Tag: ทะลุ
-
หมอคว้าน “สายฉีดก้น” ออกจากรูทวารชายหนุ่ม อ้างเหตุลื่นล้ม มันเลยผลุบเข้าไป!?
ความโชคร้ายของเราจะมาในรูปแบบไหน ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลย บางกรณีอาจจะแค่หกล้มฟันหัก โดนหมาวิ่งชนจนบาดเจ็บ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครจะไปนึกว่าอุปกรณ์ชำระล้างร่างกายเฉพาะส่วนอย่าง ‘สายฉีดก้น’ ก็สามารถกลายมาเป็นภัยอันตรายที่เข้าไปสิงร่างของคนได้เช่นกัน แถมมันเกิดขึ้นกับมนุษย์จริงๆ ด้วย!? เรื่องราวดังกล่าวเป็นของชายอินเดียวัย 26 ปี ผู้โชคร้ายรายหนึ่ง ที่ต้องรับความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยด่วน เนื่องจากสายชำระยาว 6 นิ้วผลุบเข้าไปในช่องรูทวารทะลุไปถึงช่วงลำไส้ เขากล่าวกับแพทย์ว่า ในระหว่างที่กำลังใช้งานอยู่นั้น ก็เกิดเหตุลื่นล้มใส่บนหัวสายฉีดก้นแบบพอดีเป๊ะ อย่างไรก็ตามทางทีมแพทย์ก็ยังตั้งข้อสงสัยอยู่ดีว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ? อย่างไรก็ตามทีมแพทย์จาก Ram Manohar Lohia Hospital และ Post Graduate Institute of Medical Education and Research ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ทำการระบุในรายงานทางการแพทย์ไว้ว่า มีความสงสัยในพฤติกรรมของผู้ป่วย ในการนำวัตถุดังกล่าวมาใช้ในการสนองอารมณ์ทางเพศ หลังจากทำการตรวจสอบแล้ว แพทย์พบว่าเขาไม่มีอาการเลือดออกแต่อย่างใด และตัวเขาเองก็ให้การว่า เหตุการณ์ในทำนองนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตเลย ในที่สุดทีมแพทย์ก็ตัดสินใจฉีดยาชา และทำการคว้านสายฉีดก้นออกมาผ่านทางช่องรูทวารของตัวคนไข้ได้สำเร็จ…
-
พาชม ‘บ้านโปร่งใส’ จากญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคนชอบเปิดเผย ใจกล้าต้องแนะนำให้ไปอยู่เลย!!
หากคุณเป็นคนชอบเปิดเผย ความสว่าง ความโล่งกว้าง ขอบอกเลยว่าจะต้องชอบบ้านหลังนี้แน่ๆ!! เพราะมันคือบ้านโปร่ง โล่ง กำแพงเป็นกระจกใส มีประตูห้องน้อย ทำให้เพื่อนบ้าน หรือคนที่เดินผ่านไปผ่านมาสามารถมองเข้ามาเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในเขตชุมชนแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 85 ตารางเมตร ถูกออกแบบโดยบริษัทออกแบบ Sou Fujimoto Architects ได้รับแรงบันดาลใจมากจากวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นโบราณ ที่เคยอาศัยอยู่บนต้นไม้ และแต่ละส่วนที่อยู่อาศัยของทุกคนจะต้องมองเห็นกันได้แบบทะลุปรุโปร่ง “แม้ว่าจะแยกส่วนกันตามพื้นที่อยู่อาศัยแต่ก็ยังเชื่อมต่อกัน ทำกิจกรรมไปพูดคุยกันไป หรือกระโดดไปเยี่ยมเยียนกันก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย” Sou Fujimoto อธิบาย “นี่เป็นผลงานที่ค่อนข้างแตกต่างจากสังคมปัจจุบัน เพราะแทนที่เราจะแยกกันอยู่ทำกิจกรรมส่วนตัวของใครของมัน แต่สถานที่แห่งนี้ทำให้เราได้พูดคุยและติดต่อกับเพื่อนบ้านมากยิ่งขึ้น” . ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นผู้คนทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน เดินมาทักทายเพื่อนบ้านสักหน่อย นั่งกินลมชมวิวแบบชิลๆ แต่ก็คงต้องระวังกันหน่อยล่ะ เพราะดูเหมือนจะไม่มีอะไรกั้นเลยนะเนี่ย ชมบรรยากาศภายในกันบ้าง . ทุกคนพูดคุยกันได้แทบจะตลอดเวลา . . . …
-
งงเลยเด้!! สถานีรถไฟฟ้าสุดเท่จากจีน ถูกสร้างให้อยู่ภายในตึกสูง 19 ชั้น วิ่งทะลุสบาย
หากใครที่คิดว่ารถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินที่คุณเคยเจอมามันเจ๋งที่สุดแล้วละก็ ลองมาดูรถไฟในประเทศจีนที่เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักซะก่อน เพราะมันเป็นรถไฟฟ้าที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาให้ลอดผ่านอาคารต่างๆ ได้โดยไม่ต้องทุบตึกทิ้ง เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของรถไฟฟ้าดังกล่าว โดยระบุว่า รถไฟทะลุตึกสายนี้เรียกว่า Mountain City ตั้งอยู่ในเมืองฉงชิ่ง มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เป็นรถไฟชนิดพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นบนตึกสูงถึง 19 ชั้นเลยทีเดียว โดยนักวางแผนได้ทำการสร้างสถานี Liziba Station ในอาคารที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ตั้งแต่ตึกชั้นที่ 6 ไปจนถึงชั้นที่ 8 โดยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นสามารถใช้บริการรถไฟจากสถานีดังกล่าวได้อย่างสะดวกสบาย แม้ว่าประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าว จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รถไฟได้เข้าสู่ชานชาลา ทางเจ้าหน้าที่จะปิดเสียงลงด้วยอุปกรณ์ชนิดพิเศษ ซึ่งจะทำให้เสียงของรถไฟดังไม่ต่างจากการเปิดเครื่องล้างจานเลย นอกจากนี้ ทางโฆษกฝ่ายการขนส่งยังได้ออกมาเผยว่า “เมืองของเราเต็มไปด้วยตึก ดังนั้น หากจะสามารถช่วยหาช่องว่างสำหรับถนนได้ การทางรถไฟฟ้าบนจะถือเป็นความท้าทายอย่างมาก” สามารถรับชมคลิปวีดีโอได้ที่นี่… ที่มา : dailymail
-
อยากไปไหม!! รับสมัคร ‘พนักงานดูแลเม่นแคระ’ งานฟินๆ แถมรายได้ปีละ 1 ล้าน
ก็เรียกได้ว่ามีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ มีงานออกจากงานกันเลยล่ะ เพราะตอนนี้ในส่วนของทาง Suffolk Wildlife Trust ที่เป็นองค์กรเกี่ยวกับน้องเม่นแคระนั้น กำลังเปิดรับสมัครพนักงานแบบฟูลไทม์ไปทำงานกับพวกเขาอยู่ แถมรายได้ดีซะด้วยขอบอก!!! ป้ายเปิดรับสมัครงาน ‘เรากำลังเสาะหาคนที่จะมาทำงานในด้านการอนุรักษ์เหล่าเม่นแคระตัวน้อยในอิปสวิช คุณจะได้ใช้ความสามารถของคุณในการสร้างอิปสวิชให้กลายเป็นเมืองที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและเป็นมิตรที่สุดสำหรับเหล่าเม่นแคระ ประสบการณ์ในด้านนิเวศวิทยา การประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือกับคนในสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับงานนี้’ รายละเอียดในป้ายกระกาศรับสมัครงาน โดยเมืองที่เพื่อนๆ จะได้ไปทำงานนั้นก็คือเมือง Ipswich แห่งสหราชอาณาจักร สำหรับค่าจ้างจะอยู่ที่ราวๆ 24,000 ปอนด์ต่อปีด้วยกัน ถ้าเป็นเงินไทยก็มีมุลค่าถึง 1.15 ล้านบาทเลยทีเดียว!!! หลักๆ แล้วคุณต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของพวกมันล่ะ ในส่วนของเมือง Ipswich นั้นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์มาก แน่นอนว่าในการดูและเจ้าตัวน่อยเหล่านี้นั้น คุณจะได้รับการสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จากคนในพื้นที่อีกด้วย ดูแลเจ้าตัวน้อยเหล่านี้คืองานของคุณ!!! หลักๆ แล้วคือคุณต้องมีความรักและเข้าใจในเม่นแคระค่อนข้างดี มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับ ICT นิดหน่อยและเคยทำงานในด้านการอนุรักษ์สัตว์อื่นๆ มาก่อนก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษอีกด้วย และถ้าใครอยากสมัครงานดูล่ะก็ ทำการสมัครได้ ที่นี่ โฆษณารณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระวังเหล่าเม่นแคระ อื้อหือออออ งานนี้ ทั้งฟิน ทั้งเปรม แถมรายได้ดีอย่างนี้…
-
เอางี้เลย!! ชาวเน็ตแชร์การก่อสร้าง “สะพานลอย” แบบไม่แคร์โลก ไม่ต้องสนใจเสาไฟฟ้าหรอก
นอกจากทางม้าลายแล้ว สะพายลอยถือเป็นเส้นทางที่ช่วยลดอุบัติเหตุทางท้องถนน เพราะข้อดีของมันคือไม่ต้องรอให้รถว่างหรือไฟแดงก็สามารถข้ามได้เลย แต่ค่าใช้จ่ายในการสร้างค่อนข้างสูง แล้ว #เหมียวสามสี ก็ได้ไปพบกับสถาปัตยกรรมสะพานลอยแนวทดลอง ในบ้านเราเข้า เป็นภาพที่แชร์กันในเน็ต เห็นมาจากเพจ Black Hat อีกที พอสืบไปสืบมาก็พบว่าที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีนี่เอง จากภาพทำเอางงเลยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร ทำไมถึงสร้างบันไดทางขึ้นสะพานลอยให้มันทับกับเสาไฟฟ้าได้ หรือว่าจะมาตัดออกทีหลัง? ก็ไม่น่าใช่ หลายคนที่เห็นภาพต่างก็มาชื่นชมกันใหญ่ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการสร้าง รู้แต่ว่าตั้งอยู่ที่ไหน โดยที่ได้เอาชื่อร้านวินเซนต์ซักแห้ง ที่อยู่ในภาพไปค้นในกูเกิล แล้วก็ได้ตำแหน่งภาพกับรูปภาพที่เหมือนกันเป๊ะเลย เพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจมากว่าอยู่ที่นนทบุรีนี่เอง ถึงตัวจะเป็นแมว แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของผมก็คือ #เหมียวสามสี อิอิ ที่มา Black Hat
-
เอาอีกแล้ว!! ไปรษณีย์กับการทำผลงานขนส่ง ‘หนังสือ’ ทั้งทิ่ม แทง เสียบ ทะลุกล่องพัสดุ
ในวงการขนส่งบ้านเรานี่ทำเอาหนาวๆ ร้อนๆ ได้อยู่เสมอเลยนะ ถ้าหากว่าเมื่อก่อนเนี่ยจะส่งของซักทีนึง ก็ต้องหันไปพึ่งไปรษณีย์ไทย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกขนส่งของเอกชนเพิ่มเข้ามาแล้ว แต่ด้วยราคาและจุดบริการที่มีไม่เยอะมาก บางคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกส่งกับไปรษณีย์ไทยอยู่ดี รับน้าาาาาาาาาา อันเนื่องมาจากชื่อเสียงอันเลื่องลื่อ เสียงลือเสียงเล่าอ้างมากมาย กับความสุดยอดของการขนส่งไปรษณีย์ไทย ไม่ว่าจะส่งอะไรก็ตาม จะห่อดีแค่ไหน สุดท้ายสภาพของก็เสียหายอยู่ดี ที่หนักหนามากก็คือของหาย และแล้วกรณีล่าสุดนี้ก็ทำเอาคนรักหนังสือถึงกับน้ำตาตกใน มีกระทู้หนึ่งพันทิปโพสต์โดยคุณ In Loving Memory เป็นเรื่องราวของบุคคลในกลุ่มคนรักหนังสือนิยาย ที่ได้ทำการส่งหนังสือไปให้กับเพื่อนอีกคน โดยทำการส่งผ่านไปรษณีย์ ทำการห่ออย่างดีด้วยซองกันกระแทก แต่สุดท้ายก็โดนทำร้ายด้วยการแทงและกรีดกล่องจนทะลุเข้าไปถึงหนังสือ สภาพของหนังสือเมื่อถึงมือผู้รับ ถูกแทงทะลุกล่อง และเล่มที่โดนก็คือเล่มพิเศษด้วย หาซื้อแยกไม่ได้ ไม่มีขายแล้ว ซึ่งหากจะซื้อก็ต้องซื้อเป็นเซทในราคาหลักพันบาท ถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่หากผู้ที่รักหนังสือเจอสภาพหนังสือแบบนี้ ก็ทำเอาใจสลายได้เหมือนกันนะ ทั้งนี้ก็อยากจะให้ไปรษณีย์ไทยทำอะไรซักอย่างเพื่อปรับปรุงคุณภาพการขนส่งให้ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ไม่อยากให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของที่อยู่ข้างในกล่องพัสดุ ซึ่งอันที่จริงไปรษณีย์ไทยก็มักจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่าเป็นความรับผิดชอบเบื้องต้นของผู้ส่ง ที่จะต้องทำการห่อหุ้มสิ่งของให้มีความแข็งแรง ด้วยการใช้ซองกันกระแทก ยัดกระดาษหนังสือพิมพ์หรือโฟมให้เต็มกล่อง…
-
งานปั้น “ชาย-หญิง” ขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่ผ่านกันทุกวัน แสดงถึงโศกนาฏกรรมความรัก
นี่คืองานปั้นแกะสลักที่มีชื่อว่า “Man and Woman” สูงขนาด 8 เมตร สร้างโดยศิลปินที่ชื่อว่า Tamara Kvesitadze ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายหาดในจอร์เจีย รูปปั้นทั้งสองสื่อถึงเด็กชาวมุสลิมที่ชื่อว่า Ali และเจ้าหญิงชาวจอร์เจียนามว่า Nino จากนิยายที่โด่งดังเป็นอย่างมากในปี 1937 เขียนโดยนักเขียนชาวอาเซอร์ไบจานชื่อว่า Kurban Said โดยเรื่องราวนั้นเกี่ยวกับความรักที่พลัดพรากเนื่องจากการบุกรุกของโซเวียด รูปปั้นนี้จะค่อยๆเคลื่อนที่ทีละนิดเมื่อถึงเวลา 1 ทุ่มของทุกวัน จากที่อยู่ห่างกัน ก็จะเข้ามาใกล้กัน แล้วก็จะทะลุผ่านกันไป โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลา 10 นาที รูปปั้นนี้ออกแบบในปี 2007 แต่ถูกนำมาติดตั้งในปี 2010 และถูกตั้งชื่อใหม่ว่า “Ali and Nino” ซึ่งแสดงถึงโศกนาฏกรรมความรักที่ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันไป ชมคลิปการเครื่องไหวของรูปปั้น ที่มา boredpanda