Tag: ดาราศาสตร์
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบทฤษฎีใหม่แล้วว่า ‘ดวงจันทร์’ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
มนุษย์โลกรู้จัก “ดวงจันทร์” มานานแสนนานแล้ว มีความเชื่อเกี่ยวกับพระจันทร์มากมายทั้งตำนานที่แต่งขึ้นหรือจะเป็นคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าบริวารดวงน้อยของโลกนี้ ถือกำเนิดเกิดมาได้อย่างไร วิทยาการต่างๆ ของมนุษย์นั้นสามารถนำพาเราขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้ และทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่า ดวงจันทร์นั้นประกอบขึ้นจากสสารในอวกาศที่ล่องลอยอยู่รอบดวงอาทิตย์ โดยเกิดขึ้นพร้อมกับโลก หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่า ดวงจันทร์เกิดจากการปะทุของโลกที่กำลังประกอบตนเองขึ้น และทำให้มีมวลวัตถุจำนวนมากล่องลอยออกไปโคจรเป็นวงรอบโลก และประกอบตัวกันเป็นดวงจันทร์ ทั้งสองทฤษฎีที่กล่าวมานั้นมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าโลกและดวงจันทร์นั้นประกอบขึ้นจากสสารและวัตถุที่เหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิดของพระจันทร์ทั้งหมด ถึงแม้ทั้งโลกและดวงจันทร์จะมีวัตถุประกอบที่เหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่โดดเด่นพอที่จะมั่นใจได้ว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกัน จึงมีช่องโหว่ให้สงสัยได้ว่า ที่จริงแล้วดวงจันทร์อาจประกอบตัวเองขึ้นอย่างอิสระ Journal of Geophysical Research จึงมีงานวิจัยออกใหม่มาอธิบายเกี่ยวกับการกำเนิดขึ้นของดวงจันทร์ แต่ก็ยังยากที่จะเข้าใจ ในเอกสารงานวิจัย นักวิจัยเชื่อว่าดวงจันทร์เกิดขึ้นจากปรากฎการณ์ Synestia ที่เมื่อวัตถุขนาดเท่าดวงดาว 2 ดวงปะทะกันแล้วเศษซากต่างๆ กลายเป็นไอระเหย รวมไปถึงหินหลอมเหลวร้อนจัดที่ก่อตัวขึ้นเป็นรูปวงแหวน แล้วหินเหล่านั้นก็รวมกันเป็นทรงกลมพร้อมกับลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว มันจึงเกิดเป็นดาวเคราะห์ การสันนิษฐานดังกล่าวนี้นักวิจัยเพียงเชื่อว่าสามารถอธิบายถึงการกำเนิดขึ้นและความสัมพันธ์ของโลกและดวงจันทร์ได้ โดยการชนกันของสองดาวเคราะห์นั้นทำให้เกิดการรวบรวมเอาหินหลอมระเหยไปประกอบเป็นดวงจันทร์ และส่วนที่เหลือซึ่งมีสถานะเป็นของแข็งก็รวมตัวกันเป็นโลก ทฤษฎีนี้จึงทำให้เกิดความเข้าใจในระดับหนึ่งว่าทำไมดวงจันทร์และโลกจึงมีลักษณะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ที่มา: BGR
-
NASA เผยผลการสำรวจดาวอังคาร ล่าสุดพบ ‘น้ำสะอาด’ อยู่ภายใต้พื้นผิวของดวงดาว!!
ว่ากันว่าดวงดาวที่ใกล้ที่สุดที่มนุษย์จะสามารถย้ายไปอยู้ได้ก็คือดาวอังคารนั่นเอง คำพูดเหล่านั้นทุกวันนี้ก็ใกล้จะเป็นจริงขึ้นไปอีกก้าวแล้วเมื่อ ล่าสุด NASA ได้เปิดเผยผลการสำรวจดาวอังคารว่าพบน้ำสะอาด อยู่ภายใต้พื้นผิวของดวงดาวแล้ว นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าพวกเขาได้พบกับแหล่งน้ำในรูปแบบก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใกล้กับพื้นผิวของดาวอังคาร ซึ่งอาจเป็นการค้นพบที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับภารกิจการสำรวจดาวอังคารในอนาคต การค้นพบที่ถูกตีพิมพ์ในหนังสือ “Science” นี้ นำโดย Colin Dundas จากการทีมสำรวจทางธรณีวิทยาของรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการใช้เครื่องมือ HiRISE (High Resolution Imaging Science Experiment หรือ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยภาพความละเอียดสูง) ซึ่งอยู่ภายในดาวเทียมสำรวจ พวกเขาพบแปดตำแหน่งพื้นผิวของที่ลาดชัน หน้าผา และร่องลึก ที่ได้ถูกน้ำกัดเซาะและเผยให้เห็นก้อนน้ำแข็ง ในบางพื้นที่ก้อนน้ำแข็งนั้นหนาถึงราว 100 เมตร โดยฝังอยู่ใต้ดินที่ลึกเพียง 2 ถึง 3 เมตร ยิ่งไปกว่านั้นน้ำแข็งดูเหมือนจะเรียงเป็นชั้นๆ ไม่ต่างกับชั้นตะกอนในโลก หมายความว่าแต่ละชั้นจะแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันของดาวอังคาร “สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้รู้รายละเอียดโครงสร้างแนวตั้งของแผ่นน้ำแข็งดาวอังคารมากขึ้น และแสดงให้เห็นว่ามันมีเพียงชั้นดินบางๆ ปกคลุมไว้เท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือมันมีน้ำแข็งบนดาวอังคารที่ถูกฝังเอาไว้ตื้นๆ นี่ล่ะ” Dundas กล่าว แสงสะท้อนสีน้ำเงินคือบริเวณที่มีน้ำแข็งอยู่ แม้พวกเราจะรู้กันอยู่แล้วว่าบนดาวอังคารนั้นมีน้ำแข็งอยู่ใต้พื้นดิน แต่การค้นพบครั้งนี้ก็บอกพวกเราว่ายังมีน้ำแข็งบางส่วนที่อยู่ใกล้กับพื้นผิวของดาวอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงได้โดยภารกิจการสำรวจในอนาคตต่อๆ ไป เช่นรถสำรวจ European ExoMars ในช่วงต้นปี 2021 ซึ่งมีสว่านที่สามารถเจาะใต้พื้นผิวดาวได้ 2 เมตร…
-
นักดาราศาสตร์พบ ‘วัตถุรูปร่างยาว’ เดินทางผ่านช่องว่างระหว่างดาว เข้าสู่ระบบสุริยะของเรา
กลายเป็นข่าวที่ช็อกวงการดาราศาสตร์กันไปทั่ว เมื่อมีการค้นพบวัตถุประหลาดที่ไม่เคยพบเจอในระบบสุริยะของเรามาก่อน แถมยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สูงถึง 157,715 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!? เจ้าวัตถุแปลกประหลาดนี้ถูกค้นพบเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่มันกำลังเคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์ ซึ่งต่อมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 ก็ได้มีการยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวนั้น ไม่ใช่วัตถุที่อยู่ในระบบสุริยะของเราแต่ว่ามาจากระบบอื่น เนื่องจากวงโคจรที่ไม่เหมือนกับวัตถุในระบบสุริยะนั่นเอง ภาพจำลองการเดินทางของวัตถุลึกลับดังกล่าว ซึ่งเราจะเห็นว่าความเร็วของมันไม่ใช่เล่นๆ เลยล่ะ โดยการอัพเดตล่าสุดได้ฟันธงถึงลักษณะของมันว่า มันเป็นวัตถุทรงยาวที่ไม่เหมือนกับยานยูเอฟโอหรือวัตถุอื่นๆ ที่เราพบในอวกาศ ซึ่งวัตถุชนิดนี้นั้นมีความยาวอยู่ที่ 200 เมตร และมีความกว้าง 30 เมตร ภาพจำลองของวัตถุดังกล่าวโดย NASA ในส่วนของชื่อเรียกนั้นตอนแรกนักดาราศาสตร์เรียกมันว่า A/2017 U1 แต่หลังจากการยืนยันก็ได้มีการตั้งชื่อให้มันใหม่อย่างเป็นทางการว่า 1I Oumuamua 1I มาจากคำว่า 1st Interstellar Object หรือวัตถุจากช่องว่างระหว่างดวงดาวลำดับที่ 1 เพราะนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัตถุชิ้นนี้เป็นวัตถุจากช่องว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) ชิ้นแรกที่มีการค้นพบ ส่วน Oumuamua เป็นภาษาฮาวายซึ่งแปลได้ว่า “ปฐมบทแห่งผู้ส่งสารจากแดนไกล” และสาเหตุที่ต้องใช้เป็นภาษาฮาวายนั่นก็เพราะมันถูกค้นพบโดยกล้องดูดาว Pan-STARRS ที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะฮาวายนั่นเอง ส่วนหลังจากนี้ ทางนักวิทยาศาสตร์คาดว่าหลังจากที่วัตถุดังกล่าวถูกแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ปรับวงโคจรแล้ว มันก็จะออกเดินทางไปยังกลุ่มดาว Pegasus…
-
นักวิจัยคาดการณ์ “ดาวยูเรนัส” มีฝนตกเป็นเพชร และอาจจะรวมอยู่นับล้านกะรัต!!
รู้หรือไม่ ว่าทำไมฝนจึงตก ที่ฝนตกเกิดจากน้ำโดนความร้อนจากแสงของดวงอาทิตย์ แล้วระเหยกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อรวมตัวกันมากๆ ก็เกิดการควบแน่นกลั่นตัวออกมาเป็นน้ำฝนเย็นชุ่มช่ำตกลงมาบนโลกอีกครั้งหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2013 ได้มีการค้นพบจากการคำนวณว่า บน ดาวเสาร์ กับ ดาวพฤหัส อาจมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ฝนตกเป็นเพชร จากการคำนวณของนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เนื่องจากการเกิดพายุฟ้าคะนองอันรุนแรงในชั้นบรรยากาศในระบบสุริยะทำให้เกิดอนุภาคคาร์บอนบีบอัดกันจนกลายเป็นเพชรแล้วตกลงที่ดาวเสาร์กับดาวพฤหัส นักวิจัยของ Stanford เชื่อว่าปรากฏการณ์ฝนตกเป็นเพชรนี้จะเกิดขึ้นที่ดาวยูเรนัสเช่นกัน จึงได้ตั้งสมมุติฐานและทำการทดลอง โดยการสร้างดาวยูเรนัสจำลองเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ห้องทดลองนี้ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสภาวะของดาวยูเรนัสที่มีแกนกลางแข็งและเป็นดาวเคราะห์แก๊สขนาดยักษ์ อุณหภูมิหนาวเย็นกว่าจุดเยือกแข็ง พวกเขาสร้างแบบจำลองลักษณะที่คล้ายกับดาวนั้นแทบทุกอย่าง แล้วทดลองสร้างคลื่นกระแทกให้กับเมล็ดพลาสติกด้วยเลเซอร์ออปติคอลที่สถาบัน Linac Coherent Light Source (LCLS) ก่อนหน้านี้นักวิจัยคาดการณ์ว่าเพชรเหล่านี้สามารถก่อตัวขึ้นได้ และการทดลองก็ทำให้เห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆโดยทาง Dominik Kraus นักวิทยาศาสตร์จาก Helmholtz Zentrum Dresden-Rossendorf ได้กล่าวว่า “ตอนที่ผมเห็นผลลัพท์ของการทดลองในครั้งนี้ มันนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตการเป็นนักวิทยาศาสต์ของผมเลยล่ะ” นักวิจัยสามารถจับปรากฏการณ์ที่อะตอมคาร์บอนของพลาสติกแทบทุกอะตอม กลายเป็นโครงสร้างเพชรขนาดเล็กจิ่วเพียงไม่กี่นาโนเมตรเท่านั้น พวกเขาวิเคราะห์ว่าฝนเพชรนี้จะเกิดขึ้นแล้วตกลงบนใจกลางของดาว ซึ่งนานวันเข้าก็จะมีปริมาณมากขึ้นและจมติดอยู่กับส่วนแกนกลางซึ่งเป็นของแข็ง นั่นทำให้ทีมวิจัยได้คาดการณ์ว่า ในดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนจะมีเพชรขนาดใหญ่มากที่อยู่ในใจกลางดาว ทั้งนั้นมันอาจมีน้ำหนักนับล้านกะรัตก็เป็นได้….. . ที่มา metro
-
ช่างภาพดาราศาสตร์เปลี่ยน “กล้องเครื่องเกมบอย” ให้กลายเป็นกล้องถ่ายภาพดวงดาวสุดเจ๋ง!!
Alexander Pietrow ช่างภาพดาราศาสตร์ผู้มากความสามารถ ได้ลองคิดค้นกล้องถ่ายภาพดวงดาวแบบใหม่ขึ้นมาจากสิ่งที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง เพราะเจ้าสิ่งนั้นที่ว่ามันคือกล้องจากเครื่องเล่นเกมบอยแอดวานซ์จากยุคดึกดำบรรพ์!! ในตอนแรกนั้น Alexander ได้คิดเล่นๆ ว่า จะเป็นยังไงกันนะถ้าเอาเจ้ากล้องเครื่องเกมยุคเก่าที่ถ่ายภาพเป็น 8 บิต มาถ่ายภาพดวงดาวที่เขาถนัด ซึ่งพอเขาไปค้นหาดูในเน็ตเขากลับพบว่าไม่มีใครทำมาก่อนเลย ด้วยเหตุนี้เขาจึงจัดการริเริ่มมันด้วยตัวเองซะเลย เขาเลือกใช้กล้องดูดาวยุคเก่าอย่าง 6″ Fraunhofer telescope ที่ตั้งอยู่ในหอดูดาวของมหาวิทยาลัย Leiden มารวมเข้ากับเจ้ากล้องเครื่องเกมบอย ซึ่งในตอนแรกนั้นเขาบอกว่าต้องใช้เวลาสักพักในการทดสอบรวมถึงการรอสภาพอากาศที่เป็นใจ เริ่มการติดตั้ง!! จากนั้นก็รออากาศที่เป็นใจและรอดูผลกัน… ช่วงแรกเขาเลือกที่จะทดสอบขั้นต้นโดยการถ่ายหอนาฬิกาจากโบสถ์ใกล้ๆ ดูก่อน ซึ่งภาพที่ได้ออกมาก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว จากนั้นก็รู้ทันทีว่ามันเข้าท่าจริงๆ เขาจึงรอให้ท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นเวลาหลายวัน เมื่อสภาพอากาศเป็นใจเขาจึงทำการส่องขึ้นไปบนท้องฟ้าเริ่มจากดวงจัทนร์ก่อน และนี่ก็คือภาพที่เขาถ่ายได้ . แม้จะได้ภาพถ่ายดวงจันทร์แล้ว แต่ความพยายามของเขาก็ไม่หยุดเท่านั้น เขาได้ลองตั้งกล้องดูอีกครั้ง คราวนี้แหละ มันทำให้เขาสามารถจับภาพของดาวพฤหัสได้ ซึ่งเราจะเป็นเป็นจุดวงกลมที่อยู่ในหมูจุดเล็กๆ อีกทีหนึ่ง . ที่มา petapixel
-
ตื่นตัวทั่วโลก LIGO ยืนยันค้นพบ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ เป็นครั้งแรก ตามทฤษฏีของไอน์สไตน์
เมื่อคืนของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ตามช่วงเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย อีกฟากหนึ่งของโลกกำลังจัดงานแถลงการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ มันก็คือ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลก และได้ทำการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชมไปพร้อมๆ กัน มาถึงแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Gravitational Waves (คลื่นแรงโน้มถ่วง) เป็นทฤษฏีของไอน์สไตน์ที่ตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ จนระยะเวลาผ่านไปเกือบร่วมๆ 100 ปี วันนี้ก็มาถึงแล้ว ซึ่งทีมงาน LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ออกมายืนยันว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเป็นครั้งแรก จากวันที่ 14 กันยายน 2015 ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากหลุมดำสองหลุม ขนาดมวล 29 และ 36 เท่าของดวงอาทิตย์รวมตัวกัน และปล่อยพลังงานออกมาเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง สามารถวัดคลื่นดังกล่าวได้ในเวลาเดียวกันทั้งสถานีที่ Hanford, Washington และ Livingston, Louisiana โดยลักษณะของคลื่นแรงโน้มถ่วงจะไม่เหมือนกับคลื่นธรรมชาติอื่นๆ เป็นรูปแบบการบิดงอของตัวอวกาศ ระยะทางสองทิศยืดและหดออกจากกัน…
-
ความสำเร็จของการสำรวจดาวพลูโตนั้นมากจากขุมพลัง CPU ของเครื่อง PlayStation!!
หลังจากการเดินทางอันแสนยาวนานของยานสำรวจอวกาศ New Horizons ที่มีจุดหมายปลายทางไปยังดาวพลูโตนั้นก็สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งได้สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวโลกและนักวิทยาศาสตร์ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งภาพที่ได้มาจากยาน New Horizons นั้นเป็นภาพที่ชัดมากที่สุดในรอบหลายปี จากที่เมื่อก่อนจะเป็นเพียงแค่ภาพเลือนลาง เผยให้เห็นรายละเอียดของดาวพลูโตได้มากยิ่งขึ้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าขุมพลังที่ติดไปกับยาน New Horizons นั้นเป็น CPU ตัวเดียวกันกับเครื่องเล่นเกม PlayStation รุ่นแรก!! ใช่แล้วล่ะ CPU ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า MIPS R3000 ที่ใช้ทั้งในเครื่อง PlayStation และเป็นขุมพลังให้กับยาน New Horizons ที่เดินทางไปไกลถึงดาวพลูโต ซึ่งเครื่อง PS1 นี้เปิดตัวเมื่อปีค.ศ. 1994 และได้นำมาใช้กับยาน New Horizons ในปีค.ศ. 2006 เดินทางไปไกลประมาณ 4,828 ล้านกิโลเมตรจากโลกถึงดาวพลูโต นับระยะเวลาร่วมนานถึง 12 ปี ถือว่าเป็นการทำงานที่ถึกและบึกบึนมากๆ สำหรับ CPU เก่าแต่เก๋าตัวนี้ ที่มา…
-
14 เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างความรู้ได้ดียิ่งนัก!!
ในแวดวงทางวิชาการความรู้ วิทยาศาสตร์ช่วยเปิดโลกให้กับมนุษย์ได้ดียิ่งนัก ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร คลายข้อสงสัยให้กระจ่างได้ แต่ก็ยังมีความรู้อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เอาเป็นว่าเรามาเปิดโลกกว้างไปพร้อมกันเถอะ ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านเลย!! ดาวเคราะห์โรกคือวัตถุที่มีมวลขนาดเท่าดาวเคราะห์และไม่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดอยู่กับดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ ทำให้มันล่องลอยอยู่กลางอวกาศ มีเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือกของเราด้วย ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ล้านปีก่อน มีแมลงปอขนาดยักษ์ที่มีชื่อเรียกว่า Meganeura ยักษ์ไม่ยักษ์ก็คือว่าปีกของมันเนี่ยกว้างถึง 60 เซนติเมตรเลยล่ะ รู้หรือไม่ว่าดวงจันทร์ทำให้โลกเราหมุนช้าลงเรื่อยๆ ทุกศตวรรษที่ผ่านพ้นไป หนึ่งวันบนโลกจะยาวนานขึ้น 1.7 มิลลิวินาที นั่นก็หมายความว่า 350 ล้านปีที่แล้วมา หนึ่งปีบนโลกมีทั้งหมด 385 วัน เพราะโลกเคยหมุนเร็วกว่านี้ มีผลวิจัยเปิดเผยออกมาแล้วว่าการดูคลิปวิดีโอแมวจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น เอ๊ะ!? จริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะ ระบบ Endocannabinoid ในสมองของมนุษย์มีหน้าที่ช่วยควบคุมอารมณ์ ความอยาก ความเจ็บปวด และความทรงจำ และระบบนี้เองคือสิ่งที่กัญชาเฝ้าตามหา!! Verona Rupes…