Tag: ดาวอังคาร
-
จีนสุดล้ำ สร้าง “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ให้ความรู้เยาวชน กลางเวิ้งทะเลทราย
ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทั้งยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์เอามากๆ สำหรับ Mars simulation base หรือ ฐานทัพดาวอังคารจำลอง ของประเทศจีน เพราะสิ่งก่อสร้างดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทั้งสถานีวิจัยและสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว และยังใช้งบประมาณการสร้างมากถึง 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,989 ล้านบาท) อีกด้วย ฐานทัพจำลองดังกล่าวสร้างขึ้นบนพื้นที่ห่างไกลในเวิ้ง ทะเลทรายโกบี โดยภายในจะมีส่วนสำหรับ “พักอาศัย” ที่ออกแบบให้เหมือนกับการใช้ชีวิตบนพื้นผิวดาวอังคารเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ฐานทัพนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ C Space Plan เป็นโครงการสร้างองค์ความรู้ทางอวกาศให้กับเยาวชน ตามวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่มุ่งเน้นพัฒนาเด็กๆ สู่การเป็นนักบินอวกาศรุ่นใหม่ สถานที่แห่งนี้นับเป็นสิ่งก่อสร้างแรกของจีนที่เป็นทั้งสถานที่ให้ความรู้และสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นโลเคชันสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย บรรยากาศและภูมิทัศน์ภายนอกนั้นมีความคล้ายคลึงกับพื้นผิวดาวอังคารมาก เพราะเต็มไปด้วยดินและหินสีแดง ส่ายภายในนั้นออกแบบให้เหมือนกับฐานทัพสำรวจดาวอังคาร และยังมีกิจกรรมจำลองการใช้ชีวิตบนดาวอังคารอีกด้วย ภายในจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนพักอาศัย ส่วนแล็บวิทยาศาสตร์ และห้องวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสการออกสำรวจดวงดาว และต้องสวมชุดอวกาศอีกด้วย ล่าสุดทางการประเทศจีนก็ได้เปิดฐานทัพจำลองนี้ ให้กับสื่อหลายๆ ฝ่ายได้เข้าชมแล้ว…
-
สัมผัส “ชีวิตบนดาวอังคาร” กับ Sun City Camp ที่พักกลางทะเลทรายจอร์แดน
มีใครที่เบื่อกับการพักผ่อนพร้อมภาพบรรยากาศเดิมๆ บ้างไหม? เดี๋ยวก็ทะเล เดี๋ยวก็ป่าเขา สายรักการท่องเที่ยวก็คงจะเห็นกันจนเบื่อแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วอยากเห็นวิวทิวทัศน์ที่ดู “ไม่เหมือนอยู่บนโลก” กันบ้างหรือเปล่า? ถ้าใครต้องการแบบนั้นล่ะก็ลุยไปเลยที่แคมป์ Sun City ท่ามกลางหุบเขาวาดิรัม ในประเทศจอร์แดน ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันสงบเงียบแล้ว ยังมีอันสวยงามที่แทบจะหาจากที่ใดไม่ได้บนโลกอีกด้วย Sun City Camp ภายในจะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พร้อมทั้งมีการจัดสรรกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสไตล์การพักผ่อนของคุณ เช่น สไตล์ผ่อนคลายและสไตล์ผจญภัย เป็นต้น แขกผู้เข้าพักสามารถเลือกรูปแบบของห้องพักได้ โดยจะมีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Bedouin (30 เต็นท์), Royal (8 ห้อง), Family (2 ห้อง) และที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ Martian Domes (20 ห้อง) ที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศวิวทิวทัศน์ราวกับอาศัยอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร แต่ถึงกระนั้น ทางแคมป์ก็ยังมีสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้ แถมมีบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ชั้นเลิศให้รับประทานอีกด้วย . . . Sun…
-
พบ “ร่องรอยสิ่งมีชีวิต” จากภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคาร มีทั้งสิ่งก่อสร้างและซากเอเลี่ยน
แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวนั้นถือเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์เราก็ยังไม่สามารถตอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงกันแน่ หลายครั้ง มีข่าวคราวการปรากฏขึ้นของ UFO หรือ เอเลี่ยน ออกมามากมายทั่วโลกอินเทอร์เน็ต แต่นั่นก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเรื่องจริงไม่ใช่ตัดต่อ เร็วๆ นี้เมื่อช่วงวันที่ 13 สิงหาคม 2018 ข่าวคราวที่ว่ามีแววจะพบ “มนุษย์ต่างดาว” ก็กลับมาอีกครั้งหลังจากมีคนพบว่าภาพถ่ายดาวอังคารที่ทางเว็บไซต์ Gigapan ได้เผยออกมาเมื่อปี 2015 นั้น มีบางอย่างดูคล้ายกับ “สิ่งก่อสร้าง” ปรากฏขึ้นในภาพ ภาพถ่ายดาวอังคาร และสิ่งที่ดูเหมือนสิ่งก่อสร้าง เชื่อกันว่าอาจเป็นฐานทัพของเอเลี่ยน แต่เรื่องราวนี้ก็ไม่ได้รับการสานต่อแต่อย่างใด ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างจริงๆ หรือว่าเป็นเพียงการก่อตัวของชั้นหินบนพื้นผิวดวงดาว ทางองค์การ NASA เองก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเรื่องดังกล่าว ล่าสุดในวันที่ 27 สิงหาคม 2018 กลับมีเหตุให้ต้องหันมาสนใจเรื่องของเอเลี่ยนบนดาวอังคารอีกครั้งหลังมีคนพบว่าภาพถ่ายดาวอังคารจาก NASA นั้นเผยให้เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิต เริ่มต้นจากนาย Steve Martin อดีตข้าราชการพลเรือนวัย 56 ปีจากเมืองเคนท์ ที่บังเอิญไปเห็นว่าในภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคารของ NASA นั้น มีภาพคล้ายกับสิ่งมีชีวิตปรากฏอยู่ในภาพ ภาพดังกล่าว Steve เชื่อว่ามองเห็นเหมือนกับ ตา ปาก…
-
NASA เผยผลการสำรวจดาวอังคาร ล่าสุดพบ ‘น้ำสะอาด’ อยู่ภายใต้พื้นผิวของดวงดาว!!
ว่ากันว่าดวงดาวที่ใกล้ที่สุดที่มนุษย์จะสามารถย้ายไปอยู้ได้ก็คือดาวอังคารนั่นเอง คำพูดเหล่านั้นทุกวันนี้ก็ใกล้จะเป็นจริงขึ้นไปอีกก้าวแล้วเมื่อ ล่าสุด NASA ได้เปิดเผยผลการสำรวจดาวอังคารว่าพบน้ำสะอาด อยู่ภายใต้พื้นผิวของดวงดาวแล้ว นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าพวกเขาได้พบกับแหล่งน้ำในรูปแบบก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใกล้กับพื้นผิวของดาวอังคาร ซึ่งอาจเป็นการค้นพบที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับภารกิจการสำรวจดาวอังคารในอนาคต การค้นพบที่ถูกตีพิมพ์ในหนังสือ “Science” นี้ นำโดย Colin Dundas จากการทีมสำรวจทางธรณีวิทยาของรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการใช้เครื่องมือ HiRISE (High Resolution Imaging Science Experiment หรือ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยภาพความละเอียดสูง) ซึ่งอยู่ภายในดาวเทียมสำรวจ พวกเขาพบแปดตำแหน่งพื้นผิวของที่ลาดชัน หน้าผา และร่องลึก ที่ได้ถูกน้ำกัดเซาะและเผยให้เห็นก้อนน้ำแข็ง ในบางพื้นที่ก้อนน้ำแข็งนั้นหนาถึงราว 100 เมตร โดยฝังอยู่ใต้ดินที่ลึกเพียง 2 ถึง 3 เมตร ยิ่งไปกว่านั้นน้ำแข็งดูเหมือนจะเรียงเป็นชั้นๆ ไม่ต่างกับชั้นตะกอนในโลก หมายความว่าแต่ละชั้นจะแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันของดาวอังคาร “สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้รู้รายละเอียดโครงสร้างแนวตั้งของแผ่นน้ำแข็งดาวอังคารมากขึ้น และแสดงให้เห็นว่ามันมีเพียงชั้นดินบางๆ ปกคลุมไว้เท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือมันมีน้ำแข็งบนดาวอังคารที่ถูกฝังเอาไว้ตื้นๆ นี่ล่ะ” Dundas กล่าว แสงสะท้อนสีน้ำเงินคือบริเวณที่มีน้ำแข็งอยู่ แม้พวกเราจะรู้กันอยู่แล้วว่าบนดาวอังคารนั้นมีน้ำแข็งอยู่ใต้พื้นดิน แต่การค้นพบครั้งนี้ก็บอกพวกเราว่ายังมีน้ำแข็งบางส่วนที่อยู่ใกล้กับพื้นผิวของดาวอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงได้โดยภารกิจการสำรวจในอนาคตต่อๆ ไป เช่นรถสำรวจ European ExoMars ในช่วงต้นปี 2021 ซึ่งมีสว่านที่สามารถเจาะใต้พื้นผิวดาวได้ 2 เมตร…
-
Elon Musk ออกมาตอบคำถามเรื่องโลกแบน ด้วยมุกดาวอังคารของโปรดพี่แก
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้มีกระแสการถกเรื่องโลกแบนกันยกใหญ่ในเมืองนอก ถึงขนาดที่ว่าจะทำจรวดเพื่อออกไปพิสูจน์กันเลยก็มี ซึ่งทั้งชาวเน็ตและผู้เชี่ยวชาญก็ไม่นิ่งนอนใจออกมาพูดคุยกันยกใหญ่ ทว่าส่วนใหญ่ก็มักจะออกมาเล่นตลกกับทฤษฎีเกี่ยวกับโลกแบนเสียมากกว่า ยกตัวอย่างได้จากภาพจากชาวเน็ตที่ออกออกมาอธิบายว่า ถ้าโลกมันแบนตอนอุกกาบาตตกใส่โลกตรงปลายด้านใดด้านหนึ่ง แบบนี้โลกก็ต้องพลิกไปมาจนไดโนเสาร์หลุดไปนอกโลกสิ!! อุกกาบาตตกใส่จานแล้วจ้าา เตรียมตัวปลิวได้!! (เข้ายูทูบเปิดเพลง Shooting Stars จะช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีมาก) แต่แค่ชาวเน็ตมันยังไม่พอ เพราะถ้าพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์แล้วจะขาดพี่คนนี้ไปได้ยังไง เขาคนนั้นก็คือ Elon Musk นั่นเอง!! โดยพี่ Elon แกก็ออกมาแซวๆ คนที่ยังคิดว่าโลกมันแบนอยู่ผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่า “ท้องฟ้าบนดาวอังคารเหมือนขั้วตรงข้ามกับโลก ตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกจะมีสีฟ้า แต่ถ้าตอนกลางวันจะมีสีแดง“ จากการทวีตข้างต้นเราก็พอจะเดาได้ว่าพี่แกจะบอกว่า โลกกับดาวอังคารมันต่างกันนิดเดียวที่เหลือเหมือนกันเกือบจะเป๊ะเลยนะ จากนั้นพี่เขาก็ทวีตปิดท้ายว่า “ทำไมไม่มีกลุ่มคนที่คิดว่าดาวอังคารแบนบ้าง?” ซึ่งเป็นการแซวว่าดาวอังคารมันก็เหมือนโลกเลยนะแค่ต่างกันนิดหน่อยเอง ทำไมถึงไม่มีอยากไปอยู่หรือคิดในแนวทางเดียวกันบ้างล่ะ? หรือว่าพี่แกจะแย๊บๆ ให้กลุ่มคนเหล่านี้ อยากจะมาอาสาเข้าร่วม Space X ของพี่แกแล้วไปทดลองใช้ชีวิตบนดาวอังคารกัน? ซึ่งมันก็จริงของพี่แกนะ ทำไมคนไม่อยากไปอยู่ดาวอังคารหรือคิดว่าดาวอังคารแบนเหมือนโลกบ้างล่ะ ทั้งๆ ที่มันก็เป็นดาวเคราะห์เหมือนกัน แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนรับมุขพี่แกนะ เพาะมีชาวเน็ตมารีทวิตอยู่เหมือนกันว่า ถ้าพี่ Elon ออกมาพูดขนาดนี้จะต้องมีคนตั้งมันขึ้นมาแน่ๆ สมาคมของคนที่เชื่อว่าดาวอังคารแบน… …
-
เผยภาพอาณานิคมบนดาวอังคาร ในปี 2117 จากการวางแผนของ UAE ว่าต้องไปทำให้ได้!!
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในเมืองที่มีนวัตกรรมสิ่งก่อสร้างที่ล้ำสมัยมากที่สุดเมืองหนึ่ง ก็คงจะหนีไม้พ้นมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตึกรูปเรือใบ ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก หรือเกาะที่มีรูปร่างคล้ายกับต้นปาล์ม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานการสร้างของประเทศนี้ทั้งสิ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็เพิ่งประกาศว่ามีแผนจะสร้างเมืองบนดาวอังคารอีกด้วย!! ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศในงานประชุม World Government Summit ซึ่งมีรัฐบาลจากชาติต่างๆ กว่า 138 ประเทศเข้าร่วม กล่าวถึงโครงการที่พวกเขามีแผนที่ที่จะสร้างเมืองดังกล่าวในปี 2117 หรือประมาณอีก 100 ปีข้างหน้า โปรเจคสุดอลังการนี้จะเป็นหนึ่งในแผนอพยพผู้คนไปยังดาวอังคารในอนาคต ตามการรายงานของสำนักข่าว Gulf News บอกว่า โปรเจคดังกล่าวจะเป็นการค้นหาวิธีการสร้างอาณานิคมที่อยู่อาศัย และการหาอาหารบนดาวอังคาร “การตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ยังเป็นความฝันที่ยาวไกลสำหรับมนุษยชาติ แต่ว่าพวกเราจะทำความฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาเอง” นาย Sheikh Mohammed Bin Rashid รองประธานาธิปดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว นอกจากนี้รองประธานาธิปดียังได้กล่าวอีกว่า UAE เป็นหนึ่งใน 9 ประเทศที่ให้ความสำคัญในการลงทุนเกี่ยวกับการศึกษาด้านอวกาศอีกด้วย “พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าทางอวกาศ การเปิดตัวโครงการนี้อาจจะใช้ระยะเวลาหลายปี แต่มันก็ช่วยให้เราสามารถสำรวจดาวดวงอื่นๆ เพิ่มเติมได้” ท่านรองประธานาธิปดีกล่าวเสริม อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความพยายามที่จะตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารของมนุษย์ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ได้มีโปรเจคใหญ่ๆ…
-
นาซ่ากำลังวางแผนการใหญ่ เพื่อจะทำให้ “ดาวอังคาร” เหมาะสมสำหรับมนุษย์อาศัยอยู่ได้
ช่วงนี้เราอาจได้ยินใครหลายคนบ่นว่า “โลกนี้ไม่น่าอยู่เหมือนเดิม” ทั้งอากาศก็ร้อนขึ้น ค่าครองชีพก็สูง แถมยังมีปัญหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ ก่อการร้าย จนอยากย้ายไปที่อื่น ตอนนี้พวกท่านกำลังจะมีทางเลือกใหม่ เพราะนาซ่ากำลังจะทำให้ “ดาวอังคาร” อยู่อาศัยได้แล้ว James Green ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์กล่าวว่า ตอนนี้ทางนาซ่ากำลังวางแผนที่จะใช้แม่เหล็กขนาดใหญ่ไปติดตั้งบนดาวอังคาร เมื่อติดตั้งแม่เหล็กขนาดใหญ่แล้ว มันจะช่วยทำให้เกิดสนามแม่เหล็กรอบๆ ดาวอังคาร ซึ่งสนามแม่เหล็กนั้น จะช่วยป้องกันรังสีอันตรายจากดวงอาทิตย์ และทำให้พื้นผิวของดาวอุ่นขึ้นจนสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่อาศัยได้ โดยดาวอังคารได้สูญเสียชั้นบรรยากาศไปเมื่อ 3,000 ล้านปีก่อนเนื่องจากรังสีของดวงอาทิตย์ จนทำให้ทั้งดวงดาวแปรสภาพเป็นทะเลทรายไร้ที่สิ้นสุด “ระบบสุริยะเป็นของเรา เราจะครอบครองให้ได้ รวมถึงดาวอังคารก็เช่นกัน เราจะต้องทำให้ดาวอังคารกลายเป็นสถานที่ที่มนุษย์อยู่อาศัยได้ เราต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าปัจจุบัน” “นี่ไม่ใช่การปรับปรุงดาวเคราะห์ พวกเราแค่ใช้เทคนิคนิดหน่อยและให้ธรรมชาติจัดการส่วนที่เหลือ พวกเราใช้แค่ความรู้ฟิสิกส์ที่เรามีในปัจจุบันเท่านั้นเอง” Green กล่าว พวกเขาคาดว่าแผนการดังกล่าวจะสามารถเป็นจริงได้ในช่วง ค.ศ 2050 หรืออีกเกือบๆ สามสิบปีข้างหน้านี้ ใครรอได้ก็รอกันเลยนะฮะ ที่มา metro
-
40 ภาพภูมิประเทศแสนงามของ ‘ดาวอังคาร’ ที่ทาง NASA ปล่อยออกมาชุดล่าสุด!!!
สำหรับเทคโนโลยีทางด้านอวกาศนั้นก็พัฒนาขึ้นทุกๆ ปี ยิ่งมีโครงการที่กำลังจะส่งมนุษย์จริงๆ ขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารในเร็วๆ นี้ด้วยแล้วล่ะก็ ความรู้เกี่ยวกับดาวดวงนี้ก็เรียกได้ว่าจำเป็นยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก ล่าสุดดาวเดียวของนาซ่า Mars Reconnaissance Orbiter ที่ถูกปล่อยไปตั้งแต่ปี 2006 ก็ได้ถ่ายภาพสวยๆ ของพื้นผิวดาวอังคารมาล่ะ และนี่คือ 40 ภาพสวยๆ จาก 1,035 รูปภาพที่ถ่ายมาได้ทั้งหมด ลองมาดูกันเลย!! จุดแลนดิ้งที่อาจเป็นไปได้ในอนาคตสำหรับโครงการ ExoMars ที่บริษัทอวกาศในยุโรปกำลังดำเนินการอยู่ พื้นที่เนินทรายแถบขั้วโลกเหนือที่เรียกกันว่า Kolhar ปล่องภูเขาไฟ Cerberus Palus ที่ตกตะกอนไล่สีสันกันอย่างสวยงาม พื้นที่พื้นน้ำแข็งที่มีสีสันแบบแปลกๆ แทบจะเป็นสีรุ้ง พื้นที่ลาดเอียงแถบตะวันออกของ Noctis Labyrinthus เนินทรายในปล่องภูเขาไฟบาดาวอังคาร ส่วนแท่งแดงๆ ด้านล่างนั้นไม่ใช่ภูมิประเทศหรอกนะจ๊ะ เป็นกระบวนการปรับรูปของนาซ่าแหละ อีกหนึ่งจุดที่อาจเป็นจุดแลนดิ้งของโครงการดาวอังคารของทางนาซ่า ที่จะปล่อยขึ้นไปในปี 2020 นี้ แถบนี้เรียกว่า Tharsis เป็นภูมิภาคที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่มากที่สุดบนดาวอังคาร พื้นที่แถบเส้นศูนย์สูตรของดาวอังคาร ปล่องภูเขาไฟบนพื้นที่ราบ Ceraunius Fossae…
-
พาทัวร์สถานที่ฝึกมนุษย์ชุดแรก โครงการ SpaceX คาดจะส่งพวกเขาไปอยู่บน ‘ดาวอังคาร’ ในปี 2030 !!!
ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะ สำหรับโครงการ SpaceX ของมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง Elon Musk ที่มีแผนการที่จะส่งจรวดไปดาวอังคารในปี 2018 และในปี 2030 เขาก็มีแผนว่าการคนจะขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารได้เลยทีเดียว!!! สำหรับวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่จำลองดาวอังคาร ที่ราวกับว่าออกมาจากหนังเรื่อง The Martian กันเลยล่ะ ซึ่งเป็นที่ๆ โครงการ SpaceX ได้เตรียมพร้อมเหล่ามนุษย์ชุดแรกที่จะเดินทางไปอยู่และใช้ชีวิตจริงๆ กันบนดาวอังคาร!!! Hawaii Space Exploration Analog Simulation (HI-SEAS) ใน Mauna Loa รัฐ Hawaii สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของโดมใหญ่ พื้นที่กว่า 100 ตร. ม. แบบในหนัง Martian เลยล่ะ จินตนาการถึงภาพของตัวเองไปอยู่บนดาวสีแดง เต็มไปด้วยวิวและบรรยากาศของหินกรวดสีแดงสุดลูกหูลูกตา เส้นทางของลาวา ไร้ซึ่งพืชพรรณสีเขียว แบบเดียวกับดาวอังคาร ก็ต้องที่นี่เลย!!! สำหรับตอนนี้ทีมมนุษย์ที่จะถูกส่งไปอยู่บนดาวอังคารนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 คน โดยแผนการก็คือให้พวกเขาฝึกฝนการใช้ชีวิตบนดาวอังคารอยู่ที่นี่ 1 ปี ตอนนี้พวกเขาก็อยู่มาได้ 9 เดือนแล้วล่ะ ซึ่งสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่ติดต่อกับพื้นโลกต้องถูกตัดขาด…
-
ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที Nasa เตรียมแผนส่งคนขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารภายใน 11 ปีนี้
เคยมีข่าวคราวแว่วๆ ออกมาว่า Nasa นั้นเตรียมที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปอยู่บนดาวอังคาร เพื่อขยายขอบเขตเผ่าพันธุ์มนุษย์ออกไปในอวกาศ และจัดตั้งอนานิคมของมนุษย์บนนั้น โดยพวกเขาวางแผนจะส่งคนขึ้นไปภายใน 10 ปีนี้ล่ะ หากใครที่เคยได้ชมภาพยนตร์ The Martian มาก็น่าจะจินตนาการออกได้ว่า การส่งมนุษย์ขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากแค่ไหน แต่นี่คือชีวิตจริง และ Nasa เองก็กำลังคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปบนนั้น Nasa ได้จัดตั้งโครงการ “Mars One” ขึ้นมาเพื่อวิจัยและส่งมนุษย์ขึ้นไปยังดาวอังคาร ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความอ้างว้างและไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต โดยจะเป็นแผนนำร่องเพื่อถ่ายเทมนุษย์ไปอยู่ที่นั่นไปอนาคตนั่นเอง ซึ่งโครงการของพวกเขาน่าจะแล้วเสร็จในปี 2027 หรืออีกประมาณ 11 ปี ทั้งนี้ Nasa เองจะเริ่มต้นโครงการค้นหาผู้คนที่สมัครใจจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นภายในปีนี้ ซึ่งการไปจะเป็นการไปอยู่แบบถาวร พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องฝึกฝนร่างกายให้สามารถเอาตัวรอดได้ในสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบาก อย่างทะเลทรายหรือขั้วโลกเหนือ แต่พวกเขาก็ใช่ว่าจะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เพราะเขาจะส่งเทคโนโลยี ที่อยู่อาศัยและอาหารขึ้นไปบนนั้นด้วย อีกทั้งยังมีแหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยให้พวกเขามีไฟฟ้าใช้ มีใครสมัครใจอยากเป็นมนุษย์ดาวอังคารกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์บ้างไหม? ที่มา buzzfeed
-
Elon Musk แนะตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารด่วน ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 3 จะล้างบางมนุษย์
ในแวดวงเทคโนโลยีล้ำๆ หนึ่งในบุคคลที่มักจะถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คือ Elon Musk ผู้บริหารบริษัท SpaceX รวมไปถึงบริษัทในเครือทางด้านเทคโนโลยีชั้นนำมากมาย เขาคนนี้ก็คือ Tony Stark ในชีวิตจริง (แต่ไม่มีชุด Iron Man) ล่าสุดนี้เขาก็ได้ให้การสัมภาษณ์กับทางนิตยสาร GQ เอาไว้ได้น่าสนใจมากๆ เป็นประเด็นเกี่ยวกับแนวโน้มความขัดแย้งของโลกในอนาคต และเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานจากโลกไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร ซึ่งเขาก็ได้แนะเอาไว้ว่าควรที่จะสร้างเมืองที่อาศัยอยู่ได้บนดาวอังคารให้เร็วที่สุด ก่อนที่มนุษย์จะล้างบางและทำลายโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วยน้ำมือของตัวเอง ภาพจำลองอาณานิคมบนดาวอังคาร ‘คุณทำการสำรองข้อมูลในฮาร์ดไดร์ฟได้ แล้วทำไมเราไม่สำรองที่อยู่อาศัยสำหรับการใช้ชีวิตบ้างล่ะ?’ Elon Musk กล่าว โดยทางบริษัท SpaceX เองก็ได้มีแผนการที่จะสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารเอาไว้แล้ว และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะส่งมนุษย์อวกาศไปในทันที!! ไม่ใช่ว่าเขาเป็นพวกกระต่ายตื่นตูม เพียงแต่ว่าเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าไปมากแล้ว ก็จงทำในสิ่งที่พอจะทำได้และเป็นไปได้ โดยเขาก็ทำได้แค่เพียงคาดเดาจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ความขัดแย้งของมนุษย์ที่จะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ประเทศมหาอำนาจที่สะสมหัวรบนิวเคลียร์เอาไว้ ก็จะนำมาใช้ล้างบางฝ่ายตรงข้ามแน่นอน และอย่างที่ในประวัติศาสตร์ได้จารึกเอาไว้ มนุษย์ก็จะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความสูญเสียมหาศาล แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของสงครามนิวเคลียร์อะไร แต่อย่างน้อยการตระหนักของเขานั้นก็เป็นเพื่อการอนุรักษ์และรักษาสิ่งมีชีวิตที่เคยมีอยู่บนโลก ให้มันอยู่รอดต่อไป…
-
หนักหนา!! จีนเจอหมอกหนาปกคุลมจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากเมืองฮูฮอตทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันหนาจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังกรุงปารีสเพื่อประชุม COP21 กับ UN เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน ที่ปัจจุบันมีหมอกปกคุลมประเทศไปแล้วกว่า 530,000 ตารางกิโลเมตร เมืองนี้ถูกปกคุลมไปด้วยหมอกหนาสีน้ำตาล ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศของเมืองให้ดูน่าขนลุกกว่าเดิม และนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ล่ะนะ ว่าถ้าเราย้ายไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร หน้าตาจะเป็นยังไง ที่มา shanghaiist
-
Martian!! นักวิทยาศาสตร์รัสเซียกำลังฝึกลิง เพื่อส่งไปปฏิบัติภารกิจยังดาวอังคาร!!!
ในอดีต มนุษย์คิดค้นวิธีการเดินทางไปยังดวงจันทร์สำเร็จได้ ด้วยความช่วยเหลือจากสัตว์นานาชนิด ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปยังดาวอังคาร และอีกครั้งที่เราต้องขอความช่วยเหล่าจากเหล่าสัตว์โลก ตอนนี้สถาบัน Russian Academy Of Science กำลังทำการฝึกฝนลิงสี่ตัว เพื่อให้สามารถขึ้นไปปฏิบัติการบนอวกาศ โดยพวกเขาฝึกให้พวกมันสามารถใช้จอยสติ๊กและเล่นเกมแก้ปัญหาต่างๆ เมื่อสิ้นสุดโครงการลิงที่ฉลาดที่สุดจะถูกเลือกขึ้นไปปฏิบัติการบนอวกาศ เป้าหมายของการฝึกคือ ให้ลิงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามตารางในแต่ละวันได้ โดยพวกเขาคาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้ภายในปี 2017 และภารกิจแรกที่พวกเขาจะส่งพวกมันขึ้นไป คือการสำรวจดาวอังคาร ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า ภารกิจนั้นจะเป็นแบบเที่ยวเดียวหรือไปกลับ แต่ถ้าพวกเขาสามารถทำสำเร็จละก็ นั่นหมายถึงความสำเร็จอีกก้าวของการสำรวจอวกาศกันเลยทีเดียว เพราะลิงมีลักษณะทางกายภาพคล้ายมนุษย์มาก หากลิงทำสำเร็จ สำหรับมนุษย์ ก็สามารถทำสำเร็จได้เช่นกัน ในอดีต มนุษย์เคยใช้สัตว์ต่างๆในการทดลอง ปฏิบัติหน้าที่ในอวกาศหลายต่อหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นลิง หรือ สุนัข แม้บางตัวอาจมีจุดจบที่ไม่สวยงามนัก แต่ก็นับว่าพวกมัน เป็นผู้เสียสละเพื่อมวลมนุษย์โดยแท้จริง หวังว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน แล้วก็ขอให้เจ้าลิงทั้งหลาย รอดกลับมาโดยปลอดภัยด้วยเถอะ สาธุๆ ที่มา Wittyfeed
-
นักวิทย์ฯ จาก Nasa เผย พบร่องรอยคล้าย “ธารน้ำ” บนดาวอังคาร อาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้
กลายเป็นเรื่องฮือฮาไปทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จาก Nasa เปิดเผยต่อชาวโลกว่าพวกเขาได้ค้นพบของเหลวคล้าย “น้ำ” บนพื้นผิวของดาวอังคารเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาตร์ได้กล่าวไว้ในวารสาร Nature Geoscience ว่ายาน MRO ที่พวกเขาส่งขึ้นไปสำรวจดาวอังคารนั้น ได้พบลายเส้นดีดำขนาดยาวบนพื้นผิวของดาวอังคาร ที่มีส่วนประกอบที่เต็มไปด้วยเกลือซึ่งง่ายต่อการดูดซับความชื้นและช่วยถ่ายเทน้ำได้ดีบนพื้นผิวดาวอังคาร การค้นพบครั้งสำคัญนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวดวงนั้นด้วย ทางด้านสถาบันเทคโนโลยีของจอร์เจียในสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาให้ความเห็นว่าการค้นพบร่องรายดังกล่าว ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 2010 โดยร่องรอยดังกล่าวเป็นร่องรอยที่เกิดจากผลึกเกลือบนดาวอังคาร ซึ่งเป็นเกลือแบบเดียวกันกับส่วนประกอบของน้ำเค็มบนดาวโลกนั่นเอง ไม่แน่ว่าเร็วๆนี้มนุษย์อาจได้พบกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จากที่นั่นก็เป็นได้ ที่มา metro
-
NASA ได้เริ่มภารกิจฝึกฝน 6 ผู้กล้าบุกเบิกดาวอังคารแล้ว ที่ภูเขาไฟสุดกันดารในฮาวาย!!!
ภารกิจในการไปตั้งรกรากอยู่บนดาวอังคารอาจจะฟังดูสวยหรู แต่ที่จริงแล้วไม่หมูนะจ๊ะ เมื่อทาง Nasa ได้เริ่มภารกิจฝึกฝนเหล่า 6 ผู้กล้าที่จะขึ้นไปกันแล้วล่ะ และ แน่นอนการฝึกฝน…ขึ้นชื่อว่าการฝึกฝนนั้น ไม่ได้มีแต่เรื่องน่าอภิรมย์เสมอไป ทั้งลำบาก และน่าเบื่อสุดๆ เหมือนที่เราเคยเจอกันมานั่นแหละ แต่ก็นะ มันสำคัญน่ะสิทำไงได้!!? สถานที่ฝึก จำลองสถานการณ์ โดย เหล่าผู้กล้า ได้ถูกนำไปฝึกฝนในปล่องภูเขาไฟรกร้างที่ฮาวายเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศก็ไม่สดชื่น อาหารที่มีจำกัดและหายาก และแน่นอนรวมถึงเรื่องพื้นที่ส่วนตัวด้วยล่ะ ลืมไปได้เลย ถ้าเกลียดใครล่ะก็ 3 ปีเป็นเวลาที่แย่มากๆ ในการต้องอยู่กับเขาแบบติดแจ แถมถ้าจะออกมาข้างนอก พวกเขาก็ต้องสวมชุดอวกาศกันด้วยโดยไม่มียกเว้น เป็นการทดสอบที่ทรหดสุดๆ ไม่ว่ากับใครก็ตาม… โดย ทีมของผู้กล้าที่จะไปบุกเบิกดาวอังคารนั้นประกอบด้วย นักอวกาศชาวฝรั่งเศส หมอชาวเยอรมัน และ นักบิน สถาปนิก นักข่าว และสุดท้ายนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับดิน โดยทั้ง 4 คนเป็นชาวอเมริกันทั้งสิ้น น่า ตื่นเต้นแทนพวกเขาเหมือนกันนะเหมียวว่า คือมันเป็นตั๋วเที่ยวเดียวไม่มีทางกลับ แน่นอนพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร คือ เป็นอะไรที่ต้องแกร่งสุดๆ ไปเลยล่ะ!!!…
-
นาซ่าพบวัตถุคล้ายยาน Star Destroyer จาก Star Wars บนดาวอังคาร!!
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ณ กาแลกซี อันไกลแสนไกล….บางทีมันอาจจะไม่ไกลอย่างที่คำโปรยบอก เพราะมันอาจอยู่แค่ดาวอังคารแค่นี้เอง!!! เมื่อไม่นานมานี้ ยานสำรวจ Mars Curiosity Rover ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนดาวอังคารได้จับบภาพบางอย่างที่น่าสนใจบนพื้นผิวของดาวกลับมาได้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านยูเอฟโอ Scott C Waring บอกว่า มีบางอย่างบนนั้นลักษณะเหมือนยานของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งวัตถุที่ถูกจับภาพได้นั้น มีหน้าตาคล้ายกับยานอวกาศของฝ่ายจักรวรรดิในเรื่อง Star Wars ที่ชื่อว่า Star Destroyers เป็นอย่างมาก แต่ว่าขนาดของสิ่งที่พบ เล็กกว่าในหนังเป็นอย่างมาก Waring ได้กล่าวว่า “ผมพบเจ้าสิ่งนี้ในภาพที่ส่งมาจากยานสำรวจ Curiosity Rover จุดดำๆในภาพเหมือนกับยานของมนุษย์ต่างดาวเลย แต่มันมีขนาดเพียง 2-3 เมตร คงจุผู้โดยสารได้แค่ 2-3 คน” เขาหวังว่ายาน Curiosity Rover จะสามารถส่งภาพอื่นๆของวัตถุต้องสงสัยนี้กลับมาได้อีกในเร็วๆนี้ คงไม่โดนเจ้าชิวแบคคาถล่มไปก่อนนะ ที่มา metro
-
NASA ค้นพบวัตถุประหลาดบนดาวอังคาร เผยให้เห็นลักษณะที่คล้ายคลึงกับปูหรือหอย!?
ในอวกาศอันกว้างใหญ่ ยังคงรอคอยให้มนุษย์ออกไปสำรวจและค้นหาไม่รู้จบ และเป็นรู้กันดีว่าตอนนี้ทาง NASA เองก็ได้ออกไปสำรวจดวงดาวเยอะแยะมากมาย แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ “ดาวอังคาร” ที่ยังเชื่อกันว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และเมื่อไม่นานมานี้เองทาง NASA ได้จับภาพบริเวณพื้นผิวดาวอังคารและพบกับสิ่งที่ดูเหมือนกับจะมีชีวิต ลักษณะคล้ายเหมือนกับปูหรือหอย แต่ยังไม่อาจสรุปได้แน่ชัด Seth Shostack นักดาราศาสตร์อาวุโสและผู้อำนวยการศูนย์วิจัย SETI ได้กล่าวเอาไว้ว่า “สำหรับภาพที่เก็บมาได้นั้นมันทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยล่ะ เพราะไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ที่แห้งแล้งเช่นนี้ คาดว่าน่าจะเป็นสัตว์ แต่อาจจะเป็นอย่างอื่นก็เป็นไปได้” และตลอดระยะเวลาที่ทำการสำรวจพื้นผิวดาวอังคารนั้น ก็ได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่ดูคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเยอะแยะมากมาย อย่างเช่นในภาพนี้จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายๆ กับหน้ามนุษย์ พบซากโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง รวมไปถึงกระดูกสันหลังขนาดใหญ่ที่คล้ายกับไดโนเสาร์ สิ่งมีชีวิตที่น่าจะเป็นเจ้าตีนโต (ลิงขนาดยักษ์) เศษชิ้นส่วนบางอย่างที่สะท้อนแสงได้ (ภาพจากบริเวณเดียวกัน) จานบิน UFO หรือเปล่า? อิกัวนาบนดาวอังคาร สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับแพะ และบางสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับนิ้วของมนุษย์ บนดาวเคราะห์ที่กว้างใหญ่กว่าโลกหลายเท่า ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ ไม่แน่ว่าซักวันหนึ่งเราอาจจะเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ยังอาศัยอยู่บนดาวอังคารก็เป็นได้!? ที่มา : thechive
-
‘บางอย่างที่แตกต่างจากมนุษย์’ คำนิยามของสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเหล่าผู้บุกเบิกดาวอังคาร!!!
เหมียวเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องราวถึงโครงการของนาซ่า ที่จะส่งเหล่ามนุษย์ไปบนดาวอังคาร และที่น่ากลัวก็คือ มันเป็นตั๋วเที่ยวเดียวที่มีแต่ขาไป ไม่มีขากลับนั่นเอง… แล้วเคยสงสัยไหมหนอ ว่าชีวิตของพวกเขาบนดาวอังคารนั้น จะเป็นยังไงกันต่อไป และนี่คือสิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหลังไปใช้ชีวิตที่นั่น Mars One สามีของ Sonia Van Meter หนึ่งในนักบินอวกาศหญิงที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะเป้นเหล่ามนุษย์กลุ่มแรกที่ขึ้นไปตั้งรกรากบนดาวอังคาร ได้เล่าว่า ‘เมื่อเธอไปถึงที่นั้น เหล่านักวิทยาศาสตร์ของโครงการได้พูดไว้ว่า เธอจะกลายเป็นบางอย่าง ที่ไม่ค่อยจะเหมือนมนุษย์อีกต่อไป!!!’ นั่นก็เพราะว่าสภาพวิถีชีวิตที่บังคับให้เธอต้องเปลี่ยนไปนั่นเอง เธอต้องเลิกใช้ชีวิตแบบมนุษย์โลก และกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างออกไป เพื่อเอาชีวิตรอด และปรับตัวในสภาพแวดล้อมนั้นๆ นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวอีกว่า แรงโน้มถ่วงที่เปลี่ยนไปจะส่งผลต่อร่างกายของพวกเขาอย่างแน่นอน และรังสีต่างๆ จากอวกาศก็อาจทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในบางส่วน Sonia Van Meter และครอบครัว นั่นก็เพราะว่าดางอังคารมีรังสีต่างๆ จากอวกาศที่แตกต่างออกไป รวมถึงแรงโน้มถ่วงที่มีค่าน้อยกว่าบนโลก อาจทำให้สภาพของกล้ามเนื้อเราเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง…แถมยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เหล่านักท่องอวกาศ ต้องทานอาหาร รวมถึงพืชผัก ที่ปลูกโดยอุจจาระของพวกเขาอีกนะเนี่ย ลำบากไปอีกกก >< นับว่าต้องใช้ความกล้าอย่างยิ่งที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง แต่นี่คืออะไรที่แบบนอกโลกไปแล้ว เหมียวขอยกย่องพวกเขาจริงๆ ที่กล้าเป็นผู้บุกเบิกในสิ่งใหม่ที่น้อยคนนักที่จะกล้า และแน่นอนชื่อของพวกเขาจะคงอยู่ในประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย สุดยอดไปเลย!!! ที่มา:…