Tag: ทารุณ
-
“ถังข่าหนังมนุษย์” งานศิลปะที่แสนทารุณ ซึ่งต้องแลกมาด้วยชีวิตของทาสชาวทิเบต
((บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ทำให้คุณไม่สบายใจ และอาจกินหมูจุ่มไม่อร่อย)) “ถังข่า” งานพุทธศิลป์อันมีเอกลักษณ์ของชาวทิเบต ซึ่งเป็นการวาดภาพของพระโพธิสัตว์หรือสถานที่ต่างๆ ตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน และถูกนำประดับตกแต่งอยู่ทั่วไปตามศาสนสถานนั่นเอง งานศิลปะนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในดินแดนหลังคาโลก และไม่น่าเชื่อว่าในอดีตความสวยงามแบบนี้ไม่ได้ถูกวาดเอาไว้บนผืนผ้าใบเท่านั้น แต่มันยังถูกวาดเขาไว้บนผิวหนังมนุษย์ด้วยเช่นกัน… นี่อาจจะเป็นเพียงแค่งานศิลปะธรรมดาๆ คล้ายกับรอยสักถ้าหากว่ามันไม่ได้ถูกเขียนเอาไว้บนตัวของทาส ก่อนที่เจ้าของทาสรายนั้นจะใช้วิธีถลกหนังออกมาอย่างทารุน ถังข่าหนังมนุษย์ คืองานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและความโหดร้ายของทาสเกษตรกรรมของทิเบตในสมัยก่อน ซึ่งพวกเขามีฐานะเป็นหนึ่งในสมบัติของนายจ้าง . ว่ากันว่างานทาสเกษตรในทิเบตนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและทารุณไม่น้อยเลยทีเดียว โดยกรรมวิธีให้ได้มาซึ่งถังข่าหนังมนุษย์นี้ นายจ้างจะนำทาสที่ถูกคัดเลือกแล้วมาวาดลวดลายต่างๆ ลงไป . จากนั้นพวกเขาจะทำการเจาะรูที่ผิวหนังลึกประมาณ 2 เซนติเมตร และค่อยๆ หยอดปรอทลงไปทีละนิดเพื่อให้ผิวหนังกับร่างกายแยกออกจากกัน และถลกหนังออกมากลายเป็นถังข่าหนังมนุษย์อย่างที่เราได้เห็นกัน ปัจจุบันถังข่าหนังมนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ผืนหนึ่งได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งเหอหนาน ในประเทศจีน นับว่าเป็นงานศิลปะที่แลกมาด้วยความโหดร้ายทารุณจริงๆ ที่มา blog.sina, Thangka
-
หมาน้อยถูกคนใจร้ายเอาเชือกรัดไว้ เกิดเป็นแผลเป็นรอบปาก ได้รับชีวิตใหม่จากคนใจดีแล้ว
ตอนที่ Liz Heatherly กำลังขับรถไปตามถนนของเมืองทราเวลเลอร์สเรส รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็เห็นหมาน้อยน่ารักตัวหนึ่งอยู่ข้างทาง แต่เข้าไปดูใกล้ๆ แล้วมันมีสภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน ลูกหมาสีดำตัวนี้ถูกใครบางคนเอาเชือกมามัดรอบปากมันไว้อย่างแน่นหนา แล้วก็มีเห็บหมัดไต่เต็มตัว ปล่อยไว้แบบนี้ดีไม่ดีมันอาจจะกินข้าวไม่ได้ เธอต้องรีบช่วยมันแล้ว แต่มันคงจะเคยโดนคนทำร้ายมาก่อน พอเธอเข้าไปใกล้มันก็เลยวิ่งหนีใหญ่เลย จนมันลงไปในร่องระบายน้ำที่ลึกมาก เธอก็เลยต้องไต่ลงไปอุ้มมันขึ้นมา แล้วให้แม่กับน้องสาวโยนเชือกมาดึงเธอขึ้นไปอีกทีหนึ่ง เธอช่วยแกะเชือกที่มัดรอบปากของมันออก แล้วก็ได้เห็นรอยแผลซึ่งเกิดการเสียดสีกับเชือกอย่างรุนแรง แผลของมันหนาจนเห็นเป็นรอยเด่นชัดแม้จะมองจากระยะไกล เธอก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาแผล สัตวแพทย์บอก Heatherly ว่าเจ้าหมาขาดสารอาหาร แล้วก็มีพยาธิในลำไส้ แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนแผลที่รอบปากมันคงต้องรักษากันไปอีกนาน มีแผลเป็นรอบปากชัดเลย น่าสงสารจัง เมื่อได้ช่วยมันมามากขนาดนี้แล้ว Heatherly ก็รู้สึกผูกพันกับเจ้าหมา เธอเลยตั้งชื่อให้มันว่า Norman แล้วตัดสินใจรับเลี้ยงมันเอาไว้ หญิงสาวไม่กังวลเรื่องภาระการดูแลมันเลย สิ่งที่เธอกังวลมีเพียงอย่างเดียว คือกลัวว่า Norman จะเข้ากับหมา 4 ขวบชื่อ Jackson ที่เธอเลี้ยงไว้ไม่ได้ เพราะมันไม่เคยเข้ากับหมาตัวอื่นได้เลย แต่พอพวกมันได้เจอหน้ากัน Jackson ก็เปิดใจยอมรับ Norman…
-
นักศึกษาถูกจวกหนักหลังปลิดชีพผีเสื้อ เพื่อนำปีกมาสร้างผลงาน ‘สัญญะแห่งการเกิดใหม่’
ศิลปะอยู่รอบตัวเรา ความสุนทรีย์เหล่านี้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อสะท้อนเป็นชิ้นงานตามสไตล์ของศิลปินด้วยเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นในมุมมองไหน… แต่แล้วเมื่อการกระทำของนักศึกษาสาวชาวจีน ได้กลายมาเป็นจุดชนวนแห่งความขัดแย้งบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอได้นำปีกของผีเสื้อกว่า 500 ตัวมาใช้เพื่อสร้างผลงานสื่อถึง “การเกิดใหม่” Li Zheng นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิยาลัย Quanzhou Normal University ได้สร้างชุดงานศิลป์จากการใช้ปีกผีเสื้อเป็นวัสดุหลัก จัดเรียงอย่างพิถีพิถันอันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์จบของตัวเอง เธอและเพื่อนได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา ให้สร้างงานศิลปะที่โด่งดังขึ้นมาใหม่ด้วยวัสดุที่แตกต่าง เธอจึงเลือกผลงานของ Vincent Van Gogh แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุแบบไหนเพื่อสร้างงานชิ้นดังกล่าว… ระหว่างที่ทำการค้นคว้าวิจัย Li Zheng ได้พบกับศิลปินที่ใช้ปีกผีเสื้อในงานศิลป์ และในวัฒนธรรมส่วนมาก แมลงตัวเล็กๆ เป็นเหมือนดั่งตัวแทนแห่งการเกิดใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับโปรเจกต์จบของเธอเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเธอจึงทำการรวบรวมผีเสื้อกว่า 500 ตัว ใช้สีสันบนปีกเล็กๆ นำมาร้อยเรียงเป็นภาพชิ้นงานของ Van Gogh รวมไปถึงภาพวาดของตัวเขาเองด้วย . ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานของเธอนั้นดูสวยงามอลังการตามเนื้อผ้า แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับการที่เธอใช้ปีกของผีเสื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ นำมาสร้างงานที่สื่อถึงการเกิดใหม่ Li…
-
เจ้าหมาตัวน้อยถูกเจ้าของเก่าจับยัดใส่ถุงแล้วโยนทิ้ง โชคดีมีคนมาช่วยไว้ทัน
สัตว์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์เรา พวกมันเองก็อยากใช้ชีวิตที่มีความสุข เราควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วคิดถึงความรู้สึกของมันบ้าง ไม่ควรใช้มันเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือทำเหมือนมันเป็นสิ่งของที่ทิ้งขว้างได้ เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา Wade และ Mandi Shapp พบวัตถุหน้าตาประหลาดอยู่ตรงข้างทาง พวกเขาก็เลยจอดรถแล้วลงไปดูมันใกล้ๆ เมื่อเห็นว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกมัดเอาไว้ในถุงพวกเขาก็ตกใจมากเลยทีเดียว เจ้าหมาถูกเจ้าของเก่ามัดใส่ถุงแล้วเอามาทิ้งไว้ เจ้าหมามีเพียงส่วนหัวที่โผล่ออกมาจากถุง มันไม่ขยับหรือพยายามหนีออกมาเลยซึ่งถือว่าแปลกมาก เมื่อดูใกล้ๆ อีกทีก็เลยเห็นว่าอีกปลายหนึ่งของถุงมีเชือกมัดไว้แน่นจนเจ้าหมาไม่สามารถขยับตัวได้เลย พวกเขาเลยใช้กุญแจรถกรีดถุงใบนั้นออกแล้วปลดปล่อยเจ้าหมาเป็นอิสระ มันมีกลิ่นตัวแรงมากเพราะว่าเหม็นอับฉี่และอึของตัวเอง มันต้องถูกมัดเอาไว้นานแล้วแน่ๆ นอกจากนี้ดูเหมือนว่ามันจะเจ็บขาด้วย คู่รักเลยคิดว่ามันคงโดนโยนลงมาจากรถ เห็นอาการของมันแล้วพวกเขาก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่ออาบน้ำและตรวจร่างกาย มันน่าจะถูกทิ้งไว้สักระยะหนึ่งแล้ว คู่รักรีบปล่อยมันออกมาแล้วพาไปหาหมอทันที เจ้าหมามีอาการตื่นกลัวในตอนแรก แต่หลังจากได้คู่รักช่วยอาบน้ำจนตัวหอมสะอาดแล้ว มันก็ไว้ใจพวกเขา มันคงรับรู้ได้ว่าทั้ง 2 คนพยายามจะช่วยเหลือมัน จากนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า Bubba พอสัตวแพทย์ได้ตรวจมันแล้ว เขาก็แจ้งเรื่องที่น่าตกใจว่าขาของมันไม่ได้เจ็บเพราะโดนโยนอย่างที่คิด แต่เป็นแผลจากการถูกปืนยิงต่างหาก พวกเขาจึงสรุปได้ว่ามันถูกเจ้าของยิงทิ้ง แต่พอไม่ตายก็เลยเอามัดใส่ถุงแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเอง แม้จะน่าโมโหเจ้าของเก่าของมัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับการรักษามันก่อนเป็นอันดับแรก เจ้าหมาได้รับการรักษาทุกอย่างที่จำเป็น นอกจากนี้ยังได้รับวัคซีนเพิ่มเติมด้วย สัตวแพทย์บอกว่ามันมีแผลถูกยิงที่ขาด้วย ดีที่ทั้งคู่ไปช่วยไว้ได้ทัน ตอนนี้เจ้าหมาได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถรับ…
-
ฟาร์มในสวิตฯ เจาะรูไว้ข้างตัวของวัว อ้างเพื่อสุขภาพที่ดี ผู้คนตั้งคำถามดีจริงหรือ!?
ภาพของเหล่าวัวจากฟาร์มปศุสัตว์แห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ได้เผยให้เห็นถึงรูขนาดใหญ่ที่ติดเอาไว้ข้างลำตัวของพวกวัว เพื่อให้เจ้าของฟาร์มและสัตวแพทย์สามารถล้วงเข้าไปเพื่อตรวจและติดตามการทำงานของกระเพาะของพวกมันได้ ภาพดังกล่าวกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก หลังจากที่มันถูกเผยแพร่ทางแฟนเพจ CCTV for ALL Slaughterhouses เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2015 จากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่า รูที่อยู่ข้างลำตัวของวัวนี้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 8 นิ้วด้วยกันเพื่อให้สัตว์แพทย์และเจ้าของฟาร์มสามารถติดตามสุขภาพของพวกมัน อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวยังได้ระบุอีกว่าวัวที่ติดท่อดังกล่าวเข้าไปนั้น ได้รับการดูแลอย่างดี และพวกมันก็ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพแต่อย่างใด ภาพแสดงกระเพาะของวัว โดยกระบวนการของการตรวจสอบสุขภาพของวัวผ่านรูที่เรียกว่า Rumen Fistulas นี้จะทำโดยการให้พวกมันกินอาหารปรกติที่มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ตและหญ้า และเมื่ออาหารผ่านเข้ามาทางกระเพาะ Rumen ของวัว เจ้าของไร่หรือสัตวแพทย์ก็จะนำข้าวโอ๊ตและหญ้านั้นไปตรวจสอบ การตรวจวิเคราะห์ช่วยในการรักษาสมดุลของอาหารในกระเพาะวัว นักวิจัยอ้างว่ากระบวนการนี้จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับพวกวัว และช่วยสิ่งแวดล้อมโดยการลดปริมาณก๊าซมีเทนจากสัตว์อีกด้วย การติดตั้ง Rumen Fistulas นั้นเริ่มมาตั้งแต่ปี 1833 แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักอนุรักษ์และฝ่ายองค์กรพิทักษ์สัตว์ People for the Ethical Treatment of Animals (PETA) “เราคิดว่าการช่วยเหลือสัตว์และการไม่เบียดเบียนพวกมัน ช่วยทำให้เราดูเป็นพวกมีอารยธรรมมากขึ้น เราไม่อยากเห็นพวกมันทุกทรมานอยู่ตรงหน้าเรา แต่เรายอมปิดตากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหลังของอุตสาหกรรมเหล่านี้” Alison Hills ผู้สื่อข่าวจาก Channel 4 กล่าว …
-
ครอบครัวตั้งกล้อง แอบถ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ทำร้ายลูกของเขาด้วยการทุบตีและบีบจมูก
ปัจจุบันหลายครอบครัวนิยมจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้มาดูแลลูกของตัวเอง เพราะตนเองไม่ว่างและไม่อยากปล่อยให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ก่อนจะรับพี่เลี้ยงเด็กมาควรจะตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของเธอให้ดี ไม่เช่นนั้นลูกของคุณอาจจะลำบากเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ดีของพี่เลี้ยงเด็กเอาได้เหมือนกับครอบครัวนี้ Elena Levendeeva เป็นคุณแม่อายุ 26 ปี เธออาศัยอยู่ในเมือง Nefteyugansk ประเทศรัสเซีย เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจ้าง Anastasia Zhelyabova หญิงอายุ 31 ปี มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ให้กับลูกชายอายุ 8 เดือนของเธอ Elena Levendeeva และลูกชายของเธอ แต่พอพี่เลี้ยงมาดูแลลูกได้ไม่นาน เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกของเธอร้องไห้งอแงทุกครั้งเมื่อพี่เลี้ยงคนนี้มาทำงาน เธอจึงเอะใจว่าบางทีพี่เลี้ยงคนนี้อาจจะเลี้ยงลูกของเธอได้ไม่ดีก็ได้ เธอจึงลองติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านเพื่อสังเกตพฤติกรรมของพี่เลี้ยงดู หลังจากติดกล้องวงจรปิดได้วันเดียวเท่านั้น สิ่งที่กล้องบันทึกภาพได้ก็ทำให้เธอโมโหมาก เพราะ Zhelyabova ใช้ความรุนแรงกับลูกของเธอหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ในตอนต้นของคลิป ในขณะที่เธอกำลังให้นมหนุ่มน้อยอยู่ เขาคงขัดขืนจนทำให้เธอโมโหเธอก็เลยใช้มือตบก้นและหน้าของเขา เท่านั้นยังไม่พอตอนที่เธอป้อนนมหนุ่มน้อยอยู่ เธอก็ใช้มือบีบจมูกของเขาเอาไว้ด้วย เพื่อบังคับให้เขาดื่มนมเข้าไป หลังจากเธอป้อนนมเขาเสร็จเธอก็จับมือของเด็กชายไว้และลากเขาไปตามทาง แล้วเธอก็โยนเด็กน้อยไปบนพื้นข้างๆ กันด้วย พอดูคลิปวิดีโอที่เธอแอบถ่ายเอาไว้จบ เธอก็ตัดสินใจนำคลิปวิดีโอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาดำเนินคดีกับ Zhelyabova ทันที นอกจากนี้เธอยังอัปโหลดคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับครอบครัวอื่นที่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกของตัวเองด้วย โดยเธอโพสต์ว่า “เนื่องจากลูกของฉันร้องไห้บ่อยมาก ฉันก็เลยลองติดกล้องวงจรปิดดู…
-
เจ้าหมาถูกน้ำกรดสาด แม้มันจะเสียโฉม แต่ “เพื่อนใหม่” ก็เข้ามาช่วยทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ!!
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนใจไม้ไส้ระกำ เอาน้องหมาจับแขวนไว้กลางอากาศแล้วยังเอาน้ำกรดสาดใส่มันอีก น่าสงสัยจริงๆ ว่าจิตใจทำด้วยอะไร เจ้าหมาที่ถูกน้ำกรดสาดนี้ชื่อว่า Charlie คนที่ช่วยเหลือมันไว้เป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ มันถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในสภาพที่มีแผลไหม้จากรดอยู่ทั่วตัว เค้าก็อยู่ของเค้าดีๆ เอาน้ำกรดมาสาดทำไม หงิงๆ พวกเขาไม่กล้าแจ้งตำรวจเนื่องจากลัวว่าคนร้ายจะทำอันตรายให้ตัวเองได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยสุนัขน่าสงสารทิ้งไว้เช่นนี้ ก็เลยติดต่อไปที่ Trio Animal Foundation ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ให้เข้ามาช่วยเหลือมัน หลังจากทางองค์กรนำมันไปรักษาเบื้องต้นแล้ว พวกเขาก็เสนอเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 160,000 บาท) ให้กับใครก็ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ทำร้ายเจ้าหมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย เจ้า Charlie ถูกส่งตัวไปรักษาที่คลินิกสัตว์ Delavan Lakes Vet Clinic ในรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นี่เชี่ยวชาญด้านการรักษาแผลไหม้เป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนัง แต่ก็ยังต้องนำเซลล์ผิวหนังที่ตายออกไปเพื่อให้เซลล์ผิวหนังใหม่เกิดขึ้นมาได้ หลังจากนั้นมันก็ต้องทาครีมรักษาเป็นประจำ และอาบน้ำในน้ำยารักษาแผลด้วย ทั้งยังต้องพันผ้าพันแผลอยู่บ่อยๆ เพราะผิวหนังของมันอ่อนไหวมาก หากถูกแสงแดดก็จะรู้สึกแสบทันที อีกอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงนอกจากแผลทางร่างกายแล้วก็คือแผลทางจิตใจของมันด้วย ทุกครั้งที่มันเห็นสายจูงมันก็จะทำท่าหวาดกลัวทุกครั้งเนื่องจากเคยโดนจับแขวนไว้นั่นเอง หมอบอกให้ทายาบ่อยๆ แล้วจะดีขึ้นเองฮะ พอรักษาแผลไปได้ 2 อาทิตย์…
-
เจ้าหมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายในเนปาล ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แล้ว
ถือเป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเจ้าหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายของประเทศเนปาล ที่ได้รับการช่วยเหลือและได้พบกับชีวิตใหม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของ World Animal Protection และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเนปาลได้เข้าช่วยเหลือพวกมัน เจ้า Rangila หมีเพศผู้วัย 19 ปีและคู่หูของมันเจ้า Sridevi หมีเพศเมียวัย 17 ปีที่ถูกเจ้านายของมันขายให้กับคณะการแสดงสัตว์ และถูกใช้เป็นหมีเต้นระบำ เจ้าหมีทั้งสองถูกช่วยเหลือจากเมือง Iharbari ประเทศเนปาลจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ หมีทั้งสองตัวดูทุกข์ทรมานกับสภาพที่พวกมันเป็นอยู่มาก ปรกติแล้วพวกหมีเต้นระบำนั้นจะถูกพรากจากพ่อแม่ของพวกมันตั้งแต่เล็กๆ เพื่อนำมาฝึกสำหรับการแสดง โดยคณะละครจะใช้เหล็กร้อนๆ เจ้าที่จมูกของพวกมันเพื่อร้อยเชือกสำหรับควบคุมการฝึก และบังคับให้พวกมันเต้น เจ้า Rangila และ Sridevi น้องหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายในประเทศเนปาล “พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ ที่หมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายถูกช่วยได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเราใช้เวลาในการติดตามการมาหลายปี การทำงานและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ช่วยให้เราหยุดประเพณีที่ผิดกฎหมายนี้ได้” คุณ Manoj Gautam เจ้าหน้าที่จากสถาบัน Jane Goodall กล่าว ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถาบันคุ้มครองสัตว์ป่าโลกคุณ Neil D’Cruze ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ ที่เห็นสัตว์ป่าเหล่านี้ถูกทรมานเพื่อความสนุกของมนุษย์ ผมหวังว่าเจ้าหมีทั้งสองตัวคงจะมีความสุขหลังจากที่เราได้ช่วยเหลือพวกมัน” การกวาดล้างความบันเทิงจากสัตว์ป่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่เหล่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้พยายามยุติความโหดร้ายเหล่านี้ในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรีซ ตุรกี หรืออินเดีย โดยจัดการควบคุมประเทศต้นทางการล่าอย่างปากีสถานนั่นเอง ที่มา ladbible
-
อุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่ คลิปพี่เลี้ยงทุบตีเด็กน้อย หลังเพิ่งโบกมือบ๊ายบายคุณแม่ ไม่ถึง 1 นาที!!!
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์จากประเทศจีน เผยให้เห็นความโหดร้ายของพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าหนูน้อยอย่างรุนแรง หลังจากที่แยกจากแม่ของเด็กไม่ถึงนาที!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวพี่เลี้ยงเด็กวัย 42 ปี หลังจากที่คลิปวิดีโอในลิฟต์ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญในระหว่างที่เธอกำลังทำร้ายเด็กน้อยด้วยการทุบหน้าอกและศีรษะอย่างรุนแรง เพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องไห้ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนาง Li ได้ทำร้ายเจ้าหนูน้อยเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเพศของเด็กคนดังกล่าว) ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นการกระทำอันโหดร้ายของนาง Li ในตอนแรกเธอได้ใช้ฝ่ามือทุบไปที่ท้องของเด็กหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่เงียบ เธอจึงได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของเด็กอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง และจากนั้นก็เขย่ารถเข็นเด็กอย่างแรง ก่อนที่จะออกจากลิฟต์ไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของหญิงคนดังกล่าว “เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และทุกที่ การนำแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการนำเสนอผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำ” หนี่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตใน Weibo และนี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงเด็กคนนี้กระทำต่อเจ้าหนูน้อยคนนี้ (คำเตือน: อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง) ที่มา nextshark
-
ชายอิตาลีจับหญิงสาวขังเป็นทาสเซ็กส์นานสิบปีไว้ในชั้นใต้ดินสุดโสโครก สุดท้ายตำรวจช่วยไว้ได้
หากเรามองดูชุมชนหลายๆ แห่งดู เรามักจะเห็นบรรยากาศที่เป็นมิตรและเงียบสงบ แต่จริงๆ แล้วในบางที่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เราเห็นจากภายนอก อาจจะมีเรื่องราวน่ากลัวชวนขนลุกซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้ อย่างเช่นในหมู่บ้าน Gizzeria ในแถบตอนใต้ของประเทศอิตาลี ตำรวจได้จับชายอายุ 52 ปีคนหนึ่งในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทารุณ และข่มขืนหญิงชาวโรมาเนียคนหนึ่งเป็นเวลานาน 10 ปี จนเธอตั้งครรภ์และมีลูกถึง 2 คน ชายคนนี้ชื่อว่า Aloisio Francesco Rosario Giordano เขาเคยก่อคดีทำนองนี้กับ Maria Rosa มาแล้วครั้งหนึ่งในปีพ.ศ. 2538 และถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นเขาจึงถูกปล่อยตัวในปีพ.ศ. 2542 การกักขังครั้งนี้คงไม่มีใครรู้หากว่าตำรวจไม่บังเอิญเรียกตรวจรถสภาพเก่าของนาย Alonsio แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กชายอายุ 9 ปี สภาพมอมแมมที่เบาะหลังของรถ หลังจากเห็นสภาพของเด็กชายแล้วตำรวจจึงขอตรวจค้นบ้านของเขาและพบแม่ของเด็ก ภาพทางเข้าห้องใต้ดินที่กักขังหญิงสาวไว้ เมื่อไปตรวจที่บ้านจึงพบว่ามีหญิงสาวอายุ 29 ปี คนหนึ่งถูกขังไว้ในห้องใต้ดินกับลูกสาวอายุ 3 ปี อีกหนึ่งคน หลังจากสอบถามแล้วพบว่าหญิงสาวถูกขังอยู่ในนี้มา 10 ปี และในระหว่างนั้นก็ถูกทารุณและข่มขืนมาตลอด เขายังบังคับให้เธอคลอดบุตรสองคนในห้องนี้ด้วย…
-
เปิดเบื้องหลังการทำฟาร์ม ‘เสื้อขนสัตว์’ ที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกหดหู่ น่าสงสารเหลือเกิน (มีคลิป)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบื้องหลังที่มาของชุดแฟชั่นอันโดดเด่นที่เราเห็นบนรันเวย์ ล้วนมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นชีวิตของสัตว์โลกผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และความโหดร้ายทารุณที่พวกมันต้องได้รับ และครั้งนี้เราจะขอพาไปชมข้อมูลจากองค์กร Animal Defenders International (ADI) ที่ออกมาเปิดโปงเบื้องหลังการทำฟาร์มเสื้อขนสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าหดหู่… (คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง) คลิปวิดีโอฟุตเทจส่วนหนึ่งที่องค์กร ADI ได้ปล่อยออกมา เกี่ยวกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่หมาจิ้งจอก 3 ตัวต้องพบเจอ หากเรามองย้อนกลับไปที่ตัวเลขจำนวนประชากรสัตว์โลก ที่ถูกสังเวยเพื่อนำขนไปขายต่อให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่น มีการเปิดเผยว่าในแต่ละปีมีจำนวนสัตว์ถูกฆ่าทั้งหมด 110 ล้านตัว จากในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นเรื่องราวของ Aleska แม่สุนัขจิ้งจอก และลูกน้อยของมันทั้ง 2 ตัว Borys และ Eryk เราจะเห็นได้ว่า หลังจากที่ลูกจิ้งจอกได้ออกมาลืมตาดูโลก พวกมันก็มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับอิสรภาพเพียงไม่กี่สัปดาห์ จากนั้นทั้ง 2 ตัวก็ถูกนำไปขังไว้ในกรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเพื่อรอวันที่พวกมันเติบโตเต็มที่ ทันทีที่ขนของพวกมันเริ่มมีสีขาว และมีความหนามากขึ้นเพื่อช่วยปกป้องอากาศหนาวที่กำลังจะมาถึง พวกมันก็จะถูกนำตัวไปแขนคอ… จากนั้นคนงานก็จะปลิดชีวิตพวกมันด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ก่อนจะนำร่างกายไปถลกหนังเพื่อส่งต่อให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้า หนึ่งในโฆษกขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “จุดประสงค์ของเราก็เพื่อต่อต้านความรุนแรงและปัญหาที่เกิดขึ้นจากความโลภของมนุษย์เอง พวกเราเชื่อว่าถ้าทุกคนตระหนักถึงปัญหานี้ และเซย์โนให้กับแฟชั่นขนเฟอร์ ต่อไปจะต้องไม่มีสัตว์ชนิดใดที่ถูกทารุณกรรมแบบนี้อีก” นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกอุตสาหกรรมขนสัตว์ โดยพบว่าในปี 2016 มีเงินหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมขนสัตว์ทั่วยุโรปมากกว่า 39…
-
แก๊งวัยรุ่นในโมร็อกโก ต้องเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากรุมข่มขืนลาที่ติดเชื้อ…
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า แก๊งเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปีในโมร็อกโก ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากที่พวกเขาได้ร่วมกันข่มขืนลาที่ติดเชื้อ… สำหรับเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ Gharb-Chrarda-Béni Hssen ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโมร็อกโก ซึ่งก็ทำให้ครอบครัวของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 15 ราย รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทนทุกข์อยู่กับการถูกชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเยาะเย้ย จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้พยายามค้นหาบุคคลต้องสงสัย ที่คาดว่าอาจจะได้รับเชื้อจากโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนของการติดเชื้อคาดว่าอาจจะมีสูงขึ้น เนื่องจากบางครอบครัวได้พาลูกๆ ของพวกเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกพื้นที่ เพื่อหลีกหนีการถูกเยาะหยันหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเขาสร้างความขายหน้าให้แก่ครอบครัว… ที่มา : mirror
-
หญิงสาวชาวอินเดียถูกครอบครัวตัวเองฆ่าตาย หลังพวกเขาเชื่อว่าเธอเป็นแม่มด!!?
ความเชื่อที่ว่าใครเป็นแม่มดต้องถูกกำจัดนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีกันมาอย่างช้านานแม้ว่าในปัจจุบันจะเลือนหายไปเกือบหมดแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่ามันยังมีความเชื่อนี้หลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งล่าสุดมันได้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียนั่นเอง เธอคนนี้มีชื่อว่า Kanya Devi วัย 40 ปีจากรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ซึ่งเธอคนนี้ได้ถูกฆ่าตายด้วยเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่ายังเกิดขึ้นในยุคนี้ นั้นก็คือเธอถูกคนในครอบครัวกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด และตั้งใจจะฆ่าเธอทั้งเป็นโดยการบังคับให้เธอถอดเสื้อผ้าออก พร้อมกับบังคับให้กินถ่านร้อนๆ จากเตาเผา หลังจากการบังคับกินถ่านแล้ว คนในครอบครัวของเธอยังจัดการเธอด้วยการนำเหล็กร้อนๆ แทงลงไปบนตาของเธอทั้งสองข้างอย่างโหดเหี่ยม จนสุดท้ายเธอก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านศพของเธอ ทางญาติๆ ก็ได้นำศพซ่อนไว้เพื่อไม่ให้ทางการรู้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจก็สามารถตามจนพบและจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คนได้ ซึ่งในนั้นยังรวมถึงหลานๆ ของ Kanya ด้วย โฉมหน้าของผู้ต้องหาทั้งหมด… ด้านเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน แต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันถึงสาเหตุการฆ่าว่า พวกเขาเชื่อว่า Kanya เป็นแม่มดจึงจัดการฆ่าซะ แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียว นอกจากนั้นยังเดาว่าอาจจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ . แต่ยังไงจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การฆ่าคนในครอบครัวด้วยวิธีอันเหี่ยมโหดดังกล่าวนั้น ถือเป็นเรื่องผิดศิลธรรมที่รับไม่ได้อย่างสูงที่สุดนั่นเอง… ที่มา dailymail
-
การดิ้นรนเพื่อชีวิต ของเหล่าเด็กๆ ในเหมืองคองโก ยากลำบากไม่ต่างไปจาก ‘ผืนนรกบนดิน’
การใช้แรงงานคนเพื่อการก่อสร้าง ขนย้ายสิ่งของ หรืออย่างการขุดเหมืองควรจะมีความเหมาะสม มีการดูแลจัดการที่ดี และทว่าเหมืองแห่งนี้กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ที่ต้องทำให้คนงานต้องมาทนอยู่กับสภาพเหมือนนรกบนดิน แถมยังมีการใช้แรงเด็กสี่ขวบให้เข้ามารับอันตรายไปด้วย โดยเหมืองแห่งนี้เป็นแหล่งในการขุดหาแร่โคบอลต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดกาตังกา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งความอันตรายนั้นสูงมากเพราะมันจะสร้างหมอกพิษที่ทำลายดวงตาและเสี่ยงที่จะเป็นโรคผิวหนังกับปอดได้ หากเด็กๆ ทำงานไม่ดี อาจจะถูกทำร้ายจากผู้คุมงานด้วย แต่เจ้าแร่อันตรายตัวนี้นั้นคือส่วนประกอบหลักของการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังพัฒนาและมีอัตราการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากแนวโน้มของรัฐบาลในประเทศอังกฤษ ที่มีการประกาศห้ามขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันในปี 2040 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในประเทศคองโกที่สามารถหาแร่ชนิดนี้ได้ง่าย ต้องดึงแรงงานมาขุดเหมืองเพิ่มมากขึ้น จนเมื่อทางสำนักข่าว Sky News ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่นี้ก็ได้เจอกับ Dorsen เด็กน้อยวัยแปดขวบ หนึ่งในคนงานเหมือง… เด็กคนนี้ต้องเจอกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในทุกวัน เพื่อช่วยพ่อหาเงินไปกินข้าวหลังจากที่แม่ของเขาได้เสียชีวิตลง โดยเขาเป็นเพียงแค่หนึ่งในจำนวนเด็ก 40,000 คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับงานประเภทนี้ นอกจากนั้นอาหารการกินในที่ปลูกขึ้นบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยสารพิษที่หากกินเข้าไปก็จะทำให้อาเจียน ท้องเสีย อีกทั้งเกิดปัญหากับต่อมไทรอยด์และปอดอีกด้วย ถึงขนาดว่านกหรือปลาแถวนั้นไม่สามารถทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้ Dorsen คนซ้าย และ Richard เพื่อนของเขา ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีเด็กที่ทำงานในเหมืองเหล่านี้ต้องสังเวยชีวิตไปกี่คนแล้ว เนื่องจากตายไปก็จะถูกฝังไว้ในอุโมงค์ที่ถูกทำลาย หากคนที่มีชีวิตรอดก็ยังต้องทนกับความเจ็บปวด เด็กผู้หญิงก็จะถูกคุกคามทางเพศหรืออาจจะท้องตั้งแต่อายุแค่ประมาณ 10…
-
คลิปสุดช็อค!! เผยให้เห็น “เด็กน้อยวัยหัดเดิน” ที่ถูกพ่อแม่ชาวจีนขังไว้ในตู้ล็อกเกอร์
ปัญหาเจ้าตัวเล็กชอบงอแง อาจจะทำให้พ่อแม่ต้องปวดหัว และแต่ละคนก็อาจจะมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยด้วยความเข้าใจ หรือบางครอบครัวอาจจะให้ไม้แข็งเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะใช้ไม้แข็งแค่ไหนก็คงไม่มีใครทำเหมือนพ่อแม่ชาวจีนคู่นี้แน่ๆ สองสามมีภรรยาชาวจีน ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตอย่างมาก หลังจากที่คลิปวิดีโอการรับมือกับลูกน้อยของพวกเขาถูกเผยแพร่ไปบนโลกออนไลน์ ทั้งสองได้ขังลูกเอาไว้ในล็อกเกอร์เก็บของในห้องอาบน้ำแห่งหนึ่ง และปล่อยให้เจ้าหนูต้องทนอยู่ในตู้ล็อกเกอร์แคบๆ พร้อมกับความมืด จากการรายงานของสำนักข่าว Kan Kan News บอกว่า ทั้งสองได้ขังลูกน้อยของพวกเขาไว้เนื่องจากไม่ต้องการดูแลลูกน้อยในระหว่างที่ออกไปอาบน้ำ เด็กน้อยถูกช่วยออกมาโดยเจ้าหน้าที่ของห้องอาบน้ำ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหนูน้อยเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และยังไม่ทราบว่าเขาถูกขังไว้ในนั้นนานแค่ไหน ไปชมคลิปวิดีโอการช่วยเจ้าหนูน้อยที่ด้านล่างนี้ได้เลย และแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้คงไม่รอดพ้นคำสรรญเสริญจากชาวเน็ตไปได้แน่นอน หลายๆ คนที่ได้ชมคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่โหดร้ายสำหรับเด็กน้อยมากๆ ในขณะที่บางคนก็ด่าพ่อแม่ของเจ้าหนูน้อยว่าไม่มีความรับผิดชอบเลย หนึ่งในความเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “เขาดูกลัวมากๆ เลยนะเนี่ย พวกเขาไม่น่าทำแบบนั้นเลยจริงๆ” แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ถูกช่วยออกมา เจ้าหน้าที่พบว่าหนูน้อยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ที่มา dailymail
-
เด็กน้อยถูกใช้ในการประกอบพิธี “ไสยศาสตร์” โดยเจ้านายของผู้เป็นแม่ จนเสียชีวิตในที่สุด…
บทความนี้มีเนื้อหาและภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะกับคนอ่านทุกคน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องราวสุดสลดนี้จากนเดีย เมื่อเด็กน้อยวัย 3 ขวบ พบว่าถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ จนท้ายที่สุดเด็กน้อยก็ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา… เรื่องเกิดขึ้นรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ซึ่งผู้เป็นแม่ได้นำตัวนำตัวลูกน้อยมาส่งโรงพยาบาลในสภาพย่ำแย่ และเรื่องสุดประหลาดใจก็เกิดขึ้นเมื่อทีมแพทย์พบว่าในตัวเด็กมีเข็มยาว 2 นิ้วอยู่เต็มร่างกายไปหมด ภาพเอ็กซ์เรย์ ทีมแพทย์ก็บอกว่าอาการของเด็กน้อยนั้นสาหัสมากๆ ที่สำคัญพวกเขายังพบว่าตามร่างกายของเด็กยังมีร่องรอยของการกระทำชำเราทางเพศอีกด้วย ฝั่งคุณแม่เองก็ได้ให้ปากคำว่า เธอถูกบังคับโดยอดีตเจ้านายของเธอ ให้นำลูกของตัวเองมาใช้ในการทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ จนท้ายที่สุดเธอทนไม่ไหวเลยต้องหนีออกมา ภาพของคุณแม่และลูกน้อยที่กำลังเดินทางไปยังโรงพยาบาล ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ยื่นฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กจากการกระทำความผิดทางเพศ (POSCO) กับ Sanatan Thakur ชายวัยราวๆ 50 ปี ซึ่งเป็นอดีตนายจ้างของแม่เด็กในฐานะผู้ต้องสงสัย นี่คือเข็มทั้งหมด ที่ทีมแพทย์เจอในตัวเด็ก ด้านนาย Sanatan ที่รู้ตัวว่าจะถูกจับก็ยังคงพยายามหนีการตามจับจากเจ้าหน้าที่ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้แต่อย่างใด ส่วนด้านเด็กน้อยที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการรักษาเรียบร้อย แต่ไม่นานนักอาการก็ดูจะหนักขึ้นทำให้สุดท้ายเด็กน้อยก็ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างน่าสงสาร แม้ว่าในตอนท้าย ทางตำรวจจะรู้ว่าใครเป็นคนร้ายและตามจับอยู่ แต่การจากไปของหนูน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อก็ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้ สุดท้ายเพื่อนๆ คิดว่านอกจากตัวเจ้านายเก่าแล้ว แม่ของเด็กก็เป็นฝ่ายที่ผิดด้วยไหมที่ยอมทนอยู่ได้ตั้งนาน หรือว่าเธอมีความจำเป็นกันนะ? ชาวเน็ตที่ได้อ่านต่างวิจารณ์แม่เด็กในแง่มุมต่างๆ กันไป…
-
อย่าริอาจเป็นโจร… ช่างสักจัดคำว่า “ผมเป็นโจร” ลงบนหน้าผากหัวขโมยเด็ก เพื่อเป็นการลงโทษ!!
เหตุการณ์สุดฉาวจนเกลายเป็นเรื่องน่าสงสัยว่ามันถูกหรือผิดกันแน่? เมื่อมีคลิปเหตุการณ์ช่างสักได้จัดการสักคำว่า “ผมเป็นโจร” ลงบนหน้าผากหัวขโมยเพื่อย้ำเตือนให้โจรคนดังกล่าวไม่ทำซ้ำเป็นครั้งที่สอง… สำนักข่าวบลาซิลได้รายงานว่า Maycon Wesley ช่างสักผู้เป็นคนลงมือในคลิปดังกล่าวว่า เขาได้จับโจรเด็กที่พยายามจะขโมยรถมอเตอร์ไซค์จากชายขาด้วนมาลงโทษ ด้วยการสักคำว่า Eu sou ladrão e vacilão (แปลว่า ผมเป็นโจรและไอ้ขี้แพ้) ลงบนหน้าผากโจรเด็กคนดังกล่าว และหลังจากที่เขาสักให้เด็กชายเสร็จ Maycon ก็ได้ถามกับโจรเด็กว่าอายไหมที่มีรอยสักแบบนี้อยู่บนหน้าผาก… สื่อในท้องถื่นยังรายงานว่า โจรเด็กคนดังกล่าวมีท่าทีหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ในขณะที่ถูกสักลงบนหน้าผากของเขา และหลังจากเรื่องดังกล่าวเด็กชายก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร้องรอย เมื่อคลิปเหตุการณ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไปจนญาติของเด็กชายเห็นเข้า ก็ได้ทำการแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ตามจับกุมช่างสักคนดังกล่าว Maycon และเพื่อนของเขา Ronildo Moreira de Araujo ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ถูกตำรวจจับ และถูกตั้งข้อหากระทำการทารุณกับเด็กชาย และเมื่อตำรวจได้สอบปากคำของทั้งสองว่าเด็กชายหายไปไหน พวกเขาก็เล่าว่าหลังจากที่เขาจัดการสักให้กับเด็กชายแล้ว พวกเขาก็ปล่อยตัวไปตามปกติ ส่วนเรื่องที่เขาหายไปไหนทั้งคู่ก็ไม่รู้เช่นกัน… คลิปเหตุการณ์ขณะที่ Maycon และเพื่อนกำลังสักให้โจรเด็ก แม้ว่าเด็กชายจะพยายามขโมยของจากคนพิการ แต่การกระทำของช่างสักก็ถือว่ารุนแรงเช่นกัน เพื่อนๆ มีความคิดเห็นยังไงก็ลองเอามาแชร์กันได้นะ… ที่มา dailymail
-
สาวผู้ตกเป็นทาสเซ็ก ISIS บอกเล่าประสบการณ์ถูกบำเรอกาม ต่อหน้าลูกของเธอเอง!?
เรารู้จัก ISIS ในฐานะกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งมีชื่อในด้านลบตามสำนักข่าวต่างๆ อยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้สังหารคนบริสุทธิ์ และทำลายชีวิตของใครหลายๆ คนมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Hanan หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ผู้โชคร้าย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยถูกกลุ่ม ISIS ทำลายชีวิตของเธอโดยการข่มขืน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เธอถูกคนเหล่านั้นข่มขืนต่อหน้าลูกๆ ของเธออีกด้วย วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของ Hanan หญิงวัย 26 ปี ผู้ซึ่งสามีหลบหนีออกจากเมือง Hawijah ไปก่อนหน้า แต่เธอและลูกๆ ต้องแยกจากสามี เธอถูกกลุ่ม ISIS ทำร้ายอย่างทารุณ หลังจากที่ถูกจับพร้อมกับผู้หญิงอีก 50 คน เหตุเพราะพยายามหลบหนีไปที่เมือง Hawijahในอิรัก โดยทางคนในกลุ่มดังกล่าวได้อ้างกับเธอว่า การที่สามีของเธอหนีไป ทำให้เธอไม่ได้เป็นมุสลิมอีกต่อไป และจะต้องแต่งงานกับ ISIS คนหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธเพราะว่านั่นไม่ใช่หลักคำสอนที่ถูกต้อง พวกเขาจึงได้จับเธอไปทรมาน ทั้งเฆี่ยนตี และข่มขืน “ผู้ชายคนเดิมเข้ามาข่มขืนฉันทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่ได้เอาผ้าปิดตา แถมยังทำต่อหน้าลูกๆ ของฉัน ซึ่งลูกสาวของฉันต้องทุกข์ทรมานจากความพิการทางสมอง…
-
ประเพณี ‘ชนสุนัข’ ในอัฟกานิสถาน เป็นความบันเทิงหรือการทารุณกรรมสัตว์กันแน่!?
มีประเพณีอันแสนโหดร้ายที่น่าจะถูกล้มเลิกไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน… ก่อหน้านี้ทางกลุ่มตาลีบันได้ทำการประกาศแบนกีฬา ‘ต่อสู้สุนัข’ ไปแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักคำสอนของอิสลาม แต่ในปัจจุบันถูกนำกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งแล้ว เจ้าของสุนัขหลากหลายคนต่างก็พาสุนัขของตัวเองมาเข้าร่วมการต่อสู้เป็นประจำทุกสัปดาห์ในเขต Paghman เมือง Kabul โดยที่แมตช์คู่เดือดจะจัดขึ้นในช่วงวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันหยุดพักผ่อนของประเทศอัฟกานิสถาน เจ้าหมาขนาดใหญ่หลายตัวจะต้องมาต่อสู้ห้ำหั่นกัน ซึ่งการแข่งขันจะจบลงเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมวิ่งหนีไป หรือถูกทำให้หมดสภาพ แม้ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่ทำให้ได้รับแผลฉกรรจ์จากการต่อสู้ ฤดูการต่อสู้นั้นจะมีขึ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม เพราะพวกเขาเชื่อว่าบาดแผลของสุนัขนั้นจะหายได้เร็วกว่าในอากาศหนาว ในการแข่งขันจะมีกรรมการที่คอยจับตาดูและตัดสิน ขณะเดียวกันก็จะมีผู้คนยืนล้อมรอบเป็นวงกลมกลายเป็นสังเวียน ส่วนเจ้าของของสุนัขก็จะอยู่ข้างในวงเพื่อสั่งให้สุนัขสู้กัน สายพันธุ์ที่ผู้คนนำมาเข้าร่วมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Mastiffs และ Afghan ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความตัวใหญ่และความดุดันอยู่แล้ว ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลเป็นการตอบเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวมีความคิดเห็นอย่างไรกับกีฬานี้บ้าง? คิดว่าโหดร้ายป่าเถื่อนหรือไม่? หรือมองว่ามันเป็นแค่กีฬา ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
Athena ลูกแมวที่ถูกกักขังจนมีสภาพย่ำแย่ ได้รับการช่วยเหลือจนมีชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
หากทาสแมว หรือคนรักสัตว์ทั้งหลาย ได้ฟังเรื่องราวของ Athena น้องแมวตัวน้อยแสนน่ารักตัวนี้ละก็ คุณอาจจะต้องสงสารมันจับใจ เพราะก่อนที่มันจะมีชีวิตที่แสนสุข เจ้าเหมียวได้ผ่านเรื่องราวอันแสนเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน เพราะในอดีต Athena เป็นแมวที่เจ้าของในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เคยเลี้ยงไว้แบบกักขังในกรงที่แสนสกปรก พร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อย่างน้องหมา แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในกรงนรกอีกต่อไป เพราะในที่สุดทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าเหมียว พร้อมกับสัตว์ตัวอื่นๆ นอกจากนี้พวกเขายังได้ตรวจสอบพบว่า เจ้าของเดิมเคยถูกจับกุมข้อหาทารุณสัตว์มาแล้ว แต่ก็ยังคงทำร้ายสัตว์อีกเช่นเคย และในครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถูกจับอีกครั้งในข้อหาเดิม หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียว และสัตว์ตัวอื่นๆ ออกมา พวกเขาก็ได้พบว่า Athena กำลังป่วยหนัก และร่างกายของมันก็ไม่แข็งแรง ที่โชคร้ายไปกว่านั้นคือ มันติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง ซึ่งทำมันแทบจะมาสามารถหายใจได้เลย อีกทั้งเจ้าเหมียวก็ดูเครียดหนักอีกด้วย ทางด้าน Dani Ellis ผู้เป็นเจ้าของคนใหม่ที่ได้รับเจ้าเหมียวมาดูแล ได้เผยว่า “ครั้งแรกที่พามันไปพบสัตว์แพทย์ ทางแพทย์ได้บอกว่าจะต้องทำการุณยฆาต เพราะไม่อาจช่วยชีวิตมันได้ และนั่นก็ทำฉันร้องไห้อย่างหนัก… แต่โชคดีที่แพทย์อีกคนหนึ่งได้บอกว่า หากเจ้า Athena ได้รับการผ่าตัดโดยการตัดจมูกที่ติดเชื้อออกไป มันก็จะสามารถกลับมาชีวิตที่ปกติอีกครั้ง” …
-
ชายหนุ่มผู้ทำร้ายสุนัขบูลด็อกโยนลงบันได ได้รับคำตัดสินทารุณสัตว์พร้อมโทษสถานหนัก!!
การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์นั้นมีมาอย่างยาวนานแล้ว จนกระทั่งพัฒนามาเป็นสัตว์เลี้ยงที่คอยอยู่เคียงข้าง เรียกได้ว่าคอยดูแลกันและกันมาโดยตลอด ภายหลังเมื่อมีพฤติกรรมการทำร้ายสัตว์ของมนุษย์มากขึ้น กฎหมายคุ้มครองสัตว์จึงถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อปกป้องพวกมันจากภัยอันตรายของมนุษย์ แต่ก็ไม่อาจห้ามพฤติกรรมเหล่านี้ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสองพี่น้อง Daniel และ Andrew Frankish ทำการโยนเจ้าสุนัขบูลด็อกที่ชื่อว่า Baby ลงทางบันได ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ถึงขั้นขาหลังหักจนใช้การไม่ได้ โดยพฤติกรรมห่ามของทั้งสองถูกเผยแพร่ผ่านคลิปไปทั่วอินเตอร์เน็ต เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตและกลุ่มคนรักสัตว์จึงได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว เนื่องจากทำร้ายสัตว์ที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิจารณาโทษขั้นรุนแรงให้กับทั้งสอง สามารถล่ารายชื่อผู้สนับสนุนได้มากกว่า 300,000 ราย ทั้งนี้ทั้งสองยอมรับความผิด ศาลตัดสินจำคุก 21 สัปดาห์ ถูกควบคุมความประพฤติในช่วงเวลา 20.00 น. – 06.00 น. ถูกสั่งปรับอีก 300 ปอนด์ (15,310 บาท) และถูกสั่งห้ามเลี้ยงสัตว์เป็นเวลา 20 ปี ที่มา : unilad ,…
-
ร่วมเป็นกำลังใจให้เจ้าหมาชิบะอินุ หลังเจ้าของเที่ยวสงกรานต์…ถูกคนทำร้ายถึงในรั้วบ้าน
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ เพื่อนๆ หลายคนที่มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด ต่างก็กลับบ้านเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามอย่างการรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ และพบเจอญาติพี่น้องพ้องเพื่อนที่บ้านเกิดเมืองนอน จึงจำเป็นจะต้องทิ้งบ้านและเหล่าสัตว์เลี้ยงเอาไว้ ซึ่งบางคนก็ลงทุนจ้างแม่บ้านมาคอยดูแล บางคนก็ให้อาหารสัตว์ด้วยถาดอาหารอัตโนมัติที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองหรือซื้อมา บางคนก็พาไปต่างจังหวัดด้วย ซึ่งตอนนี้ในโซเชียลก็มีข่าวที่เป็นกระแสดังอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องราวของคุณ ศิก หรือ Sik Luesopon เจ้าของสุนัขพันธุ์ชิบะอินุชื่อว่า ลอยด์ ได้ขึ้นไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่เชียงใหม่ แต่เมื่อกลับมาบ้านก็พบว่าเจ้าลอยด์ นั้นถูกคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เรื่องมีอยู่ว่านักข่าวชื่อ จตุรงค์ สุขเอียด ได้ทำการโพสท์รูปภาพพร้อมกับเล่าเรื่องราวของสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ที่ชื่อว่า ลอยด์ ถูกทำร้ายอย่างสุดโหด ลงบนเฟสบุ๊ค พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “ลอยด์ เป็นสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ที่ศิกเจ้าของ อุตส่าห์บินไปนำเข้ามาจากญี่ปุ่น ลอยด์เป็นสุนัขแชมป์ประกวดมา ใจเย็นเป็นมิตรมากๆโดยเฉพาะชิบะอินุเป็นสุนัขที่เป็นมิตรแม้กระทั่งเด็กๆ เมื่อปลายปีซิกบอกว่า ลอยด์มีลูกกับชิบะอินุที่ผสมในไทย จึงโพสขายพอดีน้องชายเขาเป็นนักข่าว3มิติ จึงแบ่งให้ผมมาเลี้ยงตัวหนึ่ง ผมจึง ตั้งชื่อว่า ชิชิมารุ ช่วงสงกรานต์ ไม่อยู่บ้าน โดยปล่อยลอยด์อยู่ในรั้วบ้านตามปกติ กลับมาเมื่อวาน ก็พบว่า ลอยด์ถูกตัดขาข้างซ้ายไป ตัดหู และมีรอยแทงหลายแผลอาการสาหัส ความว่า ยังโยนขาที่ตัดไปให้สุนัขอีกบ้านแทะด้วย ผมว่า หากสุนัขออกไปข้างนอกแล้วกัดเด็กก็เรื่องหนึ่ง แต่หากเข้ามาทำร้ายในบ้านก็เรื่องนี้…
-
ชายถูกจับเนื่องในข้อหาใช้ภรรยาเป็น ‘ไม้ถูพื้น’ เหตุจากทะเลาะกันเรื่องทำแซนด์วิชเลอะ!?
คนเรานี่มันหัวเสียกันได้แทบทุกเรื่องกันเลยทีเดียวนะเนี่ย เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ อย่างในกรณีของคู่สามีภรรยาจากรัฐฟอลริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันจนถึงขั้นฝ่ายภรรยาอยากจะขอหย่า เนื่องจากฝ่ายสามีทำเกินกว่าเหตุ!! เหตุจากแซนด์วิชโดนนมหกเลอะเทอะ!! เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากฝ่ายสามีใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อใช้เช็ดนมที่หกจากแก้วจนเลอะเทอะไปทั่วบริเวณ ในระหว่างที่เขากำลังเตรียมทำแซนด์วิชเนยถั่วเยลลี่ ยัง ยังไม่จบ… ซึ่งนอกจากนี้ฝ่ายสามีก็โทรไปยังหมายเลข 911 และร้องเรียนว่า ‘เธอโยนเนยถั่วกับเยลลี่ของผมลงพื้น’ (เมียน่าจะเป็นฝ่ายโทรมากกว่านะ!?) ใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อทำความสะอาด!! อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงของฝ่ายภรรยาว่า ‘ที่ทำก็เพราะเอ็งฉีกเสื้อซะจนขาด แถมยังผลักให้ล้มลงพื้นอีก นั่นทำให้ฉันโมโหจนต้องตะคอกใส่นี่แหละ’ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งรายงานมาว่า ชายคนดังกล่าวใช้ศีรษะและผมของภรรยาเพื่อทำความสะอาดพื้น เจ้าหน้าตำรวจจึงทำการจับกุม Keith Davidson วัย 46 ปี ทันที ด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ฝ่ายภรรยาเปิดเผยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนกระทำแบบนี้ ‘เขาเคยใช้หัวของฉันล้างจานด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งที่สองและสาม ฉันทนไม่ไหว เขากลายเป็นสัตวประหลาดไปแล้ว’ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมสามีผู้โหดเหี้ยมได้ จะต้องทำการส่งให้ศาลตัดสินความผิด ซึ่งจะพิจารณาความผิดในวันที่ 27 มกราคมที่จะถึงนี้ ที่มา : unilad
-
สะเทือนใจคนรักหมา มหาลัยการแพทย์จีนใช้หมาไว้ทดลองผ่าตัด แต่ละตัวน่าสงสารมาก
ถือภาพที่น่าสลดใจจริงๆ สำหรับเหล่าสุนัขในประเทศจีน ที่ถูกมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งหนึ่งในเมืองซีอาน วิทยาเขตเว่ยหยาง มณฑลส่านซี ประเทศจีน จับมาไว้บนดาดฟ้าของตึก เพื่อใช้เป็นหนูทดลองในการฝึกผ่าตัดของคณะนักเรียนแพทย์ กลายเป็นภาพที่น่าเวทนาของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้กลุ่มพิทักษ์สัตว์ในจีนต้องเข้าตรวจสอบมหาวิทยาลัยดังกล่าว จึงพบว่าบริเวณดาดฟ้าของอาคารมีศพสุนัขนอนเกลื่อนอยู่กับพื้นอยู่หลายตัว แต่ละตัวมีแผลผ่าตัดมากมาย บางตัวถูกตัดขาออก บางตัวถูกมัดไว้ไม่ให้ขยับไปไหน แต่มีบางตัวที่ยังมีลมหายใจอยู่และสามารถลุกยืนได้อยู่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ยังพบกับสุนัขอีกกว่า 20 ตัว ที่มีสภาพผอมแห้งและหิวโซถูกล่ามด้วยโซ่ โดยพวกเขาคาดกันว่าอาจจะถูกนำไปผ่าตัดในเร็วๆ นี้ โดยทางมหาวิทยาลัยบอกว่าพวกเขาจะให้อาหารกับมันในตอน 20.00 เท่านั้น ด้านคณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้กล่าวว่าพวกเขาจะฉีดยาเพื่อให้สุนัขไร้ความรู้สึก ก่อนที่จะนำมันไปที่ดาดฟ้าเพื่อเตรียมทำการทดลองต่อไป แต่เมื่อทีมพิทักษ์สัตว์ถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้วิธีการุณยฆาตกับสุนัข พวกเขาก็ให้เหตุผลเพียงว่า “ไม่มีเงินมากพอ” สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยก็ได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าว และสัญญาว่าจะจัดการกับศพสุนัขให้เรียบร้อยและจะไม่มีการนำสุนัขมาใช้ฝึกผ่าตัดอีก ขอให้พวกนายไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้นะ ที่มา shanghaiist
-
ทำกันได้ลงคอ? ชายจีนจับสุนัขล่ามไว้กับรถกระบะ ลากมันไปตามถนนจนขาดใจตาย
กลายเป็นภาพชวนอนาถใจที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของสุนัขโชคร้ายตัวหนึ่งที่ถูกรถกระบะลากไปกับถนน จนขาดใจตาย ภาพดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ถ่ายได้ในเมืองตงกวง มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน เผยให้เห็นสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับรถกระบะ และลากไปตามท้องถนนโดยคนขับเป็นชายชาวจีนไม่ทราบชื่อ ตามรายงานของผู้พบเห็นเหตุการณ์บอกว่า รถคันดังกล่าวแล่นไปตามถนนด้วยความเร็วพอประมาณ ทำให้เจ้าสุนัขต้องวิ่งตามรถของเขาไป แต่เนื่องจากรถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ ทำให้เจ้าสุนัขเริ่มหมดแรง และล้มลงไปในที่สุด ทำให้มันถูกลากไปกับพื้นถนนจนขาดใจตาย ในขณะที่ประเทศจีนมีกฎหมายลงโทษสำหรับพวกทารุณสัตว์ แต่กฎหมายก็ยังคงหละหลวมนักและไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวได้ หากชาวบ้านพบเห็นเหตุการณ์คล้ายกันนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องช่วยกันแจ้งไปยังหน่วยงานคุ้มครองสัตว์หรือตำรวจเพื่อเข้ามาดูแลและไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก สุนัขยังไงเขาก็ไม่มีทางสู้เราได้หรอกนะ ตัวเล็กๆ ไม่มีมือมีเท้าแบบเรา อย่าไปทำอะไรแบบนี้เลยนะ เหมียวสงสารเขา ที่มา dailymail
-
เจ้าของบ้านเช่างัดบ้านผู้เช่าที่เลี้ยงแมวกว่า 35 ชีวิต ปล่อยให้หมากัดตาย เหตุเพราะค้างค่าเช่า!!
เหมียวเห็นเรื่องแบบนี้แล้วถึงกับทำใจไม่ได้เลยล่ะ เพราะว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายเหลือเกิน ทำร้ายจิตใจของคนรักแมวเป็นอย่างมาก เหตุเกิดขึ้นที่บ้านเช่าย่านบางกรวย โดยมีผู้เช่าเป็นคุณสมนึก เป็นจิตรกรวาดภาพฝาผนังโบสถ์ และเลี้ยงแมวอยู่ภายในบ้านเช่าเป็นจำนวน 35 ตัวด้วยระบบปิด คุณสมนึกเลี้ยงแมวด้วยความเอาใจใส่ทุกชีวิต ไม่มีรบกวนบริเวณรอบข้าง ปิดมิดชิด ปลอดภัยจากอันตราย แต่ด้วยเหตุที่ทำให้คุณสมนึกต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดสัปดาห์ละสองวัน จึงไม่อาจดูแลได้ตลอด เมื่อไม่อยู่ก็ได้จัดน้ำและอาหารให้น้องเหมียวพออยู่รอดได้ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี คุณสมนึกติดหนี้ค้างชำระค่าเช่าบ้านสองเดือน ซึ่งเขาเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่เหลือ แต่เจ้าของบ้านเช่ากลับเร่งรัดแถมข่มขู่ผ่านโทรศัพท์ว่าหากไม่ยอมจ่ายจะเข้าไปปล่อยแมวทั้งหมด จนกระทั่งเช้าวันที่ 16 ตุลาคม เจ้าของบ้านเช่าขนอิฐดินมาถมรอบบริเวณ งัดกุญแจบ้านเข้าไปปล่อยแมวหลายสิบชีวิตออกมา รวมไปถึง ‘เจ้าขาว’ แมวป่วยเป็นโรคมะเร็งลูคีเมีย ออกมาให้ลูกของตนลากเล่น ยังไม่พอมีสุนัขที่ติดตามมาอีกตามไปขย้ำแมวที่อีก 2 ตัวจนเสียชีวิต รวมไปถึงเจ้าขาวด้วย แมวอีกส่วนหนึ่งตกใจและวิ่งหนีจนสูญหายไป เมื่อคุณสมนึกกลับมาเห็นสภาพบ้านที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมกับซากของน้องเหมียวสามตัวภายในบ้าน ก็ถึงกับใจสลาย กับการจากไปของแมวทั้งสามตัว และยังรอคอยอย่างมีความหวังว่าน้องแมวที่เหลือจะยังมีชีวิตรอด และจะตามหาให้เจอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาสาประชาชน ผู้ทราบข่าวสลดใจจากเพจทาสแมว เหตุ เจ้าของบ้านเช่า บุกงัดกุญแจบ้านผู้เช่า ซึ่งเลี้ยงแมวระบบปิด 35…
-
ชาวเน็ตสลด สื่อนอกเผยคลิปครูฝึกสัตว์ ตบหัวและทารุณเสือโคร่งในสวนสัตว์
หากใครที่เคยคิดว่าเสือเป็นผู้ล่าที่น่ากลัวแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องคิดใหม่เลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอตัวหนึ่งของเจ้าเสือโคร่งผู้น่าสงสารภายในสวนสัตว์เหวินหลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน คลิปวิดีโอเผยให้เห็นเจ้าเสือโคร่งขณะถูกครูฝึกตบหัว จากนั้นครูฝึกก็เดินขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวของมัน และขย่มอย่างทารุณ กลายเป็นภาพที่ดูสลดใจของผู้ชมในโลกออนไลน์อย่างมาก ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่กลับกลายเป็นกระแสอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทางการท้องถิ่นของมณฑลเจ้อเจียง ก็ได้เรียกร้องให้สวนสัตว์และพนักงานทั้ง 2 คนแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก คลิกชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ทำไมต้องทำกับเขาแบบนั้นด้วย ที่มา mirror