Tag: ติดมือถือ
-
สาระน่ารู้!! 3 วิธีง่ายๆ สุดเฉียบ ที่จะทำให้คุณเลิกนิสัยติดสมาร์ตโฟนตลอดเวลา
ในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เอาเสียมากๆ หากต้องอยู่โดยไร้โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟน แค่ไปกินข้าวด้วยกันกับเพื่อนนั้นจะต้องมีการอัปเดตโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ถ้าเดินทางก็คงจะหลงหากไม่มี Google Map ถึงแม้คุณจะไม่รู้สึกว่าสมาร์ตโฟนที่คุณถืออยู่นั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณซึมเศร้า คุณก็อาจจะรู้สึกตัวว่าเวลาในแต่ละวันนั้นหมดไปกับการนั่งจ้องหน้าจอสมาร์ตโฟน จากการสำรวจของศูนย์วิจัย Pew Research Center พบว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของผู้ครอบครองสมาร์ตโฟนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หากไม่มีโทรศัพท์ใช้ แต่ก็มีวิธีที่เราจะสามารถทำให้ตัวเองนั้นอยู่ห่างจากสมาร์ตโฟนได้โดยไม่ต้องรู้สึกว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งก็มี 3 วิธีง่ายๆ ที่ทำให้เราใช้สมาร์ตโฟนน้อยลงโดยไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดจากอาการลงแดง 1. ปิดระบบสั่น ยอมรับเถอะว่าคุณมักจะหยิบสมาร์ตโฟนของคุณขึ้นมาดูเพื่อเช็กว่ามีใครพยายามติดต่อคุณหรือว่ามีอะไรอัปเดตบนเฟซบุ๊กหรือไม่ จากโพลในปี 2015 พบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สมาร์ตโฟนนั้นหยิบมือถือของพวกเขาขึ้นมาดูทุกชั่วโมงซึ่งการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ นั้นจะทำให้สมองของเรานั้นหลั่งสารโดปามีน ที่ทำให้เรามีความต้องการมากขึ้น ในการที่เราจะหยุดกระบวนการเหล่านั้น เราต้องปิดระบบแจ้งเตือนทั้งหมดที่คอยเบี่ยงเบนความสนใจของเรา ถึงแม้ว่าเราอาจจะพลาดข้อความที่สำคัญไปบ้าง แต่การทำแบบนี้จะช่วยลดอาการที่คิดไปเองว่าโทรศัพท์สั่นได้ 2. ไม่ต้องไปสนใจตัวเลขเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ การเช็กโทรศัพท์ตลอดเวลานั้นจะทำให้เกิดความตึงเครียดได้ว่าคนที่เราส่งข้อความไปหาจะตอบกลับเราเมื่อไหร่ ยิ่งใช้เวลากับโทรศัพท์มากเท่าไร แบตเตอรี่ก็จะยิ่งหมดไวมากเท่านั้น และการที่แบตเตอรี่หมดไวนั้นจะทำให้เราเกิดความกังวลว่าแบตเตอรี่ที่เหลือนั้นจะพอให้อยู่รอดตลอดทั้งวันหรือไม่ การที่เห็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์นั้นจะทำให้เรารู้สึกตึงเครียดมากขึ้น วิธีแก้คือการเข้าไปปรับในตั้งค่าไม่ให้ตัวเลขเปอร์เซ็นต์นั้นแสดงบนหน้าจอให้เหลือแค่ไอคอนแบตเตอรี่ ทำให้เราไม่ยึดติดกับตัวเลขที่ค่อยๆ ลดลง 3. เปิดโหมด Grayscale ให้หน้าจอเป็นขาวดำ วิธีนี้เป็นวิธีที่แนะนำโดย Tristan Harris อดีตนักจริยธรรมในการออกแบบของ…
-
ชายกลายมาเป็นอัมพาต จากการก้มจ้องมองโทรศัพท์ ยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วันเต็มๆ
ปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงมาก ไม่ว่าใครต่างก็ต้องมีโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น อีกทั้งทั้งนวัตกรรมความทันสมัยของโทรศัพท์มือถือก็ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นสูงจนแทบจะเรียกได้ว่า สามารถทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียวเลยไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมหรือแม้แต่ทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทว่าความสะดวกสบายและความบันเทิงที่หาได้จากในมือถือทำให้มีอัตราของคนที่มีอาการติดมือถือเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งอาการติดมือจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างเช่น สายตา กล้ามเนื้อและประสาท ชายวัย 29 ปี ชาวเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ต้องประสบกับอาการอัมพาตเฉียบพลันหลังจากที่เขาได้เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือติดต่อกันยาวนานถึง 48 ชั่วโมง เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ทราบชื่อรายนี้เขาเล่นเกมมือถือที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถึงขนาดปั่นแรงค์กันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว เขาเล่นติดต่อกัน 2 วันจนกระทั่งเข้าวันที่ 3 เขาเริ่มมีอาการปวดบริเวณคอ ไหล่ และท้ายทอย คอของเขามีอาการแข็งอย่างกระทันหัน ตามมาด้วยอาการแขนและขาชาจนไม่มีแรง เขาจึงคิดว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขาแล้วจึงให้ครอบครัวรีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาล Sun Yat Sen เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด พอมาถึงที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเขาก็ได้รับการวินิจฉัยทันทีด้วยการส่งตัวเข้าสแกน MRI นายแพทย์ Shen Huiyong แพทย์เจ้าของไข้และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูกได้ออกมารายงานผลการตรวจวินิจฉัย สาเหตุที่ชายคนนี้เป็นอัมพาตกะทันหันเนื่องมาจากมีลิ่มเลือดอุดตันท่อไขสันหลังและกระดูสันหลังของเขานั่นเอง สาเหตุหลักๆ ก็อันเนื่องมาจากการก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือมากเกินไปทำให้เกิดความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ในครั้งแรกจะมีอาการปวดคอและชา และอาจรุนแรงขึ้นในเด็กซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเช่น อัมพาตแขนและขา อีกหนึ่งอาการที่จะตามมาเนื่องจากพฤติกรรมการติดมือถือนั่นก็คือความเมื่อยล้า และปัญหาเกี่ยวกับสายตา…
-
ศิลปินสร้างผลงาน ภาพ ‘มือถือดูดวิญาณ’ เพื่อให้ตระหนักว่าการติดมือถือของคนสมัยนี้น่ากลัวแค่ไหน!!?
สำหรับทุกวันนี้ก็เรียกได้ว่าเหล่าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟนนั้น เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก จนบางครั้งก็อาจจะมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ศิลปินชาวฝรั่งเศส Antoine Geiger เลยได้สร้างผลงานภาพถ่ายต่างๆ ของชีวิตประจำวัน ที่ผู้คนกำลังใช้มือถือ แต่กำลังโดนมันดูดวิญญาณเข้าไปแบบไม่รู้ตัว ชื่อผลงานของเขาคือ SUR-FAKE เพื่อแสดงให้ผู้คนเห็นถึงการเสพติดของเทคโนโลยี คนเราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป จนลืมความงามที่แท้จริงและสิ่งรอบข้าง ไม่น่าเชื่อว่าผลงานนี้เป็นของช่างภาพอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น การันตีด้วยฝีมือผลงานจัดแสดงกว่า 4 ครั้งในรอบสองปี และยังมีภาพที่ถูกนำไปตีพิมพ์ลงหนังสือกว่า 10 ครั้งอีกด้วย น่าสนใจเหมือนกันนะเนี่ย เหมียวก็คิดแบบเดียวกับศิลปินท่านนี้เลยล่ะ ว่าบางทีอุปกรณ์เหล่านี้ก็เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตเรามากเกินไปจนทำให้เราเกิดการติด และสูญเสียความเป็นตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ ที่ใช้กันก็อย่าลืมระวังในเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ ใครอยากติดตามผลงานเพิ่มเติมของเธอก็ได้ที่นี่เลยจ้า antoinegeiger.com ที่มา: Borepanda