Tag: บทความน่าอ่าน
-
การ์ตูนชุด ‘ความรักระยะไกล แต่ใจเราไม่เคยจะห่างกัน’ รอวันที่เราจะได้พบกันอีกซักครั้ง
เรื่องของความรักนั้นเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆ เพราะกว่าที่คนสองคนจะตกลงคบกันได้ จะต้องผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย และช่วงที่คบกันก็จะต้องเจอกับอุปสรรคข้างหน้าอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นความคิดถึง ความไม่เข้าใจ ฯลฯ เพราะอยู่ด้วยรักและคิดถึง และในเรื่องของความรัก จะให้ดีก็ควรที่จะอยู่ด้วยกัน ดูแลซึ่งกันและกัน แต่หากว่าวันใดวันหนึ่ง มีบางสิ่งที่ทำให้ระหว่างสองเราต้องแยกจากกันไปไกล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าที่การงานหรืออะไรก็แล้วแต่ ความรักระยะไกลแบบนี้ จะยังคงอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน สุขสันต์วันเกิดนะ : อยากให้เธอมาอยู่ตรงนี้จัง การ์ตูนชุด ‘Long Distance Relationship’ สร้างสรรค์โดย Stylish Wanderers บอกเล่าความรู้สึกของความรักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่ห่างไกลกันคนละที่ อาจจะทำให้รู้สึกว่ามันยากที่จะประคองรักให้ตลอดรอดฝั่ง แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวลนี้แล้ว มันจะทำให้เรารู้ว่าระยะทางไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะใจของทั้งสองนั้นผูกพันกัน ต่างที่ ต่างเวลา แม้จะมีเทคโนโลยีช่วย แต่สัญญาณไม่ดี พาลทำให้อารมณ์เสีย แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม เพราะช่วงเวลาที่ได้คุยกัน ทำให้มีความสุขได้มากที่สุดเช่นกัน และในบางครั้ง บางสิ่งก็ทำให้เรานึกถึงอีกฝ่ายขึ้นมา ถ้าคิดถึงก็จะไปหา แต่ว่าจะบินไปหาแต่ละทีก็ยุ่งยากเสียเหลือเกิน แต่หลังจากที่จัดการเที่ยวบินได้เรียบร้อยแล้ว…
-
เลอค่ามากๆ!! นี่คือ 27 สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋งสำหรับมนุษยชาติ ที่น่าจะมีใช้กันอย่างทั่วถึง
สิ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นว่าเหมียวว่ามันก็ดีอยู่แล้วนะ แต่มันก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่ยังมีอยู่ไม่จบสิ้่นเวียที ซึ่งมันก็ต้องมีการปรับและพัฒนากันอยู่ตลอดเวลา โ ดยที่สิ่งประดิษฐ์ที่ชาวเน็ตช่วยกันรวบรวมมานำเสนอต่อไปนี้ ถือว่าตอบสนองไลฟ์สไตล์มนุษย์ยุคปัจจุบันได้อย่างดีเลยล่ะเมี๊ยวววว 1. จอภาพยนตร์ติดพื้นในห้องน้ำ ดูไปปลดทุกข์ไป โอ้ย!! ฟิน 2. โรงหนังพร้อมหลับ 3. ไฟจราจรที่มีตัวนับเวลาให้ด้วย 4. หมวกจักรยานที่สามารถพับเก็บได้ 5. ปลั๊กไฟมีช่อง USB 6. หรือไม่ก็เป็นปลั๊กไฟที่มีไฟส่องสว่างในตัว 7. ปล๊กไฟที่สามารถยืดออกมาจากกำแพงได้ เก็บสายได้สบายมาก 8. แถบเล็กๆ ที่สามารถเก็บไว้กับกระเป๋าตังค์หรือกุญแจได้ ติดตามตำแหน่งได้จากสมาร์ทโฟน 9. ตู้พิซซ่าหยอดเหรียญ 10. ม้านั่งที่สามารถทำให้แห้งได้ตลอดเวลา 11. ถ้วยกาแฟรองรับหยดกาแฟที่ไหลออก 12. ที่จอดรถ ที่มีไฟบอกว่าช่องไหนว่าง 13. บันไดพร้อมกับสไลดเดอร์ 14.…
-
เคยเป็นไหม!? “L’appel Du Vide” อาการของคนอยากโดดจากที่สูง แตกต่างจากฆ่าตัวตาย
คุณเคยไปอยู่ในที่สูงๆ แล้วเกิดความรู้สึกแปลกๆ ว่าอยากจะลองกระโดดลงไปบ้างไหม? ถ้าคุณเคยแต่หาคำอธิบายเกี่ยวกับความรู้สึกนั้นไม่ได้ล่ะก็ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะมาอธิบายเอง ไอ้เจ้าอาการที่ว่านี้ดูจะไม่มีคำอธิบายหรือถูกบัญญัติไว้ในภาษาอื่นแบบชัดๆ แต่ในภาษาฝรั่งเศสมีคำเฉพาะเลย นั่นคือ “L’appel Du Vide” (ลาปเปล ดูวีด) แปลเป็นไทยแบบตรงๆ ว่า “เสียงเรียกจากช่องว่าง” อาการที่ว่านี้เป็นอาการของคนที่อยากกระโดดลงจากที่สูงๆ เช่นบนตึกหรือบนยอดเขา ทุกครั้งที่ไปอยู่ตามสถานที่เหล่านี้จิตใต้สำนึกจะสั่งเราว่าให้โดดลงไปเพราะอยากรู้ว่าเมื่อลงไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น!? แต่จะแตกต่างจากความรู้สึกของคนที่อยากกระโดดลงไปเพราะอยากฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา และกลายเป็นบทความที่ชื่อว่า Journal of Affective Disorders ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2011 ในการค้นคว้าของเขาพบว่ามีผู้คนประมาณ 30% ที่ทำแบบสอบถามยอมรับว่า พวกเขาเคยมีอาการเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง อาการแปลกประหลาดนี้อาจมีผลชั่วคราวต่ออการรับรู้ของสมอง นักวิจัยสงสัยว่าระบบที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วทำให้เราไม่สามารถควบคุมสติได้ในชั่วเวลาหนึ่งจนมีความคิดอยากกระโดดแล่นเข้ามาในสมอง ในขณะที่คนอื่นๆ เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ช้ากว่า จนสามารถควบคุมความรู้สึกอยากกระโดดเอาไว้ได้ ใครที่เคยเกิดอาการแบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจไปว่าคุณจะกลายเป็นโรคจิตหรืออยากฆ่าตัวตายนะ เพราะมีคนที่มีอาการแบบนี้อยู่ทั่วโลกเลย แต่มันก็เป็นแค่ชั่วคราว และสมองของเราจะสั่งการโดยอัตโนมัติเองว่า “อันตราย ถอยออกมาหน่อย” แล้วตัวคุณล่ะ… เคยมีอาการแบบที่ว่าบ้างรึเปล่า!? เรียบเรียงโดย…
-
ชีวิตแค่โดนทำร้าย… นี่คือ 14 กิจกรรม ที่คุณควรทำ เมื่ออกหักเลิกรากับแฟน!!!
ความรักกับความเจ็บปวดมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ในเมืองมีพบก็ต้องมีจากลาเป็นของคู่กัน แต่คนทุกคนใช่ว่าจะมีภูมิต้านทานความเจ็บเหมือนๆ กันนะ บางคนเลิกรากันไปแล้วยังสามารถลุกเดินต่อได้ แต่บางคนก็เจ็บเจียนตายประหนึ่งว่าชีวิตนี้จะหาความสุขไม่ได้อีกแล้ว #เหมียวฟิ้น เลยนำเสนอ 14 กิจกรรมตัวช่วย ที่คุณควรทำหลังจากเพิ่งเลิกรากับแฟนเก่า เชื่อเถอะว่าไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ที่คุณทำแล้วมีความสุขได้แน่ๆ 1. เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ ฟังดูไม่ค่อยเมคเซ๊นส์เท่าไรไหม แต่… คุณอาจจะเคยอาศัยนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน หรืออาจจะทำกิจกรรม…(นั่นแหละ) ด้วยกันมาก่อน ทั้งนี้มันเหมือนการเริ่มต้นใหม่ๆ เพื่อสลัดภาพความทรงจำนั้นออกไป เปลี่ยนผ้าปูที่นอนซะนะ 2. บอกลาโซเชียล บางคนไม่เข้มแข็งพอ เห็นทวีตเห็นสเตตัสของเขาก็กระวนกระวายใจ พักเสียบ้าง หยุดเดินตามเขาแล้วอยู่กับตัวเองเยอะๆ 3. สร้างเพลย์ลิสต์ใหม่ เอาให้ตี๊ดๆ อาจจะมีเพลงบางเพลงที่เขามอบให้คุณ หรือพวกคุณเคยฟังด้วยกัน พอฟังทีไรก็นึกเจ็บปวดรวดร้าวทุกที ลบมันออกไป แล้วหาเพลงใหม่ๆ ใส่ลงไปซะนะ 4. ร้องไห้ ร้องมันออกมา!! การร้องไห้ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะนี่แหละคือการระบายที่ดีที่สุด ร้องมันออกมาค่ะลูก ระบายมันออกมาให้หมด!! 5. เปลี่ยนลุคใหม่ ไฉไลกว่าเดิม มันแน่นอนอยู่แล้วที่เมื่อคุณเลิกรากันไป จะต้องเปลี่ยนลุคให้ดูดีขึ้น บางคนอาจจะเปลี่ยนเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียดายคุณ…
-
สาระก็มา… ทำความรู้จักโรคความจำเสื่อมชั่วคราว แบบในหนัง “แฟนเดย์” ที่มีอยู่จริงๆ
ตอนนี้หนังเรื่องแฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียวของค่าย GDH ก็เข้าโรงให้ได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนที่ได้ไปชมกันมีความเห็นแตกต่างกันไป (อ่านบทวิจารณ์หนังของ#เหมียวฟิ้นได้ที่นี่นะ) แต่สิ่งหนี่งที่หนังเรื่องนี้หยิบเอามาเป็นแกนหลักเลยคือการเล่นกับอาการความจำเสื่อมชั่วคราวของนางเอกนี่แหละ ที่ทำให้พระเอกของเราได้กลายเป็นแฟนของเธอโดยปริยาย แต่จะบอกว่าอาการความจำเสื่อมชั่วคราวมันมีอยู่จริงๆ นะ และมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงๆ ด้วย เราลองไปทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่า เผื่อว่าเราจะเข้าใจนุ้ย (นางเอกในแฟนเดย์) มากขึ้น อาการของโรค โรคอาการสมองเสื่อมชั่วคราว (Transient Global Amnesia) เป็นอาการที่สมองจดจำเรื่องราวต่างๆ ในอดีต (ที่เพิ่งเกิด) ไม่ได้ แต่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ เท่านั้น ผู้ที่มีอาการนี้จะจดจำชื่อของคนที่เพิ่งรู้จักหรือเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่ได้ แต่สำหรับคนที่รู้จักกันมานานจะจำได้ หรือวันเดือนปีเกิด บ้านเลขที่อะไรจะยังจำได้อยู่ อาการนี้จะพบได้น้อยมากๆ อย่างเช่นในสหรัฐฯ เอง มีการตรวจพบอาการนี้ใน 100,000 คน จะเจอเพียง 5 คนเท่านั้น และจะพบมากในผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป สาเหตุ แม้จะยังไม่มีผลการยืนยันแน่ชัด แต่คาดกันว่าเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่นอาการทางสมองของตัวผู้ป่วยเอง ได้แก่ สมองขาดเลือดชั่วคราว ปวดหัวไมเกรน เป็นโรคลมชัก มีเลือดดำคั่งในสมอง…
-
มาร่วมดูคำตอบน่ารักของเด็กๆ เมื่อถามว่า “หากมีเงิน 1 ล้าน หนูจะเอาไปทำอะไร??”
ถ้าหากให้คิดกันเล่นๆ ว่า “ถ้าเรามีเงิน 1 ล้าน จะเอาเงินไปทำอะไรดี??” เราก็คงอยากเอาไปช็อปปิ้ง ซื้อนู่นซื้อนี่ ซื้อทุกอย่างที่เราอยากได้ ให้คิดทั้งวันก็ไม่หมดด้วยซ้ำ … แต่ถ้าเด็กๆ ที่ใสซื่อที่มองโลกแตกต่างจากผู้ใหญ่ออกไปล่ะ พวกเขาจะมีความคิดที่ต่างไปจากผู้ใหญ่รึเปล่าเมื้อถูกถามแบบนี้ พวกเค้าจะตอบว่าอะไร?? แน่นอนว่าบางคนก็ต้องมีของที่พวกเค้าอยากได้… ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากซื้อเสื้อผ้าสวยเท่ห์มีสไตล์ไว้ใส่ “ผมอยากได้รองเท้าเรืองแสงครับ” ใครบ้างที่ไม่อยากซื้อเครื่องประดับระยิบระยับวับวาว “หนูจะซื้อเครื่องเพชรสวยๆ!!” หรือว่าซื้ออะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะว่ามีเงินเยอะนี่นา “อยากได้อ่างอาบน้ำซักหนึ่งพันล้านกับอีกหนึ่งล้านอ่างฮะ” ต้องหมายถึงอ่างแบบนี้แน่ๆ เลย อิอิ ถ้าเรามีเงินมากมายให้ใช้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหมด เป็นใครก็ต้องอยากได้ของพวกนี้แหละน่า เงินมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมาก ถ้าไม่มีเงิน เราก็คงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และมันก็คงจะดีหากเรามีเงินมากมายมหาศาล แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่สำคัญต่อชีวิตมากกว่าการมีเพียงเงินเยอะๆ สำหรับเด็กบางคน การมีเงินเยอะๆ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุด “หนูอยากไปเที่ยวกับพ่อแม่ค่ะ” บางคนถึงกับไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ขอเพียงได้อยู่กับคนที่พวกเขารัก “หนูอยากปั้นตุ๊กตาหิมะกับพ่อค่ะ” การได้อยู่กับคนที่พวกเขารักต่างหาก คือความสุขที่แท้จริงสำหรับเด็กๆ “อยู่กับครอบครัว เล่นกับแมวและหมาของหนูมีความสุขที่สุขแล้วค่ะ” ไปชมคลิปพวกเด็กๆ…
-
ถ้าให้ลูกกินมังสวิรัติตั้งแต่เด็ก จะดีหรือไม่… มาร่วมแสดงความคิดเห็น แชร์ข้อมูลกันดีกว่า!!
การที่เด็กจะเติบโตขึ้นมามีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ได้นั้น เด็กจะต้องกินอาหารให้ได้ในปริมาณที่เพียงพอและมีอัตราส่วนของสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสม ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะมีวิธีเลี้ยงลูกที่ต่างกันไป จึงเป็นที่มาของประเด็นที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้…. เจ้าของกระทู้คุณ vnussy เป็นผู้ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้น เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวพันทิปว่าพวกเขาจะสนับสนุนเธอมั้ย หากเธอต้องการให้ลูกกินมังสวิรัติตั้งแต่ยังแบเบาะ เราไปดูคอมเม้นท์ฝ่ายที่สนับสนุนกันก่อน… คอมเม้นท์คุณ เปรมอุรา ชาวซิกส์ เขาทานมังสวิรัติมาแต่โบร่ำโบราณไม่เห็นมีปัญหาอะไรนะ ออกลูกออกหลาน เต็มบ้านเต็มเมือง การค้าเจริญรุ่งเรือง เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เต็มไปหมดเลยครับ คอมเม้นท์คุณ Cereal Guy ก็ให้กินไปครับ แต่ถ้าเขาโตขึ้นแล้วอยากกินเนื้อสัตว์ก็อย่าไปขัดเขา คอมเม้นท์คุณ สมาชิกหมายเลข 1204454 สนับสนุนค่ะ เราก็กิน ถ้ามีลูกเราก็จะให้ลูกกิน แต่ถ้าเค้าโตขึ้นแล้วเค้าไม่อยากกินก็ไม่ควรบังคับค่ะ มันจะเป็นเรื่องยากทุกคนกินมังแต่ให้ลูกกินเนื้อ มันจะเป็นปัญหากับตัว จขกท ค่ะ ถ้าคนที่เรียนทางด้านโภชนาการมา จะรู้ว่าการกินมังไม่ได้ขาดสารอาหาค่ะ เรารู้จักเด็กหลายคนที่กินเจตั้งแต่ในท้อง จนตอนนี้ก้กิน ก็เป็นเด็กฉลาดและพัฒนาการสมวัยทุกคน คนกินด้วยกันถึงจะเข้าใจ แต่บางคนก็ถอนใจ บอกว่าเอาที่คุณแม่สบายใจก็แล้วกัน คอมเม้นท์คุณ เจ้านู๋คากิ เอาที่คุณแม่สบายใจเลยค่ะ ลูกคุณ… คอมเม้นท์คุณ If I Could Turn Back…
-
ศิลปินส่งรูปนางแบบให้ดีไซน์เนอร์ทั่วโลก เพื่อสะท้อนถึง ‘ความงาม’ ในแบบของแต่ละประเทศ
มีคนกล่าวเอาไว้ว่า “ความงามนั้นอยู่ที่สายตาของผู้มอง” สิ่งใดจะเรียกได้ว่าสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน เช่นเดียวกับที่ผู้ชายในประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่ต่างก็มีรสนิยมความชอบผู้หญิงที่ต่างกันไป… ศิลปินสาวนามว่า Esther Honig เธอกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ในครั้งก่อนเธอได้ทำการทดลองที่ช่วยเผยให้เห็นถึงมาตรฐานความงามของแต่ละประเทศ ด้วยการส่งภาพใบหน้าของเธอให้กับเหล่ากราฟฟิคดีไซน์เนอร์จากทั่วโลก ทำการ ตัดต่อและเติมแต่งให้สวยขึ้นในแบบของแต่ละคน (อ่านได้ที่นี่) และในครั้งนี้ เธอส่งภาพของนางแบบไปให้กับกราฟฟิคดีไซน์เนอร์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้เราเห็นถึงมาตรฐานของคำว่า “ผู้หญิงหุ่นดี” จากทุกมุมองของโลก ว่ามีลักษณ์หรือจุดเด่น และจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง นี่คือภาพต้นฉบับ ตัวแทนสาวอเมริกันที่เจอได้ทั่วไปตามท้องถนนของประเทศสหรัฐ เอาล่ะ.. ไปชมความงานในแบบต่างๆ ทั้ง 18 สไตล์กัน!! 1. ประเทศอาร์เจนตินา แถบนี้มีรสนิยมชอบผู้หญิงที่ผอมลงมาจากต้นฉบับเล็กน้อย 2. ประเทศแอฟริกาใต้ มีรสนิยมค่อนข้างใกล้เคียงกับอาร์เจนตินา แต่สีผิวอ่อนกว่า 3. ประเทศเวเนซุเอลา นอกจากหุ่นแล้วก็ให้ความสำคัญกับทรงผมด้วย 4. ประเทศสเปน นี่คือหุ่นของ “สาวงาม” ที่พบได้ทั่วไปในสเปน 5. ประเทศสหรัฐอเมริกา หุ่นดีสะบึ้มแบบมีส่วนเว้าส่วนโค้ง 6.…
-
อาจารย์ฮาร์วาร์ด เผยเหตุผลว่าทำไมเรา ‘ฟิน’ เหลือเกิน เมื่อได้เห็นภาพ ‘ชีสยืดๆ’ ในโฆษณา
เคยสงสัยรึเปล่า?? ว่าเวลาที่เห็นภาพชีสยืดๆ ทำไมเราถึงรู้สึกพึงพอใจและหิวอย่างบอกไม่ถูก (หรือว่าเราจะเป็นคนเดียว??) บางคนถึงกับนั่งดูภาพชีสยืดๆ ได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่เบื่อหน่าย… วันนี้ #เหมียวขาสั้น จะมาช่วยไขข้อสงสัยนี้ เรามักเห็นโฆษณาสินค้าต่างๆ ที่ใช้ชีสเยิ้มๆ เป็นภาพประกอบ ซึ่งบางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องทำเหมือนๆ กัน อันที่จริงมันมีสาเหตุ… Uma Karmarkar ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อธิบายว่า ท่า “ดึงชีส” เป็นเทคนิคที่ผู้คนในวงการโฆษณารู้จักกันดี เพื่อใช้เร้าอารมณ์ และความหิวของผู้รับชม เวลาที่มีคนพูดถึงพิซซ่า เราอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่พอเห็นภาพพิซซ่าชีสเยิ้มๆ เรากลับอยากกินขึ้นมาทันที เพราะภาพแบบนี้สามารถกระตุ้นความหิวได้เป็นอย่างดี… (พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Uma อธิบายว่ามันคือการทำงานในระดับความทรงจำและความคุ้นเคยของมนุษย์ โดยใช้ภาพกระตุ้นให้เรานึกถึงความรู้สึกขณะที่กำลังรับประทานอาหารในโฆษณานั้นอยู่ กระบวนการนี้จะทำให้สมองของมนุษย์ปล่อยสารเคมีบางอย่าง ที่คล้ายคลึงกับคนที่ติดสารเสพติด คือมันทำให้เราอยากจะทานมันอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็แปลว่า อาหารบางอย่างก็ทำให้เราเสพติดมันได้ (อธิบายโดยยกตัวอย่าง เช่นเดียวกับคนที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว ก็มักจะกระสับกระส่ายเมื่อเห็นคนอื่นกำลังสูบบุหรี่…..) ไม่เพียงแค่พิซซ่าเท่านั้น ที่ผู้ผลิตโฆษณาใช้เทคนิคการสื่อสารแบบนี้กับผู้รับชม เพื่อกระตุ้นให้มาซื้อสินค้ายี่ห้อนั้นๆ โฆษณาเหล่านี้ก็ใช้เทคนิคที่คล้ายๆ กัน… ภาพหยาดน้ำบนขวด, ภาพทะเลช็อกโกแล็ต, ภาพรถไปอย่างช้าๆ , ภาพผมปลิวสลวย, ภาพผ้าขาวกลางแดดจ้า,…
-
ร่วมสรรเสริญคุณครู บริจาคร่างกายก่อนตาย ช่วยผู้ป่วย 6 คนรอดชีวิตด้วยอวัยวะของเขา…
การให้นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ Mark Osbone ชายชาวอังกฤษ เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 49 ปี ที่ประเทศจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาจะสามารถมอบให้ประเทศอันเป็นที่รักของเขา ก็คือร่างกายเขาเอง… ในวันครบวันแต่งงาน 6 ปีของพวกเขา Mark Osbone และคุณนาย Wong ภรรยาของเขาจึงได้จัดงานฉลองขึ้นในหอผู้ป่วยไอซียูโรงพยาบาลหางโจว นกกระดาษกว่า 30 ตัวที่พยาบาลพากันทำขึ้น เรียงรายอยู่ที่ปลายเตียง พร้อมกับภรรยาในชุดกี่เพ้าสีม่วงตัวโปรดของเขา Mark ได้ใช้โอกาสนี้ในการกล่าวคำร่ำลาครอบครัวและผองเพื่อนของเขา Mark Osbone ได้เป็นครู และอยู่กินกับภรรยาในหางโจวมากว่า 6 ปีแล้ว เขาถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต และชีวิตคู่ของเขากำลังเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทุกอย่างก็ล่มสลาย จากรายงานข่าวระบุว่า Mark ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะจู่ๆ เขาก็หมดสติ แพทย์ที่ทำการตรวจวินิจฉัยได้ว่า Mark เป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่ แพทย์ได้คาดการณ์ว่า สุขภาพของ Mark จะแย่ลงไปอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่สามารถช่วยยื้ออะไรได้อีก Mark สนใจที่จะบริจาคร่างกายของเขา…
-
Luke Elsworth หนุ่มวัย 19 ที่กำลังฮอต เพราะเขาได้ชื่อว่าเป็น ‘นักบิน’ อายุน้อยสุดในอังกฤษ
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มจากมณฑลเชชเชอร์ ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับการเสนองานจากสายการบิน EasyJet ด้วยอายุเพียง 19 ปี (อายุ 19 ปี ก็เป็นนักบินได้แล้วหรือนี่!?) แม้ Luke Elsworth จะมีคุณพ่อเป็นกัปตันที่ easyJet แต่เขาก็ยืนกรานว่าเขาไม่เคยถูกกดดันให้เข้าสู่สายอาชีพนี้ การได้เป็นนักบินถือเป็นความฝันอันสูงสุดของเขาตั้งแต่เขายังเด็ก ซึ่งเขามองว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น มันเป็นเส้นทางที่เขาเลือกเดินด้วยตนเองมาโดยตลอด เมื่ออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ เขาก็ไปสมัครเป็นนักบินฝึกหัดที่ CTC Activation ใน Southampton ทันที เขาผ่านการฝึกมาอย่างช่ำชอง ซึ่งประกอบไปด้วยการฝึกด้วยเครื่องฝึกบินจำลองเป็นเวลา 6 เดือน และฝึกบินอากาศยานเบาที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา อีกเป็นเวลา 18 เดือน ในที่สุด เขาได้รับใบอนุญาตเป็นนักบินผู้ช่วย ตามรายงานของบันทึกการบินพลเรือน เขาถือว่าเป็นนักบินที่หนุ่มที่สุดในสหราชอาณาจักร Luke ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องอายุของเขาต่อเว็บไซต์ Metro ว่า “ถ้าคุณเก่งพอ คุณผ่านการฝึกมาแล้ว และคุณคิดว่าคุณเหมาะกับงาน ผมว่าอายุไม่น่าจะใช่ประเด็นที่สำคัญเลย” เขามองว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคของการทำงาน และต้องการส่งเสริมให้คนหนุ่มสาวนำไปเป็นแบบอย่าง Eric Moody อดีตนักบินบริติชแอร์เวย์ก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า “อายุแทบจะไม่มีส่วนสำคัญอะไรกับการเป็นนักบินเลย ขอแค่เก่งเท่านั้นเป็นพอ” ผู้โดยสารเป็นกังวลกับเรื่องอายุของเขาบ้างมั้ย??…
-
ชมบรรยากาศ การโดยสารเครื่องบิน ในยุค 50s มันจะต่างจากปัจจุบันมากแค่ไหนนะ!??
การเดินทางโดยเครื่องบินในยุค 50 ดูเหมือนจะแตกต่างกับการบินในยุคปัจจุบัน บางคนถึงกับเปรียบเปรียบเปรยว่ามันเต็มไปด้วยเสียงเด็กร้องไห้ระงมบนเครื่อง สภาพอากาศการบินที่ย่ำแย่ และรสชาติของอาหารที่จืดชืด (กัดซะเจ็บเลย) เอาเป็นว่าเราลองย่อนกลับไปดูเมื่อในอดีตราว 50-60 ปีก่อน มันจะแตกต่างกันมากเพียงใดนะ… ในช่วงยุคทองของการโดยสารทางการบิน ผู้ที่มีโอกาสได้บินไปไหนต่อไหนมักจะเป็นพวกผู้ดี มียศ มีชาติตระกูล เหล่าสุภาพสตรีมักจะสวมสร้อยไข่มุกราคาแพง พร้อมกับชุดเดรสและถุงมือที่เข้าชุดการเป็นอย่างดี ส่วนเหล่าท่านสุภาพบุรุษก็มักจะสวมสูทจากอิตาลี หรือแม้กระทั่งเด็กๆก็ยังสวมใส่ชุดสุภาพเป็นทางการ และผูกโบว์หูกระต่ายเล็กๆสำหรับเด็กผู้ชาย เหล่าผู้โดยสารผู้มีอันจะกินในยุคนั้น เดินทางชนิดที่ว่าไม่เกี่ยงกับเรื่องราคาของตั๋วเครื่องบินเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าไฟล์ทจากลอนดอนไปออสเตรเลียจะสูงมากกว่ารายรับเฉลี่ยรายปีของบุคคลธรรมดาเลยก็ว่าได้ นี่เป็นรูปที่ผู้โดยสารกำลังก้าวออกจากเครื่องบินพาณิชย์ Douglas DC-6 เครื่องบินที่เป็นที่นิยมในยุคแรกๆ รันเวย์ในสนามบินเปรียบเสมือนกับเวที Catwalk ที่ผู้คนต่างแต่งตัวสวยจัดเต็มกันทุกคน บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องมีเลานจ์ ไว้บริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการสังสรรค์ พูดคุยกันในระหว่างการเดินทาง เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้อื่น ภาพภายในเครื่องบิน Douglas DC-7 ระหว่างรอเครื่องออกบิน ภาพผู้โดยสารกำลังสูบบุหรี่และผ่อนคลายภายในเลานจ์เครื่องบิน Douglas DC-7 ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีอันจะกิน อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยเครื่องบินในยุคนั้น นับได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป โดยไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหาเรื่องที่นั่ง หรือความโกลาหนวุ่นวายให้เสียเวลา ปัจจุบันเพื่อให้เครื่องบินบรรจุผู้โดยสารได้มากขึ้น พวกเขาจะใช้วิธีการเสริมเก้าอี้ และลดจำนวนพนักงานบนเครื่องบินลง …
-
สาวน้อยวัยเพียง 7 ขวบ กับหัวใจอันยิ่งใหญ่ ช่วยชีวิต ‘ลูกแมว’ มาแล้วถึง 17 ตัว !!
เด็กๆ ถึงแม้จะไร้เดียงสา แต่บางครั้งด้วยมุมมองที่ยังอ่อนต่อโลก ก็ทำในเด็กตัวน้อยๆ ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย… ดังเช่นหนูน้อยเอ็มม่าที่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นได้ว่า เราเองก็ทำสิ่งที่วิเศษได้เพียงแค่เราตั้งใจที่จะทำ หนูน้อยเอ็มม่าวัยเพียง 7 ขวบ กับคุณแม่คริสทีนของเธอ ได้ช่วยชีวิตลูกแมวจรจัดมาทั้งหมดแล้ว 17 ชีวิตด้วยกัน ด้วยวัยเพียงเท่านี้ หนูน้อยเอ็มม่ามีกิจกรรมมากมายที่ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา หรือการเรียน แต่เธอสละเวลาอันน้อยนิดมาช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก และดูเหมือนว่าเธอจะรักมันมากเช่นกัน ขณะที่ครอบครัวก็ดูจะให้ที่พักและความอบอุ่นกับแมวเหมียวเหล่านั้นเป็นอย่างดีด้วย… นี่คือหนูน้อยเอ็มม่า อายุ 7 ขวบ แม้ว่าหนูน้อยเอ็มม่าจะต้องไปโรงเรียน ทำกิจกรรม มีงานบ้านต้องช่วยทำ แต่เธอก็ให้เวลากับเพื่อนหน้าขนของเธอเสมอ เธอชอบออกไปเล่นสนุกไม่ต่างจะเด็กคนอื่น แต่เธอก็ยังชอบที่จะได้พักผ่อนอยู่กับเจ้าตัวน้อยของเธอ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าหนูน้อย Emma รักเจ้าเหมียวขนาดไหน และเจ้าเหมียวน้อยเองก็คงจะรักเธอไม่ต่างกัน พอโตขึ้น ความฝันของหนูน้อยเอ็มม่าคือการได้ทำงานกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ พูดได้เลยว่าสิ่งที่เธอทำนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้เกี่ยวความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน แต่แน่นอนมันยังเป็นการเพิ่มคุณค่าชีวิตของตัวเธอเองอีกด้วย ช่างเป็นเด็กดีซะยิ่งกระไร #เหมียวขาสั้น ขอเป็นกำลังใจให้หนูน้อยเอ็มม่าเป็นแบบอย่างที่ดีแบบนี้ต่อไปนะจ๊ะ… ที่มา: Onegreenplanet
-
ย้อนกลับไปดูป้ายโฆษณา ‘เหยียดเพศ’ ที่เหล่าแบรนด์ดัง ล้วนเคยใช้มาในอดีต…
โฆษณาสินค้าต่างๆ ในแต่ละยุคนั้น สามารถสะท้อนให้เห็นสถานะของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี เช่นโฆษณาในปัจจุบันมักจะชักชวนให้ผู้หญิงมีหุ่นผอมๆ มิฉะนั้นก็จะถือว่าเป็นคนไม่สวย เรียกว่าโฆษณาเป็นเครื่องมือที่กำหนดค่านิยมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ลองย้อนกลับไปดูดีกว่าว่าในยุคอดีตที่ผ่านมา แบรนด์ดังบางแบรนด์ที่เรารู้จัก ก็อาจจะเคยใช้โฆษณาในลักษณะเหยียดเพศนี้มาแล้วก็เป็นได้… โฆษณา Alcoa Aluminum ในปี 1953 … “ฝาบิดที่ผู้หญิงเปิดเองไม่ได้” โฆษณาเนคไท แบรนด์ Van Heusen ในปี 1951 … “แสดงให้เธอเห็น ว่าโลกเป็นของผู้ชาย” โฆษณาน้ำยาทำความสะอาด Procter & Gamble ในปี 1968 … “ผู้หญิงจะท่องอวกาศได้ ก็ต่อเมื่อพวกเธอมีหน้าที่ขึ้นไปทำความสะอาด” โฆษณารองเท้า Weyenberg ในปี 1974 … มองผู้หญิงว่าเป็นเบื้องล่างของผู้ชาย โฆษณาอุปกรณ์ทำครัว Kenwood ในปี 1961 … “หน้าที่ของภรรยาคือหุงหาอาหาร” โฆษณารถยนต์ Mini 1971 … “รถยนต์ขับสะดวก ที่ขนาดผู้หญิงก็ขับได้” โฆษณาวิตามิน แบรนด์ Kellogg’s ในปี 1938 … “ยิ่งทำงานบ้านเยอะก็ยิ่งสวย = ต้องอยู่บ้านในขณะที่ผู้ชายออกไปข้างนอก” …
-
โอ้วว!! Demodex สัตว์เลี้ยงน่ารักที่อยู่บน ‘ใบหน้า’ ของเราทุกคน แต่เราก็ไม่รู้ตัว…
บนโลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งลึกลับมากมาย มีอะไรอีกมากมายหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ แม้แต่ตัวเรา ร่างกายของเราตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็อาจจะมีสิ่งมีชีวิตตัวเล็กนับล้านที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าอาศัยอยู่… ส่วนใบหน้าก็เช่นกัน มีสิ่งมีชีวิตที่เราไม่รู้จักอาศัยอยู่ และที่จะพาไปรู้จักกันในวันนี้ มันเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ(เหรอ) ของทุกคนเลยล่ะ… นี่คือ Demodex เรียกอีกอย่างว่าไรขนตา ตัวไร หรือเห็บคน ขนาดของมันเล็กมากแค่เพียง 0.3-0.4 มม. พบตามคิ้ว ขนตา และรูขุมขนบนใบหน้า โอ้วว!! หน้าของเราเลี้ยงตัวน่ารักแบบนี้เอาไว้ด้วย พวกมันจะคอยกินน้ำมันกับผิวหนังที่ร่างกายผลัดออกมา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะโผล่ออกมาในตอนที่เราหลับ ภาพเจ้า Demodex หรือไรขนตา อยู่ในรูขุมขน… น่าขนลุกใช่มั้ยล่ะ?? ผู้ใหญ่ 95-98% จะมีไรขนตาอยู่บนร่างกาย แต่เด็กจะมีน้อยกว่าเนื่องจากมีน้ำมันที่ขับออกตามรูขุมขนน้อยกว่า สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสบริเวณ ใบหน้า ขนตา และเส้นผม แต่ไม่ต้องตกใจกันนะ!! โดยปกติแล้วไรขนตาแทบไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราเลย ยกเว้นในภาวะที่ร่างกายของเราบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน เจ้าพวกนี้อาจส่งผลเกิดการระเคืองหรือโรคผิวหนังได้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงไม่ทราบชัดเจนถึงที่มาของเจ้าปรสิตชนิด แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสกับมันหรอกนะจ๊ะ!! จะกำจัดเจ้าพวกนี้ ก็ไม่ถึงกับต้องฉีดยาฆ่าแมลง แค่รักษาผิวหน้าให้สะอาดก็พอ ในหนึ่งวันใบหน้าของคนเราต้องเจอกับอะไรตั้งเยอะแยะใช่มั้ยล่ะ?? ถ้าอยากให้มีใบหน้าที่สวยใสอยู่กับเราไปนานๆ ก็ทำความสะอาดกันให้ดีล่ะ ที่มา: Bordomtherapy
-
ปัญหาสาวๆ ‘ผมบาง’ อาจเกิดจาก ‘กระเป๋าสะพาย’ ที่เราใช้ มาเรียนรู้และป้องกันดีกว่า!!!
บางอย่างมันก็เกิดขึ้นกับเราโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ดังนั้นเมื่อรู้สาเหตุของปัญหาแล้ว ทางที่ดีที่สุด เราจะป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะสายเกินไป จากบทความของ Lisa DeSantis ที่เขียนลงในเว็ปไซต์ Health เว็ปสุขภาพและความงาม เธอได้ค้นพบว่า กระเป๋าคล้องไหล่ที่สาวๆนิยมใช้ใส่ไปไหนต่อไหนนี่แหละ อาจเป็นต้นเหตุของผมเสียและทำให้ผมร่วงโดยที่ไม่รู้ตัว Lisa เล่าว่า ช่างทำผมของเธอ สังเกตเห็นว่าผมของเธอทั้งสองข้างมีความหนาบางไม่เท่ากัน ช่างจึงเดาได้อย่างง่ายดาย ว่าเธอมักจะสะพายกระเป๋าด้วยไหล่ข้างไหน แล้วช่างรู้ได้ยังไงล่ะ?? … ก็เพราะว่าข้างนั้นมันบางกว่านั่นเอง เวลาเราคล้องกระเป๋าที่ไหล่ สายกระเป๋ามันก็อาจไปเกี่ยวกับผมได้น่ะสิ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่เส้นผมเสีย ซึ่งสาวๆ บางคนไม่ได้ให้ความใส่ใจ เคยกันใช่มั้ยล่ะ?? สายรัดกระเป๋าดึงผม เวลาที่ลืมเก็บผมก่อนที่จะสะพาย และถ้าหากว่าเป็นสายคล้องมีโซ่ด้วยก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ เพราะมันเกี่ยวผมเอาได้ง่ายๆ เลย นอกจากนี้ สะพายกระเป๋าข้างเดียวเป็นเวลานานๆ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น) ก็ไม่ดีต่อผมเช่นกัน ลองไปสังเกตกันดู ว่าข้างที่เพื่อนๆ ใช้สะพายกระเป๋าอยู่ตลอดเป็นยังไงบ้าง ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้ผมบางลงโดยไม่ทันรู้ตัว วิธีป้องกันอย่างแรก คือสะพายให้ช้าลง ที่สำคัญคืออย่าลืมเก็บผมออกไปให้หมดก่อน หรือว่าจะพกสายรัดผมนุ่มๆ ซักเส้นก็ได้ พอเวลาจะสะพายกระเป๋าก็ให้รวบผมเก็บไว้ให้ดีก่อน วิธีป้องกันอีกวิธี คือ ให้สะพายสลับข้างบ่อยๆ เพราะนอกจากจะลดการทำให้ผมเสียหรือร่วงแล้ว ก็ยังเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพอีกด้วย สำหรับสาวผมสั้นก็โชคดีไป อยากจะสะพายกระเป๋ามีสายรัดประดับเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่เลยจ้า !!…
-
น่ายกย่อง… พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด ควักเงินตัวเอง ซื้อของกินให้ ‘คนไร้บ้าน’ ผู้หิวโหย
การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทน #เหมียวขาสั้น คนนึงแหละที่เชื่อแบบนั้น เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่เมือง San Antonio รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา นาง Michelle Resendez มารดาของนาย Matthew ได้โพสต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “เหตุการณ์ที่คนเป็นแม่ต้องประทับใจ” เพื่อให้โลกได้รับรู้และร่วมชื่นชมต่อการกระทำของลูกชายเธอ แม่ของเขาบรรยายว่าในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ลูกของเธอทำงานอยู่ ก็มีชายไร้บ้านเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเงินจำนวนครึ่งเซนต์ เข้ามาถามเขาว่ามีอะไรในเมนูที่เขาพอจะซื้อได้ไหม (แค่นั้นคงไม่พอซื้ออะไรหรอกลุง TT) ด้วยความสงสาร Matthew ถามชายคนนั้นกลับไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ คุณอยากจะกินอะไรล่ะ” ชายไร้บ้านจึงตอบกับเขาว่า “อะไรก็ได้ทั้งแหละ ที่จะช่วยบรรเทาความหิวโหยของเขาได้” สิ่งที่ Matthew ทำต่อมา เรียกได้ว่าน่าซาบซึ้งใจสุดๆ เขาควักบัตรเดบิทขึ้นมา และซื้ออาหารให้ชายแก่อย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ยื่นใบเสร็จให้ พร้อมกับบอกให้เขาไปนั่งพักและทำตัวตามสบาย เหตุการณ์อันน่าประทับใจยังไม่จบเพียงเท่านั้น ด้วยความบังเอิญ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเห็นเหตุการณ์อันน่าประทับใจทั้งหมด เธอจึงเขียนไปถึงเจ้านายของ Matthew เพื่อชื่นชมต่อการกระทำของเขา และยังไม่พอ… เธอยังตบทิปแก่เขาอย่างงดงามอีกด้วย!! เหตุการณ์นี้จึงทำให้แม่ของเขาภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีลูกชายที่จิตใจกว้างขวางแบบนี้ สิ่งที่ Matthew ทำนั้น เป็นสิ่งที่ทำออกมาจากใจโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนขอให้ทุกคนจงยืนหยัดต่อการทำความดีต่อไป…
-
บทความดีๆ… คุณว่าคนยุคนี้ติด ‘สมาร์ทโฟน’ แต่คนยุคก่อน ก็ติด ‘หนังสือพิมพ์’ ไม่ต่างกัน
คุณคิดว่าเด็กสมัยนี้ใช้เวลาเล่นสมาร์ทโฟนในวันหนึ่งมากเกินไปหรือเปล่า?? เป็นเรื่องจริงนั่นแหละฮะ ที่เด็กสมัยนี้ใช้เวลากับสมาร์ทโฟนมากขึ้นกว่าที่เป็นมา เนื่องจากทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เราก็จึงเห็นผู้คนก้มหน้าเล่นมือถือสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนกินข้าว กำลังเดิน หรือนั่งรถ พูดอีกอย่างก็คือ บทบาทของสมาร์ทโฟนทุกวันนี้มันได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนทั่วทั้งโลกไปแล้ว อย่างไรก็ดี มีหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับคำบ่นหนาหูเรื่องการติดสมาร์ทโฟนของเด็กยุคใหม่ โดยเขาได้โพสต์ความคิดของเขาออกมาผ่านทวิตเตอร์พร้อมกับรูปๆหนึ่ง เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า อะไรๆมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนั้นตั้งแต่ 30 ปีก่อนแล้ว ไม่ว่าจะยุคหรือก่อนหรือหลังยุคสมาร์ทโฟน… “มันไม่ถูกต้องเลย ที่คนมีความเชื่อกันว่าเด็กสมัยนี้ใช้เวลากับการเล่นสมาร์ทโฟนมากจนเกินไปกระทั่งกลายเป็น “อาการการเสพติดสมาร์ทโฟน” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสิ่งนี้ต่างหากไม่ใช่หรือ??” เขาชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นช่องทางหลักที่คนหนุ่มสาวใช้บริโภคสื่ออันหลากหลาย ในขณะที่ในอดีต พวกเรายังคงต้องดูรายการต่างๆจากโทรทัศน์เท่านั้น หรือการใช้เครื่องวิดีโอเทปแบบอนาล็อก (VCR) หรือถ้าจะฟังเพลงก็ต้องฟังผ่านวิทยุ ถ้าจะโทรหาใครก็ต้องใช้โทรศัพท์บ้าน จะถ่ายรูปก็ต้องมีกล้อง จะคำนวณโจทย์ยากๆ ก็ต้องใช้เครื่องคิดเลขใน หรือถ้าจะอ่านหนังสือก็ต้องพกหนังสือไปไหนต่อไหนด้วย แต่ปัจจุบันนี้ ฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ทุกชิ้นได้ถูกนำมารวมอยู่ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆต่างถูกใจ และเห็นด้วยกับความคิดของเขาที่ยุคสมัยมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเดิมสักเท่าไหร่ ทำให้ข้อความของเขาก็ถูกรีทวีตออกไปเกือบ 20,000 ครั้งแน่ะ!! “แล้วเมื่อก่อนมีการบ่นว่าคนมัวแต่อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์บ้างไหมล่ะ?? แทนที่จะไปอ่านข่าวจากป้ายประกาศของเมือง” พอเห็นรูปนี้แล้วก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่เลย ตรงกันข้ามกัน สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน แต่ยังคงใช้โทรศัพท์แบบฝาพับอยู่ ก็ได้มาแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันว่าพวกเขาก็ยังต้องเข้าถึงสื่ออื่นๆอีกนอกเหนือไปจากโทรศัพท์ สุดท้ายแล้ว ก็กลายมาเป็นข้อถกเถียงน่าปวดหัวกันว่าสิ่งใดดีกว่ากัน…
-
ชวนทายลักษณะนิสัยจาก “ริมฝีปาก” ทั้ง 9 แบบ ริมฝีปากแบบไหน คุณจะเป็นคนยังไง!?
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยเปิดนิตยสารหรือเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูลักษณะร่างกายภายนอก ที่สามารถบอกนิสัยหรือตัวตนบางอย่างของเรา ซึ่งก็มีตั้งแต่ดูใบหน้าโดยรวม ดูคิ้ว ดูดวงตา แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาไปดูลักษณะนิสัยผ่านริมฝีปากกัน เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่าริมฝีปากของเรานั้นมันสามารถบอกอะไรเราได้ด้วยนะ เช่นริมฝีปากบางๆ ริมฝีปาก หน้า ริมฝีปากแบบการ์ตูน เราลองไปดูกันดีกว่าว่าริมฝีปากแบบไหนเป็นยังไงกันบ้าง? 1. ริมฝีปากแบบตุ๊กตา หญิงสาวที่มีริมฝีปากเล็กๆ แบบนี้ มักจะมีความขี้เล่น สนุกสนาน บางครั้งเลยเถิดไปถึงขั้นเจ้าชู้เล็กๆ (อาจจะเช็คเรทติ้ง) มีจิตวิญญาณและความตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆ 2. ริมฝีปากแบบอวบอิ่ม มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทำอะไรมักมีความแน่วแน่ 3. ริมฝีปากกว้าง ผู้หญิงที่มีริมฝีปากแบบนี้จะมีความสมดุลที่สุด มักประสบความสำเร็จและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ หากมีคนแบบนี้เป็นเพื่อนล่ะก็รับรองว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีแน่นอน 4. ริมฝีปากแบบกามเทพ ผู้ที่เป็นเจ้าของริมฝีปากแบบนี้มักจะเป็นคนโรแมนติก มีเสน่ห์ และมีความคิดสร้างสรรค์ 5. ริมฝีปากบาง ผู้หญิงที่มีริมฝีปากแบบนี้มักจะลงมือทำมากกว่าพูด ห่วงใยคนรอบข้าง แถมยังมีแนวโน้มที่จะเป็นคนขี้อายด้วย 6. ริมฝีปากเอียงลง หญิงสาวเหล่านั้นจะมีความรอบคอบ ไตร่ตรองทุกอย่างให้ถี่ถ้วน ถ่อมตัวหน่อยๆ 7. ริมฝีปากเล็ก…
-
อาจารย์ฝรั่งเขียนบทความ วัฒนธรรมการ ‘ข่มขืน’ ในประเทศไทย ที่สื่อนำเสนอให้กลายเป็นเรื่อง ‘ธรรมดา’ !!?
จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ราวกับว่าฝังรากลึกในสังคมไทยไปแล้วนะเนี่ย กับเรื่องการ ‘ปล้ำ’ การ ‘ข่มขืน’ ที่มีให้เห็นกันอย่างบ่อยๆ ทั้งในข่าวและละคร จนบางทีคนอาจนึกว่าเป็นเรื่องธรรมดากันไปซะแล้ว…ซึ่งที่จริงเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ไปเจอบทความดีๆ ของอาจารย์ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่มาสอนในเมืองไทย และก็ต้อง ‘อึ้ง’ กับคำพูดที่นักเรียนกลุ่มหนึ่งของเธอใช้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องล้อเล่นก็เถอะ เพราะมันแสดงออกให้เห็นถึงความคิดหลายๆ อย่างเลยทีเดียว… โดยนักเรียนชายที่เธอสอนได้กล่าวกับเธอว่า ‘ถ้าจารย์ไม่ให้ผมผ่านวิชานี้ผมปล้ำจารย์เลยน้าาา’ ซึ่งเจ้าหน้าที่หญิงคนอื่นก็อยู่ในเหตุการณ์และก็หัวเราะคิกคักกับการล้อเล่นที่เกิดขึ้น อาจารย์ท่านนี้เธอก็แปลกใจอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจภาษา แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือเรื่องแบบนี้มาเป็นมุกตลกได้ยังไงเสียมากกว่า… ภาพจากเรื่องเสน่หาสัญญาแค้น นาคินทร์ข่มขืนปานตะวัน เธอจึงศึกษาลงไปในเรื่องนี้ให้ลึกขึ้น ก็พบว่าในประเทศไทยสองคำที่มีความหมายในเชิงล่วงละเมิดบังคับขืนใจทางเพศก็คือ ‘ปล้ำ’ และ ‘ข่มขืน’ ซึ่งปล้ำจะฟังแล้วดูซอฟต์กว่า ส่วนข่มขืนจะดูรุนแรงและกลายเป็นความผิดมากกว่า กระนั้นคำว่า ‘ปล้ำ’ เหมือนจะเป็นคำที่ถูกยอมรับโดยสังคมไทย เพราะหลังจากการปล้ำจะเกิดความผูกพันซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะในละครไทยเกือบจะทุกๆ เรื่อง ที่นางเอกจะต้องถูกปล้ำ… ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กร้าวพยายามข่มขืนอร ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาหลังจากนั้นจะกลายเป็นว่านางเอกรู้สึกว่าตัวเองถูกครอบครองโดยผู้ชายที่ปล้ำเธอ และพระเอก (ผู้ปล้ำ) จะรู้สึกผิดที่กระทำการล่วงเกินเธอเลยทำให้เกิดเป็นข้อผูกมัดที่ต้องดูแลห่วงหาอาทรนางเอก ซึ่งอาจเป็นได้เพราะประเพณีไทยที่ให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวถึงแม้จะชอบเขาก็ตาม บทละครเลยต้องให้ผู้ชายต้องปล้ำพวกเธอ เพื่อกรุยทางสู่ความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากนั้น …
-
งี้ต้องลอง นักวิทยาศาสตร์เผย การว่ายน้ำหรือการแช่น้ำอุ่นช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้นะ
การว่ายน้ำนอกจากจะช่วยบริหารร่างกายไปแทบทุกสัดส่วนแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าการว่ายน้ำยังช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ด้วยนะ นักจิตวิทยา Moby Coquillard จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้นำเสนอให้การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งเขาก็เคยนำมันไปใช้กับคนไข้ของตัวเองมาแล้ว และยังได้ผลดีกว่าการใช้ยารักษาโรคบางชนิดซะอีก อย่างที่ทราบกันดีว่าการออกกำลังกายนั้นทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดี แต่จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Howard Carter of the University of Western Australia กลับพบความเชื่อมโยงระหว่างน้ำอุ่นแและการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น การที่เราว่ายน้ำในน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่ายกายทำงานได้ดีขึ้น นั่นหมายความว่าจะมีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองที่มากขึ้นด้วย การทำงานของสมองก็จะดีขึ้นตามลำดับ โอ้วมันช่างดีอะไรขนาดนี้ล่ะซาร่า! นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบการว่ายน้ำว่าเหมือนการเล่นโยคะด้วยนะ เพราะการออกกำลังกายทั้ง 2 แบบจะช่วยให้ร่างกายของคุณยืดออกไปทุกส่วน และยังช่วยควบคุมการหายใจให้เป็นจังหวะด้วย ฉะนั้นหากคุณไม่มีเวลาไปเล่นโยคะ ก็ลองไปว่ายน้ำกันดูนะ ที่มา lifehack
-
เหมียวชวนคุย ต้องทำยังไงคนไทยถึงจอดรถให้คนข้ามถนนไปก่อน? หลังจากเกิดอุบัติเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน
นี่ถือเป็นปัญหาที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่เป็นปัญหามานาน สำหรับการจอดรถเพื่อให้คนที่กำลังจะข้ามถนนไปก่อน แต่ด้วยความเร่งรีบของชาวไทย ทำให้น้อยคนนักที่จะจอดรถจนเกิดอุบัติเหตุรถชนคนข้ามถนน แม้จะอยู่บนทางข้ามม้าลายก็ตาม ล่าสุดมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ ปิดบริการ ทนไม่ไหวจนต้องเข้ามาตั้งกระทู้ถามชาวพันทิปว่า ต้องทำยังไงให้คนไทย หยุดรถทางม้าลาย แบบต่างประเทศครับ? เนื้อหาภายในกระทู้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เจ้าตัวมักจะเห็นพฤติกรรมและความไม่มีน้ำใจกันบนท้องถนน เพราะในหลายๆ ครั้งที่จอดรถให้คนข้ามถนน มักจะมีคนขับแซงออกด้านข้าง หรือไม่ก็อาจจะมีคนบีบแตรไล่ ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ได้ฝาก 3 ข้อคิดเห็นถึงคนขับรถ คนข้ามถนนและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยากฝากถึงคนขับรถทุกประเภท หากขับมาแล้วข้างหน้าเป็นทางม้าลาย เห็นรถคันข้างหน้าเบรก ช่วยเบรกหน่อย อย่าแซง อย่าร้อนรน หรือทางม้าลายอัจฉริยะ แม้เจอไฟแดงก็จอดหน่อยเถอะนะ คิดซะว่าฝ่าไฟแล้วเจอใบสั่งปรับห้าพันไรงี้เอาซะ อยากฝากถึงคนข้ามถนน หากจะข้าม ถ้าเป็นไปได้ตามถนนใหญ่ ที่มีเกาะกลาง ช่วยข้ามทางม้าลายหน่อย อย่าข้ามนอกจุด เพราะไม่มีรถคันไหนจอดให้หรอก อันตรายทั้งคุณและคนขับรถยนต์เลย และที่สำคัญตามทางม้าลายอัจฉริยะ กดแล้วช่วยรอหน่อย อย่าเดินข้ามไปก่อนสัญญาณไฟ แม้รถว่าง อยากฝากถึงตำรวจ เลิกตั้งด่าน แล้วดักจับพวกฝ่าฝืนกฎจราจรทางม้าลายดีกว่า ได้ค่าปรับเยอะกว่าอีก ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ บังคับใช้กฎหมายหน่อยเถอะ …
-
อยากรู้มั้ยว่าทำไมโค้กขวดแก้วถึงมีรสชาติที่อร่อยกว่ารูปแบบอื่น? เป็นเพราะพื้นผิววัสดุยังไงล่ะ!!
ในที่นี้คงไม่มีใครรู้จักน้ำดื่มสีดำซ่าที่สร้างความสดชื่นให้กับมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย สองเจ้าดังๆ ก็จะเป็น โคคา-โคล่า (โค้ก) กับ เป๊บซี่ ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งว่า เจ้าไหนอร่อยกว่ากัน อันนี้ก็ต่างความคิดต่างความเห็นกันไป แล้วแต่บุคคล และอีกประเด็นหนึ่งที่อาจจะมีบางคนรู้สึก (หรือหลายคน) ว่าโค้กแบบบรรจุในขวดแก้วนั้น เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว รสชาติยิ่งกว่าขวดที่บรรจุในขวดพลาสติกหรือแบบกระป๋องเสียอีก เออ!? แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ หรือว่าเรารู้สึกกันไปเอง ด้วยความสงสัยนี้ นักชีวเคมีอันเป็นผู้ก่อตั้ง Science By Design คุณ Sara Risch ได้หาคำตอบมาคลายข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว เหตุผลหลักๆ ก็มาจาก การที่ของเหลวทำปฏิกิริยากับวัสดุที่บรรจุ นั่นเอง ‘ในการบรรจุผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทนั้นจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาใดๆ ที่อาจจะส่งผลเสียหายต่อสินค้า’ โดยแบบกระป๋องนั้นจะมีการเคลือบพอลิเมอร์ เพื่อไม่ให้อลูมิเนียมดูดซับโมเลกุลของโซดาในเครื่องดื่ม แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งทำให้รสชาติเครื่องดื่มเปลี่ยนแปลงไป ในส่วนของขวดพลาสติกนั้นให้ผลตรงข้ามกัน กล่าวคือขวดพลาสติกจะถ่ายเทสารแอซีแทลดีไฮด์ (สารแต่งกลิ่น) เข้าไปในโมเลกุลของโซดา รสชาติก็เปลี่ยนไปอีก คุณ Sara…
-
เปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลใน ‘อาหารเพื่อสุขภาพ’ กับ ‘ของหวาน’ อะไรจะมีมากกว่ากัน!?
ปริมาณน้ำตาลในอาหารเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนหันมาใส่ใจกันมากขึ้น เนื่องจากว่าอาหารในสมัยนี้มีน้ำตาลแฝงมาแทบทุกรูปแบบ ยิ่งเวลารับประทานเข้าไปยิ่งไม่รู้สึกตัว จึงกลายมาเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน องค์กร American Heart Association ได้แนะนำเอาไว้ว่าปริมาณน้ำตาลที่พอเหมาะสำหรับผู้ชายในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 9 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 37 กรัม แต่หารู้ไม่ว่าแค่เมาเทนดิวหนึ่งกระป๋อง ขนาด 12 ออนซ์ มีน้ำตาลมากถึง 46 กรัมแล้ว และอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนหันมารับประมานมากขึ้น นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เลยคิดว่ามีน้ำตาลน้อย แล้วมันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ลองเอามาเปรียบเทียบกับของหวานกันไปเลย!! Activia Greek Vanilla Yogurt กับ Krispy Kreme Donuts 2 ชิ้น เอาเข้าจริงๆ Krispy Kream 1 ชิ้น มีน้ำตาลเพียงแค่ 5 กรัม 2 ชิ้น ก็รวมเป็น 10…
-
เรียนรู้ภาษาจีนได้ง่ายๆ จากภาพวาดตัวอักษรสุดน่ารัก เหมาะแก่การเริ่มต้นภาษาจีนที่สุด!!
การเรียนรู้ทางด้านภาษาอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเนื่องจากโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก การติดต่อสื่อสารกับประเทศอื่นๆ ได้ก็จะทำให้เราสามารถทำอะไรๆ ได้สะดวกมากขึ้น แถมยังสามารถสร้างความประทับใจใช้ต้อนรับเจ้าของภาษาในประเทศของเราในฐานะเจ้าบ้านได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากภาษาอังกฤษที่เราเรียนรู้กันเป็นภาษาที่สองแล้ว ตอนนี้ภาษาจีนก็ถือว่ามาแรงไม่แพ้กัน มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยมากมาย และมีคนไทยจำนวนไม่น้อยไปอยู่ที่ประเทศจีน ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจต่างๆ แต่เนื่องจากตัวอักษรจีนที่มีจำนวนมากถึง 20,000 ตัว อาจจะทำให้รู้สึกยากต่อการจำ จนถอดใจไม่เรียนเอาซะดื้อๆ เอาเป็นว่าหากใครสนใจที่อยากจะเรียนรู้ภาษาจีน ภาพการ์ตูนตัวอักษนจีนนี้ถือว่าเหมาะแก่การเริ่มต้นมากๆ เลย และใครที่กำลังเรียนอยู่ก็น่าจะช่วยให้จดจำตัวอักษรได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ลักษณะคล้ายๆ กับภาษาญี่ปุ่นที่เหมียวเรียนมาเหมือนกันนะเนี่ย นำตัวอักษรมาวาดให้เป็นรูปที่มีลักษณะคล้ายกับสิ่งของต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการจำนั่นเอง ที่มา : mymodernmet
-
รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต
ยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือซอฟต์ดริ๊งค์สีดำที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในตอนนี้มีเพียงยักษ์ใหญ่แค่ 2 รายเท่านั้นที่ยังฟาดฟันต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน ค่ายสีฟ้า เป๊บซี่ และ ค่ายสีแดง โคคา-โคล่า (โค้ก) นั่นแหละ เอาเป็นว่าคราวนี้ขอชูเรื่องเกร็ดความรู้จากฝั่งค่ายสีแดงก่อนละกันเนอะ บริษัทและสูตรต้นตำหรับ Coca-Cola ให้กำเนิดโดยเภสัชกร John S. Pemberton ในปีค.ศ. 1886 แต่ชื่อและโลโก้ที่เราเห็นกันนั้นเป็นความคิดของ Frank Robinson Coca-Cola แต่เดิมเคยทำการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงประสาท เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า Coca-Cola ในช่วงแรกๆ นั้นเคยนำโคเคนมาเป็นส่วนผสมด้วย แต่ใช้เพียงแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น ภายหลังในปีค.ศ. 1903 สั่งยกเลิกการนำโคเคนมาเป็นส่วนผสม ในทุกวันนี้ ภานใต้ 3% ของแบรนด์เครื่องดื่มที่มีบนโลก อยู่ภายใต้การจดทะเบียนของ Coca-Cola (3% ก็ประมาณ 1.9 พันล้านยี่ห้อ) มีเพียงเกาหลีเหนือและคิวบาเท่านั้น ที่ไม่การนำ Coca-Cola…
-
วิธีบรรเทาอาการรักเค้าข้างเดียว ให้หายขาด ‘ถ้าไม่ได้แน่ๆ ก็จงตัดใจแล้วไปหาคนใหม่เถอะ’
เหมียวเชื่อว่าหลายคนต้องเคยประสบกับเหตุการณ์ทำนองที่ว่า ‘รักเค้าข้างเดียว เค้าไม่รักตอบ’ อะไรประมาณนี้ อย่างที่เพลง ‘ให้ตายสิพับผ่า’ ที่พี่สแตมป์แต่งออกมานั่นแหละ ฮ่าฮ่า เอาล่ะ ถึงแม้อาการรัก ชอบ หรือหลง มันห้ามกันไม่ได้ ก็ต้องบรรเทากันไป สำหรับเนื้อหาดังกล่าวนี้ก็เป็นเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เคยทำในเรื่องของ สาระจัดหนัก (18+) สาธิตศาสตร์และศิลป์ในการใช้นิ้วมือสร้างความสุขให้กับสาวๆ อย่างถูกวิธี!! ซึ่งในคราวนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใต้สะดือ แต่เป็นเรื่องของหัวใจ ที่รักเค้าแล้วเค้าไม่รักตอบ จะบรรเทาอาการแบบนี้ได้อย่างไร มาดูกัน!! จุดเริ่มต้นของการตกหลุมรักนั้น ส่วนมากก็เริ่มจากการที่ได้พบใครซักคนในสถานที่ที่เราผ่านเป็นประจำ เช่นหอที่พักอาศัย หรือคอนโดที่ตัวเองอยู่ และหลังจากที่ได้พูดคุยกันเป็นครั้งแรกเพียงเล็กน้อย ด้วยความสวยหรือความหล่อของคนที่เราคิดว่าใช่ก็เลยทำให้เกิดจินตนาการต่างๆ ตามมาอีกเพียบ อย่างเช่นคิดเลยไปไกลถึงขั้นแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข เธอคิดคู่ชีวิตในฝัน ถึงกับเอาหมอนมากอดอย่างแนบแน่น เอามาเป็นตัวแทนคนในฝันที่สวยงาม และที่พีคที่สุดก็คือการจินตนาการเห็นภาพในช่วงจังหวะที่ได้ ‘จูบ’ แต่แล้วฝันเหล่านั้นก็ต้องสลายหายไป เมื่อในโลกแห่งความเป็นจริงได้ปลุกคุณให้ตื่นมาจากความฝัน และยังไม่รู้ตัวเลยว่าความรัก ความหลงที่เกิดขึ้นมันคือยาพิษ!! ทำไมถึงบอกว่ามันเป็นยาพิษล่ะ!? ลองคิดถึงสถานะตัวเองในตอนนี้ซิ ยังเป็นแค่คนที่เพิ่งรู้จักกัน เธออาจจะมีแฟนแล้ว เธออาจจะไม่รู้ตัวว่าคุณแอบชอบ…
-
Jack Churchill บรุษทหารอังกฤษ ผู้ใช้ดาบและธนูสู้ศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ในอดีตยุคโบราณยังไม่มีการผลิตอาวุธปืนขึ้นมาใช้งาน การออกรบของนักรบนั้นก็จะต้องพึ่งพาดาบและธนูในการปรามข้าศึก แต่พอมาถึงยุคสมัยที่การรบเริ่มเปลี่ยนแปลง อาวุธปืนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่มีทหารผู้หนึ่งเลือกที่จะไม่ใช้ปืน เขากลับเลือกใช้ดาบและธนูแทน!! การนำหน่วยในระหว่างฝึกด้วยการพกดาบและภาพการยิงธนูในการแข่งขันยิงธนู ทหารผู้นั้นมีนามว่า Jack Churchill หรือในนาม Fighting Jack Churchill และ Mad Jack เขาเกิดที่เมือง Surrey ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายทหาร Sandhurst Military Academy ในปีค.ศ. 1926 ดาบยาวของ Jack Churchill ที่พกติดตัว โดยหลังจากที่เขาจบการศึกษาก็ได้เข้าประจำการในกองทัพอังกฤษ ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศพม่า ภายหลังในปีค.ศ. 1936 เขาก็ปลดประจำการและเข้าทำงานในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แทน แต่แล้วเขาก็กลับเข้ามารับใช้กองทัพอังกฤษอีกครั้งในปีค.ศ. 1940 หลังจากที่หลังโปเเลนด์ถูกเยอรมันรุกราน และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วก็คือ การที่เขาเลือกจะพกดาบยาวและธนูเข้าสู้ศึก!! Jack Churchill เป็นทหารเพียงคนเดียวที่ใช้ดาบกับธนู ในช่วงที่หน่วยของเขาซุ่มโจมตีหน่วยลาดตระเวนของเยอรมัน เขาใช้สัญญาณการโจมตีด้วยลูกธนูพิฆาตปักที่หน้าอกของศัตรู แทนที่จะใช้เสียงจากนกหวีดหรือการตะโกน …
-
จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ผู้ข่มขืน’ กับความในใจอันบอบช้ำ ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’
เรื่องของการข่มขืนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์และต่อต้านมากมายซักเพียงใดก็ตาม ก็ยังคงเป็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นรายวัน บางครั้งก็สามารถจับกุมผู้กระทำได้ แต่ส่วนมากแล้วก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เหลือเพียงแต่ร่างกายและจิตใจที่ถูกทำร้าย เป็นแผลลึกที่ฝังอยู่ในจิตใจเหยื่อที่ถูกข่มขืน ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้เลยนั้น จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่และก้าวข้ามผ่านความทุกข์ทรมานไปให้ได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเหยื่อข่มขืนรายหนึ่งที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปถึงผู้ที่ข่มขืนเธอ ด้วยใจความที่ว่า ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’ ภาพประกอบโดย Aleksandra Waliszewska ในขณะที่ฉันกำลังเลือกเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นคืนที่น่าจดจำ เป็นประสบการณ์ช่วงชีวิตมัธยมอย่างที่มันควรจะเป็น แค่คุณแม่ของฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่อยากให้ไปงานปาร์ตี้ ‘แม่กลัวว่าลูกจะรับมือมันไม่ไหว’ แต่ฉันก็บอกไปว่า ‘มันจะเป็นคืนที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน จะได้สัมผัสกับอิสระและชีวิตวัยรุ่นที่มันเป็นของจริง’ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า หนทางข้างหน้าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เขาคนนั้นเป็นสิ่งแรกที่ฉันเจอภายในคืนนั้น ยืนรออยู่ในมุมของห้องด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ เป็นสัตว์ประหลาดที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉันไปตลอดกาล ถึงแม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรมามากมาย ฉันก็ยังคงเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ดี ดวงตาสีฟ้าเข้มที่มองเข้ามา ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลย และในค่ำคืนนั้นเองเวลาผ่านไปเร็วมากในตอนแรก ภาพมันเบลอไปหมดด้วยฤทธิ์ของยาและเหล้า เมื่อฉันกลืนเหล้าลงคอไปแล้ว เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้มาขึ้น ราวกับอีแร้งที่รอให้เหยื่อหมดลมหายใจ ในไม่ช้าผนังก็เหมือนพังลงมา กดทับร่างกายระหว่างเขากับฉัน แผ่นหลังเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ขาของฉันก็อ่อนแรงเช่นกัน ฉันพยายามตะโกนออกไปว่า ‘ฉันอยากกลับบ้าน ฉันอยากจะนอนแล้ว…
-
‘Good Boy Jay’ การ์ตูนสั้นๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเพื่อนซี้ที่ดีที่สุดของมนุษย์ (สุนัข)
ว่ากันว่า ‘สุนัข’ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์เลยก็ว่าได้ (เขาว่ากันนะ) ถึงแม้ว่าใครที่เลี้ยงแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นก็ไม่ต้องเสียใจไป ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนของเราเหมือนกัน มีชีวิต มีจิตใจ ดูแลซึ่งกันและกัน แต่มันก็ต้องมีช่วงเวลาสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากให้มาถึง การ์ตูนสั้นชุด ‘Good Boy’ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของสุนัขของผู้เขียน มันมีชื่อว่าเจ้า Jay ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลาชีวิตของมันนั้นได้สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเจ้าของ ความผูกพันที่มีก็ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่มันเริ่มป่วยและมีอายุมากขึ้น ก็ต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต Good Boy – จดหมายถึงเจ้า Jay เจ้าได้มาอยู่กับเราเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ตัวยังเล็กและขนฟูฟ่อง แถมยังเป็นไอ้ขี้แยเวลากินอาหารอีก ฉันยังจำช่วงเวลาที่แกกินอิ่มจนท้องป่องได้ แบบว่ากินครีมจนหมด และยังจำช่วงเวลาที่แกตาปิดไปซะดื้อๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนมารู้ทีหลังว่ามีส้มที่โดนปอกเปลือกทิ้งเอาไว้ ทำให้แกรู้สึกกลัวส้มไม่กล้าเข้าใกล้อีก แถมยังเป็นหมาที่ทั้งดื้อ ทั้งซนเวลาที่พาไปเดินเล่นอีกต่างหาก (ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นความผิดฉันเองที่ไม่ฝึกแกให้ดีๆ) แต่แกก็เป็นเด็กดีนะ มีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่หวงเนื้อหวงตัวด้วย ตัวแกเหม็น ชอบกินอุนจิแมว กลิ้งตัวไปมา ชอบกระโดดลงไปเล่นน้ำในคลอง ไม่ได้ห่วงตัวเองเลยว่าว่ายน้ำเป็นมั้ย…
-
ข้อเท็จจริงจากชาว Reddit เปิดโลกทั้งใบ กับสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน (จะจริงแท้แค่ไหนกัน?)
หากจะว่าไปแล้วสังคมออนไลน์ที่ใหญ่และอยู่คู่สังคมไทยมานานก็คงจะหนีไม่พ้นเว็บไซต์พันทิป เมื่อใครมีคำถามหรือสงสัยในประเด็นอะไรก็จะตั้งกระทู้ขึ้นมา แล้วก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย รวมไปถึงผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เข้ามาตอบคำถามได้อย่างชัดเจนนั่นเอง!! ในส่วนของต่างประเทศจะมีอะไรที่คล้ายกับพันทิปบ้างมั้ยหว่า? ก็มีเหมือนกันนะ เว็บไซต์นั้นมีชื่อว่า Reddit ลักษณะก็คล้ายๆ กับพันทิปเลย มีการตั้งกระทู้คำถามและกระทู้สนทนามากมาย จนกระทั่งมีกระทู้คำถามที่ว่า ‘มีข้อเท็จจริงหรือสถิติที่ดูเหมือนจะเกินจริง แต่เป็นความจริงบ้างมั้ย?’ เมื่อเจอกับกระทู้ตั้งคำถามเปิดกว้างแบบนี้ ชาว Reddit ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ มากมาย สามารถแตกเป็นประเด็นย่อยให้ลึกไปอีก นับว่าเป็นแหล่งความรู้ที่สามารถเปิดโลกได้เลย แล้วภายในนั้นจะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองตามมาอ่านกันเถอะ 2 ใน 3 ของชาวออสเตรเลีย มักจะประสบกับโรคมะเร็งผิวหนัง เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป มหาวิทยาลัย Oxford (เริ่มการเรียนการสอนในปี 1096) มีอายุเก่าแก่กว่าอาณาจักร Aztec ซะอีก (ยุคเริ่มต้นอาณาจักรในปี 1427) บริษัทเกม Nintendo (ก่อนหน้านี้เป็นบริษัทการ์ดเกม) เกิดขึ้นพร้อมกับอาณาจักร Ottoman (ปีค.ศ. 1889)…
-
การอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์และเครื่องอ่าน Kindle ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้กลายเป็นยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ที่แทบจะเข้ามาแทนที่ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว รวมไปถึงการเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงการอ่านของมนุษย์ด้วย ที่เหมียวกำลังจะกล่าวถึงก็คือมนุษย์หันมาอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น (Kindle และ E-Book) คุณ Manoush Zomorodi และ Mike Rosenwald ได้ร่วมกันพิสูจน์ถึงผลกระทบของการอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่าไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับการอ่าน ราวกับว่าอ่านตัวหนังสือผ่านเว็บไซต์หรือหน้าฟีดทวิตเตอร์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ใช้สมองในส่วนที่แตกต่างกัน จากทั้งการอ่านผ่านหนังสือและหน้าจอ เพราะฉะนั้นการอ่านตัวหนังสือจากหน้าจอจะทำให้มีลักษณะการอ่านแบบ Skimming (อ่านผ่านอย่างรวดเร็ว) คล้ายๆ กับการกวาดตาอ่านเว็บไซต์ Zomorodi กล่าวเสริมเอาไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาอ่านตัวหนังสือผ่านหน้าจอกันมากขึ้น และทำให้ลักษณะการอ่านแบบจดจ่อนั้นค่อยๆ จางหายไป เพราะไม่ได้ใช้งานสมองส่วนที่อ่านหนังสือจากสิ่งพิมพ์เลย และด้วยปัญหานี้จะทำให้มนุษย์ยุคใหม่มีสมาธิที่สั้นลง ไม่จดจ่อกับสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่โตมากับเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะหันมาจับหนังสือจริงๆ แล้วลองใช้เวลากับมันซักพัก วันละ 1 ครั้งก็ยังดี ที่มา : pri, niemanreports, academia
-
ฝรั่งออกสัมภาษณ์คนไทย ด้วยประเด็น ‘ทำไมคนไทยถึงคิดว่าฝรั่งชอบเที่ยวเมืองไทย’
สยามเมืองยิ้ม หรือ Siam Land of Smile มักจะเป็นคำชูโรงของประเทศไทยที่เปิดเผยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงความเป็นกันเองของเมืองไทย อีกทั้งยังมีการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติต่างๆ ในเมืองไทย เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เขามาสัมผัสบรรยากาศของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า palmisano จึงได้ออกไปสัมภาษณ์คนไทยส่วนหนึ่งจากความสงสัยที่ว่า ‘ทำไมคนไทยถึงคิดว่าฝรั่งชอบมาเที่ยวที่ประเทศไทย’ ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่ก็มักจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ทว่าคำตอบที่ออกมาจากคนไทยเอง ก็ถือว่าทำเอาอึ้งได้เหมือนกัน จากการสัมภาษณ์คนไทยทั้งหมด 9 คน เขาก็ได้ทำการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษด้วย และเหตุผลส่วนใหญ่นั้นก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินทองแทบทั้งสิ้น!! คนไทยคนที่ 1 คนไทยมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความเป็นกันเอง รอยยิ้มอันสดใส [Thais] are generous, helpful, friendly, have bright smiles, and they like to help others. มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งแต่เหนือจรดใต้ There are many places to travel…
-
ทาสแมวมาเร็ว!! 16 สิ่งที่ควรรู้และรับทราบเกี่ยวกับแมว ช่วยทั้งแมวทั้งทาสให้มีชีวิตที่สดใส
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาเลี้ยงแมว ยอมและถวายชีวิตให้กับแมว รักและเทิดทูนยิ่งกว่าอะไรในโลกนี้เสียอีก แต่ถ้าหากว่าทาสนำมาเลี้ยงดูไม่ดีหรือไม่ใส่ใจ ก็อาจจะทำให้แมวเครียด รวมไปถึงทาสเองก็เครียด ไม่มีความสุขทั้งสองฝ่ายก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นแล้วจงหันหน้าเข้าหากัน และปรับความเข้าใจกันซะนะ!! 1. แมวมักจะไม่มองตากับคนแปลกหน้า แต่ถ้าหากว่าเริ่มรู้จักกันแล้ว แมวจะมองมาที่ในตาของฝ่ายตรงข้าม และจะกระพริบตาเพื่อแสดงความรัก 2. แมวส่วนมากมักจะมีอาการแพ้แลคโตส เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงการให้นมกับแมว 3. ห่อหุ้มขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ต่างๆ ด้วยเชือก ไว้เป็นที่ลับเล็บแมว 4. อาการที่แสดงออกคืออารมณ์ของแมว ทาสทั้งหลายต้องรู้ภาษาแมวด้วย 5. แมวชอบดื่มน้ำที่ไหล มากกว่าน้ำที่หยุดนิ่ง 6. เสียงครางเบาๆ ของแมว มีพลังในการรักษาด้วยนะ ทั้งมนุษย์ทั้งแมวเลย 7. สร้างสนามแมวเล่นไว้นอกบ้าน น้องแมวจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ 8. การแปะเทปกาวหงายไว้ตามบริเวณต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ได้น้องแมวซุกซนปีนขึ้นไป 9. การนำพรมมาแขวนไว้บนประตู เป็นเครื่องออกกำลังกายชั้นดีให้กับแมว 10. หรือไม่ก็นำชั้นเก็บหนังสือเก่าๆ…
-
รวม 17 เคล็ดไม่ลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม (รึเปล่าหว่า?)
การใช้ชีวิตของมนุษย์ในแต่ละวันนั้นเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและซ่อนเงื่อนเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วความง่ายและสะดวกสบายจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะสรรหาอยู่เสมอ และในคราวนี้เหมียวก็มี 17 เคล็ดไม่ลับมานำเสนอ อาจจะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นก็เป็นได้!! 1. กำจัดริ้วรอยบนจมูกด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมเบคกิ้งโซดาทำเป็นครีม ทาไว้บนจมูกประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2. ทำไข่ดาวสวยๆ ด้วยการตัดหัวหอมให้เป็นวงกลม 3. กันลืมนามบัตร เมื่อได้รับมาแล้วก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เผื่อนามบัตรจะหาย 4. แขวน iPad หรือแทปเล็ดได้ทุกที่ ด้วยหูเกี่ยวพลาสติกติดผนัง 5. กันพิซซ่าเทกระจาดในรถด้วยขวดน้ำ 6. ลูกปิงปองบุบ ให้ลนด้วยไฟแช็ค (ห่างๆ) 7. ที่หนีบผมให้ตรง ใช้หนีบคอเสื้อให้ตรงและเรียบได้เช่นกัน 8. ปอกเปลือกมันฝรั่ง ก็สามารถนำมาใช้ปอกหอมแดงบางๆ ได้ด้วย 9. ลูกโป่งแช่แข็ง ให้ความเย็นได้ดีเช่นเดียวกัน 10. พื้นที่ทำครัวไม่พองั้นหรือ เปิดลิ้นชักแล้ววางเขียงปิด ก็ได้ที่เพิ่มแล้ว …
-
ควบคุมความฝันได้ดั่งใจนึก ด้วยวิธีการแบบ Lucid Dream ลองทำและตั้งใจซักครั้ง!!
เหมียวเชื่อว่าหลายคนคงผ่านการนอนหลับที่มีความฝันมาแล้ว ทั้งฝันร้ายและฝันดีปะปนกันไป ทว่าเรื่องของความฝันนั้นเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกและความคิดของเราในช่วงเวลานั้นๆ มันเกิดขึ้นมาได้จากภายใต้จิตใจของเรา แล้วจะมีซักครั้งมั้ยที่เราสามารถเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝันและควบคุมมันได้!? วิธีการควบคุมความฝันนั้นไม่อาจบอกได้ว่าจะสามารถใช้ได้ 100% แต่มันก็พอจะมีวิธีการที่ทำให้ไปถึงจุดนั้นได้ ด้วยวิธีการแบบ Lucid Dream แต่ก่อนที่จะควบคุมความฝันได้จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเสียก่อน จะมีอะไรบ้างตามมาอ่านกัน จดรายละเอียด ทำไดอารี่เกี่ยวกับความฝัน การทำไดอารี่เกี่ยวกับความฝัน แนะนำให้วางไว้ข้างๆ เตียงนอนเลย เพื่อที่เวลาตื่นมาจะได้จดทันที แต่การจดไดอารี่ความฝันไม่ใช่การจดรายละเอียดเกี่ยวกับความฝัน แต่เป็นการจดเพื่ออธิบายความรู้สึกในช่วงเวลาที่กำลังฝันอยู่ หมั่นเช็คเวลาในความเป็นจริงอยู่เสมอ ทำไมถึงต้องคอยมาดูเวลาตลอดล่ะ!? ก็เป็นเพราะว่าในช่วงที่กำลังฝันอยู่นั้น เรื่องของเวลามักจะเป็นสิ่งที่หลายคนลืม ในโลกแห่งความฝันเรื่องของเวลามักจะไม่มีตัวตน ทำให้จดจำช่วงเวลานั้นได้ยากมากๆ หากเช็คเวลาเป็นประจำจะช่วยให้เรื่องของเวลามีตัวตนมากขึ้นในความฝัน หมั่นบอกตัวเองว่า ‘ฉันกำลังฝันอยู่’ แทนที่เวลาล้มตัวหัวถึงหมอน ถ้าจะทำให้ตัวเองหลับ วิธีการง่ายๆ อย่างการหลับตานับแกะกระโดดข้ามรั้ว หรือวิธีไหนก็แล้วแต่ ให้ทวนประโยคนี้อยู่ในหัวแทน เป็นการกระตุ้นเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการควบคุมความฝันได้ง่ายขึ้น จดจำสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นชัดเจนในความฝัน ช่วงเวลาแห่งความฝันมักจะมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ หากว่าเราสามารถจดจำสิ่งเหล่านั้นได้มากเท่าไหร่ มันก็จะช่วยให้คุณรู้ตัวได้ว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่นะ เช่นฝันร่วงออกจากปาก หรือไม่ก็ถอดเสื้อผ้าออกไปเดินเล่นตามที่สาธารณะต่างๆ…
-
เพียงแค่ภาพเดียวสามารถอธิบายฟังก์ชั่นต่างๆ ของทฤษฎีการถ่ายภาพได้เกือบทั้งหมด!!
เหมียวเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการถ่ายภาพหรอก แต่ก็พอเรียนรู้มาบ้างว่าทฤษฎีการถ่ายภาพเป็นอย่างไร การที่จะได้ภาพตามที่เราต้องการนั้นจะต้องปรับแต่งอย่างไรบ้าง ซึ่งฟังก์ชั่นต่างๆ นั้นก็มีลูกเล่นเยอะพอสมควร การเรียนรู้ทางด้านทฤษฎีเป็นเรื่องที่ต้องหมั่นศึกษา ถ้าหากว่าไม่ตั้งใจและรักจริง ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถอดใจได้ดื้อ เพราะฉะนั้นแล้วก็มีภาพนี้ปรากฏขึ้นมาเพื่อสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นรูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์ และการตั้งค่า ISO ทั้งนี้ภาพดังกล่าวประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ 1) ค่ารูรับแสง คืดเป็นค่า f ยิ่งน้อย รูรับแสงก็จะใหญ่ขึ้น ส่งผลในส่วนของความสว่างในภาพถ่าย แต่เรื่องของหน้าชัดหลังเบลอนั้นจะมีระยะห่างวัตถุเข้ามาเกี่ยวข้อง . 2) Speed Shutter หรือความเร็วชัตเตอร์ คือระยะเวลาที่ชัดเตอร์ของกล้องเปิดให้แสงเข้าก่อนที่จะทำการจับภาพ ยิ่งเปิดไว้นานภาพที่ได้ก็จะสว่าง แต่มีข้อเสียว่าหากมีการเคลื่อนไหวภาพที่ได้ก็จะเบลอ ซึ่งก็เปรียบเทียบให้เห็นภาพความแตกต่างของความเร็วชัตเตอร์ 1 ต่อส่วนวินาที . 3) ในส่วนที่ 3 คือเรื่องของค่า ISO เป็นค่าที่ใช้เร่งแสงขึ้นมาจากภาพด้วยระบบของกล้อง ยิ่งมีค่าสูงภาพที่ได้ก็จะสว่างมาก นับค่าเป็นตัวเลข แต่ก็แลกมากับค่า Noise กระจายเต็มภาพ ทั้งนี้ยิ่งเกินระดับ 800…
-
การ์ตูนสั้นเข้าใจง่ายเกี่ยวกับความพึงพอใจ ให้ข้อคิดที่ว่า ‘จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี’
จิตใจของมนุษย์นั้นยากที่จะเข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องของความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี เมื่อเห็นว่าคนอื่นมีสิ่งที่ดีกว่า ก็มักจะเปรียบเทียบกับตนเองที่ด้อยกว่า ทำไมถึงไม่มีแบบนั้นบ้าง อะไรทำนองนี้ ลองมาอ่านการ์ตูนชุดนี้กัน แล้วปล่อยให้ความคิดของท่านเป็นตัวตัดสิน มันคงจะดีนะ ถ้ามีเฮลิคอปเตอร์ขับ ไม่ต้องเจอรถติดแล้วก็เห็นเมืองทั้งหมดด้วย มันไม่ใช่รถยนต์หรอก แต่มันเป็นงานศิลปะที่วิ่งได้ แต่เราก็คงไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถแบบนั้นหรอก รถอะไรฟะเนี่ย สวยเป็นบ้า ทั้งใหญ่ ทั้งทรงพลัง ไหนจะกว้างอีก แต่สาวๆ คงจะไม่ชอบซักเท่าไหร่ มี Ford ขับแบบนี้ก็น่าจะดีนะ มีทั้งเครื่องปรับอากาศดีๆ ระบบเกียร์ออโต้ แล้วก็ไม่พังทุกๆ 100 กิโลเมตรด้วย ปั่นจักรยานมันก็ดีนะ แต่ต้องทนดมกลิ่นไอเสีย ไหนจะชุ่มไปด้วยเหงื่อตอนไปถึงที่ทำงาน ไหนจะเจอฝนตก มีรถธรรมดาซักคัน ปัญหาที่เจอก็คงจะหมดไป มาไม่ทันรถเมล์อีกละ ต้องเดินไปทำงานแทน ถ้ามีจักรยานก็คงจะช่วยประหยัดเวลาได้ แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย ฉันสงสัยว่าทำไม่ชายคนนั้นดูไม่มีความสุขเลย หรืออาจจะได้งานที่ไม่ชอบ แต่อย่างน้อยเขาก็เดินไปไหนมาได้เนอะ ‘Appreciate What You Have จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี’…
-
แนะนำ 10 คีย์ลัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานบน Windows ใช้คล่องสะดวกแน่นอน!!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้มีผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows เยอะมาก ใช้งานทุกวันจนเริ่มจนจำคีย์ลัดที่ใช้งานบ่อยได้ กลายเป็นทักษะที่ติดตัวไปโดยปริยาย อย่างเช่นคีย์ลัดพื้นฐานที่รู้จักกันดีอย่าง Alt + F4, Alt + W ที่ไว้ใช้ปิดหน้าต่างที่ใช้งาน หรือแม้แต่ Ctrl + C, Ctrl + V เพื่อก๊อปปี้และวางข้อมูล ทั้งนี้ในส่วนของการใช้งาน Windows มีปุ่มหนึ่งที่หลายคนมองข้ามความสำคัญของมัน นั่นก็คือปุ่ม Windows รูปหน้าต่างนี่แหละ หากเพียงกดแค่ปุ่มนี้ปุ่มเดียวก็จะเป็นการเรียกเมนู Start ขึ้นมา แต่เมื่อรวมกับปุ่มอื่นๆ ความสามารถของมันถือว่ามีประสิทธิภาพที่สูงมาก เพิ่มความเร็วในการเรียกใช้งานได้หลากหลายเลยล่ะ เหมียวขอยกตัวอย่างคีย์ลัด Windows ที่น่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ มาฝาก 10 อย่างนะจ๊ะ 1. ปุ่ม Windows + D เรียกหน้า Desktop กดย้ำอีกครั้งเพื่อเรียกหน้าต่างที่ใช้งานกลับมา 2. ปุ่ม Windows +…
-
เปรียบเทียบภาพก่อนและหลังของสถานที่เดียวกัน ผลพวงจากภาวะโลกร้อนที่เปลี่ยนไป!!
ตอนนี้โลกของเราเข้าสู่สภาวะที่ร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากจะร้อนแล้ว ฤดูกาลและสภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย บางวันก็ร้อนมาก บางวันดันหนาวจัดแทน อะไรทำนองนี้ ซึ่งจากการกระทำต่างๆ ของมนุษย์ส่งผลทำให้ธรรมชาติได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนกลายมาเป็นภาวะโลกร้อนที่เรากำลังประสบกันอยู่นี้ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วเหมือนไกลตัวเราซะเหลือเกิน แต่หารู้ไม่ว่าภัยอันตรายจากผลพวงที่ว่านี้กำลังคลานเข้ามาหาเราอย่างช้าๆ จนเราไม่รู้สึกตัว และยังคงทำร้ายโลกของเราต่อไปเรื่อยๆ ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ลองมาเปรียบเทียบสภาพก่อนและหลังของสถานที่เดียวกันที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนกันดีกว่า สภาพของอุทยานแห่งชาติ Rocky Mountain ในอดีต ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติ Rocky Mountain ไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อนแล้ว Great Barrier Reef พืดหินแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกในอดีต ปัจจุบัน ด้วยอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก่อให้เกิดการฟอกขาวของแนวปะการัง และไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้ สภาพของแม่น้ำดานูบในอดีต แม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปยุโรป เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรม การขนส่ง การเกษตร และการประมง ปัจจุบันระดับน้ำของแม่น้ำดานูบลดลงไปมาก ยิ่งในช่วงปีค.ศ. 2011 – 2012 จนถึงขั้นกลายเป็นแม่น้ำที่แห้งแล้ง เรือขนส่งต่างๆ ไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เทือกเขาแอลป์ในอดีต…
-
เผยงานวิจัยเกี่ยวกับอาหาร ชี้ชัดว่า ‘ชีส’ ส่งผลทำให้มีอาการเสพติดเหมือนกับยาเสพติด
เอ๊ะ!? มันยังไงกันแน่เนี่ย ไหงจู่ๆ ก็มาบอกว่าชีสเหมือนกับยาเสพติด ด้วยความอร่อยและความหอมอันเย้ายวนของมัน ทำให้หลายคนถึงกับพลาดพลั้งรับประทานมันเข้าไป ถึงแม้จะไม่บ่อยแต่ก็ทำให้ย้อนคิดอยากจะกินชีสอยู่เสมอ แน่นอน!! ด้วยความอร่อยของมันปฏิเสธิไม่ได้จริงๆ แหละ โดยมีผลการวิจัยที่ถูกเผยแแพร่ผ่าน U.S. National Library of Medicine (หอสมุดทางการแพทย์สหรัฐฯ) ได้กล่าวเอาไว้ว่าพิซซ่าเป็นอาหารที่มีผู้คนเสพติดมากที่สุด ซึ่งสาเหตุหลักๆ แล้วมาจาก ‘ชีส’ แทบทั้งสิ้น โดยเจ้าชีสผู้ร้ายกาจนี้ ประกอบไปด้วยสารที่ชื่อว่า เคซีน เป็นโปรตีนที่มาจากผลิตภัณฑ์นมทั้งหลายแหล่ มันจะแสดงพลังในตอนที่เราย่อยอาหารและปล่อยสารที่ชื่อว่า Casomorphin ออกมา เข้าไปประกบกับตัวรับสารโดพามีนที่สื่อกับระบบประสาท จนทำให้กลายเป็นสารเสพติดไปโดยปริยาย สั้นๆ ง่ายๆ เลยก็คือ กินแล้วติดใจ อยากจะกินอีก โหยหาชีสอยู่ร่ำไป ไม่ใช่ความผิดของเราหรอก แต่เพราะมันอร่อยต่างหาก!! แต่กินเยอะๆ ก็หยุดได้เหมือนกัน มันเลี่ยน!! เว้นเสียแต่ว่าติดใจรสชีสจริงจัง กินยังไงก็ไม่เลี่ยน ที่มา : thechive
-
การแชร์รูปภาพ Boarding Pass ให้ชาวโลกได้รับรู้ อันตรายกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะ!!
เดี๋ยวนี้การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้แล้ว ด้วยราคาค่าตั๋วที่ไม่แพงจนเกินไป ประกอบกับความสะดวกสบายและการประหยัดเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้ เวลาที่จะขึ้นเครื่องก็มักจะถ่ายรูป Boarding Pass เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกและอัพโหลดขึ้นในโลกออนไลน์เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่าเราจะไปไหนบ้าง การอัพโหลดรูปภาพ Boarding Pass ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร แต่หากว่าภาพดังกล่าวนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ที่เห็นชัดจนมากเกินไป มันก็สามารถย้อนกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพบาร์โค้ดที่เราอ่านไม่รู้เรื่อง แต่สายตาภายนอกสามารถนำมันไปใช้ในทางที่ผิดได้!! สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยใส่ใจกันก็คือ การที่ผู้อื่นที่เราไม่เคยรู้จักเลย สามารถหารูปภาพ Boarding Pass ที่มีบาร์โค้ดไปได้จากการค้นหาด้วยแฮชแท็กง่ายๆ อย่างเช่น #boardingpass ในอินสตาแกรม เมื่อมิจฉาชีพได้ภาพที่ต้องการมาแล้ว บาร์โค้ดที่ว่าอ่านไม่ออกเหล่านี้ สามารถถอดรหัสได้ง่ายๆ ด้วยแอพฯ อ่านโค้ดต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และตามเว็บไซต์ถอดรหัสบาร์โค้ดต่างๆ เพียงแค่อัพรูปภาพที่ดาวน์โหลดมาเข้าไป คราวนี้รายละเอียดเที่ยวบินต่างๆ ก็อยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีแล้ว ซึ่งรายละเอียดภายในบาร์โค้ดเหล่านี้จะประกอบไปด้วย ชื่อ นามสกุลของผู้โดยสาร เลขเที่ยวบิน ที่นั่ง คลาสที่จอง รหัสการจอง ลำดับออกตั๋ว และอื่นๆ อีกมากมาย…
-
มุมมองของแมวที่มองเห็นโลก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์!!
สงสัยกันบ้างไหมว่าแมวจะมีมุมมองหรือมองเห็นโลกอย่างไร จะเหมือนอย่างที่เรามองเห็นกันหรือไม่? และด้วยความสงสัยของศิลปินนามว่า Nickolay Lamm ได้ทำการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสามท่านเพื่อทำการสันนิฐานการมองเห็นของแมวขึ้นมา โดยในความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างมนุษย์กับแมวก็คือชั้นจอตา ที่ประกอบไปด้วยเซลล์รับแสง แปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังเซลล์ประสาทและประมวลผลออกมาเป็นภาพ สามารถแบ่งเซลล์รับแสงออกเป็นสองประเภทคือเซลล์รูปแท่งและรูปกรวย เซลล์รูปแท่งจะทำหน้าที่ตรวจจับแสงสว่างและเฉดสีเทาในเวลากลางคืน ส่วนเซลล์รูปกรวยนั้นจะทำหน้าที่ในการมองเห็นสิ่งต่างๆ และการรับรู้สีต่างๆ โดยที่แมวและสุนัขทั้งหลายจะมีเซลล์รูปแท่งสูงกว่าเซลล์รูปกรวย แตกต่างกับมนุษย์ที่มีเซลล์รูปกรวยมากกว่า นั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าตอนกลางคืนมนุษย์ถึงมองอะไรไม่ค่อยเห็น เอาล่ะ!! ถ้าหากว่าอ่านแล้วยังนึกภาพตามไม่ออก งั้นเรามาดูภาพเปรียบเทียบชัดๆ กันดีกว่า รูปด้านบนคือมุมมองของมนุษย์ ส่วนภาพด้านล่างคือมุมมองของแมว ในส่วนแรกเปรียบเทียบกันในเรื่องของ ความกว้างของมุมมอง ความกว้างที่ว่าก็คือการมองแล้วโฟกัสไปที่จุดเดียว มนุษย์จะมองตรงแล้วเห็นชัดทั้งด้านซ้าย กลาง และด้านขวา ส่วนแมวนั้นจะแตกต่างออกไป ตรงกลางจะมองเห็นไม่ชัด และแบ่งออกเป็นด้านซ้ายกับด้านขวา ส่วนที่สองคือ ความชัดเจน มนุษย์นั้นสามารถมองเห็นได้ไกลมากๆ และยังคงมีความชัดเจนอยู่ แต่สำหรับแมวแล้วยิ่งห่างไกล ภาพยิ่งไม่ชัด โดยระยะการมองเห็นภาพที่ชัดเจนของแมวนั้นสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร ส่วนที่สาม การมองเห็นสี ก่อนหน้านี้มีความเข้าใจผิดที่ว่าแมวมองไม่เห็นสีอะไรเลย…
-
ระวังตัวเอาไว้ให้ดี!! เผย 8 กลยุทธ์ในการจับโกหก จากอดีตเจ้าหน้าที่ FBI
ความคิดของมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่กระทำความผิด ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผู้กระทำแต่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ กลายมาเป็นบ่อเกิดแห่งการโกหกและหลอกลวงเพื่อให้พ้นผิด โดยที่อดีตเจ้าหน้าที่ FBI นามว่า LaRae Quy ผู้ที่ร่วมฝึกฝนและปฏิบัติหน้าที่ในการอ่านจิตใจของผู้คน เพื่อที่จะเค้นความจริงที่ปกปิดอยู่ภายใน ได้ออกมาเปิดเผยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจับโกหก ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้ 1. สร้างบรรยากาศที่ดีในการเปิดอกพูดคุย โดยทั่วไปแล้วการสืบสวนเพื่อเค้นหาความจริง บทบาทของตำรวจที่ดีมักจะได้ผลดีกว่าตำรวจที่แย่เสมอ (ความเคร่งขรึมและทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา) เพราะฉะนั้นแล้วการเห็นอกเห็นใจในระหว่างบทสนทนา จะช่วยสร้างความไว้ใจให้กับฝ่ายตรงข้าม จนยอมเปิดเผยความจริงให้เราได้รับรู้ 2. สร้างความประหลาดใจกับคำถามที่คาดไม่ถึง คนที่โกหกจะพยายามคาดเดาคำถามของฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ ซึ่งคำตอบที่ออกมานั้นจะไหลลื่นและเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงอาจจะมีการฝึกซ้อมตอบคำถามมาก่อนด้วย ดังนั้นการถามคำถามที่พวกเขาคาดไม่ถึงจะทำให้การตอบคำถามชะงักไปในทันที จนเริ่มไม่มั่นใจที่จะตอบ 3. ให้ฟังมากกว่าพูด (สังเกตอาการของคู่สนทนา) คนโกหกมักจะพูดมากกว่าคนที่พูดแต่ความจริง (มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ) เพื่อพยายามโน้มน้าวและหลีกเลี่ยงประเด็นให้คนฟังรู้สึกคล้อยตามด้วยประโยคที่สลับซับซ้อนเพื่อซ่อนความจริง ลองสังเกตพฤติกรรมในระหว่างที่พูดอยู่ดังต่อไปนี้ 3.1 หากรู้สึกมีความตึงเครียด จะพูดเร็วกว่าปกติ 3.2 ยิ่งเครียดก็จะยิ่งพูดเสียงดังมากขึ้น 3.3 น้ำเสียงเริ่มไม่เป็นธรรมชาติ เปลี่ยนไปจากเดิมในตอนแรกที่เริ่มพูด 3.4 มักจะไอและล้างลำคอบ่อยๆ เวลาที่พูดแล้วรู้สึกเครียด…
-
เหตุผลที่ว่าทำไมพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจึงปล่อยให้ลูกอายุเพียง 6-7 ขวบเริ่มพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก!?
หากเราได้เคยสัมผัสหรือรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าเด็กเล็กอายุเพียงแค่ 6-7 ขวบโดยประมาณ เดินไปไหนมาไหนคนเดียว ใช้บริการรถสาธารณะเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางนั่นก็คือโรงเรียนนั่นเอง เหมือนกับผู้ใหญ่ที่เดินทางไปทำงานในแต่ละวัน ไม่เหมือนกับวัฒนธรรมในบ้านเราที่จะต้องมีพ่อแม่พาไปส่งโรงเรียนในทุกๆ เช้า แตกต่างกับนักเรียนญี่ปุ่นในวัยประถมศึกษาที่จะเห็นได้ว่ามาด้วยตัวคนเดียว และเลือกที่จะเดินเท้าไปขึ้นรถไฟเพื่อไปโรงเรียน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะฝึกให้ลูกๆ ของตนรู้จักที่จะพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย และไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็จะพยายามฝึกให้ลูกของตัวเองรู้จักที่จะไปไหนมาไหนและทำอะไรด้วยตนเองให้ได้ อย่างเช่นหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบนามว่า ไคโตะ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ citylab ในกรณีนี้ว่าเขาเริ่มนั่งรถไฟด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ‘ครั้งแรกของผมเป็นอะไรที่รู้สึกกังวลมาก แม้ว่าผมจะสามารถนั่งรถไฟไปเองได้แต่ก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย’ ซึ่งปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับเขาอีกต่อไป แต่ก็ใช่ว่าทางพ่อกับแม่จะไม่รู้สึกเป็นห่วง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง แต่พอปล่อยให้เขาได้ลองซักครั้งเนื่องจากคิดว่าโตแล้ว ก็ควรที่จะทำได้เพราะเด็กคนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่ทางด้านแม่เลี้ยงของไคโตะเปิดเผยว่า ‘เพราะฉันคิดว่ารถไฟนั้นปลอดภัยและตรงเวลามาก ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าเขาจะกลับบ้านไม่ตรงเวลา แถมเขายังเป็นเด็กที่เก่งด้วย’ ‘ฉันนั่งรถไฟด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมีอายุน้อยกว่าเขาซะอีก แถมตอนนั้นก็อยู่ในโตเกียวด้วย ในสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังสามารถไปถึงจุดหมายจากจุด A ไปถึงจุด…
-
จะทำอย่างไรดี!? หากเราลืมออกจากระบบ Facebook ในเครื่องอื่น ทางแก้ไขง่ายๆ มีที่นี่จ้า!!
เหมียวเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงจะเคยขอยืมโทรศัพท์ของเพื่อนมาใช้งาน Facebook บ้างเป็นบางครั้ง หรือไม่ก็เข้าไปเล่นอินเทอร์เน็ตตามคอมพิวเตอร์สาธารณะ ซึ่งหลังจากเสร็จธุระแล้วแต่ดันเข้าระบบค้างไว้และลืมออกจากระบบ อย่างน้อยก็อาจจะโดนแกล้งจากเพื่อนเจ้าของโทรศัพท์ พอแกล้งเสร็จก็ออกจากระบบให้ อาจจะดูไม่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนของเราล่ะ จะสามารถควบคุมตัวเราได้ทั้งหมด รวมไปถึงข้อมูลลับต่างๆ ของคุณด้วย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะเออ!! ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปในทันที ซึ่งเมื่อคุณนึกขึ้นได้ว่าลืมออกจากระบบจากเครื่องอื่น ให้คุณรีบเข้าสู่ระบบจากคอมพิวเตอร์ที่คุณไว้ใจได้ทันที อาจจะทำผ่านสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพฯ Facebook ก็ได้ หรือไม่ก็บราวเซอร์มือถือ ตามวิธีการที่เหมียวจะนำเสนอต่อไปนี้ วิธีการสำหรับคอมพิวเตอร์เดกส์ทอปผ่านบราวเซอร์ เริ่มจากไปที่เมนูด้านขวาบน เลือกเมนูตั้งค่า จากนั้นไปที่เมนูความปลอดภัย ในส่วนของการตั้งค่าความปลอดภัย ให้ไปแก้ไข ‘สถานที่ที่คุณเข้าสู่ระบบ’ คุณจะพบกับรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบของบัญชีนี้ว่ามีการเข้าสู่ระบบจากที่ไหนบ้าง และเข้าระบบด้วยอุปกรณ์ไหน มีทั้งจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ รายการไหนไม่คุ้นก็กดปุ่มหยุดกิจกรรมได้เลย แต่ถ้าไม่มั่นใจอยากจะออกจากระบบทั้งหมด ก็สามารถกดปุ่มสิ้นสุดกิจกรรมทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็ปลอดภัยสามารถออกจากระบบจากอุปกรณ์ที่ไม่คุ้นเคยแล้วจ้า ในส่วนของการตั้งค่าผ่านแอพฯ และผ่านบราวเซอร์มือถือ เหมียวขอยกตัวอย่างจากแอพฯ Facebook ใน iOS แทน…
-
12 ภาพกระบวนวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่ง จากเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ทำให้กลายเป็นจริง!!
ทุกวันนี้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากๆ จากที่เมื่อก่อนแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่เดี๋ยวนี้สิ กลับมีอะไรต่อมิอะไรผุดออกมาเต็มไปหมด จนแทบจะตามกันไม่ทัน และในเรื่องของทางวิยาศาสตร์ก็เช่นกัน จากที่เราคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะบางอย่างนั้นก็ใกล้ตัวเราซะเหลือเกิน!! การทำวัตถุให้ลอยตัวได้ด้วยคลื่นเสียง การหยดน้ำลงไปในสภาพที่เย็นจัดแปรสภาพกลายเป็นหยดน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว การตัดหยดน้ำแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยมีด Superhydrophobic การกระทบของคลื่นเลเซอร์กับของเหลวกลางอากาศ การยกตัวทางควอนตัม อาศัยพลังงานจาก Superconductor หยดน้ำกระทบกับผิวทราย หยดน้ำเด้งดึ๋งบนพื้นผิว Superhydrophobic หยดน้ำบินวนรอบๆ วัตถุ หยดน้ำเด้งดึ๋งบนพื้นผิวของเหลว ภาพยนตร์ที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยสร้างจากอะตอมแบบเฟรมต่อเฟรม ที่มา : thechive
-
รวม 15 เรื่องราวเกี่ยวกับพื้นที่หมายเลข 51 (Area 51) ฐานทัพลับที่ทหารปกปิดไม่ให้ใครรู้
หนึ่งในพื้นที่ที่ผู้คนสงสัยมากที่สุดว่าภายในนั้นปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้อย่าง Area 51 พื้นที่ทางทหารการบินลับขนาดใหญ่ของกองทัพสหรัฐฯ ที่มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและทดสอบอากาศยานและระบบอาวุธ แต่มีทฤษฎีสมคบคิดออกมามากมาย บ้างก็ว่าเป็นฐานทัพที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกและจานบิน (UFO) ด้วย แล้วมันจะมีจริงหรือไม่!? ลองมาอ่านกันเถอะ Area 51 หรือรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Groom Lake แต่ก่อนมีชื่อดั้งเดิมว่า Paradise Ranch และถูกย่อสั้นๆ เหลือเพียงแค่ The Ranch โดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของคนงานก่อสร้างในพื้นที่เพื่อเข้ามาทำงานก่อสร้างให้ มีรายงานมาว่าบริเวณรอบพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่เข้มงวดมากๆ รวมไปถึงระบบการรักษาความปลอดภัยสุดไฮเทคที่เกินกว่าเราจะคาดถึง เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกเล็ดรอดเข้ามาในบริเวณแม้แต่รายเดียว พนักงานที่ทำงานอยู่ในนั้นจะมีโอกาสได้ลิ้มรสเสต็กชั้นเลิศพร้อมกับหอยนางรมและกุ้งก้ามกรามใน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ก็ได้รับมาจากการทดสอบเครื่องบินไอพ่นที่บินข้ามประเทศไปยังรัฐ Maine เพื่อแวะรับวัตถุดิบชั้นยอดกลับมาทำอาหาร เมื่อต้นปีค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นการขนย้ายวัตถุทรงประหลาดขนาดใหญ่ คล้ายกับยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวในบริวเณใกล้เคียงกับ Area 51 ทั้งนี้หากมันเป็นยานอวกาศของมนุษย์อวกาศจริงๆ ทำไมทางการถึงเปิดเผยชัดเจนมาก? แทนที่จะหาทางปกปิดให้มิดชิดกว่านี้ (อาจจะเป็นพียงแค่เครื่องบินธรรมดาที่มีรูปร่างประหลาดก็เท่านั้นเอง) …
-
รวม 21 เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่รู้ไว้ก็ดีเหมือนกันนะ เอ๊ะ ยังไง!!
โลกของเรานั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งธรรมชาติก็ดี เรื่องที่มนุษย์เป็นผู้กระทำก็ด้วย ทุกสิ่งนั้นล้วนเกิดขึ้นมากลายมาเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่เราไม่ค่อยจะใส่ใจกันซักเท่าไหร่ แต่ก็พอเป็นข้อมูลที่ทำให้เราเปิดโลกกว้างได้บ้าง ลองมาอ่านกันเถอะ!! สัตว์น้ำวงศ์ปลาช่อนสามารถใช้ชีวิตบนบกได้ด้วย และสิ่งที่ทำให้มันน่ากลัวกว่าปลาชนิดอื่นๆ ก็คือมันเป็นสัตว์ที่เกรี้ยวกราดมากๆ พร้อมที่จะทำลายระบบนิเวศทุกๆ ที่ กินสิ่งมีชีวิตทุกอย่างจนหมดสิ้น และเมื่ออาหารหมด มันก็จะกินพวกเดียวกันเอง ในประเทศออสเตรเลียพบไม้พุ่มชนิดหนึ่งที่มีพิษรุนแรงมาก มันชื่อว่า Gympie Gympie ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่โดนสัมผัสทางผิวหนังปุ๊บ จะทำให้เกิดอาการแสบคันอย่างรุนแรงราวกับว่าโดนกรดร้อนๆ ราด ผสมกับไฟฟ้าช็อตในเวลาเดียวกัน ในทุกๆ ปี กลุ่มโจรสลัดนับร้อยกลุ่มออกปล้นเรือนับไม่ถ้วน และไม่มีการเปิดโปงเกี่ยวกับการปล้นของโจรสลัดใดๆ ทั้งสิ้น อย่างน้อยองค์กร IMB (International Maritime Bureau) ก็ได้ทำรายงานเกี่ยวกับการบุกปล้นของโจรสลัดไว้ แต่รู้เพียงแค่ว่าจะเกิดการปล้นที่ไหน และเป็นฝีมือของกลุ่มไหน สุดท้ายก็ไม่สามารถยับยั้งไว้ได้ ในการจูบหนึ่งครั้งจะมีการส่งผ่านเชื้อโรคกว่า 40,000 ตัว แยกออกมาเป็นเชื้อแบคทีเรียกว่า 250 ชนิด การตกอยู่ในน้ำเค็มจะมีเวลา 10 นาทีก่อนที่คุณจะจมดิ่งลงไปในทะเล…
-
อะไรนะ!? อย่าหลงเชื่อ ‘กดรหัส ATM กลับหลัง แจ้งตำรวจได้’ เป็นเรื่องลวงโลก ไม่มีจริง!!
เมื่อไม่นานมานี้เหมียวสังเกตเห็นมีเหล่าพีเพิลแชร์ข้อความเกี่ยวกับการกดรหัส ATM กลับหลัง จะแจ้งตำรวจได้ เพื่อป้องกันการโดนปล้นให้กดเงินผ่านตู้ ATM และที่ไม่น่าเชื่อเลยก็คือมีการแชร์และส่งต่อข้อความแบบนี้เป็นจำนวนมาก!! เหมียวขอยกตัวอย่างข้อความนี้มาจากในโพสต์ของผู้ใช้รายหนึ่งใน Facebook จะเห็นได้ว่ามีการส่งต่อข้อความมากถึง 66,272 ครั้ง เมื่อตามไปตรวจสอบข้อมูลที่แชร์ไปแล้วส่วนมากที่หลงเชื่อ และมีส่วนน้อย (มาก) ที่ไม่หลงเชื่อข้อความดังกล่าว แถมข้อความดังกล่าวยังแพร่ระบาดไปในแอพฯ LINE ด้วย ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์ข้อเท็จจริงกันหน่อย ถ้าหากว่ากดรหัส ATM กลับหลังอย่างเช่น 1234 เป็น 4321 จะกลายเป็นการกดรหัสผิด ข้อความดังกล่าวบอกว่า เงินจะออกตามปกติ แต่ในความเป็นจริงกดรหัสผิดเงินก็จะไม่ออก ถ้ากดผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 3 เครื่องก็จะยึดบัตร อีกและอย่างหนึ่งก็คือหากมีคนตั้งรหัสเป็นเลขซ้ำกัน 4 ตัว หรือ 2 ตัว เช่น 1111 หรือ 1221 จะกดแจ้งตำรวจยังไง? และถ้าหากว่าระบบนี้นำมาใช้จริงๆ ธนาคารก็คงจะประกาศให้ลูกค้าทราบกันทั่วประเทศไปแล้ว อย่างไรก็ตามระบบกดรหัส ATM ย้อนหลังนี้มีการคิดค้นขึ้นจริง…
-
สร้างความประทับใจก่อนได้เปรียบ กับสุดยอด 20 เรซูเม่สมัครงานที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์!!
เพื่อให้ได้งานที่เราใฝ่ฝันนั้น ก่อนอื่นจะต้องผ่านด่านแรกก่อนนั่นก็คือการนำเสนอตัวตนของเราผ่านเรซูเม่สมัครงาน เพราะฉะนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง จะต้องสร้างความประทับใจผ่านเรซูเม่นี่แหละ แล้วมันจะส่งผลทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นในทันที อย่างเช่นความคิดสร้างสรรค์ของเรซูเม่เหล่านี้ทั้ง 20 แบบนี้ 1. Dawn Siff นำเสนอเรซูเม่ผ่านแอพพลิเคชั่น Vine 2. Brandon Kleinman กับเรซูเม่อธิบายคุณสมบัติตัวเขาเองใน Album ภาพของ Facebook 3. Aaron Tsai สมัครงานในตำแหน่งนัก Animation กับเรซูเม่ที่สามารถตอบโต้ได้ 4. Victor Petit กับเรซูเม่ที่มาพร้อมกับ QR Code ที่นำทางไปสู่วิดีโอเรซูเม่สุดสร้างสรรค์ 5. เรซูเม่สไตล์ Google Plus ออกแบบโดย Aaron Sachs 6. Mike Freeman สร้างเว็บไซต์ส่วนตัวขึ้นมา หากว่าบริษัทไหนสนใจในตัวเขาก็สามารถนัดวันเวลาได้ 7. Alec Brownstein…
-
ลองกันรึยังเอ่ย!? 5 วิธีอันแสนง่ายดายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสัญญาณ Wi-Fi
ในชีวิตยุคดิจิตอล หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออินเทอร์เน็ต จากที่เมื่อก่อนเราใช้อินเทอร์เน็ตในรูปแบบสายเคเบิล ปัจจุบันนี้นิยมมาเป็นแบบไร้สายแล้ว และมักจะมีตัวปล่อยสัญญาณไว้ในบ้านหรือในห้องส่วนตัว แต่ถึงแม้ว่าจะใช้เป็นตัวปล่อยสัญญาณส่วนตัวก็ตาม ก็มักจะเกิดปัญหาว่าสัญญาณอ่อน สัญญาณหาย หาไม่เจอ ทำให้เน็ตไม่แรงหรือไม่ก็ใช้ไม่ได้ พาลทำให้โทษผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแทน ทั้งที่สาเหตุอาจจะมาจากตำแหน่งการวางตัวปล่อยสัญญาณนั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่างแรกที่ควรจะทำก็คือการวางตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้อยู่ในที่โล่ง ไร้สิ่งบดบังใดๆ โดยเฉพาะกำแพงและจุดอับต่างๆ เพราะถ้าหากโดนบังปุ๊บ สัญญาณก็จะหายวับไปในทันที อย่างที่สองคือการวางตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้สูงจากพื้น เพราะส่วนมากแล้วการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi นั้นถูกออกแบบมาให้ปล่อยคลื่นลงในแนวดิ่งลงพื้น ยิ่งวางติดพื้นก็ปล่อยคลื่นลงดินนั่นเอง อย่างที่สามคืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ สามารถรบกวนสัญญาณ Wi-Fi ได้ อย่างเช่นทีวี คอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบ เพราะฉะนั้นควรจัดตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้ห่างจากอุปกรณ์เหล่านี้ อย่างที่สี่คือการจัดตำแหน่งเสาสัญญาณให้ออกสองแนว ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (สำหรับตัวปล่อยที่มีสองเสา) เพราะอุปกรณ์ต่างๆ มักจะมีตัวรับสัญญาณติดตั้งในแนวที่ต่างกัน อย่างคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีตัวรับสัญญาณในแนวนอน แต่กับสมาร์ทโฟนทั้งหลายจะขึ้นอยู่กับลักษณะการถือ และสุดท้ายก็คือการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อวัดระดับความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ทั้งนี้ก็มีหลากหลายแอพฯ…
-
ผลวิจัยชี้!! การดื่มกาแฟในช่วงเวลาเช้า เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งยวด
โดยปกติแล้ว มนุษย์วัยทำงานหรือมนุษย์ผู้เสพติดกาแฟก็มักจะชงกาแฟร้อนๆ ซักหนึ่งแก้วเพื่อจิบเสริมพลังให้กับตัวเอง จะได้ตื่นตัวจากการอาการงัวเงีย แต่หารู้ไม่ว่าการจิบกาแฟในตอนเช้าส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างแรง!! จากผลวิจัยล่าสุดเผยว่าในช่วงเช้าร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงมากๆ ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับความเครียดที่เรามีและกำจัดออกไป แต่ทว่าหากเราดื่มกาแฟในตอนเช้าปุ๊บ ปัญหาก็จะตามมาอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือระบบของร่างกายจะสามารถสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลได้น้อยลง และความเครียดก็จะตามมา อย่างที่สองก็คือร่างกายจะมีความอดทนต่อคาเฟอีนมากขึ้น เพราะมันเข้าไปแทรกแทนที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลเลย!! แล้วเวลาไหนล่ะที่จะเหมาะกับการดื่มกาแฟ เวลานั้นก็คือช่วง 10 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยง และช่วงระหว่างบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น ที่มา : time, fooyoh
-
เบื้องหลังหมายเลขของแบรนด์ดัง มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง?
เครื่องหมายทางการค้าสามารถบ่งบอกคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ถือเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ และหลายๆ แบรนด์ก็มักจะเลือกนำตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะสอดแทรกความหมายที่บ่งบอกที่ตัวตนและความเป็นมาของแบรนด์นั่นเอง Six Flags Six Flags นั้นได้ชื่อมาจาก Six Flags over Texas โดยมีความหมายมาจากธงจากทั้งหมด 6 ประเทศที่ควบคุมรัฐเท็กซัส (สเปน, ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, สาธารณรัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรสหรัฐอเมริกา) Jack Daniels Old No. 7 หมายเลข 7 ของ Jack Daniels นั้นมีสาเหตุมาจากในสมัยที่เพิ่งเริ่มการก่อตั้งโรงกลั่นจะต้องทำการลงทะเบียนกับรัฐบาล แต่แล้วพอมีการเพิ่มจำนวนของโรงกลั่นก็ต้องทำการจัดระเบียบกันใหม่และเลขที่ออกก็คือ 16 แต่ทางโรงกลั่นไม่ยอมเปลี่ยนเพราะตั้งเป็นชื่อบริษัทไปแล้ว Nintendo 64 สำหรับ Nintendo 64 นั้นตั้งชื่อตามหน่วยประมวลผลขนาด 64 บิต (แค่นี้จริงๆ นะ) Xbox 360 ทาง Microsoft เกรงว่าถ้าให้ชื่อเป็น Xbox 2 ก็กลัวว่าจะดูด้อยกว่าเครื่องของคู่แข่ง เพราะวันเปิดตัวดันมาจัดใกล้ๆ กับวันเปิดตัวของเครื่อง…
-
รวมค่าเรียนของมหาวิทยาลัยที่แพงที่สุดในแต่ละรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา!!
การเรียนจนถึงระดับปริญญาตรีเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วสำหรับยุคสมัยนี้ เมื่อทำการสอบเข้าได้ก็ต้องมาคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายกันซักนิด เพราะว่าค่าเรียนนั้นไม่ใช่ถูกๆ เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางเว็บไซต์ Businessinsider จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลค่าเรียนของมหาวิทยาลัยที่แพงที่สุดในแต่รัฐมาให้ได้ชมกัน ซึ่งค่าเรียนนี้เป็นของปีการศึกษา 2015-2016 บางมหาวิทยาลัยเฉียด 70,000 ดอลลาร์ ถือว่าสูงเอาเรื่องเลยล่ะ!! ALABAMA: Spring Hill College — 46,181 ดอลลาร์ ALASKA: University of Alaska Anchorage — 27,431 ดอลลาร์ ARIZONA: Embry-Riddle Aeronautical University — 41,498 ดอลลาร์ ARKANSAS: Hendrix College — 52,170 ดอลลาร์ CALIFORNIA: Harvey Mudd College — 67,255 ดอลลาร์ COLORADO: Colorado College — 60,211 ดอลลาร์ CONNECTICUT:…
-
ผลการศึกษาเผย ผู้ชายมีความอ่อนแอมากกว่าผู้หญิง เมื่อต้องเจอกับอาการ ‘อกหัก’
ดูจากลักษณะทางกายภาพแล้วผู้ชายคือเพศที่มีความแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง แต่ในวิทยาศาสตร์กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเพราะจัดให้ผู้ชายเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้หญิง เพราะด้วยเหุตผลที่ว่าผู้ชายไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ได้เมื่อต้องเจอกับการบอกเลิกหรืออกหัก ผู้ชายจะรู้สึกเสียใจมากกว่าผู้หญิง มิหนำซ้ำอาจจะกลายมาเป็นแผลในจิตใจของผู้ชายเลยก็ได้!! เรามักจะคิดว่าผู้หญิงไม่สามารถรับมือกับการโดนบอกเลิกหรืออกหักได้ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย!! ด้วยผลการศึกษาที่ว่าเมื่อโดนบอกเลิก ผู้ชายจะเป็นฝ่ายที่รู้สึกเจ็บปวดที่สุด ผู้ชายจะรู้สึกถึงความสูญเสียและอ้างว้างเป็นระยะเวลานาน เพราะมันจะค่อยซึมซับเข้าไปในจิตใจเรื่อยๆ พอมารู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว ร้องไห้ไม่ต้องอาย!! สำหรับผู้หญิงจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดทันทีเมื่อโดนบอกเลิก แต่จะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ต่างกับผู้ชายที่ค่อยๆ จมอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวด ก็เพราะผู้หญิงมีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่ายังไงล่ะจ๊ะ!! ที่มา : fooyoh, nydailynews
-
วิถีการใช้ชีวิตในอวกาศไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แตกต่างจากบนโลกอย่างสิ้นเชิง!!
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าถ้าหากว่าเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศจริงๆ กิจวัตรประจำวันต่างๆ ของเราก็เหมือนกับที่อยู่บนโลกหรือไม่? แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่ไม่เหมือนก็คือแรงโน้มถ่วง ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แล้วนักบินอวกาศเขาจะอยู่จะกินอย่างไร? ตามมาดูกันเถอะ!! การออกกำลังกายในอวกาศ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมากในอวกาศ โดยนักบินอวกาศจะต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวันเพื่อป้องกันไขข้อเสื่อมและกล้ามเนื้อฝ่อ เวลาออกกำลังกายก็ต้องมีจุดยึดร่างกายเอาไว้ด้วย การอาบน้ำในอวกาศ การอาบน้ำและครั้งก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องค่อยๆ เปิดถุงน้ำทีละนิด เพื่อไม่ให้น้ำลอยกระจายออกไป ขัดถูตัวด้วยฟองน้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วน และการแปรงฟันจะไม่บ้วนปากไปเรื่อย นักบินอวกาศจะกลืนลงไปแทนหรือไม่ก็บ้วนใส่เสื้อผ้า การนอนหลับในอวกาศ การนอนหลับพักผ่อนของนักบินอวกาศก็คือการมัดตัวให้ติดอยู่กับด้านข้างของยานอวกาศนั่นเอง ไม่ได้นอนบนเตียงนุ่มๆ นะจ๊ะ อาหารการกินในอวกาศ ขอให้ลืมอาหารสดไปได้เลย เพราะในอวกาศจะได้กินแค่อาหารอบแห้งเท่านั้น แถมยังต้องมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือไม่ก็รัสเซียด้วย การมีเพศสัมพันธ์ในอวกาศ นักวิทยาศาสตร์จากรัสเซีย 2 ท่านได้ทำการทดลองนี้มาแล้ว แต่ไม่ได้ทำในอวกาศนะ ทดลองอยู่ในห้องจำลองไร้แรงโน้มถ่วง ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่าสามารถทำได้ แต่ทำได้เพียงแค่ 4 ท่าเท่านั้น (ท่าอะไรบ้างไม่ได้เปิดเผย) การใช้ห้องน้ำในอวกาศ ลำบากลำบนสุดๆ เพราะจะต้องมัดตัวให้ติดอยู่กับที่ แถมยังต้องคอยเล็งตำแหน่งปล่อยของด้วย เพราะจะมีระบบลมเป่าช่วยให้เข้าสู่เป้าหมาย ไม่ได้เหมือนบนโลกที่ปล่อยได้ตามสบาย การทำงานในอวกาศ นักบินอวกาศทำงานวันละ 12 ชั่วโมง ส่วนมากจะเป็นการบำรุงรักษาตรวจสอบประจำวันและทำการทดลองต่างๆ แต่ด้วยนักบินอวกาศที่มาจากหลากหลายประเทศทำให้การสื่อสารลำบาก รวมไปถึงการถูกจับตามองจากศูนย์บัญชาการบนโลกในช่วงเวลาทำงาน…
-
10 ท่าทางที่คุณควรหลีกเลี่ยงในต่างแดน เพราะความหมายที่เปลี่ยนไป!!
การสื่อสารของมนุษย์นอกจากจะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดแล้ว ก็ยังมีการสื่อสารด้วยลักษณะท่าทางด้วยเช่นกัน ซึ่งท่าทางส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีความหมายที่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้านำไปใช้ในประเทศเหล่านี้แย่แน่ๆ ท่าปัดคาง (เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, ภาคเหนือของอิตาลี, รัสเซีย) ความหมาย : ไปให้พ้นซะ ท่าสอดนิ้วโป้งระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง (ตุรกี, รัสเซีย, อินโดนีเซีย) ความหมาย : ไปตายซะ!! ท่าโอเค (แต่ไม่โอเค) ประเทศกรีซ, สเปน และบราซิล ความหมาย : มันหมายถึงรูตูดน่ะ ด่าคนอื่นว่าโง่ ท่าห้าพ่อ (ประเทศแถบอาหรับและทะเลแคริบเบียน) ความหมาย : เอ็งมันมีพ่อ 5 คน เพราะแม่เอ็งเป็นผู้หญิงขายตัว ท่าชาวร็อค (ประเทศสเปน, อิตาลี, กรีซ) ความหมาย : เป็นการบอกว่าเมียเอ็งแอบไปนอนกับชู้ ท่าแตะปลายแขน (ประเทศฝรั่งเศส กลุ่มประเทศยุโรปทางใต้ และบราซิล) ความหมาย : มีความหมายพอๆ กับท่าชูนิ้วกลาง ท่ากัดนิ้ว (ประเทศอินเดีย, ปากีสถาน) ความหมาย…
-
ทำไม “มีม” แก็กตลกสั้นๆ ทั้งหลายต้องใช้ฟ้อนท์ Impact ตลอดเวลาด้วยนะ!?
ย้อนกลับไปในช่วงยุคแรกๆ ที่มีสังคมออนไลน์อย่าง Facebook โผล่ขึ้นมาให้เราได้ใช้งานติดต่อสื่อสารกัน หากจะล้อเลียนหรือแก็กตลกๆ ซักหนึ่งอันก็จะต้องโพสต์เป็นตัวอักษรให้อ่านกัน ก็พอขำขันได้ในระดับหนึ่ง ซักพักก็เริ่มมีการใช้รูปภาพพร้อมกับข้อความสั้นๆ ประกอบที่สร้างสีสันความฮาได้มากกว่า และสิ่งนี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา “อินเทอร์เน็ตมีม” (Internet Meme) ซึ่งในช่วงปีค.ศ. 2003 นั้นถือว่าเป็นช่วงพีคของมีมเลยก็ว่าได้ หลายๆ คนนิยมมาใช้โพสต์แก็กตลกขำขันกันเพียบเลย โดยจุดกำเนิดแก็กพร้อมแคปชั่นฮาๆ เริ่มต้นที่ผู้ใช้ที่ชื่อว่า FancyCat จากฟอรั่มของเว็บไซต์ Something Awful ได้ทำมีมตัวแรกเป็นรูปแมวยิ้มพร้อมกับข้อความ “I Can Has Cheezburger” โดยใช้ฟ้อนท์ Impact ประกอบ จนกระทั่งมีหลายเว็บไซต์ทำมีมตามออกมาอีกเพียบ โดยใช้แนวทางจากรูปภาพแมวอันแรกทำสานต่อกลายเป็นกระแสการเล่าแก็กตลกที่เห็นกันอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ต และเหตุที่ใช้ฟ้อนท์ Impact นั้นก็คงจะเป็นเพราะว่าสามารถอธิบายความรู้สึกได้อย่างหนักแน่นและตรงๆ เข้าเป้าตามชื่อฟ้อนท์นั่นเอง ที่มา : knowyourmeme, vox, wikipedia, netforbeginners
-
9 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทางด้านจิตวิทยา จิตใจของมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง เอ๊ะ!?
จิตใจและความคิดของมนุษย์เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ เพราะแม้แต่ตัวมนุษย์เองก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายที่แน่ชัดเกี่ยวกับตัวเองได้ว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ แล้วทำไมต้องทำแบบนั้น อ้าว!? ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องมีเหตุผลสิ นักจิตวิทยาจึงขอแถลงไขเรื่องของจิตใจมนุษย์เล็กๆ น้อยๆ ให้ได้รู้กัน 1. เมื่อรู้สึกเศร้าหรือกลัว แบรนด์และโลโก้ต่างๆ ก็จะมีผลต่อจิตใจเรามากยิ่งขึ้น 2. สมองของมนุษย์ไม่มีระบบจัดเก็บแบบฮาร์ดดิกส์ แต่จะเป็นการสร้างความทรงจำขึ้นมาใหม่ นั่นก็หมายความว่าความทรงจำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา 3. ถ้าคุณเป็นพวกนอนหลับฝันกลางวันบ่อยๆ จะส่งผลดีต่อความคิดสร้างสรรค์และสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น 4. ลักษณะนิสัยนั้นๆ จะใช้เวลาในการก่อตัวประมาณ 66 วัน 5. มนุษย์ไม่สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เพราะสมองไม่สามารถจดจ่อกับการทำงานหลายๆ สิ่งที่มีความซับซ้อนสูงได้ 6. มนุษย์มักจะคาดเดาความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ล่วงหน้าอยู่เสมอ เช่นถ้าถูกหวยก็จะรู้สึกดีใจสุดๆ แต่ถ้าเกิดว่าตกงานขึ้นมาก็คิดเอาไว้เลยว่าจะต้องเศร้ามากแน่ๆ ถึงอย่างไรก็ตามสมองก็จะพยายามรักษาความรู้สึกให้เท่ากันอยู่เสมอ 7. มนุษย์จะจดจำข้อมูลระยะสั้นๆ ได้ประมาณ 5 – 9 อย่างเท่านั้น …
-
เมื่อมองภาพกาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นต่างๆ เราจะเห็นความแตกต่างอย่างไรบ้าง?
เป็นที่รู้กันดีว่าโลกของเรานั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก และเนื่องด้วยความสงสัยที่ว่าหากเรานำภาพกาแล็กซีทางช้างเผือกมามองผ่านคลื่นต่างๆ ที่มีอยู่ล่ะ หน้าตาของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง? เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน? สำหรับช่วงของแสงที่ตาของมนุษย์ทั่วไปสามารถมองเห็นได้นั้นจะถูกเรียกว่า สเปกตรัมที่มองเห็นได้ ซึ่งมีหลากหลายคลื่นด้วยกันตามความแตกต่างของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นวิทยุ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นไมโครเวฟ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Far-Infrared กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Near-Infrared กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Hydrogen Alpha กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านรังสีเอกซ์ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านรังสีแกมมา หน้าตาของทางช้างเผือกที่เรารู้จักดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยแฮะ ถ้าเกิดว่าใครอยากดูแบบละเอียดมากกว่านี้สามารถไปตามเล่นกันได้ที่ Chromoscope เลยจ้า ที่มา : thechive
-
รวมคีย์ลัดที่ควรรู้ของโปรแกรม Photoshop และ Lightroom เวอร์ชั่นล่าสุด!!
โปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการการออกแบบและตกแต่งรูปภาพนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นโปรแกรมของ Adobe ทั้ง Photoshop และ Lightroom ซึ่งหากเรารู้คีย์ลัดในการใช้งานเครื่องมือที่เหมาะสมจะทำให้การทำงานของเรานั้นราบรื่นมากๆ ไม่ต้องคอยหาเมนูและเครื่องมือให้ยุ่งยาก ประหยัดเวลาในการทำงานได้ดีเลยทีเดียวล่ะ เรามาเริ่มกันที่คีย์ลัดของ Photoshop กันก่อน ขอบอกเลยว่าเยอะและยาวมากๆ ส่วนใครที่เป็นสาย Lightroom ก็เชิญรับชมได้เลยจ้า เยอะและยาวยิ่งกว่า Photoshop ซะอีก สำหรับการรวบรวมคีย์ลัดนี้ทางเว็บไซต์ setupablogtoday.com ได้ทำการรวบรวมมาไว้ให้เวอร์ชั่นล่าสุดปี 2015 ภายในเว็บไซต์ก็ยังมีคีย์ลัดของโปรแกรมอื่นๆ อีกด้วย ถ้าหากว่าไฟล์ภาพมันไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ก็สามารถไปตามโหลดไฟล์ PDF กันได้ พร้อมสั่งพิมพ์ขนาด A4 ทันที ที่มา : twistedsifter
-
14 เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างความรู้ได้ดียิ่งนัก!!
ในแวดวงทางวิชาการความรู้ วิทยาศาสตร์ช่วยเปิดโลกให้กับมนุษย์ได้ดียิ่งนัก ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร คลายข้อสงสัยให้กระจ่างได้ แต่ก็ยังมีความรู้อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เอาเป็นว่าเรามาเปิดโลกกว้างไปพร้อมกันเถอะ ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านเลย!! ดาวเคราะห์โรกคือวัตถุที่มีมวลขนาดเท่าดาวเคราะห์และไม่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดอยู่กับดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ ทำให้มันล่องลอยอยู่กลางอวกาศ มีเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือกของเราด้วย ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ล้านปีก่อน มีแมลงปอขนาดยักษ์ที่มีชื่อเรียกว่า Meganeura ยักษ์ไม่ยักษ์ก็คือว่าปีกของมันเนี่ยกว้างถึง 60 เซนติเมตรเลยล่ะ รู้หรือไม่ว่าดวงจันทร์ทำให้โลกเราหมุนช้าลงเรื่อยๆ ทุกศตวรรษที่ผ่านพ้นไป หนึ่งวันบนโลกจะยาวนานขึ้น 1.7 มิลลิวินาที นั่นก็หมายความว่า 350 ล้านปีที่แล้วมา หนึ่งปีบนโลกมีทั้งหมด 385 วัน เพราะโลกเคยหมุนเร็วกว่านี้ มีผลวิจัยเปิดเผยออกมาแล้วว่าการดูคลิปวิดีโอแมวจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น เอ๊ะ!? จริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะ ระบบ Endocannabinoid ในสมองของมนุษย์มีหน้าที่ช่วยควบคุมอารมณ์ ความอยาก ความเจ็บปวด และความทรงจำ และระบบนี้เองคือสิ่งที่กัญชาเฝ้าตามหา!! Verona Rupes…
-
10 นวัตกรรมจากบริษัท Google ที่จะมาเปลี่ยนโลกมนุษย์ในยุคอนาคต!!
ในหนึ่งวันที่โลกค่อยๆ หมุนไปอย่างช้าๆ แต่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดเพัฒนาเลยแม้แต่น้อย กลับพัฒนาไปได้ไกลอย่างก้าวกระโดดเกินจินตนาการที่เคยคาดเดากันเอาไว้แล้ว หนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากมายอย่าง Google นั้น หากประสบความสำเร็จและนำมาใช้ได้จริง อาจจะเปลี่ยนโลกนี้ไปเลยก็เป็นได้ Project Loon โปรเจคบอลลูนลอยฟ้าที่ไม่ใช่บอลลูนธรรมดา จะสามารถเชื่อมคนทั้งโลกไว้ด้วยกันด้วยการปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในซีกไหนของโลก กองทัพหุ่นยนต์ของ Google Google เองก็แอบซุ่มพัฒนาหุ่นยนต์เหมือนกันนะเออ มีทั้งหุ่นยนต์ทั่วๆ ไปที่สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ไปจนถึงหุ่นยนต์รบกันเลยทีเดียว Calico หนึ่งในโครงการที่จะสร้างความอมตะให้กับมนุษย์ Google ได้ร่วมมือกับ Dr. Arthur Levinson เพื่อคิดค้นกระบวนการชะลอความชราในร่างกายมนุษย์ Google Contact Lens ในเมื่อมีแว่นแล้ว คนที่ไม่ชอบใส่แว่นก็คงจะเกลียด Google Glass ไปเลย แล้วทำไมไม่ทำคอนแทคเลนส์บ้างล่ะ? เพิ่มฟังก์ชั่นวิเคราะห์ระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเข้าไปด้วย โดยที่ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด มันจะล้ำเกินไปแล้ว!! Liftware อุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน (มีความผิดปกติของระบบการเคลื่อนไหว) สามารถทานอาหารเองได้…
-
กฎข้อบังคับของพนักงานดีสนีย์แลนด์ทั้ง 14 ข้อ แถวนี้เป๊ะ!! ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
ดีสนีย์แลนด์แดนฝันวัยมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในดีสนีย์แลนด์ก็จะมีความบันเทิงมากมายที่รอให้ไปสัมผัส บางคนอาจจะติดใจจนถึงขั้นอยากจะทำงานที่นี่เลย แต่รู้บ้างมั้ยว่าการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดีสนีย์แลนด์นั้นจะมีข้อบังคับเหล่านี้อยู่ด้วย แบบว่าถ้าใครไม่เป๊ะจริง อยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน!! 1. พนักงานที่จะมาแต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนนั้นๆ จะต้องมีใบหน้าเป๊ะ ผมเป๊ะ ส่วนสูงต้องเป๊ะ น้ำหนักก็ต้องเป๊ะด้วย!! 2. การชี้ด้วยนิ้วเดียวเป็นสิ่งที่ไม่สภุาพ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้การชี้ด้วยสองนิ้วหรือใช้การผายมือแทน 3. คำว่า “ไม่รู้” สำหรับพนักงานดีสนีย์แลนด์นั้นเป็นคำต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องหาคำตอบมาให้ได้ 4. เล็บต้องสั้นและสะอาดอยู่เสมอ ถ้าจะทาสีเล็บหรือเพ้นท์เล็บให้ลืมไปได้เลย 5. แว่นตาแฟชั่นที่ดูไม่เรียบร้อยก็ห้าม หากจะใส่แว่นจริงๆ ห้ามให้เห็นแบรนด์และจะต้องมีสีสุภาพ ุ6. ในขณะที่กำลังสวมบทบาทเป็นตัวละครใดตัวละครหนึ่งอยู่ ห้ามเรียกชื่อจริง ให้เรียกชื่อตัวละครนั้นแทน 7. ในเมื่อได้มาเป็นตัวละครนั้นๆ แล้ว เอกลักษณ์ของตัวละครจึงสำคัญที่สุด ต้องเรียนรู้และซึบซับให้กลายเป็นตัวละครนั้นจริงๆ 8. เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นขยะ ต้องเก็บให้เรียบอย่าให้เหลือ 9. ห้ามมีรอยสักเด็ดขาด 10. จะเรียกชื่อจริงให้เรียกชื่อต้น…
-
เจ้า Lucca น้องหมาสามขาผู้กล้าหาญ ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน กับชีวิตวัยเกษียณ!!
การลงปฏิบัติหน้าที่ของทหารสหรัฐฯ นอกจากจะส่งทหารไปแล้วก็ยังต้องมีเพื่อนสี่ขาร่วมออกปฏิบัติภารกิจด้วย เพื่อตรวจสอบหาวัตถุระเบิดและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเหล่าทหารได้ และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า Lucca ที่ออกปฏิบัติภารกิจร่วมกับทหารมามากกว่า 400 ครั้ง ช่วยชีวิตทหารมานับไม่ถ้วน เจ้า Lucca นั้นเป็นสุนัขที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สร้างขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคอยเป็นเพื่อนเล่นที่แสนดี คลายเหงาให้กับทหารที่ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจอีกด้วย แต่แล้วชีวิตของเจ้า Lucca ก็ต้องมาถึงจุดเปลี่ยน ในวันที่ 23 มีนาคม ปีค.ศ. 2012 เจ้า Lucca เหยียบกับระเบิดทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขาหน้าด้านซ้ายในระหว่างที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถาน โดยมีสิบโท Juan Rodriguez เข้ามาช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นเจ้า Lucca อาจไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เจ้า Lucca ต้องสูญเสียขาไป ทำให้เหลือเพียงแค่ 3 ขาเท่านั้น…
-
17 วิธีการอุ้มเด็กน้อยอย่างถูกต้อง ไม่ว่าท่าจะยากแค่ไหนก็ไม่มีร่วง!!
เวลาเราเจอลูกน้อยๆ ของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่ที่ทำงานบ้าง ลูกของญาติบ้าง ก็จะเกิดอาการอดใจไม่ไหว หวั่นไหวกับเด็กน้อยผู้ที่มีความน่ารักมากมายซะเหลือเกิน อยากจะเข้าไปอุ้มบ้าง แต่ก็ดันอุ้มไม่เป็น กลัวจะร่วงหลุดมือซะอีกแหนะ ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป ถ้าหากว่าได้เรียนรู้วิธีการอุ้มเด็กอย่างถูกต้อง โดยมีคุณ Jordan Watson จะมาสาธิตวิธีการอุ้มด้วยท่าต่างๆ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนไปถึงทางอุ้มแบบโปรๆ กันเลยล่ะ ที่มา : twistedsifter
-
ชาร์จพลังระหว่างวัน!! ต้องงีบหลับนานแค่ไหนถึงจะเพียงพอให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน
เคยรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อาจสามารถถ่างตาทำงานได้ตลอดวันหรือไม่? สาเหตุหลักๆ อาจจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหน้าที่การงานในแต่ละวันนั้นหนักหน่วงจนเกินไป ทำให้ใช้พลังงานหมดไปอย่างรวดเร็ว จนไม่อาจจะมีพลังอยู่รอดจนถึงเวลาเลิกงานได้ ว่ากันว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด หากคุณนอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน ตื่นเช้าขึ้นมาจะสดใส รู้สึกมีพลังงานเต็มอิ่ม พร้อมที่จะไปทำงานตลอดทั้งวัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีเวลานอนเท่ากัน บางคนนอนพอดี บางคนนอนน้อย ก็จะเกิดอาการงัวเงีย รู้สึกไม่สดชื่นอย่างเห็นได้ชัด พอเข้าช่วงบ่ายก็เริ่มออกอาการง่วงแล้ว เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีก็คือควรจะหาเวลางีบหลับบ้าง แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนล่ะ? ขอย้ำว่าเป็นการ “งีบ” ไม่ใช่ “หลับ” นะจ๊ะ หากต้องการฟื้นฟูพลังอย่างเร่งด่วนในระหว่างวัน ให้ทำการงีบประมาณ 20 นาที ช่วยเพิ่มความตื่นตัว มีสมาธิมากขึ้น และช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น หากว่ากลัวจะงีบหลับนานเกินไป หากกลัวว่าจะไม่ตื่นให้ดื่มกาแฟก่อนงีบ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์หลังจากที่ดื่มไปแล้วประมาณ 20 – 30 นาที จะช่วยทำให้ตื่นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่าเผลองีบหลับมากกว่า 45 นาที เพราะจะเข้าสู่ช่วงหลับแล้วล่ะ ซึ่งถ้าหากตื่นในช่วงนี้จะทำให้มีอาการงัวเงียหนักยิ่งกว่าเดิม ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง…