Tag: นอนกรน
-
งานวิจัยเผย คนที่ “นอนกรน” มีความเสี่ยงด้านปัญหาสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป
การนอนกรนถือเป็นหนึ่งในอาการที่ไม่พึงประสงค์สำหรับคู่รักหลายๆ คู่เลยทีเดียว เพราะเจ้าเสียงที่ดังราวกับรถบรรทุกโอ่งวิ่งบนถนนลูกรังและเผลอทำโอ่งตกแตกมันช่างรบกวนการนอนหลับของเราจริงๆ เลยว่าไหม แต่การนอนกรนนั้นไม่ได้ส่งผลเสียกับคู่นอนของคุณเท่านั้น แต่นักวิจัยยังได้เผยอีกว่าผู้ที่นอนกรนนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ สูงกว่าคนทั่วไปอีกด้วย!! นักวิจัยจากโรงพยาบาล Henry Ford เผยว่าการนอนกรนนั้นจะทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ โดยพวกเขาพบว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับความหนาของผนังหลอดเลือดแดง ความหนาของผนังหลอดเลือดนี้เป็นเหมือนสัญญาณของโรคหลอดเลือดตีบ ซึ่งจะทำให้การไหลเวียนของเลือดลำบากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke นั่นเอง และไม่เพียงแค่ผู้ที่นอนกรนเท่านั้นที่จะมีความเสี่ยงที่ผนังหลอดเหลือดจะหนาตัวขึ้น แต่คนที่สูบบุหรี่ มีสภาวะน้ำหนักเกิน และมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความดันรวมถึงคอเลสเตอรอลก็เข้าข่ายในความเสี่ยงเช่นกัน นายแพทย์ Robert Deeb หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “การกรนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพราะอาจะมีความเสี่ยงหยุดหายใจขณะนอนหลับได้ รวมถึงความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่นกัน” จากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่า งานวิจัยชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นแรกที่มีแสดงให้เห็นหลักฐานของการนอนกรนและความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด จากการวิจัยดังกล่าวยังพูดถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ หรือ OSA ที่มีความสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน มะเร็ง หรือเสื่อมสมรรถภาพเพศ ทั้งชายและหญิงอีกด้วย นอกจากนี้งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Harvard ยังได้เผยอีกว่าโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับนั้นมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการการรับรู้ของผู้ที่มียีน Apolipoprotein E ที่จะทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นการนอนกรนยังส่งผลกระทบถึงปริมาณออกซิเจนในเลือดที่ลดลงและทำให้ง่วงนอนตอนกลางวันอีกด้วย ศาสตราจารย์ Susan Redline จากสถาบันการแพทย์ของมหาวิทยาลัย Harvard กล่าวว่า “จากการศึกษาของเราพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าการนอนกรนนั้นมีส่งผลเสียต่อความเร็วในการประมวลผลและความจำ ซึ่งสามารถพยากรณ์ได้ว่ามันเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจที่ลดลง การรักษาอาการนอนกรนนั้นจะช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมด้วย”…
-
9 วิธีการง่ายๆ ช่วยให้คุณเลิกนอนกรน เพื่อสุขภาพการนอนของคนที่คุณรัก!!!
สำหรับการนอนกรนก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องนอนร่วมกับคนกรน เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ (ณ จุดๆ นี้ เพื่อนๆ หลายๆ คนที่เคยไปเข้าค่ายพักแรมคงทราบกันดี) หลับทีหลังนี่มีสิทธิ์ตายได้เลยทีเดียว วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ได้ไปเจอ 9 วิธีการดีๆ ที่จะทำให้คุณเลิกเป็นคนนอนกรน มาฝากกันล่ะ อิอิ เพื่อคนที่คุณรัก มาทำกันเถอะ พวกเขาจะได้นอนสบายๆ เสียที >< 1. ใช้เครื่องทำความชื้นสิ การที่คนนอนกรนส่วนหนึ่งก็เพราะความแห้งของอากาศนั่นแหละ เพราะฉะนั้นถ้าเพิ่มความชื้นขึ้นบ้างเล็กน้อยในอากาศก็อาจช่วยการนอนกรนได้ แต่บ้านเราเป็นเมืองร้อนชื้นอยู่แล้วต้องระวังเรื่องปอดบวมถ้าใช้เครื่องตัวนี้ ทางที่ดีควรใช้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท และที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำก่อนเข้านอนนะจ๊ะ 2. ลองเปลี่ยนท่านอนดูบ้าง บางทีการเปลี่ยนท่านอนที่แตกต่างออกไปก็สามารถทำให้อาการกรนลดลงได้ เทคนิคง่ายๆ ลดการนอนกรนที่เบสิกมากๆ เลยก็คือการนอนตะแคงข้าง และท่าที่กระตุ้นการนอนกรนมากที่สุดคือท่านอนหงายนี่แหละ 3. ลดการดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ 4-5 ชั่วโมงก่อนนอนเป็นเครื่องมือกระตุ้นการกรนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยิ่งคนที่นอนกรนอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก 4. ใช้อุปกรณ์ Mouthpiece ใส่เวลานอน …
-
เจ้าหมีน้อยน่าสงสาร ถูกแม่ทิ้งเลยต้องมานอนกับตุ๊กตากวาง พอกรนเท่านั้นแหละ เสียงน่ารักสุดๆ !!!
ก็เรียกได้ว่าเมื่อราวๆ ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คลิปของเจ้าหมีขาวตัวน้อยได้เข้ามาถล่มอินเตอร์เน็ทแบบถล่มทลายกันไปเลยทีเดียวด้วยความน่ารักของมัน เรื่องราวของลูกหมีขาวถูกแม่ของมันทิ้ง และต้องมานอนกับตุ๊กตากวางมูส ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์โดย Columbus Zoo and Aquarium ถึงจะเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้า แต่พอได้ชมบรรยากาศแล้วจะบอกว่าน่ารักสุดๆ เจ้าหมีขาวตัวน้อยที่ถูกแม่ทิ้ง โดยทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้กล่าวว่า เพราะแม่ของมันรู้สึกเศร้าใจมากๆ จากการตายของลูกๆ ตัวอื่น และไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูแลเจ้าหมีน้อยตัวนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาดูแลเจ้าหมีน้อยตัวนี้ 24 ชั่วโมงเลยล่ะ แถมตอนมันหลับเสียงมันน่ารักสุดๆ เน้นหนักมามากแล้ว ลองมาชมคลิปที่เป็นที่กล่าวขานกันดีกว่า อิอิ อ๊ากกกกกกก น่าย๊ากกกกก ทำไมมันทำเสียงแบบน้านออกมาาาาา ใครก็ได้ให้คำตอบเหมียวที >< ที่มา: Borepanda