Tag: ทำร้ายเด็ก
-
คลิปเด็กโดนบีบคอ-ผลักล้ม ดราม่าทั่วเน็ต แท้จริงแล้วเป็น “เด็กแสบ” แถมคดีพลิก!!
บางครั้งเด็กก็ไม่ได้น่ารักสมวัยเสมอไป…ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการได้รับการอบรมสั่งสอนและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาด้วย เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะผลักเด็กชายคนหนึ่งล้มจนร้องไห้จ้าละหวั่น คลิปตอนแรกเป็นคลิปสั้นๆ แสดงฉากของเด็กโดนบีบคอและผลักล้ม โดยไม่มีคำอธิบาย ทำให้คลิปนี้เป็นไวรัล ชาวเน็ตมากมายหลายคนต่างก็คอมเม้นต์ตำหนิการกระทำของเขาไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ใหญ่จะไปรังแกเด็กตัวเล็กๆ ได้อย่างไร แต่ไม่นานคลิปก็ถูกลบไปเพราะเป็นการแสดงความรุนแรงต่อเด็ก แต่แล้วเกมก็พลิกเมื่อมีอีกคลิปวิดีโอหนึ่ง ที่ถ่ายมาให้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดการใช้กำลัง คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊กชื่อว่า Martha Kelly พร้อมแคปชั่นเล่าเหตุการณ์ว่า “นี่เป็นวิดีโอของเด็กที่ทำลายรถที่จอดอยู่ทุกคัน Sean (ชายที่ผลักเด็ก) พยายามจะหยุดเขา และโทรหาแม่ของเขาเพื่อให้มารับตัวกลับบ้านไป แต่กลับกลายเป็นว่ามีแต่คนอัปคลิปเหตุการณ์ตอนที่เขาผลักเด็กอย่างเดียว” จากคลิปจะเห็นว่าเจ้าหนูที่โดนผลักนั้นจริงๆ เป็นไอ้ตัวแสบสุดๆ พยายามหาเรื่อง Sean เดินเอาตัวชน จนถึงลงมือทำร้ายร่างกายเขาก่อนด้วย!! อีกทั้งยังมีการใช้คำพูดที่รุนแรง ทั้งด่าทอผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเป็น ‘ก*หรี่’ รวมไปถึงคำสบถหยาบคายมากมาย คลิปวิดีโอดังกล่าวมีความรุนแรง ไม่สามารถ Embed มาลงได้ ใครที่จะชมสามารถคลิกที่ภาพ หรือลิงก์นี้ได้เลยครับ… หลังจากที่ได้ชมคลิปเหตุการณ์นี้แล้วชาวเน็ตหลายคนต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ…
-
ชาวเน็ตแชร์เหตุการณ์ อาจารย์ตบหน้านักเรียน 5 ที เหตุเพราะกระเป๋าเธอแฟชั่นเกินไป
กลายเป็นเรื่องที่กำลังถูกพูดถึงในโซเชียลจีนพอสมควรเลย หลังมีคนแอบถ่ายคลิปที่อาจารย์ชาวจีนท่านหนึ่งกำลังลงไม้ลงมือกับนักเรียนของตัวเองด้วยการตีหน้าหลายครั้ง ด้วยเหตุผลที่ได้ยินแล้วถึงกับต้องตั้งคำถามว่ามันต้องขนาดนี้เลยหรือ? เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่มณฑลซานซี ประเทศจีน ซึ่งภายในคลิปเราจะเห็นอาจารย์หญิงวัยกลางคนท่าหนึ่ง กำลังตบหน้านักเรียนอย่างรุนแรงถึง 5 ครั้งด้วยกันภายในระยะเวลาของคลิป 25 วินาที จากรายงานนั้นพบว่าสาเหตุที่ทำให้อาจารย์คนดังกล่าวตบนักเรียนตัวเองก็เพราะว่า นักเรียนของเธอนั้นนำกระเป๋าที่ดูแฟชั่นเกินไปมาโรงเรียน เธอจึงโมโหและบันดาลโทสะอย่างที่เห็น ด้านอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่เกิดเหตุก็ได้ออกมาบอกว่า อาจารย์ในคลิปนั้นทำเกินกว่าเหตุจริง ทำให้เธอถูกสั่งย้ายทันทีและเธอจะถูกลงทัณฑ์บนในประวัติการทำงานของตัวเธอเองด้วย คลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตก็ยังพากันแสดงความเห็นกันไปต่างๆ นานาว่าการลงโทษดังกล่าวนั้นคือการกระทำทารุณต่อเด็กหรือเปล่า และตั้งข้อสงสัยว่าแค่พกกระเป๋าที่อาจารย์คิดว่าแฟชั่นเกินไปมาโรงเรียน มันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือ เหตุผลทั้งหมดก็เพราะกระเป๋าใช่ไหม? นี่มันบ้าอะไรเนี่ย ทารุณเด็กชัดๆ แต่พี่คนนี้มาแหวก เขาแซวว่าการที่โดนตบหน้าก็ยังดีกว่าถูกยิงล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
Mary Ellen เด็กสาวผู้ถูกกดขี่ จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากครอบครัว
กฎหมายบ้านเมืองที่บังคับใช้กันในทุกวันนี้ย่อมมีที่มาที่ไปเสมอ บางกฎตั้งขึ้นเพื่อจัดระเบียบในสังคม ในขณะที่บางกฎตั้งขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็เพื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก เหมือนอย่างกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากการทารุณกรรมที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถูกตั้งขึ้นและบังคับใช้หลังจากที่มีการกดขี่เด็กหญิงคนหนึ่ง นี่คือคำบอกเล่าจาก Mary Ellen Wilson เด็กหญิงผู้ถูกกดขี่ “ฉันชื่อ Mary Ellen Wilson ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ ฉันโดนแม่ตีและเฆี่ยนด้วยแส้เกือบทุกวัน ฉันไม่เคยได้รับการจูบด้วยความรัก” “ฉันไม่เคยได้รับอนุญาตให้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ฉันไม่กล้าพูดกับใคร เพราะถ้าฉันทำ ฉันจะโดนเฆี่ยน…เมื่อแม่ออกไปข้างนอก เธอจะล็อกประตูขังฉันไว้ในห้อง ฉันจึงไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเลย…” ไม่ใช่แค่ Mary Ellen คนเดียว แต่มีเด็กๆ นับไม่ถ้วนที่ถูกทารุณกรรมเช่นเดียวกับเธอ และเรื่องราวของพวกเขามักจะถูกรายงานผ่านสื่อบ่อยมาก ตามข้อมูลจาก Army Community Service Family Advocacy Group ระบุว่า ทุกๆ วันจะมีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการทารุณกรรม โดยสามในสี่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ย้อนกลับไปในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายสำหรับคุ้มครองเด็กๆ จากการถูกทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของพวกเขา นั่นทำให้พ่อแม่มักจะลงโทษลูกตัวเองอย่างหนักเมื่อไม่เชื่อฟังคำสั่ง กรณีของ Mary Ellen เกิดขึ้นเมื่อปี 1874 และเรื่องราวของเธอนี้เองที่เปลี่ยนความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดต่อเด็กอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นสังคมยังให้ความร่วมมือในการป้องกันและยุติการทารุณกรรมต่อเด็กด้วย…