Tag: ธุรกิจ
-
สาวฝรั่งเช่ารถมอไซค์อ้างว่าขับเป็น แต่พลาดท่าบิดลงคูเมือง ชาวเน็ตชี้ต้องจัดระเบียบจริงจัง!!
ตามจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวในแต่ละภาค นอกเหนือจากจะมีนักท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว จะมีจำนวนชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวหมุนเวียนกันตลอดทั้งปีเช่นกัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัว ธุรกิจเช่ารถจักรยานยนต์จึงเกิดขึ้นอยู่ตามมุมเมืองต่างๆ เป็นจำนวนมาก ล่าสุดเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจากเพจ จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com เมื่อชาวต่างชาติทำการเช่ารถจักรยานยนต์จากร้านเช่า ซึ่งทางพนักงานร้านได้ทำการสอบถามเบื้องต้นแล้วว่า สามารถขับได้จริงหรือไม่ และลูกค้าต่างชาติรายดังกล่าวตอบว่า ‘ขับได้’ ผลปรากฏว่ายังไม่ทันพ้นออกจากร้าน รถจักรยานยนต์คันที่ปล่อยเช่าก็พุ่งลงเข้าสู่ใจกลางคูเมืองเชียงใหม่ ทางด้านพนักงานร้านเช่ารถจึงรีบลงน้ำไปช่วยเหลือสาวฝรั่งรายนี้ พร้อมกับนำรถจักรยานยนต์กลับขึ้นฝั่ง… โชคดีที่นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรมากนัก สภาพของรถจักรยานยนต์เบื้องต้นเบาะไม่สามารถปิดได้ กระจกมองหลังด้านขวาได้รับความเสียหาย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับนักท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากการสนทนาจบลง เธอก็เดินกลับไปยังร้านเช่ารถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ความคิดเห็นจากชาวเน็ตนั้น ได้มองไปในประเด็นของระเบียบการจัดการร้านเช่ารถอย่างจริงจัง เนื่องจากร้านส่วนใหญ่ปล่อยให้เช่าง่ายๆ ไม่มีการตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่ ไม่มีมาตรฐานการให้เช่า . . . . รวมไปถึงประเด็นการหัดขี่รถจักรยานยนต์จากการเช่าครั้งแรก อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่น . หากไม่มีการจัดระเบียบอย่างจริงจัง ปัญหาดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีจบสิ้น ที่มา: จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com
-
หนูน้อย 12 ขวบถูก “แจ้งจับ” เพราะรับจ้างตัดหญ้า แต่ดันตัดไปโดนสนามหญ้าบ้านข้างๆ?
เมื่อเด็กๆ หันมาสนใจในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แน่นอนว่าเด็กๆ เหล่านั้นควรได้รับคำชื่นชมและคำแนะนำที่จำเป็นให้เด็กๆ มีพฤติกรรมที่ดีอยู่เสมอ แต่เหตุการณ์นี้ หนูน้อยอายุ 12 ปี กลับต้องถูกผู้ใหญ่โทรแจ้งตำรวจเพราะเกิดข้อผิดพลาดขณะที่ทำธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าหน้าบ้าน เจ้าหนูน้อย Reginald Fields วัย 12 ปี ได้เปิดธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าที่ชื่อว่า Mr. Reggie Lawn และขณะที่กำลังตัดหญ้าให้กับบ้านของ Lucille Holt ที่อยู่ในรัฐโอไฮโออยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของ Lucille ว่าเจ้าหนู Reggie ได้ตัดหญ้าไปถูกบางส่วนของสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา แต่โชคดีที่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับเจ้าหนู เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Lucille จึงได้บันทึกเป็นภาพวิดีโอเอาไว้และโพสต์มันลงไปบนเฟซบุ๊ก ซึ่งภายหลังมีผู้เข้าชมจำนวนมากเลยทีเดียว เมื่อเรื่องราวถึงหูของชาวเน็ต นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กิจการของเจ้าหนู Reggie เป็นที่สนใจและโด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ในคลิปวิดีโอจะได้ยินเสียงคุณ Lucille พูดว่า “ฉันคิดว่าฉันแบ่งเส้นเอาไว้ชัดเจนนะ ว่าส่วนไหนที่เป็นสนามหญ้าของบ้านฉัน บ้านนั้นโทรแจ้งตำรวจเพียงเพราะว่า เจ้าหนูดันตัดหญ้าไปถูกสนามหญ้าบ้านของเขา” “ใครกันที่ทำแบบนี้?” เธอถาม “ฉันโมโหมากในตอนนี้…
-
สัมภาษณ์เจาะลึกกับ Ram Man ธุรกิจสุดเฟี้ยวในเชียงใหม่ ถือกำเนิดมาได้อย่างไร!?
หลังจากที่ทีมงานแคทดั๊มบ์นิวส์ ของเราได้นำเสนอเรื่องราวของธุรกิจสุดเฟี้ยวในเชียงใหม่ Ram Man : ใช้ราม ทำอะไรก็ได้ ไปแล้ว ก็ทำให้เห็นว่ามันเป็นรูปแบบธุรกิจแบบง่ายๆ ที่เรานึกไม่ถึงมาก่อน แถมสโลแกนที่มีความธรรมด๊าธรรมดาและภาพของคนส่งของที่มักจะสวมเสื้อยีนส์สีน้ำเงิน และหมวกคู่ใจที่โพสต์ผ่านหน้าเพจมันก็ชวนให้เราอยากจะทำความรู้จักกับรามแมน เพิ่มมากขึ้นไปอีก และในบทความนี้เอง #เหมียวหน่า และ #เหมียวหง่าว ก็ได้ร่วมมือกันติดต่อขอสัมภาษณ์พี่รามแบบเจาะลึกถึงที่มาที่ไปของธุรกิจสุดเฟี้ยวนี้มาฝากเพื่อนๆ กัน ชื่อของรามแมนมาจากอะไรคะ? ชื่อ รามแมน มาจากราม ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งรามแมน ส่วนคำว่าแมน ก็ได้มาจากไลน์แมน ที่ กทม. ครับ (แอปฯ ไลน์แมน) รามแมน ได้แรงบันดาลใจจาก ไลน์แมนครับผม ธุรกิจนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้รามเป็นคนที่มักจะโดนใช้งานจากเพื่อนๆ พี่ๆ ไปทำนั่นทำนี่อยู่บ่อยๆ ก็เลยนำจุดนี้มาทำเป็นงานเสริมครับ รามแมนมีทีมงานทั้งหมดกี่คนคะ? มีพี่อีกคนหนึ่งชื่อพี่กอล์ฟ ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง มาบอกว่า “รามมึงเกิดมาเพื่อเป็นเบ๊คนอื่น มึงเอาข้อนี้มาทำมาหากินเถอะ” ขอบเขตของรามแมนเป็นยังไงคะพี่ ประมาณไหน? ขอบเขตงานของรามแมนก็จะเป็นหลักๆ 5 อย่างครับ…
-
‘Ram Man : ใช้ราม ทำอะไรก็ได้’ ธุรกิจสุดเฟี้ยวในเชียงใหม่ มีเงิน ไม่มีเวลา ฝากรามได้!!
เพื่อนๆ ทุกคนคงจะมี ‘ความขี้เกียจ’ อยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งในจิตใจของตัวเอง ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน อย่างเช่นการจะออกไปซื้อของที่ไกลๆ ก็รู้สึกขี้เกียจ จะออกไปซื้อข้าวก็ขี้เกียจ จะเอาแมวไปหาหมอฉีดวัคซีน ก็ขี้เกียจ หรือบางครั้งจะไปจองโต๊ะที่ร้านเหล้าก็ยังขี้เกียจ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ ‘ธุรกิจ’ รูปแบบใหม่ ที่ต้องขอบอกเลยว่ามันซิมเปิล หรือง่ายมากๆ เพียงแต่ว่าเราคิดไม่ถึงว่ามันทำได้ก็เท่านั้นเอง ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ Ram Man : ใช้ราม ทำอะไรก็ได้ ที่มาพร้อมกับสโลแกนว่า ‘มีเงิน ไม่มีเวลา มีปัญหา ใช้รามแมน’ เป็นธุรกิจที่เพื่อนๆ สามารถฝากให้รามแมนเนี่ย ทำอะไรก็ได้ จะฝากซื้อของ ฝากไปส่งที่ร้านข้าว ฝากซื้อข้าว ฝากไปทำธุระให้ ไปส่งของที่เคอร์รี่ หรือแม้กระทั่งให้ไปจองโต๊ะที่ร้านเหล้าก็ทำได้!! โดยค่าบริการเบื้องต้นทราบว่าคิดจากระยะทางโดยใช้ระยะทางใน Google Map เป็นตัวกำหนด (ในกรณีที่เป็นการใช้บริการฝากซื้อข้าว หรือส่งของ) ส่วนการฝากซื้อของก็จะมีการคิดค่าบริการเป็นชิ้น และมีการกำหนดว่าจะซื้อกี่ชิ้น หากมีเกินที่กำหนดก็จะคิดค่าบริการเพิ่ม เอาล่ะ เราลองมาดูรีวิวของเหล่าลูกค้าที่เคยใช้บริการกันบ้าง ว่าเขาคิดอย่างไรกับรามแมนกันบ้าง!?…
-
ดราม่ารายการธุรกิจดัง โดนแฉเอาร้อยล้านไม่จริงมาออก ขอเพียงจ่าย 1 ล้านเท่านั้น!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้กับกรณีของเพจเฟซบุ๊กได้ออกมาแฉเบื้องหลังของรายการรายการหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เรื่องมีอยู่ว่าเพจ สงครามโค้ชออนไลน์ ครูชัยขี้โม้ vs โค้ชแก่ขี้แซะ ได้ทำการโพสต์สเตตัสแท็กไปยังรายการเพื่อเผย เบื้องลึกเบื้องหลังว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีรายได้ถึง 100 ล้านจริงๆ!? เอ แล้วยังงี้มันก็ผิดคอนเซ็ปต์ของรายการล่ะสิเนี่ย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขาเผือกอย่างเราๆ ต้องออกแรงสืบกันสักหน่อยแล้วล่ะ!! แถมมีค่าออกรายการถึง 1 ล้านบาทด้วย และ 10% จะถูกหักไปให้กับเจ้าของรายการอีกต่างหาก และที่สำคัญจุดประสงค์ของการออกรายการก็คือการสร้างภาพเพื่อใช้ผลประโยชน์เชิงธุรกิจ ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “อายุน้อยร้อยล้าน รายการนี้ ค่าออกรายการ 1 ล้านบาทนะคะ ยังไม่รวมอย่างอื่น ใครแนะนำให้ บอสใหญ่ที่นามสมมติว่า “ก้อง” ก็จะได้ค่า commission 10% หรือ ประมาณ 100,000 บาท ใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1-3 เดือน เอาไว้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ตอนนี้มีสายข่าวหลายสาย กำลังส่งทีมงานไปตรวจสอบ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งนะคะ จุดประสงค์ คือ ลงทุนเอาไว้สร้างภาพ แล้วเอาภาพมาใช้ผลประโยชน์เชิงธุรกิจอีกครั้ง บางคนลงไป 1…
-
ธุรกิจแนวใหม่!? บริการให้เช่า “ค่าสินสอด” จัดให้ทั้งเงินสด ทองคำแท่ง และรถยนต์สุดหรู
การแต่งงานคงเป็นพิธีที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คน แน่นอนว่า เมื่อเรามีคนรักเราย่อมต้องการที่จะแต่งงานกับคนคนนั้น แต่บางครั้งปัญหามันก็อยู่ที่ “ค่าสินสอด” ที่มีมูลค่าแตกต่างกันไปตามแต่ละครอบครัวของเจ้าสาว บางครั้ง ค่าสินสอดมันก็สูงเกินไปจนทำให้ฝ่ายชายต้องเหนื่อยหน่ายหัวใจ กับการหาค่าสินสอดมาขอลูกสาว สิ่งที่ต้องการก็เพียงแค่จะแต่งงานด้วยก็เท่านั้น… แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561 เฟซบุ๊กเพจหนึ่งเปิดตัวขึ้นมาดังสนั่นโซเชียล ด้วยการทำธุรกิจ บริการให้เช่าสินสอด จะไม่ดังได้เยี่ยงไรก็เมื่อเล่นมาแหวกแนวขนาดนี้ ธุรกิจชนิดใหม่เอี่ยม ที่จะเสนอบริการให้เช่าค่าสินสอดทองหมั้น ทั้งเงินสด ทองคำ และรถหรู เพื่อใช้ถ่ายภาพ หรือใช้แสดงในงานพิธีวิวาห์ไม่ให้น้อยหน้าใครต่อใคร แล้วถ้าเช่า ราคาจะถูกกว่าซื้อมากไหม? เราลองมาดูอัตราค่าเช่ากัน… – ทองแท่งหนักแท่งละ 10 บาท ค่าเช่าแท่งละ 10,000 บาท – ทองแท่งหนักแท่งละ 50 บาท ค่าเช่าแท่งละ 40,000 บาท – ทองแท่งหนักแท่งละ 100 บาท ค่าเช่าแท่งละ 70,000 บาท –…
-
ธุรกิจมาแรง ‘เช่าเจ้าบ่าวและแขกเหรื่อ’ กลวิธีหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ของสาวโสด ในสังคมเวียดนาม
ท่ามกลางสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเจริญทางด้านวัตถุที่กำลังก้าวหน้าไปไม่สิ้นสุด แต่กลับกันประเพณีตามสังคมในหลายๆ ประเทศ ยังคงถูกรักษาและปฏิบัติตามธรรมเนียมเดิมอยู่ และหากพูดถึงการแต่งงาน โดยหลักแล้วก็จะต้องเป็นคู่บ่าวสาวที่มีความรักให้แก่กัน และตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งในประเทศเวียดนามกลับมีบางสิ่ง ที่เริ่มแตกต่างออกไปในรายละเอียดจุดนี้ เว็บไซต์ Straitstimes รายงานว่า ผู้หญิงในประเทศเวียดนามนั้นนิยมจัดฉากการแต่งงาน โดยเลือกใช้บริการจากธุรกิจ ‘เจ้าบ่าวให้เช่า’ เนื่องจากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์และความอัปยศ ที่จะตีตราว่าเป็นหญิงนอกสมรส หรือมีลูกก่อนแต่ง ความนิยมในธุรกิจดังกล่าวนั้น สามารถทำสร้างกำไรให้กับผู้ให้บริการอย่างคาดไม่ถึง แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่หญิงแม่ลูกเดี่ยวก็ยังคงเลือกที่จะจ่าย เพราะไม่อยากตกเป็นที่วิจารณ์ของผู้คนในสังคม และเพื่อไม่ให้ปัญหาการทำแท้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ธุรกิจดังกล่าวจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ อันเป็นทางเลือกให้กับผู้หญิงที่ต้องการจะเลี้ยงลูกของตน และไม่อยากจะทำให้ตัวเองและครอบครัว ได้รับความอับอายจากความผิดพลาด การจัดฉากแต่งงานเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ตราบใดที่ไม่มีเรื่องของการจดทะเบียนสมรสเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนการจ้างนักแสดงมาสวมบทบาททั่วไป นาย Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและให้บริการในธุรกิจดังกล่าว Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ให้บริการธุรกิจเช่า เผยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท และ 130,000 บาท สำหรับแพคเกจเต็มรูปแบบ โดยที่ผ่านมาเขาเคยจัดงานแต่งปลอมมากว่า…
-
พลังโซเชียล… สาวทวีตให้คุณพ่อผู้พิการแค่ครั้งเดียว พลิกงานอดิเรกเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้!!
บางครั้งโลกโซเชียลก็สามารถสร้างเรื่องราวดีๆ ได้มากกว่าที่คุณคิด… เฉกเช่นเดียวกันกับเด็กสาววัย 17 ปี ที่ได้บังเอิญสร้างธุรกิจให้กับคุณพ่อผู้พิการของตัวเอง จากการแชร์โพสต์เพียงแค่โพสต์เดียวเท่านั้น!! คุณ Christopher Gonzales พ่อหม้ายลูกสองจากเมือง Las Vegas ที่ต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะเขาประสบกับอุบัติเหตุในขณะทำงานเป็นพนักงานที่ไซต์ก่อสร้างเมื่อหลายปีก่อน คุณ Christopher ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจากการตกลงมาจากตึกชั้น 5 ทำให้ร่างกายบางส่วนกลายเป็นอัมพาตไป จากการบาดเจ็บในครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถทำงานอื่นๆ ได้ และต้องคอยรับเงินจากประกันสังคมเพียงอย่างเดียว อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของ Christopher มีเวลาว่างมากยิ่งขึ้น เขาเริ่มหันมาสนใจทำงานอดิเรกอย่างการวาดภาพ ทาสี และ งานไม้ในโรงรถแทน “วันหนึ่งผมเห็นภาพงานแกะสลักโลโก้แบรนด์กีฬา แล้วก็คิดขึ้นมาในใจว่า ‘แบบนี้เราก็ทำได้’ ผมก็เลยเริ่มลงมือทำมาตั้งแต่ตอนนั้น” Christopher เล่า พอเริ่มทำไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ โดยเริ่มแรกก็เป็นคนในครอบครัว จากนั้นเรื่องราวก็ถูกนำไปบอกต่อๆ กัน จนกลายเป็นอาชีพเล็กๆ ที่สร้างรายได้ต่อเดือนพอประทังชีวิต งานแต่ละชิ้นที่ Christopher ทำนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 9 ชั่วโมง เขาเล่าว่ามันค่อนข้างลำบาก…
-
5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018
จากกรณีที่พี่ Mark Zuckerberg เจ้าของเฟซบุ๊กได้ทำการปรับเปลี่ยนระบบการแสดงผลที่หน้านิวส์ฟีด ให้มีการโชว์คอนเทนต์หรือโฆษณาของแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ให้แสดงผลน้อยลง ส่งผลให้โอกาสในการหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ ลดลงไปเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากมาย เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ใช้เฟซบุ๊กเป็นพื้นที่ในการทำโฆษณาแทบทั้งสิ้น!! แล้วเราจะมีวิธีอยู่รอดได้อย่างไร!? หากสูญเสียพื้นที่ในการโฆษณาและหาลูกค้า วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคำแนะนำจากบทความของเว็บไซต์ Socialmediatoday กันครับ ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่พี่ Mark เค้าทำไป จริงๆ ก็เป็นการรับมือกับปัญหาที่เฟซบุ๊กได้เผชิญมายาวนานหลายปี ซึ่งปัญหานั้นก็คือเหล่าคอนเทนต์ด้อยคุณภาพจากแบรนด์ต่างๆ อย่างเช่น Click Bait หรือการ Engagement Baiting (การเรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมโดยการให้กดไลก์กดแชร์) และเมื่อมองในมุมนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เหล่าแบรนด์ต่างๆ จะหันมาพัฒนาคอนเทนต์การโฆษณา หรือวิธีการหารายได้ด้วยวิธีที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีความเห็นจากนาย James Whatley ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของบริษัท Ogilvy UK ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “หากคุณเป็นสำนักพิมพ์หรือทำคอนเทนต์โฆษณาที่ผลิตแต่ผลงานดีๆ น่าสนใจและมีคุณภาพอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่านี่คือโอกาสทองของพวกคุณ” ฉะนั้นการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊กไม่ได้เป็นจุดจบทุกอย่างของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเล็กแค่ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้น!! นั่นหมายความว่า เราจะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงที่เฟซบุ๊กได้วางเป้าหมายเอาไว้ ถ้าหากคุณยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นพื้นที่หลักในการเข้าถึงลูกค้าอยู่ล่ะก็นะ… แล้วเราจะต้องทำอะไรกันบ้าง!? เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากลำบากมากๆ เพราะคุณจะยอมทิ้งเฟซบุ๊กที่มียูสเซอร์มากถึง 2 พันล้านยูสเซอร์ไปเหรอ?…
-
หนุ่มลาออกจากงานประจำ มาขาย ‘เหรียญหายาก’ ใน eBay ทำรายได้ปีละ 3 ล้านบาท!!
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อเขาผันตัวจากคนงานก่อสร้าง มาเป็นนักลงทุนที่ทำรายได้มากถึง 70,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3 ล้านบาทต่อปี โดยการขายเหรียญหายากลงใน eBay James Grear จากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ได้กลายมาเป็นผู้จัดจำหน่ายเหรียญกับเพื่อนของเขาที่ชื่อ Harry เมื่อพวกเขาอายุ 18 ปี และต้องการที่จะหารายได้เพิ่มเติม จากเดิมที่เขาได้รับ 9 ปอนด์ หรือประมาณ 400 บาทต่อชั่วโมง จากงานก่อสร้าง พวกเขาได้ไอเดียสำหรับบริษัทของเขาจากการที่เขาเห็นเหรียญ 50 เพนนี จากปี 2011 ที่ขายได้ราคาสูงถึงแปดเท่าจากราคาเดิมใน eBay ในช่วงแรกนั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเหรียญที่หายากมามากพอที่จะขายได้ เนื่องจากมีงบประมาณจำกัดที่ 100 ปอนด์ และไม่สามารถหาผู้สนับสนุนทางด้านการเงินได้ บริษัทที่เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2017 ก็มีรายได้ประมาณ 50,000-70,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.5-3.5 ล้านบาท ด้วยการขายเหรียญแบบกำหนดราคาโดยไม่ต้องประมูล Grear บอกว่า “ผมนั่งคัดแยกเหรียญทุกๆ เหรียญตั้งแต่เริ่ม ผมได้เรียนรู้ว่าเหรียญแบบไหนเป็นเหรียญที่ดี…
-
ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม
ในประเทศญี่ปุ่น การสืบทอดธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นคือผู้ที่จะมารับมรดกนั้นไปได้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น แล้วถ้าบ้านไหนมีแต่ลูกสาวล่ะจะทำยังไง? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการรับชายวัยผู้ใหญ่เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม จากเหตุผลที่ว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเลือกที่จะมีลูกแค่คนเดียว ทำให้ครอบครัวเจ้าของธุรกิจจำนวนมากขาดทายาทผู้ชายที่จะเข้ามาสืบทอดกิจการของพวกเขา จึงได้เกิดวิธีการรับผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 หรือ 30 ปีเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อรับมรดกนั้นไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น สังเกตได้จากสถิติการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในปี 2016 ที่สูงถึง 81,000 คน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้นเป็นการรับเลี้ยงผู้ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ามีแค่ลูกสาว เพราะบางครอบครัวที่มีลูกชายก็ยังคงใช้วิธีรับเลี้ยงผู้ใหญ่บุญธรรมเข้ามา เพราะว่าลูกชายของพวกเขาอาจไม่มีประสิทธิภาพหรือความรับผิดชอบที่มากพอในการรับธุรกิจของครอบครัวไปดูแล หนึ่งในบุตรบุญธรรมที่ถูกรับเลี้ยงมาให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีหน้าที่ในมรดกนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกสาวของครอบครัวจะได้รับการสั่งสอนและอบรมมาอย่างดีเกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็จะได้แต่งงานกับบุตรบุญธรรมที่รับเข้ามาสืบทอดธุรกิจนั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถช่วยกันบริหารได้อย่างดี เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับการคลุมถุงชนหรือเปล่า? จากคำตอบของ Chieko Date ผู้ทำการจับคู่ในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปีได้บอกเอาไว้ว่า ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้มาเจอกัน ครอบครัวเจ้าของธุรกิจที่มาใช้บริการกับเธอจะเป็นคนกำหนดความต้องการทุกอย่างว่าอยากได้บุตรบุญธรรมที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าไม่มีหนี้สินติดตัวมาและต้องไม่เป็นเกย์ จากนั้นลูกสาวของพวกเขากับชายหนุ่มถึงจะได้มาเจอกัน และหากว่าพูดคุยกันไม่ถูกคอ ก็สามารถทำการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมคนนี้เพื่อหาคนใหม่ได้ จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานกันในที่สุด โดยการแต่งงานนั้นฝ่ายชายจะต้องเป็นคนเปลี่ยนนามสกุลเพื่อการสืบทอดธุรกิจของครอบครัวฝ่ายหญิงต่อไป Chieko Date…
-
หนุ่มสร้างสะพานให้แมวข้าม แต่กลับได้รับความนิยม และกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้กับเขา!!
บางครั้งจุดเริ่มต้นของธุรกิจบางอย่างก็มาจากความชื่นชอบส่วนตัว และเกิดการต่อยอดจนกลายเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับคุณได้ และเรื่องราวของคุณ CatastrophiCreations ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ Boredpanda เองก็เช่นกัน เมื่อมันเขาได้เริ่มออกแบบของเล่นให้กับเจ้าเหมียวของเขา และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับเขา!! อ่า… สบายจริงๆ เลยนะเหมียว!! คุณ CatastrophiCreations ชายหนุ่มผู้แพ้ขนแมวอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามชีวิตของเขากลับต้องมีเจ้าเหมียววนเวียนเข้ามาตลอด หลังจากที่ได้รู้จักกับแฟนสาวผู้หลงรักแมวและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกับแมวมากเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะเอาใจเจ้านายของเขาโดยการมองหาของเล่นน่ารักๆ สำหรับพวกมัน ชายหนุ่มอยากได้ของเล่นที่แปลกใหม่สำหรับเจ้าเหมียว เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ทักษะช่างไม้ที่ร่ำเรียนมาสร้างสะพานเล็กๆ ไว้ในอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาเพื่อให้เจ้านายได้เดินเล่นไปและปีนป่าย “เราสร้างสะพานพวกนี้มาเพื่อให้เจ้าเหมียวได้เดินเล่น เราพยายามออกแบบให้แปลกใหม่และในที่สุดเราก็ได้ของเล่นแมวติดผนังสุดเจ๋งออกมา และดูเหมือนว่าพวกแมวของเราจะชอบมันเอามากๆ ด้วย” ชายหนุ่มกล่าว สะพานแมวของคุณ CatastrophiCreations นั้นมีการออกแบบที่สวยงาม เขาลองนำมันไปขายในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และได้รับความนิยมอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ตอนนี้ของเล่นแมวของเขากลับได้รับความนิยมอย่างมาก และมันก็ทำเงินให้กับเขาได้ดีเลยทีเดียว ชายหนุ่มพยายามปรับปรุงการออกแบบสะพานแมวของเขา และทำให้มันมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า และนอกจากจะเป็นสะพานแล้ว บางครั้งมันก็ยังกลายเป็นที่นอนของเจ้าเหมียวอีกด้วยนะ!! . . . เค้าให้เดินข้าม โถ่พี่เหมียวพี่!! . “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้คือความฝันของผม ผมมักจะตื่นขึ้นมาจามตอนกลางคืนเพราะอาการแพ้ขนแมว ผมรักเจ้าเหมียวทั้ง 3 ตัวของผมมากๆ…
-
พาชมร้าน “ไม้จิ้มฟัน” เก่าแก่ ยืนหยัดทำธุรกิจมาตั้งแต่สมัยเอโดะ จนถึงปัจจุบันก็ยังขายเหมือนเดิม!?
แม้ว่าคุณจะได้เห็นตึกระฟ้าสูงตระหง่าน และเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? บนถนนในกรุงโตเกียวนั้น ยังเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายที่ยังคงเก็บรักษาประเพณีอันเก่าแก่เอาไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Nihonbashi Saruya ร้านขายไม้จิ้มฟันเล็กๆ ที่มีมานานกว่า 300 ปี โดยถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (กรุงโตเกียวในปัจจุบัน) เมื่อปี 1704 สำหรับร้านขายไม้จิ้มฟันดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นมายุคที่ Tokugawa Tsunayoshi โชกุนคนที่ 5 แห่งตระกูลโทะกุงะวะ ซึ่ง โทะกุงะวะ สึนะโยะชิ กำลังเป็นผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น และถึงแม้ว่าจะมีหน้าร้านที่ดูทันสมัย แต่ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่าน Nihonbashi ของกรุงโตเกียวซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ที่ขายไม้จิ้มฟันแบบดั้งเดิมมากมาย ไม้จิ้มฟันดังเดิมของทางร้าน มักจะถูกนำมาใช้ใน “พิธีชงชาของญี่ปุ่น” เพื่อที่จะได้รับรสหวานของชาเขียว และผงชาเขียว โดยจะมาในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกัน สำหรับไม้จิ้มฟันที่ขายในร้าน Saruya ส่วนใหญ่จะเป็นแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “kuromoji” ถูกทำขึ้นจากไม้ Lindera umbellata หรือ Spicebush มาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยหนึ่งในไม้จิ้มฟันที่ขายดี…
-
18 ภาพห้างร้างและปิดตัวลง หรือนี่จะเป็น “ยุคล่มสลาย” ของธุรกิจค้าปลีกอเมริกันแล้วจริงๆ!?
ดูเหมือนว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ดูจะชะลอลงเรื่อยๆ ละส่งผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกหลายๆ แห่งในประเทศถึงกับต้องปิดตัวลง จากการรายงานพบว่า ภายในสิ้นปี 2017 มีแนวโน้มที่บริษัทธุรกิจค้าปลีกต่างๆ อย่าง Macy’s, Sears หรือแม้แต่ JCPenny จะต้องปิดตัวลงรวมแล้วมากถึง 6,400 สาขาทั่วประเทศ หรือนี่จะมาถึงยุคล่มสลายของระบบธุรกิจค้าปลีกในอเมริกา..!? ทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายจากห้างสรรพสินค้า ที่ก่อนหน้านี้เคยเต็มไปด้วยผู้คนและการจับจ่ายใช้สอย ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในยุคที่ผู้คนสั่งซื้อของผ่านออนไลน์ได้ จำนวนคนที่มาเดินห้างก็ย่อมน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากปี 2010 – 2013 บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ได้วิเคราะห์มาแล้วว่า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เริ่มทยอยปิดตัวลงไปแล้วมากถึง 50% เช่นที่ Chicago’s Lincoln Mall ที่เปลี่ยนสภาพจากห้างสรรพสินค้าสุดหรู ให้กลายเป็นตึกร้างขนาดใหญ่ แน่นอนว่าการที่ห้างสรรพสินค้าจะปิดตัวลงได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยการเข้ามาเช่าล็อคเปิดร้านของบริษัทสินค้าต่างๆ เมื่อไม่มีผู้ซื้อ ก็ไม่มีผู้เช่า และเมื่อไม่มีผู้เช่า จากตึกที่เคยสวยหรูก็กลายเป็นขยะของเมืองได้เพียงชั่วข้ามคืน สุดท้ายก็เหลือเพียงแต่พื้นที่ว่างเปล่า ที่เต็มไปด้วยมืดมนและดูหลอนแบบแปลกๆ ห้าง Regency Square…
-
ผู้เชี่ยวชาญศึกษาเหล่า “เศรษฐีอายนุ้อย” เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อไขเคล็ดลับว่า พวกเขามีอะไรเหมือนกัน!?
ในยุคปัจจุบันเรามักจะเห็นหนุ่มสาวมากมายที่ประสบความสำเร็จกันตั้งแต่อายุน้อยๆ หลายคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีกันตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปีก็มีให้เห็นอยู่มากมาย และแน่นอนว่าพวกเราก็คงอยากจะรู้กันใช่ไหมล่ะว่าวัยรุ่นเหล่านั้นเค้ามีเคล็ดลับอะไรกันนะ?? เมื่อไม่นานมานี้คุณ Thomas C. Corley นักข่าวจาก ฺBusinessinsider ได้สัมภาษณ์เศรษฐีอายุน้อยถึง 233 คน และมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์นั้นสามารถสร้างทรัพย์สินขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเศรษฐีแต่ละคน ที่เข้ามารับการสัมภาษณ์นั้น มีรายได้ขั้นต่ำต่อปีมากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป และมีทรัพย์สินมากถึงหนึ่งหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว!! คุณ Thomas กล่าวว่าเขาได้เรียนรู้จากเศรษฐีหลายๆ คนว่าการประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และคุณลักษณะนิสัยก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายๆ คนมีนั่นก็คือ นิสัยของการมองไปที่อนาคต นั่นเอง การตัดสินใจและการเลือกทำอะไรบางสิ่งบางอย่างจะส่งผลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของพวกเขา และการเสียสละบางสิ่งบางอย่างในปัจจุบัน เพื่อผลลัพธ์ในอนาคตนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย และอาจต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด บางครั้งพวกเขาอาจจะต้องเสียสละความสุขในปัจจุบันอย่างเช่นการใช้จ่าย การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง พวกเขาเลือกที่แลกเพราะว่ามันจะได้ในสิ่งที่คุ้มค่า การเลือกที่จะประสบความสำเร็จนั้นคุณจำเป็นจะต้องออกจากพื้นที่ปลอดภัย คุณจะต้องเอาชนะอุปสรรค์มากมายที่เข้ามา และอาจจะมีหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามแผนของคุณ สิ่งที่คุณกำลังตั้งใจอยู่ในทุกวันนี้ส่งผลกระทบกับอนาคตคุณหรือไม่ และสิ่งที่คุณกำลังจะตั้งใจผ่านมันไปให้ได้ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ มันส่งผลกับอนาคตในระยะยาวของคุณอย่างไร?? สำหรับใครที่กำลังพุ่งเป้าไปที่วันพรุ่งนี้ และเดิมพันกับความสำเร็จในอนาคตของคุณ ซึ่งสิ่งที่ใช้ในการเดิมพันกับอนาคตนั้นอาจจะเป็นเงิน เวลา หรือความสุขทางใจ คุณ Thomas กล่าวว่าเหตุผลที่ทำให้คนส่วนน้อยก้าวขึ้นมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและเป็นคนที่ร่ำรวยนั้นก็เพราะว่าพวกเขากล้าที่จะวางเดิมพันเพื่ออนาคตตัวเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วเดิมพันที่ว่านี้อาจจะไม่ใช่เงินที่คุณต้องจ่ายเพียงอย่างเดียว แต่มันคือสิ่งที่คุณแลกมันเพื่อความฝันของตัวเองและเพื่อทำให้ฝันนั้นเป็นความจริงในที่สุด…
-
เมื่อตัวละครใน ‘GOT’ ต้องทำธุรกิจเล็กๆ หลังจบสงครามเพื่อประทังชีวิต โถ่ว..อนาถาแท้
การทำสงครามแต่ละครั้งนั้นใช้เงินไม่ใช่น้อยๆ เลย ที่เราเห็นๆ กันในซีรีส์ Game of Thrones นี่ก็ใช่ว่าจะฟรีนะ อย่างเซอร์ซี่ก็ต้องไปกู้ไออ้อนแบงค์ ส่วนจอน สโนว์ ก็อาจจะต้องกู้กยศ. ไปก่อน แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยล่ะว่า หลังสงครามชิงบัลลังก์จบลงแล้ว พวกตัวละครแห่งเวสเตอรอสเหล่านี้จะไปทำมาหากินอะไรกันต่อ ก็แหม.. นอกจากเอาดับฟันกับแย่งบัลลังก์แล้วเราก็ไม่เคยเห็นพวกพี่เค้าทำมาหากินกันจริงๆ จังๆ ซักที และสภาพของตัวละครหลังจบสงครามทั้งหมดที่เราจะได้เห็นนี้ เป็นผลงานการตัดต่อสุดฮาของเพจ 青红造了个白 จนกลายเป็นความฮาที่อดไม่ไหวต้องส่งต่อให้ได้ดูกัน นี่แหละสภาพของคิงออฟเดอะนอร์ท มันช่างไม่ง่ายเอาซะเลย โถ๊วว แม่มังกรมาขายขนมเหรอ ช่วยกันทำมาหากินดีเนอะ สำหรับทีเรี่ยน ถ้าให้ออกมาหางานทำเองนอกตระกูลแลนนิสเตอร์ มันก็จะลำบากแบบนี้หน่อยๆ อ่ะนะ เอ๊าาาแม่คู๊ณณ แหม่.. โลละเท่าไหร่กันล่ะเนี่ย ซานซ่าบอกว่า เมื่อครอบครัวระหกระเหินเธอก็ต้องออกมาหาอาชีพทำเหมือนกัน ส่วนอาร์ยาก็ดูจะแฮปปี้มีความสุข อิ่มหมีพลีมันซะ แบรนก็เลือกที่จะใช้ความสามารถพิเศษไปกับการอ่านใจลูกค้า (แล้วเอ็งขายอะไรละนั่น!?) ลื้อจะเอาม๊ายย นี่อั๊วะเอาของดีมาฝากจากเมืองนอกเลยนาาา นี่ก็ชิวเกิ๊นนนน ฮ่าๆๆ ลอร์ดวาริสก็ไม่ได้ไปไหนไกล…
-
ชี้ช่องรวย!! คุณป้าวัย 59 ปี ทำธุรกิจขายเยลลี่ผสมกัญชา สร้างรายได้งามทั้งหวานทั้งเมา
เรื่องราวของคุณป้า Nancy Whiteman วัย 59 ปีที่กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจยอดขายปีละ 30 ล้านบาทโดยบังเอิญ หลังจากที่เธอเริ่มต้นธุรกิจขนมหวานผสมกัญชาของตัวเองในรัฐ โคโลราโดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณป้าเจ้าของแบรนด์ Wana เปิดเผยว่า เธอเข้าสู่ธุรกิจนี้โดยบังเอิญ และเริ่มกิจการของเธอเมื่อปี 2010 หลังจากที่รัฐโคโลราโดโด ได้ทำการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย คุณป้า Nancy และผลิตภัณฑ์ขนมหวานแสนอร่อยของเธอ ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่บ้านเกิดของเธอเริ่มเปิดใจเกี่ยวกับหญ้ามหัศจรรย์นี้ และมีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา คุณ Nancy จึงเริ่มมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจของเธอ คุณป้าคิดว่าของหวานน่าจะเป็นสิ่งที่น่าจะพัฒนาต่อยอดได้หลังจากที่กัญชาถูกกฎหมายแล้ว ขนมหวานของบริษัทเธอนั้นมีมากมายหลายประเภท ทั้งเยลลี่ ช๊อกโกแลต และลูกอม โดยแต่ละชนิดนั้นจะมีส่วนประกอบของสาร THC (Tetrahydrocannabinol) ในระดับที่แตกต่างกัน โดยคาดว่าสิ้นปี 2017 นี้ แบรนด์ขนมหวานกัญชา Wana ของคุณป้า จะมียอดขายสูงถึง 12,000,000 ดอลลาร์หรือประมาณเกือบๆ 400,000,000 บาทเลยทีเดียว และตอนนี้สินค้าของเธอมีวางขายในรัฐโคโลราโด ออริกอน เนวาดา และกำลังขยายตลาดไปในรัฐที่กัญชาถูกกฏหมายอย่างเช่นในรัฐแมสซาชูเซตส์, แอริโซนา และ อิลลินอยส์ ในรัฐโคโลราโดนั้นผู้ที่มีอายุมากกว่า…
-
พาไปชม!! ร้านหนังสือในประเทศจีน สวยงามจนถูกเรียกว่า ‘ดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนังสือ’
ในทุกวันนี้การแข่งขันทางธุรกิจกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าและบริษัทหลายๆ แห่งต่างงัดทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการ จุดเด่นและเอกลักษณ์ของร้านก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเรียกลูกค้าได้ และเรื่องราวที่เรานำมาฝากวันนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อร้านหนังสือร้านหนึ่งในประเทศจีน ได้ออกแบบร้านอย่างสวยงามและดูน่าสนใจมากๆ จนถูกเรียกว่าดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนังสือเลยทีเดียว!! ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้พาเหล่านักอ่านไปพบกับร้านหนังสื่อที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศจีนแล้ว (อ่านข่าวเก่า ร้านหนังสือเมืองจีน สร้าง ‘อุโมงค์หนังสือ’ แนวโมเดิร์นสุดล้ำ และมันสวยงามมาก!! ) และตอนนี้ร้านหนังสือชื่อดังของประเทศจีนอย่าง Zhongshuge ก็ได้เปิดร้านของพวกเขาอีกสาขาแล้วที่เมือง Suzhou ทางตะวันออกของมณฑล Jiangsu ภาพภายในของร้านหนังสือแห่งนี้ ถึงแม้จะเปิดสาขาใหม่ แต่บริษัท Zhongshuge ยังคงสร้างร้านสาขาของพวกเขาโดยคงคอนเซปต์เดิม นั่นก็คือความยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับความสวยงาม และทำให้ร้านหนังสือของพวกเขาเป็นเหมือนสวรรค์ของนักอ่าน ร้านสาขาในเมือง Suzhou นั้นมีพื้นที่ทั้งหมด 1,300 ตารางเมตร ภายในจะมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซนด้วยกันประกอบด้วย “Rainbow Valley”, “Firefly Cave”, “Crystal Palace” และ “Children’s Castle” สาขาที่เปิดใหม่แห่งนี้กำลังได้รับความนิยมจากเหล่านักอ่านในเมือง Suzhou อย่างมาก ไปชมความสวยงามของร้านหนังสือแห่งนี้กันเลย… . การตกแต่งที่สวยงามและทำให้ที่นี่เป็นร้านหนังสือที่น่าสนใจมากๆ . . . …
-
เด็กชาย 9 ขวบ หาเงินได้ 5 แสนบาทต่อปีจากการทำธุรกิจ เพื่อเอาไปซื้อ Apple Watch ที่อยากได้
น้อยคนนักที่จะสามารถประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจในขณะที่อายุยังน้อย นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าคุณไม่มีประสบการณ์มากพอ หรือไม่มีความรู้ในด้านธุรกิจเลย แต่สำหรับ Tadyn Flood เด็กน้อยคนนี้ คุณรู้หรือไม่ว่าเขาสามารถสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาได้ ขณะที่เขาอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น โอ้วววว!! แค่ฟังก็สุดยอดแล้ว ทางด้านเว็บไซต์เดลีเมล์ ได้เผยเรื่องราวของ Tadyn เด็กน้อยจากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยระบุว่า สิ่งที่ทำให้เขาได้สร้างธุรกิจของตัวขึ้นมา เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ Tadyn อยากได้นาฬิกา Apple Watch เป็นอย่างมาก แต่ทว่าแม่ของเขากลับไม่ซื้อให้ นั่นจึงทำให้เขาคิดหารายได้ เพื่อนำเงินมาซื้อนาฬิกาดังกล่าวนั่นเอง “ลูกชายของฉันใช้นาฬิกาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจของตัวเอง หลังจากฉันปฏิเสธที่จะซื้อให้เขา ฉันขับรถไปที่ตลาดในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อพาเขาไปขายเทียนหอม เราภูมิใจในตัวเขามาก” Jo-Ann Flood ผู้เป็นแม่กล่าว Tadyn ได้เริ่มเปิดตัวธุรกิจเทียนหอมของตัวเอง โดยได้สอนการทำเทียนหอมแบบแฮนด์เมดผ่านคลิปวีดีโอ จากนั้นก็นำไปโพสต์ลงใน Youtube ในช่วงแรกๆ ธุรกิจของเขาอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีผู้คนเริ่มรู้จัก และให้ความสนใจกับธุรกิจของเขามากขึ้น สำหรับเทียนหอมที่หนูน้อยได้ผลิตเองนั้น ได้ถูกนำมาวางจำหน่ายในราคา…
-
หนุ่มน้อยวัย 8 ขวบ กับตำแหน่งเจ้าของบริษัท ‘ขายไข่ไก่’ มีรายได้ปีละ 570,000 บาท!!
ไม่ว่าใครต่างก็ใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน…แต่มันจะมีความหมายอะไรหากเราได้แค่ฝัน แต่ไม่ยอมลงมือทำซักที เช่นเดียวกับหนูน้อย Junior Wyatt วัย 8 ขวบ ที่เริ่มต้นเส้นทางสู่เศรษฐีเงินล้านด้วยการ ‘ขายไข่ไก่’ จนสามารถหาเงินได้เองมากถึงปีละ 570,000 บาท!! (เฉลี่ยโดยรวมเดือนละ 47,500 บาทเลยนะเนี่ย) จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงการตั้งบริษัทอย่างจริงจังในชื่อ Mr Free Range ขึ้นมา โดยทำการร่วมตั้งบริษัทกับคุณแม่ และมีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 430 บาทเท่านั้น โดยน้อง Junior จะขายไข่ไก่ในราคา 87 บาท สำหรับ 6 ฟอง 152 บาท สำหรับ 12 ฟอง และ 262 บาท สำหรับ 30 ฟอง ซึ่งไข่ที่นำมาขายก็จะรับซื้อมาจากฟาร์มที่อยู่ในละแวกบ้านของเขาเอง และตอนนี้หนูน้อย Junior ก็สามารถขายไข่ไปได้แล้วมากกว่า 750 ฟอง!! ความคิดที่จะเปิดบริษัทขายไข่นี้ ได้มาจากการชมรายการสารคดี ‘How’d You…
-
เทรนด์แปลกๆ เมื่อนักธุรกิจจีนหันมาจ้างหน้าม้า “ฝรั่ง” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ธุรกิจ!?
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาในประเทศจีนมีเศรษฐกิจด้านนิคมอุตสาหกรรม และบ้านจัดสรรผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด และสิ่งหนึ่งที่กลุ่มนักลงทุน (เจ้าของกิจการ) มักจะทำเพื่อสร้างมูลค่า และเพื่อให้บริษัทดูมีความอินเตอร์เนชั่นแนลก็คือการจ้างฝรั่งเข้ามามีส่วนในภาคธุรกิจ เทรนด์ดังกล่าวกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงในสังคมจีน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นพนักงานต้อนรับ จ้างมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัว หรือแม้แต่จ้างมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางมาเปิดงานแบบปลอมๆ!? เรียกได้ว่าชาวตะวันตกหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนระยะยาว ต่างก็เคยสัมผัสงานนี้กันมาแล้วทั้งนั้น David Borenstein หนุ่มชาวตะวันตกผู้ใช้ชีวิตอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และคร่ำวอดในการเป็นหน้าม้ามาแล้วหลายอีเว้นท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ทุกอย่างมันง่ายครับ เราแค่ติดต่อบริษัทเอเจนซี่และเมื่อไหร่ที่มีงานพวกเขาก็จะโยนมาให้เรา หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมากพวกเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน หรือจบการศึกษาไหนมา พวกเขาสนแค่รูปพรรณสัณฐาน เราแค่ทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือเหมือนกับว่าเป็นนักธุรกิจจากต่างชาติจริงๆ” เบื้องหน้าพวกเขาต้องสวมบทบาทเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ หรือหุ้นส่วนบริษัทจากต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทนั้นๆ ดูดีมีความน่าเชื่อถือ Li Bonchuan นักวิจัยด้านวัฒนธรรมได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า กระแสดังกล่าวสามารถสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอัตลักษณ์ตนเองของชาวจีน บวกกับโฆษณาชวนเชื่อที่ได้รับมาจากชาติตะวันตก ทำให้เทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ในโลกของธุรกิจเท่านั้นที่มีการจ้างชาวตะวันตกมาเป็นหน้าม้า เพราะในกลุ่มวัยรุ่นชาวจีนที่ครอบครัวร่ำรวยก็มักจะว่าจ้างชาวต่างชาติวัยใกล้เคียงกันให้ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนร่วมก๊วน เพื่อให้ตัวเองดูโก้เก๋กว่าคนอื่นๆ ภาพจากรายของเว็บไซต์ VICE เผยให้เห็นถึงชาวต่างชาติที่ไปรับหน้าที่เป็นเพื่อนนั่งดื่มให้กับวัยรุ่นชาวจีน Jonathan Zatkin ชาวอเมริกันผู้อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งมานหลายปี ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อ CNN…
-
ข้อคิดดีๆ จากการปราศัยของ แจ๊ค หม่า “ถ้าหากอยากจะมีชีวิตที่เรียบง่าย ก็จงอย่าเป็นผู้นำ”
หลายๆ คนคงจะรู้จักและคุ้นเคยกับ Jack Ma กันเป็นอย่างดี จากผู้ที่ไม่มีอะไรเลย สามารถพาบริษัท Alibaba พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จและความรุ่งเรืองได้ คงไม่มีใครสงสัยในความเก่งของนักธุรกิจชาวจีนท่านนี้อย่างแน่นอน และเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้กล่าวคำปราศัยที่สำคัญมากอีกครั้งหนึ่ง Alexa von Tobel ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท LearnVest ผู้ที่เข้าใจถึงความหมายของคำปราศัยนี้อย่างสุดซึ้ง และเธอจะมาให้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการจะเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต เธอบอกว่า “บางครั้งการที่อยู่ในบทบาทของผู้นำอาจทำให้การพัฒนาตัวเองของคุณหยุดลง ในบางวันคุณอาจจะทำได้ดีมาก แต่บางวันมันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นคุณต้องพัฒนาตัวคุณเองและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” และนี่ก็คือ 3 ข้อสำคัญที่จะช่วยคุณในการพัฒนาตนเอง จากทัศนคติของแจ๊ค หม่า เอง 1.คุณต้องมีความรัก เธอบอกว่าในการปราศัยนั้น แจ๊ค หม่า กล่าวถึง IQ 3 แบบที่ผู้นำควรจะมี ซึ่งประกอบไปด้วย IQ, EQ และ LQ สำหรับสองอย่างแรกนั้น หมายถึงความฉลาดทางด้านสติปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์ แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำควรจะมีก็คือ ความฉลาดทางด้านความรัก หรือ LQ (Love Quotient)…
-
ถ้าพลาดป่อง ก็มาซื้อนมที่เรานะ… บริษัท Durex ทุ่มเงินซื้อกิจการ “นมผง” ยักษ์ใหญ่เรียบร้อย
Reckitt Benckiser Group หรือ R.B. บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังที่เราใช้กันอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Dettol,ผลิตภัณฑ์ยา Nurofen, สเปรย์ปรับอากาศ Air wick หรือจะเป็น Durex ก็เป็นสินค้าในเครือนี้ ซึ่งล่าสุดตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ทำสัญญาซื้อขายกิจการกับบริษัทผลิตนมผงยักษ์ใหญ่ Mead Johnson Nutrition เป็นที่เรียบร้อย สาเหตุที่ทาง R.B. เลือกที่จะหันมาลงทุนซื้อกิจกรรมนมผงนั่นก็เพราะว่า ในตอนนี้ผลประกอบการที่เป็นอยู่มีกำไรที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ทาง R.B. จึงจำเป็นจะต้องหาแบรนด์ใหม่เข้ามาเพื่อที่ช่วยเสริมกำลัง และด้วยตัว Mead Johnson Nutrition ครองตลาดในฝั่งเอเชียอยู่แล้ว การเข้าซื้อกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นทั้งการเข้าตีตลาดและกู้วิกฤติกลับมานั่นเอง สำหรับตัวบริษัท Mead Johnson Nutrition เป็นเครือที่ผลิตนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กเป็นหลัก แถมที่สำคัญกิจการในเครือนี้ยังทำรายได้มหาศาลมากถึงราวๆ 126,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกเลยที่ R.B. จะอยากเข้ามาตีตลาดผ่านบริษัทนี้ Rakesh Kapoor ประธานของ R.B. ยังบอกอีกว่าเขาคาดหวังกับดีลในครั้งนี้พอสมควรเลยทีเดียว และยังหวังว่าการดีลในครั้งนี้จะช่วยสร้างเม็ดเงินให้เขาราวๆ 8,000 ล้านบาทในช่วงเวลา 3 ปี เขาบอกว่าธุรกิจของทาง Mead Johnson Nutrition นั้นผลิตทั้งนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กซึ่งในทางฝั่งของจีนที่มีนโยบายไม่ให้มีลูกมากกว่า 1 พ่อแม่จึงจำเป็นจะต้องเลี้ยงดูลูกๆ…
-
เด็กชาย 8 ขวบ ดังเพราะหน้าเหมือน “Jack Ma” เจ้าตัวถูกใจ ออกเงินให้เรียนจนกว่าจะจบมหาลัย
เพราะตอนเด็กๆ เขาไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาดีๆ จึงอยากให้เด็กคนนี้ ได้มีโอกาสที่ดีกว่าเขา…. ณ ตอนนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนักธุรกิจจากประเทศจีนที่ชื่อว่า Jack Ma อีกแล้ว เพราะเขาคือเจ้าพ่อเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอย่าง Alibaba นั่นเอง Jack Ma กลายเป็นคนดังที่ใครๆ ก็จับตามอง เขามีใบหน้าที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์และมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนหลายๆ คนว่ามีใบหน้าละม้ายคล้ายกันอยู่เสมอ แต่กับรายล่าสุดนั้นเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Fan Xiaoqin ในมณฑลเจียงซี เขากลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ตเมื่อปี 2015 เนื่องจากหน้าตาดันเหมือนกับ Jack Ma สมัยเด็กๆ จนเกือบจะเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว แม้ว่าเด็กชายจะไม่เคยรู้จัก CEO ผู้ร่ำรวยคนนั้นเลยก็ตาม เด็กชาย Fan Xiaoqin มีเรื่องให้เขาต้องคิดมากว่าเรื่องหน้าตาเหมือนคนดัง คือเรื่องปากท้องของเขาเอง แม่ของเขาป่วยและพ่อของเขาก็ขาพิการ ส่วนคุณยายกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ นั่นทำให้ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งรู้สึกสงสารในโชคชะตาของเด็กน้อย จึงทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเขาขึ้นมา เพื่อหวังให้ Jack Ma ตัวจริงมาเห็นเข้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหลังจากที่ Jack…
-
เที่ยวไปยิ้มไปกับ Lighthouse Project ธุรกิจ ‘ทัวร์สายเขียว’ มาแรงแหวกกระแสในอเมริกา!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว ในสถานที่อื่นๆ อาจจะมีทะเล แม่น้ำ ภูเขา หรืออุทยานธรรมชาติสวยๆ ให้ได้เที่ยวกัน แต่ที่นี่มีโปรเจ็คต์ที่เรียกว่า Lighthouse Cannabis หรือทัวร์สายเขียว ที่กำลังโด่งดังและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก!! งานนี้เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าคงจะมีการยิ้มกันทั้งทริปหรือเปล่าอะไรยังไง ซึ่งก็ถูกต้องแหละว่าต้องมีเคลิบเคลิ้มกันบ้าง แต่ทาง Dan Berkowitz ซีอีโอของโครงการนี้ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า ‘ทัวร์ของเรานั้นไม่ได้โฟกัสในเรื่องของการบริโภคแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการเข้าชมต้นกำเนิด กระบวนการต่างๆ และเน้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้กับเหล่านักท่องเที่ยวด้วย’ เริ่มจากการนั่งรถตู้ที่ทางทัวร์จะไปรับคุณในย่านดาวน์ทาวน์ในเมือง Denver ไปยังศูนย์ที่ใช้ในเพาะพันธุ์กัญชาของพวกเขา ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตรและรวบรวมกัญชาไว้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 3,000 ต้นด้วยกัน!!! Lighthouse Cannabis Project ทัวร์สายเขียว บนรถตู้แห่งความหฤหรรษ์ 2 ชั่วโมงก่อนไปถึงศูนย์ใหญ่จากย่านดาวน์ทาวน์ นอกจากกระบวนการต่างๆ แล้ว ก็จะมีวิดีโอเกี่ยวกับประวัติของกัญชาภายในประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่การถูกสั่งห้าม ไปจนถึงการทำให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในการดูแลของ Waldfogel พนักงานต้อนรับของโครงการนี้ ตั้งแต่เป็นเมล็ดจนพร้อมขายได้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นกระบวนการทั้งหมดในทัวร์ครั้งนี้ ทางด้านไกด์ทัวร์ของเรา Waldfogel ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์หลังจากกัญชาถูกกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้ แถมล่าสุดทาง Marijuana…
-
สาวจีนกับไอเดียธุรกิจ “รับจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าให้สาวๆ” เผยเคยได้ค่าจ้าง 5 หมื่นในสองวัน!?
ชาวจีนหรือคนส่วนใหญ่ที่เกิดหลังจากปีค.ศ. 1990 เป็นต้นไป มักจะถูกมองว่าเป็นคนเจนวาย (Gen Y) ที่ชอบความสะดวกสบาย ทำงานไม่ค่อยทนไม้ทนมือ บางคนถึงขั้นถูกเหล่าผู้ใหญ่ตราหน้าว่าเป็นคนที่ขี้เกียจเลยก็มี แต่หญิงสาวชาวจีนรายนี้จะมาพิสูจน์ว่าคำสบประมาทเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง ด้วยการทำธุรกิจรูปแบบแหวกแนวที่เธอคิดขึ้นมาเอง เมื่อวันที 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนางเติ้ง หญิงสาวจากมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน เธอเริ่มฝึกการจัดการตู้เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อปีค.ศ. 2015 จากนั้นเธอก็พบว่าเธอหลงใหลมันเอามากๆ จากนั้นเธอจึงนำสิ่งที่ชื่นชอบมาทำเป็นธุรกิจซะเลย การจัดการตู้เสื้อผ้านั้นไม่ใช่งานธรรมดาๆ ที่มีการให้บริการทั่วไปในเฉิงตู ฉะนั้นเธอจึงต้องแสดงให้โลกได้รู้ว่าธุรกิจของเธอดำเนินการอย่างไร เธอเริ่มโปรโมทธุรกิจของเธอผ่านหน่วยงานต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ การจัดตู้เสื้อผ้าแต่ละครั้งจะมีการคิดค่าธรรมเนียมตามขนาดของตู้เสื้อผ้า ซึ่งราคาทั่วๆ ไปก็อยู่ที่ 100 หยวน (525 บาท) ต่อชั่วโมงต่อเมตร หากต้องใช้เวลาในการจัดการตู้เสื้อผ้านานกว่า 1 ชั่วโมง เธอก็จะคิดเพิ่มอีก 20 หยวน (105 บาท) เธอเล่าว่าเธอเคยได้ค่าจ้างสูงสุดจากลูกค้าคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านขนาดใหญ่และเป็นเจ้าของตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ ถึง 2 ตู้ ทำให้เธอต้องเสียเวลาไปกับการจัดเรียง คัดแยกเสื้อผ้าในตู้นาน 2…
-
“แจ๊ค หม่า” เล่าประสบการณ์เคยถูกปฏิเสธจาก KFC และฮาร์วาร์ดกว่า 10 ครั้ง แต่ไม่เคยท้อ
หากพูดถึงบุคคลที่โด่งดังที่สุดในจีนและเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะนึกถึงแจ๊ค หม่า อย่างแน่นอน เพราะเขาคนนี้เป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ขายของออนไลน์อาลีบาบา โด่งดังมากจนนิตยสารฟอบส์มาขอสัมภาษณ์และนำรูปของเขาไปขึ้นบนปกนิตยสารเลย เมื่อปี 2015 เขาได้เข้าร่วมการประชุมกับสภาเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในตอนนั้นเขาได้อธิบายถึงความล้มเหลวในอดีตและการประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ความล้มเหลวในอดีต “ผมส่งใบสมัครไปที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ถูกปฏิเสธกว่า 10 ครั้ง ตอนที่ KFC มาเปิดที่จีน ในเมืองที่ผมอยู่ มีคนไปสมัครงาน 24 คน แต่เขารับคนแค่ 23 คนเท่านั้น ผมเป็นคนเดียวที่ถูกปฏิเสธ” แจ๊คหม่ากล่าวแบบติดตลก ความเสมอภาคทางเพศ “หนึ่งในความลับที่อาลีบาบาประสบความสำเร็จ เพราะพวกเรามีผู้หญิงเยอะมาก เรามีผู้หญิงในบริษัทมากถึง 47% ถ้าคุณอยากจะเอาชนะในศตวรรษที่ 21 มอบอำนาจให้คนอื่น ทำให้แน่ใจว่าคนอื่นๆ นั้นเก่งกว่าคุณเอง นั่นแหละจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ผมก็เลยหาผู้หญิงที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองมาช่วยทำงาน” แจ๊ค หม่ากับเศรษฐศาสตร์ “ประเทศจีนในวันนี้เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของระบบเศรษฐกิจโลก ประเทศจีนควรจะให้ความสนใจกับคุณภาพของเศรษฐกิจ เหมือนๆ กับการเติบโตของมนุษย์ ร่างกายจะเจริญเติบโตตามช่วงเวลาที่กำหนดอย่างช้าๆ แต่คุณต้องแน่ใจว่าได้พัฒนาความคิดของคุณ พัฒนาวัฒนธรรมของคุณ เพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง เพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเอง ผมคิดว่าจีนกำลังเดินหน้าไปทางนั้นล่ะ” แจ๊ค หม่ากับการเงิน “เมื่อคุณมีเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ นั่นไม่ใช่เงินของคุณนะ แต่นั่นคือความไว้เนื้อเชื่อใจที่สังคมมอบให้กับคุณ” …
-
เกลียดใครจัดเลย!! บริการส่งข้อความ สปอยล์เนื้อเรื่อง ‘Game Of Thrones’ เข้ามือถือใครก็ได้!!
สำหรับเหล่าแฟนๆ ของซีรี่ย์ฟอร์มยักษ์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกอย่างเรื่อง ‘Game Of Thrones’ แล้ว ‘การสปอยล์’ เป็นการกระทำที่เรียกได้ว่าแย่เอามากๆ เลยล่ะ เพราะซีรี่ย์เรื่องนี้มีจุดหักมุมมากมาย และส่วนมากตัวละครที่มีคนเชียร์และชื่นชอบเอามากๆ มักจะตายเอาซะดื้อๆ เลย ทำให้มีคนหัวใสเปิดธุรกิจเกี่ยวกับการ ‘สปอยล์’ ซีรี่ย์เรื่องนี้ กันออกมาด้วย โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ spoiled.io วิธีการใช้บริการก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เข้าไปกรอกรายละเอียดชื่อ อีเมลล์ เบอร์โทรศัพท์ของคนที่คุณต้องการให้ถูกสปอยล์ และข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต เพื่อทำการชำระเงิน โดยมีค่าบริการเพียง 35 บาทเท่านั้น วิธีการทำงานของระบบแบบคร่าวๆ มีดังนี้ – ส่งข้อความและรูปไปทาง SMS ซึ่งทำให้หลบการสปอยล์ได้ยากมากๆ – แน่นอนว่าเจ้าของเบอร์สามารถบล็อคเบอร์เพื่อไม่รับข้อความได้ แต่ก็จะถูกเบอร์อื่นๆ ส่งมาอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะจบซีซั่น – จ่ายเพียงแค่ครั้งเดียวก็จะมีการส่งสปอยล์จนจบทุกตอนในซีซั่น – รองรับเบอร์จากทั่วโลก สามารถส่งข้ามประเทศได้ด้วย!! เจ้าของกิจการนี้ได้ไอเดียมาจาก เหตุการณ์ที่หนุ่มคนหนึ่งมาโพสต์ในเว็บไซต์ Reddit เพื่อระบายความช้ำใจจากการถูกแฟนเก่าที่เลิกไปส่งข้อความมาสปอยล์ ‘Game Of…
-
อะไรนะ!? Microsoft กระโดดเข้าร่วมวงธุรกิจสายเขียว ทำซอฟแวร์ช่วยควบคุมกัญชา
หลังจากที่มีการประกาศให้ ‘กัญชา’ เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้พอจะมีพื้นที่สำหรับชาวสายเขียวบ้าง ที่ไม่ต้องแอบขาย แอบสูบ กันอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามบางรัฐก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ แต่ที่น่าตกใจก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านไอทีอย่าง Microsoft นั้นมีความสนใจและอยากจะกระโดดมาเข้าร่วมวงในอตุสาหกรรมธุรกิจสายเขียวกับเขาด้วย (เอ๊ะ!? นี่พี่สูบหรือขายกันแน่ หรือทั้งสองเลย เกิดอาการเมาหรืออย่างไรกัน?) พี่แกไม่ได้คิดจะมาขายกัญชาแข่งหรอก เพียงแต่ว่าจะมาช่วยรัฐบาลในการจัดระเบียบควบคุมการค้าขายกัญชานั่นเอง โดยร่วมมือกับ KIND Financial พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Agrisoft Seed to Sale ซอฟแวร์นี้ตั้งเป้าหมายมาเพื่อ ให้ผู้ซื้อและผู้จำหน่ายสามารถติดต่อกันได้โดยตรง ควบคุมปริมาณที่พอเหมาะ โดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย นั่นก็หมายความว่าการซื้อขายกัญชานั้นสามารถทำได้อย่างเสรีมากขึ้นในรัฐที่อนุญาต ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนซื้อขายกันอีกต่อไป ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวสายเขียว และทางด้านการแพทย์ที่ใช้กัญชาในการรักษาผู้ป่วยด้วย ที่มา : huffingtonpost, bbc, unilad
-
ที่มาของมหานคร Las Vegas และทัวร์ ‘นิวเคลียร์’ ในอดีตของสหรัฐฯ ที่คุณอาจไม่เคยรู้…
ถ้าจะพูดถึงระเบิดนิวเคลียร์หรือการใช้ปรมาณูในสงครามล่ะก็ เหตุการณ์ที่คงลืมไม่ได้ก็คงจะเป็นฮิโรชิม่าในประเทศญี่ปุ่นนี่แหละ ที่ฝ่ายสหรัฐฯ ได้ทำการทิ้งหัวรบเพื่อหยุดสงคราม ถึงจะส่งผลและมีประสิทธิภาพสุดๆ แต่แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่โหดร้ายยิ่งนัก และถึงอำนาจการทำลายล้างของมันจะยิ่งใหญ่และน่าดูชมขนาดไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าคุณได้ไปเมือง Las Vegas ในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1950 แล้วล่ะก็ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว เพราะคนที่นี่เห็นเป็นเรื่องรื่นเริง ราวกับงานฉลองเลยทีเดียว เพราะในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และโซเวียตกำลังร้อนระอุ ประธานาธิบดี Truman ของสหรัฐฯ เลยอนุญาตให้ทดลองนิวเคลียร์กันได้อย่างโจ่งแจ้งในทะเลทรายของรัฐเนวาด้า ซึ่งก็คือบริเวณลาส เวกัส ในปัจจุบันนี่แหละ!!! กลายเป็นว่าการทดสอบหัวรบนิวเคลียร์ที่นี่นั้นได้ก่อให้เกิดทัวร์นิวเคลียร์ เป็นการท่องเที่ยวแบบใหม่ขึ้นซะเลย ผู้คนต่างหลั่งไหลมาที่นี่ นั่งชิวๆ จิบกาแฟจิบเบียร์เพื่อดูหัวรบลูกแล้วลูกเล่าถูกยิงทดสอบไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าถึงตอนนั้นที่นี่ยังจะไม่มีอะไร แต่ก็มีเหล่านักลงทุนหัวใสมาเปิดบาร์เปิดผับกันที่นี่มากมาย ถึงขั้นมีคอกเทลสูตรปรมาณูขายกันเลยทีเดียว ถ้ามองย้อนกลับไปตอนนี้คงเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่แปลกมากๆ นอกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเหล่านี้ ยังมีการจัดประกวบสาวงามปรมาณู Miss Atomic Bomb ด้วยนะจ๊ะ ใครที่ชนะการประกวดก็จะได้มงกุฎไปตามระเบียบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ฮือฮามาก จากนั้นคาสิโน และสถานบริการต่างๆ ก็เริ่มเฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ ในแถบนี้ ตลอด 12 ปีของการทดลองหัวรบนิวเคลียร์ของรัฐบาล …
-
เรียนไปทำไม? ดราม่าธุรกิจรับจ้างเข้าเรียน – ทำรายงานแทน เหมาะสมแล้วหรือ…??
ในยุคปัจจุบันที่การทำธุรกิจเป็นอาชีพที่ผู้คนนิยมทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความครีเอทของสินค้าและบริการต่างๆ ด้วย จึงทำให้มีรูปแบบของสินค้าและบริการที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมวงการธุรกิจอีกแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมของเหล่านักศึกษาในบ้านเรา เรื่องมีอยู่ว่าทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค Red Skull V.6s Plus ได้นำเสนอเรื่องราวของวงการธุรกิจของกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีการรับจ้างเรียนแทน ทำรายงานแทน… นอกจากนี้ยังมีการประกาศตามหาคนไปเรียนแทนกันเป็นรายวัน เรียกได้ว่าทำเป็นอาชีพเสริมรับทรัพย์กันแบบอื้อซ่าเลยทีเดียว . . . แน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยออกมาก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย… โดยส่วนมากจะตำหนิเหล่านักศึกษาที่เข้าไปใช้บริการว่าหากไม่พร้อมก็ไม่ควรเรียนเลยดีกว่าบ้างก็เปรียบเปรยกับเรื่องราวของตัวเองว่าเมื่อก่อนกว่าจะได้เรียนนั้นลำบากแค่ไหน อยากเรียนแต่ก็ไม่ได้เรียน และบางส่วนก็บอกว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่ในมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นที่อื่นก็มีเพียงแต่ว่า มันยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาก็เท่านั้นเอง และแน่นอนว่าเรื่องนี้มหาวิทยาลัยไม่ผิดแต่อย่างใด และที่เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะบางคนก็ไม่อยากไปเรียน ชอบอ่านหนังสืออย่างเดียวมากกว่า จะจ้างคนอื่นไปเรียนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก… บางคนก็บอกว่าขนาดตอนเป็นนักศึกษายังเอาเปรียบเพื่อนร่วมชั้นถึงขนาดนี้ แล้วตอนทำงานจะขนาดไหน? ก็คงต้องรอประกาศจากทางมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ ว่าจะมีมาตรการในการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร? แล้วชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้าง ก็สามารถคอมเม้นท์เข้ามากันที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะจ๊ะ ^^ ที่มา : Red Skull V.6s Plus
-
รู้จักกับ ‘Throat Scope’ อุปกรณ์การแพทย์ที่เป็นทั้งไม้กดลิ้นและไฟฉายในเวลาเดียวกัน!!
ปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความยุ่งยากในการตรวจโรค อีกทั้งยังช่วยลดความเจ็บปวดของผู้ป่วยขณะตรวจลง รวมไปถึงเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคอีกด้วย เพื่อนๆ จำได้ไหมตอนที่เราไปหาหมอแล้วหมอจะใช้วิธีในการตรวจลำคอด้วยเหล็กเย็นๆ และใช้ไฟฉายส่องเพื่อดูว่าภายในช่องคอเราอักเสบหรือไม่ แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว มีสิ่งประดิษฐ์ที่จะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน… เพราะมันเป็นทั้งไฟฉายและเจ้าแท่งเหล็กนั้นได้ในเวลาเดียวกัน!! สิ่งประดิษฐ์นี้มีชื่อว่า Throat Scope มีลักษณะเป็นแท่งใสๆ และแสงสามารถส่องผ่านไปได้ และในส่วนของด้ามจับนั้นก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนไฟฉายที่ส่องไฟ LED ทำให้แท่งใสๆ นั้นสามารถส่องสว่างไปทั่วช่องปากได้เลย แถมยังใช้กด ดัน เพื่อตรวจเช็คส่วนไหนในช่องปากก็ได้ โดยใช้เพียงแค่มือเดียว!! เจ้า Throat Scope นี้ ถูกออกแบบโดย Jennifer Holland คุณแม่ชาวออสเตรเลีย หลังจากที่ลูกสาวของเธอป่วย…เธอได้ใช้เงินเก็บทั้งหมดของครอบครัวในการลงทุนประดิษฐ์มันขึ้นมา และตอนนี้มันทำรายได้ให้กับเธอและครอบครัวไปมากกว่า 400 ล้านบาทแล้ว และตอนนี้ทั่วโลกก็ได้นำเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปใช้กว่า 140 ประเทศแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่อันละ 530 บาท โดยประมาณ ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลย… Mom invented innovative tongue depressorA mom…
-
Tokyo School of Anime สถาบันอนิเมะ เปิดภาควิชาใหม่ ‘บริหารธุรกิจอากิบะ’ เอาใจคอการ์ตูน
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านสายอาชีพมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ธุรกิจทางด้านอนิเมะ ตัวการ์ตูนต่างๆ วิดีโอเกมจากการ์ตูน การคอสเพลย์ กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง โดยจะเรียกสิ่งเหล่านี้บูมสุดๆ ในย่าน Akihabara – อากิฮาบาระ ของโตเกียวซึ่งพัฒนามาจากไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบส่วนตัวจนกลายมาเป็นธุรกิจในปัจจุบัน และล่าสุดนี้ทาง Tokyo School of Anime สถาบันสอนอนิเมะและดนตรีจากญี่ปุ่นก็ได้ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์แบบอากิฮาบาระ เปิดภาควิชาใหม่มาในชื่อ Akiba Business World (บริหารธุรกิจอากิบะ) เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมวงการการ์ตูนให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ทั้งศิลปินวาดการ์ตูนและดนตรีที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูน โดยในหลักสูตรของภาควิชาบริหารธุรกิจอากิบะนี้ จะเปิดสอนทั้งสิ้น 6 หลักสูตรด้วยกันแบ่งแยกย่อได้ดังต่อไปนี้ 1. Maid and Cosplay Business หลักสูตรร้านคาเฟ่เมดและคอสเพลย์ เรียนรู้ด้านการประกอบธุรกิจคาเฟ่ ร้านอาหารในรูปแบบตีมเมดต่างๆ และพัฒนาทักษะด้านการบริหารบุคคล 2. Dojinshi หลักสูตรโดจินชิ เรียนรู้ทางด้านการโปรโมทผลงานเพื่อส่งเสริมการขาย อีกทั้งยังเรียนรู้ในแง่ของกฏหมายในการทำผลงานเชิงธุรกิจสีเทา 3. และ 4. Idol-related Programs หลักสูตรธุรกิจไอดอล แยกย่อยออกเป็นสองประเภทได้แก่ผู้ที่อยากจะเป็นไอดอลเองกับโปรดิวเซอร์ของไอดอล…
-
เพราะไสยศาสตร์รอไม่ได้!! รวม 9 ธุรกิจสุดเฉียบไว้บริการแด่เหล่า “ลูกเทพ” (ภาค 2)
ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่การปรากฏตัวของตุ๊กตาลูกเทพในสังคมไทยนั้น ทำให้เกิดกระแสต่างๆ ตามมามากมายทีเดียว เพราะมันทำให้ผู้คนเชื่อกันเป็นตุเป็นตะว่าเจ้าตุ๊กตาลูกเทพเหล่านี้สามารถบันดาลสิ่งต่างๆ ให้ผู้เลี้ยงได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความงมงามตามมาอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้เห็นจะเป็นเหล่าธุรกิจรูปแบบต่างๆ ที่พยายามจะเกาะกระแสตุ๊กตาลูกเทพด้วยการออกโปรโมชั่นแปลกๆ เพื่อมารองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้แอดเหมียวก็เคยได้นำเสนอไปแล้ว วันนี้แอดเหมียวเลยจะขอกลับมาต่อกันในภาค 2 จะมีธุรกิจอะไรให้ลูกเทพใช้บริการบ้าง ลองไปดูกันเลย 1. ธุรกิจสายการบิน พาลูกเทพไปเที่ยวด้วยได้ 2. ธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ชวนลูกเทพมานั่งทานแบบไม่อั้น 3. ธุรกิจเสริมความงาม ให้ลูกเทพของคุณหน้าเด้งยิ่งกว่าลูกเทพคนไหนๆ 4. ธุรกิจศัลยกรรม ให้ดั้งของลูกเทพโด่งรับกับใบหน้า 5. ธุรกิจหนังสือออนไลน์ ชวนลูกเทพมาอ่านเสริมสร้างความรู้ จะได้ให้เลขให้พรได้แม่นๆ 6. ธุรกิจเกมออนไลน์ ชวนลูกเทพมาเล่นคลายเครียดจากการใช้ชีวิตมาทั้งวัน 7. ธุรกิจสอนลูกเทพดูหนัง รับรองเต็งได้แน่นอนว่าใครได้ออสการ์ 8. ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นสำหรับลูกเทพ ทานง่าย รสชาติเยี่ยม ให้ลูกเทพร้องเลยว่า “โออิชิ!!” 9. ธุรกิจพรีเวดดิ้งลูกเพท เมื่อกามเทพเล่นตลก ความรักแบบงงๆ…
-
สืบเนื่องจากลูกเทพเต็มบ้านเต็มเมือง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับลูกเทพก็ผุดตามมาเช่นกัน!!
ความเชื่อในเรื่องของลูกเทพที่จะมาช่วยทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ มีผู้คนให้ความสนใจกันมากมาย ทั้งกระแสที่น้อมรับและปฏิบัติตาม และกระแสต่อต้านความเชื่อเหล่านี้ก็มีมากเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อลูกเทพโผล่ออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองขนาดนี้ ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษให้เป็นเหมือนดั่ง InwZa007 กันซักหน่อย ในวงการลูกเทพนี้ ถือว่ากระจายไปทั่วทุกสารทิศในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ก็จะเห็นมีคนอุ้มลูกเทพ พาลูกเทพไปกินข้าว หรือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผุดตามมาเพื่อตอบสนองวงการลูกเทพก็คือธุรกิจสุดแสนจะเทพเพื่อลูกเทพ ไม่ว่าจะเป็น… อาบน้ำ สระผมลูกเทพ พี่เลี้ยงลูกเทพรายชั่วโมง ป้อนน้ำ ป้อนข้าว สอนหนังสือ!! เนิร์สเซอรีลูกเทพ ดูแลให้ครบวงจร พ่วงคอร์สเสริมวิชาการความรู้คู่คุณธรรม และที่พีคไปกว่านั้นก็คือ เปิดรับสอนดนตรีให้กับเหล่าลูกเทพ (อันนี้แอบเอาฮา) ทั้งนี้ ธุรกิจทั้งหลายที่โผล่มานั้นมีทั้งเปิดแบบจริงจังและแบบเอาฮา การที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนตัวเหมียวเองก็ได้แต่มองเฉยๆ อยู่ห่างๆ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวละกัน ฮร่าาาาา ที่มา : kapook, dodeden, petkanya
-
อุรุกวัยอนุญาตให้ 2 บริษัทสามารถขายกัญชาได้อย่างเสรี เพื่อป้องกันการค้าแบบผิดกฏหมาย!!
ยังคงเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากๆ กับพืชสีเขียวที่มีผู้คนร้องเรียนให้กลายเป็นสิ่งที่สามารถค้าขายกันได้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ก็ยังมีอีกฝ่ายที่มองว่าเจ้ากัญชาเนี่ย ยังไงก็คือสิ่งเสพติด ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์อื่นใดได้นอกจากการดึงดาว ซึ่งในบางประเทศก็ได้อนุญาตให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว สามารถซื้อขายกันได้อย่างสะดวก อย่างเช่นในประเทศอุรุกวัย ที่ยอมให้บริษัท 2 แห่งค้าขายกัญชาได้อย่างเสรี แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคุมปริมาณในการเพาะปลูกด้วย แต่ไม่ได้ควบคุมถึงลักษณะของพันธ์ุและความเข้มข้น อย่างไรก็ตามผู้ที่คัดค้านก็เชื่อว่าการที่เปิดให้มีธุรกิจกัญชาถูกกฏหมายนั้นไม่ถือว่าเป็นทางออกที่ดี อาจจะส่งผลทำให้เกิดสิ่งที่ตรงกันข้ามซะมากกว่า ทางฝั่งผู้ที่สนับสนุนธุรกิจกัญชาก็กล่าวว่าการอนุญาตให้ธรุกิจกัญชาถูกกฏหมายนั้นเป็นวิธีการแก้ไขการค้าอย่างผิดกฏหมาย ป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพมาแสวงหาผลประโยชน์จากกัญชา รวมไปถึงปลอดภัยต่อผู้ใช้กัญชาด้วย มองในอีกมุมหนึ่งก็คือกัญชายังเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตยาเพื่อใช้ในการรักษาทางการแพทย์อีกด้วย ทั้งนี้นักวิจัยต่างก็สนับสนุนให้นำกัญชามาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเผื่อในอนาคตจะสามารถมาใช้ในทางการแพทย์ต่อไป และอาจจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาลอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่คัดค้านต่างก็เห็นเพียงแค่ว่ามันไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากเป็นสารเสพติด ที่มา : BBC Thai
-
ส่องชีวิต “Michael Straumietis” เจ้าพ่อธุรกิจกัญชา ผู้ร่ำรวยและฮอตสุดๆ
“Michael Straumietis” หรือ บิ๊กไมค์ (Big Mike) เป็น CEO เจ้าของบริษัท Advanced Nutrients ผู้ผลิตและวิจัยสารอาหารจากกัญชาเพื่อใช้ในวงการแพทย์ อันดับ 1 ของโลก บิ๊กไมค์ ชอบอวดชีวิตที่ร่ำรวยของเขาลงในอินสตาแกรม marijuanadon ให้เห็นว่าเขาเป็นเศรษฐีเจ้าพ่อธุกิจกัญชาที่ฮอตสุดๆ มีสาวๆ รุมล้อม กินอาหารมื้อแพงและปาร์ตี้สุดหรูบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แหมน่าอิจฉาจริงๆ เลย บิ๊กไมค์ (Big Mike) และสาวๆ ห้องปลูกกัญชา ฮอตจริงๆ เขาชอบจัดปาร์ตี้บนเครื่องเจ็ตส่วนตัว ด้านหลังเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Advanced Nutrients ของเขา สาวๆในฮาเร็ม น่าอิจฉาไหมล่ะ แน่นอนว่าที่เมืองนอกเขามีการปลูกกัญชาอย่างถูกกฎหมายเพื่อนำมาใช้ทางการแพทย์ แต่ที่ไทยบ้านเรายังผิดกฎหมายอยู่นะจ้ะ อย่าได้ทำตามเชียวล่ะ ติดคุกอย่างเดียวนะเออ ที่มา unilad
-
หนุ่มนักธุรกิจใจงาม พบกับแท๊กซี่ที่ไม่เคยสัมผัสสวนสนุกพาไปส่ง ก็เลยชวนมาเล่นด้วยกันซะเลย!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจของพ่อหนุ่ม Liam Murphy ที่มีภาระต้องไปติดต่อเจรจาธุรกิจที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาก็เลยถือเป็นโอกาสเที่ยวไปในตัว โดยตัดสินใจไปที่สวนสนุก Ferrari World เมื่อไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ต้องพึ่งพาแท๊กซี่สาธารณะให้ไปส่งถึงที่หมาย ซึ่งเขาก็ได้พบกับคนขับแท๊กซี่ที่ชื่อว่า Shakiha โดยส่วนตัวแล้วคนขับแท๊กซี่ผู้นี้ไม่เคยมาที่นี่เลย แถมยังไม่เคยนั่งรถไฟเหาะตีลังกาด้วย ไหนจะต้องนั่งรออยู่ในรถแท๊กซี่ประมาณ 4 ชั่วโมงจนกว่านักธุรกิจหนุ่มออกไปเล่นในสวนสนุกอีก พ่อหนุ่ม Liam ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนแบบสายฟ้าแลบ ชักชวนคนขับแท๊กซี่มาร่วมจอยความสนุกกับเขาซะเลย กลายเป็นว่าพา Shakiha ไปสัมผัสกับบรรยากาศรถไฟเหาะตีลังกาครั้งแรกในชีวิต!! Liam ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘แทนที่เขาจะต้องนั่งเบื่อๆ เพื่อรอลูกค้าอยู่ในรถของตัวเอง เขาก็ได้รับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตไปเลยล่ะ’ ชีวิตของ Shakiha ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอดระยะเวลา 14 ปี ทำงานในฐานะลูกจ้างที่ไม่ได้รับสวัสดิการดีเท่าที่ควร ไหนจะต้องคอยส่งเงินให้กลับไปให้ครอบครัวที่อินเดียด้วย ทำให้ Liam รู้สึกแย่กับการที่เขาจะต้องมานั่งรอลูกค้าที่ออกไปมีความสุข โดยที่ตัวเขาเองไม่เคยได้สัมผัสมันเลยซักครั้ง ที่มา : thechive
-
สุดยอดไปเลย!! สาวดาวน์ซินโดรมวัย 28 ปี สร้างธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองจนประสบความสำเร็จ
Laura Green วัย 28 ปี จากเมืองรันคอร์น มณฑลเชเชียร์ สหราชอาณาจักร เธอเกิดมาพร้อมภาวะดาวน์ซินโดรม แต่ใครจะรู้ว่าล่ะวันหนึ่งเธอจะสามารถประสบความสำเร็จ จากการเปิดร้านเครื่องประดับ แถมยังทำรายได้มากกว่าคนปกติอีกด้วย สุดยอดเลยจริงๆ Laura เริ่มเปิดร้านเครื่องประดับเล็กๆ ในตอนที่เธออายุได้ 23 ปี เมื่อปี 2553 โดยร้านของเธอมีชื่อว่า ‘Serendipity’ โดยเธอได้ร่วมทุนกับ Rachel Melarangi เพื่อนที่มีภาวะดาวน์ซินโดรมเช่นเดียวกันกับเธออีกด้วย และที่สำคัญ Laura และเพื่อนสาวของเธอ ยังได้รับการสนับสนุนการทำธุรกิจเล็กๆ จากมูลนิธิ Prince’s Trust ซึ่งทั้งคู่ก็ได้พยายามออกแบบเครื่องประดับได้อย่างหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว Laura เคยไปสมัครงานหลายๆ ที่แต่ก็ไม่มีใครอยากจะรับเธอ เพราะเธอขาดคุณสมบัติหลายๆ อย่าง แต่ปัจจุบัน เธอรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เป็นนายทั้งนายจ้างและลูกจ้างของตัวเอง นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า เธอเป็นสาวนักธุรกิจ ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง จะมีสักกี่คนที่จะสามารถพูดคำนี้แบบเธอได้ตอนอายุ 24 ปี…