Tag: ต่างประเทศ
-
สาวเอาชุดครุยมาสวมเป็น ‘ผ้าคลุมอาบน้ำ’ เพราะเสียเงินซื้อมาแพง ตรูจะไม่ใส่มันแค่ครั้งเดียว!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ชุดครุย’ เป็นชุดที่ในชีวิตหนึ่งเราจะมีโอกาสได้สวมอยู่ไม่กี่ครั้ง… แน่นอนว่าการเช่าหรือซื้อมันมานั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับคนที่ซื้อ เพราะซื้อมาได้ใส่ครั้งเดียวสุดท้ายก็ต้องเอามาแขวนไว้เฉยๆ แต่สำหรับ Wah Paw Bweh หญิงสาววัย 18 ปี จากเมือง Omaha รัฐเนบราสกา ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว เธอเลือกที่จะหยิบมันมาใช้ประโยชน์ต่อ Wah เพิ่งจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ซึ่งเธอเองก็คิดว่าการใช้เงินจ่ายค่าชุดครุยนั้นมันค่อนข้างที่จะแพงเกินไป “ฉันรู้สึกขี้เกียจที่จะสั่งมันมาก เพราะมันแพงจริงๆ” ชุดครุยและหมวกมีราคาสูงถึง 58 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,900 บาท ซึ่งในวัยแบบ Wah นั้นถือเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากเลยทีเดียว “สำหรับฉันแล้วมันค่อนข้างแพงมากเลยล่ะ” Wah กล่าว ในวันต่อมา Wah ก็พบว่าเสื้อคลุมอาบน้ำของเธออยู่ในเครื่องซักผ้า และเธอก็มีความจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำ ก็เลยปิ๊งไอเดียที่จะใช้ชุดครุยเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำแทนไปก่อน Wah เล่าว่าตอนแรกเธอคิดจะทำเล่นๆ เพราะคิดว่ามันตลกเท่านั้น จากนั้นเธอก็ถ่ายภาพแล้วเอาไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ พร้อมกับแคปชั่นว่า “ตรูไม่ได้จ่ายตังค์ 1,900…
-
ชมความงามล้ำลึกของ 21 “ชนเผ่า” ต่างๆ ทั่วโลก งานภาพถ่ายโดย Jimmy Nelson!
มนุษย์โลกในปัจจุบันนั้นมีหลายกลุ่มชาติพันธุ์ มีมนุษย์ที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่ม ชุมชน และชนเผ่ามากมายเกินกว่าเราจะรู้จักได้ทั้งหมด พวกเขามีวัฒนธรรม ความเชื่อ และประเพณีที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างกันออกไป แบบที่พวกเราไม่ค่อยจะได้พบเห็นเท่าไหร่นักในสังคมเมือง วันนี้ Jimmy Nelson ก็ได้เก็บภาพของ “ชนเผ่าชาติพันธุ์” จำนวน 21 เผ่าจาก 5 ทวีปทั่วโลกมาให้พวกเราได้ชมกัน ก่อนที่พวกเขาจะเลือนหายไปคล้ายกับหลายๆ ชนเผ่าก่อนหน้านี้ ความน่าทึ่ง ความมีเอกลักษณ์ และความงดงามของแต่ละเผ่า จะเป็นอย่างไรบ้าง เราคงต้องไปชมพร้อมๆ กันแล้วล่ะ กับ 21 ชนเผ่าจาก 5 ทวีปทั่วโลก โดยช่างภาพ Jimmy Nelson! 1. เผ่า Hakamou’i บนเกาะอัว พู ในหมู่เกาะมาร์เคซัส ดินแดนเฟรนช์พอลินีเชีย 2. เผ่านกกาน้ำ Yang Shuo ประเทศจีน 3. เผ่าหน้ากาก Mask Dancers เมืองพาโร ประเทศภูฏาน 4. เผ่า Samburu…
-
คู่รักแชร์ประสบการณ์ ถูกกลุ่มโจร “ติดอาวุธ” วิ่งไล่ปล้นในเคนยา หนีตายได้ฉิวเฉียด
ประสบการณ์การท่องเที่ยวต่างแดนของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกัน ผู้ที่ไปเที่ยวแล้วได้สัมผัสวัฒนธรรม ชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยว หรือทานอาหารอร่อยๆ ก็จะถือว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากประเทศนั้นๆ แต่สำหรับผู้ไปเที่ยวแล้วต้องเจอเรื่องร้ายๆ อย่างการถูก กลุ่มโจร ถือมีดวิ่งไล่อะไรแบบนี้ ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่า ประสบการณ์การไปเยือนประเทศนั้นๆ มันช่างเลวร้ายเสียเหลือเกิน และสิ่งเหล่านี้มันก็ได้เกิดขึ้นกับ Bryant และ Lauren Swenson คู่รักชาวอเมริกันที่เดินทางไปยังประเทศเคนยา และขณะที่พวกเขาขับรถอยู่ในเขต Mai Mahiu พวกเขาก็เจอกับประสบการณ์สุดตื่นตระหนก กลุ่มโจรราว 3 คน ถือมีดพร้าวิ่งไล่รถยนต์ของพวกเขา ดูแล้วไม่น่าจะมีจุดประสงค์ที่ดีสักเท่าไหร่ Bryant Swenson ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่บันทึกมาได้ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมอธิบายว่า คนกลุ่มนี้ได้พยายามจะจี้ปล้นรถตู้สีขาวคันหนึ่งที่ขับสวนทางมา จากคลิปวิดีโอ หลังจากกลุ่มโจรปล้นรถตู้ไม่สำเร็จพวกเขาก็เปลี่ยนเป้าหมายมายังรถของ Bryant ทันที พวกเขามุ่งตรงเข้ามาอย่างน่ากลัว แต่ Bryant ก็ตัดสินใจถอยรถเพื่อยื้อเวลาให้ตนสามารถปิดกระจกหน้าต่างได้ทัน Bryant บอกว่า โจรคนหนึ่งในกลุ่มถืออาวุธปืนด้วย แต่โชคดีที่เขาหนีรอดออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ หลังจากขับรถหนีมาได้ พวกโจรก็ยังคงวิ่งตามอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะมี “เสียงปืน” ดังขึ้น คาดว่ากลุ่มโจรดังกล่าวได้มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม Bryant…
-
มาดูเมนูกาแฟ “แก้วเด็ด” ของแต่ละประเทศทั่วโลก วัฒนธรรมแตกต่าง…กาแฟก็ต่างด้วย!
การดื่มกาแฟที่ใครหลายคนอาจทำเป็นกิจวัตรประจำวัน และเอร็ดอร่อยไปกับมันในยามเช้า หารู้ไม่ว่าแต่ละประเทศทั่วโลกก็มีวิถีการดื่มกาแฟเป็นของตัวเอง แถมแตกต่างจากบ้านเรามากเสียด้วย ไปดูกันว่า ประเทศต่างๆ ในโลกมีประเทศใดบ้างที่มีการดื่มกาแฟที่ต่างจากบ้านเรา และแตกต่างจากที่เราทราบกันอย่างไรบ้าง… Kaffeost (ฟินแลนด์) ชาวฟินแลนด์บางกลุ่มจะชอบรินกาแฟร้อนใส่บนก้อนลิ่มชีส (Juustoleipä) เพื่อจะได้รับรสชาติของกาแฟตามแบบฉบับกิจวัตรของชาวฟินแลนด์ Türk Kahvesi (ตุรกี) กาแฟที่ดีของชาวตุรกีนั้นจะต้องดื่มไปพร้อมกับตะกอนกาแฟที่ตกอยู่ก้นแก้ว เพราะกาแฟของชาวตุรกีนั้นเคี่ยวด้วยหม้อทองเหลืองก่อนดื่มและไม่ผ่านการกรองใดๆ ทำให้มีตะกอนตกอยู่เสมอๆ Yuanyang (มาเลเซีย) กาแฟสำหรับชาวมาเลเซียนั้นดื่มตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ มีทั้งแบบเย็นและแบบร้อน โดยจะมีอัตราส่วนผสมก็คือ กาแฟดำ 3 ส่วน และชานมฮ่องกงอีก 7 ส่วนนั่นเอง Frappe (กรีซ) เป็นกาแฟสำเร็จรูปชงเย็นพร้อมโฟมนม ริเริ่มโดย Nescafé ในปี 1957 และภายหลังก็กลายเป็นเมนูโปรดของชาวกรีซไปเลย Espresso Romano (อิตาลี) ชาวอิตาลีนั้นเป็นนักดื่มกาแฟของแท้ พวกเขาเชื่อว่ากาแฟเอสเปรสโซที่เราดื่มกันนั้นจะยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเมื่อฝานมะนาวใส่ลงไปสัก 1 ซีก ว่ากันว่ามันจะดึงเอารสชาติของเมล็ดกาแฟออกมามากขึ้น Cà phê đá (เวียดนาม) กาแฟรสหวานผสมขมนี้เป็นหนึ่งในกาแฟอันที่ชาวเวียดนามโปรดปราน…
-
หนุ่มผิวสีถูก ‘ตำรวจหญิง’ ยิงเสียชีวิต เพราะเธอเปิดเข้าห้องผิด และคิดว่าเขาเป็นขโมย!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ขณะนี้เลย กับกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งเปิดเข้าห้องผิดแล้วคิดว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นโจรบุกเข้าห้อง เธอเลยใช้ปืนยิงชายคนดังกล่าวจนถึงแก่ชีวิต!? จากรายงานของเว็บไซต์ New York Post ของประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์ที่มีชื่อว่า Southside Flats ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงไม่ทราบชื่อได้ใช้อาวุธปืนยิงชายผิวสีวัย 26 ปี เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมยบุกเข้าห้องของเธอ แต่อันที่จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนั้นเองที่เปิดประตูเข้าห้องมาผิด ตามรายงานไม่ได้กล่าวไว้ว่าเธอบุกเข้าไปในห้องของเหยื่อได้อย่างไร แต่จากคำให้การของพยานเล่าว่าประตูของอพาร์ตเมนต์นั้นจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อมีกุญแจ หรือคีย์การ์ดเท่านั้น นอกจากนี้พยานคนอื่นๆ ก็เล่าต่ออีกว่าพวกเขาได้ยินเสียงราวๆ ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เปิดประตูสิ เปิดประตูสิ!!” จากคำบอกเล่าของพยาน “เราได้ยินเสียงตำรวจตะโกน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” พยานอีกคนเล่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่านาย Botham Shem Jean เป็นชาว Saint Lucia (ประเทศบนเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน) โดยกำเนิด เขาทำงานให้กับ PricewaterhouseCoopers ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึงเป็นลูกชายของ Allison Jean อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการของประเทศ St. Lucia…
-
สาวโทรแจ้งตำรวจ เพราะเห็น ‘หนุ่มผิวสี’ พยายามไขกุญแจรถของตัวเขาเอง!?
เรื่องราวของชายผิวสีคนหนึ่ง ที่กำลังพยายามจะไขกุญแจรถของตัวเอง แต่กลายเป็นว่ามีผลเมืองผิวขาว ‘โทรศัพท์แจ้งตำรวจ’ เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นขโมยซะงั้น!? นาย Corvontae Davis กำลังจอดรถและจ่ายค่าที่จอดรถในเมือง Milwaukee รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งตำรวจ เพราะคิดว่านาย Davis กำลังจะขโมยรถ!! เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดยนาย Davis เอง มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเขาพยายามที่จะเปิดประตูรถยี่ห้อ Ford Mustang ปี 2016 ด้วยรีโมตเปิดรถแบบที่ไม่ใช้กุญแจ เขาพยายามเปิดประตูรถจากทั้งสองฝั่ง สักพักถึงจะเปิดได้ แต่แล้วหญิงสาวคนนั้นก็เดินผ่านมา แทนที่เธอจะเดินเข้าไปถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ดันเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า Davis กำลังพยายามขโมยรถ!? “ผมรู้สึกอับอายมาก ผมทำงานในรัฐวิสคอนซิน เป็นพนักงานคุมเรือนจำ แต่กลับถูกกระทำแบบนี้ มันรู้สึกแย่มากๆ เลยล่ะ” Davis กล่าว แต่เขาก็อยู่รอจนตำรวจมาถึง “เธอยืนอยู่ตรงนั้นแป๊บนึง ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงเธอก็เดินหนีไป และไม่ยอมมาให้ปากคำกับตำรวจ หรือเข้ามาคุยกับผมเลยแม้แต่น้อย” “ผมต้องอธิบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจถึงสถานการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” …
-
รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…
บนโลกของเรานั้นมี สถานที่ต้องห้าม อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่เหล่านั้นพวกเราไม่มีวันได้เข้าไปเยือนแน่นอน นอกเสียจากว่าเราจะเป็นคนพิเศษเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ #เหมียวโลลิ ได้นำเสนอ 10 สถานที่ต้องห้าม ไปเรียบร้อยแล้ว แต่บอกเลยว่าบนโลกเรามันไม่ได้มีสถานที่ต้องห้ามแค่ 10 แห่งหรอกนะ มันมีมากกว่านั้นอีก… วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ สถานที่ต้องห้ามแสนลึกลับ จากประเทศต่างๆ รอบโลกอีก 9 แห่ง จะมีสถานที่ไหน ณ ประเทศอะไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย 1. Ploutonion At Hierapolis (ประตูแห่งเทพพลูโต), ประเทศตุรกี สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นครโบราณเฮียราโพลีส ประเทศตุรกี เป็นที่ซึ่งเคยอุทิศให้กับเทพความตายแห่งโรมันนามว่า พลูโต ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ก็คือ “สิ่งมีชีวิตใดที่ผ่านประตูแห่งนี้จะพบกับความตายทันที” นักประวัติศาสตร์โบราณเคยทดลองด้วยการปล่อยนกให้บินเข้าไป ผลปรากฏว่านกตัวนั้นก็ตายลง จากนั้นในปี 1965 จึงมีการทดลองทางวิทยศาสตร์แล้วคำอธิบายก็คือ ภายในมีการรวมตัวของก๊าซ CO2 ที่ผิดปกติที่สามารถดับลมหายใจสิ่งมีชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที การเข้าไปเยี่ยมชมใกล้ๆ สำหรับมนุษย์นั้นถือว่าไม่มีอันตรายใดๆ แต่หากต้องการผ่านประตูเข้าไปด้านใน เป็นสิ่งที่สถานที่แห่งนี้ “ห้าม” เป็นอันขาด 2. Vatican Secret Archives (หอเอกสารลับนครวาติกัน), นครวาติกัน โบสถ์คาทอลิกในนครวาติกันถือว่าเป็นสิ่งลึกลับพอสมควร…
-
รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ “มนุษย์และจระเข้” อยู่ร่วมกันอย่างสันติราวกับเป็นญาติพี่น้อง
คนเรามีความเชื่อ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็เชื่อในสิ่งที่แตกต่างกันไป อย่างในดินแดนบางแห่ง แม้ว่าจะเป็นสัตว์ดุร้ายอย่าง จระเข้ ผู้คนก็เชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปกป้องและอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างเป็นปกติสุข การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ดุร้ายอย่างจระเข้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในยุคโบราณเท่านั้น ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศบูร์กินาฟาโซ ผู้คนในหมู่บ้านยังคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับจระเข้ได้อย่างสันติ ณ หมู่บ้าน Bazoule ซึ่งห่างจากเมืองหลวงของบูร์กินาฟาโซมาเพียง 30 กิโลเมตร ผู้คนบูชาจระเข้เป็นเทพเจ้าคุ้มครองชีวิตของพวกเขา ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลจึงทำให้มีสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำนี้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อาจฟังดูน่ากลัวแต่ผู้คนในหมู่บ้านกลับสามารถเข้าไปเล่นกับจระเข้ได้อย่างสบายใจเฉิบ ชมคลิปวิดีโอหมู่บ้านจระเข้ Bazoule เรื่องราวมีอยู่ว่า ในสมัยศตวรรษที่ 15 ผู้คนเคยยกย่องให้จระเข้เป็นสัตว์ที่ช่วยไถ่บาปให้ผู้คนในหมู่บ้าน เนื่องจากในช่วงเวลาที่หมู่บ้านพบกับความแห้งแล้งอย่างหนักหน่วง กลับมีแหล่งน้ำเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แหล่งน้ำดังกล่าวปรากฏขึ้นพร้อมกับเหล่าจระเข้ และก็ได้ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอดภาวะแล้งไปได้ จึงเป็นที่มาของการเคารพนับถือจระเข้ของหมู่บ้าน Bazoule คนในหมู่บ้านนับถือจระเข้อย่างมาก พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดจระเข้เสมอ เมื่อจระเข้ตายพวกเขาก็จะมีการจัดงานศพและทำการฝังร่าง ราวกับที่พวกเขาทำกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผู้คนในหมู่บ้านจะมีวันเฉลิมฉลองประจำปี เรียกกันว่า Koom Lakre เป็นวันที่พวกเขาจะรำลึกให้กับบุญคุณที่จระเข้ได้ทำเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นวันที่พวกเขาสามารถขอพรจากจระเข้ได้อีกด้วย รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ผู้คนนับถือจระเข้ให้มากขึ้นกันเถอะ หมู่บ้านนี้นับถือจระเข้มามากกว่า 70 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเคยเสียชีวิตเนื่องจากการโจมตีของจระเข้ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนสามารถลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำของหมู่บ้านได้อย่างไม่ต้องกังวล หากใครถูกจระเข้กัดเข้า พวกเขาจะถือว่าเป็นการลงโทษจากเทพเจ้ามากกว่าที่จะมองว่าเป็นสัญชาตญาณอันดุร้ายของสัตว์เลือดเย็นอย่างจระเข้…
-
หน่วยตำรวจอินเดียออกคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ ‘ลดพุง’ ใครไม่ทำโดนไล่ออก!!
เรื่องของ ‘สุขภาพ’ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจ เพราะจะต้องใช้ความคล่องตัวและร่างกายที่แข็งแรงเพื่อระงับเหตุด่วนเหตุร้ายต่างๆ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ด้วย!! ด้วยการที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ทางด้านผู้อำนวยการของกรมตำรวจรัฐกรณาฏกะ (Karnataka State Reserve Police) หรือ KSRP จึงได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายลดพุงด่วน!! โดยที่หากใครลดไม่ได้ในเวลาที่กำหนด หรือปฏิเสธที่จะทำ จะถูกลงโทษทางวินัยโดยการไล่ออก!! ที่ต้องทำแบบนี้เป็นเพราะว่าจากสถิติในช่วง 18 เดือนหลังสุดนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไปมากกว่า 100 ราย เพราะรูปแบบการใช้ชีวิต และการกินของพวกเขา หน่วย KSRP มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 14,000 นาย และพวกเขาก็มีหน้าที่สำคัญในการดูแลความปลอดภัยในงานสำคัญต่างๆ รวมไปถึงการควบคุมเหตุการณ์การจลาจลและเหตุรุนแรง และขณะนี้ผู้อำนวยการก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงคัดกรองเจ้าหน้าที่ที่มีน้ำหนักเกิน จากนั้นก็ทำตารางการออกกำลังกายรวมไปถึงอาหารการกินเพื่อลดน้ำหนักให้พวกเขา “เราจะเริ่มกระบวนการและติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิด ทั้งการทานอาหารและการออกกำลังกาย” “ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ของเรากว่า 153 นายเสียชีวิต มี 24 นายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน อีก 9 นาย เสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ส่วนที่เหลือเสียชีวิตจากโรคที่มาจากอาหารการกิน ทั้งโรคเกี่ยวกับหัวใจ และเบาหวาน” …
-
นี่คือคอสตูม “แปลกตา” ที่คุณมีโอกาสพบ เมื่อคุณใช้ ‘รถไฟใต้ดิน’ ในดินแดนตะวันตก!!
สังคมของประเทศทางตะวันตกนั้นส่วนมากจะเป็นการใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ ผู้คนสามารถตอบสนองความต้องการตนเองได้เต็มที่หากไม่ผิดกฎหมายและไม่เบียดเบียนผู้อื่น ฉะนั้น หากเราได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศทางตะวันตก ก็คงไม่แปลกหากเราไปเจอคนที่แต่งตัวแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันนักในประเทศไทย โดยเฉพาะที่สถานที่ที่ผู้คนชุกชุมพลุกพล่าน เช่น บนขบวนรถไฟใต้ดิน เป็นต้น บอกเลยว่ามีโอกาสเจอผู้คนหลากหลายสไตล์อย่างแน่นอน วันนี้ เราจึงจะพาไปชมตัวอย่าง ภาพที่คุณอาจเจอเมื่อขึ้นรถไฟใต้ดินในต่างแดน 1. คุณอาจจะเจอนักบินอวกาศ 2. คุณอาจจะเจอชาวพังก์ที่โคตรพังก์ 3. เฮลโหล โทนี่ สตาร์ก! 4. หรืออาจจะเจอคนที่ติดเกมมากกระทั่งเอามาเล่นบนรถไฟด้วย… 5. อาจจะเจอผู้นำแฟชั่นเครื่องประดับบนศีรษะ (อุ่ย…) 6. บางคนก็พกหมอนส่วนตัวมานอนด้วย 7. ไอดอลเลย ลุงคนนี้! 8. คุณอาจเจอ ธ…ธานอส!! 9. หรือจะเป็นซานตาคลอสสุดน่าเกรงขาม 10. หรือจะเป็นมาริโอ้ 11. บางคนก็ขี้อายไม่ชอบเปิดเผยหน้าตา 12. หรืออาจจะพบแม่สาวเดธเมทัล …
-
เด็กลูกครึ่งดัตช์ เขียนจดหมายถึงนายกฯ เนเธอร์แลนด์ วอนช่วยจัดการน้ำที่ถ้ำหลวง!!
จากเหตุการณ์ ’13 ชีวิตติดถ้ำหลวง’ ไม่เพียงแค่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศเท่านั้นที่ติดตามกันอย่างใกล้ชิด แม้กระทั่งผู้คนที่อยู่ต่างประเทศเองก็ให้ความนใจและติดตาม เช่นเดียวกันกับเด็กน้อยลูกครึ่งเนเธอร์แลนด์รายนี้ ที่เป็นห่วงทั้ง 13 ชีวิต จนถึงกับเขียนจดหมายไปหาท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อขอร้องให้ท่านช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรื่องราวดังกล่าวโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Nantinee Ruangsakorn ในโพสต์มีเนื้อหาแบบเต็มๆ ว่า “ดูข่าวเด็กติดถ้ำไปพร้อมๆ กับโทนนี่และเดนนิส โทนนี่บอกว่า “ผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศเข้าช่วยเหลือ” เราถามกลับว่า “แล้วเนเธอร์แลนด์ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือ?” โทนนี่บอกว่า “เราไม่ชำนาญเรื่องถ้ำ เพราะประเทศเราไม่มีถ้ำ” …เราตอบโทนนี่กลับไปว่า “ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ “ถ้ำ” แต่เป็นเรื่อง น้ำที่มีปริมาณมาก จนพาเด็กออกจากถ้ำไม่ได้ และฉันคิดว่า ประเทศเนเธอร์แลนด์ คือ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกเรื่องระบบการจัดการน้ำ” …โทนนี่เห็นด้วยกับคำพูดของเรา เดนนิสซึ่งนั่งอยู่ร่วมวงสนทนาด้วย บอกว่า “พวกเราก็ได้แต่หวังว่า น้ำคงจะลดในเร็ววัน…เด็กๆ จะได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอกได้”…เราถามเดนนิสว่า “ลูกอยากจะลองช่วยพวกเขาไหม? ลองเขียนจดหมายไปหานายกรัฐมนตรีของเราสิ” และนี่คือที่มาของจดหมายน้อย ฉบับแรกในชีวิตที่เดนนิสเขียนเอง พรุ่งนี้ เราจะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกจะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เราถือว่า “เด็กที่นี่ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็น” ข้อความในจดหมาย แปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้ ถึง…
-
ลุงเดือดจัดโทรแจ้งตำรวจ หลังเห็นคน ‘ทานเบอร์ริตโต้’ บนรถไฟ ทั้งๆ ที่มีป้ายห้าม
การทำตามกฎก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ หากเรามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นบนรถไฟด่วน Bay Area Rapid Transit (BART) ในเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้โดยสารท่านหนึ่งแสดงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่ามีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งกำลังทาน ‘เบอร์ริตโต้’ อย่างเอร็ดอร่อย ทั้งๆ ที่ในตู้รถไฟมีป้ายเตือนอยู่ว่า ‘ห้ามทานอาหารและน้ำดื่ม’ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ ซึ่งชายผู้เดือดดาลได้ต่อว่าชายที่ทำผิดกฎว่า “คุณรอหน่อยไม่ได้เหรอ? มันมีป้ายเตือนอยู่ว่าห้ามกินและห้ามดื่ม คุณไม่เข้าใจรึไง? คุณจะต้องโง่แน่ๆ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่โทรศัพท์ฉุกเฉินของตู้รถไฟพร้อมกับบอกว่าจะโทรหาตำรวจ “ผมจะโทรหาตำรวจ จะเอางั้นมั้ยล่ะ?” แล้วเขาก็โทรไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับสาย “สวัสดีครับ โปรดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่นี่หน่อยได้มั้ย มีคนทานอาหารที่ตู้รถไฟตู้แรก เขากำลังทานอาหารบนรถไฟ” ชายที่โทรตำรวจเดินมาถ่ายภาพคู่กรณี ขณะเดียวกันผู้โดยสารคนอื่นๆ กลับมองว่านี่เป็นเรื่องตลก หลังจากที่คู่กรณีเดินลงจากรถไฟเป็นที่เรียบร้อย ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็พูดกับชายผู้โมโหว่า “ชั้นว่านายอย่าขึ้นรถไฟ BART บ่อยๆ จะดีกว่านะ” เขาตอบกลับไปว่า “ผมขึ้น BART บ่อยกว่าพวกคุณอีก…
-
ชาวประชาพร้อมใจเฮลั่น เอาใจช่วย ‘คู่รัก’ จัดท่ายากกันในอพาร์ตเมนต์ ตอนจบหักมุมซะงั้น!?
เมื่อวันที่ 20 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shanghaiist รายงานว่ามีประชาชนชาวฮ่องกงในเขต Sheung Wan หลายสิบคนยืนรวมตัวกัน พวกเขาไม่ได้มาประท้วงนาฬิการัฐบาลแต่อย่างใด… พวกเขามาเพื่อเอาใจช่วยคู่รักที่กำลังบรรเลงเพลงรักโจ๊ะพรึมๆ กันอย่างออกรสออกชาติในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวของพวกเขา โดยที่ไม่ปิดผ้าม่านและเปิดไฟสว่างจ้าจนเห็นหมดทุกรูขุมขน เพราะท่าประกอบจังหวะของคู่รักนั้นไม่ธรรมดา มีการชูสองขาชี้ฟ้าซะด้วย!! หลายๆ คนเดินผ่านมาแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย อาจจะเป็นเพราะว่าลืม ไม่รู้ตัว หรือตั้งใจ เลยทำให้หน้าต่างมันเปิดโล่งโจ้งซะอย่างนั้น!? พอเสร็จกิจแล้วประชาชนถึงกับร้องเสียดายไปตามๆ กัน… แต่ตอนจบของคลิปขอบอกเลยว่ามีเงิบ รอฟังเสียงเฮดังๆ ของชาวประชา หลังจากเห็นฉากจบสิ!! คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปในโซเชียลมีเดียและมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจมากมาย ทางด้านทนายความท้องถิ่นก็ได้ออกมาให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า “การกระทำของคู่รักอาจจะเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมาย ฐานกระทำอนาจารในที่สาธารณะ มีโทษปรับ 4,200 บาท และจำคุก 6 เดือน” ทางด้านผู้รายงานข่าวก็ได้ไปเยี่ยมเยียนห้องอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวในวันต่อมา แต่ปรากฏว่าพบเพียงแต่ห้องที่ปิดไฟมืดสนิทเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อยู่… ที่มา : shanghaiist
-
สาวเที่ยวเกาหลี แต่ไม่รู้ภาษา ปวดอึจน “ข้าศึกทะลัก” เพราะไม่รู้จะถามหาห้องน้ำยังไง…
(บทความมีภาพไม่พึงประสงค์ อาจทำให้เกิดความสะอิดสะเอียนได้) การท่องเที่ยวต่างประเทศคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่การจะเดินทางไปจริงๆ นั้นก็ไม่ง่ายเลย ไหนจะต้องเตรียมตัว ศึกษาสถานที่ วัฒนธรรม รวมไปถึงภาษาและการสื่อสารด้วย! การท่องเที่ยวในต่างแดนนั้นจำเป็นต้องสื่อสารกับคนอื่นๆ ในการถามทางหรือข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งถ้าหากว่าภาษาที่เราใช้ ไม่สามารถสื่อสารกับคนในประเทศนั้นๆ ได้ รับรองเลยว่า “วุ่นวายแน่ๆ” ขอยกตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่เมื่ออ่านแล้วคุณจะรู้ได้เลยว่า ภาษานั้นสำคัญขนาดไหนในการไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ หญิงสาวชาวฮ่องกงคนหนึ่งได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้พร้อมกับเพื่อนและพี่สาวของเธอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนท้องไส้จะปั่นป่วนอย่างไรไม่รู้ เพื่อนของเธอก็เริ่มทำการเก็บภาพเอาไว้ ไม่รู้ว่าสาวๆ เหล่านี้ไปกินอะไรกันมา จนทำให้สาวเจ้าของเรื่องเกิดอาการ “ปวดอุจจาระ” ขึ้นมาในทันใด ด้วยความไม่มีภาษาที่จะสื่อสารกับคนเกาหลีได้ เธอจึงไม่สามารถสอบถามได้ว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหน พวกเธอตัดสินใจโบกแท็กซี่เพื่อกลับโรงแรมที่พัก ขณะนั่งอยู่ในรถเองเธอก็เริ่มที่จะทนต่อไปไม่ไหว มีกลิ่นตุๆ ออกมาชนิดที่ว่าคนขับแท็กซี่ต้องเปิดกระจกเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อลงจากรถมาพวกเธอจ่ายค่าแท็กซี่ไป 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท) เพื่อเป็นการขอโทษ แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ ข้าศึกมันมาแล้ว ภายใต้กางเกงขาสั้นของหญิงสาวมีวัตถุอุ่นๆ…
-
คลิปเด็กโดนบีบคอ-ผลักล้ม ดราม่าทั่วเน็ต แท้จริงแล้วเป็น “เด็กแสบ” แถมคดีพลิก!!
บางครั้งเด็กก็ไม่ได้น่ารักสมวัยเสมอไป…ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการได้รับการอบรมสั่งสอนและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาด้วย เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะผลักเด็กชายคนหนึ่งล้มจนร้องไห้จ้าละหวั่น คลิปตอนแรกเป็นคลิปสั้นๆ แสดงฉากของเด็กโดนบีบคอและผลักล้ม โดยไม่มีคำอธิบาย ทำให้คลิปนี้เป็นไวรัล ชาวเน็ตมากมายหลายคนต่างก็คอมเม้นต์ตำหนิการกระทำของเขาไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ใหญ่จะไปรังแกเด็กตัวเล็กๆ ได้อย่างไร แต่ไม่นานคลิปก็ถูกลบไปเพราะเป็นการแสดงความรุนแรงต่อเด็ก แต่แล้วเกมก็พลิกเมื่อมีอีกคลิปวิดีโอหนึ่ง ที่ถ่ายมาให้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดการใช้กำลัง คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊กชื่อว่า Martha Kelly พร้อมแคปชั่นเล่าเหตุการณ์ว่า “นี่เป็นวิดีโอของเด็กที่ทำลายรถที่จอดอยู่ทุกคัน Sean (ชายที่ผลักเด็ก) พยายามจะหยุดเขา และโทรหาแม่ของเขาเพื่อให้มารับตัวกลับบ้านไป แต่กลับกลายเป็นว่ามีแต่คนอัปคลิปเหตุการณ์ตอนที่เขาผลักเด็กอย่างเดียว” จากคลิปจะเห็นว่าเจ้าหนูที่โดนผลักนั้นจริงๆ เป็นไอ้ตัวแสบสุดๆ พยายามหาเรื่อง Sean เดินเอาตัวชน จนถึงลงมือทำร้ายร่างกายเขาก่อนด้วย!! อีกทั้งยังมีการใช้คำพูดที่รุนแรง ทั้งด่าทอผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเป็น ‘ก*หรี่’ รวมไปถึงคำสบถหยาบคายมากมาย คลิปวิดีโอดังกล่าวมีความรุนแรง ไม่สามารถ Embed มาลงได้ ใครที่จะชมสามารถคลิกที่ภาพ หรือลิงก์นี้ได้เลยครับ… หลังจากที่ได้ชมคลิปเหตุการณ์นี้แล้วชาวเน็ตหลายคนต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ…
-
ปาฐกถาของ “เนติวิทย์” ในนอร์เวย์ ชวนผู้เข้าร่วมลุกขึ้น ‘ชูสามนิ้ว’ เพื่อประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ได้มีการเปิดเวที การประชุมนานาชาติว่าด้วยเสรีภาพ ครั้งที่ 10 ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยองค์กร Oslo Freedom Forum 2918 (OFF) ซึ่งในงานจะมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยและบรรยายปาฐกถาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ สิ่งที่น่าสนใจก็คือเฟซบุ๊กเพจ ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก ให้ยอดรักเช็ดเลือดและน้ำตา ได้โพสต์วิดีโอการปาฐกถาภายในงาน ในงานดังกล่าว นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ นักศึกษาและกองทัพ (The Students and the Military) เนื้อหาในหัวข้อที่ นายเนติวิทย์บรรยายจะเป็นเรื่องเกี่ยวการออกเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาและเยาวชน นับตั้งแต่สมัยเกิดรัฐประหารในปี 2557 ในการปาฐกถา นายเนติวิทย์ก็ได้เล่าเรื่องราวของตนในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ เริ่มตั้งแต่การตั้งคำถามเรื่องทรงผมนักเรียน จนกระทั่งได้เข้าเรียนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2559 เนติวิทย์บอกว่าตนเองพยายามเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญๆ และจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เช่นในครั้งที่เชิญ โจชัว หว่อง มาพูดคุยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้เคลื่อนไหว แต่สุดท้ายโจชัว หว่องก็ถูกคุมตัวและส่งกลับฮ่องกงไป นั่นทำให้เกิดความคิดที่ว่าประเทศไทยได้สูญเสียอิสรภาพไปแล้ว ต่อมานายเนติวิทย์ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตใหม่แรกเข้า นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องหมอบกราบพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 แต่เนติวิทย์กลับเลือกที่จะยืนเพื่อรำลึกแทน จึงถูกเข้าใจว่าแข็งข้อ สุดท้ายเขาถูกปลดออกจากการเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเนติวิทย์ถูกกล่าวหาคดีหลายข้อ…
-
นักเรียนชั้นม.ต้น ของอังกฤษ ถูกส่งตัวกลับบ้าน เพราะ ‘ทรงผมไม่เรียบร้อย’!?
อย่างที่ใครหลายๆ คนรู้กันดีว่า ‘ประเทศอังกฤษ’ ถือเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม เป็นแบบเป็นแผน ไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่นัก จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดจึงมีเหตุการณ์ที่คล้ายกับในบ้านเราเกิดขึ้น อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ คุณแม่ Charlotte Healy ถึงกับงงหลังจากที่ลูกชายถูกส่งตัวกลับมาที่บ้านจากโรงเรียน Thomas More Language College ในเมืองเชลซี ประเทศอังกฤษ เพราะ ‘ทรงผม’ ของเขาไม่เรียบร้อย ทั้งๆ ที่ทรงผมของเขาก็ไม่ได้ฉูดฉาดจี๊ดจ๊าด แบบว่าทำโมฮอว์กพร้อมกับย้อมสีรุ้ง หรือตัดเป็นลายรูปหรรมส์ แต่อย่างใด แต่เพียงเพราะว่า Casey Healy ลูกชายวัย 14 ปีของเธอนั้นมีทรงผมที่ไม่ตรงกับระเบียบของทางโรงเรียนเท่านั้นเอง!! “ทรงผมของเขาก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกนะ ด้านข้างก็ไถเกรียน ส่วนด้านบนก็ยาวกว่าหน่อยนึง แต่เขากลับมาที่บ้าน ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เขาไม่ควรถูกแยกออกมา” “เขากลับมาที่บ้านพร้อมกับความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับทรงผม ทั้งๆ ที่ตลอด 3 ปี ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ เขาไปเข้าเรียนตรงเวลาตลอด” “Casey ยังไม่ได้ไปที่โรงเรียนในวันนี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาขาดเรียน ซึ่งเขาไม่ควรโดนกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำ” คุณแม่เล่า…
-
แม้เจ้าชายแฮร์รี่จะมีคู่ แต่นี่คือ 8 เจ้าชายยังโสดจากรอบโลก ที่คุณยังมีโอกาสเป็นเจ้าหญิงได้
พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่และเมแกน มาร์เคิลเพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ที่ได้ติดตามก็คงจะได้เห็นพิธีการเสกสมรสตามฉบับที่เหมือนกับตอนจบของเทพนิยาย ทำให้สาวๆ อย่างเราพากันมโนว่าเราจะได้เป็นเจ้าหญิงบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูรายชื่อ 8 เจ้าชายตอนนี้ยังโสด อย่างน้อยเราก็อาจจะพอมีหวังแหละนะ 1. เจ้าชาย ฮุซัยน์ บิน อับดุลลอฮ์ มกุฏราชกุมารแห่งจอร์แดน (HRH Crown Prince Al-Hussein bin Abdullah II) เจ้าชายมีพระชนมายุเพียง 23 พรรษา ทำหน้าที่ในกองทัพของจอร์แดน และยังทรงเป็นผู้นำทางด้านการศึกษาแก่เยาวชนในจอร์แดนอีกด้วย 2. เจ้าชายฟิลิปปอสแห่งกรีซและเดนมาร์ก (HRH Prince Philippos of Greece and Denmark) พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 ปัจจุบันพระชนมายุ 32 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ 3. เจ้าอัลเบิร์ต วอน ธูร์น อุน แท็กซิส เจ้าชายมีพระชนมายุ 24…
-
เพราะเกิดบ่อย…พนักงานผจญเพลิงต้องฝึก ‘เอาแหวนออกจากจู๋’ อย่างจริงจัง!!
บางครั้งการสร้างความสุขให้กับตัวเองนั้นก็สามารถทำได้หลายอย่าง และการใช้ ‘อุปกรณ์ในการช่วยตัวเอง’ ก็ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในต่างประเทศที่สามารถหาซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี ที่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้เซ็กส์ทอยเกิดขึ้นบ่อยมาก จนทำให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงถึงกับต้องมีการฝึกซ้อมเพื่อแก้ไขปัญหานี้กันแบบจริงจังเลยทีเดียว จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ระบุเอาไว้ว่ามีการจัดงานอบรมขึ้นในเมือง Dresden ประเทศเยอรมนี โดยมีนักผจญเพลิงเข้าร่วมมากกว่า 600 ชีวิต มีการสาธิตนำเซ็กส์ทอยชนิดแหวนสวมหรรม สวมไปที่ดิลโด้ แล้วให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงใช้ใบเลื่อยไฟฟ้าตัดออกอย่างระมัดระวัง เซ็กส์ทอยแหวนสวมหรรม เจ้าหน้าที่ผู้ฝึกอบรม Eric Fornerg วัย 39 ปี เล่าว่า “งานนี้เป็นงานที่ค่อนข้างเซนสิทีฟ และยากมาก จึงต้องมีการฝึกอบรมกันอย่างเคร่งครัด” วิธีในการเอาแหวนที่ติดออกนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ผ้าพันแผลแบบเฉพาะ ที่สามารถทนความร้อนได้มาพันรอบอวัยวะเพศของผู้ชาย เพื่อลดความเจ็บปวดจากความร้อนของสะเก็ดไฟ ที่มาจากการเสียดสีระหว่างใบเลื่อยและแหวนที่เป็นเหล็ก และงานทั้งหมดควรจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรม นักผจญเพลิง Matthias Lehnigk วัย 36…
-
รวมภาพ GIF ฮา งานรับปริญญา “หน้าคะมำ” วันสำคัญทั้งที มาหกล้มแบบนี้ไม่ได้น้าา!!
งานพิธีรับใบประกาศปริญญาบัตรหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า งานรับปริญญา นั้นถือได้ว่าเป็นงานสำคัญและเชิดชูเกียรติอย่างมากสำหรับหลายๆ คน เพราะกว่าจะผ่านสมรภูมิรบที่เรียกกันว่า “มหาวิทยาลัย” จนมาถึงวันที่จบการศึกษาได้นั้นมันไม่ง่ายเอาเสียเลย ดังนั้น หลายต่อหลายคนจึงเตรียมตัวกันมาอย่างดีเพื่อเข้าพิธีรับปริญญา เช่น แต่งหน้าแต่งตัวให้หล่อสวยที่สุด ทุกอย่างต้องเนี้ยบและสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าบางคนผลลัพธ์มันอาจออกมาผิดคาดไปสักหน่อย ทั้งที่อุตส่าห์เตรียมตัวมาอย่างดี แต่กลับมาต้องมา หกล้มหน้าคะมำ ในวันจริงเสียนี่ ปัดโธ่!! นายไม่ผิดหรอกนะ ทางเดินมันคงแคบเกินไป คงต้องตะโกนว่า “ใครผลักตรูฟระ!?” จะได้เนียนๆ แก้เขิน สงสัยพี่แกคงจะนอนน้อยไปหน่อยล่ะนะ อยู่เฉยๆ ก็ไม่ต้องหน้าคะมำแล้วพ่อหนุ่มเอ้ย… หมดกันวันแห่งความภาคภูมิใจของเจ๊ ชะอุ้ย! พื้นต่างระดับก็ไม่บอก สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น~ ดีใจจนกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงเลยล่ะสิ ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบก็ได้… เพิ่งรู้ว่าการเดินมันลำบากก็วันนี้แหละ แหม่ เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว ยกให้คนนี้เป็นคนที่มีท่าล้มได้ใจที่สุดเลยแล้วกัน ฮ่าๆ ไม่ได้ล้มนะ แค่อยากลงก่อนเพื่อนเท่านั้นเอง …
-
พ่อแอบดูนมสาว แล้วโดนถ่ายภาพโดยบังเอิญ ลูกสาวต๊กกะใจ พ่อตรูดังซะแล้ว!?
บางครั้งเรื่องราวฮาๆ มันก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณพ่อ Dennis Leavey จากเมืองควีนส์ รัฐนิวยอร์ก ท่านนี้ ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นมีม ที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลจากความผิดพลาดของตัวเอง เรื่องมันมีอยู่ว่านางแบบสาวคนหนึ่งถ่ายภาพเซลฟี่แล้วก็โพสต์ลงทวิตเตอร์ แต่กลายเป็นว่าในภาพที่เธอโพสต์นั้นมันติดคุณพ่อ Dennis มาด้วย!! และในภาพก็เป็นเหตุการณ์ที่คุณพ่อกำลังจ้องมาที่หน้าอกของนางแบบสาวพอดิบพอดี เธอโพสต์ภาพพร้อมกับข้อความว่า “ว้าว อะไรจะแย่งซีนเบอร์นั้น” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนกลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามากดไลก์มากถึง 28,500 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 5,700 ครั้งเลยทีเดียว อืมมม์ ของเขาดีจริงๆ ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เข้ามาแซวคุณพ่อกันไปต่างๆ นาๆ “เมื่อคุณแอบเห็นความลับของคนอื่น แล้วโดนจับได้ ก็จะมีท่าทางประมาณนี้แหละนะ” “ฮ่าๆๆๆ เขาเหมือนผมเลย” หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ภาพต้นเหตุนั้นถูกโพสต์ ก็เหมือนกับว่ากระแสความฮาจะเงียบลงไปแล้ว แต่ทันใดนั้นเองเมื่อลูกสาวของคุณพ่อ Dennis ซึ่งก็คือคุณ Alex…
-
ในที่สุดก็ได้เลือกตั้ง!!! สรุปภาพรวม หลังจาก ‘เลบานอน’ เลือกตั้งครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี…
ด้วยเหตุความไม่สงบที่ประเทศซีเรียซึ่งเป็นประเทศใกล้เคียง บวกกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งใหม่ ทำให้การเลือกตั้งของเลบานอนนั้นไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2009 แล้ว อย่างไรก็ตามในเดือนวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 นี้เลบานอนก็สามารถจัดการเลือกตั้งขึ้นได้สำเร็จจนได้ หลังจากที่มีการเลื่อนมาถึง 2 สมัย การเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนระบบการลงคะแนนเสียง โดยลดจำนวนหัวเมืองลง และอนุญาตให้ชาวต่างชาติได้ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรก การลดจำนวนของหัวเมือง และใช้ลงคะแนนเสียงแบบสัดส่วน เชื่อว่าจะทำให้มีการกระจายที่นั่งไปทั้งในกลุ่มคริสเตียนและชาวอิสลามได้ดีขึ้น เนื่องจากเลบานอนมีอำนาจทางการเมืองร่วมกันระหว่างศาสนาต่างๆ และมีจำนวนที่นั่งในรัฐสภาแบ่งไประหว่างชาวคริสเตียน และชาวมุสลิมมาเป็นเวลานานแล้ว โดยนี่จะเป็นการลงคะแนนเสียงสำหรับที่นั่งทั้งหมด 128 ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งมีการเปิดให้ลงคะแนนเสียงไปจนถึงเวลา 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และผลนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศออกมาในวันจันทร์ที่ 7 หรือวันอังคารที่ 8 แม้นักวิเคราะห์คาดว่ารายละเอียดในช่วงต้นจะออกมาภายในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 นี้ อย่างไรก็ตามภายในบรรดาผู้ลงสมัครเลือกตั้งนั้นก็ยังมีกลุ่ม Hezbollah กลุ่มติดอาวุธที่ถือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายจากทางสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ลงสมัครอยู่ด้วย โดยพวกเขากำลังพยายามเพิ่มตัวแทนของตนเองเข้าไปในรัฐสภาอยู่ เรื่องนี้ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้กลายเป็นที่จับตามองของทางสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก และมีการส่งผู้สังเกตการณ์ออกไปยังพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐสภาที่จะได้รับการเลือกตั้งใหม่ในครั้งนี้นั้น จะต้องพบกับปัญหามากมายที่รอพวกเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาในประเทศนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในซีเรีย และปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ …
-
เตือนภัยผู้หญิงที่ “อยู่คนเดียว” ฝรั่งตามรังควาญชีวิตสาวไทยจนน่ากลัว เหตุเพราะเธอไม่เล่นด้วย
วันนี้มีเรื่องราวมาเตือนภัยสาวน้อยสาวใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียว โดยเฉพาะในต่างประเทศ… ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทย นบ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวตน ให้ชาวเน็ตได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของการเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียวในต่างแดน เธอเล่าว่า เพื่อนสาวของตนที่ปัจจุบันไปศึกษาต่อที่ซานฟรานซิสโกนั้น ถูกหนุ่มต่างชาติตามจีบ แต่ทว่าเพื่อนสาวของเธอ ไม่ได้ชอบและไม่เล่นด้วย ชายคนดังกล่าวจึงนำสิ่งสกปรกทั้งหลายเช่น สีน้ำมันและเศษขยะต่างๆ มาปาใส่ประตูหน้าห้องเพื่อกลั่นแกล้ง เพื่อนสาวของเธอต้องทนเจอสิ่งเหล่านี้ถึงหกเดือน แต่ล่าสุดก็จับตัวชายผู้กระทำผิดได้ เพราะชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปทำร้ายหญิงสาวขณะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านอาหาร สภาพหน้าประตูห้องของสาวที่ถูกหนุ่มแอบนำสิ่งสกปรกมาสาด สีน้ำมัน และเศษขยะ . . ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ นบ ก็ได้ออกมาบอกว่าขณะนี้ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแล้ว ส่วนสำหรับคนที่สงสัยว่าฝ่ายหญิงไปทำอะไรเขาไว้ก่อนหรือไม่นั้น ทาง นบ ผู้เป็นเพื่อนของฝ่ายหญิงก็ออกมาตอบเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่า ไม่อยากให้ถามแบบนี้ ทางเพื่อนของตนไม่เคยยุ่งหรือแม้แต่คุยกับชายคนดังกล่าวเลย ฉะนั้นจึงไม่เคยคบกัน สำหรับกรณีนี้เธอกล่าวว่า ฝ่ายชายน่ามีอาการทางจิตแน่นอน ก่อนหน้านี้ วีรกรรมของชายที่ตามตื๊อจีบสาวไทยคนดังกล่าวนั้นมีอีกมาก ขณะที่ทางฝ่ายหญิงได้ทำการตั้งกล้องเพื่อจะถ่ายผู้ที่นำสิ่งสกปรกมาสาดหน้าห้อง ปรากฏว่าไม่มีใครโผล่มาเลย แต่พอเอากล้องออก กลับมีคนมาสาดอีก นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังเคยโทรฯ ไปสั่งอาหารในร้านที่ฝ่ายหญิงทำงานเป็นร้อยสาย แต่ไม่มารับ แถมบางครั้งมีการสั่งให้ส่งถึงบ้าน แต่ระบุที่อยู่เป็นเลขที่ห้องของฝ่ายหญิงทั้งๆ ที่ฝ่ายหญิงไม่ได้สั่ง ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ชายหนุ่มถูกจับก็คือ เขามายังร้านอาหารที่ฝ่ายหญิงทำงานอยู่โดยบังเอิญ พอเจอหน้ากัน ฝ่ายชายกลับเขามาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว…
-
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหมาจากคนละประเทศมาเจอกัน พวกมันจะคุยกันรู้เรื่องรึเปล่า!?
เท่าที่เราเคยเห็นเจ้าหมามา มันไม่มีภาษาพูดเป็นของตัวเองเลย จะมีก็แค่เสียงเห่าเสียงครางเท่านั้น เราก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นว่าพวกมันจะคุยกับหมาต่างประเทศรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นคนเราล่ะก็แค่อยู่คนละประเทศภาษาก็ไม่เหมือนกันแล้วนะ เพื่อทำให้ความสงสัยนี้กระจ่างขึ้น เราก็เลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันดู แล้วก็มาแบ่งให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยว่าหมาจากคนละฟากโลกมันสื่อสารกันได้ไหม ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าหมาแต่ละประเทศมีเสียงเห่าไม่เหมือนกัน อย่างที่คนไทยเรามักจะติดว่าหมาเห่า ‘โฮ่งๆ’ แต่ฝรั่งจะได้ยินมันเห่าว่า ‘วูฟๆ’ นั่นแหละ เพราะสภาพแวดล้อมที่มันเกิดมีผลต่อสำเนียงการเห่าด้วย นอกจากนี้หมาต่างสายพันธุ์และต่างขนาดก็ยังมีเสียงเห่าที่แตกต่างกันออกไปอีกต่างหาก แล้วเสียงก็อาจจะต่างกันไปตามช่วงวัยอีกด้วย เรียกได้ว่าพวกมันมีเสียงการเห่าที่หลากหลายและไม่ค่อยเหมือนกันนักหรอก ยังไงก็ตามถึงสำเนียงจะแตกต่างกันไปบ้าง แต่ Stanley Coren ผู้เขียนหนังสื่อเกี่ยวกับการสื่อสารของสุนัข ก็บอกว่าพวกมันมีภาษาที่ใช้สื่อสารกันนั้นเหมือนกันหมดทั้งโลก เขาชี้แจงว่าเสียงที่ใช้สื่อสารของพวกมันนั้นแบ่งเป็นประเภทหลักๆ ได้เช่น เสียงเห่า เสียงคราง เสียงขู่ และเสียงหอนเป็นต้น ถึงสำเนียงจะไม่เหมือนกันแต่ก็จะเป็นเสียงในประเภทพวกนี้เท่านั้น พวกมันก็เลยเข้าใจตรงกันว่าหมาอีกตัวรู้สึกยังไง ยกตัวอย่างเช่น เสียงขู่จะใช้ตอนที่ต้องการเตือนให้อีกฝ่ายออกไปห่างๆ เสียงเห่าใช้เพื่อเรียกหาสุนัขตัวอื่น และเสียงหอนมีความหมายว่ามันกำลังรู้สึกเหงาหงอย แล้วก็ยังมีการใช้เสียงต่ำและเสียงสูงในการสื่อสารเพิ่มเติมด้วย หมาทุกตัวจะเข้าใจว่าถ้าอีกฝ่ายใช้เสียงสูง แปลว่าพวกมันอยากผูกมิตรด้วย ในทางกลับกันเสียงโทนทุ้มต่ำจะใช้ในการข่มขู่หมาตัวอื่น อีกอย่างหนึ่งก็คือพวกมันจะใช้การดมกลิ่น และภาษากายที่คล้ายคลึงกัน เพื่อช่วยในการสื่อสารอีกทางหนึ่งด้วย จึงทำให้พวกมันเข้าใจกันได้ไม่ยากเลย แต่พวกมันจะไม่สามารถเข้าใจภาษาของมนุษย์จากต่างประเทศได้ เพราะพวกมันเรียนรู้คำพูดของมนุษย์ด้วยการจำเสียง ทำให้มันไม่เข้าใจมนุษย์ที่ใช้คำต่างกันตามภาษาของประเทศต่างๆ ได้…
-
รวมคอมเมนต์ต่างชาติ หลังเห็นข่าว “จับฝรั่งเซ็กส์หมู่พัทยา” ยกย่องไทย “เมืองหลวงแห่งเซ็กส์”
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปจับกุมการค้าประเวณี “เซ็กส์หมู่” ที่ผิดกฎหมาย ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทีมได้บุกจับปาร์ตี้เซ็กส์หมู่จากการที่ได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมกิจกรรมทางเพศกันในโรงแรมที่ชื่อว่า Tulip Hotel ในพัทยา เมื่อเข้าไปแล้ว พบว่ามีชายชาวต่างชาติวัยกลางคนจำนวนมาก เปลือยกายพร้อมด้วย หญิงสาวในวัยผู้เยาว์ หลายคน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวได้ทั้งเป็นชายชาวต่างชาติ 28 ราย มีทั้งชาวออสเตรเลีย อเมริกา แคนาดา อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย มาเลเซีย หรือแม้กระทั่งจีน เจ้าของโรงแรม Tulip Hotel ถูกจับกุมตัวในข้อหาดำเนินกิจการอย่างผิดกฎหมายและเป็นผู้รู้เห็นยินยอมให้มีการค้าประเวณีที่ผิดกฎหมายดังกล่าวในภายในโรงแรม จากข่าวที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ประเทศไทยบ้านเรายิ่งมีชื่อเสียง (ในแง่ลบ) โดยเฉพาะเรื่องการค้าประเวณีและการขายบริการทางเพศ ที่สื่อต่างชาติถึงกับตั้งฉายาให้เมืองพัทยา ว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งเซ็กส์” ของโลกเลยทีเดียว ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างประเทศก็ให้ความสนใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เข้ามา “แสดงความคิดเห็น” เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่ข่าวการจับกุมเซ็กส์หมู่ที่พัทยาถูกเผยแพร่ออกไป “คิดว่านี่เป็นสิ่งต้องห้ามในไทยเหรอ ฉันคิดว่านี่น่ะเศรษฐกิจของประเทศเลยนะ คือไม่มีใครไปประเทศนี้เพื่อชมธรรมชาติหร๊อกกก นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมคนน่ายกย่องต่างๆ…
-
ลูกชาย 12 หายตัวไป ที่ไหนได้แอบขโมย ‘บัตรเครดิตแม่’ จองตั๋วบินไปเมืองนอก นอนโรงแรมหรู!!
เด็กชายวัย 12 ปีแอบขโมยบัตรเครดิตของแม่จองไฟลท์บินจากออสเตรเลียไปอินโดนีเซีย พร้อมทั้งจองโรงแรมหรูระดับ 4 ดาวเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน และเพิ่งกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่าเด็กชายวัย 12 ขวบ ไม่ทราบชื่อ ได้วางแผนเป็นอย่างดีเพื่อแอบหนีไปเที่ยวต่างประเทศ เขาขโมยบัตรเครดิตของแม่ จากนั้นก็ทำการเสิร์ชหาสายการบินที่อนุญาตให้เด็กอายุเท่าเขาสามารถขึ้นเครื่องได้โดยที่ไม่ต้องมีคำยินยอมจากผู้ปกครอง แล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน ตามรายงานระบุอีกว่า เด็กชายใช้มารยาเด็กน้อยหลอกล่อคุณยายให้ทำพาสปอร์ตให้กับเขา พอสำเร็จก็ขึ้นรถไฟเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน หลังจากที่ไปถึงที่โรงแรมเขาแจ้งกับพนักงานโรงแรมว่าเดี๋ยวพี่สาวของเขาจะตามมา ในอีก 3-4 วัน นั่นทำให้เขาต้องเช็กอินและอาศัยอยู่ที่โรงแรม All Seasons Hotel ในเมือง Denpasar ประเทศอินโดนีเซียก่อน ขณะเดียวกันที่บ้านก็รู้แล้วว่าเขาหายตัวไป และไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นเวลาหลายวัน ก็เลยตัดสินใจไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายหายไป คุณแม่เล่าว่าเธอรู้สึกตกใจ และเหนื่อยหน่ายใจเป็นอย่างมาก “ฉันไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ถึงความรู้สึกที่รู้ว่าเขาหนีไปเที่ยวต่างประเทศ” เกิดเป็นคำถามว่าเขาซื้อตั๋วเครื่องบิน และนั่งเครื่องบินจากซิดนีย์ ไปเพิร์ธ แล้วบินต่อไปที่เมือง Denpasar ได้อย่างไร โดยที่ไม่มีใครเอะใจว่าเขาเป็นเด็กอายุ…
-
พิธีศักดิ์สิทธิ์ในอินเดีย ลากรถยนต์ไปไกลกว่า 30 เมตร ด้วย “องคชาต” เท่านั้น!!?
ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ผู้คนจำนวนมากได้มารวมตัวกันเพื่อรับชมการลากรถด้วย “องคชาต” ที่กระทำโดยนักบวชในศาสนาท่านหนึ่ง (มีคลิปด้านล่าง) นักบวชดังกล่าวได้ฉายาว่า Penis Baba ผู้ที่ลากรถยนต์ได้ด้วยการใช้เชือกผูกระหว่างรถและองคชาต ของเขา เพียงกำลังของอวัยวะเพศ เขาสามารถลากรถได้ไกลกว่า 30 เมตร ภายใต้ผ้าขาวที่เขานุ่งห่ม ปลายเชือกด้านหนึ่งถูกมัดเอาไว้กับของลับ Penis Baba หันหน้าเข้าหารถ พร้อมเดินถอยหลังอย่างช้าๆ เพื่อลากรถให้ค่อยๆ ไหลไป ประชาชนหลายร้อยคนต่างรวมตัวกันเพื่อดูการกระทำที่เกี่ยวกับศาสนานี้ โดยชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวว่า “ตอนเด็กๆ Penis Baba นั้นเคยหายตัวไปบำเพ็ญตบะและฝึกวิชาอยู่หลายปี” แต่ไม่รู้ว่าไปฝึกอะไรมาถึงกลับมาแสดงพลังขององคชาตได้แบบนี้ Penis Baba อธิบายว่า “นี้ไม่ใช่งานศิลปะ นี่เป็นพลังที่พระเจ้าประทานให้กับผู้อุทิศตน” ชมคลิปเหตุการณ์ได้ด้านล่างได้เลย ขณะเดียวกันก็พบว่า ในเมืองอัลลอฮาบาด ทางด้านเหนือของอินเดีย ผู้ที่เรียกตัวเองว่า สาธุ ท่านหนึ่งออกมาลากรถบรรทุกเล็กๆ ด้วยองคชาตเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกับ Penis Baba คือชายที่เรียกตัวเองว่าสาธุนี้เปลือยกาย ใส่เพียงรองเท้าแตะคู่หนึ่งเท่านั้น…
-
เฮลโหล… มารู้จักกับคนไทยทั้ง 8 คน ที่ไปเป็นศิลปินโด่งดังที่ “เกาหลี” กันเถอะ
หลังจากผ่านพ้นช่วงตื่นตาตื่นใจกับ แบมแบม หนุ่มไทยจากวงบอยแบนด์เกาหลี Got7 ที่ล่าสุดเพิ่งรอดพ้นจากการเสี่ยงดวงจับฉลากใบดำใบแดงเพื่อคัดเลือกทหารในไทยไปแล้ว ทำเอาสาวๆ ทั้งหลายใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ต้องยอมรับว่าทำให้ชาวไทยนั้น รู้จักกับวง Got7 และตัวของแบมแบมเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ก็มีการเข้าไปขอถ่ายรูปเก็บไว้เพราะว่า โดยปกติแล้วศิลปินบอยแบนด์เกาหลีที่กำลังโด่งดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้คงไม่ได้มีโอกาสเข้าใกล้ชิดตัวได้ง่ายๆ แน่นอน สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวไทยอาจจะอยากรู้ว่า เอ๊ะ… ศิลปินบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีนั้น มีคนไทยเข้าไปเป็นศิลปินอยู่จริงๆ เหรอ? ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ขอยกมาเป็นรายชื่อเลยก็แล้วกัน สำหรับ คนไทยที่ได้บินไปโด่งดังได้ไกลถึงเกาหลี อ้างอิงมาจากผู้ใช้พันทิป หมายเลข 2808765 1. นิชคุณ ชื่อจริง : นิชคุณ หรเวชกุล อายุ : 29 ปี วง : 2pm ค่าย : JYP Entertainment 2. มิ้นท์ ชื่อจริง : กุญช์ภัสส์ พรประวีวรกุล อายุ :…
-
บอกลาออฟฟิศแล้วมาดู 12 อาชีพแปล๊กแปลก สำหรับคนที่ต้องการสีสันในชีวิต
คุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการทำงานทุกวันนี้อยู่หรือเปล่า? หัวหน้าใจร้าย เพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ งานซ้ำจำเจ นั่งอยู่แต่ในออฟฟิศ มันคงจะน่าเบื่อใช่ไหมล่ะ? หลายๆ คนเมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการทำงานก็มักจะมองหางานใหม่ๆ ที่สนุก และไม่จำเจ หากใครกำลังคิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ เรามีอาชีพมาเสนอคุณ 12 อาชีพ ที่รับรองว่าแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครๆ รับรองว่าไม่เบื่อหน่ายแน่นวลลล ส่วนจะมีอาชีพอะไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมๆ กันเลย… 1. นักแกะหมากฝรั่ง อาชีพนี้มีจริงๆ ในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ผู้คนอาศัยอยู่มากมาย ทำให้มีหลายคนที่เคี้ยวๆ หมากฝรั่งแล้วก็ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็ถ่มถุยเอาไว้แถวนั้น หรือไม่ก็เอาไปแปะเอาไว้ตามสถานที่สาธารณะ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพ นักแกะหมากฝรั่ง ขึ้นเพื่อคอยไล่เก็บไล่แกะหมากฝรั่งออกจากที่สาธารณะ 2. นักพิสูจน์กลิ่น อย่าเพิ่งยี๊กันนะ การดมกลิ่นไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อย่างเช่นบริษัท Proctor & Gamble ที่ต้องว่าจ้างนักพิสูจน์กลิ่นมาเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นของบริษัท ว่าสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้หมดจดหรือไม่ 3. นักชิมอะโวคาโด หากว่าคุณชอบทานอะโวคาโดล่ะก็ ในประเทศออสเตรเลียจะมีอาชีพนักชิมอะโวคาโดที่เพียงคุณชิมเพื่อคัดเลือกอะโวคาโดชั้นดีสำหรับร้านอาหาร คุณก็จะได้รับค่าจ้าง …สุดยอดไปเลยยย 4. เพื่อนเจ้าสาวรับจ้าง…
-
เอาแล้วล่ะสิ!! มีภาพหลุด Brooklyn Beckham จูจุ๊บกับสาวอื่น แล้ว Chloe ล่ะมีไหน!?
หลังจากที่เพิ่งมีข่าวว่าคืนดีกันไปแล้วระหว่างพ่อหนุ่ม Brooklyn Beckham กับสาว Chloe Moretz เมื่อไม่นานมานี้ แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวของทั้งคู่ก็เงียบหายไป ไม่เห็นการอัปเดตอะไรร่วมกันอีกเลย แต่แล้วล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว แถมยังมีภาพหลุดของฝ่ายชายไปจูจุ๊บกับหญิงอื่นซะแล้ว!? ตามรายงานระบุเอาไว้ว่า Brooklyn วัย 19 ปี ถูกพบเจออยู่ในร้านสักแห่งหนึ่งใน West Hollywood เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็พบหญิงสาวปริศนารายหนึ่งอยู่ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งคู่ก็จูจุ๊บกันอย่างหวานแหววออกสื่อ ราวกับว่ามีซัมติงต่อกันและกัน จนชาวเน็ตถึงกับเกิดข้อสงสัยว่า “แล้ว Chloe ล่ะอยู่ไหน!?” หลังจากสักเสร็จก็เดินออกมาจากร้าน รอยสักใหม่โดยฝีมือของช่างสักชื่อดัง Dr. Woo เดินตามกันมาติดๆ . . ขณะนี้ตามรายงานไม่ได้บอกว่าหญิงสาวดังกล่าวนั้นเป็นใคร หรือมีความสัมพันธ์อย่างไรกับพ่อหนุ่ม Brooklyn แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันว่าความสัมพันธ์กับแม่สาว Chloe สรุปแล้วเป็นอย่างไรกันแน่…
-
มาดูกันว่าใครเจ๋ง 7 เรื่องเล่าความทรงจำชีวิตเด็กหอ ประเทศไทย VS ต่างประเทศ
ยังจำกิจกรรม CatDumb Challenge บอกเล่าความทรงจำชีวิตเด็กหอ กันได้ไหมเพื่อนๆ ตอนนั้น #เหมียวศรัทธา เคยบอกไว้ว่าเรื่องราวที่น่าสนใจ จะได้รับการรวบรวมมาเป็นคอนเทนต์สนุกๆ ลงในเว็บไซต์ CatDumb ใช่ไหมล่ะ คอนเทนต์ในวันนี้ก็มีที่มามาจากกิจกรรมอันนั้นนั่นล่ะ แต่จะให้เอาเรื่องราวของเพื่อนๆ มาเขียนเฉยๆ เลยมันก็จะดูธรรมดาไปนิด ดังนั้น #เหมียวศรัทธา เลยไปหาเรื่องเล่าเด็กหอแบบเดียวกันมาจากต่างประเทศเพื่อมาเปรียบเทียบกันเสียเลย คิดเสียว่าเป็นการแข่งขันก็แล้วกัน เพียงแต่ว่าไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะหรอกนะ เพราะสุดท้ายแล้ว เรื่องไหนจะสนุก เรื่องไหนจะโดนใจ คนอ่านก็เป็นผู้ตัดสินอยู่ดี ทีมไทย โดยสมาชิกเพจ CatDumb ผีห้องน้ำ โดยคุณ Weerachat Tengtrairat ที่หอใน มหาวิทยาลัยรังสิต เราใช้ชีวิตอยู่กับรูมเมทโดยที่ทุกเย็นเราจะไปออกกำลังกายที่โรงยิม วันนั้นหากุญแจห้องไม่เจอเลยบอกรูมเมทว่า “อย่าล็อกห้องนะ หากุญแจไม่เจอ” แต่พอกลับมาจากยิมเพื่อนดันล็อกห้อง ด้วยความที่อารมณ์ไม่ดี เราก็ค้นในกระเป๋าไปเจอกุญแจห้องที่หายไปก็เลยไขเข้าห้องไป กลายเป็นว่ารูมเมทที่รักกำลังอาบน้ำอยู่ ด้วยความหมั่นไส้เลยแกล้งปิดไฟ พอมันโวยวายเราก็เปิด แล้วก็ปิดอีก ทีนี้ต่อให้โวยวายเราไม่เปิดแล้ว แต่ไปแอบมุมห้อง มันเปิดประตูมาเปิดไฟไม่เจอใครมันเลยได้แต่บ่นๆ และอาบน้ำต่อ เราเลยย่องลงไปนั่งเล่นห้องเพื่อนอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนจะกลับขึ้นมา ด้วยความเนียนมีกุญแจแต่ไม่ไข ใช้เคาะประตูห้องเอา เมทเปิดให้ก็บอกมึงมีกุญแจ จะเคาะทำไม ก็เลยทำเป็นด่ามันไป “ก็บอกแล้วว่าหากุญแจไม่เจอ อย่าล็อกห้อง แล้วเอ็งล่ะล็อกทำหอกอะไร”…
-
รวม 45 ประเทศที่ไม่มี “การเกณฑ์ทหาร” อยากจับใบแดงแค่ไหน ก็คงได้แค่ฝัน
สำหรับประเทศไทยแล้ว ชายสัญชาติไทยทุกคนจำเป็นจะต้องเข้ารับการคัดเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการได้เมื่อมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ การคัดเลือกก็อย่างที่ทราบกันดีว่ามีการจับสลากใบดำใบแดง ลุ้นดวงกันว่าจะรอดหรือต้องเข้ารับราชการทหาร การจับสลากได้ใบดำหมายถึงว่ารอดพ้นจากการถูกคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ แต่ถ้าหากจับสลากได้ใบแดง หมายถึงว่า ต้องเข้ารับราชการทหารเป็นระยะเวลา 2 ปี พอช่วงเวลาแห่งการเกณฑ์ทหารมาถึง ชายไทยที่ต้องเข้ารับการคัดเลือกก็ตื่นเต้นไปตามๆ กัน เพราะว่ามีทั้งผู้ที่อยากเป็นและไม่อยากเป็นทหาร หลายคนก็พยายามทำทุกวิถีทางให้ตัวเองรอดพ้นจากการเป็นทหารให้ได้ สำหรับประเทศไทยและอีกหลายประเทศก็ยังมีระบบการคัดเลือกเพศชายไปเป็นทหารอยู่ แต่หลายต่อหลายประเทศก็ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารไปเรียบร้อยแล้วหรืออาจจะไม่เคยมีระบบเกณฑ์ทหารมาก่อน วันนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีประเทศใดบ้างที่ ไม่มีการเกณฑ์ทหาร 1. แอลเบเนีย การปกครองแบบ ประชาธิปไตยเกิดใหม่ ไม่มีการเกณฑ์ทหาร (ยกเลิก ค.ศ. 2010) 2. อาร์เจนตินา การปกครองแบบ สาธารณรัฐ ไม่มีการเกณฑ์ทหาร (สมัครใจได้ อาจมีการสั่งเกณฑ์ทหารได้ด้วยเหตุผลจำเพาะ ตาม Public Law No.24.429 ประกาศใช้ 5 มกราคม ค.ศ. 1995) 3. ออสเตรเลีย การปกครองแบบ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา; สหพันธรัฐ ไม่มีการเกณฑ์ทหาร (รัฐสภายกเลิก…
-
หากออเจ้า ย้อนเวลาไปเมืองนอกเมื่อ 100 ปีก่อน จะเจอกับสภาพแบบไหน มาดูกันหน่อยซิ…
หลังจากที่ได้ชมละคร บุพเพสันนิวาส แล้วมันช่างทิ้งกลิ่นอายแห่งความย้อนยุคเอาไว้มากมายเสียเหลือเกิน แต่เอ…ลองจินตนาการดู หากว่าเราได้ย้อนยุคกลับไปโผล่ในประเทศต่างๆ เมื่อ 100 ปีก่อน เราจะต้องเจอกันสภาพบ้านเมืองแบบไหนกันนะ? วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ ภาพถ่ายจากสถานที่ต่างๆ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ลองไปดูกันเลยว่า บ้านเมืองและผู้คนในแต่ละที่จะมีลักษณะเป็นแบบไหน หากเราได้ย้อนยุคไปในสถานที่เหล่านั้น เราจะได้ปรับตัวถูกยังไงล่ะ… 1. แซนตามอนิกา, แคลิฟอร์เนีย (1901) 2. ไคโร, อียิปต์ (1910) 3. ปารีส, ฝรั่งเศส (1902) 4. โตเกียว, ญี่ปุ่น (1880) 5. เบอร์ลิน, เยอรมัน (ราวๆ 1910) 6. จาการ์ตา, อินโดนีเซีย (1885) 7. มุมไบ, อินเดีย (ประมาณ 1890–1910) 8. ปักกิ่ง, จีน…
-
มาดูความคิดเห็นชาวต่างชาติ เมื่อได้ดู “บุพเพสันนิวาส” จะอินกับพี่หมื่น-ออเจ้าหรือเปล่าน้อ…
เรียกได้ว่าแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียวกับ กระแสของละครไทยย้อนยุคอย่าง บุพเพสันนิวาส เพราะเป็นละครย้อนยุคแนวใหม่ที่มีเนื้อหาตลกสนุกสนาน และเข้มข้น จนทำเอาแฟนๆ รอดูกันอย่างใจจดใจจ่อ และก็ไม่ใช่มีเพียงชาวไทยเท่านั้นนะที่ขอร่วมกระแส “ออเจ้า” กับเขาด้วย บุพเพสันนิวาสยังถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวต่างชาติให้ได้รับชมกันอีกด้วย โดยเฟซบุ๊กเพจ SJDK Fan Sub ได้มีการทำคำบรรยาย (Subtitle) เป็นภาษาอังกฤษสำหรับละครไทยเรื่องต่างๆ รวมไปถึง บุพเพสันนิวาส เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เข้ามารับชมกันด้วย ถึงล่าสุดเฟซบุ๊กเพจดังกล่าวจะลบวิดีโอไปแล้ว น่าจะเนื่องด้วยสาเหตุทางลิขสิทธิ์ แต่สิ่งที่ยังพอหลงเหลือไว้ก็คือ “ความคิดเห็น” ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่างชาติ ได้เข้ามาคอมเมนต์หลังจากที่ได้รับชม บุพเพสันนิวาส ไปแล้วนั่นเอง เอาล่ะ อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า คนประเทศอื่นเมื่อได้รับชมความน่ารักของ คุณพี่หมื่นกับออเจ้าการะเกด แล้วจะมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง? ไปดูตัวอย่างคอมเมนต์กันเลย… บุพเพสันนิวาส EP.1 คนนี้แท็กเพื่อนแล้วบอกว่า “แกดูเรื่องนี้หรือยัง? พระเจ้า…อะไรเนื้อเรื่องมันจะเข้มข้นได้ขนาดนี้ แค่ตอนแรกเองนะเนี่ย” “ฉันก็ดูเรื่องนี้เหมือนกัน บอกเลยว่าโคตรรรรดีย์” “เรื่องนี้ตลกดีอะ น่าสนใจมากๆ” บุพเพสันนิวาส EP.2 …
-
ฆาตรกรอำมหิต…แทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต โดยให้เหตุผลเพียงเพราะว่า ‘ชื่นชอบการฆ่า’
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดอำมหิต ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการแทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต แล้วให้เหตุผลที่ทำว่า เขานั้นเพราะ “ชื่นชอบการฆ่า” Shea Heeley วัย 19 ปี ได้หลอกล่อหญิงสาว วัย 16 ปี นามว่า Leonne Weeks ไปในที่ลับตาคนในย่าน Dinnington ใน South Yorkshire ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแทงเธอ 28 ครั้งโดยไม่มีเหตุผล ในเดือนมกราคม 2017 Heeley ได้รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าจริงซึ่งเขาต้องถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 24 ปีครึ่ง ศาล Sheffield Crown ได้รับข้อมูลมาว่า Heeley ได้พยายามตีสนิทกับเหยื่อ หรือสาว Leonne มาร่วมปี ก่อนที่จะทำการฆ่า และจงใจตีสนิทเธอเพื่อสนองความพึงพอใจของตนที่ “ชื่นชอบการฆ่า” ทางศาลยังทราบด้วยว่าหลังจากที่ Heeley ถูกจับกุม เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจิตเวชว่า “ผมชอบสิ่งที่ผมทำลงไปนะ ก็แค่ฆ่าเอง ผมน่ะชอบการฆ่า“ ผู้พิพากษา Paul Watson กล่าวว่า…
-
สยองสิครับ…คุณยายชาวยูเครนวัย 77 ปี อาศัยอยู่กับ ‘ซากศพ’ ของแม่ตัวเองนาน 30 ปี!!
‘ความตาย’ เป็นสิ่งที่ชีวิตทุกชีวิตต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่เราทำได้ก็มีเพียงแค่ยอมรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นให้ได้ก็เท่านั้น แต่สำหรับคุณยายวัย 77 ปี จากยูเครนไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเธอทำใจยอมรับการสูญเสียของคุณแม่ไม่ได้ ก็เลยอาศัยกับซากศพของแม่ผู้เป็นที่รักมาตลอด 30 ปี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกค้นอพาร์ตเมนต์ของคุณยายวัย 77 ปี ที่ตั้งอยู่ในเมือง Mykolaiv ประเทศยูเครน หลังได้รับแจ้งจากคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับช็อกเพราะพอเปิดเข้าไปในห้องก็ต้องพบกับสภาพการเป็นอยู่ของคุณยายที่ย่ำแย่เหลือเกิน มีขยะถูกทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มห้อง แถมยังมีซากศพที่แห้งเหลือแต่กระดูกสวมชุดสีขาว รองเท้าสีฟ้า และถุงเท้าสีเขียว นอนอยู่บนเตียงอีกด้วย!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นเพิ่มเติม ก็พบว่ามีหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่หลายสิบปีก่อน อาหารเน่าเสีย อีกทั้งยังมีตราสัญลักษณ์เกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อถูกวางไว้ข้างๆ ใบหน้าของซากศพ หญิงชราวัย 77 ปีเจ้าของห้อง อาศัยอยู่อย่างสันโดษโดยไม่ติดต่อกับห้องข้างๆ เลย เธอถูกพบตัวอยู่ในห้อง ขาทั้งสองข้างของเธอเป็นอัมพาตแต่ยังคงมีชีวิตอยู่ ตามรายงานบอกว่าตอนที่เจ้าหน้าที่พบคุณยาย เธอกำลังนอนอยู่บนพื้นและต้องการความช่วยเหลือด่วน ที่อยู่อาศัยแห่งนั้นไม่มีทั้งน้ำ…
-
19 ภาพสิ่งอำนวยความสะดวก ในสนามบินตปท. ได้ไปเยือนได้ไปใช้ คงจะสบายไม่น้อยเลย!!
การเดินทางโดยเครื่องบินอาจเป็นสิ่งที่บางคนรู้สึกไม่ค่อยชอบกันซักเท่าไหร่ เพราะการต้องไปนั่งรอในสนามบินที่วุ่นวาย มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าน่าเบื่อหน่ายและไม่ค่อยสะดวกสบายกับการใช้ชีวิตซักเท่าไหร่ แต่ว่าสนามบินทุกที่มันก็ไม่ได้จะทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ เหตุผลที่มันจะไม่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อก็เพราะว่า บางสนามบินในต่างประเทศอาจจะมีวิธีการที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับการมานั่งรอของคุณมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นเครื่องมือเหล่านี้ที่ถูกถ่ายมาจากสนามบินหลายๆ แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสามารถตอบโจทย์ให้กับหลายๆ ปัญหาที่เพื่อนๆ อาจเคยกังวล จะมีอะไรบ้างเราลองไปดูกันเลย ห้องขนาดเล็กในสนามบินแห่งหนึ่งที่มีไว้ให้คุณนอนหลับพักผ่อนซักงีบ เครื่องที่จะพิมพ์เรื่องสั้นออกมาให้คุณได้อ่าน ตอนนั่งรออยู่เฉยๆ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารสามารถมาฝึกการ CPR ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้จากเจ้าเครื่องนี้เลย ที่นั่งที่ทำให้คุณได้ทั้งออกกำลังกายและชาร์จโทรศัพท์ รอนานๆ แล้วรู้สึกกล้ามเนื้อมันยึด ก็ออกมาวิ่งกันซักหน่อยจะเป็นไรไป ปุ่มแจ้งพนักงานเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในห้องน้ำ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ทันที หรือปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมในครั้งต่อไป ถ้าเบื่อการเดินลงบันได คุณจะสไลด์ลงมาแทนก็ได้นะ เครื่องบิน Cessna ลำเก่า ถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามเด็กเล่นสุดเพลิดเพลิน ห้องน้ำสำหรับน้องหมา การันตีเลยว่าพวกมันจะต้องได้ปลดทุกข์กันอย่างเป็นสุขแน่นอน สนามบินที่มีช่องเสียบรองรับหัวปลั๊กทั่วทุกมุมโลก จุดขายน้ำที่ไม่ต้องมีแคชเชียร์ แต่ใช้ความเชื่อใจให้คุณจ่ายเงินเองที่ตู้ ป้ายที่บอกว่าระยะเวลาสำหรับการเดินไปแต่ละประตูต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เครื่องมือที่คุณสามารถปรินต์ป้ายต้อนรับไว้สำหรับคนที่คุณกำลังรออยู่ การต่อแถวที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว…
-
เจ้าของบ้านต้องเล็มต้นไม้ เพราะเพื่อนบ้านร้องเรียนว่ามันใหญ่เกิน แสงแดดแทบไม่ส่องถึงบ้าน
ปกติแล้วเราเคยแต่ได้ยินการถกเถียงที่ว่ากิ่งไม้ที่ยื่นเข้ามาในรั้วบ้านเราถือว่าเป็นของเราหรือไม่ แต่ว่าเหตุการณ์ในวันนี้นั้นยิ่งกว่านั้นอีก เพราะมันไม่ได้มาเป็นกิ่งก้าน แต่มันมาเป็นพุ่มอันมโหฬาร และมันก็ไม่ได้แผ่เข้าไปในบ้านใครหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันแค่มีขนาดใหญ่เกินจนไปบังแดดบ้านอื่นหมดเลยต่างหาก พุ่มไม้ดังกล่าวเป็นพืชจำพวกสนที่มีขนาดสูงราว 12 เมตร และเรียงเป็นแนวยาวกว่า 30 เมตร ที่ทำให้ผู้คนที่อาศัยในละแวกใกล้เคียงต้องบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาต้องย้ายไปใช้ส่วนหลังบ้านเสียมากกว่าเพราะส่วนหน้าบ้านนั้นโดนพุ่มไม้นี้บดบังแสงอาทิตย์จะหมด ทั้งนี้จึงทำให้เกิดการระดมทุนและร้องเรียนปัญหาพุ่มไม้ใหญ่นี้กับสภาท้องถิ่นของเมืองสวอนซีประเทศเวลส์ จนทำให้ Susan Rogers วัย 61 ปีผู้เป็นเจ้าของบ้านอันเป็นที่อยู่ของพุ่มไม้ยักษ์นี้ถูกสั่งให้ตัดกิ่งไม้ออกบ้างเพื่อจำกัดความสูงไม่ให้บังแสงอาทิตย์ที่จำเป็นสำหรับบ้านหลังอื่นๆ Beryl Robbins ผู้ประสานงานในพื้นที่ ขององค์กร Neighbourhood Watch ได้กล่าวว่า “การพยายามคุยกับคุณ Rogers ถึงปัญหาต้นไม้กล่าวไม่ประสบความเสร็จ เราจึงต้องติดต่อคุณ Jennifer Raynor เพื่อที่จะหาทางลดความสูงของพุ่มไม้นี้ พุ่มไม้ยักษ์นี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คน เพราะนอกจากจะบดบังทัศนียภาพแล้วยังทำให้พวกเขาไม่ได้รับแสงสว่างและแสงแดดเท่าที่ควรอีกด้วย” Raynor กล่าวว่า “คุณ Rogers ต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน ผู้ตรวจการให้เวลาเธอ 3 เดือนเพื่อตัดกิ่งพุ่มไม้เหล่านี้ เธอยังเหลือเวลาอีกมากก่อนจะถึงการเปิดฤดูทำรังของนก” Louise Gibbard สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่า “พุ่มไม้นี้ส่งผลเสียต่อสังคม ผู้ตรวจการได้ลงไปเยี่ยมบ้านที่ประสบปัญหาและเห็นว่าพุ่มไม้ยักษ์นั้นด้วยตัวเอง เราต้องการให้การจัดการเรื่องนี้เริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุด” ปัจจุบันกำลังรอความเห็นจากคุณ Rogers เจ้าของบ้านและเจ้าของพุ่มไม้สนยักษ์ดังกล่าว…
-
เพจข่าวโพสต์ “พระเดินบนน้ำ” ร้อนถึงพระออกมาแก้ อาตมาอยู่อเมริกา หนาวจนเป็นน้ำแข็งจ้ะโยม!!
กำลังกลายเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาชาวเน็ตแบบขั้นสุด หลังมีเพจข่าวเพจหนึ่งได้ทำการโพสต์คลิป และภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่งที่กำลังเดินอยู่บนน้ำ!? โดยโพสต์ดังกล่าวได้ให้แคปชั่นเอาไว้ว่า “เป็นบุญตายิ่งนัก พระอริยะสงฆ์ลาวเดินบนผิวน้ำไม่จมอย่างน่าเหลือเชื่อ!!!” คลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งตัวโพสต์นั้นมียอดแชร์ออกไปกว่า 20,000 ครั้ง โดยจะมีจุดประสงค์อะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังโพสต์ด้านบนนั้นหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ อาจจะทำขึ้นมาขำๆ หรือจงใจสร้างความสับสนให้กับชาวเน็ตกันแน่!? แต่ที่แน่ๆ มีคนหลงเชื่อและแชร์ไปแล้วมากมายเกือบ 20,000 แชร์เลยทีเดียว โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ที่ได้เห็นภาพและคลิปดังกล่าวก็ได้มีความเห็นออกเป็นหลายเสียงด้วยกัน บ้างก็ภาวนาสาธุกันไป บ้างก็ด่าโจมตีพระสงฆ์ที่อยู่ในรูปว่าจงใจทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย แต่ มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ คนที่เห็นอาจจะไม่ทราบเลยว่าคลิปเดินบนน้ำนี้ไม่ได้เกิดในประเทศไทย และที่มันเกิดขึ้นได้เพราะนั่นไม่ใช่น้ำ แต่เป็นพื้นน้ำแข็งต่างหาก จึงเดือดร้อนไปถึงเพจของพระท่านหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในคลิปและรูปภาพดังกล่าวได้ออกมาแก้ไขข่าวว่า “ภาพชุดสุดท้ายของวันนี่้ 4 มกราคม 2561 ณ วัดอาคันซอส์พุทธวนาราม เมืองฟอร์ทสมิธ รัฐอาคันซอส์ สหรัฐอเมริกาก่อนที่น้ำแข็งในในสระจะละลาย เลยเก็บภาพนี้ไว้ดูเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ญาติธรรมท่านใดที่คิดว่าเดินบนน้ำได้ โปรดใช้สติปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง ให้ดีก่อนที่ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ไม่ดีออกมา อธิบายให้ชัดเจนแล้วนะ หวังว่าทุกๆ ท่านจะเข้าใจ” เป็นน้ำซึ่งเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็งนั่นเอง…. . แหม๊ เล่นเอาภาพข่าวมาลงแล้วให้แคปชั่นแบบนี้เป็นใครใครก็เข้าใจผิดกันหมด ฉะนั้นจะเสพข่าวอะไรก็ขอให้มีสติกันหน่อยนะจ๊ะทุกคนนนนน!!
-
นี่คือภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำไม ‘โรมาเนีย’ ถึงเป็นประเทศที่ควรค่าแก่การไปเยือนมากที่สุด!!
สำหรับหลายๆ คนการได้เดินทางท่องเที่ยวนั้นก็เหมือนกับการได้เติมพลังหลังจากที่ตั้งใจทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และตีตั๋วไปต่างประเทศนั้นก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว!! และถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำกลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในต่างแดนที่สวยๆ และไม่เหมือนใครล่ะก็ เราขอแนะนำประเทศโรมาเนียเลย รับรองได้ว่าสวยงามและน่าประทับใจอย่างแน่นอน!! ถ้าไม่หากใครไม่เชื่อล่ะก็… ลองไปพิสูจน์กันกับภาพเหล่านี้เลย… คุณ Aurel Paduraru หนุ่มชาวโรมาเนียผู้หนึ่ง ได้โพสต์ภาพความสวยงามของประเทศบ้านเกิดเขา พร้อมกับเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาสัมผัสความสวยงามที่นี่ “โรมาเนียมีด้วยกันถึง 4 ฤดู และมีความสวยงามของธรรมชาติมากมายไม่ว่าจะเป็น ทะเล แม่น้ำ บ้านเมือง หรือสัตว์ป่าพันธุ์หายาก และความลับของธรรมชาติอีกมากมายให้คุณมาค้นหา รวมไปถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีอีกด้วย” ชายหนุ่มกล่าว ภาพความสวยงามของธรรมชาติและสัตว์ป่า ในประเทศจากยุโรปตะวันออกแห่งนี้ . ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศแบบไหน ที่นี่ก็มีให้คุณได้เลือกสัมผัส . . . . . . ส่วนในตอนกลางคืน ก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว . วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนอยากมาสัมผัส . . . ส่วนใครที่ชอบธรรมชาติล่ะก็มาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะที่โรมาเนียนั้นเต็มไปด้วยนกพันธุ์หายากมากมาย .…
-
ทัวร์โรงแรมน้ำแข็งธีม Game of Thrones บรรยากาศแบบเวสเทอรอส นอนคืนเดียวได้ทัวร์ทั้งเรื่อง
วันนี้เราจะพาคุณเข้าไปในโลกแฟนตาซีสุดดาร์กของ George R. R. Martin ผู้แต่งนวนิยายชื่อดังอย่าง A Song of Ice and Fire หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Game of Thrones โดยการพาไปทัวร์โรงแรมน้ำแข็งแห่งหนึ่งในประเทศฟินแลนด์ โรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่ใน Snow Village หรือ หมู่บ้านน้ำแข็ง ที่รูปร่าง ขนาด และดีไซน์ที่เปลี่ยนไปทุกๆ ปี โดยหิมะและก้อนน้ำแข็งจำนวนมากจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสถานที่แห่งนี้ในแต่ละปี ราวๆ 200 กิโลเมตรเหนือวงกลมอาร์กติก บริเวณนั้นถูกเรียกว่าแลปแลนด์ ซึ่งเป็นอาณาเขตทางใต้ของประเทศฟินแลนด์ คือที่ตั้งของหมู่บ้านน้ำแข็งนี้ ซึ่งหากเดินทางจากท่าอากาศยาน Kittilä จะไปถึงได้โดยง่าย หมู่บ้านหิมะดังกล่าวมีขนาดถึง 20,000 ตารางเมตร โดยภายในจะประกอบไปด้วย โรงแรมน้ำแข็ง ภัตตาคารน้ำแข็ง บาร์น้ำแข็ง และโบสถ์น้ำแข็ง และที่พิเศษที่สุดก็คือ โรงแรมน้ำแข็งที่ในปีนี้มาในธีม “Game of Thrones” นั่นเอง โรงแรมน้ำแข็งนั้นจะมีทั้งห้องธรรมดาและห้องพิเศษ โดยห้องต่างๆ ได้รับการออกแบบจากประติมากรทั้งจากรัสเซีย โปแลนด์ ลัตเวีย และยูเครน ภายในโรงแรมจะมีทั้งบังลังก์เหล็กขนาดเท่าตัวคน หอที่เก็บใบหน้าแห่งบราวอส และที่ขาดไม่ได้ก็คือไวท์วอล์คเกอร์ (ตามีสีฟ้าด้วยนะ)…
-
พ่อแม่ตัดสินใจขายทุกสิ่ง และพาลูกๆ ออกจากโรงเรียน เพื่อไปเรียนรู้โลกทั้งใบ…
คนบ้านเรามีคำพูดที่ว่า “พ่อแม่ขายนาส่งลูกเรียน” ที่เป็นคำพูดเตือนใจให้พวกเราตั้งใจเรียนกันอยู่ แต่ที่ Hertfordshire ยังมีพ่อแม่คู่หนึ่งตัดสินใจเลือกที่จะ ขายของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็พาลูกๆ ออกจากโรงเรียนไปเที่ยวรอบโลกแทน Chris Jackson อดีตแพทย์สนามประจำรถพยาบาลจาก ลอนดอน วัย 35 ปี และ Donna ภรรยาของเขา คิดว่าการปล่อยลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ Ellie และลูกสาวคนเล็ก Miley เรียนในโรงเรียนต่อไปจะเป็นการทำลายความฝันและทำให้พวกเธอไม่มีความสุข เมื่อปี 2017 พวกเขาตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี พาลูกสาวทั้งสองออกมาโรงเรียนและตัดสินใจออกเดินทางไปรอบโลกโดยไม่หันกลับมา “มันเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ในชีวิตเลย” Chris กล่าว “เมื่อก่อนภรรยาของผมกำลังเรียนด้านการพยาบาลเด็ก พวกเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยทั้งที่เป็นสามีภรรยากัน แถมยังไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ อย่างที่ควรจะเป็น พอคิดได้แบบนั้นพวกเราก็คิดขึ้นได้ว่า ‘เราน่าจะไปเที่ยวกันนะ’ แล้วเราก็ทำมัน” Donna ที่อยู่ด้วยกันเสริมขึ้นว่า “ในตอนที่แก่ตัวขึ้นผู้คนมีแนวโน้มที่จะอยากได้ในสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำ แล้วก็มานั่งพูดถึงสิ่งที่เขาควรทำ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาทำมันจริงๆ” “ในโลกยุคที่ผู้คนให้ iPad กับเด็กๆ ของพวกเขาแล้วก็ปล่อยให้เด็กจ้องมันไปหลายๆ ชั่วโมง พวกเรากำลังสอนพวกเด็กๆ ของเราในสิ่งที่เราอยากให้พวกเขาได้รู้จัก” เธอเล่า ตั้งแต่ออกเดินทางไปพวกเขาได้แชร์เรื่องราวของพวกเขาบนสื่อต่างๆ อย่าง Youtube…
-
หนุ่มเนรมิตผลงาน “โปสเตอร์หนังเทศสไตล์ไทย” ได้กลิ่นอายแบบเต็มๆ เฮ้ย…มันใช่เลยอ้ะ!!
นอกจากเนื้อหา ตัวนักแสดง รวมไปถึงฉากสุดอลังการต่างๆ แล้ว “โปสเตอร์หนัง” ก็ถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เราอยากจะดูหนังเรื่องนั้นเหมือนกันนะ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาคอหนังทุกคน มารับชมภาพโปสเตอร์หนังดังเจ๋งๆ ที่ถูกเนรมิตขึ้นใหม่ให้อยู่ในรูปแบบสไตล์ไทยๆ บอกเลยว่าความคิดสร้างสรรค์นั้นมาเต็ม ที่เพิ่มมาคือความเฮฮาปาจิงโกะ ฮร่าๆ สำหรับผลงานทั้งหมดนี้เป็นของคุณ ติวเตอร์ ณัฐภูมิ สกนธ์ธัญลักษณ์ ผู้ที่ได้เนรมิตภาพโปสเตอร์หนังเทศให้มาอยู่ในสไตล์ไทย ซึ่งทางเราก็ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์คุณติวเตอร์ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมาด้วย ซึ่งคุณติวเตอร์ก็เล่าว่า “นี่เป็นงานที่ผมทำส่งอาจารย์ในหัวข้อภาพยนตร์ครับผม บวกกับตัวเองอยากลองทำภาพประกอบ จึงคิดที่จะทำเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ 10 เรื่องครับ แต่จะแค่ให้วาดภาพเหมือนอย่างเดียวก็ไม่น่าสนใจครับ ผมจึงคิดที่จะหา Concept คลุมตัวงานอีกทีครับ ซึ่งในที่นี้คือ Concept สไตล์ไทยครับผม” ต้องบอกเลยนะว่ากว่าจะออกมาเป็นผลงานเจ๋งๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะแต่ภาพนั้นใช้เวลาทำไม่เท่ากัน โดยภาพแรกๆ นั้นจะอยู่ในช่วงทดลองวาดก็เลยใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ ในขณะที่ช่วงหลังๆ จะใช้เวลาเร็วขึ้น ดังนั้น จากที่นานเป็นอาทิตย์ก็ลดเหลือภาพละ 2 วัน ไปจนถึงวันเดียว แต่ถ้าหากทำแบบไม่รีบมากก็จะใช้เวลาประมาณ 3 วันต่อ 1 รูป…
-
คำว่า ‘แฟชั่น’ ไม่ได้ไกลตัวเรา เมื่อของบนเวทีระดับโลก ดูคล้ายๆ ของในเมืองไทยจังเลย….
ในแต่ละปีวงการแฟชั่นระดับโลกก็มักจะออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ มาอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่ามีการอัพเดทบนรันเวย์ตลอด แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะตามกระแฟชั่นเหล่านี้ เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวและอีกเหตุผลหลักๆ ก็คือ แบรนด์เหล่านี้มีราคาแรงแพงมโหฬาร!! Paris Fashion Week เวทีแฟชั่นระดับโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว คำว่า ‘แฟชั่น’ มันก็มักจะวนเวียนไปเรื่อยๆ ของเก่าก็ถูกนำมาปรับดีไซน์ใหม่ แต่ที่แน่ๆ ว่าในปีนี้คอลเลคชั่นใหม่ที่เพิ่งออกมา ทำให้สะกิดต่อมความเป็นโลคอลแถวบ้านเราได้ชัดเจน โดยล่าสุดมีสามแบรนด์ที่รู้สึกว่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากแถวๆ บ้านเรารึเปล่านะ? มาเริ่มกันที่รองเท้าแตะหูคีบ หูหนีบ สีขาวตัดน้ำเงิน แปะโลโก้ Nike ดูดีงามตามสไตล์ของ Nike เลยแหละ เอ ว่าแต่มันคล้ายๆ กับของแถวๆ นี้เลยนะ ปิ๊ง!! อ่ะ มาต่อกันที่กระเป๋าจากแบนรด์ Bottega Veneta มีลวดลายที่สวยงาม มีทั้งแบบกระเป๋าถือและกระเป๋าเงิน ออกไปโลดแล่นบนเวทีดูดีมีสง่าราศี แต่ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกลเลย บ้านเราก็มี กระเป๋าสานใบลานไง!! ใบเล็กๆ…
-
ไปชมกันว่า “อาหารกลางวัน” ของเด็กในโรงเรียนแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ในตอนที่เราเป็นเด็กเวลาไปโรงเรียนตอนพักเที่ยงเราก็จะได้กินอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งอาจทำให้หลายคนจดจำมาได้จนถึงตอนนี้ ซึ่งหน้าตาของอาหารที่เราต้องเจอในแต่ละวันก็จะไม่ได้แตกต่างกันมาก แล้วหน้าตาของอาหารกลางวันประเทศอื่นๆ หน้าตามันจะเป็นอย่างไร จะดูคล้ายกับที่เราเคยกินตอนเด็กหรือเปล่า? เราไปดูกันเลยว่าแต่ละประเทศมีอาหารกลางวันเป็นแบบไหนกันบ้าง เกาหลีใต้ อาหารกลางวันของที่นี่เรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดมื้ออาหารได้เลย โดยจะแบ่งช่องใหญ่ไว้สำหรับใส่ข้าวและซุป นอกนั้นเป็นผักผลไม้หรืออาหารทะเล ซึ่งส่วนใหญ่อาหารที่เด็กได้กินก็จะเป็นซุปฟักทองมันฝรั่ง สลัดแตงกวาและแครอท หรือของขึ้นชื่ออย่างกิมจิ นอกจากนั้นหากเด็กคนไหนตัวเล็กกว่าปกติพวกเขาก็จะให้เด็กได้กินน้ำมันปลาที่ผ่านการคำนวนมาแล้วอีกด้วย ญี่ปุ่น ดูแล้วมีความคล้ายคลึงกับของเกาหลีอยู่บ้างที่เพิ่มมาจริงๆ ก็คือนมกล่อง เด็กญี่ปุ่นไม่สามารถห่อข้าวมากินเองได้จนกว่าจะขึ้นมัธยมปลายและการกินข้าวเที่ยงจะไม่ได้ไปกินที่โรงอาหารแต่จะมีมาเสิร์ฟให้กินในห้องเรียนแทน อังกฤษ มันฝรั่งทอด แครอทมาพร้อมกับโจ๊กและสลัดกับผลไม้ ของหวานจะเป็นวาฟเฟิลราดช็อกโกแลต แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่มีงบไม่พอทำให้ต้องแจกอาหารฟาสต์ฟู้ดแทน ถึงอย่างนั้นเด็กๆ ก็ชอบกินกันนะ สหรัฐอเมริกา นี่คืออาหารกลางวันในรัฐเวอร์จิเนียซึ่งความเป็นจริงจะแตกต่างกับอาหารที่เด็กอเมริกันส่วนใหญ่กิน เพราะพวกเขานิยมฟาสต์ฟู้ดกันมากกว่า หรือไม่งั้นพ่อแม่ก็จะห่อข้าวให้ ตุรกี เป็นอาหารที่บำรุงสมองอย่างแท้จริงเพราะเต็มไปด้วยผลไม้และธัญพืชจากขนมปังข้าวไรย์ ถั่ววอลนัท และเครื่องดื่ม Kefir ที่ทำมาจากนมวัว ฝรั่งเศส อาหารกลางวันของประเทศนี้ค่อนข้างที่จะเป็นมื้อใหญ่และพวกเขาจะให้เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมงในการรับประทาน นอกจากนั้นเด็กๆ ยังสามารถกลับไปกินข้าวที่บ้านระหว่างพักได้…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมพยาบาลสาว หลังเธอปฏิเสธไม่ให้เขาเจาะเลือดผู้ป่วยหมดสติ
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลต่างประเทศ กับกรณีของพยาบาลสาวรายหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ให้ทำการเจาะเลือดของชายแปลกหน้าขณะที่กำลังนอนหมดสติอยู่ในโรงพยาบาล ตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันเป็นเหตุให้เธอถูกจับกุมในที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐ Utah เมื่อพยาบาลสาว Alex Wubbels ได้ทำการปฏิเสธกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Jeff Payne ไม่ให้เขาทำการเจาะเลือด ผู้ป่วยรายหนึ่งที่กำลังนอนหมดสติอยู่บนเตียงจากอุบัติเหตุรถชน ซึ่งทาง Wubbles ก็ได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ Payne ฟังว่าทางโรงพยาบาลได้มีการกำหนดนโยบายเอาไว้ว่าไม่สามารถเจาะ หรือนำเลือดของผู้ป่วยที่หมดสติออกจากร่างกายได้หากพวกเขาไม่ยินยอม แต่จะยกเว้นได้ก็ต่อเมื่อเขาถูกจับดำเนินคดี หรือมีการออกหมายและมีลายลักษณ์อักษรจากศาลว่าสามารถให้เจาะเลือดของเขาไปทำการตรวจสอบได้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ Payne จะมีท่าทางไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่ เขาตอบกลับไปว่า “จะให้ผมกลับไปพร้อมกับเลือดหรือจะให้ลากตัวเอาออกไป!?” Wubbles ก็ยังคงอธิบายถึงกฎและข้อบังคับของทางโรงพยาบาลให้ฟังอีกครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ Payne ก็ยังคงยืนกรานว่าจะเอาเลือดของผู้ป่วยไปให้ได้ พร้อมกับออกปากเตือนว่าระวังเธอจะถูกจับด้วยนะหากขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ “ถ้าคุณกำลังขู่ฉันอยู่ล่ะขอบอกเลยว่าคุณกำลังทำในเรื่องที่ผิดมหันต์” Wubbles กล่าว “เราหมดธุระที่นี่แล้ว” เจ้าหน้าที่ Payne ตอบ พร้อมกับจับแขนของ Wubbles ลากออกไปนอกตึกโรงพยาบาลแล้วก็นำกุญแจมือใส่เธอ ระหว่างนั้น Wubbles ก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ “ใครก็ได้ ช่วยด้วย ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว!!” …
-
หากมีงบ 50,000 บาท นี่คือสภาพห้องพักรายเดือน ในแต่ละประเทศทั่วโลก ที่คุณจะได้รับ!!
การเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ เรียกได้ว่าถือเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ของบรรดานักเดินทาง แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร รวมถึงค่าที่พัก และแน่นอนว่าการได้เช่าที่พักราคาถูกก็อาจจะช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณได้ไปพักยังห้องพักที่ตั้งอยู่ในเมืองต่างๆ จากทั่วโลกนี้ บอกเลยว่าเงินเพียงแค่ 1-2 หมื่นอาจจะยังคงไม่พอ แต่คุณจะต้องจ่ายมากถึง 1,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 50,000 บาท เทียบกับอัตราส่วนดอลลาร์สหรัฐฯ) และนี่คือสภาพของห้องพักที่คุณจะได้รับ หากคุณยอมจ่ายมัน 1.กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (51,000 บาท) 2.กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (44,000) 3.กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี (45,000) 4.เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล (49,000 บาท) 5.นครมุมไบ ประเทศอินเดีย (49,000 บาท) 6.นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (47,000 บาท) 7.บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา (49,000 บาท) …
-
10 เมืองสำคัญ ในต่างประเทศ ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็น “เมืองหลวง”
โดยส่วนมากแล้วถ้าหากใครที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของประเทศต่างๆ ก็คงจะคุ้นเคยกับชื่อเมื่องใหญ่ๆ กันเป็นอย่างดี และบางคนก็อาจจะเข้าใจกันผิดว่าเมืองใหญ่ๆ ที่พวกเราคุ้นหู คือเมืองหลวงของประเทศเหล่านั้น แต่ในความจริงๆ เมืองใหญ่ๆ อย่าง นิวยอร์ก อิสตันบลู หรือรีโอเดจาเนโร นั้นไม่ใช่เมืองหลวงแต่อย่างใดนะ อ่า.. แล้วจะมีเมืองไหนอีกบ้างนะที่พวกเรามักจะเข้าใจกันผิดไปชมกันเลย… 10. Ho Chi Minh ประเทศเวียดนาม หนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม และเป็นเมืองที่มีขนาดประชากรมาร้อยละ 7.5 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งนั่นอาจทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดว่านี่เป็นเมืองหลวงของเวียดนาม แต่จริงๆ แล้วเมืองของของประเทศนี้คือ ฮานอย ต่างหากล่ะ 9. Mumbai ประเทศอินเดีย หนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญของประเทศอินเดีย มหานครแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอาหรับ ซึ่งความเก่าแก่และชื่อที่คุ้นหูอาจทำให้หลายๆ คนคิดว่ามุมไป หรือ บอมเบย์ นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย แต่แท้ที่จริงแล้วเมืองหลวงของประเทศนี้คือ นิวเดลี ต่างหากล่ะ 8. Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองใหญ่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ถูกหลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าเป็นเมืองหลวง เพราะมีผู้คนเยอะมากหลากหลายเชื้อชาติ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างเช่น Hollywood ที่เรารู้จักกันดี …
-
ความรักที่ไม่มีกำแพงกั้น… งานแต่งของหญิงสาวคู่รักเพศเดียวกัน เป็นคู่แรกของออสเตรเลีย
ยังคงเป็นอีกหนึ่งกระแสที่มีการเคลื่อนไหวให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ในต่างประเทศ นั่นก็คือเรื่องของเสรีภาพทางด้านเพศ ล่าสุดได้มีเรื่องดีๆ เกี่ยวกับการยอมรับเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้ นเมื่อหญิงสาวคู่หนึ่งกลายเป็นคู่แต่งงานเพศเดียวกันชาวออสเตรเลียกันคู่แรก… คุณ Carly Naughton วัย 31 ปี และคู่รักของเธอคุณ Alee Fogarty วัย 28 ปีได้เข้าร่วมพิธีแต่งงานในเมือง Surfers Paradise เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ทั้งสองพบกันเมื่อปี 2015 ก่อนที่จะเริ่มสร้างความสัมพันธ์และตกลงแต่งงานกัน ทั้งสองได้กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ (Evermore Pledge) โดยถึงแม้ว่าในตอนนี้การแต่งงานของเพศเดียวกันยังไม่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศออสเตรเลียก็ตาม แต่การกล่าวคำปฏิญาณดังกล่าวนั้นจะมีผลบังคับทางกฏหมายทันที เพราะมันเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฏหมายการสมรสในออสเตรเลีย ซึ่งจะรวมถึงการทำพินัยกรรมต่างๆ การทำหนังสือมอบอำนาจ หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์อีกด้วย ทั้งคู่ดีมีความสุขในวันพิเศษของพวกเขามาก คุณ Naughton กล่าวว่า “สำหรับพวกเราแล้วนี่ไม่ใช่แค่พิธีแต่งงาน แต่เราต้องการที่จะใช้ชีวิตในอนาคตร่วมกัน การกล่าวคำปฎิญาณนั้นก็มีผลทางกฎหมาย พวกเราต้องการที่จะอยู่เคียงข้างกันไปตลอด” งานแต่งานจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย โดยมีเพื่อนสนิทและคนในครอบครัวร่วมเป็นพยานรักของทั้งคู่ ทั้งสองสัญญาจะดูแลกันตลอดไป และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ให้แก่กัน การกล่าวคำปฏิญาณ (Evermore Pledge)…
-
หนุ่มใส่ขาสั้นไปทำงานเพราะอากาศร้อน แต่ถูกไล่กลับไปเปลี่ยนชุด งั้นใส่เดรสประชดแม่ม!!
สำหรับเหล่าพนักงานบริษัทต่างๆ แล้ว จะคิดกันว่าการไปทำงานนั้นจะต้องแต่งตัวสุภาพแบบกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต อะไรทำนองนี้ไปทำงานในทุกๆ วัน แต่สำหรับนาย Joey Barge หนุ่มพนักงานวัย 20 ปี จากเมือง Buckinghamshire ประเทศอังกฤษ ได้ตัดสินใจสวมกางเกงขาสั้นเพื่อไปทำงานในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบสุดๆ แต่ทว่าพอไปถึงที่ทำงานกลับโดนหัวหน้าไล่กลับมาที่บ้านมาซะงั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าแต่งตัวไปทำงานไม่เหมาะสม!? ด้วยความคับแค้นใจว่าทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ แต่การที่ใส่กางเกงขาสั้นไปทำงานกลับไม่สุภาพซะงั้น ก็เลยโพสต์ข้อความตัดพ้อลงบนทวิตเตอร์ว่า “ถ้าผู้หญิงสามารถสวมชุดเดรส หรือกระโปรงสั้นๆ ไปทำงานได้ แล้วทำไมผมถึงใส่กางเกงขาสั้นไปทำงานบ้างไม่ได้ล่ะ?” แต่แทนที่จะกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดสุภาพเพื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง เขาก้กลับเปลี่ยนไปใส่ชุดเดรสสีชมพูไปทำงานแทนเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ สิ่งที่เขาคิดไว้ในตอนแรกหลังจากเดินทางไปถึงที่ทำงานก็คือการถูกไล่กลับไปเปลี่ยนชุดอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาชนะ และเจ้านายก็ยอมให้พนักงานชายสามารถสวมใส่กางเกงขาสั้นมาทำงานได้… แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนและต้องมีสีเข้มไม่มีลวดลายเท่านั้น ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ ฮร่าาาาา แต่การที่เขาไม่ได้ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านนั้น ทำให้นาย Joey ต้องสวมชุดเดรสสีชมพูทำงานอยู่ที่บริษัททั้งวัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเขินอายเลยแม้แต่น้อย “เจ้านายบอกว่าสีมันจี๊ดจ๊าดไปหน่อยนะ ถ้านายต้องการจะกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่เป็นไร แต่ผมบอกไปว่าผมมีความสุขดี แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกด้วย” Joey เล่า ที่มา : dailymail
-
หากว่าการสอบเข้า Harvard มันยากแล้ว… ขอบอกเลยว่า 10 เรื่องต่อไปนี้ยากยิ่งกว่าซะอีก!!
มหาวิทยาลัย Harvard University ถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จึงไม่แปลกเลยที่จะมีผู้คนมากมายจากทั่วโลกต่างก็อยากเข้ามาสมัครเรียนที่นี่กันทั้งนั้น ในแต่ละปีมียอดตัวเลขผู้สมัครสูงถึง 34,000 คนเลยทีเดียว!! แต่ในจำนวนผู้สมัครที่มากมายขนาดนี้จะมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนเพียง 5.9% หรือถ้าคิดเป็นจำนวนคนก็ประมาณ 1,700 คนเท่านั้น แน่นอนว่าอีก 32,000 กว่าคนที่เหลือก็ต้องผิดหวังและกลับบ้านไปทั้งหมด แหม่ ฟังดูแล้วเพื่อนๆ อาจจะคิดว่าการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Harvard เป็นอะไรที่หินแบบสุดๆ แล้วใช่มั้ยล่ะ? แต่ขอบอกเลยว่านายคิดผิด!! เพราะยังมีเรื่องที่ยากยิ่งกว่านี้ซะอีก ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ลองตามไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างได้เลย…กับ 10 เรื่องที่ยากยิ่งกว่าการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Harvard 1. การสมัครเข้าทำงานในบริษัทกองทุนบริหารความเสี่ยงขนาดยักษ์อย่าง Citadel LLC การหางานเกี่ยวกับการเงินใน Wall Street ว่ายากแล้ว การเข้าทำงานในบริษัท Citadel ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย แต่ล่าสุดผู้ก่อตั้งและ CEO Ken Griffin ที่เป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย Harvard ก็ได้มีการเปรยๆ ออกมาถึงแผนการในอนาคตของ Citadel ว่าเขาต้องการที่จะเปิดรับสมัครและสัมภาษณ์คนมากกว่า 10,000…
-
ส่อง 20 เมนูแปลกตา เอกลักษณ์ของ McDonald’s แต่ละประเทศ คุณล่ะอยากกินด้วยไหม!?
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไปฝากท้องกับแมคโดนัลด์อยู่บ่อย คุณต้องรู้แน่ๆ ว่าแมคโดนัลด์ของไทยเรานั้นมีเมนูอะไรบ้าง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแมคโดนัลด์ในต่างประเทศเขาก็มีเมนูแปลกใหม่ ที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน ในบทความนี้เราจึงจะพาไปส่องแมคโดนัลด์ทั่วโลกว่าเขามีเมนูแปลกๆ ต่างจากประเทศไทยเราอย่างไรกันบ้าง แมคโดนัลด์แต่ละประเทศจะมีกลยุทธ์เสนอเมนูอาหารอย่างไรให้โดนใจคนประเทศนั้นๆ นั่นเอง 1. Chicken with Spaghetti สปาเก็ตตี้ซอสโบโลเนส(ซอสมะเขือเทศที่มีกลิ่มหอมเครื่องเทศ)กับไก่ทอด ประเทศอินโดนีเซีย 2. Desayuno Especial Mexicano อาหารชุดนี้อยู่ในประเทศเม็กซิโก ประกอบได้ด้วยไข่คนเม็กซิกันรสเผ็ด ไส้กรอก ชิ้นเนื้อจากแมคโดนัลด์ บนขนมปังวางด้วยชีส ราดด้วยถั่วและซอสซีซาร์ 3. Pao de Queijo ขนมปังเนยแข็งแบบบราซิล ที่เป็นอาหารเช้าสำหรับชาวบราซิลทุกคน 4. McToast แซนวิชไส้แฮมและชีสกดย่างให้เป็นทรงคล้ายปีกนก มีขายที่ในโครเอเชียเท่านั้นนะ 5. McKřen ในสาธารณรัฐเช็ก มีเบอร์เกอร์ที่อัดแน่นไปด้วยแฮมเบิร์กหมู 2 ชิ้นเต็มๆ มะเขือเทศสองชิ้น และราดด้วยซอสรสเผ็ดทั้งหมดรวมกันอยู่ในขนมปังนุ่มๆ 6. McFlurry Tobleron ช็อคโกแลคทรงสามเหลี่ยมที่ทุกคนชื่นชอบได้กลายมาเป็นไอศกรีมในแมคโดนัลด์แล้ว 7. Rye Vegetarian Feast ขนมปังกรอบๆ กับเชดด้าชีส สลัดผักดองและซอสสามชนิดที่แตกต่างกัน…
-
เหล่านักโทษยื่นเรียกร้องให้สามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าเรือนจำได้ เพื่อบำบัดความเครียด…
มีนักโทษในเรือนจำ HM Prison Lowdham Grange ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งแคมเปญให้นักโทษสามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าไปใช้ในเรือนจำได้!? จากการให้สัมภาษณ์ของนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำ HM ที่เป็นผู้ก่อตั้งเคมเปญชื่อว่านาย กล่าวว่า Jack Swarez “เหล่าตุ๊กตายางจะช่วยในเรื่องของพฤติกรรมของเหล่านักโทษ เพราะพวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้” นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ทางรัฐบาลจะไม่ต้องรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นกับแคมเปญนี้ เพราะเหล่านักโทษจะใช้เงินของตัวเองในการซื้อมันมาเข้ามาใช้ในเรือนจำเอง” นาย Swarez เล่าว่าถึงการทำแคมเปญนี้ขึ้นมาว่า “ปัญหาก็คือในเรือนจำของเรานั้นเต็มไปด้วยชายหนุ่มกลัดมัน และทุกๆ ครั้งที่พวกเขาจะปลดปล่อยความใคร่ของตัวเองก็มีเพียงมือข้างที่ถนัดเท่านั้น” “ซึ่งการอาศัยอยู่ในที่เรือนจำแห่งนี้ย่อมอาจทำให้นักโทษมีความเครียดสูง ฉะนั้นการหากิจกรรมลดความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” “ผมมีแรงบันดาลใจหลังจากได้ชมสารคดีที่ออกอากาศทางช่าง Channel 4 เป็นเรื่องราวของชายที่อาศัยอยู่ร่วมกับตุ๊กตายาง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความเครียดเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งมีสีหน้าที่มีแต่ความสุขอีกต่างหาก” “นอกเหนือไปกว่านี้การสูบลมเข้าไปในตุ๊กตายาง ย่อมทำให้หล่านักโทษที่ผ่านการสูบบุหรี่มาอย่างจัดเจน ได้รับการบริหารปอดอีกด้วย” “เหล่าผู้ต้องหาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับคู่หูตุ๊กตายางของตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญความเครียดมาทั้งวัน อันจะช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายและมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น” แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง? ก็ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
ฝันร้ายของตีนผี… อังกฤษแสบสัน ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว ยัดไว้ในถังขยะ!?
สำหรับคนที่มช้รถใช้ถนนกันอยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ ต้องเคยผ่านประสบการณ์การรับมือกับ ‘กล้องตรวจจับความเร็ว’ กันมาบ้างแล้ว และแน่นอนว่ามันช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญซะเหลือเกิน เพราะเราไม่ทราบว่าจุดติดตั้งกล้องอยู่ตรงไหน และกว่าจะรู้ตัวก็โดนใบสั่งตามมาถึงบ้านซะแล้ว สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมนวตกรรมกล้องตรวจจับความเร็วแบบใหม่จากประเทศอังกฤษ ที่จะมาเพิ่มความแอดวานซ์ให้กับการตรวจจับความเร็วยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้เลยว่าเป็นฝันร้ายของคนที่ชื่นชอบขับรถด้วยความเร็วเลยทีเดียว และนี่คือกล้องจับความเร็วแบบใหม่ที่กำลังจะถูกนำมาใช้งานตามถนนเส้นต่างๆ ในประเทศอังกฤษ หลังทำการทดลองใช้แล้วพบว่าได้ผลดีเยี่ยม โดยเจ้ากล้องแบบใหม่นี้ถูกออกแบบโดยบริษัทสัญชาติเบลเยียมชื่อว่า SecuRoad ที่จะใช้แสงอินฟาเรดในการตรวจจับความเร็ว ทำให้มันสามารถวางซ่อนอยู่ในสิ่งของแปลกๆ อย่างเช่น ถังขยะ หรือ รถที่จอดอยู่เฉยๆ ก็ได้ เจ้ากล้องนี้มีชื่อว่า ‘NK7’ มีค่าใช้จ่ายต่อตัวอยู่ที่ 1.8 ล้านบาท!! ด้วยการใช้แสงอินฟาเรดทำให้เหล่าผู้ใช้รถใช้ถนนไม่รู้ตัวถึงการมีอยู่ของมัน และสามารถจับความเร็วรถได้บนถนน 3 เลนเลยทีเดียวล่ะ โฆษกของบริษัทถึงกับขนานนามให้กับมันว่า ‘ฝันร้ายของเหล่านักขับตีนผี’ เลยทีเดียวเชียว และตอนนี้ทางการอังกฤษก็เริ่มนำเจ้ากล้อง NK7 เข้าไปติดกล้องตามถังขยะต่างๆ ไปแล้วมากกว่า 30 ตัว เชื่อว่ามันจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและช่วยให้ประชาชนขับขี่กันอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน นี่ถ้าขับกันแบบช้าๆ ก็จะไม่ต้องพะวงเลยว่าจะถูกใบสั่งส่งมาถึงที่บ้านน่ะ ที่มา…
-
ผลสำรวจน่าสนใจเรื่อง “การช่วยตัวเอง” ของชาวเน็ตต่างชาติ บ่อยแค่ไหน และทำอย่างไร?
ว่าด้วยเรื่องของ ‘การช่วยตัวเอง’ แน่นอนว่าทุกคนคงจะเคยผ่านกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย…ในวันนี้เราลองไปชมกันดูดีกว่าว่าในต่างประเทศนั้นผู้คนเขามีการทำกิจกรรมเกี่ยวกับการช่วยตัวเองกันอย่างไรบ้าง? จากโพลสำรวจในเว็บไซต์ Buzzfeed ที่มีคนเข้าร่วมตอบคำถามมากกว่า 300,000 คน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. จากผลสำรวจพบว่าผู้คนส่วนใหญ่ช่วยตัวเองไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ 2. คนส่วนใหญ่ใช้การดูหนังโป๊ในการเร้าอารมณ์ขณะทำการช่วยตัวเอง 3. กว่า 50% จากทั้งหมด ใช่เวลาในการช่วยตัวเองระหว่าง 4 ถึง 10 นาที 4. คนส่วนใหญ่มักจะช่วยตัวเองขณะที่มีเซ็กส์ไปด้วย 5. มากกว่า 34% จากทั้งหมดไม่เคยใช้เซ็กส์ทอยในการช่วยตัวเอง 6. คนกว่า 71% จากทั้งหมดไม่เคยใช้อาหาร (แตงกวา กล้วย ของกินอื่นๆ) ในการช่วยตัวเอง 7. ผู้คนมากกว่า 51% จากทั้งหมด ใช้การช่วยตัวเองเพื่อทำให้หายเศร้า …
-
ร้านทำเล็บติดป้ายคิดเงิน ‘คนอ้วน’ ในเรทแพงพิเศษ ชาวเน็ตข้องใจทำไมต้องทำแบบนี้?
โดยปกติแล้ว ‘คนอ้วน’ มักจะถูกตัดสินให้อยู่ในอีกสถานะหนึ่งในสังคม ทั้งๆ ที่พวกเขาก็เป็นมนุษย์ เพียงแต่ว่ามีความสุขกับการกิน และไม่ค่อยชอบการออกกำลังกายเท่านั้นเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความอ้วนนั้นมันไม่ดีต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนผู้คนในสังคมเดียวกันดูถูกและเหยียดหยามจนทำให้กำลังใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือลดน้ำหนักหายไปจนหมด จนอาจก่อให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ เช่นเดียวกันกับร้านทำเล็บที่ตั้งอยู่ในรัฐ Tennessee นี้ ที่กำลังโดนชาวเน็ตของสหรัฐฯ โจมตีอย่างหนักหลังขึ้นป้ายประกาศว่าจะทำการเก็บเงินคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปที่มาใช้บริการที่ร้าน มีคนถ่ายภาพป้ายประกาศนี้และนำมาแชร์ลงบนเฟซบุ๊ค ทำให้ชาวเน็ตมากมายเข้ามาต่อว่าทางร้านกันเพียบ… “ขออภัย หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักมากเกินไป การทำเล็บเท้ากับร้านของเรา ก็จะขอเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นมูลค่า 45 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,560 บาท) ขอบคุณ!” ภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปมากกว่า 500 ครั้ง หลายๆ คนต่างก็ตกใจกับภาพดังกล่าวว่าทำไมราคามันถึงบวกเพิ่มเข้าไปสูงซะขนาดนั้น บางคนก็ถึงกับต่อว่าทางร้านว่า ‘เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก’ ซึ่งโดยปกติแล้วทางร้าน Rose Nails จะเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นจำนวน 30 ดอลลาร์อยู่แล้ว (ประมาณ 1,040 บาท) แต่สำหรับคนอ้วนต้องเสียเพิ่มอีก 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 520 บาท) เจ้าของร้าน Rose…
-
ชาวเมืองตระหนก!! จู่ๆ น้ำประปาก็กลายเป็น “สีชมพู” เพราะมีด่างทับทิมมากเกินไป
โดยปกติแล้วหากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นกับเหตุการณ์หรือชีวิตประจำวัน หลายๆ คนก็คงจะเกิดอาการแปลกใจ และตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จากนั้นก็หาวิธีการแก้ปัญหา อาจจะเป็นการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาแก้ไข เป็นต้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ เมื่อชาวเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในรัฐ Alberta ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ เมื่อจู่ๆ น้ำประปากลายเป็นสีชมพูขึ้นมา!? ชาวเมือง Onoway ที่มีประชากรประมาณ 1,000 คน ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเมืองที่ได้พบเห็นกับเหตุการณ์ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดูน่ากลัวสุดๆ “น้ำเสียซะแล้ว ขอบคุณเมืองของฉันมาก ให้มันได้อย่างนี้สิ!!” ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นหนึ่งในชาวเมืองผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้กล่าวในแคปชั่นของวิดีโอที่เขาโพสต์ หลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตชองชาวเมืองมากๆ เพราะน้ำประปาที่ต่างประเทศนั้นไม่ได้มีไว้ใช้อาบ หรือซักล้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ดื่มกินได้อีกด้วย ซึ่งในเช้าวันต่อมาทางนายกเทศมนตรีของเมือง Onoway ก็ออกมาประกาศแจ้งให้ชาวเมืองทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำของโรงงานบำบัดน้ำเสีย “พวกเรากำลังดำเนินการหาข้อผิดพลาดที่แน่ชัดอยู่ และก็พบว่าวาล์วของท่ออาจจะเสีย เลยทำให้สารโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (ด่างทับทิม) ไหลเข้าไปในอ่างเก็บน้ำจนมากเกินไป จึงทำให้น้ำที่ถูกส่งไปตามบ้านเรือนต่างๆ กลายเป็นสีชมพู” ท่านนายกเทศมนตรีกล่าว ด่างทับทิมนั้นถูกใช้เพื่อดับกลิ่น และรสชาติอันไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในน้ำประปา และกระบวนการผลิตน้ำดื่ม อย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใช้มันในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพูได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางเทศบาลก็กำลังดำเนินการชำระล้างน้ำที่ปนเปื้อนกับด่างทับทิมที่มากเกินไปอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากชาวเมืองเกิดบริโภคเข้าไปล่ะก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน…
-
สัมภาษณ์แนวคิดดีๆ จาก “คุณทากะ” หนุ่มญี่ปุ่นผู้ศรัทธาพุทธศาสนา จึงมาบวชในประเทศไทย
ปกติแล้วในประเทศไทยเราจะได้เห็นว่าพระส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนไทย ส่วนน้อยมากๆ ที่จะมีชาวต่างชาติมาบวชเป็นพระเพื่อศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง #เหมียวเลเซอร์ เองได้มีโอกาสสัมภาษณ์ชาวต่างชาติท่านหนึ่ง อันเป็นผู้ศรัทธาพระพุทธศาสนาและรักประเทศไทยมากๆ คนหนึ่ง เขาก็คือ คุณทากะ จากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นท่านนี้นั่นเอง คุณทากะ เพิ่งจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของการเป็นพระในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันลาสิกขาและกลับภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราจะมาเรียนรู้มุมมองของชาวต่างชาติต่อการบวชเป็นพระในไทยกันสักหน่อย ว่าเขาจะมีความคิดและความรู้สึกอย่างไรบ้างกับการบวชในครั้งนั้น (บทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้รับการอนุญาตให้เผยแพร่แล้ว) ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวถึงคุณทากะสักนิดหน่อย เขาเป็นชาวญี่ปุ่นจากเมืองโอซาก้า เลือกเรียนเอกภาษาไทยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า อันเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางมาประเทศไทยของเขา เหมียวเลเซอร์: สวัสดีครับ #เหมียวเลเซอร์ จากเว็บไซต์แคทดั๊มบ์ ตามที่คุยไว้ว่าอยากจะนำเรื่องราวและแนวคิดของคุณทากะ ไปเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของเราครับ คุณทากะ: สวัสดีครับ ผมชื่อทากะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ เหมียวเลเซอร์: ยินดีที่รู้จักครับ ขออนุญาตคุณทากะ ช่วยแนะนำตัวให้ฟังหน่อยจะได้มั้ยครับผม คุณทากะ: ได้ครับ บ้านเกิดอยู่โอซาก้าใกล้ๆ สนามบินคันไซครับ ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยผมเริ่มเรียนภาษาไทยเป็นวิชาเอกที่มหาวิทยาลัยโอซาก้าครับ เหมียวเลเซอร์: โอ้ ตั้งใจเรียนภาษาไทยมาเลยเหรอครับ คุณทากะ: จริงๆ แล้ว ตอนแรกไม่ได้สนใจเรียนภาษาไทยครับ เเต่ผมเลือกภาษาไทยก็เพราะว่าคะแนนสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไม่ดี คิดว่าการเรียนเอกภาษาไทยคงมีอัตราแข่งขันต่ำกว่าภาษาอื่นๆ ก็เลยสมัครไปครับ …
-
หญิงอิตาลีสัญญาจะ “โจ๊กมู๋” ให้กับชาวอิตาลีที่โหวต No ในการลงประชามติ
คนเราเมื่อพูดอะไรไว้ ก็ต้องทำตามที่พูดให้ได้ ถึงจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือ และเช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวอิตาลีคนนี้… Paola Saulion หญิงชาวชาวอิตาลีวัย 27 ปี ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองอันแข็งกล้า ได้สาบานเอาไว้ว่าเธอจะทำการอมนกเขาให้กับชายทุกคนที่โหวต No ในการลงประชามติให้นายกรัฐมนตรี Renzi ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันเธอก็ได้เริ่มต้นทำการอมนกเขาให้กับผู้โหวต No ไปแล้วกว่า 400 ราย จนถึงกับทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อกรามอักเสบเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเดินหน้าทำตามสิ่งที่เธอได้ให้คำสัตย์เอาไว้ต่อไป Saulino ได้ทำการตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้หญิงที่พูดแล้วไม่คืนคำด้วยการอมนกเขาเป็นจำนวน 1 ล้านครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีชาวอิตาลีที่ไปร่วมลงชื่อโหวต No ในการลงประชามติ มากกว่า 100,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังรอการมาถึงของ Saulino อยู่ เธอได้กล่าวถึงเหล่าคนที่โหวต No ในการลงประชามติเอาไว้ว่าพวกเขาเป็นคนที่ฉลาดมากๆ “ด้วยเหตุผลนี้เองฉันอยากจะมอบการอมนกเขาที่แสนวิเศษให้กับพวกเขา และฉันก็คิดว่าพลังของพวกเขานั้นสำคัญกับพวกเราและประเทศชาติของเรามาก ขอบคุณพวกนายมากๆ นะ” Saulino นั้นทำงานเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ ซึ่งล่าสุดเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากทางองค์กรท้องถิ่นของ SSC Napoli ในการออกเดินทางไปทำภารกิจในครั้งนี้อีกด้วย เพื่อนๆ สามารถติดตามการเดินทางและภารกิจของเธอที่อินสตาแกรม insta_paolina ได้เลยนะจ๊ะ…
-
รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…
แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั้นกำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก เนื่องจากว่าหากมนุษย์ยังคงอยู่อาศัยในแบบที่เป็นอยู่ ไม่ชีวิตทางธรรมชาติหรืออาจจะเป็นชีวิตของมนุษย์เองที่ต้องพบกับการสูญเสีย สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการสัญจรผ่านเส้นทางหลวง ที่มีรถยนต์แล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบางเส้นทางจะตัดผ่านกับอุทยานแห่งชาติอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนั่นก็คือสาเหตุของอุบัติเหตุอันนำพาชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องแลกไป สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่าในประเทศเบลเยี่ยม บรรดานักอนุรักษ์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสัตว์ป่าเหล่านี้มาอย่างช้านาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ถูกพรากไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว แนวคิดของ Wildlife Crossing จึงถือกำเนิดขึ้นมา สะพานเพื่อความปลอดภัยของทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า มีประสิทธิภาพมากกว่าป้ายเตือนลดระดับความเร็วหลายเท่าตัว สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่าในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบถนนหนทางส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศถึง 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ และอุบัติเหตุรถยนต์ชนสัตว์ป่าคิดเป็นมูลค่าเสียหายสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (280 พันล้านบาท) สะพานทางข้ามทางลอดสามารถช่วยสัตว์ป่าให้เดินข้ามถนน จากท้องถนนอันวุ่นวายได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ถูกมนุษย์รบกวนแม้แต่น้อย สะพานสำหรับสัตว์ป่าในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่า สะพานลอดสำหรับรถยนต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่านั้นเริ่มขึ้นเป็นที่แรกในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 1950…
-
ชมขบวนพาเหรด “มอเตอร์ไซค์ผาดโผน” สุดจ๊าบ ที่จัดขึ้นในวันชาติของอินเดียทุกๆ ปี
ในวันที่ 26 มกราคมของทุกปี ถือเป็น ‘วันชาติ’ ของประเทศอินเดียเป็นวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญอันแสดงให้เห็นว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีอธิปไตยและเป็นสาธารณรัฐอย่างสมบูรณ์ ทำให้ความฝันของท่านมหาตมา คานธี บิดาแห่งประชาชาติของอินเดียและผู้ที่ต่อสู้เสียสละพลีชีพเพื่อเอกราชของประเทศกลายเป็นความจริง ดังนั้น ในวันที่ 26 มกราคม จึงได้รับการประกาศให้เป็นวันชาติและเป็นวันหยุดตั้งแต่นั้นมา สำหรับในวันนี้ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองไปทั่วประเทศ และส่วนที่เป็นไฮไลท์หรือที่จับตามองที่สุดก็คือขบวนพาเหรดรถมอเตอร์ไซค์ผาดโผน ที่จะมาโชว์ให้เหล่าชาวประชาได้รับชมนี่แหละ เหล่าเจ้าหน้ารักษาดินแดนที่ได้ทำการฝึกซ้อมเพื่อการแสดงผาดโผนนี้กันมาอย่างหนักหน่วง… ในทีมของเหล่าสตั๊นท์แมนทั้งหลายนั้นถูกตั้งชื่อว่าทีม “Daredevil” และรับหน้าที่ในการจัดแสดงโชว์ท่าขี่มอเตอร์ไซค์แบบหวาดเสียวมาให้เห็นกันในทุกๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีเทคนิคต่างๆ มาให้ทุกคนได้ชมกันอยู่เสมอ และสำหรับในปี 2017 นี้เองก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อตัวกันบนรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมกับมีการยืนทรงตัวข้างบน สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก เอาบันไดมาต่อเพื่อขึ้นไปยืนข้างบนก็ได้นะเออ!! ที่มากไปกว่านั้นมีการหมุนติ้วๆ ด้วย (เห็นแล้วเวียนหัวแทน ฮร่า) ลองไปชมคลิปขบวนพาเหรดกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้… ระ ระ ร้ายกาจจจ (ได้สติ้กเกอร์ตัวข้างล่างมาใหม่ ขอใช้เลยละกัน ฮร่าา) ที่มา : rocketnews24
-
หญิงวัย 59 ถูกปล่อยตัว หลังโดนขังคุก 17 ปี ในความผิดที่เธอไม่ได้เป็นคนทำ…
จากเรื่องราวของคุณครูที่ถูกตัดสินให้จำคุกข้อหาขับรถชนจนทำให้มีคนเสียชีวิต เป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่ง และตอนนี้ก็ถูกปล่อยตัวแล้วเพราะมาทราบทีหลังว่าเธอไม่ได้กระทำความผิดจนกลายเป็นกระแสโด่งดังทั่วโลกออนไลน์ หากย้อนกลับไปในปี 2014 ทางต่างประเทศเองก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปรับชมพร้อมๆ กัน.. คุณ Susan Marie Mellen วัย 59 ปี ถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตข้อหาฆาตกรรมชายไร้บ้าน หลังจากที่ถูกจำคุกไปเป็นเวลากว่า 17 ปี เธอก็ถูกปล่อยตัวในช่วงเดือนตุลาคมปี 2014 หลังพิสูจน์ได้แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นคนกระทำความผิด ย้อนกลับไปในอดีต เธอถูกพยานให้การว่าเธอเป็นคนลงมือสังหารชายจรจัดชื่อว่า Richard Daly และถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตแบบไม่ได้รับการลดโทษ ตามรายงานของสำนักข่าว Associated Press หลังจากติดคุกเป็นเวลานานกว่า 17 ปี ในที่สุดผู้พิพากษาศาลฎีกา Mark Arnold ก็ได้ทำการชุบชีวิตเธอขึ้นมา พร้อมกับกล่าวตำหนิถึงระบบความยุติธรรมว่าล้มเหลว และทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งกลายเป็นแพะ อีกทั้งทนายความของเธอก็ไม่มีความสามารถที่ทำให้เธอรอดพ้นจากภาวะการถูกปรักปรำ ซึ่งหลังจากการสืบสวนภายหลังก็พบว่าพยานที่ให้การในวันนั้นแท้จริงแล้วเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรม “ขี้โกหกจนเป็นนิสัย” “ผมเชื่อว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผมคิดว่าคดีดังกล่าวนี้เป็นตัวชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของความยุติธรรม” ผู้พิพากษาสูงสุดศาลฎีกา Mark Arnold…
-
หนุ่มถูกจับเข้าคุกแบบงงๆ เพราะตำรวจพบ ‘ยาไอซ์’ ในรถ แต่จริงๆ คือทรายแมวแบบคริสตัล!?
ในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวที่เป็นอุทธาหรณ์สำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลายมาเล่าให้ฟัง ว่าการพกเจ้าทรายแมวแบบคริสตัลไปไหนมาไหนด้วยนั้นก็ควรจะทำให้มันรอบคอบและระมัดระวังหน่อยล่ะ เพราะอาจทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดจนชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว Ross Lebeau วัย 24 ปี อาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและส่งตัวเข้าคุกในข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจค้นรถของนาย Ross ที่ข้างทางในเขต Harris County และเจ้าหน้าที่ก็ได้พบกับสิ่งของต้องสงสัยว่าจะเป็นยาบ้า อัดอยู่ในถุงเท้าที่มีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม “พวกเขาคิดว่าได้เจอกับหลักฐานมัดตัวชิ้นสำคัญเข้าแล้ว และนี่คงเป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดในปีนี้ของพวกเขา” Ross ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Eyewitness News แต่จริงๆ แล้วมันก็คือทรายแมวแบบคริสตัลธรรมด๊าธรรมดา ที่พ่อของเขาใส่ไว้ในถุงเท้าแล้วเก็บไว้ในรถของเขาและพี่สาวเพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาหมอกเกาะกับกระจกรถจนมองไม่เห็นทาง นาย Ross ถูกส่งตัวเข้าห้องขังเป็นเวลาถึง 3 วัน ก่อนที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบหลักฐานและพบว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ยาเสพติดแต่อย่างใด “ผมอยากได้รับคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากการถูกกล่าวหา” Ross ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC เพราะการกล่าวหาในครั้งนี้ทำให้เขาต้องถูกไล่ออกจากงาน และสร้างความลำบากใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก “ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความผิดอะไร และผมจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ ร่วมกับครอบครัวและผู้สนับสนุนเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าตัวของผมนั้นไร้มลทิน” เขากล่าวเสริม ทางด้านสำนักงานที่ว่าการอำเภอของ Harris County ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสรุปมาได้คร่าวๆ ว่า…
-
หนุ่มแต่ง ‘ชุดสูทผูกไทเต็มยศ’ ต้อนรับหลานสาวเกิดใหม่ เพราะความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญ!!
สำหรับการแต่งชุดสูทผูกเนคไทแบบเต็มยศแล้วหลายๆ คนคงจะรู้ดีว่ามันเป็นเครื่องแบบที่ใช้สำหรับแต่งไปในงานพิธีการต่างๆ หรือไม่ก็ไปสมัครงาน แต่สำหรับหนุ่มคนนี้แล้วเขาเลือกที่จะใส่สูทเต็มยศเพื่อไปต้อนรับหลานสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่ที่โรงพยาบาล เพื่อสร้างความประทับใจแรก!! นี่คือ Iris Kessler สาววัย 16 ปีจากเมือง Pickerington รัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีพี่ชายชื่อว่า Grant วัย 18 ปี และพี่สาวอีกสองคน Bronwen วัย 20 ปี และ Olivia วัย 23 ปี ซึ่งพวกเขากำลังมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน เป็นสาวน้อยชื่อว่า Carter เป็นลูกของพี่สาวคนโต ขณะที่ Iris อยู่ที่โรงพยาบาลร่วมกับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ในเมือง Columbus เพื่อรอต้อนรับหนูน้อย Carter ซึ่งหลายๆ คนต่างก็เตรียมตัวรอคอยได้พบหน้ากับสมาชิกใหม่อย่างใจจดใจจ่อ แต่สำหรับหนุ่ม Grant แล้วถือว่านี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำอะไรที่พิเศษๆ สำหรับการต้อนรับในครั้งนี้ด้วยการ ‘สวมชุดสูทผูกเนคไท’ เพื่อรอต้อนรับหลานสาว…
-
20 “สุภาษิต” แปลกๆ จากหลายประเทศทั่วโลก เปิดความรู้ใหม่ พร้อมภาพประกอบฮาๆ
สุภาษิต เป็นคำที่ใช้สื่อสารเชิงเปรียบเทียบ โดยมีความหมายในการตักเตือนสั่งสอนในสิ่งดีๆ ซึ่งในบ้านเรามีสุภาษิตสอนใจดีๆ มากมายที่หลายคนเคยได้ยินกันเช่น น้ำลดตอผุด, หัวล้านได้หวี, กระต่ายตื่นตูม เป็นต้น และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า นอกจากบ้านเราแล้ว ที่ต่างประเทศเขาก็มีคำสุภาษิตเหมือนกัน ในวันนี้เราก็เลยนำ 20 สุภาษิต จากแต่ละประเทศทั่วโลก พร้อมภาพการ์ตูนประกอบมาให้ได้ชม ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลงานของ James Chapman ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ผู้ที่ชื่นชอบการวาดภาพหัวข้อที่เกี่ยวกับภาษาเป็นชีวิตจิตใจ และล่าสุดเขาก็ได้วาดภาพเกี่ยวกับคำสุภาษิตจากแต่ละประเทศทั่วโลก ที่เราอาจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ฟังแล้วอาจจะดูแปลก และตลกไปสักหน่อย แต่จะบอกว่าความหมายดีมากๆ เลยละ 1.เมื่อช้างสู้กัน มันก็มีแต่หญ้าเท่านั้นแหละที่เจ็บปวด (สุภาษิตเคนย่า) ความหมาย: เมื่อผู้ที่มีอำนาจต่อสู้หรือขัดแย้งกัน ก็มีแต่จะทำให้คนตัวเล็กๆ ต้องเจ็บปวด 2.หมอนคือผู้ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุด (สุภาษิตสวีเดน) ความหมาย: นอนหลับไปกับปัญหา อย่าไปคิดถึงมันมาก และดูว่าพรุ่งนี้เช้าจะรู้สึกอย่างไร ค่อยมาคิดแก้ไขกันใหม่ 3.พื้นลื่นสยบกษัตริย์ได้ (สุภาษิตเคนย่า) ความหมาย: แม้แต่คนที่มีอำนาจมากที่สุดๆ จริงๆ แล้วก็เป็นแค่เพียงมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง 4.ถึงน้ำจะท่วมโลก…
-
‘Nine’ แอนิเมชั่นฝีมือคนไทย ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่กวาด 11 รางวัล จากเทศกาลหนังรอบโลก
คำกล่าวที่ว่า ‘คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไรจริงๆ ไม่แพ้ชาติใดในโลก’ ก็คงจะไม่เป็นการพูดเกินความจริงเสียทีเดียว กับผลงานการันตีล่าสุดมากมายจากหลายๆ เทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศของแอนิเมชั่นเรื่อง “Nine” ผลงานของ The Monk Studios สตูดิโอแอนิเมชั่นสัญชาติไทยแห่งนี้!!! ถึงแม้ว่าเรื่องนี้และทางสตูดิโอยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ผลงานเรื่อง Nine ก็การันตีรางวัลกว่า 11 รายการจากเทศกาลภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่จัดกว่า 22 ครั้งในต่างประเทศเลยทีเดียว!!! ล่าสุดตอนนี้ทางค่ายก็ปล่อยแอนิเมชั่นเรื่องนี้ให้ชมกันเต็มๆ ทางยูทูปแล้ว ซึ่ง #จ่าสิบเหมียว ต้องขอบอกเลยล่ะว่าสวยสดงดงามและน่าประทับใจจริงๆ ทั้งในส่วนของตัวกราฟฟิกเองและเนื้อเรื่อง Nine ผลงานแอนิเมชั่นของคนไทยที่กวาดรางวัลไปกว่า 11 สาขาจาก 22 เทศกาลภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่องนี้ดัดแปลกมาจากหนังสือเรื่อง “Nine Lives” ของคุณทรงศีล ทิวสมบุญ ซึ่งในแอนิเมชั่นเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของเจ้าแมวน้อยตัวหนึ่ง กับชีวิตของมันที่เปลี่ยนไปหลังจากมีพลังและอำนาจมากขึ้น เจ้าเหมียวตัวเอกของเรื่องนี้ รางวัลที่กวาดมาในปีนี้กว่า 11 สาขาก็จะมี… 1 . รางวัล Seasonal Overall Winner Animation ในงาน Lift-Off Film Festival ในสหราชอาณาจักร…
-
จะฮ็อตไปไหน!! กะอิแค่ ‘Chris Pratt’ ยืนโพสต์ท่าเติมน้ำมันเฉยๆ ก็กลายมาเป็นข่าวดัง
ถ้ากล่าวถึงหนุ่มหล่อในวงการบันเทิงแล้วล่ะก็ หนึ่งในนั้นก็คงจะมีพ่อหนุ่ม Chris Pratt อยู่ด้วยแน่นอน เพราะนอกจากพี่แกจะมีหน้าตาที่หล่อเหลาแล้ว ยังมีกล้ามแน่นปึ้กอีกต่างหาก หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาพี่แกมาบ้างจากหนังเรื่อง Jurassic World, Guardians Of The Galaxy และ Her นั่นเอง และถ้าถามว่าพี่แกฮ็อตขนาดไหนล่ะก็…ขอบอกเลยว่าแค่มีคนถ่ายรูปตอนโพสต์ท่ายืนเก๊กเติมน้ำก็มีเว็บไซต์ต่างประเทศเอาไปทำข่าวได้แล้วล่ะ ฮร่า เรื่องมีอยู่ว่าเว็บไซต์ต่างชาติได้นำภาพของพี่ Chris Patt ขณะยืนเต๊ะท่าเติมน้ำมันข้างรถสีแดงสุดฮ็อตมาแซวว่าเป็นราชาแห่งความฮ็อตเลยทีเดียว!! พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าที่พี่แกฮ็อตขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะว่าท่าทางการจับหัวจ่ายน้ำมันในแบบที่ไม่ธรรมดาก็เป็นได้… หรืออาจจะเป็นเพราะการเอี้ยวตัวบิดสะโพกที่ดูน่ารัญจวนแบบนี้… แต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกันนะ ทั้งๆ เราร้อนจนฮอตซะขนาดนี้แต่แก๊สในปั๊มน้ำมันไม่ยักกะระเบิดออกมา มันต้องมีอะไรบางอย่างผิดพลาดแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ระวังตัวเอาไว้กันดีกว่า อยู่ให้ห่างจากพี่ Chris Pratt ขณะเติมน้ำมันไว้ก็แล้วกันเพื่อความปลอดภัย เพราะความฮ็อตอาจจะทำให้มันระเบิดขึ้นมาก็ได้ ฮร่า แหม่ กะอิแค่ท่ายืนเติมน้ำมันก็กินขาดแล้วล่ะพี่ 555+ ที่มา : buzzfeed
-
นักเรียนสาวปิ๊งไอเดีย คอสเพลย์เรื่องมู่หลาน ถ่ายรูปติดบัตรนักเรียน ฮากันกระจาย!!
#เหมียวหง่าว เคยได้นำเสนอให้เพื่อนๆ ได้รับชมไปเมื่อวันก่อน เป็นเรื่องของ นักเรียนสาวที่ปิ๊งไอเดียถ่ายรูปสุดฮาแบบสมัยอนุบาล ที่ว่าอีปิคแบบสุดๆ จนกลายการจุดกระแสเทรนด์ถ่ายรูป Then & Now ในโลกออนไลน์เลยทีเดียว หากเพื่อนๆ คิดว่ามันฮาสุดๆ แล้วล่ะก็ ลองมาชมการถ่ายรูปติดบัตรของนักเรียนสาวคนนี้ซะก่อน ที่ต้องขอบอกเลยว่า ฮายิ่งกว่าเดิมซะอีก 555+ จะเป็นอย่างไรนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลย… มารู้จักกับ June Kyrau Dela Chica สาวน้อยวัย 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปลายในรัฐ Oregon ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จู่ๆ ก็เกิดปิ๊งไอเดียฮาๆ เพื่อถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวนักเรียนขึ้นมา ผลที่ได้มันก็เลยเป็นแบบนี้!! เป็นตัวละครคุณป้าร่างท้วมจากการ์ตูนเรื่องมู่หลาน บอกเลยว่าเหมือนสุดๆ!! และนี่คือผลงานของเธอ 555+ Dela Chica เล่าว่าเธออยากจะทำอะไรสนุกๆ กับบัตรนักเรียนของเธอ ด้วยการแต่งหน้าแบบฮาๆ และเจ้าหน้าที่ที่ทำการถ่ายรูปก็ยอมให้เธอถ่ายรูปทั้งๆ แบบนั้นด้วย “พอแต่งหน้าเสร็จ ฉันก็เดินตรงเข้าไปถ่ายรูปเลย ที่นั่นมีเจ้าหน้าที่อยู่ 2 คน คนหนึ่งไม่ได้กล่าวหรือว่าอะไร แต่กลับยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี…
-
สงครามยังไม่จบ!! รอบนี้แมวกระทรวงต่างประเทศ แอบบุกเข้าบ้านแมวนายกอังกฤษ
ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องราวของ 2 คู่อริอย่าง Larry แมวสำนักนายกอังกฤษ และ Palmerston แมวกระทรวงการต่างประเทศ นี่ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วสินะ ที่เราได้มานำเสนอเรื่องราวของพวกมัน และถ้าหากใครได้ติดตามความคืบหน้าของเจ้า 2 ตัวนี้มาตลอดละก็ คุณจะรู้เป็นอย่างดีเลยว่า Larry กับ Palmerston มันถูกกันซะที่ไหนละ ป๊ะหน้ากันทีไรก็ขู่ฟอดๆ จะเล่นงานกันทู๊กกกกกกกกที ก่อนอื่น เราไปย้อนความหลังกันสักนิด… – รู้จัก Larry แมวจับหนูประจำบ้านนายกอังกฤษ – แมวสำนักนายก เปิดศึกกับ แมวกระทรวงการต่างประเทศ – สองแมวปะทะกันอีกครั้ง รอบนี้ได้แผล ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail เจ้าเก่า ได้เผยเรื่องราวที่น่าสนใจของแมวผู้ดีอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พวกมันไม่ได้มาต่อสู้กันเหมือนในคราวที่ผ่านมาหรอกนะ แต่ฝ่ายเจ้า Palmerston แมวจากกระทรวงการต่างประเทศเนี่ยสิ…จู่ๆ ก็แอบบุกเข้าบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่งสตรีท สำนักนายกรัฐมนตรีซะงั้นอย่าง เอ…ชื่อนี้คุ้นๆ อ้าววว…นี่มันบ้านที่เจ้า Larry อาศัยอยู่นี่นา…
-
คู่รักไม่อยากนั่งโต๊ะใกล้ตำรวจ… แทนที่จะโกรธ ตำรวจกลับเลี้ยงข้าว เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาก็คนดีนะ!!
ไม่ว่าที่ไหนในโลกใบนี้ก็ย่อมมีคนที่มีทัศนคติไม่ค่อยดีกับตำรวจซักเท่าไหร่ จนถึงกับขนาดที่ว่าต้องคอยหลบหน้าหลบตาไม่อยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เลยทีเดียว และเช่นกันกับคู่รักชาวอเมริกันคู่นี้ ที่มีทัศนคติแย่ๆ กับตำรวจจนไม่อยากนั่งโต๊ะทานข้าวใกล้กับตำรวจเลยทีเดียว ทางคุณตำรวจก็ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องราวจบตรงที่ว่าต่างคนต่างแยกย้ายกันทานอาหาร แต่พวกเขากลับทำอะไรที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ เรื่องมีอยู่ว่ามีคู่รักคู่หนึ่งได้ออกไปทานอาหารกันนอกบ้านที่ร้านอาหาร Eatn’ Park ที่อยู่ในรัฐ Pennsylvania และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายก็เข้ามานั่งทานอาหารที่โต๊ะใกล้ๆ กันกับพวกเขา Jesse Meyers พนักงานเสิร์ฟของร้านนี้เล่าว่า คู่รักคู่นี้ได้ทำการขอร้องว่าไม่อยากนั่งโต๊ะติดกับตำรวจ อยากจะย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นมากกว่า และก่อนที่จะย้ายโต๊ะออกไปเจ้าหน้าที่ตำรวจ Chuck Thomas ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกเราไม่ทำอันตรายพวกคุณหรอก” แต่ดูท่าทางเหมือนพวกเขาก็ยังไม่ยอมรับคำพูดของคุณตำรวจ และยืนยันที่จะย้ายโต๊ะอยู่ดี เจ้าหน้าที่ Thomas ไม่อยากให้คู่รักคิดแบบนั้นเขาก็เลยคิดหาวิธีที่จะแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วตำรวจก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอกนะ เพื่อนของเขาก็เลยแนะนำให้เลี้ยงอาหารทั้งคู่ซะเลย ซึ่งเขาก็ทำตามคำแนะนำพร้อมกับให้ทิปเพิ่มไปอีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็นำเรื่องราวนี้ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ค และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมต้องการที่จะทำให้หลายๆ คนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตำรวจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรตำรวจกับประชาชน” เขารู้ดีว่าที่เป็นแบบนี้นั้นก็เพราะเหตุการณ์ตำรวจใช้อาวุธยิงประชาชนใน Dallas แต่เขาก็อยากจะให้ทุกคนรู้ไว้ว่าทางตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพวกเขาเองก็เสียใจไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเขาก็เลยอยากจะเรียกความศรัทธาจากประชาชนให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง …
-
ไปดู 10 อันดับถนน ‘อันตราย’ ที่สุดในโลก อยากจะไปลองขับกันสักครั้งไหมล่ะ!?
การเดินทางและการขับขี่ยานพาหนะมักเป็นของคู่กันเสมอ เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยเจอกับประสบการณ์อุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนนกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้ CatDumb Travel ขอพาไปรู้จักกับ 10 อันดับ เส้นทางที่อันตรายที่ในโลก โดยเว็บไซต์ EscapeHere ที่อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็งเท้าไปตามๆกันลยล่ะ 10. Lippincott Mine Road, USA เส้นทางออกจาก Death Valley National Park ในรัฐ California ที่นี่ไม่มีทั้งน้ำและสัญญาณโทรศัพท์ จะเดินทางผ่านเส้นทางนี้ก็ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อมล่ะ . 9. Trollstigen Mountain Road, Norway ดูผิวเผินถนนเส้นนี้ก็ดูสวยงามดีหรอก แต่ว่าด้วยสภาพอาการที่แสนจะย่ำแย่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่เอาซะเลย ทั้งลมที่แรง แถมยังมีหมอกหนาในช่วงฤดูหนาวอีก อันตรายใช้ได้เลยนะเนี่ย . 8. Dalton Highway, USA ถนนไฮเวย์ในรัฐ Alaska ที่มีระยะทางยาวกว่า 414 ไมล์ (ประมาณ 662 กิโลเมตร) ตลอดระยะทางจะพบเจอแต่ที่ราบอันแสนเงียบสงบจนแทบจะไม่เจอสิ่งมีชีวิตเลย แถมยังมีปั๊มน้ำมันเพียงแค่ 3 สถานี ตลอดระยะทาง สงสัยต้องขนน้ำมันไปเองแล้วแหละ…
-
11 ดาราฮอลลีวู้ด ที่ไม่รู้ว่าเป็น “แวมไพร์” หรือยังไง ผ่านไป 20 กว่าปี หน้าไม่แก่เลย!!
การเป็นดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงนั้น จำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพราะว่ามันมีผลต่อหน้าที่การงานด้วย ถ้าเกิดว่าไม่ดูแลตัวเองแล้วอาจจะไม่มีงานเอาก็ได้นะเออ (อันนี้ไม่ได้พูดถึงการได้รับบทบาทที่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ดูแย่อยู่แล้วนะ) สำหรับคนที่ชอบดูหนังต่างประเทศ ก็คงคุ้นหน้าดาราอยู่แล้วล่ะ แต่เคยสงสัยไหมว่าดาราที่เราดูมาตั้งแต่เด็กนั้น ทำไมพวกเขาดูไม่ค่อยแก่ขึ้นเลย หน้าตายังคงความหนุ่มสาวราวกับว่าเป็นแวมไพร์ วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับดาราทั้ง 11 ทั้งที่ยังคงความหนุ่มสาว แม่ว่าเวลาจะผ่านไปนับสิบปีแล้วก็ตาม(บางคนก็ 20 ปี) Ewan McGregor ต่างกัน 19 ปี (ตอนนี้อายุ 45 ปี) William Pharell ต่างกัน 11 ปี (ตอนนี้อายุ 43 ปี) Jennifer Aniston ต่างกัน 20 ปี (ตอนนี้อายุ 47 ปี) Elijah Wood ต่างกัน 20 ปี (ตอนนี้อายุ 35 ปี) Rob Lowe ต่างกัน…
-
มารู้จักกับ ‘Wipe Out’ เกมโชว์สุดหฤโหด สงสารผู้เข้าแข่งขัน เล่นยังไง๊ก็ไม่ผ่านซักที ฮร่า
เพื่อนๆ หลายคนคงเคยชมรายการเกมโชว์มากันนักต่อนักแล้ว ทั้งของต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งในรายการก็จะมีการแข่งขันกันเล่นเกมเพื่อลุ้นชิงรางวัล ส่วนในเรื่องของรูปแบบเกมนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละรายการว่าจะคิดค้นหาเกมอะไรมาให้เล่น วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอเพื่อนๆ ไปชมรายการเกมโชว์สุดฮาของต่างชาติ ที่ขอบอกไว้เลยว่ายากมากกกก!! เล่นยังไงก็ไม่ผ่านแน่นอน แล้วอย่างนี้จะมีคนได้รางวัลกันซักกี่คนล่ะเนี่ยยยย ฮร่า รายการนี้มีชื่อว่า Wipe Out มีชื่อไทยว่า ไหวป่าว? เป็นรายการเกมโชว์สุดมันส์ที่จะให้ผู้เข้าแข่งขันรวมทีมกันตะลุยด่านต่างๆ อีกทั้งยังคอยขัดขวางทีมคู่ต่อสู้ด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่กลายเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งเลยทีเดียว โดยผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลกว่า 1.7 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งรายการเกมโชว์ Wipe Out นี้ เริ่มฉายวันแรกเมื่อปี 2008 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในตอนนี้มีประเทศต่างๆ มากมายจากทั่วโลกที่นำคอนเซ็ปป์ของรายการนี้ไปทำเป็นของตัวเอง อย่างเช่น อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น และ อาร์เจนตินา แต่ #เหมียวหง่าว ขอบอกไว้เลยว่าการแข่งขันเกมของรายการนี้เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะแต่ละด่านนั้นมันช่างอภิมหาโคตะระยากเลยทีเดียว เพราะอุปสรรคและสิ่งกีดขวางจะพุ่งออกมาจากทิศทางไหนก็ไม่สามารถเดาออกได้เลย พอรู้ตัวอีกทีก็ปลิวตกน้ำไปซะแล้ว 555+ ลองไปชมคลิปตัวอย่างความฮา ของรายการนี้กันที่ข้างล่างนี้ได้เลย… หากเพื่อนๆ คนไหนอยากติดตามชมรายการนี้ก็สามารถรับชมได้ที่ช่อง PPTV…
-
สื่อนอกเผยภาพ หมาจรจัด 8 ตัว อยู่เฝ้าร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวคนเก็บขยะ ที่ดูแลมันมาตลอด….
เหล่าทาสหมาทั้งหลายจะรู้ดีว่าเจ้าหมานั้นมีความซื่อสัตว์ต่อผู้มีพระคุณเป็นอย่างมาก หากใครให้ข้าวให้น้ำ เอาใจใส่ดูแลมันพวกมันก็จะตอบแทนด้วยการแสดงความจงรักภักดี ด้วยการเข้ามาเล่นด้วย แถมยังสามารถป้องกันภัยอันตรายที่จะเข้ามาถึงตัวเราอีกด้วย วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ของเหล่ามาจรจัดที่พยายามปกป้องร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวที่คอยให้ข้าวให้น้ำมันทุกวัน เรื่องมีอยู่ว่าทางเว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าพบสุนัข 8 ตัวนั่งล้อมรอบร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวรายหนึ่งอยู่บนถนนซินหยู มณฑลเจียงซี ในประเทศจีน ราวกับว่ากำลังคอยคุ้มกันเธอไม่ให้ใครเข้ามาทำอะไร ตามรายงานจากเว็บไซต์ People’s Daily Online (เว็บไซต์รายงานข่าวของประเทศจีน) ได้ระบุว่าหญิงคนนี้ทำอาชีพเก็บขยะเพื่อประทังชีพ พร้อมกับทำการดูแลให้ข้าวให้น้ำเหล่าเจ้าหมาทั้ง 8 ตัวนี้ด้วย ในวันเกิดเหตุ จู่ๆ เธอก็เป็นลมล้มพับขณะที่กำลังปั่นจักรยาน และนอนหมดสติอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาถึง 6 ชั่วโมง คือตั้งแต่ตี 4 ถึง 10 โมงเช้า (แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆนี้ปล่อยให้อยู่แบบนั้นถึง 6 ชั่วโมงเลยเหรอ คนที่ผ่านไปผ่านมาล่ะ??? ประเด็นนี้มันน่าสงสัยต่อมากทีเดียว) โดยที่ตลอดช่วงเวลานี้สุนัขทั้ง 8 ตัวนั่งและเดินวนเวียนอยู่รอบๆ บริเวณร่างของเธอไม่ห่างไปไหนเลย กว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจดูก็พบว่าสายไปเสียแล้ว โดยแพทย์วินิจฉัยว่าสาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะมาจากอาการหัวใจวายแบบเฉียบพลัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยชาวโซเชียลทั้งหลายต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บ้างก็เป็นห่วงสุนัขและหวังว่าจะมีคนรับพวกมันไปดูแลต่อ…
-
เรื่องราวสุดประทับใจ ทหารหนุ่มถามหาส่วนลดถูกต่อว่า พลเมืองใจดีก็เลยจ่ายค่าอาหารให้ซะเลย!!
เพื่อนๆ จะรู้กันดีว่าเหล่าทหารของสหรัฐอเมริกานั้นต้องออกไปสู้รบกับเหล่าผู้ก่อการร้ายทั้งหลาย ซึ่งในทุกๆ วันพวกเขาจะต้องเสี่ยงต่อการโดนลูกปืน และระเบิด อีกทั้งยังจับไปทรมาน จนทำให้ถึงแก่ชีวิต ด้วยความเสียสละนี้ร้านค้าและร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาจึงได้มีส่วนลดเพื่อทหารโดยเฉพาะ #เหมียวหง่าว ขอพาเพื่อนๆ ไปชมเหตุการณ์สุดประทับใจของทหารนายหนึ่งที่จะสร้างกำลังใจให้กับเขาในการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศของเขาต่อไป เว็บไซต์ Lifebuzz ได้นำเสนอเรื่องราวของทหารคนหนึ่งได้ทำการโพสท์เรื่องราวของเขาลงเฟซบุ๊ค โดยเล่าว่าเขาเข้าร่วมกับกองทัพและได้มีโอกาสได้ไปรบที่ Afghanistan มา 2 ครั้งแล้ว และตอนนี้เขาก็ยังทำหน้าที่นี้อยู่ เขาไม่เคยร้องขอสิทธิพิเศษจากการเป็นทหารเลย แต่เขารู้ว่าร้านค้าทั้งหลายนั้นจะมีส่วนลดสำหรับทหารอยู่ ซึ่งก็เป็นปกติที่เขาจะถามถึงสิทธิ์นี้เวลาไปซื้อใช้บริการตามร้านอาหาร มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ไปซื้อของที่ร้านค้าแห่งหนึ่งและถามถึงส่วนลดกับแคชเชียร์ กลับมีเสียงด่าทอมาจากผู้หญิงที่ต่อแถวอยู่ข้างหลัง นี่เป็นบทสนทนาคร่าวๆ ในวันนั้น ทหาร : ที่ร้านนี้สามารถใช้ส่วนลดของทหารได้มั้ยครับ? แคชเชียร์ : ไม่มีค่ะ ต้องขอโทษด้วย ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลัง : แย่มาก… แคชเชียร์และนายทหารยืนมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความงุนงง หญิงสาว : พวกคุณทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แค่เป็นทหารก็สามารถเรียกสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นๆ ได้แล้วเหรอ? โอ้พระเจ้า… ทหาร : เปล่านะครับคุณผู้หญิง มันเป็นแค่ส่วนลด ไม่ได้หมายถึงสิทธิพิเศษ สิทธิพิเศษสำหรับพวกผมจริงๆ แล้วก็คือการที่ผมสามารถกลับมาพักผ่อนมาอยู่กับครอบครัวได้ และส่วนลดนี้ก็เป็นเพราะหลายๆ…
-
ดราม่าไหมงานนี้!? เด็กๆ ชาวฝรั่งเศสสามารถ ‘ฟ้องร้อง’ พ่อแม่ตัวเองได้ หากโพสท์รูปภาพวัยเด็กลงโซเชียลมีเดีย
เป็นที่แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนนั้นมักจะชอบถ่ายคลิปหรือรูปของลูกตัวในขณะที่ยังแบเบาะโพสท์ลงโซเชียลมากมาย ซึ่งทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ!? แต่ในประเทศฝรั่งเศสหากพ่อแม่แชร์ภาพของลูกตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียอาจถูกลูกตัวเองฟ้องร้องเมื่อโตขึ้น ในข้อหาละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวในวัยเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1,800,000 บาทเลยทีเดียว นักวิชาการคาดว่า ในอนาคตเด็กๆ จะเริ่มตระหนักว่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขาตั้งแต่เด็กนั้นถูกเผยแพร่สู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป และการวิจัยของมหาวิทยาลัย Michigan พบว่า เด็กอายุ 10-17 ปีมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองแชร์เรื่องของพวกเขาในขณะที่แบเบาะลงบนโลกโซเชียล แต่ถึงอย่างไรก็ตามพ่อแม่ทั้งหลายก็ควรระมัดระวัง และเข้าใจไว้ว่า ข้อมูลที่อัพลงบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณ เพราะอาจมีคนนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำการสวมรอยเป็นลูกของคุณทำให้เกิดความเสียหายตามมา หรือเปิดช่องให้ลูกของคุณถูกล้อเลียนให้เกิดความอับอายด้วยข้อมูลดังกล่าว เห็นแบบนี้แล้วก็ระวังกันด้วยนะจ๊ะเหล่าพ่อแม่ทั้งหลาย เพราะข้อมูลต่างๆ ที่อัพลงบนโซเชียลนั้นสามารถสร้างภัยอันตรายให้กับลูกๆ ของคุณได้อย่างดายเลยทีเดียว ที่มา : theguardian
-
สหรัฐฯ ติดตั้ง ‘กล่องทิ้งเด็ก’ เพื่อช่วยชีวิตทารกจากการถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง แถมยังไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย!!
ปัจจุบันเราจะเห็นข่าวที่พ่อแม่ใจบาป นำลูกทารกมาทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ จนทำให้เหล่าทารกน้อยที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นานเสียชีวิตไปหลายรายแล้ว บางรายก็ดีที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีแค่ในบ้านเราเท่านั้นนะ ต่างประเทศเค้าก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน และล่าสุดเขาก็ได้มีการแก้ปัญหาเพื่อลดการสูญเสียชีวิตของเหล่าทารกน้อยกันแล้ว… ด้วยการติดตั้งกล่อง Safe Haven Baby Box ที่จะเป็นเครื่องมือในการช่วยลดการเสียชีวิตของทารกจากการถูกนำไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ เริ่มต้นที่รัฐ Indiana ที่ทำการติดตั้งเจ้ากล่องนี้แล้ว บริเวณกำแพงของสถานีดับเพลิงในเมือง Woodburn ซึ่งมีไว้ให้พ่อแม่ที่ไม่พร้อมหรือไม่ต้องการเลี้ยงดูลูกของตัวเอง สามารถนำเด็กมาวางไว้ในกล่องนี้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายเลย แถมยังไม่ต้องเปิดเผยตัวตนด้วย ข้างในของเจ้ากล่อง Safe Haven Baby Box นี้ จะเป็นเสมือนห้องๆ หนึ่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม และมีเบาะนุ่มๆ รองไว้ แถมยังแจ้งเตือน เมื่อมีคนนำเด็กมาวางปุ๊บระบบก็จะแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ใกล้ที่สุดมารับตัวไป และตอนนี้รัฐอื่นๆ ก็กำลังทยอยติดตั้งเจ้ากล่องนี้กันบ้างแล้ว ตามโรงพยาบาล สถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิง อย่างไรก็ตามการติดตั้งเจ้ากล่องนี้ก็ยังมีเสียงวิพากย์วิจารณ์ไปในเชิงต่อต้านว่า อาจจะเป็นการส่งเสริมให้พ่อ-แม่ทั้งหลายนำลูกมาทิ้งกันมากขึ้นก็เป็นได้ จะว่าไปมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแหละเนอะ แล้วเหล่าชาวเหมียวของเราคิดว่าไงบ้าง? จะเป็นการดีไหมหากว่ามีการติดตั้งเจ้ากล่อง Safe Haven Baby Box นี้ในบ้านเรา? คิดเห็นอย่างไรก็ลองคอมเม้นท์กันได้เลยนะจ้าาา……
-
แซ่บมาก!! เหล่าทหารไทยรวมตัวแชะภาพเทียบซีรีส์ Descendants Of The Sun แม้แต่สื่อเกาหลียังเอาไปทำข่าว
กระแสซีรีย์เกาหลีที่มาแรงแซงโค้งที่สุด ณ วินาทีนี้ คงหนีไม่พ้นซีรีย์เรื่อง Descendants Of The Sun อย่างแน่นอน ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้เรียกได้ว่าฮอตมากกกกกก จนทำให้คนดูฟินกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งนอกจากพระเอก และนางเอกจะหวานหยดจนเคมีเข้ากันสุดๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ฮอตปรอทแตกเลยก็คือ หนุ่มๆ ทหารทั้งหลาย ที่มาพร้อมกับความหล่อล่ำแฮนซั่มแมน ถึงขนาดที่ว่าทำเอาคนดูอยากจะกลืนกินพวกเขาเข้าไปทั้งตัวเลยทีเดียว ในเมื่อฮอตกว่าอากาศขนาดนี้ ก็ทำเอาพี่ๆ ทหารไทยของเรา พากันลุกขึ้นมาแชะภาพเลียนแบบทหารในซีรีย์กันบ้าง งานนี้ขอบอกเลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ธรรมดาเลยนะจ๊ะ เพราะแต่ละคนไม่น้อยหน้าหนุ่มๆ ในซีรีย์เลย แถมกล้ามก็แน่น หุ่นก็ล่ำบึกยิ่งกว่า โอปป้าทหารในซีรีย์ ดูแล้วได้อารมณ์แบบใสๆ เจอทหารไทยเข้าไปฟิลเข้มมาเต็ม แถมงานดีมีคุณภาพไม่แพ้กันอีกต่างหาก เท่านั้นยังไม่พอ!! เมื่อภาพของเหล่าทหารไทยได้ถูกแชร์กันอย่างมากมายทั่วโลกโซเชียล จนไปเข้าตาสื่อเกาหลี งานนี้บอกเลยว่าฝั่งโน่นเขาก็ได้หยิบเอาภาพของทหารไทยไปทำข่าวเหมือนกัน แถมยังชมว่าทหารไทยหุ่นดีใช่เล่นซะด้วย โอ้ว!! ฮอตทั้งใน และนอกประเทศเลยนะเนี่ย โอ๊ยยยย ฝั่งโอปป้าก็น่ารักใสๆ ฝั่งพี่ไทยก็คมเข้มซะเหลือเกิน เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ เอาเป็นว่าชอบทั้งสองเลยก็แล้วกัน อิอิ!! ที่มา : kapook, @sonana_vic
-
ทุกอย่างดูซอฟต์เมื่อเป็น ‘แอนิเมชั่นสุดมุ้งมิ้ง’ ปลูกฝังค่านิยมดีๆ ต่อต้านการข่มขืน!!!
แน่ะๆๆๆ เห็นแต่รูปแล้วอย่าพึ่งตัดสินว่า #จ่าสิบเหมียว น่ะหื่น เพราะซีรีย์ของแอนิเมชั่นสั้นชุดนี้น่ะเรียกได้ว่ามีจุดประสงค์ที่ดีในการสร้างค่านิยมให้กับผู้ชมเชียวนะเออ Project Consent องค์กรและโปรเจ็คต์ที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้จัดทำแอนิเมชั่นชุดนี้ขึ้น โดยใช้ตัวละครน่ารักๆ จากส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ที่เป็นสัญลักษณ์ถึงเรื่องเพศ ถึงจะแรงแต่ดูซอฟต์นั่นเองเพราะเป็นการ์ตูน ฮ่าๆๆๆ ตัวละครทั้งหมดของเรื่อง… ลองมาชมวิดีโอสั้นๆ ของพวกเขาสักเรื่องก่อนดีกว่า!!! บางเรื่องก็เกี่ยวกับการแตะต้องและสัมผัส… และแน่นอนทุกเรื่องแฝงแนวคิดเรื่องการให้เกียรติและเคารพผู้อื่นเอาไว้ ขอโทษ…เป็นความผิดของผมเอง การให้เกียรติและความเข้าใจ กับแนวคิดดีๆ ที่ว่า ‘ถ้าไม่ตอบว่าใช่ ก็หมายความว่าทำไม่ได้นะ’ #จ่าสิบเหมียว ว่า เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดี ซอฟต์ๆ ผ่านตัวการ์ตูนได้เยี่ยมเลยทีเดียวนะเนี่ย ใครที่อยากชมผลงานของพวกเขาทั้งหมดก็เข้าไปดูกันได้เลยนะจ๊ะที่เว็บไซต์นี้เลย ProjectConsent ที่มา: Buzzfeed
-
คู่รักตัดสินใจซื้อรถตู้เก่าๆ และออกเดินทางกว่า 50 ประเทศรอบโลก ด้วยงบวันละ 300 บาท
เป็นคู่รักที่ทำให้ใครหลายๆคนอิจฉา เมื่อหญิงสาวโพสต์เล่าเรื่องราวของการเดินทางรอบโลกกับคนรักลงในเว็บไซต์ของต่างประเทศ กับหัวข้อที่ชวนดึงดูดซะเหลือเกิน… We Visited Over 50 Countries With Our Van Spending Only $8 A Day ห้ะ!! ขับรถตู้เที่ยวรอบโลก ใช้เงินไม่ถึงวันละ 300 บาทด้วย ชาวเน็ตฝรั่งทั้งหลายก็ติดตามเป็นแฟนคลับกันใหญ่ #ประธานเหมียว เลยขอหยิบมาเล่าให้ฟังครับ คู่รักนี้เป็นชาวโปแลนด์ ซึ่งมีความฝันอยากจะไปท่องเที่ยวรอบโลก แม้มีเงินไม่มาก พวกเขาก็หุ้นกันซื้อรถตู้ราคาประมาณ 21,000 บาท (หลักหมื่นเอง) มาแปลงโฉมให้สวยงาม หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกท่องเที่ยว…. การเดินทางกว่า 50 ประเทศใน 5 ทวีป ตลอดระยะเวลา 6 ปี ขับรถไปกว่า 150,000 กิโลเมตร ได้มีโอกาสเห็นวิวของ Grand Canyon ทุ่งดอกไม้สวยๆในประเทศไอซ์แลนด์…
-
29 ภาพนี้ ยืนยันได้อย่างดีว่า ‘ประเทศญี่ปุ่น’ เป็นดินแดนแห่งความโอ๊วววว ว๊าววววว!!
ประเทศญี่ปุ่น มักจะขึ้นชื่อเรื่องไอเดียที่แปลกและสร้างสรรค์อยู่เสมอ แน่นอนว่า… 29 ภาพเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเลยครับ (ที่มา: buzzfeed) 1. มีเทศกาลแห่รูปจำลองกระปู๋ยักษ์สีชมพูหวานแจ๋ว 2. มีการแข่งขันทำเด็กร้องไห้ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักซูโม่ 3. แน่นอนว่าหุ่นเสื้อผ้าก็ต้องสร้างสรรค์ 4. บริการแปลกๆอย่างยอดมนุษย์ ที่คอยช่วยแม่อุ้มรถเข็นลงบันไดโดยเฉพาะ 5. และนี่คือบรรยากาศฮาโลวีนในญี่ปุ่น 6. หลายคนคงได้ยินเรื่องของโรงแรมแคปซูลมาบ้างแล้ว หน้าตาแบบนี้ล่ะ 7. ม่านรูดที่นี่ไม่ได้คิดเป็นคืนนะ คิดเป็นรายชั่วโมงเลย 8. แน่นอนว่ามีโรงแรมที่ใช้ไดโนเสาร์เป็นพนักงานต้อนรับด้วย 9. พนักงานออฟฟิศ สามารถเมาแล้วหลับได้ทุกที่ 10. นอกจากนี้ ยังมีเหล่ากวางออกมาเดินตามถนนในบางเมือง 11. มีสปาสำหรับมะหมาโดยเฉพาะ 12. นอกจากที่ไทย ญี่ปุ่นก็มีสปาปลานะจ๊ะ 13. หอยทากก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าที่ไทยหรือญี่ปุ่นมีมาก่อน 14. มีหมอนรูปตัก ไว้ให้คลายเหงาโดยเฉพาะ…
-
รวมความคิดเห็น ‘คนต่างประเทศ’ เค้าคิดยังไงกับเรื่อง ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ ในบ้านเรา!?
กระแส ตุ๊กตาลูกเทพ แม้จะมีชาวโลกออนไลน์หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องงมงายและไม่ใช่แนวทางศาสนาพุทธที่แท้จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าในโลกแห่งความจริง กระแสนี้มาแรงมากทีเดียว แน่นอนว่าสื่อไทยก็มีทั้งด้านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ‘สื่อต่างประเทศ’ เค้าจะมองประเด็นนี้ในไทย รวมถึงมองคนไทยกันอย่างไร…. CNN – ความบ้าคลั่งตุ๊กตาเทวดาในประเทศไทย ‘Supernatural’ dolls get seats on Thai planesThey’ll even be served snacks and drinks. http://cnn.it/1lSey3t Posted by CNN on Wednesday, January 27, 2016 Reuters – คนไทยหันพึ่งพาตุ๊กตาลูกเทพ หลังเจอภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ibTimes – กระแสตุ๊กตาลูกเทพอภินิหาริย์ ความบ้าคลั่งนี้ปกคลุมทั่วประเทศ Coconuts TV – ตามไปชมบรรยากาศภายในบ้านตุ๊กตาหลอน นอกจากนั้นก็อาจจะเป็นการนำเสนอข่าวทั่วไป ที่ว่ามีการออกตั๋วเครื่องบิน มีการลักลอบขนยาเสพติดด้วยตุ๊กตาลูกเทพ…
-
ชาวเน็ตโวย ไปรษณีย์ไทยทำรองเท้าหาย พัสดุชำรุด รับผิดชอบยังไง?
ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยถือว่าเป็นอีกบริษัทหนึ่ง ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด อาจเป็นเพราะการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ที่ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้า หันมาใช่ไปรษณีย์ไทยในการส่งของมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังได้เห็นข่าวด้านเสียๆๆ ของไปรษณีย์ไทยอยู่เสมอๆ อย่างเช่นเรื่องราวที่คุณ The’bimz Parajee ได้นำมาเสนอวันนี้ เธอเล่าว่าเธอได้สั่งของมาจากต่างประเทศ แต่พอทันทีที่พัสดุมาถึง ก็มีร่องรอยการเปิดไปแล้ว และสินค้าภายในยังอยู่ในสภาพเปียกน้ำอีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น รองเท้าที่ส่งมา ก็หายไปด้วย เหลือเพียงแต่กล่องเอาไว้ดูต่างหน้าเท่านั้น เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย พร้อมทั้งตำหนิบริการของไปรษณีย์อย่างถึงพริกถึงขิง แย่จริงๆ เลยนะเนี่ย โชคดีเหมียวสั่งของทีไร ไม่เคยมีปัญหาเลย แล้วเพื่อนๆ ล่ะเคยมีประสบการณ์แบบนี้กันหรือเปล่า ลองเล่าให้เหมียวฟังบ้างนะ ที่มา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
-
สาวกตัวจริง!! เธอคนนี้ไล่ซื้อหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เวอร์ชั่นทุกประเทศที่เธอไปเยือน
“แฮร์รี่ พอตเตอร์” ถือเป็นวรรณกรรมที่ครองใจคนทั้งโลกไปแล้ว ขนาดที่ว่ามีสวนสนุกเป็นของตัวเอง จนทำให้คนที่ไม่เคยดูมาก่อน กลับกลายเป็นสาวกแฮร์รี่ไปอีกมากมาย เธอคนนี้มีชื่อว่า Miriam Salzman วัย 24 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์มานาน ตอนนี้เธอทำงานเป็นฟรีแลนซ์เกี่ยวกับละครเวทีในนิวยอร์ค เธอนั้นเป็นแฟนแฮร์รี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเลยก็ว่าได้ เริ่มจากครอบครัวของเธอได้ซื้อหนังสือแฮร์รี่มาอ่าน แล้ววันหนึ่งเธอก็หลงไปอ่านเข้า จึงเจอเวทมนตร์สะกดใจเข้าไปแต่จุดเริ่มต้นจริงๆนั้น เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอ่านให้เธอฟังก่อน ตั้งแต่เล่ม 1 ถึงเล่ม 4 แล้วหลังจากนั้นเธอก็ตามอ่านเองจนหมด เธอเริ่มสะสมหนังสือแฮร์รี่เนื่องจากได้ไปต่างประเทศ แล้วพบว่าหนังสือของแต่ละประเทศออกแบบมาไม่เหมือนกัน เธอจึงตัดสินใจซื้อตั้งแต่เล่ม 1 ถึง 7 ครั้งแรกตอนที่เธอไปทัวร์ยุโรป นอกจากนี้เธอยังมีแฮร์รี่ในภาษาฮิบรู ฮินดี อิตาลี สเปน และอีกมากมายที่เธอได้ซื้อมาระหว่างไปเที่ยวทวีปยุโรปและอเมริกา และตอนนี้เธอมีหนังศือแฮร์รี่รวมกันถึง 37 เวอร์ชั่น รวมถึงหนังสือพิเศษอย่างควิชดิชในยุคต่างๆ, สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ และนิทานของบีเดิลยอดกวี แหม่ นี่มันแฟนพันธุ์แท้ชัดๆ ยังไงก็อย่าลืมตามมาซื้อที่เอเชียบ้างนะ แต่บ้านเรานี่ก็มีหนังสือหลายเวอร์ชั่นมากๆ อยากรู้ว่าเธอจะซื้อไปทั้งหมดเลยรึเปล่า อ่ะ สเนปปรบมือให้…
-
หญิงสาวค้นพบว่าตัวเองมี ‘ฝาแฝด’ หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ หลังจากที่เจอในโลกออนไลน์!!
โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลจากที่เมื่อก่อนเราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันกว้างใหญ่ขนาดไหน ยังมีอะไรที่รอให้เราไปค้นพบอยู่อีกมากมาย จนปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก็ได้เชื่อมทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน และหนึ่งสิ่งที่เราไม่เคยคิดสงสัยมาก่อนเลยว่า เราจะมีฝาแฝดอยู่อีกซีกโลกหนึ่งรึเปล่า? ฟังดูแล้วก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าฝาแฝดนั้นมักจะเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน แต่ทว่ามันก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม อย่างเช่นคู่แฝด Sara และ Shannon ที่มาเจอกันได้หลังจากมีการติดต่อกันในโลกออนไลน์ โดยฝ่ายที่เริ่มต้นก่อนก็คือ Sara จากประเทศสวีเดนซึ่งเพื่อนของเธอบังเอิญไปเจอรูปภาพของ Shannon ในอินเทอร์เน็ตและสังเกตเห็นว่าหน้าตาคล้ายกับเธอซะเหลือเกิน จนไปทักว่านี่เป็นรูปของเธอเองรึเปล่า? จนในที่สุดทั้ง Sara กับ Shannon ก็ได้ติดต่อพูดคุยกัน ทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก Sara จึงตัดสินใจเดินทางไปที่เมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ บ้านเกิดของ Shannon เมื่อทั้งสองได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ฝ่าย Shannon ก็บอกว่า ‘ฉันเข้าโอบกอดเธอทันที แล้วก็ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น แบบว่า นี่มันอะไรกันเนี่ย มันแปลกมากๆ เลยนะ’ ‘ทั้งจมูกและดวงตา ใบหู ริมฝีปาก ความรู้สึก และรอยยิ้ม…
-
รวบรวม 12 ความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ กับ ‘นักเดินทาง’ คุณล่ะ เป็นแบบไหน?
หนึ่งในความฝันของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ที่ว่าซักครั้งหนึ่งอยากจะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและนอกประเทศ และการท่องเที่ยวของแต่ละคนนั้นก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่มักจะถูกเหมารวมเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ ไปซะหมด ด้วยเหตุนี้เองทาง Holidify บริษัทที่ให้บริการสำหรับผู้ที่เดินทางมายังประเทศอินเดีย ได้จัดทำภาพเพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ และ ‘นักเดินทาง’ เอาไว้ เนื่องจากมีสไตล์ในการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนกัน เอาล่ะ!! ถ้าหากว่าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน ก็เลื่อนลงมาดูกันเลยจ้า 1. การถ่ายรูป 2. การคำนึงถึงเส้นทาง 3. จำนวนของคนที่ไปด้วยในแต่ละครั้ง 4. สภาพของถนนหนทาง 5. อุปกรณ์และของใช้ที่พกติดตัว 6. ว่ากันด้วยเรื่องของฝาก ของที่ระลึก 7. การเดินทาง 8. ลักษณะการนอนพักผ่อน 9. สภาพของที่นอน 10. การขออาศัยยานพาหนะ 11. สิ่งที่นึกถึงระหว่างเดินทางท่องเที่ยว…
-
เรียกสั้นๆ ว่า ‘ห้องสมุด’ ส่วนเรียกยาวๆ ว่า ‘ภูเขาหนังสือ Spijkenisse’ แห่งเนเธอร์แลนด์!!
เดี๋ยวนี้ห้องสมุดทุกที่ในโลกก็มักจะได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้ทันยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ นอกจากจะปรับตัวแล้วก็ยังมีการออกแบบและสร้างสรรค์ห้องสมุดขึ้นมาใหม่ เรียกได้ว่าสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาใช้บริการภายในห้องสมุดได้เป็นอย่างดี ที่ต่างประเทศนั้นเขาให้ความสำคัญกับห้องสมุดมากๆ เลยล่ะ อย่างเช่นห้องสมุด Spijkenisse หรือ กองภูเขาหนังสือ Spijkenisse จากประเทศเนเธอร์แลนด์นี้ โดยลักษณะการออกแบบที่ตั้งใจให้เหมือนกับภูเขาที่ก่อตัวขึ้นมาจากกองหนังสือ 5 ชั้น เหมียวว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยทีเดียว เพราะเป็นการประหยัดพื้นที่รอบด้านของห้องสมุดให้กลายมาเป็นที่นั่งอ่านหนังสือหรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ และรวบรวมหนังสือไว้ในที่เดียวกัน ผลงานการออกแบบสุดบรรเจิดนี้เป็นผลงานของทีมสถาปนิกจาก MVDV ซึ่งนอกจากจะเป็นห้องสมุดแล้ว ก็ยังเป็นศูนย์การศึกษา, สโมสรหมากรุก, ห้องประชุม, สำนักงานของบริษัท และร้านค้าปลีกอีกมากมาย เรียกได้ว่าครบครันแทบจะทุกอย่างเลย แถมบรรยากาศก็น่าเข้าไปใช้บริการซะเหลือเกิน ทั้งบรรยากาศภายนอกและภายในดูดีไปหมดเลยแฮะ ถ้าหากว่าได้มีโอกาสไปเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ลองไปเยี่ยมชมห้องสมุดแห่งนี้กันบ้างนะจ๊ะ ที่มา : thechive
-
ชายหนุ่มสุดโชคร้าย ขับรถอยู่ดีๆน้ำท่วมซะงั้น สุดท้ายทั้งรถทั้งคนโดนน้ำพัด ลอยอย่างกับนั่งเรือ!!!
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา สำนักข่าว The KVUE Insider ได้รายงานข่าวว่า มีชายหนึ่มคนหนึ่งถูกน้ำพัดไปไกล ขณะขับรถอยู่ หลังจากน้ำท่วมอย่างกระทันหัน แถมชายคนนั้นนั้นก็ถ่ายคลิปบรรยายเหตุการณ์แบบชิวๆอีกด้วย!! เรื่องราวมีอยู่ว่า Cecelia Packer ได้แจ้งไปทางสำนักข่าว The KVUE Insider ว่าสามีของเธอ Kerry ติดอยู่ในรถที่กำลังถูกน้ำพัดบริเวณแถวๆ Rinard Creek กระแสน้ำที่รุนแรงทำให้รถของสามีของเธอลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วอย่างไร้จุดหมาย แต่ตอนนั้น Kerry ยังสามารถถ่ายคลิปวีดีโอ และส่งกลับมาให้ภรรยาของเขาได้ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำกำลังเข้ามาในรถ และเขาโทรหาตำรวจแล้ว เขาหวังว่าตำรวจจะมาช่วยเขาในเร็วไว ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลยดีกว่า Video from Cecelia Packer. She says her husband Kerry was trapped in his car at Rinard Creek near Interlachen Lane. He’s now…
-
การ์ตูนก็มีสาระ!! ประเทศญี่ปุ่นจัดสรรการ์ตูนกว่า 100 เรื่องให้เป็นหนังสือเรียนอ่านนอกเวลา
พื้นฐานของการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญ หากเด็กๆ ได้รับการศึกษาที่ดีแล้วจะสามารถช่วยพัฒนาให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน และด้วยตามประสาของวัยเด็กที่สนใจอ่านการ์ตูนเพื่อเป็นความบันเทิงนั้น ผู้ใหญ่มักจะมองว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ทั้งที่จริงแล้วการ์ตูนบางเรื่องก็ได้เสริมความรู้ให้กับผู้อ่านไปในตัว ทางด้านองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Nippon Foundation ของประเทศญี่ปุ่นจึงได้ริเริ่มโครงการคัดสรรการ์ตูนเสริมสร้างความรู้สำหรับเด็กขึ้นมาในชื่อ This is Also a Learning Manga ~World Discovery Project~ โดยจะนำการ์ตูนกว่า 100 เรื่องมาใช้เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กๆ ทั้งนี้ทางองค์กรก็ได้เชิญบุคลากรทางการศึกษาจาก 2 แห่งนั่นก็คือศาสตราจารย์ Yukari Fujimoto ผู้วิจัยด้านการ์ตูนญี่ปุ่นจาก Meiji University และศาสตราจารย์ Ichiya Nakamura จาก Keio University ร่วมกับนักเขียนการ์ตูนอาจารย์ Machiko Satonaka และบุคคลอื่นๆ อีก 4 ท่าน รวมทั้งสิ้นเป็น 7 ท่านมาร่วมกันคัดสรรการ์ตูนเพื่อใช้เป็นหนังสือเรียนอ่านนอกเวลา มีการเปิดเผยรายชื่อของหนังสือการ์ตูนที่ได้รับการคัดเลือกกว่า 100 เรื่องผ่านทางเว็บไซต์…
-
ถึงใจรึเปล่า!? สงสัยกันบ้างมั้ยว่า ‘คำด่า’ ในแต่ละประเทศจะเป็นแบบไหนบ้าง ของไทยจัดเต็มมาก
เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มักจะมีอารมณ์ขึ้นลงตามสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งถ้าหากว่าเกิดอาการไม่พอใจในสิ่งที่ผู้อื่นกระทำ ก็จะลงเอยด้วยการสบถออกมาเป็นคำด่าที่หยาบคาย ซึ่งเหมียวเองก็ไม่ได้ส่งเสริมให้ด่าผู้อื่นนะจ๊ะ เพียงแต่ว่าสิ่งที่อยากจะนำเสนอก็คือในแง่ของภาษาที่ใช้กัน เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าประเทศอื่นๆ เวลาเขาด่ากันเนี่ย จะมีคำไหนบ้าง และความหมายของมันจะเจ็บแสบแค่ไหน ปล.ของประเทศไทยนี่สามารถนำทุกสิ่งมาด่าได้จริงๆ นะเออ ฮ่าฮ่า!! อย่างคุณฝนสาวไทยจากกรุงเทพฯ ยกตัวอย่างคำว่า ‘คุณแม่เสียชีวิต’ มาให้ฟังด้วยแหละ แต่ละภาษาก็ออกเสียงคล้ายๆ กันอยู่บ้าง แต่จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป น่าสนใจดีเหมือนกันแฮะ ที่มา : fooyoh
-
ชมคุณป้าพยายามเดินย้อนขึ้นบันไดเลื่อน เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซะที เห็นแล้วปวดใจ..
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาที่น่าอายแบบสุดๆของตนเอง บางคนอาจเคยอึแตกในที่สาธารณะ บางคนอาจเคยลื่นล้มต่อหน้าคนนับร้อย แต่สำหรับคุณป้าคนนี้ ช่วงเวลาแห่งความอายของเธอเพิ่งจะเกิดเมื่อไม่นานนี้เองพร้อมกับพยานนับร้อย โดยเธอพยายามเดินย้อนทางขึ้นบันไดเลื่อน แต่เดินเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะไม่ถึงซักที ไปชมกันเลย แหม ไม่รู้ว่าไม่รู้จริงๆ หรือว่าตั้งใจ แต่ดูเหมือนความตั้งใจจะไม่ค่อยเป็นผลนะ เห็นแล้ว ที่มา Viralnova
-
ชวนมาดูการเปลี่ยนแปลงของ15 ศิลปินจาก “MV แรก มาถึง MV ปัจจุบัน”
เหมียวเชื่อว่าหลายๆคนคงต้องรู้จัก เหล่าศิลปิน Pop Stars ชื่อดังอย่าง บริทนีย์ สเปียร์ บียอนเซ่ เคที เพอร์รี่ และคนอื่นๆอีกมากมาย แต่รู้กันไหมว่า Music Video เพลงแรกของพวกเธอนั้นคือเพลงอะไร และจนมาถึง Music Video เพลงปัจจุบันล่าสุด หน้าตาของพวกเธอเปลี่ยนไปแค่ไหนกันบ้าง เรามาดูการเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงของพวกเธอกันเถอะว่าผ่านมาหลายปีแล้วพวกเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน 1. มารายห์ แครี่ (Mariah Carey) MV เพลงแรกของเธอเมื่อปี 1990 คือ เพลง “Vision of Love” และ MV เพลงล่าสุด ในปี 2015 คือ เพลง “Infinity” 2. เดมี โลวาโต (Demi Lovato) MV เพลงแรกของเธอเมื่อปี 2008 คือ เพลง “Get Back” และ MV เพลงล่าสุด ในปี 2015 คือ เพลง “Cool For The Summer” 3. ชากีรา…
-
รวม 20 ภาพ “งานแต่งงาน” จากทั่วโลก เห็นแล้วบอกเลยว่าน่าอิจฉาอย่างแรง!!
การถ่ายภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต นั่นก็คืองานแต่งงานนั้น เราก็ต้องเลือกสถานที่ที่ดีที่สุด เพราะภาพเหล่านั้นมันจะอยู่กับเราไปอีกนาน ช่างภาพได้ส่งรูปกว่า 4,000 รูปจาก 40 กว่าประเทศได้ส่งรูปของพวกเขามาเพื่อประกวด Best of the Best Destination Photography Contest หรือภาพที่ดีที่สุดของภาพที่ดีที่สุดนั่นเอง จากเว็บไซต์ junebugweddings.com ภาพเหล่านี้มีทั้งการหมั้น พรีเวดดิ้ง งานแต่งงาน งานครบรอบ ฮันนีมูน และอีกมากมายซึ่งบรรยากาศบอกได้เลยว่าสวยจนน่าอิจฉามากๆ เราไปดูกันเลยว่าจะงดงามเพียงใด Wanaka, New Zealand Waterton Lakes, Canada Paris, France Playa De Las Catedrales, Spain Padar Island, Indonesia Venice, Italy Paris, France Ten Anau, New…
-
พาไปดูภาพถ่ายติดบัตรทั้ง 22 ใบ ที่ฮาและเกรียนที่สุด ถ้าใครไม่กล้าจริงทำไม่ได้นะเนี่ย!!
เวลาที่เราถ่ายรูปติดบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือบัตรอื่นๆ ที่สำคัญๆ แน่นอนว่าภาพที่ได้นั้น จะต้องเป็นรูปยืนตัวตรง และทำหน้าให้ดูปกติมากที่สุดใช่ไหมละ แต่สำหรับวัยรุ่นบางคนกลับทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง โดยการถ่ายรูปติดบัตรนักเรียน นักศึกษาให้มีใบหน้าสุดโคตรเกรียน ชนิดที่ว่าใครเห็นเป็นต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่าแต่ละภาพจะเกรียนขนาดไหน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 …
-
พาไปดู 10 ภาพห้องน้ำสาธารณะของแต่ละประเทศ ว่ามันมีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
เชื่อว่าหลายๆ คน คงไม่ชอบใช้บริการห้องน้ำสาธารณะสักเท่าไหร่ เพราะไหนจะต้องมาเจอกับความสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ยิ่งถ้าไม่ได้รับการทำความสะอาดล่ะก็ แน่นอนว่ามันอาจจะทำให้บางคนถึงขึ้นอยากอ้วกได้ และในครั้งนี้เราได้นำภาพของห้องน้ำสาธารณะจากหลายๆ ประเทศมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน และเมื่อใครที่ได้ชมแล้ว จะต้องเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยว่า ห้องน้ำสาธารณะของแต่ละประเทศมีลักษณะเป็นอย่างไร เอาล่ะ!! ใครที่พร้อมแล้ว ตามมาดูเลย 1.เยอรมนี 2.ทิเบต 3.ฝรั่งเศส 4.ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5.ญี่ปุ่น 6.อินเดีย 7.ไทย 8.กัมพูชา 9.เนเธอร์แลนด์ 10.จีน ที่มา : unmotivating
-
โคตรรน่ากิน!! พาไปดูภาพขนมหวานจากต่างประเทศ ที่มีสีสันสวยงาม และน่ากินที่สุดเลย
โอ๊ยๆๆๆๆ เวลาจะเอารูปอาหาร หรือขนมหวานมาโชว์ทีไร ทำไมเหมียวรู้สึกว่ามันหิวทุกที ยิ่งขนมหวานหน้าตาน่าทานของพวกฝรั่งแล้ว ยิ่งอดใจไม่ไหวเข้าไปใหญ่เลยล่ะ และในครั้งนี้เหมียวได้นำภาพขนมหวานของฝรั่ง ที่มีสีสันสวยงาม และหน้าตาน่ากินที่สุดมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน รับรองว่างานนี้ได้น้ำลายสอหน้าคอมกันเป็นแถวแน่นอน มาดูกันเลยว่ามันจะน่าหม่ำมากขนาดไหน น่าทานจัง ดูเฮลตี้สุดๆ ไอเดียสร้างสรรค์ สุดยอดมากกกก อยากลองดื่มจัง คงชื่นใจน่าดู จะกินให้อ้วนเลยคอยดู ขอกัดคำนึงจิ น้ำลายไหล อาหารของฝรั่งสีสันหน้าตาน่าทานมากๆ เห็นแล้วถึงกับน้ำลายไหลเลยนะเนี่ย เสียดายเนาะบ้านเราไม่ค่อยมีแบบนี้สักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นเหมียวจะกินทุกวันเลยคอยดู!! ที่มา : kapook, weheartit
-
20 ภาพถ่ายสุดฮา ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในต่างประเทศ ที่เห็นแล้วยิ้มเลย
จะว่าไปแล้วเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็เป็นคน มีเลือด มีเนื้อ มีอารมณ์เหมือนเรานี่แหละ และแน่นอนมุมเจ๋งๆ ฮาๆ หรือตลกๆ ของพวกเขาก็มีแหละ อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย และวันนี้เหมียวก็ได้นำ 20 ภาพโมเม้นต์น่ารักๆ สุดฮาของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในต่างประเทศมาฝากกัน มาดูกันเลยว่าพวกเขาจะเฮฮากันขนาดไหน ท่าพี่แกได้จริงๆ บรูโน่สู้ไหม!!? เมื่อไปฟิตเนส -*- เซลฟี่กันสักนิดก่อนออกรถ หยุดทักทายเด็กๆ ถ่ายกับป้ายด่าตำรวจซะเลย โชว์สกิลสอนเด็กแพร๊พพพพ เห็นแบบนี้มีตกใจบ้างอ่ะ ไม่รู้ว่าอีตาแว่นจะโดนอะไรรึเปล่าหนอออ เมื่อเด็กน้อยโดนตรวจจับความเร็ว เจ๋ง!! เอิ่มมมม -*- สงสัยลืมกางเกง ไม่งั้นก็ไปเป็นตัวตลกให้ในวันเกิดลูกใช่ปะ?? โดนซะแล้วตู -*- เมื่อพวกเขาหันมาแจกดอกไม้แทนใบสั่ง ^^ เซลฟี่กับเพื่อนร่วมงาน แกจะหนีไปหนายยยยย พักเบรก…
-
หนุ่มนี่ตื่นมาเช้าวันจันทร์ ขี้เกียจทำงาน เลยโทรลาหัวหน้า แล้วเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเมืองนอกทันที!!
สำหรับคนทำงานหลายๆคนแล้ว ‘เช้าวันจันทร์’ เปรียบได้กับขุมนรกขนาดย่อม เพราะหลังจากวันหยุดอันแสนสั้นได้ผ่านพ้นไป นี่ก็เป็นการเริ่มสัปดาห์แห่งการทำงานที่จะยาวนานไปอีกห้าวัน แทบทุกคนจึงเกลียดวันนี้เป็นพิเศษ!!! เช่นเดียวกับพ่อหนุ่ม Matthew Nainby โปรดิวเซอร์เพลงชาวออสเตรเลีย ซี่งทนความหงุดหงิดในเช้าวันจันทร์ไม่ไหวแล้ว ใครจะไปคิดว่าจะมีคนบ้าลางานตอนเช้าวันนั้น แล้วเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเมืองนอกเลย แต่เค้าทำมันจริงๆ เค้าก็เลยโทรไปลางาน แล้วจองตั๋วเครื่องบินเช้าวันนั้น บินไปนิวซีแลนด์ทันที เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้คือ Queenstown เมืองเล็กๆแต่เปี่ยมไปด้วยความสวยงาม และนี่คือส่วนหนึ่งจากภาพบน IG ของเค้า ซึ่งให้คำนิยามบางส่วนจากการเดินทางครั้งนี้ว่า ‘มันเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษราวกับเวทมนต์ ที่ยากจะลืมเลือน’ ลองเสพภาพดู หลายคนคงคิดเช่นเดียวกัน… ยังไม่จบ ยังมีเวอร์ชั่นคลิปวิดีโอด้วยนะครับ แต่เรื่องน่าเศร้าคือ พอเช้าวันอังคาร เค้าก็กลับมาทำงานตามเดิม จบทริปความสุขอันแสนสั้นใน 24 ชั่วโมงเท่านั้นเอง อิอิอิอิอิ ที่มา: orzzzz, pinsta