Tag: ถนน

การขับขี่จักรยานยนต์ใกล้กับรถใหญ่มากๆ นั้นเป็นสิ่งอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น “รถใหญ่” อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น ลองชมตัวอย่างจากเหตุการณ์ต่อไปนี้ เมื่อสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งขับขี่จักรยานยนต์เบียดข้างๆ รถบัสขนาดใหญ่ แล้วเกิดสะดุดพื้นถนน ทำให้รถล้มลงจนร่างของเธอไหลเข้าหารถบัส หญิงสาววัย 27 ปีสกุล Xu ผู้ที่เป็นนักศึกษาปีที่สองของสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัยการป้องกันชาติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของเธอเพื่อไปเข้าเรียนในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2018     เธอขับขี่มาอย่างปกติ แต่ขณะที่เธอขับมายังบริเวณถนน Tamsui Pingding เธอก็ตั้งใจจะแซงรถบัสคันหนึ่งจากทางด้านซ้ายมือของเธอ แต่กลับเคราะห์ร้ายเพราะพื้นถนนต่างระดับ ทำให้ยานพาหนะของเธอเสียหลักและคว่ำลง ตัวของเธอหลุดออกจากรถและไถลเข้าไป “ใต้ล้อ” ของรถบัส ร่างของเธอถูกทับ เสียชีวิตคาที่ กลายเป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุน่าสะเทือนใจของการใช้รถใช้ถนน   จังหวะที่รถล้มลงและร่างของเธอก็ไกลเข้าไปขวางใต้ล้อของรถบัส   ชมคลิปได้ที่นี่   ทางฝั่งของ Lu คนขับรถบัสวัย 62 ปีเล่าว่าวันนี้เขาเองก็กำลังขับรถพาเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไปส่งยังสถานที่ทัศนศึกษา เขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกเลยขณะที่เกิดเหตุน่าสลดใจนี้ขึ้น กระทั่งรถบัสอีกคันหนึ่งที่ตามหลังมาแจ้งว่าพบผู้บาดเจ็บถูกรถเหยียบ จากนั้นพวกเขาก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้รีบติดต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทันที ส่วนคนขับรถก็เข้ารับการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด     ล่าสุดคดีดังกล่าวก็ยังคงอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ณ…

การจะข้ามถนนที่มีรถวิ่งอยู่ขวักไขว่นั้นจำเป็นจะต้องดูซ้ายขวาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มิฉะนั้นก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และถ้าโชคไม่ช่วยก็อาจทำให้เราต้องบาดเจ็บสาหัส     อย่างเช่นนักเรียนหญิงชาวฮ่องกงในเหตุการณ์ต่อไปนี้ เธอวิ่งข้ามถนนโดยไม่ระมัดระวังขณะที่รถแท็กซี่ก็พุ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน นั่นทำให้เธอถูกรถชนเข้าอย่างจังจนตัวเธอเกยขึ้นมาบนกระโปรงหน้ารถและกระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถ จากนั้นจึงร่วงไปนอนกองกับพื้น แต่ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นอย่างใจเย็น และเดินออกไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ชมคลิป    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2018 ที่ถนน Po Tung บนเกาะฮ่องกง นักเรียนหญิงคนนี้เดินออกมาโดยไม่ระแวดระวังรถที่กำลังวิ่ง   กล้องของรถแท็กซี่จึงถ่ายติดภาพที่พุ่งชนเข้ากับร่างของนักเรียนหญิงดังกล่าว   แม้ว่าหลังจากนั้น นักเรียนหญิงในคลิปจะลุกเดินออกไปอย่างนิ่งๆ แต่ภายหลังมีรายงานว่าเด็กคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Tseung Kwan O Hospital เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ขา เจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นสูง Jacky Chan ก็ออกมากล่าวว่าให้คนขับแท็กซี่เพิ่มความระมัดระวังขณะขับผ่านย่านผู้คนและทางเดินข้ามถนน อาจกระทำได้โดยการลดความเร็วลง อีกทั้งยังกล่าวกับคนเดินเท้าด้วยว่าให้มีสติและระมัดระวังอยู่เสมอ พยายามมองไฟสัญญาณจราจรและที่สำคัญเลยก็คือ “อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือหรือจดจ่อกับอะไรที่ไม่ใช่ถนน”   ที่มา: The Straits Times, CAP9UCAM9U และ nextshark

ปัญหาความรุนแรงบนท้องถนนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ เพราะบรรยากาศบนท้องถนนนั้นเป็นอะไรที่สามารถทำให้คนเราเดือดได้ตลอดเวลา ทั้งการขับรถเฮียๆ ของเพื่อนร่วมทาง หรือการจราจรที่ติดขัด ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุให้เกิดเหตุรุนแรงได้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบนทางด่วนในแคลิฟอร์เนีย ชายหนุ่มคนหนึ่งจอดรถกลางถนนแล้วก็เดินลงมาต่อว่าคนในรถที่อยู่ข้างหลัง     เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดย Meghan Lattimore ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เธอเล่าว่า “ตอนแรกฉันถ่ายคลิปเอาไว้เพราะเขาพยายามจะเบี่ยงออกไปที่เลนทางซ้าย แต่รถอีกคันหนึ่งเหมือนจะไม่ยอม” “เจ้าของรถเปิดประทุนขับต่อไปอีกประมาณ 3-5 เมตร แล้วก็หยุดรถ จากนั้นก็ลงมาต่อว่ารถ SUV สีดำคันหลังที่พยายามจะแทรกตัดหน้าเขา ฉันกลัวและตกใจมากเลยล่ะตอนนั้น”     หลังจากที่เจ้าของรถเปิดประทุนยืนด่าไปสักพัก คนขับรถ SUV ก็เปิดหน้าต่างออกมาตอบโต้ เลยโดนถุยน้ำลายใส่หน้าเข้าไปจังๆ ด้วยความโมโหรถ SUV จึงเลี้ยวออกมาทางซ้าย ขณะเดียวกันชายเจ้าของรถเปิดประทุนก็เดินกลับไปที่รถ แต่ทันใดนั้นเองหลังจากที่รถ SUV เลี้ยวซ้ายออกไปก็พยายามจะหักพวงมาลัยเข้ามาทางขวา เพื่อชนรถเปิดประทุนอย่างตั้งใจ แต่กลายเป็นว่าหลังจากที่ชนแล้วแรงกระแทกทำให้รถ SUV พลิกคว่ำไปซะงั้น!?     ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…   แหม่ จงใจจะทำร้ายเขา แต่รถของตัวเองดันพลิกคว่ำซะได้ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่ากรรมตามสนอง   ที่มา…

ตามท้องถนนสิ่งที่จะเกิดบ่อยๆ เมื่อมีรถวิ่งผ่านเส้นทางนั้นก็คือหลุม ซึ่งบ้างก็เป็นหลุมเล็ก บ้างก็ใหญ่ แต่ทุกหลุมก็สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องทำต่อมาคือแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อทำการแก้ไขซ่อมแซม เช่นกันกับถนนที่เขต North West England ในประเทศอังกฤษ ที่มีหลุมใหญ่ปรากฏขึ้น จึงแจ้งไปยังกรมทางหลวงเพื่อให้มาดูแล แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้พวกเขาตะลึง เพราะกรมทางหลวงบอกว่า หลุมยังไม่ใหญ่พอ จึงยังไม่มีการซ่อมแซมใดๆ     ทวิตเตอร์ของเทศบาลเขต Cheshire West และ Chester โพสข้อความว่า “เราได้รับแจ้งว่ามีการพบหลุมลึกกว่า 50 มิลลิเมตรบนถนนและทางเท้า เราจะทำการตรวจสอบภายในห้าวัน เพื่อทำการประเมินความเสียหายและกำหนดการซ่อมแซม” และทางเทศบาลก็ส่งเจ้าหน้าที่ Darren มาทำการตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจสอบออกมาว่า “หลังจากการที่ได้ไปสำรวจถนนที่ได้รับแจ้งว่ามีปัญหา เจ้าหน้าที่ดาร์เรนได้ทำการตรวจสอบและอธิบายผลว่าหลุมที่เกิดมีขนาดน้อยกว่า 50 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงยังไม่ต้องมีการซ่อมแซมแต่อย่างใด”     แน่นอนว่าสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเน็ตมากมาย และทวีตนี้ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตล้อต่อกันไป เราจะยกตัวอย่างคอมเมนต์ชาวเน็ตมาให้เพื่อนชมกันนะครับ   “เครื่องวัดระดับมันไม่ได้บอกถูกต้องเสมอไปนะโว้ย!! ถนนใน Cheshire นี่มันกลายเป็นความอับอายและยังอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักปั่นจักรยานอีก”   “สงสัยต้องหลุมขนาดนี้เขาถึงจะยอมมาซ่อมให้”   “ดาร์เรน ดาร์เรน ดาร์เรนนนน ขึ้นมาได้ละโว้ย และเรียกให้คนอื่นเอาเครื่องวัดระดับแบบใหญ่ที่สุดมาให้ด้วย”…

ทางแยกสุดมึนในมลฑลเหอเป่ย์จากทางตอนเหนือของประเทศจีนแห่งนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเมารถสักเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องจราจรที่มีหลายช่องแถมยังดูวกวนน่าสับสนอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าหากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่แล้วล่ะก็ต้องเกิดอาการปวดหัวบ้างแน่ๆ และนอกจากทางแยกที่จะดูงงๆ แล้ว ถนนสายนี้ยังไม่มีป้ายกำกับอีกด้วยว่าช่องไหนเป็นทางเข้า หรือว่าช่องไหนเป็นทางออก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสถนนที่มีความซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้     จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ถนนสายนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงนิทรรศการของเมืองจางเจี๋ยโกวใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้ทางเทศบาลของเมืองเองได้มีการปรับปรุงถนนเส้นนี้ แต่ว่าหลังจากการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วกลับสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีเส้นสีขาวที่ทำไว้เพื่อแบ่งช่องทางการจราจรแบบดูงงๆ แล้ว ถนนเส้นนี้ยังไม่มีไฟสัญญาณจราจรอีกด้วย     ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองจางเจี๋ยโกวได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ถนนสายดังกล่าวยังทำการปรับปรุงไม่เสร็จ พร้อมทั้งได้บอกให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ และขอให้ขับรถตามช่องจราจรที่ได้มีการกำหนดไว้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้งานถนนคนอื่นๆ ชาวเน็ตท่านหนึ่งจึงได้ทำแผนผังเพื่ออธิบายการใช้งานของถนนเส้นนี้ พร้อมทั้งทำลูกศรแสดงเส้นทางเข้าออกของรถยนต์เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมยังบอกเส้นทางของรถสาธารณะและทางเดินเท้าด้วยลูกศรสีขาวอีกด้วย     และหลังจากที่ภาพของถนนเส้นนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก jiege1123 “คนแก่ที่ใช้ถนนเส้นนี้จะต้องปวดหัวแน่ๆ ”  nejoujeshe “เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดเป็นช่วงที่จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวล่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่งงกันใช่ไหม??” Fisherman53 “นักออกแบบทำให้งงสุดๆ ต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างแหละ”   ลองจินตนาการดูว่าคุณเพิ่งหัดขับรถวันแรก แล้วเผลอหลุดเข้ามาในถนนเส้นนี้ดูสิ!! อืม… เหงื่อแตกแน่นอน ที่มา dailymail

สำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทุกวัน อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้ว่าคุณขับรถดีแล้ว ก็ต้องสังเกตรถคนอื่นด้วย และถึงแม้ว่าคันอื่นจะขับกันดีแล้ว อย่าลืมที่จะดูเรื่องถนนด้วย เพราะบางทีเส้นทางที่เราใช้มันก็อาจไม่สะดวกสบายอย่างที่เราคิด เพราะ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 10 ถนนที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในโลก บอกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ยอมจ่ายเงินนั่งเครื่องบินเดินทางไป อาจดีกว่ากันเยอะเลยนะ   ถนนไฮเวย์เสฉวน – ทิเบต ในประเทศจีน   ถนนเส้นนี้จะพาคุณขึ้นไปบนภูเขาสูงและลาดชัน อีกทั้งยังมีปัญหาดินและหินถล่มลงมาเป็นเรื่องปกติ และหากคุณคิดว่าก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ จากสถิติพบว่า 1 แสนคนที่ขับรถผ่านทางนี้ จะมีคนตาย 7,500 คน ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย   ถนนตัดผ่าน Stelvio ในอิตาลี   ถนนที่มีความยาวและสูงเป็นอันดับสองในบรรดาถนนบนเทือกเขาแอลป์ทั้งหมด ซึ่งสูงกว่า 2 กิโลเมตร รูปร่างเหมือนกับเด็กมาวาดอะไรเล่นขยึกขยือเต็มไปหมด ความอันตรายของมันก็คือความเร็วขณะที่ต้องขับลงมา ทางโค้งในมุม 180 องศา และที่กั้นคอนกรีตเตี้ยๆ รวมแล้วคือหายนะชัดๆ   ถนนตัดผ่าน Los Caracoles ประเทศชิลี .   เป็นถนนตัดผ่านเทือกเขาแอนดีส อยู่ระหว่างประเทศชิลีและอาร์เจนตินา เต็มไปด้วยทางสูงชันและโค้งหักศอกมากมาย…

เวลาที่เราขับรถอยู่บนถนนเพียงลำพังหรือต้องอยู่บนถนนอันแสนยาวเหยียดที่มีแต่ทางตรง สิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องระวังคืออาการหลับใน ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ในประเทศออสเตรเลียนั้นมีถนนเส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อเมือง Balladonia และ Caiguna เข้าด้วยกัน ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีความยาวมากกว่า 140 กิโลเมตร แถมยังจะเป็นทางตรงล้วนๆ ไม่มีทางเลี้ยวทางโค้งใหญ่ๆ เจือปนเลยแต่อย่างใด แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นประจำคืออุบัติเหตุที่เกิดจากอาการหลับใน ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงได้ปิ๊งไอเดีย นำป้ายคำถามมาติดระหว่างทาง เพื่อให้เหล่านักขับได้ขบคิดไประหว่างขับรถ จะไปยังไงลองไปชมกันเลย   ป้ายเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้   เล่มเกมส์จากป้ายนี้ไปเรื่อยๆ บางทีอาจทำให้คุณรักษาชีวิตเอาไว้ได้   มีการเล่นปัญหาถามตอบเกี่ยวกับเอกลักษณ์ประจำเมืองต่างๆ พร้อมคำเฉลย   ทุกคำถามจะเป็นความรู้รอบตัวทั้งสิ้น   และหากว่าคุณคิดไม่ออกละก็แค่คุณขับต่อไปก็จะเจอกับเฉลยได้ง่ายดาย   “ยอดเขาที่สุดที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์คือยอดเขาอะไร”   นอกจากจะเป็นการช่วยให้สมองได้ทำงานแล้ว ก็ยังจะได้รับความรู้กลับไปด้วย   อย่างไรก็ตาม อย่ามัวแต่อ่านป้ายจนลืมดูถนนหนทาง   ไม่งั้นอุบัติเหตุก็คงจะเกิดขึ้นเหมือนเดิม   แล้วคุณคิดว่าเกมนี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้จริงหรือไม่ ?   หลังจากมีการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตคิดอย่างไรกับป้ายเหล่านี้บ้างนะ   ฉันเป็นชาวออสเตรเลีย สามารถยืนยันได้เลยว่า ความเหนื่อยล้าในการขับรถนั้นคือฆาตกรบนท้องถนนของแท้เลย   คุณมีโอกาสที่จะเผลอหลับไปได้เลยจริงๆ…

จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มีแค่ประเทศเราที่เดียวเท่านั้น ที่ชาวเมืองต้องมารู้สึกหงุดหงิดใจกับการใช้ท้องถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ มิหนำซ้ำเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็ไม่ยอมมาแก้ไขซักที กลายเป็นว่าตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก นั่นก็คือการปลูกดอกไม้ประชดหลุมบ่อบนท้องถนน และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างภาพที่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่ได้มีแค่คนไทยเราหรอกที่ต้องมาจิตหงุดเงี้ยวกับเรื่องแบบนี้   ในบางพื้นที่ต้องใช้เวลายื่นเรื่องนานหลายปี ในขณะที่บางจุดก็ไม่เคยได้รับการซ่อมแซมใดๆ เลย   ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกตอนนั่งรถเท่านั้น แต่หลุมบ่อต่างๆ บนท้องถนน ยังเป็นสาเหตุแห่งการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย   และดูเหมือนว่าเทรนด์ปลูกดอกไม้ประชดหลุมบ่อ ได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ   ถึงเราจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดไอเดียการประชดด้วยวิธีนี้กันแน่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็รู้แหละว่า การบริหารจัดการบ้านเมืองของพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร   จะว่าไปแล้ว.. มันก็เหมือนกับการประท้วงด้วยสันติวิธีอย่างหนึ่งนั่นแหละ   และปัญหาเรื่องหลุมบ่อก็เป็นสิ่งที่น่ารำคาญใจเอามากๆ เช่นชาวเน็ตคนนี้ที่บอกว่า “ถ้าไม่มาซ่อมหลุมนี้ซักที ก็รอดูดอกไม้ได้เลย”   เอาจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากใช้ถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหรอกจริงไหม?   แหม่.. ถ้าเอาวิธีนี้มาใช้กับบ้านเราบ้าง คงสร้างเป็นสวนสาธารณะได้เลย ที่มา: twistedsifter

ถ้าใครติดตามข่าวสารต่างประเทศช่วงนี้จะทราบว่า ประเทศออสเตรเลียกำลังประสบกับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่นรอบหลายปี หลังจากพายุไซโคลนเดบบี้ได้พัดเข้าถล่ม สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่ความเสียหายทางทรัพย์สินเท่านั้น ล่าสุดพายุไซโคลนเด็บบี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวออสซี่เป็นอย่างมาก เพราะพายุดังกล่าวได้พัด “ฉลาม” ขึ้นมาเกยตื้นอยู่กลางถนน!!     โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐควีนส์แลนด์ เมื่อมีชาวบ้านรายงานว่า มีการพบฉลามตัวหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นบนถนน จนตายอยู่บริเวณนั้น “มันจะต้องถูกกระแสพายุพัดขึ้นมาเกยตื้นบนถนนแน่ๆ เรารู้สึกประหลาดใจมากๆ ตอนแรกเราตั้งใจมาถ่ายภาพความเสียหายหลังน้ำท่วม แต่ดันมาเจอซากฉลามซะอย่างนั้น” Philip Calder นักข่าวจากสำนักข่าว WIN News รายงาน     เห็นแล้วแอบนึกถึงหนังเรื่อง Sharknado ที่ออกฉายทางช่อง Syfy นึกว่าจะเจอแบบนั้นซะแล้ว   แม้พายุไซโคลนเด็บบี้จะรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี แต่ดูเหมือนชาวออสซี่จะไม่ได้เดือดร้อนกับเหตุการณ์นี้ซักเท่าไหร่ ล่าสุดมีคนจับภาพ ชาวออสซี่กำลังเล่นสกีบนน้ำที่กำลังท่วมบ้านเรือนกันอย่างสนุกสนาน พายุที่นำพาสิ่งมีชีวิตในน้ำมาไกลถึงบนฝั่งได้ขนาดนี้ ก็ถือว่ารุนแรงพอสมควรอยู่นะ ที่มา ctvnews

เรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยอายุ 5 สัปดาห์ที่ถูกพบอยู่ที่ถนนไฮเวย์ เมื่อคุณ Carmen Bernard ที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดาไปพบเข้า ก็สังเกตเห็นได้ว่าขาของมันนั้นมีความผิดปกติงอม้วนไปด้านหลังเหมือนกับขนม Pretzel ยังไงยังงั้นเลย     คุณ Carmen ได้คาดการณ์ว่ามันอาจจะถูกรถชนจนทำให้ขาของมันมีสภาพเป็นแบบที่เห็น เธอก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์ในเช้าวันต่อมา และก็พบว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด เพียงแต่ว่ามันไม่สามารถเดินได้เหมือนอย่างปกติ หลังจากการตรวจสอบอาการของมันแล้วทางสัตวแพทย์ก็ได้สรุปว่าขาของเจ้าเหมียวน้อยเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดแล้ว โดยเกิดมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และเท่านั้นยังไม่พอพวกเขาก็ได้ตรวจพบว่าตาทั้งสองข้างของมันบอดสนิทอีกด้วย โดยมีเฉพาะขาหลังทั้งสองข้างของมันนั้นที่มีความผิดปกติงอม้วนกลับไปข้างหลัง ส่วนข้างซ้ายนั้นก็มีอาการงออยู่เหมือนกันแต่มีอาการไม่หนักเท่าข้างขวา นั่นเป็นเหตุทำให้มันไม่สามารถเดินได้ แต่ขาหน้าที่เหลือยังคงใช้งานได้อย่างปกติดี ทางสัตวแพทย์ก็ได้มอบทางเลือกให้กับคุณ Carmen สองทาง อย่างแรกก็คือการทำการุณยฆาตให้มันหลับอย่างสบายตลอดไป หรืออีกทางหนึ่งก็คือต้องดูแลมันไปตลอดชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าคุณ Carmen เลือกอย่างหลังโดยไม่มีการลังเลใดๆ   เธอก็เลยตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ว่าเจ้า Pretzel   เมื่อเจ้า Pretzel มาถึงที่บ้านใหม่ มันรู้สึกกลัวต่อทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมีอะไรเข้ามาใกล้มันก็จะทำการขู่ฟ่อ พร้อมกับลงมือตบตีอย่างไม่มีเยื่อใย นั่นอาจเป็นเพราะว่ามันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์มาก่อนเลยก็เป็นได้ จึงทำให้มันรู้สึกตกใจ การที่มันมองไม่เห็นนั้นสร้างความเครียดให้กับมันมากพอดูเลยล่ะ แต่ในวันหนึ่งด้วยความพยายามของคุณ Carmen ที่คอยมอบความรักให้กับมัน และดูแลมันเป็นอย่างดี เจ้าเหมียวน้อยก็เริ่มหายใจเสียงครางออกมา พร้อมกับเอาหัวไปถูกับคุณ Carmen แล้วล่ะ แสดงให้เห็นว่ามันเริ่มที่จะเปิดใจบ้างแล้ว…

เมื่อกล่าวถึง “นิวซีแลนด์” ใครๆ ก็รู้จักประเทศนี้กันทั้งนั้น เนื่องจากมีความโดดเด่นในด้านภูมิทัศน์อันสวยงาม เป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัยและมีชีวิตชีวา ยิ่งถ้าหากใครที่เคยไปเยือนมาแล้วละก็ เชื่อเถอะว่าไม่มีใครกล้าปฏิเสธความงดงามได้อย่างแน่นอน นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นิวซีแลนด์ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ที่มีสถานที่แปลกหูแปลกตาให้เราได้ไปท่องเที่ยว และได้สัมผัสอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำของ The lord of the ring และ The hobbit อีกด้วย   มากไปกว่านั้นยังมีถนนที่ชื่อว่า “Baldwin Street” ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Dunedin ทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นถนนที่ดูแปลกตา และมีความลาดชันเป็นอย่างมาก   ถนนที่ลาดขันแห่งนี้ ถูกสร้างด้วยคอนกรีตอย่างหนา แทนการสร้างด้วยยางมะตอย เพื่อป้องกันไม่ให้ละลายในหน้าร้อน   ที่สำคัญ นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ถนนที่มีความลาดชันเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นสถานที่ที่ถูกนำมาใช้จัดงานการแข่งขันวิ่ง “Baldwin Street Gutbuster” ที่บรรดานักวิ่งทั้งหลายมักจะพากันมาประชันฝีเท้า ในการวิ่งขึ้นเนินที่แสนจะลาดชัน และยังต้องวิ่งกลับลงมาอีกด้วย     ความลาดชันของ Baldwin Street ทำให้ทาง Guinness World Records…

ดูเหมือนว่าโลกเราจะมีเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้นได้ทุกวัน บางครั้ง มันก็ประหลาดเสียจนทำให้เราคิดว่า “มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ” อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวอ๊อดโด้ พาเพื่อนๆ ไปชมวันนี้ เราไปชมกันเลยดีกว่า   เรื่องราวเกิดขึ้นที่ข้างๆ ตึกออฟฟิศแห่งหนึ่งในประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่พนักงานออฟฟิศคนหนึ่งกำลังทำงานอยู่นั้น สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง กำลัง “เยิ้บ” กับพื้นถนนข้างๆ ตึกออฟฟิศของเขา?!?   เมื่อเห็นดังนั้น พนักงงานออฟฟิศคนดังกล่าว ก็หยิบกล้องวีดีโอขึ้นมาเก็บภาพทันที พร้อมกับบรรรยายว่า “นี่คือสิ่งที่ผมต้องเจอในช่วงเช้าของการทำงานวันนี้ มีชายคนหนึ่งกำลัง “เยิ้บ” กับพื้นถนนข้างๆ ออฟฟิศอยู่” “และข้างๆ รถ ก็มีเพื่อนของเขากำลังคอยดูอยู่.. เขาทำอะไรของเขาวะเนี่ย”    ลองไปชมคลิปกันเถอะ   แล้วชาวเน็ตเค้าคิดเห็นอย่างไรบ้างกับข่าวนี้   “ตรูอ่านอะไรลงไปเนี่ย”   “ต่อไปอาจต้องมีป้าย “ระวังถนนไม่เรียบ” แถวนี้นะเนี่ย”   “อาจเป็นหลุมหน่อยนะ”   “มีรูมาให้ซ่อมอีกแระ”   บางทีโลกเราก็อาจจะประหลาดเกินไปแล้วนะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ถ้าเกิดตื่นมาทำงานแล้วเจออะไรแบบนี้ จะรู้สึกยังไง ลองมาแชร์ความรู้สึกกันดีกว่า ที่มา…

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าที่วิศวกรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า เป็นแค่คำโม้หรือเปล่า วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้มีแค่ราคาคุยเท่านั้น! อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวจนได้รับความเสียหายในวงกว้างและหนึ่งในสิ่งที่ได้รับความเสียหาย ก็คือถนนนั่นเอง     แน่นอน เมื่อถนนได้รับความเสียหาย ก็ต้องมีการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะนั่นคือเส้นทางในการลำเลียงความช่วยเหลือต่างๆ เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ทางการญี่ปุ่นจึงโชว์เทพ ซ่อมถนนให้กลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น!!     ไปชมภาพแบบชัดๆ กัน อื้อหือ ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ   แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด อาจเพราะว่าประเทศเค้าประสบกับเรื่องแบบนี้บ่อย จึงมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา อย่างย้อนกลับไปในปี 2011 พวกเขาก็ซ่อมถนนเสร็จภายในระยะเวลาไม่ถึงหกวันเท่านั้น!!       เรื่องแบบนี้ต้องยกให้เขาจริงๆ เพราะความเป็นญี่ปุ่นนี้เอง ทำให้พวกเขาสามารถฟิ้นตัวขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับความเสียหายขนาดไหน คิดเหมือนกันมั้ยละเพื่อนๆ ^^ ที่มา @UN19640410

การจราจรของแต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการปลูกฝังของประเทศนั้นๆ เหมือนอย่างต่างประเทศ เวลารถเห็นคนจะข้ามก็มักจะจอดให้ข้ามก่อน แต่ที่บ้านเราก็จอดเหมือนกันนะ แต่คนมักจะวิ่งข้ามกับแบบเร็วมากจนเพื่อนฝรั่งเหมียวงงแล้วถามว่าเขาจะรีบวิ่งไปไหน เพราะปกติเขาก็เดินข้ามแบบชิวๆ ดูเหมือนว่าที่อินเดียก็กำลังประสบปัญหานี้อยู่เหมือนกัน เมื่อไม่สามารถควบคุมความเร็วของรถที่แล่นผ่านทางม้าลายได้ ทางนายกกระทรวงคมนาคม Nitin Gadkari จึงเห็นว่าต้องออกมาเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยการเปลี่ยนทางม้าลายให้เป็นแบบสามมิติ เพื่อให้คนเห็นชัดและชะลอความเร็ว     ทางการก็หวังว่าการทำให้ทางข้ามเห็นชัดอาจจะทำให้ลดอัตราอุบัติเหตุทางท้องถนนลงได้บ้าง ซึ่งประเทศอินเดียนั้นมีอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงที่สุดในโลก     ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่าเวลาเห็นทางข้ามแล้วควรชะลอหรือไม่ อาจจะยังปรับตัวไม่ได้ทันที แต่อย่าน้อยก็น่าจะทำให้ลดอุบัติเหตุลงไปได้ ที่มา boredpanda

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตของประเทศจีนเลยทีเดียว เมื่อมีคลิปวีดีโอพนักงานบริษัทนับสิบออกมาคลานเข่าเพื่อเป็นการลงโทษตัวเอง หลังจากทำยอดขายไม่ถึงเป้า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริษัทรถเช่า Jilin เจ้าของบริษัทได้กล่าวว่า เขาเป็นคนสั่งให้หัวหน้าแผนกฝ่ายขายออกมาคลานเข่าไปบนถนนเอง เหตุผลคือ เขาต้องการให้หัวหน้าแผนกฝ่ายขายรับผิดชอบในการที่ทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า     ซึ่งเขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาสั่งแค่คนที่เป็นหัวหน้าเท่านั้น แต่พอพนักงานในแผนกที่เหลือเห็นหัวหน้าโดนลงโทษ พวกเขาก็มาร่วมคลานด้วย เพื่อเป็นการรับผิดชอบร่วมกัน     เมื่อชาวเน็ตจีนได้เห็นภาพดังกล่าว ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บ้างก็บอกว่านี่เป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ บางคนก็บอกว่านี่มันผิดกฎหมายชัดๆ จะมาลงโทษทางวินัยอะไรก็ว่ากันไป แต่ให้มาคลานเข่าแบบนี้ไม่ถูกต้อง   ลองไปชมคลิปกันดีกว่า   อย่างกับการรับน้องเลยนะเนี่ย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะฮะ ที่มา Shanghaiist

ความปลอดภัยของประชาชนถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่รัฐควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรกๆ เลย โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างของทางรัฐที่ชำรุดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ นั่นเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นอย่างต้นๆ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแล้ว ทางรัฐต้องรับผิดชอบ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในนครการาจี ที่ประเทศปากีสถาน ได้มีกลุ่มนักรณรงค์ ได้ทำการพ่นสีเป็นรูปผู้บริหาร พร้อมเขียนคำโตๆว่า “Fix it!” ไว้ข้างๆท่อระบายน้ำที่เกิดชำรุดจนเป็นหลุม เพื่อกระตุ้นให้ทางการมาซ่อมโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เช่นล้อรถอาจจะตกลงไป หรือไม่ก็มีคนตกลงไปได้     ถือเป็นไอเดียที่เจ๋งอยู่เหมือนกัน ผลที่ได้คือการผู้บริหารต้องเห็นแน่ๆล่ะ ว่ามีคนมาพ่นสเปรย์ และต้องรีบซ่อมโดยเร็ว แต่ต้องรอดูว่าสเปรย์ที่พ่นไปนั้นมันจะลบออกรึเปล่านะ อิอิ เอ.. รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้คุ้นๆ อยู่เหมือนกันนะ อันนี้เหมียวขอไม่ยุ่งละกัน ตัวใครตัวมันนะจ๊าาาาาา ที่มา voanews

ก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นข่าวถนนละลายในประเทศอินเดียกันมาแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าคุณยังไม่เคยเห็นถนน “บิดเบี้ยว” จนปูดออกมาจากพื้นและแตกแบบนี้แน่ๆ     เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่ภาพถนน Vasquez Canyon ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกปิดไปอย่างไม่มีกำหนด สาเหตุเพราะถนนเกิดการบิดเบี้ยวจนปูดขึ้นมาจากพื้นดินกว่า 4.5 เมตร     ตามรายงานบอกว่าถนนสายนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่ถนนจะขยายตัวจนทำให้ประชาชนแตกตื่น คล้ายกับฉากในหนังวันสิ้นโลก     ทางด้านนาย Paul Funk ตัวแทนจากกรมโยธาธิการของรัฐแคลิฟอร์เนียได้กล่าวว่า ถนนนั้นเกิดการยกตัวขึ้นมาเอง ทำให้ถนนผิดรูป และนี่อาจต้องใช้เวลาแก้ไขกันเป็นเวลานานทีเดียว     เหมี่ยวเห็นแล้วสยองเลย นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนให้เราเตรียมรับมือกับอะไรสักอย่างก็เป็นได้นะ ที่มา metro

ปัญหาเกี่ยวกับน้ำท่วมขังในกรุงเทพ ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีระบบการระบายน้ำที่ไม่ดีพอ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากเรานำวัสดุชนิดใหม่อย่าง Topmix Pemeable คอนกรีตที่มีความสามารถในการซึมซับน้ำได้มากถึง 3,330 ลิตรเลยทีเดียว!!   คอนกรีตชนิดนี้สามารถดูดซึมน้ำได้มากถึง 3,330 ลิตรใน 1 นาที ผิวหน้าของมันทำมาจากวัสดุชนิดใหม่ที่เรียกกันว่า Topmix Pemeable มันมีรูพรุนอยู่ที่ผิวหน้า ช่วยให้สามารถอุ้มน้ำไว้ได้   โดยผู้ผลิตเจ้าวัสดุนี้มีชื่อว่าบริษัท “Lafarge Tarmac” พวกเขาหวังว่ามันจะช่วยลดการเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ช่วยลดการเกิดแอ่งน้ำตามถนนให้น้อยลง และทำให้การใช้รถใช้ถนนยิ่งปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง   ทั้งนี้น้ำฝนสามารถไหลผ่านรูพรุนของคอนกรีตลงไปสู่แหล่งน้ำใต้ดิน ในขณะเดียวกันยางมะตอยก็จะทำหน้าที่เป็นอ่างเก็บน้ำในช่วงที่เกิดน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก   เจ้า Topmix Pemeable ถูกพัฒนามาจากสิ่งที่คล้ายคลึงกับคอนกรีตที่ใช้กันมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว และหลังจากผ่านการพัฒนา เจ้าวัสดุชนิดใหม่นี้ก็จะสามารถรองรับน้ำหนังของรถยนต์ได้มากขึ้นและเย็นมากกว่าคอนกรีตชนิดเดิม   ชมคลิปการทำงานของเจ้าคอนกรีตที่ว่านี่กันเลย   อย่างไรก็ตาม Topmix Pemeable ก็ยังคงไม่ได้ผลดีเท่าไหร่ในภูมิประเทศที่มีอากาศที่หนาวเย็น เพราะน้ำเย็นจะทำให้ตัวคอนกรีตขยายตัวและศึกกร่อนได้ง่ายนั่นเอง ที่มา DailyMail Online

ภาพเหตุการณ์นี้อาจจะดูเซอร์เรียลไปบ้าง แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อกล้องติดรถยนต์คันหนึ่งได้จับภาพเครื่องบินลำเล็ก เหมือนว่ากำลังลงจอดบนถนนที่รถวิ่งกันในถนน Red Hill ในเมือง Irvine   ระหว่างที่ชายคนนี้กำลังขับรถอยู่ จู่ๆเขาก็เห็นเครื่องบินลำหนึ่งแล่นผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว ถือเป็นภาพที่แปลกตามากๆ   เมื่อเลี้ยวไปดู ก็พบเครื่องบินลำนี้จอดอยู่กลางถนน ทราบภายหลังแล้วว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกเหมือนกันที่เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินบนถนนแบบนี้   เราไปดูคลิปเหตุการณ์กันเลย   ที่มา CalicoStrike

เมื่อ 4 ปี ที่แล้วได้มีเทศกาลดอกไม้หรือที่คนโปรตุเกสรู้จักกันในชื่อ People’s Festival (Festas do Povo / Festas das Flores in Portuguese) ซึ่งในปีนี้ก็กลับมาอีกครั้งบนท้องถนนในเมืองอเลนเตโจ ประเทศโปรตุเกส ซึ่งงานนี้จัดตั้งแต่วันที่ 22-30 สิงหาคม จุดเด่นที่ดึงดูดคนให้มาเที่ยวชมงานนี้ก็คืองานศิลปะการพับดอกไม้ด้วยกระดาษที่ประดับอยู่เหมือนถนนมากมายนับพันดอก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน คุณก็จะเห็นดอกไม้ห้อยอยู่เหมือนเป็นหลังคาดอกไม้ ซึ่งผลงานเหล่านี้ก็มาจากผู้ที่พักอาศัยอยุ่ในแถบนั้น ทำการพับกระดาษช่วยอย่างกันขยันขันแข็ง เพื่อที่จะมาทำเป็นหลังคาเหล่านี้ ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการพับและเตรียมการตลอด 4 เดือน บางคนถึงขั้นอดหลับอดนอนเลยทีเดียว งานนี้เหมือนเป็นหัวใจหลักของเมืองเลนเตโจเลยก็วว่าได้ มันไม่เหมือนกับเทศกาลทั่วไปที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลา แต่มันเหมือนงานที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำขึ้นมาตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการจัดงานและลงมือทำ เราไปดูบรรยากาศภายในงานกันเลยดีกว่า   ที่มา boredpanda