Tag: น้ำหนัก
-
Big Angel วงไอดอล “พลัสไซส์” ของญี่ปุ่น รวมนางฟ้าที่ตกสวรรค์เพราะกินเยอะเกินไป~
ต้องยอมรับเลยว่ายุคนี้มันเป็นยุคของวงศิลปินไอดอลจริงๆ เพราะหลังจากการแจ้งเกิดของ AKB48 ในญี่ปุ่น หรือ BNK48 ในไทย ก็ทำให้มีวงไอดอลสาวเกิดขึ้นมากมายตามมา หลายคนอาจเบื่อกับการต้องเห็นสาววัยกระเตาะ ตัวเล็กน่ารัก ออกมาร้องเต้นให้เห็นกันอย่างละลานตา วันนี้ ทางประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัววงไอดอลน้องใหม่อย่าง Big Angel รับรองว่าไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน เพราะว่าสาวๆ ไอดอลวงนี้น่ะ ล้วนแต่เป็น “สาวพลัสไซส์” หุ่นใหญ่ตามชื่อวงเลยล่ะจ้า Big Angel ชมคลิปของวง Big Angel กันเลย! จากวิดีโอ Michiko Gotochi หรือ “มิจัง” เผยออกมาว่าปัจจุบันเธอมีส่วนสูง 167 เซนติเมตร และมีน้ำหนักถึง 109.8 กิโลกรัม ทั้งที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นหญิงสาวที่มีน้ำหนักเพียง 54 กิโลกรัมเท่านั้น แต่มิจังบอกว่าปัจจุบันเธอมีความสุขมากกว่าตอนที่เป็นคนผอมเสียอีก ที่เธอน้ำหนักเพิ่มขึ้นก็เพราะว่าเครียดแล้วก็เอาแต่กิน โดยเฉพาะ ไก่ทอดคาราอาเกะ Michiko Gotochi หรือ “มิจัง” สมัยที่มีน้ำหนัก 54…
-
หนุ่มน้ำหนัก 190 กิโลฯ ถูกภรรยาทิ้งเพราะ ‘ไม่มีแรงขับทางเพศ’ เลยตัดสินใจลดจนหล่อเฟี้ยว!!
เชื่อเลยว่าสำหรับหลายๆ คนแล้ว คงมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเป็นแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก บ้างก็อยากให้ตัวเองดูดี บ้างก็อยากให้สุขภาพดี แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้แล้ว เขาลดน้ำหนักเพราะว่าตัวเอง ‘ขาดแรงขับทางเพศ’ จนทำให้ถูกภรรยาทิ้ง!? เรื่องราวของนาย Stephen Ringo จากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยอายุได้ 30 ปี คือจุดพีกที่สุดของน้ำหนักในชีวิตของเขา อยู่ที่ประมาณ 186 กิโลกรัม!! นั่นทำให้นาย Stephen ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก ทั้งการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ต้องมีรอบเอวยาวถึง 60 นิ้ว หรือราวๆ 152 เซนติเมตรเลยทีเดียว รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอื่นๆ โดยเฉพาะ ‘ชีวิตรัก’ ของเขา ในปี 2016 Stephen ต้องหย่ากับภรรยา เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เขาเล่าว่า “มันก็แฟร์ดีนะที่น้ำหนักของผม เป็นสาเหตุที่ทำให้ชีวิตการแต่งงานของผมจบลง และตอนนี้ผมกลายเป็นคนโสดที่ตัวใหญ่ที่สุด” “ความสัมพันธ์ของผมกับภรรยาถูกทำลายลงไปเพราะการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวของผม มันทำให้ผมมีแรงขับทางเพศน้อยลง และนั่นทำให้เธอต้องจากผมไป” “และมันทำให้ผมคิดว่า ถ้าผมทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีกว่านี้ เอาใจใส่ความรู้สึกของเธอ เธอคงจะไม่จากผมไป” …
-
หน่วยตำรวจอินเดียออกคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ ‘ลดพุง’ ใครไม่ทำโดนไล่ออก!!
เรื่องของ ‘สุขภาพ’ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจ เพราะจะต้องใช้ความคล่องตัวและร่างกายที่แข็งแรงเพื่อระงับเหตุด่วนเหตุร้ายต่างๆ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ด้วย!! ด้วยการที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ทางด้านผู้อำนวยการของกรมตำรวจรัฐกรณาฏกะ (Karnataka State Reserve Police) หรือ KSRP จึงได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายลดพุงด่วน!! โดยที่หากใครลดไม่ได้ในเวลาที่กำหนด หรือปฏิเสธที่จะทำ จะถูกลงโทษทางวินัยโดยการไล่ออก!! ที่ต้องทำแบบนี้เป็นเพราะว่าจากสถิติในช่วง 18 เดือนหลังสุดนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไปมากกว่า 100 ราย เพราะรูปแบบการใช้ชีวิต และการกินของพวกเขา หน่วย KSRP มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 14,000 นาย และพวกเขาก็มีหน้าที่สำคัญในการดูแลความปลอดภัยในงานสำคัญต่างๆ รวมไปถึงการควบคุมเหตุการณ์การจลาจลและเหตุรุนแรง และขณะนี้ผู้อำนวยการก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงคัดกรองเจ้าหน้าที่ที่มีน้ำหนักเกิน จากนั้นก็ทำตารางการออกกำลังกายรวมไปถึงอาหารการกินเพื่อลดน้ำหนักให้พวกเขา “เราจะเริ่มกระบวนการและติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิด ทั้งการทานอาหารและการออกกำลังกาย” “ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ของเรากว่า 153 นายเสียชีวิต มี 24 นายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน อีก 9 นาย เสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ส่วนที่เหลือเสียชีวิตจากโรคที่มาจากอาหารการกิน ทั้งโรคเกี่ยวกับหัวใจ และเบาหวาน” …
-
25 ผู้คน “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” แบบสุดฤทธิ์ ฉันจะไม่กลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว!!
ในชีวิต เราอาจจะถูกตำหนิ ด่าว่า หรือดูถูกเหยียดหยามมาต่างๆ นานา ในสิ่งที่เราเป็น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถหลุดพ้นและตอกกลับคำดูถูกเหล่านั้นได้ มันย่อมเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างอธิบายไม่ถูก เช่นหากใครมาว่าคุณว่า “อ้วน” ที่คงจะอ้วนไปตลอดชีวิต แต่วันหนึ่งคุณกลับออกกำลังกายจนคุณมีรูปร่างที่ดูดี มีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว คุณคงจะรู้สึกดีไม่น้อย ที่จะไม่ได้ยินคำดูถูกเหล่านั้นอีก แถมยังทำให้คนที่เคยว่าเรา ต้องหน้าแตกอีกด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมเอาภาพ ผู้คนที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อก้าวข้ามคำดูถูกเหล่านั้น และพร้อมที่จะทำให้ใครก็ตามที่เคยดูถูกพวกเขาไว้ ต้องหน้าแตกไปตามๆ กัน ไปรับชมกันได้เลย… “ทางซ้ายคือภาพของตัวฉันเองเมื่อสองปีก่อน ปัจจุบันฉันยังช็อกอยู่เลยที่ ในที่สุด ฉันก็มีคอเสียที” “ผมและภรรยาลดน้ำหนักกันไปเยอะมากๆ มันทำให้พวกเราตัวแนบชิดกันได้มากขึ้น และมีความสุขมากๆ ด้วย ในภาพเราลดกันไป 77 กิโลกรัม ปัจจุบันเราลดไปได้ 83 กิโลกรัมแล้ว” “รู้ไหมว่าการเพิ่มน้ำหนักมันก็ยากไม่ต่างจากการลดน้ำหนักเลยนะ” นี่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองของชายไร้บ้านคนหนึ่ง… “ความสำเร็จของฉันในการรักษาสิวและอาการผิวหนังอักเสบ” เธอคนนี้เอาชนะ “โรคคลั่งผอม” ได้ แถมเข้าไปฟิตร่างกายในยิมสม่ำเสมอจนหุ่นเป๊ะ “อาจจะไม่ได้ดูเหมือนกับหลายๆ คน แต่นี่คือผลลัพธ์จากการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา…
-
งานวิจัยคอนเฟิร์มแล้วว่า “คนมีคู่…จะอ้วนขึ้น” มาดูกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
การมีคนรักหรือมีแฟนนั้นเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ เพราะว่าเมื่อคุณมีคนรัก อะไรๆ ก็ดีไปหมด คุณจะไม่เหงา มีคนคอยอยู่ข้างๆ มีคนให้นอนจับมือกันเล่นๆ อะไรก็ว่าไป แต่หารู้ไม่ว่า การมีแฟนก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ ซึ่งเจ้าข้อเสียนี้เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ค่อยชอบเสียด้วย นั่นคือ “ความอ้วน” นั่นเอง ผลงานการศึกษาชิ้นใหม่จาก University of Queensland ในออสเตรเลีย ได้ผลลัพธ์ออกมาว่า การที่คนเรามีคู่รักนั้นจะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น การศึกษาดังกล่าว เก็บข้อมูลมาจากผู้คนจำนวน 15,000 คน โดยพบว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่รักนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าคนโสดโดยเฉลี่ยถึง 5.8 กิโลกรัม ที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าผู้ที่มีแฟนแล้ว มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.8 กิโลกรัมต่อปี โดยทางผู้วิจัยกล่าวว่า “ผู้ที่แต่งงานหรือว่ากินอยู่กัน จะมีการทานอาหารร่วมกันบ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าจะทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เถอะ แต่ว่าพวกที่มีคู่นั้นจะมีแนวโน้มที่จะทานอาหารมากขึ้นกว่าตอนที่ทานคนเดียว ฉะนั้น เขาจึงรับพลังงานเข้าร่างกายมากขึ้น” ทั้งนี้ งานศึกษาวิจัยยังพบอีกว่า คู่ที่แต่งงานแล้ว หรือคู่ที่อยู่ด้วยกันยังมีการส่งเสริมพฤติกรรมทำลายสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย เช่น กิน ดูทีวี และดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกัน เป็นต้น …
-
ผลวิจัยออกมาแล้วว่า คนที่น้ำหนักเกิน(นิดหน่อย) และดื่มแอลกอฮอล์(นิดหน่อย) จะมีอายุยืน!!
ปัจจุบัน กระแสนิยมดูแลสุขภาพกำลังมีบทบาทเป็นอย่างมาก หลายต่อหลายคนพยายามรักษาสุขภาพให้ตนเองดูดีและแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่ไม่อ้วน และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น แต่หารู้ไม่ว่าปัจจุบัน ได้มีผลงานวิจัยปรากฎออกมาแล้วว่าผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างผอม จะมีอายุสั้นกว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานนิดหน่อย งานวิจัยระยะเวลา 30 ปีในช่วงราวๆ ปี 90 เป็นต้นมา ได้เผยให้เห็นว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินและชอบดื่มแอลกอฮอล์จะมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่ถึงวัยชรามากกว่า อีกทั้งยังแนะวิธีการยืดอายุให้ยาวขึ้นด้วยการออกกำลังกาย 15 นาที และดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน การวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยได้ให้ผู้คนอายุ 55 ถึง 100 ปีจำนวน 14,000 คน เขียนถึงวิถีชีวิตของตนเอง และหลังจากปี 2003 เป็นต้นไป ผู้วิจัยจึงทำการติดตามศึกษาผู้ที่ยังมีชีวิตราว 1,600 คน ซึ่งทำให้ทราบถึงความลับของการมีชีวิตยืนชาวของพวกเขา พบว่าผู้คนเหล่านั้นมีการดื่มแอลกอฮอล์อยู่พอประมาณ เช่น เบียร์หรือไวน์จำนวน 1-2 แก้วต่อวันหรือต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้พวกเขามีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่งดเว้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนผู้ที่มีการบริโภคคาเฟอีนในปริมาณตั้งแต่ 200-400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน…
-
จากคำกล่าวของหมอ ว่าเค้าอาจจะไม่รอดจนถึงวันเกิดครั้งหน้า เลยลดน้ำหนักไปได้ 200 กิโลฯ
Stanley Hollar ชายที่เป็นโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน เขาอ้วนชนิดที่ว่าเขาอาจจะไม่รอดถึงวันเกิดปีหน้าได้หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เนื่องจากเขามีภาวะเจ็บป่วยและข้อจำกัดทางการรักษามากมายรวมอยู่ในความอ้วนของเขา ทุกอย่างจึงพากันย่ำแย่ลง ขณะที่ชีวิตของเขากำลังมองเห็นจุดจบ ก็กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เมื่อปี 2015 เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่างกับน้ำหนักตัวของเขา ย้อนกลับไปสมัยที่เขายังเป็นเด็กซึ่งแน่นอนว่า ไม่เคยมีช่วงไหนที่เขาผอมเลย สมัยที่เขาเป็นเด็กอนุบาล เขามีน้ำหนักถึง 45 กิโลกรัม Stanley กล่าวว่า “สมาชิกในครอบครัวส่วนมากก็ตัวใหญ่เหมือนผม การที่ผมมีน้ำหนักเกินนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก และผมก็ไม่รู้สึกอะไรกับมันด้วย” แต่ถึงกระนั้น ญาติของเขาก็เริ่มมองเห็นว่าการมีน้ำหนักเกินของ Stanley เริ่มไม่ปกติ “ครอบครัวผมเองก็เริ่มพูดบางอย่างเกี่ยวกับน้ำหนักของผม แต่ก็แค่คำพูด ผมชินชากับเสียงหนวกหูเหล่านั้นเสียแล้ว” Stanley กล่าว ปัญหาของเขายิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เมื่อในปี 1996 Stanley ได้รับความบาดเจ็บสาหัสส่งผลให้เขาต้องตัดขาทิ้ง และต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปี กว่าที่เขาจะรู้ตัวว่า เขาควรรักตัวเองได้แล้ว เพราะครั้งหนึ่งที่เขาไปหาแพทย์ แพทย์บอกกับเขาว่า เขาอาจจะไม่รอดชีวิตถึงวันเกิดปีหน้า คำพูดนี้ไม่ใช่แค่เสียงหนวกหู มันเป็นสิ่งเขาไม่สามารถมองข้ามได้ Stanley รู้ได้ทันทีว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง ในเวลานั้น เขามีน้ำหนักตัวถึง 307 กิโลกรัม เขากล่าวว่า…
-
5 เหตุผลสำคัญ ว่าทำไมการกิน 5-6 มื้อต่อวัน ช่วยเราลดน้ำหนักได้ดีกว่ามากๆ
โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะรับประทานอาหารเพียง 3 มื้อต่อวัน แต่อย่างไรก็ตามทางผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเผยว่า หากคุณเปลี่ยนการรับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ เพิ่มเป็น 5-6 มือต่อวัน จะสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าการรับประทานอาหารหลายมื้อแบบนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร ลำพังเพียงกินแค่ 3 มื้อตัวเลขบนตราชั่งก็พุ่งพรวดอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราต้องการจะบอก เพราะมันมีเหตุผลที่น่าสนใจซ่อนอยู่ และนี่คือ 5 เหตุผลที่ว่าทำไมการรับประทานอาหาร 5-6 มื้อต่อวัน ถึงช่วยลดน้ำหนักได้… 1. ควบคุมความอยากอาหาร ลองถามตัวเองดูสิว่าในแต่ละวันเรากินของจุกจิกหลังมื้ออาหารบ่อยแค่ไหน นั่นเป็นเพราะว่าคุณหิวใช่หรือไม่? ซึ่งมันก็จะส่งผลให้น้ำหนักของคุณขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนง่ายอีกด้วย แต่ถ้าหากคุณเปลี่ยนมากิน 5-6 มื้อต่อวัน มันสามารถช่วยหลีกเลี่ยงความหิวที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ได้โดยการเน้นรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เปลี่ยนจากการทานข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้องและทานผักให้มากขึ้น 2. ช่วยรักษาระดับพลังงาน เวลาที่กินอาหารมือใหญ่ๆ เข้าไปมันก็ทำให้เราใช้พลังงานในการเผาผลาญเยอะ นั่นอาจเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนชอบหยิบขนมขบเคี้ยวมาทานเล่นในระหว่างวันบ่อยๆ เพื่อเติมพลังงานให้แก่ร่างกาย และมันก็อาจจะส่งผลให้ตัวเลขบนตราชั่งเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการแบ่งมารับประทานอาหารในมื้อเล็กๆ อาจจะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถหลุดพ้นจากพฤติกรรมดังกล่าวได้ แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณทานอาหารว่างบ่อยอีกด้วย อย่างไรก็ตามการทานอาหารมื้อใหญ่จะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานอย่างหนัก และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอนอยู่ตลอด หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน รวมถึงอาหารมื้อใหญ่เสร็จ แต่การแบ่งมารับประทานอาหารมื้อย่อยนี้ จะช่วยให้คุณไม่ประสบกับปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน…
-
สาวแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก งดมื้อเย็นที่เคยกินครั้งละ 3 ชุด ผอมลงจนเพื่อนจำไม่ได้..!!
หากใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ละก็ เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องราวของหญิงสาว ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้มากถึงขนาดนี้ Erin Hulick สาววัย 30 ปี โดยก่อนหน้านี้เธอมีพฤติกรรมการกินที่มากเกินความจำเป็น เฉพาะอาหารมื้อเย็นในแต่ละวัน เธอต้องรับประทานมากถึง 5,000 แคลอรี่ (ประมาณ 3 ชุดอาหารของคนปกติ) ภาพก่อน & หลัง ที่ตัวเธอเองก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ เป็นประจำทุกวันที่เธอมักจะกินจุกกินจิกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอมีน้ำหนักตัวมากถึง 159 กิโลกรัม และเริ่มสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ซึ่งนั่นทำให้เธอตอกย้ำตัวเองด้วยการกินมากขึ้นไปอีก จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว เธอมีโอกาสได้เข้าพบคุณหมอเกี่ยวกับอาการผิดปกติบางอย่างของเธอ ซึ่งเธอก็ได้คำแนะนำจากคุณหมอมาว่า… หากเธอไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านั้นอาจส่งผลให้เธอเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้เลย ภาพของเธอในอดีต หลังจากที่รู้ว่าสุขภาพตัวเองเริ่มย่ำแย่จากการบริโภคมากเกินไป เธอก็เริ่มหันมาสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น เธอหันมาทานอาหารคลีน (เน้นผักมากกว่าเนื้อ) เปลี่ยนจากการโดยสารด้วยรถเข็น เป็นการเดินให้มากขึ้น พอน้ำหนักตัวเธอเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอก็หันมาออกกำลังกายให้หนักยิ่งขึ้น โดยเธอเล่าว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง วัดไซส์กางเกงของเธอจากตอนอ้วน vs ตอนที่ผอมแล้ว มีครั้งหนึ่งหลังจากที่เธอลดน้ำหนักได้คงที่แล้ว เพื่อนเก่าของเธอก็เข้ามาทักทายด้วยการแนะนำตัวให้รู้จัก ทั้งๆ ที่เธอจำเขาได้แม่นมาตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมปลาย จนกระทั่งได้บอกว่าเธอชื่อ…
-
18 ภาพก่อน-หลังลดน้ำหนัก ของหนุ่มสาวหลากหลายวัย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่คุณ
คงปฎิเสธไม่ได้ว่าเราอยากจะมีหุ่นและสุขภาพที่ดีกันทั้งนั้น สำหรับบางคนนั้นการลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องที่ยากมาก อาจเนื่องมาจากไม่มีเวลาว่าง ขออ้างอีกสารพัด หรือ น้ำหนักตัวที่เยอะเกินไปจนขี้เกียจ แต่อย่าเพิ่งท้อนะ! เพราะ #เหมียวปั๊ก อยากจะพาทุกคนไปดูภาพบุคคลก่อนและหลังการลดน้ำหนัก ที่เห็นแล้วจะทำให้ทุกๆ คนมีแรงบันดาลใจแน่นอน ~ การลดน้ำหนักนอกจากจะทำให้หุ่นดีแล้ว หน้ายังดูเด็กอีกด้วย!? ชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า… ครบรอบ 1 ปีที่คู่หมั้นของฉันตัดสินใจที่จะลดน้ำหนัก เขาลดได้ 65 กิโลกรัม เมื่อคุณเพิ่งรู้ตัวว่าเสื้อตัวเก่าของคุณสามารถนำมาเป็นผ้าปูเตียงได้ หลังจากที่ลดน้ำหนักไป 50 กิโลกรัม เธอคนนี้ลดน้ำหนักโดยการวิ่งและยกน้ำหนักมาตลอด 1 ปี เธอลดได้ตั้ง 56 กิโลกรัม! สาวร่างท้วมคนนี้ลดน้ำหนักได้ 31 กิโลกรัม ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย หลังจากการลดน้ำหนัก เขาก็ยังใส่กางเกงตัวเดิมได้นะ ช่องเดียวใส่ได้สองขาเลย ~ จากตัวเกือบเท่าตู้เย็น มาสู่ตัวเล็กแค่ 1/3 ของตู้เย็นเอง เจ้าหนุ่ม Andy ภายในปีเดียว เขาสามารถลดน้ำหนักจาก 143 กิโลกรัม เป็น 63…
-
สาวแนะเคล็ดลับ ทาน ‘ทูน่าสลัด’ ทุกวันคู่ออกกำลังกาย ลดได้ถึง 73 กิโลกรัมใน 15 เดือน!!
Anastasia Chiarello สาววัย 25 ปี จากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ลดน้ำหนักไปได้ถึง 73 กิโลกรัมภายในระยะเวลาเพียง 15 เดือน เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และตอนนี้เองเธอก็สามารถลดเพิ่มอีก 10 กิโลกรัม จากก่อนเริ่มลดมีน้ำหนักมากถึง 165 กิโลกรัม เหลือเพียง 82 กิโลกรัมแล้ว และยังคงเดินหน้าไปเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายไว้ที่ 80 กิโลกรัม เธอเล่าว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องพยายามอย่างหนักในเรื่องของการควบคุมอาหารในทุกๆ วัน และการออกกำลังกาย มาถึงจุดนี้แล้วก็พบว่าเธอเดินทางมาไกลมากเลยทีเดียวล่ะ “ฉันชื่นชอบความรู้สึกในตอนนี้มากๆ เหมือนกับเป็นคนใหม่เลยล่ะ มันช่างแตกต่างจากเดิมมากจริงๆ” Anastasia กล่าว ซึ่ง Anastasia ก็ได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับที่ทำให้การลดน้ำหนักของเธอได้ผล และมันก็คือ “ทูน่าสลัด” นั่นเอง “ฉันกินมันทุกวันไม่ต่ำกว่า 5 หรือ 6 มื้อใน 1 สัปดาห์ และสิ่งที่ทานเข้าไปเพิ่มเติมในมื้อนั้นๆ จะมีแค่ขนมปัง Quinoa Mountain…
-
สาวลดน้ำหนักจาก 143 เหลือ 63 หลังระบุว่า หยุดยั้ง ‘ฮอร์โมนความหิว’ ที่ควบคุมเธอตั้งแต่เกิด!!
สำหรับใครที่มีอาการหิวโหยอาหารอยุ่ตลอดเวลานั้น เคยคิดมั้ยว่าทำไมเราถึงมีความหิวแบบนั้นอยู่ตลอดถึงแม้จะทานอาหารมาแล้วก็ตาม บางครั้ง ‘ฮอร์โมน’ อาจเป็นคำตอบของเรื่องนี้ก็ได้!! Janet French คืออดีตสาวใหญ่ที่เคยประสบภาวะเกี่ยวกับความอ้วนมาอย่างหนัก น้ำหนักของเธอเมื่อราวๆ 8 ปีก่อนเธอมีน้ำหนักกว่า 143 กิโลกรัม แต่ตอนนี้น้ำหนักของเธอเหลืออยู่ที่ราวๆ 63 กิโลกรัมเท่านั้น!! เธอมีอาการเสพติดการกินอย่างงอมแงม และมีลักษณะของความ ‘ไม่เคยจะอิ่ม’ อยู่ตลอด ทำให้ภายในระยะเวลา 1 วันนั้น เธอทานอาหารไปมากกว่า 3,500 แคลอรี่ มากกว่าที่ร่างกายของผู้หญิงโตเต็มวัยต้องการถึง 2 เท่า แต่ดูเธอตอนนี้สิ!! แน่นอนว่าตลอดระยะเวลานั้น เธอมีความพยายามที่จะลดความอ้วนอยู่หลายครั้งเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จเลยซักครั้ง ‘ฉันรู้สึกว่ามันยากมากๆ เลยที่จะไม่คิดถึงเรื่องอาหารอยู่เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าฉันจะกินไปมากขนาดไหน ฉันก็มักจะรู้สึกหิวอยู่ดี ฉันไม่กล้าออกจากบ้านเลยช่วงหนึ่งเพราะว่าออกไปก็ไปหาแต่อาหารกิน มันเหมือนเป็นการเสพติดเลยล่ะ’ Janet French กล่าว เคล็ดลับของการลดน้ำหนักที่สำเร็จของเธอนั้นไม่ใช่การผ่าตัด การออกกำลังกาย หรือการอดอาหาร (เพราะเธอลองมาหมดแล้วแต่ไม่สำเร็จ) แต่เป็นการซ่อมแซมทางด้านฮอร์โมนของเธอ การซ่อมแซมทางด้านฮอร์โมน!? หลังจากพยายามมาต่างๆ นานา แต่ไม่สำเร็จ…
-
20 คู่สามี-ภรรยา ที่ใช้พลังแห่งความรักในการ “ลดน้ำหนัก” เปลี่ยนไปได้เยอะมาก!!!
หลายครั้งที่เวลาเราเห็นคนเป็นแฟนกัน ส่วนมากก็จะมีความสุขกับการกินจนผ่านมาเห็นอีกที ทั้งคู่ก็อ้วนท้วนสมบูรณ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้อยครั้งมากที่จะเห็นคู่รักพากันไปลดน้ำหนัก ถึงแม้ว่าจะน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย การลดน้ำหนักนั้นต้องใช้อะไรหลายๆ อย่าง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพลังใจ สิ่งนี้จะสร้างวินัยให้กับเราพร้อมกับความรัก วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะเอาเรื่องราวดีๆ ของคู่รักที่ได้ทำการลดน้ำหนักไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ นัก ทั้งคู่ต้องผ่านความพยายามไปด้วยกัน ไปดูกันว่าแต่ละคู่นั้นจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ไม่มีอะไรที่สายไป ถ้าเริ่มที่จะลดน้ำหนักอย่างจริงจังเหมือนคู่รักคู่นี้ คู่รัก Jo และ Barry ลดน้ำหนักไปกว่าครึ่งหลังจากมีคนบอกว่าถ้าไม่ลดน้ำหนักอาจจะตายได้ คู่รักร่างใหญ่ลดน้ำหนักไปได้กว่า 150 กิโลกรัมจนได้ฉายาว่า “thincredibles” คู่รักขายรถยนต์เพื่อที่จะใช้วิธีการเดินเพื่อลดน้ำหนัก และตอนนี้พวกเขาก็ลดไปได้กว่า 100 กิโลกรัมแล้ว ทั้งคู่ได้เจอและตกหลุมรักกันที่คลินิก และตอนนี้ก็สู้ไปด้วยกันลดไป 234 กิโลกรัม ใส่กางเกงตัวเดียวกันได้ด้วย ในวันครบรอบ 4 ปีวันแต่งงาน คู่รักคู่นี้ตัดสินใจถ่ายภาพด้วยกันอีกครั้ง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากการลดน้ำหนัก พ่อแม่ลูก 2 ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งยิ่งใหญ่ ถ่ายเทียบกับกางเกงตัวเก่าแล้วรู้เลยว่ามาไกลมากๆ คู่นี้ใช้เวลา 2…
-
ชวนเข้าครัวทำ เครปเค้กสีรุ้งระดับตำนาน 111 ชั้น กินกันให้ความหวานล้นตัวไปเลย!!
ในวันที่ใจหมองหม่นหรือวันที่เรารู้สึกท้อแท้ บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการปลอบใจด้วยขนมหวานอร่อยๆ สักชิ้นหนึ่งน่ะนะ หนึ่งในเมนูที่สาวๆ ชอบกินกันมากที่สุดเวลาไปร้านเบเกอรี่หรือร้านกาแฟ คือเมนูเครปเค้กสีสันสดใส ฉะนั้น #เหมียวฟิ้น เลยจะมาชวนสาวๆ ทำเครปเค้กด้วยตัวเองดูบ้าง แต่จะทำแบบปกติก็ดูจะไม่พิเศษเท่าไหร่ งั้นเราลองมาทำเครปเค้กสัก 100 ชั้นดูดีไหมล่ะ? เมื่อไม่นานมานี้ช่องยูทูบ bizarreisland ได้โพสต์คลิปวิดีโอสอนการทำเครปเค้กระดับตำนาน ที่มีสีสันหลากหลายเหมือนสายรุ้งและมีความสูงถึง 111 ชั้น!! วัตถุดิบ -แป้งเครป -สีผสมอาหาร -ครีมสำหรับแต่งเครป เริ่มจากตวงแป้งเครปให้ได้ใน 260 กรัม (หรือกะเอาสัก 2 ถ้วยครึ่ง) จากนั้นก็หยดสีผสมอาหารลงไปประมาณ 5 หยด คนให้เข้ากัน ทำแบบนี้ให้ครบทุกสีเลย จากนั้นนำแป้งเครปไปทอด พยายามใช้ไฟอ่อนๆ (อย่าให้แป้งไหม้นะ) นำแป้งสีอื่นๆ ลงไปทอดให้ครบ ทอดสีละหลายๆ แผ่น เพราะเราจะนำมันไปวางให้ได้ 111 ชั้น เมื่อทอดแล้วนำมาวางลงในจาน บีบครีมแต่งหน้าลงไป…
-
‘Katie Beadle’ หญิงสาวผู้เคยถูกล้อเลียนว่า ‘พะยูนเกยตื้น’ และนี่แหละ เธอในปัจจุบัน…
เรื่องราวของหญิงสาวผู้เคยถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนว่าเป็น ‘พะยูนเกยตื้น’ ที่วันนี้ความฝันที่เป็นนางแบบของเธอเป็นจริง ซึ่งจะทำให้เห็นว่า อย่าให้คำพูดหรือคนที่คอยแต่จะกลั่นแกล้งมาหยุดความฝันของเราได้!! Katie Beadle อายุ 17 ปี เมืองฮาร์ตฟอร์ดเชอร์มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอชื่นชอบการถ่ายรูป และใฝ่ฝันที่จะเป็นนางแบบมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เพราะถูกล้อเลียนบ่อยๆ นั่นทำให้เธอกลายเป็นคนเก็บตัวและเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน เธอถูกเพื่อนๆ แกล้งล้อเลียนว่าเป็น “พะยูนเกยตื้น” และไล่ให้เธอไปลดน้ำหนัก จนเธอเริ่มเชื่อคำล้อเลียนเหล่านั้น และทำให้เธอมีอาการเป็นโรคกลัวอ้วน (Bulimia) มาตั้งแต่อายุ 14 เธอใช้วิธีควบคุมอาหารแบบผิดๆ เพราะเห็นว่ามันช่วยให้เธอลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีแม้จะต้องแลกด้วยความแปรปรวนของร่างกาย พ่อแม่ของเธอก็เป็นกังวลที่เห็นเธอป่วยอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอไม่ได้บอกความจริงให้พ่อแม่รู้… คำพูดของคนอื่นทำให้ Katie สับสน จนกระทั่งเธอคิดไปเองว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่พอลองย้องกลับไปดูรูปสมัยเด็กๆ อีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว ตอนนั้นเธอไม่ได้อ้วนถึงขนาดนั้นเลย เพียงแค่อวบเล็กน้อย เช่นเดียวกับสาเหตุที่เธอเริ่มแต่งหน้า เพราะมีคนบอกว่าเธอไม่สวย เธอทำให้ร่างกายของตัวเองเสื่อมโทรมลง เป็นเวลาติดต่อกันถึง 6 เดือน จนกระทั่งเปิดใจและสารภาพกับพ่อแม่ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้สุขภาพของเธอก็แย่ลงไปมากแม้เธอจะผอมลงก็ตาม ซึ่งต่อไปเธอจะต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวตนของตนเอง แล้ววันหนึ่งความฝันของเธอก็เป็นจริงขึ้นมา เมื่อมีช่างภาพมืออาชีพมาทาบทามเธอให้ไปร่วมงานด้วย ขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ในร้านอาหาร “ถ้าคุณต้องเผชิญกับกับคำล้อเลียนเหมือนกับฉัน และถูกกล่าวซ้ำๆ…
-
ด้วยใจรักในการ “เซลฟี่” จึงอยากมีรูปร่างดี เกิดแรงบันดาลใจ ลดน้ำหนักไป 56 กิโล!!!
หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Justine McCabe เธอพยายามที่จะลดความอ้วนตั้งแต่อายุได้ 18 ปีแล้ว แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้ทำสักที และเมื่อปีที่แล้ว สามีของเธอก็เพิ่งจากไปในวัย 31 ปี ทิ้งเธอไว้ ยิ่งทำให้เธอกินหนักกว่าเดิมเพื่อที่จะลืมความเศร้านี้ หลังจาก 3 เดือนที่สามีของเธอจากไป ครอบครัวและเพื่อนๆ ต่างก็พยายามบอกให้เธอไปออกกำลังที่ยิมบ้าง เพราะตอนนั้นเธอมีน้ำหนักกว่า 137 กก. พร้อมกับลูกอีก 2 คน เธอก็เลยไปออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ แล้วพยายามถ่ายภาพเซลฟี่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองเห็นการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เธอตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต ด้วยการบอกกับตัวเองว่าจะไปกระโดดร่ม ไปเที่ยวปารีส กระโดดหน้าผา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เธอเล่าว่าจะช่วยให้เธอรู้สึกว่าสามารถดึงความมีชีวิตชีวากลับมาได้ อีกทั้งยังเป็นแรงให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อ แม่ของ Justine ก็เพิ่งเสียหลังจากที่สามีเธอเสียไปไม่นาน ทำให้เธอเศร้าหนักกว่าเดิม เธอต้องออกมาทำอะไรเพื่อที่จะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไป ช่างทำผมบอกว่าการที่เธอลดน้ำหนักลงไปได้นั้น ทำให้เธอได้แรงกล้าที่จะออกไปผจญภัยมาด้วย ทุกครั้งที่เธอออกไปทำอะไรใหม่ๆ ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่ จาก 137 กก. สู่น้ำหนัก 85 กก. ภายในหนึ่งปี เราไปชมคลิปการเปลี่ยนแปลงขอองเธอกันเลย …
-
จากอดีตพ่อหนุ่มผอมแห้งแรงน้อยตัวสูงโย่ง กลายมาเป็นหนุ่มล่ำบึ้กได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!!
หนึ่งในความฝันของหนุ่มหลายรายที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูบึกบึนแข็งแรงมีกล้ามกับเขาบ้าง เหมียวอยากจะแนะนำให้รู้จักกับบุคคลนี้เลยล่ะ พี่แกมีชื่อว่า Martyn Ford วัย 33 ปี โดยที่ในอดีตของเขานั้นเป็นพ่อหนุ่มที่ผอมแห้งแรงน้อยตัวสูงโย่งมาก่อน แต่กลับกันในปัจจุบันร่างกายของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากอดีตที่มีเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก ดูไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ตอนนี้เขากลายมาเป็นพ่อหนุ่มร่างยักษ์กล้ามเป็นมัดๆ โดยรวมมีน้ำหนัก 146 กิโลกรัม (323 ปอนด์) ผ่างงงงงงง!! ซึ่งเขาก็ได้กลายมาเป็นนักเพาะกายและเทรนเนอร์อย่างเต็มตัวแล้ว แถมยังได้รับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง The Undisputed 4 เป็นตัวละครนักสู้ที่มีชื่อว่า Nightmare อีกด้วย โห!! ขนาดกล้ามของพี่แบบนี้ ก็เหมาะกับชื่อฉายาฝันร้ายของคู่ต่อสู้ทุกคนแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า ไหนจะกล้าม ไหนจะทั้งรอยสักอีก!! แต่ผมก็เป็นคนมุ้งมิ้งนะ เหมียวเองก็หวังว่าจะสามารถมีกล้ามเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึงกับใหญ่เท่าของพี่ก็พอแล้ว ฮ่าฮ่า!!…