Tag: นักบินอวกาศ
-
17 เรื่องแปลกๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ หากออกไปอยู่ใน ‘อวกาศ’
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราเคยถามตัวเองกันไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ ก็คงจะมีแต่นักบินอวกาศที่เคยเดินทางไปและกลับมาให้คำตอบเราได้ และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ และยังมีทฤษฎีเกี่ยวกับหลุมดำ เมื่อเราโดนดูดเข้าไปอีกด้วย 1. สายตาของคุณจะด้อยลงอย่างมาก อาการบกพร่องทางการมองเห็นจากความดันภายในกระโหลก หรือ VIIP เป็นอาการที่นักบินอวกาศเป็นกันมากที่สุดเมื่ออยู่ในอวกาศเวลานานๆ NASA ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ แต่ยังไม่พบคำตอบที่แน่ชัด โครงการไปดาวอังคารยังคงอยู่ภายใต้คำถาม ว่าจะช่วยนักบินอวกาศอย่างไรกับอาการนี้ 2. คุณอาจจะสูงขึ้นประมาณ 2-3 นิ้ว ถ้าคุณอยากจะสูงขึ้นอีก 2-3 นิ้ว การบินไปในอวกาศอาจจะช่วยคุณได้ชั่วคราว การที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงนั้น จะทำให้กระดูกสันหลังยืดขึ้น จากผลตรวจอัลตราซาวด์ ก็ได้ยืนยันว่านักบินอวกาศนั้นสูงขึ้นจริงๆ 3. การโดนรังสี อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ในการเตรียมตัวภารกิจไปดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์ NASA ได้ศึกษาเกี่ยวกับรังสีที่มาสัมผัสร่างกายมนุษย์มาเป็นเวลานาน ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารนั้น บางกว่าของโลกเรา จึงมีการป้องกันรังสีจากอวกาศต่ำกว่าโลก ดั้งนั้น เมื่อเรารู้เกี่ยวกับการป้องกันรังสีมากเท่าไร การที่มนุษย์จะไปดาวอังคารก็จะง่ายขึ้นมากเท่านั้น 4. เล็บของคุณอาจหลุดออกมา นักบินอวกาศจำนวน…
-
เอาอีกแล้ว!! แกนนำกลุ่มโลกแบนโฟนอินเข้ารายการดัง เพื่อโต้เถียงกับนักบินอวกาศ
ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าโลกนี้ ‘แบน’ โดยก่อนหน้านี้ก็มีทั้งการจัดตั้งการประชุม สำหรับผู้ที่มีความเชื่อเช่นเดียวกัน มีการสร้างจรวดเพื่อจะขับขึ้นไปพิสูจน์ว่าโลกนี้มันแบน แต่ก็ได้ถูกยกเลิกไปก่อน และมาในตอนนี้พวกเขาก็ยังคงดำเนินการตามความเชื่อที่พวกเขามีต่อไป เมื่อไม่นานมานี้ผู้นำกลุ่มทฤษฎีโลกแบนชื่อว่า Mark Sargent ได้ไปโฟนอินเข้ารายการ Good Morning Britain ซึ่งเป็นรายการข่าวชื่อดังจากประเทศอังกฤษและการออกรายการครั้งนี้ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะว่า Mark ต้องเจอกับนักบินอวกาศตัวจริงๆ ที่ออกไปนอกโลกมาแล้วมาโต้วาทีกับเขา Mark Sargent กับความคิดโลกแบนของเขา ในงานประชุมที่จัดขึ้นครั้งแรกนั้น Mark เคยกล่าวเอาไว้ว่า จริงๆ แล้วโลกนี้มีลักษณะแบน แต่ว่าหลักฐานต่างๆ ที่องค์การนาซ่าเคยเอามาเผยแพร่เป็นหลักฐานที่ได้ปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจกล่าวถึงได้ การโฟนอินเข้ารายการครั้งนี้ของเขา เพื่อจะมาอธิบายถึงเหตุผลมาทำไมเขาจึงมีความเชื่อเช่นนี้ โดยมีผู้ประกาศคนดังอย่าง Piers Morgan ผู้ดำเนินรายการชื่อดังมานั่งร่วมเป็นสักขีพยาน และนี่คือบทสัมภาษณ์บางส่วนที่ Mark ได้เอ่ยออกอากาศ ขณะออกอากาศสัมภาษณ์ในรายการ Good Morning Britain “ที่พวกคุณเห็นว่าน้ำทะเลมันไม่ตกลงไปเนี่ย ก็เพราะว่าโลกเรามันใหญ่มาก จนเราหาจุดสิ้นสุดไม่เจอต่างหาก ไม่ใช่เพราะโลกกลมซะหน่อย” “ภาพถ่ายภาพแรกที่ถ่ายโลกออกมาเป็นทรงกลมคือเมื่อปี 1972 ด้วยยานอวกาศ Apollo 17 และภาพที่สองคือเมื่อสองปีที่แล้วนี่เอง มีใครอธิบายกับผมได้ไหมว่าทำไมกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมาจึงไม่มีการถ่ายภาพโลกของเราเลย”…
-
นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…
นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด “ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว” เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น” สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย…
-
นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา
การได้ไปเหยียบดวงจันทร์ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายคน แน่นอนว่าด้วยโอกาสที่หายากแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องอยากทำอะไรพิเศษๆ บางคนอาจเก็บหินดวงจันทร์ลงมา บางคนอาจถ่ายรูปเก็บไว้ แต่จะมีใครเหมือนเขาคนนี้ที่นำรูปถ่ายของครอบครัวไปทิ้งไว้บนดวงจันทร์ซะเลย ในวันที่ 20 เมษายนปี 1972 นักบินอวกาศประจำยาน Apollo 16 ชื่อว่า Charles Duke ได้ทิ้งรอยเท้าของเขาไว้บนดวงจันทร์ ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น เขาจึงเป็นมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เดินบนผิวของดวงจันทร์ แต่เขาไม่ได้ทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เขายังทิ้งสิ่งอื่นไว้บนดวงจันทร์ด้วย สิ่่งที่เขาทิ้งไว้นั้นก็คือรูปถ่ายครอบครัวที่มีตัวเขา ภรรยา และลูกชายแสนน่ารักทั้งสองคนของเขา ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้างหลังภาพที่เขาทิ้งไว้ยังมีข้อความที่เขาเขียนเอาไว้ว่า “นี่คือภาพครอบครัวของนักบินอวกาศ Charlie Duke จากดาวโลกผู้ที่มาเยือนดวงจันทร์ในวันที่ 20 เมษายน ปี 1972″ และนี่คือภาพก็อปปี้ของรูปที่เขาทิ้งไว้บนดวงจันทร์ โดยคนซ้ายสุดคือลูกชายคนโตของเขา Charles Duke III ที่ในตอนนั้นมีอายุ 7 ขวบ และเด็กชายในชุดสีแดงก็คือลูกชายคนเล็กของเขา Thomas Duke อายุ 5 ขวบในขณะนั้น โดยมีเขาและภรรยา Dorothy Meade Claiborne เป็นฉากหลังดั่งในภาพ “ผมวางแผนที่จะทิ้งรูปไว้บนนั้นตลอด” Duke ได้ให้สัมภาษณ์ …
-
19 ข้อมูลที่ดูอาจดู “เป็นเรื่องโกหก” ในตอนแรก แต่แท้จริงแล้วมันคือเรื่องจริงต่างหาก!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะเคยได้ยินเรื่องสถิติต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวเหลือเชื่อต่างๆ เหล่านั้นบางอันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง!! และวันนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลแปลกๆ เหล่านั้นมาฝากเพื่อนๆ กัน จะมีเรื่องเหลือเชื่ออะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. มหาวิทยาลัย Oxford มีอายุมากกว่าอาณาจักร Aztec มหาวิทยาลัย Oxford นั้นเปิดรับนักศึกษาคนแรกเมื่อปี 1096 ซึ่งเป็นเวลาก่อนหน้าการก่อตั้งอาณาจักร Aztec ถึง 200 ปี 2. การเกี่ยวก้อยสัญญา ถ้าหากคนที่ทำผิดสัญญาจะถูกตัดนิ้วก้อย!! การเกี่ยวก้อยสัญญาอาจจะดูเหมือนการสัญญาแบบเด็กๆ แต่ในสมัยเอโดะ ในกลุ่มของเหล่าอาชญากร หากมีการผิดคำสัญญานั้น ผู้ที่ทำผิดจะต้องโดนตัดนิ้วก้อยด้านขวาเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจงรักภักดีของพวกเขา 3. ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ มีฝนตกเป็นเพรช นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าแรงดันภายในดวงดาวทั้งสองดวงนั้นสามารถเปลี่ยนให้คาร์บอนกลายเป็นเพรชได้ โดยปรากฎการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฟ้าผ่า จากนั้นจะเปลี่ยนให้ก๊าซมีเทนกลายเป็นคาร์บอน หลังจากนั้นก้อนคาร์บอนจะเปลี่ยนเป็นแกรไฟต์ที่ความสูง 1,600 กิโลเมตร และจะเปลี่ยนเป็นเพชรที่ความสูง 6,000 กิโลเมตร 4. มีมดมากกว่าจำนวนประชากรโลกถึง 1.6 ล้านตัวต่อคนเลยทีเดียว!! นักวิทยาศาสตร์ได้ประมาณว่ามีมดทั้งหมดบนโลกนี้ประมาณ 1-10 ล้านล้านล้านล้านตัว นั่นหมายความว่ามันมีจำนวนประชากรมากกว่า…
-
นักบินอวกาศถ่ายภาพ “ความสวยงามของโลก” จากอีกมุมหนึ่ง ซึ่งคนธรรมดาไม่มีโอกาสเห็น…
ถ้าถามหาภาพมุมสูง คนทั่วไปคงคิดถึงการถ่ายภาพจากบนยอดตึกหรือยอดเขาสูงๆ หรือไม่ก็จากบนเครื่องบิน แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นภาพถ่ายมุมสูงจากนอกโลกดูบ้างล่ะ!? มันคงจะเจ๋งน่าดูใช่ไหมล่ะ วันนี้เราเลยจะมาดูภาพถ่ายมุมสูงจากนอกโลกที่ถ่ายโดยนักบินอวกาศกันบ้าง ผลงานโดย Thomas Pesquet ชาวฝรั่งเศสผู้รักการถ่ายภาพมุมสูงของสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ผ่านมุมมองจากสถานีอวกาศนานาชาติที่เขาประจำการอยู่ ยกตัวอย่างผลงานของเขาด้วยภาพที่ถ่ายเหนือทุ่งหิมะจากรัสเซีย องค์ประกอบภายในภาพมันช่างน่าค้นหา ภาพนี้เป็นภาพมุมสูงของตัวเมืองแห่งหนึ่งในรัสเซีย ซึ่งเขาไม่ได้ระบุว่ามาจากเมืองใด แม่น้ำ Voronezh ของรัสเซียที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด ทุ่งหิมะสักแห่งในรัสเซีย ซึ่งภาพนี้เขาบอกว่า เหมือนกำลังส่องกล้องจุลทรรศน์ดูเซลล์ของอะไรบางอย่างเลย ภาพนี้ถ้าไม่บอกชื่อสถานที่คงไม่มีใครดูออกแน่นอนว่าเป็นที่ไหน เพราะปกติเราจะเห็นมันจากมุมมองตรงๆ เสียมากกว่า สถานที่แห่งนี้ก็คือ เทือกเขาแอลป์ในยุโรปนั่นเอง ยิ่งภาพนี้ถ้ามองผ่านๆ ยิ่งทำให้คิดว่ามันคือผิวของดวงจันทร์แน่ๆ แต่จริงๆ แล้วมันคือภาพมุมสูงของยอดภูเขาไฟเอตนาในอิตาลีต่างหาก ภาพมุมสูงในเวลากลางคืนของเมืองดับลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ ภาพมุมสูงของทะเลสาบที่ Dead Sea ที่อยู่ในประเทศจอร์แดน อีกหนึ่งภาพที่ถ้าดูผ่านๆ คงคิดว่าเป็นภาพถ่ายจากดาวอะไรสักอย่างแน่ๆ แต่จริงๆ แล้วมันคือแม่น้ำซูดานที่ทอดยาว ส่วนภาพนี้คือภาพของพีระมิดเมืองกีซ่า…มองเห็นกันไหมล่ะ ว่าไหนคือพีระมิด อีกหนึ่งภาพที่ดูแล้วเหมือนถ่ายพื้นผิวดาวอังคารสุดๆ แต่แท้จริงแล้วมันคือทะเลทรายสะฮารา ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก…
-
เจ้าพ่อเฟซบุ๊กร่วมมือนักธุรกิจและนักวิทยาศาสตร์ เริ่มภารกิจตามหาเอเลี่ยนนอกโลก!!
ภารกิจการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นดูจะเป็นอะไรที่แฟนตาซีและไกลเกินตัวมากทีเดียว แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าตอนนี้เขากำลังค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกกันจริงๆ นะ และคนที่จะได้พบสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดและร่ำรวยด้วย เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าผู้บริหาร Facebook อย่าง Mark Zuckerberg, นักธุรกิจชาวรัสเซีย Yuri Milner และนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก Stephen Hawking ได้ร่วมกันลงทุนทำโปรเจ็คออกตามหาเอเลี่ยนนอกโลกด้วยกัน โปรเจ็คที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘Breakthrough Listen’ จะเป็นการดักจับสัญญาณชีพจากดาวที่ชื่อว่า Proxima b หนึ่งในดวงดาวที่อยู่ในระบบ Centauri ดาวที่ว่ากันว่ามีความใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด และมีระยะทางห่างจากโลกเพียง 4 ปีแสงเท่านั้น ตามรานงานบอกว่าโครงการนี้ใช้เงินทุนสูงถึง 3,400 ล้านบาท นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าดาวดวงนี้มีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงกับโลกอยู่หลายประการและคาดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานที่ชัดเจนว่าดวงดาว Proxima Centauri อาจทำหน้าที่เป็นดวงอาทิตย์ให้กับดาวดวงอื่นที่คล้ายกับโลกเช่น Proxima b ตอนนี้ Zuckerberg, Milner และ Hawking ได้ส่งยานอวกาศลำเล็กๆ…
-
เรื่องราวของคุณพ่อตัวอย่าง เมื่อลูกบอกว่า ‘อยากเป็นนักบินอวกาศ’ ก็เลยจัดให้แบบเต็มที่..!!
ตอนวัยเด็กเพื่อนๆเคยฝันอยากจะเป็นอะไรกันบ้าง? เรายังจำความฝันของเราในวัยเด็กกันได้อยู่มั้ยเอ่ย? และนี่คือเรื่องราวสุดน่ารักของสองพ่อลูก เมื่อลูกมีความฝัน ก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อที่จะจัดการให้มันเกิดขึ้นจริงให้ได้ เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งช่างภาพ Aaron Sheldon กำลังอยู่ในห้องตรวจของคุณหมอกับลูกของเขา แล้วจู่ๆหนุ่มน้อยวัย 3 ขวบ Harrison ก็เกิดอาการกลัวไม่กล้าขึ้นไปนั่งบนเตียงตรวจของคุณหมอ เพราะเค้ารู้สึกว่ามันสูงเกินไป “ผมเลยคุยกับลูกถึงเรื่องความกล้าหาญ และคนแบบไหนกันนะที่เค้ามีความกล้าหาญที่มากพอจะนั่งบนเตียงตรวจของคุณหมอได้ เรากำลังพูดถึงตำรวจ นักดับเพลิง และจู่ๆเขาก็ถามผมขึ้นมาว่า ‘แล้วนักบินอวกาศละฮะ? พวกเขากล้าหาญไหม?’ ผมจึงตอบกลับไปว่า พวกเขากล้าหาญอย่างแน่นอนที่สุด” Aaron กล่าว หลังจากนั้นหนุ่มน้อย จึงคิดว่าตัวเองเป็นนักบินอวกาศ ทำให้เค้ามีความกล้ามากขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวภาพถ่ายทั้งหมด ภายใต้ชื่อคอนเซ็ปท์ที่คุณพ่อนำเสนอออกมาว่า ‘ก้าวเล็กๆ คือการกระโดดที่ยิ่งใหญ่’ เมื่อหนุ่มน้อยต้องไปตรวจร่างกายกับคุณหมอ คุณพ่อก็นำหมวกนักบินอวกาศและกล้องถ่ายรูปไปด้วย เพื่อให้เขาไม่กลัว และแสดงความกล้าออกมา แต่การออกสำรวจของนักบินอวกาศน้อยไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่โรงพยาบาล เพราะทั้งคู่ยังออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ดินแดนอันห่างไกลโพ้นที่มีชื่อว่า ‘Targets’ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง คล้ายๆ โลตัส หรือ บิ๊กซี บ้านเรา รวมถึงการได้ออกไปสำรวจมหาสมุทรเล็กๆ ในอาคาร หรือที่เราเรียกกันว่าสระว่ายน้ำนั่นเอง และยังได้ไปสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่หนุ่มน้อย Harrison…
-
พาไปรู้จัก 5 สุดยอดสตรีแห่ง NASA จน Lego ต้องนำพวกเธอไปทำเป็นคอลเล็คชั่น
ต้องขอบอกเลยว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ทรงอิทธิพลในทุกๆด้านมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลตั้งแต่เรื่องใหญ่ๆจนมาถึงเรื่องเล็กๆในระดับครอบครัว (เชื่อว่าพ่อบ้านหลายๆคนต่างกลัวแม่บ้านแน่นอน 555+) แล้วรู้หรือไม่ว่าองค์กร NASA ที่โด่งดังในเรื่องของวิทยาการเทคโนโลยีสุดล้ำที่พามนุษย์ออกไปสำรวจนอกจักรวาลมาแล้วนับไม่ถ้วน เบื้องหลังความสำเร็จนั้นมาจากพวกเธอทั้ง 5 คนนี้ด้วยนะ และเพื่อเป็นการสดุดีถึงฮีโร่ตัวจริง บริษัทของเล่นอย่าง Lego จึงตั้งใจที่จะทำคอลเล็คชั่นออกมาเป็นเรื่องราวของพวกเธอโดยเฉพาะ เราไปรู้จักพวกเธอกันเลยดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าในอดีตน่ะมันยังมีเรื่องของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศในสังคมอเมริกาอยู่โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา และ คณิตศาสตร์ (STEM) ผู้หญิงจะไม่ได้รับการยอมรับและสนับสนุนเท่าที่ควร จึงถือว่าเป็นเรื่องยากที่พวกเธอจะก้าวขึ้นมาสู่ความเป็นมืออาชีพระดับแนวหน้าได้ และเหล่าฮีโร่หญิงที่ Lego เลือกมาทั้ง 5 คนโดยได้ไอเดียจากนักวารสารศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์อย่าง Maia Weinstock เลือกมาในครั้งนี้อาจไม่ใช่นักบินอวกาศชื่อดัง แต่พวกเธอคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NASA เลยทีเดียว!!! Sally Ride นักฟิสิกส์และนักบินอวกาศหญิงคนแรกของโลกที่ได้ออกเดินทางครั้งแรกเมื่อปี 1983 แถมยังเป็นนักบินอวกาศที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย Mae Jemison นักฟิสิกส์และนักบินอวกาศเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกของโลกที่ได้เดินทางออกสำรวจอวกาศเมื่อปี 1992 แถมยังได้เป็นนักแสดงหนังดังอย่าง Star Trek: The Next Generation อีกด้วย Margaret…
-
คนไทยทำได้!! ทำความรู้จักน้องมิ้งค์ (ว่าที่)นักบินอวกาศหญิงคนแรกของไทย
นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอา#เหมียวฟิ้น รู้สึกตื่นเต้นมากๆ (แม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ตาม) เพราะว่าล่าสุดมีข่าวว่าสาวไทยคนหนึ่งกำลังจะได้ขึ้นไปเหยียบอวกาศ กลายเป็นตัวแทนคนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นไปบนนั้นเลย!! หญิงสาวที่เหมียวกำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้มีชื่อว่า นางสาวพิรดา เตชะวิจิตร์ หรือน้องมิงค์ วัย 29 ปี ศิษย์เก่าจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในสาขาคอมพิวเตอร์ รุ่น 41 ปัจจุบันเธอเป็นนักวิจัย สวทน. และ (ว่าที่) มนุษย์อวกาศคนแรกของประเทศไทย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 น้องมิ้งค์ได้เคยไปแข่งขันในรายการแฟนพันธุ์แท้ตอน Apollo และเป็นผู้ชนะและได้มีโอกาศเข้าร่วมกับโครงการ “แอ๊กซ์ อพอลโล สเปซ อะคาเดมี” (AXE Apollo Space Academy) โดยโครงการนี้จะทำการคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถจากจาก 62 ประเทศทั่วโลก มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 5 แสนคน แต่จะมีเพียง 23 คนเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือก และได้ออกไปท่องอวกาศ และน้องมิ้งค์ถือเป็น (ว่าที่) นักบินอวกาศหญิงไทยคนแรกที่จะได้ไปท่องอวกาศ บอกว่าเธอมีไอดอลที่เป็นนักบินอวกาศอยู่หลายคน หนึ่งในนั้นคือ “ยี โซฮยอน” ซึ่งเป็นนักบินอวกาศหญิงเหมือนกัน ทำให้เธออยากจะเป็นนักบินอวกาสหญิงแบบนั้นบ้าง และเมื่อวันที่ 15…
-
ทำสำเร็จ!! นักบินอวกาศสามารถปลูกดอกไม้ในอวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก!!
นี่เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา นาย Scott Kelly หนึ่งในนักบินอวกาศของ Nasa ได้ทวีตภาพดอกบานชื่น (Zinnia) ที่ปลูกบนอวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งนี้นาย Kelly ได้เผยว่าดอกบานชื่นที่เห็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Veggie มันถูกปลูกในโรงเรือนเล็กๆ บนสถานีอวกาศ ที่ถูกนำไปติดตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 58 พวกเขาก็ได้ทำการทดลองปลูกผักหลายชนิดด้วยกัน ทั้งผักกาดหอม ผักสลัด และก็มาถึงดอกบานชื่น ทำให้นี่ถือเป็นดอกไม้และผักชุดแรกๆ ของโลก ที่ถูกปลูกในอวกาศเลยก็ว่าได้ ด้านนาย Trent Smith หัวหน้าโครงการของ Veggie ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราสูญเสียต้นไม้ไปสองต้นในระหว่างการปลูกครั้งแรก เพราะขาดแคลนน้ำ ทำให้เรามีความระมัดระวังมากขึ้นในการปลูกครั้งที่สอง และนี่ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเพาะปลูกบนอวกาศเลย” นาย Smith ยังกล่าวต่ออีกว่า “ดอกบานชื่นนั้นไวต่อแสงและสิ่งเร้ามาก มันจะเติบโตโดยใช้เวลาประมาณ 60-80 วัน” นอกจากนี้แล้วพวกเขายังวางแผนจะปลูกอะไรที่ยากกว่านี้อีก เช่นผักกาดขาวและมะเขือเทศ ซึ่งแน่นอนว่าการปลูกพืชผักกินเองได้ของนักบินอวกาศนั้น จะช่วยลดต้นทุนในการส่งอาหารขึ้นไปยังอวกาศ ทำให้นักบินสามารถดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศได้นานขึ้น หรืออาจเดินทางได้ไกลขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับมนุษยชาติในอนาคตนั่นเอง…
-
สวยงามตระการตา!! Nasa เผยภาพความละเอียดสูงของภารกิจดวงจันทร์ 8,400 ภาพ ตามชมได้เลย
สำหรับมนุษย์โลกแล้วนี่ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ Nasa ได้ปล่อยภาพความละเอียดสูงของการปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ตั้งแต่นักบินไปจนถึงสภาพพื้นผิวบนดวงจันทร์มาให้เราได้ชมกันถึง 8,400 รูปทีเดียว!! ภาพที่ปล่อยออกมานี้ เป็นภาพจากการปฏิบัติภารกิจของนักบินอวกาศจากยาน Apollo 8 ที่ถูกถ่ายได้ด้วยกล้องติดหน้าอก Hasselblad ที่ติดตัวพวกเขาไปตลอดเวลานั่นเอง ทำให้เราสามารถเห็นทุกกิจกรรมได้เหมือนเราออกไปเดินบนดวงจันทร์กับพวกเขาเลย ยาน Apollo 8 ถูกส่งให้ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์เมื่อช่วงคริสมาสต์อีฟปี 1968 และหลังจากนั้น 1 ปีพวกเขาก็กลับมายังโลก และ Neil Armstrong ก็กลายเป็นอีกก้าวสำคัญมนุษยชาติ หากใครยังไม่เต็มอิ่มแล้วล่ะก็ สามารถตามไปดูต่อกันได้ที่เว็บไซต์ flickr เลยนะจ๊ะ ที่มา metro
-
วิถีการใช้ชีวิตในอวกาศไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แตกต่างจากบนโลกอย่างสิ้นเชิง!!
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าถ้าหากว่าเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศจริงๆ กิจวัตรประจำวันต่างๆ ของเราก็เหมือนกับที่อยู่บนโลกหรือไม่? แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่ไม่เหมือนก็คือแรงโน้มถ่วง ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แล้วนักบินอวกาศเขาจะอยู่จะกินอย่างไร? ตามมาดูกันเถอะ!! การออกกำลังกายในอวกาศ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมากในอวกาศ โดยนักบินอวกาศจะต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวันเพื่อป้องกันไขข้อเสื่อมและกล้ามเนื้อฝ่อ เวลาออกกำลังกายก็ต้องมีจุดยึดร่างกายเอาไว้ด้วย การอาบน้ำในอวกาศ การอาบน้ำและครั้งก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องค่อยๆ เปิดถุงน้ำทีละนิด เพื่อไม่ให้น้ำลอยกระจายออกไป ขัดถูตัวด้วยฟองน้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วน และการแปรงฟันจะไม่บ้วนปากไปเรื่อย นักบินอวกาศจะกลืนลงไปแทนหรือไม่ก็บ้วนใส่เสื้อผ้า การนอนหลับในอวกาศ การนอนหลับพักผ่อนของนักบินอวกาศก็คือการมัดตัวให้ติดอยู่กับด้านข้างของยานอวกาศนั่นเอง ไม่ได้นอนบนเตียงนุ่มๆ นะจ๊ะ อาหารการกินในอวกาศ ขอให้ลืมอาหารสดไปได้เลย เพราะในอวกาศจะได้กินแค่อาหารอบแห้งเท่านั้น แถมยังต้องมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือไม่ก็รัสเซียด้วย การมีเพศสัมพันธ์ในอวกาศ นักวิทยาศาสตร์จากรัสเซีย 2 ท่านได้ทำการทดลองนี้มาแล้ว แต่ไม่ได้ทำในอวกาศนะ ทดลองอยู่ในห้องจำลองไร้แรงโน้มถ่วง ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่าสามารถทำได้ แต่ทำได้เพียงแค่ 4 ท่าเท่านั้น (ท่าอะไรบ้างไม่ได้เปิดเผย) การใช้ห้องน้ำในอวกาศ ลำบากลำบนสุดๆ เพราะจะต้องมัดตัวให้ติดอยู่กับที่ แถมยังต้องคอยเล็งตำแหน่งปล่อยของด้วย เพราะจะมีระบบลมเป่าช่วยให้เข้าสู่เป้าหมาย ไม่ได้เหมือนบนโลกที่ปล่อยได้ตามสบาย การทำงานในอวกาศ นักบินอวกาศทำงานวันละ 12 ชั่วโมง ส่วนมากจะเป็นการบำรุงรักษาตรวจสอบประจำวันและทำการทดลองต่างๆ แต่ด้วยนักบินอวกาศที่มาจากหลากหลายประเทศทำให้การสื่อสารลำบาก รวมไปถึงการถูกจับตามองจากศูนย์บัญชาการบนโลกในช่วงเวลาทำงาน…