Tag: น่าสงสาร
-
คนขับแท็กซี่จีน ถูกพักงาน 3 วันหลังตำรวจพบว่า “มาสก์หน้า” ขณะขับรถกลางคืน!?
ในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้เกิดเรื่องราวอันน่าสงสารกับคนขับแท็กซี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาต้องถูกพักงานถึง 3 วัน หลังมีภาพหลุดว่าเขาแอบ มาสก์หน้า ขณะขับรถ!! คนขับแท็กซี่แซ่ เฉิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามหลังภาพการมาสก์หน้าขณะขับรถของเขากลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ เขาได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมแผ่นมาสก์หน้าขณะขับรถแท็กซี่ในยามค่ำคืน คลิปข่าวจากจีน อย่างไรก็ตามบริษัทแท็กซี่ที่เฉินทำงานอยู่ก็มิได้มีข้อบังคับใดที่สามารถเอาผิดหรือลงโทษคนขับแท็กซี่วัย 25 ปีคนนี้ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงสั่งให้เฉินพักงาน 3 วันเท่านั้น ทางฝ่ายของเฉินคนขับแท็กซี่หนุ่มก็เผยว่า ตนก็ตกใจเช่นกันที่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจบนโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้ เขาเริ่มมาสก์หน้าเป็นกิจวัตรก็เพราะว่าการทำงานกะกลางคืนนั้นส่งผลต่อผิวของเขามาก เฉิน คนขับแท็กซี่วัย 25 ปี คนเรามันก็ต้องห่วงสุขภาพผิวกันบ้างสิเนอะ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างเลย! ที่มา: nextshark, Shanghaiist และ 中天新聞CH52
-
เจ้าหน้าที่พบซาก ‘เสือโคร่งสุมาตรา’ พร้อมกับลูกในท้อง หลังเหยียบโดน ‘กับดักหมู’
เรื่องราวอันน่าสงสารของ ‘แม่เสือ’ ที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆ แต่กลับพลาดท่า ‘โดนกับดักหมู’ ที่มนุษย์วางเอาไว้เล่นงาน จนนำไปสู่การเสียชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าพบซากของแม่เสือโคร่งสุมาตราวัย 4 ปี ในจังหวัด Riau ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่มันดันไปติดกับดักหมู และพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด จนไปสิ้นใจห่างจากจุดวางกับดักถึง 150 เมตร!! จากการชันสูตรพบว่าแม่เสือเสียชีวิตจาก ‘ไตฉีกขาด’ เป็นเพราะมันพยายามดิ้นพรวดพราดเพื่อให้รอดจากกับดักนั่นเอง ที่ลำตัวของแม่เสือยังคงมีบ่วงกับดักรัดที่ตัวของมันอย่างแน่นหนา เท่านั้นยังไม่พอ ในท้องของมันยังมีลูกน้อยอีก 2 ตัว ที่ยังไม่ได้ลืมตาออกมาดูโลกใบนี้ ทำให้พวกมันเสียชีวิตไปพร้อมๆ กัน นาย Suharyono หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าท้องถิ่น กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “เรารู้สึกเสียใจกับการตายของมันเป็นอย่างมาก เป็นอีกครั้งที่การปกป้องสัตว์ป่าสงวนกลายเป็นเรื่องที่ล้มเหลว” “เจ้าเสือตัวนั้นมันกำลังตั้งท้องลูกตัวผู้ และตัวเมียอย่างละตัว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้วางกับดักเอาไว้แล้ว และจะดำเนินคดีกับเขาจนถึงที่สุด” เสือโคร่งสุมาตราถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของ ‘เสือโคร่ง’ และเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เหลืออยู่น้อยมากๆ ในโลกของเรา ในแต่ละปีจะมีรายงานการเสียชีวิตของเสือโคร่งสุมาตรามากกว่า 40 ครั้ง เพื่อนำหนังหรือขนของมันไปใช้งาน จนตอนนี้ประชากรของพวกมันเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเพียง 400 ตัวบนโลกเท่านั้น …
-
หนุ่มอังกฤษคะนอง เสนอเงินให้ “คนไร้บ้าน” ไปสักชื่อเจ้าบ่าวไว้บนหน้าผาก ชาวเน็ตไม่พอใจ
ในวัฒนธรรมของฝั่งตะวันตก ยามที่เพศชายกำลังจะแต่งงานก็มักจะมีการกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานที่เรียกกันว่า งานเลี้ยงสละโสด หรือ Stag Party นั่นเอง แต่บางครั้งความสนุกสนานก็กลายเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เช่นเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในคืนงานเลี้ยงสละโสดของหนุ่มๆ ชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่ง พวกเขาออกท่องราตรีในเมืองเบนิดอร์ม ประเทศสเปนบังเอิญเจอกับชายไร้บ้านคนหนึ่ง พวกเขาจึงสั่งให้ชายคนนั้นไป สัก บนหน้าผากของเขาเป็นชื่อของว่าที่เจ้าบ่าว ว่า “Jamie Blake, North Shields, N28” พวกเขาเสนอว่าจะจ่ายเงินให้กับชายไร้บ้านคนนี้เป็นจำนวน 90 ปอนด์ (ประมาณ 3,900 บาท) หากเขายอมสักชื่อว่าที่เจ้าบ่าวลงบนหน้าผาก ชายไร้บ้านชาวโปแลนด์คนนี้นามว่า Tomek จึงรับข้อเสนอ แต่สุดท้ายการสักกลับต้องหยุดลงเนื่องจากชายไร้บ้านไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ไหว ชายไร้บ้าน Tomek ชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์สันติภาพขณะถูกลงเข็มสักบนหน้าผาก ภาพด้านบนถูกเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊ก บนหน้าผากของ Tomek แทนที่จะเป็น “Jamie Blake, North Shields, N28″ แต่กลับถูกสักลงไปได้เพียงแค่คำว่า “Jamie Blake, No” เท่านั้น ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นภาพนี้ต่างรู้สึกแย่และเสียใจไปตามๆ กัน บางคนถึงกับหารือกันว่าจะช่วยจ่ายค่าลบรอยสักออกให้กับชายไร้บ้านคนนี้เลยทีเดียว Karen Malin Cowles คนรู้จักของ…
-
เห็นแล้วต้องช่วย!! หมา 2 ตัว รอเจ้าของที่ทิ้งมันไปที่เดิม ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่กลับมา
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ พวกมันรักเดียวใจเดียวต่อเจ้าของเสมอ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีอยู่หรอก แต่ในบางครั้งความจงรักภักดีนี่แหละกลับมาทำร้ายพวกมันเอง อย่างเจ้าหมา 2 ตัวที่ถูกเจ้าของเอามาทิ้งไว้ในทางน้ำ ถึงพวกมันจะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่พวกมันก็ไม่เคยเดินหนีไปไหนเลย เพราะความซื่อสัตย์พวกมันก็เลยเฝ้ารอเจ้าของให้มารับอยู่ตรงที่เดิม ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาคงไม่กลับมารับพวกมันอีกแล้ว … เจ้าหมา 2 ตัวนี้ถูกใครบางคนเอามาทิ้งไว้ เพราะพวกมันเป็นโรคผิวหนัง ยังดีที่พวกมันมีกันและกัน ก็เลยคอยช่วยปลอบใจกันได้ ที่ที่พวกมันถูกเอามาทิ้งก็คือทางน้ำร้าง ซึ่งกลายเป็นที่อยู่ของพวกมันไปในที่สุด ทุกครั้งที่มีรถวิ่งผ่านมาตรงสะพาน พวกมันก็จะชะเง้อมองเผื่อว่าจะเป็นเจ้าของที่กลับมารับพวกมัน แต่เขาก็ไม่เคยกลับมาหาพวกมันอีกเลย ยังดีที่พวกมันมีพี่น้องคอยเคียงข้างล่ะนะ แถมคนแถวนั้นยังสงสารมันแล้วแวะเอาข้าวมาให้เป็นประจำด้วย พอกินข้าวเสร็จก็จะมานั่งรอเจ้าของตรงที่นอน ไม่ยอมไปที่อื่นสักที อาสาสมัครที่ช่วยเหลือสัตว์ไม่อยากให้มันรอต่อไปอย่างไม่มีความหมาย ก็เลยเข้ามาช่วยพวกมัน เดี๋ยวจะพาแกไปอยู่ที่ที่ดีกว่านี้นะ แต่ตอนที่กำลังจะเอาพวกมันขึ้นรถ ลูกหมาตัวหนึ่งก็วิ่งไปด้านในร่องน้ำ แล้วหันกลับมามองเหมือนบอกให้ตามมันไป พอตามมันไปพวกเขาก็เจอกับลูกหมาอีกตัวหนึ่ง แต่มันตายไปแล้วเพราะว่าทนหิวและทนอากาศหนาวไม่ไหว ลูกหมาที่วิ่งนำมายังพยายามปลุกมันอยู่เลย ถึงพวกเขาจะช่วยมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถพามันไปฝังให้เรียบร้อย จากนั้นหมาทั้ง…
-
หมาจรจัดไปบ้านของเด็กหญิงทุกวัน เพื่อไปหาเพื่อนที่ไม่มีวันได้เจอกันอีก
ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าหมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ทุกคนอาจจะเคยเห็นความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของมันหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นเรื่องราวของหมาที่มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนของมัน เจ้าหมาตัวนี้ก็คือหมาจรจัดสีดำจากประเทศเกาหลี มันปืนรั้วข้ามมาที่หลังบ้านของเด็กหญิงและคุณยายทุกวัน เมื่อมันมาถึงมันก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากนอนรอ จนถึงเวลาเย็นมันก็จะปีนรั้วกลับไปยังถิ่นของตัวเอง แต่เรื่องราวของมันไม่ได้จบเพียงเท่านี้หรอก … นี่คือเจ้าหมาสีดำ พระเอกของเราในวันนี้ มันปีนกำแพงเข้าไปในบ้านของคุณยายและเด็กสาวทุกวัน กว่าจะผ่านไปถึงรั้วบ้านได้ มันต้องผ่านรั้วหนามเหล็กที่อันตราย แล้วก็ผ่านทางที่มีสังกะสีผุซึ่งอันตรายมาก แต่มันก็ใช้ประโยชน์จากความตัวเล็กและคล่องแคล่วลอดรั้วมาได้ ถึงแม้จะยังดูเสี่ยงอันตรายก็ตาม เด็กสาวเล่าว่ามันไม่ได้เป็นหมาของบ้านเธอหรอก มันเป็นแค่สุนัขจรจัดนี่แหละ พอเจ้าหมามาถึงที่บ้าน มันก็จะนั่งรอนิ่งๆ เมื่อถึงตอนเย็นก็จะดันตัวขึ้นไปบนกำแพง แล้ววิ่งกลับไปทางเดิม คุณยายที่อยู่บ้านหลังนั้นเล่าว่าสาเหตุที่มันมาที่บ้านทุกวัน เป็นเพราะเจ้าหมา Sooni Sooni เป็นหมาที่ครอบครัวคุณยายเลี้ยงดู แต่มันป่วยตายไปแล้ว ตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวสนิทสนมกัน แม้แต่ตอนนี้ที่ Sooni ตายไป เจ้าหมาดำก็ยังมาหาที่บ้านทุกวันเหมือนเดิม สัตวแพทย์อธิบายว่าสุนัขอาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าความตายเป็นยังไง มันอาจจะมาหาทุกวันจนตัวเองตายก็ได้ ด้วยความเห็นใจ เด็กสาวก็เลยรับมันมาเลี้ยง…
-
หมาถูกมัดใส่กระสอบ นำไปทิ้งบนรางรถไฟ คนใจดีพบเข้าช่วยมันให้พบครอบครัวใหม่
ตอนที่ Laurens van Wyk ขับรถผ่านทางรถไฟของเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เขาสังเกตเห็นถุงใบหนึ่งวางอยู่บนทางรถไฟ ก็เลยเข้าไปตรวจสอบดูแล้วพบกับสิ่งที่น่าสลดใจอยู่ในนั้น ข้างในถุงมีเจ้าหมาตัวหนึ่งถูกมัดปากและขาเอาไว้ ทำให้มันส่งเสียงร้องหรือขยับตัวไม่ได้ แถมยังถูกทำร้ายมาอีกต่างหาก มันน่าจะถูกเจ้าของเก่าเอามาทิ้งไว้ตรงนี้ ถ้าปล่อยมันทิ้งไว้มันอาจจะถูกรถไฟทับเอาได้ เขาก็เลยช่วยมันออกมาจากตรงนั้น เขาไม่ได้แก้มัดให้มันทันทีเพราะไม่แน่ใจว่ามันจะแว้งกัดไหม เพราะมันดูทรมานและตื่นกลัวคน เขาก็เลยส่งมันไปให้กับคนที่มีประสบการณ์ดูแลหมาแทน เจ้าหมาได้รับชื่อว่า Trax มันถูกส่งตัวไปให้กลุ่มดูแลสัตว์ Helderberg Animal Welfare Society เพื่อให้มันได้รับการดูแลที่ดี พวกเขาช่วยแกะเชือกออกให้เจ้าหมาจนมันได้รับอิสระในที่สุด เจ้าหมาได้รับความช่วยเหลือ และมาอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ หลังจากสัตวแพทย์ตรวจร่างกายมันแล้ว ก็บอกว่ามันเป็นโรคเรื้อน แล้วหัวของมันก็สั่นแปลกๆ ด้วย คาดว่ามันน่าจะถูกทุบตีหัวมาก่อนก็เลยมีอาการแบบนี้ อาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงต่างก็มอบความรักให้มันเพื่อให้มันเปิดใจรับคนมากขึ้น หลังจากดูแลมันได้ 2 วันพวกเขาก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงมากแล้ว Trax ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดี มันแสดงท่าทีขี้เล่นแล้วก็เข้าหาอาสาสมัครมากกว่าตอนที่มาถึงใหม่ๆ อันที่จริงแล้วมันก็เป็นหมาที่นิสัยน่ารักมากตัวหนึ่งเลยล่ะ เมื่อผ่านไป 2 อาทิตย์ ถึง Trax จะยังดูขี้อายอยู่ แต่มันก็พร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับคนใหม่ๆ มากขึ้นแล้ว พวกเขาก็เลยประกาศหาบ้านใหม่ให้กับมัน…
-
หมาขนยุ่งเดินไปร้านอาหารตามลำพังเพื่อขอข้าวกิน แต่มันมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมากกว่าความหิว
เจ้าตูบ Dongchul เป็นหมาขนปุยที่อาศัยอยู่ในโรงงาน มันมีสภาพมอมแมม ขนรุงรังสกปรก เหมือนไม่ได้รับการดูแลมาสักพักแล้ว มันไม่ยอมกินข้าวที่คนในโรงงานเตรียมไว้ให้เลย เจ้าหมาจะเดินไปข้างนอกแล้วไปกินข้าวตามร้านค้าเป็นประจำ แต่ไม่ใช่เพราะร้านค้าให้ข้าวดีกว่าหรอกนะ มันมีเหตุผลแอบแฝงอยู่ต่างหาก … นี่คือเจ้าหมา Dongchul มันเป็นหมาที่อาศัยอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง แต่มันไม่ยอมกินอาหารที่คนในโรงงานเอาให้เลย ถึงจะป้อนกับมือก็ยังไม่ยอมกิน มันชอบแอบหนีออกไปข้างนอกโรงงาน เพื่อไปยังร้านอาหารร้านประจำ แล้วมันก็จะกินข้าวที่เจ้าของร้านเอามาป้อนให้ ซึ่งเจ้าหมาจะไปร้านประจำแค่ 7 ร้านเท่านั้น เจ้าของร้านแห่งหนึ่งบอกว่ามันเคยมากับเจ้าของ แต่ช่วงนี้เห็นมันแค่ตัวเดียว เจ้าของร้านอีกแห่งก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน พอถามจากคนที่โรงงานดูก็เลยรู้ว่ามันเคยมีเจ้าของอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือหัวหน้างานของเขา หัวหน้าเป็นคนเริ่มรับ Dongchul มาเลี้ยง และดูแลด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เขาตายจากไปด้วยโรคร้ายแล้ว เจ้าหมาก็เลยถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ร้านอาหารที่มันไปแต่ละแห่งเป็นร้านโปรดของเจ้านายทั้งนั้น คนในโรงงานบอกว่าการที่มันยังไปร้านเหล่านี้อยู่ น่าจะเป็นเพราะมันยังคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ใช้ร่วมกับหัวหน้า พอเห็นมันยึดติดกับอดีตแบบนี้ คนในโรงงานก็เลยตั้งใจว่าจะดูแลมันอย่างดี…
-
มนุษย์พบวัตถุประหลาดกลมๆ สีฟ้า ก่อนจะรู้ว่ามันคือเม่นที่ต้องการความช่วยเหลือ
ในเมือง Taunton รัฐซัมเมอร์เซต ประเทศสหรัฐอเมริกา มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง พวกเขากำลังใช้เวลาว่างด้วยกันในสวนหลังบ้าน และตอนนั้นเองเขาก็ได้พบกับวัตถุประหลาดกลมๆ สีฟ้าเข้า ครอบครัวนั้นคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะไม่รู้ว่าคืออะไร พวกเขาเลยติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ให้เข้ามาจัดการมันแทน พออาสาสมัครเข้าไปดูวัตถุประหลาดที่ว่าใกล้ๆ ก็เลยรู้ว่าที่แท้มันเป็นเม่นที่กำลังลำบากนี่เอง ก็นึกว่าตัวอะไร ที่แท้มันคือเม่นนี่แหละ ที่เม่นตัวนี้มีสีฟ้าก็เพราะว่าทั้งตัวของมันเปื้อนสีทาบ้านอยู่ ถึงจะไม่รู้ว่ามันตกลงไปในกระป๋องสีเองหรือมีคนตั้งใจทาสีให้มัน แต่ตอนนี้สัตวแพทย์กับอาสาสมัครก็ให้ความสำคัญกับการช่วยมันมากกว่าจะหาสาเหตุ เพราะการรีบช่วยมันก่อนจะตายเพราะสารเคมีจากสีสำคัญกว่า น่าจะตกลงไปในถังสีโดยบังเอิญน่ะ ก็เลยเป็นแบบนี้ สีบนตัวของมันแห้งหมดแล้ว แต่ก็หนาแล้วก็แข็งจนเอาออกได้ยาก แต่สัตวแพทย์ก็ค่อยๆ เอาสีออกทีละนิดอย่างเบามือ เพื่อให้มันรู้สึกสบายมากที่สุด พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Sonic ตามตัวละครเกมที่เป็นเม่นสีฟ้า หลังจากใช้เวลาสักพักหนึ่งพวกเขาก็เอาสีที่ติดอยู่ออกจากตัวมันได้เกือบหมดแล้ว สัตวแพทย์ค่อยๆ ช่วยเอาสีออกให้มัน แต่ก็ต้องใช้เวลาเพราะสีติดแน่นมาก สัตวแพทย์ก็เลยป้อนข้าวป้อนน้ำให้มันก่อน เพราะก่อนหน้านี้มันคงขยับตัวไม่ได้เพราะสีแห้งเกาะติดตัวเต็มไปหมด Sonic ก็กินข้าวเยอะจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามพวกเขายังต้องวางยาสลบมันเพื่อเอาสีที่เหลืออยู่ออก เพราะสีมันติดแน่นมากจริงๆ แล้วก็ต้องรักษาแผลบางจุดที่สีไปติดกับผิวหนังข้างในของมันจนเป็นแผลด้วย ถ้ามันหายดีแล้วพวกเขาก็จะเอามันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเม่นพวกนี้เป็นสัตว์ตามธรรมชาติที่ค่อนข้างซุกซน ถ้าเกิดมีกระป๋องสีเปิดทิ้งไว้พวกมันอาจจะตกลงไปเองก็ได้ ก็เลยอยากให้ทุกครัวเรือนเก็บอุปกรณ์พวกนี้ไว้ให้มิดชิด ถ้าเกิดเจ้าเม่นน้อยหายดีเมื่อไหร่ อาสาสมัครก็จะพามันกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้มันได้ใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งหนึ่ง หวังว่ามันคงจะไม่ไปตกถังสีที่ไหนจนต้องกลับมาอีกครั้งนะ…
-
เจ้าหมาขี้อายที่ถูกเอามาทิ้ง เอาแต่หลบหลังขาเจ้าของ แต่เขาก็ไม่สนใจทิ้งมันไว้อยู่ดี
เมื่อศูนย์พักพิงไม่มีพื้นที่ว่างพอให้สัตว์อยู่แล้ว พวกเขาก็จะติดป้ายเตือนเจ้าของสัตว์ที่จะเอาพวกมันมาทิ้งไว้ ว่าหากเอาสัตว์มาทิ้งไว้ตอนนี้ พวกมันอาจจะถูกนำไปฆ่าก็ได้นะ ซึ่งเป็นวิธีเตือนใจเจ้าของไม่ให้ทิ้งพวกมันไป ทว่าสำหรับเจ้าของของ Jasper แล้ว เขาไม่ได้สนใจกับคำเตือนนี้เลย เขายังคงยืนยันจะเอามันมาทิ้งไว้แล้วปล่อยให้มันไปเจอกับชะตากรรมของมันเองตามลำพัง เจ้า Jasper หมาที่ถูกทิ้ง Jasper เป็นหมาที่ขี้อายมาก ระหว่างที่เจ้าของของมันกรอกเอกสารเพื่อทิ้งมันอยู่ มันก็เอาแต่หลบอยู่หลังขาของเขาโดยไม่กล้าออกมาเจอหน้าใครเลย เห็นได้ชัดเลยว่ามันอยากจะอยู่กับเขาต่อ แต่หลังจากกรอกเอกสารเสร็จ เขาก็แค่เอาของใช้ส่วนตัวของเจ้าหมาทิ้งไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเดินจากมันไปเฉยๆ โดยให้เหตุผลในการทิ้งมันไว้ว่า ‘เข้ากับหลานที่บ้านไม่ได้’ เจ้าหมาขี้อายมาก มันหลบอยู่หลังเจ้าของตลอดเวลา ถึงเจ้าของจะเดินจากไปแล้ว เจ้าหมาก็ยังคงมองตามเขาแล้วเห่าเรียกให้เขากลับมารับมันไปด้วย อาสาสมัครเห็นแล้วก็ได้แต่สงสารมัน แล้วปล่อยให้มันสงบลงสักพัก Donna Grooms ผู้อำนวยการของศูนย์พักพิงแห่งนี้เห็นว่ามันขี้อายมาก ก็เลยให้มันอยู่ห้องแยกจากสัตว์ตัวอื่นก่อน ระหว่างนั้นเธอก็โพสต์ขอความช่วยเหลือให้ใครสักคนรับมันไปดูแล เพราะไม่อยากเห็นมันต้องถูกฆ่า แต่เจ้าของก็ไม่สนใจมัน เขาแค่ทิ้งมันไว้แล้วเดินจากไป โชคดีที่มีคนมากมายที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ Jasper ผู้คนเห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือของ Grooms แล้วส่งคำขอรับเลี้ยงเข้ามา คนที่ได้รับมันไปเลี้ยงก็คือ Lori Lawrimore สมาชิกระดับสูงของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Friends of Eden Animal Rescue เธอบอกว่าตอนที่เธอเห็นประกาศหาคนเลี้ยงเจ้าหมานั้น เธอก็อยากได้สุนัขให้ลูกชายอยู่พอดีเลย…
-
หนูน้อย ป.5 ร่ำไห้ หมดสิทธิ์เรียนต่อ เพราะแม่ไม่แจ้งเกิด ไหนจะต้องดูแลยายพิการอีก!!
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดเศร้าที่ต้องการความช่วยเหลือ เมื่อมีชาวเน็ตนามว่าคุณ Yuwatida Thomrongnisakron ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงเด็กหญิง 11 ขวบที่ตอนนี้อาศัยอยู่กับย่าที่พิการ กำลังร่ำไห้พร้อมขอความช่วยเหลือ ภาพดังกล่าวนั้นถูกโพสต์ลงบนโซเชียลเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อความของคุณ Yuwatida ก็ได้ระบุว่า “หนูอยากเรียนต่อค่ะ…. เด็กคนนี้ไม่มีใบเกิดไม่สามารถจะเรียนหนังสือต่อได้” หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นป.5 แต่ว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะเรียนต่อได้ เพราะว่าเธอเป็นเด็กที่เกิดมาแล้วไม่ได้รับการแจ้งเกิดโดยมารดาของเธอ ทำให้หนูน้อยคนนี้จึงไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักที่ทางโรงเรียนต้องการเพื่อใช้ในการเรียนต่อ ด้านคุณ Yuwatida จึงขออาสาเป็นกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือหนูน้อยคนดังกล่าว โดยเธอได้ร้องขอคำแนะนำจากชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาให้แก่น้องคนนี้ เพราะเธอไม่ต้องการให้หนูน้อยที่แสนกตัญญูต้องหมดโอกาสเพียงเพราะเธอเกิดมาโดยผู้ปกครองที่ไม่รับผิดชอบ หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 12/2 ม.2 ต.เนินเพิ่ม ต.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเธออยู่กับย่าที่พิการเพียงแค่สองคน และผลการเรียนก็ไม่ได้แย่เลย ออกจะเป็นคนขยันเสียด้วยซ้ำ เพราะล่าสุดเธอมีผลการเรียนอยู่ในอันดับที่ 6 ของห้องเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือและคำแนะนำมากมายจากชาวเน็ต คุณ Yuwatida ก็ได้ออกมาอัปเดตเพิ่มเติมแล้วว่า หนูน้อยนั้นสามารถเรียนต่อและเข้าสอบ Onet ได้ตามปกติด้วยการใช้รหัส G ซึ่งเป็นรหัสที่สามารถสุ่มตัวเลข 13 หลักขึ้นมาเพื่อการศึกษาได้…
-
มาดู 18 หนุ่มจืดที่ถูก “Friend Zone” จากสาวที่ตนชอบ ทำดีเท่าไหร่ก็เป็นได้ “แค่เพื่อน”
คนที่ไม่ใช่ ทำอะไรเธอก็คงจะไม่ชอบ… เรื่องราวของคนที่ไปชอบเขาแต่เขาบอกว่า เป็นได้แค่เพื่อน นั้นไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ยังคงเป็นเรื่องน่าเศร้าอยู่เสมอ เมื่อใดก็ตามที่คุณถูกเขาจัดให้อยู่ใน Friend Zone ต่อให้คุณจะทำดีกับเขาขนาดไหน คุณก็ยังคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น สำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้คงจะเข้าใจดีเลยล่ะว่า อาการของคนที่มันถูกจัดให้อยู่ใน Friend Zone มันเจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหน แต่หากใครที่ยังไม่เคยสัมผัสอารมณ์แบบนั้นมาก่อนล่ะก็ เราจะพาคุณไปชมภาพบรรยากาศ ขณะที่หนุ่มๆ ถูกสาวที่ชอบบอกว่าเป็น “แค่เพื่อน” 1. คุณจะรู้สึกอย่างไร หากสาวที่คุณชอบมาขี่คอคุณ… เพื่อไปจูบกับชายอีกคนหนึ่ง 2. ก็ไม่ได้รังเกียจนะ แต่นายอยู่ได้แค่ในโซนเพื่อนเท่านั้น 3. ภาพนี้ก็เหมือนกับเวลาที่สาว บอกกับคุณว่าเป็นได้แค่เพื่อน (ต่อให้พยายามแค่ไหนก็เสียบไม่ได้) 4. “ก็ฉันไม่มีแฟนให้ถ่ายรูปด้วยนี่นา ก็เลยต้องถ่ายกับแอนโทนี” (ยินดีด้วยนะแอนโทนี นายได้เพื่อนใหม่แล้วล่ะ) 5. “ฉันไปทานมื้อเย็นกับเพื่อนสนิทแล้วคนอื่นๆ คิดว่าเราคบกัน” แต่ “เขาเป็นเหมือนพี่ชาย แล้วก็ช่วยแยกใบเสร็จให้ด้วยนะ” 6. ผม: นี่ๆ เราจะบอกชอบคนที่เราชอบยังไงดีอะ? เธอ: ก็บอกเขาไปเลยสิว่า ผมชอบคุณนะ ชอบมากๆ…
-
‘ความฮา’ ปน ‘น่าสงสาร’ ของเด็กน้อยทั้ง 31 คน เมื่อโลกไม่ได้ใจดีกับพวกเขาเสมอไป
เราอาจเคยได้ยินคำเปรียบเปรยที่ว่า “เด็กน้อยเป็นเหมือนกับผ้าขาว” รอที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากผู้ใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมเผชิญกับความโหดร้ายของโลก นั่นจึงไม่แปลกที่พวกเขาอาจต้องเจอกับอะไรที่มันชวดปวดหัวในช่วงแรกกันบ้าง และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างความเลวร้ายของโลกที่พวกเขาต้องเผชิญ มันทั้งเจ็บปวด ทั้งเป็นการเรียนรู้ที่ดี แถมยังสร้างความฮาน้ำตาไหลไปกับความไร้เดียงสาของพวกเขา ความน่ารักปนความน่าสงสารของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น เราลองไปชมกันได้เลยจ้า ไม่ต้องบอกก็คงพอเดาได้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร อยู่ดีๆ ก็ง่วงนอนซะอย่างนั้น นั่นมันมิกกี้เมาส์นี่นา จะเล่นอะไรทำไมไม่นัดกันก่อน ยัง.. ยังอีก… ยังไม่ช่วยหนูลงไปอีก ทำไมผู้ใหญ่ต้องมารังแกหนูด้วย?! บ้านตั้งกว้าง มาฝึกตีลังกาทำไมตรงนี้ พอตอนซ้อมละก็ไม่ยอมมา เป็นไงละทีนี้ กางเกงในเหมาะกับวัยดีจริงๆ หลังจากนี้เขาก็ไม่เล่นสไลเดอร์อีกเลย เมื่อแม่อยากจะชอปปิง แต่ลูกน้อยก็ต้องการจับมือเธอเอาไว้ นั่นมันสัตว์ประหลาดชัดๆ Thug Life มั้ยครับพ่อ ทำไมถึงไม่ช่วยหนู ยืนดูเฉยๆ ซะอย่างนั้น เด็กน้อยอยากให้อาหาร แต่ดันกลายเป็นอาหารซะเอง ใครปิดไฟน่ะ!!…
-
พิตบูลล์อารมณ์ดี รู้สึกเหงาหลังเพื่อนถูกรับไปเลี้ยงหมด ยังรอโอกาสจะมีเจ้าของอยู่
ศูนย์พักพิงสัตว์ White County Animal Shelter ซึ่งอยู่ในเมืองสปาร์ตา รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือสัตว์จรจัดมากมาย และเป็นที่ที่ช่วยให้พวกมันได้พบกับเจ้าของใหม่ได้ แต่ตอนนี้ยังมีเจ้า Orville ที่อยู่ที่นี่มานานกว่า 1 ปีแล้วก็ยังไม่มีใครมารับเลี้ยงเลย มันทำได้เพียงมองดูเพื่อนที่มาพร้อมกันหรือมาทีหลังถูกรับเลี้ยงไปทีละตัวด้วยความเศร้าสร้อย อาสาสมัครต่างก็รู้สึกสงสารมันมาก Orville หมาผู้ยิ้มกว้างตลอดเวลา Orville เป็นสุนัขพิตบูลล์ที่มีนิสัยเป็นมิตร มันมักจะมีรอยยิ้มกว้างอยู่บนใบหน้าเสมอ แล้วถ้ามีคนเดินมาทักทายมันที่กรงมันก็จะฉีกยิ้มกว้างมากกว่าเดิมอีก อาสาสมัคร Alex Dulaney เล่าถึงมันว่า “ตอนที่ผมพามันไปเดินเล่นข้างนอกแล้วเอาของเล่นชิ้นโปรดให้มัน มันก็จะยิ้มแบบนั้นทุกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่ดูดีและไม่เหมือนใครเลย” ใส่หูกระต่ายแล้วแบ๊วเชียว ตอนที่เก็บเจ้าหมามาเมื่อเดือนมกราคม 2017 มันยังมีอายุได้แค่ปีเดียวเท่านั้นเอง พวกเขาคิดว่ามันคงจะมีคนมารับเลี้ยงไปเร็วเพราะเป็นหมาเด็กอยู่ โดยปกติแล้วสัตว์ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้จะมีเจ้าของภายในเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ Orville อยู่ที่นี่มาแล้วกว่า 400 วันก็ยังไม่มีใครรับเลี้ยง ทำให้มันเป็นสุนัขที่อยู่มานานที่สุด มันอยู่ที่นี่มานานกว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีคนมารับเลี้ยงเลย ทั้งที่มันน่ารักและนิสัยดีแท้ๆ Dulaney คิดว่า “ผมว่าคนส่วนใหญ่มองข้ามมันไปเพราะว่ามันมีเชื้อสายของพิตบูลล์อยู่ด้วย ที่นี่มีหมาพันธุ์อื่นที่คนต้องการอีกมากมาย เช่นเยอรมันเชพเพิร์ดเป็นต้น… เจ้าหมามีนิสัยที่น่ารักมาก…
-
หมาจรจัดผอมแห้ง กินแม้แต่หินเพื่อเอาชีวิตรอด ได้มีบ้านอันแสนอบอุ่นแล้ว
Molly เป็นสุนัขจรจัดสายพันธุ์โกลเด้นดูเดิ้ลที่มีขนยาวรุงรัง ทว่าภายใต้ขนนั้นมีเพียงร่างกายที่ผอมติดกระดูกเท่านั้นเอง เมื่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wilson County Humane Society เจอมันก็เลยช่วยมันเอาไว้ Molly หมาจรจัดผอมแห้ง มันคงไม่ได้กินอะไรมานานพอสมควรเลยก็เลยตัวผอมซูบแบบนี้ แต่พอเอามันไปตรวจร่างกาย พวกเขาก็ได้รู้ว่าในท้องของมันมีหลายอย่างที่ไม่ควรกินเข้าไปเลย อย่างเช่นก้อนหิน ลูกโอ๊ค กระดาษฟอยล์ เศษผ้าขี้ริ้ว และกระดูกไก่ มันคงหาอะไรกินไม่ได้ก็เลยกินของพวกนี้ประทังชีวิต โชคดีที่มันไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด แค่ปล่อยให้มันขับถ่ายเองตามปกติของพวกนั้นก็ออกมาจากร่างกายได้แล้ว แต่พวกเขาก็ต้องดูแลมันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มันกลับมาแข็งแรงเหมือนหมาทั่วไป มันกินทั้งหิน กระดาษฟอยล์ และสิ่งอื่นที่ย่อยไม่ได้เข้าไป เพราะหาของกินไม่ได้ โชคดีที่ไม่ต้องผ่าตัดเอาออก แต่หลังจากนี้ก็ต้องกินอาหารดีๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง อาสาสมัครช่วยตัดขนที่หนาเตอะของมันออกไป ขนทั้งหมดของมันมีน้ำหนักมากถึง 1 ใน 5 ของขนาดตัวทั้งหมดเลย มันคงจะรู้สึกหนักเหมือนต้องแบกที่ถ่วงน้ำหนักอยู่ตลอด แต่ต่อไปนี้ก็จะได้เดินตัวปลิวแล้ว ตัดขนแล้วดูดีขึ้นเยอะเลย กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Burlington County Animal Alliance เห็นว่าเจ้าหมายังไม่มีคนดูแล ก็เลยออกตัวหาบ้านให้มันอยู่เป็นการชั่วคราวให้จนกว่าจะมีคนรับเลี้ยง มันก็เลยได้เข้ามาใช้ชีวิตในบ้านที่รัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ทันไรก็มีคนช่วยดูแลแล้ว เสน่ห์แรงไม่เบา Nocito คนที่ดูแลมันเล่าว่า…
-
หมาไส้กรอกตัวน้อยพบ “ทารก” ถูกทิ้งในท่อระบายน้ำ จึงทำให้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน
ใครกันนะที่บอกว่าว่าเจ้าตูบเป็นได้แค่เพื่อนยามเหงาเท่านั้น วันนี้ เจ้าตูบตัวหนึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นนักสำรวจตัวน้อยที่สามารถช่วยเหลือชีวิตมนุษย์คนๆ หนึ่งเอาไว้ได้เลยทีเดียว Charmaine Keevy วัย 63 ปีต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้า Georgie หมาไส้กรอกของเธอ ส่งเสียงเห่าและพาเธอไปพบกับทารกถูกทิ้งอยู่ ในเมืองพอร์ตเอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ มองไกลๆ คุณ Keevy คิดว่าเจ้าตูบของเธอเห่าแมวที่นอนส่งเสียงร้องอยู่ แต่พอลองเข้าไปมองดูใกล้ๆ กลับพบว่าเป็นเด็กทารกเพศหญิงถูกทิ้งเอาไว้และกำลังนอนร้องไห้อยู่ภายในท่อระบายน้ำ เธอจึงรีบโบกรถที่ผ่านไปมาแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งได้ความช่วยเหลือจากคุณ Cornie Viljoen ที่จอดรถเพื่อช่วยกันนำทารกออกมาจากท่อระบายน้ำ คุณ Viljoen ในวัย 60 ปีเป็นผู้ที่มุดเขาไปในท่อระบายน้ำที่ลึกราว 2 เมตร เพ่ื่อนำตัวทารกออกมา และนั่นทำให้เขาตกใจมากเพราะว่าบริเวณรอบๆ ตัวเด็กมีฝูงมดแดงล้อมอยู่เต็มไปหมด . Viljoen กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ช่างใจไม้ไส้ระกำทำกับเด็กทารกได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ดีใจนะที่เราสามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้” เมื่อนำตัวเด็กทารกส่งเข้าโรงพยาบาล แพทย์จึงพบว่าเธอมีอาการตัวเย็นเกินปกติ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลังจากนั้นแพทย์ก็ตั้งชื่อให้กับเด็กสาวคนนี้ว่า Grace April คุณ Keevey กล่าวว่า…
-
หมา 3 ขาจากไทย ได้รับความเมตตาจากสาวชาวแคนาดา บินข้ามโลกไปยังบ้านใหม่
เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ได้ช่วยสุนัขตัวหนึ่งเอาไว้ตามคำขอของคนที่เอามันมาส่งให้ เจ้าหมาได้รับชื่อว่า Star มันเป็นสุนัขตัวเมียที่ขาหน้าข้างขวาบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถรักษาให้หายดีได้ คนที่เอามันมาส่งให้ก็บอกว่าไม่รู้ว่ามันโดนอะไรมาเหมือนกัน ตอนที่พวกเขาไปเจอมันก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว สัตวแพทย์ก็เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากตัดขาของมันทิ้ง Star มีแผลฉกรรจ์ที่ขาหน้าข้างขวา สัตวแพทย์รักษามันไม่ได้ ช่วยได้แค่ตัดขาหน้าของมันเพื่อให้พ้นจากความเจ็บปวด นอกจากแผลที่ขาหน้าแล้ว เมื่อตรวจร่างกายดูสัตวแพทย์ยังเจอกระสุนอยู่ที่ท้องของมันด้วย เจ้าของเก่าของมันน่าจะใช้ปืนยิงเจ้าหมา แถมช่องคลอดของมันยังถูกไฟลนด้วย ซึ่งน่าจะเป็นแผลจากการทำหมันแบบผิดๆ ของเจ้าของเอง สัตวแพทย์ก็เลยทำการผ่าตัดเอากระสุนออกให้เจ้าหมาอีกครั้งหนึ่ง แล้วให้มันพักฟื้นตัวอยู่ในศูนย์พักพิงของมูลนิธิ ซึ่งก็คงจะกลายเป็นบ้านของมันเหมือนกับเพื่อนหมาตัวอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่น มันถูกเจ้าของเก่ายิงด้วย แต่ก็ปลอดภัยแล้ว ที่มูลนิธิมีเพื่อนหมาอยู่กับมันมากมาย แต่ก็ยังไม่ใช่บ้านที่อบอุ่นเท่าที่ควร แต่โชคของมันยังไม่หมดซะทีเดียว ที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ามันได้เจอ Deborah Harvey ซึ่งเป็นอาสาสมัครหญิงที่มาจากแคนาดา เธอสงสารมันก็เลยอาสาเอามันกลับไปเลี้ยงต่อที่บ้านของตัวเองในประเทศแคนาดา หลังจากทำเรื่องเคลื่อนย้ายเจ้าหมาเสร็จ มันก็เลยได้ขึ้นเครื่องบินข้ามไปครึ่งโลกเพื่อไปอยู่บ้านใหม่ที่ประเทศแคนาดาแล้ว Star เป็นหมาตัวที่ 3 ที่ Deborah รับมาเลี้ยง ที่บ้านของเธอมีสุนัขชิวาว่าอยู่แล้ว 2 ตัว เจ้าหมาตัวน้อยพวกนี้แหละที่จะมาเป็นคนดูแลทั้งยังเป็นเพื่อนเล่นให้กับเจ้า Star มาถึงบ้านใหม่ในแคนาดาแล้ว ดูอบอุ่นมากเลย Star เข้ากับหมาเจ้าถิ่นได้ดีทีเดียว…
-
คนผิดหรือยีราฟผิด หลังมีคลิปยีราฟเอาหัวมุดเข้าไปในรถจนกระจกแตกทั้งบาน!?
กลายเป็นคลิปไวรัลที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหู เมื่อคู่รักชาวอังกฤษคู่หนึ่งเดินทางไปยัง สวนสัตว์เปิด West Midland Safari Park ในวุร์สเตอร์เชอร์ เคาท์ตีของประเทศอังกฤษ และถูกยีราฟตัวหนึ่งบุกเข้ามาในรถ ตัวคลิปนั้นจะโชว์ให้เราเห็นภาพที่ทั้งสองขับรถเข้าไปยังสวนสัตว์เปิด ซึ่งทั้งสองได้เปิดกระจกรถทิ้งไว้จนกระทั่งยีราฟตัวหนึ่งสังเกตเห็น มันเดินตรงเข้ามาและใช้หน้ามุดเข้าไปในตัวรถเพื่อมองหาอาหารด้วยท่าทีขี้เล่น แต่แล้วเหตุการณ์ที่แม้แต่คนถ่ายภาพยังคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ทางเจ้าของรถได้ปรับกระจกรถขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเจ้ายีราฟจะไม่สนใจเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อยีราฟไม่ยอมเอาหน้าออก กระจกที่เลื่อนขึ้นจึงบีบเข้ากับศีรษะของยีราฟจนแตกออก ทำให้ทั้งคนและยีราฟตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ในตอนแรกคนก็ตั้งคำถามว่าใครผิด แต่ผ่านไปสักระยะชาวเน็ตก็เริ่มพากันแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าคู่รักทั้งสองนั่นแหละทำผิด โดยเฉพาะแฟนหนุ่ม ซึ่งถ้าเราดูดีๆ เราจะเห็นว่าแฟนหนุ่มได้เอามือเลื่อนไปกดปุ่มปิดกระจกรถ จนเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว “คนอยู่ในรถบ้าหรือเปล่า เลื่อนกระจกขึ้นขณะที่หัวยีราฟยังอยู่ในรถเนี่ยนะ? ฉันไม่สนใจกระจกหรอกนะว่ามันจะเป็นยังไง ที่ฉันสนคือตาของยีราฟต่างหาก!!” นอกจากนี้ชาวเน็ตก็ยังพากันเป็นห่วงเจ้ายีราฟกันยกใหญ่ ว่ามันบาดเจ็บไหม ตาของมันเป็นอะไรจากกระจกหรือเปล่า พร้อมกับบ่นคู่รักต่อกันอีกยกใหญ่ “พวกเราน่าจะเห็นตรงกันนะว่าเหตุการณ์นี้ ยีราฟคือผู้เสียหาย” . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากทางสวนสัตว์เปิด West Midland Safari Park ก็ได้ออกมาบอกถึงอาการของยีราฟตัวดังกล่าวว่า “หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเราได้เข้าไปตรวจเช็กสภาพของเจ้ายีราฟทันที…
-
จากเหตุดราม่า “สวิฟท์แดง” แช่ขวาไม่หลบรถฉุกเฉิน ส่งผลทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว….
ก่อนหน้านี้เกิดกระแสดราม่าเรื่องของรถ Swift สีแดง ที่ไม่ยอมเบี่ยงทางหลบรถฉุกเฉิน เกิดเป็นการโต้เถียงกันจากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับเหตุผลและความเหมาะสม อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์ บทสรุปดราม่า “สวิฟท์แดง” แช่ขวาไม่หลบรถฉุกเฉิน คนขับโต้กลับ “แซงซ้ายไปสิ!!” คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกถ่ายไว้ด้วยกล้องของรถฉุกเฉิน . จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 เพจเฟซบุ๊ก Red Skulll Uprising ได้เผยเหตุการณ์สุดสะเทือนใจว่า คนไข้ที่อยู่ในรถพยาบาลคันดังกล่าวนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว… โดยทางเพจชี้แจงว่า เป็นเพราะคนไข้มีอาการหนัก ตอนเกิดเหตุภายในคลิป รถพยาบาลก็ขับโยกไปมาเพื่อพยายามแซงรถยนต์คันข้างหน้าให้ได้ จนคนไข้แทบจะตกจากเตียง โพสต์จากเพจ . . ทางเพจยังบอกอีกว่า ถึงแม้ว่ารถ Swift คันดังกล่าวอาจมีส่วนเพียงน้อยนิดกับการเสียชีวิตของลุง แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้รู้ว่าผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงนั้น ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินมากขนาดไหน… โพสต์คู่กรณี ในตอนแรกหลังจากคลิปถูกปล่อยออกไป อีกโพสต์หนึ่งที่เข้ามาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณลุงด้วยนะครับ ที่มา: Red Skulll Uprising
-
แมวติดกับดักหมาป่า ถูกมนุษย์ช่วยจนรอดชีวิต เลยใช้หัวถูไถทุกคนเป็นการตอบแทน
สัตว์ป่าอย่างเช่นหมาป่าเป็นภัยใกล้ตัวที่มนุษย์โดยเฉพาะฟาร์มปศุสัตว์ต้องหลีกเลี่ยงและป้องกัน และวิธีหนึ่งที่พวกเขาใช้ป้องกันหมาป่าก็คือการวางกับดัก แต่เครื่องมือที่ไร้จิตใจนี้ย่อมทำร้ายทุกคนที่ย่างกรายเข้าไปใกล้ จนบางครั้งก็เกิดเหตุน่าเศร้าแบบครั้งนี้ Gisela และลูกสาวของเธอ Danaya Osei กำลังขับรถกลับบ้าน พวกเธอก็เห็นแมวสีดำขนฟูตัวหนึ่ง เลยจอดรถแวะไปเล่นกับมัน พวกเธอเรียกเจ้าเหมียวแต่มันก็ไม่ยอมขยับตัวเลย พอขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่ามันมีของบางอย่างอยู่ที่ขาหน้าข้างขวา Gisela คิดว่ามันเป็นงูก็เลยไม่ชอบแล้วเดินหนีออกไป แต่โชคดีที่ Danaya รั้งเธอเอาไว้ทันแล้วบอกเธอว่านั่นมันเป็นกับดักต่างหาก เจ้าเหมียวกำลังบาดเจ็บอยู่! แมวเหมียวติดกับดัก บาดเจ็บหนักเลย ทันทีที่รู้ว่ามันติดกับดัก Gisela ก็รีบโทรหาตำรวจและหน่วยกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือ ระหว่างนั้นพวกเธอก็นั่งเป็นกำลังใจให้กับมัน 25 นาทีที่หน่วยกู้ภัยเดินทางมานั้นสำหรับเธอสองคนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากเลย แต่ในที่สุดหน่วยกู้ภัยก็ช่วยมันแล้วพาไปหาสัตวแพทย์ได้ทันเวลา เจ้าเหมียวโชคดีมากที่ Danaya เห็นกับดักแล้วช่วยมันไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นมันอาจจะไม่มีชีวิตรอดแล้วก็ได้ แต่ก็น่าเสียดายที่มันต้องเสียขาหน้าที่ติดกับดักไป ทำให้มันต้องใช้ชีวิตเป็นแมว 3 ขา โดนตัดขาทิ้ง แต่แค่รอดมาได้ก็บุญแล้ว หลังจากนั้น Gisela กับ Danaya ก็ตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Bear มันอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ City of Great Falls Animal Shelter เพื่อรอหาบ้านใหม่ต่อไป แถมมันยังได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรต่อต้านการใช้กับดัก Trap Free Montana…
-
หนุ่มขับรถชนแล้วหนีถึงกับสลด พบว่า “ผู้หญิงที่เจ็บ” และ “เด็กที่ตาย” คือลูกเมียตัวเอง
ทุกคนทราบกันดีว่าเราไม่ควรขับขี่ขณะที่กำลังมึนเมา เพราะมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ และมันอาจเลวร้ายมากกว่านั้นหากเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคือคนในครอบครัวของเราเอง เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานข่าวของชายแซ่ Zhang ที่ได้ออกไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านญาติในเมือง Zibo มณฑลซานตง ประเทศจีน พร้อมกับพาลูกชายและภรรยาไปด้วย ภาพของชายแซ่ Zhang ชายหนุ่มนั้นเลือกที่จะอยู่สังสรรค์ต่อ ในขณะที่ภรรยาตัดสินใจจะพาลูกกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน เธอจึงพาลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากลับ ผ่านทางถนนที่มืดมิดในช่วงกลางดึก จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30น. ตามเวลาท้องถิ่น แม่ที่กำลังพาลูกชายกลับบ้านอยู่นั้นก็ถูกรถยนต์ชนเข้าอย่างจัง ก่อนที่รถคันก่อเหตุจะขับหนีไป ท่ามกลางสายตาของพยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายราย ชาวบ้านจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวแม่ลูกทั้งสองคนส่งโรงพยาบาล ผู้เป็นแม่บาดเจ็บสาหัสต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ฝั่งลูกชายนั้นกลับต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า สภาพของรถจักรยานยนต์ที่ถูกชน รองเท้าของเด็กชายที่ลอยกระเด็นไป เมื่อตำรวจทำการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดและพิจารณาคำให้การของพยาน จึงพบว่าแท้จริงแล้วคนที่ขับรถชนแล้วหนีในครั้งนี้คือหนุ่มแซ่ Zhang สามีของเหยื่อที่บาดเจ็บและพ่อของเด็กที่เสียชีวิตไป ตำรวจจึงจับกุมตัวชายคนนี้มาดำเนินคดี โดยเมื่อพาเขาไปพบกับผู้ประสบเหตุทั้งสองรายที่โรงพยาบาล จึงทำให้ชายหนุ่มพบว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกเขาชนแล้วหนีนั้นคือภรรยาและลูกชายของตัวเอง เขาถึงกับร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่กับการจากไปของลูก ชายหนุ่มเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เขาให้การกับตำรวจว่าตัวเองนั้นมีอาการมึนเมาเป็นอย่างมาก และขับรถตู้สีเงินกลับบ้านเพื่อไปหาลูกเมีย แล้วระหว่างทางก็ได้ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะขับหนีไปโดยไม่รู้ว่าเหยื่อทั้งสองนั้นคือคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด…
-
ชายตาบอดถึงกับน้ำตาซึม หลังเขาและสุนัขนำทางถูกปฏิเสธ ไม่ให้นั่งที่สำหรับคนพิการ
ความเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากว่ามันได้กลายเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นเหมือนอย่างที่ชายคนนี้ต้องเจอด้วยแล้ว ผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้ใครบางคนถึงกับหมดกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปเลยก็ได้ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนช่วงปลายเดือนมีนาคม 2018 ในประเทศอังกฤษ เมื่อชายตาบอดวัย 37 ปีที่ชื่อว่า Amit Patel และ Kika น้องหมาที่คอยนำทางให้กับเขา ทั้งสองได้ไปใช้บริการของขบวนรถไฟ Southeastern ในตอนที่มีผู้โดยสารอยู่เป็นจำนวนมาก Amit ชายตาบอด และ Kika สุนัขนำทางของเขา แน่นอนว่าด้วยความที่เขาเป็นคนตาบอดมาตั้งแต่ 5 ปีก่อนเพราะอาการตกเลือดบริเวณด้านหลังดวงตา เขาจึงตั้งใจว่าจะเข้าไปนั่งขบวนสำหรับคนพิการโดยมีน้องหมาเป็นคนนำทางให้ แต่แล้วก็ต้องรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองได้เจอ เมื่อผู้โดยสารในขบวนนั้นไม่ยอมลุกให้เขานั่งเลยแม้แต่คนเดียว Amit รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เขานำเรื่องราวดังกล่าวกลับไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง พร้อมกับเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ผมรู้สึกว่าพวกเขาเห็นแก่ตัวเหลือเกิน ทุกคนทำเป็นเหมือนไม่เห็นหรือไม่ได้ยินในตอนที่ผมถามว่ามีที่นั่งตรงไหนว่างบ้างมั้ย” กล้องที่ติดอยู่เผยให้เห็นว่า ไม่มีใครยอมลุกให้กับเขาเลย ในตอนนั้นชายตาบอดถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา พร้อมกับในมือที่ถือของและสายจูงน้องหมานำทางอยู่ เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนที่เขาออกคำสั่งให้เจ้า Kika ไปหาที่นั่งให้กับเขา เจ้าหมากลับไม่อาจทำอย่างนั้นได้ เพราะไม่มีใครยอมลุกให้เขานั่งเลย วันนั้น Amit รู้สึกแย่มากๆ ฝนก็ตกทำให้พื้นในรถไฟเปียกและลื่นไปหมด เจ้าหมาคอยที่จะไถลไปตลอดเวลา แต่มันก็พยายามที่จะดูแลเขาให้ดีที่สุด มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ค่า…
-
เจ้าหมาตัวน้อยถูกเจ้าของเก่าจับยัดใส่ถุงแล้วโยนทิ้ง โชคดีมีคนมาช่วยไว้ทัน
สัตว์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์เรา พวกมันเองก็อยากใช้ชีวิตที่มีความสุข เราควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วคิดถึงความรู้สึกของมันบ้าง ไม่ควรใช้มันเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือทำเหมือนมันเป็นสิ่งของที่ทิ้งขว้างได้ เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา Wade และ Mandi Shapp พบวัตถุหน้าตาประหลาดอยู่ตรงข้างทาง พวกเขาก็เลยจอดรถแล้วลงไปดูมันใกล้ๆ เมื่อเห็นว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกมัดเอาไว้ในถุงพวกเขาก็ตกใจมากเลยทีเดียว เจ้าหมาถูกเจ้าของเก่ามัดใส่ถุงแล้วเอามาทิ้งไว้ เจ้าหมามีเพียงส่วนหัวที่โผล่ออกมาจากถุง มันไม่ขยับหรือพยายามหนีออกมาเลยซึ่งถือว่าแปลกมาก เมื่อดูใกล้ๆ อีกทีก็เลยเห็นว่าอีกปลายหนึ่งของถุงมีเชือกมัดไว้แน่นจนเจ้าหมาไม่สามารถขยับตัวได้เลย พวกเขาเลยใช้กุญแจรถกรีดถุงใบนั้นออกแล้วปลดปล่อยเจ้าหมาเป็นอิสระ มันมีกลิ่นตัวแรงมากเพราะว่าเหม็นอับฉี่และอึของตัวเอง มันต้องถูกมัดเอาไว้นานแล้วแน่ๆ นอกจากนี้ดูเหมือนว่ามันจะเจ็บขาด้วย คู่รักเลยคิดว่ามันคงโดนโยนลงมาจากรถ เห็นอาการของมันแล้วพวกเขาก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่ออาบน้ำและตรวจร่างกาย มันน่าจะถูกทิ้งไว้สักระยะหนึ่งแล้ว คู่รักรีบปล่อยมันออกมาแล้วพาไปหาหมอทันที เจ้าหมามีอาการตื่นกลัวในตอนแรก แต่หลังจากได้คู่รักช่วยอาบน้ำจนตัวหอมสะอาดแล้ว มันก็ไว้ใจพวกเขา มันคงรับรู้ได้ว่าทั้ง 2 คนพยายามจะช่วยเหลือมัน จากนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า Bubba พอสัตวแพทย์ได้ตรวจมันแล้ว เขาก็แจ้งเรื่องที่น่าตกใจว่าขาของมันไม่ได้เจ็บเพราะโดนโยนอย่างที่คิด แต่เป็นแผลจากการถูกปืนยิงต่างหาก พวกเขาจึงสรุปได้ว่ามันถูกเจ้าของยิงทิ้ง แต่พอไม่ตายก็เลยเอามัดใส่ถุงแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเอง แม้จะน่าโมโหเจ้าของเก่าของมัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับการรักษามันก่อนเป็นอันดับแรก เจ้าหมาได้รับการรักษาทุกอย่างที่จำเป็น นอกจากนี้ยังได้รับวัคซีนเพิ่มเติมด้วย สัตวแพทย์บอกว่ามันมีแผลถูกยิงที่ขาด้วย ดีที่ทั้งคู่ไปช่วยไว้ได้ทัน ตอนนี้เจ้าหมาได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถรับ…
-
หญิงสาวมอบความรักให้กับหมาปั๊ก หวังให้มันลืมอดีตอันขมขื่นและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ความรักและความห่วงใย จะช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ … ในวันธรรมดาวันหนึ่งบริเวณถนนในเขตมิดเดิ้ลเซ็กส์ ประเทศอังกฤษ มีคนเห็นว่ารถคันหนึ่งเปิดหน้าต่างแล้วโยนสุนัขสีดำตัวน้อยออกมาอย่างไร้ความปรานี ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบเอาตัวมันไปหาสัตวแพทย์ และรีบติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ทันที เจ้าหมาได้รับชื่อว่า Peggy สัตวแพทย์ตรวจดูมันอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงแจ้งว่ามันไม่ได้รับบาดแผลใดๆ ทว่าสภาพร่างกายนั้นย่ำแย่จนน่าเป็นห่วง มันมีร่างกายที่ผอมกะหร่อง ขนร่วงหายไปเป็นจุดๆ และผ่านการคลอดลูกมามากจนอาจจะคลอดลูกอีกไม่ไหวแล้ว Peggy ที่น่าสงสารถูกโยนทิ้งออกมาจากรถ Liz Wood ผู้รักษาการผู้จัดการของ RSPCA บอกว่า “มันดูหวาดกลัวและเศร้าสร้อยมาก ฉันคิดว่ามันน่าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการผลิตลูกหมา เพื่อเอาไปขายต่อเป็นเงิน … แต่พอมันไม่สามารถคลอดลูกได้อีกต่อไปก็ถูกทิ้งขว้างราวกับเป็นแค่ของใช้อันหนึ่ง คนอะไรช่างใจร้ายและไร้สำนึกถึงขนาดทำกับเจ้าหมาแบบนี้ได้” มันถูกใช้เป็นเครื่องมือผลิตลูกหมาเพื่อหาเงิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้า Peggy นั้นต้องการความรักและกำลังใจในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ Wood ก็เลยอาสาที่จะรับมันไปดูแลเป็นการชั่วคราวด้วยตัวเอง ในตอนแรกเจ้าปั๊กก็หวาดกลัวเธออยู่เหมือนกัน แต่พอเธอแสดงให้เห็นว่าเธอมีแต่ความรักความห่วงใยให้ มันก็เริ่มเปิดใจให้กับหญิงสาว นอกจากนี้มันยังได้รับความรักจากเพื่อนสัตว์ตัวอื่นที่อยู่บ้านของเธอด้วย เจ้าหมาเริ่มไปไหนมาไหนกับ Wood บ่อยขึ้น ทั้งติดไปทำงานด้วยกันในตอนเช้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ และกลับมานอนด้วยกันที่บ้านทุกคน จนในที่สุดมันก็ไว้ใจมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง Wood อยากใช้มอบความรักให้มัน เพื่อให้มันลืมความเจ็บปวดในอดีตเลยรับมันมาดูแล Wood เล่าว่า “เราเริ่มเห็นมุมน่ารักของมันบ้างแล้ว…
-
แม่โวย…พาลูกแฝดสองคนไป ‘ดูดเสลด’ พอไปรับ เบ้าตาช้ำ เส้นเลือดในตาแตก
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่กำลังเดือดในโลกโซเชียลเลยทีเดียว เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวการพาลูกแฝดสองคนไปดูดเสลดเพราะป่วยเป็นโรคตติดเชื้อไวรัสลงลำคอ แต่กลายเป็นว่าพอกลับมารับหน้าตาของลูกทั้งสองคนบอบช้ำไปหมด แถมเส้นเลือดฝอยในตาก็แตกจนตากลายเป็นสีแดง เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งคู่ยังได้รับบาดแผลในจิตใจ เวลาที่บอกว่าจะพาไปดูดเสลดเมื่อไหร่ ก็จะร้องไห้ แสดงอาการให้เห็นว่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Hhow Angkana ได้โพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าว พร้อมแคปชั่นดังนี้ “กรูควรจะทำยังไงกับอิหมอที่ดูดเสลดลูกเมิฟดี! นี่แค่ดูดเสลดนะยั่งกะโดนซ้อมกลับมา ลูกเมิฟแฝดเป็นไวรัสลงหลอดลมและกล่องเสียง มีนักกายภาพมาดูดเสลดให้ 2 คน คนแรกเป็นคนดูมีอายุดูใจดีพูดจาดี เด็กอ้วกก็คือหยุดทำก่อน คือรู้ว่าเด็กรับได้แค่ไหน ดูดเสลดให้ลูกเมิฟมา 2-3 รอบแล้ว คนที่สองเป็นสาววัยรุ่น นางคนนี้แหละที่ทำให้ลูกเมิฟหน้าตาแหกขนาดนี้ คือถ้าเด็กมันร้องหรือเกร็งมาก ก็ควรจะผ่อนหนักผ่อนเบารึป่าวคะ คุณจะจับล็อคแล้วดูดเสลด จนหมดไส้หมดพุงเลยรึไง นี่เด็กแค่ 3 ขวบเอง ทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้ ตัวแม่โดนไล่ออกจากห้อง ยิ่งอยู่เด็กจะยิ่งไม่ยอม แม่เข้าใจค่ะ เลยไปยืนหน้าห้องแทน ยืนหน้าห้องก็ไม่ได้อีก โดนไล่กลับให้ไปรอในห้องพัก คือพูดจาหมาไม่แดกด้วยคะ พอดูดคนแรกเสร็จเอาคิระมาส่ง เราก็ตกใจแล้วนะ คิระตาขวาแตกเป็นห้อเลือด เราก็ยังคิดบวกนะว่าวันนี้ลูกคงดิ้นมาก แต่ทำไมถึงร้องไห้ตาแตกขนาดนี้…
-
สุนัขผู้ซื่อสัตย์ นั่งรอเจ้านายหน้าโรงพยาบาลไม่ยอมไปไหน แม้เขาจะจากไปแล้ว 4 เดือน
ความซื่อสัตย์ของสุนัขที่มีต่อมนุษย์เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม พวกมันรักเจ้าของของตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้พวกมันไม่อาจลืมคนที่เคยใช้เวลาร่วมกันมาได้ง่ายๆ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนมันก็จะรอการกลับมาของเจ้าของอยู่อย่างนั้น เหมือนอย่างเจ้าสุนัขในรัฐ Novo Horizonte ประเทศบราซิล ที่แม้ว่าเจ้าของจะตายจากไปนานถึง 4 เดือนแล้ว แต่มันก็ยังรออยู่หน้าโรงพยาบาล ให้เขาเดินกลับออกมากอดมันเหมือนเคย สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของชายไร้บ้านวัย 59 ปี เขาถูกส่งตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหลังจากถูกมีดแทง เจ้าหมาเองก็วิ่งตามรถพยาบาลมาจนถึงหน้าโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน มันแค่นอนรอเจ้าของอยู่ตรงพรมที่หน้าประตู แต่บาดแผลของชายไร้บ้านสาหัสมาก แม้ว่าแพทย์จะพยายามรักษาเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ เจ้าหมาที่รออยู่ข้างนอกคงไม่รู้หรอกว่าเจ้านายของตัวเองได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนคืนมาแล้ว หลังจากนั้นทุกวันมันก็เลยมารออยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล โดยหวังว่าเจ้าของจะกลับออกมาหามันสักที โชคดีที่นักกฎหมาย Cristine Sardella รู้เรื่องเข้า เธอเกิดความประทับใจในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของมันกับเจ้าของ ก็เลยช่วยหาบ้านใหม่ให้กับมัน เจ้าหมาจะได้ไม่ต้องรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ แต่กว่าจะช่วยหาบ้านให้มันได้ เจ้าหมาก็รออยู่ที่เดิมนานถึง 4 เดือนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหมาก็ไม่ยอมอยู่กับครอบครัวใหม่ ทันทีที่มันไปถึงบ้านใหม่ มันก็วิ่งจากตรงนั้นกลับมาที่หน้าโรงพยาบาลเหมือนเดิม แม้ว่าจากบ้านใหม่ไปโรงพยาบาลจะเป็นระยะทางกว่า 3 ไมล์ (เกือบ 5 กิโลเมตร) ก็ตาม มันคงซื่อสัตย์และรักเจ้าของคนเก่ามากจนไม่สามารถลืมเขาแล้วไปเริ่มต้นชีวิตกับครอบครัวใหม่ได้ หรือไม่ก็อาจจะยังมีความหวังว่าเจ้านายคนเก่าจะกลับมาอยู่ เราก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหมาจะทำใจได้แล้วมีชีวิตใหม่โดยเร็ว…
-
รวม 25 สุดยอดบุคคลดวงซวยตัวอย่าง ชวนหัวเราะน้ำตาไหล มีใครให้เยอะกว่านี้อีกไหม?
ความผิดพลาดบางอย่าง อุบัติเหตุ หรือสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้เลวร้ายขนาดนี้ เรามักจะเรียกสถานการณ์เรานั้นว่า “ความซวย” และแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นกับใครหรือเมื่อไหร่ก็ได้ และเราอาจเคยเจอความซวยกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ขอบอกเลยว่าสิ่งที่เราเจอนั้นมันอาจเทียบไม่ได้เลยกับพวกเขาเหล่านี้ มันช่างดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและย่ำแย่เสียเหลือเกิน และนี่ก็คือ 25 สุดยอดคนดวงซวย สิ่งที่พวกเขาเจอมันเป็นอย่างไรกันบ้าง เราลองไปดูกันเลย คิดไม่ออกเลยว่าควรจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี ความซวยของช่างซ่อมกระเบื้อง ที่ดันตกลงมาในหลังคาบ้านของลูกค้าตัวเอง เป็นบทเรียนว่าคราวหลังอย่าให้สามีทำอาหาร เพราะเขาอาจเอาเขียงไปวางไว้บนเตาแก๊สก็ได้ อย่างนี้ไม่เรียกว่าความบังเอิญนะ เขาเรียกว่าความซวยขนานแท้เลย เจ้าของห้องคงต้องเจอกับเวลากลางวันอยู่ตลอด เจ้าตัวนี้พุ่งผ่านกระจกเข้ามาถึง 2 บาน ก่อนที่จะทำลายห้องนอนของเขา พร้อมทั้งอึเรี่ยราดไปทั่วห้อง ปิดท้ายด้วยการหันมาส่งรอยยิ้มอย่างหาญกล้า เพราะมันเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครอง เขาจึงทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ใครจะไปคิดว่าวันดีคืนดี กาวติดประตูรถมันจะเสื่อมซะอย่างงั้น โชคร้ายหรือเปล่าไม่รู้ แต่จู่ๆ ก็มีเม่นตกลงมากลางหัว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ กางเต้นท์เสร็จสรรพ ตั้งใจจะกลับมาพักผ่อน แต่แล้ว… ทีวีติดผนัง ติดจริงๆ นะ ขนาดล้มลงมามันก็ยังติดกันอยู่เลย…
-
เจ้าของรถเปิดประตูรถดู จ๊ะเอ๋กับ “หมาที่ถูกทิ้ง” นอนขดตัวหวาดกลัว ต้องช่วยแล้วล่ะ!!
การนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยให้มันต้องออกมาใช้ชีวิตอยู่ตามท้องถนนอย่างน่าสงสาร ยังคงเป็นเรื่องที่เราสามารถพบเห็นกันได้ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลกก็ตาม เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในประเทศสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ The Dodo ได้รายงานถึงเรื่องราวของหญิงสาวชาวสกอตแลนด์ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างบ้านในเช้าวันหนึ่ง ทำให้เธอเห็นว่ามีรถขับเข้ามาจอดอยู่หน้ารถของสามีเธอ ในตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเจ้าของรถคันนั้นเดินลงมา ก่อนที่จะเอาอะไรซักอย่างมาใส่ไว้ตรงเบาะหน้าของรถสามีเธอแล้วก็ขับออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวจึงรีบออกไปดูว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่ แล้วเธอก็เจอเข้ากับเจ้าหมาน้อยตัวซูบผอมนอนอยู่ตรงเบาะรถพร้อมกับสายตาที่น่าสงสาร รอคอยการช่วยเหลือ ด้วยท่าทางที่หวาดกลัวและเดียวดาย น้องหมานอนขดตัวในสภาพที่อิดโรย เธอรู้สึกไม่พอใจคนที่นำน้องหมามาปล่อยเอาไว้แบบนี้อย่างมาก แต่เธอต้องคิดหาทางแก้สถานการณ์ตรงนี้ก่อน เธอจึงโทรขอความช่วยเหลือจากกลุ่มคุ้มครองสัตว์ในสกอตแลนด์ (Scottish SPCA) เจ้าหน้าที่ตรงเข้ามายังจุดเกิดเหตุเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งในตอนนั้น Louise Seddon หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของกลุ่มก็บอกว่า “เจ้าหมาตัวผู้ตัวนี้เริ่มอารมณ์ดีอีกครั้งหนึ่งแล้ว” เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและช่วยเหลือเบื้องต้น จนทำให้มันเริ่มกลับมามีชีวิตชีวา จากนั้นพวกเขาก็นำมันกลับไปยังศูนย์พักอาศัยในเมือง Lanarkshire จากนั้นจึงตั้งชื่อให้กับเจ้าหมาน้อยว่า Kenny Kenny กลายเป็นที่รักของทุกคนอย่างรวดเร็ว เพราะมันเป็นน้องหมาที่น่ารักเอามากมาย เข้ามาเล่นคลอเคลียพวกเขาอยู่เสมอ ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่า เจ้าของเก่าจะเอามันมาทิ้งได้ลงคอ ในตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงการสืบหาว่าคนที่นำมันมาปล่อยเป็นใคร โดยพวกเขากำลังพยายามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหวังว่าจะชี้ตัวคนก่อเหตุได้ในเร็ววัน ไม่อย่างนั้นอาจต้องมีน้องหมาที่น่าสงสารเพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้ หวังว่าจะไม่มีน้องหมาตัวไหนต้องมาเจอกับความโหดร้ายอะไรแบบนี้อีกนะ ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าหมาน้อยจะต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายขนาดไหนมาบ้าง…
-
ความสะเทือนใจของเจ้าหมา ในยามต้องพลัดพรากจาก “เจ้านายที่รักที่สุด” ไปตลอดกาล…
เราอาจเคยได้ยินว่าน้องหมามีความจงรักภักดีกับเจ้าของมันอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่ามันจะยังคงรอคอยเจ้าของที่มันรักให้กลับมาหาอยู่เสมอ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คือสิ่งที่จะสามารถช่วยยืนยันความคิดนั้นได้เป็นอย่างดี นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล เป็นความรักและความผูกพันกันของน้องหมา Belinha และ Telma Maria เจ้านายที่เปรียบเหมือนกับเพื่อนแท้ของมัน โดยทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานกว่า 4 ปี Maria และน้องหมา Belinha ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลา 4 ปี แต่แล้วเรื่องที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อ Maria ป่วยเป็นมะเร็ง จนทำให้เธอต้องอดทนต่อสู้กับโรคร้ายมานานหลายเดือน ซึ่งในระหว่างนั้น Belinha ก็ยังคอยอยู่กับเธอไม่ห่าง ราวกับเป็นพยาบาลประจำตัวของเธอ วันเวลาผ่านไป สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องจากโลกนี้ไปตอนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับทุกคนในครอบครัว รวมถึงหมาน้อยที่ยังคงรอคอยเธออยู่ สุขภาพร่างกายที่แย่ลงเรื่อยๆ ทำให้เธอต้องจากโลกนี้ไปในที่สุด Dionísio Neto ลูกชายของ Maria รู้ดีว่าเจ้าหมามีความสำคัญต่อแม่ของเขามากขนาดไหน เขาจึงเลือกที่จะพามันไปร่วมบอกลาผู้ตายในงานศพ ท่ามกลางเหล่าญาติสนิทมิตรสหาย ในวันนั้น Belinha ดูเศร้าโศกราวกับรู้ว่าทุกคนมาด้วยจุดประสงค์อะไร มันนั่งทำตาละห้อย เหมือนว่ากำลังเสียใจไม่ต่างกับคนอื่นๆ ทุกคนนั่งรออยู่ข้างนอก จนกระทั่งโลงศพของ Maria มาถึงที่งานก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับหลั่งน้ำตา…
-
นักเรียนญี่ปุ่นโอดหนัก เมื่อข้อสอบเอนท์ฯ ถามว่า ‘มูมิน’ มาจากไหน พลาดข้อเดียวชี้ชะตาเลยนะ…
ทุกครั้งที่เราพูดถึงจุดเด่นของประเทศญี่ปุ่นเราก็จะนึกถึงสิ่งต่างๆ มากมายทั้งวัฒนธรรม หนังผู้ใหญ่ เทคโนโลยี เกมและสิ่งสำคัญเลยคือ ‘อนิเมะ’ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้นั้นเรียกว่าแทบจะซึบซับเข้าไปอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนในญี่ปุ่นจะดูอนิเมะหรืออ่านการ์ตูน เพราะแต่ละคนนั้นก็ล้วนมีความสนใจที่แตกต่างกันออกไปซึ่งคิดดูแล้วมันก็ไม่ได้มีปัญหาจริงไหม ทว่ามันดันมีเนี่ยสิ!? เมื่อล่าสุดได้มีนักเรียนญี่ปุ่นจำนวนมากออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์สุดปวดตับที่พวกเขาต้องเจอสอบเอ็นทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยว่า พวกเขาจะต้องเจอกับข้อสอบสุดงงที่ประกอบด้วยรูปภาพของปีศาจอะไรก็ไม่รู้ รวมถึงภาษานอร์ดิกด้วย แต่ที่เงิบกว่าคือในข้อสอบดันมีคำถามที่ถามว่า ‘มูมิน’ นั้นพูดภาษาอะไรและมีต้นกำเนิดมาจากไหน นักเรียนทั้งหมดที่ได้ทำข้อสอบดังกล่าวก็เงิบกันไปยกใหญ่ เพราะนอกจากจะมีคนที่ไม่ค่อยอินกับการ์ตูนในญี่ปุ่นแล้ว นี่พวกเขายังต้องมาเจอกันการ์ตูนจากฟินแลนด์อีก ตายแน่งานนี้… (มูมิน เป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้่นโดย Tove Jansson ซึ่งเป็นชาวฟินแลนด์ โดยเริ่มแรกถูกสร้างออกมาเป็นหนังสือสำหรับเด็กจำนวน 9 เล่มด้วยกันจากนั้นจึงถูกไปทำเป็นอนิเมชั่น ซึ่งตัวมูมินนั้นเป็นโทรล แต่มีลักษณะคล้ายๆ กับ ฮิปโปโปเตมัส ส่วนภาษาที่ใช้นั้นต้นฉบับจะเป็นภาษาสวีดิช ) เรื่องดังกล่าวนั้นเหมือนจะเป็นเรื่องเล่าตลกขบขัน แต่เอาเข้าจริงมันกลับขำไม่ออกเลยเพราะว่ามันถือเป็นคะแนนที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้สอบเข้ามหาลัยได้ และเราลองคิดดูว่าเราต้องมาฝากชีวิตไว้กับคำตอบของตัวการ์ตูนที่หน้าตาเหมือนฮิปโปอย่างนั้นเหรอ ข่าวได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งเรื่องนี้ได้ร้อนไปถึง Yoshihide Suga เลขาธิการใหญ่ของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเขาก็ออกมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ผมรับรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว แต่รัฐก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะสามารถเข้าไปยุ่งอะไรกับข้อสอบได้” . . เมื่อเลขาธิการพูดมาแบบนี้…
-
เจ้าบูลล์ด็อกถูกทอดทิ้ง แถมเสียขนไปทั้งตัว แต่ความน่ารักของมัน ก็ชนะใจสาวคนหนึ่งได้
เราอาจเคยได้เห็นเรื่องราวของสุนัขจรจัดที่ถูกทิ้งกันมาบ้างไม่มากก็น้อย และนั่นก็คงเป็นสิ่งที่สามารถเรียกน้ำตาจากเหล่าคนที่รักน้องหมากันได้เป็นอย่างดี สำหรับเรื่องของเจ้าหมาตัวนี้เองก็อาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าตอนจบมันจะต้องทำให้คุณยิ้มได้อย่างแน่นอน นี่คือเรื่องราวของเจ้า Lilou สุนัขพันธุ์บูลล์ด็อกผสมที่ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ตอนที่มีอายุเพียงแค่ 7 เดือน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2015 Lilou น้องหมาสายพันธุ์บูลล์ด็อกผสมที่น่าสงสาร ในตอนนั้นร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผล อีกทั้งยังมีปัญหากับระบบทางเดินหายใจ ทำให้มันต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน ก่อนที่จะถูกส่งไปรับการรักษาที่เหมาะสมในศูนย์ช่วยเหลือสุนัข Northwest Dog Project (NWDP) เมือง Eugene รัฐออริกอน Emma Scott หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือดังกล่าว เล่าว่าในตอนนั้น Lilou ตื่นกลัวผู้คนและทุกอย่างรอบตัว และไม่ร่าเริงเหมือนอย่างสุนัขทั่วไป ทุกๆ กระบวนการการรักษาจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป เธอบอกว่า “ทีมของฉัน และอาสาสมัครทุกๆ คนในศูนย์ช่วยเหลือใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการสร้างความมั่นใจให้กับมัน ในขณะที่ร่างกายของมันก็เริ่มฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ” กระบวนการการรักษาได้ทำให้ Lilou มีอาการขนร่วงเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มันเข้าสู่สถานะเปลือย หรือก็คือไม่มีขนใดๆ ห่อหุ้มร่างกายน้อยๆ ของมันอยู่เลย ทุกๆ วันมันจะต้องลงไปอาบน้ำยาฟื้นฟู มีการให้ยา…
-
สาวเอาหนูแฮมสเตอร์ที่เลี้ยงขึ้นเครื่องบินไม่ได้ งานนี้เลยกดมันลงชักโครกไปเลย!!
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นที่สนามบินบอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่ง ถูกทางสายการบิน Spirit Airlines ปฏิเสธการเดินทางของเจ้าหนูแฮมสเตอร์สัตว์เลี้ยงของเธอขึ้นเครื่องไปด้วย จึงทำให้หญิงสาวตัดสินใจทิ้งสัตว์เลี้ยงของเธอลงในชักโครก เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Belen Aldecosea เสียใจอย่างมากและกำลังที่จะพยายามฟ้องร้องสายการบินดังกล่าว “ฉันไม่มีทางเลือก” หญิงสาวให้สัมภาษณ์หลังจากที่เธอตัดสินใจฆ่าสัตว์เลี้ยงแสนรัก แทนการพลาดเที่ยวบินกลับ ฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา หญิงสาววัย 21 ปีบอกว่าเธอจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินถึง 2 ครั้งเพื่อนำใบรับรองแพทย์สำหรับสัตว์เลี้ยงของเธอ หลังจากที่พยายามถึง 2 ครั้ง ในที่สุด Belen ก็มั่นใจว่าเจ้าหนูน้อยของเธอสามารถบินกลับรัฐฟลอริดากับเธอได้ แต่ทว่าเมื่อเธอเดินทางไปถึงสนามบินดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของสายการบินกลับไม่อนุญาตให้เธอนำเจ้า Pebbles ขึ้นเครื่องไปกับเธอได้ หญิงสาวพยายามติดต่อกับทางสนามบินเพื่อหาทางแก้ปัญหา เธอบอกว่าได้พยายามติดต่อกับบริษัทรถเช่าทั้ง 6 แห่งเพื่อเช่ารถและพาเจ้าตัวเล็กของเธอไปด้วย แต่กลับไม่มีบริษัทไหนที่มีรถว่างเลย นอกจากนี้เธอยังได้ติดต่อไปยังทางบริษัทรถบัสอีกด้วย แต่การเดินทางด้วยรถโดยสารนั้นจะต้องใช้เวลามากถึง 1 วันเลยทีเดียว ซึ่งเธอจำเป็นต้องกลับบ้านอย่างเร่งด่วนเนื่องจากต้องรีบไปพบแพทย์ Belen ให้สัมภาษณ์ว่า ในระหว่างที่กำลังสับสนอยู่นั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ของสายการบินดังกล่าว ได้แนะนำให้เธอปล่อยเจ้าหนูตัวนั้นไปหรือไม่ก็ทิ้งมันลงในชักโครก และในระหว่างที่เครื่องบินกำลังจะเข้าเทียบท่า หญิงสาวจึงตัดสินใจหย่อนเจ้าหนูลงในชักโครกเนื่องจากเธอเกรงว่าถ้าหากปล่อยไว้ข้างนอกมันจะต้องอดอาหารและหนาวตายนอย่างทรมาน “ตอนนั้นมันดูกลัว และฉันก็กลัวมากด้วย หลังจากที่หย่อนมันลงไปฉันนั่งร้องไห้เสียใจอยู่นานกว่า 10 นาที” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ ขณะนี้หญิงสาวรายนี้กำลังพิจารณาที่จะฟ้องสายการบินดัง ในข้อหาที่กดดันให้เธอต้องฆ่าสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามทางด้านสายการบิน Spirit ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว…
-
ลูกสาวต้องไปเรียนมหาลัย กลัว “เจ้าหมา” จะเหงา คุณพ่อเลยอาสาดูแลให้เต็มที่!!
ถ้าคุณเป็นคนที่รักสุนัขมากๆ รักราวกับลูกแท้ๆ อยากจะดูแลมันตลอดเวลาไม่ห่างไปไหน จนกระทั่งวันหนึ่งคุณดันต้องย้ายไปอยู่อีกที่เพราะงานหรือเพราะเรียนต่อ ซึ่งคุณไม่สามารถจะพาสุนัขไปด้วยได้ คุณจะทำอย่างไร? Annie Shi หญิงสาวที่รักสุนัขเหมือนดวงใจอีกดวงก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน โดยเธอนั้นจะต้องย้ายไปอยู่ที่มหาลัย ซึ่งที่นั่นเธอไม่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปอยู่ด้วยได้ งานนี้เธอก็ได้แต่กังวลว่าเธอจะทำยังไงกับ Tara สุนัขหัวแก้วหัวแหวนของเธอ เพราะตลอดมาทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ จนกระทั่งถึงวันที่ Annie จะต้องไปจริงๆ เธอก็ยังคงทำใจไม่ได้และบอกให้พ่อแม่คอยส่งอัปเดตเกี่ยวเจ้า Tara มาให้เธออย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเจ้าตูบจะต้องเจอปัญหาใหญ่มาก นั่นก็คือ… มันมักจะมองหา Annie ตลอดเวลา และบ่อยครั้งมันก็จะเรียกพ่อแม่ของเธอให้ไปเปิดประตูห้องให้หน่อย เพื่อดูว่าเจ้านายของมันอยู่ในห้องหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นภาพที่ดูแล้วสะเทือนใจเจ้าของสุดๆ เธอยังเล่าอีกว่า Tara นั้นชอบที่จะนอนอยู่บนเตียงของเธอมากๆ แต่ในช่วงเวลาที่เธอไม่อยู่มันกลับไม่ยอมนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานๆ เลยถ้าไม่มีคนอยู่ ซึ่งในจังหวะนั้นเองยอดฮีโร่ของมันก็โผล่ออกมา เขาคนนั้นก็คือพ่อของ Annie นั่นเอง ดูสิ นอนเหงาเชียว ยอดฮีโร่ผู้มาช่วยเจ้า Tara คุณพ่อนั้นจะพยายามเอางานไปนั่งทำในห้องของ Annie เสมอ เพื่อให้เจ้า Tara นั้นรู้สึกว่ามันยังไม่ได้ถูกถอดทิ้งไปไหนเพียงแต่เจ้าของเดิมไม่อยู่เท่านั้น…
-
ตำรวจรวบตัวหนุ่มวัยรุ่น จากคลิปโยนลูกแมวลงทะเลสาบ หลังถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] การทารุณกรรมสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่อาจถูกยอมรับได้ในสังคม แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งนี้ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้แสดงความป่าเถื่อน โดยการโยนลูกแมวตัวน้อยลงไปในทะเลสาบ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวคือสิ่งที่เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปีมาแล้ว เผยให้เห็นภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นโยนลูกแมวตัวน้อยไปอย่างแรงจนทำให้มันตกลงไปในทะเลสาบ ตอนเริ่มคลิป คนที่กำลังถ่ายอยู่พูดว่า “ยินดีต้อนรับนะเจ้าพวกตูดหมึก และนี่คือ Felipe เจ้าเหมียวเหินฟ้า” ก่อนที่ชายในคลิปจะโยนแมวออกไป ลูกแมวลอยไปไกลและร่วงลงน้ำในที่สุด โดยไม่มีใครทราบว่ามันเป็นตายร้ายดีอย่างไรแล้ว แม้เวลาจะผ่านมานานเป็นปี แต่ในที่สุดช่วงต้นปี 2018 คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกนำมาแชร์ในโลกโซเชียลอีกครั้ง โดย Nicole Pinheiro หญิงสาวที่เป็นคนแชร์คลิปรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากหลังจากที่เธอได้เห็นภาพความน่าสงสารของเจ้าแมว Nicole บอกว่า “ฉันถึงกับจิตหลุดไปเลย ฉันเอาคลิปนี้ไปให้แม่ดู เธอถึงกับร้องไห้ออกมาและแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกของเรา” เธอยังพูดอีกว่า “ไม่เกี่ยวว่าเขาจะเล่นสนุกทั่วไป อยากหาอะไรมาอัปลงโซเชียลมีเดีย หรือไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้วโดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลเหล่านั้นเลย และมันยังคงไม่น่าให้อภัยไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เขาก็คือคนที่ทำในสิ่งที่ผิด” การรายงานข่าว และคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสขึ้นมา จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยด่วน จนกระทั่งตำรวจในเขต Stanislaus รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้สืบสาวไปเจอผู้กระทำผิดที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยม Patterson จากคลิปวิดีโอ…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังหนุ่มใช้แมวเป็นฟองน้ำ จุ่มน้ำแล้วเอาไปทำความสะอาดรถ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Metro ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอที่กำลังกลายเป็นกระแสในประเทศรัสเซีย ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังกลั่นแกล้งแมวจรจัด ด้วยการเอามันมาใช้แทนฟองน้ำล้างรถ คลิปของเจ้าเหมียวที่ถูกใช้แทนฟองน้ำล้างรถ <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span> จากการรายงานบอกว่าเจ้าแมวจรจัดตัวนี้ไปเดินอยู่บนกระโปรงหน้าของรถคันสีดำที่เห็นภายในคลิป ซึ่งจอดอยู่ในเมือง Krasnodar ทำให้ชายที่เป็นเจ้าของรถไม่พอใจและจับมันมาเล่นสนุก โดยการเอามันจุ่มลงไปในน้ำแล้วใช้ล้างรถของตัวเอง เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายเก็บไว้โดยเพื่อนของเขาที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน เพราะตลกกับคำพูดของเพื่อนที่กำลังใช้แมวล้างรถที่บอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล้างไฟหน้าเลย” พวกเขาได้นำคลิปวิดีโอนี้โพสต์ลงไปในโลกโซเชียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ชาวเน็ตบางคนถึงกับพยายามโทรแจ้งตำรวจ และนั่นจึงทำให้ชายทั้งสองคนยอมลบคลิปออกไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต พร้อมกับความคิดเห็นที่ไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำ Ashlea Wolff “น่าเศร้าเสียจริงที่ต้องมาเห็นคนให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าสิ่งมีชีวิต หวังว่าพวกเขาจะได้ชดใช้สิ่งที่ทำอยู่ในคุกเข้าซักวัน นั่นคือโทษที่เบาที่สุดแล้วที่เขาควรได้รับ” Zoe Ann “เอาจริงๆ ฉันเป็นคนเกลียดแมวนะ แต่ฉันก็ไม่มานั่งทำร้ายมันอย่างป่าเถื่อนแบบนี้หรอก พวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป” Chris Lane “ชายใจทรามที่มัวแต่ยืนถ่ายวิดีโอก็สมควรถูกจับเหมือนกัน เพราะความเลวร้ายแบบนี้ไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัยใดๆ…
-
น้องหมาน้อยน่าสงสารถูกมัดติดกับที่ทิ้งขยะไว้เพียงลำพัง เพื่อจะปล่อยให้มันตาย
เราอาจเคยเห็นน้องหมาถูกทิ้งให้ต้องออกมาเร่ร่อนอยู่ตามข้างถนน แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือการที่เอาน้องหมาไปผูกไว้ในที่ลับตาคนเพื่อปล่อยให้มันหิวตาย เหมือนอย่างสิ่งที่เจ้าหมาตัวนี้ต้องเจอนับว่าเป็นความโหดร้ายอย่างมาก นี่คือเรื่องราวของเจ้า Charlie สุนัขสายพันธุ์พิทบูลผสมวัย 2 ปี มันถูกจับมัดติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้และอาจจะต้องอดอาหารตายอยู่ตรงนั้นไปแล้ว แต่โชคดีที่มีคนใจดีสองคนบังเอิญไปเห็นมันเข้าและรีบพาตัวส่งโรงพยาบาล สภาพของ Charlie ถูกผูกติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะ มันถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสัตว์ประจำเมือง สัตวแพทย์จึงทำการตรวจเช็กรอยแผลบนใบหน้าที่เกิดจากการถูกตีของมันดู และสิ่งที่พบก็ทำให้รู้ว่ามันมีอาการบาดเจ็บมากกว่าที่คิด Adria Rebbecchi ผู้อำนวยการกลุ่มดูแลโรงพยาบาลสัตว์บอกว่า “เรายกกรามของมันขึ้นมาพบว่ามีการติดเชื้ออยู่บริเวณของแก้มและริมฝีปาก อีกทั้งยังมีหนอนชอนไชอยู่เต็มไปหมด อาการบาดเจ็บรุนแรงซะจนมันไม่อยากที่จะขยับไปไหนเลย” แพทย์ทุกคนรีบพาตัวเจ้าหมาเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาการติดเชื้อของมันไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือเจ้าหมาอย่างเต็มที่ แม้แต่พ่อของ Adria ที่ตัดสินใจรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของมันทั้งหมด เนื้อเยื่อบริเวณแก้มของ Charlie มีอาการติดเชื้ออย่างหนัก ทำให้แพทย์จำเป็นต้องตัดส่วนนั้นออกไป อีกทั้งพวกเขายังต้องทำในสิ่งที่โหดร้ายแต่จำเป็น โดยต้องผ่าตัดน้องหมาทุกๆ อาทิตย์ เพื่อช่วยให้มันกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม อาการบาดเจ็บของ Charlie ทำให้มันกินอะไรได้ยาก เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการให้อาหารมันเล็กๆ น้อยๆ แต่หลายๆ มื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหมาจะสามารถฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม หลังจากที่อาการของมันเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นที่รักของทุกคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
เจ้าหมาเกือบตายหลังเจ้าของย้อมสีขนมันให้เป็นสีม่วง โชคดีที่ได้รับการรักษาทันจนรอดมาได้
หลายๆ คนอาจรู้สึกไม่พอใจกับสีผมเดิมของตัวเอง จึงใช้น้ำยาย้อมผมเปลี่ยนสีไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่สิ่งนั้นไม่สามารถใช้เพื่อการเปลี่ยนสีขนของน้องหมาเราได้ เพราะสิ่งที่พวกมันต้องเจอกับการถูกย้อมสีไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย เหมือนอย่างน้องหมาตัวนี้ที่ชื่อว่า Violet เรื่องราวของน้องหมาน้อยตัวนี้ถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pinellas County Animal Services จากรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2018 Violet เจ้าหมาที่ถูกย้อมเป็นสีม่วง Violet นั้นถูกเจอตัวเมื่อปีก่อน ในสภาพที่อิดโรย ร่อแร่ และมีบาดแผลไปทั่วทั้งตัว หลังจากที่มันถูกเจ้าของเก่าใช้น้ำยาสารเคมีสำหรับย้อมสีผมมาย้อมสีขนของมัน ก่อนที่จะนำมันมาปล่อยไว้ให้กลายเป็นหมาจรจัด เจ้าหมามีน้ำหนักตัวแค่ราวๆ 2 กิโลกรัม ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยแผลไหม้จากสารเคมี และดวงตาของมันข้างหนึ่งก็มีอาการบวมจนแทบจะลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ทีมช่วยเหลือที่มาเห็นสภาพของมันในตอนนั้นก็กลัวว่าเจ้าหมาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดผ่านพ้นคืนนั้นไปได้ เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงที่คอยดูแลเจ้าหมาเล่าว่า “เราทำทุกวิถีทางในการรักษามัน ทั้งให้ยาและอาบน้ำเจ้าหมาอย่างนุ่มนวลเพื่อล้างเอาสารเคมีย้อมผมออกไปเท่าที่จะทำได้ แล้วเราจึงพันผ้าพันแผลเอาไว้รอบๆ บาดแผลเหล่านั้น หลังจากนั้นสิ่งที่เราทำได้คือฝากเอาไว้กับสัตวแพทย์ รอดูอาการของมันกันต่อไป” เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อเจ้าหมาสามารถรอดพ้นค่ำคืนนั้นมาได้และเริ่มจุดประกายความหวังให้กับทุกคนที่ดูแลมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงทำได้เพียงนอนนิ่งเพราะร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสารเคมีที่รุนแรง ทางทีมช่วยเหลือตัดสินใจโกนขนของน้องหมาออก ทำให้พวกเธอพบว่าความรุนแรงของสิ่งที่เจ้าหมาต้องเจอนั้นมีมากกว่าที่คิดเอาไว้ ผิวหนังรอบๆ มีการหลุดลอกออกมาเป็นคราบ เห็นแล้วก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เจ้าหมาน้อยต้องเจอ แม้ว่าบาดแผลจะสาหัสมากเพียงใด แต่ Violet…
-
หนุ่มปีนเขา ดันเจอ ‘แพะภูเขา’ ติดในซอกเขา งานนี้ต้องช่วยจากเขา แพะบอก ‘อย่าจับเขา!!’
ชีวิตคนเรานั้นมักจะเจอเรื่องไม่คาดคิดเสมอ อย่างเช่นการออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แล้วเจอเข้ากับคนหรีอสัตว์ที่กำลังเดือดร้อน แน่นอนว่าด้วยจิตวิญญานแห่งคนดี คนเราก็มักจะยืนมือเข้าไปช่วยอยู่เสมอ เช่นเดียวกับผองเพื่อนกลุ่มนี้ พวกเขานั้นชื่นชอบการเดินป่าและปีนเขากันมากๆ โดยล่าสุดพวกเขาได้ตัดสินใจไปปีนเขากันที่ทิวเขา Sierra de Guadarrama ใกล้ๆ เมืองมาดริด ประเทศสเปน แต่ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินชี่นกชมไม้อยู่นั้น พวกเขาก็ได้บังเอิญเจอแพะภูเขาตัวหนึ่ง ซึ่งมันดั๊นนน บังเอิญเอาตัวเองไปติดอยู่ในซอกเขาพอดี มันที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ แถมดูจะอารมณ์เสียมากๆ ที่ต้องมาติดอยู่แบบนี้ งานนี้กลุ่มนักเดินเขาของเราจึงต้องเริ่มภารกิจช่วยเหลือมันออกมา… ดูสิติดแหงกเลย แต่จะว่าไปถ้ามันไม่ติด มันก็จะตกลงไปยังพื้นข้างล่างที่ไม่รู้ว่าสูงแค่ไหน.. จะเรียกว่าโชคดีหรือร้ายดีนะ ดูสายตาของมันราวกับกำลังคิดว่า “อย่ามายุ่งเจ้ามนุษย์ อย่าจับเขาตรูด้วย!!” อะไรทำนองนี้เลย แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าแพะออกมาจนสำเร็จ ดีใจด้วยนะ แบ๊ะๆ เอ้า ปลอดภัยแล้วเจ้าแพะ ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว อย่าพลาดอีกนะ!! ที่มา boredpanda
-
เจ้าเสือน้อยถูกช่วยเหลือมาจากคณะละครสัตว์ในสภาพย่ำแย่ ในที่สุดก็ได้รับความรักเป็นครั้งแรก
เราอาจเคยได้ยินว่า หากเราได้รับความรักและการดูแลจากคนรอบข้างแล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตเราจะดีขึ้นไปเอง เหมือนอย่างลูกเสือตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ให้อยู่อย่างเดียวดาย จนกระทั่งมันได้รับความรักอันสวยงามจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถกลับมายืนขึ้นได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง นี่คือเรื่องราวของ Aasha ลูกเสือโคร่งเบงกอลวัย 9 เดือนที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ในเดือนมีนาคม 2011 ด้วยฝีมือของกรมการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบคณะละครสัตว์เคลื่อนที่ต่างๆ เจ้าเสือที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ คณะละครสัตว์เคลื่อนที่ที่เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ด้วยสภาพร่างกายอันย่ำแย่ของเจ้าเสือตัวนี้ มันจึงถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของ Vicky Keahey สัตวแพทย์ผู้ก่อตั้งกลุ่ม In-Syn Exotics ผู้คอยช่วยเหลือแมวยักษ์ทั้งหลายในรัฐเท็กซัส เมื่อ Vicky ได้เจอกับเจ้าเสือน้อยที่ถูกทอดทิ้งตัวนี้ เธอก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เพราะสภาพของ Aasha นั้นทรุดโทรมและย่ำแย่ ผิวของมันแตก คล้ำและแห้ง ขนของมันร่วงไปเป็นหย่อมๆ ซึ่งทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเสือกำลังติดเชื้อและเป็นกลากเกลื้อน Vicky หญิงสาวผู้คอยช่วยเหลือเสือเป็นจำนวนมาก เจ้าเสือมีอาการติดเชื้อจนต้องได้รับการดูแลที่เข้มงวด มันไม่ได้แค่ติดเชื้อ แต่เจ้าเสือตัวนี้ยังขาดสารอาหารอีกด้วย มันมีน้ำหนักเพียงแค่ 13 กิโลกรัม ซึ่งแท้จริงแล้วอายุขนาดนี้มันควรที่จะหนักราวๆ 54 กิโลกรัม เห็นได้ชัดเลยว่าก่อนที่เจ้าเสือจะได้มาเจอกับเธอ มันถูกเลี้ยงดูแบบผิดๆ…
-
น้องหงส์หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยพามันกลับไปให้ถึงบ้าน
เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นลงในเดือนธันวาคมแบบนี้ ทำให้สัตว์บางชนิดต้องย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว เพื่อหาสถานที่ที่เหมาะกับพวกมันมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหงส์อยู่ตัวหนึ่งที่เลือกสถานที่ได้ไม่เก่งเอาซะเลย เจ้าหงส์ตัวนี้หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร จนมาโผล่ที่ทะเลสาบ Finskoye บนเทือกเขาอัลไต ประเทศรัสเซีย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความหนาวเย็นอย่างมาก จนผิวน้ำจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง เจ้าหงส์ที่หลงฝูงมาซะไกล . แน่นอนว่าในอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียส แถมน้ำก็ยังกลายเป็นน้ำแข็งไปซะหมดแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเจ้าหงส์ซักเท่าไหร่ มันจึงป้วนเปี้ยนไปมาอย่างไร้ความหวัง โดดเดี่ยวเดียวดาย แถมยังถูกเหล่าสุนัขเจ้าถิ่นไล่อีกต่างหาก ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร โชคดีของมัน เมื่อพนักงานดับเพลิงในละแวกนั้นผ่านมาเจอเข้า จึงช่วยมันเอาไว้และตั้งชื่อให้มันว่า Lev (ในภาษารัสเซียแปลว่าสิงโต) ถึงแม้ว่ามันจะพยายามหนีในตอนแรกเพราะตื่นคน แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถจับมันได้สำเร็จ กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำการช่วยเหลือมันเอาไว้ . . . หลังจากนั้น พวกเขาจึงส่งมันให้กับเจ้าหน้าที่เขตสงวนธรรมชาติ Saylyugem ผู้ที่คอยพาเหล่าสัตว์ปีกหลงทางกลับไปหาเพื่อนๆ ของมันในสถานที่ที่เหมาะสม เมื่อพามันข้ามเทือกเขาอัลไตไปแล้ว วันที่ 22 ธันวาคม 2017 มันจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเหล่าหงส์จำนวนกว่า 350 ตัว ในทะเลสาบ Svetloe ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ และในพื้นที่ดังกล่าวมีการเพิ่มขึ้นของประชากรหงส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี…
-
ช่างภาพช่วยขับเน้นความสวยงามในสุนัข เพื่อให้คนเห็นและอยากรับพวกมันไปเลี้ยงมากขึ้น
ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ใกล้เข้ามา หลายๆ คนต้องการกลับบ้านเพื่อได้รับไออุ่นจากคนในครอบครัว น้องหมาในบ้านพัก Battersea ในประเทศอังกฤษก็เช่นกัน พวกมันยังคงรอคอยความหวังที่จะมีบ้านและครอบครัวที่รักมันในช่วงเวลานี้ และกลายเป็นผลงานของช่างภาพ Jack Taylor นี่คือส่วนหนึ่งของโครงการที่ชื่อว่า In From The Cold โดยภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Jack ผู้ต้องการสื่อให้ทุกคนตระหนักถึงน้องหมาที่ยังคงโดดเดี่ยวและรอคอยที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง Jasmine สุนัขสายพันธุ์ Dogue de Bordeaux วัย 11 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักแห่งนี้มา 37 วัน Thelma สายพันธุ์ ซาลูกิ อายุ 4 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 94 วัน Albert สายพันธุ์ Lurcher อายุ 1 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 93 วัน Becky Fisher ผู้จัดการฝ่ายสวัสดิการและการฟื้นฟูของบ้านพักดังกล่าว บอกว่า “พวกเราดูแลมันยังดีในช่วงเทศกาลเดือนธันวาคม…
-
ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย
ในเมือง Udaipur รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ชาวบ้านแถวนั้นบังเอิญไปเจอลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน พวกเขาจึงพยายามช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้และรีบติดต่อกลุ่ม Animal Aid ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง กลุ่มสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวจึงได้โพสต์วิดีโอการช่วยเหลือครั้งนี้เอาไว้ในยูทูบ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ทำให้เราได้เห็นการช่วยเหลือเจ้าหมาทั้งสามตั้งแต่ต้นจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันสามารถรอดชีวิตมาได้หรือไม่ ลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ชาวบ้านที่พบเห็นพยายามช่วยชีวิตพวกมัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องงัดบ่อน้ำมันดังกล่าวออกมาทั้งแถบ ความพยายามอย่างยากลำบาก เพื่อให้เจ้าหมาปลอดภัยมากที่สุด ปากล่างของน้องหมาตัวหนึ่งติดอยู่กับบ่อน้ำมัน ทำให้การจะช่วยมันออกมายิ่งยากมากกว่าเดิม เมื่อชาวบ้านสามารถดึงพวกมันออกมาได้แล้ว พวกเขาได้ส่งต่อให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลต่อ พวกเขาจำเป็นต้องให้น้ำดับกระหายน้องหมาผ่านเข็มฉีดยา และใช้พวกน้ำมันพืชในการทำให้เศษน้ำมันที่ติดตัวอยู่อ่อนลง พวกเขาทำอย่างนั้นอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อละลายความเหนียว จนกระทั่งสามารถล้างน้ำมันที่ติดตัวพวกมันออกมาได้มากพอสมควรแล้ว เจ้าหมาทั้งสามอยู่ในสภาพอิดโรย น้ำมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องอาบน้ำเจ้าหมาด้วยสบู่ นวดอยู่นานถึง 3 วัน สภาพร่างกายของมันยังคงย่ำแย่ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่ แต่ด้วยความรักและพลังใจของพวกมัน ก็สามารถช่วยให้กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้เจอแม่ด้วย…
-
ตำตรวจเร่งตามล่า หนุ่มญี่ปุ่นล่อเจ้าเหมียวออกมาข้างถนน ก่อนจะยิงกระหน่ำด้วยบีบีกัน…
การทารุณกรรมสัตว์ยังคงมีให้เห็นอยู่ในทุกๆ ที่ แม้จะมีกฎหมายออกมาปกป้องก็ไม่สามารถหยุดการกระทำของคนใจโหดที่ทำอย่างนั้นได้เลย อย่างชายคนนี้ที่ทำร้ายสัตว์อย่างโหดเหี้ยม ด้วยการล่อแมวด้วยอาหารก่อนที่จะยิงมันด้วยปืนบีบีกัน ความโหดร้ายนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 จากผู้ใช้ที่ชื่อว่า ryuki ผู้อาศัยอยู่ในเมือง Suminoe Ward จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เขาได้เจอกับบางสิ่งบางอย่างแปลกไปที่บริเวณหน้าบ้านของเขา ซึ่งเป็นจุดที่เจ้า Hideki แมวที่เลี้ยงไว้ชอบออกไปนอนเล่นบ่อยๆ เขาเริ่มสังเกตเห็นเศษขนมปังและกระสุนบีบีกันตกอยู่หน้าบ้านเขาบ่อยๆ ด้วยความสงสัยเขาจึงเช็คกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ทำให้เขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ชายคนหนึ่งขับผ่านหน้าบ้านของเขา และโยนขนมปังออกมาด้านนอกรถ เพื่อล่อความสนใจของเจ้า Hideki ที่นอนอยู่หน้าบ้าน เจ้าเหมียวเห็นเศษขนมปังจึงลุกเดินเข้าไปกินใกล้ๆ กับถนน แล้วชายคนนั้นก็วนรถกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่จะควักปืนบีบีกันออกมากระหน่ำยิงใส่เจ้าแมวผู้น่าสงสาร พฤติกรรมอันแสนทารุณนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้เลย โชคดีที่ในกล้องจับภาพของป้ายทะเบียนรถคันนั้นเอาไว้ได้ชัดแจ๋ว เมื่อได้เห็นเลขทะเบียนของคนก่อเหตุ เขาจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันทีเพื่อตามหาชายใจโหดคนนี้กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป และหลังจากนี้เจ้าเหมียวน้อยก็คงต้องเปลี่ยนไปนอนในบ้านแทนแล้ว คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกถ่ายโดยกล้องวงจรปิด (ใครดูไม่ได้ก็กดเข้าไปดูตรงนี้นะ Twitter) 家の前で飼っている猫がエアーガンで撃たれました。 動画でも分かる通り、パンを投げてそのまま一周して来て、次にエアーガンを手に持ち、車の窓越しから猫に撃ちました。 警察に連絡は入れてます。 住之江付近でこのナンバー見かけたら連絡お願いします。#拡散希望#RTお願いします pic.twitter.com/09riPjJfNt — ryuki (@suminoe42) November 24, 2017…
-
หญิงสาวประสบภาวะความจำเสื่อม หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้วคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี
หลายๆ คนอาจมีความคิดอยากย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง และคุณแม่ท่านนี้ก็กลับกลายเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ เพราะหลังจากที่เธอได้คลอดลูกคนที่สองออกมาเธอก็ดันคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปีซะงั้น!? นี่เป็นเรื่องราวของคุณแม่ Shannon Everett วัย 22 ปี อาศัยอยู่ในเมืองนิวพอร์ต ประเทศเวลส์ ที่ได้คลอดลูกคนที่สองออกมาในคืนวันที่ 30 กันยายน 2017 ก่อนที่หัวใจของเธอจะหยุดเต้นไปนานกว่า 68 นาทีและสลบไปนานกว่า 2 อาทิตย์ Shannon คุณแม่ที่สูญเสียความทรงจำและคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี Nicola Everett คุณแม่ของเธอเล่าว่า “ในตอนที่ลูกสาวของฉันกำลังคลอดอยู่ เธอได้หันมาบอกกับฉันและคู่หมั้นของเธอว่า เธอรักพวกเรามาก และได้หมดสติไปหลังจากนั้น” แพทย์ผู้ดูแลอาการของเธอได้บอกว่าการที่หัวใจของเธอหยุดเต้นอาจทำให้หญิงสาวไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย หรือสมองอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักก็เป็นได้ Nicola คุณแม่ของหญิงสาวที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งหลังจากวันที่คลอดไป 2 อาทิตย์ Shannon ก็ฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเธอจำคู่หมั้นไม่ได้ เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคุณแม่ลูกสองและเคยท้องมาก่อน และเธอยังคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากโรคหลอดเลือดอุดตันของน้ำคร่ำ เป็นอาการหายากที่พบได้จากคุณแม่หนึ่งใน 20,000…
-
ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!
ขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่บนถนนไฮเวย์ก็อาจได้เห็นรถคันอื่นๆ ที่วิ่งไปทางเดียวกับเราหรือคนที่พยายามข้ามถนนกันอย่างยากลำบากเพราะรถแต่ละคันขับกันเร็วเสียเหลือเกิน แต่ชายคนนี้กลับได้เจอกับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ควรมาอยู่บนถนนใหญ่ นั่นก็คือน้องเหมียวผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Masz Masuri เขากำลังขับรถพาลูกชายไปเที่ยวสวนสนุก Danga Bay ในประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ระหว่างทางที่เขากำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารนอนอยู่กลางถนน น้องเหมียวผู้น่าสงสารไม่สามารถออกไปจากถนนนี้ได้ด้วยตัวเอง บนถนนใหญ่ที่ขับกันด้วยความเร็วจนทำให้เขาไม่สามารถจอดกะทันหันได้ ชายหนุ่มจึงไปกลับรถมาหาเจ้าเหมียวอีกครั้ง ก่อนที่จะลงรถไปอุ้มมันขึ้นมาและรีบพาไปหาสัตวแพทย์ ไม่ต้องกลัวนะเจ้าเหมียว ฮีโร่มาช่วยแล้ววว คลิปการช่วยเหลือแมวในครั้งนี้ที่ชายหนุ่มโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก เจ้าเหมียววัย 1 ขวบตัวนี้มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา อุ้งเท้า และหน้าอกเล็กน้อยจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ได้เจอหมอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ Masz ตั้งชื่อให้มันว่า Danga Bay ชื่อเดียวกันกับสวนสนุกที่เขาจะพาลูกไป และชายคนนี้ก็ไม่ได้เพียงแค่ช่วยมันให้รอดจากอันตรายบนท้องถนนเพราะเขายังช่วยประกาศหาบ้านให้กับมันอีกด้วย เป็นโชคดีของเจ้าเหมียวที่ได้เจอกับเขาผู้เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับน้องแมวในประเทศมาเลเซียที่ชื่อว่า Kitty Konnexion Community เขาจึงโพสต์คลิปและเรื่องราวของมันลงไป เป็นโชคดีของเอ็งจริงๆ ที่ได้เขาคนนี้มาช่วย พร้อมกับยังหาบ้านให้อีกต่างหาก จนกระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม 2017…
-
เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว
หลายๆ คนอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอหนุ่มในปี 2014 ของวัยรุ่นชายคนหนึ่งได้เตะลูกแมวอย่างแรงจนมันปลิวข้ามรั้วไปเกิดเป็นกระแสที่ดังมากในตอนนั้น ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของชายคนนั้นและเขาก็ได้ถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ทุกคนรู้ว่าชายคนนี้ถูกจับแต่อาจไม่เคยรู้ว่าเจ้าเหมียวคู่กรณีหลังจากที่ถูกเตะไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เราไปดูกันดีกว่าว่าหลังจากนั้นแมวตัวนี้มีสภาพเป็นอย่างไร ชายคนนี้เรียกเจ้าแมวเข้ามาใกล้ๆ และให้เพื่อนของเขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ เมื่อเจ้าแมวตายใจ เขาก็เตะเข้าไปที่กลางลำตัวของมัน จนเจ้าแมวปลิวไปไกลกว่า 6 เมตร ท้ายคลิปชายหนุ่มคนนี้ก็ยังหันมาหัวเราะกับกล้อง พร้อมกับเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้โพสต์คลิปลงไปในโลกโซเชียล คลิปเมื่อ 3 ปีก่อน กับพฤติกรรมอันโหดร้ายสามารถดูได้ในนาทีที่ 0.26 ชาวเน็ตต่างรู้สึกไม่พอใจ แจ้งเรื่องนี้ไปกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ในเวลาต่อมานาย Andre Robinson วัย 21 ปีคนนี้ถูกจับในคดีทารุณกรรมสัตว์ เจ้าเหมียวที่โดนเตะตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงของลูกเตะ มันได้เข้ารับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุ้มครองสัตว์แห่งสหรัฐฯ (ASPCA) แต่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น มันก็ได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ของคนที่มารับมันไปเลี้ยง นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียว (ตอนนี้ชื่อ King) จริงๆ เชื่อว่ามันคงไม่ได้เจอการถูกทารุณเหมือนก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะต้องเจอเรื่องแย่ๆ มาก่อน แต่ฟ้าหลังฝนก็ย่อมสวยงามเสมอ เพราะมันได้ไปมีความสุขในบ้านหลังใหม่ของมันแล้ว อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมว่าการทารุณกรรมสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในสังคม…
-
สภาพอันน่าเวทนาของ “สิงโตแก่” ในสวนสัตว์บังกลาเทศ ชาวเน็ตร่วมแชร์จนเป็นประเด็นใหญ่
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมลได้เผยภาพสุดสลดของสิงโตตัวหนึ่ง ที่มีสภาพผอมแห้งเหลือแต่กระดูก หลังจากที่มันพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดในกรงขังอันแสนสกปรกของสวนสัตว์ในบังกลาเทศ ทางด้านเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ออกมาเผยว่า สาเหตุที่ทำให้เจ้า Juboraj อยู่ในสภาพผอมแห้งเช่นนี้เป็นเพราะมันมีภาวะแทรกซ้อนมากมายและอายุมากแล้ว ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงสภาพอันน่าเวทนาของเจ้าสิงโต ที่ผอมแห้งจนทำให้สามารถเห็นโครงสร้างของโครงกระดูกยื่นออกมาจากผิวได้อย่างชัดเจน จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้ พวกเขาก็รู้สึกตกใจที่ได้เห็นสภาพของ Juboraj เจ้าสิงโตอายุ 18 ตัวนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ยังคงถูกรบกวนจากผู้เข้าชม แต่ถึงกระนั้นก็มีบางคนได้ปฏิเสธที่จะเข้าไปเยี่ยมชมมัน ในขณะที่ผู้คนบางส่วนที่ได้เห็น Juboraj ก็อดสงสารไม่ได้ เลยร่วมกันร้องเรียนไปยัง Abdul Hamid ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของบังกลาเทศ ให้รับรู้ถึงสภาพอันน่าเวทนาของเจ้าสิงโตจากสวนสัตว์แห่งนี้ด้วย ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมการสนับสนุนคำเรียกร้องมากถึง 56,000 คนเลยทีเดียว โดยภายในคำร้องได้มีการระบุว่า “Juboraj เป็นสิงโตที่กำลังหิวโหยและใกล้ตายอยู่ที่สวนสัตว์ Comilla Zoo ในบังคลาเทศ มันใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ในกรงอันแสนสกปรกและแทบจะไม่ได้กินอะไรเลย” อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของสวนสัตว์ก็ได้ออกมาอธิบายว่า แม้ว่าเจ้า Juboraj จะอยู่ในสภาพวิกฤติ แต่ทางสวนสัตว์ก็เคยให้สัตวแพทย์มาคอยดูแลรักษามันอยู่เสมอ ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่าทางแพทย์ก็ได้บอกว่าโดยปกติแล้วสิงโตจะมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น แต่สำหรับ…
-
ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!
คำว่า “ที่สุดของโลก” หลายคนเข้าใจว่ามันคงมีแต่เรื่องเจ๋งๆ เช่นวิ่งเร็วที่สุดในโลกหรือกระโดดได้สูงที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงการเป็นที่สุดของบางเรื่องอาจตามมาด้วยผลกระทบที่เลวร้าย เหมือนกับเด็กน้อยคนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะเขาเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Luis Manuel อาศัยอยู่แถบชายฝั่งแปซิฟิก รัฐโกลีมา ประเทศเม็กซิโก เด็กชายคนนี้มีอายุเพียงแค่ 10 เดือนแต่กลับมีน้ำหนักมากถึง 28 กิโลกรัม!! เทียบเท่ากับเด็ก 9 ขวบเลยทีเดียว เด็กน้อยที่อ้วนที่สุดในโลกวัย 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ ในตอนแรก Isabel Pantoja แม่ของเด็กคิดว่าที่ลูกเธอมีน้ำหนักมากกว่าปกติขนาดนี้เป็นเพราะว่าน้ำนมจากอกของเธอมีคุณภาพดีเท่านั้นเอง เด็กคนนี้เกิดมามีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พอๆ กับเด็กทั่วๆ ไป พอผ่านไป 2 เดือนเขาก็มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมจนกระทั่งมีกลายเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า Mario พี่ชายอายุเกือบ 3 ขวบของเขาซะอีก ร่างกายของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าเด็กที่โตกว่าซะอีก ด้วยความผิดปกติที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ครอบครัวจึงได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่หมอกลับไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แพทย์สันนิษฐานว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากโรคที่มีชื่อว่า Prader-Willi Syndrome…
-
แมวน้อยซุกซน วิ่งเล่นจนหัวไปติดอยู่ใน “ล้อรถ” สัตวแพทย์เร่งช่วยกันวุ่นวาย…
นอกจากโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นของลูกแมวตัวน้อย ที่พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตในโลกอันแสนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่น และวัตถุแปลกประหลาดมากมาย เพื่อให้พวกมันได้ทำการออกสำรวจ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเหมียวตัวน้อยชื่อ Cookie กลับได้พบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เลยทำให้มันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อไม่นานมานี้ Cookie ลูกแมววัยเพียง 4 เดือน ได้ออกมาเล่นอยู่ภายในโรงจอดรถของครอบครัว จนได้พบกับล้อรถยนต์สำรองที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ในนั้น และนั่นก็ทำให้มันเริ่มเกิดความสนใจในสิ่งที่พบเจอทันที เจ้าเหมียวได้เข้าไปตรวจสอบวัตถุประหลาดที่มันไม่เคยพบเห็นอย่างละเอียด แถมยังตัดสินใจเอาหัวมุดเข้าไปบริเวณรูตรงกลางของล้อรถ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และในที่สุดปัญหาก็เกิดขึ้นกับเจ้า Cookie จนได้ เพราะหัวของมันดันไปติดที่รูตรงกลางของล้อรถยนต์จนได้ งานนี้ทำให้มันถึงกับตกใจเพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรหัวก็ไม่สามารถหลุดออกจากล้อรถได้เลย ทางด้านผู้เป็นเจ้าของก็พยายามตามหาแมวแสนรักที่หายตัวไป จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถค้นหาตัวของมันพบ พร้อมกับรีบนำตัว Cookie ไปยังคลินิกสัตวแพทย์ Pieper Memorial Middletown ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ ทันที “เรารู้ว่ามีแมวติดอยู่ในล้อรถยนต์ แต่เราไม่รู้ว่ามันเข้าไปติดได้อย่างไร ล้อมีขนาดใหญ่แค่ไหน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้พร้อมกับถือยางรถยนต์ขนาดใหญ่มาด้วย และเมื่อได้เห็นหัวของเจ้าเหมียวติดอยู่ที่ยาง ฉันก็ได้บอกพวกเขาว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ได้เจ็บปวด เพราะหัวของมันก็แค่ติดอยู่ในล้อรถเท่านั้น” Jesse Ferguson ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว …
-
เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว
เด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ต้องประสบปัญหาโดนทารุณหรือใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน ทำให้ต้องเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในถุงขยะ ไม่มีข้าวกินจนถึงกับต้องแอบเก็บอาหารในโรงเรียนกลับบ้านไปเพื่อเอาไว้ประทังชีวิตตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัญหาของเด็กยากไร้ในประเทศอังกฤษได้กระจายตัวออกไปในวงกว้างอย่างน่าเป็นห่วง ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งจึงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับเด็กเหล่านั้น เช่นเดียวกับ Helen Slack ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม Twickenham ที่ได้คิดแนวทางการช่วยเหลือลูกศิษย์ในหลายๆ เรื่อง Helen ครูใหญ่ผู้พยายามช่วยเหลือลูกศิษย์ของเธอจากปัญหาความยากจน เธอได้สร้างนโยบายให้เด็กๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาสามารถเข้ามากินอาหารได้ฟรีในครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเรียน และในวันศุกร์ทางโรงเรียนก็จะห่ออาหารเอาไว้ให้สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารประทังชีวิตในช่วงวันหยุด ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน การออกไปทัศนศึกษา หรืออุปกรณ์ดนตรีและกีฬา ทุกอย่างล้วนเป็นความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งสิ้น Helen บอกว่า “โปรเจกต์ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 3,400,000 บาทต่อปี หากโปรเจกต์นี้ดำเนินไปถึงปี 2020 แต่ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วยเหลือให้ปัญหาครอบครัวยากไร้ให้หมดไป” ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลอังกฤษกลับทำการตัดงบประมาณที่ใช้สำหรับช่วยเหลือในด้านการศึกษาลงไปกว่า 13,000 บาทต่อเด็กนักเรียนหนึ่งคน ทำให้งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากไร้ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 ผู้นำโรงเรียนกว่า 7 แห่งจึงได้ทำการเข้าพูดคุยกับเลขานุการกระทรวงการศึกษา Angela Raynor เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดงบประมาณและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังไม่มีการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพูดคุยของพวกเขา …
-
ทำเพื่อ?! พลเมืองดีจับภาพหนุ่มโยนน้องหมาลงไปในทะเลที่อุณหภูมิเย็นจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในปัจจุบันการทารุณกรรมสัตว์ยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับน้องหมาที่เรามักได้เห็นมันถูกเตะหรือถูกขว้างปาของใส่ หรือโดนไล่ตะเพิดหัวซุกหัวซุน และไม่ว่าเราจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งเราก็ไม่อาจทำใจให้ชินกับมันได้เลย เหตุการณ์ที่ #เหมียวตะปู จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2017 เมืองฮาร์ตลีพูล ประเทศอังกฤษ เมื่อมีผู้พบเห็นน้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวด์ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งอุ้มไปบนสะพานที่ยื่นออกไปในทะเลและโยนเจ้าสุนัขตัวนั้นลงน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าสุนัขถูกโยนลงไปจากปลายสะพาน พยานผู้พบเห็นบอกว่าตรงปลายสะพานดังกล่าวมีชาย 3 คนสวมชุดปิดหน้าปิดตาตัวเองเอาไว้และมีน้องหมาเกรย์ฮาวด์อีก 9 ตัว ซึ่งพวกมันต้องถูกโยนลงทะเลไปทีละตัวๆ จากความสูงประมาณ 1.8 เมตร หลังจากนั้นพวกมันก็จะถูกลากขึ้นมาจากน้ำและถูกโยนลงไปใหม่ซ้ำไปซ้ำมาอย่างน่าสงสาร พยานบอกว่า “อุณหภูมิอันเย็นยะเยือกและความแรงของคลื่นทะเลที่ค่อนข้างมาก ทำให้คิดไม่ออกเลยว่าถ้าเจ้าสุนัขถูกพัดไปชนกับขอบสะพานขึ้นมาแล้วมันจะเป็นอย่างไร” เมื่อตกน้ำไป มันก็จะถูกเชือกที่มัดเอาไว้ลากกลับขึ้นมาอีก คนที่ได้เก็บภาพนี้มารีบติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ในทันที ทำให้ทาง สมาคมสงเคราะห์สัตว์ (หรือที่เรียกว่า RSPCA) รีบยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องของการสืบสวนและพยายามระบุให้ได้ว่าชายทั้ง 3 เป็นใครมาจากไหน เจ้าหน้าที่เล่าว่า “หลังจากได้รับแจ้งมา เราก็รีบทำการสอบสวนหาข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราเดินทางไปที่แห่งนั้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ก็ไม่อยู่เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงทำการสืบหาเบาะแสกันต่อไป” ปัจจุบันชาวเมืองและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกันเพื่อจับกุมตัวคนเหล่านี้มาดำเนินคดี นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างมาก หวังว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้คงไม่เกิดขึ้นที่บ้านเราหรอกนะ…
-
เด็กชายชาวจีนวัย 4 ขวบ เข้าพิธีแต่งงานกับแม่ตัวเอง เพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพช่วงเวลาอันแสนประทับใจภายในงานแต่งงาน ที่ถูกจัดขึ้น ณ เมือง Xinfa มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยพิธีวิวาห์ดังกล่าวไม่ได้มาในแบบคู่รักหนุ่มสาวทั่วๆ ไป แต่เป็นงานแต่งของคุณแม่ และ Baobao ลูกชายวัย 4 ขวบของเธอ ผู้ที่กำลังต่อสู้อยู่กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากภาพปรากฏให้เห็นว่า หนูน้อย Baobao ได้ยืนอยู่ตรงกลางเวทีโดยมีพ่อและแม่ยืนอยู่เคียงข้าง ซึ่งพิธีแต่งงานสุดพิเศษนี้ ได้ถูกจัดขึ้นสองหลังจากที่ทางครอบครัวได้จัดฉลองวันเกิดครบครอบ 4 ปีให้กับเขา ทางด้านหนูน้อย Baobao ได้ออกมาเผยว่า “แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก และผมก็อยากจะอยู่กับเธอตลอดไป” การรายงานระบุว่า เมื่อสองปีก่อน Baobao ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (ALL) และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะตั้งแต่เดือนเมษายนหนูน้อย BaoBao ดูเหมือนว่าจะมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน ถือเป็นมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหนึ่งที่มีผลต่อเซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูก จากนั้นมันก็จะลามเข้าไปในกระแสเลือด และแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ…
-
หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 18 เดือน ลั่นระฆังวิวาห์กับชายผู้เป็นที่รัก
การแต่งงานเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะกับสาวๆ เพราะมันคือวันสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรักและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ซึ่งงานแต่งงานคือความปรารถนาอย่างหนึ่งของเธอคนนี้ แม้ว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่เกิน 18 เดือนเท่านั้นก็ตาม หญิงสาวช่างเสริมสวยคนนี้มีชื่อว่า Martine Kilminister เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 4 ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียง 6 – 18 เดือนเท่านั้น Martine ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4 สาววัย 28 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าเริ่มรู้สึกมีอาการเจ็บหลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาจึงเข้าปรึกษาแพทย์ ตอนนั้นหมอบอกว่าเธออายุยังน้อย ไม่ต้องกังวลอะไร ตัวเธอเองคิดว่าเธออาจมีความผิดปกติที่ระบบประสาท ผ่านไปไม่นานเธอก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงกลับไปหาหมออีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม และเธอได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4 ภาพของเธอก่อนที่จะเป็นอัมพาต จนทำให้ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง บริเวณไขสันหลังของเธอมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ นั่นจึงทำให้หลังการถูกวินิจฉัยเพียง 4 สัปดาห์ ร่างกายของเธอตั้งแต่เอวลงไปกลายเป็นอัมพาต และไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือหมอบอกว่าเธอสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียงแค่ 6 – 18 เดือน ข่าวร้ายที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนนี้ทำให้เธอและแฟนหนุ่ม Christopher รู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานขึ้นมาในทันที เพราะแม้ว่าเขาและเธอจะอยู่ด้วยกันมานานถึง…
-
เหล่าแมวเหมียวผู้น่าสงสาร โดนไฟไหม้จนคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่โชคดีที่มีนางฟ้าเข้ามาช่วยไว้
นี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนรักแมวรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจเหล่าเหมียวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเหล่าเหมียวผู้โชคร้ายถูกไฟไหม้จนทำให้มันมีสภาพที่ย่ำแย่และเหมือนใกล้ตาย แต่โชคดีที่อย่างน้อยมันก็สามารถรอดชีวิตมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเหล่านางฟ้า… เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Lovemoew ได้นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวสองคนที่ออกไปตามหาแมวแสนรักของพวกเธอ หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในระหว่างที่กำลังค้นหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้พบกับเจ้าเหมียว 2 ตัวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์อันแสนเลวร้ายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ และแน่นอน สองนางฟ้าก็รู้ว่าจะต้องช่วยชีวิตพวกมัน เมื่อบ้านของ Brandi Ann ถูกทำลายล้างจากไฟป่า เธอกับ Steph Gediman ผู้เป็นแฟนสาวก็ได้พากันออกไปตามหา Apu เจ้าเหมียวแสนรักที่ได้หายตัวไป “เราได้กลับมาที่บ้านในตอนเช้าหลังจากที่เกิดไฟไหม้ขึ้น เรามองหาแมวของเรา แต่ก็ไม่พบมันเลย ไฟได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น ในขณะที่เรากำลังตามหาเจ้าเหมียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากถนน ฉันหันไปรอบๆ จนได้รู้ว่ามีแมวตัวหนึ่งได้เดินออกมาจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ และกำลังต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นสภาพใบหน้าของเจ้าเหมียวถูกไฟไหม้จนแทบจำเค้าโครงเดิมไม่ได้เลย ฉันรู้ว่าฉันต้องช่วยเหลือแมวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ ซึ่งเราก็ได้นำตัวของมันไปรักษายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใน Rohnert Park” Steph กล่าว ในวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็เดินกลับไปยังพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้เพื่อตามหา Apu…
-
คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะมีลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างไปจากคนปกติ โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายและแสดงออกมาเป็นการใช้ความรุนแรง หรือหนักกว่านั้นพวกเขาอาจถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อคุณแม่ที่ชื่อว่า Helen Barnes ได้แชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ Jack ผู้ที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว และได้พยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความผิดปกติของเขาเริ่มต้นขึ้นในเมือง Pembrokeshire ประเทศเวลส์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นเด็กหนุ่มต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อให้สามารถจัดการกับความโกรธของตัวเอง Helen และลูกชายของเธอ Jack เวลาผ่านไปจนกระทั่งอายุได้ 15 ปีเขาก็เริ่มมีการแสดงออกที่ค่อนข้างรุนแรง หากรู้สึกหงุดหงิดเขาก็จะทำลายข้าวของ กรีดแขนตัวเอง ต่อยกระจกหรือกำแพง ทั้งหมดนั้นทำให้แม่ของเขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก และถึงแม้เขาจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเล่นเกม ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ในตอนนั้นความผิดปกติของเขารุนแรงถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ช่วยเขาไว้ได้ทันก่อนที่คุณหมอจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นผลมาจากความผิดปกติของบุคลิกภาพ Helen เล่าว่า “ครั้งแรกที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าเขาต่อยกำแพง ฉันรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เอาใจใส่ดูแลคนใกล้ตัวโดยเฉพาะน้องสาวฝาแฝด Lucy และ Jordan Arthur น้องชายอีกคน” หลังจากนั้นมาเด็กหนุ่มได้เข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับพฤติกรรมและการพูดคุย รวมถึงการบำบัดกันเป็นกลุ่มทุกๆ เดือน พออายุ 18…
-
เจ้าหน้าที่สั่งปลด Lulu ให้พ้นการเป็น “สุนัขดมกลิ่น” หลังแสดงอาการชัด…นี่ไม่ใช่ทางของหนู!!
จากความสามารถในการรับกลิ่นชั้นยอดของสุนัข นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้มนุษย์ได้นำพวกมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น การตามหาคนหาย การค้นหายาเสพติด รวมไปถึงการดมกลิ่นเพื่อค้นหาวัตถุระเบิด และเจ้า Lulu น้องหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ อายุ 18 เดือนตัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในสุนัขที่ทางศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจได้คัดเลือกให้เข้ามารับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด เพื่อให้มันได้กลายเป็นสุดยอด “สุนัขตำรวจ K9” ของกรมตำรวจในเขตแฟร์แฟกซ์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รับการรายงานจากบัญชีทวิตเตอร์ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นในเวลาอันสั้นของเจ้า Lulu ว่า… เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ Lulu ได้รับการฝึกอบรม มันก็เริ่มแสดงสัญญาณบางอย่างออกมา และนั่นก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รู้ว่าเจ้าหมาไม่สนใจที่จะรับงานนี้ และพวกเขาก็คาดว่าอาจจะต้องปลดมันออกจากตำแหน่งในเวลาก่อนกำหนด “Lulu ไม่สนใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นค้นหาระเบิด ถึงแม้ว่าเราจะกระตุ้นมันด้วยอาหาร หรือให้มันได้เล่น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่แฮปปี้เอาซะเลย” ทาง CIA กล่าว ตามรายงานบอกว่าโครงการนี้เป็นการฝึกแบบเร่งรัด ใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ โดยสุนัขในหน่วยนี้จะต้องดมกลิ่นวัตถุระเบิดให้ได้ทั้งหมด 19,000 ชนิด ซึ่งหลังจากฝึกจบสุนัขที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นจะได้ไปทำหน้าที่ตรวจหาระเบิดในอาคารต่างๆ…
-
เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง
หลายคนอาจต้องเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายจนรู้สึกไม่อยากก้าวเดินต่อไป ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ย่อท้อและใช้ทั้งชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของสุนัขที่ชื่อว่า Smiley ที่ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน น้องหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ต้องเกิดมาพร้อมกับความพิการไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความสุขได้จากความผิดปกติหายากที่ทำให้ฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเหมือนกับว่ามันยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้เกิดมาไม่มีดวงตาจนต้องถูกเย็บปิดเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เจ้า Smiley ก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ ชีวิตของมันเริ่มขึ้นในศูนย์ดูแลลูกสัตว์ก่อนที่ Joanne George จะมารับมันไปเลี้ยงในตอนที่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นมันก็ได้ออกช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เจ้าหมาจะเดินทางไปตามโรงพยาบาล สถานพักฟื้นหรือโรงเรียนเพื่อไปให้กำลังใจเหล่าคนไข้ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่ ให้พวกเขาสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง Joanne ที่มอบความรักให้กับมันมาโดยตลอด ด้วยการที่มันต้องเกิดมาผิดปกติแต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข ทำให้ทุกคนที่ได้เจอกับมันกลับมามีกำลังใจกล้าเผชิญกับปัญหากันต่อไป โดยเฉพาะกับเด็กที่ต้องพิการแต่กำเนิดซึ่งน้องหมาสามารถเข้าไปเยียวยาจิตใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี คนไข้ที่ชื่อว่า Teddy ผู้ป่วยที่ไม่พูดไม่จาและไม่สื่อสารอะไรกับใครเลยก็ถึงกับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกขณะที่ได้เจอกับ Smiley เหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนเลยจริงๆ ใบหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับทุกคน แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเจ้าของของมันก็ได้โพสต์ข่าวร้ายลงไปในเฟซบุ๊ก เมื่อมีการตรวจพบมะเร็งในตับและกระเพาะของเจ้าหมา นั่นหมายความว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน การเดินทางเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 12 ปีกำลังจะจบลงอย่างน่าเศร้า ในตอนนี้อินสตาแกรมของมันมีคนติดตามมากกว่า 200,000 คนแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้โพสต์ภาพขอณะที่เขากำลังจับมือมันเอาไว้พร้อมกับแคปชั่นที่แสนสะเทือนใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะตอบแทนทุกอย่างที่มันทำมาตลอดได้ พรุ่งนี้คงต้องปล่อยให้มันจากไปอย่างสงบหลังจากที่ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก”…
-
ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว
การช่วยเหลือเราสามารถลงมือทำได้ในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับชายคนนี้ที่เขาเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ มากกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Warren Padgette กำลังขับรถกลับบ้านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวอชิงตัน เขาได้สังเกตเห็นว่ารถคันข้างหน้าเหมือนกับหักเลี้ยวหลบอะไรบางอย่างบนถนน หนุ่มอเมริกันที่ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองไม่คาดคิด ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามเพ่งมองดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเขาก็ได้เห็นเจ้าไก่ในสภาพอิดโรยที่คาดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังจะพามันไปโรงเชือด แทนที่เขาจะขับหลบและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาตัดสินใจจอดรถและลงไปอุ้มมันขึ้นมาขณะที่เจ้าไก่หันมองและกระพริบตาให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอุ้มมันไปไว้ตรงเบาะหลังพามันกลับบ้านไปด้วยกัน เขาไม่สามารถปล่อยมันผ่านไปได้เขาจึงรีบลงไปอุ้มมันขึ้นมาทันที เขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Lucky เพราะมันเป็นเจ้าไก่ที่โชคดีรอดมาจาการถูกเชือดได้ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมันก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ตอนนั้นแค่จะยืนด้วยขาของตัวเองมันก็ทำไม่ได้เพราะหน้าอกมีน้ำหนักมากกว่าปกติจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาให้โตเร็วเกินไปเพื่อทำให้ได้เนื้อเยอะๆ ร่างกายของมันผ่านการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ไม่สามารถยืนได้เอง ชายหนุ่มรีบรักษาพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่มันอย่างเต็มที่ สร้างบ้านเล็กๆ เอาไว้ให้ที่สวนหลังบ้านและไปหาลูกเจี๊ยบมาอยู่ด้วยเพื่อให้เจ้าไก่ได้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง รวมถึงแพะที่เขาหามาเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ให้กับมัน ขั้นแรกอาบน้ำให้มันสดชื่นขึ้น บ้านหลังเล็กที่มันจะได้อยู่อย่างเป็นสุขนับจากนี้ไป ด้วยความรักความเอาใจใส่จนทำให้ตอนนี้เจ้า Lucky ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาไปแล้ว มันจะชอบมาเกาะอยู่ที่ไหล่หรือเดินตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาอยู่เสมอ กลายเป็นเพื่อนซี้ที่จะไม่ทิ้งกัน Warren บอกว่า “เจ้า Lucky เข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่ผมเคยเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ จนตอนนี้เวลาที่ผมเห็นรถบรรทุกที่กำลังพาไก่มากมายไปโรงเชือด ผมรู้สึกต้องการช่วยพวกมันทุกตัวเลยจริงๆ ” คลิปเรื่องราวของเจ้าไก่ Lucky…
-
คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์
สัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของที่เราครอบครองเท่านั้น แต่พวกมันคือส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่มันต้องหายไปจากชีวิตนั่นคงเป็นสิ่งที่เราทำใจกันไม่ได้แน่นอน แต่ในบางครั้ง เราอาจได้รับความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึง จนทำให้เราได้พบกับพวกมันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อในกลุ่มเฟซบุ๊กสำหรับนักปีนเขาที่ชื่อว่า 14ers มีโพสต์หนึ่งเขียนบอกว่าได้ยินเสียงน้องหมาร้องไห้อยู่บนภูเขา Bross . เมื่อหญิงสาวชื่อ Trinity Smith เห็นข้อความนั้นก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มภารกิจปีนขึ้นไปบนเขาดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือมัน และเธอก็พบว่าเธอได้ยินเสียงนั้นจริงๆ แต่ในเวลานั้นฟ้าก็เริ่มมืดทำให้การเดินอยู่ข้างบนอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจลงจากเขามาและพาแฟนหนุ่มของเธอ Sean Nichols กลับขึ้นไปบนเขาลูกนั้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น . เมื่อไปถึงทั้งสองก็พยายามร้องเรียกหาน้องหมานานหลายชั่วโมงถึงแม้ว่าเจ้าหมาจะหยุดส่งเสียงแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ จนกระทั่งได้ยินเสียงของมันเห่าออกมาเบาๆ ก็ได้ไปเจอมันเข้าในที่สุด จากจุดที่มันอยู่คาดว่ามันน่าจะลื่นตกลงไปจากตรงโขดหินทำให้ต้องลงไปนอนเจ็บอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่รอช้ารีบพามันไปร้านสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นำอาหารมาให้มันกิน เพราะมันอยู่ในสภาพอิดโรยเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ได้แจ้งข่าวไปยังเจ้าของของมัน เมื่อ Larry Osborne เจ้าของหมาตัวดังกล่าวได้มาเจอมันอีกครั้ง เขารู้สึกตื้นตันและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหามันมาตลอด 6 สัปดาห์ที่มันหายตัวไป . Larry ได้ขอบคุณคู่รักทั้งสองที่พาสุนัขของเขากลับมา ต่อมาเขาได้พามันไปหาสัตวแพทย์และเขาพบว่ามันเหลือน้ำหนักเพียง 11 กิโลกรัมจากตอนแรก 38 กิโลกรัม และมันต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอจากการขาดน้ำและสารอาหาร ร่างกายที่ซูบผอมจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ…
-
Scar แมวเหมียวที่ต้องใส่ผ้าปิดตาหลังจากสูญเสียดวงตาไป จนดูเหมือนเป็นโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่
นี่คือเรื่องราวของแมวน้อยน่าสงสารตัวหนึ่งที่ต้องโชคร้ายหลังสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้รับชีวิตใหม่หลังถูกช่วยและได้รับการรักษาจนหายดี ตอนนี้เจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นอดีตแมวที่มีความสุขมากที่สุดตัวหนึ่งแล้ว นี่คือ Scar เหมียวโจรสลัดที่มีความเท่อย่างกะ Jack Sparrow ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้ Savannah Anas นักชีววิทยาทางทะเล และเพื่อนของเธอได้พบกับลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบริเวณดวงตา และดูเหมือนต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน นั่นทำให้เธอคิดว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างเข้าซะแล้ว งานนี้ Savannah พร้อมเพื่อนของเธอจึงยอมขับรถเป็นเวลานานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อรีบนำตัวของ Scar ไปรักษาในคลินิกที่ใกล้ที่สุด ภายหลังจากที่นำตัวส่งถึงมือหมอ เธอก็ได้ทราบข่าวที่เลวร้ายว่าดวงตาข้างหนึ่งของมันติดเชื้ออย่างรุนแรง โดยเชื้อได้แพร่กระจายเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้มันตายได้ อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้เผยว่าเจ้าเหมียวจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที เจ้า Scar เป็นเพียงลูกแมวน้อยที่มีอายุเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น และการผ่าตัดในครั้งนี้อาจมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะโอกาสรอดชีวิตจากการผ่าตัดมีเพียงแค่ 50/50 เท่านั้น… แต่ทว่าด้วยความหวังที่จะต้องช่วยชีวิตของ Scar ให้ได้ ดังนั้น ทางแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดให้กับมันแม้ว่าจะเสี่ยงอันตรายอย่างมากก็ตาม และแล้วข่าวดีก็มาถึง เพราะในที่สุดแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตของเจ้าเหมียวเอาไว้ได้สำเร็จ เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างมากที่เจ้า Scar สามารถเอาชนะกับสิ่งเลวร้ายที่มันพบเจอมาได้ …
-
แมวน้อยไม่ยอมห่างจากเจ้าของ นอนอยู่ข้าง ‘หลุมฝังศพ’ ไม่มีใครพรากทั้งคู่ให้จากกันได้
หลายคนคงไม่อยากยอมรับกับเรื่องการจากไปของคนที่เรารักและต้องจมอยู่กับความเสียใจไปนาน ไม่ต่างกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่มันเองก็คงจะทำใจไม่ได้เหมือนกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ในงานศพของนาย Ismail Mat วันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ผู้คนที่มาร่วมงานต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเขารวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกตัวหนึ่งด้วย เจ้าเหมียวสัตว์เลี้ยงแสนรักของผู้ตาย เมื่อเจ้าเหมียวที่เขาเลี้ยงเอาไว้คงยังไม่พร้อมสำหรับการจากไปในครั้งนี้ เมื่อพิธีในงานเริ่มขึ้นมันก็เดินเข้ามาที่หลุมฝังศพของเจ้าของมัน เกลือกกลิ้งไปมาหรือพยายามขุดดินตรงนั้นไม่ยอมไปไหน เหมือนกับว่าอยากจะปลุกให้เจ้านายลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันทำได้เพียงแต่ไว้อาลัย แม้ว่าจะยังทำใจไม่ได้ก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Soffuan CZ เขียนบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ปู่ของผมเป็นคนเดียวที่คอยดูแลเจ้าแมวมาโดยตลอด” จึงอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงได้ผูกพันและแสดงออกมาแบบนี้ ผู้คนที่อยู่ในงานพยายามจะอุ้มมันออกไปจากตรงนั้น แต่มันก็ขัดขืนจะอยู่ตรงข้างหลุมศพให้ได้ ภาพที่เห็นทำให้ผู้ร่วมงานต้องรู้สึกซาบซึ้งไปกับความรักที่เจ้าเหมียวมีให้กับผู้ตาย คลิปวิดีโอของเจ้าเหมียว ที่แม้ความตายก็ไม่อาจพรากมันจากเจ้าของได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคลิปวิดีโอพฤติกรรมของมันได้ถูกเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดียในวันต่อมา ก็มีคนเข้ามาชมมากกว่า 6 ล้านครั้ง คอมเม้นท์ต่างๆ มีทั้งไว้อาลัยผู้ตายและรู้สึกเสียใจที่ต้องเห็นเจ้าแมวเป็นอย่างนั้น ยังคงไม่สามารถก้าวไปไหนได้เลย เราคงไม่สามารถไปบังคับให้มันไม่เศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะมันก็ยังคงมีความผูกพันกับเจ้านายของมันไม่ต่างกับผู้ร่วมงานคนอื่นหรอก ที่มา: nextshark
-
‘แมวน้อย’ ผู้รอดชีวิตจากเฮอร์ริเคน ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มจนกลับมาแข็งแรงดังเดิม
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงของเฮอริเคนเออร์ม่า ทำให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วมตามมาจากเหตุการณ์นั้น ผู้คนต้องพบทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดผ่านไปให้ได้ สัตว์ทั้งหลายเองก็เช่นกัน เมื่อทุกอย่างจบลงเหลือเพียงซากความเสียหาย ที่ทำให้บ้านของ Chad Mitchell ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชายคนนี้จึงต้องปั่นจักรยานออกไปที่สถานีพลังงานสำรองใกล้บ้าน แต่ระหว่างทางเขาก็ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เขาได้ยินเสียงแหลมๆ ดังอยู่ไม่ไกล ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเสียงของจักรยานที่ปั่นมา แต่เมื่อลงไปเช็คก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ทำให้เขาเริ่มสงสัยและออกเดินดูโดยรอบ จนพบเข้ากับลูกแมวตัวหนึ่งในสภาพเปียกโชก นอนแน่นิ่งอยู่ในพงหญ้า ขาหน้ายื่นออกมา และแทบไม่หายใจ สภาพเปียกปอนไปหมดทั้งตัว เพราะเหมือนกับว่าจมน้ำฝนอยู่อย่างนั้นมานาน ต้องรีบให้ความอบอุ่นในทันที ในตอนแรกเขาคิดว่ามันตายไปแล้ว จนกระทั้งได้ยินเสียงของมันดังออกมาอย่างแผ่วเบา เขาจึงรีบอุ้มมันใส่ไว้ในหมวกเบสบอล และพามันกลับมาที่บ้านในทันที ระหว่าทางก็พยายามทำทุกทางให้มันตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงบ้าน เขาและ Carre ภรรยา ก็ช่วยกันใช้ไฟฉายส่องหาอะไรก็ตาม ที่สามารถช่วยยื้อชีวิตของแมวน้อยตัวนี้ไว้ให้ได้ ด้วยร่างกายที่เย็นเฉียบของพวกมัน พวกเขาจึงรีบทำให้มันแห้งและอบอุ่นด้วยผ้าขนหนู ถึงแม้ว่ามันเหมือนจะไม่รอดแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ พ่อครับป๋มหนาววว ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็เริ่มเห็นความหวัง เพราะมันเริ่มที่จะเงยหน้าขึ้นมา ส่งเสียงร้องบ้างแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงนำอาหารกระป๋อง น้ำ และข้าวโอ๊ตมาผสมรวมกันให้มันกิน และแมวน้อยก็แสดงท่าทางดีใจออกมา ที่ได้มีอะไรตกถึงท้อง แต่มันก็ยังคงมีอาการสั่นอยู่…
-
ผู้กล้าหนุ่มพบแมวหลงติดอยู่กลางบึง แถมส่งสายตาอ้อนแบบนี้ จะอดใจไม่ช่วยได้ยังไง…
เฮอร์ริเคน Harvey ได้สร้างความเสียหายเอาไว้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ในเท็กซัส แต่ยังกระจายไปถึงรัฐลุยเซียนาอีกด้วย ที่ถึงแม้ว่าจะลดลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ก็ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมไม่ต่างกัน เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Randall Kolb คนของกลุ่มที่คอยช่วยเหลือแมวทั้งหลาย ได้รับแจ้งจากบ้านพักสำหรับสัตว์ที่ชื่อ CARA ว่า นักส่องนกท่านหนึ่งพบเห็นแมวติดอยู่กลางบึง และต้องการให้เขาไปช่วย เมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงหยิบเครื่องมือต่างๆ ทีจำเป็นและรีบออกไปพร้อมกับภรรยาของเขา ด้วยความรวดเร็ว เพราะเป็นห่วงว่าแมวตัวนั้นจะเป็นอะไรไปซะก่อน ในเมื่อหากลองสันนิษฐานดู แมวตัวนี้ต้องติดอยู่ตรงนั้นมาอย่างต่ำ 4 วัน จากปัญหาฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วม หรือไม่แน่ว่ามันอาจมากกว่านั้นก็ได้ เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าว เขาและ Judy ภรรยา ก็พยายามตามหาเจ้าเหมียว จากรูปที่ถูกถ่ายโดยนักส่องนกคนนั้น พวกเขาพยายามเรียกหามัน จนผ่านไปไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา แต่ถึงแม้ว่ามันจะส่งเสียงร้องให้ได้ยินแล้ว แต่ด้วยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย ที่รายล้อมไปด้วยน้ำเต็มไปหมด จึงทำให้ยากต่อการรับรู้ว่า เสียงของมันดังมาจากทางไหนกันแน่ เขาจึงตัดสินใจควักเอากล้องส่องทางไกลมาเป็นตัวช่วย และในที่สุดก็พบเจ้าเหมียว ที่ยืนอยู่บนตอไม้ ขยับไปไหนไม่ได้เพราะว่าที่ตรงนั้นสูงเหนือน้ำเพียงแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น พวกเขาไม่มีเรืออะไรเลยที่จะสามารถพายข้ามไปได้ Randall จึงตัดสินใจเดินลุยน้ำไปหามัน พร้อมกับท่อนไม้ที่ใช้ในการทรงตัว และป้องกันอันตรายจากงูหรือจระเข้ที่อาจโผล่มา และตอนที่เดินลงไป เขาก็รู้ได้เลยว่าน้ำลึกมาก…
-
สัตวแพทย์เถื่อนชาวจีน เปิดซุ้มในตลาดรับตัดเส้นเสียงน้องหมา เพื่อไม่ให้พวกมันเห่า
การเห่าของน้องหมานั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะน้องหมาทุกตัวย่อมเห่าอยู่แล้ว จะเห่ามากเห่าน้อยก็ว่ากันไป แต่การเห่านี้บางครั้งก็อาจทำให้ใครบางคนรู้สึกไม่พอใจกันสักเท่าไหร่ หลายบ้านอาจใช้วิธีการนำตะกร้อมาครอบปาก ทำให้พวกมันไม่สามารถเห่าได้ แต่นั่นก็จะทำให้น้องหมามีอาการเครียดและหงุดหงิดได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ในประเทศจีนใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วกว่านั้น เมื่อมีคลิปวิดีโอถ่ายภาพการทำงานของชายคนหนึ่ง ที่ใช้วิธีการตัดเส้นเสียงของพวกมัน ทำให้ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกเลย ด้วยราคาเพียงแค่ 200 หรือ 500 บาทเท่านั้นเอง ต่อมามีการเผยแพร่ออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Qingbaijiang มณฑลเสฉวน ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบหาความเป็นมาของชายคนดังกล่าว ทำให้รู้ว่าเขาคนนั้นมีชื่อว่า Zeng แต่สิ่งสำคัญก็คือ เขาและผู้ช่วยอีกคนไม่มีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทางการ เพราะกระบวนการผ่าตัดนี้ต้องมีการใช้ยาชา อีกทั้งการง้างปากและใช้อุปกรณ์ตัดเส้นเสียงของพวกมันอีก นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้น้องหมาเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก คลิปวิดีโอการตัดเส้นเสียงสุนัข ของสัตวแพทย์เถื่อน เรื่องของสถานที่เองก็เช่นกัน เพราะพวกเขาเล่นตั้งโต๊ะซะกลางตลาดดอกไม้ กลางวันแสกๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของผู้คนพลุกพล่าน แต่เป็นเรื่องของเชื้อโรคที่อาจทำให้สุนัขที่เข้ารับการผ่าตัดติดเชื้อได้ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เขาคนนี้จะใช้อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่เพียงชุดเดียว ในกการตัดเส้นเสียงให้กับสุนัขทุกตัว ทำให้พวกมันติดเชื้อกันง่ายมากกว่าเดิมเสียอีก แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มองว่า วิธีการนี้เป็นความโหดร้ายหรือป่าเถื่อน ในขณะที่หญิงสาวเจ้าของหมาพุดเดิ้ลคนหนึ่งบอกว่า เธอเพียงต้องการทำให้มันไม่เห่าเท่านั้น โดยวิธีการดังกล่าวเขาบอกว่า เป็นสิ่งที่ชายคนนี้ได้เรียนรู้มาจากตอนที่ทำงานอยู่ในร้านสัตว์เลี้ยงเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอุปกรณ์ของเขาทั้งหมด และกำลังอยู่ในช่วงสืบสวนกันต่อไป คาดว่าอย่างน้อยจะต้องโดนข้อหาการดำเนินงานที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอน…
-
สุดสลดใจ… เจ้าม้าล้มพับกลางทาง จากการลากรถคู่บ่าวสาว ผ่านเนินสูงและแดดร้อนระอุ
การเดินทางโดยรถม้านั้นมีมาอย่างยาวนาน และยังคงสามารถพบเห็นได้ในบางพื้นที่ ยังคงมีเสน่ห์และความโรแมนติกที่ทำให้สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากนั่ง เหมือนกับได้เป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย ตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนอย่าง ‘ม้า’ ก็ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตมีร่างกายและจิตใจไม่ต่างไปจากสิ่งอื่นๆ เพราะถึงแม้ว่าจะดูแข็งแรง ในบางครั้งพวกมันอาจจะอ่อนเพลียมาก แต่ไม่อาจบอกให้เรารับรู้ได้เช่นนั้น… อย่างภายในคลิปวิดีโอของเจ้าม้าสีขาวที่ดูสง่างาม กำลังทำหน้าที่ลากรถพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าสู่พิธีสมรส แต่อยู่ดีๆ มันก็นอนล้มพบกลางถนน ทำให้เจ้าบ่าวและแขกเหรื่อที่อยู่ใกล้ๆ ต้องเข้ามาช่วยกันยกโครงลากเลื่อนที่ยังติดกับตัวมันออกไป เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในแคว้นซิชิลี ประเทศอิตาลี ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกถ่ายมาโดยผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ เหตุผลที่ทำให้เจ้าม้าลงไปนอนอยู่กับพื้นนั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องวิ่งกลางแสงแดดอันร้อนระอุ อีกทั้งยังต้องลากรถเลื่อน ที่มีน้ำหนักรวมกับผู้โดยสารมากถึง 400 – 800 กิโลกรัม โดยผ่านเส้นทางขึ้นเนินตรงไปยังโบสถ์ ซึ่งถ้าจะหนักหนาขนาดนี้ ก็คิดว่าคงไม่น่าแปลกใจที่มันจะล้มลงไป… คลิปวิดีโอผู้คนกำลังช่วยกัน ถอดโครงเหล็กลากรถเลื่อนออกจากตัวม้า แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ก็สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน พวกเขาจึงออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมายในโลกโซเชียลในทำนองว่า… “พวกเขาทำในสิ่งที่น่าอับอาบขายหน้าเป็นอย่างมาก” “เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ!! เพราะไม่ควรมีม้าตัวไหน ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ดำเนินคดีพวกเขาไปซะเลย” “เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ เพราะปัจจุบันพวกมันไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องมาวิ่งอยู่บนถนนแล้ว” ทางด้านโฆษกกรมคุ้มครองสัตว์แห่งอิตาลี ก็ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า “เราได้ทำการเขียนหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขารายงานสภาพของเจ้าม้ากลับมาทางเรา”…
-
เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการถูก “สาดน้ำกรด” สะท้อนถึงความโหดร้ายในตัวมนุษย์
ความทรมานจากบาดแผลที่ถูกสาดด้วยน้ำกรด ไม่ได้ทิ้งไว้เพียงแค่แผลเป็นบนร่างกาย ที่สำคัญคือจิตใจที่จะต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยสภาพแบบนั้น ช่างภาพชาวเยอรมัน Ann-Christine Woehrl จึงเดินทางไปเอเชียและแอฟริกา เพื่อถ่ายภาพของหญิงสาวผู้รอดชีวิตจากสิ่งนั้น โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า IN / VISIBLE ซึ่งจัดขึ้นในนามขององค์กรการกุศล ASTi คอยช่วยเหลือเหยื่อจากสารเคมีชนิดนี้ทั่วโลก ในอูกันด้า กัมพูชา ปากีสถาน เนปาล อินเดีย และบังกลาเทศ คือสถานที่เธอเข้ามาถ่าย เพราะประเทศเหล่านี้เกิดเหตุการณ์ถูกทำร้ายประเภทนี้เยอะมาก เหยื่อมากมายต้องเสียโฉม ตัดขาดการเข้าสังคม บางคนถึงกับยอมรับว่าต้องการที่จะฆ่าตัวตายไปเลยเสียด้วยซ้ำ ภาพที่ไม่ได้แสดงให้เห็นเพียงรูปลักษณ์ของพวกเธอ แต่สื่อให้เห็นความรู้สึกภายในลึกๆ และเหตุการณ์อันเลวร้ายที่ต้องเจอมา มาร่วมรับรู้ส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านั้นกัน Sokneang ชาวกัมพูชา เธอถูกทำร้ายเมื่อปี 2005 จากหญิงสาวที่อิจฉาในความสัมพันธ์ของเธอและสามี ขณะที่เธอนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ก็ต้องพบกับอาการแสบร้อน ไหม้ใบหน้าและร่างกายด้านซ้ายของเธอ Makima สาวชาวอินเดีย หนุ่มข้างบ้านต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เธอปฏิเสธไป ทำให้ขณะที่เธอหลับอยู่ในคืนหนึ่ง แม่ของฝ่ายชายเอาน้ำกรดมาเทไปทั่วหน้า ผู้กระทำผิดเพียงแค่จ่ายค่าทำขวัญให้กับเธอ และรอดจากการถูกจับกุมไปได้ เรื่องนี้เองที่ทำให้เธอต้องการเป็นตำรวจ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้มากกว่านี้ Chantheoun ชาวกัมพูชา มีหญิงสาวและญาติๆ ของเธอขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าเธอไป พร้อมกับสาดน้ำกรดจำนวน 2…
-
จิงโจ้หนุ่มรันทด อยากกลับไปหาเมียแต่ไปไม่ได้ เพราะมีคนเอารั้วมากั้นปิดไว้..!?
กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจคนไปทั่วโลก หลังจากที่มีชาวออสเตรเลียคนหนึ่งเผยคลิปวิดีโอสุดเศร้าของเจ้าจิงโจ้หนุ่มที่อยากจะกลับไปหาลูกเมีย เมื่อวันที่ 1 กันยายน เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงเหตุการณ์สั้นๆ ที่เกิดขึ้นที่ Golden Bay ทางตอนใต้ของเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของจิงโจ้หนุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนาม กำลังกระโดดเด้งดึ๋งไปมาอยู่บริเวณรั้ว โดยมีชาวเน็ตคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถใช้กล้องมือถือถ่ายวิดีโอออกมาได้ โดยเจ้าของคลิปวิดีโอได้เผยว่า ‘ตอนนี้แถวย่านที่ผมอยู่เค้ากำลังเคลียร์เนินทรายกันอยู่ ซึ่งอันที่จริงชาวบ้านต่างก็ออกมาประท้วงและไม่เห็นด้วย เพื่อรักษาเนินทรายแหละแหล่งอาศัยตามธรรมชาติให้สัตว์เหล่านี้’ หลังจากที่มีการประท้วงจากชาวบ้าน นายทุนโครงการก็ได้ให้คำตอบเพียงแค่ว่า ได้มีแผนจัดการกับสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่รั้วกั้นเท่านั้น “ผมถ่ายวิดีโอนี้ใกล้กับบริเวณบ้านที่ผมอยู่ พวกคุณจะได้เห็นจิงโจ้กำลังกระโดดไปมาเหมือนมันพยายามจะกลับบ้าน ซึ่งมันไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลยที่พวกมันต้องถูกกีดกันเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของมนุษย์” เจ้าของวิดีโอเล่า ถึงกระนั้นในท้ายที่สุดเจ้าตัวก็ได้ลงไปเปิดประตู เพื่อให้จิงโจ้หนุ่มได้กลับไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัย แอบสงสารเหมือนกันนะ กระโดดอยู่ดีๆ กลับบ้านไม่ได้เฉยเลย ที่มา: Dailymail
-
เมื่อหญิงสาวต้องเลือกระหว่าง ชีวิตของลูกหรือของเธอเอง และเธอก็เลือกมอบชีวิตให้ลูก…
ในหลายครั้งเราจำเป็นต้องเลือกสิ่งหนึ่งเพื่อแลกกับอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งบางทีตัวเลือกที่เราได้รับนั้นก็คงจะทำให้รู้สึกรักพี่เสียดายน้อง เพราะว่ามันก็สำคัญกับตัวเราทั้งนั้น เหมือนกับเธอคนนี้แตกต่างกันที่ว่าเธอไม่มีความลังเลใดๆ เลย เมื่อว่าที่คุณแม่อย่าง Tasha Trafford วัยเพียง 33 ปี ประสบกับโรคมะเร็งกระดูกในขณะที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งในช่วงเวลา 16 สัปดาห์นั้น เธอจำเป็นต้องทำการฉายรังสีเพื่อรักษาตัวเองให้หายจากโรคร้าย แต่เธอก็ได้ปฏิเสธที่จะทำการรักษา เพราะว่าหากเธอต้องการเช่นนั้น นั่นหมายความว่าเธอจำเป็นที่จะต้องเอาลูกออก ไม่อย่างนั้นก็จะเริ่มการรักษาไม่ได้ จากการที่เธอคอยพยาบาลและดูแลตัวเองมาโดยตลอดทราบดีว่า เธอมีโอกาสที่จะทำให้ตัวเองสามารถมีชีวิตต่อไปได้นานยิ่งขึ้นจากการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ แต่เธอก็ตั้งใจและมีความคิดที่แน่วแน่ว่า เธอต้องการให้ลูกได้ออกมาลืมตาดูโลก… คุณแม่ Tasha และลูกชาย Cooper เธอพูดว่า “การทำสิ่งใดก็ตามที่จะสร้างอันตรายให้กับลูก ไม่เคยมีอยู่ในความคิดของฉันเลย” จากสิ่งที่เธอเลือกก็ทำให้เด็กชายได้คลอดออกมาในวันที่ 12 ธันวาคม 2015 แน่นอนว่าโรคร้ายของเธอก็ยังคงไม่หายไปไหน ทำให้เธอมีเวลาได้อยู่กับลูกเพียงแค่ 11 เดือน ก็ต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า หวังเพียงต่อการจะให้ตัวเองได้อยู่ครบรอบวันเกิดของเด็กน้อยในปีแรก แต่ก็ไม่สำเร็จ เรื่องสะเทือนใจนี้ทำให้พ่อของเธอ Dai Gallivan ตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปยังภูเขาคิลิมันจาโร เพื่อการปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาสำหรับการกุศลที่จะมอบเงินให้ศูนย์ดูแลมะเร็ง Tenovus เขาได้เข้ามาดูแลลูกสาวของเขาในหนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะจากไป แทนที่ลูกชายอีกคน David และในวันที่เธอจากไปเขาก็ได้โทรบอกลูกชายคนนี้พร้อมกับออกเดินทางไปภูเขา ถึงแม้รู้ดีว่าเมื่อเขากลับมาจะไม่มีเธออยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้วก็ตาม…
-
เจ้าหมาป่วยผอมแห้งแรงน้อย ต้องพึ่งพา “เก้าอี้พิเศษ” เพื่อไม่ให้อดตาย จากหลอดอาหารขยายตัว
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละอย่างนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ เข้าช่วยให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่สิ่งที่มากกว่านั้นก็คือความทุ่มเทและความรักเหมือนอย่างที่สุนัขตัวนี้ได้รับ ครอบครัวเก่าของเจ้าหมาที่มีชื่อว่า Patch ได้นำมันมาทิ้งไว้ให้กับสถานพยาบาลสัตว์ ในสภาพที่ผอมแห้งแรงน้อยเนื่องจากอาการป่วยของมัน ก่อนที่จะถูกนำไปยังสมาคมสงเคราะห์สัตว์อีกหนึ่งต่อ… เมื่อได้สืบทราบไปถึงครอบครัวเก่าของมันก็ได้ทราบว่า สุนัขตัวนี้ต้องถูกเลี้ยงดูอยู่ในห้องเช่าไม่ได้เห็นโลกภายนอกใดๆ และน้องสาวของมัน Lulu ก็ต้องจากโลกนี้ไปด้วยความหิวโหย จนเมื่อมันได้มายังสถานสงเคราะห์ เหล่าผู้ดูแลก็พยายามที่จะทำให้มันได้กลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง ก่อนที่จะพบว่าไม่ได้มีเพียงความอดอยากเท่านั้นที่ทำให้มันผอมได้ขนาดนี้ เมื่อทำการตรวจดูก็รู้ว่ามันป่วยเป็นโรคหลอดอาหารขยายใหญ่กว่าปกติ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะนำอาหารเข้าไปสู่กระเพาะของมัน ความหิวโหยและปัญหาการกินที่ไม่เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ จึงทำให้มันมีน้ำหนักตัวเพียงแค่ครึ่งเดียวจากที่ควรจะเป็น . เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือให้มันกลับมามีชีวิตปกติอีกครั้ง จนกระทั่งมีเครื่องมือที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้นั่นก็คือเก้าอี้สูง ช่วยให้อาหารสามารถลงไปสู่กระเพาะได้ง่ายขึ้นจากการนั่งหลัง ด้วยวิธีการกินที่ยากลำบากของมันที่พวกเขาเชื่อว่าจะต้องทำอย่างนี้ไปตลอด เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็กังวลว่าจะมีครอบครัวไหนที่สามารถยอมรับกับสิ่งที่มันเป็นได้ จนกระทั่งหญิงสาวที่มีชื่อว่า Lulu Jenkins พร้อมที่จะรับอุปการะมอบชีวิตที่ดีให้กับมัน หญิงสาวผู้ใจดีตัดสินใจรับเจ้าหมาตัวนี้ไปดูแลทันที โดยมันไม่ใช่ตัวแรกที่เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้านของเธอ แต่เธอนั้นรับเลี้ยงสัตว์เอาไว้มากมายที่ไม่ได้มีเพียงแค่สุนัขหกตัวเท่านั้น แต่ยังมีม้า ลา และอัลปาก้าอีกด้วย ก่อนที่มันจะได้ย้ายไปในบ้านหลังใหม่ก็ได้เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้น เพราะสุขภาพที่ดีขึ้นเอามากๆ ถึงขนาดที่ไม่จำเป็นต้องใช้เก้าอี้เข้ามาช่วยแล้ว จึงสามารถออกไปเจอกับชีวิตใหม่ที่จะสามารถเยียวยามันได้มากขึ้นไปอีกขั้น “มันช่างเป็นสุนัขที่โชคดีอะไรเช่นนี้” นั่นคือคำกล่าวของรองผู้จัดการสถานดูแลสัตว์ หลังจากที่มันเปลี่ยนไปจากตอนแรกมากขนาดนี้ อีกทั้งได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวใหม่ของมันอย่างท่วมท้น ทุกอย่างเกิดขึ้นได้จากแรงความพยายามบวกกับความรักและการเอาใจใส่ดูแลกันจากใจจริง…
-
แก๊งวัยรุ่นในโมร็อกโก ต้องเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากรุมข่มขืนลาที่ติดเชื้อ…
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า แก๊งเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปีในโมร็อกโก ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากที่พวกเขาได้ร่วมกันข่มขืนลาที่ติดเชื้อ… สำหรับเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ Gharb-Chrarda-Béni Hssen ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโมร็อกโก ซึ่งก็ทำให้ครอบครัวของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 15 ราย รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทนทุกข์อยู่กับการถูกชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเยาะเย้ย จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้พยายามค้นหาบุคคลต้องสงสัย ที่คาดว่าอาจจะได้รับเชื้อจากโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนของการติดเชื้อคาดว่าอาจจะมีสูงขึ้น เนื่องจากบางครอบครัวได้พาลูกๆ ของพวกเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกพื้นที่ เพื่อหลีกหนีการถูกเยาะหยันหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเขาสร้างความขายหน้าให้แก่ครอบครัว… ที่มา : mirror
-
หนุ่มวัย 26 ถูกศาลตัดสินจำคุก 16 ปี ในข้อหาหลอกล่อและฆาตกรรม ‘แมว’ มากถึง 21 ตัว
วันที่ 16 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า Robert Roy Farmer ชายวัย 26 ปี ได้รับการพิพากษาจากศาลรับโทษจำคุก 16 ปี หลังจากที่เขาได้ฆ่าแมวไปมากถึง 21 ตัว และทำทารุณกรรมทางเพศซากแมวอีก 1 ตัว ในบริเวณเมืองแซนโฮเซ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานระบุว่า มีแมวหลายตัวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2015 โดยนาย Robert จะทำการหลอกล่อเหยื่อให้ออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะลงมือฆ่าอย่างไร้ความปราณี นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ขณะที่นาย Robert กำลังไล่จับแมววัย 17 ปี และในวันต่อมาทางเจ้าหน้าที่ก็พบซากแมว ซึ่งเป็นแมวตัวเดียวกันที่นาย Robert ไล่จับในคลิปวีดีโอ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามจับตัวนาย Robert หลังตรวจค้นพบอุปกรณ์หลายอย่างในรถที่เขาได้ใช้ฆ่าแมว ไม่ว่าจะเป็น ซากแมวตาย ถุงมือ และมีด ส่วนเจ้าเหมียวที่สามารถรถพ้นจากเงื้อมมือของฆาตกรคนดังกล่าวได้…
-
สยองมาก!! มันมาเคาะประตูบ้าน ทำหน้าตาน่าสงสาร… พอปล่อยให้เข้ามา ก็ถูกมันยึดบ้านไปแล้ว
การเปิดประตูให้กับคนแปลกหน้า ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริงๆ เพราะไม่ว่าจะมาขายของ หรือมาขอความช่วยเหลือ เราไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมาดีหรือมาร้ายกันแน่!! เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ชื่อ niamhish ที่ได้เผยเรื่องราวสุดสยองผ่านเว็บไซต์ Reddit จนทำให้ชาวเน็ตต่างก็พากันแชร์เรื่องราวของเขาไปทั่วโลกโซเชียล เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ในวันที่สดใส เขาดันไปเห็นการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ลักษณะมีสี่ขา ขนทั่วลำตัวเป็นสีขาว ยกเว้นบางส่วนของใบหน้าและหางจะเป็นสีดำ ซึ่งสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เราเรียกๆ กันสั้นๆ ว่า แมวเหมียว มายืนทำหน้าตามุ้งมิ้งอยู่นอกประตูบ้าน ด้วยความที่เห็นว่าเจ้าเหมียวน้อยมีท่าทางที่น่าสงสาร และอาจจะมาเพื่อขอความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงทำให้เขาจึงเปิดประตูให้มันเข้ามา โดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตหลังจากนั้นของเขาเปลี่ยนไปทันที หลังจากที่นำมันเข้ามาในบ้าน เขาก็พบว่าเจ้าเหมียวมาขอความช่วยเหลือจริงๆ เพราะที่อุ้งมือของมันมีแผลเหมือนถูกไฟไหม้และมีขนสกปรกเลอะเทอะ และเมื่อได้นำตัวของมันไปรักษา ทางสัตว์แพทย์ก็คาดว่า เจ้าเหมียวอาจจะไปติดในเครื่องยนต์ หรืออาจจะไปเดินผ่านของเหลวประเภทน้ำกรด แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังดูแข็งแรงดีนะ หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลากว่าสองถึงสามสัปดาห์ เพื่อพยายามติดต่อหาเจ้าของ แต่ทว่ากลับไม่มีใครมารับมันไปเลย ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจรับเจ้าเหมียวตัวน้อยมาเลี้ยง และทำให้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Taco อีกด้วย Taco ได้เข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวใหม่ แถมยังได้พบเจอกับเพื่อนเหมียวตัวอื่นๆ จนกลายเป็นขบวนการแมวเหมียวไปแล้วววว…
-
หนุ่มเข้าทำร้ายสุนัขจนเจ็บหนัก เหตุเพราะคิดว่าอดีตคู่หมั้น มีความสัมพันธ์ใหม่กับชายอื่น…
นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้คนรักน้องหมาทั้งหลายรู้สึกใจสลายขึ้นมาทันที เพราะเจ้าหมาที่น่าสงสารตัวนี้ ต้องกลายมาเป็นเหยื่ออารมณ์ของหนุ่มรายหนึ่ง ที่จับตัวของมันกระแทกเข้ากับผนังด้วยความโกรธ เหตุเพียงเพราะกลัวว่าเขากลัวแฟนเก่าของตัวเองจะไปมีความสัมพันธ์ใหม่กับคนอื่น… วันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Shane Gibson หนุ่มวัย 38 ปี ได้ทำการทุบกระจกหน้าต่างเพื่อบุกเข้าไปในบ้านของอดีตคู่หมั้นในเวลาประมาณ 4.30 น. ซึ่งในตอนนั้นเขามีอาการเมาหนักมาก และเชื่อว่าอดีตคู่หมั้นของตนกำลังอยู่กับชายอื่น งานนี้เลยทำให้เขาถึงขั้นโกรธจัด รีบคว้าตัวเจ้า Sky ผู้น่าสงสาร จับกระแทกเข้ากับผนังจนทำให้ขาของมันได้รับบาดเจ็บสาหัส และส่งผลให้มันต้องถูกตัดขาทิ้ง ทางด้าน Philip Brown อัยการประจำศาลท้องถิ่นในคิงส์ตัน อัพพอน ฮัลล์ได้ออกมาเผยว่า “หลังจากที่เข้ามาภายในบ้าน นาย Gibson ได้รีบวิ่งขึ้นบันไดในสภาพร้อนใจ ขณะกำลังมองหาอดีตคู่หมั้นของเขา ซึ่งในตอนนั้นเขาได้ดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ จากนั้นก็เข้าไปในห้องของเธอ และด้วยความโกรธทำให้เขาได้ระบายอารมณ์ด้วยการทำร้ายเจ้า Sky และทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส” จากการรายงานระบุว่า Gibson ไม่ได้นำตัวของเจ้าหมาไปหาสัตว์แพทย์แต่อย่างใด แต่ภายหลังจากนั้นเพียงไม่นาน อดีตคู่หมั้นก็ได้สังเกตเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของตนมีอาการบาดเจ็บ “อาการบาดเจ็บของเจ้าหมาถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน…
-
ภารกิจเข้าช่วยเหลือ ‘อดีตม้าแข่งระดับแชมป์’ หมดค่าก็ถูกทิ้ง เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก…
บางครั้งชีวิตของคนเราก็อาจจะได้พบเจอกับจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดกันบ้างสลับกันไป… เช่นเดียวกันกับชีวิตของเจ้าอดีตม้าแข่งตัวนี้ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นยอดม้าที่กวาดรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันมาแล้วหลายรายการ แต่หลังจากที่เรี่ยวแรงเริ่มโรยราไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เหมือนในอดีต สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในสภาพที่น่าเวทนา ผู้หวังดีที่อาศัยอยู่ในเมือง Opelousas รัฐ Louisiana ได้ทำการติดต่อไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ St. Landry Parish Animal Control and Rescue (SLPAC) ให้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าม้าตัวดังกล่าวหลังพบว่ามันมีสภาพย่ำแย่มาก พอเดินทางมาถึงสถานที่แล้วก็เริ่มให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่ามันอ่อนแอมาก ร่างกายของมันพังพินาศอย่างสิ้นเชิง กระดูกสันหลังถูกหนอนชอนไช เนื่องจากแผลที่เกิดขึ้นจากการผูกอานที่แน่นเกินไปเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เกิดแผลเปิดขึ้นมากมายหลายจุด ซึ่งบาดแผลแต่ละที่นั้นก็มีการติดเชื้ออย่างรุนแรง แถมยังมีฝีอยู่ในปากของมันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวหญ้าแห้งได้ เป็นเหตุให้เนื้อตัวของมันซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เจ้าหน้าที่จึงตกลงปลงใจว่าวิธีการช่วยเหลือที่ดีที่สุดสำหรับมันก็คือช่วยให้มันไปสบาย จะได้ไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแบบนี้อีกต่อไป…ใช่แล้ว พวกเขาตัดสินใจทำการุณยฆาตมัน “ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันก็น่าจะเข้าใจว่าพวกเราได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว” คุณ Stacey McKnight เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กร SLPAC กล่าว แม้มันจะเป็นวิธีที่ฟังดูโหดร้าย แต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขอให้หลับให้สบายนะเจ้าม้า ที่มา : thedodo
-
ในที่สุดเจ้าตูบ ก็ได้โอกาสเห็นแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก หลังถูกล่ามโซ่มานานถึง 8 ปี!!
เรื่องราวแสนทรมานสำหรับเจ้า Bron สุนัขที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับความเศร้าและโดดเดียวในฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศสเปน จนไม่มีโอกาสได้มองเห็นแสงอาทิตย์มานานกว่า 8 ปี… เจ้า Bron นั้นต้องใช้ทั้งชีวิตถูกล่ามอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ไม่มีแม้แต่แสง และยังถูกทอดทิ้งไว้ให้เดียวดายตัวเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจาก Animal Rescue España ได้บังเอิญไปเจอกับมันเข้า พวกเขายังพบอีกว่าเจ้า Bron มีบาดแผลต่างๆ มากมายรวมถึงสุขภาพของมันก็ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะรับมันมาและจัดการดูแลรักษาเพื่อให้มันกลับมาชีวิตที่ดีอีกครั้งหนึ่ง Pilar Delgado อาสาสมัครผู้ช่วยชีวิตเจ้า Bron ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Dodo ว่า “Bron ถือเป็นเคสช่วยเหลือสุนัขที่ยากที่สุดตั้งแต่ที่ศูนย์เคยช่วยเหลือมา เพราะในด้านร่างกายมันไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงนัก จะมีก็แต่แผลตามจุดต่างๆ ที่ไม่ได้รับการรักษา ทว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือจิตใจของมันที่ไม่ได้เห็นแสงและต้องโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน การทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะมันต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อใจต่อมนุษย์ และทุกครั้งที่มันเห็นคนมันก็จะวิ่งหนีและแอบอยู่ในมุมมืดๆ เสมอ” ยังไงก็ตามพวกเขายังไม่เลิกล้มที่จะเรียกความน่าเชื่อถือกับเจ้า Bron พวกเขาใช้เวลาอยู่นานกว่า 1 ปี จนกระทั่งมันค่อยๆ เริ่มลดความกลัวลงเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง มันยอมที่จะลดการป้องกันและความกลัวลง มันออกจากมุมมืดและยอมให้เจ้าหน้าที่เล่นกับมัน วินาทีนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจและอบอุ่นเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเจ้า Bron ก็คงคิดเช่นเดียวกัน …
-
เรื่องราวของ Chewy หมาน้อยถูกทิ้งในสนามบิน พร้อมกับโน้ตจากเจ้าของ ด้วยเหตุที่จำเป็น…
มีลูกสุนัขมากมายบนโลกใบนี้ ที่เกิดมาไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรู และมีเจ้านายที่เลี้ยงดูเป็นอย่างดีเหมือนกับสุนัขหลายๆ ตัว Chewy เจ้าหมาน้อยพันธุ์ชิวาวา วัยเพียง 3 เดือนตัวนี้ก็เช่นกัน มันเป็นสุนัขน่าสงสารที่ถูกพบตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้องน้ำที่สนามบินลาสเวกัส ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมกับโน้ตฉบับหนึ่ง และนี่คือเรื่องราวของ Chewy หมาน้อยที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนมาช่วยมันเอาไว้ได้ Chewy เป็นลูกหมาตัวน้อยน่าสงสาร ที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งเอาไว้ พร้อมกระดาษโน้ตที่มีข้อความว่า… “สวัสดี!! ฉันชื่อ Chewy เจ้าของของฉันกำลังประสบปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ซึ่งไม่ค่อยดีนัก และเธอไม่มีเงินพอที่จะพาฉันขึ้นเครื่องบินไปกับเธอด้วย จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการทิ้งฉัน แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แฟนเก่าของฉันได้เตะสุนัขของฉันขณะที่เรากำลังทะเลาะกัน และมันก็มีบาดแผลขนาดใหญ่อยู่ที่หัว มันอาจจะต้องการสัตว์แพทย์ ฉันรัก Chewy มาก โปรดรัก และดูแลมันที” โชคดีที่ Chewy ไม่ได้ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เพราะอย่างน้อยก็มีพลเมืองดีได้เข้ามาช่วยเหลือเอาไว้ และส่งตัวมันไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Connor and Millie’s Dog Rescue หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวของมัน “ตอนที่ได้ฟังเรื่องราวของมัน ทำให้ฉันถึงกับเข่าอ่อน ฉันไม่คิดลังเลที่จะรับเจ้าหมามาดูแล พร้อมสั่งให้ผู้ดูแลรักษามันทันที” Gilliam ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกล่าว หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ ในตอนนี้เจ้า…
-
เหตุการณ์หดหู่จากบ้านพักคนชรา เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายคุณปู่มากถึง 11 หมัด!!
เหตุการณ์สุดหดหู่เมื่อมีการเผยแพร่ภาพของเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราในแคนาดา ซึ่งกำลังรับหน้าที่ดูแลคนปู่ท่านหนึ่งอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ซะอย่างนั้น ภาพดังกล่าวเล่นเอาญาติของคุณปู่ถึงกับช็อค!! เรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณปู่ Georges Karam วัย 89 ปี สังเกตเห็นว่าคุณปู่ของพวกเขามีบาดแผลตามร่างกายซึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ พอถามตัวคุณปู่ก็ไม่ยอมปริปาก จนกระทั่งทาง Daniel Nassrallah ผู้เป็นหลานได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้อง เพื่อติดตามดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณปู่ของเขา ภาพที่ปรากฏออกมาเล่นเอาคนทั้งครอบครัวช็อคไปตามๆ กัน เมื่อ Jie Xiao เจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนดูแลปู่ของพวกเขาได้พูดบางอย่างและต่อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ Georges ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 11 ครั้งด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอเขาดูเหมือนจะพยายามทำให้คุณปู่คนดังกล่าวหวาดกลัวด้วยการพูดข่มขู่พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นครอบครัวของคุณปู่ Georges จึงรีบรุดหน้าไปยังบ้านพักคนชรา Garry J Armstrong ทันทีหลังจากแจ้งความกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทางด้านของคุณปู่ก็ได้รับการส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที โชคดีที่ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักนอกจากบาดแผลฟกช้ำ แต่มันก็สร้างความหวาดกลัวให้กับทั้งคุณปู่และครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนทางด้านนาย Jie ก็ให้การรับสารภาพและจะถูกตัดสินคดีในเร็ววันนี้ ทางครอบครัวคุณปู่ก็หวังว่าเขาจะได้รับการลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำดังกล่าว ที่มา metro
-
Tom Holland เผยว่า Spider-Man ต้องมโนล้วนๆ ในฉากต่อสู้ เพราะไม่รู้ว่าตัวร้ายคือใคร!!?
ก็เข้าฉายไปแล้วสำหรับหนังรีบูทรอบที่สามของไอ้แมงมุมกับภาคใหม่ที่ชื่อว่า Spider-man: Homecoming ซึ่งในครั้งนี้ทาง Marvel ก็ได้นักแสดงวัยรุ่นอย่าง Tom Holland มารับบทนำเป็น Peter Parker และอย่างที่หลายคนรู้กันว่าเขาเป็นคนที่ไฮเปอร์และปากสว่างเอามากๆ (ฮ่าาาา๗ !!? ไม่พอแค่นั้น เมื่อไม่นานมานี้ Avengers: Infinity War ก็ได้เริ่มถ่ายทำกันไปแล้ว แน่นอนว่าตัวละคร Spider-man เองก็ได้เป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้ด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นทาง Marvel ก็อยากจะเก็บความลับเกี่ยวกับหนังรวมฮีโร่ภาคใหม่นี้เอาไว้ ทว่าความลับมันดันเก็บไม่อยู่เพราะดันมีเจ้าหนู Tom อยู่ด้วยนี่แหละ ด้วยเหตุนี้ทาง Marvel จึงปฏิเสธการให้สไปดี้คนใหม่ผู้ที่ปากเก็บความลับไม่ได้คนนี้อ่านบทส่วนอื่นๆ ที่ไม่มีตัวเข้าอยู่เลย และล่าสุดเขาก็ยังได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง BBC Radio 1 อีกว่าตอนแสดงในเรื่อง Captain America: Civil War เขาก็ไม่รู้เลยเหมือนกันว่าต้องสู้กับใคร เอ้า!!? เขาเล่าว่า ตอนที่เข้าฉากสู้กันในสนามบิน ในฉากที่เขาแสดงไม่มีใครเลยนอกจากตัว Chris Evan ที่เหลือเป็นตัวลูกเทนนิสประกอบฉากเฉยๆ ไม่ก็เป็นสตั้นแล้วเขาก็ต้องมโนเอาเอง และตอนนั้น Tom ก็ไม่ได้เจอใครที่แสดงในหนังเลยจนถึงงานพรมแดงของเรื่องดังกล่าว …
-
หมาโดนย้อมสีแล้วเอาไปทิ้ง เพราะหมดประโยชน์ ไม่อาจสร้างเงินให้เจ้าของได้แล้ว..!!
เป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นความน่าสงสารของหมาน้อย 2 ตัว ที่โชคร้ายไปเจอกับเจ้าของเก่าผู้ใจร้ายเอามันไปย้อมสีเพื่อหวังใช้พวกมันสร้างรายได้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย เว็บไซต์ TheSun รายงานว่ามีชาวบ้านพบเห็นสุนัขถูกย้อมเป็นสีสองตัว ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าสงสารที่บริเวณ Gelendzhik สำหรับเรื่องนี้จะโทษคนเพาะเลี้ยงอย่างเดียวก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะก่อนหน้านี้เทรนด์การเลี้ยงสุนัขย้อมสีได้รับความนิยมสูงมากในประเทศรัสเซีย ทว่าปัจจุบันความต้องการทางตลาดอาจลดลง ทำให้มีข่าวคราวแบบนี้มาให้เราเห็นกันมากขึ้น ถึงแม้จะไม่มีการชี้ชัดว่าสุนัขผู้น่าสงสารทั้งหลาย ถูกมนุษย์จับย้อมสีขนด้วยวิธีการใด แต่ทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวเหลือพอจะดูออกว่าวิธีการและสีที่ใช้นั้นมีคุณภาพที่ต่ำมาก Mark Protsenko ผู้ประกอบการเจ้าของฟาร์มสุนัขหลากสี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเทรนด์การจับหมามาย้อมสีว่า “เอาจริงๆ นะ พวกสัตว์ไม่ต้องทำงานหาเงินเพื่อซื้อสิ่งของภายนอก มันต้องการก็แค่อาหารและที่อยู่ เรายอมรับว่าเราเพาะพันธุ์ลูกสุนัขย้อมขนขาย แต่มันก็ไม่แฟร์เอาซะเลยที่จะมาโทษเรากับเรื่องที่พวกมันถูกเจ้าของคนที่ซื้อไปทิ้งอย่างไร้เยื่อใย” นอกเหนือจากเพาะพันธุ์ลูกสุนัขย้อมสีแล้ว บ่อยครั้งที่ Mark Protsenko และภรรยามักจะพาลูกสุนัขคอกใหม่ออกไปเดินเล่นในเมืองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคน และทำรายได้ให้เขาสูงถึงวันละ 10,000 บาทเลยทีเดียว “คู่รักสองคนนี้มักจะออกมาเดินตามท้องถนนพร้อมกับลูกสุนัขคอกใหม่เสมอ ทั้งสีชมพู สีน้ำเงิน หรือบางตัวก็ถูกทาสีให้ดูเหมือนสิงโต” กลุ่มอนุรักษ์ออกมาแฉพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากนั้นพวกเขายังได้ตามสังเกตการณ์และพบว่า สองสามีภรรยาคู่นี้มักจะเดินทางไปตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่นอาทิตย์ที่แล้วพวกเขาไปปรากฎตัวที่ Novorossiysk และล่าสุดก็ที่เมือง Gelendzhik ถึงแม้ว่าตามข้อกฎหมายจะยังไม่สามารถเอาผิดผู้ประกอบการด้านนี้ได้ แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้สองตูบสีชมพูผู้ถูกทิ้งไว้กลางทางได้รับการช่วยเหลือแล้ว น่าสงสารจริงๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่…
-
ลูกหมาถูกทิ้งจากหน้าต่างรถ เข้ามาเติมเต็มความสุขให้แม่สุนัขที่ใจสลายหลังเสียลูกตัวเองไป
เมื่อ Blossom สุนัขจากศูนย์พักพิงได้สูญเสียลูกน้อยที่เพิ่งเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกในช่วงกลางเดือนมิถุนายนไป ก็ทำให้มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยทาง Maggie Escriva เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงได้ออกมาเผยว่า เจ้า Blossom กลายเป็นสุนัขที่บ้าคลั่ง และเธอก็ไม่สามารถปลอบใจมันได้ แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เพราะจู่ๆ ก็มีลูกสุนัขถูกทิ้ง 6 ตัวเข้ามาในชีวิตของมัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Blossom กลับมาสดใสอีกครั้ง Maggie จากศูนย์พักพิง Westie & Scottie Rescue Houston ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับลูกสุนัขทั้ง 8 ตัวที่ถูกโยนออกจากหน้าต่างรถบรรทุก แต่น่าเศร้าที่ลูกสุนัข 2 ตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหว จนทำให้มันต้องเสียชีวิตไป โชคดีที่ลูกสุนัขอีก 6 ตัวสามารถรอดชีวิตมาได้ แต่ถึงกระนั้นร่างกายของพวกมันก็ยังคงอ่อนแอมาก Maggie ไม่แน่ใจว่า Blossom จะยอมรับพวกเขาหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ลองตัดสินใจที่จะให้มันพบเจอกับลูกสุนัขตัวน้อยทั้ง 6 ดู และแน่นอนมันได้ผล!! Maggie เผยว่า “Blossom มองไปที่ลูกสุนัข…
-
อดีตนางงามอิตาลี กลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังถูกแฟนหนุ่ม “สาดน้ำกรด” ใส่จนหน้าเสียโฉม
เมื่อกล่าวถึง “ความรัก” หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่สำหรับ Gessica Notaro สาววัย 28 ปี อดีตนางงามผู้เข้ารอบสุดท้ายในเวทีการประกวดนางสาวอิตาลีคนนี้ ชีวิตของเธอกับต้องมาพังทลายลงเพียงเพราะผู้ชายคนนหนึ่งที่ส่งผลให้เธอต้องเจ็บทั้งหาย และเจ็บทั้งใจ หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ตกเป็นเหยื่อของแฟนหนุ่มที่สาดน้ำกรดใส่ใบหน้าของเธอจนเสียโฉม และเกือบตาบอด ถึงแม้ว่า Gessica จะถูกทำร้ายร่างกายจนปางตาย และทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามกลายเป็นเสียโฉม แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถฮึดกลับมาสู้ชีวิตได้อีกครั้ง ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว Gessica กับ Jorge Edson แฟนหนุ่มได้เลิกรากันไป แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวของทั้งคู่จะจบลงไม่สวยงามนัก เพราะแฟนหนุ่มของเธอกลับโกรธแค้น แถมยังสะกดรอยตามเธออยู่ตลอด นั่นทำให้ Gessica ถึงกับต้องเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ทันที ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้ Jorge อดีตคนรักห้ามเข้าใกล้ตัวเธอ แต่นั่นกลับไม่เป็นผล เพราะท้ายที่สุด Jorge ก็ได้กลับมาทำร้ายเธอโดยการสาดน้ำกรดใส่ที่ใบหน้าเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ Gessica ต้องใช้เวลานานเกือบ 6 เดือนในการเข้ารับการผ่าตัดรักษา ทาง Gessica ได้ออกมาเผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายของเธอผ่านทางรายการโทรทัศน์ว่า…
-
แม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนสุดของปี แต่ก็ยังมีคนทิ้งหมาไว้ในรถ ตำรวจเร่งช่วยเกือบไม่รอด
หลายครั้งที่เราได้เห็นข่าวของสัตว์เลี้ยงอย่างหมา แมว หรือเด็กตัวเล็กๆ เสียชีวิตจากการถูกทิ้งให้อยู่ในรถเพียงลำพัง เพราะบางครั้งเราอาจจะคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก แต่จริงๆ แล้วหารู้ไม่ว่าอุณหภูมิของรถที่จอดทิ้งไว้นั้น จะยิ่งสะสมความร้อนมากขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมยังสามารถคร่าชีวิตสุนัขได้ง่ายอีกด้วย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า สุนัขตัวหนึ่งกำลังทุกข์ทรมานอยู่ในรถ หลังจากที่เจ้าของได้จอดรถทิ้งไว้ตรงบริเวณที่จอดรถในมณฑล Suffolk ประเทศอังกฤษ เขาปล่อยให้มันอยู่เพียงลำพัง จนทำให้เจ้าหมาเกือบตาย แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดีที่มีคนมาเห็น และถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน โดยในวันนั้นเรียกได้ว่ามันหนึ่งในวันที่อากาศร้อนที่สุดในอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Suffolk ได้ออกมากล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากประชาชนว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ชั้นล่างของที่จอดรถ และมีสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งอยู่ในนั้น หน้าต่างรถทั้งหมดถูกปิดสนิท มันไม่ได้กินน้ำ และถูกขังอยู่ในรถด้วยอุณหภูมิสูงเกือบ 30 องศาเซลเซียส… เจ้าหมาอยู่ในรถเป็นเวลานาน แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันอยู่ในนั้น และได้รับความช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ซึ่งทางเราก็พร้อมทำการตรวจสอบ จากนั้นเราก็ได้ทุบหน้าต่างรถ เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้เจ้าหมาออกมาจากรถได้” หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยชีวิตของน้องหมาได้สำเร็จ พวกเขาก็พบว่ามันพยายามดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจ แถมมันยังมีปัญญาในเรื่องการเดินอีกด้วย ไม่นานหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยลูกสุนัขออกมาจากรถ พวกเขาก็ได้พบกับเจ้าของ ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของน้องหมาผู้เคราะห์ร้ายได้อ้างว่า พวกเขาไม่ได้จะไปทำธุระนานๆ เลย แต่ตั๋วที่จอดรถ ซึ่งอยู่บนรถของพวกเขากลับแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องออกไปทำธุระนานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม…
-
เด็กชายเกิดมาไร้จมูก ได้รับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นช่วงที่แสนสั้นก็ตาม…
Eli Thompson เด็กชายจากรัฐแอละแบมาผู้เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่ไร้จมูก และเสียชีวิตอย่างสงบกลางดึกเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2017 หลังจากที่พึ่งฉลองครบรอบวันเกิด 2 ขวบได้ไม่นาน… Eli เป็นเด็ก 1 ใน 37 คนทั่วโลกเท่านั้นที่เกิดมาแล้วไม่มีจมูก ซึ่งเขาได้ถูกบันทึกไว้เมื่อตอน 4 มีนาคม ปี 2015 นอกจากนี้เขายังเกิดก่อนกำหนดคลอดถึง 5 วัน และเขาไม่มีโพรงจมูกหรือระบบหายใจด้วยจมูก เหมือนดั่งคนปกติทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้น Eli ก็ยังมีอายุได้จนถึง 2 ขวบ ซึ่งทางพ่อของเขา Jeremy Finch ได้บอกว่าลูกชายเป็นคนที่ร่าเริงตลอดเวลา เขาชอบที่จะชนกำปั้นกับทุกๆ คนที่เขาได้เจออยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ทางด้านครอบครัวก็ยังบอกอีกว่า Eli เป็นเด็กที่มีสปิริตสูงมาก เขาเรียนรู้ที่จะสื่อสารผ่านการมองเห็นและพยายามสื่อสารกับเด็กคนอื่นๆ เสมอ และแน่นอนว่าเขาเป็นตัวจุดประกายให้กับคนมากมายรอบๆ ตัว ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกสงสารและเข้าใจเขามากเป็นพิเศษ เมื่อตอนอายุ 7 เดือน เด็กชายได้เจอกับ Tessa เด็กสาวชาวไอร์แลนด์…
-
เรื่องราวของหมี ที่ถูกขังมานานกว่า 8 ปี และชีวิตที่เพิ่งจะรู้จัก ‘อิสรภาพ’ เป็นครั้งแรก
สำหรับชีวิตทุกชีวิตไม่ว่าจะสัตว์เล็ก หรือสัตว์ใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากถูกจองจำ หรือถูกพรากอิสระภาพไปจากชีวิตตัวเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวชีวิตของหมีมิราเคิล ผู้ถูกขังอยู่ในกรงขนาดเล็กมานานกว่า 8 ปี ไม่เคยได้สัมผัสผืนหญ้า และอิสรภาพในการใช้ชีวิต จนกระทั่งมันได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง น่าสลดใจ เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่าเจ้ามิราเคิล ถูกขังมาตลอดชีวิต และมันพยายามใช้หัวโหม่งกรงจนกลายเป็นรอยบุบบนหัว ก่อนหน้านี้มันถูกกักขังไว้ที่ประเทศเวียดนามตั้งแต่ยังเป็นลูกหมี โดยพ่อค้าผู้เฝ้ารอที่จะนำอวัยวะของมันไปขายในจีนอีกที ไม่ใช่เพียงแค่เจ้ามิราเคิล เท่านั้นที่ถูกกักขังอย่างน่าสงสาร จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ก็สามารถเอาชนะและไถ่ชีวิตพวกมันกลับคืนมาได้ พวกเขาได้ทำการย้ายที่อยู่อาศัยของมันมาอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ โดยที่นี่มีทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด “ช่วงแรกที่มันมาถึง สุขภาพของมันย่ำแย่มาก เราต้องคอยดูแลมันอย่างใกล้ชิดไม่ให้มันขาดสารอาหาร เพราะมันอยู่ในสภาพที่น่าสงสารมาก” สัตวแพทย์เล่า ถึงแม้ว่าทุกวันนี้หมีที่ได้รับการช่วยเหลือ จะมีสุขภาพดีมากขึ้น และได้รับการดูแลอย่างดีก่อนปล่อยคืนสู่ผืนป่า แต่ทว่าปัญหาการล่าสัตว์ป่า โดยนำอวัยวะของพวกมันไปขายให้กับตลาดมืด เช่นที่ประเทศจีน ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับองค์กรพิทักษ์สัตว์ทั้งหลาย ปัจจุบันคาดว่ามีหมีมากกว่า 10,000 ตัว ที่ถูกกักขังไว้อย่างน่าสงสาร เพียงเพื่อต้องการนำอวัยวะของมันไปทำเมนูพิศดาร และนี่เป็นเพียงปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น เราก็ขออวยพรให้หมีทุกตัวได้รับการช่วยเหลือในเร็ววันด้วยเถิด สาธุ๊… ที่มา: Thedodo
-
มนุษย์ใจดี ช่วยชีวิตหมาที่ถูกทำร้าย-ถอนเล็บ เอามาทิ้งรอความตายริมถนน จนมันรอดอีกครั้ง!!
คำเตือน: เนื้อหานี้อาจจะมีภาพที่รุนแรง ภาพของแผลบนร่างกายสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้บางคนหดหู่ได้ กลายเป็นเรื่องชวนให้เศร้า หลังจากที่เช้าวันอังคาร บริเวณริมถนนสาย A20 ของเมืองเคนท์ ในประเทศอังกฤษ มีพลเมืองดีบังเอิญไปพบเจ้าหมาสเปเนียลสีขาวดำ กำลังนอนรอความตายอย่างน่าสงสาร ร่างกายของมันอยู่ในสภาพแย่ มีบาดแผล และเล็บของมันก็ถูกถอนไปหมด ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบพามันไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์ RSPCA ทันทีและตั้งชื่อเล่นให้กับเจ้าหมาว่า Flick เมื่อมันไปถึงศูนย์ดูแล เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า รีบตรวจและช่วยเหลือมันทันที เพราะสภาพและอาหารของมันตอนนั้นถือเป็นเคสเร่งด่วน โฆษกของ RSPCA ออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Flick ว่า “การถอนเล็บของสุนัขออกอย่างไม่เต็มใจถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและผิดกดหมายภายใต้กฎหมายในการคุ้มครองสัตว์ภายในประเทศอังกฤษ ที่สำคัญยังไม่รับรวมการทิ้งสุนัขของตนทำเหมือนกับว่ามันเป็นขยะ” สภาพร่างกายของมัน ที่ต้องบอกว่าหนักมาก มีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งถ้าไม่ได้คนใจดีช่วย มันคงจะไม่รอด เจ้า Flick เเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและลงทะเบียนรวมถึงมีได้ฝังไมโครชิพไว้ ทำให้การตามหาตัวเจ้าของจริงๆ เป็นไปได้ยากมากๆ แต่ถ้าเกิดว่าหลังจากที่ทางศูนย์รักษามันเรียบร้อยแล้วยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทางศูนย์ก็จะทำการหาบ้านหลังใหม่ให้แก่มัน ซึ่งสัตวแพทย์จากทางโรงพยาบาลสัตว์จะเป็นคนรับมันไปดูแลแทนนั่นเอง… ใครกันนะช่างโหดร้ายกับเจ้า Flick ได้ ทิ้งมันยังไม่พอยังถอนเล็บมันอีก อย่าให้เจอนะ ที่มา metro
-
ผู้คนต่างพากันร่ำไห้ ภาพแม่สุนัขที่ต้องสูญเสียลูกไป 3 ตัว และเยียวยาความรู้สึกด้วยตุ๊กตา
Xavier Hernandez หนุ่มวัย 18 ปี ผู้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์ xXx ได้แชร์ภาพและเรื่องราวสุนัขของเขาให้แก่ชาวเน็ตได้อ่านกัน แถมเรื่องที่ว่ายังเศร้าจนทุกคนต่างพากันแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายกับเรื่องราวนี้ Twinkle คือชื่อของสุนัขที่เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด โดยมันและ Xavier อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Xavier ได้เล่าผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed ว่าวันหนึ่งเขาได้รู้ว่าสุนัขของเขากำลังตั้งท้องและคลอดออกมาเป็นลูกสุนัข 3 ตัวด้วยกัน แต่หลังจากพวกมันคลอดได้ไม่นานลูกสุนัขทั้งสามก็ต้องตายจากไป ทิ้งไว้แต่ความเศร้าศร้อยให้กับเจ้า Twinkle ด้วยเหตุนี้แม่ของ Xavier ก็เลยนำตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ 3 ตัวมาให้กับมัน เพื่ออยู่เป็นเพื่อนและช่วยเยียวยาความเศร้า หลังจากนั้นมันก็ไม่ปล่อยตุ๊กตาอีกเลย แถมไม่ยอมให้ใครแตะต้องตุ๊กตาของมันอีกด้วย และมันก็ยังดูแลเหล่าตุ๊กตาดีมากๆ เหมือนมันกำลังดูแลลูกของตัวเองเลย ลองมาดูความรู้สึกและเสียงตอบรับของชาวเน็ตกันบ้างดีกว่า ว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องของเจ้า Twinkle? สำหรับชาวเน็ตคนนี้แสดงความรู้สึกด้วยภาพ ที่ดูก็รู้ว่าเศร้าแค่ไหน รวมถึงคนนี้ก็เช่นกัน นี่สินะที่เรียกว่าภาพสามารถแทนคำพูดได้มากมาย ส่วนชาวเน็ตสองคนนี้ก็แสดงความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวของมันแทบจะทำให้ความรู้สึกของพวกเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ หรือจะเป็นเธอคนนี้ที่ถึงกับตั้งคำถามว่า ทำไมเรื่องร้ายๆ มักเกิดกับสุนัขดีๆ เสมอ …
-
Rocket แมวน้อยที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่ความน่ารักของมัน ทำให้มนุษย์หลงรักเต็มเปา
Rocket เจ้าเหมียวน้อยที่มีความน่ารักเหมือนกับแมวทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ ก็คือ มันเป็นแมวที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่นั่นกลับไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของมันเลยสักนิด เพราะเมื่อน้องเหมียว Rocket อายุได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ มันก็พร้อมเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับการเดินสองขาเหมือนแมวตัวอื่นๆ ว้าววววว!! สุดยอดเลยเจ้าเหมียว สำหรับ Rocket มันเป็นลูกแมวจรตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ก็ทำให้มันได้พบกับ Mareen (เจ้านายคนใหม่ในอนาคต) จากกรุงเบอร์ลิน และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มสนใจในตัวของมันทันที “เจ้าเหมียวเกิดมาพร้อมกับขาหน้าเพียงสองขาเท่านั้น ในวันแรกที่ฉันเห็นมัน เจ้าเหมียวมีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แถมมันยังขี้อายมากๆ เพราะในขณะที่ฉันเดินไปหามัน เจ้าเหมียวก็รีบหลบฉันทันที” Mareen กล่าว และในทุกๆ วัน Mareen ก็มักจะแอบไปหามันอยู่เสมอ พร้อมกับนำอาหารไปให้เจ้าเหมียว เนื่องจากเธอกำลังพยายามที่จะเข้าไปทำความคุ้นเคยกับมัน และเมื่อนานวันเข้า Mareen ก็สามารถเข้าไปจับตัวของมันได้แบบง่ายๆ แถมยังพามันกลับบ้านอีกด้วย ในตอนแรกแมวน้อยแสนน่ารัก รู้สึกประหลาดใจกับสถานที่แห่งใหม่ แต่กลังจากที่ Mareen พยายามเข้าไปใกล้ชิด และคุยกับมัน ก็ทำให้เจ้าเหมียวเริ่มไว้ใจเธอมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นแมวที่มีเพียงสองขา…
-
เจ้าหมาฮัสกี้ พยายามปลุก “ร่างไร้วิญญาณ” ของเพื่อนมันให้ตื่น หลังถูกรถชนกลางถนน…
หลายคนที่เลี้ยงสุนัข จะรู้ดีว่ามันเป็นสัตว์ที่ภักดีต่อเจ้านายมากขนาดไหน แม้กระทั่งเวลาที่พวกมันเห็นเจ้านายกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พวกมันก็จะรีบเข้ามาปกป้องเราทันที เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันถูกนำมาเสนอบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง… และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอที่จะมายืนยันให้มนุษย์ทั้งหลายได้เห็นว่า “สุนัข” นอกจากจะภักดี และคอยปกป้องเจ้านายแล้ว มันก็ปฏิบัติเช่นนี้กับเพื่อนสุนัขตัวอื่นๆ เหมือนกันนะ วันที่ 19 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจของเจ้าหมาพันธุ์ฮัสกี้ตัวหนึ่ง ที่ได้ยืนเฝ้าดูเพื่อนของมันอยู่ไม่ห่าง หลังจากที่เพื่อนของมันถูกรถชน สำหรับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง ทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง ในประเทศจีน ซึ่งจากคลิปปรากฏให้เห็นว่า… หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เจ้าหมาฮัสดี้ตัวสีขาวก็ได้ยืนเฝ้าเพื่อนของมันอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง พร้อมกับมีท่าทีเสียใจอย่างหนัก และได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา นอกจากนี้ มันยังพยายามที่จะปลุกเพื่อนหมาสีน้ำตาลที่นอนนิ่งไร้ล้มหายใจอยู่บนถนนให้ตื่น ท่ามกลางรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาอยู่เต็มท้องถนน ขณะที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้เลย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หญิงชุดดำที่อ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัขก็ได้วิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และพยายามปลุกให้เจ้าหมาตื่น พร้อมกับได้พาเจ้าหมาตัวนั้นอกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวทันที โดยภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่าหญิงรายดังกล่าวเป็นเจ้าของสุนัขผู้โชคร้ายนั่นเอง ตามรายงานข่าวไม่ได้บอกว่า เธอจัดการอย่างไรกับศพของสุนัข หรือตำรวจสามารถติดตามตัวคนชนได้หรือไม่ แต่คลิปที่เป็นไวรัลมียอดวิวกว่า 2.5 ล้านครั้ง คงเป็นเครื่องการันตีความเห็นอกเห็นใจของชาวเน็ต และคนนับล้านก็ได้รับชมความซื่อสัตย์และรักเพื่อนของเจ้าตัวขาวได้เป็นอย่างดี… ที่มา : ladbible, dailymail
-
คำขอสุดท้ายของ “หญิงชราป่วยเป็นมะเร็ง” อยากให้คนใจดีรับหมาไปเลี้ยง ก่อนเธอจากโลกนี้ไป…
เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยเรื่องราวชวนเรียกน้ำตาของ Gloria Gutierrez คุณยายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง และต้องเข้ารับการรักษาตัวด่วนในโรงพยาบาล แต่สิ่งที่เธอเป็นกังวลมากที่สุดในชีวิตไม่ใช่เพราะโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ แต่เธอกลับเป็นห่วง Vera, Brandy, Light, Mega, Bruno และ Muñeca สุนัขทั้ง 6 ตัวของเธอมากกว่าอะไรทั้งสิ้น “เธอเรียกสุนัขเหล่านี้ว่าเป็นลูกๆ ของเธอ และพวกมันก็ต้องการที่จะอยู่รอบๆ ตัวของเธอตลอดเวลา ซึ่ง Gloria ก็จะขอปกป้องลูกๆ ของเธอไปตลอดชีวิต” Rachel Cannady อาสาสมัครจากองค์กรช่วยเหลือสุนัข God Rescue Dog กล่าว สำหรับเจ้าสุนัขทั้ง 6 ตัวนี้ มันเคยเป็นสุนัขจรจัดมาก่อน ต่อมา Gloria ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันมาจากถนนในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส หลังจากที่พวกมันถูกทอดทิ้งโดยเจ้าของเดิม แต่น่าเศร้าที่น้องหมาชื่อ Muñeca วัยเพียง 3 ปี กลับต้องมาเจอกลับเรื่องที่โชคร้ายหลังจากถูกเจ้าของเดิมทิ้งให้อยู่ตามลำพัง แต่ต้องมาถูกรถชน เมื่อมันพยายามที่จะเดินข้ามถนน อุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้เจ้า…
-
คู่รักมองเห็นวัตถุประหลาดบนถนน อ่าว… นั่น “แมวโดนม้วนเทปรัดคอ” ต้องช่วยมันด่วนแล้ว!!
เหตุการสุดอันน่าเป็นห่วงเมื่อเจ้าแมวสีส้มตัวหนึ่งถูกพบเจอในขณะคอของมันมีม้วนเทปพันคอมันอยู่ และมันก็ดูทรมานมากๆ จากสิ่งทีอยู่ตรงคอมัน แต่ในท้ายที่สุดทีมช่วยเหลือสุดใจดีก็เข้ามาช่วยมันได้สำเร็จและทำให้มันกลับรู้สึกดีอีกครั้ง เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้ถูกพบบริเวณข้างถนนในแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับม้วนเทปที่ใช้แล้วอยู่ที่คอของมัน ซึ่งผู้คนมากมายพยามที่จะจับและช่วยเหลือมันคนแล้วคนเล่า ทว่าทำยังไงก็ไม่สำเร็จเสียที จน Kimberly Saxelby และ Chris Gattas ก็ตัดสินใจว่าต้องออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้กลับมาให้ได้ ซึ่งวันที่พวกเขาออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี โดย Kimberly ได้เล่าถึงเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือว่า “เมื่อพวกเราไปถึง พวกเราได้เอากรงไปวางไว้ห่างจากมันไม่ถึงเมตร ในขณะที่มันยังหลบอยู่ใต้ท้องรถด้วยความกลัว พวกเราเฝ้ารอจนกว่ามันจะออกมาเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง จุดสุดท้ายพวกเราก็ตัดสินใจจะจับมันด้วยตะข่าย” “หลังจากที่พยามจับเจ้าเหมียวอยู่พักใหญ่ๆ Chris ก็จับมันได้สำเร็จ แน่นอนว่าด้วยความกลัวเจ้าเหมียวก็พยามที่จะหนีออกไปตะข่ายของเขาอย่างสุดความสามารถ” หลังจากที่เจ้าเหมียวเริ่มใจเย็นลงแล้ว พวกเขาก็พามันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Rancho Cucamonga และพวกเขาก็เริ่มการรักษาเจ้าเหมียวทันที จากการคาดเดาม้วนเทปน่าจะติดอยู่กับคอของมันมานานกว่าเดือนแล้ว “ตอนแรกเราไม่รู้เลยว่าสภาพมันแย่ขนาดไหน จนเราถอดม้วนเทปนั้นออกมาได้ น้ำตาฉันถึงกับไหล ฉันคิดสภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา มันไม่สามารถจะดื่มหรือกินอะไรได้เลยในตอนที่ม้วนเทปยังอยู่ที่คอของมัน” . หลังจากทีมแพทย์ของสถานพักพิงสัตว์ ทำการรักษาเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารตัวนี้เรียบร้อย มันก็สามารถที่จะกลับไปกินข้าวกินน้ำได้ดั่งเดิม และสภาพของมันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง “พวกเราตั้งชื่อมันว่า วาเลนไทน์ ตามชื่อวันเดียวกับที่พวกเราช่วยมัน” ถึงแม้มันจะได้รับการรักษาแล้ว…
-
เจ้าหมาติดโค้กหนัก กินติดต่อกันทุกวันนานนับปี จนทำให้ฟันผุต้องถอนออกถึง 12 ซี่
สุนัขส่วนใหญ่ อาจจะชื่นชอบการรับประทานขนมคบเคี้ยว กระดูก บิสกิต หรือเศษอาหาร แต่สำหรับเจ้า Lady พี่หมาพันธุ์แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ในวัย 20 ปีตัวนี้ บอกเลยว่ามันชอบในสิ่งที่แตกต่างจากสุนัขตัวอื่นๆ นั่นก็คือ เจ้า Lady ชอบดื่มโค้กเป็นอย่างมากนั่นเอง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Lady เจ้าหมาแสนน่ารักตัวนี้ ได้รับการถอนฟันออกจากปากทั้งหมดถึง 12 ซี่ (เดิมมีอยู่ 16 ซี่) หลังจากที่ดื่มโค้กติดต่อกันทุกวันเป็นเวลานานถึง 1 ปี ก่อนหน้านี้ เจ้า Lady ก็คือหมาที่ชื่นชอบการทานอาหารปกติๆ เหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่มันได้แอบชิมโค้กของ Kate Snook ผู้เป็นเจ้าของ นั่นทำให้เจ้าหมารู้สึกชื่นชอบเครื่องดื่มน้ำอัดลมนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Kate Snook เจ้าของวัย 46 ปี จากเมือง Trowbridge…
-
สงสารนะแต่ขอฮาก่อน 18 ภาพน้องหมาน้องแมว ที่พึ่งได้เรียนรู้ว่า ชีวิตนี้อย่างไปแหยมกับ ‘ผึ้ง’ !!!
ถ่อวววววว #จ่าสิบเหมียว เห็นละอยากจะหัวเราะเป็นภาษาแมว ฮ่าๆๆๆ จะให้ช่วยเหรอจ๊ะ?? ได้สิ แต่ขอไปหยิบกล้องก่อนน้าาา อิอิ และนี่ก็คือ 18 ภาพน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวจ้อยของคุณ ที่กำลังได้รับบทเรียนอย่างเจ็บแสบเลยที่จะทำให้พวกมันรู้ว่าชีวิตนี้ไม่ควรจะไปแหยมกับผึ้งไม่งั้นจะเจอแบบนี้ ฮร่าาา ลองมาดูกันเลย!!! นี่นึกว่าไปขึ้นสังเวียนเดือดกับบัวขาวมานะเนี่ยเจ้าตูบ -*- ก๊ากกกกกกก ว่าจะไม่ตลกแล้วเชียว >< นี่มันตูบหรือปลาน้ำลึกเนี่ย!!? ขอร้อง อย่าเอาภาพไปโพสต์ลงเน็ทนะครัชชชช ไม่ต้องมามองบน แกทำตัวแกเองนะ ฮ่าๆๆ คิดว่าเนียนเหรอ!? จะกินข้าวได้มั้ยเนี่ย… ผมไม่ใช่หม่ำนะ เจ้านายอย่าหัวเราะผมสิ ไปเล่นกล้ามมาเหรอจ๊ะช่วงนี้ อิอิ ถถถถถถถถถถถ ลั่นเลย ชัดเจน หึหึ เป็นสิงโตไปซะละ บวมขนาดนี้ซดน้ำก็พอเนาะตูบ แหมๆๆ เก็บอาการๆ …
-
เจ้าของสุดเศร้า หลังสุนัขหายตัวไปนานหลายปี แม้จะยังไม่เจอตัว แต่ก็ไม่เคยหยุดตามหา
เมื่อสามวันก่อนหลังจากที่ Amanda Denes ได้กลับมาจากที่ทำงาน เธอก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างภายในบ้านเปลี่ยนไป “ฉันเดินเข้าไปในในอพาร์ตเมนต์ของฉัน และสังเกตเห็นว่ามันไม่เหมือนเดิม และเมื่อฉันเดินเข้าไปในห้องนอน ฉันก็เห็นห้องที่เพิ่งถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ” Amanda ผู้สอนที่ University of Connecticut กล่าว ในตอนแรก Amanda คิดว่า สิ่งที่เธอเห็นทั้งหมดคือเป็นผีมือของเจ้า Burton และ Zuzu สุนัขแสนรักวัย 3 ปีของเธอที่อาจจะวิ่งเล่นซุกซนไปรอบๆ บ้าน แต่พอภายหลังเธอกลับสังเกตเห็นว่าพวกมันก็ได้หายตัวไปเช่นกัน ทางด้าน Amanda ได้บอกว่า “ฉันเห็นทีวีถูกทุบ มีแก้วแตกไปทุกหนแห่ง และประตูด้านหน้าก็ถูกเปิดทิ้งไว้” ด้วยเหตุนี้ Amanda จึงรีบวิ่งออกไปด้านนอก เนื่องจากเธอมีความกังวลว่าสุนัขของเธออาจจะเดินอยู่ในอากาศที่หนาวเหน็บ อีกทั้งเธอยังได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน เพื่อถามพวกเขาว่าเห็นอะไรบ้างหรือไม่ ซึ่งทางเพื่อนบ้านก็มาช่วยเธอตามหาสุนัข เมื่อทางตำรวจมาถึง พวกเขาก็ได้เข้าทำการตรวจสอบทุกอย่างภายในบ้าน และพบว่าไม่มีของภายในบ้านหายไปเลย แม้แต่เงินเพียงแค่ 10 เหรียญ ก็ยังคงวางอยู่บนโต๊ะ แต่ที่แน่ๆ คือ…
-
Poppy น้องหมาที่ถูกทำร้ายจนพิการ ต้องลำบากลากขาตัวเองไปขอความช่วยเหลือ!!
นี่คือ Poppy น้องหมาพิการที่น่าสงสาร มันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กระดูกสันหลังตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันเป็นอัมพาตช่วงล่างจนขาหลังไม่สามารถใช้การได้ แม้ว่าชีวิตของมันอาจจะฟังดูรันทด และหดหู่ แต่เราอยากบอกให้คุณรับรู้ว่าตอนจบของเรื่องนี้มันแฮปปี้มากๆ เลยละ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้า Poppy หมาขาพิการที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสัตว์ตัวอื่นๆ ทำร้าย จนทำให้มันต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดเป็นเวลานานนับเดือน ก่อนที่มันจะลากสังขารของตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ทางด้าน Amanda Stronza หนึ่งในผู้ที่ทำงานในค่ายวิจัยในภาคเหนือของ Okavango ในบอตสวานา และเพื่อนร่วมงานของเธอถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นสภาพของเจ้า Poppy ในขณะที่มันกำลังเดินขาลากเข้ามายังสถานที่ทำงานของพวกเขา “มันคลานเข้ามาในค่ายวิจัยของเรา เพราะขาหลังของมันเหมือนใช้การไม่ได้ และมันก็ไม่สามารถเดินไป ในตอนนั้นมันหวังที่จะได้รับความรัก และอยากจะขอความช่วยเหลือ” Amanda กล่าว นั่นจึงทำให้ Amanda และเพื่อนร่วมงานของเธอ ได้พาเจ้า Poppy เข้ามาและดูแลมันอย่างสุดความสามารถ อีกทั้งยังส่งตัวมันไปรักษากับสัตว์แพทย์ที่โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถถึง 8 ชั่วโมง และนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังคลินิกสัตวแพทย์ที่ใกล้ที่สุด หลังจากที่ส่งตัวมันถึงสัตว์แพทย์ พวกเขาก็เฝ้ามองเจ้าหมาที่น่าสงสารอยู่ไม่อย่าง และเมื่อมันได้รับการรักษา…
-
“สโมคกี้” เจ้าหมาแสนเศร้า ได้รับตุ๊กตาช้างมาอยู่เป็นเพื่อน เยียวยาหัวใจเป็นความสุขเล็กๆ
นี่คือเรื่องราวของเจ้าสโมคกี้สุนัขวัย 5 ขวบ ที่น่าสงสารกลับต้องมาอยู่อย่างโดดเดี่ยว หลังจากที่เจ้าของเดิมของมันไม่มีบ้านให้อาศัยอยู่ และนั่นก็ทำให้มันไม่มีใครที่จะสามารถดูแลได้อีก แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ อย่างน้อยเจ้าหมาก็ไม่ได้โชคร้ายเสมอไป เพราะในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ทางสถานสงเคราะห์สัตว์ Franklin County Dog Shelter & Adoption Center ก็ได้รับเจ้าหมาผู้โดดเดี่ยวเข้ามาดูแล พร้อมกับของเล่นที่มันชื่นชอบนั่นก็คือ “ตุ๊กตาช้าง” แสนน่ารัก เจ้าสโมคกี้รักตุ๊กตาช้างสีเทาของมันมาก เพราะเจ้าตุ๊กตาเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้มันมีความสุขกว่าการเล่นของเล่นอื่นๆ ในศูนย์พักพิง อีกทั้งสโมคกี้ยังรู้ว่าด้วยว่าสักวันหนึ่งตัวของมันและเจ้าตุ๊กตาแสนรัก จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่แสนอบอุ่น สโมคกี้ไม่ใช่สุนัขที่ดูสดใสเหมือนกับสุนัขตัวอื่นๆ มันดูเหมือนจะเป็นหมาขี้อาย และค่อนข้างเครียดอย่างหนัก เพราะต้องจากกับเจ้าของ แถมยังได้มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นตา โดยทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าสโมคกี้มักจะส่งเสียงคำรามอยู่บ่อยๆ นั่นทำให้มันยังไม่พร้อมที่จะให้คนรับไปเลี้ยง แต่ว่ามันจะต้องได้รับความช่วยเหลือ เพื่อจะทำให้มันออกไปจากสถานที่แห่งนี้ และอาจจะได้ไปอยู่กับคนที่สามารถดูแลมันได้ ที่สถานสงเคราะห์ได้ติดป้ายเอาไว้ว่า สโมคกี้กับเจ้าตุ๊กตาจะต้องไปอยู่บ้านหลังใหม่พร้อมกัน แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีอาสาสมัครจากองค์กรไม่แสวงผลกำไร I Have A Dream Rescue Organization 2 คนได้มาพบมันเข้า ซึ่งก็ทำให้พวกเขาตกหลุมรักเจ้าสโมคกี้ในทันที แถมยังเต็มใจที่จะหาบ้านใหม่ให้กับมันอีกด้วย …
-
หนูน้อย 3 ขวบ อาศัยอยู่กับร่างไร้วิญญาณของแม่ 2 วันเต็ม โดยไม่รู้ว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว
เหตุการณ์ที่#เหมียวขี้อ้อนจะเล่าต่อไปนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจของ Lydia Macdonald คุณแม่จากเมืองเพิร์ท ประเทศสกอตแลนด์ และลูกชาย Mason Martin วัย 3 ขวบ ตามรายงานบอกว่าในขณะที่ Lydia อาศัยอยู่ภายในบ้านกับลูกชายของเธอเพียงลำพัง จู่ๆ อาการโรคหอบหืดก็เกิดกำเริบขึ้นมาอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตภายในบ้านโดยที่ลูกน้อยไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่าแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว หนูน้อย Mason ต้องอาศัยอยู่กับร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ตามลำพังเป็นเวลานานกว่า 2 วัน จนในที่สุด Jodi-Ann ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ Lydia ได้มาเยี่ยม และพบว่าเธอเสียชีวิตในสภาพที่มีเครื่องพ่นยาอยู่ในมือ ทางด้าน Jodi ได้ออกมาเผยว่า “หนูน้อย Mason ได้เข้ามาบอกเธอว่าเขาพยายามปลุกแม่ แต่แม่ไม่ยอมตื่น” ในขณะที่ Linda Macdonald แม่ของ Lydia ก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องการตายของลูกว่า “ทางครอบครัวของเรารู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ในตอนนั้น Mason เป็นคนเดียวที่อยู่กับเธอ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าในตอนนั้นเขาจะคิดอะไรอยู่และเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ พ่อของ Mason…
-
Ashley หมาที่ถูกเจ้านายทิ้งอย่างไม่มีใยดี จนได้มาอยู่กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ปลอดภัยแล้ว!!
นี่คือเรื่องราวของ Ashley สุนัขพันธุ์พิทบลูสีน้ำตาลน่าสงสารกลายเป็นหมาจรจัดไร้ที่อยู่ โดยก่อนหน้านี้มันก็คือหมาบ้านธรรมดาๆ ที่เจ้านายเดิมไม่เคยพามันออกไปเที่ยวข้างนอกเลย จนในที่สุดพวกเขาก็ทอดทิ้งมันแบบไม่มีใยดี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo มีรายงานว่า หลังจากที่ถูกทิ้งมาได้สักพัก ตอนนี้ชีวิตของเจ้า Ashley มีความสุขมาก แถมยังมีคนที่คอยรัก และดูแลมันแล้ว ดีใจด้วยนะ!! ย้อนเวลากลับไปในตอนที่ Ashley กลายเป็นหมาจรจัด Erica Mahnken และ Michael Favor คู่หมั้นของเธอ ได้พบมันเข้า ดังนั้นพวกจึงได้เข้าไปช่วยเหลือมันเอาไว้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา “เราได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่า มีคนอาศัยอยู่ในบ้านร้างหลังหนึ่ง ที่ไม่มีเครื่องให้ความอบอุ่น และไม่มีไฟฟ้าใช้ แถมยังมีสุนัขอยู่ในนั้นอีก 1 ตัว… คืนนั้นเป็นคืนที่มีพายุหิมะ ผมคิดว่าพวกเขาคงจะไปหาที่อบอุ่นอยู่ และได้ทิ้งเจ้าหมาเอาไว้เพียงลำพัง ดังนั้น เมื่อเราได้รับโทรศัพท์ เราจึงรีบเข้าไปเอาตัวของเจ้าหมาออกมา เมื่อเขาไปภายในบ้าน เราก็ได้พบว่าเจ้าหมาถูกทิ้งอยู่อย่างโดยเดี่ยว ไม่มีอาหาร และน้ำให้กับมัน อีกทั้งหน้าต่างในบ้านยังถูกทำลาย และมีอุจจาระอยู่ทั่วทุกพื้นที่” Erica กล่าว…
-
ความจริงที่น่าเศร้าของม้ากว่า 30,000 ตัว ที่ถูกส่งไปฆ่ายังประเทศแคนาดา
นี่คือเรื่องราวอันน่าเศร้าของม้ากว่า 30,000 ตัวในสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะทำให้คนรักสัตว์ทั้งหลายถึงกับน้ำตาไหล เพราะเจ้าม้าที่น่าสงสารเหล่านี้ แทนที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ในทุกๆ ปี พวกมันมักจะถูกมนุษย์ส่งไปขายในต่างประเทศ และถูกฆ่าตายอยู่เสมอ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากอาจไม่คิดว่าม้ากว่า 100,000 ตัวจากสหรัฐฯ ถูกส่งไปยังประเทศอื่นๆ ในแต่ละปี เพื่อฆ่านำไปทำเป็นเนื้อบริโภค แต่ทว่าในปีที่ผ่านมา มีการค้นพบว่า นับตั้งแต่ที่โรงฆ่าม้าในสหรัฐอเมริกาปิดตัวลงในปี 2007 ม้ากว่า 30,000 ตัวในสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไป ณ โรงฆ่าสัตว์ในประเทศแคนาดา ไม่ได้เพียงแต่ถูกฆ่าเท่านั้น แต่พวกมันยังถูกนำไปประมูลขาย และถูกนำไปใช้ในการขนส่งอีกด้วย จากการรายงานระบุว่า เนื้อของพวกมันถูกส่งออกไปยังยุโรป สำหรับใช้ในการบริโภค แต่ในปี 2015 ยุโรปกลับสั่งห้ามนำเนื้อม้าจากเม็กกิโกเข้ามา เพราะพบว่าม้ามีอาการป่วย และได้รับสารอันตรายเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งพวกเขาคาดว่า หากนำเนื้อของพวกมันมาบริโภคอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้คนได้ ปัจจุบันการลักลอบขนส่งม้าไปยังประเทศแคนาดาได้รับการเปิดเผยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ ได้ใช้เวลาสองปีที่ผ่านมาในการตรวจสอบโรงฆ่าม้าในประเทศแคนาดา และพบว่าในสถานที่แห่งนั้นมีทั้งม้าตาบอด ป่วย พิการ…
-
Cletus ตูบน้อยหน้าตาประหลาด มนุษย์ใจดีมอบโอกาส ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
นี่คือเรื่องราวของ “Cletus” หมาน้อยหน้าตาประหลาดที่อยู่บนถนนแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส มันก็มีความน่ารักเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูโดดเด่นกว่าสุนัขตัวอื่นๆ ก็คือ เจ้าหมาตัวนี้มีลักษณะฟันที่คดเคี้ยว ส่งผลให้หน้าตาของมันดูประหลาดอย่างที่เห็น… เจ้า Cletus ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนถนน แต่โชคดีที่ยังมีคนมาช่วยเหลือเอาไว้ และส่งตัวของมันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ หลังจากที่ทาง Angela Rovetto ผู้ประสานงานบริหารจัดการ ณ ศูนย์พักพิงสัตว์ได้รับเจ้าหมามาดูแล เธอก็ส่งตัวของมันไปให้ทางสัตว์แพทย์ตรวจรักษา ซึ่งก็พบว่า เจ้าหมาตัวนี้เกิดมาพร้อมกับภาวะฟันบนหรือขากรรไกรบนผิดปกติอย่างรุนแรง ทำให้ฟันของมันเหยินออกมา แถมจมูกก็มีลักษณะที่ไม่สมบูรณ์เหมือนจมูกของสุนัขตัวอื่นๆ และนอกจากฟันและจมูกของมันจะมีความผิดปกติแล้ว เจ้า Cletus ยังไม่สามารถเดินได้แบบปกติเหมือนกับสุขตัวอื่นๆ แต่จะเป็นการเดินลากเท้าแทน โถๆๆ น่าสงสารจริงๆ อย่างไรก็ตาม แม้มันจะเกิดมามีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง แต่เจ้า Cletus ก็สามารถเอาชนะความผิดปกติของร่างกายได้ จากที่ระบบทางเดินหายใจเคยติดเชื้อ ตอนนี้กลับหายเป็นปกติแล้ว เจ้า Cletus ได้รับการเลี้ยงดู และรักษาเป็นอย่างดี จนทำให้สุขภาพร่างกายของมันเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น แม้ว่าจะมีหน้าตาแปลกประหลาด แต่เจ้าหมาก็น่ารักมากๆ แถมยังโชคดีที่ Angela ได้นำเสื้อกันหนาวตัวน้อยๆ…
-
ชายหนุ่มช่วยพิตบูลที่ถูกล่ามโซ่มาตลอดชีวิต และสอนให้มันรู้จัก ‘อิสรภาพ’ เป็นครั้งแรก!!
Steffen Baldwin ชายหนุ่มผู้เป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องสวัสดิภาพให้สัตว์ และผู้ฝึกหมา ได้ทำการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหมาพิตบูลที่ถูกเจ้าของผู้ใจดำล่ามโซ่เอาไว้ เจ้าหมาพิตบูลตัวดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นหมาที่ถูกทิ้งเอาไว้ หรือไม่ได้เป็นหมาจรจัดแต่อย่างใด มันเป็นหมาที่มีเจ้าของ แต่มันถูกเลี้ยงอย่างทารุณ จนทำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นทนไม่ไหวแจ้งให้กับนาย Steffen ที่เป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Animal Cruelty Task ในรัฐ Ohio กฎหมายของรัฐ Ohio นั้นระบุเอาไว้ว่า สุนัขที่มีเจ้าของจะต้องได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าของเป็นอย่างดี มีให้ทั้งอาหาร และน้ำ แต่หลังจากที่ได้พบกับเจ้าหมาพิตบูลแล้วก็พบ่วามันไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย ไม่มีใครเหลีวแลมันแม้แต่น้อย นาย Steffen ก็เลยตัดสินใจที่จะติดต่อไปยังเจ้าของ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่มัน เจ้า Tank สุนัขพันธุ์พิตบูลต้องใช้ชีวิตอยู่กับโซ่ล่ามมาตลอดชีวิต จากการที่มันถูกล่ามเอาไว้ ทำให้เจ้า Tank มีสภาพที่ดูย่ำแย่ จนทำให้ใครหลายๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมากลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ เจ้า Tank นั้นไม่ได้เป็นที่รักของเจ้านายของมันนัก เพราะแต่ละครั้งที่พวกเขาให้อาหารมัน ก็มักจะให้ด้วยการโยน หรือบางครั้งก็ไม่ให้เลย จากการพูดคุยระหว่างนาย Steffen กับครอบครัวเจ้าของของเจ้า Tank ก็เป็นไปได้ด้วยดี จากนี้ไปเจ้า Tank จะได้ไปอยู่บ้านหลังใหม่…
-
เก๋าเหรอ!! อินทรีโดนอีกาบินโฉบกวนประสาท ถึงกับต้องชักสีหน้าทำตาโตมองบน
ในวันที่อากาศสดใส มีนกอินทรีขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกำลังยืนชิวๆ อยู่บนกิ่งไม้ ซึ่งตัวมันเองก็คงคิดว่าวันนี้อาจจะเป็นวันที่ดีมากๆ แต่ใครจะรู้ละว่าอีกไม่กี่นาทีต่อมาเจ้านกอินทรีจะต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์ปีกชนิดหนึ่ง บอกเลยว่างานนี้เล่นเอานกอินทรีถึงขั้นไม่พอใจอย่างแรง Greaves Henriksen ช่างภาพวัย 52 จากรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย สามารถบันทึกภาพวินาทีขณะที่อีกาดำตัวหนึ่งได้บินโฉบเข้ามาหาเจ้าอินทรีย์เอาไว้ได้ และนี่คือภาพที่คุณกำลังจะได้เห็น… เจ้าอินทรีกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้รับแดดแบบชิวๆ แต่ไม่รู้เลยว่ามีอีกาตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาหา จู่ๆ มันก็บินลงมาเหยียบหัวของอินทรีย์ จึ๊กกกกก โอ้วววว นี่มันหยามหน้าหยามหัวกันชัดๆ ดูเหมือนว่าเจ้าอินทรีจะเริ่มโกรธหลังจากที่อีกาเข้ามากวนประสาท ทางด้าน Greaves เจ้าของภาพก็เชื่อว่าอินทรีตัวนี้อาจจะยืนอยู่ใกล้กับรังของอีกา และเมื่อมันมาเห็นเข้าก็เลยพยายามที่จะปกป้องที่อยู่อาศัยของมันยังไงละ นี่ที่มันถิ่นข้า เจ้าควรออกไปซะ ฮร่าๆ อีกาก็กวนประสาทอินทรีอยู่นั่นแหละ… เล่นเอาซะพี่แกหัวเสียกันเลยทีเดียว ที่มา : designyoutrust
-
ลูกลิงชิมแปนซีตัวน้อย วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เพราะไม่อยากถูกจับไปขาย
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์เดอะโดโด้ ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของ Mado ลูกลิงชิมแปนซีตัวน้อยที่กำลังวิ่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา พร้อมกับเอื้อมมือเพื่อเข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เห็นแล้วก็น่าสงสารเหลือเกิน จากการรายงานระบุว่า เจ้า Mado ถูกพบในขณะที่มันได้ออกมาเดินรอบๆ หมู่บ้านในแอฟริกัน ซึ่งคาดว่าแม่ของมันอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ส่วนตัวของมันก็กำลังจะถูกจับไปขาย ซึ่งหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ลงใน Facebook ชาวเน็ตรายหนึ่งก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “มันช่างเจ็บปวดใจเหลือเกิน ดูเหมือนว่ามันพยายามเอื้อมมืออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ” รับชมคลิปวีดีโอของมันได้เลย โชคดีที่ทางด้านเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Lwiro Primates ในคองโกได้เข้ามาช่วยเหลือ และนำตัวของเจ้า Mado กลับไปดูแลในสถานที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งทางศูนย์ยังได้รับเงินบริจาคเงินในการช่วยชีวิตเจ้าลิงจากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย น่าเศร้าที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวที่ถูกนำไปค้าขายได้ เพราะผู้คนเหล่านั้นมักลักลอบทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยการเข้ามาลักลอบจับสัตว์แปลกๆ แล้วนำไปค้าขายในตลาดมืด และปริมาณการทำผิดมากเกินกว่าที่พวกเขาจะช่วยทั้งหมด “สัตว์หลายตัวโชคร้ายเพราะตายในระหว่างการขนส่ง พวกมันจะถูกขังอยู่ในที่แออัด โดยอยู่ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมต่อความต้องการทางชีวภาพ และกายภาพของพวกมัน” Adam Roberts จากองค์กร Born Free USA กล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เผยว่า “ตอนนี้เจ้าจ๋อปลอดภัยดีแล้ว…
-
เจ้าหมาที่ดันหน้าบวมเพราะผึ้งต่อย ถูกชาวเน็ตช่วยกันรุมยำอีกยก ฮาไปใหญ่เลยทีนี้!!
ไม่กี่วันมานี้ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งนามว่า dingo-sniper ได้โพสต์ภาพของเจ้าหมาน้อยที่มีลักษณะเหมือนหมาทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือ ใบหน้าของมันบวมเบ่งจนดูแล้วก็นึกสงสาร และแอบฮาไปตามๆ กัน โดยทางเจ้าของได้บอกว่า เจ้าหมาของเขาอยู่ดีไม่ว่าดีดันกินผึ้งเข้าไป เลยโดยผึ้งต่อยเลยทำให้หน้าบวมอย่างที่เห็น น่าสงสารใช่ไหมละ… นี่คือภาพต้นฉบับ โถๆๆๆ บวมเชียวลูกกกกก แต่ชาวเน็ตกลับไม่คิดเช่นนั้น ท้ายที่สุดหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพของมัน แต่ละคนก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ งานนี้พวกเขาก็ได้พากันนำภาพของเจ้าหมาน้อยไปตัดต่อ บอกเลยว่าจากเดิมหน้าตาของมันก็ฮาอยู่แล้วนะ พอถูกรุมยำจากบรรดาชาวเน็ต ก็ยิ่งทำให้ภาพของมันฮาเข้าไปใหญ่ ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย… และทั้งหมดนี้คือภาพที่ชาวเน็ตร่วมใจกันตัดต่อ ว่าแล้วก็ไปชมผลงานของพวกเขากันเลย ผมจะให้ข้อเสนอที่คุณปฏิเสธไม่ได้… บางคนก็คิดว่า หน้ามันคล้ายแมวน้ำ… เอ้า ว่าไป!! หรืออาเธอร์ก็มี โดนผึ้งต่อย แต่ก็ยังยิ้มได้ โอ้วไม่ โดนจับมาาาาา โดนต่อยจนฟันเบี้ยว ฮ่าๆๆ โด่งดังจนได้ไปออกรายการทีวีกับทั่นประธานาธิบดี เอิ่ม…. เค้าอาจจะเห็นว่ามันคล้ายกันรึเปล่า… สีหน้าบอกอารมณ์ได้อย่างดี……
-
ตูบน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง หลังเจ้าของเดิมเลิกกัน… กระทั่งได้บ้านใหม่ มีชีวิตแฮปปี้สุดๆ
นี่คือ Pippa เจ้าหมาน้อยที่หลายคนมองว่ามันน่ารัก แต่ถ้าหากคุณได้ฟังเรื่องราวของมันละก็ รับรองว่าจะต้องรู้สึกเห็นใจ และสงสารมันอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นหมาที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งโดยไม่สนใจใยดีอีกต่อไป โถๆ น่าสงสารจัง!! เรื่องราวของ Pippa เริ่มขึ้นจากเมื่อหญิงสาวจากกรุงลอนดอนคนหนึ่ง ได้ซื้อลูกสุนัขตัวเล็กๆ มาเป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนของเธอ แต่ทว่าเรื่องราวมันกลับไม่สวยงามอย่างที่คิด เพราะเมื่อทั้งคู่เลิกกัน ทางแฟนหนุ่มจึงได้เดินทางไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ The Mayhew Animal Home พร้อมกับได้นำเจ้าหมาน้อยที่แฟนสาวซื้อให้มาทิ้งไว้ที่ศูนย์แห่งนี้ ทางด้านศูนย์พักพิงสัตว์ก็ได้พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมเขา แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเจ้าหมาน้อยก็ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว ณ ศูนย์พักพิง และถึงแม้ว่าทางศูนย์จะมีพื้นที่ และทรัพยากรที่จำกัด แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะรับมันมาดูแล พร้อมตั้งชื่อให้มันว่า “Ella” “สัตว์มักจะถูกนำมาทิ้งไว้ในศูนย์พักพิงแห่งนี้ แต่น่าเสียดายที่เรามักจะได้เห็นสถานการณ์แบบนี้บ่อยเกินไป จนทำให้มีพื้นที่พักอาศัยแก่สัตว์น้อยลง… และนี่คือตัวอย่างของผลกระทบที่เราได้รับจากเจ้าของที่ขาดความรับผิดชอบ ซึ่งในปี 2016 ทาง The Mayhew Animal Home ได้รับสุนัขจากเจ้าของที่ทิ้งพวกมันมากถึง 26 ตัว” Zoe Edwards เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงกล่าว …
-
เจ้าโง้ววว.. หมาน้อยเล่นซนอีท่าไหนไม่รู้ หัวติดล้อรถ เอาซะมนุษย์ต้องช่วยด่วนเลย
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยเรื่องราวของ Blaze เจ้าหมาจากรัฐมอนแทนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในสภาพน่าสงสารหลังจากที่หัวของมันดันไปติดกับล้อรถ ทางด้านผู้เป็นเจ้าของได้เผยว่า หลังจากที่เขาออกไปทำงาน เขาก็เห็นเจ้าหมามีความสุข และปลอดภัยดี แต่หลังจากที่กลับมาก็พบว่าหัวของมันไปติดกับล้อของรถยนต์ซะอย่างนั้น งานนี้จึงทำให้เขาต้องรีบพามันไปส่งที่โรงพยาบาล St. Francis Veterinary Hospital ทันที เมื่อสัตว์แพทย์ได้เห็นดังนั้นพวกเขาก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เพราะการช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ด้วยเหตุนี้ทางแพทย์จึงได้ตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย หลังจากที่ Zach Osborne หัวหน้าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยถึง เขาก็ได้เห็นเจ้า Blaze กับเจ้าของของมันอยู่ด้านนอกโรงพยาบาล พร้อมกับสังเกตการณ์ว่าจะสามารถช่วยมันได้อย่างไร จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะใช้น้ำมันมะพร้าวเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติคล้ายสารหล่อลื่นที่จะสามารถพาเจ้า Blaze ออกจากล้อรถได้ง่าย พวกเขาพยายามช่วยเหลือมันจนในที่สุดหัวของเจ้า Blaze ก็หลุดออกจากล้อในเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น โชคดีที่เจ้า Blaze ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะมันได้รับบาดเจ็บเพียงที่คอเล็กน้อย “มันเป็นลูกสุนัขตัวน้อยๆ ที่ดูมีความสุขมากหลังจากที่กลับไปเป็นอิสระ”…
-
ภารกิจกอบกู้ชีวิตหมาน้อย ที่ติดอยู่ในซอกหินนานนับเดือน รู้สึกปิติมากที่มันรอดปลอดภัย…
ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ย่อมมีค่าเสมอ ซึ่งเราก็เชื่อว่าไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ต่างก็รักชีวิตของตัวเองทั้งนั้น และเมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเกินที่ตัวเองจะสู้ไหว ทุกๆ คนต่างก็ต้องการความช่วยเหลือ และคุณลองคิดดูนะว่าหมาน้อยตัวหนึ่งที่ต้องติดอยู่ในโขดหินเพียงลำพังมานานนับเดือน มันอยากรอดชีวิตไหม และต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ แน่นอนว่ามันคงรอคอยให้ใครสักคนเข้าไปช่วยอยู่ ซึ่งมันก็โชคดีมากๆ ที่บังเอิญกลุ่มคนในอียิปต์ ได้เดินผ่านกองหินที่เจ้าหมาน้อยติดอยู่พอดี นั่นจึงทำให้พวกเขา เข้าไปช่วยมันออกมา… ในขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านกองหินขนาดยักษ์ ทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังออกมาจากภายในหิน ซึ่งมันเป็นเสียงเล็กๆ ที่ดูราวกับว่าต้องการขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าในขณะนั้นกลับไม่มีใครกล้าที่จะหยุดดูเลย เพราะบางคนก็กลัว บางคนก็กำลังเร่งรีบ โชคดีที่อย่างน้อยก็มีคนใจกล้าลองก้มลงไปมองสิ่งที่อยู่ในนั้น และในที่สุดเขาก็ได้พบกับเจ้าลูกหมาตัวน้อยๆ ที่อยู่ใต้ซอกหินนั่นเอง งานพวกเขาจึงไม่รอช้า และรีบเข้าไปช่วยมันทันที กลุ่มคนใจดีได้โทรเรียกให้หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นมาช่วยเจ้าหมาน้อยที่น่าสงสาร และแน่นอนว่าพวกเขาก็ได้พยายามช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ ในตอนแรกพวกเขาพยายามย้ายโขดหินออก แต่มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เนื่องจากหินมีขนาดใหญ่จนเกินไป ดังนั้น พวกเขาจึงช่วยกันขยับหิน และสามารถแทรกตัวเข้าไปในช่องเล็กๆ เพื่อลงไปช่วยน้องหมาได้ ผู้คนได้พยายามช่วยเจ้าหมาน้อยอย่างเต็มที่ ทั้งยังคอยให้น้ำให้อาหารมันขณะที่ติดอยู่ในหิน ถึงแม้ว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้จะค่อนข้างยากลำบาก และใช้เวลานานกว่าหลายสัปดาห์ แต่ในที่สุดพวกเขาก็สามารถช่วยชีวิตมันได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากที่สามารถช่วยชีวิตเจ้าหมาได้ พวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า “Rock” ซึ่งแปลว่า “หิน” นั่นเอง คนที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้า…
-
“เจ้าหมาพิตบูล” ถูกทิ้งเพราะโดนผึ้งนับพันรุมต่อย และหญิงสาวใจงามก็ได้เข้ามาช่วยมันไว้!!
Stinger เป็นชื่อของสุนัขพิทบูลพันธุ์ผสมสีขาวตัวหนึ่งที่โชคร้าย ถูกผึ้งนับพันรุมต่อยจนทำให้สภาพของมันยับเยิน อีกทั้งร่างกายก็มีบาดแผลจากการถูกต่อยเต็มไปหมด จนทำให้เจ้าของเดิมรับสภาพของมันไม่ไหว และทิ้งไปอย่างไม่มีใยดี แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดี ที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ไปพบเจ้า Stinger เข้า และนำตัวของมันส่งให้สัตว์แพทย์ได้รักษาทันที ในที่สุดโชคร้ายของมันก็กลายเป็นโชคดี เมื่อ Carri Shipaila ผู้ก่อตั้งองค์กร LuvnPupz ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือมัน ซึ่งเธอได้รู้ว่านอกจากจะถูกผึ้งนับพันรุมต่อยแล้ว อาการของเจ้า Stinger ก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะหลังจากที่มันได้รับยาปฏิชีวนะที่นำมาใช้ในการรักษาพิษของผึ้ง เจ้า Stinger ก็กลับแพ้อย่างหนัก หนำซ้ำมันยังมีอาการหูหนวก และเป็นโรคหิด ซึ่งจะมีโอกาสเกิดโรคติดต่อทางผิวหนังสูงอีกด้วย โชคดีที่มันก็ไม่ได้ถูกทิ้งให้ต้องทนทรมานอยู่กับความเจ็บปวดอย่างเดียวดาย เพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนใจดีมาช่วยมันเอาไว้ สภาพของมันในตอนแรกช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ทางด้านองค์กร LuvnPupz ที่ได้รับเจ้า Stinger มาเลี้ยง ก็ได้พยายามช่วยกันระดมเงินเพื่อช่วยรักษาเจ้าหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ หลังจากที่ได้รับการรักษาอาการของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้ว่ารอยแผลมันหายไป และตอนนี้มันก็ดูกลับมาหน้าตาสดใส เหมือนจะมีความสุขขึ้นด้วย (ตาแบบหมดหวัง กลายเป็นแววตาจิกกล้องซะแล้ว) ดูเหมือนว่าเจ้า Stinger จะเริ่มกลับมาดูดีเหมือนเดิมแล้วสิ…
-
ประทับใจ!! ชายหนุ่มรีบเข้าไปช่วยเหลือลูกม้าหลงกลางถนน อุ้มข้ามรั้วกั้นเพื่อเจอกับแม่อีกครั้ง
ไม่ใช่ทุกวันที่คุณขับรถไปตามท้องถนนแล้วจะพบกับ “ลูกม้า” ที่กำลังพยายามขอความช่วยเหลือ หลังจากที่มันได้พลัดพรากกับผู้เป็นแม่ ซึ่งถ้าหากได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะรีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันทีแน่นอน เหมือนดังเช่นชายหนุ่มคนนี้ ที่กำลังขับรถไปตามถนน แล้วจู่ๆ เขาก็เห็นลูกม้าตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่กลางถนนอย่างโดดเดี่ยว และดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามกลับไปหาครอบครัว ในขณะที่เขาค่อยเคลื่อนๆ รถเข้าไปใกล้มันนั้น เจ้าลูกม้าก็รีบวิ่งเข้าไปหาม้าอีกตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นแม่ของมัน… แต่ทว่าแม่ม้ากลับอยู่อีกด้านหนึ่งของราวเหล็กกันถนน จึงทำให้ลูกม้าพยายามกระโดดเพื่อข้ามราวเหล็กด้วยตัวของมันเอง แต่กลับไม่สามารถข้ามฝั่งไปหาแม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินออกมาจากรถ เพื่อเดินเข้าไปหามัน และแล้วภาพที่แสนประทับใจก็เกิดขึ้น เขาพยายามอุ้มเจ้าม้าให้ข้ามฝั่งไปหาครอบครัว ซึ่งในตอนแรกเขาพยายามจับตัวของมัน แต่ดูเหมือนเจ้าม้าจะตกใจกลัว ทำให้มันพยายามวิ่งหนี จนในที่สุดชายหนุ่มคนดังกล่าวก็สามารถจับตัวของมันได้ และอุ้มมันข้ามราวเหล็กไปหาแม่ได้ในที่สุด รับชมคลิปวีดีโอกันได้เลย เย้ๆๆ เจ้าม้าได้กลับไปอยู่กับครอบครัวของมันอีกครั้งแล้ว ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นเหลือเกิน… ที่มา : shareably
-
สุดเศร้า!! เจ้าม้าที่เคยสดใส มีอาการเสียใจหนัก หลังรู้ว่าเจ้านายผู้เป็นที่รัก ได้จากโลกนี้ไปซะแล้ว
ช่วงเวลาที่ทำให้หลายคนรู้สึกเศร้า และเสียใจมากที่สุดในชีวิต คงจะเป็นช่วงเวลาที่คนที่คุณรักจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ และนอกจากมนุษย์แล้ว สัตว์โลกอย่างเจ้าม้า ก็มีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน และนี่ภาพของ Sereno ม้าที่กำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศก หลังจากที่รู้ว่าเจ้าของได้จากไปอย่างกะทันหัน งานนี้จึงทำให้เจ้าม้าที่เคยสดใส มีอาการเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพของเจ้า Sereno ม้าที่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีโดยเจ้าของชาวบราซิลเลี่ยนวัย 34 ปี ในรัฐปาราอีบา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล สำหรับ Sereno กับเจ้านายของมัน ทั้งคู่รัก และสนิทกันมาก จนกระทั่งในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เจ้า Sereno ก็ได้รับข่าวร้ายว่าเจ้านายได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับเนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ และนั่นก็ทำให้มันรู้สึกเศร้า และเสียใจมากที่สุดในชีวิต หลังจากที่เจ้านายได้เสียชีวิตลง Sereno ก็ได้มีโอกาสไปบอกลาเจ้านายของมันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภาพที่เห็นก็คือ มันได้วางหัวของมันเพื่อไว้อาลัยลงบนโลงศพ และถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าโศก เรื่องราวของ Sereno ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว และนั่นก็ทำให้ชาวเน็ตหลายต่อหลายคนรู้สึกสงสาร และเห็นใจเจ้าม้าเป็นอย่างมาก ทางด้านคนสนิทของทางครอบครัวเจ้านายของ Sereno ได้ออกมาเผยว่า…
-
น้องหมาผู้น่าสงสาร ถูกธนูเสียบทะลุลำตัว หลังถูกล่าไปขาย โชคยังดีที่รอดชีวิตมาได้!!
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของน้องหมาที่น่าสงสารตัวหนึ่ง ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส หลังถูกพ่อค้าสุนัขตามล่าอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าหมาถูกลูกธนูเสียบทะลุบริเวณช่วงไหล่ และลำคอของมัน จนทำให้ขนสีขาวเต็มไปด้วยเลือดเกือบทั่วทั้งลำตัว เมื่อทางศูนย์คุ้มครองสัตว์ ได้ทราบข่าวของเจ้าหมาตัวดังกล่าว พวกเขาก็รีบเข้ามาช่วยเหลือมันทันที พร้อมกับนำตัวของมันไปรักษา แม้ว่าในตอนแรกมันจะวิ่งหนีเพราะความหวาดกลัว แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวมันกลับไปรักษาอย่างปลอดภัย และทำให้มันพ้นขีดอันตรายไปในที่สุด หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์คุ้มครองสัตว์ได้นำภาพของเจ้าหมาไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ก็สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้คุ้มครองสัตว์จากทั่วโลกเป็นอย่างมาก ด้าน Rose Gardiner หนึ่งในผู้ใช้เฟสบุ๊คได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “ฉันรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าได้รับการช่วยเหลือ แต่ภาพของมันทำให้ฉันใจสลายเพราะยังมีสุนัขอีกหลายล้านตัว ที่อาจจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้” นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้เฟสบุ๊คคนอื่นๆ อย่าง Charlotte Roberts ก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นเช่นกัน “นี่ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข” ส่วนทางเฟสบุ๊คจากกลุ่มคุ้มครองสัตว์ในจีน ก็ได้ออกมาเผยว่า “เจ้าหมาตัวนี้ถูกลูกธนูยิงเข้าบริเวณไหล่ และคอของมัน แต่โชคดีเหลือเกินที่ Qiao Wei ผู้ใจบุญได้เข้ามาช่วยเหลือมันไว้ และรีบส่งตัวมันไปโรงพยาบาล” และที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ ลูกธนูไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายในของมันได้รับบาดเจ็บรุนแรง…
-
หญิงสหรัฐฯ ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี หลังทิ้งเจ้าหมาโกลเด้น ทรมานกับเนื้องอกหนัก 20 กิโลกรัม!!
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เป็นสุนัขที่มีความน่ารัก และร่าเริงสดใส ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนทั่วโลกหลงรักมัน แต่ถึงมันจะเป็นหมาที่น่ารัก ก็ไม่วายถูกเจ้าของที่ใจร้ายบางคนทอดทิ้งอยู่ดี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า Sherri Haughton จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของ Henry สุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานาน 2 ปี ในข้อหาทารุณสัตว์ หลังจากที่ปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับเนื้องอกขนาดใหญ่ที่หนักกว่า 20 กิโลกรัม จนทำให้มันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย ทางด้านอัยการเขต Jennifer Malone เผยว่า “นาง Sherri Haughton ถูกตั้งข้อหาทารุณสัตว์จนอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งถือเป็นการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเอง และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์อีกด้วย” จากการรายงานระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้พบตัวเจ้า Henry ถูกทิ้งอยู่บนชายหาดในนิวพอร์ทแคลิฟอร์เนีย และพบว่ามันมีเนื้องอกขนาดใหญ่ที่พองโตอยู่บริเวณช่องท้องด้านขวา จึงทำให้มันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้เผยว่า นาง Sherri ได้ทอดทิ้งสุนัขของตัวเอง ไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์…
-
Charles เจ้าหมูที่ยังคงรอรอยเจ้านายอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หลังจากที่บ้านถูกทำลายเพราะไฟป่า
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ไฟป่า” เป็นภัยร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Thedodo มีรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ ในเขตพื้นที่รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณนั้น รวมถึงครอบครัวของ Rob Holmes ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งรุนแรงในนี้เข้าอย่างจัง ดังนั้น เขาจึงต้องรีบภาพครอบครัวอพยพออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากควันไฟจำนวนมาก ได้ทำให้ลูกชายวัย 18 เดือนของเขาหายใจลำบาก ในช่วงเวลานั้น สิ่งที่ Rob สามารถพาขึ้นรถไปได้ก็คือ ลูกๆ และภรรยา รวมถึงสุนัข และแมวเหมียวของเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งตัวคือ Charles เจ้าหมูตัวอ้วน ที่อยากจะเดินทางไปพร้อมกับเขา แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ ของมัน จึงทำให้ Rob ไม่สามารถพามันเข้ารถมาในรถได้ และนั่นก็ทำให้เจ้า Charles ต้องอยู่ท่ามกลางไฟป่าที่รุนแรงเพียงลำพัง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถกลับมารับมันได้ทัน จึงทำให้ Andrea ลูกสาวของเขาร้องไห้ไม่หยุด …
-
Athena ลูกแมวที่ถูกกักขังจนมีสภาพย่ำแย่ ได้รับการช่วยเหลือจนมีชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
หากทาสแมว หรือคนรักสัตว์ทั้งหลาย ได้ฟังเรื่องราวของ Athena น้องแมวตัวน้อยแสนน่ารักตัวนี้ละก็ คุณอาจจะต้องสงสารมันจับใจ เพราะก่อนที่มันจะมีชีวิตที่แสนสุข เจ้าเหมียวได้ผ่านเรื่องราวอันแสนเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน เพราะในอดีต Athena เป็นแมวที่เจ้าของในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เคยเลี้ยงไว้แบบกักขังในกรงที่แสนสกปรก พร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อย่างน้องหมา แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในกรงนรกอีกต่อไป เพราะในที่สุดทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าเหมียว พร้อมกับสัตว์ตัวอื่นๆ นอกจากนี้พวกเขายังได้ตรวจสอบพบว่า เจ้าของเดิมเคยถูกจับกุมข้อหาทารุณสัตว์มาแล้ว แต่ก็ยังคงทำร้ายสัตว์อีกเช่นเคย และในครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถูกจับอีกครั้งในข้อหาเดิม หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียว และสัตว์ตัวอื่นๆ ออกมา พวกเขาก็ได้พบว่า Athena กำลังป่วยหนัก และร่างกายของมันก็ไม่แข็งแรง ที่โชคร้ายไปกว่านั้นคือ มันติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง ซึ่งทำมันแทบจะมาสามารถหายใจได้เลย อีกทั้งเจ้าเหมียวก็ดูเครียดหนักอีกด้วย ทางด้าน Dani Ellis ผู้เป็นเจ้าของคนใหม่ที่ได้รับเจ้าเหมียวมาดูแล ได้เผยว่า “ครั้งแรกที่พามันไปพบสัตว์แพทย์ ทางแพทย์ได้บอกว่าจะต้องทำการุณยฆาต เพราะไม่อาจช่วยชีวิตมันได้ และนั่นก็ทำฉันร้องไห้อย่างหนัก… แต่โชคดีที่แพทย์อีกคนหนึ่งได้บอกว่า หากเจ้า Athena ได้รับการผ่าตัดโดยการตัดจมูกที่ติดเชื้อออกไป มันก็จะสามารถกลับมาชีวิตที่ปกติอีกครั้ง” …
-
17 บทเรียนทำให้เหล่า “มะหมา” ได้รู้ว่า… ถ้าเข้าไปยุ่งกับ “ผึ้ง” อีก จะต้องจบไม่สวยแน่ๆ
อย่างที่รู้กันอยู่ว่าหมาเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ขี้สงสัย เวลาเห็นอะไรแปลกใหม่ก็มักจะเข้าไปสังเกต หรือสัมผัสอยู่เสมอ ซึ่งในบางครั้งพวกมันก็ไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่กำลังสนใจอยู่นั้นมันอันตรายมากขนาดไหน และนี่คือบทเรียนที่เหล่ามะหมาจะต้องจำไปชั่วชีวิต หลังจากที่ได้เข้าไปยุ่งกับรังผึ้งเข้า จนทำให้ถูกต่อยอย่างจัง และหลังจากนั้นใบหน้าของมันก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นหมาหน้าตาสดใส ตอนนี้นะหรอ!! ดูเหมือนหน้าตาจะอมทุกข์เพราะความเจ็บปวดกันเป็นแถวเลยละ ฮ่าาา ไม่เคยคิดเลยว่าผึ้งจะมีฤทธิ์เยอะขนาดนี้ ไม่น่าเข้าไปยุ่งกับมันเลยเรา ทำเสียโฉมแบบนี้คงไม่อยากมองกระจกไปอีกนาน เกลียดสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่สุด หน้าตาที่กำลังอมทุกข์ของมะหมา ช่างน่าสงสารซะเหลือเกิน คงจะเจ็บไม่น้อย เป็นไงละ!! อยากลองดีนักใช่ไหม เจอพิษผึ้งเข้าไป หน้าบวมเป่งไปหลายวันเลย บทเรียนคราวนี้… ได้ทำให้มะหมาได้รับรู้แล้วว่า ไม่ควรเข้าใกล้ผึ้งอีกตลอดชีวิต จะไม่หนีไปซุกซนที่ไหนอีกแล้วฮับเจ้านาย ช่วยพาผมไปรักษาที ปวดระบมไปหมดแล้ว หมดหล่อเลยเรา เกลียด เกลียด เกลียด ผึ้งที่สุด ความเท่ที่เคยมี มันหดหายไปแล้ววววว เศร้าฝุดๆ…
-
Kermit เจ้าเหมียวที่ขาหลังใช้งานไม่ได้ แต่มันก็ยังเรียนรู้ที่จะเดิน และพยายามอย่างไม่ลดละ!!
นี่คือ Kermit เหมียวน้อยที่มีความน่ารักเหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ ก็คือ เจ้าเหมียวตัวนี้ มันไม่สามารถเดินได้ตามปกติ เนื่องจากขาหลังของมันใช้งานไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของมันเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเจ้าเหมียวยังพยายามเรียนรู้ที่จะฝึกการเดินของมันอยู่เสมอ และนั่นจะสามารถทำให้มันกลับมาเดินได้หรือไม่!? เมื่อกลางเดือนมิถุนายน ปีที่ผ่านมา เจ้า Kermit ได้รับการช่วยเหลือจาก ศูนย์ช่วยเหลือแมวเหมียวจรจัดใน Parlier รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่มารับมันไปดูแล พวกเขาก็พบว่าขาหลังของมันไม่สามารถใช้การได้ ดังนั้น เจ้าเหมียวจึงถูกส่งตัวไปพบกับสัตว์แพทย์ เพื่อทำการรักษา…หวังว่ามันจะกลับมาเดินได้นะ “เราตั้งชื่อมันว่า Kermit…เพราะว่าช่วงที่มันกำลังหัดเดิน เจ้าเหมียวกระโดดเหมือนกบเลย” Harvie Schreiber ผู้ดูแลกล่าว เจ้า Kermit ต้องได้รับการรักษาทางกายภาพบำบัดเป็นจำนวนสองครั้งต่อวัน และแน่นอนว่ามันทำได้ แต่ในบางครั้งก็ยังเดินกระโผลกกระเผลกบ้างนิดหน่อย ยังไงก็สู้ๆ นะ Kermit ดูเป็นแมวที่มีความปราดเปรียว ขี้เล่นมากๆ ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตของมันเคยพบกับปัญหามาก่อน “เราได้พบว่า ของเล่นและอาหารเป็นแรงจูงใจที่ดีสำหรับเจ้าเหมียว มันเป็นแมวที่ขี้สงสัย และชื่นชอบการสำรวจเป็นอย่างมาก” Harvie…
-
การต่อสู้ระหว่าง สิงโตตัวผู้ vs ตัวเมีย… ผลก็รู้ๆ กันอยู่ พ่อบ้านทั้งหลาย อย่าคิดจะกร่าง!!
หากได้เห็นภาพของสิงโตตัวผู้และตัวเมียทะเลาะกัน หลายคนอาจจะคิดว่าสิงโตตัวผู้น่าจะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่า นั่นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะทำให้มันได้รับชัยชนะอย่างสมเกียรติ แต่สิ่งที่คิดมันอาจไม่ได้เป็นจริงเสมอไปก็ได้นะ เพราะเหตุการณ์วิวาทอันดุเดือดระหว่างสิงโตตัวผู้และตัวเมียครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Thesun ได้เผยภาพของสิงโตคู่หนึ่งที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และดูเหมือนจะคาดเดายากมากๆ ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้แพ้ เพราะความโหดเรียกได้ว่าสูสีกันมากๆ เลยละ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้น ณ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งทาง Corlette Wessels ผู้จัดการฟาร์มวัย 43 ปี ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับอุทยานดังกล่าว เป็นผู้บันทึกช่วงวินาทีที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้เอาไว้ได้ โดยในขณะที่เขากำลังเดินตรวจฟาร์มอยู่นั้น ก็บังเอิญเห็นสองสิงโต ซึ่งเป็นตัวผู้ และตัวเมียกำลังทะเลาะวิวาท และต่อสู้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยอยู่ห่างจากเขาประมาณ 200 เมตร ด้วยเหตุนี้ Corlette จึงรีบนำกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้ทันที Corlette ได้เผยว่า เขาได้เห็นสิงโตตัวผู้เข้าไปนั่งใกล้ๆ ฝูงสิงโตตัวเมีย แต่ทว่าสิงโตตัวเมียตัวหนึ่งที่อยู่ในฝูงกลับไม่พอใจก็เลยเริ่มคำรามใส่สิงโตตัวผู้ ด้านสิงโตตัวผู้ก็ได้คำรามกลับ จึงทำให้สิงโตตัวเมียตบหน้าเข้าอย่างจัง แถมไม่พอยังมีสิงโตตัวอื่นๆ…
-
Bonika อุรังอุตังน้อย ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากถูกลามโซ่ติดไม้กระดานกว่า 6 เดือน
ลองคิดเล่นๆ กันดูนะว่า หากคุณถูกล่ามโซ่เอาไว้ไม่ให้ไปไหน จะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คิดก็คือ อยากถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เพราะการถูกขังเอาไว้แบบนี้ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้น ความรู้สึกของคุณ มันคงไม่ต่างอะไรไปจาก Bonika อุรังอุตังน้อยวัย 18 เดือนตัวนี้ ที่ถูกจับมาล่ามโซ่ติดกับแผ่นไม้กระดานเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน ทำให้มันแทบไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้เลย แต่โชคดีเหลือเกิน ที่อย่างน้อยมันไม่ได้ถูกล่ามไว้นานไปกว่านั้น เพราะหลังจากที่มูลนิธิกู้ภัยสัตว์ (IAR) ได้ทราบเรื่องราวของมัน พวกเขาก็รีบเดินทางเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อไปช่วยเหลือเจ้าอุรังอุตังน้อยทันที เมื่อเดินทางไปถึง ภาพที่เห็นก็คือ Bonika อยู่ในสภาพที่ถูกโซ่ล่ามไว้รอบคอ ซึ่งผูกติดกับแผ่นไม้กระดานเก่าๆ ในห้องครัว ทางด้าน Bapak Hendrigus ชายผู้พบเจ้า Bonika ได้อ้างว่า ในขณะที่กำลังเดินทางไปยังสวนยางพารา เขาได้บังเอิญเห็นเจ้าลิงตัวนี้นั่งอยู่เพียงลำพัง ดังนั้น จึงได้พามันกลับมาบ้านด้วย และหวังจะให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัว พวกเขาให้มันกินข้าว อ้อย ขนมปัง และนมเป็นอาหาร โดยเจ้า Bonika…
-
Angelica หมาถูกทิ้งที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานาน กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง หลังได้รับการช่วยเหลือ
จากการที่เคยเป็นหมาบ้าน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน เจ้า Angelica น้องหมา คงจะไม่ชินกับการที่ต้องถูกเจ้าของเดิมนำไปทิ้ง และต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังนับต่อจากนี้ และนี่คือภาพของ Angelica เจ้าหมาที่ถูกทิ้งบริเวณสุสานที่ห่างไกลผู้คนมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่โชคดีที่มีพนักงานที่ทำงานในสุสานเห็นนั้นได้สังเกตเห็นเข้า ด้วยเหตุนี้เข้าจึงรีบโทรไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ทันที เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาก็ได้พามันออกไปจากสถานที่แห่งนั้น และแน่นอนว่า Angelica ก็เต็มใจที่จะไป เนื่องจากมันพร้อมที่จะได้รับความช่วยเหลืออยู่แล้ว “พนักงานที่ทำงานในสุสานได้สังเกตเห็นเจ้า Angelica เธอจึงรีบโทรติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากเรา ซึ่งเธอได้บอกกับเราว่ามีหมาถูกทิ้งอยู่ในที่แห่งนี้มากว่า 1 เดือนแล้ว” Eldad Hagar เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์กล่าว มันคงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และแสนเลวร้ายสำหรับหมาตัวหนึ่งเหลือเกิน.. ในตอนแรกเจ้าหมาได้แอบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ซึ่งมันก็พยายามทำให้แน่ใจว่า คนที่จะมารับมันไปด้วย เขาจะทำให้มันปลอดภัย และไม่ทำร้ายมัน และเมื่อพวกเขาได้ให้อาหารเจ้า Angelica มันก็เริ่มไว้ใจ และค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ซึ่งพวกเขาได้ใช้เวลาไม่นานที่จะทำให้มันเชื่อ และไว้ใจ ตอนนี้ Angelica ถูกส่งตัวไปยังที่ที่ปลอดภัยแล้ว แถมยังอยู่ภายใต้ความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเจ้าหมาไปพบกับสัตว์แพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย…
-
Laziz เสือโคร่งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางสงคราม สู่บ้านหลังใหม่ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น…
พอนึกถึงภาพเสือทีไร เราก็มักจะเห็นแต่ภาพของสัตว์ป่าดุร้ายตัวใหญ่ และน่าเกรงขาม แต่สำหรับ Laziz เสือโคร่งจากสวนสัตว์แห่งหนึ่งในเขตฉนวนกาซาตัวนี้ กลับมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก และไม่มีที่แววที่จะแสดงถึงความดุร้ายในแบบที่ธรรมชาติของเสือควรจะเป็นเลยสักนิด เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมกับเรื่องราวของเจ้า Laziz เสือโคร่งที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าเวทนา เนื่องจากมันต้องอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ที่ถูกทิ้งร้าง พร้อมๆ กับสัตว์ป่าตัวอื่นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่อีกกว่า 13 ตัวโดยที่ไม่มีใครสนใจ สภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ ที่มันอาศัยอยู่ก็ไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากเต็มไปด้วยซากสัตว์ของเสือตัวอื่นๆ ที่ตายไป อีกทั้งกรงที่มันอยู่ก็คับแคบเกินกว่าที่เสือตัวใหญ่ตัวหนึ่งจะเข้าไปอยู่ได้อย่างสบายๆ ตามธรรมชาติแล้วเสือมักจะออกอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อจับเหยื่อได้ มันก็จะได้กินเนื้อสดๆ อย่างเอร็ดอร่อย แต่สำหรับ Laziz แล้ว มันกลับต้องมากินแต่ซากไก่ และผลไม้เน่าที่มีทั้งดีและเน่าปะปนกันไปเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ มันยังถูกเด็กๆ ที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นแกล้งอยู่บ่อยๆ โดยการปาถั่ว และปาก้อนหินใส่อีกด้วย แทนที่ชีวิตของเสือที่โตเต็มวัยตัวหนึ่ง จะได้พบกับความสุข และใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่กลับต้องมาเจอกับสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดในชีวิต จนในที่สุดความโชคดีของมันก็มาถึงจนได้ เพราะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางองค์กร Operation Noah’s…
-
Chi Chi รอดตายหวุดหวิด จากโรงงานฆ่าสุนัขในเกาหลี แต่ต้องแลกกับการสูญเสียเท้าไป…
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็รักชีวิตของตัวเอง และไม่ต้องการให้ใครมาทำร้ายทั้งนั้น เหมือนดังเช่น Chi Chi น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ตัวนี้ มันเป็นสุนัขที่น่าสงสารมากๆ ตัวหนึ่ง ที่ถูกคนใจร้ายนำมาทิ้งไว้ที่ถังขยะนอกโรงงานฆ่าสุนัขทางตอนใต้ของประเทศเกาหลี แต่โชคดีที่มันสามารถรอดมาได้ เพราะมีครอบครัวใจดีได้ช่วยชีวิตเอาไว้ยังไงละ ดีใจด้วยนะเจ้าหมา!! เรื่องราวของเจ้าหมา Chi Chi ไม่ได้สวยหรูเหมือนกับหมาตัวอื่นๆ เพราะก่อนหน้านี้ มันเคยถูกมนุษย์ใจร้ายมัดเอาไว้ เพื่อเตรียมส่งไปยังโรงงานฆ่าสุนัขสำหรับนำไปทำเป็นอาหาร อีกทั้งยังถูกให้อดข้าว อดน้ำ เนื่องจากทางเจ้าของโรงงานฆ่าสุนัขเห็นว่า มันเป็นการสิ้นเปลืองจนเกินไป แม้ว่าจะได้เจอเรื่องราวอันแสนเลวร้าย ที่สุนัขตัวหนึ่งจะรับไหว แต่มันก็สามารถผ่านมาได้ เพราะโชคดีเหลือเกินที่ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ (Animal Welfare Group) ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน จนทำให้มันรอดตายมาได้ สภาพของ Chi Chi ในตอนนั้น ดูเหมือนจะบอบช้ำมาก ร่างกายของมันเต็มไปด้วยแผล อีกทั้งอุ้งเท้าของมันทั้ง 4 ข้าง ก็ได้รับบาดเจ็บ และเริ่มเน่าจนไม่สามารถใช้งานได้ ด้วยเหตุนี้ แพทย์จึงต้องทำการตัดอุ้งเท้าทั้งหมดของมันออกไป เพื่อช่วยรักษาชีวิตของเจ้าหมาเอาไว้ เมื่อเรื่องราวสุดรันทดของเจ้าหมาตัวหนึ่ง…
-
BenBen เหมียวเศร้าที่สุดในโลก ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้ใบหน้าของมันมีแต่รอยยิ้ม!!
การเกิดเป็นลูกแมวจรจัด และต้องเริ่มใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบใหญ่เพียงลำพัง มันช่างยากลำบากสำหรับ BenBen เจ้าเหมียวจรจัดผู้น่าสงสารตัวนี้ซะเหลือเกิน เพราะนอกจากจะต้องเผชิญชะตากรรมอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายแล้ว มันยังไม่มีแม่ หรือเจ้าของมาคอยปกป้องหากต้องเจอกับอันตรายรอบด้าน ซึ่งครั้งหนึ่ง มันเคยถูกสัตว์ใหญ่ทำร้าย จนทำให้กระดูกสันหลัง รวมทั้งใบหูของมัน เป็นแผลลึก แต่อย่างน้อย เจ้าเหมียวก็โชคดีที่ทางศูนย์พักพิงสัตว์สัตว์เข้ามาช่วยเหลือไว้ทัน จนทำให้มันรอดตาย และได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจ้าคนใหม่ที่พร้อมจะรับมันไปดูแลสักที ในตอนแรกอาการของมันไม่ค่อยดีเลย อีกทั้งผิวหนังที่เป็นส่วนเกินบนใบหน้าของมัน ยังส่งผลให้เจ้าเหมียวมีหน้าตาที่เศร้าสร้อย และเหงาหงอยเป็นอย่างมาก เจ้าเหมียวนี่น่าสงสารกำลังรอคอยใครบางคนมารับมันไปเลี้ยง และเราก็หวังว่ามันจะสมหวังในเร็ววัน จนในที่สุด วันแห่งความโชคดีก็มาถึง เพราะหลังจากที่หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในแผนกฉุกเฉินของคลินิก ได้ยินเรื่องราวของเจ้า BenBen เหมียวหน้าเศร้าผู้น่าสงสาร เธอก็ตัดสินใจที่จะรับอุปการะมันทันที ก็อ้อนขนาดนี้ ใครจะปล่อยให้เผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพังละ เมื่อเจ้าเหมียว ได้เข้ามาอาศัยในบ้านหลังใหม่ ชีวิตของมันก็ดีขึ้น แต่มันก็จะต้องเข้ารับการรักษาอยู่เสมอ เพื่อให้อาการบาดเจ็บหายดี เพราะก่อนหน้าที่ BenBen ยังอยู่ในศูนย์พักพิง มันไม่อยากจะกิน หรือดื่มอะไรเลย แม้แต่เคลื่อนไหวตัวก็ยังไม่อยากทำ เพราะมันรู้ตัวว่ากำลังจะตายในไม่ช้า แต่หลังจากที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านอันแสนอบอุ่น เจ้าเหมียวก็เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง แม้ว่าต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักก็ตาม…
-
ศูนย์พักพิงสัตว์สหรัฐ สร้างบ้านให้น้องหมาได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องอยู่ในกรงแสนแออัด
ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีศูนย์พักพิง หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์อยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งสถานที่เหล่านี้ได้รับน้องหมาจรจัด หมาถูกทิ้ง รวมถึงหมาที่ได้รับบาดเจ็บมาคอยดูแล จนกว่าจะมีคนใจดีติดต่อมารับมันไปเลี้ยง แม้ว่าน้องหมาจะถูกช่วยเหลือจนมันปลอดภัย แต่บางทีสถานที่เหล่านี้ก็แออัดจนเกินไป เพราะมันต้องอาศัยอยู่แต่ในกรงขัง ไม่ได้ออกมาวิ่งเล่น หรือใช้ชีวิตแบบในแบบที่ควรจะเป็น แต่สำหรับศูนย์พักพิงสัตว์บางแห่ง อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด เพราะในรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ Luvable Dog Rescue ที่มีลักษณะเหมือน “บ้าน” สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ และนี่คือบ้านสีม่วงสดใสอันแสนอบอุ่น เพื่อให้หมาได้อาศัยอยู่อย่างสบายๆ ไม่ต้องทนอยู่ในกรงที่แสนแออัดอีกต่อไป นอกจากนอกบ้านจะดีสวยงามแล้ว ภายในบ้านก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เพราะมันถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์, ภาพวาด, และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้มีลักษณะคล้ายกับบ้านที่ใช้อาศัยอยู่จริงๆ สำหรับศูนย์พักพิงแห่งนี้ มีที่ดินกว่า 55 ไร่ โดยพื้นที่บริเวณรอบๆ จะเต็มไปด้วยป่าไม้ และทุ่งหญ้า เพื่อความสุข และความบันเทิงของเพื่อนสี่ขา ทำให้มันสามารถออกไปวิ่งเล่นรอบๆ บ้านได้อย่างมีความสุข แถมยังมีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย ต้องขอขอบคุณ Liesl Wilhardt เป็นอย่างมาก ที่ได้เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ขึ้นมา เพราะนอกจากจะทำให้เหล่าหมาจรจัดได้มีที่อยู่อาศัยอันแสนอบอุ่นแล้ว ยังทำให้มันได้รับความสุขสบายอย่างแท้จริง Liesl…
-
เจ้าหมาพิทบูลแต่งตัวซะน่ารักในวันฮาโลวีน แต่ต้องมานั่งเศร้า เพราะไม่มีใครสนใจเลย
ในขณะที่น้องหมาพันธุ์คอร์กี้ ปอม ดัชชุน โกลเด้น หรือชิวาวา ถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ารัก จนใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ แต่พอพูดถึงสุนัขพันธุ์พิทบูลขึ้นมาเมื่อไหร่ ทำไม๊ทำไมถึงมีแต่คนวิ่งหนีน้า ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว มันก็น่ารักไม่แพ้กับน้องหมาตัวอื่นเลย >< นี่คือเจ้า Dublin สุนัขพันธุ์พิทบูลของ William ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในรัฐ Massachusetts สหรัฐอเมริกา มันดูสดใส และร่าเริงมาก ย้อนเวลากลับไปในคืนวันฮาโลวีนที่ผ่านมา หลายคนอาจจะมีความสุข แต่สำหรับ Dublin แล้ว มันเป็นคืนที่น่าเศร้ามาก เพราะคืนนั้นไม่มีใครอยากเข้ามาเล่นกับมันเลย ทั้งๆ ที่มันก็อุตส่าห์แต่งตัวรอซะน่ารัก อ๋อยยยย น่าสงสาร และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 หลังผ่านพ้นคืนวันฮาโลวีนไปแล้ว William ก็ได้นำภาพของเจ้า Dublin ที่กำลังทำหน้าตาเศร้าสร้อยในชุดแฟนซี มาโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมเผยว่า… “สุนัขของผมรอให้เด็กๆ มาเล่น trick-or-treaters ทั้งคืน แต่พวกเขากลัวที่จะมาเล่นกับมัน น่าเศร้าจริงๆ” …
-
ประทับใจ!! คุณตำรวจปลอบ 2 น้องหมาพิทบูลที่ได้รับบาดเจ็บ หลังถูกทิ้งเอาไว้กลางถนน
ช่วงเช้าวันหนึ่งในเขต Orange County รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีพิทบูลสองเพื่อนซี้ที่น่าสงสาร ถูกคนใจร้ายทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพังกลางถนน แต่โชคดีของพวกมันที่ Patrick Hennessey ชายผู้กำลังจะไปทำงานผ่านมาเห็นพอดี ด้วยเหตุนี้เขาจึงช่วยพวกมันไว้ Patrick พบว่าน้องหมาหนึ่งในสองตัวนั้นได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งมันยังหวาดกลัว และไม่ยอมแยกออกจากกันเลย ซึ่งพวกมันกำลังรอคอยให้ใครบางคนมาช่วยเหลืออยู่ เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงได้ติดต่อกับทางสำนักงาน Orange County เพื่อขอความช่วยเหลือ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ Reed และ Boggs มาถึง พวกเขาก็ได้ช่วยกันปลอบโยนเจ้าพิทบูลเพื่อช่วยให้มันรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ทางด้านคุณตำรวจ ได้ใช้ผ้าพันแผลมาพันบริเวณขาที่ขาของเจ้าหมาที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อทำให้เลือดของมันหยุดไหล พวกมันอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของคุณตำรวจ พร้อมกับรอให้ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์มารับไปดูแล เมื่อทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์เดินทางมาถึง พวกเขาก็ได้นำเจ้าหมาออกจากถนนอย่างปลอดภัย พร้อมกับนำตัวของมันกลับไปดูแล ตอนนี้สองเพื่อนซี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิง พวกมันไม่ต้องกลัวการถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป แถมยังได้รับความรัก และความสุขที่พวกเขามอบให้อย่างเต็มใจ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตั้งชื่อให้กับพวกมันว่า Justice และ Liberty อีกด้วย ปัจจุบัน…
-
เมื่อ “กอริลลาน้อย” ถูกฝึกให้เกาะหลังของเจ้าหน้าที่ เป็นภาพน่ารักที่ผู้คนต่างชื่นชม
เมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Afia กอริลลาน้อยแสนน่ารักวัยเพียง 6 เดือน ที่กำลังเกาะแน่นอยู่บนหลังของผู้ดูแล เรียกได้ว่าเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย ในขณะที่หลายคนคงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า แล้วแม่ของมันละอยู่ที่ไหน Afia เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มันถูกนำมาตัวมายังสวนสัตว์บริสตอล หลังจากที่แม่ของมันดันป่วยหนัก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าก็กอลริลลาน้อยก็ได้ดูภายใต้ดูแลของทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี Sarah Gedman ทีมดูแลเจ้า Afia ได้เผยว่า “เจ้า Afia มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก และเราก็คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสุขภาพของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ… ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้า Afia มักจะชอบการเรียนรู้ และมันก็มีความมุงมั่นเป็นอย่างมาก ถ้าหากมันเห็นอะไรบางอย่างที่มันต้องการ มันก็จะทำทุกอย่างที่สามารถนำสิ่งนั่นมาตรวจสอบ” เจ้า Afia ถูกฝึกให้มีความเชื่อมั่น และเรียนรู้การใช้ชีวิตตามธรรมชาติของมัน เพื่อที่จะทำให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข มันได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ Afia ได้รับความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ของโรงพยายาล St Michael…
-
World Homeless Day รวม 14 ภาพชีวิตความลำบากของ “คนไร้บ้าน” จากทั่วทุกมุมโลก
ทุกวันที่ 10 ตุลาคม ในทุกๆ ปี หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงเป็นวันธรรมดาๆ ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วคือวัน “World Homeless Day” (วันผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะโลก) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า วันคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ photocrowd.com จึงได้จัดการประกวดถ่ายภาพคนไร้บ้าน เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นถึงความยากลำบากของคนเร่ร่อน และให้สังคมให้ตระหนักถึงปัญหาคนไร้บ้าน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุดเสียที และทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายการใช้ชีวิตของคนไร้บ้านจากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกบอกเล่าผ่านการประกวดในครั้งนี้ ชายไร้บ้านบนถนนในเมืองฮาราร์ ประเทศเอธิโอเปียตะวันออก ช่างภาพบันทึกภาพของหญิงขอทาน ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับเธอ ภาพของชายไร้บ้าน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่มีอะไร และต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง แต่ก็ยังหาอาหารมาเลี้ยงฝูงนกพิราบอยู่เสมอ ชายไร้บ้านกำลังนั่งเผากระดาษ ในคิงสตัน อัพพอน ฮัลล์ ประเทศอังกฤษ เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงคนไม่มีที่อยู่อาศัย ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ชายไร้บ้าน ที่นั่งอยู่ระหว่างคำว่าสุขภาพ และความงาม ในนิวยอร์กซิตี้ คนเก็บขยะได้เหลียวมองมาที่ชายคนหนึ่ง…
-
จากหมาที่ถูกเลี้ยงกักขังอย่างโหดเหี้ยม เธอช่วยชีวิตมัน… แล้วมันก็ปลุกเธอกลางดึกทุกคืน ฮร่า!!
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ต้องการความรัก และความอบอุ่นเหมือนกัน เหมือนดังเช่นเรื่องราวของเจ้า Niya สุนัขผู้สิ้นหวังตัวนี้ มันก็คงอยากใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขเหมือนสุนัขตัวอื่นๆ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้า Niya ดันถูกเจ้าของเดิมทอดทิ้งอย่างไม่มีใยดี จนต้องเข้ามาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Gibson County Animal Shelter ที่เมือง เทรนตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ และกลายเป็นน้องหมาที่ไม่มีเจ้าของไปในที่สุด Niya เคยถูกเจ้านายเก่าขังไว้ในกรงตลอดเวลา จนทำให้มันใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวในทุกๆ วัน บริเวณใบหน้าของมันก็มีรอยแผลจากการโดนทำร้าย อีกทั้งหางของมันก็ยังถูกกดแน่นอยู่ที่ระหว่างขาอีกด้วย น่าสงสารจริงๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง Kimberley Slown หญิงผู้ใจบุญก็ได้มารับมันไปดูแล พร้อมทั้งได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเจ้าหมาน้อยตัวนี้ เพื่อที่จะได้ให้มันกลับมามีความสุขอีกครั้ง เธออุ้มมันอย่างอ่อนโยน เจ้า Niya มีบ้านหลังใหม่ที่อบอุ่นแล้ว ดีใจด้วยน้า หลังจากที่ Niya เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ในคืนแรก มันก็เอาแต่มุดตัวอยู่ข้างๆ ผนัง แต่เมื่อถึงคืนที่ 2 เจ้า Niya ก็เริ่มเปลี่ยนไป มันได้เข้าไปหา Kimberley…
-
เจ้าเหมียวจรจัดในวันที่ถูกชุบชีวิตใหม่ เปลี่ยนจากแมวโทรมๆ ให้มีหน้าตาสดใสกว่าเดิม!!
นี่คือเรื่องราวของ Scarlett แมวเหมียววัย 15 ปีที่เคยมีชีวิตน่าสงสารมากที่สุดตัวหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้มันคือหนึ่งในแมวจรจัดไร้ที่อยู่อาศัย อีกทั้งสภาพขนของมันก็ยังรกรุงรังเต็มไปหมด เรียกได้ว่าลบภาพความเป็นแมวที่ร่าเริงเหมือนแมวทั่วๆ ไปได้อย่างสิ้นเชิง ย้อนกลับไปในตอนที่เจ้า Scarlett ยังคงอยู่ในสถานะแมวจร มันถูกพบโดยหญิงคนหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นเธอได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างที่แทบจะไม่เคลื่อนไหวบนถนนเลย และหลังจากที่เธอได้ลงมาจากรถ เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นแท้จริงแล้วเป็นเจ้าเหมียวนั่นเอง เธอได้นำเจ้าเหมียวไปส่งที่มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Southampton Animal Shelter Foundation (SASF) โดยทางทีมแพทย์ได้ตรวจพบว่าเจ้าเหมียวตัวนี้กำลังหิวโซ ตัวของมันเต็มไปด้วยเห็บ หมัด และไรในหู อีกทั้งยังขาดน้ำเป็นอย่างมาก “มันเป็นแมวที่มีขนรกรุงรังที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา เจ้าเหมียวไม่สามารถที่จะเดิน หรือเคลื่อนย้ายตัวของมันได้เลย” Linda Goldsmith เจ้าหน้าที่ใน SASF กล่าว หลังจากที่ทางทีมแพทย์ได้ใช้เวลาโกนขน และทำความสะอาดร่างกายให้เจ้าเหมียวอยู่นานหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นรูปโฉมที่แท้จริงของมัน ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่รกรุงรังอยู่ก่อนหน้านี้ เจ้าเหมียวกลายเป็นแมวที่แสนน่ารัก แถมพวกเขายังได้เห็นความสุขในดวงตาของมันอีกด้วย จากแมวจรจัดที่ผ่านความลำบากมา ตอนนี้เจ้าเหมียวมีชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังอยู่ภายใต้ความดูแลของมูลนิธิ SASF ซึ่งมันก็หวังว่าสักวันหนึ่งคงจะมีมนุษย์ใจดีมารับมันไปดูแลเหมือนแมวจรจัดตัวอื่นๆ บ้าง…
-
พัฒนาการช่วยเหลือของ ‘เจ้าหมาขี้เรื้อน’ เกรอะราวกับเป็นหิน จนหายดีและมีขนขึ้นเต็มตัว!!
*คำเตือน : บทความนี้อาจมีภาพที่ทำให้ทุกคนท้องไส้ปั่นป่วน ก็ขอให้ตัดสินดูดีๆ ก่อนที่จะเลื่อนลงไปดูนะจ๊ะ นี่คือคลิปเรื่องราวการช่วยเหลือเจ้าหมา ที่จะทำให้ทุกคนยิ้มได้กับความมีน้ำใจของเพื่อนมนุษย์… เรื่องราวการช่วยเหลือเจ้ามำหมาสองตัวที่ถูกทิ้งไว้ ให้อาศัยอย่างยากลำบากในบ้านร้างแห่งหนึ่งจนเป็นเรื้อนและมีสภาพราวกับหินเลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่าแชแนลยูทูบ Victor Larkhill ที่ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือเหล่าสัตว์โลกทั้งหลายที่ได้รับความลำบาก . และพวกเขาก็ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าหมา 2 ตัวที่ถูกทิ้งไว้ให้มีชีวิตอย่างยากลำบาก จนป่วยเป็นโรคเรื้อนส่งผลให้เนื้อตัวของมันเขรอะไปด้วยผิวหนังที่แห้งตกสะเก็ดราวกับว่ากลายเป็นหินเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังไม่พอยังป่วยเป็นโรคพยาธิ และต้องผจญกับความหิวโหยอีกต่างหาก คุณ Victor และทีมได้ทำการพาเจ้าหมา Oscar และเจ้า Helena ไปหาหมอ และประกาศขอระดมทุนเพื่อหาเงินมาช่วยทำการรักษาให้กับพวกมัน . จนในที่สุดอาการของพวกมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นทีละเล็กละน้อย และขนของมันก็ค่อยๆ ขึ้นจนในที่สุดก็เรียกได้ว่าหายดีแล้วล่ะ . และตอนนี้ทั้งเจ้า Oscar และเจ้า Helena ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกันในบ้านหลังใหม่ พร้อมกับเจ้านายที่จะคอยดูแล และให้ความรักกับพวกมันไปตลอดชีวิตแล้ว ^^ . ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละตัวเลยแฮะ ที่มา : viralnova
-
จากแมวน้อยใกล้ตายอยู่ข้างถังขยะ เพราะคนช่วยชีวิตไว้ มันเลยรอดตายมีชีวิตใหม่…
คุณสามารถพบแมวได้ในทุกๆ ที่ และก็ไม่ใช่แมวทุกตัวซะด้วยสิ ที่เกิดมาโชคดี มีเจ้านายคอยเลี้ยงดูเอาใจใส่ เพราะความจริงแล้ว บนโลกใบนี้ยังมีแมวอีกมากมายเหลือเกิน ที่เกิดมาโชคร้ายไปหน่อย เหมือนดังเช่น Gypsy แมวเหมียวตัวน้อยผู้น่าสงสารตัวนี้ ก็ไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่สวยหรูเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะกว่ามันจะผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ย้อนกลับไปในวันที่มันยังเป็นลูกแมวตัวน้อย ที่ถูกพบอยู่ในสภาพใกล้ตายข้างถังขยะ ทางองค์กรการกุศล Itty Bitty Kitty Committee ในชาร์ลสตัน ได้นำตัวของมันไปรักษาที่คลินิกฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน โดยทางแพทย์ได้เผยว่า เจ้าเหมียวมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอ และต้องการเลือดเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็พยายามที่จะช่วยชีวิตของมันให้เต็มที่ ต้องขอบคุณแมวตัวอื่นที่บริจาคเลือดมา เจ้า Gypsy เลยได้รับการถ่ายเลือดในคืนนั้น และหลังจากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที แต่ทว่าอาการของมันก็ยังไม่ดีขึ้น และมันก็ยังไม่ยอมกินอะไรเลย… จนในที่สุดเจ้าเหมียวก็ถูกย้ายไปที่คลินิกฉุกเฉินอีกครั้ง เนื่องจากอาการของมันยังอยู่ในขั้นวิกฤต และในวันรุ่งขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าอาการของมันกลับดีขึ้น สภาพของมันดูเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “เจ้าเหมียวถูกส่งไปคลินิกฉุกเฉินอีก 1 คืน ตอนแรกเธออยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง แต่พอถูกส่งไปอีกที่ อาการของมันก็เริ่มดีขึ้น ราวกับเปลี่ยนเป็นลูกแมวอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว” เจ้าเหมียวสามารถทานอาหารได้ตามปกติ…
-
หนุ่มไปเที่ยวปราสาทแดร็กคูล่า เจอเหมียวทำตัวน่าสงสาร เก็บมาเลี้ยง… แล้วก็โดนยึดบ้าน!!!
เวลาที่ได้มองเจ้าเหมียวตัวน้อยๆ ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า เจ้าเนี่ยหรอที่ชอบวางแผนการชั่วร้ายเพื่อจะมาครองโลก เพราะหน้าตาของพวกมันดูมุ้งมิ้งเกินกว่าจะคิดเรื่องแบบนี้ได้ แต่พอลองนึกถึงสถานการณ์ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้มีหน้าตาเป็นอาวุธจริงๆ ชอบงัดท่าไม้ตายโดยการทำหน้าตาน่าสงสาร ให้มนุษย์ใจอ่อนอยู่เรื่อยไป เหมือนกับเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ได้เห็นเจ้าลูกแมวน้อยตัวนี้ โผล่มาทำหน้าตามุ้งมิ้งอยู่ใกล้ๆ บริเวณปราสาทบราน (หรือเป็นที่รู้จักกันในนามของปราสาทแดร็กคูล่า ในโรมาเนีย) ซึ่งในขณะที่เขากำลังถ่ายภาพปราสาทอยู่นั้น จู่ๆ ก็บังเอิญไปเห็นสุนัข 3 ตัว กำลังพยายามขุดคุ้ยบางสิ่งบางอย่างอยู่ที่ประตู และหลังจากนั้นก็พบว่ามีลูกแมวตัวน้อยๆ ที่มีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์กำลังตกใจกลัวสุดขีด เจ้าเหมียวอยู่ตัวคนเดียวเพียงลำพัง โดยไม่มีแม่คอยปกป้อง และดูเหมือนว่ามันกำลังต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น จึงทำให้เขาต้องรีบไล่สุนัขออกไป และเข้าไปนั่งอยู่กับลูกแมว เพื่อรอดูจนกว่าแม่ของมันจะกลับมา แต่ทว่ากลับไม่มีการปรากฏตัวของแม่แมวเลย ด้วยความสงสารเขาจึงตัดสินใจนำตัวของเจ้าเหมียวแปลกหน้าที่เพิ่งพบได้ไม่นาน ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย และคอยดูแลมันอยู่ไม่ห่าง เขานำมันใส่ในตะกร้า และพามันกลับไปยังที่พัก พร้อมกับนำอาหาร และนมมาให้มันกิน และแน่นอนว่าความน่ารักน่าเอ็นดูของแมวน้อย ก็ทำให้เขาได้รับมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แถมยังตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า Putyika อีกด้วย . ถ้าวันนั้นไม่เรียกให้คนมาช่วย ป่านนี้ไม่รู้ว่าแมวตัวน้อยๆ ต้องเผชิญกับชะตากรรมอะไรบ้าง แต่ตอนนี้มันมีคนคอยดูแล และมีบ้านที่แสนอบอุ่นเหมือนกับแมวบ้านทั่วๆ ไปแล้ว แววตาตอนนั้นกับตอนนี้…
-
แม้โรคร้ายจะพรากชีวิตแฝดพี่ไป แต่ภาพเด็กน้อยกอดกันอย่างอบอุ่น ก็ซึ้งกินใจเช่นกัน…
กลายเป็นเรื่องเศร้าใจอย่างมาก เมื่อคุณแม่โพสต์ภาพลูกแฝดที่ได้กอดกันครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ใบหน้าของทารกน้อยเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงแบบที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด ทารกแฝดคู่นี้คือ ฮอว์ก และ เมสัน จากฟอร์ตเพียร์ซ รัฐฟลอริดา ผู้กอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ฮอร์กจะจากไปด้วยโรคร้ายที่เรียกว่า CDH – Congenital Diaphragmatic Hernia (ไส้เลื่อนกระบังลมแต่กำเนิด) แน่นอนว่าเมื่อภาพถูกแชร์ออกไปบนเพจของทั้งคู่ มีชาวเน็ตมาร่วมแสดงความเสียใจ แต่ก็ประทับใจในความรักที่มีให้กันตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยเช่นกัน มีการแชร์ส่งต่อไปเกือบ 30,000 ครั้ง เพื่อช่วยเผยแพร่ให้เห็นถึงความรัก และพิษภัยของโรคร้ายนี้ ไส้เลื่อนกระบังลมคือการเคลื่อนที่ของอวัยวะในช่องท้องในช่องอกผ่านข้อบกพร่องในไดอะแฟรมหรือในการปรากฏตัวของพื้นที่ที่อ่อนแอของเด็ก โดยมีโอกาสเกิด 1 ใน 1,700 คนของทารกแรกเกิด อาการของโรคนี้คือ ทารกจะมีความล้มเหลวของระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง รวมทั้งการหายใจอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขาดออกซิเจน แต่หากแพทย์ตรวจพบโรคนี้ก่อนคลอด ก็อาจทำให้มีโอกาสในการรักษามากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ หมอก็พยายามผ่าตัดและรักษาโรคร้ายดังกล่าวให้กับฮอร์ก ในขณะพ่อแม่เองก็ขอให้ผู้คนอธิษฐานให้ลูกของเขา แม้จะรู้ว่ามีโอกาสรอดน้อยมากก็ตาม ส่วนเมสันเอง ดูท่าจะอยากได้รับความอบอุ่นอยู่และอยากให้กำลังใจพี่ชาย พยาบาลจึงแนะนำพ่อแม่ว่า ‘ให้พวกเขานอนข้างกันสิ’ คุณแม่จึงให้เมสันไปนอนใกล้ๆ กับฮอว์ก แล้วก็เกิดภาพที่ทำเอาหลายๆ คนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเมสันเอามือไปกอดฮอว์กด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น เพื่อสื่อว่าพวกเขายังคงมีกันและกัน …
-
เจ้าหนูวัย 14 เห็นชายไร้บ้านรองเท้าขาดซอมซ่อ เขาตัดสินใจ ‘เสียสละ’ รองเท้าตัวเองให้…
ช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้เป็นช่วงเทศกาลวันแรงงานของประเทศสหรัฐอเมริกา หลายๆ คนอาจจะเฉลิมฉลองกันในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ใช่กับหนุ่มน้อยคนนี้ LaRon Tunstill หนุ่มวัย 14 ปีจากรัฐเคนทัคกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งขณะที่เขาไปร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้บาร์บีคิว ที่คุณ Jason Reynolds ผู้ซึ่งจัดโครงการ PurpMe ดูแลคนยากไร้ในละแวกนั้นเป็นประจำ และเขาก็เข้าร่วมเป็นประจำด้วยเช่นกัน… ในตอนนั้น LaRon (หรือที่คนละแวกนั้นเรียกเขาว่าเจ้าหนู RonRon) ก็เจอคนไร้บ้านคนหนึ่ง รองเท้าของเขาขาดยับเยิน… เห็นดังนั้น RonRon เลยถอดรองเท้าคู่ใหม่ของเขาทันที และนำไปมอบให้กับชายไร้บ้านคนนั้น ซึ่งตอนแรกชายคนนั้นก็รู้สึกลังเลและเกรงใจที่จะรับมาก เพราะรองเท้าคู่นั้นก็ไม่ได้ราคาถูกๆ เลย แต่เจ้าหนูก็พูดออกไปว่า ‘รับไปเถอะครับคุณ เพราะนี่คือสิ่งที่พระเจ้าเห็นว่าผมควรทำ’ เหตุการณ์นี้ทำให้ Jason Reynolds เจ้าของมูลนิธิรู้สึกประทับใจมาก ‘ชีวิตของผมเปลี่ยนไปเลยล่ะที่ได้เห็นโมเม้นต์สุดประทับใจนี้’ คลิปที่คนตรงนั้นบันทึกโมเม้นต์สุดประทับใจ (ถ้าชมคลิปไม่ได้คลิกที่นี่ครับ) Ronron gave his shoes to the homeless man โพสต์โดย Purpme บน 5 กันยายน 2016 ตอนนี้ Jason ก็ได้จัดแคมเปญในเพจ GoFundMe เพื่อนำเงินบริจาคจากการระดมทุนนำไปช่วยเด็กๆ…
-
เจ้าวาฬมิงค์ตัวนี้ กำลังนอนรอความช่วยเหลือ หลังว่ายน้ำมาติดอยู่บริเวณโขดหิน
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอสุดแสนประทับใจ ขณะที่กลุ่มผู้คน กำลังทำการช่วยเหลือเจ้าวาฬมิงค์แคระที่ติดอยู่บนโขดหิน บริเวณเกาะไดม่อน ในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย จากภาพเราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่พบเห็นเจ้าวาฬตัวดังกล่าว ได้นำผ้าขนหนูชุบน้ำเปียกหมาดๆ มาคลุมตัวให้กับมัน ขณะรอหน่วยกู้ภัย เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากเจ้าวาฬขาดน้ำและถูกแดดเผามาเป็นเวลานาน ส่วนสาเหตุที่เจ้าวาฬขึ้นมาติดอยู่บริเวณโขดหิน พวกเขาเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะมันได้ว่ายน้ำย้ายถิ่นจาก Great Barrier Reef (แนวปะการังขนาดใหญ่) เพื่อไปยังจุดหาอาหารในมหาสมุทรแอนตาร์กติก จากนั้นไม่นาน ทางหน่วยกู้ภัยก็เดินทางมาถึง พวกเขาจึงช่วยกันรีบย้ายเจ้าวาฬตัวนี้ลงสู่ทะเลทันที และเมื่อได้รับการปล่อยตัว เจ้าวาฬมิงค์ตัวน้อยก็รีบว่ายน้ำออกไปทันที โถๆๆ เจ้าวาฬตัวน้อยคงกำลังรอให้คนมาช่วยเหลืออยู่แน่ๆ แต่ก็ดีใจด้วยนะเจ้าวาฬ ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ ทำให้มันได้กลับคืนสู่มหาสมุทรแล้ว มาชมคลิปขณะกำลังช่วยเหลือเจ้าวาฬมิงค์กันเลย (คลิป) ที่มา : thedodo
-
‘Jazz’ เหมียวที่ถูกทอดทิ้งจากเจ้าของเก่า แต่หนุ่มแว่นก็ถูกชะตา และที่สุดมันก็ได้บ้าน!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ถูกทิ้งไว้หลังจากที่เจ้าของเก่าย้ายบ้านออกไป และมันก็เหมือนจะติดใจกับทาสคนหนึ่งที่กะไปแค่ดูแมวที่สถานสงเคราะห์เฉยๆ ทำตัวติดหนึบไม่ยอมปล่อยไปไหนเลย จนในที่สุดมันก็ถูกรับมาเลี้ยงจนได้ ฮร่า มารู้จักกับเจ้าเหมียว Jasper หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jazz เจ้า Jasper นั้นถูกมนุษย์คนก่อนทิ้งไป มันอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิมนั้นมาตลอด และพวกเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมารับมันอีกเลย หลังจากนั้นมันก็เริ่มถูกโจมตีจากแมวข้างบ้าน “มีคนโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊ค ให้กับเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบ้านร้าง และดูเหมือนกับว่ามันมีบาดแผลเต็มตัวไปหมด” สมาชิกเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า Sarie24 กล่าว ในตอนแรกนั้นดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจ แต่ในที่สุดก็มีทีมช่วยเหลือได้เสนอตัวเข้ามารับหน้าที่นี้ “ในตอนแรกนั้นเนื้อตัวของมันสกปรกมอมแมมมาก ขนของมันพันกันเป็นก้อนขนาดใหญ่ ทางทีมช่วยเหลือก็เลยตัดสินใจที่จะโกนขนของมันออก เผยให้เห็นถึงรอยแผลถลอกเต็มตัวของมัน” คุณ Sarie24 และสามีของเธอที่เพิ่งกลับมาจากอิรัก (จะบอกนัยๆ ว่าเป็นทหารล่ะซิ) พอกลับมาปุ๊บทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจที่จะไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ “พวกเรากะแค่จะไปดูเฉยๆ ในตอนแรก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะติดสามีของฉันซะแจเลย นั่นทำให้เราไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ” เจ้า Jasper นั้นกระโดดขึ้นมานอนบนตักสามีของคุณ Sarie24 และไม่ยอมหนีไปไหนเลย “และเมื่อเราพามันมาถึงที่บ้าน เจ้า Jazz เล่นอย่างไม่หยุดหย่อนเลย และนั่นก็เป็นสิ่งที่เราดคาดกันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว” คุณ Sarie24 เล่า “พวกเราได้ทำห้องให้เป็นที่อยู่ของมัน และตอนนี้มันก็กลายเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นกับทุกคนในบ้าน ด้วยดารไปนอนอยู่ใกล้ๆ กับทุกคน”…
-
เจ้าของทำให้ ‘สุนัขป่วย’ มีความสุขในวันสุดท้าย ก่อนการุณยฆาต จากกันไปตลอดกาล…
ขึ้นชื่อว่า สัตว์เลี้ยง ถ้าได้อยู่ด้วยกันนานๆ ยิ่งเกิดความผูกพัน เหมือนมันเป็นคนในครอบครัว และถ้าเรารู้ว่า ต้องเสียมันไปในวันหนึ่ง ก็คงยากที่จะทำใจ เหมือนเรื่องราวของหมาตัวหนึ่ง ที่ใครได้อ่านก็ต้องน้ำตาไหล เมื่อเจ้าของรู้ว่า มันกำลังจะตาย จึงได้พามันเที่ยวพร้อมทำเรื่องสนุกๆ ก่อนที่มันจะจากไปตลอดกาล เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ imgur เป็นภาพของ Hannah สุนัขอเมริกัน พิทบูล ตัวหนึ่งที่ป่วยหนักด้วยโรคไต โดยมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีก และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่มันได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีความสุข เจ้าของเล่าให้ฟังว่า “เมื่อ 2 เดือนก่อน มันมีอาการชัก แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จนหลังๆ มา อาการมันเริ่มแย่ๆ ลงเรื่อยๆ” มันเริ่มใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น การเดินขึ้นบันไดกลายเป็นเรื่องยากสำหรับมัน หรือแม้แต่เนินเขาเตี้ยๆ ก็กลายเป็นภูเขาสูงชันสำหรับมัน ส่วนยาที่ให้มันกิน ก็ดูเหมือนว่า จะไม่ได้ผลอีกแล้ว ทั้งหมอและเจ้าของพยายามยื้อชีวิต Hannah อย่างสุดความสามารถ แต่มันยิ่งสร้างความทรมานให้กับมันขึ้นเรื่อยๆ จนหมอแนะนำให้ทำการุณยฆาตมัน แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ แต่พวกเขาก็ทนเห็นมันทรมานไม่ได้ จึงตัดสินใจทำตามคำแนะนำ แต่ก่อนที่จะทำการุณยฆาตมันนั้น พวกเขาได้ทำให้ Hannah มีความสุขมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น พาไปเที่ยว ไปกินอาหารโปรด และกิจกรรรมอื่นที่จะทำให้มันมีความสุข …
-
เมื่อพี่ใหญ่ต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง สองน้องหมาก็มาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ประทับใจจัง!!
ครั้งนี้ เราขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของ Kiaya เจ้าหมาพันธุ์อะกิตะ วัย 10 ปี อาศัยอยู่ในเมืองวอเตอร์ฟอร์ด รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา กับ Jessica VanHusen ผู้เป็นเจ้าของ Kiaya เป็นน้องหมาที่เกิดมาสมบูรณ์ มีสุขภาพดี หน้าตาน่ารัก และขี้เล่น เหมือนน้องหมาทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่ทางแพทย์ได้ตรวจพบว่า เจ้า Kiaya มีต้อหินในดวงตา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันต้องสูญเสียตาทั้งสองข้างไปอย่างถาวร เจ้า Kiaya ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความมืดมิดในแบบที่มันไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่อย่างน้อยเรื่องมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทีเดียว เพราะหลังจากที่กลายเป็นหมาตาบอด น้องหมาทั้งสองอย่างเจ้า Cass 8 ปี และ Keller วัย 2 ปี ก็คอยปกป้อง และดูแลผู้เป็นพี่อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะเสียดวงตาทั้งสองข้างไป แต่มันก็ยังมีน้องๆ ที่เปรียบเสมือนเป็นดวงตาดวงที่สองให้กับมัน คอยดูแล พร้อมทั้งช่วยนำทาง และนั่นก็ทำให้เจ้า Kiaya สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนกับหมาทั่วไป…
-
สายตานั้นเศร้าที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา… ทีมกู้ภัยเปิดใจ หลังได้เข้าช่วยหมาที่กำลังจะถูกน้ำท่วมตาย
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของเจ้าตูบที่น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ขณะกำลังลอยคออยู่กลางน้ำท่วม ในเมืองบาตันรูช รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โถๆๆ น่าสงสารจังน้องหมา Josh Pettit หนึ่งในหน่วยทีมกู้ภัย ผู้ที่ได้นำเรือออกไปช่วยเหลือผู้ประสบกับปัญหาน้ำท่วม และเป็นผู้ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้ ได้โพสต์เรื่องราวขณะที่เขาได้พบมัน ซึ่งในขณะนั้นเขาได้ผ่านมาทางนั้นพอดี และได้สังเกตเห็นว่าพุ่มไม้สั่นไหว… ดังนั้น เขาจึงได้เข้าไปดูใกล้ๆ และได้เจอน้องหมาสีเทาตัวดังกล่าว ที่ตัวเกือบจะจมน้ำ กำลังทำหน้าตาเศร้าและจ้องมองมาที่เขาอย่างมีความหวัง มันคงจะรอคนมาช่วยเหลือแน่ๆ อีกทั้งมันยังเป็นหมาที่มีใบหน้าเศร้าที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลยล่ะ เจ้าหมาไม่สามารถขยับตัวได้ เนื่องจากตัวของมันติดกับโคลนด้านล่าง เมื่อเห็นดังนั้น Josh จึงรีบเข้าช่วยเหลือมันทันที โดยการพามันขึ้นมาบนเรือ และแน่นอนว่าเจ้าหมารอดตายแล้ว มันคงจะดีใจมากแน่ๆ หลังจากที่เขาได้ช่วยเหลือมัน และพาเจ้าหมาขึ้นไปบนฝั่งอย่างปลอดภัย Josh ก็ได้พบกับเจ้าของหมาตัวนี้ และก็ได้รู้อีกว่าเจ้าหมามีชื่อว่า Sadie ตอนนี้หลายๆ คนก็คงจะหายห่วงได้แล้วล่ะ เพราะเจ้า Sadie ปลอดภัยดีแล้ว เป็นโชคดีของมันจริงๆ ที่มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน…
-
Moet เจ้าเหมียวที่ถูกทำร้ายจนตาบอด ได้พบกับชีวิตใหม่ที่สดใส ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้แล้วนะ
ภาพของเจ้า Moet แมวเหมียวพันธุ์เปอร์เซียตัวนี้ แค่เห็นครั้งแรกก็ทำเอาหลายๆ คนหลงรัก และเอ็นดูมันเข้าอย่างจัง เพราะนอกจากความน่ารักแล้ว ดวงตาของมันยังบอดสนิท จนทำให้มันไม่สามารถมองเห็นสิ่งสวยงามบนโลกนี้ได้อีกต่อไป และคุณรู้หรือไม่ว่า เจ้าเหมียวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ มันได้เจอกับเรื่องราวที่แสนเลวร้ายในชีวิตมามากมายขนาดไหน บอกเลยว่าเรื่องราวของมันจะต้องทำให้คุณน้ำตาซึมแน่นอน และนี่คือเจ้า Moet แมวเหมียวแสนน่ารัก ที่ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาในอดีต ปัจจุบันมันมีชีวิตที่ดีแล้ว ในอดีต Moet เคยอาศัยอยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในโอมาน แต่ชีวิตแออัดในกรงของร้านนั้นไม่ได้ดีสักเท่าไร ความคับแคบ แออัด และไม่ได้มาตรฐานสุขอนามัย ทำให้มันมีปัญหาสุขภาพตามมา ไม่มีการยืนยันว่ามันถูกทำร้ายหรือติดเชื้อกันแน่ แต่นั่นทำให้มันกลายเป็นสัตว์ตาบอด และถูกปล่อยทิ้ง เฮ้อ…เจ้าเหมียวคงต้องการมีครอบครัวที่ดี มีคนที่รักและคอยดูแลมัน สิ่งเหล่านี้มิใช่หรือที่เจ้า Moet สมควรจะได้รับ และแล้ววันแห่งความโชคดีที่สุดในชีวิตของมันก็มาถึง เพราะหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสัตว์มาเห็นเข้า พวกเขาก็รีบนำตัวของมันไปรักษาทันที…รู้ไหมว่าตอนนี้ Moet ได้ถูกปลดปล่อยให้กลายเป็นอิสระแล้วนะ สภาพร่างกายของ Moet ในตอนนั้นอ่อนแอเป็นอย่างมาก อีกทั้งกล้ามเนื้อของมันก็ไม่สามารถขยับได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้มอบความรัก และความอบอุ่นให้กับมัน พร้อมทั้งยังนำตัวของมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย มีเตียงอุ่นๆ ให้นอน ได้อาบน้ำ แถมยังได้กินอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เจ้าเหมียวเคยกินมาเลยละ…
-
“Tombili” เซเลปเหมียว ที่ดังเพราะท่านั่งสุดชิลริมถนน จากโลกนี้อย่างสงบแล้ว…
เชื่อว่าภาพของเจ้าเหมียว ที่กำลังนั่งชิลๆ อยู่ข้างทาง ในนครอิสตันบุล ประเทศตรุกี คงจะพอผ่านตาหลายคนกันมาบ้างแล้ว และคุณรู้บ้างหรือไม่ว่า หลังจากที่ทางเว็บไซต์ 9GAG ได้นำภาพถ่ายท่านั่งสุดชิค ที่ทั้งน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าเหมียวนามว่า Tombili ตัวนี้ ลงไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตเป็นเจ้าแรก… ก็ทำให้มันโด่งดัง และกลายเป็นที่รู้จักไปชั่วข้ามคืน อีกทั้งยังมีการนำภาพของมัน ไปทำการตัดต่อให้กลายเป็นภาพที่ทำเอาชาวเน็ตฮาลั่นโซเชียลกันเลยทีเดียว ตัวอย่างภาพตัดต่อของเจ้าเหมียว และล่าสุด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ทางเว็บไซต์ 9GAG พร้อมทั้งสื่อต่างประเทศหลายแห่ง ได้เผยข่าวที่น่าเศร้าของเจ้า Tombili ว่า… หลังจากที่ป่วยมาเป็นเวลานานนับเดือน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 เจ้า Tombili เหมียวเซเลปจากประเทศตุรกี ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว ทางด้านอินสตาแกรมที่ชื่อ ykpykseler ก็ได้โพสต์ภาพอาลัยรักครั้งสุดท้ายของเจ้าเหมียว Tombili งานนี้เรียกได้ว่ามีชาวเน็ตจากตรุกี ได้พากันมาไว้อาลัยให้กับมันในอินสตาแกรมดังกล่าวกันอย่างมากมาย นอกจากนี้ ยังมีการทำป้ายประกาศข่าวการจากไปของเจ้า Tombili ไว้…
-
ตามหากันวุ่น!! เมื่อเต่าอายุกว่า 90 ปี แอบหนีออกจากบ้าน ไปอยู่ในกองขยะซะงั้น
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Buzzfeed มีรายงานว่า หลังจากที่ Sarah Joiner วัย 56 ปี จากกรุงลอนดอน ได้กลับมาจากการว่ายน้ำ เธอก็แทบคลั่งทันที หลังจากที่รู้ว่าเจ้า Zuma เต่าที่มีอายุกว่า 90 ปี หายออกไปจากบ้าน งานนี้จึงทำให้ Sarah ผู้เป็นเจ้าของ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที . เจ้า Zuma ถูกตรวจสอบโดยอุปกรณ์ตรวจจับของเจ้าหน้าที่ จนในที่สุดก็พบว่ามันติดอยู่ในถุงขยะ ซึ่งกว่าจะเจอก็ใช้เวลาตามหากว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว แม้ว่าโอกาสเจอเจ้า Zuma จะมีน้อยมาก แต่เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาถุงขยะกว่า 1,000 ถุง จนกว่าจะเจอเจ้าเต่าตัวนี้ และโชคดีที่สามารถหา Zuma เจอได้ทันเวลา เพราะไม่อย่างนั้นถุงขยะ อาจจะถูกเก็บรวบรวมไปแล้วก็เป็นได้ . ทีหลังก็อย่าหายไปไหนอีกนะเจ้าเต่าน้อย ตอนนี้มันปลอดภัยดี …
-
สัตว์ประหลาดร้าย มันปรากฏตัวบนระเบียงบ้าน ตอนแรกทำตัวหงิมๆ สุดท้ายมันก็ยึดบ้าน!!!
นี่คือเจ้า Jedi แมวเหมียวตัวสีดำแสนน่ารัก ที่ถึงแม้ว่าปัจจุบันมันจะมีชีวิตที่มีความสุข และแฮปปี้ดี แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่าในอดีต เจ้าเหมียวตัวนี้มันได้ผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง และถ้าหากใครได้รู้แล้วรับรองว่าคุณจะต้องรัก และเอ็นดูมันอย่างขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ทางเว็บไซต์ Lovemeow ได้เผยภาพ พร้อมเรื่องราวของเจ้า Jedi จากผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า StockmanBaxter ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาได้พบกับลูกแมวจรจัดตัวหนึ่ง นั่นก็คือเจ้า Jedi นี่แหละ ซ่อนตัวอยู่หน้าระเบียงบ้าน หลังจากที่เขากลับมาจากการทำงาน และดูเหมือนว่าท่าทางของมันจะดูกลัวๆ เกินกว่าที่จะยอมรับความช่วยเหลือ และเมื่อเขาได้เดินเข้าไปที่สนามของเพื่อนบ้าน ก็ได้เห็นเจ้าแมวมาอยู่ในสวน แต่จู่ๆ มันก็หายไป!! เช้าวันต่อมา เขาก็ได้เห็นเจ้าเหมียวน้อยอีกครั้ง แต่ทว่าหลังจากที่พยายามเข้าใกล้มัน เจ้าเหมียวกลับวิ่งหนี ดังนั้น เขาและภรรยาจึงพยายามช่วยกันหลอกล่อเจ้าเหมียว และสามารถจับมันได้ในที่สุด เมื่อสามารถจับตัวของมันได้ เขาก็ได้ให้อาหารและน้ำแก่มัน พร้อมทั้งได้พาเจ้าเหมียวไปพบสัตว์แพทย์ ก่อนที่จะพามันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน หลังจากที่ทางแพทย์ได้ทำการตรวจเช็คร่างกาย…
-
ทารกน้อยได้ชีวิตใหม่ หลังเข้ารับการผ่าตัดท้องโหว่-ไส้ไหล กลายเป็นเด็กที่มีความสุข!!!
นี่คือ Teddy Hodgson หนูน้อยที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 แต่กลับต้องเจอกับภาวะที่ผิดปกติคือ ช่องหน้าท้องไม่ปิด และมีรูโหว่ จึงทำให้ลำไส้ รวมถึงอวัยวะภายในไหลออกมากองอยู่นอกร่างกาย วันที่ 5 สิงหาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เปิดเผยภาพร้อมเรื่องราวของหนูน้อย Teddy พร้อมทั้ง Holly Hodgson คุณแม่ชาวบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ที่ถึงแม้ว่าจะเจอกับช่วงเวลาที่แสนลำบาก แต่ทั้งคู่ก็สามารถผ่านมันมาได้ด้วยดี คำเตือน ภาพด้านล่างอาจจะดูรุนแรงไปบ้าง ใครที่พร้อมรับชมก็เลื่อนลงไปต่อได้เลยค่ะ . . . . . . . . ซึ่งก่อนหน้าที่คุณแม่ Holly จะคลอดลูกชายนั้น เธอเกิดอาการช็อกเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางสูตินรีแพทย์ได้ตรวจพบว่า หนูน้อย Teddy มีภาวะที่ผิดปกติดังกล่าว มาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดังนั้นทางสูตินรีแพทย์จึงได้แนะนำให้เธอทำแท้ง แต่ด้วยความโชคดี ที่เธอกลับไปค้นหาข้อมูล และพบว่าเด็กที่ป่วยภาวะดังกล่าวมีโอกาสหายได้ด้วยการทำศัลยกรรมหน้าท้อง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอไม่ทำแท้งอย่างที่หมอแนะนำ แต่กลับเก็บลูกเอาไว้…
-
‘ลูกวาฬเพชฌฆาต’ ตรอมใจหลังจากสูญเสียแม่ ไม่ยอมกิน-ยึดติดลูกบอลเป็นตัวแทนแม่มัน
การสูญเสียคนที่รัก เป็นเรื่องยากที่เราจะทำใจได้ บางคนเสียใจจนไม่เป็นอันทำอะไรกันเลย… และบางที เรื่องราวแบบนี้ไม่ได้เกิดแค่กับมนุษย์เท่านั้น เหล่าสัตว์เองก็ไม่ต่างจากเรา เมื่อต้องสูญเสียสิ่งที่มันรัก เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อ Bob วาฬเพชฌฆาตวัย 6 เดือน ได้สูญเสียแม่ไป หลังจากเหตุการณ์นั้น มันกลายเป็นวาฬน้อยที่เศร้าเสียใจตลอดเวลา ตามรายงานข่าวระบุว่า มันใช้บอลลอยน้ำเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่เหมือนเป็นตัวแทนของแม่ โดยที่มันไม่เคยว่ายน้ำออกห่างจากบอลลอยน้ำนี้เลย ด้วยความเศร้านี้ ทำให้สุขภาพของ Bob แย่ลงเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่คิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันต้องตายแน่ๆ เลยเอามันไปดูแลที่สระน้ำ และให้อาหารผ่านหลอด เนื่องจากมันไม่ยอมกินอาหารเองเลย แต่… เรื่องนี้ไม่มีปาฏิหาริย์ อาการของมันก็ไม่เคยดีขึ้น กลับแย่ลงไปอีก จนในที่สุดมันก็เสียชีวิตในวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เรื่องราวของ Bob สร้างความโศกเศร้าให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมัน รวมทั้ง Maggie Barry รัฐมนตรีกระทรวงอนุรักษญ์ทรัพยากรณ์ธรรมชาติ ที่กล่าวแสดงความเสียใจกับวาฬน้อยตัวนี้ว่า “วาฬเพชฌฆาตตัวนี้ เป็นสัตว์ที่อายุน้อยที่สุดที่เราเคยช่วยเหลือมา แต่เราก็ต้องเสียที่ไม่สามารถช่วยให้มันมีชีวิตต่อไปได้ เพราะมันเป็นเคสที่มีโอกาสรอดน้อยมาก” ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ นี่แหละนะสัตว์โลก…
-
รักที่ยิ่งใหญ่ของแม่สล็อต นอนกอดลูกน้อยไม่ยอมห่าง แม้ตัวจะบาดเจ็บสาหัส
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ต่างก็มีสัญชาติญาณแห่งความเป็นแม่กันทั้งนั้น เหมือนดังเช่นเรื่องราวสุดซึ้งของแม่สล็อต จากประเทศคอสตาริกา ตัวนี้ ถึงแม้ว่าตัวของมันเองจะมีบาดแผลที่แสนสาหัส แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังกอดลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมห่าง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ มีรายงานว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อม พลังงาน และการสื่อสารโทรคมนาคม ของประเทศคอสตาริกา กำลังเดินหลงทางอยู่ในเมือง San Isidro de El Genera อยู่นั้น พวกเขาก็ได้บังเอิญพบกับ 2 สล็อตแม่ลูกที่น่าสงสารคู่หนึ่ง โดยตัวลูกนั้นน่าจะมีอายุประมาณ 5 เดือน ส่วนตัวแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พวกเขาได้พาสล็อตสองแม่ลูก ไปรักษายังศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าอัลตูรัส ด้าน Larissa Calis ชีววิทยาประจำศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้เผยว่า เราไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเท้าของแม่สล็อต แต่ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บสักแค่ไหน แต่มันก็คอยปกป้อง และไม่ยอมให้ลูกออกห่างจากตัวเลย และถึงแม้ว่าแม่สล็อตจะไม่ยอมให้ลูกห่างกาย แต่ในขณะการรักษาทางแพทย์ก็ได้ให้ยาสลบมัน เพื่อที่จะสามารถเย็บแพ้ที่เท้าของมันได้ ส่วนลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ ก็ยังคงดูดนมจากอกของแม่ . …
-
Aasha เจ้าเสือผอมแห้งในคณะละครสัตว์ มันถูกช่วยเหลือ และมีชีวิตใหม่อันสวยงาม
นี่คือภาพของเจ้า Aasha เสือโคร่งเพศเมีย ผู้มีชีวิตดี๊ดี และมีท่าทางที่น่าเกรงขามเหมือนเสือทั่วๆ ไป แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า กว่ามันจะมีชีวิตที่สุขสบายได้จนถึงทุกวันนี้…ในอดีตเจ้า Aasha ต้องผ่านเรื่องราวที่แสนเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน และในวันนี้เราจะขอมาเปิดประวัติของเจ้าเสือโคร่งผู้น่าเกรงขามตัวนี้ ให้คุณได้รู้เอง รับรองว่ายิ่งได้รู้จัก ก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นอย่างแน่นอน 😛 ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ Aasha อายุได้เพียง 9 เดือน มันเป็นเสือของคณะละครสัตว์แห่งหนึ่ง ซึ่งสภาพของมันไม่ได้ดูดีอย่างที่หลายคนคิดเอาไว้ เพราะเจ้า Aasha ทั้งซูบผอม เป็นกลากทั่วตัว ขนร่วง และผิวหนังแห้งกรัง อีกทั้ง คนของคณะละครสัตว์ ก็จับมันใส่ในกรงเดียวกับเสือตัวอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า เหตุนี้จึงทำให้เจ้า Aasha มักจะถูกเสือตัวอื่นๆ ทำร้ายอยู่เสมอ จนทำให้ร่างกายของมันมีแต่บาดแผล จนในที่สุดสวรรค์ก็ทรงเมตตา เพราะถึงเวลาที่มันจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน ที่เจอมาเกือบทั้งชีวิต เจ้าเสือน้อย ได้รับการช่วยเหลือ และถูกนำไปดูแลที่ศูนย์ศึกษาและช่วยเหลือสัตว์ป่า In-Sync Exotics Wildlife Rescue and Educational Center ในรัฐเท็กซัส…
-
รวม 29 เหตุการณ์ฮาๆ เมื่อสัตว์โลกทั้งหลาย ‘ตัดสินใจพลาด’ เอ็งเลือกทางผิดแล้ว ฮร่า!!
เพื่อนๆ หลายคนคงเคยผ่านเหตุการณ์ที่ตัดสินใจพลาดกันมาก่อน แล้วเราจะมารู้สึกตัวทีหลังว่า ‘รู้งี้ไม่น่าทำเล้ยยย’ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ทีแค่มนุษย์เท่านั้นที่เคยผ่านประสบการณ์การตัดสินใจที่ผิดพลาด เหล่าสัตว์โลกทั้งหลายเองก็เช่นกัน และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพความฮาของเหล่าสัตว์โลกทั้งหลาย ตอนที่มันรู้ตัวว่าตัวเองทำพลาดแล้ว มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน บอกไว้เลยว่าทั้งฮา ทั้งน่าสงสาร แต่นาทีนี้ขอขำไว้ก่อนละกัน ฮร่า… 1. ใครก็ได้ช่วยผมด้วยฮับ 2. ไม่น่าเล่นเลยตรู ขนสวยๆ เสียหมด T T 3. ชะ…ช่วยผมด้วยค้าบบบบบบ 4. ตอนมองจากข้างล่างก็ไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมพอขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วมันสูงจัง 5. ยัง…ยังอีก ยังไม่มาช่วยอีก!! 6. แหยมผิดคนแล้วไอ่น้อง!! 7. ผมไม่อยากเปียกอ่ะ T T 8. เอาออกให้หน่อยจิฮับ 9. บรึ๋ยยย จะหนาวอะไรขนาดนี้เนี่ย ไม่น่าออกจากบ้านมาเลย T T…
-
ช่างภาพต่างชาติ ตามถ่าย ‘เด็กนอนข้างถนน’ ในกรุงเทพ สะท้อนปัญหาบางอย่างในสังคม!!
ในขณะที่เด็กๆ หลายคนบ่น ร้องให้เพราะไม่อยากไปโรงเรียน หรือบางคนไปแล้วก็โดดเรียน แต่ในอีกด้าน กลับมีเด็กที่ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาหรือสิ่งแวดล้อมที่ดีพอ เพราะปัญหาความยากจนของผู้ปกครอง โดย Thomas Meinicke ช่างภาพชาวต่างชาติ ได้ถ่ายรูปภายใต้โปรเจค Asphalt Dreams ซึ่งเป็นการถ่ายรูปของเด็กๆ ที่ต้องนอนข้างถนนในกรุงเทพ ท่ามกลางเสียง กลิ่นเหม็น และมลพิษต่างๆ เพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหาสังคม และสภาพชีวิตอีกด้านหนึ่ง ที่มักถูกมองข้าม เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ต้องขายของตามข้างถนน และพวกเค้าไม่สามารถจะส่งลูกเข้าศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ จึงต้องดูแลกันเอง แต่จะอยู่บ้านดูแลก็ไม่ได้อีก ก็เลยต้องพาไปยังที่ทำงานด้วย เด็กตัวน้อยๆ ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อตามพ่อแม่ไปทำงาน และไปหลับในทึ่ทำงานพ่อแม่ ซึ่งก็คือข้างถนน ปกติการนอนนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากเราได้นอนหลับที่เพียงพอ ก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตตลอดทั้งวันนั้นด้วย ยิ่งกับเด็กๆ แล้ว พวเค้าควรใด้นอนในห้องนอน ที่เงียบสงบ มีอากาศถ่ายเทดี และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีมลพิษ แต่บางทีเพราะต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน พวกเค้าจึงต้องนอนในสถานที่ที่ไม่สามารถเลือกได้ บางคนนอนบนเก้าอี้ บางคนนอนบนเปล บางคนหนึ่งในอ้อมกอดแม่ บางคนนอนในกล่อง หรือบางคนก็นอนบนพื้นเฉยๆก็มี โดยมีพ่อแม่คอยดูแลอย่างดี พวกเค้าได้นอนในพื้นที่แคบๆ มีอาหาร เครื่องดื่ม และของเล่นเล็กน้อย และดูเหมือนว่าพอพวกเค้าโตขึ้น…
-
“Tuffy” แมวจรจัดที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ผุดจากความเศร้าเหงาหงอยให้ดีกว่าเดิม
นี่คือเจ้า “Tuffy” แมวเหมียวตัวน้อย ที่ถึงแม้ว่าจะเจอเหตุการณ์อันเลวร้ายในชีวิตมามากมาย แต่ในทุกๆ ครั้งมันก็มักจะได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีอยู่เสมอ และในปัจจุบันชีวิตของมันก็ดี๊ดีจนน่าอิจฉาซะด้วย ย้อนเวลากลับไปก่อนที่เจ้า Tuffy จะมีชีวิตที่ดีจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตที่ผ่านมาของมันน่าสงสารมากแค่ไหน และในวันนี้เราจะมาเผยเรื่องราวของมันให้คุณได้รับรู้เอง เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งได้พบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยบริเวณสวนหลังบ้านของเขาและให้อาหารมันเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ซึ่งมันอยู่ในสภาพที่ดูหวาดกลัว และซูบผอมเป็นอย่างมาก อีกทั้งมันก็มักจะออกมาจากพุ่มไม้ในสวนหลังบ้าน เพื่อมารอรับอาหารเป็นประจำ แต่ถึงกระนั้นเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมให้เขาได้สัมผัสตัวของมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาตัดสินใจช่วยเหลือมัน โดยการล่อให้มันเข้าไปในกรง และได้ติดต่อกับทาง VOKRA (มูลนิธิช่วยเหลือลูกแมวกำพร้าแวนคูเวอร์) เพื่อส่งเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารไปทำการรักษา เมื่อทางสัตว์แพทย์ได้ตรวจสอบก็พบว่า ดวงตา และจมูกของมันติดเชื้ออย่างรุนแรง ดังนั้น พวกเขาจึงรีบช่วยเหลือมันทันที โดยการทำความสะอาดตา และหู อีกทั้งยังให้ยาปฏิชีวนะเพื่อบำรุงรอบดวงตาอีกด้วย หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หลังจากที่เจ้า Tuffy ได้รับการดูแลรักษา ก็ทำให้อาการของมันเริ่มดีขึ้น อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิดังกล่าว ก็ให้ความรักความอบอุ่นกับมันเป็นอย่างดี จนทำให้มันรู้สึกแฮปปี้สุดๆ แม้ว่าในตอนแรกเจ้า Tuffy จะพยายามขัดขืนการรักษา แต่ในตอนนี้มันยอมให้มนุษย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว …
-
แฟ้มภาพสุดสะเทือนใจ “แรงงานเด็กในบังกลาเทศ” กับโชคชะตาที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์เลือก..
พูดถึงวัยเด็ก หลายคนอาจนึกถึงช่วงเวลาที่สนุกสนานกับการเล่นสนุกโดยไม่ต้องมีพันธะผูกพันกับเรื่องใดๆ ให้ปวดหัว ถือว่าเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาต้องการ แต่รู้หรือไม่ จากรายงานของ UNICEF และ ILO เด็กๆ กว่า 7.1 ล้านคนในบังกลาเทศ ต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาถูกบังคับใช้แรงงานเด็กอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างที่พวกเขาควรจะได้รับ ด้วยเหตุนี้เองช่างภาพ GMB Akash จากบังกลาเทศจึงถ่ายภาพ “Angels in Hell” ชุดนี้ออกมา เพื่อให้โลกได้เห็นว่า เด็กๆ เหล่านี้ต้องทุกข์ทรมานขนาดไหนกับชีวิตที่พวกเขาไม่มีวันได้เลือกเอง หลายๆ คนถูกบังคับให้ทำงานในโรงงานต่างๆ บางคนถูกล่ามโซ่ไว้เพื่อไม่ให้หนีไปไหน บางคนก็ถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองทอง บางทีพวกเขาอาจไม่เคยรู้เลยว่า ชีวิตวัยเด็กที่แท้จริงควรจะเป็นอย่างไร… เพียงหวังว่าซักวัน ที่เทพธิดาตัวน้อยเหล่านี้จะหลุดออกไปจากขุมนรกได้เสียที… . . . . . . . . ก็ได้แต่หวังว่าความช่วยเหลือจะไปถึงพวกเขาในเร็ววันนะฮะ พวกเขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเสียที เห็นแบบนี้แล้วเพื่อนๆ อย่าสนับสนุนแรงงานเด็กเลยนะฮะ มันโหดร้ายเกินไปจริงๆ ที่มา gmbakash
-
จิ้งจอกแดงบาดเจ็บ รักษาจนหาย แต่สูญเสียความเป็นนักล่า… เป็นคุณจะปล่อยคืนป่าหรือไม่!?
เมื่อพูดถึงสุนัขจิ้งจอก จริงอยู่ที่มันเป็นนักล่าที่มีความว่องไว และน่ากลัว แต่ถ้าหากคุณได้อ่านเรื่องราวของเจ้า “อโฟไดท์” (Aphrodite) สุนัขจิ้งจอกแดงจากประเทศอังกฤษตัวนี้แล้วล่ะก็… เชื่อว่าภาพที่น่าสงสารของมัน จะลบความน่ากลัวของสุนัขจิ้งจอกไปได้หมดเกลี้ยงเลยละ ว่าแล้วก็มาฟังเรื่องราวของมันไปพร้อมๆ กันเลย เรื่องราวของเจ้าอโฟไดท์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายๆ คนคิดหรอกนะ เพราะมันเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ้าอโฟไดท์ ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยการถูกทำร้ายจากสัตว์ใหญ่ แถมตัวของมันก็ดันไปติดอยู่กับดักซึ่งเป็นรั้วลวดหนามอยู่นานหลายชั่วโมง จนทำให้ทั่วร่างกายมีแต่บาดแผลอยู่เต็มไปหมด แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้โชคร้ายจนเกินไป เพราะหลังจากนั้นก็มีหน่วยกู้ภัยได้เข้ามาช่วยชีวิตมันไว้ และทำให้มันรอดตายมาในที่สุด ถึงกระนั้นใบหน้าของมันก็ยังคงเต็มไปด้วยความทุกข์ทนมานอยู่ดี เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจเหลือเกิน เมื่อเจ้าอโฟไดท์ ได้ถูกส่งตัวเข้าไปรับรักษา ทางสัตว์แพทย์ก็พบว่า มันป่วยเป็นโรค Toxoplasmosis (โรคติดเชื้อปรสิต) ซึ่งเป็นโรคที่มีผลโดยตรงต่อสมองของสัตว์ และทำให้มันสูญเสียสัญชาตญาณความเป็นนักล่าไป ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มันกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกที่อ่อนโยน และสามารถอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันหากเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆ จะแสดงความดุร้าย และความรุนแรงออกมาทันที แม้ว่าเจ้าอโฟไดท์ จะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี จนทำให้อาการของมันก็เริ่มดีขึ้น และขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็หายเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม…
-
เผยคลิป “หมีขั้วโลก” สุดเศร้า หลังโดนจับมาขังในห้าง ชาวเน็ตร่วมกดดันหน่วยงานต่างๆ
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง ที่ถูกมนุษย์จับมาขังอยู่ในกรงกระจกเล็กๆ ณ แกรนด์วิวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ กลางศูนย์การค้าในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าหมีตัวดังกล่าวอยู่ในสภาพที่กำลังนอนหันตะแคงข้าง โดยมีผู้คนที่ได้เข้ามาเที่ยวที่ศูนย์การค้าแห่งนี้คอยเคาะกระจกเรียก พร้อมกับหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเซลฟี่อยู่เสมอ ตามข่าวระบุว่า เมื่อได้มองหน้าของมันใกล้ๆ จากภาพถ่าย ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า เจ้าหมีขั้วโลก หนึ่งในนักล่าที่มีความงดงามที่สุดในโลก บัดนี้ มันกลับมีแววตาที่ดูเศร้าสร้อย และเหงาหงอยเหลือเกิน ที่สำคัญ นอกจากเจ้าหมีแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ยังได้จับสัตว์ชนิดอื่นๆ อันได้แก่ วาฬเบลูกา วอลรัส รวมไปถึงหมาป่า มาขังไว้ เพื่อให้ผู้คนมาชม และถ่ายรูปเหมือนกับเจ้าหมีอีกด้วย ทั้งนี้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางมูลนิธิสัตว์เอเชีย ก็ได้ทำการยื่นรายชื่อคำร้อง เพื่อให้ปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแกรนด์วิว ในศูนย์การค้าแห่งนี้ ซึ่งก็มีผู้ที่ได้ร่วมลงชื่อกว่า 153,000 คนแล้ว ที่เว็บ www.AnimalsAsia.org ด้านนาย Dave Neale ผู้อำนวยการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ของเอเชีย ได้เผยว่า…
-
“Blacky” เหมียวตาเดียว ที่โดนรถชนจนขาพิการ ถูกชุบชีวิตใหม่ด้วยล้อช่วยเดิน ชีวิตแฮปปี้สุดๆ
Blacky แมวเหมียวแสนน่ารักส่งตรงมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ตัวนี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า กว่ามันจะมีชีวิตที่สุขสบาย มันต้องผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายในชีวิตมามากมายเหลือเกิน และในวันนี้เราจะมาขอเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของเจ้าเหมียวสีดำตัวนี้ให้คุณได้ฟังเอง บอกเลยว่ายิ่งรู้จักคุณจะต้องยิ่งหลงรักเจ้า Blacky มากขึ้นแน่ๆ Blacky เป็นแมวเหมียวที่เกิดมาปกติๆ เหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่ดวงตาข้างซ้ายของมัน ถูกแมวตัวอื่นข่วนจนกระจกตาฉีกขาด ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นที่จะต้องนำดวงตาของมันออก จนทำให้มันสูญเสียตาข้างซ้ายไป และกลายเป็นแมวตาเดียวมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเจ้า Blacky จะมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรหนักหนา เพราะ 4 ปีต่อมามันก็ดันมาถูกรถชน จนทำให้ขาหลังของมันทั้ง 2 ข้าง กลายเป็นอัมพาต และใช้การไม่ได้ เนื่องจากเส้นประสาทที่ไขสันหลังได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงนั่นเอง และถึงแม้ว่าขาหลังทั้งสองข้างของมันจะพิการ แต่มันก็ยังสามารถเดินและใช้ชีวิตได้เหมือนแมวทั่วไป เพราะอย่างน้อยขาหน้าของมันยังใช้งานได้ แถมขาหลังยังใส่วีลแชร์ หรือรถเข็นสำหรับสัตว์ที่ขาพิการ เพื่อช่วยให้มันสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ถึงชีวิตจะเจอเรื่องราวอันเลวร้ายมามากมาย แต่ทุกวันนี้ชีวิตของเจ้า Blacky ก็มีความสุขดี แถมยังได้กลายเป็นเซเลปเหมียวผู้โด่งดังในโลกโซเชียล เพราะตอนนี้ (9 กรกฎาคม 2559) มีคนเข้าไปติดตามชีวิตของมันในเฟสบุ๊คแล้วกว่า 40,732…
-
ลูกฮิปโป เผชิญหน้ากับสิงโตนักล่า ปกป้องผู้เป็นแม่ที่นอนป่วย ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ!!
สัตว์ ก็มีสัญชาตญาณปกป้องคนที่มันรักจากการโดนทำร้ายเหมือนกับมนุษย์เช่นกัน ดูอย่างเรื่องราวของลูกสิงโตยอดกตัญญูตัวนี้สิ มันกำลังยืนปกป้องร่างของผู้เป็นแม่ที่นอนป่วย ณ ริมแม่น้ำซาบี อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ในแอฟริกาใต้อยู่ แม้ว่าในขณะนั้น จะมีเจ้าสิงโตนักล่าตัวหนึ่ง กำลังย่องเข้ามาใกล้ๆ หมายจะกินแม่ของมัน แต่ลูกฮิปโปใจกล้ากลับวิ่งขู่สิงโตตัวนั้นทันที โดยที่ไม่มีท่าทางเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย จนสิงโตค่อยๆ เดินห่างออกไปทันที มันคงจะรักแม่ของมันมากๆ เลยละ หลังจากที่เจ้าลูกฮิปโปได้ไล่สิงโตให้ออกห่างจากแม่ของมัน มันก็เดินกลับไปยังที่ที่แม่นอนอยู่ แต่เจ้าสิงโตนักล่าก็ไม่ยอมถอยไปง่ายๆ เดินกลับไปหมายจะกินฮิปโปน้อย แต่ดีที่มันไหวตัวทัน รีบหันหน้าเข้าขู่สิงโตทันที จนมันยอมถอยออกไปในที่สุด ด้านผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ได้ออกมาเผยว่า แม้ว่าแม่ฮิปโปจะไม่มีแรงลุกขึ้นมาปกป้องลูก เพราะสาเหตุจากการขาดอาหาร แต่ลูกของมันก็ลุกขึ้นมาปกป้องแม่ของมันแทน มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากๆ เลยทีเดียว (ชมคลิปกันเลยดีกว่า หากชมไม่ได้ คลิกที่นี่) อย่างไรก็ตาม ผู้ถ่ายคลิปบอกว่าถึงแม้มันจะรอดชีวิตจากการเป็นเหยื่อของสิงโตครั้งนี้ แต่ก็ไม่สามารถรอดจากการป่วยได้ และทั้งสองก็เสียชีวิตจากการอดอาหารในอีก 2 วันให้หลัง ถึงมันจะเศร้า แต่ก็เป็นตามความเป็นไปของธรรมชาติล่ะนะ…. ที่มา : dailymail
-
โมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้ากระต่าย ที่ดันไปกินใบไม้มีหนามเข้าอย่างจัง ดูจากท่าทางคงเจ็บจี๊ดสุดๆ
สำหรับสัตว์กินพืชบางชนิด ถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถกินพืชได้หลากหลายอย่าง ไม่เว้นแม้แต่พืชที่มีหนามเล็กๆ ติดอยู่ มันก็เคี้ยวกินได้อย่างไม่ระคายเคืองปากเลยสักนิด แต่สำหรับเจ้ากระต่ายน้อยกำลังหิวตัวหนึ่ง ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับพืชมีหนามสักเท่าไหร่ บังเอิญดันไปกินใบของพืชต้นเตี้ยที่มีหนามเข้า งานนี้ต้องขอร้องออกมาเป็นเพลงเลยว่า เจ็บนี้อีกนานนนนนนน อย่านะเจ้ากระต่ายยยยย เมื่อได้กินพืชมีหนามเข้าไป เจ้ากระต่ายน้อยก็ถึงขั้นหยุดชะงัก และรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ โอ้วววว ให้ตายเถอะนี่มันหนามชัดๆ จ๊ากกกกก ภาพที่เพื่อนๆ กำลังเห็นกันนี้ ถูกถ่ายขึ้นโดย Kevin Sawford ช่างภาพจากเมือง Ipswich ในมณฑลซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ ได้ทำการติดตามครอบครัวกระต่ายป่าฝูงหนึ่ง ที่กำลังออกมาหากิน แต่แล้วจู่ๆ เขาก็บังเอิญไปเห็นเจ้ากระตายน้อยตัวนี้ กำลังสนอกสนใจพืชมีหนามเป็นพิเศษ และในขณะที่มันกำลังจะเผชิญหน้ากับบทเรียนครั้งใหญ่นั้น เขาก็รีบแชะภาพของมันทันที จนเกิดเป็นภาพภาพโมเม้นต์แสนน่ารักปนสงสาร ของเจ้ากระต่ายน้อยยังไงละเหมียว อู้วววววว ดูจากท่าทางแล้ว มันคงเจ็บจี๊ดไม่เบาเลย ได้เจออาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับเป็นพืชมีหนามซะอย่างนั้น คิดแล้วก็น่าเห็นใจจริงๆ ที่มา : dailymail
-
สาวกลับบ้านมา เจอแมวแสนรัก ‘อ้าปากค้าง’ นึกว่าตกใจอะไร ที่แท้ขากรรไกรหุบไม่ลง อุ๊บส์!!
เคยไหมเวลาออกไปนอกบ้าน แล้วกลับมาเจอแมวเสนรัก มารอต้อนรับคุณกลับบ้านอย่างอบอุ่น เรียกได้ว่ามันคงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย ก็เหมือนกับเรื่องราวของ Karlee Trafford คนนี้ ที่กลับมาบ้าน แล้วมักจะเจอเจ้า Jaxon เหมียวแสนรักวัย 3 ขวบ ออกมาต้อนรับเธอในทุกๆ วัน ครั้งนี้ก็เช่นกัน เจ้า Jaxon ก็ได้ออกมาต้อนรับเธอเหมือนปกติ แต่ทว่าเมื่อเธอเห็นหน้าของมัน ก็ต้องประหลาดใจ เพราะสภาพของเจ้าเหมียวน้อยทำเอาสาวคนนี้ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เพราะเจ้าเหมียว Jaxon กำลังอ้าปากหวออยู่ยังไงละ เย้ย นี่เอ็งกำลังตกใจอะไรอยู่หรือเปล่า แม้ว่า Karlee จะพยายามทำให้ปากของมันกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะปากของมันก็ยังคงอ้าไม่หุบอยู่อย่างนั้น แต่ลิ้นของมันยังคงใช้งานได้ตามปกติ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพามันไปพบกับสัตว์แพทย์ Karlee ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในการนั่งรอพบสัตว์แพทย์ และเมื่อทางสัตว์แพทย์กำลังจะตรวจอาการของเจ้าเหมียว จู่ๆ ปากของมันก็หุบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นเธอจึงต้องพามันกลับบ้าน และคิดว่าเจ้า Jaxon คงไม่เป็นอะไรแล้ว อีกวันต่อมา หลังจากที่คิดว่า Jaxon…
-
เมื่อ ‘ช้าง’ เดินมาขอความช่วยเหลือจากทีมเจ้าหน้าที่ หลังโดนนายพรานยิงกลางหน้าผาก
เมื่อไม่นานมานี้ เราเคยนำเสนอเรื่องของเจ้า Ben ช้างป่าแสนรู้ที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ อย่างกับรู้ว่าพวกเขาสามารถช่วยมันได้ ในครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน เพราะเจ้าช้างตัวหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อว่า Pretty Boy ก็โดนพวกกลุ่มนักล่าสัตว์ทำร้ายเพื่อหวังเอางา โดยการยิงเข้าไปที่หัวจนมันได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยความชาญฉลาด มันจึงเดินออกมาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เหมือนเจ้า Ben เลยละ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ทางเฟสบุ๊ค Aware Trust Zimbabwe ได้มีการเผยภาพ พร้อมเรื่องราวการช่วยชีวิตของเจ้า Pretty Boy ว่า… เมื่อทางสัตว์แพทย์ AWARE ได้รับแจ้งว่ามีช้างตัวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ Mana Pools ของซิมบับเว ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงรีบเดินทางมารักษามันทันที แต่พอมาถึงก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า เจ้าช้างตัวดังกล่าวกลับเดินมาหาพวกเขา ราวกับรู้ว่าสามารถช่วยมันได้ หลังจากที่ทางสัตว์แพทย์ได้ยิงยาสลบไปที่เจ้า Pretty Boy พวกเขาก็ทำการตรวจดูบาดแผลของมัน และพบว่ามันถูกยิงเข้าตรงกลางหน้าผาก ทำให้กะโหลกศีรษะแตกออกมีเศษเล็กเศษน้อยคาอยู่ในแผล ส่วนหัวกระสุนฝังเข้าไปในใต้ผิวหนังโดยอยู่ห่างจากปากแผลราว 5 เซนติเมตร .…
-
ช้างป่าน่าสงสาร ตั้งใจเดินเข้าหา ‘มนุษย์’ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
สัตว์บางชนิดอย่างเช่น ช้าง แม้ว่าตามธรรมชาติ มันอาจจะดูเหมือนแข็งแรง แข็งแกร่ง และสามารถเอาตัวรอดเองได้ แต่บางทีหากวันใดวันหนึ่งมันถูกทำร้ายขึ้นมา ไม่แน่นะว่ามันอาจจะอยากขอความช่วยเหลือจาก “มนุษย์” ก็เป็นได้ ก็เหมือนกับเรื่องราวของช้างป่าตัวหนึ่ง ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนได้บาดเจ็บ จึงทำให้มันต้องเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจาก Nick Milne เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ Bumi Hills Safari Lodge มูลนิธิอนุรักษ์สัตว์ป่า ในประเทศซิมบับเว โดยในตอนแรก Nick มีอันต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะจู่ ๆ เจ้าช้างป่าตัวนี้ก็เดินกะเผลกออกมา แต่เมื่อเขาเห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บจากการถูกล่า เขาจึงเชื่อว่านี่มันไม่ใช่ความบังเอิญแน่ๆ เจ้าช้างคงรู้ความว่ามนุษย์สามารถช่วยมันได้ เมื่อเห็นดังนั้น Nick จึงได้รีบโทรเเจ้งสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ห่างออกไปไกลกว่า 300 กิโลเมตร มารักษามัน ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่สัตว์แพทย์ได้เดินทางมาถึง แต่ก็ต้องประหลาดใจที่เจ้าช้างตัวนี้ไม่ยอมไปไหนเลย หลังจากที่สัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายของเจ้าช้าง เขาก็พบว่ามันได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณไหล่ และมีรูกระสุนที่ใบหูของมัน 2 รู เเต่โชคดีที่แผลของมันไม่ได้ติดเชื้อ ซึ่งหลังจากที่ได้รักษาเจ้าช้างตัวนี้เสร็จ ทางแพทย์ก็ใส่ปลอกคอคลื่นวิทยุให้มัน เพื่อใช้ในการติดตามผลการรักษา …
-
งานวิจัยเผยชีวิตของ ‘แซลมอน’ ในฟาร์ม มีอาการเศร้าและหดหู่ ราวกับคนพยายามฆ่าตัวตาย!!!
ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารโปรดของหลายๆ คนเลยทีเดียว กับหลากหลายเมนูแซลมอน แต่กระนั้นที่มาของอาหารชนิดนี้น่าเศร้าจนหลายๆ คงอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยทีเดียว เพราะเหล่าแซลมอนที่มาเสิร์ฟบนจานอาหารของคุณนั้น พวกมันมีชีวิตที่เศร้ามาก และมีแนวโน้มในการฆ่าตัวตายสูงสุดๆ โดยเฉพาะในฟาร์มปลาแซลมอนที่เลี้ยงกันไว้เป็นกระชังหรือบ่อที่แออัด ชีวิตอันแสนเศร้าของแซลมอน ล่าสุดในงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์โดย Royal Society Open Science พบว่า เหล่าแซลมอนที่ไม่ได้อยู่ในธรรมชาติ คือถูกเลี้ยงมาในฟาร์มนั้น มีพฤติกรรมซึมเศร้า แถมสารเคมีที่หลั่งออกมาจากสมองของพวกมันนั้น ยังเป็นสารที่คล้ายคลึงกับคนตอนหลั่งออกมาเวลาเศร้าหรือเสียใจอยู่!!? หนักไปกว่านั้นก็คือ บางครั้งในกระชังเราก็จะสามารถเห็นแซลมอนบางตัวลอยขึ้นมา มีอาการเหมือนซึมเศร้าสุดๆ จนไม่อยากทำอะไร เหมือนกับสิ้นหวังในชีวิตและอยากฆ่าตัวตายเลยทีเดียว Marco Vindas ผู้เชี่ยวชาญแห่งมหาวิทยาลัย Gothenburg กล่าวว่า ‘เราจะไม่พูดว่าเหล่าแซลมอนพยายามฆ่าตัวตายหรอกนะ แต่มันอยู่ในจุดๆ ที่เกือบจะทนไม่ไหวแล้ว และการเลี้ยงแบบแออัดในฟาร์มนั้นยังทำให้พวกมันมีโอกาสตายสูงขึ้นอีกด้วย’ มันก็น่าเศร้าเหมือนกันนะ เพราะตามธรรมชาติแล้วคงได้ว่ายน้ำกันเล่นแบบไม่แออัด แต่การต้องมาอยู่ในกระชังว่ายวนๆ อยู่ที่เดิมเรื่อยๆ จนถูกจับไปขาย… ใครไม่เศร้าก็บ้าแล้วเนาะ!!! ที่มา: Metro
-
17 ภาพที่จะทำให้เห็นว่า “แรคคูน” เป็นสิ่งมีชีวิตที่สุข เศร้า เหงา ดราม่า ได้ไม่ต่างจากคนเลย (ฮร่าาา)
ลักษณะโดยทั่วๆ ไปของแรคคูน มันไม่ใช่สัตว์ที่มีความน่ารักแบบ 100 % เหมือนบรรดาหมาแมว และไม่ใช่สัตว์ที่มักจะมีรูปมาให้เราได้ชมกันตลอดเวลาหรอกนะ แต่ครั้งนี้แรคคูนดูเหมือนมันจะมีโอกาสได้มาสร้างความฮาให้กับคุณดูบ้างแล้วละ สำหรับภาพเหล่านี้ เป็นภาพที่จะมาทำให้คุณได้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนๆ แรคคูนก็ดูเป็นสัตว์ที่น่าเห็นใจเหลือเกิน แต่บางทีก็น่าสงสาร และบางทีมันก็ชอบทำตัวเหมือนกับตัวเองเป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่มีใครจะสุขสบายเท่าแรคคูนอีกแล้ว เพราะบางทีการใช้ชีวิตของมันก็ดูติสท์เกินกว่าคนธรรมดาๆ อย่างเราจะเข้าใจ วันหยุดที่แสนสบายทำให้เจ้าแรคคูนไม่อยากออกไปไหน ขอนอนแผ่องศาอยู่บนเตียงก็แล้วกัน บางทีก็นั่งเหม่อเหมือนคนกำลังอกหัก สงสัยไปเจอเรื่องน่าเศร้ามาแน่ๆ และยังเป็นสัตว์ที่ชอบออกกำลังกายด้วย มันกำลังคิดจะล้มล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์เราอยู่รึเปล่า!? นั่นไง ชัดเลย ไอ้พวกสายลับแรคคูน ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็รู็แล้วว่าพวกมันร้ายกาจไม่เบา อย่าเผลอเชียว มันอาจจะแอบเข้าบ้านคุณมาแล้วก็ได้… แต่สุดท้ายแล้วมันก็อาจจะแค่ต้องการความรัก ในคืนอันหนาวเหน็บ และมันก็สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเอื้อมไม่ถึง… ก็ควรปล่อยวางบ้าง บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าสิ่งที่แรคคูนกำลังทำ เพื่ออะไร เพื่อ….!? มันก็อาจจะเป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวนึง… …
-
เจ้าหนูจอมซน ไม่รู้ไปทำท่าไหน หัวติดแหง่กคารูเสียบปลั๊ก จะขำหรือสงสารเอ็งดี!??
หากจะพูดถึง “หนู” หลายคนอาจจะถึงขั้นร้องยี้ เพราะนอกจากมันจะเป็นสัตว์ที่สกปรกแล้ว มันยังชอบออกมารบกวนคนในบ้าน โดยการออกมาแอบกินอาหารดึกๆ ดื่นๆ อีกด้วย แต่ทว่าหากคุณได้ฟุงเรื่องราวของเจ้าหนูจิงโจ้ (Kangaroo Rat) สัตว์พันธุ์จิ๋วที่มีลักษณะขาหลังยาวกว่าขาหน้า มีหางเป็นปุยและตัวเล็ก รูปร่างคล้ายจิงโจ้ตัวนี้ คุณอาจจะสงสารมันขึ้นมาทันทีก็เป็นได้ โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าหนูจิงโจ้จอมซนตัวดังกล่าว ณ บ้านหลังหนึ่งที่ San Diego ในสภาพที่เห็นแล้วน่าสงสารเหลือเกิน เพราะไม่รู้ว่ามันไปทำอีท่าไหน หัวถึงได้เข้าไปติดแหง่กอยู่ในรูเสียบปลั๊กไฟแบบนี้… T^T น้องหนูจิงโจ้ตัวจิ๋วน่าสงสารจัง อาจจะเป็นเพราะความซนของมัน เลยทำให้ตัวติดกับรูเสียบปลั๊กพอดีเป๊ะ แถมยังดึงออกไม่ได้อีกต่างหาก งานนี้ก็เลยทำให้หัวของมันเสียบคาอยู่ ณ จุดจุดนั้น เป็นเวลานานแสนนาน รู้สึกโดดเดี่ยวมาก มันเป็นช่วงเวลาที่แสนลำบากเหลือเกิน แต่ในความโชคร้าย ก็แฝงไปด้วยความโชคดีเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เจ้าของบ้านได้พบเจอมันเข้า เข้าก็ได้ทำการช่วยเหลือค่อยๆ ขันน็อตออก เพื่อช่วยชีวิตมัน แม้ว่าครั้งแรกอาจจะตกใจนิดหน่อย ว่ามันมาได้ยังไงกันเนี่ย …
-
จากเหตุการณ์เด็กน้อยวัย 5 ขวบ ถูกแม่ห่านจู่โจมอย่างดุเดือดจนร้องไห้จ้า แต่ชาวเน็ตนับหมื่นดันขำซะ ฮร่าาา!!
คนทั่วไปอาจมองว่า “ห่าน” ก็คือสัตว์ธรรมดาๆ ทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร แต่เดี๋ยวก่อน!! กรุณาหยุดความคิดของคุณไว้สักครู่ แล้วมาดูภาพเหล่านี้กัน เพราะมันจะทำให้คุณเห็นธาตุแท้ที่อยู่ลึกลงไปภายในจิตใจของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าห่านได้ ภาพของสองพี่น้อง Stevie Gidden หญิงสาววัย 17 ปี กับ Summer เด็กหญิงวัย 5 ขวบที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้ รู้หรือไม่ว่าเห็นคนน้องที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข และดูเป็นเด็กไร้เดียงสา จะต้องมาเจอเหตุการณ์สุดเงิบในวัยเพียง 5 ขวบเท่านั้น ในวันนี้เราจะมาขอเล่าเรื่องราวประสบการณ์สุดเงิบในชีวิตของเธอให้ฟังก็แล้วกัน ตั้งใจฟังดีๆ นะ อย่าขำกลางทางกันละ!! สำหรับ Summer เธอคือเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่มีความน่ารัก และอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก อยู่มาวันในขณะที่เธอได้แวะไปดูลูกห่านของบ้านข้างๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โถๆๆ เด็กน้อยผู้อยากจะมีความทรงจำดีๆ กับห่าน แต่เมื่อเธอยิ่งเข้าไปดูมันใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้แม่ของมันเกิดอาการเดือด และไม่พอใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายหนูน้อยก็ถูกแม่ห่านไล่ และเธอก็วิ่งหนีมันแบบไม่คิดชีวิต เด็กหญิงตัวน้อยถูกแม่ห่านไล่ พร้อมเข้ามาจู่โจมแบบไร้ความปราณี จนเธอสะดุดล้มร้องไห้จ้า เป็นภาพที่น่าสงสารซะเหลือเกิน งานนี้เมื่อภาพถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล…
-
สุดสังเวช เด็กน้อยชาวจีนเกิดมาพร้อมนิ้วมือ 15 นิ้ว นิ้วเท้า 16 นิ้ว แม่วอนขอบริจาคค่ารักษาฯ
สำหรับเหล่าพ่อแม่แล้ว สิ่งที่พวกเขาปรารถนามากที่สุดคงหนีไม่พ้น การขอให้ลูกน้อยของพวกเขาเกิดมาปกติครบสมบูรณ์เหมือนดั่งคนทั่วไป แต่บางครั้งชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ ทำให้เรื่องราวน่าเศร้าของเด็กพิการ มีอยู่ทั่วไปแทบทุกมุมโลก อย่างเช่นเรื่องราวของเด็กชายวัย 3 เดือนชื่อว่า Honghong คนนี้ เขาเกิดมามีนิ้วมือ 15 นิ้ว และนิ้วเท้าอีก 16 นิ้ว แต่ไม่มีนิ้วโป้ง แพทย์วินิจฉัยว่า เขาเป็นโรคนิ้วเกินที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ซึ่งแม่ของ Honghong ก็มีอาการนิ้วเกินเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนที่เธอตั้งท้อง Honghong เธอก็กังวลว่าโรคนี้จะถ่ายทอดไปยังลูกหรือไม่ เธอจึงไปสแกนลูกในครรภ์กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเซิ่นเจิ้น ซึ่งหมอบอกว่าลูกของเธอปกติดีไม่ต้องเป็นห่วง แต่สุดท้ายเมื่อคลอดออกมา ลูกเธอกลับมีอาการดังกล่าวไปข้างต้น ตอนนี้หมอกล่าวว่า เคสนี้ถือว่าเป็นเคสที่ยากมากๆ และพวกเขาต้องรีบผ่าตัดโดยด่วนคือตั้งแต่ Honghong มีอายุ 6 เดือนจนถึง 1 ปี ก่อนที่กระดูกจะคงที่ ไม่เช่นนั้นอาจไม่มีโอกาสรักษาอีกเลย ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดที่ยากขนาดนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 5 แสนหยวนหรือราว 2 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับฐานะของครอบครัว Honghong คุณแม่จึงมีการขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญในเรื่องค่ารักษาพยาบาล #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ได้แต่หวังว่า…
-
ช้างแก่ในกัมพูชา หัวใจวายตายขณะทำงานหลังจากแบกนักท่องเที่ยวมากว่า 15 ปี ด้านกลุ่มอนุรักษ์เรียกร้องให้มีการหยุดใช้งาน..!!
Sambo ช้างแก่เพศเมียอายุประมาณ 40-45 ปีตัวนี้ มันเป็นหนึ่งในช้างกว่า 13 ตัว ที่ถูกบริษัททัวร์ Angkor Elephant Company นำมาใช้แรงงานในการแบกนักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมนครวัดที่ประเทศกัมพูชา มาตั้งแต่ปี 2544 จนในที่สุดเจ้า Sambo ก็จากไปด้วยอาการหัวใจวาย ขณะกำลังแบก 2 นักท่องเที่ยวเป็นเวลานานกว่า 40 นาที ท่ามกลางอุณหภูมิอากาศที่ร้อนจัดถึง 40 องศาเซลเซียล ด้วยความที่อากาศร้อนจัด บวกกับกำลังถูกใช้แรงงานเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายของมันเกิดความอ่อนเพลีย และขาดลมพัดให้ร่างกายเย็นขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้า Sambo ที่น่าสงสาร เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน จนเป็นลมลงไปกองที่พื้น และในที่สุดมันก็ตายอย่างน่าเวทนา ซึ่งหลังจากที่ภาพของเจ้า Sambo ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล กลุ่มคนรักสัตว์ต่างก็พากันออกมาวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนักว่า ทำไมถึงนำช้างแก่มาใช้แรงงานในสภาพที่อากาศร้อนจัดถึงแบบนี้ พร้อมกันนี้ยังมีการเรียกร้องให้ยุติการใช้แรงงานช้างในการนำไปเป็นพาหนะแบกนักท่องเที่ยว และขอให้บรรดานักท่องเที่ยวไม่ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในลักษณะนี้อีก ขณะที่ทางทางผู้จัดการของบริษัททัวร์ Angkor Elephant Company ก็ได้ออกมาเผยว่า ทางบริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก…
-
21 ภาพของเหล่าสัตว์ผู้น่าสงสาร ที่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าบ้าน น่าเห็นใจเหมือนกันเนอะ!!
มันก็ต้องมีบ้างแหละที่คุณจะทำการลงโทษสัตว์เลี้ยงแสนรัก หลังจากที่มันได้ไปสร้างวีรกรรมแสบๆ ให้คุณได้ปวดหัวอยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าบทลงโทษของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป บ้างก็ให้อดข้าว บ้างก็ไม่ยอมเล่นด้วย และที่หนักสุดก็คงจะเป็นไม่ให้เข้าบ้านนี่แหละ และ 21 ดังต่อไปนี้ มันอาจจะทำให้คนดูหลายคนเห็นใจ รวมไปถึงฮาในเวลาเดียวกัน เพราะเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ถูกเจ้านายกีดกันไม่ให้เข้าบ้าน เอ…ต้องไปทำอะไรไม่ดีๆ มาแน่ๆ เลยได้รับบทลงโทษที่ร้ายแรงแบบนี้ นายฮะ…ป๋มพาเพื่อนใหม่อย่างน้องไก่มาให้รู้จัก เปิดประตูให้ที พลีสสส ข้าน้อยยอมแล้ว เปิดประตูที เศร้าใจจริงๆ เราคงไม่น่ารักเหมือนหมาแมวสินะ เลยไม่ยอมให้เข้าบ้าน หน้าตาอ้อนวอนขนาดนี้ จะยอมใจอ่อนดีไหม เปิดประตูให้แมวทีเถอะ พวกผมจะไม่ดื้ออีกแล้วฮะ ก๊อกก๊อกก๊อก เปิดประตูให้เราเข้าไปหน่อยสิ นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะมนุษย์ ยอมไม่ให้กินข้าวยังพอทนได้ แต่ปล่อยเค้าไว้แบบนี้มันเศร้านะรู้ไหม เฮือกกกก ไปได้อะไรมาอีกละนั่น พังประตูซะเลย แสบจริงๆ หนาวจะตายอยู่แล้ว ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง ขอเข้าไปหน่อยเด๊ …
-
ร่วมเป็นกำลังใจให้เจ้าหมาชิบะอินุ หลังเจ้าของเที่ยวสงกรานต์…ถูกคนทำร้ายถึงในรั้วบ้าน
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ เพื่อนๆ หลายคนที่มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด ต่างก็กลับบ้านเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามอย่างการรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ และพบเจอญาติพี่น้องพ้องเพื่อนที่บ้านเกิดเมืองนอน จึงจำเป็นจะต้องทิ้งบ้านและเหล่าสัตว์เลี้ยงเอาไว้ ซึ่งบางคนก็ลงทุนจ้างแม่บ้านมาคอยดูแล บางคนก็ให้อาหารสัตว์ด้วยถาดอาหารอัตโนมัติที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองหรือซื้อมา บางคนก็พาไปต่างจังหวัดด้วย ซึ่งตอนนี้ในโซเชียลก็มีข่าวที่เป็นกระแสดังอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องราวของคุณ ศิก หรือ Sik Luesopon เจ้าของสุนัขพันธุ์ชิบะอินุชื่อว่า ลอยด์ ได้ขึ้นไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่เชียงใหม่ แต่เมื่อกลับมาบ้านก็พบว่าเจ้าลอยด์ นั้นถูกคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เรื่องมีอยู่ว่านักข่าวชื่อ จตุรงค์ สุขเอียด ได้ทำการโพสท์รูปภาพพร้อมกับเล่าเรื่องราวของสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ที่ชื่อว่า ลอยด์ ถูกทำร้ายอย่างสุดโหด ลงบนเฟสบุ๊ค พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “ลอยด์ เป็นสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ที่ศิกเจ้าของ อุตส่าห์บินไปนำเข้ามาจากญี่ปุ่น ลอยด์เป็นสุนัขแชมป์ประกวดมา ใจเย็นเป็นมิตรมากๆโดยเฉพาะชิบะอินุเป็นสุนัขที่เป็นมิตรแม้กระทั่งเด็กๆ เมื่อปลายปีซิกบอกว่า ลอยด์มีลูกกับชิบะอินุที่ผสมในไทย จึงโพสขายพอดีน้องชายเขาเป็นนักข่าว3มิติ จึงแบ่งให้ผมมาเลี้ยงตัวหนึ่ง ผมจึง ตั้งชื่อว่า ชิชิมารุ ช่วงสงกรานต์ ไม่อยู่บ้าน โดยปล่อยลอยด์อยู่ในรั้วบ้านตามปกติ กลับมาเมื่อวาน ก็พบว่า ลอยด์ถูกตัดขาข้างซ้ายไป ตัดหู และมีรอยแทงหลายแผลอาการสาหัส ความว่า ยังโยนขาที่ตัดไปให้สุนัขอีกบ้านแทะด้วย ผมว่า หากสุนัขออกไปข้างนอกแล้วกัดเด็กก็เรื่องหนึ่ง แต่หากเข้ามาทำร้ายในบ้านก็เรื่องนี้…
-
19 ภาพปีศาจหูแหลม ที่กีดกันน้องหมาทุกทาง เพราะไม่อยากให้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน แค่เนี๊ยะ!!
สำหรับ “แมว” บางตัวน่ารัก บางตัวก็เกรียนแบบสุดโต่ง แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์หน้าขน ที่น่ารักมากก็เถอะ หากได้หยิบวีรกรรมในเรื่องความแสบ และความร้ายกาจมาพูดเมื่อไหร่ บอกเลยว่างานนี้ศักรินทร์ดาวร้ายยังขอยอมสยบ ซึ่งกลับมาในครั้งนี้ มันก็ไม่ได้ลดความร้ายลงเลยแม้แต่น้อย แถมยังกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมโลกอย่างน้องหมา ด้วยการปิดประตูเพื่อไม่ให้เข้ามาอาศัยหลับนอนในบ้าน น่าเห็นใจมากๆ เลยละ ***คำเตือน ภาพเหล่านี้อาจจะสะเทือนใจคนรักหมาเล็กน้อย ดังนั้นโปรดทำใจก่อนรับชม*** ทำกันได้ลง เขาเป็นเพื่อนร่วมโลกกับแกนะ ขาดฉันไปเธออยู่ได้หรอ? ขอเค้าเข้าไปข้างในหน่อยเถอะ ได้โปรดเถอะนะท่านแมว จะอยู่ตรงนี้ จนกว่าเธอจะยอมรับเข้าบ้าน อิจฉาความเป็นอยู่ของแมวมั้ยละหมา ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ ทำหน้าอ้อนๆ นะเอ็ง ถึงตาโดนเอาคืนบ้างแล้ว สุดท้ายหมาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้อยู่ดี โลกใบนี้ ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน หมาก็อยากเข้าบ้านเหมือนกันนะ มองตาปริบๆ โคตรน่าเห็นใจ เอาไงให้เข้าดีไหมพวก อยู่ข้างนอกไปก่อนละกัน…
-
มาชมการติดแหง็กขั้นเทพของเจ้า ‘แพะป่า’ อยู่ดีๆ ดันขึ้นไปค้างต่องแต่งอยู่บนสายไฟฟ้าซะงั้น!?
เหล่าสัตว์โลกทั้งหลายมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ มาให้ชาวมนุษย์ได้ขำกันเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องติดแหง็กอยู่กับบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย เช่น แมวหมาที่ติดอยู่ในเก้าอี้ ถังขยะ หรือแม้กระทั่งผ้าม่าน วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเหตุการณ์การติดที่ล้ำยิ่งกว่านั้น มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าแพะป่าตัวหนึ่งติดอยู่บนสายไฟฟ้า และห้อยต่องแต่ง อยู่ในเมือง Sykourio ประเทศ Greece แต่ยังโชคดีที่กลุ่มคนใจดีผ่านมาเห็นเข้าจึงได้ทำการช่วยเหลือมันลงมา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมันคงกินหญ้าอยู่แถวๆ นั้น แล้วก็กระโดดลงจากหน้าผา แต่โดดไม่พ้นเขาก็เลยไปติดกับสายไฟเข้า ก็อาจเป็นไปได้ เหล่าผู้ใจดีทั้งหลายใช้บันไดดันตัวเข้าเจ้าแพะเข้าไปที่ชายเขา จากนั้นก็ใช้เชือกเกี่ยวและดึงเจ้าแพะเข้าไปหา แล้วก็เอามันลงมาจากสายไฟฟ้าได้สำเร็จ หลังจากลงมาได้แล้ว เจ้าแพะก็ค่อยๆ เดินจากไป…ก็ได้แต่หวังว่ามันคงจะไม่ไปห้อยต่องแต่งอยู่บนสายไฟที่อื่นอีกล่ะนะ ไปชมคลิปการช่วยเหลือเจ้าแพะกันแบบเต็มๆ กันได้เลย… ต้องขอชื่นชมเลยว่าเอ็งเป็นแพะที่มีความสามารถสุดยอดจริงๆ เป็นการติดแหง็กที่เพอร์เฟ็คมากๆ เลยล่ะ 5555+ เห็นแล้วไม่รู้ว่าจะสงสารหรือจะฮาดี แต่ถือว่าโชคดีนะที่บังเอิญมีคนผ่านมาเห็นพอดี ไม่งั้นล่ะก็คงทรมานน่าดู ที่มา : Kynoclub, lifebuzz
-
หญิงท้องชาวจีนเป็นลมกะทันหัน ร่างทรุดฮวบลงไปคารั้ว ทำให้คอติดคาซี่เหล็ก เสียชีวิตในที่สุด
วันนี้ (30 มีนาคม 2559) ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์สุดสลดในมณฑลส่านซี ประเทศจีน โดยมีหญิงตั้งครรภ์ลูกแฝดอายุราวๆ 30 ปีรายหนึ่ง นั่งคุกเข่าหมดสติในสภาพศีรษะติดคาในช่องรั้วแผงเหล็กข้างทาง ด้านผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยแต่ไม่เป็นผล จนทางเจ้าหน้าที่มาถึง ก็สามารถนำตัวของหญิงรายดังกล่าวออกมาจากรั้วได้ และรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ทางแพทย์ได้เผยว่า หญิงรายนี้ไม่หายใจก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทางแพทย์พยายามช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่ โดยได้ให้ยากระตุ้นหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ จนสุดท้ายเธอเสียชีวิตลงพร้อมทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รายหนึ่งออกมาเผยว่า เห็นหญิงคนดังกล่าวมีอาการวิงเวียนศีรษะ เธอได้พิงตัวไปที่แผงรั้ว หลังจากนั้นร่างก็ทรุดฮวบลงไป ทำให้ลำคอไปติดคาอยู่ระหว่างช่องซี่เหล็กพอดี ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้เบื้องต้นว่า เธอน่าจะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งก่อนหน้านั้นน่าจะมีอาการหน้ามืดกะทันหัน อย่างไรก็ตามร่างของเธอจะถูกส่งไปชันสูตรศพต่อไป เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ที่มา : CCTVNews
-
สวนสัตว์ในจีน ปล่อยให้เสืออดอยาก เพื่อเอากระดูกไปดองเหล้าขาย หลังกิจการซบเซาหนัก!!
เสือ มักจะเป็นสัตว์ที่ถูกมองว่าดุร้าย และน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันหลายคนอาจลืมไปว่าสิ่งที่โหดร้าย และน่ากลัวกว่าสัตว์พวกเหล่านี้ ก็คือมนุษย์นั่นเอง เหมือนดังเช่นภาพเหตุการณ์ ที่เราได้นำมาให้รับชมในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจคนรักสัตว์เป็นอย่างมาก เพราะสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าน่ากลัว และน่าเกรงขามอย่างเสือ ยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ส่วนตัวของมนุษย์เลย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ มีรายงานว่า สวนสัตว์ประเภท Wildlife Parks หลายแห่งในกวางซี ประเทศจีน ถูกแฉว่าหลังจากที่กิจการสวนสัตว์ซบเซาลงอย่างหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงทำสวนสัตว์เหล่านี้คิดวิธีแก้ปัญหา ด้วยการดำเนินกิจการต่อไป แต่แอบประกอบการฟาร์มเสือ โดยปล่อยเสือที่เลี้ยงไว้ให้อดอยากตาย เพื่อนำกระดูกของมันมาดองเป็นเหล้าขายนั่นเอง โดยการดื่มเหล้ากระดูกเสือ สามารถแสดงถึงฐานะที่ร่ำรวยของผู้ดื่ม แถมยังเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รักษาอาการปวดข้อ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด รวมไปถึงช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็ได้ออกมาแย้งว่า พวกเขาไม่ได้ตั้งใจให้พวกมันอดอยากจนตาย เพื่อเอากระดูกไปทำเหล้าแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะในสวนสัตว์มีเสือมากเกินไป จึงทำให้พวกเขาดูแลไม่ทั่วถึงนั่นเอง ทั้งนี้ ฟาร์มเสือกว่า 200 แห่งทั่วประเทศจีน จะมีเสือราว 5,000-6,000…
-
คุณพ่อจัดงานแต่งกับลูกสาวตัวน้อย หลังทราบว่าเป็นโรคร้ายและมีชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 2 วัน
ความรักอันบริสุทธิ์ที่แท้จริง เกิดจากรักของผู้เป็นพ่อ และแม่ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ผู้ที่เป็นพ่อและแม่ ก็ยังคงรัก และห่วงใยลูกทุกคนอยู่เสมอ และในวันนี้เราจะขอมาเผยเรื่องราวอันแสนเศร้าของ Poppy-Mai หนูน้อยวัยเพียง 1 ขวบ 4 เดือน ที่กำลังจะเติบโตเพื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตอันสดใสในอนาคต แต่ทว่าสิ่งเหล่านั้นกลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้เสียแล้ว เพราะหนูน้อยกลับมีเวลาเหลืออยู่อีกไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น Andy Barnard วัย 31 ปี และ Sammi วัย 29 ปี ผู้เป็นพ่อแม่ของหนูน้อย Poppy-Mai ได้เผยว่า เมื่อพวกเขารู้ว่าจะได้ลูกสาวคนแรก เขาสัญญาไว้เสมอว่า สักวันหนึ่งเมื่อหนูน้อยเติบโต เขาจะต้องจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุด และมีความสุขมากที่สุดให้กับลูกสาวให้ได้ แต่ก็ต้องมาฝันสลาย เพราะอยู่มาวันหนึ่งทั้งคู่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของลูกสาว เนื่องจากเธอไม่ยอมทานอาหาร และไม่ดื่มอะไรเลย ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ ท้องของเธอป่องเป็นลูกอีกด้วย งานนี้จึงทำให้ทั้งคู่รีบพาลูกสาวไปพบแพทย์ทันที แม้ว่าพวกเขาจะพาลูกสาวไปพบแพทย์แล้ว แต่อาการก็ดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น Andy จึงพาลูกสาวกลับไปตรวจอาการอย่างละเอียดกับคุณหมอที่สถาบันโรคเด็ก หลังจากที่ตรวจดูอาการอย่างละเอียด ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อแม่ถึงกับช็อก เมื่อพบว่าลูกสาวมีเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่สามารถลุกลามกลายเป็นมะเร็งที่ไตได้ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ…
-
เจ้าตูบเศร้าหนัก เอาแต่นั่งหันหน้าเข้าหากำแพง หลังครอบครัวที่รับไปเลี้ยง ส่งกลับคืนสถานสงเคราะห์!!
ส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินเรื่องราวดีๆ ของน้องหมา หลังจากที่มีคนมารับพวกมันไปเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ แต่ในทางกลับกัน ไม่ใช่น้องหมาทุกตัวหรอกนะ ที่จะโชคดีเสมอไป เพราะบางตัวที่ถึงแม้ว่าจะมีครอบครัวใจดีรับไปเลี้ยง แต่สุดท้ายมันกลับถูกส่งคืนสถานสงเคราะห์ซะอย่างนั้น ก็เหมือนกับเรื่องราวของเจ้า March ตูบสายพันธุ์พิทบูลผสม ที่ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้นำมาเผยไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559 เจ้า March เป็นสุนัขที่ร่าเริงและอารมณ์ดี มันถูกช่วยเหลือ และส่งมายังสถานสงเคราะห์ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จนในที่สุดก็มีครอบครัวใจดีมารับมันไปเลี้ยง ซึ่งก็ทำให้เจ้า March รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก ที่จะได้ไปอาศัย และใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่ทว่าความสุขที่มันจะได้รับ กลับสั้นเหลือเกิน เพราะจู่ๆ ทางครอบครัวที่รับเจ้า March ไปเลี้ยง ก็ส่งตัวของมันกลับคืนมายังสถานสงเคราะห์ดังเดิม ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลังจากที่เจ้า March ได้กลับมาอยู่ที่เดิม นิสัยขอมันก็เปลี่ยนไป เพราะจากน้องที่มีแต่ความร่าเริงสดใส บัดนี้มันกลับเศร้าสร้อย ผิดหวัง มีอาการเหงาอย่างเห็นได้ชัด และเอาแต่นั่งหันหน้าเข้าหากำแพง ด้วยความที่มันมีอาการซึมเศร้าหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มันป่วย ทางสถานสงเคราะห์ก็วอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ให้มารับมันไปเลี้ยง เพราะตั้งแต่มันถูกส่งตัวกลับมาที่เดิม ก็ไม่มีใครสนใจที่จะรับมันไปดูแลเลย…
-
Scooter เหมียวตาบอดถูกทิ้ง สู่การมีชีวิตที่สุขสบาย หลังเจอเจ้านายที่ใช่ ขอถวายตัวติดตามไปทุกที่
จริงๆ แล้วยังมีแมวอีกมากมายบนโลกใบนี้ ที่ไม่ได้เกิดมาสบายเหมือนแมวเหมียวตัวอื่นๆ บ้างก็ถูกเจ้าของทิ้ง บ้างก็พลัดหลงจากเจ้าของจนกลายเป็นแมวเร่ร่อน ซึ่งคุณสามารถเห็นตัวอย่างได้จากเรื่องราวของเจ้าแมวเหมียวที่ชื่อว่า Scooter ตัวนี้ จากลักษณะทั่วๆ ไปของเจ้า Scooter มันก็มีความน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เจ้า Scooter เป็นแมวตาบอดนั่นเอง เรื่องราวสุดแสนจะดราม่าของ Scooter เกิดขึ้นจากเจ้านายเก่าของมันนำมาไว้ที่ศูนย์พักพิง ซึ่งในตอนนั้นตาข้างหนึ่งของมันได้รับบาดเจ็บสาหัส และถ้าหากปล่อยไว้เชื้ออาจจะลุกลาม และเกิดอันตรายได้ ดังนั้นทางศูนย์พักพิงจึงต้องพามันไปรักษา โดยการผ่าตาข้างที่บาดเจ็บออก แม้ว่าเจ้า Scooter จะเป็นแมวที่ตาบอด แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดี เพราะในที่สุด Annie Tennyson ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายใหม่ของมัน ก็ขอรับมันกลับไปเลี้ยงที่บ้าน หลังจากที่ทางศูนย์ได้ประกาศหาบ้านให้มัน และ ณ ตอนนี้จากเจ้าแมวตาบอดผู้โชคร้าย Scooter ก็กลายเป็นแมวชีวิตดี มีเจ้านายแสนดีที่รัก และคอยดูแลมันอยู่เสมอ ไม่ว่าเจ้านายจะไปที่ไหน Scooter…
-
เพนกวินที่น่าสงสาร เกิดพลัดหลงกับฝูง จึงต้องมาเดินบนถนนเพียงลำพัง สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!!
นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรก ที่คุณได้เห็นภาพของเจ้าเพนกวิน เดินหลงฝูงอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายท่ามกลางความเหงา ที่ไม่มีเพื่อนร่วมทางเลยแม้แต่ตัวเดียว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวลาที่ได้มองภาพของมันอยู่อย่างอ้างว้าง ก็อดสงสารไม่ได้ทู้กกที โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าคิงเพนกวิน หรือ เพนกวินราชาตัวหนึ่ง ที่กำลังเดินอยู่บนถนนเพียงลำพัง หลังจากที่มันเกิดพลัดหลงกับฝูง บนเกาะฟอล์กแลนด์ นี่มันเพนกวินนี่นา มาทำอะไรแถวนี้ละ? ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกถ่ายขึ้นมาโดย Paul Chapman ชายวัย 56 ปี ที่กำลังเดินทางไปยังจุดตกปลากับ Julie Chapman ภรรยาของเขา แต่ในระหว่างทาง ทั้งคู่ก็บังเอิญไปเจอเจ้าเพนกวินตัวนี้ เดินอยู่บนถนนเพียงลำพัง Paul ได้ลงไปแชะภาพคู่กับมัน ซึ่งเจ้าเพนกวินก็ดูไม่มีท่าทีตื่นกลัวเขาแต่อย่างใด แถมยังก้มหน้าก้มตาเดินหน้าต่อไป เพื่อหวังจะได้เจอฝูง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาและภรรยาเกิดความสงสัยว่า เจ้าเพนกวินตัวนี้อาจจะกำลังพยายามเดินกลับไปหาฝูงของมัน หลังจากที่หลงออกมาก็เป็นได้ ดังนั้นเขาจึงได้ทำการเก็บภาพของมันไว้ และนำไปเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ยังไงละเหมียว …
-
เผยเรื่องราวของหมีสีน้ำตาล 2 ตัว ที่ถูกขังเดี่ยวนานกว่า 16 ปี สู่ความเป็นอิสรภาพเหมือนได้ชีวิตใหม่
ภาพน่ารักๆ ของเจ้าหมีสองตัวกำลังกอดกันที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ มีชื่อว่า Milcho และ Gosho ซึ่งดูๆ แล้วมันก็เหมือนหมีธรรมดาๆ ทั่วไปที่กำลังมีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิตในแต่ละวันนั่นแหละ แต่ใครจะรู้ละว่า ก่อนที่พวกมันจะได้มาอยู่ด้วยกัน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนดังในภาพที่เห็น พวกมันได้ผ่านเรื่องราวอันแสนเลวร้ายมาก่อน ซึ่งถ้าหากใครได้ฟังคุณจะต้องสงสารมันจับใจแน่นอน Milcho และ Gosho เจ้ามีสีน้ำตาล 2 ตัว ที่ตกเป็นเหยื่อมนุษย์ ถูกเพาะพันธุ์และเลี้ยงไว้เพื่อใช้เป็นเหยื่อในเกมการล่าโดยเฉพาะ พวกมันถูกจับขังเดี่ยวมานานกว่าไว้ที่หมู่บ้านบนเขาแห่งหนึ่ง ในประเทศบัลแกเรีย เป็นเวลานานกว่า 16 ปี ซึ่งนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของความทนทุกข์ทรมานที่พวกมันกำลังจะได้รับ การที่พวกมันถูกจับขังอยู่ในคอกแคบๆ มาเป็นระยะเวลากว่า 16 ปีเต็ม ทำให้เจ้าหมีไม่เคยได้สัมผัสถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมสายพันธุ์ตัวอื่นๆ ไม่รู้ด้วซ้ำว่าอิสระคืออะไร เรียกได้ว่าชีวิตของพวกมันช่างน่าสงสารจับใจเหลือเกิน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่นะ เพราะเมื่อทางบัลแกเรีย ได้มีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์สัตว์ เจ้าของเดิมของพวกมันจึงตัดสินใจทิ้งคอกหมีที่มีเจ้า Milcho และ Gosho และเพื่อนๆ ของพวกมันกว่า 75 ตัวอาศัยอยู่ในนั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย …
-
Fifi เจ้าหมีผู้น่าสงสาร ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเหมือนได้เกิดใหม่ หลังโดนขังในสวนสัตว์นานกว่า 30 ปี
ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่จะรู้สึกโกรธ เศร้า เหงา เซ็งได้ เพราะความจริงแล้วสัตว์ทุกตัวบนโลกใบนี้ ก็มีความรู้สึกเหล่านี้ได้เช่นกัน และในครั้งนี้เหมียวขี้อ้อน จะมาขอบอกเล่าเรื่องราวของ เจ้า Fifi หมีพันธุ์สีน้ำตาลซีเรียที่ผอมโซ และน่าสงสารตัวนี้…. โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2556 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยว่า เจ้า Fifi อาศัยอยู่ในสัตว์สัตว์แห่งหนึ่ง ที่รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นหมีที่มีแววตาเศร้าสร้อย และผอมโซกว่าหมีตัวอื่นๆ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้า Fifi ถูกขังอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเป็นเวลานานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว โดยสวนสัตว์แห่งนี้ เริ่มทำการกักขังเจ้า Fifi เป็นเวลากว่า 10 ปี ต่อมาเมื่อสวนสัตว์ได้ปิดตัวลง มันก็ถูกทิ้งให้อยู่ในกรงแบบไร้คนดูแลมานานกว่าอีก 20 ปี โถๆ น่าสงสารเหลือเกิน แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่นะ เพราะในตอนนี้เจ้า Fifi ได้รับการช่วยเหลือจากทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าแล้ว ซึ่งหลังจากที่ทีมช่วยเหลือได้พบมัน พวกเขาไม่ค่อยแน่ใจว่า เจ้า…
-
เสือดาวตกที่นั่งลำบาก หลังลงไปดื่มน้ำในบ่อ แต่กลับติดแหง็กขึ้นมาไม่ได้ซะงั้น!!
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า สำนักงานป่าไม้อินเดีย พร้อมทั้งกับชาวบ้าน ในหมู่บ้านสวิฐาน รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ได้ร่วมมือกันช่วยชีวิตเจ้าเสือดาวที่กำลังตกที่นั่งลำบาก หลังจากที่มันมาหาน้ำกินภายในหมู่บ้าน แล้วดันตกลงไปในบ่อ แต่กลับขึ้นมาไม่ได้ซะอย่างนั้น งานนี้พวกเขาจะสามารถช่วยมันได้สำเร็จหรือไม่มาดูกัน จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า รุ่งเช้าของวันหนึ่ง มีชาวบ้านได้มาปั๊มน้ำในบ่อดังกล่าว เพื่อเอาไปใช้ แต่ก็ต้องมาต๊กกะใจ เมื่อได้มาจ๊ะเอ๋กับเจ้าเสือดาวเพศเมียวัย 5 ปีตัวนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อมาช่วยมันยังไงละเหมียว พวกเขาใช้กรงหย่อนลงไปในบ่อน้ำ เพื่อให้เจ้าเสือดาวเข้ามาในกรง จากนั้นก็ช่วยกันดึงมันขึ้นมาจนสำเร็จ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวของมันไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ และพบว่ามันมีอาการตื่นกลัว และมีแผลเล็กน้อยบริเวณอุ้งมือ ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากการพยายามปีนขึ้นมาจากบ่อนั่นเอง ที่มา : mirror
-
เจ้าตูบนั่งรอเจ้านายที่หน้าบ้านทุกวันไม่ยอมลุกไปไหน โดยไม่รู้เลยว่าเขาถูกยิงตายคาที่ทำงาน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนรักหมาไม่น้อย เพราะเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของเจ้าตูบสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ตัวหนึ่ง ที่ดูท่าทางเศร้าสร้อย ไม่สดใสร่าเริงเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่ถ้าหากคุณได้ทราบสาเหตุที่มันเป็นเช่นนี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกสะเทือนใจไปตามๆ กันก็เป็นได้ ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าตูบตัวนี้กำลังนั่งคอยเจ้านายกลับบ้านด้วยท่าทางที่เหงาหงอย เนื่องจากเจ้านายของมันไม่กลับบ้านมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว เห็นแล้วก็น่าสงสารจริงๆ อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาย Hatem Abuharbid วัย 54 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมืองฮูสตัน ถูกโจรอำพรางใบหน้าบุกปล้นร้าน จนทำให้เขาโดนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา งานนี้เมื่อเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ Hatem พวกเขาก็ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของสุนัขอันเป็นที่รัก นั่งรอคอยเจ้านายผู้ล่วงลับของมันกลับบ้าน จนทำให้บรรดาเพื่อนบ้านรู้สึกสงสาร จนต้องคอยเอาน้ำ และอาหารไปให้มันอยู่เสมอ นอกจากนี้เพื่อนบ้านของนาย Hatem ยังได้กล่าวว่า ตั้งแต่เจ้านายของมันจากไป มันก็นั่งรอคอยเจ้านายอย่างมีความหวังทุกวันโดยที่ไม่ยอมลุกไปไหน บางทีมันก็วิ่งตามรถที่ขับผ่าน แต่พอเห็นว่าไม่ใช่เจ้านายของมัน…
-
อุรังอุตังน้อยไร้เดียงสา ไม่ยอมออกจากอ้อมอกแม่แม้แต่วินาทีเดียว หลังจากที่แม่ของมันถูกยิงยาสลบ
ภาพของเจ้าลิงอุรังอุตังน้อยตัวนี้ เรียกได้ว่าสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่เจ้าหน้าที่องค์กรพิทักษ์สัตว์นานาชาติ หรือ International Animal Rescue (IAR) ใช้ลูกดอกยาสลบในการจับตัวลิงอุรังอุตังเพศเมียตัวหนึ่งจากต้นไม้นั้น ลูกของมันก็ได้นอนกอดแม่ของตัวเองแน่น ไม่ยอมแยกห่างจากอ้อมอก ที่ถึงแม้ว่าในตอนนี้แม่ของมันกำลังสลบเพราะฤทธิ์ยาไปแล้วก็ตาม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสักนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยของอุรังอุตังถูกทำลายด้วยไฟป่า เนื่องจากผลกระทบของปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างเอลนีโญ ดังนั้นทางองค์กรพิทักษ์สัตว์นานาชาติ จึงได้ประสานงานกับทางการอินโดนีเซีย เพื่อเข้าช่วยเหลือลิงอุรังอุตังบนเกาะบอร์เนียว ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และด้วยสาเหตุนี้นี่เอง ที่ทำให้เจ้าลิงน้อยและแม่มีสภาพย่ำแย่ พวกมันขาดอาหารมาเป็นเวลานานจนร่างกายผอมโซ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือพวกมันนั้น แม่ลิงอุรังอุตังก็แสดงอาการที่ดุร้ายออกมา เพราะมันต้องปกป้องลูกน้อย จึงทำให้ทีมพิทักษ์สัตว์ใช้ลูกดอกยาสลบเพื่อจับตัวมันนั่นเอง เมื่อแม่ลิงสลบ ภาพสะเทือนใจก็เกิดขึ้น เพราะลูกของมันได้กอดตัวแม่ไม่ยอมปล่อย แถมดวงตาอันใสแจ๋วของมันก็มองกล้องด้วยความไร้เดียงสา อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์พักพิงสัตว์ป่าเมืองกตาปัง ประเทศอินโดนีเซีย ได้ทำการช่วยเหลือ และฟื้นฟูสุขภาพของแม่ลิงและลูกลิงตัวน้อยจนแข็งแรงดีแล้ว แถมในตอนนี้พวกมันยังดูมีความสุขมากๆ อีกด้วย ดีใจด้วยน้า ^^ ที่มา : dailymail
-
เด็ก 3 ขวบ ถูกพ่อแม่ปล่อยให้เล่นในห้างตามลำพัง จนเกิดอุบัติเหตุมือติดร่องบันไดเลื่อน
พักหลังมานี้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบันใดเลื่อนในประเทศจีนเกิดขึ้นบ่อยมากเหลือเกิน จนบางครั้งเวลาที่ได้ใช้บันใดเลื่อนบนห้างสรรพสินค้า ก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ หวาดเสียวตามไปด้วย ล่าสุดทางสำนักข่าว Shanghaiist ก็ได้ออกมารายงานว่า มีเด็กชายชาวจีนวัย 3 ขวบคนหนึ่ง ที่ผู้ปกครองปล่อยไว้ให้อยู่ตามลำพังในห้างสรรพสินค้านครหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้เล่นซุกซนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ทั้งนี้พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เด็กชายคนดังกล่าวเล่นอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเพียงลำพัง โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย งานนี้จึงทำให้เด็กที่กำลังเล่นอยู่ในห้าง เกิดอุบัติเหตุมือไปติดอยู่กับเครื่องจักรตรงร่องบันไดเลื่อนยังไงละเหมียว เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาถึงยังจุดเกิดเหตุ พวกเขาก็ได้เร่งเข้าช่วยเด็กทันที ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางด้านแพทย์จากโรงพยาบาลได้เผยว่า มือของเด็กได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีบาดแผลฉกรรจ์จนอาจจะต้องตัดนิ้วมือทิ้งถึง 3 นิ้ว เพื่อทำการรักษา นอกจากนี้ยังมีการรายงานอีกว่า พ่อและแม่ของเด็กเป็นคนขายของอยู่ในห้าง ซึ่งอาจจะกำลังยุ่งกับที่ร้าน จนเผลอละสายตาไปจากลูกของพวกเขา จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และนี่ก็เป็นกรณีตัวอย่างที่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายควรตระหนักไว้ว่า อย่าปล่อยปะละเลยลูกหลานตัวน้อยๆ ของท่าน ให้อยู่เพียงลำพังเป็นอันขาด เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ ที่มา : shanghaiist
-
‘Ponso’ ชิมแปนซีทดลองยา ถูกนำไปปล่อยทิ้งเกาะนานกว่า 30 ปี รีบโผกอดมนุษย์ทันทีที่ไปเยี่ยม
สัตว์ก็มีหัวจิตหัวใจ และความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์ เมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง มันก็เกิดอาการเหงา และซึมเศร้าได้เช่นกัน ก็เหมือนกับเรื่องราวของ เจ้า Ponso ชิมแปนซี ที่ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้นำมาเผยในครั้งนี้ บอกเลยว่าหากคนรักสัตว์ได้อ่าน จะต้องสงสารมันจับใจแน่นอน เพราะเรื่องราวของมัน เรียกได้ว่าสามารถทำให้คุณน้ำตาซึมออกมาก็เป็นได้ เจ้า Ponso เป็นชิมแปนซีอายุ 40 ปี มันเป็นหนึ่งในกลุ่มชิมแปนซีหลายสิบตัว ที่ถูกศูนย์โลหิตของนครนิวยอร์ก จับมาใช้ในการทดลองยา จนในที่สุด พอหมดประโยชน์จากการทดลองยา ก็เอาไปไว้บนเกาะร้างในประเทศประเทศโกตดิวัวร์ โดยที่ไม่คิดว่าพวกมันจะอยู่กับธรรมชาติได้ไหม และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรียกได้ว่านี่ก็เป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปีแล้วสินะ ที่เจ้า Ponso และครอบครัว พร้อมกับเพื่อนๆ ของมัน ถูกทิ้งไว้บนที่แห่งนี้ แต่ทว่าพวกเพื่อนๆ ก็ได้จากมันไปหมดแล้ว เหลือก็แต่เพียง Ponso นี่แหละ…ที่ยังมีชีวิตอยู่!! แม้ว่าเจ้า Ponso ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังอยู่บนเกาะเล็กๆ โดยไม่มีแม้กระทั่งอาหาร หรือน้ำตามธรรมชาติ แต่โชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่นะ เพราะมันได้รับอาหารจากชาวบ้านใจบุญในบริเวณใกล้เคียงอย่าง Germain …
-
Nicolas น้องหมาพิทบูลผู้เกิดมาโชคร้าย ถูกแม่ตัวเองกัดขาขาด แต่โชคดีที่มีคนใจบุญมาช่วยไว้ทัน!!
Nicolas น้องหมาพิทบูลตัวน้อยที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้ จากภาพมันก็ดูมีความสุขดี แต่ใครจะรู้ละว่าก่อนหน้านี้เรื่องราวชีวิตของมันกลับต้องพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย เพราะวินาทีที่เจ้า Nicolas ตัวน้อยได้ลืมตาดูโลก แม่ของมันได้กินลูกของตัวเองเข้าไปถึง 3 ตัว แต่โชคดีเหลือเกินที่เจ้า Nicolas มีคนเข้ามาช่วยไว้ทัน ไม่อย่างนั้นป่านนี้มันอาจจะถูกแม่กินไปแล้วก็ได้ เจ้า Nicolas เกิดมาตัวเล็กที่สุดในบรรดาพี่น้องของมันทั้งหมด 8 ตัว แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกแม่กิน แต่มันก็ถูกแม่กัดขาขาดไปข้างหนึ่ง โถๆ น่าสงสารจัง และในตอนนี้ชีวิตของเจ้า Nicolas ก็เหมือนฟ้าหลังฝน เพราะมันถูกนำมาเลี้ยงโดยครอบครัวใจบุญ แถมที่บ้านของพวกเขาก็มีน้องเหมียวอยู่ 3 ตัว ซึ่งในตอนนี้พวกมันก็กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นสัตว์ต่างงสายพันธุ์ แต่ 3 สหายแมวก็ยินดีต้องรับน้อง Nicolas อย่างอบอุ่น เค้านอนด้วยกันด้วยนะ น่ารักมากจริงๆ เจ้า Nicolas โชคดีมากๆ เลยละที่มันสามารถรอดมาได้ แต่ไม่รู้ว่าพี่น้องที่เหลือของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคงไม่ถูกแม่กินหมดหรอกนะ…
-
25 ภาพพวกสัตว์โชคร้าย ที่ดันมาเจอกับความซวยแบบไม่ทันตั้งตัว เห็นแล้วก็สงสารเหมือนกันนะ
ความซวย ไม่ได้เกิดขึ้นแต่กับพวกมนุษย์เพียงอย่างเดียว เพราะนอกจากมนุษย์แล้ว ความซวย ยังไปเกิดขึ้นกับพวกสัตว์อีกด้วย และไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้อย หรือสัตว์ใหญ่ ก็ไม่อาจหนีพ้นความซวยไปได้ ก็เหมือนกับภาพของสัตว์น้อยใหญ่เหล่านี้ ที่โชคร้ายสุดๆ ดันมาเจอกับความซวยเข้าจนได้ และทำให้เกิดเป็นภาพที่น่าฉงฉานจับใจแบบนี้… นี่เอ็งไปทำท่าไหนเข้าละนั้น ถึงกลายมาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ ซวยจริงๆ เลยนะตูบ จะเอาออกยังไงละทีนี้ ใครก็ได้ช่วยผมที มันติดอะมันติด ซนจนได้เรื่อง อึดอัดจัง ให้ก็ได้ช่วยดึงออกให้ที ช่างเป็นวันที่โชคร้ายสุดๆ ที่มาของหมาหงอยมันเป็นแบบนี้นี่เอง ช่วยพี่แกหน่อยเร็ว เอิบ!! เป็นไงละ ลงไม่ได้เลย โถๆๆๆ เจ้าหนูน้อยน่าสงสารจัง เรากำลังพยายามช่วยอยู่นะ คราวหลังก็อย่าซุกซนละ ช่วยด้วยๆ เดี๋ยวๆๆ ขึ้นไปได้ยังไงเนี่ย ใครก็ได้เข้าไปช่วยพี่แกที ว่าแต่เอ็งขึ้นไปได้ยังไงกัน…
-
19 ภาพฮาๆ ที่ได้พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้วว่า…บางทีผู้หญิงกับสัตว์ก็ไม่ควรอยู่ใกล้กันนะ
‘ผู้หญิง’ เป็นเพศที่บอบบาง ควรค่าแก่การทะนุถนอมมากที่สุด แต่ทว่าในทางกลับกัน ผู้หญิงบางคนดันถูกสัตว์บางชนิดรังแกซะจนไม่เหลือชิ้นดี เรียกได้ว่าสัตว์เหล่านี้เป็นภัยคุกคามที่พวกเธอจะต้องหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก และภาพเหล่านี้ก็ได้พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้วว่า บางทีผู้หญิงกับสัตว์ก็ไม่ควรอยู่ใกล้กันนะ เพราะวันดีคืนดีสัตว์เหล่านี้มันอาจจะเข้ามาทำร้ายคุณแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ หมั่นไส้มานาน ขอพี่ถีบหน่อยเถอะ นี่แน่ะๆ เอาให้หนัก ก็แค่อยากจุ๊บเฉยๆ จะกลัวเราทำไม๊ ตูบสายโหด ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิง เอาแล้วๆๆ ทางไหนดีละเนี่ย เฮือกกกก เจ็บนี้อีกนานนนนนน ชุบุชุบุ ขึ้นชื่อเรื่องการรังแกผู้หญิงจริงๆ นะเอ็ง ตูบอย่าทำพี่เค้าดิ เค้ากลัวแล้วเห็นมั้ย ก็แค่อยากมาทักทาย กินซะเลย น่าเห็นใจจริงๆ อยู่ดีๆ ก็โดนรังแก บางทีก็โดนคุกคามจากผู้ไม่ประสงค์ดี อย่าแกล้งกันดิ ให้ตายเถอะโรบิ้น นี่จมูกนะ ถ้าเจ๊จะกลัวขนาดนี้ นี่หมูไง!! …
-
สื่อต่างประเทศเผยเหตุการณ์ ‘แรคคูนน้อย’ วิ่งกอดศพเพื่อนที่ถูกรถชนตาย หวังจะให้ฟื้นมาอีกครั้ง
‘แรคคูน’ ถือเป็นสัตว์ป่าที่มีความอยากรู้อยากเห็น ฉลาด และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี และที่สำคัญสัตว์ตัวน้อยๆ เหล่านี้ ก็มีหัวใจ และมีอารมณ์โศกเศร้า เสียใจ ดีใจ เหมือนกับพวกมนุษย์นั่นแหละ ในวันนี้เราจะขอมานำเสนอเรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าแรคคูน หลังเห็นเพื่อนรักของมันถูกรถชนต่อหน้าต่อตา งานนี้เจ้าแรคคูนตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปปลุกเพื่อหวังให้เพื่อนรักของมันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สำนักข่าว Dailymail รายงานว่าเหตุการณ์สุดสะเทือน เกิดขึ้นบนถนนในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา จากภาพคุณจะเห็นได้ว่ามีเจ้าแรคคูนตัวหนึ่ง กำลังนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน และมีเจ้าแรคคูนอีกตัวซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนของมัน ได้รีบวิ่งเข้าไปกระช่างร่างอันไร้วิญญาณของเพื่อน มันคงหวังว่าเพื่อนของมันจะต้องลุกขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าแรคคูนตัวน้อยได้พยายามแล้ว พยายามอีก แต่ก็ไม่เป็นผล ถึงแม้ว่าในขณะนั้นจะมีรถวิ่งผ่านไปมาหลายคัน แต่เจ้าแรคคูนก็ไม่สน มันไม่ยอมออกห่างจากเพื่อนรักเลย และนี่ก็คือมิตรภาพของเพื่อนรักที่มีต่อกันจนถึงลมหายใจสุดท้าย ซึ่งมันก็ทำให้เราได้รู้ว่า ถึงแม้จะเป็นสัตว์ แต่ก็มีหัวใจเหมือนกันนะ เฮ้อ…เห็นภาพแล้วก็เศร้าใจจริงๆ ที่มา : dailymail
-
Cara สุนัขผู้น่าสงสาร ถูกทารุณหนักจนบอบช้ำ ไม่ยอมขยับตัวไปไหน และเอาแต่มุดหน้าเข้ากำแพง
เมื่อมนุษย์มีความรู้สึกดีใจ เศร้า และเสียใจได้ สัตว์ตัวน้อยๆ อย่างสุนัข ก็มีความรู้สึกเหล่านั้นเช่นกันนะเหมียว และเรื่องราวของจ้าสุนัขตัวนี้ ถ้าหลายคนได้ลองอ่านดูแล้วคุณจะต้องสงสารมันจับใจ เพราะมันเอาแต่นั่งอยู่แต่มุมห้อง แถมยังเอาหน้ามุดเข้ากำแพงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย แค่เห็นภาพก็น่าสงสารแล้วนะเหมียว ว่าแต่เจ้าสุนัขตัวนี้มันไปเจออะไรมากันแน่นะ ถึงได้มีสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เจ้าสุนัขเพศเมียตัวนี้ชื่อว่า Cara มันเป็นสุนัขในกลุ่มสายพันธุ์ขนสั้น รูปร่างผอมเพรียว โดยปกติจะมีลักษณะปราดเปรียวและว่องไว แต่สำหรับเจ้า Cara ทางองค์กรช่วยเหลือสุนัขและแมวเพื่อการกุศลของประเทศไอร์แลนด์ที่ได้ช่วยเหลือมันไว้ คาดว่ามันจะต้องถูกทารุณมาเป็นระยะเวลานาน และพบเจอแต่สิ่งโหดร้ายมาทั้งชีวิตแน่ๆ จึงทำให้มันหวาดกลัวตลอดเวลา เจ้า Cara มีอาการบอบช้ำและดูเศร้าผิดปกติ มันไม่ยอมขยับตัวไปไหน แถมเอาแต่นั่งมุดหน้าซุกผนังตรงมุมห้อง โถๆๆ น่าสงสารจริงๆ แต่หลังจากที่ถูกนำมาไว้ที่บ้านพักของทางองค์กร มันก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และ ณ ตอนนี้อาการของมันดีขึ้นมากแล้วละ มีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ดูเหมือนเข้ากันได้ดีซะด้วย ที่สำคัญนอกจากจิตใจของมันจะดีขึ้น มันก็โชคดีสุดๆ เพราะในตอนนี้มีคนใจบุญได้มารับมันไปเลี้ยงแล้ว ดีใจด้วยนะเจ้า Cara…
-
15 ภาพของบุคคลที่พิสูจน์แล้วว่า ‘ความซวย’ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ
อะไรก็ไม่สามารถที่จะมาหยุดยั้งความซวยได้ เพราะความซวยมักจะเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งความซวยนั้นอาจเกิดขึ้นจากตัวเราเอง หรือมีบุคคลอื่นๆ มาเป็นผู้กระทำ ก็เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ แทนที่พวกเขาจะเจอกับวันที่สดใส แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเจอเรื่องซวยๆ จนได้ เฮ้อ…เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวคงไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง วันที่แสนสนุก แต่กลับต้องมาเจอเรื่องซวยๆ ซะงั้น ให้ตายเถอะ!! อะไรมันจะโชคร้ายได้ถึงเพียงนี้ โอ๊ยยยย เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดแทนจริงๆ ความซวยเข้ามาหาถึงที่เลยฮะ คนจะซวยช่วยไม่ได้ ทำอะไรหัดเกรงใจกันบ้างเถอะ ฮ่าๆ แล้วใครจะเก็บละทีนี้ จะได้รถใหม่ก็คราวนี้แหละ น่าสงสาร อยู่อย่างโดดเดี่ยว เดินผ่านต้นไม้อยู่ดีๆ เม่นตกใส่หัวซะงั้น ซวยจริงๆ โอ๊ยยย เห็นแล้วเจ็บแทน มาจุดเทียนไขทำไมตรงนี้ เชื่อแล้วละว่าความซวยเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ เหตุการณ์เหล่านี้ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับใครบางคน แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งคุณได้พบเจอกับตัวเอง วันนั้นคุณก็จะรู้สึกเซงไม่ต่างไปจากบุคคลเหล่านี้แน่นอน ที่มา : wittyfeed
-
‘เจ้าสลอธ’ ยังยิ้มได้ หลังหลงทางนั่งเกาะเสาอยู่กลางถนนไม่ยอมไปไหน จนตำรวจมาช่วยไว้ทัน
การได้ช่วยเหลือชีวิตของสัตว์โลกตัวน้อยๆ มันช่างเป็นอะไรที่น่าภูมิใจมากจริงๆ แม้บางทีเราได้เห็นผู้อื่นได้ช่วยเหลือชีวิตของมัน ก็ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจ และมีความสุขตามไปด้วย ก็เหมือนกับเหตุการณ์ของเจ้าสลอธน้อย ที่เกิดขึ้น ณ ประเทศเอกวาดอร์ ตัวนี้ ซึ่งจากภาพเราจะเห็นเจ้าสลอธสีน้ำตาลตัวหนึ่ง กำลังนั่งใช้ขาทั้ง 4 เกาะเสาที่กั้นอยู่กลางถนนอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย โถ…มันช่างเป็นภาพที่น่าสงสารเสียจริง จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยว่า ตำรวจจราจรเมือง Quevedo ประเทศเอกวาดอร์ ได้รีบเข้าไปช่วยเหลือสลอธตัวหนึ่ง หลังได้รับแจ้งว่ามีสัตว์ป่าหลงทางมาอยู่บนถนนทางหลวง พอไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบกับสลอธสีน้ำตาลตัวน้อย กำลังกอดรัดเสาของที่กั้นกลางถนนไว้แน่น แต่แทนที่มันจะตกใจกลัวพวกมนุษย์ เจ้าสลอธกลับนั่งนิ่ง แถมยังทำหน้าราวกับฉีกยิ้มให้เจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือมันอีกด้วย เมื่อทางตำรวจสามารถช่วยเหลือมันได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้แจ้งข้อมูลลงในเฟสบุ๊ค พร้อมกับพามันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้เคียง ก่อนจะปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เจ้าสลอธน้อยหลงทางมาอยู่กลางถนนได้อย่างไร แต่ถึงยังไงตอนนี้มันก็คงจะปลอดภัยแล้วละ เพื่อนๆ ไม่ต้องเป็นห่วงมันแล้วนะเมี๊ยว ที่มา : 9news
-
อุรังอุตังน้อยผู้น่าสงสาร โอบกอดตัวเองแน่น หลังถูกพรากจากแม่ ทำเอาคนรักสัตว์สะเทือนใจหนักมาก
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้อ่านไม่น้อย สำหรับเจ้า Joss อุรังอุตังผู้น่าสงสาร ที่กำลังโอบกอดตัวเองแน่น ณ บ้านหลังหนึ่ง ในบอร์เนียวตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย โดยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพอันน่าสะเทือนใจของเจ้า Joss อุรังอุตังวัย 2 ขวบ ที่ถูกผู้เป็นเจ้าของพรากมันมาจากครอบครัว แล้วเอามาเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างผิดกฎหมาย จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้า Joss มีอาการซึมเศร้า แถมยังใช้มือสองข้างโอบกอดที่ตัวของมันไม่ยอมปล่อย อีกทั้งยังแสดงพฤติกรรมแปลกๆ โดยการเหวี่ยงตัวลงมากระแทกพื้นและเอาหัวโขกกำแพง หลังจากที่ทางสัตวแพทย์ขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ระหว่างประเทศ ได้ตรวจร่างกายของมัน ก็พบว่า เหตุที่มันแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ออกมา เป็นเพราะมันมีสภาวะบอบช้ำทางจิตใจ และมีความเครียดอย่างหนัก เนื่องจากมันถูกพรากออกมาจากอ้อมกอดของแม่ อีกทั้งมันยังถูกลูกๆ ของเจ้าของที่นำมันมาเลี้ยง เล่นกับมันราวเป็นตุ๊กตา ซึ่งนั่นอาจจะทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรช่วยเหลือสัตว์ระหว่างประเทศ ก็ได้รับมันไปฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ จนกว่ามันจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ เฮ้อ…เป็นเรื่องราวที่ฟังดูแล้วหดหู่ใจเป็นอย่างมาก…
-
14 ภาพสัตว์โลกในอิริยาบทที่กำลัง ‘ครุ่นคิด’ ถึงอะไรบางอย่าง เอ…ว่าแต่คิดอะไรอยู่ละ?
โดยปกติแล้วภาพของสัตว์โลกที่เราเห็น มักจะพาพร้อมกับความน่ารักสดใส บางครั้งก็ดูมีความสุข บางครั้งเหงา เศร้า และสดใส แต่มาคราวนี้ดูเหมือนว่าเจ้าสัตว์ทั้งหลาย กำลังนั่งครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง ซึ่งท่าทางของมันดูเหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิด หรือบางทีพวกมันอาจจะกำลังคิดทบทวนถึงเรื่องราวตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ลองทายกันเล่นๆ ดูสิว่า เจ้าสัตว์พวกนี้มันคิดอะไรของมันอยู่น้า ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก เหม่อเชียวนะเอ็ง คิดอะไรอยู่? ท่าทางคงเป็นเรื่องสำคัญสินะ หยุดคิดสักครู่ แล้วมาเล่นกันเถอะ กระจกวิเศษบอกข้ามา ใครงามเลิศในปฐพีนี้ รู้นะ ฉันรู้นะ ว่าเธอคิดอะไรอยู่… เอิบ!! เหมือนช็อกเลยอะ ฮ่าๆ เมื่อวานตูขรี้หรือยังว้าาาาา (คิดหนัก) คิดถึงสาวอยู่ละสิ๊ อยู่อย่างเหงาๆ ทำหน้าเซ็งแบบนี้ ไปโดนใครแกล้งมาละ คนมีคู่ไม่รู้หรอก ลำพังตัวคนเดียวมันเหงานะรู้มั้ย ชักจะเริ่มหิวซะแล้วสิ… บางทีคงต้องบอกให้โลกรู้แล้วละ ว่าตัวตนที่แท้จริงของเราไม่ใช่หมา แต่เป็น…เป็นอะไรดี …
-
น่าฉงฉาน ลูกนากวัย 10 เดือนพลัดหลงกับแม่ นอนร้องไห้อยู่หน้าประตูบ้านในสก็อตแลนด์
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้านากทะเลผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ถูกแม่ของมันทิ้งไว้ ทำให้มันต้องโซซัดโซเซมานอนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในเมือง Galloway ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีพายุเข้าถล่มพอดี ตามรายงานบอกว่าเจ้าลูกนากตัวนี้มีอายุได้เพียง 10 เดือนเท่านั้น มันถูกพบขณะนอนแผ่อยู่ที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่ชาวบ้านพบมันเข้าก็รีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าแห่งสก็อตแลนด์เข้ามารับตัวมันไปดูแลต่อ จากนั้นพวกเขาก็พามันไปยังศูนย์ดูแลสัตว์และตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Buddy ผู้จัดการศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Colin Seddon ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากสำหรับนากตัวน้อยๆ และด้วยอายุแค่นี้ พวกมันยังว่ายน้ำได้ไม่แข็งพอ หากมันพลัดหลงกับแม่ของมัน เป็นไปได้ว่าพวกมันจะไม่ได้เจอกันอีกเลย” เจ้า Buddy เริ่มดื่มนมจากขวดและสามารถกินอาหารจากมือของเจ้าหน้าที่ได้แล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพาเจ้า Buddy ไปเจอกับลูกนากอีกสามตัวที่พลัดหลงกับแม่ของมันเช่นกันอย่าง Ebb, Tide และ Wave เพื่อให้พวกมันคุ้นเคยกัน เหล่านากตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในศูนย์ดูแลสัตว์แห่งนี้ จะถูกดูแลอย่างดีประมาณ 1 ปี เมื่อพวกมันโตพอแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำมันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไปล่ะ แต่น่าเสียดายที่เจ้า…
-
ภาพน่ารักปนฮาของเจ้าเหมียวที่น่าสงสาร เอามือหาของในลิ้นชักแต่ไม่เจอ มันก็เลยยืนหงอยอย่างโดดเดี่ยว!!
นี่คือภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ที่จะมาสร้างความฮา และรอยยิ้มให้กับคุณผู้ชมทุกท่าน ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มันกำลังเอามือเปิดเข้าไปในลิ้นชัก เพื่อหาอะไรบางสิ่งบางอย่าง และดูเหมือนว่าของที่มันหาคือของสำคัญซะด้วยสิ งานนี้เจ้าเหมียวจะหาเจอหรือไม่นั้น เรามาร่วมลุ้น และส่งกำลังให้มันหาของให้เจอกันเถอะ มันกำลังใช้มือน้อยๆ เปิดลิ้นชักอยู่ เริ่มปฏิบัติการหาของสำคัญกันแล้ว เจอมั้ยเจ้าเหมียว ว่าแต่เอ็งหาอะไรอยู่น้า โธ่!! หาไม่เจอหรอเนี่ย ดูๆๆๆๆ ทำหน้าหงอยเชียว สงสัยจะเป็นของสำคัญมากๆ สินะ ทำหน้าตาน่าฉงฉานอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกทาสใจอ่อนได้ยังไงกัน และแล้วมันก็ถอดใจ ปิดลิ้นชักลงอย่างช้าๆ ด้วยความเศร้า เดี๋ยวๆๆๆ เท่านั้นยังไม่พอนะจ๊ะ ยังมีการไปตามเพื่อนเหมียวมาดูอีก เพื่อนปลอบเพื่อนๆ โถๆๆๆ น่ารักเสียจริง ฮาๆ เรียกได้ว่างานนี้ทั้งฮา และน่าสงสารเจ้าเหมียวน้อยมากๆ เลยทีเดียว เหมียวก็เข้าใจนะว่าของที่เราตั้งใจเก็บมันไว้ จู่ๆ มันก็หายไปโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ มันก็ต้องเศร้ากันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วเมี๊ยว ที่มา : life.beefun01
-
สิงโตภูเขาตัวนี้ ถูกไปปล่อยคืนสู่ป่าที่โหยหายมาตลอดชีวิต หลังถูกล่ามไว้ในกรงมานานกว่า 20 ปี
ภาพของสิงโตทั่วไปที่เราเห็นกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพของเจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม มีสง่า แต่สำหรับเจ้า Mufasa สิงโตภูเขาตัวนี้ เรียกได้ว่ามีสภาพที่น่าเวทนา เหงาหงอย และซึมเศร้าซะเหลือเกิน เนื่องจากมันเคยถูกล่าม และถูกขังไว้ในกรงเก่าๆ ที่ท้ายรถคณะแสดงละครสัตว์มานานถึง 20 ปี กันเลยทีเดียว และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ก็ได้ทำการเผยคลิปวีดีโอของมัน ซึ่งจากคลิปแสดงให้เห็นภาพของเจ้า Mufasa ที่มีท่าทางดีใจ เมื่อทางเจ้าหน้าที่สัตว์ป่าและศูนย์พิทักษ์สัตว์ ได้เข้าช่วยเหลือ และปล่อยให้มันกลับคืนสู่ธรรมชาติ เจ้า Mufasa เคยถูกทางคณะละครสัตว์พาไปร่วมแสดงละครด้วย แถมยังถูกขังในกรงเก่าๆ ที่มีแต่สนิมนานกว่า 20 ปี ช่างน่าสงสารจริงๆ แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ป่าสงวน และทางประเทศเปรูมีกฎหมายห้ามนำไปใช้ในโรงละครสัตว์ แต่คณะละครสัตว์ก็มักจะรอดพ้นจากการตรวจจับไปได้เสมอ ในที่สุดเมื่อทางเจ้าหน้าที่สัตว์ป่าและศูนย์พิทักษ์สัตว์นานาชาติ ได้รับความร่วมมือจากตำรวจต้านการจลาจลและพนักงานอัยการ จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือเจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้ทันที เจ้า Mufasa ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว เหมียวดีใจด้วยจริงๆ…
-
เจ้าเสือดาว คิดจะลองดีกับเม่น สุดท้ายก็ต้องหงอยไปตามระเบียบ เพราะถูกหนามเม่นตำเข้าไปเต็มๆ
ถ้าเราจะพูดถึงเสือดาว ภาพที่หลายคนจินตนาการไว้ก็คงจะเป็นภาพของ สัตว์ขนาดใหญ่ที่มีความเร็วเป็นกรดใช่ไหมละ แต่สำหรับภาพของเสือดาวที่เราได้นำมาให้ได้ชมนี้ สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่ามันได้สิ้นลายไปซะแล้ว เพราะเจ้าเสือดาวตัวนี้อยู่ดีไม่ว่าดี ริอาจคิดไปยุ่งกับสัตว์หน้าขนอย่างเจ้าเม่น จนในที่สุดตัวของมันเองก็ถูกหนามเม่นตำเข้าบริเวณใบหน้า จนเกิดอาจหงอยสุดขีดเหมือนดังภาพที่คุณกำลังจะได้เห็นกันนี้… ดูน่าเกรงขามชะมัด ป้าดดดด เท่มากเลยลวกเพี่ย เอิ่ม!! กำลังชมว่าเท่อยู่ดีๆ ตอนนี้ลิ้นลายไปซะแล้ว โถ่ๆๆ ช่างน่าสงสารเหลือเกิน งานนี้ต้องขอขอบคุณ Helgard de Villiers ช่างภาพฝีมือดี ผู้ที่ได้ทำการแชะภาพของเจ้าเสือดาวสิ้นลายตัวนี้ มาให้เราได้ชมกัน ซึ่ง ณ วินาทีนั้น เสือดาวและเม่นกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในอุทยานแห่งชาติครูเกอร์, แอฟริกาใต้ สุดท้ายมันก็ถูกขนเม่นเจ้ากรรมตำไปที่ใบหน้าเต็มๆ เจ็บเลยดิ สงสยัจะคิดผิดเสียแล้ว ที่เข้าไปยุ่งกับเจ้าเม่น เจ้าเสือดาวสิ้นลายช่างน่าสงสารซะจริงๆ ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน แล้วคราวหลังก็อย่าไปเข้าใกล้พี่เม่นเค้าอีกละ มิเช่นนั้นประวัติศาสตร์อาจจะกลับมาซ้ำรอยก็เป็นได้ ที่มา : dailymail
-
เจ้าเหมียวโคตรน่าสงสาร อ้อนวอนทาสมนุษย์ทุกเช้าก่อนไปทำงาน สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ตรงกลางทางอยู่ดี…
อาจจะเป็นหนึ่งในเหมียวเพียงไม่กี่ตัวที่มีอาการแบบนี้กับเหล่ามนุษย์ เฟลจริงๆ แกนี่มันเป็นความอับอายของเผ่าพันธุ์เหมียวชัดๆ เจ้า Ghost แมวหิมาลัยของเขาผู้มีเฟสบุ๊คเป็นของตัวเอง เจ้าGhost ที่เรียกได้ว่า เป็นแมวที่เศร้ามากๆ เพราะโลกของมันนั้นแทบจะแหลกสลายทุกครั้ง เมื่อมนุษย์ของมันออกไปทำงาน จะไปแล้วเหรอเมี๊ยววว… และก็จะเป็นแบบนี้…แทบจะทุกเช้า อย่าาาาปายยยยย นี่แกยังจะไปอีกหรอ T^T เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจ นึกถึงเพลงนี้เลยทีเดียว T^T กดวินาทีที่ 42 เลยแจ้ โถๆๆๆๆ เจ้าเหมียว แกคงเหงามากสินะเวลาไม่มีทาสมนุษย์มารับใช้ ฮือๆๆๆ กว่ามันจะกลับมาก็เย็น ลูบหัวซะทีสองทีแล้วก็นอน จิตใจพวกมนุษย์นี่ทำด้วยอะไรเนาะ ที่มา: Metro
-
คลิปวิดีโอสุดอนาถใจ หนุ่มจีนจับหนู 2 ตัว มัดติดขวดเบียร์ ใช้ไม้ตีหัว และบังคับให้สู้กันจนตาย
หากคนรักสัตว์ได้เห็นสิ่งที่เราจะนำมาให้ชมในวันนี้ละก็ จะต้องรู้สึกสะเทือนใจอย่างแน่นอน เพราะทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยคลิปวีดีโอของหนุ่มจีนจิตป่วยรายหนึ่ง ที่จับเจ้าหนูน้อย 2 ตัว มามัดขึงไว้กับขวดเบียร์ จากนั้นเขาก็ใช้ตะเกียบตีหัวของพวกมัน เพื่อบังคับให้มันต่อสู้กันจนตาย โดยด้านหลังมีชายอีกหลายคนหัวเราะชอบใจ และคอยเชียร์กันอย่างสนุกสนาน จากในคลิปวีดีโอเราจะเห็นได้ว่า เจ้าหนูน้อยตัวหนึ่งพยายามดิ้นสุดชีวิต และใช้ฟันของมันแทะลวดที่มัดตัวออก แต่ทว่าชายคนเดิมก็ได้ใช้ตะเกียบตีหัวของมันอยู่เรื่อยๆ เฮ้อ…น่าสงสารจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังหันขวดเบียร์ทั้งสองเข้าหากัน เพื่อให้เจ้าหนูทั้ง 2 ตัวได้เผชิญหน้ากัน ซึ่งฝ่ายเจ้าหนูที่ดิ้นสุดชีวิต ก็เอาปากไปกัดจมูกของหนูอีกตัวหนึ่ง เมื่อเห็นหนูทั้งสองตัวกัดกันจนพอใจแล้ว ชายใจทรามก็จับขวดเบียร์แยกออกจากกัน ก่อนที่จะใช้ตะเกียบกระหน่ำตีหัวเจ้าหนูอีกครั้ง ทั้งจากการรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศ คาดว่าชายพวกนี้จับหนูสองตัวมาเพื่อให้สู้กันจนตัวหนึ่งตาย เพราะหากหนูที่ตายอยู่ขวดของใคร คนนั้นก็จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินค่าเบียร์ทั้งหมดนั่นเอง ที่มา : mirror
-
แก๊งเจ้าตูบพากันออกไปวิ่งเล่นในทุ่งหญ้า แต่ดันซวยถูกขนเม่นทิ่มตำนับร้อย จนเกือบไม่รอดชีวิต
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยเรื่องราวของ Mahalo เจ้าตูบผู้น่าสงสาร กับเพื่อนๆ ของมันอีกสองตัวคือเจ้า Nestah และ Soljah ได้พากันออกไปวิ่งเล่นที่ทุ่งหญ้า ในเขตรัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา แต่ดูเหมือนว่าความสนุกของพวกมันจะแสนสั้นนัก เพราะจู่ๆ พวกมันก็เข้าไปใกล้สัตว์อันตรายอย่าง เม่น งานนี้พวกมันทั้งสามจึงถูกเม่นเล่นงานเข้าให้ สะบัดขนเข้าใส่จนทิ่มตำไปทั่วทั้งตัวและใบหน้า เฮ้อ…เห็นภาพแล้วก็สงสารจริงๆ Dennis ผู้เป็นเจ้าของเจ้า Mahalo กล่าวว่า ‘วันนั้นสุนัขของตนได้ออกไปเล่นกับเพื่อนของมัน แต่จู่ๆ มันก็ดันเข้าไปใกล้เม่น จนทำให้พวกมันถูกเม่นเล่นงาน ซึ่งเจ้า Mahalo ดูเหมือนจะโชคร้ายที่สุด เพราะมันถูกขนเม่นนับร้อยตำเต็มหัว แถมยังโดนบริเวณอวัยวะสำคัญอย่างปอดและหัวใจอีกด้วย’ งานนี้ทำให้ Dennis กลัวว่าเจ้า Mahalo จะไม่รอดชีวิต เขาจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาทันที แต่ด้วยค่ารักษาพยาบาลที่สูงถึง 280,000 บาท ทำให้เพื่อนสนิทของเขาช่วยระดมทุนผ่านทางเว็บไซต์ gofundme โดยระบุว่า ‘สุนัขพวกนี้เป็นที่รักของเดนนิสมาก’ และไม่น่าเชื่อเลยว่ามีผู้ใจบุญ ได้ร่วมบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือแก๊งเจ้าตูบ ซึ่งในตอนนี้รวมเป็นเงินทั้งหมดถึง530,000…
-
นกกระตั้วเครียดจัดถูกเจ้าของทิ้ง จิกขนของตัวเองร่วงไปทั้งตัว เหลือเพียงแต่ส่วนหัวและหงอน!!
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของนกกระตั้วเพศเมียตัวหนึ่ง ที่ทุกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวในสภาพสุดเวทนา เพราะมันได้จิกขนของตัวเองจนร่วงเหลือเพียงแต่หัวและหงอน โดยการจิกขนตัวเองแบบนี้ ถือเป็นพฤติกรรมปกติของนกกระตั้ว แต่ถ้าหากมันตกอยู่ในภาวะเครียดมากๆ มันก็จะทำการจิกขนรุนแรงขึ้น ก็เหมือนกับเจ้านกตัวนี้ ที่ตกอยู่ในอาการเครียดหนักเช่นกัน จนจิกของตัวเองร่วงจนเกือบหมดทั้งตัว ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าของรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จะเข้ามาช่วยเหลือเจ้านกกระตั้วผู้น่าสงสารนั้น มันเคยเป็นสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของคนเดิมตั้งชื่อให้ว่า ‘Hobby’ แต่เมื่อเจ้าของคนเดิมเลี้ยงมันจนเบื่อหน่าย เขาเลยปล่อยทิ้งขว้าง และไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งเจ้าหน้าได้เผยว่าตอนที่มาช่วยมัน ตัวของเจ้า Hobby มีแต่กลิ่นบุหรี่และขยะเน่าๆ เฮ้อ!! น่าสงสารชะมัด งานนี้จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของเจ้า Hobby ไปอาบน้ำ และทำการตรวจเช็กสภาพร่างกาย แถมยังนำผลไม้สดอย่างสตรอว์เบอร์รี่ และกล้วยมาให้มันกินอีกด้วย นอกจากนี้พวกเขายังตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า ‘Javi’ เพื่อเป็นการฉลองให้กับชีวิตใหม่ของมัน และเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน เจ้า Javi ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหม่ ก็ดูมีความสุขขึ้นเยอะเลยละเหมียว ที่มา : metro
-
ชาวเน็ตจีนเดือด หลังมีภาพเสือ และสิงโตผอมกะหร่องว่อนเน็ต ด้านสวนสัตว์ปฏิเสธ อ้างแค่ป่วย!!
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของเจ้าเสือ และสิงโต จากสวนสัตว์ปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ลงในลงบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ โดยกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพสัตว์ และหลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต ก็ได้ตกเป็นประเด็นอื้อฉาวอย่างมาก เพราะจากภาพเราจะเห็นได้ว่าเสือและสิงโตในสวนสัตว์แห่งนี้ อยู่ในสภาพหิวโหย ผอมโซ และดูไม่มีความสุขเอาซะเลย งานนี้ทำเอาชาวเน็ตจีนผู้รักสัตว์ถึงกับเดือด พร้อมกับประณามการกระทำของสวนสัตว์แห่งนี้ว่าไร้สำนึก และไม่มีความรับผิดชอบ แต่เมื่อทางสำนักข่าวจากที่ต่างๆ ได้ไปสืบค้นหาความจริงที่สวนสัตว์แห่งนี้ ก็ไม่พบเสือและสิงโตในสภาพผอมกะหร่องเหมือนดังภาพที่ปรากฏตามอินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ปักกิ่งได้เผยว่า ‘เสือและสิงโตในภาพดังกล่าว เป็นสัตว์ที่กำลังป่วย ทำให้มันกินอาหารได้น้อยลงจนดูผอม และในตอนนี้ทางสวนสัตว์ก็ได้นำพวกมันไปดูแลรักษาที่ศูนย์เรียบร้อยแล้ว’ ‘เราจะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องโภชนาการอาหารของเสือ และสิงโตให้มากกว่านี้ และจะทำการการตรวจสอบน้ำหนักของพวกมัน ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นประจำ’ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ปักกิ่งกล่าว ที่มา : shanghaiist
-
Magoo แมวน้อยน่ารักที่มักจะแลบลิ้นอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นซุปตาร์เหมียวผู้โด่งดังใน IG
ต้องยอมรับเลยว่าเกิดมาเป็นแมว แค่อยู่เฉยๆ อยู่นิ่งๆ แบบไม่ต้องทำอะไร ความน่ารักก็พุ่งปรี๊ดอยู่แล้ว ยิ่งแมวบางตัวทำหน้าตาแบ๊วๆ ทะเล้น และขี้เล่น ขอบอกเลยว่าพวกมันทำให้พวกมนุษย์หลายๆ คนถึงกับใจละลายกันมานักต่อนัก และในวันนี้เราจะพาคุณผู้ชมทุกท่านมารู้จักกับซุปตาร์แมวตัวใหม่ ที่ฉายแววความน่ารักและโดดเด่นกว่าแมวทั่วๆ ไป โดยมันมักจะชอบแลบลิ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งสร้างความน่ารักให้กับตัวมันขึ้นหลายเท่า ไม่เชื่อก็ลองดูเลย… น่ารักจริงๆ ซึ่งเจ้าเหมียวตัวสีน้ำตาลเข้มหน้าตาทะเล้นจากแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาตัวนี้ มีชื่อว่า Magoo นั่นเอง Magoo เจ้าเหมียวที่มักจะแลบลิ้นออกมาตลอดเวลา ทำให้ตัวของมันยิ่งน่ารักขึ้นเป็นทวีคูณ งานนี้มันเลยกลายเป็นเน็ตไอดอลที่โด่งดังในอินสตาแกรม แถมยังมีคนมาติดตามมันมากถึง 2 หมื่นกว่าคนเลยทีเดียว ธรรมดาที่ไหน!! และสาเหตุที่ทำให้ Magoo แมวพันธุ์ผสมวัย 2 ขวบตัวนี้ต้องแลบลิ้นออกมาตลอดเวลา ก็เพราะว่า มันมีปัญหาขากรรไกรหลุด และไม่สามารถเก็บลิ้นเอาไว้ในช่องปากตามปกติได้ ซึ่งปัญหาขากรรไกรหลุดในแมวแบบนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหารแล้ว ยังสามารถทำให้ฟันหลุดออกมาเองอีกด้วย น่าสงสารจัง!! แม้เอ็งจะมีปัญหาขากรรไกรหลุด แต่เอ็งก็น่ารักไม่เบาเลยนะ ส่วนใครอยากจะตามติดชีวิตของเจ้า Magoo…
-
ไปพบกับสุนัข 17 ตัวทีมีชีวิตที่ “น่าสงสาร” เสียจนอยากเข้าไปตบบ่าให้กำลังใจ
ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แต่ถ้านับเรื่องที่มีความรู้สึกไว ก็น่าจะเป็นสัตว์ แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดูเหล่าสุนัขที่มีสัญชาตญารพวกนี้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเป็นอย่างมาก จากสัตว์ที่แอ็กทีฟตลอดเวลา พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้ถึงกับหงอยเลยทีเดียว จะฮาแค่ไหน เราไปดูกันเลยดีกว่า 1. ทำหน้าเศร้าเชียวนะ 2. โหหห หมาสีรุ้ง 3. โถๆๆ อยากจะช่วยนะ แต่ขอฮาก่อน 4. แกปีนขึ้นไปได้ไงเนี่ย 5. รูปในตำนาน ปึก!! 6. ลงไม่ได้อ่ะดิ ตัวอ่อนเชียว 7. เดี๋ยวๆ เข้าไปได้ยังไง 8. ซนจนได้เรื่องเลยมั้ยล่ะ เหตุการณ์สดๆเลย 9. ออกยากเลยล่ะทีนี้ 10. เจอลวนลามแบบขัดขืนไม่ได้ 11. สงสัยต้องได้ซื้อบัวรดน้ำให้แล้วล่ะ 12. เฮ้ย เข้าไปได้ไงเนี่ย 13.…
-
ปาปารัสซี่แชะภาพลูกสาวของ Kourtney Kardashian ที่โดนประตูรถอัดหน้าเต็มๆ เห็นแล้วเจ็บแทนเลย
งานนี้ทำเอาหลายคนที่ได้เห็นจะต้องฮาปนสงสารหนูน้อย Penelope ลูกสาววัย 3 ขวบของ Kourtney Kardashian คนนี้อย่างแน่นอน เพราะจากภาพแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่คุณแม่ Kourtney กำลังเดินจูงมือลูกสาว อยู่บริเวณลานจอดรถที่ Malibu นั้น บังเอิ๊ญบังเอิญมีประตูรถคันนึงได้เปิดออกมาพอดี งานนี้หนูน้อยผู้โชคร้ายเลยโดนประตูอัดเข้าไปที่หน้าอย่างจัง โถๆๆๆ น่าสงสารจัง >< กำลังเดินอยู่ดีๆ แท้ๆ ปัง!! โอ้ววว เล่นเอาหนูน้อย Penelope ถึงกับหน้าหงายกันเลยทีเดียว เธอคงเจ็บน่าดูเลย คุณแม่รีบไปช่วยลูกสาวเร็วๆ เข้า ดูสิ…หนูน้อยหน้าหงายจะร้องไห้แล้ว โอ๋ๆๆๆ เห็นแล้วน่าสงสารจัง ยังดีนะที่หนูน้อยไม่เป็นอะไรมากๆ แต่คราวหน้าคราวหลัง เห็นทีคุณแม่ Kourtney ต้องระวังให้มากกว่านี้แล้วนะเหมียว หนูน้อยจะได้ไม่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์สุดซวยแบบนี้ ที่มา : extrasexual
-
น่าเห็นใจ!! 16 ภาพเจ้าตูบผู้น่าสงสาร ที่ถูกแมวอสรพิษ แย่งที่นอนไปครอบครองได้อย่างหน้าตาเฉย
แม้ว่าทาสทั้งหลาย มักจะมองว่าแมวเป็นสัตว์หน้าตาดี เรียบร้อย และซุกซนไปบ้าง แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ละว่า เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ นั้น มันสามารถแย่งทุกสิ่งบนโลกมนุษย์ไปได้ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ที่นอน ‘หมา’ และแล้ววันที่เจ้าหมาทั้งหลายไม่อยากให้มาถึงมันก็มาจนได้ เพราะเมื่อขบวนการแมวเหมียวผู้ไร้ซึ่งที่อยู่ จู่ๆ มันก็แอบเข้ามายึดครองที่นอนของพวกเจ้าตูบไป แถมยังนอนอย่างสบายใจ โดยที่ไม่ได้สำนึกสักนิดเลยว่า เห้ย!! นี่มันไม่ใช่ที่ของเรานะ นอนสบายเลยนะเจ้าเหมียว ตูนอนตรงนี้อยู่ดีๆ แต่แล้วจู่ๆ เจ้าแมวตัวดีมันก็มาแย่งไป คิดแล้วมันก็เศร้าใจ จะหาที่นอนใหม่ที่อบอุ่นภายในบ้านก็ไม่มีอีกแล้ว เจ้าเหมียวตัวแสบเอ็งกล้ามาแย่งที่นอนของเพื่อนข้า ก็ตรงนี้มันน่านอนนี่นา ขอเหมียวพักใจวันนึงจิ ที่อื่นมีเยอะแยะทำไมเอ็งต้องมานอนตรงนี้ ดูสิ…ดูมันมอง ทำอย่างกับที่ตรงนั้นเป็นของมันเพียงผู้เดียว เพราะข้าคือเหมียว แมวผู้ที่คิดจะครองโลก ตรงไหนที่ชอบ ขอบอกเลยว่าต้อง ‘ยึด’ น้องหมาเริ่มตีหน้าเศร้า เพราะกำลังโดนแย่งที่นอน เอ็งนี่มันร้ายกาจจริงๆ พวกแมว ส่วนผมโดนแมวมันไล่มานอนตรงนี้ T^T…
-
แก๊งวัยรุ่นคึกคะนอง จับหมาป่ามาทรมานอย่างโหดเหี้ยม ทั้งต่อยตี บีบคอและเอาบุหรี่ยัดจมูก
นี่คือคลิปวีดีโอสุดสะเทือนใจ ที่อาจจะทำให้คนรักสัตว์ทั้งหลายจะต้องน้ำตาตกในกันเป็นแถว เพราะเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยให้เห็นถึงคลิปวีดีโอของแก๊งวัยรุ่นคึกคะนองชาวมาซิโดเนีย ที่ได้จับหมาป่ามาทรมานอย่างเหี้ยมโหดเกินมนุษย์ ซึ่งในคลิปแสดงให้เห็นภาพของเจ้าหมาป่าที่น่าสงสาร กำลังถูกกลุ่มวัยรุ่นทรมานสารพัด โดยมันถูกจับมาผูกติดไว้กับหน้ารถ และถูกวัยรุ่นคนหนึ่งใช้หมัดต่อยที่หน้าของมันซ้ำหลายครั้ง จนมันมีอาการบาดเจ็บสาหัส โถ…เจ้าหมาป่าที่น่าสงสารคงจะเจ็บปวด และทรมานมากๆ ดูเหมือนว่าเรื่องราวมันยังคงไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะวัยรุ่นใจเหี้ยมคนเดิมได้ทำการบีบคอ และนำมวนบุหรี่ยัดใส่เข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้างของเจ้าหมาป่า อีกทั้งกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นที่ยืนรุมดู ต่างก็พากันหัวเราะชอบใจอีกด้วย สายตาของมันเหมือนกำลังร้องขอให้พวกมนุษย์ปล่อยมันไป และเมื่อกลุ่มนักคุ้มครองสิทธิสัตว์ได้เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าว พวกเขาต่างก็ออกมาประณามถึงการกระทำอันต่ำช้า และป่าเถื่อนของกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ เฮ้อ…จิตใจทำด้วยอะไรกันหนอ ถึงได้มารุมทำร้ายสัตว์ที่ไม่มีแม้แต่ทางสู้แบบนี้ ถึงอย่างไรเหมียวก็ต้องขอภาวนาให้กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ ถูกจับไปลงโทษให้โดยเร็วด้วยเถิด ที่มา : dailymail
-
เสือดาวตัวนี้ หัวติดคาหม้อนานถึง 6 ชั่วโมง หลังเอาหัวมุดเข้าไป แต่สุดท้ายเอาออกไม่ได้
เวลาที่เรานึกถึง ‘เสือ’ ส่วนใหญ่เราจะนึกถึงความดุร้าย ความน่ากลัว และความแกร่งของมันใช่ไหมละ แต่ภาพที่เหมียวจะพามาชมในวันนี้ เป็นภาพของเจ้าเสือสิ้นลายผู้น่าสงสาร ที่หัวของมันดันไปติดคาหม้อ แถมยังเอาออกไม่ได้แบบนี้ ความจริงแล้ว เจ้าเสือดาวผู้โชคร้ายตัวนี้มันกำลังมองหาน้ำดื่มในหมู่บ้านอินเดียเหนือ แต่ดันไปเจอหม้อใบหนึ่ง งานนี้มันเลยเอาหัวมุดเข้าไป แต่สุดท้ายหัวของมันก็ติดอยู่ในหม้อ เป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว มันเดินไปเดินมาในสภาพที่มีหม้อติดคาหัว ใกล้ๆ หมู่บ้าน แถมยังทำให้ชาวบ้านตื่นกลัวกันเป็นแถว ที่เจอเสือดาวหลุดออกมาจากป่าแบบนี้ แต่ด้วยความสงสารชาวบ้านก็ได้ช่วยกัน แจ้งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาช่วยเหลือ ก่อนที่จะส่งตัวมันกลับคืนสู่ผืนป่าไปในที่สุดยังไงละ ที่มา : Shazzy Mazzy AR3
-
17 ภาพเหล่านางแบบ ที่ต้องพลาดท่าเพราะ ‘ร้องเท้าส้นสูง’ เห็นแล้วทั้งสงสาร และเจ็บแทนจริงๆ
เหมียวเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ล้วนแต่เคยผิดพลาดกันทั้งนั้น และที่สำคัญความผิดพลาดของคนเราก็มักจะเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ ก็เหมือนกับนางแบบเหล่านี้ เมื่อพวกเธอต้องออกมาเดินแบบโชว์บนรันเวย์ สิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือ แฟชั่นเสื้อผ้าสวยๆ บวกกับรองเท้าส้นสูง ที่ดูสู๊งสูงเหลือเกิน จนบางครั้งรองเท้าส้นสูงที่พวกเธอใส่เดิน ก็ทำให้เกิดความหายนะได้ และทั้งหมดนี้คือภาพความผิดพลาดของเหล่านางแบบ ที่หกล้ม และพลาดท่าให้กับรองเท้าส้นสูงที่พวกเธอใส่ เหมียวก็ไม่เขาใจนะว่าพื้นมันลื่นหรือว่าอะไร แต่เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ ยังดีที่เธอทรงตัวเอาไว้ได้ แม้ว่าเธอจะพลาดท่าให้ส้นสูง แต่เธอก็ยังยิ้มได้ โอ้ววว สงสัยพื้นมันคงจะลื่นไปหน่อย เอาซะล้มไปเป็นท่าเลย ล้มแล้วลุก คือสปิริตของเหล่านางแบบ บางทีเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บแทนเหมือนกัน ถึงจะล้มไม่เป็นท่า แต่ก็ยังไหวน่า งานนี้ต้องขอปรบมือรัวๆ ให้กับเหล่านางแบบซะแล้ว เพราะถึงแม้ว่าเธอจะพลาดท่าเพราะส้นสูง แต่สปิริตของพวกเธอก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ที่มา : wittyfeed
-
สาวประเภทสอง ถูกกักตัวที่สนามบินจนตกเครื่อง หลังสแกนเจออัณฑะ แต่กลับถูกมองว่าเป็นระเบิด!!
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยถึงเรื่องราวสุดช้ำของ Shadi Petosky สาวประเภทสอง ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้ที่สนามบิน หลังจากที่ตรวจเจออัณฑะ แต่กลับถูกมองว่าเป็นวัตถุต้องสงสัยซะงั้น Shadi Petosky สาวประเภทสองได้เผยว่า ‘ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสแกนร่างกายของเธอ เขาก็พบว่าอวัยวะเพศของเธอดูผิดปกติ จึงทำให้เธอถูกกันตัวเธอออกมา แถมยังถูกพาตัวไปสอบสวนกว่า 40 นาที เพื่อตรวจสอบหาระเบิด จนทำให้เธอถึงกับตกเครื่อง’ Shadi ยืนยันแล้วยืนยันอีก ว่านี่มันคือลูกอัณฑะ แถมยังพยายามอธิบายว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง นอกจากนี้เธอยังได้ออกมาระบายเรื่องทั้งหมดผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ‘ฉับได้แต๊บอวัยวะเพศเอาไว้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายของฉัน เขาก็บอกว่าฉันมีวัตถุระเบิด’ งานนี้จึงทำให้เธอถามเจ้าหน้าที่กลับว่า ‘คุณได้รับการฝึกฝนเรื่องการแยกเพศมาหรือเปล่า’ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตอบกลับมาว่าเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไร แม้ว่าสุดท้ายเธอจะผ่านการตรวจสอบในครั้งนี้มาได้ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เธอเสียเวลา รวมถึงทำให้เธอต้องตกเครื่องอีกด้วย ที่มา : mirror
-
เมื่อศิลปินตัวน้อยสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนร่างกายน้องหมา เห็นแล้วถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
หากบ้านใครที่มีลูกเด็กเล็กแดง พร้อมกับเลี้ยงสัตว์สี่ขาน่ารักๆ อย่างมะหมาละก็ ระวังเอาไว้ให้ดี เพราะไม่แน่นะว่า วันดีคืนดีน้องหมาสุดที่รักของคุณ อาจจะตกเป็นเป้าสายตาของศิลปินตัวน้อยๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านของคุณก็เป็นได้ และภาพเหล่านี้นี่แหละ ที่จะมาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า การปล่อยน้องหมาไว้เพียงลำพัง ไม่เพียงแต่จะทำให้มันเหงาเท่านั้น แต่มันอาจจะกลายเป็นเหยื่อผู้น่าสงสารของศิลปินตัวน้อยแบบนี้… โถๆๆๆ เจ้าหมาผู้น่าสงสาร โดนเล่นงานซะเต็มเปาเลย พวกมนุษย์จิ๋วนี่มันช่างร้ายกาจยิ่งนัก กล้าทำกับน้องหมาได้ลงคอ ดูสิ…หงอยเชียว มีการเขียนคำว่า ‘รัก’ ทิ้งไว้ให้ซะด้วย แล้วน้องหมาจะรักตอบมั้ยน้า ฮ่าๆ โอ๋ๆๆๆ เจ้าหมา เห็นทีคงเข็ด และไม่อยากเข้าใกล้มนุษย์จิ๋วไปอีกนานเลยนะเนี่ย ก็แน่ละสิ!! เป็นเหมียวก็คงไม่อยากเล่นกับพวกมนุษย์จิ๋วแน่ๆ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของพวกมันก็เป็นได้ ที่มา : tt.mop
-
น่ารักปนฮา!! 23 ภาพหมาแมวที่แสดงท่าทางกลัวสุดขีด เมื่อมันเจอ ‘หมอ’ (ถึงกับซ่าส์ไม่ออกเลยนะ)
หลายคนอาจจะคิดว่าหมากับแมวมักจะไม่กลัวอะไร เพราะพวกมันชอบสร้างแต่วีรกรรมแสบๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอ แต่ความจริงแล้วอีกด้านหนึ่งของพวกมัน ใครจะรู้ละว่ามันก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ เอ…แล้วอะไรกันละ ที่ทำให้พวกมันกลัวสุดขีด!! และภาพเหล่านี้นี่เอง ที่จะมาทำให้ทาสหมาทาสแมวทุกคนได้เห็นว่า สัตว์เลี้ยงจอมป่วนของพวกคุณนั้นกลัว ‘หมอ’ เป็นที่สุด บางตัวก็กลัวจนตัวสั่น บางตัวก็ทำหน้าตาน่าสงสารไม่อยากให้พาไปหาหมอ โอ๊ยตาย!! ทีเรื่องอื่นทำเป็นซ่าส์ พอเจอหมอทีไรทำเป็นหงอยทุกที พวกมนุษย์ เอ็งจะพาข้าไปหาหมออีกแล้วหรอ โถ่ๆๆๆ เจ้าหมา ดูกลัวหมอสุดขีด อยากจะออกไปจากที่นี่ใจจะขาด ไม่ต้องกลัวหรอกนะเจ้าหมา หมอไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด น่ารักน่าเอ็นดูจังเลย ฮ่าๆๆๆ หลบซะ!! ท่าทางคงกลัวหมอมากจริงๆ ให้ตายยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด ทีเรื่องอื่นไม่เห็นกลัว พามาเจอหมอทีไรหลบตลอด 555 ถ้าเอ็งจะกลัวขนาดนี้ หมอมายัง!! โอ๊ยยยยย ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี ฮ่าๆ เหมียวกำลังเผชิญกับหมอสินะ เห็นหมอแล้วขนแมวตั้งเลยครัช หงอยเลยสิวันนี้…
-
ฉลามตัวนี้ ถูกวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 ตัวไล่เขมือบ สุดท้ายมันจึงยอมกระโดดขึ้นบนโขดหินเพื่อหนีตาย
‘ฉลาม’ แค่พูดชื่อขึ้นมาหลายคนก็กลัวกันแล้วใช่ไหมละ เพราะ ‘ฉลาม’ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและน่ากลัว แต่มาคราวนี้ดูเหมือนเจ้าฉลามจะเป็นฝ่ายน่าสงสารเสียมากกว่า เพราะเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยคลิปวีดีโอของเจ้าฉลามตัวหนึ่ง ที่กำลังถูกวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 ตัวไล่ล่า เพื่อกินเป็นอาหาร งานนี้เจ้าฉลามจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นบนโขดหินริมทะเล เพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งคลิปวีดีโอนี้ถูกถ่ายขึ้นโดย Dr. Ingrid Visser ผู้เชี่ยวชาญด้านวาฬเพชฌฆาต กับเพื่อนตากล้องชาวญี่ปุ่นกำลังถ่ายทำวิดีโอวาฬเพชฌฆาตกำลังล่าฉลามและปลากระเบนมาเป็นเหยื่อ แต่จู่ๆ พวกเขาก็เห็นปลาฉลามตัวหนึ่ง กำลังว่ายน้ำหนีฝูงวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 แถมยังกระโดดขึ้นมานอนเกยตื้นบนโขดหินแข็งๆ หินริมทะเล เพื่อหวังรอดตายจากฝูงวาฬ เมื่อ Dr. Ingrid และเพื่อนตากล้องเห็นดังนั้น พวกเขาก็รีบให้ความช่วยเหลือเจ้าฉลามผู้โชคร้าย โดยการลากมันกลับลงทะเลทันที จนทำให้มันรีบว่ายน้ำหนีฝูงวาฬเพชฌฆาตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าฉลามตัวนี้จะสามารถรอดชีวิตกลับไปได้ แต่เพื่อนๆ ของมันอีก 5 ตัว ต้องกลายไปเป็นเหยื่อของฝูงวาฬเพชฌฆาตไปซะแล้ว ที่มา…
-
น่ารักปนฮา!! พาชมคลิปเด็กน้อยไรเดียงสา กรี๊ดสนั่นลั่นซอย เพียงเพราะกลัว ‘เงา’ ของตัวเอง
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ metro ได้เผยคลิปวีดีโอสั้นๆ ของหนูน้อยจากประเทศไทยคนหนึ่ง ที่กำลังเกิดอาการกลัวสุดขีด เมื่อเขาเห็นได้เห็น ‘เงา’ ของตัวเองบนพื้น งานนี้เลยทำให้หนูน้อยถึงกับกรี๊ดสนั่นลั่นซอยกันเลยทีเดียว เจ้าหนูกำลังวิ่งหนีเงาตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้นสักทีนะเนี่ย โถๆๆ หนูน้อยคงกลัวเงาตัวเองสุดขีด แหม!! ดูคลิปแล้วก็ทั้งฮา ทั้งสงสารเด็กคนนี้จริงๆ คงจะกลัวเงามากๆ เลยสิท่า ถึงขั้นกรี๊ดลั่นบ้านเลย ก็แน่ละสิ!! เงามันดำทะมึนขนาดนี้ เด็กก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่มา : metro
-
เซอร์ไพรส์!! สองหนุ่มชาวอเมริกันชวนกันไปตกปลา แต่สุดท้ายกลับได้ ‘ลูกแมวน้อย’ มาถึง 2 ตัว
เวลาที่เราออกไปตกปลา แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนคาดหวังว่าจะได้มาคือ เจ้าปลาตัวโตๆ กันใช่ไหมละ แต่สำหรับชายนักตกปลาสองคน ที่ได้มาล่องเรืออยู่กลางแม่น้ำวอริเออร์ ในรัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา กลับเจอบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกเขา และคนดูหลายคนคิดไม่ถึง นั่นก็คือ…แทนที่จะได้ปลา พวกเขากลับเจอลูกแมวตัวน้อยที่กำลังว่ายน้ำมาที่เรือของพวกเขานั่นเอง โอ๊ะโอ…พวกเขาเจออะไรบางอย่าง นั่นมันเจ้าเหมียวตัวน้อยนี่นา เป็นไงมาไงละเนี่ย ถึงมาโผล่ที่นี่ได้ . เอ๊ะ!! ดูเหมือนจะมีสิ่งผิดปกติบางอย่างลอยมาอีกแล้ว อ้าว!! เจ้าเหมียวน้อยอีก 1 ตัวนี่นา แถมยังส่งร้องเมี๊ยวๆ ได้น่าเอ็นดูจริงๆ งานนี้ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เจ้าแมวทั้งสองตัวมาติดในที่แห่งนี้ได้อย่างไร แถมยังดูเหมือนว่ามันกำลังขอความช่วยเหลือจากพวกเขาอีกด้วย เรียกได้ว่าเจ้าลูกแมวน้อยสองตัว โชคดีสุดๆ แล้ว ที่รับความช่วยเหลือจากชายใจดีสองคนนี้ ส่วนใครที่เป็นห่วง 2 แมวน้อย ก็ไม่ต้องกังวลไปนะจ๊ะ เพราะมันปลอดภัย แถมยังมีบ้านที่แสนอบอุ่นอยู่เรียบร้อยแล้วจ้า และหากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเจ้าแมวน้อย 2 ตัวนี้ ก็อย่าลืมกดไลค์ และกดแชร์ ส่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ…
-
สะเทือนใจ!! ชาวไซบีเรียตัด ‘เขากวาง’ เพื่อนำเลือดไปทำยาบำรุง เห็นแล้วสงสารจริงๆ
เหมียวว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดบนโลกใบนี้ อาจไม่ใช่ผี หรือสัตว์ที่ดุร้าย แต่เป็นพวกมนุษย์นั่นแหละที่น่ากลัว และโหดร้ายที่สุด เพราะมนุษย์สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่า การล่า การทำลายล้าง และอีกมากมาย ซึ่งในวันนี้เหมียวจะขอมานำเสนอภาพเบื้องหลังอันโหดร้าย ที่พวกมนุษย์ได้ทำกับสัตว์ที่ไม่มีทางสู้อย่าง ‘กวาง’ นั่นก็คือ การตัดเขา และนำเลือดของมันไปทำยาบำรุงเลือดนั่นเอง เพื่อนๆ คงจะรู้กันดีอยู่แล้วใช่ไหมละว่า การล่าสัตว์เพื่อนำงา เขี้ยว หรือเขาของมัน มาทำเครื่องประดับนั้น ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อสัตว์มากที่สุด ซึ่งในบางประเทศก็แอบลักลอบการล่าสัตว์ ส่วนบางประเทศก็มีการล่าสัตว์กันอย่างเปิดเผย อย่างเช่นประเทศไซบีเรีย พวกเขามักจะล่ากวางป่า เพื่อนำเลือดของมันมาทำยาบำรุงเลือดให้กับพวกมนุษย์ ส่วนเขาก็ตัดไปทำเป็นเครื่องประดับยังไงละเหมียว เรียกได้ว่าการนำเลือดของกวางมาทำเป็นยาบำรุงนั้น กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยพวกมนุษย์จะนำเลือดของมันมาอาบ เพราะเชื่อว่าเลือดของกวางจะช่วยชะลอความแก่ และสามารถรักษาผิวได้ ส่วนเขาของมันก็ถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ โถ่!! เจ้ากวางที่น่าสงสาร ถูกมนุษย์ตัดเขาในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คงจะเจ็บปวด และทรมานน่าดู เห็นแล้วมันน่าสงสารจริงๆ พวกมนุษย์ทำไมถึงโหดร้ายกันขนาดนี้ ทำกับสัตว์ที่ไม่มีทางสู้อย่างเจ้ากวางได้ลงคอ…
-
ซวยสุดๆ !! ฝูงหมาป่าล่าเหยื่อได้ แต่สุดท้ายก็ถูกพี่เข้ขาใหญ่ แย่งไปกินหน้าตาเฉย (มีคลิป)
โถๆๆๆ งานนี้ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี เมื่อฝูงหมาป่าช่วยกันล่าเหยื่อที่เป็นอิมพาลาตัวอ้วนได้ หวังจะเอากินร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อยซะหน่อย แต่สุดท้ายพวกมันก็กลับแห้วซะงั้น… เพราะจู่ๆ พี่เข้ตัวใหญ่ก็เดินมางาบเหยื่อของพวกมันไปกินแบบหน้าตาเฉย แถมไม่แคร์ความรู้สึกของพวกมันเลยสักนิด งานนี้ทำเอาฝูงหมาป่ากลับมองตาละห้อย เพราะเหยื่อที่หาได้แทบตาย กลับจากไปอย่างไม่มีวันกลับ กำลังอร่อยเลย พี่เข้มาแล้ววววว ชมคลิปของพวกมันกันเลย ฮ่าๆ อะไรมันซวยขนาดนี้เนี่ยเจ้าหมาป่า เหมียวก็เข้าใจนะว่า ความรู้สึกเวลาโดนแย่งของกินมันเป็นยังไง แต่ครั้งหน้าเอ็งก็เลือกที่กินให้มันมิดชิดหน่อย กินล่อหน้าล่อตาพี่เข้แบบนี้ พี่แกคงหมั่นไส้เข้าให้ เลยเดินมาแย่งไปแบบหน้าตาเฉย >< ที่มา : Animatedcams
-
ครอบครัวใจบุญรับเจ้า ‘Lisa’ สุนัขที่พิการไปเลี้ยง แถมยังตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า ‘Lucky’ อีกด้วย
ส่วนใหญ่สัตว์ที่พิการทั้งหลาย มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ และไม่ค่อยมีมนุษย์คนไหนอยากรับพวกมันไปเลี้ยงสักเท่าไหร่ เพราะนั่นอาจจะไปเพิ่มภาระในการเลี้ยงดูสำหรับพวกเขาก็เป็นได้ ก็เหมือนกับเจ้า Lisa หมาน้อยวัย 10 เดือน ที่อาศัยอยู่ ณ ศูนย์พักพิงสุนัขแห่งหนึ่ง ในแคลิฟอเนียร์ตัวนี้ ที่ไม่มีใครสนใจอยากจะรับมันไปเลี้ยงเช่นกัน เพราะมันเป็นหมาพิการที่มีแผลเป็นบนใบหน้ามากมาย แถมยังมีอาการเปลือกตาอักเสบอีกด้วย โถๆๆ เจ้าหมาน้อยช่างน่าสงสารจริงๆ เปลือกตาของมันอักเสบ และต้องได้รับการผ่าตัด ถึงเจ้า Lisa จะมีใบหน้าที่แปลกประหลาด แต่ดูๆ ไป มันก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ในที่สุด…สวรรค์ก็ทรงโปรดส่ง Christine Doblar และครอบครัวมารับเจ้า Lisa ไปอยู่ด้วย ซึ่งพวกเขาดูเหมือนจะชอบมันมากๆ เลยละ จริงๆ แล้วครอบครัวของ Christine ก็มองหาสุนัขตัวอื่นเหมือนกัน แต่พวกเขากลับชองเจ้า Lisa มากที่สุด และที่สำคัญพวกเขาก็ได้ตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า ‘Lucky’ ที่แปลว่า ‘โชคดี’ อีกด้วย เย้ๆๆๆ เจ้า Lisa…
-
ชมคลิปวิธีการย้อมสี ‘ลูกเจี๊ยบ’ ของคนอินเดีย ขอบอกเลยว่าเห็นแล้วสงสารมากๆ
เหมียวเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน คงเคยเห็นลูกเจี๊ยบย้อมสีที่มีขายตามทาง หรือตามตลาดทั่วๆ ไปกันมาบ้างแล้ว ซึ่งลูกเจี๊ยบที่ถูกนำมาย้อมสีนั้น จะมีสีสันที่สวยงาม และเป็นที่ดึงดูดใจให้คนมาซื้อ โดยเฉพาะเด็กๆ แต่ใครจะรู้ละว่า เบื้องหลังการย้อมสีลูกเจี๊ยบเหล่านั้น มันไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายคนคิดเอาไว้ แถมยังเป็นการทรมานสัตว์อีกด้วย และในวันนี้เหมียวจึงได้นำคลิปวีดีโอ วิธีการย้อมสีลูกเจี๊ยบของชาวอินเดียมาให้ได้ชมกัน โดยขั้นตอนการทำนั้น ขอบอกเลยว่าโหดมากๆ และดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้สงสาร และปราณีลูกเจี๊ยบเหล่านั้นแม้แต่น้อย ลูกเจี๊ยบสีสวยที่เรามักเห็นกัน ถึงมันจะดูน่ารัก แต่เบื้องหลังการทำมันช่างโหดร้ายซะเหลือเกิน ใครที่มีลูกมีหลาน ก็อย่าซื้อให้เด็กๆ เล่นละ เพราะมันเหมือนเป็นการสนับสนุนให้คนขายทำออกมาเรื่อยๆ แถมยังเป็นการทรมานสัตว์อีกด้วยนะจ๊ะ ที่มา : Piyachart Chansawang
-
สงสารจุง!! 10 ภาพน้องหมาเคราะห์ร้าย โดน ‘เม่น’ สลัดหนามใส่ จนหน้าและตัวพรุนไปหมด
หากใครที่เคยโดนเม่นสลัดขนใส่ เหมียวเชื่อว่าคุณจะต้องจำความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะมันจะต้องเจ็บปวด และทรมานมากๆ เลยใช่ไหมละ แต่ถ้าสัตว์น่ารักๆ อย่างน้องหมาโดนเจ้าเม่นสลัดหนามใส่บ้าง มันจะเป็นอย่างไรนะ ในที่สุดความโชคร้ายก็มาถึง เพราะเหล่าน้องหมาถูกเจ้าเม่นเล่นงานสลัดหนามใส่จนเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด งานนี้เหล่าน้องหมาถึงกับซ่าส์ไม่ออกกันเลยทีเดียว เห็นทีมันคงจะเข็ดไปอีกนาน และไม่กล้าเข้าใกล้เม่นตลอดชีวิตแน่ แค่เห็นหนามแหลมๆ ของมัน เหมียวก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้วจ้า น่าสงสารจัง คงเจ็บน่าดูเลยเจ้าตูบ เหมียวนี่เจ็บแทนเลย ขุ่นพระ!! นี่เอ็งโดนโจมตีเยอะขนาดนี้เลยหรอ บอกแล้วว่าอย่าไปอยู่ใกล้เม่น เป็นไงละ!! โดนจนได้ โชคดีอยู่นะเนี่ย ที่ไม่โดนเยอะเหมือนตัวอื่น เม่นใจร้าย ทำน้องหมาได้ลงคอ น่าเอ็นดูแท้ หงอยเลย ถ้ารู้ว่าเม่นมันโหดร้ายขนาดนี้ เค้าจะไม่อยู่ใกล้มันเด็ดขาด TT โถๆๆ น้องหมาช่างน่าสงสารเสียจริง โดนเจ้าเม่นเล่นงานซะจนไม่เหลือชิ้นดี คราวหน้าก็อย่าไปเข้าใกล้มันอีกละ ไม่งั้นเอ็งได้เจอดีรอบสองแน่ ที่มา : lolboom
-
ชมคลิปช้างน้อย กำลังถูกฝูงสิงโตไล่กัดกินอย่างหิวโหย แต่สุดท้ายมันกลับเป็นฝ่ายไล่สิงโตซะงั้น!!
นี่คือคลิปวีดีโอของลูกช้างตัวหนึ่ง ที่กำลังถูกฝูงสิงโตถึง 14 ตัว รุมกัดกินอย่างหิวโหย แต่เจ้าช้างกลับสู้สุดชีวิต และพยายามเอาตัวรอดจากฝูงสิงโตผู้ดุร้าย งานนี้ดูเหมือนว่าเจ้าสิงโตทั้งหลายคงจะไม่ได้กินช้างน้อยง่ายๆ แน่ โถๆๆๆ น่าสงสารจริงๆ พยายามเข้าเจ้าช้าง พวกเราเอาใจช่วยเอ็งอยู่ ว่าแต่…เจ้าช้างจะเอาชีวิดรอดจากฝูงสิงโตได้อย่างไร เรามาลุ้นไปพร้อมกันเลย เรียกได้ว่ากว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดจากฝูงสิงโตมาได้ ทำเอาคนดูถึงกับลุ้นกันใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าเจ้าช้างโชคดีสุดๆ ที่สามารถพ้นจากเขี้ยวอันแสนคมของฝูงสิงโตได้ ที่มา : CatersNewsAgency
-
สงสารปนฮา!! รวม 16 ภาพใบหน้าของคนที่โดนผึ้ง ‘ต่อย’ เห็นแล้วเจ็บแทนจริงๆ
หากจะพูดถึง ‘ผึ้ง’ แน่นอนว่ามันเป็นสัตว์ที่พวกมนุษย์ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปยุ่งสักเท่าไหร่ เพราะถ้าหากเผลอเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปยุ่งกับมันล่ะก็ ระวังเถอะ!! คุณอาจจะโดนมันต่อยได้ และถ้าหากใครที่โดนมันต่อยล่ะก็ สิ่งที่คุณจะได้กลับมาก็คือ อาการปวด บวม แดง และคัน เรียกได้ว่ามันเป็นอะไรที่ทรมานสุดๆ แน่ และในวันนี้เหมียวจึงได้นำภาพของบุคคลที่โดนผึ้งต่อยมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เรียกได้ว่าสภาพใบหน้าของแต่ละคนนั้น ถูกผึ้งต่อยจนบวมแดง แทบดูไม่ได้กันเลยทีเดียว งานนี้ใครไม่เจอกับตัวคงไม่เข้าใจหรอกว่า เวลาที่โดนผึ้งต่อยมันเป็นยังไง แต่เห็นแล้วเจ็บแทนจริงๆ อ๋อย!! น่าเอ็นดูแท้ เจ็บนี้อีกนานนนนน หน้าบวมเลยอ่ะตัวเธอ เย้ยยย!! อีกนานมั้ยเนี่ยกว่าจะหาย บางทีก็น่ารักดีนะ อิอิ!! คงปวดมากละสิท่า ยังยิ้มได้ แค่นี้จิ๊บๆ อกอิแป้นจะแตก!! เป็นถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ คางเบี้ยวเลยฮะ เห็นแล้วรู้สึกกลัวผึ้งขึ้นมาทันทีเลย ทรมานจริงๆ เดี๋ยวก็หายนะ สู้ๆ ผึ้งบ้า…ต่อยฉันทำไม เรียกได้ว่าแต่ละคนหมดสวยหมดหล่อ หน้าบวมเต่งแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิมกันเลยทีเดียว เห็นแบบนี้เหมียวนี่กลัวผึ้งขึ้นมาทันทีเลย จึ๋ยยยยย!! ที่มา : caliser
-
15 ทรงผมแปลกๆ ของหมาและแมว ที่มันอยากบอกเจ้าของเหลือเกินว่า…ไม่คิดจะถามกันหน่อยหรอ
พวกมนุษย์ที่ชอบพาหมาและแมวไปตัดขนทรงแปลกๆ รู้บ้างหรือไม่ว่า สิ่งที่พวกคุณมองว่ามันฮา แปลก และดูตลกนั้น บางทีเหล่าน้องหมา และน้องแมว มันอาจจะไม่ชอบทรงเหล่านั้นก็เป็นได้ ส่วนทั้งหมดนี้คือภาพของน้องหมาและแมว กับทรงผมสุดแปลกที่มันอาจจะไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ และถ้าหากพูดได้มันอยากจะบอกเจ้าของเหลือเกินว่า ไม่คิดจะถามกันหน่อยหรอ เอาล่ะ!! เรามาดูกัน ว่าทรงผมเหล่านั้นจะออกมาเป็นแบบไหนบ้าง เค้าดูตลกมากใช่มั้ย TT นี่มันแกล้งกันชัดๆ ว๊ายยย นี่มันตัวอะไรกัน อายชะมัด ทรงอะไรก็ไม่รู้ เปลี่ยนตูเป็นตัวอะไรฟร่ะ ไม่กล้าไปสู้หน้าใครแล้ว แหม!! ไม่เอาออกให้หมดเลยล่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว นั่งหงอยเชียว ไม่ชอบทรงใหม่หรอ เอาขนตูคืนมาาาา อ๋อยยย น่าเอ็นดู กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วเนี่ยเจ้าหมา ดูไม่น่าเกรงขามเลยตู นี่คือขนทั้งหมดของเค้าหรอ เยอะจุง!! ขอเวลาทำใจแปบนะ ทำไมถึงทำกับฉันได้…
-
เจ้าลิงอุรังอุตังตัวน้อย ‘ใจสลาย’ หลังจากที่แม่ของมันถูกฆ่า แถมยังตรอมใจหนัก ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
ช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าจริงๆ สำหรับเรื่องราวของเจ้า Udin ลูกลิงอุรังอุตังตัวน้อย ที่ต้องสูญเสียแม่อันสุดที่รักของมันไปจากการถูกแทงหรือถูกยิงตาย ซึ่งทำให้เจ้า Udin ถึงกับตรอมใจ และไม่ยอมกินข้าวกินน้ำกันเลยทีเดียว โถ…น่าสงสารจริงๆ ใบหน้า และแววตาอันสุดเศร้าของมัน ทำเอาคนรักสัตว์ทั้งหลายถึงกับใจสลายแทนเลยนะเนี่ย TT หลังจากที่แม่ของมันถูกฆ่าตาย เจ้า Udin ตัวน้อย ก็ถูกขายให้กับชาวสวน โดยเขาได้จับมันไปเป็นสัตว์เลี้ยงโดยให้มันอยู่ในกรงเล็กๆ ยังไงล่ะเหมียว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จาก IAR (หน่วยช่วยเหลือสัตว์) ได้พบมัน พวกเขาก็ทำการช่วยเหลือเจ้า Udin ตัวน้อย และนำตัวมันไปยังศูนย์ช่วยเหลืออุรังอุตังในบอร์เนียว ถือว่าเป็นโชคดีของแกแล้วนะเจ้า Udin ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกอาการของมันว่า เจ้า Udin อยู่ในสภาพที่โศกเศร้า ไม่ยอมกินน้ำ และอาหาร แถมยังพยายามที่จะตายหลายครั้งอีกด้วย และแน่นอนว่าพวกเขาไม่อาจทนเห็นมันอยู่ในสภาพนี้ได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามช่วยกันฟื้นฟูสภาพจิตใจของมัน และคอยดูแลมันอย่างใกล้ชิด แถมยังให้สัตวแพทย์พามันไปนอนด้วย เพื่อทำให้มันรู้สึกเหมือนตอนที่มันยังมีแม่อยู่ยังไงล่ะ และในตอนนี้อาการของเจ้า Udin…
-
ฮาโพดๆ!! มาดูสีหน้าของเหล่าหมา เมื่อได้รู้ความจริงว่า…มันกำลังจะถูกพาไปหา ‘หมอ’
ขึ้นชื่อว่าเป็นหมา แน่นอนว่าย่อมไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่หากเหล่าม่ะหมารู้เข้า มันอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และเรื่องที่ว่าก็คือการไปหาหมอนั่นเอง และที่สำคัญพอมันรู้ว่าเจ้าของกำลังจะพาไปหาหมอเท่านั้นแหละ มันรีบทำหน้าทำตาน่าสงสารวิงวอนขอร้องไม่ให้พาไปหาหมอซะด้วย งานนี้ภาพจะออกมาฮาขนาดไหน เพื่อนๆ ลองดูเองก็แล้วกัน พาหนูกลับบ้านที นี่เราต้องไปจริงๆ หรอเนี่ย กลัวจนตัวสั่นไปหมด ทำมาเป็นนิ่ง ที่จริงโคตรกลัวเลยดิ เจ้านายจะพาเราไปไหนหรอบี1 >< เดี๋ยวเอ็งก็รู้เองน่าบี2 ถึงขั้นฉุดกระชากลากกันเลยทีเดียว โชคดีว่ะเพื่อน ข้าเข้าใจความรู้สึกนั้นดี หาาาา ตัวจะพาเค้าไปไหนนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองแหละ หลอกตูมาชัดๆ ไม่เป็นไรนะ เราอยู่ข้างๆ นายแล้ว เค้าอยากกลับบ้าน นี่เอ็งยังมีหน้ามายิ้มอีกหรอ หรือเอ็งไม่รู้ว่าเขากำลังพาเราไปไหน ไม่ชอบหมอเอาซะเลย พอรู้ว่าพาไปหาหมอ ทำหน้าเศร้าเลยนะ ขอเวลาทำใจแปบ หือออออ…
-
20 ภาพสัตว์เลี้ยงกับการทำหน้าตาอ้อนวอน ที่อยากให้เจ้าของรู้ว่า…เค้าขอไปเที่ยวด้วยได้ป่ะ!!
เมื่อคุณกำลังแพ็คกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยว คุณเคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่า หมาแมวของคุณมีท่าทางคล้ายกับจะสื่อให้รู้ว่า พวกมันก็อยากจะไปเที่ยวกับคุณเหลือเกิน งานนี้จะใจอ่อนยอมให้ไปด้วยดีไหมน้า และนี่คือ 20 ภาพของสัตว์เลี้ยงขี้อ้อน ที่พยายามทำหน้าตาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเจ้าของ เพื่อต้องการไปเที่ยวด้วย โอ๊ยตายน่ารักขนาดนี้เจ้าของคงยอมให้พวกมันไปด้วยแน่ๆ แล้วถ้าเป็นคุณ…คุณจะยอมให้พวกมันไปด้วยหรือเปล่า ทำมาเป็นตีหน้าเศร้า เมี๊ยวๆๆๆๆ จะไปเที่ยว จะไปเที่ยว หงอยเชียว อยากไปเที่ยวใช่ไหมล่ะฮ่าๆ พร้อมแล้ววววว ขอไปด้วยนะนะนะนะ ถ้าไม่ให้ไป จะไม่ออกไปจากกระเป๋าแน่ๆ นี่ก็อยากไปเที่ยวซะเหลือเกิน จะใจอ่อนยอมให้ไปด้วยดีมั้ยน้า หน้าตาน่าสงสารจริงๆ เกะกะจริงๆ ฮ่าๆ ขอเค้าไปด้วยนะ ถ้าให้ไปเที่ยว เค้าจะไม่ซนอีกเลย เกาะไม่ปล่อยเลย กลัวไม่ได้ไปหรือไงเหมียว อ่ะๆ ยอมให้ไปด้วยก็ได้ น่าสงสารเชียว เจ้าพวกนี้ขี้อ้อนจริงๆ อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียว ขอไปด้วยได้ไหมงับ…
-
Taylor Swift บริจาคเงินกว่า 1.6 ล้านบาทให้กับเด็กป่วย ‘ลูคีเมีย’ ที่ไปดูคอนเสิร์ตของเธอไม่ได้
เรียกได้ว่างดงามทั้งหน้าตา และจิตใจจริงๆ สำหรับนักร้องสาวสุดฮอตอย่าง Taylor Swift ที่ล่าสุดเธอเพิ่งได้ทำการบริจาคเงินเป็นจำนวน $50,000 หรือราวๆ 1.6 ล้านบาทให้กับหนูน้อยวัย 11 ปี ที่ป่วยเป็นลูคีเมีย และไม่สามารถเดินทางไปดูคอนเสิร์ตของเธอได้ ซึ่งหนูน้อยที่น่าสงสารคนนี้ มีชื่อว่า Naomi Oakes เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของ Taylor Swift ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และจะได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลยาวนาน 6-9 เดือน ซึ่งถูกถ่ายลงวีดีโอและแชร์กันทั่วในโลกสังคมออนไลน์ เมื่อ Taylor ได้ทราบเรื่องราวของแฟนคลับตัวน้อยๆ ของเธอ เธอจึงได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาลก้อนนี้ให้กับมูลนิธิเด็ก GoFundMe หลังจากที่เธอผิดหวังจากข่าวเรื่องแฟนคลับตัวน้อยของเธอคนนี้จะไม่สามารถเข้ามาชมคอนเสิร์ตของเธอได้ที่ Phoenix, Arizona ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้านี้ Taylor ได้เขียนลงบนหน้าเวปเพจว่า “ถึง Naomi คนสวยและกล้าหาญ ฉันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เธอจะไม่สามารถมาร่วมคอนเสิร์ตของฉันได้ แต่ก็อย่าลืมว่ามันคงยังมีครั้งหน้าเสมอ” เรียกได้ว่าช่างเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ เหมียวนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Taylor Swift ถึงเป็นนักร้องในดวงใจของใครหลายๆ คน ก็เพราะว่าเธอมีจิตใจที่งดงามแบบนี้ยังไงล่ะ…
-
หนูน้อยคนนี้สงสารเจ้าสัตว์ที่ถูกจับมาทำอาหาร ดังนั้นเธอจึงร้องไห้ออกมาด้วยความน่าเอ็นดู
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอน่ารักๆ ของเด็กน้อยไร้เดียงสาคนหนึ่ง ที่กำลังทานอาหารเย็นกับคุณพ่อของเธอ แต่แล้วเรื่องราวน่ารักๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ เธอก็ดันร้องไห้ออกมาซะงั้น แต่เอ…มันเรื่องอะไรน้าที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ได้น่าเอ็นดูถึงขนาดนี้ แต่ก่อนที่เราจะเฉลยว่าเธอร้องไห้เพราะอะไร เรามาดูคลิปน่ารักๆ ของเธอกันเลยดีกว่า และสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับร้องไห้โฮออกมาก็คือ เธอสงสารเจ้าสัตว์ทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหารนั่นเอง แถมยังไม่อยากจะกินเนื้อสัตว์ และไม่สามารถทนเห็นสัตว์เหล่านั้นถูกนำมาสับเป็นชิ้นๆ อีกด้วย สาวน้อยที่น่าสงสารร้องไห้ออกมาเพราะไม่อยากเห็นสัตว์ถูกฆ่า งานนี้พ่อของเธอจึงได้อธิบายให้เธอฟังว่า คนที่ฆ่าสัตว์เหล่านั้น คือเกษตรกรที่เลี้ยงปศุสัตว์ไว้ขายนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าสาวน้อยจะยังไม่หยุด แถมเธอยังพูดต่อไปเรื่อยๆ ว่าถ้าหากฆ่าพวกมันต่อไป อีกหน่อยก็ไม่มีสัตว์อีกแล้ว โถๆๆๆๆ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงๆ ที่มา : liveleak
-
คุณแม่ชาวอังกฤษลดน้ำหนักได้ถึง 60 กิโลกรัม แต่สุดท้ายร่างของเธอกลับ ‘พัง’ จนดูไม่ได้
ความอ้วน เป็นปัญหาระดับชาติสำหรับสาวๆ จริงๆ เพราะความอ้วนทำให้สาวๆ ดูไม่มั่นใจ ใส่อะไรก็ไม่สวย แถมสาวๆ บางคนก็พยายามลดความอ้วนแบบผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินยาลดความอ้วน หรือการอดอาหาร และในวันนี้เราจะขอมานำเสนอเรื่องราวของ Kristina Miles คุณแม่ลูกสามชาวอังกฤษท่านหนึ่ง ที่มีรูปร่างใหญ่ผิดปกติมากกว่าผู้หญิงทั่วไป แถมยังมีน้ำหนักตัวถึง 120 กิโลกรัมอีกด้วย โดยคุณแม่ท่านนี้กำลังจะเตรียมตัวแต่งงานกับสามี โดยมีลูกๆ ของเธอมาร่วมงานด้วย แต่ทว่า…การที่มีรูปร่างที่อ้วนเกินขนาดของเธอ จึงทำให้เธอไม่สามารถหาชุดแต่งงานที่เข้ากับเธอได้ ดังนั้นเธอจึงทำการลดน้ำหนักโดยการอดอาหาร และออกกำลังกายอย่างหนัก จนน้ำหนักที่มากถึง 120 กิโลกรัม เธอสามารถลดลงมาเหลือเพียงแค่ 57 กิโลกรัมเท่านั้น แต่การลดน้ำหนักได้กว่า 60 กิโลกรัมนี้ มันไม่ได้ทำให้เธอดีใจเลยสักนิด แต่กลับทำให้เธอต้องรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม เพราะผิวหนังหน้าท้อง และผิวหนังส่วนอื่นๆ ของเธอ กลับห้อยและหย่อนยานเหมือนคนแก่เลยล่ะ แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในครั้งนี้ มันยิ่งทำให้ชีวิตของเธอแย่ลง แถมยังทำให้เธอขาดความมั่นใจอีกด้วย …
-
ชมคลิปสุดฮาเมื่อ 2 มะหมาจอมซนสร้างวีรกรรมสุดแสบ งานนี้มีการโยนความผิดให้เพื่อนซะด้วย
นี่เป็นอีกหนึ่งคลิปน่ารักๆ ของ 2 มะหมาแสนแสบ ที่ได้สร้างวีรกรรมสุดป่วน จนทำเอาเจ้านายของพวกมันถึงกับต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว โดยเจ้ามะหมา 2 ตัวนี้ ได้ทำบ้านรกรุงรังไปหมดจนเจ้านายของมันมาเห็น และดุพวกมัน แต่สิ่งที่ทำเอาคนดูถึงกับฮาน้ำตาเล็ดก็คือ เมื่อเจ้านายของพวกมันถามว่าใครทำเท่านั้นแหละ เจ้าหมาแสนแสบก็ชี้ไปที่เพื่อนมันทันที แหมๆๆ คิดจะโยนให้เพื่อนอย่างเดียวเลยนะ ส่วนตัวนี้ก็น่าสงสารจริงๆ ถูกเพื่อนโยนความผิดให้เต็มๆ เลย 555 ชมคลิปกันเลยดีกว่า หากคุณชอบเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าสุนัขสองตัวนี้ก็อย่าลืมกดไลค์ และแชร์กันเยอะๆ เลยน้า
-
คลิปโคตรฮา!! เมื่อเจ้าหมาเจอความเปรี้ยวของมะนาวเข้าไป งานนี้ถึงกับออกอาการกระตุกกันเลยทีเดียว
นี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าหมาไร้เดียงสาตัวหนึ่ง ที่กำลังสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของมันคืออะไร แต่พอมันลองรวบรวมความกล้า แล้วชิมสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดู ทำให้มันถึงกับชักกระตุกกันเลยทีเดียว เอ…แล้วสิ่งที่ว่านั้นคืออะไรกันแน่น้า และสิ่งที่น้องหมาได้ลองกินเข้าไปคือ ‘มะนาว’ นั่นเอง โถๆๆๆๆ เจ้าหมาน้อย อยู่ๆ ก็มาเจอฤทธิ์ความเปรี้ยวของมะนาวเข้าไปเต็มๆ เลยนะเนี่ย น่าฉงฉานจุงเบย >< ว่าแล้วก็ไปชมคลิปของมันกันเลยดีกว่า ขอบอกเลยว่าฮาสุดขีด!! เป็นไงล่ะ!! เจอฤทธิ์ความเปรี้ยวของมะนาวเข้าไป ถึงกับกระตุกกันเลยทีเดียว แถมยังซื่อบื้ออีกต่างหาก ขนาดรู้ว่ามันเปรี้ยวก็ยังจะกินเข้าไปอยู่ได้ ฮ่าๆ
-
ขำขรี้แตก!! 14 ภาพสุดฮาของเหล่ามะหมาที่ทำท่าทางกลัวสุดขีด…เมื่อมันได้เห็นน้ำ
ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่มีความกลัวได้ แต่สัตว์โลกน่ารักๆ อย่างน้องหมาทั้งหลาย ก็มีความกลัวเหมือนกัน และสิ่งที่พวกมันเห็นแล้วถึงกับต้องรีบเผ่นสุดชีวิตก็คือ ‘น้ำ’ นั่นเอง แหม!! เห็นแสบๆ ซนๆ แบบนี้ใครจะไปรู้ล่ะว่า เหล่าม่ะหมาจะกลัวแค่ ‘น้ำ’ เท่านั้น เอาล่ะ…ใครที่อยากเห็นภาพหมาวิ่งหนีน้ำ ก็เชิญเลื่อนลงไปชมได้เลย วิ่งเร็ววิ่ง น้ำมาแล้ววววว ไม่เอาๆ ไม่เล่นน้ำ กรี๊ดดดด เอาฉันออกไปจากที่นี่นะ ตัวกลางท่าทางกลัวไปนะ เอาน่า…ลองเล่นน้ำสักหน่อยเดี๋ยวก็ติดใจเองแหละ มาเร็ว มาเล่นน้ำกัน อะจึ๋ยยยย น้ำมาแล้ววว อุ้มผมทีเถอะ ผมกลัวน้ำ ฉันเกลียดพวกมนุษย์ ทำไมต้องจับฉันเล่นน้ำด้วย ถึงขั้นขี่หลังกันเลยทีเดียว อร๊ากกกกกก ไม่เอาน้ำ เล่นน้ำสนุกไหมล่ะ ดูจากหน้าตาแล้ว คงสนุกไม่เบาฮ่าๆ ขึ้นจากน้ำทีไรหนาวทุกที กลัวแล้วววววว …
-
เชิญรับชมภาพเหล่าน้องหมาที่ทำหน้าทำตาไม่ค่อยรับแขกสักเท่าไหร่ สงสัยอารมณ์ไม่ค่อยดีมั้ง
ใครจะไปรู้ล่ะว่า เหล่าม่ะหมาทั้งหลายก็มีวันที่น่าเบื่อเหมือนกัน แถมการกลับมาครั้งนี้ ดูเหมือนพวกมันกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีอีกด้วย อีกทั้งหน้าตาแต่ละตัวก็ไม่รู้จะบูดบึ้งไปไหน งานนี้ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพื่อนๆ ต้องดูเอาเอง เอิบ!! หน้าบึ้งเชียว น่ารักฟรุ้งฟริ้ง มองอารายหนู ฮ่าๆ หน้านิ่งเชียว วันนี้ทำไมมันเหงาจังเลย ไปทำผิดอะไรมาอีกล่ะ ง่วงจังเลย หน้าจะเศร้าไปไหนน้องหมา เจ้าหมาหน้าบึ้ง ยิ้มหน่อยสิ ดูทำหน้าเข้าสิ พาป๋มออกไปเดินเล่นหน่อยสิ หน้าจ๋อยเลยนะ แฮ่ๆๆๆๆๆ แบ๊วๆ ใสๆ เอิบ!! หน้าไม่รับแขกกันเลยนะเจ้าหมา สงสัยช่วงนี้พี่แกอารมณ์ไม่ค่อยจะดี แต่ไม่ว่าจะหน้าบึ้งแค่ไหน พี่หมาทั้งหลายก็ยังคงน่ารักอยู่ดี อิอิ!! ที่มา : buzzfeed