งกฎที่ห้ามมิให้ขับรถหรือออกจากบ้านโดยไม่มีผู้ชาย และหากเราได้ติดตามข่าวด้านนี้จะเห็นว่าก่อนหน้านี้หญิงสาวคนหนึ่งถูกจับในข้อหามาเดินเมืองซาอุดีอาระเบียด้วยเสื้อรัดรูปและใส่กระโปรงสั้น ด้วยเหตุนี้องค์รัชทายาทองค์ใหม่จึงต้องการเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้เข้ากับโลกสมัยใหม่ ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ จนได้รับการยกย่องจากประชาชนจำนวนมาก ที่มา ladbible
-
เจ้าชายซาอุถูกจับกุม หลังกษัตริย์ทรงเห็นคลิปวิดีโอข่มขู่ และทำร้ายร่างกายประชาชน
ในประเทศซาอุดิอาระเบียมีคลิปหลุดออกมาในโลกออนไลน์เห็นถึงการทำร้ายร่างกายของผู้ชายคนหนึ่ง และยังได้ใช้ปืนไรเฟิลจ่อไปที่อีกคนหนึ่งในคลิปนี้ด้วย ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายเพราะชายผู้กระทำการดังกล่าวคือหนึ่งในเจ้าชายของประเทศนี้เอง กษัตริย์ Salman ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ทำการจับกุมและสอบสวนเจ้าชาย Saud bin Abdulaziz bin Musaed bin Saud bin Abdulaziz หลังจากที่ทรงเห็นคลิปวิดีโอที่เจ้าชายทรงจ่อปืนคนที่กำลังอ้อนวอนด้วยสภาพเลือดเต็มตัว คลิปดังกล่าวได้มีผู้เข้าชมมากกว่า 760,000 ครั้ง และแสดงให้เห็นถึงเหล้าวิสกี้จำนวน 18 ขวดพร้อมกับเงินเป็นตั้งๆ วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งการขายหรือบริโภคแอลกอฮอล์ภายในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นถือเป็นสิ่งที่ถูกห้ามด้วยเช่นกัน และได้มีอีกหลายคลิปที่เห็นว่าเจ้าชายทรงทำร้ายร่างกายประชาชนอย่างการต่อยตีคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ หรือทรงด่าทอสาปแช่งกับชายที่จอดรถหน้าบ้านในสภาพที่ชายคนนั้นชุ่มไปด้วยเลือด ทำให้ในตอนนี้ได้มีแฮชแท็กเกิดขึ้นมาในทวิตเตอร์ภาษาอาหรับว่า “เจ้าชายกระทำผิดต่อประชาชน” เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ ภายหลังการจับกุม กษัตริย์ทรงสั่งให้ไม่มีการปล่อยตัวใดๆ ทั้งตัวเจ้าชายและผู้สมรู้ร่วมคิด จนกว่าศาลจะตัดสินตามกฎหมายอิสลามในประเทศ นอกเหนือจากนั้นก็ทรงรับสั่งให้ประชาชนให้ตื่นตัวกับความเห็นแก่ตัวในเรื่องของสถานะ หรือการใช้อำนาจไปในทางที่ผิด และก็ได้มีวิดีโอออกมาให้เห็นว่าเจ้าชายในชุดสีดำถูกล็อคกุญแจมือและขาถูกล่ามโซ่โดยถูกควบคุมตัวเข้ามาภายในอาคารโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากจับกุม ก็มีคำพูดสนับสนุนการตัดสินพระทัยขององค์กษัตริย์อยู่เป็นอย่างมาก และยังมีนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนอออกมาแสดงความคิดเห็นว่า คำสั่งนี้นั้นทำให้เห็นว่าผู้มีอำนาจนั้นมีความหละหลวมขนาดไหนเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมาจากคนในพระราชวงศ์ จึงไม่กล้าที่จะทำอะไร จนกระทั่งกษัตริย์ Salman ต้องมาสั่งการด้วยพระองค์เอง… คลิปวิดีโอการทำร้ายร่างกายของเจ้าชายซาอุดิอา่ระเบีย ความรุนแรงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นมาให้เห็นได้เลยไม่ว่าจะเป็นคนในระดับหรือชนชั้นใดในสังคมก็ตาม… ที่มา: telegraph
-
ชาวเน็ตแดนอาหรับโจมตีหนัก รับไม่ได้กับสาวนางแบบนุ่งสั้น ถ่ายคลิปเดินเล่นในโบราณสถาน!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อล่าสุดได้มีนางแบบสาวนางหนึ่งไปเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ในดินแดนตะวันออกกลาง พร้อมกับถ่ายคลิปลงแอพพลิเคชั่น Snapchat ภาพที่ปรากฎนั้นเป็นตัวเธอเองนุ่งกระโป่งสั้นเสื้อครอปท็อป ซึ่งทำให้ชาวเน็ตที่นับถือศาสนาที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ดังกล่าวเกิดความไม่พอใจสุดขีด!! นางแบบสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Khulood ซึ่งเธอได้ไปยังเมือง Ushaiqer ซึ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งในประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยถ่ายอัดคลิปสั้นๆ ในระหว่างที่เธอเดินท่องเที่ยวชมเมือง ทว่าเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความไม่พอใจกันยกใหญ่ เพราะว่าการแต่งกายของเธอนั้น ถือเป็นการเย้ยกฏหมายของประเทศที่เน้นเรื่องการแต่งกายอย่างเข้มงวด ความเห็นชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็จะออกไปประมาณว่า บุคคลที่ไม่ให้ความเคารพในกฏของอาณาจักรจะต้องถูกลงโทษ หรือคนที่ไม่คารพกฏหมายจะต้องถูกจัดการอย่างถึงที่สุด ไม่พอแค่นั้น Ibrahim al-Munayif นักเขียนชาวซาอุฯ ที่มีผู้ติดตามกว่า 4 หมื่นคนก็ออกมาทวีตในทางเดียวกันว่า “เช่นเดียวกับเวลาที่ใครก็ตามต้องเคารพกฎของประเทศที่พวกเขาเดินทางไป ฉะนั้นพวกคุณก็ควรจะเคารพกฎของประเทศนี้ด้วยเช่นกัน” และแน่นอนว่าเมื่อมีคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ย่อมมีคนที่เห็นด้วย ชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งก็ต่างออกมาพูดและปกป้องนางแบบสาวคนดังกล่าวทำนองว่า… โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และนักท่องเที่ยวทุกคนก็ไม่ได้สวมใส่ชุด Abaya เหมือนกับคนในประเทศหรอกนะ หรือในอีกทำนองว่า เธอโพสต์คลิปดังกล่าวในพื้นที่ของเธอ พวกคุณไปติดตามและมีปัญหาเองนี่ สุดท้ายแล้วทางการของประเทศซาอุดิอาราเบีย ก็ไม่ได้ทำการจับกุมหญิงสาวแต่อย่างใด รวมถึงด้านเจ้าชายของประเทศอย่าง เจ้าชาย Mohammed bin Salman ก็เป็นคนที่เปิดกว้างมากๆ ด้วย ซึ่งประเด็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นจึงเป็นแค่ความคิดเห็นของชาวเน็ตนั่นเอง ที่มา dailymail
-
เจ้าหญิง ‘Ameerah Al Taweel’ แห่งซาอุดิอาระเบีย ผู้งดงามเลอโฉมทั้งภายนอกและภายใน!!
จากที่เว็บเหมียวของเราได้ทำการเผยแพร่เรื่องราวของ เจ้าชายของประเทศดูไบ กันไปเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจเสียจริงๆ เพราะนอกจากพระองค์จะทรงมีหน้าตาและรูปร่างที่ดูดีแล้ว ยังทรงพระปรีชาสามารถอีกหลากหลายประการด้วยกัน และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับทางฝ่ายหญิงกันบ้าง เป็นเจ้าหญิงของประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ตามความเชื่อทางศาสนาของตะวันออกกลางแล้วเพศหญิง จะเป็นเพศที่มีข้อจำกัดอยู่หลายประการ ทั้งการแต่งกายให้มิดชิด การศึกษาเล่าเรียน การเดินทางไปไหนมาไหนตัวคนเดียว เป็นต้น คือมีหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนเพียงอย่างเดียวนั่นเอง แต่สำหรับเจ้าหญิง Ameerah Al Taweel แห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย เลือกที่จะปฎิเสธขนบธรรมเนียมดั้งเดิม และเลือกที่จะใช้ชีวิตตามแบบของพระองค์เอง ทั้งการศึกษา การแต่งตัว และไลฟ์สไตล์ต่างๆ พระองค์ทรงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาในสาขาบริหารธุรกิจ และเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนในประเทศของพระองค์นั้นสมควรมีสิทธิ์ในการเลือกใช้ชีวิตของตัวเอง และพยายามที่จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นจริงให้จงได้ โดยเริ่มจากที่ตัวของพระองค์เอง เจ้าหญิง Ameerah ไม่เพียงแค่มีพระพักตร์ที่เลอโฉมเพียงเท่านั้น แต่พระองค์ทรงมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างแท้จริง เพราะพระองค์ได้ทำการช่วยเหลือเหล่าราษฎรที่ทุกข์ยาก ไม่ใช่แค่เพียงแต่ในประเทศซาอุดิอาราเบียเท่านั้น แต่เป็นเหล่าผู้คนที่ทุกข์ยากในหลากหลายประเทศทั่วโลก พระองค์ทรงก่อตั้งมูลนิธิมากมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบกับความยากไร้ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในประเทศแอฟริกาตะวันตก อีกทั้งให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในปากีสถานด้วย นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์การเรียนรู้อิสลามที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เพื่อวางแผนทำภารกิจช่วยเหลือผู้คนในโซมาเลียอีกด้วย …
-
สามีชาวซาอุฯ ฉุนจัด ก่อเหตุยิง ‘หมอทำคลอด’ ของภรรยาตัวเอง เพียงเพราะหมอเป็นผู้ชาย!?
กลายเป็นเรื่องที่คาดฝันเกิดขึ้นเลยล่ะ เพราะตามปกติแล้วหมอทำคลอดนั้นเราไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นเพศใดก็ได้ เพียงแค่เป็นคุณหมอที่มีความสามารถในการทำคลอดให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาล King Fahad Medical City เมืองริยาด ประเทศอุดิอาระเบีย หลังจากที่คุณหมอ Muhannad Al-Zabn ช่วยทำคลอดให้กับภรรยาของคุณพ่อมือใหม่ได้สำเร็จในเดือนเมษายนที่ผ่าน ทางคุณพ่อมือใหม่ก็ทำทีว่าอยากจะพบกับคุณหมอเพื่อทำการขอบคุณ โดยนัดพบกันในสวนหย่อมของโรงพยาบาล เมื่อเจอหน้ากันเขากลับควักปืนยิงคุณหมอแทน หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คุณหมอ Muhannad Al-Zabn ถูกนำส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการเป็นการด่วน โชคดีที่เขานั้นรอดพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนชายคนดังกล่าวพยายามหลบหนีการจับกุมหลังก่อเหตุ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นจากฝีมือของตำรวจซาอุดิอาระเบียไปได้ สำหรับแรงจูงใจก่อเหตุนั้น พอสอบสวนไปๆมาๆ ก็สารภาพว่าเป็นเพราะว่ารู้สึกไม่พอใจกับการที่ให้หมอผู้ชายมาทำคลอด เห็นคู่สมรสของตัวเองในสภาพเปลือย ควรที่จะให้หมอผู้หญิงมาทำหน้าที่นี้มากกว่า!! #เหมียวเลเซอร์ นี่เงิบไปเลยทีเดียว ที่มา : gulfnews, dailymail, newsweek, metro
-
ซุปตาร์ชายชาวซาอุฯ โดนตำรวจรวบตัวกลางห้าง เพราะว่าหล่อเกินจนสร้างความวุ่นวาย!!
เรื่องไม่เป็นเรื่องกันอีกแล้วกับความหล่อระดับร้อนระอุทะลุปรอทวัดอุณหภูมิของพ่อหนุ่มซุปตาร์นักแสดงชื่อดังจากซาอุดิอาระเบียรายนี้ แบบว่าความหล่อของเขานั้นเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลางห้างสรรพสินค้า!! พ่อหนุ่มนักแสดงสุดหล่อผู้นี้มีชื่อว่า Abdul Aziz al-Kassar มีชื่อเสียงโด่งดังจากรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ รวมไปถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ และด้วยหน้าตาที่หล่อแบบเวอร์วังของเขานั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีแฟนคลับทั้งสาวน้อยและสาวใหญ่ติดตามมากมาย จนกระทั่งความหล่อก็ทำเรื่องให้กับเขาจนได้ ในขณะที่กำลังเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงริยาด เพื่อออกงานตามปกติ แต่ข่าวการมาของเขานั้นแพร่กระจายไปในหมู่แฟนคลับอย่างรวดเร็ว จนมาดักรอต้อนรับในห้างอย่างหนาแน่น จนเจ้าหน้าที่ถึงกับต้องควบคุมตัว Aziz al-Kassar ออกไปจากห้าง เนื่องจากสร้างความวุ่นวายในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามการที่เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่นั้น ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเลย ซึ่งเขาก็เคารพและเข้าใจในการทำหน้าที่ของเข้าหน้าที่เพื่อความสงบเรียบร้อย และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีแฟนคลับแห่ตามมามากมายถึงขนาดนี้ แหม่!! ก็หล่อซะขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากสัมผัสตัวเป็นๆ ของพี่นั่นแหละ ปิดท้ายกันด้วยเพลงนี้ละกัน ขอโทษจริงๆ ที่เกิดมาหล่อ ที่มา : metro