Tag: ดราม่า
-
ดราม่าญี่ปุ่น ครูไม่ให้คะแนนเด็ก เพราะไม่ใช้ “ไม้บรรทัด” ขีดเส้น แม้คำตอบจะถูกแล้วก็ตาม
พอเข้าใจได้ว่าวิชาคณิตศาสตร์นั้นเป็นวิชาที่ยากสำหรับใครหลายคน หลายครั้งเมื่อทำการบ้านวิชานี้ส่งครูเมื่อไหร่ก็จะต้องมีผิดมีพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เหตุการณ์ในวันนี้ กลับเป็นความผิดที่ชวนงงงวยสุดๆ เพราะคำตอบที่ได้จากการคำนวณนั้นถูกต้องเป๊ะๆ แต่ครูก็ยังให้ผิดเพียงเพราะ “ไม่ใช้ไม้บรรทัดในการขีดเส้น” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @Toraphgu ผู้เป็นครูกวดวิชาได้โพสต์ภาพการแก้โจทย์การคูณตัวเลขของนักเรียนคนหนึ่ง ที่แม้ว่าจะมีคำตอบที่ถูกต้องแต่คุณครูที่โรงเรียนกลับให้ผิดเพราะว่าเส้นแนวนอนไม่ใช้ไม้บรรทัดในการช่วยขีด คำตอบถูกต้อง แต่ผิดเพราะไม่ใช้ไม้บรรทัด @Toraphgu เขียนอธิบายบนทวีตดังกล่าวว่า “วันนี้ผมตกใจมากที่เห็นนักเรียนกวดวิชาคนหนึ่งของผม ถูกครูที่โรงเรียนตัดสินว่าผิดเพียงเพราะเขาแสดงวิธีทำด้วยมือเปล่าๆ และไม่ได้ใช้ไม้บรรทัด” เมื่อชาวเน็ตผ่านมาเห็นเรื่องดังกล่าวก็เข้ามาคอมเมนต์กันยกใหญ่ เช่น… “ผมคิดว่าครูในโรงเรียนน่าจะทำงานหนัก…หนักจนกลายเป็นบ้า” “ลูกของผมก็มาฟ้องเรื่องแบบนี้ประจำ ผมก็งงว่ามันเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ตรงไหน เขียนด้วยมือมันก็โอเคนี่นา” “ผมว่าไม้บรรทัดมันก็มีข้อดีของมันนะ แต่มาลงโทษเด็กที่ไม่ใช้ไม้บรรทัดแบบนี้มันออกจะผิดประเด็นไปหน่อย” “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนฉันถูกสอนไม่ให้ใช้ไม้บรรทัดนะเพราะว่ามันเสียเวลา” “หรือว่าคุณครูเขาจะมีเอี่ยวกับบริษัทผลิตไม้บรรทัดกันแน่ นี่เป็นการโฆษณาใช่ไหมเนี่ย?” ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าการใช้ไม้บรรทัดนั้นทำให้การขีดเส้นดูตรงและสะอาด แต่ชาวเน็ตเองก็ไม่เห็นด้วยว่าการคุณครูควรให้ “ผิด” กับคำตอบของนักเรียน ที่มา: Twitter/@Toraphgu และ soranews24
-
เมื่อเพจ Vogue Paris โพสต์ภาพสนีกเกอร์ส้นสูง มีสายรัดคล้าย ‘ธงชาติไทย’ ดราม่าสิครับ!!
กำลังกลายเป็นกระแสดราม่าที่กำลังคุกรุ่นอยู่ ณ ขณะ นี้เลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทแฟชั่นชั้นนำระดับโลกอย่าง Vogue ได้ทำการโพสต์ภาพ ‘รองเท้าสนีกเกอร์แบบใหม่’ ที่ดูล้ำเอาซะมากๆ ผ่านทางเพจ Vogue Paris โพสต์ดังกล่าว “รองเท้าสนีกเกอร์ที่ขโมยซีนในงานแฟชั่นวีค เป็นการออกแบบโดยการผสมผสานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ทั้งความงาม รูปแบบ และการใช้งาน” เพราะมันคือการดีไซน์เอา ‘รองเท้าสนีกเกอร์’ มาผสมผสานกับ ‘รองเท้าส้นสูง’ ได้อย่างลงตัว แต่ประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นก็คือ ‘สายรัด’ มันดันมีลายคล้ายกับ ‘ธงชาติไทย’ ไปซะได้!? ทีนี้ชาวเน็ตไทยก็เลยเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันในภาพรัวๆ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรทำเป็นอย่างมาก . . . . บางส่วนก็เดาไว้เลยว่าเดี๋ยวสักพักจะต้องมีดราม่าอย่างแน่นอน “กำลังรอดราม่าจากชาวเน็ตไทยอยู่ ฮ่าๆๆ” บางส่วนก็มาดักซะเนียนเชียว!! แซะไปอีกกก!! ตอนนั้นหนักกว่านี้อีก!! บ้างก็เตือนว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลนะจ๊ะ แหม่ กลิ่นดราม่ามันตุๆ ขึ้นมาแล้วล่ะสิ…
-
Brooklyn ลูกชาย David Beckham โดนดราม่าโพสต์ภาพ “เหยียด” นักท่องเที่ยวชาวจีน!
Brooklyn Beckham ลูกชายแท้ๆ ของตำนานนักฟุตบอลอย่าง David Beckham ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากมายหลังจากที่เขาถ่าย “นักท่องเที่ยวจีน” ในอิตาลี แล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม . Brooklyn แอบถ่ายภาพของชาวจีน (หรือชาวเอเชีย) ที่เดินเลือกซื้อของและล่องเรือกอนโดลาอยู่ในเมืองเวนิส พร้อมโพสต์ลงบนอินสตาแกรมพร้อมด้วยคำบรรยายภาพว่า… “คงไม่มีที่ไหนดีเท่าอิตาลีแล้วล่ะเนาะ” (No place like Italy innit.) และนั่นทำให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเห็นได้พากันคอมเมนต์อย่างโกรธเคือง เพราะมันฟังดูเหมือนการแซะ การดูถูก ถึงขั้นว่าเป็นการ “เหยียด” กันเลยก็ว่าได้ ภาพดังกล่าวมียอดไลก์นับแสน แต่ปัจจุบันรูปภาพเหล่านั้นถูกลบไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ชาวจีนหลายคนก็ยืนยันว่าต้องการให้ Brooklyn ออกมากล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ตัวอย่างคอมเมนต์กล่าวว่า “นี่น่ะเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างแท้จริง เขาเองก็ไม่ใช่ชาวอิตาลี เขาก็เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าพวกเรา มันสูงส่งกว่าชาวเอเชียอย่างพวกเราตรงไหน?” เมื่อโดนกระหน่ำมากๆ เขา Brooklyn ก็ถึงกับล็อกให้อินสตาแกรมของตนเองเป็นโหมดส่วนตัว งานนี้ไม่ใช่แค่หนุ่ม Brooklyn ที่โดนกระหน่ำ ความซวยตกลงไปถึง David และ Victoria…
-
ประเด็น “ดราม่ารับน้อง” ในฮ่องกง สั่ง นศ. หญิงยัดลูกโป่งที่หน้าอก เหมาะสมหรือไม่??
ประเด็นของ การรับน้องใหม่ กำลังมาแรง ณ ขณะนี้ กิจกรรมที่รุ่นพี่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์และความสามัคคีของรุ่นน้อง หลายครั้งมันได้กลายเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลจนกลายเป็น ดราม่า ขณะที่ประเทศไทยเรายังคงถกเถียงกันถึงเรื่องประเพณีการรับน้องที่ไม่เหมาะไม่ควร ต่างประเทศเองเขาก็มีดราม่าการรับน้องไม่แพ้บ้านเราเหมือนกัน ล่าสุด ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฮ่องกง รุ่นพี่ในคณะการบัญชีได้จัด กิจกรรมรับน้อง ขึ้นในวันที่ 22 เดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยเหล่านักศึกษาใหม่ต้องเข้าร่วมเล่นเกมบางอย่างที่หากแพ้ต้องมาการถูกลงโทษ จากนั้นนักศึกษาหญิง 2 รายผู้ที่แพ้เกมในกิจกรรมรับน้อง ก็ถูกขอให้นำลูกโป่ง 2 ลูกยัดเข้าไปในเสื้อแล้วหันจุกของลูกโป่งออกมาทางด้านหน้า ถือเป็นการลงโทษที่รุ่นพี่เชื่อว่าเป็นความบันเทิงและสนุกสนาน แต่เมื่อภาพของนักศึกษาหญิงหลุดออกมาสู่โลกอินเทอร์เน็ตก็กลายเป็นประเด็นดราม่าค่อนข้างใหญ่โต นักศึกษาหญิงหลายคนให้ข้อมูลว่าเกมนี้น้องและพี่ต้องเล่นร่วมกัน และบทลงโทษของเกมก็จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รุ่นพี่บางคนที่แพ้เกมอาจถูกทำโทษถึงชนิดที่ว่า “เปลือยกาย” กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงที่ร่วมกิจกรรมนี้เผยว่าในตอนแรกก็ลังเลที่จะรับการทำโทษแต่คิดว่าไม่เป็นไร เพิ่งมารู้สึกอึดอัดใจภายหลังจากที่ถูกลงโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่ที่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว ออกมาให้การว่ากิจกรรมลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหล่านักศึกษานั้นคิดกันขึ้นมาและแอบจัดกิจกรรมลักษณะนี้กันเองในช่วงรับน้องใหม่ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าการละเล่นแบบนี้เป็นความสนุกหรือว่าเป็นความรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลกันล่ะ? ที่มา: discuss และ ck101
-
ความเท่าเทียมอยู่ไหน? นักเทนนิสหญิงได้รับ ‘โค้ดทำผิดกฎ’ เพราะเปลี่ยนเสื้อในสนาม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันเป็นวงกว้างในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีของนักเทนนิสสาว ที่ทำการ ‘ถอดเสื้อ’ กลางสนามแข่งขันเพราะเธอสวมมันผิดด้าน แต่การทำแบบนั้น ‘มันผิดกฎของการแข่งขัน’ ทำให้เธอถูกลงโทษจากการทำผิดกฎดังกล่าว ในการแข่งขันเทนนิสรายการ U.S. Open ที่นิวยอร์กเป็นการพบกันระหว่างนักเทนนิสสาวชาวฝรั่งเศส Alize Cornet พบกับ Johanna Larsson จากสวีเดน ก่อนจะเริ่มทำการแข่งขัน Alize ก็พบว่าตนสวมเสื้อแข่งผิดด้าน ด้วยความที่การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปที่บริเวณหลังคอร์ทก่อนที่จะทำการถอดเสื้อ แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ แต่แล้วจู่ๆ กรรมการก็ส่งสัญญาณว่า ‘เธอทำผิดกฎ’ ซึ่งก็ถูกตามที่กรรมว่า เพราะตามข้อบัญญัติของ Women’s Tennis Association แล้วได้มีการระบุเอาไว้ว่า ‘ผู้เล่นหญิง ห้ามทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าในคอร์ท (สนาม)’ ขณะที่ ‘ผู้เล่นชายสามารถทำได้’ ชมคลิปเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Cornet( info – @nicklester , @BenRothenberg,@ymanojkumar)(🎥Eurosport) pic.twitter.com/RlfQT3t77a — doublefault28 (@doublefault28) August 28, 2018 …
-
เอ็กซ์ หนุ่ม Let Me In เลิกแฟนสาวสองพร้อมภาพคู่กับหญิงไหว้ครอบครัว ชาวเน็ตงงกันถ้วนหน้า!?
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะจำเรื่องราวของ เอ็กซ์ ชายหนุ่มที่มีรักแท้ให้กับสาวประเภทสอง ไปออกรายการ Let Me In Thailand 3 จนได้เปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้กลายเป็นอปป้าเกาหลี เรื่องราวดังกล่าวนี้สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เพราะหลังจากได้หน้าใหม่กลับมา ชีวิตของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไป แต่ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าหัวใจของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่แล้วฝ่ายเอ็กซ์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กและรูปภาพ พร้อมกับ ‘สาวใหม่’ ที่พาไปไหว้พ่อแม่และครอบครัวที่บ้าน!? ชาวเน็ตทั้งหลายพอได้เห็นต่างก็แสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง “หน้าเปลี่ยนสันดานเปลี่ยน สุดท้ายคุณก็ทิ้งคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคุณมา” บางคนก็ชี้แจงว่าที่แท้จริงแล้วคุณต๊อบเป็นคนเทเอ็กซ์นะ เพราะทนพฤติกรรมนางไม่ไหว ล่าสุดเฟซบุ๊กของคุณต๊อบ Pongsakorn Borjanla ก็ออกมาเปิดเผยว่าเลิกกันแล้วจริงๆ แต่ตนไม่ได้เป็นคนบอกเลิกอย่างที่ชาวเน็ตได้ว่าเอาไว้ . หลายๆ คนที่ติดตามข่าวต่างก็เข้าไปให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม ดีแล้วที่ออกมาจากจุดนั้นได้ “พี่ติดตามหนูมาตลอดนะต๊อบ ดีแล้วที่หนูออกมาจากจุดๆ นั้นได้ เป็นกำลังใจให้เด้อ” บ้างก็บอกว่าไม่เคยเชื่อคำที่แฟนเก่าของเธอที่เคยพูดไว้เลย “ฉันไม่เคยเชื่อในคำพูดของอดีตแฟนเธอเลย ที่พูดว่า ถึงหน้าจะเปลี่ยน แต่ใจไม่เปลี่ยน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์หนัก ยูทูบเบอร์ถ่ายคลิป ‘จุดประทัดบอล’ โยนใส่คนในที่สาธารณะ
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลบ้านเราในขณะนี้ กับกรณีของคลิปวิดีโอ ‘แกล้งคน’ ที่ถูกโพสต์โดยแชแนลยูทูบ แจ็ก แปปโฮ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ในคลิปวิดีโอเป็นการถ่ายคลิปวิดีโอแกล้งคนโดยการเอาประทัด ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกบอลเล็กๆ ที่เรามักจะเรียกกันว่า ‘ระเบิดปิงปอง’ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นประทัดที่มีเสียงดังมากๆ แต่ในคลิปจะไม่ได้ใส่ดินปืนเอาไว้ ฉะนั้นพอจุดแล้วจะไม่ระเบิดเสียงดัง พอเอาไปจุดโยนใส่ผู้คน พวกเขาก็จะเข้าใจว่ามันจะระเบิดเสียงดัง ทำให้วิ่งหนีกันกระเจิง ลองไปชมคลิปวิดีโอกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ผู้คนต่างก็ตกใจวิ่งหนีกันหมดเมื่อเห็นประทัดดังกล่าว คลิปวิดีโอได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้าไปชมในยูทูบมากกว่า 110,000 ครั้งแล้ว!! หลายๆ คนต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมองว่าเป็นการแกล้งที่อันตราย ชาวเน็ตท่านนี้บอกว่าถ้าเขาวิ่งหนีไปโดนรถชนล่ะ? “ถ้าเกิดเขาวิ่งไปแล้วรถชนล่ะ?” บ้างก็ตำหนิว่าหากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแล้วใครจะรับผิดชอบ? “คือน้องครับ น้องเคยหงุดหงิดเวลาโดนผู้ใหญ่ขึ้นต้นว่า “วัยรุ่นสมัยนี้” ไหมครับ? น้องไม่ต้องหงุดหงิดนะ ถ้าน้องยังทำตัว ตัวเงินตัวทองแบบนี้ เกิดคนในกลุ่มที่น้องแกล้งเขาเป็นโรคหัวใจแล้วเกิดอาการขึ้นมา “รับผิดชอบ” ไหวเหรอครับ? หรือเขาถือมีดหรืออุปกรณ์บางอย่าง แล้วตกใจจนเกิดอันตรายขึ้นมา “รับผิดชอบ” ไหวไหมครับ ทำไมไม่จุดแล้วโยนเข้าบ้านตัวเองหรือเพื่อนในกลุ่มล่ะครับ…
-
พ่อในคลิปถูกตำรวจจับคาโรงเรียน ลั่นตะโกนร้องหาลูก ออกชี้แจงก่อนจะเข้าใจผิดกัน…
เมื่อช่วงใกล้เวลาเที่ยงของเมื่อวาน 7 สิงหาคม ทางเฟสบุ๊กของคุณ Arocha Reampong ได้ทำการไลฟ์ถ่ายทอดสดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับคุณพ่อรายหนึ่ง โดยที่ไม่ได้ทำการลงรายละเอียดใดๆ จนมีคนเข้าไปชมมากถึง 350,000 ครั้ง วิดีโอไลฟ์ถ่ายทอดสด เจ้าหน้าที่ตำรวจรุมจับกุมคุณพ่อ ตะโกนร้องหาลูก ‘จะเอาลูกผมไปทำไม’ หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เพจต่างๆ และตามความคิดเห็นของชาวเน็ต ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ รวมไปถึงการรายงานให้ข้อมูลที่สับสน เนื่องจากมีผู้คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่… รายงานจากเพจ ข่าวช่อง 8 ฝั่งภรรยาแจ้งจับฝั่งสามี ข้อหาค้ายาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน แต่ประเด็นจริงๆ คือเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูก… รายงานจากเพจต่างๆ ที่แชร์คลิปเหตุการณ์นี้ออกไป จะบอกว่าเป็นเรื่องของพ่อเลี้ยงเดี่ยว พาลูกหนีฝั่งแม่ ย้ายหลายโรงเรียน ฝั่งแม่มีอิทธิพลเป็นลูกของผู้มีอำนาจ จึงเกิดเป็นเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่หลายนายเข้าล้อมจับ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้ว ท่ามกลางความสับสน เพจ Red Skull Airline ได้ทำการแคปภาพความคิดเห็นจากผู้ที่เป็นพ่อในคลิป อธิบายชี้แจงแบ่งออกเป็นสองประเด็น ข้อความจาก Mark Tara… “ผมเป็นคนที่อยู่ในคลิปนะครับ…
-
สรุปดราม่า “แพท KLEAR” โพสต์ทำงานหนัก 14 ปี แต่งเพลงเองทั้งหมด ขอให้ทุกคนเข้าใจ!!
สำหรับวง KLEAR ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สร้างผลงานเพลงเพราะๆ เอาไว้มากมาย เรียกได้ว่าพอเพลงขึ้นปุ๊บจะต้องมีคนร้องตามได้อย่างแน่นอน แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางด้านนักร้องนำของวง คุณแพท ก็ได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ออกแนวตัดพ้อว่า เบื่อการถูกถามว่าเพลงของวง Klear นั้นใครแต่งให้ เพราะเธอและเพื่อนร่วมวงเป็นคนเขียนเองเกือบทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้คุณแพทต้องออกมาโพสต์แบบนี้ คาดว่าน่าจะมาจากการที่เธอไปออกรายการ The Mask Singer และเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ก็เฉลยว่า ‘หน้ากากเมฆ’ คือคุณแพทจากวง KLEAR นั่นเอง ก็เลยทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างก็พูดถึงเธออย่างแพร่หลาย ทั้งมีการสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับหน้ากากเมฆ ซึ่งทางคุณแพทเองก็ตอบเป็นข้อๆ ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2018 ดังนี้ . . . หลังจากนี้จากการคาดเดาก็น่าจะมีคนสอบถามเข้าไปมากมาย และคำถามส่วนใหญ่ก็น่าจะแนวๆ แบบว่า “วง KLEAR นี่ใครแต่งเพลงให้เหรอ?” จนกลายเป็นว่าคุณแพทต้องออกมาโพสต์ชี้แจงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2018 …
-
สรุปดราม่า เน็ตไอดอลลาวอัดคลิปจวกคนบริจาค ‘เสื้อผ้าขาด’ ทำบาปมากกว่าทำบุญ
จากเหตุการณ์เขื่อนแตกที่ประเทศลาว ทั้งที่อยู่อาศัย และชีวิตของผู้คนชาวลาวได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง หลายๆ ภาคส่วนทั้งในประเทศลาวเองและต่างประเทศอย่างเช่นประเทศไทย จึงได้ส่งความช่วยเหลือไปให้มากมาย ทั้งอาหารและเครื่องนุ่งห่ม แต่ล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเมื่อ ‘เน็ตไอดอลชาวลาว’ คนหนึ่งได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอแสดงความไม่พอใจกับเสื้อผ้าบริจาคเหล่านั้นเพราะว่ามัน ‘ขาด’ จนใส่ไม่ได้ ลองไปชมคลิปวิดีโอกันก่อนที่ข้างล่างนี้ครับ โดยเน็ตไอดอลได้กล่าวว่า “ฝากแจ้งเตือนไปถึงคนบริจาคหน่อย บริจาคไม่คิดหน้าคิดหลัง อยากจะให้อะไรก็ให้เหรอ?” “ช่วยเช็กกันหน่อยนะ ทำบุญนะไม่ใช่ทำบาป” “เอาเสื้อผ้ามาบริจาค แต่เอาเสื้อผ้าขาดๆ มาให้ เป็นฉัน ฉันก็ไม่ใส่หรอก” “ดูสิดูนี่ ใครจะใส่ ใครจะใส่!? เป็นคุณ คุณจะใส่ได้ไหม? ขอถามหน่อย” “ฝากเตือนไปหน่อยนะ ถ้าจะให้ก็ให้ที่มันดีๆ หน่อย” พอได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้วชาวเน็ตไทยมากมายต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็อธิบายว่า “แล้วทำไมเขาไม่คิดว่ามันขาดเพราะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาเอาไปเพราะน้ำใจ ถ้าเป็นผมก็เอาไปทำผ้าขี้ริ้วแทน ถ้ากางเกงตัวนั้นผมเป็นเจ้าของ จะเสียใจมาก ถ้ามันอยู่ในสภาพดีแต่อาจขาดจากการคัดกรอง ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ 555” บางคนก็บอกว่าพอเห็นคลิปนี้แล้วไม่น่าช่วยเลย “เขารีบๆหาไปบริจาค…
-
สรุปประเด็น ‘แชมป์ พีรพล’ ดราม่าเสนอข่าวเท็จ วิจารณ์ปธน. ตุรกี ถูกสั่งปลด-ยุบรายการ
เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากที่ แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล พิธีกรดำเนินรายการ ‘คน เฝ้า ข่าว’ ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 28SD นำเสนอประเด็นละเอียดอ่อนในเรื่องการเข้าพบประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ของเมซุท เออซิล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีผู้มีเชื้อสายตุรกีที่มีเรื่องผ่านไปแล้ว การรายงานของ แชมป์ พีรพล ในรายการ ‘คน เฝ้า ข่าว’ ต้นเรื่องเกิดเหตุ แชมป์ ได้หยิบยกการวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีตุรกีไว้ว่า “เป็นผู้นำที่คนตุรกี และคนรอบโลกยี้ เพราะเผด็จการสุดๆ ทำกฎหมายให้ตัวเองสามารถครองบัลลังก์ได้ 14 ปี เยอะกว่าปกติ เยอะแยะมากมาย คนตุรกีไม่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ต คนตุรกีไม่สามารถเข้าเว็บไซต์วิกิพีเดีย ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่คนธรรมดาสามารถเข้าไปพิมพ์อะไรก็ได้เพราะไตยิปบอกว่า มีข้อมูลที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขา โชคดีเราอยู่ประเทศไทยเราเข้าวิกิพีเดียได้” ซึ่งนอกเหนือจากนั้นยังนำเสนอข้อมูลเชิงลบเกี่ยวกับประธานาธิบดีตุรกี เช่น เป็นเผด็จการ ไม่ฟังประชาชน กำจัดฝ่ายตรงข้าม โกงการเลือกตั้ง จับนักข่าวเข้าคุก การสร้างวังขาว พังสวนสัตว์ ทำลายป่า ถูกทำให้มองเป็นนักการเมืองที่ไม่ใสสะอาด…
-
‘ทหารองครักษ์’ ผลักนักท่องเที่ยวซะกระเด็น เพราะไปยืนขวางทางเดินลาดตระเวน!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีของ ‘ทหารองค์รักษ์’ ผลักนักท่องเที่ยวสาวจนกระเด็น เพราะเธอดันไปขวางทางเดินลาดตระเวน!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าพระราชวัง Windsor Castle ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม อย่างไรก็ตามในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญ เพราะเป็นถึงพระราชวัง มีทหารที่คอยทำหน้าที่เดินลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อย จึงมีกฏขึ้นมาว่า ห้ามไปขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อย่างเช่นการเดินขวางทาง การหาเรื่องพวกเขา หรือชวนพูดคุย แต่กลับกลายเป็นว่ามีนักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งละเมิดกฎ 1 ในข้อที่กล่าวมา คือ ‘ยืนขวางทาง’ เจ้าหน้าที่ ทำให้เธอถูกผลักออกจากเส้นทางอย่างรุนแรง ในเบื้องต้นดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม จากกที่ถูกผลักเป็นเพราะเธอไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ดังจะเห็นได้จากเชือกที่กั้นอยู่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้านหลังเชือกนั้น แต่ตัวของผู้หญิงที่ถูกผลักกับมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเชือก!? แต่อย่างไรก็ตามชาวเน็ตก็ให้ความเห็นออกเป็นสองเสียง ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ทหารองครักษ์ถึงไม่ตักเตือนดีๆ ก่อน การผลักรุนแรงแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลยแม้แต่น้อย อย่างที่รู้กันว่าหน้าที่ของทหารองครักษ์คือปกป้องสถานที่ของราชวงศ์ และพวกเขาถูกฝึกมาให้ทำหน้าที่อย่างเงียบๆ ไม่พูดหรือสื่อสารกับใคร ต่อให้เกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็จะทำหน้าที่ของเขาต่อไปโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากนี้ยังมีการอนุญาตให้มีการตักเตือนนักท่องเที่ยวหรือใครก็ตามที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามสมควร ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แล้วเพื่อนๆ…
-
ถูกรึเปล่า? เฉลยดราม่าข้อสอบ ก.พ. วิเคราะห์โจทย์แก้ปัญหา ‘แมลงวันแอนด์เดอะคาร์’
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2561 ได้มีการจัดสอบ ก.พ. (ภาค ก) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ไปหมาดๆ จนกระทั่งหลังจากเสร็จสิ้นการสอบ มีโจทย์หนึ่งข้อที่กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างคับคั่ง เนื่องจากโจทย์ข้อดังกล่าว เป็นได้ทั้งแนวคิดทางคณิตศาสตร์และการนำหลักตรรกะมาใช้ประกอบกัน ชาวเน็ตบางรายก็ชี้เป็นความรู้พื้นฐานที่เคยเรียนกันมาในระดับมัธยม หลักการง่ายๆ แต่ด้วยลักษณะที่ต้องตีโจทย์หลายชั้น จึงทำให้หลายคนทำข้อสอบข้อนี้ไม่ได้… โจทย์ถามว่า “รถยนต์สองคันอยู่ห่างกัน 40 กิโลเมตร วิ่งเข้าหากัน รถคันแรกวิ่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คันที่สองวิ่งด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแมลงวันอยู่หน้ารถคันหนึ่งบินด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปยังรถอีกคันหนึ่ง พอไปถึงแล้วบินกลับมาที่รถอีกคัน บินสลับอย่างนี้เรื่อยไปจนรถทั้งสองคันวิ่งมาชนกัน ถามว่าแมลงวันตัวนี้บินได้ระยะทางกี่กิโลเมตร” แน่นอนว่าอ่านจากโจทย์แล้ว ก็กลายมาเป็นข้อกังขาในวงกว้าง เนื่องจากโจทย์แบบนี้จะต้องวิเคราะห์ตามหลักตรรกะ และตีโจทย์ให้ออกมาเป็นสมการแทนค่าต่างๆ ลงไป แล้วจึงคำนวณออกมาเป็นคำตอบที่ถูกต้อง จนเพจเตรียมสอบของ อ.ทัด ปฐมภณณ์ ติวเตอร์สอบราชการ ได้ออกมาโพสต์วิจารณ์ข้อสอบข้อนี้ว่า “ไม่ได้คำนึงความเป็นจริงว่าตอนนี้แค่วัดพื้นฐานของคนที่จะเป็นราชการ ออกข้อสอบภาค ก ให้ยากเพื่อคัดคนไปแข่งขันคณิตโอลิมปิก หรือวัดพื้นฐานคนที่จะมาเป็นข้าราชการ” …
-
ต่อเนื่องดราม่า อร BNK48 ประเด็นน้องที่วิจารณ์โดนโอตะคุกคาม-ครูเรียกพบตัว
หลังจากที่มีดราม่าประเด็นการตอบคำถามใน Instagram ของ อร BNK48 ก็ทำให้เรื่องราวบานปลายจนผู้วิจารณ์คนหนึ่งถึงกับซวย ถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกพบเลยทีเดียว เป็นที่เข้าใจได้ว่าเมื่อเราเป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบศิลปินคนไหนมากๆ ก็ย่อมรู้สึกไม่ดีที่ศิลปินของเราถูกวิจารณ์ในแง่ลบ ล่าสุด น้องชาวเน็ตคนหนึ่งได้นำประเด็นการตอบคำถามเรื่องน้ำหนักของ “อร BNK48” มาวิจารณ์ลงบนเฟซบุ๊กของตนเองในแง่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอร ซึ่ง “โอตะ” คนหนึ่งเห็นเข้า โอตะรายนี้จึงทำการ ฟ้องอาจารย์ที่โรงเรียนของคนวิจารณ์ ในโพสต์ของน้องมีข้อความประมาณว่า อรทำตัวไม่เหมาะสม หากไม่อยากตอบคำถามก็ไม่ควรตอบ จากนั้นโอตะรายหนึ่ง ก็นำเรื่องราวไปเล่าฟ้องอาจารย์ในโรงเรียนของน้องที่วิจารณ์อรอย่างออกรสออกชาติ ผลสุดท้าย น้องที่วิจารณ์อร BNK48 ถึงกับต้องออกมาโพสต์ขอโทษเหล่าโอตะทั้งหลาย เนื่องจากเจ้าตัวถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกตัวเข้าพบเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตต่างมองว่านี่เป็นการกระทำเกินเหตุของแฟนคลับของ อร BNK48 ซึ่งชาวเน็ตก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงให้กำลังใจน้องคนดังกล่าว ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณมากพอ และเสนอเหตุผลสำหรับการต่อสู้ความผิดเท่านั้น ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณ มีแนะแนวทางการให้เหตุผลเอาไว้ พร้อมแนะนำให้แจ้งความหากใครมาบอกว่าผิดกฎหมาย เราเชื่อว่าผู้ใหญ่มีเหตุผลมากพอ สู้ๆ นะครับ เชื่อว่าผู้ใหญ่น่าจะมีเหตุผลมากพอ ที่มา:…
-
เมื่อ “อร BNK48” ตอบคำถามไอจีจากแฟนคลับ จนกลายเป็นประเด็นดราม่า
หลังจากที่ Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา จะเห็นว่าผู้ติดตามนั้นสามารถเข้าไปถามคำถามกับเจ้าของไอจีนั้นๆ ได้ โดยผู้ตอบก็สามารถเลือกตอบแต่คำถามที่อยากตอบได้เช่นกัน จนล่าสุดเกิดดราม่าขึ้นเมื่อมีแฟนคลับของ อร BNK48 ได้เข้าไปถามคำถามกับเจ้าตัวใน ig ว่า “พี่อรน้ำหนักเท่าไหร่” ผลปรากฏว่าอรเลือกที่จะตอบคำถามนี้และได้กลายเป็นประเด็นดราม่าดังต่อไปนี้ นี่คือคำตอบที่ อร BNK48 ตอบน้องแฟนคลับ “ตอบแล้วน้องจะได้ เกรด 4 ยันเรียนจบมั้ยจ๊ะ” ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งจึงเก็บภาพ เอามาเปิดประเด็นว่านี่คือคำตอบที่ไม่เหมาะสม ไม่อยากตอบก็แนะนำให้ข้ามคำถามไป ทำไมตอบแบบนี้ล่ะ? เป็นบุคคลสาธารณะไม่ใช่หรือ? การตอบโต้เริ่มขึ้น “คนถูกถามต้องรักษาน้ำใจคน (ถาม) ที่ไม่มีมารยาทด้วยเหรอ” คอมเมนต์ถามกลับ… “แค่ถามก็เสียมารยาทเหรอ” แปะลิงก์เลยป้าบ!! “การคุยเรื่องน้ำหนัก อายุ และสถานะเป็นเรื่องเสียมารยาทสำหรับคนไม่สนิท” ถึงกระนั้นอรก็ยังมีตัวเลือก “ไม่ตอบคำถาม” อยู่ ทำไมไม่เลือก เจ้าเดิมบอกว่า “นั่นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” อ้าวแล้วต้นเหตุคืออะไรล่ะ? ไม่ควรถามคำถามที่เสียมารยาทตั้งแต่แรกไงล่ะ …
-
ดราม่าโฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เหยียดคนไม่กินเผ็ด = เป็นคนอ่อนเหมือนเด็กน้อย!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์บ้านเราอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ กับกรณีของโฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่งที่มีเนื้อหา ‘เหยียด’ คนไม่กินเผ็ด ลองไปชมโฆษณากันดูก่อนเลยจ้า… ตัวโฆษณาดังกล่าวมีชื่อว่า Baby Boy หรือเด็กทารกชายนั่นเอง ส่วนเนื้อหาก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งแนะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับผู้ชายที่เธอชอบ แต่กลับกลายเป็นว่าชายคนนั้นไม่กินเผ็ด!! จนนำไปสู่เรื่องราวที่เป็นประเด็นขึ้นมา เพราะหลังจากนั้นฝ่ายสาวเจ้าก็คิดขึ้นมาในใจว่า ไม่กินเผ็ด = เด็กน้อย ถ้าให้แต่งงานด้วยก็คงไม่เอา จากนั้นก็เหลือบไปเห็นผู้ชายอีกคนที่ภายนอกดูเป็นหนุ่มจืดแต่สามารถกินเผ็ดได้ เธอก็เลยเปลี่ยนใจไปชอบผู้ชายคนนั้นแทน จึงกลายเป็นประเด็นที่ว่าโฆษณาดังกล่าวมีการปลูกฝังค่านิยม ที่มองว่าคนกินเผ็ดเท่ากับเป็นคนดี คนเท่ ทำอะไรได้ดีกว่าคนไม่กินเผ็ด ที่ในโฆษณาชี้ให้เห็นว่าเป็นเด็กทารกน้อย ทำอะไรก็ไม่ได้ หรือเปล่านะ!? ชาวเน็ตหลายๆ คนพอได้เห็นคลิปโฆษณาดังกล่าวต่างก็แสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา หลายคนมองว่าโฆษณานี้มีเนื้อหาเหยียด . . . . บางส่วนก็บอกว่าโฆษณานี้ไม่ได้เหยียดเลย แถมทำออกมาได้ดีด้วย . แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าอย่างไร? โฆษณานี้เหยียดคนไม่กินเผ็ดอย่างที่เขาว่ากันหรือไม่ ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะจ๊ะ ที่มา…
-
คนงานเหมืองชิลีเตือน 13 ชีวิตติดถ้ำ “ให้ระวังกลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์เอาไว้ให้ดี”
หลังจากที่ภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ก็ต้องคอยติดตามชมกันต่อไปอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้กลายเป็นที่จับตามองจากผู้คนมากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ย่อมมีเรื่องของ ‘ผลประโยชน์’ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ และด้วยความหวังดีจากคนงานเหมืองจากชิลี ที่เคยเป็นผู้มีประสบการณ์เผชิญกับเคราะห์ร้ายแบบนี้มาก่อน พวกเขาก็เลยออกมาเตือนเด็กๆ ทีมหมูป่าและโค้ช ว่า ‘ให้ระวังกลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์เอาไว้ให้ดี’ ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน คนงานเหมืองกว่า 33 คน ติดอยู่ในเหมืองซาน โฮเซ่ ประเทศชิลี นานกว่า 69 วัน เรื่องราวของพวกเขาโด่งดังไปทั่วโลก ทุกแรงใจถูกส่งไปเพื่อเอาใจช่วยให้พวกเขารอดชีวิตออกมา หลังจากที่ช่วยชีวิตออกมาได้ เรื่องราวของพวกเขาก็เหมือนกับที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทีมหมูป่าแบบเป๊ะๆ เลย คือค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Hollywood ได้นำเรื่องราวของพวกเขาไปสร้างเป็นหนัง หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า The 33 และมันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำรายได้ไปมากกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 831 ล้านบาท แต่เม็ดเงินเหล่านั้นไม่ได้ตกมาถึงพวกเขาเลยแม้แต่บาทเดียว ตัวอย่างหนังเรื่อง The 33 “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะนำเรื่องราวนี้ไปสร้างหนัง…
-
“ตาหวาน BNK48” ถึงกับร้องไห้ในไลฟ์ ถูกดักตั้งกล้องหน้าห้องน้ำ ซ้ำเติมรูปลักษณ์ด้วยคำพูด
เกิดเป็นประเด็นที่ทำให้เหล่าแฟนคลับหรือโอตะที่ติดตามวงไอดอล BNK48 ต้องมาคิดและหารือกัน หลังจากที่ ตาหวาน BNK48 หนึ่งในสมาชิกวงได้ทำการไลฟ์พูดคุยกับแฟนๆ ในประเด็นที่เธอและเพื่อนร่วมวงถูกคุกคามพื้นที่อย่างหนัก https://www.instagram.com/p/BlAivOThkfa/ โดยในคืนวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา น้องตาหวานได้ทำการไลฟ์ผ่านแอปฯ VOOV และพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบริเวณห้องน้ำของห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเธียเตอร์ (โรงละครการแสดงของวง) ซึ่งมักจะมีโอตะวนเวียนมาอยู่แถวนั้นตลอด จนกระทั่งเกิดความเกินเลยลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว เพราะบางคนไปยืนดักตั้งกล้องรอสมาชิกออกมาจากห้องน้ำ “วันนี้มีเรื่องพูดอยู่เรื่องสองเรื่อง เพราะไม่โอเคกับเรื่องที่เธียเตอร์ ได้มีคุยกับน้องๆ คือก่อนหน้านี้ได้มีการคุยกับจอนอ (เจนนิษฐ์ BNK48) ว่าการเข้าห้องน้ำในเธียเตอร์เดอะมอลล์ บางกะปิ คือมีสองทางคือฝั่งโรงหนังกับโรงอาหาร คือถ้าไปฝั่งโรงอาหารจะกลัวทุกคนแตกตื่น กลัวทุกคนจะวิ่งตามอาจจะเกิดปัญหาได้ เลยแก้ปัญหาเข้าไปข้างหลัง อาจจะดูลึกลับซับซ้อน แต่เป็นทางเดียวที่เราเข้าห้องน้ำได้ แต่ก็อาจพบเจอแฟนคลับที่เข้ามาดูหนัง ซึ่งโอเคพบเจอ ทักทายได้” “ที่ชักเริ่มไม่โอเคคือการดักรอ และดักรอไม่เท่าไหร่ นี่มาตั้งกล้องรอ หนูรู้สึกว่าตั้งกล้องรอมันเกินไปหน่อยรึเปล่า เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เราจะเข้าห้องน้ำ ทำไมถึงต้องตั้งกล้องรอ เพราะเราออกมาปุ๊บ แชะ… มันไม่โอเคป่ะคะ แล้วตอนนั้นเราอาจจะไม่พร้อมหรืออะไรก็ตาม พอเปิดประตูปุ๊บตกใจมายืนตั้งกล้องรอ…
-
‘วีเจจ๋า’ เคลียร์ประเด็นคบหา ‘ตุ๊ ธนานันต์’ รับผิดที่ก้าวเร็วเกินไป และไม่ได้เป็นเมียน้อย…
กลายเป็นงานเผือกอย่างร้อนแรงของ วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี กับนักธุรกิจหนุ่ม ตุ๊ ธนานันต์ ซึ่งในก่อนหน้านั้นเกิดเป็นดราม่าของการคบหากันระหว่าง 2 ฝ่าย ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายยังไม่ได้ทำการหย่ากับภรรยาอย่างเป็นทางการ วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี จนเกิดความเคลือบแคลงและสงสัยของคนที่ตามประเด็นนี้ว่า การคบหากันอย่างเปิดเผยแบบนี้ เข้าข่ายเป็น ‘เมียน้อย’ รึเปล่า แล้วทำไมฝ่ายชายถึงไม่หย่ากับภรรยาให้จบเรื่องเสียที อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุผลข้อผูกมัดที่มีเงินมาเกี่ยวข้องด้วย… คลิปเสียงที่คาดว่าเป็นการพูดคุยระหว่าง ตุ๊ ธนานันต์ และภรรยา ยิ่งมีกระแสลือสะพัดหนักเข้าจนเริ่มบานปลาย มีกระแสแง่ลบเกี่ยวกับ วีเจจ๋า เป็นเมียน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านวีเจจ๋าเองก็ได้ออกมาโพสต์รูปภาพข้อความผ่านอินสตาแกรม @vj_ja https://www.instagram.com/p/Bk10M9NgYxt/ เพื่ออธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้กระจ่าง ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 (วันนี้) วีเจจ๋าแจกแจงเป็นหลายประเด็นดังต่อไปนี้ “ก่อนอื่นจ๋าทราบดีว่าหลายคนรอคอยจะให้จ๋าออกมา ตอบว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจ๋าเป็นเช่นไร ก่อนหน้านี้จ๋าเห็นว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาที่ต้องชี้แจงแล้ว แต่จะขอพูดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับตัวจํานะคะ ตอนแรกจ๋าคิดว่า จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี…
-
คุณแม่ขอลางานเพราะลูกชายป่วยหนัก แต่หัวหน้ากลับบอกให้เธอ “ลาออก” ไปเสีย!
ในความคิดของคุณ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นสิ่งที่หัวหน้างานและลูกน้องควรมีให้กันหรือไม่? เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องราวแสนดราม่าขึ้นบนโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Crystal Reynolds Fisher โพสต์เล่าเรื่องราวสุดเลวร้ายของเธอลงบนเฟซบุ๊ก เธอโพสต์เล่าว่า “ลูกชายของฉันป่วยและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ฉันเลยบอกหัวหน้า 48 ชั่วโมงก่อนฉันจะเข้าไปทำงาน บอกว่าฉันจะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้จนกว่าลูกชายของฉันจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่แล้วดูหัวหน้าตอบฉันมาสิ” Crystal Reynolds Fisher และลูกชายวัย 18 ปีของเธอ ที่ปัจจุบันกำลังป่วยหนักอยู่ เมื่อเธอขออนุญาตลางานกับหัวหน้าของเธอไปเนื่องด้วยอาการป่วยของลูกชาย เรามาดูกันดีกว่าว่า “หัวหน้างาน” ของเธอ ตอบเธอว่าอะไรบ้าง… Crystal: สวัสดี Dawn ฉัน Crystal เองนะ ฉันอยากจะบอกว่าลูกชายของฉันต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากเขายังไม่มีอาการที่ดีขึ้น ฉันคงไปทำงานไม่ได้ ฉันจะรีบบอกคุณทันทีหากเขามีอาการดีขึ้น ฉันจะได้ไปทำงานได้อย่างไม่ขัดข้อง Dawn: นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทำกันนะ Crystal ฉันจะถือว่าเธอลาออกก็แล้วกัน Crystal: แล้วสิ่งที่เราทำกันคืออะไรล่ะ ยามที่ลูกของฉันป่วยรุนแรงแบบนี้? ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะลาออก…
-
ชาวโคลอมเบียโร่ขอโทษ หลังคลิปแฟนบอลชาติตัวเอง หลอกแฟนบอลญี่ปุ่นพูด ‘เป็นคุณตัว’
คงจะเคยเห็นมุกตลกขบขันที่ให้ชาวต่างชาติลองพูดคำเป็นภาษาตัวเอง อย่างเช่นคำว่า ‘สวัสดี’ ให้พูดว่า ‘บิดาท่านสิ้น’ อะไรประมาณนี้ ซึ่งถ้ามองผิวเผินอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม… เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อมุมมองของคนในชาติภาครวมได้ เพราะการไปหลอกให้พวกเขาพูดแบบนั้นอาจจะเป็นการดูแคลนสติปัญญา ทำให้พวกเขาดูโง่ในสายตาคนชาติอื่น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่ระหว่างญี่ปุ่นเจอกับโคลอมเบีย (วันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2018) และญี่ปุ่นสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ประตู หลังจากจบเกมการแข่งขันนอกสนาม Mordovia Arena แฟนบอลชาวโคลอมเบีย Guillermo Morales วัย 40 ปี ได้อัดคลิปวิดีโอหลอกสาวแฟนบอลชาวญี่ปุ่น 2 คนให้พูดวลีภาษาสเปนตามเขา… คลิปวิดีโอต้นเหตุ โดยที่สาวคนแรก ผู้ไม่พูดและไม่เข้าใจภาษาสเปนได้พูดวลีตามเขาว่า ‘Yo soy perra’ แปลได้คร่าวว่า ‘ฉันเป็นหญิงขายบริการ’ โดยที่ไม่มีการอธิบายความหมายใดๆ เพิ่มเติม พร้อมกับให้พูดวลี ‘Mas puta’ อันมีความหมายไปในทางทิศเดียวกัน อีกคลิปหนึ่ง ชายคนเดียวกันไปหลอกแฟนบอลญี่ปุ่นผู้ชายอีกสองราย ให้พูดคำว่า ‘Yo…
-
ความคิดเห็น #ถ้ำหลวง ‘โอห์ม KPN’ เป็นญาติจะไม่ช่วย ‘ซันนี่ ยูโฟร์’ แค่นี้ทำไมหาไม่เจอ?
จากเหตุการณ์ของทีมนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทั้ง 13 ชีวิต สูญหายเข้าไปภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย จนถึงตอนนี้เข้าวันที่ 6 ของการช่วยเหลือแล้วก็ยังไม่พบตัว… ซึ่งทุกฝ่ายยังคงเร่งค้นหาอย่างเต็มที่และมีความหวัง แต่แล้วเมื่อมีการจุดประเด็นสวนกระแสขึ้นมาโดย “โอห์ม KPN” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oliver Ohm กล่าวถึงเหตุการณ์ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงในเชิงว่า… “คนหลายชีวิต ลำบาก เสี่ยงตาย เข้าไปช่วย ไหนจะส่งกำลังใจ ของอุปโภค บริโภคอีก วุ่นวายกันไปทั้งประเทศ เป็นวาระระดับชาติ คือโอเคแหละ มันแสดงถึงพลังความรักของคนไทยด้วยกัน แต่นั่งคิดดูดีๆ แล้ว เรากำลังช่วยเหลือคน 13 คน ที่เดินเข้าไปทำเxยอะไรในนั้นก็ไม่รู้” นอกจากนี้ยังมีการแสดงความคิดเห็นตอบกลับในบางส่วนของโพสต์เพิ่มเติม “ไม่ต้องถามนะคะว่าญาติพี่น้องฉันเดินหายเข้าไปละจะทำไง กูไม่ช่วยค่ะอีดอx ปล่อยตายแม่x ป้ายเตือนก็มียังสาระแนเข้าไปอีก โง่ ลำบากชาวบ้าน คนอื่นอีกเป็นร้อยๆ ชีวิต เผื่อคนที่เขาดำน้ำเข้าไปช่วยตายขึ้นมาอีกทำไง ขอร้องค่ะว่าถ้าญาติกูหายเข้าไป ไม่ต้องช่วยค่ะ ไม่ต้องสมมติค่ะ ถึงจะโดนด่าเยอะ แต่ก็โอเคที่ได้รู้ว่าก็มีคนคิดเหมือนกันเยอะ จากใจเลยค่ะ…
-
แม่โอด…ลูกที่เป็นเด็กพิเศษ โดนผอ. ตบบ้องหูแรงจน ‘แก้วหูทะลุ’ แถมบีบให้ย้ายโรงเรียน!!
คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเองเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าหากว่ามีใครมาทำร้ายร่างกายลูกของตัวเองแล้วก็ต้องทำให้ต้องเจ็บปวดใจยิ่งนัก เช่นเดียวกันกับคุณแม่ท่านนี้ ที่ลูกของตัวเองที่เป็นเด็กพิเศษ ถูกผอ. โรงเรียนตบจนแก้วหูทะลุเลยทีเดียว อีกทั้งยังถูกบีบบังคับให้ย้ายโรงเรียนอีกด้วย!! เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัฐกานต์ อนันต์ชัยพัทธนา ผู้เป็นแม่ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวว่าดังกล่าวผ่านทางหน้าวอลของตัวเอง ลองเข้าไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันก่อนที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “อยากจะขอคำปรึกษา และขอความช่วยเหลือ น้องโดน ผอ. ตบจนแก้วหูทะลุ เรื่องมีอยู่ว่า น้องเป็นเด็กพิเศษค่ะ อาการคือจะมีอารมณ์โกรธและโมโหจนคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อถูกล้อหรือโดนภาวะกดดันไปกระตุ้นอารมณ์ ต้องได้พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง และทานยาทุกวัน แต่การใช้ชีวิตโดยทั่วไปเหมือนเด็กปกติค่ะ และเมื่อวันที่ 4 มิ.ย 61 เด็กเล่นกันแล้วเกิดการทะเลาะกันแล้วก็จับแยกแล้วให้ขอโทษกัน แล้วสืบเนื่องมาวันที่ 5 มิ.ย 61 ครูเวรได้นำเรื่องไปเล่าผ่านเครื่องกระจายเสียงของโรงเรียนและบอกให้น้องขึ้นไปพูดเล่าเรื่องเมื่อวานเพียงลำพัง ซึ่งทำให้เด็กมีภาวะอารมณ์ไม่ปกติอยู่แล้ว จึงเกิดความอับอายและโมโหจนคุมสติไม่อยู่ น้องก็วิ่งไปหาคุณครูและกรีดร้องด้วยความคุมอารมณ์ไม่ได้ ผอ.จึงนำสายนกหวีด มัดมือน้องไพล่หลังไว้และระหว่างนั้นครูประจำชั้นโทรเรียกคุณแม่มาที่โรงเรียน พอจังหวะที่คุณแม่ไปถึงได้ เห็น ผอ.กำลังฉุดกระชากเด็กนั่งลงกับพื้นแล้วใช้มือขวาตบเข้าที่ข้างหูขวาของน้องอย่างแรง คุณแม่รีบวิ่งไปกอดน้องในสภาพที่ผวาและตัวสั่นและน้องบอกคุณแม่ว่า “หูลูกไม่ได้ยินแล้ว” คุณแม่ช็อกและตกใจกับเหตุการณ์นั้นมากจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่กอดน้องไว้จนตัวสั่น หลังจากนั้น ผอ. ท่านก็เรียกให้คุณแม่ไปพบในห้อง แล้วบอกคุณแม่ว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ต้องพาน้องมาเรียนที่นี้แล้วให้คุณแม่เซ็นใบย้ายน้องออกไปเรียนที่อื่นโดยให้เหตุผลว่าย้ายติดตามผู้ปกครอง คุณแม่รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องหลังจากนั้นคุณแม่พาน้องไปหาหมอ หมอให้ใบรับรองแพทย์มา ว่า “แก้วหูทะลุ”…
-
ชาวเน็ตดราม่ารัว ร้านผัดไทยชื่อดังเก็บค่า “แก้วน้ำกระดาษ 2 บาท” แค่นี้ก็ยังจะเอาอีกเหรอ!?
ไม่รู้ว่าเป็นปกติทั่วไปอยู่แล้วหรือไม่ สำหรับร้านอาหารที่เปิดให้บริการในประเทศไทยส่วนใหญ่ ย้ำว่าส่วนใหญ่ มักจะให้บริการแก้วพร้อมน้ำแข็งที่ไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม ในส่วนของน้ำดื่มน้ำอาจจะมีให้บริการฟรี หรืออาจจะขายเป็นรูปแบบขวดแทน ซึ่งสำหรับร้านผัดไทยเจ้าหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอสมควรในย่านพุทธมณฑลสาย 4 มีการติดป้ายประกาศชัดเจนว่า “แก้วใส่น้ำแข็งใบละ 2 บาท” และ “แก้วเปล่าใบละ 2 บาท” เช่นเดียวกัน โดยสภาพของแก้วก็คือแก้วกระดาษธรรมดา… เรื่องมันเริ่มแดงขึ้นเมื่อมีทวีตหนึ่งเปิดประเด็น พร้อมกับรูปภาพป้ายและแก้วกระดาษจากร้านดังกล่าว โดยมีใจความไว้ว่า “คิดยังไงกับร้านผัดไทยชื่อดัง ที่เก็บแก้วเปล่าใบละ 2 บาท มากินตั้งนานเพิ่งสังเกต” จากทวีตวันที่ 12 มิถุนายน จนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน ชาวเน็ตเริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงไม่เห็นด้วย เพราะบางอย่างก็ไม่ควรชาร์จเพิ่ม… เปรียบได้เหมือนกับการปล้นลูกค้าทางอ้อม? . . บางส่วนคิดว่าเป็นการรณรงค์ให้พกแก้วไปเอง? แต่การใช้แก้วกระดาษลดภาระล้างแก้วของทางร้าน จะเป็นการสร้างขยะเพิ่มแทน? จนมากก็กินอยู่บ้าน… 2 บาทซื้อความสบายใจ? ใครจะซื้อก็ซื้อ ใครไม่ซื้อก็ไม่ต้อง… อย่างไรก็ตาม…
-
สาวต่างชาติโดนจวกยับ หลังถ่ายคลิป “แกล้งหลับบนรถไฟ” เพื่อเนียนซบไหล่โอปป้า…
หนุ่มๆ โอปป้าสไตล์เกาหลีย่อมเป็นที่หมายปองของสาวหลายๆ คนอย่างแน่นอน แต่จะทำยังไงถึงจะได้ซบไหล่หนุ่มๆ เกาหลีกับเขาบ้างน้า ยิ่งไม่ได้เป็นคนเกาหลีด้วย ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย แต่ยูทูบเบอร์สาวชาวโคลอมเบียนี้กลับคิดวิธีสุดร้ายกาจ ทำเนียนแกล้งหลับ บนรถไฟใต้ดินเพื่อซบไหล่หนุ่มโอปป้า โอ้โห งานนี้เรียกได้ว่า “ดราม่า” กันกระจายเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ผู้ใชทวิตเตอร์รายหนึ่งนามว่า royaltykai ได้ออกโพสต์ให้ชาวเน็ตได้เห็นพฤติกรรมของยูทูบเบอร์สาวที่แกล้งหลับเพื่อซบไหล่ชายหนุ่มชาวเกาหลีอย่างแนบเนียนบนรถไฟใต้ดิน ทวิตเขียนว่า “หญิงคนนี้แกล้งทำเป็นหลับเพื่อซบไหล่หนุ่มเกาหลี…น่าเกลียดอะ” หญิงสาวในภาพเป็นยูทูบเบอร์ชื่อว่า MeiKCJ เธอเป็นชาวโคลอมเบียที่ปัจจุบันได้เข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี การกระทำของเธออาจเป็นการแสดงเล่นๆ เพื่อความสนุกสนาน หรือทำเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวที่จะได้ซบไหล่หนุ่มเกาหลี เธออาจคิดว่าไม่เดือดร้อน ไม่แปลก ใครๆ ก็หลับกันได้ทั้งนั้น หรือเธออาจจะคิดว่าหนุ่มๆ ก็คงยินดีที่ได้มีสาวอย่างเธอมาซบไหล่ หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เธอทำมันก็อาจก่อความรำคาญและเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวคนอื่นได้เช่นกัน This guy literally switched seats sksksksksk pic.twitter.com/v63DUXPSa9 — ot ⁷ (@vrse4) June 10, 2018…
-
ชาวเน็ตดราม่าหนัก หลัง ‘กัปตัน ชลธร’ แถลงแทบไม่มีคำว่าลูก แต่เรียกสิ่งที่อยู่ในท้อง…
เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงแทบทั้งวันของวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่าน ในเรื่องของ กัปตัน ชลธร ดาราหนุ่มวัยรุ่นวัย 20 ปี (จากเลิฟซิคเดอะซีรีส์) และ มิ้งค์ ศวภัทร อดีตแฟนสาวเน็ตไอดอล วัย 23 ปี จากการตั้งท้องพร้อมหลักฐานการตรวจครรภ์ และใบรับรองแพทย์ จนกระทั่งลบออกในเวลาต่อมา… จากเหตุการณ์เมื่อวาน กัปตัน-มิ้ง และผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าวดังกล่าวพร้อมกัน โดยทางกัปตัน ได้กล่าวยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เหตุผลบางอย่างทำเลิกกันไป… แต่ก็ยังมีความห่วงใยดีๆ ให้กัน สำหรับเรื่องที่มีเด็กอยู่นั้น ทางผมขอรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ทำไป ไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เกิดจากผมได้รับอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตามหลังจากจบงานแถลงข่าวไปแล้ว แต่กระแสในโลกออนไลน์ยังไม่หยุดวิจารณ์ เนื่องจากมีการพูดถึงคำพูดของกัปตันผ่าน #กัปตันชลธร ในทวิตเตอร์ รวมไปถึงเพจบนเฟสบุ๊กนำเรื่องคำพูดของกัปตันมาขยายประเด็นเพิ่ม จากการที่แทบจะไม่พูดคำว่า “ลูก” แต่กลับเรียกเป็นอย่างอื่นแทนเช่น เด็ก เด็กในท้อง สิ่งที่เกิดจากผม และ สิ่งที่อยู่ในท้อง… ความคิดเห็นบางส่วนจากแฮชแท็กดังกล่าว . …
-
ดราม่ารายการธุรกิจดัง โดนแฉเอาร้อยล้านไม่จริงมาออก ขอเพียงจ่าย 1 ล้านเท่านั้น!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้กับกรณีของเพจเฟซบุ๊กได้ออกมาแฉเบื้องหลังของรายการรายการหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เรื่องมีอยู่ว่าเพจ สงครามโค้ชออนไลน์ ครูชัยขี้โม้ vs โค้ชแก่ขี้แซะ ได้ทำการโพสต์สเตตัสแท็กไปยังรายการเพื่อเผย เบื้องลึกเบื้องหลังว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีรายได้ถึง 100 ล้านจริงๆ!? เอ แล้วยังงี้มันก็ผิดคอนเซ็ปต์ของรายการล่ะสิเนี่ย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขาเผือกอย่างเราๆ ต้องออกแรงสืบกันสักหน่อยแล้วล่ะ!! แถมมีค่าออกรายการถึง 1 ล้านบาทด้วย และ 10% จะถูกหักไปให้กับเจ้าของรายการอีกต่างหาก และที่สำคัญจุดประสงค์ของการออกรายการก็คือการสร้างภาพเพื่อใช้ผลประโยชน์เชิงธุรกิจ ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “อายุน้อยร้อยล้าน รายการนี้ ค่าออกรายการ 1 ล้านบาทนะคะ ยังไม่รวมอย่างอื่น ใครแนะนำให้ บอสใหญ่ที่นามสมมติว่า “ก้อง” ก็จะได้ค่า commission 10% หรือ ประมาณ 100,000 บาท ใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1-3 เดือน เอาไว้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ตอนนี้มีสายข่าวหลายสาย กำลังส่งทีมงานไปตรวจสอบ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งนะคะ จุดประสงค์ คือ ลงทุนเอาไว้สร้างภาพ แล้วเอาภาพมาใช้ผลประโยชน์เชิงธุรกิจอีกครั้ง บางคนลงไป 1…
-
CyberBully หรือเพียงแค่ Criticism เราเห็นอะไรบ้าง จากกรณีชาวเน็ตดราม่า ‘ไข่มุก BNK48’
ในโลกยุคสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต ทุกคนต่างมีพื้นที่เป็นของตัวเองและพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน เปรียบได้เหมือนกับโลกอีกใบที่ทุกคนมีตัวตน เพียงแต่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือเพียงแค่ร่างอวตารเท่านั้น… เมื่ออยู่ในโลกออนไลน์ ทุกคนต่างมีอิสระ สิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออกทางความคิดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การแชร์ หรือแม้แต่กระทั่งการเขียน การกล่าวถึง และวิจารณ์ในประเด็นต่างๆ จากกรณีล่าสุดที่ชาวเน็ตจุดประเด็นเกี่ยวกับการตอบคำถามของน้อง ‘ไข่มุก BNK48’ ในรายการดาวินชี่ ด้วยคำตอบสั้นๆ เพียงแค่ 3 พยางค์ อ๊บใสไม้ และ ป้ายเป่าหลง จนเกิดเป็นข้อสงสัยถึงตัวตนจริงๆ ของน้อง พร้อมทั้งตั้งคำถามในระดับสติปัญญา ลามไปจนถึงการด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง บานปลายไปทั่วอาณาจักรโซเชียลไทย ทั้งนี้ ฝ่ายที่ออกมาว่ากล่าวนั้น ต่างบอกว่าเป็นการวิจารณ์ ติเพื่อก่อ บุคคลสาธารณะควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น แต่ทว่าในบางความคิดเห็นวิจารณ์ด้วยคำด่า คำที่รุนแรงต่อผู้อ่านท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เห็นด้วยไปเสียหมด และนำมาสู่คำถามอีกครั้งว่าเป็นการ ‘วิจารณ์’ หรือเป็นการ ‘บูลลี่’ กันแน่ ก่อนอื่นนั้น เรามาทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า หลายคนมักจะสับสนในความแตกต่างระหว่าง เสรีภาพทางการแสดงความคิดเห็น และ การบูลลี่…
-
ดราม่า ‘ไข่มุก BNK48’ กรณีตอบใบ้คำ อ๊บใสไม้-ป้ายเป่าหลง ถูกวิจารณ์หนักและแซะรุนแรง…
หลังจากรายการ ดาวินชี่ เกมถอดรหัส ได้ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 61 ซึ่งเป็นตอนของกลุ่มไอดอล BNK48 มาร่วมสนุกในรายการ และเป็นตอนการแข่งขันระหว่างสมาชิกวง ไข่มุก และ เจน รายการ ดาวินชี่ เกมถอดรหัส EP. 83 เริ่มต้นในนาทีที่ 4:20 จากคำถามในข้อ 3 พยางค์ เป็นรูปกบตัวใสและไม้ โดยผู้ที่กดปุ่มตอบก่อนก็คือน้องไข่มุก พร้อมกับคำตอบ ‘อ๊บใสไม้’ ถึงแม้จะเป็นคำเรียกแบบน่ารักของคำว่า กบ แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง คำตอบ ‘อ๊บใสไม้’ ของน้องไข่มุกที่กลายมาเป็นประเด็นถูกโจมตี และอีกคำตอบ ‘ป้ายเป่าหลง’ ที่ผิดจาก ‘ป้ายบอกทาง’ ซึ่งหลังจากที่รายการได้ออนแอร์ไปแล้ว ทางฝั่งแฟนคลับต่างรู้สึกเอ็นดูกับความใสๆ ของน้องไข่มุก ซึ่งมองได้ทั้งสองแบบว่า น้องแกล้งยอมตอบผิดหรือใช้คำแบบติดปากในรายการ หรือเป็นการสร้างความบันเทิงเล็กๆ แต่สำหรับโลกออนไลน์อันกว้างใหญ่ของกลุ่มคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ กลับมองน้องไข่มุกในมุมที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มีการด่าทอว่ากล่าว แซะและเหน็บอย่างรุนแรง จากภาพคำใบ้ง่ายๆ…
-
แม่ร้องทุกข์ ครูโรงเรียนดังตีลูกขาเป็นแผลแตก เหตุเพราะ ‘ใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ’!?
เรื่องของการลงโทษการทำผิดกฎระเบียบในโรงเรียนนั้น กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมบ้านเรา ณ ขณะนี้ ว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่ หรือรุนแรงเกินไปหรือไม่ การลงโทษแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของใคร ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลายๆ กรณี และเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้เองก็เช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Natthaphong Tansiri ได้ทำการโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ไทยรัฐ แจ้งข่าว-คลิป บอกเล่าเรื่องราวของเด็กนักเรียนที่สวมถุงเท้าผิดกฎจนเป็นเหตุให้ถูกลงโทษ ในโพสต์ผู้ปกครองของเด็กเล่าว่า “ฝ่ายปกครองของโรงเรียนทำโทษนักเรียนที่ทำผิดกฎ ใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ อยากถามครูว่าตีเพื่อสั่งสอน หรือเอาอารมณ์ของครูเป็นที่ตั้ง ถึงได้ตีแตกขนาดนี้ ตีน่ะตีได้ไม่ว่าหรอก แต่แตกขนาดนี้เกินกว่าเหตุรึเปล่าคะ?” เรื่องราวต่อไปนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 861 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 145 ครั้งเลยทีเดียว แต่ละคนก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็เห็นด้วยกับการกระทำของครู “แต่ก่อนผมยิ่งถูกตีหนักกว่านี้แค่นี้จิ๊บๆ ถ้าไม่ตีเด็กไม่รู้จำหรอก” “5555 ดูเหตุที่ตีก่อน ดูอายุที่โดนด้วย คนโพสไม่ระบุ ตอนผม ม.3 โดนหนักกว่านี้อีก ผิดคือผิด แม่บอก” บ้างก็บอกว่าคุณครูทำเกินกว่าเหตุ “เกินเหตุแล้ว…
-
ดราม่าอีกระลอก… เพจชื่อดัง โผล่งานวาดดูแคลนหญิง ส่งเสริมการข่มขืนโดยชอบธรรม
กลายมาเป็นประเด็นเดือดกันอีกครั้ง ระหว่างหลากหลายเพจ ชาวเน็ต ด้วยความคิดเห็นที่แย้งกับงานภาพที่(อาจจะ)ตั้งใจจะสื่อในแนวของการ์ตูนคู่รักแบบวัตถุทางเพศ… ภาพที่เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ทางเพจดังกล่าว เคยวาดภาพแนวที่ว่าผู้ชายทำร้ายผู้หญิงทางกาย แต่ผู้หญิงทำร้ายผู้ชายทางใจ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตมาแล้ว และไม่ต่างไปจากครั้งนี้ ชาวเน็ตเห็นว่าคล้ายกับการส่งเสริมการข่มขืนผู้หญิงแบบบังคับสมยอม ชาวเน็ตบนทวิตเตอร์ต่างแสดงความเห็นเชิงลบที่มีต่อเพจ . รวมไปถึงพูดถึงผลงานเก่าๆ และเพจต่างๆ ร่วมกันเป็นชาวท่าแซะโดยมิได้นัดหมาย . . จากเพจ ภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนไม่สอน และเพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวบานปลายไปมากกว่านี้ ทางเพจผู้ชายใส่แว่น ได้ทำการลบภาพดังกล่าวออกไปพร้อมกับคำอธิบายตามภาพ “จากที่พิจารณาแล้ว… ไงแอดมินขอลบภาพล่าสุดออกแล้วกันนะครับ ไม่อยากสร้าง ความคิดแย่ๆ ในสังคมเนอะ สําหรับคนที่ดูแล้วไม่คิดอะไร ถือว่า แอดดก็ได้สร้างความสุขให้คุณแล้ว ขอบคุณที่ติดตามผลงานมาตลอดนะครับ ขอโทษสําหรับคนที่ไม่ชอบ (รู้ว่าเบื่อ555) และขอบคุณสําหรับความเห็นของทุกคนด้วยครับ ส่วนใครที่ชอบผลงาน ก็ฝากกดติดตามไว้นะครับ” และตรวจสอบสภาพล่าสุดของเพจ ก็กลายเป็นสภาพนี้ไปเสียแล้ว… ที่มา: #ผู้ชายใส่แว่น
-
โซเชียลระอุ!! ดราม่าโจทย์คณิตเด็กประถม ‘การเล่นเกมคือการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์’
ใครเล่าจะรู้ว่า ‘การบ้านของเด็กประถม’ จะกลายมาเป็นประเด็นดราม่า ที่ถกเถียงกันทั่วโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น เรื่องมันเริ่มมาจากทวิตเตอร์ของชาวญี่ปุ่นชื่อว่า @HiZiRi_DIESEL ได้โพสต์ภาพของโจทย์การบ้านของเด็กประถมข้อหนึ่ง ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นประเด็นดราม่ากันทั่วเน็ต โจทย์มีอยู่ว่า “ในตอนเช้า คุณใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที ในการเล่นเกม, ในตอนบ่าย คุณใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาทีในการเล่นเกม รวมทั้งหมด คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปทั้งหมดเท่าไหร่?” ซึ่งเป็นการทดสอบความรู้ของเด็กๆ ว่าใน 1 ชั่วโมงนั้นมี 60 นาที และหากคำนวณดูแล้วก็จะได้คำตอบว่า 4 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตทั้งหลายก็ตั้งประเด็นดราม่ากันขึ้นมา เพราะมองว่าโจทย์ที่ครูตั้งขึ้นมานั้นเป็นการดูถูกวงการเกมเป็นอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือนว่าคุณครูจะไม่เข้าใจว่า ‘เวลาที่ใช้ในการเล่นเกม’ กับ ‘เวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์’ นั้นมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลายคนก็วิจารณ์ว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่อันตรายต่อความคิดของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณ @HiZiRi_DIESEL ก็ได้เขียนแคปชั่นในโพสต์ดังกล่าวว่า “เป็นการดูถูกผู้คนที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเกมเป็นอย่างยิ่ง” ซึ่งอุตสาหกรรมเกมนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามากดชื่นชอบถึง 84,200 ครั้ง และ รีทวีตไปอีกกว่า…
-
ดราม่าสนั่น “หมอตั้ม” มาสเตอร์เชฟ โพสต์แบบนี้ ชาวเน็ตถามตั้งใจจะแซะใครหรือเปล่า!!?
รายการ Masterchef Thailand Season 2 นี้เรียกได้ว่าเข้มข้น ดุเดือด และสนุกสนานมากจริงๆ ด้วยฝีไม้ลายมือของเหล่าผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายที่มาประชันห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ปัจจุบันรายการได้ดำเนินผ่านประเด็นดราม่าต่างๆ มามากมายจนถึงรอบ 3 คนสุดท้าย ต้องขอแจงก่อนว่า ประเด็นดราม่าก่อนหน้านี้คือเรื่องของ “เฟิร์ส” เด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้แข่งขัน 1 ใน 3 คนสุดท้าย ต้องย้อนความกันก่อนว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเฟิร์สนั้นร่ำเรียนวิชาการทำอาหารมาจาก เชฟเมย์ ยอดเชฟแห่งเมืองไทย ไม่ได้ศึกษาเองจากยูทูบแบบที่ให้ข้อมูลในรายการ เท่านั้นยังไม่พอ ล่าสุดว่ากันว่าเฟิร์สได้นำเอาเมนูที่ เชฟเมย์คิดค้นขึ้นมาแข่งขันในรายการ Masterchef โดยไม่ขออนุญาตเจ้าตัวอีกด้วย จึงทำให้เชฟเมย์เองต้องออกมาโพสต์เดือดถึงเฟิร์สว่าเป็นคน “เนรคุณ” แต่ประเด็นหลักอยู่ตรงที่ หมอตั้ม ผู้เข้าแข่งขันที่เพิ่งตกรอบไปหมาดๆ ออกมาโพสต์บางอย่าง ชาวพันทิปเห็นแล้วคิดได้อย่างเดียวเลยว่า นี่มันเป็นการแซะเฟิร์สชัดๆ หมอตั้มทวีตเชียร์ลัทผู้เข้าแข่งขัน 1 ใน 3 คนสุดท้าย พอมีคนมาถามว่าทำไม่เชียร์อีก 2 คนที่เหลือด้วย หมอตั้ม กลับตอบว่า เชียร์ลัทที่ 1 และเชียร์เดียวที่ 2…
-
เปิดคลิปฝั่งพ่อค้าขายทุเรียนตบหน้าลูกค้า…’เปลี่ยนทุเรียนให้แล้ว’ ยังทำร้ายกันอีก ‘มันเกินไป’
จากเหตุการณ์ ลูกค้าซื้อทุเรียนเละ ขอเอาไปเปลี่ยนคืนที่ร้าน เจอพ่อค้าด่า-เอาทุเรียนตบหน้า ที่เกิดขึ้นไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่พูดถึงกันอย่างหนักหน่วงในโลกโซเชียล ถึงการกระทำของเจ้าของร้านว่าทำเกินกว่าเหตุ หลังจากที่ได้ชมคลิปเหตุการณ์ หลายคนต่างก็ตัดสินว่าสิ่งที่พ่อค้าทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิด และวิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ แต่ล่าสุดเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาเฟซบุ๊กเพจ รู้ยัง – พัทยา ได้โพสต์คลิปวิดีโอ จากฝั่งของร้านขายทุเรียน พร้อมกับแคปชั่นว่า “ฝั่งพ่อค้าทุเรียนว่ายัง ไปฟังกัน!!” เนื้อหาในคลิปเจ้าของร้านก็ออกมาขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับเผยว่าเปลี่ยนทุเรียนให้ไปแล้วตามในคลิป แต่ก็ยัง “เอาของที่เปลี่ยนให้ไปแล้ว มาทำร้ายเรา มันเกินไป” รวมไปถึงก่อนจะกลับก็ให้ทุเรียนไปอีกหนึ่งแพ็ค พร้อมกับเงินอีก 1,000 บาท ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… หลังจากที่ชาวเน็ตทั้งหลายได้เห็นคลิปของฝั่งพ่อค้า ก็มีความเห็นไปต่างๆ นานา แต่ส่วนใหญ่ก็ตามมาด่าพ่อค้าล่ะนะ ชาวเน็ตท่านหนึ่งบอกว่า “ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าให้ทุเรียนคืนหรือให้ไปไหม ประเด็นอยู่ที่ว่ามึงไปตบหน้าเค้าหาพ่อมึงหรา” บางท่านก็ท้วงว่าที่พ่อค้าพูดน่ะได้วิเคราะห์ด้วยมั้ย “‘เปลี่ยนให้แล้ว ยังเอาของที่เราเปลี่ยนให้กลับมาทำร้ายเราอีก มันเกินไป’ พูดไปได้วิเคราะห์ไปด้วยมั้ยว่าเหตุเกิดจากอะไร สินค้าไม่ดี หรือลูกค้าไม่ดี แล้วทุเรียนที่ให้เค้าไป มันเทียบได้กับจิตใจของลูกค้าที่ถูกทำร้ายมั้ยคะ โดนทุเรียนตบมันอาจจะไม่เจ็บแต่เชื่อว่าเบื้องลึกในใจคงจี๊ดมากไม่งั้นเค้าคงไม่ร้องไห้…
-
ลูกค้าซื้อ ‘ทุเรียนเละ’ ขอเอาไปเปลี่ยนคืนที่ร้าน เจอพ่อค้าด่า-เอาทุเรียนปาหน้า
ช่วงนี้ต้องขอบอกเลยว่าเป็นช่วย ‘ทุเรียนฟีเวอร์’ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ทุเรียน ทุเรียน และทุเรียนเต็มไปหมด สำหรับแฟนๆ ทุเรียนใครเล่าจะไปอดใจไหว ก็ต้องซื้อมากินมันให้หายอยากกันไปข้างนึงล่ะนะ เช่นเดียวกันกับชาวเน็ตที่ชื่อว่า Bella Thepsatar ที่ได้ไปซื้อทุเรียนจากร้านแห่งหนึ่งแล้วพบว่ามันเละ เธอก็เลยไปขอเปลี่ยนแต่กลับกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น เธอได้อัดคลิปวิดีโอไว้และนำไปโพสต์ในกลุ่ม พัทยาทอล์ค พร้อมกับแคปชั่นว่า “#ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะไม่ได้อยากจะไปมีเรื่อง คือเราไปซื้อทุเรียนร้านนี้ 2 ครั้งแล้ว ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้มันเละจนติดกระดาษที่ห่อทุเรียนแล้วมีน้ำเยิ้มออกมา ส่วนพูที่กินได้เราก็เก็บไว้ที่บ้านเอาแค่พูที่เสียไปที่ร้าน เราไม่คิดหรอกว่าจะไปแล้วมีเรื่อง เลยไม่ได้ถ่ายก่อนที่เค้าจะเอากำปั้นทุบเละ แล้วเค้าบอกว่าก็มึงเอานิ้วจิ้มมันมันก็เละซิ เราพยายามไม่กูไม่มึงนะ เค้าเงื้อมือจะตบเราเราถามพี่จะทำอะไรหนู เหตุการณ์มันไวมาก #เหตุการตามคลิปเลยค่ะ #ซื้อทุเรียนดูที่ร้านเลยนะคะเพราะเอาออกไปแล้วกลับมาจะเป็นแบบนี้ #เราซื้อไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพอรุ้ว่าเสียเรารีบเอากลับมาเปลี่ยน #ไม่น่ามาทำร้ายร่างกายกัน #แค่มาเตือนใครที่คิดจะซื้อทุเรียน ควรเลือกร้าน” สามารถเข้าไปชมคลิปเหตุการณ์ได้ที่นี่ ในคลิปเหตุการณ์เริ่มจากเจ้าของโพสต์ไปขอเปลี่ยนทุเรียนเพราะที่ซื้อไปมันเละและกินไม่ได้ แต่เหมือนกับว่าเจ้าของร้านคนหนึ่งที่เป็นผู้ชายเกิดความไม่พอใจ และเอาทุเรียนปาเข้าที่หน้าของเจ้าของคลิป ทางพนักงานคนอื่นๆ ก็เข้ามาห้าม จนสุดท้ายก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเอาทุเรียนใหม่มาให้ พร้อมกับอธิบายว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาเถียง และบอกให้เจ้าของโพสต์กลับไป ชาวเน็ตพอได้เห็นเรื่องราวดังกล่าวก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะตำหนิชายในคลิปว่ากระทำเกินกว่าเหตุ และเห็นใจเจ้าของโพสต์ ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า…
-
สรุปใครผิด!? หนุ่มบิ๊กไบก์โวย โดนรถยนต์ปาดหน้าจนล้มกลิ้ง ชาวเน็ตเถียงกันสนั่น
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันอยู่ในโลกออนไลน์บ้านเรา ณ ขณะนี้เลยทีเดียว กับกรณีของหนุ่มขับบิ๊กไบค์โดนรถยนต์ปาดหน้าจนล้มกลิ้งไปกับพื้น แต่โชคดีที่เจ้าตัวรอดมาได้และโพสต์คลิปเหตุการณ์ลงในโลกโซเชียล เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Supod Mongkonkoon ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอลงบนเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชั่นว่า “มักง่ายไหม ปาดหน้าผมล้มเสร็จหนีทันที ผ่านไป 10นาที ดีที่วนรถกลับมารับผิดชอบ…” ในคลิปก็จะเป็นคลิปเหตุการณ์อุบัติเหตุ ที่เจ้าตัวกำลังขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ BMW รุ่น S1000RR อยู่บนถนนสายหนึ่ง แต่แล้วก็มีรถยนต์ยี่ห้อ Toyota CH-R ปาดเลนจากซ้ายสุดมาขวาสุดอย่างกะทันหัน ทำให้เบรคไม่ทันและชนเข้าที่ท้ายอย่างจัง จนล้มกลิ้งไปหลายตลบ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามาดูคลิป 355,000 ครั้ง กดไลก์ 6,000 ครั้ง และกดแชร์ไปอีกกว่า 2,937 ครั้งเลยทีเดียว แน่นอนว่าพอเรื่องราวมาถึงเหล่าโซเชียล ก็ต้องมีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งอยู่ทีมเจ้าของโพสต์และไม่ได้เห็นด้วยกันกับเจ้าของโพสต์ไปเสียทั้งหมด ส่วนที่อยู่ทีมเดียวกับเจ้าของโพสต์ และมองว่ารถยนต์เป็นฝ่ายผิด ชาวเน็ตรายหนึงให้ความเห็นว่า “ดูจริงก็รถยนต์ค่ะผิด…
-
ขุ่นแม่ Rihanna กับ ‘หมวกท่านโป๊ป’ ในงานพรมแดง Met Gala สุดท้ายไม่พ้นโดนดราม่า!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยากกว้างขวางในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กของต่างประเทศ กับกรณีของขุ่นแม่ Rihanna แต่งกายไม่เหมาะสมไปร่วมงาน Met Gala งานดังกล่าวนี้เป็นงานเลี้ยงแบบหรูหราที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเรี่ยไรเงินไปพัฒนาพิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art’s Costume และสำหรับปีล่าสุดก็เพิ่งจัดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับปีนี้ก็มาในธีม “Heavenly Bodies : Fashion and the Catholic Imagination” หรือ “ร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ : แฟชั่นและจินตนาการในนิกายคาทอลิก” แน่นอนว่าระดับ Rihanna แล้ว การแต่งตัวมาร่วมงานจะต้องเป็นที่ฮือฮาและเป็นที่จับจ้องของทุกคน เธอมาในชุดสีขาวที่ปักลวดลายสวยงาม แต่ที่ดูเด่นที่สุดก็คือหมวกที่มีรูปทรงคล้ายกับหมวกของนักบวชนิกายคาทอลิก “มันดูแพงมาก และมันคงจะเป็นบาปมหันต์หากเราไม่สวมมัน” Rihanna กล่าวถึงหมวกดังกล่าวกับนิตยสาร Vogue แน่นอนว่าหลังจากที่ภาพของเธอในชุดนั้นถูกเผยแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ตก็กลายมาเป็นดราม่าจนได้ เพราะชาวเน็ตหลายคนต่างก็เห็นว่ามันไม่เหมาะสม “@rihana ฉันรักเธอนะ แต่การมาสวมหมวกท่านโป๊ปมาร่วมในงาน MetGala นั้นถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับฉัน ในฐานะที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยครอบครัวที่นับถือนิกายคาทอลิก การล้อเลียนศาสนาคริสต์อันเป็นที่รักของเราในงานนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพและน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก” ชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตอีกรายหนึ่งก็ตัดพ้อถึงกรณีที่เคยมีดราม่าเรื่องชุดพื้นเมืองของชาวอเมริกัน “เมื่อคุณไม่สามารถสวมชุดพื้นเมืองอเมริกันในวันฮาโลวีน…
-
จ่าพิชิตแนะนำ “สูตรชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ” รสชาติอร่อย คนเป็นเบาหวาน-นิ่ว ก็ดื่มได้
สำหรับคนที่เป็นนิ่วแล้ว การดื่มน้ำเยอะถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสเสี่ยงน้อยลง เพราะน้ำจะไปช่วยล้างสารต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรคนิ่วในไต แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยจะชอบดื่มน้ำเปล่าๆ สักเท่าไหร่ เรามีตัวช่วยที่คุณอาจจะชอบก็ได้นะ ตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือการชงชาที่ผสมหญ้าหวานแล้วดื่มแทนน้ำ สูตรนี้แนะนำโดยจ่าพิชิตจากเพจ Drama-addict โดยจ่าพิชิตได้เล่าว่าเมื่อไม่นานมานี้ได้มีเพื่อนมาปรึกษาตนเองว่าเป็นนิ่ว แต่ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าๆ เนื่องจากติดนิสัยการดื่มน้ำหวาน จ่าพิชิตจึงแนะนำสูตรชาที่ทางบ้านใช้ดื่มเป็นประจำ โดยในชาที่ว่านี้มีส่วนผสมของตะไคร้ ใบเตย เก๊กฮวย มะตูม ขิง ดอกคำฝอย และมีการเติมหญ้าหวานเข้าไป ทำให้มีรสชาติหวานทานง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านไดโซะ โดยปกติแล้วถ้าเป็นชาทั่วๆ ไป จะต้องมีการต้มในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และหากต้มนานเกินไปจะทำให้ชามีรสขม แต่กับชาประเภทนี้กลับไม่มีรสขมแบบนั้น ยิ่งต้มนานก็ยิ่งดี นอกจากคนเป็นนิ่วแล้ว คนเป็นโรคเบาหวานก็สามารถดื่มได้เช่นกัน เพราะใช้ส่วนผสมของหญ้าหวานแทนน้ำตาลนั่นเอง ใส่ถุงชาแล้วเอาลงไปต้มในน้ำร้อน . . พร้อมดื่ม อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่นี่ ที่มา Drama-addict
-
ชาวเน็ตจวกยับ..พนักงานเซเว่น ยืนเหยียบลังใส่อาหาร / นั่งกินข้าวกลางร้านขวางทางเดิน!!
กำลังกลายเป็นประเด็นทวิตเตอร์อยู่ ณ ขณะนี้เลยทีเดียว หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Plaizlupang ได้โพสต์ภาพของพนักงานเซเว่น ไม่ระบุสาขา ที่ยืนบนลังใส่ของซึ่งอาจจะดูไม่เหมาะ พร้อมกับเอาอาหารมานั่งทานกันกลางร้านโดยไม่แคร์สายตาลูกค้าเลยแม้แต่น้อย โพสต์ดังกล่าวใช้แคปชั่นว่า “ขอโทษนะคะ คือพนักงานเซเว่นนี่เค้าไม่มีอบรมพนักงานหน่อยหรอคะ ยืนบนที่ใส่อาหาร แล้วมาตั้งโต๊ะกินข้าวแบบนี้ในเซเว่นได้เลยหรอ? คนชุดแดงนี่คือพนักงานนะคะ ทราบว่าเป็น พนง เพราะว่ามาใช้สาขานี้ประจำ จำหน้าได้ แล้วสาขานี้หลายรอบแล้ว ตะโกนคุยกันหยาบคายข้ามหัวลูกค้า #รีวิวเซเว่น” โพสต์นี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากจนมีคนเข้ามากดไลก์กว่า 3,107 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 45,417 ครั้งเลยทีเดียว . จากที่ดูแล้วเรื่องนี้ชาวเน็ตพูดกันไว้ 2 ประเด็นด้วยกัน 1.เรื่องแรกคือการยืนบนกล่อง ซึ่งจากการสอบถามไปยังร้านค้าดังกล่าว พบว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะยืนได้ แต่ทางด้านเจ้าของโพสต์ก็มองว่ามันไม่ควรเพราะลังเหล่านี้เป็นลังที่เอาไว้ใส่อาหารต่างๆ อีกด้วย 2.นั่งตั้งวงกินข้าวกลางร้าน ส่วนในประเด็นที่สองคือพนักงานนั่งทานอาหารกันกลางร้าน แบบไม่เกรงใจผู้อื่นเลย ทำให้เกิดการกีดขวางการเลือกซื้อของเป็นอย่างมาก ซึ่งประเด็นที่สองนี้ชาวเน็ตหลายคนให้ความสำคัญมากกว่าเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควร ล่าสุดทางด้านคุณ @Plaizlupang ได้ทำการแจ้งไปยัง Cp All เรียบร้อยแล้วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากมีความคืบหน้าอะไร…
-
เมื่อบุคคลไม่มีเชื้อเอเชีย ใส่กี่เพ้าเคล้าดราม่าไปร่วมงานพรอม ชาวเน็ตติงถึงความเหมาะสม!!
เอกลักษณ์ของชุดประจำเชื้อชาตินั้นยังคงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันว่า ควรจะให้บุคคลเชื้อสายอื่นได้มีโอกาสสวมใส่ได้หรือไม่ หรือในอีกประเด็นหนึ่งก็คือการนำชุดไปใส่ในงานต่างๆ นั้นมีข้อจำกัดอยู่มากน้อยแค่ไหนกัน… อันเนื่องมาจากประเด็นที่ชาวเน็ตต่างชาติกำลังพูดถึงกันอยู่ก็คือ ชุดกี่เพ้า อันเป็นชุดเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจีน มีหญิงรายหนึ่งสวมใส่ชุดนี้ไปร่วมงานพรอม แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากการใส่ชุดกี่เพ้าไปงานพรอมนั้นไม่เหมาะสม และลามไปจนถึงไม่มีเชื้อสาย ‘เอเชีย’ เรื่องมันเกิดขึ้นจาก @daumkeziah ได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอในชุดกี่เพ้าเข้าร่วมงานพรอม มองผิวเผินทั่วไปก็คงจะเป็นชุดสวยๆ ที่ใส่ออกงานอยู่แล้ว แต่ทว่าหลังจากโพสต์ถูกรีทวีตไปเป็นจำนวนมาก ข้อความที่มองกลับในฝั่งตรงข้ามก็มีเยอะเช่นเดียวกัน แบบนี้ไม่โอเค ฉันคงไม่ใส่ชุดประจำชาติเกาหลี ญี่ปุ่น หรือชุดประจำชาติอื่นๆ และฉันเป็นชาวเอเชีย ฉันจะไม่ใส่ชุดประจำชาติไอร์แลนด์ สวีเดน หรือกรีก ด้วยเช่นกัน มันมีประวัติศาสตร์อยู่เบื้องหลังชุดเหล่านี้อยู่นะ เศร้าใจจัง วัฒนธรรมเอเชียไม่ใช่เรื่องสุนทรียะที่คุณจะเอามาใช้ได้ ความตั้งใจของเธอไม่ตรงประเด็น การตัดสินใจอันย่ำแย่นี้เป็นการยึดครองทางวัฒนธรรมและเป็นการสร้างภาพวัฒนธรรมของเราให้คนขาว กรุณาดูรางเหง้าตัวเองด้วย วัฒนธรรมของเราไม่ได้เป็นชุดไปงานพรอมนะ! อย่างไรก็ตามเธอพยายามอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจลบหลู่วัฒนธรรมชาวจีน เพียงแค่ชื่นชมและจะไม่ยอมลบเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด มันก็เป็นแค่ชุด และมันก็สวยมากๆ แม้จะมีใครบอกกล่าวไปแล้ว ว่าเธอไม่ใช่ชาวเอเชีย จะเป็นการดีกว่าที่เธอจะยอมฟังชาวเอเชียแท้ๆ เพราะเธอกำลังบอกว่าชื่นชมวัฒนธรรมของพวกเขาอยู่นะ ชาวเน็ตบางรายก็เข้ามาย้ำอีกรอบว่า เพราะท่าทางของเธอนั่นแหละ… …
-
วิกฤตโอตะ…ดราม่านิตยสาร HAMBURGER ปก BNK48 คว้าหมดปึก ปล่อยขาย แฮกรูปในเว็บ!!
กลายเป็นประเด็นเดือดเลือดร้อนบนโลกออนไลน์เมื่อวานที่ผ่านมา (26 เมษายน 2561) หลังจากที่มีการเริ่มวางแผงนิตยสาร HAMBURGER นิตยสารแจกฟรีของบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ฉบับล่าสุดซึ่งเป็นปก BNK48 ก็เกิดเป็นกระแสดราม่าอย่างรุนแรงในชั่วพริบตา เมื่อถึงเวลา 17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีการวางแผงของนิตยสาร จากความต้องการที่มีในปริมาณมาก แต่ทว่าจำนวนนิตยสารที่แจกฟรีนั้นมีจำนวนจำกัด กลายเป็นการแก่งแย่งชิงกันอย่างรุนแรง โดยที่มีโอตะ (หรือพ่อค้า) บางส่วน ทำการหยิบนิตยสารที่เพิ่งจะวางในจุดแจกเพียงไม่กี่นาทีไปทั้งปึก ซึ่งคนอื่นๆ ไม่ได้หยิบแม้แต่เล่มเดียว โอตะบางส่วนหยิบไปทั้งปึก และนำมาปล่อยขายในราคาสูง . จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นาน นิตยสารฉบับล่าสุดก็ออกมาโผล่ในกลุ่มการซื้อขายของกลุ่มแฟนคลับ ทำการประกาศขายในราคาประมาณหลักร้อยไปจนถึงครึ่งพัน ทั้งๆ ที่เป็นนิตยสารแจกฟรี… (แถมมีคนซื้อด้วย) หนึ่งในกรณีขายนิตยสารแจกฟรีในราคา 350 บาท ทั้งนี้กระแสเริ่มแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย นั่นก็คือ ฝ่ายที่ออกไปหยิบนิตยสารแจกฟรีแล้วนำมาขายต่อในราคาสูง กับอีกฝ่ายที่หยิบตามจำนวนที่เหมาะสม และฝ่ายที่ไม่มีโอกาสได้หยิบเลยแม้แต่เล่มเดียว จนกลายเป็นการถกเถียงถึงเรื่องมารยาทในสังคมส่วนรวม ว่าสิ่งที่ทำกันอยู่คือสิ่งสมควรหรือไม่ โอตะบางส่วน เริ่มลุกลามทำการแฮกภาพที่ยังไม่ได้ทำการเผยแพร่ในเซิร์ฟเวอร์…
-
เปิดใจ “แม่เอ็ม” สุดช้ำ เพิ่งรู้ว่าลูกบอกคนอื่น ‘ไม่มีพ่อแม่ ถูกเก็บมาเลี้ยงจากถังขยะ”
จากข่าวสุดป่าเถื่อนที่โด่งดังไปทั่วประเทศขณะนี้ กับ นายชัยชนะ ศิริชาติ หรือ เอ็ม แอดมินเพจ Global Fx Investment ที่ได้ทำการไลฟ์สดทำร้ายร่างกายแฟนสาวนามว่า นีต้า อย่างทารุณ ขณะนี้ เอ็ม ผู้ก่อเหตุก็ได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ใช่ว่าเรื่องราวจะจบลงง่ายๆ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมีพ่อมีแม่ ทางรายการ รายการโหนกระแส จึงได้เชิญผู้เป็นพ่อของนีต้าและแม่ของเอ็มมานั่งคุยกันในรายการ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ผู้ดำเนินรายการ คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้สอบถามพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สุดป่าเถื่อน เรื่องราวน่าช้ำใจจึงเกิดขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือการที่แม่ของเอ็มได้รู้ว่าความจริงว่า ลูกชายของตนไปโกหกคนอื่นไว้ว่า ไม่มีพ่อแม่ และถูกเก็บมาเลี้ยงจากกองขยะ ทั้งพ่อของนีต้าและแม่ของเอ็ม ต้องเผชิญหน้าและพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะที่พ่อของนีต้ากล่าวว่า เอ็มบอกกับตนว่าไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเลย ตัวเขาถูกเก็บมาเลี้ยงจากสมาคมใดสมาคมหนึ่ง การศึกษาก็จบเพียง ป.6 แถมยังเคยบอกว่าด้วยว่า ตนอยากขอเป็นลูกของพ่อนีต้า ส่วนผู้เป็นแม่ของเอ็ม ก็กล่าวว่า เธอนี่แหละคือแม่แท้ๆ ของเอ็ม เธอและเอ็มไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้ว ถึงจะคิดถึงลูกก็ไม่รู้ว่าจะหาตัวได้พบอย่างไร ซ้ำยังไม่ทราบเลยว่าเอ็มมีแฟน เพราะเอ็มไม่เคยส่งข่าวหรือติดต่ออะไรกับเธอเป็นเวลานาน อีกอย่างเอ็มเรียนจบแค่ ป.4…
-
แม่ระบาย ลูกนศ.วิศวะถูกรุ่นพี่แบน เพราะ “ลาห้องเชียร์” ไปแข่งคอมฯ ชนะระดับประเทศ
กำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของบ้านเรา กับกรณีของคุณแม่คนหนึ่งออกมาเล่าเรื่องราวประสบการณ์อันขื่นขมของลูกชาย ที่ต้องพบเจอมาตลอดในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Niwatcharee Wungsoontorn ได้โพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าว ว่าลูกชายของตนนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาลัยอย่างขมขื่น เพราะถูกกลุ่มรุ่นพี่แบนออกจากการรับน้อง เรื่องราวสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้ ลูกชายของคุณแม่เป็นเด็กเรียนเก่ง และเข้ารับการแข่งขันเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์คว้าชัยชนะมาแล้วหลายรายการ ลูกชายสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง และเข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างปกติ จนกระทั่งมีการแข่งขันคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 3 วัน เป็นเหตุให้เขาต้องขาดเรียน จึงเขียนใบลาไปหาอาจารย์ และรุ่นพี่ ซึ่งฝ่ายอาจารย์นั้นอนุญาตแต่โดยดี ส่วนฝ่ายรุ่นพี่กลับไม่ให้ลาซะงั้น พร้อมทั้งประกาศว่าหากไม่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ก็จะโดนแบนออกจากคณะตลอดไป ทางด้านของลูกชายตัดสินใจที่จะลงแข่งขัน และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศกลับมา สร้างชื่อเสียงให้กับคณะและมหาวิทยาลัย แต่กลับกลายเป็นว่าถูกรุ่นพี่แบนออกไปไม่ให้ข้าร่วมกิจกรรมทั้งปวง รวมไปถึงได้รับสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นรุ่น นอกจากนี้ก็ยังถูกปฏิบัติอย่างเสียหาย ต้องใช้ชีวิตอย่างขมขื่น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยตลอด 4 ปี เพียงเพราะความไม่พอใจของรุ่นพี่ ลองเข้าไปอ่านโพสต์เต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้ หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจนถูกแชร์ไปมากมาย ตัวของลูกชายก็ออกมาเล่าข้อเท็จจริงเพิ่มเติม . . . . . แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง? คิดว่าสิ่งที่รุ่นพี่ทำมันเกินไปไหน? ก็สามารถคอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ …
-
แฟนคลับรุ่นเดอะของ “ขวัญ” ออกมาทวีตถึงความรู้สึกตั้งแต่ชื่นชอบจนเลิกติดตามในที่สุด
ยังคงกลายเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับดาราสาว ขวัญ อุษามณี ที่มีข่าวคราวว่าเลิกรากับหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ในช่วง 2-3 วันมานี้ เธอกลับถูกชาวเน็ตนำเอาคลิปวิดีโอขณะให้สัมภาษณ์เมื่อตอนที่เลิกกับหนุ่มกอล์ฟและขณะที่ให้สัมภาษณ์ถึงท่านลอร์ดเจมส์ คนสนิทคนล่าสุดของขวัญ ที่ดูมีความแตกต่างทางอารมณ์จนชาวเน็ตพากันงงงวยว่าอะไรยังไง? (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) ล่าสุดได้มีชาวทวิตเตอร์รายหนึ่งที่อ้างตัวว่าตนเองนั้นเป็นแฟนคลับของขวัญมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก สมัยที่ก่อตั้งเว็บไซต์แฟนคลับ Baankwan.com ได้ออกมาบรรยายถึงความรู้สึกที่ตัวเองเคยชื่นชอบดาราสาว จนเลิกติดตามไปในที่สุดเนื่องจากข่าวคราวที่ทำร้ายจิตใจเหล่าแฟนคลับ ทั้งนี้เจ้าของทวิตเตอร์ได้เล่าต่อว่าทุกครั้งที่เกิดเรื่องราวเสียๆ หายๆ เจ้าตัวจะออกมาปกป้องดาราสาวตลอดเวลา แต่กับครั้งล่าสุดเธอคิดว่าคงทนกับการกระทำต่างๆ ไม่ไหว จนถึงขั้นถอดใจเลิกทำเว็บแฟนคลับของดาราสาวไป ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ทวีตบอกว่าแฟนคลับของขวัญที่รู้เรื่องราวของเธอส่วนใหญ่ไม่กลับเข้าไปรับรู้เรื่องราวของเธออีกเลย และเว็บสำหรับแฟนคลับที่เคยก่อตั้งกันก็เปลี่ยนมือไปแล้วหลายต่อหลายรุ่น นอกจากนี้ยังบอกว่าเว็บไซต์ Baankwan.com ที่เคยทำนั้น ถูกแม่ของขวัญวิจารณ์ว่าไม่สวยจนอยากจะให้ทีมใหม่เข้ามาจัดการ และมีการบังคับให้ขายโดเมน Baankwan.com ให้ด้วย แต่ทีมแฟนคลับไม่ยอมขายให้ แม่ขวัญจึงทำการเปิดเว็บใหม่ขึ้นมาแทน ชื่อว่า Baankwan.net . . . . . . ทวิตเตอร์รายนี้บอกว่าเหล่าแฟนคลับกลุ่มเดิมได้รวมตัวกันเพื่อสร้างเว็บใหม่ที่ชื่อว่า Kwanfc.com เพื่อมาแข่งกับ Baankwan.net ที่คุณแม่ของขวัญเป็นคนสร้าง และนี่คือภาพที่พวกเขาทำและถูกแม่ขวัญวิจารณ์ว่า “ไม่สวย” …
-
ดราม่ากระทบจิตใจ เมื่อ “วัด” เลี้ยงหมาจรจัดไม่ไหว จะขอย้ายออกไป กลับโดนชาวเน็ตรุมด่า!?
ยังคงหาทางออกกันอยู่เสมอ สำหรับปัญหาสัตว์จรจัดที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก และกลายมาเป็นการถกเถียงอย่างหนาหู ปาดคีย์บอร์ดกันแทบไม่ทัน เมื่อหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ตัดสินใจที่จะย้ายหรือกำจัดทิ้ง… แน่นอนว่าคนรักสัตว์มักจะยอมไม่ได้ โดยส่วนมากจะแสดงความคิดเห็นไปในเชิงว่า ‘ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่นๆ ที่ดีกว่านี้หรือ?’ กรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับวัดวังตะกูที่กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ เมื่อทางเพจ Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด ได้ทำการเผยแพร่ภาพถ่ายประกาศจากทางวัด เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมแคปชั่น ‘จะเอาออกไปสถานที่กักกัน คือที่ไหนคะ’ โดยเป็นภาพป้ายประกาศชี้แจงให้ญาติโยมได้รับทราบว่า… ทางวัดจะทำการเคลื่อนย้ายสุนัขจรจัดที่อยู่ภายในบริเวณวัดไปยังสถานกักกันสัตว์ของกรมปศุสัตว์ หากใครมีความสนใจอยากจะรับอุปการะ ก็สามารถติดต่อกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้โดยตรง หากพ้นกำหนดวันที่ 26 เมษายน 2561 ไปแล้ว สุนัขทั้งหมดจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปในทันที แน่นอนว่าหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตผู้รักสัตว์ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงต่อว่าวัดและพระ แตกต่างกันไปในหลายกรณี… . . . . แต่ในเมื่อมองอีกด้านหนึ่ง ทางวัดก็ได้ประกาศไว้แล้วว่า หากใครสนใจรับเลี้ยงก็สามารถติดต่อได้โดยตรง ความคิดเห็นจากอีกฝ่ายก็พยายามบอกให้ฝ่ายคนรักสัตว์ จูงมือพากันไปรับเลี้ยง แล้วปัญหาที่ว่ามานั้นก็จะคลี่คลายไปได้ด้วยดี… . .…
-
ลูกทัวร์เดินหน้าเอาผิดทัวร์หรูของ “ดาราอักษร อ.” ประเด็นไม่หวังกำไร ท้าเปิดรายจ่ายโชว์
กำลังเป็นประเด็นดราม่า หลังเพจจัดทริปสุดหรูของดาราถูกแฉว่า เก็บเงินค่าทัวร์แพงเป็นแสน แต่ลูกทัวร์กลับได้ขนมปังสองแผ่น แถมโดนแย่งน้ำดื่มไปกินอีก ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กเพจ Look-Loke / ลูกโลก ก็ออกมาแย้งว่าตนมิได้จัดทัวร์ แต่เป็นการ “พาเพื่อนเที่ยว” เท่านั้น และด้วยเหตุนี้เองทำให้เพจดังกล่าวโดนลูกทัวร์จวกยับประเด็นจงใจหลบภาษี และถูกท้าให้เปิดเผยรายจ่ายจริงที่ใช้ในทริปนั้นๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaianan Sodapak ได้ออกมาเผยว่าใน ทริป Luxury Private ทัวร์ ของเพจท่องเที่ยวซึ่งมี ดาราอักษรย่อ อ. เป็นเจ้าของนั้น ตนต้องจ่ายค่าทัวร์กับเพจนี้เป็นเงิน 139,000 บาท แต่การบริการกลับแย่ ตารางการเดินทางไม่ชัดเจน สถานที่ท่องเที่ยวถูกเปลี่ยนแปลงและน้อยลง แถมยังถูกเปลี่ยนแปลงที่พักโดยไม่แจ้งให้ทราบ เรียกได้ว่า ลูกทัวร์ที่ไปด้วยกันนั้นต้องเที่ยวกันอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าทางเพจเองก็ออกมาตอบโต้ต่างๆ นานา เช่น ไม่ได้เป็นทำธุรกิจนำเที่ยว แต่เป็นเสมือนกับการพาเพื่อนเที่ยวเท่านั้น จึงไม่มีการบริการใดๆ อีกทั้งยังแจงว่าการไปเที่ยว 12 วันเช่นนี้ ปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท จึงตั้งราคาเป็นกันเองให้หลายๆ คนเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าปัญหาที่เกิดทั้งหมดอาจเป็นเพราะเพียงแค่ว่า “เคมีของการไปเที่ยวไม่ตรงกันเท่านั้นเอง” หลังจากที่ทางเพจ Look-Loke / ลูกโลก โต้แย้งมาแบบนั้น ในวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา…
-
ชาวเน็ตไทยเปิดประเด็น ‘ดูถูก’ ประเทศกัมพูชา นำไปสู่ดราม่า ด่ากันยับ หยุดไม่อยู่แล้ววว!!
กำลังกลายเป็นประเด็นเด่นประเด็นร้อนเลยทีเดียวเชียวกับกรณีของชาวเน็ตมือดีคนหนึ่ง ที่อยู่ดีๆ ก็ไปคอมเมนต์ด่าคอมเมนต์ของชาวกัมพูชาแบบเสียๆ หายๆ เหยียดชนชาติ แล้วก็เกิดการถกเถียงกันจนกลายเป็นดราม่า เรื่องราวมันเริ่มต้นจากเน็ตไอดอลชื่อดังชาวฟิลิปปินส์นามว่า Ranz Kyle ได้มาเที่ยวสงกรานต์ที่ประเทศไทย และเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาพี่แกก็โพสต์ภาพลงบนแฟนเพจเฟซบุ๊กเพื่ออวดแฟนๆ พร้อมกับแคปชั่นว่า “วันสุดท้ายของสงกรานต์ เราไปร่วมเทศกาลและไปเต้นทุกที่กันเถอะ” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากแฟนคลับของเขาเป็นอย่างมากจนมีคนเข้ามากดไลก์ถึง 43,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 4,783 ครั้งเลยทีเดียว แต่เรื่องก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร จนมีคอมเมนต์ของชาวเน็ตรายหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นคนไทยไปพิมพ์ตอบในคอมเมนต์ของชาวกัมพูชาในภาพของเน็ตไอดอลคนดังกล่าวเพื่อเชิญชวนไปเที่ยวสงกรานต์ที่ประเทศกัมพูชาบ้าง คอมเมนต์ที่ชาวเน็ตไทยไปตอบมีความว่า “ใครอยากจะไปที่ประเทศของเธอกัน ทั้งยากจน ยังไม่พัฒนา การเดินทางก็ยากลำบาก แถมอันตราย ที่พักก็ไม่ได้มาตรฐาน แถมยังสกปรก ผู้คนท้องถิ่นที่นั่นไร้วัฒนธรรมและไม่มีศีลธรรม” (ตอนนี้คอมเมนต์นั้นได้ลบไปแล้ว) เท่านั้น แหละชาวเน็ตทั้งกัมพูชาก็เดือดดาลมาด่าประเทศไทยแบบเหมารวม ชาวเน็ตไทยบางส่วนก็เข้าไปผสมโรงด่าตอบโต้ชาวเน็ตกัมพูชาอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนที่เข้าไปขอโทศแทนชาวไทยที่ทำพฤติกรรมแย่ๆ “ถึงประเทศไทย ที่คุณบอกว่าประเทศกัมพูชารถติดเดินทางลำบาก มีอุบัติเหตุเยอะ โปรดลืมตาขึ้นมามองความจริงบ้างเถอะ” “ถึงชาวไทย คุณเคยเรียนประวัติศาสตร์มาก่อนหรือไม่? คุณครูของคุณได้บอกมั้ยว่าวัฒนธรรมของบ้านคุณน่ะขโมยของเขมรมา นี่คือภาพของวัดแห่งหนึ่งในเขมรไม่ใช่ที่อยุธยา” “สงกรานต์ที่ประเทศกัมพูชายังคงความเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่ ไม่เหมือนกับสงกรานต์ของไทย ที่มีการเต้นแบบไม่น่าดูชม แถมใส่เสื้อผ้าไม่มิดชิดอีก”…
-
ฝรั่งพูดไทยได้ ขอเปิดมิเตอร์ดีๆ ไม่ยอมจ่ายเหมา 500 บาท โดนแท็กซี่สวนกลับ ‘ฝรั่งงี่เง่า’
สิ่งที่น่าเหนื่อยใจกับเรื่องของแท็กซี่เมืองไทย ที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอก็คือโบกไม่จอด เรียกไม่ไป ไม่วิ่งผ่าน จะไปเติมแก๊ส และสารพัดเหตุผลร้อยแปดที่จะบอกปัดผู้โดยสาร แถมบางครั้ง พอย้ายก้นไปลงนั่งบนเบาะรถแท็กซี่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะเจอก็คือคนขับเรียก ‘ราคาเหมา’ แทนที่จะเปิดมิเตอร์ตามปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นกับชาวต่างชาติบ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา หนุ่มบล็อกเกอร์สอนภาษาอังกฤษ Danny ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอในช่วงที่เขากำลังขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะนั่งกลับไปยังที่พักของตนเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือการต่อรองราคาของคนขับ เรียกเป็นราคาเหมาทั้งสิ้น 500 บาท โดยไม่มีทีท่ายอมเปิดมิเตอร์ อ้างว่ามิเตอร์เสีย นาย Danny ก็ใจเย็นใช้คำพูดคำจาอย่างสุภาพว่า จะไม่ยอมไปเด็ดขาดถ้าหากไม่กดมิเตอร์ ท้ายที่สุดแล้วก็ยอมกดมิเตอร์ แต่โดนบ่นมาตลอดทางจนถึงทางด่วน คนขับก็ขอ 300 บาทเพื่อเป็นค่าขึ้นทางด่วน ทั้งที่จริงไม่ถึง 100 บาท แต่ก็ยอมให้ไป 200 บาทโดยไม่ได้รับเงินทอนแต่อย่างใด… เมื่อถึงปลายทางแล้วค่าโดยสารทั้งสิ้น 375 บาทตามมิเตอร์ นาย Danny จึงให้ไป 500 บาท คนขับก็ไม่ยอมทอนอ้างว่า…
-
ชาวเน็ตเดือด…หลัง ‘ช่องสาม’ ไล่ลบช่องไลฟ์สดละคร ‘บุเพสันนิวาส’ บอกทำแบบนี้ไม่ดูก็ได้
หลังจากที่ละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ตอนจบ ออกอากาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา มีสร้างความประทับใจให้กับแฟนละครเป็นอย่างมาก แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีแฟนๆ ละครบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นแนวๆ ว่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่ทางช่อง 3 ได้ทำการไล่ลบไลฟ์สดของละครบุพเพสันนิวาสแบบผิดลิขสิทธิ์ โดยแฟนๆ ทั้งหลายได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของหน้าเพจ Ch3Thailand เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งในโพสต์ทางช่องสามเองก็แนบลิงก์ของแอปพลิเคชั่น และลิงก์เว็บไซต์ให้ดูผ่านออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์เอาไว้ด้วย โพสต์ดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าลิงก์ดูแบบถูกลิขสิทธิ์มีคนเข้าชมเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการล่าช้า กระตุก สร้างความไม่พอใจกับแฟนๆ ละครบางกลุ่ม ความเห็นของแฟนละครที่ตำหนิการกระทำของช่องสาม . ไล่บล็อกหมดแบบนี้ระวังจะโดนลดเรตติ้งนะเจ้าคะ . ตอนอื่นๆ ก็ดีมาตลอด แต่ตอนจบเจอแบบนี้แย่มากเลย . . บ้างก็บอกว่าถ้าช่องไลฟ์เถื่อนเหล่านั้นไม่แชร์มา ละครมันจะดังมั้ยล่ะ ปั๊ดโถ่ว!! เอาเรตติ้งไปนอนกอดเลย ดังแล้วหยิ่ง จากกระแสโจมตีการกระทำของช่องสาม ก็มีชาวเน็ตเข้ามาปรามว่าที่ช่องสามทำมันก็ถูกแล้วนี่นา เอ็งจะเดือดร้อนกันทำไม!? คำว่าถูกต้อง กับถูกใจ มันไม่เหมือนกันหนาออเจ้า . …
-
หัวร้อนมาจากไหน…หนุ่มเดือดทักแชทด่า เพจ ‘สพฉ.’ สุดท้ายจบลงด้วยการคุยเรื่องเต่า มุ้งมิ้งเชียว
จากกรณีดราม่า ‘รถสวิฟท์แดง’ ที่ไม่ยอมหลบทางให้รถกู้ภัยจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แถมไม่พอเจ้าตัวคนในรถเองก็เป็นเจ้าหน้าของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แถมยังออกมาตอบโต้ชาวเน็ตรัวๆ จนท้ายที่สุดก็ต้องออกมาขอโทษ เรื่องทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดีแล้ว แต่ก็ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนที่ยังคงคาใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ถึงกับทักแชทไปด่าในเพจของ สพฉ. โดยเฉพาะหนุ่มรายนี้ ที่ดูเหมือนจะโกรธเกรี้ยวซะเหลือเกิน เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า การันต์ ศรีวัฒนบูรพา พร้อมกับแคปชั่นว่า “แอดมินเพจสพฉ. ส่งมาให้ดู อันเนื่องมาจากคนที่แชทเข้ามาด่า ดูโปรไฟล์แล้วเปิดร้านขายอาหารสัตว์ แล้วแอดมินก็ดันเลี้ยงเต่า #จริงๆคนรักสัตว์เป็นคนใจดี” ก็หน่วยงานเอ็งมันห่วยอ่ะ!! โดยได้ทำการทักแชทไปต่อว่าถึงทาง สพฉ. ว่าไม่ดี เพราะไม่ยอมไล่พ่อหนุ่มคนขับรถสวิฟท์แดงออกไป แต่ทาง สพฉ.เองก็ให้การณ์ว่าไม่ใช่จะปล่อยให้ผ่านไปเลย พวกเขาเองก็กำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนพ่อหนุ่มคนนั้นอยู่ แต่หลังจากที่เถียงกันไปเถียงกันมา ดูเหมือนว่าแอดมินที่เป็นผู้ชายได้เข้าไปส่องหน้าเฟซของหนุ่มหัวร้อน ก็พบว่าเขาขายอาหารสัตว์อยู่ ก็เลยบอกว่าจะไปอุดหนุนเพราะน้องของแอดมินเลี้ยงเต่าอยู่ ด้วยความเดือดดาลพ่อหนุ่มหัวร้อนก็คิดว่า เห้ย นี่เอ็งขู่จะมาหาตรูถึงบ้านเรอะ? ไม่กลัวหรอกเฟร้ย มาเลย!! แต่ พอฝ่ายแอดมินยืนยันจริงๆ ท่าทีของพ่อหนุ่มหัวร้อนก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปดูเย็นขึ้น จากการทักมาด่าทอด้วยความเดือดดาล ตอนนี้เปลี่ยนมาปรึกษาเรื่องการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นแลดูมุ้งมิ้งกันจริงเชียว!! มีถ่ายคลิปเต่าของตัวเองมาอวดด้วย!!…
-
เมื่อ ‘หมอแปลก’ มาเยือนเกาหลี ‘ยกมือไหว้’ ทักทายแฟนๆ ถูกกล่าวหาว่าเหยียดเชื้อชาติ!!
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลทั้งบ้านเรา ที่เกาหลี และลามไปทั่วโลก… กรณีของดาราชื่อดัง Benedict Cumberbatch หรือพี่หมอแปลก ได้เดินทางมายังประเทศเกาหลีใต้เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ Avengers ภาคล่าสุด ที่กำลังจะเข้าฉายในเร็วๆ นี้ ตอนเดินออกมาจากเกตก็มีแฟนๆ มาต้อนรับมากมาย พี่แกก็ ‘ไหว้’ เพื่อเป็นการทักทาย แต่ผ่านไปไม่ทันไร ก็กลายเป็นเรื่องดราม่าซะได้!? เพราะจู่ๆ มีแฟนๆ ชาวเกาหลีไปโพสต์ดราม่าในทวิตเตอร์ว่าพี่ Benedict น่ะ เหยียดเชื้อชาติเฉยเลย ภาพการไหว้ที่กลายเป็นดราม่า… ประเด็นเหยียดเชื้อชาติที่ชาวเน็ตเกาหลีกล่าวถึง “Benedict Cumberbatch มาเยือนเกาหลี แต่ทักทายแฟนๆ แบบนี้ ทำให้แฟนๆ ชาวเกาหลีผิดหวังเพราะว่าเราไม่ได้ทักทายกันแบบนี้ แต่คนดังมากมายพอมาเที่ยวที่นี่มักจะทำแบบนี้ ซึ่งพวกเขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย” “ถึงคนขาวทั้งหลาย การประกบมือสองข้างไว้ด้วยกันแล้วกล่าวทักทายเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในทวีปเอเชีย นอกเสียจากว่าคนที่คุณเจอน่ะเป็นพระ ไอ้พวกขี้เหยียด” บ้างก็ถึงกับเขียนข้อความทับลงไปบนภาพเลย “นี่ไม่ใช่วัฒนธรรมของเกาหลี” อย่างไรก็ตาม มีคนที่ไม่ได้คิดเหมือนกับกลุ่มคนข้างบน ออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้อง Benedict โดยบอกว่าที่เขาทำมันก็ไม่ได้ถึงกับผิดร้ายแรงขนาดเหยียดเชื้อชาติสักหน่อย …
-
ผู้คนชื่นชมสาว ป.ตรี ทำงานกวาดถนน แต่ติวเตอร์ดังแย้งว่ามันคือ “ความล้มเหลวของระบบการศึกษา”
ตั้งแต่มีโพสต์จากหญิงสาวคนหนึ่งที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว แต่กลับมาทำอาชีพอย่าง พนักงานรักษาความสะอาด หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “คนกวาดถนน” ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างออกมาชื่นชมกันยกใหญ่ว่าดี ไม่เลือกงาน หาเงินได้เองอย่างสุจริต หรือยินดีที่ได้ทำงานที่ตนเองสบายใจ เป็นต้น โพสต์ของหญิงสาว ป.ตรี ที่รับอาชีพเป็นคนกวาดถนน . . แต่ขณะที่กระแสของชาวเน็ตทั้งหลายจะเห็นด้วยและชื่นชมกับหญิงสาวคนนี้ นายภัทรพล ขาวสอาด หรือ อ.บิ๊กซ์ ติวเตอร์ชื่อดังกลับคิดตรงกันข้าม เขาออกมาโพสต์ข้อความบน เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การที่หญิงสาวคนนี้เลือกอาชีพคนกวาดถนน ทั้งๆ ที่ร่ำเรียนมากว่า 10 ปี ตนมองว่าเป็นการ “ถอยหลังเข้าคลอง” เพราะว่าหญิงสาวคนนี้อุตส่าห์ได้เข้าถึงกระบวนการผลิตบัณฑิตแต่กลับไม่นำความรู้ความสามารถไปใช้กับงานที่เหมาะสมกว่า นอกจากนี้ อ.บิ๊กซ์ ยังกล่าวอีกว่า หากโพสต์เพื่อแก้เก้อที่หางานทำไม่ได้ก็เข้าใจดี แต่หากว่าคิดแบบที่โพสต์จริงๆ ก็ถือว่าเป็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาที่ปลูกฝังความคิดแบบนี้ให้กับผู้ที่ควรจะเป็นปัญญาชนและเป็นกำลังหลักของประเทศ และยังบอกอีกว่า หากพอใจกับอาชีพนี้จริงๆ เรียนจบแค่ ม.3 ก็สมัครงานนี้ได้แล้ว เรียนจบปริญญาให้มันสูญเสียทรัพยากรและขาดทุนทางการศึกษาเปล่าๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อ.บิ๊กซ์ ก็ยืนยันว่าตนไม่ได้ดูถูกอาชีพหรือสถาบันใดๆ โพสต์ข้อความทั้งหมดของ อ.บิ๊กซ์ อ.บิ๊กซ์ และนักเรียน…
-
นักศึกษาถูกจวกหนักหลังปลิดชีพผีเสื้อ เพื่อนำปีกมาสร้างผลงาน ‘สัญญะแห่งการเกิดใหม่’
ศิลปะอยู่รอบตัวเรา ความสุนทรีย์เหล่านี้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อสะท้อนเป็นชิ้นงานตามสไตล์ของศิลปินด้วยเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นในมุมมองไหน… แต่แล้วเมื่อการกระทำของนักศึกษาสาวชาวจีน ได้กลายมาเป็นจุดชนวนแห่งความขัดแย้งบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอได้นำปีกของผีเสื้อกว่า 500 ตัวมาใช้เพื่อสร้างผลงานสื่อถึง “การเกิดใหม่” Li Zheng นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิยาลัย Quanzhou Normal University ได้สร้างชุดงานศิลป์จากการใช้ปีกผีเสื้อเป็นวัสดุหลัก จัดเรียงอย่างพิถีพิถันอันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์จบของตัวเอง เธอและเพื่อนได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา ให้สร้างงานศิลปะที่โด่งดังขึ้นมาใหม่ด้วยวัสดุที่แตกต่าง เธอจึงเลือกผลงานของ Vincent Van Gogh แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุแบบไหนเพื่อสร้างงานชิ้นดังกล่าว… ระหว่างที่ทำการค้นคว้าวิจัย Li Zheng ได้พบกับศิลปินที่ใช้ปีกผีเสื้อในงานศิลป์ และในวัฒนธรรมส่วนมาก แมลงตัวเล็กๆ เป็นเหมือนดั่งตัวแทนแห่งการเกิดใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับโปรเจกต์จบของเธอเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเธอจึงทำการรวบรวมผีเสื้อกว่า 500 ตัว ใช้สีสันบนปีกเล็กๆ นำมาร้อยเรียงเป็นภาพชิ้นงานของ Van Gogh รวมไปถึงภาพวาดของตัวเขาเองด้วย . ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานของเธอนั้นดูสวยงามอลังการตามเนื้อผ้า แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับการที่เธอใช้ปีกของผีเสื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ นำมาสร้างงานที่สื่อถึงการเกิดใหม่ Li…
-
‘บังโต’ ชี้แจงไม่ได้ว่าคนไหว้รูปปั้น ไม่ได้พาดพิงใคร ‘จุฬาราชมนตรี’ ไม่สบายใจจนต้องเตือน…
จากการที่ โต วีรชน ศรัทธายิ่ง’ อดีตนักร้องวงซิลลี่ ฟูลส์ ออกมาพูดในรายการ “โต ตาล” ในหัวข้อ “ทำไมอิสลามถึงไม่มีรูปปั้น เหมือนชาวพุทธไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์ ในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เนื่องจากชาวเน็ตส่วนใหญ่มองว่า โต กำลังวิจารณ์ศาสนาอื่นอยู่… (อ่านข่าวเก่า) จนกระทั่งล่าสุดนี้ โต ซิลลี่ ฟูลส์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” ช่องอมรินทร์ทีวีผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า… คลิปรายการที่จัดไปในวันศุกร์นั้นคือคำถามจากผู้ชม “ทำไมศาสนาอิสลามถึงไม่มีรูปปั้นไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” โดยตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว จะไม่เคารพสิ่งอื่นใดนอกจากผู้สร้าง ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง จึงอธิบายได้ว่าทำไมรูปปั้นถึงไม่มีค่าในทัศนะของคนที่เป็นมุสลิม “เรื่องของผมคือคนถามว่าทำไมมุสลิมถึงไม่เอารูปปั้นไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมก็ตอบในทัศนะของคนที่เป็นมุสลิมว่าเราไม่ยึดเหนี่ยวจิตใจกับรูปปั้น เพราะคุณลักษณะมันต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ มันเป็นสิ่งปลูกสร้าง ถ้าใครจะยกขึ้นเหนือกว่ามนุษย์ผมว่าก็ประหลาดสำหรับผม ผมก็พูดตรง ๆ ไม่ได้ดูถูกอะไร” ใจความจากการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว ซึ่งบังโตเองก็ยืนยันว่าตนนั้น ไม่ได้พาดพิงถึงศาสนาพุทธ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเข้าใจผิด กลายเป็นการสรุปกันเองว่ารูปปั้นที่พูดถึงคือพระพุทธรูป เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้น โตก็จะทำผิดหลักศาสนาอิสลาม ที่ห้ามไม่ให้วิจารณ์ศาสนทูต…
-
‘บังโต’ โปรยไม่กราบรูปปั้นอ้างว่าต่ำกว่าตน ‘เสก โลโซ’ ซัดกลับ เดี๋ยวจะโดนบาทา…
เกิดเป็นประเด็นละเอียดอ่อนในโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อ ‘โต วีรชน ศรัทธายิ่ง’ อดีตนักร้องวงซิลลี่ ฟูลส์ ที่ปัจจุบันหันมาทำธุรกิจขายเนื้อและมีบทบาทเป็นครูสอนศาสนาอิสลาม ได้ทำการจัดรายการ “โต ตาล” พูดถึงในประเด็น “ทำไมอิสลามถึงไม่มีรูปปั้น เหมือนชาวพุทธไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” ออกอากาศในวันศุกร์ที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื้อหาที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์นั้น เริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 1:06:00 เป็นต้นไป ภายในเนื้อหาการพูดถึงประเด็นไม่นับถือรูปปั้นต่างๆ นั้น โต ซิลลี่ ฟูลส์ ได้ทำการอธิบายเหตุผลไว้ว่า… “ในฐานะผู้ศรัทธา ผมจะไม่กราบสิ่งใดที่ต่ำเท่าผม หรือต่ำกว่าผม รูปปั้นเนี่ยผลักก็ตกแตกละ มันต่ำกว่าผมแล้ว มันไม่มีชีวิต จะไหว้ทำไมสิ่งไม่มีชีวิต รูปร่างอัปลักษณ์กว่าผม ปั้นให้ตายก็หล่อสู้ผมไม่ได้” “แม้กระทั่งรูปยังเพี้ยนเลย เรากราบใครก็ไม่รู้… รูปยังไม่เหมือนเลย” หนึ่งใจความจากคลิปดังกล่าว หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ชาวเน็ตต่างถกเถียงถึงความเหมาะสมของการวิจารณ์ความศรัทธาระหว่างศาสนา แม้แต่เพจเคลื่อนไหวทางสังคมอย่าง “แหม่มโพธิ์ดำ” ก็ได้กล่างถึงการจัดทำรายการของ โต ซิลลี่ ฟูลส์…
-
ลูกค้าโวยสายการบินดัง เสิร์ฟ ‘แกงเขียวหวานกุ้ง’ ให้กับผู้ที่แพ้กุ้ง แต่.. เหมือนคดีจะพลิก!!
กลายเป็นเรื่องราวที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในขณะนี้กับการตั้งกระทู้บนเว็บไซต์พันทิป โดยสมาชิกเว็บไซต์ที่ใช้ชื่อว่า Griffin Eternal ได้ตั้งกระทู้ในหัวข้อ “บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เสริฟเมนูกุ้งให้กับคนแพ้กุ้ง” กระทู้นี้ได้โพสต์ไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 หลังจากที่ได้เผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์ออกมาแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกันเป็นจำนวนมาก เรื่องราวเริ่มต้นที่ว่า เจ้าของกระทู้ได้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบินเชียงใหม่ด้วยการโดยสารเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เรื่องราวเริ่มต้น . แต่เนื่องจากว่าเจ้าของกระทู้บอกกับพนักงานบนเครื่องบินว่า แพ้กุ้ง แต่ทางสายการบินได้เตรียมอาหารเป็น แกงเขียวหวานกุ้ง เพียงแค่เมนูเดียว เจ้าของกระทู้เลยออกมาตั้งคำถามว่า ทำไมสายการบินถึงได้เตรียมเมนูอาหารไว้แค่เมนูเดียวทั้งๆ ที่อาจจะมีคนอีกมากมายที่แพ้กุ้งเหมือนกับเขา หลังจากนั้นมีผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่แทนที่จะเป็นการช่วยแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้โดยสารท่านนี้ แต่กลายเป็นการเตือนให้เจ้าของกระทู้ทราบว่า ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน ควรจะแจ้งด้วยว่าคุณแพ้อาหารชนิดไหน ทางสายการบินจะได้เตรียมเมนูให้ได้ถูกต้อง ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบจะได้มีการตระเตรียมเพื่อการบริการที่ดีที่สุด หากเตรียมเมนูไว้หลายเมนูอาจจะมีการสูญเปล่า . ควรจะมีการแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง มีคนอีกมากมายที่แพ้อาหารต่างชนิดกันไป ผู้โดยสารควรแจ้งเพื่อรักษาผลประโยชน์ตัวเอง แพ้อาหาร ทานเจ มังสวิรัติ หรือ อาหารมุสลิม ควรมีการแจ้งทางสายการบินเพื่อที่พนักงานจะได้จัดอาหารให้ได้ถูกต้อง อันนี้ประชดเปล่าเนี่ย…
-
ประเด็นอ่อนไหว ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงวิชาชีพ’ ชาวเน็ตร่วมถกเถียง จบไม่ตรงสายก็มาทำได้!?
เราต่างก็รู้กันดีว่าการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษานั้น จะเป็นการเรียนในลักษณะวิชาเฉพาะที่จะนำไปต่อยอดสู่วิชาชีพในอนาคต เมื่อได้รู้ว่าเรียนอะไร จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปสมัครงานตามสายงานที่ต้องการ… แต่เมื่อพูดถึงสาย ‘ครุศาสตร์’ หรือ ‘ศึกษาศาสตร์’ ที่มีการเปิดรับสมัครผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา เพื่อมาเป็นครูผู้ช่วย และไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทำให้ฝั่งผู้ที่ร่ำเรียนในด้านนี้ มักจะแสดงความคิดเห็นในเชิงหวงแหนวิชาชีพของตน… เนื่องจากว่าตนเรียนมาตรงสาย เสียเวลาไปกับการเรียนที่มากกว่าสาขาอื่นๆ ไหนจะต้องสอบใบอนุญาต รวมไปถึงการสอบเพื่อแย่งกันบรรจุตำแหน่งครูอีก และจำนวนของผู้จบการศึกษาทางด้านนี้มีจำนวนมากกว่าตำแหน่งที่จะสามารถรองรับได้ แม้ว่าบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เรียนทางด้านครุศาสตร์มา อาจจะรู้สึกว่าตนอาจจะคิดไปคนเดียว คุณ สมาชิกหมายเลข 4220500 จากเว็บไซต์พันทิปจึงได้ตั้งกระทู้ถามด้วยหัวกระทู้ว่า ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงจังเลยครับเวลาคนที่จบอย่างอื่นจะมาเป็นครูบ้าง’ “ของอย่างนี้มันต้องสู้กันที่ความสามารถหรือเปล่าครับ จะหวงทำไมว่าตัวเองจบตรงสาย แต่คนอื่นจบไม่ตรง ที่จริงคนจบครูตรงสาย ก็น่าจะได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำนะครับ ผมเห็นบางอาชีพอย่างโปรแกรมเมอร์นี่ ไม่เห็นเค้าจะหวงกันเลย บางคนจบหมอ จบเภสัช ก็ยังมาเป็นโปรแกรมเมอร์ คนจบคอมเค้าก็ไม่เห็นจะออกมาเรียกร้องอะไรกันเลยครับ” ใจความจากต้นกระทู้ดังกล่าว จากการเปิดประเด็นในครั้งนี้ มีชาวพันทิปเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งทางด้านผู้เรียนสาขาวิชาชีพครูโดยตรง และผู้ที่ไม่ได้จบสาขาวิชาชีพครูโดยตร #เหมียวเลเซอร์ จะขอยกความคิดเห็นบางส่วนมาให้ท่านได้อ่านและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วยตนเองก่อน ว่าจริงๆ แล้ว ทำไมถึงเกิดประเด็นดราม่าเกี่ยวกับวิชาชีพครูอยู่บ่อยครั้ง… . . . .…
-
‘เงินเดือนมึงสองเดือนเลยนะ ถ้าหาย’ ยูทูบเบอร์หนุ่มโดนจวกยับ หลังดูถูกพนักงานโรงหนัง
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ดุเดือดเผ็ดมันเลยทีเดียว กับกรณีของยูทูบเบอร์คนดังคนหนึ่งไปดูหนังที่โรงหนัง พอไปถึงจะถือหมวกกันน็อกเข้าไปด้วย แต่พนักงานให้ฝากหมวกกันน็อกไว้กับพนักงาน ยูทูบเบอร์หนุ่มก็เลยยินยอมและกำชับไว้อีกว่าห้ามหาย แต่กลายเป็นว่าพอออกมาจากโรงหนังก็พบว่าหมวกกันน็อกของเขาถูกวางเอาไว้โดยไม่มีใครเฝ้า ก็เลยเดือดดาลโพสต์ระบายลงในเฟซบุ๊ก แต่ทีนี้ประเด็นมันอยู่ตรงคำว่า ‘ถ้าหายเงินเดือนของมึง 2 เดือนก็จ่ายไม่พอ’ พอพูดไปด้วยถ้อยคำแบบนั้นก็เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมาในโลกโซเชียล มีชาวเน็ตคนหนึ่งชื่อว่า สก็อต ไบค์ เข้าไปแย้งในโพสต์ว่าใช้คำพูดแบบนั้นมันไม่ควรเลยนะ แต่ดันถูกบล็อกซะได้ก็เลยเอาเรื่องราวมาเล่าผ่านทางหน้าวอลล์ของตัวเอง โพสต์ดังกล่าว โดยเนื้อหาในโพสต์เต็มๆ เล่าว่า ” สวัสดีครับทุกคนวันนี้ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ”ผมเห็นโพสต์ของ Youtuber คนดังชื่อย่อว่า ม ละกันครับ วันนึง ม ได้ไปดูหนังที่ Robison สกลนคร จึงได้ไปฝากของที่ Major แต่เหตุการณ์จึงเป็นไปตามในรูปครับ ผมจึงได้เข้าไปแนะนำว่าฝากไว้ที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ข้างล่างจะดีกว่าเพราะมีคนเฝ้าให้ตลอดแต่แล้วสงสัยจะขัดหูตาพี่แกพอคอมเมนต์ปุ๊บมีการแลกเปลี่ยนกันสักพักพี่แกก็บล็อกผมเลยครับ – เพื่อนผมบอกกับพี่ ม. ว่า อย่าไปพูดว่าเงินเดือนของพนง. 2 เดือนหรือกี่เดือนๆ ถึงจะชดใช้ได้ (หากเกิดกรณีหาย) มันจะเป็นการดูถูกเขา แต่แล้วก็ได้รับการตอบกลับจากพี่ ม. มาว่า “แล้วแต่จะคิดชีวิตคนละแบบจ้า” – ได้ยินได้เห็นแล้วตะลึงกับคำพูดพี่เขามากครับ เมื่อก่อนนับถือพี่เขาที่แกเก็บเงินซื้อรถเอง ตอนนี้ไม่ละครับผมว่าพี่แกมองโลกแค่ด้านเดียวเกินไป – เคยมีคนเตือนพี่ ม. ในแชแนลของแกว่า…
-
เป้ อารักษ์ พูดถึงประเด็น The TOYS ลอก 1975 “งั้นแบบนี้คงก๊อปปี้กันทั้งโลก”
สำหรับประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ตพาดพิงถึงศิลปินหนุ่มน้อยหน้าใสอย่าง The TOYS นั้น เบื้องต้นได้มีการชี้แจงจากทางต้นสังกัดแล้ว ครบทุกประเด็น แต่ก็ยังมีอยู่ประเด็นหนึ่งที่ยังไม่กระจ่างสำหรับชาวเน็ตทั้งหลาย นั่นก็คือ ประเด็นที่ว่า The TOYS นั้นไปลอกเลียนเพลงมาจากวงอินดี้ร็อกสัญชาติอังกฤษ The 1975 ซึ่งประเด็นนี้เองได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล แต่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ศิลปินรุ่นพี่อย่าง เป้ อารักษ์ ก็ได้ออกเผยว่า มีศิลปินหลายคนที่เมื่อเข้าวงการมาก็เปลี่ยนชื่อ . ล่าสุด เป้ อารักษ์โพสต์ภาพของ The TOYS ในอินสตาแกรม พร้อมกล่าวว่า “Robert Zimmerman เปลี่ยนชื่อเป็น Bob Dylan ตอนเริ่มเข้าวงการเพลง ดาราทั้งไทยเทศอีกนับไม่ถ้วน เปลี่ยนชื่อก่อนเข้าวงการ คนเราจะมีกี่ชื่อก็แล้วแต่คนจะเรียก” ส่วนในเรื่องของการลอกเลียนเพลงของคนอื่นนั้น เป้ บอกว่า ต้องมีตัวโน้ตที่เหมือนต้นฉบับ 7 ตัวติดกิน หากไม่อย่างนั้น “คงก๊อปปี้กันทั้งโลก” หากบอกว่าทอยลอก 1975 ก็คงต้องบอกว่า The…
-
ต้นสังกัดออกชี้แจงดราม่า ‘The TOYS’ สรุปรวบยอด “ข้อเท็จจริง” ให้ครบทั้ง 4 ประเด็น!!
ยิ่งดังยิ่งเป็นข่าวคงจะไม่เกินความจริงไปนัก หลังจากที่นักร้องหนุ่ม The TOYS กลายมาเป็นกระแสที่ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งออกมาอ้างว่ารู้จักตัวตนที่แท้จริง พร้อมแฉว่า The TOYS หรือว่า “ทอย” นั้นหลอกลวงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวทั้งชื่อและอายุของตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อจะโจมตี The TOYS อยู่อีกสองสามประเด็น ซึ่งประเด็นที่ว่าก็คือ The TOYS ได้ทำการลอกเลียนแบบเพลงของศิลปินวง The 1975 จากอังกฤษ รวมไปถึงการไม่ให้เครดิตบุคคล ที่มีส่วนร่วมในการประพันธ์เพลง “หน้าหนาวที่แล้ว” และประเด็นสุดท้ายของเนื้อร้องในเพลง “จดหมาย” ที่มีคนบอกว่า The TOYS ไปขโมยมาจากเพลงของคนอื่นมา เรื่องราวทั้งหมดยังคงเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างชาวเน็ตด้วยกันเอง โดยต่างฝ่ายก็ต่างพยายามหาหลักฐานมายืนยันข้อมูลทางฝ่ายของตนเอง ทั้งนี้ ในวันที่ 21 มีนาคม 2561 ทางบริษัท วอท เดอะ ดัก ต้นสังกัดของศิลปิน The TOYS ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงบนโลกออนไลน์ถึงศิลปิน The TOYS ด้วยการโพสต์ภาพเอกสารพร้อมเนื้อหาภายในแบ่งออกเป็นประเด็น 4 ดังที่กล่าวไปในเบื้องต้น แบ่งออกเป็นได้ 4 ข้อใหญ่ดังต่อไปนี้……
-
ดราม่ากันวุ่น… เหตุเชฟเอียนเทเอียง ‘ไก่ดิบ’ ลงถังขยะกลางรายการ ทำไมต้องทำขนาดนี้!?
กระแสของความแรงในรายการทำอาหารมักจะมีให้เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ระหว่างผู้เข้าแข่งขันกับกรรมการตัดสิน ซึ่งในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นกับเชฟเอียนในรายการ MasterChef Thailand ซีซั่น 2 อีกครั้ง เมื่อเชฟเอียนได้ทำการเทอาหารของผู้เข้าแข่งขันลงถังขยะกลางรายการ… สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในตอนที่ 6 ออกอากาศเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยวัตถุดิบที่มีให้เลือกคือ ไก่บ้าน ปลาดุก หรือหมูป่า การตัดสินเริ่มต้นตั้งแต่นาทีที่ 50 เป็นต้นไป แต่แล้วดราม่าก็เกิดขึ้นเมื่อ 2 ผู้เข้าแข่งขัน กอล์ฟ สัญญา และ จ้อน นฤพนธ์ เลือกทำเมนูไก่บ้าน แต่เนื้อไก่ยังแดงอยู่ แสดงให้เห็นว่ายังไม่สุก จนกรรมการไม่สามารถชิมได้ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือ กรรมการไม่ชิมอาหารของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ราย และนำอาหารที่ทำไว้เททิ้งลงถังขยะ โดยให้เหตุผลว่า การจะเป็นเชฟที่ดี ควรมีความรับผิดชอบกับคนทาน อีกทั้งการทำอาหารไม่สุกเป็นการดูถูกกรรมการด้วย . และแล้วหลังจากที่ออกอากาศไป ชาวเน็ตตามโซเชียลมีเดียที่รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของกรรมการ ต่างก็ออกความเห็นไปในเชิงว่า…
-
หญิงสาวเลี้ยงจิ้งจอกด้วย ‘อาหารมังสาวิรัติ’ ชาวเน็ตเตือนไม่ฟัง บานปลายสู่การฟ้องร้อง!!
กำลังเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีที่บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอกับการให้จิ้งจอกเฟนเน็ก สัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอทานมังสวิรัติไปด้วย แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นด้วย เพราะมันผิดวิสัยของจิ้งจอกเฟนเน็กโดยธรรมชาติที่เป็นสัตว์กินเนื้อ แม้จะมีคนมาคัดค้านมากมายแต่เธอก็ไม่สนใจ พร้อมออกมาโต้ตอบจนบานปลายไปสู่การแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์… Sonia Sae บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติ กับเจ้า Jumanji จิ้งจอกเฟนเน็กที่เธอเลี้ยงมา และให้มันกินมันสวิรัติมาตลอดหลายปี โดยให้เหตุผลว่าสัตว์ทุกสปีชีส์ล้วนเท่าเทียมกัน ทำให้ชาวเน็ตคนหนึ่งชื่อว่า Alice Natanya Moore ออกมาโพสต์เตือนถึงการกระทำของบล็อกเกอร์สาวว่า สิ่งที่เธอทำน่ะ ไม่ถูกต้อง!! เพราะจิ้งจอกเฟนเน็กเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยกรดอะมิโนจำพวก Taurine ที่ได้มาจากการย่อยอาหารแมวแบบมังสวิรัติที่ Sonia เอาให้มันกินได้ และธรรมชาติของจิ้งจอกเฟนเน็ก จะกินอาหารที่มีโปรตีนสูงที่ได้มาจากแมลงต่างๆ อย่างเช่น แมลงสาบ ไส้เดือน หนอนนก หนู ไข่ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารจำพวกพืชผักอีกส่วนน้อย ที่มันสามารถขุดขึ้นมาได้จากดิน ส่วนนี่คือสภาพแรกตอนที่ Sonia รับเจ้า Jumanji มาเลี้ยงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านไปสภาพของมันก็ดูไม่สู้ดีนัก Alice พยายามที่จะอธิบายให้ Sonia ฟังว่าไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองกินมังสวิรัติ…
-
ช่างภาพสรรค์สร้าง ‘นางแบบผิวสี’ ขึ้นมาโดยใช้โปรแกรม 3D โดนชาวเน็ตหาว่าเหยียดผิว!?
ในโลกโซเชียลมีเดียมีเหล่าคนดังอยู่มากมายที่เกิดขึ้นมา พวกเขาเหล่านั้นมีผู้คอยติดตามอยู่มากมาย บางคนก็เป็นแสน บางคนก็เป็นล้าน หรือหลักร้อยล้านก็มี เช่นเดียวกันกับนางแบบผิวสี Shudu Gram ที่มีผู้ติดตามมากถึง 40,000 คน แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าเธอไม่ได้เป็น ‘คน’ แต่เป็นนางแบบดิจิตัลที่สร้างขึ้นมาโดยนาย Cameron-James Wilson หนุ่มชาวอังกฤษ วัย 28 ปี เขาใช้สกิล 3D ที่ร่ำเรียนด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการรวบรวมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และวิดีโอต่างๆ จากยูทูบ เพื่อสร้าง Shudu ขึ้นมา “Shudu เป็นมุมมองเรื่องความสวยความงามของผมมาตลอด แต่ผมก็คิดว่ามันยังไม่พอ แม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ผู้คนมากมายต่างตั้งคำถามกันมากขึ้นว่าอะไรคือความสวยงามที่แท้จริงกันแน่” “เธอเป็นสิ่งที่ผมหลงใหล หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเห็นในโลกโซเชียลมีเดียนั้นเริ่มที่จะห่างไกลจากความจริงไปเรื่อยๆ ด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ และการแต่งเติม” “แต่ Shudu เกิดมาจากแนวคิดที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เธอเปรียบเสมือนเทพนิยายที่พยายามจะออกมาอยู่ในโลกแห่งความจริง และผมก็พยายามที่จะช่วยเหลือเธอ” James กล่าวถึงผลงานของเขา นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า สิ่งที่เขาต้องการก็คือการแพร่กระจายข้อความที่ซ่อนอยู่ใต้ผลงานของเขา เพื่อเรียกร้องสิทธิ์และเปลี่ยนมุมมองของผู้คนว่าแท้จริงแล้วคนผิวสีเองก็สวยงามเช่นกัน แน่นอนว่าชาวเน็ตหลายคนพอได้ชมผลงานของเขาแล้ว บางคนก็ชื่นชอบและชื่นชม ส่วนอีกฝ่ายก็ต่อต้านพร้อมให้เหตุผลว่าเขากำลังทำให้นางแบบผิวสีที่เป็นคนจริงๆ ตกงานนะ …
-
เจ้าของร้านกาแฟ โพสต์ปฏิเสธคนสมัคร “บาริสต้า” ให้เป็นคนทำความสะอาด ชาวเน็ตลุกเป็นไฟ!!
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ได้โพสต์รูปเรซูเม่ของผู้มาสมัครตำแหน่งบาริสต้า กับรูปอีเมลตอบกลับประมาณว่าดูจากความสามารถในเรซูเม่ที่ส่งมาแล้ว ผู้สมัครงานคนนี้เหมาะสมที่จะเป็นผู้ช่วยพนักงานทำความสะอาดมากกว่า รายละเอียดตามเรซูเม่สมัครงาน การตอบกลับอีเมลของทางร้าน เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์เป็นกระแสดัง โดยมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกลาว ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่แตกต่างกันไป หลังจากนั้นเจ้าของร้านก็ได้มาตอบกลับคนที่มาด่าว่า “ถึงพวกคุณที่เข้ามาด่านะครับ คือ การสมัครงานแบบนี้มันดูตลก เหมือน เด็กเห่อ_มาก ในมุมมองของมืออาชีพ ผมจึงเอามาโพสต์ ในเฟซบุคส่วนตัว โดยปิดชื่อไว้” “ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ เรซูเม่ การใช้สี ย่อหน้า การแนะนำตัวที่ดูกระจอก ปากดี แต่ไม่มีฝีมือ ทางเราส่งข้อเสนอการทำงานในตำแหน่งต่ำสุดให้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 400 บาทต่อวัน / ยังไง คุณ แจ็ป ก็ช่วยแมนๆ เป็นลูกผู้ชาย มีอะไรไม่ชอบก็พูดเอง นะครับ” หลังจากที่เจ้าของร้านกาแฟได้โพสต์ตอบกลับผู้ที่เข้ามาด่าเขา ผู้สมัครงานบาริสคนดังกล่าวมาโพสต์ตอบกลับว่า หลังที่ได้เห็นคำตอบกลับของเจ้าของร้านพร้อมกับการที่เค้าได้ลงเรซูเม่เต็มๆ แบบไม่เซ็นเซอร์ชื่อผู้สมัคร ชาวเน็ตก็ต่างพากันไม่พอใจ และต่างแสดงความคิดเห็นไม่พอใจความคิดของเจ้าของร้านกาแฟกันมากมาย…
-
Amazon โฆษณาเสื้อผ้าสไตล์จีน โดยให้เด็กฝรั่งเป็นนายแบบแล้วทำท่าดึงตาให้ตี่
เมื่อเดือนก่อนหลายคนคงจะจำได้เกี่ยวกับปัญหาเหยียดเชื้อชาติของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ Uniqlo ซึ่งกลายเป็นชนวนที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจจนบุกพังร้านกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต และมาวันนี้ทาง Amazon ก็เลยไม่น้อยหน้าขอเอาบ้าง ล่าสุด Amazon ซึ่งเป็นระบบซื้อสินค้าออนไลน์ก็ได้วางขายเสื้อผ้าสไตล์จีนลงบนเว็บ แน่นอนว่าถ้าการขายเสื้อผ้าปกติหรือต่อให้เอานายแบบนางแบบที่ไม่ใช่คนจีนมาใส่ตามปกติมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าพวกเขากลับไม่ทำแบบนั้น Amazon UK ได้ใช้เด็กผิวขาวมาเป็นแบบเสื้อผ้าดังกล่าว พร้อมกับให้หนูน้อยทำท่าดึงตาให้ตี่ ซึ่งการทำท่าทางดังกล่าวนั้นบ่งบอกได้ถึงการล้อเลียนและเหยียดเชื้อชาติมากๆ ซึ่งมันทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว งานนี้ทาง Amazon เห็นท่าไม่ดีจึงรับลบสินค้าดังกล่าวออกจากหน้าร้านค้าทันที แต่การลบออกก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทดังกล่าวจะสำนึกผิดแต่อย่างใด เพราะพวกเขาไม่ได้ออกมากล่าวขอโทษอะไรต่อสื่อเลยแม้แต่น้อย จะเหลือก็แต่ชาวเน็ตที่ได้แต่สงสัยว่าทำไมบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ถึงพลาดได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เสื้อผ้าเด็กดังกล่าวก็ไม่ใช่สินค้าเพียงชิ้นเดียวที่สื่อไปทางการเหยียดเชื้อชาติบนเว็บ Amazon เพราะถ้าเราไปหาดูดีๆ เราจะพบว่ามีสกินค้าในแนวเดียวกันอยู่เพียบเลยละ หนังสือล้อเลียนชาวจีน หนวดปลอมแบบชาวจีน แต่ให้คนผิวขาวมาเป็นแบบ และก็ไม่ได้มีแต่ Amazon หรอกนะที่ล้อเลียนเรื่องตาตี่ของชาวจีน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์มากมายที่พลาดปล่อยให้สินค้าเหยียดเชื้อชาติหลุดออกมาวางขาย ยังไม่หมดเท่านั้น เหล่าคนดังมากมายก็ยังเคยทำท่าตาตี่ล้อเลียนชาวจีนอีกด้วย เช่นภาพของ Miley Cyrus สมัยก่อน หรือจะเป็น Gigi Hadid ที่ทำท่าตาตี่…
-
ดราม่ากลุ่มเฟซบุ๊กแมวชื่อดัง ทวงถามแอดมินขายอาหารเกรดต่ำ-เอามาสวมทะเบียนด้วยหรือ!?
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่กำลังดราม่ากันในขณะนี้ กรณีเพจชื่อดังอย่าง แหม่มโพธิ์ดำ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกเพจที่เป็นสมาชิกกลุ่มเกี่ยวกับแมวชื่อดังในเฟซบุ๊คที่มีสมาชิกนับแสนคน เกี่ยวกับเรื่องความไม่ชอบมาพากลของการขายอาหารแมว โพสต์ต้นฉบับ หลังจากเพจแหม่โพธิ์ดำ ได้โพสต์ลงไปก็ทำให้มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น และ #เหมียวบู้บี้ ก็จะมาสรุปเรื่องราวดราม่าเป็นประเด็นคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ ได้ตามเผือกกัน โดยแบ่งเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ ชาวเน็ตทวงถามเรื่องอาหารเกรดพรีเมียม แต่พบว่าไม่พรีเมียมจริง จากโพสต์ต้นฉบับจากแหม่มโพธิ์ดำที่ได้รับการร้องเรียนว่าอาหารแมวที่ทางแอดมินกลุ่มนำมาทำการจัดจำหน่ายนั้นเป็นอาหารแมวเกรดต่ำ นำมาบรรจุถุงใสขายโดยได้ขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดทำให้ผู้คนสนใจสั่งซื้อกันไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีราคาถูก ชาวเน็ตท่านนั้นระบุว่าทางแอดมินก็ได้โฆษณาว่าอาหารแมวที่นำมาจัดจำหน่ายนั้นเป็นอาหารเกรดพรีเมี่ยมจากโรงงานโดยตรง แต่ทว่าบรรดาผู้ที่ได้ซื้ออาหารแมวจากแอดมินพบว่าอาหารเหล่านี้เป็นอาหารเกรดต่ำ และอาจจะทำให้แมวสุขภาพเสียอีกด้วย พบว่ามีการสวมทะเบียนอนุญาตการขาย? นอกจากนี้ทางลูกเพจยังได้มีการท้วงติงถึงเรื่องการสวมทะเบียนว่าเป็นอาหารแมวยี่ห้อหนึ่ง แต่ทางแอดมินได้นำมาบรรจุใส่ถุงใสขายและอ้างว่าเป็นอาหารที่ผลิตจากโรงงานโดยตรง ซึ่งการสวมทะเบียนการค้าถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อาหารประกอบการรักษาโรคต้องจัดจำหน่ายพิเศษเท่านั้นและต้องมีใบอนุญาตจำหน่าย . นอกจากนี้ยังมีความเห็นด้านอื่นๆ ตามมาอีก อย่างเช่น ส่วนผสมที่ใส่ไปในอาหารแมว ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไม่มีใบอนุญาตการผลิต อันตรายต่อสุขภาพแมว . แถลงการณ์จากแอดมินกลุ่ม ถึงกรณีที่ถูกกล่าวหา ทางแอดมินกลุ่มก็ได้ออกมาแถลงการณ์เป็นคลิปวิดีโอ และได้เขียนอธิบายไว้ว่า อาหารที่ทางแอดมินนำมาแบ่งขายนั้นได้รับมาจากบริษัทผลิตอาหารแมวแห่งหนึ่งโดยตรง ซึ่งทางบริษัทก็ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์เรียบร้อยแล้ว ทางแอดมินอยากจะลดต้นทุนเพื่อให้ทางเหล่าผู้เลี้ยงแมวได้ลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารจึงได้นจัดทำแพ็คเก็จใหม่โดยนำอาหารแมวที่ได้รับมาแบ่งบรรจุใส่ถุงใสขาย ส่วนเรื่องที่ได้โฆษณาว่า แมวที่เป็นโรคนิ่ว โรคไต สามารถทานได้เนื่องจากว่าแมวเหล่านี้ต้องจำกัดความเค็มในอาหารเพื่อไม่ให้ไตทำงานหนักจนเกินไป แอดมินได้กล่าวขอโทษที่ให้ข้อมูลผิดๆ…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?
แชร์กระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ในต่างประเทศเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Edwin Wiek โพสต์คลิปที่ถ่ายจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้ผมเห็นการท่องเที่ยวที่โหดร้ายในพัทยา เสือตัวนี้ถูกทิ่มด้วยไม้นับร้อยครั้งต่อวัน ทำให้มันอ้าปากส่งเสียงคำรามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ภาพที่สวยงงาม…ถึงเวลาที่กฎหมายควรได้รับการเปลี่ยนแปลงสักที” สำหรับคลิปดังกล่าวนี้พบว่าถูกถ่ายที่สวนสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพัทยา ส่วนที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับเสือ แต่ประเด็นคือในระหว่างที่นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปกับเสือนั้น จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสวนสัตว์ยืนอยู่ข้างๆ คอยใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่แก้มเสือ ทำให้มันร้องคำรามออกมา นอกถ่ายรูปกับเสือแล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังขึ้นไปนั่งบนหลังเสือด้วย คลิปบันทึกเหตุการณ์ที่เสือโดนไม้ทิ่มแก้มให้ร้องคำราม จากคลิปดังกล่าวนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพียงเพื่อแลกกับความสุขของนักท่องเที่ยว และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต… Edwin Benschop: ไม่กล้าดูเลย! ผมไม่เข้าใจว่านักท่องเที่ยวพวกนี้ภูมิใจกับภาพพวกนี้ได้อย่างไร? มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน!! Zoe Foster: เราจะช่วยเหลือเสือผู้เคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ยังไง? Donna Marie Tichenor: นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงมาก ฉันอยากเอาไม้ทิ่มชายคนนั้น 100 ครั้งต่อวัน ดูสิ๊จะชอบมั้ย Natalie Coles : โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เหล่านักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันเป็นเรื่องที่ผิดน่ะ! Denise Dawson : ฉันอยากจะตั๊นหน้าผู้ชายคนที่ถือไม้นั่นจริงๆ เจ้าคนใจชั่ว และนักท่องเที่ยวงี่เง่า!! …
-
สาวร่ำไห้หลังเพื่อนบ้านยิง “หมาพิทบูล” ที่หลุดไปในเขตบ้านเขา ชาวเน็ตถกสมควรหรือไม่!?
กลายเป็นที่ถกเถียงกันยกใหญ่ หลังมีคลิปเหตุการณ์ที่หญิงสาวร่ำไห้หลังเห็นสุนัขของเธอนอนตายอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุการตายก็มาจากเพื่อนบ้านเอง งานนี้ใครกันนะที่ผิด!? แม้ว่าคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2016 ซึ่งถ่ายโดยลูกสาวเจ้าของสุนัข แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อยู่เรื่อยๆ ว่าใครกันที่ผิดกันแน่ สุนัขพิบูล เจ้าของสุนัข หรือเพื่อนบ้านกันแน่ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเริ่มมาจากสุนัขพิบูลตัวต้นเหตุซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง ได้กระชากโซ่จนขาดและวิ่งเข้ามาในสวนของเพื่อนบ้านพร้อมกับวิ่งไล่พ่อเจ้าของคลิป และอย่างที่เรารู้กันดีว่าพิทบูลเป็นสุนัขที่ดุร้ายและมันมีแรงที่มหาศาลแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยากจะสู้ ฉะนั้นวิธีการหยุดมันที่ได้ผลที่สุดคือจัดการปลิดชีพมัน โดยชายเพื่อนบ้านอธิบายถึงเหตุผลการยิงว่าเขาพยายามหนีมันแล้วและพยายามจะไม่ใช่ความรุนแรง แต่สุดท้ายความน่ากลัวของมันก็ทำให้เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันลง ด้านหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของสุนัขก็ร้องไห้ยกใหญ่ว่าทำไมต้องทำแบบนั้นกับหมาของเธอ เธอไม่อยู่แค่ครู่เดียวเอง ต้องฆ่ามันด้วยเหรอ พร้อมบอกว่ามันเป็นสุนัขนิสัยดี จากนั้นเธอก็ร่ำไห้ต่างๆ นานา ต่อไปด้วยความเสียใจ ด้านเพื่อนบ้านก็ออกปากขอโทษยกใหญ่พร้อมให้เหตุผลข้างต้นไป คลิปดังกล่าวได้สร้างกระแสมากมาย ว่าจริงๆ แล้วสุนัขพิทบูลผิดที่หลุดออกมาได้ เจ้าของไม่ดูแลให้ดี และสิ่งที่เพื่อนบ้านนั้นทำผิดหรือถูกกันแน่ ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า ทำไมชายคนดังกล่าวถึงเปิดบ้านไว้แต่แรก ถ้าเขาปิดบ้านดีๆ หมามันก็เข้าไปไม่ได้ นอกจากนั้นเขาก็ยังบอกว่าเจ้าของก็ควรดูแลหมาตัวเองให้ดีๆ ด้วย พร้อมบอกว่าทั้งเจ้าของและเพื่อนบ้านผิดพอกัน ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า เขารู้สึกแย่กับการสูญเสียของเธอนะ แต่มันก็เป็นความผิดของเธอที่ดูแลสุนัขไม่ดีเพราะทุกปีมีคนตายจากการถูกสุนัขจู่โจมตลอด ฉะนั้นเพื่อนบ้านจึงทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ทุกคนก็ไม่ได้เห็นด้วยซะทีเดียว…
-
เด็กหนุ่มวัย 12 ปี ต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาหาเงินดูแลรักษาคุณแม่ที่ป่วยใกล้ตาย
เมื่อเด็กชายวัย 12 ปี ต้องตัดสินใจเลือกสิ่งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาระหว่างเลือกไปเรียนเพื่ออนาคต กับเลือกที่จะออกไปทำงานเพื่อหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วย เป็นคุณจะเลือกอะไร สำหรับหนุ่มน้อย Gu Guang Zhao วัย 12 ปี จากประเทศจีน เขาเลือกที่จะออกมาหางานและรักษาแม่ เนื่องแม่ของเขานั้นป่วยเป็นโรคไตวาย ต้องได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ให้ไวที่สุด ในตอนแรกที่เด็กชาย Gu รู้ว่าแม่ของเขามีอาการไตวายและต้องการเงินจำนวนมาก เขาได้ตัดสินใจเขียนข้อความบอกอาจารย์ทันทีว่าเขาต้องหยุดเรียนเพื่อช่วยแม่ของเขา แม้ว่าเขานั้นจะเป็นเด็กเก่งที่มีรางวัลจากการเรียนมากมายก็ตาม ด้านจำนวนเงินที่จะต้องหามาเพื่อใช้ในการรักษานั้น เด็กชายต้องหาเงินมากกว่า 2,500,000 บาท แต่โชคไม่ดีนักที่สถานะการเงินของเขาและครอบครัวไม่ดีเท่าไหร่และยังเป็นหนี้อีกกว่า 500,000 บาท ถึงอย่างนั้นเด็กชาย Gu ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเพื่อช่วยแม่ต่อไป ทางด้านพ่อของเขาก็ได้ออกจากการเป็นคนงานก่อสร้างเพื่อมาดูแลภรรยาที่ป่วย ในตอนนี้เขากับลูกชายก็ต้องช่วยกันทำงานเก็บถั่วเพื่อหารายได้หลัก ส่วน Gu ก็ยังทำงานบ้านอีกหลายอย่างเพื่อให้แม่ของเขามีสุขภาพและชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังสื่อต่างๆ ในจีน ก็มีการบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้จนได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้แม่ของ Gu จะเข้ารับการรักษาที่ Henan Medical University ทันที สุดท้ายแล้วเรื่องราวของ Gu ก็ยังไม่จบ เขาเป็นเด็กที่ดีและสำนึกบุญคุณ ถึงขนาดที่เขาบอกกับแม่ว่าเขาได้ทำรายชื่อของคนที่เข้ามาช่วยเหลือทุกคน และเขาจะตอบแทนคนเหล่านี้อย่างแน่นอน …
-
เมื่อสตรีมเมอร์สาวสุดฮอตประกาศเปิดตัวแฟนหนุ่มเอเชีย ชาวเน็ตก็เลยเกรียนแตกรับไม่ได้!!
ถ้าใครยังจำกันได้เมื่อช่วง ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีข่าวเกี่ยวกับดราม่าเกมเมอร์สาวสุดสวยที่เปิดตัวเป็นแฟนกับหนุ่มเอเชีย จนชาวเน็ตออกมาแสดงความไม่พอใจกันยกใหญ่ แต่เรื่องแนวๆ เหยียดเชื้อชาติแบบนี้ยังไม่หมด เพราะคราวนี้เป็นคราวของสตรีมเมอร์สาวสุดฮอตกันบ้าง (กลับไปอ่านข่าวเก่าได้ที่ “เน็ตไอดอลสาวแคนาดาสุดแซ่บ เปิดตัวแฟนเป็น ‘หนุ่มเอเชีย’ เจอกระแสชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ!?“) โดยมาม่าในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสตรีมเมอร์สาวจาก Twitch นามว่า Pink_Sparkles ซึ่งเธอเป็นสตรีมเมอร์ที่มีหนุ่มๆ ติดตามอยู่เพียบ ด้วยดีกรีความเซ็กซี่และฝีมือการเล่นเกมที่ไม่ได้เป็นสองรองใครจนมียอดคนดูรวมถึง 10 ล้านครั้ง แต่ล่าสุดเธอได้เปิดตัวแฟนหนุ่มตัวจริงของเธอผ่านทวิตเตอร์ ผ่างงง!! ชาวเน็ตช็อคกันสุดๆ เพราะแฟนหนุ่มของเธอเป็นหนุ่มเอเชียยังไงล่ะ และเมื่อหนุ่มๆ จากอินเตอร์เน็ตเห็นดังนั้น ก็เลยออกมาโวยวายกันยกใหญพร้อมยกเหตุผลมากมายออกมาโจมตี ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีว่าแฟนหนุ่มเป็นเอเชีย ไม่หล่อ หรืออาจจะเพราะแฟนหนุ่มของเธอรวยเธอจึงเลือกคบกับเขา บ้างก็ออกมาบอกให้ส่งพี่คนนี้กลับประเทศไป เจ้าตัวเลยออกมาสวนเลย นายนี่ขี้เหยียดจัง แฟนฉันเป็นคนอเมริกันว๊อย ไม่หมดเท่านั้น ชาวเน็ตอีกหลายคนก็ยังไม่ยอมหยุด ออกมาพูดด้วยถ้อยคำหยาบคายใส่ Pink_Sparkles ว่าเธอคงอดกินไอ้จ้อนไซส์ยักษ์ของเขาแล้วล่ะ หรือบ้างก็ล้อเลียนหุ่นของแฟนหนุ่มของเธอว่า เธอมีรสนิยมแบบนี้นี่เอง สุดท้ายแล้วยังไงก็ตาม ชาวเน็ตที่รู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ก็ยังโจมตีเธอต่อไป แต่นั่นก็หยุดความรักอันแสนสวยงามของ Pink_Sparkles ไว้ไม่ได้ แถมเธอยังโพตส์ภาพคู่ตอกกลับชิวๆ ว่า บัยนะ ไปนอนก่อนแล้วเจอกันพรุ่งนี้ อิอิ…
-
รวม 26 ภาพแมวเปียกน้ำสุดฮา เนื่องในโอกาส “วันสงกรานต์แห่งชาติ” 22 กันยายน!!
วันนี้วันดี 22 กันยายน เป็นวันที่เราคงจะไม่สามารถลืมกันได้เลย ในเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้น ขนาดที่เรียกได้ว่าสะเทือนทุกสื่อสังคม โดยเฉพาะวงการบันเทิงกันไปเลยทีเดียวเชียว ก็เพราะว่ามันก็คือ “วันสงกรานต์” อย่างไรละ แม้ว่าอาจไม่ใช่วันปีใหม่ไทย แต่ก็นับว่าเป็นชื่อที่ตรงความหมายซะยิ่งกว่าในเดือนเมษายนอี๊กกก พูดง่ายๆ ก็แบบสงกรานต์คือสงกรานต์อ่ะ เข้าใจตรงกันนะ ไม่ว่าจะเป็นกระแสดราม่าการแยกกันอยู่ ชาวเน็ตตามไปสืบเสาะบอกว่ามีมือที่สาม เกิดการรุมต่อว่าขึ้น หรือแม้แต่ย้อนกลับไปดูการพบกันครั้งแรกก็ยังมี เป็นที่ฮือฮาเปิดข่าวมา เจอชื่อคนดังวนเวียนอยู่แค่สามชื่อนี้เลยจริงๆ เริ่มมีคนสงสัยแล้วสินะ “ว่านี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?” วิธีการก็ไม่ยาก เพียงแค่พิมพ์คำว่า “สงกรานต์” ลงในกูเกิ้ล เท่านั้นเองคุณก็จะสามารถเข้าใจสถานการณ์ และติดตามความคืบหน้าของวันสำคัญนี้ได้อย่างง่ายดาย คิดไปคิดมาเรื่องนี้อาจดังกว่าการจำนำข้าวก็ได้นะ ขอให้ทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับวันสำคัญนี้นะครับ ที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงสงกรานต์ ความเปียกปอนก็จะตามมา ไหนๆ แล้วเราก็ถอนตัวถอนใจจากดราม่า ไปดูภาพเจ้าเหมียวกันหน่อยดีกว่า ว่าถ้ามันมาอยู่ในวันสงกราต์ละ สภาพจะเป็นอย่างไรกันบ้าง . . . . . . . . . . . .…
-
รวมรีวิวของชาวเกมเมอร์ ที่มีต่อเกม ‘Fights of Gods’ ในแง่การเล่นมันสนุกขนาดไหน…??
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนระอุไปทั่วโลก หลังมีการปล่อยเกม Fight of Gods ออกมา ถึงขนาดที่ว่าเกมเมอร์ในมาเลเซียอดใช้ Steam กันเลยทีเดียว (ตอนนี้ใช้ได้แล้ว แต่โดนบล็อคหน้าเกมดังกล่าว) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปในวงกว้าง หลังมีการเปิดตัวเกมอินดี้ที่จับเอาศาสดาและเทพเจ้าตามความเชื่อของหลักศาสนาต่างๆ มาต่อสู้กัน สำหรับกรณีนี้ก็มีความเห็นต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะฝั่งไทยเราที่ถึงขั้นอยากจะสั่งแบนผู้ผลิตกันเลยทีเดียว (เนื้อหาข่าวเดิม) เห็นแบบนี้ได้รางวัล Indie Prize 2017 มาแล้วนะจะบอกให้!! ท่ามกลางกระแสดราม่าหลายคนคงได้เห็นความคิดเห็นจากทั้งฝั่งที่ยึดมั่นในสิ่งที่ตนศรัทธา กับฝั่งที่มองว่ามันเป็นแค่เกมกันมาบ้างแล้ว ซึ่งคราวนี้เราจะขอพาไปชมความคิดเห็นจาก ‘เกมเมอร์’ ที่ได้เข้าไปเล่นในเกมกันมาแล้วจริงๆ บ้างดีกว่า เราไปดูกันว่านอกเหนือจากประเด็นเรื่องศาสนาแล้ว ในฐานะที่เกมเป็นตัวเกมจริงๆ จะได้รับคำชมหรือคำวิจารณ์มากขนาดไหน ‘เกมต่อสู้ที่คุณเป็นพระเยซูได้ มันก็เหมือนเกมต่อสู้อื่นๆ ที่มีตัวละครเป็นเอกลักษณ์ แต่ต่างตรงที่มีโหมด Arcade เป็นเกมที่สนุกเลย เหมาะสมกับราคาที่ลดลงมา’ ‘เหตุผลง่ายๆ ที่เราซื้อเกมนี้… มันสนุก มีตัวละครที่เราต่างก็อยากให้มี และฝึกทำคอมโบได้ไม่ยาก’ ‘กราฟฟิคดี ระบบเกมก็โอเค ตัวละครก็ไม่เยอะเกินไป… (จากนั้นก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวละครตามความเชื่อ)’ ‘ถึงกับลงทุนจ่ายเงินซื้อเกมนี้เลยมาเลยนะ แล้วมันก็คุ้มมากๆ…
-
หนุ่มบิ๊กไบค์ ถูกชายอ้างเป็นตำรวจเอาปืนจี้พร้อมขอดูบัตรอย่างอุกอาจ จนชาวเน็ตจวกเละ!!
ไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์สุดอุกอาจขึ้นกลางถนนเมืองคิงเคาน์ตี้ รัฐวอชิงตัน โดยได้มีชายคนหนึ่งอัพคลิปที่เขาถูกชายมีอายุเดินเข้ามาพร้อมกับปืนและขู่เขาพร้อมบอกว่าตนเป็นตำรวจ Alex Randall ชายเจ้าของคลิปคนดังกล่าวนั้น ได้เล่ากับ Kiro 7 News ว่าเขาถูกชายคนหนึ่งเดินมาสั่งให้เขาหยุดรถโดยให้สาเหตุว่าเขาขับรถอันตรายเกินไป ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าชายคนนั้นเอาปืนมาขู่ไว้ด้วย ชายคนนั้นอ้างตัวว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก King County Sheriff’s Department และสั่งให้ Alex เอาบัตรประชาชนออกมา แต่ด้วยความที่ Alex ขี่บิ๊กไบค์ซึ่งมีเสียงเครื่องยนต์ที่ดัง และเขาก็ยังใส่หมวก จึงฟังไม่ค่อยรู้เรื่องจึงบอกว่าขอถอดหมวกกับดับรถก่อนได้ไหม? ชายคนนั้นก็ไม่ยอมรอเขา จึงตัดสินใจหยิบกระเป๋าเงินของ Alex ออกมาเองโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยอ้างสิทธิการเป็นตำรวจเช่นเคย ในจังหวะนั้นเขาก็ได้รู้ชื่อของ Alex จากบัตรเรียบร้อย แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่มีการโชว์ตราหรือบอกชื่อตัวเองสักนิดเดียว ล้วงมาหยิบกันแบบหน้าตาเฉย สุดท้ายก็สั่งให้ย้ายรถไปคุยกันข้างหน้า ซึ่งนั้นทำให้เรื่องของการขับรถดีหรือไม่ดีของ Alex ตกไปในทันที กลายเป็นว่านายคนดังกล่าวทำเกินกว่าเหตุหลายอย่างมากๆ ชาวเน็ตที่ได้ดูจึงออกมาโจมตีกันเละเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าทำไมเป็นตำรวจจริงถึงไม่โชว์ตราหรืออะไรเลย แต่มาถึงก็อ้างตัวแถมเอาปืนมาขู่อีก . แต่ถึงจะมีคนด่าชายคนดังกล่าว แต่ก็มีชาวเน็ตที่เห็นใจและเข้าใจเหมือนกัน ว่า Alex ต่างหากที่ผิด ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ John…
-
ดราม่าหนัก!! สาวจอดรถบนเส้นขาว-ดำ ถูกตำรวจจับปรับ โวยถามถึงความถูกต้อง!?
กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงไปทั่วโลกออนไลน์ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่… โดยเจ้าของเฟซบุ๊กคุณ Chidsanunchcha Fiats ได้โพสต์ภาพและวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตัวเองไปเจอมา โดยเจ้าตัวได้นำรถของตนไปจอดไว้ที่ข้างทางที่มีเส้นขาว – ดำ ทว่าเจ้าตัวกลับถูกตำรวจเขียนใบสั่ง พร้อมยึดใบขับขี่ อันนำมาสู่ประเด็นดราม่าที่ว่า.. ตกลงแล้วมันจอดได้หรือไม่ได้กันแน่นะ? ในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายผู้เสียหาย และฝั่งตำรวจ โดยผู้เสียหายอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ขาว – ดำ และไม่มีป้ายบอว่าห้ามจอดภายในเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังมีรถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่บนเส้นขาว – แดง แต่กลับไม่ถูกเขียนใบสั่งด้วย!? และเมื่อฝั่งผู้เสียหายได้ถามถึงสาเหตุที่ว่า ในเมื่อไม่สามารถจอดได้แล้วทำไมเทศบาลถึงไม่มีการติดป้ายบอกอะไรเลย ซึ่งฝั่งตำรวจก็ให้เหตุผลมาง่ายๆ ว่า “เทศบาลเชียงใหม่ไม่มีงบเลยไม่มีป้ายติดบอกฝั่งนี้” ภาพของรถผู้เสียหาย และรถของคนอื่นที่จอดบนเส้นขาว – แดง เรื่องงบประมาณการจัดสรรของเทศบาลก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ควรได้รับการแก้ไข ทว่าหลังจากที่เจ้าของเรื่องได้โพสต์เรื่องราวของตนที่มีการเข้าไปพูดคุยกับสารวัตรเพื่อถามไถ่ถึงความยุติธรรมแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ากระแสตอบรับของชาวเน็ตจะค่อนข้างเอนเอียงไปทางตำรวจซะส่วนใหญ่..!! รถคันอื่นในบริเวณเดียวกัน แน่นอนว่ามันนำมาซึ่งประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ หลายๆ คนมองว่า เป็นตัวของผู้เสียหายเองที่ไม่รู้กฎหมายมากพอ และถ่ายคลิปวิดีโอลงเพื่อประจานตัวเอง ชาวเน็ตหลายคนอ้างข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก… บ้างก็ให้ความเห็นว่า อาจจะเป็นเพราะน้องไม่ใช่คนเชียงใหม่เลยทำให้เกิดการสับสนได้ และส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเทศบาลด้วย …
-
“ไอ้ทรยศ!!” สรุปดราม่า Floyd Mayweather ฉะเดือด Justin Bieber ด่าแบบไม่ไว้หน้า
ดูเหมือนว่าจะมีดราม่าใหม่แห่งวงการบันเทิงที่โด่งดังไปทั่วโลก หลังจากที่ Floyd Mayweather นักมวยชื่อดังที่กำลังจะมีศึกขึ้นชกกับ Conor McGregor ดันมีปากเสียงกับอดีตเพื่อนซี้ Justin Bieber ซะได้!? หลังจากที่กระแสข่าวเรื่องนี้เริ่มเป็นที่พูดถึง แก๊งค์แมวเหมียวเราก็เลยลองสวมบทไปสอดแนมดราม่าฝั่งเมืองนอกกันบ้าง ข้อพิพาทของทั้งคู่ทางเว็บไซต์ TMZ ก็ได้สรุปไว้ดังนี้… เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้แฟนๆ ของทั้งสองฝั่งอาจจะได้เห็นทั้งคู่ออกสื่อร่วมกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็เพราะทั้งสองได้ร่วมลงทุนเงินจำนวนพอสมควรให้กับแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่ชื่อว่า ‘Shots’ ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ทว่าจู่ๆ Justin Bieber ก็อันฟอลโลว์อินสตาแกรมของ Floyd Mayweather ซะงั้น!? กลายเป็นปากเสียงทำให้ต่อมาฝั่งนักมวยออกมาด่านักร้องว่า “ไอ้คนทรยศ!!” ซะอย่างนั้น ทางเว็บไซต์ TMZ เผยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ก่อนหน้านี้จัสตินประสบปัญหาการเงินติดขัด และดูเหมือนว่าในยามวิกฤตินี้ เขาจะได้รับการช่วยเหลือจากฝั่งนักมวยเพื่อนซี้ แหล่งข่าวเผยว่ามีช่วงหนึ่งที่จัสติน เดินทางไปยังโบสถ์ Hillsong Church บ่อยๆ และดูเหมือนเจ้าตัวจะได้คำแนะนำจากคนในนั้น ให้พยายามตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นหลายๆ อย่างออกจากชีวิต และรวมไปถึงตัดเรื่องนักมวยคนดังกล่าวด้วย นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ฝ่ายนักร้องอันฟอลโล่วอินสตาแกรมฝั่งนักมวย ทว่าทั้งสองเพิ่งลงเงินร่วมกันไปเนี่ยสิคือปัญหา ประเด็นดราม่าของทั้ง Justin Bieber…
-
เจ้าของบ้านพักไม่ยอมให้ “คู่รักอ้วน” ย้ายเข้ามาอยู่ด้วย แล้วไล่ให้ไปปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น!?
สังคมนั้นมันโหดร้าย หรือบางครั้งเราเองที่โหดร้ายกับตัวเอง? เมื่อคู่รักไซส์ใหญ่คู่หนึ่งรู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งไม่ให้เช่าห้องโดยเจ้าของบ้าน เพราะพวกเขามีอาการป่วยจากความอ้วนและโรคซึมเศร้า Maria Brindle วัย 25 และแฟนหนุ่มของเธอ Liam Bellis ได้เห็นโพสต์หนึ่งของ Kevin Parkes บนโลกอินเตอร์เน็ตหลังจากที่เขาแชร์ข้อความประกาศหาคนมาแชร์ห้องเช่าอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่จึงติดต่อไป แต่ข้อความที่ได้รับตอบมาเล่นเอาทั้งคู่อึ้งไปตามๆ กัน Kevin ส่งข้อความกลับมาหาคู่รัก พร้อมกับถามถึงสภาพร่างกายและรายได้อยู่ของทั้งคู่เพื่อเช็คดูว่าทั้งคู่ป่วยเป็นอะไรไหม พร้อมจะแชร์ค่าเช่าหรือเปล่า เพราะเขาไม่อยากให้ใครมาตายในบ้านของเขา และมาอยู่ฟรีๆ Maria ก็ตอบกลับมาว่า เธออายุ 25 และมีอาการปวดหลัง ส่วนแฟนหนุ่มก็เป็นโรคซึมเศร้า ไม่ได้ทำงานอะไร พอ Kevin อ่านและเช็คประวัติทั้งคู่จนหมด เขาก็ตอบกลับมาทันทีว่า เขาไม่โอเค จากนั้นก็ทำการไล่ทั้งสองคนให้ไปเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ซะ!! โดยเขาให้เหตุผลว่าเขาเช็คมาแล้วและรู้ว่าทั้งคู่นั้นวันๆ ไม่ทำอะไรเลย พร้อมอธิบายเหตุผลว่า ที่แฟนหนุ่มนั้นเป็นโรคซึมเศร้า เพราะวันๆ อดอู่อยู่เฉยๆ ไม่ออกไปหางานหรือสร้างแรงบรรดาลใจให้ตัวเอง จากนั้นก็ฉะแฟนสาวต่อว่า “ที่ปวดหลังนะ ไม่ใช่เพราะปัญหาสุขภาพหรอก แต่เพราะวันๆ ไม่ขยับไปไหนอยู่กันเฉยๆ ไง เลิกโทษแต่สุขภาพไม่ดีๆ…
-
อย่างคม!! รวมความเห็นของ ‘โอม ค็อกเทล’ โต้กับชาวเน็ต หลังมีกระแสดราม่าร้านเหล้า
กลายเป็นกระแสดราม่าที่ดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ หลังจากที่คุณโอม นักร้องนำวง Cocktails ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เจ้าตัวจะไม่รับเล่นงานในกรณีที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี (ตามกฎหมาย) เข้ามาดูในร้านเหล้า ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คุณโอม ได้ไปเล่นดนตรีที่ร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 2,500 คน ทว่าในกลุ่มคนดูมีเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และอาจทำให้ร้านถูกสั่งปิดได้ ทางด้านของนักร้องนำก็ได้ชี้แจงประมาณว่า “ขณะนี้มีเด็กๆ น้องๆ อายุต่ำกว่า 20 ปีแอบเข้ามาในร้านเป็นจำนวนมาก ดีใจนะครับที่อยากมาเจอพี่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของน้อง ทางวงยังขึ้นเล่นไม่ได้ เนื่องจากทางร้านต้องกรองน้องๆ ออกก่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหาทางกฎหมาย อยากเล่นให้น้องๆ ดูนะครับ แต่ถ้าพี่ยอมเล่นให้น้องๆ ที่อายุไม่ถึงในวันนี้ ก็เท่ากับว่าพี่สนับสนุนการแหกกฎกมาย พี่คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ หวังว่าน้องคงจะเข้าใจนะครับ” จากกรณีดังกล่าวก็มีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางส่วนเห็นด้วยว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่ชาวเน็ตบางส่วนกลับไม่เห็นด้วย บ้างก็อ้างว่ามันเป็นเหมือนเรื่องปกติที่มีทุกยุคทุกสมัย… ทางนักร้องก็ออกมาชี้แจงกลับว่า สาเหตุที่โพสต์ข้อความไปเพราะต้องการสื่อสารให้กับคนที่มารอแต่ไม่ได้ดู และถึงแม้ว่าร้านจะโดนปิดพวกเขาก็ยังได้ค่าจ้างเต็มอยู่ดี ชาวเน็ตส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยก็ออกมาให้เหตุผลสนับสนุน ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้วหากพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีในร้านเหล้า ร้านนั้นอาจถูกสั่งปิดกิจการได้เลย …
-
หญิงสาวอ้างถูกมือดี เอามีดมาฟันยางรถ ชาวเน็ตสังเกตเห็น ใช้ยางเก่าตั้งแต่ปีมะโว้!!
บางครั้งการยอมแพ้ อาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการจะสรรหาข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงมาอธิบาย หรือพูดง่ายๆ ก็แถนั่นแหละ แต่คนที่ชอบดื้อดึงจะเอาผิดเป็นถูกก็อาจจะคิดว่า เมื่อก้าวขาออกมาข้างหนึ่งแล้วจะกลับไปกลัวกลัวเสียฟอร์ม ไหนๆ ก็ไหนๆ เอามันให้สุดเลยละกัน เหมือนกับกรณีของเจ๊ท่านนี้ ข้อความของการถกเถียงกันระหว่างชาวเน็ตท่านหนึ่งที่โพสต์รูปยางรถของตัวเอง พร้อมกับบอกว่ามีใครบางคนแอบมาทำลายยางรถของเธอที่จอดอยู่เฉยๆ และนี่คือสภาพของยางรถของเธอ ที่อ้างว่าถูกมือดีเอามีดมาฟัน “มีใครบางคนเอามีดมาฟันยางรถฉัน ฉันสาบานได้เลย มันเกิดประมาณอาทิตย์ที่แล้วนี้เอง” คุณ Laura Loomer กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ แต่เมื่อภาพยางรถดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ต ก็มีผู้คนสงสัยต่อรอยขาดและสภาพยางของเธอเป็นจำนวนมาก คอมเม้นต์จากชาวเน็ตท่านหนึ่งบอกว่า “ดูเหมือนว่ายางของคุณจะผลิตมาตั้งแต่ปี 2011 แล้วนะ” “รอยแตกพวกนี้ มันดูเหมือนกับว่าคุณขับรถโดยที่ไม่มีลมยางเลยนะ” “และจากตรงนี้ มันชี้ให้เห็นว่าขอบล้อถูกครูดกับถนนมานานแล้ว” “เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า รถคุณเนี่ยคงจะเหยียบโดนบางอย่างบนถนนแน่นอน” และนอกจากนี้ทางผู้ผลิตยางชื่อดังอย่าง Michelin เองก็ได้ออกมาแสดงความเห็นอีกด้วย โดยพวกเขาบอกให้เธอลองเอายางไปเช็คดูดีๆ เถอะ และหลังจากนั้นก็เริ่มมีชาวเน็ตท่านหนึ่งบอกว่า เขาเจอการระดมทุนเพื่อซื้อยางเส้นใหม่ของเธอด้วย แต่ทางเจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธว่า การระดมทุนไม่เป็นความจริงเลยซักนิด และดูเหมือนว่าการแซวของชาวเน็ตจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีบางคนถึงขั้นไปเพิ่มเติมข้อมูลถึงเรื่องการแถยางรถยนต์ในวิกิพีเดียเลยล่ะ…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยูทูบเบอร์ ทำคลิปแกล้งคนขับรถด้วย “เชือกล่องหน” ชี้ไม่เหมาะสมเสี่ยงอันตรายมาก!!
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2560 ทางชานแนลยูทูปที่ชื่อ RPG Channel ได้ทำการเผยแพร่คลิปวีดีโอในชื่อ แกล้งคน..!! เชือกล่องหน !! ซึ่งคราวนี้นอกจากจะได้ยอดวิวแล้ว ยังตามมาด้วยเสียงวิจารณ์อันหลากหลาย โดยในคลิปวิดีโอนั้นเป็นการทำท่าราวกับว่าดึงเชือก จากนั้นผู้ที่ขับขี่รถผ่านมาก็จะต้องเบรครถกะทันหัน เพราะคิดว่ามีเชือกอยู่จริงๆ ซึ่งในคลิปนั้นดูเหมือนจะเป็นจริงมากกว่าการจัดฉาก ลองมารับชมคลิปกันก่อน… ซึ่งภายหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ คุณสมาชิกหมายเลข 4020674 จากเว็บไซต์พันทิปก็ได้มาตั้งกระทู้ที่ชื่อ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา Youtuber เหล่านี้มีปัญญารับผิดชอบไหมครับ? พร้อมกับระบุว่า… “จากคลิปๆ นี้ ผมว่ามันไม่ได้สร้างรอยยิ้ม แต่แสดงออกถึงสติปัญญาอันน้อยนิดของผู้ทำ ถ้าเกิดมีรถมอเตอร์ไซค์มาเร็วๆ แล้วเขาตกใจกับสิ่งที่พวกคุณกำลังแกล้ง เบรคไม่อยู่ ล้มไป อาจจะเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต คุณจะรับผิดชอบกันยังไง ผมว่าการแกล้งแบบนี้มันเกินไป ไม่นึกถึงความปลอดภัยของผู้อื่นเสียเลย” ภายหลังจากที่กระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายอื่นๆ รวมถึงชาวเน็ตที่ได้รับการแชร์ต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อพฤติกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ของผู้ทำคลิปวีดีโอกันอย่างมากมาย นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังได้พากันเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ในชานแนลของ RPG Channel ในกรณีที่ทำคลิปแกล้งคนขึ้นมาอีกด้วย และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วย mark…
-
กลุ่มชาวเน็ตนอร์เวย์โพสต์ภาพเบาะ เหมือนกลุ่มสาวอิสลาม สู่มหกรรมวิ่งเข้าทุ่งครั้งยิ่งใหญ่..!!
เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากเกิดเรื่องแดงขึ้นในกลุ่มเฟสบุ๊คต่อต้านผู้อพยพของประเทศนอร์เวย์ ได้ออกมาโพสต์ภาพที่นำไปสู่มหกรรมการดักควายครั้งยิ่งใหญ่ “ออกไปจากประเทศนี้นะ”, “น่ากลัวขยะแขยง” หรือ “นั่นมันพวกผู้ก่อการร้าย” ทั้งหมดนี้คือความเห็นส่วนหนึ่งจากชาวเน็ต หลังจากที่มีการโพสต์ภาพดังกล่าวลงไปในกลุ่ม Fedrelandet viktigst (Fatherland first) เพื่อเรียกคอมเมนท์จากกลุ่มสมาชิกที่มีแนวคิดต่อต้านผู้อพยพ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่ภาพเบาะนั่งในรถบัสเท่านั้น “เราควรเอาพวกมันออกไปจากประเทศนี้ซะ พวกมันคลุมผ้าไว้ทั้งตัวแบบนี้เราไม่รู้เลยว่าเป็นใคร และพวกมันอาจเป็นพวกผู้ก่อการร้ายก็เป็นไปได้” – ความเห็นจากชาวเน็ตส่วนหนึ่ง ซึ่งภาพนี้ถูกโพสต์โดยนาย Johan Slåttavik โดยเจ้าตัวทราบดีว่าเป็นภาพของเบาะที่นั่งบนรถบัส แต่ด้วยความเกรียนผสมกับความอยากปั่นกระแสดราม่า เจ้าตัวจึงนำภาพดังกล่าวไปโพสต์ลงบนเพจเพื่อสังเกตปฏิกริยาท่าทีของชาวเน็ตที่มีต่อภาพ แน่นอนว่ากระแสจากภาพที่นั่งบนรถบัส เต็มไปด้วยคำด่า คำสาปแช่ง คำพูดในเชิงเหยียดชาติพันธุ์ศาสนา และถูกแชร์ต่อไปอีกมากกว่าหลายพันครั้ง Sindre Beyer ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับ Hate Speech ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันช็อคมากที่เราได้เห็นปรากฎการณ์ของกลุ่มคนนอร์เวย์ดังกล่าวบนโลกเฟซบุ๊ก แม้ว่าจะเป็นแค่ภาพเบาะที่นั่งธรรมดา แต่มันก็สะท้อนได้ดีว่าอคติที่มีอยู่ในใจเรานั้นบดบังความจริงข้างหน้าไปมากขนาดไหน” จะเรียกว่าเป็นมหกรรมเชิญชาวเน็ตนอร์เวย์เข้าสู่ทุ่งหญ้าครั้งใหญ่ก็คงจะไม่ผิดนักกระมั้ง.. ที่มา: Dailymail, washingtonpost
-
แบบนี้ก็มี… วีออสปาดขึ้นสะพานเกือบชนแท็กซี่ ยังไม่พอ ขับตามมาหาเรื่องเค้าถึงที่อีก!?
กลายเป็นกระแสดราม่าร้อนฉ่าไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากที่ผู้ขับแท็กซี่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Oun Chatchai ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเผยแพร่บนโลกโซเชียล โดยในคลิปวิดีโอเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ ที่ดันไปเจอรถวีออสปาดหน้าก่อนขึ้นสะพานจนเกือบนำไปสู่อุบัติเหตุ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น… เพราะคนขับวีออสได้เลือกที่จะขับตามหลังมาหาเรื่องต่อ!? เจ้าตัวเล่าว่าตนกำลังขับขึ้นสะพานข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ เพื่อมุ่งหน้าจะไปทางสวนพลู คนขับแท็กซี่เล่าต่อว่า จังหวะที่กำลังจะขึ้นสะพาน ก็ได้มีรถเก๋งวีออสคันหนึ่งที่กำลังจอดอยู่ตรงคอสะพาน ขับเบี่ยงออกมาทางขวาโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว วิเคราะห์: ถึงแม้จะเปิดไฟเลี้ยว แต่บริเวณดังกล่าวก็เป็นเส้นทึบ ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้ แน่นอนว่าในจังหวะอันตรายบนท้องถนน การบีบแตรรถก็เป็นอีกสัญญาณเตือนเพื่อความระมัดระวัง เขาจึงบีบแตรเสียงดังลั่น และขับออกมา แต่หลังจากที่แท็กซี่ขับรถต่อไปเรื่อยๆ รถเก๋งวีออสคันเดิมก็ขับตามมาปาดหน้าเอาเรื่องอีก โดยคนขับแท็กซี่เล่าว่า ผู้ขับขี่รถเก๋งได้ขับรถตามมาพร้อมทั้งตะโกนบอกว่า ‘เป็นคนไทยรึเปล่า? ทำไมไม่มีน้ำใจ?’ จู่ๆ วีออสก็มาปาดขวาและจอดขวางรถแท็กซี่ไว้ โดยมีพฤติกรรมเหมือนตั้งใจจะตามมาหาเรื่อง หลังจากที่ปาดหน้าไม่ยอมให้แท็กซี่ไปต่อแล้ว เจ้าของรถทั้งสองคนก็ได้ลงมาจากรถเพื่อพยายามถามไถ่น้ำใจจากคนขับแท็กซี่ รับชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์เต็มๆ คลิกที่ลิงค์นี้เลยครับ เรื่องราวทั้งหมดถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายชาวเน็ตได้กล่าวว่าตนต้องการแค่ทำมาหากิน และไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาหาเรื่องกันด้วย ชาวเน็ตที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวต่างก็ออกมาสนับสนุนในการกระทำของแท็กซี่ว่าเป็นฝ่ายถูก และดีที่ไม่ได้หาเรื่องกลับไปด้วย Packy K. Yarana เส้นทึบนะทางที่เขาปาดมาหนะ น้ำใจคือไร เขาขับมาของเขาดีๆ…
-
ถกกันสนั่น หลัง “พล่ากุ้ง” แสดงความเห็นการฆ่าตัวตายของ Chester Bennington คนไม่เห็นด้วยเพียบ!!
กลายเป็นกระแสร้อนอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีการฆ่าตัวตายของ Chester Bennington นักร้องนำจากวง Linkin Park ภายในบ้านพักของตัวเอง สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่: Chester Bennington นักร้องนำ Linkin Park ฆ่าตัวตายปิดฉากชีวิตด้วยวัย 41 ปี หลังจากการจากไปของศิลปินดังระดับโลก ทำให้เกิดกระแสความเศร้าโศกของแฟนๆ และคนดังตามมามากมาย โดยล่าสุดศิลปินและพิธีกรดังอย่าง พล่ากุ้ง แห่งวง Magenta ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้เช่นกัน โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับข้อความต่อว่า Chester Bennington ว่าไม่ควรฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีผลกระทบต่อคนรอบข้าง พร้อมกับบอกว่าไม่อยากให้ใครฆ่าตัวตายเพราะไม่เป็นผลดีกับใครเลย ภาพข้อความดังกล่าว . จากการแสดงความเห็นของดาราหนุ่มทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากมองว่าเจ้าตัวเองยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ดีพอ เริ่มจากเพจใหญ่อย่าง Drama-addict “การฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้า เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือเหตุผลไปแล้วครับ เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคนี้สารสื่อประสาทในสมองจะทำงานผิดปรกติ และทุกสิ่งรอบตัวเขาจะแตกต่างไปจากเรา เราอยู่ในห้องที่สว่าง แต่เขาอาจจะรู้สึกว่ามันคือที่ๆมืดมิดที่สุดในชีวิตเขาก็ได้ และเชสเตอร์ก็เป็นคนหนึ่งที่ต่อสู้กับโรคนี้มายาวนานมาก และสาเหตุของมันก็เกิดจากประวัติที่เขาเคยโดนคนทำร้ายในวัยเด็ก จนกลายเป็นปัญหาติดตัวเขามาจนถึงตอนโต” Wichittra Pannak “การรับรู้ ต่างกันค่ะ คนเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้ทำตามอารมณ์นะคะ ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ถ้าทำความเข้าใจกับคำว่า…
-
รวมความเห็นชาวต่างชาติ รู้สึกอย่างไรกรณี ‘My Mate Nate’ ถ่ายคลิปเหรียญรางรถไฟ..!?
นับว่าเป็นกระแสดราม่าที่ร้อนฉ่าไปทั่วทุกสารทิศในบ้านเรา หลังจากที่ยูทูบเบอร์หนุ่มต่างชาติเจ้าของแชนแนล ‘My Mate Nate’ ได้ลงคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการทดสอบความแข็งแกร่งของเหรียญ ด้วยการเอาไปวางไว้บนรางรถไฟ จนกลายเป็นประเด็นที่หลายคนออกมาโต้เถียงกันบนโลกออนไลน์ ถ้าใครจำได้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เคยสร้างดราม่า จากการนำแมงป่องมาสู้กับแมวมาแล้วครั้งหนึ่ง จากกรณีดังกล่าวทำให้ล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เรียกตัวนาย Nathan Bartling วัย 24 ปี ให้มาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากการทดลองที่ตนเองได้ทำลงไปเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าวิดีโอที่กลายเป็นประเด็นดราม่าจะถูกลบออกไปแล้ว ทว่าจากพฤติกรรมของนาย Nathan กลับทำให้ชาวเน็ตในไทยหลายคนเริ่มไม่พอใจ จนถึงขั้นมีการร่วมลงชื่อในเว็บไซต์ Change.org เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกวีซ่า มีคนร่วมลงชื่อมากกว่า 60,000 คน สำหรับในประเทศไทยเพื่อนๆ คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลังจากที่เกิดกรณีดราม่าก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงการขับไล่ยูทูบเบอร์คนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แค่สื่อไทยนะ เรื่องนี้ก็ดังไกลไปจนถึงสื่ออังกฤษนำไปทำข่าว แน่นอนว่าก็ย่อมมีคอมเม้นท์ต่างๆ นานาถึงประเด็นดังกล่าวด้วย และด้วยความสงสัยว่าชาวเน็ตในต่างประเทศ จะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ทีมงานแมวเหมียวเราจึงได้รวบรวมความคิดเห็นมาดังนี้… บางคนก็เสนอว่า.. ให้ลองส่งยูทูบเบอร์คนนี้ไปทำรายการที่เกาหลีเหนือดูบ้างสิ บ้างก็บอกว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่มายเมทเนทไม่ต้องเข้าคุกไทย ชาวเน็ตบางคนก็ออกมาแย้งว่า เป็นเรื่องธรรมดาเอามากๆ ในสหรัฐฯ แต่อาจจะอันตรายสำหรับรถไฟไทยที่ไม่ได้สร้างมาดีเท่าไหร่ จากที่ได้ยินมา…
-
ประเด็นถกเถียง… ถูกหรือไม่ที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เทแชมเปญจากแก้วกลับใส่ขวด!?
เรื่องดังกล่าวกำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก โดยเฉพาะในต่างประเทศอยู่ ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่มีผู้โดยสารชาวรัสเซียคนหนึ่งถ่ายคลิปวิดีโอขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Emirates กำลังเทแชมเปญขากแก้วใส่ขวดตามเดิม นาย Yevgeny Kayumov ผู้โดยสารชาวรัสเซียได้ใช้บริการของสายการบิน Emirates ชั้นธุรกิจ บนเที่ยวบิน A380 เพื่อเดินทางไปยังเมือง Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาทำการถ่ายคลิปวิดีโอบรรยากาศในชั้นธุรกิจของสายการบินชั้นนำของโลก เขาได้บอกว่าบังเอิญถ่ายติดพฤติกรรมแปลกๆ ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเข้าซะงั้น!? ก็เลยนำมันมาโพสต์ลงบนโซเชียล พร้อมกับแคปชั่นไว้ว่า “ผมบังเอิญถ่ายคลิปวิดีโอนี้ขึ้นมา และตอนแรกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หรือมันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นบนสายการบินนี้อยู่แล้วนะ?” คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ไปเป็นหมื่นๆ ครั้ง และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่งถึงกับคอมเม้นต์ด่าอย่างรุนแรงว่า “การเทแชมเปญจากแก้วกลับเข้าไปในขวดนั้นเป็นอะไรที่น่าเกลียดมาก” ด้วยเหตุนี้เองทางด้านโฆษกของสายการบิน Emirates ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “สายการบิน Emirates ของเรานั้นมักจะคำนึงถึงการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอยู่เสมอ และสิ่งที่เกิดขึ้นในวิดีโอนั้นไม่ใช่การปฏิบัติตามมาตรฐานการบริการของเราอย่างแน่นอน และตอนนี้ทางเราก็กำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่” ทางด้านชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่เคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็ได้ออกมาชี้แจงว่า การกระทำดังกล่าวนั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียดอย่างที่คุณคิดนะ… “ฉันเคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมาก่อน และฉันคิดว่าที่พนักงานต้อนรับฯ คนนี้ทำคือการเทแชมเปญเข้าไปในขวดเพื่อจะได้นำไปทิ้งทีเดียวเลย…
-
ตำรวจเปิดประตูรถอัดใส่ขโมย จนนอนล้มไปกองกับพื้น… ชาวเน็ตสงสัย ต้องทำขนาดนี้เลย?
หน้าที่ของตำรวจคือจับโจร แต่วิธีการจับโจรนั้นก็มีหลากวิธีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่กรณีนี้เมื่อตำรวจไล่จับโจรด้วยการเปิดประตูรถใส่จนทำให้โจรล้มลงไปนอนกับพื้น ทั้งๆ ที่ก็มีวิธีการจัดการอีกหลากหลายทาง? Jake Nedd วัย 31 ปี ได่ก่อเหตุขโมยของจากรถ Range Rover สีดำที่จอดอยู่ข้างทางบนถนน Dawes ทางตะวันตกของลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพการกระทำดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ในวิดีโอคลิปจะเห็นคนร้ายเดินเข้าไปดุ้มๆ มองๆ ตรงกระจกรถก่อนจะมาเปิดท้ายรถแล้วก็พยายามขโมยข้าวของ อีกทั้งยังไปขโมยของที่อยู่ในทางด้านหน้ารถด้วย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลากลางวันแสกๆ เลย พอขโมยของสมใจเขาก็ปั่นจักรยานเพื่อหลบหนี แต่ยังไม่ทันไรตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุซะก่อน ทำให้ Nedd พยายามปั่นหนีไปอีกทาง แต่ก็ถูกตำตรวจตามขนาบข้าง ในจังหวะนั้นเอง ตำรวจก็เปิดประตูรถใส่คนร้ายจนทำให้เข้าล้มลงไป ตำรวจจึงลงไปรวบตัวทันที… ซึ่งภายในเวลาต่อมาศาลก็ตัดสินให้ Nedd จำคุกเป็นระยะเวลา 7 เดือน แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบแค่นั้น เมื่อ Berns หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่จับคนร้ายออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “คนร้ายในคลิปพยายามจะหลบหนี แต่ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อีกคนที่ขับรถรถเก่งมาก จนทำให้ผมจับคนร้ายได้” หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วย โดยโต้กลับว่า “มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ทำแบบนี้อาจทำให้เขาตายได้เลยนะถ้าเกิดหัวกระแทกพื้นขึ้นมา” ขณะเดียวกัน Sebastian Swire ก็ออกมาเขียนว่า “มันเหมาะสมแล้วหรอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาอวดผลงานผ่านสื่อออนไลน์แบบนี้?” อย่างไรก็ตาม งานนี้มีชาวเน็ตไม่น้อยที่ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่ Berns…
-
สายการบินญี่ปุ่นออกมาขอโทษ หลังปล่อยให้ “ผู้โดยสารพิการ” คลานขึ้นเครื่องด้วยตัวเอง..!?
กลายเป็นกระแสดราม่าโด่งดังไปทั่วโลกของสายการบิน Vanilla Air จากประเทศญี่ปุ่น หลังมีข่าวออกมาว่าลูกเรือของสายการบิน ปล่อยให้ผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ต้องคลานขึ้นบันไดเพื่อไปนั่งบนเครื่องบินสูงกว่า 17 ชั้นด้วยตัวเอง!! โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับนาย Hideto Kijima ผู้โดยสารหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 44 ปี ที่ได้เดินทางไปพักผ่อนบนเกาะ Amami ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น Hideto Kijima ด้วยความที่เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้วีลแชร์ช่วยเหลือในการเดินทางอยู่เสมอ ทว่าเมื่อถึงเวลาไฟลท์ขากลับเจ้าตัวก็ต้องอึ้งกับบริการที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ หลังสิ้นเสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง นาย Kijima พยายามที่จะขอความช่วยเหลือจากพนักงาน ทว่าเขากลับถูกปฏิเสธ และได้รับคำตอบที่ว่า ‘ทางเราไม่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือคนพิการ ถ้าคุณอยากจะขึ้นเครื่องก็ต้องช่วยเหลือตนเอง หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเสียสิทธิ์ในการเดินทางได้’ และล่าสุดทางสายการบิน Vanilla Air ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสัญญาว่าจะพัฒนาบริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้มีความต้องการพิเศษให้ดียิ่งขึ้นในภายภาคหน้า ซึ่งทาง Kijima ผู้เสียหายก็ได้ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ และได้ใช้บริการจากหลากหลายสายการบิน “ผมเคยเดินทางมาแล้วก็บ่อย ที่ผ่านมาผมไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจออะไรแบบนี้ซึ่งผมก็แอบสงสัยไม่ได้ว่า… เจ้าหน้าที่ของเค้าไม่รู้สึกผิดลึกๆ ในใจบ้างเหรอ? หรือเค้าไม่มีใจรักงานบริการกันนะ?” ที่มา: BBC
-
ชาวเน็ตร่วมถกประเด็น ‘ถ่ายภาพคู่รักบนรถไฟฟ้า’ ถ่ายมาได้ยังไง ทั้งที่มือก็ไม่ว่าง!?
จากกรณีดราม่าของคุณครูรายหนึ่งที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างดุเดือดในโลกเชียลเมื่อเช้านี้… เนื่องจากว่าเธอได้ทำการถ่ายภาพคู่รักที่กำลังกอดกันอยู่บนรถไฟฟ้า แล้วก็เอามาโพสต์ลงเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมกับบอกว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก จนทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีชาวเน็ตบางส่วนที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องที่ว่าการกระทำดังกล่าวนั้น ถูก หรือ ผิด กลับกลายเป็นว่าไปโฟกัสที่รูปแทนซะงั้น!? เพราะในรูปจะเห็นได้ว่ามือทั้งสองข้างได้จับปากกาเอาไว้อยู่ แต่รูปดังกล่าวถูกถ่ายออกมาได้อย่างไร? ก็เลยกลายเป็นประเด็นใหม่ที่ชาวเน็ตเริ่มตั้งข้อสังเกตกันมากขึ้น และจากการคาดคะเนของเหล่าชาวเน็ต ทางทีมงานเหมียวของเราก็เลยมาจำลองสถานการณ์กันให้เห็นเลยว่าหากเป็นอย่างที่พวกเขาว่าไว้ มันจะมีสถานการณ์เป็นรูปแบบไหน 1. มีมือที่สามงอกออกมาแบบนี้สินะ 2. ในออฟฟิศก็หาคนหน้าอกใหญ่ได้ที่สุดก็เท่านี้ล่ะ 3. มีแต่โกโปรไบค์เกอร์หงะ 4. อร๊างงงง 5. กลัวโทรศัพท์จะพังเหลือเกิน เอ๊ะ แต่ก็ไม่น่าจะยากนะถ้าดูในภาพตัวอย่างนี้ ส่วนที่เหลือนี้รู้สึกว่าจะยากไป และที่ออฟฟิศก็ไม่มีอุปกรณ์ซะด้วยสิ ลองจินตนาการตามก็แล้วกันเนอะ ฮร่าๆ 6. เพิ่มความซับซ้อนเข้าไป เพื่อไม่ให้เค้าจับได้ …
-
ประเด็นร้อน.. ชาวเน็ตร่วมลงชื่อ เพื่อดำเนินคดี “My Mate Nate” ในฐานทารุณกรรมสัตว์!?
เชื่อว่าถ้าคุณเป็นชาวเน็ตที่มักจะติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล อย่างน้อยๆ ต้องเคยได้ยินชื่อของยูทูปเบอร์ชื่อดังชาวตะวันตก ‘My Mate Nate’ กันมาบ้างแล้ว และล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อมีชาวเน็ตนามว่าคุณ Juntraratn Na Wangkanai ได้สร้างแคมเปญเสนอชื่อให้มีการดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ หลังจากที่ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ My Mate Nate จากเว็บไซต์ Change.org ได้ระบุไว้ว่า ยูทูปเบอร์ชาวต่างชาติคนนี้ได้เผยแพร่วิดีโอที่ใช้ชื่อว่า ‘แมว vs แมงป่อง!!! ใครจะชนะ!?’ และ ‘ลูกโป่งกี่ใบถึงจะทำให้แมวลอยได้’ ซึ่งมีเนื้อหาที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนมองว่าเข้าข่ายต่อการกระทำความผิดพรบ. คุ้มครองสัตว์ ตัวอย่างเนื้อหาส่วนหนึ่งจากคลิปวิดีโอ ถึงแม้ว่าทางด้านของ My Mate Nate จะได้ระบุใต้คลิปวิดีโอไว้แล้วว่า “แมงป่องที่ใช้ในวิดีโอเป็นแมงป่องที่ไม่มีพิษ” แต่ก็ถูกชาวเน็ตหลายคนท้วงติงถึงความเหมาะสม และความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะแมว) ที่ต้องถูกกลั่นแกล้งเพียงเพื่อต้องการเรียกยอดวิว หรือยอดไลค์ จริงอยู่ที่ไม่มีแมวเหมียวตัวไหนได้รับอุบัติเหตุ แต่ชาวเน็ตหลายคนก็ท้วงว่า การกลั่นแกล้งทำให้แมวรู้สึกหวาดกลั่ว ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพราะส่งผลต่อสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว และดูเหมือนว่าจะมีชาวเน็ตหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการกลั่นแกล้งสัตว์เลี้ยงของยูทูปเบอร์หนุ่มคนนี้ เพราะตอนนี้มีคนเข้าไปร่วมลงชื่อแล้วมากถึง 31,855…
-
หนุ่มผุดไอเดียถ่ายภาพ “พรีอุปสมบท” ให้น้องชาย จนเกิดเป็นกระแสบนโลกโซเชียล!!
ปกติเราคงจะเห็นการถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้ง หรือพรีงานสำคัญอะไรก็แล้วแต่กันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกกับการที่มีชาวเน็ตคนหนึ่ง ได้ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังจากที่หนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊ก 9Nottie ได้ผุดไอเดียถ่ายภาพให้น้องชายของเขาแนวใหม่ ที่เรียกว่า “พรีอุปสมบท” โดยภาพถ่ายทั้งหมดนี้ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “เมื่อน้องชายของฉันกำลังจะบวช” เราลองตามไปชมกันดู ว่าภาพถ่ายพรีอุปสมบทของเขาจะออกมาเป็นยังไง… เขาบอกกับเราว่า… ในฐานะที่น้องชายบวชให้พ่อแม่ทั้งที งานนี้พี่ชายอาสาเป็นช่างภาพให้เอง ภาพจึงถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของน้องชายก่อนที่จะเข้าพิธี ลองชมภาพเบื้องต้น ก่อนที่จะไปดูบทสัมภาษณ์ความคิดของเจ้าตัวกันด้านล่างครับ… . . . ด้วยกระแสที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ ทั้งแง่ดี และแง่ลบ งานนี้เว็บแคทดดั๊มบ์ก็เลยได้ติดต่อสัมภาษณ์คุณ 9Nottie ผู้เป็นเจ้าของภาพถ่าย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงรายละเอียดดังนี้ “พระท่านวางแผนว่าจะบวชมาเป็นปีแล้วครับ รูปเซ็ทที่ถ่ายก็ถ่ายก่อนจะบวช 2 เดือนกว่า และก่อนถึงวันที่พระจะบวชจริงๆ ได้มีการเข้าไปอยู่วัดตามแนวทางที่มีการปฏิบัติกันมาครับ อยู่วัดก่อนหลายวันเพื่อจะท่องบทสวดมนต์ต่างๆ และเข้าโบสถ์ทำพิธีอุปสมบทไปแบบเรียบง่าย โดยที่ไม่มีการฉลองหรือจัดงานใหญ่โตอะไรครับ” “เรื่องถ่ายรูปคือถ้ายเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนมีนาครับ และตอนจะบวชจริงๆ ก็เข้าวัดอยู่วัดท่องบมสวดมนต์ตามธรรมเนียมปรกติเลยครับ แล้วตอนบวชก็บวชแบบไม่มีการเลี้ยงฉลองหรือกินเหล้าอะไรกันเลย คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าถ่ายตอนนาคเป็นนาคที่กำลังจะเข้าพิธี แต่ผมก็น้อมรับทุกคำวิจารณ์นะครับ ตามที่ผมโพสต์ไว้ที่พันทิปเลยครับเพราะรู้อยู่แล้วว่างานแบบนี้มันต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบครับ” . . . แล้วไม่ทราบว่ากระแสตอบรับจากอัลบั้มนี้…
-
ชาวเน็ตร่วมไขปริศนา คลิปหมาเดินสองขาที่โด่งดัง เกิดจากการฝึกอย่างทรมานรึเปล่า!!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคงจะได้เห็นคลิปของเจ้าหมาตัวหนึ่งที่เดินด้วยขาหลังสองขาพร้อมกับใส่ชุดสะพายกระเป๋าดูราวกับเป็นเด็กผู้หญิง ไม่ว่าใครๆ ต่างก็หลงในความน่ารักของมันไปตามๆ กัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศจีน เพราะในคลิปจะได้ยินเสียงของเจ้าของพูดเป็นภาษาจีนกับเจ้าหมาว่า “เดินช้าๆ หน่อย รอชั้นด้วย” ก่อนที่มันจะหยุดและหันมา เมื่อชาวเน็ตได้ชมคลิปดังกล่าวแล้วต่างก็ชื่นชมในความน่ารักของมัน บ้างก็แปลกใจว่านั่นมันใช่หมาจริงๆ เหรอนั่นน่ะ?? . คลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นถูกดาวน์โหลดมาจากแอปฯ Huoshan Video เป็นแอปฯ วิดีโอของจีนที่คล้ายกับ Vine ในแอป Huoshan Video ก็จะมีแอคเค้าท์หนึ่งที่มีชื่อว่า ‘Wanghong Doudou’ ที่พอแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็จะได้ชื่อว่า ‘Viral Smol Bean’ ที่มีคนติดตามมากกว่า 34,000 คน จากแอคเค้าท์ก็จะพบว่าเจ้าหมา Smol Bean นั้นเป็นสุนัขเพศเมีย และอาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีคลิปวิดีโอมากมายที่โชว์ให้เห็นว่าเจ้า Smol Bean นั้นใส่ชุดที่แตกต่างกันออกไป และเดินไปมาด้วยขาหลัง เมื่อคลิปของเจ้า Smol Bean ถูกแชร์ไปมากมายในฝั่งตะวันตก ก็เริ่มทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัย…
-
ดราม่าร้อน!! สาวน้อยวัย 13 ปี ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะไปเป็น “เรซควีน” ในการแข่งรถ
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนระอุไปทั่วโลกโซเชียลชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับความเหมาะสมของเด็กหญิงวัย 13 ปี กับเส้นทางควาฝันที่อยากจะเป็นนางแบบของเธอ และรับงานในช่วงเวลานอกเหนือเวลาเรียน Momoka Kurita ผู้สร้างเสียงฮือฮาในการเป็นเรซควีนให้กับรายการแข่งขัน MFJ Grand Prix ครั้งที่ 48 ซึ่งงานนี้ก็มีชาวเน็ตออกมาแย้งกันให้เพียบ เกี่ยวกับความเหมาะสมหรือไม่ที่เด็กอายุ 13 ผู้อยากจะเป็นเรซซิ่งควีน!? Momoka Kurita ในขณะที่เธอเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา หลายคนอาจจะอยากเป็นพนักงานบริษัท อาจารย์ หรือแอร์โฮสเตส แต่เธอมีความฝันที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ นั่นก็คือการได้เป็นนางแบบและเรซควีน ด้วยอายุอานามของเธอที่ยังดูเด็ก ทำให้เรื่องราวความฝันของเธอถูกเอาไปพูดถึงต่อทั่วโลกออนไลน์ และก็เกิดการโต้เถียงของชาวเน็ต บ้างก็ว่าไม่เหมาะสมเพราะเธอยังเด็กเกินไป แต่บ้างก็ว่ามันเป็นสิทธิความชอบส่วนบุคคล ในส่วนของคุณแม่ก็ได้ให้การสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ บางคนอาจจะมองว่าสำหรับเด็กวัย 13 ถือเป็นการแต่งตัวที่ดูไม่เรียบร้อย ชาวเน็ตหลายคนก็ได้ให้ความเห็นไปในทำนองที่ว่า Momoka ยังเป็นเด็กอยู่ และการเป็นเรซควีนก็เปรียบเสมือนการเอาร่างกายตัวเองไปขาย ดังนั้นอาจดูไม่ดี และไม่สมควรเท่าไหร่นัก ประเด็นดังกล่าวเริ่มเป็นที่พูดถึง และจากกระแสดังกล่าวทำให้เธอถูกเชิญออกจากโรงเรียนในที่สุด ยิ่งเธอถูกเชิญออก ก็ยิ่งทำให้ประเด็นดราม่ารุนแรงขึ้นไปอีก ถึงทั้งความเหมาะสมของเธอ และการกระทำของโรงเรียนว่าถูกแล้วหรือ!? แต่นั้นก็ไม่สามารถหยุดความฝันของเธอได้ เพราะตอนนี้เธอกำลังเตรียมตัวออดิชั่นเข้าสู่รายการ Tokyo Girls Audition…
-
พ่อแม่ลูก 8 หลั่งน้ำตา เมื่อรายการทีวีรีโนเวทบ้านให้ทั้งหลัง ช้อปปิ้งฟรี 1 ปี รถใหม่อีก 1 คัน
มะเร็งเป็นโรคร้ายที่คงไม่มีใครอยากจะเจอ แม้ปัจจุบันจะมีการรักษาให้หายได้แล้วแต่ก็มีผู้คนอีกไม่น้อยที่ต้องจากโลกนี้ไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เราค้นพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้อยู่ สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือพยายามเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้คนข้างหลังของเราไม่ลำบากในวันที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว… นี่เป็นเรื่องราวที่ทั้งน่าเศร้าและชวนซาบซึ้งไปในเวลาเดียวกันของ Audrey คุณแม่ลูก 3 ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งกระเพาะอาหารขั้นที่ 2 เธอรู้ตัวว่าเธออาจจะจากโลกนี้ไปในสักวันหนึ่ง เธอจึงเอ่ยปากขอร้องเพื่อนบ้านอย่าง Tisha และ Kevin สามีของเธอให้ช่วยรับเลี้ยงลูกๆ ทั้ง 3 ของเธอในวันที่เธอจากไปแล้ว Audrey ได้จากโลกนี้ไปในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2016 คำขอร้องนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากเพราะครอบครัวของ Tisha เพราะเองก็มีลูกอยู่แล้วถึง 5 คน และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สนิทสนมกับ Audrey มากเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ตอบรับคำขออันยิ่งใหญ่นี้ เธอคิดว่าเด็กทั้ง 3 คนควรจะได้มีชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ เพราะหากเธอไม่รับเด็กๆ ทั้ง 3 มาเป็นลูกของเธอ พวกเขาก็อาจจะถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนตอนที่ Tisha เป็นเด็กซึ่งเธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี Tisha และสามีต้องช่วยกันดูแลเด็กๆ ถึง 8 คน ถือเป็นภาระและความรับผิดชอบที่หนักมากสำหรับเธอ เพราะบ้านของเธอค่อนข้างคับแคบเมื่อเทียบกับจำนวนคน ทำให้เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ที่นี่ต้องแบ่งห้องนอนกัน…
-
Paulo Machado หนุ่มบราซิล ที่ใช้ชีวิตในโรงพยาบาลนานที่สุดในโลกถึง 45 ปี!!!
แค่คิดภาพเล่นๆ ว่าเราต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแค่ 2-3 วัน หรือมากสุดๆ ก็ 1 เดือน แค่นี้ก็รู้สึกสยองกันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกนี้ยังมีคนที่ต้องนอนโรงพยาบาลรักษาตัวนานเป็นปีๆ จนคุณคิดไม่ถึงเลยล่ะ นี่คือเรื่องราวของนาย Paulo Henrique Machado ชาวบราซิลวัย 46 ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลนานที่สุดในโลก นานแค่ไหนน่ะเหรอ!? ก็ตั้งแต่ที่เขาเกิดได้เพียง 2 วันนั่นแหละ และปัจจุบันเขายังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลยด้วยนะ ที่เขาต้องนอนโรงพยาบาลนานขนาดนั้นก็เพราะว่าเขาป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เกิด ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เอง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา จะเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ ก็ไม่ได้เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อนอกโรงพยาบาล โดยตลอดระยเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล เขามีโอกาสได้ออกไปนอกโรงพยาบาล 50 ครั้ง นอกนั้นก็ทำได้เพียงสำรวจพื้นที่ต่างๆ ภายในอาคารเท่านั้น นาย Paulo กล่าวว่า “ผมสำรวจทั้งระเบียงข้างบนและข้างล่าง เข้าไปในห้องของเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นี่ นั่นคือวิธีที่ผมสำรวจ ‘จักรวาล’ ของผม สำหรับผมแล้ว การเล่นฟุตบอลหรือของเล่นธรรมดาๆ ไม่ใช่ทางเลือกของผม มันต้องใช้จินตนาการมากกว่านั้น” นอกจากตัวเขาที่อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลมาตลอดแล้ว ยังมี…
-
United Airlines ใช้กำลังลากผู้โดยสารลงจากเครื่อง จนบาดเจ็บ-มีดราม่า หลังขายตั๋วเกิน??
ถ้าจะพูดถึงเรื่องอื้อฉาวที่โด่งดังสุดๆ ในช่วงนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นเหตุการณ์ของสายการบิน United Airlines ที่ปรากฏเป็นคลิปการลากผู้โดยสารลงจากเครื่องด้วยวิธีการบังคับและใช้กำลัง จนชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา บนเที่ยวบินจาก Chicago มุ่งหน้าไป Louisville ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นจากทางสายการบินไม่สามารถขึ้นบินได้ เพราะมีตั๋ว Over-booking เกินมา 4 ที่นั่ง (Over-booking คืออะไรนั้น สรุปไว้ท้ายข่าวนะครับ) เจ้าหน้าที่เลยจำเป็นจะต้องหาอาสาสมัคร 4 คนเพื่อสละที่นั่งดังกล่าว โดยตอนแรกทางสายการบินได้เสนอเงิน 1,000 เหรียญ (ราวๆ 34,000 บาท) เพื่อให้ผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบินไปวันรุ่งขึ้น(วันที่ 10 เมษายน)แทน แต่ด้วยความที่ทุกคนอยากเดินทางตามกำหนดการของตัวเองจึงไม่มีใครยอมสละที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องสุ่มที่นั่งผู้โดยสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหาคนสละที่นั่งแทน ซึ่งผู้โดยสาร 3 คนแรกตอบตกลงและรับเงินชดเชยแต่โดยดี ในขณะที่ผู้โดยสารคนที่ 4 มีท่าทีขัดขืน ตามรายงานบอกว่าผู้โดยสารรายที่ 4 เป็นชายชาวจีนวัย 69 ปี โดยเจ้าตัวได้ให้เหตุผลว่าตนเองเป็นหมอและต้องรีบเดินทางไปดูคนไข้ในโรงพยาบาลให้ทันวันรุ่งขึ้น ทำให้เกิดการถกเถียงกันยกใหญ่ จนสุดท้ายทางสายการบินจึงต้องเรียกพนักงานมาลากเขาลงไป ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลากเขา มีการขัดขืนและส่งผลให้ศีรษะของเขาฟาดเข้ากับที่นั่งผู้โดยสาร จนภายหลังเขารูุ้สึกตัวว่ามีอาการบาดเจ็บที่หัวและเลือดออกปากด้วย พร้อมกับพูดแค่ว่า “ผมต้องกลับบ้าน ไม่งั้นก็ฆ่าผมซะเถอะ” ซ้ำไปมา…
-
ดราม่าคอนเสิร์ต Coldplay ชาวเน็ตบ่น ‘ผู้จัดห่วย’ แอบขายตั๋วเกิน จองตั๋วไปไม่มีที่นั่ง!!
จากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาใครหลายๆ คนคงได้ไปชมคอนเสิร์ตของวงดนตรีชื่อดังระดับโลกอย่าง Coldplay กันมาแล้ว แน่นอนว่ามีผู้ชมหลายๆ คนกอบโกยความประทับใจกลับบ้านไป… แต่ก็ยังมีผู้คนอีกส่วนที่ไม่น่าจะมีความสุขกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้เท่าไหร่นัก อย่างเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 8 เมษายน ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พนทิป Mhoo1990 ออกมาโพสต์กระทู้รีวิวหลังจากไปร่วมงานคอนเสิร์ตว่า “‘กร่อย’ Coldplay วงระดับโลกจัดการระดับกาก!!!” พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่พบเจอมาในคอนเสิร์ตว่า ตนเองได้จองตั๋วที่นั่งในราคา 4,500 บาท แต่พอไปถึงที่นั่งของตัวเองแล้วกลับพบว่ามีคนนั่งอยู่แล้ว เมื่อไปถามคนนั่งก็บอกว่าที่นั่งของเขาเองก็ถูกคนอื่นนั่งไปแล้วเหมือนกัน เจ้าตัวเลยตัดสินใจเดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่จึงได้ความว่า ThaiTicketMajor ได้ปล่อยตั๋วเกินมา แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าของกระทู้เท่านั้นที่โดนแบบนี้ ยังมีผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่คอนเสิร์ตยังไม่เริ่ม จนคอนเสิร์ตจบไปแล้วก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด เรียกให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาคุยก็ไม่สามารถตามตัวได้ มีเพียงแต่พนักงานสต๊าฟคอนเสิร์ตวัยรุ่นเท่านั้นที่ออกมารับหน้า ขอโทษขอโพยและเสนอทางแก้ปัญหาด้วยการให้ย้ายไปนั่งที่อื่น ให้ไปยืนอยู่ข้างล่าง จนสุดท้ายก็เสนอคืนเงินค่าตั๋วให้ (เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านกระทู้เต็มได้ที่ลิงค์นี้) หลังจากที่โพสต์กระทู้ไปแล้วก็มีชาวเน็ตอีกมากมายที่ไปร่วมคอนเสิร์ตมาและได้พบเจอกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันมาร่วมแสดงความคิดเห็นอีกมากมาย ความเห็นจากคุณ cOokiemOok : “โดนเหมือนกันค่ะ น้องที่รับหน้าบอกว่าที่นั่งแถวนึงมีแค่ 22 ที่นั่งแต่ออกบัตรมามีที่นั่ง 23-24 ของเราคือที่นั่งโซน E1E แถว R10-11 พอเราไปถึงมีคนนั่งอยู่แล้วจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่…
-
ร้านทำเล็บติดป้ายคิดเงิน ‘คนอ้วน’ ในเรทแพงพิเศษ ชาวเน็ตข้องใจทำไมต้องทำแบบนี้?
โดยปกติแล้ว ‘คนอ้วน’ มักจะถูกตัดสินให้อยู่ในอีกสถานะหนึ่งในสังคม ทั้งๆ ที่พวกเขาก็เป็นมนุษย์ เพียงแต่ว่ามีความสุขกับการกิน และไม่ค่อยชอบการออกกำลังกายเท่านั้นเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความอ้วนนั้นมันไม่ดีต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนผู้คนในสังคมเดียวกันดูถูกและเหยียดหยามจนทำให้กำลังใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือลดน้ำหนักหายไปจนหมด จนอาจก่อให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ เช่นเดียวกันกับร้านทำเล็บที่ตั้งอยู่ในรัฐ Tennessee นี้ ที่กำลังโดนชาวเน็ตของสหรัฐฯ โจมตีอย่างหนักหลังขึ้นป้ายประกาศว่าจะทำการเก็บเงินคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปที่มาใช้บริการที่ร้าน มีคนถ่ายภาพป้ายประกาศนี้และนำมาแชร์ลงบนเฟซบุ๊ค ทำให้ชาวเน็ตมากมายเข้ามาต่อว่าทางร้านกันเพียบ… “ขออภัย หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักมากเกินไป การทำเล็บเท้ากับร้านของเรา ก็จะขอเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นมูลค่า 45 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,560 บาท) ขอบคุณ!” ภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปมากกว่า 500 ครั้ง หลายๆ คนต่างก็ตกใจกับภาพดังกล่าวว่าทำไมราคามันถึงบวกเพิ่มเข้าไปสูงซะขนาดนั้น บางคนก็ถึงกับต่อว่าทางร้านว่า ‘เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก’ ซึ่งโดยปกติแล้วทางร้าน Rose Nails จะเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นจำนวน 30 ดอลลาร์อยู่แล้ว (ประมาณ 1,040 บาท) แต่สำหรับคนอ้วนต้องเสียเพิ่มอีก 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 520 บาท) เจ้าของร้าน Rose…
-
ไม่น่ารักเลย… สองหนุ่มโดนชาวเน็ตโจมตี ง้างปากฉลามเพื่อใช้ฟันเปิดกระป๋องเบียร์!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างเผ็ดร้อนในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับเหตุการณ์นักศึกษามหาวิทยาลัย 2 คน ง้างปากฉลามที่เกยตื้นขึ้นมาบนชายหาด เพื่อใช้ฟันของมันเจาะกระป๋องเบียร์ ซึ่งเทคนิคการดื่มแบบนี้เค้าเรียกว่า ‘ช็อตกัน’ นักดื่มจะดื่มเบียร์จากรูที่ถูกเจาะจากข้างกระป๋อง ที่ถูกเจาะโดยกุญแจ หรืออะไรก็ตาม และมักจะเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นประจำในระหว่างช่วง Spring Break หรือช่วงหยุดปิดเทอมเมามายของเหล่านักศึกษา การดื่มแบบนี้จะทำให้เครื่องดื่มที่อยู่ในกระป๋องสามารถไหลออกมาได้เร็วขึ้น และทำให้ผู้ดื่มเมาเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่แทนที่จะใช้กุญแจ หรืออุปกรณ์ที่หาได้ทั่วไป หนุ่มนักศึกษากลับใช้ฟันของปลาฉลามที่เกยตื้นอยู่บนชายหาดมาเจาะรูกระป๋องแล้วดื่มอย่างสนุกสนาน ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันได้เลย… ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจ บ้างก็แช่งให้พวกเขาถูกฉลามกัดจนแขนขาด บ้างก็บอกว่า “มันไม่โอเคเอาซะมากๆ เลย ปลาฉลามควรได้รับความเมตตามากกว่านี้ และไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเปิดกระป๋องโดยเด็กหนุ่มสองคนนี้” บางคนก็บอกว่า “ฉันยังไม่เห็นเลยว่ามันจะสนุกตรงไหน? และมันไม่ใช่การดื่มแบบช็อตกันที่เจ๋งเลย” ชาวเน็ต Erin Jasper ให้ความเห็นว่า “เจ้างั่ง 2 ตัวนี้ต้องการที่จะดูเท่เพียงแค่ 3 วินาที โดยการแลกกับชีวิตอีก 1 ชีวิตเนี่ยนะ!?” ชาวเน็ต tiglet5 ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นเรื่องที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยล่ะ” แล้วเพื่อนๆ…
-
บ่าวสาวโพสต์ประสบการณ์เงิบ “ออกาไซน์เซอร์งานแต่ง” ออกมาแย่ ไม่ตรงตามที่ตกลง!?
กลายเป็นดราม่าที่มีคนพูดถึงกันอยู่พอสมควร สำหรับกรณีที่มีคู่บ่าวสาวไปว่าจ้างให้ออกาไนซ์เซอร์แห่งหนึ่งมาจัดงานแต่งให้ แต่ปรากฏว่าตัวงานออกมาไม่ดีพอสมกับราคาที่ว่าจ้างไปในตอนแรก แถมยังมีของให้ไม่ครบอีกด้วย งานนี้ทำเอาคู่บ่าวสาวถึงกับเงิบเลยทีเดียว เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวจากคุณไข่มุก โดยเธอได้เล่าผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง Amornrat Sangsee ว่าเธอได้ไปว่าจ้างออกาไนซ์เซอร์แห่งหนึ่งเพื่อมาจัดงานแต่งให้กับเธอและสามีในวันที่ 4 มีนาคม ที่จังหวัดราชบุรี ในราคา 50,900 บาท ซึ่งเป็นแพ็คเกจที่แพงที่สุดของทางร้านนี้ แต่เมื่อถึงวันงานจริงหลายๆ อย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ อย่างเช่น ประเด็นแรก พอถึงช่วงแห่ขันหมากในเวลา 9 โมง 9 นาที ทีมงานของออกาไนซ์เซอร์กลับนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ในขบวนขันหมากและพิธีการมาไม่ครบ โดยอ้างว่านำของไปส่งให้ผิดงาน ประเด็นสอง พอถึงช่วงเย็นที่ต้องเข้าสู่ช่วงกินเลี้ยงระหว่างเครือญาติ กลับได้เวทีและฉากหลังแบบวานโรงเรียนมาแทน ประเด็นสาม กล่องใส่ซองให้บ่าวสาว กลายร่างเป็นกล่องโฟมซะอย่างนั้น สภาพของกล่อง เมื่อคุณไข่มุกพยายามคุยกับทางออกาไนซ์เซอร์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงแก้ไขโดยการโอนเงินคืนแก่คู่บ่าวสาวเป็นจำนวน 15,000 บาท แต่ไม่แน่ใจว่างานนี้จะเป็นการคืนที่สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะความรู้สึกของบ่าวสาวที่ไม่ได้อะไรตามเป้านั้นมันเรียกคืนกลับมาไม่ได้ จึงเกิดการโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ขึ้น ขณะนี้โพสต์ดังกล่าวได้หายไป ซึ่งมีเสียงจากชาวเน็ตบอกว่าถูกรุมรีพอร์ทสแปม เช่นเดียวกันกับเพจของทางร้านจัดงานแต่ง ที่ปิดตัวหายเงียบไปเช่นกัน ทีนี้เราลองไปดูฝั่งความเห็นชาวเน็ตกันบ้างนะครับ… เรื่องของวัน พรุ่งนี้ “ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจิง…
-
7 กล้องวงจรปิดที่อังกฤษยกให้เป็นกล้องที่ดีที่สุด แถมราคาไม่ถึง 8 แสนด้วยนะเออ!!
กลายเป็นข่าวที่ชวนอื้อหือทีเดียว สำหรับกรณีที่สำนักข่าว ThaiPBS ได้รายงานว่าเทศบาลนครศรีธรรมราชได้จัดตั้งงบกว่า 1,600,000 บาท เพื่อซื้อกล้องวงจรปิด 2 ตัว (ตกตัวละ 8 แสนบาท) ไว้ใช้สำหรับติดบริเวณบ่อขยะในต.นาเคียนและต.นาทราย หลังจากที่ข่าวนี้ถูกแชร์ออกไป ก็สร้างเสียงวิพากษณ์วิจารณ์จากสังคมว่าจำนวนเงินทั้งหมดนั้นแพงเกินไปหรือไม่? #เหมียวฟิ้นจึงได้ทำการรวบรวมกล้องจรปิด 7 รุ่น ที่อังกฤษยกย่องว่าเป็นกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพสูงที่สุด แต่ราคาแค่หลักหมื่นเองนะ มาให้ทุกๆ คนได้ดูกัน เผื่อว่าจะเป็นแนวทางในการสั่งซื้อกล้องวงจรปิดในครั้งต่อๆ ไปในอนาคต ช่วยประหยัดงบประมาณได้เพียบ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย 1. Swann DVR4-2600 สามารถบันทึกวิดิโอได้ที่ความละเอียด 480p มีเครื่องบันทึกวิดีโอในตัว ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเปิดคอมไว้ตลอดเวลา มีโหมดบันทึกตอนกลางคืน 4 แบบ และสามารถกันน้ำได้อย่างดี ใช้ได้ทั้งในและนอกอาคาร ราคา: 449 เหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 15,700 บาท 2. Smart Monitoring by AlertMe มันคืออุปกรณ์เตือนภัยในหลากหลายรูปแบบทั้งรีโมทควบคุม ปลั๊ก พวกกุญแจ และกล้องวงจรปิด มันสามารถทำงานร่วมกับแอพฯ…
-
Mark Zuckerberg แนะพ่อแม่รุ่นใหม่สอนลูกเล่นเกม เพราะมันอาจเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ได้
“เกม” มักจะกลายเป็นจำเลยของสื่อและสังคมอยู่หลายครั้ง เพราะเนื่องจากเป็นสื่อบันเทิงที่เด็กและวัยรุ่นให้ความสนใจมากจนบางครั้งแบ่งเวลาไม่ถูก บางคนก่ออาชญากรรมและโทษว่าทำตามสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากเกม ทำให้ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนมองว่าเกมเป็นสื่อขยะและไม่มีประโยชน์สำหรับเด็กไปโดยปริยาย แต่ในขณะเดียวกัน เกมก็ได้สร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ให้กับคนบางคน จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตของคนบนโลกนี้ได้อย่างสิ้นเชิง เช่น Mark Zuckerberg คือผู้ก่อตั้ง Facebook ที่พวกเราใช้งานกันทุกวัน Mark ดูจะเป็นคนที่มีแนวคิดเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องการเล่นเกมมาก เพราะเขาเองก็เติบโตมากับการเล่นเกมเหมือนกัน และเขายังแนะนำให้พ่อแม่รุ่นใหม่สอนลูกเล่นเกมอีกด้วย ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้ตอบคำถามในงานฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปี ค.ศ. 2015 กับสื่อในหลายหัวข้อ และหัวข้อเกี่ยวกับเกมก็เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเล่าไว้ว่า เขาเติบโตมาทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเมื่อถึงฤดูหนึ่งก็จะมีหิมะให้ปาเล่นกัน แต่ด้วยสภาพอากาศที่แย่ ทำให้พี่สาวของเขาอดเล่นปาหิมะ วันหนึ่งเขาจึงนำเอาการปาหิมะมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างเกมปาหิมะบนคอมพิวเตอร์ “มันเป็นเกมที่ห่วยมาก” Mark กล่าว แต่นั่นก็เป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่ทำให้เขาสนใจการเขียนโปรแกรมต่างๆ เลยมาจนถึงการสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างที่เราเห็น และในแง่ของการเล่นเกม ส่วนตัว Mark มองว่าการเล่นเกมเป็นประตูไปสู่การเขียนโปรแกรม หรือทำให้เราอยากต่อยอดมันในแนวทางอื่นๆ “ผมคิดว่าสิ่งรอบๆ ตัวเด็กที่กำลังเติบโตเหล่านี้ เช่นการสร้างเกมและเล่นเกม มันเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง” “เพราะผมคิดว่านี่คือวิธีหนึ่งที่เด็กๆ จะได้เขียนโปรแกรมเป็น…
-
แพทย์โพสต์เตือน ‘อย่าให้ลูกเล่นเกม’ ติงพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกเล่นเกมเป็นคน ‘โง่เขลา’
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลอยู่ ณ ตอนนี้ เมื่อมีแพทย์นายหนึ่งได้โพสต์บทความอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงลูกของตัวเอง โดยบทความนั้นเขียนเอาไว้ว่า การเล่นเกมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดี และเขาจะไม่ยอมให้ลูกเล่นเกมเหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ โดยเด็ดขาด!! ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาบทความกันแบบเต็มๆ ที่โพสต์ต้นฉบับได้เลยจ้า… จากโพสต์ดังกล่าวก็มีประเด็นขึ้นมา เพราะคุณหมอมีการใช่คำพูดที่ดูถูกดูแคลนพ่อแม่คนอื่นที่ยอมให้ลูกเล่นเกมว่าเป็นคน ‘โง่เขลา’ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่เห็นด้วย จึงเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย คุณ Theetawit Setthachai (ช่า บทขต./เพจบันทึกของตุ๊ด) ให้ความเห็นว่า “ปกติเล่นเกมส์เยอะค่ะ ติดเกมส์ โตมาก็เป็นคนสดใสร่าเริงนะคะ แถมยังเปิดกว้างทุกความเห็น ไม่ด่าคนอื่นว่าเขลา และไม่ยกตนว่าเป็นผู้มีปัญญา อ่านตรรกะประมาณว่าพวกที่คิดไม่เหมือนกูคือโง่นี่งงมาก เป็นจิตแพทย์จริงเหรอคะ?” คุณ Sukavin Sanitraksa ให้ความเห็นว่า “คุณมองภาพลบเกี่ยวกับเกมส์มากไปรึป่าว เราสามารถเล่นเกมส์ในขณะที่อย่างอื่นเราก็ทำได้ไปพร้อมๆกัน เกมส์ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาสำคัญคือคุณมีวินัยในการแบ่งเวลารึป่าวตรงนี้สิน่าคิด เอ้อว์” คุณ Natsuda Cha ให้ความเห็นว่า “มีเพื่อนติดเกมค่ะ ตอนนี้เปน softwear engineering อยู่ singapore ฉลาดมากไม่โง่ อิอิ” คุณ Punniiz Hopecm ให้ความเห็นว่า “คนที่ติดเกมส์…
-
ดราม่าหนัก เมื่อชาวเน็ตพบภาพโฆษณา “รองเท้ากันน้ำ” กำลังเหยียบย่ำอยู่บนปะการัง!!?
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นดราม่ากันอย่างร้อนแรงบนโลกโซเชียลในตอนนี้ หลังจากที่มีการปล่อยภาพโฆษณาของรองเท้ายี่ห้อหนึ่ง ที่การันตีว่าใส่ดำน้ำทะเลได้ ไม่ต้องกลัวของแหลมคมใต้ทะเลปักเท้า!? อ้างอิงจากโฆษณารองเท้ารุ่นดังกล่าว มีการชี้นำว่าเป็นรองเท้าที่สามารถใส่ดำน้ำได้ มีตะแกรงป้องกันสิ่งแหลมคมทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกลัวว่า ระหว่างดำน้ำเท้าของตัวเองจะโดนปะการัง หรือหินใต้น้ำปักเท้าอีกต่อไป โดยภาพโฆษณาที่ปล่อยออกมา เป็นภาพเท้าคนสวมใส่รองเท้ารุ่นดังกล่าวพร้อมกับเหยียบย่ำอยู่บนปะการังใต้ทะเล ซึ่งแน่นอนว่าภาพดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้แก่กลุ่มนักอนุรักษ์ท้องทะเลเป็นอย่างยิ่ง!! ภาพโฆษณาดังกล่าว ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณะบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งระบุว่า “เป็นภาพโฆษณาที่บาดใจอย่างมาก และปะการังเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฏหมายครับ” ทางด้านของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวว่า “ผมจะให้ทีมงานประสานไปยังผู้ทำภาพโฆษณาภาพนี้ เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าการทำลายปะการังในท้องทะเล ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมาย และภาพโฆษณาที่สื่อออกมาก็กำลังทำผิดกฏหมายอย่างเห็นได้ชัด” เราไปชมความเห็นของชาวเน็ต หลังจากที่มีการปล่อยภาพนี้กันออกมาบ้างดีกว่า… บางคนก็บอกว่าควรให้มีการลงโทษตามกฏหมาย บางคนก็ออกมาชี้แจงว่า เวลาดำน้ำเค้าไม่เหยียบพื้นกันนะ คิดไม่ออกเลยว่างานนี้ต้องโทษใครดี? ถ้าเลือกไปถ่ายตามโขดหิน ก็คงไม่กลายเป็นประเด็นดราม่าแบบนี้แน่ๆ แต่ก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งออกมาอ้างว่า เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่เธอทำงานอยู่ พร้อมทั้งชี้แจงว่า ภาพดังกล่าวน่าจะเกิดจากพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย ที่ไปหาภาพโฆษณามากันเอง และบริษัทมีนโยบายไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม……
-
ภาพพิธีจบการศึกษาจาก “มหาวิทยาลัยเกียวโต” แต่งคอสเพลย์ประชันกันสุดเหวี่ยง!!
ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมาอาจจะมีบางคนได้เห็นข่าวคราว เกี่ยวกับกรณีที่มีนักศึกษาสาวใส่ชุดครุยถ่ายแบบ จนทำให้มีชาวเน็ตบางรายไม่พอใจหยิบยกไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันไปหลากหลายแบบ บางคนมองว่าเป็นการถ่ายภาพนอกรอบที่ไม่ต้องแต่งตามระเบียบอะไรมาก แต่บางคนก็มองว่ามันคือ “ชุดครุย” จึงควรแต่งตัวให้ถูกระเบียบ ด้วยเหตุนี้เอง#เหมียวฟิ้นก็เลยแอบสงสัยว่าในประเทศอื่นๆ เขาให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายหรือพิธีการเหมือนกับบ้านเราหรือเปล่า? ล่าสุดเราได้ไปเจอกับภาพที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Sensekyoto.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการโปรโมทของมหาวิทยาลัยเกียวโต จากประเทศญี่ปุ่น ชุดภาพที่ว่านี้เป็นภาพถ่ายจากพิธีจบการศึกษาของมหาลัยเกียวโตในปี 2016 ที่เหล่านักศึกษาจะพากันแต่งชุดคอสเพลย์แบบหลุดโลกเพื่อมาประชันกันในวันจบการศึกษา อย่างกับเป็นงานปล่อยของยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะฮิเมะ มาคนเดียวไม่พอ ต้องมาเป็นบอยแบนด์ กล้วยเหรอ? เอ็กโซเดีย รถบัสแมว สนามกีฬาโอลิมปิก 2020!? สัญลักษณ์โอลิมปิก รายการทีวีในตำนาน แต่งเป็นรถโฟล์คสีเหลือง กอริลล่า หมีพูห์เวอร์ชั่นทุนน้อย เมื่อมาร์เวลและดีซีจับมือกัน ทรัมป์ก็มา พีระมิด ตัวไรหว่า? ฮาชิ? นั่นฮาชิใช่ไหม?…
-
กลุ่มสิทธิสัตว์ต่อต้านทาสผู้คลั่งรอยสัก ผู้จับเหมียวสฟิงซ์ของตัวเองไปสักกลางหลัง…
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างเมามันส์ระหว่างทาสแมวผู้ชื่นชอบรอยสัก กับกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้กับสัตว์ ในกรณีที่ทาสแมวได้ทำการจับแมวสายพันธุ์สฟิงซ์ของตัวเองมาลงเข็มสักเต็มหลัง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Yekaterinburg ประเทศรัสเซีย เจ้าเหมียว Demon ถูกเจ้าทาสของตัวเองลงเข็มสักเป็นลวดลายขนาดใหญ่ที่บริเวณแผ่นหลัง Aleksandr ทาสของมัน ที่มีรอยสักนับ 10 ตัวอยู่บนร่างกายของตัวเอง ได้บอกว่าก่อนจะสักเขาได้ให้ยาชากับมันก่อน นั่นทำให้มันไม่ได้รู้สึกจากความเจ็บปวดที่ได้รับจากการสัก แต่ภายหลังก็ยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องก็ได้ “แน่นอนว่าผมรู้สึกสงสารที่ทำแบบนั้นกับมัน มันไม่ได้เป็นคนตัดสินใจที่จะทำแบบนี้ ผมหวังว่าสิ่งที่ผมทำนั้นจะไม่ส่งผลเสียกับมันมากจนเกินไป แต่นี่ไม่ใช่รอยสักแรกของมัน เพราะก่อนหน้านี้มันก็ปลอดภัยดี และฟื้นจากฤทธิ์ของยาสลบไวมาก” Alelsandr กล่าว ทางด้าน Yelizaveta Skorynina หนึ่งในผู้เคลื่อนไหวที่เรียกร้องสิทธิให้กับสัตว์ได้ทำการออกมาต่อว่านาย Aleksandr ถึงการกระทำที่ทำกับเจ้าเหมียว Demon ว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้เหตุผล และไร้สาระเป็นที่สุด!! เธอบอกว่าผิวหนังของแมวสายพันธุ์สฟิงซ์นั้นจะมีความบอบบาง และการให้ยาสลบแก่สัตว์เลี้ยงโดยที่ไม่มีความจำเป็นนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงเป็นอย่างมาก คุณ Skorynina ให้สัมภาษณ์ว่า “ยาสลบทำให้การเคลื่อนไหวของแมวหยุดลง แต่สมองของมันยังคงทำงานอยู่ ถ้าทำแบบนี้กับมันบ่อยๆ อาจจะส่งผลเสียต่อหัวใจของมันได้” ทางด้านนาย Aleksandr ก็ออกมาตอบโต้ว่า สิ่งที่เขาทำนั้นมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการกระทำของเกษตรกร ที่ทำการเจาะจมูกให้วัว หรือทำการประทับตราสัญลักษ์แบรนด์ของตัวเองให้กับสัตว์ที่เลี้ยงไว้หรอก การถกเถียงกันในครั้งนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน…
-
ดราม่าเบาๆ ‘พรีเซ็นเตอร์เมย์เบลลีน’ โดนชาวเน็ตโพสต์เชิงเหยียดเพศ คุณพ่อออกโรงแทนซะเลย!!
ก่อนหน้านี้ไม่นาน #เหมียวบ็อบ เพิ่งนำเสนอเรื่องราวของนางแบบพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของสินค้า ‘เมย์เบลลีน’ ที่ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเป็นชาย แต่ความสามารถในการแต่งหน้า และการนำเสนอนั้น โดดเด่นไม่แพ้นางแบบชั้นแนวหน้าของโลกเลยล่ะ ข่าวเก่า: แบรนด์ดัง ‘เมย์เบลลีน’ เปิดตัวโฉมหน้า นาย เอ๊ย นางแบบ คนใหม่ สั่นสะเทือนทั้งวงการ!! Manny Gutierrez พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาเพราะฝีมือล้วนๆ แต่ทว่าล่าสุด ได้เกิดเหตุการณ์ดราม่าแบบเบาๆขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อจู่ๆมีชาวเน็ตผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า ‘Matt Walsh’ ออกตัวแรงไปคอมเม้นท์ให้กับรูปของ Manny ในเชิงดูหมิ่นเหยียดหยาม ด้วยเนื้อหาข้อความที่ว่ามีดังนี้ “ฝากถึงคุณพ่อ นี่แหละคือเหตุผลที่คุณควรจะอยู่เลี้ยงลูกให้เป็นผู้ชาย!!” ถึงกับอ้างอิงไปทางฝั่งคุณพ่อของ Manny งานนี้คุณพ่อไม่ขออยู่เฉยๆ เจ้าตัวจึงได้พิมพ์ข้อความตอบกลับส่งมาให้ Manny เพื่อที่จะได้เอาไปโพสต์ให้กับชาวเน็ตหัวโบราณคนนี้อีกทีนึง และนี่คือเนื้อหาในข้อความที่คุณพ่อส่งมา “ถึงคุณ Walsh ผมคือพ่อของ Manny เอง ก่อนอื่นต้องขอแจ้งก่อนเลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมอยู่ดูแลเคียงข้างลูกชายคนนี้มาตลอด ผมไม่ได้แค่ภูมิใจกับหน้าที่การงานของเขาเท่านั้น แต่ยังภูมิใจในตัวตนของเขา ที่เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่คุณพูดออกมา มันสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ที่มีต่อเรื่องพวกนี้อย่างน้อยนิด…
-
ประเด็นดราม่า ชาวฟิลิปปินส์เที่ยวเมืองไทย คายอาหารทิ้งต่อหน้าแม่ค้า… คุณคิดอย่างไร!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ในโซเชียลขณะนี้ เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งได้เข้ามาตั้งกระทู้พันทิปถึงคลิปของยูทูบเบอร์ชาวฟิลิปปินส์ที่มารีวิวสตรีทฟู้ดของบ้านเราว่า “Vlogger จากฟิลิปปินส์มาเที่ยวกรุงเทพแล้วก็คายอาหารทิ้งต่อหน้าแม่ค้า” โดยเนื้อหาในกระทู้นั้นก็จะเล่าว่าเธอเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมกับอธิบายให้ชาวเน็ตฟังว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอไม่ชอบอะไรซักอย่างของที่นี่เลย แบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้ “1. อาหารฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในอาหารที่แย่ที่สุดในโลก น้ำมัน, แป้ง, คนประเทศนี้ไม่กินผักผลไม้ ผู้หญิงก็เลยอ้วนเอา แยกไม่ถูกว่าท้องหรือมันอ้วน 2. คนฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ไม่เคยออกนอกประเทศ เขามักคิดว่าประเทศตัวเองดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างในประเทศนี้ดีสุดแล้ว กบในกะลา 3. เรอ, ตด, บ้วนน้ำลายไปทั่ว ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน 4. ผู้หญิงชอบเป็นมือที่สามคนอื่น มองหาแต่ผู้ชายรวย ๆ 5. ผู้ชายที่นี่มันคิดว่ามันหล่อ 6. อย่าไปเปลี่ยนเมนูอาหาร มันจะเป็นเรื่องใหญ่มาก 7. มันคิดว่ามันเป็นอเมริกัน แต่อเมริกันบางคนไม่เห็นทำแบบมัน 8. เดินทางเท้า อย่าคิดว่ามันจะเดินชิดซ้าย มันเดินครอบคลุมทั้งทางเท้า คนอื่นต้องหลบให้มัน มันเดินเป็นหน้ากระดาน เดินก็ช้าเหมือนไม่มีอะไรทำ 9. ผู้ชายที่นี่หื่นกาม ไม่ได้กามแบบทะลึ่ง แต่กามแบบลากคุณไปข่มขืนได้ 10. มันมักจะบอกว่า มะนิลา คงไม่ต่างกับ กรุงเทพหรอก หืม อยากจะตบกะบาล…
-
ศิลปินคิดค้น ‘สีชมพู๊ ชมพู’ ขึ้นมาสำเร็จ เปิดขายให้ทุกคนได้ใช้ ยกเว้นเจ้าของ ‘สีด๊ำ ดำ’!?
เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาบริษัท Surrey NanoSystems ได้ทำการคิดค้นวัสดุที่เรียกได้ว่าดำมากที่สุดในโลกขึ้นมาได้ พร้อมกับตั้งชื่อของมันว่า Vantablack โดยเจ้า Vantablack นี้มันดำสนิท ดำจนขนาดที่ว่าแสงไม่สามารถส่องกระทบได้เลยทีเดียวเชียว แน่นอนว่าเราสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในระบบอุตสาหกรรมได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาให้กล้องดูดาวสามารถส่องได้ไกลและชัดเจนยิ่งขึ้น หรือจะเป็นในเรื่องเกี่ยวกับการทหารที่นำไปเคลือบผิวของเครื่องบินเพื่อหลบการตรวจจับสัญญาณเป็นต้น แต่เมื่อปี 2014 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ช็อคโลก เพราะจู่ๆ สิทธิ์ขาดการใช้งานเจ้า Vantablack นี้ก็ตกไปอยู่ในมือของศิลปินชาวอินเดีย Anish Kapoor แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเขานำมันไปใช้ในงานศิลปะของเขา และไม่อนุญาตให้ใครนำไปใช้ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองศิลปินชาวอังกฤษ Stuart Temple ได้ทราบข่าวนี้ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงออกมาต่อว่าการกระทำของศิลปินชาวอินเดียในเว็บไซต์ของตัวเองว่า… “เมื่อผมได้ยินข่าวที่ว่า Anish มีสิทธิ์ในสี Vantablack แต่เพียงผู้เดียว ก็ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมาก ผมรู้ว่าทุกคนอยากที่จะใช้มัน ไม่ว่าใครๆ หรือศิลปินคนไหนในโลกควรที่จะมีสิทธิ์ใช้เจ้าสีนี้ในงานศิลปะของตัวเอง แถมมันยังสามารถก่อให้เกิดผลประโยชน์ได้อีกมากมาย และผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าหากผมสามารถสร้างสีแบบใหม่ขึ้นมาได้ ผมจะแบ่งให้ทุกคนได้ใช้ยกเว้นเขา และนั่นเองก็เป็นวิธีที่จะทำให้เขาได้รู้สำนึกซะบ้าง ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่แฟร์เป็นอย่างมาก ผมนึกถึงภาพของเด็กน้อยที่เคยเจอในโรงเรียนแห่งหนึ่งได้เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ไมีแม้แต่สีสำหรับใช้ระบายสีภาพที่เขาวาด แต่ภายหลังที่พวกเขาได้สีไม้ไป 1 กล่อง พวกเขาก็แบ่งกันใช้อย่างสนุกสนาน มันก็ดีเหมือนกันนะ Anish ได้สีดำที่ดำที่สุดไป แต่พวกเราที่เหลือจะใช้สีใหม่อีกหลากหลายสี…
-
ประเด็นดราม่า ‘พาหมาเข้าร้านสะดวกซื้อ’ กับความเหมาะสม ความรักสัตว์ และความรับผิดชอบต่อสังคม!?
เนื่องจากว่าตอนนี้กำลังมีประเด็นของเจ้าของสุนัขที่พาสุนัขของตัวเองเข้าไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ในร้าน 7-11 ทั้งโซนนมและไส้กรอก ที่จำหน่ายน้ำแข็ง ในตู้แช่น้ำ พอชาวเน็ตเห็นดังนั้นก็เลยออกอาการไม่พอใจ เข้าไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปสนับสนุนให้ทาง 7-11 ฟ้องร้องเจ้าของสุนัข เนื่องจากว่าการกระทำดังกล่าวนั้นอาจจะทำให้ขนหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามตัวของสุนัขปลิวติดไปกับสินค้าต่างๆ ได้ แน่นอนว่ามีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนว่าสิ่งที่เจ้าของทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิด บ้างก็บอกว่าเจ้าของนั้นละเมิดในด้านความรู้สึกของผู้อื่น บ้างก็บอกว่าเจ้าหมาน่ะน่ารัก แต่ไม่ควรจะมาอยู่ในนี้ และกังวลในเรื่องของความสะอาด และล่าสุดเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาทางสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า น้องเปาเซเว่น ที่เป็นตัวแทนของบริษัทก็ได้ออกมารับเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการสืบค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในร้าน 7-11 ด้วยเช่นกัน เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลได้ในกระทู้ “ต่อไปคงจะไม่หยิบของจากชั้นล่างๆ ใน 7-11 อีกแล้ว…” และทางน้องเปาเซเว่นเจ้าเดิมก็มารับเรื่อง หลังจากที่ได้ทราบสาขาของร้านดังกล่าว ก็ได้มีมาตรการในการแก้ไขปัญหาด้วยการนำสินค้าที่อยู่ในชั้นวางชั้นล่างสุดและสินค้าที่เตรียมเอาขึ้นตู้แช่ รวมไปถึงสินค้าที่อยู่ในบริเวณเส้นทางที่สุนัขเดินผ่านไปทำลายทิ้งทั้งหมด อีกทั้งยังมีการทำความสะอาดชั้นวางสินค้าและพื้นที่ที่สุนัขเข้ามาภายในร้านทั้งหมดอีกด้วย คาดว่าในกรณีที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้ทาง 7-11 ก็คงจะมีมาตรการไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนจะมีการฟ้องร้องค่าเสียหายหรือไม่นั้นก็คงต้องติดตามกันต่อไป… หากมีความคืบหน้าอื่นๆ อีก…
-
คุณแม่สอนให้ ‘ลูกชาย’ ทำงานบ้าน เพื่อให้เรียนรู้ความเท่าเทียม แต่กลับมีดราม่าเช่นเคย…
ถ้าพูดถึงงานบ้านแล้ว หลายคนคงคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วเมื่อเราอยู่ด้วยกัน การทำงานบ้านควรเป็นงานที่ต้องช่วยกันทำ เหมือนอย่างคุณแม่ Nikkole Paulun จากรัฐมิชิแกน เธอได้เขียนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ฉันสอนลูกชายให้ทำอาหารและทำงานบ้าน ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่างานบ้านไม่ใช่เรื่องเฉพาะของผู้หญิงน่ะสิ” ภาพที่คุณแม่โพสต์เป็นภาพของลูกชายวัย 6 ขวบ Lyle กำลังซักผ้า ล้างจาน และทำอาหารจากเตา ทำให้โพสต์นี้โด่งดัง มีคนกดไลค์กว่า 143,000 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 57,000 ครั้ง แต่หลังจากมันแพร่ไปสู่คนมากมาย ก็ได้รับกระแสที่ต่างออกไป เนื่องจากว่าคุณแม่ต้องการจะทำงานภาพลักษณ์การทำงานบ้านแบบเก่าๆ ที่คิดว่าต้องเป็นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้คนกลับคิดว่าการทำแบบนี้เหมือนเป็นการปฏิบัติต่อลูกเหมือนเป็นคน “ทาส” ที่ต้องรับใช้ คุณแม่วัย 22 นี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยออกรายการช่อง MTV ก็ได้ออกมาตอบโต้บ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่าความคิดเห็นก็เยอะมาก คุณแม่ได้โพสต์ภาพนี้ลงไปในเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นที่โด่งดัง โพสต์ของเธอก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดูจากยอดไลค์และยอดแชร์ แต่หลังจากนั้นก็มีดราม่า เมื่อมีคนมาบอกว่า อย่าทำให้เด็กเป็นเหมือน “ทาส” หรือทำงานบ้านในส่วนที่แม่ไม่อยากทำ แต่เธอก็ตอบกลับไปว่าลูกของเธอไม่ใช่ทาส บางคนก็ถามว่าจะให้ลูกสาวไปตัดหญ้าบ้างไหม เธอก็ตอบกลับไปว่า…
-
ทาสแมวขอเคลียร์!! บริจาคแมวให้คนรับไปเลี้ยง แต่พอถามถึงกลับโดนต่อว่าดราม่าซะงั้น
กลายเป็นประเด็นร้อนในกลุ่มคนคนรักแมวเลยทีเดียว เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งได้ประกาศหาคนมารับน้องแมวของตัวเองทั้ง 5 ตัวไปเลี้ยง เพราะเนื่องจากเธอไม่มีเวลาพอที่จะดูแลพวกมัน แต่หลังจากที่มีคนมารับพวกมันไปเลี้ยงแล้วกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะเจ้าของใหม่ดูจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเธอสักเท่าไหร่… เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านกลุ่มทาสเมว โดยคุณ Wichitra Prathumrat เจ้าตัวเล่าว่าเธอได้ยกลูกแมว 5 ตัวให้คนๆ หนึ่งไปเลี้ยงต่อเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่หลังจากรับไปได้ไม่กี่วัน ก็มีแมวตัวหนึ่ง (ตาสองสี) หายไป ทำให้เธอรู้สึกกังวลใจกับสภาพความเป็นอยู่ของแมว ต่อมาคุณ Wichitra เห็นว่าเจ้าของใหม่ที่รับแมวไปเลี้ยงลงไปเที่ยวที่หัวหิน จึงคอมเม้นขอดูรูปแมวที่รับไปเลี้ยง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเธอ เพราะตนเองกำลังไปพักผ่อนกับครอบครัวจึงมองว่าการคอมเม้นแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ข้อความเต็มๆ ของคุณ Wichitra มีอยู่ว่า “ขอโทษนะคะ ขอความเห็นทุกคนหน่อยค่ะ ถ้าเราผิดจะขอโทษน้องเค้า ขอเล่าท้าวความก่อนนะคะ คือเราได้ลงหาบ้านให้น้องแมว ซึ่งน้องคนนี้ ได้มารับไป 5 ตัว มีแม่แมวตาสองสีกับแม่แมวตาสีฟ้า ลูกๆ อีก 3 ตัว” “พอน้องรับไป เราได้คุยกันก่อนแล้วว่าถ่ายรูปให้ดูบ้างนะเผื่อคิดถึง แต่เอาไปแค่ 2-3 วัน เเมวตาสองสีหายค่ะ น้องก็บอกว่าจะย้ายแมวลงไปบ้านแม่เพราะกลัวหายอีก เราก็โอเคดี…
-
สรุปประเด็นเหตุการณ์ ‘คุณครูปาแก้ว’ ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ!! (อัพเดท 14 กันยายน)
หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวสาร หรือหน้านิวส์ฟีดเฟซบุ๊คในวันนี้ คงจะได้เห็นเรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกคุณครูปาแก้วน้ำใส่อย่างรุนแรงจนทำให้ปากเบี้ยวกันไปบ้างแล้ว… บางคนก็สงสัยว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมถึงมีคนแชร์กันมากมาย เดี๋ยว #เหมียวหง่าว จะมาสรุปเหตุการณ์ให้เพื่อนๆ อ่านกันเป็นข้อๆ ก็แล้วกันนะ ภาพถ่ายของน้อง ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ 1. เหตุการณ์เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 8 สิงหาคม ขณะที่ น.ส. นฤดี จอดสัน (น้องทราย) นักเรียนชั้นม. 5 ได้เข้าแถวเรียนวิชาพละศึกษา แต่แถวที่น้องได้ต่ออยู่นั้นมีแดดส่อง ก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อหลบแดด แต่พอคุณครูมาเห็นเข้าก็เลยปาแก้วเซรามิคเข้าใส่โดนที่กกหูข้างซ้ายของน้อง 2. ในตอนแรกน้องทรายเล่าว่าไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มรู้สึกว่าขยับใบหน้าด้านซ้ายไม่ได้เลย เวลายิ้มตาซ้ายไม่สามารถหลับได้สนิท และปากด้านซ้ายก็ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน 3. ต่อมาคุณแม่ของน้องก็ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหนองบุณมาก ซึ่งคุณหมอเองก็วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาท หรือกระดูกแตกทับเส้นประสาทกันแน่ ภาพของอาการบวมและดวงตา ใช้ภาพของน้องแบบไม่เซ็นเซอร์เพื่อให้เห็นอาการได้อย่างชัดเจน ตามที่น้องลงภาพไว้ 4. ทางคุณหมอก็เลยส่งตัวน้องทรายไปที่โรงพยาบาลมหาราช และหมอที่โรงพยาบาลมหาราชก็ได้บอกว่าตอนนี้ไม่มียารักษา ต้องให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพตัวเอง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน 5. และตอนนี้…
-
คิดเห็นอย่างไร!? เปิดตัวขบวนการฮีโร่ไทย Miraigar T1 ที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์การดีไซน์
เรียกได้ว่ากลายเป็นกระแสดราม่าเล็กๆ ในโลกของซุปเปอร์ฮีโร่ไปสะแล้ว สำหรับขบวนการ Miraigar T1 ฮีโร่ไทย (สัญชาติญี่ปุ่น) ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น แล้วนำตัวละครมาดัดแปลงให้มีเอกลักษณ์แบบไทยๆ ซึ่งจุดที่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็คงจะเป็นเข็มขัด/ข้อมือ/ข้อเท้าของตัวละคร ที่มีลวดลายคล้ายกับธงชาติไทย จนทำให้ชาวเน็ตบางคนถึงกับแสดงความไม่พอใจ ที่นำเอาธงชาติมาออกแบบเป็นชุดของตัวละคร เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาเช่น ทำไมฮีโรไทย มันมักออกมาโทนนี้ มีลายกนก มีสีธงชาติ มีอะไรๆที่ทำให้นึกถึงชุดละครรำ ใส่ความเป็นไทยเอาไว้ในเนื้อเรื่องดีกว่าไม่ต้องเอามาใส่ในตัวชุดหรอก ดีไซน์รกไปนิด ที่ควรแก้คือสีเข็มขัด มั่นใจระดับไหนว่าตอนถ่ายคิวบู๊ไอ้เงี่ยงๆตรงไหล่จะไม่ทิ่มหน้าคนใส่ แต่คนที่ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องการออกแบบก็มีเช่นกัน นักมวยต่างประเทศใช้รูปแบบธงชาติมาออกแบบกางเกงใส่ขึ้นชกไม่เห็นมีปัญหา รายละเอียดมันไม่ค่อยลงตัวอะ น่าจะออกแบบให้มันแมชกันมากกว่านี้ ยังไงก็ให้กำลังใจทีมงานครับถึงชุดจะไม่ถูกใจ แต่อย่างน้อยก็ขอให้เป็นก้าวแรกที่จะเดินต่อไป ผมชอบนะ 555 เท่ดี เดิมทีแล้วตัวละครฮีโร่ Miraigar มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญีปุ่่นในช่วงที่ประเทศของพวกเขาประสบกับแผ่นดินไหว ทำให้เกิดไอเดียการให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นด้วยการสร้างฮีโร่ท้องถิ่นขึ้นมา โดยออกแบบให้มีความเกี่ยวโยงกับเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกเข้าถึงได้ง่าย แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการร่วมทุนกันระหว่างไทยและญี่ปุ่นจนเกิดเป็น Miraigar T1 และเพิ่งจะมีการบวงสรวงไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 กันยายนที่ผ่ามา…
-
มีจริง Fight Club Thailand ชมรมที่เปิดโอกาสให้ต่อยกันแบบตัวต่อตัว ผู้คนคิดเห็นอย่างไร?
กำลังกลายเป็นกระแสที่โลกอินเตอร์เน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์เลยทีเดียว สำหรับ Fight Club Thailand เป็นกิจกรรมสุดระห่ำ ที่ให้ผู้คนได้มาปลดปล่อยด้วยการชกต่อยกัน โดยไม่มีเวที หรือกรรมการใดๆ มีเพียงแค่สัญญาลูกผู้ชายว่าหลังจากที่ชกกันเสร็จแล้วจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน Fight Club Thailand นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Fight Club (1999) ที่มี Brad Pitt และ Edward Norton เป็นนักแสดงนำ เล่าเรื่องราวของชมรมใต้ดินฮาร์ดคอร์ ที่เปิดโอกาสให้คนได้มาชกต่อยกันแบบตัวต่อตัว โดยทางชมรมได้มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับบ้านเรา ซึ่ง Fight Club Thailand เริ่มมีชื่อเสียงตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในแต่ละครั้งที่พวกเขามีการชกต่อยกัน ก็จะอัดคลิปวิดีโอมาให้โลกออนไลน์ได้ชมด้วย และเมื่อผู้คนรู้ข่าวคราวของกิจกรรมสุดแปลกนี้ก็พากันไปชมการชกต่อยกันแบบสดๆ มากขึ้นเรื่อยๆ . . และด้วยกระแสที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นี้เอง ทางเฟซบุ๊กเพจอย่าง ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส ได้บอกว่าตนเองนั้นชื่นชอบกิจกรรมแบบนี้มาก เพราะเป็นการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวและจะคอยจับตาดูอนาคตของชมรมนี้ ส่วนเพจ Drama-addict ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่เข้าท่า เพราะยังไงแล้วปัญหาวัยรุ่นตีกันก็ดูจะไม่มีทางหมดไปง่ายๆ การจับมาต่อสู้กันแบบมีผู้ชมแบบนี้ก็น่าจะเป็นทางออกทางหนึ่ง ส่วนชาวเน็ตเมื่อได้เห็นและรับรู้ถึงการมีอยู่ของชมรมนี้ ก็แสดงความเห็นออกมาในหลายแง่มุม เช่น…
-
ประเด็นดราม่า เว็บไอทีดังเขียนบทความสอนโกง Pokemon GO แถมตำหนิคนเล่นสร้างความเดือดร้อน
กลายเป็นประเด็นดราม่าอย่างรุนแรงเลยทีเดียว สำหรับเว็บไซต์ด้านไอทีชื่อดังเว็บไซต์หนึ่ง หลังเขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon GO โดยไม่ต้องเดินออกจากบ้านไปไหน รวมทำตำหนิคนที่ออกไปเล่นเกม Pokemon GO นอกบ้านสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น จนชาวเน็ตเข้ามาต่อว่าอย่างรุนแรง โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ทางด้านไอทีชื่อดังของไทยเว็บไซต์หนึ่งได้เขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon Go ในชื่อ “xxxxพาแบก PC ไปจับ Poke’mon คอมบ้านก็จับโปเกม่อนได้นะ” โดยตัวบทความได้สอนให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกม Pokemon GO ได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Destop หรือ Laptop โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปไหน ซึ่งถือว่าขัดกับเจตนารมณ์ของค่าย Niantic ที่ต้องการให้ผู้เล่นอออกจากบ้านไปเดินเล่น ยิ่งไปกว่านั้น มีส่วนหนึ่งของบทความเขียนตำหนิในทำนองว่า การเล่น Pokemon GO อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ เมื่อชาวเน็ตเห็นบทความดังกล่าว ก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เว็บไซต์ดังกล่าวอย่างรุนแรง . . เรียกว่าเดือดจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนิล่ะ ไม่ต้องรู้หรอก อิอิ
-
คุณคิดอย่างไรกับ “สงครามคอนแวนต์” เมื่อชาวเน็ตเถียง ไม่ตรงความจริง ทำโรงเรียนเสียภาพลักษณ์!?
กลายเป็นดราม่าร้อนๆ ในโลกออนไลน์อยู่ตอนนี้เลย สำหรับกรณีของละคร สงครามคอนแวนต์ ที่เตรียมจะออกฉายทางช่อง 9 เร็วๆ นี้ แต่เนื่องจากมีคำว่า “คอนแวนต์” อยู่ในชื่อเรื่องด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจทำให้ภาพลักกษณ์ของโรงเรียนเสื่อมเสียได้… ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่าคุณ NPTanawat ได้เข้ามาตั้งกระทู้ #สงครามคอนแวนต์ เดี๋ยวนี้ช่อง 9 เรตติ้งต่ำมากถึงขนาดทำละครแบบนี้เรียกเรตติ้งแล้วเหรอครับ? ภายในกระทู้ได้มีการกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างตัวละครและในชีวิตจริง อย่างเช่นมาเซอร์หรือซิสเตอร์ที่ปกติแล้วมักใส่ชุดสีขาวหรือเทา แต่ในละครกลับใส่ชุดสีดำ หรือเครื่องแบบของนักเรียนหญิงที่กระโปรงดูสั้นมากกว่าปกติ บวกกับเนื้อเรื่องที่เหล่าตัวละครหญิงพยายามแย่งผู้ชายกัน ทำให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียน ล่าสุดละครเรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสดราม่าในทวิตเตอร์ไปแล้ว โดยความเห็นบางส่วนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับตัวละครที่ไม่ตรงตามความจริง ในขณะที่อีกส่วนมองว่าละครมีความรุนแรงเกินไปจนน่าจะเปลี่ยนชื่อละครไปเลย . . . . . . ลองชมตัวอย่างแบบเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่น่าสนใจจากชาวพันทิปอีกมากมาย เช่น jily “เห็นในทวิตเตอร์เหมือนกัน น้องๆคอนเเวนต์ตัวจริงค่อนข้างซีเรียส ซึ่งเราเข้าใจนะ เพราะโรงเรียนคอนเเวนต์ในไทยเอง ก็ไม่ได้มีเยอะและเเน่นอนต้องอยู่ในระเบียบ…
-
ชาวเน็ตถกกันสนั่น กรณีร้านกาแฟใช้หญิงสาวเป็นเมนู ส่อการเหยียดเพศหรือไม่!??
กลายเป็นประเด็นร้อนให้ชาวเน็ตถกเถียงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ใช้ร่างกายของหญิงสาวเป็นป้ายเมนูอาหาร เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาอ่านและเลือกเมนูกัน จนชาวเน็ตถกกันว่านี่ส่อถึงการเหยียดเพศใช่หรือไม่? ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียวแน่ๆ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 สิงหาคม โดยในภาพนี้เป็นภาพของหญิงสาวสองคนในชุดเสื้อยืดแขนกุดสีขาวและดำ ส่วนบริเวณด้านหน้าของเสื้อมีรายการอาหารตัวเล็กๆ ถูกพิมพ์ติดเอาไว้ หากจะสั่งเครื่องดื่มต้องขยับเข้าไปอ่านใกล้ๆ จากการสังเกตชื่อร้านที่มุมเสื้อ คาดว่าชื่อร้าน บ้านเพื่อน Cafe (ตรงนี้#เหมียวฟิ้นลองค้นพิกัดของร้านแล้วแต่ไม่พบจริงๆ หากใครมีข้อมูลสามารถส่งเข้ามาได้นะ) ทั้งนี้หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ดูจะเป็นประเด็นให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่ไม่น้อย โดยความเห็นบางกลุ่มมองว่าเป็นการโปรโมทที่ดูเซ็กซี่และอยากจะลองไปกินดูสักครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเห็นจากชาวเน็ตบางคนบอกว่าการโปรโมทร้านแบบนี้อาจเป็นการส่อถึงการเหยียดเพศก็เป็นได้ เพราะเป็นการใช้เรือนร่างของผู้หญิงเพื่อสร้างจุดสนใจให้กับทางร้าน . แต่ก็มีคนเข้ามาแย้งบอกว่านี่ไม่น่าจะใช่การเหยียดเพศ เพราะไม่ใช่การขู่เข็ญหรือบังคับให้หญิงสาวมาทำโดยไม่เต็มใจ เป็นการว่าจ้างที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเสียมากกว่า กลับกันยังมีการตั้งประเด็นว่าหากเป็นชายหนุ่มมาแต่งตัวแบบนี้บ้างจะถูกหาว่าเป็นการเหยียดเพศหรือไม่? . . มีการตั้งข้อสังเกตย้อนกลับไปถึงประเพณีการแต่งงานของคนไทย ที่ต้องมีการมอบเงินให้กับพ่อแม่ฝ่ายหญิง ซึ่งอาจจะเป็นการเข้าข่ายการเหยียดเพศด้วยหรือเปล่า? . . ประเด็นแบบนี้ #เหมียวฟิ้นมองว่าอาจจะอยู่ที่บริบทสังคมมากกว่านะ บางที่อาจจะรับได้ บางที่อาจจะรับไม่ได้ ยังไงเราลองมาคุยกันได้นะ ว่าการโปรโมทร้านแบบนี้ถือเป็นการเหยียดเพศหรือเปล่า…. หรือเป็นเพียงกิจกรรมภายในร้านที่ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร!? ที่มา กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียวแน่ๆ
-
เกาะติดทางฝั่งน้ำชา กรณีดราม่าปันปัน ‘โมโหแต่ไม่อยากทะเลาะกับเด็ก’ #เสียงสูง
กลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงสาว “ปันปัน สุทัตตา” แขวะสาว “น้ำชา ชีรณัฐ” ผ่านทางไอจีจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโซเชียล ข่าวเก่า: งานปูเผือกมา!! IG ปันปันโพสต์ข้อความ “อีกะxรี๊” ชาวเน็ตงง โพสต์เองหรือโดนแฮ็ค!? หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทางน้ำชาก็ได้โพสภาพลงบนไอจีของตนเอง พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “วันนี้มีเรื่องตลกเกิดขึ้น…จงยิ้มเข้าไว้” ล่าสุดทาง “น้ำชา ชีรณัฐ” ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยเธอบอกว่า ตอนแรกเธอโกรธมาก แต่ก็ไม่อยากทะเลาะกับเด็กที่อายุห่างกันนับ 10 ปี รวมทั้งบอกว่า ไม่ชอบเด็กที่ไม่มีสัมมาคารวะ (แอบแรงเหมือนกันนะเนี่ย #เหมียวอ๊อดโด้) ไปชมคลิปสัมภาษณ์ของเธอกันเลยดีกว่า โดยสาเหตุของดราม่าครั้งนี้เกิดจากการที่ “น้ำชา” ได้ถ่ายซีรี่ย์คู่กับ “มาร์ช จุฑาวุฒิ” แฟนเก่าของ “ปันปัน” จนเกิดความสนิทสนมกันขึ้น แต่ทางน้ำชายืนยันว่า ทั้งสองไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากเพื่อนรวมงานเท่านั้น งานนี้บอกเลยว่านอกจากเสียงแล้ว ความเผือกของชาวเน็ตมันสู๊งสูงเหลือเกิน เอาละ ฝ่ายคู่กรณีก็ออกมาชี้แจงแล้ว ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่าฝั่ง ปันปัน จะทำอย่างไรต่อไป รอติดตามกันได้เลย…
-
ดราม่าแบบเบาๆ เหมาะสมหรือไม่ ที่กลุ่มผู้โดยสารแซวแอร์โฮสเตส จนกลั้นหัวเราะไม่ได้!?
สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินแล้ว เราจะรู้ว่ามันมีกฎระเบียบมากมาย นั่นเพราะว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้นต้องมีความรัดกุมเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทุกครั้งก่อนขึ้นบิน บนเครื่องก็จะมีการสอนใช้อุปกรณ์กู้ภัยต่างๆ เช่นการใส่หน้ากากอ็อกซิเจน หรือการคาดเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นก็คือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั่นเอง ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค The LAD Bible ได้ทำการแชร์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินเที่ยวหนึ่ง ที่แอร์โฮสเตสก็ออกมาสาธิตการใช้งานอุปกรณ์เซฟตี้อย่างปกติ แต่ผู้โดยสารที่นั่งมาในเที่ยวบินนั้นเป็นแฟนบอลชาวไอริชหลายคน และเหล่าแฟนบอลทั้งหลายเหล่านั้นก็นึกสนุกส่งเสียงเชียร์ที่เรียกว่าการเชียร์แบบชาวไวกิ้ง แซวสาวแอร์โฮสเตสที่กำลังทำหน้าที่อยู่จนเกิดอาการเขินอายถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว และดูเธอพยายามกลั้นใจที่จะกลับมาทำหน้าที่ของเธออีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนหลุดขำออกมาอีก… เหล่าผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต่างก็ปรบมือหัวเราะชอบใจกันอย่างสนุกสนาน นั่นอาจเป็นเพราะความน่ารักของสาวแอร์ที่กำลังพยายามเอาชนะความเขินอายมาทำหน้าที่ต่อ ฮร่า ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Football Fans Not Letting Air Hostess ConcentrateFootball fans on flight distracting the air hostess doing the safety announcement… ? Posted by…
-
สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม โดนนักแสดงสังกัดผู้กำกับดัง ทำร้ายร่างกายทั้งที่เป็นแฟนเก่า!?
กลายเป็นประเด็นดราม่าบนอินเตอร์เน็ตในทันที เมื่อพริตตี้สาวชื่อดังได้ออกมาแฉว่า นักแสดงหนุ่มสังกัดผู้กำกับชื่อดังที่เคยแสดงภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่แจ๊ส 4G” และ “หอแต๋วแตก” ภาคล่าสุด ได้ทำร้ายร่างกายเธออย่างหนัก ทั้งๆ ที่เป็นแค่แฟนเก่า? ฟ้าโดนแฟนเก่าที่เลิกไปแล้วเป็นเดือนๆกลับมาทำร้ายร่ายกาย ผู้ชายคนนี้คือ เป็นนักแสดง เล่นหนังเรื่องหลวงพี่แจ๊ส วัยเป้ง หอแ… โพสต์โดย Wisansaya Pakasupakul บน 20 กรกฎาคม 2016 ภาพโพสต์ (สำหรับบางคนที่โพสต์ไม่แสดง) โดยเธอเล่าว่า เธอกับนักแสดงคนนั้นเคยคบหาดูใจกัน แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว ซึ่งทางนักแสดงชายพยายามขอคืนดีมาโดยตลอด แต่เธอไม่ตอบรับ จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อวาน นักแสดงชายคนดังกล่าวได้บุกมาหาถึงบ้านเธอ และพยายามโวยวายเสียงดังเรียกร้องความสนใจหน้าบ้านของเธอ ด้วยความเกรงใจเพื่อนบ้าน เธอตัดสินใจนั่งรถของนักแสดงชายคนนั้นไปที่อื่น ซึ่งระหว่างนั้น นักแสดงชายก็พยายามง้อคืนดีอีกครั้ง แต่เธอก็ปฏิเสธไปเหมือนเดิม สุดท้ายนักแสดงคนนั้นไม่พอใจ ทำร้ายร่างกายของเธออย่างรุนแรง ทั้งตบ ตี บีบคอ เหยียบที่ศีรษะ แม้เธอร้องไห้วิงวอน แต่นักแสดงหนุ่มคนนั้นก็ไม่หยุด สุดท้ายเธอก็สามารถกลับมายังบ้านของเธอได้ เธอจึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาแชร์ให้ชาวเน็ตได้รับทราบ และยืนยันว่าจะแจ้งความให้ถึงที่สุด เมื่อชาวเน็ตได้ทราบเรื่องดังกล่าว…
-
ถ้าให้ลูกกินมังสวิรัติตั้งแต่เด็ก จะดีหรือไม่… มาร่วมแสดงความคิดเห็น แชร์ข้อมูลกันดีกว่า!!
การที่เด็กจะเติบโตขึ้นมามีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ได้นั้น เด็กจะต้องกินอาหารให้ได้ในปริมาณที่เพียงพอและมีอัตราส่วนของสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสม ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะมีวิธีเลี้ยงลูกที่ต่างกันไป จึงเป็นที่มาของประเด็นที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้…. เจ้าของกระทู้คุณ vnussy เป็นผู้ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้น เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวพันทิปว่าพวกเขาจะสนับสนุนเธอมั้ย หากเธอต้องการให้ลูกกินมังสวิรัติตั้งแต่ยังแบเบาะ เราไปดูคอมเม้นท์ฝ่ายที่สนับสนุนกันก่อน… คอมเม้นท์คุณ เปรมอุรา ชาวซิกส์ เขาทานมังสวิรัติมาแต่โบร่ำโบราณไม่เห็นมีปัญหาอะไรนะ ออกลูกออกหลาน เต็มบ้านเต็มเมือง การค้าเจริญรุ่งเรือง เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เต็มไปหมดเลยครับ คอมเม้นท์คุณ Cereal Guy ก็ให้กินไปครับ แต่ถ้าเขาโตขึ้นแล้วอยากกินเนื้อสัตว์ก็อย่าไปขัดเขา คอมเม้นท์คุณ สมาชิกหมายเลข 1204454 สนับสนุนค่ะ เราก็กิน ถ้ามีลูกเราก็จะให้ลูกกิน แต่ถ้าเค้าโตขึ้นแล้วเค้าไม่อยากกินก็ไม่ควรบังคับค่ะ มันจะเป็นเรื่องยากทุกคนกินมังแต่ให้ลูกกินเนื้อ มันจะเป็นปัญหากับตัว จขกท ค่ะ ถ้าคนที่เรียนทางด้านโภชนาการมา จะรู้ว่าการกินมังไม่ได้ขาดสารอาหาค่ะ เรารู้จักเด็กหลายคนที่กินเจตั้งแต่ในท้อง จนตอนนี้ก้กิน ก็เป็นเด็กฉลาดและพัฒนาการสมวัยทุกคน คนกินด้วยกันถึงจะเข้าใจ แต่บางคนก็ถอนใจ บอกว่าเอาที่คุณแม่สบายใจก็แล้วกัน คอมเม้นท์คุณ เจ้านู๋คากิ เอาที่คุณแม่สบายใจเลยค่ะ ลูกคุณ… คอมเม้นท์คุณ If I Could Turn Back…
-
ร้านตัดขนสัตว์ในไต้หวัน ออกแบบทรงขนสุดแนวให้สัตว์เลี้ยง และ ‘ดราม่า’ ก็ตามมาจนได้!!
ถ้าใครฝันว่าอยากให้น้องเหมียวของเองมีครีบเหมือนสเตโกซอรัสล่ะก็ เห็นทีฝันของท่านจะเป็นจริงแล้ว เมื่อร้านตัดขนสัตว์จากไต้หวันแห่งนี้ โชว์แพ็คเกจการตัดขนสัตว์แบบใหม่ รับรองว่าถูกใจแน่นอน!!! หรือจะลายมินนี่ก็ได้ คิตตี้ก็มา มีมินนี่แล้ว จะขาดมิกกี้ไปได้ยังไง รถ Lexus ก็มา ช่างที่อยู่เบื้องหลังของการตัดขนขั้นเทพนี้ก็คือ Lee Mei-chen คนนี้นี่เอง เธอบอกว่าเธอเป็นช่างทำผมมาก่อน แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าการทำผมให้สัตว์เลี้ยง ทำให้เธอมีความสุขกว่าตอนทำให้มนุษย์เสียอีก เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกครั้งที่ฉันตัดขนสัตว์เหล่านี้เสร็จ ฉันรู้สึกภูมิใจกับผลงานของฉันมากๆ” . ลองไปชมผลงานอื่นๆ ของเธอกันบ้างดีกว่า . . . อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย บางคนกล่าวว่าการจะตัดขนแบบนี้ได้ บางครั้งต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของสัตว์มากๆ ที่จะต้องนั่งนิ่งๆ แบบนั้น ว่าแล้วก็ลองไปชมความเห็นของชาวเน็ตกันบ้างดีกว่า ว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไรกับการตัดขนสัตว์แบบนี้ “ควรจะคิดเรื่องเลี้ยงยังไงให้พวกเขาอยู่ดีกินดี มากกว่ามาทำเรื่องสวยๆ งามๆ แบบนี้นะ” “ดูจากหน้าแมวแล้ว คืนนี้ต้องมีคนโดนดีแน่” …
-
คุณมองเห็นเด็กจมน้ำในภาพนี้ไหม!? สุดยอดไลฟ์การ์ด ตาดีอย่างกับเหยี่ยว กระโดดช่วยทันที
วันนี้#เหมียวฟิ้นจะมาชวนทุกคนเล่นเกมจับผิดกัน ในภาพที่อยู่ด้านล่างนี้เป็นภาพที่ถ่ายได้จากกล้องวงจรปิด ณ สระน้ำแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างที่ทุกคนกำลังเล่นน้ำและคลื่นน้ำอย่างสนุกสนาน มีเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังจะจมน้ำ คุณพอจะมองเห็นไหมว่าเธออยู่ตรงไหนของสระ!? หากมองไม่เห็นงั้นเราไปดูเฉลยกัน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการช่วยชีวิตของไลฟ์การ์ดคนหนึ่งที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ที่ขอบสระว่ายน้ำ แต่ในขณะนั้นเขาก็เห็นบางสิ่งที่ผิดปกติอยู่ในสระน้ำ เป็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ กำลังโบกมือไปมาในสระ เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็กระโจนตัวลงไปในน้ำและอุ้มเธอขึ้นมาไว้ที่ขอบสระทันที ทั้งนี้ไลฟ์การ์ดที่ไม่เปิดเผยชื่อได้กล่าวกับสื่อว่า “ผมเดินไปกับเด็กหญิง 3 ขวบอยู่นานกว่าจะเจอครอบครัวของเธอ พวกเขาไม่รู้เลยว่าลูกของพวกเขาหายตัวไป ผมยังคงประหลาดใจทุกครั้งที่เห็นเด็กบางคนไม่ได้รับการสอดส่องดูแลจากพ่อแม่มาเดินทั่วสระน้ำ” . ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า (ประมาณนาที 1.45) จากการหาข้อมูลรายได้โดยเฉลี่ยของไลฟ์การ์ดในสหรัฐ พบว่ารายได้ต่อชั่วโมงอยู่ที่ 313 บาท (บางแห่งให้ชั่วโมงละ 400 บาทก็มีนะ) หากทำงานวันละ 8 ชั่วโมงก็ตกอยู่ที่ 2,504 บาท หากคำนวนแบบมั่วๆ ตกเดือนหนึ่งพวกเขาจะมีรายได้เกือบๆ 58,000 เลยทีเดียว …
-
ปัญหาความรักระดับชาติ ‘ตัวเองไม่แกะกุ้งให้เค้ากิน’ งานนี้ต้องปรึกษาชาวเน็ตละ..!!
กลายเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว สำหรับการแกะกุ้งให้แฟนกิน หลังจากมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปท่านหนึ่ง นำเรื่องมาปรึกษากับชาวเน็ต ว่าทำไมแฟนจึงไม่ยอมแกะกุ้งให้เขากิน โดยเรื่องราวดังกล่าวเป็นของคุณ สมาชิกหมายเลข 2174931 ได้เล่าว่า ตนกับแฟนเพิ่งคบกันได้ 1 เดือน ต่อมาเธอได้ชวนแฟนไปกินบุฟเฟ่กุ้ง ด้วยความที่อยากให้แฟนแกะกุ้งให้ เธอจึงไปทำเล็บมา แต่ปรากฎว่าแฟนของเธอกลับไม่สนใจจะแกะกุ้งให้แม้แต่น้อย จนสุดท้ายเธอต้องเป็นคนร้องขอ แฟนจึงยอมแกะให้ เธอจึงนำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษาชาวเน็ตว่า การที่แฟนไม่แกะกุ้งให้กินนั้น เป็นเรื่องปกติของผู้ชายหรือเปล่า เป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะพ่อบ้าน แล้วชาวเน็ตว่าอย่างไรกับเรื่องราวที่เธอนำมาเล่าบ้าง สมาชิก สมาชิกหมายเลข 2444406 ได้แสดงความเห็นว่า “เป็นง่อยหรือเปล่า” สมาชิก น้องหญิงคำ ก็บอกในทำนองเดียวกัน “ไม่แปลกใจคะ ทำไมเดี๋ยวนี้ ผู้ชายไปกินกันเอง กินกะเทย ชะนีเยอะเกินจริงคะ เว้นช่องว่างให้กันบ้าง ผู้ชายเขาจะได้ไม่อึดอัด” ส่วนท่านสมาชิก Art-Nimit ได้แสดงความเห็นในมุมมองของผู้ชายว่า “ผู้เป็นเพศที่เเข็งแรงสามารถแกะกุ้งได้ด้วยกำลังแขนและข้อมืออันแข็งเกร่ง ตูเกิดมาเพื่อแกะกุ้งหรือไงเนี่ย” ความเห็นของท่านสมาชิก ตะวันกับดวงดาว “แฟนน้องน่ารักนะ ที่อดทนกับ ผู้หญิงแบบน้องได้” อีกความเห็นจากท่านสมาชิก FZLM “ผมก็ไม่แกะให้ครับ กินใครกินมัน แกะไปกินไปคุยกันไป บางทีอาจมีแกะให้บ้าง แต่ไม่ใช่มานั่งแกะให้ตลอด เอาความจริง…
-
แอนดรูว์ บิ๊กส์ ถึงกับงง… แฉข้อผิดพลาด O-net ภาษาอังกฤษ เฉลยผิดมากถึง 8% !!!
ยังคงเป็นประเด็นให้ผู้คนถกเถียงกันอยู่ทุกปี สำหรับข้อสอบ O-net ของ สทศ. และล่าสุดกับข้อสอบภาษาอังกฤษ ที่มีการเฉลยผิดกันอยู่หลายข้อ ทำให้ผู้คนและนักเรียนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ถึงความถูกต้องของข้อสอบ และมตรฐานของผู้ออกข้อสอบเอง ล่าสุดคุณครูภาษาอังกฤษชื่อดังอย่างแอนดรูว์ บิ๊กส์ ก็ได้ทำคลิปวิดีโอที่พูกถึงการเฉลยข้อสอบ O-net มาให้เราได้ชมกัน โดยเจ้าตัวบอกว่าข้อสอบในระดับป.6 จำนวน 90 ข้อนั้นทำได้ปกติ ไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ข้อสอบในระดับชั้นม.3 จำนวน 50 ข้อกลับมีข้อที่ผิดอยู่ถึง 4 ข้อด้วยกัน โดยคุณแอนดรูว์ ได้เขียนข้อความไว้ใต้คลิปว่า “มี 4 ข้อใน O-Net 2016 ระดับ ม.3 วิชาภาษาอังกฤษที่แปลกประหลาด 4 ข้อจากทั้งหมด 50 ข้อ ถือว่าร้อยละ 8 ที่ผิด สงสารเด็กไทยจังเลย ผมทำวิดีโอนี้เพื่อเปิดประเด็นว่า ทำอย่างไรถึงจะมีข้อสอบที่มั่นคงกว่าปัจจุบัน ไม่ใช่ติอย่างเดียว” จากนั้นคุณแอนดรูว์ก็ได้หยิบยกตัวอย่างข้อสอบที่เฉลยผิดมาให้ได้ดูกันด้วย อย่างเช่นข้อนี้ ที่เปิดการให้เลือกเติมคำในช่องว่าง รูปประโยคมีอยู่ว่า What shall…
-
หญิงสาวถูกพี่ที่ทำงาน เอารูป ‘ชุดว่ายน้ำ’ ไปลงเฟซบุ๊คตัวเอง ให้เพื่อนวิจารณ์สนุกปาก!!!
ปัจจุบันเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสำคัญกันเป็นอย่างมาก อย่างเช่นการดูถูก เหยียดหยาม ประจานกันในที่สาธารณะ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นอับอาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากในสังคมบ้านเรา อย่างเหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน มีชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3056650 ได้ทำการโพสต์กระทู้ว่า “พี่ที่ทำงาน เอารูปที่เราใส่ชุดว่ายน้ำไปโพส และมีเพื่อนเค้ามาวิจารณ์แบบนี้ เราสามารถฟ้องร้องได้มั้ยคะ?” โดยเธอเล่าว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนบริษัทที่เธอทำงานอยู่ได้จัดสัมมนาที่โรงแรมริมทะเลในจังหวัดระยอง ซึ่งก็มีช่วงพักเบรกให้เล่นน้ำกัน แล้วด้วยความที่ไปทะเล เจ้าของกระทู้ ก็ได้ทำการใส่ชุดว่ายน้ำเพื่อไปเล่นน้ำชิลๆ กับเพื่อนๆ ร่วมงานที่สนิทกันกับเธอ หลังจากนั้นทุกอย่างก็จบลงทุกคนแยกย้ายกันกลับ แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะจู่ๆ เธอก็มารู้ตัวทีหลังว่ามีรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอ อยู่แผนกบัญชีที่อยู่คนละแผนกกับเธอ ซึ่งก็ไม่ได้นิทหรือรู้กจักมักจี่อะไรด้วยเลย แถมไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊คอีกต่างหาก ได้ทำการแอบถ่ายรูปของเธอตอนใส่ชุดว่ายน้ำ แล้วเอาไปโพสต์วิจารณ์ที่หน้าเฟซบุ๊คของตัวเองอย่างสนุกปาก โดยใส่แคปชั่นว่า “น้องที่ทำงาน สวยป๊ะ 555 *รูปอีโมชั่นมองบน *รูปอีโมชั่นหน้าเอือม” เธอเล่าเพิ่มเติมว่าที่รู้ก็เพราะมีพี่ที่ทำงานอีกคนหนึ่งที่เธอสนิทสนมด้วยแคปรูปมาให้ดู อีกทั้งยังช่วยเตือนให้พี่บัญชีคนโพสต์ให้ลบโพสต์ออกซะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยยอมทำ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ แถมยังโพสต์เหน็บแนม เจ้าของกระทู้ตามมาอีกเรื่อยๆ เรื่องการใส่ชุดว่ายน้ำ เจ้าของกระทู้อดรนทนไม่ไหวก็เลยทำการส่งข้อความในเฟซบุ๊คไปหาแต่เธอก็ยังไม่ยอมลบอีก ทำแค่ตั้งค่าจาก Public เป็นแบบเห็นได้เฉพาะเพื่อนในเฟซของเธอ ด้วยความสงสารจากพี่ที่ทำงานอีกคนของเจ้าของกระทู้ก็เลยทักไปช่วยพูดให้ พี่พนักงานบัญชีจึงยอมใจอ่อนลบทิ้งไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง เจ้าของกระทู้รู้สึกเสียความมั่นใจในตัวเองมาก เพราะถูกวิจารณ์ซะเสียหายขนาดนั้นจากคนที่ไม่ค่อยรู้จัก และไม่เคยมีปัญหาอะไรด้วยเลย…
-
ประเด็นดราม่า ‘พี่รู้น้องก็เ..ี่ยน’ เมื่อ ดีเจ ก. ถูกแฉว่าเคยจะปล้ำดีเจสาวในสังกัด เพราะความเมา!??
กลายเป็นเรื่องราวดราม่าร้อนๆ อยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้เลย เมื่อมีดีเจสาวจากผู้ให้บริการวิทยุออนไลน์ค่ายหนึ่ง (ที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะคงดังสุดแล้ว) ออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมสุดหื่นกามของชายหนุ่ม ที่พยายามจะปล้ำเธอในผับ แถมยังตามมาที่คอนโดอีกด้วย!? เมื่อช่วงดึกของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของดีเจสาวคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่าผัก เธอได้เล่าว่าเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอได้ออกไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งแถวเลียบทางด่วน รามอินทรา แต่ในระหว่างนั้นหัวหน้างานของเธอ ที่เธอขอใช้นามแฝงว่า หสก. (หัวหน้าสังกัด) โทรเข้ามาหาแล้วถามว่าเธออยู่ที่ไหน เพื่อที่จะได้ตามไปหา แต่เมื่อคุณหสก. เดินทางมาถึงผับที่เธออยู่ กลับมีสภาพเมาได้ที่ ส่วนฝ่ายหญิงสาวเองก็มีอาการมึนเมาเช่นกัน จู่ๆ ฝ่ายชายก็โผเข้าหาฝ่ายหญิงจากด้านหลัง และหอมแก้มเธอ เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกไม่พอใจเดินหนีไปห้องน้ำกับเพื่อน พอออกมาจากห้องน้ำ คุณหสก.ก็ยังเข้ามากอดอีก แถมยังกระซิบบอกเธอด้วยว่า “พี่รู้ผักก็เxี่ยน” พร้อมทั้งล้วงหน้าอกและจับของลับของเธอ ต่อมาพนักงานในร้านต้องมาช่วยกันลากเอาคุณหสก. ออกไปจากเธอ เมื่อหญิงสาวเห็นท่าไม่ดีจึงเตรียมจะกลับคอนโด แต่นายหสก. บอกว่าจะเรียกคนขับรถมารับ เมื่อคนขับรถมาถึง คุณหสก.จึงเข้าไปนั่งในรถด้วยท่าทีที่สงบลง แต่เนื่องจากเห็นว่าดึกมากแล้ว คนขับรถจึงเสนอที่จะไปส่งหญิงสาวที่คอนโด เมื่อพิจารณาแล้วว่าตัวเองเมา ส่วนเพื่อนๆ ก็แยกกันกลับหมดแล้ว เธอจึงขึ้นรถไปกับเขาด้วย พอถึงคอนโด เธอเล่าว่าเธอได้วิ่งลงจากรถเพื่อขึ้นไปยังคอนโด แต่คุณหสก. กลับวิ่งตามมาและดึงให้เธอล้มลง จากนั้นก็ขึ้นคร่อมและบอกกับเธอว่าขอจูบหน่อย!? แม้ว่าที่คอนโดจะมีรปภ.หญิงคอยรักษาการอยู่…
-
เรียนไปทำไม? ดราม่าธุรกิจรับจ้างเข้าเรียน – ทำรายงานแทน เหมาะสมแล้วหรือ…??
ในยุคปัจจุบันที่การทำธุรกิจเป็นอาชีพที่ผู้คนนิยมทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความครีเอทของสินค้าและบริการต่างๆ ด้วย จึงทำให้มีรูปแบบของสินค้าและบริการที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมวงการธุรกิจอีกแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมของเหล่านักศึกษาในบ้านเรา เรื่องมีอยู่ว่าทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค Red Skull V.6s Plus ได้นำเสนอเรื่องราวของวงการธุรกิจของกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีการรับจ้างเรียนแทน ทำรายงานแทน… นอกจากนี้ยังมีการประกาศตามหาคนไปเรียนแทนกันเป็นรายวัน เรียกได้ว่าทำเป็นอาชีพเสริมรับทรัพย์กันแบบอื้อซ่าเลยทีเดียว . . . แน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยออกมาก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย… โดยส่วนมากจะตำหนิเหล่านักศึกษาที่เข้าไปใช้บริการว่าหากไม่พร้อมก็ไม่ควรเรียนเลยดีกว่าบ้างก็เปรียบเปรยกับเรื่องราวของตัวเองว่าเมื่อก่อนกว่าจะได้เรียนนั้นลำบากแค่ไหน อยากเรียนแต่ก็ไม่ได้เรียน และบางส่วนก็บอกว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่ในมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นที่อื่นก็มีเพียงแต่ว่า มันยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาก็เท่านั้นเอง และแน่นอนว่าเรื่องนี้มหาวิทยาลัยไม่ผิดแต่อย่างใด และที่เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะบางคนก็ไม่อยากไปเรียน ชอบอ่านหนังสืออย่างเดียวมากกว่า จะจ้างคนอื่นไปเรียนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก… บางคนก็บอกว่าขนาดตอนเป็นนักศึกษายังเอาเปรียบเพื่อนร่วมชั้นถึงขนาดนี้ แล้วตอนทำงานจะขนาดไหน? ก็คงต้องรอประกาศจากทางมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ ว่าจะมีมาตรการในการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร? แล้วชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้าง ก็สามารถคอมเม้นท์เข้ามากันที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะจ๊ะ ^^ ที่มา : Red Skull V.6s Plus
-
สุดจะทน!! สาวจีนโวยพนักงาน Dunkin’ Donuts ล้อเลียนสำเนียง-เหยียดเชื้อชาติ กลายเป็นประเด็นร้อน…
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เกิดจากการรวมตัวกันของหลายๆ รัฐ เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ลักษณะรูปร่าง ความแตกต่างทางภาษามากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ภูมิใจกับความเป็นอเมริกันชนและเหยียดเชื้อชาติอื่นๆ อยู่เหมือนกันนะ เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะมานำเสนอในวันนี้ถือเป็นดราม่าที่กำลังโด่งดังในต่างประเทศเลยทีเดียว เป็นเรื่องราวที่ถูกบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊กของหญิงสาวชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า Peiyin Shih เธอได้ขับรถไปยังร้าน Dunkin’ Donuts ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับลูกและพี่เลี้ยงเด็ก หญิงสาวได้สั่งเครื่องดื่มช็อคโกแลตร้อน น้ำผลไม้และโดนัทเคลือบช็อคโกแลตด้วยสำเนียงของตัวเอง แต่พนักงานกลับบอกให้เธอเรียกชื่อโดนัทใหม่อีกรอบ เพราะเขาฟังไม่รู้เรื่อง เธอจึงชี้ไปที่ป้ายโดนัทและบอกว่าเธอต้องการโดนัทเคลือบช็อคโกแลต แต่พนักงานจอมกวนก็ตอบกลับเธอว่า “อะไรนะ คุณพูดว่าอะไรนะ?” เธอเริ่มจะหงุดหงิดและบอกว่าเธอต้องการโดนัทเคลือบช็อคโกแลต แต่พนักงานรายนี้กลับไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเธอหรืออะไรเลย แต่ยังยืนยันกับเธอด้วยคำพูดเดิมว่า “คุณต้องพูดชื่อโดนัทใหม่อีกรอบ” หญิงสาวเริ่มจะเหลืออดและบอกว่า “ทำไมฉันต้องพูดชื่อเต็มๆ ของโดนัทด้วยในเมื่อคุณก็รู้อยู่แล้วว่าฉันต้องการอะไร คุณแค่ต้องการจะล้อเลียนฉันเท่านั้น” เมื่อเห็นพนักงานเป็นแบบนี้ เธอก็เลยบอกว่าเธออยากจะคุยกับผู้จัดการ แต่พนักงานตัวแสบกลับบอกว่าผู้จัดการไม่ได้อยู่ที่นั่น “คุณคิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือไง? วันนี้วันหยุดของเขา เขาต้องกลับบ้านซิ” หญิงสาวจึงถามว่าพนักงานคนนั้นชื่ออะไร พนักงานจึงชี้ไปที่ป้ายชื่อของเขาและบอกว่า “นี่คือชื่อของผม คุณรู้ใช่ไหมว่าต้องอ่านยังไง?” แม้ว่าเธอจะยืนยันว่าจะพบผู้จัดการแค่ไหนก็ตาม แต่พนักงานก็ยังเพิกเฉยกับเธอ ต่อมาดูเหมือนสถานการณ์จะเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อมีลูกค้าผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาหาเธอแล้วเริ่มกรี๊ดใส่ จากนั้นเธอก็เลยใช้มือถือบันทึกภาพของพนักงานและลูกค้า Dunkin’ Donuts สุดแสบคนนี้เอาไว้ เมื่อเขาเห็นดังนั้นก็เลยหยุดทำท่าล้อเลียนใส่เธอ แต่ลูกค้าสุดป่วนอีกคนกลับเดินมาตะโกนลั่นใส่หน้าเธอ พร้อมกับบอกว่าเขาจะเขวี้ยงมือถือของเธอออกไปไกลๆ เธอจึงตอบโต้ด้วยการบอกว่าหากมาแตะต้องตัวเธอนิดเดียวเธอจะแจ้งตำรวจ …
-
ประเด็นดราม่าหนัก หลัง “เฮอร์ไมโอนี่” กลายเป็นคนผิวสี ในแฮรี่ พ็อตเตอร์ภาค Cursed Child ?!
กลายเป็นประเด็นดราม่าไปซะอย่างนั้น สำหรับการประกาศตัวนักแสดงผู้รับบทเป็น “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” ใน แฮรี่ พ็อตเตอร์ภาคใหม่เวอร์ชั่นละครเวที เมื่อตัวละครที่มีคนชื่นชอบมาที่สุดตัวหนึ่งของเรื่อง กลายเป็นคนผิวสี สำหรับแฟนๆ แฮรี่ พ็อตเตอร์แล้ว หนึ่งในตัวละคนที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดในเรื่อง ก็คงจะหนีไม่พ้น “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” หนึ่งในสองตัวละครเพื่อนรักของ แฮรี่ พ็อตเตอร์ พระเอกของเรื่อง และเมื่อยิ่งได้ความสวยและน่ารักของ เอ็มม่า วัตสัน ผู้รับบทเฮอร์ไมโอนี่เวอร์ชั่นหนังโรง ทำให้ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่เป็นสาวสวยผิวขาวสุดน่ารัก กลายเป็นที่ติดตาของผู้คนไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ล่าสุด เกิดประเด็นดราม่าอย่างใหญ่หลวงเมื่อแฮรี่ พ็อตเตอร์ภาคใหม่ Harry Potter and the Cursed Child ซึ่งเป็นละครเวทีนั้น ได้เปลี่ยนตัวละคร เฮอร์ไมโอนี่ ให้เป็นคนผิวสี ซึ่งรับบทโดย Noma Dumezweni และทาง J.K Rowling ก็มีส่วนร่วมในการคัดเลือกตัวละครนี้ด้วยเช่นกัน โดยคอมเมนต์ในเว็บไซต์ Dailymail ได้ถกเถียงประเด็นนี้กันอย่างดุเดือด อย่างเช่นคอมเมนต์นี้ได้กล่าวว่า “ไม่ได้มีอคติกับคนผิวสีนะ แต่เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนขาวไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่หาคนที่เหมือนกว่านี้ล่ะ? ไม่เห็นเคยได้ยินว่ามีคนที่ตอนเด็กผิวขาว แล้วโตมาเป็นผิวสีเลย” แต่ก็มีอีกท่านมาคอมเมนต์ว่า ในเวอร์ชั่นหนังสือ ไม่เคยระบุสีผิวของเฮอร์ไมโอนี่ไว้นี่หน่า? เธอก็ตอบกลับไปว่า…
-
รวมทุกข่าวสาร-ข่าวลือ ประเด็นดราม่าหย่าร้างระหว่างป๋า Depp กับภรรยาสาว Amber!!!
สำหรับประเด็นร้อนของวงการบันเทิงในต่างประเทศที่มีคนติดตามมากที่สุดก็เห็นจะไม่พ้นเรื่องราวความสัมพันธ์ของ Johnny Depp ดาราหนุ่มขวัญใจคนทั่วโลกและภรรยาสาวของเขา Amber Heard อีกแล้วล่ะ ที่หย่ากันไปเรียบร้อย หลังอยู่กินกันเพียง 15 เดือนเท่านั้น!!! วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากพาเพื่อนๆ ไปเกาะติดสถานการณ์ของทั้งสองกันว่ามีประเด็นอะไรบ้าง ที่มาที่ไปจนทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าต่างๆ มากมายก่ายกอง รับรองว่าครบครันกันเลยล่ะ อิอิ ประเด็นที่ว่า Amber Heard นอกใจไปกิ๊กกับ Cara Delevingne นางแบบสาวชื่อดัง ก็เป็นที่รู้กันว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นมีความสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่แต่งงานกับ Johnny Depp ใหม่ๆ แล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 2014 ที่เฮียเดปป์ของเรากำลังถ่ายทำหนังเรื่อง Alice Through the Looking Glass ในกรุงลอนดอน พวกเธอก็มีข่าวปาร์ตี้กิ๊กกั๊กกันเป็นประจำ แถมช่วงนั้นครั้งหนึ่งก็มีข่าวด้วยล่ะว่า Johnny Depp ถึงกับฟิวส์ขาดและตะโกนใส่ภรรยาของเขาว่า “You’re making a fool of me!” หรือ ‘เธอทำให้ฉันดูเหมือนไอ้โง่เลย!’ หลักๆ แล้วเป็นเพราะป๋าเดปป์กลัวว่าทั้งคู่จะเป็นคู่เบี้ยนกันรึเปล่า? ด้วยเหตุนี้!? ทำให้ในตอนฟ้องศาล Amber Heard…
-
“รัตน Polycat” แจงดราม่าโดนล้อเทียบหน้าตากับ “เทพพิทักษ์ แอสละ” ย้ำเสียใจเพราะคนสนิท
กลายเป็นเรื่องฮอทในโซเชียลขณะนี้เลย สำหรับประเด็น รัตน วง Polycat ถูกนำหน้าไปเปรียบเทียบกับ เทพพิทักษ์ แอสละ จนเจ้าตัวทนไม่ได้เกิดเป็นดราม่าหลากหลายประเด็น ล่าสุดด้านนักร้องหนุ่มได้มีการออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแล้วเรียบร้อย สำหรับใครที่ไม่ได้ตามประเด็นนี้มาตั้งแต่ต้น #เหมียวฟิ้นจะขอย้อนความก่อนว่า เมื่อไม่นานมานี้มีแฟนคลับของวง Polycat คนหนึ่งได้นำภาพของ รัตน จันทร์ประสิทธิ์ นักร้องนำวง Polycat มาเปรียบเทียบกับหนุ่มเทพพิทักษ์ แอสละ ในลักษณะท่าทางเดียวกัน ทำให้เกิดความตลกขบขัน แต่เจ้าตัวกลับไม่พอใจที่มีคนนำภาพตัวเองไปเปรียบเทียบแบบนี้ จึงได้มีการโพสต์ข้อความตัดพ้อลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่กลับมีชาวเน็ตและเฟซบุ๊กเพจบางแห่งเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากคิดว่านักร้องหนุ่มเป็นคนเหยียดหน้าตา และทำตัวเหมือนแตะต้องไม่ได้ จนเกิดเป็นสงครามการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ขึ้น ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันที่ 29 พฤษภาคม ทางเฟซบุ๊กของนักร้องดัง Rattana Mrcandy Chanprasit ก็ได้ออกมาชี้แจงกรณีดราม่าต่างๆ ความเสียใจส่วนตัวที่มีต่อเพื่อน คนรอบข้างและแฟนคลับที่สนิทกัน พร้อมกับย้ำชัดว่าไม่ได้ตั้งใจเหยียดหน้าตาของเทพพิทักษ์ เพียงแต่ไม่อยากถูกล้อและกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนอื่น อ่านข้อความทั้งหมดของเขาทั้งหมดได้ที่นี่เลย . . . จากข้อความเหล่านี้ก็น่าจะตอบคำถามที่คาใจของทุกๆ คนได้แล้วนะ อันที่จริงแล้วคงไม่มีใครชอบการถูกล้อหรือกลายเป็นตัวตลกของคนอื่นหรอก บางคนอาจจะรับได้ บางคนอาจจะรับไม่ได้ อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่เราต้องเคารพน่ะนะ…
-
ดราม่าสาวกเครื่องสำอาง หลังพนักงานขายตั้งกระทู้โวย ลูกค้าลองแล้วไม่ซื้อ มันเซงนะ!?
บ่อยครั้งที่สาวๆ มักจะเข้าไปตามร้านขายเครื่องสำอางเพื่อทดลองแต่งหน้า และตามหาผลิตภัณฑ์ที่ตนเองต้องการ แต่งต้องยอมรับว่าบางครั้งเครื่องสำอางบางอย่างก็ไม่ถูกใจเราเสียทีเดียว จนต้องเดินออกนอกร้านไปอย่างน่าเสียดาย แต่นั่นกลับทำให้พนักงานขายบางคนไม่พอใจจนต้องเข้ามาระบายผ่านเว็บไซต์พันทิปเลยก็มีนะ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 3132898 ได้เข้ามาตั้งกระทู้ สาวกเครื่องสำอาง โปรดฟัง รักทุกคนที่มีสติ โดยภายในกระทู้มีเนื้อหาที่ต่อว่าลูกค้าบางกลุ่มที่เข้ามาทดลองเครื่องสำอาง ลองแต่งหน้า หรือสอบถามข้อมูล แต่กลับไม่ซื้อสินค้าและออกไปซื้อกับร้านอื่นๆ หรือร้านค้าออนไลน์แทน อ่านเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ได้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าการบริการทั้งหมดขึ้นอยู่กับธุรกิจ ลองกับร้านไหนก็ควรจะซื้อกับร้านนั้น วอนลูกค้าเข้าใจพนักงานขายด้วย หลังจากที่กระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกไป สมาชิกในพันทิปก็เริ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็นและถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอย่างหลากหลายทีเดียว เช่น “ที่ชอบซื้อของในเน็ต เพราะกลัวเจอพนักงานแบบคุณ” “ถ้าคุณเก่งพอ คงพูดเชิญชวนให้คนซื้อได้ มีการโทษลูกค้าว่าทำให้ตัวเองไม่ค่อยสนใจลูกค้า ต่อให้มีให้คนมาลองแต่ไม่ซื้อ คุณคือผู้ให้บริการ ตามหน้าที่แล้วควรสนใจลูกค้าเสมอค่ะ” “ใช่แล้วค่ะ ยิ่งเจอพนง. กากๆ ด้วยนะ จะลองและถามมันทุกตัวเลยค่ะ” ในกรณีนี้#เหมียวฟิ้นแยกออกเป็น 2 ประเด็นนะ 1. ลูกค้าควรมีสิทธิ์ในการทดลองใช้หรือแต่งหน้าตามเค้าเตอร์เครื่องสำอางได้ ตราบใดที่มีตัวเทสเตอร์ให้ทดลองใช้ ลูกค้าจะได้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะเครื่องสำอางแต่ละชิ้นก็มีราคาค่อนข้างแพง (แต่ต้องลองแบบมีมารยาทหน่อยนะ) 2. ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าก็ได้ หากสินค้านั้นไม่ถูกใจจริงๆ…
-
ชาวเกย์ ออกมาติงรายการ Take Guy Out ทำให้คนอื่นมอง ‘เพศที่ 3’ เป็นตัวตลก!!?
เปิดตัวกันมาได้ 3 ตอนแล้ว สำหรับรายการ Take Guy Out รายการน้องใหม่ของช่อง Line TV ที่ปรับเปลี่ยรูปแบบรายการจาก Take Me Out ซึ่งจากเดิมหญิงเลือกชายหรือชายเลือกหญิง มาเป็นการเลือกแบบชายเลือกชายแทน แต่ในตอนที่ 3 ของรายการที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม รู้สึกว่าจะมีปัญหาสักเล็กน้อย เมื่อผู้เข้าร่วมรายการเลือกคู่เดทเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ได้เข้าไปทำกิจกรรมกันภายในห้องเดท โดยกติกามีอยู่ว่าทั้งคู่จะต้องนำลูกโป่งมาวางไว้ที่หน้าอกแล้วกอดกันเพื่อบีบลูกโป่งให้แตก หากทำแล้วไม่แตกต้องผลัดกันป้อนกล้วยให้อีกฝ่าย สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่สามารถบีบลูกโป่งจนแตกได้ จึงต้องป้อนกล้วยให้อีกฝ่ายกิน แค่เห็นภาพ#เหมียวฟิ้นก็สะท้านไปทั้งตัวแล้วย่ะ หลังจากที่รายการ Take Guy Out ตอนล่าสุดออกอากาศไป ก็ทำให้ชาวเพศที่ 3 หลายๆ คนเกิดความไม่พอใจ เพราะแทนที่รูปแบบรายการจะเป็นการพาไปเดท กินข้าว หรือทำอะไรน่ารักๆ เหมือนกับรายการ Take Me Out แบบปกติ แต่กลับกลายเป็นการนำเพศที่ 3 มาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกขบขันไปซะอย่างงั้น!? …
-
ประเด็นร้อนๆ ดราม่าพาลูกไปกินข้าว โดนร้านอาหารไล่เพราะเด็กชิ้งฉ่อง-อ้วกในร้าน
เมื่อพูดถึงการไปทานอาหารนอกบ้าน ลูกค้าทั้งหลายก็ย่อมต้องนึกถึงคุณภาพของร้านและการบริการที่ดีจากทางร้านเพื่อให้เหมาะสมกับเงินที่เสียไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเสียเงินแล้วลูกค้าจะสามารถทำอะไรในร้านก็ได้… อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… เรื่องมีอยู่ว่ามีกลุ่มเน็ตไอดอลกลุ่มหนึ่งไปใช้บริการที่ร้านอาหาร และจู่ๆ เจ้าของร้านก็ไล่ให้เช็คบิลออกไปหน้าตาเฉยเลย ทั้งๆ ที่พวกเธอยังทานอาหารไม่เสร็จ ซึ่งขณะนั้นพวกเธอก็ได้ทำการอัดวิดีโอถ่ายทอดสด หรือเฟสบุ๊คไลฟ์ ไปด้วย แต่จริงๆ แล้วมันมีสาเหตุมาจากว่าพวกเธอพาลูกไปที่ร้านอาหารด้วย และเด็กส่งเสียงดังมาก วิ่งเล่นไปทั่วร้าน และที่สำคัญเด็กน้อยเหล่านั้นก็ได้ทำการทิ้งตอปิโดไว้เป็นกองที่พื้นร้าน แถมยังอ้วกเรี่ยราดอีกด้วย จากการที่เจ้าของร้านไล่ให้เหล่าเน็ตไอดอลทั้งหลายเช็คบิลออกไปจากร้าน พวกเธอก็แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้มีปากเสียงกับทางเจ้าของร้านพร้อมกับตำหนิทางร้านให้กับคนที่ชมเฟสบุ๊คไลฟ์รัวๆ แถมเข้าไปรีวิวให้ทางร้านอีกด้วย… ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันที่ข้างล่างนี้ได้เลย.. หลังจากที่เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิ…แต่ไม่ได้ตำหนิทางร้านนะ กรุ๊ปเน็ตไอดอลโดนไปเต็มๆ!! . . . . . เพิ่มเติม ล่าสุดทางฝ่ายเน็ตไอดอลก็ได้ออกมาทำการขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว . แล้วชาวเหมียวมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องนี้ เชิญคอมเม้นท์กันเข้ามาได้เลยนะจ้าา ที่มา : เรื่องเหล้าเช้านี้
-
ชาวเน็ตร่วมตีแผ่เบื้องหลังชีวิต ‘เด็กพิเศษ’ ในสังคมไทย…. มันอยู่ไม่ง่ายเลย
จากกระแสคลิปเด็กพิเศษที่ถูกกลุ่มเด็กนักเรียนใจบาปรุมแกล้งนั้น ทำให้ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง แต่ความคิดเห็นส่วนใหญ่นั้นทำให้เรารู้ว่ายังมีเรื่องราวทำนองนี้อีกมาก แต่เพียงแค่ว่ายังไม่เคยถูกนำมาบอกต่อก็เท่านั้นเอง สืบเนื่องมาจากคลิปนี้… ลองไปชมการแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายที่มาแชร์ประสบการณ์กัน… . . . . ลองมาชมความเห็นของชาวเน็ตในเรื่องอื่นกันบ้าง แน่นอนว่าความเห็นส่วนใหญ่ออกไปในทิศทางตำหนิและด่าทอการกระทำของเหล่าเด็กที่สวมใส่ชุดนักเรียน และบางส่วนก็ตำหนิทางโรงเรียนว่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? . บางส่วนก็ออกมาเตือนสติชาวเน็ตทั้งหลายว่าสิ่งที่ควรทำไม่ใช่การรุมด่าเด็ก แต่ควรคิดหาวิธีแก้ปัญหาทำอย่างไรให้พวกเขาเข้าใจและรู้จักเห็นใจเด็กพิเศษมากกว่า จะเห็นได้ว่ายังมีเรื่องราวอีกมากมายของเหล่าเด็กพิเศษที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก จากการถูกกลั่นแกล้งของเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ยังไม่ถูกเล่าออกมา แล้วเพื่อนๆ คิดว่าเราควรมีวิธีในการแก้ปัญหานี้อย่างไรดี หรือมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : NN BB, Social News, kapook
-
ดราม่าหนัก!! ‘Calvin Klein’ โพสท์รูปโฆษณาถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว โดนชาวเน็ตจวกเละ!!
เป็นเรื่องราวดราม่ากันใหญ่โตในโซเชียลของต่างประเทศ เมื่อแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำอย่าง Calvin Klein ได้ทำการอัพรูปภาพโปรโมทโฆษณาชุดใหม่สำหรับฤดูใบไม้ผลิผ่านทาง Instagram ที่เป็นภาพถ่ายช้อนใต้กระโปรงของผู้หญิง พร้อมกับใส่แคปชั่นวาบหวิว “I flash in #mycalvins” (ฉันโชว์โป๊ใน #mycalvins) Take a peek: @karate_katia, photographed by @harleyweir for the Spring 2016 advertising campaign. #mycalvins รูปภาพที่โพสต์โดย Calvin Klein (@calvinklein) เมื่อ พ.ค. 9, 2016 เวลา 3:45pm PDT นางแบบคนนี้ชื่อว่า Klara Kristin ซึ่งเธอเคยร่วมงานกับแบรนด์ Calvin Klein มาหลายครั้งแล้ว ลองไปดูภาพโฆษณาชุดเก่าๆ ของเธอกัน… แต่ภาพโฆษณาล่าสุดนั้นมันดูจะล้ำเกินไปหน่อย ทำให้ชาวเน็ตต่างก็ออกมาวิจารณ์ในแง่ลบอย่างล้นหลาม ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ชื่นชอบการถูกถ่ายใต้กระโปรง น่าสมเพชมากที่ทำโฆษณาชิ้นนี้ออกมา!! บ้างก็บอกว่าถึงแม้ว่านางแบบโฆษณาจะมีอายุมากกว่า…
-
ศิลปินแห่งชาติยก “กินข้าว” คือคำที่ถูก ส่วน “ทานข้าว” คือคำที่ผิด แบบไหนล่ะที่ถูกต้อง?
กลายเป็นดราม่าสนั่นข้ามวันกันเลยทีเดียว สำหรับประเด็นที่กำลังถกเถียงอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ว่าระหว่างคำว่า “ทานข้าว” กับ “กินข้าว” คำไหนคือคำที่ถูกต้องและสุภาพกันแน่? เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนชื่อดังและศิลปินแห่งชาติได้โพสต์ข้อความบอกว่าคำว่า “ทานข้าว” ถือเป็นคำที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้กันแบบผิดๆ เพราะเนื่องจากคำว่า “ทาน” แปลว่า “ให้” ไม่ได้แปลว่า “กิน” พร้อมกันนี้ยังมีข้อความระบุอีกว่า “ยิ่งทานข้าว ยิ่งหิว เพราะไม่มีข้าวตกถึงท้อง ให้คนอื่นหมด อยากหายหิว ให้กินข้าว ทาน แปลว่า ให้ ไม่ใช่กิน! ลองถามขอทานว่าอยากได้ข้าวหรือเงิน เขาจะตอบว่าเงิน เพราะชื่อของเขาคือ ขอทาน ไม่ใช่ ขอกิน! เข้าใจตรงกันแล้วนะ!” หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความเห็นเข้ามาอย่างมากมายเช่น บางความเห็นบอกว่าความหมายของคำอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ถูกในวันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกในอนาคต ส่วนบางความเห็นยกคำว่า “กู” กับ “มึง” ขึ้นมาเปรียบเทียบว่าในยุคหนึ่งคำเหล่านี้เป็นคำที่ใช้กันเป็นปกติ แต่หากนำมาพูดในยุคปัจจุบันกับคนที่ไม่สนิท อาจมีเรื่องกันได้…
-
ดราม่าประเด็น “ขุนช้างขุนแผน” เนื้อหาไม่เหมาะสม ทำไมเอามาสอนเด็กนักเรียน!?
เชื่อว่าเด็กไทยที่ผ่านการศึกษาภาคบังคับมา ต้องเคยเรียนวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” อย่างแน่นอน เพราะวรรณคดีเรื่องนี้ ถูกบรรจุลงในหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย โดยเรื่องราวของ “ขุนช้างขุนแผน” จะเล่าถึงรักสามเส้าของตัวละครเอกสามตัว ได้แก่ พลายแก้ว ขุนช้าง และนางวันทอง ซึ่งในเรื่องจะมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างขุนช้างขุนแผน การต่อสู้แย่งชิงนางวันทอง รวมถึงการที่ขุนแผน ฆ่าภรรยาตนเองเพื่อนำมาทำเป็นกุมารทอง และอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชาวพันทิปชื่อว่า “สมาชิกหมายเลข 3118267” ตั้งกระทู้ “ทำไมวรรณคดีเนื้อหาสกปรกอย่างขุนช้างขุนแผน ถึงได้ถูกนำไปบรรจุในตำราเรียนของนักเรียนครับ” จนกลายเป็นที่ถกเถียงและมีการแชร์กว่าพันครั้งในช่วงหนึ่งวันที่ผ่านมา โดยเนื้อหาในกระทู้เขียนว่า “ขอไม่พูดถึงความสวยงามทางภาษานะครับ พูดถึงเนื้อหาล้วนๆ พระเอกกับตัวร้ายในชื่อเรื่องคือทั้งขุนช้างและขุนแผน จิตใจสกปรกหยาบช้า คิดแต่จะแย่งผู้หญิง คิดแผนสกปรกทำลายฝ่ายตรงข้าม ต้วพระเอกอย่างขุนแผน หลงไหลในไสยศาสตร์ ยอมฆ่าหนึ่งในเมียของตัวเองเพื่อบรรลุสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้าชู้ไข่ไปทั่ว เจอใครถูกใจก็จับทำเมียหมด การเอาคนแบบนี้มาใส่ในแบบเรียน มันทำให้เรื่องที่ขุนแผนทำ ถูกฝังลงในทัศนคติเด็กไทยว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย โดยเฉพาะการเป็นตัวเอกของวรรณคดี ทำให้เด็กหลายคนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม หรือขุนช้าง ที่คิดแต่จะทำยังไงให้ได้ผู้หญิงคนนั้นมา อาศัยว่าบ้านรวยทำได้ทุกอย่าง ผมรู้สึกว่าเนื้อหาในวรรณคดีเรื่องนี้ มีประโยชน์แค่ได้ศึกษาวิถีชีวิตของคนโบราณแต่เนื้อหาโดยรวมสกปรกมาก เหมาะหรอครับที่จะเอาไปใส่ให้เด็กอายุน้อยๆ ที่ยังใช้วิจารณญาณของตัวเองได้ไม่เต็มที่ ได้มาศึกษา ผมไม่สนนะว่าใครจะแต่ง แต่วรรณคดีแบบนี้ เอาไว้ให้ผู้ใหญ่อ่านก็พอ เอาออกจากตำราเรียนไปเถอะ”…
-
ดราม่าสนั่น เมื่อหนุ่มเรียก Grab Bike มารับ แต่เจอวินเจ้าถิ่นตามมาดึงกุญแจออกซะงั้น!?
ดราม่าสนั่นเลยทีเดียว เพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aof Theinhiran ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของคนขับวินมอเตอร์ไซค์ 2 รายที่บริเวณหน้าหอพัก CU i-house จุฬาซอย 9 ที่กำลังยืนถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน เจ้าตัวได้เล่าว่าตนเองกำลังจะออกจาหอพัก แต่บริเวณหน้าหอพักไม่มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่เลยสักคน ทำให้ต้องเรียก Grab Bike มารับ แต่เมื่อคนขับมาถึง กลับมีวินมอเตอร์ไซค์เจ้าถิ่นขับตามมาแล้วดึงเอากุญแจมอเตอร์ไซค์ของคนขับ Grab Bike ออกไปต่อหน้าต่อตา เจ้าตัวเลยอธิบายกับคนขับวินมอเตอร์ไซค์ให้เข้าใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมฟังและยังไม่ยอมคืนกุญแจให้คนขับ Grab Bike แม้ว่าฝั่งนั้นจะบอกว่า “ผมไม่รับก็ได้” จากนั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็สวนกลับไปว่า “จะเอาไหม?” ต่อมาได้มีวินมอเตอร์ไซค์อีดคนเข้ามาอธิบายว่าเหตุใด Grab Bike ถึงไม่สามารถมารับลูกค้าในบริเวณที่มีวินประจำอยู่ได้ แต่กลับเกิดการขึ้นเสียงใส่กันจนวินมอเตอร์ไซค์ทนไม่ไหวบอกว่า “น้องอย่าโวยวายกับพี่” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เหตุเกิดที่หน้าหอพัก CU i-house จุฬาซอย9 ปกติข้างหน้าหอจะมีวินอยู่ แต่วันนี้ไม่มีใครที่วินเลย เลยเรียกใช้บริการ grab bike พอ…
-
ประเด็นน่าคิด!! ชาวเน็ตเซ็ง หลานชายถูกสุนัขรุมกัด แต่เอาผิดใครไม่ได้… หรือว่าปัจจุบันหมาสำคัญกว่าเด็กไปแล้ว!?
เมื่อพูดถึง พรบ. คุ้มครองสัตว์ที่เพิ่งออกมาเมื่อช่วงปีที่ผ่านมานี้ เพื่อบังคับใช้ปกป้องเหล่าสุนัข แมว รวมถึงสัตว์อื่นๆ จากกการถูกทำร้าย แต่ก็ไม่วายมีคนอีกกลุ่มที่ออกมาตั้งคำถามถึงเหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลาย ว่าจริงๆ แล้วก็ยังมีคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสัตว์พวกนี้เหมือนกัน อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า Pun Sirikwan ได้ทำการโพสท์รูปภาพและข้อความว่าหลานชายของตนถูกสุนัข 2 ตัวรุมกัด ได้รับบาดแผลกว่า 20 จุด พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “หลานจะไปซื้อขนมโดนสุนัข 2ตัวรุมกัดหลาน 20 กว่าเขี้ยว จะเอาผิดเจ้าของก็ปฏิเสธไม่ใช่หมาตัวเอง คั้นจะฆ่าหมาให้ตายก็กลัวพ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ สรุปกฎหมายคุ้มครองหมาเจ้าของปฏิเสธเด็กโดนกัดฟรีไป …. หรือว่าปัจจุบันหมาสำคัญกว่าเด็กไปแล้ว” หลังจากที่โพสท์ไปไม่นานก็ทำให้มีชาวเน็ตออกมาให้ความคิดเห็นมากมาย โดยแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือกลุ่มคนรักสุนัข และกลุ่มคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสุนัข ทางด้านฝั่งที่ได้รับความเดือดร้อนก็ออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐบาลช่วยออกกฎหมายเอาผิดเจ้าของสุนัขด้วย จะได้มอบความเป็นธรรมให้กับผู้เคราะห์ร้าย อย่างไรก็ตาม มาฟังความเห็นจากอีกฝ่ายบ้าง… ฝั่งคนรักสุนัขก็ออกมาชี้แจงว่า ไม่อยากให้โจมตีพรบ. คุ้มครองสัตว์ เพราะมันคนละประเด็นกัน พร้อมกับแนะว่าใหากเพื่อนบ้านไม่ยอมรับผิดก็ให้นำบุคคลอื่นๆ มาเป็นพยานยืนยัน หรือหากเป็นสุนัขจรจัดจริงก็ให้เทศบาลมาจัดการ ไม่ใช่โทษว่าเป็นเพราะกฎหมายจึงเจ็บตัวฟรี …
-
คลิปอีกมุมเหตุการณ์ป้าโวยมือถือพัง ที่จริงมันเกินประกัน 7 วัน แต่ป้าจะขอเครื่องใหม่!?
จากเหตุการณ์ที่#เหมียวฟิ้นได้รายงานไปเมื่อช่วงเช้า เกี่ยวกับเหตุการณ์ของคุณป้ารายหนึ่งที่ออกมาโวยตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและศูนย์ของ Samsung ที่ไม่ยอมเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้กับเธอ แถมยังโดนพนักงานยกเก้าอี้ขึ้นมาขู่ ล่าสุดมีคลิปอีกมุมหนึ่งออกมาให้ชมกันแล้ว เมื่อช่วงสายของวันที่ 7 พฤษภาคม ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tety Punpeerawong ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโออีกด้านหนึ่งของเหตุการณ์คุณป้าโวยร้านมือถือ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเธอบอกว่าคุณป้ารายนี้ซื้อมือถือไปตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน แต่เอากลับมาเคลมอีกทีวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งเกินระยะเวลา 7 วันที่ทางร้านรับประกันไว้แล้ว จึงไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ได้ คุณ Tety Punpeerawong ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า “เกิน 7 วัน จะเอาเครื่องใหม่..ใช่เหรอ แล้วดูกิริยามารยาท โดยพนักงานยังพูดจาดีๆ อยู่ พยายามชี้แจงแต่ดูอาการลูกค้าแล้ว” “คลิปที่ป้าแกแชร์นั่นคือวันที่ 2 หลังจากไปศูนย์ซ่อมมาแล้ว ศูนย์จะซ่อมให้ แต่ตัวป้าแกไม่ยอม จะให้ศูนย์ออกใบเคลมเครื่องใหม่ให้ ซึ่งศูนย์ซ่อมออกให้ไม่ได้ (เพราะเกินกำหนด 7 วัน) ตามกฏคือต้องส่งซ่อมเท่านั้น ตัวลูกค้าไม่ต้องการซ่อมแต่จะเอาเครื่องใหม่ ซึ่งร้านค้าไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ (เกินกำหนดแล้ว) จึงเกิดเหตุการณ์ตามที่แชร์ๆกัน” …
-
ลูกค้าโวยลั่น เหตุซื้อมือถือแล้วพังทั้งศูนย์ทั้งตัวแทนไม่รับผิดชอบ แถมพนักงานจะทำร้ายร่างกาย!?
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปของคุณป้ารายหนึ่งที่ซื้อมือถือยี่ห้อ Samsung จากตัวแทนจำหน่าย CSC แต่มือถือมีปัญหาจนต้องนำมาให้ทางร้านดู ทางร้านจึงบอกให้นำมือถือไปให้กับศูนย์ Samsung ดู แต่เรื่องกลับไม่จบซะงั้น!? เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ To Kewy เป็นคลิปวิดีโอที่เจ้าตัวได้ยืนโวยวายอยู่ที่กลางร้านขายมือถือ CSC สาขาโลตัสศาลายา เนื่องจากซื้อมือถือไปในราคาหมื่นกว่าบาทแต่ใช้การไม่ได้ ทั้งนี้คุณป้าได้กล่าวไว้ในคลิปวิดีโอว่าทางศูนย์ Samsung ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ และบอกให้กลับมาเคลมกับตัวแทนจำหน่าย แต่ทางตัวแทนจำหน่ายก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ เช่นกัน ทำให้เธอทนไม่ได้ต้องมาโวยวายกลางร้านมือถือ เพื่อให้ทุกคนได้ยินกันไปเลย แต่เรื่องกลับดุเดือดขึ้น เมื่อมีพนักงานหนุ่มรายหนึ่งเดินเข้ามาหาคุณป้า พร้อมกับหยิบเก้าอี้พลาสติกสีแดงเข้ามาทำท่าเหมือนจะฟาดใส่ พร้อมกับบอกว่า “พี่ไม่ต้องโวยวายครับ! ไม่ต้องโวยวาย!” แต่คุณป้าใจสู้แล้วตอบกลับว่า “ลองตีดิ” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของโลกโซเชียลในขณะนี้เลย ชมคลิปอารมณ์เดือดได้ที่ด้านล่างเลย ซื้อที่. ชอป CsC ชั้นสองโลตัสศาลายา โพสต์โดย To Kewy บน 6 พฤษภาคม 2016 ในขณะที่ทางเพจ Samsung…
-
ลูกค้าถึงกับงง!! เข้าไปรีวิวให้คะแนนโรงแรมถึง 8.8 คะแนน ถูกเจ้าของส่งข้อความมาเหน็บซะงั้น!?
เพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยใช้บริการเว็บไซต์ Booking.com กันมาบ้างแล้ว เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับการจองที่พัก ทัวร์ หรือบริการต่างๆ นาๆ รวมไปถึงการให้คะแนนรีวิวเพื่อช่วยให้การตัดสินใจเลือกการใช้บริการจากโรมแรมหรือทัวร์ต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ผ่านมาก็ได้มีกระแสดราม่า เนื่องจากว่ามีชาวเน็ตคนหนึ่งได้เข้าไปใช้บริการโรงแรมแห่งหนึ่งที่ภูเก็ตผ่านการจองจากเว็บไซต์ Booking นี่แหละ หลังจากที่ได้เข้าพักเสร็จสรรพและเช็คเอ้าท์ออกแล้ว เธอก็ได้เข้าไปรีวิวให้กับทางโรงแรม เรื่องราวดราม่าจึงเกิดขึ้น!! ทางโรงแรมกลับส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ของลูกค้าในเชิงเหน็บแนม ทางด้านลูกค้าก็เลยนำเรื่องราวมาเล่าให้กับชาวเน็ตทั้งหลายฟังโดยตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป ชื่อกระทู้ว่า ‘โดนเจ้าของโรงแรมส่งข้อความมาหลังจากให้คะแนนใน booking’ ส่วนเนื้อหาของกระทู้ #เหมียวหง่าว ขอทำการโคว้ทเนื้อหามาเลยก็แล้วกันนะ เพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลนะจ้า… “ขอสอบถามค่ะ คือเราไปพักรร.ที่ภูเก็ตแถวๆสนามบินเพื่อที่จะได้ขึ้นเครื่องกลับสะดวก วันนี้เราได้ rate ความพึงพอใจไปใน booking.com เราได้ให้คะแนนไป 8.8/10 เนื่องจาก wifi มันหลุดบ่อยและน้ำไม่ไหลโดยโรงแรมบอกว่าปัญหาภัยแล้งจึงต้องเปิด-ปิดน้ำเป็นเวลา ซึ่งวันนี้เราได้เราข้อความที่ส่งมาจากเบอร์เจ้าของโรงแรม เราอ่านดูเรารู้สึกไม่ค่อยโอเท่าไร เราสามารถทำอะไรได้บ้างคะ” “ปล. ที่เค้าบอกรถรับส่ง2ครั้งและ late check out ซึ่งก่อนเราจะจองเราได้ดูใน genius deal แล้วค่ะ ส่วน late check out…
-
นักอนุรักษ์ชี้ พระปล่อยปลาดุกลงแม่น้ำไม่ใช่เรื่องดี เพราะอาจทำลายระบบนิเวศได้
เป็นประเด็นดราม่าให้ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้เลย สำหรับภาพพระดังรูปหนึ่งที่โพสต์ภาพบอกว่าตนเองได้ไปปล่อยปลากว่า 700 ตัว ลงในแม่น้ำ แต่กลับมีเพจนักอนุรักษ์ออกมาโต้ว่าการปล่อยปลาแบบผิดๆ อาจเป็นการทำลายระบบนิเวศได้!? เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา พระชื่อได้ได้โพสต์ภาพปล่อยปลาลงในแม่น้ำ พร้อมกับข้อความว่า “1/5/59 พระอาจารย์ปล่อยปลาอีกครั้งที่ 700 ขอให้ได้บุญด้วยกันเท่ากันทุกประการเทอญ ขอให้พ้นภัยแข็งแรงร่ำรวยตลอดไปเทอญ” ต่อมาเพจคนอนุรักษ์ได้ชี้แจงว่าการปล่อยปลาจำนวนมากลงน้ำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากปลาที่ปล่อยนั้นเป็นปลาดุกรัสเซีย เป็นปลาต่างถิ่นที่กินเนื้อเป็นอาหาร อาจจะทำให้ปลาเล็กปลาน้อยในน้ำถูกกินจนหมด พร้อมกับแนะว่าหากอยากปล่อยปลาควรจะเป็นปลาในท้องถิ่นเท่านั้น จะปล่อยนกปล่อยปลาอะไรก็ศึกษากันสักนิดละกันนะ เพราะแทนที่จะได้บุญกลับได้บาปมาซะงั้น ที่มา คนอนุรักษ์
-
นักปั่นโพสต์แฉ พ่อค้าแม่ค้าตั้งรถเข็นขายของทับเลนจักรยาน ชี้หน่วยไม่เห็นหรือ?
นับว่าเป็นปัญหาเรื้อรังจริงๆ สำหรับปัญหาเลนจักรยานถูกนำไปใช้เป็นที่จอดรถและเลนขายของข้างถนน ล่าสุด ได้มีชาวเน็ตหลายๆ รายออกมาโวยกันว่าตอนนี้มีเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามาจับจองพื้นที่เลนจักรยานเพื่อใช้ขายของกันอย่างมากมาย เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โป้ง พาหลง ได้โพสต์ภาพเลนจักรยานที่เต็มไปด้วยรถเข็นขายของ พร้อมกับข้อความว่า “ถ้าทำแล้วผิดวัตถุประสงค์จะทำหาอะไรครับ งบประมาณมากมายทำเสร็จให้ขายของกันหน้าตาเฉย เทศกิจไม่เห็นเหรอครับหรืออะไรบังตาครับ” ทั้งนี้ไบค์เลนหรือเลนจักรยานถูกสร้างและพัฒนามาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 โดยทางกทม.พยายามผลักดันให้พื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์กลายเป็นเมืองจักรยาน โดยการทาสีเขียวลงบนถนนและหมีการกั้นถนนเพื่อความปลอดภัย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวสองล้อหลายๆ คนถึงดับเดือดดาลทีเดียว เพราะเลนเหล่านี้ถูกทำขึ้นมาใหม่เพื่อให้นักปั่นได้ปั่นอย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่วายถูกใช้เป็นที่จอดรถอีก ในขณะเดียวกันก็มีความเห็นอีกมุมมองหนึ่งมองว่าเลนจักรยานที่ทำขึ้นในย่านนี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เพราะถนนมีความแคบไม่กว้างพอจะให้ขยายถนนเท่าที่ควร เหล่านักปั่นก็ฝันอยากจะปั่นได้แบบสบายใจเหมือนต่างประเทศ แถมมันยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย แต่อย่างที่เห็นกันว่าบ้านเมืองเราไม่ได้ถูกออกแบบมมาเพื่อจักรยานตั้งแต่แรก เลยมีความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย งานนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขปัญหายังไงบ้างน้า ที่มา Sirin Vasapong , Black Hat , โป้ง พาหลง
-
ชาวเน็ตงง!! เซตแก้วน้ำหน้าโรงหนังขายเกลี้ยงตั้งแต่วันแรก จู่ๆ โผล่ร้านขายออนไลน์แถมราคาแพงขึ้น
เพื่อนๆ หลายคนที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ ก็มักจะซื้อชุดสะสมของภาพยนตร์เรื่องที่ตนเองชื่นชอบเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ถังป็อปคอร์น หรือฟิกเกอร์ต่างๆ ที่ทางโรงภาพยนตร์เอาออกมาขาย จนทำให้มีคนถึงกับไปเหมาที่หน้าโรงแล้วเอาเฉพาะแก้วและถังป็อปคอร์นไปขายต่อในราคาที่สูงกว่า กลายเป็นธุรกิจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว… เรื่องมีอยู่ว่าชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิปชื่อ Schneiderlin28 ได้ตั้งกระทู้ว่า ‘แก้วน้ำโรงหนังกลายเป็นสินค้าทางธุรกิจไปเรียบร้อย’ พร้อมกับแนบรูปภาพสินค้าที่ทางร้านค้าออนไลน์ได้โพสท์มาไว้ด้วย และกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า… (#เหมียวหง่าว ขอโคว้ทคำพูดมาเลยละกันนะ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเนื้อหาของกระทู้) “มันไม่ได้หมดเร็วเพราะขายดีขนาดนั้นหรอก ก็ยอมรับว่าคนต้องการเยอะ แต่ที่ของมันหมดเร็วขนาดนี้ก็คงเพราะมีคนเหมาไปอัพราคาขาย ซึ่งมันก็กลายเป็นธุรกิจไปแล้ว คนที่อยากได้จริงๆไม่มีสิทธิได้ซื้อ หรืออาจจะต้องซื้อในราคาที่แพงกว่า อันนี้ก็อยู่ที่คน เงินใครเงินมัน แต่มาทำแบบนี้มันดูเอาเปรียบคนอื่นไปนะบางที ต้องการเงินมากขนาดต้องทำแบบนี้เลยหรอ? *ชุดIcon Heroในภาพราคาอยู่ที่ชุดละ300บาท แต่ถ้าซื้อ2แก้ว+ถังpopcorn ราคาจะเหลือแค่เพียง 400 เท่านั้น แต่ก็อย่างว่าแหละเงินใครเงินมัน ซื้ออะไรก็ซื้อ มันอยู่ที่จิตใจมากกว่า” ก็ทำให้มีผู้คนสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย… ส่วนใหญ่ก็พุ่งเป้าไปที่คนใน บ้างก็ออกมาแซวขำๆ บางส่วนก็แนะวิธีแก้ไขให้กับทางโรงหนัง ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วชาวเหมียวของเราล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ก็เชิญคอมเม้นท์กันได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : Schneiderlin28
-
สะเทือนใจ คุณแม่อัพเดทอาการ “น้องการ์ตูน” เหยื่อถูกรถชน ล่าสุดตาบอดสนิทแล้ว
หากใครยังจำกันได้ เมื่อประมาณปลายปี 2557 มีข่าวอุบัติเหตุหญิงสาวขับรถพุ่งชนร้านสเต็กแห่งหนึ่ง จนเป็นเหตุให้เจ้าของร้านเสียชีวิตและลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นปี ล่าสุด#เหมียวฟิ้นมีความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของเธอมารายงานล่ะ อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายนปี 2557 โดย น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ได้ขับรถกระบะพุ่งชนร้านสเต๊กลุงใหญ่ ปากซอยเอกชัย 119 จนทำให้นายภานุทัต ชำนิ (ผู้เป็นพ่อ) เสียชีวิต และน้องการ์ตูนวัย 5 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สมอง ต่อมาในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ศาลอาญาธนบุรี ได้มีคำพิพากษาออกมาให้น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ผู้ก่อเหตุต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวชำนิเป็นจำนวน 10 ล้าน 7 แสนบาท และมีโทษจำคุกอีก 1 ปี ล่าสุดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 พฤษภาคม คุณศรัญญา ชำนิ คุณแม่ของน้องการ์ตูนได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother’s Grill Steak House “ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ” บอกว่าเมื่อวันที่ 30 เมษายนได้พาน้องการ์ตูนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมา…
-
ปรี๊ด!! เด็กแว้นโพสต์ด่าเหล่าเกมเมอร์ “เอาแต่ขอตังพ่อแม่ไปเติมเกม” เจอสวนกลับรัวๆ
กลายเป็นดราม่าร้อนๆ อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีที่มีเด็กแว้นรายหนึ่งโพสต์ข้อความต่อว่าเหล่าเกมเมอร์ว่าเอาแต่ขอเงินพ่อแม่มาเตอมเกม ในขณะที่พวกตนทำงานหาเงินแล้วมาแว้น งานนี้เลยเกิดการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนเลยทีเดียว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 เมษายนทีผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Super-rich | Game console lover’s Shop ได้โพสต์ภาพข้อความของเด็กแว้นรายหนึ่งโดยมีข้อความว่า “ถึงกูจะแว้น แต่กูก็ทำงานว่ะ ไม่เหมือนพวกติดเกมเล่นทั้งวัน อะไรก็ขอตังค์พ่อแม่ไปเติมเกม” “กูทำงานเสร็จกูก็ขับรถเล่น ก็ยังดีกว่ามึงที่เล่นแต่เกมทั้งวี่ทั้งวัน #โลกมึงมันสวนเกินไป” แน่นอนว่าการที่เด็กแว้นออกมาต่อว่าเหล่าคนเล่นเกมหรือเกมเมอร์ขนาดนี้ ย่อมทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กลับมาอย่างแน่นอน โดยหลายๆ ความเห็นบอกว่าการเล่นเกมนั้นไม่จำเป็นจะต้องขอเงินพ่อแม่เสมอไป การเล่นเกมสามารถหารายได้ได้ด้วย แถมยังไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะเล่นเกมอยู่ที่บ้านหรือร้านเน็ตเพียงอย่างเดียว เราก็แค่ชอบเล่นเกมเฉยๆ เราผิดอาราย จิ้วๆๆๆ ที่มา Super-rich | Game console lover’s Shop
-
คุณพ่อสุดเศร้า ติดเชื้อในกระแสเลือดจนพิการ แต่ลูกชายไม่ยอมเข้าใกล้เพราะใบหน้าไม่เหมือนเดิม
ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต และไม่ใช่ทุกคนอีกเหมือนกันที่เจอมันแล้วจะเข้มแข็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เหมือนกับเรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเล่าให้คุณฟังในวันนี้ เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มสู้ชีวิตคนหนึ่งที่ชื่อนาย Alex Lewis วัย 35 ปี เขามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน และอาการของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเนื้อในร่างกายบางส่วนเน่าเกินเยียวยา ในตอนแรกที่นาย Alex มีอาการป่วย ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาป่วยเพราะพิษไข้หวัด แต่อาการของเขากลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแพทย์ต้องตรวจดูอาการใหม่ ถึงได้ทราบว่าเขาติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส กลุ่มเอ ซึ่งมันลุกลามจนทำให้เลือดในร่างกายของเขากลายเป็นพิษ นาย Alex ต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ ทางทีมแพทย์ตัดสินใจตัดเอาแขน ขา ริมฝีปาก และเนื้อจมูกบางส่วนออก ทำให้เขาต้องใช้แขนขาเทียมในการดำรงชีวิต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรสำหรับเขาเลยทีเดียว แต่คงไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปกว่าการถูกลูกชายเพียงคนเดียวปฏิเสธ เพราะเนื่องจากเขาต้องกลายเป็นคนพิการและมีใบหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ทำให้ลูกชายของเขารู้สึกหวาดกลัวผู้เป็นพ่อ จนไม่อยากเข้ามากอดหรือจูบแบบที่เคยทำ มีรายการทีวีสนใจชวนเขาไปสัมภาษณ์ออกอากาศ นาย Alex ได้ว่า“มันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่มาก ผมทำหน้าที่เป็นพ่ออยู่ที่บ้านเป็นเวลา 2 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่อัศจรรย์…
-
มือกล้องถ่ายภาพเด็กน้อยซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์โพสท์ลงโซเชียล… กลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตซะงั้น!?
กลายเป็นเรื่องราวดราม่าขึ้นมาในต่างชาติเมื่อ มีชาวเน็ตได้ทำการถ่ายรูปของเด็กสาวที่กำลังซ้อนท้ายบนรถบิ๊กไบค์พร้อมสะพายกระเป๋า คาดว่ากำลังกลับจากโรงเรียน หลังจากนั้นก็ได้นำรูปภาพนี้ไปโพสท์ลงในโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ไปในเชิงต่อว่าผู้ปกครองของเด็ก ผู้หญิงในรูปข้างบนก็คือ Mallory Torres คุณแม่ลูก 3 อาศัยอยู่ในรัฐ Texas เธอเล่าว่าสามีของตน John Hays นั้นมีประสบการณ์ในการขับขี่บิ๊กไบค์มากว่า 20 ปีแล้ว และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นเขาได้เริ่มพาลูกสาวตัวน้อย Mackenzie วัย 7 ขวบ ซ้อนท้ายไปด้วย ซึ่งทาง Heys พ่อของเด็กหญิง Mackenzie ก็ได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า เธอชอบมันมากๆ เลย แถมยังขอร้องให้พาไปด้วยทุกครั้งที่เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปไหนต่อไหน เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อเขาพาลูกสาวตัวน้อยซ้อนท้าย เขาจะคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่าเดิม และมีการพูดคุยกันอย่างเข้มงวดก่อนที่จะพาเธออกไปไหนด้วย มีชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนภาพที่ถูกอัพลงบนโซเชียล… โดยส่วนมากจะไปในทิศทางที่ต่อว่าผู้ปกครองที่ให้ลูกมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ได้ไง เป็นเราเราจะไม่ทำแบบนี้แน่ เพราะเรารักลูกของเรา ที่เราทำได้ก็เพียงแค่สวดภาวนาให้เด็กปลอดภัยแค่นั้นเอง จากนั้น Mallory Torres คุณแม่ของหนู Mackenzie ก็เลยออกมาตอบโต้เหล่าชาวเน็ตที่ออกมาต่อว่าเธอทั้งหลายกลับไป… เนื้อหาโพสท์แปลได้คร่าวๆ ว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะกีดกันให้ลูกของฉันทำในสิ่งที่ชอบเพียงเพราะ ‘ความกลัว’ ในโลกนี้มีพ่อแม่มากมายหลากหลายแบบ…
-
ดราม่าคนรักสัตว์ สาวทะเลาะกับแฟนแย่งสุนัข สุดท้ายร่วงลงพื้นตาย!?
กลายเป็นเรื่องราวดราม่าที่สื่อสังคมออนไลน์กำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง ที่เกิดเหตุทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน แต่เกิดการแย่งสุนัขกันจนสุนัขหลุดมือ ร่วงกระแทกกับพื้นจนเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพสุนัขตัวเล็กที่ได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดไหลออกมาจากปาก พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่าตนเองถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายและทำร้ายสุนัขของเธอจนเสียชีวิต ทางด้านสำนักข่าว Work Point ได้รายงานเพิ่มเติมว่าฝ่าหญิงสาวได้เข้าไปเก็บเข้าของออกจากบ้านแฟน และจะอุ้มหมาไปด้วย แต่ฝ่ายชายกลับตามมาแย่งทำให้เจ้าหมาส่งเสียร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฝ่ายหญิงสาวจึงปล่อยมือ และบอกว่าจะเอาหมาคืน เมื่อฝ่ายชายได้ยินแบบนั้นจึงโยนหมามาให้กับเธอ แต่โยนพลาดทำให้เจ้าหมาร่วงลงไปกระแทกกับพื้นจนเกิดอาการปอดฉีก จากนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็ได้ออกมาตอบโต้และอธิบายเหตุการณ์อีกด้านหนึ่ง โดยฝ่ายชายกล่าวว่าตนเองอุ้มหมาไว้ในมือ แต่ฝ่ายหญิงกลับมาแย่งและดึงมันออกไป ทำให้หมาหลุดร่วงลงไปกระแทกกับพื้น แถมยังกล่าวโทษว่าเป็นเพราะฝ่ายหญิงไม่นำเอาสุนัขไปส่งที่โรงพยาบาลจึงทำให้มันตายในที่สุด พร้อมกันนี้ฝ่ายชายยังได้แนบบทสนทนากับหญิงสาวมาให้ได้ชมกันด้วย เพื่อให้เห็นว่าตนเองพยายามแสดงความรับผิดชอบและฝ่ายหญิงนั้นไม่ได้นำสุนัขไปหาหมอจริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็ออกมาตอบโต้อีกครั้งว่าพยายามพาไปหาหมอแล้วแต่ไปไม่ทัน และที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพื่อเป็นการประชดฝ่ายชายมากกว่า เลี้ยงน้องหมา อย่าให้เขาต้องมารองรับอารมณ์ของมนุษย์เลยนะ มีอะไรก็เคลียร์กันเป็นคนๆ ไปดีกว่านะ เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
-
ดราม่ารัวๆ ภาพถ่ายไม่ถูกใจลูกค้า ทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้แล้ว แถมท้ายด้วยการเอารูปเสียไปโพสต์!?
ในช่วงเวลาชีวิตของคนเรามักจะมีช่วงสำคัญๆ อยู่ เพราะฉะนั้นหากเราอยากจะเก็บความทรงจำดีๆ เอาไว้ ก็ต้องถ่ายภาพ แล้วถ้าอยากได้ภาพสวยๆ ก็ต้องหาช่างภาพดีๆ มาซักหนึ่งคน แล้วทีนี้การจะจ้างช่างภาพก็ต้องตัดสินใจกันก่อนว่าอยากได้เป็นแบบไหน เพราะช่างภาพแต่ละคนก็จะมีผลงานในแนวทางของตัวเองที่แตกต่างกันไป ยอมรับได้หรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาแล้วถูกใจก็ตกลงกันไปตามนั้น แต่แล้วมันก็มักจะเกิดกรณีผิดคาดกันขึ้นมาอยู่เป็นประจำ หลังจบงานแต่คนไม่จบ เพราะลูกค้าดันเกิดอาการไม่พอใจในผลงานที่ถ่ายออกมา ทางฝั่งช่างภาพคุณ Wattana Watcharapongwanith ที่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว แยกเป็นใจความได้ 5 ข้อ ดังโพสต์ต่อไปนี้ สรุปคือน้องที่มาจ้างงานตกลงงานแล้ว แต่ภายใน 1,000 กว่ารูปนั้นจะมีรูปเสียอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกภาพ ซึ่งช่างภาพเองก็ตกลงส่งให้ทั้งหมด สุดท้ายแล้วน้องผู้จ้างงานไม่พอใจผลงาน นำภาพเสียเหล่านั้นไปโพสต์ต่อ ขอให้ช่างภาพคืนเงินทั้งหมด แต่ช่างภาพคืนให้ได้แค่ 3,000 บาท เท่านั้น จึงปฏิเสธรับคืน ทั้งนี้อาจจะเกิดจากการส่งรูปภาพทั้งหมด (รวมทั้งรูปเสีย) ไปด้วยกัน โดยไม่มีการแยกเอาไว้ต่างหาก จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดและบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ที่มา : Wattana Watcharapongwanith
-
หมอจุดเดือดต่ำ ด่าครูที่เรียกร้องให้ปรับเงินเดือนเท่าหมอ #ควายสอนหนังสือ?!?!
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่าจะมีการทำเรื่องปรับเงินเดือนครูให้เท่ากับหมอ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตมากมาย ล่าสุดมีหมอคนหนึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเธอบอกว่าเงินเดือนของหมอกับครูนั้นเท่ากันอยู่แล้ว เพราะใช่ฐานเงินเดือนเดียวกัน แต่ที่หมอได้เยอะกว่าเพราะมีค่าเข้าเวรต่างหากถ้าอยากได้เงินเยอะก็ไปเรียกร้องให้ปรับเงินเดือนให้เท่ากันข้าราชประเภทอื่นดีกว่า พร้อมทั้งด่าครูที่ออกมาเรียกร้องว่าเป็นพวก “ควายสอนคน” เมื่อเรื่องโพสของเธอถูกเผยแพร่ออกไป เธอก็ได้รับเสียงวิจารณ์มากมาย เดือดจริงๆ คุณหมอก็ออกจะรุนแรงไปซักนิดหนึ่ง เพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียวว ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ
-
ชาวเน็ตคอมเม้นท์ระนาว!! แค่ห่อข้าวไปกินที่มหาลัย กลับโดนเพื่อนมองว่าเป็นคนจน!?
ในยุคปัจจุบันที่เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง เพราะฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะประหยัดอดออมด้วยการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเช่นค่าน้ำ ค่าไฟ และที่สำคัญก็คือค่าอาหารการกินนั่นเอง มีชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3117685 ได้ทำการโพสท์กระทู้ว่า ‘ห่อข้าว ไปกินที่มหาลัย ถูกมองว่าเป็น คนจน’ เล่าเรื่องราวที่ตนทำการประหยัดอดออมด้วยการห่อข้าวมากินที่มหา’ลัย แต่กลับถูกเพื่อนๆ มองในแง่ลบ เอาเป็นว่า #เหมียวหง่าว โคว้ทเนื้อหาในกระทู้มาเลยก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้ข้อความคลาดเคลื่อนนะจ๊ะ… “เราเรียนอยู่ปี1 ในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงใน กทม. ตอนแรก ก็ทานเข้า ใน มหา’ลัย. มื้อเที่ยงก็100นึงละ อย่างต่ำ ไม่ได้กินเยอะเลย แต่อาหารแพงมาก 55-60 บาท ไปทานข้าวข้างนอก เพื่อนก็อยากกิน ชาบูบ้าง บุฟเฟต์บ้าง ใช้เงินแบบกระจายมาก กินมื้อนึง =3-4มื้อ ของเรา เราเลยตัดสินใจ ทำกับข้าวไปกิน ที่/ มหาลัย เป็นเมนูง่ายๆ เวลานั่งกินที่ canteen ใน มหาลัย เพื่อนที่เคยไปกินบุฟเฟ่ต์ ด้วยกันทักว่า นี่ไม่มีเงิน ซื้อกับข้าว จนต้อง ทำกับข้าว…
-
ชาวเน็ตลาววิจารณ์ขรม ลูกสาวข้าราชการนำรถดับเพลิงมาฉีดเล่นน้ำสงกรานต์ เหมาะสมไหม?
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเลยทีเดียว เมื่อมีลูกสาวข้าราชการรายหนึ่งในประเทศลาวที่นำรถดับเพลิงออกมาใช้ฉีดน้ำเพื่อฉลองปีใหม่ (หรือเทศกาลสงกรานต) ในประเทศลาว จนชาวเน็ตวิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่? เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ ໂທລະໂຄ່ງ THOLAKHONG (โทรโข่ง) ได้โพสต์ภาพและข้อความของเฟซบุ๊กสาวชาวลาวรายหนึ่ง ที่มีแม่เป็นข้าราชการจึงขอให้นำเอารถดับเพลิงมาฉีดน้ำเล่นที่บริเวณ สถาบันเศรษฐกิจการเงิน Institute of Economics and Finance แต่เนื่องจากเป็นการนำเอารถของราชการมาใช้ในงานส่วนตัว จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ในขณะที่ชาวลาวบางคนมองว่าอาจจะมีการเขียนหนังสือและขออนุญาตอย่างเป็นทางการแล้วก็ได้ ทั้งนี้ที่ประเทศลาวมักจะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์คล้ายกับที่ประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 5 เมษายนของทุกๆ ปี และมีการแบ่งออกเป็น 3 วัน ทั้ง “วันสังขารล่วง”(ที่ลาวเขาออกเสียงกันแบบนี้นะ) “วันเนา” และ “วันสังขารขึ้น” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย Happy Lao New Year โพสต์โดย Asang Laochoung บน 7…
-
ไทยแลนด์แดนดราม่า เด็กอายุ 14 แต่งคอมฯ อย่างเทพ กลับโดนแขวะเรื่องการใช้เงิน!?
ทุกวันนี้เรามีเรื่องชวนปวดหัวกันมากมายแล้ว แต่ก็ยังไม่วายมาเจอเรื่องราวที่ชวนปวดหัวกันในโลกอินเตอร์เน็ตกันอีก แบบว่าคนเราจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องจุดประเด็นซักอย่างให้กลายเป็นไฟที่ลามทุ่งแบบไม่จบสิ้น เรื่องนี้มันมีอยู่ว่าเพจ CompleteTV ได้ทำการโพสต์ลิงค์เนื้อหาของนักแต่งคอมพิวเตอร์รุ่นเยาว์วัย 14 ปี เป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นนามว่า ยูกิ คิชิโมโตะ ที่มีความรู้และความสามารถในการแต่งคอมพิวเตอร์จากความชื่นชอบนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานดีๆ แบบนี้ ไปชมผลงานของนักแต่งคอมรุ่นเยาว์ วัยเพียง 14 ปี กับน้องยูกิกัน และรอติดตามบทสัมภาษณ์เร็วๆนี้ #CompleteTV #ChangeIThttp://www.complete-tv.com/articles/change-it/3127-change-it-yuki Posted by CompleteTV on Wednesday, April 6, 2016 แต่สุดท้ายก็ไม่วายที่จะมีชาวเน็ตมาแสดงความคิดเห็นทั้งชื่นชมและประชดประชันพร้อมแขวะ โดยในประเด็นที่มักจะถูกถกเถียงกันเป็นประจำก็คือเรื่องของ ‘เงิน’ เพราะในสภาพสังคมไทยส่วนใหญ่นั้น เด็กวัยนี้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดีๆ นั้นถือว่าเป็นอะไรที่แพงเกินตัว เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับการสนับสนุน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี สามารถนำความรู้ความสามารถนี้ไปต่อยอดได้ และมักจะมีการแสดงความคิดเห็นเชิงนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ความคิดเห็นของพี่สาวของน้องยูกิ และเพื่อนของน้องยูกิ มาลองอ่านการแสดงความคิดเห็นเชิงสนับสนุนกันบ้าง #เหมียวเลเซอร์ เองมองในประเด็นที่ว่าการที่เด็กคนหนึ่งมีความรู้ความสามารถขนาดนี้และได้รับการสนับสนุนที่ดี เราก็ควรยินดีกับน้องไม่ใช่หรือ…
-
ช่างภาพถึงกับงง เจอพี่เจ้าสาวแอดมาด่า บอกคิดแพงยิ่งกว่า กทม. ขอไม่จ่ายส่วนที่เหลือ?!?!
ปัญหาเรื่องการจ้างช่างภาพ กลายเป็นเรื่องที่เราพบเห็นได้เป็นประจำในปัจจุบัน จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันบนอินเตอร์เน็ต อาจเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือด้วยเหตุอันใดก็ตามแต่ และวันนี้อีกครั้งกับดราม่าตากล้อง เมื่อคุณภูเบศร์ หนูดำ ถูกพี่เจ้าสาวที่เพิ่งถ่ายงานเสร็จไป แอดเฟสบุ๊คมาด่า และบอกว่าเขาคิดราคาแพงเกินไป กะเอารวยเลยหรือไง เพราะแพงกว่าราคาตากล้องในกรุงเทพอีก ดังที่จะเห็นได้ในโพสต์ข้างล่าง และยืนยันจะไม่จ่ายส่วนที่เหลือ ทั้งๆ ที่คุณภูเษศร์ได้ทำการตกลงกับเจ้าของงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคุณภูเบศร์ ก็ได้ตอบกลับไปว่าตอนนี้ทางเจ้าของงานได้จ่ายเงินมาครบหมดแล้ว ไม่สามารถคืนได้แล้ว แนะนำให้รอชมภาพสวยๆ จะดีกว่า เขากล่าวหาว่า…. ผมโกง ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมราคาสูงกว่าช่างภาพใน กทม โพสต์โดย ภูเบศร์ หนูดำ บน 4 เมษายน 2016 อ่ะ สำหรับใครเห็นภาพไม่ชัด ลองดูภาพใหญ่ตามนี้ เมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย #เหมียวอ๊อดโด้ ว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้านะฮะ ถ้าเค้าพอใจทุกอย่างคือจบ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับที่อื่น แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียวว ที่มา ภูเบศร์ หนูดำ
-
ทีม Fedfe ออกมายอมรับ ‘วาว’ ออกจากแก๊งแล้ว เหตุเพราะโกงเงินเพื่อนๆ!?
หากใครที่ติดตามผลงานของ Fedfe มาตั้งแต่แรกๆ ก็น่าจะทราบได้ว่าแก๊งนี้มีทีมงานที่เป็นเพื่อนๆ กันทั้งหมด 9 คน แต่ในระยะหลังมานี้กลับเหลือ 8 คน ซึ่งคนที่หายหน้าหายตาไปก็คือ วาว ทำให้แฟนๆ เข้าใจกันว่าเจ้าตัวออกจากแก๊งไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการให้เหตุผลว่าเจ้าตัวออกไปเพราะเหตุใด ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 เมษายน ทางเฟซบุ๊กเพจของ เฟ็ดเฟ่ บอยแบนด์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสาเหตุที่วาวออกจากกลุ่มว่า เป็นเพราะเจ้าตัวโกงเงินเพื่อนๆ ในแก๊งไปเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งปัญหาทั้งหมดเริ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปี 2557 ที่วาวได้โกงเงินเพื่อนๆ จนเพื่อนๆ จับได้ แต่พวกเขาก็ยังให้โอกาสกลับใจ แต่เจ้าตัวก็ยังโกงเงินเพื่อนๆ ไปอีก ครั้งนี้ทีมงานบอกว่าวาวนำเงินทั้งหมดที่พวกเขาหาได้ไปจนหมดเลยทีเดียว แถมยังทิ้งปัญหาและหนี้สินไว้ให้พวกเขาต้องสะสางอีกเพียบ นอกจากนี้ทางทีมงาน Fedfe ยังได้ระบุเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับวาวว่า เพื่อนคนนี้ไม่ได้คบกันมานานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่เพิ่งจะคบกันได้ 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ คบกันมาเป็นสิบปี แต่พวกเขาก็ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ทีมงานยังบอกอีกว่าไม่ได้อยากประจาน แต่ที่ต้องเอามาเผยแพร่ให้ได้ทราบกันก็เพราะกลัวว่าจะมีเหยื่อรายต่อๆ ไปอีก ทั้งนี้กลุ่ม Fedfe เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อนเล็กๆ…
-
ชาวเน็ตงง…เทศบาลร้อยเอ็ดติดป้ายประกาศจะขุดขนย้ายต้นไม้ แต่ทำไมไม่เอารากไปด้วย!?
ว่าด้วยเรื่องของต้นไม้…เพื่อนๆ คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเหล่าต้นไม้เองก็มีชีวิตเช่นกัน พวกมันสามารถหายใจ กินอาหาร และก็ตายได้ ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดของมันก็คือ ‘ราก’ นั่นเองซึ่งเป็นส่วนที่มีหน้าที่ในการลำเลียงสารอาหารเข้าสู่ลำต้น ถ้าหากเราจะทำการเคลื่อนย้ายต้นไม้นั้น วิธีการที่ถูกต้องก็คือจะต้องขุดไปทั้งรากแล้วก็นำไปปลูกที่อื่นที่ขุดดินเตรียมไว้แล้ว ถึงจะทำให้เหล่าต้นไม้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด… จากโพสท์ของชาวเน็ตนามว่า Wiput Sukprasert เป็นรูปภาพบริเวณรอบๆ บึงพลาญชัย ในจังหวัดร้อยเอ็ด ที่กำลังจะถูกตัดต้นไม้บริเวณรอบๆ พร้อมกับแคปชั่นว่า “ช่วยด้วย! พี่น้อง FB เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดแสดงความ ป่าเถื่อน ล้าหลัง ด้วยการ ตัดต้นไม้รอบ บึงพลาญชัย ช่วยต้นไม้รอบบึงพลาญชัยที่ยังเหลือ (เหลือเกือบไม่ถึงครึ่งแล้ว) ด้วยครับ ช่วยไลค์ ช่วยแชร์ ให้ไปถึง นายกฯ หน่อยครับ ปล. ตอนเขียน โครงการ บอกว่า ขุดย้าย (ตามป้ายรูปแรก) แต่ดู พฤติกรรม ตอนลงมือทำสิครับ ขุดย้ายแบบไหน” ช่วยด้วย! พี่น้อง fb.เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดแสดงความ ป่าเถื่อน ล้าหลัง ด้วยการ ตัดต้นไม้รอบ บึงพลาญชัย.ช่วยต้นไม้รอบบึงพ… Posted by Wiput Sukprasert on Sunday,…
-
แค่ ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ก็ดราม่าได้ โผล่กระทู้จวกคนยุคใหม่กินข้าวเหนียวมะม่วงแบบผิดๆ
สุดยอดของหวานแบบไทยๆ เนี่ย #เหมียวเลเซอร์ ขอยกให้กับ ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ เลย นึกถึงเนื้อมะม่วงสุกสีเหลืองอร่ามน่ารับประทาน มาพร้อมกับข้าวเหนียวมูนราดกะทิ หู้ยยยย แค่คิดภาพตาม กลิ่นหอมๆ นี่เข้ามาแทรกในสมองทันที แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้วัตถุดิบการทำ ข้าวเหนียวมะม่วง เปลี่ยนไปเช่นกัน จากที่แต่ก่อนเคยใช้มะม่วงอกร่องกับข้าวเหนียวมูน เปลี่ยนมาใช้ มะม่วงน้ำดอกไม้แทน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ถึงกับผิดหลักอะไรมากมาย มันก็เป็นมะม่วงเหมือนกันนั่นแหละ จู่ๆ ก็มีกระทู้ในพันทิปโผล่ขึ้นมาจวกคนรุ่นใหม่ว่าที่เห็นๆ ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ วางขายกลาดเกลื่อน แล้วมีคนซื้อมากินด้วยเนี่ย มันผิดไปจากเมนูที่บรรพบุรุษได้ทำการคัดสรรเอาไว้ ส่งผลทำให้สูญเสียวัฒนธรรมการกินกันเลยทีเดียว!! มะม่วงอกร่อง + ข้าวเหนียวมูน = ข้าวเหนียวมะม่วงของแท้? ตามเนื้อหาภายในกระทู้บอกว่า มะม่วงอกร่องนั้นมีขนาดที่พอดี เสี้ยนน้อย และมีรสชาติอันหอมหวานขึ้นจมูก ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้นั้นมีขนาดผลที่โตและเนื้อเยอะก็จริง แต่เนื้อไม่หอมและหวานเท่ามะม่วงอกร่อง ทำให้ขาดเสน่ห์ตรงนี้ไป พอชาวเน็ตได้มาเห็นข้อความดังกล่าวที่ว่า ‘สูญเสียวัฒนธรรมการกิน’ ต่างก็ออกความเห็นว่ามันถึงกับขนาดนั้นกันเลยเหรอ เพราะเพียงแค่เปลี่ยนพันธุ์ของมะม่วงที่นำมาใช้แค่นั้นเองหรือ? อีกทั้งในปัจจุบันมะม่วงอกร่องก็หายาก แถมมีราคาแพงอีกต่างหาก …
-
โป๊ะแตก!? ชาวเน็ตแฉ”ต๊อกแต๊ก” จากรายการ Let Me In จริงๆ แล้วชีวิตไม่ได้ดราม่าเหมือนในรายการ?
กลายเป็นประเด็นดราม่าอีกแล้ว สำหรับรายการในเครือของ Workpoint อย่างรายการ Let Me In Thailand รายการที่เปิดโอกาสให้สาวๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความงาม ทำให้ขาดความมั่นใจจนสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิต ได้เข้าร่วมรายการและทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเธอ และล่าสุดกับหญิงสาวคนที่ 9 ของรายการที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สำหรับสาวหน้าเบี้ยวอย่าง “ต๊อกแต๊ก” โดยเจ้าตัวเล่าไว้ในรายการว่าเนื่องจากมีโครงหน้าที่เบี้ยวผิดรูป ทำให้รู้สึกอายในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม เลยต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลาแถมยังโดยคนรอบข้างรังเกียจ แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอจะไม่ได้เศร้าหรือดราม่าจริงตามที่รายการได้นำเสนอไป เพราะเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 1799511 ได้เข้ามาตั้งกระทู้ Let me in.พลิกชีวิต ดราม่าคนที่9 เพื่อบอกว่าแท้จริงแล้วชีวิตของเธอไม่ได้หดหู่อย่างที่เราเข้าใจกัน ทั้งนี้เจ้าของกระทู้เล่าว่าตัวเองได้เข้าไปกดติดตามสาวต๊อกแต๊กในอินสตาแกรม เพื่อจะดูความเปลี่ยนแปลงของชีวิต แต่กลับไปเจอภาพตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ารับการศัลยกรรม ทำให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ว่าเธอก็ยังไปเที่ยวไปทำงานและใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ แถมยังไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างที่พูดในรายการ นอกจากนี้เจ้าของกระทู้ยังบอกอีกว่า “นางมีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งสามารถเก็บเงินทำได้สบายเลยค่ะ คุณเอาความรู้สึกดีๆ ของคนที่เขาได้ฟังเรื่องราวของคุณ มาเรียกคะแนนเห็นใจคะแนนสงสาร แต่ชีวิตจริงของคุณมันกับตรงกันข้าม เราไม่รุ้นะว่าผู้สมัครได้อ่านกฏ ก่อนลงสมัครไหม” …
-
แบบนี้ก็มี? สาวโพสต์คลิปแท็กซี่ไม่ยอมเลี้ยวตามที่บอก แถมคว้าอาวุธจะทำร้ายผู้โดยสาร!?
เรียกได้ว่ามาถึงจุดวิกฤตแล้วจริงๆ สำหรับระบบการขนส่งในประเทศไทย เพราะมีเรื่องการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนขับรถและผู้โดยสารมาให้เราเห็นกันแบบรายวันทีเดียว แถมนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยด้วย ล่าสุดก็มีกรณีคล้ายๆ กันนี้มาให้เราชมอีกแล้ว เป็นเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Seedwow Sabza เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเล่าว่ากำลังนั่งแท็กซี่จากโรงเรียนมักกะสันพิทยาไปยังซอยอ่อนนุช 46 ซึ่งอยู่ใกล้กับตึกซีคอนสแควร์ เมื่อใกล้ถึงที่หมาย ผู้โดสารจึงบอกให้แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอย แต่แท็กซี่กลับไม่ยอมเลี้ยวโดยให้เหตุผลว่ารถติด และขอขับตรงไปยังตึกซีคอนแล้วให้ผู้โดยสารโบกรถไปอีกต่อหนึ่ง ผู้โดยสารทั้ง 2 เห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้แท็กซี่จอดรถ แต่ดูเหมือนว่าคนขับแท็กซี่จะเกิดอาการไม่พอใจ จึงลงจากรถมาเปิดกระโปรงหลังเพื่อควานหาอาวุธและขู่ทำร้ายร่างกาย โชคดีที่บริเวณนั้นมีคนอยู่ด้วยเยอะ ทำให้ทั้ง 2 คนไม่ได้รับอันตรายใดๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเลยจริงๆ เรียกรถจากโรงเรียนมักกะสันพิทยาจะไปอ่อนนุช 46 แถวๆซีคอน พอใกล้ๆถึง 4 แยกอ่อนนุชบอกให้แท็กซี่เลี้ยวขวา แท็กซี่บอกผมไม่ไปหรอกรถติดผมจะเหยียบอย่างเดียว เราเลยบอกให้จอดตรงนี้ถ้าพี่ไม่ไปในซอย แท็กซี่บอกก็ไปลงซีคอนเอางั้นละต่อรถไป เราก็เลยบอกว่าถ้าพี่ไม่ไปส่งตั้งแรกไม่บอกว่าไม่ไปเราก็เลยขอลงก่อนถึงซีคอนเพราะแท็กซี่ไม่ไปส่งในซอย แท็กซี่บอกจัดให้ พอจอดเราจ่ายค่าโดยสารเสร็จแท็กซี่บ่นๆ ยังไม่ทันลงจากรถดีประตูไม่ทันปิด มันก็ขับรถออกไปจังหวะเราปิดปะตูมันดัง แท็กซี่จอดรถลงมาเปิดฝากระโปรงรถข้างหลังจะหยิบเหล็กมาทำร้ายเรา พูดว่าเดะกูฝาดแม่งเลย #โชคดีที่มีคนรอรถ มันเลยวางลงแล้วพูดว่าเดี๋ยวกูต่อยแม่งเลย แล้วก็ขับรถไป #แจ้งความไว้ละเดะเห็นดีกันนิสัยแย่มากขับตามใจตัวเองจะมาขับแท็กซี่ทำไม โพสต์โดย Seedwow…
-
อะไรกันเนี๊ยะ!? ลูกค้าแค่สอบถามสินค้ากับร้านออนไลน์ เจอบังคับซื้อ ไม่ซื้อเดี๋ยวมีประจาน!?
การซื้อของแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงๆ หรือร้านค้าออนไลน์ บางครั้งเราก็ต้องสอบถามราคา ไซส์ หรือรายละเอียดต่างๆ ให้แน่ใจ เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าที่เรากำลังมองหานั้นเป็นไปตามที่เราต้องการหรือเปล่า แต่กับบางร้านค้าอาจจะต้องระวังนิดนึงนะ เพราะแค่เราไปสอบถามกับทางร้าน ก็อาจถูกบังคับให้ซื้อได้ เหมือนอย่างร้านค้าที่เหมียวกำลังจะนำมาเล่าในวันนี้ เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @minevith เป็นเรื่องราวที่เจ้าตัวได้ไปติดต่อสอบถามกับร้านขายเสื้อผ้าในเฟซบุ๊กแห่งหนึ่งเพื่อถามว่ามีไซส์ที่เธอต้องการไหม? แต่ทันทีที่ทางเพจได้รับข้อความก็ตอบกลับมาว่า “มีค่ะ” พร้อมกับสรุปยอดและให้เลขบัญชีมาทันทีทั้งที่ยังไม่มีการตกลงว่าจะซื้อแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเธออยากจะสอบถามไว้ก่อน จึงยังไม่ได้ตอบตกลงหรือโอนเงินแต่อย่างใด ทางร้านจึงส่งข้อความกลับมาว่า “สั่งแล้วไม่รับผิดชอบขอลงประจานนะคะ” ทำเอาลูกค้าถึงกับงงเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีฟีดแบ็คจากผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหลายรายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านค้าออนไลน์แห่งนี้ ให้บริการได้แย่มาก แม้จะเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ เหมียวว่ามันก็แปลกๆ อยู่ดีนา น่าจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สอบถามสินค้าสักหน่อยก่อนจะซื้อนะ มันน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เยอะเลย ที่มา Black Hat
-
“แจ๊ส ชวนชื่น” ขอขมาอนุสรณ์สถานเรือใบและชาวพัทยา หลังถ่ายทำ MV โดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากที่กลายเป็นประเด็นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับกรณีของเพลง “ยับแม่” จากแจ๊ส สปุ๊กนิ๊ก ปาปิยองกุ๊กๆ ที่มีหนุ่ม แจ๊ส ชวนชื่น เป็นนักร้องนำ ด้วยเนื้อเพลงที่ล่อแหลมและมิวสิตวิดีโอที่ทำเอาผู้ชมถึงกับอ้าปากค้าง จนเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่าชาวบ้านในเมืองพัทยาไม่พอใจที่นายแจ๊สขึ้นไปถ่ายทำมิวสิควิดีโอที่อนุสรณ์สถานเรือใบ ในเมืองพัทยา และเรียกร้องให้มีการเอาผิดแก่เจ้าตัวและทีมงาน ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา แจ๊ส ชวนชื่นก็ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ แจ๊ส ชวนชื่น เป็นภาพที่เจ้าตัวถือพานดอกไม้เพื่อมาขอขมากับอนุสรณ์สถานเรือใบ พร้อมกันนี้ยังมีข้อความว่า “ตอนนี้เราได้มาดำเนินการขอขมา ชาวพัทยา กับ ตัวแทนของชาวพัทยา ท่านรองนายกเมืองพัทยา รณกิจ เอกะสิงห์ พวกเราขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ขอขอบคุณชาวพัทยาที่ให้อภัยและให้กำลังใจพวกเราครับ ขอบคุณครับ” ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกระแสด้านลบ เกี่ยวกับเพลงของตัวเอง จึงได้ทำการลบคลิปมิวสิควิดีโอเพลง “ยับแม่” ออกจากเว็บไซต์ยูทูบ พร้อมกับมีการชี้แจงผ่าน IG อีกยาวทีเดียว อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่นี่เลย ตอนนี้เราได้มาดำเนินการขอคมา ชาวพัทยา…
-
เหมียวนี่ขนลุกเลย!! ลูกค้าโวย เจอแมลงสาบโผล่บนโซบะในร้านอาหารดังย่านลาดพร้าว
สิ่งหนึ่งที่#เหมียวฟิ้นมักจะมองเป็นอันดับแรกๆ เวลาไปร้านอาหารเลยก็คือเรื่องของความสะอาดนี่แหละ เพราะถึงแม้อาหารจะรสชาติธรรมดาๆ แต่หากร้านสะอาดมันก็น่านั่งใช่ไหมล่ะ ถ้าหากร้านไหนไม่มีมาตรฐานตรงนี้คงจะเสียลูกค้าไปเยอะทีเดียว เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ nattanonkun ได้เข้ามาเล่าประสบการณ์สุดขนลุกที่เขาได้เจอมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เจ้าของกระทู้ได้เล่าว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคม ตัวเองและแฟนได้ไปนั่งทานอาหารญี่ปุ่นที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เมื่อไปถึงร้านก็ได้สั่งบะหมี่เย็นมานั่งทานกัน แต่ในระหว่างที่กำลังโซ้ยเข้าปากอยู่นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นแมลงตัวเล็กน่ารักตัวหนึ่ง ใช่แล้ว มันคือแมลงสาบ!! เมื่อเห็นดังนั้นทั้งคู่เลยเรียกพนักงานร้านให้เข้ามาช่วยดู ทางร้านจึงเสนอลดราคาอาหารให้ 50% พร้อมกับการขอโทษขอโพยกันไป นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะเป็นร้านอาหารที่อยู่บนห้างใหญ่ ก็มีโอกาศที่จะเจอสิ่งแปลกปลอมแบบนี้ได้ ทางที่ดีเราควรเช็คอาหารก่อนทานด้วย ก็น่าจะเพิ่มการป้องกันให้กับตัวคุณเองได้นะ ที่มา pantip
-
เอาแล้วไง!! เพลงใหม่แจ๊ส ‘ยับแม่’ ส่อดราม่า ตลกแบบไร้ขอบเขต ใช้คำแสลงแฝงหยาบคาย
ขึ้นชื่อว่าเป็นตลกคลื่นลูกใหม่มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ กับคุณแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (ฉายาจะยาวไปไหน) จากที่เคยผ่านพ้นดราม่าเพลง แว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว ที่โดนตลกรุ่นใหญ่ทักท้วงเป็นเจ้าของเพลงไป คราวนี้กลับมาอีกกับเพลงใหม่ที่ชื่อว่า ‘ยับแม่’ MV เพลงใหม่ ‘ยับแม่’ ของ แจ๊ส สปุ๊กนิค เพิ่งจะปล่อยผ่าน YouTube เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา มียอดวิวทั้งสิ้นเกือบ 600,000 แล้ว ซึ่งถ้าหากฟังเนื้อเพลงโดยที่ไม่คิดอะไรมาก ก็เป็นเพลงที่สนุกนานโจ๊ะๆ ตามสไตล์ของแจ๊สเลย แต่ในตอนนี้กระแสกลับเริ่มให้ความคิดเห็นในเชิงลบมากขึ้น อันเนื่องมาจากเนื้อหาภายใน MV เป็นการออกไปเต้นต่อหน้าเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงนักเรียนระดับชั้นมัธยม ชวนให้เต้นตามด้วยท่าทางเปิดกระโปรงประกอบท่อน ‘ยับแม่ยับ’ อีกทั้งคำว่า ‘ยับแม่’ เป็นคำแสลงวัยรุ่นที่ต่อยอดมาจากคำหยาบคาย แต่ความหมายของมันก็ไม่ได้ลดความรุนแรงลงแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความคิดเห็นของชาวเน็ตภายใต้การคอมเม้นใน YouTube รวมไปถึงขึ้นเป็นกระทู้ในพันทิปด้วย โดนจวกในเรื่องของความเหมาะสมของเนื้อร้องในเพลง การแสดงท่าทางต่างๆ การเลือกสถานที่ถ่ายทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย มันรวดเร็วและกระจายไปในวงกว้างมากๆ…
-
ฮัท เดอะสตาร์ ออกมาขอโทษเกี่ยวกับการเขียนชื่อบนหลักกิโลภูชี้ดาว เปิดการ์ด ‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’
เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี้ จากกรณีของนักร้องชื่อดังจากเวทีประกวดเดอะสตาร์ ‘ฮัท จิรวิทย์’ ที่จู่ๆ ก็มีภาพหลักกิโลที่มีชื่อของเจ้าตัวเขียนด้วยปากกาเมจิกสีดำ ประมาณว่ามาถึงที่นี่แล้ว ทำให้ผู้คนบางส่วนรู้สึกว่าเป็นการทำลายสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีการตั้งกระทู้ทั้งในพันทิปและการเข้าไปตักเตือนถึงไอจีของเจ้าตัวจากชาวเน็ต กระแสก็เริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากกระทู้หนึ่งในพันทิปเกิดการดราม่าระหว่างฮัทกับเจ้าของเพจท่องเที่ยวเจ้าหนึ่งที่เจ้าไปตักเตือนการกระทำของฮัท แต่ไม่วายก็โดนโทรมาขู่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ล่าสุดนี้ ฮัท จิรวิทย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งยอมรับผิดว่าขีดเขียนชื่อตนเองลงไปบนหลักกิโลภูชี้ดาว โดยที่ไม่มีใครอนุญาตให้เขียน โดยเข้าใจผิดจากการที่ และในส่วนของการตอบโต้คอมเม้นของชาวเน็ตในไอจีด้วยถ้อยคำประชดประชันรุนแรงและการโทรไปข่มขู่นั้นก็ยอมรับว่าทำจริง แต่เป็นเพราะด้วยอารมณ์โมโหชั่ววูบและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็ได้ทำการขอโทษกับคู่กรณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลนี้ฮัทยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว กราบขอโทษทุกฝ่ายที่เป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับคนไทยทุกคน อย่างน้อยก็ยังออกมายอมรับผิดแบบแมนๆ ได้ แต่ว่าการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์นี้ถูกใช้บ่อยจัง #เหมียวเลเซอร์ ที่มา : teenee, sanook
-
งานนี้ใครถูกใครผิด? วินมอเตอร์ไซค์จ่ายค่าปรับเป็นเหรียญ เจอตำรวจไล่ให้ไปแลกแบงค์มา ที่นี่ไม่รับเหรียญ!!
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ JustClip BadBad เป็นเรื่องราวของวินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่งที่ลืมต่อทะเบียนรถ เลยต้องมาจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 400 บาท แต่แทนที่จะใช้แบงค์จ่าย กลับหยิบเหรียญใส่ถุงมาเป็นกอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่ายหัวและบอกให้เทเหรียญออกจากถุงมานับกับเป็นกองๆ แต่ดูเหมือนวินมอเตอร์ไซค์จะยืนกรานว่านับมาเต็มจำนวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์ไปแลกเป็นแบงค์มาเพื่อความสะดวกต่อการฝากเจ้าธนาคาร แต่พี่วินมอเตอร์ไซค์กลับทวนประโยคเดิมๆ พร้อมบอกว่าตนเองจะนับให้ดู แถมยังถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า “เอาเข้าหลวงหรือพี่เอง” ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องลุกขึ้นมาต่อว่าด้วยความโมโหและไล่ให้วินมอเตอร์ไซค์กลับไปแลกเป็นแบงค์ในที่สุด ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ทั้งนี้เองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความผิดทางวินัยเพราะไม่รับเงินของประชาชน สามารถถูกลงโทษได้ แต่วินมอเตอร์ไซค์เองก็พูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาตรา 136 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทเช่นกันนะจ๊ะ ที่มา Thailand Police Story , JustClip BadBad , thairath
-
ตั้งสตินิดนึง!! ข่าวผ้าอนามัยสูตรเย็นมีพิษไม่เป็นความจริง เพจดราม่าชี้แจง สะอาดจนใช้แทนผ้าก๊อซได้เลย!!
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงจะได้เห็นหรือได้ยินข่าวของผ้าอนามัยแบบใหม่ที่เป็นแบบเย็นกันมาแล้ว แต่สาวๆ บางคนอาจจะยังไม่มั่นใจที่จะใช้เท่าไหร่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผ้าอนามัยชนิดนี้ โดยบอกว่าเป็นผ้าอนามัยที่มีสารเคมี อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้ได้ โดยข้อความที่ออกมาเตือนสาวๆ มีอยู่ว่า “ผ้าอนามัยยี่ห้อนี้มีสารเคมี คือโพลิเมอร์สังเคราะห์ เช่น ประเภทสารชื่อว่า Polyacrylate สารนี้ได้มาจากปิโตรเลียม โดยสารประเภทนี้เมื่อผ่านกระบวนการผลิตจะทำให้เป็นพิษแก่ร่างกายทางตรง” ซึ่งหลังจากข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็ทำเอาชาวเน็ตพากันตกอกตกใจและแชร์ต่อกันไปเป็นจำนวนมาก จนเฟซบุ๊กเพจชื่อดังอย่าง Drama-addict ต้องออกมาชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะเนื่องจากผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ทำมาจากปิโตรเลียมอยู่แล้ว ส่วนสิ่งที่อยู่ในผ้าอนามัยนั้นคือเป็นโพลีเมอร์พวกไฮโดรเจล มีความสามารถในการดูดซับของเหลวได้ไม่ต่างอะไรกับผ้าอนามัยชนิดอื่นๆ เลย ฉะนั้นไม่ต้องกลัวหรือตกใจไป อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย มีคนปล่อยข่าวว่า ห้ามใช้ผ้าอนามัยนะเพราะข้างในมีโพลีเมอร์สังเคราะห์ ซึ่งสารนี้ได้มาจากปิโตรเลียม โดยโพลีเมอร์จากสารประเภ… Posted by Drama-addict on 20 กุมภาพันธ์ 2016 สาวๆ ไม่ต้องกลัวไปนะ ซื้อมาใช้ได้ปลอดภัยจ้า แค่จะเย็นๆ นิดนึงเท่านั้นเอง ที่มา Drama-addict
-
ร้านเหล้าออกโปร “25 ชอท ใน 25 วิฯ” จ่าพิชิตโร่เตือน กินแบบนี้ถึงตายนะครัชชช!!
ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ เหล่าร้านขายของก็ต่างขนโปรโมชั่นออกมาเรียกลูกค้า เช่นเดียวกันกับร้านเหล้าแห่งนี้ ได้ออกโปรโมชั่นมาเรียกลูกค้า ด้วยโปร “25 ชอท ใน 25 วิฯ” ถ้าทำได้ ดื่มฟรีไปเลย ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่านักดื่มเป็นอย่างยิ่ง แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน ทางจ่าพิชิตแห่ง Drama-addict ก็ออกมาเบรกอย่างรวดเร็วเลยว่า การดื่มเหล้าปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดภาวะแอลกอฮอลเป็นพิษเฉียบพลัน จนอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ มีร้านเหล้าทำโปร ท้าให้คนดื่มเหล้า 25 ชอท ใน 25 วินาที ขอเตือนขี้เมาทั้งหลายว่า อย่าริลองเด็ดขาด… Posted by Drama-addict on 16 กุมภาพันธ์ 2016 อื้อหือ ถ้ากินเข้าไป 25 ชอท ภายใน 25 วินาทีจริงๆ ล่ะก็ เหมียวว่าต้องมีช็อคคาโต๊ะกันบ้างแหละ ไปชมกันว่าชาวเน็ตคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง หลังจากถูกระแสโจมตีจากโซเชียล ล่าสุดทางร้านได้ออกมาประกาศยกเลิกโปรดังกล่าวแล้ว หลายคนอาจมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ ทำไมต้องยกเลิก แต่เคยมีนักศึกษามหาวิทยาลัยในบราซิล ถูกเพื่อนท้าให้กินเหล้า 25 ช็อตแบบนี้…
-
เพจรักสุขภาพโพสประชด ‘อย่าให้รางวัลตัวเองด้วยอาหาร เพราะคุณไม่ใช่หมา’ เดือดสิครับงานนี้
ปัจจุบันเทรนด์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้เพจแนวรักสุขภาพผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดตามความนิยมของผู้คน อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้คำพูดเพื่อจูงใจคน อาจต้องใช้ความรอบคอบซักนิดหนึ่ง ไม่งั้นอาจดราม่าเหมือนเรื่องนี้ได้ โดยตอนนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากเพจแนวรักสุขภาพ Fitmecafe.Thailand ได้โพสภาพเสียดสี ‘อย่าให้รางวัลตัวเองด้วยอาหาร เพราะคุณไม่ใช่หมา’ จนชาวเน็ตต้องออกมาคอมเมนต์กันยกใหญ่ เมื่อชาวเน็ตเห็นดังนั้น ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งเป็นไปในเชิงตำหนิเสียส่วนใหญ่ ใครเกิดมาแล้วไม่กินบ้างล่ะ น่าจะใช้คำพูดดีๆหน่อยนะ ความสุขคนเราไม่เท่ากัน จะมาพูดงี้ได้ไง ก่อนพิมพ์นี่คิดยัง ถามจริง อ้วนก็ไม่ได้หนักหัวใคร กินแล้วมีความสุขก็เรื่องของเขาสิ คนอื่นจะทำยังไง ก็เรื่องของเขาสิ โลกไม่ได้มีคนกลุ่มเดียวนะ อย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินสิ แบบนี้เค้าเรียกปากหมา เรียกกว่ากระแสมีไปในทิศทางเดียวกันจริงๆ #เหมียวอ๊อดโด้ไล่อ่านร้อยกว่าเม้น ไม่มีเม้นไหนชมเลย (ฮาา) แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะฮะ เหมียวขอตัวไปเป็นหมาแป๊ป อิอิ ที่มา Fitmecafe.Thailand
-
ฉะกันเดือด!! เพจเทียบภาพ ‘ตัดต่อ’ ชนะการประกวดเทียบกับภาพชั้นครู โดนจวกหลงประเด็น
กลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรงในช่วงเวลานี้กันเลยทีเดียว ซึ่งภายในวงการช่างภาพต่างก็จวกกันเละเทะหลังจากที่เพจ Nikon ได้ทำการประกาศผลผู้ชนะภาพถ่าย แต่กลับกลายเป็นว่าโดนแฉยับเนื่องจากเป็นการตัดแปะรูปเครื่องบินเข้าไปในภาพ (ข่าวเก่า) ซึ่งหลังจากที่เกิดประเด็นนี้ขึ้นมา ก็มีเพจหนึ่งหยิบยกกรณีดังกล่าวมาเปรียบเทียบระหว่างยุคกล้องฟิล์มกับยุคดิจิตอล โดยอ้างว่าเป็นเทคนิคซ้อนภาพเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ยุคสมัย แบบว่าในอดีตรับได้ แต่ทำไมในยุคปัจจุบันรับไม่ได้ ทั้งนี้การจะหยิบยกมาเปรียบเทียบกันนั้น เหมือนจะเป็นการชี้นำให้เข้าใจผิด เพื่อโจมตีความนิยมชมชอบของมนุษย์ ในความเป็นจริงแล้วที่มาของภาพทั้งสองนั้น มีที่มาที่ไปคนละเรื่อง จนโดนชาวเน็ตจวกเละเทะไปตามระเบียบ อย่างเช่นในคอมเม้นด้านล่าง สำหรับเหมียวเองก็ไม่ได้เป็นช่างภาพหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่ก็คิดว่าหากจะนำมาเทียบกันต้องย้อนกลับไปดูก่อนว่าเมื่อก่อนมีกติกาเป็นอย่างไร เทคนิคที่ใช้มีความยากง่ายอย่างไร อีกทั้งภาพถ่ายในอดีตนั้นเป็นฟิล์ม ไม่ได้เป็นไฟล์ดิจิตอลที่จะสามารถตกแต่ง ตัดต่อเพิ่มเติมเข้าไปได้ง่ายเหมือนกับสมัยนี้ หากใครอยากติดตามต่อเพิ่มสามารถไปตามกันได้ที่ ลายแทง นี้เลย เรียบเรียงโดย CatDumb.com
-
พิสูจน์ความสตรองในการตอบกลับของแอดมินเพจ Nikon ล้อเลียนดราม่าการประกวดภาพถ่าย!!
ในตอนนี้กำลังเป็นที่คึกคักในวงการช่างภาพเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ทางเพจ Nikon ได้ออกมาประกาศผลผู้ชนะเลิศการประกวดภาพถ่ายผ่านหน้าเพจตัวเอง จนโดนแฉว่าภาพถ่ายที่ชนะเลิศมานั้นได้รับการตัดต่อมา จนผู้คนออกมาโวยวายและล้อเลียนกันยกใหญ่ (ข่าวเก่า) ภาพต้นฉบับที่ถูกนำมาแฉ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าในแต่ละคอมเม้นก็จะยกภาพดังกล่าวมาแปะเอาไว้ ทำเป็น Meme ล้อเลียนกันสนุกสนานยกตัวอย่างเช่นดังต่อไปนี้ แบบนี้ แบบนี้ และก๊าซซซซซซซซซซซซซว!! โดยจะสังเกตได้ว่ามันเป็นอะไรที่ทำให้น่าอับอายเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจของ Nikon เอง ทั้งนี้เพื่อให้สถาณการณ์ลดความตึงเครียดลง แอดมินเพจ Nikon มาพร้อมด้วยความสตรองไม่มีสั่นคลอน ถึงแม้จะโดนล้อเลียนยังไง ก็ตอบกลับทุกคอมเม้นด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เหมือนหุ่นยนต์ในเพจใหญ่ๆ เอา Canon มา ส่งปืนใหญ่กลับไม่โกง ตัดต่อมาเป็นเครื่องบินหลายสิบเครื่องบินกันว่อน นี่ยังไม่ถึงวันชาตินะจ๊ะ เจอซุปเปอร์เกิร์ลบินผ่านด้วย แอดมินเพจก็ตอบกลับมาว่าเธอกำลังฝึกบินอยู่ ก็เลยแวะมาพักตรงนี้เฉยๆ บินมาขนาดนี้ ก็โดนสอยง่ายๆ สิจ๊ะ แม้ว่าจะโดนจู่โจมอย่างหนักในตอนนี้ แต่แอดมินเพจก็ยังดูแลอย่างทั่วถึง ตอบแต่ละคอมเม้นได้ยาวมาก นับว่าเป็นความใส่ใจที่หาได้ยากมากๆ เลยนะเนี่ย จะว่าไปแล้วก็นึกถึงแอดมินเพจ KFC…
-
ซอมบี้มีจริง!? คนแห่ต่อคิวซื้อรองเท้า Adidas NMD r1 สยามเซ็นเตอร์แทบแตก จนต้องหยุดขายชั่วคราว
หากใครเป็นสาวกรองเท้า และชื่นชอบค่าย Adidas ล่ะก็ คุณก็คงจะทราบดีว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ทาง Adidas ประเทศจะมีการวางขายรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Adidas NMD r1 พร้อมกันทั่วโลก ทำให้แฟนๆ ชาวไทยตื่นเต้น จนบางคนถึงขั้นไปนอนรอที่หน้าสยามเซ็นเตอร์เลยทีเดียว ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่าคุณ Bizz Lightyear ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มลูกค้าจำนวนมากไปออกันอยู่ที่บริเวณสยามเซ็นเตอร์ และพยายามจะพังประตูและแผงเหล็กเข้าไปยังร้าน เพื่อต่อคิวซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “Adidas สยามแตกมาก กระจกแตกมีคนล้มเป็นลมโดนเหยียบ คนที่มารอตั้งแต่เย็นเมื่อวานก็ไม่ได้ซื้อ สรุป อดิดาสไทย ยกเลิกการขาย Adidas NMD r1 ในไทย เพราะคนแห่วิ่งเข้าไปในสยามเซนเตอร์ทุกประตู” “ไม่มีการจัดคิวของคนมาซื้อเองใดๆทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกรีเซลเลอร์ที่จะมาเก็บรองเท้าหวังกำไร แม่งเหี้ย … ไม่ต้องมีใครได้แม่งทั้งนั้นอ่ะ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ดูไปยาวๆ…สรุปไม่ขายแล้ววว #ผู้บริโภค Posted by ผู้บริโภค on 29 มกราคม 2016 หากใครสงสัยว่ารองเท้า Adidas NMD r1…
-
มนุษย์แม่ไม่ปลื้ม!! ต่อว่า Hot Pot ออกโปรโมชั่นลูกเทพ แบบนี้แขวะลูกฉันชัดๆ!!
จากกระแสของลูกเทพอันร้อนแรง ทำให้ร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ พากันออกโปรโมชั่นเพื่อมาบริการ (หรือประชด) แก่ผู้เลี้ยงลูกเทพหลายๆ ราย เช่นเดียวกับร้าน Hot Pot ที่ออฟโปรโมชั่นใหม่เพื่อเอาใจลูกเทพโดยเฉพาะ แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะมีมนุษย์แม่บางคนไม่พอใจกับโปรโมชั่นและเงื่อนไขของทางร้าน Hot Pot จนต้องมาตั้งกระทู้ในพันทิป “ขอไว้อาลัย Hot Pot ค่ะ อยากเกาะกระแสลูกเทพก็เกาะไป แต่อย่ามาแขวะกันแบบนี้ มันเสียความรู้สึกค่ะ” ภายในกระทู้มีเนื้อหาในเชิงต่อว่าร้าน Hot Pot ที่เขียนเงื่อนไขการใช้โปรโมชั่นเหมือนกับเป็นการแขวะลูกๆ ของพวกเขาซะมากกว่า เพราะในเงื่อนไขมีการระบุว่าห้ามลูกเทพส่งเสียงดัง อย่าวิ่งเล่นในร้าน เพราะลูก (เทพ) ของคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน งานนี้ทำเอามนุษย์แม่ถึงกับฉุนขาดทีเดียวจึงมาตั้งกระทู้ต่อว่าด้วยประโยคที่ร้อนแรง เช่น “ถามหน่อยเถอะค่ะ ว่านี่ร้านอาหารหรือวัดคะ ทำไมเด็กจะส่งเสียงดังไม่ได้ ถ้าใครหนวกหูก็เชิญไปทานข้าวที่บ้านดีกว่ามั้ยคะ?” “แล้วเรื่องทานหกเลอะเทอะมันก็เป็นธรรมดาของเด็กป่ะ? คุณคือร้านอาหาร คุณมีหน้าที่บริการ ถ้ามันหกเลอะเทอะคุณก็เช็ดสิคะ ไม่งั้นคุณจะจ้างพนักงานทำความสะอาดมาเพื่อ???” “ดิฉันแค่ไม่เข้าใจ Hot Pot ตรงที่จะมาแขวะคนที่มีลูกทำไม ในเมื่อสถานที่ของคุณมันถูกสร้างมาเพื่อรองรับ และต้องรับให้ได้กับทุกสิ่งที่เกิด” “การที่เขาเสียงดังนี่มันผิดมากเหรอคะ?…
-
โอ๊ยยย พ่อววว!! ชาวเน็ตเตือนภัย หนุ่มขอแต่งงาน-ทำสาวท้อง-หลอกกินเงินนับ 10 ราย
ระหว่างกำลังนั่งเล่นเฟซบุ๊คเพลินๆ เหมียวก็ไปสะดุดตากับโพสต์ที่เพื่อนคนหนึ่งแชร์มา ต้นทางจากเพจ G Strong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง ใจความแบบนี้ ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ โลกไม่ได้สวยงามผู้หญิงที่โดนหลอกขอแต่งงานส่งคลิปมาให้ดูด้วย ผู้ชายเลวมาก ขอแต่งงานเป็น 10 คน ให้ผู้หญิงตายใจแล้วหลอกเอาเงินทำขนาดนี้เกินไป แถมทำท้องด้วยhttp://m.pantip.com/topic/34724570? Posted by G Strong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง on Wednesday, January 27, 2016 สรุปคร่าวๆก็คือ… ผู้หญิงที่โดนหลอกขอแต่งงาน ส่งคลิปของตัวเองมาให้ทางเพจช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้เซอไพร้ส์เธอแค่คนเดียว แต่กลับทำกับคนอื่นๆอีกนับสิบ ยังไม่พอ ยังมีลิงค์ไปกระทู้พันทิปที่ชื่อว่า เตือนภัยสังคมค่ะ <<< คลิกอ่านได้นะ เนื้อหาภายในกระทู้เล่าค่อนข้างละเอียด มีทั้งพฤติกรรมการขอแต่งงานคนหนึ่ง แล้วชวนกู้ซื้อรถ ซื้อบ้านร่วมกัน เพื่อนำไปสร้างภาพหลอกผู้หญิงคนอื่นๆต่อไปอีก รวมไปถึงการที่เคยดูแลอย่างดีในตอนแรกๆ หลังจากนั้นก็เริ่มออกลาย พอไม่ให้เงินก็ขอเลิก ทั้งๆที่รู้ว่าฝ่ายสาวท้องอยู่ (สืบทราบว่าทำสาวท้องมาอย่างน้อย 4 คน เพราะไม่ได้ป้องกัน และให้เอาเด็กออกด้วย) ในกระทู้ยังมีประเด็นคอมเม้นท์อยากดุเด็ดเผ็ดมัน ใครอยากอ่านเพิ่มก็ลองเข้าไปได้นะครับ จากนั้นทางเพจ Red Skull V.6…
-
จะดราม่าไหมน๊อ… เมื่อมีคนออกมาจับผิดว่า ‘กวาง เดอะเฟซ’ ปั๊มยอดติดตาม IG
แม้ว่าตัวรายการจะจบไปแล้ว แต่ความดราม่ายังคงไม่จบนะ เพราะล่าสุดมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปตาดี สังเกตเห็นยอดผู้ติดตามใน IG ของ กวาง The Face Season 2 พุ่งสูงผิดปกติ งานนี้จึงเกิดข้อสงสัยว่า เธอปั๊มยอดผู้ติดตามหรือเปล่า? เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 มกราคม สมาชิกเว็บไซต์พันทิป หมายเลข 2744990 ได้เข้ามาตั้งกระทู้ ทำไม Followers ใน IG ของกวาง The Face มันแปลกๆ? พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่ายอดผู้ติดตาม IG ของสาวกวางเพิ่มสูงกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ จนดูผิดปกติ แถมในจำนวนบัญชีผู้ติดตามเหล่านั้นยังมีแต่ผู้ใช้ปลอมๆ ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว อัพรูปโปรไฟล์ หรือโพสต์อะไรเลย จนมีบางคนเดากันไปว่าเธอนั้นจ่ายเงินเพื่อซื้อยอดผู้ติดตามหรือเปล่า? พร้อมกันนี้ยังมีข้อความภายในกระทู้ด้วยว่า “ตามไอจีสาวๆ เดอะเฟซมาตั้งเเต่ประกวดแรกๆ ยอดฟอลกวางพุ่งนำเพื่อนมาก พอกดเข้าไปดูคือ คนมาฟอลช่วงนั้น แปลกมากกก มีแต่ฝรั่ง กับไอจีผีๆ เต็มไปหมด แบบนี้เรียกว่าปั๊มฟอลได้มั้ย ใครเคยแอบไปส่องฟอลโลเวอร์กวางบ้าง ช่วงแข่งแรกๆ” …
-
เอางี้จริงใช่ไหม!! ชมตัวอย่างสุดเกรียน Deadpool ทำออกมาในรูปแบบโรแมนติกดราม่า
หลังจากที่ได้ปล่อยโปสเตอร์หนังเรื่อง Deadpool ออกไปในเวอร์ชั่นโรแมนติก ดราม่า ทำเอาสาวกหนังฮีโร่ถึงกับเงิบไปเลย เพราะความเกรียนทะลุจอของมันนั้นเกินบรรยายจริงๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่านอกจากโปสเตอร์แล้ว มันยังจะทำตัวอย่างหนังออกมาเป็นเวอร์ชั่นโรแมนติกดราม่าอีกด้วย ในตัวอย่างใหม่นี้ทำออกมาได้เนียนมากๆ เหมาะสำหรับการเอาไปหลอกแฟนให้ไปดูหนังกับเรา รับรองว่าใครที่ชอบดูหนังดราม่าต้องหลงกลอย่างแน่นอน เราไปชมตัวอย่างกันเลย คาดว่าน่าจะเป็นฉบับ Fanmade นะ เหมียวว่า Deadpool ประสบความสำเร็จทางด้านการโปรโมตเป็นอย่างมาก เพราะเขาสามารถดึงเอาคาแรกเตอร์ความเกรียนออกมาได้ถึงที่สุดจริงๆ อีกทั้งนักแสดงเองก็ยังเกรียนนอกจอเลยทีเดียว สำหรับใครที่รอหนังฮีโร่เกรียนๆ เรื่องนี้ ในช่วงวาเลนไทน์เราก็จะได้ดูกันแล้วนะจ๊ะ ที่มา Antony Marchiando
-
ต้องทำขนาดนี้เลย!? แชร์กระหน่ำ คลิปแม่ค้าขายสบู่ ลงทุนแก้ผ้าถูสบู่โชว์ สรุปขายสบู่หรืออะไร?
แม้ว่าการแข่งขันในสมัยนี้จะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจึงต้องงัดกลยุทธเด็ดออกมาเพื่อเรียกลูกค้า แต่เหมียวก็ไม่คิดเลยว่ามันจะรุนแรง Hard Sale ได้ขนาดนี้!! เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของแม่ค้าขายสบู่รายหนึ่ง ที่พยายามโปรโมทสินค้าของตัวเองด้วยการแก้ผ้าถูสบู่โชว์ให้แก่ลูกค้าของเธอเห็นสรรพคุณของสบู่ ว่าสามารถรักษาสิว ฝ้า กระ รวมไปถึงรักษาภูมิแพ้ด้วย แถมยังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายอีกจำนวนมาก หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัง ถึงการค้าขายที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง อีกทั้งยังใช้เรือนร่างในการโปรโมทสินค้า ทำให้ดูอนาจารมากกว่าจะน่าซื้อ ย่างเช่นคุณ Pattana Comp กล่าวว่า “เป็นการโฆษณาที่โฉ่งฉ่างมาก หาได้เจริญตาไม่ เหมือนเอาลิงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์” ถ้าจะ Hard Sale ขนาดนี้ เหมียวว่ามันดูไม่งามไปหน่อยนะ ส่วนเรื่องคลิปเหมียวขอไม่เอามาลงนะ แต่คิดว่าคงไม่เกินความสามารถของเพื่อนๆ อย่างแน่นอน ที่มา มีคลิป มาแชร์กัน
-
น้ำตาจะไหล!! หนุ่มขับแท็กซี่ไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เหตุเพราะภรรยาเพิ่งเสียชีวิต
กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ที่ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกน้อยไปด้วย สาเหตุเพราะว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียงชีวิตหลังจากคลอดลูกได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kwang Jazzykwang โดยเจ้าตัวเล่าววันได้เดินทางไปทำงานด้วยรถแท็กซี่คันหนึ่ง แต่เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปก็ตกใจเล็กน้อยเพราะคนขับ ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกไปด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่ง จากคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่ทำให้ทราบว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้เขาต้องดูแลลูกอีก 2 คน คนโตอยู่ชั้นป.2 และคนเล็กเพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือน เขาจึงต้องกระเตงลูกน้อยมาเลี้ยงบนรถด้วย แต่เนื่องจากลูกคนเล็กมีอาการป่วยม้ามโตเพราะติดเชื้อจากแม่ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่มีเงินพอ ทุกวันนี้รายได้จากการขับแท็กซี่ยังแทบไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้านเลย ใครที่เจอพี่แท็กซี่คนนี้ก็สามารถช่วยเหลือพี่เขาได้นะ เหมียวอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย ที่มา Kwang Jazzykwang
-
มหากาพย์ดราม่า ลงขายสบู่เครื่องสำอางมือสอง โดนทั้งเจ้าของแบรนด์และตัวแทนรุมด่ายับ!!
โดยปกติแล้วการที่เราซื้อของอะไรมาซักชิ้นแล้วเกิดอาการไม่พอใจ ไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่อยากเก็บไว้ อย่างน้อยก็แปรกลับมาเป็นเงินได้บ้าง ส่งต่อให้กับคนอื่นที่อยากจะได้ อยากจะใช้ ก็มักจะนำไปโพสต์ขายในกลุ่มโซเชียลอยู่แล้ว อย่างเช่นในเรื่องของสบู่ที่ทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อนไปทั้งบาง!! เรื่องมันเกิดขึ้นมาจากการที่มีโพสต์ลงขายสบู่ยี่ห้อหนึ่งลงในกลุ่มส่งต่อเครื่องสำอางราคาเบาๆ นั่นก็หมายความว่าเป็นของมือสอง ไม่ได้ใช้แล้ว จึงทำให้มีราคาตกลงไป เนื่องจากซื้อมา 4 ก้อน ใช้ไป 3 ก้อน จึงเหลือเพียงแค่ก้อนเดียว จากราคาขายก้อนละ 200 บาท ก็โพสต์ขายเพียงแค่ 150 บาท แล้วทีนี้ก็จุดประเด็นขึ้นมาทันทีมีการแชทมาถามจากบุคคลอื่นว่าทำไมถึงขายราคานี้ เป็นตัวแทนขายรึเปล่า? โดยที่มีความตั้งใจอยู่แล้วว่ามันเป็นของมือสอง แต่กลับโดนต่อว่าเนื่องจากไปตัดราคาของตัวแทนที่ขายอยู่ในราคา 200 บาท!? กลายมาเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อทางตัวแทนแคปภาพผู้ที่ลงขายไปให้เจ้าของแบรนด์ ถึงกับประกาศว่าเป็นมิจฉาชีพ โดยไม่ทำการสืบเรื่องราวก่อน บอกว่าทำการตัดราคาตัวแทนทำให้ไม่สามารถจำหน่ายได้ (ทั้งๆ ที่ขายเพียงแค่ก้อนเดียว) อีกทั้งยังโดนรุมด่าจากตัวแทนและเจ้าของแบรนด์แบบไม่ยั้ง และถึงแม้ว่าจะพยายามพูดคุยกับเจ้าของแบรนด์ซักแค่ไหน ทีท่าก็ดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นไปอีก ดังเช่นบทสนทนาในไลน์ดังต่อไปนี้ …
-
แตกอีกแล้วรึ? ไอจี VRZOMOM โพสต์ข้อความ “เลี้ยงหมามันรู้จักบุญคุณ” ไม่รู้เอ่ยถึงใคร?!
กลายเป็นประเด็นอีกครั้งหนึ่งหลังจากไม่ได้เป็นข่าวมานาน จากเมื่อก่อนที่จะได้เห็นสมาชิกของรายการ VRZO ชาแนลในยูทูบชื่อดัง ทะยอยลาออกไปทำงานของตัวเอง เนื่องจากมีปัญหาภายในกัน ซึ่งระหว่างนี้ก็มีข่าวว่าปลื้มและทับทิมก็เริ่มจะมีปัญหากัน แต่ก็เป็นแค่ข่าวลือเฉยๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ธันว่าคม ก็ได้มีไอจีชื่อว่า @vrzomom ได้โพสต์ข้อความบางอย่างที่เหมือนจะบอกเป็นนัยย์ โดย สมาชิกหมายเลข 1208739 ในพันทิปได้ทำการแคปภาพเหล่านั้นมา ซึ่งก็มีคนได้ตั้งข้อสงสัยว่าคนที่กล่าวถึงในภาพนี้เป็นใครกันนะ หลังจากมีกระทู้นี้ หลายคนถึงกับปูเสื่อรอ ไม่ยอมหลับยอมนอน รอดูความเคลื่อนไหวว่าจะมีอะไรต่อบ้าง แล้วก็ได้เห็นคอมเมนต์อีกอันหนึ่งของ @vrzomom มีการวิเคราะห์เจาะลึกแบบว่าตีความกันได้สุดยอดจริงๆ ไม่หมดเพียงแค่นี้ เจ้าของกระทู้ยังได้เข้าไปดูไอจีของปลื้มและทับทิม แล้วก็สังเกตว่าทั้งคู่ไม่ได้อัพรูปคู่มานานแล้ว บางคอมเมนต์ถึงขั้นไปเจอตรง End Credit ว่าทับทิมไม่ได้ใช้นามสกุลเหมือนปลื้มแล้ว ตอนเมื่อคืนเหมียวก็กำลังเข้าไปเผือกในไอจีต้นเหตุอยู่นะ แต่กลับเข้าไปอีกรอบ ดูเหมือนว่าคุณแม่ของพี่ปลื้มได้ลบแคปชั่นรวมถึงคอมเมนต์ไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่รอว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้บ้าง ที่มา สมาชิกหมายเลข 1208739
-
ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน!! ชาวเน็ตแชร์คลิปเด็กโยนลูกหมา ผู้ใหญ่ยืนหัวเราะสนุกสนาน
กลายเป็นคลิปร้อนที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปของหนูน้อยรายหนึ่ง ขณะเล่นกับลูกหมาด้วยความรุนแรง ทั้งอุ้มและโยนลงพื้น ทำให้ลูกหมาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ผู้ปกครองกลับยืนถ่ายคลิปหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ทำให้มีชาวเน็ตแชร์ต่อกันไปอีกมากมาย จนญาติของเด็กในคลิปต้องออกมาถ่ายคลิปวิดีโอขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่ามีลูกสุนัขอยู่แถวบ้าน เห็นเด็กเล่นน่ารักดีจึงถ่ายคลิปเอาไปอวดพ่อแม่เด็ก แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ว่าละ ว่าถ้าแชร์คลิปจากเฟซต้นทางเดี๋ยวคงมีลบหนี เป็นห่าอะไรจ้ะเนี่ย สอนให้เด็กโยนหมาทุ่มหมา แล้วไอ้คนถ่ายคลิปก็หัวเราะชอบใจ มีความสุขกับความทรมานของชีวิตอื่นเหรอ ได้ยินเสียงหมาน้อยร้องแล้วจะร้องไห้ มันคงจะเจ็บมากๆเลยอ่ะพวกเธอ จะด่าว่าเหี้ยก็ยังสงสารตัวเหี้ยเลยนะ อันนี้ไม่น่าปาถุงยางนะ น่าจับไปตอนทั้งคู่นั่นแหละ หรือเอาไปทำปุ๋ยได้แค่นั้น ปล.สองคนนี้เหมือนจะไม่ใช่พ่อแม่เด็กรึเปล่าอ่ะพวกเธอ /แอมมี Posted by ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน on 24 ธันวาคม 2015 เมื่อคลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบตามมาอย่างมากมาย ทั้งนี้ชาวเน็ตได้ต่อว่าไปยังผู้เป็นพ่อเป็นว่า ว่าปล่อยให้ลูกน้อยทำแบบนี้ได้ยังไง แถมยังเอาเท้าไปยันหมา ส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยก้าวร้าวติดตัว ล่าสุดมีลูกเพจรายหนึ่งแจ้งเข้ามาว่ามีสาวใจบุญขอรับลูกสุนัขตัวนั้นไปเลี้ยงดูแล้วเรียบร้อย โดยมีข้อความว่า “ตอนนี้น้องหมาในคลิปอยู่กับพลอยแล้วนะคะ แล้วก็พลอยกับพี่ชายจะขอรับเลี้ยงไว้นะคะ สัญญาจะเลี้ยงให้ดีที่สุดค่ะ ตอนที่พลอยไปเอาหมา พี่เขาขอให้เลิกแชร์คลิปนะคะ สงสารน้องตัวเล็กค่ะ” …
-
ไหนล่ะความเท่าเทียม!? สาวโพสต์ประจานหนุ่มบน BTS หลังไม่ยอมลุกให้ตัวเองนั่ง เจอชาวเน็ตสวดยับ
กลายเป็นดราม่าให้โซเชียลได้ถกเถียงกันอีกแล้ว สำหรับประเด็นความเท่าเทียมและสิทธิสตรี เพราะเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ได้เผยแพร่เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่แอบถ่ายภาพผู้โดยสารบน BTS มาประจานในเฟซบุ๊ก เหตุเพราะไม่ยอมลุกให้ตนเองนั่ง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “โปรดเอื้อเฟื้อที่นั่งให้เด็ก สตรี สตรีมีครรภ์ และคนชรา Ok คงเป็นฝีดัน มันหนักหน่วงมาก เข้าใจ นั่งให้สบายเลยเพื่อน ยืนแค่ 15 สถานีเอง” จากนั้นเฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ก็ได้นำเอาเรื่องราวดังกล่าวมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อ โดยบอกว่าตนเองจะยืนก็ต่อเมื่อมีคนชรา สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก หรือคนพิการ แต่ถ้าเป็นสตรีที่ร่างกายแข็งแรงดีจะไม่ลุกให้ เพราะไม่ได้เป็นผู้พิการ เมื่อเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ถึงสิทธิสตรีที่ควรมีความเท่าเทียมกันกับเพศชาย โดยหลายๆ ความเห็นมองว่าหญิงสาวที่มีร่างกายสมประกอบ สามารถยืนได้เหมือนๆ กับเพศชาย เพราะมีร่างกายเหมือนกัน ในขณะที่ชาวเน็ตที่เป็นหญิงสาว ได้เข้ามาต่อว่าหญิงสาวด้วยกัน ว่าอย่าเรียกร้องสิทธิ์ด้วยการนำเพศแม่มาอ้าง เพราะมันทำให้ผู้ชายนำเอาเพศหญิงมาด่าแบบเหมารวม หญิงสาวควรเข้มแข็งมากกว่าแต่ก่อน …
-
ออนไลน์แชร์ คลิปหนุ่มจักรยานยนต์ถูกคนขับรถเมล์รุมตึ๊บ เหตุใจร้อนทั้งคู่
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jwry Kl เป็นคลิปเหตุการณ์การรุมทำร้ายร่างกายของคนขับรถเมล์กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รายหนึ่ง เหตุเพราะว่ารถเมล์จอดในที่ห้ามจอดจนทำให้การจราจรติดขัด หนุ่มขับมอเตอร์ไซค์จึงบีบแตรใส่รถเมล์พร้อมชูนิ้วกลาง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจขับรถพุ่งชน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก แต่ดูเหมือนเหตุการณ์จะไม่จบง่ายๆ เพราะฝ่ายมอเตอร์ไซค์ได้ขึ้นไปบนรถเมล์และมีเรื่องชกต่อยกัน พร้อมกันนี้ยังมีข้อความระบุถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 4 แยกพัฒนาการ ผู้ชายขี่มอไซค์มีแฟนสาวซ้อนท้าย จากเส้นศรีนครินทร์มาถึงแยกพัฒนาการ คือเราจะต้องเลี้ยวซ้ายไปทางคลองตัน และกฎจราจรมีบอกอยู่คือ ‘เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด’ ห้ามจอดหรือหยุดเพื่อรอไฟเขียวที่จะตรงไปทางบางกะปิ” “แล้วพอผู้ชายขี่มอไซค์มาเห็นว่ารถมันติดมาก และเห็นว่ารถเมล์ 207 จอดในที่ที่ไม่ควรจอดซึ่งฝ่ายชายเคยโทรแจ้งร้องเรียนไปหลายรอบแล้วว่ารถเบอร์นี้ทำให้จราจรติดขัด แต่ก็ไม่รู้ทำไมไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ฝ่ายชายเลยตะโกนด่า ‘ใช่ที่จอดไหมไอ้เหี้_รถมันติดมากนี้ทำคนอื่นเขาเดือดร้อน’” “แล้วผู้ชายก็ขี่มอไซค์ผ่านรถเมล์ 207 ไป แต่ขณะขี่ผ่าน รถเมล์ 207 มันบีบแตรใส่หลายทีมากทำให้ผู้ชายจอดมอไซค์ห่างจากรอเมล์ประมาน 1-2 เมตรและผู้ชายก็หันไปชูนิ้วกลางให้ (มอไซค์ยังจอดอยู่แยกพัฒนาการตรงที่จะเลี้ยวซ้ายพอดีนะ)” “แล้วรถเมล์ก็ขับชนมอไซค์ล้ม ผู้ชายลุกจากมอไซค์ขึ้นไปต่อยกับคนขับรถเมล์ แต่ตัวแฟนสาวที่ซ้อนมอไซค์มา ขาโดนมอไซค์ทับอยู่และพยายามช่วยเหลือตัวเองออกมา และแฟนสาวก็เดินไปดูแฟนของตัวเองว่ากำลังถูกรุม 2 ต่อ 1″ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง …
-
ทำผิดจนเคยชิน!! ชาวเน็ตโวย ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษ ขับเลยมาเลนอีกฝั่ง หวั่นเกิดอุบัติเหตุ
เป็นคลิปที่ผู้ใช้รถใช้ถนนกำลังให้ความสนใจอย่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปที่ถูกถ่ายได้ ณ ห้าแยกวัชรพล ที่มีการจราจรติดขัด จนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดเลนใหม่ที่ล้ำเข้าไปอีกเลน ทำให้การจราจรอีกฝั่งติดขัดเช่นกัน และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย พร้อมกันนี้ยังมีข้อความว่า “ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.ครับ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่ายและความเห็นแก่ตัว” คลิปได้ที่ด้านล่างเลย ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน Cr : Pakpoom Plin Wannaseang ห้าแยกวัชรพล เปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.คร้าบ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่าย และความเห็นแก่ตัว Posted by Motor Thailand on 10 ธันวาคม 2015 หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำชาวเน็ตพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายและไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้รถติดหนักกว่าเดิม ในขณะที่คุณ Puparn Kongsaby กล่าวว่า พฤติกรรมการขับรถแบบนี้มีให้เห็นมานานแล้ว เพราะบริเวณแยกนั้นเป็นแยกที่มีรถติดหนักโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน จึงมีการเปิดเลนใหม่กันเอง วอนเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยด้วย …
-
อาจารย์อดัมชวนคิด ไปเรียนเมืองนอก 2-3 ปี กลับมาถึงกับพูดไทยไม่ค่อยได้เลยเหรอ?
กลายเป็นดราม่าที่เถียงกันข้ามภพข้ามชาติเลยก็ว่าได้สำหรับการพูดไทยคำอังกฤษคำและการพูดไทยไม่ชัด หลังจากการกลับจากเมืองนอก หลายคนมองว่าเป็นเรื่องกระแดะ และหลายคนก็มองว่าเป็นเรื่องความเคยชิน ซึ่งก็ไม่ผิดทั้งคู่ เพราะบางคนก็ชินจริงๆ และบางคนก็แกล้งทำจริงๆก็มีเช่นเดียวกัน แต่แล้ววันนี้ในเพจ อาจารย์ อดัม ก็ได้โพสต์ภาพทวีตที่ว่าให้กับอ.อดัม หลังจากที่เขาได้ทวีตไปเมื่อวันที่ 9 กันยายนปีที่แล้วไปว่า “ผมพูดไทยเกือบทุกวันเป็นเวลาแปดปี สำเนียงภาษาอังกฤษผมเป็นเหมือนเดิม การเรียนภาษาที่สองไม่ได้เปลี่ยนสำเนียงภาษาแม่ ถ้าเปลี่ยนก็แสดงว่ากระแดะ” แล้วอาจารย์ก็นำภาพที่ได้มีคนตอบกลับมานำมาโพสต์ลงเพจ พร้อมกับชี้แจงหลายๆอย่าง หลังจากโพสต์ไป ก็ได้มีคนมาแสดงความคิดเห็นเชิงเห็นด้วยกันอาจารย์มากมาย บอกเลยว่าอันนี้มันขึ้นอยู่กับส่วนบุคคลจริงๆ เรื่องไทยคำอังกฤษคำนี่เหมียวเข้าใจได้เลย เพราะตอนที่เหมียวเรียนมหาลัยฯ ประมาณ 90% อาจารย์พูดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมันจะมีศัพท์บางคำที่มันใช้แล้วดูครอบคลุมกว่าภาษาไทย เวลาเราจะพูดมันก็จะนึกศัพท์ไทยไม่ออก ก็เลยต้องใช้ภาษาอังกฤษแทน แต่ถ้าพูดเรื่องสำเนียงแล้ว คิดเหมือนอาจารย์เป๊ะๆ มีญาติเป็นคนอีสาน อยู่กินเมืองนอกเกือบ 20 ปี ละ กลับบ้านมายังเว่าอีสานแบบที่ไม่รู้เลยว่าเคยไปเมืองนอกมาก่อน ที่มา อาจารย์ อดัม
-
แฟนคลับฉุนหนัก!! หลังจากที่ ‘บี้เดอะสกา’ โอบกอด ‘ทิฟฟานี่’ ในงาน Influence Asia 2015
ในวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558 นี้ มีการจัดงานประกาศผลรางวัลให้กับผลงานการสร้างสรรค์สื่อผ่านอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียในทวีปเอเชีย มีชื่องานว่า Influence Asia 2015 จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีผู้ได้รับเสนอชื่อเข้ารับรางวัลในสาขาต่างๆ มากมาย รวมไปถึงตัวแทนจากประเทศไทยด้วย โดยหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยที่ได้รับรางวัลสาขา YouTube Personality ก็คือ ‘บี้ เดอะสกา’ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการประกาศชื่อก็ได้ขึ้นไปรับรางวัลและจับมือกับพิธีกรสาว ‘ทิฟฟานี่‘ จากวง Girls’ Generation ตามธรรมเนียม แต่สิ่งที่มากไปกว่านั้นก็คือการโอบกอดพร้อมกับทำหน้าตาทะเล้นๆ!! วิดีโอที่โพสต์โดย HBD KWON YURI (@loved_you_forever) เมื่อ ธ.ค. 7, 2015 เวลา 3:49am PST ซึ่งภายหลังจากที่บี้เดอะสกาได้รับรางวัลมาแล้ว แต่ผลที่ตามมาจากการกระทำบนเวทีนั้นกลับส่งผลในด้านลบอย่างรุนแรงต่อแฟนทิฟฟานี่คลับทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ ภายในอินสตาแกรมของบี้เดอะสกาก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพรางวัล ความคิดเห็นภายในนั้นมีการแสดงความยินดีกับรางวัลนิดหน่อย ส่วนที่เหลือคือการติติงจากพฤติกรรมที่ทำบนเวที เหมือนกับเป็นการไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายเลย ความคิดเห็นบางส่วนจากอินสตาแกรมของบี้เดอะสกาเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ…
-
ดราม่าร้านกาแฟสีเขียวชื่อดัง “จัดโปรฯ วันพ่อ” ให้ลองคิดถึงคนที่ไม่มีพ่อแล้ว
ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันพ่อแห่งชาติในบ้านเรา ทางร้านกาแฟชื่อดังได้ทำโปรโมชั่นแล้วโพสต์ทางเฟซบุ๊ก เพื่อเชิญชวนให้คนได้มาใช้สิทธิ์นี้กัน ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากลูกค้าที่ซื้อกินเป็นประจำ แต่แล้วก็ได้มีลูกเพจบางคนได้ท้วงติงถึงโปรโมชั่นในครั้งนี้ เนื่องจากว่าบางคนอาจจะเสียพ่อไปแล้ว ซึ่งอาจกระทบจิตใจคนที่ไม่มีพ่อ และก่อนหน้านี้ก็ได้มีคอมเม้นต์ที่รุนแรงมากกว่านี้อีก จนทางเฟซบุ๊กของร้านกาแฟนต้องมาคอยสอดส่องและลบคอมเม้นต์ที่เสี่ยงเหล่านั้นออกไป แต่ในเรื่องดราม่า ก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นด้วย อันนี้เหมียวไปเจอคอนเม้นต์จากเพจ Drama-addict อ่านแล้วกินใจมากๆ ทั้งนี้โปรโมชั่นก็ได้จบไปแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่จบ ยังคงคอมเม้นต์กันอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นี้ก็จะกลายเป็นดราม่าได้ ที่มา Starbucks Thailand, Drama-addict
-
หญิงชราถูกลูกสาวทำร้ายร่างกาย แถมส่งขึ้นรถทัวร์มาทิ้งไว้ที่เชียงราย ชาวเน็ตเข้าช่วยทันที
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของคุณยายท่านหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย แถมตามร่างกายยังมีแผลฟกช้ำ โดยคุณยายอ้างว่าโดนลูกสาวทำร้ายร่างกาย โชคดีที่มีวัยรุ่นสาวผ่านมาเห็นพอดี เลยให้ความช่วยเหลือแก่คุณยายทันที เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Mild Mintz เผยให้เห็นภาพหญิงชรารายหนึ่งพร้อมกับข้อความว่า “ยายสุข ใจปินตา บ้านแม่คำ แกบอกว่าลูกสาวซื้อตั๋วรถจากเชียงใหม่แล้วมาทิ้งยายไว้ที่ขนส่งเชียงราย ยายมีแผลฟกช้ำ โดนลูกสาวทำร้ายร่างกายทุบแล้วเข้าหญ้าข้างทาง” “ยายแก่จำอะไรไม่ค่อยได้ ช่วยตามหาหน่อยค่ะ คือเห็นใจยายมากถูกทิ้งไว้ที่ขนส่งยายไม่รู้จะไปไหน ช่วยตามหาหน่อยค่ะ ช่วยแชร์หน่อยค่ะ” หลังจากที่ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสารและเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างมากมาย ทั้งนี้เจ้าของภาพยังได้เข้ามาตอบความเห็นแก่ทุกๆ คนด้วยว่า ล่าสุดไปซื้ออาหารให้คุณยาย และตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามารับช่วงต่อแล้ว ล่าสุดคุณยายได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและอาการบาดเจ็บที่ข้อมือแล้วด้วย หลังจากนี้เราก็ติดตามกันต่อไปนะฮะ ว่าจะมีอะไรคืบหน้า เรื่องราวจะจบยังไงเหมียวจะคอยเกาะมาฝากกันฮะ!! ที่มา Mild Mintz
-
ดาราสาว “มาร์กี้” ชวนถกประเด็นฝากร้านในไอจีมันโอเคเหรอ? พ่อค้าแม่ค้าดราม่าเพียบ!!
ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นอะไรไปแล้วสำหรับบ้านเราที่เวลามีไอจีที่มียอดฟอลโลว์เยอะๆ ก็มักจะมีบรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ค้าไปฝากร้านกันตรึมโดยไม่ถามหรือขออนุญาตเจ้าของไอจีกันเลย จนปัจจุบันก็มีดาราออกมาติดแฮชแท็ก #ไม่ฝากร้านนะคะ เต็มไปหมด ดาราบางคนก็ไม่ค่อยใส่ใจกับคนที่มาฝากร้านเท่าไหร่ แต่บางคนก็ต้องการอะไรที่มันเป็นคอมเม้นต์จริงๆ ไม่ใช่ให้เม้นต์อะไรที่ไม่เกี่ยวกับภาพที่โพสต์ ล่าสุด ดาราสาว “มาร์กี้” ก็ได้โพสต์ภาพที่กลายเป็นประเด็น เธอได้ตั้งคำถามตั้งๆเกี่ยวกับคนที่มาฝากร้านตามไอจีดาราคนดัง แล้วให้ทุกคนร่วมถกเถียงกัน แต่แล้วงานนี้ต้องมีดราม่าแน่นอนล่ะ เพราะมันกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าที่หากินกันในไอจี โดยเฉพาะพวกที่ชอบเม้นต์ฝากร้านนั่นเอง จนในคอมเม้นต์เถียงกันยาวมากๆ เหมียวจะเอามาให้ดูเป็นบางส่วนแล้วกัน และที่น่าแปลกใจก็คือมาร์กี้ไม่ได้ด่าหรืออะไรมากมายกับคนที่มาฝากร้านเลย แต่กลับโดนคนด่าเสียๆหายๆ มากมาย เหมียวนี่ก็งงเหมือนกันว่าไปด่ามาร์กี้ทำไม เขาตั้งมาให้ถกประเด็นกันนะเฮ้ย ล่าสุดก็ได้มีคนตั้งกระทู้ในพันทิป “ดราม่าแซ่บๆก่อนนอน มาร์กี้ โพสต์ไอจี ถามว่า จะฝากร้านในไอจีคนอื่นเพื่ออะไร” และได้รวบรวมเอาเหล่าบรรดาคนดังที่ตอบสนองต่อพ่อค้าแม่ค้าในไอจีว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร ลองเข้าไปอ่านกันได้ และเมื่อไม่นานมานี้ มาร์กี้ก็ได้โพสต์ภาพพร้อมกับเปิดให้แม่ค้ามาฝากร้านได้เต็มที่ สุดยอดจริงๆผู้หญิงคนนี้ ใครอยากตามอ่านดราม่าก็เข้าไปที่ไอจี @margie_rasri ได้เลย
-
สนั่นโซเชียล!! สาวระบาย เจอเมียน้อยตามราวีทั้งที่ได้สามีไปแล้ว แถมอยากได้ลูกไปเป็นคนใช้!?
กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของเมียน้อยที่ส่งข้อความมาราวีอดีตภรรยา หลังจากที่ได้สามีของเธอไปแล้ว แถมยังบอกด้วยว่าอยากได้ลูกชายของเธอไปเป็นคนใช้ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับเดือดดาลแทนเลยทีเดียว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Suthasinee Pathompatvorakul เป็นภาพบทสนทนาของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ส่งข้อความมาหาเธอ พร้อมกับข้อความเยาะเย้ยที่สามารถแย่งชิงสามีของเธอไปได้ พร้อมทั้งอวดว่าสามีที่เธอได้ไปนั้นเอาอกเอาใจเธอเต็มที่ ทั้งนี้ยังมีข้อความต่อท้ายด้วยว่า “เห็นว่าเลี้ยงลูกไม่ไหว เอามาก็ได้ค่ะ กำลังอยากได้คนใช้ จะสงเคราห์ให้ค่ะ” ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันโกรธแค้นแทนหญิงสาวและส่งข้อความต่อว่าเมียน้อยกันยกใหญ่ หลังจากที่ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นและให้กำลังใจเธออยู่ไม่น้อย พร้อมทั้งมีการก่นด่าและสาปแช่งเธอจากชาวเน็ตอีกมากมาย “กับเด็กยังคิดร้ายได้ จิตใจทำด้วยอะไร” “คนแบบนี้ไม่มีวันเจอความรักดีๆ” ที่มา Suthasinee Pathompatvorakul
-
ไอดอลสาวขอโทษผ่านคลิป กรณีดราม่ารายการ “วิ่งขอน้ำอสุจิ” กลางสยาม
หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด้กให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงความอนาจารย์และความไม่สร้างสรรค์ สำหรับกรณีของรายการทางอินเตอร์เน็ต ที่เหล่าไอดอลสาวพากันออกล่าน้ำอสุจิกันกลางสยาม ล่าสุดพวกเธอได้ออกมากล่าวขอโทษผ่านตอนที่ 2 ของรายการแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ช่องยูทูบ MEMO Channel ก็ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอตอนที่ 2 ของรายการสุดฉาว ในชื่อตอนว่า แอบแกล้งเหยื่อให้แฟนสาวหึง จนหัวใจแทบวาย โดยในตอนต้นรายการ พิธีกรสาวชื่อเจเล่ ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษผ่านรายการ “ก่อนอื่นต้องขอโทษสังคมนะคะ ขอโทษกับทุกคนกับสิ่งที่เจเล่ทำสิ่งไม่ดีหรือว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมลงไป” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตบางคนคิดว่าการขอโทษในครั้งนี้ยังไม่ถือเป็นการขอโทษที่จริงใจ เพราะระหว่างที่พิธีกรกล่าวขอโทษนั้นยังแสดงสีหน้าท่าทางที่ยังไม่สลดเท่าที่ควร เหมือนกับการ ขอโทษแบบส่งๆ ที่มา MEMO Channel
-
สรุปดราม่า DJ การีน่า กินเหล้า-เข้าผับ-ขับรถ ก่อนวัย เกิดอะไรบ้างก่อนโดนพักงาน!!
กลายเป็นดราม่าอีกครั้งหนึ่งแล้วสำหรับสังคมดีเจการีนา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีพรากผู้เยาว์ และก็ได้บทลงโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มาในวันนี้ ได้มีคนขุดประวัติของดีเจการีนาสาววัย 16 ปี ซึ่งเธอได้ทำการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าผับ และขับรถยนตร์ เรื่องราวเริ่มมาจากมีคนมาตั้งกระทู้ในพันทิปชื่อว่า หนูชาลีเป็นลูกแมวเหมียว โดยตั้งหัวข้อกระทู้ว่า “DJ Garena นี่อภิสิทธิ์ อายุไม่ถึงแต่ขับรถ กินเหล้า ขับผับได้กันได้หมดเลยหรอครับ?” เป็นกระทู้ที่ขุดได้ยาวมากๆ กดเข้าลิงค์ไปอ่านกันเลย หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีเพจดังๆต่างๆมากมายแชร์กระทู้นี้กัน ไม่ว่าจะเป็น จ่า Drama-addict หรือ ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน จนเรื่องนี้เข้าหูดีเจ BBM เจ้าของต้นสังกัดของผู้ถูกพาดพิง ทางดีเจ BBM ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวนี้.. สวัสดีครับ ผมดีเจบีบีเอ็ม หัวหน้าสังกัดของน้องที่พูดถึงอยู่ในรูปนะครับก่อนอื่นเลย ผมขอพูดถึงประเด็นที่เจ้าของกระทู้ตั้ง… Posted by Narongchai Rienthong on Sunday, November 22, 2015 และก็ได้ออกมาพูดแถลงเรื่องการพักงานของดีเจคนนี้ พร้อมทั้งอัดคลิปด้วย ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ ต่อไปจะดูแลดีเจในสังกัดให้ดีกว่านี้นะครับ Posted by DJ BBM on Sunday, November 22,…
-
ชาวเหมียวล่ะคิดไง? หลุดไลน์ลูกน้องขอหัวหน้าพาพ่อเที่ยววันพ่อ แต่หัวหน้าถาม “เป็นคนไทยไหม”
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาซะแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤศจิกายน เฟซบุ๊กเพจ โหดสัส ตามภาพ ได้เผยแพร่ภาพการสนทนาผ่านแอพฯ Line ระหว่างลูกน้องและหัวหน้าในบริษัทแห่งหนึ่ง โดยฝ่ายลูกน้องได้ถามหัวหน้าเพื่อขอพาคุณพ่อไปเที่ยวในวันที่ 5 ธันวาคม แต่ฝ่ายหัวหน้ากลับตอบกลับมาว่า “ทำไมเป็นคนแย่แบบนี้ เป็นคนไทยไหม ถ้าเป็นคนไทยควรจะทราบหน้าที่” แต่ลูกน้องกลับแย้งว่าในวันที่ 5 ธันวาคมนั้นเธอไม่สามารถไปจุดเทียนได้ได้จริงๆ เพราะต้องพาคุณพ่อไปเที่ยวต่างจังหวัด ทำให้ฝ่ายหัวหน้าต้องบอกให้เธอทำหนังสือชี้แจงมา แต่อาจมีผลต่อการประเมินในช่วงปลายปีของเธอด้วย หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าหัวหน้ารายนี้กันอย่างมากมาย แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง? ที่มา โหดสัส ตามภาพ
-
ปูเสื่อรอ!! ทับทิม VRZO โพสต์ภาพขับรถเร็ว 162 กม./ชม. แต่ลบโพสต์ก่อนดราม่า
การเป็นคนดัง ใครๆก็ต่างจับตามองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร เช่น เวลาโพสต์บางอย่างลงไปในโซเชียล ทำให้เกิดการแชร์และกระจายข้อมูลออกไปซึ่งบางทีเราก็ไม่ทันคิดว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ผิดหรือถูก เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเมื่อเวลาประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ (18 พ.ย.) เมื่อพิธีกรสาวหน้าหวาน ทับทิม VRZO ได้โพสต์ภาพภาพหนึ่ง ในภาพนั้นได้แสดงให้เห็นถึงแถบความเร็วของรถที่กำลังขับ ซึ่งไม่รู้ว่าใครขับ แต่ความเร็วของรถนั้นพุ่งสูงถึง 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนดมาก เธอโพสต์ลงในเพจของเธอเอง TubTim พร้อมกับแคปชั่นว่า “รีบบบบ #แม่เห็นแม่ด่าชัวร์ #ป๊ารู้โดนป๊าทุบดังอั้ก“ หลังจากโพสต์ภาพไปได้ไม่นาน เพจ Black Hat ก็ได้ทำการแคปภาพรอเลย เพราะว่ามันต้องมีดราม่าเกิดขึ้นแน่นอน แคปให้เรียบร้อย เปิดการ์ดป้องกันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพิ่มการ์ดอีกใบ การ์ดทดสอบรถค่ะ ส่วนการ์ดโดนแฮคเฟสนั้นคงใช้ไม่ได้แล้ว… Posted by Black Hat on Wednesday, November 18, 2015 หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานก็พบว่าทางเพจของทับทิมได้ลบภาพนี้ออกไปจากหน้าเพจเรียบร้อยแล้ว และนี่คือคอมเม้นต์บางส่วนที่แคปไว้ได้ทัน หลังจากนั้นทางเพจก็ได้ออกมาชี้แจงแล้ว โดยทับทิมเป็นคนโพสต์ “ผิด ว่าไปตามรับผิดค่ะ เมื่อวานขับรถเร็ว บ่น ว่าได้ตามสบายค่ะ…
-
ช่างภาพแค่ชวนไปถ่ายรูป ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่กลับกลายเป็นว่านางแบบไม่ยอมจบ!!
ในวงการถ่ายแบบ ทุกสิ่งมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวนางแบบ ค่าฝีมือของช่างภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทั้งนี้ก็มีการถ่ายแบบเพื่อฝึกฝีมือเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็แล้วแต่ตามจะตกลงของทั้งฝั่งช่างภาพและนางแบบว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรหรือไม่ เมื่อมีการทาบทามนางแบบเพื่อชวนไปถ่ายรูปเป็นกรณีศึกษา แต่นางแบบไม่ยอมไปถ่ายด้วย เนื่องจากไม่รับงานที่ไม่มีค่าตัว ปกติแล้วก็จะปฏิเสธแล้วก็จบการสนทนาไป ซึ่งฝ่ายช่างภาพก็บอกแล้วว่าชวนไปถ่าย ไม่รับก็ไม่เป็นไร ถือว่าจบการยื่นข้อตกลง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อนางแบบนั้นไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ เพราะรู้สึกฉุนเฉียวกับการที่ถูกเชิญไปถ่ายแบบฟรี และอยากจะให้ทางฝ่ายช่างภาพขอโทษอย่างจริงจังและจริงใจ ฝ่ายช่างภาพเองก็ขอโทษแล้วล่ะ “ช่างภาพ-นางแบบ”————-#เข้าใจด้วยนะคับพี่ฝากมาชวน#แค่ชวนถ่ายรูปครับอะไรมากมาย#ไปไม่ไดัก้บอกเสียตังก้บอก#ขอถ่… Posted by Pakapon Vonghong on Wednesday, November 11, 2015 จนแล้วจนรอดก็ไม่จบเสียที ทางฝ่ายนางแบบจะประจานให้ถึงที่สุด แต่ด้วยภาษาที่ถ่ายทอดออกมานั้นดูรุนแรงจนเกินไป เข้าใจว่าคงอารมณ์ขึ้นแหละ แล้วชาวเหมียวมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะกับกรณีนี้? ที่มา : Pakapon Vonghong
-
ยับ!! หนุ่มอัดคลิปพูดจาก่อกวนเจ้าหน้าที่ ณ สะพานเหล็ก กระแสมีทั้งเห็นด้วยและโต้กลับ
จะว่าไปแล้วกลายเป็นกรณีที่ใหญ่โตเหมือนกับการจับจองพื้นที่ขายของในบริเวณตลาดสะพานเหล็กหรือคลองโอ่งอ่าง ย่านที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งของเล่นและเกมต่างๆ มากมาย มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งในที่สุดทาง กทม. ก็ได้ตัดสินให้ผู้ค้าขายย้ายออกไปจากพื้นที่ โดยให้เหตุผลเอาไว้ว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่คลองโอ่งอ่าง อีกทั้งยังเป็นแหล่งมั่วสุม แหล่งอาชญากรรม และมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฏหมาย เมื่อถึงระยะเวลาที่จะต้องทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เจ้าหน้าที่ต่างก็เข้ามาทำหน้าที่ของตนตามที่ได้รับคำสั่ง แต่เนื่องด้วยอารมณ์ไม่พอใจของหนุ่มรายนี้ ก็ได้ทำการอัดคลิปและพูดประชดประชันเจ้าหน้าที่เช่นนี้ ::–> ณ สะพานเหล็ก (28/10/58) <–::โปรดใช้วิจารณญาณ ~CREDIT: @Fortyfive Bikershop*************************ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@คุณชาย ปัง ปอนด์ Posted by YouLike ”คลิปเด็ด” on Wednesday, October 28, 2015 ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าวก็แบ่งออกเป็นสองฝ่ายทั้งฝ่ายที่เห็นใจพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดสะพานเหล็กแห่งนี้ และอีกฝ่ายที่เห็นว่าการพูดจาของหนุ่มผู้อัดคลิปนั้นพูดจาก่อกวนเจ้าหน้าที่ เอาเป็นว่าเหมียวจะเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ แล้วพวกท่านมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะ ที่มา : YouLike ”คลิปเด็ด”
-
เอาอีกแล้ว? ‘คิตตี้รีสอร์ท’ สร้างรูปปั้น ‘ไจแอ้น&ชิซูกะ” เจอชาวเน็ตวิจารณ์ยับ
หลังจากมีคดีความฟ้องร้องกันไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กรณีของคิตตี้รีสอร์ทและผู้ใช้บริการรายหนึ่ง ที่ได้ถ่ายภาพห้องพักและส่วนต่างๆ ของรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จดีมาแฉในเว็บไซต์พันทิป ทำให้เจ้าของรีสอร์ททนไม่ได้จึงต้องฟ้องร้องกลับ แถมยังมีประเด็นที่ทางรีสอร์ทนำเอาตัวการ์ตูนคิตตี้มาใช้เป็นธีมของโรงแรม โดยที่ทาง Sanrio ไม่ได้อนุญาตอีกด้วย ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Bobby Nilkamhang เป็นภาพที่ทางคิตตี้รีสอร์ทได้มีการเปิดโซนใหม่ ที่นำเอารูปปั้นชิซูกะและไจแอ้นจากโดราเอมอนมาตั้งไว้ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับเงิบในความแปลกประหลาดของหน้าตาตัวละครเลยทีเดียว หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในเฟซบุ๊กต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย แต่มีสมาชิกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Chonticha Bouranavanich ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ที่ทางรีสอร์ทไม่สร้างรูปปั้นให้เหมือนกับตัวจริงก็เพราะว่าทางต้นสังกัดจะได้ฟ้องไม่ได้นั่นเอง งานนี้ทำเอาเหมียวฮาอีกแล้ว คราวหน้าจะมีรูปปั้นของอะไรโผล่มาอีกมั่ง เราคงต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา Bobby Nilkamhang , kapook
-
เกินไปไหม? พนักงานโรงแรมย่านพัทยาเตะลูกค้าหญิง เพียงเพราะใช้ใบขับขี่เช็คอินแทนบัตรประชาชน!?
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกพนักงานโรงแรมทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าโรงแรมแห่ง สาเหตุเพียงเพราะหญิงสาวใช้ใบขับขี่ในการเช็คอินโรงแรมแทนบัตรประชาชน คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pitty Oommy เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวขณะยืนพูดคุยกับพนักงานโรงแรมใส่เสื้อสีฟ้า 2 คน โดยจับใจความได้ว่าพนักงานโรงแรมเป็นฝ่ายผลักหญิงสาวก่อน จากนั้นฝ่ายหญิงจึงด่ากลับไปว่า “หน้าตัวเมีย” ทำให้พนักงานโรงแรมทนไม่ได้ และลงมือเตะหญิงสาวไป 1 ครั้ง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เนื่องจากน้องผู้หญิงใช้ใบขับขี่ขึ้นโรงแรม แล้วไม่ให้น้องขึ้นแล้วก็ใช้วาจาไม่สุภาพโดยอ้างว่า ‘ออกไปพี่งานยุ่ง’ แล้วก็ผลักน้องออกมาจากโรงแรม ทั้งๆ ที่ใบขับขี่ใช้แทนพาสปอร์สและบัตรประชาชนได้ กลับใช้คำพูดไม่สุภาพ นี่หรอคะงานบริการทางโรงแรม?” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง พร้อมกับการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่างเช่นคุณ Sunchai Gerdmongkol กล่าวว่าหญิงสาวสมัยนี้กลายเป็นเหยื่อสังคมมากกว่าแต่ก่อน คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทั้งนี้ยังมีความเห็นที่น่าสนใจจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า Mix Lamon ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หญิงสาวรายดังกล่าวดูไม่น่าไว้ใจ เพราะไม่มีกระเป๋าสัมภาระและมาเพียงคนเดียว อาจเป็นขโมยก็เป็นได้ ที่มา hexernoter1 , Pitty Oommy
-
ร้านหมูกระทะดราม่าออกมาขอโทษแล้ว และขอให้เรื่องจบ แถมให้คู่กรณีกินฟรีได้อีก 1 ปี!!!
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีกระแสโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับร้านหมูกระทะร้านหนึ่ง ได้ออกมาโวยวายว่า มีลูกค้าสองท่านนั่งกินมาราธอนถึงหกชั่วโมง แถมยังสลับกันออกไปเดินเล่น และกลับมากินต่อ แถมยังกินไอศกรีมหมดไปหนึ่งถังเต็มๆด้วย (ข่าวนี้ : ร้านหมูกระทะแจง ขอกำหนดเวลาการกิน เพราะเจอลูกค้านั่งแช่ยาว สั่งกินกว่า 6 ชั่วโมง!!!) และหลังจากมีข่าวนี้ออกไป ก็มีกระแสตอบกลับมามากมาย ทั้งด้านลบและด้านบวก บ้างก็บอกว่าเจ้าของงกเกินไป กฎของร้านก็เป็นคนกำหนดขึ้นเอง ลูกค้าก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไร จะโวยวายทำไม แถมเอาเรื่องของลูกค้ามาประจานด้วย แต่บางคนก็เห็นใจ ว่าลูกค้าสองคนนั้นทำเกินไปจริงๆ ปกติไม่มีใครกินนานขนาดนั้น แถมยังผิดมารยาทด้วยการออกเดินไปข้างนอกอีกด้วย ต่อมาลูกค้าสองท่านนั้นได้เข้ามาชี้แจงในเพจ พร้อมตำหนิ เจ้าของร้านว่า ทำไมถึงไม่บอกพวกเขาตรงๆ แล้วมาประจานกันแบบนี้ จะได้อะไร เมื่อทางลูกค้าออมาชี้แจง กระแสก็ได้ตีกลับไปอีกทาง เจ้าของร้านถูกชาวเน็ตรุมตำหนิมากมาย ทำให้เจ้าของร้านออกมาชี้แจงอีกครั้งและขอโทษ และอยากให้จบเรื่องดั่งกล่าว พร้อมมอบกิฟวอยเชอร์ให้คู่กรณีทานฟรีอีกหนึ่งปีอีกด้วย!! เมื่อทางร้านออกมาขอโทษ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย หวังว่าเรื่องราวครั้งนี้จะจบลงด้วยดีนะฮะ และครั้งนี้คงเป็นบทเรียนสำคัญ ให้กับร้านหมูกระทะแห่งนี้อย่างแน่นอน ที่มา กินอิ่ม นอนอุ่น หมูกระทะ
-
ดราม่า Pad Krapow Gai ผัดกะเพราไก่จากครัวต่างชาติ ชาวเน็ทเถียงไม่ใช่เพราะวัตถุดิบที่แตกต่าง!!
ประเด็นนี้เป็นอะไรที่เล็กน้อยมากๆ แต่ก็ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย สืบเนื่องจากเพจเข้าครัวทำอาหารต่างชาติ Tastemade ได้อัพโหลดวิดีโอคลิปการทำอาหารไทยอย่าง ‘ผัดกะเพราไก่’ ดูแล้วก็เพลินดีนะ แถมยังน่ารับประทานอีกต่างหาก Pad Krapow GaiStir fried basil Thai chicken. This has to happen soon!Check out more here: http://bit.ly/1L4gM7m Posted by Tastemade on Saturday, May 23, 2015 แต่แล้วจู่ๆ คลิปวิดีโอนี้ก็กลายมาเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาซะงั้น เมื่อมีชาวเน็ทเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเชิงว่า ‘นี่มันไม่ใช่ผัดกะเพรานะ’ ถกเถียงยกใหญ่เนื่องจากวัตถุดิบหลักที่ใช้มันคือ Basil (ใบโหระพา) แทนที่จะเป็น Sweet Basil (ใบกะเพรา) รวมไปถึงการใส่วัตถุดิบอื่นๆ ที่ผิดแปลกไปจากสูตรดั้งเดิมที่ทำกันในประเทศ อย่างเช่นการใส่ หอมแดง เป็นต้น…
-
สาวรีวิวเที่ยวภูกระดึง-ภูเรือกับแฟน สลักชื่้อลงบนต้นไม้ ชาวเน็ตด่ากันระงม
กลายเป็นประเด็นให้ชาวพันทิปหยิบเอามาดราม่าอีกแล้ว สำหรับกรณีของการตั้งกระทู้รีวิวการท่องเที่ยว คราวนี้เป็นเรื่องราวของสมาชิกสาวหมายเลข 1989849 ที่เขียนกระทู้เกี่ยวกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ภูเรือ-ภูกระดึง จากจ.อุบล – จ.เลย แต่กระทู้นี้จะไม่กลายเป็นประเด็นให้ดราม่าเลย หากเจ้าของกระทู้ไม่ไปสลักชื่อลงบนต้นไม้เป็นอักษร PN จนทำให้มีชาวเน็ตบางคนสังเกตเห็นเข้า จึงเข้ามาตำหนิการกระทำดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แถมยังแนะนำอีกว่า หากคราวหน้าจะไปที่ไหนควรไปแต่ตัว ไม่ควรนำสิ่งใดไปทิ้งไว้ ยังไงแล้ว แอดเหมียวขอฝากเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวตอนเทศกาลปีใหม่ ก็อย่าไปทิ้งร่องรอยของเราไว้ให้ใครเขามาว่าเราได้นะจ๊ะ ที่มา สมาชิกหมายเลข 1989849
-
หญิงสาวแต่งบ้านต้อนรับฮาโลวีนได้สยอง จนชาวบ้านต่างกลัวจนเกิดดราม่า!!
ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ต่างประเทศ หลายคนก็เลือกที่จะแต่งบ้านให้ดูน่ากลัวเพื่อต้อนรับการมาของเทศกาลนี้ ซึ่งไอเดียของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆคือเน้นความน่ากลัวเข้าว่า!! แต่บางทีการแต่งให้น่ากลัวเกินไป ก็อาจจทำให้เพื่อนบ้านผวาได้เหมือนกัน เหมือนอย่างที่หมู่บ้าน Parma รัฐโอไฮโอ้ เกิดเป็นเรื่องดราม่าในหมู่บ้าน เมื่อมีบ้านหลังหนึ่งของ Vicky Barrett ได้ทำการตกแต่งบ้านให้เข้ากับวันฮาโลวีน แต่ที่เธอทำออกมานั้นว่าเหมือนจริงเสียจนสยอง เพื่อนบ้านหลายหลังต่างไม่ค่อยชอบใจนักเมื่อบ้านของเธอตกแต่งให้ดูน่ากลัวอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าปกติก็แต่งแบบนี้มาตลอด 3 ปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่มีเพื่อนบ้านมาต่อว่า สิ่งที่คนในหมู่บ้านเป็นห่วงก็คือบ้านของเธอเป็นทางผ่านของเด็กที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน อาจทำให้เด็กรู้สึกลัวได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้ทำผิดกฎอะไรเลย เพราะเธอตกแต่งทุกอย่างอยู่ในพื้นที่ของบ้านเธอทั้งสิ้น เราไปฟังคลิปความเห็นของคนในหมู่บ้านกันเลยดีกว่า ฟังแล้วบางคนก็เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่คนที่เห็นด้วยก็จะบอกว่าเข้าใจว่าเป็นเทศกาล และลูกของเขาก็ไม่รู้สึกกลัวการตกแต่งแบบนี้เลย ที่มา viralnova
-
กลุ่มจักรยานปั่นกลางถนน ผู้ใช้รถถ่ายคลิปลงเน็ต บอกไม่ได้แอนตี้ แต่ว่าเป็นห่วง!!!
ปัญหาการใช้รถใช้ถนนร่วมกันระหว่างจักรยานกับยานพาหนะอื่นๆ ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะหลายครั้งสิ่งที่นักปั่นจักรยานคิดว่าเหมาะสม ก็ไม่ได้เป็นที่ถูกใจของคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นนัก จนเกิดดราม่าไปหลายต่อหลายครั้ง อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปต่อไปนี้ เมื่อมีกลุ่มจักรยานออกมาปั่นกลางถนน จนเกิดภาพหน้าหวาดเสียว ผู้ใช้รถใช้ถนน จึงถ่ายคลิปเตือน อ้างไม่ได้แอนตี้ แต่ว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของเหล่านักปั่นเอง คลิปนี้ถ่ายโดยกล้องหน้ารถของคุณ Wissnu Naraya ขณะเขาขับรถอยู่บนทางหลวงเส้นหนึ่ง เขาพบกับกลุ่มนักปั่นจักรยานกำลังปั่นอยู่บริเวณกลางถนน ซึ่งถนนเส้นนั้นมีรถบรรทุกขับขี่อย่างรวดเร็วมากมาย คุณ Wissnu Naraya ก็บรรยายว่า เขาเองนั้นไม่ได้แอนตี้การปั่นจักรยาน แต่บางครั้งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย การปั่นเช่นนี้ถือว่าอันตรายมาก หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สังคมก็จะโทษรถยนต์อีก ทั้งๆที่เหล่านักปั่นเอง ก็ถือว่าขี่ในที่ที่อันตรายเช่นกัน จึงอยากฝากเตือนนักปั่นท่านอื่นๆ ให้ปั่นกันอย่างเหมาะสม ไปชมภาพเหตุการณ์กันเลย ห่วงครับ ห่วง! Posted by Wissnu Naraya on 9 ตุลาคม 2015 ลองไปชมความเห็นของชาวเน็ตท่านอื่นๆ หลังจากเห็นคลิปนี้กันดีกว่า แต่ก็มีนักปั่นท่านหนึ่ง ออกมาให้เหตุผลว่าทำไม พวกเขาต้องปั่นเช่นนี้ เหมียวว่าแบบนี้มันก็อันตรายเกินไปจริงๆนั่นแหละ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็ชีวิตนักปั่นทั้งนั้น ที่ต้องรับความเสี่ยง ยังไงก็ปั่นกันอย่างปลอดภัยนะครับ…
-
คนรักแมวตะเตือนไต โลกออนไลน์แชร์คลิปหนุ่มสติไม่ดี หิ้วแมวมาตากไว้กับชิงช้า หลังอาบน้ำเสร็จ!?
เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Sydney Tcn เผยให้เห็นภาพของชายท่าทางสติไม่สมประกอบรายหนึ่ง กำลังนำลูกแมวมาแขวนไว้กับชิงช้า เพียงเพราะนำพวกมันไปอาบน้ำมาและต้องการให้ตัวแห้ง!? ทั้งนี้เจ้าของคลิปได้โพสต์ข้อความประกอบด้วยว่า “ช่วยด้วยค่ะ คือเราไม่รู้จะทำยังไงเราอาบน้ำอยู่แล้วเราได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมากเราก็สงสัยว่าทำไมร้องอะไรขนาดนั้น เราเลยมองออกไปทางหน้าต่าง เราเจอกับอะไรที่แม่งเลวมากเลยค่ะ” “ตามคลิปเลยค่ะ มีหลายคลิปมากค่ะ คือคนแถวนั้นก็มาถามว่าแมวเป็นอะไร ทำไมร้องดังขนาดนั้น ไอ้ห่านี่มันก็บอกว่า เอาแมวไปอาบน้ำมา เลยเอามันมาแขวนไว้ให้แห้ง คือตอนนี้เราไม่รู้จะทำไงดีเราอยู่บ้านคนเดียวละเราก็ไม่กล้าไปเอาเรื่องหรืออะไร” “เพราะท่าทางเหมือนคนโรคจิตมาก ท่าทางจะประสาทอะค่ะ ใครอยู่แถวนี้มาช่วยเราหน่อยได้ไหมคะ ถ้ามีใครอยู่แถวนี้อินบ็อกซ์มาเลยค่ะ เรากลัวมาก กลัวน้องแมวตาย ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ เห็นครั้งแรกน้ำตาไหลเลยค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงกล้าทำแบบนี้ได้” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ไปทำเค้าทำมายยยย ที่มา Sydney Tcn
-
ชาวเน็ตจวก!! เจ้าของตลาดย่านพระราม 3 อาละวาดใหญ่ ไล่ที่แม่ค้าแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
กลายเป็นดราม่าให้ชาวเน็ตได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย สำหรับกรณีของเจ้าของตลาดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 ที่โมโหจัด หลังไล่แม่ค้าไปขายที่อื่น แต่แม่ค้าติดลูกค้าอยู่จึงไม่ได้ย้ายในทันที ทำให้เธอเกิดอาการยัวะจัดจนต้องอาละวาดใหญ่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค Amm Chumpoonuth เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดสีดำรายหนึ่งกำลังวาละวาดเขวี้ยงเก้าอี้ไปมา และพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายเพื่อไล่แม่ค้าออกไปขายที่อื่น ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เจ้าของตลาด..ย่านพระราม3 #ไล่ที่แม่ค้า::–> เจ้าของตลาด..ย่านพระราม3 #ไล่ที่แม่ค้า (8/10/58) <–:: โดย[@Amm Chumpoonuth]_ได้โพสต์ไว้ว่า: …เจ้าของตลาดย่านพระราม 3 ทำลายข้าวของแม่ค้า เพราะให้เค้าย้ายที่ขาย..แต่เค้าติดลูกค้าอยุ่เลยไม่ได้ย้ายทันที โปรดใช้วิจารณญาณ ~ CREDIT: web.facebook.com/amm.chumpoonuth/videos/964275196964833/ ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Amm Chumpoonuth Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 8 ตุลาคม 2015 หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยมีความเห็นหนึ่งของคุณ เทพบุตรถังแตก ซาคาโมโต้ เรียวม่า ไจไจ๋ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ตลาดแห่งหนี้ชื่อว่าตลาดครูหวี โดยเจ้าของเดิมมีชื่อว่าครูหวีแต่เสียชีวิตไปนานแล้ว…
-
ขอโทษแล้ว หนุ่มโพสต์ภาพเด็กหญิงทะเลาะกับแม่จะเอามือถือ ที่แท้เป็นการเข้าใจผิด
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกับแม่ผู้พิการ ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัชลบุรี โดยมีข้อความระบุไว้ว่าเด็กหญิงกำลังโกรธแม่ของเธอหลังจากที่ไม่ยอมซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้ ทำให้โลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป และต่อว่าในการกระทำอันไม่เหมาะสมของเธออย่างมากมาย หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีความคิดเห็นหนึ่งเข้ามาแย้งว่า ภาพทั้งหมดที่เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ เพราะเจ้าตัวบอกว่าตนเองรู้จักกับเด็กคนนี้ ตัวจริงเป็นคนนิสัยดีมาก และแม่แท้ๆ ของเธอก็ทิ้งเธอไปนานแล้ว คนที่เห็นในรูปนั้นเป็นเพียงแม่บุญธรรมเท่านั้น ข่าวที่ลงอาจมีการผิดพลาดได้ ในเวลาต่อมาเจ้าของภาพก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจผ่านเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลายจนเด็กหญิงและแม่ต้องเสียหาย และไม่คิดว่าเรื่องราวที่โพสต์ออกไปนั้นจะมีคนแชร์เยอะขนาดนี้ ทีหน้าที่หลัง จะโพสต์หรือจะแชร์อะไรก็เช็คข้อมูลกันดีๆ ก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นเราอาจทำลายชื่อเสียงหรือทำให้บุลคลผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรต้องเสียหายแบบฟรีๆ ก็ได้ ที่มา kapook
-
เดือดจัด!! กระบะบีบแตรลั่นซอย หลังเจอรถจอดขวางหน้าประตูบ้านจนเข้าไม่ได้
เรื่องของการจอดรถขวางหน้าบ้านกัน ถือเป็นปัญหาที่เราพบเห็นได้ทั่วไปตามแหล่งชุมชนนะ เพราะพื้นที่มีน้อยต้องรู้จักเกรงใจซึ่งกันและกัน ไม่งั้นอาจจะเกิดดราม่าแบบกรณีนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของรถกระบะคันหนึ่ง ที่พยายามจะจอดรถในบ้านของตัวเอง แต่กลับมีรถเก๋งอีกคันจอดขวางอยู่ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ คนขับรถกระบะจึงโมโหและบีบแตรอย่างยาวนานจนชาวบ้านในระแวกนั้นหนวกหูและต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวจะอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นมากนัก จึงเข้ามาขยับรถให้ ทำให้คนขับรถกระบะใจเย็นลงและหยุดบีบแตรเสียที ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างพากันโต้เถียงว่าใครถูกใครผิดในกรณีนี้ โดยบางความเห็นมองว่ารถเก๋งเป็นฝ่ายผิด เพราะจอดไม่ดูตาม้าตาเรือเอง ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งมองว่าควรใช้การพูดคุยกันจะดีกว่า เพราะการบีบแตรแบบนี้อาจทำให้ชาวบ้านเกิดความรำคาญได้ ที่มา noterwork
-
ประกวดดาว-เดือน แปลกใหม่ให้ “เดือนเป็นผู้หญิง” อ้างสิทธิเพศสภาพ จนเกิดดราม่า
กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ไปแล้วกับการประกวดดาวเดือนของคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อมีการประกาศออกมาว่า “เดือน” ที่ปกติจะให้ผู้ชายดำรงตำแหน่งนี้ กลับกลายเป็นผู้หญิงแทน ซึ่งก็เกิดโต้แย้งกันในคอมเม้นต์อยู่ด้วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่แฟนเพจ SW Freshman Fanpage ซึ่งโพสต์นี้เป็นการประกาศรายชื่อดาวเดือน โดยที่ทางแฟนเพจให้เหตุผลว่า… ทำไมเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ถึงเป็นผู้หญิง? หลายคนคงมีคำถามนี้เข้ามาในหัว เมื่อเห็นภาพเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ประจำปีนี้ มีคำถามกลับกันว่า แล้วทำไมต้องกำหนดให้เดือนเป็นผู้ชายหรือดาวต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น ในเมื่อทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกเพศสภาพ คณะสังคมสงเคราะห์ไม่ได้ตีกรอบเรื่องเพศของผู้เข้าประกวด ทุกคนมีสิทธิประกวดในสิ่งที่อยากทำได้ เรามองที่ความสามารถ ทัศนคติของผู้เข้าประกวด มากกว่าการใช้เพศในการตัดสินทุกๆอย่าง จึงเป็นที่มาของตำแหน่ง ดาวเดือนสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ในปีนี้ หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ ก็มีการแชร์กันอย่างต่อเนื่อง และมีผู้คนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากในแง่การของใช้สิทธิเท่าเทียมทางเพศสภาพ โพสต์หลัก ทำไมเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ถึงเป็นผู้หญิง?หลายคนคงมีคำถามนี้เข้ามาในหัว เมื่อเห็นภาพเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ปร… Posted by SW Freshman Fanpage on Monday, September 28, 2015 หลังจากนั้นก็ได้มีการชี้แจงจากทางเพจ ซึ่งก็ยังมีค้นตั้งข้อสงสัยต่อในประเด็นอื่นๆ ทั้งการคัดตัวว่าน้องผู้หญิงคนนี้มาสมัครเดือนเองหรือยังไง และอีกมากมาย 1)กฏเกณฑ์เวทีมหาลัย ไม่ได้กำหนดว่าเดือนคือเพศชาย ดาวคือเพศหญิง เราเลยอิงจากเวทีมหาลัยเป็นหลัก แต่ที่หลายๆคณะส่งเดือนเป็น… Posted by SW…
-
แพงไปไหม? ชาวเน็ตโพสต์ภาพอาหารตามสั่งจากร้านปากซอย ราคาจานละ 150 บาท!?
แอดเหมียวเข้าใจว่าทุกวันนี้อะไรๆ มันก็แพงนะ ข้าวของและอาหารทุนอย่างมีต้นทุนที่แพงขึ้น ทำให้เราต้องจ่ายมากกว่าแต่ก่อนนั่นเอง แต่เหมียวก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งอาหารตามสั่งที่ปกติจานละแค่ 30-40 บาท จะพุ่งไปสูงถึง 150 บาทเลย!! เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่บอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่ได้ไปกินอาหารตามสั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งมา โดยเจ้าตัวเล่าว่าเขาได้สั่งข้าวกระเพรารวมมิตร แต่พอคิดเงินกลับต้องอึ้งล่ะ เพราะจานนั้นมีราคาสูงถึง 150 บาท พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์ 16 พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้ 150 ครับกระเพรารวมมิตรจานละ 150 ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย” ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้ถ่ายคลิปการสนทนาระหว่างแม่ค้ามาให้เราได้ชมกันด้วย โดยภายหลังจากการพูดคุย ฝ่ายแม่ค้าได้เสนอจะคืนเงินให้กับเขา 20 บาท แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธและขอนำคลิปมาเผยแพร่แทน อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์16พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้150ครับกระเพรารวมมิตรจานละ150ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย Posted by ประเสริฐ บุญประเสริฐ on 28 กันยายน 2015 แหม่ มันก็น่าเห็นใจอยู่นะเนี๊ยะ กินเสร็จนี่ แอดเหมียวว่าอิ่มไปหลายมื้อเลย ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้สามารถโทรแจ้งสคบ. ได้ที่เบอร์ 1569…
-
ดราม่าไหม? ‘เต๊ะ ศตวรรษ’ โพสต์ข้อความถึง ‘ตัน อิชิตัน’ “มองคนไทยเหมือนขอทาน”
กลายเป็นเรื่องราวขึ้นมาซะแล้วล่ะ สำหรับกรณีของดาราหนุ่มอย่าง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ที่ออกมาโพสต์ข้อความจวก ตัน อิชิตัน ถึงการโปรโมทสินค้าและกิจกรรมของเขาว่า เป็นขยะสังคม ที่มองว่าคนไทยเป็นเพียงของทานเท่านั้น เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค Suttawat Settakorn ของดาราหนุ่ม ได้โพสต์รูปของตัน อิชิตัน พร้อมกับข้อความว่า “นี้ก็อีกตัว+อย่างของขยะสังคม มองคนไทย ( บางคน ) เป็นเหมือนขอทานที่วันๆจะรอแต่ของฟรี อยากอยู่ดีแต่ไม่อยากมีเหงื่อ” หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย โดยส่วหนึ่งบอกว่าเห็นด้วยกับเขา เพราะการตลาดรูปแบบนี้ถือเป็นการมอมเมาประชาชนและทำให้เสียสุขภาพ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่ามันเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาเท่านั้น หากไม่ถูกใจก็แค่ไม่ซื้อสินค้าของเขาเท่านั้น แถมยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการที่ดาราหนุ่มออกมาตั้งสเตตัสแรงๆ แบบนี้ อาจเป็นการสร้างสระแสให้ตัวเองกลับมาโด่งดังอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้ ที่มา Suttawat Settakorn
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังมีคนพบรถตำรวจจอดรถที่จอดคนพิการ!!!
เกิดประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับตำรวจอีกแล้ว หลังจากมีคนถ่ายภาพรถตำรวจไปจอดบริเวณที่จอดคนพิการซะอย่างงั้น จนมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยภาพถ่ายนั้นมีการโพสลงบนเพจ ติดตามพี่ จราจร หัวโปก เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยในภาพเป็นภาพของรถตำรวจป้ายทะเบียน 45325 ได้ไปจอดบริเวณที่จอดรถคนพิการ เมื่อมีการเผยแพร่ภาพนี้ออกไป ทำให้มีการวิจารณ์กันอย่างดุเดือด ถึงความไม่เหมาะสม กลายเป็นเป้าให้คนตำหนิอีกแล้วสำหรับตำรวจ เหมียวว่าเขาอาจมีคนพิการมาด้วยจริงๆก็ได้นะ อย่าเพิ่งออกตัวแรงด่าเขาเลย เดี๋ยวสุดท้ายเงิบจะไม่คุ้มเอา ที่มา ติดตามพี่ จราจร หัวโปก
-
ก็คิดได้!! หนุ่มไล่แม่ไปนั่งที่เก็บของหลังรถ เหตุเพราะอยากให้ลูกของตัวเองได้นอนบนเบาะ!!
กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีนกันเลยทีเดียว เมื่อพ่อหนุ่มที่มีนามว่า ‘หลิว’ ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับคุณแม่วัย 60 ปีของตัวเอง ด้วยการไล่ให้ไปนั่งในบริเวณที่เก็บของท้ายรถแทนที่จะได้นั่งบนเบาะดีๆ ซึ่งมีเหตุผลเอาไว้ว่าอยากจะให้ลูกได้นอนสบายๆ โดยใช้พื้นที่บนเบาะหลังทั้งหมด!! โดยที่นายหลิวและครอบครัวนั้นกำลังเดินทางจากมณฑลเจียงซีไปยังมณฑลหูเป่ย์ มีภรรยาและตัวเขานั่งอยู่เบาะหน้า และปล่อยให้ลูกชายนอนอยู่บนเบาะหลัง จนมาถึงด่านตรวจก็พบกับความจริงที่ว่าหญิงชราหรือแม่ของนายหลิวก็นั่งมาด้วย แต่อยู่ในสภาพที่นั่งอยู่ในพื้นที่เก็บของด้านหลังรถ ทางตำรวจก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายก็เลยขอให้แม่ของนายหลิวลงมาจากท้ายรถ และจะตั้งข้อหาให้กับนายหลิว สุดท้ายแล้วแม่ของนายหลิวขอให้คุณตำรวจละเว้นโทษให้ เนื่องจากเธอคิดว่านั่งบริเวณท้ายรถก็สบายดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อมารู้ความจริงที่น่าเศร้าที่สุดก็คือรถคันนี้เป็นรถที่แม่นายหลิวลงทุนซื้อให้ลูกชาย แต่กลับถูกลูกชายของตัวเองกระทำแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งก็ทำเอาชาวเน็ตจีนทั้งหลายรู้สึกเดือดกับการกระทำต่อผู้มีพระคุณแบบนี้!! ที่มา : cctvnews
-
McDonal’s ชี้แจงกรณีลูกค้าพบซากจิ้งจกในนน้ำอัดลม ยืนยัน “สิ่งแปลกปลอมไม่ได้มาจากสินค้าของเรา”
หลังจากที่เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพซากจิ้งจกกับแก้วน้ำอัดลมของ McDonal’s จากเฟซบุ๊คของคุณ Champ Chawaphon ที่เจ้าตัวยืนยันว่าพบสิ่งนี้ในแก้วน้ำของร้านฟ๊าสต์ฟู๊ดชื่อดัง หลังจากนั้นทาง McDonal’s ก็ได้รับทราบเรื่องและพยายามติดต่อขอนำอาหารชุดเดิมกลับไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ แต่ผู้เสียหายกลับไม่ส่งตัวอย่างอาหารกลับไปให้ ล่าสุดทางเฟซบุ๊คเพจของ McDonald’s ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า สิ่งแปลกปลอมดังกล่าวนั้น ไม่ใช่ฝีมือของทางร้านและยืนยันด้วยว่าทางร้านมีมาตรฐานการดูแลความสะอาดที่สูงมาก พร้อมทั้งเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ McDonald’s หลังจากที่มีแถลงการณ์จาก McDonal’s ก็มีชาวเน็ตจำนวนมาเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยมีบางคอมเม้นเสนอให้ทางร้านทำห้องครัวแบบปิด เพื่อเพิ่มมาตรฐานความสะอาดให้มากกว่านี้ ในขณะที่บางคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ที่ไม่ยอมนำอาหารไปเปลี่ยนที่ร้าน ทีหลัง หากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก อย่าเพิ่งรีบนำอาหารไปทิ้งนะ เพราะเราสามารถใช้มันเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันได้ ว่าเราไม่ได้กล่าวหาใครลอยๆ งานนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายลูกค้าจะยังไงต่อไปนะเนี๊ยะ ที่มา McDonald’s
-
ขอโทษแล้ว หนุ่มเที่ยวภูทับเบิกแบบไม่พกเงิน อ้าง “ไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบขนาดนี้”
หลังจากกลายเป็นกระทู้ดังให้โลกออนไลน์ได้หยิบมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักหน่วงเมื่อช่วงวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สำหรับกรณีของชายหนุ่มที่พยายามพกกล้องและออกเดินทางไปเที่ยวยังภูทับเบิกแบบไม่พกเงิน ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาขอโทษสังคมแล้ว โดยเมื่อช่วงวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มในกระทู้ดังกล่าวได้โพสต์ข้อความขอโทษสังคมผ่านหน้าเฟซบุ๊คของตนเอง โดยอ้างว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความผิดของตนเองและไม่คิดว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบขนาดนี้ ข้อความทั้งหมดมีอยู่ว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคนจริง ๆ กับการกระทำของผม ผมไม่มีเจตนาเบียดเบียน ต้มตุ๋น หรือหลอกลวงใครทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ผมผิดเองที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อน ที่จะตัดสินใจทำ “ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบขนาดนี้ ผมขอยอมรับผิดทั้งหมด และผมตั้งใจจะตอบแทนพี่ ๆ ทุกคนในคลิปที่ได้ให้ความช่วยเหลือผม ขอบคุณและกราบขอโทษทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ” หากอยากจะท่องเที่ยวแบบโลว์คอสอีก แอดเหมียวแนะนำว่ายังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยประหยัดเงินของเราได้อีกเพียบเลยนะ ยังไงลองหาวิธีใหม่ๆดูก็แล้วกันนะจ๊ะ ที่มา kapook
-
ดราม่าหนัก!! ผู้โดยสารโวยโทษสายการบินไม่ให้ขึ้นเครื่องหลังเช็คอินไม่ทัน!!
ดราม่าเกี่ยวกับสายการบินหรือเครื่องบินก็เกิดขึ้นอยู่เนื่องๆ บ้างก็เกิดจากตัวผู้โดยสารเอง บ้างก็เกิดจากสารการบิน และวันนี้อีกครั้งกับผู้โดยสารคนหนึ่ง ที่โวยสายการบินไม่ยอมให้เขาขึ้นเครื่อง หลังเช็คอินไม่ทันตามกำหนดเวลา โดยทางเพจ Drama Addict เป็นผู้นำข่าวนี้มาลง เรื่องมีอยู่ว่ามีผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าวโทษว่าสายการบินหนึ่งทางเฟสบุ๊คว่าไร้น้ำใจและไม่ยอมให้เขาเช็คอิน แม้ว่าเขาจะมาก่อนเวลาขึ้นเครื่องถึง 21 นาที และเขายังอ้างอีกว่า เขาได้แจ้งกับทางสายการบินแล้วว่าจะมาช้าแล้ว การขึ้นเครื่องบิน ต้องเช็คอินก่อนเวลาที่เขากำหนด เวลาที่กำหนดขึ้นมาให้เช็คอินได้ก่อนเกทปิดนี่ ไม่ได้ตั้งขึ้นมาโก้ๆเพร… Posted by Drama-addict on 8 กันยายน 2015 ก็เกิดดราม่ากันยกใหญ่ เหมียวก็เข้าใจเขานะที่จะโมโห แต่ว่ากฎไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นกฎ ถ้าทำตามไม่ได้หรือไม่ทัน ก็ต้องยอมรับกันไป จะไปโทษสายการบินก็คงไม่ได้ เพราะเขาก็ต้องบริการลูกค้าท่านอื่นๆเหมือนกัน แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะ ที่มา Drama Addict
-
จบนะ… คลิปหลุด ‘ออฟฟี่’ ที่จริงมันเป็นคลิปของคนสิงคโปร์ และมันก็นานมาแล้ว
หลังจากที่มีกระแสข่าวผัวๆเมียๆเป็นดราม่าให้ชาวเน็ตได้ติดตาม ตอนแรกเหมียวก็ตามอ่านนะ ไปๆมาๆสื่อก็ชักจะมั่วเอง อย่างเช่นวันนี้…. หลังจากที่ได้มีเว็บหนึ่ง (ซึ่งเป็นเว็บอะไรก็ไม่รู้ เหมือนจะเป็นสคริปให้คนกดเข้าไปดูด้วย) ทำการแชร์เป็นเรื่องเป็นราวว่านี่แหละ คลิปหลุดของ ‘ออฟฟี่’ ระหว่างกำลังมีอะไรกับฝ่ายชาย หลังจากนั้นสื่อบางแห่งก็เอาไปเล่นข่าวอย่างสนุกสนานเรยยยยย!!!! ทางทีมเหมียวก็เลยตามไปสืบเสาะต้นตอของคลิป พร้อมกับตั้งข้อสังเกตบางอย่าง เช่น – เท่าที่เจอมาหลายแหล่งบอกว่าเป็นคลิปของชาวสิงคโปร์ – เสียงพูดคุยตอนต้นคลิปไม่ใช่ภาษาไทย – เสียงทีวีที่แทรกระหว่างคลิป ก็ไม่ใช่ภาษาไทย – มีเสียงฝ่ายหญิงครางว่า โอ๊ว เย่ส์ (คนไทยคงไม่ค่อยมีงี้เนอะ) อ่ะ นี่หลักฐานยืนยันว่าไปตามสืบมาจริงๆ เอาเป็นว่าในเบื้องต้นเหมียวเลยขอสรุปเลยล่ะกัน ว่า…. ไอ้ที่มีบางเว็บเอามาเป็นประเด็นน่ะ ก็เพื่อเรียกคนเข้าไปดูเว็บตัวเอง สังเกตกันไหมว่าเวลามีประเด็นดราม่าผัวเมียในไทย หรือดาราเป็นข่าว ก็มักจะตามมาด้วยคลิปหลุด คลิปหน้าคล้ายเสมอ ซึ่งพอตามต่อไปเรื่อยๆก็พบว่า มันไม่จริง ก็แค่มือดีเอามาสร้างกระแส และสื่อก็นี่แหละตัวดีเอามาใส่ไข่ต่ออีก จึงอยากให้ทุกคนเสพกันด้วยจักรยาน เอ๊ย วิจารณญาณนะครัชชชช ปล. ถ้าเกิดว่าเป็นคลิปตัวจริงขึ้นมานี่หน้าแตกนะ แต่ฟังยังไงๆก็ไม่น่าจะใช่ภาษาไทยจริงๆ ที่มา: ไม่ลงที่มานะ 5555
-
ชาวเน็ตโวย รถหรูจอดคร่อมสองช่องกลางอาคารจอดรถ มักง่ายหรือความจำเป็น!?!?
อาจพราะนิสัยความมักง่ายและไร้ระเบียบของคนไทย ทำให้ผู้คนมักจับจ้องผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และทำให้เกิดประเด็นดราม่าอยู่เป็นประจำ อย่างเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ มีผู้ใช้เฟสบุ๊คคนหนึ่ง เดินทางไปย่านเมืองทองธานี เพื่อร่วมงานสมุนไพรแห่งชาติ เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่จอดรถเต็ม และขณะที่เธอกำลังหาที่จอดรถ เธอก็เจอกับภาพนี้ ซึ่งทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเธอนำภาพมาโพสลงเฟสบุ๊ค ก็เกิดเสียงพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่บางท่านก็มีความเห็นที่ต่างออกไป สำหรับเหมียวนะ เหมียวก็พอเข้าใจเหตุผลของเจ้าของรถ แต่ยังไงก็ตามแต่ มันก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี ควรจะไปอยู่ในที่จอดเฉพาะมากกว่า แล้วเพื่อนๆละ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะครับ ที่มา Facebook
-
จวกเละ!! พนักงานมือถือยี่ห้อดัง โพสต์สมน้ำหน้าเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์
จากข้อความเล็กๆในเฟซบุ๊คของตนเอง ลุกลามจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โตไปซะแล้วล่ะ สำหรับกรณีของหนุ่มชาวเหนือรายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความในเชิงรู้สึกสะใจ กับเหตุการณ์ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อค่ำที่ผ่านมา โดยข้อความทั้งหมดมีอยู่ว่า “ชอบแต้ๆ ระเบิดลงกรุงเทพ เป็นจะไดอยู่บ้านนอกดีๆบ่ชอบ ชอบไปอยู่เมืองกรุง ระเบิดนักๆ เอามันตายหื้อหมดหื้อเสี้ยง #บึนปากใส่” เมื่อข้อความของนายคนนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตที่พบเห็นเข้าเกิดความไม่พอใจ และเข้ามาต่อว่ากันอย่างมากมาย จนมีบางคนเข้าไปเปิดดูประวัติถึงรู้ว่า นายคนนี้เป็นพนักงานอยู่ที่บริษัท Oppo สาขาหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปต่อว่ากับเพจ Oppo Thailand กันอย่างมากมาย ถึงการอบรมพันกงานรายดังกล่าว ซึ่งทางแอดมินเพจก็ได้ออกมาชี้แจงว่า แท้จริงแล้ว พนักงานรายนี้ได้สิ้นสภาพการเป็นพนักงานไปตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว นี่ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการโพสต์ข้อความหรือแสดงออกแบบไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ จนข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนั่นเอง ที่มา OPPO Thailand
-
ดราม่ายาว!! ชาวเน็ตเถียงกันร้อนแรง ที่เจอในเนื้อหมู มันคือ ‘พยาธิ’ หรือไม่ใช่กันแน่!?
หลังจากที่เป็นประเด็นในโลกออนไลน์ และมีผู้คนให้ความสนใจ พากันแชร์เป็นจำนวนมากกับกรณีของลูกค้าท่านหนึ่งไปทานอาหารญี่ปุ่น แล้วเจอเข้ากับสิ่งแปลกปลอมลักษณะคล้ายพยาธิ ตามอ่านได้จากลิ้งค์นี้จ้ะ >> ชาวเน็ตโพสต์เตือนภัย เจอสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ภายหลังตรวจมันคือ ‘พยาธิ’ นอกจากจะพากันแชร์ในโซเชียลแล้ว เจ้าของรูปยังตั้งกระทู้ถามในพันทิปอีกด้วย เจอพยาธิในเนื้อหมูที่ร้านOotoyaค่ะส่งตรวจที่แลป อ.บอกว่าเป็นพยาธิแน่แต่ไม่ระบุไม่ได้ว่าเป็นชนิดไหนส่งตรวจที่ไหนได้อีกคะ ชาวพันทิปต่างพากันลงความเห็นว่าสรุปแล้วมันเป็นพญาธิจริงเหรอ? ด้านฝ่ายเจ้าของรูปก็ออกมายืนยันว่าเป็นนพยาธิแน่แต่ไม่ระบุไม่ได้ว่าเป็นชนิดไหน ล่าสุดเธอได้เข้าโรงพยาบาล เพราะมีอาการท้องเสีย “ตอนนี้ยังอยู่โรงพยาบาลค่ะ ลำไส้อักเสบจากอาหารสกปรก ไม่สุกดี และเมื่อเอาเจ้าตัวปัญหาให้ดู หมอก็ว่าน่าจะเป็นพยาธิค่ะ คุณหมอชี้แจงว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นพยาธิตัวตืดมฝที่สามารถการทานเนื้อหมูที่มีพยาธิตัวตืด มีพยาธิตัวตืดในกล้ามเนื้อหมูได้ยังไง คุณหมอชี้แจงว่า หมูอาจจะติดเชื้อหรือได้สัมผัสกับอุจาระหมูทีมีพยาธิแล้วมันเข้าทางผิวหนังค่ะ ดังนั้นคุณหมอให้ยาถ่ายพยาธิตัวใหม่มาในทันทีเพราะหากรอผลตรวจว่าเป็นพยาธิอะไรอาจไม่ทันการค่ะ และเมื่อทานแล้วขอบอกว่ามึนมากๆผลจากยาทั้งที่เตรียมตัวไว้ก่อนแล้วเพีาะหมอชี้แจงให้หังแล้วยาตัวนี้จะมีผลทำให้คลื่นไส้เวียนหัว พูดว่ายไค่ะเมื่อวานแทบจัไม่ได้ลุกจากเตียงคนไข้เลย นอกจากเข้าห้องน้ำ และที่ผ่านมาหาซื้อยาถ่ายพยาธิมาทานเองเกิดอาการข้างเคียงพอสมควร หน้าบวม เป็นผื่นคัน มันไม่สนุกเลยนะคะหากใครเจอแบบนี้ เสียงาน เสียการ เสียเงินจากการที่เราได้รับบริการที่แสนสกปรก และไม่มีคุณภาพเช่นนี้ ใครอยากจะทานร้านนี้ต่อเช้ญนะคะ ไม่ได้อยากจะทำให้ร้านเสียลูกค้าแต่แค่อยากให้ตื่นตัวในการให้บริการอาหารควรจะสะอาด ปรุงให้สุกในเมนูที่ไม่ใช่ปลาดิบ เราไม่ได้สั่งของดิบเลยแต่กลับเอาอาหารกึ่งดิบกึ่งสุกมาให้ แต่ที่แน่ๆเราจะไม่ยอมให้คนใกล้ตัวเราไปทานร้านนี้แน่ๆ” ด้านนักสืบพันทิปต่างก็บอกกันว่า มันไม่น่าจะใช่พยาธิ พร้อมกับตั้งข้อสังเกต อย่างเช่น “พยาธิในเนื้อหมูที่ก่อโรคในคน เท่าที่จำได้ก็มี Taenia solium (ตัวตืด) กับ Trichinella…
-
ถอดแล้วจ้า!! ดีแทคสั่งถอดโฆษณาเจ้าปัญหา นำมือถือรุ่นใดก็ได้มาแลกไอโฟน
หลังจากกลายเป็นประเด็นดราม่าในสังคมออนไลน์อยู่พอสมควร สำหรับกรณีของโฆษณาตัวใหม่จาก Dtac ที่ออกแคมเปญใหม่ “มือถืออะไรก็ได้มาแลกเป็น iPhone 6” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำเอามือถือรุ่นใดก็ได้ไปเปลี่ยนเป็น iPhone 6 และ iPhone 6 ในราคาที่ถูกลง แต่ประเด็นอยู่ที่เนื้อหาโฆษณานั้น ออกไปในทางเหยียดผู้ใช้ฝั่งแอนดรอย์ ทำให้ผู้ใช้หลายรายเกิดความไม่พอใจ ล่าสุดทางทีมงานของ Dtac ได้สั่งถอดโฆษณาตัวดังกล่าวออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ออกมาชี้แจงผ่านกระทู้หนึ่งในพันทิป โดยมีข้อความว่า “จากการที่ดีแทคกระตุ้นการขายสมาร์ทโฟนและสร้างโอกาสให้ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ได้ในราคาที่ดีมากขึ้น ผ่านแคมเปญ “มือถืออะไรก็ได้มาแลกเป็น iPhone 6” โดยได้ออกอากาศภาพยนต์โฆษณา ไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีการแสดงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวเป็นที่หลากหลายในวงกว้าง” “ดีแทคขอขอบคุณทุกเสียงที่แนะนำ คำติติง ความไม่สบายใจ และความห่วงใยที่เข้ามา โดยดีแทคพร้อมน้อมรับความคิดเห็นจากทุกท่าน และขออภัยที่ภาพยนตร์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ มา ณ โอกาสนี้” “และด้วยการให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกค้าทุกท่าน ทางดีแทคจึงพิจารณางดเผยแพร่ภาพยนต์โฆษณาดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจต่อคำแนะนำและคำติชมที่มีให้ ดีแทคยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานด้วยความจริงใจและตั้งใจดี ด้วยความห่วงใยและใส่ใจในทุก ๆ อย่างต่อลูกค้าของเราค่ะ” แต่อย่างไรก็ตาม การปล่อยโฆษณาตัวนี้ออกมา…
-
เมื่อเพจวิจารณ์หนังชื่อดังออกมาถามผู้ว่ากทม. “เลนจักรยานไม่มีคนใช้เหรอ แล้วสร้างทำไม?”
หลายๆคนอาจจะพอสังเกตได้ว่า จักรยานกลายเป็นพาหนะที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ทางกรุงเทพมหานคร ได้จัดทำเลนจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักปั่น แต่ดูเหมือนว่า จะไม่ค่อยมีคนใช้เลนจักรยานนี้เท่าไหร่ จนเพจวิจารณ์หนังชื่อดัง อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ได้ออกมาถามผู้ว่ากทม.ว่า “เลนจักรยานไม่มีคนใช้เหรอ? ” เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆล่ะ มีความเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะ ที่มา อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
-
‘ดีเจภูมิ’ อัดคลิปลง IG ขอบใจ ‘ดราม่า’ ‘เลียบด่วน’ ทำยอดฟอลโล่วเพิ่มขึ้นเพียบ
ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงอยู่ตลอดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ สำหรับกรณีของดีเจภูมิ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสดราม่าว่าเจ้าตัวได้ถ่ายคลิปในระหว่างที่ตัวเองดำน้ำลงไปให้อาหารปลาในทะเล ซึ่งก็ทำให้แฟนคลับที่ติดตามอยู่นั้นถึงกับต้องออกมาเตือนว่าการกระทำของเขาเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ปลาเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และสุดท้ายอาจนำไปสู่การสูญเสียระบบนิเวศได้ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวยืนยันในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ พร้อมกับออกมาโต้ตอบแฟนคลับอย่างมากมาย และล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาดีเจภูมิได้อัพโหลดคลิปวิดีโอสั้นๆผ่าน IG ของตัวเอง เป็นคลิปที่ออกมาขอบคุณเฟซบุ๊คเพจ Drama-Addict และเพจ อีเจี๊ยบเลียบด่วน ที่ทำให้ดราม่าของเขากล่าวเป็นข่าวโด่งดังและทำให้ยอดฟอลโล่วใน IG เพิ่มขึ้นมากทีเดียว พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เว็บ Drama เว็บเลียบด่วน ขอบใจมาก ช่วงนี้โปรโมทให้บ่อย ฟอลขึ้นเยอะเลย ฮาๆๆ หลังจากนี้จะมีให้โปรโมทบ่อยๆนะ! ยังไงตอนนี้ ช่วยโปรโมทข้อความนี้ผ่านเว็บพวกแกให้หน่อย เดี๋ยววันนี้พี่จะไปเดินเล่นที่พารากอน ขอเชิญชวนทุกคนที่ไม่พอใจกับทุกการกระทำที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ดูถูกคนจน ขับรถชนในหมู่ชุนชน หรือทำลายทะเลไทย ออกมาคุยกันตัวต่อตัวหน่อย” “เห็นพวกแกอ้างกันจัง ต้องออกมาขอโทษสังคม! ต้องออกมาขอโทษสังคม! พี่คนจิง อยู่ในสังคมจิงๆทุกวัน! ยังไม่เคยเจอ มนุษย์ตัวเป็นๆที่ไหนมาคุยเรื่องนี้ด้วยเลย! ในเน็ตอวดเก่ง ปากดีกันจัง! รู้จักทำไรกันในชีวิตจิงบ้าง! วันๆเอาแต่ ด่า หัวเราะเยาะชาวบ้าน กดขี่เค้า…
-
ความจริงอีกด้าน เบื้องหลังเหตุการณ์ ‘คนไทยป่วน NASA’ หรือคราวนี้ป่วนกันเอง!??
สวัสดีชาวเว็บเหมียวทุกทั่นนนน หลายคนคงจะได้ข่าวเรื่องคนไทยไปป่วนบนการถ่ายทอดสดภารกิจเดินทางไปยังดาวพลูโตของ NASA เมื่อคืนก่อนได้ใช่มะ… ซึ่งก็เป็นดราม่าร้อนทั่วโลกออนไลน์ไปแล้ว แต่…!! เดี๋ยวก่อน พอดีสายข่าวแมวเหมียวได้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ซึ่งทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเรื่องนี้อาจจะมีอะไรซับซ้อนกว่าที่คิด และการเข้าชมช่องยูทูปนั้นอาจจะการจำกัด IP ให้แต่ละประเทศเข้าไปคุยได้ในห้องตนเอง ลองอ่านตรงนี้ดูครับ.. สรุปให้คร่าวๆ ก็มีการตั้งข้อสังเกตดังนี้ – ยอดวิวมันดูน้อยไปหน่อยสำหรับเหตุการณ์ระดับโลกแบบนี้ – คงมีการแบ่งแต่ละห้องเป็นตาม IP ซึ่งคนไทยน่าจะอยู่รวมแต่กับคนไทย – มีการตามสืบคนที่เหมือนเป็นฝรั่งที่ด่าคนไทย ก็พบว่าใช้ชื่อ Google+ เป็นชื่อคนไทยซะงั้น – ประเด็นนี้ไม่ได้โด่งดังในโลกออนไลน์ฝั่งตะวันตกมากนัก ตามที่เค้าสรุปเอาไว้ว่าแบบนี้ครัชชชชช เอาล่ะสิ เหตุการณ์นี้เริ่มจะกลับตาลปัตรแล้วรึเปล่า? เพราะตอนแรกทีเราคิดว่าเป็นเหตุการณ์คนไทยไปป่วนฝรั่งมังค่าจนเค้าเอือมระอา กลายเป็นคนไทยด่ากันเองเอามันส์ แล้วมาดราม่ากันเองงั้นเหรอ…? แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามารยาทการใช้งาน Social Network ในระดับโลกของคนประเทศเราหลายกลุ่มก็อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงจริงๆแหละ แม้เรื่องนี้จะออกมาอย่างที่เค้าสรุป ก็ไม่ได้หมายความว่าเราพ้นผิด เพราะสิ่งที่เราทำไม่ดี มันยังมีให้เห็น เป็นหลักฐานให้หลายคนอับอายอยู่มากทีเดียวนะฮะ!!!! ที่มา: เพื่อนในเฟซบุ๊ค ขอปกปิดให้เค้าล่ะกัน
-
‘ดีเจภูมิ’ โพสต์ IG ให้อาหารปลาในทะเล เจอแฟนคลับตอบกลับ “เขาห้ามให้อาหารปลาไม่ใช่เหรอ”
กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงแทบจะรายเดือนเลยทีเดียว สำหรับดีเจภูมิคนดัง ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวคราวว่าเคยพูดดูถูกคนจน ซึ่งภายหลังเจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงแล้วว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าพ่อหนุ่มดีเจเกิดอุบัติเหตุขณะเทสรถบริเวณสนามบินเครือสหพัฒน์ด้วย ล่าสุดดูเหมือนว่าจะกลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อดีเจภูมิได้โพสต์คลิปวิดีโอลงใน Instagram ของตัวเอง ในคลิปวิดีโอเป็นภาพเหตุการณ์ที่เจ้าตัวได้ไปดำน้ำให้อาหารปลาในทะเลแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่โพสต์คลิปได้ไม่นาน ก็มีแฟนคลับที่ใช้ชื่อว่า party_up เข้ามาติงเรื่องการให้อาหารปลาโดยบอกว่า “เขาไม่ให้เราให้อาหารแก่ปลาพวกนี้ไม่ใช่หรอครับ เพราะจะทำให้ปลาก้าวร้าวขึ้น ไม่ดราม่านะครับ เพียงแค่อยากให้พี่ได้ให้ความรู้และความเข้าใจแก่คนที่ติดตามอย่างถูกต้อง #ขอบคุณครับ” จากนั้นดีเจภูมิจึงเข้ามาตอบความคิดเห็นของแฟนคลับว่า “พี่ว่า ให้มันแดกๆไปเถอะคับ… ก้าวร้าวมาก เดี๋ยวพี่จับแม่งแดรกเองครับ” ทำเอาแฟนคลับถึงกับเงิบในคำตอบทีเดียว และเมื่อเห็นถึงท่าทีของดีเจคนดัง เหล่าผู้ติดตามใน IG ก็ได้เข้ามารุมต่อว่านาย party_up อย่างมากมาย ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า เรียนจบวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเกียรตินิยมมาจากอังกฤษ การให้อาหารปลาเพียงแค่นี้ไม่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง Because all of me… Loves all of you A video posted by djpoom (@djpoom) on Jul 13, 2015 at 12:24am…
-
ดราม่าจองบัตรเดี่ยว!!! แฟนๆโวย หลังพบมีการจ้างจองคิว แถมซื้อทีเดียว 100 ใบ!!
ดราม่าการจองบัตรคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่างๆ ช่วงนี้ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่ Maroon5 รอบแรก และรอบสอง และวันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการแสดง “เดี่ยว 11” ของนักพูดชื่อดัง “โน๊ต อุดม” โดยเจ้าของกระทู้ผู้เห็นเหตุการณ์ความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ ได้มาเล่าในเว็บบอร์ดชื่อดัง Pantip โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่า ตนเองนั้นได้ไปรอซื้อบัตรตั้งแต่ 7 โมงเช้า ในขณะที่การเปิดขายบัตรจะเริ่มในเวลา 11 โมง และเขายังเล่าอีกว่าตอนที่ตนเองไปถึงนั้น มีคนนั่งรออยู่ประมาณหนึ่งแล้ว โดยเมื่อถึงเวลาประมาณ 10 โมง ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ก็ได้แจกบัตรคิว ซึ่งเจ้าของกระทู้ได้คิวที่ 12 เมื่อถึงเวลาขายบัตร ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ก็ได้เรียกคิวที่ 1-10 เข้าไป แต่ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งรับคิวทั้ง 10 คิวไปแทน และเดินเข้าไปซื้อ โดยชายคนนั้นได้ใช้เวลาในการเลือกตั๋วประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงและเขาได้ซื้อตั๋วไปทั้งหมด 100 ใบ ทั้งๆที่ตามกฏของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ แต่ละคนสามารถซื้อได้ไม่เกินคนละ 10 ใบเท่านั้น เรียกได้ว่าสร้างความไม่พอใจแก่คนที่มารอคิวอย่างมาก เมื่อมีการโวยวาย ชายคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาเพียง “เป็นสิทธิของผม” และพอมีถามคนที่มาจองคิวให้ชายคนนั้น ปรากฏว่าคนพวกนั้นก็ไม่รู้ว่าตนเองมาจองการแสดงอะไร…
-
เอาจริง!? หนุ่มโวยลงเฟซบุ๊ค ร้านกาแฟเก็บเงิน “ค่านั่งคุยงาน” ชั่วโมงละ 1,000
กลายเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่งที่เรียกเก็บ “ค่าคุยธุระ” กับลูกค้าชั่วโมงละ 1,000 บาท จนลูกค้าถึงกับงงว่าแค่นั่งคุยธุระเฉยๆแถมยังสั่งกาแฟมากินด้วย ถึงกับต้องเรียกเก็บเงินแพงขนาดนี้เลยหรือ? แถมยังไม่มีป้ายบอกรายละเอียดที่ชัดเจนอีกด้วย เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ค Atipoj Srisukhon เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ก.ค. โดยเจ้าตัวได้เล่าว่า “เรียนพี่ๆน้องๆครับ เมื่อวานผมเดินทางเข้ากทม.เพื่อทำธุระ มีเวลาว่างเลยแวะทานกาแฟที่ Bon coffee สาขาหน้าไทยประกันชีวิต ถนน รัชดาภิเษก (มีคุยธุระเป็นปกติของคนทานกาแฟ) นั่งทานทั้งหมด 4 คน” “นั่งอยู่ได้ประมาณชม.กว่าๆ จึงเรียกพนง.มาเก็บเงิน หลังจากนั้น พนักงานแจ้งว่ามีคุยธุระการงาน ขอเรียกเก็บเงินค่าคุยธุระชม.ละ 1000 บ. รวมสองชม. คิดค่านั่งในร้านเพิ่มอีก 2000 บาท เป็นค่านั่งคุยธุระการงานในร้าน ผมควรทำอย่างไรดี ครับ พี่ๆน้องๆ” “กินกาแฟยุคนี้มีค่านั่งคุยด้วย เดี๋ยวผมจะส่งบิลให้ดูนะครับ เงินส่วนที่เก็บเพิ่มเค้าเรียกว่า “open food” ครับ เค้าไม่ได้ติดไว้ที่หน้าร้านแต่ทำเป็นกระดาษแผ่นเล็กมากๆว่างไว้บนโต๊ะ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นเลย ครับ เพราะบนโต๊ะมีอุปกรณ์ต่างๆว่างอยู่ จนบังไม่เห็นกระดาษเล็กๆแผ่นนี้” หลังจากภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้มีสมาชิกในเฟซบุ๊คจำนวนมากเข้ามาต่อว่าเงื่อนไขของร้านนี้อย่างมากมาย และอาจยังเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค…
-
จวกเละ!! เก๋งมิตซูพยายามจอดแกล้งรถคันอื่น สุดท้ายรถเสยขึ้นเกาะกลางถนน
กลายเป็นประเด็นให้สังคมออนไลน์ได้พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิแลนเซอร์ สีเหลือง ที่พยายามปาดหน้ารถคันอื่น และจอดบังหน้ารถคันอื่น ด้วยเหตุผลว่ารถคันดังกล่าวไม่ยอมให้รถของตัวเองแทรก คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ผ่านแชแนลยูทูบ AM Manamz โดยมีข้อความประกอบว่า “เวลาช่วงประมาณ 11 โมงเช้า ระหว่างที่เค้าขับรถอยู่บน ถนนเทพารักษ กม. 5 ก็เจอรถมิตซูสีเหลืองทะเบียน 3กณ1301กทม พยายามปาดหน้าหาเรื่อง เพราะคุณ Aee Watchara ไม่ยอมให้แทรก “รถมิตซูคันนั้นก็ได้ขับรถปาดหน้ามาขวางไว้ไม่ให้ไปไหน จน Aee Watchara หาจังหวะขับแซงไปได้ รถมิตซูคันนั้นก็ได้ขับมาเบียดแต่พลาดเสียหลักขึ้นเกาะกลางไปเลย” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาคอมเม้นในเชิงต่อว่ารถเก๋งสัเหลือกันอย่างมากมาย และบอกด้วยว่าโชคดีที่รถประสบอุบัติเหตุ เพราะหากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ เรื่องราวอาจบานปลายและใหญ่โตกว่านี้มาก ที่มา AM Manamz
-
‘โน้ส’ แจงเหตุเคยพูดถึง ‘สโลว์ไลฟ์’ เพียงต้องการแนะนำวัยรุ่นจบใหม่เท่านั้น
กลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์อยู่พักใหญ่ สำหรับการออกมาให้สัมภาษณ์ของ โน้ส อุดม แต้พิณิช นักเดี่ยวไมค์โครโฟนอับดับหนึ่งของประเทศไทย ที่เคยพูดถึงประเด็นการใช้ชีวิตแบบ ‘สโลว์ไลฟ์’ จนทำให้คนหลายๆคนตีความและเข้าใจผิดไป ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา และบอกว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เข้าใจผิดเลย โน้ส อุดมได้พูดในรายการว่า “ตอนนั้นสัมภาษณ์ถึงวัยรุ่น วัยรุ่นจบใหม่ๆก็ประมาณ 19-20 อะไรเงี๊ยะ บางคนก็ไปตีความว่าสโลว์ไลฟ์เหมือนพวกขี้เกียจ ผมว่าช่วงเราเรียนจบใหม่ๆก็ต้องแสวงหาตัวตน ทำงาน” และเมื่อถูกถามถึงการใช้ชีวิตของตัวเอง โน้ส อุดมก็บอกว่า “สโลว์ไลฟ์อะดี ถ้าถามผม ผมบอกเลยว่าผมนี่พวกสโลว์อย่างกับหอยทากเลย หากมีทรัพย์อยู่แล้วจะสโลว์ขนาดไหนก็ได้ แต่ช่วงจบใหม่ช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวเนี๊ยะ ถ้าสโลว์เกินไปมันจะไม่งานเป็นชิ้นเป็นอัน มันจะไม่มีเงินเก็บ” ทั้งนี้เจ้าตัวยังเผยว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ นี่เป็นเพียงคำแนะนำที่อยากฝากไปถึงวัยรุ่นเท่านั้น ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
-
จะดราม่าป้ะ!? ชาวเน็ตโพสต์ภาพ ‘คนพม่าต่อแถวรอ KFC ที่แรก คนไทยหาว่าบ้าเห่อ’ มีคนร่วมวิจารณ์เพียบ
เอาล่ะ จำได้มั้ยวันก่อนเหมียวลงข่าวเรื่องคนพม่าต่อแถวรอกิน KFC สาขาแรกในประเทศ เอ่อ ตามลิงค์นี้ไง ร้านแทบแตก!! KFC เจ้าแรกในเมียนมาร์ ผู้คนต่อคิวนานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรมากมาย…. จนกระทั่งวันนี้ ไปเจอกับสมาชิกเฟซบุ๊คที่โพสต์ภาพชุดหนึ่งขึ้นมา ใจความว่า…. พม่าเห่อของใหม่มากๆเลยนะนะค่ะ แต่ส่วนคนไทยอ่ะ Keep look มากๆเลยค่าาา -@suckerdome Posted by Suvinit Aum Pornnavalai on Sunday, July 5, 2015 นั่นล่ะครับ ภาพชุดนี้ก็ประกอบไปด้วย ก็นั่นล่ะครับ กลายเป็นประเด็นที่มีคนเข้ามาคอมเม้นท์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม อาจจะเนื่องจากว่าคนไทยหลายคนไปดูถูกและมองว่าเรื่องที่คนพม่าต่อแถวกิน KFC สาขาแรกเป็นเรื่องน่าขบขัน ล้าหลัง และบลาๆ ตัวอย่างของคำวิจารณ์ก็เช่น มันก็ตีความได้ต่างๆนานาแหละเนอะ เอาเป็นว่าเหมียวขอไม่ออกความเห็นมาก หลายคนคงจะคิดว่ามันก็แทบไม่ต่างกัน เพราะงั้นการไปดูถูกทำเหมือนเค้าน่าหัวเราะมันก็ไม่สมควร เพราะไม่แน่ฝรั่งหรือชาติที่พัฒนา เค้าก็จะมองเราแบบนี้เหมือนกัน เนอะ….…
-
ได้มาไง? ‘เอมมี่ มรกต’ โพสต์โชว์บัตรคอนเสิร์ต Maroon 5 ทีเดียว 25 ใบ!!
ในขณะที่แฟนๆของวง Maroon 5 ก่นด่ากันเข้ามามากมายถึงจำนวนบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตที่หมดไวภายในไม่กี่นาที แถมยังมีบัตรผีราคาเหยียบหมื่นโผล่ในเน็ตให้เกลื่อน จนผู้จัดต้องประกาศเพิ่มรอบให้กับแฟนๆที่จองตั๋วรอบแรกไม่ทัน แต่ดูเหมือนดราม่าเกี่ยวกับวงนี้จะไม่จบลงง่ายๆนะ เพราะล่าสุดเฟซบุ๊คเพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ได้โพสต์ภาพดาราสาวเอมมี่ มรกต พร้อมภาพบัตรคอนเสิร์ต Maroon 5 ที่เธอจองมาได้ลงใน IG แต่จะไม่กลายเป็นประเด็นเลย หากเธอไม่ได้โพสต์พร้อมกันทีเดียวถึง 25 ใบ!! จากแหล่งข่าวที่มีประสบการณ์ในการจองบัตรกับไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เล่าให้เหมียวฟังว่า 1 แอคเคาท์จะสามารถจองได้ไม่เกิน 6 ใบ แต่เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะจองให้ได้บัตรที่นั่งติดๆกันถึง 6 ใบ แถมแถวหน้าๆด้วย แล้วยิ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ๆที่บัตรหมดเร็วสุดๆแบบนี้ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่นี่กลับได้มาถึง 25 ใบต้องไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน จากนั้นภาพของดาราสาวก็ถูกแชร์ต่อไปยังทวิตเตอร์ @Maroon5Thailand ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวได้ทราบเรื่อง ก็ได้นำภาพดังกล่าวกลับมาโพสต์ลงใน IG อีกครั้ง พร้อมกับข้อความว่า “ขอโทษนะคะ แต่นี่คือบัตรจองรอบแรกและมี่ต่อคิวจองเหมือนทุกๆคนค่ะ เฝ้ารอหน้าจอ 10 โมงตรงเหมือนกันค่ะ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรค่ะ” แต่ดูเหมือนว่าจะมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปต่อว่าเธอ จนเธอต้องลบรูปดังกล่าวออกจาก IG ยังไงก็ตาม กรณีการโพสต์ภาพบัตรชมคอนเสิร์ตจำนวนมากแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกกับดาราสาวอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้ IG ของ เจมส์ จิรายุธ แฟนหนุ่มของเธอก็เคยโพสต์ภาพบัตร…
-
ชาวเน็ตดราม่า… มหาลัยดังให้นักเรียนเซลฟี่ แลกคะแนน 4%’ จริงหรือมั่วนิ่ม!?
ช่วงสองสามสัปดาห์ที่่ผ่านมา เราได้เห็นดราม่าเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยไปหลายดราม่า และวันนี้ก็เกิดเรื่องดราม่าอีกครั้ง หลังจากมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งได้ให้นักเรียนของตัวเองถ่ายภาพเซลฟี่ลงเฟสบุ๊คเพื่อแลกคะแนน โดยทางอาจารย์ได้กำหนดกติกาไว้ว่า ให้นำรูปถ่ายของตัวเองลงเฟสบุ๊ค แล้วติดแฮชแท็กชื่อวิชา ถ้ามียอดไลค์ถึง 300 ไลค์ นักเรียนคนนั้นจะได้รับคะแนนเพิ่มอีก 4% และนี่คือตัวอย่างของการลงภาพเซลฟี่ของนักเรียนวิชานี้ ก็มีการถกเถียงกันเรื่องความเหมาะสม ว่าแค่การถ่ายรูปสามารถให้คะแนนได้ถึง 4% เลยหรือ เพราะแค่ 4% สำหรับวิชาในมหาวิทยาลัย ถือว่ามีค่าอย่างยิ่ง สามารถเปลี่ยนเกรดกันได้เลยทีเดียว แต่ทางอาจารย์ที่สอนวิชานี้ ก็ได้ออกมาชี้แจงดังนี้ การถ่ายรูปให้คะแนนนี้ อาจมีนัยยะหรือเหตุผลอะไรบางอย่างก็ได้ ถ้ามีความคืบหน้า เหมียวจะรีบนำมาอัพเดทโดยพลันเลยนะ ที่มา บนเฟสบุ๊คนี่แหละ
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ขรม!! เบน ชลาทิศใช้เวลา 3 วินาที ในการกด “ไม่ผ่าน” ให้ชายหนุ่มคนนี้!!!
เกิดดราม่าอีกครั้งกับรายการ Thailand’s Got Talent Season 5 หลังจากออกอากาศเทปการคัดเลือกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งชื่อว่า หนุ่มยอง เข้ามาแสดงความสามารถในการร้องเพลง แต่ทันทีที่เขาเริ่มร้อง กรรมการ เบน ชลาทิศ กลับกดปุ่มให้ไม่ผ่าน ทั่งๆที่ร้องไปได้ไม่ถึง 3 วินาทีดี เรียกได้ว่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการตัดสินครั้งนี้ และนี่คือความเห็นของชาวเน็ต เพื่อนๆลองไปชมเองเลยดีกว่า ว่าการแสดงเป็นอย่างไร เลื่อนไปนาทีที่ 8.08 เลยจ้า เป็นไงล่ะเพื่อนๆ คิดเห็นเป็นอย่างไร ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะเหมียวว ที่มา Thailand’s Got Talent
-
หญิงสาวตบกันนัวกลางถนนพระราม 9 เหตุขับรถจี้ท้าย ตำรวจยืนดูเฉย
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. แชแนลยูทูบ Real ClipVideo ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์จริงบนถนนพระราม 9 เป็นเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทกันระหว่างหญิงสาวผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์และหญิงสาวอีกรายที่ขับรถเก๋ง โดยหญิงสาวผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้เข้าทำร้ายร่างกายฝ่ายตรงข้ามที่นั่งอยู่ภายในรถ แต่กลับไม่มีใครคิดจะห้าม จนทำให้การจราจรติดขัด พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “เหตุเพราะ..ขับรถจี้ตูดที่ถนนพระราม 9 แยกผังเมืองก่อนถึงแยกอสมท. ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้ แถมคุณตำรวจก็ไม่มีท่าทีที่จะเข้าไปห้ามปรามปล่อยให้หญิงทั้ง 2 ตบตีทะเลาะกันกลางถนน ทำเอาการจราจรติดขัดเป็นแถวยาว” คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ที่มา Real ClipVideo