Tag: ท่องเที่ยว
-
คู่รักชาวอินเดีย ตกลงมาเสียชีวิตหลัง “เซลฟี” บนหน้าผาในอุทยานแห่งชาติ Yosemite
ไปเที่ยวในสถานที่อันตรายโปรดอย่าชะล่าใจ แม้สถานที่นั้นจะสวยงามน่าถ่าย “เซลฟี่” ก็ตาม คู่รักชาวอินเดียคู่หนึ่งมีรายงานว่าตกจากหน้าผาของภูเขา Sierra Nevada ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในแคลิฟอร์เนีย จากรายงานคาดว่าทั้งคู่ ไปยืนยังริมหน้าผาแล้วกำลังจะถ่ายเซลฟี่ด้วยกัน นั่นทำให้ทั้งคู่สูญเสียการทรงตัวและพลาดตกลงจากหน้าผาความสูง 244 เมตรในที่สุด ร่างของนาย Vishnu Viswanath วัย 29 ปี และนาง Meenakshi Moorthy วัย 30 ปี ถูกพบอยู่ที่พื้นด้านล่างของหน้าผาเมื่อวันพฤหัสที่ 25 ตุลาคม 2018 โดยผู้ลาดตระเวนในอุทยาน Jishnu Viswanath พี่ชายของ Vishnu กล่าวว่าทาง Moorthy ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแบบเต็มเวลา Meenakshi Moorthy และ Vishnu Viswanath ทั้งคู่มักออกท่องเที่ยวผจญภัยค้นหาความตื่นเต้นให้กับชีวิต โดนในอินสตาแกรมของพวกเขาจะมีภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสวยงามและอันตรายหลายแห่ง โดยทางพี่ชายของ Vishnu ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ศพของทั้งคู่จะถูกฝังในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากสภาพศพไม่อำนวยให้ส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย… https://www.instagram.com/p/BXDP6tvBLrP/?utm_source=ig_embed การท่องเที่ยวนั้นทำให้เกิดความสุขความบันเทิงได้ก็จริง แต่ก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนนะจ๊ะทุกคน! ที่มา: nextshark, holidaysandhappilyeverafters, Mercury News และ National…
-
หนุ่มจีนโมโห เที่ยวบินถูกยกเลิก “ตบหน้า” กราวด์ชายด้วยโทรศัพท์มือถือ!
ในสนามบิน Qingdao ของประเทศจีน ผู้โดยสารชายคนหนึ่ง ได้ระเบิดอารมณ์ ตบหน้า พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินด้วยโทรศัพท์มือถือ หลังทราบว่าเที่ยวบินของเขาถูกยกเลิก จากรายงานทราบว่า ชายชาวจีนสกุล Wu ได้เกิดอารมณ์โมโห หลังทราบว่าเที่ยวบินของตนถูกยกเลิกไปเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คลิปเหตุการณ์ ตามรายงานของสื่อในท้องถิ่น ทางสายการบินได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและค่าเสียหายให้กับ Wu แล้วในวันก่อนเกิดเหตุ แต่ถึงกระนั้น Wu ก็ยังคงระเบิดอารมณ์ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเอง “ตบหน้า” พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินเพศชายคนหนึ่ง ขณะที่เขาเข้ามาติดต่อที่เคาน์เตอร์ แม้จะถูก Wu ตบหน้าด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่พนักงานชายคนดังกล่าวก็ไม่มีการตอบโต้ จากเหตุการณ์นี้ Wu ก็ถูกคุมตัวไปสอบสวน จนสุดท้ายก็ถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 10 วัน และถูกบันทึกลงบัญชีดำสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจีน ที่มา: nextshark, local media, Netizen Watch และ Shanghaiist
-
สัมผัส “ชีวิตบนดาวอังคาร” กับ Sun City Camp ที่พักกลางทะเลทรายจอร์แดน
มีใครที่เบื่อกับการพักผ่อนพร้อมภาพบรรยากาศเดิมๆ บ้างไหม? เดี๋ยวก็ทะเล เดี๋ยวก็ป่าเขา สายรักการท่องเที่ยวก็คงจะเห็นกันจนเบื่อแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วอยากเห็นวิวทิวทัศน์ที่ดู “ไม่เหมือนอยู่บนโลก” กันบ้างหรือเปล่า? ถ้าใครต้องการแบบนั้นล่ะก็ลุยไปเลยที่แคมป์ Sun City ท่ามกลางหุบเขาวาดิรัม ในประเทศจอร์แดน ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันสงบเงียบแล้ว ยังมีอันสวยงามที่แทบจะหาจากที่ใดไม่ได้บนโลกอีกด้วย Sun City Camp ภายในจะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พร้อมทั้งมีการจัดสรรกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสไตล์การพักผ่อนของคุณ เช่น สไตล์ผ่อนคลายและสไตล์ผจญภัย เป็นต้น แขกผู้เข้าพักสามารถเลือกรูปแบบของห้องพักได้ โดยจะมีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Bedouin (30 เต็นท์), Royal (8 ห้อง), Family (2 ห้อง) และที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ Martian Domes (20 ห้อง) ที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศวิวทิวทัศน์ราวกับอาศัยอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร แต่ถึงกระนั้น ทางแคมป์ก็ยังมีสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้ แถมมีบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ชั้นเลิศให้รับประทานอีกด้วย . . . Sun…
-
สาวฝรั่งเช่ารถมอไซค์อ้างว่าขับเป็น แต่พลาดท่าบิดลงคูเมือง ชาวเน็ตชี้ต้องจัดระเบียบจริงจัง!!
ตามจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวในแต่ละภาค นอกเหนือจากจะมีนักท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว จะมีจำนวนชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวหมุนเวียนกันตลอดทั้งปีเช่นกัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัว ธุรกิจเช่ารถจักรยานยนต์จึงเกิดขึ้นอยู่ตามมุมเมืองต่างๆ เป็นจำนวนมาก ล่าสุดเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจากเพจ จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com เมื่อชาวต่างชาติทำการเช่ารถจักรยานยนต์จากร้านเช่า ซึ่งทางพนักงานร้านได้ทำการสอบถามเบื้องต้นแล้วว่า สามารถขับได้จริงหรือไม่ และลูกค้าต่างชาติรายดังกล่าวตอบว่า ‘ขับได้’ ผลปรากฏว่ายังไม่ทันพ้นออกจากร้าน รถจักรยานยนต์คันที่ปล่อยเช่าก็พุ่งลงเข้าสู่ใจกลางคูเมืองเชียงใหม่ ทางด้านพนักงานร้านเช่ารถจึงรีบลงน้ำไปช่วยเหลือสาวฝรั่งรายนี้ พร้อมกับนำรถจักรยานยนต์กลับขึ้นฝั่ง… โชคดีที่นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรมากนัก สภาพของรถจักรยานยนต์เบื้องต้นเบาะไม่สามารถปิดได้ กระจกมองหลังด้านขวาได้รับความเสียหาย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับนักท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากการสนทนาจบลง เธอก็เดินกลับไปยังร้านเช่ารถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ความคิดเห็นจากชาวเน็ตนั้น ได้มองไปในประเด็นของระเบียบการจัดการร้านเช่ารถอย่างจริงจัง เนื่องจากร้านส่วนใหญ่ปล่อยให้เช่าง่ายๆ ไม่มีการตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่ ไม่มีมาตรฐานการให้เช่า . . . . รวมไปถึงประเด็นการหัดขี่รถจักรยานยนต์จากการเช่าครั้งแรก อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่น . หากไม่มีการจัดระเบียบอย่างจริงจัง ปัญหาดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีจบสิ้น ที่มา: จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com
-
สาวเจอมิ้วจรจัดระหว่างเที่ยว เลยหาทางรับเลี้ยงมัน จนได้ข้ามประเทศมาอยู่ด้วยกัน
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2017 ที่ผ่านมาหญิงสาว Lydia Ellery ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เกาะ Zakynthos หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเกาะ Zante ซึ่งอยู่ในประเทศกรีก มันเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่เธอรอคอยมานานแสนนาน ทว่าทริปนี้เธอไม่ได้พักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เธอยังได้สิ่งที่จะมาเติมต็มชีวิตของเธอกลับมาด้วย Lydia Ellery การท่องเที่ยวครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกสนุกมาก เพราะเธอชอบทุกอย่างที่ได้เจอตั้งแต่การเดินไปตามหาดที่เงียบสงบ ไปไต่เขาที่สูงชัน และการได้ชมถ้ำอันงดงามในแถบนั้นด้วย แต่ระหว่างการท่องเที่ยวก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจเธอ ซึ่งก็คือแมวจรจัดนั่นเอง บริเวณโรงแรมที่เธอพักอยู่มีแมวจรจัดอยู่มากมาย พวกมันดูหิวโซ เต็มไปด้วยเห็บหมัด บางตัวก็มีบาดแผลด้วย ทำให้หญิงรักสัตว์แบบเธออดรู้สึกสงสารพวกมันไม่ได้ บริเวณโรงแรมที่เธอพักระหว่างมาเที่ยว มีแมวจรจัดเยอะมาก เธอทนเห็นแมวจรจัดพวกนี้หิวไม่ได้ เธอก็เลยเอาตั๋วอาหารที่มีทั้งหมดแลกเอาอาหารมาป้อนแมวจรจัดพวกนี้ซะเลย แล้วเธอก็แวะมาให้อาหารพวกมันทุกวันทั้งเช้าเย็นตลอดระยะเวลาที่เที่ยวอยู่ด้วย จนวันหนึ่งมีหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอระหว่างที่ให้อาหารแมว เธอบอกว่าเธอเองก็มาให้อาหารแมวที่นี่เหมือนกัน แต่เธอกำลังจะกลับไปประเทศของตัวเองแล้ว เธอเลยอยากให้ Ellery ที่ยังอยู่ระหว่างเที่ยว ไปให้อาหารลูกแมวตัวหนึ่งที่อยู่ตรงที่ทิ้งขยะแทนเธอด้วย เพราะไม่มีคนสนใจมันเลย เมื่อไปถึงที่ทิ้งขยะของโรงแรม เธอก็เจอลูกแมวตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง เมื่อมันเห็นเธอมันก็เข้ามาหาแล้วอ้อนขออาหารกิน เธอรู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องช่วยมัน เนื่องจากมันไม่น่าจะเอาตัวรอดตามลำพังได้ จากนั้นมาเธอก็เลยแวะมาหามันทุกวัน หนึ่งในนั้นคือลูกแมวจรจัดที่อยู่ตรงที่ทิ้งขยะของโรงแรม มันอยู่ตามลำพัง และยังเด็กมาก (ดูคลิปไม่ได้ คลิกที่นี่) โพสต์ที่แชร์โดย Lydia…
-
รีวิว “ทัวร์กัญชา” ในเขตพิเศษ “คริสเตียเนีย” แห่งเมืองโคเปนเฮเกน แม้ข้างทางก็มีกัญชาปลูก
สำหรับผู้ที่ชอบในเรื่องของสมุนไพร (อะแฮ่ม กัญชา) ก็คงจะรู้กันดีว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในบ้านเราและในหลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงมีหลายๆ คนที่พยายามขวนขวายที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศที่อนุญาตให้มีการบริโภคสมุนไพรสีเขียวนี้ได้อย่างเสรี ในประเทศเดนมาร์กเองก็ถือว่ากัญชาเองเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน แต่มีเขตพิเศษเขตหนึ่งที่ชื่อคริสเตียเนีย (Christiania) ในเมืองโคเปนเฮเก้น ที่ซึ่งคุณสามารถหาซื้อกัญชาและทุกๆ อย่างเกี่ยวกับมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเพจที่ชื่อว่า TreeHC ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่คริสเตียเนียมา และได้แบ่งปันประสบการณ์ชวนเคลิ้มกับพวกเรา จะสวยงามและน่าไปเที่ยวขนาดไหนเราลองมาดูกันเลยครับ คริสเตียเนียมีพื้นที่ราวๆ 240 ไร่ เป็นเขตพิเศษที่มีเหล่าฮิปปี้รวมตัวกันอยู่มาก มีประชากรราวๆ 850-900 คน อดีตเคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารเก่ามาก่อน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่รกร้างของกองทัพโคเปนเฮเก้น ถูกคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเข้ายึดครอง ก่อร่างชุมชนแห่งเสรีภาพที่ประกาศปกครองตนเอง และแสดงจุดยืนในการต่อต้านสงคราม และนิวเคลียร์เป็นเมืองอิสระปกครองกันเองไม่ขึ้นต่อรัฐ เป็นดินแดนแห่งเสรีชนหรือฮิปปี้ ทางเข้าเขตคริสเตียเนีย ธงประจำเมืองคริสเตียเนีย กฎในเขตคริสเตียเนียมีสามข้อ 1. จงมีความสุข 2. ห้ามวิ่ง 3. ห้ามถ่ายรูป เนื่องจากเป็นเขตเสรี จึงมีต้นกัญชาให้เราพบเห็นได้ตามข้างทาง ในเขตคริสเตียเนียจะมีรถสามล้อที่ขายกัญชา และนี่คือภายในรถสามล้อที่ว่านั่น อุปกรณ์ภายใน . .…
-
22 สิ่งที่โรงแรมระดับ 5 ดาวนั้นก็ทำไม่ได้ สามารถหาได้จากที่พักราคาประหยัดเท่านั้น!!
การเดินทางไปยังสถานที่อื่นต่างบ้านต่างเมือง สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนต้องคำนึงถึงนั่นก็คือเรื่องของที่พักหรือโรงแรม ซึ่งการพักที่โรงแรมก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา หลายคนจึงเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยการหาที่พักที่มีราคาถูกลง แต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ถูกและดีเสมอไป เรามาดูกันว่า ที่พักราคาถูกเหล่านั้น ลูกค้าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง 1. แค่ด้ายที่เย็บปลอกหมอนก็ทำเอาใจสั่นหวั่นไหวไปเป็นแถบๆ นึกว่าแมงมุมนะเนี่ย 2. ถ้าใจคนเราเต็มไปด้วยศิลปะ แค่ภาพเป็ดก็สามารถเป็นภาพที่มีความหมายสุดลึกล้ำได้ 3. คีย์การ์ดเข้าห้อง ลายกลมกลืนไปกับกระเบื้อง นี่ถ้าทำตกนี่คือหาไม่เจอแน่นอน 4. โรงแรมที่ดีต้องเนียนแบบนี้ 5. บันไดโรงแรมนี้ ถ้าเดินไม่ระวังพออาจจะได้ไปนอนต่อที่โรงพยาบาลแน่ๆ 6. การจับจีบทิชชู่ที่สุดแสนจะน่าประทับใจ!! 7. ก๊อกน้ำอันนี้มันไม่สั้นไปใช่ไหมพี่!! 8. หนึ่งประตูแต่สามารถปิดได้ทั้งสองทาง 2 in 1 9. ดูเผินๆ นึกว่าเตียงเสริม แต่ที่จริงแล้วขนาดมันไม่พอดีกันต่างหากล่ะ 10. ตู้เสื้อผ้าขนาดประหยัดพื้นที่ ประหยัดเกินไป๊ 11. ที่เปิดฝาเบียร์ มีให้แม้กระทั่งในห้องน้ำ แถมตำแหน่งยังดี๊ดี ดูผ่านๆ…
-
รีวิวบ้านพักหัวหิน 12,000 บาท โปรโมทผ่านเว็บอย่างดี แต่พอไปจริงๆ สภาพยิ่งกว่าป่าช้า
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวจากผุ้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Kiaw Pa Rasee ที่ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวประสบการณ์ตรงกับทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวที่หัวหิน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา แต่ทว่าการท่องเที่ยวกับครอบครัวในครั้งนี้ก็ต้องเกิดปัญหาใหญ่อย่างเรื่อง ที่พัก ซึ่งเป้นเรื่องสำคัญมากๆ ในการเดินทางไปท่องเที่ยว โดยเจ้าของเรื่องราวได้ทำการจองบ้านพักย่านหัวหินซอย 6 ผ่านเอเจนซี่แต่พอไปถึงบ้านพักจริงๆ กลับต้องเจอกับปัญหาใหญ่จนต้องขอออกมาโพสต์ทางเฟซบุ๊คส่วนตัว จากนั้นก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพแนบประกอบไปด้วย เริ่มต้นที่สระว่ายน้ำหน้าบ้าน จากในเพจและของจริงที่ได้เจอ “ขอระบายและพอจะทำอะไรได้บ้างครับ ทริปหัวหิน 1 คืน 2 วันกับครอบครัว 28 เมษายน 61 ที่ผ่านมา ที่บ้านพักในหัวหิน ซ.6 มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ- เช่าบ้านพักผ่านเอเจนซี่ราคา 9,000 บาท + มัดจำ 3,000 รวม 12,000 บาท – ทางผู้เช่าพลาดที่ไม่เช็คสภาพบ้านก่อนจ่ายเงินส่วนสุดท้ายที่เหลือ –…
-
ลูกทัวร์เดินหน้าเอาผิดทัวร์หรูของ “ดาราอักษร อ.” ประเด็นไม่หวังกำไร ท้าเปิดรายจ่ายโชว์
กำลังเป็นประเด็นดราม่า หลังเพจจัดทริปสุดหรูของดาราถูกแฉว่า เก็บเงินค่าทัวร์แพงเป็นแสน แต่ลูกทัวร์กลับได้ขนมปังสองแผ่น แถมโดนแย่งน้ำดื่มไปกินอีก ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กเพจ Look-Loke / ลูกโลก ก็ออกมาแย้งว่าตนมิได้จัดทัวร์ แต่เป็นการ “พาเพื่อนเที่ยว” เท่านั้น และด้วยเหตุนี้เองทำให้เพจดังกล่าวโดนลูกทัวร์จวกยับประเด็นจงใจหลบภาษี และถูกท้าให้เปิดเผยรายจ่ายจริงที่ใช้ในทริปนั้นๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaianan Sodapak ได้ออกมาเผยว่าใน ทริป Luxury Private ทัวร์ ของเพจท่องเที่ยวซึ่งมี ดาราอักษรย่อ อ. เป็นเจ้าของนั้น ตนต้องจ่ายค่าทัวร์กับเพจนี้เป็นเงิน 139,000 บาท แต่การบริการกลับแย่ ตารางการเดินทางไม่ชัดเจน สถานที่ท่องเที่ยวถูกเปลี่ยนแปลงและน้อยลง แถมยังถูกเปลี่ยนแปลงที่พักโดยไม่แจ้งให้ทราบ เรียกได้ว่า ลูกทัวร์ที่ไปด้วยกันนั้นต้องเที่ยวกันอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าทางเพจเองก็ออกมาตอบโต้ต่างๆ นานา เช่น ไม่ได้เป็นทำธุรกิจนำเที่ยว แต่เป็นเสมือนกับการพาเพื่อนเที่ยวเท่านั้น จึงไม่มีการบริการใดๆ อีกทั้งยังแจงว่าการไปเที่ยว 12 วันเช่นนี้ ปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท จึงตั้งราคาเป็นกันเองให้หลายๆ คนเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าปัญหาที่เกิดทั้งหมดอาจเป็นเพราะเพียงแค่ว่า “เคมีของการไปเที่ยวไม่ตรงกันเท่านั้นเอง” หลังจากที่ทางเพจ Look-Loke / ลูกโลก โต้แย้งมาแบบนั้น ในวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา…
-
ยูทูบเบอร์ดักรอคนในป่าฆ่าตัวตายที่ญี่ปุ่น จนสามารถช่วยชีวิตคนคิดสั้นได้สำเร็จ
ชื่อเสียงของป่าฆ่าตัวตายหรือป่าอะโอะกิงะฮะระ ในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลายเป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากที่ยูทูบเบอร์อย่าง Logan Paul เข้าไปถ่ายคลิปห่ามๆ ที่นั่น จนทำให้ชาวญี่ปุ่นและคนทั่วโลกก่นด่ากันมากมาย จากนั้นเป็นต้นมาได้มีการพยายามปรับภูมิทัศน์ของป่าแห่งนี้ และโปรโมตเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนอยากมาท่องเที่ยวมากกว่าฆ่าตัวตาย ล่าสุดมียูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาย Saito Taicho ได้เข้าไปในป่าอะโอะกิงะฮะระเพื่อถ่ายคลิปเช่นกัน แต่เขาก็ค่อนข้างกังวลว่าคลิปนี้จะถูกต่อว่าหรือเปล่า จึงเกิดความลังเลในใจ “บอกตรงๆ เลย ผมค่อนข้างรู้สึกขัดแย้งในตัวเองมากเกี่ยวกับว่า ผมควรจะอัปโหลดหรือไม่อัปโหลดคลิปวิดีโอนี้ลง Youtube ดี แต่ผมหวังว่ามันจะช่วยผู้คนที่ต้องรับมือกับความเจ็บปวดและความเศร้าทุกวัน เพื่อตระหนักว่าชีวิตของพวกเขามีค่า ผมเลยอัปโหลดมัน” Saito กล่าว จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่านาย Saito กำลังยืนอยู่ตรงบริเวณจุดจอดรถบัส พร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความว่า Free Hugs (กอดฟรี) เพื่อรอดูว่าจะมีใครที่มีท่าทีเป็นบุคคลที่มีอาการซึมเศร้าและมีโอกาสเดินเข้าป่าเพื่อฆ่าตัวตายหรือไม่? ถ้าเจอใครที่เข้าข่ายตามนี้เขาก็จะเดินเข้าไปหาคนๆ นั้นในป่า พูดคุยกับเขา พยายามโน้มน้าวให้เขาคนนั้นพิจารณาสิ่งที่จะทำใหม่อีกครั้ง Saito บอกว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาอยากทำคลิปนี้ก็เพราะไปเห็นป้ายที่ถูกติดไว้ตามข้างทางในป่าอะโอะกิงะฮะระ ที่มีข้อความมากมายพยายามเตือนใจผู้คนที่คิดฆ่าตัวตายว่า ไม่ว่าความเศร้าเสียใจของพวกคุณจะมากขนาดไหน แต่ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งก็ยังเป็นสมบัติอันล้ำค่าอยู่ดี “ผมไม่ได้ทำเล่นๆ นะ” Saito กล่าวหลังจากที่ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งในการยืนรอที่ป้ายรถบัส จากนั้นไม่นานเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมาจากรถโดยที่ไม่ได้ถือกล้อง กระเป๋า หรือสิ่งใดๆ ติดตัวมาเลย แถมยังไม่ได้ใส่เสื้อสำหรับเดินป่ามาด้วย …
-
งี้ก็ได้เหรอ? สาวขอนแก่นโดนเพื่อนเทก่อนออกทริป เลยพา (บัตรประชาชน) เพื่อนไปเที่ยวแทน
การโดนเพื่อน “เท” ในช่วงก่อนจะออกทริปนี่เป็นอะไรที่ชวนหงุดหงิดมากพอๆ กับการเดินเตะมุมโต๊ะเลยก็ว่าได้ เพราะเราได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้ว วาดฝันจินตนาการว่าทริปนั้นมันต้องสนุกแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องโดนเพื่อนเทเพราะติดธุระ ติดแฟน ที่บ้านไม่อนุญาตบลาๆๆ ล่าสุดเราได้ไปเจอเหตุการณ์โดน “เท” จากโลกออนไลน์มา จะบอกว่าสงสารปนฮาก็ว่าได้ แต่แทนที่โดนเพื่อนเทแล้วจะยกเลิกทริปนั้นไป เธอกลับเลือกที่จะไปเที่ยวตามเดิม แต่พกเอาบัตรประชาชนของเพื่อนไปเที่ยวแทน… นี่เป็นเหตุการณ์ของน้องอิ่มเอม ที่ตั้งใจจะไปเที่ยวพัทยากับเพื่อนที่ชื่อโบ๊ท แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ถูกโบ๊ทยกเลิกนัดกลางคัน ทำให้เธอต้องไปเที่ยวแบบเหงาๆ แต่เนื่องจากในมือของเธอมีบัตรประชาชนของเพื่อน เธอก็เลยเอามันมาถ่ายรูปในทุกๆ ที่ที่เธอไป ราวกับว่ามีเพื่อนคนนั้นไปกับเธอด้วยทุกๆ ที่ น้องอิ่มเอมเขียนข้อความบอกเอาไว้ว่า “การเดินทางแบ็คแพ็กคนเดียวครั้งแรกของคนโง่ที่โดนทิ้งไว้กลางทางกับบัตรประชาชนของเพื่อน…หนูแค่อยากให้เพื่อนมาด้วยกัน ปล.เพื่อนในรูปยังไม่ตายนะคะ โบ๊ทยังอยู่ดีค่ะ คนถามเยอะมากฮือออ5555555555555555” น้องอิ่มเอมเล่าให้ทีมงานแคทดั๊มบ์ฟังว่า “คือจริงๆ แล้วเพื่อนทะเลาะกับพ่อค่ะ แล้วเพื่อนอยากไปแล้วให้หนูไปเป็นเพื่อน คือเพิ่งคิดว่าจะไปวันพฤหัสแล้วก็ซื้อตั๋วเลย จองที่พักเสร็จเพื่อนมาบอกว่า พ่อไม่ให้ไปแล้ว 555555 หนูเลยต้องไปคนเดียวค่ะ เสียดายค่าห้อง” เมื่อถามว่าเพื่อนเห็นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง น้องอิ่มเอมบอกว่า “ตลกค่ะ เพื่อนก็ขำๆ ดี เพื่อนก็อยากไปด้วยตอนแรก ตอนแรกหนูลงแค่ในไอจีค่ะ พอกลับมาถึงขอนแก่นเลยคิดว่า ลงหมดไปเลย 555 ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจ…
-
เที่ยวไหนก็ไปให้สุด รวม 18 ไอเดียถ่ายภาพแบบมันส์ๆ ให้ความทรงจำของคุณพิเศษกว่าเดิม
เวลาที่เราไปเที่ยว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ หรือคนที่ไปด้วยเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนภาพถ่ายมันก็ดูเหมือนๆ กันไปหมด จะเซลฟี่หรือยืนเรียงหน้ากระดานแบบทั่วๆ ไป มันเชยไปแล้ว เราก็เลยอยากเชิญชวนให้ทุกๆ คนมาถ่ายภาพในท่วงท่าที่ต่างออกไปบ้าง ถ่ายกันแบบแปลกๆ แบบมันส์ๆ เพื่อให้ความทรงจำของคุณดูสนุกทุกครั้งที่หยิบภาพนั้นขึ้นมาดู 1. ไปเลยเจ้ากระดานมนุษย์!! 2. มนุษย์โดนกิน 3. มุมมองก็ช่วยให้คุณดูตัวเล็กหรือใหญ่กว่าปกติได้ 4. ให้คุณกลายเป็นเจ้าหญิงบนปราสาททราย 5. จุ๊บๆ 6. โดดไปให้มนุษย์ยักษ์กิน 7. หากไปกันมากกว่า 3 คนขึ้นไป คุณก็สามารถครีเอตอะไรแบบนี้ได้ 8. แต่ถ้ามี 2 คน ก็ทำได้ 9. ใช้เงาให้เป็นประโยชน์ 10. นำเอาอุปกรณ์รอบๆ ตัวมาช่วยสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้นะ 11. หัวหาย 12.…
-
การไปเที่ยวอาจ ‘พิสดาร’ ซะจนไม่น่าอภิรมย์อย่างที่เราคิดเสมอไป นอนอยู่บ้านเถอะงั้น..
หลายๆ คนวางแผนที่จะไปเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หรือลางานเพื่อออกไปผจญภัยในต่างแดน เติมเต็มความสวยงามให้กับชีวิต แต่ในบางครั้งสิ่งที่เราวาดฝันเอาไว้ก็อาจไม่ได้เป็นไปดั่งใจหวัง เพราะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอและในบางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ออกไปท่องเที่ยว แต่กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุดแสนพิสดาร ทั้งผิดหวังและฮาในเวลาเดียวกัน พวกเขาต้องเจออะไรบ้าง เราลองไปชมกันเองเลยยย งานรักษาความปลอดภัยคงเป็นงานในฝันของใครหลายๆ คน แต่คงไม่ใช่กับเธอคนนี้แน่ๆ สีหน้าของเขาดูผิดหวังกับการเดินทางในครั้งนี้นะ ว่ามั้ย? แนะนำว่าถ้าจะซื้อหมอนรองคอให้ซื้อสีอื่นดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นการโชว์บั้นท้ายไปทั่วสนามบินอย่างเธอคนนี้ก็ได้ นอกจากคนจะขี่ช้างแล้ว ช้างยังขี่ช้างด้วยกันเองอีกต่างหาก ถ้าไม่ให้เอาเข้า กระซิบบอกเราก็ได้ Dildo Island.. แน่ใจนะว่ามันจะไม่ใช่เกาะที่เต็มไปด้วยเจ้าแท่งหรรษาพาเพลิน?! (Dildo มักใช้เรียก จู๋ปลอม) เธอคนนี้ต้องการแลกที่นั่ง เพราะเธอไม่อยากนั่งข้างเด็กที่กำลังร้องไห้เสียงดัง แต่พนักงานกลับไม่ยอมให้เธอทำอย่างนั้น เพราะเด็กคนนั้นน่ะลูกเธอเอง ไม่หนาวหรอครับ ถามจริงๆ รู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง ที่ได้เดินทางบนเครื่องบิน รับรู้ได้ถึงความเก่าเก็บของเครื่องบินลำนี้ทันที ใช้กันมาตั้งแต่ยุคสมัยของโทรศัพท์แบบมีเสาอากาศ ห้องพักแบบนี้คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ติดอยู่อย่างเดียวคือเราดันนอนรวมกันกับพ่อแม่เนี่ยสิ ทำไมต้องบังคับหนูมาด้วยยย …
-
เรื่องราวการผจญภัยของ ‘แมวดำสุดซ่า’ และเจ้าของคู่หูที่ทุ่มเทความรักให้มันหมดใจ
มันเป็นแมวที่โชคดี ส่วนผมก็คงจะเป็นคนโชคดีที่สุดที่มีมันอยู่ข้างๆ … หนุ่ม JJ Yosh จากเมืองบาวเดอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นคนที่รักแมวมาก เขาช่วยแมวดำตัวหนึ่งมาแล้วตั้งชื่อให้มันว่า Simon ในตอนต้นเขาตั้งใจว่าจะเอามันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์หาบ้านให้มัน ช่วงแรกที่มันมาอยู่กับเขา มันเข้ากับเขาไม่ได้เลย เจ้าเหมียวไม่ยอมให้เข้าใกล้หรือจับตัว แถมมันยังร้องตลอดเวลาด้วยความหวาดระแวงจนเขาไม่ได้หลับทั้งคืน Simon เจ้าแมวตัวแสบ อีกวันหลังจากที่เก็บ Simon มา มันก็วิ่งหนีเขาออกไปนอกบ้านแล้วไปหลบอยู่ใต้ก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ เขาเลยวิ่งตามไปแล้วพยายามเรียกมันให้ออกมา แต่มันก็ไม่ยอมออกมาสักที จนถึงเวลาที่เขาต้องทำงานก็เลยจำเป็นต้องทิ้งมันเอาไว้แบบนั้น ทันทีที่เลิกงานแล้ว Yosh ก็พุ่งตรงกลับมาบ้านเพื่อช่วยเจ้าแมวดำอีกครั้ง โชคดีที่มันยังหลบอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พอเขาเรียกมันในครั้งนี้มันก็ยอมออกมาให้เขาอุ้มอย่างง่ายดาย อาจจะเป็นเพราะมันเห็นความรักที่เขาทุ่มเทให้กับมันก็ได้ ถึงตอนแรกจะเข้ากันไม่ได้ แต่รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันสุดๆ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่เขาตั้งใจจะเอามันไปให้ศูนย์พักพิง เขาก็เลยตัดใจจากมันไม่ได้ แล้วรับเลี้ยงไว้เองซะเลย หลังจากสนิทกันมากแล้ว ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบทำกิจกรรมนอกบ้านมาก เขาก็เลยอยากลองพาเจ้าเหมียวไปด้วย เผื่อมันจะชอบในสิ่งที่เขารัก และกิจกรรมแรกที่มันได้ท้าทายก็คือการเดินป่า ไปไต่เขาเป็นเพื่อนพี่ Yosh หน่อยนะ เขาเล่าว่า “ผมไม่ได้ใส่สายจูงให้มัน ก็เลยกลัวว่ามันจะหนีไปอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ตามผมมาไต่เขาอย่างว่าง่าย … มันไต่เขาครั้งแรกไปด้วยระยะทางแค่ครึ่งไมล์…
-
รัฐโอเรกอนใช้อนิเมชันลายเส้นสไตล์ ‘สตูดิโอจิบลิ’ โปรโมตการท่องเที่ยว มันแจ่มมาก!!
สำหรับแแฟนๆ อนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิแล้วบอกเลยว่าจะต้องชอบคลิปวิดีโอแอนิเมชันโปรโมตการท่องเที่ยวของรัฐโอเรกอนอย่างแน่นอน เพราะคลิปวีดิโอดังกล่าวมีลักษณะคล้ายอนิเมะจากสตูดิโอจิบลิอันเลื่องชื่อเป็นอย่างมาก โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวมีชื่อว่า Only Slightly Exaggerated หรือจะแปลเป็นไทยว่า ‘อาจจะดูเกินจริงไปสักเล็กน้อย’ เป็นคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 90 วินาที ส่วนในเนื้อหาก็จะเป็นการพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในรัฐโอเรกอน ในสไตล์แบบแฟนตาซีที่ดูเกินจริงไปสักเล็กน้อยตามชื่อของคลิปวิดีโอ ด้วยฝีมือของสองผู้กำกับ Kylie Matulick และ Todd Mueller กับทีม Psyop ร่วมมือกับสตูดิโอจากเมืองโคเปนเฮเกน Sun Creature Studio สร้างสรรค์ผลงานที่มีความงดงามนี้ออกมา โดยมีลายเส้นของอาจารย์ Hayao Miyazaki เป็นแรงบันดาลใจ การพายเรือมังกรที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมือง Portland คลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาออกแนวแฟนตาซีหน่อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูผลงานจากค่ายจิบลิอยู่เลย นั่งปิกนิกบนบอลลูนที่มีทางเชื่อมต่อหากัน ที่ราบนี้ชวนให้คิดถึงฉากในเรื่อง The Castle of Cagliostro ที่เป็นผลงานเรื่องแรกของปู่ Miyazaki เลยแฮะ เจ้ากระต่ายยักษ์กับเด็กๆ ชาวยุโรป ปลาแซลมอนที่เป็นของขึ้นชื่อของคาบสมุทรแปซิฟิกอันเป็นชายฝั่งทะเที่ติดกับรัฐโอเรกอน ทะเลสาบ Crater …
-
หนุ่มไบค์เกอร์เจอน้องเหมียว ระหว่างทางผจญภัย เลยรับมันไว้เป็นคู่หูตะลอนทัวร์!!
ใครจะไปคิดว่าเจ้าเหมียวกำพร้าข้างถนน วันหนึ่งจะได้กลายเป็นแมวหัวใจนักบิดที่ท่องเที่ยวกับเจ้าของมาแล้วกว่า 10 ประเทศ แต่เจ้าเหมียวตัวนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ Mogli เป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ข้างถนนในประเทศโมร็อกโก มันกำพร้าเพราะแม่ของมันถูกรถทับตาย ถ้าหากปล่อยเอาไว้มันคงไม่รอดตามไป เพราะมันยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย แมวน้อยนักผจญภัย Mogli ทว่าโชคชะตาก็นำพามาพบกับ Martin Klauka ชายชาวเยอรมัน อายุ 32 ปี ที่กำลังท่องเที่ยวอยู่พอดี เจ้าเหมียวผอมโซเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตอนที่เขาผ่านไปแถบที่มันอยู่ พอเขาลองเรียกดูมันก็ขึ้นไปนอนบนตักเขาอย่างง่ายดาย หนุ่มนักเดินทาง Martin Klauka เขาช่วยเจ้าเหมียวเอาไว้ เพราะทนเห็นมันตายอยู่ข้างถนนไม่ได้ Klauka ไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงสัตว์เลย เพราะเขารู้ดีว่าคนที่รักการท่องเที่ยวอย่างเขานั้น ไม่สามารถดูแลสัตว์ได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อได้เจอกับเจ้า Mogli แล้วก็รู้สึกถูกชะตากับมัน อีกอย่างเจ้าแมวก็มีสภาพที่อ่อนแอและน่าสงสารมาก มันแทบไม่มีแรงทำอะไรด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่พามันไปด้วยมันก็คงจะตายอยู่ที่นั่น เขาเลยพามันขึ้นรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวด้วย แม้จะรู้ว่าไม่เหมาะกับเจ้าเหมียวเท่าไหร่ก็ตาม เขาเอาเจ้าแมวน้อยใส่กระเป๋าเล็กๆ บนถังน้ำมันรถของเขาไว้ แล้วลองพามันขี่รถดูว่ามันโอเคกับการเดินทางไหม ตอนแรกเจ้าเหมียวก็ดูแตกตื่นกับการขี่รถครั้งแรกเหมือนกัน แต่แค่ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นมันก็ดูสบายใจที่ได้นั่งบิ๊กไบค์แล้ว พ่อหนุ่มรู้สึกได้ทันทีว่านี่แหละคือคู่หูนักเดินทางของเขา เวลาเที่ยวเจ้าเหมียวจะนั่งอยู่ในกระเป๋า …
-
ตามรอยแม่หญิงการะเกด กับ 8 สถานที่ในละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ไปเที่ยวกันเถอะออเจ้า
ในช่วงนี้ก็คงไม่มีอะไรที่เป็นกระแสโด่งดังไปกว่าละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ซึ่งเป็นละครที่สร้างมาจากนวนิยายที่ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นของเซเว่นบุ๊กอวอร์ดประจำปี 2553 ที่เขียนโดย รอมแพง ซึ่งภายในเรื่องนั้นก็ได้มีการถ่ายทำในสถานที่ต่างๆ มากมายที่เป็นโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เป็นฉากของละคร ทำให้คนดูหลายๆ คนนั้นอยากที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่จริงๆ สักครั้ง ออเจ้าทั้งหลายที่กำลังติดละครบุพเพสันนิวาสและกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวพักร้อน ลองไปเยี่ยมชมโบราณสถานที่ที่เป็นโลเคชั่นถ่ายทำละครดูสิ เผื่อจะได้มีบุพเพสันนิวาสเหมือนในละครบ้างก็เป็นได้ 1. เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ส. 2515 ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ มีพื้นที่ 800 ไร่ ภายในจะมีโบราณสถาน วัดโบราณ พระราชวังต่างๆ เป็นต้น และยังมีส่วนรังสรรค์เป็นสถานที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทยจัดแสดงอยู่ที่นี่ นอกจากนั้นยังมีค่ายพักแรมชื่อว่า ค่ายริมขอบฟ้า อีกด้วย . ภาพบรรยากาศในละคร . 2. วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดไชยวัฒนาราม หรือ วัดชัยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมือง…
-
รมว. ท่องเที่ยวแกมเบีย ปัดนทท. ชาวตะวันตก หากจะมาเที่ยวเชิงเซ็กส์ให้ตรงไปที่ ‘ประเทศไทย’
เป็นประเด็นร้อนที่สะท้อนให้เห็นมุมมองที่ต่างชาติที่มองมายังประเทศไทยได้เป็นอย่างดี กับการแสดงความเห็นของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศแกมเบีย ที่อาจทำให้ใครหลายๆ คนหน้าชา โดยเมื่อในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา นาย Hamat Bah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศแกมเบีย ได้ออกมากล่าวเตือนนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนมาท่องเที่ยวทางเพศในประเทศแกมเบีย ว่าหากอยากเที่ยวแบบนั้น ให้ไปประเทศไทยแทน “พวกเรานั้นไม่ใช่ปลายทางของการท่องเที่ยวทางเพศ ถ้าคุณต้องการการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ คุณควรจะไปที่ประเทศไทยมากกว่า ชาวแกมเบียและประเทศแกมเบียไม่มีจุดขายของการเที่ยวเพื่อเซ็กซ์ พวกเราทุกคนต้องพูดแบบนั้น เราไม่สามารถทนที่จะมองเห็นประเทศของเราถูกนำไปใช้แบบนั้น เราต้องปกป้องรักษาประเทศนี้ไว้ให้ได้” นาย Hamat Bah กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ Kerr Fatou ที่ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีในช่อง GRTS ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของรัฐบาล ระหว่างการอธิบายนโยบายในการจัดการปัญหาการท่องเที่ยวของประเทศแกมเบีย ซึ่งหลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมา นางมาฆวดี สุมิตรเหมาะ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศของประเทศไทยได้ออกมากล่าวว่า… ทางกระทรวงนั้นได้มีการสั่งการไปยังสถานทูตไทยในประเทศเซเนกัลทันที ซึ่งมีอาณาเขตการทำงานครอบคลุมไปถึงประเทศแกมเบีย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา รวมทั้งประสานงานไปยังสถานทูตประเทศแกมเบียในมาเลเซีย เพื่อส่งหนังสือแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีการออกมาแถลงการใดๆ จากฝั่งรัฐบาลประเทศแกมเบียเกี่ยวกับจดหมายฉบับนี้ และเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป…
-
คู่รักออสเตรเลีย พากันขับรถตู้เที่ยวสุดแฮปปี้ 4 ปี เดินทางรวมกว่า 100,000 กิโลเมตร
การเดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรเป็นฝันอันแสนหอมหวานที่อยู่ในความคิดของใครหลายคน แต่ก็ด้วยอุปสรรคต่างๆ จึงทำให้ไอเดียสุดบรรเจิดเช่นนี้ก็ยังคงไม่เป็นจริงสักที แต่ก็มีคู่รักหนุ่มสาวฮิปปี้คู่หนึ่งที่ลงมือทำมันให้กลายเป็นจริงขึ้นมาอย่างไม่สนใจปัญหาใดๆ และไม่กังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าบ้าง จนทำให้ในตอนนี้พวกเขาได้เดินทางรอบประเทศออสเตรเลียด้วยระยะทางกว่า 100,000 กิโลเมตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! คู่รักฮิปปี้นี้มีชื่อว่า Cleo Codrington และแฟนหนุ่มของเธอ Mitch Cox แฟนหนุ่มของเธอ พวกเขามีอายุเท่ากันที่ 24 ปี และได้เดินทางร่วมกันมาในหลากหลายสถานที่ด้วยรถตู้คันเก่าๆ ยี่ห้อ Toyota Hiace นอกจากจะเป็นพาหนะขับเคลื่อนความฝันแล้ว รถคันนี้ยังได้แปรสภาพกลายเป็นบ้านพักอาศัยให้แก่ทั้งคู่มาเป็นเวลามากกว่า 3 ปีแล้ว การเดินทางของทั้งคู่เป็นไปอย่างเรียบง่ายชนิดที่ว่าค่ำไหนนอนนั่น รวมถึงเรื่องของอาหารการกินที่มีอาหารหลักคือทูน่ากระป๋อง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสุขของทั้งคู่ลดน้อยลงแต่อย่างใด และความโรแมนติกของคู่นี้ก็คือ พวกเขามักจะตื่นเช้ามาดูวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปในทุกวันด้วยกันเสมอๆ “เราอยากจะออกไปทำสิ่งที่ใครหลายคนเสียใจที่ไม่ได้ทำมาก่อนหน้านี้ พวกเราเรียนอยู่ในโรงเรียนและต้องทำทุกอย่างตามตารางเวลามามากกว่า 15 ปีแล้ว การที่เราจะต้องใช้เวลาตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น ตลอดวันจันทร์-วันศุกร์ ไปกับเรื่องพวกนี้มันเหมือนกับเรื่องบ้าบอคอแตกสิ้นดี” “พวกเราไม่มีงานประจำ, ลูกๆ, หนี้สิน หรือภาระผูกพันใดๆ ที่ทำให้พวกเราต้องกลับไป มันช่างเป็นเวลาที่แสนวิเศษสำหรับพวกเราจริงๆ” Cleo…
-
12 ผลการค้นหา “สถานที่เศร้าที่สุด” ในแผนที่โลก และผลที่ได้มันฮาซะเหลือเกิน!!
เรื่องราวคของสถานที่สุดเศร้าที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความว่างของหนุ่มออสเตรเลียวัย 33 ปีนามว่าคุณ Damien Rudd หลังจากที่เขาได้รวบรวมสถานที่ที่มีชื่อสุดหมดหวังเอาไว้อินสตาแกรม Sad topographies หนุ่มออสซีวัย 33 ปีเริ่มต้นรวบรวมสถานที่แสนสิ้นหวังนี้จากความบังเอินที่เขาได้กดเข้าไปตรงช่องค้นหาของ Google พร้อมค้นหาคำที่เศร้าที่สุด และหลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับ Mount Hopeless (ภูเขาสิ้นหวัง) – จากประเทศออสเตรเลีย และจากวันนั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มก็ได้อุทิศเวลาของตัวเองเพื่อค้นหาสถานที่ที่เศร้าที่สุดในโลก และรวบรวมเอาไว้เพื่อแบ่งปันความฮากับคนอื่นๆ ในอินสตาแกรมของเขา “ผมใส่คำค้นหาว่าสิ้นหวังใน Google Map และพบสถานที่มากมายที่มีคำว่าสิ้นหวังอยู่ในชื่อ และนอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกันอีกด้วย ผมจึงเริ่มที่จะแคปภาพของสถานที่เหล่านั้นและเก็บรวบรวมไว้” Damien ให้สัมภาษณ์ และตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานที่ต่างๆ ที่เขารวบรวมนั้นจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำเป็นหนังสือได้เลยทีเดียว ซึ่งเขาได้รวบรวมสถานที่สุดเศร้าเหล่านี้เอาไว้ในหนังสือ Sad Topographies เกาะไร้ประโยชน์ จากประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งในสถานที่สุดเศร้าจากคอลเลคชั่นของหนุ่มออสซีรายนี้ Damien ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุด ชายหนุ่มเล่าว่าทวีปแอนตาร์กติกาถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสนใจมากที่สุด ที่นั่นมีภูเขา Shapeless Mountain (ภูเขาไร้รูปร่าง) ที่ถูกตั้งชื่อหลังจากที่ไม่มีใครมองออกว่ามันเป็นรูปร่างอะไร “Shapeless Mountain คือภูเขาที่นักเดินทางพยายามที่จะปีนขึ้นไป แต่พวกเขาเกิดวัดขนาดของมันผิดพลาดนั่นจึงทำให้มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า Mistake Mountain (ภูเขาแห่งความผิดพลาด)” ชายหนุ่มเล่าถึงที่มาของชื่ออันแสนเศร้าของภูเขาแห่งนี้ …
-
สาวไปเที่ยวตามรอย ‘The Lord of The Rings’ พร้อมถ่ายรูปให้เหมือนในฉากแบบเนียนๆ!?
คงไม่มีใครไม่รู้จักภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเรื่อง The Lord of the Rings ที่เป็นภาพยนตร์ในตำนานของผู้กำกับ Peter Jackson ที่นำงานเขียนของ J. R. R. Tolkien มาเนรมิตให้กลายเป็นภาพยนตร์สุดอลังการและมีฉากที่สวยงาม หญิงสาวผู้หนึ่งนามว่า Bry Voydatch ได้ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์เพื่อไปเที่ยวที่เกาะประเทศนิวซีแลนด์ทั้งตอนเหนือและตอนใต้ และได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่เป็นตำนานอย่างเรื่อง The Lord of the Rings อีกด้วย เธอได้ถ่ายรูปกับสถานที่ต่างๆ ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ พร้อมกับนำมาเปรียบเทียบภาพถ่ายกับฉากในภาพยนตร์ ที่ดูแล้วแนบเนียนอย่างกับอยู่ในภาพยนตร์เลยทีเดียว 1. เส้นทางไปยัง Mordor บนเทือกเขา Ruapehu 2. เหล่าฮอบบิทที่ต้องเดินทางจาก The Shire บ้านเกิดตัวเองในเมืองเวลลิงตัน 3. เดินทางผ่านหุบเขา Harrowdale ด้วยเส้นทางแห่งคนตายที่ Putangirua Pinnacles ในป่า Aorangi 4. หอคอย Isengard…
-
คู่รักได้งานใหม่จากบริษัทถุงยาง แค่ต้องไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วบรรยายช่วงเวลาสุดสวาท
งานสนุกแสนสบาย รายได้งาม แถมยังได้เที่ยวและได้พักโรงแรมหรูๆ ฟังดูเหมือนจะเป็นงานในฝันของใครหลายๆ คน แต่ถ้ามันเป็นงานที่คุณต้องไปพักยังโรงแรมหรูต่างๆ และกลับมาเล่าเรื่องของตัวเองและคู่รักขณะทำอย่างว่ากันด้วยล่ะ คุณจะยอมทำหรือเปล่า? ขณะที่ทุกท่านกำลังคิดกันอยู่นั้นได้มีคู่รักคู่หนึ่งทำงานนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Jessica D’Argent หญิงสาวอายุ 23 ปีพร้อมแฟนหนุ่มของเธอ Justin Engelke อายุ 26 ปี ได้ชนะการคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนบล็อกท่องเที่ยวสุดเซ็กซี่ของบริษัทผลิตถุงยางอนามัย Skyn สำหรับผู้ชนะการคัดเลือก พวกเขาจะถูกพาไปยังโรงแรมสุดหรูรวม 14 คืน ในประเทศออสเตรเลีย เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น ไบรอน เบย์ แทสเมเนีย และเวสเทิร์นออสเตรเลีย และสิ่งที่เขาต้องทำจากนั้นก็คือการกลับมาเขียนบล็อก Places of Intimacy เพื่อรีวิวถึงการมีเซ็กส์ในแต่ละโรงแรมที่เขาได้เข้าไปพัก ตัวอย่างหนึ่งของการเขียนรีวิวของพวกเขามีใจความว่า… “ขณะกำลังจะปิดประตูห้องฉันก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปจะเชยชมเตียงนอนเสียหน่อย แต่เขากลับดึงตัวฉันไว้ก่อนที่ฉันจะถึงบันไดขันสุดท้าย เวลานั้น มันทำให้ฉันรู้สึกเสียวซ่าน เขาผลักให้ฉันไปพังกับผนังที่ทำจากหิน และแล้วเราก็เฉลิมฉลองให้กับการที่เราได้มาอยู่ ณ จุดหายนะของโลก ฉันใช้เวลาอยู่ตรงนั้นสักพัก ก่อนที่ฉันจะสามารถจับราวบันไดพาตัวเองลุกจากจุดๆ นั้นและขึ้นไปยังเตียงได้” Jessica และ Justin อยู่ด้วยกันมา…
-
คู่รักทำสถิติ ‘จูบ’ กันมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
การออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกอาจจะเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน และมันคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าที่สวยงามเหล่านั้นมีคนรู้ใจของคุณไปด้วย ภาพของคู่รักชาวอินโดนีเซียและยูเครนคู่นี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนที่มีคู่รู้สึกเขินไม่น้อยเลยทีเดียว (แต่สำหรับคนโสดก็อาจจะรู้สึกอิจฉาก็ได้นะ ฮ่าๆ) หลังจากที่พวกเขาได้เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วยกัน และร่วมบันทึกความประทับใจด้วยการจูบกันตามสถานที่ต่างๆ คุณ Shyam และ Anna สองสามีภรรยาใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการเดินทางมากกว่า 40 ประเทศไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย และนอกจากการบันทึกภาพความประทับใจของสถานที่ต่างๆ แล้ว พวกเขายังบันทึกภาพการจูบพร้อมกับของขึ้นชื่อของสถานที่เหล่านั้นอีกด้วย อ่า… และต่อไปนี้คือภาพของทั้งคู่จากสถานที่ต่างๆ จะน่ารักน่าอิจฉาแค่ไหน ไปชมกันเลย เริ่มกันที่ประเทศสิงคโปร์ . . จากนั้นก็อินโดนีเซีย . การจูบกันบนยอดเขาในประเทศอินโดนีเซีย และก้อนกำมะถัน ฉากหลังและสิ่งของที่ฝ่ายหญิงถือ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ละสถานที่ . . ส่วนภาพนี้จากประเทศฟิลิปปินส์ . ข้ามไปต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ . …
-
การออกไปเที่ยวในยุคใหม่ ถ่ายรูปให้คนอื่นดูได้ ก็กลายเป็น ‘มุมนิยม’ ไปโดยปริยาย
การได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ ถือว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่เรา และการไปเที่ยวในที่ใหม่ๆ นั้นเราก็ย่อมอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งแต่ละสถานที่มักจะมีมุมให้ถ่ายรูป และนักท่องเที่ยวส่วนมากก็ชอบที่จะถ่ายในมุมยอดนิยมนั้นๆ ด้วย โดยประเด็นอยู่ที่ช่างภาพที่ชื่อว่า Oliver KMIA ในขณะเดินทางอยู่เขาก็สังเกตเห็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบไปแย่งกันถ่ายรูปกัน จนเกิดปิ๊งไอเดียในการรวบรวมภาพของเหล่านักท่องเที่ยวที่ถ่ายในมุมเดียวกันมาทำวิดีโอ . เขาก็ได้ทำการโพสต์วิดีโอที่รวมภาพของนักท่องเที่ยวความยาว 2 นาทีลงใน Instagram โดยที่ให้ชื่อ Instravel ในวิดีโอจะประกอบไปด้วยรูปของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ที่ได้ถ่ายรูปในมุมมุมเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ารูปของแต่ละคนดูคล้ายนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพียงใด ว่าแล้วก็ไปดูวิดีโอที่เค้าทำขึ้นมาเลยดีกว่าว่าแต่ละคนถ่ายรูปออกมามันจะคล้ายกันเพียงใด ไม่แน่ว่าในวิดีโอนี้อาจจะมีรูปของเพื่อนๆ อยู่ก็ได้นะ ที่มา Petapixe
-
ครูสอนคณิตฯ สุดฮอต ร้อนแรงจนความหนาวก็ทำอะไรพี่แกไม่ได้ ชาวเน็ตตกหลุมรักระนาว!!
การเรียนในห้องเรียนนั้นค่อนข้างน่าเบื่อ จึงต้องอาศัยคุณครูมาช่วยทำให้เด็กสนใจการเรียนมากขึ้น แต่นอกจากเทคนิคการสอนที่สนุกสนานแล้ว ถ้าได้ครูหน้าตาดีมาสอน วิชานั้นจะดูน่าเรียนขึ้นเยอะเลย ถ้าใครคิดแบบนี้เหมือนกันน่าจะอยากมาเรียนกับคุณครู Robert Ligtvoet คุณครูรูปหล่อหุ่นเฟิร์มคนนี้จะมาทำให้ชั้นเรียนของคุณเร่าร้อนจนคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว ครูหนุ่มวัย 28 ปีคนนี้นอกจากจะรับงานสอนหนังสือแล้วเขายังทำงานเป็นนายแบบอีกด้วย นอกจากนี้ยังรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจเลย เวลาเข้าไปส่องรูปในอินสตาแกรมของเขาจึงมีแต่รูปน่าดูน่าชมทั้งน๊านนน พอครูคนนี้เข้ามาสอนทีไรต้องแย่งกันยกมือตอบตลอด คุณครูเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว และก็เป็นคนรักธรรมชาติด้วย หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีอีก ดูเหมือนว่าครูจะชอบสัตว์น้ำเป็นพิเศษนะ เราก็ชอบ มองแล้วเพลินตาจริงๆ อิอิ หูยภาพใต้ผิวน้ำน่าดูมาก รู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจ นอกจากจะรักสัตว์แล้วคุณครูก็ชอบท่องเที่ยวแล้วถ่ายรูปมาฝากด้วย เห็นความงดงามแบบนี้ก็เคลิ้มเลย ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนคุณครูก็จะเอาสูทคู่ใจติดไปด้วยเสมอ มันทำให้เขาดูเร่าร้อนในทุกสภาพอากาศ ปกติไม่ชอบผู้ชายใส่สูทเท่าไหร่นะ แต่คนนี้ยอมยกใจให้ไปเล้ย เอ้ะ คุณครูใส่สูทเป็นชุดนอนเหรอ ทำไมตื่นเช้ามาเป็นชุดนี้เลย บางอารมณ์ครูก็อยากเป็นเงือกเซ็กซี่ดูบ้าง ซี้ดดด คุณครูไม่ได้หุ่นดีอย่างเดียวนะ ยังแข็งแรงมากด้วย ปกป้องเราได้ทุกสถานการณ์แน่นอน ถ้าซานตาคลอสใส่สูทก็คงจะหน้าตาเป็นแบบนี้แหละ หน้าหล่อไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวววว ทำไมคุณครูตกผู้ชายล่ะ คุณครูชอบผู้ชายรึเปล่า!?…
-
ญี่ปุ่นเสนอ ‘โทรศัพท์ฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยว โทรและเล่นเน็ตฟรี มีข้อมูลครบครันอีก!!
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่น่าสนใจมากมาย และแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นที่น่าดึงดูดแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือจังหวัดคะนะงะวะ ที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 30 นาทีจากตัวเมืองโตเกียว เหตุผลที่คุณไม่ควรมองข้ามจังหวัดคะนะงะวะเมื่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะในจังหวัดนี้มีทั้งวัดและพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของเมืองคะมะกุระ แถมยังมีล้อมรอบด้วยภูเขาที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้คุณจะเห็นทิวทัศย์ของภูเขาไฟฟูจิ น้ำพุร้อนออนเซนของรีสอร์ตฮาโกเน่ มีพิพิธภัณฑ์ราเมง 2 ที่ในเมืองโยโกฮาม่า มีท่าเรืออันงดงาม และขบวนพาเหรดปิกาจูที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่กล่าวมาก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ แล้ว แต่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดไปคะนะงะวะ หากไปญี่ปุ่น เหตุผลที่ว่านี้คือ จังหวัดคะนะงะวะเสนอสมาร์ตโฟนให้กับนักท่องเที่ยวฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น!! รัฐบาลจังหวัดคะนะงะวะและบริษัทโทรคมนาคม Handy ได้ร่วมมือกัน จัดหาสมาร์ตโฟนจำนวน 300 เครื่อง สำหรับให้นักเที่ยวยืมใช้ระหว่างท่องเที่ยว ทั้ง 300 เครื่องนี้จะให้บริการอยู่ที่เคาน์เตอร์ข้อมูลการท่องเที่ยว 5 จุด ที่เมืองโยโกฮามา 3 จุด ที่เมืองคะมะกุระ 1 จุด และที่เมืองฮาโกเน่ อีก 1 จุด …
-
ชายผู้คุยกับคนแปลกหน้า หวังอยากให้พวกเขาลดความสนใจจากสื่อในสมาร์ตโฟนบ้าง
“มันเหมือนกับการสารภาพรักกับใครซักคนที่คุณแอบชอบ” นี่คือความรู้สึกของ Leung Cheuk-lam ชายหนุ่มชาวฮ่องกงวัย 27 ปี ที่ออกไปพูดคุยกับคนแปลกหน้าครั้งแรกในปีที่แล้ว การพูดคุยกับคนแปลกหน้าในทุกๆ วันนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ ChatToStranger ของ Leung การพูดคุยกับคนแปลกหน้าแบบตัวต่อตัวถือเป็นหนึ่งในไอเดียของโปรเจกต์นี้ ซึ่งชายหนุ่มบอกว่าการพูดคุยแบบนี้มักจะพบเห็นได้ยากในยุคที่การสื่อสารมีการพัฒนาไปมาก Leung ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่า 300 คน และเก็บข้อมูลของแต่ละคนไว้ในแฟนเพจของเขา ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คนแล้ว “ผมได้ยินผู้คนมากมายพูดถึงความเฉยชาของชาวฮ่องกง และผมหวังว่าผมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้” Leung ผู้กำกับอิสระและนักตัดต่อวิดีโอกล่าว การเริ่มต้นพูดคุยกับคนแปลกหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับชายหนุ่ม เขาเริ่มกล่าวคำทักทายง่ายๆ อบ่าง “สวัสดี” ก่อนที่จะเริ่มบทสนทนา “มันเหมือนกับการพูดคุยกับผู้หญิงที่คุณชอบ และในขณะเดียวกันคุณก็กำลังกลัวเพราะคุณไม่รู้ว่าเธอจะคิดเหมือนคุณหรือเปล่า” Leung ให้สัมภาษณ์ จุดเริ่มต้นของการพูดคุยกับคนแปลกหน้าของชายหนุ่มเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มพูดคุบกับผู้โดยสารบนรถบัสระหว่างทางกลับบ้าน เนื่องจากเขาไม่อยากจะปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ และการได้พูดคุยกับคนแปลกหน้าก็ทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่างมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มสังเกตเห็นก็คือ ผู้คนส่วนมากมักจะจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของพวกเขา และมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมพูดคุยกับเขา ในมหานครอื่นๆ ที่คล้ายกับฮ่องกง Leung บอกว่าผู้คนส่วนมากมักจะใช้เวลาทำงานอย่างยาวนาน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเองแทบจะไม่มีแรงหรือเวลาในการพูดคุยเลย ซึ่งนั่นทำให้การเริ่มคุยกับคนแปลกหน้าในช่วง 2-3 นาทีแรกเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่ชายหนุ่มก็บอกว่ามันทำให้เขารู้สึกสนุก และมีความสุขที่ได้พูดคุยกับผู้คนมากมาย “หลังจากที่ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามาเป็นเวลากว่า 1…
-
หนุ่มเจอสุนัข 2 ตัวกลางทะเลทราย เก็บมาเลี้ยง พาออกเดินทางไกลเกือบ 50,000 กม.
การพบกันระหว่างคุณ Jordan Kahana หนุ่มวัย 30 ปี กับเจ้าตูบแสนรักทั้งสองตัวของเขานั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เดือนธันวาคมปี 2016 ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังขับรถผ่านทะเลทรายในเขตรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มพบพวกมันทั้งคู่อยู่ในสภาพที่ผอมโซ และกำลังขาดน้ำท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุยิ่งกว่าประเทศไทยในเดือนเมษายน คุณ Jordan ไม่รอช้า รีบพาเจ้าตูบทั้งสองไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน คุณ Jordan กับเจ้าหมาน้อยทั้งสองตัว ไม่นานหลังจากที่สุนัขทั้งสองถึงมือสัตวแพทย์ ความหวังในการอดชีวิตของพวกมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างทันที ในที่สุดจากน้องหมาที่กำลังจะขาดน้ำตายก็กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง Jordan ตัดสินใจรับพวกมันทั้งคู่ไว้ดูแล และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งสามก็กลายเป็นทีมที่แทบจะแยกจากกันไม่ได้เลย ไปกันเลยพรรคพวก!! และนอกจากจะดูแลพวกเจ้าตูบอย่างดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบทำร่วมกันนั่นก็คือการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ นั่นเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งคุณ Jordan และเจ้า Sedona กับ Zeus ก็ได้เดินทางเป็นระยะทางกว่า 48,000 กิโลเมตร ผ่าน 35 รัฐไม่ว่าจะเป็นรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลลาโด หรือแอริโซนา พวกเขาก็เดินทางไปสัมผัสความสวยงามมาหมดแล้ว Kelso Dunes ในรัฐแคลิฟอร์เนีย อุทธยานแห่งชาติ Yosemite รัฐแคลิฟอร์เนีย วันพักผ่อนสบายๆ…
-
หญิงชราวัย 88 ปี ขายบ้านตัวเองเพื่อนำเงินไปเที่ยวรอบโลก สานฝันให้เป็นจริง
หลายๆ คนอาจจะมีความฝันที่ตั้งใจเอาไว้ที่แตกต่างกัน แต่แน่นอนว่าทุกๆ ความฝันที่เราอยากได้นั้นจะต้องแลกมาด้วยบางสิ่งบางอย่างเสมอ เหมือนกับเรื่องราวของหญิงวัย 88 ปีผู้นี้ที่ยอมขายบ้านของตัวเอง เพื่อทำตามความฝันที่จะได้เดินทางรอบโลก!! จุดเริ่มต้นของความฝันเธอเกิดขึ้นเกือบ 10 ปีก่อน หลังจากที่คุณ Jiang Bin หญิงชราจากประเทศจีนได้มีโอกาสขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชมความสวยงามของหิมะที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และธารน้ำแข็งที่นิวซีแลนด์ การเดินทางของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2009 คุณยายวัย 88 ปีผู้นี้ท่องเที่ยวทั่วโลกมาแล้วหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย จนกระทั่งในปี 2017 คุณยายท่านนี้ก็ได้ประกาศขายบ้านของเธอในเมืองหางโจว เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมอบเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับหลานสาว และนำส่วนที่เหลือไปใช้ในการเดินทางของเธอ รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย จากรายงานระบุว่าหลังจากที่ขายบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณยาย Jiang Bin ได้ไปอาศัยอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนวัยเกษียณ และใช้เวลาส่วนมากไปกับการท่องอินเตอร์เน็ตและติดตามข่าวสารของโลกภายนอก เรื่องราวของเธอนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่มีความฝันอยากออกไปท่องโลกกว้าง มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าเขาอยากเป็นคนแก่วัย 88 ปีที่ใช้ชีวิตแบบเต็มที่เหมือนกับคุณยายท่านนี้จริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังคงมีบางคนที่ตั้งข้อสงสัยว่า การที่เธอสามารถขายบ้านและมีโอกาสใช้ชีวิตแบบนี้นั่นก็เป็นเพราะฐานะทางครอบครัวของเธอนั่นเอง “คุณยาย: ถึงแม้ว่าฉันจะขายบ้านหลังนี้ แต่ฉันก็ยังเหลือบ้านอีก 8-9 หลัง” คอมเมนต์แซวจากชาวเน็ตรายหนึ่งใน Weibo ที่มา medium
-
15 ข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ คือสถานที่บรรจบกันระหว่าง โลกแห่งความจริง และเทพนิยาย
ประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งดินแดนในฝันของหลายๆ คนที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรมของประชากรชาวนิวซีแลนด์ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไปสัมผัส อีกหนึ่งเสน่ห์ของประเทศนิวซีแลนด์นั่นก็คือ วิถีชีวิตของชาวนิวซีแลนด์บนดินแดนที่มีแต่ความงดงามนี้ เปรียบราวกับว่านิวซีแลนด์นั้นคือโลกนิยายที่มีอยู่จริง จากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ 1. นิวซีแลนด์มีศาสนาเจได จากการสำรวจประชากรเมื่อปี 2001 มีชาวนิวซีแลนด์นับถือศาสนาเจไดอยู่ร้อยละ 1.5 2.นิวซีแลนด์มีกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงส์ ที่ต้องตั้งกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงขึ้นมาก็เพราะว่าหลังจากที่หนังฉายออกไปก็มีนักท่องเที่ยวมาตามรอยภาพยนตร์อย่างล้นหลาม ทำให้ต้องตั้งกระทรวงมาส่งเสริมกันโดยเฉพาะ 3. รอยสัก การสักนั้นเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญมากๆ สำหรับชนเผ่าเมารีทั้งชายและหญิง ชาวเผ่าจะนิยมสักลงบนใบหน้าด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ 4. ภาษาเอลฟ์ นี่คือการรายงานสภาพอากาศด้วยภาษาเอลฟ์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีการคาดการณ์เล่นๆ ว่า ในอนาคตอาจจมีการสอนภาษาเอลฟ์ในโรงเรียนอีกด้วย 5. นิวซีแลนด์มีชื่อสถานที่ที่ยาวมากๆ ชื่อสถานที่นั้นก็คือ “Taumatawhakatangihangaoauauotameteaturipukakapikimaungah-oronukupokaiwhenuakitanatahu” ยาวไปไหน 6. ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว ก่อนที่จะมาเป็นประเทศนิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ถูกยึดครองโดยชนเผ่าเมารีและตั้งชื่อดินแดนว่า Aotearoa แปลว่า ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว 7. กีวี กีวีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผลไม้แต่อย่างใด แต่หมายถึงสัตว์ประจำชาติอย่างนกกีวีที่สามารถพบได้แค่ในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น และคำว่า…
-
จีนเตรียมเปลี่ยนหน้าผาที่เด็กใช้ปีนไปโรงเรียนเป็นที่ท่องเที่ยว หลังได้รับความนิยม
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 สื่อจีนเคยเผยแพร่ภาพของบันไดแห่งหนึ่งในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นบันไดไม้เก่าๆ ที่เด็กจากหมู่บ้านอันห่างไกลไว้ใช้เดินทางไปเรียนหนังสือ และแน่นอนว่าข่าวดังกล่าวก็ได้รับความนิยมสุดๆ เลยทีเดียว งานนี้เมื่อรัฐเล็งเห็นว่า บันไดดังกล่าวมันกลายเป็นกระแสและมีคนพูดถึงมาตลอด ทำไมพวกเขาไม่หยิบมันมาพัฒนาต่อเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดูละ? งานนี้โปรเจกต์บันไดปีนพาชมวิวจึงเริ่มขึ้น!! เดิมทีบันไดดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในชุมชนที่ชื่อ Atule’er ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจำนวน 72 ครัวเรือน โดยคิดเป็นประชากรราว 400 คน ส่วนตัวบันไดนั้นมีความสูงอยู่ที่ 800 เมตร โดยเด็กๆ ที่จะไปเรียนหนังสือจำเป็นจะต้องปืนบันไดดังกล่าว ต่อมาในเดือนพฤษจิกายนปีเดียวกัน ทางรัฐได้จัดการดัดแปลงและพัฒนาบันไดดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ด้วยแผนการที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว รัฐได้ทำแคมเปญเชิญชวนรวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง 4G ไวไฟ และ ตู้ ATM ให้มีใช้กันบริเวณหมู่บ้านแล้วด้วย ส่วนตัวหมู่บ้านก็มีการพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น โรงเรียนก็ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เด็กๆ สามารถเข้าเรียนได้ ซึ่งนั่นทำให้หมู่บ้านเติบโตและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังบันไดดังกล่าวมีมากถึง 100 คนต่อวันเลยล่ะ สุดท้ายแล้ว จากเรื่องราวที่เผยแพร่ในปี 2016 ของกลุ่มนักเรียนที่ไปเรียนอย่างยากลำบาก มาวันนี้พวกเขาไม่ต้องลำบากแบบนั้นอีกต่อไป และความเจริญก้าวหน้าก็มาหาพวกเขาแล้ว ซึ่งทางรัฐก็ตั้งเป้าไว้ว่าที่แห่งนี้จะได้รับความนิยมและทำเงินจากการท่องเที่ยวได้สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน……
-
นี่คือภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำไม ‘โรมาเนีย’ ถึงเป็นประเทศที่ควรค่าแก่การไปเยือนมากที่สุด!!
สำหรับหลายๆ คนการได้เดินทางท่องเที่ยวนั้นก็เหมือนกับการได้เติมพลังหลังจากที่ตั้งใจทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และตีตั๋วไปต่างประเทศนั้นก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว!! และถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำกลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในต่างแดนที่สวยๆ และไม่เหมือนใครล่ะก็ เราขอแนะนำประเทศโรมาเนียเลย รับรองได้ว่าสวยงามและน่าประทับใจอย่างแน่นอน!! ถ้าไม่หากใครไม่เชื่อล่ะก็… ลองไปพิสูจน์กันกับภาพเหล่านี้เลย… คุณ Aurel Paduraru หนุ่มชาวโรมาเนียผู้หนึ่ง ได้โพสต์ภาพความสวยงามของประเทศบ้านเกิดเขา พร้อมกับเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาสัมผัสความสวยงามที่นี่ “โรมาเนียมีด้วยกันถึง 4 ฤดู และมีความสวยงามของธรรมชาติมากมายไม่ว่าจะเป็น ทะเล แม่น้ำ บ้านเมือง หรือสัตว์ป่าพันธุ์หายาก และความลับของธรรมชาติอีกมากมายให้คุณมาค้นหา รวมไปถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีอีกด้วย” ชายหนุ่มกล่าว ภาพความสวยงามของธรรมชาติและสัตว์ป่า ในประเทศจากยุโรปตะวันออกแห่งนี้ . ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศแบบไหน ที่นี่ก็มีให้คุณได้เลือกสัมผัส . . . . . . ส่วนในตอนกลางคืน ก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว . วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนอยากมาสัมผัส . . . ส่วนใครที่ชอบธรรมชาติล่ะก็มาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะที่โรมาเนียนั้นเต็มไปด้วยนกพันธุ์หายากมากมาย .…
-
ชายคนหนึ่งเดินเข้าป่า พร้อมลูกสาวออทิซึมวัย 8 ขวบ กับการตามหาแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
เพื่อนๆ รู้จักโรคออทิซึมกันมั้ยเอ่ย ออทิซึมเป็นโรคที่มีสาเหตุจากความผิดปกติในสมอง ซึ่งทำให้เกิดความบกพร่องในหลายๆ ด้าน เช่น พัฒนาด้านการเข้าสังคม การสื่อสารจะทำได้ช้ากว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยเหลือให้พวกเค้าพัฒนาไปในทางที่ดีได้ เหมือนดังในข่าวนี้ ที่มีคุณพ่อท่านหนึ่งพาลูกสาวซึ่งเป็นออทิซึมไปผจญภัญ เพื่อใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพลูกของเขา และเพื่อให้ลูกของเขาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะหลายๆ ในตัวลูกของเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่า “ความแตกต่างคือความงดงาม” ความรักธรรมชาติของลูกสาวเขา Iris นั้นจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาของเธอ และเป็นแรงบันดาลใจแก่การวาดภาพของเธอด้วย ซึ่งเขาก็เจอที่ดีๆ ที่ลูกเขาจะได้เรียนรู้จากมัน เขาจึงเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ไปในป่าที่ประเทศคอสตาริกา เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ ผลักดันให้ลูกของเขาก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเธอได้ โดยการผจญภัยของเธอจะเป็นเช่นไรบ้าง ไปชมกันเลย การผจญภัยในป่าเริ่มต้นขึ้นแล้ว Iris เริ่มสำรวจไปตามแม่น้ำ เรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟ โอ๊ะ!! เธอเจอลิงบนต้นไม้ล่ะ . ลองสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวธรรมชาติสวยๆ รอบตัวเธอ ก้าวผ่านความกลัวและสร้างความมั่นใจ การไปซูปเปอร์มาร์เก็ตทุกวัน สร้างทักษะในการใช้ชีวิต เมื่อก่อนเธอเคยกลัวทะเลนะ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว พบเจอเพื่อนใหม่ตามทาง ลองฝึกทักษะการสื่อกับบางคนที่วิจารณ์เรา…
-
ชมคลิปทยานฟ้าไปกับพวกห่าน ให้คุณได้โบยบินอย่างอิสระเหนือน่านฟ้ายุโรป
ย้อนกลับไปในปี 1995 คุณ Christian Moullec ชายชาวฝรั่งเศสวัย 58 ปีได้สังเกตการอพยพของพวกห่านหน้าผากขาว ในระหว่างที่พวกมันกำลังอพยพจากประเทศเยอรมนีไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชายหนุ่มสังเกตุเห็นพวกห่านบางส่วนนั้นกำลังตกอยู่ในความยากลำบากระหว่างช่วงอพยพ Moullec จึงได้ตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพวกมัน… ด้วยความร่วมมือจาก Konrad Lorenz นักสัตววิทยาชาวออสเตรเลีย Moullec จึงได้ตัดสินใจสร้างเครื่องร่อน 2 ที่นั่งเพื่อช่วยเหลือพวกห่านในการอพยพไปยังเส้นทางที่ปลอดภัย ในตอนแรกนั้นดูเหมือนว่าพวกห่านจะยังไม่เข้าใจถึงความหวังดีของ Moullec และ Lorenz พวกมันพยายามบินหนีและไม่ยอมให้ทั้งสองเช้าใกล้ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็ยอมรับความช่วยเหลือแต่โดยดี ตอนนี้ภาระกิจช่วยเหลือพวกห่านของคุณ Moullec ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ในการช่วยเหลือพวกมันด้วย โดยทริปดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคมของทุกปี คุณ Moullec จะบินนำทางพวกห่านพร้อมกับนักท่องเที่ยว 1 คนด้วยเครื่องร่อนของเขา ซึ่งบางครั้งทริปการผจญภัยครั้งนี้อาจจะใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมงเลยทีเดียว ประสบการณ์การผจญภัยครั้งนักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับพวกห่าน และชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์จากมุมสูง การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเท่านั้น แต่คุณ Moullec ยังบอกว่า “ลูกค้ายังได้ร่วมเป็นพยานของการอพยพข้ามทวีปยุโรปของพวกนก ก่อนที่เหตุการณ์แบบนี้อาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เนื่องจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร” ชมความน่าตื่นเต้นของทริปข้ามประเทศพร้อมพวกนกกันได้ที่นี่เลย… ที่มา lifebuzz
-
พ่อแม่ตัดสินใจขายทุกสิ่ง และพาลูกๆ ออกจากโรงเรียน เพื่อไปเรียนรู้โลกทั้งใบ…
คนบ้านเรามีคำพูดที่ว่า “พ่อแม่ขายนาส่งลูกเรียน” ที่เป็นคำพูดเตือนใจให้พวกเราตั้งใจเรียนกันอยู่ แต่ที่ Hertfordshire ยังมีพ่อแม่คู่หนึ่งตัดสินใจเลือกที่จะ ขายของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็พาลูกๆ ออกจากโรงเรียนไปเที่ยวรอบโลกแทน Chris Jackson อดีตแพทย์สนามประจำรถพยาบาลจาก ลอนดอน วัย 35 ปี และ Donna ภรรยาของเขา คิดว่าการปล่อยลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ Ellie และลูกสาวคนเล็ก Miley เรียนในโรงเรียนต่อไปจะเป็นการทำลายความฝันและทำให้พวกเธอไม่มีความสุข เมื่อปี 2017 พวกเขาตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี พาลูกสาวทั้งสองออกมาโรงเรียนและตัดสินใจออกเดินทางไปรอบโลกโดยไม่หันกลับมา “มันเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ในชีวิตเลย” Chris กล่าว “เมื่อก่อนภรรยาของผมกำลังเรียนด้านการพยาบาลเด็ก พวกเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยทั้งที่เป็นสามีภรรยากัน แถมยังไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ อย่างที่ควรจะเป็น พอคิดได้แบบนั้นพวกเราก็คิดขึ้นได้ว่า ‘เราน่าจะไปเที่ยวกันนะ’ แล้วเราก็ทำมัน” Donna ที่อยู่ด้วยกันเสริมขึ้นว่า “ในตอนที่แก่ตัวขึ้นผู้คนมีแนวโน้มที่จะอยากได้ในสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำ แล้วก็มานั่งพูดถึงสิ่งที่เขาควรทำ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาทำมันจริงๆ” “ในโลกยุคที่ผู้คนให้ iPad กับเด็กๆ ของพวกเขาแล้วก็ปล่อยให้เด็กจ้องมันไปหลายๆ ชั่วโมง พวกเรากำลังสอนพวกเด็กๆ ของเราในสิ่งที่เราอยากให้พวกเขาได้รู้จัก” เธอเล่า ตั้งแต่ออกเดินทางไปพวกเขาได้แชร์เรื่องราวของพวกเขาบนสื่อต่างๆ อย่าง Youtube…
-
ถ้าไปชม “ภูเขาไฟฟูจิ” แล้วโดนเมฆบัง โรงแรมแห่งนี้ยินดีให้คุณพักฟรี!! รออะไรตีตั๋วสิงานนี้!!
ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และแน่นอนว่าหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ได้มีโอกาสไปเยือนดินแดนแห่งนี้ และอย่างที่รู้ๆ กันว่าสภาพอากาศนั้นเป็นสิ่งที่มักจะคาดเดาอะไรไม่ค่อยได้ ถึงแม้ว่าจะมีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำมากแค่ไหนก็ตาม และการที่คุณต้องนั่งชมความสวยงามของเมฆแทนวิวของภูเขาไฟฟูจิผ่านทางห้องพักโรงแรมอาจจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ แต่คุณอาจะโชคดีก็ได้ถ้าหากว่าได้มีโอกาสเข้าพักที่โรงแรม Hotel Mt. Fuji เพราะที่นี่เค้ายินดีจะให้คุณกลับมาพักฟรีๆ ได้อีก 1 คืน หากคุณเจอสภาพอากาศที่แย่ๆ บดบังวิวของภูเขาไฟฟูจิ ทางฝ่ายบริการของทางโรงแรมนั้นเข้าใจความรู้สึกของผู้เขาพักที่ต้องเจอสภาพอากาศแย่ๆ เป็นอย่างดี และมีการคาดว่าในช่วงเดือนมกราคมนั้นลูกค้าอาจจะต้องประสบปัญหาที่ว่านี้ก็ได้ ดังนั้นในช่วงวันที่ 9-19 มกราคมทางโรงแรมจึงได้ออกประกาศให้ลูกค้าสามรถกลับมาพักฟรีได้อีก 1 คืน ถ้าหากเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายในระหว่างที่เข้าพักในช่วงเวลาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามประกาศดังกล่าวนั้นก็มีข้อกำหนดอีกนิดหน่อยนั่นก็คือลูกค้าที่จะได้สิทธิ์ดังกล่าว จะต้องมีการเช็คเอาท์ระหว่าง 7 โมงเช้าถึง 11 โมงเท่านั้น และนอกจากนี้ลูกค้าที่จองห้องพักล่วงหน้าเพียงแค่ 1 วันหรือคนที่ไม่สามารถยืนยันการจองได้ชัดเจนก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้อีกด้วย ห้องพักที่ทางโรงแรมจะให้เข้าพักเพื่อชดเชยนั้นจะเป็นห้องพักแบบมาตรฐาน 2 คน แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถอัพเกรดห้องได้หากมีว่าง โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเลย แหม่… แบบนี้ถ้าใครมีแผนจะเดินทางไปชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ล่ะก็ โรงแรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเหมือนกันนะ โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดห้องพักได้ที่เว็บไซต์ mtfuji-hotel ได้เลยครับ บรรยากาศภายในโรงแรม และบริการต่างๆ . .…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?
แชร์กระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ในต่างประเทศเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Edwin Wiek โพสต์คลิปที่ถ่ายจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้ผมเห็นการท่องเที่ยวที่โหดร้ายในพัทยา เสือตัวนี้ถูกทิ่มด้วยไม้นับร้อยครั้งต่อวัน ทำให้มันอ้าปากส่งเสียงคำรามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ภาพที่สวยงงาม…ถึงเวลาที่กฎหมายควรได้รับการเปลี่ยนแปลงสักที” สำหรับคลิปดังกล่าวนี้พบว่าถูกถ่ายที่สวนสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพัทยา ส่วนที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับเสือ แต่ประเด็นคือในระหว่างที่นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปกับเสือนั้น จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสวนสัตว์ยืนอยู่ข้างๆ คอยใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่แก้มเสือ ทำให้มันร้องคำรามออกมา นอกถ่ายรูปกับเสือแล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังขึ้นไปนั่งบนหลังเสือด้วย คลิปบันทึกเหตุการณ์ที่เสือโดนไม้ทิ่มแก้มให้ร้องคำราม จากคลิปดังกล่าวนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพียงเพื่อแลกกับความสุขของนักท่องเที่ยว และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต… Edwin Benschop: ไม่กล้าดูเลย! ผมไม่เข้าใจว่านักท่องเที่ยวพวกนี้ภูมิใจกับภาพพวกนี้ได้อย่างไร? มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน!! Zoe Foster: เราจะช่วยเหลือเสือผู้เคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ยังไง? Donna Marie Tichenor: นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงมาก ฉันอยากเอาไม้ทิ่มชายคนนั้น 100 ครั้งต่อวัน ดูสิ๊จะชอบมั้ย Natalie Coles : โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เหล่านักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันเป็นเรื่องที่ผิดน่ะ! Denise Dawson : ฉันอยากจะตั๊นหน้าผู้ชายคนที่ถือไม้นั่นจริงๆ เจ้าคนใจชั่ว และนักท่องเที่ยวงี่เง่า!! …
-
คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!
ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับวัยรุ่นที่เติบโตมาพร้อมๆ กับสิ่งนี้ และนั่นจึงอาจทำให้พวกเขามีข้อผิดพลาดในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างชายวัย 69 ปีคนนี้ ที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจนถึงกับถ่ายรูปผิดด้านเกือบตลอดการเดินทางเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อว่า Howard Newman เขาและ Joan ภรรยาได้ไปเที่ยวกันที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก่อนจะไปเขาก็ตัดสินใจยืมกล้อง GoPro ของ Mark ลูกชายของเขาติดตัวไปด้วย แต่แล้วเรื่องราวฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อคนนี้กลับถือกล้องผิดด้านแทบตลอดทั้งทริป จากที่เขาต้องการจะเก็บภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างการเดินทาง มันกลายเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองแทนซะอย่างนั้น คุณพ่อถ่ายหน้าตัวเองทำไมเนี่ย!? เขาถ่ายทุกอย่างในโหมดวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขาแทบทุกคลิป แต่เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ? นั่นก็เพราะคลิปแรกสุดเขาก็พูดออกมาแล้วว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว เห็นถึงความแตกต่างกันเลยมั้ยล่ะ” จะเห็นความแตกต่างได้ยังไงในเมื่อเห็นแต่หน้าคุณพ่อเกือบทั้งทริป!? ด้วยความที่เขายังคงงงว่าปุ่มของกล้องมันควรต้องอยู่ทิศทางไหน จึงทำให้คลิปที่สองที่เขาถ่าย ภาพที่เราเห็นก็ยังคงเป็นหน้าของชายคนนี้อีกเหมือนเดิม ในส่วนนี้เขาต้องการอวดเส้นทางรถไฟ Great European ให้ประจักษ์แก่สายตาทุกคน หากแต่ว่าคงไม่มีใครได้เห็นอย่างที่เขาเห็นแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถ่ายกลับด้านตลอด เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควักกล้องมาถ่ายเครื่องบินในด้านที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นเครื่องบินบินผ่านไปจริงๆ หลังจากที่เฝ้ารอจะชมวิวกันมานาน แต่สุดท้ายพอเริ่มคลิปใหม่ ก็กลายเป็นหน้าของเขาเหมือนเดิม…
-
Tundra Lodge Rolling Hotel โรงแรมเคลื่อนที่ในดินแดนแห่งฝัน พร้อมหมีมาแวะทักทายไล่ล่าแสงเหนือ
เชื่อแน่ๆ ว่าดินแดนในเขตหนาวนั้นถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ชื่นชอบอากาศเย็นๆ และความสวยงามของแสงแดดที่กระทบกับสีขาวของหิมะอย่างแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าคุณได้ท่องไปทั่วดินแดนหิมะเหล่านั้น พร้อมกับมีเจ้าถิ่นอย่างน้องหมีขาว ออกมาทักทายคุณในตอนเช้าๆ เหมือนกับการพักที่โรงแรมเคลื่อนที่ Tundra Lodge Rolling Hotel แห่งนี้!! กินข้าวกันรึยังครับบบ!? ภายในโรงแรมเคลื่อนที่จากประเทศแคนาดาแห่งนี้ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศที่เปลี่ยนไปในทุกๆ เช้า นอกจากนี้คุณยังได้พบกับพวกสัตว์ท้องถิ่นมากมายที่ออกมาทักทายคุณระหว่างการเดินทางอีกด้วย The Tundra Lodge Rolling Hotel นั้นมีห้องพักทั้งหมด 32 ห้อง รวมถึงห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมหมีขาวแบบใกล้ชิดอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากพบปะทักทายกับเจ้าหมีแบบใกล้ชิด ก็สามารถออกมาดูพวกมันใกล้ๆ ด้านนนอกได้เช่นกัน คุณ Steve Dobson ได้ระบุรายละเอียดของโรงแรมเห่งนี้ไว้ในเว็บไซต์ว่า “คุณสามารถสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นพวกหมีขาว หรือบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากหน้าต่างห้องนอนส่วนตัว หรือหลังคาที่สามารถเปิดปิดได้” และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับทริปนี้ก็คือการล่าแสงเหนือนั่นเอง . และสำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสความสวยงามของดินแดนหิมะ และทักทายกับเหล่าหมีขาวล่ะก็ ราคาของทริป 7 วันนั้นอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทเท่านั้นเอง!! แค่นี้ชาวเหมียวขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ที่มา dailymail
-
ฉันออกเดินทางไปรอบโลก เพื่อถ่ายภาพตามรอยฉากของ Game of Thrones ในชีวิตจริง!!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ช่วงที่กระแสซีรีส์เกาหลีดังๆ จนเกิดเป็นกระแสให้หลายคนชื่นชอบในความสวยงามของสถานที่ในฉากและอยากจะตามรอยไปยังสถานที่เดียวกับในซีรีส์ที่ตัวเองชอบ แต่พอพูดถึงซีรีส์ฝรั่งทำไมเราถึงไม่อยากจะตามรอยแบบนั้นกันบ้างล่ะ? ด้วยเหตุนี้บล็อกเกอร์สาวนามว่า Andrea David ก็เลยจัดการตามรอยซีรีส์เรื่องโปรดของเธอบ้าง และเมื่อพูดถึงซีรีส์ที่มีฉากสวยๆ บวกกับความฮิตในช่วงที่ผ่านมาก็คงจะหนีไม่พ้น Game of Thrones อย่างแน่นอน ทว่าฉากในซีรีส์ดังกล่าวมีการถ่ายทำหลากหลายที่กระจายกันไปมาก ฉะนั้นการที่คนปกติแบบเราๆ จะไปตามรอยให้ครบจึงเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นเราก็คงต้องตามรอยผ่านภาพที่เธอไปมาแทนก็แล้วกัน… หอคอย Minčeta Tower ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย ขั้นบันไดเล็กๆ ในเมือง Carnlough ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ใครอยากจะเชม เชม ก็ให้มาที่ Jesuit Stairs ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย สวนพฤกษชาติ Trsteno Arboretum ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย แม้จะเป็นฉากเดียวกันกับเซอร์ซีเดินแก้ผ้า แต่ก็ไม่ได้ถ่ายที่เดียวกันหรอกนะ โดยบริเวณโบสถ์นั้นถ่ายที่ The Girona Cathedral เมือง Girona ประเทศสเปน ทะเลสาบ Mývatn ในหน้าหนา ประเทศไอซ์แลนด์ …
-
คลิปเพลงน่ารักปนฮา “Tokyo Bon 2020” ช่วยสอนออกเสียงคำอังกฤษแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
ในสมัยนี้ที่การเดินทางไปต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าในสมัยก่อน และค่าโดยสารก็มีราคาถูกลงมากจนแทบทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การไปเที่ยวต่างประเทศจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวต่างแดน นั่นคือการสื่อสารภาษาต่างประเทศนั่นเอง ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะนับว่าเป็นภาษาสากลก็ตาม แต่ในความเป็นจริงนั้น คนบางส่วนก็ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แถมภาษาอังกฤษในแต่ละพื้นที่ก็สำเนียงไม่เหมือนกัน บางที่ฟังยากจนถึงกับคิดว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษอีกต่างหาก Namewee นักร้องชาวมาเลเซียน่าจะเล็งเห็นถึงปัญหานี้ เขาจึงร่วมมือกับ Cool Japan TV ออกอัลบั้มเพลงใหม่ออกมา ในชื่อว่า Tokyo Bon 2020 (Makudoraudo) อัลบั้มดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นที่ในเพลงเรียกว่า Japanglish เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอนาคต โดยทำให้คนคุ้นชินกับภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นผ่านทางเพลงนี้ เพลงนี้ Namewee เป็นผู้แต่งเองทั้งหมด โดยมี Meu Ninomiya เป็นนักแสดงนำหญิงใน MV ส่วนตัวเพลงเน้นที่การใช้ท่าเต้นจากเทศกาลโอบ้ง และเครื่องดนตรีญี่ปุ่นมานำเสนอเรื่องวัฒนธรรม ส่วนเนื้อหาเพลงนั้นเน้นไปที่ความรู้สึกของชาวต่างชาติที่มีต่อภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น นอกจากนี้ในเพลงยังสอนคำศัพท์หลายๆ คำที่น่าจะได้ใช้แต่ฟังยากอีกด้วย อย่างเช่นคำว่า Makudoraudo ที่อยู่ในชื่อเพลง ซึ่งเป็นเสียงอ่านของคำว่า McDonald’s ในสำเนียงญี่ปุ่นนั่นเอง เขายังหวังว่าเพลงนี้จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และถูกนำไปเปิดในงาน Tokyo Olympics ในปีพ.ศ.2563 ด้วย…
-
คู่รักโพสต์ท่าสุดหวานแบบเดิมทุกครั้งที่ไปเที่ยวรอบโลก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด!!
การเดินทางไปเที่ยวรอบโลกอาจจะเป็นความฝันของใครหลายคน และถ้าหากจะให้ดีก็ต้องมีคนรักร่วมเดินทางไปกับเรา เพราะว่านอกจากจะเพิ่มความอุ่นใจให้กับเราแล้ว ยังสามารถแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ที่มีต่อกันได้อย่างรู้ใจ และนั่นได้ช่วยเพิ่มความสุขในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ คู่รักคู่นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่พยายามทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง โดยพวกเขาเดินทางไปยังเมืองต่างๆทั่วโลก และแน่นอนว่าเมื่อเดินทางเที่ยวก็ต้องมีการถ่ายรูปเก็บความทรงจำร่วมกัน แต่สิ่งที่คู่นี้แตกต่างกับคนอื่นก็คือพวกเขาตัดสินใจถ่ายรูปในท่าเดิมๆ ในทุกเมืองที่ได้ไป จนกลายมาเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตในที่สุด ขณะถ่ายรูปกันที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี Rob และ Joli Switzer คือชื่อของคู่รักดังกล่าว โดยพวกเขาเพิ่งจะเข้าพิธีสมรสกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ออกเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 ปี แต่ละเมืองที่พวกเขาไปด้วยกันนั้นทั้งคู่จะถ่ายรูปแล้วโพสท่าแบบเดิมๆ สำหรับท่าที่พวกเขาทำก็คือ Joli จะเอนหลังภายใต้อ้อมแขนของ Rob แล้วก็จูบกันอย่างดูดดื่ม ซึ่งนั่นได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาโด่งดัง ออกเดินทางไปยังเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ทั้งคู่ตั้งชื่อให้รูปภาพนี้ว่า ‘Dipkiss’ และในตอนนี้พวกเขาได้เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองชื่อว่า Dipkisstravels และ Instagram ชื่อว่า @dipkisstravels ให้ผู้คนได้ติดตามในการเดินทางท่องเที่ยวตามความฝันของทั้งคู่แล้ว การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2010 ใน “ปาร์ตี้สำหรับนักเดินทาง” ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยทั้งคู่บอกว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และได้ติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์หลังจากนั้น เพราะว่าความห่างไกลของทั้งคู่ทำให้ไม่สามารถพบกันได้ โดย Rob นั้นอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ Joli อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ เทศกาลบอลลูนในแอลบูเคอร์คี…
-
เมื่อหมาแมวได้ออกผจญภัยโลกกว้างด้วยกัน ภาพที่ได้มันบ่งบอกทุกอย่างแล้วล่ะ!!
ย้อนเวลากลับไปในปี 2014 Cynthia Bennett สาวผู้รักการเดินทางและแฟนหนุ่มของเธอได้รับ Henry สุนัขพันธุ์ผสมมาเลี้ยง ซึ่งในตอนนั้นมันมีอายุเพียง 14 สัปดาห์ แต่ทว่ากลับมีขนาดใหญ่กว่าลูกสุนัขตัวอื่นๆ ถึง 5 เท่า เมื่อครั้งที่ Cynthia ได้เข้าไปหา Henry มันก็เข้ามานั่งหนุนที่ตักของเธอทันที และในตอนนั้นเองที่ Cynthia รู้ว่าเธอถูกชะตากับเจ้าหมาตัวนี้เข้าซะแล้ว “ในตอนที่เราได้รับ Henry มาเลี้ยงได้เพียงแค่ 3 วัน เราก็พามันออกไปปีนเขาด้วยแล้ว ซึ่งในตอนแรกเราคิดว่ามันอาจจะไม่ชอบ แต่ที่ไหนได้เจ้า Henry กลับชอบสุดๆ แถมยังไต่ไปจนถึงยอดเขาสูงชันได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราเล็กมันว่าแพะภูเขา” Cynthia กล่าว และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Cynthia และแฟนหนุ่มก็ได้ตัดสินใจว่าอยากจะมีสัตว์เลี้ยงมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอีกสักตัว ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจไปรับลูกแมวอายุ 5 เดือนจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงดู พร้อมตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า Baloo เมื่อได้แนะนำ Baloo ให้ Henry รู้จัก ดูเหมือนว่าน้องเหมียวจะตกหลุมรักพี่หมาเขาอย่างจัง…
-
บุญแท้!! สาวอาสาสมัครไปเที่ยวอินเดีย ได้ช่วยชีวิตหมาตัวหนึ่งแล้วนำกลับมาเลี้ยงซะเลย
ในการเดินทางออกไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ เรามักจะได้เจอสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มากมายแต่การเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศของเธอคนนี้ช่างแตกต่างกับคนอื่นตรงที่ว่า ของที่เธอนำกลับมาด้วยไม่ใช่ของฝากหรือขนมใดๆ แต่กลับเป็นหมาตัวหนึ่งซะงั้น เรื่องราวสุดประทับใจนี้ได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของ Jessica Haltzman หญิงสาวจากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีความคิดที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาตัวเองหลังจากเธอเสร็จสิ้นงานอาสาสมัคร AmeriCorps โดยเป้าหมายแรกที่เธอต้องการจะไปก็คือ องค์กรอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศอินเดียที่ชื่อว่า Sadhana Forest เจ้าหมาน้อยนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่ว่าระหว่างการเดินทางเธอได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนิวเดลีและระหว่างที่เธอพักอยู่ที่โรงแรมนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างเธอจึงออกตามหาที่มาของเสียงว่ามันคือเสียงอะไร และเมื่อเจอต้นตอของเสียงร้องเธอก็พบว่ามันคือลูกหมาได้รับบาดเจ็บที่นอนอยู่หน้าโรงแรมนั้นเอง “ฉันรู้ทันทีในตอนนั้นว่า ฉันต้องช่วยชีวิตมันให้ได้” Haltzman บอก เธออุ้มเจ้าหมาที่ร้องด้วยความเจ็บปวดตัวนี้ขึ้นและพยายามจะหาสัตวแพทย์ในเมืองเพื่อช่วยชีวิตมัน หลังจากได้รับการรักษาเสร็จแล้ว Haltzman เล่าว่า “ฉันวิ่งไปทั่วทั้งเมืองนิวเดลีเพื่อที่จะหาสถานที่สำหรับรักษามัน โดยในที่สุดก็มีคนขับรถสามล้อคนหนึ่งที่รู้จักสัตวแพทย์และเขาก็ได้พาฉันพร้อมเจ้าหมาที่น่าสงสารนี้ไปส่ง” ซึ่งปรากฏว่า อาการบาดเจ็บของเจ้าหมาตัวนี้ค่อนข้างจะสาหัสทีเดียว โดยเอวทั้งสองข้างของมันหักและบาดแผลของมันก็ติดเชื้ออีกด้วย ดังนั้นสัตวแพทย์จึงได้พันผ้าพันแผลไว้เพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวดลง “ตอนนั้นฉันมีความกังวลเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวนี้จนแทบจะบ้าเลยก็ว่าได้” Haltzman สารภาพ แต่ด้วยแผนการท่องเที่ยวที่เธอวางไว้จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่า เธอควรจะเที่ยวทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับเจ้าหมาตัวนี้ดีไหม? ออกเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน ในที่สุดหญิงสาวคนนี้ก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของเธอทั้งหมด โดยเธอยกเลิกเที่ยวบินเพื่อที่จะไปเนปาลและจองตั๋วรถบัสแทนเพื่อที่จะให้เจ้าหมาตัวนี้สามารถไปกับเธอได้ ตลอดเวลาในการเดินทางเธอก็ดูแลเจ้าหมาตัวนี้เป็นอย่างดี และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Delhi ตามชื่อเมืองที่เธอได้พบกับมัน Haltzman ยังคงเดินทางท่องเที่ยวต่อไปพร้อมกับเจ้า Delhi…
-
20 สุดยอดไอจีนักท่องเที่ยว ที่จะปลุกความเป็นนักเดินทางในตัวคุณ ฟอลโล่วกันเร็ว!!
ในปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราได้ยลโฉมความงดงามของสถานที่ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้แบบง่ายๆ เพราะเพียงแค่คลิกเข้าไปเราก็จะได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจที่อยู่บนโลกใบใหญ่ได้ทั้งใบแล้ว ทางเว็บไซต์ Business Insider จึงได้รวบรวม 20 บัญชีของเหล่านักท่องเที่ยวจากอินสตาแกรมที่มีคนติดตาม และทรงอิทธิพลมากที่สุด โดยอินสตาแกรมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรักการผจญภัยแล้ว ยังช่วยให้คุณได้พบกับสถานที่ต่างๆ จากทั่วโลกที่คุณอยากไป แถมยังทำให้เราได้รู้จักอะไรใหม่ๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอีกด้วย 20. @damonandjo นี่เป็นไอจีของ Damon และ Jo คู่รักนักเดินทางที่มักจะชอบพากันออกไปผจญภัยทั่วโลก ในตอนนี้มีคนตามฟอลโล่วกว่า 119,000 คนแล้ว 19. @migrationology Mark Wiens ผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ตอนนี้มีคนตามฟอลโล่วเขามากกว่า 162,000 คนแล้วจ้า 18. @Jordhammond Jordan Hammond นักเดินทางจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่มีคนตามในไอจีมากถึง 111,000 คน ปัจจุบันเขากำลังเดินทางไปทั่วโลกและถ่ายรูปในสถานที่ต่างๆ เช่น เมือง Cappadocia 17. @andyto Andy เติบโตที่โอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย…
-
วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน
สำหรับใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คงจะพอทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย และข่าวของการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ แต่นอกจากภาพของความสูญเสียและซากปรักหักพังที่เราเคยเห็นกันตามสื่อต่างๆ แล้ว ในบางพื้นที่นั้นผู้คนของประเทศนี้ก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขากันตามปกติและแทบไม่ต่างอะไรกับคนทั่วๆ ไปเลย เมื่อไม่นานมานี้คุณ Christian Lindgr นักเดินทางหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปยังเมืองดามัสกัส เมืองอะเลปโป และพื้นที่ชนบทอื่นๆ ในประเทศซีเรีย เขาได้เก็บภาพวิถีชีวิตพร้อมกับความสวยงามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเผยให้เห็นภาพของประเทศซีเรียในมุมที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน Umayyad Mosque มัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมือง ดามัสกัส ประเทศซีเรีย Aleppo Citadel ป้อมปราการในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในเมืองอะเลปโป ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย . ภาพที่มองออกมาจากด้านในของ Aleppo Citadel ภาพมุมสูงของเมืองอะเลปโป ที่มองจากป้อมปราการแห่งนี้ ภาพของหมู่บ้านชาวซีเรียที่ตั้งอยู่บนเขา ผู้คนที่ออกมาทานอาหารด้านนอก ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองดามัสกัส ภาพด้านในของตลาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศซีเรีย คนขายน้ำผลไม้บนถนนสายหนึ่งในเมืองดามัสกัส คนในพื้นที่ ที่ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติในเมืองหลวง ถึงแม้ซีเรียกับภาวะสงครามนั้นจะเป็นของคู่กัน แต่คนในพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และนี่คือภาพของผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กัน คนขายนมบนถนนสายหนึ่งของเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย หอศิลป์ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติในเมืองอะเลปโป Krak…
-
คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!
เมื่อเราขับรถออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องมีบ้างบางครั้งที่จะจอดพักหรือแวะเติมน้ำมันบ้าง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อจอดเติมน้ำมันแปบเดียวกลับมีเพื่อนมาขอร่วมทางแต่ว่ามันกลับไม่ใช่คนน่ะสิ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily Trost และแฟนหนุ่มของเธอที่ขับรถเที่ยวข้ามประเทศเป็นระยะเวลากว่า 10 สัปดาห์ ระหว่างที่พวกเขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐ Montana และได้เข้าไปซื้อในร้านมินิมาร์ท เมื่อกลับมาที่รถก็พบลูกหมาน่ารักตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างรถเหมือนกับว่ามันกำลังรอพวกเธออยู่ เอ้ามายังไง “ตอนแรกเราคิดว่ามันคงเป็นหมาของใครซักคนที่แวะเติมน้ำมันนี่แหละ” “เราเดินไปทั่วทั้งปั๊มน้ำมันเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของมันกันแน่ แต่ก็ไม่มีใครที่มาตามหาเจ้าหมาตัวนี้เลย และดูจากสภาพมอมแมมของมันแล้วฉันก็เลยรู้ทันทีว่ามันไม่มีเจ้าของ” Emily กล่าว เห็นหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ใครจะอดสงสารไม่ได้ ในอีกครู่ต่อมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถเข้ามาในปั๊มและเมื่อเห็นเจ้าหมาอยู่กับทั้งคู่จึงบอกว่า หมาตัวนี้เป็นหมาที่หลงทางมาและขอให้ทั้งคู่นำหมาตัวนี้ไปเลี้ยง เพราะว่าหมาตัวนี้เป็นหมาที่ฉลาดและควรจะได้อยู่กับคนดีๆ คู่รักทั้งคู่จึงตกลงกันว่าอย่างน้อยก็รับหมาตัวนี้ไปก่อนละกันแล้วค่อยหาองค์กรที่ช่วยเหลือสัตว์ที่หลัง แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับมัน ความน่ารักของหมาตัวนี้ก็ทำให้ทั้งคู่ใจอ่อนรับมันไปเลี้ยงที่บ้านจนได้ อ้อนเชียวนะ ทั้งสองตัดสินใจตั้งชื่อเจ้าสี่ขาตัวนี้ว่า Montana ตามรัฐที่ได้เจอมันโดยบังเอิญ ซึ่งตอนที่รับมันมาขึ้นรถมันคงหวังแค่เพียงว่าเจ้าของรถคันนี้อาจจะสงสารให้ข้าวมันกินสักนิดหน่อย แต่มันคงไม่รู้หรอกว่ามันเจอโชคครั้งใหญ่เข้าแล้ว “เช้าวันแรกหลังเรารับ Montana เป็นวันที่ดีที่สุดเลย มันตื่นขึ้นมาในเต็นท์ของเราและพยายามปีนขึ้นมาบนหัวของเราและหอมแก้มเรา มันคงตกใจที่วันหนึ่งตื่นมาแล้วมีคนอยู่ข้างกายของมันมั้ง” Emily กล่าวเพิ่ม หลับปุ๋ยเชียว ในช่วงแรก Montana ใช้เวลาในการนอนเยอะมากและมีความสุขที่มีคนดูแล และเมื่อมีความคุ้นเคยมากขึ้นกับเจ้าของใหม่ มันก็ค่อยๆ เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา ซึ่งมันดูมีความสุขกับในการออกทริปครั้งนี้ไปพร้อมกับพ่อและแม่ใหม่ของมัน และเมื่อจบการเดินทางอันยาวนานเขาทั้ง 2 คนและอีก 1…
-
ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ
หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่ คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…
-
ชีวิตของ “หนุ่มลาออกงานไปเที่ยวกับแมว” ตอนนี้ยังคงเที่ยวอยู่ ที่สำคัญคือไม่คิดจะหยุดง่ายๆ
จำได้ว่าเมื่อช่วงกลางปีของปีที่ผ่านมา เราเคยนำเสนอเรื่องราวของ Richard East หนุ่มชาวออสซี่ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อพาเจ้าเหมียวแสนรักออกผจญภัยทั่วออสเตรเลียกันไปแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องราวของเขานั้นได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมาอัพเดทชีวิตสุดคูลของเจ้านายและน้องเหมียวคู่นี้กันอีกครั้ง และนั่นก็จะทำให้คุณได้เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คู่นี้เขาได้ออกไปผจญภัยที่ไหนกันบ้าง แหม!! คิดแล้วก็น่าอิจฉาเหลือเกิน ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน Richard ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่เขาทำมากว่า 10 ปี พร้อมกันนี้เขายังได้ทรัพย์สินทุกอย่างที่มี และลงทุนซื้อรถแวนเก่าๆ คันหนึ่ง เพื่อที่จะได้ออกไปท่องเที่ยวกับ Willow แมวเหมียวแสนรัก “ผมขายบ้านและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตัวเอง และลาออกจากงานที่ทำ ดังนั้น ผมจึงสามารถออกเดินทางตลอดชีวิตได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถบอกลาได้ก็คือ เจ้าแมวตัวน้อยตัวนี้ ดังนั้น ผมเลยตัดสินใจที่จะพามันไปด้วย” Richard กล่าว Richard และ Willow ได้เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2017 นี้ ทั้งคู่ได้เดินทางท่องเที่ยวครบทั้ง 6 รัฐ และ 2 ดินแดนของออสเตรเลีย ด้วยระยะทางกว่า 50,000…
-
ภาพบรรยากาศในช่วงสัปดาห์วันชาติจีน เมื่อประชาชนแห่มาเที่ยวที่เดียวกันจนล้น…
ช่วงเทศกาลวันหยุดแห่งชาติ หลายครอบครัวมักวางแผนไปเที่ยวด้วยกันในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ และหากคนส่วนใหญ่มีเป้าหมายอยู่ที่สถานที่เดียวกัน มันจะเกิดอะไรขึ้น!? นีี่คือภาพที่ถ่ายจาก Millennium City Park มณฑลเหอหนานใจกลางประเทศจีน ในช่วง “สัปดาห์ทอง” ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคม แต่ปีนี้ให้หยุดถึง 8 วัน เนื่องจากมีเทศกาล Mid-Autumn ด้วย ในภาพแสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่มาเที่ยวที่ Millennium City Park ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีิทิวทัศน์สวยงาม ที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1998 สำนักข่าว People’s Daily รายงานว่า สวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นกว่า 10 เอเคอร์หรือราวๆ 25 ไร่ แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจนแทบจะไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ จุดที่แออัดกว่าพื้นที่อ่ื่นเห็นจะเป็นสะพานหินของสวนสาธารณะ ผู้คนต่างเบียดเสียดพาตัวเองไปยืนบนนั้น เพราะเป็นที่ที่มองเห็นการแสดงได้เจนที่สุด แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลซักเท่าไหร่ เพราะผู้คนมีมากเกินไป จนทำให้มองเห็นแต่หัวผู้คนแทนที่จะเห็นการแสดงหรือวิวอื่นๆ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาใน Millennium City Park ตลอดทั้ง 8 นี้ พบว่าสูงถึง 705 ล้านคน ทำรายได้กว่า 2,968…
-
26 ภาพเหมียวนักเที่ยว จุดประกายให้คุณพาเจ้าเหมียวของตัวเอง ออกไปท่องโลกกว้าง!!
หลายคนเข้าใจว่าแมวชอบความสงบ ชอบนอนอยู่แต่ในบ้าน แต่จริงๆ แล้ว พวกมันชอบเที่ยวมากกว่านะ สังเกตจากการที่พวกมันชอบหายออกจากบ้านบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ Ryan Carter จึงได้สร้างแคมเปญ @campingwithdogs เป็นแรงบันดาลใจให้คนรักแมวทั่วโลกพาน้องแมวของตัวเองออกไปท่องโลกกว้าง แล้วโพสต์รูปภาพลงอินสตาแกรมพร้อมแฮชแท็ก #campingwithcats ตอนที่เริ่มแคมเปญ แฮชแท็กดังกล่าวถูกใช้แค่ 37 ครั้งเท่านั้น แต่ตอนนี้มันมีมากกว่า 7,000 ครั้งแล้ว 1. ได้รับลมธรรมชาติ หน้านี่ฟินเชียว Ryan บอกว่า “การพาแมวไปเที่ยว ไม่จำเป็นต้องให้มันอยู่แต่ในกระเป๋าตลอดเวลา แต่คุณสามารถใช้เชือกจูงผูกที่คอของมัน เพื่อให้น้องเหมียวได้มีอิสระในการท่องเที่ยว และให้มันผจญภัยในแบบของแมว จะได้รู้ว่าแมวของคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร” และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของแมวเหมียวผู้โชคดีที่เจ้าของพาไปเที่ยว ไปดูกันซิ๊ แต่ละตัวจะมีความสุขขนาดไหน 2. ทัวร์กันเป็นแก๊งค์เลย คงไม่ต้องบอกนะ ใครเป็นหัวหน้าแก๊งค์ 3. มีเต็นท์ส่วนตัวด้วย 4. อิจฉามั้ยล่ะมนุษย์? 5. เปียกๆ ชื้นๆ ไปด้วยกันนี่แหละ 6. ไม่คุ้นกับการนอนนอกบ้านสักเท่าไหร่แฮะ 7. ได้ที่นอนที่ลงตัวจริงๆ…
-
เมื่อทางแคนาดา ให้ทีมงานสตูดิโอเรื่อง Your Name ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยว ว๊าววว..!!
แม้ว่ากระแสของ ‘Your Name’ จะซาไปเยอะแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังคงอินและตรึงตาตรึงใจอยู่ ขอบอกว่าคราวนี้ผลงานจากทีมผู้สร้างเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่อยู่ในรูปแบบที่ต่างออกไป… เพราะจากกระแสความโด่งดังของการ์ตูน บวกกับเนื้อหาที่ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นได้ด้วย จึงทำให้งานนี้ประเทศฝั่งตะวันตกอย่าง ‘แคนาดา’ ถึงกับตกลงจ้างทีมงานจากสตูดิโอ CoMix Wave Films ให้ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวให้เลยทีเดียว ธีมหลักของเรื่องนี้จะเกี่ยวกับคู่รักหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น กับการเดินทางตามหาความสวยงามแห่งธรรมชาติในประเทศแคนาดา แม้ว่าคลิปวิดีโอโปรโมท ‘Warm Winter Canada’ จะมีขนาดความยาวเพียงแค่ 0.31 วินาที… แต่ด้วยลายเส้น รูปแบบ และองค์ประกอบอื่นๆ แล้ว หลังจากที่ได้ชมชาวเน็ตต่างก็รู้สึกหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวใน Your Name อีกครั้ง แม้คำว่า ‘Warm Winter’ ดูจะป็นคำที่เกิดขึ้นได้ยากกับสภาพอากาศของประเทศแคนาดา ทว่าทางทีมงานก็ต้องการจะสื่อสารให้ผู้ชมได้รู้สึกว่า แม้อุณหภูมิจะต่ำแต่การได้ออกเดินทาง การได้มีช่วงเวลาดีๆ ระหว่างท่องเที่ยวในแคนาดา จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนรู้สึกหายหนาวไปในทันใด และนี่คือวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวของแคนาดา ที่มาในแบบของอนิเมะจากฝั่งญี่ปุ่น นอกเหนือจากนั้น ผลงานอนิเมะ…
-
คู่รักนักเดินทาง ถ่ายภาพแต่งงานระหว่างออกเดินทางรอบโลก 5 ทวีปในเวลา 3 ปี!!
ในการถ่ายพรีเวดดิ้งแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ไหนจะค่าชุด ค่าช่างภาพ ค่าเช่าสถานที่ หรือแม้กระทั่งค่าเดินทาง ล้วนแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นได้มากถ้ามีการวางแผนกันเป็นอย่างดี (แต่ไปเสียให้กับการท่องเที่ยวแทน) เหมือนกับคู่รักนักเดินทางคู่นี้ ที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งระหว่างเดินทางด้วยงบที่จำกัด ประเทศกรีซ ชายหนุ่มเล่าว่าเขาและภรรยา Zhu ชอบการเดินทางมากๆ และทั้งคู่ก็มักจะไปด้วยกันทุกที่ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วพวกเขาตัดสินใจจะถ่ายภาพพรีเวดดิ้งระหว่างที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ด้วยงบที่มีจำกัด ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะไม่จ้างช่างภาพแต่เลือกที่จะถ่ายกันเอง โดยเริ่มที่การซื้อชุดแต่งงานคนละชุด Zhu ไปเรียนแต่งหน้าด้วยตัวเอง ส่วนชายหนุ่มก็ได้ซื้อกล้องมาพร้อมเลนส์อีก 2-3 ตัว ที่สำคัญคือขาตั้งกล้อง ประเทศจีน หลังจากที่วางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้วทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปยัง 5 ทวีปทั่วโลกคือ ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปโอเชียเนีย ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา ภายในเวลา 3 ปี ภาพถ่ายส่วนใหญ่จะใช้ขาตั้งกล้องและรีโมท ส่วนภาพที่เหลือได้จากเพื่อนร่วมเดินทางที่อาสาถ่ายให้ ประเทศเวียดนาม ทั้งคู่เลือกถ่ายภาพในสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะแปลกๆ แหล่งมรดกโลก ถ้ำ ท่ามกลางหิมะ และแม้กระทั่งเทือกเขาหิมาลัย…
-
คู่รักแคนาดา เปลี่ยนรถให้กลายเป็น “บ้าน” ออกท่องเที่ยวพร้อมกับเจ้าเหมียวคู่ใจ
หลายคนตั้งเป้าที่จะใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ถึงขั้นมีชีวิตที่หรูหราหรือมองหาโอกาสที่จะก้าวหน้า ทว่าสำหรับ Lisa Felepchuk วัย 33 ปีและแฟนหนุ่ม Coleman Molnar วัย 31 ปี กลับไม่คิดอย่างนั้น ทั้งคู่มีการงานที่ยอดเยี่ยม Lisa เป็นหัวหน้านักเขียนให้กับนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ ที่กำลังมีแผนจะต้องเดินทางไปดูแฟชั่นโชว์ที่ปารีส ส่วน Coleman ก็เป็นนักเขียนให้กับนิตยสารผู้ชายมีชื่อ แถมเขากำลังมีโปรเจคที่ต้องบินไปคุยงานถึงอินเดีย ฟังดูแล้วทั้งคู่นั้นมีชีวิตที่ดีการงานที่กำลังไปด้วยสวย แต่พวกเขากลับรู้สึกว่าไม่ต้องการอะไรแบบนั้น ทั้งคู่ยอมรับงานให้น้อยลง ปฏิเสธงานใหญ่ๆ 5 ถึง 9 งาน เพื่อแลกกับอิสระที่จะได้ท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อมกัน พวกเขาเลยตัดสินใจซื้อรถแวน 1983 VW ในราคา 260,000 บาท ทั้งคู่ตัดสินใจออกเดินทางพร้อมกับเจ้าเหมียวหนึ่งตัว ใช้ชีวิตเดินทางไปเรื่อยๆ ทั่วอเมริกาและแคนาดา แม้ว่าเงินอาจจะน้อยลง งานก็เปลี่ยนเป็นฟรีแลนซ์ แต่พวกเขาก็บอกว่ามันมีความสุขมากขึ้น อิสระมากยิ่งขึ้น นอกจากเรื่องเหตุผลของความอิสระแล้ว พวกเขาบอกว่าทำไมพวกเขาจะต้องทำงานอยู่กับที่ แทนที่จะเลือกออกไปท่องเที่ยวใช้ชีวิตให้สนุกเมื่อตอนยังไม่แก่กัน ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่เข้าท่าเลยล่ะ . . ทั้งคู่บอกว่าการใช้ชีวิตในรถและทำให้มันกลายเป็นดั่งบ้านก็มีความสุขดีเหมือนกัน เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับคุณมีบ้านไปด้วยทุกที่ แม้จะท่องเที่ยวไปบนท้องถนนก็ตาม… …
-
หนุ่มเปลี่ยน “รถพยาบาลมือสอง” ที่ซื้อมาจาก eBay ให้กลายเป็นรถบ้านสุดเจ๋ง
การได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อาจจะเป็นความใฝ่ฝันหลายๆคน ซึ่งรสนิยมความชื่นชอบในการท่องเที่ยวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนชอบเที่ยวแนวผจญภัย บางคนชอบเที่ยวแบบหรูๆ แต่ทุกคนล้วนมีจุดหมายเดียวกันคือการได้ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และหาความสุขใส่ตัวเอง รถบ้านก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการการเที่ยวแบบผจญภัย หรือแคมป์ปิ้ง การนำรถบ้านไปเที่ยวดูเหมือนว่าจะคุ้มสุดๆ เพราะว่าไม่ต้องเสียค่าที่พักแพงๆ แถมยังมีรถขับไปยังที่ต่างๆ อีกด้วย Lan dow หนุ่มผู้ที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เขามักจะหาอะไรใหม่ๆ เสมอ และเมื่อปลายปี 2016 เขาได้เริ่มมองหารถบ้านราคาถูกๆ เพื่อที่จะใช้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่เขาชอบ เนื่องด้วยรถบ้านมีราคาที่สูงมาก เขาจึงมองหาทางใหม่ด้วยการหารถมือสองจากเว็บไซต์ eBay ที่ที่มีสิ่งของทุกอย่างให้เลือกซื้อ และเขาก็ไปสะดุดตากับรถพยาบาลเก่าๆ ในราคาเพียง 93,000 บาทและเขาก็ปิ๊งไอเดียที่จะนำมาสร้างเป็นรถบ้านในสไตล์ของเขานั่นเอง หลังที่จัดการเรื่องเอกสารอะไรต่างๆ พร้อมกับรับรถมาแล้ว เขาก็เริ่มปฏิบัติการแปลงโฉมรถบ้านของเขาทันทีโดยมีกำลังใจมาจากเจ้า Dino ผู้คอยคุมงาน เขาสร้างห้องอาบน้ำกลางแจ้งด้วยการต่อท่อออกด้านข้างของตัวรถพร้อมถังเก็บน้ำขนาด 30 แกลลอนบนหลังคารถ พื้นที่บนหลังคาสามารถดัดแปลงให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ บางทีมันก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นห้องนั่งเล่น หรือสถานที่แฮงค์เอาท์เก๋ๆ ภายในรถก็ออกแบบให้เป็นทั้งห้องนอนและห้องครัวขนาดเล็กๆ รถพยาบาลคันนี้เขาซื้อมาจากองค์กรการกุศลที่ขายรถพยาบาลมือสองผ่านทาง eBays ได้รถแล้วแถมยังได้ช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย…
-
คู่รักนักเดินทางรีโนเวท “เรือเก่าๆ” เป็นเรือรักแสนหวาน ล่องทะเลเที่ยวกันกว่า 4,000 กม.
หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยว นอกจากจะชอบจุดหมายปลายทางแล้ว ก็คงจะต้องชอบระหว่างทางที่เดินทางไปด้วยอย่างแน่นอน และยิ่งเมื่อไปถึงจุดหมาย ปลายทางก็จะยิ่งมีความหมายให้กับคุณมากขึ้นไปอีก จนบางทีอาจเคยคิดกันว่า ย้ายไปอยู่ที่นั่นซะเลยดีมั้ย? เหมือนกับคู่รักสองคนนี้ที่ไม่ได้แค่คิด แต่พวกเขาตัดสินใจทำมันจริงๆ เลย มารู้จักกับ Kelsey และ Joey Coleman กับเรื่องราวความรักที่แสนหวาน และการฮันนีมูนที่สุดแสนประทับใจ จนถึงกับทำให้ทั้งคู่ต้องย้อนกลับไปเก็บข้าวของจากบ้านที่ซานดีเอโก ย้ายไปประเทศนิการากัวกันเลย การผจญภัยสุดมันส์ของทั้งสอง เรื่องราวของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นในตอนที่เรียนมหาลัยเดียวกัน ก่อนที่ความรักในการออกเดินทางของฝ่ายชาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ปีนเขา สิ่งเหล่านั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้หญิงสาวออกมาผจญภัยไปด้วยกันกับเขา พวกเขาสาบานกันมาตั้งแต่ตอนนั้นว่า จะออกเดินทางไปรอบโลกด้วยกัน จนเมื่อเวลาผ่านไป 8 ปี พวกเขาก็ได้ทำมันสำเร็จ และ Joey ก็ได้ขอเธอแต่งงานที่นครวัด ประเทศกัมพูชา และจัดพิธีขึ้นในบ้านเกิดของเขารัฐโคโลราโด ปี 2014 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจจะไปฮันนีมูนกันที่โคลัมเบีย แต่ก็ต้องเกิดปัญหากับเที่ยวบินขึ้นซะก่อน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนและเดินทางไปนิการากัว ตามคำแนะนำของคนในครอบครัวแทน ทั้งคู่เดินทางกันไปรอบโลกแล้ววว . เมื่อไปถึงพวกเขาก็ได้พบกับความอัศจรรย์ชวนให้หลงใหลมากมาย ทั้งเด็กที่กำลังขี่ม้าไปโรงเรียน ชายขายนมบนรถที่ใช้วัวลาก และวิวทิวทัศน์ของชายหาดกับภูเขาไฟสวยๆ มากมาย…
-
ชีวิตอันแสนมหัศจรรย์ กับ 30 วันบนเรือสินค้าในทะเล บอกเล่าผ่านคลิปไทม์แลป 10 นาที
หนึ่งในความใฝ่ฝันที่อยากจะเดินทางรอบโลก อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งอยากทำสำหรับใครหลายคนที่ชื่นชอบการเดินทาง การได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศที่แปลกใหม่ และชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาคงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบการเดินทางแบบเรือ เราก็มีภาพความสวยงามจากคลิปไทม์แลปของการเดินทางตลอดระยะเวลา 1 เดือนบนเรือสินค้า โดยช่างภาพหนุ่มชาวแคนาดามาฝากกัน… ภาพบางส่วนในคลิป ที่เผยให้เห็นถึงความสวยงามในการเดินทางครั้งนี้ คุณ Jeffrey Tsang ช่างภาพและนักเดินทางหนุ่ม ผู้ถ่ายทอดความสวยงามของการเดินทางท่องทะเลด้วยเรือขนส่งสินค้า มาให้พวกเราได้ชมในครั้งนี้ ช่างภาพหนุ่มได้ใช้เวลากว่า 30 วันเพื่อบันทึกภาพถึง 80,000 ภาพ และทำเป็นคลิปวิดีโอแบบไทม์แลปที่มีความยาว 10 นาที “การแล่นเรือในน่านน้ำเปิดครั้งนี้ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับผมเลยทีเดียว และผมหวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนกันนะ” คุณ Jeddrey กล่าว การเดินทางในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ทะเลแดง ก่อนที่เรือจะแล่นไปตามมหาสมุทรอินเดีย ผ่านท่าเรือโคลัมโบประเทศศรีลังกาและประเทศสิงคโปร์ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ฮ่องกง คุณ Jeddrey เล่าถึงทริปการเดินทางครั้งนี้ของเขาว่า “มันน่ามหัศจรรย์มาก ฉากของท้องฟ้าเปลี่ยนไปทุกๆ วัน เรือกำลังแล่นไล่เส้นขอบฟ้าแบบไม่มีที่สิ้นสุด บางวันท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวและทางช้างเผือก บางวันท้องฟ้าก็ดูปลอดโปร่ง และเมื่อถึงท่าเรือ การขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ก็ดูเหมือนกับว่าเรากำลังเล่นเกมตัวต่ออยู่เลยทีเดียว” ชายหนุ่มใช้กล้อง Nikon D750 ในการบันทึกภาพความสวยงามระหว่างการเดินทางครั้งนี้ และภาพทั้งหมดนี้ใช้ความจุมากถึง 1.5 เทราไบต์เลยทีเดียว ไปชมความมหัศจรรย์ของท้องทะเลในคาบสมุทรอินเดียตลอดระยะเวลา 30…
-
20 สุดยอดสถานที่ชม “ใบไม้เปลี่ยนสี” จากรอบโลก คุณต้องตามไปเก็บให้ครบ!!
ช่วงฤดุใบไม้ร่วง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สุดแสนจะอบอุ่นและโรแมนติก ซึ่งถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ชมซีรีส์เกาหลีเรื่อง ออทัม อิน มายฮาร์ท ก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี และวันนี้เราก็มีสถานที่สวยๆ ที่ให้คุณได้ไปสัมผัสความสวยงามของช่วงฤดูใบไม้ร่วงจากทั่วทุกมุมโลกมาฝากกัน ซึ่งแต่ละที่จะน่าไปแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… 1. ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวที่มหานครปารีสนั่นก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง เพราะทั้งความสวยงามของสีใบไม้ที่อยู่รอบๆ ถนน แถมยังเป็นช่วงที่ผู้คนไม่หนาแน่นอีกด้วย!! 2. Million Dollar Highway (ถนนสาย 550), รัฐโคโลราโด ฤดูใบไม้ร่วงในรัฐโคโลราโดนั้นเป็นอะไรที่แสนจะโรแมนติกสุดๆ ที่นี่เปรียบเหมือนกับฤดูร้อนของชาวอินเดียแดง การขับรถตามถนนสาย 550 ที่รายล้อมไปด้วยต้นแอสเพนสีแดงส้มถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว 3. เกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น เกียวโตเป็นเมืองขึ้นชื่อของญี่ปุ่นเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะที่วัดไดโกจิ ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นสถานที่งดงามจนแทบหยุดหายใจเชียวล่ะ 4. Napa Valley, รัฐแคลิฟอร์เนียร์ ที่ Napa Valley นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของการทำไวน์แล้ว ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย 5. Hallstätter See, ประเทศออสเตรีย ทั้งความสวยงามของแม่น้ำที่ตัดกับสีของฤดูใบไม้ร่วง จึงทำให้ Hallstätter See ประเทศออสเตรีย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว …
-
หญิงสาวมีความฝัน อยากใส่ชุดเดรสถ่ายรูปรอบโลก แล้วเธอก็ทำมันออกมาอย่างงดงาม!!
ในอินสตาแกรมของแต่ละคนก็มักจะมีการโพสต์ภาพสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจในแบบฉบับของตัวเอง บางคนก็ชอบโพสต์ภาพเวลาไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ หรือบางคนก็ชอบการแนะนำของกินอร่อยๆ และถ้าหากคุณได้เข้าไปส่องอินสตาแกรมของ Ninelly บล็อกเกอร์สาวจากประเทศรัสเซียคนนี้ คุณจะเห็นได้ว่าภาพในอินตาแกรมของเธอ มีทั้งความสวยงาม และน่าทึ่งสุดๆ เพราะภาพถ่ายของเธอได้ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ออกไปท่องโลกกว้างตามสถานที่อันงดตามทั่วทุกมุมโลก สำหรับ Ninelly เธอเป็นหญิงสาวที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะใส่ชุดเดรสสวยๆ เพื่อถ่ายรูปสถานที่สวยงามต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งต้องบอกเลยว่าผลงานของเธอมีทั้งความน่าตื่นตาตื่นใจ และความงามอย่างเต็มรูปแบบ “ฉันได้ออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อเล่าเรื่องราวของตัวเองด้วยชุดเดรสอันสวยสง่า บางชุดฉันก็สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง และฉันก็พยายามที่จะแสดงวิสัยทัศน์ของฉันที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ภูมิทัศน์ และประเพณีที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งฉันก็ได้พยายามทำให้รูปถ่ายของตัวเอง เต็มไปด้วยเรื่องราวในโลกเทพนิยายที่คุณสามารถอ่านได้จากภาพของฉัน” Ninelly กล่าว และนี่คือชุดภาพส่วนหนึ่งของโปรเจค #MyDressStories ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1.Courmayeur ประเทศอิตาลี 2.Cappadocia ประเทศตุรกี 3.มิลาน ประเทศอิตาลี 4.มหาวิทยาลัยมอสโก ประเทศรัสเซีย 5.Batumi Boulevard ประเทศจอร์เจีย 6.Jaisalmer ประเทศอินเดีย 7.ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย…
-
หนุ่มชาวอังกฤษสุดโหด พานักท่องเที่ยวไปนอนค้างคืนข้างปล่องภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่
หากพูดถึงภูเขาไฟเราก็คงจะนึกถึงความน่ากลัวของลาวา ที่ยังคงปะทุด้วยความร้อนอันมหาศาล โดยเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ แค่คิดอย่างนั้นก็รู้สึกร้อนวูบวาบกันไปหมดแล้ว แต่ว่าสิ่งนั้นก็ไม่ใช้อุปสรรคของช่างภาพและไกด์นำทางที่ชื่อว่า Christopher Horsley เลยแม้แต่น้อย หนุ่มชาวอังกฤษคนนี้ตัดสินใจที่จะพานักปีนเขา ภายใต้การดูแลของตัวเอง ไปนอนค้างคืนกันข้างทะเลสาบลาวา Marum ด้านในภูเขาไฟ Ambrym ประเทศวานูอาตู ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่บ้าระห่ำเอามากๆ แค่เห็นยังหวาดเสียว อีกทั้งเขาก็ได้เก็บภาพเอาไว้มากมาย ด้วยความที่เป็นช่างกล้องมืออาชีพและนักบังคับโดรน ช่วยให้เราสามารถได้เห็นบรรยากาศของบริเวณนั้นในหลากหลายมุมมอง และสวยงามแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าไปถ่ายได้ใกล้ขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าต้องไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะการที่ต้องไปอยู่ข้างใต้ปล่องภูเขาไฟ ที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหิน และลาวาที่กำลังปะทุอยู่ในพื้นที่ความกว้าง 70 เมตร ไม่ ปล่องภูเขาไฟมีอยู่ด้วยกันสองจุดคือ Marum และ Benbow พวกเขาทั้งหมดอยู่กันในจุดแรก สถานที่ตั้งแคมป์บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า ผู้ที่ร่วมทางไปกับเขานั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 คน สองคนเป็นนักท่องเที่ยว และอีกหนึ่งคนคือ Geoff Mackley ผู้บุกเบิกการเดินทางในครั้งนี้ สำหรับ Chirstopher ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเดินทางมาภูเขาไฟแห่งนี้ นี่คือครั้งที่ 3 รวมทั้งหมดเท่ากับว่าเขาใช้เวลามาอยู่บนภูเขาไฟเกือบ 4 เดือนแล้ว สถานที่นี้ทำให้เหมือนกับอยู่บนดาวอังคารได้เลย…
-
จีนผุด QR Code ยักษ์ในมณฑลเหอเป่ย์ ให้สแกนข้อมูลระหว่างบิน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว
ปัจจุบันเรียกได้ว่าเทคโนโลยีนั้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนจะต้องมีการข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน!! และเมื่อไม่นานมานี้หมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศจีนได้ผุดไอเดียเจ๋งๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของพวกเขา โดยการสร้างคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ไว้กลางหมู่บ้าน!! และนี่คือคิวอาร์โค้ดที่ว่านั้น พื้นที่ด้านของของหมู๋บ้าน Xinlinshui ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับนครเป่าติ้งในมณฑลเหอเป่ย์ ได้เปลี่ยนต้นไม้กว่า 130,000 ต้นให้กลายเป็นคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถหยิบโทรศัพท์มาสแกนได้ ระหว่างที่กำลังบินผ่านไปยังเมืองหลวง โดยคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจะลิ้งค์ไปที่หน้าแอพลิเคชั่น WeChat ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการจะสแกนได้นั้นคุณอาจจะต้องใช้ความสามารถหน่อยล่ะนะ ฮ่าๆ อื่ม… เป็นไอเดียที่เจ๋งดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่เปิดกูเกิลแมพแล้วสแกนเอาน่าจะง่ายกว่านะเหมียว!! ที่มา shanghaiist
-
20 ภาพถ่าย “บ้านหลังน้อย” ในเมืองเกียวโต เผยให้เห็นเสน่ห์เล็กๆ ที่ยังคงเฉิดฉายอยู่…
เกียวโตเป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น อุดมไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยวัดโบราณ และอาคารขนาดใหญ่ของราชวงศ์ต่างๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่โตเกียวจะมีตึกสูงเรียงราย เพื่อรองรบนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะสร้างบ้านหลังเล็กๆ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ที่ไม่มีความหรูหราอะไรมาก แต่ดูโดดเด่นไม่แพ้ตึกสูงระฟ้าเลย 1. บ้านหลังเล็กติดถนนใหญ่ เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน John Einarsen ช่างภาพและผู้ก่อตั้งนิตยสาร Kyoto Journal ได้เริ่มโพสต์ภาพชุดที่มีชื่อว่า Small Buildings of Kyoto ลงในอินสตาแกรม ภาพชุดนี้ถ่ายจากกล้องไอโฟนในระหว่างที่ช่างภาพได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น และได้ปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวันเพื่อชมความงดงามของเมืองเกียวโตแห่งนี้ 2. ร้านตัดผมนากาฮารา ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ เขาได้ถ่ายรูปมากกว่า 200 รูป ประกอบไปด้วยรูปบ้าน อาคารธุรกิจเล็กๆ ศาลเจ้า เวิร์คช็อป รวมทั้งโรงน้ำชา ซึ่งแต่ละที่ก็ล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน อาคารเหล่านี้อาจไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร แต่มันก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่างและความงดงามในอีกแง่มุมหนึ่งท่ามกลางเมืองท่องเที่ยวและเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมแห่งนี้ 3. อาคารที่ประดับด้วยกุหลาบแดง 4. บ้านไม้เก่าๆ บนถนนโฮริคาวา 5. ศาลเจ้า Jizo…
-
Rough Guide จัดอันดับ 20 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่คุณควรไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง
ในโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งบางประเทศนั้นมีภูมิประเทศที่ช่างงดงามจนน่าอิจฉามากเลยทีเดียว Rough Guide เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทท่องเที่ยว อีบุ๊ก และบล็อก ได้เผยรายชื่อประเทศที่สวยที่สุดในโลกซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่าน และนี่คือ 20 อันดับที่จัดโดยเว็บไซต์ของ Rough Guide 20. เวียดนาม ประเทศเวียดนามมีภูมิทัศน์ที่งดงาม น่าประทับใจ รวมทั้งทุ่งหญ้าในเทือกเขา Sa Pa ที่มีความงดงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 19. โครเอเชีย โครเอเชียมีสถานที่ที่ขึ้นชื่ออย่าง ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ 18. ไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและน้ำพุที่งดงาม จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 17. นอร์เวย์ ไม่ว่าจเป็นภูเขาน้ำแข็ง เมืองคึกคักไปด้วยผู้คน รวมทั้งแสงเหนือ ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนนอร์เวย์ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกเป็นครั้งที่สอง 16. เปรู เปรูมีภูมิทัศน์ที่น่าสนใจ และมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าฝนที่มีความชื้นตลอดปี ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และทะเลทรายหลายๆ…
-
พาทัวร์โลกกับความสวยงามของ ‘Kelimutu’ ทะเลสาบ 3 สีจากประเทศอินโดนีเซีย
ถ้าหากพูดถึงประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือการเดินป่าศึกษาธรรมชาตินั่นเอง และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจมาแนะนำกัน นั่นก็คือภูเขาไฟ Kelimutu นั่นเอง Kelimutu คือภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะ Flores ในประเทศอินโดนีเซีย ความอัศจรรย์ของที่นี่ก็คือแอ่งน้ำทั้งสามแห่งที่อยู่ในปากปล่องของภูเขาไฟนั่นเอง โดยแอ่งน้ำที่ว่านี้จะมีสีสันที่แตกต่างกันซึ่งเกิดจากการปฏิกริยาเคมีที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยแต่ละทะเลสาบจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วยทะเลสาบแห่งแรกซึ่งห่างจากทะเสสาบอีกสองแห่งประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีชื่อว่า Tiwu Ata Mbupu หรือแปลว่าทะเลสาปแห่งจิตวิญญาณบรรพบุรุษ ส่วนแห่งที่สองชื่อว่า Tiwu Nuwa Muri Koo Fai หรือทะเลสาบจิตวิญญาณของคนหนุ่ม และแห่งสุดท้ายคือ Tiwu Ata Polo หรือทะเลสาบแห่งจิตวิญญาณอันชั่วร้าย ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหินสูงประมาณ 100 เมตร โดยสีในทะเลสาบทั้ง 3 แห่งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอด โดยปรากฏการณ์อันแสนน่ามหัศจรรย์นี้ เกิดจากปริมาณของก๊าซที่อยู่ใต้ดินอย่าง คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไฮโดรเจนคลอไรด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่ปะทุออกมาจากรอบแตกบริเวณก้นทะเลสาบและแร่ธาตุอื่นๆ แต่ทางตำนานกล่าวไว้ว่าสีของทะเลสาบที่เปลี่ยนไปนั้นเกิดพลังเหนือธรรมชาติของบรรพบุรุษ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังคงสวยงามอยู่ดี โดยเวลาที่เหมาะที่จะชมความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้มากที่สุดนั่นก็คือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง โดยในตอนเช้าคุณอาจจะต้องลุกออกจากที่พักประมาณตี 3 ครึ่งและเดินตามเส้นทางเพื่อมาถึงที่นี่ ส่วนใครที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวที่สะเลสาบแห่งนี้ ก็สามารถหาที่พักในเมือง Moni เมืองเล็กๆ ที่ใกล้กับทะเลสาบแห่งนี้ และนอกจากนั้นที่เมืองนี้ยังมีกิจกรรมทางธรรมชาติที่น่าสนใจอย่างการเดินป่า และเล่นน้ำตกอีกด้วย ภาพมุมสูงของทะเลสายทั้ง 3…
-
ทัวร์จีน 6 ล้านคน เตรียมเที่ยว “ไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่งในช่วงสัปดาห์ทองนี้!!
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่มีกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงสัปดาห์ทองของประเทศจีน ซึ่งจะมีวันหยุดติดกันนานถึง 8 วันเลยทีเดียว!! โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ทองของชาวจีนเลยก็ว่าได้ เพราะทางการได้ออกมาประกาศให้เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากเป็นงานเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติของพวกเขานั่นเอง จากการรายงานมีการคาดการกันว่าในช่วงหยุดยาวนี้จะมีชาวจีนออกมาเที่ยวภายในประเทศมากถึง 650 ล้านคน และอีกกว่า 6 ล้านคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศอีกด้วย โดยปกติแล้วชาวจีนจะนิยมวางแผนเที่ยววันหยุดยาวในต่างประเทศประมาณ 4-6 วัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีหลังๆ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้นกลับมีตัวเลขเพิ่มสูงถึง 10 วันต่อทริปเลยทีเดียว ส่วนจากการสำรวจพบว่า 3 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุดในปีนี้ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าประเทศไทยนั้นเป็นเป้าหมายหลักในฝันของชาวจีนหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในประเทศ ญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา จะมีการเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่มีการปรับให้การขอวีซ่านั้นง่ายขึ้น และนอกจากความนิยมในการท่องเที่ยวแล้ว บางพื้นที่ในประเทศจีนเองก็เป็นสถานที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นจังหวัดต่างๆ ในมลฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ประเทศมองโกเลีย เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทางนั่นเอง แบบนี้ใครที่กำลังมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนในช่วงเดือนตุลาคม ก็คงจะต้องวางแผนกันดีๆ ล่ะนะ แต่สำหรับใครที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวหรือค้าขายล่ะก็อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้นะ!!ที่มา chinadaily
-
ร่วมเที่ยวตามรอยสถานที่ใน ‘Game of Thrones’ ประหนึ่งได้ท่องโลก Westeros สุดสวยงาม!!
การได้เดินตามรอยซีรีย์หรือหนังดัง อาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คน เหมือนกับสองบล็อกเกอร์สาวจากฟินแลนด์คู่นี้ คุณ Tiia Ohman และคุณ Satu Walden สองสาวบล็อกเกอร์แนวท่องเที่ยวได้เผยภาพถ่ายเดินตามรอยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์โดยใช้ชื่อโปรเจคว่า Fan Girl Quest โดยสถานที่ในซีรีส์หรือภาพยนตร์ดังต่างๆ สองสาวก็ไปเยือนมาหลากหลายเรื่องแล้ว และคราวนี้ก็ถึงคิวของซีรีส์ดังอย่าง Game of Thrones ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถ่ายทำในประเทศไอร์แลนด์เหนือและไอซ์แลนด์ ซึ่งการตามรอยซีรีย์ดังเรื่องนี้ สองสาวก็ได้แคปเจอร์ภาพของฉากจากแท็บเล็ต และนำไปประกอบกับวิวทิวทัศน์ของสถานที่นั้นๆ ซึ่งทำออกมาได้เป๊ะหมือนกับว่ามีตัวละครเหล่านั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ที่นั่นจริงๆ เลย อ่า… เล่ามาซะขนาดนี้แล้ว อยากเห็นความสวยงามของภาพถ่ายชุดนั้นแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นจะมัวรอช้ากันอยู่ทำไม ไปชมกันได้เลย… อุทยานแห่งชาติ Thingvellir National Park ในประเทศไอซ์แลนด์ . Tollymore Forest Park ประเทศไอร์แลนด์เหนือ The Dark Hedges ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ หนึ่งในต้นไม้ที่เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำ และ Rob Stark ก็เคยมายืนที่ต้นไม้ต้นนี้นะเออ Inch Abbey ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ ก็เป็นอีกหนึ่งฉากถ่ายทำเช่นกัน …
-
ช่างภาพถ่ายภาพ “หญิงงาม” ให้เข้ากับ “สถานที่ท่องเที่ยวรอบโลก” ผสานกันอย่างลงตัว…
Kristina Makeeva ช่างภาพสาวชาวมอสโก ที่มักจะเดินทางไปเก็บภาพถ่ายสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายสุดตระการตาของเมืองมอสโกในช่วงฤดูหนาว รวมถึงภาพถ่ายความงดงามของธรรมชาติ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอได้สร้างสรรค์ผลงานชุดใหม่ๆ ลงในอินสตาแกรม ก็มีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างมากมาย จนในตอนนี้มีผู้เข้าไปติดตามในไอจีของเธอมากว่า 300,000 คนแล้ว ล่าสุด Kristina ก็ได้เผยภาพผลงานชุดใหม่ โดยครั้งนี้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม โดยการถ่ายภาพหญิงสาวกับชุดอันสวยงามผสมผสานกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนทำให้เกิดเป็นภาพเหล่านี้… 1. Cathedral Mosque ใน St. Petersburg ประเทศรัสเซีย 2. Cappadocia ประเทศตุรกี 3. Opéra De Paris, Palais Garnier กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 4. หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 5. Valensole, Provence ประเทศฝรั่งเศส 6. Bolshoi Theatre…
-
พาชม “ห้องพักริมภูเขาไฟ” ในทริปการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและสัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวรวันดา
การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและสูดอากาศที่ปราศจากมลพิษคงจะช่วยเพิ่มพลังและไล่ความเหนื่อยล้าให้กับหลายๆ คนได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้เราก็จะขอพาทกคนไปสัมผัสกับธรรมชาติกันถึงทางตอนเหนือของประเทศรวันดากัน บริษัท Wilderness Safaris บริษัททัวร์ผู้เชี่ยวชาญในการนำเที่ยวในแถบแอฟริกา ได้ลงทุนสร้างที่พักตากอากาศสุดสวยงามนี้ ใกล้กับพื้นที่ของภูเขาไฟในเขตอุทยานแห่งชาติ Volcanoes National Park และนี่คือภาพของบ้านพักตากอากาศที่ว่า นอกจากจะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติแล้ว การออกแบบห้องพักของที่นี่ยังคำนึงถึงความกลมกลืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยพวกเขาหวังให้บ้านพักแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และให้แขกได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตแบบชาวรวันดา คุณ Nick Plewman หัวหน้าของทีมสถาปนิกผู้ออกแบบห้องพักแห่งนี้กล่าวว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่พักอาศัยของชาวเมือง Nyanza ซึ่งเป็นลักษณะของที่พักอาศัยของชนพื้นเมือง นอกจากนี้การตกแต่งภายในยังใช้วัสดุจากธรรมชาติและหินภูเขาไฟเป็นหลักอีกด้วย ส่วนสีภายในนั้นพวกเขาใช้เทคนิคที่เรียกว่า Imigongo ที่เป็นการผสมดินกับสีซึ่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมของชาวรวันดา และนอกจากความสวยงามของที่พักแล้ว แพ็คเกจทัวร์นี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างเช่นการร่วมปลูกป่า และการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับชาวบ้านอีกด้วย และนี่คือบรรยากาศภายในห้องพักที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ . การตกแต่งภายในที่ได้แรงบันดาลใจมาจากที่พักอาศัยของชาวรวันดา . . การบริการอันหรูหราและน่าประทับใจ ที่จะทำให้ทริปการท่องเที่ยวของคุณน่าจดจำไม่น้อยเลยทีเดียว . การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เป็นมิตรกับชุมชน นอกจากจะช่วยมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับคุณแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของที่นี่ด้วย ส่วนใครที่สนใจการท่องเที่ยวทริปนี้ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของการจองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ wilderness-safaris กันได้เลย… ที่มา mymodernmet
-
ฝีมือการแต่งภาพสุดเกรียนที่ทำให้การไปเที่ยวมันน่าจดจำ “หัวใหญ่” กันไปทุกคนเลย
เวลาที่คุยได้ออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก็คงจะต้องมีเพื่อนในกลุ่มซักคนที่จะได้รับหน้าที่ตากล้องประจำกลุ่มไปโดยปริยาย แต่เมื่อการแต่งภาพมันไม่ได้มีแค่การแต่งแสงปรับโฟกัสโน่นนั่นนี่น่ะสิ ไอเดียของคนๆ หนึ่งจึงเกิดมาเป็นภาพน่ารักๆ เหล่านี้ เมื่อหนุ่มชาวอังกฤษ James Nathaniel กับอาชีพวาดภาพแต่งภาพของเขานั้นได้ทำการลงมือสร้างเอกลักษณ์ให้กับรูปที่ถ่ายตอนไปเที่ยวกับเพื่อนของเขาในแถบตอนใต้ของฝรั่งเศส เด็กโข่งชัดๆ เลย กับไอเดียที่ว่า “อยากให้เขาดูแลเพื่อนได้เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง” ก็เลยจัดการแต่งภาพให้ทุกคนหัวใหญ่ไปซะเลย ทำเอาซะเป็นหนังแฟนตาซีคล้ายกับเหล่าฮอบบิทในทันใด และเมื่อเขาได้เอารูปเหล่านั้นลงโซเชียลก็ทำให้ผู้คนต่างมากดไลค์ให้กับภาพของเขากว่า 5 พันคนเลยทีเดียว ฮอบบิทสไตล์ “สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งเมื่อเราโตขึ้นคือเราต้องรู้ว่ายังไงและเมื่อไหร่ที่เราจะต้องทำเหมือนว่าตัวเองเป็นเด็กอีกครั้ง” จากความคิดของเขานั้นจึงออกมาเป็นภาพน่ารักๆ เหล่านี้ น่ารักใสๆ ไกลแค่ไหนก็ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจน Puppy Love กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ ทัศนศึกษาในตอนประถม เมื่อคุณแม่พาลูกชายออกมาเดินเล่น นี่มันเล็กหรือว่าหัวเราใหญ่นะ คนข้างหลังนั่นก็โดนด้วยหรอ อบายมุขคือสิ่งไม่ดีนะครับเด็กๆ ตื่นมาเข้าแถวตอนเช้าเร็ว แป๊บนะ แขนเราโอบไม่รอบหัวนาย การกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหรอกนะ เพราะมันสามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขได้เหมือนกับตอนที่เรายังไม่ต้องคิดอะไรกันให้มากมาย…
-
ตามไปดู… ตั้งแต่เช็คอิน – ขึ้นเครื่อง กับเที่ยวบิน ‘HelloKitty’ ที่เอาใจเหล่าสาวกสีชมพู๊ชมพู
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าการเดินทางนานๆ โดยที่เราต้องนั่งแช่อยู่บนเครื่องบินนานนับ 10 ชั่วโมง เป็นอะไรที่น่าเบื่อ และชวนให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ดีเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ทางสายการบินไต้หวัน Eva Air จึงได้เปิดตัวแคมเปญ ‘บินไปกับ Hello Kitty’ ที่พร้อมจะให้บริการผู้โดยสาร ด้วยเครื่องบินลำพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรัก Hello Kitty เอาเป็นว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นยังไงบ้าง เราลองตามไปดูกันเลย หนึ่งในความพิเศษที่สายการบินอื่นไม่มีก็คือ.. ความสนุกสนานตลอดทั้งการเดินทางนั่นเอง ภายนอกของเครื่องบินจะถูกตกแต่งด้วยลวดลายของ Hello Kitty ทั้งหมด แต่ความสนุกมันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้วล่ะ… นี่คือสภาพตู้เช็คอินของสายการบิน แม้แต่ป้ายของสายการบิน ก็ถูกออกแบบมาให้มีความน่ารัก เหมือนเชิญชวนให้ผู้โดยสารรู้สึกอยากจะถ่ายเซลฟี่ด้วย ตัวอย่างของอุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่องบิน ที่ทั้งหมดจะถูกออกแบบมาให้อยู่ในธีมสีชมพูแบบเดียวกัน แม้แต่บอร์ดดิ้งพาสก็ยังมีลายของคิตตี้ติดอยู่ มาดูที่เก้าอี้กันบ้าง… แค่เดินเข้ามาเห็นพนักพิงเป็นรูปคิตตี้แบบนี้ แฟนๆ ต้องรู้สึกชอบใจมากแน่ๆ ไม่ใช่แค่การตกแต่งเท่านั้น เพราะแม้แต่อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องก็ถูกดีไซน์ให้อยู่ในธีมโลกของคิตตี้ด้วยเหมือนกัน ลองดูหน้าตาอาหารกันแบบชัดๆ สังเกตว่าส่วนใหญ่จะเลือกใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกน่ารักเหมือนกันหมดเลย ทานอาหารจนอิ่มแล้ว ก็ต้องตามด้วยของหวานสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากสายการบิน …
-
เช่าบ้านกระจอกไป ถึงเวลาแล้วที่เราจะมา “เช่าเกาะส่วนตัว” ที่ประเทศเบลีซ วันละ 17,000 เท่านั้น!!
หลายคนคงจะเคยวาดฝันว่าตัวเองเคยอยากจะมีเกาะส่วนตัวไว้พักผ่อนย่อนใจ หรือไว้ฮันนีมูนกับแฟนสาวสักครั้งในชีวิต แต่พอย้อนมาดูความจริงก็กระแทกเข้าที่หน้าก็พบว่าเกาะส่วนตัวมันแพงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เศร้าจัง…) แต่มาวันนี้ความฝันของเพื่อนๆ จะกลายเป็นจริงแล้ว เพราะตอนนี้ทาง AirBnB ได้เปิดตัวเกาะที่ให้เราสามารถเช่าเป็นเจ้าของได้วันเพียงวันละราวๆ 17,000 บาทเท่านั้น ฟังแล้วมันอาจจะดูแพงเมื่อเทียบกับห้องพักติดชายหาดหรูๆ แต่เราลองมาคิดดูจ่ายเท่านี้ได้เป็นเจ้าของเกาะทั้งเกาะในช่วงเวลาทั้งวัน ทั้งเดือน หรือกระทั่งทั้งปี มันก็คุ้มค่าจริงไหม!!? เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเมืองพลาเซนเซีย ซึ่งอยู่ในในประเทศเบลีซ และถ้าใครคิดว่าจองเช่าเกาะไปแล้วมันจะเต็ม ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตัวเกาะยังคงเปิดให้เช่ายาวไปจนถึงปี 2019 เลยล่ะ นอกจากนั้นพอลองถามประสบการณ์จากคนที่ได้ไปสัมผัสมาแล้วเช่น คุณ Olivia ที่เล่าว่า “เกาะแห่งนี้มันดีตามคำโฆษณาจริงๆ นะ ไม่มีความรู้สึกไหนดีกว่าการได้อยู่บนเกาะส่วนตัวแล้วใช้ชีวิตสงบๆ แบบนี้อีกแล้ว” หรือจะเป็น Matt ที่บอกว่า “ไม่มีสถานที่ฮันนีมูนไหนเยี่ยมไปกว่านี้แล้ว การได้ตกปลา และดำน้ำรอบๆ เกาะส่วนตัวของตัวเอง มันสุดยอดจริงๆ” . . ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกสนใจอยากจะลองไปเช่าดูสักสองสามคืน ก็เข้าไปที่ airbnb แล้วลองอ่านรายละเอียดดูได้เลย ถ้าได้ไปยังไงก็อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์กันนะ… ที่มา: ladbible
-
คู่รักลงมือเปลี่ยน ‘แคมป์เปอร์แวน’ ให้กลายเป็นบ้านสวยๆ ด้วยเงินเพียงแค่ 43,000 บาท
การได้ออกไปท่องเที่ยวกับรถบ้านในฝัน คงจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งไอเดียการดัดแปลงรถบ้านเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาและต้นทุนเพียงน้อยนิดเท่านั้น ครอบครัว Morgans ใช้เวลาเพียงแค่ 6 สัปดาห์และเงินเพียงแค่ 43,000 บาทเท่านั้น พวกเขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในการดัดแปลงรถบ้านปี 80 คันเก่าๆ ให้กลายเป็นที่พักอาศัยเคลื่อนที่สวยๆ ขึ้นมาทันตา นี่คือโฉมหน้าของรถคันนี้ก่อนและหลังการดัดแปลง หลังจากที่แต่งงานกันได้ไม่นาน Scott และ Ellie ตัดสินใจจะออกไปท่องเที่ยวโลกกว้าง หลังจากความตั้งใจที่จะมีลูกสาวของพวกเขาต้องกลายเป็นเพียงความฝัน ทั้งคู่ได้พบรถบ้านเก่าๆ คันนี้จากคนแปลกหน้า และได้เริ่มโน้มน้าวใจเขา จนในที่สุดทั้งสองก็ได้รถคันนี้มาครอบครอง คุณ Scott เริ่มตรวจสอบสภาพของรถ ก่อนที่จะแปลงสภาพของมัน ชายหนุ่มเริ่มจากการติดตั้งฉนวนกันความร้อนภายในรถตู้ของเขา เพื่อช่วยป้องกันอุณภูมิจากภายนอก ทั้งคู่ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ทั้งงานฝีมือ งานช่าง และการตกแต่ง Ellie ฝึกฝีมือการเย็บผ้า เพื่อใช้ในการทำผ้าหุ้มเบาะรถบ้านคันใหม่ของพวกเขา การตกแต่งภายในที่ดูสวยงามและดูอบอุ่น ลองนึกภาพว่าคุณตื่นมาในรถคันนี้ในตอนเช้าที่สดใสดูสิ และนี่คือวิวที่มองออกไปจากตัวรถ นอกจากในส่วนของที่พักแล้ว รถบ้านคันเล็กๆ นี้ยังมีมุมห้องครัวอีกด้วย และนี่คือโต๊ะสำหรับทั้งสองคน…
-
เว็บต่างชาติยกย่อง “เชียงใหม่” เมืองน่าอยู่อันดับ 3 ของโลก เคียงคู่ เกียวโต-ฟลอเรนซ์
ไม่นานมานี้เว็บไซต์ Traveland Leisure ได้มีการเปิดให้ผู้อ่านในเว็บไซต์ของพวกเขาโหวตเมืองที่สุดยอดที่สุดในโลกกัน ซึ่งพวกเขาก็จะทำการโหวตกันเป็นประจำทุกปี แต่ใครจะเชื่อว่าผลโหวตนี้กลับมีเมืองจากประเทศไทยติดด้วย!!? ซึ่งอันดับที่ว่านี้ถูกจัดในหัวข้อที่ว่า 15 อันดับเมืองที่คนคิดว่าดีที่สุดในโลก ถ้าให้เพื่อนๆ ลองคิดเล่นๆ คิดว่าเมืองไหนในไทยจะติดอันดันกัน? แล้วอันดับที่จะติดมันจะเท่าไหร่กันนะ? ซึ่งทาง Traveland Leisure ก็ได้บอกใบ้ว่าอันดับส่วนใหญ่ที่ติดมา ก็ล้วนจะเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเสียส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่นเมือง San Miguel de Allende จากประเทศ Mexico ซึ่งเป็นเมืองที่ที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานพอสมควร แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปทันสมัยขึ้นแค่ไหน แต่ก็จะมีหลายส่วนของเมืองที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของประวัติศาสตร์นั่นเอง เอาล่ะ เกริ่นกันมาเยอะแล้ว เรามาดูกัน 15 อันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลก ที่ถูกจัดอันดับโดนผู้อ่านจาก Traveland Leisure กันเลยดีกว่า ว่าแต่ละเมืองจะได้คะแนนเท่าไหร่กัน… 15. Barcelona, Spain ได้คะแนนเฉลี่ย 89.52 14. Udaipur, India ได้คะแนนเฉลี่ย 89.54 13. Siem Reap, Cambodia ได้คะแนนเฉลี่ย 89.57 12. Rome, Italy ได้คะแนนเฉลี่ย 89.73 …
-
นักท่องเที่ยวมือบอน ใช้หินทุบสะพานกระจกที่เพิ่งสร้างเสร็จ ร้าวจนเสียวสันหลังวาบ…
เมื่อวันที่ 1 กรฎาคม 2017 ได้มีการเปิดใช้สะพานแก้วแห่งหนึ่งในเมือง Fengbin ประเทศไต้หวัน และหลังจากวันก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้เข้ามาร่วมชมความสวยงามและทดสอบความแข็งแรงของสะพานดังกล่าวด้วย แต่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวผู้หนึ่งจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการร่วมทดสอบ ว่าความหมายที่แท้จริงแล้วก็คือการเดินเฉยๆ แต่พี่แกดันเล่นเอาหินมาทุ่มใส่ ทำเอาสะพานกระจกถึงกับร้าวเลยทีเดียว และนี่คือสภาพของกระจกที่เกิดจากการทดสอบด้วยก้อนหิน!! สะพานแก้วแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาในมลฑล Hualien ซึ่งมีความยาวทั้งสิ้น 150 เมตร และสูงจากพื้นดิน 50 เมตร โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 3 ปีด้วยกัน แต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2017 หลังจากที่เปิดใช้งานได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ สะพานดังกล่าวก็ต้องถูกสั่งปิดหลังจากเจ้าหน้าที่พบว่ากระจกบานหนึ่งเกิดการร้าวเนื่องจากมีหินหล่นใส่ กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งได้ใช้ก้อนหินทุบลงไปที่แผ่นกระจกก่อนที่จะหลบหนีออกไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดสะพานเพื่อทำการซ่อมแซม และหลังจากนั้นสะพานแก้วแห่งนี้ก็เปิดให้ใช้บริการอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น บ่อยครั้งที่สะพานแก้วแบบนี้มักจะได้รับความเสียหาย ทั้งจากธรรมชาติและนักท่องเที่ยว อย่างเช่นเมื่อปี 2015 สะพานแก้วที่ภูเขา Yuntai นั้นก็เคยได้รับความเสียหายจากการที่หินหล่นใส่เช่นกัน ที่มา shanghaiist
-
ชีวิตน่าอิจฉาของชายหนุ่มผู้กล้าทำตามฝันของตัวเอง ด้วยการ “ท่องเที่ยว” ปีละ 6 เดือน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำงานเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญของชีวิตเรา เพราะถ้าหากไม่ได้ทำงานแล้วแน่นอนว่าจะเอาเงินที่ไหนมายาไส้กันล่ะครับ!! แต่การที่จะต้องทำงานไปตลอดทั้งวันจนไม่มีวันหยุดพักเลยก็ดูจะผิดมนุษย์ไปหน่อยเหมือนกันนะ อ่า.. อาจจะสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าความพอดีเนี่ยมันอยู่ตรงไหนกัน?? ถ้าหากใครอยากละลองหาความพอดีของการทำงานและการใช้ชีวิตนั้น ลองไปพบกับเรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ได้เลย… พบกับ Benedict หรือ Ultra Romance ชายหนุ่มวัย 35 ปี ที่ทำงานครึ่งปีและหยุดครึ่งปี Benedict ค้นพบว่าการทำงานหนักตลอดทั้งปีนั้นมันดูจะผิดธรรมชาติมนุษย์ไปหน่อย ทุกวันนี้ Benedict ทำอาชีพคนตกปลาและเปิดให้เช่าเรือหาปลา ในแต่ละปีเขาจะทำงานหนักเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และใช้เวลาอีกครึ่งปีที่เหลือออกไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติ แต่การเดินทางท่องโลกกว้างของเขานั้นไม่ได้ใช้ค่าใช่จ่ายที่สูงแต่อย่างใด บางวันเขาใช้เงินในการท่องเที่ยวเพียงแค่ 350 บาทเท่านั้น เขาเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะในการท่องเที่ยว สำภาระทุกอย่างถูกบรรทุกไว้กับจักรยานคู่ใจของเขา Benedict บอกว่า “ชีวิตธรรมดานั้นไม่ใช่ผม ผมจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และกำลังจะได้เป็นครูสอนพละ แต่แล้วภาพของอนาคตที่แสนน่าเบื่อก็ผุดขึ้นมาในหัวผม ซึ่งชีวิตแบบนั้นผมไม่ต้องการมันซักนิด” ในแต่ละปี Benedict จะมีรายได้จากการทำธุรกิจเรือของเขาประมาณ 300,000 บาท ถึงแม้จะไม่ใช่เงินที่มากมายแต่นี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา เขาบอกว่าตัวเขาเองนั้นเป็นชาวประมงและใช้เวลาส่วนมากไปกับการหาปลาซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถเลี้ยงชีพตัวเองได้ ซึ่งมันแตกต่างกับพนักงานที่ต้องทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ทั่วๆ ไป …
-
‘Sleep Bus’ บริการรถบัสระดับ 5 ดาว ให้เป็นโรงแรมเคลื่อนที่ พร้อมพาเดินทางข้ามเมือง!!
ทุกๆ ครั้งที่ต้องเดินทางไกลๆ การได้พักอยู่บนรถที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย คงจะเพิ่มความสนุกให้กับการเดินทางไม่น้อยเลยนะว่าไหม?? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาการเดินทางข้ามจังหวัดที่ไม่ใช่การเดินทางด้วยเครื่องบิน ตัวเลือกที่มักจะมาเป็นอันดับหนึ่งก็คือรถทัวร์หรือรถบัสโดยสารขนาดใหญ่ และด้วยเหตุผลทางด้านการเดินทางอันยาวนานหลายชั่วโมง ก็คงจะทำให้ต้องนั่งอยู่ในรถน๊าน นานจนเกิดความอึดอัด แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้าหากว่ารถบัสสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ดีกว่านี้ได้ อย่างเช่น Sleep Bus คันนี้แหละ!! บริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่จากเมืองแคลิฟอร์เนีย ผู้เป็นเจ้าของรถบัสคันดังกล่าว ได้ปฏิวัตการเดินทางไกลด้วยรถบัสสุดหรูคันนี้ พวกเขาจะมอบประสบการณ์ระดับโรงแรม 5 ดาวให้กับคุณระหว่างการเดินทางไกล 650 กิโลเมตรจากเมืองซานฟรานซิสโกไปยังเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งทั้งหมดนั้นมีค่าใช้จ่ายเพียง 4000 บาทเท่านั้น ห้องพักสุดหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในรถที่เตรียมไว้สำหรับผู้โดยสาร รถคันดังกล่าวจะมีเวลาการเดินทางที่แน่นอน โดยจะเริ่มออกเดินทางจากซานฟรานซิสโก หรือ ลอสแอนเจลิส เวลา 5 ทุ่มและจะไปถึงปลายทางในเวลา 7 โมงเช้า ภายในรถจะมีห้องนอนทั้งสิ้น 24 ห้อง และยังมีห้องโถงสำหรับสังสรรค์ของคุณและเพื่อนๆ นอกจากนี้ในรถยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งอินเตอร์เน็ตไร้สาย และห้องน้ำที่สุดแสนจะทันสมัย ห้องนอนจำนวน 24 ห้องที่เตรียมไว้สำหรับบริการลูกค้า เตียงนอน ที่อุดหู และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เตรียมไว้ในที่พัก …
-
ช่างภาพตามเก็บภาพสถานที่สวยๆ จากทั่วโลก และนำมาผสมผสานทั้งสองขั้วได้อย่างลงตัว
ในแต่ละปี เราจะได้เห็นภาพถ่ายที่น่าสนใจของช่างภาพจากทั่วโลกมากมาย ซึ่งมันมีทั้งภาพถ่ายที่ดูแปลกตา น่าตื่นตาตื่นใจ สวยงาม ฯลฯ และในครั้งนี้เราจะขอพาคุณมารับชมภาพถ่ายโลกคนละขั้ว ที่ถูกนำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวบ้าง สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ เป็นผลงานของช่างภาพผู้ใช้อินสตาแกรมที่ชื่อ howfarfromhome พวกเขาได้เดินทางไปสำรวจสถานที่ต่างๆ รอบโลกมาเป็นเวลาถึง 2 ปี และได้ไปเยือนประเทศต่างๆ มาแล้วกว่า 40 ประเทศ พร้อมกับเก็บภาพสวยๆ มามากถึง 14,000 ภาพ ซึ่งหลังจากที่ได้เก็บภาพจากรอบโลกมาแล้วทั้งหมด เขาก็ได้สังเกตเห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างภูมิประเทศและวิวทิวทัศน์ของสถานที่ต่างๆ และนั่นก็ทำให้เขาได้ปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ในการนำสถานที่เหล่านั้นมาผสมผสานให้กลายเป็นภาพเดียวกัน และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของเขา… 1.Bryce Canyon ในประเทศสหรัฐอเมริกา และทิวเขาโดโลไมท์ ในประเทศอิตาลี 2.ทาวเวอร์บริดจ์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และสะพานบรูคลิน ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 3.อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ในประเทศแคนาดา และอุทยานแห่งชาติ Tsitsikamma ในประเทศแอฟริกาใต้ 4.ดอกฟลอร่า จากประเทศออสเตรเลีย และดอกบาหลี ในประเทศอินโดนีเซีย 5.ป่าในประเทศนอร์เวย์ และป่าไผ่ในประเทศญี่ปุ่น…
-
สาวขาพิการ แต่ยังไม่หยุดความฝัน “เดินทางทั่วยุโรป” พร้อมเขียนชื่อเมืองลงบนขาเทียม
หลายคนมักคิดว่าความพิการของร่างกายเป็นตัวฉุดที่ทำให้สูญเสียความฝันไป แต่จริงๆ แล้วถ้าคุณมีใจที่มุ่งมั่นและลงมือทำ ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจฉุดคุณได้หรอก เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ แม้จะขาพิการ แต่ไม่หยุดความฝัน เธอตัดสินใจท่องเที่ยวทั่วยุโรป พร้อมเขียนชื่อเมืองต่างๆ ลงบนขาเทียม หญิงสาวคนนี้ใช้ชื่อว่า devgal ในเว็บไซต์ Reddit ทุกเมืองที่เดินทางไปเธอจะถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนั้นๆ พร้อมใช้ชอล์กเขียนชื่อเมืองไว้บนขาเทียมด้วยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ในการทำตามความฝันเช่นเดียวกับเธอ devgal เกิดมาพร้อมโรคกระดูก ทำให้เธอต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่งตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้หยุดทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หญิงสาวบอกว่า “จริงๆ แล้วความพิการไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดหรอก แต่ตรงข้ามมันทำให้ฉันมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนทั่วไป และมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำตามความฝันด้วย” นี่จึงเป็นเหตุผลให้หญิงสาวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่รู้สึกถึงความบกพร่องทางร่างกาย เราหลายๆ คนก็ควรจะคิดแบบนี้เช่นกันนะ . . . . . . . . . . . . ที่มา huffingtonpost l aplus l imgur l boredpanda
-
ชาวนอร์เวย์ร่วมลงเงินบูรณะ ‘ผากระปู๋’ อันเลื่องชื่อ มีมือดีบังอาจมาตัดแท่งหินยื่นออก!!
ประเทศนอร์เวย์ เป็นหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนสวยงาม รวมไปถึง Trollpikken หน้าผาหินหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘หน้าผาจู๋’ อันขึ้นชื่อของที่นี่ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าผาอันแสนลือชื่อนี้ก็ต้องเหลือเป็นเพียงตำนาน หลังจากส่วนหินที่ยื่นออกมานั้นได้หายไปอย่างลึกลับ ทำให้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ถึงกับงงเลยทีเดียว หลังจากที่ทราบข่าวการหายไปของตำนานหน้าผา Trollpikken นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบสถานที่ดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ชายคนนี้ถึงกับอารมณ์เสียเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าหินส่วนที่ยื่นออกมานั้นหายไป อีกหนึ่งเสียงจากชาวเน็ต ที่ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว จากการรายงานของสำนักข่าว Huffington Post บอกว่าการหักของแท่งหินดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือของใครบางคนจากการใช้เครืองมืออย่างสว่านยักษ์ หรือไม่ก็อุปกรณ์ที่ทรงพลังมากๆ เพื่อที่จะตัดหินส่วนที่ยื่นออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามชาวนอร์เวย์ผู้หวงแหนในแท่งหินดังกล่าว ได้ร่วมกันลงขันเพื่อบูรณะฟื้นฟูหินก้อนนี้ผ่านทางเว็บไซต์ระดมทุน ซึ่งตอนนี้มียอดเงินบริจาคแล้วถึง 20,000 เหรียญหรือประมาณ 600,000 บาท โดยงบประมาณของเงินที่ใช้ไป 1 ใน 3 นั้นจะหมดไปกับค่าเช่าเฮลิคอปเตอร์สำหรับการยกแท่งหินดังกล่าวกลับขึ้นมา และในเงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้สำหรับกระบวนการบูรณะประกอบหินเข้าตำแหน่งเดิม โถสงสารเจ้าหินจริงๆ เลยนะเนี่ย ใครกันหนอมาเฉือนกล่องดวงใจมันได้ลงคอ ฮืออ.. ที่มา distractify, globalnews, huffingtonpost
-
สถานที่ที่เต็มไปด้วย “ผีเสื้อ” นับพันในไซบีเรีย ที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยว ดั่งในเทพนิยาย!!!
ความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความหลงใหล และชอบการท่องเที่ยวแบบนี้ ทั้งความสวยงามของป่าไม้ และความน่าทึ่งของเหล่าสัตว์ตัวน้อยๆ ที่อยู่ในสถานที่เหล่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยให้เห็นถึงความแปลกของธรรมชาติอีกครั้ง เมื่อมีเหล่านักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพของฝูงผีเสื้อนับพันตัว ที่อพยพมายังที่ไซบีเรีย ซึ่งสร้างความตื่นตาเตื่นใจให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก ภาพของฝูงผีเสื้อที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนไซบีเรีย นักท่องเที่ยวต่างตื่นตาตื่นใจเมื่อได้พบกับฝูงผีเสื้อนับพันตัว ในระหว่างเส้นทางชมธรรมชาติในไซบีเรีย ภาพของผีเสื้อสีขาวที่เกาะอยู่ตามที่ต่างๆ ช่วยทำให้ที่นี่สวยงามขึ้นมาทันที ทางด้านผู้เชียวชาญได้ออกมาบอกว่า ผีเสื้อเหล่านี้จัดอยู่ในสายพันธุ์ที่มีชื่อทางวิทยศาสตร์ว่า Aporia crataegi โดยพวกมันจะอพยพมาที่นี่ในทุกๆ ปี ลักษณะของพวกผีเสื้อนั้นจะมีปีกสีขาวพร้อมกับแถบสีดำหนา พวกมันช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี หนึ่งในภาพของผีเสื้อเหล่านี้ถูกถ่ายโดยคุณ Sasha Ware วัย 22 ปี ใกล้ๆ กับฟาร์มของเขาใน เมือง Novosibirsk ปกติผีเสื้อเหล่านี้จะพบได้มากใกล้ๆ กับเมือง Tomsk คุณ Vladimir Romanenko หนึ่งในผู้เชียวชาญด้านแมลงจากมหาวิทยาลัย Tomsk State University บอกว่าพวกผีเสื้อเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี . ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในปี 2016 จำนวนของผีเสื้อเหล่านี้ยังมีอยู่ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่สำหรับปีนี้มันกลับเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว “มันเป็นเรื่องธรรมดาของแมลงส่วนใหญ่ที่จะมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปี สำหรับผีเสื้อสีขาวดำเหล่านี้อาจจะยังไม่ถึงช่วงที่โตเต็มที่ แต่ตอนนี้พวกมันก็มีจำนวนมากเหลือเกิน” คุณ Romanenko กล่าว…
-
หนุ่มฝรั่งเศสถ่ายทอดความน่ากลัวของ ‘โรงแรมผี’ ณ เกาะบาหลี ที่ถูกธรรมชาติทวงคืน…
เกาะบาหลี หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน และแน่นอนเมื่อขึ้นชื่อว่าเกาะแห่งการท่องเที่ยว ก็ย่อมที่จะมีการลงทุนต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างโรงแรมหรือห้องพัก ช่างภาพชาวฝรั่งเศสคุณ Romain Veillon ผู้ที่เคยไปเยื่อนสถานที่รกร้างมากมายทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น เมืองผีที่ประเทศนามิเบีย หรือซากอารยธรรมของโซเวียตในประเทศบัลแกเรีย ซึ่งล่าสุดนี้เขาก็ได้ฝากผลงานชุดใหม่ที่เต็มไปด้วยความหลอน ด้วยการเข้าไปถ่ายภาพของโรงแรมร้างแห่งหนึ่งบนเกาะบาหลี ชายหนุ่มได้ใช้เทคนิคการถ่ายภาพของเขาในการรวบรวมภาพของโรงแรมร้างแห่งหนึ่งบนเกาะบาหลี ไว้ในชุดภาพถ่าย โดยใช้ชื่อว่า “The Ghost Hotel” ซึ่งผลงานชุดดังกล่าวให้อารมณ์ความรู้สึกน่ากลัวได้ดีเลยทีเดียว และนี่คือผลงานของช่างภาพหนุ่มผู้นี้ที่เรานำมาฝากกัน โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบาหลี ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน Bedugul ห่างจากเมือง Denpasar ประมาณ 40 กิโลเมตร ประวัติความเป็นมาของโรงแรมแห่งนี้ไม่มีใครทราบได้แน่ชัด ช่างภาพหนุ่มของเราได้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยจากคำบอกเล่าของชาวบ้านเท่านั้น “ที่แห่งนี้มีเรื่องราวลึกลับมากมาย ทั้งการก่อสร้างโดยเจ้าของคนก่อนและตำนานแปลกๆ ของที่นี่” คุณ Veillon กล่าว หนึ่งในตำนานลึกลับของที่นี่ก็คือ มักจะมีผู้พบเห็นวิญญาณหรือผีในโรงแรมแห่งนี้ จากข้อมูลที่ได้มา ช่างภาพหนุ่มกล่าวว่า ที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงการลงทุนของ Tommy Suharto ลูกชายคนสุดท้องของอดีตประธานาธิปดีอินโดนีเซีย แต่หลังจากที่ Suharto ถูกจำคุก 15 ปีในคดีพัวพันกับการฆ่าผู้พิากษาที่ฟ้องร้องเขาเรื่องการทุจริต เมื่อช่วงปี 2000 ที่นี่ก็ถูกทิ้งร้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…
-
คู่รักนักเดินทางวัย 26 ปี ออกเดินทางทำตามฝัน เริ่มเที่ยวรอบโลกด้วยรถแวนคันน้อย!!
ทุกวันนี้กระแสการออกไปท่องเที่ยวนั้นดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากการที่เราได้เห็นหลายๆ คนที่ผันตัวกลายมาเป็นนักเดินทางพร้อมกับรีวิวที่เที่ยวแบบชิคๆ คูลๆ ผ่านหน้าฟีดเฟซบุ๊คหรืออินสตราแกรม และคู่รักสองคนที่เราจะพาไปรู้จักวันนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่การเที่ยวของพวกเขานั้นดูจะไม่ค่อยเหมือนกับนักเดินทางในโลกอินเตอร์เน็ตสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาเลือกที่จะท่องเที่ยวไปกับรถแวนคันเก่าเพื่อชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆ Sabrina และ Jimmy Horel สองคู่รักวัย 26 ปี จากเมือง Montclair รัฐแคลิฟอร์เนีย และแคว้น Brittany ประเทศฝรั่งเศส ได้อาศัยอยู่ในรถโฟล์คสวาเกนสุดคลาสสิคมาเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีแล้ว Sabrina เล่าถึงประสบการณ์เดินทางของพวกเขาว่า “ระหว่างการเดินทางเราผ่านเรื่องดีๆ และเรื่องแย่ๆ มาด้วยกันมากมาย แน่นอนว่าการเที่ยวด้วยรถตู้แบบนี้อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของความสะดวกสบาย แต่มันกลับให้อิสระในการท่องเที่ยวได้มากกว่า” ถึงแม้ว่าจะเจอกับอุปสรรค์มากมายระหว่างการเดินทางไม่ว่าจะเป็นการถูกตำรวจมาเคาะที่ประตูเพื่อไล่ การรบกวนจากแมลงและยุงต่างๆ อากาศภายในรถที่ร้อนอบอ้าว หรืออาการงอแงของเจ้ารถตู้ แต่มันก็คุ้มค่ากับความสวยงามและความน่าทึ่งของสถานที่ท่องเที่ยว พวกเขาเหมือนชนเผ่าเร่ร่อนในยุคใหม่ ในทุกๆ วันทั้งคู่จะได้พบเจอกับวิวที่แตกต่างกันออกไป Sabrina และ Jimmy มีความสุขในการดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบ Peyto ในแคนาดา และการได้นอนดูดาวที่ลานเกลือ Bonneville ในรัฐยูทาห์ ภาพของสิ่งรอบๆ ตัวนั้นเปลี่ยนไปทุกๆ วัน . ทั้งสองเดินทางด้วยเจ้ารถแวนคันเล็กมาแล้วกว่า 4,800 กิโลเมตร ทั้งสองพบกันในบาร์แห่งหนึ่งที่แคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานด้วยกัน จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มทำงานและเก็บเงินเพื่อทำตามความฝัน หลังจากที่ทำงานได้ซักพักและเริ่มมีเงินเก็บมากพอสมควรแล้ว Sabrina และ Jimmy จึงลาออกจากงานและเริ่มต้นการเดินทาง …
-
พาชมบรรยากาศสำนักงานใหญ่ของ Lucasfilm จุดกำเนิดของภาพยนตร์ชุด Star Wars
สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทัวร์ชมบรรยากาศในสำนักงานใหญ่ของบริษัท Lucasfilm ที่ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของรัฐ California ว่าจุดกำเนิดของหนังชื่อดังอย่าง Star Wars และ Indiana Jones เป็นอย่างไร Letterman Digital And New Media Arts Center ตั้งอยู่ในเมือง San Francisco นอกจากจะถูกใช้งานเป็นสำนักงานใหญ่ของ Lucasfilm แล้วยังเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงโชว์ผลงานภาพยนตร์หนังของพวกเขาอีกด้วย ที่ Letterman Digital And New Media Arts Center แห่งนี้มีเนื้อที่มากกว่า 93,000 ตารางเมตร (23 เอเคอร์) ซึ่งทาง Lucasfilm ได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลกว่า 12,000 ล้านบาทเพื่อสร้างมันขึ้นมาในปี 2005 ปัจจุบันมีพนักงานทำงานอยู่ที่นี่มากกว่า 1,500 ชีวิต ทุกอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจในเครือของ Lucasfilm ทั้งการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค, อุตสาหกรรมภาพยนตร์,…
-
เมื่อค้นหาภาพเมืองหลวงต่างๆ ใน Google แต่ละภาพที่ได้นั้น งดงามประชันกันได้เลย!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการเข้าเว็บไซต์ Google คงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันกันไปแล้ว แต่เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่าหากเราเสิร์ชหารูปภาพของเมืองหลวงในแต่ละประเทศ เราจะได้พบเจอกับภาพใดเป็นภาพแรก? จะเป็นภาพชูโรงให้เราได้เห็นถึงความงดงามจนเกิดความรู้สึกว่าอยากไปเที่ยวเลยรึเปล่า? หรือว่าเป็นแค่ภาพธรรมด๊าธรรมดาที่ดูแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ก็ลองไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างนี้เลยจ้า… 1. Stockholm ประเทศสวีเดน 2. Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ 3. Berlin ประเทศเยอรมนี 4. Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน 5. Budapest ประเทศฮังการี 6. Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก 7. Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 8. Moscow ประเทศรัสเซีย 9. Lisbon ประเทศโปรตุเกส 10. Havana ประเทศคิวบา 11. Astana…
-
สาวเพิ่งเลิกกับแฟน แต่อยากอัพรูปคู่ต่อ ก็เลยตัดหน้า Zac Efron มาใส่แทนแฟนเก่าซะ!!
Baylee Woodward สาววัย 19 ปี ที่เพิ่งจะผ่านช่วงเหตุการที่น่าประทับใจที่สุดมาเมื่อปีที่แล้ว เพราะเธอออกไปท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ รอบโลก หลังจากที่ต้องทำงานเก็บเงินอย่างหนักบนเรือสำราญมาอย่างยาวนาน Baylee เล่าว่าเธอได้เดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ มากกว่า 12 ประเทศ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเทศที่เป็นเกาะที่อยู่ในทะเล Caribbean แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์ที่รักการท่องเที่ยวของเธอนั้นจะทำให้เธอมีรูปภาพสวยๆ อัพลงบนอินสตาแกรมมากมาย ซึ่งภาพต่างๆ เหล่านั้นก็เป็นฝีมือการถ่ายของแฟนเก่าของเธอที่เป็นคู่เที่ยวมาตลอด น่าเศร้าที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้จบลงไปแล้ว Baylee เล่าว่าแฟนเก่าของเธอนั้นเป็นเจ้านายที่ทำงานอยู่บนเรือสำราญด้วยกัน แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไล่เธอออกซะงั้น!? “การเลิกกันในครั้งนี้มันเป็นเรี่องที่แย่มาก เพราะเขาเป็นเพื่อนเที่ยวของฉันมาตลอดทั้งปี พวกเราอยู่ด้วยกันแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง และตอนนี้เขาก็ไล่ฉันออกมาจากที่ที่เคยอยู่” เธอเล่า แต่ถึงอย่างนั้น Baylee ก็ยังคงอยากที่จะอัพรูปสวยๆ จากการเดินทางไปท่องเที่ยวของเธอต่อไป แต่ได้เพิ่มความพิเศษเข้ามาในภาพด้วยการตัดต่อรูปของ Zac Efron ดาราคนโปรดของเธอลงไปด้วย เธอตัดใบหน้าของ Zac มาแปะทับลงไปบนใบหน้าของแฟนเก่าเธอ ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งคู่ไปออกเดทด้วยกันยังไงยังงั้นเลยล่ะ Baylee เล่าว่าเธอตัดสินใจที่จะทำมุ่งไปข้างหน้า และเมื่อเธอมองกลับมาดูรูปภาพเก่าๆ ก็จะทำให้เธอหัวเราะมีความสุขไปกับมันแทนที่จะมานั่งเศร้าเสียใจ …
-
ศูนย์พักพิงบนเกาะสวรรค์และเหล่าตูบ เหมาะที่จะไปเที่ยวพร้อมกับน้องหมาเกือบร้อย!!
ถ้าคุณเป็นคนชอบหาดทรายสวยๆ ทะเลสีครามบวกเข้ากับเหล่าสุนัขที่แสนน่ารักๆ แล้วยังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้ากับความชอบดังกล่าวไม่ได้ซักที เราก็ขอนำเสนอหมู่เกาะแสนสวยที่มีทุกสิ่งที่กล่าวไปมาให้คุณได้ฉ่ำหัวใจกัน!! เกาะที่ว่านี้มีชื่อว่าหมู่เกาะเติกส์และเคคอสตั้งอยู่ใน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะย่อยในเขตร้อน 2 หมู่เกาะ ได้แก่ หมู่เกาะเคคอสและหมู่เกาะเติกส์ ซึ่งที่แห่งนี้ล้วนมีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม และที่สำคัญก็ยังมีศูนย์พักพิงสุนัขที่มีเหล่าสุนัขน่ารักๆ เพียบ . Potcake Place เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่สร้างโดยการรวมต่อของอาสาสมัครหลากหลายคน และที่แห่งนี้มีสุนัขในการเลี้ยงดูมากกว่า 50 ถึง 70 ตัว!! แถมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็สามารถขอรับพวกมันไปเลี้ยงได้อีกด้วย แถมในหนึ่งปีที่นี่ยังเลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว . สุนัขสายพันธุ์หลักๆ ที่ศูนย์เลี้ยงดูอยู่ก็จะประกอบด้วย แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์,เยอรมันเชเพิร์ด และอิงลิชฟอกซ์เทอร์เรีย แน่นอนว่าพวกมันเป็นสุนัขที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยละ ถ้าใครสนใจและได้แวะไปที่เกาะแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะไปที่ Potcake Place ล่ะ เผื่อถ้าถูกใจน้องหมาตัวไหนจะได้รับมาเลี้ยงซักตัวสองตัว . ที่มา ladbible
-
รัฐบาลอินโดใช้เงินไม่ถึงล้านเปลี่ยน “สลัม” ให้กลายเป็นหมู่บ้านสีรุ้งสุดสวย ดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ
สำหรับใครที่ชอบการท่องเที่ยวและกำลังมองหาสถานที่สวยๆ ในต่างแดนละก็ไม่ควรพลาดสถานที่ที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาฝากกันวันนี้เลยล่ะ เพราะนอกจากความสวยงามแล้วยังอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยเราอีกด้วย ขอแนะนำให้รู้จักหมู่บ้านสีรุ่งในประเทศอินโดนีเซีย ชมความสวยงามและเสน่ห์ของหมู่บ้านนี้ได้จากรายละเอียดข้างล่างเลย หมู่บ้าน Pelangi ในประเทศอินโดนีเซียหรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมู่บ้านสายรุ้ง” ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่มีสีสันสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยทีเดียว ที่นี่ประกอบด้วยบ้านเรือนกว่า 232 หลังคาเรือน แต่ละหลังจะถูกทาสีด้วยสีสันที่สดใสและตกแต่งด้วยภาพศิลปะที่บริเวณกำแพงบ้าน ที่นี่เป็นหนึ่งในโครงการของรัฐบาลอินโดนีเซียที่ต้องการที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอีกด้วย รัฐบาลใช้ประมาณ 700,000 บาทในการแปลงโฉมสลัมแห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ว่าหมู่บ้านนี้ไม่ได้เป็นเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่รัฐมีส่วนเข้ามาพัฒนา แต่ยังมีสลัมอื่นๆ อีกด้วยที่รัฐยื่นมือเข้าช่วยเหลือ อย่างเช่นหมู่บ้าน Kali Code ในเมือง Yogyakarta และหมู่บ้าน Tridi ในเมือง Malang อีกด้วย “เราหวังว่าหมู่บ้าน Pelangi ของเราจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศอินโดนีเซีย” คุณ Slamet Widodo ผู้ริเริ่มโปรเจคนี้กล่าว โอโห ทั้งสวยงามและน่าไปมากเลยนะเนี่ย แบบนี้คงจะถูกใจนักเดินทางหลายคนเลยใช่ไหมล่ะ?? ที่มา hellogiggles
-
ชวนคุยกับแอดมินเพจ “เที่ยวทั้งบ้าน” เพจรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ “ม่วน” ที่สุดในขณะนี้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหากใครได้เล่นอินเตอร์เน็ตหรือเฟซบุ๊ก คุณอาจจะได้เห็นคลิปรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวคลิปหนึ่ง เผยให้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของคุณลุงคนหนึ่ง ที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก ลองชิมเบียร์นอกเป็นครั้งแรก เจอหิมะเป็นครั้งแรก และอีกสารพัดครั้งแรกในต่างแดน ทำเอาชาวเน็ตต่างชุ่มชื่นหัวใจไปตามๆ กัน หากใครยังไม่เคยดู #เหมียวฟิ้นขอแนะนำให้กดดูก่อน ตอนนี้ยอดวิวพุ่งไป 5.2 ล้านครั้งแล้วด้วย ด้วยปฏิกิริยาน่ารักๆ ของคุณลุง #เหมียวฟิ้น ก็เลยอดไม่ได้ที่จะเข้าไปกดถูกใจเพจเที่ยวทั้งบ้าน เพื่อติดตามดูข้อมูลการท่องเที่ยวและการรีวิวน่ารักๆ แบบนี้อีก เลยเถิดไปถึงขั้นอยากชวนแอดมินอย่างคุณ สิทธิวิชญ์ เจริญรัชต์ภิญโญ (คุณเบส) มาพูดคุยถึงไอเดีย ที่มาที่ไปรวมถึงเรื่องฮาๆ ของคุณลุงในคลิปกันสักเล็กน้อย เหมียวฟิ้น: ขอถามไอเดียแรกเริ่มก่อนนะครับ ว่าเพจ “เที่ยวทั้งบ้าน” ถือกำเนิดมาได้ยังไงครับ? คุณเบส: อยากเก็บเรื่องราวการท่องเที่ยวส่วนตัวครับ แต่พอทำให้ตัวเองแล้วก็คิดว่าแชร์ข้อมูลให้คนอื่นด้วยเลยดีกว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะเหมือนกับบังคับตัวเองไปในตัวว่าเราต้อง ทำคลิป แต่งรูปอะไร ไม่ใช่ดองไว้เหมือนที่เคยๆ ไปเที่ยวมาครับ เหมียวฟิ้น: คือตอนนี้เพจดังขึ้นมากเลย ส่วนตัวผมเองมารู้จักเพจนี้ก็เพราะคุณลุงเลยครับ ผมเองก็เป็นคนเหนือเหมือนกันเลยอินเป็นพิเศษ 555+ ไม่ทราบว่าคุณลุงชื่ออะไรเหรอครับ คุณเบส: เดชครับ อายุ 59 เหมียวฟิ้น: คุณลุงไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลยใช่ไหมครับ? ดูแกตื่นเต้นมาก คุณเบส: ไม่เคยครับ เคยแต่ไปรบเพราะเป็นทหารเก่า555…
-
หญิงสาวอดไปทะเลกับชาวแก๊ง แต่ก็ไม่ย่อท้อ ตัดต่อยัดตัวเองเข้าไปร่วมทริปในนี้ด้วย…
การได้เที่ยวกับเพื่อนๆ หรือออกทริปกับแก๊งคนรู้ใจคงจะเป็นอะไรที่น่าสนุกไม่น้อยเลยทีเดียวนะว่ามั้น แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราวางแผนเที่ยวไว้ล่วงหน้ายาวๆ ก็มักจะเกิดเหตุการณ์เทกะทันหันแทบทุกที เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่เธอและก๊วนเพื่อนได้วางแผนกันเพื่อไปเที่ยวทะเลในช่วงหน้าร้อน แต่ทว่าเมื่อถึงวันเดินทางเธอดันมีงานด่วน ทำให้ต้องพลาดทริปนี้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ตัวเธอก็อยากรู้สึกหายไปในทริปนี้ ก็เลยใช้ฝีมือโฟโต้ชอปสุดเทพตัดต่อภาพของตัวเองใส่เข้าไปในทุกกิจกรรมที่พวกเขาไป แต่ละภาพจะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย…. 1. ถึงแม้จะไม่ได้ไปด้วยแต่เธอก็มีรูปถ่ายกับเพื่อนๆ เหมือนกัน ฮ่าๆ 2. เพื่อนๆ ของเธอก็ช่างหาภาพมาตัดต่อจริงๆ เลยนะเนี่ย 3. โผล่มาจากซองขนมก็มีนะ แถมเตรียมแว่นดำมาพร้อมเลยนะเนี่ย 4. อ้าว.. ไปหลบทำไมตรงนั้นล่ะ 5. รูปนี้เนียนไปอีกนะเนี่ย 6. เปลี่ยนชุดไปห้อยโหนแทน 7. แหม่ มาแอบอยู่ใต้โต๊ะนี่เอง ทำไมไม่ออกมาสนุกด้วยกันล่ะ?? 8. แนะ เปลี่ยนชุดอีกละ สงสัยจะพกมาหลายชุดสินะ 9. โอโห ภาพนี้มาแบบหลอนๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ 10. ท่าทางจะกลัวเพื่อนเล่นน้ำจนหิว เลยซื้อพิซซ่ามาฝากสินะ…
-
Oatman เมืองสุดคลาสสิกบนถนน Route 66 ที่ประชากรหลักเป็นลา ลา และลา เต็มไปหมด!!
ส่วนใหญ่หนังคาวบอยเราจะเห็นเมืองต่างๆ ที่มีผับมีบาร์รวมถึงบ้านคนที่เป็นไม้เก่าๆ ดูคลาสสิก ส่วนคนก็จะขี่ม้าไปมาในเมือง แต่เคยคิดไหมว่าจะมีเมืองแนวนั้นอยู่ทว่าเปลี่ยนจากม้าให้กลายเป็นลาแทน?!! อ่านดูแล้วอาจจะคิดว่าบ้า.. เป็นเมืองคาวบอยทำไมถึงเปลี่ยนม้าเป็นลาล่ะ!? แต่เมือง Oatman เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ เมือง Oatman ตั้งอยู่บนถนนสาย Route 66 อันโด่งดังในรัฐแอริโซนาประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังคงกลิ่นอายความเป็นคาวบอยด้วยสิ่งก่อสร้างแบบดั่งเดิม แต่ที่ต่างก็คงจะเป็นเมืองแห่งนี้จะมีลาเดินเดินเพ่นพ่านเต็มถนนไปหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิมก็เพราะว่า ผลพวงจากเมือง Laughlin ในรัฐเนวาด้าที่เป็นเมืองคาสิโนและมีประชากรมากขึ้น ทางเมืองจึงอยากจะระบายผู้คนโดยการโปรโมทเมืองอื่นๆ และ Oatman ก็ได้ผลประโยชน์จากส่วนนั้นนั่นเอง ส่วนต้นตอของประชากรลาภายในเมืองมันเริ่มมาจากลาที่หลงฝูง รวมถึงลาที่เป็นลูกหลานของฝูงลาในยุคบุกเบิกขณะที่ชาวเมืองยังคงขุดแร่เป็นหลัก และพวกมันก็แพร่พันธุ์ในเมืองแห่งนี้จนมีทายาทอยู่เต็มไปหมด จนถึงตอนนี้พวกมันก็ได้รับการคุ้มของจากกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ยืนดูรถซ้ายขวาว่าจังหวะไหนข้ามได้แล้วบ้าง รถหยุดให้แล้ว จังหวะนี้แหละข้ามเลยย.. ถ้าใครคิดว่าลาพวกนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเมือง ก็ต้องบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะลาที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้พวกมันฉลาดมากๆ มันเรียนรู้ว่าเวลาไหนควรจะข้ามถนน จุดไหนคือจุดกินอาหาร รวมถึงจำสถานที่โปรดของพวกมันได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีป้ายประกาศสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อย้ำเตือนให้ระวังลาภายในเมือง อยู่ทั่วห้างร้านและรอบๆ ตัวเมืองอีกด้วย จุดให้อาหารลาที่พวกมันรู้ดีว่าถ้ามาตรงนี้ได้กินอาหารแน่นอน บางตัวก็จะถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้คนในเมือง..อย่างเจ้าตัวนี้จะมีชื่อว่า Harley หรือจะเป็นเจ้าลูกลาตัวนี้ที่กำลังหลับอยู่บนถนน น่ารักไหมล่ะ ถ้าคุณมาที่นี่รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนชอบลาขึ้นมาทันที เพราะมีทั้งพ่อแม่ลูกลาอยู่เต็มไปหมด แถมบางตัวก็ดูลายน่ารักซะขนาดนี้…
-
20 เหตุผลที่ว่า… ทำไมคุณควรไปสัมผัส “นิวซีแลนด์” ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต!!
ประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องนกกีวีแล้ว ยังขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มันสวยงามซะราวกับเป็นสวรรค์บนดิน และนี่คือ 20 เหตุผลที่เราเอามายั่วคุณผู้อ่านว่า ทำไมครั้งหนึ่งในชีวิตเราควรไปสัมผัสให้ได้ซักครั้ง เพราะแม้แต่ผู้กำกับ Peter Jackson ยังเลือกใช้ที่นี่สำหรับถ่ายทำ Lord Of The Rings เลยนะเออ 1. เพราะควีนส์ทาวน์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกิจกรรมโลดโผนอันน่าตื่นเต้น 2. ใช้เวลาเดิน 30 นาทีขึ้นไปบนหุบเขาของควีนส์ทาวน์ ก็มองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองแล้ว 3. บันจี้จัมพ์เป็นกิจกรรมที่ขึ้นชื่อสุดๆ มีจุดกระโดดที่สูงที่สุดในโลกอยู่ที่เมืองนี้ด้วยเช่นกัน 4. ที่ Shotover River มีบ่อออนเซ็นพร้อมทิวทัศน์แบบเมืองหนาวคอยให้บริการอยู่ด้วยนะ 5. หรือจะซื้อบริการทัวร์กับเรือครุยซ์ ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนบนทะเลสาป พร้อมกับตื่นมาชมวิวที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ 6. ฝั่งตะวันตกของควีนส์ทาวน์มีถนนที่ชื่อว่า Glenorchy มีวิวฝั่งขวาเป็นภูเขาเขียวขจี ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทะเลมหาสมุทร 7. เลยไปอีกหน่อยทางตะวันตกของถนน Glenorchy เราจะได้พบกับช่องแคบ Milford Sound ในอุทยานแห่งชาติ Fiordland 8.…
-
9 เทศกาลสำหรับคนชอบขว้างชอบสาด ใครสายนี้ต้องไม่พลาด ไปแจมสักครั้งในชีวิต!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบในการขว้างปาสิ่งของ หรือมีแฟนที่ปาของทุกทีที่ทะเลาะกันบ่อยๆ #เหมียวมู่ทู่ ขอแนะนำ 9 เทศกาลจากทั่วโลก รับรองว่ามันจะต้องเหมาะและสามารถใช้ทักษะการปาของได้ดีแน่นอน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าเทศกาลที่จะนำเสนอจะจัดขึ้นปีละครั้งทุกงานนะ ถ้าอยากไปก็ต้องจัดแจงตารางวางโปรแกรมให้ดี แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็เตรียมตัวบินลัดฟ้าไปลุยกันได้เลย… (ส่วนคำแนะนำในการเข้าร่วมของเทศกาลแนวนี้ก็มีอย่างเดียวคือ อย่าลืมป้องกันลูกตาให้ดีนะจ๊ะ) 1 . Gulal Throwing Festival จัดขึ้นที่ประเทศอินเดีย Gulal เป็นชื่อของผงสีชนิดหนึ่งที่มีสีสันสดใส ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม ผงชนิดนี้จะถูกนำมาใช้ในเทศกาลปาสีและมีอยู่เต็มไปหมดเพื่อเป็นการเฉลิงฉลองเทศกาลโฮลี 2. Grape Throwing Festival จัดขึ้นที่ประเทศสเปน เป็นที่รู้กันว่าชาวสเปนชื่นชอบและรักไวน์ของพวกเขามากๆ แม้แต่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Pobla del Duc ก็ยังชื่นชอบในผลผลิตของพวกเขามากๆ เลย ด้วยเหตุนี้พวกเขาก็เลยจะจัดเทศกาลปาองุ่นกันในช่วงสิงหาคมของทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว ส่วนชื่อจริงๆ ของเทศกาลนี้จะมีชื่อในภาษาสเปนว่า La Raima ในวันงานจะมีการแจกจ่ายองุ่นให้กับนักท่องเที่ยวมากถึง 90 ตัน จากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกนั่นเอง 3. Tomatina Throwing Festival จัดขึ้นที่ประเทศสเปน อีกหนึ่งเทศกาลจากประเทศสเปน กับเทศกาลปามะเขือเทศซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในเทศกาลสายปาที่มีคนรู้จักมากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเทศกาลนี้จะมีชื่อท้องถิ่นว่างาน La Tomatina และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะมารวมกันที่หมู่บ้านเล็ก Bunol มากถึง…
-
บรรยากาศ The Shambles ตรอกยุคกลางของอังกฤษ ที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี…
สำหรับใครที่เคยดูหนังเรื่อง Pirate of the Caribbean คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับถนนหรือตรอกต่างๆ ในยุคกลาง ที่มักจะเป็นที่พบปะกันของผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเหล้า หรือถ้ายังนึกไม่ออกก็ลองนึกถึงตรอกไดแอกอน ที่พ่อมดน้อยแฮร์รี่เดินทางไปซื้ออุปกรณ์การเรียนเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์นั่นแหละ และวันนี้เราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะสวยงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่น่าไปเก็บภาพมาอัพเดทลงอินสตาแกรมไว้อวดเพื่อนๆ นั่นก็คือ ตรอก Shambles ถนนสายเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลาง จะสวยงามและน่าไปแค่ไหนไปชมกันเลย… สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง York เมืองที่มีอายุกว่า 2,000 ปีและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก Shambles เป็นถนนที่ยังคงถูกอนุรักษ์เอาไว้ เต็มไปด้วยอาคารและสิ่งก่อสร้างอันเก่าแก่ บางหลังเริ่มสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 กันเลยทีเดียว!! ชื่อของถนนเส้นนี้ มาจากภาษาในยุคกลางที่แปลว่า “โรงฆ่าสัตว์” หรือที่นี่อาจรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “The Great Flesh Shambles” ซึ่งอาจจะมาจากภาษาของชาวแองเกิลส์ กลุ่มคนที่เดินทางมาตั้งถิ่นฐานในประเทศอังกฤษ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน แต่เดิมในปี ค.ศ. 1862 มีร้านขายเนื้อตั้งอยู่บนถนนสายนี้กว่า 26 ร้าน ซึ่งในที่แห่งนี้คุณจะสังเกตเห็นร่องน้ำที่หน้าอาคารในตลอดถนนเส้นนี้ นั่นมีไว้เพื่อให้ร้านขายเนื้อได้ทำการล้างสิ่งปฏิกูลอย่างเศษเนื้อหรือเลือดลงไปนั่นเอง และตอนนี้ถึงแม้ว่าร้านขายเนื้อจะหายไปจากถนนสายนี้แล้ว แต่ก็ร้านค้าต่างๆ ก็ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของร้านขายเนื้อแบบเดิมอยู่ อย่างเช่นตะขอและตู้กระจกสำหรับแขวนเนื้อ ร่องน้ำที่อยู่หน้าร้านค้า ใช้ในการระบายสิ่งปฏิกูลอย่างเช่นเลือดและเศษเนื้อ โครงสร้างบางส่วนของอาคารยังคงเป็นวัสดุแบบเดิมในสมัยก่อน .…
-
สื่อนอกจัดอันดับ 10 เมือง “โคมแดง” ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการค้าประเวณีและแหล่งโลกีย์
โสเภณีอาจเป็นอาชีที่ผิดกฏหมายในหลายๆ ประเทศ แต่ในบางประเทศอาจเป็นอาชีพที่ถูกกฏหมาย การค้าประเวณีถือว่าเป็นเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการค้ามนุษย์แล้ว การซื้อบริการทางเพศจากเด็กก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ดีอีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้สื่อต่างชาติ Therichest ได้จัดอันดับเกี่ยวกับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการค้าประเวณีอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ลองไปดูมุมมองของพวกเขาดีกว่า ว่าประเทศใดบ้างที่พวกเขาจัดให้เป็น “เมืองเซ็กส์ทัวร์” อันดับ 10. สาธารณรัฐโดมินิกัน เป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบทะเลคาร์ริเบียนที่การค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฏหมาย มีผู้หญิงขายบริการที่นี่กว่า 60,000 ถึง 100,000 คนและโดยส่วนมากเป็นชาวเฮติ แต่สิ่งที่น่าเศร้ามากที่สุดก็คือหญิงขายบริการของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจมาเที่ยวที่โดมินิกัน อาจเป็เพราะการเดินทางที่ง่ายเนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ระหว่างอเมริกาและยุโรป อันดับที่ 9. ประเทศ กัมพูชา ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะมีกฏหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการค้าประเวณี แต่ในความจริงนั้นตรงกันข้าม ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการมาเที่ยวเซ็กส์ทัวร์ ปัจจุบันกัมพูชากำลังประสบกับปัญหาการค้าประเวณีเด็กอยู่ ความยากจนของครอบครัวบีบให้พ่อแม่ต้องส่งลูกเข้าสู่วงการด้านมืดนี้ อันดับที่ 8. ประเทศ เนเธอร์แลนด์ กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นอีกเมืองที่มีการค้าประเวณีสูงที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับป้ายไฟสีแดงริมถนนที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้เป็นอย่างดี มันเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณทราบว่าร้านที่ประดับด้วยป้ายไฟนีออนสีแดง มีการขายบริการอยู่หลายรูปแบบเช่นการอาบน้ำโชว์ เต้นอะโกโก้ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่นี่อาชีพโสเภณีเป็นสิ่งถูกกฎหมายและได้รับการดูแลด้านสวัสดิการอย่างดี อันดับที่ 7. ประเทศ เคนย่า สำหรับคนที่ชอบความเสี่ยงที่นี่อาจจะเหมาะกับคุณ เคนย่าก็เหมือนกับประเทศต่างๆ…
-
ชายหนุ่มขับรถทั่วนิวซีแลนด์ 8,000 กิโลเมตร เพื่อเก็บภาพที่จะบอกไงดี คือมันสวยมากอ่ะ!!
Jacob Laukaitis ชายหนุ่มผู้หลงรักการเดินทาง ได้ออกท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะได้นำสถานที่ต่างๆ ที่เคยไป มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราว พร้อมกับบันทึกภาพสุดประทับใจเหล่านั้นเก็บเอาไว้ และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาก็ได้มีโอกาสออกไปเที่ยวชมสถานที่อันงดงามหลายแห่งด้วยกัน แถมยังได้ยินผู้คนเล่าอีกว่า นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยความอยากรู้ จึงทำให้ Jacob ได้ตัดสินใจ ออกเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศนิวซีแลนด์ซะเลย พร้อมกับได้มาเล่าประสบการณ์ในการผจญภัยครั้งนี้ให้เราได้ฟังอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยว่า ประเทศนี้จะสามารถทำให้เขาประทับใจได้มากขนาดไหน ก่อนออกผจญภัย Jacob ได้เล่าว่า เขาได้บินไปยังโอ๊คแลนด์ เพื่อซื้อรถยนต์ Mazda SUV ปี 1996 จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทั่วนิวซีแลนด์ “ผมรู้ว่าประเทศนี้ต้องสวยงามแน่ๆ แต่ก็ไม่เคยคาดหวังว่าโลกนี้จริงๆ เป็นอย่างไร” สถานที่แรกที่ไปคือ จุดที่เหนือที่สุดของนิวซีแลนด์ จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทางใต้ และไม่กี่วันต่อมา ผมก็ได้เดินทางไปยังภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศ (ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำ ประตูดำแห่งมอร์ดอร์ ในภาพยนตร์เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ นั่นเอง) เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็ได้เดินทางไปยัง Tongariro Crossing…
-
คู่รักนักท่องเที่ยว เผยวิธีการถ่ายรูปอย่างไรให้ได้เงิน ภาพละไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท!?
Jack Morris และ Lauren Bullen คู่รักที่ใครต่อใครต่างก็อิจฉา สำหรับใครที่ติดตามอินสตาแกรมของพวกเขาอยู่แล้ว ก็จะรู้กันดีว่าทั้งคู่มักจะอัพรูปภาพไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รอบโลกด้วยกันอยู่เสมอ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ภาพแต่ละภาพที่เขาโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมนั้นมีมูลค่ามากกว่า 300,000 บาทเลยทีเดียว!! ด้วยผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 2 ล้านคน สำหรับบัญชีของ Jack เพียงคนเดียว และบัญชีของ Lauren อีก 1.2 ล้านคน จากรายได้ต่อภาพที่โพสต์ลงอินสตาแกรม ทำให้ทั้งคู่มีเงินมากพอจนสร้างบริษัทการท่องเที่ยวเป็นของตัวเองได้ และนำเงินที่ได้มาสนับสนุนในการท่องเที่ยวไปรอบโลก และนี่เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยที่ทำให้นาย Jack ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวอย่างทุกวันนี้ มาแชร์ให้พวกเราได้รู้กัน “ผมทำการแก้ไขรูปภาพทุกภาพให้มีลักษณะและสไตล์ที่คล้ายกัน ผ่านโปรแกรม Lightroom โดยใช้โทนสีแบบที่ดูเหมือนฝันและจินตนาการในการแต่งรูปภาพ และการเลือกช่วงเวลาถ่ายภาพ มักจะเป็นช่วงเย็นๆ ที่แสงสลัวๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการถ่ายทำ ซึ่งแต่ละภาพจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว” . .…
-
เยี่ยมชม Tsunoshima Ōhashi หนึ่งในสะพานที่ “สวยงามที่สุด” แห่งดินแดนปลาดิบ!!
ใกล้จะถึงช่วงหยุดยาวสงกรานต์แล้ว มีใครวางแผนเที่ยวที่ไหนกันไว้บ้างไหมเอ่ย!? ถ้าหากว่าใครยังคิดไม่ออกหรือไม่รู้จะไปไหนดี #เหมียวเวจจี้ ขอแนะนำที่เที่ยวอีกที่หนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่มีความสวยงามมากๆ ไว้เป็นอีกตัวเลือกเผื่อใครจะสนใจ สถานที่ที่เรากำลังพูดถึงนี้คือสะพาน Tsunoshima Ōhashi ตั้งอยู่ในเมือง Shimonoseki จังหวัด Yamaguchi ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู สำหรับสะพาน Tsunoshima Ōhashi เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น จากเหตุการณ์ Battle of Dannoura ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่างสองตระกูลที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือตระกูล Genji กับ Heishi เมื่อปีค.ศ. 1185 สะพาน Tsunoshima Ōhashi ถ้าหากแปลตามตัวของมันเลยก็คือ “สะพานยักษ์ของ Tsunoshima “ ซึ่งสะพานนี้ก็ถูกขนานนามว่าเป็นสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ ความสวยงามของสะพานและวิวเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยื่อนที่นี่มากมายในแต่ละปี สะพานนี้ตัดผ่านทะเล ดูสวยงามมากจริงๆ สะพานแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2000 มีความยาวทั้งสิ้น 1,780 เมตร เพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมือง Shimonoseki กับเกาะ Tsunoshima และที่สำคัญก็คือไม่มีการเก็บค่าผ่านทางใดๆ ทั้งสิ้น ช่วงเวลาที่เหมาะที่จะมาเที่ยวชมความสวยงามของสะพานนี้มากที่สุดก็คือช่วงหน้าร้อน ซึ่งการที่จะเที่ยวแบบให้ได้ฟีลมากที่สุดนั้น ก็คงจะเป็นการขับรถกินลมชมวิวล่ะ ตรงนี้คือจุดชมวิวของสะพานแห่งนี้ นี่คือความสวยงามของสะพาน ที่มองจากบริเวณริมชายฝั่ง นี่คือภาพที่ถ่ายมาจากจุดชมวิว สวยงามมากเลยใช่ไหม น้ำทะเลสีฟ้าคราม…
-
“รอยยิ้มจากเกาหลีเหลือ” ผลงานช่างภาพฝรั่ง ที่มีโอกาสไปเยือนดินแดนลึกลับที่สุด
ก็อย่างที่รู้กันว่าประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ นั้นเป็นประเทศปิด สันโดษ และถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ที่นี่มีแต่ความลับเต็มไปหมด เพราะการจะเข้าไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีเหนือเป็นอะไรที่ยุ่งยากเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีภาพบรรยากาศในประเทศเกาหลีเหนือออกมาให้เราได้ชมกันอยู่มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วช่างภาพหลายๆ คนที่เข้าไปถ่ายทำก็มักจะเน้นไปในทิศทางที่ดูหม่นหมอง ดูแล้วเกาหลีเหนือมันช่างไม่น่าอยู่เอาซะเลย สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม ผลงานของช่างภาพ Adam Baidawi ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศแห่งนี้ และถ่ายทอดออกมาในหลายๆ มุม ทั้งความสดใส เข้มงวด ภาพที่บอกเล่าเรื่องราวอะไรได้แทนคำพูดมากมาย และนี่คือผลงานที่เขานำมาอวดให้ชาวเน็ตอย่างเราได้รับชม… ช่างภาพ Adam Baidawi ได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีเหนือมาเมื่อปีก่อน และเขาก็คิดว่าที่นี่ช่างมีเสน่ห์ และดูน่าค้นหาเหลือเกิน รูปปั้นของท่านผู้นำที่ตั้งตระหง่าน และดูสมจริงราวกับมีชีวิต เด็กๆ นักเรียนที่ดูมีความสุขสนุกสนาน โถงที่นั่งที่ดูมีสีสันสดใส น่าใช้บริการ งานจุดพลุราวกับว่าเฉลิมฉลองอะไรกันซักอย่าง สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เมืองที่มีตึกเต็มไปหมด ดูราวกับว่าเป็นมหานครยังไงยังงั้นเลย เป็นสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เจ้าหน้าที่ที่ยืนทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง งานเฉลิมฉลอง …
-
รวม 29 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า สูงสุดถึงปีละ 365 วัน!!
สำหรับใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คุณจะรู้เลยว่าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “วีซ่า” แต่นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับใครหลายๆ คน เพราะไหนจะต้องเสียเงินในการขอทำวีซ่า ไหนจะต้องเตรียมเอกสารที่เยอะแยะเต็มไปหมด และเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกมาประกาศยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อที่จะให้คนไทยสามารถเข้าไปเที่ยวในญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว ซึ่งนอกจากญี่ปุ่นแล้ว เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าอีกกว่า 29 ประเทศจากทั่วโลก ที่ได้จับมือกับรัฐบาลไทยเพื่อให้คนไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ ได้โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า โดยใช้เพียงแค่พาสสปอร์ตเท่านั้น งานนี้เชื่อว่าเหล่านักเดินทางทั้งหลาย จะสามารถไปเที่ยวได้แบบสบายๆ เลยละ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีประเทศไหนกันบ้าง กลุ่มที่ 1 ประเทศที่สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน ได้แก่… 1. บรูไน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน 2. กัมพูชา ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน 3. บาห์เรน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน 4. เมียนมาร์ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 21 วัน 5.…
-
ทัวร์พิเศษเพื่อสาวก Titanic ที่จะมีโอกาสได้ไปดำน้ำที่ซากเรือจริง ตามรอยแจ๊คกับโรส
หากพูดถึงภาพยนต์รักโรแมนติกขึ้นมาซักเรื่องนึง เชื่อว่าเรื่อง Titanic ต้องอยู่ในลิสต์ของใครหลายคนแน่ๆ เพราะฉากที่สวยงามและเนื้อเรื่องที่ยังคงอยู่ในใจของใครหลายๆ ซึ่งหลายๆ คนก็คงฝันว่าที่จะได้มีประสบการณ์ในชีวิตซักครั้งแน่ๆ ที่อยากจะลองดำนำ้ไปชมเรือไททานิคตัวจริงใกล้ๆ ดูซักครั้งในชีวิต และวันนี้ความฝันของใครหลายๆ คนกำลังจะเป็นจริงแล้ว เรือสำราญลำใหญ่สุดหรู ที่เป็นจุดเริ่มต้นตำนานรักในนิยายของของแจ๊คกับโรส โดยในปี 2018 ที่กำลังจะถึงนี้ บริษัททัวร์ Blue Marble Private ในประเทศอังกฤษ ได้จัดทัวร์ดำน้ำ 8 วันเข้าไปชมเรือไททานิคที่จมอยู่ลึกเกือบ 4 กิโลเมตรอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้มีโอกาสที่จะได้ร่วมทัวร์ในครั้งนี้นะ เพราะเขาจำกัดเพียง 9 คนเท่านั้นและผู้ที่จะเข้าร่วมท่องเที่ยวได้ ต้องมีประสบการณ์ในการดำน้ำลึกมาก่อนด้วย ทัวร์สุดพิเศษครั้งนี้จะมอบประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ให้กับผู้ร่วมทัวร์ โดยผู้ร่วมเดินทางจะได้ดำน้ำลงไปชม เรือในตำนานที่มีขนาด กว้าง 240 เมตรและสูง 30 เมตรซึ่งจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 1912 ในการชมความสวยงามของเรือนั้น ผู้ร่วมเดินทางจะได้ดำนำ้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้ได้ชมความสวยงามของเรืออย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อให้ลูกทัวร์มีความเข้าใจในการดำน้ำและเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในสองวันแรกจะเป็นการอบรมเกี่ยวกับรายละเอียดของภารกิจในการดำน้ำ จากนั้นในวันที่ 3…
-
13 ภาพถ่ายความงามของ “โอมาน” หนึ่งในประเทศที่คุณควรไปสัมผัส สักครั้งก็ยังดี…
หากกล่าวถึง ประเทศโอมาน หลายๆ คนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นประเทศที่อาจจะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยมากนัก แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า ในความจริงแล้วโอมานเป็นประเทศที่มีสิ่งสวยงาม และมีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอีกมากมาย นอกจากนี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศโอมาน ยังได้ประเทศแผนการที่จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศภายในปี 2583 นี้อีกด้วย และในครั้งนี้เราจะขอนำ 13 ภาพถ่ายอันงดงาม ที่จะมาแสดงให้เห็นว่าประเทศโอมานนั้น น่ามาเที่ยวขนาดไหน อีกทั้งคุณยังจะได้เห็นถึงความหรูหรา และยิ่งใหม่ของสถาปัตยกรรมต่างๆ บอกเลยว่าใครที่ได้เห็นแล้วจะต้องอยากไปเที่ยวแน่นอน โอมานมีสถานที่ทางโบราณคดีมากมาย เช่น เมืองโบราณของ Qalhat ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของ Al Sharqiyya Governorate ของโอมาน อีกทั้งเมืองนี้ยังมีความคล้ายคลึงกับราชอาณาจักร Hormuz ในอิหร่าน โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรม สภาพภูมิอากาศ และภูมิประเทศอีกด้วย โดมสีทองทำ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Muttrah ป้อม Nizwa อันเก่าแก่ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยสุลต่าน Bin Saif…
-
ธุรกิจทัวร์รูปแบบอร่อย เสิร์ฟติ่มซำบนรถบัส ลิ้มรสระดับ “มิชลินสตาร์” ระหว่างทัวร์ฮ่องกง!!
พูดถึงอาหารจีน หนึ่งในเมนูที่หลายๆคนต้องนึกถึง ก็คงหนีไม่พ้นติ่มซัมแน่ แล้วจะฟินแค่ไหน ถ้าได้กินติ่ซัมระดับ มิชลินสตาร์ พร้อมกับชมความสวยงามของเมืองฮ่องกงพร้อมๆกันล่ะ อ่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ สำหรับใครที่กำลังมีแผนที่จะไปเที่ยวฮ่องกง วันนี้เราของนำเสนอ “คริสตรัลบัส” ซึ่งจะพาคุณท่องเที่ยวไปรอบๆเกาะฮ่องกง พร้อมทั้งเสริฟอาหารเย็นเป็น ติ่มซำระดับ มิชลินสตาร์!! ตามชื่อของมัน “คริสตรัลบัส” คือรถบัสสุดหรูที่ประดับตกแต่งด้วย คริสตัลบริสุทธิ์มูลค่าถึง 300,000 ดอลล่าร์ฮ่องกง (1.3 ล้านบาทไทย) พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวีและวีดีโอเกมส์ ครบครันความบันเทิง ซึ่งนอกเหนือจากนั้นแล้ว คุณก็จะได้รับอาหารชุดติ่มซำ 7 อย่าง ที่ถูกปรุงแต่งจากภัคตาคารท้องถิ่นในระดับมิชลินสตาร์ ให้คุณได้ลิ้มรถชาติความอร่อยในระหว่างการนั่งชมเมืองฮ่องกง โดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางสุดพิเศษนี้ สนนราคาอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1,700 บาทเท่านั้น รถบัสคันนี้ สามรถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 47 ที่นั่ง โดยจะแบ่งการเดินทางออกเป็นสองรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นจะอยู่ในบริเวณเมืองเกาลูน และเกาะฮ่องกง …
-
เมื่อเพื่อนแต่งงานมีลูกกันหมด สองหนุ่มก็ชวนกันเที่ยวเมืองไทย ถ่ายรูปจูงมืออวดแม่มเลย!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ประเทศไทย’ นั้นเป็นประเทศที่มีความงดงามทางวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติก็น่าดูชม ทำให้ชาวต่างชาติมากมายหมายคนตัดสินใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทยเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกันกับเพื่อนซี้คู่นี้ที่ที่ตัดสินใจออกไปท่องเที่ยวกัน แทนที่จะไปสร้างครอบครัว มีลูกกัน เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ ทริปเริ่มต้นแล้ว!! “ขณะที่ทุกคนกำลังแต่งงานกัน และมีลูก ผมและเพื่อนสนิท ได้ตัดสินใจที่จะออกไปฮันนีมูนกันสองคนที่ประเทศไทย” ignoreeverythingido สมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์ imgur กล่าว ตอนนี้พวกเราอยูที่หาดต้นไทร พวกเขาออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันตั้งแต่ภาคใต้สุด ยันภาคเหนือเลยทีเดียว ทั้งหาดต้นไทร ถนนคนเดินที่เชียงใหม่ หรือจะเป็นวัดที่เมืองปาย ทั้งคู่ออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน และสร้างให้เป็นฮันนีมูนอันแสนสุข ด้วยการถ่ายรูปแบบจูงมือสุดฮิตที่คู่รักมักจะทำด้วยกันขณะไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ถนนคนเดินเชียงใหม่ ที่ประเทศไทยมีวัดอยู่มากมาย และนี่ก็วัดอีกเช่นกัน (เอ๊ะ นี่มันวัดพระธาตุดอยสุเทพนี่หว่า!?) หาเพื่อนใหม่ที่สระว่ายน้ำในศูนย์อนุรักษ์ช้าง พระพุทธรูปสีขาวที่เมืองปาย ก่อนที่จะมาจบทริปกันที่กรุงเทพมหานคร แหม่ จับมือกันเที่ยวซะขนาดนี้คงจะเป็นแบบ ‘เพื่อนกันมันดี’ แล้วล่ะม๊างงง ฮร่าๆ ที่มา : หมีแพนด้าขี้เบื่อ
-
อินโฟกราฟิคเปรียบเทียบพลัง ‘พาสปอร์ต’ ของชาติไหนจะแข็งแกร่งที่สุดแห่งปี 2017!?
โดยปกติแล้วการที่เราจะเข้าประเทศอื่นๆ ได้นั้น สิ่งที่สำคัญมากที่สุดเลยก็คงหนีไม่พ้น ‘พาสปอร์ต’ นี่แหละ ซึ่งการที่เรามีพาสปอร์ตติดตัวอยู่ก็จะทำให้เราสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามีแค่พาสปอร์ตเพียงอย่างเดียวแล้วจะสามารถเดินทางไปที่ไหนในโลกก็ได้นะ เพราะบางที่ก็ต้องทำวีซ่าเพื่อขอเข้าประเทศด้วย แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมอินโฟกราฟิคแสดงพาสปอร์ตของแต่ละประเทศที่ทรงพลังมากที่สุดประจำปี 2017 แค่มีพาสปอร์ตใบเดียวก็สามารถเดินทางไปทั่วโลกได้แล้วโดยไม่ต้องขอวีซ่าเลย และอันดับหนึ่งของเราก็คือพาสปอร์ตจาก ประเทศเยอรมนี ที่สามารถเดินทางเข้าเข้าประเทศได้ทั้งหมด 176 ประเทศโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า ถือได้ว่าเป็นพาสปอร์ตที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก!! อันดับที่สอง ได้แก่ ประเทศสวีเดน สามารถเดินทางไปได้ถึง 175 ประเทศ ต่อด้วยเดนมาร์ก, ฟินแลนด์, อิตาลี และ สเปน ส่วน สหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในอันดับที่ 3 เดินทางไปได้ 174 ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่สำหรับปีนี้ประเทศอังกฤษตกลงมา 1 อันดับ เพราะโดนยกเลิกสัญญาไป จนทำให้ตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 4 หลังจากที่อยู่ในอันดับ 1 ร่วมกับเยอรมนีมายาวนานร่วม 3 ปี ตั้งแต่ปี 2013…
-
ช่างภาพวัย 16 ตามถ่าย ‘หิมะในสวิตเซอร์แลนด์’ ช่างงดงาม ราวกับโลกเทพนิยายนาร์เนีย
สำหรับคนที่ชื่นชอบ ‘หิมะ’ การได้ออกไปท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ ในฤดูหนาวคงจะเป็นตัวเลือกที่โผล่ขึ้นมาในหัวเป็นอันดับแรกๆ แน่นอนว่าบนโลกของเรามีประเทศที่มีหิมะตกอยู่มากมาย แต่สำหรับช่างภาพวัย 16 ปี อย่างนาย Marco Lopez แล้วการได้ไปส่องวิวหิมะที่ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตาผ่านหน้าต่างรถไฟที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์บ้านเกิดของเขานั้นถือว่าเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟ็คมากๆ สำหรับการชมความงามของหิมะ พ่อหนุ่ม Lopez นั้นเป็นช่างถ่ายภาพที่ถ่ายแต่วิวธรรมชาติ จากงานอดิเรกที่ทำเล่นๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นความหลงใหลจริงๆ และทำให้เขาไม่สามารถหยุดที่จะทำมันได้เลย “ผมเริ่มถ่ายภาพเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ในตอนแรกแค่อยากที่จะทำให้ความทรงจำของเรากลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา จากนั้นก็ค่อยๆ ฝึกฝนด้วยการดูคลิปตัวอย่าง เรียนจากหนังสือเพื่อศึกษาเกี่ยวกับกล้อง” นาย Lopez เล่า . จากประสบการณ์ถ่ายภาพที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้เขารู้แล้วว่าการเดินทางโดยรถไฟนั้น ทำให้เขาสามารถเก็บเกี่ยวทุกภาพเหตุการณ์ได้มากกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ เขาสามารถออกไปท่องเที่ยวอย่างมีความสุขเพราะได้ทำมันพร้อมกับการถ่ายภาพที่รักไปด้วย ผลงานของเขาทำให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ดูเป็นสถานที่ที่แสนวิเศษราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย “มันก็จริงอยู่ที่ว่าผมอยากจะไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ให้มากกว่านี้ แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากจะออกเดินทางสำรวจประเทศของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” Lopez กล่าว เพื่อนๆ สามารถไปติดตามการผจญภัยของหนุ่มคนนี้ กันได้ที่อินสตาแกรม exploremarco ได้เลยนะจ๊ะ . . . . ที่มา :…
-
ชวนส่อง “ม่านรูดญี่ปุ่น” มันไปไกลขนาดนี้ ต่างกับเมืองไทยแค่ไหนกัน!?
เมื่อคุณได้เห็นโรงแรมม่านรูดของญี่ปุ่นแล้วรับรองว่าม่านรูดของไทยจะกลายเป็นอะไรที่หน่อมแน้มไปเลยล่ะเหมียว เพราะที่นี่มีม่านรูดซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่างๆในญี่ปุ่นมากถึง 30,000 แห่งเลยทีเดียว!! โรงแรมม่านรูดเหล่านี้ถือเป็นจุดนัดพบของการร่วมรักแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก และแต่ละที่ก็จะมีธีม สีสัน และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้คนที่มาใช้บริการได้สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ เพื่อสัมผัสถึงความตื่นเต้นเร้าใจในแบบที่เราหาไม่ได้ในชีวิตประจำวันนั่นเอง วันนี้เหมียวได้นำผลงานการถ่ายภาพบางส่วนของ Misty Keasler มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้ดูกันล่ะ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เธอเลยตัดสินใจเดือนทางไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อเก็บภาพจากโรงแรมม่านรูดกว่า 30,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น การออกไปถ่ายครั้งนี้ ทำให้เธอได้เห็นถึงการตกแต่งห้องแบบแปลกๆ และอุปกรณ์สุดพิสดารต่างๆภายในห้องล่ะ พูดมาขนาดนี้แล้ว ลองไปชมภาพถ่ายของเธอกันเ จากภาพถ่ายจะเห็นได้ว่า มีห้องหน้าตาประหลาดๆมากมาย ทั้งห้องเฮลโหลคิตตี้สุดซาดิสม์ ชิงช้าสำหรับร่วมรักในท่าแปลกๆ หรือจะเป็นแนวห้องเรียนก็มี และแทนที่จะมีมินิบาร์สำหรับเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว กลับมีแต่เครื่องจำหน่ายไวเบรเตอร์ กุญแจมือ ผ้าปิดตา และอุปกรณ์สัปดนมากมาย . . . . . . . . . . . . นี่เป็นเพียงภาพส่วนหนึ่งที่เธอถ่ายไว้เท่านั้นนะเหมียว หากใครสนใจในสไตล์การถ่ายภาพของเธอ สามารถไปไปดูได้ที่ amazon เพื่อจับจองเป็นเจ้าของเลยนะ…
-
“Duo” หมอนเดินทางสุดเทพพร้อมความสบาย ให้คุณพักผ่อนระหว่างเที่ยวได้ทุกท่วงท่า
ต้องยอมรับการเดินทางบนเครื่องบินถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดในปัจจุบัน แต่ถึงแม้เครื่องบินจะเป็นพาหนะที่เร็วที่สุด การเดินทางข้ามประเทศหรือข้ามทวีปก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลามากเหมือนเดิม แน่นอนว่าการเดินทางระยะเวลานานๆ แบบนี้ หากไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมแล้ว กว่าจะถึงที่หมายก็หมดอารมณ์เที่ยวพอดี ซึ่งดูเหมือนว่าที่นั่งบนเครื่องบินชั้นธรรมดา จะไม่ค่อยเอื้อให้ผู้โดยสารอย่างเราๆ พักผ่อนเท่าไหร่ (ส่วนคนที่นั่งชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งก็คงไม่มีปัญหาเรื่องนี้) แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาไปรู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่จะเปลี่ยนมิติการพักผ่อนระหว่างเดินทางของเพื่อนๆ ไปตลอดกาล ด้วนหมอนเดินทาง “Duo” ชิ้นนี้ “Duo” เป็นผลงานการออกแบบของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งผู้ต้องการหมอนเดินทางที่สามารถช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ระหว่างเดินทาง โดยประยุกต์จากประสบกาณ์การเดินทางกว่า 60 ประเทศทั่วโลกของพวกเขา โดยหมอนดังกล่าวสามารถใช้งานได้ถึง 4 รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และฟังก์ชั่นเจ๋งๆ อีก 9 อย่าง ที่จะทำให้การเดินทางของเพื่อนๆ สะดวกสบายยิ่งขึ้น หมวกปิดตาก็มี จะสวมแบบนี้ก็ได้ แบบนี้ก็ได้ หรือจะแบบนี้ก็เก๋ไม่เบา แบบไหนก็ได้ตามใจคุณ ลองไปชมวีดีโอนำเสนอของพวกเขากันดีกว่า ตอนนี้พวกเขากำลังระดมทุนกันอยู่บนเว็บไซต์ kickstarter สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ…
-
ศิลปินออกเดินทางรอบโลก และเก็บภาพความทรงจำดีๆ ผ่านภาพวาดของทุกที่ที่ไปเยือน
โดยปกติแล้วเวลาที่เราอยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศหรือสถานที่สวยๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การถ่ายภาพสุดประทับใจเก็บเอาไว้ใช่ไหมละ แต่สำหรับบางคนเขาไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพสถานที่ที่เคยไปเยือนมาเลย แต่เลือกที่จะเก็บความทรงจำดีๆ โดยการวาดภาพสถานที่เหล่านั้นมากกว่า Maxwell Tilse นักวาดการ์ตูนชาวออสเตรเลีย ที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนคนนี้ เขสเป็นผู้ที่ชื่นชอบการวาดภาพ และเดินทางออกไปท่องเที่ยวรอบโลกเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกๆ ครั้งที่เขาได้ในเยือนในสถานที่ตามประเทศต่างๆ เขามักจะวาดภาพของสถานที่ และบรรยากาศสวยๆ เหล่านั้นเก็บเอาไว้ และผลงานภาพวาดของเขาบอกเลยนะนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังเหมือนจริงอีกด้วย และนี่คือ 22 ภาพวาดบางส่วนจากผลงานของ Maxwell Tilse… บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี กรากุฟ ประเทศโปแลนด์ Gdándsk ประเทศโปแลนด์ Bardejov ประเทศสโลวาเกีย กรากุฟ ประเทศโปแลนด์ Crumlaw สาธารณรัฐเช็ก ลอนดอน สหราชอาณาจักร เชสกีกรุมลอฟ สาธารณรัฐเช็ก วอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ Teltsch สาธารณรัฐเช็ก …
-
พ่อแม่พาลูก 3 ขวบเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องลาออกจากงาน เพียงแค่ “วางแผน” ให้ดีที่สุด!!
บ่อยแค่ไหนที่เราจะได้ยินเรื่องของคนที่ลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่พวกเขาอยากจะทำ โดยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะออกไปเที่ยวไปดูโลกกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเกิดคำถามตามมาทันทีว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากลาออก?” “ลาออกแล้วจะมีเงินพอเหรอ?” “มันจะยุ่งยากเกินไปไหม?” Taita Hills, Kenya เรื่องที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องของ Łajka กับ Wadyń และลูกสาววัย 3 ขวบของพวกเขา Zazu เดิมทีทั้ง สองทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็เป็นคนที่ชอบเที่ยวเป็นทุนเดิม นั่นจึงทำให้พวกเขาคอยจัดแจงเวลาเพื่อให้พอที่พวกเขาจะได้พาลูกไปเที่ยวที่ต่างๆ อยู่เสมอ พวกเขาเป็นครอบครัวที่จะกำหนดแผนการเดินทางล่วงหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนสำหรับตอนเย็น แผนสำหรับสุดสัปดาห์ แผนของเดือนหน้า หรือแม้แต่สำหรับครึ่งปีหน้า พวกเขาก็วางแผนไว้ล่วงหน้าเช่นกัน Tonle Sap, Cambodia ซึ่งแน่นอนว่าแผนที่วางไว้ก็เป็นไปได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไปเจอครอบครัว ไปช็อปปิ้ง ไปเจอเพื่อนฝูง และแน่นอนว่าบ่อยครั้งก็จะเป็นแผนเพื่อไปเที่ยวนั่นเอง ในช่วงเวลา 10 เดือนพวกเขาเดินทางไป 39 สถานที่ใน 9 ประเทศ 3 ทวีป ซึ่งมันเยอะมากๆ เลยทีเดียว เอาเป็นว่ามาดูตัวอย่างกันดีกว่า ว่าพวกเขาไปไหนมาบ้าง Athens, Greece…
-
รัฐบาลญี่ปุ่น แจกทัวร์ฟรีให้ผู้คนเที่ยวตามรอยการ์ตูน Your Name โอกาสนี้ห้ามพลาด!!
ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมาภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Your Name ก็กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก และจนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นอนิเมะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ และอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีไอเดียในการโปรโมทการท่องเที่ยวที่เจ๋งมาก โดยการใช้อนิเมะดังๆ เรียกนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศ สังเกตได้จากฉากในอนิเมะต่างๆ ที่หยิบยกสถานที่จริงๆ มาใส่ในการ์ตูน จนถึงกับขนาดที่ว่ามีองค์กรที่รับผิดชอบในเรื่องของการท่องเที่ยวตามรอยอนิเมะโดยเฉพาะ ชื่อว่า Anime Tourism Association และล่าสุดก็ได้ทำการเปิดเผยโปรเจคล่าสุด “Cool Japan Collaborative Demonstration Project” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างทัวร์ให้กับแฟนๆ การ์ตูน ขณะเดียวกันเทศบาลเมือง Hida และองค์กรการท่อง้ที่ยว H.I.S. ก็ได้ทำการสร้างโปรแกรมทัวร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความงดงามของสถานที่จริงๆ ในจังหวัด Gifu และ Tokyo ที่ใช้เป็นฉากของเรื่อง Your Name แน่นอนว่าพอประชาชนและเหล่านักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนของการ์ตูนเรื่อง Your Name ได้ทราบข่าวนี้ ก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทางผู้จัดก็จะทำการคัดเลือกผู้โชคดีเป็นจำนวน 30 คนมาเข้าร่วมทริปที่มีระยะเวลาประมาณ 5-6 วัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่มีข้อแม้ว่าเหล่านักท่องเที่ยวผู้โชคดีทั้งหลายจะต้องตอบแบบสอบถามในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสัญจร ระบบขนส่งสาธารณะ อาหารระหว่างทัวร์ และโรงแรมต่างๆ ที่รวมอยู่ในทริป…
-
สาวต้องตัดขาเพราะมะเร็ง แต่ก็ไม่ลืมพาขาข้างนั้นไปเที่ยวด้วย พร้อมอินสตาแกรมส่วนตัว!!
จะว่าไปแล้ว ‘มะเร็ง’ คงเปรียบเสมือนกับฝันร้ายของมนุษย์เรา เพราะทันทีที่เรารู้ตัวว่าป่วยเป็นมะเร็ง เราอาจจะต้องทุ่มทั้งเงิน และเวลา ไปกับการรักษา อีกทั้งยังต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างอีกด้วย เช่นเดียวกับสาวสวยวัย 25 ปี จากรัฐโอคลาโฮมา ‘Kristi Loyall’ เธอพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งหายากชนิดหนึ่ง และทางเดียวที่จะสามารถรักษาได้ คือการที่เธอต้องยอมเสียสละผ่าตัดขาหนึ่งข้างออก Kristi Loyall และขาคู่ใจของเธอ ที่เคยพาเธอไปไหนมาไหนด้วยตลอด และด้วยความที่เธอต้องเฝ้าดูอาการจากคุณหมออย่างใกล้ชิด ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ เธอจึงปิ๊งไอเดียสร้างแอคเคาท์อินสตาแกรมที่ชื่อว่า ‘@onefootwander‘ เพื่อบันทึกเรื่องราวการเดินทางของเธอ และขาคู่ใจที่วันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว หลังจากที่เธอผ่าตัดขาคู่ใจออกมาแล้ว เธอทำการส่งกระดูกขาของเธอไปที่บริษัท ‘Skulls Unlimited’ เพื่อทำการฟอกขาว และเอากระดูกมาต่อกันให้สมบูรณ์ดังเดิม นอกจากต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของขาคู่ใจแล้ว เธอยังต้องการที่จะระดมทุนเพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตของเธอ ในระหว่างที่เธอไม่ได้ทำงาน ตอนนี้เธอก็สามารถระดมได้ทั้งหมด $1,000 จากเป้าหมายของเธอ $10,000 แล้วล่ะ ไม่ว่าจะไปไหน ขาคู่นี้ก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปด้วยกันเสมอ อาการป่วยของเธอ กินระยะเวลามาอย่างยาวนานถึง 4 ปี เธอไปหาหมอมาแล้วหลายต่อหลายคน …
-
20 อันดับสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งชาวต่างชาติโหวตว่าน่าไปที่สุดในญี่ปุ่น และคุณไม่ควรพลาด..
ถ้าพูดถึงหนึ่งในประเทศที่คนไทยอยากและชอบไปเที่ยวกันมากที่สุดก็คงไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ดินแดนซามูไรแห่งนี้นี่แหละ และล่าสุดทาง Trip Advisor ก็ได้เผยผลโหวต 20 สถานที่ยอดนิยมในญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ร่วมกันโหวตว่าแต่ละที่เหล่านี้แหละ ต้องไปให้ได้ และนี่ก็คือ 20 สถานที่ยอดฮิตดังกล่าว มาดูกันเลยว่าจะมีสถานที่ๆ คุณเคยไป หรือสถานที่ในดวงใจของเพื่อนๆ ติดมากันบ้างหรือเปล่า!? 20. ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (โอซาก้า) 19. โตเกียวทาวเวอร์ 18. ศาลเจ้าเมจิ (โตเกียว) 17. ย่านโอไดบะ (โตเกียว) 16. ย่านโอโมเตะซันโด (โตเกียว) 15. รถไฟสายฮาโกเน่ โทซัง (จังหวัดฮายากาว่า) 14. อาคารชมวิวอูเมะดะสกาย (โอซาก้า) 13. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อุบัติใหม่แห่งชาติ Miraikan (โตเกียว) 12. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (ฮอกไกโด) 11.…
-
คู่รักลาออกจากงานออกไป ‘เที่ยวรอบโลก’ ตามความฝัน ทำเอาชาวเน็ตหลายคนต่างอิจฉา
Karolina Valeikaite และแฟนหนุ่ม Marco Coppola กำลังใช้ชีวิตเพื่อไหล่ตามความฝันของตัวเอง… ทั้งคู่อัพภาพที่ถ่ายออกมาได้อย่างสวยงามลงบนอินสตาแกรมของพวกเขา แซึ่งแน่นอนว่า Karolina นั้นเป็นช่างภาพมืออาชีพ ที่เรียนมาสายนร้โดยตรง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพแต่ละภาพมันถึงออกมาสวยงามขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิวแบบในป่าในเขา วิวชายหาดและท้องทะเล จนทำให้มีผู้ติดตามมากกว่า 20,000 คนเลยทีเดียว!! Katolina Valeikaite นั้นเป็นชาวลิทัวเนีย จบการศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายภาพจากมหาวิทยาลัย Middlesex University ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขณะที่เธอรับจ๊อบเสริมที่ร้านอาหาร ก็ได้พบกับแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของเธอ Marco Coppola ตั้งแต่นั้นมาก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนคบกันเป็นแฟน “ก่อนหน้านี้ฉันมีความฝันอยากจะทำงานในอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่หลังจากนั้นความคิดของฉันก็เปลี่ยนไป” Katolina เล่า ด้วยความที่เธอไม่เคยออกไปเที่ยวยังสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากยุโรปเลย ก็เลยตัดสินใจว่าเธออยากจะออกไปเผชิญโลกกว้าง “หลังจากที่อาศัยอยู่ที่ลอนดอน ฉันรู้สึกว่าฉันต้องการที่จะมีประสบการณ์กับสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันยังไม่เจอที่ที่ฉันอยากจะอยู่” เธอเล่า Coppola ได้ยินดังนั้นแล้วก็ตกลงที่จะร่วมทางไปกับเธอด้วย ทั้งคู่ต้องทำงานหนักเป็นอย่างมากเพื่อที่จะทำให้การเดินทางในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ โดยเริ่มต้นการเดินทางที่ Morocco จากนั้นก็บินข้ามมาฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…
-
ญี่ปุ่นทำคลิป สอนใช้ส้วมสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะความทุกข์ของคุณ คืองานของเรา!!
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งอุปกรณ์ในสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องน้ำ และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปวิดีโอสอนวิธีการใช้ห้องน้ำสาธารณะในประเทศญี่ปุ่น หากใครจะไปเที่ยวศึกษาไว้รับรองได้ผลอย่างแน่นอน!! ก่อนอื่นเลยก็เรื่องของส้วม ที่มีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบชักโครก ซึ่งแน่นอนว่าวิธีใช้งานก็แตกต่างกันออกไป มาเริ่มต้นกันที่แบบดั้งเดิม วิธีใช้ก็คือนั่งยองๆ เหมือนกับส้วมซึมของบ้านเรา พอทำธุระเสร็จสรรพแล้วปัญหาก็คือวิธีการชำระล้างนี่แหละที่เป็นปัญหาใหญ่ จากในคลิปก็จะแนะนำวิธีการใช้งาน 2 แบบด้วยกัน ซึ่งก็มีสองท่าด้วยกัน ซึ่งก็คือท่างวงช้าง และท่าหางม้า ท่างวงช้างก็คือการนำกระดาษชำระเข้าล้วงเข้าไปทางด้านหน้าแล้วก็ลากปาดออกมา ส่วนท่าหางม้าก็คือการอ้อมไปข้างหลังแล้วก็ปาดลากออกมา (ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ??) แน่นอนว่าที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีส้วมที่เป็นแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แบบชักโครกเค้าก็มีเหมือนกันนะเออ แต่จะมีความพิเศษกว่าที่อื่นๆ ก็คือระบบการชำระล้างแบบอัตโนมัตินี่แหละ ซึ่งตามห้างของบ้านเราก็เริ่มมีมาให้ลองได้ใช้งานกันบ้างแล้ว สำหรับคนที่เคยใช้งานมาแล้วก็จะรู้ว่าไอ้ระบบชำระล้างของมันนั้นเป็นอะไรที่ใช้ยากซะเหลือเกิน เพราะมันไม่เคยจะตรงจุดซักที (หรือเรานั่งไม่ตรงเองหว่า?) ในคลิปก็เลยแนะนำวิธีการเพื่อให้การชำระล้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นประกอบไปด้วย 3 ท่าดังนี้ ท่าทอร์นาโด ท่านี้ไม่ยากให้หมุนเอวของเราไปรอบๆ เป็นวงกลมเพื่อขยายพื้นที่การทำความสะอาดให้มากยิ่งขึ้น ท่าซูโม่ เป็นการยกเท้าซ้ายและเท้าขวาขึ้นทีละข้าง คล้ายกับท่าเตรียมพร้อมของนักซูโม่ เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ฉีดน้ำสามารถฉีดได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ท่านักบดยา คือการขยับเอวไปหน้าหลัง เพื่อขยายพื้นที่การทำความสะอาดและช่วยให้เครื่องฉีดน้ำสามารถยิงน้ำได้ตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากในห้องน้ำของประเทศญี่ปุ่นจะมีกระดาษไว้สำหรับเช็ดมือแล้ว…
-
สองหนุ่มนักท่องเที่ยว ดื่มหนักจนเมาปลิ้น ตื่นขึ้นมาอีกที พบว่าตัวเองอยู่ในเขตสงคราม!!
น้อยคนนักที่จะเคยเคยดื่มเพลินจนเมาแอ๋ ซึ่งพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองดันไปโผล่อีกที่หนึ่งซะอย่างนั้น เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยจริงๆ แต่ทว่ามันกลับเกิดขึ้นแล้วกับ William Meara วัย 26 และ Craig Reynolds วัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวไอริช จากเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ผู้ที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวรอบโลกมาหลายต่อหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน อินเดีย ออสเตรเลีย พม่า ปากีสถาน และอิหร่าน ที่เกิดดื่มจนเมาปลิ้น และตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่อีกที่ซะอย่างนั้น โถๆๆๆ สงสัยจะเมาหนักจริงๆ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า หลังจากที่ William และ Craig ได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลกมาแล้วหลายประเทศ พวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังตะวันออกกลาง โดยสถานที่ที่จะไปเยือนให้ได้เลยก็คือการเดินทางไปยังเคอร์ดิสถานของอิรัก แต่พวกเขากลับไม่คิดมาก่อนเลยว่าครั้งหนึ่งตนจะได้ไปโผล่ที่แนวหน้าในเขตสนามรบของชาวเคิร์ด ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้เจอกับทหารอิสระชาวแคนาดาในบาร์แห่งหนึ่ง บริเวณพรมแดนระหว่างอิหร่านกับอิรัก ซึ่งพวกเขาก็ได้พากันดื่มตามปกติ แต่ทว่าการดื่มในครั้งนั้นมันอาจจะหนักไปหน่อย เพราะในวันรุ่งขึ้นสองหนุ่มก็พากันขึ้นรถทหาร พร้อมกับเดินทางไปยังแนวหน้าทางตอนเหนือของอิรัก ด้านสองนักท่องเที่ยวได้เผยว่า “เราต้องพูดอะไรบางอย่างออกไปในคืนที่เราดื่มกับเขาแน่ๆ แล้วพวกเขาจึงเกิดไอเดียว่าจะพาเรามาที่นี่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดที่ผมเคยเจอมาเลยละ”…
-
คู่รักญี่ปุ่นฮันนีมูน 400 วัน 48 ประเทศ กับโดรน 1 ตัว สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใน 3 นาที
เมื่อพูดถึงงาน Ted Talks ทุกคนคงจะจินตนาการว่านี่คืองานที่รวบรวมบุคคลจากสาขาต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ หรือเป็นแบบอย่างไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง แต่สำหรับบุคคลที่#เหมียวฟิ้นอยากจะให้คุณได้รู้จักนั้น เขาอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่คุณเชื่อเราไหมว่าผลงานของเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้ภายในเวลาเพียงแค่ 3 นาทีกว่าๆ เท่านั้น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน TEDxKyoto ขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในงานนี้ได้เชิญชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมาพูดสร้างแรงบันดาลใจ เขามีชื่อว่านาย Kaz Yamaguchi (คาซ ยามากูจิ) คาซได้แต่งงานกับแฟนสาวและวางแผนกันว่าจะไปฮันนีมูนรอบโลก ซึ่งหากจะว่าไปแล้วในโลกนี้มีคู่รักได้ไปฮันนีมูนรอบโลกมาแล้วหลายคน แต่กับพวกเขานั้นแตกต่างออกไป คาซวางแผนเดินทางไปยัง 48 ประเทศรอบโลกใน 400 วัน ซึ่งในการเดินทางของพวกเขาได้พกโดรนไปด้วย 1 ตัว แต่ภาพที่ได้กลับมามันช่างสวยงามจนคุณคาดไม่ถึงทีเดียว คาซกล่าวว่า “พวกเราเดินทางไปยัง 48 ประเทศ เริ่มต้นที่ประเทศสิงคโปร์ เรามุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก ผ่านเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ยันเหนือ” เขาบอกว่าตัวเองไม่ได้รวยอะไรมาก เพราะทุกการเดินทางพวกเขาจะใช้เงินให้น้อยที่สุด แบ็คแพ็คไปเท่าที่จะทำได้…
-
เกมสร้างเมือง!? ชวนเที่ยวญี่ปุ่นแบบ 3 มิติ ผ่าน Google Earth สวยสมจริง ฟินไปอีกแบบ
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่งของคุณ Real~Fine เข้า โดยในกระทู้เป็นการนำเอาภาพ 3 มิติจาก Google Earth มาให้เราได้ชมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว Google Earth จะแสดงผลโดยการดึงเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมมาหให้เราดู ภาพที่ได้ก็จะแบนๆ ไม่มีมิติอะไร แต่ในระยะหลังๆ มานี้ Google ได้พัฒนาระบบ 3 มิติของบ้านเรือน อาคาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดูเป็นรูปทรงโดดเด่นออกมาจากพื้นดินมากขึ้น ประหนึ่งว่าคุณกำลังเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้นเลย ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะเชิญชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Google Earth 3D ตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ลองมาดูกันว่าระบบ 3 มิติที่ว่านี้จะทำให้คุณเหมือนไปอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า? 1. พระราชวังอิมพีเรียล ภาพสถานที่จริง 2. โตเกียวทาวเวอร์ สถานที่จริง 3. ภูเขาไฟฟูจิ …
-
สาวจีนนักผจญภัย ลุยถ่ายภาพสวยๆ จากทั่วโลก 70 ประเทศ และอีกกว่า 100 เมือง
การได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลก มันคงจะเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน เพราะนั่นจะทำให้เราได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น และได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เหมือนดังเช่นสาวชาวจีนคนนี้ เธอได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลกมาแล้วกว่า 70 ประเทศ และอีกกว่า 100 เมือง เรียกได้ว่าต้องขอยกให้เธอเป็นสาวนักผจญภัยตัวจริงซะแล้วละ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Xiao Yun Dou หรือ Dou Dou ช่างภาพสาวชาวจีน ผู้ที่หลงใหลการออกเดินทางไปเที่ยวรอบโลกเป็นอย่างมาก เธอยังได้เก็บภาพสุดประทับใจในขณะที่เธอได้เดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ เอาไว้มากมาย จนภาพของเธอได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ของจีน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากบรรดาชาวเน็ตอย่างล้นหลาม ทั้งยังทำให้เธอได้กลายเป็นบุคคลที่โด่งดังไปชั่วข้ามคืนอีกด้วย สำหรับ Dou Dou เธอเป็นช่างภาพสาวที่มีใจรักกีฬาด้านผาดโผน โดยตอนที่เธออายุเพียง 6 ขวบ เธอเคยเรียนเต้นมาก่อน และหลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าสู่วงการนางแบบในวัยเพียง 16 ปี แต่พอเริ่มเข้าเรียนไฮสคูล เธอก็เริ่มสนใจกีฬากลางแจ้ง และอยากที่จะออกไปท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศทั่วโลก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้ออกไปผจญภัยยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในตอนนี้เธอไปมาแล้วกว่า…
-
“International SOS” เว็บไซต์ดูความเสี่ยงของประเทศก่อนไปเที่ยว ไทยติดขั้นอันตรายเรื่องท้องถนน!!
ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือการดูว่าที่ที่เราไปเที่ยวนั้นปลอดภัยหรือไม่ เพราะว่าเราต้องมันใจว่าเราจะกลับมาบ้านแบบครบ 32 อันตรายก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสซิก้าที่กำลังระบาดอยู่ตอนไหน หรือว่าจะเป็นการก่อการร้ายหรือภัยพิบัติต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องศึกษาให้ดีก่อนออกเดินทาง ถ้าคุณไม่รู้จะไปดูที่ไหน แนะนำให้เข้าเว็บไซต์ International SOS ซึ่งที่นี่ได้จัดทำแผนที่โลกพร้อมทั้งแบ่งสีให้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อแบ่งระดับความอันตราย ซึ่งสถิติทั้งหมดมาจากการสำรวจจากนักท่องเที่ยวจริงๆ จากรอบโลก ส่วนมากแล้วคนมักจะเลือกประเทศที่ไม่มีการก่อการร้าย แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คืออัตราการเกิดอาชญากรรมและปัญหาท้องถนนนั่นเอง โดยทางเว็บไซต์ได้แบ่งความอันตรายออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ ความเสี่ยงในการท่องเที่ยว ความเสี่ยงบนท้องถนน และความเสี่ยงต่อร่างกาย ซึ่งท่านสามารถดูได้จากแผนที่ชุดนี้ และในแผนที่ก็แสดงสีที่แตกต่างกันออกไป เพื่อแบ่งความอันตรายออกเป็นหลายประเภทได้แก่ สีเขียว – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก ไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีความปลอดภัยและคอย่ชวยเหลือเป็นอย่างดี การเดินทางสะดวกและปลอดภัย สีเหลือง – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ แทบไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีการก่อการร้ายได้ยาก และก็สามารถทำให้เหตุการณ์สงบได้ถ้าเกิดเหตุจริง การขนส่งก็สะดวกและปลอดภัยในระดับนึง สีส้ม – มีการชุมนมการการเมืองบ้างเป็นระยะ มีการก่อการร้ายให้เห็น นักท่องเที่ยวอาจจะเสี่ยงกับความคุณแรงทางด้านเชื้อชาติ ศาสนาและอาชญากรรมด้วย การดูแลความปลอดภัยไม่ค่อยมั่งคง…
-
Alfred วัย 6 ขวบ เติบโตกับการถูกเลี้ยงแบบแบ็คแพ็คเกอร์ ไปมาแล้วกว่า 24 ประเทศทั่วโลก!!
พอได้เห็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยคนนี้ ต่อมนักเดินทางของ #จ่าสิบเหมียว นี่ เดือดปุดๆๆ เลยทีเดียวเชียว!! ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขาที่เนปาล การมาระบายสีกับช้างในประเทศไทย หรือแม้แต่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชา หนูน้อยคนนี้ก็เคยทำมาหมดแล้ว และที่สำคัญ เส้นทางของเขายังอีกยาวไกล เพราะตอนนี้เขาอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น!!!? Alfred Cery หนูน้อยวัย 6 ขวบที่เดินทางมาแล้วกว่า 24 ประเทศทั่วโลก พร้อมกับพ่อแม่นักเดินทางของเขา Kelvin วัย 44 ปี และ Susannah วัย 41 ปี ถ้านับกันเป็นไฟลท์ล่ะก็ มากกว่า 100 ไฟลท์เข้าไปแล้วล่ะ Alfred Cery หนูน้อยที่เดินทางมาแล้วกว่า 24 ประเทศทั่วโลก ‘เราเดินทางและได้พบเจอกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไปจากรอบโลก เห็นวิถีชีวิตของผู้คน ตอนนี้ลูกของเราพูดภาษาท้องถิ่นได้บ้างนิดหน่อยด้วยล่ะ สำหรับเราแล้วเราคิดว่า นี่แหละคือการเรียนรู้โดยประสบการณ์ล่ะ’ พ่อแม่กล่าว ‘ลักษณะเด่นที่เราสามารถสังเกตได้ในตัวลูกของเราก็คือ เขาเป็นคนที่ปรับตัวง่ายมาก ในอังกฤษเด็กๆ จะเติบโตขึ้นมาด้วยความสบาย โลกของพวกเขาสวยงาม แต่เมื่อปีที่แล้วเราได้แบ็คแพ็คไปประเทศอินเดียกัน ส่วนหนึ่งแล้วเราอยากให้เขาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนที่นั่น…
-
คู่รักนักท่องเที่ยวดัง โพสต์ว่าโดนถ่ายภาพเลียนแบบ ทั้งแคปชั่น ชุด วิว เหมือนจนน่ากลัว!!
บางครั้งการออกไปท่องเที่ยวในสถานที่ไหนซักแห่ง เราอาจจะต้องมีแรงบันดาลใจจากใครซักคนที่ได้ออกไปเที่ยวยังสถานที่นั้นๆ มาบ้างแล้ว แต่สำหรับคุณ Lauren Bullen และ Jack Morris ที่เป็นนักท่องเที่ยวและช่างภาพที่มีชื่อเสียงกลับโดนแอคเค้านท์อินสตาแกรมปริศนาทำการอัพรูปทีไ่ด้ไปเที่ยวลง และมันก็ช่างคล้ายกับภาพที่พวกเขาโพสต์จนดูน่ากลัว Lauren Bullen และ Jack Morris เป็นนักท่องเที่ยวและช่างภาพที่มีชื่อเสียง พวกเขาจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ รอบโลกแล้วก็อัพภาพอันแสนงดงามลงบนอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1.5 ล้านคน และล่าสุดทั้งทั้งคู่ก็ได้พบเรื่องราวแปลกประหลาดเพราะจู่ๆ ก็มีแอคเค้านท์อินสตาแกรมที่เป็นผู้ติดตามของทั้งคู่นั้นได้ทำการอัพรูปการท่องเที่ยวตามรอยของพวกเขา ที่ทุกอย่างนั้นเหมือนกันจนชนิดที่ว่า ‘รู้สึกขนลุก’ เลยทีเดียว ซึ่งดูแล้วอาจจะเหมือนกับว่าพวกเขาอาจจะเป็นแรงบันดาลใจในการออกไปท่องเที่ยวของแอคเค้าน์อินสตาแกรมนั้น แต่ดูแล้วมันเหมือนกับว่าจะเป็นการ Stalking มากกว่า และแน่นอนว่าการกระทำแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่อย่างใด เพราะทั้งสถานที่ วิว องค์ประกอบภาพ มุมของภาพ เสื้อผ้า หรือแม้แต่แคปชั่นบางแคปชั่น นั้นมันเหมือนกันจนแทบจะถอดแบบออกมาแบบเป๊ะๆ เลยทีเดียว จะเป๊ะขนาดไหนนั้นลองไปชมภาพเปรียบเทียบกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า.. (ซ้ายเป็นภาพของ Lauren Bullen และ Jack Morris ส่วนด้านขวาเป็นภาพที่ถูกก็อปปี้ไปนะจ๊ะ) ขนาดท่าทางก็ยังเหมือน ไม่ว่าจะเป็น…
-
8 ถนนแสนสวย มีความงามเป็นเอกลักษณ์ ที่เราควรจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต!!
หลายคนเลือกที่จะไปเยือนสถานที่ที่สวยงาม เพราะจะได้เห็นสิ่งความมหัศจรรย์ ที่ดูน่าตื่นเต้น และแปลกใหม่ แล้วใครกันละจะเลือกไปเก็บภาพบรรยากาศของ “ถนน” จากในประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่เดี๋ยวก่อน หากคุณได้เห็น 8 ถนนเหล่านี้ คุณอาจจะเปลี่ยนใจอยากจะลองไปเยือนดูสักครั้งก็ได้นะ เพราะนี่คือถนนที่มีวิวสวยงาม และควรค่าแก่การกดลั่นชัตเตอร์ เพื่อเก็บภาพสุดประทับใจเป็นอย่างมาก 1. Medina ใน Chefchaouen ประเทศโมร็อกโก บ้านเรือนรวมไปถึงถนนบางส่วนของเมือง Chefchaouen ประเทศโมร็อกโก ถูกทาด้วยสีฟ้าสดใส ในขณะที่บางส่วนถูกทาทับด้วยสีน้ำเงินเข้ม และด้วยความสวยงามแปลกตาของสถานที่แห่งนี้ จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในโมร็อกโกที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 2. ถนนร่มหลากสี ในเมือง Agueda ประเทศโปรตุเกส ภาพของเทศกาล Agitagueda Art Festival 2012 ณ เมือง Agueda ในเขต Aveiro ประเทศโปรตุเกส เต็มไปด้วยร่มหลากสีเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ช่วยทำให้ถนนธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะที่สวยงามเป็นอย่างมาก 3. ถนนพรมยักษ์ ใน La Orotava…
-
ยายวัย 90 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ตัดสินใจ ‘ท่องเที่ยวแบบสุดขั้ว’ ใช้ชีวิตเต็มที่แทนการรักษา
หากเรารู้ตัวว่า กำลังป่วยและใกล้จะตาย เราจะทำอย่างไรกับชีวิต หลายคนคงเลือกที่จะเข้ารับการรักษาเท่าที่จะทำได้ เพื่อยื้อชีวิตให้อยู่ได้นานที่สุด… แต่คุณยาย Norma Bauerschmidt วัย 90 จากมิชิแกน เมื่อถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เธอมีทางเลือกอยู่ 2 ทางเช่นเดียวกับคนอื่นๆ สามีของเธอคือ Leo ก็ได้จากไปด้วยโรคเดียวกัน เธอจึงรู้สึกว่า ไม่อยากอยู่แต่ในบ้านโดยไม่มีเขา อย่างน้อยก็น่าจะได้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าก่อนจากไป เธอคิดว่าตัวเองผ่านโลกมาแสนนาน ตอนนี้ก็อายุเกือบร้อยปีแล้ว แต่ยังทำอะไรไม่คุ้มค่าเลย และก็ไม่อยากจะนอนอยู่บนเตียงเท่านั้น เลยตัดสินใจสุดท้ายว่า.. ไหนๆ จะตายแล้ว ก็ขอใช้ชีวิตให้สุดเลยล่ะกัน Norma ได้ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดยมีลูกชายและลูกสะใภ้คอยดูและไปกับเธอทุกที่ ทั้งสามคนได้ออกทางรวมประมาณ 20,000 กิโลเมตร ข้ามรัฐต่างๆ กว่า 34 รัฐ โดยรถบ้านของพวกเขา ตลอดเวลา 6 เดือน ก่อนที่เธอจะจากไป เรื่องราวการเดินทาง Norma ได้เผยแพร่ในเพจ Driving Miss Norma และมีผู้คนมากกว่า 440,000 ที่คอยติดตามการเดินทางที่แสนวิเศษของเธอในครั้งนี้ ต่อมาเพจดังกล่าวก็ได้แจ้งเรื่องการจากไปของเธอว่า “วันนี้ Norma Jean Bauerschmidt ได้จากเราไปแล้ว เธอมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ตั้งแต่ 31 มีนาคม…
-
ชั้นเลือกนาย!! เจ้าเหมียวจรตามแจทหารหนุ่ม ทุกครั้งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จนต้องรับมาเลี้ยง
กลายเป็นเรื่องราวชวนอมยิ้มไปซะแล้ว หลังจากที่เจ้าซาเลม แมวเหมียวขนสีดำสนิทตัวนี้ มักจะชอบตามติดทหารหนุ่มคนหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังปฏิบัติภารกิจในต่างแดน งานนี้จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจรับมันกลับมาเลี้ยงซะเลย ก่อนหน้านี้เจ้าซาเลม เป็นแมวเหมียวจรจัดตัวน้อยๆ ที่อยู่ในละแวกเมืองคอนสแตนตา ประเทศโรมาเนีย จนกระทั่งวันหนึ่งมันก็ได้เจอกับจัสติน ทหารหนุ่มที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณนั้น ทั้งคู่เข้ากันได้อย่างรวดเร็ว ถึงกับขั้นเข้ามานอนในหมวกของเขาอีกด้วย ในใจของมันอาจจะกำลังเลือกให้เขาเป็นทาสคนใหม่ เพื่อจะรับมันกลับไปเลี้ยงก็เป็นได้ นับตั้งแต่ที่จัสตินได้เจอกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ มันก็มักจะชอบตามเขาไปทุกครั้งที่มันเห็นเขา “ผมเจอกับมันประมาณอาทิตย์ที่แล้ว จากนั้นมันก็เดินตามผมกลับมาถึงในค่ายพักเลย” จัสตินกล่าว เจ้าเหมียวมักจะชอบกระโดดมานอนบนตักของเขา เพื่อต้องการความรัก และอยากให้เขาสนใจ แม้กระทั่งแอบเข้าไปนอนงีบในหมวกกันน็อคของจัสตินมันก็ทำมาแล้ว นี่แหละน้าที่เขาเรียกว่ามิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ แม้แต่ในค่ายทหารเรายังได้เห็นมิตรภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวและมนุษย์เลย เจ้าซาเลมเป็นแมวที่น่ารักต่อเพื่อนมนุษย์ของมัน และทำให้เขารู้สึกสบายใจ ในยามที่เขาคิดถึงบ้าน จัสตินเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนที่ต้องทำงานอยู่ในโรมาเนีย และเขาเองก็กำลังวางแผนที่จะพาเจ้าเหมียวไปพบสัตว์แพทย์ และมองหากลุ่มช่วยเหลือที่จะส่งตัวของมันไปที่บ้านของเขาในเอลแพโซ รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาและภรรยาก็พร้อมต้อนรับมันเข้าสู่บ้านหลังใหม่ แน่นอนว่าเธอจะต้องชื่นชอบมัน และพร้อมที่จะดูแลมันเป็นอย่างดี ตอนนี้ก็ได้นายใหม่ และบ้านหลังใหม่ที่แสนอบอุ่น…
-
คู่รักไปออกทริปที่ทะเลช่วงวันหยุดแต่ดันผิดแผน ไปๆ มาๆ กลายเป็นทริปช่วยหมาจรจัดแทน!!
เพื่อนๆ หลายคนคงจะผ่านประสบการณ์ออกทริป ไปเที่ยวกันมาบ้างแล้วล่ะ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีการวางแผน และแผนที่วางไว้นั้นบางครั้งมันก็มักจะไปเป็นไปตามนั้นซักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับคู่รักคู่นี้ที่ไปทริปออกเดทในวันหยุดกัน แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแผนไปช่วยเหล่าสุนัขจรจัด 34 ตัวแทน ฮร่า เรื่องราวของคู่สามีภรรยา Jeff และ Diana Hall ที่ไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดงานกันที่เมือง La Paz ประเทศเม็กซิโก เพื่อหวังจะได้นอนอาบแดดอุ่นๆ และผ่อนคลายไปกับเสียงคลื่นน้ำทะเลกระทบฝั่ง ทั้งสองคนถึงกับต้องตกใจเมื่อได้เห็นเหล่าสัตว์เป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ตามชายหาดตลอดเวลาที่พวกเขาได้ทำการไปพักร้อนกัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เหล่าสัตว์จรจัดทั้งหลายก็จะเพิ่มประชากรมากขึ้นไปอีก อีกทั้งยังทำให้พวกมันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมัน แต่จะทำอย่างไรล่ะ? จะพาพวกมันกลับไปที่บ้านในสหรัฐฯ ทั้งหมด 34 ตัวเลยก็ไม่ได้ซะด้วยสิ ก็เลยคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่ต่างออกไป ด้วยการติดต่อไปยังสถานรับเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐฯ เพื่อประกาศหาบ้านให้กับพวกมัน จากการประสานงานร่วมกันกับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในแคร์ลิฟอร์เนีย คู่รักทั้งสองคนก็ได้ทำการเข้าไประดมทุนจากเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางให้กับเหล่าหมาจรจัดทั้ง 34 ตัว ที่พวกเขาเจอในระหว่างไปออกทริปกันที่เม็กซิโก โดยตั้งชื่อแคมเปญว่า Baja34 โดยมีเป้าหมายไว้ที่ 2.7 ล้านบาท และตอนนี้ก็มีผู้ร่วมสมทบทุนเข้ามามากถึง 2.1 ล้านบาทแล้ว และเงินที่พวกเขาได้มานั้นจะถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลความเป็นอยู่ของเหล่าหมาทั้ง…
-
ช่างภาพชาวดัตช์ เชิญชวนให้ทุกคน ‘ไปเที่ยวบ้านผมหน่อย’ แล้วมันก็น่าไปโคตรๆ!!
ในวันนี้ช่างภาพชาวเนเธอร์แลนด์ชื่อว่า Albert Dros จะเป็นคนมาเชิญชวนเพื่อนๆ ทุกคนให้ไปเยี่ยมเยียนที่ประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขากัน ช่างภาพบอกว่า ที่เนเธอร์แลนด์ นั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างจะธรรมดา ไม่มีภูเขาสูงเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ไม่มีตึกสูงระฟ้า สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่จะไม่สูงซักเท่าไหร่ และนั่นเองก็ทำให้คนส่วนมากคิดว่าที่นี่จะเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อรึเปล่านะ? แต่ขอบอกเลยว่าให้กลับความคิดเสียใหม่… เพราะที่นี่เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความมีเอกลักษณ์ ลองนึกภาพถึงแปลงดอกไม้ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับมีโรงนาใหญ่ๆ ดูสิ หรือจะเป็นกังหันลมที่ตั้งทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา ถนนหนทางที่ทอดยาวเข้าไปในป่าที่มีแต่ต้นไม้ต้นใหญ่เต็มไปหมดระหว่างสองข้างทาง พื้นที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกบางๆ ในยามเช้า บ้านเรือนที่มีสีสันแปลกตา สิ่งปลูกสร้างที่มีความงดงาม และมีเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรม ดอกทิวลิป!! สามารถนอนดูดาวได้โดยที่ไม่มีภูเขาบดบัง ป่าไม้ที่เขียวชะอุ่ม ที่ราบที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ บ้านสไตล์ดัตช์ ที่เต็มไปด้วยสีสัน ท้องทะเลสีฟ้าคราม ฝากไว้เป็นเกร็ดความรู้นิดนึง เนื่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีสภาพภูมิประเทศเป็นแบบที่ราบ และพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ในอดีตจึงเกิดน้ำท่วมแทบตลอด แต่ถึงอย่างไรก็ตามประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการจัดการน้ำที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้เลยนะ ที่นี่มีการทำเกษตรกรรมกันมาก ไม่ว่าจะเป็นทำสวนปลูกดอกไม้ พืชผลทางการเกษตรต่างๆ หรือการเลี้ยงสัตว์ ทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องใช้น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับการจัดการในเรื่องของน้ำ ไม่ให้มีมากเกินจำเป็น…
-
วิถีการท่องเที่ยวธรรมชาติของหนุ่มวัย 16 ปี ชวนให้สัมผัสประสบการณ์อันสวยงามน่าหลงใหล
Jannik Obenhoff วัย 16 เป็นช่างภาพที่ชอบถ่ายรูปทิวทัศน์ จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม มีหมอกอยู่บนยอดเขา และทะเลสาบสีฟ้า เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีเรียน เขาจะชอบออกไปเที่ยวรอบๆ ประเทศเยอรมนี พร้อมถ่ายรูปทิวทัศน์ที่เขาได้ไปเห็น โดยเริ่มถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกตั้งแต่อายุ 13 ปี แล้วนำมาลงอินสตาแกรม @jannikobenhoff ที่มีผู้ติดตามเกือบสามแสนคนแล้ว Jannik ได้บอกไว้ว่า “ถ้าคุณไม่ออกไปข้างนอก คุณจะไม่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติเลย” และเขาก็เชื่อในคำพูดตัวเองด้วย ทำให้เขาออกเดินทางทุกครั้งที่มีโอกาส จนทำให้คนอื่นอยากไปเที่ยวแบบเขาบ้าง . . . . . . . . . . . . . . . . . ติตตามภาพสวยๆ ของ Jannik ได้ที่อินสตาแกรม jannikobenhoff จะว่าไป อายุแค่ 16 ปี ได้เที่ยวเยอะกว่าเราหลายๆ คนซะอีก แถมยังถ่ายรูปสวยด้วย ที่มา boredpanda l jannikobenhoff
-
เทรนด์ถ่ายภาพจูงมือมันเอ้าท์!! คู่รักเกาหลีโชว์ภาพกระชากลากหัวพาไปเที่ยว ต้องแบบนี้สิถึงใจ
ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากจะมีคนรู้ใจ มีเพื่อนคู่คิด ที่พร้อมจะออกเดินทางไปด้วยกันเสมอ และโดยเฉพาะสาวๆ เชื่อว่าการที่ได้เจอกับคนรักที่เข้าใจกันในหลายๆเรื่อง และได้มีโมเม้นต์สุดแสนจะโรแมนติกร่วมกันในต่างแดน ต้องเป็นอะไรที่ฟินมากแน่ๆ เพื่อนๆ คงจำกันได้ดีกับคู่รักชาวตะวันตก ที่ออกเดินทางไปทั่วโลก พร้อมกับถ่ายภาพแฟนสาวที่เดินนำหน้าและจูงมือช่างภาพหนุ่มไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นภาพที่ดูแล้วโรแมนติกชวนฝันมากๆ ทำให้ใครหลายคนต่างก็อิจฉา อยากจะมีชีวิตรักแบบนี้บ้าง จำกันได้มั้ยเอ่ย? กับคู่รักที่ถ่ายภาพแบบนี้ ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเทรนด์นี้กำลังจะตกไป เมื่อเจอกับคู่ชายหนุ่มหญิงสาวชาวเกาหลีใต้ เมื่อทั้งคู่ออกเดินทางไปผจญภัยบนเกาะแห่งอาทิตย์อุทัย นั่นก็คือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง นานๆ ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันทั้งที จะถ่ายภาพแบบข้างบนก็คงจะซ้ำและน่าเบื่อ งานนี้ทั้งสองเลยปิ๊งไอเดียถ่ายรูปต้านกระแสมันซะเลย เอาเป็นว่าเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าภาพของทั้งสองจะยียวนกวนประสาทได้ขนาดไหน สงสัยงานนี้คุณผู้ชายจะเก็บกด เลยถือโอกาสเอาคืนแฟนสาวบ้างซะเลย!!! มานี่เลยนังหมวย จะพาไปเที่ยว อย่าทำตัวดื้อ!!! หิวมากใช่มั้ย..พามาหาของกินแล้ว ทำตัวดีๆ!!! ไม่ว่าจะขึ้นเครื่องบิน ลงรถไฟ ออกรถบัส สงสัยอาหมวยจะดื้อ ต้องฉุดกระชากลากถูตลอด 5555+ ไม่ว่าใครก็มายืนถ่ายรูปทำท่ากับป้ายนี้ แต่คู่นี้ทำให้มันแตกต่างออกไป อยากเที่ยวสวนสนุกมากใช่มั้ย!!?? ด้ายยยย เฮียจัดให้!!!…
-
ขี้เกียจหิ้วกระเป๋าเยอะๆ!? คลิปสอนเทคนิคการแพ็คของ 130 ชิ้น ลงใน “กระเป๋าถือ” ใบเดียว
สำหรับนักเดินทางแล้ว การที่ต้องแบกกระเป๋าหลายๆ ใบ พะรุงพะรัง มันชวนให้หงุดหงิดใจจริงๆ นะ ไหนจะต้องแบกของ ไหนจะกลัวของหาย โอ้วนี่มันฝันร้ายชัดๆ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณได้เรียนรู้เทคนิคดีๆ จากนักแสดงสาวชาวอังกฤษรายนี้… เมื่อไม่นานมานี้ Rachel Grant นักแสดงสาวชาวอังกฤษ วัย 39 ปี (อดีตสาวบอนด์ภาค Die Another Day) ที่เป็นทั้งนักเดินทางและนักเขียนด้วย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสอนการแพ็คกระเป๋า โดยโจทย์ที่เธอตั้งขึ้นมาเองคือการแพ็คข้าวของกว่า 130 ชิ้น ลงในกระเป๋าถือใบเดียว ในบรรดาสิ่งของที่เธอแพ็คก็มีทั้ง ชุดเดรส 10 ชุด เสื้อ 8 ตัว กางเกง 4 ตัว รองเท้า 5 คู่ รองเท้าส้นสูงอีก 1 คู่ และครีมอีกสารพัด รวมน้ำหนักแล้วประมาณ 8 กิโลกรัม …
-
จากงานอดิเรก คุณปู่ 75 จัดสวนหน้าบ้านให้สวยงามตลอด 16 ปี จนกลายเป็นที่เที่ยวของเมือง
หลายคนชื่นชอบการจัดสวนหลังบ้าน หรือหน้าบ้านให้สวยงามตามแบบฉบับของตัวเอง ก็เหมือนกับ Robert Burns คุณปู่วัย 75 ปี คนนี้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการจัดสวนหน้าบ้านเช่นกัน แถมคุณปู่ยังสามารถจัดสวนได้อย่างสวยงาม จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตามาเยี่ยมชม และมาแวะเก็บภาพสวยๆ ที่สวนหน้าบ้านของเขา โดยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยเรื่องราวพร้อมกับภาพสวนสวยๆ ของคุณปู่ ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณ รวมไปถึงดอกไม้ที่มีสีสันสดใสนานาชนิด เรียกได้ว่านอกจากจะงดงามแล้ว ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมอีกด้วย หลังจากที่คุณปู่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านริมทะเลสาบ Lomond ในประเทศสกอตแลนด์ พร้อมกับภรรยา ตั้งแต่ปี 2000 เขาก็เริ่มทำการจัดสวนภายในบ้าน และหลังจากนั้นสวนของพวกเขาก็ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2001 เป็นเวลากว่า 16 ปี ที่คุณปู่ได้ทำการตกแต่งหน้าบ้านของเขา ให้กลายเป็นสวยที่สวยงาม จนในที่สุดสวนแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีผู้คนแวะเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างมากมาย . คุณปู่ทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้สวนของตัวเองออกมาสวยงาม และผลลัพธ์ที่ได้มันก็คุ้มค่ามากจริงๆ ลองนึกดูสิ…สวนสีสันสดใส ที่อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบ มันคงจะเป็นภาพที่สวยสะดุดตาไม่น้อย…
-
คลิปคู่รักท่องเที่ยวในเซอร์เบีย ประทับใจชาวเน็ต มีคนเข้าชมนับล้านพียงไม่กี่วัน!!!
กำลังเป็นที่ฮือฮาของชาวเน็ตทั่วโลก ให้อิจฉาตาร้อนกันเล่นๆ กับคลิปวิดีโอรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากทั่วทั้งประเทศเซอร์เบีย ที่คู่รักทั้งสองคนนี้ได้ไปเยือนมา.. เรื่องราวการผจญภัยในเซอร์เบียร์ ของ Malwina และ Michal Kolatek สองคู่รักนักท่องเที่ยว ได้ตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวไปในโลกใหม่ ด้วยระยะทางกว่า 4,500 กิโลเมตร เป็นระยะเวลากว่า 14 วัน เรื่องราวก็เริ่มจากการที่ทั้งคู่ได้อ่านบล็อก ’37 เหตุผลที่ไม่ควรมาเซอร์เบียร์’ จากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง และพบว่าวิวทิวทัศน์ของประเทศนี้ มันกำลังเรียกร้องให้พวกเขาเข้าไปสัมผัสให้ได้ กลายเป็นที่มาของโปรเจ็ค ‘Land Coloured with Life’ “ตลอดระยะเวลา 14 วัน เราทั้งสองเหมือนได้สัมผัสกับโลกใบใหม่ โลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยผู้คนใหม่ๆ ที่เราเจอ ขณะกำลังถ่ายทำวิดีโอ มีทั้งคนที่นำของฝาก ของขวัญ มาให้เรามากมาย แถมผู้คนยังใจดี อบอุ่น และเป็นกันเองมากๆ” ทั้งคู่กล่าว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมวิดีโอของทั้งคู่กันเลยดีกว่า ขอบอกเลยว่าทั้งมุมกล้อง ความคมชัด และสถานที่ๆ ไปถ่ายไม่ธรรมดาเอาซะเลย พอได้ชมแล้วก็เกิดอาการอิจฉา…
-
ชายหนุ่มเที่ยวนิวยอร์ก ไม่มีแพลนใดๆ แต่ให้ ‘ชาวเน็ต’ แนะนำ แล้วทำตามตลอดทริป…
ปกติเวลาเราไปเที่ยว ส่วนใหญ่ก็ต้องมีการวางแผนไว้ก่อนว่า จะไปที่ไหนบ้าง จะทำอะไร พักที่ไหน โดยเฉพาะถ้าไปต่างประเทศ เรายิ่งต้องวางแผนให้รัดกุมก่อนไป แต่สำหรับ Keith Habersberger นั้น กลับไปเที่ยวนิวยอร์กแบบไม่มีแพลนอะไรเลย เขาอาศัยทวิตเตอร์ในการพาเที่ยว โดยให้ผู้ติดตามเขาผ่านทวิตเตอร์เป็นผู้ให้คำแนะนำ ว่าจะให้ทำอะไร ที่ไหน เขาจะทำตาม เรียกได้ว่า มีความตื่นเต้นได้ตลอดทริปแน่ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง “ผมเพิ่งมาถึงนิวยอร์กเมื่อไม่นานนี้ ตลอดทั้งทริปผมให้เหล่าผู้ติดตามในทวิตเตอร์บอกว่าผมต้องทำอะไรบ้าง มันตื่นเต้นดีนะ” “ผมเริ่มต้นทริปที่นิวยอร์ก พวกเค้าบอกให้ผมกินขนมปัง Tompkins และช็อกโตแลตชิป แต่มันดันหมดซะก่อน แต่ผมก็ยังตามหาต่อไป เพื่อความสุขของพวกเขา” “ที่นิวยอร์กอากาศร้อนมาก และเหงื่อก็ออกท่วมตัว ผมเลยต้องหาเสื้อผ้าใหม่ และแน่นอนผมต้องถามเหล่าผู้ติดตามของผมว่า ผมจะไปซื้อเสื้อใหม่ได้ที่ไหน” “หลังจากนั้น ผมก็ไปที่ตลาด พวกเค้าบอกให้ผมไปซื้อผลไม้สดมา ผมเลยไปซื้อราสเบอร์รี่สดมากินกับ Hoda ผู้มาจากอียีปต์ ที่ไม่เคยกินราสเบอร์รี่มาก่อน” “พวกเขาแนะนำให้ผมไปที่ร้านเล็กในเมืองๆ ผมจึงไปที่ Scotch & Soda และให้พวกเค้าช่วยเลือกชุดให้ และชุดที่ได้มันทำให้ผมกลายเป็นคนใหม่เลยแฮะ” “ได้เวลาไปทานมื้อเที่ยงแล้ว และผมกำลังจะไปกินพิซซ่าชีสครับ และที่นี่ผมเห็นผู้คนมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม” ยิ้มตอบพี่เค้าหน่อยนาาาาา…
-
ชวนเที่ยว “ทะเลสาบชมพู” ในเม็กซิโก สวยงามราวเทพนิยาย แต่มีอยู่บนโลกเราจริงๆ
คุณอาจไม่ต้องเป็นถึงระดับโจรสลัดหมวกฟาง ก็สามารถออกไปตามหาทะเลแปลกๆ บนโลกใบนี้ได้เช่นกัน เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปชมทะเลสาบที่มีสีสันแปลกตาราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายหรือการ์ตูนเรื่องไหนสักเรื่อง… ทะเลสาบที่ #เหมียวฟิ้น พูดถึงอยู่ในขณะนี้อยู่ในประเทศเม็กซิโก เป็นทะเลที่มีสีสันประหลาดมาก เพราะมันเป็นสีชมพู เชื่อว่าผู้ที่คลั่งไคล้อินสตาแกรมหลายๆ คนก็อยากที่จะไปเก็บภาพสวยๆ จากที่นี่มาอัพให้ชาวโลกได้ดูเหมือนกัน ทะเลสาบแห่งนี้ถูกพบอยู่ในหมู่บ้านของชาวประมง Las Coloradas ชายฝั่งตะวันออกของเม็กซิโก มันไม่ใช่เวทย์มนต์หรือการโฟโต้ชอปใดๆ เพราะมันเป็นชมพูอมสีแดงแบบนั้นจริงๆ ส่วนที่ว่ามันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงนั้น ก็เพราะว่าในน้ำทะเลมีแพลงตอนแดงและไรทะเลเป็นจำนวนมหาศาล พวกมันมีสีแบบนี้ด้วยสารในตัวของมันเอง เปลี่ยนให้น้ำกลายเป็นสีชมพูไปโดยปริยาย นอกจากน้ำทะเลสีชมพูและชายหาดสีน้ำตาลแล้ว ที่ชายหาดยังมีกองทรายสีขาวๆ มาขั้นระหว่างกลางด้วย สาเหตุก็เพราะว่าครั้งหนึ่งที่เมือง Las Coloradas เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดเกลือมาก่อน ทำให้เศษซากของเกลือยังคงหลงเหลือและเกาะรวมกันเป็นคราบขาวๆ นั่นเอง . . . . . . นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่โรแมนติกเอามากๆ เลยนะ ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางกันเลย!! ที่มา boredpanda
-
เที่ยวญี่ปุ่นตามรอย ‘โคนัน’… ชมสถานที่ต่าง ในการ์ตูน ที่ทำซะเหมือนของจริงเป๊ะ!!!
ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าฉากต่างๆ ในการ์ตูนของญี่ปุ่นั้นมักจะมาจากสถานที่จริงๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้การ์ตูนญี่ปุ่นดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฎในฉากของการ์ตูนที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้จักกันดี ซึ่งก็คือเรื่องโคนัน เจ้าหนูน้อยยอดนักสืบนั่นเอง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า คุณ taewon จะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ต่างๆ ในเมืองเกียวโต ที่ไปปรากฏอยู่ในการ์ตูนเรื่องโคนัน The Movie 7 : Crossroad to the Ancient Capital มาเริ่มที่แรกกันเลย…รูปปั้นโยชิสึเนะกับเบงเก ดูเหมือนของจริงเลยนะเนี่ยย สะพานโกะโจ (บริเวณหัวสะพาน) เหมือนซะไม่มี!! บริเวณกลางสะพาน ขนาดหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้างแม่น้ำยังเหมือนเลย ทางเดินลงไปใต้สะพานโกะโจ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ลงมาข้างล่างทางเดินเลียบแม่น้ำ เหมือนกับนำสถานที่จริงมาอยู่ในการ์ตูนเลยล่ะเนอะ ศาลเจ้าโกะโจ เหมือนกับถ่ายภาพแล้วเอาไปแปะในเรื่องยังไงยังงั้นเลย แฮะ ถนน…
-
ปรบมือรัวๆ!! ไกด์จีนเตือนชาวจีนด้วยกัน หลังพยายามหยิบ ‘ขอนไม้ไทย’ ติดมือกลับบ้านเกิด
แม้เราจะเคยเห็นเรื่องราวแย่ๆ เกี่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนมาหลายครั้งหลายครา แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนดีๆ ที่มีความคิดดีๆ ยังคงมีอยุ่นะ เช่นคุณป้าหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์รายนี้ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Bin Bin Ji ได้โพสต์คลิปวิดีโอของตัวเอง ขณะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าไกด์ทัวร์อยู่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในระหว่างนั้นกลับมีลูกทัวร์คนจีนพยายามจะหยิบเอาขอนไม้อันหนึ่งกลับไปยังประเทศของตัวเอง หัวหน้าไกด์จึงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้นำเอาสิ่งใดติดตัวกลับไปด้วย แต่นักท่องเที่ยวยังคงต่อเถียงกับเธอไม่หยุดหย่อน เธอจึงท้าให้ชาวจีนรายนั้นนำท่อนไม้กลับไปด้วย หากคิดว่าตัวเองสามารถผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ แต่นักท่องเที่ยวยังคงเถียงกับหัวหน้าไกด์แบบไม่หยุด และอ้างว่าทำแบบนี้มานานกว่า 20 ประเทศแล้ว แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะเอาอะไรกลับประเทศก็ไม่เคยมีปัญหา เมื่อหัวหน้าไกด์จีนได้ยินแบบนั้นจึงต่อว่านักท่องเที่ยวจีนชุดใหญ่และบอกว่าชาวไทยนั้นกลัวนักท่องเที่ยวจีนกันหมดแล้ว สาเหตุที่ชาวไทยไม่ชอบคนจีนเพราะมีนักท่องเที่ยวแบบนี้เอง นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ทำไมไม่เก็บชายหาดใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องกลับจีนไปด้วยเลยละ ไอ้โง่” ลองชมคลิปตัวเต็มแบบซับไทยจากเพจ China Social Media by Johny ได้ที่ด้านล่างเลย (ใครมองไม่เห็น กดที่นี่ได้เลยนะ) มนุษย์ป้าจีน ผู้พิทักษ์ความยุติธรรมซับไทย ด่าหนักมาก! ด่าจีนด้วยกันเองประจาน! คนไทยด่าไม่ได้งี้ 555 เป็นประเด็นในโซเชียลจีนคลิปนี้ลงวันเดียว ยอดวิว 30 กว่าล้านแล้ว ป้าลูกทัวรฺ์ออกมาช่วยเมืองไทยพิทักษ์ธรรมชาติ น่าชื่นชม ยังคงต้องใช้เวลาปรับ เชื่อว่าเค้าพยายามกันอย่างหนักอยู่ ถ้าชอบไลค์เพจด้วยนะครับ สามชั่วโมงแรกยอดวิวแตะสี่หมื่น แอดมินอินไวท์เพิ่มไม่ได้แล้ววันนี้ 555 #เรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรม…
-
คลิปโปรโมทท่องเที่ยวเมือง Basel สุดเจ๋ง (และกวนทีน) เมื่อ Pokemon กันมาไล่จับคนบ้าง!!!
Pokemon Go นี่มาแรงจริงๆล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปสดๆร้อนๆให้คนไทยได้โหลดมาไล่จับโปเกม่อนกันอย่างสนุกสนาน แหมม..นึกว่าจะไม่ได้เล่นซะแล้ว ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจอแต่เหล่าเทรนเนอร์ออกมาจับโปเกม่อนทั้งนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับที่เมือง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ เพราะจู่ๆ เหล่าปิกาจูทั้ง 3 ตัวก็ออกมาก่อการกบฏต่อบ้านเมืองด้วยการหันมาไล่ล่าผู้คนแทนซะงั้น หรือนี่อาจจะเป็นการกลับมาแก้แค้นของพวกโปเกม่อนกันนะ? ปิกาจูสุดเกรียนทั้ง 3 ตัว ที่คอยนั่งรถตู้ไปทั่วเมือง Basel แล้วโยนโปเกบอลใส่คนแทนซะงั้น งานนี้บอกได้เลยว่ากวนทีนโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร แต่อันที่จริงแล้วเค้าต้องการที่จะโปรโมทเมือง Basel ซะมากกว่า เพราะมันเป็นเมืองที่น่าไปเที่ยวและน่าอยู่มากๆ และไม่แน่ว่าอาจจะมีโปเกม่อนหายากกำลังรอคอยอยู่ก็เป็นได้ เราไปชมคลิปแก๊งปิกาจูป่วนเมืองแบบเต็มๆกันเลยดีกว่า เรื่องความเกรียนนี่ต้องยกให้เลย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกวิธีการโปรโมทเมืองของตัวเองได้เจ๋งมากๆเช่นกัน และส่วนใครที่โดนลูกบอลจาก 3 คนนี่ไปอาจจะต้องมีโมโหกันบ้างล่ะ ฮ่าๆๆๆ (หวังว่ามันจะเป็นการเตี๊ยมบ้าง เพราะบางอันก็แอบแรงนะ อิอิ) ที่มา: BaselTourism
-
เสียววาบ!! นักท่องเที่ยวจีนเผยที่พักแรมแบบใหม่ กางเต๊นท์นอนริมหน้าผาสุดเร้าใจ
หากคุณต้องเดินทางไปท่องเที่ยวตามป่าเขา แต่รู้สึกว่าคุณยังเร้าใจพอล่ะก็ คุณอาจจะอยากลองมาพักแรมในสถานที่แบบนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่ภาพสุดหวาดเสียว ของกลุ่มคนที่ขึ้นไปตั้งเต๊นท์กว่า 100 หลัง บริเวณริมหน้าผาของภูเขาเล่าจุ่น ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีความสูงจากระดับพื้นดินถึง 1,000 เมตร ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นกล่าวว่ากลุ่มนักเดินทางได้ขึ้นไปตั้งแคมป์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตั้งแคมป์ของชุมชนในท้องถิ่นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยได้พิจารณาถึงความคิดนี้แล้วตัดสินใจขึ้นไปตั้งแคมป์อยู่ตรงพื้นที่เสี่ยงตายแบบนั้น แต่พวกเขาก็ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทดสอบความกล้าของตัวเองและดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน แต่การขึ้นไปนอนอยู่ที่ริมหน้าผาของพวกเขานั้นไม่ใช่เพราะต้องการความตื่นเต้นหรือหวาดเสียวเพียงอย่างเดียว พวกเขาจะได้สิทธิพิเศษในการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านยามค่ำคืน และสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากจากในตัวเมือง . แม้จะดูหวาดเสียวไปหน่อย แต่พวกเขาก็ได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ในแบบที่น้อยคนจะได้ทำแบบพวกเขาล่ะนะ ที่มา CCTVNews
-
ปรากฏการณ์ ‘Blue Tears’ น้ำทะเลเปล่งประกายสีฟ้า ณ หมู่เกาะทางตอนเหนือของไต้หวัน!!
หลังจากที่ไต้หวันได้ทำการยกเลิก VISA จากไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เป็นการชั่วคราว) ทำให้ตอนนี้เราสามารถเข้าไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวันได้โดยไม่ต้องไปลำบากขอวีซ่าได้แล้วล่ะ เพียงแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินก็สามารถไปได้เลย แล้วที่ไต้หวันจะมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้เที่ยวบ้างน๊าาาา?? วันนี้ #เหมียวหง่าว ก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสวยๆ ที่ตอนนี้กำลังเกิดอยู่ที่ไต้หวันกัน เผื่อเพื่อนๆ คนไหนมีแพลนจะไปเที่ยวที่นี่ก็ต้องลองแวะไปดูกันหน่อยแล้วล่ะ เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จัก Blue Tears กันมาบ้างแล้ว มันคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ต้องขอบอกเลยว่าสวยงามสุดๆ ทะเลในตอนกลางคืนจะเรืองแสงสีฟ้าดูสวยงามตระการตา ก่อนหน้านี้เจ้า Blue Tears นี้ถูกสันนิษฐานว่าเกิดจากมลพิษที่เกิดจากการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี จนทำให้เกิดสีฟ้าแบบนี้ แต่สุดท้ายทฤษฎีนี้ก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งศาสตราจารย์ Chiang Kuo-Ping ผู้อำนวยการของสถาบันสิ่งแวดล้อมทางทะเลและระบบนิเวศ ของมหาวิทยาลัย National Taiwan Ocean University ได้ทำการศึกษาและทดลองเกี่ยวกับน้ำทะเลบนเกาะนี้เป็นระยะเวลา 4 เดือนก็พบว่าที่น้ำทะเลเปล่งแสงสีฟ้าออกในช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ก็เพราะเจ้า Notiluca scintillans นี่แหละ Notiluca scintillans เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของเจ้าประกายแสงที่อยู่ในทะเล ที่เราเรียกกันว่า ‘Sea Sparkle’ จริงๆ แล้วมันก็คือตะไคร่น้ำอย่างหนึ่งที่สามารถเรืองแสงได้ แต่ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ และที่มันมีอยู่เป็นจำนวนมากแถวๆ…
-
การถ่ายภาพครั้งนี้ สอนสาวๆ ให้รู้ว่า อย่าไว้ใจ ‘ลิงอุรังอุตัง’ เด็ดขาด (ยิ้มใหญ่เลยนะเอ็ง!!)
เวลาเราไปเที่ยวส่วนสัตว์เนี่ย นอกจากการเที่ยวชมสัตว์ ถ่ายรูปสัตว์แล้ว บางทีเราก็อยากมีรูปสวยที่ถ่ายคู่กับสัตว์บ้าง บางคนก็ถ่ายได้สมใจบ้าง บางคนก็ไม่ได้ แต่ที่เราจะพาไปดูวันนี้ ไม่รู้ว่า เจ้าตัวจะชอบรูปนี้มั้ยน้าาาาา?? อย่างที่เรารู้กันว่า มีนักท่องเที่ยวนับพันคนที่ไปเที่ยว Safari World กรุงเทพฯ ในวันหยุด เพื่อที่จะถ่ายรูปกับสัตว์บางชนิด แต่นักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่ง ถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเธอถ่ายรูปกับเจ้าอุรังอุตัง ซึ่งครั้งแรกมันก็โอบเอวอยู่ดีๆ ก็ดูน่ารักไม่แปลก แต่แหม่ บางทีก็เยอะไป 555 นี่คือรูปที่นักท่องเที่ยวคิดว่าจะได้จากการถ่ายรูปกับเจ้าลิงอุรังอุตัง แรกๆ ก็น่ารักอยู่นะ โอบเอว เหมือนแจ็คกับโรสเลย แต่แป๊บเดียวเท่านั้น… ความทะลึ่งตึงตังก็เริ่มเข้าแทรกอย่างรวดเร็ว และนี่คือสิ่งได้ คุ้มมั้ยล่าาาาา หมายถึงเจ้าชีมแปนซีนะ คุ้มมั้ย?? เอ๊าาาา ไปไหนละ กลับมาก่อน ลั่นเลยยยย แทบไม่อยากจะบรรยายต่อเลยว่าบรรยากาศจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ ก็คืออุรังอุตังฟินแน่นอน… เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจเจ้าอุรังอุตังเชียวละ ทะลึ่งเหลือเกิน ฮร่าๆๆ ที่มา dailymail
-
จาก ‘ป้อมปราการเก่าๆ’ กลางทะเลอายุกว่า 150 ปี กลายเป็นโรงแรมห้าดาว หรูน่าไปมาก
หากคุณอยากจะมีวันหยุดพักผ่อนชวนฝันแบบแฟนตาซีกลางทะเลล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับป้อมปราการกลางทะเลอายุเก่าแก่แห่งนี้หน่อยเป็นไง? ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อว่า Solent ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเมืองพอร์ตสมัธ และเกาะไอล์ออฟไวต์ ของประเทศอังกฤษ ตอนแรกที่มันถูกสร้างขึ้นมีจุดประสงค์เพื่อเอาไว้เป็นจุดป้องกันศัตรูไม่ให้ผ่านเข้ามาทางช่องแคบโซเลนต์ ใช้เวลาในการสร้างตั้งแต่ปี 1867 – 1880 ยาวนานกว่า 13 ปี ใช้งบในการสร้างราวๆ 18 ล้านบาท หลังจากนั้นเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความสำคัญของมันก็น้อยลง และกลายเป็นสถานที่ไม่สำคัญทางทหารแล้ว… แต่ปัจจุบันมันถูกปรับปรุงและบูรณะใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมชั้นเลิศ การเดินทางไปที่นี่นั้นมีอยู่ 2 ช่องทาง ทางแรกก็คือคุณจะต้องไปเช็คอินที่ท่าเรือชายฝั่งในเวลา 10.30 นาฬิกา จากนั้นเรือจะออกจากท่าในเวลา 11.30 นาฬิกา เพื่อมาส่งคุณให้ถึงป้อมปราการแห่งนี้ แต่หากคุณมีเงินล้นเหลือล่ะก็ จะนั่งเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ดาดฟ้าของป้อมก็ไม่มีใครว่าเช่นกัน เมื่อเดินเข้ามาด้านใน คุณจะพบกับพนักงานต้อนรับยืนเสิร์ฟแชมเปญให้คุณในบรรยากาศสุดหรูเลย . . ภายในนั้นนอกจากห้องอาหาร และห้องพักไว้รองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมี The Zing Spa สปาให้พวกเราได้พักผ่อนหย่อนใจกันด้วย พนักงานโรงแรมเล่าว่าเศียรพระพุทธรูปนั่นถูกค้นพบอยู่บนป้อมแห่งนี้ตั้งแต่แรก ก่อนจะมีการบูรณะให้กลายเป็นโรงแรม พวกเขาเลยนำมาตั้งไว้เป็นอนุสรณ์ของสปาแห่งนี้ คุณสามารถรับรู้ประวัติศาสตร์ของป้อมปราการแห่งนี้ได้ตามจุดต่างๆ ทั่วป้อม…
-
แม้หลายคนบอกว่า ‘เสียเวลา’ แต่เธอก็ลาออกงานในวัย 26 ปี และออกเที่ยวรอบโลกตามฝัน!!!
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ถือว่าเป็นความฝันอย่างหนึ่งที่อยากทำให้ได้ แต่ด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่างและแรงกดดันจากสังคม ทำให้บางครั้งหลายๆ คนต้องละทิ้งความฝันไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับ Omniya Fareed Shafik หญิงสาวชาวดูไบวัย 26 ปีคนนี้ก็เช่นกัน เธอมีความฝันที่จะออกเที่ยวรอบโลกซักครั้งหนึ่ง แต่สำหรับหญิงอาหรับแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่พวกเธอต้องสร้างเนื้อสร้างตัวและมีครอบครัวของตนเอง ทำให้เธอต้องทนทำงานในธนาคารที่เธอไม่มีความสุขต่อไป จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เธอตัดสินใจลาออกจากงานและทำตามความฝันของตนเองด้วยการออกเที่ยวรอบโลกตามลำพัง แม้จะมีเสียงจากคนรอบข้างคอยห้ามเธอ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งเธอได้ หลังจากเธอลาออกจากงาน เธอก็ทำงานแบบอิสระอยู่ที่บ้านของเธอเอง จากนั้นเธอจะกำหนดเป้าหมาย เก็บเงิน และเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้น เมื่อเงินหมด เธอก็จะกลับมาทำงานเก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยวในครั้งต่อไป เธอบอกว่า กระบวนการเดินทางและได้พบปะผู้คนใหม่ๆ รวมทั้งก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตนเอง คือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างมาก หนึ่งในทริปที่เธอชอบมากที่สุด คือตอนที่ไปนอนค้างกลางทะเลทรายในประเทศโมร็อคโค ซึ่งเธอได้นอนดูดาวอย่างชัดเจนในเต้นท์กลางทะเลทราย . เธอเล่าอีกว่า ทริปของเธอนั้นไม่ได้ราบรื่นตลอดไป แต่วิธีการแก้ไขก็ไม่ยาก แค่ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวประสบการณ์ก็จะสอนเราเอง แรกๆ มันอาจจะยาก แต่ผ่านไปทุกอย่างมันจะง่ายขึ้นเอง . ในช่วงปีที่ผ่านมา เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบตัวเป็นอย่างมาก…
-
25 อินสตาแกรมของเหล่านักเดินทาง ที่คนรักการเที่ยว ควรไปกดติดตามไว้เลย…
ไม่ว่าคุณกำลังจะไปทำงาน รอไปทานอาหารมื้อเย็นกับเพื่อนหรือนอนกลิ้งไปมาบนเตียงรอเวลาหลับก็มักจะต้องมีมือถือติดอยู่ข้างกายเสมอ เพียงแค่คลิกเดียวง่ายๆก็ทำให้เราเห็นโลกภายนอกได้ทั้งใบ เว็บไซต์ TheEveryGirl ได้รวบรวม 25 บัญชีผู้ใช้จากอินสตาแกรมที่อาจจะช่วยให้เราพบสถานที่ๆอยากไปใหม่ๆและรู้จักกับโลกกว้างมากขึ้นจากการติดตามชีวิตท่องเที่ยวของพวกเขาเหล่านี้… 1. @thebusandus ติดตาม: @thebusandus คู่รักจากอลาสก้าที่ลาออกจากงานประจำและตัดสินใจออกเดินทางด้วยรถโฟล์คสุดฮิปที่พาพวกเขาเดินทางจากเมืองอลาสก้าบ้านเกิดของพวกเขาไปจนถึงประเทศอาร์เจนติน่าเลยทีเดียว 2. @gypsea_lust ติดตาม: @gypsea_lust Lauren ช่างภาพหญิงสาวผู้รักการผจญภัยจากออสเตรเลียที่เดินทางไปรอบโลก ติดตามเธอไว้แล้วจะทำให้เรารู้จักชายหาดสวยๆจากทั่วทุกมุมโลกที่เธอได้ไปมาอย่างดียิ่งขึ้น 3. @cntraveler ติดตาม: @cntraveler Condé Nast เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของเนื้อหาการท่องเที่ยวที่มีสาระประโยชน์มากๆ ถ้าหากเรากำลังมองหาคำแนะนำที่ดีๆละก็ขอแนะนำให้ติดตามกันได้เลย 4. @helloemilie ติดตาม: @helloemilie Emilie สาวสวยผู้รักการผจญภัยที่เดินทางไปรอบโลกด้วยตัวของเธอเอง รับรองว่ารูปถ่ายสวยๆจากหลากหลายที่ๆเธอไปมาจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากออกเดินทางได้เลยล่ะ 5. @localwanderer ติดตาม: @localwanderer สองเพื่อนซี้ Elaine และ Taylor ที่ตัดสินใจลาออกจากงานในปี 2014 และเริ่มเดินทางไปเรื่อยๆในชายฝั่งตะวันตก การเดินทางของพวกเขาจะพาเราไปรู้จักกับอาหารท้องถิ่นที่แสนขึ้นชื่อในแต่ละเมืองตามแบบนิยามการท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่นของเขาทั้งสอง 6. @budgettraveller ติดตาม: @budgettraveller Kash นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่จะทำให้เรารู้จักการเที่ยวแบบประหยัดงบแต่อยู่กินแบบสบายและเขายังเป็นคนเขียนรวบรวมเทศกาลขนาดเล็กทั่วทั้งยุโรปอีกด้วย 7.…
-
เที่ยวทั้งทีต้องสบายใจ กับ 5 เทคนิคขอลางาน ให้ได้ไปเที่ยวแบบรื่นรมย์ !!!
ทำงานกันมาเหนื่อยๆทั้งปีหลายคนคงอยากจะใช้วันลาพักร้อนออกไปผ่อนคลายสมองกันบ้าง แต่แหมมม…พักผ่อนทั้งทีมันก็ต้องมีการทำเรื่องลาทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานกันใช่มั้ยล่ะ ขอแนะนำ 5 วิธีคำแนะนำดีๆจากคุณ Suzy Strutner ที่จะทำให้หัวหน้าใจอ่อนยอมปล่อยให้เราไปพักผ่อนกันแบบง่ายๆ 1. วางแผนงานที่ทิ้งไว้ให้ดี และอธิบายแก่หัวหน้าให้เข้าใจ จากการสำรวจแล้ว ร้อยทั้งร้อยหัวหน้าฝ่ายจะกังวลเรื่องงานในช่วงที่เราไม่อยู่ เพราะฉะนั้นวางแผนจัดการให้ดีในช่วงที่เราไม่อยู่ก่อนจะขอลาพักประจำปี แถมมันยังช่วยแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และความเป็นมืออาชีพที่เรามีต่องานอีกด้วย 2. ถามได้ผลกว่าบอก มันมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างการถามหัวหน้าเพื่อขออนุญาติลาพักร้อนประจำปีกับการบอกให้หัวหน้าฟังว่าเราจะไปเที่ยวเมื่อไหร่ การถามบอสเพื่อยันยันว่าจะให้เราลาไหม มันชัดเจนและได้ผลกว่าการบอกว่าจะไปเที่ยวเฉยๆ 3. แจ้งระยะเวลาที่จะไปและจำนวนวันลาที่เหลือ การแจ้งจำนวนวันที่ต้องการลาพร้อมกับบอกหัวหน้าว่าวันลาเราเหลือกี่วันแล้ว จะช่วยให้หัวหน้าทราบว่าเรายังมีวันลาเหลืออยู่ตามนโยบายของบริษัทยกตัวอย่างเช่น ” ขอชี้แจงการลาหยุดตั้งแต่วันที่ 20 – 25 พ.ค. เป็นจำนวน 6 วัน จากวันลาทั้งหมด 14 วัน ต่อปี “ 4. ควรบอกล่วงหน้า 1 เดือน บอกก่อนล่วงหน้าซัก 1 เดือนเป็นช่วงระยะเวลาที่มากพอที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานเราวางแผนช่วยจัดการกับงานในช่วงที่เราไม่อยู่ได้ 5. ยื่นแบบคำขออย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าอาจจะสนิทกับหัวหน้าจนเหมือนเพื่อนกัน แต่การขอลาหยุดด้วยการบอกปากเปล่ามันก็ยังดูไม่เป็นทางการพอ ขอแนะนำให้เขียนจดหมายขอลาเป็นลายลักษณ์อักษรแบบเป็นทางการได้ผลกว่าแน่ๆ …
-
จดเอาไว้ก็ดี… 7 เว็บทางเลือก (ที่ไม่ดัง) ไว้หา ‘ตั๋วเครื่องบินราคาถูก’ ได้อย่างดีเช่นกัน
การจะไปเที่ยวแต่ละทีราคาตั๋วเครื่องบินมันไม่ถูกเอาซะเลย แน่นอนว่าหลายคนก็มักจะเสาะแสวงหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่สุดให้ได้ เพราะนั่นมันหมายถึงเราจะมีเงินเหลือเก็บ หรือสามารถเอาไปใช้ในส่วนอื่นๆของการเที่ยวได้อีกเยอะเลย… ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์ HuffingtonPost แนะนำว่าเราควรจะลิสต์รายชื่อเว็บต่างๆ ทั้ง 7 เว็บนี้ไว้ เพราะมันช่วยให้เราหาตั๋วราคาถูกได้อย่างแน่นอน… 1.The Flight Deal เว็บนี้ให้เราค้นหาตั๋วราคาประหยัดได้ แต่ที่เด็ดกว่าคือใครที่ติดตามทวิตเตอร์ อาจจะมีโปรโมชั่นแบบถูกสุดๆปล่อยมาในช่วงเวลาพิเศษ ใครที่ไวก็จะได้ไปนั่นเอง [Website, Twitter, Facebook] 2. Secret Flying นอกจากหน้าตาจะสะอาดใช้งานง่ายแล้ว ยังมีโปรออกมาในทวิตเตอร์บ่อยๆ เหมือนกับเว็บด้านบนอีกด้วย [Website, Twitter, Facebook] 3. Airfarewatchdog ไม่ต้องมีคำบรรยายมาก แต่ถ้าใครหาตั๋วที่ราคาถูกจากที่อื่นไม่ได้ ลองค้นเว็บนี้อาจจะมีเซอร์ไพร้ส์เช่นกัน… [Website, Twitter, Facebook] 4. The Points Guy อัพเดทตั๋วถูก นอกจากนี้ยังมีรีวิวสายการบินต่างๆ รวมถึงข้อแนะนำเรื่องการใช้บัตรเครดิต เพื่อให้เราเซฟเงินได้มากที่สุดอีกด้วย อาจจะแค่ 2-3% แต่ถ้าเที่ยวเป็นแสน มันก็ประหยัดเยอะอยู่นะ [Website, Twitter, Facebook]…
-
38 มหัศจรรย์รูปถ่ายจาก Iceland จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋า แล้วบินไปทันที!!!
Iceland ประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ที่มีทั้งภูเขาไฟมากกว่าร้อยแห่งที่ยังคงคุกกรุ่นอยู่และธารน้ำแข็งที่ตั้งตระหง่านขนาดใหญ่อยู่ใจกลางทะเล มีสภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 0-25 องศา ตามแต่ช่วงฤดูกาล ซึ่งจากทั้งที่ตั้งและภูมิอากาศนี้เอง ส่งผลให้ประเทศมีความเป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนกับที่อื่นๆบนโลก ถึงแม้จะดูเป็นประเทศเล็กๆที่เงียบสงบแต่มันก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดึงดูดช่างภาพจากทั่วโลกให้มาเก็บภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ เชื่อว่าหลายๆคนอยากจะลองไปเที่ยวให้ได้ซักครั้ง (รวมทั้งตัว #เหมียวบ็อบ เองด้วย) และแน่นอนว่า ภาพเหล่านี้มันจะกระตุ้นความอยากไปของทุกๆ คน ได้เป็นอย่างดี . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . …
-
และนี่คือ 12 ปาร์ตี้ริมหาดมันส์ๆ จากทั่วโลก ที่เค้าบอกว่าชีวิตนี้ต้องไปลองให้ได้!!!
ทุกคืนวันศุกร์แห่งชาติเหมียวรู้ว่าเพื่อนๆคงรอเวลาให้แสงลับขอบฟ้าแล้วออกไปโลดแล่นในยามราตรีกันให้มันส์สุดเหวี่ยงเลยใช่มั้ยล่ะ แต่บางทีไปเที่ยวที่เดิมๆบ่อยๆอาจจะเกิดอาการเบื่อกันบ้าง… ขอเอาใจคนชอบเที่ยวด้วย 12 ปาร์ตี้ริมชายหาดที่ต้องลองไปให้ได้ซักครั้ง แต่ขอแนะนำไว้ก่อนว่าไปแบบโสดอาจจะดีกว่านะจ๊ะ อิอิ 1. Super Pradise Beach เกาะ Mykono ที่ Greece ขาเมาไม่ควรพลาดกับชายหาดที่ปาร์ตี้กันตั้งแต่เย็นยันเช้าของอีกวันเลยทีเดียว สามารถมาเมากันได้ทุกวันไม่มีหยุดถ้าวันไหนโชคดีก็อาจจะได้เจอกับเซเล็บดังๆจากทั่วโลกมาที่นี่ด้วยเช่นกัน . 2. South Beach ใน Miami รัฐ Florida ที่สุดแห่งความมันส์ยามค่ำคืนไม่ว่าจะทั้งสถานที่สวยงาม ดนตรีโดน ปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยความครื้นเครงและที่สำคัญที่สุดสำหรับงานปาร์ตี้ก็คือสาวฮ็อตที่มารวมตัวกันที่นี่จนหนุ่มๆอาจจะเกิดอาการตกหลุมรักกันที่นี่เลยทีเดียว . 3. Cala Jondal Beach เกาะ Ibiza ที่ Spain ถ้าพูดถึงปาร์ตี้แล้วจะลืม Ibiza ไปไม่ได้เพราะที่นี่เป็นอันดับต้นๆที่สาวๆหนุ่มๆจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันและปาร์ตี้กันแบบหามรุ่งหามค่ำจนลืมวันลืมเดือนไปเลย . 4. Copacabana Beach เมือง Rio de Janeiro ที่ Brazil ถ้าอยากจะรู้ว่าการใช้ชีวิตแบบสนุกสุดเหวี่ยงสุดๆมันเป็นยังไงก็ต้องมาที่นี่สวรรค์ของคนรักปาร์ตี้จริงๆ . …
-
พาย้อนอดีต!! ไปดูกันว่าเมื่อ 50 ปีก่อน ‘อาหารบนเครื่องบิน’ เค้าเสิร์ฟอะไรให้ผู้โดยสาร…
สมัยนี้เวลาบินไปเที่ยวไหนทีมักจะบ่นกันว่าอาหารบนเครื่องไม่อร่อยหรือไม่มีรสชาติบ้าง จนกระทั่งหลายคนบอกว่าอาหารบนเครื่องสมัยก่อนมันดูดีกว่ายุคนี้เยอะเลย งั้นเราลองย้อนกลับไปดูสมัย 50 ปีก่อน ว่าอาหารบนเครื่องบินจะเป็นอย่างไร รูปถ่ายเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยสายการบิน Norwegian Air นั่นเอง อย่างที่เรารู้กันดีเมื่อก่อนการเดินทางด้วยเครื่องบินแพงมากๆ ต้องพอมีฐานะระดับนึงจึงจะเข้าถึงได้ . ดังนั้นการบริการบนเครื่องจะต้องดีมากๆเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ดีของผู้โดยสาร . . . อาหารที่เสิร์ฟก็ดูหลากหลายและน่าทานมาก . อาหารหรูๆ ก็มีให้บริการกันเป็นธรรมดาเช่น ล็อบสเตอร์ แชมเปญ หรือ เนื้อแฮมสดๆ . . ผู้โดยสารจะสั่งอาหารจากเมนูมากหรือน้อยเท่าไหร่ก็ได้ บางเที่ยวบินมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์มาให้คำแนะนำด้วย ตัวอย่างรายการอาหารเล็กๆน้อยๆสำหรับผู้โดยสาร…. . . หน้าตาอาหารสำหรับ Business Class ในยุค 80’s ในยุคนั้นบนเครื่องมีพื้นที่ไม่แออัดเหมือนสมัยนี้ และที่สำคัญที่สุดราคาอาหารทั้งหมดรวมไปในค่าตั๋วเครื่องบินแล้วผู้โดยสารไม่ต้องห่วงเรื่องท้องหิวตลอดเส้นทาง เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารบนเครื่องชั้นประหยัดในสมัยนี้แล้วมันช่างน่าอิจฉาซะจริงๆ เลยเนอะ ที่มา boredomtherapy
-
เมื่อช่างภาพฝรั่งเที่ยวเกาหลีเหนือ และแอบนำ 37 รูปเหล่านี้ มาเผยแพร่ให้เราได้ดูกัน!?
บางทีเราก็รู้สึกเหมือนกับว่าสามารถไปได้ทุกที่บนโลกนี้เพราะการเดินทางรอบโลกง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปไหนก็ยังมีโลกของอินเตอร์เน็ตที่จะพาให้เราเห็นโลกได้กว้างขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ค่อยมีใครพอรู้เรื่องราววิถีชีวิตหรือการเป็นอยู่เท่าไหร่นั่นก็คือ ‘เกาหลีเหนือ’ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อช่างภาพ ‘Michal Huniewiz’ ไปเที่ยวที่นั่น และแอบถ่ายรูปวิถีชีวิตของผู้คนบางส่วนออกมาสู่โลกภายนอก ติดตามเรื่องราวของพี่แกไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า…. เดินทางเข้าสู่เกาหลีเหนือโดยรถไฟจากเมือง Dandong ประเทศจีน ถ้าอยากจะเที่ยวเกาหลีเหนือก็ต้องผ่านสถานีนี้ได้ที่เดียวเท่านั้นสำหรับคนต่างชาติ เริ่มเจอผู้คนที่นี่บ้างแล้ว ภาพเมืองเปียงยางแบบชัดๆ ที่นี่ดูเยือกเย็นมากๆ สะพานมิตรภาพเกาหลีเป็นที่สุดท้ายที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นไฟสว่างๆในเมืองนี้ ชาวบ้านเกาหลีที่กำลังรอสัญญาณจากรถไฟ พี่แกเลยแอบถ่ายซะเลย คนงานก่อสร้างที่นี่ ชาวบ้านที่กำลังกวาดฝุ่นบนถนนโดยมีทหารยืนกำกับอยู่ เขาเล่าว่าทีวีในร้านอาหารก็มักจะเปิดช่องที่เกี่ยวกับผู้อยู่นำเสมอ อันที่จริงไม่ว่าจะไปไหนก็จะเจอแต่สื่อเกี่ยวกับท่านผู้นำอยู่ตลอดนั่นแหละ ชาวบ้านในเกาหลีเหนือที่กำลังเดินอยู่ข้างถนน . ดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนนี้จะแต่งตัวดูดีกว่าคนอื่นๆ กลุ่มเด็กผู้หญิงที่จับคู่กันกวาดทางเดิน (ที่เขาบอกว่ามันดูสะอาดอยู่แล้ว!?) ช่างภาพคนนี้พยายามเก็บภาพถ่ายให้ได้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะถูกสั่งห้ามถ่าย เขาแอบถ่ายบางส่วน เพราะอยากจะเอาภาพถ่ายออกมาเผยแพร่ให้ได้ ภาพของรถกระบะที่กำลังขนส่งกลุ่มทหารมาแต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ตัวว่าถูกถ่ายรูปไว้ บางครั้งการถ่ายรูปทหารที่นี่ถือว่ามีความผิด . รูปนี้ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วในเมืองหลวงที่นี่เป็นยังไงกันแน่ …
-
แนะนำ 6 แอพสำหรับนักเที่ยว จะทำให้การเดินทางของคุณ ง่ายขึ้นอีกเยอะเลย
สมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนโทรศัพท์มือถือก็กลายมาเป็นเหมือนอีกปัจจัยหลักของเราไปซะแล้ว แต่ก็เพราะมันสะดวกและช่วยงานได้มากขึ้นจริงๆนั่นแหละเราจึงปฏิเสธที่จะใช้มันไม่ลงเลย วันนี้ ขอพาไปแนะนำให้รู้จักกับ 6 แอพฯ ที่เว็บไซต์ sheknows ได้รวบรวมมาให้ ทีนี้ละขอแค่มีมือถือซักเครื่องก็ช่วยได้ทุกเรื่องจริงๆ 1. Minube เมื่อไหร่ที่เพื่อนๆไปถึงจุดหมายแต่ไม่รู้ว่าที่ต่อไปควรไปที่ไหนดีขอแนะนำแอพฯที่รวบรวมเรื่องราวจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆกว่า 500,000 คนทั่วโลกที่แชร์เรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่เราไปและยังสามารถแชร์เรื่องราวของเราเองได้อีกด้วยต่างคนต่างรสนิยมมาแชร์เรื่องราวในที่เดียวกันแบบนี้ อาจจะทำให้เกิดอาการเลือกไม่ถูกว่าไปเที่ยวไหนต่อดีก็ได้นะ 2. Gogobot แอพฯที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อนในทุกที่ๆเราไปไม่ว่าเราจะไปขึ้นเหนือหรือลงใต้ แอพฯจะช่วยเราค้นหาสถานที่น่าสนใจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเด็ดๆรือจองที่พักถูกๆ ไม่สำคัญว่าเราจะชอบท่องเที่ยวแบบไหนแอพฯนี้จะช่วยให้เราค้นหาสถานที่เด็ดๆในเมืองที่เราอยู่แน่นอน 3. Packing Pro นอกเหนือจากการจองตั๋วแล้ว การแพ็คของใส่กระเป๋าก็เป็นอีกเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับบางคนเช่นกัน แต่ไม่ต้องห่วงเจ้าแอพฯมันถูกออกแบบมาให้รองรับต่อการวางแผนการจัดกระเป๋าที่จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเที่ยวหาเพื่อน 1 สัปดาห์ หรือจะไปยุโรป 1 เดือน แอพจะช่วยคำนวนว่าคุณควรเอาอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง 4. Tripit มันคงจะง่ายขึ้นมากๆถ้าเราสามารถเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆไว้ในที่เดียวได้ เช่น เวลาออกเดินทางต่างๆที่ชอบทำให้เกิดอาการสับสนได้ง่ายๆหรือจะเตือนความจำตั๋วที่จองไว้ต่างๆก็ทำได้ทั้งนั้นต่อไปไม่ว่าคุณจะต้องบินต่อเนื่องสักกี่ที่หรือจองโรงแรมไว้กี่เมืองแอพฯนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องมาเสียเวลานั่งจำมันอีกต่อไป 5. Vayable แอพฯที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวของเราเป็นไปในแบบที่เราชอบมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะชอบออกไปผจญภัยหรือเที่ยวแบบสงบๆชิลๆแอพฯนี้ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากทั่วโลกไม่1ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อดังไปจนถึงร้านอาหารอันเลื่องชื่อของเมืองเมื่อมีแอพฯนี้มันจะช่วยให้คุณจองได้ง่ายขึ้นและไม่ต้องไปยืนต่อแถวให้เสียเวลาอีกต่อไป 6. mTrip Travel Guides เบื่อกับการที่ต้องถือหนังสือเล่มหนาเตอะและแผนที่ท่องเที่ยวแผ่นเท่าฝาบ้านมั้ย? แอพฯนี้จะช่วยให้การเดินทางไปในที่ต่างๆของคุณสะดวกสบายและง่ายมากขึ้น เจ้าmTripมีระบบอัลกอริธึ่มที่จะช่วยให้เข้าใจไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของเรามากขึ้น ทีนี้ละโหลดแอพฯนี้ไว้อันเดียวก็ไม่ต้องหิ้วของพะรุงพะรังกันอีกต่อไปแล้ว แต่ละแอพฯนับว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ได้เดินทางมากเลยจริงๆ แบบนี้เวลาจะไปเที่ยวทีช่วยให้หายกังวลไปได้อีกเยอะเลยทีนี้ละจะได้สนุกเต็มที่กับการเที่ยวอย่างเดียวซักที ฮ่าๆๆๆ …
-
ตามชมชีวิต ชนเผ่าโบราณในเอธิโอเปีย เมื่อวัฒนธรรมดั้งเดิม ต่อสู้กับโลกสมัยใหม่…
ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลาย และมีหลายสิ่งหลายที่รอให้เราได้เข้าไปสัมผัส เรียนรู้ เพื่อนำมาเผยแพร่ให้กับผู้อื่น วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาไปสัมผัส เรียนรู้อีกมุมหนึ่งของโลก จากประสบการณ์ของช่างภาพสารคดีคนหนึ่ง ที่ได้เดินทางไปยัง Omo Valley ประเทศเอธิโอเปีย เพื่อบันทึกภาพวิถีชีวิตของ 5 ชนเผ่าโบราณดั้งเดิม ท่ามกลางโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้… เริ่มจากกลุ่มแรก ชนเผ่า Hamar ที่เหลือกำลังรวมตัวกันอยู่ใต้ต้นใม้ใหญ่ เมื่อมีเขื่อนไฟฟ้าขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นที่แม่น้ำ Omo เพื่อที่จะสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ชนเผ่าเหล่านี้ต้องย้ายไปยังที่ที่ห่างไกลจากแผ่นดินำถิ่นกำเนิดของพวกเขา การสร้างเขื่อนนี้ได้ทำลายระบบสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของชนเผ่านี้ที่มีความผูกพันอยู่กับแม่น้ำมาเป็นเวลานาน พวกผู้ชายจะเพ้นท์หน้าตัวเอง ก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีกระโดดวัว เมื่อมีธุรกิจการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปด้วย “ผมต้องจ่ายให้พวกเขาทุกครั้งที่ถ่ายรูป และโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกเขาก็มีน้อยมาก ภาพที่หาเงินได้ดีที่สุดคือ ภาพที่ผู้หญิงเทินหม้อและดอกไม้ไว้บนหัว เด็กๆจะถูกจัดให้โพสต์ท่าราวกับนางแบบที่มีประสบการณ์มานาน มีการเอาสีมาทาบนเรือนร่างและออกท่าทางคล้ายกับการเต้น” เมื่อโลกาภิวัตน์เข้ามาแทนที่ ความเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้จึงหายไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้หญิงจะอาสาหาแส้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความมุ่งมั่นของหนุ่มๆในการเข้าร่วมพิธีกระโดดวัว ฝูงวัวจะยืนเรียงกัน เพื่อใช้สำหรับพิธีกระโดดวัว พิธีกระโดดวัว จัดขึ้นเพื่อทดสอบว่า วัยรุ่นชายพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว และพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัว รวมทั้งการได้เป็นเจ้าของวัวด้วย การเต้นรำของชนเผ่าในระหว่างพิธีกระโดดวัว…
-
คาเฟ่เม่นแคระ ที่เที่ยวใหม่ในญี่ปุ่น กับเหล่าเจ้าเม่นน้อย รอให้เราไปเล่นถึง 30 ตัว!!!!
ญี่ปุ่นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มักจะสรรค์สร้างอะไรที่แปลกและมีไอเดียอยู่ตลอดอย่างที่เรารู้กันดี #เหมียวบ็อบ ได้ไปเจอกับ ร้านกาแฟสุดชิคที่เปิดใหม่ในญี่ปุ่น เพราะความวิเศษของที่นี่คือมีพนักงานเป็นเม่นแคระน้อยคอยให้บริการความน่ารักแก่ทุกคน จะน่ารักขนาดไหนไปดูกันเล้ยยยย….. คาเฟ่แห่งนี้เพิ่งเปิดตัวในเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี่เอง . คาเฟ่น่ารักๆแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวสำหรับคนที่อยากจะกอดเจ้าเม่นน้อยที่นี่คิดค่าบริการต่อชั่วโมงเพียงแค่ 9$ในวันธรรมดาและ 12$ในวันหยุด มีเม่นแคระกว่า 30 ตัวที่กำลังรอคอยให้คนมาอุ้มมัน . . อ้าวววว เผลอหลับคามือซะงั้น ปิดท้ายด้วยน้องเม่นที่หล่อที่สุดในร้าน คาเฟ่แห่งนี้ใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า Roppongi เพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น(ออกทาง Hibiya Line Exit No.3) เปิดให้บริการตั้งแต่ 12.00 – 21.00 ของทุกๆวัน สามารถโทรติดต่อไปได้ที่ 03-3404-8100 หรือจะจองผ่านเว็บไซต์ก็ได้เช่นกันที่ Harinezumi ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสไปก็ลองแวะไปดูได้แล้วอย่าลืมถ่ายรูปเม่นน้อยมาฝาก CatDumb Travel ด้วยนะ เห็นแล้วอยากอุ้มมันจริงๆเล้ยยยยย แต่อย่าขโมยกลับบ้านล่ะ!!! ที่มา lifebuzz
-
14 สถานที่แนะนำว่าควรไปสักครั้ง แล้วมันจะทำให้ การมองโลกของเราเปลี่ยนไป!!??
ทุกครั้งที่เราได้ออกเดินทางย่อมต้องได้เจอกับสิ่งใหม่ๆและเราต่างก็ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆเสมอ แต่มีบางสถานที่ในโลกเราที่มันช่างแสนวิเศษกว่าที่อื่นๆจนอาจจะทำให้การมองโลกของเราเปลี่ยนไปเลยก็ได้ 1. Iceland เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอยู่แล้ว แถมยังบางอย่างที่เป็นความวิเศษจากธรรมชาติเกิดขึ้นที่นี่นั่นก็คือ ปรากฏการณ์แสงเหนือ ที่ต้องลองไปสัมผัสให้เห็นด้วยตาตัวเองซักครั้งให้ได้ . 2. Charleston, South Carolina การได้เรียนรู้เรื่องการเลิกทาสที่เกิดขึ้นกับชาวแอฟริกัน-อเมริกัน อาจเป็นอะไรที่เปลี่ยนความคิดคุณไปตลอดกาลและเมืองนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของอเมริกาอีกด้วย . 3. Australian outback พื้นที่ในแถบออสเตรเลียที่กว้างจนดูเหมือนว่ามันไม่มีที่สิ้นสุดที่อาจทำให้เรารู้สึกอ้างว้าง เดียวดาย ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มหรือทำกิจกรรมต่างๆเช่น ปีนเขา Uluru หนือ ชื่นชมศิลปะจากชนเผ่า อะบอริจิน เมื่อกลับคุณอาจจะรู้สึกขอบคุณกับประสบการณ์ครั้งนี้ . 4. Easter Island, Chile สัมผัสกับความรู้สึกที่ได้เจอกับรูปปั้นยักษ์ โมอาย บนเกาะแห่งนี้ที่จะทำให้ในหัวของเรามีแต่คำถามอยู่เต็มไปหมด ถึงแม้คำถามต่างๆเกี่ยวกับรูปปั้นนี้ยังไม่มีใครตอบได้ แต่มันก็เป็นๆที่เต็มไปด้วยปริศนาที่น่าไปเยือนจริงๆ . 5. Antarctica ใต้สุดของโลกเราใบนี้มีพื้นที่ๆประกอบไปด้วยความหนาวเย็นและธารน้ำแข็ง มันคงไม่มีอะไรวิเศษไปกว่าการได้เดินทางท่ามกลางความเงียบสงบและความสวยงามของที่นี่ . 6. Athens, Greece เมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลกแถมยังเป็นจุดกำเนิดของระบบประชาธิปไตยอีกด้วย ได้ใช้เวลาไปกับการเดินชมโบราณสถานต่างๆที่จะทำให้เราได้เห็นภาพความเป็นอยู่ของคนในอดีตชัดมากขึ้น . 7. Tehran, Iran อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับประเทศแถบนี้ดี…
-
มารยาท 13 ข้อ ที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ เมื่อคิดจะไปเที่ยวต่างประเทศ…!!!
จะไปเที่ยวต่างประเทศกันทั้งทีบางทีมันก็มีเรื่องให้น่าเป็นห่วงบ้าง ทั้งภาษาที่แตกต่างกัน อาหารการกินก็ไม่เหมือนกัน และที่สำคัญจะไปเที่ยวให้สนุกก็ต้องมีการสื่อสารกับคนท้องถิ่นบ้าง แต่บางเรื่องที่สามารถทำได้สบายๆในบ้านเราอาจจะทำไม่ได้ในบางที่นะจ๊ะ 1. ศาสนาและแอลกอฮอล์ ปกติแล้วในกลุ่มประเทศศาสนาอิสลามนั้น แอลกอฮอล์ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฏและห้ามดื่มในที่สาธารณะเพราะฉะนั้นเวลาที่ไปเที่ยวเราควรระวังเรื่องนี้ไว้ให้มาก อาหารประเภท เนื้อหมู ก็เช่นกัน เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนะจ๊ะ 2. ดูได้แต่ห้ามจับ การจูบกันในที่สาธารณะหรือการมีกิ๊กถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดอย่างร้ายแรงในแถบตะวันออกกลาง ถ้าไปเที่ยวบ้านเค้าแล้วเราก็ควรระมัดระวังไม่ทำผิดกฏจะดีกว่า ถ้าไปกับแฟนอาจจะไม่กล้าหวานออกสื่อเลยทีเดียวเพราะที่ดูไบมีคู่รักที่โชว์หวานกันริมชายหาดถูกตัดสินให้จำคุกถึง 6 ปี!!!! เลยนะ 3. นิ้วโป้งเจ้าปัญหา ทางที่ดีเราควรศึกษาให้ดีก่อนไปเที่ยวเพราะต่างประเทศกันสัญลักษณ์การชูนิ้วโป่งที่บ่งบอกว่าเยี่ยมมากในแบบบ้านเราก็อาจจะมีความหมายที่ต่างกัน ในยุโรปและสหรัฐฯ การชูนิ้วโป่งมีความหมายแบบเดียวกับบ้านเรา แต่ในอิหร่านกลับหมายถึงการดูถูกซะงั้น แบบนี้จะเอาไปใช้ที่ไหนก็ต้องระวังกันบ้างละน้าาา 4. เล่นหัว ใช่แล้ว เล่นหัวเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราจะเอาไปเล่นมั่วๆไม่ได้นะเออ ถึงแม้ว่าในยุโรปการแกล้งตบหัวเด็ก(แบบเบาๆนะ555)อาจจะมีความหมายเชิงเป็นมิตรต่อกันแต่ในประเทศที่นับถือความอาวุโสอย่างเช่นบ้านเรามันหมายถึงการไม่เคารพซึ่งกันและกันเพราะฉะนั้นเล่นให้ถูกคนล่ะ 5. สัญลักษณ์มือ การชี้นิ้วไปตรงๆในประเทศอเมริกาและยุโรปมีความหมายถึงการชี้ไปที่สิ่งของนั้นๆ ในมาเลเซียการใช้มือชี้ไปทั้งมือเป็นการบอกถึงเส้นทาง แต่ในฟิลิปปินส์จะชี้สิ่งของด้วยการขยับตาและใช้ปากชี้ แถมในบางที่การชี้ไปที่คนยังถือเป็นเรื่องไร้มารยาทอีกด้วยนะ ก็ต้องระวังกันให้ดีล่ะ 6. เรื่องต้องห้าม แต่ละประเทศก็มีเรื่องของการเรียกชื่อหรือเรียกคนท้องถิ่นนั่นๆทั้งแบบสุภาพและหยาบคาย เราไปเที่ยวก็ควรจะเลือกใช้คำแบบสุภาพอยู่แล้วเนาะ อย่างเช่น คนแอฟริกัน-อเมริกัน ไม่ชอบให้ใครมาเหยียดสีผิวพวกเขา หรือว่าไม่ควรคุยเรื่องทิเบตกับคนจีน เป็นต้น…
-
ไปดู 10 อันดับถนน ‘อันตราย’ ที่สุดในโลก อยากจะไปลองขับกันสักครั้งไหมล่ะ!?
การเดินทางและการขับขี่ยานพาหนะมักเป็นของคู่กันเสมอ เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยเจอกับประสบการณ์อุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนนกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้ CatDumb Travel ขอพาไปรู้จักกับ 10 อันดับ เส้นทางที่อันตรายที่ในโลก โดยเว็บไซต์ EscapeHere ที่อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็งเท้าไปตามๆกันลยล่ะ 10. Lippincott Mine Road, USA เส้นทางออกจาก Death Valley National Park ในรัฐ California ที่นี่ไม่มีทั้งน้ำและสัญญาณโทรศัพท์ จะเดินทางผ่านเส้นทางนี้ก็ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อมล่ะ . 9. Trollstigen Mountain Road, Norway ดูผิวเผินถนนเส้นนี้ก็ดูสวยงามดีหรอก แต่ว่าด้วยสภาพอาการที่แสนจะย่ำแย่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่เอาซะเลย ทั้งลมที่แรง แถมยังมีหมอกหนาในช่วงฤดูหนาวอีก อันตรายใช้ได้เลยนะเนี่ย . 8. Dalton Highway, USA ถนนไฮเวย์ในรัฐ Alaska ที่มีระยะทางยาวกว่า 414 ไมล์ (ประมาณ 662 กิโลเมตร) ตลอดระยะทางจะพบเจอแต่ที่ราบอันแสนเงียบสงบจนแทบจะไม่เจอสิ่งมีชีวิตเลย แถมยังมีปั๊มน้ำมันเพียงแค่ 3 สถานี ตลอดระยะทาง สงสัยต้องขนน้ำมันไปเองแล้วแหละ…
-
หญิงสาวที่ได้ ‘เที่ยวรอบโลก’ แบบฟรีๆ ผ่านการออกเดทกับเศรษฐีกว่า 80 คน…!!
พูดถึงการท่องเที่ยว แน่ละ ทุกคนต่างก็อยากเที่ยวๆแบบฟรีๆทั้งนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งเที่ยวรอบโลก ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากไปอีก แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้แน่!! Natalie Wood หญิงสาววัย 30 ปีจาก Canterbury, Kent ประเทศอังกฤษ ได้เที่ยวรอบโลกแบบฟรีๆ กับชายหนุ่มซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ กว่า 80 คน ที่ได้มาจากการใช้บริการเว็บไซต์เดทท่องเที่ยวออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2014 และหลังจากนั้นเธอก็ได้ไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มัลดีฟ อเมริกา และคูเวท นอกจากได้ค่าตั๋วฟรี ที่พักฟรีแล้ว เหล่าชายหนุ่มยังให้เงินใช้แบบ่ไม่อั้นด้วย ไม่ว่าเธอจะช๊อปของแพงแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา แค่นี้ยังไม่พอ เธอยังได้นั่งรถหรูๆ รวมทั้งปาร์ตี้บนเรือสำราญอีกด้วย เธอเล่าว่าเดทแต่ละครั้ง หนุ่มๆจะควักเงินให้เธอเฉลี่ยแล้วมากกว่า 60,000 ยูโรเลยทีเดียว ทั้งนี้เธอได้บอกว่าเธอไม่ใช่พวกเห็นแก่เงิน แต่เธอทำแบบนี้เพราะชอบเที่ยวแบบหรูหรา และที่สำคัญเธอยังมีความสนใจที่จะพบปะผู้คนมากมายอีกด้วย แม้ว่าเธอจะชอบเที่ยวด้วยวิธีนี้ แต่เธอจะเซฟตัวเองทุกครั้ง โดยก่อนที่จะพบปะกับชายหนุ่มแต่ละคนนั้น เธอจะสไกป์คุยกันแล้วขอดูบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งก่อนที่จะนัดเจอกัน เธอยังบอกอีกว่าไม่ได้สนใจแค่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว แต่เธอแค่อยากเที่ยวแบบนี้ไปเรื่อยๆ หากเจอคนที่รักจริงๆ ก็จะแต่งงานด้วย . . . . . . .…
-
11 สิ่งดีๆ ที่ผู้หญิงอย่างเราจะได้เรียนรู้ เมื่อตัดสินใจ… ออกเดินทางคนเดียว
คนเราซักครั้งนึงต้องหาโอกาสได้ออกไปเที่ยวโลกกว้างกับตัวเองบ้างและยิ่งไปด้วยตัวคนเดียว มันจะพิเศษกว่าการไปกับแฟนเรารึเปล่านะ เรามาพูดถึง 11 อย่างที่สาวๆจะได้เรียนรู้ถ้ากล้าออกไปเที่ยวคนเดียวกันดีกว่า 1. เราไม่จำเป็นต้องรอใครซักคนไปกับเราในที่ๆเราอยากไป สาวๆหลายๆคนมักอยากจะรอไปสถานที่ต่างๆกับคนรัก หรือกับเพื่อนใช่มั้ยละ แต่เมื่อไหร่ที่ได้ออกเดินทางคนเดียวพวกเธอจะได้เรียนรู้ว่ามันไม่จำเป็นเสมอไปที่เราต้องรอ ใครซักคนให้ไปกับเรา แถมมันจะทำให้สาวๆเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้นอีกด้วยนะ 2.เรียนรู้ที่จะได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวคนเดียว เป็นที่เรารู้กันดีว่าในมือของสาวๆมักจะต้องมีมือถืออยู่ตลอด แต่บางทีอะไรๆก็ไม่เอื้ออำนวยเมื่อพวกเธอออกไปเที่ยวคนเดียวอาจต้องเจอกับปัญหาแบตหมดบ้าง ติดต่อเพื่อนไม่ได้บ้าง ทีนี้ละเป็นโอกาสอันดีที่พวกเธอจะได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาต่างๆด้วยตัวเองในต่างแดน 3.ปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงไม่ใช่เรื่องของเด็กวัยรุ่นอย่างเดียว ถ้ามีโอกาสได้ออกไปท่องเที่ยวกับเหล่าแก๊งเพื่อนสนิท นี่คือโอกาสอันดีที่พวกเธอจะได้ปาร์ตี้กันให้สุดเหวี่ยงเต็มที่เหมือนได้ย้อนวัยไปในสมัยเรียน จะมีอะไรวิเศษไปกว่าการได้นั่งเม้ามอยกับเพื่อนจนดึกดื่นๆ 4.คิดแง่บวกแม้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เมื่อสาวๆออกไปเที่ยวต่างถิ่นก็ต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดกันบ้าง บางอย่างก็อาจจะแย่จนหัวเสียไปเลยก็ได้แต่สิ่งนี้แหละจะเป็นตัวสอนให้ได้เรียนรู้ที่จะแก้ไข และปล่อยวางกับปัญหา เพราะถ้ามัวแต่เสียใจกับมัน เวลาของการเที่ยวที่เหลืออยู่ก็ไม่สนุกน่ะซิ จริงมั้ย? 5. ได้รู้ว่าตัวเองสำคัญที่สุด การเดินทางจะช่วยให้พวกเธอได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ขบคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ และเชื่อเถอะว่าสุดท้ายแล้วมันจะทำให้รักตัวเองมากขึ้น เพราะทั้งการได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้เจอกับสิ่งแปลกใหม่ในสถานที่ใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้มันจะทำให้เรากลับมาตระหนักว่า ควรดูแลตัวเองให้ดีที่สุด 6.เธอไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว การได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ได้แชร์เรื่องราวทั้งดีและร้ายกับเพื่อนใหม่ๆที่เจอข้างหน้า ได้พบผู้คนใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้พวกเธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไปแถมยังอาจจะได้เจอคนที่เข้าใจกันด้วยนะ 7.เกิดมาครั้งเดียวชีวิตควรใช้ให้เต็มที่ บทเรียนสำคัญที่จะได้จากการเดินทาง มันจะทำให้พวกเธอสนุกกับชีวิตตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่อยากจะทำมากขึ้น 8.ชีวิตมันสั้นเกินกว่าที่เราจะมัวแต่จมปลักกับคนแย่ๆ เพราะการได้ไปเจอกับเพื่อนร่วมทางดีๆ…
-
เว็บกูรูเผย… 10 เทคนิคควรรู้ เพื่อ ‘จองตั๋วเครื่องบิน’ ให้ได้ราคาถูก สบายกระเป๋าที่สุด
พวกเรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นที่นิยมมากกว่าเมื่อก่อนมาก สายการบินต่างออกมาแข่งกันเปิดเส้นทางการบินและโปรโมชั่นหั่นราคาแรงๆอยู่ตลอด #เหมียวบ็อบ เลยสรรหา 10 เทคนิคดีๆ จากเว็บไซต์ NomadicMatt ที่จะช่วยให้เพื่อนๆจัดการกับราคาตั๋วได้ดีกว่าเดิม เพราะบางทีการจองตั๋วราคาถูกอาจจะดูเป็นเรื่องยากแต่ถ้ารู้ไว้แล้วรับรองว่าจะทำให้แผนการเดินทางของเพื่อนๆราบรื่นขึ้นแน่นอน 1. หยืดหยุ่นวันเดินทาง การที่เราจะได้มาซึ่งตั๋วเที่ยวบินราคาถูกบางทีอาจจะจำเป็นต้องมีการสลับวันเดินทางทั้งขาไปและขากลับบ้าง เพราะค่าตั๋วเครื่องบินส่วนใหญ่แล้วมักจะมีราคาที่สูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดสำคัญต่างๆ เพราะฉะนั้นจองในช่วงวันธรรมดาสามารถช่วยเซฟเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะเลย 2. ย้ายไปลงเมืองที่ใกล้เคียงกัน บางทีราคาตั๋วเครื่องบินมักจะมีราคาสูงถ้าเราเลือกที่จะบินตรงไปยังเมืองใหญ่ๆเลย ขอแนะนำให้ลองหาตั๋วไปลงที่เมืองหรือท่าอากาศยานอื่นที่ใกล้เคียงกับจุดหมายของเราเพียงเท่านี้ก็จะสามารถประหยัดงบค่าตั๋วเครื่องบินไปได้อีกเยอะเลย 3. พยายามหาโปรโมชั่นตั๋ว เมื่อก่อนถ้าเพื่อนๆต้องการเดินทางด้วยเครื่องบินอาจจะต้องเจอกับราคาที่แพงหูฉี่แต่ปัจจุบันสายการบินต่างๆมีการออกโปรโมชั่นลดราคามาแข่งกันและข้อดีก็ตกมาอยู่ที่ผู้บริโภคอย่างเราๆนี่แหละ พยายามติดตามข่าวสารโปรโมชั่นสายการบินบ่อยๆเพื่อที่จะได้จองตั๋วราคาถูกกันทันนะจ๊ะ 4. ลองเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง การขยับปรับเปลี่ยนเส้นทางก็อาจทำให้เราเจอกับราคาตั๋วที่ถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแน่นอนว่าถ้าเราเดินทางแบบอ้อมๆหน่อยมันย่อมถูกกว่าการบินไปตรงๆอยู่แล้ว แต่วิธีนี้อาจจะทำให้เราเสียเวลากับการเดินทางมากขึ้นไปอีกหน่อย ถ้าใครสามารถให้เวลากับการเดินทางแบบที่ไม่ต้องรีบกลับล่ะก็ ควรลองวิธีนี้ดูรับรองว่าประหยัดไปได้อีกเยอะ 5. อย่าหาตั๋วราคาถูกจากเพียงแค่เว็บไซต์เดียว การจะได้มาซึ่งตั๋วถูกบางทีเพื่อนๆอาจจะต้องลองหาผ่านหลายๆเว็บไซต์ เพราะว่าแต่ละเว็ปก็จะลงข้อมูลที่แตกต่างกัน มีข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงราคาโปรโมชั่นของตั๋วก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นเราควรหาจากหลายๆแหล่งเช่น Kayak, Expedia, Orbitz หรือ Skyscanner 6. ใช้ส่วนลดนักศึกษา มีโปรโมชั่นมากมายสำหรับกลุ่มนักศึกษา หรือ คนที่อายุต่ำกว่า 26 ปี…
-
ผลงานจาก ชายที่ตามเก็บภาพธรรมชาติในนอร์เวย์ 14 ปี และนำภาพสวยๆ ให้ทุกคนได้ชม…
เรื่องราวของนาย “Paul Edmunson” ช่างภาพที่แชร์เรื่องราวของตัวเองลงในเว็ป boredpanda ผู้หลงใหลในการเก็บภาพตามธรรมชาติในที่ต่างๆของประเทศ นอร์เวย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง เขาใช้เวลากว่า 14 ปี ในการรวบรวมสุดยอดภาพถ่ายผลงานชิ้นโบว์แดงของเค้าเอง แต่งานนี้ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าบางรูปอาจจะทำให้คุณอ้าปากค้างงงงงงได้…….. ปรากฏการณ์แสงเหนือที่ Aurlandsfjord . ธารน้ำแข็ง Briksdalsbreen ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป . ชุมชน Dyrdal ในช่วงฤดูร้อน . เมือง Fjaerland ดูเป็นเมืองที่ชิลมากๆ . รอพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า . หุบเขา Flam ในช่วงฤดูหนาว . ซอกหิน Kjeragbolten . พระอาทิตย์กำลังจะตกดินที่ Lysebotn . ภาพถ่ายทางอากาศของถนนใน นอร์เวย์ . พระจัทร์ขึ้นที่ภูเขา fjord . จุดชมวิว Rimstigen . ภาพหน้าผา Preikestolen จากบนอากาศ . จุดชมวิว Stegastein . พระอาทิตย์ตกดินในช่วงฤดูหนาวที่ Aurlandsfjord . หิมะกำลังละลายที่ Tvindefoss . พระอาทิตย์กำลังตกดินที่่เมือง Undredal…
-
10 เมืองเที่ยวน่าสนใจ ที่ ‘ผู้หญิง’ ก็ไปคนเดียวได้อย่างสบายใจ (คูลมากๆเลยน่ะ)
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองขอแนะนำเลยว่าเป็นอะไรที่เราจะได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนไปกับกลุ่มเพื่อนฝูงแน่นอน และสำหรับผู้หญิงที่อยากจะลุยเดี่ยวมันก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยกันบ้างใช่มั้ยล่ะ ก็แหมมมเราเล่นไปต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนาะ เว็บไซต์ Escapehere เค้าเลยจัดอันดับเมืองที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยที่สุดสำหรับสาวๆที่จะไปคนเดียว มีที่ไหนกันบ้างเราไปดูกันเล้ยยยยยยย 10. Marseille ฝรั่งเศส อีกหนึ่งเมืองชิคๆคูลๆจากดินแดนน้ำหอม เมืองนี้มีอ่าวที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ทั้งสวยงามและอาหารซีฟู๊ดก็โคตรจะสดเช่นเดียวกัน ถึงแม้เราจะได้ยินเรื่องการฉกกระเป๋าเกิดใน ฝรั่งเศส มาบ้างแต่รับรองเลยว่าที่ มาร์แซย์ จะได้พบกับความสงบที่แตกต่างออกไปแน่นอน . . 9. Malmö สวีเดน เป็นอันทราบกันดีว่า สวีเดน เป็นประเทศที่มีผู้คนที่น่ารักและเฟรนด์ลี่สุดๆ มัลโม เป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศนี้ที่เต็มไปด้วยความสงบสุขและอากาศดีๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายไม่ว่าจะขึ้นเขาหรือลงห้วย แถมเมืองนี้ยังให้ความสำคัญกับอะไรๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ ได้เดินสูดอากาศเย็นๆในเมืองคงชิลมากๆน่าดูเลย . . 8. Setubal โปรตุเกส ถ้าอยากจะพักผ่อนแบบสงบๆชิลๆเราขอแนะนำให้ไปที่เมืองนี้เลย เมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องของเหล้าองุ่นและของอาหารสดๆจากทะเล ถ้าอยู่จนเบื่อบรรยากาศในเมืองแล้วจะเดินทางไปต่อยังอุทยานแห่งชาติ Serra da Arrabida ก็ใช้เวลาไม่นานมากแบบนี้มาทีเดียวคุ้มแน่นอน . . 7. Oslo นอร์เวย์ อีกหนึ่งประเทศที่น่าไปสุดๆในแถบยุโรป ก็บ้านเมืองพี่แกเล่นสวยงามแถมความปลอดภัยในเมืองก็สูงขนาดนี้ แถมยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีก เมืองนี้เลยเป็นอีกที่ ที่อยากจะแนะนำให้สาวๆที่ชอบเที่ยวคนเดียวลองได้ไปดูซักครั้ง . . 6. Perth ออสเตรเลีย…
-
ชมความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวใน ‘เชียงใหม่’ ผ่านภาพถ่ายที่ใช้กล้องของสมาร์ทโฟนเท่านั้น!?
จริงๆ แล้วสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในบ้านเรานั้นมีอยู่มากมายหลายที่ และแน่นอนว่า ‘เชียงใหม่’ เองก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งภูเขา ป่าไม้ วัฒนธรรมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมือง และสถาปัตยกรรมที่สวยงดงาม ทำให้ใครหลายๆ คนอยากลองมาเยี่ยมชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งหนึ่ง และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ ที่ ทางเพจ KT Traveler ได้ไปเยี่ยมชมมา และแต่ละภาพเขาใช้แค่ ‘กล้องสมาร์ทโฟน’ ถ่ายมาเท่านั้น แต่กลับออกมาดูสวยราวกับใช้กล้องโปรยังไงยังงั้นเลย!! 1. ดอยม่อนแจ่ม 2. วัดต้นเกว๋น หรือวัดอินทราวาส เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณของชาวล้านนา 3. วัดเจดีย์หลวง 3. อีกมุมหนึ่งของวัดเจดีย์หลวง 4. ผาช่อ ในอุทยานแห่งชาติแม่วัง 5. ไร่ชาบนดอยอ่างขาง 6. ไร่นาขั้นบันได ที่บ้านป่า บง เปียง 7. รีสอร์ทที่สร้างจากไม้…
-
10 เทศกาลสุดเพี้ยน-แปลก-มันส์-ฮา จากรอบโลก ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต!!!
บางทีคนเราก็มักที่จะสนุกกับการเล่นอะไรเพี้ยนๆ บ้าๆ อยู่เสมอ วันนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 เทศกาลรอบโลกที่รับรองความ โหด มันส์ ฮา แถมยังต้องไปให้ได้เลยแหละซักครั้งในชีวิตนี้ รับรองว่าเทศกาลเหล่านี้จะถูกอกถูกใจเพื่อนๆที่ชอบทำอะไรมันส์ๆแน่นอนนนน 1. เทศกาล Boryeong Mud เกาหลีใต้ เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีประเพณีมากมาย แต่อันนึงที่ดูน่าสนุกที่สุดคงหนีไม่พ้น เทศกาลปาโคลน ที่จัดขึ้นที่อ่าว Daecheon ภายในงานทุกคนจะเอาโคลนจากชายหาดมาแปดเปื้อนตัวเองหรือจะแกล้งโยนใส่คนอื่นก็ได้อย่างสนุกสนาน คงเป็นอะไรที่มันส์น่าดูเลยนะเนี่ย . . . 2. เทศกาล Burning Man รัฐ เนวาดา เป็นอีกเทศกาลที่คนจากทั่วทั้งโลกจะมารวมตัวกันที่กลางทะเลทรายในเมือง Black Rock ในรัฐ Nevada ที่ๆผู้คนต่างมารวมตัวกันทำอะไรที่พวกเขาไม่ได้ทำในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวที่แล้วแต่ว่าใครจะครีเอท การแสดงต่างๆ รวมถึงการได้ปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงตลอด 24 ชม. . . . 3. เทศกาล Stiletto Run อัมสเตอร์ดัม เทศกาลนี้ต้องขอยกให้กับสาวๆที่อยากจะลองวิ่งแข่งบนรองเท้าสูงสุดเลยจ้าาา แค่คิดภาพตามก็อดฮาไม่ได้จริงๆ เพราะลำพังแค่การยืนหรือเดินบนส้นสูงคงเป็นอะไรที่ยากแล้ว แต่นี่ต้องใส่มันแล้วเอามาวิ่งแข่งกัน ถ้าวิ่งชนะได้รับรองว่าไปเดินเป็นนางแบบได้เลยนะเนี่ย…
-
เมื่อสไลเดอร์บนหิมะธรรมดาเกินไป แนะนำสไลเดอร์ ‘ภูเขาไฟ’ สุดมันส์ ที่ต้องลอง!!!
ถ้าพูดถึงการเล่นสไลเดอร์แล้ว นับว่าเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากๆเล่นกันได้ทุกเพศทุกวัยแถมการสไลเดอร์ลงมาจากหิมะก็เป็นอะไรที่ฮิตในทุกประเทศที่มีหิมะเลยทีเดียว แต่ #เหมียวบ็อบ ขอบอกเลยว่าถ้าอยากได้ความท้าทายใหม่ๆ ต้องไปที่นี่เลย สไลเดอร์บนภูเขาไฟ!!!! ภูเขาไฟที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความระห่ำจนต้องมาสไลเดอร์เล่นกันนี้มันมีชื่อว่า Cerro Negro ในประเทศ นิการากัว ตั้งอยู่ในแถบอเมริกากลางและต้องเดินทางขึ้นไปเริ่มต้นจากบนยอดสุดใช้เวลาประมาณ 45 นาที . เตรียมตัวรับมือกับสูงระดับ 2,388 ฟุต ได้เลยและที่สำคัญควรจะมีเครื่องมือป้องกันอย่างรัดกุมด้วยนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นจะเจ็บตัวเอาได้ง่ายๆ . ถ้าพร้อมแล้วก็ไถลลงมาได้เลย ด้วยความเร็วระดับ 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าใครอยากเพิ่มทวีคูณความมันส์จะลองยืนดูก็ได้นะงานนี้มีเฮแน่นอน . บางทีอะไรๆก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ภาพกีฬามันส์ๆแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยๆเช่นกันที่นี่ . และนี่คือสองตัวอย่างสภาพของคนที่ลงมาถึงข้างล่างได้ 555555 บอกได้คำเดียวเลยว่ามันส์สมใจอยากแน่ๆ . #เหมียวบ็อบ ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยคลิปการเล่นเจ้าสไลเดอร์นี้เลยล่ะกัน บางทีถ้ารู้สึกว่าเล่นบนหิมะมันเป็นอะไรที่ธรรมดาไปจะมาลองเล่นบนหินภูเขาไฟก็เป็นอะไรที่ท้าทายดีเหมือนกันนะ ที่มา expertvagabond
-
เหมียวพาชม 25 ไอเดียรอยสักเจ๋งๆ สำหรับคนรักการเดินทาง
#เหมียวบ็อบ เชื่อว่าทุกๆคนต่างก็มีหัวใจแห่งการเป็นนักเดินทางอยู่ในตัวเองกันทุกคน ก็แหมมม การที่เราได้ออกไปยังสถานที่ๆแปลกใหม่ ได้เจอบรรยากาศใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ หรือ วัฒนธรรมใหม่ๆ ไม่ว่าใครก็ต้องชอบอยู่แล้ว ใช่ม๊าาาาาา วันนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาเพื่อนๆทุกคนไปดูไอเดียรอยสักที่สุดแสนจะกิ๊บเก๋ชิคๆคูลๆ ที่อาจจะไปสะกิดต่อมความอยากออกไปเที่ยวของเพื่อนๆได้เลยล่ะ 1. รอยสักตัวเลข ลองติจูด และ ละติจูด แบบเท่ห์ๆ 2. คำพูดเท่ห์ๆสำหรับคนที่รักในอิสระก็เจ๋งไม่เบา 3. รอยสักที่บ่งบอกการเดินทางตั้งแต่ป่าจนสู่ปิรามิด 4. เซ็น สแตมป์ และ พร้อมส่งออก 5. บางคนอาจจะออกเดินทางจนหายไปนานๆเลยก็ได้นะ 6. สักเป็นตัวเลขทางหลวงแบบนี้ ก็เท่ห์ไม่เบา 7. รอยสักรูปเข็มทิศที่ได้รับความนิยมสุดๆ 8. รูปโลกแบบนี้ก็ดูแนวๆไปอีก 9. ลายเส้นที่ดูเรียบง่ายแบบนี้ ก็เท่ห์ไม่เบา 10. เรียบๆง่ายๆด้วยคำว่า Explore 11. เครื่องบินที่พร้อมจะออกเดินทาง…
-
10 ที่สุดแห่งภาพถ่ายจากกองประกวด National Geographic ที่ไม่สามารถหาดูได้อย่างง่ายๆแน่นอน
ฮัลโหลลลลลล วันนี้ #เหมียวบ็อบ ก็มีสุดยอดรูปภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาฝากเพื่อนๆให้ได้เชยชมกัน ต้องบอกก่อนว่าทั้ง 10 ภาพนี้ เป็นภาพของผู้เข้าประกวดการถ่ายภาพจากรายการ National Geographic ที่เฟ้นหาสุดยอดภาพถ่ายที่แสนจะงดงามและยังสามารถบ่งบอกถึงเรื่องราวของความหลากหลายของผู้คน สถานที่ หรือวัฒนธรรมต่างๆจากทั่วทั้งมุมโลก เอาล่ะ เราไปดูกันเลยดีกว่า………. ภาพถ่ายมุมสูงในระหว่างการทำพิธีละหมาดจากมัสยิด Alamgir ในเมืองพาราณนสี ประเทศอินเดีย แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ เป็นการทำพิธีกรรมทางของศาสนาฮินดูและอิสลามในเวลาเดียวกัน เป็นภาพที่สามารถบอกเล่าถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพี่น้องที่มาจากต่างศาสนากันได้เป็นอย่างดี ภาพจากงานวันอมาวสี หรือ วันเดือนดับ ที่จัดขึ้นในวิหารแห่งพระศิวะที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้ศรัทธาจากเมือง Jejuri ต่างก็ละเลงตัวเองด้วยผงจากขมิ้นจำนวนมากตามความเชื่อของพวกเขา ถนนที่ดูสุดแสนจะคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา จากเมือง Gorges du Dades ประเทศโมร็อคโค เด็กชาย โทมัส อายุเพียงแค่ 6 ขวบ ที่กำลังช่วยพ่อของเขาทำความสะอาดรถอย่างขมักเขม้น หลังจากที่พ่อของเขากลับมาจากการทำงานขับรถขนส่งม้ามาตลอดทั้งวัน จากเมือง Cachi ประเทศอาร์เจนติน่า ภาพถ่ายหน้าตรงสุดหล่อของเจ้าหมีขั้วโลก ที่ถูกถ่ายได้บนเกาะ Svalbard ประเทศนอร์เวย์ ถ่ายได้ใกล้และชัดมากขนาดนี้เป็นอะไรที่ อะเมซิ่ง มากๆ …
-
เมื่อชายคนหนึ่ง ใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ปี เพื่อถ่ายภาพ ‘พระอาทิตย์ขึ้น’ จากทั่วทุกมุมโลก
เมื่อช่างภาพและนักเดินทางคนหนึ่งชาวฝรั่งเศส นามว่า “Julien Grondin” ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องโลกเป็นชีวิตจิตใจ เขาได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางยาวนานกว่า3ปี และเป้าหมายหลักของเขาในครั้งนี้ก็คือการถ่ายภาพภูมิทัศน์จากเมืองต่างๆทั่วโลกและสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือทุกรูปจะต้องมีพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ในภาพของเขา แหมมม ช่างเป็นอะไรที่ท้าทายขนาดนี้ #เหมียวบ็อบ ขอเตือนก่อนเลยว่าควรใส่แว่นตากันแดดเพราะแสงแดดในรูปภาพต่อไปนี้มันร้อนแรงและสวยงามเหลือเกิน 1. เมือง Provence ฝรั่งเศส 2. Monument Valley สหรัฐอเมริกา 3. Horseshoe Bend สหรัฐอเมริกา 4. เมืองปารีส ฝรั่งเศส 5. Meteora กรีซ 6. ไอซ์แลนด์ 7. Plitvice โครเอเชีย 8. ปารีส ฝรั่งเศส 9. กรุงเทพฯ จากประเทศไทยเรานี่เอง 10. ฮ่องกง 11. Yosemite สหรัฐอเมริกา…
-
หนุ่มผู้เดินทางมากว่า 100 ประเทศ ทำตามฝันที่ต้องไป ‘ขั้วโลกใต้’ ให้ได้สักครั้ง และเก็บภาพสวยๆ กลับมา…
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ช่วงนี้อากาศบ้านเรามันช่างร้อนแถมแดดก็ยังแรงจ้าซะเหลือเกิน #เหมียวบ็อบ เลยนำภาพถ่าย จากนักเดินทางชาวตะวันตก นาย Massimo Rumi ที่เดินทางถ่ายภาพจากดินแดนที่ขึ้นชื่อว่ามีอากาศที่หนาวสุดขั้ว ที่ตั้งอยู่บนขั้วโลกใต้ของโลกเรานี้เอง เมื่อหนุ่มนักเดินทางคนนี้ผู้ที่ได้เดินทางมาแล้วกว่าหลายร้อยประเทศทั่วโลก ได้กล่าวว่า “เป็นที่ๆคุณจะได้รู้สึกกับความเหงา อ้างว้าง และความวิเศษของธรรมชาติในเวลาเดียวกัน” รับรองว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะทำให้เพื่อนๆอยากจะออกไปพจญภัยที่ดินแดนนี้ซักครั้งแน่นอนนนนนน…. . . . . . . . . . . . . . . . . #เหมียวบ็อบ เห็นแล้วรู้สึกว่าจะต้องไปเหยียบให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยแหละ ทั้งนกเพนกวินเอย แมวน้ำเอย อยากจะลงไปนอนกลิ้งเล่นกับพวกมันซะจริงๆเลย แถมบรรยากาศยังดูสงบมากขนาดนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ไปแล้วก็อย่าลืมมาแชร์…
-
10 สตรีทฟู๊ดในประเทศญี่ปุ่น ที่ไปถึงแล้วต้องลองให้ได้ ไม่งั้นถือว่าพลาด!!!
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้ #เหมียวบ็อ่บ จะพาไปรู้จักกับ 10 สตรีทฟู๊ด สุดคลาสสิคอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น ที่รับรองเลยว่าถ้าใครไปถึงแล้วต้องได้ลิ้มลอง อาจจะเสียใจทีหลังได้ เพราะแต่ละอันนั้นน่ากินสุดๆ เราไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง… 1. Ikayaki ดูเผินๆก็เหมือนปลาหมึกย่างทั่วๆไป แต่ที่ญี่ปุ่นเค้าขึ้นชื่อเรื่องของความสดและสะอาดของอาหารอยู่แล้ว ถ้าได้เคี้ยวหมึกย่างสดๆพร้อมน้ำจิ้มอร่อยๆตามสูตรญี่ปุ่น ต้องเป็นอะไรที่ฉ่ำมากแน่ๆเลย 2. Taiyaki เค้กรูปปลาร้อนๆที่มักจะสอดไส้ คัสตาร์ด, ช็อคโกแลต หรือชีส แหม่คงอร่อยน่าดู 3. Takoyaki อีกหนึ่งอาหารญี่ปุ่นที่เพื่อนๆคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและพบได้ทั่วไปในบ้านเรา แต่ถ้าได้ลองทานสูตรดั้งเดิมแท้ๆจากญี่ปุ่น มันต้องเป็นอะไรที่อร่อยมากแน่ๆ 4. Kare Pan ขนมปังทอดร้อนๆสอดไส้แกงกะหรี่แสนอร่อย รับรองว่ากัดเข้าไปแล้วจะรู้สึกถึงความกรอบนอกนุ่มในพร้อมกับไส้แกงกะหรี่ที่แตกอยู่ในปากเรา หูยยยยอะไรจะน่ากินขนาดนี้ 5. Kyuri แตงกวาเสียบไม้ที่เหยาะด้วยซอสมิโซะถึงมันจะดูเป็นอาหารที่แสนธรรมดา แต่ขอบอกเลยว่ามันโคตรจะอร่อยมากๆเลย แถมตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นเค้าเชื่อว่ากินแล้วจะช่วยให้เราใจเย็นขึ้นอีกด้วยนะ 6. Ichigo Ame ขนมที่ทำมาจากการเอาสตรอเบอร์รี่นำมาเคลือบด้วยน้ำตาลหวานๆ…
-
9 สถานที่ ที่เราไม่ควรไปชม “ภูเขาไฟฟูจิ” เด็ดขาด เพราะคุณจะติดใจ จนไม่อยากกลับ!!
สวัสดีเพื่อนๆ เป็นที่รู้กันดีของผู้ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นว่า “ภูเขาไฟฟูจิ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่แลนด์มาร์คสำคัญของญี่ปุ่น ที่ต้องไปชมให้ได้สักครั้งถ้ามีโอกาส แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่ามีอีก 9 สถานที่ ที่เราสามารถไปชมวิวของ ภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ได้เช่นกัน #เหมียวบ็อบ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าใครได้ไปชมแล้ว รับรองจะไม่อยากกลับมาอีกเลย…. 1.ทะเลสาบ Kawaguchiko . เป็น 1 ใน บริเวณทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 ที่ว่ากันว่ามีวิวดีที่สุดแถมยังเป็นกระจกสะท้อนของ “ภูเขาไฟฟูจิ” บนทะเลสาบอีกต่างหาก แหม…มันช่างสวยงามซะจิงๆ ทั้งบรรยากาศอันเงียบสงบผสมกับภาพของภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ไม่ไปไม่ได้แล้วววว 2. เมืองฮะโกะเนะ . เมืองฮะโกะเนะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่เชิงดอยของภูเขาไฟฟูจิ และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรีสอร์ทในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมและการแช่ออนเซ็นอุ่นๆ เพราะมันตั้งอยู่ที่เชิงดอยนี้แหละจึงทำให้มันเป็นอีกสถานที่ๆเราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์กันแบบ Full HD เลยทีเดียว 3.เมืองคามาคูระ . เมืองที่ติดอยู่กับชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่นใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง ที่เมืองนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วย เช่น พระพุทธรูปขนาดมหึมาสัญลักษณ์ประจำเมือง หรือจะมานั่งกินลมชมวิวริมชายหาดแถมยังได้มองเห็นภูเขาไฟอีกด้วย เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คสุดๆ 4.เทศกาล Fuji Shibazakura . เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงเดือน เมษายน – ปลายเดือนพฤษภาคม ของทุกปี…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 15 เคล็ดลับดีๆ ช่วยแก้ปัญหา ‘Jet lag’ แล้วการเดินทาง จะสบายขึ้นเยอะเลย!!!
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน หากใครที่เคยมีโอกาสได้เดินทางไปยังต่างแดนโดยการนั่งอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานานๆ #เหมียวบ็อบ เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องเคยประสพปัญหาอาการป่วยที่เกิดจากการนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า อาการ “Jet lag” นั่นเอง วันนี้ #เหมียวบ็อบ เลยนำเคล็ดลับ 15 ข้อ จากคุณ Rick Seanley แห่งเว็บไซต์ดังอย่าง ABC.com แนะนำวิธีง่ายๆที่จะช่วยให้เพื่อนๆจัดการกับปัญหาเหล่านี้ระหว่างการเดินทางของเพื่อนๆได้ดียิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 3 ส่วน หลักๆ ดังต่อไปนี้ ก่อนการเดินทาง 1.ดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ หลักการณ์ง่ายๆของการดูแลตัวเองที่ดี ที่เหมียว เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ การหมั่นออกกำลังกาย กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนวันออกเดินทางอีกด้วย การเริ่มต้นด้วยสิ่งง่ายๆเหล่านี้จะทำให้เพื่อนๆมีสุขภาพที่ดี และสุขภาพที่ดีนี้เองที่จะช่วยให้นักเดินทางทั้งหลายต่อสู้กับอาการ jet lag ได้ดียิ่งขึ้น 2.ปรับเปลี่ยนเวลานอน การเริ่มต้นปรับเปลี่ยนเวลานอนให้สอดคล้องกับประเทศที่เราจะไปจะช่วยให้เพื่อนๆสามารถชินกับการเข้านอนได้ง่ายขึ้นเมื่อไปถึงจุดหมาย โดยที่เทคนิคง่ายๆมีดังนี้ หากเพื่อนๆจะเดินทางไปยังประเทศที่อยู่ด้านตะวันออกของเรา ให้ลองปรับเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นอีกซัก 1 ชั่วโมง หรือถ้าหากได้เดินทางไปยังประเทศที่อยู่ด้านตะวันตก เพื่อนๆก็ควรจะปรับเวลานอนให้ช้าลงอีกซัก 1 ชั่วโมง…
-
14 ร้านของกินใน “Sydney” ที่ห้ามพลาด รวมครบทุกรูปแบบ อ่านจบแล้วพร้อมลุย!!!
ประเทศออสเตรเลีย เรียกได้ว่านอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ในเรื่องของวัฒนธรรม รวมไปถึงอาหารการกินของประเทศนี้ ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะที่ “ซิดนีย์” ในวันนี้เหมียวขี้อ้อน ไปเจอข้อมูลแนะนำร้านอร่อยๆจากเมืองนี้ บอกเลยว่ามีทั้งของคาว และของหวานสไตล์ออสซี ที่แสนน่ากินทั้งนั้นเลย งานนี้ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะซิดนีย์ ห้ามพลาดเด็ดขาด!! 1.The Local Mbassy ถ้าอยากทานอาการเช้าแสนอร่อย ในซิดนีย์ ร้านแรกที่คุณไม่ควรพลาดเลยก็คือ The Local Mbassy ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่มาพร้อมกับเบเกอร์รี่แสนอร่อยมากมาย ทั้งแพนเค้กสตรอว์เบอร์รี่เนื้อนุ่ม มัฟฟิน รวมไปถึงโครนัทเคลือบน้ำตาลแสนอร่อย แถมยังมีเบอร์เกอร์รี่แสนอร่อยอีกมากมาย ให้คุณได้ลองลิ้มรสกันอีกด้วย 2.Devon Cafe อีกหนึ่งร้านอาหารเช้าที่เราอยากจะแวะไปก็คือ ร้าน Devon Cafe เป็นร้านอาหารเช้าที่มีเมนูอร่อยๆ ให้เลือกทานเยอะมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Fluffy French Toast, โครนัท ที่ทางร้านทำเองกับมือ และถ้าหากใครที่ไปเช้าๆ แน่นอนว่าคุณจะได้เห็นวิธีทำโครนัทแสนอร่อยทุกขั้นตอนเลยละ โครนัททอดกรอบจาก Devon Cafe เพิ่มท้อปปิ้งด้วยป๊อปคอร์นหอมๆ แถมราดด้วยคาราเมลฉ่ำๆ…
-
14 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโลก กับภาพถ่าย ‘อีกมุมมองหนึ่ง’ ที่น้อยคนจะเคยเห็น
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยเห็น สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และโด่งดังไปทั่วโลกกันมาบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนสถานที่เหล่านั้นนอกจากจะมีความแปลก และเป็นเอกลักษณ์ มันยังมีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากอีกด้วย แต่ทว่าคุณอาจจะเคยเห็นภาพเหล่านั้นเพียงมุมมองด้านเดียว ซึ่งถ้าหากได้ชมภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโลกอีกมุมหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันสักเท่าไหร่ บอกเลยว่ามันแตกต่างจากสิ่งที่เราเคยเห็นอย่างมากเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ลองไปชมกัน 1.Niagara Falls, United States & Canada . 2.The Pyramids, Egypt . 3.The Little Mermaid, Denmark . 4.Santorini, Greece . 5.Taj Mahal, India . 6.Mount Rushmore National Memorial, United States . 7.The Forbidden City, China .…
-
หนุ่มฝรั่งเศส ออกเที่ยวรอบโลกกับ “น้องไก่กุ๊กกุ๊ก” บัดดี้คู่ใจ พร้อมจะลุยด้วยกันทุกที่!!
ก่อนหน้านี้หลายคนคงประทับใจเรื่องราวของเจ้า สตีวี่ แมวเหมียวตาบอด ผู้ชื่นชอบการเดินทางไปเที่ยวรอบโลกกับเจ้านายกันมาแล้วใช่ไหมละ ในวันนี้เหมียวขี้อ้อน ก็จะขอพาคุณเข้าสู่เรื่องราวการผจญภัยท่องโลกกว้างระหว่างคนกับสัตว์เช่นกัน หากใครที่ได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ คุณจะต้องประทับใจไม่แพ้เรื่องของสตีวี่เลยละ และนี่ก็คือภาพของ Guirec Soudee หนุ่มชาวฝรั่งเศส วัย 24 ปี มาพร้อมกับบัดดี้มีปีกคู่ใจนั่นก็คือ Monique น้องไก่กุ๊กกุ๊กเพศเมียแสนน่ารัก ที่ชอบเดินทางไปเที่ยวรอบโลกกับนายได้ในทุกๆ ที่ หลายคนกำลังสงสัยว่าเพื่อนรักต่างสายพันธุ์คู่นี้มาเจอกันได้อย่างไร เดี๋ยวเราจะขอเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวของเขาให้ได้ฟังเอง… ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน Guirec ได้เดินทางไปเที่ยวที่หมู่เกาะคานารี ในประเทศสเปน และนั่นก็ทำให้เขาได้พบเจอกับเจ้าลูกไก่ตัวน้อยตัวหนึ่ง ก็คือเจ้า Monique ยังไงละเหมียว . ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ก็ได้กลายเป็นคู่หูสุดซ่าส์ ที่พร้อมจะไปไหนไปกันได้ในทุกๆ ที่ นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่นำมาสู่เรื่องราวดีๆ ของทั้งคู่นั่นเอง ความสุขของ Guirec ก็คือการได้พาไก่แสนรักร่วมออกเดินทางไปผจญภัยในท้องทะเลกับเขา เพื่อที่จะให้มันออกไข่ให้เขากินระหว่างทาง ซึ่งเจ้า Monique ก็กลายเป็นคู่หูร่วมเดินทาง แถมมันยังสามารถปรับตัวในสถานที่ต่างๆ ได้ดีทีเดียว…
-
37 ภาพวิวสวยๆ ของการเดินทางโดย “รถไฟ Amtrak” ในอเมริกา น่าประทับใจไม่รู้ลืม…
การเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เรียกได้ว่านอกจากจะมีความสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกถึงความตื่นเต้น และความสนุกสนานตลอดระยะเวลาในการเดินทาง โดยในประเทศสหรัฐอเมริกา การเดินทางด้วยรถไฟ Amtrak ซึ่งเป็นรถไฟขององค์กรการขนส่งมวลชนแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้คน และนักท่องเที่ยว ที่มักจะใช้บริการมากที่สุดไม่แพ้กับเครื่องบินเลย และภาพเหล่านี้จะทำให้คุณเห็นว่า ทำไมนักท่องเที่ยว หรือคนอเมริกาส่วนใหญ่ถึงชอบเดินทางโดย “รถไฟ Amtrak” ก็เพราะว่ามันจะทำให้พวกเขาได้ดื่มด่ำไปกับความโรแมนติก และความสวยงามของวิวทิวทัศน์รอบๆ นั่นเอง 1.ทุ่งหญ้าในป่ารัฐออริกอน สถานที่ที่สวยงาม มีเสน่ห์ ชวนน่าหลงใหลเป็นที่สุด 2.The Empire Builder รถไฟสายนี้กำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ . 3.The Acela Express เป็นบริการรถไฟด่วนพิเศษของ Amtrak วิวสวยๆ ที่มองออกไปนอกหน้าต่าง งดงามตาจริงๆ แสงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สวยงามเหลือเกิน 4.The Coast Starlight เดินทางจากซีแอตเทิล สู่ลอสแอนเจลิส หน้าต่างบนเพดานที่ทำจากกระจก…
-
แลกกันเที่ยว!! ผุดคู่มือญี่ปุ่นเที่ยวไทย ไม่ต้องเน้นธรรมชาติ ขอแค่ได้ลงอ่างก็พอแล้ว
แต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากประเทศของตัวเองได้ อย่างเช่นคนไทยก็ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเยอะ ก็มีการจัดทำคู่มือการท่องเที่ยวเป็นภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ในเมื่อคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะ คราวนี้ญี่ปุ่นก็ขอมาประเทศไทยบ้าง แลกกันเที่ยว เพราะฉะนั้นคู่มือท่องเที่ยวสำหรับชาวญี่ปุ่นจึงถือกำเนิดขึ้นมา เพราะจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่นี่มันเหนือความคาดหมายของเราไปอย่างยิ่ง เพราะคู่มือที่เห็นนี้เป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงลงอ่าง บอกรายละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือก การลงอ่าง และหลังจากลงอ่าง แถมยังสอนภาษาไทยให้แบบครบเสร็จสรรพ แหม่!! หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้จริงๆ อะไรจะทำคู่มือออกมาจริงจังขนาดนี้เนี่ย ฮร่าาาา ที่มา : モノ トレンディー
-
10 แลนด์มาร์กที่สำคัญระดับโลก ขาเที่ยวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!
TripAdvisor คือเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่โด่งดังเป็นอย่างมาก และรู้จักกันไปทั่วโลก ซึ่งล่าสุดได้มีการประกาศผู้ชนะของ Travelers’ Choice Awards ในหมวดหมู่ของแลนด์มาร์ก ซึ่งแต่ละที่นั้นล้วนแต่เป็นจุดสนใจ สถานที่ที่ชนะนั้นอ้างอิงมาจากปริมาณและคุณภาพของคนที่มารีวิวและให้เรตติ้งในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมาในเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่าน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากนอกจากนี้ยังดูค่าเฉลี่ยของการเข้าถึงสถานที่นั้นๆ จากการจองโรงแรมอีกด้วย และแล้วก็ถึงเวลาที่จะไปดูว่าแต่ละสถานที่นั้นมีอะไรบ้าง สำหรับใครที่ชอบเที่ยวก็อย่าลืมจดไว้ด้วยล่ะ จะได้ไม่พลาด 10. Duomo di Milano คือโบสถ์สไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี สร้างมานานแล้วกว่า 6 ศตวรรษ และยังเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย มียอดหินอ่อนกว่า 135 จุด แล้วรูปปั้นอีกนับพัน นักท่องเที่ยวจึงจะได้รับความประทับใจเมื่อมาเยือนที่แห่งนี้ 9. อนุสรณ์สถานลินคอล์นอันงดงามที่สะท้อนลงบนผืนน้ำในกรุงวอร์ชิงตัน ดีซี ออกแบบโดย Henry Bacon โดยที่สร้างน้ำนั้นได้ทำการออกแบบใหม่ในปี 2012 เพื่อดึงน้ำจากแม่น้ำ Tidal Basin มาสู่สระแห่งนี้ 8. Alhambra ในเมือง Granada ประเทศสเปน ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่คนนิยมไป เพราะเป็นป้อมปราการและพระราชวังที่งดงาม ดูภายนอกแล้วเป็นสิ่งก่อสร้างที่สลับซับซ้อน แต่เต็มไปด้วยต้นไม้ตามทางเดิน ภายในมีการออกแบบที่ปราณีต และถ้ามองจากปราสาทนี้ คุณจะได้เห็นวิวของทั้งเมือง 7.…
-
พาทัวร์ “หุบเขาแอปริคอท” หุบเขาสีชมพูในประเทศจีนที่สวยงามหาได้ยากยิ่ง
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน แม้ว่าจะมีข่าวเสียๆ หายๆ ของผู้คนมาให้เราเห็นแบบรายวัน (นั่นก็เพราะว่าบ้านเมืองของพวกเขาเต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลายและยากต่อการควบคุม) แต่ที่นั่นก็ยังมีภูมิประเทศสวยๆ งามๆ รอให้นักเดินทางไปสัมผัสอยู่อีกไม่น้อยเลยนะ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในมณฑลซินเจียง พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง ที่นั่นเป็นที่ตั้งของหุบเขาแอปริคอทที่ปลูกเต็มภูเขา จนเมื่อดอกของมันเบ่งบานทำให้เกิดเป็นภาพสุดวิจิตรราวกับในเทพนิยายก็ว่าได้ เว็บไซต์ Boredpanda ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตการปกครองเต้อเจียน ติดกับชายแดนของคาซัคสถาน หุบเขาแอปริคอทแห่งนี้มีมานานหลายปีแล้ว มันดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปชมภูเขาสีชมภูด้วยตาของพวกเขาเอง หากคุณได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วอยากจะขอเดินทางไปชมด้วยตัวเองล่ะก็ เหมียวฟิ้นจะบอกให้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะผลิบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงช่วงปลายเดือนกันยายน รู้งี้แล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบินแล้วแพ็คกระเป๋ารอเลยดีไหมล่ะ? . . . . . . . . . โห!! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
รวม 8 เว็บค้นหาโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินยอดฮิต เพื่อให้ได้ตั๋วราคาถูกที่สุด!!
สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปโน่นมานี่อยู่เป็นประจำ หรือกำลังมองหาตั๋วราคาถูกๆ สำหรับช่วงวันหยุดยาวล่ะก็ ขอให้เขยิบเข้ามาใกล้ๆ เลย เพราะวันนี้#เหมียวฟิ้นจะมาแนะนำ 8 เว็บไซต์ค้นหาตั๋วราคาถูกกัน รับรองว่ามีประโยชน์สำหรับนักเดินทางแน่นอน!! 1. Skyscanner เว็บไซต์สื่อกลางที่จะดึงเอาข้อมูลราคาตั๋วจากเว็บอื่นๆ มาแสดงผลทำให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบราคาตั๋วได้อย่างง่ายดาย 2 Orbitz เว็บนี้นอกจากจะค้นหาราคาตั๋วให้แล้ว ยังมีข้อมูลบริการเช่ารถ ราคาโรงแรมด้วยนะ แต่อาจจะมีชาร์จเพิ่มบ้างเล็กน้อย แต่ก็เอาน่าแลกกับความสะดวกสบายรวดเดียวจบ (แต่จะไม่ค่อยมีราคาตั๋วของสายการบิน Lowcost เท่าไหร่นะ) 3 Kayak เว็บไซต์นี้จะช่วยคำนวนราคาตั๋วเครื่องบินและเปรียบเทียบว่าหากคุณจะเดินทางไปไหน วันที่เท่าไหร่ถึงจะคุ้มที่สุด (แต่แย่หน่อยตรงที่ไม่มีภาษาไทยนี่แหละ แต่ศึกษาเอาก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นะ) 4 Expedia เว็บนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน โรงแรม เช่ารถ ดีลพิเศษๆ ในรอบเดือนมาไว้ให้คุณได้ตัดสินใจ และดียิ่งกว่าคือรองรับภาษาไทยด้วยนะ 5 Cheaptickets ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Cheap (ถูก) ฉะนั้นเว็บนี้จะรวมราคาตั๋วถูกๆ เอาไว้เพียบ มีดีลและโปรโมชั่นต่างๆ ให้ดูกัน และที่สำคัญหน้าเว็บดูง่ายม๊าก 6. TheFlightDeal.com เว็บไซต์นี้จะช่วยให้คุณตามหาตั๋วราคาถูกได้อย่างดี และหากมีดีลพิเศษอะไรที่พอจะช่วยลดราคาตั๋วได้มันก็จะดึงมาแสดงให้คุณเห็น…
-
รวม 18 เหตุผล ว่าทำไมประเทศ ‘New Zealand’ ถึงเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากที่สุดในโลก!!
บนโลกใบนี้มีประเทศที่มีความสวยงามอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีจุดขายเป็นของตัวเองทั้ง วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความธรรมชาติ และหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดก็คงหนีไม่พ้นประเทศ New Zealand วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมว่าเพราะเหตุใด ประเทศ New Zealand ถึงเป็นประเทศที่สวยงามเป็นต้นๆ ของโลก 1. ทางเดินป่า Poet Blanche Baughan หรือที่เรียกว่าเส้นทางเดินป่า Milford Track “เส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุดในโลก” 2. อุทยานแห่งชาติ Fiordland สถานที่ที่ราวกับว่าเป็นโลกเวทมนตร์ 3. บ่อน้ำพุร้อนในเมือง Rotorua ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว 4. อีกมุมหนึ่งของบ่อน้ำพุร้อน Rotorua งดงามสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ? 5. เพลิดเพลินไปกับการเล่นบันจี้จั๊มป์ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามที่สะพาน Kawarau Bridge 6. นั่งเรือสปีดโบ๊ทท่องไปท่ามกลางแม่น้ำที่มีหุบเขาขนาบทั้งสองด้าน 7. หมู่บ้านของเหล่าฮอบบิทน้อย 8. จริงๆ แล้วที่ New Zealand นี้เปรียบเสมือน Middle…
-
อยากให้เธอลอง!! 9 ไอศกรีมยอดฮิตในกรุงโซล ที่ทั้งอร่อยชวนยั่วน้ำลาย แค่เห็นก็ฟินแล้ว
ช่วงนี้ใครที่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวเกาหลี สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนจะคำนึงถึงนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวก็คือ ของกินใช่ไหมละ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกรุงโซลนั้น มีอาหาร รวมไปถึงของหวานมากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกช็อป และชิมกัน แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ 9 ไอศกรีมที่มีหน้าตาน่ารับประทาน จากร้านสุดฮอตที่มีขายเฉพาะในกรุงโซล ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ บอกเลยว่าแค่ได้เห็นหน้าตาของไอศกรีมเหล่านี้ เหมียวขี้อ้อนนี่แทบอยากจะตีตั๋วไปเกาหลีซะเดี๋ยวนี้เลย อิอิ!! 1.Swi:t B (ราคา 5,300 วอน หรือประมาณ 160 บาท) Swi:t B เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวาน ที่สาวๆ เห็นแล้วจะต้องกรี๊ด เพราะร้านนี้เขามีไอศกรีมเนื้อนุ่มมาพร้อมกับรสชาติที่หอม หวาน อร่อย และมีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สุดๆ โดยทางร้านจะทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ที่ทำจากของหวานหลากหลายชนิด แถมยังมีให้เลือกทานอีกหลายรส ไม่ว่าจะเป็น whisky, cereal และ pistachio ตบด้วยท็อปปิ้งฟินๆ อีกเพียบ 2.Fell + Cole (ราคา 5,200 วอน หรือประมาณ…
-
หญิงสาวต่างชาติถ่ายรูปเจ้าตุ๊กตาลามะน้อยน่ารักตามสถานที่ต่างๆ ราวกับว่ามันออกไปท่องโลกกว้าง!!
หลายๆ คนคงเคยมีความฝันที่อยากไปท่องเที่ยวรอบโลกสักครั้ง เพราะการออกไปท่องโลกกว้างนั้นจะทำให้เราได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ได้เห็นทั้งความแตกต่างของวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงามของโลกกว้าง แต่ปัจจุบันนี้การได้ออกไปเที่ยวรอบโลกใครๆ ก็ทำกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเสริมความแปลกใหม่ในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างเช่น หญิงสาวชาวต่างชาติ Eylul Savas ที่เธอคิดมุขแปลกใหม่ด้วยการ ถ่ายรูปเจ้าตุ๊กตาลามะ ประหนึ่งว่ามันได้ออกไปท่องเที่ยวซะเอง ฮร่า 1. สวัสดีฤดูใบไม้ผลิ! 2. ชิลๆ ที่ชายหาดทางตอนใต้ 3. เดินเล่นที่ย่าน Time Square 4. ชมวิวสวยๆ ที่ Guatape ใน Colombia 5. รู้สึกสบายราวกับว่าอยู่บ้านตัวเองเลยแฮะ 6. เอาล่ะแวะทำธุระอีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับ ฮร่า 7. ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะพี่พระอาทิตย์ 8. นอนพักชิลๆ บนเปลญวน ใน Filandia ประเทศ Colombia 9. อากาศร้อนหง่ะ พักกินไอติมแปป…
-
ปลอมทุกอย่าง!! ชาวญี่ปุ่นเตือน อย่างหลงเชื่อพระญี่ปุ่นเรี่ยไรเงิน แท้จริงเป็นชาวจีนปลอมตัวมา!!
ประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำของเลียนแบบ ว่ากันว่าพิมพ์เขียวของสิ่งของทุกอย่างบนโลก สามารถหาได้จากโรงงานในจีน แต่วันนี้ของจีนถือว่าพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ปลอมแค่สิ่งของเท่านั้น แต่พวกเขายังปลอม “พระ” อีกด้วย!! เรื่องราวมีอยู่ว่า เฟสบุ๊คของคุณ Akihiro Koki Tomikawa ได้ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวที่กำลังจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นว่า อย่าหลงเชื่อพระญี่ปุ่นที่ออกมาเรี่ยไรเงินตามสถานที่ท่องเที่ยว เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นเกษตรกรชาวจีนปลอมตัวมา!! 日本で出没するニセ僧呂に注意(拡散希望) โปรดระวังพระสงฆ์ปลอมที่ญี่ปุ่นนะครับ (แชร์กันด้วยนะครับ) 中国は現在さまざまなコピーを作り出し輸出して国際問題になっていますが、今回僧侶のコ… โพสต์โดย Akihiro Koki Tomikawa บน 3 พฤษภาคม 2016 โดยชาวจีนเหล่านั้น โกนผมและแต่งตัวเหมือนพระญี่ปุ่น และคอยขายของอ้างว่านำเงินไปทำบุญตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อนักท่องเที่ยวเห็น ก็หลงเชื่อซื้อของบริจาคเงินกันไป ตอนนี้ทางตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมพระปลอมบางส่วนได้แล้ว ซึ่งทางตำรวจพบว่า พวกเขาสามารถหลอกเงินไปได้ถึง 450,000 เยนหรือนราว 150,000 บาทภายในระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น แบบนี้ก็มีด้วย ใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ขอให้ระมัดระวังนะฮะ ตรวจสอบกันดีๆ ซะก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อ ไม่งั้นอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ก็เป็นได้ ที่มา Akihiro…
-
เจ้าเหมียวถูกช่วยเหลือโดยนักเดินทางอิสระ ทั้งคู่จึงได้ออกไปผจญภัยรอบโลกด้วยกัน!!
การเดินทางเที่ยวรอบโลกคงเป็นหนึ่งในความฝันที่เพื่อนๆ หลายคนอยากจะทำให้สำเร็จให้จงได้ เพราะนอกจากจะมีความท้าทายแล้ว ยังทำให้เราได้ออกไปเปิดหูเปิดตาท่องโลก ได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมและธรรมชาติที่แตกต่าง วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรจัดที่จับพลัดจับผลูได้เดินทางเที่ยวรอบโลก โดยถูกช่วยเหลือไว้โดยสาวนักเดินทางอิสระด้วย ‘เรือ’ ก็เลยทำให้หญิงสาวคนนั้นมีผู้ร่วมทางไปเที่ยวรอบโลกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว อิอิ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… Liz Clark หญิงสาวผู้หลงรักการเดินทางอย่างอิสระ ร่วมกับเรือใบคู่ใจของเธอ Swell ได้เดินทางท่องไปรอบโลกมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2006 จนมาถึงตอนนี้ก็ร่วม 10 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังคงเดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอเดินทางไปหยุดพักที่ สาธารณรัฐเฟรนช์โปลินีเซีย (เป็นดินแดนของประเทศฝรั่งเศสที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้) ทำให้ได้พบกับเจ้าเหมียววัย 6 เดือนตัวหนึ่ง ตั้งแต่วันนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป…เธอได้พาเจ้าเหมียวตัวนั้นขึ้นเรือไปด้วย และดูแลให้ข้าวให้น้ำมันอย่างดี ซึ่งในตอนแรก Liz ตั้งใจเอาไว้ว่าจะดูแลมันแค่ชั่วคราวเท่านั้น พอเจอคนที่สามารถดูแลเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ดีกว่า เธอก็ยินดีที่จะมอบให้ไปรับช่วงต่อ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอ Liz ก็เลยตัดสินใจที่จะให้เจ้าหมียวตัวนี้ร่วมทางไปกับเธอ โดยตั้งชื่อให้ว่า Amelia ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับ Amelia…
-
อยากได้อะไรก็ชี้เลย!! เหมียวพาไปดูเสื้อยืดสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ช่วยลดกำแพงภาษาไปเยอะ!!
หากคุณประสบปัญหาเกี่ยวกับกำแพงภาษา แต่อยากจะออกเดินทางไปท่องโลกกว้างแล้วล่ะก็ วันนี้#เหมียวฟิ้น มีวิธีแก้ปัญหามาฝากกันล่ะ เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเสื้อยืดสุดเจ๋ง ที่สกรีนลวดลายเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ กว่า 40 สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น สัญลักษณ์ที่ว่านี้มีทั้งรถ เรือ โรงแรม ดวงอาทิตย์ โทรศัพท์ กุญแจ กล้อง นาฬิกา และอีกสารพัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสื่อสารกับคนในท้องที่ได้ แม้จะพูดภาษานั้นๆ ไม่เป็นก็ตาม ไอเดียทั้งหมดเกิดจากเพื่อน 3 คน George, Steven และ Florian พวกเขามักจะเจอกับปัญหาในเรื่องของกำแพงภาษา ที่ทำให้การเดินทาง การหาที่พัก หรือการท่องเที่ยวติดขัดอยู่เสมอ พวกเขาเลยทำเสื้อยืดที่ชื่อว่า Iconspeak ขึ้นมา ทีมงาน Iconspeak ทั้ง 3 คนได้อธิบายเกี่ยวกับแนวคิดในการทำเสื้อของเขาว่า “เราคิดว่ามันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ที่จะมีสัญลักษณ์สำคัญๆ อยู่ติดตัวคุณตลอดเวลา ไม่ว่าคุณต้องการอะไรก็แค่ชี้มันไปที่สัญลักษณ์นั้น และผู้คนก็สามารถเข้าใจมันได้ทันที”…
-
หมู่บ้านศูนย์อนุรักษ์ ‘แย้’ ในจังหวัดสุพรรณบุรี…ที่นี่เค้าเลี้ยงแย้กันแบบน่ารักมุ้งมิ้งทุกบ้านเลยนะจ๊ะ!?
เมื่อกล่าวถึง ‘แย้’ แล้ว เพื่อนๆ คงจะรู้จักกันดี ด้วยรูปร่างลำตัวลักษณะที่คล้ายกับจิ้งเหลน ซึ่งบางคนก็จะรู้จักมากเป็นพิเศษ เพราะแย้ถูกนำมาเป็นอาหารกันด้วยนะ รสชาติก็คงคล้ายๆ เนื้องูหรือจระเข้นี่แหละมั้ง (อันนี้ #เหมียวหง่าว เดาเอานะเพราะดูแล้วมันเป็นสัตว์เลื้อยคลานเหมือนกัน) และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมศูนย์อนุรักษ์แย้ ที่อยู่ในหมู่บ้านสุวรรณตะไล จังหวัดสุพรรณบุรี โดยพวกเขาได้ทำการอนุรักษ์และเพาะพันธุ์แย้ ไว้เพื่อไม่ให้พวกมันสูญพันธุ์ พร้อมกับเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนมาเยี่ยมชมกันอีกด้วย หมู่บ้านสุวรรณตะไล หรือ หมู่บ้านอนุรักษ์แย้ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยทำการเปิดมากว่า 30 ปีแล้ว ก่อนอื่นเราก็มาทำความรู้จักกับเจ้า ‘แย้’ กันก่อนดีกว่า…แย้เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่าประเภทหนึ่ง พบกระจายทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภูมิภาคอินโดจีน มีลักษณะเด่นคือ มีสีสวยสดและลำตัวไม่มีปุ่มหนาม ที่อยู่ของมันอยู่ในรูลึกลงไปในดินประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งภายในจะเป็นโพรงมีขนาดพอเหมาะให้มันสามารถพลิกกลับตัวไปมาได้ ส่วนอาหารของแย้จะกินแมลงเป็นอาหาร โดยเฉพาะหนอนนกที่เป็นของโปรดของมัน ซึ่งที่หมู่บ้านนี้เค้าก็ได้ทำการเพาะเลี้ยงหนอนนกนี้เพื่อเป็นอาหารของเหล่าแย้อีกด้วย เจ้าแย้ที่หมู่บ้านนี้จะมีความคุ้นเคยกับคนเป็นอย่างดี เราสามารถจับและให้มันเกาะอยู่นิ่งๆ เพื่อถ่ายรูปได้อีกด้วย นี่แหน่ะ…
-
ชาวเน็ตตะลึง!! พบรถตู้ติดแหง็กอยู่บนทางข้ามคลอง เหตุเพราะขับตาม GPS!?
ปัจจุบันมีสิ่งช่วยอำนวยสะดวกในการเดินทางมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสัญญาณ GPS ที่จะช่วยนำทางให้เพื่อนๆ ไปยังจุดหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนทั่วโลกก็ตามเค้าก็สามารถพาไปได้หมด ทำให้เวลาเดินทางก็ไม่ต้องเสียเวลามาเปิดแผนที่ศึกษาเส้นทางอีกแล้ว แหม่…ดูสบายจริงใช่มั้ยล่ะ แต่เอาจริงๆ แล้วไอ้เจ้าระบบ GPS นำทางเนี่ย มันไม่ได้มีความแม่นยำชัวร์ 100% ไปซะทีเดียวนะ บางทีก็พาไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้บ้าง บางทีก็ใช้ทางลัดที่แบบว่าเป็นทางก็จริง แต่รถดันผ่านไปไม่ได้ซะงั้น ซึ่ง #เหมียวหง่าว มีตัวอย่างมาให้เพื่อนได้ชมกัน… เรื่องมีอยู่ว่า เพจเฟสบุ๊ค เรารักด่านตรวจ ได้ทำการโพสท์รูปภาพของรถตู้คันหนึ่ง ที่ไปติดค้างเติ่งอยู่บนทางเดินริมคลองเล็กๆ ในจังหวัด นนทบุรี พร้อมกับแคปชั่นว่า “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ GPS (พี่ก็ยังกล้าขับเข้าไปนะ) สถานที่ : ทางเดินริมคลองพระอุดม จ.นนทบุรี” อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ GPS (พี่ก็ยังกล้าขับเข้าไปนะ)สถานที่ : ทางเดินริมคลองพระอุดม จ.นนทบุรี Posted by เรารักด่านตรวจ on Saturday, April 2, 2016 จากข้อมูลในภาพพอจะสรุปได้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะขับตาม GPS มาเรื่อยๆ จนมาติดแหง็กอยู่บนทางเดินข้ามคลอง ซึ่งก็บขับต่อไปไม่ได้ด้วยเกรงว่ารถจะตกน้ำ จนสุดท้ายต้องใช้รถยกมาช่วยยกออกไป…
-
ยลโฉม “Shanghai Disneyland” หลังซุ่มสร้างนาน 5 ปี ขายบัตรวันแรกหมดเกลี้ยง เปิดทางการ 16 มิถุนายนนี้
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail มีรายงานว่า ในขณะนี้ Shanghai Disneyland ได้ถูกสร้างจนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังซุ่มสร้างมานานกว่า 5 ปี โดยหลังจากที่ทางเว็บไซต์ shanghaidisneyresort.com ได้มีการเปิดขายตั๋วสำหรับเข้าชมสวนสนุกแห่งนี้ ไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ปรากฏว่าบัตรถูกขายหมดเกลี้ยงในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และที่สำคัญห้องพักที่โรงแรม Toy Story ที่ถูกตกแต่งด้วยของเล่นจากในการ์ตูน และ The Shanghai Disneyland Hotel โรงแรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะสมัยใหม่ ที่มีกลิ่นอายของมนตร์ขลังดิสนีย์ ก็ถูกจองเต็มไป 2 สัปดาห์รวดไปเรียบร้อย นอกจากนี้ภายในสวนสนุก Shanghai Disneyland ยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Enchanted Storybook Castle ปราสาทดิสนีย์ที่ใหญ่ และสูงที่สุดในโลก โดยจะมีทั้งหมด 6 ธีมพาร์คด้วยกันทั้ง Adventure…
-
โอกาสมาแล้ว!! World of Beer ตามหานักรีวิวเบียร์ ดื่มฟรี เที่ยวฟรี ค่าจ้าง 4 แสน!!
โอ้ยยยย!! วันนี้มันเป็นวันอะไร อากาศก็ร้อนเหลือเกิน อยากจะหาเบียร์เย็นๆ มาจิบดับกระหายคลายร้อนเสียจริง อ่ะ ว่ากันด้วยเรื่องซื้อเบียร์มาดื่ม มีแต่เสียเงิน แล้วถ้าหากว่าได้ดื่มเบียร์ แถมได้ไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมกับได้เงินด้วย มันจะเป็นไปได้มั้ยนะ!? สิ่งที่ฝันของคอเบียร์นั้นเป็นจริงแล้วล่ะ เพราะ #เหมียวเลเซอร์ ไปเจออะไรดีๆ มา นั่นก็คือการประกาศตามหานักรีวิวเบียร์ของ Wold of Beer ต้องเดินทางไปทั่วอเมริกาและทั่วโลก เพื่อดื่ม ดื่ม และดื่มเบียร์จากหลากหลายที่ ฟังแล้วก็ดูน่าจะเป็นงานหนัก(หัว) อ๊ะ ยังไม่พอ เขายังมีค่าตอบแทนให้อีกตั้ง 4 แสนบาทแหนะ (12,000 USD) ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นนักรีวิวเบียร์ท่องเที่ยวไปทั่วโลกนั้นจะต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป สามารถเดินทางและทำการรีวิวเบียร์ผ่านสื่อออนไลน์ ตลอดระยะเวลา 4 เดือน หากเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกัน จะต้องมีใบอนุญาตทำงานในสหรัฐฯ เสียก่อน อีกทั้งยังต้องมีทักษะในการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร หากใครมีคุณสมบัติครบแล้ว วิธีสมัครก็มีเพียงแค่อัดคลิปสั้นๆ 1 นาที บอกเล่าว่าทำไมคุณถึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับงานนี้ หมดเขตรับสมัครในวันที่…
-
หนุ่มมะกันป่วยกล้ามเนื้อลีบ ฝันอยากท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป เพื่อนๆ เลยอาสาแบกเขาขึ้นหลังพาเที่ยวเอง!!
จะมีสักกี่คนที่ได้พบกับเพื่อนแท้ เพื่อนที่เต็มใจช่วยเหลือเราแม้ว่าตัวเขาจะพลอยลำบากไปด้วยก็ตาม? หากคุณเจอคนแบบนี้เข้าจงรักษามิตรภาพระหว่างพวกคุณไว้ให้ดีๆ ล่ะ เพราะนั่นคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวของนาย Kevan Chandler จากรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบ ทำให้ร่างกายของเขาไม่แข็งแรงพอที่จะยืนได้ด้วยตัวเอง และต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา ถึงแม้ร่างกายของนาย Kevan จะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังมีความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทวีปยุโรป เพื่อนของเขาอย่างนาย Tom Troyer, Philip Keller และ Benjamin Duvall เลยอาสาที่จะแบกเขาและพาไปท่องเที่ยวตามที่เขาหวังไว้ ดูเหมือนปัญหาของนาย Kevan จะมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือน้ำหนักของเขา เพราะตอนนี้เขามีน้ำหนักอยู่ที่ 29 กิโลกรัม แต่เพื่อนๆ ของเขาก็ไม่ย่อท้อ และพาเขาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ทั่วยุโรป สถานที่ที่ปกติแล้วนาย Kevan ไม่น่าจะไปได้ด้วยตัวเองเป็นเวลากว่า 19 วัน นาย Keller ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างติดตลกว่า “การที่ต้องแบก Kevan ไปด้วยนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย…
-
บริษัททัวร์ออกโรงเตือนชาวไทย ไม่ควรลงไปถ่ายภาพบนรางรถไฟที่ญี่ปุ่น เพราะอาจถูกตำรวจจับได้
การจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไหนก็ตาม เรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การไปกินไปถ่ายรูปก็คือเรื่องของกฎเกณฑ์มารยาทนี่แหละนะ เพราะในแต่ละที่มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไป หากเราอยากจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีก็ควรจะศึกษาเรื่องที่ “ควรทำ” และเรื่องที่ “ไม่ควรทำ” ก่อนจะเดินทางไปด้วยนะจ๊ะ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที 21 มีนาคม เฟซบุ๊กเพจ Black Hat ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของหญิงสาวรายหนึ่งที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองคาวางุชิโกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพที่เจ้าตัวลงไปยืนถ่ายภาพบนรางรถไฟความเร็วสูง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความบรรยายว่า “เมืองคาวางุชิโกะเป็นเมืองที่อยู่เชิงเขาฟูจิ นั่งรถไฟจากโตเกียวมาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นี่เป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยมาก มาพักค้างซักคืนเพื่อดื่มด่ำกับฟูจิซักครั้งกันครับ” ต่อมาเพจ I Love Japan Tours – ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ไพรเวท ทัวร์วีไอพี ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนชาวไทยว่าห้ามลงไปเดินเล่นที่รางรถไฟทุกกรณี เพราะการลงไปยืนอยู่บนรางรถไฟแบบนี้ถือเป็นข้อห้ามของประเทศญี่ปุ่น หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจถูกตำรวจสอบสวนได้เลยทีเดียว ช่วงนี้รู้สึกว่าคนไทยจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์คงจะมากที่สุดในรอบปีอย่างแน่นอน โอทารุจึงฝากมาเตื… โพสต์โดย I Love Japan Tours – ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ไพรเวท ทัวร์วีไอพี…
-
ทนไม่ไหวแล้วเฟ้ย!! ชม 19 ผู้โดยสารต้นแบบ ที่ใครได้เดินทางด้วยเป็นต้องเอือม!!
สำหรับคนที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ แล้ว การที่ต้องนั่งในชั้นประหยัด อาจจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ เพราะต้องเจอกับคนหลากหลายประเภท บางคนทำตัวสบายเกิ๊น ทั้งกรนเสียงดัง เท้าเหม็น กินอาหารหกเลอะเทอะข้างๆ คุณ แค่อ่านก็ประสาทเสียแล้วใช่ไหมล่ะ? วันนี้ #เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ ไปชมตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของผู้โดยสารสุดเอือม ที่คุณไม่อยากเจอแน่ๆ ระหว่างเดินทางด้วยเครื่องบิน จะละเหี่ยใจขนาดไหนลองไปดูกันเลย 1. นั่นถุงเท้าใช่มะ!? 2. มองแว๊บแรกนึกว่ารากไม้ 3. ขอแตะหน่อย 4. เหม็นว๊อย!! 5. “หนูเหม็นจังเลยพี่ชาย” 6. ทำไมวางเรี่ยราดแบบนี้ล่ะพี่ 7. เป็นรูด้วยนะ คลาสสิค!! 8. เติมน้ำแข็งหน่อยไหมพี่? 9. จะดูหนัง เอาเสื้อออกเดี๋ยวนี้!! 10. พาดขาแบบนี้แล้วจะนั่งยังไงล่ะพี่!! 11.…
-
เอาล่ะจุ้ย!! ชาวเน็ตแฉภาพกรุ๊ปทัวร์คนไทยทิ้งเศษขยะกองโตไว้ที่สวิตเซอร์แลนด์!?
ในหลายๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นเรื่องราวแย่ๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ทั้งพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารัก การส่งเสียงดัง การแซงคิว การขับรถที่ค่อนข้างจะเป็นอันตราย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นคิดว่าเราอาจจะว่าพวกเขาไม่ได้เต็มปากแล้วล่ะ เมื่อช่วงคืนวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า minizooland ได้เข้ามาตั้งกระทู้พร้อมกับโพสต์ภาพพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทย (บางคน) ที่เดินทางไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ดันไปทิ้งขยะเกลื่อนกลาดตามถนน จนกลายเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย ภายในภาพที่เจ้าของกระทู้นำมาให้ดูนั้นเป็นภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมกับมีกองขยะอยู่ด้านหลัง เมื่อลองขยับเข้าใกล้ขยะกองนั้นก็เห็นตัวอักษรภาษาไทยอย่างชัดเจน พร้อมกับข้อความแปะหราว่า “Product of Thailand” หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีนักสืบพันทิปหลายๆ คนช่วยกันตามหาว่ากลุ่มทัวร์กลุ่มนี้มาจากบริษัทใด สุดท้ายถึงทราบว่าเป็นลูกทัวร์ของบริษัทประกันภัยไทยประกันชีวิต ซึ่งก็ได้มีคนนำข่าวคราวไปแจ้งผ่านเฟซบุ๊กเพจของบริษัทดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เฟซบุ๊กเพจของไทยประกันชีวิตได้มีการชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวว่า “กล่องดังกล่าวเป็นกล่องอาหารที่รับประทานบนรถ และวางไว้บนรถเมื่อถึงที่หมาย แต่เจ้าหน้าที่ขับรถซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้นำลงมาทิ้งภายหลังจากที่คณะทัวร์ลงจากรถแล้วค่ะ” คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางบริษัททัวร์หรือทางไทยประกันชีวิตจะมีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีอะไรคืบหน้าเหมียวจะนำมารายงานทันทีจ้า ที่มา pantip , ไทยประกันชีวิต
-
รวมสุดยอดทริกจัดกระเป๋าไปท่องเที่ยว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากไปทางลัดสู่ฉบับโปร!!
ทุกวันนี้การออกเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในประเทศก็ดี ต่างประเทศก็ดี ก่อนอื่นเลยก็จะต้องมาคิดว่าเราจะต้องเอาอะไรติดตัวไปบ้าง? แล้วทีนี้ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดขึ้นก็คือการจัดกระเป๋าเดินทางนี่แหละ หากเอาไปเยอะเกินก็เกรงว่าจะขนไม่ไหว ไหนจะมีของรุงรังหลายสิ่งอีก เอาเป็นว่าในคราวนี้ #เหมียวเลเซอร์ ขอนำเสนอเคล็ดลับในการจัดกระเป๋าของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางทั้งหลาย ในแบบฉบับมือโปร ปัญหายัดของในกระเป๋าที่วุ่นวาย จะกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยทันที!! จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเถอะ สายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ สาย USB อะไรต่างๆ ให้นำมาเก็บไว้ในกล่องแว่นเก่าๆ แทน ประหยัดพื้นที่ในการเก็บถุงเท้าด้วยการยัดเข้าไปในรองเท้า (ได้ถึง 3 คู่เลยแหนะ) สำหรับเสื้อคอปก ไม่อยากให้ทรงเสียก็ให้นำเข็มขัดมายัดใส่ การเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋า ให้ใช้วิธีการม้วนแทนการพับ ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า แต่หากจำเป็นต้องพับ ก็ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์มารองก่อนพับ ช่วยให้อยู่ทรงป้องกันการเกิดรอยยับได้ เก็บรองเท้ายังไงไม่ให้เปื้อนเสื้อผ้า ใช้หมวกอาบน้ำห่อ (ใช้ถุงพลาสติกแทนก็ได้) ม้วนสายหูฟังพะรุงพะรังให้เป็นระเบียบด้วยคลิปหนีบ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเอกสารการเดินทาง เอกสารราชการสำคัญ ต่างๆ ให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้กับตัวด้วย พร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้ส่งเข้าอีเมลหรือระบบฝากรูปออนไลน์ เผื่อไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ อีกมากมาย บางคนอาจจะรู้แล้ว…
-
ความงดงามแปลกตาของ Lake Hiller ทะเลสาบสีชมพูจากชายฝั่งทางตอนใต้ของออสเตรเลีย!!
ถ้าให้พูดถึงสีของแหล่งน้ำตามธรรมชาติอย่าง ลำธาร ลำคลอง แม่น้ำ ส่วนมากจะเป็นน้ำใสๆ ไปจนถึงหน่วยใหญ่ๆ ก็จะเป็น ทะเล มหาสมุทร ที่จะออกเป็นสีฟ้าครามบ้าง สีเขียวบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่พื้นที่ Lake Hiller ทะเลสาบสีชมพูแห่งประเทศออสเตรเลีย แต่ก็คงไม่มีที่ไหนดูแปลกตาเท่าทะสาบสีชมพูแห่งนี้ ใช่แล้ว!! ให้มันเป็นสีชมพู (เพลงบอดี้สแลมมา) โดยสีของทะเลสาบ Lake Hiller แห่งนี้เป็นสีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติโดยไม่มีมนุษย์เป็นผู้กระทำให้มันถือกำเนิดขึ้นมาแต่อย่างใด!! ความแปลกของ Lake Hiller นั้นเกิดขึ้นมาจากภายใต้ทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเกลือและสาหร่ายสีแดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จนทำให้สีของน้ำกลายมาเป็นสีชมพูอย่างที่เห็น ทะเลสาบแห่งนี้จึงดูโดดเด่นขึ้นมาทันที สวยงามราวกับดั่งอัญมณีสีชมพูท่ามกลางผืนป่ายูคาลิปตัสสีเขียวยังไงอย่างงั้นเลย!! เอาเป็นว่าหากใครอยากจะไปสัมผัสความงามของน้ำสีชมพูด้วยตัวเอง Lake Hiller นี้ตั้งอยู่บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดบนหมู่เกาะ Recherche Archipelago ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย รีบเก็บเงินแล้วบินไปเยี่ยมชมความงดงามนี้กันโดยพลัน!! ที่มา : wherecoolthingshappen, designyoutrust
-
เคยไปยัง!? เยี่ยมชมสวรรค์ของทาสแมว เที่ยวฟินๆ ภายใน Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน
ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกนำเสนอไปเยอะแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเกาะเลยที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์ อ่ะ!! แต่ถ้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ไกลไป ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ อีกซักนิด ย้ายถิ่นฐานไปดูที่ไต้หวันกันบ้าง Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าที่ไต้หวันก็มีสวรรค์สำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีชื่อหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมือง Taipei ประมาณ 60 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 50 นาที ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน Houtong แต่ก่อนเคยเป็นไซค์สำหรับเหมืองถ่านหินมาก่อน จนกระทั่งเหมืองได้ปิดตัวลงไป มีประชากรมนุษย์อยู่อาศัยเป็นจำนวน 6,000 คน ซึ่งในอดีตมีประชากรแมวน้อยหน่อย แต่จู่ๆ ก็เกิดเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกระทันหัน จนประชากรแมวแทบจะยึดครองไปทั่วหมู่บ้านแล้ว ทั้งนี้จากหมู่บ้านที่เคยเงียบเหงา ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในปีค.ศ. 2009 กลุ่มอาสาสมัครผู้รักแมวได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของหมู่บ้าน Houtong จากหมู่บ้านข้างเหมืองถ่านหินให้กลายมาเป็นหมู่บ้านเต็มรูปแบบ โดยอาศัยประวัติศาสตร์ในอดีตของเหมืองผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ได้อย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟจาก Taipei สู่ Houtong …
-
ย้อนรอยเมืองแห่งประวัติศาสตร์ยุโรป “ทาลินน์” ความงามยามค่ำคืน ที่ทุกคนควรไปสัมผัสกันสักครั้ง…!!
หลายคนเวลาไปเที่ยวโซนยุโรปอาจจะคิดถึงการไปเดินชมพระราชวังอังกฤษ หรือไปหอคอยปารีส ถ่ายรูปตามสะพานชื่อดังของยุโรป วันนี้ #เหมียวฮานะ อยากจะมาแนะนำสถานที่ประวัติศาสตร์ที่นึงนั้นคือเมืองทาลินน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าหลักของประเทศเอสโตเนีย ต้องบอกก่อนว่าทาลินน์นั้นเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ เป็นเมืองที่ได้รับการสถาปนาเป็น European Capital of Culture และยังเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 อีกซะด้วยยย ในเมืองทาลินน์นี้จะมีป้อมปราการและหอคอยรวมกันราว 66 ป้อม ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เมืองหลวงของเอสโตเนียยังใช้ชื่อว่าเมือง Reval ที่นี่ยังมี Toompea Castle ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวเดนมาร์คในปี ค.ศ. 1219 บอกได้เลยว่าที่นี้มีความงดงามของสถาปัตยกรรมในช่วงกลางของยุโรปได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว St. Catherine’ Passage เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่มีเสน่ห์อย่างมากและมีอายุเก่าแก่ เส้นทางเดินนี้จะเชื่อมต่อกับถนน Vane และ Muurivahe มุมร้านค้าในเมืองเล็กๆ แค่เห็นก็รู้สึกอบอุ่นละล่ะ ร้านเล็กๆที่ชื่อว่า Josephine ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1937 การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ยุโรปกลาง ที่เห็นอยู่นี่คือซอยในเมืองทาลินน์และที่เห็นเปนหอคอยแหลมๆนั้นคือโบสถ์ที่ชื่อว่า St.…
-
เห็นแล้วเพลียจิต!! รวมภาพการขีดเขียนทำลายธรรมชาติใน ภูหินจอมธาตุ จังหวัดอุดรธานี
สืบเนื่องจากกรณีที่มีนักร้อง ฮ. ขึ้นไปเขียนข้อความที่หลักกิโลบนภูชี้ดาวที่จังหวัดเชียงราย ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวขึ้นมาในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติและมีการรณรงค์ไม่ให้เขียนข้อความในที่ต่างๆ ล่าสุดที่จังหวัดอุดรธานีก็มีนักท่องเที่ยวมือบอนขึ้นไปเขียนข้อความเลอะเทอะ อย่างเช่นการสลักชื่อตัวเองลงไปบนแผ่นหินหรือเขียนข้อความหยาบๆ คายๆ ลงไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองนั้นเคยมาที่นี่แล้ว ภาพชุดดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ Udonthani Update เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า “น้ำตาจะไหลจะเขียนไปทำไม ฝีมือคนไร้การศึกษา คนไร้จิตสำนึก คนไม่มีวัฒนธรรม คนรุ่นหลังอยากดูธรรมชาติไม่ได้ไปดูร่องรอยความคึกคะนอง” “เขาจะด่าถึงบรรพบุรุษคุณ ภูหินจอมธาตุ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ภาพ: Theethawat Singhasiri” ดูซิ ขนาดมีป้ายกำกับแล้วนะว่าห้ามขีดเขียน ก็ยังไม่วายมีคนมือบอนไปเขียนจนได้ จากนั้นไม่นานก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อคุณ Thongchai Narad ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่าตนเองนั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลภูหินจอมธาตุ และบอกว่าพื้นที่ทั้งหมดมีมากกว่า 25,000 ไร่ แต่มีคนที่ดูแลเพียงแค่ 8 คนเท่านั้น การจะดูแลให้ทั่วถึงเป็นไปได้ยากมาก แต่ทั้งนี้พวกเขาเองก็มีมาตรการป้องกันเช่นมีการติดป้ายเตือนและแนะนำนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่ม…
-
21 เหตุผลที่ว่าคุณอย่าไปเที่ยว ‘ไอร์แลนด์’ เลย เพราะมันไม่มีอะไรสวยงามสักกะติ๊ด….!!
คุณคงได้ยินชื่อเสียงของไอร์แลนด์ว่าน่าสนใจ น่าไปเที่ยวตามที่โน่นที่นี่ บางคนอาจจะเคยเห็นผ่านทางอินเตอร์เน็ตแล้ว คงแบบกระเป๋าตังสั่นอยากจะเสียตังไปซักครั้ง แต่ #เหมียวฮานะ ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าไป เพราะเหตุผลทั้ง 21 ข้อนี้แหละ มีอะไรบ้างมาดูกัน!! 1. The Rock of Cashel ก็แค่ปราสาทเก่าๆผุพัง กับแกะเหม็นๆ น่าไปตรงไหน แต่ที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว 2. Carrick-a-rede Rope Bridge สะพานเชือกที่ไม่รู้จะพังเมื่อไร (แต่ทำไมสวยจังวะ) 3. สายรุ้งใกล้กับผาชันแห่งโมเฮอร์บนชายฝั่งแอตแลนติก หน้าผาสุดอันตราย มีแค่สายรุ้งที่ดูธรรมดาๆเอ๊งงงงง 4. ผาชันแห่งโมเฮอร์ นี่ก็ดูน่ากลัว ไม่อยากไปเลยชิๆๆ 5. ปราสาทอาชฟอร์ดสมัยกลางบนฝั่งทะเล Lough corrib และแม่น้ำ Cong อันนี้ก็ดูน่ากลัวไปหน่อยนะ 6. วิวบนฝั่งทะเล ทุ่งหญ้าธรรมดาาา แต่ทำไมสวยจังเนี่ยย 7. Giant’s Causeway เป็นคันถนนยักษ์เดินที่ประกอบขึ้นด้วยหินบะซอลต์ประมาณ…
-
คู่รักตัดสินใจซื้อรถตู้เก่าๆ และออกเดินทางกว่า 50 ประเทศรอบโลก ด้วยงบวันละ 300 บาท
เป็นคู่รักที่ทำให้ใครหลายๆคนอิจฉา เมื่อหญิงสาวโพสต์เล่าเรื่องราวของการเดินทางรอบโลกกับคนรักลงในเว็บไซต์ของต่างประเทศ กับหัวข้อที่ชวนดึงดูดซะเหลือเกิน… We Visited Over 50 Countries With Our Van Spending Only $8 A Day ห้ะ!! ขับรถตู้เที่ยวรอบโลก ใช้เงินไม่ถึงวันละ 300 บาทด้วย ชาวเน็ตฝรั่งทั้งหลายก็ติดตามเป็นแฟนคลับกันใหญ่ #ประธานเหมียว เลยขอหยิบมาเล่าให้ฟังครับ คู่รักนี้เป็นชาวโปแลนด์ ซึ่งมีความฝันอยากจะไปท่องเที่ยวรอบโลก แม้มีเงินไม่มาก พวกเขาก็หุ้นกันซื้อรถตู้ราคาประมาณ 21,000 บาท (หลักหมื่นเอง) มาแปลงโฉมให้สวยงาม หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกท่องเที่ยว…. การเดินทางกว่า 50 ประเทศใน 5 ทวีป ตลอดระยะเวลา 6 ปี ขับรถไปกว่า 150,000 กิโลเมตร ได้มีโอกาสเห็นวิวของ Grand Canyon ทุ่งดอกไม้สวยๆในประเทศไอซ์แลนด์…
-
ฉันเลือกนาย!! เมนูใหม่จากเกาหลี ‘ปิ๊กะจูทอด’ กำลังฮิต ใครได้ไปต้องหาโอกาสลองแล้ว
พูดถึงประเทศเกาหลีใต้ หลายๆคนอาจจะนึกถึงอาหารอย่าง เนื้อย่าง บิบัมบับ หรือว่ากิมจิ แต่ในคราวนี้ #ประธานเหมียว จะพาไปพบกับของกินชนิดใหม่ที่กำลังสร้างความฮือฮาเลย… เว็บไซต์ Kotaku รายงานว่าในเกาหลีใต้นั้น เราสามารถสั่ง ปิ๊กะจูทอด มากินได้ โดยถึงขั้นมีขายออนไลน์ในเว็บไซต์กันอย่างเปิดเผย ทั้งนี้ทั้งนั้น คนขายไม่ได้ไปจับปิ๊กะจูจริงๆมาแล้วมาหั่นหรอกนะ แต่มันคือการเอาเนื้อแผ่นที่ทำออกมาเป็นรูปโปเกม่อนชื่อดัง มาชุบแป้งและให้คนทั่วไปซื้อไปทอดกินได้ นอกจากจะสั่งออนไลน์ได้แล้ว ในร้านอาหาร รวมถึงตามร้านริมทางก็มีเมนูนี้ขายอยู่ด้วย ดูจากราคาในภาพนี้แล้วตกอยู่ที่ตัวละ 500 วอน หรือประมาณ 15 บาทนั่นเอง ถ้าใครมีโอกาสได้ไปที่เกาหลีใต้ และอยากจะลิ้มลองเนื้อโปเกม่อนชนิดนี้ ก็ลองมองหาดูดีๆนะครับ แล้วอย่าลืมถ่ายภาพมาอวดเหมียวด้วยละ!!! ที่มา: kotaku, gmarket,
-
นี่ก็ V.I.P. เกิ๊น!! หนุ่มออสเตรียซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเกาะ แต่ปรากฏว่าทั้งลำมีแค่เขาคนเดียว!?
การเดินทางไปเที่ยวในวันหยุดเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากจะไปเมื่อมีเวลาว่างล่ะนะ แต่พอต้องเดินทางร่วมกับคนอื่นๆ ทีไรมักจะต้องเจอกับมนุษย์ป้าขี้วีน มนุษย์ลุงจอมบ่น หรือมนุษย์ทารกจอมร้องไห้ แต่พ่อหนุ่มรายนี้กลับโชคดีสุดๆ เพราะสายการบินที่เขาใช้บริการกลับไม่มีใครโดยสารไปกับเขาเลย ย้ำว่า “ไม่มีใครเลย” เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Alex Simon นักเขียนบล็อกชาวออสเตรียวัย 28 ปี ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางจากกรุงมะนิลาไปยังเกาะโบราไกย์ประเทศฟิลิปปินส์ แต่เมื่อขึ้นเครื่องมาเขาก็ต้องประหลาดใจสุดๆ เมื่อเครื่องบินทั้งลำไม่มีผู้โดยสารเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงแอร์โฮสเตส 2 คน และนักบินอีก 2 คนเท่านั้น ทำให้ตั๋วราคาประหยัดที่เขาซื้อไปนั้น กลายเป็นที่นั่งสุดจะ VIP เลยทีเดียว เมื่อเห็นดังนั้นนาย Simon ก็เริ่มถ่ายภาพภายในห้องโดยสารเพื่ออวดเพื่อนๆ ในโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีโอกาสได้เข้าไปถ่ายรูปและพูดคุยกับนักบินในห้องคนขับเครื่องบินแบบเป็นกันเอ๊งกันเองก่อนที่เครื่องจะทำการเทคออฟออกไป ตามรายงานบอกว่าสมาชิกบนเครื่องทั้งหมดรู้สึกสนุกกับสถานการณ์แปลกประหลาดครั้งนี้มาก จนพวกเขาต้องหยิบกล้องวิดีโอออกมาถ่ายนาย Simon ในขณะที่นั่งบนเครื่องและเดินไปเดินมา จนกระทั่งเขาลงจากเครื่องไป นาย Simon…
-
พาหนีหนาวไปเที่ยวทะเลกับ 18 หาดทรายสุดงดงาม น่าลองไปสัมผัสสักครั้ง!!
โดยปกติแล้วหน้าร้อน เราก็ต้องหนีร้อนไปพึ่งเย็นกันใช่รึเปล่า และสถานที่ที่คนมักจะไปก็คือห้างนั่นเอง เพราะแอร์ฟรี แต่หน้าหนาวแบบนี้ มันไม่ค่อยมีที่อุ่นๆให้เราไปเลย ส่วนมากคนก็จะเน้นขึ้นดอยไปเสพความหนาวกว่าเดิมกันซะมากกว่า แต่ยังมีอีกทีหนึ่งที่เหมาะสำหรับการหนีหนาว นั่นก็คือทะเลนั่นเอง ทะเลหน้าหนาวเป็นอะไรที่ฟินอย่าบอกใครเชียว โดยเฉพาะตอนที่ได้รับลมและแสงแดดอุ่นๆ ที่ส่องมา วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปชมหาดทรายสวยๆ จากทั่วโลก ที่เหมาะก็การหนีหนาวไปเหยียบทรายที่นั่น จะมีที่ไหนบ้าง เราไปชมกันเลย Honopu Beach, Kauai, HI El Castillo, Tulum, Riviera Maya, Mexico Blinky Beach, Lord Howe Island, Australia Navagio, Zakynthos, Greece Playa San Miguel, Ibiza, Spain Lanikai Beach, Hawaii La Digue, Seychelles …
-
เจ้าเหมียว Gandalf ตัวเฟี๊ยว ออกเที่ยวไปทั่วสหรัฐฯ ได้เที่ยวเยอะซะจนมนุษย์อิจฉา!!
ช่วงปีใหม่ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะแก่การออกไปพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุด เป็นเพราะว่าวันหยุดติดกันยาวเหยียดนี่แหละ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีงานเข้ามาขัดขวาง ฮร่าาา ไม่เว้นแม้แต่แมวกับทาสจากเกาหลีใต้ที่ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา สำหรับเจ้าเหมียวผู้ที่มีชีวิตดี๊ดียิ่งกว่ามนุษย์ตัวนี้มีชื่อว่า Gandalf (ชื่อมันคุ้นๆ นะ) ออกเดินทางไปพร้อมกับทาสคู่ใจ ตระเวนเที่ยวไปทั่วสหรัฐอเมริกา ประมาณ 9 รัฐ (เยอะกว่าคนไปเที่ยวอีกมั้งเนี่ย) แวะเยี่ยมชมสถานที่ชื่อดังต่างๆ มากมาย แบบว่ามนุษย์ที่เห็นจะต้องรู้สึกอิจฉาแมวแน่ๆ ยกตัวอย่างสถานที่ดังต่อไปนี้ Grand Canyon Folsom Puddle Hollywood ก็ไปเหยียบมาแล้วนะจ๊ะ San Francisco Bay Lake Tahoe Old Gold Country Mendocino County Point Arena The Redwoods The Texas…
-
หนาวสุดในรอบปี!! ยอดดอยอินทนนท์หนาวติดลบ 3 องศา น้ำแข็งค้างเกาะเต็มรถนักท่องเที่ยว
เชื่อว่าในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่กันมากมายเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว และจุดหมายปลายทางก็คงจะหนีไม่พ้นดอยอินทนนท์แน่นอน แต่ดูเหมือนว่าอากาศที่นั่นจะยังไม่ค่อยหนาวสะใจคอนั่งท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ เพราะจากคำบอกเล่าของหลายๆ คนบ่นกันว่าปีนี้หนาวน้อยกว่าทุกปี แต่หากคุณยังอยากไปสัมผัสอากาศหนาว (จริงๆ) แล้วล่ะก็ ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มกราคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพถ่ายจากบนยอดดอยอินทนนท์ ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -3 องศา จนมีน้ำค้างแข็งให้เห็น ถือเป็นอุณหภูมิที่ต่ำสุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ ตามรายงานบอกว่าวันนี้ถือเป็นวันที่ 5 แล้วที่มีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่ตามดอกไม้ใบหญ้า และรถของนักท่องเที่ยว ทำเอาผู้คนตื่นเต้นไปตามๆ กัน นอกจากนี้ยังมีการรายงานอุณหภูมิในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เช่น กิ่วแม่ปาน 0 องศา และที่ทำการอุทยานฯ 6 องศา โอ้โห คนกรุงอย่างเหมียวนี่อยากจะแว๊บขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย อยากไปสัมผัสอากาศหนาวจริงๆ บ้าง ที่มา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่…
-
ชี้เป้า 11 เกาะแมวแห่งประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากเจอแมว แม๊ว แมว ก็เก็บกระเป๋าไปเลย!!
อาการของทาสแมวที่มักจะเรียกร้องความสนใจจากเจ้านายผู้ไม่สนโลก วันๆ ก็เอาแต่นอนอย่างเดียว พอตื่นก็หิว กินอิ่มก็นอนต่อ ฮ่าฮ่า!! ไม่ใช่อะไรหรอก หากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวที่ชีวิตนี้ได้ถวายทั้งกายและใจให้แมวไปแล้ว หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ ‘เกาะแมว’ ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี และเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีเกาะที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวนี่แหละ นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย ว่าแล้วก็ขอแนะนำ 11 เกาะแมว ที่ควรไปเที่ยวซักครั้ง รับรองว่าทาสแมวต้องฟินแน่นอน!! 1. Enoshima, จังหวัด Kanagawa สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด : Katase Enoshima แถมที่นี่ยังมีศาลเจ้าสวยๆ และชายหาดที่เหมาะแก่การปาร์ตี้มากๆ แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อนกันนะจ๊ะ 2. Okishima, จังหวัด Shiga ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด : Horikiri เกาะนี้ไม่ได้อยู่ในทะเลสาบ Biwa ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นล่ะ 3. Sanagishima, จังหวัด Kagawa ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด :…
-
นครชัยแอร์ ทุ่ม 50 ล้าน ผุดไอเดียสร้างโรงแรมโลว์คอส หวังรองรับนักเดินทางในราคาประหยัด
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่สายการบินต่างๆ ปรับลดราคาตั๋วเดินทางโลว์คอสลงมา อยู่ในระดับที่นักเดินทางสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น คนบางกลุ่มก็เลือกที่จะไม่ขึ้นรถทัวร์อีกเลย เพราะมีราคาที่ใกล้เคียงกันแต่ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า ล่าสุดทางนครชัยแอร์ได้ปรับกลยุทธใหม่ โดยการสร้างโรมแรมโลว์คอสเพื่อไว้บริการนักเดินทางระหว่างจังหวัดต่างๆ โดยนางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่าเตรียมทุ่มงบ 50 ล้านบาทเปิดตัวโรงแรม 3 แห่ง เช่นในกรุงเทพฯ ขอนแก่นและอุบลราชธานี โดยโรงแรมจะมีทั้งหมด 30-50 ห้อง เน้นสะดวกสะอาดและประหยัด โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2559 เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นรายได้ที่เริ่มซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้นครชัยแอร์ได้ตั้งเป้าปี 2559 เอาไว้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 5% หรือคิดเป็น 1,900 ล้านบาท และจะขยายเส้นทางในภาคอีสานอีก 2-3 เส้นทาง เราคงต้องติดตามกันต่อไปล่ะว่าโรงแรมโลว์คอสที่ว่านี้จะมีหน้าตายังไง และจะสามารถดึงให้คนกลับมาเดินทางด้วยรถทัวร์ได้หรือไม่ ที่มา nakhonchaiairclub
-
รวบรวม 12 ความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ กับ ‘นักเดินทาง’ คุณล่ะ เป็นแบบไหน?
หนึ่งในความฝันของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ที่ว่าซักครั้งหนึ่งอยากจะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและนอกประเทศ และการท่องเที่ยวของแต่ละคนนั้นก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่มักจะถูกเหมารวมเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ ไปซะหมด ด้วยเหตุนี้เองทาง Holidify บริษัทที่ให้บริการสำหรับผู้ที่เดินทางมายังประเทศอินเดีย ได้จัดทำภาพเพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ และ ‘นักเดินทาง’ เอาไว้ เนื่องจากมีสไตล์ในการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนกัน เอาล่ะ!! ถ้าหากว่าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน ก็เลื่อนลงมาดูกันเลยจ้า 1. การถ่ายรูป 2. การคำนึงถึงเส้นทาง 3. จำนวนของคนที่ไปด้วยในแต่ละครั้ง 4. สภาพของถนนหนทาง 5. อุปกรณ์และของใช้ที่พกติดตัว 6. ว่ากันด้วยเรื่องของฝาก ของที่ระลึก 7. การเดินทาง 8. ลักษณะการนอนพักผ่อน 9. สภาพของที่นอน 10. การขออาศัยยานพาหนะ 11. สิ่งที่นึกถึงระหว่างเดินทางท่องเที่ยว…
-
ชายหนุ่มเปลี่ยนรถโรงเรียนเก่าๆ ให้กลายเป็นรถบ้านสุดเจ๋ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ!!
Patrick ฝันว่าวันหนึ่ง เขาจะขับรถท่องเที่ยวไปทุกรัฐในอเมริกา และในปีที่ผ่านมานี้ คือปีที่ฝันของเขา ได้กลายเป็นเรื่องจริง เมื่อช่วงต้นปี เขาได้ซื้อรถโรงเรียนเก่าๆคันหนึ่งมา ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อของเขา พวกเขาได้เปลี่ยนรถเก่าๆคันนี้ ให้กลายเป็นรถบ้านสุดเจ๋งขึ้นมา สองพ่อลูก ช่วยกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อปรับปรุงโฉมรถคันนี้ โดยมีแม่เป็นผู้ช่วยเติมเสบียง ทั้งเก้าอี้ ทั้งเพดาน ต่างถูกนำออกไป เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นรถบ้านอันแสนน่าอยู่ ติดไฟเข้าไปซักนิด เพื่อความมีสีสัน เป็นไงละ สวยหรือเปล่า บนรถมีทั้งตู้น้ำ และฮีทเตอร์ ด้านบนติดตั้งแผงโซลาร์เซล เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าหล่อเลี้ยงบ้านหลังนี้ Patrick บอกว่าชีวิตของเขาตอนนี้เหมือนอยู่ในความฝัน เขากำลังเดินทางไปทั่วอเมริกาด้วยรถคันนี้ และรถคันนี้ก็เป็น “บ้าน” จริงๆหลังแรกของเขา เขาบอกตลอดชีวิตเขาย้ายที่อยู่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เขาจึงรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใน “บ้าน” หลังนี้ ไม่ว่าสถานที่ภายนอกจากเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ “บ้าน” ก็ยังอยู่กับเขาเสมอ …
-
พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!
แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวรอบโลก อยากจะทำแบบนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่อาจทำได้นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยปัจจัยของหน้าที่การงานและเรื่องของการเงิน ซึ่งเวลาที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่ มันก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีทางที่จะไม่ใช้เงิน แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Kris Mole วัย 24 ปีผู้นี้ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าการออกไปผจญภัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป Kris Mole เดินทางด้วยระยะทางกว่า 15,712 กิโลเมตรแล้ว (9,763 ไมล์) ผ่านทั้งเมืองหลวงเมืองเล็กในยุโรปรวมแล้วทั้งสิ้น 23 เมือง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระดมทุนสำหรับองค์กร Cancer Research ได้อีกเป็นจำนวนมาก จุดเริ่มต้นการเดินทางของเขานั้นก็มาจากเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนเคยเป็นคนติดเหล้าและการพนัน จนหมดเนื้อหมดตัว อีกทั้งหลังจากที่คุณป้าของเขาถูกวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง!! ตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เขาเริ่มต้นทริปไร้การใช้เงินเพื่อการกุศล เดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ท้าทายชีวิตด้วยการเสี่ยงถูกจับบนรถไฟโดยที่ไม่ซื้อตั๋ว ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น…
-
รวม 10 สุดยอดสถานที่ทางธรรมชาติ ที่ยังไม่มีอารยธรรมท่องเที่ยวของมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว!!
มนุษย์เลือกใช้วิถีชีวิตท่ามกลางเจริญแต่ก็ขาดธรรมชาติไปไม่ได้เช่นกัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาณาเขตความเจริญของเมืองและหมู่บ้านก็ได้ขยายออกไปเรื่อยๆ ทำให้สภาพธรรรมชาติรอบๆ จางหายไป และในไม่ช้าก็จะกลายเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ เมื่อกล่าวถึงธรรมชาติ มนุษย์ก็ยังคงค้นหาสถานที่ที่ยังคงเป็นธรรมชาติแบบ 100% อยู่ แต่ทว่ามันจะมาพร้อมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยิ่งที่ไหนฮิตติดลมบน นักท่องเที่ยวก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณนั้นค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ถ้าหากว่าดูแลไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังคงมีสถานที่ทางธรรมชาติที่ยังคงเป็นตัวตนของตัวเอง มีความสวยงามและอลังการทุกอณู เนื่องจากยังไม่มีอุตสหกรรมท่องเที่ยวเข้าไปตั้งรกราก อีกทั้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญของมนุษย์ และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 1. The Forest Lake อยู่ในเขต Tyumen ประเทศรัสเซีย 2. Tepui หุบเขาสูงเสียดฟ้า ประเทศเวเนซุเอลา 3. น้ำตก Honokohau เกาะเมาวี รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา 4. ป่าฝน Amazon บริเวณพื้นที่อเมริกาใต้ (บราซิล, เปรู, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา,…
-
วิจารณ์หนัก เมืองภูเก็ตขึ้นป้ายบอกนักท่องเที่ยว “สหรัฐ-ยุโรป อย่ามายุ่งกับการเมืองไทย”
กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันในโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีการขึ้นป้ายเตือนชาวสหรัฐและสหภาพยุโรป ไม่ให้รบกวนการเมืองภายในประเทศไทย ทำเอาชาวเน็ตถึงกับถามว่า “แค่นี้ภูเก็ตยังเงียบไม่พออีกเหรอ?” เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Chanin Klayklung ได้เผยแพร่ภาพป้ายผ้าใบที่ถูกถ่ายได้ในจังหวัดภูเก็ต โดยมีข้อความว่า “สหรัฐและสหภาพยุโรปกรุณาเคารพประเทศของเราด้วย อย่ายุ่งกับการเมืองของประเทศไทย” หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงป้ายข้อความดังกล่าว โดยมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งบอกว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตนั้นใช่ว่าจะดีเหมือนแต่ก่อน การกระทำแบบนี้เท่ากับทำให้ระบบเศรษฐกิจยิ่งแย่กว่าเดิม ในขณะที่บางความเห็นได้กล่าวติดตลกว่า หากภูเก็ตไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ขอให้มาเที่ยวที่จังหวัดของตนเองได้ ที่มา Chanin Klayklung
-
13 สถานที่จากธรรมชาติสุดแสน “คัลเลอร์ฟูล” แบบที่ไม่ได้ไม่ได้แต่งเติมเลย!!
โลกเรายังมีอีกหลายสถานที่ให้เราได้ไปพิสูจน์ความตื่นตาตื่นใจว่ามีความลับอันมหัศจรรย์อะไรซ่อนอยู่ สำหรับนักเดินทางก็คงจะรู้ว่ามันมีมากมายในโลกที่เป็นสถานที่ลับๆ แต่ก็ไม่ลับจนถึงขนาดว่าไปยาก เพียงแต่ว่ามันไกลเกินกว่าเราจะไปถึงได้ ด้วยพลังแห่งธรรมชาติที่ได้สร้างศิลปะเหล่านี้ขึ้นมา วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปเที่ยว 13 สถานที่ที่เต็มไปด้วยสีสันมากมายในที่แห่งเดียว จะมีที่ไหนบ้าง ตามเหมียวมาเลย 1. LAKE RETBA, เซเนกัล 2. TULIP FIELDS, ฮอลแลนด์ 3. GREAT BARRIER REEF, ออสเตรเลีย 4. LUOPING, จีน 5. VALLEY OF FLOWERS NATIONAL PARK, อินเดีย 6. SHIBAZAKURA HILL, ญี่ปุ่น 7. LAKE NATRON, แทนซาเนีย 8. LAVENDER FIELDS, ฝรั่งเศส 9. กือราเซา 10. PROCIDA, อิตาลี 11. CAÑO CRISTALES RIVER, โคลัมเบีย 12. FLY GEYSER, เนวาด้าตอนเหนือ 13. YELLOWSTONE NATIONAL PARK, รัฐไวโอมิง…
-
สั่งปิดแล้ว “แกรนด์แคนยอนชลบุรี” นักท่องเที่ยววอนการรถไฟฯ พิจารณาอีกครั้ง
หลังจากที่เหมียวได้รายงานข่าวไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนคำสั่งของการรถไฟฯ ที่ติดป้ายเตือนเหล่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยัง แกรนด์แคนยอนชลบุรี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและนั่งเล่นบนรางรถไฟด้วย ล่าสุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางการรถไฟฯ ได้ออกมาประกาศแล้วว่าไม่ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งนำป้ายมาปิดประกาศอย่างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันเสียดาย เพราะถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย เพราะสถานที่ท่องเที่ยงในชลบุรีนั้นมีน้อยอยู่แล้ว จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ โปรดพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เป็นไงล่ะ เขาติดป้ายเตือนแล้วไม่ฟังกัน แต่เหมียวเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะ อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองเหมือนกัน ที่มา springnews
-
นักท่องเที่ยวนิรนามไปเที่ยวทั่วเกาะญี่ปุ่น กับเป้าหมายในการเก็บภาพแมวเหมียวจากที่ต่างๆ
การได้ออกไปท่องเที่ยวนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ติดด้วยปัญหาอยู่ 1 หรือ 2 อย่าง นั่นก็คือ เงินกับเวลา มีเวลาแต่ไม่มีเงิน หรือ มีเงินแต่ไม่มีเวลา เป็นต้น ฮ่าฮ่า!! แต่เอาเป็นว่าพอมีทั้งเวลาและเงินก็จะออกไปท่องเที่ยวทันที ไม่จำเป็นต้องเป็นต่างประเทศก็ได้ เที่ยวในประเทศก็ฟินได้เหมือนกัน อย่างเช่นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นนิรนามรายนี้ ที่มีเป้าหมายในการท่องเที่ยวไปทั่วเกาะญี่ปุ่น แค่ในประเทศก็เที่ยวไม่หมดแล้ว ใช่ว่าเกาะของญี่ปุ่นจะเล็กๆ ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และหนึ่งสิ่งที่เขาจะเก็บกลับมาด้วยก็คือภาพความประทับใจของเหล่าแมวเหมียวที่เขาได้เจอตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแมวเลี้ยงหรือแมวจร และไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในอิริยาบทไหน เขาก็ได้เก็บภาพมาหมด ทั้งตอนเผลอและหันหน้าให้กล้อง ดูแล้วก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักและพร้อมที่จะพลีกายเป็นทาสแมวทันทีเลยจ้า …
-
สาวรีวิวเที่ยวภูกระดึง-ภูเรือกับแฟน สลักชื่้อลงบนต้นไม้ ชาวเน็ตด่ากันระงม
กลายเป็นประเด็นให้ชาวพันทิปหยิบเอามาดราม่าอีกแล้ว สำหรับกรณีของการตั้งกระทู้รีวิวการท่องเที่ยว คราวนี้เป็นเรื่องราวของสมาชิกสาวหมายเลข 1989849 ที่เขียนกระทู้เกี่ยวกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ภูเรือ-ภูกระดึง จากจ.อุบล – จ.เลย แต่กระทู้นี้จะไม่กลายเป็นประเด็นให้ดราม่าเลย หากเจ้าของกระทู้ไม่ไปสลักชื่อลงบนต้นไม้เป็นอักษร PN จนทำให้มีชาวเน็ตบางคนสังเกตเห็นเข้า จึงเข้ามาตำหนิการกระทำดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แถมยังแนะนำอีกว่า หากคราวหน้าจะไปที่ไหนควรไปแต่ตัว ไม่ควรนำสิ่งใดไปทิ้งไว้ ยังไงแล้ว แอดเหมียวขอฝากเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวตอนเทศกาลปีใหม่ ก็อย่าไปทิ้งร่องรอยของเราไว้ให้ใครเขามาว่าเราได้นะจ๊ะ ที่มา สมาชิกหมายเลข 1989849
-
ชมภาพสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามในประเทศจีน ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก!!
ถ้าพูดถึงประเทศจีนแล้ว เราคงไม่ได้นึกถึงอะไรที่เกี่ยกวับการท่องเที่ยวมากนัก เพราะเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่าที่นั่นมีความความวุ่นวาย ถ้าจะเที่ยวก็คงเป็นกำแพงเมืองจีนเท่านั้น แต่เอาจริงๆแล้วประเทศจีนมันกว้างมากจนบางทีเราก็ลืมไปว่ามันมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ค่อยได้ถูกนำเสนอออกมาทางสื่อต่างๆ ซึ่งวันนี้เหมียวก็จะพาทุกท่านไปเที่ยวยังสถานที่เหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ว่าประเทศจีนก็มีอะไรน่าเที่ยวเหมือนกัน ไปดูกันเลยดีกว่า The Rainbow Mountain The Longsheng Rice Terraces Yinlianzhuitan Waterfall Heaven Lake Huanglong, Sichuan Huanglong, Sichuan The Five Fingers Peak Of Huangshizhai Hukou Falls Yangshuo The Flaming Mountains Jiǔzhàigōu – Mirror Lake ที่มา boredpanda
-
อยากใช้บริการไหม? เกาหลีเหนือเปิดตัวเครื่องแบบแอร์โฮสเตสแบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!!
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Koreatimes ได้เผยแพร่ภาพของแอร์โฮสเตสสาวในชุดแต่งกายรูปแบบใหม่ล่าสุดของสายการบิน Air Koryo ของเกาหลีเหนือ จากหน้าปกนิตยสารโชซุนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสายการบินที่ถูกจัดอันดับไว้ว่าเป็นสายการบินที่แย่ที่สุดในโลก ภาพดังกล่าวเป็นภาพของแอร์โฮสเตสสาว 5 คนขณะกำลังเดินอยู่ในสนามบินซูซนานกรุงเปียงยาง โดยทั้ง 5 คนสวมใส่ชุดสีกรมท่า ที่มีเข็มกลัดรูปผู้นำคิม จอง อึนและคิม จอง อิลผู้ล่วงลับ ติดอยู่ที่หน้าอกของพวกเธอด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ ที่ดำเนินมาตั้งแต่เมื่อปี 2013 แล้ว ซึ่งล่าสุดผู้นำคิม จอง อึน ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงชุดแต่งกาย เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่จากรายงานล่าสุด สายการบิน Air Koryo ก็ยังคงครองตำแหน่งสายการบินที่แย่ที่สุดในโลกไว้อย่างเหนียวแน่น โดยสายการบินนี้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 681 เลยทีเดียว ไงล่ะ จะลองไปใช้บริการสักครั้งดูไหม? ที่มา koreatimes
-
สุดติ่ง!! คู่รักมะกันเก็บเงิน 6 เดือน แล้วออกไปท่องโลกกว้าง
การได้ออกไปท่องโลกกว้าง ถือเป็นหนึ่งในความฝันของคนเจนเนอเรชั่นนี้เลย เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะออกไปเปิดหูเปิดตา เห็นสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่การที่เราจะออกไปทำแบบนั้นได้ก็ต้องอาศัยเงินใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นวันนี้เหมียวจะพาไปดูตัวอย่างการเก็บเงินเที่ยวของคู่รักคู่หนึ่งจากอเมริกากัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Michael Gallagher ช่างภาพหนุ่มวัย 24 ปี และแฟนสาว Alexandra Carson นางแบบสุดสวยวัย 27 ปี พวกเขาตัดสินใจทำงานเก็บเงินเป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นก็ออกไปท่องโลกกว้างด้วยกัน ตั้งแต่ ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ และอีกมากมาย แน่นอนว่ามีแฟนสวยระดับนางแบบขนาดนี้ นาย Michael ก็ไม่พลาดที่จะเก็บรูปน่ารักๆของเขาและแฟนสาวมาให้เราได้ดูและอิจฉากัน อื้อหือ 6 เดือนเก็บเงินไปเที่ยวได้ขนาดนี้ เหมียวนี่เก็บเป็นปี ยังไปได้แค่ชะอำเลย ที่มา bostonnewstime
-
ชวนมาชม 20 ภาพวิวสวยๆ จากทั่วทุกมุมโลก ที่มีโอกาสต้องไปสักครั้ง!!
บนโลกที่แสนกว้างใหญ่นี้ มีสถานที่สวยงามมากมายที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยได้สัมผัส บางทีเราเองก็ยังไม่รู้เลยว่า บนโลกนี้มันมีสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ วันนี้เหมียวเลยนำเอาภาพวิวอันสวยงามตระการตา จากหลายประเทศทั่วโลกมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ดูแล้วอยากจะลองไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยล่ะ 1. Vettica, Italy 2. Bruce Peninsula, Canada 3. Alsace, France 4. Ronda, Spain 5. Guangxi, China 6. Tulum, Mexico 7. Hiller Lake, Australia 8. Huacachina Oasis, Peru 9. Bora Bora, French Polynesia 10. Squamish, Canada 11. Antelope Canyon, USA 12. Giant’s Causeway, Northern Ireland 13. Cathedral…
-
เกร๋ๆ!! หนุ่ม 18 ลาออกจากโรงเรียน เพื่อเที่ยวรอบโลกกว่า 97 ประเทศ!!
เราคงเคยได้ยินเรื่องราวของเด็กวันรุ่นหลายๆคน ที่ลาออกระหว่างเรียนกลางคัน เพื่อไปทำสิ่งต่างๆ ทั้งทำธุระกิจ หรือปฏิบัติหน้าที่บางอย่างมาแล้ว แต่กับพ่อหนุ่มที่ชื่อว่านาย Christian Lindgr กลับไม่ได้ลาออกไปเพื่อทำธุระกิจแบบที่หลายๆคนทำนะ เพราะเขาลาออกมาเพื่อไปเที่ยวรอบโลกนั่นเอง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Christian Lindgr วัย 18 ปี ที่ลาออกจากการเรียนกลางคัน และออกมาท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเขามีอายุ 27 ปีแล้ว และเคยไปยังประเทศต่างๆมาแล้วกว่า 97 ประเทศเลยทีเดียว นาย Christian Lindgr ได้กล่าวว่า “ผมออกเดินทางด้วยเงินไม่มากมาย และไม่เคยใช้หนังสือนำทางเลย และนี่คือภาพถ่ายความสวยงามที่ผมเก็บมาได้จากทั่วโลก” เราลองไปชมภาพที่เขาว่ากันเลย รถบรรทุกจากปากีสถาน Larung Gar ประเทศจีน เกาหลีเหนือ Katski Pilar รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา Esfahan ประเทศอิหร่าน งานแต่งงานของคู่รักคู่หนึ่งในประเทศทาจิกิสถาน ภูเขา Everest ประเทศอุซเบกิสถาน อื้อหือ…
-
Lonely Planet จัดอันดับ 10 สถานที่อันงดงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดในโลก!!
ถ้าใครเป็นสายเที่ยวก็คงรู้จักหนังสือ Lonely Planet เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นคัมภีร์ของนักเดินทางเลยก็ว่าได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่รักการเดินทางก็ต้องมีติดตัวอยู่แล้ว และครั้งนี้เขาก็ได้จัดอันดับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ซึ่งแต่ละสถานที่นั้นบอกได้เลยว่าน่าไปมากๆ จะมีที่ไหนบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า!! 10. Aya Sofya, ตุรกี 9. Alhambra, สเปน 8. Iguazú Falls, บราซิล 7. โคลอสเซียม, อิตาลี 6. Grand Canyon National Park, สหรัฐอเมริกา 5. ทัช มาฮาล, อินเดีย 4. กำแพงเมืองจีน, จีน 3. Machu Picchu, เปรู 2. Great Barrier Reef, ออสเตรเลีย 1. นครวัด, กัมพูชา เป็นไงล่ะ แต่ละที่บอกได้เลยว่างดงามทั้งสิ้น เห็นแล้วก็อยากเก็บตังไปแบ็กแพ็คทันทีเลย…
-
มาดู “รอยสัก” ที่จะปลุกประกายความอยากในการท่องโลกของคุณ
การสักเดี๋ยวนี้กลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว ไม่ใช่มีแต่การสักเพื่อเพิ่มความขลังให้กับร่างกายเหมือนแต่ก่อน รอยสักนอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้ว ยังบ่งบอกถึงสไตล์ของผู้สักด้วย วันนี้เหมียวมีภาพไอเดียรอยสักสำหรับคนรักการท่องเที่ยว ที่เมื่อเห็นชวนให้อยากออกไปท่องโลกกว้างกันเลยทีเดียว จะเท่และเก๋ไก๋แค่ไหนมาดูกันเลยจ้าาา หนุ่มคนนี้สักแผนที่โลกเอาไว้ พอไปประเทศไหนก็ค่อยลงสีเติมลงไปแสดงว่าไปมาแล้ว แผนที่โลก เติมสีเข้าไปในแผนที่ หอไอเฟล คนชื่นชอบทะเล เครื่องบินกระดาษ ย่อโลกมาไว้ที่ตัวเรา ปั่นๆ จักรยานกัน ไม่ต้องสักจริงก็ได้ ใช้สติกเกอร์แทททูแทน รอยสักลายเข็มทิศ เทือกเขาน้อย ลายแทททูสำหรับคนรักการท่องเที่ยว สักลายแบบนี้แล้ว รู้สึกว่าเป็นคนรักการผจญภัยขึ้นมาเลยทันที ที่มา buzzfeed
-
หนูน้อยนักผจญภัยกับวัยเพียง 2 ขวบ ออกเดินทางสำรวจโลกกว้างมานับไม่ถ้วน!!
หากใครที่กำลังคิดว่าอายุเท่านั้นจะออกไปทำสิ่งนี้ ต้องรอวันเวลาที่เหมาะสมก่อนถึงจะทำได้ เหมียวว่าก็คงจะไม่ใช่เสมอไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าการตัดสินใจของตัวเราเอง อย่างเช่นการออกไปท่องโลกกว้างที่ไม่จำเป็นต้องมีอายุเยอะเป็นสองหลัก แค่หลักเดียวก็ไปได้แล้ว หนูน้อยนักผจญภัยแบกเป้ Bodhi Bennett ออกเดินทางครั้งแรกด้วยอายุเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น จนกระทั้งปัจจุบันนี้เขาได้ออกเดินทางไปทั่วกว่า 40 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยมีคุณแม่ Shannon และคุณพ่อ Blake คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลาในการเดินทางของพวกเขานั้น ข้ามแม่น้ำข้ามภูเขามามากกว่า 482 กิโลเมตรแล้ว และในตอนนี้คุณแม่ Shannon ก็กำลังตั้งท้องลูกน้อยอีกหนึ่งคนด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางมีอุปสรรคแต่อย่างใด ถือว่าเป็นครอบครัวนักเดินทางที่สุดยอดจริงๆ มีความสุขแบบที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วล่ะ จะว่าไปแล้วเหมียวก็อยากจะออกไปผจญภัยแบบนี้บ้างจัง ที่มา : thechive
-
Pacific Crest Trail เส้นทางธรรมชาติที่ไกลและกินเวลายาวนานที่สุด 5 เดือนกว่าจะถึง!!
หากใครที่ชื่นชอบในการดื่มด่ำไปกับธรรมชาติกับวิธีการพึ่งพาตัวเองด้วยการเดินไปเรื่อยๆ ชมนก ชมไม้ตลอดทาง เหมียวว่าเส้นทางธรรมชาติแห่งนี้ก็น่าจะเหมาะนะ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าจะต้องมีใจรักและอึดจริง เพราะว่าเป็นทางที่ไกลมาก!! เส้นทางธรรมชาติ Pacific Crest Trail นี้เป็นเส้นทางที่เริ่มต้นจากชายแดนสหรัฐอมริกาและเม็กซิโก ทอดยาวไปเรื่อยๆ จนถึงชายแดนประเทศแคนาดา ระยะทางร่วมกว่า 4,280 กิโลเมตร และต้องปีนเขาอีกด้วย คาดว่าจะสำเร็จได้ต้องใช้เวลาประมาณ 5 เดือนกันเลยทีเดียว เราลองมาชมบรรยากาศการเดินทาง 5 เดือน ภายใน 3 นาทีกันดีกว่า ที่มา : lifebuzz
-
ครอบครัวสุขสันต์!! พ่อแม่ไม่ส่งลูกเรียนหนังสือ แต่พากันออกไปท่องโลกกว้างแทน
หากจะให้คิดถึงเรื่องของการก่อร่างสร้างตัว เพื่อให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ต้องเริ่มตั้งแต่การเก็บหอมรอมริบ มีบ้าน มีรถยนต์ขับ และเตรียมวางแผนอนาคตให้กับลูกๆ ซึ่งหลายครอบครัวก็มักจะคิดแบบนี้แหละ แต่ว่าสำหรับครอบครัวนี้กลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป โดยที่คุณ Genevieve Stolz และสามีของเธอมีความคิดที่ดีกว่านั้น พวกเขาทั้งคู่มีความใฝ่ฝันที่อยากจะออกท่องโลกกว้างผ่านทะเลแคริบเบียน และตัดสินใจทำตามฝันทันที!! การตัดสินใจออกเดินทางท่องโลกในทะเลอันแสนกว้างใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มีลูกสาวตัวน้อยคนแรก ทำการขายทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ซื้อเรือมาหนึ่งลำ และพาลูกๆ ไปผจญภัยด้วยกันเดี๋ยวนั้นเลยย ครอบครัวสุขสันต์นี้ ใช้ชีวิตอยู่บนเรือมายาวนานกว่า 5 ปีแล้วล่ะ และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้สวย ทุกคนแฮปปี้มากๆ ครอบครัวนี้ได้ใช้เวลาร่วมกันตลอดเวลา ร่วมเล่นกิจกรรมทางน้ำกันอย่างสนุกสนานในทุกๆ วัน ลูกสาวทั้งสองคนก็ไม่หวั่น มีอะไรเล่นก็เล่นหมด!! ไม่ว่าสังคมจะมองครอบครัวนี้เป็นอย่างไร แต่พ่อแม่ก็คิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ ของพวกเขาแล้วล่ะ ที่ทำมีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ …
-
ไกด์เหมียวพาทัวร์ ‘บาร์สัตว์ประหลาด’ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่น ก็ต้องจองคิวเป็นเดือน!!!
สำหรับอุลตร้าแมนนั้นถือได้ว่าเป็นซีรีย์ที่คุ้นเคยเพราะอยู่กับเรามาตั้งแต่เด็ก หลายยุคหลายสมัย และอุลตร้าแมนนั้นก็คงเป็นฮีโร่ในดวงใจใครหลายๆคนด้วยเช่นกัน วันนี้เพื่อนเหมียวคุณ Knot Mirai จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ตะลุย ”บาร์สัตว์ประหลาด” ใช่แล้วละฮะฟังไม่ผิดหรอกก็ที่ญี่ปุ่นน่ะเค้ามี ร้าน Kaijusakaba หรือ บาร์สัตว์ประหลาด ตั้งอยู่ที่สถานี Kawasaki,Tokyo เป็นร้านอาหารที่รวบรวมเอาเหล่าสัตว์ประหลาดจากซีรีย์เรื่องอุลตร้าแมนมาเป็นธีมของร้านแหละ ร้านนี้ได้รับการตอบรับจากคนญี่ปุ่นดีมากๆ ต้องจองคิวกันตั้งแต่ต้นเดือน หรือถ้าไม่ได้จองคิวก็ต้องรอกันถึง 4 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ว่าแล้วเราก็ไปชมกันเลยดีกว่า พอเดินเข้าร้านมาก็จะเจอกับเจ้าเซ็ตต้อลมังกรอวกาศตัวยักษ์ ยืนต้อนรับลูกค้าอยู่ มาดูทางด้านขวาก็จะเจอ หัวของจามิลเลอร์ ที่เมื่อสอดมือเข้าไปแล้วจะส่งเสียง พร้อมกับมีตาเรืองแสงได้ด้วย และเนื่องจากที่นี่เป็นบาร์ของสัตว์ประหลาด เพราะฉะนั้นข้อห้ามของที่นี่ก็คือ 1. ห้ามบุคคลจากหน่วยพิทักษ์โลกมาใช้บริการครับ 2. ห้ามพกพาสิ่งของใดๆที่เกี่ยวกับอุลตร้าแมนเข้ามาในร้านด้วยครับ 3. และที่สำคัญที่สุด ห้ามแปลงร่างในร้านนะเหมียว ถถถถ+ ภายในบริเวณร้านก็เต็มไปด้วยภาพสัตว์ประหลาดในซีรีย์อุลตร้าแมนประดับเอาไว้ เครื่องดื่มก็มีนะ เหล้าที่ผ่านการหมักด้วยฝีมือสัตว์ประหลาดเชียวนะเหมียว อาหารมาแล้วววว!! ซุปสมองอุลตร้าแมน! …