Tag: ทะเล
-
หนุ่มงง…พายเรือเล่นอยู่ดีๆ จู่ๆ ‘อุ๋ง’ ก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วเอา ‘หมึก’ ตบหน้าดังผั๊วะ!!
สำหรับใครที่คิดว่า ‘เจ้าอุ๋ง’ เป็นสัตว์ที่มีความน่ารักแล้วล่ะก็ หากได้อ่านบทความต่อไปนี้แล้ว ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้ เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูก ‘แมวน้ำ’ กระโจนจากในน้ำแล้วก็เอา ‘หมึก’ ตบหน้าเขาอย่างเกรี้ยวกราด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย!? เรื่องมีอยู่ว่านาย Taiyo Matsuda นักท่องเที่ยว กำลังพายเรือคายัคชมความงดงามของท้องทะเล ที่อ่าว Kaikoura บนเกาะทางใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่กำลังพายเรืออยู่นั้นเขาก็สวมกล้อง GoPro เพื่อบันทึกความประทับใจนี้เอาไว้ แต่ใครจะไปรู้เล่าว่า นาย Kyle Mulinder เพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกัน จะถูกแมวน้ำกระโดดขึ้นมา เพื่อเอา ‘หมึก’ ตบหน้าของเขาอย่างเกรี้ยวกราด และเหตุการณ์นี้ก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างถูกที่ถูกเวลา!! ผั๊วะ!! เข้าให้ “เรากำลังนั่งอยู่บนเรือกลางมหาสมุทร และจู่ๆ เจ้าแมวน้ำตัวผู้ตัวนี้ก็โผล่เข้ามา พร้อมกับคาบหมึกไว้ในปาก ก่อนที่จะกระโดดเอามันมาตบหน้าเพื่อนของผมราวกับว่ามีความแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน” Taiyo เล่า “ตอนนั้นผมรู้สึกแบบว่า ‘เฮ้ เพื่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันฟร๊ะ!?’ มันแปลกมากๆ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน แต่อย่างเดียวที่ผมรู้สึกได้คือ เหมือนมีส่วนแข็งๆ ของหมึกกระแทกมาที่หน้าของผม…
-
10 ความจริงเกี่ยวกับ ‘ท้องทะเล’ ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกมากมาย!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘โลก’ ของเรานั้น ประกอบไปด้วยทะเลมากกว่า 70% แน่นอนว่าแม้จะทำการศึกษาอย่างจริงจังมาแล้วก็ยังคงมีเรื่องราวอีกมากที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่ถึงกระนั้น บุคคลธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้เข้าไปศึกษาความจริงเกี่ยวกับท้องทะเล ก็คงจะมองว่าทะเล ก็เปรียบเสมือนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีหาดทรายสวยๆ มีน้ำเค็มๆ แล้วก็มีสัตว์ทะเล แต่จริงๆ แล้วโลกของท้องทะเลนั้นมีเรื่องราวที่เราอาจจะคาดไม่ถึงอยู่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปอ่านเรื่องราวเหล่านี้กันดูครับ แล้วคุณจะรู้จักกับทะเลมากยิ่งขึ้น!! 1. ในท้องทะเลยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายอาศัยอยู่ 94% ของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้เป็นสัตว์ทะเล และอีก 2 ใน 3 ของทั้งหมดนี้ ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นปริศนาอยู่ ขณะเดียวกันนับวันมนุษย์ก็ยิ่งทำการศึกษาและค้นพบสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ 2.จุดที่ลึกที่สุดของทะเลนั้นมันลึกจริงๆ นะ Mariana Trench เป็นร่องลึกก้นสมุทรที่มีความลึกมากที่สุดเท่าที่มนุษย์ค้นพบ และมันมีความลึกถึง 11 กิโลเมตรเลยทีเดียวเมื่อวัดจากระดับน้ำทะเล หากเทียบกับจุดที่สูงที่สุดอย่างยอดเขาเอเวอร์เรสต์แล้วล่ะก็จะอยู่ที่ราวๆ 8.8 กิโลเมตรเท่านั้น 3. มีแม่น้ำและทะเลสาบอยู่ในทะเลด้วยนะ 4. มีทองอยู่ใต้ท้องทะเลอีกกว่า 20 ล้านตัน จากการสำรวจขององค์กร NOAA’s National…
-
สนใจมั้ย!? ประกาศหาคนเลี้ยงแมว ให้เดือนละ 13,000 แต่ได้ไปใช้ชีวิตบนเกาะ พร้อมที่อยู่ฟรี!!
ประเทศกรีซถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเกาะสวยๆ อยู่มากมาย พร้อมกับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหาดทรายสวยมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียวล่ะ แล้วยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ ‘แมว’ อีกด้วยล่ะก็ ขอบอกเลยว่าคุณจะต้องยินดีมากๆ เลยกับข่าวที่ #เหมียวหง่าว จะเอามาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ เพราะที่เกาะ Syros ที่อยู่ในประเทศกรีซ เค้ากำลังหาพนักงานไปดูแลศูนย์อนุรักษ์สัตว์ ที่มีแมวจรจัดมากกว่า 55 ตัว!! แต่เดิมทีแล้วศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งนี้ถูกดูแลโดยคุณ Joan Bowell กับสามี จากประเทศเดนมาร์ก มานานกว่า 8 ปี ซึ่งเธอต้องย้ายมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้เพื่อรักษาสุขภาพของตัวเอง ตอนนี้เธอกับสามีก็วางแผนที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นห่วงเหล่าแมวเหมียวที่อยู่ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งนี้อยู่ จึงทำการประกาศหาคนมาคอยดูแลพร้อมกับให้ค่าจ้างเดือนละ 408 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 13,500 บาท แม้อาจจะดูน้อย แต่นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อไปทำงานที่นั่น… ที่พักฟรีเป็นบ้านแฝด ที่อยู่บนเกาะอันแสนสวยงามในประเทศกรีซ และอาศัยอยู่ร่วมกับเจ้าเหมียวที่น่ารักกว่า 55 ตัว นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการดูแลแมวเหมียว ทั้งค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ก็ไม่ต้องเสียเลยแม้แต่น้อย!!…
-
‘หนุ่มสมองพิการ’ นั่งวีลแชร์มาตลอดชีวิต ถูกเพื่อนเซอร์ไพรส์พามาชมทะเลเป็นครั้งแรก!!
David Thomas จากเขตเจฟเฟอร์สัน รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเกิดมาพร้อมกับโรคสมองอัมพาต ทำให้เดินไม่ได้มาตลอดชั่วชีวิต เขาไม่เคยเห็นทะเลเลยแม้แต่ครั้งเดียว และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ ที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อนๆ ของ David ได้ทำการเซอร์ไพรส์เขาด้วยการพาไปชม ‘ทะเล’ จริงๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต Pal Izas หนุ่มวัย 36 ปี เขาเป็นเพื่อนกับ David มานานกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งคู่สนิทกันราวกับว่าเป็นคู่ซี้ที่แยกจากกันไม่ได้เลยทีเดียว ในวันหยุดที่ผ่านมา Pal ได้วางแผนจะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวของตัวเองที่ทะเล และเขาก็วางแผนที่จะพา David เพื่อนรักของเขาไปด้วย “เขาเคยพูดว่า ‘ฉันอยากจะลองไปกับพวกนายดูสักครั้งจัง’ และนั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดแล้วก็ตอบเขาไปว่า ‘เพื่อน สักวันหนึ่งฉันจะพานายไปเอง’” ด้วยการช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อน Pal จึงวางแผนที่จะเที่ยวที่หาดปานามาในรัฐฟลอริดา นอกจากนี้เขายังหาเช่าเก้าอี้วีลแชร์แบบพิเศษที่ช่วยให้ David เพื่อนของเขาสามารถเคลื่อนมันไปบนหาดทรายได้ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 ที่…
-
หนุ่มปั่นจักรยานไกล 700 กิโลฯ เพื่อไปชมทะเล ก่อนจะเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต!!
Marcin Zarnecki ชายวัย 38 ปี ผู้ที่กำลังจะสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต… เขาเลือกที่จะปั่นจักรยานจากบ้านเป็นระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร เพื่อที่จะไปชมความงดงามของทะเลแอนเดรียติก Marcin ประสบปัญหากับอาการป่วยจากโรคเกี่ยวกับดวงตาที่มีชื่อว่า Retinopathy of Prematurity หรือจอตาผิดปกติในทารกคลอดก่อนกำหนด ทำให้เขามีความสามารถในการมองเห็นเพียง 50% เท่านั้น และจะสูญเสียการมองเห็นไปในเวลาต่อมา หมอบอกว่าเขายังคงมีเวลาอีกช่วงหนึ่งก่อนที่จะสูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาล และนั่นเองก็ทำให้ Marcin ตัดสินใจจะทำตามความฝันที่มีมาตลอดคือการได้เห็นทะเลแอนเดรียติกสักครั้งในชีวิต Marcin ไม่มีเงินพอที่จะซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือรถไฟ ก็เลยตัดสินใจคว้ารถจักรยานและปั่นออกไป เขาใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ในการเดินทาง เพราะต้องปั่นจากโปแลนด์ไปยังประเทศโครเอเชีย รวมแล้วเป็นระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรเลยทีเดียว ในระหว่างทางก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายๆ คนพอได้ฟังเรื่องราวของเขา ต่างก็พร้อมจะรับเขาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะว่าปัจจุบัน Marcin ต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์ Anamarija Tomaskovic และสามี Alen ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ Marcin เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยในแฟลตที่กรุงซาเกร็บของประเทศโครเอเชีย “Marcin…
-
กะลาสีเรือรัสเซียอวด “สัตว์น้ำจากใต้ทะเลลึก” ที่ตกมาได้ ใครๆ เห็นก็ต้องกรีดร้อง~
การใช้ชีวิตเป็น กาละสีเรือ นั้นแน่นอนว่าต้องคลุกคลีอยู่กับผืนน้ำ ทะเล และมหาสมุทร และการที่ได้พบเจอปลาและสัตว์น้ำนานาประเภทนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ทำอาชีพนี้ Roman Fedortsov กะลาสีเรือจากเมืองมูร์มันสค์ ประเทศรัสเซีย ก็ได้เดินทางไปในท้องทะเลพร้อมกับการตกปลาที่เป็นกิจวัตร เมื่อเขาตกปลาขึ้นมาได้เขาก็จะเก็บภาพของพวกมันไว้และนำไปโพสต์ลงบน Instagram นั่นทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาชมและได้เห็น สัตว์ทะเล หน้าตาแปลกๆ มากมาย ราวกับว่าชายคนนี้เป็นนักสะสมโปเกมอนน้ำอะไรทำนองนั้นเลยล่ะ ว่าแต่มันจะมีสัตว์น้ำแบบไหนบ้าง และแปลกขนาดไหน เราคงต้องไปชมพร้อมๆ กันแล้วล่ะนะ… 1. ปลาที่มีรอยรองเท้าบูทอยู่บนหัว 2. เมื่อคุณดื่มกาแฟมากเกินลิมิต… 3. ปลาที่ดวงตาเหมือนมังกรในการ์ตูน (ภาพจริงไม่ตัดต่อด้วยล่ะ) 4. แมงมุมจากก้นทะเลลึก… 5. ตรูกำลังกินอยู่เลยเจ้ามนุษย์… 6. หน้าเหมือนคนแคระทั้ง 7 เลยแฮะ 7. ปลาสีแดงตาโตจากใต้น้ำลึก 8. น้องปลาผู้น่ารัก 9. ความงามจากก้นทะเล 10. ปล่อยนะ ตรูจะบิน!!…
-
เรื่องเล่าลี้ลับ “เรือผีสิง” ทั้ง 11 ลำของโลก ปริศนาที่ยังไม่มีใครให้คำอธิบายได้…
ครั้งหนึ่ง เรือ เคยเป็นยานพาหนะที่สำคัญที่สุดในการเดินทางข้ามประเทศ รวมไปถึงความสามารถในการขนส่งสินค้าที่บรรจุได้จำนวนมาก และการเดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งการเดินทางภาคพื้นดินไม่สามารถไปถึงได้ แต่เรือกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าพิศวงขึ้นมาทันทีเมื่อมีใครๆ หลายคนพบเห็นเรือบางลำสูญหายไปไร้ร่องรอย หรือบางลำก็อาจจะกลับมาล่องทะเลอีกครั้งโดยไม่มีผู้โดยสารแม้แต่คนเดียว ผู้คนจึงมักเรียกเรือเหล่านี้ว่า “เรือผีสิง” เอาล่ะ วันนี้เรามารับฟังเรื่องราวของ 11 เรือผีสิงแห่งคาบสมุทรทั้งเจ็ด กันดีกว่าว่าจะหลอนและน่าพิศวงขนาดไหนกันเชียว… 1. The Mary Celeste วันที่ 7 พฤศจิกายน 1872 เรือ Mary Celeste ได้ล่องออกจากนิวยอร์กมุ่งหน้าสู่เจนัวแห่งอิตาลี แต่หลังจากนั้นหนึ่งเดือนมันกลับถูกพบว่าถูกทิ้งร้างอยู่นอกชายฝั่งโปรตุเกส เมื่อสำรวจพบว่าทุกสิ่งอย่างบนเรือถูกวางไว้เป็นปกติ ไม่มีสิ่งใดเสียหายรวมไปถึงสินค้าและของใช้ของลูกเรือเองก็ตาม ในหนังสือบันทึกการเดินเรือมีบันทึกไว้ถึงเพียงวันที่ 25 พฤศจิกายน และมีเพียงเรือชูชีพ 1 ลำเท่านั้นที่หายไป ส่วนลูกเรือที่เหลืออีกนับ 10 คนหายไปอย่างไร้ร่องรอย และยังไม่มีใครทราบสาเหตุจนกระทั่งทุกวันนี้ 2. The Lunatic Piran Jure sterk คือนักล่องเรือชาวสโลเวเนียผู้ที่ล่องเรือข้ามทุกคาบสมุทรด้วยตัวคนเดียว พร้อมทั้งบันทึกการเดินทางของเขาเอาไว้อีกด้วย ในปี 2007 Jure ในวัย 70…
-
วันแรงงานสุดร้อน นักศึกษาพากัน “เปลือยกาย” ลงเล่นน้ำทะเลในสก๊อตแลนด์!
สำหรับคนไทยเรา คงจะหยุดพักผ่อนกันถ้วนหน้าในวันแรงงานที่ผ่านมา แต่สำหรับ นักศึกษา ในประเทศสก๊อตแลนด์กลับไม่คิดจะพักผ่อนอยู่เฉยๆ ออกมารวมตัว “เปลื้องผ้า” เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน เหล่านักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ออกมาเปลือยกายลงเล่นน้ำกันในช่วงเช้าของวันหยุดแรงงานและเตรียมตัวสำหรับวันหยุดประจำปี Bank Holiday ที่กล่าวกันว่าสำหรับปีนี้นั้นร้อนสุดๆ (25 องศาเซลเซียส) นักศึกษาสาวรวมตัวกันลงเล่นน้ำทะเลเหนืออย่างสดชื่นเบิกบานในช่วงเช้า เหล่านักศึกษาหนุ่มสาว ต่างพร้อมใจกันออกมาชุมนุมที่ ชายฝั่งไฟฟ์ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมประจำปีในสก๊อตแลนด์ พวกเขาสลัดเสื้อผ้าทิ้ง ก่อนที่จะออกมาเล่นน้ำ ถ่ายรูป และเล่นโต้คลื่นกันในทะเลเหนืออย่างสนุกสนาน พวกเขาเชื่อว่ามันจะทำให้พวกเขามีโชคชัยในการสอบ จากก่อนหน้านี้ที่สหราชอาณาจักรได้ประสบปัญหาทางสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งลมและฝนที่กระหน่ำจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่หลังจากนั้น เมื่อฟ้าเปิด แสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็สาดส่องมายังชายฝั่งไฟฟ์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้เหล่าหนุ่มสาวชาวสก๊อตแลนด์เลือกที่จะลงไปสัมผัสบรรยากาศการเล่นน้ำท่ามกลางแสงแดดยามเช้า แสงแดดอบอุ่นในยามเช้าของสก๊อตแลนด์ อากาศจะเป็นเช่นไรก็ตาม นักศึกษาหนุ่มสาวก็ต่างวิ่งกรูกันลงไปในทะเล น้ำทะเลอันหนาวเย็น ช่วยให้พวกเขารื่นรมย์กับแสงอาทิตย์อุ่นๆ นักศึกษาที่ออกมาแช่น้ำทะเล ในเช้าวันหยุดของวันแรงงาน และส่วนมากก็จะมีการถ่ายรูปคู่กับ ธงชาติของสก๊อตแลนด์ เหล่าสาวๆ ที่เปลือยช่วงบนก็ใช้ธงสก๊อตแลนด์ปกปิดเอาไว้ก่อนถ่ายรูปร่วมกัน นักศึกษาบางคนก็เปลือยทั้งร่างกาย ลงสู่ทะเลอันหนาวเหน็บ ชายฝั่งไฟฟ์ เป็นแหล่งรวมตัวกันของเหล่านักศึกษาทั้งหนุ่มและสาว ในวันแรงงาน…
-
11 อสุรกายดึกดำบรรพ์ ที่เคยแหวกว่ายอยู่จริงใต้มหาสมุทร แค่คิดก็สยิวแล้ว!!
ภายใต้ผืนน้ำและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เพียงแค่ความลึก ความดำมืด และแรงดันมหาศาล ก็ทำให้คนเราเกิดความกลัวได้อย่างมากโขแล้ว ทั้งที่ยังมีสิ่งมีชีวิตปริศนามากมายที่ยังไม่ถูกค้นภพภายใต้มหาสมุทรอันแสนมืดมน แต่มหาสมุทรกลับทำให้เราต้องขนหัวลุกอีกครั้ง เมื่อในอดีตกาล “มหาสมุทร” เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าสัตว์ประหลาดยักษ์ หากใครย่างกรายเข้าไปในผืนสมุทรก็อาจถูกอสุรกายเหล่านี้ฆ่าได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นแมลง แต่ถือว่าโชคดีที่ปัจจุบันมันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว เรามาสัมผัสความน่ากลัวเหล่านั้นกันดีกว่ากับ 11 อสุรกายใต้น้ำ ที่ครั้งหนึ่งเคยแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรจริงๆ 1. Megalodon อสุรกายตัวนี้มีฉายาว่า ฉลามที่ตัวเท่าวาฬ มันมีความยาวมากกว่า 15 เมตร มันล่าวาฬเป็นอาหาร ความโหดของมันคือ เมื่อจับวาฬเป็นเหยื่อได้แล้วมันจะฉีกหางและครีบของวาฬออก ปล่อยให้ดิ้นทุรนทุรายพร้อมกับกัดกินไปด้วย โชคดีที่ Megalodon สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 2.6 ล้านปีที่แล้ว 2. Dunkleosteus เจ้าตัวนี้มีฉายาว่า อสุรกายหุ้มเกราะ เคยอาศัยอยู่บนโลกเมื่อราวๆ 400 ล้านปีที่แล้ว ปลาตัวนี้มีพลังกัดมหาศาล กัดได้รุนแรงยิ่งว่าไดโนเสาร์ T-Rex เสียอีก อาหารของมันก็คือ อะไรก็ตามที่มันอยากกิน ลำตัวของมันมีเปลือกแข็งห่อหุ้มตั้งแต่หัวจรดหาง ลำตัวของมันมีความยาวราวๆ 10 เมตร 3. Mosasaurus …
-
แคมเปญรณรงค์สุดเจ๋งจากนิวซีแลนด์ ว่าด้วยเรื่องการเล่นน้ำอย่างมีสติ มิฉะได้เจอยมทูตแน่!!
ร้อนๆ แบบนี้นอกจากสงกรานต์บ้านเราแล้ว ทะเลก็คงจะเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครๆ ก็อยากจะไปเพื่อคลายร้อน ใส่ชุดบิกินี่สวยๆ หรือพักผ่อนหย่อนใจ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการลงเล่นน้ำทะเลนอกจากสร้างความสุขแล้ว มันยังมีอย่างอื่นด้วย เพราะบางครั้งถ้าเราลงไปเล่นอย่างขาดสติหรือไม่ได้ระวังถึงอันตรายที่จะเกิด ทะเลก็จะเป็นที่อีกสถานที่หนึ่งที่มอบความตายให้กับคุณได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทางการนิวซีแลนด์จึงออกแคมเปญที่ช่วยให้ประชาชนระวังถึงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากบริเวณชายหาด เพราะประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีสถิติคนตายจากการจมน้ำหรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการเล่นน้ำบ่อยมากๆ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำเมื่อปีที่แล้วเป็นชายหนุ่มอายุ 15-34 ปี ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วในนิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำปีละ 105 คนเลยทีเดียว แคมเปญที่ว่านั่นก็คือ ‘The Swim Reaper‘ ซึ่งเป็นโฆษณาที่ใช้ตัวยมทูตซึ่งเป็นตัวแทนแห่งความตายมาเดินเล่นบนชายหาด รวมถึงคอยเตือนว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำก่อนลงเล่นน้ำ เพราะถ้าพลาดอาจจะส่งผลให้ยมทูตตนนี้แวะไปหาคุณได้!! ลงมาเล่นน้ำกับเขาสิตัวเอง พี่เขามารอรับคนตายที่ชายหาดทุกวันเลยนะ เฝ้ามองว่าอาจจะมีคนติดมาแถวๆ ซอกหิน เป็นไปได้ก็อย่าเจอกันเลยจะดีกว่า… ในส่วนของคำแนะนำสำหรับคนที่อยากแวะมาเจอกับความตาย พี่แกก็ได้ให้คำแนะนำไว้หลายวิธีเลยไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำด้วยการใส่กางเกงยีนส์ หรือจะเป็นการกระโดดลงน้ำที่มีท่อนไม้แหลมๆ อยู่ข้างใต้ ไม่ก็อาจจะเป็นการว่ายน้ำแรงๆ แล้วไปชนเข้ากับหิน ทุกวิธีล้วนสามารถพาคุณมาพบกับพี่ Swim Reaper ได้หมด อยากมาเจอกันไวๆ ก็รับกางเกงยีนส์จากพี่ยมทูตลงไปเล่นน้ำได้เลย …
-
ชมภาพการ์ตูนแสดงถึง “ความลึก” ของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ เอาให้โรคกลัวทะเลกำเริบกันไปเลย!!
ทะเลและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับมากมาย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการค้นพบสิ่งต่างๆ จากห้วงทะเลลึกให้เห็นกันบ้างแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่า ยังเหลือพื้นที่ในทะเลที่ยังไม่ถูกสำรวจอีกตั้ง 95 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด และด้วยความลี้ลับของมหาสมุทรนั้นเอง ทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันจะมีสัตว์ประหลาดอยู่ใต้ก้นมหาสมุทร จนเป็นโรคกลัวทะเลกันไปเลยทีเดียว (หากอยากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคกลัวทะเลหรือเปล่า มาเช็กได้ที่นี่เลย) ฉะนั้น คุณ Randall Munroe จึงได้พยายามออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับห้วงทะเล เท่าที่มนุษย์จะสามารถหาข้อมูลมาได้ ผ่านการวาดออกมาเป็นภาพการ์ตูนเจ๋งๆ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “Lakes and Oceans” นี่คือภาพเต็มๆ ภาพอาจจะเล็กไปสักนิด ชมภาพใหญ่ๆ ได้ที่นี่ ภาพนี้แสดงความลึกของทะเลสาบต่างๆ ยังลึกไม่ถึง 1,000 เมตรเลย เรือบางลำที่ว่ากันว่าอับปางอยู่ใต้ทะเลลึก เมื่อมองเป็นภาพใหญ่ๆ แบบนี้แล้ว มันดูตื้นไปเลย เรือไททานิกที่เรารู้จัก อับปางในปี 1912 แน่นิ่งเป็นสองท่อนอยู่ใต้มหาสมุทรลึกราวๆ 3,784 เมตร รูปลูกศรคือจุดที่วาฬสเปิร์มสามารถดำลงไปได้ และกลับขึ้นมาพร้อมบาดแผลเต็มตัว สันนิษฐานว่าใต้ล่างน่าจะมีปลาหมึกยักษ์ ซึ่งมนุษย์ก็ยังมิอาจค้นพบได้ จุดที่ลึกที่ในโลกตอนนี้คือ Challenger Deep…
-
คนหรือปลาเนี่ย!!? ชมภาพนาทีที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย ‘คลอดลูก’ กลางทะเล ประเทศอียิปต์
ทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่สัตว์น้ำแล้วนะที่ออกลูกในทะเล “มนุษย์” อย่างเราๆ ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุด คุณแม่ชาวรัสเซียคลอดลูกในทะเลเฉยเลย!! Hadia Hosny El เป็นผู้ที่ไปท่องเที่ยวยังย่าน ดาฮับ เมือง ชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ และขณะที่เธอยืนอยู่นอกระเบียงอพาร์ตเมนต์ เธอก็เห็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลุ่มหนึ่งกำลังทำการ “คลอดลูก” ใน ทะเลแดง เธอจึงเก็บภาพเหตุการ์ทั้งหมดเท่าที่เธอเห็น มาเผยแพร่บน เฟซบุ๊ก ของเธอเอง โดยในภาพจะเห็นว่ามีชายสูงวัยที่กำลังอุ้มทารกแรกเกินขึ้นมาจากทะเล รวมทั้งชายหนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อของเด็กคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็จะเห็นได้ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่ง เดินขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดทารกน้อยในภาพ ภาพเหตุการณ์ที่ชายทั้งสองพยายามอุ้มทารกขึ้นมาจากน้ำ ภาพถูกถ่ายจากนอกระเบียงของอพาร์ตเมนต์ที่ Hadia Hosny El เข้าพัก เจ้าหนูทารกตัวน้อย กำเนิดขึ้นมากลางทะเลแดงประเทศอียิปต์ จากนั้นไม่นาน ผู้เป็นแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าเธอเพิ่งเสร็จจากการว่ายน้ำเล่น เมื่อกลับขึ้นชายฝั่ง คุณแม่ก็เข้ามาอยู่รวมกับครอบครัวเธออีกครั้ง Hadia กล่าวว่า ชายสูงวัยที่อุ้มเด็กในภาพนี้ เป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการให้กำเนิดบุตรในน้ำโดยเฉพาะ แปลว่าคุณหมอคนนี้เข้ามาช่วยเหลือการให้กำเนิดได้อย่างทันเวลา ตัวตนของผู้เป็นแม่ และสภาวะของเด็กทารกยังไม่ถูกเปิดเผย แต่จากที่เห็น คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข…
-
ชุดภาพพิสูจน์ ‘อาการกลัวทะเล’ หากไม่รู้ว่าตัวเองกำลังประสบหรือไม่ ลองมาดูกันได้เลย!!
เอาล่ะครับ วันนี้ #เหมียวฝึกหัด จะพาทุกท่านมาเข้ารับการทดสอบกันสักหน่อยว่ามีใครนั้นเป็นโรค Thalassophobia หรือ โรคกลัวทะเล กันหรือเปล่า แต่ก่อนอื่นเจ้าโรคกลัวทะเลนี่มันคืออะไรกัน มันมีจริงๆ ใช่ไหม? คำตอบคือใช่ครับ มันมีจริงๆ โรค Thalassophobia นั้นเป็นคำที่ประสมกันขึ้นมาจากภาษากรีกคำว่า “Thalassa” ที่แปลว่าภูตผีในทะเล กับคำว่า “Phobia” ที่แปลว่าอาการกลัวนั่นเอง อาการของโรคกลัวทะเลนี้ก็คือมีอาการกลัวที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในทะเล หรือแม้แต่เห็นภาพของทะเลก็ตาม ส่วนมากจะกลัวในความลึก ความกว้างใหญ่ของทะเล และกลัวว่าจะมีสัตว์ประหลาดหรือภูตผีออกมาจากในทะเล เอาล่ะ ต่อไปนี้ก็จะได้ทราบกันแล้วว่าใครมีอาการของโรคกลัวทะเล หรือ Thalassophobia กันบ้างหรือเปล่า เชิญทุกท่านไปรับชมภาพทดสอบความกลัวทะเลของคุณกันได้เลย… 1. บางทีแม้แต่ในสระว่ายน้ำก็ระแวงว่าจะมีฉลามโผล่มา 2. รู้สึกเสียวๆ ใต้ฝ่าเท้าบ้างรึเปล่า? 3. เจอภาพนี้เข้าไปรู้สึกยังไงล่ะ หื๊ม? 4. หากมองใต้ผิวน้ำแล้วหวิว ๆ นั่นแหละใช่เลย 5. หากกำลังคิดว่าจะไม่ลงน้ำอีกแล้ว แสดงว่ามีอาการแล้วล่ะ 6. จะรู้สึกอย่างไรหากคุณต้องอยู่บนเรือลำนั้น? 7. ถ้าคุณดำน้ำอยู่แล้วเจอเจ้านี่ล่ะ?…
-
ชาวประมงทำการผ่าท้องปลา พบ ‘เศษซากอารยธรรม’ จากมนุษย์ มีทั้งพลาสติก หวี และไฟแช็ก
ในทุกวันนี้ธรรมชาติถูกมนุษย์ทำลายแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญของทางด้านตัวเมืองเขตที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังกัดกินพื้นที่ของสัตว์และผืนป่าอย่างช้าๆ ยังไม่รวมไปถึงปัญหาทางด้านมลพิษและขยะที่ตามมาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากผืนดินแล้ว ผืนน้ำทางธรรมชาติก็กำลังถูกรุกรานอย่างหนัก แม้จะมีการสร้างแคมเปญรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติมากแค่ไหน แต่จิตสำนึกของผู้คนก็ยังไม่พัฒนาไปตามกระแสโลกอยู่ดี… *ภาพภายในเนื้อหาอาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้* อย่างในกรณีของภาพฟุตเทจจากชาวประมงรายหนึ่ง จากชายฝั่งของประเทศคอสตาริกา ที่ได้ทำการจับปลาอีโต้มอญขึ้นเรือมา (ชื่อท้องถิ่น Mahi-Mahi) และสังเกตเห็นว่าอาการของปลานั้นดูไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงทำการผ่าเพื่อดูท้องข้างในของมัน หน้าตาของปลาอีโต้มอญ (Dolphinfish หรือ Mahi-Mahi) และสิ่งที่เขาเห็นอยู่ภายในท้องของปลาตัวนี้ กลับกลายเป็นเศษขยะจากฝีมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษฝาขวดพลาสติก เศษชิ้นส่วนถ้วยพลาสติก หวี ไฟแช็ก และเศษพลาสติกเล็กๆ น้อยๆ อีกหลากหลายชิ้น ด้วยจำนวนขยะภายในท้องของปลาที่มากขนาดนี้ จึงเป็นเหตุทำให้ระบบร่างกายของปลามีความบกพร่อง และด้วยเหตุที่ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของชาวประมงบนเกาะ ก็ยิ่งส่งผลทำให้นักอนุรักษ์ต้องเร่งทำการรณรงค์เป็นการด่วน คลิปการผ่าท้องปลาตัวดังกล่าว เผยให้เห็นถึงเศษขยะที่ถูกทิ้งลงในทะเลกลับกลายเป็นอาหารคร่าชีวิตปลา ทางด้าน Erick Ross นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้อธิบายไว้ว่า ปลามักจะมีความสับสนระหว่างอาหารที่พวกมันกินได้กับชิ้นส่วนพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ก่อนที่จะทำการกลืนกินเข้าไปในร่างกาย “ชิ้นส่วนพลาสติกเหล่านี้จะไม่ได้รับการย่อยสลายภายในท้องของปลา และจะทำการขัดขวางการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้พวกมันไม่สามารถกินอาหารได้อีก…
-
ทีมวิจัยค้นพบสัญญาณหายนะ “ขยะพลาสติก” ในสัตว์ทะเลส่วนที่ลึกสุดของโลกกว่า 10,000 เมตร
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Newcastle ประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจบริเวณมหาสมุทรส่วนก้นบึ้งของ Mariana Trench ที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กระทั่งมหาสมุทรส่วนที่ลึกถึง 10,890 เมตร ที่ซึ่งพวกเขาคาดว่าจะมีแต่ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องโดยมนุษย์ เหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแพขยะจากเมืองใหญ่ แต่… พวกเขาก็ยังค้นพบสิ่งที่ทำให้ตกตะลึง นั่นก็คือ “เส้นใยพลาสติก” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในท้องของหนอนทะเลตัวหนึ่ง ซึ่งขยะดังกล่าวได้อุดตันทางเดินอาหารของมัน เส้นใยพลาสติกที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ภาพของเส้นใยพลาสติกที่ติดอยู่ในทางเดินอาหารของหนอนธนู ด็อคเตอร์ Alan Jamieson กล่าวว่านี่คือคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาตินั้นสร้างร่องรอยของเผ่าพันธุ์ตนเองไปทั่วโลกจริงๆ แม้เราจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน ในเมืองใหญ่ หรือบนภูเขา แต่ขยะที่เราสร้างมันยังไปถึงมหาสมุทรส่วนที่ห่างไกลที่สุดได้ด้วย ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ Mariana Trench เท่านั้น แต่ทีมสำรวจยังสำรวจจุดลึกอื่นๆ อย่างเช่น Japan, Izu-Bonin, Peru-Chile, New Hebrides และ Kermadec ซึ่งผลที่น่าตกใจก็คือ พื้นที่ Mariana Trench ที่ทีมสำรวจได้ทำการเก็บข้อมูลตัวอย่างของสัตว์ทะเล “ในทุกสถานที่นั้น จะพบสัตว์ทะเลที่กินเส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก” โดยปกติแล้วสัตว์ทะเลลึกจำพวกดังกล่าวจะกินแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนาดเล็กพอที่พวกมันสามารถกินได้…
-
17 ภาพของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีรูปร่างหน้าตา ‘ประหลาดที่สุดบนโลกมนุษย์’
เราอาจเคยได้เห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดตามสื่อทีวี อินเตอร์เน็ต หรือบางคนอาจเคยเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นแบบจะจะกันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าน้อยคนมากที่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลหน้าตาประหลาดๆ เหล่านี้ แน่นอนว่าการจะลงไปในทะเลลึกเป็นเรื่องที่ยากมาก ทำให้ไม่ค่อยมีใครได้มีโอกาสลงไปเห็นสิ่งมีชีวิตด้านล่างนั้นด้วยตาตัวเองสักเท่าไหร่ ดังนั้นในครั้งนี้ #เหมียวตะปู จึงมาพูดถึงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีหน้าตาแปลกประหลาดมากที่สุดในโลก เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสมันด้วยตาของตัวเอง (ผ่านรูปถ่ายอ่ะนะ) พวกมันมีหน้าตาแบบไหนกันบ้าง ไปดูกันเลยยย The Giant Scale Worm . มันคือสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลฝั่งแอนตาร์กติก สามารถม้วนลำคอและขากรรไกรของตัวเองออกมาจากปากในตอนกินอาหาร ทำให้หน้าตาเวลาฟันมันยื่นออกมาอาจดูเหมือนนั่งเอเลี่ยนไปซักนิด ปลาตระกูลสตาร์เกเซอร์ ปลาชนิดนี้พบได้ในทะเลแดง มหาสมุทรแอตแลนติก และในทะเลรอบๆ ประเทศอินโดนีเซีย ดวงตาของมันอยู่บริเวณด้านบนของส่วนหัว ความพิเศษของมันคือการซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทรายในมหาสมุทรรอเหยื่อเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงค่อยเข้าจู่โจม ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้มันเป็นนักล่าที่น่ากลัวและโหดเหี้ยม ปลาแฟงค์ทูธ มันคือปลานักล่าใต้ทะเลลึก ฟันที่ยาวและแหลมคมทำให้มันสามารถล่าได้ทั้งปลาตัวอื่นๆ ปลาหมึก และพวกกุ้งต่างๆ สามารถพบเห็นมันได้ตามมหาสมุทรเขตร้อน หรืออย่างเช่นแถวชายฝั่งออสเตรเลีย Christmas-Tree Worms สิ่งมีชีวิตนี้ถูกเรียกตามลักษณะที่คล้ายกับต้นคริสต์มาสของมัน สีสันสดใสก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพใต้น้ำ สามารถเจอมันได้ในทะเลเขตร้อนทางฝั่งแคริบเบียน และอินโด-แปซิฟิก The Flamingo Tongue…
-
เรื่องราวหลังภาพ ‘ม้าน้ำตัวน้อย’ ที่เผยให้เห็นว่าโลกของเรากำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน??
บางครั้งภาพของเหล่าสัตว์ป่าที่เราได้เห็นกันในสารคดีหรือตามโลกอินเตอร์เน็ต อาจจะบ่งบอกบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าพฤติกรรมของมันที่พวกเรากำลังเห็นกันอยู่ เหมือนกับภาพของเจ้าม้าน้ำตัวน้อยที่กำลังใช้หางของมันพันกับแท่งคอตตอนบัดที่โด่งดังบนโลกอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสารคดี Our Planet หนึ่งในโปรเจคโดย BBC Earth ซึ่งเป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดังคุณ Justin Hofman และนี่คือภาพของเจ้าม้าน้ำตัวนั้น คุณ Hofman ได้ออกมาเปิดเผยที่มาของภาพเจ้าม้าน้ำตัวนี้ผ่านทางอินสตราแกรมของเขา โดยเขาได้โพสภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่คือภาพที่ผมไม่อยากให้มันมีอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมอยากให้ทุกๆ คนได้เห็น สิ่งที่น่าเศร้าใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมกำลังจะถ่ายภาพของม้าน้ำตัวน้อย และจากนั้นก็มีขยะกับสิ่งปฏิกูลนับไม่ถ้วนตามมา ภาพนี้คงจะอธิบายถึงสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคตของท้องทะเลได้ พวกเราต้องการอนาคตแบบไหน?? และการกระทำของพวกเราจะเปลี่ยนแปลงดาวดวงนี้ได้อย่างไร” นอกจากก้านคอตตอนบัดแล้ว คุณ Hofman และเพื่อนช่างภาพของเขายังพบขยะอื่นๆ อย่างเช่นเศษอวน ถุงพลาสติก และเศษผ้าลอยมาพร้อมกับเจ้าม้าน้ำอีกด้วย “สิ่งที่ผมเจอ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่แทบไม่น่าเชื่อเลย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือบทสัมภาษณ์ของช่างภาพหนุ่มแบบเต็มๆ ภาพและเรื่องราวของเจ้าม้าน้ำตัวนี้ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ท้องทะเลและพื้นที่อื่นๆ บนโลกของเรานั้นกำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน?? ที่มา designtaxi
-
ผลจากการทิ้งขยะของมนุษย์ ทำให้เกาะในทะเลแคริบเบียนเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้น
เราทราบกันดีว่าสภาพอากาศของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อากาศเริ่มร้อนขึ้นมากทุกวันจนทำให้มนุษย์เริ่มจะดำรงชีวิตไม่ได้ อีกทั้งต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตามที่เราได้เห็นในเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งความแปรปรวนทางสภาพอากาศนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของมนุษย์ที่ทำลายธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จนทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ช่างภาพที่ชื่อว่า Caroline Power ได้เดินทางไปยังเกาะ Roatan หนึ่งในหมู่เกาะของทะเลแคริบเบียนเพื่อทำการสำรวจพื้นที่ แต่เมื่อเธอเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ แทนที่จะได้พบกับผืนน้ำทะเลสีครามสดใส แต่กลับพบว่าทะเลที่แสนสวยงามนั้นเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้นที่ลอยเกลื่อนเต็มท้องทะเล บนผืนน้ำปกคลุมไปด้วยเศษขยะเช่น ขวดพลาสติก ช้อนส้อม กล่องโฟม และเศษพลาสติกอื่นๆ ขยะเหล่านี้สันนิษฐานว่าไหลมาตามแม่น้ำของกัวเตมาลา Caroline จึงได้ถ่ายภาพท้องทะเลที่เต็มไปด้วยขยะเหล่านี้ เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักและดูแลรักษาธรรมชาติให้ดีกว่านี้ John Hourston จาก Blue Planet Society ได้ออกมารณรงค์เพื่อให้ผู้คนออกมาปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทร เขาชี้ให้เห็นว่าพลาสติกทั้งหลายที่ลอยบนท้องทะเลจะปะปนกับสาหร่ายที่เป็นอาหารของพวกแพลงตอนและปลาทะเล นอกจากนี้ยังมีนกทะเล เต่าทะเล และวาฬที่เข้าใจผิดคิดว่าพลาสติกเป็นอาหาร และพวกมันก็กินเข้าไปซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัญหาขยะในท้องทะเลไม่ได้เกิดที่เกาะแห่งนี้เพียงที่เดียว ยังมีชายหาดทั่วโลกที่ยังมีปัญหาเรื่องขยะในท้องทะเล และก็น่าจะถึงเวลาที่มนุษย์ควรจะออกมารับผิดชอบดูแลสิ่งแวดล้อม ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ที่มา Dailymail
-
หนุ่มพบเจ้าอีกัวน่ากลางทะเล 7 กิโลห่างจากฝั่ง เลยพามันขึ้นเรือกลับไปส่งที่เกาะ
เรื่องราวของ Steve หนุ่มนักพายเรือคายัค ที่ล่องเรือออกนอกฝั่งไกลออกไปหลายกิโลฯ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นตัวประหลาดบางอย่าง 4 ขามีลักษณะสีเขียวๆ ใช่แล้ว..!! มันคืออีกัวน่านั่นเอง “มันเป็นอะไรที่บ้ามากเลยครับ ผมล่องเรือมาก็มาก เห็นอีกัวน่าว่ายน้ำตามชายหาดมาก็เยอะ แต่ยังไม่เคยเห็นเจ้าตัวไหนปีกกล้าขาแข็งมาไกลกลางทะเลได้ขนาดนี้มาก่อน” Steve เล่า เอ๊ะ!! นั่นตัวอะไรหว่า….? Steve เล่าว่า ขณะที่เขากำลังล่องเรืออยู่เพลินๆ เขาก็สังเกตเห็นเจ้าอีกัวน่าน้อยสีเขียวมาตะเกียกตะกายบริเวณท้ายเรือ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันต้องการจะไปไหนกันแน่ “เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกัวน่าอยากเดินทางไปที่ไหน ผมเคยดูในสารคดี…. บางทีพวกมันก็ว่ายน้ำจากชายฝั่งสหรัฐฯ ไปโผล่ที่ประเทศคิวบานู้นเลยก็มี” แต่ดูเหมือนว่าทันทีที่เพื่อนเขียวตัวน้อยเห็น Steve มันก็รีบตะเกียกตะกายไต่ขึ้นมาบนเรือ หวังจะเข้ามาทักทายเจ้าของเรือซักหน่อย ทั้งคู่ได้ใช้เวลาดื่มด่ำช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นด้วยกัน เรียกได้ว่าถ้าเป็นชายหนุ่มกับหญิงสาวก็คงมีฉากพลอดรักเกิดขึ้น และทันทีที่เรือแล่นเข้าใกล้ชายฝั่ง เจ้าอีกัวน่าก็ดูเหมือนจะค้นพบจุดหมายใหม่ มันหันหน้ามาบอกลาแล้วกระโดดลงน้ำไปได้อย่างหน้าตาเฉย และแน่นอนว่างานนี้ถูกอกถูกใจชาวเน็ตสุดๆ กับเรื่องราวมิตรภาพข้ามสายพันธุ์ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ “ตัวอย่างดีๆ ที่ว่าเราควรจะปฏิบัติต่อสัตว์โลกอย่างไร” บ้างก็ว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ รู้สึกดีมากจริงๆ พี่สตีฟ และนี่ก็เป็นวิดีโอเรื่องราวทั้งหมดของเขาสตีฟ และน้องเขียวอีกัวน่า… ที่มา:…
-
ตามส่องภาพแจ่มๆ ของ “เทพเจ้าธอร์” โชว์หุ่นสุดล่ำขณะไปพักร้อนเล่นที่ชายหาดในออสเตรเลีย
เมื่อวันศุกร์ ที่ 14 ตุลาคม 2560 Chris Hemsworth นักแสดงหนุ่มร่างบึกที่หลายคนรู้จักกันดีในบทเทพเจ้าธอร์ ได้ไปพักร้อนชิวๆ ที่ชายหาดโกลด์โคสต์ (Gold Coast) ทางตอนใต้ของเมืองบริสเบน ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย งานนี้ทำเอาพื้นที่บริเวณดังกล่าวถึงขั้นร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เพราะนอกจากความหล่อออร่ากระจายของเขาแล้ว หนุ่ม Chris ยังมาพร้อมกับหุ่นสุดล่ำบึกที่สาวๆ เห็นแล้วจะต้องหลงใหลกันเป็นแถว อู้ววววหูวววว กล้ามเป็นมัดๆ แบบนี้ไม่เพียงแค่สาวๆ เท่านั้นจะชื่นชอบ เพราะแม้แต่หนุ่มๆ บางคนยังรู้สึกอิจฉาและอยากมีหุ่นสุดเพอร์เฟกต์แบบนี้บ้าง สำหรับ Chris Hemsworth เขาเป็นนักแสดงชื่อดังวัย 33 ปีที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ “เทพเจ้าธอร์” หนึ่งในซุปเปอร์ฮีโร่ของมาเวล และไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีไปซะหมดจนสาวๆ ถึงขั้นกรี๊ดสลบไปเลย เพราะหุ่นสุดล้ำที่น่าขย้ำนี้ ยังเคยทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในนักแสดงหนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2014 อีกด้วย อื้อหือออ คือดีย์ Chris ได้แต่งงานกับ Elsa Pataky ดาราชาวสเปน เมื่อปี…
-
ทีมช่วยเหลือใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ช่วยเหลือวาฬเพชฌฆาตที่ติดอยู่บนโขดหินได้สำเร็จ!!
ภาพจากกล้องของทีมช่วยเหลือ เผยให้เห็นถึงวินาทีที่พวกเขากำลังช่วยชีวิตเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งที่กำลังติดอยู่บนโขดหนึ่ง ในชายหาด Hartley Bay ในช่วงเช้าวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคมปีท่าผ่านมา ทีมวิจัยวาฬเพชฌฆาตในพื้นในชายฝั่ง British Columbia ได้ยินเสียงดังประหลาดดังมาจากโขดหินใกล้ๆ และเมื่อเข้าไปสำรวจดูพวกเขาก็พบว่าเจ้าวาฬเพชฌฆาตหนักราวๆ 4-5 ตันตัวหนึ่งกำลังนอนเกยติ้นอยู่บนโขดหินนั้น เจ้าวาฬที่กำลังติดอยู่ในโขดหิน ทีมสำรวจคาดว่าสาเหตุที่เจ้าวาฬเพศเมียตัวดังกล่าวขึ้นมาติดอยู่บนโขดหินนั้น อาจเป็นเพราะมันเข้าไปว่าอยู่ใกล้ๆ กับเรือล่าแมวน้ำก็เป็นได้ และจากนั้นพวกเขาได้ทำการขอความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์ และทันใดนั้นคุณ Hermann Meuter นักวิจัยวาฬและผู้ก่อตั้ง Cetacean Lab มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ทะเล พร้อมกับอาสาสมัครก็มาถึงที่โขดหินนั้น เขาและทีมช่วยเหลือได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ใช้เจ้าวาฬขาดน้ำและเป็นอันตราย และรอจนกว่าน้ำระดับน้ำจะสูงขึ้นจนมันสามารถว่ายออกจากโขดหินนั้นไปได้เอง “ในตอนแรกเจ้าวาฬเพศเมียตัวนั้นดูเครียดมาก เธอหายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย” คุณ Hermann กล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าวาฬก็เริ่มมีอาการเครียดมากขึ้น ทางทีมช่วยเหลือจึงจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุด “ในตอนแรกมีแค่ผมและวาฬตัวนั้น ตลอด 2 ชั่วโมงแรกผมพยายามทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและไม่เครียด” ชายหนุ่มกล่าว ตลอดระยะเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือได้นำผ้ามาคลุมเจ้าวาฬ และใช้สายยางพร้อมกับถังตักน้ำรดลงที่ตัวมันเพื่อให้ความชุมชื้นและรอจนกว่าน้ำจะขึ้นอีกครั้ง และแล้วความพยายามของพวกเขาก็เป็นผลสำเร็จ เมื่อระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น เจ้าวาฬก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากโขดหินได้ที่ละนิด ทีละนิด จนในที่สุดมันก็สามารถกลับสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย ชมการช่วยเหลือเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา inspiremore
-
7 ชายหาดในฝันของนักท่องเที่ยว ที่พอไปจริงๆ แล้วไม่เป็นสวรรค์อย่างที่คิดไว้
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนยกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันนั่นก็คือ ทะเลที่มีน้ำสีฟ้าใสๆ หาดทรายขาวๆ ที่ได้ไปเยือนเมื่อไหร่ก็เหมือนกับได้ชาร์จพลังไปในตัว การจะออกเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เราก็ต้องวางแพลนเรื่องต่างๆ ทั่งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน อะไรหลายๆ อย่าง บางทีก็ต้องอาศัยจากการดูรีวิวสถานที่จากทางอินเตอร์เน็ต แต่ทว่ารูปที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตการสถานที่จริงมันต่างกันราวฟ้ากับเหว เป็นแบบนี้แล้วคนที่ไปเที่ยวก็คงจะรู้สึกเฟลกันบ้างล่ะ 1. ชายหาด Waikiki ชายหาดที่เป็นซิกเนเจอร์ของฮาวาย น้ำทะเลมีสีใสทั้งกลางวันและกลางคืน ความเป็นจริง ชายหาดเต็มไปด้วยผู้คนที่มานอนอาบแดดจนแทบไม่มีที่ว่างและปราศจากความเงียบสงบ 2. Bondi Beach หาดทรายสีขาวที่คั่นกลางระหว่างสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลและทุ่งหญ้าสีเขียวขจี เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าไปสัมผัส ความเป็นจริง ชายหาดไม่ได้สวยงามตามในรูป บนทุ่งหญ้าก็มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามานั่งสังสรรค์กันอยู่เป็นประจำ 3. Huntington Beach ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคลิฟอร์เนีย จุดเด่นคือทางเดินริมทะเลที่แสนสวยงาม ความเป็นจริง บางทีก็ต้องขึ้นกับสภาพอากาศของวันนั้นๆ อ่ะเนาะ เรื่องของมุมกล้องก็มีส่วนทำให้ภาพดูสวยขึ้นได้ 4. Clearwater Beach หาดน้ำใสสมชื่อของรัฐฟลอริด้า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ความเป็นจริง ชายหาดเต็มไปด้วยผู้คนและร่มบังแดด …
-
ชายหนุ่มถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันในท้ายที่สุด…
(บางภาพมีเนื้อหาที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวเลือด) เหตุการณ์สุดสยอง เมื่อ Ervin Maccarty นักดำน้ำจากรัฐฟลอริด้าได้ถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงอย่างจัง หลังจากลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ งานนี้เล่นเอาวุ่นวายกันสุดๆ วินาทีที่ Ervin ถูกช่วยขึ้นมาบนเรือพร้อมกับลูกฉลามตัวน้อยที่เกาะติดอยู่ที่พุงของเขา มันกัดพุงของเขาแน่นราวกับมันกำลังต่อสู้กับเหยื่อที่ตัวใหญ่กว่าอย่างไม่เกรงกลัว ด้านพุงของชายหนุ่มก็เริ่มมีเลือดที่อาบลงมาเต็มไปหมด ภาพเหตุการณ์นั้นถูกบันทึกไว้โดยเพื่อนของเขาเอง ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความทรมานของ Ervin สุดๆ แต่ถึงจะเจ็บยังไงในช่วงแรกนั้นดูเหมือนพวกเขาพยายามจะทำให้เจ้าลูกฉลามยอมปล่อยแต่โดยดี โดยไม่ทำอันตรายกับมัน แต่ลูกฉลามก็ต่อสู้สุดใจเพื่อชีวิตของมัน ในวินาทีสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะจบชีวิตเจ้าฉลามลงซะด้วยการใช้มีดปาดเข้าไปในตัวของมัน จนมันสิ้นใจลงและยอมปล่อยในที่สุด . . Ervin ได้เล่าถึงวินาทีชีวิตของเขาว่า ตอนที่โดนฉลามกันนั้นมันพึ่งมากัดแรงมาก เขาหายใจไม่ออกจนต้องกลับเรือ แต่วินาทีที่ต้องว่ายน้ำกลับเรือนั้นเขาไม่มีแรงแม้แต่จะว่ายน้ำด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงและเขาก็ปลอดภัยในท้ายที่สุด ลองรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้างล่างเลย ที่มา dailymail
-
ไอเดีย “ชุดว่ายน้ำแหวกหน่มน๊ม” จากญี่ปุ่น ให้สาวๆ เฉิดฉาย เมื่อไปเที่ยวทะเล
บางครั้งการได้ออกไปเที่ยวทะเลในช่วงวันหยุดยาวอาจจะเป็นวันพักผ่อนที่แสนสบายสำหรับใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคุณสาวๆ ในการออกไปรับลมทะเลนั่นก็คือ ชุดว่ายน้ำนั่นเอง!! และวันนี้เราก็มีเทรนชุดว่ายน้ำแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ ญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้มาฝากคุณผู้หญิงกัน ส่วนหนุ่มๆ จะลองเข้ามาส่อง เอ๊ย!! ดูเป็นแบบเผื่อไว้ไปหาเลือกซื้อให้แฟน ก็ไม่ว่ากันนะ และนี่ก็คือโฉมหน้าของชุดว่ายน้ำที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้!! ชุดว่ายน้ำแบบแหวกกลาง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะทำให้สาวๆ ได้เฉิดฉายความสวยงามเวลาที่คุณกำลังเดินอวดหุ่นอยู่ริมชายหาดจนหนุ่มๆ ต้องหันมามองกันเลยทีเดียว เจ้าชุดว่ายน้ำที่ว่านี้อาจจะเป็นข่าวดีๆ สำหรับสาวๆ ที่มีต้นทุนมาเยอะ เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณได้เผยหุ่นสวยแล้ว คุณอาจจะไม่ต้องทนอึดอัดกับชุดว่ายน้ำแบบเดิมๆ อีกด้วย แต่สำหรับสาวๆ ที่มีเจ้าของแล้วอาจจะต้องทำเรื่องขออนุญาตกับคุณสามีก่อนล่ะนะ ฮ่าๆ เพราะชุดว่ายน้ำที่ว่านี้มันดูจะเซ็กซี่ซะเหลือเกิ๊น แต่สำหรับแก๊งค์สาวโสดอาจจะไม่มีปัญหานะ ฮ่าๆ น่ารักและน่าเป็นเจ้าของจริงๆ เลยใช่ไหมล่ะคุณสาวๆ !? เรียกได้ว่าเป็นชุดว่าน้ำอีกแบบที่จะเพิ่มความร้อนแรงให้กับคุณผู้หญิงได้อีกมากเลยทีเดียว โอยยย ตายแล้ววว หรือจะใส่มาเป็นเกิร์ลกรุ๊ป แบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ใจเย็นๆ พ่อหนุ่ม รู้นะว่าคิดอะไรอยู่?? อื่ม… น่าสวมใส่จริงๆ เล๊ยย โอยน่อออ… ช่างเป็นชุดว่ายน้ำที่ร้อนแรงเสียนี่กระไร…
-
“ชิลี” กลายเป็นประเทศแรก ที่แบนถุงพลาสติกในเมืองติดทะเล เพื่อปกป้องทรัพยากรโลก..!!
นับว่าปัญหาขยะพลาสติกเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คอยทำลายทรัพยากรโลกมาแล้วหลายสิบปี อีกทั้งมันยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตของสัตว์โลก รวมทั้งระบบนิเวศน์ต่างๆ เช่นเดียวกับภาพที่เราเห็นตอนไปเที่ยวทะเล… ทว่าล่าสุด ‘ชิลี’ ได้ออกมาประกาศเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกา ถึงนโยบายที่จะยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างเด็ดขาดโดยจะมุ่งเน้นไปที่เมืองที่ติดชายหาดต่างๆ โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน ประธานาธิบดีแห่งชิลี Michelle Bachelet ได้ออกมาแถลงนโยบายแบนการใช้ถุงพลาสติกทุกชนิด ผ่านที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ครั้งที่ 72 ที่เมืองนิวยอร์ก “ภายใน 12 เดือนต่อจากนี้ เราจะมุ่งเน้นผลักดันให้มีกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจัง โดยจุดประสงค์ก็เพื่อปกป้องระบบนิเวศน์และทรัพยากรทางทะเลที่กำลังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง…” Michelle Bachelet กล่าวผ่านที่ประชุม อ้างอิงข้อมูลจากการรายงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมประเทศชิลี พบว่ากว่า 90% ของนกทะเลมีถุงพลาสติกติดค้างอยู่ในร่างกายของพวกมัน ซึ่งถ้าหากไม่มีการแก้ปัญนี้เกิดขึ้นพวกเขาคาดว่าภายในปี 2050 สิ่งมีชีวิตและขยะในท้องทะเลอาจมีจำนวนไล่เลี่ยกัน รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม Marcelo Mena ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมี 60 เมืองในประเทศชิลีที่เริ่มหันมาใช้นโยบายดังกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้กฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนการส่งเข้าสภาเพื่อพิจารณาภายในเดือนตุลาคม “ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการป้องกันไม่ให้ระบบนิเวศทางทะเลถูกทำลายไปมากกว่านี้ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการควบคุมขยะที่ถือเป็นปัญหาระยะสั้นที่รัฐฯ ต้องคอยรับมืออยู่บ่อยๆ และเราก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเอาขยะพลาสติกมาทดแทนความหลากหลายทางชีวภาพของธรรมชาติได้แน่นอน” Marcelo Mena กล่าว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนโยบายรักษ์โลก…
-
มารู้จักกับ Pyrosomes สิ่งมีชีวิตใสๆ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”
สิ่งมีชีวิตบนโลกของเรายังมีอีกมากมายที่มีความน่าดึงดูด ทว่ากลับไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก อย่างเช่นเจ้าตัวนี้ที่มีความน่าสนใจขนาดที่ว่ามีคนไปตั้งฉายา “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล” ให้กับมันเลยทีเดียว โดยล่าสุดนี้เมื่อ Jay Wink นักดำน้ำจากกลุ่ม ABC Scuba Diving ได้ดำลงไปนอกชายฝั่งของเมือง Port Douglas รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องพบเข้ากับสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดและสีสันที่ชวนให้หลงใหลใต้น้ำ แน่นอนว่าเขาจะต้องไม่พลาดที่จะควักกล้องสำรวจมาถ่ายรูปเก็บไว้ และนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับคำถามว่า “ใครพอจะสามารถตั้งชื่อให้กับเจ้าตัวประหลาดนี้ได้บ้าง?” เจ้าสิ่งนี้บางคนอาจดูแล้วเห็นว่ามันใสๆ เรืองแสงสีชมพูซะ ดูเหมือนกับเกลียวคลื่นมากกว่า แต่ถึงอย่างไรมันก็คือสิ่งมีชีวิตจริงๆ มีชื่อเรียกว่า Pyrosome เป็นสัตว์น้ำที่อยู่ในกลุ่มสัตว์มีแกนสันหลัง ถ้าจะพูดให้ถูกคงต้องบอกว่ามันคือ การรวมตัวของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ลักษณะคล้ายแมงกระพรุนที่เรียกว่า Zooids นับพันตัว จนกลายมาเป็นขบวนทรงกระบอกขนาดใหญ่ยาว 3 เมตร ตามปกติความยาวเฉลี่ยของสิ่งนี้จะอยู่ที่ 30 – 60 เซนติเมตร ทว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้ค้นพบ พวกมันในขนาดที่ยาวถึง 30 – 35 เมตร เทียบเท่ากับวาฬได้เลย แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดใหญ่ ก็ไม่ได้จะสร้างอันตรายให้กับพวกเราเลย นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับอุตสาหกรรมการประมง อย่างเช่นการไปติดกับแหตกปลาในประเทศสหรัฐอเมริกา …
-
ชาวบ้านงง พบสิ่งมีชีวิตประหลาดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดเท็กซัส หลังถูก ‘ฮาร์วี่ย์’ ถล่ม
เรียกได้ว่าพายุเฮอร์ริเคน ‘ฮาร์วี่ย์’ เป็นอีกหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด เท่าที่เคยมีมา แน่นอนว่าภาพที่เราเห็นบ่อยๆ คือสภาพบ้านเมืองที่ถูกซัดกระหน่ำจนไม่เหลือแค่เศษซาก แต่นอกเหนือจากความสูญเสีย ก็ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น เมื่อมีชาวเมืองคนหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดลงบนทวิตเตอร์ โดยอ้างว่าพบมันมาเกยตื้นบนชายฝั่ง Texas City ลักษณะตัวใหญ่ยาว มีฟันแหลมคม และไม่มีตา หลังจากที่มีชาวเน็ตได้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล สิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้ผู้คนไปทั่วเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน Preeti Desai ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร National Audobon Society ได้ออกมาให้ข้อมูลสันนิษฐานถึงสิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ว่า “ภาพแรกที่เห็นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก ตอนแรกดูไกลๆ ผมคิดว่าเป็นปลาแลมป์เพรย์ แต่พอไปเห็นใกล้ๆ แล้วผมว่ามันไม่ใช่เลย ลักษณะปากของมันดูแตกต่างออกไปมากๆ” ทางด้านของนักชีววิทยา ก็ได้ออกมาให้ข้อสันนิษฐานว่า ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกับกลุ่มปลาไหล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าข้อสันนิษฐานที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด คือมันเป็นตัว ปลาไหลเขี้ยวงู (Fangtooth Snake-Eel หรือ Tusky Eel) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตหายากที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งของประเทศเม็กซิโก ทีมสำรวจหลายฝ่ายพยายามพลิกคว่ำพลิกหงายศพมันอยู่หลายรอบ เพื่อจะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วมันคือตัวอะไรกันแน่ ถ้าหากมันเป็นปลาไหลเขี้ยวงูจริงละก็ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า..…
-
10 กฎเหล็กอันแสนประหลาดสำหรับโจรสลัดในยุคก่อน เพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน
โจรสลัด เป็นสิ่งที่แทบทุกคนจะต้องรู้จักในฐานะของหัวขโมยแห่งท้องทะเล โดยยุคที่โจรสลัดได้รับความนิยมอย่างมากคือในช่วงศตวรรษที่ 16 จนมีโจรสลัดนับร้อยนับพันออกโลดแล่นบนท้องทะเล แม้โจรสลัดจะเหมือนมีอิสระแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว การอยู่ร่วมกันย่อมต้องมีกฎสร้างขึ้นมาเป็นธรรมดา โดยทุกข้อพวกเขาทั้งหมดต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ความไม่ธรรมดาก็คือสำหรับบางข้อ เราก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามีไว้เพื่อโจรสลัดจริงๆ ลองไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง ยิ่งมีอันดับสูงๆ ก็จะยิ่งได้รับสิทธิพิเศษ ทุกครั้งที่ออกไปปล้นสะดมกลับมา สมบัติและของที่ขโมยมาทั้งหมด จะถูกแบ่งและแจกจ่ายให้กับแต่ละคน มากน้อยแล้วแต่อันดับที่ถือครองอยู่บนเรือ หากเป็นกัปตันก็ย่อมได้มากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา หนึ่งคน หนึ่งเสียง ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจร่วมกันบนเรือ คนทั้งหมดจะมีสิทธิ์ออกเสียงกันอย่างเท่าเทียม แต่ไม่ได้แปลว่านี่คือความเป็นประชาธิปไตย เพราะยังคงมีการลงโทษซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกัปตันอยู่ดี อาหารและน้ำมีไว้เพื่อทุกคน ในท้องทะเลสิ่งที่น่ากังวลใจและสำคัญที่สุดคืออาหารและน้ำดื่ม เป็นเหตุผลที่ต้องแบ่งให้ทุกๆ คนเท่ากันหมด รวมถึงเหล้าสุราทั้งหลายอีกด้วย เพราะว่าบางครั้งความเมามายก็สำคัญกว่าการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา การขโมยของจะต้องถูกปล่อยเกาะ หรือไม่งั้นก็ต้องพบกับความตาย หากว่าสามารถบุกปล้นได้สำเร็จ ทุกคนจะได้รับสิทธิ์ในการหยิบของบนเรือลำนั้นไปได้ตามต้องการ ยกเว้นของมีค่าอย่างทอง เพชรพลอยต่างๆ ที่ต้องใส่รวมกันไว้และไปแบ่งทีหลัง ซึ่งหากว่าไปหยิบของพวกนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองเมื่อไหร่ละก็ จงเตรียมใจรับผลที่จะตามมาได้เลย ห้ามต่อสู้กัน การต่อสู้กันระหว่างโจรสลัดบนเรือลำเดียวกัน เป็นเรื่องต้องห้ามที่สำคัญอย่างมาก หากฝ่าฝืนจะต้องโดนกัปตันฟาดด้วยแส้ถึง 40 ครั้ง…
-
พาไปดูตึกรูปร่างแปลกๆ ใน “คาบสมุทรแอตแลนติค” กับตำนานลี้ลับที่คุณควรรู้!!
ย้อนกลับไปในอดีตฝรั่งเศสถือเป็นอีกประเทศที่ออกล่าอาณานิคมไปทั่วโลก และแน่นอนว่าในช่วงนั้นก็มีการทำสงครามกับฝั่งอังกฤษด้วยเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทหารอังกฤษบุกเข้าโจมตีจาก 2 ฝั่ง สถาปนิกชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเชื่อว่านี่เป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ผลงานของตัวเอง เขาจึงบรรจงอย่างตั้งใจที่จะสร้างตึกรูปร่างแปลกๆ นี้ออกมา หากคุณทอดสายตาไปยังมหาสมุทร Ile d’Aix และ Ile d’Oléron ที่ประเทศฝรั่งเศส คุณจะได้เห็นตึกต่างรูปร่างประหลาดหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล และนี่ก็เป็นความจริงของสถานที่แห่งนี้… อันที่จริงมันไม่ใช่ตึกอาคาร แต่มันถูกสร้างมาเพื่อเป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ Fort Boyard ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการสำหรับป้องกันเมือง Charente และอ่าว Rochefort ในช่วงศตวรรษที่ 17 จุดประสงค์แรกสุดก็เพื่อใช้เป็นฐานทัพกองกำลังแห่งฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โปรเจกต์ถูกเริ่มตั้งแต่ปี 1662 ด้วยวิทยาการอะไรต่างๆ ทำให้โครงการสร้างไม่สำเร็จเพราะค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่ก็ใช่ว่ามันจะถูกทิ้งร้างไว้อย่างน่าเสียดาย ครั้งหนึ่ง Vauban ผู้เป็นดั่งบิดาแห่งสาขาสถาปนิก เคยออกมากล่าวว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวใกล้เคียงกับคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ สูงมาก ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างมาอย่างลวกๆ แต่มันก็ถูกใช้งานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ทำสงครามกับอังกฤษ จนกระทั่งในปี 1801 ยุคการปกครองของนโปเลียน ได้สั่งให้มีการบูรณะสถานที่แห่งนี้ใหม่อีกครั้ง …
-
จากแรงบันดาลใจฝึกฝนตั้งแต่วัยเด็ก สู่ผลงาน ‘ศิลปะบนหาดทราย’ สเกลใหญ่สุดอลังการ!!
หนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนมักจะทำเมื่อไปเยือนทะเล นอกจากการถ่ายรูปและเล่นน้ำแล้วนั่นก็คือการจารึกชื่อหรือผลงานศิลปะลงบนผืนทรายนั่นเอง และสำหรับใครที่ชื่นชอบงานศิลปะบนหาดทราย วันนี้เราก็มีผลงานเจ๋งๆ จากศิลปินท่านหนึ่งมาฝากกัน คุณ Tim Hoekstra ศิลปินหนุ่มผู้หลงใหลการวาดภาพตามท้องถนนหรืองานสตรีทอาร์ตมาตั้งแต่เด็กๆ และหลังจากที่ฝึกฝนฝีมือและเทคนิคการวาดภาพมาอย่างยาวนาน วันหนึ่งเขาก็ได้เกิดไอเดียที่จะลองสร้างสรรค์ผลงานลงบนชายหาด ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ ภาพปลาหมึกบนผืนทราย หนึ่งในผลงานของศิลปินท่านนี้ ชายหนุ่มเล่าถึงที่มาที่ไปของการทำงานศิลปะชุดนี้ว่า “ผมเติบโตมากับชายหาด และมักจะไปเล่นที่นั่นในทุกๆ หน้าร้อน ผมเริ่มต้นวาดภาพบนชายหาดโดยการใช้กิ่งไม้ตั้งแต่ตอน 6 ขวบ ผมเริ่มฝึกฝนไปเรื่อยๆ จนภาพเหล่านั้นเริ่มใหญ่ขึ้นและต้องขึ้นไปชมความสวยงามของมันจากมุมสูง วันนี้ผมจึงอยากที่จะสร้างงานศิลปะแบบนั้นอีกครั้ง โดยการวาดลวดลายที่คล้ายกับรอยสักลงบนผืนทรายและเก็บภาพความสวยงามของมันด้วยโดรน” คุณ Tim กล่าว . ศิลปินหนุ่มเล่าว่า แต่ละผลงานของเขาใช้เวลาวาดอย่างน้อย 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว . “เมื่อผลงานของผมถูกน้ำทะเลพัดไป ผมหวังว่าผู้คนที่ได้เห็นจะรู้สึกทึ่ง และสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ผมตั้งใจใส่เอาไว้ในผลงานเหล่านั้น” คุณ Tim กล่าว และทั้งหมดนี้คือผลงานบางส่วนของศิลปินท่านนี้ที่เรานำมาฝากกัน . สวยงามไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย . . . ผืนทรายก็เปรียบเสมือนผืนผ้าใบที่คุณ Tim ใช้สร้างสรรค์ผลงานของเขา . . .…
-
เรื่องเล่าตำนาน “เรือผีสิง” ลอยลำไปไกลในทะลได้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บนนั้นนานถึง 38 ปี!!
หากว่าได้ดูหนังโจรสลัดชื่อดังอย่าง Pirates of The Caribbean ก็คงจะไดเห็นเรือผีสิงที่สร้างความหลอกหลอนให้กับผู้ที่ต้องประสบพบเจอ แต่เรือแบบนั้นกลับมีอยู่จริงในท้องทะเล เรือ SS Baychimo หรือในชื่อเดิมว่า Ångermanelfven เป็นเรือขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1914 มีไว้เพื่อการส่งสินค้าข้ามทะเลระหว่างเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี กับประเทศสวีเดน โดยขนาดของเรือมีความยาว 70 เมตร หนักถึง 1,322 ตัน และใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อเครื่องยนต์ไอน้ำที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีต้องชดใช้หลังสงคราม จึงส่งมอบเรือให้กับบริษัทของอังกฤษในปี 1921 ไปอยู่บ้านใหม่ที่สกอตแลนด์ และได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น Baychimo ไว้สำหรับการล่องเรือรวบรวมขนสัตว์ ในช่วงฤดูร้อนก็จะกลับมาและใช้ขนส่งแลกเปลี่ยน ยาสูบ น้ำตาล ชา และอาวุธตามชายฝั่งของแคนาดา ในปี 1924 เรือลำนี้ก็ได้แล่นไปรอบโลกยังคงทำหน้าที่ขนส่งพัสดุเหมือนเดิม จนถึงปี 1931 เมื่อลูกเรือพบว่าได้ติดอยู่กับทะเลน้ำแข็ง ทำให้ทุกคนต้องเดินทางปีนผ่านแนวน้ำแข็งไปขึ้นฝั่งที่ห่างไปไม่ถึงกิโลในอลาสก้า รอให้น้ำแข็งละลายและจึงกลับมานำเรือแล่นสู่จุดหมายต่อไป ในสัปดาห์ต่อมา เรือก็ได้ไปติดกลางหมู่น้ำแข็งอีกครั้ง พวกเขาจึงส่งข้อความขอให้มีการส่งเครื่องบินมารับพวกเขาออกไป แต่จะทิ้งลูกเรือบางคนไว้ที่ชายหาดใกล้ๆ สร้างกระท่อมคอยสอดส่องดูแลเรือที่ห่างออกไปไม่มาก ตั้งใจว่าจะแล่นเรือกลับในช่วงหน้าร้อนที่กำลังมา…
-
ผลงานช่างภาพสาวชาวออสเตรเลีย ใช้เวลากว่า 6 ปี ในการฝึกฝนถ่ายรูปคลื่นทะเลโดยเฉพาะ!!
Matt Burgess ช่างภาพจากประเทศออสเตรเลีย ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพมหาสมุทรอัันแสนกว้างใหญ่ ถ่ายทอดออกมาในหลายอารมณ์ เธอใช้เวลามากกว่า 6 ปี ฝึกฝนถ่ายรูปกลางท้องทะเลในช่วงเวลาต่างๆ แต่ช่วงที่เธอชอบมากที่สุดคือช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นที่มีความงามระหว่างทะเลกับแสง และเธอก็รวบรวมภาพที่เธอถ่ายไว้ในอินสตาแกรมของเธอ mattburgessphoto ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 29,000 คน เกลียวคลื่นแห่งท้องทะเล น้ำใสๆของทะเล เธอรักในการถ่ายคลื่นทะเลมากๆ และกว่าจะได้แต่ละภาพต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างสูง พระอาทิตย์ขึ้น เป็นช่วงที่ทะเลสวยงามที่สุด 6 ปีในการท่ายในมหาสมุทรเป็นสิ่งที่เธอรักและไม่มีวันเบื่อเลย . ราวกับว่าทะเลมีชีวิต ภาพแต่ละภาพแสดงถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันไปของทะเล คลื่นแห่งความเงียบสงบ ชายหาดและท้องทะเล ที่มา boredpanda
-
ประหลาดใจกันทั้งหมู่บ้าน เมื่อท่อขนาดมหึมายาวกว่า 400 เมตรลอยมาเกยฝั่งเกาะอังกฤษ!!
เวลาไปเที่ยวทะเลในบางครั้งเราอาจต้องเจอกับเศษขยะหรือมีสิ่งของลอยตามน้ำมาเกยฝั่งอยู่ คุณก็คงจะคิดว่ามันดูสกปรกและไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย แต่เจ้าสิ่งที่ต้องเห็นในครั้งนี้จะไม่ได้เกิดความคิดแบบนั้นขึ้นมาก่อนเลย หากแต่จะคิดกันว่านี่มันคืออะไรกันเนี่ย? เพราะสิ่งที่มาเกยตื้นบนชายฝั่งประเทศอังกฤษนั้น เป็นท่อพลาสติกขนาดยักษ์ที่ลอยตามน้ำมา ด้วยขนาดกว้าง 2 เมตรกว่าและยาวกว่า 450 เมตร ขนาดที่ว่าไปนั้นคือขนาดที่ใหญ่ที่สุดของท่อทั้ง 4 ที่ลอยมาใกล้กับชายฝั่งระหว่างสองหมู่บ้านในมณฑล Norfolk และท่อที่มีขนาดที่เล็กที่สุดนั้นจะอยู่ที่ความยาวประมาณ 200 เมตรซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะอยู่ดี . หากว่าเริ่มสงสัยกันบ้างแล้วว่าท่อเหล่านี้นั้นมันมาจากไหน มันก็คือท่อที่หลุดมาจากตอนลากไปสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศแอลจีเรีย และชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกผลิดขึ้นโดยโรงงานในนอร์เวย์ โดยทั้งหมดที่หลุดมานั้นมีอยู่ทั้งสิ้น 12 ท่อด้วยกันหากแต่ว่าอีก 8 ส่วนได้รับการดูแลและควบคุมเอาไว้บริเวณนอกชายฝั่งเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีหรือสารพิษเพราะว่า ทั้งหมดออกมาจากโรงงานโดยปราศจากความอันตรายและยังไม่ได้ถูกใช้งานแต่อย่างใด นอกเสียจากจะไปเดินเล่นบนนั้นแล้วตกลงมาซะเอง ท้ายที่สุดแล้วท่อเหล่านี้จะถูกกู้คืนเพื่อส่งไปยังจุดซ่อมแซมนอกชายฝั่ง เพื่อเตรียมพร้อมส่งกลับไปให้กับโรงงานนผู้ผลิต ดังนั้นจึงต้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้าไปวุ่นวายบริเวณนั้นเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ . ถึงแม้จะดูไร้ข้อกังวลแต่ก็ยังคงเป็นที่น่าตกใจ ท่อขนาดยักษ์ลอยน้ำมาขนาดนั้น ถ้าใครได้เห็นก็คงต้องช็อคเวลาที่มันใกล้เราเข้ามาเรื่อยๆ แล้วล่ะนะ ที่มา: dailymail
-
ชาร์คเนโด!! นักตกปลากำลังแล่นเรือชิวๆ ฉลามก็โผล่มาจ๊ะเอ๋ กระโดดโผขึ้นบนเรือเฉย…
หนังที่มีฉลามเป็นตัวร้ายในหลายๆ เรื่องที่มีมาอย่างเนิ่นนานอย่างเช่น Jaws ได้ฝากความน่ากลัวใต้ผืนน้ำจนหลายคนผวาไม่กล้าลงทะเล แต่สำหรับคราวนี้มันดันขึ้นมาโชว์ตัวเหนือน้ำให้ได้เห็นกันโต้งๆ เลย!! ใครมันจะไปคิดล่ะว่า อยู่ดีๆ ก็มีฉลามมาโกโผล่กระโดดขึ้นเรือหาปลามาซะอย่างนั้น สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าลูกเรือผู้อยู่ในเหตุการณ์ ในขณะที่มันกำลังดิ้นไปดิ้นมาในสภาพเลือดท่วมปาก ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยนักตกปลา แถวชายฝั่ง Long Island ในนิวยอร์ก กับสัตว์ดุร้ายแห่งท้องทะเลที่โดดขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือของพวกเขา โชคร้ายที่ร่างของมันติดกับรั้วกั้นบริเวณหัวเรือ มันจึงพยายามดิ้นไปดิ้นมาและกัดรั้วกั้นเพื่อให้ตัวเองได้เป็นอิสระ นั่นจึงทำให้มันมีเลือดออกเต็มปาก ซึ่งในตอนแรกนั้นหากใครเห็นก็คงจะคิดว่ามันคงเป็นเลือดจากผู้เคราะห์ร้ายซักคน คลิปวิดีโอที่บันทึกเอาไว้ได้พอดี… (หากชมไม่ได้ให้คลิกที่นี่นะครับ) ภาพของฉลามที่เลือดท่วมปาก จากการพยายามดิ้นให้หลุดพ้น พวกเขาอยากจะช่วยมันให้มันกลับลงสู่ทะเลได้อีกครั้ง ลูกเรือและกัปตันของเรือ Outlaw Fishing Charters ได้นำเชือกไปผูกไว้กับครีบของมัน และให้อีกคนทำหัวของมันให้ตรงโดยดึงไว้ด้วยเอ็นตกปลา จึงทำให้มันสามารถกลับลงสู่ทะเลได้โดยสวัสดิภาพ จากเหตุการณ์นี้อาจทำให้ต้องมีคนกลัวการโดยสารเรือไปในทันที ถ้าเราลองคิดภาพเล่นๆ ว่าเจ้าฉลามสามารถโดดมาหม่ำเราได้ในตอนที่เรากำลังเซลฟี่อยู่บนดาดฟ้าเรืออย่างง่ายดาย มันคงจะไม่ต่างจากหนักสยองขวัญสักเท่าไรเลยนะเนี่ย!??? ที่มา: ladbible
-
18 ภาพที่จะทำให้คุณรู้จัก Thalassophobia หรือ ‘อาการกลัวทะเล’ ไม่แน่คุณอาจจะเป็นก็ได้นะ
ในปัจจุบันเรามักจะพบเห็นอาการหวาดกลัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการกลัวรู กลัวที่สูง หรือแม้แต่กลัวพริกก็ตาม!! (มันมีคนกลัวพริกอยู่จริงๆ นะ ในออฟฟิศแคทดั๊มบ์นี่แหละ) ผู้ที่มีอาการเหล่านั้นเมื่อเห็นสิ่งเร้าต่างๆ ที่ว่านี้จะเกิดอาการหายใจไม่ถนัด เหงื่อออก ท้องใส้ปั่นป่วนหรือบางรายถึงขั้นเป็นลมกันเลยทีเดียว และหนึ่งในอาการกลัวที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันนั้นก็คืออาการ Thalassophobia หรือโรคกลัวทะเลนั่นเอง คุณกลัวอะไรที่อยู่ภายใต้น้ำนั่นไหม!? โดยคำว่า Thalassophobia นั้นมาจากภาษากรีก นั่นก็คือ ‘Thalassa’ ซึ่งหมายถึงภูตผีในทะเลตามความเชื่อโบราณ และอย่างที่เราทราบกัน ‘Phobia’ แปลว่าอาการกลัว ซึ่งผันมาจากภาษากรีก ‘Phobos’ อีกนั่นน่ะแหละ รวมๆ แล้วก็คืออาการกลัวทะเลนั่นเอง และวันนี้เราก็ได้รวบรวมลักษณะอาการต่างๆ ของผู้ที่เป็นโรค Thalassophobia นี้มาฝากกัน โดยโรคกลัวทะเลที่ว่านี้จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… อย่างแรกคุณมักกลัวว่าใต้ทะเลอาจมีสิ่งแปลกๆ อยู่ใช่ไหมล่ะ?? อย่างเช่น ปลานักล่า หรือสิ่งแปลกปลอมอย่างเจ้าสิ่งนี้!! ปลาวาฬขนาดยักษ์?? หรือซากของเรือที่จมอยู่ใต้มหาสมุทร ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้คุณนั้นไม่กล้าที่จะลองเล่นน้ำทะเลเลย และนอกจากอาการกลัวสิ่งที่อยู่ใต้ทะเลแล้ว บางครั้งคุณก็อาจจะสงสัยก็ได้ว่า พื้นที่คุณเหยีบลงไปนั้นมันคือพื้นทรายจริงๆ รึเปล่านะ?? และอาการข้อต่อมาก็คือ คุณจะรู้สึกเป็นกังวลหรือไม่กล้าออกมานอกชายหาดไกลๆ แต่นอกจากจะกลัวไม่ได้กลับเข้าฝั่งแล้ว เมื่อเห็นท้องทะเลที่กว้างใหญ่คุณก็เกิดอาการอ่อนแรงได้เหมือนกัน …
-
เช่าบ้านกระจอกไป ถึงเวลาแล้วที่เราจะมา “เช่าเกาะส่วนตัว” ที่ประเทศเบลีซ วันละ 17,000 เท่านั้น!!
หลายคนคงจะเคยวาดฝันว่าตัวเองเคยอยากจะมีเกาะส่วนตัวไว้พักผ่อนย่อนใจ หรือไว้ฮันนีมูนกับแฟนสาวสักครั้งในชีวิต แต่พอย้อนมาดูความจริงก็กระแทกเข้าที่หน้าก็พบว่าเกาะส่วนตัวมันแพงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เศร้าจัง…) แต่มาวันนี้ความฝันของเพื่อนๆ จะกลายเป็นจริงแล้ว เพราะตอนนี้ทาง AirBnB ได้เปิดตัวเกาะที่ให้เราสามารถเช่าเป็นเจ้าของได้วันเพียงวันละราวๆ 17,000 บาทเท่านั้น ฟังแล้วมันอาจจะดูแพงเมื่อเทียบกับห้องพักติดชายหาดหรูๆ แต่เราลองมาคิดดูจ่ายเท่านี้ได้เป็นเจ้าของเกาะทั้งเกาะในช่วงเวลาทั้งวัน ทั้งเดือน หรือกระทั่งทั้งปี มันก็คุ้มค่าจริงไหม!!? เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเมืองพลาเซนเซีย ซึ่งอยู่ในในประเทศเบลีซ และถ้าใครคิดว่าจองเช่าเกาะไปแล้วมันจะเต็ม ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตัวเกาะยังคงเปิดให้เช่ายาวไปจนถึงปี 2019 เลยล่ะ นอกจากนั้นพอลองถามประสบการณ์จากคนที่ได้ไปสัมผัสมาแล้วเช่น คุณ Olivia ที่เล่าว่า “เกาะแห่งนี้มันดีตามคำโฆษณาจริงๆ นะ ไม่มีความรู้สึกไหนดีกว่าการได้อยู่บนเกาะส่วนตัวแล้วใช้ชีวิตสงบๆ แบบนี้อีกแล้ว” หรือจะเป็น Matt ที่บอกว่า “ไม่มีสถานที่ฮันนีมูนไหนเยี่ยมไปกว่านี้แล้ว การได้ตกปลา และดำน้ำรอบๆ เกาะส่วนตัวของตัวเอง มันสุดยอดจริงๆ” . . ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกสนใจอยากจะลองไปเช่าดูสักสองสามคืน ก็เข้าไปที่ airbnb แล้วลองอ่านรายละเอียดดูได้เลย ถ้าได้ไปยังไงก็อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์กันนะ… ที่มา: ladbible
-
พาไปรู้จักเบื้องลึกของ “สิงโตทะเล” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แสนน่ารักและมีเสน่ห์!!
เหล่าสัตว์โลกที่แสนจะน่ารัก มักทำให้หลายๆ คนต้องใจละลายยอมสมัครเป็นแฟนคลับพวกมัน และสัตว์หนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่ามีความน่ารักไม่แพ้เหล่าสัตว์เลี้ยงเลยนั่นก็คือเหล่าสัตว์ในตระกูลสิงโตทะเลนั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ช่างภาพสาวคุณ Kinnara Bosworth ได้บันทึกภาพน่ารักๆ ของพวกสิงโตทะเล จากเกาะ Galápagos ประเทศเอลกวาดอร์ เธอใช้เวลากว่าสัปดาห์ในการเฝ้าบันทึกภาพกิจกรรมของพวกมัน และนี่คือภาพของเหล่าอุ๋งๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ พวกเราไม่ใช่แมวน้ำนะฮะ พวกเราคือสิงโตทะเลต่างหาก!! พวกเราถูกจัดให้อยู่ในวงค์ Otariidae ในอันดับ Pinnipedia นะ และสิ่งที่แตกต่างจากแมวน้ำที่พวกคุณรู้จักนั้นก็คือพวกเรามีใบหูนั่นเอง และนอกจากนี้เรายังมีครีบที่เอาไว้ช่วยให้เดินบนบกได้สบายๆ ต่างจากพวกแมวน้ำอีกด้วยนะ เฉลี่ยแล้วพวกเรามีอายุประมาณ 20-30 ปีนะรู้ป่าว?? และอาหารโปรดของพวกเรานั่นก็คือ พวกสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ อย่างพวกปลาและปลาหมึก ส่วนมากแล้วพวกเรามักจะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งตั้งแต่ในทะเลเขตอบอุ่น ไปจนถึงเขตขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ก็มีพวกเราอยู่เหมือนกันนะ หรือว่าในแอฟริกา อเมริกาใต้ และบริเวณเส้นศูนย์สูตร อย่างหมู่เกาะกาลาปากอส ก็มีนะเออ อ่า… รู้จักกันพอแล้ว ไปชมภาพน่ารักๆ ของพวกเราดีกว่านะ แม่จ๋า… แฮร่… น่ารักมั้ยครับบ?? ว่าไงจ๊ะ ตุ้ยนุ้ย!? แหม่… น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยพวกสิงโตทะเลเนี่ย ที่มา boredpanda
-
ชมคลิปวิดีโอสุดระทึก บันทึกภาพ “คลื่นสูงกว่า 30 เมตร” กระแทกเข้ากับเรือเต็มๆ ไร้ตัดต่อ
เรื่องที่เขาว่ากันว่าทะเลคือสถานที่รวมความบ้าคลั่งของธรรมชาตินั้น คงจะไม่ใช้เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อมีคนบันทึกคลิปการเดินทะเลแล้วบังเอิญเจอเข้ากับคลื่นสูงขนาด 30 เมตรเข้า และยังเก็บภาพมาฝากอีก!!? คนปกติเห็นแค่นี้ก็ไม่กล้ามายืนดูต่อแล้วละมั่งเนี่ย นานเข้ายิ่งสูงกว่าเดิมอีก มันมาแล้ว เตรียมรับแรงกระแทก!! ตู้มมมมมม… คลิปคลื่น 30 เมตรดังกล่าวนั้นถูกถ่ายบริเวณทะเลทางเหนือ ซึ่งภาพถูกถ่ายไว้โดยชายคนหนึ่งบริเวณดาดฟ้าเรือ แน่นอนว่าในขณะที่ถ่ายนั้นชายคนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวคลื่นคลั่งดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ กลับกลัวว่าเรือจะเป็นอะไรหรือเปล่า ชายผู้บันทึกภาพหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมพูดออกมาว่า “เชรี่ยย คลื่นนี่มันสุดยอดไปเลยว่ะ” ชมคลิปเต็มๆ พร้อมเสียงหัวเราะของเขาได้ข้างล่างเลย แน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกปล่อยออกมา ชายเน็ตก็ไม่วายที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นกันและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อิตาคนอัดคลิปเนี่ยมันต้องบ้าแน่ๆ ที่หัวเราะในช่วงเวลาที่ตัวเองอาจจะตายได้ทุกเมื่อแบบนั้น!! จุดที่น่ากลัวที่สุดในคลิปคือเสียงหัวเราะของตาคนถ่ายนี่แหละ นี่มันเป็นการหัวเราะเพื่อเผชิญหน้ากับความตายชัดๆ ฉันชอบนะที่คนอื่นๆ ต่างพากันกลัวในช่วงเวลาแบบนี้ แต่อีตาคนถ่ายกลับไม่กลัวอะไรเลย แล้วยังหัวเราะพร้อมพูดออกมาว่าคลื่นที่อาจจะฆ่าเขามันเจ๋งสุดๆ อีก แต่โชคดีที่เรือลำดังกล่าวเป็นเรือขนาดเล็ก ทำให้สามารถโต้คลื่นและลมได้ดีกว่าเรือขนาดใหญ่ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้เขารู้และยังหัวเราะได้นั่นเอง และสุดท้าย แม้คลื่นในคลิปดังกล่าวอาจจะไม่คลื่นที่สูงและน่ากลัวที่สุด แต่ก็ถือเป็นคลื่นที่โหดมากๆ เมื่อต้องเจอในทะเลแบบนั้น ถ้าใครมีคลิปเจ๋งๆ แบบนี้อีกก็สามารถเอามาแชร์กันได้นะ …
-
10 อันดับ ‘แหล่งน้ำทางธรรมชาติ’ ที่แฝงเบื้องลึกดำดิ่ง เต็มไปด้วยภัยอันตรายมากที่สุดในโลก…
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนแล้วการได้ไปท่องเที่ยวตามแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ก็คงเป็นความสนุกที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยล่ะ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ได้มารู้จักกับแหล่งน้ำเหล่านี้แล้ว ขอบอกเลยว่าแม้จะไปเยือนก็คงได้แค่ยืนมองอย่างเดียว ไม่กล้าลงไปเล่นน้ำเลยทีเดียว และนี่ก็คือแหล่งน้ำที่อันตรายมากที่สุดในโลก จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Brightside แต่ละที่จะมีความน่ากลัวขนาดไหน ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…. 10. Great Blue Hole ในประเทศเบลีซ กระแสน้ำจะทำให้ Great Blue Hole กลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดยักษ์ที่ดูดทุกอย่างบนผิวน้ำลงไปสู่ก้นหลุมที่มีความลึกมากกว่า 124 เมตรเลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงก็จะทำให้แนวหินที่อยู่รอบๆ ทำให้น้ำตื้นลงจนเรือไม่สามารถออกไปได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวก็ยังอยากไปเที่ยวชมสถานที่นี้ด้วยตาตัวเอง นั่นเป็นเพราะนักดำน้ำชื่อดังอย่าง Jacques Cousteau ได้บอกเอาไว้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกอีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ 9. Jacob’s Well รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา บ่อน้ำธรรมชาติที่มีความลึกประมาณ 10 เมตรนี้ เป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ เพราะข้างใต้นี้มีเส้นทางมากมายให้ดำลงไปสำรวจ แต่เส้นทางเหล่านั้นไม่มีทางออก จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 300 รายด้วยกัน 8. ทะเลสาบ Michigan ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทะเลสาบ…
-
เจ้าวาฬสีเทามีอัธยาศัยดี๊ดี ว่ายน้ำเข้ามาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง น่าร๊ากก~
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เฝ้าฝันอยากจะได้ใกล้ชิดกับวาฬเจ้าสมุทรสักครั้งนั้น บางคนอาจจะโชคดีที่ได้เจอพวกมันปรากฏตัวมาให้เห็น บางคนอาจจะโชคร้ายไม่เจอเลย แต่กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พวกเขาอาจจะโชคดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ San Ignacio Lagoon ในเมือง Baja California ประเทศเม็กซิโก โดยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้ซื้อทัวร์ออกทะเลไปเพื่อตามถ่ายรูปวาฬ และพวกเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวาฬได้ขนาดนี้ หลังจากที่เรือแล่นออกจากท่าได้ไม่นาน นักท่องเที่ยวก็ถึงกับดีใจกันสุดๆ เมื่อพวกเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมัน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมวาฬสีเทาคู่นี้ ถึงได้ใจดียอมออกมาทักทายผู้คน นอกจากจะว่ายน้ำเวียนวนในบริเวณเรือแล้ว เจ้าวาฬยังโชว์ลีลาผาดโผนให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ แต่จิตใจของพวกมันบางทีก็ไม่ได้ดุร้ายเหมือนขนาดตัวซักเท่าไหร่ ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกถ่ายมาได้โดย Mark Carwadine ช่างภาพและนักสัตววิทยา เจ้าวาฬสีเทาตัวนี้สงสัยจะมีนิสัยขี้อ้อนจัด ถึงกับให้คนลูบหัวเล่นราวกับตัวเองเป็นแมวเหมียวยังไงยังงั้น อีกทั้งยังมีโชว์ลีลาผาดโผนตามสไตล์พี่บิ๊กแห่งมหาสมุทรให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่การตามหามันใต้ท้องทะเลลึก และได้ใกล้ชิดกับมันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันแน่นอน… ที่มา: Designyoutrust
-
7 นักล่าเสียชีวิตหลังพยายามตามหา “ขุมสมบัตินาซีในตำนาน” ที่ยังเป็นปริศนาไร้คำตอบ!?
วันนี้เรามีเรื่องแปลกๆ จะมาเล่าให้อ่านกันเล่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพรรค ‘นาซี’ ที่มีผู้นำเป็นอดอล์ฟ ฮิตเลอร์และขุมสมบัติที่พวกเขานำไปซ่อนไว้หลังพ่ายแพ้สงคราม เอาเป็นว่าเริ่มเรื่องเลยดีกว่า… ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1945 เป็นวันที่ฝ่ายพันธมิตรสามารถเอาชนะกองทัพนาซีได้สำเร็จ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เหล่าทหารชั้นผู้นำทั้งหลายต่างหนีเอาตัวรอดพร้อมสมบัติ และเชื่อว่าส่วนหนึ่งถูกทิ้งลงทะเลสาป Toplitz ในประเทศออสเตรีย เป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปีที่มีนักล่าสมบัติมากมาย พยายามจะดมน้ำหาสมบัติที่นี่แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งปี 2005 บริษัท Bundesforste AG ได้เข้ามาถือสัมปานเป็นผู้ดูแลทะเลสาบทั้งหมด และได้เซ็นสัญญากับ Norman Scott นักล่าสมบัติชื่อดังชาวอเมริกันในยุคนั้น โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถแก้ปมปริศนานี้ได้ ทว่าระหว่างการค้นหาก็ได้เกิดอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้นักล่าสมบัติชาวอเมริกันคนนี้เสียชีวิต เช่นเดียวกับทหารอเมริกันที่เคยเข้ามาดำน้ำหาสมบัติและเสียชีวิต ณ ทะเลสาปแห่งนี้เมื่อปี 1947 จากคำบอกเล่าของ Albrecht Syen ผู้เปิดร้านอาหารในพื้นที่ดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ‘มีตำนานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับสมบัติทองของนาซีมานานแล้ว และทุกๆ ปีก็มักจะมีคนมาค้นหาสมบัติแต่น่าเสียดายที่พวกเขากลับต้องแลกด้วยชีวิตคนแล้วคนเล่า’ ตลอดภารกิจค้นหาที่พยายามกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดแคมเปญที่เกิดจากการระดมทุนของนิตยสารรายใหญ่อย่าง Stern ในเยอรมัน ก็ได้สามารถทำให้ปริศนานี้คลี่คลายได้ในที่สุด พันธบัตรกว่า 72…
-
หญิงสาวผู้ป่วยด้วย “โรคซึมเศร้า” ผันตัวเป็นนักดำน้ำและให้ท้องทะเลช่วยบำบัดอาการป่วย
โรคซึมเศร้า หนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตาย ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ส่วนมากจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากคนที่เคยร่าเริ่งก็กลายเป็นคนเงียบๆ ไม่ยอมพูดคุยกับใคร การที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้นั้นนอกจากจะเป็นการดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว การใช้ธรรมชาติเพื่อช่วยบำบัดก็อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งเหมือนกับหญิงสาวท่านนี้ Amelia Klonaris หญิงสาววัย 23 ปีผู้ที่บำบัดอาการซึมเศร้าของเธอด้วยการดำน้ำ และออกไปชื่นชมความสวยงามของท้องทะเลในประเทศบาฮามาส เธอใช้เวลาส่วนมากชื่นชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลพร้อมกับเหล่าสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเต่า ปลากระเบนและฉลาม “ฉันชอบการถ่ายภาพและเอามันกลับมาดูอีกครั้ง ฉันชอบการถ่ายภาพทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพใต้น้ำหรือที่ไหนก็ตาม การอยู่ใต้น้ำมันเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง มันทำให้ฉันรู้สึกสงบมากๆ “ คุณ Amelia Klonaris กล่าว การดำน้ำกับพวกสัตว์คือกิจกรรมที่ทำให้เธอมีความสุข แต่การดำน้ำนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเธอต้องเรียนรู้การดำน้ำกับผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะกลายเป็นนักดำน้ำได้อย่างทุกวันนี้ “ในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ฉันมีความคิดที่จะทำธุรกิจแบบเพื่อนๆ ของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกหดหู่สุดๆ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ฉันเดินทางกลับมาที่บ้านและเริ่มเรียนรู้การดำน้ำ และก็ได้พบกับสิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขอย่างทุกวันนี้” . ท้องทะเลและชายหาดช่วยบำบัดโรคซึมเศร้าของเธอ . . และทั้งหมดนี้คือฝีมือการถ่ายภาพของเธอ… . . . . เจ้าหมูตัวน้อยเพื่อนซี้ของเธอ . .…
-
รู้จักกับหมาป่าทะเล สุนัขชาวเลผู้อาศัยอยู่กับมหาสมุทร แถมยังว่ายน้ำได้นานเป็นชั่วโมง!!
ตามแนวเส้นชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐบริติชโคลัมเบีย แห่งประเทศแคนาดา ได้มีประชากรหมาป่าชนิดหนึ่งที่มีวิถีชีวิตแตกต่างออกไปจากสุนัขในถิ่นอื่นๆ Ian McAllister ช่างภาพผู้ตามถ่ายเรื่องราวของหมาป่าทะเล ได้เผยว่า “จากการศึกษาผ่าน DNA พบว่าปัจจุบันสายพันธุ์ที่แท้จริงของหมาป่าได้หายไปหมดแล้ว และเราจะได้เห็นพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปของพวกมัน พวกมันเริ่มเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อออกไปจับปลา และในทางโครงสร้างต้องถือว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกดั้งเดิม” เราลองตามไปชมภาพถ่ายของ Ian MaAllister ที่จะมาเผยให้เห็นถึงวิถีชีวิตอันน่าแปลกใหม่ของพวกมันกันเลยดีกว่า พวกมันเคลื่อนที่ปราดเปรียวและเงียบเชียบดั่งภูตผี สำหรับหมาป่าทะเลนั้นพวกมันจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ด้วยกัน อย่างแรกคือหมาป่าที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่ พวกมันมักจะมีสกิลในการหาอาหารทะเลได้น้อยกว่า ระยะว่ายน้ำสั้นกว่า และมักจะหากินเฉพาะตามชายหาด อีกประเภทคือหมาป่าทะเลชาวเกาะ สุนัขชนิดนี้จะสามารถว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อหาอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว ทีมนักวิทยาศาสตร์เคยเข้ามาศึกษาด้วยการเก็บ DNA และนำไปเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม พวกเขาก็ต้องพบว่ามันมีความแตกต่างอย่างน่าแปลกใจ “เดิมทีหมาป่าเป็นสัตว์นักผจญภัย พวกมันมีเขตถิ่นที่อยู่อาศัยกว้างมาก และมีความสามารถในการปรับตัวตามแหล่งอาหารได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน” Erin Navid นักวิจัยกล่าว สำหรับสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะนั้น พวกมันสามารถว่ายน้ำได้ไกลถึง 12 กิโลเมตร และปัจจุบันสัตว์ทะเลกลายเป็น 90% ของปัจจัยในการอยู่รอดของพวกมันไปซะแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราว่า การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ทำให้พวกมันต้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็ได้นะ… ที่มา:…
-
ฝรั่งเศสทดลอง “หมักไวน์ใต้ทะเลลึก” เพื่อพิสูจน์ความกลมกล่อม ที่มากกว่าการหมักทั่วไป!?
กระบวนการและวิธีการหมักไวน์นั้นถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลกับรสชาติของไวน์ แต่ในเมื่อความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิธีการหมักจึงแตกต่างกันไป เมื่อ 2 ปีที่แล้ว สมาคมผู้ผลิตไวน์ในฝรั่งเศสก็ได้นำไวน์แดง ไวน์ขาว และไวน์กุหลาบ จำนวน 120 ขวด ไปแช่ไว้ใต้ทะเลเมดิเตอเรเนียน เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะมีรสชาติดีกว่าการหมักไว้ในห้องใต้ดินแบบดั้งเดิมหรือไม่ สมาชิกสมาคมผู้ผลิตไวน์ของ Les vins de Bando บอกว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นพบขวดโหลขนาดใหญ่ที่อยู่ในท้องทะเลเป็นร้อยๆ ปี ที่สำคัญในขวดโหลนั้นมีไวน์หลงเหลืออยู่นิดหน่อย ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกทิ้งลงทะเลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รสชาติของมันยังคงกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ ตามทฤษฎีนี้ พวกเขาต้องนำไวน์ไปแช่ทะเลในความลึก 40 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่น่าจะมีผลต่ออายุของไวน์มากที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องดูที่สภาพแวดล้อมด้วย ดังนั้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2015 พวกเขาจึงได้นำไวน์ที่ดีที่สุด 120 ขวด ลงไปแช่ในทะเลเมดิเตอเรเนียน และมีแผนที่จะทดสอบรสชาติของมันในปีถัดไป Philippe Faur-Brac ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ และเป็นผู้ครองตำแหน่งซอมเมอลิเยร์ (Sommelier) หรือปราชญ์ผู้รอบรู้เรื่องไวน์ที่ดีที่สุดในโลกในปี 1992 บอกว่า “ไวน์ทุกชนิดสามารถแช่น้ำได้ โดยจะมีผลต่ออายุของมันในเชิงบวก” นอกจากนี้เขายังได้อ้างถึงการทดลองที่คล้ายกันเมื่อ 20 ปีก่อน ที่มีการทดลองกับไวน์ขาวใน…
-
‘David Glasheen’ คุณปู่อดีตเศรษฐีวัย 73 ปี ผู้ใช้ชีวิตบนเกาะร้างเพียงลำพัง มานานกว่า 20 ปี
สำหรับใครที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์คงจะรู้จักกับหนังเรื่อง Cast Away กันเป็นอย่างดี ในหนังพูดถึงเรื่องราวการเอาชีวิตรอดของ Chuck Noland บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง พร้อมกับลูกวอลเลย์บอลที่ชื่อ Wilson ความสนุกและความตื่นเต้นของหนังทำให้เรื่องนี้กลายเป็นหนังเรื่องโปรดของหลายๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งการใช้ชีวิตแบบ Chuck นั้น ถ้าหากเป็นพวกเราคนธรรมดาๆ ก็คงจะไม่มีใครอยากทะลึ่งไปอยู่ในเกาะร้างคนเดียวหรอก แต่ทว่าอดีตเศษฐีท่านนี้กลับไม่เหมือนกัน เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเพียงลำพังได้อย่างมีความสุข… David Glasheen วัย 73 ปี อาศัยอยู่บนเกาะร้างมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว โดยทุกอย่างนั้นเริ่มต้นจากที่เขาได้ตัดสินใจเดินทางมายังเกาะ Restoration ทางตอนเหนือของออสเตรเลียแห่งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 1997 หลังจากที่ประสบปัญหาทางการเงินเมื่อปี 1987 อตีดเจ้าของเหมืองทองและนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ เคยเป็นหนึ่งในบุคคลที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากๆ เขาเคยมีทรัพย์สินมูลค่าโดยรวมเกือบพันล้านบาท ก่อนที่จะมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้โดยมีเพียงแค่ไม้เท้าหนึ่งอันกับสุนัขคู่ใจอีกหนึ่งตัวเท่านั้น ที่นี่คุณปู่จะต้องอาศัยอยู่โดยลำพังพร้อมกับเหล่าสัตว์ป่าที่ดุร้าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามคุณปู่ David กลับมีความสุขที่อยู่ที่นี่และรู้สึกปลอดภัยดี “ที่นี่อาจจะเต็มไปด้วยสัตว์ที่เป็นอันตรายอย่างแมงมุม หรือจระเข้ แต่มันก็ปลอดภัยกว่าที่อื่นๆ บนโลกเพราะคุณไม่ต้องกังวลกับการก่อการร้าย ผมรักที่นี่มาก ผมสามารถนอนหลับได้อย่างไม่ต้องกังวล” คุณปู่กล่าว …
-
ทีมสำรวจแทบสิ้นหวัง เมื่อพบขยะพลาสติกจำนวนมาก บนเกาะห่างไกลกว่า 4,800 กิโลฯ
ดูเหมือนว่าปัญหาขยะล้นโลกจะเป็นอะไรที่แก้กันไม่ตกจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าขยะที่คนทั่วไปอาจจะเผลอทิ้งไว้ข้างชายหาด จะส่งผลเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้ Jennifer Lavers จากมหาวิทยาลัยแทสมาเนีย ได้เดินทางไปยังเกาะ Henderson ที่ซึ่งห่างไกลออกไปจากแผ่นดินใหญ่ถึง 4,800 กิโลเมตร และพบว่าที่นี่กลับเต็มไปด้วยซากขยะหลายสิบล้านชิ้น!! เกาะ Henderson ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค มีขนาดเพียงแค่ 37.5 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ควบคุมของทางการอังกฤษ ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับอนุรักษ์นกทะเลหลายสายพันธุ์ และเต่าทะเลอีกจำนวนมาก หนึ่งในภาพผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็คงจะเป็นภาพของปูเสฉวนที่ต้องใช้พลาสติกมาเป็นกระดองให้ตัวเองแทน โดยทีมสำรวจคาดว่าจำนวนขยะมีมากกว่า 37 ล้านชิ้น หนักกว่า 17 ตัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบนิเวศ Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ฉันเคยเห็นขยะที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบนชายหาดมาแล้วหลายที่ แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะเท่านี้มาก่อน’ ถึงแม้ว่าในบริเวณรอบเกาะจะไม่มีเส้นทางการเดินเรือของชาวประมง หรือเรือท่องเที่ยว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าขยะจากชายฝั่งตามเมืองใหญ่ สามารถเดินทางไปได้ไกลขนาดไหน บริเวณที่ตั้งของเกาะ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีเมืองไหนตั้งอยู่ใกล้เลย แน่นอนว่าขยะทั้งหมดเต็มไปด้วยสารพิษ และมันก็ส่งผลต่อการเพาะพันธุ์สัตว์อนุรักษ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ปิดท้ายว่า…
-
หญิงสาวอดไปทะเลกับชาวแก๊ง แต่ก็ไม่ย่อท้อ ตัดต่อยัดตัวเองเข้าไปร่วมทริปในนี้ด้วย…
การได้เที่ยวกับเพื่อนๆ หรือออกทริปกับแก๊งคนรู้ใจคงจะเป็นอะไรที่น่าสนุกไม่น้อยเลยทีเดียวนะว่ามั้น แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราวางแผนเที่ยวไว้ล่วงหน้ายาวๆ ก็มักจะเกิดเหตุการณ์เทกะทันหันแทบทุกที เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่เธอและก๊วนเพื่อนได้วางแผนกันเพื่อไปเที่ยวทะเลในช่วงหน้าร้อน แต่ทว่าเมื่อถึงวันเดินทางเธอดันมีงานด่วน ทำให้ต้องพลาดทริปนี้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ตัวเธอก็อยากรู้สึกหายไปในทริปนี้ ก็เลยใช้ฝีมือโฟโต้ชอปสุดเทพตัดต่อภาพของตัวเองใส่เข้าไปในทุกกิจกรรมที่พวกเขาไป แต่ละภาพจะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย…. 1. ถึงแม้จะไม่ได้ไปด้วยแต่เธอก็มีรูปถ่ายกับเพื่อนๆ เหมือนกัน ฮ่าๆ 2. เพื่อนๆ ของเธอก็ช่างหาภาพมาตัดต่อจริงๆ เลยนะเนี่ย 3. โผล่มาจากซองขนมก็มีนะ แถมเตรียมแว่นดำมาพร้อมเลยนะเนี่ย 4. อ้าว.. ไปหลบทำไมตรงนั้นล่ะ 5. รูปนี้เนียนไปอีกนะเนี่ย 6. เปลี่ยนชุดไปห้อยโหนแทน 7. แหม่ มาแอบอยู่ใต้โต๊ะนี่เอง ทำไมไม่ออกมาสนุกด้วยกันล่ะ?? 8. แนะ เปลี่ยนชุดอีกละ สงสัยจะพกมาหลายชุดสินะ 9. โอโห ภาพนี้มาแบบหลอนๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ 10. ท่าทางจะกลัวเพื่อนเล่นน้ำจนหิว เลยซื้อพิซซ่ามาฝากสินะ…
-
แห่แชร์ภาพเรือฝ่าคลื่นมรสุม คิดไปไกลซะท่ามกลางมหาสมุทร ที่แท้เป็นเรือข้ามฟาก
การออกเรือไปในท้องทะเลที่กว้างใหญ่นั้นเรามักจะเคยเห็นภาพอยู่บ่อยๆ ว่ามันจะต้องเจอกับความอ้างว้าง ความรุนแรงของคลื่น และลมมรสุมที่พัดพาเข้ามาจนทำให้เรือต้องโคลงเคลงไปมาดูน่ากลัว หากเพื่อนๆ นึกภาพไม่ออกล่ะก็ลองชมภาพถ่ายของนาย Haig Gilchrist ที่เป็นทั้งลูกเรือและช่างภาพคนนี้ดู เป็นภาพของเรือที่กำลังเผชิญกับมรสุมคลื่นยักษ์ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ภาพของมันเหมือนว่าเรือกำลังล่องลอยอยู่ใจกลางมหาสมุทร แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นที่บริเวณอ่าวซิดนีย์เท่านั้น ไม่ได้ออกจากฝั่งไปไกลเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าน้ำทะเลที่อยู่ในอ่าวจะสงบนิ่ง แต่ถ้าเกิดมีคลื่นลมแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็อาจทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน เขาได้ทำการนำภาพดังกล่าวไปอัพลงบนอิสตาแกรม และก็มีผู้คนมากมายให้ความสนใจ เพราะคิดว่าเขาทำงานเป็นกะลาสีเรือที่ออกไปล่องอยู่ท่ามกลางทะเลอันไกลโพ้น แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นแค่เรือข้ามฟากเท่านั้น… แหม่ นี่ขนาดเป็นอ่าวที่ดูสงบเงียบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีลมแรงขึ้นมาก็ทำให้ทะเลคลั่งขึ้นมาได้เหมือนกัน น่ากลัวจริงๆ โถ่ ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเรือเดินสมุทรที่ท่องไปในทะเลไกลโพ้นซะอีกปั๊ดโถ่!! ที่มา : boredpanda
-
รวม 20 ชายหาดแดนสวรรค์ สำหรับคนรักทะเลโดยเฉพาะ พร้อมข้อมูลช่วงที่พักราคาถูก!!
เมื่อกล่าวถึง ‘ทะเล’ แล้วคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดของใครหลายๆ คน ทั้งเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ลมทะเลที่พัดเย็นย่อมสร้างความจรรโลงใจได้เป็นอย่างดี และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมชายหาดสวยๆ เด็ดๆ จากรอบโลก รวมไปถึงช่วงเวลาที่ที่พักถูกที่สุดเผื่อไว้ว่าจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวหนีร้อนกันนะจ๊ะ 1. หาด Ngapali Beach ในเมือง Ngapali ประเทศ Myanmar ช่วงเดือนที่ถูกที่สุด : กันยายน ราคาห้องพักโดยเฉลี่ย : 3,640 บาทต่อคืน 2. หาด White Beach ในเมือง Boracay ประเทศ Philippines ช่วงเดือนที่ถูกที่สุด : ตุลาคม ราคาห้องพักโดยเฉลี่ย : 5,250 บาทต่อคืน 3. หาด Playa Manuel Antonio ในอุทยานแห่งชาติ Manuel Antonio National Park…
-
ชายคนหนึ่งหายตัวใกล้ๆ ปากแม่น้ำ ทีมกู้ชีพเร่งค้นหาไปทั่วทะเล แต่เจ้าตัวกลับโผล่ในผับ!?
การที่บุคคลได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็ยังเห็นอยู่เป็นปกติสุขดีนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าชะตากรรมของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าขั้นเลวร้ายที่สุดก็อาจจะพบร่างอันไร้วิญญาณไปแล้ว อย่างในกรณีของชายนิรนามรายนี้ ที่ทางเว็บไซต์ Dailypost ได้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวกำลังเดินอยู่ในบริเวณระหว่างหมู่บ้าน Portmeirion แม่น้ำ Dwyryd และหมู่บ้าน Porthmadog ในประเทศอังกฤษ จนกระทั่งสัญญาณเตือนภัยอันตรายของชายฝั่งได้ดังขึ้นมา… บริเวณที่ชายนิรนามหายตัวไประหว่างหมู่บ้าน Portmeirion และหมู่บ้าน Porthmadog ทีมกู้ภัยได้รับสัญญาณเตือนภัยปุ๊บ ก็รีบออกไปทำภารกิจค้นหาและกู้ชีพทันทีหลังจากที่ชายรายนี้หายตัวไป ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง 4 นาย ทีมเรือกู้ชีพ พร้อมกับทีมเฮลิคอปเตอร์ค้นหา เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกทีมเพื่อตามหาคนเพียงคนเดียว และคาดการณ์ถึงภัยที่ร้ายแรงที่สุดด้วยว่า ไม่น่าจะหาตัวเขาเจอแน่ๆ เนื่องจากบริเวณที่เขาหายตัวไปนั้นเป็นแม่น้ำที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จากการค้นหาร่วม 2 ชั่วโมงกว่าๆ อาจจะเปล่าประโยชน์ ผืนน้ำอันแสนกว้างใหญ่ขนาดนั้น อาจจะกลืนร่างของเขาไปแล้วก็ได้ ภาพทีมเฮลิคอปเตอร์กู้ชีพประกอบเนื้อหา แต่ทว่าเรื่องราวทั้งหมดกลับหงายหน้าเป็นหลัง… เพราะภายหลังตำรวจพบชายคนดังกล่าวเวลาประมาณ 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น อยู่ในสภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์ 32…
-
‘Ussuri Bay’ อดีตชายหาดที่เต็มไปด้วยเศษแก้ว กลายมาเป็นหาดแก้วพิสดาร สวยอลัง!!!
จะว่าไปแล้ว ‘รัสเซีย’ เป็นประเทศที่มักจะมีเรื่องราวแปลกๆ มาให้เราได้ชมกันอยู่ตลอด อาจเพราะขนาดอาณาเขตของประเทศที่กว้างใหญ่เหลือเกิน เต็มไปด้วยผู้คนจากมากมายหลากหลายพื้นที่คล้ายๆ กับกรณีของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องราวสุดโปกฮาจากชาวรัสเซียเท่านั้นที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ เพราะอีกด้านมุมหนึ่งประเทศนี้กลับเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่น ‘Ussuri Bay’ ชายหาดแก้วพิสดารที่เกิดจากการทิ้งขวดแก้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า กลายเป็นความสวยงามจากฝีมือมนุษย์ที่หลอมรวมเข้ากับธรรมชาติซะงั้น!? เดิมทีในอดีตสถานที่นี้ เป็นเหมือนที่ทิ้งขยะที่เต็มไปด้วยเศษแก้ว เศษกระเบื้องมากมาย ตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี น้ำทะเลที่ซัดสาดเข้ามาทุกวัน ได้กัดกร่อนให้กลายเป็นก้อนกรวดที่เต็มไปด้วยสีสัน และทำให้ความคมจากเศษแก้วหายไป ครั้งหนึ่งมันเคยถูกตั้งเป็นเขตอันตราย เพราะเต็มไปด้วยเศษแก้ว เศษขยะ ถึงขนาดที่เจ้าหน้าที่ต้องคอยควบคุมไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้พื้นที่ แต่ปัจจุบันมันได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของชาวเมือง เรียกได้ว่าผู้คนต่างหลั่งไหลกันเข้าเพื่อพักผ่อนบนชายหาดที่เต็มไปด้วยกรวดแก้ว มองดูผ่านๆ มันก็เหมือนกับก้อนกรวดหลากสีทั่วไป แทบจะดูไม่ออกเลยว่าครั้งหนึ่งสิ่งเหล่านี้คือกองสิ่งปฏิกูลที่ไม่มีใครต้องการแล้ว อีกทั้งด้วยความหลากสีสัน หลายรูปทรง ชวนให้คิดว่าเป็นลูกอมหลากสีเหมือนตอนที่เราเป็นเด็กๆ เลยไหมล่ะ ตอนนี้พื้นที่แห่งนี้ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่มีอันตรายใดหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะลูกเล็กเด็กแดง คุณก็สามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจกันได้ตามอัธยาศัย แต่อาจจะต้องสวมใส่รองเท้า หรือเดินอย่างระมัดระวัง เพราะบางทีอาจจะมีเศษแก้วหลงมาปักเท้าเราก็ได้นะ… คงเป็นโอกาส 1 ในล้าน…
-
นักวิทย์สามารถเก็บภาพ ‘ฉลามผี’ ได้เป็นครั้งแรก สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก ที่มีกระปู๋อยู่บนใบหน้า!?
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก เจ้าฉลามผี (Ghost Shark) สิ่งมีชีวิตที่แสนลึกลับ ที่มั่นใจได้เลยว่าเพื่อนๆ ต้องไม่เคยเห็นมันมาก่อนอย่างแน่นอน (แค่ชื่อก็ไม่คุ้นแล้ว) และนี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถถ่ายคลิปวิดีโอของมันมาได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีชีวิตอยู่มานานกว่า 300 ล้านปีแล้วก็ตาม (อยู่มาก่อนไดโนเสาร์ซะอีกนะเนี่ย) ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นถึงรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนของมัน ทั้งดวงตาที่ดูเหมือนจะมืดบอด ผิวหนังที่ดูแปลกตา และตำแหน่งครีบที่ไม่เหมือนกับปลาฉลามทั่วๆ ไป สถาบันวิจัยทางทะเล Monterey Bay Aquarium Research ที่ตั้งอยู่ในรัฐ California ได้ส่งยานพาหนะที่สามารถบังคับได้ในระยะไกล (Remotely Operated Vehicle) ลงไปใต้ทะเลที่ความลึกประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณระหว่างรัฐ California และรัฐ Hawaii จุดประสงค์เป็นการสำรวจทั่วๆ ไป และไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับเจ้าฉลามผีหรือ Ghost Shark แต่อย่างใด “คนที่ทำการถ่ายวิดีโอไว้ได้นั้นเป็นนักธรณีวิทยา” Dave Ebert เจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยทางทะเล ให้สัมภาษณ์กับ National Geographic “โดยปกติแล้ว จะไม่มีใครเข้ามาสำรวจหรือทำอะไรแถวนี้กันหรอก แต่นี่มันช่างเป็นอะไรที่ดวงดีชะมัดเลย” เขากล่าวเสริม เจ้าสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกตัวสีน้ำเงินที่มีปลายจมูกแหลมเปี๊ยบนี้มักจะถูกพบเจอในบริเวณใกล้ๆ กับประเทศ…
-
สัตว์ประหลาดเกาะอยู่บนโขดหิน ในชายหาด Muriwai ที่แท้เป็น ‘เพรียงคอห่าน’ จำนวนมาก!!
กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อจู่ๆ ได้มีรายงานพบกับวัตถุแปลกประหลาดที่ชายหาด Muriwai ในประเทศนิวซีแลนด์ พอตรวจสอบแล้วก็พบว่ามันเป็นโขดหินที่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดหน้าตาคล้ายกับสัตว์ประหลาด Cthulhu (อสุรกายจากงานประพันธ์ของ H. P. Lovecraft) ก็เลยถูกเรียกว่าเป็นสัตว์ประหลาดแห่ง Muriwai รูปร่างหน้าตาของเจ้า Cthulhu ก็อย่างที่รู้กันว่าสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในประเทศนิวซีแลนด์นั้นเป็นอะไรที่สมบูรณ์มาก และยิ่งล่างสุดได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเนื่องจากเปลือกโลกได้ดันเข้าหากันจนทำให้พื้นดินใต้ทะเลยกสูงขึ้นที่บริเวณหาด Kaikura จึงอาจจะทำให้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อยู่ใต้ทะเลลึกโผล่ขึ้นมาให้เห็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ผ่านมาก็ได้มีวัตถุประหลาดโผล่ขึ้นมาที่หาด Muriwai หากใครผ่านไปผ่านมาเห็นในตอนแรกก็อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นซากวาฬ และคนที่พบกับเจ้าวัตถุประหลาดนี้เป็นคนแรกก็คือคุณ Melissa Doubleday ขณะที่กำลังขับรถผ่านถนนเลียบชายหาด “ฉันขับรถผ่านไปทางนั้นพอดี และก็เห็นเจ้าวัตถุประหลาดนี้ ก็คิดในใจว่านี่มันอะไรกันเนี่ย??” “ตอนแรกฉันคิดว่ามันคือซากวาฬ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็พบว่ามันไม่ใช่ กลายเป็นอะไรที่แปลกมากๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหนอนที่อยู่ในกระดอง ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันว่าจะมีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ?” คุณ Melissa เล่า เจ้าสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดนี้อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก และจะมีการขยับเขยื้อนเมื่อโดนแสงแดดส่อง ทำให้รู้สึกราวกับว่าเป็นเอเลี่ยนยังไงยังงั้นเลย คุณ Rani Timoti จากการตรวจสอบของนักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกใต้น้ำของประเทศนิวซีแลนด์ก็พบว่ามันคือเจ้า Lepas anatifera เป็นอีกสปีชีส์หนึ่งของตัว ‘เพรียงคอห่าน’ เหล่าสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งชนิดนี้อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกโดยอาศัยเกาะอยู่ตามโขกหินหรือวัตถุต่างๆ…
-
จากฐานทัพอากาศเก่าเยอรมัน ถูกเปลี่ยนเป็นสวนน้ำเขตร้อนสุดเจ๋ง ดึงดูดคนไปเที่ยวเพียบ
ในสมัยก่อน การจะทำสงครามแต่ละประเทศจำเป็นที่จะต้องมีฐานทัพ สำหรับรองรับยุทโธปกรณ์ หรือใช้เป็นศูนย์บัญชาการ และอย่างที่เรารู้กันว่า ในช่วงสงครามโลกนั้น เยอรมันถือว่ามีบทบาทในสนามมวยโลกมากๆ มีทั้งเครื่องบิน ทั้งรถถัง เรียกได้ว่าโหดสุดๆ และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับสงครามก็มักจะถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง บ้างก็ถูกสนิมกินจนเอาไปใช้งานต่อไม่ได้อีก แต่ที่เยอรมันนี้แตกต่างออกไป เพราะเค้าเปลี่ยนฐานทัพอากาศที่ใช้ในช่วงสงคราม ให้กลายเป็นชายหาดจำลอง เสมือนได้อยู่ในช่วงหน้าร้อนตลอดเวลา เป็นที่ชื่นชอบของชาวเมืองสุดๆ เราตามไปดูกันเลย!! ฐานทัพอากาศเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Bradenburg ประเทศเยอรมัน ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเฉยๆ ไม่น่าตื่นเต้นอะไร แต่ภายในนั้นคนละเรื่องกันเลย เมื่อเข้ามาก็จะพบว่า ที่แห่งนี้คือ ‘Tropical Island Resort’ ชายหาดจำลอง เสมือนกับว่าเราได้ไปเที่ยวเกาะพักร้อนต่างประเทศจริงๆ เนื่องจากเยอรมันเป็นเมืองหนาว ข้างในโดมขนาดใหญ่แห่งนี้จึงปรับอากาศให้อุ่นขึ้นมากกว่าข้างนอก ไม่ว่าหิมะจะตกหนักขนาดไหน ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเกาะแห่งนี้ อันที่จริงโดมแห่งนี้ถูกออกแบบไว้สำหรับจอดเครื่องบินรบ ด้วยพื้นที่ขนาดกว้าง ทำให้มันกลายเป็นชายหาดรองรับคนได้จำนวนมากเช่นกัน มันใหญ่มากพอที่จะก่อให้เกิดระบบนิเวศน์ภายในได้ ด้วยขนาดความยาว 1,200 ฟุต กว้าง 700 ฟุต และสูง 350 ฟุต …
-
พาไปรู้จักกับ ‘เทศกาลน้องหมาเล่นเซิร์ฟบอร์ด’ น่ารักสุด แถมโชว์ลีลาไม่มีใครยอมใคร!!
เวลาที่ได้ไปนั่งรับลมยามเย็นริมชายหาด ก็อดคิดถึงกีฬาเซิร์ฟบอร์ด ที่อยู่คู่กับท้องทะเลมาอย่างยาวนานไม่ได้เลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเราเท่าไหร่นัก และสำหรับสาวๆ การดูหนุ่มหล่อหุ่นฟิตปั๋งกำลังเล่นกระดานโต้คลื่น มันเป็นอะไรที่เอ๊าท์ไปแล้ว เพราะตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วกับ เทศกาลแข่งเซิร์ฟสำหรับเจ้าหมาน้อย ทั้งเปียกปอน ทั้งน่ารัก แหมอยากจะไปสัมผัสใกล้ๆ ซะจริง ชื่องานจริงๆแล้วชื่อว่า ‘Surf City Surf Dog Contest’ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ Huntington Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย งานนี้จัดมาแล้วทั้งหมด 8 ครั้งด้วยกัน ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม มีเจ้าตูบเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 68 ตัว แต่เห็นแบบนี้ไม่ได้แข่งเพื่อความสนุกและเงินรางวัลอย่างเดียวนะ เพราะเงินทั้งหมดจะถูกนำไปสมทบองค์กรการกุศล เพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ บางตัวก็ดูตื่นเต้น แต่บางตัวก็ดูร่าเริงสุดๆ แต่ไม่ว่าจะตัวไหนๆ ต่างก็เปียกกันไปทุกตัว อย่างกับเทศกาลรวมน้องหมาเล่นน้ำทะลงั้นแหละ “มันเป็นอะไรที่ดูบ้าบิ่นมากๆ หลายๆคนคิดว่าเจ้าตูบกำลังสนุกสนาน แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีความสุขกันจริงๆรึเปล่า เพราะคลื่นแรงมากในวันนี้” “แม้แต่คนเล่นยังโดนคลื่นซัดซะยับ เหมือนอยู่ในเครื่องซักผ้าเลยแหละ สำหรับเจ้าตูบบางตัวก็ดูจะกลัวเอามากๆ หน้ามันฟ้องว่ารอไม่ไหวที่จะลงจากบอร์ดบ้าๆนี้ซักที” Tom Baker ผู้ดูแลงานกล่าว …
-
พาไปชมประภาคารบนหน้าผาสูงในไอซแลนด์ หวาดเสียวจนคุณงงว่า “ขึ้นไปสร้างได้ยังไง!?”
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้เห็นภาพๆ หนึ่งที่มีคนแชร์กันบนเฟซบุ๊ก เป็นภาพคล้ายๆ กับบ้านหลังหนึ่งบนหน้าผาสูงชัน พร้อมกับข้อความว่า “นี่คือบ้านในฝันของคนที่ขี้รำคาญหรือเกลียดคนทุกคน” จนโด่งดังและกลายเป็นภาพที่คนแชร์ต่อๆ กันไปมากมาย ถึงจะไม่รู้ว่ามีใครใจกล้าพอจะขึ้นไปสร้างที่อยู่บนนั้นกันแน่ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเสียวท้องน้อยทีเดียว ด้วยความสงสัยนี้เองเราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจ้าบ้านริมหน้าผาแห่งนี้ ถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่บ้านของมหาเศรษฐีคนไหน แต่เป็นประภาคารที่ชื่อว่า Þrídrangar Lighthouse ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนเดินเรือนั่นเอง จากข้อมูลพบว่าประภาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1939 ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Vestmannaeyjar ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ แน่นอนว่าอายุเก่าแก่ถึง 77 ปีขนาดนี้ ก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ทางการของไอซ์แลนด์จึงได้ส่งคนขับเฮลิคอปเตอร์อย่างนาย Gísli Gíslason และทีมช่างอีก 6 ชีวิตไปลงบนประภาคารเพื่อซ่อมบำรุงเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2016 ที่ผ่านมา จากภาพจะเห็นได้ว่าการเดินทางเข้าไปยังประภาคารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็แคบมาก แต่โชคดีที่อากาศในวันนั้นปลอดโปร่ง จึงทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัย แถมยังได้เห็นครอบครัววาฬแบบแว๊บๆ ด้วยนะ . แม้จะดูหวาดเสียวมากๆ แต่ก็ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามชิ้นหนึ่งเลย . ชมคลิปประภาคารอันสูงชันได้ที่นี่เลย …
-
ช่างภาพผู้ใช้เวลา 6 ปี ตามถ่าย “เกลียวคลื่น” ถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ ของมหาสมุทร
ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะสามารถถ่ายภาพเกลียวคลื่นให้ออกมาได้สวยงาม แต่สำหรับ Matt Burgess ช่างภาพจากออสเตรเลียคนนี้ เขาใช้เวลานานกว่า 6 ปี จนสามารถถ่ายภาพคลื่นจากมหาสมุทร ให้ออกมางดงามได้อย่างน่าทึ่ง “ผมชื่อ Matt Burgess เป็นช่างภาพมหาสมุทรจากประเทศออสเตรเลีย ผมชอบถ่ายทอดอารมณ์ของท้องทะเลออกมาในภาพถ่าย สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับทะเลก็คือตอนเช้า เมื่อดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง น้ำ กับ แสง และผมก็ตามถ่ายภาพแบบนี้มา 6 ปีแล้ว” ภาพนี้คือภาพที่มีผู้คนกดถูกใจมากที่สุดอีกภาพหนึ่ง เกลียวคลื่นดูทรงพลัง ส่วนนี่คือภาพที่ผู้ชมบอกว่า… ทำให้เขารู้สึกอยากเอาเท้าลงไปสัมผัสทราย และเล่นน้ำตรงนั้นเลย สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามเขาได้ทั้งในเว็บไซต์ส่วนตัว mattburgessphoto และอินสตาแกรม matt_burgess_photo ซึ่งตอนนี้ก็มีคนตามฟอลโล่วกว่า 25,000 คนแล้ว ติดตามชมผลงานอื่นๆ ของเขาได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ . . . . . . . . . . . . . . .…
-
16 ชายหาดมหัศจรรย์จากรอบโลก มีแปลกและเป็นเอกลักษณ์ จนน่าไปสักครั้งในชีวิต…
เมื่อพูดถึง ชายหาด เราคงคิดภาพพื้นทรายสีขาวหรือสีเหลืองอร่าม มีแสงแดดเจิดจ้า นั่งจิบเบียร์ชิวๆ แต่ในโลกนี้ยังมีชายหาดอีกมากมายที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด สำหรับ 16 ชายหาดที่นำมาให้ดูในวันนี้ นับว่าเป็นหาดแปลกๆ และสวยงามในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหาดที่เต็มไปด้วยเปลือกหอย หาดสีดำ และชายหาดในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย 1. หาดแก้ว รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นหาดทรายที่เต็มไปด้วยเศษแก้วที่สะสมมานานหลายปี เกิดจากการทิ้งขยะของคนในท้องถิ่น แม้จะถูกห้ามไม่ให้ทิ้งแต่ก็ยังมีให้เห็นจนทุกวันนี้ . 2. หาดที่ซ่อนอยู่ใน Marieta ประเทศเม็กซิโก หาดที่รัฐบาลเม็กซิโกเคยใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการและสถานที่ฝึกยิงเป้าในปี 1900 . 3. หาดมัลดีฟส์เรืองแสง หาดทรายที่มีความสวยงามในเวลากลางคืน เพราะเราจะได้เห็นแพลงก์ตอนมากมายเรืองแสงอยู่เต็มชายหาด . 4. หาดแห่งวิหาร ประเทศสเปน หาดที่มีหินรูปร่างคล้ายซุ้มโบสถ์ เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลเป็นเวลากว่าพันปี 5. หาดทรายสีชมพู บาฮามาส ที่เห็นเป็นสีชมพูนั้นคือเศษปะการัง ที่ถูกคลื่นพัดขึ้นมาบนฝั่ง 6. หาด Maho เกาะเซนต์มาร์ติน เป็นหาดที่อยู่ติดกับสนามบิน ดังนั้นถ้าไปเที่ยวที่นี่ เราจะได้เห็นเครื่องบินในระยะประชิดแบบนี้เสมอ . …
-
สำรวจ ‘The Neptune Memorial Reef’ สุสานใต้ทะเลลึก แหล่งฝังศพของผู้รักในท้องทะเล…
‘คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะตายได้’ เป็นประโยคที่ไม่ว่าใครก็คงได้ยินกันมาอยู่บ่อยๆ ในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็เลยนำเรื่องราวน่าสนใจมาฝากเพื่อนๆ กัน เป็นเรื่องของสุสานใต้ทะเลอีกหนึ่งทางเลือกที่ดูน่าสนใจไม่เบาสำหรับการหลับพักผ่อนไปตลอดชีวิต ที่ตั้งมันอยู่ห่างจากชายฝั่ง Key Biscayne เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ออกไป 5.2 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้มหาสมุทรประมาณ 14 เมตร เป็นที่ตั้งของสุสานสำหรับฝังศพใต้ทะเล The Neptune Memorial Reef หลายคนคงคิดว่ามันจะต้องเป็นสุสานโบราณใต้ทะเลที่เพิ่งถูกค้นพบแน่ๆ เลยอะไรทำนองนั้น ซึ่งมันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย เพราะที่สุสาน The Neptune Memorial Reef แห่งนี้เพิ่งเปิดใช้เป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้เอง โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นที่พักสุดท้ายหลังจากเสียชีวิตของผู้ที่รักทะเล ในช่วงแรกนั้นที่สุสานแห่งนี้ มีเถ้ากระดูกและป้ายหลุมศพของผู้คนที่หลับอยู่ที่นี่เพียง 850 คนเท่านั้น แต่ผู้ดูแล The Neptune Memorial Reef วางอนาคตไว้ว่าจะขยายอาณาเขตของสุสานแห่งนี้ออกไปเป็น 64 ตารางกิโลเมตร เพื่อสามารถบรรจุเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตได้ถึง 125,000 ราย ส่วนวิธีการที่เขาจะนำเถ้ากระดูกลงไปฝังไว้ใต้ทะเลนั้น ก็ต้องมีวิธีการที่แตกต่างจากการนำไปฝังในดินเล็กน้อย โดยจะมีการทำพิธีทางศาสนาที่ริมฝั่งซะก่อน จากนั้นก็จะนำเถ้ากระดูกไปผสมรวมกับซีเมนต์ ขั้นตอนต่อไปก็ให้นักประดาน้ำนำไปติดตั้งไว้ภายในสุสาน…
-
สาวเซิร์ฟบอร์ดเกือบหงาย เจอ “วาฬหลังค่อม” กระโดดเซอร์ไพร้ส์ จนได้ภาพสวยๆ กลับมา!!!
เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไรอยู่ใต้ผืนน้ำจนกว่าเราจะดำน้ำลงไปดู ดังนั้นการเล่นน้ำทะเลแต่ละครั้งบางทีเราก็ลืมคิดไปว่าอาจจะเจอแจ็คพอตเข้าได้ เหมือนอย่างที่โต้คลื่นสาว Viviana Guzman ได้เจอ (จริงๆ เธอเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลงและนักเต้น) เมื่อเธอได้นั่งแพดเดิลบอร์ดล่องไปในทะเลแปซิฟิกพร้อมกับเป่าขลุ่ยไปด้วย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นี่คือภาพก่อนเหตุการณ์จะเกิด เป็นทะเลที่ดูสงบมากๆ และแล้วพระเอกของเราก็มา ซุ่มมมมม นี่คือวาฬหลังค่อม (ในคลิปคือตัวที่ยังเด็กอยู่) ได้ใช้วิชากระโดดขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อที่จะหายใจ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เห็นว่ามีคนว่ายน้ำมาแถวนั้น ก็เลยทำให้เกือบชนเธอเข้าเต็มๆ เพื่อนของเธอก็ถ่ายภาพนั้นไว้ได้พอดี จะเห็นได้ว่ามันเฉียดฉิวแค่ไหน . . เราไปชมคลิปนี้กันเลย และไม่นาน ก็ได้มีคนเจอเหมือนกัน คราวนี้เป็นคุณลุงพายเรือคายักเพื่อไปตาปลาชิวๆ แต่แล้วธรรมชาติก็สร้างภาพที่งดงามให้เขาในวันนั้นด้วย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ อ่าว Half Moon Bay, California คุณลุงได้เอากล้องติดไว้แล้วบังเอิญจับภาพวาฬพุ่งขึ้นมาเหนือน้ำได้ จะเห็นได้ว่าคุณลุงรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ซึ่งใครที่เจอแบบนี้ก็คงต้องตื่นเต้นกันทุกคนแน่นอน ไปชมคลิปคุณลุงกันเลย มันอะเมซิ่งมากจริงๆ นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วัน John Goodridg ยังได้บันทึกภาพของวาฬหลังค่อมที่กระโดดต่อหน้าเรือดูวาฬของนักท่องเที่ยว นอกชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย จนกลายเป็นภาพที่ผู้คนแชร์กันทั่วโลกออนไลน์มาแล้ว… ที่มา distractify , lifebuzz
-
ชมบรรยากาศ นักท่องเที่ยวจีนนับหมื่น พร้อมใจไปเล่นน้ำคลายร้อนในสระ ‘Dead Sea’
ในช่วงหน้าร้อนและฝนตกแบบนี้ มันก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไปเล่นน้ำให้จิตใจชุ่มฉ่ำ แต่ว่าถ้าจะไปก็ต้องเลือกที่นิดนึง เผลอๆ คุณอาจจะได้ไปเจอกับนักท่องเที่ยวจีนแบบจัดเต็มขนาดนี้ นี่คือภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ร่วมใจกันมาเล่นน้ำในวันหยุดพักร้อน เรียกได้ว่าเป็นสระที่แออัดที่สุดเลยก็ว่าได้ จนขนาดได้รับฉายาว่าเป็นสระน้ำ ‘Dead Sea’ แห่งประเทศจีน สระแห่งนี้ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ดึงดูดผู้คนรอบๆ ให้มาพักผ่อนกันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร สระน้ำเค็มนี้มีขนาดที่กว้างมากถึง 30,000 ตารางเมตร แต่ถึงจะใหญ่ขนาดไหน ก็ไม่อาจรับรองชาวจีนนับหมื่นที่แห่มาได้ ไม่เชื่อก็ลองดูในรูปสิ แล้วจะรู้ว่ามันแออัดสักแค่ไหน . . . . . เห็นแบบนี้แล้วต่อให้ร้อนยังไงก็ไม่กล้าลงไปอยู่ดี เล่นกันแบบแออัดแบบนี้มันจะสนุกยังไงเนี่ยยยย ที่มา dailymail
-
‘Message Me’!! โครงการช่วยโลก ด้วยข้อความของเด็กๆจาก ‘Raja Ampat’ เพื่อโลกที่ดีขึ้น
การรณรงค์ช่วยโลกมีมานาน และก็มีรูปแบบที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ที่เราเห็นนั้น ผู้มักจะเป็นผู้นำในเรื่องการรณรงค์เหล่านี้ แต่วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จำเสนอการช่วยโลก โดยกลุ่มเด็กๆจำนวน 70 คน จาก หมู่เกาะ Arborek เขต Raja Ampat, ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีน้ำจืดและไม่มีไฟฟ้า ไปดูกันเลย โครงการนี้ชื่อว่า ‘Message Me’ ดำเนินการโดย 2 สามี ภรรยา ทั้งคู่เป็นช่างภาพและผู้ผลิตภาพยนต์จากลอนดอน เขาใช้เวลาเป็นปีในการเดินทางไปประเทศต่างกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะทำวิดีโอเกี่ยวกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและโครงการเพื่อสังคม ทำให้องค์กรของเขาถูกเรียว่า ‘Planet Hero’ ชีวิตของเด็กที่ Arborek มีความแตกต่างมาก เมื่อเทียบเด็กทางตะวันตก เพราะเด็กที่นี่ไม่ติดทีวี แทบเล็ต หรือเกมคอมพิวเตอร์ พวกเขาเป็นเจ้าแม่แห่งธรรมชาติ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก และเล่นในสนามเด็กเล่น โดยโครงการนี้ จะเป็นการให้เด็กเขียนข้อความแล้วใส่ลงไปในขวดพลาสติกแล้วเอาไปโยนลงในทะเล (ซึ่งเป็นการสร้างมลพิษทางน้ำ) เพื่อถ่ายรูป จากนั้นก็จะนำขวดเหล่านี้ไปรีไซเคิล ทั้งคู่ได้ทำคลิปสั้นๆ โดยการแทรกรูปของเด็กๆที่ถ่ายรูปใต้น้ำ ในขณะที่ถือขวดที่มีข้อความของพวกเขาอยู่ Raja Ampat เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ห่างไกลที่สุดของโลก และมีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายที่สุดของโลก คือ…
-
21 ภาพยืนยันว่า ‘ทะเล’ คือสถานที่อันเต็มไปด้วยความฮาและเสียงหัวเราะ!!!
ถ้าเจอกับสภาพอากาศร้อนๆ หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงทะเลกันใช่มั้ยล่ะ แต่ถึงกระนั้น ไม่ได้มีดีแค่ดับร้อนนะจ๊ะ เพราะทะเลนี่แหละคือศูนย์รวมแห่งความฮาทั้งหลายแหล่บนโลกนี้เลยก็ว่าได้ ถ้ายังไม่เชื่อกันล่ะก็ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ท้าพิสูจน์กันล่ะ เอิ๊กๆๆๆ คำเตือน…คุณอาจโดนนกโขมยหมวกได้ถ้าไม่ระวังตัวให้ดี!!! อาจจะเจอฉลามได้โดยบังเอิญเช่นกัน เป็นสถานที่แห่งการปลดปล่อยจริงๆ งานแต่งงานในธีมเพนกวิ้น -*- สุภาพบุรุษที่เอายกทรงว่ายน้ำไปมอบให้กับสาวๆ โดยไม่ได้มองเธอ การถ่ายภาพแบบเจ๋งๆ ก่อกองทรายกันมั้ย?? การถ่ายภาพแบบแปลกๆ ฮ่าๆๆๆ นี่แหละที่คุณแม่บอกไม่ให้ไปเที่ยวทะเลยังไงล่ะ!!! หนีสิลูก หนี!!! เหล่าฮีโร่ก็ต้องมีวันพักผ่อนกันบ้างเช่นกัน แล้วที่ไหนจะดีกว่าชายหาดล่ะ!? ถถถถถถถถ ลุกเร็วไปแล้ววว เฮียยยยยย แม่ชีก็ต้องมีวันพัก่อนบ้างล่ะเนาะ คนหลังนี่ไม่ได้มาในกลุ่มแน่นอน!!! เนียนมาก คุณอาจเจอวัวกระทิงได้เป็นครั้งคราว นกตัวมหึมาจนเด็กๆ ต้องกรี๊ดดดดดด เขาไม่ได้ให้ทำท่านี้ซะหน่อยเจ้าตูบ ฮ่าๆๆๆ…
-
ภารกิจช่วยเหลือ ‘เต่าทะเลติดกระสอบ’ ย้ำเตือนมนุษย์อีกครั้งว่า พวกเราทำร้ายธรรมชาติแค่ไหน!??
บ่อยครั้งที่เรามักจะลืมนึกถึงเพื่อนร่วมโลก แล้วเผลอทิ้งเศษขยะเล็กๆ น้อยๆ ลงในแหล่งน้ำหรือในทะเล นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกมันได้รับความเดือดร้อน สัตว์บางตัวต้องทนทุกทรมานไปเกือบทั้งชีวิตเพราะไม่สามารถเอาขยะเหล่านั้นออกไปจากตัวของมันได้ คลิปที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้เป็นคลิปของ Amir Rahim หนึ่งในผู้สังเกตการณ์ของ WWF-Pakistan (องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศปากีสถาน) เขาได้นั่งเรือออกจากเมืองการาจี ลาดตระเวนในทะเลเป็นระยะทาง 180 ไมล์ทะเล (หรือ 333 กิโลเมตร) แต่ในระหว่างทางเขาก็ได้ไปเจอเข้ากับบางอย่างลอยอยู่บนผิวน้ำ จึงพยายามขยับเรือเข้าไปใกล้ๆ จากนั้นเขาและทีมงานก็รู้ว่ามันคือสัตว์ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ เขาจึงกระโดดลงไปในน้ำเพื่อดูว่ามันคือตัวอะไร เมื่อเข้าใกล้จึงรู้ว่านั่นคือเต่าหญ้าแปซิฟิกที่กำลังติดอยู่กับถุงกระสอบที่มีความเหนียวมาก แม้แต่มนุษย์เองก็ยังไม่สามารถฉีกออกได้ พวกเขาจึงนำมันขึ้นมาบนเรือ และใช้มีดตัดถุงนั่นออก ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ทะเลไปในที่สุด . ลองไปชมภารกิจช่วยเต่ากันเลย ยังคงมีสัตว์ทะเลที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝีมือมนุษย์แบบนี้อยู่อีกเพียบเลยนะ ยังไงแล้วก็ช่วยๆ กันเก็บเศษขยะ หรือระวังไม่ให้มันหล่นลงไปในทะเลด้วยนะ ที่มา viralnova
-
ล้ำไปอีกขั้น กับ 16 ไอเดียชุดว่ายน้ำ ที่ใครเห็นแล้ว เป็นต้อง ‘สะดุดตา’ แน่นอน!!
น่าร้อนที่ไร เรามักจะหาชุดน้ำมาใส่ และชุดว่ายน้ำก็จะมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญบางครั้งเราก็จะเห็นแฟชั่นชุดว่ายน้ำที่ออกจะแปลกๆไปซะหน่อย และที่ #เหมียวขี้ส่อง จะพามาแนะนำ 16 ไอเดียชุดว่ายน้ำในวันนี้ รับรองว่าใส่แล้วเกิด ไปไหนก็ต้องมีแต่คนมองแน่น๊อนนนนน… 1. เพราะชุดแบบธรรมดามันล้าสมัยไปแล้ว 2. มันก็เลยต้องออกแบบให้ล้ำขึ้นไปอีก 3. ละ…ละ… ล้ำ!!! 4. ชุดนี้ออกจะติดเรทไปหน่อย เพราะดันปล่อยหน้าอกอยู่นอกชุดว่ายน้ำซะงั้น 5. เหมือนเลือกไม่ถูกว่าจะไปว่ายน้ำหรือจะไปเล่นมวยปล้ำ เอ๊ะหรือจะเป็นการกันแดดให้ใบหน้าหรือเปล่า 6. ตอนใส่ง๊ายยยง่าย แต่ตอนถอดเนี่ยสิ คิดไม่ถึงจริงๆ 7. ใส่ชุดนี้แล้ว เหมือนหลุดมาจากโลกอนาคตเลย เป็นชุดว่ายน้ำที่มีกระเป๋าด้วย 8. แค่มีถุงเท้าข้างเดียว ก็ดัดแปลงให้เป็นชุดว่ายน้ำได้แล้วจ้าาาาา 9. ไม่รู้ว่ากางเกงในมันเก่าไป หรือ ซื้อมาไซต์ใหญ่เกิน งานนี้ ถ้าถูกคลื่นซัดมาทีจะเป็นยังไงน้าาาาาฃ 10. เป็นชุดว่ายน้ำที่ราคาถูกที่สุดก็ว่าได้ ไอเดียเก๋ แถมประหยัดด้วย ลองดูสิ 11. นี่ก็ใช้ถุงเท้าเช่น…
-
เต่าทะเลถูกลากขึ้นมา “ถ่ายเซลฟี่” จนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งมีคนใจดีมาช่วยไว้ทัน!!
เต่าทะเล เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ในมหาสมุทร แต่มันจะเป็นเรื่องที่โหดร้ายเป็นอย่างมาก เมื่อคนใจร้ายลากมันขึ้นมาจากน้ำ เพื่อเอาไปถ่ายรูปเซลฟี่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หาด Havana Beach ในประเทศเลบานอน ซึ่งติดกับคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อนักท่องเที่ยว ผู้ไม่สนใจธรรมชาติ ได้ทำการลากเต่าตัวหนึ่งขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป ซึ่งเด็กบางคนก็ร้องไห้เพราะไม่อยากถ่ายแต่ผู้หญิงก็อุ้มเด็กไปหยิบกระดองเต่าแล้วก็ถ่ายภาพออกมา . โชคยังดีที่มีนักท่องเที่ยวสองคนเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าก็เลยเข้าไปห้าม แล้วนำเอาตัวเต่านั้นไปให้องค์กร Animals Lebanon เป็นผู้ดูแล เจ้าเต่าตัวนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสระเพื่อทำการรักษา ซึ่ง Jason Mier ผู้ดูแลของที่ดูแลแห่งนี้ได้ออกมาบอกถึงอาการของมันว่าได้มีแผลที่หัวขนาดใหญ่เป็นรอยบุ๋มลงไป ต้องได้รับการรักษาก่อนที่จะปล่อยกลับไปสู่สาธารณะ . “สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือให้ยาฆ่าเชื้อไปก่อน เพื่อกันไม่ให้แผลติดเชื้อ เพราะแผลมันยังใหม่อยู่ และต้องใช้เวลารักษามัน” . เรื่องราวนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น อย่างในบ้านเราก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะแนวปะการังที่นักท่องแที่ยวเหยียบเสียจนไม่เหลือความงามไว้ ใครที่กำลังจะไปเที่ยวก็ควรระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี ธรรมชาติสวยๆ แบบนี้ดูแต่ตา มืออย่าแตะต้องนะจ๊ะ ที่มา boredpanda
-
ชมบรรยากาศชายหาด “ริโอ เดอ จาเนโร” ในบราซิล ยุค 1970s ชีวิตดีๆ ที่ใครก็คิดถึง!!
ถ้าพูดถึงประเทศบราซิลแล้ว นอกจากจะมีเรื่องฟุตบอลที่เก่งไม่แพ้ประเทศใดในโลก อีกสิ่งหนึ่งที่คนกล่าวถึงบ่อยๆ ก็คือทะเลนั่นเอง ที่ประเทศบราซิลนั้นมีชายหาดที่สวยงามอยู่เยอะมาก และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านย้อนไปชมภาพความสวยงามของหาดในริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งคนที่ถ่ายภาพนี้คือช่างภาพชาวแคนาดาชื่อว่า Blake Smith เขาใช้กล้อง Nikon ตามถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นที่ Ipanema, Leblon, Copacabana และที่อื่นอีกมากมายในเมืองนี้ เราจะได้เห็นคนบราซิลในปี 1978 ทำกิจกรรมต่างๆ บนหาด ด้วยมุมมองสวยๆ จากช่างภาพ เราไปชมกันเลย แต่เดี๋ยวก่อน.. กดฟังเพลงนี้แล้วก็ดูภาพไปด้วยจะแจ่มแมวมาก . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เวลาเห็นภาพแบบนี้ทีไรก็มักจะมีดนตรีประกอบลอยเข้ามาในหัว เป็นเสียงซินธิไซเซอร์โดดมาเลยล่ะ ที่มา vintag.es
-
ชมคลิปสุดประทับใจ วินาทีคนช่วย “ลูกนากทะเล” หลงทาง ให้ได้กลับไปพบแม่อีกครั้ง!!
ถ้าเราเป็นแม่ แล้วหลงทางกับลูก ความรู้สึกของเราตอนนั้นก็คงจะอยู่ไม่สุขเป็นแน่แท้ แล้วลองคิดว่าแม่นากทะเลตัวนี้จะรู้สึกยังไง เมื่อมันหลงทางกับลูก และไม่คิดว่าจะได้เจอลูกอีกแล้ว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มช่วยชีวิตสัตว์น้ำ The Marine Mammal Center ในแคลิฟอร์เนีย ได้เจอลูกนากทะเลอายุเพียง 2 วันอยู่อย่างโดดเดี่ยว คาดว่าน่าจะหลงทางกับแม่มา ในสถานการณ์แบบนี้ ลูกนากทะเลต้องได้รับการดูแลอย่างดี เพราะว่าตัวมันเด็กมาก และคงไม่ได้กลับไปเจอแม่อีกแล้ว แต่โชคยังดีที่ยังมีโอกาสเหลืออยู่ เพราะว่าลูกนากตัวนี้สุขภาพแข็งแรงดีมาก ไม่มีอาการตื่นกลัวเลย ปัญหาตอนนี้อยู่ที่ทำยังไงจะได้ไปเจอแม่อีกครั้ง เพราะว่ามันมีตัวนากทะเลอยู่เยอะมาก ทางหน่วยช่วยชีวิตก็เลยใช้วิธีการกลับไปที่ที่เจอลูกนากอีกครั้ง แล้วก็ถือลูกนากไว้ให้มันส่งเสียงเรียก เพราะเชื่อว่าแม่ต้องจำเสียงลูกได้แน่ๆ และแน่นอน แม่ของมันก็กลับมารับ เราไปชมคลิปความประทับใจนี้กันเลย ดูแล้วก็ยิ้มโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะตอนที่แม่มันว่ายมาอุ้มลูกแล้วว่ายไป เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ที่มา thedodo
-
รวม 12 สายพันธุ์ของเหล่า ‘ฉลาม’ ทำความรู้จักกันไว้ เวลาจ๊ะเอ๋ที่ทะเลจะได้ทำตัวถูก
เมื่อกล่าวถึง ‘ทะเล’ แล้วเพื่อนๆ หลายคนคงจะชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมายทั้งการดำน้ำ เล่นน้ำ ที่ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่ว่า ในทะเลนั้นมีสัตว์ที่อันตรายอยู่มากมาย และที่น่ากลัวที่สุดก็คือเหล่า ‘ฉลาม’ นี่แหละ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเหล่าฉลามทั้งหลายกัน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. Cookiecutter Shark (ปลาฉลามเครื่องตัดคุกกี้) ชื่อของมันมาจากฟันที่ดูคล้ายกับที่ตัดคุกกี้เลยทีเดียว และเจ้าฟันที่มีรูปร่างน่ากลัวนี้ สามารถควักเนื้อของเหยื่อออกมาและทิ้งไว้ให้เป็นหลุมที่มีลักษณะคล้ายคุกกี้ได้เลย!! 2. Basking Shark (ปลาฉลามบาสกิ้น) ถึงแม้ว่าหน้าตาของมันจะดูน่ากลัว แต่มันไม่มีรสนิยมในการกินมนุษย์หรอกนะ พวกมันมักจะใช้ปากกรองหาเหล่าแพลงตอนบนผิวน้ำมากกว่า 3. Megamouth Shark (ปลาฉลามเมกาเมาท์) เป็นสายพันธุ์ที่หาดูได้ยากมากๆ เลยล่ะ เพราะว่าพวกมันมักจะอาศัยในที่มืดๆ อย่างในมหาสุทรที่ลึกๆ เท่านั้น มีการบันทึกไว้ว่าเจ้าฉลามชนิดนี้ถูกพบเจอโดยมนุษย์เพียง 55 ครั้งเท่านั้น 4. Frilled Shark (ปลาฉลามครุย) เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มักอาศัยอยู่ในเขตน้ำลึก แต่นานๆ…
-
ไม่ได้มีให้เห็นทุกวัน… ชมบรรยากาศ ‘ฉลามเสือ’ กว่า 70 ตัว รุมกินซากวาฬ ขณะมีเรือนักท่องเที่ยวใกล้ๆ
บางทีการไปเที่ยวทะเลนั้น เราก็อยากจะเห็นน้ำที่มันใสจนมองเห็นพื้นทรายที่อยู่ข้างล่างได้ แต่บางทีอะไรที่มันชัดเกินไปก็ไม่ดีนะ… เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น การที่เราได้เห็นฉลามในท้องทะเลก็ถือเป็นเรื่องที่หายากแล้วนะ แต่ครั้งนี้มาให้ดูถึง 70 ตัวเลยทีเดียว แถมมไม่มาธรรมดา มีการแสดงกินวาฬแบบนองเลือดมาให้ดูด้วย ภาพถ่ายนี้มากจา Eco Abrolhos ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่จะพานักท่องเที่ยวชมวิวรอบๆอ่าวในประเทศออสเตรเลีย ดูจากภาพก็น่าจะรู้ว่ามันใกล้ชิดมากแค่ไหน ภาพถ่ายจากโดรนทำให้เห็นว่าทะเลนั้นเต็มไปด้วยเลือดของวาฬ Jay Cox ผู้จัดการเรือยังบอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฉลามเสือมากมายขนาดนี้ ผู้โดยสารของเขามาจาก Perth, Melbourne และ Sydney ทั้งหมดกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสิ่งที่อะเมซิ่งมากๆ ที่ได้เห็นในชีวิตนี้ ใครอยากรู้ว่าบรรยากาศมันเป็นยังไง มีเวอร์ชั่นคลิปด้วยนะ สำหรับคนที่ชมคลิปไม่ได้ คลิกที่นี่ ได้เลยจ้ะ ที่มา dailymail
-
เครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ท้องทะเล” ผลงานสุดน่ารักของศิลปินญี่ปุ่น
ท้องทะเลนั้นยังมีความลับมากมายรอให้เราไปพิสูจน์อยู่ ซึ่งภายใต้ที่แห่งนั้นก็จะมีทั้งความน่ากลัวและความงดงาม และวันนี้เราจะมาพูดถึงความงดงามนั้น แต่มาในรูปแบบของเครื่องประดับ ศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อว่า Mariko Kusumoto ซึ่งตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่รัฐ Massachusetts ได้สร้างเครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล ซึ่งจุดเด่นของมันก็คือความโปร่งใสที่ทำจากผ้า และเครื่องประดับนี้เหมาะสำหรับการประยุกต์ให้เข้ากับเครื่องแต่งกาย ที่สามารถเลือกได้ว่าอยากใส่อะไรบ้าง สัตว์และปะการังที่ใต้ในน้ำลึกนั้นมักจะมีความโปร่งใส เธอก็เลยเอาความโปร่งใสนี้มาทำให้เกิดเป็นเครื่องประดับเหล่านี้ขึ้นมา เราไปดูกันเลย ถ้าชอบผลงานนเหล่านี้ อย่าลืมไปติดตามเธอได้ที่ Mariko Kusumoto | Facebook นะจ๊ะ ที่มา thisiscolossal, boredpanda
-
เอางี้เลย!? นักท่องเที่ยวจีนไปเยือนเกาะไข่ ณ ภูเก็ต จับปลามาใส่ซองกันน้ำ บอกเก็บไว้ดูเล่น
ตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ สิ่งหนึ่งที่เราควรตระหนักเลยก็คือไม่ควรนำอะไรจากธรรมชาติติดตัวกลับมา และอีกสิ่งก็คือไม่ควรนำอะไรไปทิ้งในที่แห่งนั้นด้วย เพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน แต่ต่อให้รณรงค์ยังไงก็ตาม มันก็มักจะพังทลายไปเสียทุกที เพราะมีนักท่องเที่ยวมากมายหลายกลุ่มเหลือเกิน ล่าสุดนี้ก็เป็นกรณีของนักท่องเที่ยวจีน (อีกแล้ว) ที่กำลังแห่กันมาเที่ยวประเทศไทยของเราไปทั่วดินแดน จนเคสนี้หนักตรงที่ว่าพี่แกเล่นไปจับปลามาใส่ถุง ใส่ซองกันน้ำกันเลยแหละ เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้น ณ บริเวณ เกาะไข่ จังหวัดภูเก็ต หาดสวย น้ำใส แต่กำลังถูกทำลายบรรยากาศดีๆ เพียงแค่คนไม่กี่คน แม้ว่าจะมีการตักเตือนแล้วก็ไม่รู้สึกผิดอะไร อ้างว่าเก็บไว้ดูเล่น แถมยังกล่าวว่าจับง่ายอีกต่างหาก เจอแบบนี้บ่อยๆ เข้า มีหวังปลาหาย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติถูกทำลายย่อยยับแน่นอน!! ที่มา : まあやさんか ぷうさにいさ
-
มิติใหม่แห่งการพักผ่อนกับ “UFO ลอยน้ำพลังแสงอาทิตย์” รับรองว่าต้องติดใจ!!
หลายคนคงมีความฝันที่จะออกไปนั่งเรือยอร์ช พักผ่อนท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นซัดเบาๆ จิบไวน์อาบแดด คงเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลย แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะทำให้ความฝันของคุณเปลี่ยนไปกับ UFO ลำนี้ นี่คือบ้านลอยน้ำที่ออกแบบมาให้เหมือน UFO โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนทุกๆ อย่างในเรือ สามารถเดินทางด้วยความเร็ว 3.5 น็อตรอบโลกได้ โปรเจกต์นี้ดูเหมือนจะเป็นจริงได้ไม่ยากเลย เพราะว่ามีการคิดระบบต่างๆ ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเอานำจากน้ำฝนหรือน้ำทะเลมากรองเป็นน้ำดื่มได้ ซึ่งบริษัทที่ผลิตก็คือ Jet Capsule ผู้ผลิตสิ่งของเจ๋งๆ ที่ลอยน้ำได้มามากมาย ทางบริษัทคำนวนคร่าวๆ ไว้ว่าการผลิตและพัฒนานั้นต้องใช้งบประมาณ 28.8 ล้านบาท และถ้าทำออกมาสำเร็จก็จะออกวางขายที่ประมาณ 7.2 ล้านบาท นี่คือภาพแบบจำลองและไอเดียของเจ้า UFO ลอยน้ำตัวนี้ กลไกต่างๆ เรือมีระบบที่ทำให้เรือไม่สั่นมากเมื่อเจอน้ำที่คลื่นถี่ การตกแต่งภายใน ภาพจากมุมสูง เห็นแล้วก็อยากได้เลย สมมติว่ามีน้ำท่วมโลกมาจริงๆ เหมียวคิดว่าเจ้าเครื่องนี้คงเป็นที่นิยมอย่างมากแน่ๆ ที่มา lifebuzz, gizmag
-
16 ภาพทะเลชวนหลงใหล พร้อมพิสูจน์ว่าการไปทะเลนั้นไม่จำเป็นต้องเล่นน้ำก็ได้!!
หน้าร้อนแบบนี้ หลายคนก็คงโหยหาการไปทะเลใช่ไหมล่ะ เพราะทะเลนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่พักร้อนที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะไปเล่นน้ำคลายร้อนกัน พร้อมกับใส่ชุดบิกีนี่สวยๆ ได้อวดหุ่นที่เราฟิตมาอย่างยาวนาน ทะเลก็มีอยู่มากมายหลายที่เพราะว่าน้ำทะเลนั้นก็มีอยู่ 70% ของพื้นที่โลกแล้ว แล้วแต่เราว่าจะเลือกไปที่ไหน แต่การไปทะเลนั้นไม่จำเป็นต้องไปเล่นน้ำเสมอไปก็ได้นะ เพราะบางคนก็ชอบแค่บรรยากาศของทะเล หรือบางครั้งก็อาจจะไปถ่ายรูปเฉยๆ ก็ได้ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอารูปสวยๆ ของท้องทะเลมาฝากเพื่อนๆ กัน สำหรับคนที่ชอบเสพบรรยากาศของทะเลโดยเฉพาะ จะสวยงามแค่ไหน เราไปชมกันเลยจ้า 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. เห็นรึยังว่าทะเลนั้นไม่จำเป็นต้องลงไปเล่นน้ำเสมอไปก็ได้…
-
พบกับ “ถนนสุดแปลก” ในฝรั่งเศส ที่ต้องระวังเพราะมันจะหายไปในน้ำ 2 ครั้งต่อวัน!!
นี่คือถนนที่มีชื่อว่า Passage du Gois เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างเมือง Gulf of Burnёf และเกาะ Noirmoutier ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งการใช้ถนนต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามันจะหายไปเป็นบางช่วงของแต่ละวัน ซึ่งตอนหายนั้นมันก็กินเวลาไปนานเท่าไร และน้ำอาจจะท่วมได้ถึง 4 เมตรเลยทีเดียว ในปี 1701 ได้มีการสร้างทางนี้ขึ้นมาครั้งแรก หลังจากนั้นในปี 1840 ก็เริ่มมีม้าและรถเดินทางผ่านไปมาแล้ว จนมาถึงตอนนี้ ระยะทางของถนนอยู่ที่ 4.1 กิโลเมตร จริงๆแล้วถนนสายนี้อันตรายอยู่นะ ระหว่างทางจะมีแท่นที่จะบอกเราว่าถนนเส้นนี้สามารถผ่านไปได้รึเปล่า และทุกๆปี ก็จะมีคนที่โดนน้ำท่วมระหว่างทางเนื่องจากน้ำขึ้นเร็วเกินไป ซึ่งทางการก็ได้สร้างแท่นที่ให้คนขึ้นไปพักรอน้ำลงได้ตลอดทาง แล้วรอหน่วยกู้ภัยมาช่วยชีวิต แน่นอนว่าบอกลารถคุณได้เลย นี่คือคลิปวิดีโอที่นำเสนอถนนนี้ตอนช่วงน้ำแห้งและน้ำขึ้น . . . . . . สำหรับใครที่ชอบความท้าทาย ก็ยังไม่แนะนำให้เอารถไปเสียงอยู่ดี เนื่องจากบางทีน้ำมันขึ้นเร็วไปจนตั้งตัวไม่ทัน อาจจะทำให้คุณต้องเสียรถไปเลยก็ได้ ที่มา brightside
-
พบศพชายนักล่องเรือชาวเยอรมันกลายสภาพเป็น ‘มัมมี่’ ชันสูตรศพพบว่าเสียชีวิตไม่เกินเจ็ดวัน!!
กลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่งกับการพบศพของนักล่องเรือ ผจญภัยไปตามมหาสุมทรต่างๆ ซึ่งจู่ๆ ชาวประมงสองรายจากชายฝั่งฟิลิปปินส์ บังเอิญไปเจอเรือที่อยู่ในสภาพล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย แล้วก็พบกับสภาพของศพที่อยู่สภาพคล้ายกับมัมมี่!! สำหรับศพดังกล่าวก็คือนาย Manfred Fritz Bajorat ชาวเยอรมัน วัย 59 ปี โดยมีรายงานว่าเขาได้หายตัวไปตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 และจากการสันนิษฐานในตอนแรก คาดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตมาหลายปีแล้วอันเนื่องมาจากสภาพศพที่คล้ายกับมัมมี่ แต่ภายหลังการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ทางตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์กลับแจ้งว่าเขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากหัวใจวายเฉียบพลัน ในช่วงที่ก่อนจะพบศพเขาอยู่บนเรือ ‘จากการชันสูตรศพพบว่าสาเหตุการตายของเขานั้นเกิดจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และคาดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตมาไม่มากหรือไม่น้อยกว่า 7 วัน’ โฆษกตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าว ตำรวจยังรายงานอีกด้วยว่า ชาวประมงผู้พบศพนั้นสังเกตเรือยอร์ชลำนี้ลอยอยู่ใกล้ๆ ชายฝั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนหรือมีกิจกรรมใดๆ เลย จึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจภายในก็พบกับสภาพศพของ Manfred Fritz Bajorat อยู่ในสภาพดังกล่าวคล้ายกับว่าจะทำการติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านวิทยุสื่อสารเป็นครั้งสุดท้าย แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของสภาพศพที่กลายมาเป็นมัมมี่ได้ในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 7 วันได้ ยังคงเป็นเรื่องปริศนาที่ต้องการข้อพิสูจน์กันต่อไป ที่มา : mirror, unilad
-
กำเนิดเกาะใหม่เอี่ยมอ่อง ผุดขึ้นจากแรงระเบิดของภูเขาไฟใต้น่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกใต้!!
ในตอนที่เรากำลังนอนเล่นชิวๆ อยู่ในบ้านช่วงสุดสัปดาห์ เราอาจจะรู้สึกได้ว่าโลกของเราหยุดนิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมานานแล้ว แต่ทว่าในความเป็นจริงโลกใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดจากสภาพอากาศที่ไม่เหมือนเดิม รวมไปถึงการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำจนกำเนิดมาเป็นเกาะใหม่เช่นนี้!! สำหรับเรื่องราวเกาะแห่งใหม่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้นี้ ลูกเรือในนาม Maiken กำลังแล่นเรือไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็พบกับสิ่งที่น่าสนใจจากระยะไกล เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือควันจำนวนมหาศาลที่ออกมาจากผิวน้ำ ใช่แล้วล่ะมันก็คือภูเขาไฟที่กำลังดับลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเข้าไปใกล้ๆ ลูกเรือก็ได้ทำการหย่อนสมอ พักเรือสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ก่อน เพราะกระบวนการเกิดเกาะใหม่นี้จะค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้าๆ อีกทั้งยังเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ เลยนะเนี่ย ควันจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟที่อยู่ใต้น้ำทะเลอย่างช้าๆ เพื่อให้ปลอดภัยต่อชีวิต กลุ่มลูกเรือก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ ทีละนิด จนสามารถสังเกตเห็นยอดภูเขาได้ โอ้วววว นั่นมันโผล่ขึ้นมาเป็นเกาะแล้วแฮะ จนทุกอย่างสงบนิ่งเรียบร้อยดี ได้เวลาออกไปสำรวจเกาะใหม่แล้ว สภาพพื้นผิวบนเกาะ มีลักษณะคล้ายกับชายหาดที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ อีกทั้งผิวน้ำทะเลในบริเวณรอบๆ เกาะก็เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟเช่นกัน ยังคงมีทางน้ำหลงเหลืออยู่ให้เรือสามารถแล่นฝ่าเข้ามาได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น้อยครั้งจะได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ โชคดีที่ตอนลูกเรือไปสำรวจไม่เกิดอะไรให้ตกใจ…
-
สาวใจเด็ด เข้าไปอยู่ใน “บอลยักษ์” แล้วปั่นไปเรื่อยๆ หวังวิ่งข้ามทะเลไอริช!!
อึ้งแป๊บ… สาวคนนี้ไม่รู้ว่าเธอนึกคึกอะไร เธอได้ทำการเข้าไปอยู่ในบอลยักษ์ที่เขาเอาไว้เล่นวิ่งลอยน้ำนั่นแหละ แต่ปกติเราเห็นคนเล่นแต่ในบึงในสระ อันนี้เจ๊แกเล่นเอามาวิ่งในทะเลเลยทีเดียว เธอคนนี้ชื่อว่า Lindsey Russell เธอมีความตั้งใจที่จะใช้ลูกบอลยักษ์นี้วิ่งเป็นระยะทางกว่า 34.8 กิโลเมตรเพื่อเดินทางจากตอนเหนือของไอร์แลนด์ไปสู่ประเทศสก็อตแลนด์ โดยใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมงถึงจะถึงที่หมาย แต่โชคไม่ดีเลย เมื่อเธอเดินทางไปได้ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ต้องเจอกับปัญหา เนื่องจากว่ามีคลื่นที่ซัดเข้ามาหนักมาๆ ทำเอาลูกบอลของเธอเสียศูนย์ไป และเธอก็ต้องจบการเดินทางของเธอไปก่อนที่จะถึงจุดหมาย แต่อย่างน้อย เธอก็ได้เอาภาพบรรยากาศสวยๆมาฝากพวกเรา เราไปชมความพยายามของเธอกันเลย แม้แต่ความมืดก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ช็อตสวยๆ ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ที่มา lifebuzz
-
มนุษย์สังเวยชีวิต ‘โลมาตัวน้อย’ ถูกดึงขึ้นมาบนชายหาด ‘เซลฟี่’ กระหน่ำ จนมันสิ้นใจไปในที่สุด!!
การถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำของมนุษย์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและแย่พอๆ กัน ยิ่งโอกาสที่จะได้พบกับโลมาตัวเป็นๆ มีน้อยมาก ก็เป็นธรรมดาของคนเราที่จะตื่นเต้นและขอถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แต่ทว่าในครั้งนี้กลับแลกมาด้วยชีวิตของโลมาตัวน้อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าโลมาน้อยสิ้นใจอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่งในประเทศอาร์เจนตินาร์ ภายหลังจากที่มีนักท่องเที่ยว แห่มาล้อมและผลัดกันอุ้ม จนร่างกายของมันบอบช้ำ เกินกว่าจะรับไหว อีกทั้งยังมีรายงานด้วยว่าพวกมันถูกดึงขึ้นมาบนชายหาด เพื่อที่จะได้นำมันมาถ่ายรูปและเซลฟี่ด้วย ซึ่งท่ามกลางการห้อมล้อมของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากร่างกายของโลมาน้อยก็โดนแดดเต็มๆ จนในที่สุดมันก็สิ้นใจคามือมนุษย์ นักสิ่งแวดล้อมจากมูลนิธิ Vida Silvestre กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ‘ปลาโลมาไม่สามารถอยู่นอกผิวน้ำได้เป็นเวลานาน เนื่องจากพวกมันมีผิวที่หนาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย หากอยู่นอกผิวน้ำก็จะทำให้พวกมันเกิดอาการขาดน้ำ หากโดนแดดด้วยจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงจนถึงขั้นขาดใจตายในเวลาอันรวดเร็ว’ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุในลักษณะนี้ ปลาโลมาถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าสูงมาก แต่ต้องมาตายอันเนื่องมาจากความอยากรู้อยากเห็นและความเห็นตัวของมนุษย์เอง ที่มา : thedodo, operamundi
-
เผยภาพนาทีสุดระทึกของเรือกู้ภัย ที่ถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำกลางทะเล น่ากลัวฝุดๆ ไปเลย
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพสุดระทึกของเรือกู้ภัย (ERRV) ลำหนึ่ง ที่กำลังเผชิญหน้ากับคลื่นลมทะเลที่มีความสูงกว่า 30 เมตร งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาคนดูถึงกับลุ้นระทึกตามไปด้วย จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเรือกู้ภัยลำนี้ ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรในบริเวณทะเลเหนือ ทางตะวันออกของเกาะบริเตนใหญ่ ซึ่งห่างจากชายฝั่งราว 160 กิโลเมตร โอ้ววว คลื่นลมทะเลแรงเหมือนกันนะเนี่ย ทำเอาเรือแกว่งโคลงเคลงไปมาเลยละเหมียว น่ากลัวชะมัดเลย นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ อยู่ในช่วงที่มีพายุฤดูหนาวเกอร์ทรูด พัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักร ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดหิมะ ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรง รวมไปถึงคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงเหมือนดั่งภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ยังไงละ ทั้งนี้ภาพทั้งหมดถูกถ่ายขึ้นมาโดยชายรายหนึ่ง ที่โดยสารอยู่ภายในห้องบังคับการของเรือลำนี้ ลองไปชมคลิปกันเลย ที่มา : dailymail
-
35 ภาพ “เกลียวคลื่น” สุดแสนงดงาม ราวกับเวลาบนโลกหยุดเพียงเสี้ยววินาที
คลื่นทะเลเป็นสิ่งที่งดงามมากในภาพถ่าย เพราะเราจะเห็นมันในช่วงวินาทีที่มันได้ก่อตัวเป็นเกลียว ถ้าเราดูด้วยตาเปล่าเราก็จะเห็นแค่น้ำมันไหลมาเฉยๆ แต่ถ้าเป็นภาพแล้ว มันเหมือนกับเวลาทั้งหมดมันหยุดนิ่งอยู่กับที่เลย เมื่อนานมาแล้ว เหมียวเคยนำเสนอภาพถ่ายของศิลปินที่ชื่อว่า Ray Collins ซึ่งเขาก็ได้ถ่ายภาพคลื่นทะเลออกมาได้สวยจนแทบหยุดหายใจมาแล้ว แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปชมภาพคลื่นที่งดงามยิ่งกว่า ดูแล้วเหมือนเป็นภาพแต่ง แต่จริงๆมันคือคลื่นจากทะเลจริงๆ นะฮะ จัดเต็มกับ 35 ภาพ ไปดูกันเลย 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. …
-
ผมรักคุณ!! คู่รักออสเตรเลียจูบกันบนชายหาดขณะถูกคลื่นยักษ์ซัด ประหนึ่งจูบลาสุดท้าย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นฉากที่คู่รักยืนจูบกันท่ามกลางมหันตภัยต่างๆ เช่นวันสิ้นโลกหรือน้ำท่วม จนบางทีคุณอาจจะคิดว่า “จะตายกันอยู่แล้วยังมัวมาจูบกันอีก” แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ามีคนทำแบบนั้นจริงๆ ด้วยนะเออ!! เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดอะเมซิ่งคลิปหนึ่งของคู่รักบนชายหาดซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ยืนจูบกันขณะถูกคลื่นยักษ์ซัดเข้าฝั่ง ประหนึ่งว่านี่คือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ชายหาดในอุทยานแห่งชาติซิดนีย์รอยัล ซึ่งในขณะนั้นมีผู้คนกำลังพักผ่อนเล่นน้ำกันอย่างมากมาย แต่ทันใดนั้นเองกลับมีสัญญาณเตือนดังขึ้นเพื่อบอกให้ประชาชนรีบหนีออกจากชายหาด เพราะมีคลื่นยักษ์กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา เมื่อได้ยินดังนั้นผู้คนจึงรีบวิ่งหนีออกมา มีเพียงคู่รักคู่นี้เท่านั้นที่ค่อยๆ เดินอย่างใจเย็น และเมื่อคลื่นกำลังจะซัดเข้ามา พวกเขาก็รีบหันมาจูบทันที ประหนึ่งว่านี่คือวาระสุดท้ายของชีวิต ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แม้ว่าตัวคลื่นอาจจะไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน อย่างเช่นหญิงวัย 22 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกที่ศีรษะ หญิงวัย 53 ปีกระดูกข้อเท้าหัก และหญิงวัย 20 ปีถูกคลื่นซัดเข้าอย่างแรงจนร่างลอยขึ้นฟ้าทีเดียว ที่มา myGCnews , mirror
-
คนมันจะเฮง!! หนุ่มผู้โชคดีลงไปงม “แหวนแต่งงาน” ที่ตัวเองทำตกลงไปในมหาสมุทรจนเจอในที่สุด
ทะเลถือเป็นสถานที่สุดโรแมนติกที่คู่รักหลายคู่มักจะไปขอแต่งงานกันที่นั่น และหลายคู่ก็ได้ที่สิ่งที่ผิดพลาด นั่นก็คือการทำแหวนตกลงไปในทะเล บางคู่ก็ถอดใจไม่ลงไปหาแล้ว เพราะว่ามันยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แต่ชายคนนี้ไม่ลดความพยายาม เขาได้ลงไปหาจนเจอแหวนของตัวเอง การทำแหวนหายบางคู่ก็ถือเป็นลางไม่ดี หมายถึงชีวิตที่ในอนาคตที่ไม่ราบรื่น เหมือนอย่างชายคนนี้ที่ได้ทำแหวนแต่งงานหายขณะที่เขาออกไปตกปลาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา นี่คือโฉมหน้าของ Jay Bradford วัย 27 ปีคนนี้ที่ทำแหวนตกลงไป เนื่องจากมือของเขาไปจับตรงราว แล้วแหวนเกิดหลุดออกมา แล้วก็ตกลงไปในน้ำแบบที่ไม่ทันตั้งตัว แน่นอนว่าเขาต้องบอกคุณภรรยา Meagan ว่าทำแหวนหาย โดยส่งข้อความไปบอกว่าเขาได้ทำบางอย่างผิดพลาดลงไป เธอก็เลยส่งข้อความไปบอกว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ตกปลาได้เอง” แล้วเขาก็ส่งข้อความไปอีกว่ามันไม่ใช่ปลา แต่เขาทำแหวนแต่งงานหาย พอเธอรู้ข่าวแล้วถึงกับอึ้งไปเลย โดยปกติแล้ว คนที่ทำแหวนตกทะเลไป เขาก็ลงไม่คิดที่จะหาแต่ แต่เขาเลือกที่จะลงไปหาแหวนใต้ทะเล เขาลงไปพร้อมกัปตันเรือ Nick Barsa และนักประดาน้ำ Mark Thompson โดยใช้เครื่อง GPS ในการหาตำแหน่งที่เรือจอด ตอนที่เขาทำแหวนตกลงไปแล้วค้นหาแหวน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ จะไปเจอของเล็กๆแบบนั้นใต้ทะเลได้ยังไง แต่พอลงไปได้ 10 นาทีเท่านั้น ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น…
-
Spirobranchus giganteus หนอนทะเลสุดมุ้งมิ้ง สีสันสดใสแถมรูปร่างดันเหมือนต้นคริสมาสต์
อะไรมันจะน่ารักขนาดน้านนนน >< เหมียวก็เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนน่ะไม่ค่อยชอบหนอน ชอบด้วงกันเท่าไหร่ หรืออาจถึงขั้นยี้ แต่บางสปีชีส์ของพวกมันก็น่ารักไม่หยอกเลยนะ อิอิ หนอนทะเลต้นคริสมาสต์ หรือรู้จักในวงการทางวิทยาศาสตร์ว่า Spirobranchus giganteus สาเหตุที่มันได้ชื่อนี้มาก็เพราะว่ารูปร่างของมันที่เหมือนต้นสนคริสมาสต์มากๆ นั่นเอง เหมือนคริสมาสต์ปะล่าาา อิอิ สีสันสดใสเลยเชียว หนอนทะเลชนิดนี้อาศัยอยู่ทั่วทะเลเขตร้อน ทั้งแถบแคริบเบียนและอินโด-แปซิฟิก ขนาดของมันก็ราวๆ 3.8 ซม. สำหรับการกินอาศัยส่วนที่คล้ายๆ ใบของต้นคริสมาสต์นั่นแหละ จัดการกับแพลงตอนที่ลอยมาตามกระแสน้ำ ซูมใกล้ๆ อีกหนึ่งสีสันของท้องทะเลเลยว่ามั้ย?? หลายๆ ตัว แต่ทำไมเหมียวว่ามันดูน่ากลัวอ่ะ ฮ่าๆๆ มีสีฟ้าด้วยแหละ เจอแบบนี้นี่เหมียวว่ายน้ำหนีไม่คิดเลย >< ต้องยอมรับจริงๆ ว่าน่ารักมาก แต่เหมียวไม่ถูกโรคกับหนอนอ่าาา ไม่ว่าจะน่ารักขนาดไหนก็ตาม -*- นี่ทำไปสยองไปเลยนะเนี่ย เมี๊ยววววว!!! ที่มา:…
-
เจ๋งขั้นสุด!! สองหนุ่มออสซี่คิดค้น Seabin (ถังขยะกลางทะเล) ช่วยเก็บกวาดสิ่งสกปรกได้ทุกชนิด
เรื่องของขยะที่ลอยในทะเลนั้นนับวันจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเจริญเติบโตของการท่องเที่ยวทั้งในไทยและในต่างประเทศ ทำให้เรามักจะเห็นภาพขยะลอยอยู่ในทะเลอยู่บ่อยครั้ง นอกจากมันจะทำให้ทะเลสกปรกแล้ว มันยังทำให้เหล่าสัตว์น้ำที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปกินมันเข้า และตายได้ในที่สุด ด้วยปัญหานี้เอง ทำให้นาย Andrew Turton และ Pete Ceglinski สองหนุ่มชาวออสเตรเลียได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Seabin (ถังขยะทะเล) ขึ้นมาและนำมันไปวางในทะเล เพื่อให้พวกมันดูดเอาขยะที่ลอยเท้งเต้งอยู่ในน้ำเข้ามาเก็บไว้ ทั้งขวดพลาสติก เศษกระดาษ น้ำมัน และสารเคมีที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ทั้งสองคนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงแนวคิดในการสร้างเจ้าถังขยะนี้ว่า “หนึ่งในเป้าหมายที่เราสร้าง Seabin ก็เพื่อเก็บเศษพลาสติกมาสร้าง Seabin อีกอันหนึ่ง เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนการล้มของโดมิโน ส่วนเป้าหมายที่สองคือสร้างโลกที่เราไม่ต้องการเจ้า Seabin แล้วนั้นเอง” ทั้งคู่ได้ออกแบบและสร้าง Seabin ขึ้นภายในบ้านของพวกเขาเอง และกำลังเล็งที่จะส่งออกไปขายตามที่ต่างๆ ช่วงปลายปี 2016 แต่ตอนนั้นทั้งคู่ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาและระดมทุน ผ่านเว็บไซต์ Indiegogo อยู่ล่ะ ใครสนใจอก็คลิกเข้าไปชมได้นะ ชมคลิปการทำงานของเจ้าถังขยะได้ที่ด้านล่างเลย นี่แหละคือนวัตกรรมที่จะมาช่วยเปลี่ยนโลกของเรา…
-
รวม 10 สุดยอดสถานที่ทางธรรมชาติ ที่ยังไม่มีอารยธรรมท่องเที่ยวของมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว!!
มนุษย์เลือกใช้วิถีชีวิตท่ามกลางเจริญแต่ก็ขาดธรรมชาติไปไม่ได้เช่นกัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาณาเขตความเจริญของเมืองและหมู่บ้านก็ได้ขยายออกไปเรื่อยๆ ทำให้สภาพธรรรมชาติรอบๆ จางหายไป และในไม่ช้าก็จะกลายเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ เมื่อกล่าวถึงธรรมชาติ มนุษย์ก็ยังคงค้นหาสถานที่ที่ยังคงเป็นธรรมชาติแบบ 100% อยู่ แต่ทว่ามันจะมาพร้อมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยิ่งที่ไหนฮิตติดลมบน นักท่องเที่ยวก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณนั้นค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ถ้าหากว่าดูแลไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังคงมีสถานที่ทางธรรมชาติที่ยังคงเป็นตัวตนของตัวเอง มีความสวยงามและอลังการทุกอณู เนื่องจากยังไม่มีอุตสหกรรมท่องเที่ยวเข้าไปตั้งรกราก อีกทั้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญของมนุษย์ และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 1. The Forest Lake อยู่ในเขต Tyumen ประเทศรัสเซีย 2. Tepui หุบเขาสูงเสียดฟ้า ประเทศเวเนซุเอลา 3. น้ำตก Honokohau เกาะเมาวี รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา 4. ป่าฝน Amazon บริเวณพื้นที่อเมริกาใต้ (บราซิล, เปรู, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา,…
-
กาลครั้งหนึ่ง หาดแห่งนี้เคยเป็น “ป่า” มาก่อน ตอนนี้เหลือแต่ตอไม้หลอนๆ ไว้ให้ดูต่างหน้า
ทุกๆ อย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดินยังสามารถกลายเป็นหินได้ ดังนั้นการได้เห็นสถานที่แปลกๆ มันก็เป็นกฎของธรรมชาติแน่นอนอยู่แล้ว วันนี้เหมียวจะพาไปเที่ยวที่โอเรก้อน มีชายหาดแห่งนี้ที่ดูหลอนพิลึก แต่ก็ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะนี่คือสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่า แต่แล้วก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นทะเลไปแล้ว ในเมืองเล็กๆ ชื่อว่า Neskowin มีชายหาดแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยตอไม้ผุดมาจากชายหาด ซึ่งเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ที่นี่เคยเต็มไปด้วยต้นไม้ แต่เมื่อปี 1998 ได้ที่พายุขนาดใหญ่พัดเข้ากัดกร่อนฝืนป่าแห่งนี้จนกลายเป็นน้ำทะเล ตอนนี้ก็เหลือไว้เพียงวิญญาณตอไม้น่ากลัวๆ เดาแล้วน่าจะมีอายุประมาณ 2,000 ปี หลังจากเกิดพายุเมื่อปี 1998 ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นชายหาดไปเลย มีการคาดเดาว่าป่าแห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1680 ถึงปี 1720 โดยได้มีคลื่นซึนามิเป็นตัวการทำให้เกิดป่า บางแห่งก็บอกว่าป่าเกิดจากการเกิดแผ่นดินไหวที่โอเรก้อน ทำให้ผิวดินแถวนั้นแปรเปลี่ยนสภาพจนเกิดป่าขึ้นมา ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นความดงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะดูหลอนไปนิดก็ตาม ที่มา Amusing Planet
-
ฟังเสียงเครื่อง “ออร์แกน” ยาว 70 เมตร ใช้แรงลมจากทะเลทำให้เกิดเสียง ที่ชายฝั่งโครเอเชีย
นี่ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่รวมระหว่างความเป็นมนุษย์และธรรมชาติเข้าด้วยกันเลย สิ่งนี้คือ “ออร์แกน” เครื่องดนตรีขนาดยาวกว่า 70 เมตร ทอดยาวตามชายฝั่งในโครเอเชีย และมันจะส่งเสียงก็ต่อเมื่อมีลมจากทะเลเข้าปะทะกับมัน เกิดเป็นท่วงทำนองแบบสุ่มไปเรื่อย แต่ก็ไพเราะ เจ้าเครื่องนี้มีชื่อว่าจริงๆแล้วมีชื่อว่า “morske orgulje” ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อว่า Nikola Basic และได้นำมาติดตั้งให้ผู้คนได้เห็นเมื่อปี 2005 เมื่อมีน้ำและลมผ่านช่องที่ทำไว้ตรงบันได จะทำให้เกิดเสียงตัวโน้ตขึ้นมา ซึ่งแต่ละช่องก็จะมีโน้ตที่ต่างกันออกไป และเสียงก็จะออกมาทางช่องที่อยู่บนสุด พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นที่นิยมมากสำหรับการมานั่งพักผ่อน ทานข้าวกลางวันสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้คนในแถบนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกทำลายไปเยอะจากสงครามโลกครั้งที่สอง และนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้กลับมาน่าอยู่ได้ ไปฟังเสียงเพลงที่มันสร้างกันเลย ที่มา upworthy
-
ปะการังสวยๆ กำลังจะตายด้วยการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว จากคำว่า ‘ไม่รู้’ ‘คงไม่เป็นไร’
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนใต้ของประเทศไทยนอกจากจะมีทะเลสวยๆ เกาะงามๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญก็คือแนวปะกางรังต่างๆ ที่อยู่ตามเกาะนั่นเอง ด้วยความสวยงามและเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอยากจะสัมผัส จึงทำให้เรือพานักท่องเที่ยวออกไปชมปะการังเป็นจำนวนมาก และด้วยความสนใจของนักท่องเที่ยวที่มีมากจนไม่อาจควบคุมจำนวนได้ เพราะใครๆ ก็อยากไปชมปะการังสวยๆ รวมไปถึงทัวร์ต่างๆ ที่ต้องการพานักท่องเที่ยวไปชมให้ได้มากที่สุดเพราะจะสามารถทำเงินได้มากโข แต่กลับกลายเป็นการทำร้ายปะการังเหล่านี้แทน และเรื่องราวต่อไปนี้ถูกเปิดเผยมาจากคุณ Thon Thamrongnawasawat เนื่องจากการเข้าไปในจุดชมปะการังนั้น เรือต้องจอดและปล่อยให้นักท่องเที่ยวชมปะการังอย่างใกล้ชิด ก็เลือกที่จอดใกล้กับแนวปะการังจนมากเกินไป ความมักง่ายในการเลือกที่จอด ปล่อยสมอลงทะเลไปโดนปะการังบ้าง จากนั้นนักท่องเที่ยวก็กระโดดลงน้ำตู้ม ด้วยคำแนะนำของไกด์หรือความกลัวของนักท่องเที่ยวกับการมาชมปะการังอย่างใกล้ชิดอาจจะครั้งแรกหรือครั้งต่อๆ ไปแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะกลัวจมน้ำ ก็เลยต้องที่พื้นที่ยืนเอาไว้ก่อน แล้วในทะเลไม่ค่อยมีพื้นที่จะให้ยืนซักเท่าไหร่ ผลสุดท้ายก็ไปยืนบนปะการัง จากความไม่รู้และคิดว่าคงไม่เป็นอะไร ไม่ว่าจะทั้งนักท่องเที่ยวไทยหรือต่างชาติก็ลงเอยเหมือนกันหมด เท้าจากนานาชาติรุมเหยียบย่ำ ทั้งเท้าคนและเท้ากบ จนทำให้เกิดเป็นรอยช้ำจนลามเป็นบาดแผลเรื้อรัง ปะการังน้อยๆ ไม่อาจต้านทานเท้านานาชาติไหว จนกลายมาเป็นศพที่ไม่มีความสวยงามอีกต่อไป ซึ่งจากกรณีแบบนี้นอกจากจะทำให้ปะการังอันสวยงามหายไปแล้ว ยังส่งผลทำให้ปลาเล็กปลาน้อยไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัย หนีออกไปในแถบน้ำลึกและไม่อาจรอดชีวิตไปจากอวดหาปลาหรือไม่ก็กลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำที่ตัวใหญ่กว่า ทั้งนี้ก็ควรที่จะช่วยกันรักษาความงดงามใต้ท้องทะเลนี้ไว้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป รณรงค์ให้จอดเรือไกลๆ จากแนวปะการัง…
-
ชมภาพวาด “ทะเล” สุดเจ๋ง เหมือนขนาดนี้เคยเกิดเป็นกล้องถ่ายรูปใช่มั้ย!!!
หลายๆคนมักบอกว่างานศิลปะ เป็นของที่ไม่มีวันสิ้นสุด ขอเพียงคุณมีจินตนาการและความตั้งใจเพียงพอ คุณสามารถเนรมิตรทุกสิ่งให้เป็นงานศิลปะได้ และวันนี้เหมียวจะพาไปชมงานศิลปะสุดเจ๋งของศิลปินจากนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกานามว่า Ran Ortner ที่เขาสามารถวาด “ทะเล” ให้ออกมาเหมือนภาพถ่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดูแว๊บแรกนึกว่าภาพถ่าย..ดูแว๊บที่สองก็ยังภาพถ่าย..ดูแว๊บที่สามก็ยังภาพถ่ายอยู่ดี แต่ที่จริงแล้วภาพนี้เป็นผลงานของ Ram Ortner ศิลปินจากนิวยอร์ค เขาร่วมงานกับช่างภาพผู้ชนะรางวัลประกวดภาพถ่ายมหาสมุทร Mickey Smith ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เห็นฝีมือการวาดภาพด้วยสีน้ำมันเจ๋งๆขนาดนี้ อาชีพแรกที่เขาทำคือ เป็นนักขี่มอเตอร์ไซค์และเป็นนักเล่นกระดานโต้คลื่นอีกด้วย!! แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตนเองนั้นชอบศิลปะ เขาจึงเลิกทุกอย่าง แล้วหันมาทุ่มเทชีวิตให้กับงานศิลปะ เขาได้สร้างผลงานเจ๋งๆมากมาย และภาพของเขาเคยขึ้นนิตยสาร New York Times ด้วย! สุดยอดไปเลย ดูเผินๆนึกว่าเป็นภาพถ่ายเลยนะเนี่ย เห็นมั้ยละ ศิลปะอยู่ในตัวของทุกคนอยู่แล้ว ขอให้ทุ่มเท เราจะต้องทำมันได้ดีอย่างแน่นอน!! ที่มา ranortner
-
ความงามที่น่าเศร้า: ศิลปินสร้างงานศิลปะอันยิ่งใหญ่ โดยทั้งหมดล้วนมาจากขยะตามชายหาด
ทุกวันนี้ เราใช้พลาสติกกันแบบไม่รู้เลยว่าปลายทางของขยะเหล่านี้มันจะไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะดื่มน้ำ หรือทำอะไรก็ตาม ถ้าเราไม่ทิ้งขยะให้ถูกนี้ นั่นจะส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกกันว่าพลาสติกล้นโลก ศิลปินท่านหนึ่งได้สร้างผลงานเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ โดยการสร้างรูปปั้นที่ทำมาจากพลาสติกล้วนๆ ซึ่งเขาได้ไปเก็บมาจากในทะเล และที่มันมาเกยอยู่บนชายหาด ผมงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Washed Ashore องค์กรจากรัฐโอเรกอนในสหรัฐฯ เราไปชมผลงานพวกนี้กันเลย ถือเป็นความงามที่น่าสะเทือนใจอยู่เหมือนกัน เพราะงานที่สร้างมานั้นใช้พลาสติกจำนวนไม่น้อยเลย แสดงว่าขยะที่เขาไปพบเจอนั้นต้องมากกว่านี้หลายเท่าแน่นอน เห็นแบบนี้แล้ว เราก็คงต้องหันมาใส่ใจธรรมชาติกันแล้วล่ะ ที่มา boredpanda , washedashore.org
-
นักท่องเที่ยวรัสเซียจับภาพ “พายุนาคเล่นน้ำ” ขนาดใหญ่ราวกับ CG ได้ที่อิตาลี
นาคเล่นน้ำ หรือพวยน้ำ (ภาษาอังกฤษคือ waterspout) คือปรากฏการณ์ที่น้ำถูกพายุทอร์นาโดดูดขึ้นไปเป็นเกลียว ส่วนมากจะเกิดขึ้นในประเทศแถบเขตร้อน แต่ก็เคยมีรายงานว่าเคยเกิดที่ที่มีอากาศปานกลางและยุโรปเช่นกัน และเมื่อไม่กี่วันมานี้ นักท่องเที่ยวชื่อว่า Evgeny Drokov ชาวรัสเซีย ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่เมือง Genoa ประเทศอิตาลี ในเวลาเช้า เขาก็ได้พบเห็นกับพายุทอร์นาโด หรือที่เรียกกันว่า “นาคเล่นน้ำ” เขาจึงถ่ายภาพเก็บมา เขาอยู่บนโรงแรมสูง และภาพที่เขาถ่ายได้นั้น พายุห่างเขาไปประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น เขาได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตจริงๆ” ยังมีรูปอีกมากมายที่เขาได้โพสต์ลง ตามไปดูได้ที่ flickr.com ที่มา thepuffington
-
งานปั้น “ชาย-หญิง” ขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่ผ่านกันทุกวัน แสดงถึงโศกนาฏกรรมความรัก
นี่คืองานปั้นแกะสลักที่มีชื่อว่า “Man and Woman” สูงขนาด 8 เมตร สร้างโดยศิลปินที่ชื่อว่า Tamara Kvesitadze ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายหาดในจอร์เจีย รูปปั้นทั้งสองสื่อถึงเด็กชาวมุสลิมที่ชื่อว่า Ali และเจ้าหญิงชาวจอร์เจียนามว่า Nino จากนิยายที่โด่งดังเป็นอย่างมากในปี 1937 เขียนโดยนักเขียนชาวอาเซอร์ไบจานชื่อว่า Kurban Said โดยเรื่องราวนั้นเกี่ยวกับความรักที่พลัดพรากเนื่องจากการบุกรุกของโซเวียด รูปปั้นนี้จะค่อยๆเคลื่อนที่ทีละนิดเมื่อถึงเวลา 1 ทุ่มของทุกวัน จากที่อยู่ห่างกัน ก็จะเข้ามาใกล้กัน แล้วก็จะทะลุผ่านกันไป โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลา 10 นาที รูปปั้นนี้ออกแบบในปี 2007 แต่ถูกนำมาติดตั้งในปี 2010 และถูกตั้งชื่อใหม่ว่า “Ali and Nino” ซึ่งแสดงถึงโศกนาฏกรรมความรักที่ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันไป ชมคลิปการเครื่องไหวของรูปปั้น ที่มา boredpanda
-
เชิญพบกับ ‘Villa on Dunbar Rock’ รีสอร์ทในฝัน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเกาะหินยักษ์กลางทะเล
เวลาที่เราไปเที่ยวทะเล เหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องการอยากจะพักผ่อนที่รีสอร์ทริมทะเลสวยๆ กันใช่ไหมละ แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าหากคุณได้เห็นภาพรีสอร์ทที่เราจะนำมาให้ชมในครั้งนี้ละก็ เชื่อว่าหลายคนจะต้องลืมรีสอร์ทริมทะเลแบบเดิมๆ อย่างแน่นอน เพราะนี่คือ ‘Villa on Dunbar Rock’ รีสอร์ทสุดหรู ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเกาะหินยักษ์ที่ชื่อว่า ‘Dunbar Rock’ กลางทะเลแคริบเบียน บริเวณเกาะกัวนาฮา ประเทศฮอนดูรัส ที่จะทำให้คุณได้พบกับทัศนียภาพสวยๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีครามแบบนี้… ว้าว!! มันสวยงามมากจริงๆ โดยรีสอร์ทสุดหรูแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นอาคารสีขาวสูง 4 ชั้น ซึ่งภายในประกอบไปด้วย ห้องพัก 8 ห้อง ที่มีระเบียงส่วนตัวสำหรับอาบแดดทุกห้อง แถมยังมีสระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง เพียงแค่เปิดประตูออกไป ก็สามารถกระโดดลงเล่นน้ำได้ทันทีเลยละเหมียว ใครอยากรับบรรยากาศสบายๆ ริมทะเล ก็สามารถมานอนอาบแดดแบบชิวๆ ได้ แถมยังมีสระน้ำภายในห้องพัก ที่จะทำให้คุณเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลิน พร้อมมองวิวสวยๆ ของท้องทะเลอีกด้วย ส่วนราคาของรีสอร์ทแห่งนี้คิดเป็นแพ็คเกจ 7 คืน โดยเริ่มต้นที่ 70,576 บาทต่อคน…
-
เก็บความทรงจำในวัน “พักร้อน” ให้กลายมาเป็นเครื่องประดับสุดเจ๋ง
ช่วงเวลาพักร้อน เป็นช่วงเวลาที่เราผ่อนคลายจากสิ่งที่หนักหนาที่เราเจอมาตลอดทั้งปี และสถานที่ที่คนส่วนมากมักจะเลือกไปก็คือทะเลนั่นเอง หาดทรายสีทอง น้ำทะเลใสๆ ได้มองพระอาทิตย์ตกดิน ถือเป็นช่วงเวลาที่สงบสุดๆ ถึงแม้ยุ่นในหนังเรื่องฟรีแลนซ์จะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลา แต่สำหรับใครบางคนแล้ว การเสียเวลานี่แหละ คือการใช้เวลาไปกับการได้หยุดนิ่งนานๆ และอย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราไปพักร้อน ก็ต้องเก็บความทรงจำตรงนั้นมาด้วย แต่ศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Geschmeide unter Teck เลือกที่จะเก็บความทรงจำเหล่าในไว้ในรูปแบบของเครื่องประดับที่จะอยู่ติดตัวเราไปตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหน สิ่งที่เขาทำก็ได้แก่ จี้ สร้อย แหวน ต่างหู ซึ่งทั้งหมดล้วนเก็บบรรยากาศการพักร้อนได้ทะเลเป็นอย่างดีเลย เราไปชมผลงานของเขากันเลยดีกว่า ที่มา boredpanda
-
ชม 15 ภาพของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่ “งดงาม” ราวกับภาพวาดในงานศิลปะ!!!
ท้องทะเลยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายให้มนุษย์อย่างเราๆได้ไปค้นคว้าและพิสูจน์หาสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นที่เรายังไม่เคยได้เจอ และนำมาศึกษาต่อไปในอนาคต ก่อนหน้านี้เหมียวก็เคยได้นำเสนอเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่างกระต่ายทะเลและแกะทะเลสุดน่รักและงดงาม แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดูอะไรที่มากกว่านั้น ซึ่งแต่ละตัวนั้นมันเป็นสัตว์ที่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยตามท้องทะเลทั่วไป เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีตัวอะไรกันบ้าง!! #1 แกะทะเล (Costasiella Kuroshimae) #2 Blue Angel (Glaucus Atlanticus) #3 Janolus Fuscus #4 Hypselodoris Kanga #5 Phyllodesmium Poindimiei #6 Cadlinella Ornatissima #7 Sea Bunny (Acanthodoris Pilosa) #8 Cyerce Nigricans #9 Leaf Slug (Elysia Chlorotica) #10 Dirona Albolineata #11 Chromodoris Alius #12 Flabellina Iodinea #13 Janolus Barbarensis #14 Lettuce…
-
อัพเดทร้อนๆ ชมชุดภาพล่าสุด “พลอย เฌอมาลย์” เที่ยวทะเลอวดหุ่นสวยลง IG
หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงไปเที่ยวทะเลซะแล้ว สำหรับดาราสาว พลอย เฌอมาลย์ ที่ได้เดินทางไปเที่ยวเกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยหนีบเอาเพื่อนซี้อย่าง สาวโมเม นภัสสร และสาวพลอย ชวพร ไปทริปเกาะสมุยครั้งนี้ด้วย ล่าสุดเหมียวแอบเห็นเธอโพสต์รูปลงในอินสตาแกรม ทั้งสวย ทั้งแซ่ปสุดๆ มาดูภาพของเธอกันว่าระหว่างทะเลกับเธอ อะไรจะร้อนกว่ากัน สวยงามมากกกกก รูปภาพที่โพสต์โดย Chermarn Boonyasak (@chermarn) เมื่อ ส.ค. 15, 2015 เวลา 4:28am PDT กับแก็งค์เพื่อนสาว รูปภาพที่โพสต์โดย Chermarn Boonyasak (@chermarn) เมื่อ ส.ค. 15, 2015 เวลา 4:26am PDT รูปภาพที่โพสต์โดย Chermarn Boonyasak (@chermarn) เมื่อ ส.ค. 15, 2015 เวลา…
-
“นักจับปูอลาสก้า” อาชีพที่มาพร้อมกับความเสี่ยงในทะเลสุดอันตรายแต่รายได้มหาศาล!!
สุดยอดความอร่อยที่ใครๆ ต่างก็ยอมรับในมวลปูต้องยกให้กับ “ปูอลาสก้า” แล้วล่ะ เนื้อเยอะและแน่นสุดจะบรรยาย แต่มาพร้อมกับราคาที่แพงเอาเรื่องเลยล่ะ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นปูที่หายากและจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแสนไกล กว่าจะจับมาได้ซักตัว นอกจากจะหายากแล้ว เหล่าชาวประมงผู้ที่ออกไปตามหาปูอลาสก้านั้นจะต้องพบกับความเสี่ยงในชีวิตตลอดเวลาที่ออกจากฝั่ง ซึ่งในทะเล Bering Sea ได้ชื่อว่าเป็นทะเลที่โหดที่สุด เพราะจะต้องพบกับกระแสน้ำอันโหดร้ายและสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และช่วงเวลาที่ปูจะออกมานั้นมีเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น สำหรับปูที่ถูกจับตามองจากชาวประมงมากที่สุดก็คือ King Crab และ Opilio Crab เมื่อมีระยะเวลาอันจำกัด กัปตันเรือก็จะต้องตัดสินใจที่จะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจับปูแต่ละชนิดด้วย ชีวิตบนเรือจะต้องพบกับความเสี่ยงทุกเมื่อ จะนอนก็นอนไม่ได้ เพราะเรือสั่นตลอดเวลา ไหนจะต้องเจอกับพายุและคลื่นยักษ์อีก หนทางที่จะไปนั้นอาจจะคว้าน้ำเหลวอีกก็เป็นได้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีปูอยู่ตรงนั้นรึเปล่า ต่อให้เสี่ยงแค่ไหน สิ่งที่คอยดึงดูดชาวประมงผู้แน่วแน่กับการตามหาปูอลาสก้านั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ “รายได้” อันมหาศาล ถ้าหากว่าสามารถจับปูได้เยอะ พอกลับขึ้นฝั่งแล้วก็จะกลายเป็นเศรษฐีทันทีเลยล่ะ เพราะราคาของปูอลาสก้านั้นสูงมากๆ เมื่อไปถึงบริเวณที่คาดว่าจะมีปูอยู่เยอะๆ แล้ว พวกเขาก็จะทำการหย่อนกรงจับปูลงไป และจะรอให้ปูเข้ามาอยู่ในกรงเป็นเวลาประมาณ 5-12 วัน จากนั้นก็จะย้ายไปบริเวณอื่น บางทีอาจจะได้เยอะ และบางทีอาจจะได้น้อย คอยยกขึ้นมาตรวจเป็นระยะๆ ถ้าหากว่ายกขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรเลย ก็ถึงเวลาที่จะต้องย้ายจุดวางกรงแล้วล่ะ ปูทุกตัวจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกก่อน ตัวไหนที่ได้ขนาดก็จะถูกเก็บไว้ภายในคลังท้องเรือ ตัวไหนที่ไม่ได้ขนาดก็จะถูกส่งกลับไปสู่ท้องทะเล…
-
เผยภาพ “เกาะแห่งใหม่” ที่ผุดขึ้นมาบนโลก ร่วมออกผจญภัยไปกับนักสำรวจกลุ่มแรกกันเถอะ!!
โลกของเราช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน ยังคงมีสิ่งใหม่ๆ ที่รอให้เข้าไปสำรวจอีกเพียบเลยล่ะ อย่างเช่นเกาะแห่งใหม่ที่เพิ่งผุดขึ้นมาเหนือพื้นผิวน้ำ ห่างจากเมืองนูกูอะโลฟา ของประเทศตองกาเพียงแค่ 45 กิโลเมตรเท่านั้นเอง!! สำหรับเกาะแห่งใหม่นี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hunga Tonga ในช่วงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่าเกาะแห่งนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากภูเขาไฟดังกล่าวยังไม่สงบและพร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ ด้วยความสงสัยของนักสำรวจ จึงออกเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ สัมผัสกับพื้นผิวของเกาะและพบกับถ้ำเป็นจำนวน 10 ถ้ำ ประชาชนในพื้นที่ก็หวังว่าจะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในไม่ช้า กลุ่มนักสำรวจกลุ่มแรก เดินทางมายังเกาะแห่งนี้ในช่วงเดือนมกราคมของปีค.ศ. 2015 จนถึงปัจจุบัน พื้นที่เกาะที่มีความยาวกว่า 500 เมตรยังรอให้สำรวจอีกมากเลยล่ะ ภาพบางส่วนบนเกาะจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้เลยจ้า ที่มา : mashable
-
นักประดาน้ำเจอลูกบอลขนาดใหญ่ยักษ์ใต้ท้องทะเล แท้จริงแล้วคือไข่หมึกนับพัน!!!
นักประดาน้ำคนหนึ่ง ได้เดินทางไปดำน้ำที่ Fethiye ในทะเลเมดิเตอเรเนียน ใกล้ๆ กับชายฝั่งของประเทศตุรกี และที่นั่น เขาก็ได้เห็นสิ่งที่หน้าทึ่งสิ่งหนึ่งที่ตอนแรกเขาก็หาคำอธิบายไม่ได้ แต่แน่นอน ว่าความสงสัยต้องนำพาเขาไปพบกับคำตอบ!!! แรกๆ มันดูเหมือนบอลลูนยักษ์แห่งท้องทะเล เจ๋งสุดๆ ไปเลย แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ เขาก็สังเกตได้ถึงบางอย่าง นี่มันไข่นี่นา เป็นพันๆ ฟองเลยล่ะ มันเป็นไข่ของปลาหมึก เจ๋งไปเลยที่ไปดำน้ำแล้วได้เจออะไรแบบนี้เข้า… ลองมาชมคลิปวิดีโอของเขากันได้ที่นี่ วิเศษสุดๆ ไปเลยล่ะ ^^ (คลิป) รู้สึกโชคดีเหมือนกันนะเนี่ย ที่เขาได้ไปเจอและถ่ายทำเหตุการณ์หายากแบบนี้มาให้เราได้ชมกัน และยิ่งชื่นใจไปใหญ่ที่พวกเขาชื่นชมในธรรมชาติ และไม่ได้ทำร้ายมันแม้แต่น้อย สุดยอดไปเลย 🙂 ที่มา: Buzzfeed
-
ศิลปินสร้างผลงาน ‘ประติมากรรมบนผืนทราย’ รูปเรขาคณิตได้อย่างงดงาม และประณีตที่สุด
การก่อกองทราย เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่หลายคนคงเคยทำมาแล้ว เวลาที่ได้ไปเที่ยวทะเล และเชื่อว่ากว่าที่เราจะสร้างมันขึ้นมาเป็นรูปต่างๆ ที่เราต้องการนั้น ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับศิลปินนามว่า Calvin Seibert คนนี้ เขากลับสร้างประติมากรรมบนผืนทราย ให้ออกมาเป็นรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างสวยงาม และน่าทึ่งที่สุดอย่างที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันนี้… ดูผลงานของเขาสิ มันช่างเป็นอะไรที่ประณีต งดงาม และละเอียดลออที่สุดไปเลย แน่นอนว่ากว่าจะออกมาเป็นผลงานประติมากรรมบนผืนทรายสุดอลังการแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่ เพราะCalvin ต้องใช้เวลาในการสร้างประมาณ 30 วันเลยทีเดียว ถ้าพังขึ้นมาคงเสียดายแย่ ช่างเป็นการก่อทรายที่สวยงาม และประณีตจริงๆ หากใครที่ชื่นชอบผลงานของ Calvin Seibert ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ flickr รับรองว่าคุณจะได้เห็นผลงานการก่อกองทรายสุดสร้างสรรค์ของเขาอีกเพียบเลยล่ะ ที่มา : thisiscolossal
-
น่ารักอีกแล้ว!! พบกับสิ่งมีชีวิต “แกะทะเล” ตัวจิ๋วเหมือนโปเกม่อน
ก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นกระต่ายทะเลกันไปบ้างแล้ว วันนี้เหมียวจะพามาดูสัตว์อีกชนิด นั่นก็คือแกะทะเลนั่นเอง ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่แกะหรอก แค่รูปร่างมันเหมือนเฉยๆ ชื่อจริงๆของมันคือ Costasiella kuroshimae (คอสตาเซลล่า คุโรชิเมะ) หรือเรียกสั้นๆว่าแกะใบไม้ รูปร่างของมันก็เหมือนกับแกะที่ขนคล้ายใบไม้สีเขียว แต่แท้ที่จริงมันคือปลิงชนิดหนึ่ง ซึ่งมีขนาดตัวที่เล็กมากๆเพียง 5 มิลลิเมตรเท่านั้น เจ้าแกะทะเลสามารถพบได้ที่ทะเลแถบญี่ปุ่นอินโนนีเซีย และฟิลิปปินส์ (ถึงว่าชื่อญี่ปุ่นเชียว) อีกทั้งมันยังมีความสามารถพิเศษคือการสามารถสังเคราะห์แสงได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทากทะเลชนิดอื่นทำไม่ได้ วิธีการของมันก็คือการกินตะไครน้ำหรือสาหร่ายเข้าไปแล้วมันจะสังเคราะห์เอาครอโรพลาสเข้าไปสู่กระบวนการเคลปโตพลาสตี้ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้มันสร้างพลังงานออกมาใช้เองได้ (ความรู้ม.ปลายคืนครูไปหมดแล้วจ้า) อ่ะ เราไปดูหน้าตาของพวกมันกันเลย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ seaslugforum.net ที่มา boredpanda
-
ครอบครัวสุขสันต์!! พ่อแม่ไม่ส่งลูกเรียนหนังสือ แต่พากันออกไปท่องโลกกว้างแทน
หากจะให้คิดถึงเรื่องของการก่อร่างสร้างตัว เพื่อให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ต้องเริ่มตั้งแต่การเก็บหอมรอมริบ มีบ้าน มีรถยนต์ขับ และเตรียมวางแผนอนาคตให้กับลูกๆ ซึ่งหลายครอบครัวก็มักจะคิดแบบนี้แหละ แต่ว่าสำหรับครอบครัวนี้กลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป โดยที่คุณ Genevieve Stolz และสามีของเธอมีความคิดที่ดีกว่านั้น พวกเขาทั้งคู่มีความใฝ่ฝันที่อยากจะออกท่องโลกกว้างผ่านทะเลแคริบเบียน และตัดสินใจทำตามฝันทันที!! การตัดสินใจออกเดินทางท่องโลกในทะเลอันแสนกว้างใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มีลูกสาวตัวน้อยคนแรก ทำการขายทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ซื้อเรือมาหนึ่งลำ และพาลูกๆ ไปผจญภัยด้วยกันเดี๋ยวนั้นเลยย ครอบครัวสุขสันต์นี้ ใช้ชีวิตอยู่บนเรือมายาวนานกว่า 5 ปีแล้วล่ะ และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้สวย ทุกคนแฮปปี้มากๆ ครอบครัวนี้ได้ใช้เวลาร่วมกันตลอดเวลา ร่วมเล่นกิจกรรมทางน้ำกันอย่างสนุกสนานในทุกๆ วัน ลูกสาวทั้งสองคนก็ไม่หวั่น มีอะไรเล่นก็เล่นหมด!! ไม่ว่าสังคมจะมองครอบครัวนี้เป็นอย่างไร แต่พ่อแม่ก็คิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ ของพวกเขาแล้วล่ะ ที่ทำมีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ …
-
อยากกิน!! นักวิจัยมะกันเผย จดสิทธิบัตรสาหร่ายที่มีรสชาติคล้าย ‘เบคอน’
นี่อาจเป็นข่าวที่ทำให้เหล่านักล่าอาหารถึงกับอยากออกไปหามาลิ้มลองเลยก็ได้ เพราะล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Daily Mail ได้ออกมาเปิดเผยว่า นาย Chris Langdon นักวิจัยและค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ใช้เวลากว่า 15 ปี ในการพัฒนาและจดสิทธิบัตรสาหร่ายแพ็ค ที่มีโปรตีน แคลอรี่ต่ำ และเมื่อนำมันไปทอดแล้ว จะมีรสชาติที่คล้ายกับเบคอนเลยทีเดียว!! ความจริงแล้วสาหร่ายชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นพืชที่เติบโตได้เร็ว และใช้เป็นอาหารให้แก่หอยเป๋าฮื้อ แต่เมื่อเพื่อนนักวิจัยอย่างนาย Chuck Toombs ได้เข้ามาเห็นงานวิจัยดังกล่าว เขาจึงหันเหความสนใจจากสาหร่ายที่ไว้ใช้เลี้ยงเป๋าฮื้อ ให้กลายเป็นอาหารสำหรับมวลมนุษยชาติแทน เพราะเมื่อนำมันไปทอดกรอบ มันจะให้รสชาติที่คล้ายกับเบคอน ที่สามารถกินร่วมกับแคร็กเกอร์หรือสลัดได้ด้วย จากงานวิจัยชิ้นนี้ จะสามารถช่วยให้ผู้ที่กินมังสวิรัติ กินเจ หรือไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วยเหตุผลทางศาสนา สามารถลิ้มรสของเบคอนได้อย่างสนุกสนานทีเดียว จัดมาให้เหมียวลังนึง!! ที่มา mashable
-
‘ดีเจภูมิ’ โพสต์ IG ให้อาหารปลาในทะเล เจอแฟนคลับตอบกลับ “เขาห้ามให้อาหารปลาไม่ใช่เหรอ”
กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงแทบจะรายเดือนเลยทีเดียว สำหรับดีเจภูมิคนดัง ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวคราวว่าเคยพูดดูถูกคนจน ซึ่งภายหลังเจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงแล้วว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าพ่อหนุ่มดีเจเกิดอุบัติเหตุขณะเทสรถบริเวณสนามบินเครือสหพัฒน์ด้วย ล่าสุดดูเหมือนว่าจะกลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อดีเจภูมิได้โพสต์คลิปวิดีโอลงใน Instagram ของตัวเอง ในคลิปวิดีโอเป็นภาพเหตุการณ์ที่เจ้าตัวได้ไปดำน้ำให้อาหารปลาในทะเลแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่โพสต์คลิปได้ไม่นาน ก็มีแฟนคลับที่ใช้ชื่อว่า party_up เข้ามาติงเรื่องการให้อาหารปลาโดยบอกว่า “เขาไม่ให้เราให้อาหารแก่ปลาพวกนี้ไม่ใช่หรอครับ เพราะจะทำให้ปลาก้าวร้าวขึ้น ไม่ดราม่านะครับ เพียงแค่อยากให้พี่ได้ให้ความรู้และความเข้าใจแก่คนที่ติดตามอย่างถูกต้อง #ขอบคุณครับ” จากนั้นดีเจภูมิจึงเข้ามาตอบความคิดเห็นของแฟนคลับว่า “พี่ว่า ให้มันแดกๆไปเถอะคับ… ก้าวร้าวมาก เดี๋ยวพี่จับแม่งแดรกเองครับ” ทำเอาแฟนคลับถึงกับเงิบในคำตอบทีเดียว และเมื่อเห็นถึงท่าทีของดีเจคนดัง เหล่าผู้ติดตามใน IG ก็ได้เข้ามารุมต่อว่านาย party_up อย่างมากมาย ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า เรียนจบวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเกียรตินิยมมาจากอังกฤษ การให้อาหารปลาเพียงแค่นี้ไม่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง Because all of me… Loves all of you A video posted by djpoom (@djpoom) on Jul 13, 2015 at 12:24am…
-
ความงามจากธรรมาติ “น้ำตกหมอก” จากหน้าผาในประเทศไอซ์แลนด์
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้ บางทีก็มาดี บางทีก็มาร้าย ขึ้นอยู่กับว่าเราพึ่งธรรมชาติไปมากแค่ไหน และเราตอบแทนธรรมชาติไปอย่างไรบ้าง วันนี้เหมียวก็ได้มีความงาม ซึ่งถือเป็นของขวัญจากธรรมชาติ นั่นก็คือ “น้ำตกหมอก” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หมอกได้ไหลลงไปราวกันน้ำตกนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าผมใน Látrabjarg ประเทศไอซแลนด์ เราไปดูภาพความงามที่หาดูได้ยากนี้กันเลย ความจริงแล้วหมอกมันก็มีความอันตรายอยู่เหมือนกันนะ อย่างเช่นเวลาเราขับรถท่ามกลางหมอกนั้นมันก็จะลดการมองเห็น ซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุได้ ยังไงก็ระวังกันไว้ด้วยแล้วกัน ใกล้หน้าหนาวไปเข้าทุกทีแล้ว ที่มา DailyPicksandFlicks
-
เยี่ยมชม “เกาะค๊อกคอม” น้ำสวยทะใส เหมือนดั่งหัวใจของมรกต ประทับใจไม่ลืมเลือน!!
ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เอง อยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งได้ทำการเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในนาม “เกาะค๊อกคอม” (Cock-Comb Island) มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายกับหัวใจ จนได้รับชื่อไทยว่า “เกาะหัวใจมรกต” ทะเลแถบนี้เป็นพื้นที่ที่มีปะการังอุดมสมบรูณ์มากๆ เหมาะแก่การดำน้ำดูปะการังเป็นอย่างยิ่ง น้ำทะเลก็ใสสะอาด มองเห็นพื้นทะเลได้อย่างชัดเจน รับรองความสวยงามที่จะทำให้คุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน!! สำหรับการเดินทางไปยังเกาะค๊อกคอมนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเนื่องจากบริเวณที่ตั้งของเกาะค๊อกคอมนั้นอยู่ติดกับทะเลระนอง สามารถซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมความสวยงามกันได้ไม่ยากนัก เมื่อไปถึงแล้วก็จะได้ลอดใต้ปากถ้ำเข้าไปสู่หัวใจมรกต และสัมผัสกับโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด เหมียวว่าถ้าเหมียวมีเวลาว่างซักหนึ่งสัปดาห์ก็ว่าจะไปเยี่ยมชมทะเลสวยๆ แบบนี้บ้าง คงจะน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยล่ะ ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าอยู่ใกล้ๆ ประเทศไทยเรานี่เอง ที่มา : ระนอง-Ranong
-
พิพิธภัณฑ์ในวอชิงตันเปิดให้คนได้แหวกว่ายบนบอลพลาสติกกว่า 1 ล้านลูก!!!
พิพิธภัณฑ์ The National Building Museum ในวอชิงตันตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นมหาสมุทรแห่งลูกบอลพลาสติกไปเสียแล้ว เนื่องจากมีลูกบอลกว่า 1 ล้านลูกอยู่ตรงกลางพิพิธภัณฑ์เปิดให้คนได้แหวกว่ายกันให้สนุก งานชิ้นนี้ออกแบบโดยศิลปินที่ชื่อว่า Snarkitecture เขาได้ทำการเทลูกบอลนี้ลงไป โดยที่ลูกบอลเหล่านี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกด้วย ทางพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้จัดงานในทำนองนี้ทุกๆปี และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาสามารถเรียกผู้เข้าร่วมได้มากมาย โดยทะเลลูกบอลนี้จะเปิดให้เล่นถึงวันที่ 7 กันยายนเลย ถ้าใครผ่านไปก็ลองไปเล่นดูได้นะ อิอิ เราไปชมภาพบรรยากาศกันเลยดีกว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ nbm.org | snarkitecture.com | Facebook | Instagram | Twitter ที่มา boredpanda
-
พบกับบ้านใต้สระว่ายน้ำริมหน้าผา ที่ผสมผสานความหรูหรา และความหวาดเสียวเข้าไว้ด้วยกัน
นี่คือ ‘Casa Brutale’ บ้านใต้สระว่ายน้ำสุดอลังที่ถูกออกแบบให้ฝังอยู่ริมหน้าผา แถมยังเป็นการผสมผสานทั้งความหรูหรา ความสวยงาม และความหวาดเสียวเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว งานนี้ต้องขอชื่นชมในความสามารถของ Architects Laertis Antonios Ando Vassiliou และ Pantelis Kampouropoulos 2 สถาปนิกชาวกรีก ผู้ที่ได้ออกแบบบ้านคอนกรีตหลังนี้ขึ้นมายังไงล่ะ เรียกได้ว่ามันเป็นการออกแบบบ้านในสไตล์ที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ เพราะโดยปกติแล้วสระว่ายน้ำจะอยู่ในบริเวณบ้านเท่านั้น แต่สำหรับ Casa Brutale แล้ว สระว่ายน้ำจะอยู่บนชั้นดาดฟ้าของบ้านแบบนี้… สำหรับภายในบ้านจะอยู่ใต้ดินหรือใต้สระว่ายน้ำ ซึ่งมันจะทำให้ผู้ที่ได้อาศัยได้รับความเย็นจากสระว่ายน้ำด้านบนอีกด้วยนะ สุดยอดไปเลย!! น่าเสียดายที่ Casa Brutale เป็นเพียงแค่แบบบ้านที่ถูกจำลองขึ้นมาเท่านั้น แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งมีคนสร้างมันขึ้นมาจริงๆ เหมียวว่ามันจะต้องเจ๋งโพดๆ แน่นอน เพราะแค่เห็นแบบจำลองก็น่าอยู่สุดๆ แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าของจริงจะน่าอยู่ขนาดไหน ที่มา : boredpanda
-
สวยงาม!! ดำน้ำดูปะการังในมุมมองแบบ “เต่า” จะสวยงามอัศจรรย์แค่ไหนลองมาชมกัน
ในปัจจุบันการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องโกโปรถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากเลยนะ และไม่ว่าจะนำมันไปถ่ายกิจกรรมอะไรก็ตาม มักจะได้ภาพเจ๋งๆและมุมมองแปลกๆมาให้เราได้ชมกันตลอด แต่ไม่ว่าจะแปลกยังไงก็ตาม เหมียวว่ามุมมองที่ทุกคนกำลังจะได้ชมต่อไปนี้ต้องเป็นอะไรที่ทุกๆคนไม่เคยเห็นแน่นอน เพราะเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา แชแนลยูทูบกองทุนสัตว์ป่าโลกในออสเตรเลีย WWF-Australia ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากท้องทะเล ที่ถ่ายได้โดยการนำกล้องไปติดไว้กับหลังของเต่า และปล่อยให้มันว่ายน้ำไปตามทางของมัน เกิดเป็นวิดีโอสุดอัศจรรย์ในมุมมองแบบเต่า บริเวณที่เจ้าเต่าว่ายน้ำอยู่นั้น เป็นบริเวณที่ชื่อว่าเกรตแบร์ริเออร์รีฟ(Great Barrier Reef) เป็นแถบปะการังที่ยาวที่สุดในโลกในประเทศออสเตรเลีย ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ราวๆ 6,000 สายพันธ์ุ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับของมลพิษที่มีผลต่อพวกเต่า เพราะแนวปะการังนี้มีแนวโน้มว่ากำลังจะถูกทำลายลงในอนาคตอันใกล้นี้เอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยนะจ๊ะ ที่มา telegraph , WWF-Australia
-
Adidas รักษ์โลก ผลิตรองเท้ารุ่นพิเศษ วัสดุทำจากขยะและตาข่ายจับปลาในทะเล
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Adidas ผู้ผลิตรองเท้ากีฬารายใหญ่ของโลก ได้จับมือกับองค์กรสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ชื่อว่า Parley For The Oceans เพื่อผลิตรองเท้ารุ่นใหม่ ที่ใช้วัสดุเกือบทั้งหมดเป็นเศษขยะพลาสติกและตาข่ายหาปลาที่ถูกทิ้งไว้ในทะเล ตาข่ายหาปลาถือเป็นแหล่งของมลพิษทางทะเล แต่อย่างน้อยส่วนหนึ่งตาข่ายเหล่านั้นสามารถนำมาสร้างเส้นใยรีไซเคิลได้ มากกว่าแค่เป็นขยะในท้องทะเล โดยส่วนบนของรองเท้าจะทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลและตาข่ายไฟเบอร์สีเขียว ในขณะที่พื้นรองเท้าใช้วัสดุที่ทนทานอื่นๆ ในอดีตที่ผ่านมา Adidas เคยถูกองค์กร Greenpeace กล่าวหาเรื่องการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นพวกเขาจึงหวังว่านี่อาจเป็นอีกหนึ่งก้าวเล็กๆ สำหรับอีกหลายๆก้าวที่นำไปสู่ความถูกต้อง ตามรายงานไม่มีการยืนยันว่า Adidas จะผลิตรองเท้ารุ่นนี้ออกมาวางจำหน่ายจริงหรือไม่ แต่พวกเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำเอาเส้นใยรีไซเคิลมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ในช่วงต้นปี 2016 อย่างแน่นอน ที่มา boredpanda