Tag: ถ้ำ
-
ลีน่าจังถูก “แจ้งจับ” หลังลอบเข้าถ้ำพระยานครเพื่อถ่ายคลิป ‘ล้อเลียน’ ทีมหมูป่า…
หลังจาก “ลีน่าจัง” หรือว่า นางลีน่า จังจรรจา ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่เจ้าตัวถ่ายออกมาเป็นเชิงล้อเลียนภารกิจช่วยชีวิตที่หมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้นถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ล่าสุดในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 นายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แจ้งจับลีน่าจังเนื่องจากการถ่ายทำคลิปวิดีโอดังกล่าวของเธอนั้นเป็นการลอบเข้าสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต สถานที่ภายในคลิปวิดีโอของลีน่าจังเป็นบริเวณภายในของถ้ำพระยานคร ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งเขาสามร้อยยอด ซึ่งการเข้าไปแอบถ่ายทำคลิปวิดีโอแบบนั้นถือเป็นการลอบเข้าสถานที่โดยมิได้รับอนุญาต นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตั้งแต่ทางเข้าจนกระทั่งถึงภายในถ้ำ แต่ในขณะหนึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดอาการเจ็บข้อเท้าจนเดินไม่ไหว เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จึงต้องเข้ามาดูแล และในจังหวะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ พากันไปช่วยดูแลนักท่องเที่ยวดังกล่าว ลีน่าจังจึงขึ้นไปเที่ยวยังบริเวณด้านในของถ้ำพระยานคร แล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอ ล้อเลียนเหตุการณ์ทีมหมูป่าที่ติดถ้ำหลวง นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า “อุทยานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ตามมาตรา 16 ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในอุทยานแห่งชาติ พศ. 2552 ในมาตรา 27 นอกจากนี้ยังมีความผิดในมาตราอื่นอื่นหลายมาตราด้วย” สุดท้าย นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำเรื่องไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ซึ่งกระทำการแจ้งความเรียบร้อยแล้ว …
-
‘เราดีใจมากๆ ที่ช่วยพวกคุณออกมาได้’ คำอำลาทีมหมูป่า จากสองนักดำน้ำชาวอังกฤษ…
หลังจากที่ผ่านพ้นภารกิจปฏิบัติการกู้ชีพทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำหลวงไปแล้ว ก็ถึงเวลาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปฏิบัติงานในภารกิจครั้งนี้ ต้องแยกย้ายกลับสู่ถิ่นฐานภูมิลำเนา หนึ่งในนักดำน้ำชาวอังกฤษ Jason Mallinson ได้กล่าวเอาไว้ก่อนที่จะบินกลับสู่ประเทศอังกฤษว่า “เราดีใจมากๆ ที่เราสามารถพาพวกคุณออกมาได้ อย่าประมาทแบบนี้อีกนะ” Jason Mallinson (ซ้าย) John Volanthen (ขวา) นาย Mallinson ในวัย 50 ปี พร้อมกับ John Volanthen วัย 47 ปี ได้ปฏิบัติภารกิจเยี่ยงฮีโร่และกลับถึงประเทศอังกฤษในช่วงเช้าของวันที่ 12 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับกล่าวเพียงสั้นๆ “พวกเราไม่ใช่ฮีโร่ แทบจะตรงกันข้ามเลย” หลังจากเดินทางมาถึงสนามบินลอนดอนฮีทโธรว์ นาย Volanthen ได้รับอ้อมกอดพร้อมกับช็อคโกแลตจากหญิงชาวไทยไม่ทราบชื่อ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับความเสียสละของพวกเขา นาย Volanthen ยังกล่าวถึงความรู้สึกโล่งอกหลังจากที่ได้เห็นเด็กๆ ปลอดภัยดี จากปฏิบัติการทั้งหมด…
-
หัวงานคนงานที่เคยติดเหมืองชิลี อยากมาช่วยส่วนตัว ‘อดทนไว้ทีมหมูป่า’ ส่งกำลังใจถึงเด็กๆ
อีกหนึ่งเสียงเล็กๆ จากผู้ที่เคยประสบภัยทางธรรมชาติเช่นเดียวกันของ นาย Mario Sepulveda ผู้นำคนงานเหมืองและผู้ปลุกขวัญกำลังใจให้กับชาวเหมือง ระหว่างเหตุการณ์เหมืองถล่มที่ประเทศชิลีและติดอยู่ในนั้นนานถึง 69 วันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาได้ทำการอัดคลิปวิดีโอพร้อมกับพูดว่า “อดทนไว้นะ” ส่งตรงมาถึงเด็กๆ และผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่า ทั้ง 13 ชีวิต จากเหตุติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยเป็นภาพของเขาสวมชุดชูชีพสีเหลือง หมวกนิรภัยพร้อมดวงไฟติดอยู่ ซึ่งนอกจากนี้เขายังระบุเพิ่มเติมเอาไว้ว่า กำลังหาทุนเพื่อเดินทางมายังประเทศไทย โดยตั้งใจจะมาช่วยเหลือด้วยตัวเขาเองให้จงได้ ทั้งนี้ได้ขอการสนับสนุนเงินจากทางรัฐบาลชิลีไปแล้ว หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์เหมืองถล่มและมีวิศวกรไทยได้เข้าร่วมทีมช่วยเหลือด้วย “ผมอยากจะไปถึงที่นั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจจากครอบครัว ผมอยากกอดพวกเขา พร้อมกับถ้อยคำให้กำลังใจจากปากของผมเอง” นอกเหนือจากนี้เขายังได้แนะนำเอาไว้ว่า ทางการไทยควรเพิ่มงบประมาณทางด้านการกู้ภัยและช่วยเหลือ เพื่อไม่อยากให้เสียเวลาไปมากกว่านี้… ทั้งนี้ นาย Mario Sepulveda นั้นเคยประสบภัยติดอยู่ในเหมืองถล่มพร้อมกับเหล่าคนงานเหมือง ในบริเวณทะเลทรายอะตาคามา ประเทศชิลี เมื่อปี 2010 ชาวเหมืองทั้ง 33 ชีวิตติดอยู่ในนั้นนานถึง 69…
-
ทีมกู้ภัยอังกฤษ เผยถึงปฏิบัติการ ‘ถ้ำหลวง’ กับสื่อนอก ไม่มีปาฏิหาริย์ มีแต่ความรัดกุม
ในช่วงที่ผ่านมากระแสข่าวที่ผู้คนต่างให้ความสนใจมากที่สุดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็คือกรณีของเด็กและโค้ชทีมฟุตบอลหมู่ป่าอะเคเดมี่ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงนานเกือบ 10 วัน จนกระทั่งแสงสว่างจากไฟฉายของทีมนักกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญถ้ำจากอังกฤษ ส่องไปเจอกับดวงตาทั้ง 13 คู่ ก่อนจะทักทายกันด้วยประโยค How many of you… ความสำเร็จของการของการปฏิบัติการค้นหานี้ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างไม่ลดละ และคงจะขาดทีมนักดำน้ำลุยถ้ำผู้เชี่ยวชาญไปไม่ได้ ที่คอยให้ความช่วยเหลือกับทางการไทยเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้น John Volanthen ปฏิบัติการในคืนวันจันทร์ นำโดยนาย John Volanthen และ Rick Stanton นักดำน้ำพลเรือนชาวอังกฤษ ได้นำร่องดำน้ำไปวางตำแหน่งเชือก ที่จะเข้าใกล้บริเวณที่คาดว่าทั้ง 13 ชีวิตน่าจะรออยู่ภายในถ้ำ Rick Stanton เขาและทีมช่วยกันปักเชือกลงดินตามแนวถ้ำ เพื่อให้ทีมที่เหลือสามารถเดินทางตามมาได้ ป้องกันการหลงและถูกกระแสน้ำพัดไป แต่แล้วจนกระทั่งเชือกที่ Volanthen นำติดตัวมาหมดลง พวกเขาจึงต้องเงยหน้าขึ้นสู่ผิวน้ำ ในจังหวะนั้นเอง เขาก็ได้พบกับดวงตาแห่งความหวังทั้ง 13 คู่ จับจ้องมาที่เขาและทีมกู้ภัย… ถ้าหากว่าเชือกหมดก่อนหน้านั้น…
-
บรรยากาศการออกสำรวจถ้ำ คลายข้อสงสัยทำไมถึงเข้ายาก ลุยอุปสรรคน้ำ-โคลน-แคบ
พื้นที่ภายในบริเวณถ้ำโถงใหญ่ที่ยังสามารถเดินได้ตามปกตินั้น ยังไม่เป็นปัญหามากนัก แต่เมื่อเข้าไปส่วนลึกข้างในของถ้ำมากยิ่งขึ้น พื้นที่ก็ยิ่งแคบและเล็กลงไปเรื่อยๆ แสงสว่างเริ่มไปไม่ถึง และอากาศเริ่มไม่ถ่ายเท… ซึ่งเมื่อเกิดเหตุคนติดถ้ำเกิดขึ้น ตัวอย่างภารกิจการเข้าช่วยเหลือคนติดถ้ำในแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลามากพอสมควร เริ่มตั้งแต่กระบวนการศึกษาถ้ำ การวางแผนเข้าถ้ำในแต่ละจุด และประเมินสภาพภายในถ้ำแต่ละจุดทุกๆ รายชั่วโมง ทั้งนี้ อาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่าภายในถ้ำแคบๆ นั้น เป็นอย่างไร ทำไมการช่วยเหลือถึงมีความลำบากและใช้เวลานาน ตัวอย่างภารกิจสำรวจถ้ำจาก Dudley Caving Club ที่ทำการพิชิตถ้ำแคบๆ ในประเทศอังกฤษและเวลส์ ระหว่างปีค.ศ. 2010 – 2015 การเดินทางเข้าไปภายในถ้ำแคบนั้น ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย โดยสิ่งแรกที่จะต้องเจอก็คือพื้นที่แคบอย่างมาก แทบจะลอดตัวผ่านไปได้ยาก และน้ำโคลนขุ่นที่ขังอยู่ภายในบริเวณถ้ำลึกข้างใน ที่มาพร้อมกับความลื่น… หากแต่การพิชิตจะต้องเจอกับความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมากขนาดนี้ ต้องพยายามเบียดร่างกายเข้าไปในช่องแคบ มีน้ำท่วมสูงและไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป้าหมายสำหรับการช่วยคนติดถ้ำจะต้องพบและพากลับออกมาให้ได้ รวมไปถึงการรักษาชีวิตตัวเองให้รอดออกมาด้วยเช่นกัน . จึงพอเป็นเหตุผลที่ช่วยอธิบายได้ว่า การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยติดถ้ำต้องใช้เวลานาน อาศัยความเชี่ยวชาญทักษะเฉพาะตัว รวมไปถึงความอดทนของร่างกายและจิตใจเป็นอย่างสูง …
-
เครือข่ายหมู่บ้านถ้ำจีน Yaodongs เป็นที่อยู่ของชาวถ้ำกว่า 3,000 คน มาตั้งแต่โบราณกาล
เป็นที่เชื่อกันว่าลึกลงไปใต้ดินของเมือง ซานเหมินเซียะ แห่งมณฑลเหอหนานนั้น เป็นที่อาศัยของผู้คนเกือบ 10,000 ครัวเรือน และหมู่บ้านอีกนับร้อยแห่ง ลักษณะของการสร้างที่อยู่อาศัยใต้ดินโดยแบ่งออกเป็นย่านๆ ตามหมู่บ้านหรือลานกว้างนั้น เป็นภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล โดยหนึ่งหมู่บ้านนั้นสามารถมีผู้อาศัยได้ถึง 3,000 ชีวิต ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้พบเห็นกันในเมืืองซานเหมินเซียะนี่เอง . ปัจจุบัน หน่วยงานของรัฐบาลกำลังพยายามสำรวจไปตามอุโมงค์และสถาปัตยกรรมสุดล้ำที่อยู่ใต้ดินแห่งนี้ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยใต้ดินที่เชื่อมกันเป็นถ้ำและอุงโมงค์แบบนี้ถูกเรียกว่า “Yaodongs” ซึ่งที่แห่งนี้ได้มีผู้คนอาศัยผ่านไปแล้วราว 6 รุ่น หรือมากกว่า 200 ปีด้วยกัน พวกเขาสร้างที่พักอาศัยใต้ดินแบบนี้ก็เพื่อรักษาความอุ่นเมื่ออากาศหนาว และรักษาความเย็นเมื่ออากาศร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Easy Tour China กล่าวว่า “มันมีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ” . พวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าที่จะขุดดินลงมาราว 7 เมตร เพื่อสร้างที่บ้านในถ้ำแบบนี้ ซึ่งผลงานที่พูดได้ว่าดีที่สุดนั้นถูกสร้างอยู่ในหมู่บ้าน Renma และ Miaoshang ในเมือง Shanxian มันเป็นบ้านที่มีสไตล์เรียบง่าย ฝุ่นเขลอะ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบชาวตะวันตกยุคสมัยใหม่ เช่น…
-
ท่องโลกใบใหม่ภายใต้ “ธารน้ำแข็ง” ที่ใหญ่ที่สุด ความงดงามอย่างเยือกเย็นที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ
ธารน้ำแข็งหรือ Glacier เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการที่หิมะตกหนักจนหนา แล้วเริ่มเคลื่อนตัวไหลลงมาเหมือนกับสายน้ำเกิดเป็นธารน้ำแข็งตามชื่อของมันเลย ภาพชุดนี้ถ่ายโดย Einar Runar Sigurdsson ที่ได้เข้าไปในธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ ในการเดินเข้าไปข้างใต้ธารน้ำแข็งแบบนี้ แต่นั่นก็ทำให้เขาได้เก็บภาพความงดงามที่ไม่ได้หาดูกันง่ายๆ ใต้ธารน้ำแข็งก็จะมีธารน้ำไหลผ่าน ซึ่งมันได้สร้างเป็นเหมือนถ้ำคริสตัลที่เผยให้เห็นความงามภายในธารน้ำแข็งนั้น ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า Vatnajokull Glacier ตั้งอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ โดยอุปกรณ์ถ่ายภาพของเขาคือกล้อง Fuji X-PRO2 “ถ้ำบางแห่งที่ผมได้ไปถ่ายต้องปีนขึ้นไปประมาณ 4-5 กิโลเมตรกว่าจะไปถึงได้ และต้องใส่ที่ยึดน้ำแข็งติดกับรองเท้าเพื่อกันลื่น บางที่ก็ต้องใช้เชือกในการโรยตัวลงไปในถ้ำด้วย พอถ่ายเสร็จก็ต้องปีนขึ้นมาอีกที” “ถ้ำบางแห่งก็เต็มไปด้วยน้ำที่อยู่ข้างใน ผมจะลงไปได้ก็ต่อเมื่อน้ำมันกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว เพื่อที่จะได้เดินชมได้ ถ้ำบางแห่งก็น่าเป็นห่วงแม้จะอยู่ในช่วงกลางฤดูหนาว แต่เราก็ไม่เคยเข้าไปเลย ถึงมันจะดูสวยแค่ไหน ก็ไม่คุ้มถ้ามันเกิดถล่มลงมา” Vatnajokull Glacier ถือเป็ยมวลธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้ มีขนาดประมาณ 8,200 ตารางกิโลกเมตร และมีความหนาถึง 1,000 เมตร ซึ่งในปี 2008 ที่แห่งนี้เคยประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติมาแล้ว แต่ของแบบนี้ควรดูแต่ตามากกว่านะ เพราะว่ามันอันตรายมากจริงๆ แค่เห็นภาพก็รู้สึกว่าคุ้มแล้ว ที่มา designyoutrust
-
ช่างภาพตามถ่าย ‘ถ้ำ’ ใต้ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่จะละลายถ้ำเก่า และเกิดถ้ำใหม่ทุกๆ ปี
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Vatnajökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่ตั้งอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์กันล่ะ!! ภาพชุดนี้เป็นผลงานของตากล้องชาวอังกฤษ Mikael Buck ที่เข้าไปถ่ายภาพในถ้ำใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ ‘การที่จะสามารถเข้าไปถ่ายภาพสวยๆ เหล่านี้ได้ คุณต้องปีนธารน้ำแข็งเข้าไป เหมือนกันกับการปีนเขานั่นแหละ และเป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องผูกตัวไว้กับคนที่ปีนไปด้วยเพื่อความปลอดภัย’ Mikael Buck กล่าว ถ้ำในธารน้ำแข็ง Vatnajökull สิ่งที่ยากที่สุดก็คือถ้ำแห่งนี้จะสามารถเข้าได้เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น และในฤดูหนาว แสงที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพนั้นจะมีระยะเวลาที่จำกัดมากเพราะค่ำเร็ว นอกจากเขาต้องแข่งกับเวลาแล้ว การเดินทางโดยปีนเข้าไปนั้นยังอันตรายมากๆ อีกด้วย แต่พอได้เข้าไปแล้วมันก็น่าอัศจรรย์ใจมากเช่นกัน ‘ตอนที่ผมเข้าไปในถ้ำใต้ธารน้ำแข็งครั้งแรกนั้น คุณเดินเข้าไปในหลุมมืดๆ แล้วสักพักคุณก็มาโผล่ในภูมิประเทศที่คุณไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย มันไม่เหมือนสิ่งใดที่ผมเคยเห็นมา ถ้าผมมีเวลาล่ะก็ ผมสามารถใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ จ้องมองความงามของมัน’ Buck กล่าวต่อ ที่ Vatnajökull แห่งนี้ ในฤดูร้อนของทุกๆ ปีน้ำแข็งจะเคลื่อนที่ ทำให้เกิดถ้ำใหม่ขึ้น และถ้ำเก่าจะถูกทำลายลง เพราะฉะนั้นเวลาไปแต่ละครั้งถ้ำก็จะไม่เหมือนกันหรอก แต่กระนั้นช่างภาพของเราก็เป็นห่วงสภาพของธารน้ำแข็งนี้จริงๆ เพราะจากสถิติแล้วพบว่าปริมาณของธารน้ำแข็งนั้นจะลดลงทุกๆ ปี เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ …
-
พาเที่ยว “ถ้ำคริลตัล” ในเม็กซิโก สวยงามราวกับบ้านของซุปเปอร์แมนในขั้วโลกเหนือ!!!
สำหรับคนที่เคยดูหนังเกี่ยวกับซุปเปอร์แมน ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับบ้านของเขาที่ตั้งอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ ซึ่งมันเป็นแท่งคริสตัลขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาอย่างสวยงาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่แบบนั้นจะมีอยู่จริงบนโลกของเราด้วย ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Naica ประเทศเม็กซิโก ถ้ำนี้เต็มไปด้วยผลึกหินสีขาวแวววับ แต่ต้องเดินลึกเข้าไปกว่า 300 เมตร หินชนิดนี้ก็คือแร่ยิปซั่ม พบในถ้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่สุดถึง 12 เมตรด้วยกัน หนักกว่า 55 ตัน แถมอุณหภูมิในถ้ำก็สูงถึง 58 องศาเซลเซียส แต่ก็มีความชื้นถึง 90-99% นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมไม่มีคนเข้ามาสำรวจ เพราะว่าอยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็ทนไม่ไหวแล้ว นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ตั้งโปรเจกต์ Naica ขึ้นมาเพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับถ้ำแห่งนี้ โดยที่นี่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนโบราณและข้างใต้ก็เต็มไปด้วยลาวาที่ร้อนระอุ ช่องว่างของถ้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้แร่เจริญเต็บโตขึ้นมาได้ แต่ต้องใช้เวลานานถึง 500,000 ปี ซึ่งอุณหภูมิที่อยู่ในถ้ำก็คงที่เหมาะสำหรับทำให้แท่งคริสตัลเหล่านี้ต่อตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ เห็นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าโลกเรานี้ยังมีอีกหลายที่ที่เรายังไม่ได้ค้นพบ แต่เชื่อว่าเลยถ้ำแห่งนี้คงไม่มีใครไปเยือนแน่นอน เพราะว่ามันร้อนเกินจะบรรยาย ที่มา designyoutrust
-
เรื่องราวชีวิต “สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก” ที่ต้องขุดหลุมอยู่ พร้อมทั้งปลูกสวนสุดงดงามไว้ด้วย!!
สุนัจจิ้งจอกในวัยเด็กไม่ได้เหมือนอย่างที่เราคิดเท่าไหร่ มันมีรูปร่างเหมือนสุนัขทั่วไป ร่างกายยังไม่ได้เป็นสีส้ม และยังมีความน่ารักอยู่ในตัวสูง เหมือนอย่างสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในอาร์กติก อลาสก้าแห่งนี้ นอกจากมันจะมีความน่ารักแล้ว มันยังเป็นคนสวนที่ดีอีกด้วย โดยที่มันจะขุดหลุมไว้เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากผู้ล่าหรือเอาไว้อยู่อาศัยเพื่อความอบอุ่น และนอกจากนั้นการขุดหลุมของมันยังเป็นการช่วยให้พื้นที่เหล่านั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ อีกด้วย Brian Person นักชีววิทยาสัตว์ป่าแห่ง North Slope Borough ในเมือง Barrow, Alaska อธิบายว่าที่แห่งนี้มีลูกจิ้งจอกกว่า 16 ตัว ที่อาศัยอยู่ในถ้ำที่มันขุดขึ้นมาเอง โดยสิ่งที่อยู่ในนั้นก็เต็มไปด้วยฉี่ อึ และซากสัตว์ที่มันล่ามาได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็คือปุ๋ยอย่างดีนี่เอง สิ่งนี้จึงทำให้มีพืชเล็กๆ พร้อมทั้งดอกไม้ป่าสีเหลืองขึ้นมาเหนือถ้ำของพวกมัน เติมแต่งให้ที่ดินที่ไม่เคยมีอะไรขึ้นเลย ได้เกิดความงดงาม เจ้าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้ไม่ได้สร้างความงดงามให้เท่านั้น มันยังทำให้สิ่งแวดล้อมในละแวกนั้นดูอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสัตว์กินพืชในช่วงหน้าร้อนจะได้มีอะไรกิน เรียกได้ว่าเป็นวัฏจักรของธรรมชาติที่งดงามจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้จะสามารถทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้อีกมากมาย ที่มา nationalgeographic
-
Pedro ชายแก่อาร์เจนติน่า ผู้ทำตัวเยี่ยงคนโบราณ อาศัยในถ้ำมานานถึง 40 ปี
มนุษย์ถ้ำ เป็นคำที่ใช้เรียกคนสมัยก่อน ตอนที่ยังไม่มีการสร้างบ้านเรือน มนุษย์จะอาศัยอยู่ในถ้ำ แต่นั่นคืออดีต เพราะปัจจุบันคงแทบไม่มีใครใช้ชีวิตแบบนั้นแล้ว แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ยังมีคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ โดยไม่มีไฟฟ้า หรือน้ำประปา และมนุษย์คนนี้ก็คือ Pedro Luca ชายวัย 79 ปี ผู้อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งทางเหนือของอาร์เจนติน่ามานานถึง 40 ปีแล้ว เนื่องจากไม่มีประปา เขาจึงดื่มน้ำจากแม่น้ำ San Pedro de Colalao ส่วนอาหารนั้น ก็มาจากการเข้าป่าล่าสัตว์ด้วยตัวเอง เขาตื่นนอนตอนตีสามทุกเช่า โดยมีไก่เป็นนาฬิกาปลูก และสิ่งแรกที่ทำคือ การก่อไฟ แล้วค่อยเริ่มกิจกรรมอย่างอื่น แม้จะอยู่ในถ้ำ แต่ก็ไม่ขาดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง เพราะเขามีวิทยุใส่ถ่านเล็กๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งหาสัญญาณได้ยากมาก และยังใช้เบี้ยผู้สูงอายุที่รัฐบาลมีให้ เพื่อมาใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่สามารถทำเองได้ เช่น เทียนไข ยีสต์ และข้าวโพด ตอนนี้เขาอายุเกือบ 80 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแรงเกินกว่าคนวัยนี้ทั่วๆ ไป เพราะในแต่ละวันนั้นเขาเดินขึ้น-ลงเขาทุกวัน เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมเคยที่นี่มาตอนอายุ 14 ปีครั้งหนึ่ง…
-
มหัศจรรย์ “ถ้ำหนอนเรืองแสง” ประเทศนิวซีแลนด์ ธรรมชาติที่รอคอยนักเดินทางตัวจริงไปสัมผัส…
ประเทศนิวซีแลนด์ ถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีความสวยงามทางธรรมชาติมากมาย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเหล่านักผจญภัย และนักท่องเที่ยว ถึงได้พากันมาเที่ยวชม ณ ประเทศแห่งนี้ และอีกหนึ่งสถานที่ในประเทศนิวซีแลนด์ ที่เราอยากจะพาคุณไปสัมผัสความสวยงามก็คือถ้ำ Waitomo หรือที่หลายคนเคยได้ยินในชื่อ ถ้ำหนอนเรืองแสง นั่นเอง เรียกได้ว่าเมื่อได้ยลโฉมภาพของถ้ำแห่งนี้ ก็ทำเอา #เหมียวขี้อ้อน ถึงกับอึ้งไปเลย ก็ดูสิ…มันทั้งสวยงามสะดุดตาม และมหัศจรรย์ที่สุดเลยละ สำหรับถ้ำหนอนเรืองแสงแห่งนี้ อยู่ในเขตเมือง Waitomo บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ โดยภายในเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยออกมามากมาย แต่ความพิเศษของมันมีมากกว่านั้น… เพื่อนๆ ลองดูตรงบริเวณผนังสิ…เต็มไปด้วยแสงเปล่งประกายระยิบระยับราวกับอัญมณีล้ำค่า ที่งดงามตามมากจริงๆ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดแสงสวยๆ เหล่านั้นก็คือ “เจ้าหนอนเรืองแสง” นั่นเอง หนอนเรืองแสง หรือที่เรียกว่า Glowworm คือชื่อเรียกสัตว์จำพวกตัวอ่อนของแมลง ที่อยู่ในระยะนี้จะสามารถส่องแสงออกมาเป็นความงดงามอย่างที่เราเห็น บางชนิดจะอยู่ในระยะนี้ไม่กี่เดือน หรือบางชนิดอาจจะอยู่ไปถึง 1 ปี ก่อนจะเจริญเติบโตเป็นแมลงที่ตัวเต็มที่ต่อไป… แค่เราได้ถ้ำแห่งนี้จากรูปถ่ายก็งดงามตระการตามากๆ แล้ว หากมีโอกาสได้ไปเห็นด้วยตาของตัวเอง เชื่อว่ามันจะต้องสวยงามกว่านี้หลายเท่าแน่นอน . เมื่อเวลาได้มองเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ก็ทำให้เรารู้สึกราวกับว่าได้มองดูดาวบนท้องฟ้า ที่ส่องสกาวระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด…
-
ภาพถ่ายสุดอลังการราวกับเทพนิยายของ Michele Burns ที่บุกลงไปถ่ายถ้ำใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป!!!
วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพบรรยากาศของสิ่งมหัศจรรย์ที่บ้านเราคงไม่มีวันได้เห็นกันแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ นั่นก็คือถ้ำใต้ธารน้ำแข็งยังไงล่ะ ร้อนขนาดนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นกันแล้วล่ะ >< สำหรับผลงานนี้เป็นของช่างภาพนักเดินทางที่ชื่อว่า Lisa Michele Burns ซึ่งมักจะออกเดินทางไปตามสถานที่สวยๆ ตามธรรมชาติและถ่ายภาพบรรยากาศกลับมา และผลงานของเขาในเซ็ทภาพนี้ก็เรียกได้ว่าสวยงามราวกับว่าออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว แค่มองผ่านตาแว๊บแรก ก็ต้องตะลึงถึงผลงานการสรรค์สร้างของธรรมชาติ กับถ้ำใต้ธารน้ำแข็ง Vatnajokull โดยธารน้ำแข็งที่ว่านี้อยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ กินพื้นที่ไปกว่า 8,100 ตารางกิโลเมตรด้วยกัน แต่ละปีนั้นน้ำแข็งจะขยับกว่า 100 เมตร และในฤดูหนาวจะมีขนาดหนาขึ้นอึกกว่า 10 เมตร นั่นหมายถึงถ้ำที่นี่จะเปลี่ยนแปลงทุกๆ ปี เพราะการละลายและการกัดเซาะ พอจ้องมองนานๆ แล้วราวกับจะถูกมันกลืนกินยังไงอย่างงั้นแหละ ราวกับออกมาจากเทพนิยายจริงๆ ใครที่มีโอกาสก็อย่าลืมไปถ่ายกันไว้นะจ๊ะ สวยงามสุดยอดไปเลยจริงๆ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาวและอันตรายในการเดินทางด้วยนะเนี่ย ยอมใจเขาจริงๆ เลย แต่สักครั้งในชีวิต หลายๆ คนก็คงอยากจะไปเหมือนกันใช่มั้ยล่าาา ^^ ที่มา:…
-
พาทัวร์ “ถ้ำค้างคาว” จาก Batman V Superman ด้วย Google Maps เห็นทุกซอกทุกมุม!!
หลายคนที่ดู Batman V Superman มาแล้วก็คงอยากจะเห็นรายละเอียดของ Batcave หรือถ้ำค้างคาว ที่เป็นฐานลับที่ทางบรูซ เวย์น หรือแบทแมนของเราได้สร้างไว้สังเกตการณ์ต่างๆ แต่ในหนังนั้นมันก็โผล่มาแบบแว๊บๆ ทำให้เราไม่เห็นรายละเอียดของมันว่าอลังการงานสร้างขนาดไหน ทาง Google Maps ก็เลยจัดทัวร์ลงถ้ำให้เราได้ไปเดินเล่นซะเลย ซึ่งกูเกิลนั้นทำออกมาเป็นรูปแบบของ Google Maps Street View ให้เราได้เห็นรายละเอียดที่มากกว่าในหนัง ซึ่ง #เหมียวสามสี ก็ได้ไปสำรวจมานิดหน่อยละ เลยเก็บภาพมาฝากบางส่วน สำหรับคนที่อยากไปเดินเล่นเอง ก็ลองเข้าไปกันได้เลย ที่มา google maps
-
การเดินทางสุดอัศจรรย์ของ Ryan Deboodt ช่างภาพที่ชอบการสำรวจถ้ำต่างๆ เป็นชีวิตจิตใจ
เพราะมนุษย์เรานั้นมีความชอบที่แตกต่างกัน เช่น บางคนก็ชอบไปเที่ยวตามทะเล ตามภูเขา ตามเมืองใหญ่ต่างๆ เพื่อไปช็อปปิ้ง แต่ช่างภาพคนนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะเขากลับชอบโลกที่อยู่ลึกลับลงไปใต้ดินซะงั้น Ryan Deboodt เป็นช่างภาพที่เดินทางไปสำรวจถ้ำต่างๆ จากรอบโลก อาจเรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในนักสำรวจตัวยงเลยล่ะ ซึ่งจุดหมายของเขานั่นก็คือการสำรวจถ้ำใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เราลองมาดูการเดินทางส่วนหนึ่งของเขากันเลยดีกว่า ภาพนี้คือภาพจากถ้ำ Xe Bang Fai ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน อยู่ในประเทศลาว เพื่อนบ้านของเรานี่เอง สวยมากๆ การพายเรือเข้าไปในถ้ำตามแม่น้ำที่ลอดผ่านแบบนี้ก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย เพราะคุณก็คงไม่รู้หรอกว่าอะไรอยู่ในถ้ำอายุหลายล้านปีแบบนี้… ที่เวียดนามก็สวยไม่แพ้กัน เพราะนี่คือถ้ำ Hang Son Doong ถ้ำที่มีแม่น้ำไหลผ่านเช่นกัน เป้าหมายและความหลงไหลของเขาคือการเข้าไปสำรวจถ้ำใหม่ๆ และไม่ใช่แค่ถ้ำชื่อดังเท่านั้น แต่หลักๆ คือถ้ำที่เขาไปสำรวจต้องมีขนาดที่ใหญ่ และความลึกลับที่น่าค้นหา การมองภาพประสบการณ์และการสำรวจของคนอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่จะดีกว่ารึเปล่าถ้าไปพบเจอกับตัวเอง?? คงไม่ได้เห็นภาพสวยๆ แบบนี้ทุกๆ วันหรอกเนาะ ^^ แต่ละที่ๆ เขาไปก็มีความสวยไม้แพ้กันเลยล่ะ ภาพนี้คือถ้ำจาก…
-
หนุ่มอังกฤษคลั่งไคล้ Batman ใช้เวลา 18 เดือน เปลี่ยนห้องของตัวเองให้กลายเป็นถ้ำค้างคาว
เด็กชายหลายๆ คนต้องเคยชื่นชอบตัวการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่จนหาซื้อโมเดลมาสะสม แต่พอโตขึ้น ด้วยหน้าที่การงาน การเข้าสังคม ก็อาจทำให้หนุ่มๆ บางคนเลิกสะสมตัวการ์ตูนและทิ้งความเป็นเด็กชายไว้กับกองของเล่นเก่าๆ แต่หนุ่มอังกฤษรายนี้ไม่ได้โยนความชอบของเขาไปง่ายๆ แถมยังนำเงินจำนวนมากมาตกแต่งห้องให้กลายเป็นรังของสะสมสุดเจ๋งอีกด้วย!! เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของพ่อหนุ่ม Darren Wilson วัย 46 ปีจากมณฑลวิลต์เชอร์ ประเทศอังกฤษ นาย Wilson เล่าว่าตัวเองชื่นชอบตัวการ์ตูน Batman จากค่าย DC เอามากๆ จนถึงขั้นเปลี่ยนห้องนั่งเล่นว่างๆ ให้กลายเป็นถ้ำค้างคาว หรือศูนย์บัญชาการลับของ Batman ตามรายงานบอกว่าเขาใช้เวลากว่า 18 เดือน เปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นถ้ำค้างคาวด้วยเงินเก็บจำนวนกว่า 15,000 ปอนด์ หรือราวๆ 740,000 บาท จนห้องที่ว่านี้กลายเป็นสวรรค์น้อยๆ ของคนรักหนังสือการ์ตูนไปเลย นอกจากเขาแล้วยังมีศรีภรรยาอย่างนาง Catherine ที่คอยสนับสนุนและช่วยตกแต่งห้องให้กับเขาด้วย แต่ใช่ว่าบ้านทั้งหลังจะมีลักษณะเป็นแบบนี้หมดนะ เพราะนาย Wilson บอกว่าห้องปกติแบบทั่วๆ ไปก็มีเหมือนกัน …
-
ชายคนนี้เปลี่ยนถ้ำอายุกว่า 700 ปี เป็น “บ้านในฝัน” สุดหรู น่าอยู่มาก!!
น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นเจ้าของที่ดินต่างๆ ได้เปลี่ยนทรัพท์สินอันมีค่าของเขาให้กลายเป็นอะไรใหม่ๆ อย่างถ้ำอายุกว่า 700 ปีนี้ก็หาดูได้ยากมากๆ แต่สำหรับคุณ Angelo Mastropietro คนนี้ผู้เป็นเจ้าของ เขาได้รีโนเวทถ้ำให้กลายเป็นที่พักน่าอยู่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เดิมทีที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายมาตั้งแต่ปี 1962 แล้วมันก็กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง และในปี 2010 นาย Mastropietro ก็ได้ครอบครองมัน นี่คือ Angelo Mastropietro ผู้เป็นเจ้าของถ้ำอายุ 700 ปี และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบ้านชื่อว่า The Rockhouse เขาสามารถเอาชนะการประมูลที่แห่งนี้ได้ในปี 2010 ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็สนใจพื้นที่ตรงนี้อยู่แล้ว การตกแต่งนั้นใช้เวลากว่า 1,000 ชั่วโมงในการตัดหินต่างๆ ในถ้ำให้พอเหมาะแก่การอยู่อาศัย ถือเป็นที่ที่น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก เราไปชมคลิปกันเลย ที่มา Twisted Sifter, Barcroft TV
-
15 ภาพบ้านขนาดเล็ก ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งสวยงาม และน่าอยู่ฝุดๆ
หลายคนอาจจะใฝ่ฝันว่าอยากจะมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ร่มรื่น และเงียบสงบ เพราะในปัจจุบันไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็มีแต่ตึกราบ้านช่องเต็มไปหมด และนี่คือ 15 ภาพของบ้านหลังเล็กๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม แถมยังดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติมากๆ อีกด้วย รับรองว่าถ้าคุณได้เห็นจะต้องอยากมีสักหลังแน่นอน 1.ร้านอาหาร The Rock Restaurant ในแทนซาเนีย 2.บ้านฮอบบิทในนิวซีแลนด์ 3.บ้านโดมจากไม้ ในฝรั่งเศส 4.กระท่อม Luka Vuerich บนภูเขาในอิตาลีและสโลเวเนีย 5.บ้านจากหินในโปรตุเกส 6.บ้านต้นไม้ 7.โรงแรม Rogner Bad Blumau ในออสเตรีย 8.Kandovan ในอิหร่าน 9.บ้านฮอบบิท ในเวลส์และสหราชอาณาจักร 10.บ้านที่สร้างภายในถ้ำ ประเทศฝรั่งเศส 11.บ้านจากดินในอริโซนา สหรัฐอเมริกา 12.บ้านที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าในโปแลนด์ 13.บ้านใกล้ริมน้พใน Bosnia…
-
“Shrek” เจ้าแกะอินดี้ ไม่อยากโดนตัดขน หนีไปอยู่ในถ้ำนานถึง 6 ปี!!!
“เชร็ค” (Shrek) เจ้าแกะอินดี้ สายพันธุ์เมอริโน (Merino) เป็นแกะ 1 ใน 17,000 ตัว ของฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศนิวซีแลนด์ ที่เลี้ยงแกะเพื่อตัดเอาขนไปขาย แต่เจ้าเชร็คมันอินดี้ซะเหลือเกิน เมื่อรู้ว่าจะต้องโดนตัดขนมันกลับหนีหายไปจากฟาร์มในวันรุ่งขึ้น เชร็คหายไปเป็นเวลา 6 ปี จนกระทั่ง John Perriam เจ้าของฟาร์มมาพบตัวมัน บริเวณถ้ำที่อยู่ห่างจากฟาร์มไม่มากนัก เชร็คไม่ได้ตัดขนเลยเป็นเวลานานถึง 6 ปี สภาพเลยเป็นเช่นนี้ เชร็คกลายเป็นแกะที่มีชื่อเสียงในนิวซีแลนด์ เพราะเมื่อเจอตัวจอห์นก็จับมันไปตัดขนและนำขนไปประมูลถ่ายทอดสดในทีวี ขนของเชร็คเยอะมาก!! สามารถนำไปตัดชุดสูทได้ถึง 20 ชุด แต่จอห์นกลับนำขนของมันไปประมูลขาย และนำเงินไปบริจาคช่วยเหลือสถานพยาบาลเด็กเพื่อการกุศล จอห์นบอกว่าที่มันหนีคงเพราะว่ามันไม่ชอบความรู้สึกของการโดนตัดขน เชร็คได้เสียชีวิตไปแล้วตอนอายุได้ 17 ปี ในปี 2011 ซึ่งถือว่าเป็นแกะที่มีอายุยืนมาก เพราะแกะในฟาร์มส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงไว้ตัดขน จนถึงอายุ 6 ปี จากนั้นจะถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ ถึงแม้ว่าตอนนี้เชร็คจะไม่อยู่แล้ว แต่เรื่องราวของมันจะอยู่ในใจประชาชนชาวนิวซีแลนด์ตลอดไป ที่มา thedodo
-
รู้จักกับถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก Son Doong ในเวียดนาม ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม!!!
เวลาเราอยากไปเที่ยวสถานที่เจ๋งๆ เราอาจนึกถึงประเทศแถบยุโรปหรือทางอเมริกาก่อนเป็นที่แรกๆ แต่จริงๆแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านเราเองก็มีสถานที่เจ๋งๆมากมายไม่แพ้กัน อย่างเช่นถ้ำ Son Doong ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ในประเทศเวียดนาม ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 ชาวนาคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ho Knanh ได้ออกไปเก็บฟืนในป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang ระหว่างที่เขากำลังเก็บฟืน เขาสังเกตุเห็นว่าฝนกำลังทำท่าจะตก เขาจึงพยายามหาที่หลบ เขาวิ่งไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงลมอันรุนแรง ดังมาจากก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เขาจึงเดินตามเสียงลมไป เขาจึงพบกับปากทางเข้าถ้ำแห่งนี้ ด้วยความที่เขาไม่ได้พกอุปกรณ์อะไรมาเลย เขาจึงตัดสินใจกลับหมู่บ้านไปก่อน แล้วกะว่าจะมาสำรวจทีหลัง ทันทีที่เขาถึงบ้าน เขาก็เล่าเรื่องราวที่ไปเจอถ้ำขนาดยักษ์ให้ครอบครัวและเพื่อนบ้านฟัง ทุกคนก็ตื่นเต้นกันมาก เรื่องของเขาแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องถ้ำยักษ์ของ Khanh แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนเชื่อเรื่องของเขา เพราะเขาดันจำทางกลับไปถ้ำนั้นไม่ได้ ทำให้ถ้ำยักษ์จึงกลายเป็นแค่ตำนาน เมื่อถึงปี 2006 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ขอให้ Knanh ช่วยพวกเขาตามหาถ้ำในตำนานแห่งนั้น Knanh ก็เต็มใจช่วยอย่างยิ่ง พวกเขาใช้เวลาสำรวจกว่า 3 วัน แต่สุดท้ายก็ไม่พบอะไร Knanh กล่าวแค่ว่า “ผมจำไม่ได้จริงๆว่ามันอยู่ตรงไหน” ในปี 2009…
-
หนุ่มกีวี่สุดเจ๋ง สร้าง ‘ถ้ำ’ มนุษย์ยุคใหม่ พลังงานแสงฯ แถมควบคุมได้ด้วย App !!!
วันนี้เหมียวก็มีไอเดียแปลกๆ เจ๋งๆ จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันแหละ อิอิ เกี่ยวกับชายหนุ่มนิวซีแลนด์คนหนึ่ง ที่ลงทุนเงินไปกว่า 67,000 เหรียญ ตีเป็นเงินไทยบ้านเราก็คูณราวๆ 30 เข้าไป คือ 2 ล้านบาท เพื่อสร้างถ้ำมนุษย์ไฮเทคขึ้น!!! Jono Williams วิศวะหนุ่มทางด้านพลาสติก สร้างสเปซส่วนตัวสุดเจ๋ง ซึ่งใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด แถมยังควบคุมได้ด้วยระบบแอนดรอยด์อีกต่างหาก โดยสามารถควบคุมระบบทั้งหมดด้วย Application!!! โดยเริ่มแรกนั้นเขาคิดจะสร้างบ้านต้นไม้ที่ทำด้วยเหล็ก เพราะว่าจะได้ทำที่ไหนก็ได้ ซึ่งสิ่งก่อสร้างของเขานี้สามารถมองได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว มีทั้งตู้เย็น อินเตอร์เน็ท และระบบโฮมเทียเทอร์ครบครัน ดูภาพบรรยากาศจากภายใน สวยไหมล่ะ ลองคิดดูว่าถ้าไปสร้างบนยอดเขาแบบนี้ และแน่นอนสิ่งที่ลืมไม่ได้ ตู้แช่เครื่องดื่มประจำกาย เขาเพียงแค่ใช้ Application ควบคุมบ้านทั้งหลัง เช่น เข้าไปควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็น ตรวจเช็คของในตู้ แถมตั้งให้เตือนได้ด้วยถ้าของใกล้หมด เป็นต้น!!! สำหรับ ใครที่เป็นฮิปสเตอร์แล้วล่ะก็ ที่นี่เหมียวว่าเหมาะที่จะอยู่อาศัยมากๆ เลยล่ะ…