Tag: ทันตแพทย์
-
สภาพฟันอันผุพัง ผลจากการดื่มน้ำอัดลมปริมาณ 6 ลิตรทุกๆ วัน ขนาดหมอยังช็อกเลยแกร๊!!
ยามแดดร้อนๆ หรือหลังทำกิจกรรมอะไรมาเหนื่อยๆ มันก็ต้องการอะไรชื่นใจๆ มากระแทกปากเสียหน่อย แน่นอนว่า น้ำอัดลมเย็นๆ ซ่าๆ คงอยู่ในความคิดแรกของใครหลายคน ด้วยความหวาน เย็น และซ่าของมัน ทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไปชื่นใจ และรู้สึกเหมือนได้รับการเติมพลัง แต่เจ้าเครื่องดื่มที่เรียกว่า “น้ำอัดลม” นี่มันดันมีผลเสียต่อร่างกายที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว นอกจากการดื่มมากๆ จะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไปแล้ว มันยังทำลายฟันของคุณได้ด้วยนะ อย่างเช่นชายหนุ่มผู้นี้ผู้ที่เสพย์ติดการดื่มน้ำอัดลมเป็นอย่างมาก เขามีชื่อว่า Michael Sheridan อายุ 32 ปี มาจากเกาะไอร์แลนด์ เขาดื่มน้ำอัดลมทุกวันจนกระทั่งผลร้ายได้เกิดขึ้นกับฟันของเขา นี่คือผลลัพธ์จากการดื่มน้ำอัดลม 6 ลิตรต่อวัน เขาทานอาหารวันละมื้อเท่านั้น เพราะเขาดื่มน้ำอัดลมจนไม่อยากทานอะไรแล้ว Michael อาศัยการทานอาหารอ่อนๆ เพราะเพียงแค่เขากัดลงบนขนมปังแซนวิช เขาก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เขากล่าวว่า “ผมติดน้ำอัดลมมากๆ ผมดื่ม 6 ลิตรต่อวัน หรืออาจจะมากกว่านั้น ผมมีน้ำอัดลมติดตัวตลอดเวลา” “ผมรู้ดีว่าหากผมไปหาทันตแพทย์ เขาต้องห้ามไม่ให้ผมดื่มมันต่อแน่ๆ ซึ่งผมไม่อยากทำแบบนั้น” “แน่นอนผมรู้ว่าฟันผมต้องเสียแน่ๆ ซึ่งผมเองก็คงไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาด้วย” ในที่สุดพ่อลูกสามอย่าง Michael ก็ยอมรักษาฟันของเขาจนได้…
-
หมอฟันแวมไพร์ Lee Soo Jin ฉลองอายุครบครึ่งร้อย โอ้โห… หน้าเด็กกว่าแม่ตรูอี๊กกกก
คนเราถึงแม้จะมีรูปร่างเซ็กซี่หรือหน้าตาดีสักเพียงไหน วันนึงเมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น มันก็ย่อมเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา ริ้วรอยที่ไม่เคยมีมันก็มี อะไรที่เคยตึงมันก็หย่อนลง… แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับคนนี้! Lee Soo Jin หมอฟันสาวชาวเกาหลีผู้ที่มีหน้าตาจิ้มลิ้ม สวยใส ตามแบบฉบับสาวเกาหลีผู้นี้ รู้หรือไม่ว่า วันนี้เธอมีอายุครบ 50 ปีแล้วววว! แต่โอ้โห…ดูแล้วทำไมหน้าเด๊กเด็ก อย่างกับสาววัยแรกรุ่นก็ไม่ปาน เห็นหน้าตาอย่างกับเด็กมหาลัยแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าสาวใหญ่ Lee Soo Jin ผู้นี้เป็นหมอฟันมาแล้ว 16 ปีด้วยกัน เธอเกิดตั้งแต่ปี 1969 โน่นแน่ะ แถมตอนนี้ เธอมีลูกสาวแล้วด้วยนะ เธอมีชื่อเสียงและโด่งดังมาจากการที่ไปออกรายการทีวีที่ชื่อว่า “Same Bed, Different Dreams” พร้อมกับลูกสาวของเธอ ซึ่งลูกสาวของเธอมักจะบ่นว่า Soo Jin นั้นชอบที่จะโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม ไม่ว่าจะเป็น รูปเซลฟี่ รูปการทำงาน หรือรูปขณะเล่นฟิตเนสก็ตามที . . . เรื่องที่เธอติดการโพสท์อิสตาแกรมนั้นลูกสาวของเธอเคยงอนเธอจนไม่คุยกับเธอเป็นเวลานานเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ตอนนี้ทั้งคู่แม่ลูกกลับมาคืนดีกันเรียบร้อยแล้วจ้า โอ้โห นี่แม่ลูกกันหรอเนี่ยยย . และแม่ลูกคู่นี้ก็ได้ฉลองวันเกิดอายุครบ…
-
แม่ฟ้องศาลให้ลูกชายจ่ายเงินกว่า 32 ล้านบาท หลังลำบากเลี้ยงดูส่งเสียจนเป็นทันตแพทย์
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2018 สำนักข่าว The New York Times ได้รายงานข่าวของคุณแม่ชาวไต้หวันแซ่ Luo ที่ฟ้องศาลในกรุงไทเป เพื่อต้องการให้ลูกของเธอจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงินกว่า 54 ล้านบาท เรื่องราวของแม่ลูกครอบครัวนี้กลายเป็นที่สนใจ และกลายเป็นการถกเถียงกันในเรื่องของความกตัญญูที่บุตรควรมีให้กับมารดา อีกทั้งกฎหมายในไต้หวันก็ซัพพอร์ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบอกเอาไว้ว่าคนที่โตเป็นผู้ใหญ่ห้ามละทิ้งพ่อแม่ของพวกเขา ศาลสูงสุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ในกรุงไทเป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คนเป็นแม่ได้เล่าว่า เธอโตมาในครอบครัวของแพทย์ที่มีฐานะร่ำรวย ก่อนที่จะมาแต่งงานและละทิ้งชีวิตอันสุขสบายของตัวเองไป ฝั่งครอบครัวของเธอได้ออกเงินเปิดคลินิกทันตกรรมให้กับเธอและ Chu ผู้เป็นสามี จนกระทั่งทั้งสองหย่าร้างกันไป ตั้งแต่นั้นมาเธอเลยต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูกชายสองคนด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองเพียงคนเดียว เธอสามารถส่งเสียลูกชายทั้งสองเข้าเรียนในโรงเรียนทันตแพทย์ได้สำเร็จ แต่เธอกังวลว่าลูกๆ จะไม่เลี้ยงดูเธอในยามแก่ชรา เธอจึงให้ลูกชายเซ็นสัญญาเอาไว้ในตอนที่พวกเขาอายุได้ 20 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขาจะดูแลเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นหมอฟันในปี 2003 ตามเนื้อหาของสัญญาดังกล่าวบอกเอาไว้ว่า ลูกชายทั้งสองคนจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับเธอ เท่ากับ 60 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่พวกเขาหามาได้ รวมเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือมากกว่า 54 ล้านบาท …
-
คลิปจากมุมมองหมอฟัน ขณะกำลัง “ผ่าฟันคุด” อยากรู้ไหมว่าหมอทำยังไงบ้าง (เสียวมาก!!)
บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ถ้าอยู่มาวันหนึ่งเราเกิดปวดฟันขึ้นมากะทันหันแบบปวดจนแทบทนไม่ได้ เราก็ต้องไปหาหมอฟัน และหากหมอฟันวินิจฉัยโรคออกมาว่า เราจำเป็นต้องผ่าฟันคุด หลายคนก็คงรู้สึกกลัวและไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วการผ่านฟันคุดนั้นเป็นอย่างไร ในวันนี้เราจึงนำวิดีโอการผ่าฟันคุดอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ มาให้ทุกคนได้เตรียมตัวเตรียมใจถึงสิ่งที่กำลังจะต้องเผชิญกัน ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นการผ่าฟันคุดจะมีความยากง่ายขึ้นอยู่กับประเภทของฟันเรา ว่ามันมีแนวตั้งหรือแนวนอนและมีความลึกอยู่ที่เท่าไหร่ โดยแต่ละคนก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ขั้นตอนแรกหาฟันเจ้าปัญหาให้พบก่อน โดยในขั้นตอนแรกทันตแพทย์จะให้เราเอกซเรย์ฟันก่อน เพื่อหาว่าเจ้าฟันคุดที่อยุ๋ในปากของแต่ละคน มันไปแอบอยู่ตรงไหนกันนะ และเมื่อได้ผลการเอกซเรย์แล้ว หมอฟันก็จะตรวจสอบความยากง่ายในการผ่าเอาฟันนี้ออกมา แล้วก็มาถึงลำดับต่อไปนั่นก็คือเริ่มการผ่าตัดกันเลย เมื่อวันผ่าตัดมาถึงทางทีมแพทย์จะฉีดยาชาให้แก่เรา เพื่อให้เรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลงระหว่างผ่าตัด จากนั้นหมอฟันก็จะเริ่มเอามีดกรีดเปิดเหงือกของเรา เพื่อจะนำฟันซี่ดังกล่าวที่เป็นอาการปวดของใครหลายคนออกมาให้ได้ เสร็จแล้วก็เหลือเป็นหลุมเบ้อเร่อเลย ในระหว่างนี้การกรีดเหงือกจะทำให้เราได้กลิ่นเลือดชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปว่าเลือดจะไหลลงคอและอาจทำให้สำลัก เพราะว่าพวกเขามีท่อสำหรับดูดเลือดเตรียมพร้อมไว้แล้ว และเมื่อกรีดลงไปลึกพอที่จะสามารถดึงฟันออกมาได้แล้ว หมอฟันก็จะใช้คีมหนีบฟันคุดออกมา หรือว่าในบางกรณีถ้าหากหยิบออกมาทั้งซี่ไม่ได้ ก็จะต้องทำให้ฟันซี่นั้นแตกเพื่อจะหยิบออกมาได้ง่ายขึ้นและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลง จากนั้นเมืื่อนำฟันออกมาแล้ว เหงือกของเราก็จะมีบาดแผลจากการกรีด ซึ่งทางทีมแพทย์ก็จะใช้การเย็บปิดปากแผลของเราเพื่อเป็นการห้ามเลือดที่ไหลออกมา และนั่นก็ได้เสร็จสิ้้นการผ่าฟันคุดแล้วนั่นเอง การผ่าฟันคุดอย่างละเอียดโดยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ คำแนะนำและข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัดเพื่อถอนฟันคุด ประคบด้วยถุงเย็นประมาณ 30 นาทีทันทีหลังการผ่าตัด 2. ควรกัดผ้าก๊อซแน่นๆประมาณ 30 นาที เพื่อห้ามเลือด และควรเปลี่ยนผ้าชิ้นใหม่หลังจากนั้นจนกว่าเลือดจะหยุดไหล 3.…
-
20 ความรู้สึกที่คน “จัดฟัน” ต้องเคยเจอ กว่าจะได้ฟันสวยแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!!
การจัดฟันนั้นนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากสำหรับบางคนแล้ว หลายๆ คนที่อยากจะมีฟันที่เรียงตัวสวยและรอยยิ้มที่กระชากใจก็มักจะเลือกใช้วิธีนี้เพื่อเสริมบุคลิกเช่นกัน แต่สำหรับใครที่เคยดัดฟันมาแล้วคงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า กว่าที่จะได้ฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเหมือนกับเม็ดข้าวโพดเจียไต๋นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย และคุณเองก็อาจจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้… 1. เริ่มจากขั้นตอนแรก คุณจะต้องเจอเจ้าแม่พิมพ์ฟัน กับรสชาติและกลิ่นที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี 2. ตอนที่เริ่มพิมพ์ฟันล่ะก็ อือหือนี่มันคือ 45 วินาทีที่สุดแสนจะทรมานชัดๆ 3. และปัญหาต่อมาของคุณก็คือการเลือกสีของที่ดึงฟันนี่แหละ อืม… กว่าจะหาสีที่มันเข้ากับเราไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะ 4. ส่วนขั้นตอนในการเริ่มดัดครั้งแรกนั้นก็ช่างยาวนานซะเหลือเกิ๊น!! ไหนจะเอ็กซ์เรย์ฟันเอย ขูดหินปูนเอย และหนักสุดก็คงจะเป็นการถอนฟันกรามนี่แหละ!! 5. ตอนอยู่ในช่วงใส่เหล็กดัดฟัน การจะกัดอะไรให้ขาดในครั้งเดียวนั้นช่างเป็นเรื่องยากซะจริงจริ๊ง 6. คุณจะเข้าใจความเจ็บปวดที่แท้จริงก็ตอนใส่ที่ดึงฟันนี่แหละ 7. หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ รอยยิ้มของคุณก็อาจจะมีลักษณะแบบนี้ 8. และนี่คือสิ่งที่คุณเห็นกับความรู้สึกจริงๆ ของคุณ!! 9. แต่ตอนที่ได้ตกแต่งเหล็กดัดฟันของคุณ มันช่างเป็นอะไรที่สนุกจริงๆ เลยว่าไหม?? 10. พนันได้เลยว่าในหนึ่งวันคุณจะต้องถูกเหล็กดัดฟันเกี่ยวอย่างน้อย 2 ครั้งแน่ๆ …
-
คุณป้าที่ไม่ยอมพบหมอฟันมานาน 15 ปี ได้พบชีวิตใหม่หลังจากยอมเข้ารับการรักษา
การไปพบทันตแพทย์นั้นอาจจะเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับใครหลายๆ คน เพราะเสียงวี๊ด วี๊ด ของเครื่องกรอฟันบวกกับกลิ่นในห้องหมอฟันนั้นมันช่างน่าขนลุกซะเหลือเกิน และคุณแม่ชาวออสเตรเลียท่านนี้ก็อาจจะมีความรู้สึกไม่ต่างจากพวกเรามากเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอสลัดความกลัวและยอมไปพบหมอฟันชีวิตของเธอกลับเปลี่ยนไปทันที!! คุณ Terese Loverso สาววัย 51 ปี ผู้เกลียดการพบทันตแพทย์ โดยตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาเธอไม่ยอมไปหาหมอฟันเลยซักครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องทนกับสภาพของฟันที่ทำให้เธอไม่อยากฉีกยิ้มเลยก็ตาม หญิงสาวต้องทนกับสภาพฟันที่แย่และลมหายใจที่มีกลิ่น หลังจากที่เธอป่วยเป็นโรคเหงือกอักเสบ แต่หลังจากที่เธอตัดสินใจยอมทุ่มเงินกว่า 46,000 ดอลล่าหรือประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท เธอก็สามารกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง เธอบอกว่าหลังจากผ่านการรักษาที่นานถึง 5 ชั่วโมง ชีวิตและงานของเธอก็เปลี่ยนไปเลย “ฉันกลัวที่จะไปหาหมอฟันตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว แต่สภาพฟันของฉันและลมหายใจที่มีกลิ่นเนื่องจากโรคเหงือกทำให้ฉันตัดสินใจไปพบทันตแพทย์” หญิงสาวกล่าว “ฉันใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไปพบหมอฟัน ฉันเดินเข้าออกคลินิกถึง 3 รอบกว่าจะตัดสินใจที่จะเข้ารับการรักษาได้ ” หญิงสาวกล่าว ในอดีตคุณ Terese เคยพยายามไปพบหมอฟันหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่อาการ Dental Phobia หรือโรคกลัวหมอฟันของเธอทำให้เธอไม่อยากเข้ารับการรักษา ในปี 2016 เธอตัดสินใจทุบกระปุกเพื่อนำเงินมารักษาโรคเหงือก และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็เป็นการรักษาครั้งสุดท้าย ตอนนี้คุณแม่วัย 51 ปีกำลังมีความสุขกับฟันชุดใหม่ของเธอ…
-
ทันตแพทย์หัวใส รับเลี้ยงน้องหมามาช่วยทำฟัน ลดอาการคนไข้กลัวหมอได้เป็นอย่างไม่น่าเชื่อ!!!
สำหรับใครที่ไม่กลัวหมอฟันล่ะก็ ไม่เข้าใจเรื่องนี้กันหรอก ฮือออ T^T เพราะการที่คนกลัวหมอฟันแล้วต้องไปหาหมดฟันน่ะ มันเป้นอะไรที่ฝันร้ายสุดๆ ไปเลยทีเดียว แต่คงไม่ใช่กับคลินิกทันตกรรมแห่งนี้ ที่มีวิธีการอันแยบยลไว้จัดการปัญหาคนไข้กลัวหมอล่ะ Jo Jo คือสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ในวัย 6 ขวบ ที่ถูกฝึกมาให้ปลอบประโลมเหล่าคนไข้ระหว่างที่พวกเขามาทำฟัน และ 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าตูบก็ได้ทำงานที่คลินิกทันตกรรม Pediatric Dentistry of Northbrook ในรัฐ Illinois ล่ะ เจ้าโจโจ้ ไม่ธรรมดานะ ถึงขั้นมีรูปในแท่นพนักงานเลย อิอิ ซึ่งคุณหมอฟันที่ประจำอยู่ที่นี่มีความเชื่อว่า เจ้าตูบจะช่วยจัดการเกี่ยวกับปัญหาคนไข้ที่เกร็งๆ เมื่ออยู่ใกล้กับหมอฟันได้ Lynne หนึ่งในผู้ช่วยทันตแพทย์กล่าวว่า ‘ฉันทำงานที่นี่มาก็หลายปี และเจ้าโจโจ้ ก็ถือว่าช่วยงานได้ดีเลยล่ะที่นี่’ ก่อนหน้านี้เจ้าตูบก็ต้องฝึกให้คุ้นและชินกับเสียงเครื่องมือทางทันตแพทย์มาก่อนเช่นกัน ไม่งั้นมันอาจเกิดความเครียดได้ บางคนถึงกับต้องใช้ยากล่อมประสาทเลยทีเดียวเวลาที่ต้องมาหาหมอฟัน แต่เจ้าโจโจ้ก็ช่วยพวกเขาได้มากเลยทีเดียว เพราะมันเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาไม่ให้รู้สึกเกร็งได้ดีมาก แถมประเด็นคือเจ้าโจโจ้ก็เหมือนจะชอบทำงานนี้ด้วยล่ะ อิอิ ทำหน้าฟินเชียววว ไม่แน่นะเนี่ย นี่อาจเป็นการปฏิวัติวงการหมดฟันและทันตแพทย์เลยทีเดียว…
-
ถึงที่สุดแล้ว ทันตแพทย์เผด็จเปิดบัญชีระดมเงิน เตรียมฟ้องอดีตอาจารย์สาวหนีทุน!!
กลายเป็นข่าวโด่งดังและเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของอดีตอาจารย์สาวหนีทุน ที่มาขอให้ ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจ.สระบุรี และเพื่อนๆ ช่วยกันค้ำประกันให้กับเธอเพื่อไปเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่หลังจากที่ไปศึกษาที่นั่นแล้วกลับไม่ยอมกลับมาใช้หนี้ตามที่เคยตกลง ทำให้ทพ.เผด็จต้องใช้หนี้แทนอดีตอาจารย์สาวกว่า 2 ล้านบาท แถมยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะกลับมาใช้หนี้ในเร็วๆ นี้ทางทพ.เผด็จจึงต้องลงทุนเปิดบัญชีขอบริจากเงินเพื่อนำไปดำเนินคดีฟ้องร้องแก่อดีตอาจาร์ยสาวให้ถึงที่สุด ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทพ.เผด็จได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คงถึงเวลาที่ต้องรบกวนแล้วจริงๆครับ ผมขอรับรองว่าจะเอาเงินนี้ไปใช้ในการว่าความกรณีทันตแพทย์หนีทุนเท่านั้น หากมีเงินเหลือจะนำไปบริจาคแก่นักเรียนยากจนแต่ไม่มีทุนเรียนต่อครับ” “แต่ถ้าไม่พอพวกเราก็คงต้องพยายามหากันต่อครับ ต้องขอโทษที่ต้องรบกวนทุกท่านจริงๆเพราะหลายคนที่คำประกันก็ยังต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยแต่ละเดือนอยู่ครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ” อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย คงถึงเวลาที่ต้องรบกวนแล้วจริงๆครับ ผมขอรับรองว่าจะเอาเงินนี้ไปใช้ในการว่าความกรณีทันตแพทย์หนีทุนเท่านั้น หากมีเงินเหลือจ… Posted by เผด็จ พูลวิทยกิจ on 18 กุมภาพันธ์ 2016 มีหนี้ก็ต้องใช้หนี้นะจ๊ะ อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นภาระของคนอื่นเลย ที่มา เผด็จ พูลวิทยกิจ