Tag: ทำร้ายร่างกาย
-
หนุ่มอังกฤษถูกจับกุม เพราะขว้าง “แฮม” ใส่สาวคู่กรณี ทะเลาะกันเรื่องวันฉลองคริสต์มาส
การทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน แม้จะอยู่ท่ามกลางการทะเลาะวิวาท มันก็อาจนำไปสู่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ได้ เช่นชายจากรัฐเคนทักกีคนนี้ ที่ถูกจับกุมตัวหลังทะเลาะวิวาทกับหญิงสาวแล้วดันไปขว้าง “แฮม” ใส่เธอ เขามีนามว่า David Brannon วัย 31 ปี เมื่อราวเวลา 22.20 นาฬิกาของวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าจับกุมตัวเขาได้ขณะเขากำลังวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดการทะเลาะวิวาทในครอบครัว นายอำเภอของเคาน์ตี Laurel ก็เล่าว่านาย David ได้ขว้างข้าวของรวมถึง “แฮม” ที่เตรียมไว้รับประทานในวันคริสต์มาสใส่หญิงสาว เพราะทะเลาะกันด้วยปัญหาที่ว่า “จะจัดงานฉลองคริสต์มาสวันไหนดี?” David Brannon . เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐาน เป็นข้าวของหลายชนิดกระจัดกระจายอยู่บนพื้น และขณะนี้ David เองก็ถูกควบคุมตัวเอาไว้ที่ทัณฑสถานของเทศมณฑล Laurel เนื่องจากความผิดฐานทำร้ายร่างกายและหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้าย David ก็ไม่ต้องเลือกแล้วว่าจะจัดงานฉลองคริสต์มาสวันไหน เพราะเจ้าตัวจำเป็นจะต้องอยู่ในห้องขังแม้จะเป็นวันคริสต์มาสหรือคริสต์มาสอีฟก็ตาม ส่วนค่าปรับในข้อหาหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32,500 บาทไทย) ที่มา: dailymail, wdrb และ nypost
-
ตำรวจพบสาวไทยวัย 19 ปี ถูกทำร้าย ‘ปางตาย’ ในญี่ปุ่น-คู่กรณีโดดตึกหวังจบชีวิต
เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 19 ธันวาคม 2018 เฟซบุ๊ก Thanakorn Jaisuksakuldee ได้รายงานว่ามีหญิงสาวชาวไทยถูกทำร้ายสาหัสในประเทศญี่ปุ่น ซ้ำคู่กรณีกระโดดตึกหวังจบชีวิต เฟซบุ๊กดังกล่าวเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ๆ สถานีรถไฟ JR Oguisudani ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 18 ธันวาคม 2018 พนักงานโรงแรมนั้นได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและกรีดร้องของผู้หญิงดังออกมาจากชั้น 5 ของโรงแรม จึงได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงพบ หญิงสาวชาวไทยวัย 19 ปี นอนหมดสติในสภาพเปลือยกาย ทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะใบหน้าและศีรษะมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างสาหัส ภายหลัง พบร่างของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปีนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บริเวณข้างโรงแรมในสภาพที่ไม่สวมอะไรเลยนอกจากกางเกงชั้นใน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชายคนดังกล่าวมีกระดูกหักหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยล่าสุดชายคนนี้ก็ยังคงไม่ได้สติ ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หญิงสาวชาวไทยและชายชาวญี่ปุ่นดังกล่าว อาจมีปัญหาส่วนตัวกันและเกิดการทะเลาะวิวาท ฝ่ายชายอาจมีการทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงและกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย หลังจากการตรวจสอบข้อมูลในหนังสือเดินทางของหญิงชาวไทยดังกล่าว พบว่าเธอเป็นเพียงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีระยะเวลาพำนักในญี่ปุ่นเพียง 15 วันเท่านั้นซึ่งจะหมดลงในวันที่ 20 ธันวาคม 2018 ส่วนฝ่ายชายนั้นเป็นชาวญี่ปุ่น เบื้องต้นทราบเพียงแค่ว่าเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้น …
-
หนุ่มจีนเดือด “ทำร้าย” แพทย์หลังปฏิเสธ ‘ผ่าตัดทำคลอด’ ภรรยาให้ทันตามฤกษ์ที่ดูไว้
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย หลังแพทย์ปฏิเสธที่จะทำคลอดก่อนกำหนดให้กับหญิงสาวชาวจีน ทำให้ผู้เป็นสามีของหญิงตั้งครรภ์เข้าจู่โจมนายแพทย์ด้วยอารมณ์โมโห เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาล Peking University First Hospital กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แพทย์ผู้เคราะห์ร้ายนามว่า He ถูกชายสกุล Zheng วัย 46 ปีเข้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากแพทย์ปฏิเสธที่จะผ่าตัดทำคลอดภรรยาของนาย Zheng ตาม “ฤกษ์” ที่ทางครอบครัวกำหนดไว้ นายแพทย์ Zhan แพทย์อีกรายที่ร่วมการทำคลอดก็ออกมาอธิบายบนเว็บไซต์ Weibo ว่า ที่ต้องปล่อยให้คนไข้คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็เพราะเห็นว่าปลอดภัยและ ไม่จำเป็น จะต้องใช้วิธีการผ่าตัด ขณะเดียวกัน นายแพทย์ He ผู้ถูกทำร้ายร่างกายก็มีกระดูกหักหลายจุด หากชมภาพจากกล้องวงจรปิดจะพบว่า Dr. He ถูกชกแต่เตะที่ศีรษะและท้องหลายครั้ง ลองชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 นาย Zheng ผู้ก่อเหตุก็ถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจเนื่องจากคดีทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ ส่วนหญิงวัย 19…
-
เศรษฐีมาเลฯ “ทำร้ายร่างกาย” พนักงานลานจอดรถ ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายค่าจอด 24 บาท…
นักธุรกิจชาวมาเลเซียคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนหลังพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่เขาได้ทำร้ายพนักงานลานจอดรถทั้งทางวาจาและร่างกาย โดยมีเหตุมาจากเงินจำนวน 3 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 24 บาท) ตามรายงาน ทราบว่าเหตุเกิดในลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นักธุรกิจชายสูงวัยเดินเข้ามายังห้องทำงานของพนักงานดูแลลานจอดรถ และกระทำความรุนแรง ขว้างปาวิทยุสื่อสารใส่พนักงานคนดังกล่าว จากนั้นนักธุรกิจก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน พร้อมทำท่าทางจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเขาก็ผลักเก้าอี้ก่อนที่จะชกพนักงานคนดังกล่าวหลายครั้ง ชมคลิปวิดีโอ วิดีโอถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Balamuraly Doraisamy เมื่อวันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2018 ซึ่งอัปโหลดพร้อมกับภาพรถของนักธุรกิจดังกล่าว “พนักงานจำเป็นต้องดำเนินการกับชายคนนี้เพราะชายคนนี้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นท่านขุนที่เหนือกว่าคนอื่นๆ ที่จะทำอะไรกับใครก็ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ถูกรายงานกับตำรวจเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตามช่วยแชร์คลิปนี้ต่อๆ กันจนกว่าชายคนนี้จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย” ภายหลังทราบมาว่านักธุรกิจวัยกลางคนผู้นี้ เกิดอารมณ์เสียหลังพนักงานลานจอดรถวัย 31 ปี ไม่ยอมเปิด “ไม้กั้น” ทางออกให้กับเขา เนื่องจากเขาไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถเป็นจำนวนเงิน 3 ริงกิตมาเลเซีย (24 บาทไทย) ทำให้นักธุรกิจคนดังกล่าวลงจากรถมาระบายอารมณ์กับพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งด่าทอและทำร้ายร่างกาย จนพนักงานลานจอดรถเกิดรอยฟกช้ำหลายจุดบนร่างกาย .…
-
จากคดีสาว Hara และแฟนหนุ่ม ฝ่ายชายเผยภาพ “บาดแผล” และพร้อมพิสูจน์ทุกกรณี!
ก่อนหน้านี้มี่ข่าวใหญ่ของนักร้องสาว Goo Hara อดีตสมาชิกวง KARA ที่เธอถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนฟกช้ำเต็มตัวเนื่องจากการทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) เธอโพสต์ภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำดำเขียวอันเนื่องจากการถูกแฟนหนุ่ม Choi Jong-bum ทำร้ายร่างกายจนถึงกับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เรื่องราวเกิดจากการทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ หลังจากที่ฝ่ายชายเอ่ยปากขอแยกทางกับเธอ การใช้กำลังและความรุนแรงก็เริ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Choi Jong-bum ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ในวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาและตัวแทนทางกฎหมายของเขาก็ได้เผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเอาทรัพย์สินของเขาไปหลายอย่างเนื่องจากการที่เขาถูกฟ้องว่าทำร้ายร่างกาย Hara ทั้งๆ ที่เขาเองก็ได้โพสต์ภาพหลักฐานตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ว่าตัวเขาเองก็มีรอยบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกทำร้ายร่างกายโดย Hara ด้วยเช่นกัน เขาก็เลยต้องเผยภาพดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ . นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการให้สัมภาษณ์กับ Dispatch Choi Jong-bum ยังถูกกล่าวหาว่ามีการใช้คลิปวิดีโอ “สวาท” ระหว่างเขาและ Goo Hara ในการขู่เธออีกด้วย แต่จากคำให้การเมื่อวันจัทร์ที่ผ่านมา Choi Jong-bum กล่าวว่าข้อมูลในเว็บไซต์ Dispatch นั้นมีการใส่ความและกล่าวเกินจริงไปมาก โดยเขาได้ให้สัญญากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาจะพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ดังต่อไปนี้… 1. เขาทำท่าจะกดปุ่ม “ส่ง” คลิปวิดีโอต่อหน้าของ Goo Hara ในวันเกิดเหตุเท่านั้น 2.…
-
Hara อดีตสมาชิกวง KARA โพสต์ภาพถูกแฟนหนุ่ม “ทำร้าย” จนร่างกายฟกช้ำหนัก
การทะเลาะวิวาทระหว่างคู่รักเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ถึงอย่างไร ความรุนแรง และ การทำร้ายร่างกาย คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเท่าใดนัก ล่าสุด แม้ว่าจะเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปยังหลายๆ ประเทศทั่วโลก เช่น ศิลปิน K-Pop เองก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องราวของความรุนแรงและการทำร้ายร่างกาย Hara (Goo Ha-ra) นักร้องและนักแสดงสาวสัญชาติเกาหลี อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป KARA ได้เผยภาพรอยฟกช้ำบนแขนและขาของเธอลงบนโลกออนไลน์ โดยกล่าวว่าเป็นผลมาจากการถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ภาพถูกโพสต์ลงเว็บไซต์ Dispatch ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนเกิดความสะเทือนใจที่ได้เห็นภาพรอยฟกช้ำจำนวนมากบนร่างกายของ Hara Hara อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป KARA ภาพรอยฟกช้ำและบาดแผลบนร่างกายของเธอ ทั้งแขน ขา เท้า หัวเข่า และข้อศอก . นอกจากนี้ Hara ยังโพสต์ภาพใบรับรองแพทย์ของเธอ ประกอบไปด้วยการวินิจฉัยจากสูติแพทย์และศัลยแพทย์กระดูก ตามคำวินิจฉัยของสูติแพทย์ Hara มีเลือดคั่งในท่อปัสสาวะและช่องคลอดเนื่องจากการถูกทำร้าย เธอจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ในการรักษา ใบกำกับการวินิจฉัย (สูติแพทย์) ขณะเดียวกันทางฝ่ายของศัลยแพทย์กระดูกก็กล่าวว่าเธอได้รับความบาดเจ็บซ้ำๆ บ่อยครั้ง เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิด เอ็นกระดูกคอบาดเจ็บ กระดูกใบหน้าช้ำและแพลง กระดูกขาส่วนล่างช้ำและแพลง และเอ็นกระดูกปลายแขนขวาฉีกขาด ใบกำกับการวินิจฉัย…
-
หนึ่งในฆาตกร ‘เยาวชน’ คดี “จุนโกะ” เมื่อ 30 ปีก่อน ถูกจับกุมอีกครั้ง จากข้อหาพยายามฆ่า
ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน มีคดีฆาตกรรมอันน่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เด็กนักเรียนชาย 4 คน ได้วางแผนหลอกล่อเหยื่อมา “ข่มขืนและฆ่า” โดยเหยื่อก็คือ จุนโกะ ฟุรุตะ เด็กนักเรียนหญิง ม.ปลาย วัยรุ่นชายวัย 15 ปี นามว่า โนบุฮารุ จึงได้วางแผนกับเพื่อนเพื่อหลอกล่อจุนโกะมายังบ้านของตน จากนั้นจึงข่มขืน ทรมาน และฆ่าในที่สุด หลังตำรวจจับกุมตัวพวกของโนบุฮารุได้ ซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็น “เยาวชน” ศาลจึงผ่อนผันโทษตามข้อกฎหมายของเยาวชน โดยให้โนบุฮารุถูกตัดสินจำคุกเพียง 5-9 ปีเท่านั้น จุนโกะ ฟุรุโตะ เหยื่อฆาตกรรมเมื่อปี 1988 เวลาผ่านไปสามทศวรรษนับจาก “คดีฆาตกรรมจุนโกะ” เหล่าเยาวชนที่เป็นผู้ร้ายในคดีเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่อาศัยร่วมกับสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น… แต่ล่าสุดวันที่ 9 กันยายน 2018 มีรายงานว่าชายวัย 45 ปีนามว่า ชินจิ มินาโตะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเนื่องจากทุบตีและใช้มีดแทงเพื่อนร่วมงานวัย 32 ปี ขณะทั้งคู่มีการทะเลาะวิวาทในจังหวัดไซตามะ ขณะที่เหยื่อวัย 32 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มินาโตะผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์เดือด…ทอมโหดทำร้ายแฟนสาว ‘หมวกกันน็อกฟาด’ จนเข้าโรงพยาบาล!!
ในชีวิตคู่ บางครั้งอาจจะมีทะเลาะกันบ้างก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันแล้วขอบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดความรุนแรง และสร้างความเสียหายให้อย่างมากมาย เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า Thikampron Kaain ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างคู่รักทอมกับแฟนสาว (แฟนสาวเป็นน้องสาวของเจ้าของโพสต์) โพสต์ดังกล่าวมีแคปชันว่า “แ*ง..แค่เห็นสภาพน้องตอนอยู่โรงพยาบาลก็ว่าแย่แล้วพอมาดูคลิปยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ทำใจดูไม่ได้ได้แต่กรอไปกรอมา ใจทำด้วยอะไรวะ…ได้ข่าวว่ากลับบ้านใช่มั้ย ใครอยู่บ้านฝากหน่อยสิ จะได้รู้ว่ากินข้าวกินยากินน้ำไม่ได้มันทรมานยังไง น้องต้องปวดแค่ไหน นี่เหรอ 7 ปี ที่คบกันมา น้องเพิ่งส่งคลิปให้ดู ผมนี่หัวร้อนนเลย” เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการทะเลาะกันเบาๆ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะถูกผลักออกมา ด้วยความโมโหเธอจึงชกเข้าไปที่หน้าของทอม ก่อนที่ฝ่ายทอมจะหยิบหมวกกันน็อกขึ้นมาแล้วฟาดไปที่หน้าของฝ่ายหญิง หลังจากนั้นก็กลายเป็นการกระทำรุนแรงโดยฝ่ายเดียว มีผู้เห็นเหตุการณ์แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาห้ามปรามหรือช่วยเหลือได้แต่ยืนมอง จนกระทั่งมีผู้หญิงดูมีอายุคนหนึ่งเดินมาห้ามในที่สุด คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจมากมาย จนมีคนเข้ามากดไลก์ถึง 34,000 ครั้งและแชร์ไปอีกกว่า 81,000 ครั้งเลยทีเดียว เนื่องจากว่าเฟซบุ๊กจัดให้คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ความรุนแรง จึงนำมาฝังไว้ในบทความไม่ได้ หากเพื่อนๆ คนไหนอยากชมคลิปก็คลิกเข้าไปที่ ลิงก์นี้ ได้เลยนะจ๊ะ หลายๆ คนต่างก็ให้ความเห็นด่าทอทอมในคลิปกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า “โห…
-
หญิงมะกัน “กัดจมูก” เหยื่อจนแหว่งแล้ว ‘กลืนลงคอ’ หลังขอเบียร์และบุหรี่ไม่สำเร็จ
อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจอย่างที่เราหวังเอาไว้นั้นมักทำให้เรารู้สึกขัดใจและอารมณ์เสียอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องการสิ่งใดจากผู้อื่น การขอร้องด้วยความสุภาพน่าจะเหมาะสมกว่าการทำร้ายร่างกาย กรณีในวันนี้ หญิงวัย 41 ปีคนหนึ่งไม่พอใจที่เธอขอเบียร์กับบุหรี่แล้วถูกปฏิเสธ เธอจึงเข้าไป “กัดจมูก” ของหญิงอีกคนหนึ่งแล้วกลืนลงคอไป เพราะหญิงคนนั้นไม่ยอมซื้อเบียร์กับบุหรี่ให้เธอ!! Jessica Collins หญิงวัย 41 ปีจากเท็กซัส ถูกเจ้าหนี้จับกุมหลังจากทำร้ายร่างกายคนแปลกหน้าด้วยการกัดจมูกออกไปเป็นรอยกว้างด้วยความเมาในวันพุธที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหยื่อผู้เสียหายวัย 28 ปีไม่เปิดเผยนาม ในวันเกิดเหตุตัวผู้เสียหาย (1) เพื่อนบ้านของเธอ (2) และ Jessica Collins ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอีกคน (3) ได้ออกไปดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง เมื่อทั้งสามคนกลับจากบาร์มายังบ้านของผู้เสียหายก็เกิดการทำร้ายร่างกายขึ้น Jessica Collins เข้าไปกัดผู้เสียหายหลังจากที่ผู้เสียหายไม่ยอมซื้อเบียร์และบุหรี่มาให้เธอ เพื่อนบ้านของเหยื่อผู้เสียหายจึงเข้าไปโพสต์ในเว็บไซต์ GoFundMe ว่า “เพื่อนของฉันถูกคนโรคจิตทำร้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันบอกให้นางกลับบ้านตัวเองไป แต่แทนที่นางจะกลับนางดันพุ่งเข้าหาเพื่อนฉัน กัดเข้าที่จมูกแล้วยังกลืนลงคออีกด้วย” เมื่อผู้เสียหายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์แจ้งให้ทราบว่าเธอจำเป็นต้องรับการศัลยกรรมพลาสติกเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่สูญเสียไป โดยกำหนดเข้ารับการผ่าตัดในอีก 2 สัปดาห์ถัดไปเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อน แต่การจะเข้ารับการศัลยกรรมจำเป็นต้องมีค่ามัดจำล่วงหน้า ซึ่งทางเพื่อนของผู้เสียหายจึงได้เปิดรับบริจาคสมทบทุนในเว็บไซต์ GoFundMe ปัจจุบันทุนที่ระดมมาได้มียอดอยู่ที่ราวๆ 23,000 บาท ซึ่งค่ารักษาทั้งหมดอยู่ที่เกือบๆ…
-
คนขับรถเมล์สาย 12 ยอมรับหัวร้อนกระทืบผู้หญิง ตอนนั้นไม่ทราบว่า “เป็นผู้หญิง”
จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างหญิงสาวคนหนึ่งกับคนขับรถเมล์สาย 12 ที่ขับจี้ท้ายรถจักรยานยนต์ของอีกฝ่าย ทั้งคู่เกิดปากเสียงจนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยการที่ คนขับและกระเป๋ารถเมล์รุมทำร้ายหญิงสาวคู่กรณี ทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ก็ได้ติดตามเรื่องราวนี้จนล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ได้เข้าสัมภาษณ์ นายอำพล อภัยรัตน์ นายท่ารถมินิบัส สาย 12 ทำให้ทราบว่า คนขับและกระเป๋าเป็นพี่น้องกัน นายท่ายังบอกอีกว่าทั้งสองคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แต่ตนนั้นไม่สามารถเข้าไปตักเตือนอะไรได้เนื่องจากเป็นแค่นายท่า ผู้ที่มีอำนาจตักเตือนได้จะมีแค่เจ้าของโครงการเท่านั้น ขณะนี้ทั้งคนขับและกระเป๋ารถเมล์ผู้ก่อเหตุก็ได้หลบหนีออกต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ไม่มีใครสามารถติดต่อพวกเขาได้เลย กลับกัน นางวัลลีย์ บุญมัธยะ เจ้าของอู่รถมินิบัสสาย 12 บอกว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองคนเป็นคนเรียบง่าย เมื่อเห็นว่าไปทำร้ายผู้หญิงแบบนั้นก็ตกใจอย่างมาก คิดว่าน่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่หลังจากเกิดเหตุนี้ขึ้นทั้งสองคนก็มาขอว่าจะกลับไปทำธุระที่บ้าน ตนก็เลยยอมให้กลับเนื่องจากในขณะนั้นไม่ทราบว่าทั้งสองไปก่อคดีอะไรเอาไว้ นางวัลลีย์กล่าวว่าหากทราบคงไม่ปล่อยกลับเป็นแน่ นายโชคชัย อ่ำสะอาด พนักงานขับรถสาย 12 อีกคนผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุ ก็กล่าวเช่นเดียวกับนายท่าว่า ทั้งสองคนเป็นคนอารมณ์ร้อนแม้กระทั่งในเวลาทำงาน บางช่วงที่รถติดมากๆ เข้าหรือขับรถรับผู้โดยสารได้น้อย ได้เงินน้อย ก็มักจะพาลอยู่เสมอ พอเกิดเหตุการณ์ทำร้ายผู้หญิงนี้แล้ว ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของคนขับมินิบัสดูแย่ลงอีก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่จับตามองอย่างมาก …
-
เตือนภัยผู้หญิงที่ “อยู่คนเดียว” ฝรั่งตามรังควาญชีวิตสาวไทยจนน่ากลัว เหตุเพราะเธอไม่เล่นด้วย
วันนี้มีเรื่องราวมาเตือนภัยสาวน้อยสาวใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียว โดยเฉพาะในต่างประเทศ… ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทย นบ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวตน ให้ชาวเน็ตได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของการเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียวในต่างแดน เธอเล่าว่า เพื่อนสาวของตนที่ปัจจุบันไปศึกษาต่อที่ซานฟรานซิสโกนั้น ถูกหนุ่มต่างชาติตามจีบ แต่ทว่าเพื่อนสาวของเธอ ไม่ได้ชอบและไม่เล่นด้วย ชายคนดังกล่าวจึงนำสิ่งสกปรกทั้งหลายเช่น สีน้ำมันและเศษขยะต่างๆ มาปาใส่ประตูหน้าห้องเพื่อกลั่นแกล้ง เพื่อนสาวของเธอต้องทนเจอสิ่งเหล่านี้ถึงหกเดือน แต่ล่าสุดก็จับตัวชายผู้กระทำผิดได้ เพราะชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปทำร้ายหญิงสาวขณะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านอาหาร สภาพหน้าประตูห้องของสาวที่ถูกหนุ่มแอบนำสิ่งสกปรกมาสาด สีน้ำมัน และเศษขยะ . . ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ นบ ก็ได้ออกมาบอกว่าขณะนี้ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแล้ว ส่วนสำหรับคนที่สงสัยว่าฝ่ายหญิงไปทำอะไรเขาไว้ก่อนหรือไม่นั้น ทาง นบ ผู้เป็นเพื่อนของฝ่ายหญิงก็ออกมาตอบเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่า ไม่อยากให้ถามแบบนี้ ทางเพื่อนของตนไม่เคยยุ่งหรือแม้แต่คุยกับชายคนดังกล่าวเลย ฉะนั้นจึงไม่เคยคบกัน สำหรับกรณีนี้เธอกล่าวว่า ฝ่ายชายน่ามีอาการทางจิตแน่นอน ก่อนหน้านี้ วีรกรรมของชายที่ตามตื๊อจีบสาวไทยคนดังกล่าวนั้นมีอีกมาก ขณะที่ทางฝ่ายหญิงได้ทำการตั้งกล้องเพื่อจะถ่ายผู้ที่นำสิ่งสกปรกมาสาดหน้าห้อง ปรากฏว่าไม่มีใครโผล่มาเลย แต่พอเอากล้องออก กลับมีคนมาสาดอีก นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังเคยโทรฯ ไปสั่งอาหารในร้านที่ฝ่ายหญิงทำงานเป็นร้อยสาย แต่ไม่มารับ แถมบางครั้งมีการสั่งให้ส่งถึงบ้าน แต่ระบุที่อยู่เป็นเลขที่ห้องของฝ่ายหญิงทั้งๆ ที่ฝ่ายหญิงไม่ได้สั่ง ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ชายหนุ่มถูกจับก็คือ เขามายังร้านอาหารที่ฝ่ายหญิงทำงานอยู่โดยบังเอิญ พอเจอหน้ากัน ฝ่ายชายกลับเขามาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว…
-
เปิดใจ “แม่เอ็ม” สุดช้ำ เพิ่งรู้ว่าลูกบอกคนอื่น ‘ไม่มีพ่อแม่ ถูกเก็บมาเลี้ยงจากถังขยะ”
จากข่าวสุดป่าเถื่อนที่โด่งดังไปทั่วประเทศขณะนี้ กับ นายชัยชนะ ศิริชาติ หรือ เอ็ม แอดมินเพจ Global Fx Investment ที่ได้ทำการไลฟ์สดทำร้ายร่างกายแฟนสาวนามว่า นีต้า อย่างทารุณ ขณะนี้ เอ็ม ผู้ก่อเหตุก็ได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ใช่ว่าเรื่องราวจะจบลงง่ายๆ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมีพ่อมีแม่ ทางรายการ รายการโหนกระแส จึงได้เชิญผู้เป็นพ่อของนีต้าและแม่ของเอ็มมานั่งคุยกันในรายการ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ผู้ดำเนินรายการ คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้สอบถามพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สุดป่าเถื่อน เรื่องราวน่าช้ำใจจึงเกิดขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือการที่แม่ของเอ็มได้รู้ว่าความจริงว่า ลูกชายของตนไปโกหกคนอื่นไว้ว่า ไม่มีพ่อแม่ และถูกเก็บมาเลี้ยงจากกองขยะ ทั้งพ่อของนีต้าและแม่ของเอ็ม ต้องเผชิญหน้าและพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะที่พ่อของนีต้ากล่าวว่า เอ็มบอกกับตนว่าไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเลย ตัวเขาถูกเก็บมาเลี้ยงจากสมาคมใดสมาคมหนึ่ง การศึกษาก็จบเพียง ป.6 แถมยังเคยบอกว่าด้วยว่า ตนอยากขอเป็นลูกของพ่อนีต้า ส่วนผู้เป็นแม่ของเอ็ม ก็กล่าวว่า เธอนี่แหละคือแม่แท้ๆ ของเอ็ม เธอและเอ็มไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้ว ถึงจะคิดถึงลูกก็ไม่รู้ว่าจะหาตัวได้พบอย่างไร ซ้ำยังไม่ทราบเลยว่าเอ็มมีแฟน เพราะเอ็มไม่เคยส่งข่าวหรือติดต่ออะไรกับเธอเป็นเวลานาน อีกอย่างเอ็มเรียนจบแค่ ป.4…
-
(ช่วยได้แล้ว) แอดมินกลุ่มเฟซบุ๊ก Global Fx Investment ไลฟ์สดทำร้ายผู้หญิง-ตัดนิ้ว
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 เมษายน 2561 เฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้แชร์คลิปวิดีโอสุดสะเทือนใจของหญิงสาวรายหนึ่งที่มีใบหน้าสะบักสะบอมจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม พร้อมกับมีเสียงของชายหนุ่มพูดจาข่มขู่เธออยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือเธอโดยด่วน ทั้งนี้เฟซบุ๊กของแหม่มโพธิ์ดำได้ให้รายละเอียดไว้ว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กที่ชื่อ Global Fx Investment ซึ่งเป็นการเผยแพร่ให้เพียงสมาชิกในกลุ่มดูเท่านั้น ทั้งนี้มีข้อมูลบอกว่าเสียงของชายหนุ่มผู้อยู่หลังกล้องมีชื่อว่า นายเอ็ม ชัยชนะ ศิริชาติ ซึ่งเป็นแอดมินของกลุ่มดังกล่าว ได้ทำการไลฟ์คลิปดังกล่าวออกมา 4-5 คลิปแล้ว จึงอยากวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันตามสืบหาที่อยู่เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวเป็นการด่วน “กูเตือนมึงไหม ก่อนสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น กูเตือนมึงกี่เดือน มึงจะเล่าหรือไม่เล่า กูเ_ี้ยเพราะมึงมาเยอะแล้ว กูฆ่ามึงแน่ถ้ามึงไม่พูดความจริงตอนนี้ อย่ายุ่งกับครอบครัวกู” ประโยคหนึ่งจากคลิปวิดีโอดังกล่าว อัปเดตล่าสุดเจ้าหน้าที่เจอญาติของหญิงสาวแล้ว และกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่โชคร้ายที่หญิงสาวถูกตัดนิ้วก้อยไปแล้ว อัปเดต: ทางญาติยืนยันว่าอวัยวะอยู่ครบ เพียงแต่มีบาดแผลและฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว อัพเดทล่าสุด 18.00 น. ตำรวจ สน.บึงกุ่ม บุกเข้าคอนโดที่เกิดเหตุ เพื่อควบคุมตัวผู้กระทำการดังกล่าว อัปเดต 19.20 : เจ้าหน้าที่เข้าช่วยออกมาได้แล้ว ที่มา แหม่มโพธิ์ดำ
-
หนุ่มอเมริกาโมโหร้าย เอาพิซซ่าตบหน้าแฟนสาว หลังจากมีปากเสียงกันบนรถ
เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา Kenneth Evans ชายหนุ่มวัย 24 ปีผู้อาศัยอยู่ใน Brookfield รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่เขาก่อคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว และทำลายข้าวของ Kenneth Evans ผู้ต้องหาในคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง Brookfield กล่าวว่า Evans ได้มีปากเสียงกับแฟนสาววัย 23 ปีของเขา และตะคอกใส่เธอหลายครั้ง ก่อนที่จะใช้มือดึงศีรษะของเธอในระหว่างที่เธอกำลังขับรถ และใช้พิซซ่าตบเข้าที่หน้าของเธอ ในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ และไปถึงเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุนั้น พวกเขากำลังอยู่ที่บ้านใน Masuary รัฐโอไฮโอ โดยที่ทางตำรวจเล่าว่า Evans ปิดประตูอย่างรุนแรงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ตะโกนด้วยน้ำเสียงรุนแรง และดูฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก ที่ถนนหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ยังพบยางรถที่ทางเหยื่อให้การว่า Evans โยนออกไปในการทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่พยายามเข้ามาห้ามการใช้ความรุนแรงของเขา เธอกล่าวอีกว่า Evans ได้ทำการทุบกล่องจดหมายทิ้งด้วย Evans ถูกจับในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว แต่แม้ว่าเรื่องจะไปถึงมือเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ Evans ก็ยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าวและอารมณ์แปรปรวน เขาสลับอารมณ์ไปมาระหว่างการร้องไห้และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแม้ตอนที่อยู่ในสถานีตำรวจ และมีการลุกขึ้นต่อยกำแพงจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้ามไว้ ทางตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้ต้องหาเมาสุราอย่างหนักแต่ไม่ได้มีการใช้สารเสพติดใดๆ โดยทาง Evans ได้ให้การว่าเขาบันดาลโทสะทำลายข้าวของก็จริง แต่ไม่ได้ลงมือกับแฟนอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด…
-
รู้หน้าไม่รู้ใจ!! แฟนสาวขาโหดโปรไฟล์ดี ถูกตัดสินจำคุกเจ็ดปีครึ่งจากการทารุณแฟนหนุ่ม
หากชีวิตคู่จะไปกันได้ด้วยดี ชีวิตของคนทั้งสองคนต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตคู่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง ความเคารพซึ่งกันและกัน ความเข้าใจ ความไม่เอารัดเอาเปรียบและอีกมากมาย และถ้าชีวิตคู่ขาดหรือมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปก็มักจะจบไม่สวย เหมือนอย่างเธอคนนี้ Jordan Worth สาวสวยอายุ 22 ปีที่ต้องถูกศาลตัดสินให้จำคุกข้อหาทารุณกรรมและปฏิบัติกับแฟนหนุ่มของตัวเองราวกับทาสในเรือนเบี้ย น่าแปลกใจอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะแฟนสาวขาโหดคนนี้ที่ผ่านมาเธอมีประวัติที่ดีมาตลอด ไม่ว่าจะมีครอบครัวที่น่ารักและสนับสนุนเธอมาตลอด ผลการศึกษาก็อยู่ในระดับสูง เธอยังจบจากมหาวิทยาลัย University of Hertfordshire ด้วยเกียรตินิยมอันดับสองในสาขาศิลปกรรมและยังมีจิตใจงดงามอยากเป็นคุณครูเพื่อจะได้สอนเด็กๆ แถมยังเป็นอาสาสมัครที่มีส่วนร่วมในการดูแลสัตว์ที่ไม่เป็นที่ต้องการรวมถึงยังช่วยระดมทุนเพื่อเด็กยากไร้ในแอฟริกาอีกด้วย แต่ถึงโปรไฟล์ของเธอจะสุดยอดขนาดนี้ แต่พออยู่ที่บ้านใน Bedfordshire เธอกลับแสดงอีกด้านหนึ่งของเธอ โดยกลายเป็นคนที่ชอบควบคุมและบงการคู่ชีวิตของเธอ ทั้งคู่พบกันที่โรงเรียนตั้งแต่ปี 2012 ณ ในตอนที่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้นและภายหลังก็เริ่มต้นความสัมพันธ์และค่อยๆ ก้าวเดินไปด้วยกัน ในตอนแรกเธอเพียงควบคุมการแต่งตัวของเขาเท่านั้น แต่มันก็ลามมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ควบคุมเฟซบุ๊ก จะไปไหนต้องได้รับความเห็นจากเธอกก่อนและจนสุดท้ายกลายเป็นความรุนแรง ว่าตามที่ศาลว่ามาความรุนแรงที่เธอทำกับแฟนหนุ่มถึงขั้นที่ทำให้เขาเป็นภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ซึ่งมีการสะสมน้ำหล่อสมองไขสันหลังที่ผิดปกติและทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลง รวมถึงเธอยังได้ใช้ของต่างๆ ตีเขารวมถึงยังใช้มีดเพื่อทำร้ายของเขา โดยที่ไม่ยอมพาเขารักษาที่โรงพยาบาลอีกด้วย สุดท้ายชีวิตสุดน่ารันทดของแฟนหนุ่มก็ได้สิ้นสุดสักที ยามที่เพื่อนบ้านได้โทรเรียกตำรวจหลังจากที่ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากบ้านของพวกเขา และเมื่อรถพยาบาลมาถึงพวกเขาก็สังเกตเห็นได้ว่าตามมือแขนและขาของฝ่ายชายมีรอยไหม้เต็มไปหมด เมื่อถึงมือหมอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นแผลไฟไหม้ระดับที่สาม ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด…
-
หนุ่มโดนทำร้ายร่างกาย เหตุเพราะแฟนสาวแซวว่า ‘หรรมส์เล็ก’ นำไปสู่การทะเลาะวิวาท!!
จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 ที่ผ่านมาพบว่า นาย Garth Murphy ถูกทำร้ายร่างกายจนใบหน้าเละเทะไปหมดหลังมีปากเสียงกับแฟนสาวเพราะเธอแซวเขาเรื่องอวัยวะเพศ ในวันเกิดเหตุนาย Garth กับแฟนสาวกำลังนั่งดูรายการจากช่อง Channel 4 ที่ชื่อว่า Naked Attraction เป็นรายการหาคู่เดทแบบที่ให้ผู้ร่วมรายการนั้นถอดเสื้อผ้าออกให้หมด รายการดังกล่าว แต่แล้วจู่ๆ Jade แฟนสาวก็หันมาแซวเรื่องขนาดน้องชายของเขา และก็มีปากเสียงกันจนฝ่ายสาวถึงกับหยิบโทรศัพท์เขวี้ยงใส่แฟนหนุ่มเลยทีเดียว ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าหลังจากนั้นก็มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ฝ่ายแฟนสาวพุ่งตรงเข้ามาข่วนที่หน้าของเขา ก่อนที่นาย Garth จะสวนกลับไปด้วยการต่อยถึง 2 ครั้งเพื่อป้องกันตัวเอง เขาเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “มันเป็นสิ่งที่แย่มากๆ เพราะมันเหมือนกับการโบกธงแดงล่อกระทิงเลย เธอกลายเป็นบ้าขาดสติแล้ววิ่งเข้ามาข่วนที่หน้าของผม ผมก็เลยต้องป้องกันตัว” “ผมต่อยเธอไปสองหมัด ก่อนที่จะผลักเธอลงไปที่โซฟาแล้วผมก็พูดขึ้นว่า ‘พอได้แล้ว!!’ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 2 – ตี 3 ในเมืองลอนดอน ผมคิดว่าผมควรจะไปเข้านอนก่อน เผื่อว่าตื่นมาแล้วเธอจะสงบลงบ้าง จากนั้นเราค่อยมาคุยกันต่อ” …
-
แฟนหนุ่มโกรธโดนบอกเลิก ทุบตี-บีบคอ-ลากแฟนสาวกับพื้น แต่รอดตายราวปาฏิหาริย์!?
หนึ่งในปัญหาสังคมของประเทศเกาหลีใต้ที่ไม่อาจแก้ไขให้หมดไปได้ แม้ภาพลักษณ์ของผู้ชายเกาหลีใต้ที่เห็นผ่านสื่อละครซีรีส์ต่างๆ ในมาดสุภาพบุรุษชายชาตรี ความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามกันเสมอ… เว็บไซต์ AllKPop ทำการรายงานเหตุทำร้ายร่างกายแฟนสาวโดยหนุ่มวัย 19 ปีรายหนึ่ง จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บหลายส่วน สถานีตำรวจปูซานได้ทำการจับกุมนาย A ในข้อหาทำร้ายร่างกายนางสาว B โดยที่เหตุก่อนหน้านั้นถูกจุดให้ระอุขึ้น จากการที่นาย A เริ่มทุบตีเธอในรถระหว่างไปเที่ยวบนภูเขา จับหัวโขกกับพวงมาลัยและตบหน้าเธออย่างไม่ยั้ง จากความรุนแรงภายในรถ นาย A จึงได้ลากตัวนางสาว B ไปยังที่บ้านของตนพร้อมจับเธอขังเดี่ยวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 1 วัน และจะได้ออกมาก็ต่อเมื่อให้สัญญากับนาย A ว่าจะกลับมาที่บ้านของเขาทันที หลังจากที่เข้าเรียนเสร็จแล้ว ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นว่านาย A กำลังลากตัวนางสาว B ไปกับพื้น แต่นางสาว B รู้สึกกลัวเกินกว่าจะที่จะรับนาย A ได้ไหว เธอจึงส่งข้อความเพื่อขอเลิกกับนาย A ซึ่งในตอนแรกเขายังยื้อเอาไว้ แต่ภายหลังดูเหมือนว่าจะยอมเลิกและบอกกับเธอว่า จะนำของใช้ส่วนตัวของเธอไว้ในกล่องจดหมาย เพื่อให้เธอกลับมาเก็บเอง นางสาว B ใช้เวลาทำใจนานถึง…
-
สรุปไทม์ไลน์ โจ๋หัวร้อนเตะคุณตาอายุ 82 ปี ล่าสุดผู้กระทำผิดออกมามอบตัวพร้อมขอขมาแล้ว
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น โดยทางเฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีวัยรุ่นชายคนหนึ่งขี่จักรยานยนต์ไปชนกับรถจักรยานสามล้อเก็บขยะ ในซอยแห่งหนึ่งย่านดินแดง วัยรุ่นคนดังกล่าวขับขี่จักรยานยนต์มาโดยไม่ระมัดระวังเพราะภายในคลิปจะเห็นได้ว่ามีการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นขณะขับขี่ ทำให้ขับไปชนกับจักรยานสามล้อของคุณตา จนรถของตนเองล้ม จากนั้น วัยรุ่นหนุ่มกลับตามมาทำร้ายร่างกาย โดยการเตะ เข้าไปที่ลำตัวของคุณตาอย่างจัง จนทำให้คุณตาล้มลงจากจักรยานของตนเนื่องจากการปะทะกัน นอกจากนี้ วัยรุ่นคนนี้ยังตามไปทำร้ายร่างกายคุณตาต่ออีกนิดหน่อย คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ต่อกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้ เฟซบุ๊กเพจ Red Skull Never Die ออกมาโพสต์หาตัวผู้กระทำผิด โดยการตั้ง “ค่าหัว” โดยเริ่มตั้งแต่ 10,000 บาท หากใครพบตัววัยรุ่นในคลิป เมื่อโพสต์การล่าค่าหัวเป็นที่ทราบอย่างกว้างขวางจึงมีผู้คนเข้ามาแสดงความร่วมมือ พร้อมสมทบทุนในการจ่ายค่าหัวกันหลายคน ทำให้ยอดค่าหัวโดยสรุปของวัยรุ่นหนุ่มคนนี้มีมูลค่าพุ่งถึง 60,000 บาท . ในเหตุการณ์ คุณตา จรูญ มีพันธ์ วัย 82 ปีผู้เคราะห์ร้ายถูกทำร้ายร่างกายจนนอนนิ่งไป แต่หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลราชวิถี และพบว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงมากนัก…
-
เสียววาบเลย….หนุ่มถูกพ่อแท้ๆ ตัดมือจนขาด เพราะดูหนังโป๊และสไลด์หนอนมากเกินไป
การเป็นพ่อเป็นแม่นั้น ก็มีบางครั้งที่อาจจะต้องลงโทษลูกของตัวเองบ้าง เพื่อการสั่งสอนให้ลูกๆ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ แต่การที่จะลงโทษลูกนั้น การรู้ตัวและมีสติถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสุดท้ายคนที่พ่อแม่กำลังลงมือสั่งสอน ก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่ดี หากการลงโทษนั้นรุ่นแรงจนเกินไป การสั่งสอนที่ทำไปอาจจะไม่ได้เกิดผลที่ดีเลยก็ได้ ดังเช่นข่าวนี้ที่ถือว่าเป็นตัวอย่างของการกระทำเกินกว่าเหตุ เมื่อทางตำรวจอินเดียได้ทำการจับกุมคุณพ่อชาวอินเดียคนหนึ่งในข้อหาทำร้ายร่างกายลูกชายวัยรุ่นของเขา ด้วยการตัดมือขวาหลังจากที่จับได้ว่าเขาดูหนังโป๊ออนไลน์ Mohammad Qayyum Qureshi วัย 45 ปี เขาเป็นคนขายเนื้ออยู่ที่เมือง Hyderabad รัฐ Telangana ประเทศอินเดีย ได้ทำการเข้ามอบตัวเมื่อวันจันทร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และรับสารภาพข้อกล่าวหาทั้งหมด จากรายงานของหนังสือพิมพ์ Hindustan Times นั้น Qayyum บอกว่าเขาได้ให้มีดเขียงสับเนื้อฟันเขาที่ระหว่างข้อมือและข้อศอกของลูกชาย นาย Mohammad Khalid Qureshi วัย 18 ปี ก่อนที่เหยื่อจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ ระหว่างการสอบปากคำ Qayyum อธิบายว่าเขาพบว่าลูกชายของเขา มีอาการเสพติดการดูหนังลามกเป็นอย่างหนัก แม้ว่าตนจะเตือนหลายครั้งแล้วก็ตาม โดยที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคมนั้น เขาได้พบลูกชายแอบดูหนังโป๊บนมือถือ หลังจากที่ต่อสู้ขัดขืนแย่งโทรศัพท์กันอยู่…
-
พรานหนุ่มไปล่าสัตว์แต่โดนจิงโจ้ ‘เฮดบัต’ จนกรามร้าว เล่นกับใครไม่เล่นซะแล้วไอ้นี่!!
ด้วยความที่จิงโจ้เป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย ทำให้บ่อยครั้งที่พวกมันมักจะถูกล่าเป็นอาหาร แต่ว่ามีอยู่เหตุกาณณ์หนึ่งที่มันไม่ยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป แถมยังทำสิ่งตรงกันข้ามนั่นก็โจมตีนายพรานคนหนึ่งที่ไปล่าพวกของมันด้วยการ ‘เฮดบัต’ จนกรามของนายพรานคนนั้นร้าวเลยทีเดียว โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อหนุ่มนามว่า Joshua Hayden ได้ออกไปเดินทางล่าสัตว์กับพี่น้องของเขาที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย เจอกันได้นะเจ้ามนุษย์ หนุ่มวัย 19 ปีคนนี้เล่าให้ฟังว่า ในตอนแรกเขาได้สังเกตเห็นกลุ่มจิงโจ้ที่อยู่ด้วยกัน 3 ตัว แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างก็ทำให้มีจิงโจ้ตัวหนึ่งได้อันตรธานหายไปจากสายตาของเขาอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ามันคงหนีเข้าป่าไปยังทิศทางอื่น ต่อมาเมื่อ Joshua เห็นว่ายังมีจิงโจ้เหลืออีกตั้ง 2 ตัวรอให้เอาไปเป็นอาหาร เขาจึงเบี่ยงตัวออกนอกหน้าต่างรถเพื่อหวังจะยิงจิงโจ้สองตัวนั้นให้แน่นิ่งให้จงได้ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้พบกับจิงโจ้ตัวที่หายไปอีกครั้ง และคราวนี้เห็นเต็มสองตาเลย เพราะว่ามันพุ่งเข้าใส่รถของพวกเขา แม้ว่ากำลังจะวิ่งอยู่ก็ตาม โดนซะหนักเลยนะคุณพี่ “มันพุ่งเข้าชนที่ด้านข้างรถของพวกเรา จากนั้นมันก็ทุบกระจกหน้าของรถเราจนแตก แล้วมันก็เด้งกลับมาโจมตีผมด้วยการเฮดบัตเข้าเต็มๆ กรามเลย” “ตอนนั้นผมสลบไปประมาณ 30 วินาที พอผมตื่นขึ้นมาพี่น้องของผมก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง” Joshua กล่าว เมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าวได้ทำร้าย Joshua จนสลบ พวกพี่น้องจึงพาเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล Kellerberrin Memorial จากนั้นเขาก็ถูกส่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉินเป็นการด่วนเลย โดนซะแล้วล่ะ ตูมใหญ่เลยด้วย…
-
คุณตาวัย 64 ปีใช้มีดแทงหนุ่มบนรถไฟ หลังเขาไปนั่งที่ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษ
เมื่อเราขึ้นไปโดยสารบนรถโดยสารหรือรถไฟก็ตาม ก็จะมีทั้งคนชราและคนพิการ ร่วมใช้บริการด้วย โดยปกติแล้ว ผู้คนที่นั่งอยู่ควรเสียสละที่นั่งให้กับผู้ชราและผู้พิการดังกล่าว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพวกเขา แต่บางครั้งก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น การสละที่นั่งให้ผู้ที่ลำบากนั้นมีให้พบเห็นยากขึ้นในสังคมของทุกวันนี้ จึงทำให้เกิดมาตรการจัดเตรียมที่นั่งไว้สำคนชราและผู้พิการ แต่ก็ยังไม่แคล้วเกิดปัญหาอีกจนได้ เมื่อมีคนที่เข้าไปนั่งในที่ซึ่งจัดเตรียมไว้สำหรับคนชราโดยเฉพาะ เรื่องราวอันเป็นปัญหานี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 บนรถไฟสาย Kanjo ใน Osaka เมื่อคุณตาวัย 62 ปีนามว่า Motokazu Koizumi หันไปเห็นชายวัย 34 ปี (ไม่เผยชื่อ) ได้นั่งบนที่นั่งพิเศษสำหรับคนชรา คนพิการ และหญิงมีครรภ์ ขณะกำลังเดินทางไปทำงาน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณตา Koizumi เห็นชายคนดังกล่าวมานั่งตรงนี้ โดยเมื่อวันที่ผ่านมาทั้งคู่ได้มีปากเสียงกันบนรถไฟขณะที่ Koizumi กำลังเดินทางกลับบ้านในเวลากลางคืน Koizumi กล่าวว่า “ผมโมโหมากที่เขามานั่งในที่พิเศษแบบนี้” หลังจากนั้นเมื่อขบวนรถไฟเดินทางไปถึงสถานี Taisho ในเวลาประมาณ 06.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ชายวัย 34 ปีจึงลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกจากขบวนรถไฟ เวลานั้นเองเป็นตอนที่ Koizumi ได้เข้าไปใช้มีดปอกผลไม้แทงเขาหลายครั้งเข้าที่บริเวณท้อง ทำให้เกิดบาดแผลที่สาหัส แต่ยังโชคดีที่ไม่ถึงกับชีวิต จากนั้น Koizumi…
-
สาววัยรุ่นอายุ 13 ปี ก่อเหตุตบหน้า “หญิงวัยกลางคน” กลางถนนในกรุงลอนดอน
แม้ทุกคนจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงให้เห็นอยู่เป็นประจำ เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศอังกฤษเองก็เกิดเหตุใช้ความรุนแรงที่ไม่ทราบเหตุผลขึ้น โดยเด็กสาววัยรุ่นอายุ 13 ปีคนหนึ่งได้เข้าไปตบหน้าหญิงวัยกลางคนอย่างโจ่งแจ้ง คลิปนี้ถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตและมีคนรับชมจำนวนมาก เหตุเกิดขึ้นกลางถนน Hounslow Hign ที่พลุกพล่านในกรุงลอน ประเทศอังกฤษ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้เอง การใช้ความรุนแรงครั้งนี้ถูกบันทึกภาพไว้ด้วยกล้องมือถือของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น จะเห็นได้ว่านอกจากเด็กสาวและหญิงสาวแล้ว ยังมีวัยรุ่นชายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์นั้น และน่าจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นเหตุการณ์จากด้านหลังกล้องมือถือด้วย ในช่วงแรกของคลิปวิดีโอสาววัยรุ่นซึ่งสวมชุดนักเรียนอยู่ตะคอกใส่หญิงสาวว่า “แกกำลังพูดถึงใครอยู่” ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าหญิงสาวอาจจะพูดบางอย่างกับเธอก่อนหน้านี้หรือไม่ได้พูดก็ได้ แต่กล้องบันทึกภาพไว้ได้ไม่ทัน หญิงวัยกลางคนเองก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงแค่ส่ายหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัว แต่เด็กสาวรุ่นก็ตบหน้าเธออย่างแรง ทางด้านหญิงสาวทำได้เพียงกรีดร้องด้วยความตกใจและยืนร้องไห้อยู่นิ่งๆ เท่านั้น หลังจากที่สาววัยรุ่นตบหน้าหญิงสาวแล้วเธอก็เดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ส่วนหญิงวัยกลางคนก็มีคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจเธอ คลิปวิดีโอจบลงเพียงเท่านี้ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในโปรแกรมสแนปแชต โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า Skye หลังจากนั้นไม่นานคลิปวิดีโอก็ถูกนำไปเผยแพร่ต่อในอินสตาแกรมและมีคนเข้าไปชมมากกว่า 200,000 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2018 เวลา 16.10 น. ทางด้านสาววัยรุ่นมีอายุเพียง 13 ปี ส่วนหญิงสาวที่โดนตบนั้นมีอายุประมาณ…
-
ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์
เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dalla News ได้มีการรายงานข่าวผลการตัดสินคดีคนในครอบครัวทำร้ายหญิงวัยรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์ จนส่งผลให้เธอแท้งลูก คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่เพิ่งได้รับการตัดสินสิ้นสุดคดีเมื่อต้นปี 2018 ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ ปี 2013 หญิงสาววัยรุ่น (สงวนชื่อ) อายุ 14 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกคนในครอบครัวประกอบด้วย Sharon Jones, Cecila McDonald, Lonnell McDonald และ Cedric Jones Jr. ทำร้ายร่างกายจนเด็กที่อยู่ในครรภ์แท้งออกมา แต่เรื่องราวมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะพ่อของเด็กที่อยู่ในท้องของเด็กสาวก็คือ Robert Cayald พี่ชายของเธอที่ข่มขืนจนเธอตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางครอบครัวพยายามปิดบังไว้ ผู้ต้องหา เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเหยื่อและน้องสาวถูกส่งให้มาอยู่กับนาง Sharon ผู้เป็นป้าหลังจากที่คุณย่าของพวกเขาเสียชีวิตไป แต่เธอนั้นไม่ได้ไปอยู่ที่บ้านของ Sharon โดยตรง เพราะถูกส่งไปอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกับ Cecila ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของหล่อนแทน ซึ่งที่แห่งนั้นก็มี Lonnell และ Robert ก็อาศัยอยู่ด้วย Robert ไม่เพียงแต่ข่มขืนเหยื่อจนตั้งครรภ์ แต่ยังล่วงละเมิดทางเพศลูกๆ…
-
ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่
เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อและระเบียบวินัยด้านศาสนาก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเรื่องที่พระสงฆ์ต้องซ้อนรถจักรยานยนตร์เพื่อเดินทางไกลแล้ว แม้ว่าในทางวินัยจะไม่ควรทำ แต่คนอีกส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยตามสมควร อย่างไรก็ตามในสังคมของเราก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่เป็นพวกอนุรักษณ์นิยม ที่เชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามกฎดั้งเดิมของศาสนาเท่านั้น และคนอีกกลุ่มที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงแล้วอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงอาจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้ ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงวอร์ม เข้าไปคุยกับหญิงชุดดำ เหตุการณ์นี้ก็เป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องระเบียบของศาสนาเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นที่จุดรอรถประจำทางในประเทศมาเลเซีย โดยมีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปต่อว่าและทำร้ายหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่รอรถอยู่ เนื่องจากพวกเธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม คลิปนี้ถูกถ่ายไว้โดยคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในคลิปจะเห็นว่าชายซึ่งสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวและกางเกงวอร์ม ได้เข้าไปถามหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสีดำว่าเธอนับถือศาสนาใด เมื่อเธอตอบเขาว่านับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงถามต่อด้วยท่าทางโมโหว่าทำไมเธอถึงไม่สวมผ้าโพกหัว เขาไม่พอใจที่เธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อดั้งเดิมของศาสนาอิสลาม หญิงสาวก็ตอบเขาว่าเธอไม่สวมผ้าโพกหัวเพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ทว่าคำตอบของเธอทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วใช้หลังมือตบหน้าเธอทันที ทันทีที่คนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเธอก็ลุกขึ้นมาปกป้องหญิงสาว และต่อว่าชายคนดังกล่าวทันที โดยหญิงที่สวมผ้าโพกหัวและถือโทรศัพท์มือถืออยู่ได้ลุกขึ้นมาเถียงกับผู้ชายคนนี้แทนหญิงที่ถูกตบหน้า และคลิปวิดีโอก็จบลงเพียงเท่านี้ ชายหนุ่มตบหน้าหญิงสาวในที่สาธารณะทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเธอ คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของประเทศมาเลเซีย และได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยคนที่ได้เห็นคลิปนี้แล้ว ส่วนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายคนนี้เอาเสียเลย คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ประชากรกว่า 30 ล้านคนในเทศมาเลเซียนั้นเป็นคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศเลยทีเดียว และตามความเชื่อดั้งเดิมแล้ว ผู้หญิงอิสลามก็ควรจะสวมผ้าโพกหัวเวลาออกไปข้างนอกบ้านด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าแต่งกายไม่มิดชิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คนในประเทศมาเลเซียมีความเชื่อเรื่องอนุรักษณ์นิยมของศาสนาอิสลามเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงใดๆ…
-
ช่างทำผมโพสต์ภาพลูกค้าที่ได้รับภัยใกล้ตัว เมื่อคนที่เราไว้ใจ กลายเป็นคนที่ทำร้ายเราได้มากที่สุด
ปัญหาเรื่องความรุนแรงยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในสังคม การกระทำด้วยความรุนแรงนั้นส่งผลกระทบกับหลายๆ ด้าน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่มีทางแก้ และนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ Andy Mendoza ช่างทำผมคนหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดวงตาห้อเลือด และผมสีม่วงของเธอถูกกล้อนจนเห็นหนังศีรษะ ซึ่งดูก็รู้ว่าเธอถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เธอคนนี้เดินเข้าร้านทำผมของเขาเพื่อจัดการกับทรงผมที่ถูกทำร้ายมาจนไม่มีชิ้นดี สาเหตุที่หญิงสาวคนนี้ต้องมีสภาพแบบนี้ก็เนื่องมาจากการโดนแฟนหนุ่มที่ชื่อว่านาย Michael Truskauskas ซ้อมอย่างหนัก เมื่อกลางเดือนธันวาคมปี 2017 ทางตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีหญิงสาวนอนหลับอยู่ที่เบาะหลังของรถ ร่างกายของเธอมีร่องรอยของการถูกทำร้าย ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวรายนั้น หลังจากการสอบปากคำก็รู้ว่าเธอถูกแฟนหนุ่มขี้ยาของเธอซ้อมในอพาร์ตเมนต์ เขาทำร้ายร้ายกายเธอเหมือนกับว่าเธอเป็นตุ๊กตาระบายอารมณ์ ชกเข้าที่ใบหน้า พยายามจะกรีดข้อมือและนิ้วมือของเธอ นอกจากนี้เขายังบีบเข้าที่ลำคอ แล้วจับเธอกล้อนผม จากนั้นก็ผลักเธอให้ตกบันได จนเธอต้องซมซานหนีออกมาด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เศษผม เลือด กระดาษซับเลือดของเธอถูกพบในอพาร์ตเมนต์และเก็บไว้เป็นหลักฐานในเวลาต่อมา ภาพของแฟนหนุ่มผู้ลงมือทำร้ายเธอ นาย Micheal แฟนหนุ่มถูกจับกุมตัวในทันทีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในครั้งแรกชายหนุ่มปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจึงต้องมีการค้นบ้านจนพบหลักฐานทั้งหมด รวมไปถึงการค้นพบว่ามีอุปกรณ์เสพยาจำนวนหนึ่งบนโต๊ะ จึงทำให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนหญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นก็ได้เยียวยาร่างกายตัวเอง โดยทางร้านตัดผมได้จัดการทำทรงผมของเธอให้กลับมาสวย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้ชีวิตด้วยความแข็งแก่ง และโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม เพื่อรณรงค์การลดใช้ความรุนแรงในสังคมอีกด้วย …
-
พ่อค้าเดินทางกว่า 860 กม. เพื่อมาดักทำร้ายหญิงสาว หลังเธอตำหนิที่ร้านที่ส่งของล่าช้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวจากเมืองเจิ้งโจว ในระหว่างที่เธอกำลังยืนรอรับพัสดุที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตอยู่ แต่ทว่าเมื่อพัสดุมาส่งเธอกลับถูกพ่อค้าหนุ่มที่เดินทางมาไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรลงมาทำร้ายอย่างรุนแรง!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า Xiao Li ได้ร้องเรียนพ่อค้าคือนาย Zhang หลังจากเสื้อผ้าที่เธอสั่งนั้นไม่ได้ถูกจัดส่งตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ การทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Zhang ได้โทรศัพท์และส่งข้อความข่มขู่ลูกค้าของเขา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมหญิงสาวได้รับข้อความระบุว่าพัสดุของเธอนั้นได้เดินมาถึงจุดรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว และด้วยความดีใจเธอจึงรีบออกไปรับสินค้า ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดด้านนอกของจุดรับสินค้าในเมืองเจิ้งโจว เผยให้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังยืนรอรับสินค้าของเธอ และเมื่อพ่อค้าหนุ่มมาถึงเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอทันที ชายหนุ่มชกเข้าที่หน้าและหน้าอกของหญิงสาวหลายครั้งจนเธอลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะหนีไป คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายนอกจุดรับสินค้า Xiao Li ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล และระหว่างที่เธอกำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เธอยังได้รับข้อความจากพ่อค้าคนดังกล่าวที่บอกว่าเขายอมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกว่า 860 กิโลเมตรจากเมืองซูโจวเพื่อมาทำร้ายเธอเลยทีเดียว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมา หนุ่มส่งอาหารคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายของลูกค้าสาวในมณฑลไหหลำ เนื่องจากเกรงว่าเธอจะเขียนรีวิวต่อว่าเขาหลังจากที่นำอาหารมาส่งช้า ที่มา medium
-
หนุ่มถูกจำคุก 15 ปี หลังจากใช้แอปฯ หาคู่หลอกเกย์เพื่อจะไปทำร้ายร่างกายและขโมยของ
ในยุคสมัยปัจจุบัน เทคโนโลยีต่างๆ ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากมายรวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ ที่ไม่เพียงแค่มีไว้โทรเข้า-โทรออกอีกต่อไป เพราะว่ายังมีแอปพลิเคชั่นมากมายให้เลือกเล่นทั้งเกม อินเทอร์เน็ต ความบันเทิงต่างๆ แถมยังมีแอปฯ ที่ใช้สำหรับหาคนคุยเมื่อยามเหงาอีกด้วย แต่ในสายตาของอาชญากรแล้ว แอปฯ หาคู่หาเพื่อน อาจเป็นเสมือนกับช่องทางในการทำมาหากินเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันสามารถใส่ภาพโปรไฟล์แบบปลอมๆ หรือใส่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมีคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีดังกล่าว รวมถึงคดีนี้ที่มีชายคนหนึ่งถูกจำคุกถึง 15 ปี เพราะเขาก่ออาชญากรรมโดยใช้แอปฯ หาคู่เป็นช่องทางการลงมือด้วย แอปพลิเคชั่น Grindr ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Nigel Garrett วัย 21 ปี ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเป็นคนแรกจากในกลุ่มทั้งหมด 4 คนที่ถูกจำคุก 15 ปี จากการร่วมมือกันบุกรุกบ้านของชายคนหนึ่ง และได้ก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นอย่างมากมายทั้ง ลักพาตัว ขโมยรถ รวมถึงการใช้อาวุธปืนในการก่ออาชญากรรม ซึ่งสาเหตุที่เขาถูกจำคุกเป็นคนแรกของกลุ่มที่ร่วมมือกันก่อเหตุดังกล่าว ก็เพราะว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้ให้คำสารภาพถึงเหตุที่ก่อขึ้น โดยคนที่เหลือมีชื่อว่า Anthony Shelton, Chancler Encalade Jr และ Cameron Ocion Ajiduah กำลังรอรับโทษหลังจากให้การสารภาพในเวลาต่อมา โดยคำให้การของเขาได้เล่าว่า ในตอนแรกนั้น Garrett ได้โพสต์ระบุโปรไฟล์ของตัวเองในแอปฯ…
-
หนุ่มรัสเซียซ้อมเมียจนถึงขั้นเสียชีวิต ก่อนหน้านั้นมีโพสต์ภาพอวดเพื่อน ว่า ‘ตรูเอาอยู่’
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มรัสเซียสุดโหดที่ได้ซ้อมภรรยาของตัวเองจนเธอเสียชีวิตอย่างสะเทือนใจ นาย Maxim Gribanov อายุ 34 ปีได้ทำร้ายร่างกาย Anastasia Ovsiannikova ภายในบ้านพักเมือง Lebedyan ทางตะวันตกของรัสเซียหลังจากเธอบอกกับเขาว่า เธออยากจะออกไปจากชีวิตเขาสักที ซึ่งคำพูดของเธอทำให้เขาเกิดอาการไม่พอใจและได้ทั้งตบ ตี ต่อย เตะเธอเป็นเวลาหลายชั่วโมง มิหนำซ้ำยังถ่ายคลิปวิดีโอส่งให้เพื่อนดูอีกจำนวนหลายคนและโพสต์โอ้อวดความเจ๋งว่า เขาสามารถบังคับเธอให้อยู่ใต้เท้าได้ ภาพอาการบอบช้ำของ Anastasia ที่เขาได้ส่งให้เพื่อนๆ ให้ดู เมื่อภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางพลเมืองดีก็ได้แจ้งให้ทางกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือเธอเป็นการด่วน เธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการที่ผิวหนังช้ำอย่างรุนแรง กระดูกหัก และเลือดออกภายในอวัยวะ Anastasia ตกอยู่ในอาการโคม่าราว 6 วันก่อนที่จะเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า เพื่อนๆ และครอบครัวของฝ่ายหญิงได้ให้ปากคำกับทางตำรวจว่า Anastasia มักจะถูกนาย Maxim ทำร้ายร่างกายและถูกข่มขู่ตลอดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังบังคับให้เธอลาออกจากที่ทำงานอีกด้วย รวมไปถึงการขู่พ่อและพี่ชายของเธอว่า เขาจะซ้อมเธอถ้ามีใครแจ้งตำรวจ . ตอนแรกที่เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล…
-
หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง
การหึงหวงนั้นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังแสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณนั้นยังคงแคร์และใส่ใจคุณอยู่ แต่บางครั้งความหึงหวงที่เกินกว่าเหตุก็อาจจะนำมาสู่ความรุนแรงและทำร้ายคนรักของคุณได้เช่นกัน คณะลูกขุนต้องอึ้งกันทันทีหลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เดินเปลือยกายทามกลางอากาศหนาวของเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอจับได้ว่าเธอแอบส่งข้อความหาชายอื่น “เขาบีบคอฉัน และทรมานฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะหมดลมหายใจทีเดียว” หญิงสาววัย 25 ปีให้การกับศาล หลังจากที่เธอถูก Jason Melo แฟนหนุ่มทรมานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบังคับเธอออกมาด้านนอกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวท่ามกลางอากาศหนาว และอัดคลิปวิดีโอประจานเธอ นอกจากนี้หนุ่มวัย 26 ปียังถูกกล่าวหาอีกว่าเขาพยายามจะขว้างรูปปั้นพระพุทธรูปใส่เธอ ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขานอนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มถ่ายประจารแฟนสาวของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในอินสตราแกรมและ LiveLeak ก่อนที่จะถูกนำมาฉายให้คณะลูกขุนในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำด่าทอของชายหนุ่มที่พูดกับแฟนสาวของเขาอย่างรุนแรง “ถอดผ้าขนหนูของเธอออก แล้วเดินไปเธอมันคือนางแพศยา หันมาสวัสดีกล้องแล้วบอกสิ ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้” “ถอดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อตอบแทนกับความละอายใจที่เธอทำกับฉัน ฉันบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดและอยากจะมีครอบครัวกับเธอ แต่เธอกลับแอบคุยกับผู้ชายมากกว่า 7 คน” คำพูดของชายหนุ่มภายในคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมาตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับพวกเขานะ” นาย Jason ดึงผ้าขนหนูของแฟนสาวออก และปล่อยให้เธอเปลือยกายอยู่บนถนน ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามเอามือปิดร่างกายของเธอ และเข้าไปหลบบริเวณที่จอดรถใกล้ๆ หลังจากถูกจับกุมตัว ชายหนุ่มให้การว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอแต่อย่างใด และตอนนั้นคนอื่นๆ ก็เห็นว่าเธอมีความสุขดี “นักโทษคนอื่นๆ ยังบอกผมเลยว่าบางคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าผมอีก”…
-
คลิปสะเทือนใจเหล่าทาส เมื่อหนุ่มวัย 16 ปี จับเจ้าเหมียวขว้างข้ามถนนไกลหลายเมตร
ภาพจากคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 10 วินาทีที่ถูกอัปลงบนโลกออนไลน์ ได้เผยให้เห็นภาพของวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่จับเจ้าเหมียวน้อยโยนข้ามถนน สร้างความตกใจและได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างมาก เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ได้จับเจ้าเหมียวด้วยมือหนึ่งข้างก่อนที่เขาจะขว้างมันออกไปบนอากาศและในที่สุดเจ้าแมวน้อยก็ตกลงไปกลางถนนที่อยู่ห่างหลายเมตร จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นที่รัฐออนแทรีโอ สหรัฐอเมริกา โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงใน Snapchat โดยเด็กหนุ่มคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า Charlie คลิปวิดีโอขณะที่ชายหนุ่มกำลังขว้างเจ้าเหมียว ****คำเตือน: คลิปวิดีโออาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม ในตอนแรกหลายๆ คนที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวต่างมีความกังวลถึงความปลอดภัยของเจ้าเหมียว แต่อย่างไรก็ตามจากการรายงานของสถานีตำรวจออนแทรีโอ ขณะนี้เจ้าเหมียวน้อยปลอดภัยดี และมีอาการบาดเจ็บที่ขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ขณะนี้เรากำลังสืบสวนถึงการทารุณกรรมสัตว์ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เรามีที่อยู่ของเจ้าเหมียวและเจ้าของมัน แมวน้อยมีอาการกระดูกขาหักแต่อย่างไรก็ตามมันตอนนี้มันปลอดภัยแล้ว” แถลงการณ์จากสถานีตำรวจ ส่วนทางคุณ Perla เจ้าของแมวก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเธอรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก พร้อมกับอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายกับชายคนดังกล่าว “ฉันอยากจะให้เขารู้ว่า เขากำลังทำร้ายร่างกายสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย” หญิงสาวเจ้าของแมวกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อของชายหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อของเขาได้เนื่องจากว่าเป็นเยาวชน และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนอยู่ ที่มา dailymail
-
ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน
เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่เมืองคอเวนทรี ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เด็กสาววัย 14 ปีผู้หนึ่งถูกขังไว้นานถึง 5 วัน และถูกบังคับให้ร่วมเพศกับชายหนุ่มกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายว่างานนาย Jake Cairns วัย 21 ปี นาย Brandon Sharples วัย 20 ปี และนาย Jack McInally วัย 21 ปี 3 ผู้ต้องหาที่กระทำการดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ขายภาพของเธอลงบนเว็บไซต์สื่อลามก พร้อมกับโกหกว่าเธออายุ 18 ปี นาย Jack McInally และนาย Jake Cairns เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 หลังจากที่เห็นเหยื่อสาวกำลังพยายามปีนออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำชั้นแรก ในสภาพที่สวมเพียงแค่ชุดชั้นใน ซึ่งมีรูปร่างและใบหน้าตรงกับประกาศคนหลาย หลังจากที่เธอได้หายตัวไปจากบ้านของญาติเมื่อหลายวันก่อน “ชายทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กหญิงคนนี้ ในตอนแรกนาย Cairns ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเธอ แต่หลังจากที่เราทำการตรวจสอบก็พบว่าบัญชีธนาคารของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ Jon Barker…
-
รวมชุดภาพถ่ายที่เผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเผชิญอะไรบ้างจากการปฏิบัติหน้าที่…
การเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยในต่างประเทศนั้นเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย ซึ่งเราก็คงรู้กันดีว่าเป็นปัจจุบันคนก็มักจะทำอะไรตามใจตัวเอง ฉะนั้นตำรวจจึงเป็นงานที่หนักหน่วงเพื่อควบคุมประชาชนของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดบอกว่าจากการสำรวจจะพบว่าทุกๆ 22 นาทีจะต้องมีตำรวจหนึ่งคนที่บาดเจ็บล่ะ เราจะเชื่อกันไหม? ฟังดูอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อเหอะว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่โดย The Police Federation ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นภาพของเหล่าเจ้าหน้าที่ที่มีใบหน้าฟกฟกช้ำเต็มไปหมด บ้างก็เจ็บเล็กน้อย บ้างก็อาการหนักเลยก็มี โดยเป็นการยืนยันว่าสถิติที่ว่ามันเป็นเรื่องจริง และในปีก่อนก็มีตำรวจถูกทำร้ายมากกว่า 22,000 คนเลยทีเดียวล่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็พ่อหนุ่มคนนี้ DS James Dowler เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่บริเวณ South Wales แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเมื่อปี 2015 เจ้าหน้าที่ PC Karl Heath ถูกทำร้ายโดยชายคนหนึ่งระหว่างที่เขาเจอตอนกำลังไปทำงาน จนหัวไหล่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ PC Heather Caruana วัย 30 ปี ถูกทำร้ายโดยวัยรุ่นจนเกิดเป็นแผลรอบดวงตาจนลืมตาไม่ขึ้น ห้าวันต่อมาแผลดังกล่าวได้สร้างรอยแผลเป็นให้กับเธอ PC Safia Finlow ถูกทำร้ายร่างกายขณะไปทำงานที่เมือง Devon…
-
2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!
นายตำรวจจากสถานีตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลังจากที่ทั้งสองได้ทำการข่มขืนหญิงสาวที่ถูกใส่กุญแจมือในท้ายรถตู้ของพวกเขา เจ้าหน้าที่ Eddie Martins และ Richard Halls ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเธอในทางใต้ของบรูคลิน จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New York Post กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองถูกตั้งข้อหาข่มขืนระดับ 1 ตามคำตัดสินของคณะลูกขุนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับในข้อหามีกัญชาในครอบครอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วในเมืองนิวยอร์กนั้นอนุญาตให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้เท่านั้น ทั้งสองพาตัวเหยื่อไปยังที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Coney Island ก่อนที่ทั้งสองจะบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ และจากนั้นนาย Martins ก็เริ่มลงมือข่มขืนเธอก่อน ทั้งสองได้ยอมรับกับเพื่อนร่วมงานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทางผู้ต้องหานั้นเป็นฝ่ายยินยอมไม่ได้มีการใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายทนายความของผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ทางสถานีตำรวจนิวยอร์กลงโทษทางวินัยอย่างหนักกับนายตำรวจทั้งสอง “เราคาดหวังว่าทางสถานีตำรวจต้นสังกัดควรจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที และให้พวกเขาออกจากราชการ” คุณ Michael David ทนายความของเหยื่อสาวกล่าว และนอกจากนี้ทางทนายความของเหยื่อยังได้ออกมาโต้แย้งในกรณีที่ว่าลูกความของเขายินยอมและเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ เลย และตอนนี้คดีความของนายตำรวจ 2 คนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป และทั้งสองยังต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้งในสัปดาห์หน้าซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี ที่มา independent
-
ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…
-
โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ
บางครั้งคำว่า “เอาออกนิดเดียว” ของเราและช่างตัดผมนั้นมักจะไม่เท่ากัน และบางครั้งคุณอาจจะเกิดอาการเขินนิดหน่อยหลังจากที่ออกมาจากร้านตัดผม แต่ถึงแม้ว่าช่างจะตัดได้ขัดใจแค่ไหน ก็คงไม่มีใครที่จะโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับช่างตัดผมเหมือนหนุ่มรัสเซียคนนี้แน่ ภาพจากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดบนถนนสายหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงมอสโคได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Pavel Luzyanin ได้ใช้อาวุธแทงเข้าที่หน้าอกของคุณ Dastan Adkhamov ช่างตัดผมวัย 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังจากที่เขาเพิ่งใช้บริการช่างตัดผมผู้โชคร้ายไปหมาดๆ นาย Pavel Luzyanin ลูกค้าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่แทงหน้าอกเหยื่อถึง 3 ครั้ง นาย Luzyanin ได้เดินหนีไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเห็นว่าคุณ Adkhamov นั้นยังมีลมหายใจอยู่ ชายหนุ่มจึงได้กลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง โดยการใช้เหล็กเสียบบาบีคิวแทงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่สุด จากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ช่างตัดผมผู้นี้เป็นชาวอุซเบกิสถาน ที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และเริ่มต้นอาชีพช่างตัดผมของเขาที่เมืองนี้ และนี่คือวินาทีที่คุณ Adkhamov ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นาย Luzyanin ได้มาใช้บริการตัดผมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนแรกหลังจากที่กลับออกจากร้านตัดผมไป เขามีความสุขกับผมทรงใหม่อย่างมาก แต่ในวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านตัดผมหลังจากที่เขาถูกเพื่อนบอกว่าผมทรงใหม่นั้นเหมือนกับนักโทษเลย Luzyanin บอกกับเพื่อนของเขาว่าเขาไม่สามารถทนต่อคำเยาะเย้ยได้ และจะกลับไปหาช่างตัดผมคนนั้น ถึงแม้ว่าคุณ Adkhamov จะยอมแก้ไขทรงผมให้ใหม่ แต่ชายหนุ่มกลับไล่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิต Luzyanin ถูกจับกุมตัวได้ไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุ…
-
หมอมุสลิมที่อาสาช่วยคนเจ็บในแมนเชสเตอร์ โดนทำร้ายร่างกายปางตาย แต่ยังพร้อมให้อภัย!!
ถึงแม้ว่าเรื่องของการเหยียดเชื้อชาติและศาสนาอาจจะดูเป็นเรื่องที่ล้าหลัง แต่ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน ก็ยังมีคนที่รู้สึกเกลียดชังคนอื่นเพียงเพราะว่าเองนับถือคนละศาสนาเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะให้อภัยกับการกระทำเหล่านี้ และกล้าที่จะกล่าวคำว่า “ไม่เป็นไร” ได้อย่างเต็มใจ แม้สิ่งที่พวกเขาถูกกระทำนั้น อาจพรากชีวิตของพวกเขาไป เหมือนอย่างคุณหมอชาวมุสลิมท่านนี้… คุณหมอ Consultant Nasser Kurdy ศัลยแพทย์ชาวจอร์แดน ได้ออกมากล่าวให้อภัยกับคนร้ายที่เข้ามาแทงเขาด้วยมีด ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในมัสยิด Altrincham ในเมือง Cheshire ประเทศอังกฤษ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ศัลยแพทย์วัย 58 ปีถูกคนร้ายเข้ามาแทงจากทางด้านหลังด้วยมีดลึกถึง 3 เซนติเมตร และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาเริ่มหายดีแล้ว และกำลังเตรียมตัวที่จะกลับไปทำงานตามเดิม คุณหมอ Kurdy เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “ผมต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่เมตตาผม โชคดีที่มีดนั่นไม่ได้โดนเส้นประสาท หรือหลอดเลือดที่คอของผมตอนที่ผมถูกแทงผมล้มลงที่พื้นด้วยความเจ็บปวด ผมเห็นชายคนนั้นกำลังยืนขู่ผมอยู่ด้วยท่าทางที่น่ากลัวมาก“ คุณหมอเล่าว่าเขาจำไม่ได้ว่าคนร้ายพูดอะไรกับเขา แต่เขารู้สึกได้ว่าการทำร้ายร่างกายครั้งนี้มาจากความเกลียดชังชาวมุสลิมของชายคนดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเขากลับบอกว่าไม่ได้รู้สึกโกรธชายคนดังกล่าวเลยและพร้อมที่จะให้อภัยเขา “ชายคนที่ทำร้ายผมไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งหมดในเมืองนี้ ผมพูดจากใจจริงเลยว่าผมไม่ได้โกรธหรือแค้นเขาเลยแม้แต่น้อย และผมเองก็ให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำ“ คุณหมอกล่าว คุณ Kurdy เติบโตมาในครอบครัวชาวมุสลิม และในแต่ละวันเขาจะเดินทางไปที่มัสยิดเพื่อทำการประกอบพิธีทางศาสนา นอกจากนี้คุณ Kurdy ยังรองประธานของสมาคมอิสลามอย่าง Altrincham and Hale Muslim Association และเคยเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามคุณหมอท่านนี้ก็ยังคงรู้สึกเกลียดชังต่อการก่อการร้าย และการที่ชาวมุสลิมต้องตกเป็นแพะรับบาปจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ อย่างการระเบิดสนามกีฬาหรือการโจมตีที่ Parsons Green “ทุกวันนี้เหตุก่อการร้ายมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น มันสร้างความกังวลให้กับพวกเรามากๆ และความเกลียดชังที่มีต่อชาวมุสลิมก็มากขึ้นด้วย “ “ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ถึงผมจะเป็นมุสลิม แต่ผมก็เหมือนทุกๆ คนนั่นแหละ…
-
สามีต้องแอบอัดคลิป เพื่อใช้ฟ้องภรรยา ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายสามี” มานานกว่า 9 ปี!!
การที่คนสองคนได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันเป็นเรื่องที่น่ายินดี มันหมายถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ของทั้งสอง เมื่อแต่งงานกันแล้วก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน จะถึงวันที่ต้องพลัดพรากจากไป ชีวิตคู่สามี ภรรยาก็เหมือนลิ้นกับฟัน อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง การให้อภัยไม่ถือโทษโกรธกันก็เป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาว แต่วิธีการนี้ก็ใช้ไม่ได้กับทุกคู่เสมอไป นาย Neil Tweedy และ Helen Tweedy สามีภรรยาคู่หนึ่งในเมือง แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่แต่งงานกันมา 9 ปี ก็เริ่มมีปัญหากับชีวิตคู่ซะแล้ว นาย Neil ได้เข้าแจ้งความและทำการฟ้องร้องนาง Helen ในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังจากที่เขาทนเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว ตลอดเวลาที่เขาโดนภรรยาทำร้ายร่างกายนั้น เขาได้เข้าแจ้งความกับตำรวจหลายรอบแต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะโดนภรรยาทำร้ายร่างกายจริงๆ จนกระทั่งเขาได้นำกล้องวงจรปิดแอบมาติดตั้งภายในบ้านเพื่อบันทึกหลักฐาน และแล้วเขาก็ได้คลิปวิดีโอที่ยืนยันว่าภรรยาทำร้ายร่างกายเขาจริงๆ เขาได้นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ Helen ทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าลูกสาววัย 4 ขวบให้กับศาลเพื่อตัดสินคำฟ้องร้องทันที นอกจากนี้เขายังได้รายงานอีกว่าเธอเคยทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าครอบครัวอีกด้วย Helen ได้ทำร้ายร่างกายเขานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่คืนแรกที่เข้าแต่งงาน และมาเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปีที่ผ่านมา เธอมีอาการติดแอลกอฮอล์ อีกทั้งเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ศาลได้ตัดสินให้ Helen ถูกจำคุกและห้ามติดต่อกับนาย Neil เด็ดขาด เป็นเวลา…
-
พ่อแม่ลงทุนบินจากอินเดียมาหาลูกชายที่ฟลอริดา เพื่อทำร้ายร่างกายสะใภ้ โทษฐานไม่เชื่อฟัง
Devbir Kalsi วัย 33 ปี พร้อมพ่อแม่ของเขา Jasbir วัย 67 ปีและ Bhupinder วัย 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากภรรยาของเขา Silky Gaind วัย 33 ปี แจ้งตำรวจ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเริ่มจากการที่ Devbir ได้โทรเรียกพ่อแม่ของเขาจากอินเดียให้บินมายังฟลอริดา ที่บ้านของเขาในเมือง Riverview เพื่อช่วยจัดการสั่งสอนภรรยาของเขาที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของเขา ตัวภรรยานั้นถูกครอบครัว Kalsi ทุบตีอย่างหนัก และกักขังไว้ในห้องพร้อมกับลูกน้อย จากนั้นก็ทำการยึดโทรศัพท์มือถือมาด้วย เพื่อสั่งสอนให้เธออยู่ในโอวาทของพวกเขา และทุกครั้งที่ Silky พยายามจะสู้เธอก็จะถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม ซึ่งร้ายแรงสุดๆ ก็คงจะเป็นการถูกสามีถือมีดและขู่ว่าจะแทงถ้ายังไม่ฟังในขณะที่เธอยังอุ้มลูกน้อยอยู่นั่นเอง แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้ว Silky ก็สามารถหาทางโทรกลับไปหาพ่อแม่ที่อินเดียของเธอจนได้ ซึ่งทำให้พ่อแม่ของเธอติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในรัฐฟลอริด้าและเดินทางมาช่วยเธอในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่เล่าว่าในช่วงเวลาที่พวกเขามาถึง ตอนแรกประตูถูกล็อคไว้และเมื่อพยายามจะพังเข้าไปก็จะถูกดันไว้โดยตัว Kalsi เอง ทว่าทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่พยายามพวกเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องให้มาช่วยเหลือลูกและตัวเธอเองดังออกมาตลอด นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งแน่ใจว่าต้องรีบเข้าไปช่วย สุดท้ายแล้วเรื่องก็จบลงที่ทั้งสามคนถูกจับ พร้อมถูกตั้งข้อหามากมายโดยหลักๆ แล้วก็จะเป็นคดีทำร้ายร่างกายและกักขัง แต่ภายหลังก็ถูกเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายเด็กรวมถึงมีอาวุธร้ายแรงไว้ครอบครองด้วย และทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปดำเนินคดีต่อที่อินเดีย ทว่าตอนนี้ยังถูกกักขังไว้เพื่อรอการสอบสวนต่อไป……
-
ฮีโร่ชาวมุสลิม เข้าห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นมุสลิม 3 ราย ที่จ้องทำร้ายร่างกายชาวคริสต์ได้สำเร็จ!!
ฮีโร่ในการ์ตูน ในหนัง หรือในจินตนาการของเราสิ่งเหล่านั้นคงเป็นภาพของฮีโร่ที่เคยชินในการนิยามเอาไว้ แต่ไม่ได้แปลว่าในชีวิตจริงนั้นเราจะไม่ได้มีโอกาสเจอเลย เมื่อชายคนนี้ได้กลายเป็นฮีโร่ของใครหลายๆ คน Edris Nosrati หนุ่มมุสลิมวัย 35 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ฟังดูเหมือนเป็นคนทั่วไป แต่ความไม่ธรรมดาเกิดจากที่เขาจัดการกับกลุ่มวัยรุ่นชาวมุสลิมที่คอยรังควานชาวคริสต์ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้าน ก็เจอกับกลุ่มวัยรุ่นในอาการเมามายเข้าไปรังควานด้วยภาษาอิสลามกับชายผิวขาวกับแฟนสาว และจ้องจะทำร้ายร่างกายชาวคริสต์ โดยที่เขาคิดว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก เมื่อเขาได้เข้าไปห้ามก็ถูกรังควานถามเช่นเดียวกัน หลังจากที่เขาตอบด้วยประโยคภาษาอารบิคก็ถูกต่อว่าอย่ามายุ่งกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งในตอนนั้นเขารู้สึกกลัวคนกลุ่มนี้เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นผู้ก่อการร้าย ISIS หรือไม่ แต่เขาก็เลือกที่จะแอบตามคนเหล่านั้นไป และเพราะกลุ่มวัยรุ่นอิสลามจ้องที่จะทำร้ายผู้ร่างกายผู้อื่นอีก ระหว่างนั้นก็ได้โทรแจ้งตำรวจถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น จนมือถือแบตฯ หมด แต่ก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่ว่าสามคนนั้นได้มีการทำร้ายร่างกาย และถ่ายคลิปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเองด้วย จนเมื่อตำรวจมาถึงสามคนนั้นกลับไหวตัวทัน ทำตัวเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ Faruq หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นพยายามจะลบคลิป Edris ก็ได้สังเกตเห็นและพยายามเข้าไปแย่งมือถือมา ในจังหวะนั้นเขาก็โดนต่อยเข้าที่หน้าไปอย่างจัง สุดท้ายเขาจึงทำการล็อคคอ Faruq กดลงพื้นและแย่งมือถือมาได้ เมื่อตำรวจได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวก็ได้ทำการจับกุมชายทั้งสามทันที ผู้ต้องหา Mohmed และ Mohammed โดนตั้งข้อหาโจมตีสร้างความแตกแยกในเรื่องศาสนาจนทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายผู้อื่น ถูกจำคุก 3 ปีครึ่ง…
-
คลิปสุดช็อค!! เผยให้เห็น “เด็กน้อยวัยหัดเดิน” ที่ถูกพ่อแม่ชาวจีนขังไว้ในตู้ล็อกเกอร์
ปัญหาเจ้าตัวเล็กชอบงอแง อาจจะทำให้พ่อแม่ต้องปวดหัว และแต่ละคนก็อาจจะมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยด้วยความเข้าใจ หรือบางครอบครัวอาจจะให้ไม้แข็งเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะใช้ไม้แข็งแค่ไหนก็คงไม่มีใครทำเหมือนพ่อแม่ชาวจีนคู่นี้แน่ๆ สองสามมีภรรยาชาวจีน ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตอย่างมาก หลังจากที่คลิปวิดีโอการรับมือกับลูกน้อยของพวกเขาถูกเผยแพร่ไปบนโลกออนไลน์ ทั้งสองได้ขังลูกเอาไว้ในล็อกเกอร์เก็บของในห้องอาบน้ำแห่งหนึ่ง และปล่อยให้เจ้าหนูต้องทนอยู่ในตู้ล็อกเกอร์แคบๆ พร้อมกับความมืด จากการรายงานของสำนักข่าว Kan Kan News บอกว่า ทั้งสองได้ขังลูกน้อยของพวกเขาไว้เนื่องจากไม่ต้องการดูแลลูกน้อยในระหว่างที่ออกไปอาบน้ำ เด็กน้อยถูกช่วยออกมาโดยเจ้าหน้าที่ของห้องอาบน้ำ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหนูน้อยเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และยังไม่ทราบว่าเขาถูกขังไว้ในนั้นนานแค่ไหน ไปชมคลิปวิดีโอการช่วยเจ้าหนูน้อยที่ด้านล่างนี้ได้เลย และแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้คงไม่รอดพ้นคำสรรญเสริญจากชาวเน็ตไปได้แน่นอน หลายๆ คนที่ได้ชมคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่โหดร้ายสำหรับเด็กน้อยมากๆ ในขณะที่บางคนก็ด่าพ่อแม่ของเจ้าหนูน้อยว่าไม่มีความรับผิดชอบเลย หนึ่งในความเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “เขาดูกลัวมากๆ เลยนะเนี่ย พวกเขาไม่น่าทำแบบนั้นเลยจริงๆ” แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ถูกช่วยออกมา เจ้าหน้าที่พบว่าหนูน้อยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ที่มา dailymail
-
ตำรวจรับอุปการะเด็ก 8 ขวบ ผู้เคราะห์ร้ายจากคดีทำร้ายร่างกาย ที่เขาต้องตามจับ!!
อีกเรื่องราวของนายตำรวจผู้ใจบุญ Jody Thompson จากเมือง Poteau ในรัฐโอคลาโฮม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กลายเป็นความประทับใจให้ชาวเน็ตส่งต่อกันไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้ Jody ได้รับแจ้งเกี่ยวกับคดีทารุณกรรมเด็ก เมื่อเขาไปถึงยังที่เกิดเหตุเขาก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่า นั่นจะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาได้ช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งออกมาจากความโหดร้าย และได้พบกับลูกชายของเขาเองในอนาคต Jody Thompson ทันทีที่เขาเห็นเด็กหนุ่มผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เขาก็รู้ตัวทันทีว่าต้องช่วยเหลือเด็กคนนี้อย่างสุดความสามารถ และจะไม่ปล่อยให้เด็กหนุ่มต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน “สภาพแรกที่ผมไปเห็นคือเขาถูกมัดมือมัดเท้าและถูกขังไว้ในถังขยะ พวกเขาไม่ให้อาหารเด็กหนุ่มเลยสภาพของเขาดูอิดโรยมากและร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ” นายตำรวจเล่า หลังจากสิ้นสุดเรื่องคดีความ ทั้ง Jody และภรรยาของเขาก็พยายามทำทุกวิถีทางตามกฎหมาย เพื่อยื่นเรื่องขอรับอุปการะ John Thompson เด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญกับชีวิตในวัยเด็กอันแสนโหดร้าย “เขาเป็นเหมือนลูกสุดที่รักของเราอีกคนหนึ่ง เขามีความหมายกับครอบครัวเรามาก และเราก็ยินดีที่จะทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมและรู้จักที่จะส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้สังคมต่อไป” ภรรยาเล่า เมื่อนักข่าวเดินทางไปถามถึงผลการเรียน และพฤติกรรมของหนุ่มน้อย John Thompson ทางโรงเรียนก็ได้ชี้แจงว่า เด็กน้อยคนนี้เป็นคนที่ขยันตั้งใจเรียน มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีสมาธิตั้งใจเรียนดีมาก “เขาเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผมเลยครับ และเขาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้ได้…” John พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อพ่อบุญธรรม เพราะเด็กไม่สมควรที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย และพวกเขาก็สมควรที่จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเช่นกัน ที่มา:…
-
หนุ่มชาวอังกฤษ ผู้เอา “เบค่อน” ตบหน้าสาวมุสลิม ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนเรียบร้อย!!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ฮือฮาไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตหลังจากที่มีหนุ่มใช้เบค่อนทำร้ายร่างกายหญิงสาวชาวมุสลิม โดยผู้กระทำความผิดในครั้งนี้เป็นนาย Alex Chivers วัย 36 ปี ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวถูกศาลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน โทษฐานไม่เคารพศาสนาผู้อื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Alex Chivers เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า จากคลิปวิดีโอที่เพื่อนของ Alex Chivers เป็นคนถ่าย เผยให้เห็นภาพของสองแม่ลูกชาวมุสลิมกำลังเดินอยู่ข้างถนน หลังจากนั้นหนุ่มผู้ต้องหาสวมใส่หมวกกันน็อคเพื่ออำพรางใบหน้า และนำเบค่อนปาใส่หญิงสาวแม่ลูกชาวมุสลิม มิหนำซ้ำเจ้าตัวก็ได้ตะโกนออกมาว่า ‘พวกมุสลิมเxี้ย’ และ ‘พวกเอ็งสมควรได้รับสิ่งนี้’ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การในชั้นศาลว่า หญิงสาวทั้งสองคนพยายามที่จะเดินหนีและไม่ต้องการความรุนแรง ทว่าพวกเขากลับรู้สึกกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ปกติสุขต่อจากนี้ James Payne จาก Enfield Community Safety Unit ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก โดยผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร และการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในสังคม” นอกจากคนร้ายจะถูกสั่งจำคุก 6 เดือนแล้ว ศาลยังสั่งให้เขาต้องทำสาธารณะประโยชน์ให้แก่สังคมอีกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ต้องจ่ายค่าปรับให้ผู้เสียหาย 115 ยูโร และต้องถูกคุมประพฤติอีก…
-
ผู้ปกครองสลด พบพยาบาลที่จ้างมาดูแลเด็กป่วยพิเศษ “ทำร้าย” ลูกของพวกเค้าเอง
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เปรียบดั่งฝันร้ายของหัวอกคนเป็นพ่อแม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ Dyanna Ko หลังจากที่เธอพบว่า พยาบาลพี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาดูแลลูกของเธอกลับเป็นคนทำร้ายร่างกายลูกเธอซะเอง!! โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Dailymail ได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวจำเป็นจะต้องจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลลูก เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรค Rubinstein-Taybi ของลูกชายเธอ อาการป่วยดังกล่าวทำให้เด็กน้อยต้องทานอาหารผ่านท่อ ตาบอดหนึ่งข้าง และต้องดูแลเป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง ครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะว่าจ้างพยาบาลพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระดูแลลูกชายของพวกเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… เมื่อคุณแม่สังเกตการณ์จากกล้องวงจรปิด เธอก็ได้เห็นภาพที่ทำให้หัวอกคนเป็นแม่ต้องใจสลาย เริ่มแรกพี่เลี้ยงเด็กพยายามใช้มือเขย่าตัวเด็ก จากนั้นมีการมือตีเป็นบางครั้ง พี่เลี้ยงเด็กมีการนำนิตยสารมาม้วนและใช้ทุบตีเด็กน้อย และดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจทำร้ายร่างกายเด็ก เพราะวิดีโอจากภาพวงจรปิดเผยให้เห็นการทุบตีอยู่หลายครั้ง โชคดีที่ ณ เวลานั้นผู้ปกครองทั้งสองคนอยู่ห่างจากบ้านเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ทันทีที่พวกเขาเห็นพฤติกรรมดังกล่าว พวกเขาจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติพบว่า พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวเป็นชาวเม็กซิกันชื่อ Thelma Manalastas ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Maxim Healthcare Services จากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอถูกพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวฐานมีความผิดทางอาญาทันที “มันเป็นความปวดร้าวที่เราต้องเห็นคนอื่นมาทำร้ายลูกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกเราเป็นเด็กที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับครอบครัวอื่นๆ ระวังภัยเรื่องนี้มากขึ้น” คุณแม่ให้สัมภาษณ์…
-
2 พี่น้องกักขังทำร้ายร่างกายแม่กับพี่สาว และบังคับให้พวกเธอเป็นทาสนานถึง 18 เดือน!!
ข่าวน่าสลดใจนี้ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เมื่อสองพี่น้องนาย Faisal Hussein วัย 25 ปีและนาย Arbaaz Ahme วัย 19 ปี ได้กักขังแม่และพี่สาววัย 30 ปีของพวกเขา และกระทำการทารุณพวกเธอโดยการเฆี่ยนด้วยเข็มขัด อีกทั้งยังบังคับให้ทั้งคู่ได้อาบน้ำในปริมาณน้ำที่น้อยมาก ด้วยน้ำแค่ 1 ถังเล็กๆ นอกจากจะถูกทารุณต่างๆ เธอทั้งคู่ต้องทนอยู่กับความหวาดกลัวนานถึง 18 เดือนและได้รับเงินสำหรับซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพียงแค่เดือนละ 1 ปอนด์หรือประมาณ 43 บาทเท่านั้น ย่าน Bradford อันเป็นสถานที่สองพี่น้องทำการกักขังแม่และพี่สาวของพวกเขาไว้ ทางด้านผู้พิพากจากศาล Bradford Crown Court ได้บอกว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายเหมือนกับไม่ใช่การกระทำของมนุษย์ สองพี่น้องใช้ทั้งหัวเข็มขัด ไม้ และร้องเท้าในการทุบตีพี่สาวของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่ให้การว่าแม่และพี่สาวของพวกเขาคือทาส และการทำร้ายพวกเธอนั้นก็คือการลงโทษ พวกเขายอมรับว่าทำร้ายร่างกายและข่มขู่บีบบังคับพี่สาวกับคุณแม่ มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2016 จนกระทั่งถูกจับได้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมา พี่สาวในการกับศาลว่า วันหนึ่งก่อนที่เธอจะถูกช่วยเหลือ…
-
หญิงสาวทนไม่ได้ เมื่อครูพี่เลี้ยงลงโทษลูกของเธอ ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันอย่างรุนแรง…
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเคยได้ยินข่าวการทำร้ายร่างกายเด็ก โดยพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแลกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุของความรุนแรงนี้ ก็คงจะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง และเชื่อแน่ว่าเมื่อผู้ปกครองได้รู้ว่าลูกของเราถูกทำร้าย ก็ย่อมที่จะหาทางที่จะแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เหมือนกับผู้ปกครองชาวจีนท่านนี้ ที่ได้เห็นคลิปวีดีโอการลงโทษลูกของเธอด้วยวิธีที่รุนแรงโดยพี่เลี้ยงเด็ก และเธอก็มีอาการโมโหแบบสุดขีดและเลือกที่จะใช้วิธีการที่รุนแรงในการแก้ปัญหา ภาพบางส่วนในคลิปวีดีโอที่เผยให้เห็นการกระทำของครูพี่เลี้ยง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับเด็กจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากที่ถูกคุณครูทำโทษ และทันทีที่ผู้ปกครองทราบเรื่อง ก็บุกมาที่โรงเรียนเพื่อดูเทปวีดีโอการลงโทษนั้น และเมื่อผู้ปกครอง (สันนิษฐานว่าอาจเป็นคุณแม่) ได้เห็นการลงโทษดังกล่าว เธอก็ได้ขอพบกับครูพี่เลี้ยงทั้งสองคนที่เตะและจับลูกของเธอโยน ซึ่งหลังจากได้พบกับครูพี่เลี้ยงทั้งสองคน คุณแม่ก็ได้ระบายความโมโหด้วยการประเคนทั้งหมัดและเท้าให้กับทั้งคู่ และนี่คือคลิปวีดีโอดังกล่าว หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปนี้ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตของประเทศจีนแสดงความคิดเห็นมากมาย ต่อการกระทำของคุณแม่ท่านนี้ บางคนก็เห็นด้วยกับการกระทำนี้ และยังบอกว่าคุณแม่ไม่ได้ทำรุนแรงเกินไป แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยและบอกว่าควรที่จะมีการจัดการที่ดีกว่านี้ บางส่วนที่เห็นด้วยก็คือ มีลูกในวัยนี้เหมือนกัน ถ้ามีใครทำอะไรแบบนี้กับลูก ก็คงทำเหมือนอย่างในกรณีเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็กล่าวในเชิงว่า ทำไมให้ตำรวจเป็นคนจัดการแจ้งข้อหาให้กับคุณครูพี่เลี้ยงเด็กเหล่านั้นแทนล่ะ? ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากครูพี่เลี้ยงเด็กเลย นั่นก็จะทำให้เด็กจำจากกระทำของผู้ใหญ่ เหตุการณ์แบบนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็พูดยากเหมือนกันนะ แต่เหมียวคิดว่าสิ่งสำคัญเมื่อเจอแบบนี้ก็ควรจะใจเย็นๆ ไว้ก่อน น่าจะดีที่สุด ที่มา shanghaiist
-
“ปล่อยเถอะ เธอน่าจะตายแล้ว” เพราะคำพูดนี้ ‘หญิงสาวออทิสติก’ รอดการรุมทำร้าย มาเล่าให้เราฟัง!?
หญิงสาวคนหนึ่งได้เหล่าถึงเหตุการณ์ปางตาย ที่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้เพราะมีคนตรงนั้นบังเอิญตะโกนขึ้นมาว่า “หยุดได้แล้ว เธอตายแล้ว!!!” เหตการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily O’Reilly วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษซึ่งเป็นเด็กที่มีอาการของออทิสติกอยู่ เธอถูกทำร้ายขณะที่กำลังเดินทางไปที่บ้านเพื่อน เธอถูกดึงผมและผลักลงกับพื้นและโดนทำร้ายสารพัด ทั้งต่อยทั้งเตะจนมีสภาพที่ยับเยิน นอกจากนี้เธอยังถูกขโมยโทรศัพมือถือและกำไลไปอีกด้วย เธอเล่าว่า “ฉันหันไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก เธอเข้ามาข่มขู่และบอกว่าต้องการโทรศัพของฉัน ซึ่งเมื่อฉันปฏิเสธเธอก็่ต่อยเข้าที่หน้าของฉันทันที พร้อมกับล้วงเข้าไปในกางเกงฉันเพื่อที่จะเอาโทรศัพของฉันไป แต่แค่นั้นยังไม่พอเธอยังถอดกำไลของฉันออกไปด้วย ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลยฉันรู้แค่ว่าถูกเตะและต่อยนับครั้งไม่ถ้วนเลย” หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอก็ได้พยายามที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผับใกล้ๆ แต่เธอก็ยังเจอผู้หญิงคนเดิมทว่าคราวนี้เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอหลายคนเลยทีเดียว ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะทำร้ายเธออีกครั้งเพียงแต่ว่าในกลุ่มเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นได้บอกว่า “เธอตายแล้ว” จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นหันหลังกลับไป ทิ้งไว้แต่ความกลัวในใจของ Emily จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนอีกแล้ว “ฉันพยายามวิ่งไปที่ผับเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเจอเธอพร้อมกับคนจำนวนมาก เพื่อตามหาตัวฉัน” “ถึงแม้เพื่อนของเธอจะบอกว่าฉันตายไปแล้ว เธอก็ยังคงกลับมาเพื่อเช็คฉันให้แน่นอนจริงๆ เหตุการณ์นี้ได้ทิ้งความกลัวไว้ให้ฉัน ฉันเจ็บปวดมากๆ มันทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะออกไปข้างนอกอีกต่อไป” จากผลกระทบในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเปิดตาข้างขวาได้เลย ซึ่งแม่ของเธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันไปที่โรงพยาบาลฉันจำหน้าของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันย่ำแย่มากๆ เธอได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด แถมเธอยังลืมตาข้างขวาไม่ได้อีกตะหาก” นอกจากนี้แม่ของเธอยังบอกอีกว่าลูกของเธอเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม จึงทำให้การตอบโต้ของเธอช้ากว่าปกติและไม่สามารถสู้กลับสาวคนนั้นได้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยชอบเธอด้วยก็ได้ สุดท้ายแล้วเธอก็อยากแค่ให้ลูกสาวของเธอใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ว่าจากเหตุการณ์นี้มันคงจะเป็นไปได้ยากอีกต่อไป ตราบที่เหตุการณ์ร้ายแรงยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ …
-
เกาะติด คลิปหญิงสาวใช้มีจี้คอ-กระชากผมเด็ก ล่าสุดเจ้าหน้าที่รับเรื่องลงพื้นที่แล้ว…
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปของเด็หญิงรายหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกายโดยหญิงสาว จนเพื่อนบ้านอดรนทนไม่ได้ ต้องถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยงข้องให้มาจัดการโดยเร็ว คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ กาลเวลา ที่ทำให้เราได้พบกัน เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวสวมใส่เสื้อสีชมพูขณะทำท่าข่มขู่เด็กหญิง ทั้งใช้มือกระชากหัวและใช้มีดจี้มาที่ปากของเด็กอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนจะใช้ไม้กวาดตีที่หน้าแข้งของเด็กอย่างรุนแรงแล้วเดินจากไป พร้อมกันนี้ผู้เผยคลิปวิดีโอยังได้โพสต์ข้อความด้วยว่า “ใครก็ได้ที่เห็นคลิปนี้ ช่วยแชร์ต่อด้วยนะครับ เหตุเกิดบ้านตรงข้ามผมเอง เกิดเป็นประจำ แต่ผมไม่รู้จะช่วยน้องเขาได้ยังไง เคยโพสต์ไปครั้งหนึ่งแล้ว” “นี่เป็นแค่เหตุการณ์บางส่วนเท่านั้นที่ถ่ายคลิปไว้ทัน น้องเค้าโดนเยอะกว่าที่เห็นอีกเป็นสิบเท่า ช่วยน้องเขาด้วยนะครับ เผื่อคลิปนี้จะเป็นประโยชน์.. ขอโทษทุกท่านอีกครั้งนะครับ ที่ผมแท๊คไป” หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ตเพียง 3 ชั่วโมง ก็สามารถเรียกความสนใจจากชาวเน็ตได้อย่างมาก จนผู้คนเข้ามากดดูคลิปกว่า 1 ล้านครั้งและมียอดแชร์อีกกว่า 6 หมื่นครั้ง พร้อมกันนี้ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากกันแสดงความคิดเห็นในเชิงก่นด่าหญิงสาวเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับเด็ก และยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเด็กหญิง ชมคลิปต้นฉบับได้ที่นี่ ปัจจุบันมียอดเข้าชมว่า 800,000 ครั้ง มีการส่งต่อกันอย่างมากในโลกออนไลน์ ต่อมาในช่วงเวลา 12.41 นาฬิกา เฟซบุ๊กเพจ Red Skull V.SE ได้มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคลิปดังกล่าวถูกส่งให้กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และสภ.บางพลี สมุทรปราการ แล้ว ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้รับทราบและอยู่ในขั้นตอนการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเด็กต่อไป อัพเดท 14.10…
-
มีจริง Fight Club Thailand ชมรมที่เปิดโอกาสให้ต่อยกันแบบตัวต่อตัว ผู้คนคิดเห็นอย่างไร?
กำลังกลายเป็นกระแสที่โลกอินเตอร์เน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์เลยทีเดียว สำหรับ Fight Club Thailand เป็นกิจกรรมสุดระห่ำ ที่ให้ผู้คนได้มาปลดปล่อยด้วยการชกต่อยกัน โดยไม่มีเวที หรือกรรมการใดๆ มีเพียงแค่สัญญาลูกผู้ชายว่าหลังจากที่ชกกันเสร็จแล้วจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน Fight Club Thailand นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Fight Club (1999) ที่มี Brad Pitt และ Edward Norton เป็นนักแสดงนำ เล่าเรื่องราวของชมรมใต้ดินฮาร์ดคอร์ ที่เปิดโอกาสให้คนได้มาชกต่อยกันแบบตัวต่อตัว โดยทางชมรมได้มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับบ้านเรา ซึ่ง Fight Club Thailand เริ่มมีชื่อเสียงตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในแต่ละครั้งที่พวกเขามีการชกต่อยกัน ก็จะอัดคลิปวิดีโอมาให้โลกออนไลน์ได้ชมด้วย และเมื่อผู้คนรู้ข่าวคราวของกิจกรรมสุดแปลกนี้ก็พากันไปชมการชกต่อยกันแบบสดๆ มากขึ้นเรื่อยๆ . . และด้วยกระแสที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นี้เอง ทางเฟซบุ๊กเพจอย่าง ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส ได้บอกว่าตนเองนั้นชื่นชอบกิจกรรมแบบนี้มาก เพราะเป็นการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวและจะคอยจับตาดูอนาคตของชมรมนี้ ส่วนเพจ Drama-addict ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่เข้าท่า เพราะยังไงแล้วปัญหาวัยรุ่นตีกันก็ดูจะไม่มีทางหมดไปง่ายๆ การจับมาต่อสู้กันแบบมีผู้ชมแบบนี้ก็น่าจะเป็นทางออกทางหนึ่ง ส่วนชาวเน็ตเมื่อได้เห็นและรับรู้ถึงการมีอยู่ของชมรมนี้ ก็แสดงความเห็นออกมาในหลายแง่มุม เช่น…
-
เรื่องราวดีๆ ในเรือนจำ เมื่อ ‘นักโทษ’ เข้ามาช่วยผู้คุม ที่กำลังถูกนักโทษอีกคนทำร้ายร่างกาย
หากพูดถึงเรือนจำ คนทั่วๆ ไปก็ต้องนึกถึงสภาพการเป็นอยู่ที่ไม่น่าอยู่นัก รวมถึงเพื่อนร่วมห้องที่เค้าอาจจะเคยก่อคดีเลวร้ายจนเราไม่อยากจะทำความรู้จักเลยก็ได้ แต่ทุกอย่างในโลกย่อมมีดีชั่วปะปนกันไป ในดำมีขาว – ในขาวมีดำ เฉกเช่นเดียวกันกับเรือนจำแห่งหนึ่งในเมือง Stillwater รัฐโอคลาโฮมา กับเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อนักโทษเข้ามาช่วยเหลือผู้คุม ที่ถูกเพื่อนนักโทษด้วยกันเองทำร้ายร่างกาย!!! เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Tashka Maret นักโทษวัย 24 ปี ที่เรียกร้องขอให้ผู้คุม Matthew Hudson ช่วยเปิดประตูให้ ด้วยการอ้างว่าตนต้องการจะไปเข้าห้องน้ำ แต่หลังจากที่ผู้คุมเข้าไปเปิดประตูให้เท่านั้นแหละ…!!! นักโทษหนุ่มก็พุ่งเข้ามาสาวหมัดใส่ผู้คุมแบบไม่ยั้ง เรียกได้ว่าไม่ทันให้ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Hudson ผู้ถูกทำร้ายพยายามที่จะติดต่อร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คุมคนอื่น แต่กลับน่าแปลกใจที่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ เขาเลยแม้แต่คนเดียว สถานการณ์ยิ่งดูแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับเจ้าหน้าที่คนนี้ เขาถูกนักโทษกอดรัดเข้าที่หลังแล้วฟาดลงกับพื้นจนเสียหลัก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเจ้าพนักงานคนไหนเข้ามาช่วยเหลือเลย… แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น!! เราต่างรู้กันดีว่านักโทษย่อมเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้คุม แต่ไม่ใช่กับ Robert Hammock นักโทษร่างท้วมที่กำลังนั่งรออยู่ห่างๆ ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะวิ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้คุม ด้วยการอุ้มนักโทษอีกคนออกและพยายามแยกทั้งคู่ ก่อนที่จะเกิดเหตุรุนแรงและความเสียหายมากไปกว่านี้ เราไปชมคลิปวิดีโอจากเหตุการณ์นี้ที่บันทึกได้โดยกล้องวงจรปิดในเรือนจำกันเลยดีกว่า… สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็จบลง ภายหลังมีการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่…
-
ชาวเน็ตอยู่ทีมไหน!?? หนุ่มรัสเซียต่อยสวนกลับแฟนสาว หลังถูกด่า-ทุบตีแบบไม่ยั้ง จนทนไม่ไหว…
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพ และคลิปวีดีโอเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของคู่รักคู่หนึ่ง ในเมืองเยคาเตรินบุร์ก ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า ทั่งคู่กำลังยืนทะเลาะกันอยู่ จนกระทั่งฝ่ายหญิงทนไม่ไหวเธอเลยตบหน้าแฟนหนุ่ม พร้อมทั้งตะโกนต่อว่าเป็นเวลานานหลายนาที ก่อนที่เธอจะพยายามเปิดประตูรถเพื่อขับออกไป แต่แฟนหนุ่มก็มารั้งเอาไว้ซะก่อน เหตุการณ์ดูเหมือนกำลังเริ่มคลี่คลาย แต่จู่ๆ ชายหนุ่มคนดังกล่าวกลับชกเข้าที่ใบหน้าของแฟนสาวหลายต่อหลายครั้ง จนเธอทรุดลงไปนอนบนพื้นถนนกลางลานจอดรถ ในขณะนั้นมีหญิงสาวที่เห็นเหตุการณ์ ก็ได้เข้ามาพยายามห้ามปราม แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะชายหนุ่มได้ผลักหญิงคนดังกล่าวออกไป พร้อมทั้งดึงเสื้อแฟนสาวให้ลุกขึ้น ก่อนบังคับให้เธอของเขากลับเข้าไปภายในรถ และขับออกไปในที่สุด หลังจากที่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ทะวิวาทของคู่รักคู่นี้ ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย แถมยังมีการถกเถียงกันไปกันมาว่าใครผิดหรือถูกกันแน่ ซึ่งบางคนก็บอกว่า ฝ่ายชายโดนมาขนาดนี้ คงทนไม่ไหวก็คงจะโกรธเป็นธรรมดา ส่วนบางรายก็บอกว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่ควรทำร้ายผู้หญิงอยู่ดี ที่มา : dailymail
-
ศาลตัดสินหนุ่มก่อคดี ‘ทำร้ายร่างกาย’ แฟนสาวรอดคุก เหตุเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้!?
แน่นอนว่าการทำความผิด ผู้กระทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามที่กฎหมายได้กำหนด ซึ่งก็จะมีการตัดสินอีกทีหนึ่งโดยการรวบรวมพยานและหลักฐานเพื่อช่วยในการตัดสิใจคดี และผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายนั้นก็คือ ‘ศาล’ นั่นเอง วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราว เกี่ยวกับคดีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นที่ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งการทำร้ายร่างกายผู้หญิงในประเทศไอร์แลนด์นั้นมีโทษหนักมากจนถึงกับขึ้นติดคุกได้เลยทีเดียว แต่ผู้กระทำผิดกลับรอดการติดคุก เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้!? เว็บไซต์ Metro รายงานว่านาย Davide Sanfilipo หนุ่มชาวอิตาเลียนที่อาศัยอยู่ร่วมกับแฟนสาวของเขาในประเทศไอร์แลนด์ ได้ก่อคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาวของเขาจนเกิดรอยฟกช้ำบนใบหน้า และผมถูกจิกหลุดออกไปหลายกระจุก โดยมีสาเหตุเพราะเห็นข้อความที่เธอแอบคุยกับชายหนุ่มในโทรศัพท์มือถือ ผู้ต้องหา Davide Safilipo หลังจากที่ถูกจับได้ เขาถูกนำตัวไปไต่สวนที่ศาลอาญา Dublin Circuit Criminal Court แต่จำเลยถูกตัดสินให้ไม่ติดคุกเพราะว่าเขาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ตามรายงานของสื่อในประเทศไอร์แลนด์ Irish Mirror เล่าว่า ผู้พิพากษา Martin Nolan กล่าวถึงการกระทำนี้ว่า เป็นการกระทำที่น่าอาย แต่เกรงว่า พ่อหนุ่ม Sanfillipo จะใช้ชีวิตอยู่ในคุกได้อย่างยากลำบาก ผู้พิพากษา Martin Nolan ก็เลยตัดสินให้เขาถูกจำคุก 2 ปี โดยรอลงอาญาไว้ก่อน และต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับแฟนสาวของเขาเป็นจำนวนกว่า…
-
ชาวเน็ตจีนรุมประณามยับ หลังเห็นคลิปชายโชว์ถ่อย ตบตีภรรยาต่อหน้าต่อตาลูกสาว
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2559 ทางสำนักข่างต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นกลางย่านการค้า เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน และกำลังกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในโลกออนไลน์ของจีน ณ ขณะนี้ จากภาพได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของสามีและภรรยาคู่หนึ่ง กำลังทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายชายได้ทำร้ายร่างกายของภรรยาอย่างรุนแรงจนทรุดลงไปนอนกับพื้น ต่อหน้าต่อตาของลูกสาวตัวน้อยที่ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ แม้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะร้องไห้ และอ้อนวอนให้ผู้เป็นพ่อหยุดทำร้ายร่างกายของแม่ แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด และยังคงทำร้ายเธอต่อไป ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ ณ บริเวณนั้น ต่างก็พากันเข้ามาห้ามปรามการกระทำของชายคนดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่เป็นผลเช่นกัน และเมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าว ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจีนต่างก็พากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำสุดถ่อยของชายคนดังกล่าว โดยมีการแสดงความเห็นว่า ชายผู้นี้สมควรถูกจับ ในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนต่างแสดงความชื่นชม ที่ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้ามาช่วยเหลือหญิงผู้เคราะห์ร้าย ที่มา : cctvnewschina
-
“เน วัดดาว” เผยภาพแผลยิงตัวเอง ย้ำไม่ใช่เน็ตไอดอลและไม่ใช่คนที่ควรเอาแบบอย่าง
กลายเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์กันไปในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับกรณีของ เน วัดดาว หรือ นาย มครินทร์ พุ่มสะอาด ที่ชาวเน็ตหลายคนยกย่องให้เป็นเน็ตไอดอลจนมีชื่อเสียงและมีงานในวงการบันเทิงเข้ามามากมาย ได้ใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับของตัวเองระหว่างถ่ายทอดสดลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ตามรายงานบอกว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องชีวิตส่วนตัวและมีอาการจิตตก ทำให้ตัดสินใจยิงตัวเองลงในเฟซบุ๊ก ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและถูกเรียกสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดเจ้าตัวได้มีการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์แล้ว โดยในช่วงเวลาตี 1 กว่าของวันที่ 18 เมษายน เน วัดดาวได้โพสต์ข้อความเพื่อย้ำให้ผู้ติดตามของเขารับทราบว่าตนเองไม่ใช่เน็ตไอดอล อย่าคาดหวังในตัวเขามากนักเพราะวันหนึ่งเจ้าตัวอาจจะทำเรื่องไม่ดีอีก และบอกว่าตนเองไม่ใช่คนที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง พร้อมกันนี้ยังโพสต์ภาพบาดแผลและข้อความขอโทษแฟนๆ และคนรอบข้างต่อสิ่งที่เกิดขึ้น “แผลนี้เราคิดสั้นขาดสติเองขอโทดเพื่อนๆที่ๆและครอบครัวที่ต้องมาเป็นห่วง” ต้องยอมรับว่าเนวัดดาวก็เคยทำเรื่องราวดีๆ ให้เราเห็นมาแล้ว เช่นการไล่จับโจร หรือออกมาเตือนเด็กๆ อาชีวะที่ชอบมีปัญหาทำร้ายร่างกายกัน แต่ในกรณีนี้เราก็ทำได้แค่เตือนลูกๆ หลานๆ ว่าไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างล่ะนะ ที่มา Makharin Phumsaart
-
เป็นคุณจะกล้าไหม!? ฝรั่งทำคลิปทะเลาะกันกลางที่สาธารณะ เพื่อดูว่าคนไทยจะทำยังไง?
หลายครั้งที่สังคมไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายกันในที่สาธารณะ บางคนอาจจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกาย บางคนอาจจะโทรแจ้งตำรวจ แต่บางคนก็เลือกที่จะเพิกเฉยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่ผิด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ My Mate Nate ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทะเลาะกันแบบปลอมๆ ของฝรั่งและหญิงสาวราวหนึ่งในที่สาธารณะเพื่อเป็นการทดสอบคนไทยว่าจะเข้าไปช่วยหรือไม่และมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อเหตุการณ์นี้? จากคลิปดังกล่าวจเห็นว่ามีทั้งคนที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือพยายามห้ามปรามและขอให้ฝ่ายชายหนุ่มใจเย็นลง แต่ก็มีหลายๆ คนที่เลือกจะนิ่งเฉย เดินผ่านไปหรือเล่นมือถือทั้งๆ ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าห่างไปไม่กี่เมตรเท่านั้น ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ฝรั่งทดสอบสังคมไทย: ทำร้ายผู้หญิงในที่สาธารณะผมจะไม่ยอมเห็นคลิปนี้คนเดียว สะท้อนสังคมไทยจริงๆ รีบแชร์ด่วน!!! ฝรั่งทดสอบสังคมไทย-ทำร้ายผู้หญิงในที่สาธารณะ ยูทูป – https://goo.gl/69Sl1e เพจ – My Mate Nate เพื่อนที่ช่วย – 555Infinity โพสต์โดย My Mate Nate บน 25 มีนาคม 2016 ยอมรับเลยว่าบางครั้ง#เหมียวฟิ้นพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้ก็กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเข้าไปช่วยเหมือนกัน แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ?…
-
ชายถูกจับเนื่องในข้อหาใช้ภรรยาเป็น ‘ไม้ถูพื้น’ เหตุจากทะเลาะกันเรื่องทำแซนด์วิชเลอะ!?
คนเรานี่มันหัวเสียกันได้แทบทุกเรื่องกันเลยทีเดียวนะเนี่ย เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ อย่างในกรณีของคู่สามีภรรยาจากรัฐฟอลริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันจนถึงขั้นฝ่ายภรรยาอยากจะขอหย่า เนื่องจากฝ่ายสามีทำเกินกว่าเหตุ!! เหตุจากแซนด์วิชโดนนมหกเลอะเทอะ!! เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากฝ่ายสามีใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อใช้เช็ดนมที่หกจากแก้วจนเลอะเทอะไปทั่วบริเวณ ในระหว่างที่เขากำลังเตรียมทำแซนด์วิชเนยถั่วเยลลี่ ยัง ยังไม่จบ… ซึ่งนอกจากนี้ฝ่ายสามีก็โทรไปยังหมายเลข 911 และร้องเรียนว่า ‘เธอโยนเนยถั่วกับเยลลี่ของผมลงพื้น’ (เมียน่าจะเป็นฝ่ายโทรมากกว่านะ!?) ใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อทำความสะอาด!! อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงของฝ่ายภรรยาว่า ‘ที่ทำก็เพราะเอ็งฉีกเสื้อซะจนขาด แถมยังผลักให้ล้มลงพื้นอีก นั่นทำให้ฉันโมโหจนต้องตะคอกใส่นี่แหละ’ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งรายงานมาว่า ชายคนดังกล่าวใช้ศีรษะและผมของภรรยาเพื่อทำความสะอาดพื้น เจ้าหน้าตำรวจจึงทำการจับกุม Keith Davidson วัย 46 ปี ทันที ด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ฝ่ายภรรยาเปิดเผยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนกระทำแบบนี้ ‘เขาเคยใช้หัวของฉันล้างจานด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งที่สองและสาม ฉันทนไม่ไหว เขากลายเป็นสัตวประหลาดไปแล้ว’ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมสามีผู้โหดเหี้ยมได้ จะต้องทำการส่งให้ศาลตัดสินความผิด ซึ่งจะพิจารณาความผิดในวันที่ 27 มกราคมที่จะถึงนี้ ที่มา : unilad
-
ฟังอีกมุมของสาวที่อยู่ในเหตุการณ์รุมสกรัม 6 ต่อ 1 “ไม่ใช่นกต่อและไม่ได้หนีไปไหน”
หลังจากวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอการรุมทำร้ายร่างกายของกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ที่รุมสกรัมนายกฤษดา อ่อนน้อม วัย 19 ปี บริเวณข้างถนนจนเสียชีวิต โดยมีหญิงสาวยืนอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงหญิงสาวที่ปรากฏในคลิป ว่าทำไมเธอถึงยืนดูเหตุการณ์เฉยๆ ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย ทำให้บางคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าเธออาจเป็นนางนกต่อที่ล่อให้นายกฤษดา มาติดกับก็เป็นได้ ล่าสุดหญิงสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของเธอ โดยมีใจความว่าตนเองนั้นแม้จะยืนนิ่งก็จริง แต่ก็ได้ใช้เสียงตะโกนห้ามกลุ่มวัยรุ่นแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และหากจะเข้าไปห้ามด้วยตัวเองก็คงทำไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายมีอาวุธครบมือ นอกจากนี้เธอยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าไม่ต้องการอะไร แค่อยากออกมาพูดความจริงเท่านั้น ยังไงแล้ว เหมียวขอให้ทุกคนใจเย็นๆ อย่าเพิ่งไปกล่าวโทษเธอเลยนะ แค่เธอไม่โดนลูกหลงไปด้วยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะ ที่มา รักเธอประเทศไทยน่ะ
-
ใครผิดใครถูก? คลิปหนุ่มยกมือไหว้ขอโทษทหาร หลังขับรถปาดหน้า เจอชกหน้าพร้อมชวนไปขึ้นโรงพัก
เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ ชื่อ ป๊อป นี่แหละ ได้แชร์คลิปวิดีโอขณะที่ตนเองและแฟนกำลังขับรถอยู่บนถนนเส้นหนึ่ง แต่ในระหว่างที่ขับรถแซงกลับมีรถอีกคันตีคู่ขึ้นมา โดยเจ้าตัวเล่าวว่า “เราตีไฟเลี้ยวแซงรถสิบล้อ ดูแล้วว่าคันหลังอยู่ห่างพอที่เราจะแซงได้ พอแซงมาเขาก็เร่งขับมา แล้วบอกว่าเราปาดหน้า เขาจึงขับรถปาดไปปาดมา และตีไฟให้เราจอด” ทำให้คนขับรถที่เป็นทหารเดินลงมาจากรถคันดังกล่าว และต่อยเข้าที่ใบหน้าของแฟนหนุ่มทันที พร้อมกับต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นจึงชวนให้ชายหนุ่มไปขึ้นโรงพักกับตนเองพร้อมกับสั่งให้หญิงสาวลบคลิปที่กำลังถ่ายอยู่ออกซะ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ฝากหน่อยน่ะค่ะ ก้อไม่รู้ว่าเขาทำเกินไปรึเปล่า. เราตีไฟเลี้ยวแซงรถ สิบล้อ. ดูแร้วว่าคันหลังอยู่ห่างพอที่เราจะแซงได้ พอแซงมา. เขาก้อเร่งขับมา แร้วบอกว่าเราปาดหน้า เขาจึงขับรถปาดปัยปาดมา. และตีไฟให้เราจอด. พอจอด. ก้อลงรถมา. แฟนเราเปิดกระจก คุย. ยังไม่ทันจะอธิบายอะไรเขาก้อต่อยแฟนเราเลย เราก้อจะต้องไปทำมาหากิน แฟนเราก้อเลยบอกขอโทดไปทั้งที่ไม่ได้ผิดหรอก. แต่เพื่อให้เรื่องมันจบเร็ว. พอเขาเห็นเราถ่ายคลิป ก้อโมโห. บอกให้เราลบคลิปอีก. ถ้าคุณเป็นทหารแร้วจะมาเบ่งใส่คัยก้อได้แบบนี้ ก้อเกินไปน่ะค่ะ. ถ้าดูแล้วเราผิดก้อขอโทดน่ะค่ะ Posted by ชื่อ ป๊อป นี่แหละ…
-
ผู้คนยืนงง หลังเห็นหญิงสาวมะกันถูกมีดแทง เพราะคิดว่าเป็น “งานศิลปะ” !?
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนนามว่า Siyuan Zhao วัย 24 ปี จากเมืองนิวยอร์ค ใช้มีดแทงเหยื่อสาวภายในงานจัดแสดงศิลปะ Art Basel Miami ในสหรัฐอเมริกา แต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายเลย เพราะคิดว่านั่นคืองานศิลปะอย่างหนึ่ง หลังจากก่อเหตุได้ไม่กี่วินาที Siyuan Zhao ก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวทันที ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยมีดปากกา และจากการตรวจสอบร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายพบว่าเธอได้รับบาดเจ็บที่แขนและบริเวณคอ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัว Siyuan Zha มาสอบสวน เธอให้การว่า “ฉันจำเป็นต้องฆ่าเธอ และฆ่าอีก 2 คน ฉันต้องได้เห็นเลือดเธอไหลออกมา” ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น ในตอนเกิดเหตุนั้น ไม่มีใครที่เข้าไปข่วยเหลือหรือเข้าไปดูอาการของเธอเลย เพราะคิดว่ามันคืองานศิลปะ โดยหนึ่งในผู้ร่วมงานให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมคิดว่าผมเห็นการแสดงและผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นเลือดปลอมนะ แต่มันดันเป็นของจริง” ทุกวันนี้มีงานศิลปะแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่แปลกนะที่บางคนจะคิดว่านี่คืองานศิลปะ แต่ก็ดูดีๆ หน่อยล่ะ…
-
เกินไปไหม? พนักงานโรงแรมย่านพัทยาเตะลูกค้าหญิง เพียงเพราะใช้ใบขับขี่เช็คอินแทนบัตรประชาชน!?
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกพนักงานโรงแรมทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าโรงแรมแห่ง สาเหตุเพียงเพราะหญิงสาวใช้ใบขับขี่ในการเช็คอินโรงแรมแทนบัตรประชาชน คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pitty Oommy เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวขณะยืนพูดคุยกับพนักงานโรงแรมใส่เสื้อสีฟ้า 2 คน โดยจับใจความได้ว่าพนักงานโรงแรมเป็นฝ่ายผลักหญิงสาวก่อน จากนั้นฝ่ายหญิงจึงด่ากลับไปว่า “หน้าตัวเมีย” ทำให้พนักงานโรงแรมทนไม่ได้ และลงมือเตะหญิงสาวไป 1 ครั้ง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เนื่องจากน้องผู้หญิงใช้ใบขับขี่ขึ้นโรงแรม แล้วไม่ให้น้องขึ้นแล้วก็ใช้วาจาไม่สุภาพโดยอ้างว่า ‘ออกไปพี่งานยุ่ง’ แล้วก็ผลักน้องออกมาจากโรงแรม ทั้งๆ ที่ใบขับขี่ใช้แทนพาสปอร์สและบัตรประชาชนได้ กลับใช้คำพูดไม่สุภาพ นี่หรอคะงานบริการทางโรงแรม?” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง พร้อมกับการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่างเช่นคุณ Sunchai Gerdmongkol กล่าวว่าหญิงสาวสมัยนี้กลายเป็นเหยื่อสังคมมากกว่าแต่ก่อน คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทั้งนี้ยังมีความเห็นที่น่าสนใจจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า Mix Lamon ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หญิงสาวรายดังกล่าวดูไม่น่าไว้ใจ เพราะไม่มีกระเป๋าสัมภาระและมาเพียงคนเดียว อาจเป็นขโมยก็เป็นได้ ที่มา hexernoter1 , Pitty Oommy
-
โหดเกินไปแล้ว!! สุนัขโกลเด้นฯ หลงทางในหมู่บ้าน ถูกชาวบ้านใช้มีดฟันบาดแผลทั่วตัว
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ TopnewsThailand ได้รายงานว่า พบสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สีน้ำตาล อายุประมาณ 5 ปี วิ่งขาลากเลือดอาบ หนีตายมาซ่อนตัวอยู่ในสวนข้างร้านณรงค์พันธุ์ไม้ ถนนสายหลังสวรรคโลก-ศรีสำโรง หมู่1 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โดยพบบาดแผลที่บริเวณลำคอและกลางลำตัวมีเลือดอาบ ชาวบ้านจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับเจ้าโกลเด้นตัวนั้นไปรักษาต่อ หลังจากการตรวจร่างกายพบว่าขาซ้ายหลังหัก และมีแผลที่กลางลำตัวกับลำคอ จนมีเลือดไหลออกมาเกาะเต็มตัวไปหมด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบบาดแผลขนาดใหญ่ที่ลำคอ จนเผยให้เห็นหลอดลมอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเช็ดเลือดและทำแผลเบื้องต้น และส่งเจ้าสุนัขผู้โชคร้ายไปให้กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์สุโขทัยเพื่อทำการเย็บแผลต่อไป ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง การทำแผลต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดและเย็บบาดแผล ซึ่งขณะนี้เจ้าสุนัขอาการปลอดภัยแล้วและได้ประกาศตามหาเจ้าของต่อไป เจ้าหน้าที่เชื่อกันว่าบาดแผลต่างๆ อาจเกิดจากชาวบ้านใจร้ายหลังจากที่มันหลุดออกมาจากบ้านของมันนั่นเอง ที่มา TopnewsThailand