Tag: ธรรมเนียม
-
เด็กสาวอินเดีย ถูกบังคับอยู่กระท่อมเนื่องจากมี “ประจำเดือน” สุดท้ายถูกพายุคร่าชีวิต…
เด็กหญิงวัย 14 ปีชาวอินเดียต้องกลายเป็นเหยื่อพายุไซโคลนเพียงเพราะเธอมี “ประจำเดือน” จึงถูกบังคับให้นอนอยู่แต่ในกระท่อม S. Vijayalakshmi ผู้เคราะห์ร้าย เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ติดอยู่ในกระท่อมแยกเดี่ยวเรียกว่า Gaokor กระท่อมนี้เปรียบเสมือนสถานที่สำหรับแยกหญิงที่มีประจำเดือนไปอาศัยชั่วคราว แต่ในขณะนั้น (ช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018) พายุไซโคลน Gaja ก็กำลังรุกเข้ามายังพื้นที่ตอนใต้ของรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดียพอดี ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ผลจากพายุ Gaja ทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 รายและ Vijayalakshmi เองก็เป็นหนึ่งในนั้น พายุลูกนี้ได้กวาดล้างดินแดนไปราว 800 ตารางกิโลเมตรหรือ 500,000 ไร่ พื้นที่การเกษตรไปของทั้ง 12 เขตถูกทำลายราบคาบ ขณะเดียวกันสมาชิกในครอบครัวของ Vijayalakshmi นั้นปลอดภัยดีในเนื่องจากหลบภัยในบ้านของตัวเองที่ไม่ห่างไกลจากกระท่อม Gaokor นัก ฝ่ายยายของหญิงสาวกล่าวว่าไม่สามารถเข้าไปช่วย Vijayalakshmi ในกระท่อมได้เนื่องจากต้นมะพร้าวนั้นโค่นล้มทับกระท่อมจะไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ถึง หลังจากเข้าถึงตัวของ Vijayalakshmi เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน แต่พอไปถึงแพทย์ก็กล่าวว่าเธอได้เสียชีวิตแล้ว คลิปผู้ประสบภัยพายุ Gaja ในประเทศอินเดีย …
-
‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้
เมื่อพูดถึงธรรมเนียมการปฏิบัติในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านตามภัคตาคารต่างๆ จะต้องมีการให้ทิปกับพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะถือเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยในงานบริการ บวกกับทิปเหล่านี้จะถูกนับรวมเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินทิปขั้นต่ำก็ขึ้นอยู่กับภัคตาคารจะเป็นผู้กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดอยู่ที่ 15-20% ของราคาอาหารในมื้อนั้นๆ กระดาษโน้ตคำขอโทษ 1 แผ่นจากตัวแทนของกลุ่มเด็กหญิง แต่ทว่าเมื่อกลุ่มเด็กหญิง 4 คน อายุประมาณ 13 ปี กลุ่มหนึ่งในเมือง Los Angeles กลับให้ทิปบริกรในจำนวนเพียงแค่ 3.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 104 บาท) จากมูลค่าราคาอาหารที่สั่งไปเกือบ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 บาท) ถึงแม้จะได้รับคำขอบคุณจากกลุ่มเด็กหญิงแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้ แถมยังทำให้รู้สึกหัวเสียอีกต่างหาก แต่เขากลับมารู้ในภายหลังว่า พวกเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้กับเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอเพิ่งจะเคยออกมาทานอาหารด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และไม่รู้ถึงธรรมเนียมการให้ทิป ใจความของการขอโทษรวมกันเป็น 2 หน้ากระดาษ Seminole ชายผู้ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ Imgur ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตคำขอโทษจากกลุ่มเด็กหญิง โดยได้รับภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ด้วยใจความดังต่อไปนี้… …
-
12 ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของเหล่าโจรสลัด ที่ไม่อาจได้เห็นในหนังสือเรียน…
โจรสลัดผู้ออกเดินทางไปทั่วผืนสมุทรเพื่อล่าขุมสมบัตินั้น หากมองดูผิวเผินแล้ววิถีชีวิตของพวกเขาอาจจะดูเข้าใจง่าย เพราะในภาพยนตร์หรือการ์ตูนแทบทุกเรื่องนั้น โจรสลัดก็แค่ล่องเรือ ดื่มเหล้า ร้องรำทำเพลง แล้วก็ปล้นทรัพย์จากเรือลำอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นเพียงภาพรวมของชีวิตโจรสลัดเท่านั้น หากมองให้ลึกลงไปถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในวิถีแห่งโจรสลัดแล้ว มีวัฒนธรรมหลายอย่างเกี่ยวกับพวกเขาที่คุณยังไม่รู้ และมันก็จะทำให้คุณต้องตะลึงว่ามีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่จริงเหรอ 1. ถ้าอยากตายดี อย่าทำต่างหูหาย หากโจรสลัดเสียชีวิตโดยบังเอิญ ต่างหูที่ติดตัวนั้นจะช่วยใช้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีคนจัดพิธีศพอย่างเหมาะสมได้ ไม่อย่างนั้นก็ตายอย่างศพไร้ญาติไปซะ 2. จงระวังเมื่อเห็นธงสีแดง แน่นอนว่าเมื่อต้องสู้รบกับเรือลำอื่นๆ ไม่ว่าเมื่อไรก็อันตรายทั้งนั้น แต่หากเห็นธงสีแดงอยู่ด้วย มันแปลว่าการสู้รบครั้งนี้อันตรายถึงชีวิต เพราะว่าเรือที่ชูธงดีแดงเหล่านั้นจะไม่จับแบบเป็นๆ แต่จะจับตายเท่านั้น 3. โจรสลัดนี่แหละคือสุดยอดคนชงเหล้า ในเมื่อพวกเขาชอบดื่มเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องชงเหล้ารสเยี่ยมได้เช่นกัน ขอแค่มีเหล้า น้ำ และมะนาว จะแก้วไหนๆ ก็อร่อยได้ 4. น้อยคนนักที่จะฝังสมบัติ ถึงเราจะเข้าใจไปเองว่าโจรสลัดมักมีสมบัติฝังอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขามักจะขโมยอาหาร เหล้า หรืออาวุธจากเรือลำอื่นแทน ถึงจะเอาไปฝังมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก 5. โจรสลัดไม่ได้มีแต่ผู้ชาย จริงๆ แล้วท่ามกลางเหล่าโจรสลัดก็มีผู้หญิงอยู่มากมาย แถมพวกเธอยังต่อสู้เก่งเหมือนกับโจรสลัดชายด้วย 6. โจรสลัดหนวดดำมีอยู่จริง…
-
ธรรมเนียมของชาวอินโดนีเซีย เก็บศพคนในครอบครัวไว้ และปฏิบัติราวกับยังมีชีวิตอยู่…
โดยปกติแล้วหากคนในครอบครัวของเราได้เสียชีวิตไป จะต้องมีการจัดพิธีตามธรรมเนียม ในบางประเทศก็นำศพไปฝัง หรืออย่างในบ้านเราเมื่อทำพิธีสวดเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะนำไปเผาใช่ไหมละ แต่สำหรับชาว Torajan ชนพื้นเมืองบนเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย กลับมีธรรมเนียมสุดแปลกประหลาดที่สืบทอดกันมาอย่างช้านานนั่นก็คือ การเก็บศพของบรรพบุรุษเอาไว้ในบ้านนั่นเอง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า หลังจากที่สมาชิกในครอบครัวของชาว Torajan ได้เสียชีวิตลง พวกเขาจะทำการเก็บศพของญาติเอาไว้ในบ้านเป็นเวลานานหลายเดือน หรือบางครั้งก็นานเป็นปีๆ จนกว่าจะพร้อมจัดงานศพขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และในขณะที่ศพอยู่ภายในบ้าน คนในครอบครัวก็จะปฏิบัติต่อศพราวกับว่ายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าอาจจะฟังดูแปลกพิลึก แต่บอกเลยว่าธรรมเนียมดังกล่าวนั้น ได้ถูกปฏิบัติต่อกันมานานกว่าหลายร้อยปีแล้ว หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่า หากเก็บศพไว้นานขนาดนี้ จะไม่ส่งกลิ่นเหม็น หรือเน่าเปื่อยหรือ? ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ชาว Torajan เขามีวิธีการเก็บศพให้คงอยู่ได้นานด้วยนะ โดยจะนำน้ำสมุนไพร หรือฉีดฟอร์มาลีนเข้าไป เพื่อเป็นการรักษาสภาพของศพ นอกจากนี้ ทางญาติก็จะนำอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงบุหรี่ไปวางไว้หน้าศพวันละสองครั้ง พร้อมกับชำระล้างร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับศพอยู่เสมอ อีกทั้ง ยังนำกระโถนมาตั้งไว้ตรงมุมห้องเพื่อให้ผู้ตายได้เข้าห้องน้ำอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ซากศพจะไม่ถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพัง และจะถูกนำไปเก็บไว้ในห้องที่เปิดไฟสว่างๆ อยู่เสมอ ทั้งนี้…
-
24 เหตุการณ์ Culture Shock เมื่อต้องไปเจอวัฒนธรรมแปลกๆ รอบโลก รู้ไว้เถอะน่า!!!
ถ้าหากใครที่กำลังจะได้เดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศใหม่ที่อาจไม่เคยไปมาก่อน ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาวก็อาจจะต้องเจอกับเหตุการณ์หรือธรรมเนียมปฏิบัติในต่างแดนที่มันไม่คุ้นเอาซะเลย วันนี้จึงขอพาเพื่อนๆไปเรียนรู้ธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศที่ถูกรวบรวมโดยเว็บไซต์ FlyDubai เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสู่การเดินทางเปิดโลกทัศน์ใหม่หรือถ้าหากใครที่ต้องติดต่อค้าขายธุรกิจกับคนต่างชาติ รับรองว่าจะช่วยให้เข้าใจธรรมเนียมของพวกเขาได้มากขึ้นอย่างแน่นอน… 1. ธรรมเนียมการให้ทิปของคนอเมริกา ใครที่ได้ไปเยือนดินแดนแห่งเสรีภาพที่นี่ครั้งแรก อาจจะไม่ค่อยชินกับธรรมเนียมการให้ทิปแก่ทุกๆ อย่างของคนที่นี่ ไม่ว่าจะในร้านอาหาร บนรถแท็กซี่ โรงแรม หรือแม้กระทั่งคนดูแลภายในห้องน้ำ โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการให้ทิปแก่พนักงานบริการคิดเป็นประมาณ 15-25% ของราคาจริง 2. การรับประทานอาหารที่ถูกจัดหาให้ในแอฟริกาใต้ ในแถบแอฟริกาใต้เมื่อมีแขกมาเยี่ยม พวกเขามักจะต้อนรับด้วยการนำอาหารมาเสิร์ฟให้เพื่อเป็นการแสดงถึงการต้อนรับที่ดีและความเคารพซึ่งกันและกัน บางทีอาจจะรวมถึงอาหารที่ทำมาจากแมลงหรืออวัยวะอื่นๆ จากสัตว์ที่เราอาจไม่คุ้นเคย แต่ถ้าหากเราไม่ยอมทานให้หมดล่ะก็…อาจจะหมายถึงการไม่เคารพซึ่งกันและกันเลยทีเดียว 3. ทานอาหารให้หมดจานในจีน อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแตกต่างจากวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก แต่ในจีนและบางธรรมเนียมของประเทศฝั่งตะวันออกที่เชื่อว่าหากแขกที่มาเยี่ยมทานอาหารจนหมดจานนั่นหมายความว่ามันเอร็ดอร่อยซะจนต้องขอเบิ้ลอีกจานและแน่นอนว่าเจ้าบ้านจะตักอาหารเพิ่มให้คุณ 4. ปิดเสียงโทรศัพท์ในรถไฟที่ญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นผู้โดยสารรถไฟ จะถูกขอให้ปิดเสียงโทรศัพท์หรือเปิดระบบสั่นไว้เท่านั้นขณะเดินทาง เพราะที่นี่คำนึงถึงเรื่องของส่วนรวมที่ไม่ต้องการให้การใช้โทรศัพท์มีเสียงดังรบกวนแก่ผู้อื่นยังไงล่ะ.. 5. วิธีการขึ้นรถไฟสุดแปลกของคนอินเดีย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าระบบการขนส่งรถไฟในอินเดียนั้นช่างแตกต่างจากทุกประเทศซะเหลือเกิน เพราะบางทีอาจมีการต่อสู้หรือแย่งกันปีนป่ายเพื่อเข้าไปในรถไฟเลยทีเดียว ถ้าหากไปเผลอชนใส่ใครเข้า การกล่าวขอโทษก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับที่นี่เช่นกัน 6. ระยะห่างของการพูดคุยกันต่อหน้า นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว ในอเมริกาการเข้าไปพูดคุยต่อหน้าในระยะประชั้นชิดอาจแสดงถึงการถกเถียงกันอย่างรุนแรงหรือการทะเลาะกัน แม้แต่ในอังกฤษและเยอรมันก็มักจะยืนคุยกันด้วยระยะห่างที่พอดี และในเม็กซิโกหากใกล้ชิดมากเกินไปอาจทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจระหว่างการสนทนาได้ …
-
รวม 17 ธรรมเนียมการแต่งงานสุดแปลกจากทั่วโลก ที่คุณจะสงสัยว่ามีอยู่จริงๆเหรอ!!
การแต่งงานถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาตั้งแต่หลายพันปีก่อน สถานที่แต่ละแห่งก็มีธรรมเนียมการแต่งงานที่แตกต่างกันออกไป บางที่ก็อาจจะแปลกไปบ้าง แต่ผู้คนจำนวนมาก ก็ยังคงยินดีที่จะสืบสารธรรมเนียมนั้นต่อไป และวันนี้เหมียวจะพาไปชม 17 ธรรมเนียมการแต่งงานแบบแปลกๆจากทั่วโลก รู้แล้วจะเงิบอย่างแน่นอน ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1. ถ้าคุณต้องไปแต่งงานในประเทศสวีเดน คุณอย่าไปเข้าห้องน้ำระหว่างงานเชียวล่ะ เพราะถ้าเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวคนใดคนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำ คนที่ในงานสามารถจูบเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวที่ยืนรออยู่ในงานได้เลย 2. ในประเทศเยอรมันนี เราต้องซื้อจานให้คนที่เพิ่งแต่งงานกัน จากนั้นพวกเขาจะฟาดจานนั้นให้แตก เพื่อไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไป 3. ในประเทศจีน ตามประเพณี Tujia เจ้าสาวจะต้องร้องไห้อย่างน้อยๆวันละหนึ่งชั่วโมงเป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนการแต่งงาน และพอถึงวันจริง ก็ต้องร้องไห้อย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย ว่ากันว่า มีเหตุการณ์แม่ทำร้ายลูกสาว เพราะว่าไม่ยอมร้องไห้ในวันแต่งงานด้วย เอากับเค้าสิ! 4. ตามธรรมเนียมไอริช ขณะที่เจ้าสาวเต้นกับเจ้าบ่าว ห้ามเท้าลอยเหนือพื้นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะมีธิดาปีศาจมากินเธอไป 5. ตามธรรมเนียมของชาว Polynesian ครอบครัวของเจ้าสาว จะต้องนอนคว่ำหน้าลงบนพื้น เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้เดินเหยียบหลังพวกเขาไป เปรียบเป็นดั่งสะพานที่จะพาข้ามไปยังชีวิตใหม่ 6. หมู่บ้านแอฟริกันบางหมู่บ้าน แม่ของเจ้าสาวสามารถเข้าไปนั่งแบบริงไซด์ในคืนเข้าหอได้ และบางครั้งก็สามารถสอนเจ้าสาวเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงได้แบบถึงพริกถึงขิง 7. ตามธรรมเนียมของเผ่า Tidong บนเกาะบอเนียว ประเทศอินโดนีเซีย…