Tag: ทำนา

  • ใครว่าชาวนาไม่เท่!? รู้จักกับ ‘Kiyoto Saito’ ชาวนาผู้แต่งตัวได้โคตรคูลที่สุดในโลก..!!

    ใครว่าชาวนาไม่เท่!? รู้จักกับ ‘Kiyoto Saito’ ชาวนาผู้แต่งตัวได้โคตรคูลที่สุดในโลก..!!

    ในยุคที่เศรษฐกิจบ้านเราดูจะลุ่มๆ ดอนๆ เหล่าผู้ทำการเกษตรต่างก็ต้องคอยรับมือกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ลดตัวลงอย่างฮวบฮาบ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับหนุ่มทำนาชาวญี่ปุ่น Kiyoto Saito ผู้ที่จะทำให้เรารู้สึกว่า… การทำเกษตรไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ อย่างเดียวนะ จะแต่งตัวให้โคตรคูลเหมือนเดินออกมาจากรันเวย์แฟชั่นวีคส์ก็ได้เหมือนกัน..!!   Kiyoto Saito ชาวนาที่น่าจะเท่ที่สุดในสามโลก   Kiyoto Saito หนุ่มวัย 29 ปี ผู้เป็นเจ้าของผืนนาข้าวหลายสิบไร่ ได้กลายเป็นเซเลบริตี้ประจำจังหวัดยามากาตะ ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของการออกมาแต่งตัวสุดเนี๊ยบ ใส่ของแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าตัวเล่าว่าเขาไม่ได้อยากจะอวดรวย หากแต่เขาต้องการนำเสนอให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่า การทำนาไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่หลายคนคิด   แต่ก่อนจะหันมาใช้ชีวิตคูลๆ เจ้าตัวก็เคยเป็นมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่มาแล้วเหมือนกัน   ในช่วงแรกหลังเรียนจบ เจ้าตัวเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนให้กับบริษัทสถาปนิก และใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโตเกียวเฉกเช่นคนอื่นๆ ทว่าวันหนึ่งเขากลับรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะด้วยปัญหาจากงาน หรือความแออัดของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจกลับมายังบ้านเกิดเพื่อทำนาสืบสานปณิธานของครอบครัวต่อไป     Kiyoto Saito เล่าว่า ต้นตระกูลของเขายึดอาชีพทำนาข้าวมานานกว่า 400 ปี!! และสำหรับตัวเขาเองก็อยู่ในรุ่นที่ 16 ของครอบครัวเข้าให้แล้วล่ะ “ช่วงแรกหลังกลับมาอยู่บ้าน ผมมักจะโดนพี่ชายล้ออยู่เสมอว่า.. เป็นไงไปอยู่ในเมืองได้ใส่แต่สูทละสิ!! อะไรทำนองนั้น จนมันทำให้ผมปิ๊งไอเดียที่จะเอาสองอย่างนี้มายำรวมกันซะเลย” Kiyoto…

  • ชาวนาไร้ขาผู้ไม่ย่อท้อ สู้ชีวิตมานานกว่า 40 ปี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อคำว่า ‘ครอบครัว’

    ชาวนาไร้ขาผู้ไม่ย่อท้อ สู้ชีวิตมานานกว่า 40 ปี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อคำว่า ‘ครอบครัว’

    หากใครที่ตอนนี้กำลังรู้สึกท้อแท้อยู่ละก็… เรื่องราวของคุณตาชาวจีนนักสู้ชีวิตตัวจริงคนนี้ จะทำให้เรามีกำลังใจลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง เรื่องราวของคุณตาวัย 60 ปี Xi Tiangen กำลังเป็นที่ชนะใจประชาชนทั่วประเทศจีน เพราะเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ที่เขาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างไปแล้วก็ตาม   คุณตา Xi Tiangen   คุณตาเล่าว่าเขาประสบอุบัติเหตุทำให้สูญเสียขาทั้งสองข้างตอนอายุ 19 ปี   ในช่วงนั้นเขามักจะทำนาช่วยเหลือที่บ้านมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 1986 คุณพ่อของเขาได้จากไป   ทำให้เขาต้องคอยดูแลมารดาผู้แก่เฒ่า และน้องชายที่มีอาการป่วยทางจิต แม้แต่อาหารทุกมื้อเขาก็จะเป็นคนจัดแจงให้ครอบครัวทั้งหมด   กระทั่งมารดาก็ได้จากเขาไปเมื่อปี 2006 และตามด้วยน้องชายผู้เป็นที่รักเมื่อปี 2015 ทำให้คุณตาต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับญาติ   ด้วยความที่คุณตาทำงานหนักมาทั้งชีวิต เขาก็เลือกที่จะช่วยเหลือญาติทำเกษตรกรรม และหารายได้จุนเจือตัวเองจากการเกษตร   หลังจากที่เรื่องราวของคุณตาถูกนำมาเผยแพร่ ชาวเน็ตในจีนก็ช่วยกันบริจาคเงิน และหวังว่าคุณตาจะได้ใช้ชีวิตในช่วงวัยเกษียณอย่างสุขสบายซักที   เรื่องราวของคุณตาผู้ไม่เคยย่อท้อ เป็นกำลังใจดีๆ ให้เราได้ในวันที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า ที่มา: Shanghaiist  

  • เคยเห็นกันเปล่าวัยรุ่น? ชมการทำงานของเครื่องปลูกข้าวยุคไฮเทค แค่แป๊ปเดียวเต็มนาเลย

    เคยเห็นกันเปล่าวัยรุ่น? ชมการทำงานของเครื่องปลูกข้าวยุคไฮเทค แค่แป๊ปเดียวเต็มนาเลย

    เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะชินกับภาพของชาวนาก้มลงไปปลูกข้าวกันที่ละต้นๆ กว่าจะเต็มนาสักผืนก็ใช้เวลากันเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปชมเครื่องปลูกข้าวแบบหย่อนกล้า ที่ใช้เวลาเพียงไม่นาก็สามารถปลูกได้เต็มแปลงเลยทีเดียว!!     เทคโนโลยีที่จะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด เพราะเจ้าเครื่องหย่อนกล้าที่ว่านี้เริ่มมีใช้กันในต่างประเทศมาได้สักพักแล้ว และในไทยเราเองก็มีใช้เช่นกัน มันจะช่วยให้เกษตรปลูกข้าวได้พร้อมกันทีละหลายๆ ต้นในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังช่วยลดอาการปวดหลังที่มักจะเกิดขึ้นด้วย     หลักการทำงานของเจ้าเครื่องปลูกข้าวแบบหย่อนกล้านี้ก็คือ ให้เราใส่ต้นกล้าลงไปในเครื่อง จากนั้นมันก็จะดึงต้นกล้าลงไปในนาทีละ 4 แถว (หรือมากกว่านั้น) มันจะช่วยให้ต้นกล้าเจริญเติบโตได้ดี ลดการสูญเสียของต้นกล้าได้มากกว่าใช้มือปลูก และในบางรุ่นสามารถโรยปุ๋ยไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย   อย่างเช่นคลิปด้านล่างนี้ เป็นการทำนาในจังหวัดเชียงใหม่นี่เอง   แต่ด้วยความที่เจ้าเครื่องหย่อนกล้าที่ว่านี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นกว่าบาทไปจนถึง 7 หมื่นบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว อาจจะทำให้ชาวเกษตรกรในบ้านเราบางคนไม่อยากซื้อมาใช้นั่นเอง ที่มา thechive , Shamblesguru Smith