Tag: นานกิง
-
คู่หูจีนแต่งเป็นทหารญี่ปุ่น ณ ดินแดนนานกิง ถูกจับเข้าซังเต ในข้อหาย่ำยีความรู้สึกชาวจีน…
การแต่งคอสเพลย์นั้นเป็นงานอดิเรกที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร และผู้คนมากมายก็ทำกัน อย่างไรก็ตามการที่จะทำอะไรสักอย่างนั้น คนเราก็ควรที่จะคำนึงถึงเวลาและสถานที่อยู่เสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวในครั้งนี้เมื่อมีชายสองคน โพสต์รูปของพวกเขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ในเมืองนานกิง และภาพของพวกเขานั้นก็สร้างความแปลกตื่นไปบนโลกโซเชียลของชาวจีนในเวลาหลังจากนั้น พวกเขาคือชายหนุ่มแซ่ตังวัย 25 ปีจากเมืองต้าโจว มณฑลเสฉวน และชายหนุ่มผู้มีชื่อแซ่สง จากเมืองนานจิง ทางตำรวจกล่าวว่า ทั้งสองคนแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่ซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งพกพาดาบ และปืนที่มีการติดมีดปลายปืนไว้ โดยภาพที่ว่าถูกถ่ายขึ้นที่ Zijin Shan ซึ่งเป็นภูเขาที่ประเทศจีนเคยใช้เป็นแนวป้องกันกองทัพญี่ปุ่นเมื่อ 80 ปีก่อน แต่จากการที่รูปที่พวกเขาโพสต์มีการเบลอหน้า ทำให้รูปพวกนั้นอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศได้ ด้วยเหตุผลนี้ทางตำรวจจึงได้ทำการเข้าจับกุมพวกเขาพร้อมด้วยโทษคุมขัง 15 วัน เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นานกิงนั้น รู้จักกันดีในชื่อ การสังหารหมู่นานกิง หรือ การข่มขืนนานกิง (Rape of Nanjing) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาหกสัปดาห์หลังญี่ปุ่นยึดนานกิง อดีตเมืองหลวงของประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 1937 เป็นการสังหารหมู่และการข่มขืนในสงครามครั้งใหญ่ที่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน โดยที่มีการประเมินผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 300,000 คน และมีผู้หญิงราวๆ 20,000-80,000 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจได้ออกมาบอกว่าชายทั้งสองคนนั้น ‘รู้สึกผิด’ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและจะใช้เวลาที่ถูกคุมขังนั้น ‘ไตร่ตรองตัวเอง’…
-
ครบรอบ 80 ปี เหตุการณ์ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นานกิง” รวมภาพชาวจีนนับหมื่น ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย
วันที่ 13 ธันวาคมของทุกปี ประชาชนชาวจีนโดยเฉพาะชาวเมืองนานกิง อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะจัดพิธีเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสุดสะเทือนขวัญครั้งยิ่งใหญ่ ที่พวกเขาไม่เคยจะลืมเลือน และมันจะถูกจารึกไว้ให้เหล่าลูกหลานได้ทราบถึงความโหดร้ายที่บรรพบุรุษในแผ่นดินต้องได้รับ โศกนาฏกรรม สังหารหมู่นานกิง ย้อนอดีตเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปี 1937 ยุคสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เป็นวันที่ชาวนานกิงและชาวจีนในยุคนั้นจะไม่มีวันลืมเลือน วันที่เหล่าทหารญี่ปุ่นได้บุกเข้ามาในเมืองหลวงหลังจากที่ได้ฆ่าเหล่าทหารจีนที่ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองอย่างสุดกำลัง เมืองนานกิงที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1 ล้านคนในขณะนั้นต้องตกอยู่ในสภาวะอันตราย ไม่มีใครที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้แม้แต่รัฐบาลจีนเอง เมืองนานกิงได้เปลี่ยนจากสภาพเมืองที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนกลายเป็นสนามรบขนาดใหญ่ ทหารญี่ปุ่นผู้ได้รับคำสั่งให้กำจัดคนจีนทุกคนแบบไม่มีการปราณีใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูเชลยศึกที่จะตามมา ประชาชนชาวเมืองถูกล่อลวงออกไปฆ่าด้วยวิธีต่างๆ ที่สุดแสนจะโหดร้ายทารุณ เวลา 6 สัปดาห์ที่เมืองนานกิงตกอยู่ในสภาพที่เป็นราวกับขุมนรก ศพของประชาชนตายเกลื่อนเมืองส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทหารญี่ปุ่นฆ่าประชาชนด้วยสารพัดวิธี บางคนหมดทางเลือกต้องชิงฆ่าตัวตาย เหล่าผู้หญิงตกเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของทหาร ทั้งข่มขืน ฆ่า มันโหดร้ายเกินกว่าที่จะบรรยายได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ประชาชนชาวนานกิงเสียชีวิตไปราว 300,000 คน นับได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของจีน จุดจบของสงคราม จุดเริ่มต้นของการรำลึก หลังจากจบสงคราม เวลาก็ได้ผ่านไปเป็นเวลา 80 ปีแล้ว…
-
รู้จักลุงเฉินซี “ฮีโร่แห่งสะพานนานกิง” ช่วยชีวิตผู้คน จากการฆ่าตัวตายมาแล้วกว่า 300 คน
“สะพานนานกิง” สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีในเมืองนานกิงถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2006 มีผู้มาก่อเหตุฆ่าตัวตายกว่า 2,000 คน จนทำให้หน่วยงานของทางการต้องให้ความสนใจกับปัญหานี้เลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา จำนวนของผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ หากไม่มีชายคนหนึ่งที่ทุ่มเทชีวิตของตนเอง เพื่อช่วยเหลือผู้กำลังคิดสั้น ให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป เราไปติดตามเรื่องราวของเขากันเลยดีกว่า คุณลุงคนนี้มีชื่อว่า “เฉินซี” เขาได้รับฉายาว่าเป็น “เทพบุตรแห่งนานกิง” เพราะเขาได้ช่วยชีวิตคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายบนสะพานแห่งนี้ไปหลายร้อยคน จุดเริ่มต้นย้อนไปในปี 2003 เขาเดินทางไปทำงานในเมืองนานกิงและได้พบกับชายแก่คนหนึ่ง ซึ่งชายแก่คนนั้นได้มอบคำแนะนำดีๆ ให้กับเขามากมาย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชายแก่คนดังกล่าวได้ทะเลาะกับลูกชายเรื่องมรดก จนสุดท้ายชายแก่คนนั้นตรอมใจ ไม่ยอมกินอาหาร และเสียชีวิตไปหลังจากนั้นไม่นาน ตอนนั้นเขาคิดว่า ถ้าเขาเข้าไปถามไถ่และพูดคุยกับชายแก่คนนั้น บางทีเขาอาจไม่ตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เขาจึงตั้งใจช่วยชีวิตผู้อื่นให้ได้มากที่สุด นับตั้งแต่นั้นมา ทุกๆ วันหยุด เขาจะขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตนเองมายังสะพานนานกิงแห่งนี้ จากนั้นเขาก็จะเดินลาดตระเวนบนสะพาน หากเขาพบใครที่กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจะเข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจเพื่อให้พวกเขามีแรงสู้ต่อไปในชีวิต ซึ่งตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เขาได้ช่วยชีวิตคนไปแล้วกว่า 300 ชีวิต อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่อยากรับน้ำใจนี้จากเขา บางครั้งเขาก็ถูกคนที่เขาเข้าไปช่วย…