Tag: นักท่องเที่ยว
-
ตำรวจพบสาวไทยวัย 19 ปี ถูกทำร้าย ‘ปางตาย’ ในญี่ปุ่น-คู่กรณีโดดตึกหวังจบชีวิต
เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 19 ธันวาคม 2018 เฟซบุ๊ก Thanakorn Jaisuksakuldee ได้รายงานว่ามีหญิงสาวชาวไทยถูกทำร้ายสาหัสในประเทศญี่ปุ่น ซ้ำคู่กรณีกระโดดตึกหวังจบชีวิต เฟซบุ๊กดังกล่าวเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ๆ สถานีรถไฟ JR Oguisudani ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 18 ธันวาคม 2018 พนักงานโรงแรมนั้นได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและกรีดร้องของผู้หญิงดังออกมาจากชั้น 5 ของโรงแรม จึงได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงพบ หญิงสาวชาวไทยวัย 19 ปี นอนหมดสติในสภาพเปลือยกาย ทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะใบหน้าและศีรษะมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างสาหัส ภายหลัง พบร่างของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปีนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บริเวณข้างโรงแรมในสภาพที่ไม่สวมอะไรเลยนอกจากกางเกงชั้นใน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชายคนดังกล่าวมีกระดูกหักหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยล่าสุดชายคนนี้ก็ยังคงไม่ได้สติ ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หญิงสาวชาวไทยและชายชาวญี่ปุ่นดังกล่าว อาจมีปัญหาส่วนตัวกันและเกิดการทะเลาะวิวาท ฝ่ายชายอาจมีการทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงและกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย หลังจากการตรวจสอบข้อมูลในหนังสือเดินทางของหญิงชาวไทยดังกล่าว พบว่าเธอเป็นเพียงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีระยะเวลาพำนักในญี่ปุ่นเพียง 15 วันเท่านั้นซึ่งจะหมดลงในวันที่ 20 ธันวาคม 2018 ส่วนฝ่ายชายนั้นเป็นชาวญี่ปุ่น เบื้องต้นทราบเพียงแค่ว่าเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้น …
-
Brooklyn ลูกชาย David Beckham โดนดราม่าโพสต์ภาพ “เหยียด” นักท่องเที่ยวชาวจีน!
Brooklyn Beckham ลูกชายแท้ๆ ของตำนานนักฟุตบอลอย่าง David Beckham ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากมายหลังจากที่เขาถ่าย “นักท่องเที่ยวจีน” ในอิตาลี แล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม . Brooklyn แอบถ่ายภาพของชาวจีน (หรือชาวเอเชีย) ที่เดินเลือกซื้อของและล่องเรือกอนโดลาอยู่ในเมืองเวนิส พร้อมโพสต์ลงบนอินสตาแกรมพร้อมด้วยคำบรรยายภาพว่า… “คงไม่มีที่ไหนดีเท่าอิตาลีแล้วล่ะเนาะ” (No place like Italy innit.) และนั่นทำให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเห็นได้พากันคอมเมนต์อย่างโกรธเคือง เพราะมันฟังดูเหมือนการแซะ การดูถูก ถึงขั้นว่าเป็นการ “เหยียด” กันเลยก็ว่าได้ ภาพดังกล่าวมียอดไลก์นับแสน แต่ปัจจุบันรูปภาพเหล่านั้นถูกลบไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ชาวจีนหลายคนก็ยืนยันว่าต้องการให้ Brooklyn ออกมากล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ตัวอย่างคอมเมนต์กล่าวว่า “นี่น่ะเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างแท้จริง เขาเองก็ไม่ใช่ชาวอิตาลี เขาก็เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าพวกเรา มันสูงส่งกว่าชาวเอเชียอย่างพวกเราตรงไหน?” เมื่อโดนกระหน่ำมากๆ เขา Brooklyn ก็ถึงกับล็อกให้อินสตาแกรมของตนเองเป็นโหมดส่วนตัว งานนี้ไม่ใช่แค่หนุ่ม Brooklyn ที่โดนกระหน่ำ ความซวยตกลงไปถึง David และ Victoria…
-
เกิดเหตุ ‘ตบตีกัน’ ในห้างประเทศเกาหลีใต้ เพราะนักท่องเที่ยวจีน “แซงคิว” คนอื่น
เหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดเกิดขึ้น ณ ร้านค้าปลอดภาษีในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการต่อสู้ทำร้ายร่างกายระหว่างกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง โดยทราบมาว่าเกิดขึ้นเพราะมีการ “แซงคิว” กันนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 ซึ่งได้มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ ขณะที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในโซนเครื่องสำอางบนชั้น 12 ของห้างปลอดภาษี The Lotte ในย่านอึลจิโร ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ ในช่วงแรกของวิดีโอจะเห็นได้ว่าหญิงสองคนกำลังดึงผมของกันและกันจนล้มลงกับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ หลังจากนั้นชายคนหนึ่ง คาดว่าเป็นสามีของหญิงที่กำลังปะทะ ก็เข้ามากระทืบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวที่ล้มอยู่ “นางคนนี้มารังแกเมียฉันก่อน!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาก่อนที่ฝูงชนจะเข้ามาห้าม “พอแล้ว หยุดตีกันได้แล้ว!” เสียงตะโกนจากผู้คนรอบๆ หลังจากนั้นราว 5 นาที ผู้รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อสัมภาษณ์ หญิงสาวในคลิป ทำให้ทราบว่าหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้ทำการ แทรกตัวเข้าไปแซงคิว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น ภายหลังทราบว่าทั้ง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดความไม่พอใจกับชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก หลายคอมเมนต์กล่าวเป็นทำนองเดียวกันว่า “ทั้ง 3 คนได้สร้างความอับอายให้กับชาวจีน พวกเขาไม่ควรออกไปเที่ยวต่างประเทศ” ฝากเตือนเพื่อนๆ…
-
นักท่องเที่ยวหญิงเดือดจัด ตบหน้าตม. เพราะท้วงวีซ่าหมดอายุ จนทำให้ตกเครื่อง!!
งานบริการถือเป็นงานที่ต้องรับมือกับผู้คนมากหน้าหลายตา จนบางครั้งอาจจะต้องพบเจอกับคนที่แบบว่าไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ด้วย!? เช่นเดียวกันกับเรื่องดังต่อไปนี้ที่กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียลของต่างประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ไปตบหน้าของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่อินโดนีเซีย เพราะโมโหที่เจ้าหน้าที่ทำให้เธอต้องตกเครื่อง เรื่องมีอยู่ว่านาง Auj-e Taqaddas นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษวัย 42 ปี กำลังจะเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน Ngurah Rai International Airport ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างนั้นก็ต้องไปผ่านด่านตรวจคนตามปกติ แต่เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตม. ได้ทำการตรวจเช็กแล้วพบว่าวีซ่าของหญิงนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวหมดอายุไปแล้ว!? ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าวีซ่าหมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเธอจะต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นมูลค่า 25 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (830 บาท) ต่อ 1 วันที่วีซ่าขาดไป และตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 150 วันแล้วที่เธอปล่อยให้มันขาดไป นั่นเท่ากับว่าเธอจะต้องเสียเงินค่าปรับเป็นมูลค่าถึง 4,000 เหรียญฯ (133,000 บาท) แต่จากการท้วงติงของเจ้าหน้าที่ ทำให้นักท่องเที่ยวหญิงเกิดโมโห และตบเข้าที่ใบหน้าของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง เธอให้เหตุผลที่ทำแบบนั้นเพราะว่าโมโหที่เจ้าหน้าที่ทำให้เธอต้องตกเครื่องบิน “นายไม่ได้จ่ายเงินค่าเครื่องบินให้กับฉัน บอกมาสิว่าจะเอาเงินค่าเครื่องมาให้ฉัน ทำไมไม่พูดล่ะ พูดมา!!!” …
-
‘ทหารองครักษ์’ ผลักนักท่องเที่ยวซะกระเด็น เพราะไปยืนขวางทางเดินลาดตระเวน!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีของ ‘ทหารองค์รักษ์’ ผลักนักท่องเที่ยวสาวจนกระเด็น เพราะเธอดันไปขวางทางเดินลาดตระเวน!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าพระราชวัง Windsor Castle ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม อย่างไรก็ตามในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญ เพราะเป็นถึงพระราชวัง มีทหารที่คอยทำหน้าที่เดินลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อย จึงมีกฏขึ้นมาว่า ห้ามไปขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อย่างเช่นการเดินขวางทาง การหาเรื่องพวกเขา หรือชวนพูดคุย แต่กลับกลายเป็นว่ามีนักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งละเมิดกฎ 1 ในข้อที่กล่าวมา คือ ‘ยืนขวางทาง’ เจ้าหน้าที่ ทำให้เธอถูกผลักออกจากเส้นทางอย่างรุนแรง ในเบื้องต้นดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม จากกที่ถูกผลักเป็นเพราะเธอไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ดังจะเห็นได้จากเชือกที่กั้นอยู่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้านหลังเชือกนั้น แต่ตัวของผู้หญิงที่ถูกผลักกับมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเชือก!? แต่อย่างไรก็ตามชาวเน็ตก็ให้ความเห็นออกเป็นสองเสียง ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ทหารองครักษ์ถึงไม่ตักเตือนดีๆ ก่อน การผลักรุนแรงแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลยแม้แต่น้อย อย่างที่รู้กันว่าหน้าที่ของทหารองครักษ์คือปกป้องสถานที่ของราชวงศ์ และพวกเขาถูกฝึกมาให้ทำหน้าที่อย่างเงียบๆ ไม่พูดหรือสื่อสารกับใคร ต่อให้เกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็จะทำหน้าที่ของเขาต่อไปโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากนี้ยังมีการอนุญาตให้มีการตักเตือนนักท่องเที่ยวหรือใครก็ตามที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามสมควร ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แล้วเพื่อนๆ…
-
เลบานอนสั่งตำรวจหญิง “นุ่งสั้น” เป็นมาตรการ ‘ดึงดูด’ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ!
ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม การที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวย่อมเป็นผลดีกับประเทศนั้นๆ หลายประเทศจึงมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวิธีต่างๆ ประเทศเลบานอน เองทำเช่นเดียวกัน นอกจากงานประติมากรรมขนาดยักษ์ พิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ และสถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่เป็นจุดเด่นแล้ว ประเทศนี้ยังมีวิธีการดึงดูกนักท่องเที่ยวที่ “ล้ำ” กว่านั้นอีก ในเมือง Brummana เมืองเล็กๆ ของเลบานอน นายกเทศมนตรี Pierre Achkar ได้เกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมในเมือง และไอเดียสุดบรรเจิดที่ว่านี้ก็คือ การสั่งให้ตำรวจจราจรสาวทั้งหลายเปลี่ยนชุดเครื่องแบบมาเป็นสวมใส่ กางเกงขาสั้น โชว์เรียวขากันทั่วทั้งเมืองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่นเอง ตำรวจสาวในเลบานอน ท่านนายกเทศมนตรีกล่าวกับสำนักข่าว RT ว่า “พวกเราชาวเลบานอนเองก็อยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แสนเยือกเย็นของเลบานอนตะวันตกเหมือนกันนะ” เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอเรเนียนนั้นส่วนมากจะสวมกางเกงขาสั้นกันทั้งนั้น” สวมกางเกงขาสั้นสีดำอวดเรียวขา แถมใส่สบายอีกด้วย ถึงกระนั้น มาตรการนี้ก็ถูกคัดค้านและถูกโจมตีเช่นกัน โดย ฝ่ายอนุรักษ์นิยม กล่าวว่านายกเทศมนตรี Achkar ทำให้เจ้าหน้าที่เพศหญิงต้องเปิดเผยเรือนร่างโดยไม่จำเป็น ขณะที่ ฝ่ายเสรีนิยม กล่าวว่าการที่การบังคับให้เพศหญิงสวมใส่กางเกงขาสั้นซึ่งเพศชายนั้นอนุญาตให้สวมกางเกงขายาวได้เป็นเรื่องที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมอย่างยิ่ง เป็นแนวคิดการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ แต่จะได้ผลดีหรือไม่นั้นก็ต้องลองดูกันต่อไป คลิปวิดีโอเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสาว “นุ่งสั้น” ในเลบานอน อย่างไรก็ตาม บนโลกออนไลน์ก็ได้มีการถกเถียงกันถึงประเด็นนี้อยู่มิใช่น้อย…
-
จากมีมสู่ชีวิตจริง สาวแชร์ภาพ ‘แฟนหนุ่มเหลียวหลัง’ นี่จะไม่เกรงใจคนที่จับมือหน่อยเหรอ!?
ในโลกอินเทอร์เน็ตนี้ จะมีสิ่งที่เรียกกันว่า ‘มีม’ ถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงอยู่บ่อยๆ เพื่อสร้างความตลกขบขันกับสิ่งที่พบเจอในชีวิตจริง แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงนั้นแทบจะน้อยมากๆ แต่แล้วกับมีมแฟนหนุ่มเหลียวหลังมามองสาวฮอตนั้น ที่ได้รับความนิยมมากๆ แบบว่าเจออะไรที่ดึงความสนใจได้มากกว่าสิ่งที่มีอยู่ อย่างเช่นเจอเกมใหม่ เจอรถแรงกว่า อะไรทำนองนี้ มีมนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Distracted Boyfriend ยกตัวอย่างเป็นเวลาเราเจอหมา เราจะหันไปสนใจหมามากกว่าคน… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Trishna Pema สาววัย 16 ปีจากเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ย้อนกลับไปในช่วงที่เธอกำลังท่องเที่ยวอยู่ในเมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยที่มีพี่สาวเป็นผู้ถ่ายภาพให้ระหว่างทริป จากภาพที่เธอกำลังจ้องมองไอศกรีมเจลาโตธรรมดา แต่ดันมีนักท่องเที่ยว 2 ราย โผล่เข้ามาร่วมเฟรมด้วย จึงบังเกิดเป็นความบังเอิญแบบเป๊ะมากๆ ลองดูหน้าของชายหนุ่มคนนั้นสิ!! “ช่วงที่เรากำลังเดินผ่านจัตุรัส St. Mark เราได้ไอศกรีมติดไม้ติดมือมา พี่สาวของฉันก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพสวยๆ สักหน่อย เธอก็ถ่ายไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ จนเรามาเห็นทีหลังว่ามีภาพหนึ่งที่ถ่ายติดคู่รักมาด้วย” “เราสังเกตเห็นถึงความเป๊ะในภาพนี้ มันดูคุ้นตากับมีมอันหนึ่งอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอเห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บในทันที นี่มันเป็นมีมในตำนานชัดๆ” Trishna ให้สัมภาษณ์กับทาง…
-
ชาวญี่ปุ่นโอด…นักท่องเที่ยว ‘แกะสลัก’ ต้นไผ่ ในป่าไผ่อาราชิยามะ เจ้าหน้าที่ต้องจำใจตัดทิ้ง
‘ป่าไผ่อาราชิยามะ’ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เหล่านักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเดินทางไปเยือนเกียวโตเป็นต้องไปเยี่ยมชม แต่เนื่องจากว่ามันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาไปเยือน ย่อมทำให้เกิดปัญหาตามมา และปัญหาที่ป่าไผ่อาราชิยามะกำลังเผชิญอยู่นี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คนญี่ปุ่นมากมายออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากว่าเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา บริษัท Ebisuya ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการรถลากในป่าไผ่อาราชิยามะ รวมไปถึงช่วยจัดการดูแลด้านต่างๆ ในป่าไผ่แห่งนี้ ได้ทำการโพสต์หน้าเฟซบุ๊กเพจ เป็นภาพของต้นไผ่ที่ถูกสลักเขียนเป็นตัวหนังสือในภาษาต่างๆ มากมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้แคปชั่นในโพสต์ดังกล่าวว่า “ต้นไผ่ในป่าอาชิรายามะกำลังร้องไห้” ในโพสต์เล่าว่าต้นไผ่ที่ถูกแกะสลักนั้นจะต้องถูกตัดออกไป เหตุเป็นเพราะว่ารอยที่ถูกกรีดของต้นไผ่จะทำให้ต้นไผ่ค่อยๆ ผุพังไปทีละน้อย นั่นหมายความว่าจำนวนต้นไผ่ที่อยู่ในป่าไผ่จะหายไป ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหลังจากนี้จะไม่ได้ชมความงามที่แท้จริงของป่าไผ่ได้เหมือนในอดีต จากในโพสต์ระบุว่าตอนนี้มีต้นไผ่ที่ต้องตัดไปกว่า 100 ต้นแล้ว!! นอกจากนี้ทางเพจยังได้ทำการขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ว่าหากเห็นการกระทำที่ไม่ถูกไม่ควร อย่างการแกะสลักต้นไผ่นี้ ก็ให้รีบมาแจ้งแก่เจ้าหน้าที่โดยด่วน จากการตรวจสอบบนต้นไผ่แล้วพบว่ามีตัวหนังสือภาษาอังกฤษ, เกาหลี, จีน และบางส่วนก็มีภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย จากการคาดการณ์นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมยังป่าไผ่ ได้ทำการแกะสลักชื่อของตัวไว้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าตนได้มาเที่ยวยังที่แห่งนี้แล้ว เพราะต่อจากชื่อก็มีการสลักเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงวัน เดือน ปี ทางด้านเทศบาลของเมืองเกียวโต ก็ได้มีประกาศออกมาเพื่อขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยว ไม่ให้ทำการแกะสลักต้นไผ่เพื่ออนุรักษ์ป่าไผ่ …
-
ดราม่าข้ามประเทศ!! “ชาวไทย” ย่ำโขดหินสาหร่าย ฝ่ายไต้หวันแนะ “อย่าทำแบบนี้เลย..”
ตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามในแบบเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ต่างก็อยากจะได้รูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาสัมผัส ณ ช่วงเวลานั้นๆ คงจะไม่ผิดเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าการยืนถ่ายรูปของเราไม่ได้เป็นการทำลายธรรมชาติ แต่ทว่าหลายต่อหลายครั้งก็จะเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม โขดหินสาหร่าย ชายทะเลเหลาเหม่ย ประเทศไต้หวัน อย่างเช่นในกรณีของโขดหินสาหร่ายจากประเทศไต้หวัน ณ ชายทะเลเหลาเหม่ย รายละเอียดถูกเปิดเผยผ่านจากเพจ Drama-Addict มีชาวไต้หวันร้องเรียนเข้ามาว่า… มีนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขึ้นไปเหยียบบนโขดหินที่มีสาหร่ายเกาะ อีกทั้งยังถ่ายรูปมาเผยแพร่ผ่านโซเชียลด้วย . ทางด้านชาวเน็ตฝั่งไทยก็ได้ออกมาย้ำเตือนให้กับผู้อื่นได้รับทราบว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถือเป็นการทำลายธรรมชาติ และไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ชาวเน็ตบางส่วนก็โต้แย้งว่า การขึ้นไปเหยียบสาหร่ายแบบนี้ไม่น่าจะทำให้สาหร่ายตายได้ และไม่มีป้ายตักเตือนเป็น ‘ภาษาไทย’ ในบริเวณนั้น . . อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหายต่อสถานที่ท่องเที่ยวไปมากกว่านี้ จึงมาการตักเตือนส่งผ่านมายังเพจดัง เพื่อย้ำเตือนว่าไม่ควรขึ้นไปเหยียบสาหร่ายบนโขดหินโดยเด็ดขาด หากยังละเลยก็อาจจะต้องมีการทำป้ายเตือนเป็นภาษาไทย อาจจะมองได้ทางอ้อมว่า เป็นการเหมารวมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหมด อันที่จริงแล้ว มีการทำป้ายเตือนไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย เพียงแต่ไม่ใช่ภาษาไทย . . ที่มา…
-
ชาวเน็ตแฉพฤติกรรมแสบ “ลิงเมืองลพบุรี” มันไม่ได้น่ารัก แต่มันสะตอค่ะคู๊ณณณ
หากว่ากันด้วยเรื่องจุดเด่นประจำจังหวัดในประเทศไทยล่ะก็ คงไม่มีที่ไหนเห็นได้ชัดเจนไปกว่าเมืองลิง อย่างจังหวัดลพบุรี อีกแล้วล่ะ ที่ได้ชื่อว่าเมืองลิงก็เพราะว่าจังหวัดลพบุรีนี้น่ะ มี “เจ้าจ๋อ” อาศัยอยู่เยอะจริงๆ วิ่งเพ่นพ่านกันทั่วเมือง แต่เจ้าลิงพวกนี้นี่แหละที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดลพบุรีสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างถิ่นเลยก็ว่าได้ แต่ว่าสำหรับชาวลพบุรีเอง เจ้าจ๋อพวกนี้น่ะ…แสบสุดๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดเป็นมหกรรม แฉพฤติกรรมสุดแสบ ของลิงจังหวัดลพบุรี ที่กำลังแพร่หลายทั่วโลกทวิตเตอร์และโลกอินเทอร์เน็ต “แสบแบบนี้ต้องแฉให้โลกรู้ไปเลย!!” เอาล่ะ มาดูรวมทวิตเตอร์แฉความร้ายกาจของเจ้าจ๋อเมืองลพบุรีกันเถอะ ว่ามันแสบขนาดไหน!? 1. คับแค้นใจอะไรเบอร์น้านน 2. สู้ๆ นะ ขอให้ย้ายสำเร็จ 3. เรามาอยู่ในจุดที่ลิงเป็นมาเฟียคุมถิ่นแล้วเหรอ 4. นี่ก็แค้นแล้วแค้นอีก สงสัยโดนลิงบูลลี่มาอย่างหนักหน่วง 5. ไม่ได้ น้องต้องดูเรียบร้อยในสายตาชาวโลก 6. เวลาปกติ กับเวลารับแขกมันไม่เหมือนกันนนน 7. อาจจะต้องย้ายทะเบียนราษฎร์จริงๆ 8. ยัง ยังจะพยายามอยู่ 9. โธ่ ไอ้เจ้าจ๋อ!! ทำไม่แกถึงเลือกดึงไอติม!!?? 10.…
-
คนหรือปลาเนี่ย!!? ชมภาพนาทีที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย ‘คลอดลูก’ กลางทะเล ประเทศอียิปต์
ทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่สัตว์น้ำแล้วนะที่ออกลูกในทะเล “มนุษย์” อย่างเราๆ ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุด คุณแม่ชาวรัสเซียคลอดลูกในทะเลเฉยเลย!! Hadia Hosny El เป็นผู้ที่ไปท่องเที่ยวยังย่าน ดาฮับ เมือง ชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ และขณะที่เธอยืนอยู่นอกระเบียงอพาร์ตเมนต์ เธอก็เห็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลุ่มหนึ่งกำลังทำการ “คลอดลูก” ใน ทะเลแดง เธอจึงเก็บภาพเหตุการ์ทั้งหมดเท่าที่เธอเห็น มาเผยแพร่บน เฟซบุ๊ก ของเธอเอง โดยในภาพจะเห็นว่ามีชายสูงวัยที่กำลังอุ้มทารกแรกเกินขึ้นมาจากทะเล รวมทั้งชายหนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อของเด็กคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็จะเห็นได้ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่ง เดินขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดทารกน้อยในภาพ ภาพเหตุการณ์ที่ชายทั้งสองพยายามอุ้มทารกขึ้นมาจากน้ำ ภาพถูกถ่ายจากนอกระเบียงของอพาร์ตเมนต์ที่ Hadia Hosny El เข้าพัก เจ้าหนูทารกตัวน้อย กำเนิดขึ้นมากลางทะเลแดงประเทศอียิปต์ จากนั้นไม่นาน ผู้เป็นแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าเธอเพิ่งเสร็จจากการว่ายน้ำเล่น เมื่อกลับขึ้นชายฝั่ง คุณแม่ก็เข้ามาอยู่รวมกับครอบครัวเธออีกครั้ง Hadia กล่าวว่า ชายสูงวัยที่อุ้มเด็กในภาพนี้ เป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการให้กำเนิดบุตรในน้ำโดยเฉพาะ แปลว่าคุณหมอคนนี้เข้ามาช่วยเหลือการให้กำเนิดได้อย่างทันเวลา ตัวตนของผู้เป็นแม่ และสภาวะของเด็กทารกยังไม่ถูกเปิดเผย แต่จากที่เห็น คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข…
-
Begpacker!? ตำรวจช่วยเหลือสองนทท. ญี่ปุ่น มาเที่ยวไทยแต่ไม่มีเงิน ชูป้ายขอติดรถเข้ากรุง…
เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางแฟนเพจของสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การช่วยเหลือ 2 นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นทีกำลังยืนโบกรถเข้ากรุงเทพบริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภาพจากโพสต์ต้นทางของเพจสถานีตำรวจภูธรอัรญประเทศ ทางแฟนเพจของสถานีตำรวจได้โพสต์ภาพของนักท่องเที่ยวทั้งสองพร้อมข้อความว่า… ” 安全な旅 (เดินทางปลอดภัย) ครับ สายตรวจจราจร สภ.อรัญประเทศ ขณะออกตรวจพื้นที่ พบเห็นนักท่องเที่ยวยืนถือป้าย หน้า รร.อนุบาลศรีอรัญโญทัย จึงเข้าไปสอบถาม เบื้องต้นทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาว ญี่ปุ่น (นักศึกษา) จำนวน 2 คน ยืนถือป้ายคำว่า NO MONNEY, BANGKOK, SAKAEO ทั้งคู่ต้องการจะเดินทางไปกรุงเทพฯ จึงถือป้ายเพื่อที่จะขออาศัยรถที่สัญจรผ่านเข้ากรุงเทพฯ เพื่อประหยัดค่าเดินทาง สายตรวจฯ จึงประสานตำรวจท่องเที่ยวอรัญประเทศเข้ามาร่วมมือให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จึงได้พานักท่องเที่ยวทั้ง 2 มาพักชั่วคราวที่ สภ.อรัญประเทศ และจากการหารือเห็นว่า การปล่อยให้เดินทางแบบนั้นจะไม่ปลอดภัยแก่ตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 2 จึงประสานรถตู้โดยสารสาธารณะที่ บขส.อรัญประเทศ ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 เดินทาง เพื่อความปลอดภัย #ยกระดับการให้บริการ #ตำรวจอรัญ “ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับชื่นชมการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์มากกว่า…
-
หมู่บ้านในจีน ต้องประสบภาวะการจราจรติดขัด เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยอะเกิ๊น
เมื่อถึงหน้าเทศกาลสำคัญ ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนกลับไปหาพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนก็อาศัยจังหวะหยุดยาวนี้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทว่าก็เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเทศกาลมาถึง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างแน่นอนก็ปัญหาเรื่องการจราจรหรือรถติดนั่นเอง ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแต่เฉพาะกับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่กับประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศจีน ก็ต้องประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่ส่วนใหญ่จะเป็นวันพักผ่อนใหญ่ของปี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันไปอย่างล้นหลาม จนรถติดเหมือนกับตังเมเลยก็ว่าได้!! โดยนี่คือภาพของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลส่านซี ที่มีนักท่องเที่ยวนับพันไปกระจุกกันอยู่ที่นั่นจนทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปทางไหนได้เลย ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากว่าหมู่บ้านแห่งนี้ มีวิวทิวทัศน์อันสวยงามแถมยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักขึ้นเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเริ่มเทศกาลตรุษจีนขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาพจากมุมสูงที่ได้แพร่หลายเป็นอย่างมากในสังคมอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน โดยภาพที่ว่านี้จะแสดงให้เห็นว่าจำนวนรถที่อยู่ในหมู่บ้านชื่อว่า Yuanjia นั้นมันมากซะจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่าในวันนั้นมีรถที่กำลังต่อคิวกันตามท้องถนนยาวถึง 4 กิโลเมตร และบริเวณทางแยกก็ได้กลายเป็นลานจอดรถไปโดยปริยาย เพราะว่ามันไม่สามารถสวนทางกันได้เหมือนกับที่ควรจะเป็นนั่นเอง เห็นภาพอย่างนี้แล้ว นอนตีพุงอยู่บ้านน่าจะดีกว่า สำหรับหมู่บ้าน Yuanjia เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามภายในประเทศจีน ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเมืองซีอานกับเมืองเสียนหยาง โดยตำนานเล่าเอาไว้ว่าบริเวณเชิงเขาของหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นที่กำเนิดของ จักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมอีกด้วย สภาพนี้ ถ้าเป็นเราคงจะหัวร้อนน่าดูเลย ที่มา: medium
-
ทางการจีนเตือนนักท่องเที่ยว ที่จะไปเที่ยวที่ทวีปแอนตาร์กติกาว่าอย่าเอามือไปจับเพนกวิน
เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนั้น ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศจีนเริ่มขยายเส้นทางออกไปยังที่ต่างๆ มากมายตามมุมต่างๆ ของโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาและยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าทวีปแอนตาร์กติกาไม่พลาดที่จะมีชาวจีนไปเยือนเช่นกัน… ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ทางจีนได้มีการโฆษณาเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนดินแดนน้ำแข็งที่ทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งแน่นอนว่าก็มีคนจีนให้ความสนใจเพียบและพากันไปยกใหญ่ เพียงแต่พอคนไปเยอะปัญหามันก็ตามมา นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ที่ไปเยือนยังดินแดนน้ำแข็งซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ของพวกเขา ล้วนตื่นเต้นที่ได้เจอกับเพนกวินตัวเป็นๆ จึงอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปทักทายและไปจับมัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นการสร้างปัญหาให้กับสัตว์ตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ทางการจีนก็ไม่นิ่งนอนใจแต่อย่างใดพร้อมประกาศกฎใหม่ทันที โดยกฎที่ว่านั้นประกาศให้นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวยังทวีปแอนตาร์กติกาห้ามเก็บอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกลับมา ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด ที่สำคัญห้ามเข้าไปจับหรือรบกวนเพนกวินและรวมถึงสัตว์ตามธรรมชาติอื่นๆ ด้วย จากรายงานของ South China Morning Post นั้นได้บอกไว้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนคนไหนที่ละเมิดกฎดังกล่าว จะถูกแบนห้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกาทันทีเป็นระยะเวลา 3 ปี!! อย่างไรก็ตาม โทษดังกล่าวก็ดูจะไม่รุนแรงสักเท่าไหร่นัก เพราะว่าการไปเที่ยวทริปทำนองนี้บางคนก็เลือกที่จะไปแค่ครั้งเดียวในชีวิต ฉะนั้นทางการอาจจะต้องปรับกฎใหม่ให้มันรุนแรงขึ้นเพื่อช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวนั่นเอง และจากสถิติการท่องเที่ยวของคนจีนที่ไปเยือนทวีปแอนตาร์กติกานั้น นับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปี 2016 นั้น ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังทวีปดังกล่าวจำนวน 4,000 คนและกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีการเชิญชวนดังกล่าว ซึ่งตอนนี้อันดับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนทวีปแอนตาร์กติกานั้น จีนเป็นรองแค่นักท่องเที่ยวของอเมริกา…
-
กลุ่มนักท่องเที่ยวอังกฤษ ถูกทางการกัมพูชาจับกุม หลังมีการเผยแพร่ภาพการเต้นลามก
เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวอายุระหว่าง 19 ถึง 35 ปีจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวอังกฤษ 5 คน โดยอ้างว่าพวกเขาทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในงานปาร์ตี้ เว็บไซต์ของทางกัมพูชาได้เผยแพร่ภาพของเหล่านักท่องเที่ยว ซึ่งภาพดังกล่าวได้เผยให้เห็นการเต้นล่อแหลมของกลุ่มนักนักท่องเที่ยวชายและหญิง โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้รับภาพดังกล่าวจากพลเมืองผู้เห็นเหตุการณ์ ภาพของเหล่านักท่องเที่ยวที่ทางการกัมพูชาอ้างว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสม ขณะนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกุมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน และพวกเขาจะต้องขึ้นศาลตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามพวกเขายืนยันว่าไม่มีภาพของพวกเขาปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่างานปาร์ตี้ดังกล่าวนั้นจัดขึ้นเวลา 4 โมงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา และพวกเขายังไม่ทราบถึงสาเหตุของการจับกุมตัวครั้งนี้เลย หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกกุมตัว “พวกเราไม่รู้เรื่องเลย และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงถูกจับกุมตัว พวกเราหลายๆ คนยังคงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันนั้นนักท่องเที่ยวประมาณ 80-100 คนกำลังปาร์ตี้กันอยู่ และเจ้าหน้าที่กว่า 30 นายก็บุกเข้าไปในบ้านและจับพวกเรา” หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกุมให้สัมภาษณ์ จากรายงานระบุว่าหนึ่งในกลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวนั้นประกอบไปด้วยชายชาวอังกฤษจำนวน 5 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 10 คนด้วยกัน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เผยว่า ขณะนี้พวกเขากำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นต่อศาล ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกนานถึง 1 ปีด้วยกัน และจะต้องถูกคุมตัวไว้ในห้องขังก่อนการพิจารณาคดีนานถึง…
-
คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1
สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะเคยโดนมาบ้าง กับการที่เข้าไปทานร้านอาหารแล้วงงกับค่าใช้จ่ายที่แพงแบบแพงเวอร์ ซึ่งบางทีก็อาจจะอยู่ในระดับที่พอรับได้ บางท่านจึงไม่คิดอะไร คิดเสียว่าเป็นอาหารบ้านเขา นานๆ กินครั้งคงจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น 4 คนนี้ ไม่สามารถคิดแบบนั้นได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าไปทานอาหารในร้านแล้วโดนคิดค่าอาหารแพงจนแทบอยากจะร้องไห้ การที่ร้านอาหารจะคิดค่าบริการเกินจริงกับชาวต่างชาตินั้นเขาเรียกกันว่า “Tourist Traps“ แปลตรงๆ ก็คือ “กับดักนักท่องเที่ยว” นั่นเอง เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทานอาหารแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดูท่าแล้วจะไม่ค่อยสังเกตรายละเอียดอะไร จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ให้ทางร้านสามารถคิดค่านู่นค่านี่ได้แพงหูฉี่เลยทีเดียว ผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ เป็นกลุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น 4 คน จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยทั้ง 4 คนได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Osteria Da Luca ที่อยู่ใกล้ๆ กับ St. Mark’s Square พวกเขาสั่งแค่เพียงสเต๊ก 3 ชิ้น และปลาทอดหนึ่งชิ้น พร้อมน้ำดื่มเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนก็ต้องถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นราคาบนใบเสร็จที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 44,500 บาท! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกขูดรีด เพราะ 3…
-
Begpacker เทรนด์นักท่องเที่ยวฝรั่งมาขอเงินในเอเชีย ทั้งที่ควรจะพกเงินมาให้พอดีระหว่างท่องเที่ยว!?
ด้วยความสวยงามและความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมของซีกโลกตะวันออก ทำให้หลายๆ ประเทศในทวีปเอเชียอย่างเราเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวชาวตะวันวันตก แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะเคยเห็นกันจนชินตาในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาและยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ก็คือภาพของเหล่านักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ที่ออกมาเรี่ยไรเงินเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของพวกเขาในประเทศแถบเอเชียไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ จนสื่อต่างประเทศเรียกพวกเขาเหล่านั้นว่า “Beg-packers” ภาพที่พบเห็นได้ทั่วไป คำว่า “Beg” คำศัพท์ที่ฟังเหมือนการดูแคลนนี้ใช้ถูกใช้นำหน้าคำเรียกเหล่านักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่ยืนเรี่ยไรเงินอยู่ตามถนนเพื่อขอสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวของพวกเขาในทวีปเอเชีย ภาพของนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก 2 คนที่กำลังนั่งขายโปสต์การ์ดพร้อมป้ายข้อความ “ช่วยสนับสนุนทริปการท่องเที่ยวรอบโลกของพวกเราด้วย” ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และเป็นเรื่องที่แปลกมาก “เราเห็นภาพเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ในสิงคโปร์ มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับการขอเงินใครสักคนเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของคุณ การทำแบบนี้มันไม่น่าชื่นชมเลย มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินจริงๆ อย่างการรักษาพยาบาล การซื้ออาหาร หรือเงินค่าเทอมลูกๆ ไม่ใช่สำหรับการซื้อของแพงๆ ” คุณ Maisarah Abu Samah ชาวสิงคโปร์ที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ ทำไมต้องเป็นเอเชีย ภาพสวยๆ ของสถานที่ต่างๆ นั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลกันไปชมความสวยงามของพื้นที่นั้น และแน่นอนว่าการท่องเที่ยวแบบประหยัดก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว Louisa นักศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองจากประเทศมาเลเซียเองก็มีได้แสดงความเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พฤติกรรมของพวกนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นการมองโลกแบบชาวตะวันตก และพวกเขามองว่าประเทศในแถบเอเชียนั้นมีหลายๆ สิ่งที่แปลกใหม่ การมองแบบนี้ทำให้ประเทศในแถบนี้กลายเป็นเหมือนดินแดนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น มันเหมือนกับการได้ออกมาผจญภัย” สิ่งที่สะท้อนออกมา คุณ Louisa ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า…
-
สิงโตทำรถติดกว่า 100 คัน ผู้คนก็ยินดี๊ยินดี ดูมันเล่นเสียวกัน จึ๊กกกอ่าาาาห์!!
กลายเป็นเหตุการณ์วุ่นๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนกลางวันแสกๆ ที่อุทยานแห่งชาติ Kruger ในประเทศแอฟริกาใต้ เรื่องวุ่นๆ มันก็มีอยู่ว่า นักท่องเที่ยวต้องทำใจยอมรับชะตากรรมจากคู่รักเจ้าป่า ที่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงมาคลอเคลียนัวเนียกันกลางถนน เล่นเอารถนักท่องเที่ยวกว่า 100 คันต้องติดแหง่กอยู่กลางอุทยานนานถึง 20 นาที!! และนี่คือ 2 ผู้ต้องหาที่ทำเอานักท่องเที่ยวต้องวุ่นกันไปทั้งอุทยาน แต่กระนั้นก็ไม่ได้มีใครออกมาโวยวาย หรือขัดขวางความสุขของพวกมันทั้งสอง Catherine van Eyk นักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์วัย 27 ปี เล่าว่า “อันที่จริงมันเป็นภาพหาดูยากมากกว่า รถทุกคันต่างหยุดดูมันเล่นสยิวกันอยู่ประมาณ 20 กว่านาทีได้ ถ้านับไม่ผิดก็มีรถของนักท่องเที่ยวอยู่ 120 คันเลยล่ะ” แม้ว่าจะทำให้รถติดยาวเหยียด แต่นักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า.. นี่แหละอเมซิ่งแอฟริกาใต้ของจริง!! ถ้าอยากรู้ว่าพี่สิงห์เราจะรู้สึกอิ่มเอมขนาดไหน ก็ขอให้ดูภาพใบหน้าของพี่เค้าประกอบ ส่วนฝั่งสาวเจ้าน่ะเหรอ หลังเสร็จกิจก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง… นักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่งเล่าว่า “รถทุกคันต้องขยับเขยื้อนไปอย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้ไม่ขัดจังหวะความสุขของพวกมัน เป็นวินาทีที่หาชมได้ยากจริงๆ” พอมองมุมนี้แล้วเหมือนแมวแถวบ้านยังไงยังงั้น เดี๋ยวจะหาว่าเราใจร้ายไม่ยอมเปิดวาร์ป……
-
รวม 20 ภาพบรรยากาศ “โกลเด้นวีค” ในประเทศจีน วันหยุดยาวผู้คนเดินทางเพียบ!!
วันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยจะเป็นช่วงที่ทำให้เราได้หยุดกันแบบยาวๆ ที่อย่างต่ำก็ต้อง 3 วันขึ้นไป ในช่วงนั้นเราก็จะได้เห็นผู้คนเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอย่างล้มหลาม แต่ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราหรอกนะที่จะมีช่วงวันหยุดยาวกันอย่างนั้นเพราะในประเทศจีน พวกเขาก็มีวันหยุดยาวที่ได้พักกันนานกว่าของเราซะอีก เพราะทุกคนในประเทศจะได้หยุดกันไปนานถึง 1 สัปดาห์หรือก็คือ 7 วันนั่นเอง ในจีนจะมีช่วงที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” เป็นสัปดาห์แห่งวันหยุดโดยในหนึ่งปีจะมีสองครั้งคือตอนวันปีใหม่จีนและวันชาติ ซึ่งเป็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง ผู้คนตามสถานีขนส่งในวันสงกรานต์บ้านเรานี่เทียบไม่ติดเลยจริงๆ ด้วยเหตุนี้ ช่วงดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 710 ล้านคนได้ออกไปในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงวันชาตินี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลหรือคอนเสิร์ตอยู่เยอะแยะทั่วประเทศไปหมด จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้ชาวจีนจะขยันไปใช้บริการการคมนาคมสาธารณะต่างๆ อย่างเช่นรถไฟหรือรถประจำทางไม่อย่างนั้นก็ขับรถไปเองบนทางด่วน จนทำให้ทุกที่ที่กล่าวมานั้นแน่นขนัดไปกันหมด ผู้ปกครองคงต้องล่ามโซ่กับบุตรหลานเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหายชัวร์ ตอนนี้บางคนอาจเริ่มคิดว่าคนจีนเยอะขนาดไหนจะแห่กันมาไทยกันหมดเลยหรือเปล่า เราขอบอกเลยว่าไม่เพราะด้วยเรื่องของค่าใช้จ่ายและกังวลในความปลอดภัยจึงทำให้พวกเขาเกือบทั้งหมดตัดสินใจที่จะเที่ยวกันแต่ภายในประเทศ จึงเป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาจับจ่ายในไทย แต่เอ๊ะ หรือว่าเราควรจะดีใจที่คนจำนวนมากขนาดนี้ไม่มากระจุกอยู่ในประเทศเรา… เดินชนกันจนไหล่ถลอกหมดแล้วมั้งเนี่ย เด็กน้อยได้มีโอกาสออกมาดูโลกกว้าง.. หรือว่าความวุ่นวายกันแน่นะ พื้นที่จริงๆ มันก็กว้างนะ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันแค๊บบบแคบ ตั๋วรถบ้านเขานี่ไม่มีวันหมดหรอ? ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมแบบไหนก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ล้นหลาม ขยายทางหน่อยมั้ย.. มันน่าจะดีขึ้นนะ …
-
ดราม่า… ฝรั่งเตือนนักท่องเที่ยวไทยละเมิดกฎใน Yellow Stone โดนโต้เถียงแถมสั่งลบคลิป!?
การปฏิบัติตามป้ายเตือนต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยรักษาความเรียบร้อยแล้ว ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเองด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้ฝ่าฝืนกฏข้อห้ามของอุทยานแห่งชาติ Yellow Stone ด้วยการเข้าไปในพื้นที่บ่อน้ำร้อน (Thermal Feature) และยืนถ่ายรูปแบบไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ เลย… ชาวต่างชาติผู้หนึ่งได้บันทึกคลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ พร้อมกับเตือนพวกเขาให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยด่วน เพราะในพื้นที่นั้นมีความอันตรายมาก เนื่องจากในพื้นที่ของ Thermal Feature นั้นไม่มีความมั่นคง และเคยมีนักท่องเที่ยวหลายคนพลาดตกลงไปในบ่อน้ำร้อนจนได้รับอันตราย บางคนถึงขั้นเสียชีวิตกันเลยทีเดียว ป้ายตักเตือนถึงอันตรายของพื้นที่บริเวณนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจคำเตือนของชาวต่างชาติผู้นี้เลย หลายๆ คนยังคงยืนถ่ายรูปและเดินเข้าออกในพื้นที่นั้น และนอกจากนี้ในตอนท้ายของคลิปวิดีโอ นักท่องเที่ยวบางคนยังได้โต้เถียงกับผู้บันทึกคลิปวิดีโอ และขอให้ชายคนนั้นลบคลิปอีกด้วย คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นการละเมิดกฏของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ชายคนดังกล่าวได้อธิบายในตอนท้ายคลิปวิดีโอว่า “โชคดีจริงๆ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือตกลงไปในนั้น ผมรู้สึกอารมณ์เสียกับพวกเขา และหลายๆ คนก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอก นอกจากนี้ผมยังถูกพวกเขาขู่ให้ลบคลิปอีกด้วย แต่ผมหวังว่าสิ่งที่โพสต์นี้จะเป็นกรณีศึกษาสำหรับทุกๆ คน “ เรื่องการใส่ใจกับกฎต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ และบางครั้งการฝ่าฝืนก็อาจจะนำมาซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะ ที่มา Jeffh34
-
ชาวเมืองบาร์เซโลนานับร้อย รวมตัวประท้วงที่ชายหาด เพื่อต่อต้านนักท่องเที่ยวล้นเมือง…
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า ผู้คนนับร้อยที่อาศัยอยู่ในบาร์เซโลนา ได้ออกมารวมตัวกันอยู่ที่ชายหาดของเมือง เพื่อประท้วงการไหลบ่าของนักท่องเที่ยวที่ขาดการควบคุม โดยพวกเขาได้ออกมาอ้างว่า การไหลบ่าของนักท่องเที่ยวส่งผลให้ราคาค่าที่พักอาศัยของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น อีกทั้ง ยังมีการบังคับให้ผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองมาเป็นเวลานาน ต้องย้ายออกไปจากย่านใจกลางเมือง นอกจากนี้ ผู้ประท้วงหลายคนยังได้ออกมาเผยอีกว่า พวกเขามักจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย จากการรายงานระบุว่า ผู้ประท้วงหลายคนที่อาศัยอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา ได้พร้อมใจกันสวมเสื้อยืดสีเหลือง และได้นำป้ายประท้วงขนาดใหญ่มาตั้งไว้กลางหาด โดยระบุว่า “เราไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในเมืองของเรา นี่ไม่ใช่บีชรีสอร์ท” อย่างไรก็ตาม การประท้วงของชาวเมืองบาร์เซโลนามีขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่บาร์เซโลนาขึ้นสู่จุดสูงสุดในเดือนนี้ โดยชายหาดหลายๆ แห่งของเมืองถูกยึดโดยนักท่องเที่ยว ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ของบาร์เซโลนา ก็ได้พยายามตอบสนองต่อการไหลบ่าเข้าเมืองของนักท่องเที่ยว โดยการพยายามจำกัดการเจริญเติบโตของอพาร์ตเมนต์ ที่ให้นักท่องเที่ยวจองเข้าพักผ่านทางแอพพลิเคชั่น ความตึงเครียดเกี่ยวกับผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อคุณภาพชีวิตของชาวเมืองบาร์เซโลนา ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยวในบาร์เซโลนา รวมถึงเมืองอื่นๆ ในประเทศสเปน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มหัวรุนแรงได้แอบดักทุบ และทำลายรถทัวร์ที่กำลังบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แม้กระทั่งทำลายรถจักรยานยนตร์ที่ชาวต่างชาติได้เข้ามาขับขี่ รวมทั้งพ่นสเปรย์ข้อความไล่นักท่องเที่ยวให้กลับประเทศอีกด้วย ทางด้าน Mariano Rajoy นายกรัฐมนตรีสเปน ก็ได้ออกมากล่าวถึงกลุ่มหัวรุนแรงว่า การประท้วงต่อต้านการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็นร้อยละ 11%…
-
หนุ่มถูกปฏิเสธเข้าทำงานกว่า 45 ครั้ง เหตุเพราะรอยสักบนใบหน้า ที่พลาดได้มาตอนติดคุก!!
วันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราวของ Mark Cropp คุณพ่อวัย 19 ปี จากประเทศนิวซีแลนด์ ที่พยายามหางานทำแต่กลับไม่มีใครจ้าง เหตุเพราะเขามีรอยสักคำว่า “DEVAST8” (ซึ่งไม่ทราบความหมายแน่ชัด แต่จะออกเสียงคล้าย Devastate ซึ่งหมายถึงการทำลายล้าง) อยู่ครึ่งใบหน้านั่นเอง จากการรายงานระบุว่า เมื่อตอนที่ Mark อายุเพียง 17 ปี เขาถูกนำตัวเข้าคุมขังเป็นเวลานาน 2 ปีในข้อหาใช้อาวุธมีดปล้นนักท่องเที่ยว โดยในคืนหนึ่งขณะที่อยู่ในห้องขัง เขาได้ใช้เวลากับพี่ชายที่อยู่เรือนจำเดียวกันในการดื่มเบียร์ที่แอบทำขึ้นเอง จนทำให้เขาเมาไม่รู้ตัว งานนี้พี่ชายสุดแสบก็เลยตัดสินใจสักคำว่า DEVAST8 ให้กับน้องชายซะเลย และภายหลังจากที่ Mark ได้ตื่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกตกใจกับรอบสักบนใบหน้าเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเขายังก็คงไม่รู้สึกอะไรมากนัก เพราะคนที่อยู่ในคุกก็ล้วนแต่เป็นคนที่มีรอยสักกันทั้งนั้น แต่ความจริงแล้ว ใครจะรู้ล่ะว่ารอยสักดังกล่าวจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตโดยของเขา สองเดือนหลังจากที่ Mark ได้รับการปล่อยตัว เขาได้กลายเป็นคุณพ่อตกงาน นั่นเป็นเพราะรอยสักบนใบหน้า เลยทำให้ไม่มีนายจ้างคนไหนรับเข้าทำงานเลย แม้เขาอาจจะมีประสบการณ์ในการทำงานมาบ้างแล้วก็ตาม…
-
เจ้าวาฬสีเทามีอัธยาศัยดี๊ดี ว่ายน้ำเข้ามาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง น่าร๊ากก~
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เฝ้าฝันอยากจะได้ใกล้ชิดกับวาฬเจ้าสมุทรสักครั้งนั้น บางคนอาจจะโชคดีที่ได้เจอพวกมันปรากฏตัวมาให้เห็น บางคนอาจจะโชคร้ายไม่เจอเลย แต่กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พวกเขาอาจจะโชคดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ San Ignacio Lagoon ในเมือง Baja California ประเทศเม็กซิโก โดยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้ซื้อทัวร์ออกทะเลไปเพื่อตามถ่ายรูปวาฬ และพวกเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวาฬได้ขนาดนี้ หลังจากที่เรือแล่นออกจากท่าได้ไม่นาน นักท่องเที่ยวก็ถึงกับดีใจกันสุดๆ เมื่อพวกเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมัน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมวาฬสีเทาคู่นี้ ถึงได้ใจดียอมออกมาทักทายผู้คน นอกจากจะว่ายน้ำเวียนวนในบริเวณเรือแล้ว เจ้าวาฬยังโชว์ลีลาผาดโผนให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ แต่จิตใจของพวกมันบางทีก็ไม่ได้ดุร้ายเหมือนขนาดตัวซักเท่าไหร่ ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกถ่ายมาได้โดย Mark Carwadine ช่างภาพและนักสัตววิทยา เจ้าวาฬสีเทาตัวนี้สงสัยจะมีนิสัยขี้อ้อนจัด ถึงกับให้คนลูบหัวเล่นราวกับตัวเองเป็นแมวเหมียวยังไงยังงั้น อีกทั้งยังมีโชว์ลีลาผาดโผนตามสไตล์พี่บิ๊กแห่งมหาสมุทรให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่การตามหามันใต้ท้องทะเลลึก และได้ใกล้ชิดกับมันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันแน่นอน… ที่มา: Designyoutrust
-
ชาวต่างชาติตั้งฉายาเกาะเต่า “Murder Island” จากเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 7 รายในรอบ 3 ปี
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมวัย 30 ปีที่เกาะเต่าออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ และมีผู้สนใจเกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวถึง 7 รายแล้วที่ต้องจบชีวิตบนเกาะแห่งนี้ และล่าสุดทางสื่อต่างประเทศก็ได้รวบรวม 6 คดีการเสียชีวิตบนเกาะเต่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยในบางคดีนั้นยังไม่ทราบถึงตัวจริงของฆาตรกร และเป็นอย่างที่รู้กันว่าในทุกคดีนั้น ได้รับความสนใจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก Hannah Witheridge และ David Miller คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 และได้รับความสนใจจากสำนักข่าวแทบจะทุกสำนักในบ้านเรานั่นก็คือคดีของคุณ Hannah Witheridge หญิงสาววัย 23 ปี และคุณ David Miller ชายวัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายระหว่างที่ออกมาเดินในด้านนอกโรงแรม ในวันที่ 15 กันยายน 2014 จากการชันสูตรศพพบว่าทั้งคู่ถูกทำร้ายที่ศีรษะจนเสียชีวิตและนอกจากนี้คุณ Witheridge ยังมีร่องรอยการถูกข่มขืนอีกด้วย Luke Miller คดีต่อมาคือนาย Luke Miller ช่างก่อสร้างจากประเทศอังกฤษ ที่ถูกพบศพในสระว่ายน้ำเมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2016…
-
สื่อต่างชาติเปิดโปง การขาย “เนื้อหมา” บนเกาะบาหลี ที่มาในรูปแบบของ “ไก่สะเต๊ะ”!?
เชื่อว่าเกาะบาหลีเป็นอีกหนึ่งในจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าหลงใหล หรือจะเป็นบรรยากาศแบบชาวเกาะที่ไม่เหมือนใคร ทว่าล่าสุดทางกลุ่ม Animals Australia ได้เข้าไปลงพื้นที่สืบสาวหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า บนเกาะบาหลียังมีการซื้อ-ขาย ‘เนื้อหมา’ เกิดขึ้นอยู่ แต่มาในฐานะสะเต๊ะไก่ซะอย่างนั้น!? **คำเตือน: อาจมีภาพที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ** Lyn White หนึ่งในทีมงานเล่าว่า “ตอนที่เราเริ่มต้นลงพื้นที่ เราแทบจะคิดไม่ออกเลยว่าเนื้อหมาก็ถูกเอามาขายให้นักท่องเที่ยว โดยเปลี่ยนชื่อเป็นสะเต๊ะไก่” ทางทีมงานได้เข้าไปสำรวจบริเวณ Double Six Beach ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่รวมตัวของนักท่องเที่ยวบนเกาะ และพวกเขาก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เนื้อสะเต๊ะไก่ที่นำมาเร่ขายเพียงไม้ละ 1 เหรียญบนเกาะนั้น ส่วนใหญ่แล้วล้วนทำมาจากเนื้อหมาแทบทั้งสิ้น “เรามักจะเห็นพ่อค้าหาบเร่เดินขายอาหาร และสะเต๊ะไก่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อพวกเราลองสอบถามพ่อค้าจริงๆ พวกเขาก็ยอมรับว่าอันที่จริงมันเป็นเนื้อหมา” ทีมงานคนหนึ่งเล่า Luke หนึ่งในผู้สื่อข่าวจาก ABC ได้เข้าไปศึกษาและสำรวจถึงวัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขบนเกาะบาหลีมานานกว่า 4 เดือน เขาได้เห็นภาพความทารุณโหดร้ายที่มนุษย์มีต่อสุนัขมาแล้วนักต่อนัก “ผมเคยเห็นพวกเขาฆาตกรรมสุนัขได้อย่างโหดร้ายมาก บางตัวก็ถูกบังคับให้กินยาพิษ บางตัวก็ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เพียงเพื่อต้องการนำเนื้อมันไปขาย แต่สิ่งที่โหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ… ดูเหมือนมันจะได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวซะด้วย” Luke เล่า หนึ่งในฟุตเทจที่ผู้สื่อข่าวแอบถ่ายมาได้…
-
หนุ่มเข้าพักที่โรงแรม กลัวแม่บ้านจะเบื่อเลยท้าแข่งจัดเตียง จนกลายเป็นกำลังใจดีๆ ให้กัน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเริ่มจากความนึกคึกอยากสนุก หรือความอยากกวนทีนแม่บ้าน ของนักท่องเที่ยงหนุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนามกันแน่ เมื่อเจ้าตัวได้ไปเที่ยวที่เมืองอาร์เซอไบจาน อยู่ดีๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าอยากจะท้าแม่บ้านมาแข่งจัดเตียงแบบแปลกใหม่ จนสุดท้ายเอาไปเอามากลายเป็นการส่งความรู้สึกดีๆ ให้กันแทน ด้วยความรู้สึกเบื่อหรืออะไรมิทราบ วันแรกมาถึงพี่แกก็เปิดก่อนเลยจ้า เมื่อแม่บ้านมาเห็นก็ทิ้งข้อความไว้ให้ เหมือนจะบอกว่า… ก็ดีอ่ะ วันที่สองพ่อหนุ่มไม่ยอมแพ้ ต้องเอาให้เหนือกว่าเดิม แต่พอกลับมาก็พบว่าแม่บ้านแอบจัดให้ใหม่ ดูเนี๊ยบกว่าเดิม พร้อมกับทิ้งรอยยิ้มที่เหมือนจะบอกว่า… ยังอ่อนหัดนะจ๊ะ วันที่สามพ่อหนุ่มเล่นใหญ่กว่าเดิม มาเป็นสัตว์ประหลาดเลยเว่ยเฮ้ย!! วันที่ 4 ก็เอาอีกมาเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้.. ดูเหมือนฝีมือการจัดเตียงพี่แกจะเริ่มมา วันที่ 5 ก็ยังไม่ยอมแพ้ถึงช่วงนี้แม่บ้านจะไม่ยอมมาเล่นด้วย มาเป็นต้นไม้เลย ในที่สุดเมื่อเขากลับมาก็พบข้อความจากแม่บ้าน ก็โอเคอ่ะนะ มาถึงวันที่ 8 หนุ่มก็ยังไม่ยอมแพ้ คราวนี้มีการวาดรูปใส่ด้วย จนเขาไปทำธุระกลับมาก็พบกระดาษโน๊ต ‘ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากๆ นะ’ ดูเหมือนผลงานจะเริ่มเข้าตากรรมการแล้วนะ วันที่ 9 พี่แกก็ยังไม่หยุด คราวนี้มีหน้าตามาเป็นจริงเป็นจัง…
-
นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติ เอาเท้าพาดไว้กับเก้าอี้ โดนเตือนไปหลายครั้งแต่ก็ยังเพิกเฉย!?
เป็นประเด็นร้อนบนสื่อต่างชาติอย่าง Dailymail หลังจากที่คุณณรงค์ เถาปัญญา หนุ่มไทยวัย 21 ปี ได้โพสต์คลิปวิดีโอระหว่างเจ้าตัวกำลังนั่งรถบัสโดยสารจากกรุงเทพฯ – สุโขทัย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม โดยในเหตุการณ์เขาต้องเจอกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวสาว เอาเท้าขึ้นมาพาดไว้บนเก้าอี้ ซึ่งอยู่ข้างๆ กับศรีษะของคุณณรงค์ และถึงแม้ว่าหนุ่มไทยคนนี้จะพยายามบอกกล่าวตักเตือน แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับเมินเฉย โพสต์จากเฟซบุ๊กของเจ้าตัว เป็นอย่างที่รู้กันว่าการเอาเท้าขึ้นมาไว้เหนือศรีษะ เป็นเรื่องไม่สุภาพสำหรับวัฒนธรรมไทย แต่นั่นก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับการที่เท้าของเธอส่งกลิ่นเหม็นอับโชยรบกวนจมูกผู้โดยสารคนอื่นไปทั่วทั้งรถ ลองชมคลิปวิดิโอตัวเต็มกันก่อน จากคลิปวิดีโอดังกล่าวก็ถูกสื่ออังกฤษอย่าง Dailymail นำไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งงานนี้หนุ่มไทยก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ‘จริงๆ เธอก็สวยอยู่นะครับ แต่กลิ่นเท้าของเธอมันเหม็นไปทั่วทั้งคันรถ อากาศก็ร้อนมากแล้ว ผมยังต้องมาป่วยเพราะเธอเอาเท้าเหม็นๆ มาวางไว้ใกล้หัวผมอีก’ ‘ผมก็พยายามบอกให้เธอเอาเท้าลงหลายรอบแล้วนะ แต่เธอก็ไม่สนใจเอาเท้าคืนมาวางไว้เหมือนเดิม แล้วผู้โดยสารคนอื่นก็ต้องมานั่งเบาะที่มีกลิ่นเท้าเหม็นๆ ของเธอติด’ ดูจากสีหน้าของคุณณรงค์แล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเซ็งขนาดไหน… อาจจะจริงที่วัฒนธรรมเมืองนอกเขาไม่ถือเรื่องของสูงของต่ำอย่างไทยเรา ทว่าการเอาเท้าขึ้นมาวางไว้เหนือเก้าอี้ของผู้โดยสารคนอื่นในพื้นที่สาธารณะ แถมส่งกลิ่นเหม็นโชย (กลิ่นเท้าเลยนะเธอ) เป็นมลพิษทางกลิ่นรบกวนคนอื่น ก็ดูจะเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมเหมือนกัน…’ สุดท้ายคุณณรงค์ก็ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายกับสื่อว่า ‘ผมสงสัยจริงๆ ว่าเธอทำแบบนี้ในประเทศตัวเองด้วยรึเปล่า? บางทีคนเราก็ควรจะมีความเคารพเวลาไปเที่ยวประเทศคนอื่นบ้าง’ …
-
รวม 10 ของฝากยอดนิยมจากประเทศไทย ที่ชาวต่างชาติจะต้องหยิบติดมือกลับไปด้วย!!
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยของเรานั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายในสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามแล้ว ข้าวของในไทยของเราก็ถูกจนหลายๆ คนต่างอยากมาช็อปปิ้งกลับบ้านซักครั้งเหมือนกัน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ เลยรวบรวม 10 ของฝากจากไทย ที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อกลับไปฝากที่บ้าน เสมอๆ จะมีอะไรบ้าง เราไปชมกันเลย 10. สาหร่ายเถ่าแก่น้อย ไม่น่าแปลกใจที่สาหร่อยเถ่าแก่น้อยจะได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ เพราะมันแปลก อร่อยไม่เหมือนใครจริงๆ 9. ผงชาไทย ชาเย็นหรือชานมถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ผงชาจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาอยากนำกลับไปทำดื่มเองที่บ้านของเขายังไงล่ะ 8. ขนมโก๋แก่ ด้วยรสชาติอันหอมหวาน พร้อมด้วยกลิ่นของน้ำกะทิ ทำให้ชาวต่างชาตินิยมซื้อถั่วโก๋แก่กลับไปฝากเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก ก็แหงล่ะ มันทุกเม็ด… 7. ยาดม ยาดมอาจเป็นของบ้านๆ ของคนไทย แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้น พวกเขาชื่นชอบในความสดชื่นหลังได้สูดกลิ่นของยาดมเข้าไปเป็นอย่างมาก ด้วยราคาเพียงอันละไม่กี่สิบบาท ทำให้ยาดมกลายเป็นของฝากยอดนิยมอีกชิ้นหนึ่ง 6. ถุงยางดูเร็กส์ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถุงยางถึงติดอันดับ สาเหตุจริงๆ แล้วเป็นเพราะว่า ถุงยางดูเร็กส์ในประเทศไทยค่อนข้างถูกกว่าที่ต่างประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขานิยมซื้อกลับไปฝากและใช้งานกัน 5. กระเป๋า BKK Original…
-
เตรียมหรรษาไปสวนสนุก Paramount สุดอลัง พร้อมเปิดแห่งแรกในประเทศอังกฤษ ปี 2022 นี้
นี่ถือเป็นข่าวที่ดีที่สุดของคนที่ชื่นชอบการจินตนาการให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในประเทศอังกฤษที่ชื่นชอบรับชมภาพยนตร์จากค่าย Paramount Pictures เพราะล่าสุดเราได้ข่าวมาว่า สวนสนุกอันยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า “UK Disneyland” เตรียมที่จะเปิดตัวเป็นแห่งแรกที่สหราชอาณาจักร ในปี 2022 นี้ วันที่ 9 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า สวนสนุก Paramount ที่มีมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ จะถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศอังกฤษ โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับเมือง Dartford และเมืองเก่าแก่อย่าง Kent และที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่านั้นคือ ทางสวนสนุกแห่งนี้จะมีการสร้างสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ทั้งโรงละครขนาดใหญ่กว่า 2,000 ที่นั่ง มีการขี่ม้า รถไฟเหาะตีลังกา และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 50 แห่ง รวมถึงมีไนต์คลับเป็นของตัวเองอีกด้วย ที่สำคัญ Paramount ไม่ใช่สวนสนุกธรรมดาๆ ทั่วไป เพราะมีอะไรอีกมากมายที่สามารถทำให้เราได้ว๊าวอยู่เสมอ เช่น มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากถึง 872 เอเคอร์ (ประมาณ 3,528,984 ตารางเมตร) สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 40,000 รายต่อวัน…
-
17 ภาพของเหล่านักท่องเที่ยว ที่ถูกก่อกวนโดยสัตว์โลกสุดเกรียน จะสงสารหรือฮาดีหว่า!?
เวลาที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือตามสถานที่ต่างๆ เคยไหมที่คุณจะถูกพวกสัตว์เข้ามาก่อกวน และวุ่นวายในชีวิต แน่นอนว่าหลายคนอาจจะเคย เช่น เวลากำลังจะถ่ายรูปเซลฟี่มุมสวยๆ จู่ๆ ก็มีเจ้าสัตว์เข้ามาร่วมเฟรมด้วยซะงั้น เหมือนดังเช่น 17 ภาพของผู้คนเหล่านี้ ที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนสัตว์ ทะเล ฯลฯ จนได้พบกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน เพราะถูกเหล่าสัตว์สุดเกรียนเข้ามาก่อกวนแบบดื้อๆ งานนี้พวกเขาจะสามารถรับมือกับสัตว์เหล่านั้นได้อย่างไร มารับชมภาพกันเลย ชายหนุ่มที่กำลังถูกเจ้านกน้อยเข้ามาจู่โจม ดูหน้าตาของเขาสิ กำลังกลัวสุดขีดเลยละ ฮร่าๆ เมื่อเจ้าวัวอาจจะคิดว่ามือของหญิงสาวคนนี้เหมือนเบอร์เกอร์ซะเหลือเกิน เมื่อเจ้าแมวน้ำอยากจะลองใช้สน็อกเกิ้ลดูสักครั้ง นักท่องเที่ยวที่ได้มาจ๊ะเอ๋กับเจ้าเสือชีตาร์ โอ้ววววว แกเข้ามาได้ยังไงเนี่ย เจ้าหงส์ที่กำลังจะวิ่งไล่ชายหนุ่ม หญิงสาวที่ได้เจอกับช้างน้อยขี้เล่น ก็แค่จะโผล่มาทักทายเอง อย่ากลัวเราเลยนะ ดูท่าทางเจ้ากวางมูสอยากจะวิ่งเล่นกับเจ้าหน้าที่เหลือเกิน ฮร่าๆ เมื่อเจ้าวัวอยากจะแสดงความรักกับชายหนุ่ม หญิงสาวขณะกำลังพายเรือลงแม่น้ำในทวีปอเมริกาเหนือกับเพื่อนๆ แต่จู่ๆ เจ้าแรคคูนก็โผล่มาซะงั้น เด็กน้อยที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับแมงมุมยักษ์ เจ้าลิงที่กำลังทำท่าโกรธนักท่องเที่ยวหนุ่ม…
-
สนามบินเกาหลีระดมพนักงานทำความสะอาดเพิ่ม หลังกรุ๊ปทัวร์จีนลง สร้างขยะมากยิ่งขึ้น!!
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สนามบินเจจู ในประเทศเกาหลีใต้ต้องประกาศระดมพนักงานทำความสะอาดเพิ่มเติม หลังจากมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนมาทิ้งขยะเอาไว้กลางอาคารผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก และเป็นภาพที่ถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย… ทางสนามบินได้รายงานว่า พวกเขาได้พยายามให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางแล้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นอย่างที่เราเห็นกันในภาพด้านบน ทางสนามบินเจจูจึงจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนของพนักงานทำความสะอาดในอาคารผู้โดยสาร พร้อมๆ ทั้งให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนต่อไป โดยหวังว่าพวกเขาจะมีพฤติกรรมดีขึ้นในอนาคต โดยปัญหานักท่องเที่ยวจีนเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปีก่อน แม้จะมีความพยายามจะแก้ปัญหา ด้วยการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามทางสนามบินได้กล่าวว่า ไม่ใช่คนจีนทุกคนที่จะทำแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่คนที่ทำ จะมาเป็นกรุ๊ปมากกว่า นอกจากนี้ไม่เพียงแค่บนสนามบินเท่านั้น แม้กระทั่งบนรถบัส ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเช่นกัน… หนึ่งในพนักงานสนามบินเจจูกล่าวว่า “เราไม่ได้มีปัญหากับนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่นี่มันเป็นปัญหาของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขาดจิตสำนึกที่ดี และได้กระทำการอย่างไม่เหมาะสมในสนามบิน” หลังจากชาวเน็ตซึ่งได้อ่านข่าวและเห็นภาพดังกล่าว ต่างก็พากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่างๆ แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะไปในแนวทางที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว เช่น… “คนจีนอีกแล้วเหรอเนี่ย คนพวกนี้ไม่เคยทำอะไรให้ถูกต้องและถูกสุขลักษณะเลยนะ” “นี่มันหยาบคายและไม่เคารพกันสุดๆ เลย นี่มันไม่ใช่การทิ้งโดยบังเอิญแล้ว แต่มันคือการตั้งใจทิ้งชัดๆ การเป็นนักท่องเที่วไม่ได้แปลว่าจะทำอะไรก็ได้นะเฮ่ย” “คนจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ ฉันเคยเจอตอนไปฮ่องกง พวกเขาชอบแทรกแถวและก็ดันๆ คนฮ่องกงดีกว่าเยอะ” “ก็จริงที่นักท่องเที่ยวจีนไปทำแบบนี้ แต่ทำไมคอมเมนต์ด่าคนจีนทั้งหมดเลยล่ะ…
-
สื่อจีนรายงาน “ประเทศไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่ง ชาวจีนกว่า 6 ล้านคนมาเที่ยวช่วงตรุษจีน
ก็อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีความน่าดึงดูด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คน จึงไม่แปลกเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเข้ามาเที่ยวในประเทศของเรา โดยเฉพาะชาวจีนทั้งหลายที่จะดูเยอะเป็นพิเศษ และจากข้อมูลล่าสุดจากทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยว่า ในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้นไปอีก!! ในช่วงตรุษจีนที่เป็นช่วงปีใหม่ของชาวจีนนั้นจะมีการเฉลิมฉลองกันด้วยการเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในช่วงตรุษจีนปี 2017 ที่จะถึงนี้กว่า 172 ประเทศทั่วโลกจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเยือนอย่างแน่นอน โดยมีประเทศไทยก็เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง!! ซึ่งแต่ละทริปนั้นก็จะเฉลี่ยเป็นระยะประมาณ 9.2 วัน โดยทั้งหมดทั้งมวลพวกเขาจะใช้เงินไปทั้งสิ้นกว่า 513,000 ล้านบาท เลยทีเดียว เมื่อปีที่ผ่านมาที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 6 ล้านคนเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศในช่วงวันตรุษจีนและใช้เงินจับจ่ายใช้สอยไปมากมายทั้งสินค้าและบริการ ในขณะที่อันดับที่สองเป็นประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศเกาหลีใต้ที่เคยอยู่ในอันดับที่ 4 ก็ตกไปอยู่ในอันดับที่ 7 สำหรับในปีนี้ กลับกันกับประเทศออสเตรเลียที่กระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แทน จากที่เมื่อปีก่อนอยู่ในอันดับที่ 10 คาดว่าน่าจะเป็นเพราะการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำ Visa ขณะเดียวกันประเทศอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้อยู่ในทวีปเอเชียแต่ก็ได้ถึงอันดับที่ 4 ที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีนเลยทีเดียว ประเทศใต้หวัน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย นั้นตกอันดับไปจากปีที่แล้ว แต่ก็มีประเทศใหม่ๆ แซงขึ้นมาอย่างเช่น อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นถึงจุดหมายปลายทางที่แตกต่างออกไปจากเดิม…
-
ปู๊น ปู๊นนน!! นั่งรถไฟไป “Houtong” หมู่บ้านเหมียวไต้หวัน ดินแดนแห่งสวรรค์ของเหล่าทาสแมว
การเดินทางเพียงระยะเวลาสั้นๆ จากญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าลงไปยังหมู่บ้าน Houtong ในไต้หวัน บอกเลยว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ และประทับใจให้กับคุณแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของไต้หวัน และยังเป็นหมู่บ้านของบรรดา “แมวเหมียว” อีกด้วย ว้าวววว!! ฟังดูน่าตื่นเต้นจังเลย ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ “Houtong” หมู่บ้านแมวบนเกาะไต้หวัน Houtong เป็นที่รู้จักในนามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไต้หวัน โดยในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ที่สามารถผลิตถ่านหินได้ปีละกว่า 2 แสนตัน จนกระทั่งกิจการถ่านเริ่มซบเซา ทำให้ผู้คนต้องย้ายออกไปทำงานที่อื่น จนทำให้เหมืองแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และกลายเป็นเหมืองร้างไปในที่สุด เรารอพวกเธอมาหาอยู่ตรงนี้นะ ที่ Houtong มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 6,000 แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีแมวเหมียวอยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจำนวนของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่องๆ ซะด้วยสิ สำหรับหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมืองไทเป ประมาณ 60 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือน สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 – 50 นาทีเท่านั้น เมื่อคุณเดินทางมาถึงก็จะพบกับบรรดาน้องเหมียวมากมาย…
-
นักท่องเที่ยวทำกระเป๋าเงินหายในญี่ปุ่น สุดท้ายได้คืนที่สถานีตำรวจ เงินครบ ไม่หายซักแดง!?
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเลยทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียคนหนึ่งที่ได้ไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แล้วบังเอิญทำกระเป๋าเงินตกหาย ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะได้แต่ทำใจว่า ไม่ได้คืนแล้วแน่ๆ โชคดีที่มีพลเมืองดีเก็บมาคืนสถานีตำรวจ และเงินในนั้นจำนวนกว่า 48,000 บาท ก็ยังอยู่ครบไม่หายไปไหนเลยแม้แต่แดงเดียว!! นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียทำกระเป๋าเงินหายที่ญี่ปุ่น เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อนักท่องเที่ยวชาวมาลาเซียรายนี้เดินทางไปยังเมืองเกียวโต เมื่อถึงที่หมายแล้ว เขาก็เดินท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งสองชั่วโมงต่อมา เขาก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ากระเป๋าเงินของเขาหายไป และด้วยความตกใจ เขาจึงรีบไปที่สถานีตำรวจในทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการตรวจสอบระบบข้อมูลของหาย เมื่อถึงสถานีตำรวจ เขาทำการแจ้งความกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้วก็พบว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินของเขานำมาส่งให้กับสถานีตำรวจอีกแห่งเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกังวลว่าเงินในกระเป๋ากว่า 50,000 บาท จะหายไปหรือเปล่า เงินจำนวน 113,000 เยน และ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทันทีที่เขาได้กระเป๋าเงินกลับมา เขาก็ทำการตรวจเช็คทันที พบว่าเงิน 113,000 เยน และอีก 400 ดอลลาร์สหรัฐ รวมมูลค่ากว่า 48,000 บาท ยังคงอยู่ครบ ไม่หายไปแม้แต่สลึงเดียว!! เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก…
-
Jeta หมีผู้ไม่เคยได้รับอิสระ เพราะถูกล่ามโซ่เพียงเพื่อการถ่ายภาพ จนได้รับฉายา “หมีเซลฟี่”
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ไม่ต้องการให้ใครมากักขัง หรือล่ามเอาไว้หรอกว่าไหม เพราะทุกชีวิตต้องการเป็นอิสระ และไม่อยากตกอยู่ภายใต้การบังคับของใคร เหมือนดังเช่น Jeta เจ้าหมีตัวนี้ แทนที่มันจะได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในแบบที่มันควรจะเป็น แต่กลับต้องมาถูกคนใจร้ายล่ามโซ่เอาไว้ เพื่อที่จะได้พามันเดินไปรอบๆ ชายหาด และชวนให้ผู้คนมาถ่ายรูปด้วย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้า Jeta หมีสีน้ำตาลในสภาพผอมโซ ได้รับความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Four Paws และทางการแอลเบเนีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มันถูกเจ้าของเดิมจับมาล่ามโซ่ พร้อมพาเดินไปรอบๆ ชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปคู่กับมัน จนทำให้เจ้าหมีตัวนี้ได้รับฉายาว่า “หมีเซลฟี่” “เจ้าหมีเซลฟี่ ได้ถูกจูงไปรอบๆ ชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่กับมัน และแน่นอนว่าพวกเขาก็ยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าหมี” เจ้าหน้าที่กล่าว สภาพของ Jeta ช่างน่าสงสารยิ่งนัก เพราะมันถูกโซ่ร้อยผ่านจมูก เพื่อเจ้าของจะได้ใช้ควบคุมเวลาที่จะลากมันไปตามชายหาก และเมื่อมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา เจ้าของก็จะแนะนำให้พวกเขาถ่ายภาพกับ Jeta …
-
กรี๊ดดดด!! เจ้าจิงโจ้ออสซี่กล้ามโต โดนแอบแชะภาพ เฮ้ย ทำแบบนี้อยากโดนต่อยป่าว
ก่อนหน้านี้ หลายคนคงจะเคยเห็นภาพของเจ้าจิงโจ้นักกล้ามจากออสเตรเลีย ที่ชอบออกมาเบ่งกล้ามเป็นมัดๆ ใส่นักท่องเที่ยวกันมาแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนอึ้งไปชั่วขณะ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นจิงโจ้ตัวใหญ่ ที่มีหุ่นล่ำขนาดนี้ ล่าสุด ณ ประเทศออสเตรเลียอีกเช่นเคย มีภาพของเจ้าจิงโจ้ตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บริเวณเมืองเดนมาร์ก รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กำลังได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะเจ้าจิงโจ้ตัวนี้ มาพร้อมกับหุ่นสุดล้ำบึกไม่แพ้จิงโจ้นักกล้ามตัวก่อนเลย โดยในภาพแสดงให้เห็นว่ามันกำลังทำท่าเหมือนจะเบ่งกล้ามของตัวเอง เพื่อโชว์ผู้คน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้น สำหรับภาพดังกล่าว ถูกถ่ายขึ้นโดย William Thompson ช่างภาพชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาเป็นเวลานานกว่า 16 ปี โดยในขณะนั้น William ได้พาน้องสาวของเขาออกไปดูจิงโจ้ และไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เห็นการปรากฏตัวของเจ้าจิงโจ้สีเทาตัวนี้ ขณะที่มันกำลังพยายามเบ่งกล้ามโชว์ความเท่อวดผู้คนอยู่ “นี่เป็นวันที่ 6 แล้วที่เธอได้มาอยู่ที่นี่ และเธอก็ยังไม่เคยเห็นจิงโจ้เลย ผมและภรรยา จึงลองขับรถลงไปที่อัลบานี่ ซึ่งมันเป็นเมืองที่จะทำให้เราเห็นจิงโจ้แน่นอน… เมื่อเราลองเข้าไปใกล้ๆ จิงโจ้ตัวอื่นๆ กลับวิ่งหนี มีเพียงแต่เจ้าจิงโจ้ตัวนี้ ที่ยืนอยู่ที่เดิม และมันก็ได้มองมาที่พวกเรา” William กล่าว หลังจากที่ William ได้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์ลงโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามากดไลค์ พร้อมแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย…
-
วินาทีระทึก เมื่อ “ฉลามขาว” หลุดเข้าไปในกรงนักท่องเที่ยว จนเกือบเกิดเหตุสลด!!
การไปเที่ยวทะเล สิ่งหนึ่งที่เราอยากเห็นอย่างหนึ่งก็คือการใกล้ชิดสัตว์ทะเล แต่ #เหมียวสามสี เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากใกล้ชิดมากเหมือนอย่างในคลิปนี้แน่ คลิปนี้ถ่ายโดยGabe และ Garrett ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดัง คุณพ่อได้พาลูกไปพักร้อนที่เกาะ Guadalupe Island และสามารถถ่ายภาพสุดระทึกกลับมาได้ เมื่อฉลามขาวตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในกรงของนักท่องเที่ยว เดิมทีกรงที่ติดอยู่ที่เรือนั้นจะให้นักท่องเที่ยวได้ดำลงไปสัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลได้อย่างปลอดภัย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อฉลามขาวจู่ๆ ก็พุ่งมาจากไหนไม่รู้ แล้วก็เข้าไปในกรงได้อย่างง่ายดาย สร้างความตื่นตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์อยู่บนเรือ ครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เมื่อฉลามเข้าใกล้มาเพื่อกินเหยื่อ แต่ดูเหมือนว่ามันจะโมโหมากและพยายามที่จะทำลายกรง จากการที่มันว่ายมากินเนื้อทูน่าที่มัดกับเชือกไว้ แต่เวลามันพยายามที่จะพุ่งเข้ามาหรือกัดอะไรบางอย่าง ก็จะทำให้มันมองไม่เห็นชั่วคราว และว่ายกลับหลังไม่ได้ มันจึงว่ายพุ่งมาที่กรงโดยตรงและทะลุเข้ามา ในตอนนั้นก็ได้มีนักประดาน้ำคนหนึ่งที่อยู่ในกรงพอดี เขาพยายามตั้งสติแล้วหนีไปที่ก้นของกรง สุดท้ายฉลามขาวก็ดิ้นจนหลุดจากกรงในที่สุด การอยู่ก้นกรง จะทำให้ฉลามโจมตีได้ยาก เพราะฉลามเป็นสัตว์ที่พุ่งขึ้นโจมตีจากด้านล่าง หลังจากนั้นนักประดาน้ำก็ว่ายกลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เราไปชมคลิปเหตุการณ์สุดระทึกนี้ งานนี้ต้องชื่นชมทั้งคนที่อยู่บนเรือและนักประดาน้ำที่มีสติ จัดการปัญหาได้อย่างดี ทำให้ไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น หลังจากนั้นทุกคนบนเรือก็ได้กลับเข้าฝั่งในวันถัดมา ถือเป็นประสบการณ์สุดหวาดเสียวที่หาดูได้ยากมากๆ แถมคุณพ่อยังบอกอีกว่าอยากจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง แม้จะเจอประสบการณ์สุดเสียวนี้แล้วก็ตาม… ที่มา Gabe and Garrett
-
นักท่องเที่ยวให้อาหารลิงอยู่ จู่ๆ ปีนขึ้นไป “ฟีทเจอริ่ง” บนหัว แบบไม่ทันได้เตรียมใจ!!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อินเดียโดนีเซีย เมื่อมีนักท่องเที่ยวหนุ่มคนหนึ่งได้ไปเที่ยวที่เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า Sacred Monkey Forest Sanctuary ซึ่งที่นั่งเต็มไปด้วยลิงมากมาย และแน่นอนว่าต้องมีการให้อาหารลิงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ระหว่างที่เขากำลังเอาอาหารล่อลิงให้มาติดกับ จนในที่สุดก็มีลิงสาวตัวหนึ่งปีนขึ้นมากินอาหารบนมือที่เขาถือไว้อยู่ ดูท่าทางมันแล้วก็เป็นลิงนิสัยดีตัวหนึ่งเลย ไม่ได้ทำอันตรายแก่นักท่องเที่ยวคนนี้แต่อย่างใด สิ่งที่เขาใช้ล่อก็คือของโปรด กล้วยนั่นเอง แต่ไม่รู้ว่านี่เป็นฤดูผสมพันธุ์หรือยังไง จู่ๆ ลิงตัวผู้ที่รู้สึกคึกคัก ก็ปีนขึ้นมาบนตัวชายคนนี้ พร้อมกับจับลิงสาวปล้ำบนหัวเขา มีคนตะโกนมาด้วยว่า “พวกมันกำลัง เx็ด กันบนหัวเขา” ดูเหมือนลิงตัวผู้จะไม่มีท่าทีว่าจะยั้งมือเลย ใส่ไม่ยั้งจริงๆ เราไปชมคลิปความระทึกนี้กันเลย รับรองว่าถึงใจแน่นอน มันเป็นอะไรที่ช็อกอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ครั้งหนึ่งมีลิงมาทำอะไรกันบนหัว ถ้าลิงตัวนี้มีลูกก็คงจะเล่าให้ลูกฟังว่า “รู้อะไรมั้ย พ่อกับแม่มีลูกกันบนหัวมนุษย์นะ” ที่มา dailymail
-
นักท่องเที่ยวพายเรือเล่น จ๊ะเอ๋เจ้า ‘วาฬหลังค่อม’ โชว์กระโดดน้ำ ใหญ่จนนึกว่าเป็นไคจู!!
กลายเป็นคลิปสุดโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว สำหรับวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งที่มาโชว์กระโดดน้ำใกล้กับเรือคายัคของนักท่องเที่ยว จนดูเผินๆ นึกว่าไคจูโผล่ออกมาจากมหาสมุทรกันเลยทีเดียว โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวที่กำลังพายเรือคายัคออกไปนอกชายฝั่งของประเทศแคนาดา สามารถจับภาพวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งที่มาโชว์กระโดดใกล้ๆ ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก วาฬหลังค่อมเป็นที่รู้จักกันในฐานะสัตว์ที่ชอบกระโดดน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุของการกระโดดนั้นมีหลายอย่างตั้งแต่สลัดตัวเพรียงบนร่างกายและการกระโดดเพื่ออวดตัวเมีย เมื่อมีตัวผู้ตัวหนึ่งกระโดดก่อน ตัวอื่น ๆ ก็จะกระโดดตามเหมือนแข่งขันกัน (โชว์สาวว่างั้นเถอะ) ไปลองชมกันดีกว่า รับรองว่ากรี๊ดแน่นอน เข้ามาส่วนของสาระความรู้กันบ้าง ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า วาฬหลังค่อมจัดเป็นวาฬขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของวาฬทั้งหมด น้ำหนักตัวอาจถึง 45 ตัน มีความยาว 25 เมตร สามารถพบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือเป็นวาฬที่หากินด้วยการกรองกินด้วยบาลีน ซึ่งมีแผ่นกรองกว่า 800 แผ่นที่ขากรรไกรด้านบน เพื่อกรองอาหารประเภทปลาและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น เคย แพลงก์ตอน การกระโดด ซึ่งวาฬหลังค่อมชอบทำเป็นอย่างมาก . ธรรมชาติเรานี่มีอะไรเจ๋งๆ มาให้ชมตลอดเลยนะเนี่ย แต่ดูจากขนาดตัวแล้ว โชคดีที่เจ้าวาฬไม่กระโดดทับเรือนักท่องเที่ยว ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่นอน… ที่มา Inside Edition
-
ขี้เกียจหิ้วกระเป๋าเยอะๆ!? คลิปสอนเทคนิคการแพ็คของ 130 ชิ้น ลงใน “กระเป๋าถือ” ใบเดียว
สำหรับนักเดินทางแล้ว การที่ต้องแบกกระเป๋าหลายๆ ใบ พะรุงพะรัง มันชวนให้หงุดหงิดใจจริงๆ นะ ไหนจะต้องแบกของ ไหนจะกลัวของหาย โอ้วนี่มันฝันร้ายชัดๆ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณได้เรียนรู้เทคนิคดีๆ จากนักแสดงสาวชาวอังกฤษรายนี้… เมื่อไม่นานมานี้ Rachel Grant นักแสดงสาวชาวอังกฤษ วัย 39 ปี (อดีตสาวบอนด์ภาค Die Another Day) ที่เป็นทั้งนักเดินทางและนักเขียนด้วย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสอนการแพ็คกระเป๋า โดยโจทย์ที่เธอตั้งขึ้นมาเองคือการแพ็คข้าวของกว่า 130 ชิ้น ลงในกระเป๋าถือใบเดียว ในบรรดาสิ่งของที่เธอแพ็คก็มีทั้ง ชุดเดรส 10 ชุด เสื้อ 8 ตัว กางเกง 4 ตัว รองเท้า 5 คู่ รองเท้าส้นสูงอีก 1 คู่ และครีมอีกสารพัด รวมน้ำหนักแล้วประมาณ 8 กิโลกรัม …
-
ชายหนุ่มเที่ยวนิวยอร์ก ไม่มีแพลนใดๆ แต่ให้ ‘ชาวเน็ต’ แนะนำ แล้วทำตามตลอดทริป…
ปกติเวลาเราไปเที่ยว ส่วนใหญ่ก็ต้องมีการวางแผนไว้ก่อนว่า จะไปที่ไหนบ้าง จะทำอะไร พักที่ไหน โดยเฉพาะถ้าไปต่างประเทศ เรายิ่งต้องวางแผนให้รัดกุมก่อนไป แต่สำหรับ Keith Habersberger นั้น กลับไปเที่ยวนิวยอร์กแบบไม่มีแพลนอะไรเลย เขาอาศัยทวิตเตอร์ในการพาเที่ยว โดยให้ผู้ติดตามเขาผ่านทวิตเตอร์เป็นผู้ให้คำแนะนำ ว่าจะให้ทำอะไร ที่ไหน เขาจะทำตาม เรียกได้ว่า มีความตื่นเต้นได้ตลอดทริปแน่ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง “ผมเพิ่งมาถึงนิวยอร์กเมื่อไม่นานนี้ ตลอดทั้งทริปผมให้เหล่าผู้ติดตามในทวิตเตอร์บอกว่าผมต้องทำอะไรบ้าง มันตื่นเต้นดีนะ” “ผมเริ่มต้นทริปที่นิวยอร์ก พวกเค้าบอกให้ผมกินขนมปัง Tompkins และช็อกโตแลตชิป แต่มันดันหมดซะก่อน แต่ผมก็ยังตามหาต่อไป เพื่อความสุขของพวกเขา” “ที่นิวยอร์กอากาศร้อนมาก และเหงื่อก็ออกท่วมตัว ผมเลยต้องหาเสื้อผ้าใหม่ และแน่นอนผมต้องถามเหล่าผู้ติดตามของผมว่า ผมจะไปซื้อเสื้อใหม่ได้ที่ไหน” “หลังจากนั้น ผมก็ไปที่ตลาด พวกเค้าบอกให้ผมไปซื้อผลไม้สดมา ผมเลยไปซื้อราสเบอร์รี่สดมากินกับ Hoda ผู้มาจากอียีปต์ ที่ไม่เคยกินราสเบอร์รี่มาก่อน” “พวกเขาแนะนำให้ผมไปที่ร้านเล็กในเมืองๆ ผมจึงไปที่ Scotch & Soda และให้พวกเค้าช่วยเลือกชุดให้ และชุดที่ได้มันทำให้ผมกลายเป็นคนใหม่เลยแฮะ” “ได้เวลาไปทานมื้อเที่ยงแล้ว และผมกำลังจะไปกินพิซซ่าชีสครับ และที่นี่ผมเห็นผู้คนมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม” ยิ้มตอบพี่เค้าหน่อยนาาาาา…
-
จังหวะเจ้าโลมาหมั่นไส้นักท่องเที่ยว มัวแต่เล่น iPad กระโดดมางาบลงไปในน้ำซะเลย!!
ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่ว่า ‘โลมา’ นั้นเป็นสัตว์ฉลาดมาก นอกจากนี้เจ้าโลมาก็มีหน้าตาที่น่ารัก แถมยังขี้เล่นแบบสุดๆ อีกต่างหาก และด้วยเหตุนี้เองทำให้มันกลายเป็นสัตว์ที่ไม่ว่าใครต่อใครต่างก็ตกหลุมรักมันได้อย่างง่ายดาย ตามสวนสัตว์ต่างๆ เรามักจะได้เห็นว่าครูฝึกทั้งหลายนั้นสามารถสั่งให้มันทำอะไรก็ได้ เช่นกระโดดลอดห่วง หรือแม้แต่เดาะลูกบอลลงห่วงก็ทำได้โดยง่าย และจากการที่ได้รับการชื่นชม และความนิยมบ่อยๆ บางครั้งก็อาจทำให้มันรู้สึกว่าผู้คนจะต้องสนใจมัน หากไม่ทำแบบนั้นล่ะก็ เจ้าโลมาอาจจะงอนก็ได้นะ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนสัตว์ Orlando Park นี้ มีคนถ่ายคลิปเจ้าโลมาเกิดอาการไม่พอใจนักท่องเที่ยวที่มัวแต่เล่นไอแพดไม่สนใจเจ้าโลมาและเพื่อนๆ ของมัน ก็เลยเกิดอาการหมั่นไส้ กระโดดขึ้นมางาบไอแพดลากลงไปในน้ำซะเลย คือที่สวนสัตว์ Orlando แห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถเข้ามาชมเจ้าโลมาได้อย่างใกล้ชิด และขณะเดียวกันทางสวนสัตว์ก็จะทำการประกาศเสียงตามสายอยู่ตลอดว่า “ให้ระวังตัวด้วย เพราะเจ้าโลมามันสามารถฉกของที่อยู่ในมือของเราไปได้อย่างง่ายดาย” แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่ได้สนใจอะไรก็เลยโดนดีเข้าให้ ถ้าเจ้าโลมามันพูดได้ก็คงจะบอกว่า “มัวแต่สนใจไอแพดอยู่นั่นแหละ หันมาดูตรูบ้างสิว้อยยยย!!” ฮร่า ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… จริงๆ แล้วพี่สาวแกอาจจะเล่นโปเกมอนโกอยู่ก็ได้นะ ฮร่า ที่มา : buzzfeed
-
คุณป้าไกด์จีนโพสต์เตือนอีก หลังคู่รักพากันนอนบนเตียงในห้าง บอก “กลับบ้านไปดีไหม?”
กลายเป็นคนดังไปชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว สำหรับหัวหน้าไกด์จีนอย่างคุณป้า Bin Bin Ji (ออกเสียงว่าจี่ ปินปิน) ที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์คลิปวิดีโอต่อว่านักท่องเที่ยวชาวจีน ที่พยายามจะขโมยขอนไม้กลับไปยังประเทศของตัวเอง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จนทำให้ชาวเน็ตในไทยต่างพากันแสดงความชื่นชมถึงมารยาทอันดีงามของคุณป้า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 สิงหาคม คุณป้าก็ได้โพสต์รูปภาพเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง คราวนี้เป็นคู่รักที่พากันขึ้นไปนอนบนเตียงซึ่งเป็นสินค้าโชว์ในงานจัดแสดงสินค้าหมอนยางพาราที่จังหวัดภูเก็ต จนทำเอาคนที่ผ่านไปผ่านมาถึงกับเอือมเลยทีเดียว พร้อมกันนี้คุณป้าจี่ยังโพสต์ข้อความอีกว่า “ไม่อยากจะพูดแล้ว พวกเธอกลับบ้านไปดีไหม…” หลังจากที่#เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสคุยกับแอดมินเพจอ้ายจง ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคุณป้าได้ ก็ทราบว่าภาพของนักท่องเที่ยว 2 คนนี้ไม่ใช่ลูกทัวร์ของคุณป้าจี่ แต่เป็นนักท่องเที่ยวของอีกทัวร์หนึ่งที่หัวหน้าทัวร์ไม่รู้จะทำยังไง จึงถ่ายภาพมาปรึกษากับคุณป้า แกก็เลยจัดประโยคเบาๆ ไปให้หนึ่งประโยค คุณป้าจี่นั้นรักเมืองไทยมาก จึงตั้งบริษัททัวร์มาเที่ยวไทย แต่เนื่องจากเห็นว่าคนจีนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่ จึงเขียนหนังสือกฎข้อปฏิบัติต่างๆ และเปิดคอร์สอบรมไกด์ทัวร์จีนขึ้น เพื่อไปอธิบายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เข้าใจถึงวัฒนธรรมและการวางตัวในไทยนั่นเอง ที่มา Bin Bin Ji , อ้ายจง
-
ไปชมการ์ตูนที่จีนทำออกมา ให้คนไทย “เข้าใจนักท่องเที่ยวจีน” จนมีชาวเน็ตดราม่าเพียบ!!
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่านักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาในทุกภาคส่วนของประเทศไทย ซึ่งในจำนวนเหล่านี้ มีนักท่องเที่ยวบางคนได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวต่าๆง เป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสด้านลบต่อนักท่องเที่ยวจีน ด้วยเหตุนี้เอง ทางสำนักข่าว THAI CCTV จึงได้ทำการ์ตูนชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมทั้งวอนขอให้คนไทยเข้าใจถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ด้วย ก่อนอื่น เราไปชมการ์ตูนนี้กันก่อน ซึ่งอาจจะยาวสักหน่อยนะ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . อย่างไรก็ตามเมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวไทยเข้าไปคอมเมนต์มากมาย บางคนบอกว่า นักท่องเที่ยวจีนต่างหากที่ต้องพยายามปรับตัวเข้าหาคนไทย . . บางคนก็บอกว่า ทำไมการ์ตูนดู “ข่มขู่” มากกว่า “ได้โปรดเข้าใจ” ละเนี่ย…
-
ชมบรรยากาศ นักท่องเที่ยวจีนนับหมื่น พร้อมใจไปเล่นน้ำคลายร้อนในสระ ‘Dead Sea’
ในช่วงหน้าร้อนและฝนตกแบบนี้ มันก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไปเล่นน้ำให้จิตใจชุ่มฉ่ำ แต่ว่าถ้าจะไปก็ต้องเลือกที่นิดนึง เผลอๆ คุณอาจจะได้ไปเจอกับนักท่องเที่ยวจีนแบบจัดเต็มขนาดนี้ นี่คือภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ร่วมใจกันมาเล่นน้ำในวันหยุดพักร้อน เรียกได้ว่าเป็นสระที่แออัดที่สุดเลยก็ว่าได้ จนขนาดได้รับฉายาว่าเป็นสระน้ำ ‘Dead Sea’ แห่งประเทศจีน สระแห่งนี้ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ดึงดูดผู้คนรอบๆ ให้มาพักผ่อนกันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร สระน้ำเค็มนี้มีขนาดที่กว้างมากถึง 30,000 ตารางเมตร แต่ถึงจะใหญ่ขนาดไหน ก็ไม่อาจรับรองชาวจีนนับหมื่นที่แห่มาได้ ไม่เชื่อก็ลองดูในรูปสิ แล้วจะรู้ว่ามันแออัดสักแค่ไหน . . . . . เห็นแบบนี้แล้วต่อให้ร้อนยังไงก็ไม่กล้าลงไปอยู่ดี เล่นกันแบบแออัดแบบนี้มันจะสนุกยังไงเนี่ยยยย ที่มา dailymail
-
สื่อต่างชาติลงข่าว ‘ตุ๊กตุ๊กไทย’ ส่งสัญญาณแก๊งค์โจร ฉกกระเป๋านักท่องเที่ยว (จับคนร้ายได้แล้ว)
อัพเดท: จับคนร้ายได้แล้ว ยอมรับสารภาพ และตุ๊กตุ๊กไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด #เหมียวหง่าว กลายเป็นประเด็นวิพากย์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ขึ้นมา เมื่อเพจเฟซบุ๊คเกี่ยวกับการท่องเที่ยว GOtrip ได้แชร์คลิปเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงได้มาเที่ยวที่ประเทศไทย ขณะที่กำลังนั่งรถตุ๊กๆ อยู่ จู่ๆ ก็ถูกคนร้ายซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่มาตีคู่แล้วฉกกระเป๋าไปเฉยเลย ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาชมกันมากมายโดยตอนนี้มียอดเข้าชมกว่า 1.7 ล้านครั้งแล้ว ทำให้มีการถกเถียงกันไปต่างๆ นาๆ ลองไปชมคลิปกันดูก่อนที่ข้างล่างนี้ได้เลย… เรื่องนี้ดังมาก เพราะมีการแชร์ทั้งในเพจต่างประเทศ ที่มีคนแชร์ต่อมากถึง 20,000 ครั้ง ยอดวิวกว่า 1.7 ล้านครั้ง!!! เว็บข่าวต่างประเทศเอาไปตั้งประเด็น อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศในด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก จากรายงานข่าวในต่างประเทศ ดูเหมือนว่าการปล้นครั้งนี้จะทำเป็นกระบวนการด้วย ทั้งคนขับรถตุ๊กๆ และคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ที่ตั้งข้อสังเกตแบบนี้ก็เพราะว่าในระหว่างที่นักท่องเที่ยวจะถูกขโมยกระเป๋านั้น พวกเขาก็ได้ทำการบันทึกคลิปวิดีโอไว้ด้วย (เจ้าตัวอ้างว่าเป็นการถ่ายบรรยากาศเมือง ขณะนั่งรถตามประสานักท่องเที่ยว) และจะเห็นได้ว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฉกกระเป๋าขึ้น ที่มือของคนขับตุ๊กๆ เหมือนจะมีปฏิกิริยาอะไรซักอย่าง เหมือนกับว่าส่งสัญญาณเพื่อให้คนขี่มอเตอร์ไซค์ลงมือเด๊ะๆ เลย หลังจากที่คลิปถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตเข้ามาตั้งข้อสังเกตกันมากมาย… โดยมีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้ – อย่างแรกคือบังเอิญปวดข้อมือ รวมถึงใส่นาฬิกาอยู่ด้วย ก็เลยสะบัดเฉยๆ…
-
นักท่องเที่ยว(พูด)จีนป่วน แซงคิว-เอาขวดน้ำกรอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวัดธารน้ำใสแห่งเกียวโต
กลายเป็นที่กล่าวถึงบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ล่าสุดไปสร้างความเอือมระอาให้กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ถึงประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันเถอะ เรื่องราวเกิดขึ้นที่ วัดคิโยมิสึ หรือ วัดธารน้ำใส วัดชื่อดังในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยในวัดนี้จะมีธารน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย ไหลลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งผู้ไปสักการะมักจะดื่มเพื่อขอพรให้สุขภาพอนามัยแข็งแรง ผ่านทางกระบวยที่วัดจัดไว้ให้ ล่าสุดมีคนสามารถเก็บภาพนักท่องเที่ยวจีนคนหนึ่ง ถือขวดน้ำพลาสติกขนาด 1.5 ลิตร เดินแซงคิวแถวนักท่องเที่ยวที่กำลังรอคิวดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ ลงไปในบ่อและกรอกน้ำอย่างไม่เกรงใจผู้อื่น เมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตกล่าวถึงมากมาย โดยมีชาวเน็ตท่านหนึ่งแซวชายคนนี้ว่า “แก่ขนาดนี้ ดื่มไปก็ไม่ได้ผลอะไรแล้วล่ะมั้ง” อย่างไรก็ตามมีคนมาแย้งว่า ถึงแม้นักท่องเที่ยวคนนี้พูดภาษาจีน แต่อาจไม่ใช่ชาวจีนก็เป็นได้ เพราะชาวมาเลเซีย สิงค์โปร์ หรือไต้หวันก็พูดภาษาจีนเหมือนกัน… . พกมาเป็นขวดขนาดนี้ สงสัยกะจะเก็บกลับไปขายที่ประเทศบ้านเกิดแน่นอน ฮาาาา ที่มา Shanghaiist
-
แฮปปี้เกิ๊น!! นักท่องเที่ยวถูกจับได้ว่าขโมยเสื้อผ้า ไม่สำนึกผิด แถมดี๊ด๊ามีความสุขสุดๆ
เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าการกระทำความผิดย่อมเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย และเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรกระทำ ยิ่งการก่ออาชญากรรมด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ผู้กระทำผิดส่วนมากมักจะรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปหลังจากที่ถูกจับได้ แต่ไม่ใช่กับนักท่องเที่ยวสาวชาวสิงคโปร์ 2 คนนี้แน่นอน เพราะพวกเธอได้ทำการขโมยเสื้อผ้าในร้านค้าที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังและถูกจับได้ แต่กลับไม่แสดงความรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย แถมยังแสดงอาการดี๊ด๊ามีความสุขแบบสุดๆ ให้เห็นอีกต่างหาก เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Auk Thanima ได้ทำการโพสต์ภาพและข้อความของหญิงสาวชาวสิงคโปร์ที่ทำการขโมยสินค้าและถูกจับได้พร้อมหลักฐานคามือ แต่พวกเธอกลับไม่มีท่าทีสำนึกแต่อย่างใด… โดยให้แคปชั่นว่า… “วันที่ 16 มิถุนายน 2559 สถานที่ ศูนย์การค้า Platinum fashion mall หญิงชาวต่างชาติจากประเทศ Singapore 2คนนี้ถูกจับได้พร้อมหลักฐาน จากการขโมยสินค้าจากร้านค้าในห้างนี้ ถึงแม้ทางร้านจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงินค่าปรับแลกกับสินค้าที่ถูกขโมยไป แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจมากที่สุด คือหลังจากที่หัวขโมยถูกจับได้ นางกลับ ไม่มีท่าทีสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไปแม้แต่นิดเดียว กลับมองเป็นเรื่องสนุก ตลกขบขัน กับการกระทำที่ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรม น่าอับอายจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากประเทศที่คนมีการศึกษาดี และกฏหมายลงโทษที่รุนแรงชัดเจน” . . . . แน่นอนว่าเมื่อเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน… บ้างก็แซะเรื่องความรุนแรงและความเด็ดขาดของกฎหมายบ้านเรา บ้างก็สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาคงจะสติไม่ดีกระมัง บางคนก็ไม่เข้าใจว่าจะลั้นลาอะไรกันขนาดนั้น แล้วเพื่อนๆ…
-
นักท่องเที่ยวจีน ยกเท้าใช้งานกับ ‘เครื่องเป่ามือ’ หลังฝนตกหนักที่ Shanghai Disneyland
ก็ต้องขอถอนหายใจกันยาวๆ สักหน่อยก่อนที่จะเข้าเรื่องในวันนี้… หลายคนก็คงพอจะรู้แล้วว่าประเทศจีน ถือเป็นประเทศที่มีเรื่องราวแปลกๆ และเรื่องราวชวนอึ้งออกมาให้ชาวโลกได้รู้ได้เห็นกันอย่างไม่ขาดสาย และล่าสุดบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีน ก็ได้สร้างชื่อเสียงในการแสดงพฤติกรรมชวนเอือมระอากันอีกเช่นเคย ซึ่งคราวนี้เหตุการณ์ได้เกิดขึ้น ณ Shanghai Disneyland สถานที่ท่องเที่ยวสุดอลังการแห่งใหม่ของประเทศจีน ที่ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แต่บรรดานักท่องเที่ยวจีนก็พากันยกขบวนไปสร้างวีรกรรมสุดแสบกันซะแล้ว โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในวันที่ 3 มิถุนายน 2559 เป็นวันที่ทาง Shanghai Disneyland ได้เปิดให้บริการตามปกติ หลังจากที่เพิ่งเปิดไปได้เพียง 10 วัน ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกอย่างหนัก ดังนั้นจึงทำให้บรรดานักท่องเที่ยวตัวเปียก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวแห้ง โดยการพากันเข้าไปในห้องน้ำและได้ทำในสิ่งที่หลายคนถึงกับอึ้งนั่นก็คือ พวกเขาได้ยกเท้าของตัวเองขึ้นมา แล้วเป่าให้แห้งกับเครื่องเป่ามือ ซึ่งหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ชาวเน็ตจีนต่างก็พากันเข้ามาแสดงความเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เช่น เป็นพฤติกรรมที่สร้างความอับอายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เคยมีกระแสข่าวพฤติกรรมสุดเอือมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ได้สร้างความสกปรกไปทั่ว Shanghai Disneyland…
-
นักท่องเที่ยวไม่ทราบสัญชาติ เข้าไปจับ “นาฬิกาโบราณ” หล่นแตก ทั้งๆ ที่มีป้ายห้ามจับ!!
เวลาที่เราพิพิธภัณฑ์ ก็คงจะรู้กฎกันดีอยู่แล้วว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นมันมีคุณค่า และทางพิพิธภัณฑ์ก็ต้องเขียนป้ายห้ามจับหรือห้ามเข้าใกล้ติดไว้เป็นธรรมดา แต่ก็มักจะมีนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้เรื่องชอบทำข้าวของเสียหายอยู่เรื่อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ National Watch and Clock Museum ในเพนซิวาเนีย ซึ่งกล้อง CCTV ได้จับภาพได้ เป็นภาพของนักท่องเที่ยว 2 คน กำลังเข้าไปจับกับเครื่องบอกเวลาโบราณที่ทำจากไม้ และแขวนอยู่บนผนัง ทันทีที่ผู้ชายเข้าไปเล่นมัน ด้วยความที่มันเก่ามาก จึงมีความเปราะบางเป็นพิเศษ ทำให้มันหล่นลงมาแตกหักเสียหาย ก่อนทั้งคู่จะวางทิ้งไว้แล้วก็เดินหนีไปในที่สุด ชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว และก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ก็เพิ่งมีข่าวเกี่ยวกับการทำลายข้าวของในพิพิธภัณฑ์ เช่นเดียวกัน แต่เป็นที่จีนใน Shanghai Museum of Glass ซึ่งได้เกิดเหตุการณ์ที่เด็กเข้าไปเล่นในเขตที่กั้นไว้ โดยมีผู้ปกครองถ่ายคลิปอยู่ด้วย ผลงานที่ถูกทำลายชื่อว่า “Angel Is Waiting” ซึ่งหลังจากเด็กเล่นมันพัง Xue ซึ่งเป็นศิลปินที่สร้างผลงานนี้ขึ้นมาก็เปลี่ยนชื่อมันเป็น “Broken” แทน ดูคลิปแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเลย แล้วก็มีแต่คำว่า “ทำไม” อยู่ในหัวเต็มไปหมดดดด ที่มา telegraph
-
มาสักที..!! กระทรวงท่องเที่ยวจีน ออกกฎเหล็ก 9 ข้อ ใครทำผิด โดนแบนห้ามออกประเทศ!!
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราได้ยินข่าววีรกรรมนักท่องเที่ยวจีนมากมายที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาจเพราะประเทศจีนมีประชากรเยอะ ทำให้คุณภาพของเหล่านักท่องเที่ยว มีความหลากหลายค่อนข้างมาก แน่นอน ทางรัฐบาลจีนเองก็ตระหนักรู้ว่า นักท่องเที่ยวจีนกำลังกลายเป็นปัญหาระดับนานาชาติ ด้วยเหตุนี้เอง ทางกระทรวงการท่องเที่ยวจีน ได้ออกกฎเหล็ก 9 ข้อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ปฏิบัติตาม ซึ่งถ้าใครฝ่าฝืน อาจถูกแบนไม่ให้ออกประเทศเป็นเวลา 2-5 ปีเลยทีเดียว จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย 1. ยุ่งเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของอากาศยานหรือระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ 2. ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ 3. ลบหลู่วัฒนธรรมหรือวิธีชีวิตของคนท้องถิ่น 4. ทำลายโบราณสถาน โบราณวัตถุ 5. ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน การค้าประเวณี หรือการใช้ยาเสพติด 6. คุกคามหรือสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้อื่น 7. ทำลายธรรมชาติ หรือฝ่าฝืนข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือคุกคามความปลอดภัยของสัตว์ป่าและป่าไม้ 8. ทำพฤติกรรมเสื่อมๆ ในแนวอนาจาร 9. มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดทัศนคติแง่ลบอื่นๆ เรียกว่าห้ามครบทุกอย่างจริงๆ…
-
ซ้ำซาก!! แท็กซี่โกงค่าโดยสารแอร์โฮสเตจ ผ่านไปเดือนเดียวโกงผู้โดยสารอีกแล้ว!?
#เหมียวฟิ้นต้องขอท้าวความกลับไปเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในช่วงนั้นมีข่าวคราวการจับกุมคนขับแท็กซี่แสบ ที่โก่งค่าโดยสารของแอร์โฮสเตจเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,200 บาท ซึ่งเว็บไซต์ Dailynews ได้ระบุว่าคนขับแท็กซี่มีชื่อว่านายวัชระ ทาน้อย วัย 31 ปี ต่อมาเว็บไซต์ Khaosodonline ได้รายงานว่าในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายวัชระ ได้ก่อเหตุซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขารับนักท่องเที่ยวสาวชาวตุรกีจากสนามบินดอนเมือง ไปอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีการตกลงค่าโดยสารกันที่ 2,000 บาท (ไม่รวมค่าแก๊ส) ระหว่างทางได้แวะเติมแก๊สเป็นจำนวนเงิน 277 บาท แต่เขาเรียกเก็บเงินกับผู้โดยสาร 500 บาท ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน จนผู้โดยสารต้องจำใจจ่ายเงินไป 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 535 บาท) แต่นายวัชระบอกว่าต้องจ่ายอีก 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,855 บาท) แม้ว่าผู้โดยสารจะบอกให้ขับไปยังสถานีตำรวจแต่นายวัชระก็ไม่ยอม พยายามคว้ากระเป๋าและชกผู้โดยสารสาวเข้าที่กกหู สุดท้ายผู้โดยสารได้หนีออกมาได้ และได้รับความช่วยเหลือจากคนในบริเวณนั้นเพื่อพาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากประเด็นการก่อเหตุซ้ำซากนี้เอก ทำให้หนุ่มญี่ปุ่นชื่อดังอย่างนายอะกิฮิโระ โกกิ โทมิกาวา ต้องโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “เวลาที่ผมมีปัญหากับแท็กซี่ไม่ดีบางคน พวกเขาจะพูดว่า…
-
เอางี้เลย!? นักท่องเที่ยวจีนไปเยือนเกาะไข่ ณ ภูเก็ต จับปลามาใส่ซองกันน้ำ บอกเก็บไว้ดูเล่น
ตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ สิ่งหนึ่งที่เราควรตระหนักเลยก็คือไม่ควรนำอะไรจากธรรมชาติติดตัวกลับมา และอีกสิ่งก็คือไม่ควรนำอะไรไปทิ้งในที่แห่งนั้นด้วย เพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน แต่ต่อให้รณรงค์ยังไงก็ตาม มันก็มักจะพังทลายไปเสียทุกที เพราะมีนักท่องเที่ยวมากมายหลายกลุ่มเหลือเกิน ล่าสุดนี้ก็เป็นกรณีของนักท่องเที่ยวจีน (อีกแล้ว) ที่กำลังแห่กันมาเที่ยวประเทศไทยของเราไปทั่วดินแดน จนเคสนี้หนักตรงที่ว่าพี่แกเล่นไปจับปลามาใส่ถุง ใส่ซองกันน้ำกันเลยแหละ เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้น ณ บริเวณ เกาะไข่ จังหวัดภูเก็ต หาดสวย น้ำใส แต่กำลังถูกทำลายบรรยากาศดีๆ เพียงแค่คนไม่กี่คน แม้ว่าจะมีการตักเตือนแล้วก็ไม่รู้สึกผิดอะไร อ้างว่าเก็บไว้ดูเล่น แถมยังกล่าวว่าจับง่ายอีกต่างหาก เจอแบบนี้บ่อยๆ เข้า มีหวังปลาหาย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติถูกทำลายย่อยยับแน่นอน!! ที่มา : まあやさんか ぷうさにいさ
-
[บทความพิเศษ] คิดว่าประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่ ‘อันตราย’ ในสายตานักท่องเที่ยวจริงหรือ!??
การท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นเริ่มกลายเป็นสิ่งที่อันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (แม้แต่กับคนไทยด้วยกันเอง) เพราะในช่วง 2-3 ปีมานี้ เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ที่มาประสบอุบัติเหตุ ถูกล่อลวงชิงทรัพย์ต่างๆ นานา วันนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะมาพูดถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวและอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ประเทศนี้ดูอันตรายสำหรับพวกเขา และอาจจะไม่กลับมาเหยียบที่ดินแดนสยามเมืองยิ้มอีกเลย? เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเหยียบสนามบิน เรามักจะได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ (หรือตุ๊กๆ) หน้าเลือดบางคนที่เก็บค่าโดยสารแบบแพงสุดกู่อยู่บ่อยๆ โดยหลายรายมักอ้างว่าเป็นการเหมารถ หรือมิเตอร์เสีย ทั้งที่จริงแล้วก็สามารถคิดราคาเป็นธรรมหรือตัวเลขตามจริงได้ และแม้ว่าชาวต่างชาติจะมีค่าเงินที่แพงกว่าไทยจริง แต่พวกเขาก็ต้องการการบริการที่เป็นธรรมเช่นกัน หลายครั้งที่เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสนั่งคุยกับนักท่องเที่ยวหลายคน พวกเขามักจะบ่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมการขับรถของคนไทย เพราะในหลายๆ ประเทศมักจะให้สิทธิ์กับคนข้ามถนนก่อน หากคนขับรถเห็นคนยืนรอเพื่อข้ามถนนตรงทางม้าลายพวกเขาก็มักจะเบรกให้คนไปก่อนเสมอ แต่ทางม้าลายในประเทศไทยดูเหมือนจะมีไว้เพื่อให้รู้ว่ามันคือทางม้าลายเท่านั้น เพราะคนขับรถส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะเบรกกันสักเท่าไหร่ จึงเกิดทางม้าลายแบบกดรอสัญญาไฟขึ้นมา นั่นก็พอจะช่วยให้รถหยุดได้บ้าง แต่ก็ยังฝ่าไฟแดงกันจนเกิดอันตรายกับผู้ข้ามถนนอยู่ดี นอกจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว ผู้คนในท้องถิ่น (บางกลุ่ม) เองก็ดูจะไม่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ อย่างเช่นเมื่อปลายปี 2014 ที่เกิดข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก เกี่ยวกับคดีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ราย Hannah Witheridge และ David Miller…
-
วิเคราะห์สาเหตุ ทำไม ‘นักท่องเที่ยวจีน’ จึงขึ้นชื่อเรื่องพฤติกรรมไร้ระเบียบวินัย จนดังไปทั่วโลก?
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกา และด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมและความคิดอย่างสุดกู่ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเหล่านั้นกลายเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านประเทศเจ้าถิ่นเป็นอย่างมาก เมื่อคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น…. พฤติกรรมแย่ๆ เรามักพบเห็นในเหล่านักท่องเที่ยวจีนก็อย่างเช่น การแซงคิว การขับรถที่น่าหวาดเสียว การตักอาหารในร้านบุฟเฟ่แบบเกินความจำเป็น การพูดคุยเสียงดังในที่สาธารณะ และอื่นๆ อีกมากมายที่ต่อให้เล่าภายในหนึ่งวันก็อาจไม่หมด หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมพฤติกรรมเหล่านั้น จึงมักปรากฏในตัวของชาวจีน พวกเขาใช่เป็นกลุ่มชนที่ไร้อารยะอย่างที่พวกเราตราหน้าจริงหรือ!? แล้วทำไมพวกเขาจึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น เราลองไปหาสาเหตุกันดีกว่า?? ประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน… อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาวกว่า 4,500 ปี ตลอดช่วงเวลานั้น มีนักปราชญ์ชื่อก้องโลกหลายต่อหลายคนถือกำเนิดขึ้นมาบนแผ่นดินมังกรแห่งนี้ และประเทศจีนก็เป็นดินแดนแรกๆ ที่เริ่มประดิษฐ์กระดาษและดินปืนขึ้นมาใช้อีกด้วย แน่นอน ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานขนาดนี้ พวกเขาย่อมเป็นดินแดนที่มีประเพณีและวัฒนธรรมงดงามไม่แพ้ชนชาติใดๆ ในโลกอย่างแน่นอน อย่างเช่นลัทธิเต๋าและขงจื้อที่เป็นหลักจริยธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตให้กับชาวฮั่นมาตลอดหลายร้อยปี เรดการ์ด และ การปฏิวัติวัฒนธรรม แต่จนกระทั่งช่วงปี 1960 ประเทศจีนเข้าสู่ยุคคอมมิวนิสต์ ที่มี เหมาเจ๋อตุง เป็นผู้นำสูงสุด ตอนนั้นเขาเริ่มสูญเสียฐานอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์ของตนเอง ด้วยความกลัวที่จะเสียอำนาจนั้น เขาใช้ข้ออ้างในการ…
-
นักท่องเที่ยว พลัดตกจากกำแพงเมืองจีนที่มีความสูงชัน แต่กลับรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
เรียกได้ว่าน้อยครั้งมากๆ ที่จะมีคนรอดชีวิตจากการพลัดตกจากที่สูง เพราะจากที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้าย ที่พลัดตกจากที่สูงอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับนักท่องเที่ยวรายนี้ ที่ได้พลัดตกจากกำแพงเมืองจีนสูงชันมากถึง 9 เมตร แต่ยังโชคดีที่รอดชีวิตกลับมาได้ราวปาฏิหาริย์ โอ้ววว น่าเหลือเชื่อมากๆ เลยละ โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว กำลังยืนชะเง้อมองวิวทิวทัศน์ด้านล่างของกำแพงเมืองจีนอยู่ แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… ในขณะที่เขากำลังมองวิวด้านล่างบริเวณเจี้ยนโค่วฉางเฉิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนที่ยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมและมีลักษณะเป็นเขาสูงชันอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็เกิดเสียหลัก จนทำให้ร่างถูกพลัดตกลงไป และนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดิน ด้านล่างยังไงละเหมียว ทันทีที่หน่วยกู้ภัยมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เช็คอาการเบื้องต้น ปรากฏว่านักท่องเที่ยวรายนี้ มีอาการกระดูกหักที่ขาและสะโพก ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวของเขาส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป ที่มา : dailymail
-
สื่อนอกเผยคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า เป็นการดำเนินการที่ไร้ประสิทธิภาพ!!
หนึ่งในคดีที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก หลังจากที่มีสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้เดินทางมาเที่ยวที่เกาะเต่าของประเทศไทย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าพวกเขาถูกฆาตกรรม ณ บริเวณชายหาด จนตำรวจสืบสวนไปสู่การจับกุมแรงงานชาวพม่าสองราย ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2557 คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า Hannah Witheridge วัย 23 ปี และ David Miller วัย 24 ปี ฝ่ายหญิงถูกพบในสภาพถูกข่มขืน และฝ่ายชายถูกทำร้ายร่างกายและนำร่างไปทิ้งในทะเล โดยจากการตรวจสอบ DNA ของฝ่ายนิติเวชนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่งและที่แย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือกล่าวหาผู้ต้องหาชาวพม่าสองคนให้ยอมรับผิดทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันเลย ทั้งนี้ว่ากันว่าการสืบสวนของตำรวจเพื่อหาข้อเท็จจริงนั้น ทำการจับกุมแรงงานชาวพม่าสองรายมาทำการทรมานจนกว่าจะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำความผิดฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ทางด้าน Laura Witheridge ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจากการกระทำเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยไม่ต่างไปจากกับดักอันแสนอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ‘ตั้งแต่ที่เราเสีย Hannah ไป ยังมีการตายที่น่าสงสัยเกิดขึ้นในเกาะเต่าอีกมาก คุณอาจจะไม่รู้หรอก ยังมีนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ตกเป็นเหยื่อด้วย และทุกๆ ครั้งมักจะถูกสรุปให้เป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ก็อุบัติเหตุ’ ทั้งนี้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่ปักใจเชื่อว่าสองแรงงานชาวพม่าที่ถูกจับมานั้นเป็นผู้กระทำความผิด และทางเจ้าหน้าที่เองก็ปฏิเสธว่าการดำเนินคดีต่างๆ…
-
‘เราจะไม่กลับไปประเทศไทยอีก’ ความรู้สึกของครอบครัวชาวอังกฤษถูกวัยรุ่นทำร้ายที่หัวหินช่วงสงกรานต์
ประเทศไทยของเราถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มักจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ใฝ่ฝันอยากจะมาเยี่ยมเยือนทั้งในช่วงเทศกาลและฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยธรรมชาติและเอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ที่เป็นแรงจูงใจในการมาเที่ยว คุณพ่อ Owen และคุณแม่ Rosemary ชาวอังกฤษวัย 68 ปี แต่บ่อยครั้งที่มักจะมีข่าวคราวไม่ค่อยดีที่ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายอย่างหนัก อย่างในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ครอบครัวชาวอังกฤษได้มาเที่ยวช่วงเทศกาลดังกล่าวแต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 6 คน ที่มีอาการเมามายสุราและถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นาย Lewis Owen วัย 43 ปี (ขวา) Lewis Owen นักออกแบบกราฟฟิคชาวอังกฤษ วัย 43 ปี คุณพ่อ Lewis ในชื่อเดียวกัน และคุณแม่ Rosemary วัย 68 ปี ได้มาเที่ยวที่ประเทศไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13 เมษายน 2559 ซึ่งในระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเดินอยู่บนถนนย่านหนึ่งในหัวหิน เขาถูกวัยรุ่นคนหนึ่งผลักจนล้ม โดยที่ผู้เป็นแม่พยายามเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายเหตุการณ์ก็บานปลาย จู่ๆ ก็มีวัยรุ่นอีกคนเข้ามาชกหน้าคุณพ่อ Lewis…
-
ผู้โดยสารจีนปรอดแตก ตบหน้าพนักงานสายการบิน หลังเครื่องบินดีเลย์อย่างหนัก!!
หนึ่งในปัญหาที่ผู้โดยสารเครื่องบินไม่อยากเจอมากที่สุดคือการที่เครื่องดีเลย์ นั่นหมายความว่าผู้โดยสารต้องเสียเวลารอไปอีก จนบางทีอาจพลาดสิ่งที่สำคัญไปและอาจนำไปสู่ความไม่พอใจของผู้โดยสารก็เป็นได้ อย่างเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สนามบินในนครฉางซา เมื่อเครื่องบินของสายการบิน Capital Airlines ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางผู้โดยสารทีไ่ด้รับผลกระทบ จึงรวมตัวกันและขอพบกับตัวแทนของสายการบิน แต่ทางสายการบินได้ปฏิเสธคำร้องนั้น ทางผู้โดยสารจึงเริ่มไม่พอใจ และเข้าไปทำร้ายพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบินนั้น ในภาพเราจะเห็นว่ามีผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง สาดกล่องข้าวใส่พนักงานสาวของสายการบิน และชายเสื้อลายขวาง ก็ปรี่เข้าไปตบหน้าพนักงานของสายการบินคนดังกล่าวอีกที พร้อมพูดว่า “ชั้นตบหน้าเธอแล้วยังไง?” เมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจีนก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ตอนนี้ทั้งสองถูกใส่ชื่อเข้าไปในบัญชีดำของบรรดาสายการบินแล้วหรือยัง หรือพวกเขาได้รับบทลงโทษทางกฎหมายใดๆ หรือไม่ ที่เข้าไปทำร้ายพนักงานเช่นนั้น ลองไปชมคลิปกันดีกว่า โหดจริงๆ ผู้โดยสายชาวจีน แต่จะโมโหขนาดไหนก็ไม่ควรเข้าไปทำร้ายพนักงานนะ เพราะเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย หวังว่าทั้งสองจะได้รับบทลงโทษตามกฎหมายที่เหมาะสมไปนะฮะ ที่มา Shanghaiist
-
ร้านอาหารไทยเงิบ เจอลูกค้าจีนโวยหาว่าอาหารมีขี้ดิน ทั้งที่เป็นซอสพริกไทยดำ ยันจะจ่ายเท่าที่มี?!?!
เรียกว่ามีเรื่องมาให้เหนื่อยหน่ายใจกันเป็นประจำเลยทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวจีน หลังจากเมื่อวาน #เหมียวอ๊อดโด้ ได้นำเรื่องราวของนักท่องเที่ยวจีน ที่ขึ้นไปกางเต็นท์นอนบนกำแพงเมืองเชียงใหม่ (ข่าวเก่า) และยังไม่ทันข้ามวันดี เราก็มีเรื่องของนักท่องเที่ยวชาวจีนมานำเสนออีกแล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นที่ร้านอาหารเฮือนแสงหล้าซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของเฟสบุ๊ค Bogie Beego ได้ออกมาเล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามารับประทานอาหารในร้านสามคนซึ่งทั้งสามคนก็สั่งอาหารไปตามปกติ เมื่ออาหารมาถึงและนักท่องเที่ยวจีนทานไปได้ครึ่งหนึ่ง พวกเขาก็เรียกพนักงานมาและแจ้งว่ามีเศษดินในอาหาร ทางร้านแจ้งว่าที่พวกเขาเห็นนั้นไม่ใช่เศษดิน แต่เป็นซอสพริกไทยดำต่างหาก ซึ่งทางนักท่องเที่ยวจีนก็ไม่ยอมเชื่อ จนพนักงานต้องมานำอาหารจานนั้นออกไป และหลังจากที่นักท่องเที่ยวจีนทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็เรียกพนักงานมาอีก แล้วแจ้งว่าในอาหารทุกจานมีเศษดินปนอยู่ ซึ่งทางพนักงานก็แจ้งว่าเป็นซอสพริกไทยดำกับอาริกาโน่ แต่ทางนักท่องเที่ยวจีนไม่เชื่อ และยืนยันว่าจะจ่ายค่าอาหารแค่ 350 บาทจากจำนวนเต็ม 420 บาท สุดท้ายทางร้านไม่อยากมีเรื่อง จึงยอมรับเงินแค่ 350 บาทเท่านั้น เคยเห็นแต่คลิปของร้านอื่นที่โดนคนจีนหาเรื่องไม่จ่ายเงิน วันนี้ร้านเราโดนเองซะแล้ว เหตุการณ์มีอยู่ว่า นางมากันสามคนพ่อแม… โพสต์โดย Bogie Beego บน 5 เมษายน 2016 เมื่อเรื่องราวเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย…
-
เร็วปานเดอะแฟลช!! กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในเวียดนาม คว้าผลไม้จากจานเกลี้ยงใน 6 วินาที!!
กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโลกทีเดียว สำหรับคลิปของเหล่านักท่องเที่ยวที่หิวโหยตักอาหารทะเลในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุดดูเหมือนที่เวียดนามเองก็ต้องรับมือกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเช่นกัน… เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์โกลาหลเช่นเดียวกับที่อื่นๆ เพราะในระหว่างที่พนักงานโรงแรมกำลังนำจานลิ้นจี่มาเสิร์ฟบนโต๊ะนั้นเอง กลับมีชาวจีนกว่าสิบคนมายืนล้อมรอบพนักงานคนนั้นเพื่อแย่งชิงผลไม้ในท่าทางแบบหิวโหยสุดๆ เห็นได้ชัดว่าพนักงานรายนี้ดูจะหงุดหงิดสุดๆ เนื่องจากยังไม่ทันจะวางจานก็มีกลุ่มชาวจีนเอิ้อมมือมาหยิบไปซะแล้ว แถมเจ้าตัวยังไม่สามารถขยับออกไปได้ สุดท้ายเธอเลยวางมันลงบนโต๊ะจากนั้นลิ้นจี่บนจานก็หายไปในเวลาไม่กี่วินาที!! ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า Chinese tourists clear out fruit plate in under six seconds at the poolside bar of a hotel in Vietnam. READ MORE: http://shst.me/fruitplate โพสต์โดย Shanghaiist บน 24 มีนาคม 2016 #เหมียวฟิ้นกลัวแล้วจ้าาาา ที่มา shanghaiist
-
ตัวอย่างที่ดี!! คุณพ่อพาลูกสาวไปช่วยกันเก็บขยะ บริเวณทุ่งหญ้าหิมะ หลังนักท่องเที่ยวทิ้งเกลื่อน
หลายวันที่ผ่านมาสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้เผยภาพความสวยงามของทุ่งหญ้าหิมะ ข้างถนนเกษตร-นวมินทร์ จนทำให้บรรดานักท่องเที่ยว แห่กันไปชื่นชมความสวยงามของทุ่งดอกหญ้าขาวกันมากมาย แต่ไม่คิดเลยว่า มันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธรรมชาติอันสวยงาม เพราะมีนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ได้ลงไปถ่ายรูป และเหยียบต้นหญ้าจนเละเทะ แถมยังทิ้งขยะเกลื่อนกลาด จนเกิดเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้กับหลายคนไม่น้อย และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 คุณ สมาชิกหมายเลข 2134791 จากเว็บไซต์พันทิป ก็ได้ออกมาตั้งกระทู้ ‘ชวนลูกมาเก็บขยะที่ทุ่งหญ้าหิมะกัน’ โดยได้เผยภาพแสนน่ารักของหนูน้อย ที่กำลังช่วยกันเก็บขยะ พร้อมเผยข้อความว่า… นอกจากนี้ทางเฟสบุ๊คของคุณพ่อ ก็ได้มีการลงรูปของลูกสาวทั้ง 2 ที่กำลังช่วยกันเก็บขยะอย่างขะมักเขม้น เรียกได้ว่าเป็นภาพที่น่ารัก และน่าชื่นชมมากจริงๆ งานนี้เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ต่างก็พากันมาชื่นชมคุณพ่อ ที่ได้สอน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกสาว พร้อมทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ ไปในตัวอีกด้วย เหมียวขี้อ้อนขอยกนิ้วให้เลยจ้า มนุษย์ได้เห็นความงามของธรรมชาติ ก็แห่กันไปเที่ยวชม ไปเก็บภาพที่สวยๆ เอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่มีใครคิดเลยว่า คุณได้ธรรมลายธรรมชาติไปในตัว โดยการเข้าไปเหยียบย่ำ…
-
น่ายกย่อง!! วัยรุ่นสองคนโบกรถเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่ ขากลับเดินเก็บขยะกว่า 5 กิโลเมตร
ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ในช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมานี้เลยล่ะ โดยเป็นเรื่องราวจากคุณ นายบอลพาเที่ยว ในพันทิป ระหว่างที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนเส้นทางเขาใหญ่ จากผาเดียวดายมุ่งหน้าไปสู่น้ำตกเหวสุวัต และในช่วงนั้นเองทำให้เขาได้พบกับวัยุรุ่นชายหญิง 2 คน เดินอยู่คนละฝั่งถนน นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสงสัยทันที จึงทำการจอดรถและสอบถามก็พบว่าน้องทั้งสองคน ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่มาเจอกันเพราะด้วยความตั้งใจที่จะมาเที่ยวเขาใหญ่ ซึ่งนั่งรถโดยสารมาลงที่ด่านเก็บเงิน ณ ทางขึ้นเขาใหญ่ และจะโบกรถขึ้นไปแทนรถสาธารณะที่เก็บเงิน ฝ่ายชายชื่อ เป้ ฝ่ายหญิงชื่อ ปอ จึงรู้จักกันเป็นครั้งแรกที่หน้าด่านเขาใหญ่ และตกลงจะโบกรถไปด้วยกัน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ที่ห่างออกไป 24 กิโลเมตร ก่อให้เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างนักเดินทาง เช้าวันที่ทั้งคู่กำลังจะกลับ ก็ตั้งใจที่จะโบกรถกลับไปด้านล่าง ซึ่งระหว่างที่กำลังเดินไปด้วย โบกรถไปด้วย ก็สังเกตว่าข้างทางมีขยะเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ทั้งเป้และปอจึงช่วยกันเก็บขยะทั้งสองข้างทางจนกว่าจะเหนื่อย โดยจุดที่คุณ นายบอลพาเที่ยว พบทั้งสองนั้นก็น่าจะห่างจากลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้มาได้ 4-5 กิโลเมตรแล้ว และช่วงที่เจอทั้งน้องเป้และน้องปอ ขยะที่เก็บมาตามทางก็มีเยอะมาก มากเสียจนล้นถุงหลายใบเลยล่ะ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าน้องหาถุงหลายใบมาใส่ขยะได้จากไหน ซึ่งน้องก็บอกว่าเจอขยะที่เป็นถุงใหญ่ๆ โดยถุงทั้งหมดนี้ก็เป็นขยะจากข้างทางนี่แหละ เขาก็เลยอาสาช่วยนำขยะเหล่านั้นไปทิ้งให้ที่บริเวณลานกางเต็นท์ลำตะคองให้…
-
ชาวเน็ตเดือด หลังหนุ่มออสซี่ 3 คน รอดคุกคดี ‘ข่มขืน’ ไกล่เกลี่ยจ่ายเงินให้เหยื่อ 1 ล้านบาท!!
คดีข่มขื่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากสำหรับทุกคน มันเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยของเราเองก็มีข่าวคราวที่ไม่ดีแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และเป็นที่พูดถึงในเรื่องของบทลงโทษของผู้ก่อคดี ที่ควรได้รับอย่างสาสมกับการกระทำอันชั่วร้ายนี้ เช่นเดียวกันกับที่ต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ผู้กระทำความผิดคือ 3 หนุ่มชาวออสเตรเลีย ทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวสาววัยรุ่นชาวนอร์เวย์ อายุ 17 ปี ภายในบาร์แห่งหนึ่งในประเทศโครเอเชีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 ที่ผ่านมา โดยรับสารภาพข้อกล่าวหาแต่โดยดี Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif ชาวออสเตรเลียที่ข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย หนุ่มออสซี่วัย 20 ต้นๆ สามทั้ง 3 ราย ประกอบไปด้วย Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif เพิ่งเดินทางถึง Melbourne หลังจากที่ต่อสู้ในคดีข่มขืนหญิงสาววัยรุ่นในประเทศโครเอเชีย Dylan Djohan หนึ่งในผู้กระทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย โดยหลังจากเกิดเรื่อง ทางตำรวจโครเอเชียก็ได้ทำการยึดหนังสือเดินทางของทั้งสามคนเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว และได้ทำการยื่นคดีให้กับศาลตัดสินความผิด…
-
เป็นเรื่อง!! เกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจีนขับรถสวนเลน ชนประสานงาเข้ากับรถกระบะพังยับ
ฤดูกาลท่องเที่ยวนั้นไม่มีวันหยุดจริงๆ ทุกวันนี้จะสังเกตได้ว่าแถวๆ ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และบริเวณจังหวัดใกล้เคียงนั้นจะเป็นจุดที่มี ‘นักท่องเที่ยวจีน’ เยอะที่สุด แห่กันมาเที่ยวแบบไม่ขาดสาย ทั้งโดยสารเครื่องบินมากับกรุ๊ปทัวร์ หรือมาท่องเที่ยวเอง รวมไปถึงการขับรถยนต์มาเอง!! สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเองนี่แหละ ทะเบียนป้ายสีฟ้าแปลกๆ ที่ทำให้หลายคนรู้สึกหวั่นใจจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ เพราะด้วยลักษณะนิสัยการขับขี่ที่อันตรายและการขับรถในต่างประเทศ (ในบ้านเรา) ที่ไม่เหมือนในจีน จนแล้วจนรอดก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นเรื่องจากเฟสบุ๊คของคุณ Nattapong Yoshiro Chongkosantisuk ที่มีนักท่องเที่ยวจีนขับรถสวนเลนมาและชนประสานงาเข้าอย่างจังกับรถกระบะของเขาเองในบริเวณดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีการเจรจานอกรอบกับนักท่องเที่ยวและกงศุลประเทศจีน โดยจะทำการชดใช้ค่าเสียหายให้ 80,000 บาท จากยอดประเมินความเสียหาย 280,000 บาท และจะจ่ายค่าเช่ารถในระหว่างซ่อม 2 เดือน พร้อมกับค่าเสียเวลาเป็นจำนวน 90,000 บาท รวมทั้งสิ้น 170,000 บาท ซึ่งทางกงศุลเองก็ขอให้เห็นใจนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เนื่องจากเพิ่งจะมาถึงเชียงใหม่ ยังไม่ทันได้เที่ยวก็เกิดเหตุเสียก่อน…
-
กลุ่มคนสุดแสบ เอากางเกงลายดอกมานุ่งให้รูปปั้นนักกล้าม จากที่เคยสง่า ก็กลายเป็นความฮาในทันที
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของกลุ่มคนสุดแสบ ที่กำลังทำการสวมกางเกงลายดอกสีแดงให้กับรูปปั้นนักกล้ามทรงพลัง ที่ตั้งอยู่ใจกลางนครฉางชุน มณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน เพื่อใช้เป็นฉากในการถ่ายรูป งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาความสง่างามของรูปปั้นหดหายกันไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนมือบอนกลุ่มดังกล่าวได้ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ในการนำกางเกงลายดอกมาสวมให้กับรูปปั้นก่อนที่จะพากันมายืนถ่ายรูปร่วมกับผลงานของตัวเอง แถมยังบอกอีกว่ามันคืองานศิลปะ หมดกัน!! ความสง่างามที่เคยมี และที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รูปปั้นนักกล้ามจะถูกพวกมือบอนแกล้งเอาสิ่งต่างๆ มาสวมใส่ให้ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนนำผ้าสีแดง และถุงยางอนามัยมาสวมให้กับปิกาจู้ของรูปปั้นก็มีมาแล้วนะจ๊ะ เฮ้อ…ทำไปได้เนอะ แม้ว่าการกระทำเหล่านี้จะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเมือง เพราะความสนุกสนานเพียงชั่วครู่ของคนบางคน แต่ทางการยังไม่มีการออกมาแสดงท่าทีใดๆ ต่อการกระทำของพวกมือบอนกลุ่มนี้เลย ที่มา : cctvnewschina
-
นักท่องเที่ยวจีนโชว์ป่วน อาบน้ำให้ลูกชายบนอ่างล้างหน้า เล่นเอาเดือนร้อนกันทั่ว
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่นี่ต้องบอกว่าเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลกจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องมารยาทที่หลายๆ คนเจอแล้วต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว และวันนี้อีกครั้งกับนักท่องเที่ยวจีน กับการอาบน้ำให้ลูกชายบนอ่างล้างหน้า จนผู้อื่นไม่สามารถใช้งานได้ แถมยังทำให้ห้องน้ำสกปรกอีกต่างหาก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องน้ำสาธารณะที่หาด Nanwan ในเขตอุทยานแห่งชาติ Kenting ประเทศไต้หวัน ภาพที่เราเห็นคือนักท่องเที่ยวชาวจีนพาลูกชายไปอาบน้ำบนอ่างล้างหน้า ทั้งๆที่บนอ่างมีป้ายติดไว้ว่า “ห้ามขึ้นไปยืน” ซึ่งภาพดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตในทันที ชาวเน็ตไต้หวันหลายท่านบอกว่า “พวกเราไม่ต้องการนักท่องเที่ยวแบบนี้” “น่าอับอายมาก” สำหรับในไทยเองก็เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน อย่างเช่นการตากชุดชั้นในบนเก้าอี้สนามบิน จนกลายเป็นที่เอือมระอาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาก็ทำแล้วมา เหมียวว่ารัฐบาลจีนควรจะมีมาตรการอบรมมารยาทให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกมานอกประเทศบ้างนะ ไม่งั้นภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวจีนก็คงเป็นแบบนี้ต่อไปแน่นอน ที่มา Shanghaiist
-
พาไปชม 20 เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนมากที่สุดในโลก (ไทยติดตั้ง 3 อันดับ)
สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว การที่ได้ไปพิชิตแลนด์มาร์คถือเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Business Insider ได้รวบรวมข้อมูลจาก Euromonitor International ที่ปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับ 100 อันดับเมืองที่คนนิยมไปเที่ยวมากที่สุด โดยวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2014 แต่วันนี้เหมียวจะเอามาให้ดูแค่ 20 ก็พอแล้ว เยอะไปก็เที่ยวไม่หมดหรอก แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้ง 20 อันดับนี้เอเชียก็กินไปเกินครึ่งแล้ว อีกทั้งไทยยังติดตั้ง 3 อันดับ เราไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง 20. Shanghai, China: มีนักท่องเที่ยว 6.39 ล้านคน 19. Pattaya, Thailand: มีนักท่องเที่ยว 6.4 ล้านคน 18. Miami, Florida: มีนักท่องเที่ยว 7.3 ล้านคน 17. Phuket, Thailand: มีนักท่องเที่ยว 8.1 ล้านคน…
-
แชร์เรื่องราว 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย นั่งขายโปสการ์ดอยู่แถว BTS สร้างแรงบันดาลใจให้คนมีฝัน
แอดเหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนมีฝัน แต่บางครั้งฝันมันก็อาจจะต้องใช้เวลา ใช้เงินและความพร้อม หลายๆ คนเลยเลือกที่จะรอ และรอ แต่วันนี้เหมียวมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ใครบางคนมาเล่าสู่กันฟังล่ะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Gyf Chaithanapat โดยเธอเล่าวว่าเจอคู่รักชาวรัสเซีย Irina และ Alexander นั่งขายโปสการ์ดอยู่ที่บริเวณ BTS หมอชิต จากการสอบถามทั้งคู่จึงทราบว่าพวกเขาอยากจะเดินทางรอบโลก โดยนาย Alexander เล่าว่าหลังเรียนจบจะออกเดินทางรอบโลก 1 ปี ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ไทยได้ 4-5 วัน ตนเองใช้เงินไปแค่ 300 บาทเอง (คุณพระ) พวกเขาเล่าว่าได้เดินทางไปมาแล้วทั้งอินเดีย เยอรมัน ไทย และอีกหลายๆประเทศ แถมพวกเขายังเล่าอีกว่าเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนจะอาศัยการเดินพร้อมกับถือแผนที่เอา เพื่อประหยัดต่อค่าใช้จ่าย และเนื่องจากเป็นคนรัสเซียทำให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เพิ่งจะมาฝึกเอาเมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ส่วนโปสการ์ดที่พวกเขาขายนั้น พวกเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งราคาไว้ สามารถให้ได้ตามต้องการเลย หญิงสาวจึงขอให้ทั้งคู่เลือกโปสการ์ดที่ชอบที่สุดมาให้เธอ 2 ใบ ก่อนที่เธอจะยื่นแบงค์ร้อยให้พวกเขาเป็นค่าตอบแทน …
-
ชื่นชมสาวไทยและคนขับแท็กซี่ อาสาช่วยนทท.ออสเตรเลีย ที่โดนปล้นพร้อมให้เงินช่วยเหลือ
นี่คือเรื่องราวดีๆ ของคนไทยน้ำใจงาม ที่พบเห็นชาวต่างชาติได้รับความเดือดร้อน จึงให้ความช่วยเหลือแบบไม่รอช้า พร้อมกับให้เงินช่วยเหลือพวกเขาด้วย เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Maeji Kamolrat Ayla โดยเจ้าตัวได้เล่าว่ามีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 2 คนมานั่งร้องไห้อยู่บริเวณหน้าร้านแต่งรถของตนเอง เมื่อสอบถามก็พบว่าทั้งคู่เพิ่งถูกปล้นมา เธอจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้ช่วยประสานงานไปยังสถานทูตออสเตรเลีย ในระหว่างนั้นเธอก็ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวทั้งสองโดยการหาน้ำดื่มและขนมให้กิน โชคดีที่ในขณะนั้นเองมีคนขับรถแท็กซี่นำรถมาแต่งที่ร้านของเธอพอดี ซึ่งคนขับแท็กซี่เองก็มีน้ำใจพาทั้งสองคนไปส่งยังสถานทูตด้วยตนเอง จากนั้นหญิงสาวก็ได้มอบเงินส่วนหนึ่งให้นักท่องเที่ยวนำติดตัวไปด้วย หนุ่มสาวชาวออสเตรเลีย มานั่งหน้าร้าน ร้องไห้อยุ่พักนึง จนลูกน้องตะโกนเรียกเรา เราก็เดินออกมา เค้าต้องการความการช่วยเหลื… Posted by Maeji Kamolrat Ayla on 11 มกราคม 2016 น่ารักด้วย น้ำใจงามด้วย คนแบบนี้แหละน่าจะเป็นเน็ตไอดอลของไทย ที่มา Maeji Kamolrat Ayla
-
หนาวสุดในรอบปี!! ยอดดอยอินทนนท์หนาวติดลบ 3 องศา น้ำแข็งค้างเกาะเต็มรถนักท่องเที่ยว
เชื่อว่าในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่กันมากมายเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว และจุดหมายปลายทางก็คงจะหนีไม่พ้นดอยอินทนนท์แน่นอน แต่ดูเหมือนว่าอากาศที่นั่นจะยังไม่ค่อยหนาวสะใจคอนั่งท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ เพราะจากคำบอกเล่าของหลายๆ คนบ่นกันว่าปีนี้หนาวน้อยกว่าทุกปี แต่หากคุณยังอยากไปสัมผัสอากาศหนาว (จริงๆ) แล้วล่ะก็ ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มกราคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพถ่ายจากบนยอดดอยอินทนนท์ ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -3 องศา จนมีน้ำค้างแข็งให้เห็น ถือเป็นอุณหภูมิที่ต่ำสุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ ตามรายงานบอกว่าวันนี้ถือเป็นวันที่ 5 แล้วที่มีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่ตามดอกไม้ใบหญ้า และรถของนักท่องเที่ยว ทำเอาผู้คนตื่นเต้นไปตามๆ กัน นอกจากนี้ยังมีการรายงานอุณหภูมิในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เช่น กิ่วแม่ปาน 0 องศา และที่ทำการอุทยานฯ 6 องศา โอ้โห คนกรุงอย่างเหมียวนี่อยากจะแว๊บขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย อยากไปสัมผัสอากาศหนาวจริงๆ บ้าง ที่มา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่…
-
Infographic ฉบับเที่ยวเกียวโต กับกฏข้อห้ามต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรและไม่ควรทำ!!
ประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปท่องเที่ยวกันมากเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางครั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ทั้งไม่รู้และทั้งที่รู้แต่ก็ยังทำ อาจทำให้เจ้าบ้านรู้สึกไม่ดี และมองนักท่องเที่ยวชาตินั้นให้แง่ลบ ส่งผลภาพรวมไปในระดับประเทศกันเลยล่ะ ทั้งนี้เองหากเราคนไทยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ทำตามกฏระเบียบต่างๆ ที่เขามี ก็คงไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาสร้างชื่อเสีย(ง) ในการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซักเท่าไหร่ อย่างเช่นทุกๆ เมืองและจังหวัดก็จะมีกฏที่แตกต่างกัน อย่างในเมืองเกียวโต ที่ได้ทำ Infographic การ์ตูนที่เข้าใจง่ายเพื่อบอกให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ศึกษาก่อนที่จะไปเที่ยวและนำไปปฏิบัติก็จะส่งผลดีต่อตัวเราและเจ้าบ้านจ้า สำหรับ Infographic ชุดนี้มีชื่อว่า AKIMAHEN of Kyoto (京都のあきまへん) แปลว่า ข้อห้ามของเกียวโต เป็นกฏเฉพาะของเมืองเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแถวให้เป็นระเบียบ, ห้ามขับขี่จักรยานขณะไม่ได้สติ (เมาแล้วปั่น ปรับ 1 ล้านเยน หรือจำคุก 5 ปี) อย่ายกเลิกรายการอาหาร ณ วินาทีสุดท้าย, เอื้อเฟื้อที่นั่งให้กับผู้หญิงตั้งท้อง คนชรา ผู้บกพร่องทางกายภาพ และผู้ที่มากับเด็กเล็ก รักษาความสะอาดของห้องน้ำ, อย่าจอดจักรยานนอกพื้นที่ที่จัดไว้ให้, อย่าถ่ายรูปใกล้รางรถไฟ, ห้ามถ่ายรูปในสถานที่ที่ห้ามถ่าย…
-
นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหายตัวในไทย หลังบอกครอบครัวว่าชายไทยคนหนึ่งไม่ยอมให้กลับ!?
หนึ่งในเป้าหมายของชาวต่างชาตินิยมเลือกมาท่องเที่ยวนั่นก็คือประเทศไทย ด้วยเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการใช้ชีวิตท่องเที่ยวที่ไทยนั้น สบายๆ จึงไม่แปลกใจที่นักท่องเที่ยวจะมาเยี่ยมเยือนตลอด แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษนามว่า Jordan Jacobs จะจบทริปมาเที่ยวที่ประเทศไทยอยู่แล้ว กำลังรอเพื่อขึ้นเครื่องกลับ Lyneham, Wiltshire ประเทศอังกฤษเที่ยวบินวันที่ 16 ธันวาคม 2558 แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้ขึ้นเที่ยวบินดังกล่าว เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขาดการติดต่อโดยสมบูรณ์ โดยครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นหนุ่มอังกฤษวัย 21 ปีรายนี้ก็ตอนที่ยอมขึ้นเรือข้ามเกาะพีพี ไปยังเกาะอื่น แต่แล้วเขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในสภาพที่ดูย่ำแย่พอสมควร ไม่มีรองเท้าใส่ กระเป๋าคู่กายก็ไม่มี ซึ่งเขาก็ได้ทำการยืมโทรศัพท์จากนักท่องเที่ยวชาวไซปรัส โดยข้อความสุดท้ายที่ครอบครัวได้รับจากเขาก็คือ ‘มีชายไทยคนหนึ่งไม่ยอมให้เขากลับประเทศ อีกทั้งยังข่มขู่ทำให้เขารู้สึกกลัวด้วย’ เมื่อทราบว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ทางครอบครัวและน้องสาว Emily Jacobs จึงได้ทำการโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวเขาทันที It's been 4 days since someone last saw my…
-
รวบรวม 12 ความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ กับ ‘นักเดินทาง’ คุณล่ะ เป็นแบบไหน?
หนึ่งในความฝันของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ที่ว่าซักครั้งหนึ่งอยากจะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและนอกประเทศ และการท่องเที่ยวของแต่ละคนนั้นก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่มักจะถูกเหมารวมเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ ไปซะหมด ด้วยเหตุนี้เองทาง Holidify บริษัทที่ให้บริการสำหรับผู้ที่เดินทางมายังประเทศอินเดีย ได้จัดทำภาพเพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่าง ‘นักท่องเที่ยว’ และ ‘นักเดินทาง’ เอาไว้ เนื่องจากมีสไตล์ในการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนกัน เอาล่ะ!! ถ้าหากว่าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน ก็เลื่อนลงมาดูกันเลยจ้า 1. การถ่ายรูป 2. การคำนึงถึงเส้นทาง 3. จำนวนของคนที่ไปด้วยในแต่ละครั้ง 4. สภาพของถนนหนทาง 5. อุปกรณ์และของใช้ที่พกติดตัว 6. ว่ากันด้วยเรื่องของฝาก ของที่ระลึก 7. การเดินทาง 8. ลักษณะการนอนพักผ่อน 9. สภาพของที่นอน 10. การขออาศัยยานพาหนะ 11. สิ่งที่นึกถึงระหว่างเดินทางท่องเที่ยว…
-
ผู้โดยสารเจอ “นักท่องเที่ยวคนจีน” เอาเท้าพาดมาตรงที่พิงแขนบนเครื่องบิน ทำเอากินไม่ได้ นอนไม่หลับ!!
งานนี้แม้แต่คนจีนด้วยกันก็ยังเอือนกันเอง เมื่อ Ms. Wu ได้เล่าประสบกาณณ์การนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปเมืองซีอาน ประเทศจีน และต้องพบกับเพื่อนผู้โดยสารข้างหลังที่ยื่นเท้ามาตรงที่พิงแขน Ms. Wu เล่าว่า ได้มีหญิงชาวจีนคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในเครื่องของสายการบิน AirAisa จากกรุงเทพสู่ซีอาน ซึ่งลูกเรือก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย หลังจากเตือนไปครั้งหนึ่งแล้ว “ฉันตื่นมาตอนตี 4 เพื่อมาขึ้นเครื่อง ฉันตั้งใจจะมานอนบนเครื่อง แต่ก็นอนไม่ได้ เพราะเท้านี่แหละ เขายื่นมาตรงที่พิงแขน จนฉันไม่สามารถกินหรือดื่มอะไรได้เลย และเหมือนถูกบีบไปตลอดการเดินทาง” เธอให้สัมภาษณ์กับ Beijing Youth Daily และเมื่อเธอแจ้งเรื่องนี้ไปยังพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นคนไทย และพนักงานก็ได้บอกเธอว่าไม่สามารถทำอะไรได้ Ms. Wu บอกว่า “เธอขอโทษฉัน แต่เธอบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนจีนทั้งหมด” นอกจากนี้เธอยังเจอการพูดคุยเสียงดังตลอด 4 ชั่วโมง 25 นาทีที่อยู่บนเครื่อง หลังจากถึงบ้านแล้ว เธอก็ได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของจีนว่า “ถึงแม้จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่การบริการก็ไม่จำเป็นต้องลดลงไปตามก็ได้ ฉันมีคำถามอย่างหนึ่ง ต้องเป็นเจอเหตุการณ์แบบไหนถึงจะเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้?” ที่มา The Daily Mail
-
ฝรั่งออกสัมภาษณ์คนไทย ด้วยประเด็น ‘ทำไมคนไทยถึงคิดว่าฝรั่งชอบเที่ยวเมืองไทย’
สยามเมืองยิ้ม หรือ Siam Land of Smile มักจะเป็นคำชูโรงของประเทศไทยที่เปิดเผยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงความเป็นกันเองของเมืองไทย อีกทั้งยังมีการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติต่างๆ ในเมืองไทย เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เขามาสัมผัสบรรยากาศของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า palmisano จึงได้ออกไปสัมภาษณ์คนไทยส่วนหนึ่งจากความสงสัยที่ว่า ‘ทำไมคนไทยถึงคิดว่าฝรั่งชอบมาเที่ยวที่ประเทศไทย’ ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่ก็มักจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ทว่าคำตอบที่ออกมาจากคนไทยเอง ก็ถือว่าทำเอาอึ้งได้เหมือนกัน จากการสัมภาษณ์คนไทยทั้งหมด 9 คน เขาก็ได้ทำการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษด้วย และเหตุผลส่วนใหญ่นั้นก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินทองแทบทั้งสิ้น!! คนไทยคนที่ 1 คนไทยมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความเป็นกันเอง รอยยิ้มอันสดใส [Thais] are generous, helpful, friendly, have bright smiles, and they like to help others. มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งแต่เหนือจรดใต้ There are many places to travel…
-
เตือนไม่ฟัง!! การรถไฟฯ ติดป้ายเตือนใน “แกรนแคนยอนคีรี” ประชาชนแห่เที่ยวเพียบ
กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับแกรนแคนยอนคีรี ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เพราะเป็นแอ่งน้ำที่มีทะเลสาบอันสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่เนื่องจากยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแบบเต็มรูปแบบ นายนพคุณ แซ่ตั๊น กำนัน ต.ห้วยกะปิ จึงได้ออกมาประกาศให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวในการลงไปถ่ายภาพ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ แต่ถึงแม้จะมีป้ายเตือนติดไว้มากมาย แต่ก็ยังคงมีประชาชนจำนวนมากแห่กันไปท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @LOMTaLay_BB พร้อมกับข้อความว่า “การรถไฟฯ ประกาศเตือนเป็นพื้นที่อันตราย แต่คนยังเข้ามาเที่ยว มาถ่ายรูปกันคึกคัก #แกรนด์แคนยอนชลบุรี” ใครจะไปเที่ยวก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ หรือถ้าใครไม่รีบ ก็รอให้เขาสร้างที่กั้นอะไรให้เรียบร้อยก่อนก็ได้นะ ที่มา ประชาชล
-
ปะการังสวยๆ กำลังจะตายด้วยการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว จากคำว่า ‘ไม่รู้’ ‘คงไม่เป็นไร’
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนใต้ของประเทศไทยนอกจากจะมีทะเลสวยๆ เกาะงามๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญก็คือแนวปะกางรังต่างๆ ที่อยู่ตามเกาะนั่นเอง ด้วยความสวยงามและเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอยากจะสัมผัส จึงทำให้เรือพานักท่องเที่ยวออกไปชมปะการังเป็นจำนวนมาก และด้วยความสนใจของนักท่องเที่ยวที่มีมากจนไม่อาจควบคุมจำนวนได้ เพราะใครๆ ก็อยากไปชมปะการังสวยๆ รวมไปถึงทัวร์ต่างๆ ที่ต้องการพานักท่องเที่ยวไปชมให้ได้มากที่สุดเพราะจะสามารถทำเงินได้มากโข แต่กลับกลายเป็นการทำร้ายปะการังเหล่านี้แทน และเรื่องราวต่อไปนี้ถูกเปิดเผยมาจากคุณ Thon Thamrongnawasawat เนื่องจากการเข้าไปในจุดชมปะการังนั้น เรือต้องจอดและปล่อยให้นักท่องเที่ยวชมปะการังอย่างใกล้ชิด ก็เลือกที่จอดใกล้กับแนวปะการังจนมากเกินไป ความมักง่ายในการเลือกที่จอด ปล่อยสมอลงทะเลไปโดนปะการังบ้าง จากนั้นนักท่องเที่ยวก็กระโดดลงน้ำตู้ม ด้วยคำแนะนำของไกด์หรือความกลัวของนักท่องเที่ยวกับการมาชมปะการังอย่างใกล้ชิดอาจจะครั้งแรกหรือครั้งต่อๆ ไปแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะกลัวจมน้ำ ก็เลยต้องที่พื้นที่ยืนเอาไว้ก่อน แล้วในทะเลไม่ค่อยมีพื้นที่จะให้ยืนซักเท่าไหร่ ผลสุดท้ายก็ไปยืนบนปะการัง จากความไม่รู้และคิดว่าคงไม่เป็นอะไร ไม่ว่าจะทั้งนักท่องเที่ยวไทยหรือต่างชาติก็ลงเอยเหมือนกันหมด เท้าจากนานาชาติรุมเหยียบย่ำ ทั้งเท้าคนและเท้ากบ จนทำให้เกิดเป็นรอยช้ำจนลามเป็นบาดแผลเรื้อรัง ปะการังน้อยๆ ไม่อาจต้านทานเท้านานาชาติไหว จนกลายมาเป็นศพที่ไม่มีความสวยงามอีกต่อไป ซึ่งจากกรณีแบบนี้นอกจากจะทำให้ปะการังอันสวยงามหายไปแล้ว ยังส่งผลทำให้ปลาเล็กปลาน้อยไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัย หนีออกไปในแถบน้ำลึกและไม่อาจรอดชีวิตไปจากอวดหาปลาหรือไม่ก็กลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำที่ตัวใหญ่กว่า ทั้งนี้ก็ควรที่จะช่วยกันรักษาความงดงามใต้ท้องทะเลนี้ไว้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป รณรงค์ให้จอดเรือไกลๆ จากแนวปะการัง…
-
ตำรวจมาเลเซียตามจับแก๊งค์นักท่องเที่ยวจีน หลังแก้ผ้าถ่ายรูปแชร์ลงในเน็ต!?
ยังคงเป็นที่น่าชื่นชม (!?) ได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับวีรกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ล่าสุดได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเซปปอร์นาประเทศมาเลเซีย แต่การท่องเที่ยวก็มีอันต้องสะดุด เพราะพวกเขาดันไปแก้ผ้าถ่ายรูปบนเรือ และนำมันไปแชร์ลงในอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดการส่งต่อกันอย่างมากมาย ทำให้ชาวเน็ตเกิดความไม่พอใจและนำภาพของพวกเขาไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดถูกตามจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่าตำรวจมาเลเซียได้จับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่ง วัย 30 ปี ซึ่งคาดการณ์กันว่าเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับรูปเปลือยดังกล่าว โดยมีกำหนดปล่อยตัววันที่ 25 ตุลาคมนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของมาเลเซียได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การกระทำของนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรมและทำลายภาพลักษณ์อันดีของสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เหมียวก็อยากจะฝากเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยเหมือนกันนะ หากจะไปที่ไหนก็อย่าไปทำลายหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับที่นั้นๆ นะ ไม่งั้นเราอาจสร้างชื่อเสียให้กับประเทศของเราได้ล่ะ ที่มา news.qq , kapook
-
การ์ดภูเก็ตรุมกระทืบ นักท่องเที่ยวฝรั่ง อ้างเมาแล้วลวนลามสาวแถมกินฟรีไม่จ่ายตัง!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังมีการเผยแพร่คลิปพนักงานร้านอาหารและผับในภูเก็ตรุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองคนจนสะบักสะบอม แถมยังขู่ให้เจ้าของคลิปลบคลิปอีกด้วย คลิปซึ่งอัพโหลดโดยเฟสบุ๊ค วิเชียร เจือจุน เป็นเหตุการณ์ที่ชาย 4-5 คน รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่าชาติสองคน จนชาวไทยและชาวต่างชาติที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปห้ามปราม เมื่อคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงประเทศ แต่หลังจากโพสคลิปไปได้ไม่นาน มีเฟสบุ๊คปริศนา ได้ส่งข้อความเข้ามาข่มขู่ พร้อมบอกให้ลบคลิปดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนชายกลุ่มดังกล่าว พวกเขาบอกว่าฝรั่งสองคนนี้เมาแล้วเข้ามาลวนลามผู้หญิงในร้าน แถมสั่งอาหารมากินแล้วก็ไม่จ่ายเงิน จึงเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทดั่งที่เห็นในคลิป ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังตามหาตัวฝรั่งสองคนในคลิปอยู่ แม้จะมีภาพเหตุการณ์แต่หากไม่มีเจ้าทุกข์ ก็ไม่สามารถจับกุมตัวชายกลุ่มที่โดนทำร้ายได้ โหดจริงๆการ์ดเมืองภูเก็ต ความจริงควบคุมตัวไว้ แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการน่าจะดีกว่านะ ไม่งั้นคนอื่นที่มาเห็น จะหาว่าคนบ้านเมืองเราดุเกินไปได้นะ ที่มา วิเชียร์ เจือจุน
-
นักท่องเที่ยวผวา สะพานกระจกใสในจีนเกิดรอยแตกร้าว หลังเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 สัปดาห์
สะพานกระจกโปร่งแสงรูปตัวยูเชื่อมหน้าผา ที่มีความสูงกว่า 300 เมตรที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันอยู่นี้ ถูกสร้างขึ้นโดยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า สะพานกระจกใสแห่งนี้ได้เกิดรอยแตกร้าวบริเวณเส้นทางเดินใหม่ที่มีความสูง 1,000 เมตร หลังเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 สัปดาห์ งานนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็พากันตื่นตระหนก และตกอกตกใจไปตามๆ กัน ภาพรอยร้าวของสะพาน ถูกถ่ายไว้โดยวัยรุ่นสาวชาวจีนวัย 20 ปี โดยเธอได้โพสต์ภาพที่ถ่ายไว้ลงในโซเชียลมีเดีย หลังจากนั้นภาพของเธอก็ถูกแชร์ต่อไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ของจีน หลังจากที่ทางผู้จัดการอุทยานทราบเหตุดังกล่าว ก็ได้ออกมาเผยว่า เหตุที่ทำให้กระจกเกิดร้อยร้าวแบบนี้ก็เพราะว่า มีนักท่องเที่ยวทำเหยือกน้ำหล่นใส่ ซึ่งตัวกระจกร้าวเพียงแค่ 1 ใน 3 ของชั้นกระจกทั้งหมดเท่านั้น และมั่นใจได้เลยว่ามันไม่เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวแน่นอน …
-
นักท่องเที่ยวสาวฝรั่งเมาอาละวาด ถอดเสื้อท้าต่อยแม่ค้าชาวจีน!!!
พูดถึงคนเมาแล้ว เราคงนึกถึงคนที่ไม่มีสติ ทำอะไรโดยไม่รู้ตัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ อย่างที่โบราณเขาบอกว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” ประโยคนี้นั้นแสดงให้เห็นว่า คนเมานั้นไม่ควรยุ่งด้วยขนาดไหน แต่สำหรับแม่ค้าชาวจีนนี้คน เธอก็ได้เจอกับพิษสงของคนเมาอย่างเต็มพิกัด จนเธอถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว เรื่องราวเกิดขึ้นที่ตลาดแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกคนหนึ่งอยู่ในสภาพเมามาย ได้ทะเลาะวิวาทกับแม่ค้าชาวจีนคนหนึ่ง โดยแม่ค้าชาวจีนอ้างว่า เธอไม่ได้จ่ายเงินให้กับแม่ค้า แต่นักท่องเที่ยวเองก็บอกว่าตนเองนั้นจ่ายไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่พอใจ พร้อมถอดเสื้อท้าต่อยตีกับแม่ค้าคนนั้น ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย เอ่ออ เมาแล้วเป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะเนี่ย เหมียวว่าจิบน้ำชาร้อนๆซักแก้ว แล้วไปนอนเถอะครับ อย่ามาสร้างปัญหาแบบนี้เลย ที่มา พาอ้าย ไปขึ้นสวรรค์
-
นักท่องเที่ยวจีนโวย ร้องคาราโอเกะในเชียงใหม่ โดนเรียกเก็บเป็นหมื่น!!!
นักท่องเที่ยวจีนถึงกับเงิบ หลังจากเข้าไปร้องคาราโอเกะในร้านแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ชั่วโมงเดียว ถูกเรียกเก็บเงินกว่า 14,000 บาท!! เรื่องมีอยู่ว่า นายจู จื่อผิง อายุ 41 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนคนเนี้ย ก็ไปเปิดห้องคาราโอเกะร้องเพลงกับเพื่อนที่ร้านคาราโอเกะร้านหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ เขาบอกว่าเขาสั่งเบียร์ไปสองขวด แล้วก็กลับแกล้มอีกสองอย่าง ร้องไปได้ประมาณชั่วโมงหนึ่งก็เรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าโดนเช็คบิลไป 14,000 บาท พอเขาขอตรวจสอบบิล เขาก็พบรายการดังนี้ – ค่าห้อง 400 บาท – ค่าเซอร์วิสชาร์จ 500 บาท – ค่าผู้หญิง 1,200 บาท – ค่าเบียร์ 37 ขวด ขวดละ 220 บาท เป็นเงินกว่า 5,940 บาท ทั้งที่สั่งมาดื่มแค่ 2 ขวด – ค่าขนมขบเคี้ยว 2 อย่าง 800 บาท พอเห็นดังนั้นเขาก็ไม่ยอมจ่าย เพราะบางรายการ เขาไม่ได้สั่ง เขาจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สุดท้ายทางตำรวจก็ไกล่เกลี่ยให้ เจ้าของร้านลดราคาให้เหลือ 7,000…
-
กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?
เรื่องอันน่าสลดใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ที่ได้เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอียิปต์โดยมากันเป็นขบวนรถยนต์ 4 คัน แล่นในเขตทะเลทรายภาคตะวันตกในประเทศอียิปต์ ซึ่งได้แล่นเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเขตวาฮัต และยังเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง ISIS อีกด้วย เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการไล่ล่าอยู่มาพบเข้าก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง จึงเปิดฉากยิงถล่มกลางทะเลทรายทันที!! และในที่สุดก็พบความจริงว่าเป็นรถยนต์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 10 ราย ไม่ใช่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงที่นำโดยกลุ่ม ISIS เพื่อต่อต้านกองทัพอียิปต์แต่อย่างใด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ผลสรุปก็คือเป็น ‘ความเข้าใจผิด’ และแสดงความรับผิดชอบโดยนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ทางด้านผู้นำเม็กซิโกเองเกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากและประณามเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้ทางอียิปต์ทำการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด ที่มา : mirror
-
หาเรื่องผิดคน!? หนุ่มไอริชถูกหาเรื่องในตุรกี แต่เจอสวนกลับจนหงายเก๋ง
กลายเป็นคลิปวิดีโอที่มีการส่งต่อกันในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปของพ่อหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวไอริชอย่าง Mohammed Fadel Dobbous ที่เดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ประเทศตุรกี แต่วันพักผ่อนของเขาก็มีอันต้องสะดุดลงเพราะเขาดันเข้าไปซื้อน้ำที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง แต่น้ำในตู้กลับร่วงลงมาหมด ทำให้เจ้าของร้านเกิดความไม่พอใจ แม้หนุ่มไอริชจะพยายามขอโทษแล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจอย่างมากจนถึงขั้นหยิบไม้ขึ้นมาฟาดใส่ชายหนุ่มทันที แต่ใช่ว่าพ่อหนุ่ม Dobbous จะยอมให้โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เพราะด้วยรูปร่างที่กำยำและแข็งแรง เขาจึงโต้ตอบเหล่านักเลงด้วยหมัดลุ้นๆ จนหนึ่งในคนที่มาหาเรื่องเขาฟันร่วงและต้องลงไปนอนกองกับพื้นเลยทีเดียว คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยนะจ๊ะ หลังจากการตะลุมบอนกัน นาย Dobbous ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกเขาควรต่อสู้แบบแมนๆ คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาหาผมพร้อมกับอาวุธ มาหาผมพร้อมมือลุ้นๆเลยซิ” ที่มา NewVids , usatoday
-
ผู้จัดทำเตรียมจ้างคนมาดูแลหุ่น Nicki Minaj เพราะบรรดานักท่องเที่ยว ‘หื่น’ เกินไป!!!
มีของดีให้เล่นมีหรือที่คนจะไม่เล่น ฮ่าๆๆๆ เมื่อล่าสุดได้มีการเปิดตัวเจ้าหุ่นขี่ผึ้งของนักร้องสะโพกสลาตันอย่าง Nicki Minaj ออกมาที่ลาสเวกัส แต่ต่อไปนี้ท่าทางจะต้องมียามเฝ้ากันแล้วล่ะ อิอิ ราวๆ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมามีการเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของ Nicki Minaj นักร้องสาวระดับโลก ซึ่งเป็นผลงานของทาง Madame Tussauds ที่เรียกได้ว่าเหมือนตัวจริงมากๆ เลยทีเดียว หุ่นขี้ผึ้ง Nicki Minaj และแล้วก็ต้องบอกว่า ความเกรียนก็บังเกิด!!! เมื่อมีภาพเหล่านี้แพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ ผู้คนไม่สามารถหยุดจับสะโพกของเธอ… หรือโพสต์ภาพที่ไม่ล่อแหลมไม่ได้เลย ซึ่งทาง Azealia Banks ก็ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมรูปหุ่นขี้ผึ้งของเธอน่ะ ต้องดูดึงดูดทางเพศขนาดนี้ ทำไมไม่เป็นรูปเธอถือไมค์ร้องเพลงอะไรแบบนั้นล่ะ แน่นอนว่าผู้จัดทำก็ได้ออกมาชี้แจง และเตรียมแต่งตั้งผู้ดูแลมาคอยสังเกตพฤติกรรมเกรียนๆ ของผู้มาเยี่ยมชมแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ บอกได้เลยใครจะไปเกรียนตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ อิอิ แหม…อะไรเซ็กซี่หน่อยล่อแหลมหน่อยนี่ไม่ได้กันเล้ยยยยย เล่นจนได้เรื่องเลยเห็นมั้ย น่าตีจริงๆ ที่มา: Distractify
-
ยลเสน่ห์ความงามของ ‘The Blue River’ ธารน้ำแข็งสีฟ้าอันยิ่งใหญ่ ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปท่องเที่ยวสถานที่แห่งหนึ่ง ที่เรียกได้ว่ามีทั้งความงดงาม และความมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาล้วนๆ ซึ่งหากใครที่ได้เห็นเชื่อว่าหลายคนอยากที่จะไปสัมผัสสักครั้งในชีวิตแน่นอน และนี่คือ ‘The Blue River’ ธารน้ำแข็งสีฟ้าอันยิ่งใหญ่ บนเกาะน้ำแข็งกรีนแลนด์ ซึ่งธารน้ำสีฟ้าที่ทอดยาวตัดกับพื้นน้ำแข็งสีขาว ทำให้เกิดความโดดเด่น และความสวยงามตระการตาเป็นที่สุด เมื่อผิวน้ำแข็งละลาย น้ำจะไหลลงสู่ที่ต่ำ และทำให้เกิดเป็นธารน้ำสีฟ้า ซึ่งธารน้ำแข็งจะเปลี่ยนเส้นทางไปทุกๆ ปี และจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปยังไงล่ะ นอกจากนี้ ‘The Blue River’ ยังมีเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว และนักผจญภัยให้เดินทางมาท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อคุณได้เห็นความสวยงามของมัน เชื่อคุณจะต้องร้อง wow อย่างแน่นอน!! และที่สำคัญ ‘The Blue River’ ถือเป็นสถานที่พายเรือคายัคที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังได้รับฉายานามว่าเป็น Greenland Ice Canyon หรือแคนยอนน้ำแข็งแห่งกรีนแลนด์อีกด้วย …
-
เมื่อนักท่องเที่ยวหนุ่มเจอนกอีมูจ้องจะผสมพันธุ์ งานนี้ทำเอาไปไม่เป็นเลยครัช (มีคลิป)
ต๊ายตาย…ไม่รู้ว่าจะฮา หรือสงสารนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ คนนี้ดีนะเนี่ย เพราะเมื่อเขากำลังลงไปนอนบนพื้นเพื่อถ่ายรูปนกอีมู ทันใดนั้นเองเจ้านกอีมูก็ดูเหมือนจะเข้าใจคิด ผิดว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นตัวเมีย มันจึงทำท่าทางพร้อมผสมพันธุ์ งานนี้ทำเอานักท่องเที่ยวหนุ่มถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว โดนเข้าแล้ว เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลยดิ นอกจากนี้เพื่อนของนักท่องเที่ยวหนุ่มยังได้หยิบกล้องขึ้นมาอัดคลิปวีดีโอไปหัวเราะไปอีกด้วย แถมยังแซวเขาอีกว่า สงสัยมันจะชอบแกแน่ๆ แหม!! แซวเพื่อนใหญ่เลยนะ ถ้าไม่เจอกับตัวคงไม่รู้สึกหรอกของแบบนี้ ฮ่าๆ ดีนะเนี่ยที่เขาสามารถหนีออกมาได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็…เหมียวนี่ไม่อยากจะคิดเลย ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น >< ที่มา : dailymail
-
มาชม 15 ภาพเหล่าดาราฮอลีวู้ดและคนดังระดับโลก ในตอนที่พวกเขามาเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า
เรามักจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยกันเยอะแยะมากมาย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าบางทีนักท่องเที่ยวเหล่านั้น ก็อาจจะเป็นเหล่าคนดังระดับโลกที่เดินทางมาเที่ยวแบบเงียบๆ ก็เป็นได้ และในวันนี้เราก็ได้นำ 15 ภาพของเหล่าดาราฮอลีวู้ดและคนดังระดับโลก ในตอนที่พวกเขามาเที่ยว หรือมาถ่ายหนังที่ประเทศไทย เรียกได้ว่าบางคนก็ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวได้แบบเนียนๆ จนแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยว่าจะมีใครบ้าง 1.Eva Mendes . 2.Paris Hilton . 3.Angelina Jolie . 4.Brad Pitt และ Angelina Jolie . 5.Barack Obama . 6.Ewan McGregor . 7.Ryan Gosling . 8.Kim Kardashian . 9.Bruno Mars 10.Katy Perry .…
-
15 ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างการเป็นนักท่องเที่ยว VS นักเดินทาง ได้อย่างชัดเจน
เพื่อนๆ คิดคำว่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวเหมือนกันหรือไม่ หลายคนอาจคิดว่า 2 คำนี้มีความแตกต่างกัน เพราะคำว่านักเดินทาง อาจเป็นการเดินทางเพื่อค้นหา และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ส่วนนักท่องเที่ยว อาจเป็นการท่องเที่ยวเพื่อ การพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งในวันนี้เราได้นำ 15 ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างนักเดินทาง VS นักท่องเที่ยว จากเว็บไซด์ท่องเที่ยวอย่าง holidify มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันว่าทั้งสองคำนี้มันต่างกันอย่างไร หากใครอยากรู้ก็เชิญมาดูพร้อมกันเลย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เห็นแบบนี้แล้ว เพื่อนๆ คิดว่าตัวเองชอบการเป็นนักท่องเที่ยว หรือนักเดินทางมากกว่ากัน…
-
เอาอีกแล้ว!! หญิงชาวจีนตากผ้าและชุดชั้นในแบบไม่แคร์สื่อกลางดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงทันทีเมื่อไม่นานมานี้จากการกระทำของหญิงชาวจีนรายหนึ่งที่ทำให้อับอายไปทั่วอินเทอร์เน็ต อันเนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเธอ จากการนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในมาตากบนราวเหล็กกลางดีสนีย์แลนด์ในฮ่องกง แม้ว่าจะมีผู้คนเห็นมากมายซักแค่ไหน เธอก็ไม่แคร์อะไรใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งมีคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มาห้ามปรามในสิ่งที่เธอทำอยู่ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งเตือนให้เก็บทันที เธอก็ยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อผ่านไปซักพักก็นำออกมาตากใหม่อีก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาเตือนอีกรอบ เธอก็รีบเก็บเสื้อผ้าแล้วหายไปในสายลมเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปทั่วอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตต่างก็ให้ความเห็นตรงกันว่านักท่องเที่ยวจีนนั้นมีพฤติกรรมที่แย่เหลือเกิน และเหตุใดนักท่องเที่ยวจีนส่วนมากถึงมีพฤติกรรมที่น่าละอายเช่นนี้ออกมาบ่อยๆ เหมียวเองก็ไม่เคยเข้าใจเหมือนกันแฮะ ทำไมถึงใจกล้าและมั่นใจจนทำอะไรได้ขนาดนี้กันนะ? ที่มา : shanghaiist