Tag: นกพิราบ
-
วินาที “พิราบ” โชคร้าย บังเอิญถูกยิงอัดด้วย “ปืนใหญ่” ที่ใช้ในงานเฉลิมฉลอง!
ในพิธีการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการของหลายๆ ประเทศนั้นก็จะการ “ยิงปืนใหญ่” ให้เสียงดังกระหึ่ม เพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความภาคภูมิในวันสำคัญนั้นๆ และในประเทศมอลตาเองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน พวกเขามีการยิงปืนใหญ่แบบดั้งเดิมเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญวันหนึ่ง แต่ในปีนี้กลับกลายเป็นเรื่องเศร้า เมื่อเจ้านกพิราบตัวหนึ่งเคราะห์ร้ายกลายเป็นเหยื่อของปืนใหญ่ ชมคลิปวิดีโอ ประเทศมอลตาเริ่มมีการยิงปืนใหญ่ที่ไม่บรรจุกระสุนมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อไม่ให้กระสุนพลาดไปโดนประชาชนเดินดินหรือทำให้ตึกรามบ้านช่องเสียหาย แต่สำหรับ นก ที่บินว่อนอยู่บนอากาศนั้นก็อาจจะโชคร้ายเสียหน่อย เพราะเจ้านกพิราบสุดซวยอย่างที่เห็นในคลิป ดันบินมาใกล้ปากกระบอกปืนพอดี ทำให้ถูกแรงอัดจากปืนใหญ่เข้าไปเต็ม เจ้าพิราบกำลังบินอย่างเพลิดเพลิน ตู้มเดียวหาย!! ตอนนี้ไม่มีใครทราบได้ว่านกพิราบตัวดังกล่าวรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ และไม่มีใครรู้ว่ามันตั้งใจบินมาฆ่าตัวตายหรือเปล่า แต่ถ้ามันไม่ได้ตั้งใจก็ถือว่ามันบินมาได้ผิดจังหวะจริงๆ ที่มา: ladbible, Headline News และ mirror
-
ช่วยนกพิราบสาวปีกหักมาไว้ในศูนย์พักพิง โชคชะตาเป็นใจส่งเนื้อคู่มาให้ถึงที่ หนุ่มนี่ตามติดแจเลย
สถานพักพิงสัตว์เป็นสถานที่ที่มีไว้เพื่อให้สัตว์ที่เดือดร้อน หรือสัตว์ที่บาดเจ็บได้รับความช่วยเหลือ และยังเป็นบ้านสำหรับสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของส่วนหนึ่งอีกด้วย โดยจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยนำสัตว์มาที่นี่และทำการช่วยเหลือพวกมัน บางทีสัตว์ที่ถูกนำมาที่นี่ก็ดูน่าสงสารเหลือเกิน บางตัวก็บาดเจ็บจนต้องรักษากันนาน บางตัวก็ถูกทำร้ายมาจนรู้สึกกลัวคนไปเสียหมด เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้าตามเลย แต่บางครั้งก็มีเรื่องราวน่ารักๆ เกิดขึ้นในสถานพักพิงสัตว์เหมือนกันนะ เหมือนอย่างเรื่องนี้ยังไงล่ะ นกพิราบสาว Juliet นกพิราบสาวสายพันธุ์ Satinette ตัวนี้ถูกพบอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ตอนที่มีคนไปเจอเข้ามันก็อยู่ในสภาพที่บินไม่ได้เสียแล้ว ไม่แน่ว่ามันอาจจะหนีออกจากบ้านมาหรือพลัดหลงจากฝูงแล้วจึงได้รับบาดเจ็บก็อาจเป็นได้ โชคดีที่มันถูกพาไปที่สถานพักพิงสัตว์ที่ดำเนินงานโดย Wildlife Haven Waterloo (WHW) ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่มีใจรักจะช่วยเหลือสัตว์ โดย WHW มีศูนย์อยู่ที่เมืองวอเตอร์ลู และที่นี่เองที่จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของเจ้านกพิราบตัวนี้ เค้าบินไม่ได้แล้ว ช่วยเลี้ยงเค้าหน่อยนะ ขนสวยใช่ไหมล่ะ นกพิราบพันธุ์นี้มีขนที่มีลักษณะคล้ายหางเป็นเอกลักษณ์ด้วยนะ น่ารักจริงๆ คนในนั้นตั้งชื่อมันว่า Juliet พวกเขาคอยดูแลรักษามันอย่างดี และมันเองก็ดูจะชอบอยู่ที่บ้านใหม่หลังนี้ซะด้วย แต่อาสาสมัครที่อยู่ที่นั่นก็ยังกังวลอยู่บ้างว่ามันอยู่ตัวเดียวแล้วจะเหงาหรือเปล่า เนื่องจากนกพิราบนั้นเป็นสัตว์สังคมและไม่ชอบที่จะอยู่ตัวเดียว ดังที่ WHW บอกว่า “นกพิราบเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาด และเป็นสัตว์สังคม พวกมันจะหาเนื้อคู่และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากกันไป” พิราบหนุ่ม Romeo แล้วก็เหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจให้กับ…
-
พนักงานไอทีรำคาญเน็ตช้า เลยผูกเมมโมรี่การ์ดติดขานกพิราบบินไป 100 กิโล ถึงเร็วกว่าส่งไฟล์ให้อีก!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงสิบกว่าปีก่อน ช่วงที่อินเตอร์ของเรายังต้องต่อเน็ตขูดบัตรความเร็ว ไม่ถึง 100 kb จนเรารู้สึกว่าการส่งนกพิราบคงเป็นอะไรที่ไวกว่าเป็นไหนๆ หรือเราก็อาจจะคิดว่าในอนาคตนั้น อินเตอร์เน็ตจะส่งไฟล์ได้เร็วขึ้น… ทว่าความจริงอันแสนโหดร้ายนั่นก็คือ แม้ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตจะไวขึ้นก็จริง แต่ไฟล์งานบางอย่างในปัจจุบันก็ใหญ่ขึ้นตามยุคสมัย การส่งไฟล์ก็ช้าไม่ต่างจากเดิม โดยเฉพาะกับประเทศที่อินเทอร์เน็ตยังไม่ไวมากนักอย่างแอฟฟริกาใต้ ซึ่งพ่อหนุ่มไอทีคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่นั้นจึงโมโหมาก เลยจัดการส่งไฟล์ผ่านนกพิราบมันซะเลย!! เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ซึ่งก็ถือเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเฟื่องฟูแล้ว แต่ความเร็วมันก็ยังบั่นทอนจิตใจไม่เปลี่ยนแปลง… เมื่อพนักงานไอทีนามว่า Kevin Rolfe ได้โวยกับทางบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในแอฟฟริกาใต้ว่า อินเทอร์เน็ตของพวกเขานั้นมันช้าซะเหลือเกิน ส่งไฟล์ 4 GB หลายชั่วโมงก็ยังไม่เสร็จสักที (ในยุคนั้น ไฟล์ 4 GB ยังถือว่าใหญ่พอสมควรเลยนะ) ซึ่งทางบริษัทก็ไม่รับผิดชอบอะไรในเรื่องความเร็วเน็ตที่เกิดขึ้น Kevin เลยคิดว่าถ้าเน็ตวิ่งแบบนี้ ส่งนกพิราบมันคงจะไวกว่า เขาเลยจัดการยัดไฟล์ใส่เมมโมรี่การ์ด 4 GB แล้วผูกติดกับเจ้า Winston นกพิราบสงสาร จากนั้นก็ปล่อยมันไปยังปลายทาง โดยเริ่มออกตัวจาก Unlimited IT’s call centre ในเมืองโฮวิก ประเทศแอฟฟริกาใต้ พร้อมกับลองส่งไฟล์ไปพร้อมๆ กันดู… ส่วนปลายทางที่ส่งนกพิราบไปนั่นก็คือสำนักงานหลักของบริษัทในเมืองเดอร์บัน…
-
นกพิราบถูกยิงร่วง หลังทำตัวน่าสงสัยในคุกอาร์เจนตินา ก่อนตรวจพบขนยาเสพติดอยู่บนหลัง
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำในเมืองซานต้าโรซ่า ประเทศอาร์เจนตินา ได้จับตายนกพิราบที่น่าสงสัยตัวหนึ่ง หลังจากที่เห็นมันบินวนไปมาอยู่ในคุก ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้ตัดสินใจยิงมันทันที ซึ่งภายหลังจากที่ยิงนกตัวดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำร่างของมันมาตรวจสอบ และพบว่าเจ้านกตัวนี้ได้ถูกติดถุงผ้าเล็กๆ ที่มีการอำพรางสีให้เหมือนกับขนเอาไว้ที่หลังของมัน เมื่อผ่าดูก็พบว่ามียาเสพติด กัญชา และ USB อยู่ภายในนั้น จากการรายงานระบุว่า ย้อนกลับไปในปี 2013 ในเรือนจำแห่งหนึ่งอาร์เจนตินาได้ออกมาเตือนว่า มีการลักลอบแอบใช้นกพิราบสื่อสารในการขนส่งยาเสพติดและสารลับอื่นๆ หลังจากทำการสอบสวน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 คน พวกเขากล่าวว่าได้ใช้นกพิราบในการส่งสารมากถึง 10 – 15 เที่ยวในทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการใช้นกพิราบสื่อสารเป็นเครื่องมือในการส่งยาเสพติด และเอกสารลับอื่นๆ เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีนกพิราบต้องสงสัยตัวหนึ่งถูกจับในคูเวตใกล้ชายแดนอิรัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พบว่าบนหลังของมันมีการติดถุงผ้าขนาดเล็กเอาไว้ โดยภายในมีการบรรจุยาเสพติดจำนวนทั้งสิ้นถึง 178 เม็ดเลยทีเดียว ที่มา : metro
-
“Frillback” นกพิราบพันธุ์แฟนซี มีเอกลักษณ์เป็นขนฟูหยิกหยอย ดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร…
“นก” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ ซึ่งในแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีความแปลกที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น นกพิราบสายพันธุ์ Frillback ก็มีลักษณะที่โดดเด่นไม่เหมือนสายพันธุ์อื่นๆ เช่นกัน เนื่องจากขนที่บริเวณลำตัวของมันที่ลักษณะหยิกหยอยแบบนี้… สำหรับ Frillback เป็นสายพันธุ์นกพิราบแฟนซี ที่นอกจากจะมีความแปลกตาแล้ว ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีนกสายพันธุ์ไหนเหมือนกับมันเลย โดยเจ้านกสายพันธุ์นี้ได้เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงศตวรรษที่ 18 Frillbacks ถือเป็นสายพันธุ์นกพิราบที่มีขนาดใหญ่กว่านกพิราบพันธุ์อื่นๆ อีกทั้งยังเป็นนกพันธุ์โบราณที่ได้รับการพัฒนาในการคัดเลือกสายพันธุ์มาเป็นเวลานานหลายปี โดยชื่อของเจ้า Frillbacks จะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของขนที่มีความแปลกตา เพราะมันมีความหยิกหยอยและคดงอ ถูกฉลุให้เป็นลวดลายสวยงาม นอกจากเส้นขนที่หยิกแล้ว นกชนิดนี้ยังมีปีก และหางที่ยาว มีดวงตาสีส้มแดง แต่บางสายพันธุ์ย่อยก็มีตาสีดำ หรือสีฟ้า ถ้าจะบอกว่ามันเป็นหนึ่งในนกพิราบที่แปลกที่สุดในโลกก็คงไม่ผิด ก็ดูสิ…ขนของมันมีความเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่น่าจะมีใครเหมือนอีกแล้วล่ะ… ที่มา : wikipedia
-
สะกดทุกสายตา ด้วย “รองเท้าส้นสูงนกพิราบ” พร้อมวิธีทำ ให้ทุกย่างก้าวเหมือนดั่งนก!!
ความเป็นมาของรองเท้าส้นสูงนั้นเริ่มต้นในช่วง ปีค.ศ. 1500 ซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกคิดค้นไว้ เพื่อกันเท้าหลุดออกจากเหล็กวางเท้าในการขี่ม้า ต่อมารองเท้าส้นสูงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสูงสง่าในราชสำนัก ก่อนที่มันจะแพร่หลายในหมู่คนทั่วไป โดยปัจจุบันรองเท้าส้นสูง เป็นอะไรที่คู่กับผู้หญิงสวยๆ ซึ่งรองเท้าส้นสูงนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบและสไตล์ตามความต้องการ แต่ใครจะไปนึกว่ารองเท้าส้นสูงจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้ขนาดนี้!? มองเผินๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ เดี๋ยวนะ!? นี่มันรองเท้าส้นสูงนี่หว่า จะด้านหน้าหรือด้านหลังก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความสวยสง่า (มั้ง) ที่ไม่สามารถซื้อขายได้ตามร้านค้าทั่วไป #เหมียวปั๊ก ก็เลยหาวิธีการทำรองเท้านกพิราบแบบคร่าวๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วย สำหรับคนไหนที่ชอบ “นก” ก็สามารถลองทำกันได้ตามวิธีนี้เลย โดยอุปกรณ์มีดังนี้ รองเท้าส้นสูง, พลาสติกแข็ง, กรรไกรหรือคัตเตอร์, ผ้าใยขนแกะคละสี, กาวลาเท็กซ์, ผ้าใยสังเราะห์คละสี, กระดาษทราย, กาวยาง, สก๊อตเทป, ลวดเหล็ก, คีมดัด และสีอะคริลิคสีแดง เริ่มต้นด้วยการนำพลาสติกแข็งมาร่างโครงตัวนกพิราบ และตัดออกมา หลังจากที่ทำการตัดแล้วเพื่อนๆ สามารถนำกระดาษทรายมาขัดให้รูปทรงนกพิราบนั้นมีความโค้งมนสมจริง อย่าลืมเหลาส่วนหลังของนกให้รับกับส้นรองเท้าที่เราจะติดด้วยนะ นำผ้าใยขนแกะมาติดที่ตัวนกพิราบตามรูปที่เราได้ร่างไว้ เมื่อทำการเหลาเสร็จแล้วก็นำผ้าใยขนแกะมาติดตามโครงร่างนกพิราบด้วยกาวลาเท็กซ์ . นำตัวนกพิราบมาติดบริเวณส้นรองเท้า นำตัวนกพิราบที่เราทำมาติดกับส้นรองเท้าด้วยกาวยาง…
-
ชาวเน็ตแทบงงเต้ก เพราะล่าสุดนี้เค้าใช้นกพิราบส่งยาเสพติดแล้ว โถ่วว..สงสารนก!!
ดูเหมือนว่าภูมิปัญญาของมนุษย์ในยุคอดีตอย่างการใช้นกพิราบส่งจดหมาย จะสามารถนำมาใช้กับบางเรื่องในปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชือ จากเว็บไซต์ข่าว Alarabiya ได้รายงานว่าตำรวจจากประเทศคูเวต สามารถจับกุมนกพิราบผู้ทำหน้าที่เป็นนกต่อคอยส่งยาเสพติดให้กับพ่อค้ายาทั้งหลาย โถ่วว.. น่าสงสารเจ้านกจริงๆ จากเว็บไซต์ข่าวต้นฉบับได้รายงานว่า มีนายตำรวจคนหนึ่งเห็นนกพิราบท่าทางมีพิรุธ เพราะบนด้านหลังของมันมีถุงผ้าขนาดเล็กติดไว้ มายืนหยุดพักอยู่แถวบริเวณสถานีตำรวจ ด้วยความน่าสงสัยที่ว่าสมัยนี้ไม่น่าจะมีคนส่งจดหมายด้วยนกพิราบ นายตำรวจจึงลองเข้าไปค้นดูในถุงผ้าบนหลังนกพิราบ ก่อนจะพบว่าเป็นยาอีจำนวนทั้งหมด 178 เม็ด!! เห็นถุงผ้าเล็กๆ แบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าข้างในจะมียาเสพติดซ่อนอยู่ และก็เป็นอย่างที่ทุกคนทราบดี งานนี้ชาวเน็ตออกมาให้ความเห็นกันเพียบ… ‘โอ้วพระเจ้าหยุดเลยนะ!’ แหม..คงทำหน้าเจื๋อนเลยสิเจ้าพิราบ ‘โถ๊วว.. พิราบเจ้าเล่ห์’ หรือบางทีมันอาจจะอยากรวยทางลัดก็ได้นะ บางคนก็บอกว่าพิราบไม่ได้ส่งให้พ่อค้าหร๊อก มันเอาไปเล่นกันเองต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆ แอบสงสารนกพิราบ ถ้ามันรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมายมันคงไม่รับงานนี้… ที่มา: Distractify
-
นกพิราบ ‘คอหักบิดกลับด้าน’ ถูกช่วยเหลือจนกลับเป็นปกติอีกครั้ง ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?
เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนั้นไม่ได้มีไว้เพียงแค่รักษากับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสัตว์ร่วมโลกชนิดอื่นๆ ด้วย เช่นเดียวกันกับเจ้านกพิราบตัวนี้ที่ประสบอุบัติเหตุจนลำคอของมันบิดกลับด้าน ดูแล้วน่าหวาดเสียวสุดๆ จนไม่มีใครคิดว่าจะรอดชวิตได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์เพราะการรักษาโดยสัตวแพทย์ผู้เก่งกาจ เจ้านกพิราบทารกถูกช่วยเหลือมาเมื่อช่วงเดือนก่อน ผู้หวังดี 2 คนที่เดินผ่านไปมาบนถนน แล้วก็ไปพบเข้ากับมันที่กำลังนอนบาดเจ็บอยู่บนทางเท้าในเมือง Oakland รัฐ California พอเข้าไปตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าลำคอของมันนั้นบิดกลับด้าน และในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะมีชีวิตรอดแล้ว แต่แล้วจู่ๆ มันก็ร้องออกมา แทนที่จะทิ้งมันเอาไว้ทั้งคู่ได้พามันมาหาศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ WildCare ที่ให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ และมันเป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขาตัดสินใจทำแบบนั้น พอถึงมือเจ้าหน้าที่แล้วก็เริ่มลงมือช่วยชีวิตเจ้านกพิราบในทันทีด้วยการเอ็กซ์เรย์ และก็พบว่ากระดูกที่คอของมันหักจากการฝึกบินครั้งแรกของมัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นฝีมือของคนใจร้ายที่พยายามจะแกล้งมัน “พวกเราเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะสามารถรักษามันได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็มั่นใจว่ามันยังมีโอกาสอยู่เพราะไขสันหลังมันยังไม่ถูกตัดขาด นั่นทำให้เราตัดสินใจที่จะลองช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ” คุณ Melanie Piazza หัวหน้าของศูนย์ช่วยเหลือกล่าว หลังจากที่จัดการกับคอที่หักไปแล้วก็ต้องมีการดามเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะใช้เฝือกดามไว้แค่เฉพาะที่คอของมันเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ก็ยังต้องมีการปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้มันสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระอีกด้วย จากการได้รับบาดเจ็บที่รุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่คาดว่าเจ้านกพิราบอาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการรักษาตัว อาจจะนานเป็นเดือนเลยทีเดียว แต่ก็พบว่าเจ้านกพิราบได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคิดผิด 4 วันต่อมาหลังจากที่มันได้รับการรักษาก็พบว่าเจ้านกสามารถขยับคอได้ด้วยตัวเองแล้ว อีกทั้งยังหันไปมาได้อีกต่างหาก จากนั้นอีกไม่กี่วันผ่านมาเจ้านกพิราบก็เริ่มหายดีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนเฝือกให้กับมันและให้มันทานอาหารด้วยตัวเองร่วมกันกับนกพิราบตัวอื่นๆ ที่ถูกพามารักษาที่นี่ ผ่านไปสองอาทิตย์หลังจากที่เจ้านกพิราบถูกพามายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งนี้ จากสภาพร่อแร่ใกล้จายในที่สุดมันก็หายเป็นปลิดทิ้ง…
-
นักวิทย์ร่วมไขปริศนา ของคำถามที่ว่า ทำไมเราจึงไม่เห็น “ลูกนกพิราบ” มาอยู่ในเมืองเลย!?
เราทุกคนคงจะเคยเห็นนกที่บินมาเกาะตามหน้าต่างหรือตามเสาไฟมามากมายหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งนกตัวใหญ่ตัวเล็กหรือแม้แต่ลูกนกตามรังของพวกมัน แต่จะมีนกอยู่สายพันธุ์หนึ่งที่เราจะไม่ค่อย (หรือไม่มีวัน) ได้เห็นพวกมันในขณะที่ยังเป็นลูกนกเลย นั่นคือนกพิราบนั่นเอง แน่นอนว่า ทุกคนคงจะได้เคยเห็นฝูงนกพิราบอยู่บ่อยๆ บางคนเคยให้อาหารมัน บางคนเคยวิ่งไล่จับมัน หรือบางคนก็เคยนั่งดูพวกมันรวมตัวกันตามที่ต่างๆ ในเมือง ทั้งไทยและต่างประเทศก็มีคล้ายๆ กัน คำตอบง่ายๆ ดูกวนๆ แต่มันก็คือความจริง คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคุณถึงไม่เคยได้เห็นพวกลูกนกพิราบกันเลย? ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะ ความจริงแล้วมีการศึกษาพฤติกรรมของพวกมันมานาน กระทั่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายก็พยายามหาคำตอบเรื่องนี้ ทำไมเราเห็นลูกนกอื่นๆ บินมากินอาหารกับฝูง แต่ทำไมเราไม่เห็นลูกนกพิราบ และพวกเขาก็พบว่าลูกนกพิราบก็อยู่ที่รังยังไงล่ะ… #เหมียวฟิ้นไม่ได้จะกวนหรืออะไรนะ ความจริงมันเป็นอย่างงั้นเองแต่ที่เราไม่เห็นก็เพราะพวกนกพิราบมักจะไปทำรังในที่ลับหูลับตาคนมากๆ แตกต่างจากพวกนกทั่วไปที่อาจจะมาทำรังตรงหน้าต่างบ้านคุณ แต่นกพิราบนั้นจะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะฉะนั้นเราเลยจะหารังของมันเจอในที่ลึกลับ เช่นตามอาคารร้าง บ้านร้าง หลังคา หรือตามใต้สะพานที่คนไม่สามารถเข้าถึงพวกมันได้ นกพิราบคือพ่อแม่จอมโอ๋ลูก ตรงข้ามกับนกสายพันธุ์อื่นที่อยากจะให้ลูกบินโดยเร็วที่สุด เพราะการที่บินได้หมายถึงพวกมันหมดภาระการเป็นพ่อแม่แล้ว จะได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างกระตู้วู้ว ราวกับเป็นนกวัยรุ่นอีกครั้ง พวกพิราบนั้นทำหน้าที่เป็นพ่อเป็นแม่ได้ดีมาก พวกมันจะไม่พยายามบังคับหรือเตะลูกๆ ของพวกมันออกมาจากรังเพื่อบังคับให้ลูกๆ บิน ส่วนบางสายพันธุ์จะใช้วิธีบังคับออกจากรัง เพื่อให้พวกลูกๆ บินได้ซะที (พิราบมันอินดี้นั่นเอง) พวกมันจะคอยประคบประหงมลูกๆ โดยการหาอาหารมาให้และให้ลูกๆ อยู่ในรังอย่างน้อย…