Tag: ท่าทาง
-
11 กริยาท่าทาง “ไม่เหมาะสม” ในที่ทำงาน ใครเป็นแบบนี้ ควรเลิกทำได้แล้ว!
สำหรับวัยทำงาน หลายท่านคงทราบดีว่ามันต่างจากสมัยเรียนมาก ทั้งเรื่องของหน้าที่การงานและการวางตัว ขณะที่มารยาททางสังคมต่างๆ เองก็เพิ่มมากขึ้นกว่าตอนเรียนอีกเสียด้วย วันนี้เราจะมากันด้วยเรื่องของ กิริยาท่าทางที่ดีในที่ทำงาน ซึ่งอาจมีหลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ วันนี้เราจะได้รู้กันแล้วว่าท่าทางแบบไหนควรทำหรือไม่ควรทำ ถ้าอยากมีได้เลื่อนขั้นเร็วๆ ก็ไม่ควรพลาดบทความนี้เลยล่ะ… 1. การนั่งทำงานแบบปล่อยตัวสบายเหมือนอยู่บ้าน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะติดวิธีการนั่งสบายๆ มาจากที่บ้าน แต่สำหรับที่ทำงานแล้ว หากคุณปล่อยตัวสบายๆ แบบนั้น นอกจากมันจะทำให้กระดูกสันหลังบาดเจ็บแล้ว มันยังทำให้ ภาพลักษณ์คุณเสีย อีกด้วย หัวหน้าอาจมองว่าคุณไม่ใส่ใจกับงาน และขี้เกียจ เปลี่ยนเป็นท่านั่งที่ทะมัดทะแมงมากขึ้น เพื่อให้คนเห็นว่างานทุกงานคือสิ่งที่คุณสนใจและทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่ 2. มองบน การมองบนอาจใช้เล่นกับเพื่อนๆ ได้ แต่อย่าใช้ในที่ทำงานเด็ดขาดเพราะมันไม่สุภาพเอามากๆ ต่อให้ไม่มีใครเห็นก็ตาม แต่การกลอกตาหรือมองบนนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติผู้อื่นอย่างยิ่ง ถ้าหัวหน้างานคุณมาเห็นคุณอาจจะต้องพบกับความซวยที่แท้จริง 3. ยืนกุมเป้า การยืนกุมเป้านั้นเป็นท่าประจำของหนุ่มๆ เลย แต่อยากบอกไว้สักหน่อยว่าในบริบทของการทำงาน การยืนด้วยท่ากุมเป้านั้นจะทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ ฉะนั้น ลองยืนท่าปกติ ปล่อยมือออกจากบริเวณเป้า 4. รุกรานความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ว่าหัวหน้างานของคุณจะเป็นคนอัธยาศัยดีและเป็นมิตรขนาดไหน คุณก็ไม่ควรเข้าไปรุกรานพื้นที่ส่วนตัวของเขา…
-
สาวๆ โปรดระวัง 10 สัญญาณอันตราย ที่บ่งบอกว่าแฟนหนุ่มกำลังจะ “หมดรัก” คุณแล้ว
เมื่อเวลาเปลี่ยนไปคนเราก็เปลี่ยนไปด้วย มันเป็นสัจธรรมของโลกอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถปฎิเสธได้ เพียงแค่จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใดเท่านั้น คู่รักเองเมื่อคบไปนานๆ นิสัยของเราและอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นิสัยเปลี่ยนไปนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ที่เรารู้ได้ยากก็คือความรักที่เขามีต่อเรานั้นเปลี่ยนไปด้วยหรือเปล่านี่สิ บางครั้งเราก็สงสัยเรื่องนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสังเกตอย่างไร วันนี้เราก็เลยลองรวบรวมข้อสังเกต 10 ประการที่อาจแปลว่าแฟนของคุณหมดรักคุณไปแล้วมาให้ทราบกัน 1. เริ่มวิจารณ์รูปร่างของคุณ Omar Khayyam นักคณิตศาตร์และผู้ประพันธ์กวีเคยกล่าวไว้ว่า “หากเขารักคุณจริง เขาจะชอบทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ แม้ว่าจะเป็นข้อเสียของคุณก็ตาม” เป็นความจริงหนึ่งที่ใช้ได้กับคู่รักทุกคู่ ถ้าหากคู่รักเริ่มติรูปร่างของคุณบ่อยขึ้นผิดปกติล่ะก็ เขาอาจจะไม่ได้ไม่ชอบรูปร่างของคุณ แต่ลึกๆ แล้วเขาอาจจะไม่ชอบตัวคุณเองก็ได้ บ่อยครั้งที่หลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แม้ว่าเราจะไปลดน้ำหนักมาแต่เขาก็จะหาข้อเสียอย่างอื่นมาว่าเราอยู่ดี 2. เล่าข้อเสียของคุณให้เพื่อนฟัง แม้ว่าจะไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบไปเสียหมด แต่คนรักกันมักจะมองเห็นข้อดีของคู่รักมากกว่าข้อเสียเสมอ ดังนั้นหากเขาเพ่งความสนใจไปที่ข้อเสียของคุณ แล้วยังเอาไปพูดเล่นกับคนอื่นในที่สาธารณะอีก มันแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มไม่เคารพคุณ และอาจจะหมายถึงความรักที่ลดลงไปอีกด้วย 3. ตำหนินิสัยของคุณเป็นประจำ บ่อยครั้งที่แฟนมักจะบอกว่านิสัยเปิ่นๆ ของคู่รักนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่เขาเริ่มมองพฤติกรรมเดิมๆ ของคุณที่เคยคิดว่าน่ารักกลายเป็นสิ่งน่ารำคาญในสายตาเขาแทน ก็จงระวังเรื่องความสัมพันธ์เอาไว้ให้ดี 4. ไม่ให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณพูด เป็นปกติที่คนเราจะมีความสนใจไม่เหมือนกัน แม้ว่าบางครั้งเรื่องที่คุณพูดอยู่จะเป็นเรื่องที่เขาไม่สนใจเลย แต่ถ้าเขาแคร์คุณจริงๆ เขาก็จะตั้งใจฟังเพื่อให้คุณรู้สึกได้รับความสนใจ ทว่าหากเขาพยายามเปลี่ยนเรื่องสนทนาเป็นเรื่องของตัวเอง หรือบอกให้คุยเรื่องที่คุณสนใจกับคนที่มีรสนิยมแบบเดียวกัน อาจจะแปลว่าเขาไม่สนใจในเรื่องคุณอีกต่อไป 5. ไม่ปลอบประโลมเวลาคุณเศร้า…
-
ปฏิกิริยาของหมาเมื่อถูกจับได้ว่าทำผิด มาดูกันว่าคนร้ายจะแก้ตัวยังไง?
สุนัขเป็นสัตว์ที่มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์ แต่เราจะเห็นอารมณ์ของมันได้ชัดเจนมาก อย่างเวลาที่มันดีใจมันก็จะกระดิกหางและร่าเริง แต่ถ้ามันเศร้ามันก็จะนอนซึมอยู่เฉยๆ ยังมีอีกอารมณ์หนึ่งที่บางคนอาจจะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเจ้าหมา มันก็คือความรู้สึกผิดเวลาโดนจับได้ว่าทำไม่ดีไงล่ะ บางคนอาจจะไม่เคยเห็นมุมนี้เพราะฝึกน้องหมามาอย่างดี มันเลยไม่ดื้อไม่ซน แต่ถ้าลองได้เห็นพวกมันตอนทำผิดแล้วจะรู้ว่ามันฮาเหมือนกันนะ บางตัวก็ก้มหน้ารับผิด บางตัวนี่พยายามหนีความผิดสุดฤทธิ์ แบบเจ้าพวกนี้ไงล่ะ เนียนเป็นผู้เห็นเหตุการณ์: ผมไม่ได้ทำนะเจ้านาย ผมเพิ่งเดินมาถึงเหมือนกัน ไม่พูดไม่จา: เอ่อ … ไม่ได้เตรียมข้อแก้ตัวไว้ งั้นไม่พูดละกัน ไม่ยอมรับ ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัว: มากล่าวหาเค้าทำไม มีหลักฐานรึเปล่า!? โยนความผิดให้คนอื่น: เมื่อคืนเจ้านายละเมอลงมากินเองนะ เก๊าไม่ได้ทำ อ้างว่าทำเพราะหวังดี: ก็เค้าไม่อยากให้ตะเองมานั่งแกะกล่องให้เสียเวลา เลยแกะไว้ให้ใช้ล่วงหน้า ดีใช่ม้า แถข้างๆ คูๆ: ก็กล่องข้าวมันไม่มีชื่อติดไว้อะ ก็แปลว่าไม่มีเจ้าของ เรากินได้ ตัดพ้อ: ตะเองเห็นพรมผืนเดียวสำคัญกว่าเค้าเหรอ?? ไม่รู้สึกผิด: หมอนหมดบ้านแล้วอะ มีอันใหม่ให้เราไหม? ไม่กล้าสู้หน้า: ยังโกรธอยู่อีกเหรอ … ไว้หายโกรธแล้วเค้ามาหาใหม่นะ …
-
10 ท่าทางการสื่อสารของหมา อาจจะไม่เป๊ะซะทีเดียว แต่มันก็พยายามจะบอกเรานะ
เหล่าเจ้าของสุนัขทั้งหลายคงอยากจะเข้าใจสุนัขของตนกันแทบทุกคน บางคนก็พยายามเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าน้องหมารู้สึกยังไงอยู่ แต่ทุกคนรู้รึเปล่า ว่าจริงๆ แล้วพวกมันพยายามจะสื่อสารกับเราอยู่ตลอดเวลาเลยนะ เพียงแต่พวกมันสื่อสารผ่านท่าทาง ไม่ได้ผ่านทางภาษาพูดเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่กล่าวว่าสุนัขนั้นมีวิธีการเห่าเพื่อสื่อสารกับมนุษย์โดยเฉพาะเชียวนะ วันนี้เราจึงได้รวบรวมความหมายของท่าทางบางอย่างของสุนัขให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจตรงกัน 1.จ้องมองเราด้วยดวงตาเบิกกว้าง เมื่อน้องหมามองเราด้วยสายตาใสบริสุทธิ์ปิ๊งๆ แบบนี้ เราก็คงจะเผลอนั่งจ้องมันกลับไปด้วยความเอ็นดูทุกที ก็มันน่ารักสุดๆ เลยนี่นา แต่อย่ามัวแต่จ้องล่ะ เพราะสายตาแบบนี้แปลว่าพวกมันต้องการความสนใจจากเรา เล่นกับมันสักหน่อยก็ดีนะ 2. ก้มตัวต่ำและกระดิกหาง นี่เป็นท่าทางแสดงออกว่าพวกมันกำลังตื่นตัวอยู่ ซึ่งสิ่งที่น้องหมาต้องการก็คือให้เราวิ่งเล่นกับมันหรือเล่นโยนของกับมัน คอยสังเกตดูให้ดีล่ะ เพราะสุนัขนั้นต้องการการออกกำลังกายที่เพียงพอ ถึงจะมีสุขภาพแข็งแรง 3. นอนหงายท้อง ถ้าสุนัขของคุณทำท่าทางแบบนี้ละก็ แสดงความยินดีด้วยนะ เพราะแปลว่ามันไว้ใจคุณมากนั่นเอง เวลามันทำท่าทางแบบนี้ เจ้าของก็ควรจะลูบท้องมันกลับด้วยนะ แล้วจะได้เห็นท่าทางฟินๆ ของเจ้าหมาเวลามันถูกลูบพุงด้วย 4. หรี่ตาหรือกะพริบตา การที่สุนัขกระพริบตาถี่ๆ หรือว่าหรี่ตาตอนอยู่กับคุณ มันมีความหมายว่าเจ้าสุนัขรู้สึกดีและมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคุณ เวลามันกะพริบตามักจะแปลว่ามันต้องการให้คุณลูบหัวมันอีกด้วย แต่ต้องสังเกตด้วยว่าน้องหมากะพริบตาถี่จนผิดปกติหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที 5.…
-
21 สุดยอดเทคนิคทางจิตวิทยา ช่วยให้คุณสามารถอ่านความคิดของ “คู่สนทนา” ได้ง่ายๆ!!
ในบางครั้ง คำพูดอาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านอวัจนภาษา หรือภาษากายของผู้พูดได้ว่า แท้จริงแล้วในตอนนั้นเขารู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ การสังเกตภาษากายสามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลของคู่สนทนาได้มากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย Allan Pease ได้แนะนำถึงข้อสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น เราลองไปดูกันเลยว่ามันมีอะไรบ้าง 1. การหลับตา ถ้าหากอีกฝ่ายกำลังพูดแล้วหลับตาไปด้วย นั่นหมายความว่าเขากำลังพยายามหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก หรือกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวคุณ ในทางตรงกันข้าม เขาอาจจะแค่เหนื่อยที่ต้องคุยกับคุณ เลยหลับตาเพื่อทำให้คุณหายไปแทน 2. ใช้มือปิดปาก วิธีนี้ก็เหมือนกับตอนยังเป็นเด็ก ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เวลาที่เราไม่อยากบอกอะไร อาจจะใช้แค่นิ้วโป้งหรือกำหมัดขึ้นมาปิดเอาไว้ ซึ่งบางทีอาจทำเป็นไอ เพื่อปิดบังว่าเราไม่ต้องการบอกบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้ 3. กัดขาแว่น รวมถึงการคาบปากกาดินสอ คาบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน โดยพฤติกรรมในลักษณะนี้จะทำให้รู้สึกปลอดภัย นักจิตวิทยาเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าว คล้ายกับตอนดูดนมแม่สมัยเป็นเด็กนั่นเอง 4. การยื่นหน้าออกมา การเอาคางมาเกยไว้บนมือคือท่าทางเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ให้อีกฝ่ายเชยชมใบหน้าของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนเห็นสาวๆ ทำท่านี้ก็ควรรับรู้ได้ทันที และกล่าวชมเธอไปในเวลาที่เหมาะสม 5.…
-
การใช้ภาษากายเพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ และช่วยลดความเครียดได้ภายใน 2 นาทีต่อวัน
หลายๆ คนพยายามหาวิธีการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เราอาจไม่รู้ว่าวิธีการที่ง่ายและได้ผลนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ และนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยลดความเครียดให้คุณได้อีกด้วย ก่อนที่จะไปพูดถึงวิธีการ เราจะมาพูดถึงหลักการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความมั่นใจของเรากันก่อน ในงานวิจัยจากหลายสถาบัน เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออริกอน หรือมหาวิทยาลัยเท็กซัส พวกเขาบอกเอาไว้ว่า การเป็นผู้นำที่ดี นอกจากจะสามารถกระจายรูปแบบความคิดได้แล้ว ฮอร์โมนก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน ฮอร์โมนที่ส่งผลเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เทสโทสเตอโรน และ คอร์ติซอล ซึ่งถ้าหากเรามีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่มากเท่าไหร่ ความมั่นใจที่เรามีก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และถ้าเราสามารถลดการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลลงได้ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของตัวเองและรับมือกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น หลักการทำงานของฮอร์โมนทั้งสองตัว สามารถส่งผลกับตัวเราได้อย่างมาก แล้วมันจะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถควบคุมฮอร์โมนเหล่านั้นได้? นั่นแหละคือสิ่งที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ วิธีการดังกล่าวคือการทำท่าทางต่างๆ ใช้ภาษากายง่ายๆ ทั่วไปเท่านั้นเอง โดย Amy Cuddy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาเรื่องของความเชื่อมโยงกันระหว่างความแตกต่างของท่าทางและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน งานวิจัย ของเธอได้จำแนกท่าทางของคนเราออกมาเป็นสองแบบ ได้แก่ “ท่าทางที่ดูมีพลัง” กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” ซึ่งเราสามารถเห็นความแตกต่างของท่าทางเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน “ท่าทางที่ดูมีพลัง” (ด้านบน) กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” (ด้านล่าง) กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้คือนักศึกษาจำนวน…
-
ง้อววว!! 20 ภาพอันเฟี้ยวฟ้าวของเหล่าเหมียว ที่พากันกลายร่างเป็นแมวนินจา แต่ละท่าคือสวย
คุณอาจจะมองว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ใครจะรู้ล่ะว่าความจริงแล้วพวกมันมีความพิเศษมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากการเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีแล้ว ยังมีความสามารถในการสวมบทเป็นนินจาอีกด้วย สำหรับใครที่นึกภาพว่าแมวนินจาจะมีลักษณะอย่างไร? Hisakata Hiroyuki ช่างภาพชาวญี่ปุ่นคนนี้ เขาได้บันทึกภาพถ่ายช่วงวินาทีที่พวกมันได้กลายร่างเป็นนินจามาให้เราได้ชมกันแล้ว คุณ Hiroyuki ได้ตัดสินใจที่จะสละเวลาของตัวเอง… เพื่อจับภาพวินาทีสุดอัศจรรย์ของเหล่าแมวเหมียว ในขณะที่มันกำลังสวมบทเป็นแมวนินจา และภาพที่ออกมาก็ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น นี่ไม่ใช่การถ่ายภาพที่ง่ายเลย เพราะเขาจะต้องรอเวลา และใช้ความว่องไวในการกดชัตเตอร์ จนออกมาเป็นภาพที่ดูสวยและสมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น ด้านล่างนี้เป็นภาพถ่ายของเหล่าแมวเหมียวที่พากันออกมาแสดงตนว่า มันเกิดมาพร้อมกับการเป็นนินจานะ ว่าแล้วก็มารับชมกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . นี่เป็นเพียงภาพถ่ายสุดเท่ส่วนหนึ่งของเหล่าแมวนินจาเท่านั้น หากคุณอยากจะรับชมภาพเจ๋งๆ ของพวกมันอีกล่ะก็ สามารถเข้าไปดูได้เลยในอินสตาแกรม photo.accent และทวิตเตอร์ sakata_77 ที่มา : boredpanda
-
ความแปลกใหม่สำหรับการชมดนตรี ในการแข่งขัน “กีต้าร์อากาศ” ชิงแชมป์โลกที่ฟินแลนด์
เราคงเคยเห็นการแสดงดนตรีหรือการแข่งขันวงดนตรีที่จัดขึ้นกันมาหลายต่อหลายงาน ทว่ามันมีการแข่งขันดนตรีประเภทหนึ่งอยู่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีใดๆ ในการแสดงนั่นก็คือ “การแข่งขันกีต้าร์อากาศชิงแชมป์โลก” หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าเจ้ากีต้าร์อากาศนั้นมันคืออะไร จริงๆ มันก็คือการที่เราทำท่าทางเหมือนกับว่าเล่นกีต้าร์อยู่โดยที่ในมือของเราแท้จริงมันว่างเปล่า การตัดสินของคณะกรรมการจึงไม่มีคะแนนให้สำหรับความไพเราะหรือเสียงที่ออกมา แต่จะตัดสินจากลีลาและความมันส์เร้าใจชวนให้ผู้คนต้องสนุกไปพร้อมๆ กัน ด้วยเพลงประกอบท่าทางแนวร็อคหรือเฮฟวี่เมทัล ดังนั้นความเว่อร์วังอลังการของผู้เข้าแข่งขันจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คว้าชัยชนะไปได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมจังหวะความเข้ากันระหว่างลีลาท่าทางและเพลงประกอบ เพื่อทำให้รู้สึกได้เหมือนกับว่าเล่นกีต้าร์อยู่จริงๆ นอกจากนั้น คะแนนบางส่วนก็จะมาจากเทคนิคการแสดงท่าทางให้เหมือนกับว่ามีกีต้าร์จริงๆ อยู่ในมือ รวมถึงเทคนิคการเอนเตอร์เทนคนดู และการแสดงอย่างมีศิลปะในตัวเอง การแข่งขันกีตาร์อากาศเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสวีเดนและสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 80 โดยช่วงแรกมันเป็นแค่การแสดงตลกๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับงานดนตรีเท่านั้น จนในปี 1996 ก็มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก Air Guitar World Championships ขึ้นเป็นครั้งแรกในเทศกาลดนตรี Oulu Music Video Festival ในเมืองโอวลุ ประเทศฟินแลนด์ และจัดเรื่อยมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน มีการจัดการแข่งขันกีตาร์อากาศในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ บราซิล หรือแม้แต่ประเทศไทยของเราก็มีชื่ออยู่ในนั้น แชมป์ชาวอเมริกันในการแข่งขันระด้บโลก ซึ่งในปีนี้ก็เพิ่งจบการแข่งขันไปเพียงไม่กี่วัน โดยผู้แข่งขันชาวอเมริกัน Matt “Aristotle” Burns ก็ได้รักษาตำแหน่งแชมป์เอาไว้ได้เป็นปีที่ 2 ไม่แน่ว่าในงานดนตรีใหญ่ๆ…
-
บทความแนะนำ ‘ท่าเล่นมือถือ’ ที่ดีต่อร่างกาย และส่งผลเสียต่อสุขภาพเราน้อยที่สุด..!!
ว่ากันว่าในยุคที่เครื่องมือสื่อสาร มีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำยุคสมัยไปมากๆ สิ่งเหล่านี้ก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ ให้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยด้วยเช่นกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงไม่ค่อยเห็นใครยืนก้มหน้าเล่นมือถือเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้….ก็แทบจะทุกคนนั่นแหละ แล้วรู้กันมั้ยล่ะว่า ท่าที่เราใช้เล่นกันอยู่เนี่ยจริงๆแล้วมันผิดหลักกายภาพนะเออ เราตามไปดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้ว เราควรเล่นมือถือในท่ากันแน่นะ สำหรับใครที่มักจะมีติดนิสัย เล่นมือถือด้วยการเอียงศรีษะไปประมาณ 30 องศา ดั่งเช่นในรูปละก็ รู้มั้ยว่าส่วนคอของเราจะต้องรับน้ำหนักมากถึง 18 กิโลกรัม เลยทีเดียว เพราะน้ำหนักจะถูกถ่ายเทไปรวมกันไว้ที่กระดูกสันหลัง ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน และใครที่เอียงมากแบบชนิดที่ว่า ก้มหน้าแทบจะชิดจอมือถือ รู้มั้ยว่าด้วยลักษณะนี้ กระดูกสันหลังจะต้องรับน้ำหนักมากถึง 27 กิโลกรัม!!! ด้วยน้ำหนักขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะส่งผลร้ายให้แก่ระบบกระดูก และร่างกายส่วนอื่นๆของเรามากขนาดไหน และสำหรับบุคลิกที่เหมาะสม กับการใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุด ก็คือ การมองไปตรงๆ ไม่ก้มหัวลงมามากเกินไป พร้อมกับยืนหลังตรง พยายามให้โทรศํพท์มือถืออยู่ในระดับสายตาที่พอดี โดยที่เราไม่จำเป็นต้องก้มหัวลงไป และเมื่อนำมาเทียบกันแล้ว สำหรับท่านี้ น้ำหนักจะเทลงไปที่กระดูกสันหลัง เพียงแค่ 5 กิโลเท่านั้นเอง และถ้าหากใครที่ยังติดนิสัย กับการใช้โทรศัพท์มือถือในลักษณะบุคลิกภาพเดิม แล้วรู้สึกเจ็บบริเวณหลังละก็ นี่คือ 5 คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ…
-
นักกีฬาอดีตแชมป์โอลิมปิก วัย 48 โชว์ลีลายิมนาสติกสุดสตรอง ทำคนดูฮือฮาทั้งสนาม!!
นักกีฬาหลายคน เมื่อแก่ตัวไปก็เริ่มลาออกจากวงการ เนื่องจากสภาพร่างกายที่เคยแข็งแรง ก็เริ่มอ่อนแอลง แต่สำหรับ Donghua Li นักกีฬายิมนาสติก ชาวสวิตเซอร์แลนด์เชื้อสายจีนคนนี้… ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุอานามปาเข้าไป 48 ปีแล้ว แต่ก็ยังดูแข็งแรงสุดๆ แถมยังสามารถโชว์ลีลาการแสดงยิมนาสติกได้สุดยอดเหมือนเดิม สมกับที่เคยเป็นอดีตแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกจริงๆ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพของ Donghua Li อดีตแชมป์กีฬายิมนาสติก ปี 1996 ที่จัดขึ้น ณ เมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้แต่งกายเป็นชายสูงวัย สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ผูกเนคไท พร้อมสวมใส่วิกสีเทา ได้ทำการขึ้นโชว์ทักษะการแสดงยิมนาสติก หลังจากที่เสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬายิมนาสติกโอลิมปิก 2016 งานนี้บอกเลยว่าลีลาของเขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ จากนั้นเขาก็ได้ทำการเปลี่ยนมาอยู่ในชุดนักกีฬาธรรมดาๆ พร้อมกับแสดงโชว์อีกครั้ง เรียกได้ว่าการแสดงในครั้งนี้สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬายิมนาสติกสัญชาติสหรัฐฯ และบราซิล ได้มาร่วมแสดงในครั้งนี้อีกด้วย . แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกว่า 20 ปีแล้ว…
-
แมวญี่ปุ่น พาตัวเองไปติดอยู่ในท่าแปลกๆ จนเกิดเป็นภาพสุดฮา แถมชาวเน็ตยังใจดีเอาไปตัดต่อให้อีก
มิลค์จัง เจ้าเหมียววัย 7 ขวบ จากประเทศญี่ปุ่นตัวนี้ มันช่างซนยิ่งนัก เพราะหลังจากที่กำลังจะกระโดดขึ้นไปนอนหลับบนเตียง ก็เกิดพลาดท่าขึ้นมา และพบว่าเท้าข้างขวาเอาไปวางไว้บนเตียง ส่วนเล็บเท้าข้างซ้ายก็ดันไปจิกติดตรงคอนโดแมว จนไขว้สลับกันซะอย่างนั้น งานนี้เลยเกิดเป็นภาพช็อตสุดฮาอย่างที่เห็น และหลังจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า @aktfps ได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามากดถูกใจกว่า 150,000 คน และกดแชร์ออกไปกว่า 130,000 กว่าครั้ง ภายในเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น และยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีชาวเน็ตใจดี นำภาพของเจ้าเหมียวไปตัดต่อ พร้อมเพิ่มสีสันให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ นานา เห็นแล้วก็ยิ่งฮามากกว่าภาพต้นฉบับเสียอีก ว่าแล้วก็ลองไปชมผลงานของพวกเขากันเลย ว่าจะออกมาเป็นแบบไหนกันบ้าง กลายเป็นเจ้าเหมียวสายเลือดนักดนตรีไปแล้ว ฮร่าๆ ภาพแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อญี่ปุ่นส่งแมวเหมียวมาลงแข่งวิ่งโอลิมปิกกับพวกมนุษย์ เมื่อแมวกลายเป็น DJ เลยเกิดเป็นความมันส์และความฮาอย่างที่เห็น สามัคคีคือพลัง ข้าคือแมวผู้ที่คิดจะครองโลกไงล่ะ ปล่อยพลังแสงพิฆาตตตตตตต แหม!! เกิดเป็นแมว ไม่ว่าจะทำอะไรคนก็ดูสนใจไปซะหมด…
-
8 ท่าทางของเหล่า ‘ชายหนุ่ม’ ที่จะบอกได้จริงๆว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่…!!?
จะไม่บอกนะว่าเรื่องนี้เหล่าสาวๆ นั้น ควรศึกษากันไว้อย่างยิ่ง เอาไว้ไปเดาทางอารมณ์ของเหล่าพ่อบ้านใจกล้ากันนะจ๊ะ พูดได้เลยว่าอาจจะตรงกับหลายๆ คนเลยทีเดียว!!! แต่เชื่อหรือไม่?? ว่าแค่พฤติกรรมต่างๆ ที่เหล่าชายหนุ่มแสดงออกมานั้น ก็สามารถคาดเดาอารมณ์ของพวกเขาได้แล้ว และวันนี้ เราก็มีการเดาอารมณ์จากพฤติกรรมของพวกเขามาฝากกันถึง 8 รูปแบบเลยล่ะ ลองมาดูกัน!!! 1.การเอามือกอดอก สำหรับท่านชายที่อยู่ในท่ากอดอกและกำลังยืนนั้น ส่วนหนึ่งเพราะว่ารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยบางอย่าง จึงยกแขนราวกับว่าขึ้นมาปกป้องหัวใจของตัวเองเอาไว้ 2. ยืนเท้าสะเอว สำหรับในท่านี้ท่านชายของเรานั้นรู้สึกมั่นใจและพราวด์ในตัวเองมากๆ แถมยังมีความรู้สึกเซ็กซี่เบาๆ ในท่านี้ด้วย 3. เวลาคุยกับคุณเขาจะเอียงมาหาคุณ เค้าพยายามอยากบอกอะไรบางอย่างกับคุณ เค้าอาจจะมีอาการชอบคุณเบาๆ ก็ได้นะเนี่ย และการเอียงมาหาคุณนั้นก็เหมือนการเรีกร้องความสนใจนิดๆ ด้วยล่ะ 4. เขาเอามือล้วงกางเกง ชัดเลย!!! เขากำลังปิดบังความลับอะไรซักอย่างไว้อยู่ มันเป็นอาการเหมือนคนกำลังสวมหน้ากาก และที่สำคัญก็คือ ความลับที่เขาปิดบังไว้มักจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างในแง่ลบซะด้วย!!! 5. เค้าชอบจับบริเวณใบหน้าของเขา หมายความได้อย่างเดียวเลยล่ะว่า เขากำลังเชื้อเชิญให้คุณไปสัมผัสใบหน้า หรือจมูกของเขาเบาๆ บ้างอย่างน่ารักๆ ล่ะ 6. เขายุ่งยุกยิกกับนาฬิกาในบางครั้ง อาจเป็นได้ว่าแค่มองเวลาเท่านั้น แสดงถึงอาการเบื่อเบาๆ และไม่มีอะไรทำล่ะ…
-
Mappuchan เจ้าเหมียวตัวกลม ที่เกิดมาขาสั้นกุด งานนี้ก็เลยขอกลายพันธุ์เป็นแมวยืน 2 ขาซะเลย!!
แมวเป็นสัตว์ที่เกิดมามี 4 ขา ซึ่งตลอดชีวิตของพวกมันก็มักจะใช้ขาทั้ง 4 เดินไปในทุกๆ ที่ที่อยากไปอยู่แล้ว แต่สำหรับแมวบางตัวที่เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นแมวเหลือเกิน กลับขอกลายพันธุ์เป็นแมวยืน 2 ขา ซะงั้น อั้ยหยา!! ที่เขาร่ำลือกันว่าแมวจะยึดครองโลก มันคงเป็นเรื่องจริงแล้วสินะ และนี่ก็คือ Mappuchan แมวเหมียวตัวอ้วนกลม หูตูบ ที่เกิดมาเป็นแมวขาสั้นเดิน 4 ขาเหมือนแมวทั่วๆ ไปไม่ค่อยถนัดนัก ดังนั้นเจ้าเหมียวตัวนี้ เลยสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเอง โดยการยืน 2 ขาเหมือนพวกมนุษย์ซะเลย และท่าทางการยืนของมันก็เลียนแบบได้เหมือนเป๊ะด้วยสิ ไม่เชื่อก็ดูเอาเองละกัน… สวัสดี เอวี่บอดี้ เก๊าคือ Mappuchan แมวหูตูบ ตัวกลมผู้น่ารัก ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน เจ้า Mappuchan เป็นแมวพันธุ์มันช์กิ้น โดยลักษณะของแมวพันธุ์นี้จะเกิดมาขาสั้น ขยับเขยื้อนตัวไปทางไหนก็ค่อนข้างลำบาก งานนี้เจ้าของผู้ใช้ทวิตเตอร์ まっぷーちん เลยฝึกให้มันยืน 2 ขา ซะเลย!! งานนี้เรียกได้ว่าฉีกกฎรูปลักษณ์ภายนอกให้ต่างจากแมวทั่วๆ ไปเลยนะเนี่ย …
-
15 ภาพลีลาการ ‘ออกกำลังกาย’ อันเหนือชั้นของเหล่าสัตว์ สามารถเอาไปทำตามได้แบบไม่หวงสูตร
ถ้าอยากมีรูปร่างที่ดี สิ่งที่เราควรพึงปฏิบัติก็คือการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้รูปร่างดีแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย ที่สำคัญนอกจากมนุษย์แล้ว สัตว์ก็ชอบออกกำลังกายเหมือนกันนะ และ 15 ภาพเหล่านี้นี่แหละ ที่จะมาพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่า พวกสัตว์ชอบออกกำลังกายขนาดไหน แถมลีลาท่าทางของแต่ละตัวก็เหนือชั้นเกินความคาดหมาย ว่าแต่พวกมันจะสามารถสร้างความประทับใจได้ขนาดไหน ต้องดูเอาเอง อื้อหือ!! ยอมเลยฮะท่านี้ พี่ไก่ก็ลีลาเด็ดไม่เบาเลยนะ ท่าทางสตรองมากเลยลวกเพี่ย โยคะสักนิด จิตแจ่มใส มาเล่นด้วยกันมั้ย ป้าดๆๆๆ ลีลาการตีลังกาเด็ดเหลือหลาย ดูท่าทางคล่องแคล่วดีจัง ช้างก็ชอบเตะบอลนะ ท่านี้กินขาด ดูแผ่นหลังของพี่หมีสิ เซ็กซี่เหลือเกิน วู้วววว มันส์ฝุดๆ มาแดนซ์กับพี่ ก็ช่วยลดหุ่นได้นะน้อง ป้าดดดด เล่นท่ายากก็เป็น สตรองมั้ยละแก เอ้าฮึ้บๆๆๆ วิ่งให้ไวหน่อยเจ้าแฮมสเตอร์ ดู๊ดู…ลีลาการออกกำลังกายของพวกมัน เหนือชั้นมากจริงๆ…
-
ภาพน่ารักปนฮาของเจ้าหมาตัวนี้ ทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่า สรุปแล้วเอ็งจะเป็นหมาหรือจิ้งจกกันแน่
ชีวิตการเป็นหมามันอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่หลายคนคิดไว้ เพราะวันดีคืนดีน้องหมาที่แสนน่ารักเหล่านั้น ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของพวกมนุษย์ไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ ดังเช่นภาพตัวอย่างที่เราได้นำมาให้รับชมดังต่อไปนี้ เป็นภาพของเจ้าหมา พันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่กำลังนอนแผ่องศาอยู่บนพื้นอย่างสบายใจเฉิบ แต่เอ๊ะ!! จะว่าไปลักษณะการนอนของมันคุ้นๆ นะเนี่ย เหมือนตัวอะไรว้า…ติ๊กต่อกติ๊กต่อก ป้าดดดดด ใครกันหนอทำกับเอ็งได้ลงคอ เล่นเอาซะขนเสียทรงกันเลยทีเดียว ว่าแต่คิดออกหรือยังว่าท่านอนลักษณะแบบนี้มันเหมือนตัวอะไร ถ้าอย่างนั้นมาเฉลยกันเลยดีกว่า ท๊าดาๆๆๆๆๆ มันเหมือนจิ้งจกนี่เอง OMG!! ไม่สงสัยอีกแล้วว่าท่านี้ท่านได้แต่ใดมา เป๊ะกว่านี้ไม่มีอีกแล้วววว แถมยังถูกตัดขนให้เสียทรง จนหมดความเป็นไซบีเรียน ฮัสกี้กันเลยทีเดียว โถๆๆ น่าฉงฉานเอ็งจริงๆ เลย และนอกจากเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ตัวนี้ ยังมีเจ้าหมาอีกหนึ่งตัวที่ทำท่านอนเหมือนจิ้งจกเป๊ะ แต่ดูเหมือนทรงพี่แกจะอวบไปนิด ภาพที่ได้ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ… เฮ้อ…มาคิดๆ ดูแล้ว การเป็นหมานี่ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะเหมียว ไหนจะต้องเป็นเพื่อนเล่นกับมนุษย์ ไหนจะต้องเฝ้าบ้าน และที่สำคัญวันดีคืนนี้อาจจะเสียขนไปโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย ที่มา : i Like Husky คนรักไซบีเรียนฮัสกี้, painttings
-
ทำความรู้จัก 7 พฤติกรรมแมวที่ชอบทำ ล้วนมีความหมาย อ้างอิงโดยนักวิจัย
ทุกวันนี้คนนิยมหันมาเลี้ยงแมวกันมากขึ้น เพราะความน่ารักของมัน ทำให้คนหลงไหลที่จะดูแลมัน สำหรับคนที่เคยเลี้ยง ก็คงทราบพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี มันจะชอบแสดงกิริยาบางอย่างออกมา ซึ่งเราก็คาดเดาไม่ได้ว่ามันรู้สึกอะไรกันบ้าง วันนี้เหมียวก็เลยจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ 7 สิ่งที่แมวชอบทำเป็นประจำ และความหมายของท่าของมันด้วย โดยอ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย 1. ทำไมแมวถึงชอบกัดหรือชอบข่วนคนที่ไปลูบมัน นี่เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกได้ว่าแมวไม่ชอบการลูบ โดยอ้างอังจากหนังสือ The Cat Behavior Answer Book โดย Arden Moore เขาได้กล่าวว่าถ้ามันได้กัดหรือข่วนเวลาคุณลูบมัน ก็เหมือนมันพูดว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะกัดแรงขึ้นไปอีก” แต่แมวบางตัวก็สามารถทนต่อการลูบได้มาก แต่บางตัวก็อ่อนไหวมากเช่นกัน และมันก็จะทำการตะปบทันที่ที่โดนลูบ ซึ่งการลูบนี้หมายถึงโดยรวมเช่นการลูบหู ลูบหาง หรือท้อง แต่มันก็มีแมวเพียงแค่ 1 ใน 10 ตัวเท่านั้นที่ชอบการลูบ via GIPHY 2. ทำไมแมวชอบเขี่ยของให้ตกจากโต๊ะ อันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องแมวซุ่มซ่ามนะ แต่มันชอบเขี่ยของตกจริงๆ ซึ่ง Dr. John Bradshaw ได้กล่าวไว้ว่าการทำแบบนี้เป็นการเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่ง บางทีมันก็ทำเพื่ออยากให้เจ้าของสนุก หรือบางทีมันก็เรียนรู้ด้วยตัวของมันเองว่าการดันของแล้วเจ้าของเก็บเหมือนเป็นเกมที่มันคิดเอาเองว่าเจ้าของชอบเล่น (เอิ่มมม) via GIPHY …
-
เจ้าหมาชิบะโพสต์ท่าซะเหมือนเล่นโยคะ แต่ที่ไหนได้มันแค่ขี้เกียจออกจากเตียงต่างหาก!!
เพื่อนอันแสนดีและแสนรู้ของมนุษย์คงจะหนีไม่พ้นสุนัขแล้วล่ะ ถ้าหากว่ามีสุนัขคู่ใจที่ดีหน่อยมันก็มักจะมาปลุกคนในตอนเช้า พาคุณลุกออกจากเตียงสลัดความขี้เกียจ แต่ลักษณะนิสัยแบบนี้หาไม่ได้กับเจ้าสุนัขชิบะที่ชื่อว่า Cocon รายนี้ ภาพที่เห็นดังต่อไปนี้คือสภาพของเจ้าชิบะ Cocon ในท่าทางลักษณะคล้ายกับการเล่นโยคะเลยล่ะ โอ้โห!! นี่มันเก่งถึงขนาดเล่นโยคะได้เลยเหรอเนี่ย เปล่าหรอก!! มันก็มีปัญหาเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปนั่นก็คือการขี้เกียจลุกออกจากเตียงในตอนเช้า สภาพไหลออกจากเตียงแบบนี้เลย ฮ่าฮ่า งืม!! ก็อยากจะนอนต่ออ่ะนะ ยังไม่อยากลุกเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอโชว์บั้นท้ายสวยๆ ซะหน่อย เซ็กซี่มั้ยล่ะตัวเอง!? แม้แต่เจ้าของก็ยังนำภาพโชว์บั้นท้ายมาเปรียบเทียบกับนางแบบเลย ฮ่าฮ่า!! @5556Coco これを作った方が…笑 pic.twitter.com/suWIB0wb8K — 柴犬ココン (@SHIBAINU_COCON) 30 กันยายน 2015 นี่ถ้าไม่ใช่สุนัขพันธุ์ชิบะคงไม่น่ารักได้ขนาดนี้ อิอิ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามีสุนัขขี้เกียจพันธุ์อื่นลองทำบ้างอาจจะน่ารักกว่านี้ก็ได้นะ ที่มา : rocketnews24
-
น่ารักปนฮา!! 23 ภาพหมาแมวที่แสดงท่าทางกลัวสุดขีด เมื่อมันเจอ ‘หมอ’ (ถึงกับซ่าส์ไม่ออกเลยนะ)
หลายคนอาจจะคิดว่าหมากับแมวมักจะไม่กลัวอะไร เพราะพวกมันชอบสร้างแต่วีรกรรมแสบๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอ แต่ความจริงแล้วอีกด้านหนึ่งของพวกมัน ใครจะรู้ละว่ามันก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ เอ…แล้วอะไรกันละ ที่ทำให้พวกมันกลัวสุดขีด!! และภาพเหล่านี้นี่เอง ที่จะมาทำให้ทาสหมาทาสแมวทุกคนได้เห็นว่า สัตว์เลี้ยงจอมป่วนของพวกคุณนั้นกลัว ‘หมอ’ เป็นที่สุด บางตัวก็กลัวจนตัวสั่น บางตัวก็ทำหน้าตาน่าสงสารไม่อยากให้พาไปหาหมอ โอ๊ยตาย!! ทีเรื่องอื่นทำเป็นซ่าส์ พอเจอหมอทีไรทำเป็นหงอยทุกที พวกมนุษย์ เอ็งจะพาข้าไปหาหมออีกแล้วหรอ โถ่ๆๆๆ เจ้าหมา ดูกลัวหมอสุดขีด อยากจะออกไปจากที่นี่ใจจะขาด ไม่ต้องกลัวหรอกนะเจ้าหมา หมอไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด น่ารักน่าเอ็นดูจังเลย ฮ่าๆๆๆ หลบซะ!! ท่าทางคงกลัวหมอมากจริงๆ ให้ตายยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด ทีเรื่องอื่นไม่เห็นกลัว พามาเจอหมอทีไรหลบตลอด 555 ถ้าเอ็งจะกลัวขนาดนี้ หมอมายัง!! โอ๊ยยยยย ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี ฮ่าๆ เหมียวกำลังเผชิญกับหมอสินะ เห็นหมอแล้วขนแมวตั้งเลยครัช หงอยเลยสิวันนี้…
-
พาไปดู 7 สิ่งที่แสนธรรมด๊าธรรมดา แต่ทว่า…มันกลับดันไปคล้าย ‘Hitler’ ซะงั้น!!
เหมียวเชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อย่าง ‘Adolf Hitler’ แน่นอน ซึ่งหลายคนก็รู้อยู่แล้วใช่ไหมละว่า หน้าตาของเขานั้นเป็นเอกลักษณ์ที่สุด เพียงแค่เห็นแว๊บๆ ก็รู้ทันทีเลยว่าต้องเป็น Hitler แน่ๆ และในวันนี้เหมียวจะพาคุณผู้ชม มาดูภาพของคน สัตว์ และสิ่งของทั้งหลาย ที่บังเอิญไปมีหน้าตา และท่าทางคล้ายกับ Hitler ซะอย่างนั้น เอ…ว่าแต่มันจะเหมือนสักแค่ไหนกัน ถ้าอย่างนั้นมาชมกันเลย อุ๊ยยย บังเอิญไปป่ะ อิอิ!! โคตรเท่เลยหมา เหมือนต้นฉบับมาก 555 คิดได้ไงเนี่ย เอิบ!! ก็คล้ายอยู่นะ นี่ก็เปรียบซะ เป๊ะเลยเหมียวเอ้ยยย แหมๆๆๆ ช่างคิดช่างเปรียบเทียบซะจริงๆ นะเรา แต่บางภาพก็เหมือนซะจนแทบแยกไม่ออกเลย ว่าคนไหนตัวจริงกันแน่ กิกิ!! ที่มา : ebaumsworld
-
10 ท่าทางที่คุณควรหลีกเลี่ยงในต่างแดน เพราะความหมายที่เปลี่ยนไป!!
การสื่อสารของมนุษย์นอกจากจะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดแล้ว ก็ยังมีการสื่อสารด้วยลักษณะท่าทางด้วยเช่นกัน ซึ่งท่าทางส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีความหมายที่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้านำไปใช้ในประเทศเหล่านี้แย่แน่ๆ ท่าปัดคาง (เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, ภาคเหนือของอิตาลี, รัสเซีย) ความหมาย : ไปให้พ้นซะ ท่าสอดนิ้วโป้งระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง (ตุรกี, รัสเซีย, อินโดนีเซีย) ความหมาย : ไปตายซะ!! ท่าโอเค (แต่ไม่โอเค) ประเทศกรีซ, สเปน และบราซิล ความหมาย : มันหมายถึงรูตูดน่ะ ด่าคนอื่นว่าโง่ ท่าห้าพ่อ (ประเทศแถบอาหรับและทะเลแคริบเบียน) ความหมาย : เอ็งมันมีพ่อ 5 คน เพราะแม่เอ็งเป็นผู้หญิงขายตัว ท่าชาวร็อค (ประเทศสเปน, อิตาลี, กรีซ) ความหมาย : เป็นการบอกว่าเมียเอ็งแอบไปนอนกับชู้ ท่าแตะปลายแขน (ประเทศฝรั่งเศส กลุ่มประเทศยุโรปทางใต้ และบราซิล) ความหมาย : มีความหมายพอๆ กับท่าชูนิ้วกลาง ท่ากัดนิ้ว (ประเทศอินเดีย, ปากีสถาน) ความหมาย…
-
ลีลาเหลือร้ายของนักเบสบอลทีมโรงเรียนญี่ปุ่น ก็เพลงมันเร้าใจนี่หว่า!!
ก่อนอื่นเลยขอบอกไว้ก่อนว่ากีฬาเบสบอลในประเทศไทยเรายังไม่ได้รับความนิยมซักเท่าไหร่ แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นกีฬาที่ฮิตมากๆ เลยนะ มีการแข่งขันในระดับโรงเรียนมัธยมเยอะแยะมากมายเลยล่ะ!! คราวนี้เรามาดูลีลาของนักเบสบอลจากโรงเรียนมัธยม Saitama’s Namegawa Sogo กันบ้าง ที่ทำให้เขาดูโดดเด่นขึ้นมาก็คือลีลาท่าทางการวอร์มอัพของเขานั้นช่างเด็ดดวงซะเหลือเกิน และด้วยพลังของเพลงที่เร้าอารมณ์ในการคว้าชัยชนะอย่าง We Will Rock You ของวง Queen ทำให้ท่าทางของพ่อหนุ่มเบอร์ 12 กินขาดไปเลยจ้า ฮ่าฮ่า!! ที่มา : rocketnews24
-
เอาที่สบายใจ!! ชายจีนทำศัลยกรรมให้เหมือน “คิม จอง อึน” ผมมีพี่เป็นไอดอล!!
ความชื่นชอบของคนเราไม่เหมือนกันจริงๆ และในเมื่อมันเป็นความชอบและทำให้รู้สึกมีความสุขก็คงจะห้ามกันไม่ได้ อย่างเช่นพ่อหนุ่มชาวจีนรายนี้ Wang Lei วัย 32 ปี ที่ทุ่มเงินไปกับการศัลยกรรมให้เหมือนกับท่านผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จอง อึน” นอกจากจะเสียเงินไปมากมายกับการศัลยกรรมแล้ว การที่จะเหมือนให้ได้มากที่สุดก็ต้องตัดผมทรงเดียวกันด้วย ยังไม่พอ!! ยังจะจ้างช่างภาพส่วนตัวมาถ่ายภาพชีวิตประจำวัน พร้อมกับท่าประจำตัวท่านผู้นำอีกแหนะ คือเลียนแบบแทบทุกอย่างเลย!! และด้วยเหตุที่ว่านาย Wang Lei นั้นจะต้องเข้ารับการศัลยกรรมหลายครั้ง จึงได้พบรักกับนางแบบสาว Liu Zixuan ที่เสพติดการศัลยกรรมพอๆ กัน จนทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นบุคคลดังแบบสายฟ้าแลบในประเทศจีนเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วท่านผู้นำเกาหลีเหนือกับร่างเงาที่ประเทศจีนก็เกือบจะเหมือนกันแล้วล่ะ ต่างกันตรงที่ภรรยา ฮ่าฮ่า!! อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าที่ทำไปนั้นมีจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ผมมีพี่เป็นไอดอลแน่นอน!! ที่มา : dailymail